The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยม1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jamy Muthaphon, 2023-09-25 09:31:46

แผนภาษาไทย

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยม1

Keywords: แผนม,.1

ใบงำนกำรอ่ำนจับใจควำมส ำคัญ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสรุปใจความส้าคัญให้ถูกต้อง ลูกแกะหลงฝูงกับหมำป่ำ ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบกับหมาป่า ขณะก้าลังจะถูกจับกินลูกแกะเห็นจวน ตัวไม่มีทางหนีพ้นจึงแข็งใจยืนเผชิญหน้า พร้อมออกอุบายว่า “ไหนๆ ข้าก็จะต้องกลายเป็นอาหารของท่านอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ก่อนตายข้า อยากฟังเสียงปี่และเต้นร้าเป็นครั้งสุดท้าย ขอท่านช่วยอนุเคราะห์ด้วยเถิด” หมาป่านึกสนุกจึงเป่าปี่ด้วยท้านองเร้าใจ หมาเฝ้าฝูงแกะตัวหนึ่งวิ่งมาตามเสียง ครั้นเห็น ลูกแกะก้าลังตกอยู่ในอันตรายจึงเห่าเรียกพรรคพวกของมัน ด้วยเหตุนี้หมาป่าต้องรีบทิ้งปี่วิ่งหนีไปด้วย ความเสียดาย ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หำง่ำย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตำย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หำยำก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..…………………………………….. ……………………………………..……………………………………..……………………………………..……………………………………..


ใบงำนกำรอ่ำนจับใจควำมส ำคัญ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสรุปใจความส้าคัญให้ถูกต้อง ลูกแกะหลงฝูงกับหมำป่ำ ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบกับหมาป่า ขณะก้าลังจะถูกจับกินลูกแกะเห็นจวน ตัวไม่มีทางหนีพ้นจึงแข็งใจยืนเผชิญหน้า พร้อมออกอุบายว่า “ไหนๆ ข้าก็จะต้องกลายเป็นอาหารของท่านอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้แล้ว ก่อนตายข้า อยากฟังเสียงปี่และเต้นร้าเป็นครั้งสุดท้าย ขอท่านช่วยอนุเคราะห์ด้วยเถิด” หมาป่านึกสนุกจึงเป่าปี่ด้วยท้านองเร้าใจ หมาเฝ้าฝูงแกะตัวหนึ่งวิ่งมาตามเสียง ครั้นเห็น ลูกแกะก้าลังตกอยู่ในอันตรายจึงเห่าเรียกพรรคพวกของมัน ด้วยเหตุนี้หมาป่าต้องรีบทิ้งปี่วิ่งหนีไปด้วย ความเสียดาย ลูกแกะตัวหนึ่งหลงฝูงวิ่งเตลิดไปพบหมาป่า ลูกแกะออกอุบายว่า ก่อนตายอยากฟังเสียงปี่และเต้นร้าก่อน หมา ป่าหลงกลจึงเป่าปี่ให้ฟัง หมาเฝ้าฝูงแกะได้ยินจึงวิ่งตามหาเสียงแล้วเห่าเรียกพรรคพวกของมันมาช่วยลูกแกะ จากนั้นหมาป่าจึงรีบทิ้งปี่แล้ววิ่งหนีไป เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี หำง่ำย หลายหมื่นมี มากได้ เพื่อนตำย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์ หำยำก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา เมื่อมีทรัพย์สินมากมายก็จะมีเพื่อนฝูงเยอะ เมื่อทรัพย์สินหมดเพื่อนฝูงก็จะจากไปด้วย แต่เพื่อนตายคือ เพื่อนแท้ที่ยอมตายแทนกันได้และคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเมื่อเพื่อนตกยาก


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านในชีวิตประจ้าวัน เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ______________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อน้าไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ด้าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/3 ระบุเหตุและผลและข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน สำระส ำคัญ การอ่านจับใจความจากบทความต้องระบุเหตุและผลและข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน สำระกำรเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทความ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ระบุเหตุและผลและข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่านได้ (K) 2. จับใจความส้าคัญจากบทความที่อ่านได้ (P) 3. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครุให้นักเรียนบอกชื่อหนังสือที่ชอบอ่านมาคนละ 1 เล่ม ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากหนังสือเรียน 3. ครูอธิบายการอ่านจับใจความจากบทความและการพิจารณาข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็น 4. นักเรียนท้าใบงานการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น


5. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่อยู่ในใบงานว่าส่วนใดเป็น ข้อคิดเห็นและส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปหลักการอ่านจับใจความจากบทความและการพิจารณาข้อเท็จจริงกับ ข้อคิดเห็น สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. ระบุเหตุและผลและ ข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจาก บทความที่อ่านได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. จับใจความส้าคัญจาก บทความที่อ่านได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีนิสัยรักการ อ่าน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำน 2.2 กำรพิจำรณำข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนี้ แล้วตอบค้าถาม เด็กหญิง 5 ขวบถูกหำมส่งรพ.เหตุโรคคลั่งผอม เว็บไซต์แท็บลอยด์เดลี่ เมล รายงานว่า มีเด็กผู้หญิงวัยเพียงแค่ 5 ขวบ ถูกน้าตัวส่งโรงพยาบาล หลังจาก ป่วยเป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือโรคคลั่งผอมอย่างรุนแรง ซึ่งสร้างความตื่นตกใจไปทั่วประเทศ พร้อมกับการตั้ง ค้าถามว่า ความคิดห่วงสวยได้เข้าไปครอบง้าจิตใจของเด็กตั้งแต่อายุเท่าใด จากสถิติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า มีเด็กจ้านวนไม่น้อยโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงก้าลัง คลั่งไคล้ความผอมกันอย่างรุนแรง บางคนเลียนแบบนางแบบที่ผอมจนเกินเหตุ หรือไม่ก็พวกคนที่มีชื่อเสียงที่พวก เขาเห็นในนิตยสารหรือโทรทัศน์ และพยายามจะผอมเลียนแบบคนเหล่านี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหลายคนเตือนว่า มีเด็กที่อายุน้อยก้าลังพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์กับ อาหารในแบบที่ผิดหลักอนามัย เพราะน้าตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อน และบางครั้งยังแข่งกันด้วยว่า ใครลด น้้าหนักได้มากกว่ากัน โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเองอย่าง มาก หรือกลุ่มที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือทางจิตใจ หรือมักรู้สึกว่า ตัวเองขาดความรักอยู่ตลอดเวลา การรักษานอกจากรักษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครัวบ้าบัดก็มีความจ้าเป็นอย่างยิ่ง โดยคนใน ครอบครัวต้องเป็นผู้เยียวยาส้าคัญที่สุด ต้องให้ความรัก ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย อย่าใช้ วิธีบังคับให้กินตามมื้ออาหาร แต่เปลี่ยนเป็นการสร้างบรรยากาศการกิน เปลี่ยนสถานที่กิน หรือชักชวนให้ ร่วมกันท้าอาหาร ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจชวนลูกไปออกก้าลังกายร่วมกัน เพื่อให้ลูกลดความวิตกกังวล เกี่ยวกับเรื่องน้้าหนัก และต้องเอาตัวเองเข้าไปปรับแก้พฤติกรรมของลูกด้วยจึงจะได้ผล ที่มำ http://www.mumuu.com/news-show-เด็กหญิง-5-ขวบถูกหามส่งรพ-เหตุโรคคลั่งผอม-12- 55241- ค ำถำม 1. บอกสาเหตุที่ท้าให้เกิดเรื่องนี้ …………………………………………………….…………………………………………………….…………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………….…………………………………………………….……………… 2. บอกผลที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ …………………………………………………….…………………………………………………….…………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………….…………………………………………………….……………… 3. สรุปข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ …………………………………………………….…………………………………………………….…………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………….………………………… ………………………………………………………………………….…………………………………………………….……………… …………………………………………………….…………………………………………………….…………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………….………………………..


ใบงำน 2.2 กำรพิจำรณำข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนี้ แล้วตอบค้าถาม เด็กหญิง 5 ขวบถูกหำมส่งรพ.เหตุโรคคลั่งผอม เว็บไซต์แท็บลอยด์เดลี่ เมล รายงานว่า มีเด็กผู้หญิงวัยเพียงแค่ 5 ขวบ ถูกน้าตัวส่งโรงพยาบาล หลังจาก ป่วยเป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือโรคคลั่งผอมอย่างรุนแรง ซึ่งสร้างความตื่นตกใจไปทั่วประเทศ พร้อมกับการตั้ง ค้าถามว่า ความคิดห่วงสวยได้เข้าไปครอบง้าจิตใจของเด็กตั้งแต่อายุเท่าใด จากสถิติที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษระบุว่า มีเด็กจ้านวนไม่น้อยโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงก้าลัง คลั่งไคล้ความผอมกันอย่างรุนแรง บางคนเลียนแบบนางแบบที่ผอมจนเกินเหตุ หรือไม่ก็พวกคนที่มีชื่อเสียงที่พวก เขาเห็นในนิตยสารหรือโทรทัศน์ และพยายามจะผอมเลียนแบบคนเหล่านี้ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหลายคนเตือนว่า มีเด็กที่อายุน้อยก้าลังพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์กับ อาหารในแบบที่ผิดหลักอนามัย เพราะน้าตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อน และบางครั้งยังแข่งกันด้วยว่า ใครลด น้้าหนักได้มากกว่ากัน โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความมั่นใจในตัวเองอย่าง มาก หรือกลุ่มที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือทางจิตใจ หรือมักรู้สึกว่า ตัวเองขาดความรักอยู่ตลอดเวลา การรักษานอกจากรักษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครัวบ้าบัดก็มีความจ้าเป็นอย่างยิ่ง โดยคนใน ครอบครัวต้องเป็นผู้เยียวยาส้าคัญที่สุด ต้องให้ความรัก ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วย อย่าใช้ วิธีบังคับให้กินตามมื้ออาหาร แต่เปลี่ยนเป็นการสร้างบรรยากาศการกิน เปลี่ยนสถานที่กิน หรือชักชวนให้ ร่วมกันท้าอาหาร ในขณะเดียวกันพ่อแม่อาจชวนลูกไปออกก้าลังกายร่วมกัน เพื่อให้ลูกลดความวิตกกังวล เกี่ยวกับเรื่องน้้าหนัก และต้องเอาตัวเองเข้าไปปรับแก้พฤติกรรมของลูกด้วยจึงจะได้ผล ที่มำ http://www.mumuu.com/news-show-เด็กหญิง-5-ขวบถูกหามส่งรพ-เหตุโรคคลั่งผอม-12- 55241- ค ำถำม 1. บอกสาเหตุที่ท้าให้เกิดเรื่องนี้ สาเหตุที่ท้าให้เกิดเรื่องนี้ คือ เด็กผู้หญิงในประเทศอังกฤษ ก้าลังคลั่งไคล้ความผอมกันอย่างรุนแรงบาง คนเลียนแบบนางแบบที่ผอมจนเกินเหตุ หรือไม่ก็พวกคนที่มีชื่อเสียงที่พวกเขาเห็นในนิตยสารหรือโทรทัศน์ และพยายามจะผอมเลียนแบบคนเหล่านั้น 2. บอกผลที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ เด็กผู้หญิงวัยเพียงแค่ 5 ขวบ ถูกน้าตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากป่วยเป็นโรคคลั่งผอมอย่างรุนแรงรุน 3. ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ ข้อเท็จจริง คือ โรคนี้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางด้านจิตใจด้วย ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มที่ขาดความ มั่นใจในตัวเองอย่างมาก หรือกลุ่มที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ บางคนเคยถูกทารุณกรรมทางร่างกายหรือ จิตใจ หรือมักรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักอยู่ตลอดเวลา ข้อคิดเห็น คือ การรักษานอกจากรักษาทางการแพทย์แล้ว วิธีครอบครัวบ้าบัดก็มีความจ้าเป็นอย่าง ยิ่ง โดยคนในครอบครัวต้องเป็นผู้เยียวยา ส้าคัญที่สุดต้องให้ความรัก ความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ ผู้ป่วย


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านในชีวิตประจ้าวัน เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง งานเขียนโน้มน้าวใจ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อน้าไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ด้าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/6 ระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจ สำระส ำคัญ การอ่านจับใจความจากสารคดีต้องระบุเหตุและผลและข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากสารคดีเรื่องที่อ่าน สำระกำรเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากสารคดี จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกข้อสังเกตงานเขียนประเภทโน้มน้าวใจได้ (K) 2. ระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทโน้มน้าวใจได้ (P) 3. นักเรียนมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนดูสื่อหรือข้อความที่โน้มน้าวใจหรือชักจูงใจ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. นักเรียนศึกษาการเขียนโน้มน้าวใจจากหนังสือเรียนและใบความรู้ 3. ครูอธิบายความหมายของการโน้มน้าวใจและข้อสังเกตงานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ 4. ยกตัวอย่างงานเขียนประเภทโน้มน้าวใจให้นักเรียนสังเกตและวิเคราะห์ร่วมกัน 5. นักเรียนท้าใบงานงานเขียนโน้มน้าวใจ โดยให้เวลาท้าใบงานประมาณ 10 นาที ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปข้อสังเกตของงานเขียนโน้มน้าวใจ


สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการเขียนโน้มน้าวใจ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกข้อสังเกตงานเขียน ประเภทโน้มน้าวใจได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. ระบุข้อสังเกตและความ สมเหตุสมผลของงานเขียน ประเภทโน้มน้าวใจได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความสนใจใฝ่ เรียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนงำนเขียนโน้มน้ำวใจ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย / หน้าข้อความที่เป็นสารโน้มน้าวใจที่มีความสมเหตุสมผล และขีด เครื่องหมาย X หน้าข้อความที่ไม่ใช่สารโน้มน้าวใจ .......... 1. บ้านเมืองสวย ด้วยมือเรา .......... 2. ปฏิบัติตามกฎ ลดปัญหาจราจร .......... 3. ประหยัดน้้าวันนี้ ก่อนที่จะไม่มีน้้าใช้ .......... 4. ใช้น้้าอย่างคุ้มค่า เพื่อวันนี้ เผื่อวันหน้า .......... 5. ทิ้งขยะให้เป็นที่ เพิ่มราศีแก่บ้านเมือง .......... 6. ห้ามทิ้งขยะบริเวณนี้ ปรับทีละสองพัน .......... 7. ทางรอดของโลกปัจจุบันนี้มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น .......... 8. บ้านสะอาด เมืองสะอาด คนในชาติมีความสุข .......... 9. อุทยานรอบมหาสถานนั้นเล่าก็งามไม่น้อย เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ไม้ดอกและลดาวัลย์งาม น่าทัศนา .......... 10. โลหิตคือสายธารแห่งชีวิต ถ้าร่างกายขาดโลหิตชีวิตก็อยู่ไม่ได้ โลหิตจึงเป็นน้้าหล่อเลี้ยง


ใบงำนงำนเขียนโน้มน้ำวใจ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมาย / หน้าข้อความที่เป็นสารโน้มน้าวใจที่มีความสมเหตุสมผล และขีด เครื่องหมาย X หน้าข้อความที่ไม่ใช่สารโน้มน้าวใจ ...... /.... 1. บ้านเมืองสวย ด้วยมือเรา ...... /.... 2. ปฏิบัติตามกฎ ลดปัญหาจราจร ...... /.... 3. ประหยัดน้้าวันนี้ ก่อนที่จะไม่มีน้้าใช้ ...... /.... 4. ใช้น้้าอย่างคุ้มค่า เพื่อวันนี้ เผื่อวันหน้า ..... /..... 5. ทิ้งขยะให้เป็นที่ เพิ่มราศีแก่บ้านเมือง ...... /.... 6. ห้ามทิ้งขยะบริเวณนี้ ปรับทีละสองพัน ..... X..... 7. ทางรอดของโลกปัจจุบันนี้มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ...... /.... 8. บ้านสะอาด เมืองสะอาด คนในชาติมีความสุข ...... X.... 9. อุทยานรอบมหาสถานนั้นเล่าก็งามไม่น้อยเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ไม้ดอกและลดาวัลย์งาม น่าทัศนา ...... X.... 10. โลหิตคือสายธารแห่งชีวิต ถ้าร่างกายขาดโลหิตชีวิตก็อยู่ไม่ได้ โลหิตจึงเป็นน้้าหล่อเลี้ยง


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านในชีวิตประจ้าวัน เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การอ่านตีความเอกสารทางวิชาการ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อน้าไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ด้าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/4 ระบุและอธิบายค้าเปรียบเทียบและค้าที่มีหลายความหมายในบริบทต่างๆจากการ อ่าน ท 1.1 ม.1/5 ตีความค้ายากในเอกสารวิชาการโดยพิจารณาจากบริบท สำระส ำคัญ การอ่านเอกสารวิชาการต้องตีความค้ายากในเอกสารที่มีค้า ประโยค และข้อความที่ต้องใช้บริบท ช่วยพิจารณาความหมาย สำระกำรเรียนรู้ การอ่านตีความเอกสารทางวิชาการ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อ่านค้ายากในเอกสารวิชาการได้ (K) 2. สามารถตีความค้ายากในเอกสารวิชาการโดยพิจารณาจากบริบทได้ (P) 3. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเอกสารทางวิชาการว่านักเรียนรู้จักหรือไม่ คิดว่าเอกสารทาง วิชาการต่างจากเอกสารทั่วไปอย่างไร ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายลักษณะของเอกสารทางวิชาการและหลักการอ่านตีความเอกสารทางวิชาการ 3. ให้นักเรียนอ่านเอกสารทางวิชาการและให้นักเรียนตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์ข้อมูล รวบรวมค้ายาก ท้าความเข้าใจในค้าที่ต้องแปลความหมาย 4. นักเรียนศึกษาความหมายเดิมของค้ายากจากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 5. นักเรียนท้าใบงานการอ่านตีความเอกสารทางวิชาการ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายของค้ายากโดยเชื่อมโยงกับความหมายของค้าในบริบท ที่ได้จากการอ่านเอกสารทางวิชาการ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการอ่านตีความเอกสารทางวิชาการ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อ่านค้ายากในเอกสาร วิชาการได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. สามารถตีความค้ายากใน เอกสารวิชาการโดย พิจารณาจากบริบทได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีนิสัยรักการ อ่าน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรอ่ำนตีควำมเอกสำรทำงวิชำกำร ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความทางวิชาการแล้วค้นหาความหมายของค้าศัพท์ยาก โดยใช้พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ค่านิยมเกี่ยวกับผู้ที่บวชเรียนมีสูงมาก สังคมถือว่าผู้บวชเรียนแล้วเป็นบัณฑิต ออกเสียงว่า บันดิดหรือเป็นคนสุกแล้ว พ่อแม่ส่วนมากจะไม่ยอมยกบุตรสาวให้แต่งงานกับคนที่ยังไม่ผ่านการเป็น บัณฑิตหรือเป็นคนสุกเป็นอันขาด ต่อมาค้าว่าบัณหายไปเหลือแต่ฑิต ต่อมาก็เขียนเป็นทิดแทน จนบัดนี้ ใครที่ไม่รู้ความเป็นมาก็ยากจะโยงได้ว่า บัณฑิตกับฑิด-ทิด เป็นค้าเดียวกัน การเข้าพรรษาเป็นพิธีกรรมส้าหรับพระภิกษุเท่านั้น สามเณรมีส่วนบ้างเฉพาะวันเข้าพรรษา แต่ ไม่มีวันออกพรรษา คฤหัสถ์อย่างเราไม่น่าเกี่ยวข้องด้วย ที่จริงจะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว ขึ้นอยู่กับค้าว่าเกี่ยวนั้นหมายเอาเกี่ยวในระดับใด ถ้า เป็นการเลือก ที่มุงที่บังอันมิดชิดปลอดภัย ถึงวันเข้าพรรษาแล้วตั้งสัจอธิษฐานว่า “เราจะอยู่จ้า พรรษา ณ อาวาสแห่งนี้ตลอดสามเดือนใน ฤดูฝนแล้วก็อยู่ ณ ที่นั้นโดยไม่ไปค้างคืนที่ไหนตลอดสาม เดือน นอกจากมีกิจธุระจ้าเป็นตามที่บัญญัติไว้ในพระวินัย ถ้าอย่างนี้คฤหัสถ์ไม่เกี่ยวเป็นพิธีกรรมส้าหรับ พระภิกษุเท่านั้น แต่ถ้าคิดว่าชาวบ้านทั้งชายและหญิงเป็นพุทธศาสนิกชนมีหน้าที่อุปถัมภ์บ้ารุงพระสงฆ์ วัดวา อาราม และพระพุทธศาสนาโดยรวม ชาวบ้านอย่างเราก็ย่อมเกี่ยวข้องด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือชาวบ้านได้ มีโอกาสถวายจตุปัจจัยไทยทาน ท้าบุญตักบาตร ถวายผ้าอาบน้้าฝน เข้าวัดฟังธรรมในช่วงเข้าพรรษา นับว่าได้ท้าประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและแก่พระพุทธศาสนา ที่มำ มาเข้าพรรษากันเถอะ ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก จากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2554 ค ำศัพท์ ควำมหมำย


ใบงำนกำรอ่ำนตีควำมเอกสำรทำงวิชำกำร ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความทางวิชาการแล้วค้นหาความหมายของค้าศัพท์ยาก โดยใช้พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ค่านิยมเกี่ยวกับผู้ที่บวชเรียนมีสูงมาก สังคมถือว่าผู้บวชเรียนแล้วเป็นบัณฑิต ออกเสียงว่า บันดิดหรือเป็นคนสุกแล้ว พ่อแม่ส่วนมากจะไม่ยอมยกบุตรสาวให้แต่งงานกับคนที่ยังไม่ผ่านการเป็น บัณฑิตหรือเป็นคนสุกเป็นอันขาด ต่อมาค้าว่า บัณ หายไปเหลือแต่ ฑิต ต่อมาก็เขียนเป็นทิดแทน จน บัดนี้ใครที่ไม่รู้ความเป็นมาก็ยากจะโยงได้ว่า บัณฑิตกับฑิด-ทิด เป็นค้าเดียวกัน การเข้าพรรษาเป็นพิธีกรรมส้าหรับพระภิกษุเท่านั้น สามเณรมีส่วนบ้างเฉพาะวันเข้าพรรษา แต่ ไม่มีวันออกพรรษา คฤหัสถ์อย่างเราไม่น่าเกี่ยวข้องด้วย ที่จริงจะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว ขึ้นอยู่กับค้าว่าเกี่ยวนั้นหมายเอาเกี่ยวในระดับใด ถ้า เป็นการเลือก ที่มุงที่บังอันมิดชิดปลอดภัย ถึงวันเข้าพรรษาแล้วตั้งสัจอธิษฐานว่า “เราจะอยู่จ้า พรรษา ณ อาวาสแห่งนี้ตลอดสามเดือนใน ฤดูฝนแล้วก็อยู่ ณ ที่นั้นโดยไม่ไปค้างคืนที่ไหนตลอดสาม เดือน นอกจากมีกิจธุระจ้าเป็นตามที่บัญญัติไว้ในพระวินัย ถ้าอย่างนี้คฤหัสถ์ไม่เกี่ยวเป็นพิธีกรรมส้าหรับ พระภิกษุเท่านั้น แต่ถ้าคิดว่าชาวบ้านทั้งชายและหญิงเป็นพุทธศาสนิกชนมีหน้าที่อุปถัมภ์บ้ารุงพระสงฆ์ วัดวา อาราม และพระพุทธศาสนาโดยรวม ชาวบ้านอย่างเราก็ย่อมเกี่ยวข้องด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือชาวบ้านได้ มีโอกาสถวายจตุปัจจัยไทยทาน ท้าบุญตักบาตร ถวายผ้าอาบน้้าฝน เข้าวัดฟังธรรมในช่วงเข้าพรรษา นับว่าได้ท้าประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและแก่พระพุทธศาสนา ที่มำ มาเข้าพรรษากันเถอะ ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก จากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2554 ค ำศัพท์ ควำมหมำย 1. บัณฑิต ผู้ทรงความรู้, ผู้มีปัญญา, ผู้ส้าเร็จการศึกษาขั้นปริญญา 2. อธิษฐาน ตั้งใจมุ่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง, ตั้งจิตอธิษฐาน 3. อุปถัมภ์ การค้้าจุน, การสนับสนุน, การเลี้ยงดู 4. คฤหัสถ์ ผู้ครองเรือน, ผู้ไม่ใช่นักบวช 5. จตุปัจจัย เครื่องอาศัยเลี้ยงชีวิตของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา 6. อาวาส วัด


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านในชีวิตประจ้าวัน เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การอ่านตีความเอกสารคู่มือ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อน้าไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ด้าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/7 ปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากขึ้น สำระส ำคัญ การปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ ช่วยให้ใช้เครื่องมือได้ถูกวิธี สำระกำรเรียนรู้ การอ่านตีความเอกสารคู่มือ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อ่านตีความเอกสารคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ได้ (K) 2. ปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากขึ้น (P) 3. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูซักถามนักเรียนว่าเวลานักเรียนเคยใช้เครื่องมืออะไรบ้าง เวลาใช้เครื่องมือหรือเครื่องใช้ต่างๆ นักเรียนเคยอ่านคู่มือหรือไม่ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า คู่มือการใช้เครื่องมือหรือเครื่องใช้ต่างๆ มีประโยชน์มาก ท้าให้ สามารถใช้เครื่องมือหรือเครื่องใช้เหล่านั้นได้ถูกวิธี 3. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่องการอ่านตีความเอกสารคู่มือจากหนังสือเรียน 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปใจความส้าคัญหลักการอ่านตีความเอกสารคู่มือ 5. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้จากการอ่านตีความเอกสารคู่มือ 6. นักเรียนท้าใบงานการปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องใช้ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการอ่านตีความเอกสารคู่มือ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องใช้ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อ่านค้ายากในเอกสาร วิชาการได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. สามารถตีความค้ายากใน เอกสารวิชาการโดย พิจารณาจากบริบทได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีนิสัยรักการ อ่าน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำน 2.5 กำรปฏิบัติตำมคู่มือแนะน ำวิธีกำรใช้งำนของเครื่องใช้ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านและปฏิบัติตามคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องใช้ แล้วตอบค้าถาม วิธีใช้และกำรดูแลรักษำเครื่องชั่งชนิดที่ 6 (เครื่องชั่งสปริง) เพื่อให้การใช้เครื่องชั่งชนิดที่ 6 (เครื่องชั่งสปริง) แบบหน้าปัดกระจกถูกต้องเที่ยงตรงอยู่เสมอ จึงแนะน้าวิธีใช้และ การดูแลรักษาเครื่องชั่ง ดังนี้ วิธีใช้ * ตั้งเครื่องชั่งให้ได้ระดับกับพื้นราบ (เครื่องชั่งสองหน้า หากไม่ได้ระดับเข็มจะไม่ตรงกัน) * ถาดชั่งต้องมีหมายเลขตรงกับเครื่องชั่ง และสะอาด * ก่อนชั่ง เข็มจะต้องตรงศูนย์ (0) ถ้าไม่ตรง ให้ปรับให้ตรงด้วยวิธีใช้คีมหมุนน็อตใต้ถาดชั่ง * อย่าชั่งน้้าหนักเกินพิกัดก้าลังของเครื่องชั่ง * การชั่งให้วางสิ่งของตรงบริเวณกึ่งกลางของถาดชั่ง * อย่าวางสิ่งของลงบนถาดชั่งด้วยวิธีกระแทก * ถ้าชั่งสิ่งที่ไม่สะอาด ควรห่อหุ้มเสียก่อน กำรเก็บรักษำ * เมื่อไม่ใช้เครื่องชั่ง ไม่ควรวางสิ่งของไว้บนถาดชั่ง * ระวังอย่าให้น้้าเข้าไปในเครื่องชั่ง * ควรตั้งเครื่องชั่งไว้ในที่ไม่มีฝุ่นผงและความชื้น ค ำเตือน * การใช้เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้อาจมีความผิดทางอาญา * เมื่อสงสัยว่าเครื่องชั่งไม่ถูกต้อง ให้สอบเทียบกับตุ้มน้้าหนักที่มีตราเครื่องหมายค้ารับรอง (ตราครุฑ) * ถ้าไม่มีตุ้มน้้าหนักให้สอบเทียบน้้าหนักสิ่งของกับเครื่องชั่งอื่นๆ ที่ถูกต้อง * เมื่อปรากฏว่าเครื่องชั่งไม่ถูกต้องหรือเกิดช้ารุดเสียหาย ห้ามใช้เด็ดขาด ให้จัดหาทดแทนใหม่


ค ำถำม 1. เอกสารคู่มือฉบับนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับอะไร 2. ถ้านักเรียนสงสัยว่าเครื่องชั่งสปริงที่แม่ค้าใช้ขายของในตลาดเมื่อใช้ชั่งของแล้ว น้้าหนักของไม่ ตรงตามความเป็นจริง นักเรียนจะท้าอย่างไร 3. ให้นักเรียนทดลองปฏิบัติจริงตามขั้นตอนแล้วเขียนสรุปวิธีใช้เครื่องชั่งสปริง 4. ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องชั่งสปริง


ค ำถำม 1. เอกสารคู่มือฉบับนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับอะไร การใช้ การเก็บรักษา และค้าเตือนในการใช้ตาชั่งสปริง 2. ถ้านักเรียนสงสัยว่าเครื่องชั่งสปริงที่แม่ค้าใช้ขายของในตลาดเมื่อใช้ชั่งของแล้ว น้้าหนักของไม่ตรง ตามความเป็นจริง นักเรียนจะท้าอย่างไร 1. ให้สอบเทียบกับตุ้มน้้าหนักที่มีตราเครื่องหมายค้ารับรอง (ตราครุฑ) 2. ถ้าไม่มีตุ้มน้้าหนักให้สอบเทียบน้้าหนักสิ่งของกับเครื่องชั่งอื่นๆ ที่ถูกต้อง 3. เมื่อปรากฏว่าเครื่องชั่งไม่ถูกต้องหรือเกิดช้ารุดเสียหาย ห้ามใช้เด็ดขาดให้จัดหาทดแทนใหม่ ถ้าใช้ เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้อาจมีความผิดทางอาญา 3. ให้นักเรียนทดลองปฏิบัติจริงตามขั้นตอนแล้วเขียนสรุปวิธีใช้เครื่องชั่งสปริง (พิจารณาตามค้าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) 4. ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคู่มือแนะน้าวิธีการใช้งานของเครื่องชั่งสปริง (พิจารณาตามค้าตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง การอ่านในชีวิตประจ้าวัน เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือตามความสนใจ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อน้าไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ด้าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/8 วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อน้าไปใช้แก้ปัญหา ในชีวิต ท 1.1 ม.1/9 มีมารยาทในการอ่าน สำระส ำคัญ การอ่านหนังสือที่นักเรียนสนใจและเหมาะสมกับวัยอย่างมีมารยาท แล้วน้ามาวิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับ จากการอ่าน จะช่วยให้สามารถน้าไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตได้อย่างเหมาะสม สำระกำรเรียนรู้ การวิเคราะห์คุณค่าหนังสือ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. สรุปใจความส้าคัญของหนังสือที่อ่านได้ (K) 2. วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านหนังสือตามความสนใจและเหมาะสมกับวัย เพื่อน้าไปใช้ แก้ปัญหาในชีวิตได้ (P) 3. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสอบถามหนังสือที่นักเรียนชอบอ่าน และเล่าถึงหนังสือที่ครูสนใจ 1 เรื่องให้นักเรียนฟัง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายเกี่ยวกับการอ่านเชิงวิเคราะห์คุณค่าจากหนังสือและแจกใบความรู้ให้นักเรียน 3. ครูยกตัวอย่างการวิเคราะห์คุณค่าหนังสือ 4. นักเรียนอ่านหนังสือเรื่องที่เตรียมมาอย่างคร่าวๆ เพื่อหาจุดส้าคัญในการวิเคราะห์ 5. นักเรียนท้าใบงานการวิเคราะห์คุณค่าหนังสือตามความสนใจ 6. นักเรียนน้าเสนอผลงานการวิเคราะห์คุณค่าหนังสือความสนใจหน้าชั้นเรียนเป็นรายบุคคล ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปหลักการวิเคราะห์คุณค่าหนังสือ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการวิเคราะห์คุณค่าหนังสือตามความสนใจ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. สรุปใจความส้าคัญของ หนังสือที่อ่านได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับ จากการอ่านหนังสือตาม ความสนใจและเหมาะสมกับ วัย เพื่อน้าไปใช้แก้ปัญหาใน ชีวิตได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีนิสัยรักการ อ่าน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ระดับพอใช้


ใบงำนกำรวิเครำะห์คุณค่ำหนังสือตำมควำมสนใจ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านหนังสือตามความสนใจ แล้วน้าเรื่องที่อ่านมาวิเคราะห์คุณค่า


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความเป็นมาโคลงโลกนิติ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหนคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สำระส ำคัญ การอ่านเพื่อสรุปเนื้อหาวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติจะท้าให้เข้าใจสุภาษิตค้าสอนที่มีเนื้อหาสาระที่เป็น ประโยชน์ สำระกำรเรียนรู้ โคลงโลกนิติ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกความเป็นมาของโคลงโลกนิติได้ (K) 2. เล่าความเป็นมาโดยสังเขปของโคลงโลกนิติได้ (P) 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของวรรณคดีค้าสอน จากนั้นให้นักเรียนยกตัวอย่าง วรรณคดีประเภทค้าสอน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายความเป็นมา ผู้แต่ง ประวัติผู้แต่ง และลักษณะค้าประพันธ์ของของวรรณคดีเรื่องโคลง โลกนิติ 3. ครูสุ่มเลขที่ให้นักเรียนเล่าความเป็นมาของโคลงโลกนิติให้เพื่อนฟัง 4. นักเรียนท้าแบบฝึกหัดเรื่องโคลงโลกนิติ 5. ครูเฉลยแบบฝึกหัดเรื่องโคลงโลกนิติ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเกี่ยวกับความเป็นมาของโคลงโลกนิติ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. แบบฝึกหัดเรื่องโคลงโลกนิติ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกความเป็นมาของ โคลงโลกนิติได้ (K) ตรวจแบบฝึกหัด เฉลยแบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เล่าความเป็นมา โดยสังเขปของโคลงโลกนิติ ได้ (P) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความ รับผิดชอบต่องานที่ได้รับ มอบหมาย สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรสรุปเนื้อหำโคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้วสรุปเนื้อหา ใบงำนกำรสรุปเนื้อหำโคลงโลกนิติ


ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้วสรุปเนื้อหา โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีที่มาจากภาษาบาลี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมพระยาเดชาดิศรรวบรวมโคลงของเก่าน ามาช าระใหม่ แล้วน าขึ้น ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อจารึกไว้บนแผ่นศิลาประดับไว้ที่ศาลาสี่ทิศ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตอนที่เรียนใน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีทั้งหมด 24 บท มีเนื้อหาสอนให้ผู้อ่านน าไปประพฤติปฏิบัติ เป็นแนวทาง ส าหรับการด ารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เช่น สอนให้ยึดมั่นในความดี สอนให้มีไมตรีจิต สอนให้คิด กตัญญู สอนให้รู้จักรักษาความสัตย์ สอนให้หัดเลือกคบคน สอนให้สนใจการศึกษา สอนให้พึ่งพาตนเอง สอน ให้เป็นผู้รู้จักประมาณตน สอนให้เป็นคนตั้งใจจริง สอนให้ละทิ้งความโอ้อวด เป็นต้น


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เนื้อหาโคลงโลกนิติ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/2 วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ สำระส ำคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีสุภาษิตค้าสอนที่น้ามาจากคัมภีร์ค้าสอนที่เป็นคาถาภาษาบาลีจึงต้องอาศัย การวิเคราะห์รูปแบบ และลักษณะค้าประพันธ์ พร้อมกับยกเหตุผลประกอบการวิเคราะห์ สำระกำรเรียนรู้ การวิเคราะห์รูปแบบและลักษณะค้าประพันธ์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ถอดค้าประพันธ์โคลงโลกนิติแต่ละบทได้ถูกต้อง (K) 2. พูดน้าเสนอผลงานการถอดค้าประพันธ์โคลงโลกนิติได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนมีความกล้าแสดงออก (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน


1. ครูน้าตัวอย่างบทประพันธ์จากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ มาให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน โดยใช้สื่อPower Point ประกอบการสอน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูแบ่งเนื้อหาโคลงโลกนิติให้นักเรียนคนละ 1 บท เพื่อให้นักเรียนถอดค้าประพันธ์ว่าโคลงโลกนิติ บทที่ได้รับมอบหมายถอดค้าประพันธ์ได้อย่างไรบ้าง สอนเรื่องใด และสอดคล้องกับส้าหนวนหรือสุภาษิตใด 3. นักเรียนท้าผลงานการถอดค้าประพันธ์เรื่องโคลงโลกนิติโดยท้าลงในกระดาษเอสี่แล้วตกแต่งให้ สวยงาม 4. นักเรียนออกมาน้าเสนอผลงานการถอดค้าประพันธ์เรื่องโคลงโลกนิติเป็นรายบุคคล ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับค้าสอนและสุภาษิตที่ได้จากเรื่องโคลงโลกนิติ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. Power Point เรื่องโคลงโลกนิติ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. ถอดค้าประพันธ์ โคลงโลกนิติแต่ละบทได้ ถูกต้อง (K) ตรวจผลงาน แบบประเมินผลงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. พูดน้าเสนอผลงานการ ถอดค้าประพันธ์โคลงโลกนิติ ได้ถูกต้อง (P) สังเกตและ ตรวจผลงาน แบบสังเกต แบบประเมินผลงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความกล้า แสดงออก (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรวิเครำะห์รูปแบบและลักษณะค ำประพันธ์ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้ววิเคราะห์ตามประเด็นที่ก้าหนด 1. รูปแบบวรรณดีเรื่อง โคลงโลกนิติ พร้อมยกตัวอย่างวรรณคดีที่มีรูปแบบเดียวกัน 2. ลักษณะค้าประพันธ์วรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ


ใบงำนกำรวิเครำะห์รูปแบบและลักษณะค ำประพันธ์ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้ววิเคราะห์ตามประเด็นที่ก้าหนด 1. รูปแบบวรรณดีเรื่อง โคลงโลกนิติ พร้อมยกตัวอย่างวรรณคดีที่มีรูปแบบเดียวกัน โคลงโลกนิติ จัดเป็นวรรณดีค้าสอนที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีเนื้อหาเป็นค้าสอนประเภทต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม ตัวอย่างวรรณคดีที่เป็นค้าสอนเหมือนกับวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ คือ สุภาษิตพระร่วงสุภาษิตสอนหญิง เพลงยาวถวายโอวาท อิศรญาณภาษิต 2. ลักษณะค้าประพันธ์วรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติแต่งด้วยค้าประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ บางบทเป็นโคลงกระทู้ คือ โคลงสี่สุภาพที่ มีการตั้งข้อความหรือหัวข้อ (กระทู้) ไว้หน้าโคลงทั้ง 4 บท แล้วแต่งถ้อยค้าต่อไปให้มีเนื้อความอธิบาย หรือขยายความกระทู้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในโคลงที่ 41 และ 69 เป็นกระทู้เดียว ส่วนโคลงที่ 403 เป็น โคลงกระทู้ 2 ค้า


แบบประเมินกำรน ำเสนอผลงำน ชื่อกลุ่ม ชั้น ล ำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ที่ได้จากการน้าเสนอ 5 วิธีการน้าเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................


แบบสังเกตพฤติกรรมกำรท ำงำนกลุ่ม ชื่อกลุ่ม ชั้น ล ำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การแบ่งหน้าที่กันอย่างเหมาะสม 2 ความร่วมมือกันท้างาน 3 การแสดงความคิดเห็น 4 การรับฟังความคิดเห็น 5 ความมีน้้าใจช่วยเหลือกัน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด ๗ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/2 วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ท 5.1 ม.1/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สำระส ำคัญ โคลงโลกนิติเป็นวรรณคดีเกี่ยวกับสุภาษิตค้าสอนควรแก่การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากเนื้อหา ของเรื่อง สำระกำรเรียนรู้ การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกได้ว่าโคลงโลกนิติมีมีคุณค่าด้านเนื้อหาอย่างไรบ้าง (K) 2. วิเคราะห์และอธิบายคุณค่าด้านเนื้อหาของวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติได้ (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูน้าตัวอย่างบทประพันธ์จากวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ มาแสดงให้นักเรียนดูที่หน้าชั้นเรียน แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายหลักการวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาของวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ 3. ครูยกตัวอย่างการวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาโดยก้าหนดประเด็นการวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหา วรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ ดังนี้ - สภาพสังคมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ - ค้าสอนที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ - ค่านิยมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ 4. นักเรียนท้าใบงานการวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปคุณค่าด้านเนื้อหาจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. ใบงานการวิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาโคลงโลกนิติ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกได้ว่าโคลงโลกนิติมีมี คุณค่าด้านเนื้อหาอย่างไร บ้าง (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. วิเคราะห์และอธิบาย คุณค่าด้านเนื้อหาของ วรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรวิเครำะห์คุณค่ำด้ำนเนื้อหำโคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้ววิเคราะห์และอธิบายตามประเด็นที่ก้าหนด 1. สภาพสังคมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ 2. ค้าสอนที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ 3. ค่านิยมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ


ใบงำนกำรวิเครำะห์คุณค่ำโคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ แล้ววิเคราะห์และอธิบายตามประเด็นที่ก้าหนด 1. สภาพสังคมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ สภาพสังคมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ คือ สังคมที่ก้าลังเริ่มต้นใหม่ บ้านเมืองสงบสุข ราษฎรมีความสุข ไม่เดือดร้อนกับการท้าสงคราม กวีจึงสอนให้คนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม เห็น ความส้าคัญของการศึกษาเล่าเรียน รู้จักการคิดพิจารณาในสิ่งที่เป็นคุณแก่ชีวิตน้าไปประพฤติปฏิบัติ ตาม ละเว้นในสิ่งที่เป็นโทษ 2. ค้าสอนที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ 1) สอนให้ยึดมั่นในความดี ดังปรากฏในโคลงบทที่ 131 2) สอนให้มีไมตรีจิต ดังปรากฏในโคลงบทที่ 101 3) สอนให้มีความกตัญญู ดังปรากฏในโคลงบทที่ 231 4) สอนให้รักษาความสัตย์ ดังปรากฏในโคลงบทที่ 69 5) สอนให้รู้จักเลือกคบคน ดังปรากฏในโคลงบทที่ 77 6) สอนให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ดังปรากฏในโคลงบทที่ 117 7) สอนให้รู้จักพึ่งพาตนเอง ดังปรากฏในโคลงบทที่ 288 8) สอนให้รู้จักประมาณตน ดังปรากฏในโคลงบทที่ 186 9) สอนให้เป็นคนตั้งใจจริง ดังปรากฏในโคลงบทที่ 98 10) สอนให้เป็นคนที่ไม่โอ้อวด ดังปรากฏในโคลงบทที่ 23 3. ค่านิยมที่ปรากฏในวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ 1) การเป็นคนเก่ง คนเก่งต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความขยันหมั่นเพียรศึกษาหาความรู้ 2) การเป็นคนดีมีคุณธรรม เช่น เป็นผู้ที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ การรักษาความสัตย์ ยึดมั่นในการท้าความดี 3) การเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ความตั้งใจจริง รู้จักพึ่งพาตนเองไม่หวังพึ่งผู้อื่น และรู้จัก ประมาณตนไม่หลงตน ไม่เป็นคนชอบโอ้อวด 4) การเป็นคนที่มีเกียรติยศ ต้องรักษาชื่อเสียงของตน


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/2 วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ท 5.1 ม.1/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สำระส ำคัญ โคลงโลกนิติเป็นวรรณคดีเกี่ยวกับสุภาษิตค้าสอนควรแก่การวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพื่อให้เห็น ความงามของถ้อยค้าและเนื้อความที่ไพเราะ สำระกำรเรียนรู้ การวิเคราะห์และอธิบายคุณค่าด้านวรรณศิลป์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกได้ว่าโคลงโลกนิติมีคุณค่าด้านวรรณศิลป์อย่างไรบ้าง (K) 2. วิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ พร้อมยกเหตุผลประกอบได้ (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูน้าตัวอย่างบทประพันธ์ที่มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์จากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ จากนั้นอธิบา ว่าการอ่านวรรณคดีจะต้องรู้จักการวิเคราะห์คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายว่าคุณค่าด้านวรรณศิลป์คืออะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร 3. ครูอธิบายหลักการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ 4. นักเรียนท้าใบงานการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์โคลงโลกนิติ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติเพื่อทบทวนความ เข้าใจ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. ใบงานการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์โคลงโลกนิติ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกได้ว่าโคลงโลกนิติมี คุณค่าด้านวรรณศิลป์ อย่างไรบ้าง (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. วิเคราะห์คุณค่าด้าน วรรณศิลป์ของวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติ พร้อมยก เหตุผลประกอบได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรวิเครำะห์คุณค่ำด้ำนวรรณศิลป์โคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์และอธิบายคุณค่าด้านวรรณศิลป์จากบทประพันธ์ที่ก้าหนด ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ ภายนอกแดงดูฉัน ชาดบ้าย ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน ดุจดั่งคนใจร้าย นอกนั้นดูงาม นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้ มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพิด ท้าแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน เสีย สินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์ เสีย ศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้ เสีย รู้เร่งด้ารง ความสัตย์ ไว้นา เสีย สัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วยมรณา ๑. ๒. ๓.


ใบงำนกำรวิเครำะห์คุณค่ำด้ำนวรรณศิลป์โคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์และอธิบายคุณค่าด้านวรรณศิลป์จากบทประพันธ์ที่ก้าหนด ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ ภายนอกแดงดูฉัน ชาดบ้าย ภายในย่อมแมลงวัน หนอนบ่อน ดุจดั่งคนใจร้าย นอกนั้นดูงาม เป็นการใช้ภาพพจน์ ในการเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง หรือใช้อุปมาโวหาร เปรียบเทียบกับสิ่งที่ใกล้ตัวเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้ มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพิด ท้าแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน เป็นการใช้ภาษาสร้างจินตภาพ ท้าให้เนื้อความลึกซึ้งสร้างจินตนาการได้อย่างชัดเจน โดย กล่าวถึงการ ท้าการต่างๆ อย่างเหมาะสม ท้าตามพอดี ไม่ควรท้าเกินก้าลังที่ตนเองท้าได้ เสีย สินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์ เสีย ศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้ เสีย รู้เร่งด้ารง ความสัตย์ ไว้นา เสีย สัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วยมรณา เป็นการเล่นค้าโดยการซ้้าค้าว่า เสีย เพื่อช่วยด้านเสียง และเน้นย้้าความหมายของค้าให้ เด่นชัดมากขึ้น ๑. ๒. ๓.


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 ปี หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องการ สรุปความรู้และข้อคิด เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร _____________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/4 สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง สำระส ำคัญ การอ่านวรรณคดีสุภาษิตค้าสอนเรื่องโคลงโลกนิติต้องวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากการอ่านเพื่อ น้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง สำระกำรเรียนรู้ การวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายข้อคิดที่ได้รับจากการอ่านโคลงโลกนิติได้ (K) 2. พูดน้าเสนอความรู้และข้อคิดจากเรื่องโคลงโลกนิติที่น้ามาใช้ในชีวิตประจ้าวันได้ (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูน้าตัวอย่างบทประพันธ์จากโคลงโลกนิติมาให้นักเรียนอ่านพร้อมกัน และให้ช่วยกันบอกว่าบท ประพันธ์ที่นักเรียนอ่านให้คุณค่าหรือเป็นค้าสอนในเรื่องใด ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายหลักการวิเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติพร้อมยกตัวอย่างประกอบ


3. ครูและนักเรียนร่วมกันตอบค้าถามและเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณค่าของโคลงโลกนิติว่าแต่ละ บทให้ข้อคิดและความรู้ในเรื่องอะไรบ้าง 4. ให้นักเรียนเลือกบทประพันธ์ที่ชอบมากที่สุดมาน้าเสนอหน้าชั้นเรียนว่าให้ข้อคิดอะไรและน้าไปใช้ ในชีวิตประจ้าวันได้อย่างไร 5. นักเรียนท้าใบงานการสรุปความรู้และข้อคิดที่ได้รับจากการอ่านโคลงโลกนิติโดยท้าออกมาใน รูปแบบแผนผังความคิด ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และข้อคิดจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. ใบงานการสรุปความรู้และข้อคิดจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายข้อคิดที่ได้รับจาก การอ่านโคลงโลกนิติได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. พูดน้าเสนอความรู้และ ข้อคิดจากเรื่องโคลงโลกนิติ ที่น้ามาใช้ในชีวิตประจ้าวัน ได้ (P) การน้าเสนอหน้าชั้น เรียน แบบประเมินการ น้าเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


ใบงำนกำรสรุปควำมรู้และข้อคิดจำกวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความรู้สรุปความรู้และข้อคิดจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติที่สามารถน้าไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้าวัน


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๒๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่องโคลงโลกนิติ เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การท่องจ้าบทอาขยาน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็นวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.1/5 ท่องจ้าบทอาขยานตามที่ก้าหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ สำระส ำคัญ โคลงโลกนิติเป็นวรรณคดีสุภาษิตค้าสอนที่มีคุณค่า มีข้อคิด จึงควรน้าบทอาขยานตามที่ก้าหนดมาท่องจ้า สำระกำรเรียนรู้ บทร้อยกรองเรื่องโคลงโลกนิติ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ท่องจ้าบทอาขยานที่มีคุณค่าจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติได้ (K) 2. อ่านบทอาขยานเรื่องโคลงโลกนิติได้ถูกต้องตามหลักการอ่านบทอาขยาน (P) 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีความรับผิดชอบ 3. รักความเป็นไทย กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูเลือกบทร้อยกรองเรื่องโคลงโลกนิติที่ความไพเราะมาให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้


2. ครูอธิบายหลักการอ่านบทอาขยานที่ถูกต้อง เช่น การออกเสียง การแบ่งวรรคตอน เป็นต้น 3. ครูเปิดวิดีโอการอ่านบทอาขยานให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการอ่านบทอาขยาน ทองที่ถูกต้อง 4. ให้นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านและท่องจ้าบทอาขยานที่ชื่นชอบจากวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ 5. นักเรียนทดสอบการท่องจ้าบทอาขยานกับครูเป็นรายบุคคล ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเกี่ยวกับหลักการอ่านบทอาขยานที่ถูกต้อง สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2. วิดีโอการอ่านบทอาขยาน กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. ท่องจ้าบทอาขยานที่มี คุณค่าจากวรรณคดีเรื่อง โคลงโลกนิติได้ (K) การประเมินการ ท่องจ้าบทอาขยาน แบบประเมินการ ท่องจ้าบทอาขยาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2. อ่านบทอาขยานเรื่อง โคลงโลกนิติได้ถูกต้องตาม หลักการอ่านบทอาขยาน (P) การประเมินการ ท่องจ้าบทอาขยาน แบบประเมินการ ท่องจ้าบทอาขยาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. นักเรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


แบบประเมินกำรท่องจ ำบทอำขยำน ล ำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับกำร ประเมิน ถูกต้องตำม หลักค ำ ประพันธ์ กำรแบ่งวรรค ตอน ออกเสียง ชัดเจน ควำมถูกต้อง ของบท อำขยำน รวม 16 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 – 16 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง


แผนกำรจัดกำรเรียนรู้๒๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เสียงในภาษาไทย เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร __________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/1 อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย สำระส ำคัญ เสียงในภาษาไทยเป็นเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งผู้เรียนต้องมีความรู้เรื่องลักษณะของเสียงใน ภาษาไทย และฝึกฝนการพูดออกเสียงให้ถูกต้อง และชัดเจน สำระกำรเรียนรู้ เสียงในภาษาไทย จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทยได้(K) 2. อ่านออกเสียงในภาษาไทยได้ถูกต้อง (P) 3. มีกระตือรือร้นในการท้ากิจกรรมกลุ่ม (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบถึงเสียงในภาษาไทยซึ่งเป็นเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. แบ่งนักเรียนกลุ่มละ 4-5 คน นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การออกเสียงภาษาไทย จากหนังสือเรียน


3. ครูอธิบายหลักการอ่านออกเสียงของค้าพร้อมยกตัวอย่างค้าและการเขียนค้าอ่าน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอ่านออกเสียงค้าจากแบบฝึกอ่านออกเสียงกับครูเป็นรายกลุ่ม 5. ครูประเมินผลและเสนอแนะข้อบกพร่องในการอ่าน เพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถน้าไป ปรับปรุงแก้ไขการอ่านให้ถูกต้องและชัดเจน 6. นักเรียนท้าใบงานการอ่านออกเสียงภาษาไทยเป็นรายบุคคล เมื่อท้าเสร็จแล้วให้น้าส่งครูตรวจ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูสรุปความรู้และถามตอบเกี่ยวกับเรื่องเสียงในภาษาไทย สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการอ่านออกเสียงภาษาไทย 3. แบบฝึกอ่านออกเสียง กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายลักษณะของ เสียงในภาษาไทยได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. อ่านออกเสียงใน ภาษาไทยได้ถูกต้อง (P) การประเมินการ อ่านออกเสียง ภาษาไทย แบบประเมินการอ่าน ออกเสียงภาษาไทย ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. มีกระตือรือร้นในการ ท้ากิจกรรมกลุ่ม (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


แบบฝึกอ่ำนออกเสียง พื้นโรงเรียนเลี่ยนราบระร่มรื่น ขัดจนลื่นเดินยากถลากไถล มีตู้เตียงเรียงชั้นเป็นหลั่นไป เรียบเรียงไว้ได้ระเบียบน่าเลียบเดิน ฉันร้าคาญร่านบุ้งเหลือบยุงริ้น กัดปลายลิ้นปลายคางไม่ห่างเหิน ที่ในโรงโลงศพใครดูใหญ่เกิน นายเจริญแบกลุ้งดูรุงรัง เออต้นลานใครมารานกิ่งก้านหัก ซ้้าลอบลักดอกรักไปหลายถัง ศีรษะล้านปลูกร้านยาในป่ารัง ยาในลังเปียกราขอลาเอย ไม้กวาดแขวนข้างขวา แกว่งไปมาไม่เหมือนขวาน นายกว้างไม่ใช่ควาญ คอยกว้านซื้อช้างกับกวาง ขับเกวียนหานางกวัก กลับค้อนควักเมื่อถูกขวาง ขวากหนามอย่าทิ้งขว้าง ด้วงกว่างคว้าอ้อยควั่นพลัน นายแกว่นเดินขวักไขว่ จับมือไขว้คว้าของขวัญ ทั่วแคว้นกว้างใหญ่นั้น มีแต่หมอกควันปกคลุม (อ่ำน-เขียนค ำไทย : ประเทือง คล้ำยสุบรรณ)


ใบงำนกำรอ่ำนออกเสียงภำษำไทย ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องชัดเจน 1. การออกเสียงในภาษาไทยมีลักษณะอย่างไร 2. การอ่านมีความสัมพันธ์กับการเขียนอย่างไร


Click to View FlipBook Version