แผนภาษาไทย

ใบงำนกำรออกเสียงภำษำไทย ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องชัดเจน 1. การออกเสียงในภาษาไทยมีลักษณะอย่างไร การออกเสียงภาษาไทย มีลักษณะ ดังนี้ 1) ออกเสียงพยัญชนะ และถ้อยค้าให้คล่อง ถูกต้อง ชัดเจนตามหลักการออกเสียงภาษาไทย ไม่ออก เสียงช้าหรือเร็วเกินไป 2) ออกเสียงควบกล้้าให้ชัดเจน เป็นธรรมชาติ ไม่ดัดเสียงหรือเน้นเสียงเกินไป 3) ไม่ออกเสียงเลียนแบบภาษาต่างประเทศ 4) ไม่ออกเสียงตัดค้า ย่อค้า หรือรวบค้า 5) เมื่อพูดอย่างเป็นทางการต้องใช้ภาษาไทยกลาง และต้องออกเสียงให้ชัดเจน ระมัดระวังไม่ออก เสียงส้าเนียงท้องถิ่น 6) ไม่พูดภาษาไทยปนกับภาษาต่างประเทศ 7) ระมัดระวังการออกเสียงวรรณยุกต์ให้ถูกต้อง ไม่ออกเสียงเพี้ยน 8) อ่ำนเว้นวรรคตอนให้ถูกต้อง 2. การอ่านมีความสัมพันธ์กับการเขียนอย่างไร ถ้าออกเสียงผิด การเขียนก็จะผิดด้วย ท้าให้เป็นอุปสรรคในการสื่อสาร

แบบประเมินกำรอ่ำนออกเสียง ล ำดับ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับกำร ประเมิน ถูกต้อง ตำม อักขรวิธี กำรแบ่ง วรรคตอน ออกเสียง ชัดเจน กำรใช้ น้ ำเสียง รวม 16 คะแน น 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้24 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ค้าประสม เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร __________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าประสมเกิดจากการเอาค้ามูลที่มีความหมายต่างกันตั้งแต่ 2 ค้าขึ้นไปมารวมกันเข้าเป็นค้าเดียว กลายเป็นค้าใหม่ มีความหมายใหม่แต่ยังมีเค้าความหมายเดิมอยู่ สำระกำรเรียนรู้ ค้าประสม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของค้าประสมได้(K) 2. สร้างค้าประสมได้ถูกต้อง (P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการสร้างค้าว่านักเรียนรู้จักการสร้างค้าหรือไม่ รู้จักค้าอะไรบ้าง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายลักษณะค้าประสม

3. ให้นักเรียนท้ากิจกรรมระดมสมองโดยให้แต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนค้าประสม ภายในเวลา ๓ นาที กลุ่มไหนเขียนได้มากที่สุด กลุ่มนั้นถือเป็นกลุ่มที่ชนะ 4. นักเรียนท้าใบงานเรื่องค้าประสมค้าประสม โดยให้เวลาในการท้าแบบฝึกหัดประมาณ ๑๐ นาที 5. ครูเฉลยใบงานเรื่องค้าประสม และเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูสรุปความรู้และถามตอบเกี่ยวกับเรื่องค้าประสม สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. บัตรค้า 3. ใบงานเรื่องค้าประสม กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายลักษณะของค้า ประสมได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. สร้างค้าค้าประสมได้ ถูกต้อง (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำประสม ตอนที่ 1 ค ำชี้แจง จงเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวถูกต้อง และเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวไม่ ถูกต้อง _____ 1. ค้าประสมคือค้าที่เกิดจากค้ามูลตั้งแต่สองค้าขึ้นไปมารวมกัน _____ 2. ค้าประสมต้องเกิดจากค้าไทยประสมกับค้าไทยเท่านั้น _____ 3. ค้าประสมต้องเกิดความหมายใหม่แต่ยังมีเค้าความหมายเดิม _____ 4. พ่อตา พ่อบ้าน พ่อครัว เป็นค้าประสมทุกค้า _____ 5. ของขวัญ ของเล่น ของหาย เป็นค้าประสมทุกค้า ตอนที่ 2 ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสร้างค้าประสมจากชนิดของค้าที่ก้าหนดให้ข้อละ 2 ค้า ชนิดของค้า ค้าประสม ค้าประสม ค้านาม + ค้านาม ค้านาม + ค้าวิเศษณ์ ค้านาม + ค้ากริยา ค้ากริยา + ค้ากริยา ค้ากริยา + ค้านาม ค้าวิเศษณ์ + ค้าวิเศษณ์ ชื่อ…………………………………………………………………………ชั้น………………เลขที่…………

ใบงำนค ำประสม ตอนที่ 1 ค ำชี้แจง จงเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวถูกต้อง และเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวไม่ ถูกต้อง 1. ค้าประสมคือค้าที่เกิดจากค้ามูลตั้งแต่สองค้าขึ้นไปมารวมกัน 2. ค้าประสมต้องเกิดจากค้าไทยประสมกับค้าไทยเท่านั้น 3. ค้าประสมต้องเกิดความหมายใหม่แต่ยังมีเค้าความหมายเดิม 4. พ่อตา พ่อบ้าน พ่อครัว เป็นค้าประสมทุกค้า 5. ของขวัญ ของเล่น ของหาย เป็นค้าประสมทุกค้า ตอนที่ 2 ค ำชี้แจง ให้นักเรียนสร้างค้าประสมจากชนิดของค้าที่ก้าหนดให้ข้อละ 2 ค้า ชนิดของค้า ค้าประสม ค้าประสม ค้านาม + ค้านาม ค้านาม + ค้าวิเศษณ์ ค้านาม + ค้ากริยา ค้ากริยา + ค้ากริยา ค้ากริยา + ค้านาม ค้าวิเศษณ์ + ค้าวิเศษณ์ ชื่อ…………………………………………………………………………ชั้น………………เลขที่…………

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้25 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ค้าซ้้า เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าซ้้าเป็นค้าที่ออกเสียงซ้้าค้าเดิมให้ต่อเนื่องกันโดยใช้เครื่องหมายไม้ยมก (ๆ) เติมหลังค้า ค้าที่ซ้้าเสียง อาจจะมีความหมายคงเดิมหรือแตกต่างกันไปจากเดิมขึ้นอยู่กับความหมายของค้าและบริบทที่ประกอบ สำระกำรเรียนรู้ ค้าซ้้า จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกความหมายของค้าซ้้าได้(K) 2. จ้าแนกความของค้าซ้้าได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. น้าการเข้าสู่บทเรียนด้วยกิจกรรมปรบมือลบหนึ่ง - ให้นักเรียนปรบมือลบหนึ่งและพูดตามค้าสั่ง เช่น บอกให้ปรบมือ 2 ครั้ง นักเรียนต้องทวนค้าสั่ง ว่าปรบมือ 2 ครั้ง พร้อมกับปรบมือ 1 ครั้ง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้

2. ครูแจกเนื้อเรื่องให้นักเรียนอ่านและให้นักเรียนสังเกตลักษณะของค้าซ้้าที่ปรากฏอยู่ 3. ครูอธิบายความหมาย วิธีการสร้าง และความหมายที่เกิดจากค้าซ้้า 4. ให้นักเรียนออกมาเขียนค้าซ้้าบนกระดานคนละ 1 ค้า 5. ครูแจกแบบฝึกหัดให้นักเรียนท้าใบงานเรื่องค้าซ้้า โดยให้เวลาในการท้าแบบฝึกหัดประมาณ 10 นาที 6. ครูเฉลยแบบฝึกหัด และเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูสรุปเกี่ยวกับค้าซ้้าและสอบถามนักเรียนเพื่อทบทวนความรู้ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องค้าซ้้า 3. ใบเนื้อเรื่อง กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกความหมายของค้า ซ้้าได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. จ้าแนกความหมายของ ค้าซ้้าได้(P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำซ้ ำ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกความหมายของค้าซ้้าไปใส่ลงในช่องว่างให้สัมพันธ์กับประโยคที่ก้าหนดให้ถูกต้อง ……………………………………………………………… 1. เด็ก ๆ ก้าลังปั่นจักรยานไปโรงเรียน ……………………………………………………………… 2. เขาเดินอยู่แถว ๆ ท่าตะโก ……………………………………………………………… 3. ฝนก้าลังตกปรอย ๆ ……………………………………………………………… 4. ของพื้น ๆ อย่างนี้ใครก็ท้าได้ ……………………………………………………………… 5. เธอเดินเร็ว ๆสิ ……………………………………………………………… 6. เขายังเคืองๆ เธออยู่นะ ……………………………………………………………… 7. คุณแม่หั่นหมูเป็นชิ้นๆ ……………………………………………………………… 8. เธอมาหาฉันแต่เช้า ๆ หน่อย ……………………………………………………………… 10. พี่ๆ ให้ของขวัญแก่น้อง ……………………………………………………………… 11. สุชาติลาพักร้อน 1 สัปดาห์เต็มๆ ……………………………………………………………… 12. วิภาดาล้างผักแบบลวกๆ ……………………………………………………………… 13. ชนิกาล้างจานให้สะอาดเป็นใบๆ สิ ……………………………………………………………… 14. เราสองคนก้าลังคบๆ กันอยู่ ……………………………………………………………… 15. อะไรๆ ฉันก็กินได้ ค าซ้ า หมายถึง ……………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ๑. ความหมายไม่เจาะจง ๕. เน้นความหมายเดิมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๒. แสดงอาการหรือเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน ๖. ความหมายเบาลง ๓. ท าให้เกิดความหมายใหม่ ๗. ค าเพื่อให้เป็นค าสั่ง ๔. บอกความหมายเป็นพหูพจน์ ๘. ความหมายแสดงการแยกเป็นส่วนๆ

ใบงำนค ำซ้ ำ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกความหมายของค้าซ้้าไปใส่ลงในช่องว่างให้สัมพันธ์กับประโยคที่ก้าหนดให้ถูกต้อง บอกความหมายเป็นพหูพจน์ 1. เด็ก ๆ ก้าลังปั่นจักรยานไปโรงเรียน ความหมายไม่เจาะจง 2. เขาเดินอยู่แถว ๆ ท่าตะโก แสดงอาการหรือเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน 3. ฝนก้าลังตกปรอย ๆ ท้าให้เกิดความหมายใหม่ 4. ของพื้น ๆ อย่างนี้ใครก็ท้าได้ ค้าเพื่อให้เป็นค้าสั่ง 5. เธอเดินเร็ว ๆสิ ความหมายเบาลง 6. เขายังเคืองๆ เธออยู่นะ ความหมายแสดงการแยกเป็นส่วนๆ 7. คุณแม่หั่นหมูเป็นชิ้นๆ ความหมายไม่เจาะจง 8. เธอมาหาฉันแต่เช้า ๆ หน่อย บอกความหมายเป็นพหูพจน์ 10. พี่ๆ ให้ของขวัญแก่น้อง เน้นความหมายเดิมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 11. สุชาติลาพักร้อน 1 สัปดาห์เต็มๆ ท้าให้เกิดความหมายใหม่ 12. วิภาดาล้างผักแบบลวกๆ ความหมายแสดงการแยกเป็นส่วนๆ 13. วิชนิกาล้างจานให้สะอาดเป็นใบๆ สิ ความหมายเบาลง 14. เราสองคนก้าลังคบๆ กันอยู่ ความหมายไม่เจาะจง 15. อะไรๆ ฉันก็กินได้ ๑. ความหมายไม่เจาะจง ๕. เน้นความหมายเดิมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๒. แสดงอาการหรือเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน ๖. ความหมายเบาลง ๓. ท าให้เกิดความหมายใหม่ ๗. ค าเพื่อให้เป็นค าสั่ง ๔. บอกความหมายเป็นพหูพจน์ ๘. ความหมายแสดงการแยกเป็นส่วนๆ ค าซ้ า หมายถึง ค าที่ออกเสียงซ้ าค าเดิมให้ต่อเนื่องกันโดยใช้ เครื่องหมายไม้ยมก (ๆ) เติมหลังค า

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้26 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ค้าซ้อน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร __________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าซ้อนเป็นค้าที่เกิดจากการน้าค้ามูลที่มีความหมายเหมือนกัน คล้ายคลึงกัน หรือตรงข้ามกัน ตั้งแต่ 2 ค้าขึ้นไปมาเรียงต่อกันท้าให้เกิดความหมายในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ค้าซ้อนมี2 ชนิด ได้แก่ค้าซ้อนเพื่อ ความหมาย และค้าซ้อนเพื่อเสียง สำระกำรเรียนรู้ ค้าซ้อน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของค้าซ้อนได้(K) 2. สร้างค้าซ้อนได้ถูกต้อง (P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. น้าเข้าสู่บทเรียนด้วยกิจกรรมนับเลข - ให้นักเรียนนับเลขเรียงต่อกัน คนที่นับจ้านวนได้ตัวเลขที่มีเลข 3, 5, หรือ 7 ให้พูดชื่อผลไม้ แทนการนับเลข ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้

2. ครูอธิบายลักษณะและชนิดของค้าซ้อน ได้แก่ค้าซ้อนเพื่อความหมายและค้าซ้อนเพื่อเสียงโดยใช้ Powerpoint เป็นสื่อประกอบการอธิบาย 3. ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องแล้วหาค้าซ้อนที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง แล้วบอกว่าเป็นค้าซ้อนชนิดใด 4. นักเรียนท้าใบงานเรื่อง ค้าซ้อน โดยให้เวลาในการท้าแบบฝึกหัดประมาณ 10 นาที 5. ครูเฉลยใบงาน และเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูสรุปความรู้และถามตอบเกี่ยวกับเรื่องค้าซ้อน สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. Powerpoint ประกอบการสอนเรื่อง ค้าซ้อน 3. ใบงานเรื่อง ค้าซ้อน กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายลักษณะของค้า ซ้อนได้ (K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. สร้างค้าซ้อนได้ถูกต้อง (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกต พฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำซ้อน ตอนที่ 1 ค ำชี้แจง จงเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวถูกต้อง และเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวไม่ ถูกต้อง ____ 1. ค้าซ้อนเกิดจากการน้าค้ามูลที่มีความหมายเหมือนกันมาซ้อนกันเท่านั้น ____ 2. การสร้างค้าซ้อนไม่สามารถน้าค้าที่มีความหมายตรงข้ามกันมาซ้อนกันได้ _____ 3. เงอะงะ ซู่ซ่า เยอะแยะ เป็นค้าซ้อนเพื่อเพื่อเสียง _____ 4. แก่ชรา ข้าทาส ฟ้อนร้า เป็นค้าซ้อนความหมาย _____ 5. ค้าซ้อนมีทั้งค้าซ้อนเพื่อความหมายหมายและค้าซ้อนเพื่อเสียง ตอนที่ 2 ค ำชี้แจง ให้นักเรียนน้าค้าในกล่องข้อความไปเขียนลงในช่องว่างให้เป็นค้าซ้อนที่ถูกต้อง 1. ..…………เขลา …………….…..รู้คุณ 6. ทรัพย์……………. ข้าวปลา……………..….. 2. ………………ชั่ว ……………..…..ถ่อมตน 7. คับ………………… เก็บหอม……………..….. 3. ……………ผ้า ……………..…..ก่ายกอง 8. ลูก…………………… อยู่เย็น……………..…….. 4. ………………พี ……………..…..ปากปู 9. ผลหมาก………………… ป่าดง……………..….... 5. …………เรือน …………………..ถักร้อย 10. ข้าวยาก………………. หมูเห็ด……………..……. ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่…………… อ่อนน้อม เย็บปัก พงไพร มากมาย รอมริบ เป็นสุข สิน โง่ อ้วน อาหาร กตัญญู เสื้อ ดี บ้าน ปากหอย เป็ดไก่ รากไม้ แคบ หลาน หมากแพง

ใบงำนค ำซ้อน ตอนที่ 1 ค ำชี้แจง จงเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวถูกต้อง และเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อที่กล่าวไม่ ถูกต้อง 1. ค้าซ้อนเกิดจากการน้าค้ามูลที่มีความหมายเหมือนกันมาซ้อนกันเท่านั้น 2. การสร้างค้าซ้อนไม่สามารถน้าค้าที่มีความหมายตรงข้ามกันมาซ้อนกันได้ 3. เงอะงะ ซู่ซ่า เยอะแยะ เป็นค้าซ้อนเพื่อเพื่อเสียง 4. แก่ชรา ข้าทาส ฟ้อนร้า เป็นค้าซ้อนความหมาย 5. ค้าซ้อนมีทั้งค้าซ้อนเพื่อความหมายหมายและค้าซ้อนเพื่อเสียง ตอนที่ 2 ค ำชี้แจง ให้นักเรียนน้าค้าในกล่องข้อความไปเขียนลงในช่องว่างให้เป็นค้าซ้อนที่ถูกต้อง 1. โง่เขลา - กตัญญูรู้คุณ 6. ทรัพย์สิน - ข้าวปลาอาหาร 2. ดีชั่ว - อ่อนน้อมถ่อมตน 7. คับแคบ - เก็บหอมรอมริบ 3. เสื้อผ้า - มากมายก่ายกอง 8. ลูกหลาน - อยู่เย็นเป็นสุข 4. อ้วนพี- ปากหอยปากปู 9. ผลหมากรากไม้- ป่าดงพงไพร 5. บ้านเรือน - เย็บปักถักร้อย 10. ข้าวยากหมากแพง - หมูเห็ดเป็ดไก่ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่…………… อ่อนน้อม เย็บปัก พงไพร มากมาย รอมริบ เป็นสุข สิน โง่ อ้วน อาหาร กตัญญู เสื้อ ดี บ้าน ปากหอย เป็ดไก่ รากไม้ แคบ หลาน หมากแพง

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 27 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ค้าพ้องรูป เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าพ้องรูปเป็นค้าที่เขียนเหมือนกัน แต่อ่านออกเสียงต่างกัน และมีความหมายต่างกัน สำระกำรเรียนรู้ ค้าพ้องรูป จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกความหมายของค้าพ้องรูปได้(K) 2. เลือกใช้ค้าพ้องได้ถูกต้องกับความหมาย (P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูติดรูปภาพที่เป็นค้าพ้องรูปลงบนกระดานโดยยังไม่บอกว่าจะเรียนเรื่องอะไรเพื่อให้นักเรียนดู และสังเกตจากรูปภาพ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายความหมาย และลักษณะของค้าพ้องรูป พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ

3. ครูเขียนประโยคบนกระดานแล้วเว้นช่องว่างค้าไว้ ให้นักเรียนพิจารณาค้าพ้องรูปแล้วออกมาเขียน เติมลงในประโยคให้ถูกต้อง 4. ให้นักเรียนท้าใบงานเรื่องค้าพ้องรูปโดยให้เวลาในการท้าใบงานประมาณ 10 นาที 5. ครูเฉลยใบงานและเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับค้าพ้องรูป สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องค้าพ้อง กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกความหมายของ ค้าพ้องรูปได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เลือกใช้ค้าพ้องรูปได้ ถูกต้องกับความหมาย (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำพ้องรูป ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนความหมายของค้าที่ก้าหนดให้แล้วเลือกค้าไปเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ตัวอย่าง กรี กระดูกแหลมที่หัวกุ้ง กะ – รี ช้าง คุณแม่ตัดกรี(กรี) ของกุ้งออกก่อนน้าไปประกอบอาหาร 1. สระ สระ ……………………………………………………… สะ – หระ ……………………………………………………… วนรัตน์ชอบไปไปตกปลาที่…………………ท้ายหมู่บ้าน 2. เพลา เพลา ……………………………………………………… เพ – ลา ……………………………………………………… อานันท์ก้าลังซ่อม…………………รถให้ลูกค้า 3. เสลา สะ – เหลา ……………………………………………………… เส – ลา ……………………………………………………… ต้น…………………ผลิดอกสีม่วงบานสะพรั่งที่ถนนเส้นทางหลวง 4. ปักเป้า ปัก – เป้า ……………………………………………………… ปัก – กะ – เป้า ……………………………………………………… นางแก้วหน้าม้าเก็บว่าว…………………ของพระโอรสปิ่นทองได้ 5. เสมา เส-มา ……………………………………………………… สะ-เหมา ……………………………………………………… คุณพ่อปลูกต้น…………………ไว้บริเวณหลังบ้าน

ใบงำนค ำพ้องรูป ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนความหมายของค้าที่ก้าหนดให้แล้วเลือกค้าไปเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ตัวอย่าง กรี กระดูกแหลมที่หัวกุ้ง กะ – รี ช้าง คุณแม่ตัดกรี(กรี) ของกุ้งออกก่อนน้าไปประกอบอาหาร 1. สระ สระ แอ่งน้้า สะ – หระ ตัวอักษรที่ใช้ประกอบกับพยัญชนะ วนรัตน์ชอบไปไปตกปลาที่สระ(สระ)ท้ายหมู่บ้าน 2. เพลา เพลา แกนส้าหรับสอดในดุมรถ เพ – ลา เวลา อานันท์ก้าลังซ่อมเพลา(เพลา)รถให้ลูกค้า 3. เสลา สะ – เหลา ต้นไม้ชนิดหนึ่ง เส – ลา ภูเขา ต้นเสลา (สะ – เหลา) ผลิดอกสีม่วงบานสะพรั่งที่ถนนเส้นทางหลวง 4. ปักเป้า ปัก – เป้า ว่าวชนิดหนึ่ง ปัก – กะ – เป้า ปลาชนิดหนึ่ง นางแก้วหน้าม้าเก็บว่าวปักเป้า(ปัก – เป้า) ของพระโอรสปิ่นทองได้ 5. เสมา เส-มา รูปเครื่องหมายบอกเขตโบสถ์ สะ-เหมา ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง คุณพ่อปลูกต้นเสมา (สะ-เหมา) ไว้บริเวณหลังบ้าน

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 28 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง ค้าพ้องเสียง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าพ้องเสียงเป็นค้าที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน สำระกำรเรียนรู้ ค้าพ้องเสียง จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. ยกตัวอย่างค้าพ้องเสียงได้(K) 2. เลือกใช้ค้าพ้องเสียงได้ถูกต้องกับความหมาย (P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูติดรูปภาพที่เป็นค้าพ้องเสียงลงบนกระดานโดยยังไม่บอกว่าจะเรียนเรื่องอะไรเพื่อให้นักเรียนดู และสังเกตจากรูปภาพ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายความหมาย และลักษณะของค้าพ้องเสียง พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ

3. นักเรียนท้ากิจกรรมระดมสมองโดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แล้วให้ช่วยกันเขียนค้า พ้องเสียงให้ได้มากที่สุดภายในเวลา 3 นาทีกลุ่มใดเขียนค้าพ้องเสียงได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะ 4. น้าค้าพ้องเสียงที่นักเรียนหาได้มาเขียนลงบนกระดานเพื่อร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความหมายของ ค้าพ้องเสียงที่นักเรียนคิดได้ 5. นักเรียนท้าใบงานเรื่องค้าพ้องเสียง โดยให้เวลาในการท้าใบงานประมาณ 10 นาที 6. ครูเฉลยใบงาน และเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูถามค้าถามเกี่ยวกับค้าพ้องเสียงเพื่อทบทวนความรู้และความเข้าใจของนักเรียน สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องค้าพ้องเสียง กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. ยกตัวอย่างค้าพ้องเสียง ได้(K) ประเมินจากกิจกรรม ระดมสมอง แบบประเมินกิจกรรม ระดมสมอง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2. เลือกใช้ค้าพ้องเสียงได้ ถูกต้องกับความหมาย (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำพ้องเสียง ค ำชี้แจง ให้นักเรียนน้าค้าพ้องเสียงที่ก้าหนดมาเติมลงในช่องว่างให้ตรงกับความหมาย โจทก์ กัลป์ จันทน์ กรรณ กัลป์ ชำด จันทร์ โจทย์ ศำสตร์ สำด ชำติ กำน ………………… 1. ผู้กล่าวหา, ผู้ฟ้องความในศาล ………………… 2. ประเทศ, การเกิด, รส ………………… 3. ซัดไป ………………… 4. ดวงเดือน ………………… 5. วัตถุที่มีสีแดงสด ใช้ท้ายาไทยหรือประสมกับน้้ามันส้าหรับประทับตราหรือทาสิ่งของ ………………… 6. ระยะหนึ่งในช่วงเวลาอันยาวนาน ………………… 7. พรรณไม้ที่มีกลิ่นหอม, ใช้ท้ายาและปรุงเครื่องหอม ………………… 8. หู ………………… 9. ระบบวิชาความรู้ ………………… 10. ค้าถามในวิชาคณิตศาสตร์

ใบงำนค ำพ้องเสียง ค ำชี้แจง ให้นักเรียนน้าค้าที่ก้าหนดมาเติมลงในช่องว่างให้ตรงกับความหมาย โจทก์ กัลป์ จันทน์ กรรณ กัลป์ ชำด จันทร์ โจทย์ ศำสตร์ สำด ชำติ กำน โจทก์ 1. ผู้กล่าวหา, ผู้ฟ้องความในศาล ชาติ 2. ประเทศ, การเกิด, รส สาด 3. ซัดไป จันทร์ 4. ดวงเดือน ชาด 5. วัตถุที่มีสีแดงสด ใช้ท้ายาไทยหรือประสมกับน้้ามันส้าหรับประทับตราหรือทาสิ่งของ กัลป์ 6. ระยะหนึ่งในช่วงเวลาอันยาวนาน จันทน์ 7. พรรณไม้ที่มีกลิ่นหอม, ใช้ท้ายาและปรุงเครื่องหอม กรรณ 8. หู ศาสตร์ 9. ระบบวิชาความรู้ โจทย์ 10. ค้าถามในวิชาคณิตศาสตร์

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 29 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง เสียงในภาษาไทยและการสร้างค้า เวลาเรียนทั้งหมด 7 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ค้าไวพจน์ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 สร้างค้าในภาษาไทย สำระส ำคัญ ค้าไวพจน์เป็นค้าที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกัน สำระกำรเรียนรู้ ค้าไวพจน์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกความหมายของค้าไวพจน์ได้(K) 2. จัดจ้าแนกค้าไวพจน์ที่มีความหมายเหมือนกันได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูติดรูปภาพที่เป็นค้าไวพจน์ลงบนกระดานโดยยังไม่บอกว่าจะเรียนเรื่องอะไรเพื่อให้นักเรียนดู และสังเกตจากรูปภาพ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูติดรูปภาพที่เป็นค้าไวพจน์ลงบนกระดานโดยยังไม่บอกว่าจะเรียนเรื่องอะไรเพื่อให้นักเรียนดู และสังเกตจากรูปภาพ

3. ครูอธิบายความหมาย และลักษณะของค้าค้าไวพจน์พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ 4. ท้ากิจกรรมกล่องสุ่มค้าไวพจน์โดยให้นักเรียนออกมาจับบัตรค้าจากกล่องสุ่ม แล้วให้น้ามาใส่กล่อง ให้ตรงกับความหมายของค้านั้น 5. ให้นักเรียนท้าใบงานเรื่องค้าไวพจน์โดยให้เวลาในการท้าใบงานประมาณ 10 นาที 6. ครูเฉลยใบงาน และเก็บใบงานคืนเพื่อให้คะแนน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับค้าไวพจน์ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องค้าไวพจน์ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกความหมายของค้า ไวพจน์ได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. จัดจ้าแนกค้าไวพจน์ที่มี ความหมายเหมือนกันได้(P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนค ำไวพจน์ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนความหมายของค้าที่ก้าหนดให้แล้วเลือกค้าไปเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง คงคา พงพี ทินกร บรรพต สุริยา สิงขร ภูผา วาริน สุริยัน บดี ชล สมุทร สุรีย์ พงไพร คีรี ธารา วารี พนม พสุธา พิภพ ปฐพี ไผท ธรณี ภูวไนย นฤบาล ตะวัน พนา วนา ราชา นที แม่น้ า ภูเขา กษัตริย์ แผ่นดิน พระอาทิตย์ ป่า

ใบงำนค ำไวพจน์ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนความหมายของค้าที่ก้าหนดให้แล้วเลือกค้าไปเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง คงคา พงพี ทินกร บรรพต สุริยา สิงขร ภูผา วาริน สุริยัน บดี ชล สมุทร สุรีย์ พงไพร คีรี ธารา วารี พนม พสุธา พิภพ ปฐพี ไผท ธรณี ภูวไนย นฤบาล ตะวัน พนา วนา ราชา นที พงไพร พนา วนา พงพี ทินกร ตะวัน สุริยัน สุรีย์ สุริยา วาริน วารี ธารา ชล สมุทร คงคา นที บรรพต สิงขร ภูผา คีรี พนม ภูวไนย นฤบาล บดีราชา พสุธา พิภพ ปฐพี ไผท ธรณี แม่น้ า ภูเขา กษัตริย์ แผ่นดิน พระอาทิตย์ ป่า

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การเขียนสื่อสารด้วยถ้อยค้า เวลาเรียนทั้งหมด 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การคัดลายมือ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/1 คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด สำระส ำคัญ การคัดลายมือตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทยเพื่อใช้ในการสื่อสารจะต้องศึกษารูปแบบตัวอักษร และหลักการคัดลายมือ เพื่อให้สามารถคัดลายมือได้อย่างถูกต้องและสวยงาม สำระกำรเรียนรู้ การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกหลักการคัดลายมือได้(K) 2. คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทยได้ถูกต้อง (P) 3. มีมารยาทในการเขียน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสื่อสารด้วยการเขียนว่าลายมือเขียนมีความส้าคัญ อย่างไร ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การคัดลายมือ จากหนังสือเรียน และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการคัดลายมือ 4. นักเรียนท้าแบบฝึกหัด เรื่องหลักการคัดลายมือ 5. เฉลยแบบฝึกหัดและอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับข้อค้าถาม

6. นักเรียนฝึกคัดพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ตามแบบอาลักษณ์ทีละตัว โดยฝึกคัดตัวบรรจงครึ่ง บรรทัด 7. ครูให้นักเรียนใบงานการคัดลายมือ จากนั้นน้าส่งครู 8. เรียนช่วยกันคัดแยกลายมือออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีลายมือสวยงาม กลุ่มที่มีลายมือพอใช้ และกลุ่มที่มีลายมือต้องปรับปรุง 9. นักเรียนกลุ่มที่มีลายมือสวยงามร่วมกันอภิปรายว่า นักเรียนมีวิธีการปฏิบัติอย่างไรลายมือจึง สวยงาม แล้วสรุปผลการอภิปราย ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 10. ครูสรุปหลักการคัดลายมือและวิธีการที่จะช่วยให้คัดลายมือได้อย่างตัวบรรจง สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องหลักการคัดลายมือ 3. ใบงานการคัดลายมือ การวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกหลักการคัดลายมือ ได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. คัดลายมือตัวบรรจงครึ่ง บรรทัดตามรูปแบบการ เขียนตัวอักษรไทยได้ถูกต้อง (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินการคัด ลายมือ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีมารยาทในการเขียน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนหลักกำรคัดลำยมือ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 1. การคัดลายมือ มีความส้าคัญอย่างไร 2. รูปแบบของตัวอักษรไทยที่นิยมน้ามาฝึกคัดลายมือ มีกี่รูปแบบ และรูปแบบใดบ้าง 3. การคัดลายมือ จะต้องปฏิบัติอย่างไร 4. การคัดลายมือตามหลักและวิธีการคัดลายมือ จะต้องปฏิบัติอย่างไร 5. การคัดลายมือที่สวยงามมีประโยชน์อย่างไร

ใบงำนหลักกำรคัดลำยมือ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 1. การคัดลายมือ มีความส้าคัญอย่างไร เป็นเครื่องมือส ำคัญในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ควำมคิด 2. รูปแบบของตัวอักษรไทยที่นิยมน้ามาฝึกคัดลายมือ มีกี่รูปแบบ และรูปแบบใดบ้าง แบบคัดลายมือที่นิยมคัดโดยทั่วไปมี3 แบบ คือ แบบอาลักษณ์แบบหัวกลม และแบบอื่นๆ เช่น แบบ ตัวเหลี่ยมแบบราชบัณฑิต ทั้ง 3 แบบนี้จะต้องฝึกคัดเลขไทยประกอบด้วย 3. การคัดลายมือ จะต้องปฏิบัติอย่างไร 1. นั่งตัวตรงหลังไม่งอหรือก้มหน้ามากเกินไป 2. แขนทั้งสองข้างวางบนโต๊ะ จากนั้นจับดินสอหรือปากกาให้มั่นคง ไม่หลวมหรือกดนิ้วแน่นเกินไป 3. เว้นระยะห่างจากปลายปากกาหรือปลายดินสอประมาณ 1 นิ้ว และวางกระดาษให้ห่างกับสายตา ประมาณ 1 ไม้บรรทัด 4. ด้านขวาของกระดาษให้วางเฉียงขอบโต๊ะเล็กน้อย แล้วจึงคัดลายมือให้ถูกต้องตามรูปแบบ 4. การคัดลายมือตามหลักและวิธีการคัดลายมือ จะต้องปฏิบัติอย่างไร 1. เริ่มคัดตัวอักษรจากหัวไปหางเสมอโดยไม่ยกดินสอ 2. ถ้าคัดลายมือครึ่งบรรทัด ขนาดความสูงของตัวอักษรด้านบนต้องสูงเท่ากันโดยตลอด 3. เว้นระยะช่องไฟระหว่างตัวอักษรให้ห่างเสมอกัน และสระกับวรรณยุกต์ต้องวางให้ถูกที่ 4. หมั่นฝึกฝนคัดลายมือสม่้าเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง 5. การคัดลายมือที่สวยงามมีประโยชน์อย่างไร การคัดลายมือที่สวยงามเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์และเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้บุคคลนั้นๆ มีคุณสมบัติโดดเด่นและ เป็นที่ชื่นชม

ใบงำนกำรคัดลำยมือ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนคัดลายมือด้วยตัวบรรจงครึ่งบรรทัด จากบทร้อยกรองที่ก้าหนด ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ มวลผู้ชูปรีชา เสาะวิทยาไม่ห่างเหิน ผิดชอบกอบไม่เกิน รู้ด้าเนินตามเหตุผล ชื่อว่าปรีชาดี ผิดชอบมีพิจารณ์ยล ผู้นั้นจักพลันดล พิพัฒน์พ้นจักพรรณนา ควรเราผู้เยาว์วัย จงใฝ่ใจการศึกษา อบรมบ่มวิทยา ปรุงปรีชาให้เชี่ยวชาญ ขั้นนี้จักชี้ว่า มีปัญญาไม่สมฐาน ต้องหัดดัดสันดาน กอบวิจารณ์ใช้ปัญญา สังเกตตามเหตุผล ผิดชอบยลด้วยปรีชา ดังนี้จึงชี้ว่า มีปัญญาอย่างเพียบเพ็ญ (ค้าประพันธ์โคลงสลับกาพย์: พระยาอุปกิตศิลปสาร)

แบบประเมินกำรคัดลำยมือ ค ำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการคัดลายมือของนักเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ล ำดั บ ที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับกำร ประเมิน กำรเขียน ตัวอักษร กำรเว้น ช่องไฟ กำรวำง พยัญชนะ สระ และ วรรณยุกต์ ควำม สวยงำม รวม 16 คะแน น 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑ์กำรให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่้ากว่า 8 ปรับปรุง

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การเขียนสื่อสารด้วยถ้อยค้า เวลาเรียนทั้งหมด 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การใช้ภาษาประกอบการเขียน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/2 เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยค้าถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย ท 2.1 ม.1/9 มีมารยาทในการเขียน สำระส ำคัญ การเขียนสื่อสารจะต้องเลือกใช้ถ้อยค้าที่ถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และมีความสละสลวย โดยค้านึงถึง มารยาทในการเขียน สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนสื่อสาร จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. บอกหลักการเขียนสื่อสารได้(K) 2. เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยค้าถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย (P) 3. มีมารยาทในการเขียน (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. น้าเข้าสู่บทเรียนด้วยกิจกรรมปรบมือลบหนึ่ง - ให้นักเรียนปรบมือลบหนึ่ง เช่น บอกให้ปรบมือ 2 ครั้ง นักเรียนต้องปรบมือ 1 ครั้ง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายหลักการเขียนให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยและมารยาทในการเขียน

3. ครูน้าตัวอย่างการเขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยค้าที่มีความถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวยมา ให้นักเรียนอ่าน 4. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ถ้อยค้าในงานเขียนที่ครูน้ามาเป็นตัวอย่าง 5. นักเรียนท้าใบงานการใช้ภาษาประกอบการเขียน 6. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับการใช้ภาษาประกอบการเขียน 7. ให้นักเรียนท้าใบงานการเขียนบรรยายสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเรียนประทับใจ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 8. ครูสรุปความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาประกอบการเขียนสื่อสาร สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการใช้ภาษาประกอบการเขียน กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. บอกหลักการเขียน สื่อสารได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เขียนสื่อสารโดยใช้ ถ้อยค้าถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีมารยาทในการเขียน (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนกำรใช้ถ้อยค ำในกำรเขียนสื่อสำร ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 1. การเลือกใช้ค้าให้ถูกต้องตามความหมายมีวิธีการอย่างไร 2. การใช้ค้าให้ถูกต้องตามระเบียบภาษามีวิธีการอย่างไร 3. มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติอย่างไร

ใบงำนกำรใช้ถ้อยค ำในกำรเขียนสื่อสำร ค ำชี้แจง ให้นักเรียนตอบค้าถามที่ก้าหนดให้ถูกต้อง 6. การเลือกใช้ค้าให้ถูกต้องตามความหมายมีวิธีการอย่างไร การเลือกใช้ค้าให้ถูกต้องตามความหมาย คือ 1. ถูกต้องตามความหมายที่แท้จริงของค้า 2. ถูกต้องตามความนิยม 7. การใช้ค้าให้ถูกต้องตามระเบียบภาษามีวิธีการอย่างไร การใช้ค้าให้ถูกต้องตามระเบียบภาษา คือ 1. การใช้ตัวสะกด การันต์และรูปวรรณยุกต์ถูกต้อง 2. การใช้ลักษณนามถูกต้อง 3. การใช้อาการนามถูกต้อง 4. การใช้ค้าเชื่อมถูกต้อง 8. มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติอย่างไร มารยาทในการเขียนมีหลักปฏิบัติดังนี้ 1. เขียนให้ถูกต้องตามอักขรวิธีและวรรคตอนของภาษาไทย 2. เขียนในสิ่งที่เป็นความจริงโดยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้ถูกต้อง 3. ต้องมีความเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการเขียนวิพากษ์วิจารณ์สิ่งใดสิ่งหนึ่งต้องไม่มีอคติ 4. งานเขียนนั้นต้องไม่ชี้น้าหรือใช้อารมณ์ ต้องใช้เหตุผลประกอบให้ผู้อ่านวินิจฉัยเอง 5. เขียนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ความรู้ที่มีคุณค่า 6. ถ้าน้าข้อความของผู้อื่นมาเขียนจะต้องให้เกียรติแก่เจ้าของงาน โดยอ้างอิงแหล่งที่มา 7. ใช้ภาษาประกอบการเขียนให้เหมาะสมกับรูปแบบ ถูกต้องตามระดับภาษาและถูกกาลเทศะ

ใบงำนกำรใช้ภำษำประกอบกำรเขียน ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนบรรยายสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจมากที่สุดพร้อมติดภาพประกอบ

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร เวลาเรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การเขียนบรรยายประสบการณ์ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/3 เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระส้าคัญและรายละเอียดสนับสนุน สำระส ำคัญ การเขียนบรรยายประสบการณ์จะต้องมีความรู้เรื่องหลักการเขียนบรรยายโดยระบุสาระส้าคัญและ รายละเอียดสนับสนุนของเรื่องราวจากประสบการณ์ สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนบรรยายประสบการณ์ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการเขียนบรรยายประสบการณ์ได้(K) 2. เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระส้าคัญและรายละเอียดสนับสนุนได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ต่างๆ ว่านักเรียนเคยมีประสบการณ์อะไรบ้าง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. ครูอธิบายหลักการเขียนบรรยายประสบการณ์ลักษณะของการใช้ค้าในการเขียนบรรยาย และเทคนิคที่ผู้เขียนน้ามาใช้ในการเขียนเล่าเรื่อง 3. ครูยกตัวอย่างโดยการเขียนและเล่าประสบการณ์ที่ประทับใจให้นักเรียนฟัง 1 เรื่อง

4. นักเรียนท้าใบงานการเขียนบรรยายประสบการณ์ที่ประทับใจมากที่สุด 1 เรื่อง ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปลักษณะของการเขียนบรรยายประสบการณ์ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานเรื่องการเขียนบรรยายประสบการณ์ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายหลักการเขียน บรรยายประสบการณ์ได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เขียนบรรยาย ประสบการณ์โดยระบุ สาระส้าคัญและรายละเอียด สนับสนุนได้(P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนกำรเขียนบรรยำยประสบกำรณ์ ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนบรรยายประสบการณ์ที่ประทับใจมากที่สุด 1 เรื่อง

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร เวลาเรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนย่อความ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/5 เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน สำระส ำคัญ การเขียนย่อความ ต้องมีความรู้เรื่องหลักการเขียนและรูปแบบการเขียนย่อความ สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนย่อความจากสื่อต่างๆ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการเขียนย่อความได้(K) 2. เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่านได้ถูกต้องตามรูปแบบ (P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูเล่านวนิยายที่ครูชอบให้นักเรียนฟังอย่างย่อๆ 2. ครูและนักเรียนสนทนาถึงนวนิยายที่ครูเล่าให้ฟัง ครูอธิบายว่าเรื่องราวจากนวนิยายที่น้ามาเล่าให้ นักเรียนฟังนี้เป็นการเล่าอย่างย่อๆ จับประเด็นที่ชอบและเนื้อเรื่องตอนที่ครูประทับใจ จากนั้นก็เกริ่นถึงการย่อ ความ ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 3. ครูอธิบายหลักการย่อความและรูปแบบการย่อความให้นักเรียนฟัง

4. ให้นักเรียนอ่านบทความในหนังสือเรียนภาษาไทย จากนั้นครูและนักเรียนช่วยกันจับประเด็นและ ย่อความเพื่อเป็นการชี้แนะและฝึกให้นักเรียนได้หัดย่อความ 5. ให้นักเรียนท้าใบงานเรื่องการเขียนย่อความความ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 6. ครูและนักเรียนสรุปความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียนย่อความ สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการเขียนย่อความ กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายหลักการเขียนย่อ ความได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เขียนย่อความจากเรื่องที่ อ่านได้ถูกต้องตามรูปแบบ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนเรื่องกำรเขียนย่อควำม ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วเขียนย่อความให้ถูกต้องตามรูปแบบ ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบอเมริกาใต้ดินแดนแห่งนี้มีพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์แต่ใครๆ มักจะเรียกว่า “หมู่บ้านคนขี้เกียจ” เพราะชาวบ้านไม่ชอบท้างาน เขาชอบอยู่เฉยๆ กินผลไม้ เป็น อาหาร เมื่อกินเสร็จแล้วก็นอน ทุกคนในหมู่บ้านจึงอยู่กันอย่างสงบสุข ต่อมามีแมลงจ้านวนมากพากัน มากินเปลือกผลไม้ที่ชาวบ้านแกะทิ้งไว้แมลงเหล่านี้ท้าความร้าคาญให้กับพวกชาวบ้านเป็นอย่าง มาก ในที่สุดเขาจึงย้ายถิ่นไปอยู่ใกล้ๆ กับทะเลสาบ ณ ที่แห่งนี้ท้าให้พวกเขามีน้้าดื่มน้้าใช้และผลไม้อุดม สมบูรณ์วันหนึ่งมีชายชราคนหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เขาสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ชาวบ้านไม่มีใครสนใจ เขา นั่งลงที่โคนต้นไม้ พลางสานตะกร้าใบใหญ่ด้วยหวายที่เขาเตรียมมา เมื่อสานเสร็จแล้วจึงเก็บเปลือก ผลไม้ที่ชาวบ้านทิ้งไว้ใส่ตะกร้าจนเต็ม รุ่งเช้าชาวบ้านต่างแปลกใจเพราะบริเวณหมู่บ้านสะอาดมาก เท ร่าซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านจึงใช้ให้คูโคไปตามชายชราคนนั้นมาพบ แต่คูโคกลับใช้ยาน่า ยาน่า ก็ขี้เกียจ ใช้คนอื่นต่อไปอีก ในที่สุดจึงเป็นหน้าที่ของเด็กชายคนหนึ่งซึ่งมีอายุน้อยที่สุดไปเรียกชายชราคนนั้นมา เมื่อมาถึงเทร่าจึงถามว่า “ตามาที่นี่เพื่อท้าธุระอะไรหรือ”ชายชราจึงตอบว่า “ข้าเป็นคนยากจน อยาก ท้างานเพื่อแลกกับอาหาร” เมื่อรู้เช่นนี้หัวหน้าหมู่บ้านจึงให้ชายชราท้างาน ในหมู่บ้าน (*Charles J.Finger. The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands. New York : Doubleday Doran & Company Inc.,1937.) ย่อนิทานเรื่อง ของ จาก ความว่า

ใบงำนเรื่องกำรเขียนย่อควำม ค ำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วเขียนย่อความให้ถูกต้องตามรูปแบบ ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบอเมริกาใต้ดินแดนแห่งนี้มีพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์แต่ใครๆ มักจะเรียกว่า “หมู่บ้านคนขี้เกียจ” เพราะชาวบ้านไม่ชอบท้างาน เขาชอบอยู่เฉยๆ กินผลไม้ เป็น อาหาร เมื่อกินเสร็จแล้วก็นอน ทุกคนในหมู่บ้านจึงอยู่กันอย่างสงบสุข ต่อมามีแมลงจ้านวนมากพากัน มากินเปลือกผลไม้ที่ชาวบ้านแกะทิ้งไว้แมลงเหล่านี้ท้าความร้าคาญให้กับพวกชาวบ้านเป็นอย่าง มาก ในที่สุดเขาจึงย้ายถิ่นไปอยู่ใกล้ๆ กับทะเลสาบ ณ ที่แห่งนี้ท้าให้พวกเขามีน้้าดื่มน้้าใช้และผลไม้อุดม สมบูรณ์วันหนึ่งมีชายชราคนหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เขาสวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ชาวบ้านไม่มีใครสนใจ เขา นั่งลงที่โคนต้นไม้ พลางสานตะกร้าใบใหญ่ด้วยหวายที่เขาเตรียมมา เมื่อสานเสร็จแล้วจึงเก็บเปลือก ผลไม้ที่ชาวบ้านทิ้งไว้ใส่ตะกร้าจนเต็ม รุ่งเช้าชาวบ้านต่างแปลกใจเพราะบริเวณหมู่บ้านสะอาดมาก เท ร่าซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านจึงใช้ให้คูโคไปตามชายชราคนนั้นมาพบ แต่คูโคกลับใช้ยาน่า ยาน่า ก็ขี้เกียจ ใช้คนอื่นต่อไปอีก ในที่สุดจึงเป็นหน้าที่ของเด็กชายคนหนึ่งซึ่งมีอายุน้อยที่สุดไปเรียกชายชราคนนั้นมา เมื่อมาถึงเทร่าจึงถามว่า “ตามาที่นี่เพื่อท้าธุระอะไรหรือ”ชายชราจึงตอบว่า “ข้าเป็นคนยากจน อยาก ท้างานเพื่อแลกกับอาหาร” เมื่อรู้เช่นนี้หัวหน้าหมู่บ้านจึงให้ชายชราท้างาน ในหมู่บ้าน (*Charles J.Finger. The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands. New York : Doubleday Doran & Company Inc.,1937.) ย่อนิทานเรื่อง คนขี้เกียจ ของ Charles J.Finger จาก The Tale of the Lazy People : Tales from Silver Lands ความว่า หมู่บ้านคนขี้เกียจย้ายหนีแมลงมาอยู่ใกล้ๆ ทะเลสาบที่มีแหล่งน้้าดื่ม น้้าใช้และ ผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์คนในหมู่บ้านนี้ไม่ชอบท้างาน ชอบกินผลไม้และก็นอน วันหนึ่งมีชายชราเข้ามา อาศัยในหมู่บ้านและสานตะกร้าเก็บเปลือกผลไม้ที่ชาวบ้านทิ้งไว้ใส่จนเต็ม ท้าให้ชาวบ้านแปลกใจมาก ที่เห็นบริเวณหมู่บ้านสะอาดเทร่าหัวหน้าหมู่บ้านจึงถามชายชราว่ามาท้าธุระอะไร และได้รู้ว่า ชายชรา อยากท้างานเพื่อแลกกับอาหาร จึงอนุญาตให้ชายชราอยู่ท้างานในหมู่บ้านได้

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร เวลาเรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การเขียนเรียงความ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/4 เขียนเรียงความ สำระส ำคัญ การเขียนเรียงความเชิงพรรณนา จะต้องมีความรู้เรื่องหลักการเขียนเรียงความ สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนเรียงความ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการเขียนเรียงความได้(K) 2. เขียนเรียงความได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. น้าเข้าสู่บทเรียนด้วยกิจกรรมนับเลข - ให้นักเรียนนับเลขเรียงต่อกัน คนที่นับจ้านวนได้ตัวเลขที่มีเลข 3, 5, หรือ 7 ให้พูดชื่อ เพื่อนแทนการนับเลข ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. นักเรียนอ่านและศึกษาการเขียนเรียงความจากหนังสือเรียนภาษาไทย

3. ครูอธิบายส่วนประกอบของเรียงความทั้งค้าน้า เนื้อเรื่อง และสรุป และหลักการเขียนเรียงความที่ ถูกต้องพร้อมยกตัวอย่างประกอบ 4. ให้นักเรียนเขียนเรียงความจากเรื่องที่ก้าหนดให้ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษรายงาน ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 5. ครูสรุปและซักถามหลักการเขียนเรียงความเพื่อทบทวนความเข้าใจของนักเรียน สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายหลักการเขียน เรียงความได้(K) การตรวจผลงาน แบบประเมินผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2. เขียนเรียงความได้(P) การตรวจผลงาน แบบประเมินผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร เวลาเรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การเขียนจดหมายส่วนตัว เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร ___________________________________________________________________________ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/7 เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ สำระส ำคัญ จดหมายส่วนตัว สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนจดหมายส่วนตัว จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการเขียนจดหมายได้(K) 2. เขียนจดหมายส่วนตัวได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนเครื่องมือที่ใช้ในการการสื่อสารทั้งนอดีตและที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. นักเรียนศึกษารูปแบบของจดหมายจากหนังสือเรียนภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3. ครูอธิบายหลักการเขียนจดหมายส่วนตัวว่ามีหลักการเขียนอย่างไร มีรูปแบบอย่างไรบ้าง 4. ครูสาธิตการเขียนจดหมายส่วนตัวให้ดูเป็นตัวอย่าง

5. ให้นักเรียนเขียนจดหมายส่วนตัวขึ้นมา 1 ฉบับ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 7. ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเกี่ยวกับการเขียนจดหมายส่วนตัว สื่อกำรเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2. ใบงานการเขียนจดหมายส่วนตัว กำรวัดและประเมินผล จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน 1. อธิบายหลักการเขียน จดหมายได้(K) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2. เขียนจดหมายส่วนตัวได้ (P) การตรวจใบงาน แบบประเมินใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3. มีความรับผิดชอบต่องาน ที่ได้รับมอบหมาย (A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ใบงำนกำรเขียนจดหมำยส่วนตัว ค ำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนจดหมายส่วนตัว 1 ฉบับ …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….……………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………….………………………………………………

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเพื่อการสื่อสาร เวลาเรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การเขียนจดหมายกิจธุระ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวโชติกา มุทาพร มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กับวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ และเขียนเรื่องราว รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท 2.1 ม.1/7 เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ สำระส ำคัญ จดหมายกิจธุระเป็น สำระกำรเรียนรู้ หลักการเขียนจดหมายกิจธุระ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการเขียนจดหมายกิจธุระได้(K) 2. เขียนจดหมายกิจธุระได้(P) 3. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A) สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท้างาน กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ขั้นที่ 1 น ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่าเคยเขียนจดหมายหรือไม่ แล้วให้นักเรียนที่มีประสบการณ์ในการเขียน จดหมายสื่อสารกับบุคคลอื่นออกมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆชั้นเรียนฟัง ขั้นที่ 2 ขั้นกระบวนกำรเรียนรู้ 2. นักเรียนศึกษารูปแบบของจดหมายจากหนังสือเรียนภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3. ครูอธิบายหลักการเขียนจดหมายกิจธุระว่ามีหลักการเขียนอย่างไร มีรูปแบบอย่างไรบ้าง 4. ให้นักเรียนท้าใบงานรูปแบบการเขียนจดหมายกิจธุระ 5. ครูเฉลยใบงานรูปแบบการเขียนจดหมายกิจธุระและสรุปความรู้ร่วมกัน