The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชางานระบบท่อส่งความเย็น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชางานระบบท่อส่งความเย็น

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชางานระบบท่อส่งความเย็น

คู่มือครูหนังสือเรียน

งานระบบท่อ

สง่ ความเยน็
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
2103-2109

GPAS มาตรฐานสากลศตวรรษท่ี

5 21

STEPs

เสนอแนวทางการจัดกิจกรรม
เน้นใหผ้ ูเ้ รียนสร้างความรู้
ใชค้ วามรู้ผลติ ผลงาน
ใชก้ ระบวนการออกแบบการ
เรียนร้แู บบ Backward Design
เป็นเป้าหมาย
คุณภาพรายวิชาใหผ้ ูเ้ รียน
ผลติ ความรู้ ตรวจสอบ
และประเมนิ ตนเอง

ออกแบบกิจกรรมสร้างวินัย
โดยใชส้ ถานการณจ์ รงิ

เน้นสร้างสมรรถนะ
ในศตวรรษท่ี 21

ส�ำ นกั พิมพ์ บริษทั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กดั

คูม่ ือครูหนังสือเรยี น

งาสน่งคระวบามบเทย่อ็น

2103-2109
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
สงวนลิขสทิ ธิ์
ส�ำ นักพิมพ์ บริษทั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จำ�กัด
พ.ศ. 2562

website : ส�ำ นักพมิ พ์ บรษิ ทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำ กดั
1256/9 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรุงเทพฯ 10300
www.iadth.com โทร. 0-2243-8000 (อัตโนมัติ 15 สาย), 0-2241-8999
แฟกซ์ : ทกุ หมายเลข, แฟกซ์อตั โนมตั ิ : 0-2241-4131, 0-2243-7666

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดคำ� น�ำ

คมู่ อื ครรู ายวชิ า งานระบบทอ่ สง่ ความเยน็ (รหสั วชิ า 2103 - 2109) ฉบบั น้ี ส�ำ นกั พมิ พ์ บรษิ ทั พฒั นาคณุ ภาพ-
วิชาการ (พว.) จำ�กัด จัดทำ�ขึ้นเพ่ืออำ�นวยความสะดวกสำ�หรับครูหรือผู้สอนใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ
การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพและเกดิ ประสิทธผิ ลตามหลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
พทุ ธศกั ราช 2556 สำ�นกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยใชค้ วบคกู่ บั หนงั สอื เรยี น
ทสี่ �ำ นกั พมิ พไ์ ดเ้ รยี บเรยี งขน้ึ ตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และค�ำ อธบิ ายรายวชิ า ซงึ่ ผา่ นการตรวจ
ประเมินคุณภาพจากสำ�นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษาเปน็ ท่เี รียบรอ้ ยแล้ว
แนวคิดส�ำ คญั ในการจดั ท�ำ คมู่ ือครฉู บับนี้ สำ�นักพิมพ์ บรษิ ัทพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด ได้ยึด
แนวคดิ การจดั การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ ผลู้ งมอื ปฏบิ ตั ิ สรา้ งความรจู้ ากการปฏบิ ตั ิ และน�ำ ความรไู้ ปประยกุ ต์
ใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ บบ GPAS 5 Steps และออกแบบหน่วยการเรยี นรู้แบบ
Backward Design เน้นผู้เรียนแสดงออกและผลิตผลงานตามภาระงาน นำ�ผลงานและการแสดงออก
ของผู้เรียนมาใช้ประเมินผลการเรียนตามจุดประสงค์รายวิชาในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ตลอดท้ังรายวิชา
เปน็ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ Authentic Assessment สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทและการเปลยี่ นแปลงของสงั คม
และแนวคิดการพฒั นาคนในศตวรรษที่ 21 เพ่ือยกระดับคณุ ภาพของผู้เรยี นใหส้ ูงขนึ้ ตามมาตรฐานสากล
สำ�นักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด ได้นำ�รูปแบบและเทคนิควิธีจัดการเรียนรู้ตาม
แนวทางขา้ งตน้ ไปทดลองใชก้ บั ผเู้ รยี นในระดบั ตา่ ง ๆ แลว้ ปรากฏผลเปน็ ทพ่ี อใจยงิ่ ผเู้ รยี นสามารถคดิ วเิ คราะห์
แกป้ ญั หา สือ่ สาร และผลิตผลงานดว้ ยทีมงานท่ใี ชจ้ ิตปัญญาในระดบั สงู ผา่ นการประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ
ทกั ษะ และคา่ นยิ มในทกุ ดา้ น บรษิ ทั จงึ หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หากผสู้ อนไดใ้ ชค้ มู่ อื ครฉู บบั นคี้ วบคกู่ บั หนงั สอื เรยี น
อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จะชว่ ยใหผ้ สู้ อนด�ำ เนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและบรรลตุ ามทห่ี ลกั สตู รฯ
กำ�หนด ชว่ ยยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาไทยใหท้ ัดเทียมกับประเทศอ่ืนในท่สี ดุ

ส�ำ นักพมิ พ์ บรษิ ทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จำ�กดั

สารบัญ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดหน้า
2
ค�ำ น�ำ 5
คำ�ช้แี จง 27
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 45
ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกบั การระบายอากาศ 59
89
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2
การเขยี นแผ่นคลี่ Main Trunk Line และการเขยี นแผ่นคล่ ี
ขอ้ ต่อท่อสี่เหล่ยี มเปล่ยี นขนาด
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3
การเขียนแผน่ คลีข่ อ้ งอ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
การเขียนแผน่ คล่ีท่องอ 90 ํ

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5หนา้
การเขียนแผ่นคลท่ี อ่ แยกตรงและโคง้ 127

149
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6
การเขียนแผ่นคลข่ี อ้ ต่อทอ่ สี่เหลีย่ ม - กลม

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดคำ� ชี้แจง

เพ่ือให้สามารถนำ�คู่มือครูไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาควบคู่กับหนังสือเรียนที่สำ�นักพิมพ์
บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด จัดทำ�ขึ้น ผู้สอนควรได้ศึกษารายละเอียดคำ�ชี้แจงการใช้คู่มือครู เพ่ือให้เกิด
ความเข้าใจและด�ำ เนินการตามแนวทางทเ่ี สนอแนะไวใ้ นค่มู ือครอู ย่างถกู วิธี ซ่งึ มีรายละเอยี ดดงั นี้
โครงสร้างและองคป์ ระกอบส�ำ คญั ของคมู่ ือครู
คมู่ อื ครูฉบบั นแ้ี บง่ โครงสร้างและองคป์ ระกอบของเน้อื หาไว้เป็น 4 สว่ น ดงั นี้
สว่ นที่ 1 ส่วนน�ำ ประกอบดว้ ย
1.1 ความรคู้ วามเขา้ ใจเบอ้ื งตน้ ก่อนนำ�ค่มู ือครูไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
1.2 ยุทธศาสตรก์ ารยกระดับคุณภาพการศึกษาอาชวี ศกึ ษาตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21
1.3 แนวคิดหลักการการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ระดับอาชีวศึกษา โดยใช้กระบวนการจัด
การเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษท่ี 21
1.4 คำ�แนะนำ�ในการนำ�คูม่ อื ครูไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน
สว่ นที่ 2 สว่ นแนะน�ำ โครงสร้างของหนังสือเรียนที่ใชค้ กู่ ับคมู่ อื ครูฉบบั น้ี ประกอบด้วย
2.1 คำ�อธิบายรายวิชา งานระบบท่อสง่ ความเยน็ (รหัสวิชา 2103 - 2109)
จดุ ประสงค์รายวิชา เพื่อให้
1. เข้าใจหลักการของท่อสง่ ความเย็นในงานอุตสาหกรรม ทีพ่ กั อาศัย
2. เลอื กใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์และเครื่องมืองานระบบท่อสง่ ความเยน็
3. สามารถปฏบิ ตั ิงานสร้างแผ่นคล่ี ประกอบและติดตงั้ ท่อส่งความเย็น
4. มีกิจนสิ ยั ในการทำ�งานทด่ี ี โดยใชอ้ ปุ กรณค์ วามปลอดภัยสว่ นบคุ คลครบถ้วน
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การของทอ่ สง่ ความเยน็ ในงานอตุ สาหกรรม ทพ่ี กั อาศยั ตามหลกั การ
2. ปฏิบัติงานสร้างแผ่นคล่ี เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ ประกอบและติดต้ัง
ทอ่ ส่งความเยน็
ค�ำ อธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาและปฏบิ ัติเกีย่ วกับหลกั การส่งความเยน็ และระบายอากาศในงานอตุ สหกรรม ที่พกั อาศยั
ระบบทอ่ วัสดุ อปุ กรณ์ งานสรา้ งแผ่นคล่ีทอ่ สง่ ความเยน็ การประกอบท่อและการตดิ ต้งั วงจรระบบ ท่อสง่ ความเย็น โดยใช้
อุปกรณ์ถกู ต้องตามหลักความปลอดภัยและอาชวี อนามัย

5 สุดยอดคู่มือครู

2.2 การจดั หนว่ ยการเรียนรู้
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
หนว่ ยการเรียนรู้ เรือ่ ง ชว่ั โมง หมายเหตุ
การเรยี น
1 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกับการระบายอากาศ สปั ดาห์ที่ 1 - 3
12 (ชั่วโมงที่ 1 - 12)
2 การเขียนแผน่ คล่ี Main Trunk Line และการเขยี น 8 สัปดาหท์ ี่ 4 - 5
แผน่ คล่ีขอ้ ตอ่ ท่อส่ีเหลีย่ มเปลีย่ นขนาด (ชว่ั โมงท่ี 13 - 20)
12
3 การเขยี นแผน่ คลขี่ อ้ งอ สัปดาหท์ ี่ 6 - 8
4 (ชว่ั โมงท่ี 21 - 32)
สอบกลางภาค 12
4 การเขยี นแผน่ คล่ที อ่ งอ 90ํ 8 สปั ดาหท์ ่ี 9
5 การเขียนแผ่นคลที่ อ่ แยกตรงและโค้ง 12 (ชั่วโมงที่ 33 - 36)
6 การเขียนแผน่ คลี่ข้อต่อท่อส่ีเหลี่ยม - กลม 4 สปั ดาห์ที่ 10 - 12
72 (ชว่ั โมงที่ 37 - 48)
สอบปลายภาค สัปดาหท์ ่ี 13 - 14
รวมเวลาเรยี น (ช่วั โมงที่ 49 - 56)
สปั ดาห์ที่ 15 - 17
(ชัว่ โมงท่ี 57 - 68)
สปั ดาห์ที่ 18
(ชั่วโมงที่ 69 - 72)

ส่วนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนรายหน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วย
3.1 การออกแบบการจัดการเรียนรรู้ ายหน่วยการเรยี นรูด้ ว้ ย GPAS 5 Steps
3.2 การบรู ณาการกิจกรรมการเรยี นรู้
3.3 แผนการประเมนิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้และสมรรถนะประจ�ำ หนว่ ย

สุดยอดคู่มือครู 6

สว่ นที่ 4 การออกแบบการเรียนรู้ระดับหนว่ ยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรยี นร้รู ายช่วั โมง ประกอบด้วยสงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
4.1 แนวทางการจดั การเรียนรูร้ ะดับหนว่ ยการเรยี นรู้ทุกหนว่ ยการเรยี นรคู้ รบทง้ั รายวิชา
4.2 แผนการจัดการเรียนรู้รายช่วั โมงในแต่ละหน่วยการเรียนรคู้ รบทุกหน่วยการเรยี นรู้
4.3 เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ (Rubrics) ตามภาระงาน/ชิน้ งาน/การแสดงออกของผู้เรียนในแต่ละหน่วยการเรยี น
รู้ครบทุกหนว่ ยการเรียนรู้
4.4 ตัวอย่างผังกราฟิก แบบบันทึกรวบรวมข้อมูลและสรุปความรู้ความเข้าใจสำ�หรับผู้เรียนใช้ประกอบ
การเรยี นการสอนทุกหนว่ ยการเรียนรู้

นอกจากรายละเอียดท่ีกลา่ วถึงในค่มู ือครฉู บบั นแ้ี ลว้ สำ�นกั พิมพ์ บรษิ ัทพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กดั ยงั ไดจ้ ดั ทำ�
CD ในการเอื้อประโยชน์แก่ผ้สู อน ดงั น้ี
ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรูท้ กุ หนว่ ยการเรยี นรู้ครบทั้งรายวชิ า
แผนการจดั การเรียนรรู้ ายชวั่ โมงในแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ครบทุกหน่วยการเรียนรู้
เกณฑป์ ระเมินคุณภาพ (Rubrics) ตามภาระงาน/ชิน้ งาน/การแสดงออกของผู้เรยี นในแต่ละหน่วยการเรยี นรู้
ครบทุกหนว่ ยการเรียนรู้
ตัวอย่างผังกราฟิก แบบบันทึกรวบรวมข้อมูลและสรุปความรู้ความเข้าใจสำ�หรับผู้เรียนใช้ประกอบ
การเรยี นการสอนทุกหน่วยการเรยี นรู้

7 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด สว่ นท่ี 1 สว่ นนำ�

1.1 ความร้คู วามเข้าใจเบอื้ งตน้ ก่อนนำ� คูม่ ือครไู ปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน

ความรู้ความเข้าใจเบ้อื งตน้ ก่อนน�ำ คมู่ อื ครไู ปใช้ในการจัดการเรียนการสอน
แนวคดิ ทิศทางในการจัดการเรียนรเู้ พ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาไทย
การศึกษาไทยในปัจจุบนั ยดึ แนวคดิ ทวี่ า่ “การศึกษาคือชีวติ ” (Education is Life) โดยมีความเชื่อวา่ “ชีวติ ตอ้ งมกี ารเรยี นรู”้
ตอ้ งพฒั นาทงั้ ความรู้ ความคดิ ความสามารถ และประสบการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ดา้ นศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรม ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
สังคมศาสตร์ มนษุ ยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐศาสตรอ์ ย่างสมดุล ทัง้ น้เี พ่ือให้สามารถนำ�ไปใช้ในการด�ำ รงชวี ิต
อยู่รว่ มกันไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ปรชั ญาพนื้ ฐานและกรอบแนวคิดดังกล่าวจงึ มุง่ พัฒนาชีวติ ใหเ้ ปน็ “มนุษย์ทสี่ มบูรณ์ท้งั ทางรา่ งกาย
จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจรยิ ธรรมและวฒั นธรรมในการด�ำ รงชวี ติ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ืน่ ไดอ้ ย่างมีความสขุ ”
ดงั ท่ีไดบ้ ญั ญตั ไิ วใ้ นพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2553 มาตรา 6 และมาตรา 7 ดงั น้ี
มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ท้ังทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
ความรู้ และคุณธรรม มีจรยิ ธรรมและวฒั นธรรมในการดำ�รงชีวติ สามารถอยูร่ ่วมกับผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข
มาตรา 7 ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำ�นึกที่ถูกต้องเก่ียวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ รจู้ กั รกั ษาและสง่ เสรมิ สทิ ธิ หนา้ ที่ เสรภี าพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศกั ดศิ์ รี
ความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริม
ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รู้
และเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง
แนวการจัดการศึกษา
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี ณุ ภาพตามความมงุ่ หมายในการจดั การศกึ ษาทบี่ ญั ญตั ไิ วใ้ นมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามพระราชบญั ญตั ิ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 ดังที่กล่าวถึงข้างต้น
จงึ ได้มบี ทบญั ญตั วิ ่าดว้ ยแนวการจัดการศึกษาตามมาตราดงั ต่อไปน้ี
มาตรา 22 การจัดการศึกษาตอ้ งยดึ หลักวา่ ผเู้ รยี นทกุ คนมีความสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ และถอื ว่าผูเ้ รียน
มคี วามสำ�คญั ทีส่ ุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องสง่ เสริมให้ผ้เู รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ศักยภาพ
มาตรา 23 การจัดการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องเน้น
ความสำ�คัญท้ังความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษา
ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
(1) ความรู้เร่ืองเกี่ยวกับตนเองและความสัมพันธ์ของตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครัว ชุมชน ชาติ และสังคมโลก
รวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของสังคมไทย และระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข

สุดยอดคู่มือครู 8

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด (2) ความร้แู ละทกั ษะดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รวมทัง้ ความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ เรอื่ งการจดั การ
การบำ�รุงรกั ษาและการใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มอย่างสมดุลย่งั ยืน
(3) ความรูเ้ ก่ยี วกับศาสนา ศลิ ปะ วัฒนธรรม การกีฬา ภูมิปญั ญาไทย และการประยกุ ต์ใช้ภูมปิ ัญญา
(4) ความร้แู ละทกั ษะดา้ นคณิตศาสตรแ์ ละด้านภาษา เนน้ การใช้ภาษาไทยอยา่ งถูกต้อง
(5) ความรู้และทกั ษะในการประกอบอาชพี และการด�ำ รงชีวิตอย่างมีความสุข
มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรยี นรใู้ หส้ ถานศึกษาและหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องด�ำ เนนิ การ ดังต่อไปนี้
(1) จัดเนอื้ หา สาระ และกิจกรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผเู้ รียน โดยคำ�นึงถงึ ความแตกตา่ ง
ระหว่างบุคคล
(2) ฝกึ ทกั ษะ กระบวนการคดิ การจดั การ การเผชญิ สถานการณแ์ ละประยกุ ตค์ วามรมู้ าใชเ้ พอ่ื ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา
(3) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำ�ได้ คิดเป็น ทำ�เป็น รักการอ่าน
และเกดิ การใฝ่รอู้ ย่างตอ่ เน่อื ง
(4) จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมท้ังปลูกฝังคุณธรรม
คา่ นยิ มทีด่ ีงามและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคไ์ วใ้ นทกุ วชิ า
(5) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ส่ือการเรียน และอำ�นวยความสะดวก
เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรแู้ ละมคี วามรอบรู้ รวมทงั้ สามารถใชก้ ารวจิ ยั เปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการเรยี นรู้ ทงั้ นผี้ สู้ อนและ
ผ้เู รียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสอ่ื การเรยี นการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่าง ๆ
(6) จัดการเรียนรู้ให้เกิดได้ทุกเวลา ทุกสถานท่ี มีการประสานความร่วมมือบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคล
ในชมุ ชนทกุ ฝา่ ย เพ่ือรว่ มกันพัฒนาผู้เรยี นตามศักยภาพ
มาตรา 26 ให้สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียนโดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ
การสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น การรว่ มกจิ กรรม และการทดสอบ ควบคู่ไปในกระบวนการเรยี นการสอนตามความเหมาะสม
ของแต่ละระดับ และรูปแบบการศึกษาให้สถานศึกษาใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการจัดสรรโอกาสการเข้าศึกษาต่อ
และใหน้ �ำ ผลการประเมินผู้เรียนตามวรรคหน่งึ มาใชป้ ระกอบการพจิ ารณาดว้ ย
มาตรา 30 ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอน
สามารถวจิ ัยเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมกับผเู้ รยี นในแตล่ ะระดับการศึกษา
คณุ ลักษณะ สมรรถนะ และศักยภาพผเู้ รียนทีเ่ ปน็ สากล
การจดั การเรียนรใู้ นปัจจบุ ัน มงุ่ เน้นการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ในศตวรรษท่ี 21
และเป็นไปตามปฏิญญาว่าด้วยการจัดการศกึ ษาของ UNESCO ได้แก่
Learning to know: หมายถึงการเรียนเพ่ือให้มีความรู้ในสิ่งต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อไป ได้แก่ การรู้จัก
การแสวงหาความรู้ การตอ่ ยอดความรูท้ ีม่ ีอยู่ รวมทั้งการสร้างความรูข้ น้ึ ใหม่
Learning to do: หมายถึงการเรียนเพ่ือการปฏิบัติหรือลงมือทำ� ซ่ึงนำ�ไปสู่การประกอบอาชีพจากความรู้
ท่ีได้ศกึ ษามา รวมทัง้ การปฏบิ ัติเพื่อสร้างประโยชนใ์ ห้สงั คม

9 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด Learning to live together: หมายถึงการเรียนรู้เพื่อการดำ�เนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข
ทง้ั การดำ�เนนิ ชวี ิตในการเรยี น ครอบครัว สังคม และการท�ำ งาน
Learning to be: หมายถึงการเรียนรู้เพ่ือให้รู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ รู้ถึงศักยภาพ ความถนัด ความสนใจ
ของตนเอง สามารถใช้ความรู้ความสามารถของตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เลือกแนวทางการพัฒนาตนเอง
ตามศักยภาพ วางแผนการเรียนต่อ การประกอบอาชพี ท่ีสอดคล้องกับศกั ยภาพของตนเองได้
ท้ังน้ีเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ ทั้งในฐานะพลเมืองไทยและพลโลกเทียบเคียงได้กับนานาอารยประเทศ
โดยมุ่งเน้นใหผ้ เู้ รียนมีศกั ยภาพทีส่ �ำ คญั ดงั นี้
1. ความรู้พืน้ ฐานในยคุ ดิจทิ ลั (Digital - Age Literacy) มีความรู้พ้นื ฐานทจ่ี ำ�เป็นทางวทิ ยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
เทคโนโลยี รูภ้ าษาขอ้ มูลสารสนเทศ และทศั นภาพ รู้พหุวฒั นธรรมและมคี วามตระหนกั ส�ำ นกึ ระดบั โลก
2. ความสามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ (Inventive Thinking) มีความสามารถในการปรับตัว
สามารถจัดการสภาวการณ์ที่มีความซับซ้อน เป็นบุคคลท่ีใฝ่รู้ สามารถกำ�หนดหรือต้ังประเด็นคำ�ถาม (Hypothesis
Formulation) เพอ่ื น�ำ ไปสกู่ ารศกึ ษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะหข์ อ้ มลู สารสนเทศ
และสรุปองคค์ วามรู้ (Knowledge Formulation) ใชข้ ้อมูลเพอ่ื การตดั สนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication) ความสามารถในการรับและส่งสาร
การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด
ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งมีทักษะในการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ตลอดจน
สามารถเลอื กใช้วิธีการสื่อสารท่มี ีประสิทธิภาพ โดยคำ�นึงถงึ ผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสังคม
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต (Life Skill) ความสามารถในการน�ำ กระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการดำ�เนิน
ชีวิตประจำ�วัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทำ�งานและอยู่ร่วมกันในสังคม เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม สามารถจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ และนำ�ไปสู่การปฏิบัติ
สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมน�ำ ไปสู่การใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม การบริการสาธารณะ (Public Service) รวมท้ัง
การเป็นพลเมืองไทยและพลโลก (Global Citizen)
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) การสืบค้นความรู้
จากแหล่งเรียนรู้ และวิธีการท่ีหลากหลาย (Searching for Information) เลือกใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยีเพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำ�งาน การแก้ปัญหา
อยา่ งสร้างสรรคไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
นอกจากน้ียังมีผู้กล่าวถึงประสบการณ์จริงของผู้เรียนในยุคของการสื่อสารโลกไร้พรมแดนบนความหลากหลาย
ของพหุวัฒนธรรม การเพิ่มพูนสมรรถนะผู้เรียนให้สามารถครองชีวิตในโลกยุคใหม่นี้ ควรประกอบไปด้วยสมรรถนะส�ำ คัญ
ดงั น้ี

สุดยอดคู่มือครู 10

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
1. การอยรู่ ว่ มกันในสังคมพหวุ ัฒนธรรม
2. การเป็นผนู้ ำ�และมีความรบั ผิดชอบ
3. การท�ำ งานเปน็ ทมี และการสือ่ สาร
4. การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและการแกป้ ญั หา
5. การมีสว่ นร่วมในสังคมโลกและความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม
นอกเหนอื จากสมรรถนะสำ�คัญที่กลา่ วถึงขา้ งต้นแล้ว การด�ำ รงชวี ติ ในโลกยคุ ใหม่ตอ้ งเตรยี มคนใหพ้ ัฒนาความรู้
ทักษะ เจตคติ และคา่ นยิ มทุกด้าน ได้แก่ การเป็นนักประดษิ ฐ์สรา้ งสรรค์ เป็นผปู้ ระกอบการทป่ี ระสบความสำ�เร็จ เป็นคนท่ี
กระตือรือร้นท่ีจะมีส่วนร่วม และเป็นบุคคลที่เรียนรู้ตลอดชีวิต ซ่ึงมีองค์ประกอบท่ีเป็นสมรรถนะหลักท่ีสำ�คัญ คือ
ความสามารถในการประดษิ ฐแ์ ละสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการสอื่ สารในตา่ งวฒั นธรรม ความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หา
และคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ใหมใ่ นการพฒั นาอาชวี ศกึ ษาไทย ทต่ี อ้ งจดั การศกึ ษาเพอื่ สรา้ งผปู้ ระกอบการ
ทผ่ี ลิตผลงานอยา่ งสรา้ งสรรคไ์ ร้ขดี จำ�กดั ดว้ ยนวตั กรรมและเทคโนโลยีทกี่ ้าวหน้าทนั สมยั ในโลกพหวุ ฒั นธรรมไร้พรมแดน

11 สุดยอดคู่มือครู

1.2 ยุทธศาสตร์การยกระดับคุณภาพการศึกษาอาชีวศกึ ษาตามมาตรฐานสากล
ในศตวรรษที่ 21

นโยบายการบริหารจัดการอาชวี ศึกษา (นโยบาย 4 มติ ิ)
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด มติ ทิ ่ี 1 การสร้างโอกาสทางการศึกษา
มิตทิ ี่ 2 การพัฒนาคณุ ภาพ ยุทธศาสตรก์ ารยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอาชวี ศกึ ษา
ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21
1. สถานศึกษาอาชีวศึกษาจัดการศึกษาให้ตอบสนอง
2.1 ด้านคุณภาพผู้เรยี น ความต้องการด้านการพัฒนาคนอาชีวศึกษาทั้งในระดับประเทศ
2.1.1 เร่งยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้พร้อมเข้าสู่ประชาคม ภมู ภิ าคอาเซยี น และประชาคมโลก โดยใหค้ วามส�ำคญั กบั คณุ ภาพ
อาเซยี น
2.1.2 ปฏริ ปู กระบวนการเรยี นรู้โดยยดึ ผเู้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง ผ้สู �ำเร็จอาชวี ศกึ ษาเป็นส�ำคญั
2.1.3 ปรบั ปรุงหลักสตู รอาชีวศกึ ษาทุกระดบั
2.1.4 ยกระดับคุณภาพผู้เรียน โดยผลการประเมิน 2. สถานศึกษาอาชีวศึกษามุ่งมั่นจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุ
ระดบั ชาติ (V - Net) และการประเมนิ มาตรฐานวิชาชีพ จุดประสงค์และสมรรถนะรายวิชา และพัฒนาไปสู่มาตรฐาน
2.1.5 พฒั นาแนวทางการประเมนิ ผู้เรียนตามสภาพจรงิ วิชาชีพอาชีวศึกษาในระดับมาตรฐานสากล และวิสัยทัศน์
2.1.6 รว่ มมอื กบั ภาคเอกชนในการเรยี นการสอนและฝกึ งาน เพ่อื การเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21
ในสถานประกอบการ 3. สถานศึกษาอาชีวศึกษาปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียน
2.1.7 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้วยกิจกรรมองค์การวิชาชีพ เปน็ ส�ำคญั ตอบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล โดยประยกุ ตใ์ ช้
การบรกิ ารสังคม จติ อาสา และกฬี า ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences: MI) และการจัด

2.2 ด้านคณุ ภาพครู การเรียนรู้ตามหลักการ Brain Based Learning (BBL),
2.2.1 กำ�หนดมาตรฐานสมรรถนะครอู าชวี ศกึ ษา
2.2.2 พัฒนาครูโดยใช้เครอื ขา่ ย/สมาคมวชิ าชีพ Backward Design, GPAS 5 Steps ในการสร้างความรู้
2.2.3 พัฒนาระบบนิเทศศกึ ษา
2.2.4 เร่งยกระดบั วิทยฐานะ ในระดับความคิดรวบยอดและหลักการตรงตามมาตรฐานสากล
2.3 ด้านคณุ ภาพการเรยี นการสอน และวสิ ัยทัศนเ์ พอ่ื การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21
2.3.1 วิจยั ปฏบิ ัติการ เพ่อื พัฒนาระบบการเรยี นรสู้ ู่การเปน็ 4. สถานศึกษาอาชีวศึกษาเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดย
ผูป้ ระกอบการ ใช้แผนการสอนตามแนวทางการออกแบบการเรียนรู้ Back-
2.3.2 สง่ เสริมการพฒั นานวตั กรรมของผูเ้ รยี นและผ้สู อน ward Design, GPAS 5 Steps และการประเมนิ ตามสภาพจริง
ด้วยมิติคุณภาพโดยใช้เกณฑ์ Rubrics เพ่ือให้เป็นยุทธศาสตร์

2.3.3 สง่ เสรมิ นวัตกรรมการจดั การอาชวี ศึกษา ประจ�ำห้องเรียน
- โรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (Project 5. สถานศึกษาอาชีวศึกษาส่งเสริมการน�ำนวัตกรรมการจัดการ
Based Learning และการประดิษฐ์คดิ คน้ )
- วทิ ยาลยั เทคนคิ มาบตาพดุ (Constructionism) อาชีวศึกษามาใช้ ได้แก่ การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
- วทิ ยาลยั การท่องเท่ียวถลาง (Project Based Learning) และการใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem
2.3.4 จัดการเรียนการสอน English Program และ Based Learning) เพื่อเน้นการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และ
Mini English Program ด้านอาชีวศกึ ษา การบ่มเพาะค่านิยมหลัก 12 ประการ ผ่านโครงงาน และสร้าง
2.3.5 น�ำ ระบบ ICT มาใช้เพือ่ การเรียนการสอน ความรู้ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติที่เป็น
2.4 ด้านคุณภาพสถานศึกษา รูปธรรม
“ปรับการเรียน เปล่ียนการสอน ปฏิรูปการสอบ ให้ทันกับ 6. สถานศึกษาอาชีวศึกษาสร้างวัฒนธรรมการสร้างความรู้

ยคุ สมัยอย่างมคี ณุ ภาพ” (Knowledge Management: KM) ทั้งในระดับผู้เรียน ระดับ

ผู้สอน และระดับผู้บริหาร เพ่ือพัฒนาสถานศึกษาอาชีวศึกษา
มิตทิ ่ี 3 การสร้างประสทิ ธิภาพในด้านการบรหิ าร เป็นชมุ ชนแหง่ การเรียนรูแ้ บบมืออาชีพ (Professional Learning
จดั การ Community) ท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และวิสัยทัศน์
มติ ทิ ่ี 4 ความรว่ มมอื ในการจดั การอาชีวศึกษา
เพอื่ การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21

สุดยอดคู่มือครู 12

1.3 แนวคดิ หลกั การการพัฒนาคุณภาพการจดั การเรยี นร้รู ะดบั อาชีวศึกษา
โดยใช้กระบวนการจดั การเรียนรู้ GPAS 5 Steps ตามมาตรฐานสากลในศตวรรษที่ 21

กระบวนการพัฒนาผู้เรียนสู่คุณภาพในศตวรรษท่ี 21 ตามมาตรฐานสากล กระบวนการเรียนรู้แบบ
GPAS 5 Steps การจดั การเรยี นรู้ท่เี นน้ การพฒั นาทกั ษะการคดิ และสรา้ งความรู้โดยผู้เรียน
ดังได้กล่าวถึงแลว้ ในตอนต้นวา่ โลกยคุ ใหมต่ ้องเตรยี มคนให้พัฒนาทัง้ ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และค่านยิ มอยา่ งสมดุล
ทุกด้านเพ่ือการดำ�เนินชีวิต ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ และอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ยั่งยืน
มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และริเร่ิมผลิตผลงานด้วยเจตคติ
และค่านิยมเพ่ือความยั่งยืนของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำ�คัญในการพัฒนาผู้เรียน โดยเฉพาะงานอาชีวศึกษาที่ต้องสร้างคน
เพ่ือความร่วมมือในภมู ิภาคและการแขง่ ขนั ในโลกอาชีพ สำ�นกั พมิ พ์ บรษิ ัทพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กัด ได้นำ�นวตั กรรม
กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิด การสร้างความรู้ และการนำ�ความรู้ไปใช้ผลิตผลงานด้วยค่านิยมเพ่ือสังคม
เพื่อโลก สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 โดยนำ�มาใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ พัฒนาคู่มือครู
ในรายวชิ าตา่ ง ๆ มีนวัตกรรมทเี่ ป็นกระบวนการเรยี นรทู้ ี่น�ำ มาประยุกตใ์ ช้ ดงั น้ี
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ยทุ ธศาสตรก์ ารเรยี นรู้ 2001 ศตวรรษท่ี 21

ทกั ษะกระบวนการหรอื การรว่ มกนั เรยี นรู ้ (Participatory Learning)

รว่ มกนั ประเมนิ รว่ มกนั สรา้ งทางเลอื ก
ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ประโยชน์ โทษ ตดั สนิ ใจเพม่ิ คณุ คา่ คาดหมายแนวโนม้
ผลตอ่ เนอื่ ง เลอ่ื กทดี่ กี วา่ สรา้ งภาพงาน
วจิ ารณ์ สรา้ งคา่ นยิ ม
โครงสรา้ งคา่ นยิ ม โครงสรา้ งการกระทา
(Structure of Value) (Structure of Acting)

รว่ มกนั จดั ขอ้ มลู ใหม้ คี วามหมาย รว่ มกนั ปฏบิ ตั จิ รงิ
จาแนก จัดกลมุ่ หาความสมั พนั ธ์ วางแผนงาน
ความคดิ รวบยอด
(Structure of Thinking) ตดิ ตามผล ปรับปรงุ จัดระบบ
การลงมอื ทาจรงิ ใชค้ วามรู้

(Performing)

encode decode รว่ มกนั สรา้ งความรู้
คน้ พบหลกั การธรรมชาตไิ ดเ้ อง
รว่ มกนั รวบรวมขอ้ มลู ใชก้ ระบวนการคดิ สรปุ ผล
ฟัง อา่ น สงั เกต บนั ทกึ อยา่ งสอดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู จรงิ
เรม่ิ จากสงิ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ จรงิ การลงมอื ทาจรงิ สรา้ งความรู้
(Experimental Approach) (Construction of Knowledge)

สรปุ รายงานผล เป้ าหมาย Portfolio 12 34 ประเมนิ ตนเอง
การเรยี นรู้ K นาสคู่ า่ นยิ ม คณุ ธรรม
P
A (Self-Regulating)

13 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด ทกั ษะการคิดและกระบวนการเรียนรู้ GPAS
กลุ่มนักวิชาการและนักการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้สังเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ GPAS มาจากแนวคิด
ทางพุทธศาสนาที่กล่าวถึง ปัญญา 3 ด้าน ได้แก่ 1. สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการสดับรู้การเล่าเรียน หรือปัญญา
ท่ีเกิดจากปรโตโฆสะ 2. จินตามยปัญญา ปัญญาท่ีเกิดจากการคิดพิจารณาหาเหตุผล หรือปัญญาที่เกิดจากโยนิโสมนสิการ
และ 3. ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฝึกอบรมลงมือปฏิบัติ หรือปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติบำ�เพ็ญ (พระพรหม-
คณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต): 2548) และแนวคดิ โครงสรา้ ง 3 ชน้ั แหง่ ปญั ญา (Three Story Intellect) ทป่ี ระกอบดว้ ย การรวบรวม
ข้อมลู (Gathering) การจดั กระทำ�ขอ้ มลู (Processing) และการประยกุ ตใ์ ชข้ อ้ มลู ความรู้ (Applying) (Jerry Goldberg:
1996, Art Costa: 1997, Robin Forgarty: 1997) รวมท้ังแนวคิดการพัฒนาคนให้มีบุคลิกภาพการกำ�กับตนเอง
(Self - Regulating) มาสังเคราะห์เป็นโครงสรา้ งทกั ษะการคดิ GPAS ดังแผนภาพ

4 Self-Regulating: S การก�ำกบั ตนเอง
3 Applying: A การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้
2 Processing: P การจดั กระท�ำขอ้ มลู
1 Gathering: G การรวบรวม คัดเลอื กข้อมลู

แผนภาพโครงสรา้ งทักษะการคิด GPAS

จากโครงสร้างทักษะการคิดนี้ สามารถนำ�มากำ�หนดเป็นกระบวนการพัฒนาทักษะการคิด โดยมีการกำ�กับตนเอง
(Self – Regulating) เป็นแกนในการพฒั นาทักษะดังแผนภมู ิ

แผนภูมกิ ระบวนการพัฒนาทักษะการคิด

ความหมายของทกั ษะการคดิ ในโครงสรา้ ง GPAS
ทักษะการคิดในโครงสร้าง GPAS มีทักษะที่สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทิศทางการศึกษาไทย
และหลกั สตู รการเรยี นการสอนในทุกระดบั การศึกษา ขอยกมาเปน็ ตัวอยา่ ง ดังนี้
ทักษะการคดิ ระดบั การรวบรวมขอ้ มลู (Gathering: G) ได้แก ่
1. การกำ�หนดประเด็นในการรวบรวมข้อมูล (Focusing Skill) หมายถึงการกำ�หนดขอบเขตการศึกษาและ
มุง่ ความสนใจไปในทิศทางตามจดุ ประสงคท์ ตี่ ้องการศกึ ษาให้ชดั เจน เพ่อื ทจี่ ะได้คดั เลอื กเฉพาะขอ้ มลู ที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบบั ประมวลธรรม พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต): 2548

สุดยอดคู่มือครู 14

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2. การสังเกตด้วยประสาทสัมผัส (Observing) หมายถึงการรับรู้และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งใดส่ิงหนึ่ง โดยใช้
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพ่ือให้ได้รายละเอียดเก่ียวกับส่ิงนั้น ๆ ซ่ึงเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ท่ีไม่มีการใช้ประสบการณ์และ
ความคดิ เห็นของผ้สู ังเกตในการเสนอขอ้ มลู ขอ้ มลู จากการสังเกตมที ั้งขอ้ มูลเชงิ ปริมาณและข้อมลู เชิงคณุ ภาพ
3. การเข้ารหัสและบันทึกข้อมูล (Encoding & Recording) หมายถึงกระบวนการประมวลข้อมูลของสมอง
เมอ่ื รบั ส่ิงเรา้ จากประสาทสัมผสั ทงั้ 5 จะไดร้ บั การบนั ทึกไว้ในความจำ�ระยะสนั้ หากต้องการเกบ็ ข้อมลู ไวใ้ ชต้ อ่ ๆ ไป ขอ้ มลู น้ัน
จะตอ้ งเปลย่ี นรปู โดยการเขา้ รหสั (Encoding) เพอื่ น�ำ ไปเกบ็ ไวใ้ นความจ�ำ ระยะยาว ซงึ่ จะสามารถเรยี กขอ้ มลู มาใชไ้ ดภ้ ายหลงั
โดยการถอดรหัส (Decoding)
4. การดึงข้อมูลเดิมมาใช้และย่อความ (Retrieving & Summarizing) หมายถึงการนำ�ข้อมูลที่มีอยู่นำ�กลับมา
ใชใ้ หม่ และการจบั ใจความสำ�คัญของเรอ่ื งท่ตี อ้ งการสรปุ แล้วเรยี บเรยี งให้กระชบั ครอบคลมุ สาระส�ำ คัญ
ทักษะการคิดระดับการจดั กระทำ�ขอ้ มูล (Processing: P)
1. การจำ�แนก (Discriminating) หมายถึงการแยกแยะสิง่ ต่าง ๆ ตามมติ ทิ ่ีกำ�หนด
2. การเปรียบเทียบ (Comparing) หมายถึงการค้นหาความเหมือนหรือความแตกต่างขององค์ประกอบ
ตั้งแต่ 2 องค์ประกอบข้ึนไป เพ่ือใช้ในการอธิบายเรือ่ งใดเร่ืองหนงึ่ ในเกณฑ์เดียวกัน
3. การจัดกลุ่ม (Classifying) หมายถึงการนำ�ส่ิงต่าง ๆ มาแยกเป็นกลุ่มตามเกณฑ์ท่ีได้รับการยอมรับทางวิชาการ
หรอื การยอมรับโดยท่วั ไป
4. การจัดลำ�ดับ (Sequencing) หมายถึงการนำ�ข้อมูลหรือเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้นมาจัดเรียงให้เป็นลำ�ดับว่าอะไรมาก่อน
อะไรมาหลงั
5. การสรปุ เชอ่ื มโยง (Connecting) หมายถงึ การบอกความสมั พนั ธท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งเชอื่ มโยงกนั ของขอ้ มลู อยา่ งมคี วามหมาย
6. การไตรต่ รองด้วยเหตผุ ล (Reasoning) หมายถงึ ความสามารถในการบอกทม่ี าของส่ิงใด ๆ หรอื เหตกุ ารณ์ใด ๆ
หรอื สงิ่ ท่ีเปน็ สาเหตุของพฤติกรรมนน้ั ได้
7. การวิจารณ์ (Criticizing) หมายถึงการท้าทายและโต้แย้งข้อสมมติฐานที่อยู่เบื้องหลังเหตุผลที่โยงความคิด
เหลา่ นั้น เพ่อื เปิดทางสู่แนวความคิดอ่ืน ๆ ที่อาจเปน็ ไปได้
8. การตรวจสอบ (Verifying) หมายถึงการยนื ยนั หรือพิสูจน์ข้อมลู ที่สังเกตรวบรวมมาตามความถกู ตอ้ งเปน็ จริง
ทักษะการคดิ ระดับการประยุกต์ใช้ (Applying: A)
1. การใช้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ (Creative) หมายถึงการนำ�ความรู้ท่ีเกิดจากความเข้าใจไปใช้ในการสร้างสรรค์
สิ่งใหม่หรือแกป้ ญั หาทม่ี ีอยใู่ ห้ดขี ึ้น
2. การวิเคราะห์ (Analysis) หมายถึงความสามารถในการแยกแยะหลักการ องค์ประกอบสำ�คัญหรือส่วนย่อย
ตลอดจนหาความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง
3. การสังเคราะห์ (Synthesis) หมายถึงการนำ�ความรู้ที่ผ่านการวิเคราะห์มาผสมผสานสร้างส่ิงใหม่ที่มีลักษณะ
ต่างจากเดิม
4. การตดั สนิ ใจ (Decision Making) หมายถึงการพจิ ารณาเลอื กทางเลอื กตัง้ แต่ 2 ทางเลือกข้ึนไป ทางเลอื กหรือ
ตวั เลอื กนนั้ อาจเปน็ วตั ถสุ ง่ิ ของหรอื แนวปฏบิ ตั ติ า่ ง ๆ เพอ่ื ใชใ้ นการแกป้ ญั หาหรอื ดำ�เนนิ การเพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ตี่ ง้ั ไว้
5. การน�ำ ความรู้ไปปรับใช้ (Transferring) หมายถงึ การถ่ายโอนความรทู้ ่ีมอี ยูไ่ ปปรับใชใ้ นสถานการณอ์ น่ื
6. การแก้ปัญหา (Problem Solving) หมายถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ท่ียาก เพื่อจุดประสงค์ในการแก้ไข
สถานการณ์หรือขจัดใหป้ ัญหาน้นั หมดไป น�ำ ไปสู่สภาวะท่ีดีกว่าหรือมีทางออก
7. การคิดวิเคราะห์วิจารณ์ (Critical Thinking) หมายถึงความสามารถในการพิจารณา ประเมิน และตัดสิน
สง่ิ ต่าง ๆ หรือเร่อื งราวท่เี กิดขนึ้ ทีม่ ขี อ้ สงสัยหรือข้อโต้แย้ง โดยการพยายามแสวงหาคำ�ตอบทีม่ คี วามสมเหตสุ มผล

15 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 8. การคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) หมายถงึ ความสามารถในการคดิ ไดอ้ ยา่ งกวา้ งไกลหลายทศิ ทางอยา่ งเปน็
กระบวนการ โดยใชจ้ ินตนาการทหี่ ลากหลายเพื่อก่อให้เกิดความแปลกใหม่ในการสร้าง ผลิต ดดั แปลงงานตา่ ง ๆ ซงึ่ จะตอ้ ง
เชื่อมโยงระหวา่ งประสบการณ์เก่ากบั ประสบการณ์ใหม่ ความคดิ สรา้ งสรรค์จะเกิดข้นึ ได้กต็ อ่ เมอ่ื ผูค้ ิดมอี สิ ระทางความคดิ
ทักษะการคิดระดบั การกำ�กบั ตนเอง (Self - Regulating: S)
1. การตรวจสอบและควบคุมการคิด (Metacognition) หมายถึงการที่บุคคลรู้และเข้าใจถึงความคิดของตนเอง
ไตร่ตรองก่อนกระทำ�อะไรอย่างใดอย่างหน่ึง เป็นการประเมินการคิดของตนเองและใช้ความรู้นั้นในการควบคุมหรือ
ปรบั การกระทำ�ของตนเอง ซ่ึงครอบคลมุ ถึงการวางแผนการควบคมุ กำ�กบั การกระท�ำ ของตนเอง การตรวจสอบความก้าวหนา้
และการประเมนิ ผล
2. การสร้างคา่ นยิ มการคิด (Thinking Value) หมายถงึ การคิดเพือ่ ประโยชนใ์ นระดับตา่ ง ๆ ได้แก่ เพอ่ื ประโยชนต์ น
กลมุ่ ตน เพื่อสังคมและเพือ่ ประโยชน์ของกลุ่ม และเพื่อประโยชนข์ องประเทศชาตแิ ละโลก ทกุ องคป์ ระกอบ
3. การสร้างนิสัยการคิด (Thinking Disposition) หมายถึงลักษณะเฉพาะของการกระทำ�ของคนท่ีมีสติปัญญา
เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา การตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาจะไม่กระทำ�ทันทีทันใดก่อนที่จะมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนเพียงพอ
นิสยั แห่งการคดิ คอื รู้ว่าจะใช้ปัญญาทำ�อยา่ งไรในการหาค�ำ ตอบ นสิ ัยแห่งการคดิ ทด่ี ีควรมีดังน้ี
3.1 นสิ ยั การคิดที่ดีต้องกล้าเส่ยี งและผจญภยั (กล้าที่จะคิด)
3.2 นสิ ยั การคดิ ทดี่ ตี ้องคดิ แปลก คิดแยกแยะ ชตี้ วั ปญั หา คดิ ส�ำ รวจไต่สวน
3.3 นิสยั การคดิ ที่ดตี อ้ งสร้างคำ�อธิบายและสรา้ งความเขา้ ใจ
3.4 นิสยั การคิดท่ดี ตี ้องสร้างแผนงานและมกี ลยทุ ธ์
3.5 นิสัยการคิดทดี่ ตี ้องเปน็ การใช้ความระมัดระวังทางสติปัญญา ใช้สติปญั ญาอยา่ งรอบคอบ
บนั ได 5 ขนั้ ของการจัดการเรียนรู้สมู่ าตรฐานสากล (Five Steps for Student Development)
โรงเรยี นมาตรฐานสากลไดป้ รบั ปรงุ รปู แบบการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี ณุ ลกั ษณะและศกั ยภาพความเปน็ สากล
โดยจัดเป็นหลักสูตรการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study: IS) เป็นเคร่ืองมือสำ�คัญของแนวคิดใน
การศกึ ษาตลอดชวี ติ มคี วามมงุ่ หมายเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ หาความรดู้ ว้ ยตนเองเกย่ี วกบั ประเดน็ ทอี่ ยใู่ นความตอ้ งการ
และความสนใจอย่างเป็นระบบ เป็นการเพ่ิมพูนความรู้ ความเข้าใจ อีกทั้งได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิด ตระหนักถึง
ความสำ�คัญของกระบวนการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง และสามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ การศึกษา
ค้นคว้าดว้ ยตนเอง แบง่ เปน็ 3 สาระ ดงั แผนภูมิ

IS 3 การน�ำองค์ความรูไ้ ปใชบ้ รกิ ารสงั คม
(Social Service Activity)

IS 2 การสือ่ สารและการน�ำเสนอ
(Communication and Presentation)
IS 1 การศกึ ษาคน้ คว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้
(Research and Knowledge Formulation)

แผนภมู กิ ารจัดหลักสูตรการเรยี นรู้ การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง (Independent Study: IS)

สุดยอดคู่มือครู 16

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด IS 1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formulation) เป็นสาระที่มุ่งให้
ผู้เรียนกำ�หนดประเด็นปัญหา ต้ังสมมติฐาน ค้นคว้า แสวงหาความรู้ และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้าง
องคค์ วามรู้
IS 2 การส่ือสารและการน�ำ เสนอ (Communication and Presentation) เปน็ สาระทมี่ ุ่งให้ผู้เรยี นนำ�ความรู้
ที่ได้รับมาพัฒนาวิธีการถ่ายทอด ส่ือสารความหมาย แนวคิด ข้อมูล และองค์ความรู้ ด้วยวิธีการนำ�เสนอที่เหมาะสม
หลากหลายรปู แบบ และมปี ระสทิ ธิภาพ
IS 3 การนำ�องค์ความรูไ้ ปใชบ้ ริการสงั คม (Social Service Activity) เป็นสาระทมี่ ุ่งให้ผเู้ รยี นน�ำ องคค์ วามรู้
ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติหรือนำ�ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เกิดการบริการสาธารณะ (Public Service)
กระบวนการสำ�คัญในการจัดการเรียนรู้การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองทั้ง 3 ระดับ (Independent Study: IS 1 - 3)
จัดกระบวนการเรียนรู้เป็น “บันได 5 ขั้นของการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมาตรฐานสากล (Five Steps for Student
Development)” ไดแ้ ก่
ขั้นที่ 1 การตงั้ ประเดน็ ค�ำ ถามหรอื การตงั้ สมมตฐิ าน (Hypothesis Formulation) เปน็ การฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั คดิ
สังเกต ต้ังคำ�ถามอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ ซ่ึงจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในการตั้งคำ�ถาม (Learning to
Question)
ขนั้ ท่ี 2 การสบื คน้ ความรู้จากแหลง่ เรยี นรูแ้ ละสารสนเทศ (Searching for Information) เป็นการฝึกแสวงหา
ความรู้ ข้อมูล และสารสนเทศจากแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต หรือจากการปฏิบัติทดลอง
เป็นตน้ ซ่งึ สง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรียนรใู้ นการแสวงหาความรู้ (Learning to Search)
ขน้ั ที่ 3 การสรา้ งองค์ความรู้ (Knowledge Formulation) เป็นการฝึกให้นำ�ความรู้ ข้อมลู และสารสนเทศทไี่ ด้จาก
การแสวงหาความรู้มาอภิปราย เพ่ือนำ�ไปสกู่ ารสรปุ และสรา้ งสรรคอ์ งค์ความรู้ (Learning to Construct)
ขัน้ ที่ 4 การสอ่ื สารและการน�ำ เสนออยา่ งมีประสทิ ธิภาพ (Effective Communication) เปน็ การฝึกใหผ้ ูเ้ รยี น
นำ�ความรทู้ ี่ได้มาส่ือสารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ซ่ึงจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นร้แู ละมีทกั ษะในการสื่อสาร (Learning to
Communicate)
ขั้นที่ 5 การบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Public Service) เปน็ การน�ำ ความรูส้ ่กู ารปฏิบตั ิ ซ่งึ ผู้เรียนจะตอ้ ง
เช่ือมโยงความรู้ไปสู่การสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนรอบตัวตามวุฒิภาวะของผู้เรียน ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียน
มจี ติ สาธารณะและบริการสังคม (Learning to Serve)
จากแนวคิดการพฒั นาทักษะการคิด GPAS และการเรียนรู้ด้วยตนเอง IS 5 Steps ที่กล่าวถึงข้างต้น สำ�นกั พมิ พ์
บริษทั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำ กดั ได้นำ�มาสงั เคราะหห์ ลอมรวมเปน็ การจัดกระบวนการเรียนร้ทู ี่พัฒนาทักษะการคดิ
เน้นผู้เรียนสร้างความรู้ ใชค้ วามรูผ้ ลติ ผลงาน เป็นกระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ดงั น้ี
Step 1 Gathering (ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล)
Step 2 Processing (ข้นั คิดวเิ คราะห์และสรุปความรู)้
Step 3 Applying and Constructing the Knowledge (ข้นั ปฏิบัติและสรุปความรู้หลงั การปฏิบตั )ิ
Step 4 Applying the Communication Skill (ขนั้ สือ่ สารและนำ�เสนอ)
Step 5 Self – Regulating (ข้ันประเมินเพื่อเพิม่ คณุ ค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ)

17 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดสรปุ ไดด้ งั แผนภมู ิดงั นี้

ส�ำนกั พมิ พ์ บรษิ ทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกดั

การน�ำ กระบวนการเรียนรู้ GPAS 5 Steps ไปใชใ้ นการออกแบบการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps สอดคล้องกับทฤษฎพี ัฒนาการทางเชาวป์ ญั ญาของเพียเจต์ (Jean Piaget)
และของวีกอ๊ ทสก้ี (Semyonovich Vygotsky) เป็นรากฐานส�ำ คัญของทฤษฎีการสร้างความรู้ดว้ ยตนเอง (Constructivism)
ท่ีเน้นการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนคิดลงมือทำ�และสรุปความรู้ด้วยตนเอง โดยการปะทะสัมพันธ์กับประสบการณ์ต่าง ๆ และ
มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ท�ำ ใหผ้ เู้ รยี นมขี อ้ มลู และมมุ มองหลากหลาย น�ำ ไปสกู่ ารปรบั โครงสรา้ งความรู้ ความคดิ รวบยอด หรอื
หลักการสำ�คัญท่ีศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study) เป็นแนวทางที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
ทั้งในแง่ความสนใจ ประสบการณ์ วิธีการเรียนรู้ และการให้คุณค่าความรู้ที่ผู้เรียนแต่ละคนสร้างข้ึนอย่างมีความหมาย
เพื่อนำ�ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน และสังคมโลก การเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เป็นกระบวนการ
“Acting on” ไม่ใช่ “Taking in” กล่าวคือเป็นกระบวนการท่ีผู้เรียนจะต้องจัดกระทำ�กับข้อมูลไม่ใช่เพียงรับข้อมูลเข้ามา
และนอกจากกระบวนการเรียนรู้จะเป็นกระบวนการปฏิสัมพันธ์ภายในสมอง (Internal Mental Interaction) แล้วยังเป็น
กระบวนการทางสังคมอีกด้วย การสร้างความรู้จึงเป็นกระบวนการท้ังด้านสติปัญญาและสังคมควบคู่กัน การเรียนการสอน
ต้องเปล่ียนจาก “Instruction” ไปเป็น “Construction” คือเปลี่ยนจาก “การให้ความรู้” เป็น “การให้ผู้เรียนสร้างความรู้
ใช้ความร้ผู ลิตผลงาน” ซึ่งการจัดกระบวนการเรียนรทู้ สี่ อดคล้องกับแนวคดิ นี้ คอื การออกแบบการเรยี นรแู้ บบ Backward Design
แบ่งเป็น 3 ข้ันตอน คือ
ขัน้ ตอนท่ี 1 กำ�หนดเป้าหมายการเรียนรู้ท่ีสะท้อนผลการเรียนรู้ ซึ่งบอกให้ทราบว่าต้องการให้ผู้เรียนรู้อะไร
และสามารถท�ำ อะไรไดเ้ มอ่ื จบหนว่ ยการเรยี นรู้
สุดยอดคู่มือครู 18

ขน้ั ตอนท่ี 2 กำ�หนดหลักฐาน ร่องรอยการเรียนรู้ที่ชัดเจนและแสดงให้เห็นว่าผู้เรียนเกิดผลการเรียนรู้ตาม
เปา้ หมายการเรียนรู้
ข้ันตอนที่ 3 ออกแบบกระบวนการ/กิจกรรมการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมาย
การเรยี นรู้
(รายละเอยี ดไดเ้ สนอแนะไวใ้ นคำ�แนะน�ำ ในการนำ�คมู่ ือครูไปใช้ในการจดั การเรยี นการสอน)
การประเมินตามสภาพจรงิ (Authentic Assessment)
การประเมินผลตามสภาพจริงเป็นทางเลือกหน่ึงในการประเมินผลการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
และปฏิบัติจริง สามารถนำ�ไปสู่การพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง สามารถประเมินความสามารถทักษะการคิดขั้นสูงที่ซับซ้อน
ตลอดจนความสามารถในการแก้ปัญหาและการประยุกต์ใช้ความรู้ในการผลิตผลงานชิ้นงานต่าง ๆ ได้ วิธีการประเมินผล
ดังกล่าวเป็นการประเมินผลเชิงบวกเพ่ือค้นหาความสามารถ จุดเด่น และความก้าวหน้าของผู้เรียน รวมท้ังให้
ความช่วยเหลือ แก่ผู้เรียนในจุดที่ต้องพัฒนาให้สูงขึ้นตามศักยภาพ เป็นเคร่ืองมือประเมินผลที่มีประสิทธิภาพที่ใช้ใน
การประเมินผล เพื่อพฒั นาผ้เู รียน (Formative Evaluation) หรอื อีกนยั หนึ่งเรยี กวา่ Assessment for Learning รวมท้ัง
สามารถใช้ในการประเมินผลรวม (Summative Evaluation) หรือ Assessment of Learning ในสถานการณ์การเรียน
การสอนท่ใี กล้เคยี งชวี ติ จริง
การประเมินผลตามสภาพจริงจะมีความต่อเนื่องในการให้ข้อมูลเชิงคุณภาพท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้สอนได้ใช้เป็น
แนวทางการจัดกิจกรรมการสอนให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลได้ และท่ีสำ�คัญมีการจัดการเรียนการสอนจากแนวคิด
ท่เี ปลี่ยนไปจากเดมิ ไปสูก่ ารจดั การเรียนการสอนแบบใหม่ ดงั ตารางต่อไปนี้

ตารางเปรยี บเทยี บกระบวนการเรียนการสอนจากแนวคดิ เดิมและแนวคิดใหม่
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
แนวคดิ เดิม แนวคดิ ใหม่

1. วางแผนโดยยดึ พฤตกิ รรมเป็นหลัก 1. วางแผนจากสง่ิ ทผี่ เู้ รยี นอยากรแู้ ละอยากท�ำในกรอบ
2. สอนไปตามหวั ขอ้ ของเน้อื หา ของหน่วยการเรียนรู้
3. มจี ดุ ประสงคก์ วา้ ง ๆ 2. เกดิ การเรียนร้ทู ล่ี ึกซง้ึ
4. มักเน้นเพียง 1 - 2 สมรรถภาพและวธิ ีการเรยี น 3. มีจดุ ประสงค์ทชี่ ดั เจน
5. ผู้สอนเปน็ ผ้ดู �ำเนนิ การ 4. ใช้สมรรถภาพและวิธกี ารเรียนที่หลากหลาย
6. ยึดต�ำราเรยี นเป็นหลัก 5. ผเู้ รยี นมคี วามตอ้ งการเปน็ ตวั กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การศกึ ษา
7. ใชก้ ฎเกณฑ์บงั คับเสมอ ๆ และการเรยี นรู้
8. ภาระงานและกระบวนการถูกแบ่งเปน็ สว่ นย่อย 6. ใชแ้ หล่งการเรียนรู้
9. ผเู้ รยี นปฏบิ ตั งิ านโดยไมท่ ราบจดุ มงุ่ หมายทชี่ ดั เจน 7. สนองความต้องการของผเู้ รียนอยา่ งเหมาะสม
10. ประเมนิ ผลคร้ังเดียวเมือ่ จบบทเรียน 8. ภาระงานและกระบวนการรวมอยู่ดว้ ยกนั
11. ผู้สอนเปน็ ผปู้ ระเมิน 9. ผเู้ รียนปฏิบัตงิ านโดยมจี ุดมุง่ หมายทีช่ ดั เจน
12. ผู้สอนรเู้ กณฑ์การประเมนิ แตผ่ ู้เดยี ว 10. ประเมินผลตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติจนส้ินสุด
13. ประเมนิ ผลเฉพาะภาคความรู้ ภาระงาน
11. ผูเ้ ช่ียวชาญเรอื่ งนนั้ เปน็ ผปู้ ระเมิน
12. ผสู้ อนและผู้เรยี นรเู้ กณฑก์ ารประเมนิ ทง้ั สองฝา่ ย
13. ประเมินผลทั้งความรู้ ความเขา้ ใจ และกระบวนการ
ทผี่ เู้ รยี นน�ำความรูต้ า่ ง ๆ มาประยุกต์ใช้

อ้างอิงจาก Kentucky Department of Education, 1998 “How to Develop a Standard-Based Unit of Study” p3.

19 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด การประเมินตามสภาพจริงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งส�ำหรับการวัดและการประเมินผล ซึ่งเข้ามามีบทบาททดแทน
แบบทดสอบมาตรฐานซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบทดสอบเลือกตอบท่ีไม่สามารถวัดและประเมินผลความรู้และทักษะได้ ลักษณะ
ส�ำคญั ของการประเมินตามสภาพจริงมอี งคป์ ระกอบส�ำคัญดงั นี้
1. เป็นงานปฏิบัติท่ีมีความหมาย (Meaningful Task) งานท่ีให้ผู้เรียนปฏิบัติต้องเป็นงานท่ีสอดคล้อง
กบั ชวี ติ ประจ�ำวนั เปน็ เหตุการณ์จรงิ มากกวา่ กิจกรรมท่ีจ�ำลองข้ึนเพื่อใชใ้ นการทดสอบ
2. เป็นการประเมินรอบด้านด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย (Multiple Assessment) เป็นการประเมินผู้เรียนทุกด้าน
ทง้ั ความรู้ ความสามารถ และทกั ษะ ตลอดจนคณุ ลักษณะนสิ ยั โดยใชเ้ ครือ่ งมอื ท่เี หมาะสมสอดคล้องกับวธิ แี หง่ การเรียนรู้
และพฒั นาการของผเู้ รยี น เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นตอบสนองดว้ ยการแสดงออก สรา้ งสรรค์ ผลติ หรอื ท�ำงาน ในการประเมนิ ของผสู้ อน
จงึ ต้องประเมินหลาย ๆ คร้งั ดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลายและเหมาะสม เน้นการลงมอื ปฏบิ ตั ิมากกว่าการประเมินดา้ นองคค์ วามรู้
3. ผลผลิตมีคุณภาพ (Quality Products) ผู้เรียนจะมีการประเมินตนเองตลอดเวลาและพยายามแก้ไขจุดด้อย
ของตนเอง จนกระท่งั ไดผ้ ลงานทผ่ี ลิตขึ้นอย่างมีคุณภาพ ผเู้ รียนเกิดความพงึ พอใจในผลงานของตนเอง มกี ารแสดงผลงาน
ของผู้เรียนต่อสาธารณชน เพือ่ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้อืน่ ได้เรียนรู้และช่นื ชม จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผ้เู รยี นมีโอกาส
เลือกปฏิบัติงานได้ตามความพึงพอใจ นอกจากน้ียังจ�ำเป็นต้องมีมาตรฐานของงานหรือสภาพความส�ำเร็จของงานท่ีเกิดจาก
การก�ำหนดร่วมกันระหว่างผู้สอน ผู้เรียน และอาจรวมถึงผู้ปกครองด้วย มาตรฐานหรือสภาพความส�ำเร็จดังกล่าวจะเป็น
สงิ่ ทช่ี ว่ ยบง่ บอกว่างานของผเู้ รยี นมคี ณุ ภาพอยู่ในระดบั ใด
4. ใช้ความคิดระดับสูง (Higher - Order Thinking) ในการประเมินตามสภาพจริง ผู้สอนต้องพยายามให้
ผูเ้ รยี นแสดงออกหรอื ผลติ ผลงานขน้ึ มา ซ่ึงเป็นผลงานท่เี กดิ จากการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมนิ ทางเลือก ลงมอื กระท�ำ
ตลอดจนการใชท้ กั ษะการแก้ปญั หาเมอื่ พบปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ซ่ึงต้องใชค้ วามสามารถในการคิดระดบั สูง
5. มีปฏิสัมพันธ์ทางบวก (Positive Interaction) ผู้เรียนต้องไม่รู้สึกเครียดหรือเบื่อหน่ายต่อการประเมิน
ผู้สอน ผปู้ กครองและผ้เู รียนตอ้ งมคี วามรว่ มมอื ทด่ี ีตอ่ กนั ในการประเมิน และการใชผ้ ลการประเมนิ แก้ไขปรับปรงุ ผู้เรยี น
6. งานและมาตรฐานต้องชัดเจน (Clear Tasks and Standard) งานและกิจกรรมที่จะให้ผู้เรียนปฏิบัติ
มขี อบเขตชัดเจน สอดคลอ้ งกับจดุ หมายหรือสภาพท่คี าดหวังความต้องการทใ่ี หเ้ กดิ พฤตกิ รรมดังกลา่ ว
7. มกี ารสะทอ้ นตนเอง (Self Reflections) ตอ้ งมกี ารเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความรสู้ กึ ความคดิ เหน็ หรอื เหตผุ ล
ต่อการแสดงออก การกระท�ำหรือผลงานของตนเองวา่ ท�ำไมถึงปฏบิ ตั หิ รือไม่ปฏิบัติ ท�ำไมถงึ ชอบและไม่ชอบ
8. มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริง (Transfer into Life) ปัญหาที่เป็นสิ่งเร้าให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต้องเป็นปัญหา
ท่ีสอดคล้องกับชีวิตประจ�ำวัน พฤติกรรมท่ีประเมินต้องเป็นพฤติกรรมท่ีเกิดขึ้นจริงในชีวิตประจ�ำวันทั้งท่ีสถานศึกษาและ
ทีบ่ ้าน ดงั น้นั ผู้ปกครองและผเู้ รยี นจงึ นบั ว่ามบี ทบาทเปน็ อย่างยิง่ ในการประเมนิ ตามสภาพจริง
9. เป็นการประเมินอย่างต่อเน่ือง (Ongoing or Formative) ต้องประเมินผู้เรียนอย่างต่อเน่ืองตลอดเวลาและ
ทกุ สถานทีอ่ ย่างไมเ่ ป็นทางการ ซึ่งจะท�ำใหเ้ ห็นพฤตกิ รรมทแ่ี ทจ้ ริง เหน็ พัฒนาการ คน้ พบจดุ เดน่ และจุดดอ้ ยของผู้เรียน
10. เป็นการบูรณาการความรู้ (Integration of Knowledge) งานที่ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติน้ัน ควรเป็นงานท่ีต้อง
ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้ในหลายสาขาวิชา ลักษณะส�ำคัญดังกล่าวจะช่วยแก้ไขจุดอ่อนของ
การจัดการเรียนรู้และการประเมินผลแบบเดิมที่พยายามแยกย่อยจุดประสงค์ออกเป็นส่วน ๆ และประเมินผลเป็นเรื่อง ๆ
ดังนั้นผู้เรียนจึงขาดโอกาสที่จะบูรณาการความรู้และทักษะจากวิชาต่าง ๆ เพ่ือใช้ในการปฏิบัติงานหรือแก้ปัญหาที่พบ
ซ่งึ สอดคลอ้ งกับชีวิตประจ�ำวนั หรือปญั หานั้นต้องใส่ความรู้ ความสามารถ และทักษะจากหลาย ๆ วิชามาช่วยในการท�ำงาน
หรอื แก้ไขปญั หา
สุดยอดคู่มือครู 20

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด1.4 ค�ำแนะนำ� ในการนำ� คมู่ อื ครไู ปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน

ส่วนประกอบของค่มู ือครู
คู่มอื ครูมอี งคป์ ระกอบส�ำ คญั 3 สว่ น ดังนี้
ส่วนท่ี 1 กระบวนการจัดการเรียนการสอนสำ�หรับครู คือส่วนท่ีนำ�เสนอในเอกสารฉบับนี้ ประกอบด้วยสาระสำ�คัญ
3 รายการ คอื
1. รูปแบบ เทคนิควิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ คู่มือครูฉบับนี้นำ�เสนอ “กระบวนการจัดการเรียนรู้แต่ละหน่วย
ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps” แต่ละ Steps นำ�เสนอขั้นตอน/วิธีดำ�เนินกิจกรรมสำ�คัญท่ีเป็นหัวใจสำ�คัญ
ของการจัดการเรียนรู้แต่ละข้ันตอนที่เน้นการเรียนรู้ตามแนวคิด “ผู้เรียนร่วมกันสร้างความรู้ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์
และลงมอื ปฏบิ ตั นิ �ำ ความรไู้ ปใชผ้ ลติ ผลงานและตรวจสอบตนเอง” โดยยดึ เนอ้ื หาในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ก่ี �ำ หนดในหนงั สอื เรยี น
เป็นหลกั
แต่ถ้าหนังสือเรียนหน่วยใดมีเน้ือหาสาระที่จัดให้เรียนรู้ในหลายความคิดรวบยอดแตกต่างกัน หรือจำ�นวน
หัวเรื่องมากจนไม่สามารถใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps ให้ครอบคลุมหัวเรื่องทั้งหมดในหน่วยน้ันได้ จะจัด
ดำ�เนินการออกแบบการเรียนรู้แยกเป็นเร่ือง ๆ 2 หรือ 3 เร่ือง เพื่อใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps ให้จบเน้ือหานั้นตาม
ความแตกต่างของความคิดรวบยอดหรือหัวข้อเร่ือง แต่จะรวมการประเมินไว้ในหน่วยเดียวกันตามต้นฉบับหนังสือเรียน
เพอื่ ไมใ่ หส้ บั สนในการประเมินจดุ ประสงค์ประจำ�หนว่ ยการเรียนรู้ ดงั รายละเอยี ดในเอกสาร
2. การบูรณาการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทุกหน่วยการเรียนรู้ได้นำ�เสนอ “การบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้”
ไวต้ อ่ จากค�ำ แนะน�ำ ในการจดั กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้ หรอื หากเนอื้ หาในหนว่ ยการเรยี นรถู้ กู แบง่ กลมุ่
หัวข้อเน้ือหาเปน็ หลายเรอ่ื งเพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ GPAS 5 Steps แยกจากกัน กใ็ ห้มีการนำ�เสนอ “การบรู ณาการ
กจิ กรรมการเรียนร้”ู ทุกหัวข้อเรื่อง กจิ กรรมบรู ณาการการเรยี นรู้มีหวั ขอ้ ส�ำ คญั ดงั นี้
2.1 สมรรถนะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ได้แก่ ความตระหนักรู้ในตน (Personal Spirit) การคิด (Thinking)
การแกป้ ญั หา (Problem Solving) การทำ�งานเปน็ ทีม (Team) การสอ่ื สาร (Communication) และอน่ื ๆ ซ่ึงจดั บูรณาการ
เขา้ ไปในกระบวนการจดั กจิ กรรมแตล่ ะขน้ั ตอน เชน่ การใหผ้ เู้ รยี นท�ำ งานและเรยี นรเู้ ปน็ กลมุ่ ผลดั เปลย่ี นกนั แบง่ บทบาทหนา้ ท่ี
ให้รับผิดชอบในกลุ่ม เรียนรู้ร่วมกัน คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และประเมินตนเอง ซ่ึงจัดไว้ในกิจกรรมการเรียนรู้
ทกุ หน่วยการเรียนร้แู ลว้
2.2 การเรียนรู้สู่อาเซียน ส่วนใหญ่เน้นไปท่ีการบูรณาการคำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเน้ือหาท่ีกำ�หนดให้ใน
หน่วยการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนได้เพ่ิมพูนความรู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติท่ีดีต่อการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น
ภาษากลางท่ีใช้ส่ือสารในกลุ่มประเทศอาเซียน และอาจจัดให้ศึกษาภูมิประเทศ ภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม การปกครอง
และงานอาชีพของประเทศในอาเซยี น ในประเดน็ ทสี่ อดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในหนว่ ยการเรยี นรนู้ น้ั ๆ
2.3 ทักษะชีวิต เป็นการบูรณาการท้ังความรู้ในสาระท่ีเรียน ทักษะและค่านิยมไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงหรือ
สถานการณ์จำ�ลองในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ หรือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนา
ธุรกิจให้ประสบความสำ�เร็จ ได้แก่ การสร้างมนุษยสัมพันธ์ การรู้จักตนเองและเรียนรู้ผู้อื่น การคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจ
เชงิ บวก ซึง่ ช่วยพฒั นาด้วยจิตปัญญาให้ผู้เรียนเฉพาะสว่ นทส่ี อดคล้องกับเนอื้ หาในหนว่ ยการเรียนรู้
2.4 ค่านิยมหลัก 12 ประการ เน้นการปลูกฝังจริยธรรมค่านิยมที่ดีงามตามลักษณะที่ดีของคนไทย โดยเลือก
มาใชแ้ ตล่ ะหน่วยการเรยี นรดู้ ว้ ยการให้ผเู้ รยี นไดต้ ระหนกั ถึงจรยิ ธรรม คา่ นยิ มท่ีเลอื กมากำ�หนดในกระบวนการจัดกิจกรรม
ท่สี มั พันธ์กับเนอื้ หาในหน่วยทเ่ี รยี นและกระบวนการเรยี นรู้ทุกขั้นตอน

21 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2.5 กิจกรรมท้าทาย เป็นกิจกรรมเสริมความถนัด ความสนใจของผู้เรียนที่เพ่ิมเติมจากกิจกรรมใน
หนว่ ยการเรยี นรู้ ซงึ่ อาจท�ำ เปน็ กลมุ่ หรอื รายบคุ คลกไ็ ด้ กจิ กรรมทา้ ทายจะเปน็ สว่ นเตมิ เตม็ ความรทู้ กั ษะของผเู้ รยี น เสรมิ สรา้ ง
สมรรถนะให้สูงขึ้นต่อเน่ืองจากกิจกรรมในหน่วยการเรียนรู้ ผู้เรียนท่ีสนใจสามารถใช้เวลานอกหน่วยการเรียนรู้
ปฏิบตั กิ จิ กรรมน้ดี ้วยความรับผดิ ชอบของตน
3. แผนการประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้และสมรรถนะประจำ�หน่วย เป็นส่วนที่ออกแบบไว้สำ�หรับผู้สอนใช้
ในการประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ เน้นการประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment)
โดยนำ�เอาภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนท่ีปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ตามข้ันตอนของกระบวนการเรียนรู้
แบบ GPAS 5 Steps ทีส่ อดคลอ้ งสมั พันธ์กบั จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ นหนว่ ยการเรียนรู้แต่ละหน่วยมากำ�หนดระดับคุณภาพ
หรือคะแนนในภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออกของผู้เรียนแต่ละเรื่องตามท่ีออกแบบไว้ เพื่อสรุปผลการประเมินใน
หน่วยการเรยี นรูน้ น้ั ดังนี้
3.1 ภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของผู้เรียนระหว่างเรียน ได้แก่ ภาระงานในการรวบรวมข้อมูล
(G: Gathering) การวิเคราะห์ข้อมูลสรุปความรู้ความเข้าใจ (P: Processing และ A: Applying and Constructing
Knowledge) การนำ�เสนอผลการนำ�ไปใช้และสรุปความรู้ความเข้าใจ (A: Applying & Communication Skill)
ที่เกิดขึ้นในระหว่างปฏิบัติกิจกรรมในแต่ละข้ันตอน ส่วนใหญ่เป็นการประเมินเชิงคุณภาพจัดระดับคุณภาพไว้ 4 ระดับ
คือ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) และต้องปรับปรุง (1) และอาจให้ค่านำ้�หนักแต่ละรายการคิดเป็นคะแนน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
ผสู้ อนจะพจิ ารณาเพิ่มเตมิ ใหเ้ หมาะสมกบั บริบทของการจัดการเรียนรู้
3.2 ภาระงาน/ชิ้นงานรวบยอดเมื่อจบหน่วยการเรียนรู้ อยู่ในขั้นการประเมินตนเองเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคม
และจิตสาธารณะ (S: Self – Regulating) ได้แก่ คะแนนจากผลการปฏิบัติกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ คะแนน
จากผลการปฏิบัติกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ คะแนนจากผลการประเมินตนเอง และคะแนนจากแบบทดสอบ (ศึกษา
เอกสารในเลม่ ประกอบ)
สว่ นที่ 2 การออกแบบการจดั การเรยี นรรู้ ะดบั หนว่ ยการเรยี นรู้ ในสว่ นนไ้ี ดน้ ำ�กระบวนการจดั การเรยี นรสู้ ำ�หรบั ผสู้ อน
ในส่วนที่ 1 มาขยายให้เห็นรายละเอียดในวิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยประยุกต์ใช้แนวทางการออกแบบ
การเรยี นรแู้ บบ Backward Design ของ Grant Wiggins and Jay McTighe กำ�หนดไว้ 3 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่
ข้นั ตอนที่ 1 ก�ำ หนดเปา้ หมายคุณภาพผ้เู รยี น (Stage 1 - Desired Results) ในการออกแบบการเรียนร้รู ะดับหนว่ ย
การเรยี นรู้ ในทนี่ ีไ้ ด้ก�ำ หนดเป้าหมายคุณภาพผ้เู รยี นเป็นเป้าหมายยอ่ ย ๆ ไว้ดังน้ี
1. ความคดิ รวบยอด/ความเข้าใจท่คี งทน
2. สาระการเรียนรู้
3. สมรรถนะประจำ�หนว่ ย
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ขั้นตอนท่ี 2 ก�ำ หนดหลกั ฐานรอ่ งรอยภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออกของผ้เู รียนสำ�หรบั การประเมนิ (Stage 2 -
Assessment Evidence) ในที่น้ไี ดก้ ำ�หนดสาระสำ�คัญในการประเมนิ ผล ไดแ้ ก่
1. วิธีประเมินท่ีสอดคล้องจุดประสงค์การเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ ภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของ
ผู้เรียน แยกเปน็
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรยี น
ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหน่วยการเรยี นรู้

สุดยอดคู่มือครู 22

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 2. เกณฑ์ประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้จากภาระงาน/ชิ้นงาน/การแสดงออกของผู้เรียนระหว่างเรียน กำ�หนดเป็น
ระดับคุณภาพ 4 ระดับ ดังได้กล่าวแล้วข้างต้น มีคำ�อธิบายเกณฑ์การประเมินแต่ละระดับทุกจุดประสงค์การเรียนรู้
เพอื่ ใหผ้ ปู้ ระเมนิ สามารถประเมนิ ไดเ้ ทย่ี งตรงสอดคลอ้ งกบั ความเปน็ จรงิ ไดน้ �ำ เสนอในหนว่ ยการเรยี นรทู้ กุ หนว่ ยอยา่ งละเอยี ด
ข้นั ตอนท่ี 3 ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Stage 3 - Learning Plan) ในที่นี้ไดก้ �ำ หนดกระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้
ทักษะการคดิ การปฏบิ ัติจริงทีผ่ ู้เรียนเปน็ ผูส้ ร้างความรู้ ใชค้ วามรผู้ ลิตผลงาน ดว้ ยกระบวนการ GPAS 5 Steps ดังน้ี
Step 1 Gathering (ข้นั รวบรวมข้อมลู )
Step 2 Processing (ข้นั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความรู)้
Step 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขั้นปฏิบตั แิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ)
Step 4 Applying the Communication Skill (ขน้ั ส่ือสารและน�ำ เสนอ)
Step 5 Self – Regulating (ขน้ั ประเมนิ เพอื่ เพิม่ คณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ)
รายละเอียดน�ำ เสนอใน CD ทีใ่ ชค้ ูก่ บั เอกสารฉบับนี้
ส่วนที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ ได้จัดทำ�เป็นแผนรายชั่วโมงท่ีแสดงรายละเอียดการดำ�เนินกิจกรรมแต่ละขั้นตอน
ตาม GPAS 5 Steps ให้ชัดเจนมากขึ้น ผู้สอนสามารถปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของผู้เรียนและห้องเรียนแต่ละแห่ง
ในแต่ละโอกาส ในแผนการจดั การเรียนรู้ได้นำ�เสนอรายละเอียดดังน้ี
1. สาระส�ำ คญั ของเร่อื งหรือเนอื้ หาที่เรยี น
2. คำ�ถามที่ผู้สอนใช้ถามผู้เรียนเพื่อกระตุ้นให้แสวงหาข้อมูล คำ�ตอบ หรือข้อสรุปด้วยตนเองในแต่ละขั้นตอนใน
ช่วั โมงสอน
3. แบบบันทึกผังกราฟิก (Graphic Organizers) ท่ีให้ผู้เรียนนำ�ไปใช้ในข้ันตอนต่าง ๆ ของการจัดการเรียนรู้ตาม
กระบวนการเรียนรแู้ บบ GPAS 5 Steps เชน่ ผังกราฟิกในการสังเกตรวบรวมและบันทึกขอ้ มลู ผังกราฟกิ การวิเคราะหข์ ้อมูล
และสรปุ ความร้ใู นรปู แบบต่างๆ เป็นต้น
4. สอ่ื อปุ กรณ์และแหล่งเรยี นร้สู ำ�หรับผู้สอนและผเู้ รยี นท่ีจะหาความรูเ้ พ่มิ เตมิ ในเนอ้ื หาแตล่ ะหนว่ ยการเรยี นรู้
5. กิจกรรมเสนอแนะสำ�หรบั ผ้สู อน เสริมความรูแ้ ละทกั ษะให้กบั ผู้เรยี นท่มี จี ุดเดน่ ทจี่ ะเรียนรู้ใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
6. บันทึกหลังสอนสำ�หรับผู้สอน ประเมินการจัดการเรียนรู้ในแต่ละแผน เป็นแบบบันทึกการประเมินเชิงระบบ
ประกอบด้วยหัวข้อสำ�คัญ คอื
ความพรอ้ มก่อนดำ�เนินกิจกรรม (สือ่ วสั ดอุ ุปกรณ์ การเข้าช้ันเรยี น พ้ืนฐานความรู้เดิมของผเู้ รียน)
บรรยากาศการเรยี นรู้ (ความสนใจ ปฏิสมั พันธ์ในหอ้ ง ความราบรื่นในการด�ำ เนนิ กิจกรรมการเรยี นการสอน)
ผลการเรียนรู้ (จำ�นวนผู้เรียนที่มีผลงานระหว่างเรียนและผลการประเมินบรรลุวัตถุประสงค์แต่ละระดับ
ผเู้ รียนที่เปน็ ผู้น�ำ ผูเ้ รยี นท่ีตอ้ งให้ความสนใจเพ่ิมเตมิ )
แนวทางการพฒั นาในครงั้ ตอ่ ไป (สง่ิ ทต่ี อ้ งยตุ ิ สิง่ ท่ีนำ�มาใช้ต่อ สิง่ ทตี่ ้องปรบั ปรุงเพ่ิมเตมิ )
รายละเอยี ดน�ำ เสนอใน CD ทใ่ี ช้คกู่ ับเอกสารฉบับนี้

หมายเหต:ุ สว่ นที่ 2 และส่วนที่ 3 ทางส�ำนกั พิมพ์ บริษทั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ�ำกัด ได้จดั ท�ำเป็นไฟลเ์ อกสาร
Word บันทึกลงในแผ่น CD ผู้สอนสามารถคัดลอก ดัดแปลง หรือปรับเปล่ียนรายละเอียดเพื่อน�ำไปใช ้
ในการจดั การเรยี นการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของสถานศกึ ษา ตรงตามความตอ้ งการ ความพรอ้ ม และ
ความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนหรอื แต่ละห้องเรยี น

23 สุดยอดคู่มือครู

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดพัฒนาความ น�ำ ขอ้ มลู มาจำ�แนก สรา้ งความรู้ขั้นสงู คือ คิดออกแบบ
สามารถในการ จดั กลุ่ม วเิ คราะห์ ความรู้ระดับคณุ ธรรม หลายๆ แบบ
เก็บขอ้ มลู พิสจู น์ ทดลอง จริยธรรม โดยใหน้ ำ� เพือ่ สรา้ ง
รวบรวมขอ้ มูลจาก วิจัย ใหเ้ หน็ ล�ำ ดับ ผลการคิดของตนเอง ทางเลอื กหรือ
การฟัง การอ่าน ความส�ำ คญั และ มาไตรต่ รองว่าวธิ คี ิด เพือ่ หาวิธี
การดูงาน การส�ำ รวจ ความสมั พันธ์ ดงั กลา่ วจะนำ�ไป หลายๆ วิธี
การสมั ภาษณ์ เชื่อมโยง ให้รู้ว่า สู่ผลส�ำ เรจ็ หรือไม่ ทจี่ ะนำ�ความรู้
การไปดูเหตกุ ารณ์ อะไรคอื ปญั หา สง่ ประโยชนถ์ งึ สงั คม ไปปฏิบัติให้
หรอื สถานการณ์ ที่แท้จรงิ อะไรคอื สาธารณะ และ เต็มศกั ยภาพ
ทเี่ กิดขึ้นจริง เพอื่ น�ำ สาเหตทุ ่ีนำ�สู่ สง่ิ แวดลอ้ มหรอื ไม่ และงดงาม
ขอ้ มูลไปจัดกระท�ำ ปญั หา ผลกระทบ ถ้าไม่ถึงจะปรบั และน�ำ ผลไปสู่
ใหเ้ กดิ ความหมาย ของปัญหา ตรงไหน อย่างไร ความส�ำ เร็จ
ผา่ นกระบวนการ วธิ แี กป้ ัญหา จงึ จะเปน็ ไปตาม แบบคงทน
คดิ วเิ คราะห์ แนวทางปอ้ งกัน วตั ถุประสงค์ จงึ กล้า อยา่ งมลี �ำ ดับ
สาเหตุไมใ่ ห้ วิจารณ์ กลา้ เสนอแนะ ขั้นตอน เพ่อื การ
ข้อมลู เกดิ ข้นึ และ อย่างสรา้ งสรรค์ ตรวจสอบทมี่ ี
น�ำ สู่ปญั หา รบั ฟังขอ้ เสนอแนะ ประสิทธภิ าพ
ขอ้ วจิ ารณ์ จากเพอื่ น และแกป้ ัญหาใน
ครู พอ่ แม่ อยา่ งมี แต่ละขัน้ ตอนได้
เหตุผล ทบทวน ตรงวัตถุประสงค์
ปรบั ปรุงด้วยความยนิ ดี
มคี า่ นิยมในความเปน็
ประชาธิปไตยเสมอ

สวงั ิเเคครราาะะหห์ ์ ประเมแินผนกGาPรทAสาสอSงรเน้าล–งอื คกBมู่ ือacคkรู

คุณภาพครอบคลมุ การสอนแบบเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำ�คญั แบบสร้าง
แบบพัฒนาพหปุ ญั ญา แบบทกั ษะกระบวนการทาง

สรปุ รายงานผล ผลการเรยี นรูท้ ีค่ าดหวงั Portfolio

สุดยอดคู่มือครู 24

สามารถคดิ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดก่อนลงมอื ปฏิบัติการปฏิบตั ทิ ดี่ จี งึ ตอ้ งปฏบิ ัติดร.ศกั ดสิ์ นิ โรจนส์ ราญรมย์
ตัดสินใจเลอื ก น�ำ แนวคิดและ ตามแผนทีว่ างไว้ ผ่าน
แนวทางหรอื ตัดสนิ ใจมาจดั การวเิ คราะห์ การไตรต่ รอง เมอ่ื งานส�ำ เรจ็ รู้จัก
วิธที ด่ี ที ีส่ ุดที่ ลำ�ดบั ข้นั ตอน ไว้อย่างดแี ล้ว การปฏบิ ัติ ประเมนิ งานท้งั ดว้ ย
น�ำ ไปสคู่ วาม การทำ�งาน จริงจึงเปน็ การพัฒนา เหตุผลควบคู่กับการ
ส�ำ เรจ็ ได้จริง เพอื่ สามารถ การทำ�งานรว่ มกับผู้อ่นื หรอื ประเมนิ ตนเองเสมอ
น�ำ ประโยชน์ ด�ำ เนนิ งานไป ท�ำ งานเป็นทมี ทตี่ ้องมีการ ถา้ กระบวนการนัน้
ไปสสู่ งั คม ตามแผนการคดิ จัดการแบง่ งานใหต้ รงตาม น�ำ ไปสู่ผลจริง กจ็ ะ
สาธารณะ ทผ่ี า่ นการ ความถนัด แชรค์ วามคดิ น�ำ กระบวนการนน้ั
สง่ิ แวดลอ้ ม ไตรต่ รองมา ประสบการณ์ ร้จู ักรับฟงั ไปพฒั นาหรอื
เปน็ วธิ ีที่ อยา่ งดีแล้ว และ รจู้ ักเสนอแนะ มคี า่ นยิ ม ท�ำ งานในกล่มุ สาระ
คมุ้ คา่ เพือ่ พสิ ูจน์ให้ แสดงออกเป็นประชาธปิ ไตย อน่ื ๆ เพ่ือให้ไดง้ าน
ตัง้ อยบู่ น เห็นวา่ ส่ิงท่ีคิด รู้จกั อดทน ขยนั รับผิดชอบ ทม่ี คี ุณภาพและ
หลักการของ ไว้เมอื่ นำ�ไป ในหนา้ ทกี่ ารท�ำ งานหรอื คุณค่าเพิม่ ขนึ้ เสมอ
ปรชั ญา ปฏบิ ัตจิ ริงแลว้ การปฏบิ ตั ิ ม่งุ หวังเพอื่ ให้ ขัน้ ตอนใดทม่ี ีจุดอ่อน
เศรษฐกจิ สามารถด�ำ เนนิ ได้งานท่ีดขี น้ึ เพอื่ ประโยชน์ ก็ตอ้ งปรับปรุง
พอเพียง การไดต้ าม ของสงั คมสว่ นรวมทกี่ วา้ งไกล ให้ดียิ่งขน้ึ เม่ือได้
ท่คี ดิ ไว้หรอื ไม่ ข้ึน ค�ำ นึงถึงผลกระทบ กระบวนการที่ดแี ลว้
ตัดสนิ ใจ เพอ่ื น�ำ ไปสู่ ต่อสาธารณะและสง่ิ แวดล้อม ก็สรุปกระบวนการ
การแกป้ ญั หา มากยง่ิ ขึน้ อกี ท้ังยังน�ำ กรอบ นนั้ ใหเ้ ป็นหลักการ
และพัฒนาการ ความคิดมาปฏิบัตเิ พ่อื พัฒนางานท่ดี ขี อง
เก็บข้อมลู และ การออกแบบ สรา้ งนวตั กรรม ตนเอง เป็นเคร่อื งมอื
การคิดตอ่ ไป ดว้ ยสือ่ เทคโนโลยไี ด้อยา่ ง การเรยี นรู้
ทัดเทยี มกบั ความเป็นสากล ใชเ้ รียนร้ขู ้อมูลได้
ทกุ โอกาสทว่ั โลก
วางแผน ลงมือปฏบิ ัติ และทุกสถานการณ์
ทกุ เง่ือนไข
คwรaบrdกรDะeบsวiนgกnารเรียนรู้ ได้ตลอดชวี ิต
ความรู้ แบบวจิ ัยในช้นั เรียน แบบโครงงาน แบบเพ่ิมพลังสมอง
วทิ ยาศาสตร์ แบบ 5Es แบบปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ สรา้ งความรู้

เสนโอคเปรงน็ งชา้นินงาน

KAP 1 2 3 4 ประเมนิ ตนเอง นำ�สู่ค่านิยม คุณธรรม

25 สุดยอดคู่มือครู

21

สุดยอดคู่มือครู 26
สงวนลขิ สทิ ธ์ิ สำ�นกั พมิ พ์ บรษิ ัทพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กดั

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3. ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Apply4.inขg้ันสthื่อeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพtิ่มinคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ีสงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับ
การระบายอากาศ การระบายอากาศ
1
สาระสาำ คญั สาระการเรียนรู้
ในวงการอุตสาหกรรม ธุรกิจการค้า รวมทั้งที่พักอาศัยปัจจุบัน สิ่งท่ีขาดไม่ได้ คือ 1. การปรับสภาพอากาศ (หนังสอื เรียน หน้า 3)
เรื่องการปรับอากาศของเครื่องปรับอากาศจะต้องมีท่อส่งอากาศเย็นไปตามห้องต่าง ๆ 2. วสั ดทุ นี่ �ำ มาใชท้ �ำ ทอ่ สง่ ความเยน็ (หนงั สอื เรยี น
ซ่ึงเรียกท่อเหล่าน้ีว่าท่อส่งลม เป็นส่ิงท่ีจำาเป็นมากสำาหรับระบบทำาความเย็นและมี
การพัฒนาเกี่ยวกับท่อส่งลมอย่างมาก ตั้งแต่แบบพ้ืนฐานไปจนถึงแบบที่ซับซ้อนซ่ึงมี หนา้ 3-5)
ความสลบั ซบั ซอ้ น ดงั นน้ั งานระบบทอ่ สง่ ความเยน็ จงึ มคี วามสาำ คญั มากในการสรา้ งขอ้ ตอ่ 3. สว่ นตา่ ง ๆ ของขอ้ ตอ่ และทอ่ สง่ ลม (หนงั สอื เรยี น
แบบต่าง ๆ การเขียนแบบแผ่นคล่ีของระบบท่อทำาความเย็น และวิชางานระบบท่อ
สง่ ความเยน็ จึงมบี ทบาทในการช่วยพฒั นาการสร้างระบบท่อตา่ ง ๆ หนา้ 5)
4. ตะเขบ็ (หนงั สอื เรยี น หน้า 6 - 9)
5. ระบบท่อส่งความเย็น (หนังสือเรียน

หน้า 9 - 10)
6. การออกแบบทอ่ สง่ ความเยน็ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 11)
7. กรรมวิธีการออกแบบท่อลม (หนังสือเรียน

หนา้ 11 - 19)
สมรรถนะประจำ�หนว่ ย
แสดงความรทู้ ่วั ไปเกีย่ วกบั การระบายอากาศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายระบบตา่ ง ๆ ของการปรับสภาพอากาศ

ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. ระบุชนิดของแผ่นโลหะและอโลหะที่ใช้ทำ�

ท่อส่งความเยน็ ในสภาพตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายสว่ นตา่ งๆของทอ่ สง่ ความเยน็ ไดถ้ กู ตอ้ ง
4. ระบุวิธีการสังเกตตะเข็บที่ใช้ในงานท่อส่ง

ความเย็นไดถ้ ูกต้อง
5. อธิบายและเขียนแบบระบบท่อส่งความเย็น

และท่อลมได้

การประเมนิ ผล 3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ
เกย่ี วกบั ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ
ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี น
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรยี น ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ 1. ผลการปฏิบตั ิกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการปฏิบตั ิกิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้
การระบายอากาศ 3. ผลการปฏิบัตงิ าน (ใบงาน)
2. ผงั กราฟกิ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ 4. ผลการประเมนิ ตนเอง

27 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

2 งานระบบทอ่ ส่งความเยน็ 2.5 ระบบทอ่ สง่ ความเยน็
• ท่อส่งความเย็นมีก่ปี ระเภท แต่ละประเภทมีข้อดี - ข้อเสีย
สมรรถนะประจาำ หนว่ ย
แสดงความร้ทู ั่วไปเก่ียวกับการระบายอากาศ อยา่ งไร
2.6 การออกแบบทอ่ สง่ ความเยน็
สาระการเรยี นรู้ • ส่วนประกอบต่าง ๆ ในการออกแบบท่อส่งความเย็น
1. การปรับสภาพอากาศ
มอี ะไรบา้ ง
2. วสั ดทุ ี่นาำ มาใช้ทำาทอ่ สง่ ความเยน็ 2.7 กรรมวธิ กี ารออกแบบทอ่ ลม
3. สว่ นตา่ ง ๆ ของข้อต่อและทอ่ ส่งลม • กรรมวิธีการออกแบบท่อลมต้องคำ�นึงถึงองค์ประกอบ
4. ตะเขบ็
5. ระบบท่อสง่ ความเยน็ ใดบา้ ง
6. การออกแบบท่อสง่ ความเย็น 3. แต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อท่ีกำ�หนดลงผังกราฟิก
7. กรรมวธิ ีการออกแบบท่อลม
St (เลือกออกแบบและใช้ผังกราฟิกให้เหมาะสมกับลักษณะ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ของขอ้ มลู ) ดงั ตวั อยา่ ง
สงวนลิข ิสท gิ์ธ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด1. อธบิ ายระบบต่าง ๆ ของการปรบั สภาพอากาศไดถ้ กู ต้อง
2. ระบุชนิดของแผ่นโลหะและอโลหะทใ่ี ช้ทำาทอ่ สง่ ความเยน็ ในสภาพต่าง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง ความรทู้ ัว่ ไปเกย่ี วกับการระบายอากาศ 3
3. อธิบายส่วนต่าง ๆ ของทอ่ ส่งความเยน็ ได้ถกู ต้อง
4. ระบวุ ิธกี ารสังเกตตะเข็บท่ีใชใ้ นงานท่อสง่ ความเยน็ ไดถ้ กู ตอ้ ง 1. การปรบั สภาพอากาศ
5. อธิบายและเขียนแบบระบบท่อสง่ ความเยน็ และท่อลมได้
งานระบบท่อส่งความเย็นจะกล่าวถึงการสร้างท่อส่งลม การติดตั้ง และระบบการส่งลมไปยัง
ผังสาระการเรียนรู้ สถานที่ต่าง ๆ ตามที่ต้องการ ซ่ึงจะช่วยปรับสภาพของอากาศในพื้นท่ีในบริเวณน้ันให้ดีขึ้น การปรับ
สภาพของอากาศ สามารถแบง่ ออกเป็น 3 ระบบ คือ
ความร้ทู ว่ั ไป การปรับสภาพอากาศ
เก่ียวกบั วสั ดทุ น่ี าำ มาใชท้ าำ ทอ่ สง่ ความเยน็ 1.1 ระบบปรบั อากาศ (Air Condition System)
การระบาย สว่ นตา่ ง ๆ ของขอ้ ต่อและท่อส่งลม
อากาศ ตะเข็บ การปรับสภาพอุณหภูมขิ องอากาศให้เพ่มิ ข้ึนหรอื ลดลงตามทต่ี อ้ งการ เช่น ภายในอาคาร
ระบบทอ่ ส่งความเยน็ บ้านเรอื น หอ้ งประชุมสาำ นักงาน โรงมหรสพ
การออกแบบทอ่ สง่ ความเย็น
กรรมวิธีการออกแบบทอ่ ลม 1.2 ระบบระบายอากาศ (Ventilation System)

ep 1 การระบายอากาศโดยการดูดเอาอากาศท่ีสะอาดหรือบริสุทธิ์จากบริเวณหน่ึงไปยัง
อีกบริเวณหนง่ึ เพอื่ ใหอ้ ากาศในบรเิ วณท่ตี ้องการปรบั สภาพอากาศดีขึน้ โดยไมม่ ีผลต่ออณุ หภูมิของ
Gatherin ขั้นรวบรวมขอ้ มูล อากาศ เช่น การระบายอากาศในเหมืองแร่ ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือในโรงงานถลุงโลหะท่ีมี
ส่งิ สกปรกหรือควนั มากให้เจือจางลง
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเก่ียวกับ
1.3 ระบบดดู (Exhaust System)
ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ
การดดู อากาศเสยี จากบรเิ วณหนงึ่ ไปทงิ้ ยงั อกี บรเิ วณหนงึ่ โดยมากการปรบั สภาพของอากาศ
2. ต้ังคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ของตนเก่ียวกับ ระบบดูดจะใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมเก่ียวกับเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีอากาศเป็นพิษและเป็นอันตราย
ตอ่ รา่ งกาย หรือใชใ้ นการระบายควนั ออกไปภายนอก เช่น การดูดควนั จากห้องครัวออกไปภายนอก
ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ ดงั ตวั อยา่ ง
2. วัสดทุ ่นี �ามาใชท้ �าท่อส่งความเย็น
2.1 การปรบั สภาพอากาศ
วัสดุท่ีนำามาใช้ทำาท่อส่งความเย็น หรือ ท่อส่งลมน้ันมีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติ
• การปรบั สภาพอากาศคอื อะไร แบง่ เปน็ กร่ี ะบบ แตกต่างกัน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานต้องพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาวะของอากาศ และสิ่งแวดล้อม
บรเิ วณนั้น วสั ดทุ ่ีนาำ มาใชท้ าำ ท่อแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื
2.2 วสั ดทุ น่ี �ำ มาใชท้ �ำ ทอ่ สง่ ความเยน็
2.1 ประเภทโลหะ
• วสั ดทุ น่ี �ำ มาใชท้ �ำ ทอ่ สง่ ความเยน็ มกี ช่ี นดิ อะไรบา้ ง
ท่อส่งความเย็นท่ีทำาจากวัสดุที่เป็นโลหะส่วนใหญ่จะผ่านกระบวนการผลิตทำาให้เป็น
2.3 สว่ นตา่ ง ๆ ของขอ้ ตอ่ และทอ่ สง่ ลม แผน่ บางเพ่ือให้สามารถขึ้นรปู ไดง้ ่าย และมนี า้ำ หนกั เบาสะดวกในการติดตงั้ ได้แก่
2.1.1 แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี (Galvanized Steel Sheet) เป็นแผ่นเหล็กท่ีผ่าน
• การสรา้ งแบบและการประกอบทอ่ ลมมขี น้ั ตอนอยา่ งไร กระบวนการเคลือบผิวด้วยสังกะสี โลหะแผ่นเคลือบสังกะสีเป็นวัสดุที่นิยมนำาไปใช้ทำาท่อส่งลม
มากท่ีสุดเพราะสามารถทำาได้ง่าย มีความแข็งแรงดีพอประมาณ และมีราคาถูก แต่จะต้องใช้งาน
ในบรเิ วณทไ่ี มม่ สี ภาพทเ่ี ปน็ กรด มไี อพษิ ความชน้ื หรอื มนี าำ้ คา้ งมากนกั เพราะสภาวะดงั กลา่ วจะทำาให้

2.4 ตะเขบ็

• ตะเขบ็ งานมกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง

สุดยอดคู่มือครู 28

Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

4 งานระบบทอ่ สง่ ความเย็น ep 2 ขั้นคิดวิเคราะห์
และสรปุ ความรู้
สังกะสีถูกกัดกร่อนได้เร็วกว่าปกติ และเส่ือมสภาพไปในท่ีสุด ถ้าจะใช้ภายนอกอาคาร หรือสภาพ สงวนลิข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด g Strocessin
บริเวณดังท่ีกล่าวข้างต้น ควรเคลือบสีบนแผ่นสังกะสีด้วย สำาหรับงานที่นิยมนำาไปใช้ ได้แก่ ตัวท่อ P
ระบายอากาศ พดั ลม และฝาครอบระบายควนั (Hood) เปน็ ตน้
2.1.2 แผ่นเหลก็ (Steel Sheet) แผ่นเหล็กท่นี าำ มาใชท้ าำ ทอ่ สง่ ความเยน็ มที ัง้ แผ่นเหล็ก 1. ผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ความรทู้ วั่ ไปเกยี่ วกบั การระบาย
ที่ผ่านการรีดร้อนและรีดเย็นเหมาะสำาหรับงานทั่ว ๆ ไป และทำาการพ่นสีเคลือบไว้เพ่ือป้องกันสนิม อากาศที่รวบรวมได้จากการศึกษาค้นคว้าและระดมความคิด
การนำาไปใช้งานนั้นโดยทั่วไปจะนิยมนำาไปใช้ทำาที่กำาบังควัน ตัวกันไฟกลับท่อลมร้อน และบริเวณท่ี ของสมาชิกรว่ มดว้ ย
ตอ้ งไดร้ ับอณุ หภูมสิ ูงอยู่เสมอ ๆ
2.1.3 แผ่นทองแดง (Copper Sheet) แผ่นทองแดงสามารถนำามาทำาท่อส่ง 2. เช่ือมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูลท่ีนำ�มาอภิปราย
ความเยน็ ได้เปน็ อยา่ งดี เนื่องจากสามารถทนสภาพการกดั กร่อนตา่ ง ๆ ได้ด ี แตม่ กี ารนาำ มาใชท้ ำาทอ่ ส่ง และร่วมกันสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย จากนั้นบันทึกผล
ความเย็นกนั น้อยเนือ่ งจากมรี าคาแพง เหมาะสาำ หรับงานทอี่ ย่ใู นบรเิ วณทมี่ ไี อนา้ำ มากใชท้ าำ ทอ่ ลมที่อยู่ ขอ้ สรุปเป็นความเขา้ ใจของกลมุ่ และรายบคุ คล
ภายนอกอาคาร งานกลางแจง้ ทถ่ี กู แดดถกู ฝนตลอดเวลา บรเิ วณทมี่ ไี อพษิ หรอื ควนั พษิ ทเ่ี ปน็ อนั ตราย
ต่อวสั ดุ ความรทู้ ่วั ไปเก่ียวกบั การระบายอากาศ 5
2.1.4 แผ่นอะลูมิเนียม (Aluminium Sheet) แผ่นอะลูมิเนียมเป็นโลหะอีกชนิดหนึ่ง
ท่ีมีการนำามาใช้ทำาท่อระบายอากาศเนื่องจากสามารถข้ึนรูปได้ง่าย ทนต่อการกัดกร่อน และใช้งานใน 2.2.2 ท่อพลาสติก (Plastic Duct) เป็นท่อท่ีผลิตจากพลาสติกจำาพวก Poly Vinyl
สภาพที่มีอุณหภูมิสูงได้ดี แผ่นอะลูมิเนียมท่ีใช้โดยมากจะมีส่วนผสมของทองแดงประมาณ 0.40% Chloride หรือ PVC เหมาะสำาหรับงานทั่ว ๆ ไป ที่มีอุณหภูมิไม่สูงมาก ใช้เป็นท่อระบาย
เพื่อช่วยให้มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนเพิ่มข้ึน การใช้งานจะมีลักษณะการใช้งานเช่นเดียวกับ ไอพิษ กรด หรืออากาศที่เป็นพิษต่อคนและสตั ว ์ โดยมากจะใช้ในหอ้ งปฏบิ ัติการทางเคมี
แผ่นเหล็กอาบสังกะสี โดยท่วั ไปจะใชใ้ นการทาำ ทอ่ ส่งลมรอ้ นเพื่อปรบั อากาศให้อนุ่ และทำาท่อส่งลมท่ี 2.2.3 ท่อไฟเบอร์กลาสส์ (Fiberglass Duct) เป็นท่อที่มีส่วนผสมของใยแก้ว
อยู่ภายนอกอาคาร สามารถอัดเป็นรูปท่อกลม ท่อส่ีเหลี่ยม หรืออัดเป็นแผ่นและนำามาประกอบกันเป็นท่อส่งความเย็น
2.1.5 แผ่นสแตนเลส (Stainless Steel Sheet) แผน่ สแตนเลสเป็นแผ่นโลหะท่ที นตอ่ มคี วามหนาแน่นสงู เปน็ ฉนวนตอ่ กระแสไฟฟ้า ไมต่ ดิ ไฟ ไมเ่ ปน็ สนมิ เหมาะสาำ หรบั ใช้ทำาทอ่ ส่งลมรอ้ น
การกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี ทนแดดทนฝน มีผิวเรียบ มีความเงามัน สวยงาม เหมาะสำาหรับใช้ทำา ใชร้ ะบายอากาศ ใชป้ รับสภาวะอากาศท้งั อณุ หภูมิเย็นและรอ้ น
ทอ่ ส่งลมทีอ่ ย่ภู ายนอกอาคารทไี่ ม่ตอ้ งการทำาส ี สามารถใชง้ านในบรเิ วณทีม่ ไี อนำ้ามาก ความช้นื สูง เชน่ การเลือกใชว้ ัสดุประเภทใดมาทาำ ท่อสง่ ความเย็นน้นั จะตอ้ งพจิ ารณาองค์ประกอบต่าง ๆ
ในห้องครัว ห้องทดลอง (Lab) ใชร้ ะบายอากาศท่เี ปน็ พิษ และกัดกร่อนโลหะชนดิ อ่นื ซง่ึ โลหะเหล่านนั้ เช่น อุณหภูมิของอากาศ ความคงทนต่อการกัดกร่อนของวัสดุ ราคา ความแข็งแรง และ
ไม่สามารถทนการกัดกรอ่ นได้ ความสวยงาม เป็นต้น

2.2 ประเภทอโลหะ 3. ส่วนต่าง ๆ ของขอ้ ตอ่ และทอ่ ส่งลม

เป็นวัสดุอีกประเภทหนึ่งท่ีนิยมนำามาใช้ทำาท่อส่งความเย็น เนื่องจากมีความทนทาน กอ่ นทจี่ ะศกึ ษาวธิ กี ารสรา้ งแบบและประกอบทอ่ ลมจะตอ้ งรจู้ กั ชอ่ื ของสว่ นตา่ ง ๆ ของทอ่ สง่ ลม
พอสมควร และสามารถต้านทานต่อการกัดกรอ่ นไดด้ ี อโลหะที่ใช้มดี ังน้ี เพ่อื ท่ีจะเขียนแบบ สร้างแบบ และส่ังงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ซ่ึงมชี นิ้ สว่ นตา่ ง ๆ ดังต่อไปนี้
2.2.1 ท่อแอสเบสทอส (Asbestos Duct) เป็นท่อที่ทำาจากใยหินผสมกับซีเมนต์และ
สารอ่ืน ๆ หลอ่ เปน็ รปู ทรงกระบอก การใช้งานจะใช้ในบางโอกาสและบางสถานที่ ใชเ้ ปน็ ทอ่ สง่ ลมรอ้ น
ระบายอากาศเสีย ปล่อยไอพิษหรือใช้เป็นท่อระบายอากาศซ่ึงไม่ต้องการให้ความชื้นกระจายออก
สู่ภายนอก

ข้องอสเี่ หลีย่ ม

ขอ้ งอกลม

ภาพท่ ี 1.1 ส่วนตา่ ง ๆ ของท่อกลมและทอ่ เหล่ยี ม

29 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

6 งานระบบท่อส่งความเยน็ ep 3
สงวน ิลข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บ ิรษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด wldedge St
4. ตะเข็บ conAstru ข้ันปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้
หลงั การปฏบิ ัติ
4.1 ตะเข็บตา่ ง ๆ ทีใ่ ช้ในงานท่อสง่ ลม ctpipnlgyitnhge aknno

ในการขน้ึ รปู โลหะแผน่ ใหเ้ ปน็ ทอ่ หรอื การประกอบทอ่ เพอ่ื ตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั จะตอ้ งตอ่ กนั ดว้ ย 1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปล่ียนเรียนรู้
ตะเข็บ ซง่ึ มีลกั ษณะการตอ่ ตา่ ง ๆ ดังนี้
ร่วมกันในชั้นเรียนมาวิเคราะห์ โดยการทำ�กิจกรรมตรวจสอบ
ภาพท ่ี 1.2 ลกั ษณะของตะเขบ็ ต่าง ๆ ท่ใี ช้ในงานท่อระบายอากาศ
ความเข้าใจ (หนังสอื เรียน หนา้ 20)
4.1.1 ตะเขบ็ เกยี่ วรปู ตวั ซ ี (Drive Clip) เปน็ ตะเขบ็ ทนี่ ยิ มใชใ้ นทอ่ สง่ ลมทเ่ี ปน็ ทอ่ สเ่ี หลย่ี ม
มีขนาดไมก่ ว้างมากนัก คอื ไมเ่ กิน 1 นิ้ว (25.4 มม.) 2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเกี่ยวกับความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับ
4.1.2 ตะเขบ็ เกย่ี วรปู ตวั เอส (Slip S - Clip) จะใชท้ าำ ตะเขบ็ ลกั ษณะนค้ี ไู่ ปกบั ตะเขบ็ เกยี่ ว
รปู ตัวซี ใช้กับงานทีม่ ขี นาดไมก่ ว้างนกั เชน่ กนั การระบายอากาศ จากน้ันทำ�กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้

(หนังสือเรียน หน้า 21) และทำ�สรุปผลการทำ�กิจกรรม

(หนังสือเรียน หนา้ 22)

กปรีกะหเปนา๋้า ((PFolacnkgeet:: AA == 2WW- +41 )41) ความรูท้ ัว่ ไปเก่ียวกับการระบายอากาศ 7
4.1.3 ตะเข็บพิตสเ์ บริ ก์ (Pittsburgh Lock) นยิ มใช้กับท่อส่งลมแบบสเี่ หลีย่ ม
Pocket หมายถงึ กระเป๋า
Flange หมายถงึ ปกี , หน้าแปลน

ภาพที ่ 1.3 ตะเข็บกระเป๋าและปีกหนา้

ภาพท ่ี 1.4 ตะเขบ็ พติ ส์เบริ ก์

4.1.4 ตะเขบ็ เกี่ยวต่อมมุ (Government Clip) เปน็ ตะเข็บซึง่ ใชต้ ่อท่อทางเดินอากาศ
ทีเ่ ปน็ ท่อสเ่ี หล่ยี มในแนวดงิ่ ตะเข็บจะช่วยเกย่ี วและรองรับทอ่ ทอ่ี ยดู่ า้ นบนไดเ้ ปน็ อย่างดี

4.2 ตะเขบ็ งาน (Seam)

ตะเขบ็ ในงานผลติ ภณั ฑโ์ ลหะแผน่ มปี ระโยชนใ์ นการเกยี่ วยดึ เพอ่ื ประกอบเปน็ รปู รา่ งและ
ใช้ต่อแผ่นโลหะให้มีขนาดกว้างหรือยาวข้ึน ตะเข็บงานมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีความแข็งแรงและ
ลักษณะแตกต่างกันไป ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานผลิตภัณฑ์โลหะแผ่นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับรูปร่าง
ความแข็งแรงและลักษณะการใช้งานของผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ตะเข็บในงานโลหะแผ่นมีหลายแบบ
แต่ละแบบมลี ักษณะดงั น้ี
4.2.1 ตะเข็บเกย (Lap Seam) เป็นตะเข็บที่สามารถกระทำาได้ง่ายกว่าตะเข็บอื่น
นยิ มนำามาใชใ้ นงานโลหะแผน่ และงานอ่ืน ๆ ทัว่ ไป ซ่ึงการออกแบบตะเขบ็ ชนิดน้ไี ม่สามารถต่อยึดกัน
ได้ด้วยตัวเอง จำาเป็นต้องนำาไปบัดกรีอ่อน (Soldering) ยำ้าหมุด (Riveting) หรือเช่ือมจุด (Spot
Welding) อกี ครง้ั หน่งึ ดงั แสดงในภาพท ี่ 1.5

A = W
ระยะเผอื่ (A = Allowance)
ความกว้าง (W = Wide)

ภาพที ่ 1.5 แสดงลกั ษณะของตะเขบ็ เกย

สุดยอดคู่มือครู 30

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

8 งานระบบท่อส่งความเยน็ ep 4
สงวน ิลข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด kille St
4.2.2 ตะเข็บเกย่ี ว (Plain Flat Seam) ขอบงานท้งั สองข้างมีลกั ษณะงอ นำามาเกยี่ วกนั mmpupnlyicinagtiotnh s ขัน้ สอื่ สารและนำ� เสนอ
ในลักษณะแบนราบ ตะเข็บชนิดน้ีสามารถถอดออกได้ง่าย มีลักษณะและการเผื่อ ดังแสดงใน
1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีนำ�เสนอให้ผู้อ่ืนรับรู้และAco
ภาพท ่ี 1.6 สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม
ชน้ิ ส่วน A = W บรู ณาการการใชส้ อ่ื /เทคโนโลย/ี คำ�ศพั ทเ์ พมิ่ เตมิ /สงิ่ ทนี่ า่ สนใจ
ชน้ิ ส่วน B = 2W แทรกในการรายงาน

ภาพที่ 1.6 ลกั ษณะของตะเข็บเกย่ี ว 2. สุ่มกลุ่มผู้เรียนนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ โดย
ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการนำ�เสนอตามเกณฑ์
4.2.3 ตะเขบ็ ลอ็ ก (Groove Seam) เป็นตะเข็บทท่ี ำาต่อเน่ืองมาจากตะเขบ็ เกี่ยว นิยมใช้ ท่ีกำ�หนด
ในงานผลติ ภณั ฑ์โลหะแผน่ โดยตะเขบ็ จะล็อกและยึดดว้ ยตวั ของมันเอง ไมส่ ามารถหลุดหรือแยกตัว
ออกมาได้ ใช้ในการต่อยึดแผ่นโลหะสองช้ินเข้าด้วยกันเพ่ือเพิ่มความยาว ใช้ประกอบยึดผลิตภัณฑ์
เช่น กรวย กระป๋องและถงั นำา้ เปน็ ตน้ ดงั แสดงในภาพท ี่ 1.7

ชนิ้ ส่วน A = W
ชนิ้ สว่ น B = 2W

หรอื ใชส้ ูตรในการเผอ่ื
= 32W
ระยะเผอ่ื ดา้ นละ


ภาพที่ 1.7 ลักษณะของตะเข็บลอ็ ก

4.2.4 ตะเข็บชัน้ เดียว (Single Seam) ตะเขบ็ ชนิดนจ้ี ะประกอบกันในลกั ษณะตัง้ ฉาก
ซงึ่ จะพบั ตะเข็บเพียงช้ันเดียว ดังแสดงในภาพที่ 1.8

A = W
B = 2W

ภาพท ่ี 1.8 ลกั ษณะของตะเขบ็ ช้ันเดียว ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกับการระบายอากาศ 9
4.2.5 ตะเขบ็ สองชน้ั (Double Seam) เปน็ ตะเขบ็ ทด่ี าำ เนนิ การตอ่ จากการทาำ ตะเขบ็ ชน้ั เดยี ว
สามารถทำาไดท้ ัง้ ผลิตภณั ฑ์ชนิดเหลย่ี มและกลม ดังแสดงในภาพท่ี 1.9

A = W
B = 2W

ภาพที่ 1.9 ลกั ษณะของตะเข็บสองชน้ั

4.2.6 ตะเขบ็ ตงั้ (Standing Seam) เปน็ ตะเขบ็ อกี ชนดิ หนง่ึ ทใ่ี ชใ้ นงานโลหะแผน่ ตะเขบ็
มีลักษณะตง้ั สามารถประกอบยึดช้ินงานในแนวราบและแนวด่งิ ไดด้ ี เชน่ ใชต้ อ่ ท่อโค้งได้ด ี ดงั แสดงใน
ภาพที ่ 1.10

A = W
B = 2W + T
ความหนา T = (Thickness)

ภาพที่ 1.10 ลักษณะของตะเขบ็ ตงั้

5. ระบบทอ่ ส่งความเย็น

5.1 ท่อสง่ ความเยน็

ท่อส่งความเย็นมีหน้าท่ีในการส่งลมที่มีแรงดันตำ่า หรือสูงเพ่ือส่งแรงดันลมไปยัง
บา้ นพกั อาศยั หรอื ในโรงงานอุตสาหกรรม ท่อสง่ ความเย็นแบ่งออกเป็น 2 ชนดิ ดังนี้
5.1.1 ท่อส่ีเหลี่ยม ใช้เป็นท่อส่งลมท่ีมีแรงดันลมตำ่า โดยท่ัวไปนำาไปใช้ส่งลมภายใน
บ้านพกั อาศยั
ข้อดขี องท่อสีเ่ หล่ียม คือ
(1) ออกแบบง่าย
(2) เขา้ ตะเข็บง่าย

31 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

10 งานระบบทอ่ สง่ ความเย็น สงวน ิลข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด ting StSelep 5ขัน้ ประเมนิ เพอ่ื เพ่มิ คณุ ค่า
บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
(3) การทำางานหรอื การตดิ ต้ังทาำ ไดง้ า่ ย f-Regula
(4) การเดินหลบมุมตามคาน หรอื ผนงั มองดแู ล้วสวยงามดี
(5) มีนาำ้ หนักเบาและประหยดั 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ
5.1.2 ท่อกลม ใชเ้ ป็นทอ่ ดดู ลมและสง่ ลมทมี่ ีกาำ ลงั และความเรว็ สงู โดยมากใช้ในโรงงาน ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน
อตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ ปรับปรุงช้ินงานของกลุ่มตนเองให้สมบูรณ์และบันทึก
ขอ้ ดีของท่อกลม คือ เพม่ิ เติม
(1) เปน็ ท่อขนาดเล็ก
(2) ประหยัดพนื้ ท่ี 2. นำ�ผลงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่สู่ห้องเรียนอ่ืนหรือ
(3) มีความแขง็ แรงดมี าก สาธารณะ
ขอ้ เสยี ของทอ่ กลม คือ
(1) ออกแบบยาก 3. ผู้เรียนแต่ละคนท�ำ ใบงาน (หนังสือเรียน หน้า 23 - 26) สรุป
(2) การทำางานยาก คะแนนในแบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน หน้า 29)
(3) ไมป่ ระหยัด และก�ำ หนดแนวทางการพัฒนาตนเอง

5.2 ความเร็วลม

สาำ หรบั การจดั การส่งลมไปใหไ้ ด้ตามความต้องการนัน้ มอี งค์ประกอบ คือ ความเร็วและ
แรงดันของลมท่ีจะนำามาใช้ในท่อ ความเร็วลมกำาหนดเป็นฟุตต่อนาที (foot per minute: fpm)
ความเรว็ ลมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังน้ี
5.2.1 ความเร็วลมตาำ่ (Low Velocity) เปน็ ความเรว็ ลมท่นี ิยมนำาไปใชก้ บั บริเวณท่เี ป็น
ที่อยอู่ าศยั จะมคี วามเรว็ ลมต้งั แต่ 0 ถึง 2,500 fpm โดยแยกออกเปน็ 2 ประเภท คอื
1) ความเรว็ ลมทใี่ ชก้ บั ทอ่ี ยู่อาศยั โดยทวั่ ไปจะใช้ความเร็วลมอย่รู ะหวา่ ง 1,200
ถงึ 2,200 fpm
2) ความเรว็ ลมทใ่ี ชใ้ นโรงงานอตุ สาหกรรม โดยทวั่ ไปจะใชค้ วามเรว็ ลมอยรู่ ะหวา่ ง
2,200 ถึง 2,500 fpm
5.2.2 ความเรว็ ลมสงู (High Velocity) เปน็ ความเรว็ ลมทใ่ี ชใ้ นโรงงานอตุ สาหกรรม เชน่
ทอ่ เปา่ ลมรอ้ นของเตาหลอมเหลก็ เครอื่ งดดู ฝนุ่ ของเครอ่ื งเจยี ระไน โดยมคี วามเรว็ มากกวา่ 2,500 fpm
โดยทั่วไปในการเดินท่อส่งความเย็น (Duct) มักจะใช้กับความเร็วลมตำ่า เว้นเสียแต่
ในบริเวณที่มีปัญหาเก่ียวกับสถานที่ จึงจะใช้ท่อท่ีมีความเร็วลมสูง ซึ่งมีข้อดี คือท่อมีขนาดเล็ก
แตข่ ้อเสยี คือมเี สียงดังน่ารำาคาญ และเสียค่าใช้จ่ายสูง

ความรทู้ ว่ั ไปเก่ียวกับการระบายอากาศ 11

6. การออกแบบทอ่ สง่ ความเยน็

ส่วนประกอบต่าง ๆ ในระบบท่อส่งความเย็นมีความสำาคัญด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากส่วนใดจะ
สำาคัญมากน้อยกว่ากันเท่าใด นักวิชาการจึงได้จัดการประชุมจัดอันดับความสำาคัญของส่วนประกอบ
ของระบบทอ่ สง่ ความเย็นไวด้ ังน้ี

6.1 ปากทอ่ (Hood)

ปากท่อเป็นส่วนประกอบท่ีสำาคัญที่สุดของระบบท่อส่งความเย็น เพราะเป็นจุดแรกของ
ระบบท่อส่งความเย็นท่ีจะรับฝุ่นละออง หรือไอระเหยต่าง ๆ ถ้าออกแบบไม่เหมาะสมก็นับว่า
ระบบระบายทั้งระบบไม่สามารถจับมลภาวะได้เลย หรืออาจกล่าวได้ว่าระบบทำางานท้ังระบบทำางาน
ไม่ได้ผล

6.2 พดั ลม (Fan)

พดั ลมมคี วามสาำ คญั รองลงมาจากปากทอ่ (Hood) แตส่ าำ คญั กวา่ ทอ่ ลม พดั ลมเปน็ อปุ กรณ์
ที่ทาำ หน้าทดี่ ดู อากาศใหเ้ ข้าปากทอ่ (Hood) ถ้าพดั ลมไม่ไดข้ นาดท่ีเพยี งพอ อากาศท่ีไหลเข้าระบบทอ่
ก็จะช้า การออกแบบที่พัดลมทำางานไม่มีประสิทธิภาพก็เท่ากับว่า การออกแบบคร้ังนี้ไม่ประสบ-
ความสำาเร็จ ซ่ึงอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ขนาดท่อ ข้องอต่าง ๆ และอ่ืน ๆ ความเร็วลมในท่อ
แต่ละจุดไม่เท่ากันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง แต่อาจแก้ไขได้โดยการเพิ่มความเร็วพัดลม ก็สามารถเพ่ิม
ประสทิ ธิภาพในการดดู อากาศไดม้ ากข้นึ ตามกฎของพัดลมปรมิ าตรจะเปลย่ี นแปลงตามความเร็วลม

6.3 ท่อลม (Duct)
ท่อลมเป็นอุปกรณ์ท่ีสำาคัญอันดับสาม ขนาดท่อและชนิดของท่อโค้ง (Elbows) ซ่ึงมี

ผลความต้านทานลมในท่อ Multiple Hood หรือระบบท่อระบายหลายท่อ ก็มีความต้านทาน
เหมือนกัน แต่ในการออกแบบส่วนใหญ่มักมีหลายท่อเสมอ ฉะน้ันควรจะเลือกขนาดท่อแต่ละอัน
ไม่เทา่ กัน เพื่อความสมดุลความดันในระบบ

7. กรรมวธิ ีการออกแบบทอ่ ลม

กรรมวิธีการออกแบบท่อลมจะต้องคำานวณความดันสูญเสียแต่ละส่วนของระบบเพื่อต้องการ
ทราบขนาดของพดั ลมทถ่ี กู ตอ้ ง เนอ่ื งจากความดนั สญู เสยี แตล่ ะจดุ ของระบบเปน็ ปจั จยั ทที่ ำาใหพ้ ดั ลม
ทาำ งานหนกั ขนึ้ ความดนั สญู เสยี ในระบบขนึ้ อยกู่ บั พนื้ ทขี่ องอากาศทไ่ี หลผา่ นทอ่ (พน้ื ทห่ี นา้ ตดั ของทอ่ )
และส่วนประกอบอ่ืน ๆ ความเร็วลมในท่อข้ึนอยู่กับขนาดของท่อลม ความหยาบละเอียดของผิวท่อ
การเลอื กขนาดทอ่ ลมให้ถูกต้องควรคำานึงถึงสงิ่ ตอ่ ไปน้ี

7.1 ขนาดของทอ่

ถ้าท่อขนาดเล็กค่าใช้จ่ายในการสร้าง และการติดตั้งก็ตำ่ากว่าท่อขนาดใหญ่ แต่ท่อ
ขนาดเล็กทำาให้ลมไหลด้วยความเร็วสูง และค่าความสูญเสียเพิ่มมากข้ึน เน่ืองจากท่อขนาดเล็กมี
ความต้านทานสูง ดงั น้นั จงึ จำาเปน็ ตอ้ งใชพ้ ัดลมขนาดใหญ่

สุดยอดคู่มือครู 32

Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

12 งานระบบท่อส่งความเยน็ บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21

7.2 รปู แบบของทอ่ • การทำ�งานเป็นทีม ทีมละ 5 - 6 คน ฝึกการคิดวิเคราะห์
การแก้ปญั หา
ในกรณีท่ีออกแบบเป็น Multiple Hood หรอื ระบบท่อระบายหลายท่อ กค็ วรจะใชท้ อ่ กบั • การค้นควา้ หาขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อมูลที่มีคณุ ภาพน่าเช่ือถอื
ปากทอ่ (Hood) แต่ละตัวโดยใช้คา่ ความดนั สญู เสียเป็นหลัก • การใชส้ ่ือ/เทคโนโลย/ี สง่ิ ทนี่ ่าสนใจอ่ืน ๆ

7.3 การดกั จับฝุน่ ละออง

ในการดักจับฝุ่น ไอเสียหรือวัสดุต่าง ๆ น้ันต้องจำากัดความเร็วลมในท่อ ซึ่งแล้วแต่ชนิด
ของฝนุ่ และไอเสีย ดงั ตารางที่ 1.1

ตารางท ี่ 1.1 ความเรว็ ลมตา่ำ สุดในท่อสาำ หรบั สารปนเปอื้ นลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ลกั ษณะของสารปนเปื้อน ตัวอย่าง ความเร็วลม
(เมตร/วินาท)ี

ไอระเหย ก๊าซ ควัน ไอระเหย ก๊าซ ควนั ทกุ ชนดิ 5 - 10

ฟมู ฟูมโลหะจากการเชอ่ื ม 10 - 13

ฝุ่นทีม่ ีขนาดเล็กมาก ๆ เส้นใยฝ้ายขนาดเลก็ ฝุ่นละเอยี ดจากไม้ 12 - 15

ฝุ่นและผงแหง้ ฝนุ่ ยางละเอยี ด ฝุน่ ผงจากปอ ฝ่นุ ฝ้าย 15 - 20

ฝนุ่ จากอตุ สาหกรรมโดยเฉลีย่ ฝุน่ จากการเจยี ระไน ฝุ่นจากการขัด 18 - 20
ฝุ่นจากเสน้ ใยปอ ผงกาแฟ ฝ่นุ แกรนิต
ผงซิลิกา ฝนุ่ จากการเคลื่อนย้ายสง่ิ ของ
ฝนุ่ จากการตัดอิฐ ฝุ่นหนิ ปูน
อนภุ าคจากการหล่อโลหะ

ฝุ่นหนกั ฝนุ่ จากการเลอ่ื ยไม ้ ฝนุ่ ทรายจากการขดั โลหะ 20 - 23
ฝุ่นตะกว่ั ฝ่นุ จากการทาำ เกลียวโลหะหรอื
ทองเหลอื ง ฝนุ่ จากการเจาะเหล็กหล่อ

ฝุ่นหนกั และช้นื ฝนุ่ โลหะขนาดใหญจ่ ากการขัดโลหะ > 23
ฝนุ่ ซเี มนตท์ มี่ คี วามชน้ื แอสเบสทอสทเ่ี กาะกนั
เป็นก้อน ฝุ่นปูนขาว ผงวัสดุท่ีมีความเหนียว ความรทู้ ั่วไปเกยี่ วกับการระบายอากาศ 13
ซึ่งเกดิ จากการขัด

(ท่มี า: http://www.engineeringtoolbox.com/ventilation-systems-t_37.html, 2550.) 7.4 สิง่ ทจ่ี ำาเป็นสำาหรับการออกแบบท่อ

ดงั นั้นการกาำ หนดขนาดท่อจะต้องคำานวณหาค่าความเรว็ ลมเปน็ หลกั การออกแบบท่อท้ังแบบความเร็วลมสูงและแบบความเร็วลมต่ำาในการออกแบบจำาเป็น
ตอ้ งทราบสง่ิ เหลา่ น้ี
1) แผนภูมิความเสยี ดทาน (Friction Chart)
2) ปริมาตรอากาศไหล (Air Quantity)
3) ขนาดทอ่ (Duct Diameter)
4) ความเร็วลม (Air Velocity)
5) อัตราความเสียดทาน (Friction Rate)
6) ความดันความเรว็ (Velocity Pressure)
7) ผลของการดัดทอ่ (Flexible Metal Conduct)

7.5 ความดันสูญเสีย

ในท่อซงึ่ เป็นทางผ่านของอากาศหรือของเหลวนั้นความดันจะลดลงเร่อื ย ๆ ตามความยาว
ของท่อในกรณีท่ีเป็นท่อโค้ง (Elbow) แม้จะระยะส้ัน ๆ ความดันก็จะลดลงมากกว่าท่อตรงที่มี
ความยาวเท่ากัน ความดันท่ีลดลงน้ีเรียกว่า “ความดันสูญเสีย” (Pressure Loss) เน่ืองมาจาก
ความเสยี ดทาน (Friction Loss) การสญู เสยี ความดนั น้ีขึน้ อย่กู ับ
1) ความเรว็ ลม
2) ขนาดท่อ
3) ความหยาบและความละเอยี ดของผิวท่อภายใน
4) ความยาวท่อ

ภาพท ี่ 1.11 แผนภูมคิ วามเสียดทานสำาหรับท่อกลม แผนภูมิความความเสยี ดทาน หรือความดัน-
(ทม่ี า: http://www.engineeringtoolbox.com/ สูญเสียของท่อชุบสังกะสีต่อความยาว 100 ฟุต
ใชก้ บั อากาศอณุ หภมู ไิ มเ่ กนิ 70º F (23º C) ความดนั -
ventilation-systems-t_37.html, 2550.) อากาศ 29.92 น้ิวของปรอทใช้ได้ดีเฉพาะระบบ
ระบายและปรับอากาศท่ีมีอุณหภูมิ 30º - 120º F
ท่ีมีความสูงไม่เกิน 2000 ฟุต จากระดับน้ำาทะเล
เมื่อทราบปริมาตรอากาศท่ีจะระบายแล้ว ก็ต้องหา
ขนาดท่อที่เหมาะสมกับปริมาตรอากาศซึ่งหาได้จาก
แผนภูม ิ ในภาพที่ 1.11 หรือจากสตู ร Q = AV
Q = อตั ราการไหลของอากาศ (ลกู บาศกฟ์ ตุ /นาท)ี
A = พ้ืนท่ีหน้าตัดของจุดที่อากาศเคลื่อนท่ีผ่าน
(ตารางฟตุ )
V = ความเรว็ ลม (ฟตุ /นาท)ี

33 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

14 งานระบบท่อส่งความเยน็ asean การเรียนรู้สู่อาเซียน

ตัวอย่างท ี่ 1.1 ระบบระบายควนั ชุดหนงึ่ คาำ นวณปรมิ าตรอากาศทจ่ี ะระบายได้ การเรียนรู้คำ�ศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทเรียนเพ่ิมเติม
3000 ลกู บาศก์ฟตุ /นาที มีความเรว็ ลม 1600 ฟตุ /นาที โดยฝึกใช้คำ�ศพั ทด์ งั กล่าวในการนำ�เสนอในขน้ั ท่ี 4
จงหาขนาดของท่อลม

วิธีทาำ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด 1. ใชส้ ตู ร Q = AV
∴ หาคา่ A = QV
Q = 3000 ft3

V = 1600 ftm
แทนคา่ สตู ร A = 31600000 = 1.875 ft2
ทำาตารางฟุตให้เปน็ ตารางนิว้ = 1.875 Ö 144

∴ A = 270 นิ้ว2
สตู รการหาพืน้ ท่ีหนา้ ตัดของวงกลม A =  4D 2


D = เส้นผา่ นศนู ย์กลางของท่อ
DD22 == A32.17 Ö40 4 Ö 4


แทนคา่

D2 = 85.987 Ö 4

D2 = 343.948

D = √ 343.948

∴ เส้นผา่ ศนู ย์กลางของท่อ D = 18.545 นวิ้

2. ใช้แผนภูมิความเสยี ดทาน โยงเสน้ ปรมิ าตรที ่ 3000 ลูกบาศก์ฟุต ตัดกบั เส้น

ความเรว็ ลมท ่ี 1600 ฟตุ /นาที กจ็ ะได้ขนาดทอ่ ประมาณ 18.54 น้ิว จากภาพท่ ี 1.11 ขนาดของท่อ

ยงั ใช้คาำ นวณหาความเร็วลม และปริมาตรอากาศไหลในแต่ละท่อได้

ความรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกับการระบายอากาศ 15

ตารางที่ 1.2 พน้ื ท่หี น้าตดั และขนาดท่อ

ท่อขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลาง พืน้ ท่ี
(น้วิ ) (มม.) (ฟุต2) (เมตร2)
8 203 0.3491 0.032
10 254 0.5454 0.051
12 305 0.7854 0.073
14 356 1.069 0.099
16 406 1.396 0.130
18 457 1.767 0.290
20 508 2.182 0.203
22 559 2.640 0.245
24 609 3.142 0.292
26 660 3.687 0.342
28 711 4.276 0.397
30 762 4.900 0.455
32 813 5.585 0.519
34 864 6.305 0.586
36 914 7.069 0.657

(ทมี่ า: http://www.engineeringtoolbox.com/ventilation-systems-t_37.html, 2550.)

สุดยอดคู่มือครู 34

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

16 งานระบบท่อส่งความเยน็ ค่านิยมหลัก 12 ประการ

ตวั อย่างท่ ี 1.2 จงหาความเรว็ ลมในทอ่ โต 8 นว้ิ ซง่ึ ตอ้ งการใหอ้ ากาศไหล 1200 ลกู บาศกฟ์ ตุ • มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ นื่ เผอื่ แผแ่ ละแบง่ ปนั
• ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเลา่ เรยี นท้ังทางตรงและทางอ้อม
ต่อนาที • มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ� รู้ปฏิบัติตามพระราชดำ�รัสของพระบาท-

วธิ ีทำา จากตารางที ่ 1.2 ทอ่ โต 8 นว้ิ มพี นื้ ที ่ 0.3491 ฟตุ 2 สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั
• รู้จักดำ�รงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
จากสตู ร Q = VA
ตามพระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จัก
อดออมไวใ้ ชเ้ มอื่ ยามจ�ำ เปน็ มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย
จำ�หนา่ ย และพรอ้ มทีจ่ ะขยายกจิ การเมื่อมีความพร้อม เม่อื มี
ภูมคิ ุ้มกันที่ดี
Q = ปรมิ าตรอากาศไหล (ลูกบาศกฟ์ ตุ /นาที)สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด

V = ความเร็วลม (ฟตุ /นาท)ี

A = พน้ื ท่ีหนา้ ตดั ทอ่ (ตารางฟตุ )
AQ0.13240901
∴ หาความเรว็ ลม V =
แทนคา่ V =

∴ V = 3437 ฟุตตอ่ นาที

ความเร็วลม ในภาพท ่ี 1.11 แผนภูมิความเสียดทานสำาหรับทอ่ ลมได้บอกความเร็วลมไว้
ใชไ้ ดเ้ ฉพาะความเรว็ ลมตา่ำ เทา่ นนั้ สาำ หรบั ทอ่ ทม่ี คี วามเรว็ ลมสงู คอื ความเรว็ ลม 2500 ฟตุ /นาทขี น้ึ ไป
หรือสูงกว่าน้ีจะทำาให้เครื่องเกิดเสียงดังและค่าใช้จ่ายสูงเกินความจำาเป็น การใช้ความเร็วลมสูง
ทำาให้ขนาดท่อเล็กลง นั่นคือค่าใช้จ่ายในการซ้ือท่อลดลง แต่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สูงขึ้น เช่น ค่าพัดลม
กลุ่มสูงขึ้น หรือพัดลมท่ีมีความดันสูงน่ันเอง เพื่อจะชนะความต้านทานสูงภายในท่อได้ ถ้าใช้
ความเร็วลมต่ำาท่อขนาดโตขึ้นระบายปริมาตรอากาศได้มาก ค่าความเสียดทานก็น้อย พัดลมก็ใช้
ขนาดเล็กลงเพราะใช้พัดลมในกลุม่ ตาำ่
พพพัดัดดั ลลลมมมกกกลลลุ่มมุ่่มุ ททท ่ี ี่ี ่ 231 มมมคีีคคี วววาาามมมดดดนันัันปสไมูงา่เน ก กนิ ล าง 336433434
นิว้ ของนำา้
6124314 นนิว้้วิ ขขอองงนน้ำาำ้า
ถึง
ถงึ

อตั ราความเสยี ดทาน ทใี่ หไ้ วใ้ นแผนภมู หิ รอื ในภาพท ่ี 1.11 แผนภมู คิ วามเสยี ดทานสาำ หรบั
ท่อลมเป็นความต้านทานต่อท่อความยาว 100 ฟุต (มีหน่วยเป็นนิ้วของน้ำาต่อ 100 ฟุต) กรณีท่ีมี
ทอ่ โคง้ หรือขอ้ ต่ออ่นื ๆ ต้องเทียบเป็นท่อตรง

ความดันความเรว็ หมายถึง ความดนั ของอากาศ ณ ความเรว็ หน่งึ เปน็ ความดนั ทวี่ ดั ได้
จากอากาศมาตรฐาน ที่มีความดันบรรยากาศ 29.92 นิ้วของปรอท ณ อณุ หภูม ิ 70 º F หรอื คาำ นวณ
ไดจ้ ากสูตร
VP = (40V05)2 นิว้ ของน้าำ ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั การระบายอากาศ 17
VP = ความดันความเร็ว (Velocity Pressure)

V = ความเรว็ ลม (Air Velocity) ตวั อย่างท ่ี 1.3 ความเรว็ ของอากาศในทอ่ 8 นว้ิ มีความเรว็ ลม 3437 ฟุต/นาที

จากตวั อยา่ งที ่ 1.2 ยังสามารถหาคา่ ความดันความเรว็ ไดอ้ ีก จงหาความดันความเรว็ ของท่อ

ทักษะชีวิต วิธีทาำ สูตร ความดนั ความเรว็ VP = (40V05)2
แทนค่า VP = (43040357)2
• ศึกษาแนวทางหรือวิธีการนำ�ความรู้ไปประยุกต์ในชีวิต ∴ ความดนั ความเรว็ VP = 0.736 นิ้วของน้ำา
ประจ�ำ วันและการประกอบอาชพี
• การศกึ ษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆเชน่ อนิ เทอรเ์ นต็
หนังสือ วารสาร ผลของการดัดท่อ ในระบบท่อส่งความเย็นนั้นจำาเป็นที่จะต้องมีการดัดโค้งท่อ
เสมอ เนือ่ งจากจะต้องหลบเสาหลบคาน หรือกรณีท่อแยก ผลของการดดั ทอ่ นี้ทำาให้ความเสยี ดทาน
เพิ่มขึน้

ตารางท่ี 1.3 แสดงค่าความดันความเรว็ (Velocity Pressures as a Function of Velocity)

ความเร็ว ความดันความเร็ว ความเรว็ ความดนั ความเร็ว
(ฟุต/นาท)ี (น้ิวของน้าำ ) (ฟุต/นาที) (น้ิวของนำ้า)

400 0.010 2100 0.275
500 0.016 2200 0.301
600 0.022 2300 0.329
700 0.031 2400 0.359
800 0.040 2500 0.389
900 0.051 2600 0.421
1000 0.062 2700 0.454
1100 0.075 2800 0.489
1200 0.090 2900 0.524
1300 0.105 3000 0.561
1400 0.122 3100 0.599
1500 0.140 3200 0.638
1600 0.160 3300 0.678
1700 0.180 3400 0.720
1800 0.202 3500 0.764
1900 0.225 3600 0.808
2000 0.249 3700 0.853

35 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

18 งานระบบทอ่ ส่งความเยน็ กิจกรรมท้าทาย

7.6 แรงเสียดทาน (Friction) • การหาขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ จากแหล่งเรียนรอู้ ่นื ๆ
• พดู คยุ กบั เพอ่ื นเกยี่ วกบั ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ
แรงเสียดทาน คือแรงที่ต้านการเคล่ือนที่เชิงสัมพัทธ์ หรือแนวโน้มของการเคล่ือนที่ แล้วรว่ มกนั วิเคราะห์
ดังกล่าวของพ้ืนผิวสองอย่างที่สัมผัสกัน มักจะเกิดตรงข้ามกับแรงท่ีทำาให้วัตถุเคล่ือนที่เสมอ
แรงเสียดทานแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ
7.6.1 แรงเสยี ดทานสถิต (Static Friction) เป็นแรงเสียดทานซึ่งเกิดจากวัตถสุ องชนิด
มาสัมผัสกัน พบว่าแรงเสียดทานท่ีเกิดจะมีค่าไม่คงที่ จะมีปริมาณเท่ากับแรงท่ีมากระทำาและจะมี
คา่ สงู สดุ เมอ่ื วตั ถเุ ร่มิ เคลอื่ นท่ี
7.6.2 แรงเสียดทานจลน ์ (Kinetic Friction) เป็นแรงเสียดทานที่เกิดกับผิวของวัตถุ
ท้งั สองชนดิ ในขณะทวี่ ตั ถกุ าำ ลงั เคลอื่ นท่ี

7.7 ส่ิงท่คี วรร้ใู นการออกแบบ

1) เขียนภาพของระบบ การทาำ งานของเคร่อื งจักร ระบบปรับอากาศ
2) เขียนตารางการคำานวณซ่ึงแบ่งการคำานวณออกเป็นแต่ละปากท่อ (Hood) หรือท่อ
แต่ละตอน
3) ระบุความดนั สูญเสยี ของปากทอ่ (Hood) แตล่ ะตัว
4) เลอื กความเรว็ ลมตาำ่ สดุ ของทอ่ หรอื อาจจะใชค้ มู่ อื เลอื กความเรว็ ความดนั คา่ สญู เสยี
ความดันก็ได้
5) ในระบบมเี ครื่องกรองอากาศหรือไม่ ถา้ มีใหค้ าำ นวณหาคา่ ความดันสูญเสยี ของเคร่อื ง
กรองอากาศด้วย
6) นำาค่าความดันสูญเสียที่ได้จากการออกแบบไปคำานวณหาความดันสูญเสีย
ทแ่ี ท้จรงิ ในท่อ
7) การออกแบบทุกคร้ังต้องมีมาตรฐานเป็นหลักสำาคัญท่ีสุด เพื่อท่ีจะเลือกขนาด
ของทอ่ และพัดลมได้อย่างถกู ต้อง
8) เลอื กขนาดของทอ่ และพืน้ ท่หี นา้ ตดั ทอ่ ไดต้ ามตารางที่ 1.2
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ 19

ตารางท ี่ 1.4 แสดงคา่ เปรยี บเทียบขนาดของทอ่ สี่เหล่ียม

ความกวา้ ง ความสูง (มลิ ลิเมตร)

(มลิ ลเิ มตร) 100 150 200 250 300 400 500 600 800 1000 1200

200 1) 1) 2) 3) 3) 3) 3) 3) 3) 3) 3)

250 2) 2) 2) 2) 3) 3) 3) 3) 3) 3) 3)

300 1) 1) 1) 2) 2) 3) 3) 3) 3) 3) 3)

400 1) 1) 1) 2) 1) 2) 3) 3) 3) 3) 3)

500 3) 1) 1) 2) 1) 1) 2) 3) 3) 3) 3)

600 3) 1) 1) 2) 1) 1) 1) 2) 3) 3) 3)

800 3) 3) 1) 2) 1) 1) 1) 1) 2) 3) 3)

1000 3) 3) 3) 2) 1) 1) 1) 1) 1) 2) 3)

1200 3) 3) 3) 3) 1) 1) 1) 1) 1) 1) 2)

1400 3) 3) 3) 3) 3) 2) 2) 2) 2) 2) 2)

1600 3) 3) 3) 3) 3) 1) 1) 1) 1) 1) 1)

1800 3) 3) 3) 3) 3) 3) 2) 2) 2) 2) 2)

2000 3) 3) 3) 3) 3) 3) 3) 3) 1) 1) 1)

1) ทีต่ อ้ งการ
2) ที่ยอมรับได้
3) รว่ มกนั ไม่ได้

(ทมี่ า: http://www.engineeringtoolbox.com/ventilation-systems-t_37.html, 2550.)

สุดยอดคู่มือครู 36

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด20 งานระบบทอ่ ส่งความเยน็

กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ

คำาชแี้ จง กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจเป็นกิจกรรมฝกึ ทกั ษะเฉพาะด้านความร ู้ - ความจำา
เพ่อื ใช้ในการตรวจสอบความเข้าใจตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. จงอธบิ ายระบบตา่ ง ๆ ของการปรับสภาพอากาศโดยสังเขป
(แนวทางทางการตอบ (1) ระบบปรับอากาศ เป็นการปรับสภาพอุณหภูมิของบรรยากาศให้เพิ่มข้ึน
หรอื ลดลงตามตอ้ งการ (2) ระบบระบายอากาศ เปน็ การระบายอากาศ โดยการดดู เอาอากาศทบ่ี รสิ ทุ ธจ์ิ ากบรเิ วณ
หนง่ึ ไปยงั บริเวณหน่งึ เพ่ือใหอ้ ากาศในบริเวณท่ตี อ้ งการปรบั สภาพดขี น้ึ (3) ระบบดดู เปน็ การดดู เอาอากาศ
ทเี่ สียจากบรเิ วณหนึง่ ไปทงิ้ อกี บรเิ วณหน่งึ หรืออ่ืน ๆ ข้นึ อย่กู ับดลุ ยพนิ ิจของผูส้ อน
2. จงระบชุ นิดของแผ่นโลหะและอโลหะท่ใี ชท้ าำ ทอ่ ส่งความเยน็ ในสภาพต่าง ๆ โดยสงั เขป
(แนวทางการตอบ (1) ประเภทโลหะ ได้แก่ แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี, แผ่นเหล็ก, แผ่นทองแดง, แผ่น
อะลมู เิ นยี ม และแผน่ สแตนเลส (2) ประเภทอโลหะ ไดแ้ ก ่ ทอ่ แอสเบสทอส, ทอ่ พลาสตกิ และทอ่ ไฟเบอรก์ ลาสส ์
หรอื อืน่ ๆ ขน้ึ อยูก่ ับดุลยพินิจของผู้สอน)
3. จงอธิบายสว่ นต่าง ๆ ของทอ่ ส่งความเย็นโดยสังเขป
(แนวทางการตอบ ท่อส่งความเย็น ประกอบด้วย ปากท่อ (Hood) พัดลม (Fan) และท่อลม (Duct)
หรอื อ่นื ๆ ขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพนิ ิจของผูส้ อน)


4. จงระบวุ ธิ กี ารสังเกตตะเขบ็ ทใ่ี ช้ในงานท่อส่งความเย็น
(แนวทางการตอบ (1) ตะเข็บเกี่ยวรูปตัวซี นิยมใช้กับท่อสี่เหลี่ยม มีความกว้างไม่เกิน 1 น้ิว หรือ
25.4 มม. (2) ตะเขบ็ เกยี่ วรปู ตวั เอส ใชค้ กู่ บั ตะเขบ็ เกย่ี วรปู ตวั ซ ี มขี นาดไมก่ วา้ งมาก (3) ตะเขบ็ ฟติ สเ์ บริ ก์ นยิ มใช้
กับท่อส่ีเหลี่ยม (4) ตะเข็บเก่ียวต่อมุม ใช้ต่อท่อทางเดินอากาศที่เป็นส่ีเหล่ียมในแนวดิ่ง หรืออื่น ๆ
ขนึ้ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของผูส้ อน)
5. จงอธิบายวิธกี ารออกแบบระบบทอ่ ส่งความเย็นและท่อลม
(แนวทางการตอบ การออกแบบจะต้องคำานึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังน้ี ขนาดของท่อ, รูปแบบของท่อ, การดักจับ
ฝุ่นละออง ซึ่งจะต้องจำากัดความเร็วลมในท่อ, ส่ิงจำาเป็นสำาหรับการออกแบบท่อ เช่น ขนาดท่อ ปริมาตร
อากาศไหล ความเรว็ ลม เปน็ ตน้ , ความดนั สญู เสยี และแรงเสยี ดทาน หรอื อน่ื ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน)


37 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกิจกรรม ทักษะชีวิต
ที่ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือก
ปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดย ความรทู้ ัว่ ไปเกี่ยวกับการระบายอากาศ 21
ผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรมตามเกณฑ์
ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรมและสามารถนำ� กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้
ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนน
กบั ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคลอ้ งของเนอ้ื หา คาำ ชแี้ จง กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้าน
กบั จดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และ ตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรม
จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมได้ ท้ังในและนอกสถานทต่ี ามความเหมาะสมของผู้เรียนและส่งิ แวดล้อมของสถานศกึ ษา
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด1. ใหผ้ ้เู รยี นแบ่งกลมุ่ 4 กลมุ่ ร่วมกนั หาคาำ ตอบของคำาถามตอ่ ไปนี้
กลมุ่ ที่ 1
1. ระบบปรบั อากาศ (Air Condition System) หมายถงึ
2. ระบบระบายอากาศ (Ventilation System) หมายถึง
3. ระบบดูด (Exhaust System) หมายถึง
4. ระบบปรบั อากาศเหมาะสาำ หรบั นาำ ไปใชบ้ รเิ วณใด
5. ระบบระบายอากาศเหมาะสำาหรบั งานลกั ษณะใด นยิ มนาำ ไปใชใ้ นบรเิ วณใด
กลุ่มท่ี 2
1. ระบบดดู เหมาะสาำ หรบั งานลักษณะใด นยิ มนำาไปใช้ในสถานทใี่ ด
2. วสั ดทุ ่เี หมาะสำาหรบั ใชท้ ำาทอ่ สง่ ความเย็นมกี ่ปี ระเภท อะไรบ้าง
3. แผน่ โลหะชนดิ ใดนยิ มนาำ มาใชท้ ำาตวั ทอ่ ส่งความเย็นมากที่สดุ
4. ทอ่ ท่ที าำ จากใยหินผสมซเี มนต์เหมาะสาำ หรับใชเ้ ปน็ ทอ่ ปลอ่ ยไอพษิ ท้งิ เปน็ ทอ่ ชนดิ ใด
5. ท่อพลาสติกผลติ จากพลาสตกิ จำาพวกใด
กลมุ่ ที่ 3
1. ทอ่ ทมี่ ีสว่ นผสมของใยแก้วเปน็ ฉนวนต่อกระแสไฟฟา้ ไม่ตดิ ไฟ ไมเ่ ป็นสนมิ เป็นทอ่ ชนดิ ใด
2. ตะเข็บ Drive Clip โดยมากจะใชท้ าำ ตะเข็บคกู่ ับตะเขบ็ ชนดิ ใด
3. ตะเขบ็ งานชนิดใดนาำ ไปใชก้ ับท่อสง่ ความเยน็ ขนาดเลก็ ซง่ึ ไมต่ ้องการถอดประกอบ
4. ตะเขบ็ ชนิดใดนิยมนำาไปใช้กบั ทอ่ สง่ ลมแบบส่ีเหลี่ยม
5. ความเร็วของลมมีหนว่ ยอยา่ งไร
กลุ่มที่ 4
1. ความเรว็ ของลมมกี ชี่ นดิ อะไรบา้ ง
2. ความเร็วลมตำ่าจะมีความเร็วอย่างไร
3. ความเรว็ ลมสงู จะมคี วามเรว็ อยา่ งไร
4. ความเรว็ ลมทีใ่ ชก้ บั ท่อี ยู่อาศัยโดยท่วั ไปจะใช้ความเร็วลมระหวา่ งเทา่ ใด
5. ทอ่ สง่ ความเย็นมกี ช่ี นดิ อะไรบา้ ง
2. ให้ผูเ้ รียนเขยี นผงั ความคดิ เรอื่ งความร้ทู ั่วไปเก่ยี วกบั การระบายอากาศ


สุดยอดคู่มือครู 38

Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

22 งานระบบท่อสง่ ความเยน็

สรปุ ผลการทา� กิจกรรม

คำาช้ีแจง ให้ผเู้ รยี นประเมนิ ผลการทาำ กจิ กรรม โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเป็นจริง

ความร ู้ (K) ทักษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
การมมี นษุ ยสัมพันธใ์ น ทาำ เคร่อื งหมาย ✓
ความร ู้ ความเขา้ ใจ การปฏบิ ัติงานท่ไี ดร้ บั
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด การนำาไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ
การสังเคราะห ์ ที่กาำ หนด ความมีวนิ ัย ตรงต่อเวลา คอื ผ่านการประเมนิ
การประเมินคา่ การปฏิบัติงานด้วยความ ความซือ่ สัตยส์ ุจรติ
ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการทาำ งาน 1. ความรู ้ (K)
การศกึ ษาคน้ ควา้ เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน ไม่ผา่ น
การแสวงหาแหล่งข้อมูล
และการรวบรวมขอ้ มูล ความสมบรู ณข์ องงาน ถกู ตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคดิ เหน็ การปฏบิ ัตงิ านทท่ี ำาให้เกิด อนั ดีงาม
อยา่ งมีเหตุผล หรือแสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รียน เจตคตทิ ด่ี ีในการปฏิบัติ ผ่าน ไมผ่ า่ น
กจิ กรรม
ข้ันตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคิด ความพอเพียงและความ 3. คุณลักษณะ (A)
ทำากจิ กรรม สร้างสรรค ์ การออกแบบ ผา่ น ไม่ผา่ น

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรใู้ หม่ การตัดสินใจในการแกป้ ัญหา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรมมีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจาก
การเรียนรู้ตามบริบทต่าง ๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge
(K) ทักษะหรอื ทกั ษะพสิ ัย = Practice (P) คุณลักษณะหรือจติ พสิ ัย = Attitude (A)

ความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั การระบายอากาศ 23

ใบงานท่ี 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1

ชื่อวชิ า งานระบบท่อสง่ ความเย็น สอนครั้งท ่ี ...
ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ ความรทู้ วั่ ไปเก่ยี วกบั การระบายอากาศ ชั่วโมง/สปั ดาห์

ช่อื เร่อื ง ความรู้ทั่วไปเก่ียวกบั การระบายอากาศ แผ่นที่ 1

จุดประสงค์ใบงาน

1. อธบิ ายระบบต่าง ๆ ของการปรับสภาพอากาศได้ถูกตอ้ ง
2. ระบชุ นิดของแผ่นโลหะและอโลหะที่ใชท้ ำาท่อส่งความเย็นในสภาพต่าง ๆ ได้ถกู ตอ้ ง
3. อธบิ ายส่วนตา่ ง ๆ ของท่อสง่ ความเย็นไดถ้ กู ตอ้ ง
4. ระบวุ ธิ ีการสงั เกตตะเข็บท่ใี ชใ้ นงานท่อสง่ ความเย็นได้ถูกต้อง
5. อธิบายและเขยี นแบบระบบทอ่ สง่ ความเยน็ และทอ่ ลมได้

เครือ่ งมือและอุปกรณ์

1. กระดาษ
2. อปุ กรณเ์ ครอ่ืิ งเขยี น
3. เครอ่ื งมือเขยี นแบบ

การประเมนิ ผลงาน
1. สังเกตขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงาน 2. ตรวจผลการปฏบิ ตั งิ าน

ลำาดบั ขั้นตอนการปฏิบัติงาน

1. ให้ผู้เรียนฝึกเขียนส่วนต่าง ๆ ของข้อต่อและท่อส่งลมตามภาพ และระบุชื่อให้ถูกต้อง โดยใช้
ขนาดทีเ่ หมาะสม

ขอ้ งอส่ีเหลีย่ ม ขอ้ งอกลม

39 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

24 งานระบบท่อส่งความเย็น

ใบงานท่ ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1

ช่อื วชิ า งานระบบท่อส่งความเย็น สอนคร้ังที ่ ...

ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกับการระบายอากาศ ช่ัวโมง/สปั ดาห์

ชื่อเรอื่ ง ความร้ทู ั่วไปเก่ียวกับการระบายอากาศ สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดแผน่ ที ่ 2

ลาำ ดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงาน

2. ให้ผู้เรียนฝึกเขียนภาพร่างของตะเข็บต่าง ๆ ตามภาพ และระบุชื่อให้ถูกต้อง โดยใช้ขนาด
ที่เหมาะสม

Drive Clip

Slip S - Clip

ความร้ทู ัว่ ไปเกีย่ วกบั การระบายอากาศ 25

ใบงานที่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ ี 1

ชอ่ื วิชา งานระบบทอ่ สง่ ความเยน็ สอนครั้งที่ ...
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ความรู้ทว่ั ไปเกย่ี วกับการระบายอากาศ ช่วั โมง/สัปดาห์

ชอื่ เรอื่ ง ความรูท้ ัว่ ไปเกีย่ วกับการระบายอากาศ แผ่นท่ี 3

ลำาดับขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
3. ให้ผู้เรียนฝึกเขียนภาพร่างของตะเข็บต่าง ๆ ตามภาพ และระบุชื่อให้ถูกต้อง โดยใช้ขนาด
ท่เี หมาะสม

Pittsburgh Lock

สุดยอดคู่มือครู 40

Ap3p. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

26 งานระบบทอ่ สง่ ความเย็น

ใบงานท่ ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
ชอ่ื วิชา งานระบบทอ่ ส่งความเยน็ สอนคร้ังที ่ ...
ช่อื หน่วยการเรยี นร ู้ ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกับการระบายอากาศ
ช่วั โมง/สัปดาห์
ช่ือเรื่อง ความรทู้ ่วั ไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ
แผ่นท่ ี 4
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ลำาดบั ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน

4. ให้ผู้เรียนฝึกเขียนภาพร่างของตะเข็บต่าง ๆ ตามภาพ และระบุช่ือให้ถูกต้อง โดยใช้ขนาด
ทีเ่ หมาะสม

Lap Seam Single Seam

Standing Seam Double Seam

ความรู้ทั่วไปเก่ยี วกับการระบายอากาศ 27

ชอื่ -สกลุ ใบประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน
วันที่ ระดับ ปวช. กล่มุ แผนกวชิ า
ชอ่ื งาน
รายการ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด ้
ลำาดบั
ใบงานแผ่นที่ 1 5
1. ใบงานแผน่ ท่ี 2 5
2. ใบงานแผน่ ท ี่ 3 5
3. ใบงานแผ่นที ่ 4 5
4. ความเรยี บร้อยในการปฏิบัตงิ าน 10
5. การเลือกใช้ใชว้ ัสดุอปุ กรณท์ ี่เหมาะสม 10
6. พฤติกรรมในการปฏบิ ัติงาน 10
7.
รวม 50


41 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

28 งานระบบทอ่ สง่ ความเยน็

เกณฑ์ใหค้ ะแนนคุณธรรม จริยธรรม และคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์

คุณธรรม จรยิ ธรรม และ
คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัดพฤตกิ รรมบ่งชี้

1. ความมีวนิ ัย 1.1 ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ขอ้ บังคับ ขอ้ ตกลงต่าง ๆ ของวทิ ยาลยั ฯ
ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามระเบียบ ข้อบังคับ การตรงต่อ
เวลา รกั ษาสาธารณสมบตั สิ ่ิงแวดลอ้ ม

1.2 ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดีงาม
1.3 เข้าร่วมกจิ กรรมตามท่ีกำาหนด

2. ความซือ่ สตั ย์ 2.1 มคี วามซอ่ื สตั ยต์ ่อตนเองและผู้อน่ื
2.2 ไมล่ กั ขโมยสมบัติผอู้ ืน่
2.3 พูดความจริง
2.4 ไมน่ าำ ผลงานของคนอืน่ มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง
2.5 ไมท่ ุจริตในการสอบ

3. ความรบั ผดิ ชอบ 3.1 มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื
3.2 ปฏิบตั ิงานทีม่ อบหมายเสร็จตามกำาหนด
3.3 ปฏบิ ัติงานดว้ ยความต้งั ใจ
3.4 มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏิบตั งิ าน
3.5 รกั ษาทรพั ย์สนิ ของสว่ นรวม
3.6 ยอมรับผลการกระทำาของตน

4. ความสนใจใฝ่รู้ 4.1 ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง
4.2 ซักถามปญั หาข้อสงสัย
4.3 แสวงหาความรแู้ ละประสบการณใ์ หม่
4.4 สนใจติดตามขา่ วสารปจั จุบัน
4.5 มคี วามกระตือรอื ร้น สนใจใฝ่รู้

5. การประหยัด 5.1 ใช้วัสดถุ กู ต้องและเหมาะสมกับงาน
5.2 ปิดไฟ - ปิดพดั ลมทุกครัง้ เม่อื เลิกใช้
5.3 ใชว้ สั ดอุ ยา่ งประหยดั และคุ้มค่า

สุดยอดคู่มือครู 42

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันส่ือสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

ความรทู้ ่ัวไปเกย่ี วกบั การระบายอากาศ 29

แบบประเมินตนเอง

คาำ ชแี้ จง ให้ผเู้ รยี นประเมินผลการเรียนรู้ โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนน และเติมขอ้ มลู ตามความเปน็ จริง
ระดับคะแนนตอนท ่ี 1 5 : มากทส่ี ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรับปรุง
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
ผลการเรียนรู้ 5 4 3 2 1
รายการ

1. ผ้เู รยี นมคี วามร ู้ ความเข้าใจในเน้ือหา

2. ผู้เรียนได้ทำากิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเน้ือหาและจุดประสงค์การเรียนร ู้

3. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นและทาำ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรทู้ ส่ี ง่ เสรมิ กระบวนการคดิ เกดิ การคน้ พบ
ความรู้
4. ผ้เู รียนสามารถประยกุ ต์ความรเู้ พ่อีื ใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำาวนั ได้

5. ผ้เู รยี นได้เรยี นรู้อะไรจากการเรยี น
6. ผู้เรยี นตอ้ งการทำาสิ่งใดเพ่อื พฒั นาตนเอง
7. ความสามารถทถ่ี อื วา่ ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ของผ้เู รียน คือ


43 สุดยอดคู่มือครู

ตารางสรุปคะแนนการประเมินจุดประสงค์การเรยี นรแู้ ละ
สมรรถนะประจ�ำหนว่ ย

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ความรทู้ ่ัวไปเก่ียวกับการระบายอากาศ

คะแนนตาม จปส.
รายหนว่ ยการเรียนรู้
1. สงวนลิข ิสท ิ์ธ สำ� ันกพิมพ์ บรอธิบายระบบ ่ตางิ ัษท ัพฒนๆาของการปรับสภาพอากาศไ ้ด ูถก ้ตองคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
2. ระ ุบชนิดของแ ่ผนโลหะและอโลหะ ่ีทใ ้ชทำ�ท่อ ่สงความเย็นช้ินงาน/การแสดงออก รวม
ในสภาพ ่ตาง ๆ ได้ถูก ้ตองท่กี �ำหนดในหน่วยการเรยี นรู้หรือหนว่ ยยอ่ ย
3. อ ิธบาย ่สวนต่าง ๆ ของท่อ ่สงความเ ็ยนได้ ูถก ้ตอง
4. ระ ุบวิ ีธการ ัสงเกตตะเ ็ขบท่ีใ ้ชในงาน ่ทอ ่สงความเย็นได้ถูก ้ตอง
5. อธิบายและเ ีขยนแบบระบบท่อ ่สงความเ ็ยนและท่อลมไ ้ด
ภาระงาน/ชนิ้ งานระหวา่ งเรียน
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ 1 2 1 2 4 10

การระบายอากาศ

2. ผงั กราฟิกสรุปความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ความรทู้ ่วั ไปเกี่ยวกับการระบาย 1 2 1 2 4 10
อากาศ

3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ 1 2 1 2 4 10
การระบายอากาศ

การประเมนิ รวบยอด 2 2 2 2 2 10
1. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2 2 2 2 2 10
2. ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้

3. ผลการปฏิบตั งิ าน (ใบงาน) 4 8 4 8 16 40

4. ผลการประเมินตนเอง 2 2 2 2 2 10

รวม 13 20 13 20 34 100

สุดยอดคู่มือครู 44

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3. ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ Apply4.inขgั้นสthื่อeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพt่ิมinคgุณค่า

pplying and Constructing the Knowledge

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเขยี นแผน่ คลี่ Main
TrunkLineและการเขยี น
แผน่ คลข่ี อ้ ตอ่ ทอ่ สเ่ี หลย่ี ม
เปล่ยี นขนาด
สงวน ิลข ิสท ์ธิ สำ� ันกพิมพ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
หน่วยการเรยี นรู้ที่ สาระการเรยี นรู้

2 การเขยี นแผน่ คล่ี Main Trunk Line และ 1. การเขยี นแผน่ คลี่MainTrunkLine(หนงั สอื เรยี น
การเขยี นแผ่นคลขี่ อ้ ต่อท่อสเี่ หลยี่ มเปลี่ยนขนาด หน้า 32 - 34)

สาระสาำ คัญ 2. การเขยี นแผน่ คลข่ี อ้ ตอ่ ทอ่ สเ่ี หลยี่ มเปลย่ี นขนาด
ท่อส่งความเย็นแบบท่อส่ีเหล่ียม เป็นท่อส่งลมท่ีมีขนาดต่างกัน ตั้งแต่ใหญ่สุดมาหาเล็กสุด (หนังสือเรยี น หน้า 35 - 37)
นิยมนำามาใช้เป็นท่อส่งลมในการปรับอากาศในบ้าน สำานักงาน และอาคารต่าง ๆ เน่ืองจาก
เขยี นแบบงา่ ย ขนึ้ รปู งา่ ย และในการเขยี นแผน่ คลกี่ จ็ ะตอ้ งรภู้ าพดา้ นหนา้ ดา้ นบน ดา้ นขา้ งของแบบกอ่ น สมรรถนะประจำ�หน่วย
จึงจะเขียนแผน่ คลีไ่ ด้
เขียนแผ่นคลี่ Main Trunk Line และเขียน
แผน่ คลีข่ ้อตอ่ ท่อส่เี หล่ียมเปลี่ยนขนาดได้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายขน้ั ตอนและเขยี นแผน่ คล่ี Main Trunk
Line ได้

2. อธิบายขั้นตอนและเขียนแผ่นคล่ีข้อต่อ
ทอ่ สเ่ี หล่ยี มเปลยี่ นขนาดได้

สาระการเรยี นรู้

1. การเขยี นแผน่ คล ี่ Main Trunk Line
2. การเขียนแผ่นคลีข่ อ้ ต่อทอ่ สี่เหลยี่ มเปล่ียนขนาด

การประเมนิ ผล 3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั
การเขียนแผ่นคล่ี Main Trunk Line และ
ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี น การเขยี นแผน่ คลข่ี อ้ ตอ่ ทอ่ สเ่ี หลย่ี มเปลย่ี นขนาด

ภาระงาน/ชนิ้ งานระหว่างเรียน ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการเขียนแผ่นคล่ี Main 1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
2. ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้
Trunk Line และการเขียนแผ่นคลีข่ ้อตอ่ ท่อส่ีเหล่ียมเปลยี่ นขนาด 3. ผลการปฏิบัตงิ าน (ใบงาน)
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการเขียนแผ่นคล่ี Main Trunk 4. ผลการประเมินตนเอง

Line และการเขียนแผ่นคล่ขี ้อตอ่ ท่อสเ่ี หล่ยี มเปลี่ยนขนาด 45 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

การเขยี นแผน่ คลี ่ Main Trunk Line และการเขยี นแผ่นคล่ีขอ้ ต่อท่อส่เี หลย่ี มเปล่ียนขนาด 31 3 . แต่ล ะกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อท่ีกำ�หนดลงผังกราฟิก
(เลือ กออกแบบและใช้ผังกราฟิกให้เหมาะสมกับลักษณะ
สมรรถนะประจาำ หน่วย ของขอ้ มลู ) ดงั ตวั อยา่ ง
เขยี นแผน่ คล ่ี Main Trunk Line และเขียนแผน่ คลี่ขอ้ ต่อทอ่ สเี่ หลยี่ มเปลย่ี นขนาดได้
จำ�กัด
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายขัน้ ตอนและเขียนแผ่นคล ่ี Main Trunk Line ได้ (พว.)
2. อธิบายขั้นตอนและเขียนแผ่นคลีข่ องขอ้ ต่อทอ่ ส่ีเหลีย่ มเปลี่ยนขนาดได้

ผงั สาระการเรียนรู้

การเขียนแผน่ คลี่ การเขียนแผน่ คล ่ี Main Trunk Line
Main Trunk Line การเขยี นแผ่นคลข่ี อ้ ตอ่ ท่อสีเ่ หล่ียมเปล่ียนขนาด
และการเขยี นแผน่ คลี่ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ
ขอ้ ตอ่ ทอ่ สเ่ี หลยี่ ม
เปลยี่ นขนาด

32 งานระบบทอ่ สง่ ความเยน็

1. การเขียนแผน่ คลี่ Main Trunk Line

Step 1g

สำ�นักพิมพ์
Gatherin ขนั้ รวบรวมขอ้ มูล

1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเก่ียวกับ สงวนลิข ิสท ิธ์ ภาพท่ ี 2.1 ลักษณะของทอ่ สง่ ลมปรับอากาศซ่ึงเป็นทอ่ หลกั
การเขยี นแผน่ คล่ี Main Trunk Line และการเขยี นแผน่ คลข่ี อ้ ตอ่
ทอ่ สเ่ี หลย่ี มเปลย่ี นขนาด ท่อส่ีเหลีย่ ม Main Trunk Line เป็นท่อส่เี หล่ียมตรงธรรมดา วธิ กี ารสร้างจะไมย่ ุ่งยาก เพราะ
ไม่มีการโค้งงอ วัสดุท่ีใช้ทำาเป็นโลหะแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี ส่วนสำาคัญก็เป็นการใช้ตะเข็บต่อกัน
2. ต้ังคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ของตนเก่ียวกับ ประกอบขนึ้ เปน็ รปู ทอ่ และอกี สว่ นหนงึ่ เปน็ เรอื่ งของขนาดของทอ่ ซง่ึ ขน้ึ อยกู่ บั การใชง้ านเปน็ สาำ คญั และ
การเขยี นแผน่ คล่ี Main Trunk Line และการเขยี นแผน่ คลข่ี อ้ ตอ่ ท่อสามารถแยกออกเป็น 4 ชิน้
ทอ่ สเ่ี หลย่ี มเปลย่ี นขนาด ดงั ตวั อยา่ ง 1. เขียนแผ่นคลีด่ ้านกว้าง 2 ชนิ้
2. เขยี นแผน่ คลด่ี า้ นยาว 2 ช้ิน
2.1 การเขยี นแผน่ คล่ี Main Trunk Line
• ข้ันตอนการเขียนแผ่นคล่ีด้านพับตะเข็บ Pittsburgh 1.1 ขัน้ ตอนการเขียนแผน่ คล่ีด้านพบั ตะเขบ็ Pittsburgh

มขี น้ั ตอนอยา่ งไร จากภาพท ่ี 2.2 มขี น้ั ตอนการเขียนแผ่นคล่ดี ังน้ี
• ขน้ั ตอนการเขยี นแผน่ คลด่ี า้ นพบั ปกี มขี น้ั ตอนอยา่ งไร 1) ลากเส้นตรง BC โดยมคี วามยาว 300 มม.
2.2 การเขยี นแผน่ คลข่ี อ้ ตอ่ ทอ่ สเ่ี หลย่ี มเปลย่ี นขนาด 2) ลากเส้นตรง BA ตั้งฉากกบั เส้นตรง BC ทจี่ ุด B โดยมคี วามยาว 100 มม.
• การเขียนแผ่นคล่ีข้อต่อท่อส่ีเหล่ียมเปล่ียนขนาดมีข้ันตอน

อยา่ งไร

สุดยอดคู่มือครู 46

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ขั้นสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlaเพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

การเขียนแผน่ คล ี่ Main Trunk Line และการเขียนแผน่ คล่ขี ้อตอ่ ทอ่ สีเ่ หลยี่ มเปล่ยี นขนาด 33 ep 2 ข้ันคดิ วิเคราะห์
และสรุปความรู้
3) ลากเสน้ ตรง CD ต้ังฉากกับเส้นตรง BC ทีจ่ ุด C โดยมคี วามยาว 100 มม. สงวนลิข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด g Strocessin
4) ลากตอ่ เส้นตรง AD P
5) เผือ่ ระยะการทาำ กระเปา๋ (Pocket) ของตะเขบ็ Pittsburgh ท่ ี BC และท่ี AD เพ่ิมอีก
ขา้ งละ 25 มม. 1. ผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั การเขยี นแผน่ คล่ีMainTrunk
6) เผ่อื ระยะการต่อทอ่ ด้วยตะเขบ็ Drive Clip หรอื ตะเข็บ Double Connection ท ่ี AB Line และการเขียนแผ่นคล่ีข้อต่อท่อส่ีเหล่ียมเปล่ียนขนาด
และที ่ CD เพมิ่ อกี ขา้ งละ 25 มม. และวัดออกจากขอบชน้ิ งานข้างละ 10 มม. บากมุม 30º ท่ีรวบรวมได้จากการศึกษาค้นคว้าและระดมความคิด
7) ทำาการเขยี นแผน่ คลีแ่ บบจากขอ้ ที ่ 1 - 6 จาำ นวน 6 ช้นิ ของสมาชกิ รว่ มดว้ ย

ภาพท่ ี 2.2 การเขยี นแผน่ คล่ดี ้านพับตะเขบ็ Pittsburgh ของ Main Trunk Line 2. เช่อื มโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูลท่นี �ำ มาอภิปราย
และร่วมกันสรุปความร้ตู ามหัวข้ออภิปราย จากน้นั บันทึกผล
1.2 ข้นั ตอนการเขียนแผ่นคลดี่ ้านพับปกี (Flange) ของ Main Trunk Line ขอ้ สรปุ เปน็ ความเขา้ ใจของกลมุ่ และรายบคุ คล

จากภาพที่ 2.3 มขี ัน้ ตอนการเขยี นแผ่นคลี่ ดังนี้ 34 งานระบบท่อสง่ ความเย็น
1) ลากเส้นตรง AD ให้มีความยาว 300 มม.
2) ลากเสน้ ตรง AA´ ยาว 150 มม., 200 มม., 250 มม., ตามลำาดับทัง้ 3 ขนาดตามลำาดับ
โดยต้ังฉากกบั เสน้ ตรง AD ทีจ่ ุด A
3) ลากเสน้ ตรง DD´ ยาว 150 มม., 200 มม., 250 มม., ตามลำาดับทงั้ 3 ขนาด โดย
ต้ังฉากกับเสน้ ตรง AD ที่จดุ D
4) ลากเส้นตรง A´D´ ท้ัง 3 ขนาด
5) เผื่อระยะการพับปีก (Flange) เพื่อใช้เก่ียวลงในกระเป๋า (Pocket) ของตะเข็บ
Pittsburgh เพิ่มอกี 7 มม. ท่ี AD และท ่ี A´D´ ทงั้ 3 ขนาด
6) เผ่อื ระยะการตอ่ ทอ่ ดว้ ยตะเขบ็ Drive Clip หรอื ตะเขบ็ Double Connection เพม่ิ อกี
ขา้ งละ 25 มม. ท ่ี AA´ และท ่ี DD´ ทง้ั 3 ขนาด และวดั ออกจากขอบชน้ิ งานขา้ งละ 10 มม. บากมมุ 30º
7) ทำาการเขียนแผ่นคลแ่ี บบจากขอ้ ท่ี 1 - 6 จำานวนขนาดละ 2 แผน่

ภาพที่ 2.3 การเขียนแผน่ คลดี่ ้านพับปีก (Flange) ของ Main Trunk Line

47 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. Gข้ันaรวthบeรวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

การเขียนแผ่นคลี ่ Main Trunk Line และการเขียนแผ่นคลี่ขอ้ ต่อท่อสเี่ หล่ียมเปลยี่ นขนาด 35 Step 4

2. การเขียนแผน่ คลี่ขอ้ ต่อทอ่ ส่เี หล่ียมเปลีย่ นขนาด mmpupnlyicinagtiotnh s ข้นั สอ่ื สารและนำ� เสนอ

ภาพท ่ี 2.4 ข้อต่อท่อสี่เหลย่ี มเปล่ยี นขนาด 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธีนำ�เสนอให้ผู้อ่ืนรับรู้และ
Aco ส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม kille
conAstru บรู ณาการการใชส้ อ่ื /เทคโนโลย/ี คำ�ศพั ทเ์ พมิ่ เตมิ /สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ
แทรกในการรายงาน จำ�กัด

2. สุ่มกลุ่มผู้เรียนนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ โดย (พว.)
ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการนำ�เสนอตามเกณฑ์
ทก่ี �ำ หนด
บ ิรษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ
ทอ่ สเ่ี หลย่ี มเปลยี่ นขนาดเปน็ ทอ่ สเี่ หลย่ี มทม่ี กี ารปรบั เปลย่ี นปากปลายทอ่ ทง้ั 2 ดา้ น ใหม้ ลี กั ษณะ 36 งานระบบท่อส่งความเยน็
กลับด้านกัน คือ ปากปลายท่อด้านหนึ่งมีด้านกว้างและด้านยาวหันไปในทิศทางหนึ่ง ส่วนปลายปาก 5) เผอ่ื ตะเข็บ Pittsburgh ที ่ AD และ BC ส่วนที่เปน็ กระเป๋า (Pocket) เพม่ิ อกี
อกี ดา้ นหนง่ึ หนั ดา้ นกวา้ งและดา้ นยาวไปอกี ทศิ ทางหนง่ึ (ดตู ามภาพประกอบการเรยี นการสอน) ซง่ึ ตา่ งกบั ขา้ งละ 25 มม.
ท่อส่ีเหลี่ยม Main Trunk Line วัสดุท่ีใช้ทำาท่อก็เช่นเดียวกัน คือ แผ่นเหล็กอาบสังกะสี และใช้ 6) เผื่อตะเข็บ Double Connection ท่ ี AB และที่ DC เพิ่มอกี ขา้ งละ 25 มม. และ
ตะเข็บ Pittsburgh ต่อด้านแต่ละด้านเข้าด้วยกันเป็นรูปท่อ ท่อชนิดน้ีสามารถแบ่งออกเป็น 4 ช้ิน วดั ออกจากขอบช้นิ งานข้างละ 10 มม. บากมุม 30º
ซงึ่ มรี ปู รา่ งลักษณะคล้ายกัน ตา่ งกนั เพียงเร่ืองของความยาวของแผน่ คลเ่ี ท่าน้ัน
St wldedge
2.1 การเขียนแผน่ คลี่ขอ้ ตอ่ ท่อสเ่ี หลย่ี มเปลีย่ นขนาด
สำ� ันกพิมพ์
2.1.1 วิธกี ารเขียนแผ่นคลี่ดา้ นขา้ ง 1 (ABCD) ดงั ภาพท่ี 2.5 มีขั้นตอนดังน้ี
1) ลากเสน้ ตรง BC ในแนวราบยาว 250 มม.สงวน ิลข ิสทธิ์ ภาพท ่ี 2.5 แผน่ คล่ขี อ้ ตอ่ ท่อส่เี หล่ยี มเปลย่ี นขนาดด้านข้าง 1 (ABCD)
2) จากจุด B ลากเสน้ ตัง้ ฉากไปหาจุด A ยาว 50 มม.
3) จากจดุ C ลากเสน้ ต้ังฉากไปหาจดุ D ยาว 125 มม. 2.1.2 วธิ ีการเขียนแผน่ คลี่ดา้ นล่าง 2 (BB´CC´) ดังภาพท่ ี 2.6 มีข้ันตอนดังน้ี
4) ลากเส้นจากจดุ A ไปยงั จดุ D กจ็ ะไดแ้ ผน่ คล่ีด้านขา้ ง 1 ABCD 1) ลากเส้นตรง BC ในแนวราบยาว 250 มม.
2) จากจดุ B ลากเส้นต้ังฉากไปหาจดุ B´ ยาว 125 มม.
ep 3 3) จากจดุ C ลากเสน้ ต้ังฉากไปหาจุด C´ ยาว 50 มม.
4) ลากเส้นจาก B´ ไปยังจุด C´ กจ็ ะไดแ้ ผน่ คล่ดี ้านลา่ ง 2 BB´CC´
ctpipnlgyitnhgeaknno ขัน้ ปฏหิบลตังั กแิ าลระปสฏรบิปุ ัตควิ ามรู้ 5) เผ่ือระยะการพบั ปกี (Flange) เพ่อื ใชเ้ ก่ยี วลงในกระเป๋า (Pocket) ของตะเขบ็
Pittsburgh เพม่ิ อีกข้างละ 7 มม. ท่ี BC และที่ B´C´
1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปล่ียนเรียนรู้ 6) เผื่อตะเขบ็ Double Connection ที่ BB´ และ CC´ เพม่ิ อีกขา้ งละ 25 มม. และ
รว่ มกนั ในชนั้ เรยี นมาวเิ คราะห์ โดยการท�ำ กจิ กรรมตรวจสอบ วดั ออกจากขอบช้นิ งานข้างละ 10 มม. บากมุม 30º
ความเขา้ ใจ (หนังสอื เรยี น หนา้ 38)
ภาพที่ 2.6 แผ่นคล่ขี ้อตอ่ ท่อสเ่ี หล่ยี มเปลยี่ นขนาดดา้ นลา่ ง 2 (BB´CC´)
2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเกี่ยวกับการเขียนแผ่นคล่ี
Main Trunk Line และการเขยี นแผน่ คลี่ข้อตอ่ ท่อสีเ่ หล่ยี ม 2.1.3 วธิ กี ารเขยี นแผน่ คลดี่ ้านขา้ ง 3 (A´B´C´D´) ดงั ภาพที่ 2.7 มีขนั้ ตอนดงั นี้
เปล่ียนขนาด จากน้ันทำ�กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้
(หนังสือเรียน หน้า 39) และทำ�สรุปผลการทำ�กิจกรรม 1) ลากเสน้ ตรง B´C´ ในแนวราบยาวเท่ากบั B´C´ ในแผน่ ท ่ี 2 (BB´CC´) จาก
(หนังสอื เรยี น หนา้ 46 - 47) ภาพท่ี 2.6 2) จากจดุ B´ ลากเสน้ ต้งั ฉากไปหาจดุ A´ ยาว 50 มม.

สุดยอดคู่มือครู 48

Ap3p. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปstคrวuาctมinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge A 4. ข้ันสื่อสารและน�ำเสนอ 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlaเพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ pplying the Communication Skill

กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

การเขียนแผน่ คลี่ Main Trunk Line และการเขียนแผ่นคลข่ี ้อต่อท่อสี่เหลี่ยมเปล่ียนขนาด 37สงวน ิลข ิสทธิ์ สำ� ันกพิมพ์ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด ting StSelep 5 ข้ันประเมินเพื่อเพม่ิ คณุ ค่า
3) จากจุด C´ ลากเส้นตัง้ ฉากไปหาจุด D´ ยาว 125 มม. บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
4) ลากเสน้ จากจุด A´ ไปยงั จุด D´ กจ็ ะได้แผน่ คลด่ี า้ นขา้ ง 3 A´B´C´D´ f-Regula
5) เผื่อตะเข็บ Pittsburgh ท่ี A´D´ และ B´C´ ส่วนที่เป็นกระเป๋า (Pocket)
เพิ่มอกี ขา้ งละ 25 มม. 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคล
6) เผ่ือตะเขบ็ Double Connection ท ี่ A´B´ และ D´C´ เพ่ิมอีกข้างละ 25 มม. ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ
และวดั ออกจากขอบช้ินงานข้างละ 10 มม. บากมมุ 30º ของตนเองหลงั จากรบั ฟงั การน�ำ เสนอ
ของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ปรับปรุงชิ้นงาน
ภาพท ี่ 2.7 แผ่นคลขี่ อ้ ตอ่ ทอ่ ส่ีเหลี่ยมเปลย่ี นขนาดดา้ นขา้ ง 3 (A´B´C´D´) ข อ ง ก ลุ่ ม ต น เ อ ง ใ ห้ ส ม บู ร ณ์ แ ล ะ
บนั ทกึ เพ่มิ เติม
2.1.4 วิธกี ารเขยี นแผน่ คลดี่ ้านบน 4 (AA´DD´) ดังภาพท ี่ 2.8 มีข้นั ตอนดงั น้ี
1) ลากเสน้ ตรง AD ในแนวราบยาวเทา่ กบั AD ในแผน่ คลด่ี า้ นขา้ ง 1 (ABCD) จาก 2. นำ�ผลงานแสดงในป้ายนิเทศหรือ
ภาพท่ ี 2.5 เผยแพรส่ หู่ อ้ งเรยี นอน่ื หรอื สาธารณะ
2) จากจดุ A ลากเส้นต้ังฉากไปหาจุด A´ ยาว 125 มม.
3) จากจุด D ลากเส้นตั้งฉากไปหาจุด D´ ยาว 50 มม. 3. ผู้เรียนแต่ละคนทำ�ใบงาน (หนังสือ-
4) ลากเส้นจาก A´ ไปยงั จุด D´ กจ็ ะไดแ้ ผน่ คลี่ด้านบน 4 (AA´DD´) เรียน หน้า 40 - 45) สรปุ คะแนนใน
5) เผอื่ ระยะการพับปีก (Flange) เพ่อื ใชเ้ กี่ยวลงในกระเปา๋ (Pocket) ของตะเข็บ แบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน
Pittsburgh เพมิ่ อกี ข้างละ 7 มม. ท ่ี AD และท ่ี A´D´ หน้า 50) และกำ�หนดแนวทาง
6) เผอื่ ตะเขบ็ Double Connection ท ี่ AA´ และ DD´ เพม่ิ อกี ขา้ งละ 25 มม. และ การพฒั นาตนเอง
วัดออกจากขอบช้นิ งานขา้ งละ 10 มม. บากมุม 30º

ภาพที่ 2.8 แผน่ คลีข่ ้อตอ่ ท่อสเี่ หลีย่ มเปล่ยี นขนาดด้านบน 4 (AA´DD´)

49 สุดยอดคู่มือครู


Click to View FlipBook Version