คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 31 ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 www.decorate.su.ac.th ออกแบบปกและจัดวางรูปเล่ม: รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี | พิสูจน์อักษร: มุกดา จิตพรมมา | พิมพ์ที�: บริษัท โอ เอส พริ�นติ�ง เฮ้าส์ จำกัด | กันยายน 2566 สงวนลิขสิทธิ� © พ.ศ. 2566 โดย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ห้ามคัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ�ำ จัดพิมพ์ หรือกระทำอื�นใดโดยวิธีการใดๆ ในรูปแบบใดๆ ไม่ว่าส่วนหน่�งส่วนใดของหนังสือเล่มนี�เพื�อเผยแพร่ในสื�อทุกประเภท หรือเพื�อวัตถุประสงค์ใดๆ นอกจากจะได้รับอนุญาต Copyright © 2023 by Faculty of Decorative Arts, Silpakorn University, Thailand All rights reserved. No part of this publication may be reproduced, distributed, or transmitted in any form or by any means, including photocopying, recording, or other electronic or mechanical methods, without the prior written permission of the publisher.
2 | โครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจําปี 2566 SILPA 2023: Creative Works Exhibition ผ้�รับผิดชอบโครงการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านศิลปะและ การออกแบบ และสมาคมวิชาชีพที�เกี�ยวข้อง หลักการและเหตุผล คณะมัณฑนศิลป์ จัดการเรียนการสอนด้านศิลปะการออกแบบ ระดับปริญญาตรี 7 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน สาขาวิชาการออกแบบ นิเทศศิลป์ สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาประยุกตศิลปศ่กษา สาขา วิชาศิลปะและการออกแบบเครื�องเคลือบดินเผา สาขาวิชาการออกแบบเครื�อง ประดับ และสาขาวิชาการออกแบบแฟชั�น ระดับปริญญาโท 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาการ ออกแบบเครื�องประดับ สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) และ สาขาวิชาการออกแบบ ระดับปริญญาเอก 3 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาศิลปะ การออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) สาขาวิชาการออกแบบ และสาขาวิชาศิลปะ การออกแบบเชิงวัฒนธรรม มีคณาจารย์ผู้สอนรวมจำนวนกว่า 100 คน เพื�อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนางานวิชาการและวิชาชีพของคณาจารย์คณะมัณฑนศิลป์ คณะฯ จ่งมีนโยบายจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานคณาจารย์ประจำคณะมัณฑนศิลป์ เป็นประจำทุกปี ในวันศิลป์ พีระศรี 15 กันยายน เพื�อเป็นการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ ระหว่างคณาจารย์ในสาขาวิชาต่าง ๆ และเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปะและ การออกแบบให้ขยายออกสู่สาธารณชนในวงกว้าง ในปี พ.ศ. 2565 คณะมัณฑนศิลป์ได้ยกระดับนิทรรศการแสดงผลงานสร้างสรรค์ ของคณาจารย์คณะมัณฑนศิลป์เป็นการจัดนิทรรศการแสดงผลงานสร้างสรรค์ ในระดับชาติ และเปิดโอกาสให้บุคลากรจากต่างสถาบันได้จัดแสดงผลงานร่วมกับ คณาจารย์ของคณะมัณฑนศิลป์ เพื�อเป็นการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ด้านการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะและการออกแบบ อีกทั�งยังเป็นการสร้างช่องทางเผยแพร่ผลงาน ทางวิชาการที�มีมาตรฐานในระดับชาติ ที�มีกระบวนการพิจารณาด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ให้แก่คณาจารย์ทุกสถาบัน สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการ ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการที�สูงข่�นต่อไป และในโอกาสครบรอบการสถาปนา คณะมัณฑนศิลป์ เป็นปีที� 67 ในปี พ.ศ. 2566 คณะฯ จ่งเห็นสมควรจัดโครงการ นิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) ข่�นอีกวาระหน่�ง วัตถุประสงค์ 1. เพื�อส่งเสริมให้คณาจารย์มีผลงานสร้างสรรค์ในสาขาวิชาต่างๆ ที�คณะฯจัดการ เรียนการสอนและเผยแพร่ให้เป็นที�ประจักษ์ในระดับชาติ 2. เพื�อเสริมโอกาสในการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ด้านศิลปะและการออกแบบ ระหว่าง คณะฯ กับสถาบันการศ่กษาต่าง ๆ และสมาคมวิชาชีพที�มีความร่วมมือ 3. เพื�อสร้างช่องทางการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที�มีมาตรฐานในระดับชาติ ที�มีกระบวนการพิจารณาด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ที�สามารถนำไปใช้ ประโยชน์ในการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการที�สูงข่�นต่อไป ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่าง เดือนธันวาคม 2565 – เดือนกันยายน 2566 จัดแสดงผลงาน ระหว่างวันที� 15 - 30 กันยายน 2566 สถานท่�ดำเนินงาน หอศิลปะและการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ผ้�เข�าร่วมโครงการ ผู้บริหาร คณาจารย์ผู้สร้างสรรค์ผลงาน และผู้เกี�ยวข้อง รวมจำนวน 180 คน วิธ่การดำเนินงาน 1. เสนอขออนุมัติโครงการ 2. แต่งตั�งคณะกรรมการดำเนินงานผู้รับผิดชอบโครงการ 3. ติดต่อประสานงานกับสถาบันเครือข่าย องค์กร และผู้เกี�ยวข้อง 4. คณะกรรมการดำเนินงานประชุมหารือแนวทางการดำเนินงาน 5. จัดกิจกรรมตามแผนการดำเนินงาน 6. สรุปผลการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายโครงการ งบประมาณ จากงบประมาณเงินรายได้ ภารกิจเชิงนโยบาย คณะมัณฑนศิลป์ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนการดำเนินงาน ธ.ค. 65 เสนอขออนุมัติโครงการ ม.ค. 66 ประสานงานเครือข่าย ประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน ประชาสัมพันธ์โครงการ ก.พ. 66 คณาจารย์สร้างสรรค์ผลงาน มิ.ย. 66 คณาจารย์ส่งบทความพร้อมภาพผลงานที�เสร็จสมบูรณ์ ก.ค. 66 คณะฯ ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทคัดย่อ ส.ค. 66 คณะฯ ส่งบทความคืนให้คณาจารย์ปรับปรุงแก้ไข คณาจารย์ส่งไฟล์ภาพผลงานและไฟล์บทคัดย่อที�แก้ไขแล้วจัดทำ Artwork สูจิบัตร ส่ง Artwork เข้าโรงพิมพ์ ก.ย. 66 ดำเนินการจัดพิมพ์สูจิบัตร จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ผลงาน สรุปผลการดำเนินงาน ผลท่�คาดว่าจะได�รับ 1. คณาจารย์ได้รับความรู้ประสบการณ์ และแนวทางสร้างสรรค์ผลงานในศาสตร์ แขนงต่างๆ ที�เกี�ยวข้องทางด้านศิลปะและการออกแบบ ในระดับชาติ 2. เกิดการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ในด้านการออกแบบ การสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ใน การปฏิบัติงานด้านศิลปะการออกแบบ เพื�อนำองค์ความรู้ใหม่และประสบการณ์ ที�ได้มาบูรณาการการเรียนการสอน 3. ได้เสริมสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการ ศ่กษาที�มีการเรียนการสอนด้านศิลปะและการออกแบบในระดับชาติให้ก้าวหน้า ยิ�งข่�น
| 3 ร้ปแบบผลงาน ผลงานศิลปะและผลงานการออกแบบในสาขาต่างๆ พร้อมบทความสั�นประกอบ ผลงานสร้างสรรค์ ความยาว 1 หน้ากระดาษ โดยมีรายละเอียดดังนี� 1. ข้อมูลทั�วไป: ชื�อ-นามสกุล สังกัด อีเมล ชื�อผลงาน ขนาด และเทคนิค 2. เนื�อหา: ที�มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ แนวความคิด กระบวนการสร้างสรรค์ สรุปอภิปรายผลของการสร้างสรรค์ ประโยชน์หรือองค์ความรู้ที�เกิดข่�น ปัญหา และแนวทางแก้ไข หรือข้อเสนอแนะ และข้อมูลอ้างอิง (ถ้ามี) เกณฑ์การพิจารณาผลงานและบทความสั�นประกอบผลงานสร�างสรรค์ การพิจารณาผลงานสร้างสรรค์ : 1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) 2. ความงามทางศิลปะ (Artistic) 3. นวัตกรรม (Innovation) 4. การส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิชาการ (Academic Learning Support) 5. ผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคม สิ�งแวดล้อม และวัฒนธรรม (Social, Environmental and Cultural Impact) การพิจารณาบทความสั�นประกอบผลงานสร้างสรรค์ : 1. ความถูกต้องของการใช้ภาษา 2. ความชัดเจนของที�มา ความสำคัญ และวัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์ 3. แสดงกระบวนการสร้างสรรค์ได้อย่างมีขั�นตอน เข้าใจง่าย 4. การอภิปรายผลของการสร้างสรรค์ ประโยชน์หรือองค์ความรู้ที�เกิดข่�น ปัญหา และแนวทางแก้ไข หรือข้อเสนอแนะ 5. ความถูกต้องของการอ้างอิง ผ้�ทรงคุณวุฒิ พิจารณาแต่งตั�งผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบัน โดยมีตำแหน่งทางวิชาการ ศาสตราจารย์ หรือ รองศาสตราจารย์ หรือจบการศ่กษาในระดับดุษฎีบัณฑิต หรือ เป็นผู้เชี�ยวชาญในวงการวิชาชีพ การเผยแพร่ผลงาน ผลงานที�ได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดง นิทรรศการ จะได้รับการเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ ดังนี� 1. นิทรรศการ ณ หอศิลปะและการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร วังท่าพระ 2. สูจิบัตรนิทรรศการ 3. เผยแพร่ทางสื�อออนไลน์ที� Facebook Page: SILPA 4. เผยแพร่ทาง https://sites.google.com/view/silpacreativeworks/home
4 | คำสั�งมหาวิทยาลัยศิลปากร ที� 98/2566 เรื�อง แต่งตั�งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) เพื�อให้การดำเนินงานโครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) ซ่�งคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านศิลปะการออกแบบ และสมาคมวิชาชีพที�เกี�ยวข้อง ดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จ่งให้แต่งตั�งคณะ กรรมการดำเนินงานโครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) ประกอบด้วยบุคคลผู้ดำรงตำแหน่ง และรายชื�อดังต่อไปนี�.- คณะกรรมการดำเนินงาน ประธานกรรมการ 1. อาจารย์ ดร.ธนาทร เจียรกุล คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รองประธานกรรมการ 2. รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กรรมการ 3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 4. รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เกษรเกศราคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5. รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 6. รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 7. อาจารย์ ดร.กำธร เกิดทิพย์คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี8. รองศาสตราจารย์ ดร.ดนัย เรียบสกุล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ และการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร9. รองศาสตราจารย์พิศประไพ สาระศาลินคณบดีวิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต 10. ศาสตราจารย์ ดร.บุษกร บิณฑสันต์ ประธานสภาคณบดีศิลปะและการออกแบบแห่งประเทศไทย 11. นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล นายกสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA)กรรมการและเลขานุการ 12. นางสาวมุกดา จิตพรมมาคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรกรรมการและผ้�ช่วยเลขานุการ13. นางสาวนฤมล โหราเรือง คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะอนุกรรมการฝ่ายรวบรวมผลงาน และจัดแสดงนิทรรศการ ประธานอนุกรรมการ 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณัฐรฐนนท์ ทองสุทธิพีรภาส อนุกรรมการ 2. อาจารย์ ดร.จิรายุ พงส์วรุตม์ 3. อาจารย์ศรีนาฏ ไพโรหกุล 4. รองศาสตราจารย์ประภากร สุคนธมณี 5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชานนท์ ไกรรส 6. อาจารย์พลัฏฐ์ จิรพุทธินันท์ 7. รองศาสตราจารย์ปนท ปลื�มชูศักดิ� 8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อติเทพ แจ้ดนาลาว อนุกรรมการและเลขานุการ 9. นางสาวสุธาสินี วาจนะวินิจ อนุกรรมการและผ้�ช่วยเลขานุการ 10. นายเศกสันต์ แสงทอง คณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปฏิคม การเงิน และประเมินผล ประธานอนุกรรมการ 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธาตรี เมืองแก้ว อนุกรรมการ 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรวัฒน์ สิริเวสมาศ 3. อาจารย์ ดร.อิสรชัย บูรณะอรรจน์ 4. นายวุฒิ คงรักษา5. นางสาวสุรีพร แป้นพิบูลลาภ 6. นายศุภฤกษ์ ทับเสน 7. นางสาวนันทนา แซ่ลี8. นางอิญทิรา ไล้เลิศอนุกรรมการและเลขานุการ9. นางสาวเบญจรัตน์ บุญศรีงามอนุกรรมการและผ้�ช่วยเลขานุการ10. นางสาวรัตนาภรณ์ แก้วไซค้วน สั�ง ณ วันที� 13 มกราคม พ.ศ. 2566 ศาสตราจารย์ ดร.ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
| 5 คำสั�งมหาวิทยาลัยศิลปากร ที� 1542/2566 เรื�อง แต่งตั�งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาผลงานและบทความสั�น ประกอบผลงานสร้างสรรค์ เพื�อให้การดำเนินงานคัดเลือกผลงานสร้างสรรค์ประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมแสดงใน นิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สะท้อนถ่งคุณภาพและมาตรฐานทาง วิชาการ จ่งแต่งตั�งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาผลงานและบทความสั�น ประกอบผลงานสร้างสรรค์ ประกอบด้วยบุคคล ดังรายชื�อต่อไปนี� 1. ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุชาติ เถาทอง กรรมการ 2. ศาสตราจารย์ ดร.เอกชาติ จันอุไรรัตน์ กรรมการ 3. ศาสตราจารย์กมล เผ่าสวัสดิ� กรรมการ 4. ศาสตราจารย์ ดร.ศุภกรณ์ ดิษฐพันธุ์ กรรมการ 5. ศาสตราจารย์ ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล กรรมการ 6. รองศาสตราจารย์พิศประไพ สาระศาลิน กรรมการ 7. รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ กรรมการ 8. รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เกษรเกศรา กรรมการ 9. รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง กรรมการ 10. รองศาสตราจารย์ ดร.นิรัช สุดสังข์ กรรมการ 11. รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี กรรมการ 12. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติกรณ์ นพอุดมพันธุ์ กรรมการ 13. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ�มศักดิ� สุวรรณทัต กรรมการ 14. นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล กรรมการ 15. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง เลขานุการ 16. นางสาวมุกดา จิตพรมมา ผู้ช่วยเลขานุการ 17. นางสาวนฤมล โหราเรือง ผู้ช่วยเลขานุการ สั�ง ณ วันที� 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ศาสตราจารย์ ดร.ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
6 | ประกาศคณะมัณฑนศิลป์ เรื�อง ผลการพิจารณารับรองผลงานสร้างสรรค์ที�มีความโดดเด่น ตามที�สภาคณบดีศิลปะและการออกแบบแห่งประเทศไทย สมาคมมัณฑนากรแห่ง ประเทศไทย ร่วมกับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัด โครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2566 (SILPA 2023: Creative Works Exhibition) โดยคณะกรรมการดำเนินงานฯ ได้นำเสนอคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาประเมินผลงาน เพื�อมอบประกาศนียบัตรรับรองผลงานที�มีความโดดเด่นด้านต่างๆ แล้ว นั�น บัดนี� คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้พิจารณาประเมินผลงานเป็นที�เรียบร้อยแล้ว ปรากฏผลการพิจารณา ดังนี� ด�านความคิดสร�างสรรค์1. Ordinary Blue No.2 อาจารย์ศิรัมภา จุลนวล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร2. โอ�เจ�าพวงมาลัย..ใยช่างหอมนักอาจารย์แสน ศรีสุโร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 3. โพ.ธิ.ก (สติ สมาธิ ปัญญา ความสุข) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชาติชาย คันธิก คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร4. DANCING WITH THE RAMAKIEN อาจารย์สุวพัชร โสวภาค คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ ศิลปกรรม สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 5. พักรองศาสตราจารย์ประภากร สุคนธมณี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 6. Vision of Silpa Bhirasri: Immersive Art ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 7. ปรับ สลับ สนุก (ชุดเคร่�องแต่งกายจากแนวคิดมอดุล่าร์เพ่�อเพิ�มม้ลค่า วัสดุในท�องถิ�น) อาจารย์ทเนศ บุญประสาน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 8. EQUILIBRIUM OF WASTE อาจารย์ฐากร ถาวรโชติวงศ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด�านสุนทร่ยะ1. Illustration for Lampang Walking Street Route Map ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศรีชนา เจริญเนตร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2. แอนิเมชั�นเทคนิคสต็อปโมชั�นจากยางพารา “ต๊กโตเจ�ากรรม” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ จันมา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร 3. พอด่ (Bodhi) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพลิน ศิริพานิช คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 4. LAMP PACKAGE LAMP อาจารย์อภิรักษ์ บูรณะเจตน์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 5. ลุยน�ำท่วม, นกกระจอกอยากเป็นนกอินทร่, บิน 2 รองศาสตราจารย์ธีรวัฒน์ งามเชื�อชิต คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 6. พระราชภาระ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์พันธุ์ จันทนมัฎฐะ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 7. นกน�อยในโลกท่�เต็มไปด�วยจอกแหน รองศาสตราจารย์พรพรม ชาววัง คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 8. สุวรรณอรุณ 999999999/2566 รองศาสตราจารย์พิทักษ์ สง่า คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 9. ทานบารม่ อาจารย์สมฤทัย วงศ์ใหญ่ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 10. มหาภิเนษกรมณ์ อาจารย์อิทธิพล วิมลศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 11. My Dream ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุณรุท กสิกรกรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 12. PARAMETRIC GANESHA อาจารย์เกล้ากัลยาภรฌ์ สวัสดิ�มงคลกุล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 13. Me and Susie ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกษร ผลจำนงค์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร14. การศึกษาเชิงสัญญะผ่านกระบวนการสร�างสรรค์ศิลปะ ผ้ก มัด ผ�าส้่ ประเพณ่ในวัฒนธรรมอิสลาม ชุดมะฮัรผู้ช่วยศาสตราจารย์คีต์ตา อิสรั�น คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี15. ศรัทธาผู้ช่วยศาสตราจารย์ประกรณ์ วิไล คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 16. ลมร�อนสนามจันทร์ อาจารย์ ดร.อรอุมา วิชัยกุล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด�านนวัตกรรม1. ฉัน (ใน) ดิน อาจารย์ ดร.ขจรศักต์ นาคปาน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2. พัฒนาบรรจุภัณฑ์กระดาษสาหร่ายล้มุจากโครงการ Pattani heritage city อาจารย์ ดร.ชนกิตติ� ธนะสุข คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
| 7 ด�านการส่งเสริมการเร่ยนร้�ทางวิชาการ1. พิมพ์ IIIII ประดับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดขวัญ สวัสดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร2. ส่�อการเร่ยนศิลปะเร่�องศ่รษะและใบหน�าอาจารย์วรรณฤทธิ� กะรินทร์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 3. Art Theory and History อาจารย์ ดร.จิรายุ พงส์วรุตม์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 4. MUDMEE “ERI SILK” อาจารย์ ดร.สุภาวินี จรุงเกียรติกุล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด�านการสร�างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ�งแวดล�อม หร่อวัฒนธรรม 1. DHARMA-JA-TI: Appropriated Interior Environmental Design ศาสตราจารย์ ร.ต.อ. ดร.อนุชา แพ่งเกษร คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2. โครงการ Green Wonder ส่งเสริมการท่องเท่�ยวเชิงนิเวศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 3. การดัดแปลงใช�อาคารพาณิชย์ 124 ถ.พรหมประเสริฐ เทศบาลเม่องชัยนาท สนับสนุนศิลปะ การออกแบบ เศรษฐกิจสร�างสรรค์ท�องถิ�นและการท่องเท่�ยวเนิบช�าผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยณรงค์ อริยะประเสริฐ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร4. ชานอาจารย์ ดร.ศราวุฒิ ปิ�นทอง คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร5. ภาพถ่ายประเพณ่และวัฒนธรรมการแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วยหร่อกุย-กวย บ�านประอาง อำเภอไพรบึง จังหวัดศร่สะเกษอาจารย์ภัทรศักดิ� สิมโฮง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรม สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 6. ลวดลายฝาท่อระบายน�ำแรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมส่ฝุ่น วัดปทุมคงคา (นกออก) อาจารย์วีรยุทธ โกศัลวัฒน์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรม สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 7. อาร์ต ออฟ โนนชาด อาจารย์ทัพพ์เทพ ภาปราชญ์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื�อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร 8. ศิลป์ในสวนสาธารณะคลองสาน อาจารย์คณิตา มีชูบท คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร9. อาคารตึกแถวพาณิชย์ท่�ระลึก รอบเกาะรัตนโกสินทร์อาจารย์ฐปนัท แก้วปาน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์10. เศษ (Waste) = ไร�ค่าอาจารย์ ดร.อาริยา อัฐวุฒิกุล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 11. Khway Nam: ควายน�ำ อาจารย์ ดร.ศุภราภรณ์ ทวนน้อย คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 12. การออกแบบผลิตภัณฑ์จากวัสดุท่�ไม่ใช�แล�วด�วยกระบวนการ Upcycle ร่วมกับสถานประกอบการอุตสาหกรรมท�องถิ�น อาจารย์ ดร.ชิตชัย ควรเดชะคุปต์ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 13. Karen in style: The color handbags อาจารย์ภัทรา อัตตวิริยะสกุล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 14. ISAN POP : DANKWIAN POTTERY ผู้ช่วยศาสตราจารย์ราชา ธงภักดิ� คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และ ศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 15. เร่ยง-ลาย : จก อาจารย์วรุษา อุตระ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื�องด้วยข้อจำกัดของพื�นที�การจัดแสดงนิทรรศการ SILPA 2023 ณ หอศิลปะและ การออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทางคณะทำงานจ่งกำหนด หลักเกณฑ์การจัดแสดงผลงานสำหรับผู้ที�ได้รับคัดเลือกดังนี� การจัดแสดงในหอศิลปะและการออกแบบ มี 3 รูปแบบ ดังนี� 1. การแสดงผลงานจริง 2. การแสดงภาพผลงานแบบย่อ 3. การแสดงผลงานในจอดิจิทัล ผู้ที�ได้รับคัดเลือก ที�ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความโดดเด่นในด้านต่างๆ จะได้รับเชิญให้นำผลงานจริงมาจัดแสดง ณ หอศิลปะและการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ โดยจะมีการติดต่อแจ้งรายละเอียดการนำผลงานมาจัดแสดงไปยังทุกท่านต่อไป สำหรับผู้ที�ได้รับคัดเลือก ที�ไม่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความโดดเด่นในด้านต่างๆ จะได้จัดแสดงในรูปแบบการแสดงภาพผลงานแบบย่อ และการแสดงผลงาน ในจอดิจิทัล โดยทางคณะทำงานจะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั�งหมด ทั�งนี�ผลงานของผู้ ที�ได้รับคัดเลือกทุกท่าน จะได้รับการตีพิมพ์ในสูจิบัตรประจำปี และผู้ที�ได้รับคัดเลือก จะได้รับสูจิบัตรคนละ 1 เล่ม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จ่งประกาศให้ทราบทั�วกัน ประกาศ ณ วันที� 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ รักษาการแทน คณบดีคณะมัณฑนศิลป์
8 | สารบัญ DEC’s Blooming Season 11 The City Garden No.2 12การดัดแปลงใช้อาคารพาณิชย์ 124 ถ.พรหมประเสริฐ 13เทศบาลเมืองชัยนาท สนับสนุนศิลปะการออกแบบ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ท้องถิ�นและการท่องเที�ยวเนิบช้า The Golden Sand Condominium Pattaya 14 การออกแบบแสงสว่างภายในห้องนอน 15 Biodegradable lampshade as instructional tools 16 for students of interior design DHARMA-JA-TI: Appropriated Interior Environmental Design 17 โครงการ Green Wonder ส่งเสริมการท่องเที�ยวเชิงนิเวศ 18 ชาน 19 แบ่งปัน 20 586 Creative Seed ปรับอาคารร้างเป็นพื�นที�สร้างแรงบันดาลใจ 21 Autumn shaded 22 ศิลปะข้างถนน เพื�อหมาข้างถนน 23 ความสดใสใต้สะพานตลาดพลู 24 งานบูรณะเรือนรับรองยิบอินซอย 25 ศิลป์ในสวนสาธารณะคลองสาน 26 Art Theory and History 27 Grand shadow play 28 สื�อการเรียนศิลปะเรื�องศีรษะและใบหน้า 29 Social Media Life 30 ยันต์ไทยในมิติ Extended Reality 31 พิมพ์ IIIII ประดับ 32 กาลิเลโอ คินี ในมุมมองของฉัน 33 GANESH ROBOT 34 อาร์ต ออฟ โนนชาด 35 สลาย-สร้าง Degenerate-Generate 36 งานออกแบบอัตลักษณ์องค์กร INSECTOR 37 PRINCESS MAHA CHAKRI AWARD 38 แผ่นพับเส้นทางเรียนรู้วัฒนธรรม ชิม มู ดู ไม้ @บางโพ 39 เพลงที�ลูกชอบสู่ของที�ลูกใช้40 มาสคอตนักเลงสายหวาน 41 Dishonest 42 ตัวพิมพ์ “ธนบุรี บุญจัน” 43 อัตลักษณ์ชุมชนกลุ่มมะพร้าวทับสะแก ออร์แกนิค 44 WOMEN 45 ผ้ายันต์..วิถีชาวเมืองเจียง(เจน)ใหม่46 การออกแบบสติกเกอร์ไลน์หลักสูตรออกแบบสื�อสาร 47 ภาพถ่ายประเพณีและวัฒนธรรมการแต่งกาย ของกลุ่มชาติพันธุ์ 48 ส่วยหรือกุย-กวย บ้านประอาง อำเภอไพรบ่ง จังหวัดศรีสะเกษ การออกแบบโปสการ์ดเส้นทางเดินไหว้พระ 5 วัด 49ท้าวเวสสุวรรณ 50ลวดลายฝาท่อระบายน�ำ แรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมสีฝุ่น 51วัดปทุมคงคา (นกออก) DANCING WITH THE RAMAKIEN 52กระบวนการออกแบบชุดคู่มือหลักสูตรการพัฒนาทักษะ 53 การรู้เท่าทันสื�อของประชาชน เพื�อการใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ What is Formstorming Z 100 REPEAT 54แบบตัวอักษร เมาะหลวง 55 Illustration for Lampang Walking Street Route Map 56การออกแบบชุดตัวอักษรเพื�อสื�อสารแบรนด์สโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี 57เหลืองหางขาว ไก่เจ้าเลี�ยง 58 การสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม: สุโขทัย 59มหาศ่กรามายณะ 60แอนิเมชั�นเทคนิคสต็อปโมชั�นจากยางพารา “ต๊กโตเจ้ากรรม” 61 การผสานพุทธศิลป์หินทรายสกุลช่างพะเยา 62 Phayao Local Designer การออกแบบอัตลักษณ์ข้อมูลภาพดิจิทัล 63และเทมเพลตสำเร็จรูปเพื�อการออกแบบผลิตภัณฑ์ชุมชนวันละสล่งข้าต้องรอด (กราฟิกปกและรูปเล่มหนังสือนวนิยาย) 64 50JOEs: The Value Shift of Illustration Art 65 UOB The FinLab Identity 66 การสร้างสรรค์ภาพถ่ายเพื�อยกระดับผลิตภัณฑ์67 ท้องถิ�นและการท่องเที�ยวชุมชน ถอดร่าง สร้างใหม่68 มาสคอตเทศกาล นาฏยแห่งศรัทธา กิ�งกะหร่า น้อมบูชา วิสาขปุรณมี 69 บูชาปะกำ 70 การออกแบบคาแรคเตอร์ดีไซน์เพื�อสื�อสารแนวคิดการท่องเที�ยวแบบ 71 คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของชุมชนลีเล็ด-คลองร้อยสาย จ.สุราษฎร์ธานี RUMTHAI VS COYOTY 72 การออกแบบภาพประกอบศิลปะดูเดิล 73 “แลนด์มาร์คแผนที�ท่องเที�ยวจังหวัดแพร่” Climate is Okay? 74 คำใต้75 โครงการออกแบบบทบรรณาธิการ หนังสือ “3706 – Experigram” 76 (ฉบับที� 3 ปี คศ. 2022) ไม่เคยลืม 77 โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ไข่เค็มเป็ดปากน�ำ 78 ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียง คลองบางน�ำจืด อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ งานออกแบบชุดฉลากบรรจุภัณฑ์ปลาน�ำจืดแปรรูป 79 ตำบลทองเอน จังหวัดสิงห์บุรี ความรู้ส่กของฉัน 80 โครงสร้างแรงบิด และ แรงต่ง-ที�วางไข่81 สอดประสาน – Interlaced Surface 82 Roccet Inhaler 83 I was crying when I printed it 84 LAMP PACKAGE LAMP 85 เศษ (Waste) = ไร้ค่า 86 ไร้กรอบ 87 พอดี 88 Asian Water Monitor Gashapon 89 อาคารต่กแถวพาณิชย์ที�ระล่กรอบเกาะรัตนโกสินทร์90 Push and Dry 91พัฒนาบรรจุภัณฑ์กระดาษสาหร่ายลูมุจากโครงการ Pattani heritage city 92ควายน�ำ 93การออกแบบผลิตภัณฑ์จากวัสดุที�ไม่ใช้แล้วด้วยกระบวนการ Upcycle 94ร่วมกับ สถานประกอบการอุตสาหกรรมท้องถิ�น Karen in style: The color handbags 95
| 9 Ordinary Blue No.2 96 An Egg of Silence 97พัก 98 โพ.ธิ.ก (สติ สมาธิ ปัญญา ความสุข) 99ลานวัดนางนอง 100เรียง-ลาย: จก 101 ศรัทธา 102 Green Peacock and Lotus 103ผล่กข้าวก�ำ 104 ISAN POP: DANKWIAN POTTERY 105 DanKwian WaSa 106 โอ้เจ้าพวงมาลัย..ใยช่างหอมนัก 107 ปรับ สลับ สนุก (ชุดเครื�องแต่งกายจากแนวคิดมอดุลาร์108เพื�อเพิ�มมูลค่าวัสดุในท้องถิ�น) มิเคยเลือนลา หมายเลข 3 109 EQUILIBRIUM OF WASTE 110 ฉัน (ใน) ดิน 111 MUDMEE “ERI SILK” 112 ชุดไตร่วมสมัย 113 พฤกษาไทยทรงดำ 114 เส้น สาย ลาย จาก 115 งานสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื�องแต่งกายร่วมสมัยจากผ้าทอว่านงาช้าง 116 ให้สีจากฟังไจ ชุมชนบ้านหนองนางด่อน จ. นครพนม สวัสดี ฉันชื�อสร้อย ฉันคือแหวน 117 สวัสดี หมายเลข 1 118 ประดับช่วงเวลาพิเศษ 119 รอยต่อ 120 ยางวงปฏิวัติ 121 ลมร้อนสนามจันทร์122 สงบอย่างสนุก 123 ประดับ-ตำหนิ 124 ชุดเครื�องประดับ Skylight 125 แก้วแห่งศรัทธา 126 ถมอารมณ์ดี หมายเลข 1 127 อัตลักษณ์นครสวรรค์ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร 128 Twist 129 Me and Susie 130 ลุยน้�าท่วม, นกกระจอกอยากเป็นนกอินทรี, บิน 2 131 นกน้อยในโลกที�เต็มไปด้วยจอกแหน 132 สุวรรณอรุณ 999999999/2566 133 ทานบารมี 134 มิติแห่งตัวตน 135 กลไกธรรมชาติสังเคราะห์ 136 มหาภิเนษกรมณ์137 My Dream 138เงาหอมหวน ประกายรัญจวน 139 Vision of Silpa Bhirasri: Immersive Art 140 Birth through the nembutsu 141 PARAMETRIC GANESHA DESIGN 142พระพิฆเนศปาง ธาวเนศวร 143 พระราชภาระ 144 Cross-Cultural Curatorial Practice-“Gข่凝AงตZ視ข่าE” 145 Taiwan and Thailand Cooperative Project Exhibition ภูมิทัศน์ของจินตภาพใหม่ในบริบทสภาวะความฉับพลัน 146 Mixed Blessing (New Chapter) 147 Heart’s Illumination 148 สภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ในสังคมร่วมสมัย 149 Magic Moment 150 พื�นผิวแห่งชีวิต หมายเลข 3 151 clay of life 152ห่มบัวในสายหมอกของเช้าวันใหม่153 Stories of the stones No.2 154ครอบครัว 2 155 IDOL No.1, 2, 3 156 จงส่งต่อความรักออกไป 157 แดง, ขาว, น�ำเงิน 158ความสัมพันธ์การเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์ 159 Slumber 160 Rest Time With Fluffy Bear 161เลือดเนื�อของแม่162รูปทรงในบริบทธรรมชาติ 163เมืองลับแล อุตรดิตถ์164กฎแห่งกาล 165 Somebody’s Watching You 166การศ่กษาเชิงสัญญะผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ผูก มัด ผ้า 167 สู่ประเพณีในวัฒนธรรมอิสลาม ชุด มะฮัรฉุดรั�ง 168 Reverie - ภวังค์169 Garden of Eden 170 จั�ว 172 +U 2 172 #A51931 173 Garden. 2023 (กระทือ) 173 โครงการออกแบบอุโบสถวัดไทยถ�ำเอลโลร่า ณ เมืองออรังกาบาด 174แคว้นอัสกะ รัฐมหาราษฏร์ สาธาณรัฐอินเดีย Office Lobby Design 174 Frühling (วสนฺตฤดู) 175 แบบสาน 175 หญิงสาว 176 Love 176 รำล่ก ศ.ศิลป์ พีระศรี 177 Birds In The Greenland 177 ทวารวเดียร์178 ตะเกียง 178 Lamplight 178 คืน จันทร์179 Chain 179 The leafe in the air 180 man-flower 180 Japan in my mind 181 ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี 181
10 | HONORABLE สารจากคณบดี ในนามของคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอขอบพระคุณ สภาคณบดีศิลปะและการออกแบบแห่งประเทศไทย สมาคมมัณฑนากรแห่ง ประเทศไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และคณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที�ให้ความร่วมมือสนับสนุน และส่งเสริมอย่างดียิ�ง เพื�อให้เกิดเวทีเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะและการออกแบบระดับชาติ ภายใต้ชื�อ SILPA ข่�น ซ่�งในปีนี�นับเป็นปีที�สองของการดำเนินงาน เป็นที�น่าประทับใจอย่างมากที�คณาจารย์จากสถาบันอุดมศ่กษาทั�วประเทศให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมการคัดเลือกเป็นจำนวนมากข่�นกว่าเดิมเกือบเท่าตัว ขอขอบพระคุณผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านวิชาการและวิชาชีพที�มีประสบการณ์ด้านศิลปะและการออกแบบขั�นสูงจากหลากหลายองค์กร ที�กรุณาสละเวลามาเป็นผู้พิจารณาประเมินผลงาน (Peer Review) เพื�อคัดเลือกเข้าร่วมการจัดแสดง นิทรรศการสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานสากล คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หวังเป็นอย่างยิ�งว่า การจัดงานในครั�งนี� จะช่วยก่อประโยชน์ให้คณาจารย์สายศิลปะและการออกแบบ ได้มีเวทีเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ในระดับชาติ ที�เอื�อต่อการนำใช้ประโยชน์ทางวิชาการได้ตามความประสงค์ อาจารย์ ดร.ธนาทร เจียรกุลคณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
HONORABLE | 11 DEC’s Blooming Season ดร.ธนาทร เจียรกุล | คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 1089 x 1505 px | การถ่ายภาพ ช่วงงามสะพรั�งอย่างสร้างสรรค์ของคณะมัณฑนศิลป์
12 | HONORABLE The City Garden No.2 50 x 50 ซม. | 3D Modeling รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ (หลักสูตรสองภาษา) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา การเปลี�ยนผ่านจากโลกจริงสู่โลกจักรวาลนฤมิต “metaverse” ทุกสรรพสิ�งสามารถถูกสร้างสรรค์ข่�นมาอย่างหลากหลายในทุกๆ มิติเปิดโอกาสให้กับทุกคนได้มี โอกาสเข้าถ่งมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นวัตกรรมเข้ามา มีบทบาทในการด้ารงชีวิตในปัจจุบัน มีผลกระทบมากมายที�เกิดข่�นทั�งด้านบวก และด้านลบ ส่งผลกระทบให้การใช้ชีวิตต้องมีความละเอียดในการพินิจพิจารณา วิเคราะห์ให้ถ้วนถี�จักรวาลนฤมิตจ่งเปรียบเสมือนอีกพื�นที�หน่�งที�เราสามารถ พักผ่อน เติมเต็ม บ้าบัด สร้างประสบการณ์ใหม่ เริ�มค้นหาตามสัญชาตญาณการเรียนรู้อีกครั�ง อย่างไม่มีที�สิ�นสุด
FACULTY | 13 การดัดแปลงใช้อาคารพาณิชย์ 124 ถ.พรหมประเสริฐ เทศบาลเมืองชัยนาท สนับสนุนศิลปะการออกแบบ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ท้องถิ่นและการท่องเที่ยวเนิบช้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยณรงค์ อริยะประเสริฐ | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัญหาภาวะเศรษฐกิจและประชากรหดตัวหลายพื�นที� ทำให้ผู้คนต้องดิ�นรนย้ายไป ยังถิ�นที�มีอาชีพ และมีคนมากกว่าเพื�อโอกาสด้านต่างๆ มากกว่าถิ�นเดิม วัยเรียน วัยทำงานต้องห่างภูมิลำเนา ทิ�งผู้สูงวัยและเด็กในท้องถิ�น ทำให้กิจกรรมและความ สัมพันธ์ครอบครัวและเครือญาติลดลง แม้ปัจจุบันโครงสร้างพื�นฐานสิ�งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยีการสื�อสารและระบบการคมนาคมสาธารณะที�รุดหน้า ทั�วถ่ง ทำให้ผู้คนเข้าถ่งข้อมูลความรู้ข่าวสารสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันง่ายข่�น แต่ตัวเลขเศรษฐกิจและประชากรในชนบทเทียบกับในเมืองยังคงหดตัว กระนั�นก็ตามจากสถิติผู้เดินทางช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงการประกาศปิดเมืองทั�วประเทศ จากสถานการณ์ระบาดโควิด 19 แสดงให้เห็นถ่งความเป็นไปได้ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื�อพัฒนาพื�นที�ให้เป็นนวัตกรรมพื�นที�พักผ่อนและทำงานได้ด้วยในบรรยากาศชนบท ด้วยการสร้างระบบนิเวศน์และส่วนประกอบของเมืองชนบท ให้มีเสน่ห์ด่งดูดใจมากข่�น ด้วยการนำเสนอพื�นที�และกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที�ไม่ทับซ้อนกับกิจกรรมเศรษฐกิจที�ชุมชนมีอยู่ในบริบทเดิม โดยให้สอดคล้องกับการใช้พื�นที�สาธารณะของผังเมืองใหม่ เป็นการนำเสนอการออกแบบ ปรับปรุงพื�นที�ใช้สอยอาคารพานิชย์ให้เช่าของเอกชน 3 คูหา ให้เป็นจุดเช็คอิน พื�นที�รับแขกและห้องนั�งเล่นบนชั�นดาดฟ้า จำหน่ายอาหาร ขนม เครื�องดื�ม และของที�ระล่กชุมชนในบรรยากาศของแกลอรี�ศิลปะประยุกต์และการออกแบบใน ชั�น 2 และ 3 ที�หยิบยืมแลกเปลี�ยนกับแกลอรี�เครือข่ายเพื�อนำเสนอศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ทรัพยากร ใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบพื�นถิ�นเป็นอาหารและเครื�องดื�ม เพื�อการมีส่วนร่วมของเศรษฐกิจหมุนเวียนภาคีเครือข่าย แนวความคิดและกระบวนการสร้างสรรค์ ใช้ทักษะมัณฑนากรปรับปรุงกายภาพ ภายนอก โครงสร้าง ระบบเทคนิค การใช้วัสดุอุปกรณ์และสิ�งอำนวยความสะดวก รองรับเพื�อทุกคน นำวัสดุก่อสร้างกลับมาใช้อย่างรับผิดชอบโดยเปลี�ยนการใช้สอย สู่การตกแต่งภายใน ทำการบันท่กโดยถ่ายทอดสดอธิบายแนวคิดในการตกแต่ง ที�สอดคล้องกับการใช้งบประมาณอย่างรับผิดชอบบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ FACEBOOK LIVE นำข้อมูลมาพัฒนาร่วมกับนักออกแบบอาสา เกิดเป็นการ นำเสนอทัศนียภาพสามมิติมาตรฐานวิชาชีพสากลด้วยคอมพิวเตอร์ นำมาจัดวาง เป็นโปสเตอร์แนวตั�งขนาด A1 แล้วนำข้อมูลภาพมาตัดต่อจัดลำดับประกอบเสียง ความยาว 180 วินาที ด้วยแอปพลิเคชันสำเร็จรูป เผยแพร่สู่สาธารณะในช่อง ทางส่วนบุคคล ด้วยความไว้วางใจกันระหว่างมัณฑนากรอาวุโสกับมัณฑนากร อาสารุนใหม่ที�ต่างวัยและประสบการณ์ เผยให้เห็นถ่งความจำเป็นของความ แม่นยำและความไว้วางใจในทักษะอาชีพของคน 2 วัย สามารถสรุปและอภิปราย ผลได้ว่าช่วยลดเวลาและงบประมาณได้มากด้วยเทคโนโลยีสื�อสารที�เป็นปัจจุบัน และทัศนคติทางวิชาชีพระหว่างกันและกันที�ยืดหยุ่น องค์ความรู้ในผลงานนี�เผยให้เห็นถ่งความจำเป็นและความต้องการอาชีพมัณฑนากร อย่างมหาศาลในการพัฒนาชนบท ด้วยความได้เปรียบทางอาชีพที�สามารถ สร้างสรรค์ผลงานในงบและเวลาด้วยข้อจำกัดรูปแบบอาคารและวัสดุอุปกรณ์ Outstanding Social,Environment & Culture Impact เอกสารอ้างอิงชัยณรงค์ อริยะประเสริฐ. FACEBOOK LIVE 4 มีนาคม 2566. เข้าถ่งเมื�อ 21 มิถุนายน 2566. เข้าถ่งได้จาก https://fb.watch/lisoiqRiFM/
14 | FACULTY ด้วยความต้องการบริษัท น�ำตาลมิตรผล จำกัด ที�ต้องการปรับปรุงเปลี�ยนแปลง การตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับผู้บริหารของบริษัทที�พัทยา จังหวัดชลบุรีทางผู้ออกแบบจ่งได้ทำการสำรวจพื�นที�โดยการเข้าพักและเก็บ รวบรวมข้อมูลทั�งในด้านโครงสร้างของอาคาร งานระบบ การใช้งาน การรับรู้ บรรยากาศและความงาม รวมถ่งค้นคว้าข้อมูลเพิ�มเติมจ่งได้ทราบว่าคอนโดมิเนียม แห่งนี�เดิมถูกออกแบบโดย ม.ล.ภาวินี สันติศิริ 1 จ่งได้นำข้อมูลที�ได้มาทั�งหมดมาตี โจทย์และวางแผนงานการออกแบบภายในเพื�อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน หลังจากเก็บข้อมูลเชิงกายภาพแล้วทางผู้ออกแบบได้ค้นหาข้อมูลความเป็นมา ของบริษัท จ่งได้ทราบว่าทางบริษัทมีการลงทุนในด้านการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์อ้อย เพื�อช่วยเหลือเกษตรกร โดยทางบริษัทเป็นเจ้าของสิทธิบัตรพันธุ์อ้อยภูเขียว 2 ซ่�ง เป็นสายพันธุ์ที�มีลักษณะเฉพาะตัวสามารถให้น�ำอ้อยเพื�อผลิตน�ำตาลได้ปริมาณ มากทนต่อโรค ในเชิงศิลปะมีลำต้น พื�นผิว และสีสันที�มีความเฉพาะตัว ทางผู้ ออกแบบจ่งได้นำมาเป็นแนวความคิดหลักโดยวิเคราะห์ผ่านงานสร้างสรรค์สีน�ำ แบบการเก็บข้อมูลทางด้านพฤกษศาสตร์ (Botanical art) เพื�อให้ผู้ออกแบบได้ รับรู้ถ่งลักษณะของพันธุ์อ้อยด้วยความเข้าใจที�ล่กซ่�ง และได้นำเอามาถอดเป็น โครงสร้างของสี เส้น พื�นผิว ความโปร่งเบาของใบ ความแข็งแรงของลำตัน และ การรับรู้ เพื�อนำมาสร้างสรรค์กระบวนการออกแบบภายในต่อไป จากแนวความคิดจ่งได้นำมาจัดวางแปลนเพื�อแก้ไขปัญหาในเชิงพื�นที�การใช้สอย มุมมองการเข้าถ่งและการรับรู้ โดยบริบทของพื�นที� ตั�งอยู่ที�บริเวณชั�นที� 23 ติด ชายทะเลต้องการช่องเปิดโล่งเพื�อรับวิวทะเลและวิวเมือง โจทย์ที�ผู้ใช้ต้องการ ความรู้ส่กที�มีระดับแบบผู้บริหาร จ่งได้ออกแบบรูปแบบแปลนที�เน้นแกนมีความสมมาตร รู้ส่กภูมิฐานและระบบกริดที�ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในพื�นที�ให้มีความ The Golden Sand Condominium Pattaya ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณัฐรฐนนท์ ทองสุทธิพีรภาส และบรรจงลักษณ์ กัณหาชาลี | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ลงตัวกับโครงสร้างอาคารและงานระบบเดิมทั�งพื�น ผนัง เพดาน โดยผ่านการ พัฒนาแบบด้วยการวาดเส้นทัศนียภาพภายใน และนำเอาข้อมูลมาพัฒนาวัสดุ ด้วยการเลือกวัสดุที�มีลักษณะพื�นผิวเป็นร่องในจังหวะที�มีความถี�ห่างไม่เท่ากัน แบบลำต้นของอ้อยโดยการใช้คิ�ว บัว กรอบซุ้มต่างๆ เป็นโพลียูรีเทนการเลือก กระเบื�องดินเผาที�มีมิติความล่กทางสายตาแบบแกนอ้อย และถอดโทนสีของอ้อยจากรหัสสีของสีน�ำที�นำไปสู่รหัสของสีทาภายใน ไปจนถ่งลามิเนตและหินควอทซ์ และความโปร่งเบาของใบอ้อยที�เทียบได้กับความปรุโปร่งของงานจักสาน ทำให้ได้ชุดของวัสดุที�มีทั�งความทนทาน เหมาะกับประโยชน์ใช้สอยและมีความงามอันเกิดจากการแนวความคิดของพันธุ์อ้อย และเมื�อได้วิเคราะห์สังเคราะห์ ปรับปรุงงานผ่านงานเขียนทัศนียภาพแบบสามมิติ ในมุมมองต่างๆ จนได้ผลงานการออกแบบภายในที�ตอบโจทย์ลูกค้า สื�อสารได้ถ่งความเป็นมาขององค์กร มีความผ่อนคลายเหมาะสำหรับการเป็นที�พักตาก อากาศ มีความภูมิฐานแบบผู้บริหาร ทำให้ผลงานชิ�นนี�เป็นอีกหน่�งวิธีการในการ พัฒนากระบวนการออกแบบภายในและงานนำเสนอในด้านวิชาการและวิชาชีพ การออกแบบภายในให้กับผู้ที�สนใจได้นำไปต่อยอดได้ต่อไป เอกสารอ้างอิง1 บุศรินทร์ หอณรงค์ศิริ, “สำคัญที�การจัด Plan,” ใน นิตยสาร INTER-DECOR, ชัชรินทร์ สุขพัฒน์, บรรณาธิการ (กรุงเทพฯ: บริษัท วัฏจักร จำกัด(มหาชน), 2540), 30-38. 2 กรมวิชาการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, “ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื�อง โฆษณาคำขอให้ออกหนังสือรับรองพันธุ์พืชข่�นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติพันธุ์ปี พ.ศ.2518,” 3 กันยายน 2562. เข้าถ่งเมื�อ 30 มิถุนายน 2566, เข้าถ่งได้จาก https://www.doa.go.th/ pvp/wp-content/uploads/2019/11/AnnoDOA_Public195.pdf
FACULTY | 15 แสงถือเป็นองค์ประกอบที�สำคัญในการสร้างการรับรู้ให้เกิดกับพื�นที�รวมไปถ่งการมีส่วนช่วยในการส่องสว่างพื�นที�ในกิจกรรมที�ต่างกันให้เหมาะสม จ่งเป็นที�มาของการอธิบายกระบวนการออกแบบแสงภายในพื�นที�ห้องนอนที�ประกอบด้วยหลายฟังก์ชั�น เพื�อสามารถเป็นต้นแบบและนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบได้ต่อไป ซ่�งสามารถอธิบายกระบวนการออกแบบได้ดังนี� 1) ขั�นตอนการเก็บข้อมูลศ่กษาฟังก์ชั�นในพื�นที� ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ พื�นที�ส่วนนอน พื�นที�ส่วนนั�งเล่นและพื�นที�ส่วนทำงาน วางผังให้ทั�ง 3 ส่วน สามารถ ใช้งานเชื�อมกันได้อย่างสะดวก แบ่งส่วนชัดเจน ตกแต่งด้วยรูปแบบและสีสันที�เรียบง่าย เพื�อให้เกิดความรู้ส่กผ่อนคลายในพื�นที� ศ่กษาทิศทางแสงธรรมชาติ แสงธรรมชาติจะเข้าเพียงช่วงเช้า ด้านช่องเปิดขวาของเตียงนอน ศ่กษาความต้องการเฉพาะของการใช้งานพื�นที� ต้องการบรรยากาศห้องที�มีความผ่อนคลาย มีแสงสว่างเพียงพอทุกพื�นที�ใช้งานและไม่รบกวนการนอน เนื�องจากการใช้พื�นที� ห้องนอนส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลากลางคืน 2) ขั�นตอนการออกแบบ ขั�นตอนศ่กษา หลักการออกแบบแสงภายในห้องนอน ประกอบด้วยแสง 3 ฟังก์ชั�น1 ได้แก่ Ambient lighting (แสงแวดล้อม) Task lighting (แสงใช้งาน) และ Accent lighting (แสงเพื�อการตกแต่ง) แสงแต่ละฟังก์ชั�นส่องสว่างในเป้าหมายที�ต่างกัน การออกแบบแสงสว่างที�ดีจ่งจำเป็นต้องคำน่งถ่งความเหมาะสมและความครบถ้วนของการส่องสว่างเพื�อการใช้งานในทุกฟังก์ชั�นควบคู่ไปกับสุนทรียภาพ 3) ขั�นตอนค้นหาแนวความคิดในการออกแบบ ความต้องการบรรยากาศของแสงที� มีความผ่อนคลายและสามารถใช้งานในรูปแบบที�หลากหลาย จ่งเป็นแนวความคิด ในการออกแบบแสงที�ให้เฉพาะแสงไฟใช้งาน (Task lighting) และแสงไฟตกแต่ง (Accent lighting) เป็นส่วนใหญ่ ส่วนแสงแวดล้อม (Ambient lighting) ออกแบบ ให้แสงในรูปแบบ Indirect lighting ไฟหลืบและไฟซ่อนเพื�อสร้างบรรยากาศที� การออกแบบแสงสว่างภายในห้องนอน อาจารย์ปาริฉัตร สุชาติกุลวิทย์ | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นุ่มนวล 4) ขั�นตอนการออกแบบ วางตำแหน่งไฟตามฟังก์ชั�นผังเฟอร์นิเจอร์ โดยการเริ�มจากวางตำแหน่งไฟแสงแวดล้อม (Ambient lighting) ตามด้วยแสง ไฟใช้งาน (Task lighting) บริเวณโต๊ะทำงานและหัวเตียงอ่านหนังสือ และแสง ไฟตกแต่ง (Accent lighting) กระจายตามจุดที�มีภาพตกแต่งและบริเวณคิ�วบัว ตกแต่งผนังโทรทัศน์ตรวจสอบความครบถ้วนของแสงกับพื�นที�ใช้งาน กำหนด สวิทซ์ปิดเปิด (circuit) ให้ครอบคลุมและเหมาะสมกับการใช้งานในหลากหลาย รูปแบบ 5) ขั�นตอนการเลือกดวงโคม ดวงโคมประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ตัวโคม และหลอดไฟ องค์ประกอบในการเลือกดวงโคมของโครงการมีดังนี� ตัวโคมเลือกรูปแบบโคมสีขาวเพื�อให้เหมาะกับสีฝ้าเพาดาน หน้ากากสะท้อนเลือกแบบ mirror ให้สะท้อนไฟและสว่างได้เต็มประสิทธิภาพ และเลือกโคมที�สามารถปรับองศาได้เพื�อการยืดหยุ่นในการใช้งาน หลอดไฟ เลือกใช้หลอดไฟ LED ขั�วหลอด MR16 องศาของหลอดไฟไม่เกิน 24 องศา เพื�อให้สามารถส่องสว่างในพื�นที�ต้องการและไม่กระจายไปพื�นที�อื�น เลือกอุณหภูมิของแสง 3000k เพื�อให้บรรยากาศแสงสีอมส้ม เหมาะกับบรรยากาศผ่อนคลาย เลือกค่า CRI (ค่าความถูกต้องของสี) 90 ให้มองเห็นสีวัสดุภายในห้องได้ชัดเจนและถูกต้อง การออกแบบแสงสว่างมีความจำเป็นมากกับการให้บรรยากาศและการรับรู้ในพื�นที� ถ้าหากศ่กษาให้เพิ�มข่�น การออกแบบแสงสว่างมีตัวแปรและค่ามาตรฐานอีกมาก การศ่กษาเพิ�มเติมเกี�ยวกับอุปกรณ์เครื�องมือวัดค่าและโปรแกรมการออกแบบ แสงเช่น Dialux เป็นต้น จะช่วยให้การออกแบบแสงสว่างมีความแม่นยำยิ�งข่�น เอกสารอ้างอิง 1 Martin, Lucy. (2010). The Lighting Bible. Singapore: Page One Publishing Pte Ltd.
16 | FACULTY Biodegradable lampshade as instructional tools for students of interior design ผู้ช่วยศาสตราจารย์สัญญา สุขพูล | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การศ่กษาด้านการออกแบบให้ความสนใจเพิ�มข่�นในการออกแบบชิ�นงานที�ย่อย สลายได้ทางชีวภาพ ในฐานะผู้ใช้สื�อการสอนที�ผสมผสานการแสดงออกอย่าง สร้างสรรค์เข้ากับจิตสำน่กต่อสิ�งแวดล้อม ข้อเขียนนี�เป็นการนำเสนอวัตถุประสงค์ ต่อการใช้แผ่นกั�นแสงโคมไฟ ชิ�นงานออกแบบที�ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ใน “ฐานะสื�อการสอนแนวคิดเรื�องการออกแบบที�ยั�งยืน” ที�ครอบคลุมการอภิปราย เชิงสรุปซ่�งมีต่อผู้สอนและผู้เรียนสาขาวิชาการออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ วัตถุประสงค์ 1) ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในหมู่ผู้เรียน ด้วย การใช้วัสดุที�ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น พลาสติกชีวภาพ ไม้ไผ่ หรือ เส้นใยธรรมชาติเป็นต้น ผู้เรียนจะได้รับการสนับสนุนให้สำรวจกระบวนการ การออกแบบทางเลือกและคิดอย่างมีวิจารณญาณเกี�ยวกับผลกระทบต่อสิ�ง แวดล้อมจากตัวเลือกของพวกเขา วัตถุประสงค์นี�สอดคล้องกับเป้าหมายในการ บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหาของผู้เรียน 2) สร้างโอกาส สำหรับผู้เรียน ที�จะเข้าใจถ่งความสำคัญของการพิจารณาวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ และวัสดุที�ใช้ในการสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้การพัฒนากระบวนการการออกแบบ ที�เป็นมิตรต่อสิ�งแวดล้อมซ่�งช่วยลดของเสียลดมลพิษ และให้ความสำคัญกับ ความยั�งยืน ด้วยการทำงานกับวัสดุที�ย่อยสลายได้ทางชีวภาพวัตถุประสงค์นี�มี ส่วนช่วยในการพัฒนานักออกแบบที�คำน่งถ่งสิ�งแวดล้อมและความเป็นพลเมืองที� มีความรับผิดชอบ แนวความคิดของ สื�อการสอนและกระบวนการสร้างสรรค์-การเรียนรู้ 1) สร้าง ความเข้าใจต่อผู้เรียนเกี�ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการออกแบบอย่างยั�งยืนและ ผลกระทบต่อสิ�งแวดล้อมจากการสร้างสรรค์ของพวกเขา อีกทั�งเข้าใจความ ต้องการในการออกแบบผลิตภัณฑ์และอื�นๆ ที�สอดคล้องกับหลักการทางนิเวศ วิทยาความเข้าใจนี�ทำให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะในการตัดสินใจด้านการ ออกแบบอย่างรอบรู้ต่อวิชาชีพในอนาคต 2) ท้าทายให้ผู้เรียนให้คิดนอกกรอบ อีกทั�งทำการสำรวจวัสดุและการออกแบบที�แปลกใหม่ ส่งเสริมการทดลองด้วย วัสดุที�ย่อยสลายได้ ผู้เรียนจะได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาการออกแบบที� เป็นเอกลักษณ์และยั�งยืน ประโยชน์ที�ได้รับและข้อเสนอแนะจากสื�อการสอน สร้างสรรค์-การเรียนรู้นักออกแบบรักษ์โลก (Designers save the earth) นัก ออกแบบแท้จริงแล้วมีศักยภาพในการช่วยให้กระบวนการสร้างสรรค์ความงาม หรือประโยชน์ใช้งานจากการออกแบบที�เกิดข่�นจากการทำลายสิ�งแวดล้อมช้าลง มากกว่านักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง นักธุรกิจ หรือแม้กระทั�งนักกิจกรรมด้าน สิ�งแวดล้อม พลังความคิดของนักออกแบบคือปฏิกิริยาทางเคมีที�ก่อให้เกิดการ ลงมือปฏิบัติจริงอย่างรวดเร็ว (Fuad-Luke, A. 2002) นักออกแบบจะต้อง พิจารณาถ่งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ตั�งแต่จุดเริ�มต้น ผู้บริโภคจำเป็นต้องสร้าง อิทธิพลความคิดเรื�องสิ�งแวดล้อมไปยังภาคธุรกิจอุตสาหกรรมผ่านรสนิยมความ ต้องการของตนเองด้วยเช่นกัน (Maat Museum, 2023) การผสมผสานหลัก การแนวคิดเรื�องการออกแบบที�ยั�งยืนผ่านสื�อการสอนนี� จะทำให้ผู้เรียนมีส่วนสร้างอนาคตที�ยั�งยืนและการสร้างสรรค์ข่�นใหม่ ในการศ่กษานั�นหากเราสามารถรวมหลักการออกแบบที�ยั�งยืนเข้าไปในแผนการสอนหรือหลักสูตร เพื�อส่งเสริมให้ผู้สอนและผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสนทนาเกี�ยวกับผลกระทบต่อสิ�งแวดล้อมจากตัวเลือกการออกแบบความสำคัญของการคิดแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและ ศักยภาพของการเลียนแบบทางชีวภาพอันเป็นแหล่งที�มาของแรงบันดาลใจ(สัญญา สุขพูล, 2566) 0.25 x 0.18 x 0.002 ซม. | Dried rubber เอกสารอ้างอิง Fuad-Luke, A. (2002, April 30). The Eco-Design Handbook: A Complete Sourcebook for the Home and Office. Maat Museum, 22/03-11/09/2023, Plastic Remaking Our World, GGS production สัญญา สุขพูล. (2566). Biodegradable lampshades as instructional tools for environmental design, ผลงานสร้างสรรค์นิทรรศการ SILPA 2023
FACULTY | 17 DHARMA-JA-TI: Appropriated Interior Environmental Designศาสตราจารย์ ร.ต.อ. ดร.อนุชา แพ่งเกษร | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ธรรมชาติเป็นสิ�งที�เกิด ที�มี และที�เป็นอยู่ ตามธรรมดาของภูมิประเทศ ภูมิอากาศภูมิสังคม และในแต่ละบริบทนั�นๆ ฉะนั�นการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในที� เหมาะสม อันจะก่อให้เกิดความกลมกลืนและความ สัมพันธ์ กันระหว่างธรรมชาติ กับพฤติกรรมมนุษย์ในชีวิตประจำวัน ที� มีการแข่งขัน เร่งรีบ สับสน วุ่นวาย กดดัน ทำให้เกิดความเครียด การวิจัยสร้างสรรค์นี�จ่งใช้หลักการออกแบบ 5 ด้าน ซ่�งประกอบด้วย ด้านสถาปัตยกรรม ด้านตกแต่งภายใน ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านนิเทศศิลป์ และด้านภูมิทัศน์ เพื�อจะทำให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที�ดีข่�น โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ใน 3Es ได้แก่ 1) Experience คือการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ 2) Environmental เป็นความใกล้ ชิดกับธรรมชาติ มากที� สุด และ 3) Exclusive เพื�อ สร้างความพิเศษที� ประทับใจและน่าจดจำ แนวความคิดในการออกแบบสร้างสรรค์ Natural Touch: การอยู่ร่วมกันระหว่าง มนุษย์ กับธรรมชาติ (Coexistence) ผ่านการออกแบบพื�นที�ระหว่างภายในกับ ภายนอก (Outside In, Inside Out) ให้กลมกลืนกับธรรมชาติที� สุด แต่ ยังคงมี ความเป็นส่ วนตัวและมีความสะดวก สบาย ปลอดภัยในขณะที�อยู่ภายในอาคาร มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที�ยั�งยืน (SDGs: The United Nations, 2015) ข้อ 3. Good Health and Well-Being และข้อ 15. Life on Land โดยมีขั�นตอนการ วิจัยสร้างสรรค์ ดังนี� 1) การเก็บข้อมูลสำรวจบริบทของพื�นที�และความต้องการ ของผู้ใช้ 2) การวิเคราะห์แนวความคิดการออกแบบสร้างสรรค์ 3) การออกแบบร่างและออกแบบขั�นพัฒนา 4) การออกแบบขั�นรายละเอียดต่างๆ และ 5) การ เผยแพร่และส่งต่อผู้ที�สนใจต่อไป การออกแบบสภาพแวดล้อมภายในที�เหมาะสมจาก 3Es พบว่า 1. Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ ด้ วยการมี ส่ วนร่วมกิ จกรรมต่างๆ กับชุ มชนในพื�นที� นั�นๆ เช่น พายเรือ ปีนเขา ปั�นจักรยาน นอนบนบ้านต้นไม้หรือกลางทะเล การ ทำเกษตรอินทรี ย์ ด้ วยการปลูก การเก็บเกี�ยว และการรับประทานอาหาร พืช ผัก และผลไม้สดสะอาดปลอดสารพิ ษได้อย่างสนิทใจ 2 Environmental เป็นความ ใกล้ ชิดกับธรรมชาติโดยการใช้ วัสดุ ท้องถิ�นที�หาได้ ง่าย เช่น ไม้ไผ่ ไม้เนื�อแข็ง กรวด หิน ใบจาก หญ้าแฝกและอื�นๆ มาใช้ประกอบสร้างเป็นอาคารที�เหมาะสมกับทุกฤดูกาล (ร้อน ฝน หนาว) และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในพื�นที� (ป่า เขา แม่น�ำ ทะเล) ผสานกันระหว่างพื�นที� กับเวลา (Space & Time) รวมทั�งการ ประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานสะอาด และการบำบัดน�ำเสียและขยะสิ�งปฏิกูลต่างๆ เพื�อเป็นการรักษาสิ�งแวดล้อมให้มากที�สุด 3. Exclusive เป็นการสร้างความพิเศษที�ประทับใจและน่าจดจำ ด้วยการผสานตนเองให้รวมเป็นหน่�งเดียวกับธรรมชาติที�ดื�มด�ำในบรรยากาศผ่อนคลายและสุขสงบ (Peaceful & Relaxing Space) ด้ วยการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในที�เหมาะสมน่าประทับใจ เพิ� ม คุณภาพชีวิตทั�งร่างกายและจิตใจ พร้อมกลับไปใช้ ชีวิตในโลกแห่งความจริงอีกครั�ง Outstanding Social,Environment & Culture Impact
18 | FACULTY โครงการที�มีแรงบันดาลใจและเห็นประโยชน์จากการท่องเที�ยวเชิงนิเวศ โดย พ่�งพาอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นศูนย์กลาง ศูนย์ผจญภัยเขาหล่นมีทุ่งหญ้าสีทองที�ปกคลุมไปทั�งภูเขาตั�งอยู่บนถนนที�ไปยัง เขื�อนขุนด่านปราการชล และน�ำตกสาริกา ด้วยจังหวัดนครนายก เป็นแหล่งเพาะ กล้าไม้ดอกไม้ประดับที�ใหญ่ที�สุดในประเทศไทย มีพื�นที�ปลูกดอกไม้ประมาณ 4,928 ไร่ (องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก, 2566) การวิเคราะห์ที�ตั�งโดย ใช้ศาสตร์ 4DNA มาสร้างสรรค์ให้เกิดเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบ เพื�อยังคง รักษาธรรมชาติเพื�อการท่องเที�ยวแบบยั�งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี� 1) การสร้าง แหล่งท่องเที�ยว “Landmark” ด้วยการออกแบบที�เชื�อมโยงกับธรรมชาติเสมือน อยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติ (Back to Nature) เพื�อความประทับใจของผู้เข้าพัก และนักท่องเที�ยว 2) การออกแบบกิจกรรมเพื�อให้นักท่องเที�ยวได้สัมผัสธรรมชาติ อย่างใกล้ชิดโดยนำแนวคิด “ยกนา นายก” จากกระบวนการวัฒนธรรมนาข้าว มาเป็นเรื�องราว ผ่านงานศิลปะด้วยสุนทรียภาพจากภายในสู่ภายนอก การออกแบบจากภายในสู่ภายนอกโดยศ่กษาบริบทพื�นที�จนได้แก่นแนวคิด คือ ธรรมชาติ “กลมกล่อม กลมกลืน” โดยนำการจัดวางพื�นที� เครื�องเรือน และกลุ่ม อาคารให้สอดคล้องไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติด้วยการวางผังแบบ ธรรมชาติกำหนดมุมมองจากภายในสู่ธรรมชาติ และเชื�อโยงธรรมชาติสู่ภายใน โดยมีธีมของความสนุก “แบบล�ำอนาคต ที�เคารพธรรมชาติ” เพื�อกิจกรรม สำหรับนักท่องเที�ยวเหมือนการผจญภัย การออกแบบสถาปัตยกรรมและออกแบบ ภายในที�เป็นมิตรกับสิ�งแวดล้อม โดยออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยที�สุด ด้วยหลัก จัดการพื�นที�ใช้สอยของอาคารให้สอดคล้องกับทิศทางแสง การส่องสว่างภายใน Outstanding Social,Environment & Culture Impact โครงการ Green Wonder ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อาคาร การระบายความร้อนจากตัวอาคาร ทิศทางลมธรรมชาติ อีกทั�งวัสดุ ด้วย ลักษณะภูมิศาสตร์ของโครงการมีแม่น�ำล้อมรอบจ่งมีการออกแบบรูปทรงของ อาคารใช้รูปแบบการบิดอาคารซ้อนของอาคารให้สามารถมองเห็นวิวด้านริมน�ำ ได้ถ่ง 71 เปอร์เซ็นต์และมีการลดหลั�นไล่ระดับจากต�ำไปสูงเพื�อไม่ให้บดบัง มุมมอง โดยย่ดการออกแบบจากภายในเป็นหลักเชื�อมสู่ภายนอกโดยกลมกลืน กับสภาพแวดล้อมที�เป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นแลนด์มาร์คที�ทันสมัยที�อยู่ท่าม กลางธรรมชาติโดยไม่แปลกแยก การออกแบบที�คำน่งถ่งสิ�งแวดล้อมเป็นโครงการที�ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ และการท่องเที�ยวเชิงนิเวศน์ ด้วยการออกแบบให้นักท่องเที�ยวได้สนุกสนานไป กับการท่องเที�ยวทำให้เกิดความน่าสนใจ มีจุดประสงค์คือการได้สัมผัสกับ ธรรมชาติที�เชื�อมต่อกับโครงสร้างภายใน สร้างบรรยากาศความร่มรื�นจาก ภายนอกสู่ภายในด้วยแสงธรรมชาติ อีกทั�งเป็นแลนด์มารค์ที�ผูกมิตรกับชุมชน นอกจากนี�ยังมีการเชื�อมต่อบริบทรอบข้าง ด้วยการออกแบบสระน�ำเชื�อมต่อกับ แหล่งน�ำรอบโครงการ ผสมผสานจิตวิญญาณของพื�นที�ได้อย่างกลมกลืนมากที�สุดโดยสร้างธีมอย่างมีเรื�องราวให้น่าสนใจผ่านอัตลักษณ์เฉพาะในการออกแบบ เอกสารอ้างอิงศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครนายก กองวิจัยและพัฒนาข้าว. (2559). องค์ความรู้เรื�องข้าว. เข้าถ่งเมื�อ 2 มีนาคม 2566. เข้าถ่งได้จาก https://webold.ricethailand.go.th/rkb3/องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก. (2566). การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ. เข้าถ่งเมื�อ 24 กุมภาพันธ์2566. เข้าถ่งได้จาก http://khonyok.go.th/public/economy/data/index/menu/26
FACULTY | 19 “ชาน” หมายถ่ง “พื�นที�” ที�เป็นองค์ประกอบหน่�งของเรือนไทย มีชานร่มและชาน แดด เป็นพื�นที�เอนกประสงค์ที�สามารถรองรับกิจกรรมต่างๆ ได้และเมื�อกล่าวถ่ง “ชาน” จะมีอีกนัยยะหน่�งที�สื�อถ่ง พื�นที�ส้าหรับการพักผ่อนหย่อนใจ พื�นที�แห่งการ พบปะ รวมตัวอย่างเป็นกันเอง จ่งน้ามาสู่แนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี� “ชาน” เป็นผลงานออกแบบสถาปัตกรรมที�มีแนวความคิดในการน้าพื�นที�ส่วนหน่�ง ของโครงการ “ฟาร์มเราเอง” ที�เว้นว่าง ยังไม่ได้ถูกน้ามาพัฒนาต่อยอดให้เกิด ประโยชน์ มาสรรค์สร้างเป็นโครงสร้างสวนแนวตั�ง ที�ผู้คนสามารถเดินชมพรรณไม้ นานาชนิด เป็นที�นั�งพักผ่อนรวมถ่งเป็นจุดชมทัศนียภาพของโครงการจากมุมสูงได้ โดยกระบวนการสร้างสรรค์นี� เริ�มจากการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของพื�นที�ที�จะ สร้าง ‘ชาน’ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบที�แวดล้อมในบริเวณนั�น ซ่�งจากการ วิเคราะห์พบว่า พื�นที�สามารถใช้เสาและคานเดิมที�มีอยู่เป็นจุดย่ดโครงสร้างของ ชานได้อย่างแข็งแรงและมีความปลอดภัย และสามารถรับน�้าหนักจร (Liveload) ได้ 150 กิโลกรัมต่อตารางเมตร โดยลักษณะโครงสร้างของชาน เป็นสถาปัตยกรรม แบบก่�งถาวร 2 ชั�นใต้ถุนสูง ขนาดกว้าง 2.30 เมตร ยาว 13.20 เมตร สูง 6.00 เมตร องค์ประกอบหลักของตัวอาคารชาน เป็นโครงสร้างเสาและคานที�ท้าจากเหล็กเหลือใช้ ถูกค้านวนจัดวางต้าแหน่งเสาและคานให้พอดีกับขนาดของนั�งร้าน ก่อสร้าง (Scaffolding) ที�ไม่ได้ใช้แล้ว จากนั�นได้มีการออกแบบและดัดแปลงนั�งร้านแต่ละชั�นให้คล้ายกับชานบ้านด้านบนที�มีการยกใต้ถุน มีการใช้นั�งร้านที�มีขนาดสูงกว่าปกติในชั�นล่างเสริมด้วยคานเหล็กเป็นฐานที�แข็งแรง เพื�อให้สามารถ เดินลอดขั�นไปสัญจรในชั�นบนได้ โดยการออกแบบทางวิศวรกรรมเป็นไปหลักการ ออกแบบตามมาตรฐานการติดตั�งและการตรวจสอบโครงนั�งร้านของกรมโยธาธิการและผังเมือง (กรมโยธาธิการและผังเมือง. 2558) Outstanding Social,Environment & Culture Impact หลังจากนั�นจ่งออกแบบทางสัญจรแนวดิ�ง ให้มีการเหลื�อมกันเพื�อเพิ�มพื�นที�ในการ ใช้งาน ในส่วนขององค์ประกอบอื�นของอาคารที�ส้าคัญได้แก่ ไม้ไผ่ ถูกน้ามาใช้ ในส่วนของพื�นทางเดินอาคาร เนื�องจากเป็นวัสดุทดแทนที�สามารถหาได้ง่ายใน ท้องถิ�น เติบโตเร็ว ทนทาน และสามารถเปลี�ยนทดแทนได้ง่ายเมื�อมีการเสื�อม สภาพของวัสดุ และในส่วนขององค์ประกอบของผนังและหลังคาของอาคาร มี การใช้ไม้ไผ่ขัดแตะเก่าของท้องถิ�นทางภาคเหนือที�ใช้รองใบยาสูบ ทั�งนี�ไม้ไผ่ขัดแตะ ยังมีคุณสมบัติที�สามารถกรองแสงได้ดีและมีน�้าหนักเบา เมื�อภาพรวมของงาน โครงสร้างชานข่�นรูปแล้ว ขั�นตอนต่อไปคือการจัดวางพรรณไม้ดอกต่างๆ ใน พื�นที�อาคาร ที�นอกจากจะเป็นการปรับภูมิทัศน์ สร้างความร่มรื�นให้กับพื�นที�และ ผู้คนที�เข้าใช้สอยอาคารแล้ว ยังเป็นการเพิ�มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยการปลูกไม้ ดอกทานได้ (Edible Flower) ที�ก้าลังเป็นที�นิยมในปัจจุบันอีกด้วย การสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี� เป็นการทดลองออกแบบสถาปัตยกรรมชั�วคราวจาก วัสดุก่อสร้างที�เหลือใช้ ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยใหม่ ทั�งในแง่ของการเพิ�มพื�นที�ให้รองรับการใช้งานที�หลากหลาย อีกทั�งยังแสดงให้เห็นถ่งรูปทรงทางสถาปัตยกรรม ที�มีความน่าสนใจ ที�สามารถสร้างข่�นได้จากสิ�งที�ต่างๆ รอบๆ ต่อยอดสู่การเพิ�มมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไป เอกสารอ้างอิง กรมโยธาธิการและผังเมือง. 2558. มาตรฐานการติดตั�งและการตรวจสอบโครงสร้างนั�งร้าน. กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย) ชาน (Charn) อาจารย์ ดร.ศราวุฒิ ปิ�นทอง | [email protected]หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
20 | FACULTY “เมืองที�ไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กๆ นั�น ไม่ได้มีไว้สำหรับพลเมืองเช่นกัน” สำนักงาน นวัตกรรมแห่งชาติ (2564) ได้อ้างถ่งคำกล่าวของ Aldo Van Eyck สถาปนิก ชาวดัตช์ในบทความ เมืองออกแบบได้ “Play space web” พื�นที�เมืองรูปแบบ ใหม่ เพื�อการเล่นที�ใช้ขีดจำกัด ทั�งนี�เมืองที�เป็นมิตรกับเด็กย่อมเป็นมิตรกับทุกคน การออกแบบพื�นที�สาธารณะ พื�นที�ทางวัฒนธรรม และพื�นที�ปฏิสัมพันธ์ของเด็ก หรือผู้คนเป็นพื�นที�สำคัญที�ก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื�นที�นั�นๆ (Vincent, L, 2019, Rob, W and Simone R.,C., 2017) ปัญหาการสร้างพื�นที�สาธารณะ ที�ตั�งอยู่อย่างไกลจากชุมชน สร้างความเลื�อมล�ำในการเข้าถ่งของเด็กที�ผู้ปกครอง ไม่มีเวลา หรือปัญหาการไม่สามารถพาเด็กไปยังพื�นที�นั�นๆ ได้ ผู้ออกแบบเล็ง เห็นประเด็นการออกแบบสภาพแวดล้อมโดยการแบ่งปันพื�นที�ขนาดเล็กใกล้ใน พื�นที�อยู่อาศัยหรือตลาดซ่�งเป็นพื�นที�ทำงานของผู้ปกครอง โดยนำเสนอผ่านการ ศ่กษา การวิเคราะห์และทดลองออกแบบในครั�งนี� การออกแบบสภาพแวดล้อม ครั�งนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อศ่กษาและวิเคราะห์ที�ตั�ง ปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและประเด็นอื�นๆ ที�เกี�ยวเนื�อง เพื�อทดลองออกแบบสภาพแวดล้อม พื�นที�สาธารณะสำหรับเด็ก ผลงานออกแบบสภาพแวดล้อมชุดนี�นำกรอบแนวคิดจากคำสำคัญ “Transition I Share I Resilient” เป็นงานทดลองออกแบบสภาพแวดล้อม ที�ได้พัฒนากรอบแนวคิดจากการศ่กษาและตีความภูมิปัญญาพื�นถิ�นจากวิถีชีวิต ผู้คน อาคาร ที�ร่วม แบ่งปันพื�นที�อาเขตบริเวณทางเดินด้านหน้าต่กแถวในพื�นที� ซ่�งแสดงถ่งการแบ่ง ปันพื�นที�เพราะความเข้าใจในสภาพภูมิอากาศฝนแปดแดดสี�ของจังหวัดระนอง วิถีชีวิตที�มีความยืดหยุ่นของผู้คนหลากหลายเชื�อชาตินำเสนอผ่านงานออกแบบ แบ่งปัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฐิฎิมา อัมพวรรณ | [email protected] สาขาวิชาออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ การแบ่งปันพื�นที�สำหรับเยาวชนทุกเชื�อชาติที�สามารถเข้าใช้พื�นที�แห่งการเรียนรู้ ปีน ป่าย วิ�ง เล่น แลกเปลี�ยนเรียนรู้ เลือกใช้วัสดุที�ยืดหยุ่นและมีความเป็นมิตร กับสิ�งแวดล้อมอย่างไม้ไผ่ ร่วมกับวัสดุที�หาได้ในท้องถิ�นเพื�อลดการขนส่ง กระบวนการสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบพื�นฐาน การศ่กษาและวิเคราะห์ ที�ตั�ง กลุ่มเป้าหมายผู้ใช้พื�นที� ปัญหาและความต้องการ สู่การออกแบบโปรแกรม พฤติกรรมการใช้พื�นที� ความต้องการพื�นที�ใช้สอย กรอบแนวคิดในการออกแบบ การทำแบบร่างและผลงานออกแบบ ผลงานออกแบบครั�งนี�เป็นการศ่กษา วิเคราะห์และทดลองออกแบบเบื�องต้น เพื�อเสนอแนวทางออกแบบสำหรับพื�นที�ขนาดเล็กที�สอดแทรกอยู่ในชุมชนจาก องค์ความรู้ด้านการออกแบบ ซ่�งเป็นแนวทางเพื�อพัฒนาพื�นที�และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ข้อเสนอแนะสำคัญที�ต้องคำน่งถ่งอีกประการคือการมีส่วนร่วมของผู้คนในพื�นที�เพื�อก่อให้เกิดความรู้ส่กเป็นเจ้าของร่วมกัน เอกสารอ้างอิง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ.(2564).เมืองออกแบบได้ "Play Space Web" พื�นที�เมืองรูปแบบใหม่ เพื�อการเล่นที�ไร้ขีดจำกัด.https://www.nia.or.th/playspaceweb Rob, W and Simone R.,C.(2017).Aldo van Eyck’s Playgrounds: Aesthetics, Affordances, and Creativity.https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg.2017.01130/full. Vincent, L.(2019).Aldo van Eyck and the Amsterdam playgrounds in Docomomo Journal.https://www.docomomo.pt/wp-content/uploads/2019/12/DocomomoJournal 61_2019_VLigtelijn.pdf
FACULTY | 21 586 Creative Seed ปรับอาคารร้างเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ อาจารย์นภมณี ทรัพย์สุนทรกุล | [email protected] สาขาวิชาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การออกแบบสถาปัตยกรรมภายในนิทรรศการ “586 Creative Seed” ในเทศกาล ออกแบบกรุงเทพฯ 2561 เป็นงานสืบเนื�องจากความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง ส้านักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ และสาขาวิชา สถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ วัตถุประสงค์ของงานออกแบบ คือ 1) ปรับปรุงอาคารร้างเลขที� 586 ถนนสี�พระยา เป็นต้นแบบพื�นที�สร้างสรรค์ของชุมชน โดยปรับเปลี�ยนพื�นที�ใช้สอยให้ตอบสนองต่อการใช้งานร่วมสมัย (adaptive reuse) 2) สร้างแรงบันดาลใจ แก่ผู้ชม คนในย่าน นักธุรกิจ นักลงทุน คนท้างานสร้างสรรค์ ให้เห็นศักยภาพ การลงทุน สร้างพื�นที�ธุรกิจสร้างสรรค์ผ่านการชมผลงานจัดแสดง 3) เปิดให้ส้ารวจ ภายในอาคาร ในรูปแบบพื�นที�จัดแสดงและเรียนรู้พื�นที�อาคารต่กแถวโบราณ สูง 2 ชั�น สร้างในสมัยรัชกาลที� 5 มีโครงสร้างหลักเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนรับน�้าหนัก มีโครงสร้างไม้ส้าหรับพื�นชั�น 2 ผนังกั�นห้อง เสา บันได กรอบประตู หน้าต่าง บานประตู บานหน้าต่าง และโครงหลังคาไม้มุงแผ่นกระเบื�องว่าวโบราณ (นภมณี ทรัพย์สุนทรกุล, 2561) ผู้ออกแบบได้ส้ารวจ ถ่ายภาพ วัดขนาดพื�นที� เขียนแบบผัง และสัมภาษณ์ประวัติอาคารกับเจ้าหน้าที�ส้านักงานทรัพย์สินพระมหกษัตริย์ เกิดแนวคิดอนุรักษ์อาคารเก่าให้กลับมามีชีวิตร่วมสมัยอย่างมีคุณค่า ชื�อนิทรรศการ “586 Creative Seed” หมายถ่ง เมล็ดพันธุ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ ขับเคลื�อน ร่วมกัน ด้วยความเชื�อมั�นว่า อาคารร้าง 110 ปี มีศักยภาพในการฟ้�นฟูชุบชีวิต ข่�นมาใหม่ได้ตามแนวทางการพัฒนาย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง โดยมีแนวทางการ ออกแบบ ดังนี� 1) พื�นที�ปรับปรุงใหม่ตรงโถงทางเข้า กรุผนังสีขาวแสดงงาน ออกแบบเรขศิลป์ อธิบายที�มาแนวคิดโครงการ พร้อมผลงานจัดแสดง เพื�อให้ จินตนาการพื�นที�ที�สะอาด พร้อมเข้าใช้งานจริง กรุฝ้าใหม่สีขาวบางส่วนเพื�อติด ไฟส่องสว่างและเปิดโชว์โครงฝ้าเก่า 2) พื�นที�ส่วนใหญ่คงสภาพเดิม จัดวางให้เห็น เสน่ห์โครงสร้างที�ผุพังตามกาลเวลา ใช้ทางเดินภายในอาคารจัดแสดงภาพถ่าย เพื�อด่งดูดให้คนเดินเข้าชมถ่งห้องด้านหลัง เนื�อหานิทรรศการมี 3 ส่วน คือ 1) ผลงานออกแบบของนักศ่กษาสถาปัตยกรรมภายใน ที�แสดงผลศ่กษาและ แนวคิดการพัฒนาพื�นที� 2) ผลงานภาพถ่ายเสน่ห์อาคาร 586 และย่านเจริญกรุง 3) ผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากเศษเหลือใช้ชุด “Upcycling” การจัดแสดง ทั�งหมดเน้นให้ผู้ชมได้แนวคิดซ่อมสร้างสินทรัพย์เก่าให้กลับมามีคุณค่าใหม่ด้วย ความคิดสร้างสรรค์ ข้อเรียนรู้การออกแบบพื�นที�คือ 1) โครงสร้างเดิมข่�นรา ผุพัง จากความชื�นและปลวก ไม่แข็งแรง ต้องปิดพื�นที�ชั�น 2 เพื�อความปลอดภัยต่อผู้เข้าชม 2) งบประมาณจ้ากัด ต้องออกแบบให้เข้าใจง่ายและสร้างสภาพแวดล้อมภายใน ให้เห็นเสน่ห์ของอาคารเก่าท้าอย่างไรให้ด่งดูดผู้ชมให้เดินดูถ่งส่วนในสุดได้ และ หากมีงบประมาณเพิ�ม ผู้ออกแบบสนใจบูรณาการความรู้การก่อสร้างอาคารดั�งเดิม สู่การซ่อมสร้างโดยให้ความรู้ “จากซากสู่สร้าง” แสดงซากอาคารพร้อมให้ความรู้ นวัตกรรมสมัยใหม่ ข้อเรียนรู้จากความร่วมมือทางวิชาการเกิดประโยชน์ทุกฝ่าย คือ ภาคการศ่กษาผู้ออกแบบได้ท้างานออกแบบจิตอาสาบริการวิชาการ สู่สังคม รวมถ่งได้น้าโครงการพัฒนาย่านสร้างสรรค์เจริญกรุงมาเป็นหัวข้อการ สอนออกแบบและให้นักศ่กษามีส่วนร่วมเรียนรู้ในกระบวนการท้างานจริง ส่วน ภาครัฐศูนย์ส่งเสริมการออกแบบมีส่วนร่วมตรวจแบบ กระตุ้นให้นักศ่กษาซ่�งเป็น คนรุ่นใหม่เกิดความเข้าใจต่อย่านสร้างสรรค์ ส่วนส้านักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ได้เรียนรู้แนวทางการใช้งานอาคารรูปแบบใหม่เพื�อส่งเสริมการเช่าพื�นที�อาคารต่อไป (พ.ศ 2566 อาคาร 586 อยู่ในระหว่างบูรณะอาคารเพื�อใช้งาน) เอกสารอ้างอิงนภมณี ทรัพย์สุนทรกุล. (2561). การออกแบบสถาปัตยกรรมภายในนิทรรศการ 586 Creative Seed. สืบค้นจาก https://www.cidar.tds.tu.ac.th/project_view.php?pid=23
22 | FACULTY Autumn shaded อาจารย์ ดร.ปิติ มณีเนตร | [email protected], [email protected] สาขาวิชานวัตกรรมการออกแบบ คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี การออกแบบพื�นที�จัดแสดงสินค้าภายใต้กรอบความคิดการจัดการภาพลักษณ์ สินค้า (Visual merchandising) คือ องค์ความรู้ทางการออกแบบหลักเป็นตัวแปร ควบคุมที�ส่งผลต่อการประสบความส้าเร็จของการรับรู้แบรนด์สินค้าสร้างผล กระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค การจัดการภาพลักษณ์สินค้า คือ ทุกสิ�งที�ผู้บริโภค สามารถรับรู้ได้ผ่านกระบวนการสื�อสารของแบรนด์สินค้า การออกแบบควรท้า ความเข้าใจเอกลักษณ์ของสินค้านั�นเพื�อการสร้างภาพลักษณ์ต่อผู้บริโภคของ แบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ1 การถอดรหัสทางความหมาย (decoding) และการ ใส่รหัสทางความหมาย (encoding) ในงานออกแบบเป็นเครื�องมือที�แสดงออก ถ่งความคิดที�เป็นปัจเจกของนักออกแบบ การสื�อสารด้วยการใช้รูปภาพ รูปทรง สีสัน ตัวอักษร วัสดุ พื�นผิว ในผลงานออกแบบเป็นกระบวนการเฉพาะบุคคลที� เกิดจากการฝึกฝน เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที�ผ่านมา ความรู้ ความเข้าใจเกี�ยวกับ การถอดรหัสและการเข้ารหัสทางความหมายของงานออกแบบ (signification) จะช่วยให้เข้าถ่ง กระบวนการสื�อสาร สุนทรียภาพ แนวความคิดของงานออกแบบได2 วัตถุประสงค์: สร้างภาพลักษณ์ที�ดีให้กับแบรนด์สินค้าผ่านกระบวนการออกแบบ พื�นที�จัดแสดงสินค้า เพื�อสร้างการเชื�อมต่อระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคที�มีประสิทธิภาพ พื�นที�ขนาด 144 ตร.ม. ภายใต้งานจัดแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ นานาชาติ แนวความคิด: โครงการออกแบบพื�นที�จัดแสดงสินค้าให้กับบริษัทผลิตเครื�องเรือน ไม้โครงการนี� ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของป่าในฤดูใบไม้ร่วง แสง เงา สีสันของใบไม้ผลัดใบ ผลลัพธ์การทับซ้อนของใบใม้ต่างสีเมื�อยามแสงอาทิตย์ ส่องผ่าน การผสมกันระหว่างสีแสง ฟอร์มของต้นไม้คือ แนวคิดหลักเพื�อก้าหนด แนวคิดการออกแบบ (decoding) กระบวนการสร้างสรรค์: ผู้ออกแบบสร้างรหัส (encoding) โดยเลือกใช้รูปทรง ต้นไม้ที�เรียบง่ายเป็นโครงสร้างหลักของพื�นที�จัดแสดงสินค้า ใช้ประโยชน์จาก โครงสร้างต้นไม้เพื�อการติดตั�งโครงผ้าม่านและโครงหลังคาส้าหรับอุปกรณ์ส่องสว่าง รูปทรงต้นไม้ 5 แบบ ฟอร์มแตกต่างกัน ผู้ออกแบบทดลองหาสัดส่วนที�เหมาะ สมต่อกระบวนการผลิตและการติดตั�ง การจัดวางต้าแหน่งรูปทรงต้นไม้รอบนอก ของพื�นที�จัดแสดงสินค้า ก้าหนดให้ฟอร์มต้นไม้ท้าหน้าที�สร้างอาณาเขต บรรยากาศ สร้างประสบการณ์แก่ผู้เข้าใช้พื�นที�ฯ ให้รู้ส่กเชื�อมโยงถ่งบรรยากาศป่าฤดูใบไม้ร่วง (signification กระบวนการสร้างความหมาย) ผู้ออกแบบใช้ผ้าโปร่งแสง ติดตั�ง เป็นผ้าม่านหลายขนาด หลายสี เช่น สีน�้าตาลอ่อน สีเขียว สีแดง เพื�อสร้างรหัส (encoding) ใบไม้หลากหลายเฉดสีที�ทับซ้อนกันหลายชั�น เมื�อถูกแสงไฟจาก สปอตไลท์ส่องผ่านแลดูคล้ายกับชั�นใบไม้ในป่าฤดูใบไม้ร่วงเมื�อถูกแสงอาทิตย์ส่อง ผ่าน ภาพรวมของงานออกแบบ ผู้ออกแบบต้องการน้าเสนอความเรียบง่ายของ เส้น รูปทรง และองค์ประกอบต่างๆ ภายในโครงการออกแบบ เพื�อให้ผู้บริโภค เข้าถ่งง่าย สร้างความรู้ส่กเป็นมิตร อบอุ่น จากกระบวนการศ่กษา การทดลอง การพัฒนาผลงานออกแบบ ได้พัฒนาองค ความรู้ด้านสัญวิทยาที�ผู้ออกแบบสนใจ ค้นพบว่าการสื�อสารด้วยสัญญะเป็น เครื�องมือส้าคัญในกระบวนการออกแบบพัฒนาการเรียนการสอนวิชา Exhibition design พัฒนาวิธีการสังเคราะห์งานออกแบบด้วยวิธีทางสัญศาสตร์ สร้างแนวทางต่อยอดงานออกแบบแขนงใหม่ ๆ เช่น Decorative art and Ornament design และงานออกแบบนิเทศศิลป เอกสารอ้างอิง 1 Holly Bastow-Shoop, Dale Zetocha, Gregory Passewitz. (1991). Visual Merchandising A Guide for Small Retailers (p.1). Iowa State University. 2 ธีรยุทธ บุญมี. (2551). การปฏิวัติสัญศาสตร์ของโซซูร์ เส้นทางสู่โพสต์โมเดอร์นิสม์. (พิมพ์ครั�ง ที� 1). (น. 156-165). ส้านักพิมพ์วิภาษา.
FACULTY | 23 ศิลปะข้างถนน เพื่อหมาข้างถนน Street art for Street dogs อาจารย์ ดร.ยศพร จันทองจีน | [email protected] สาขาวิชาออกแบบภายใน วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ Street art มีบทบาทด้านการสื�อสารมากข่�นในปัจจุบัน เพราะสามารถเข้าถ่ง ผู้คนได้ง่าย เป็นงานศิลปะกลางแจ้งที�แทรกตัวอยู่ในบริบทของเมือง เชื�อมโยง สังคมและวัฒนธรรม สะท้อยอดีต บอกเล่าปัจจุบัน โดย Street art for street dogs เป็นผลงานสร้างสรรค์ส่วนหน่�งของโครงการจรจัดสรร เป็นโครงการที�มุ่งเน้น การแก้ปัญหาหมาจรจัดอย่างเป็นระบบด้วยศิลปะการออกแบบ โดยใช้ Street artมาเป็นส่วนหน่�งในเครื�องมือการสื�อสารที�สร้างการตระหนักรู้ถ่งปัญหาหมาจรจัด ให้กับคนในสังคม สามารถยกระดับสวัสดิภาพที�ดีให้กับทั�งหมาและคนให้อยู่ร่วม กันในชุมชนอย่างเป็นสุข และในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างสุนทรียศาสตร์ ทางศิลปะให้เกิดในชุมชนได้ด้วยการนำงานศิลปะเข้ามาเป็นส่วนหน่�งกับ สถาปัตยกรรมขนาดเล็ก ศิลปะข้างถนน เพื�อหมาข้างถนน ผลงานสร้างสรรค์ ศิลปะข้างถนน เพื�อหมาข้างถนน (Street art for street dogs) กระบวนการสร้างสรรค์เริ�มจากการลงพื�นที�เพื�อสำรวจและสังเกตบริบทการอยู่ ร่วมกันในสังคมไทยที�มีหมาจรจัดอยู่ร่วมกันในวัฒนธรรม จากการลงพื�นที�พบว่า ปัญหาหมาจรจัดในบริบทชุมชนเมืองปัจจุบัน ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหมา กับหมา คนกับหมา และคนกับคน นำมาสู่แนวคิดในการจัดการกับปัญหาหมา จรจัดในบริบทชุมชนเมืองที�ใช้พื�นที�ซ้อนทับกัน จ่งได้ออกแบบพื�นที�สำหรับหลบ แดดหลบฝน ให้กับหมาจรจัดในแหล่งชุมชนด้วยสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก โดย ติดตั�งโครงสร้างกับกำแพงภายนอกบ้านของผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถพับเก็บได้ เพื�อประหยัดพื�นที�และไม่กระทบต่อการสัญจรไปมาของผู้คนในชุมชนหรือรุกล�ำ พื�นที�สาธารณะ ในส่วนของการเลือกใช้ วัสดุย่ดหลัก 3Rs (Reduce Reuse และ Recycle) วัสดุหลักที�เป็นโครงสร้าง คือ เหล็ก เนื�องจากมีความแข็งแรงทนทาน ควบคู่กับการนำผ้าใบไวนิลใช้แล้วจากป้ายโฆษณาหรือป้ายหาเสียง มาใช้เป็นวัสดุ ปิดผิว โดยเพิ�มคุณค่าของสถาปัตยกรรมขนาดเล็กชิ�นนี�ด้วยศิลปะ สร้างความ รวมม่ ือกับศิลปินสตรีทอาร์ททีต�้องการพื�นที�ในการแสดงผลงาน เข้ามามสีว่นรวม ่ จากการถ่ายทอดเรื�องราวต่างๆ ของหมาจรจัดในชุมชนให้กับศิลปิน และศิลปินนำ เรื�องราวเหล่านั�นไปตีความและถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะลงบนสถาปัตยกรรม ขนาดเล็กนี�สร้างสุนทรียะทางศิลปะให้เกิดในชุมชน ซ่�งผลงานชิ�นนี�ผู้ออกแบบ ได้ร่วมงานกับศิลปินสตรีทอาร์ท 2 ท่าน คือ คุณธีระยุทธ พืชเพ็ญ (TRK) และ อาจารย์ ดร. นวัต เลิศแสวงกิจ (Dr.RNO) ซ่�งเป็นศิลปินสตรีทอาร์ทที�มีชื�อเสียง มาร่วมสร้างงานศิลปะในชุมชนร่วมกันซ่�งผลงานชิ�นนี�จะไปติดตั�งยังชุมชน จ่งเป็น เหมือน Art Gallery ที�แทรกตัวเป็นส่วนหน่�งของชุมชน การสร้างสรรค์ ศิลปะข้างถนน เพื�อหมาข้างถนน (Street art for street dogs) เป็นงานสร้างสรรค์ที�สามารถยกระดับสวัสดิภาพคนและหมารวมทั�งยังสร้าง สุนทรียะในชุมชนสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับชุมชนเมือง ขับเคลื�อน ให้สังคมเป็นสุข 120 x 120 ซม. เอกสารอ้างอิง ยศพร จันทองจีน. (2565). จรจัดสรร วัฒนธรรมการเลี�ยงหมาในสังคมไทย สู่การออกแบบ โครงการต้นแบบเพื�อสวัสดิภาพหมาจรจัดในมหานคร (ดุษฎีนิพนธ์). มหาวิทยาลัยศิลปากร, คณะมัณฑนศิลป์. เข้าถ่งได้จาก https://sure.su.ac.th/xmlui/handle/123456789/27076? attempt=2&
24 | FACULTY ในปัจจุบัน สตรีทอาร์ตได้กลายเป็นเครื�องมืออันทรงพลังในการสร้างจุดยืน แนวคิด หรือเจตจำนง รวมถ่งถูกใช้เพื�อสร้างพลวัต ให้กับพื�นที�ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในประเทศไทยงานสตรีทอาร์ตถูกนำมาเป็นต้นทุนต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นเครื�องมือในการปรับภูมิทัศน์ชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร เพื�อพลิกฟ้�นจากภาพของความทรุดโทรมสู่ชุมชนที�มีความ สวยงาม หรือการใช้ภาพสตรีตอาร์ตเพื�อสร้างแรงด่งดูดด้านการท่องเที�ยว และ สื�อสารอัตลักษณ์ของชุมชนในต่างจังหวัด เนื�องจากสื�อภาพมีคุณสมบัติเพียงพอ ที�จะจับความสนใจของผู้คน ในฐานะประสบการณ์ที�เข้าใกล้ได้สัมผัสได้และเข้าถ่ง ได้ง่ายกว่าโบราณวัตถุหรือสถาปัตยกรรม หลายพื�นที�ในประเทศไทยจ่งมีการใช้ สตรีทอาร์ตเข้าไปเปลี�ยนแปลงภูมิทัศน์ เพื�อให้เกิดผลพลอยได้ด้านการท่องเที�ยว (สถาปนิก’66. 2563) พื�นที�สาธารณะใต้สะพานตลาดพลู ฝั�งท่าน�ำตลาดพลู เขต ธนบุรี ติดกับแม่น�ำเจ้าพระยา บริเวณโดยรอบเป็นชุมชนที�พักอาศัย อาคารพาณิชย์ และร้านค้า เริ�มแรกใต้สะพานถูกสร้างเป็นลานกิจกรรมและลานกีฬา มีบันได 2 ฝั�ง สำหรับเดินข่�นลงสะพานรัชดาภิเษก ปัจจุบันกลายเป็นพื�นที�เสื�อมโทรม อโคจร เป็นที�พักอาศัยของคนไร้บ้าน มีวัยรุ่นเข้ามามั�วสุม พื�นที�ค่อนข้างสกปรก มีการ ขับถ่ายของเสียในมุมอับต่างๆ ใต้คานเป็นที�อยู่อาศัยของนกพิราบ บางมุมมีรถยนต์เข้ามาจอดแบบถาวร ส่วนบริเวณด้านหน้าฝั�งถนน เป็นพื�นที�ค้าขายอาหารหลากหลาย ทั�งคาว หวาน ที�มีชื�อเสียงโด่งดังเรื�องของอร่อยในเขตธนบุรีนักท่องเที�ยวนิยมเดินทางเข้ามาจับจ่ายซื�อของกิน การสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบสตรีทอาร์ต (Street Art) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื�อสร้างสรรค์ผลงานสตรีทอาร์ตบนพื�นที�ใต้สะพานตลาดพลู ติดกับท่าน�ำตลาดพลู 2) เพื�อปรับภูมิทัศน์พื�นที�ให้สวยงาม มีชีวิตชีวาข่�น 3) เพื�อสร้างสุนทรียะอย่างมีส่วนร่วมให้กับผู้คนและชุมชน แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน นำเสนอความหลากหลายของอาหาร โดยเน้น ไปที�ประเภทของหวาน ขนม ที�มีชื�อเสียงของตลาดพลู ตัดทอนให้เป็นรูปทรงทาง ศิลปะที�เรียบง่ายร่วมสมัย ใช้สีสันที�สดใส กระบวนการสร้างสรรค์ 1) การสำรวจพื�นที� 2) สนทนากับชุมชน 3) นำเสนอ ทางสำนักงานเขตเพื�อขออนุญาตผู้ดูแลพื�นที� 4) ทำแบบร่าง 5) นำเสนอแบบร่าง วิพากษ์วิจารณ์เพื�อนำมาปรับปรุงแก้ไข 6) สร้างสรรค์ผลงานกับพื�นที� 7) ประเมินผล ปัญหาในการสร้างสรรค์ผลงานบนพื�นที�เสาและคานใต้สะพานความสูงจากพื�น 5 เมตร เสา 12 ต้น คาน 2 คาน มีพื�นที�โดยรวมทั�งหมดประมาณ 450 ตารางเมตร เทคนิควาดภาพด้วยสีอะครีลิก เนื�องด้วยพื�นที�มีความสูง เสาแต่ละต้นมีความห่าง กัน ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก พื�นที�ค่อนข้าง มืด สกปรก มีฝุ่นเยอะ จ่งแก้ ปัญหาโดยใช้สีโทนสว่างทารองพื�นปูนทั�งหมดก่อน แล้วจ่งลงสีจริงเพื�อให้ได้ ความสดของสีที�ใกล้เคียงกับแบบร่าง เพิ�มความสว่างสดใสให้พื�นที�แบ่งทีมวาด เสาและคาน ให้ทำงานไปพร้อม ๆ กัน และคอยช่วยกันเช็คภาพรวมของผลงาน ให้เป็นไปตามแบบร่างให้มากที�สุด ประโยชน์ที�ได้รับ 1) เกิดภูมิทัศน์ที�สวยงามบริเวณใต้สะพานตลาดพลูเกิดสุนทรีย ภาพมุมมองใหม่สร้างสรรค์พื�นที�ให้เกิดความรู้ส่กเป็นมิตรกับผู้คนมากข่�น 2) เพิ�มชีวิตชีวาให้กับคนในพื�นที� ผู้คนที�สัญจรไปมารู้ส่กปลอดภัยข่�น คนที�เข้ามาใช้ พื�นที�ถูกโอบล้อมด้วยผลงานสตรีทอาร์ตที�มีสีสันสดใส สนุกสนาน 3) ได้จุดเช็คอิน แหล่งใหม่ของตลาดพลู และเป็นแลนด์มาร์ค (Landmark) กระตุ้นให้เยาวชนเข้ามาใช้พื�นที�ทำกิจกรรมที�สร้างสรรค์ เอกสารอ้างอิง สถาปนิก’66. (2563). สตรีตอาร์ท ชุบชีวิตมรดกเมืองและสถาปัตยกรรม. เข้าถ่งได้จาก https://www.asaexpo.org/post/street-art ความสดใสใต้สะพานตลาดพลู อาจารย์องอาจ มากสิน | [email protected] สาขาวิชาออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
FACULTY | 25 งานบูรณะเรือนรับรองยิบอินซอย อาจารย์อริยะ ทรงประไพ | [email protected] สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิยาลัยเกษมบัณฑิต เรือนรับรองหลังนี�เป็นตัวแทนของช่วงเวลาการเป็นศูนย์กลาง การทำเหมืองแร่ ดีบุก ตำแหน่งที�ตั�งของอาคารหลังนี�อยู่ใกล้เคียงกับชุมทางรถไฟทุ่งสงและเป็น อาคารที�มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของการพัฒนาเมืองทุ่งสง โดยธุรกิจของ กลุ่มยิปอินซอย เริ�มข่�นตั�งแต่ ปี พ.ศ. 2469 ณ อำเภอทุ่งสง1 จังหวัดนครศรีธรรมราช2 ด้วยธุรกิจเหมืองแร่และจำหน่ายอุปกรณ์การทำ เหมืองแร่ จนเป็นที�รู้จักแพร่หลายในหมู่พ่อค้าแร่ทั�งในและต่างประเทศ ภายใต้ชื�อบริษัท ยิปอินซอยแอนกำปะนี จำกัด และต่อมาได้เปลี�ยนเป็น บริษัท ยิปอิน ซอย จำกัด ในปี พ.ศ. 2473 สภาพที�ตั�งโครงการอยู่ในย่านศูนย์ราชการ ย่านการ ศ่กษา และถนนคนเดินสำหรับจัดกิจกรรมของเมืองทุ่งสง อาคารเรือนรับรอง ยิปอินซอย จ่งเป็นสถานที�ที�อยู่ในความทรงจำของชาวเมืองทุ่งสง การบูรณะ อาคารหลังนี� จ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกการเปลี�ยนแปลงย่อมส่งผลต่อความรู้ส่กของ ผู้คนและภูมิทัศน์ของเมือง ซ่�งในช่วงเวลาก่อนการบูรณะอาคารเสื�อมสภาพอย่าง มากและถูกต่อเติมเปลี�ยนแปลงการใช้งาน ในการอนุรักษ์ 3 การบูรณะจ่งมุ่งเน้นไปที�การเคารพคุณค่าเดิมของอาคารหลังนี� เช่น การทำความเข้าใจเทคนิคการก่อสร้างอาคารไม้อิทธิพลตะวันตกในช่วงสมัย รัชกาลที� 7 และการสืบค้นหาสีดั�งเดิมของตัวอาคาร แนวทางการบูรณะหัวใจ สำคัญคือใช้วัสดุประเภทเดิม และยังคงรักษาเทคนิคการก่อสร้าง การประกอบ รอยต่ออันเป็นเอกลักษณ์ดั�งเดิมของอาคาร 1) ทำความเข้าใจเทคนิคการก่อสร้าง ดั�งเดิมของตัวอาคาร เพื�อนำกลับมาใช้ในการบูรณะและปรับพื�นที�ใช้สอยที�เป็น ส่วนต่อเติมใหม่ของตัวอาคารออก 2) ทำการสำรวจชั�นสีเพื�อหาสีดั�งเดิมของตัว อาคารทั�งภายในและภายนอก 3) ทำความเข้าใจต้นเหตุปัญหาของการเสื�อม สภาพขององค์ประกอบอาคารเพื�อกำหนดแนวทางแก้ไข 4) ห้องคนรับใช้ชั�นล่าง ที�ประสบปัญหาน�ำท่วมเป็นประจำทุกปี จะรื�อออกทั�งหมดเพื�อปรับเป็นพื�นที�โล่ง ในการจัดกิจกรรมของชุมชน สรุป องค์ความรู้ปัญหาและแนวทางแก้ไข 1) การจำแนกแยกแยะเทคนิคการ ก่อสร้างแบบดั�งเดิมและเทคนิคการก่อสร้างที�เป็นผลจากการต่อเติม 2) การ สำรวจรูปแบบชั�นสี วัสดุแบบดังเดิมและการสืบค้นหาวัสดุที�ยังคงผลิตด้วยเทคนิค ท้องถิ�นดั�งเดิมนำมาใช้ 3) เข้าใจถ่งแนวทางการวิเคราะห์สาเหตุการเสื�อมสภาพ และใส่เทคนิคในการป้องกันด้านเคมีภัณฑ์และกรอบในการดูแลรักษา 4) การ เปลี�ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อการบูรณะอาคารและการปรับเปลี�ยน พื�นที�การใช้งานบางส่วนที�ถูกน�ำท่วมซ�ำซากทุกปี 5) องค์ความรู้ในการวางแผน รื�อถอนและการนำกลับมาประกอบใหม่ของอาคารไม้อิทธิพลตะวันตก เอกสารอ้างอิง1 ประพนธ์ เรื�องณรงค์, “ชื�อบ้านนามเมืองภาคใต้ (4) นครศรีธรรมราช,” รูสมิแล ปีที� 29,ฉบับที� 2 (พ.ค.-ส.ค 2551): 1-7. 2 จำลอง ช่องลมกรด,บรรณาธิการ, ทุ่งสง 100 ปี 2540, นครศรีธรรมราช :โรงพิมพ์วุฒิสาส์น, 2540. 3 กรมศิลปากร, ทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติการอนุรักษ์อนุสรณ์สถาน และแหล่งโบราณคดี, กรุงเทพฯ : บริษัท หิรัญพัฒน์ จำกัด, 2533.
26 | FACULTY ศิลป์ในสวนสาธารณะคลองสาน Art in Khlong San Park อาจารย์คณิตา มีชูบท | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การพัฒนาเมืองได้สร้างความเปลี�ยนแปลงให้กับเมือง สิ�งแวดล้อม และผู้คน ใน พื�นที�ย่านใหม่นั�นได้รับการพัฒนา แต่ในทางกลับกันย่านเก่าที�มีประวัติศาสตร์ ดั�งเดิมอาจถูกทิ�งร้าง ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) จ่งได้มีการพัฒนา พื�นที�ว่างของเอกชนข้างโรงเกลือแหลมทองให้เป็นสวนสาธารณะในชุมชนตรอก ช่างนาค-สะพานยาว เขตคลองสาน โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างทักษะ ความรู้ความเข้าใจและกระบวนการในการจัดการพื�นที�สาธารณะอย่างมีส่วนร่วม จากชุมชน ตลอดจนร่วมกันพัฒนารูปแบบการพัฒนาด้านกายภาพแห่งนี�ในระยะ ยาวซ่�งเป็นหน่�งในนโยบายกรุงเทพมหานครด้านสิ�งแวดล้อม ซ่�งมีความร่วมมือ กับคนในชุมชนและได้ก้าหนดว่าการสร้างศิลปะบนก้าแพงที�แสดงถ่งเอกลักษณ์ ของพื�นที� จะเป็นแนวทางหน่�งที�เหมาะสมในการพัฒนาสวนแห่งนี� กระบวนการท้างานเริ�มจากการให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปะในย่าน ตามแนวคิด Participatory Design โดยมีการจัดกิจกรรมให้เด็ก ในชุมชนมาร่วมกันวาดรูปเพื�อถ่ายทอดเรื�องราวในชุมชน แล้วน้าผลงานศิลปะ ของเด็กในชุมชนมาเป็นส่วนหน่�งของการวาดบนก้าแพง ทั�งนี�เพื�อให้คนในชุมชน ซ่�งจะต้องอยู่ร่วมกับศิลปะบนก้าแพงนี�ในพื�นที�ท้ามาหากินและอยู่อาศัย ได้เป็น ส่วนหน่�งในการร่วมสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีกระบวนการท้างานดังนี� 2.4 x 8 เมตร | Mural painting 1. ศ่กษามรดกวัฒนธรรมในพื�นที�ย่านคลองสาน 2. น้าข้อมูลมาท้ากิจกรรมศิลปะร่วมกับคนในชุมชน 3. น้าผลงานของเด็กในชุมชนมาวิเคราะห์และท้า Design Brief 4. ออกแบบผลงานโดยใช้ต้นแบบภาพวาดของเด็กในชุมชนร่วมกับงานออกแบบ 5. ร่างภาพบนก้าแพงพื�นที� 6. ร่วมกันลงสีกับคนในชุมชนให้งานเสร็จสมบูรณ์ จากการปฏิบัติงานสร้างสรรค์ ทำให้ได้เรียนรู้หลักการ Participatory Design การระดมความคิดและการออกแบบร่วมกันกับคนในชุมชน ด้วยความคิดที�ว่า คนในชุมชนจะเป็นผู้ที�จะอยู่กับงานศิลปะนี�ในระยะยาว ถ้าเขาได้มีส่วนร่วมใน การออกแบบเพื�อให้ได้ศิลปะบนก้าแพงในรูปแบบที�เขาต้องการจะท้าให้เขารู้ส่ก ว่าพื�นที�ตรงนี�เป็นของเขาอย่างแท้จริง Outstanding Social, Environment & Cultural Impact
FACULTY | 27 Art Theory and History อาจารย์ ดร.จิรายุ พงส์วรุตม์ | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หนังสือชุด เป็นหน่�งในความปรารถนาของนักออกแบบกราฟิก เนื�องจากเป็นโอกาส ที� จะได้ออกแบบหนังสือต่อเนื�องกันหลายเล่ ม ได้ทดลองแนวความคิดและรู ปแบบ การแสดงออก ในขณะเดียวกันก็เป็นโจทย์ที�ยากเนื�องจากมีประเด็นที� ต้องขบคิด แก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กันหลายเรื�อง ตั�งแต่ ลักษณะที�เอื�อกับการอ่านกับการวาง เลย์เอาท์และเลือกตัวอักษร การวางรูปประกอบที� มี ลักษณะหลากหลาย การ เลือกกระดาษให้เหมาะสมกับหนังสือและงบประมาณ ทั�งนี�ยังต้องใส่ใจกับระดับความยากง่ายของเนื�อหาหนังสืออีกด้วยหนังสือชุดนี�เป็นหนังสือวิชาการ โดยภาควิชาทฤษฎีศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หน่�งชุดจ้านวน 6 เล่ ม จัดท้าข่�นเพื�อใช้ใน โครงการสัมมนาอบรมความรู้ด้านทฤษฎีศิลป์ส้าหรับอาจารย์ผู้สอนทัศนศิลป์ใน ระดับภู มิภาคและระดับชาติ ประกอบด้ วย 1) ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย: ตะวันตก และไทย 2) จิ� วและแจ๋ ว: พิ พิธภัณฑ์ศิลปะในญี�ปุ่นจากทศวรรษ 1990 3) โรแมนติกคอนเซ็ปฌวลลิสม์ 4) ประวัติสุนทรียศาสตร์ตะวันตก 5) ศิลปะจีนร่วมสมัย และ 6) ศิลปะยุคสยามเก่าและกรณีพระนั�งเกล้าฯ ข้อสังเกตเบื�องต้น คือความหลาก หลายของเนื�อหาและความยาวของชื�อหนังสือยากต่อการจดจ้าและการรวบยอดเป็นแนวความคิดที�มีเอกภาพ แม้กระทั�งการสื�อสารในกองบรรณาธิการด้วยกัน เอง จ่งมีการใช้หมายเลขเรียกหนังสือแต่ละเล่ ม ซ่�งได้กลายมาเป็นส่ วนหน่�งของ แนวทางการออกแบบหน้าปก สันปก วางเพียงตัวเลขโรมัน เพื�อให้การจัดเรียง ในชั�นมีระเบียบและสวยงาม การวางเลย์เอาท์เนื�อหาหนังสือเน้นให้ มีความขร่ม แบบหนังสือวิชาการแต่ อ่านง่าย ด้ วยตัวอักษรมี หัวที�ไม่โดดเด่นแย่งความสนใจ ของเนื�อหา การแทรกภาพประกอบเน้นให้ตรงกับเนื�อหา เพื�อให้ผู้อ่านไม่ ต้อง พลิกหน้าไปมา ลดปัญหาของหนังสือวิชาการที�มักถูกติ ติงว่ามี รู ปแบบที� อ่านยาก อย่างไรก็ตาม เป็นที� น่าเสียดายว่าต้นทุนการผลิตที�ต้�า ท้าให้ภาพประกอบเป็น ภาพขาว-ด้าเท่านั�น โดยได้พยายามแก้ปัญหาทั�งในขั�นของการตกแต่งไฟล์ภาพให้สอดคล้องกับเทคนิคการพิมพ์เพื�อให้ภาพดูชัดเจนในประเด็นที�ผู้เขียนต้องการ น้าเสนอด้ วย การออกแบบหน้าปกได้ วางแผนไปพร้อม ๆ กับการค้านวณต้นทุน การผลิต โดยเลือกเทคนิคพื�นฐานในงานสิ�งพิมพ์ คือ พิมพ์ขาว-ด้าและเคลือบ SPOT UV โดยรองพื�นสีเทา (K10%) ซ้อนทับกันกับส่ วนที�เคลือบ เว้นพื�นที�ขาว ของเนื�อกระดาษบางจุด ท้าให้เห็นความเข้มอ่อนของสีแสง เงาสะท้อนที� แตกต่างกัน ลงสีด้า (K100%) ที� ตัวอักษรโรมัน ภาพที�เลือกมาท้าหน้าปกคือภาพ ประกอบส้าคัญภายในเล่ม เมื�อท้าเทคนิคเดียวกันทั�งหกเล่มท้าให้เกิดความต่อเนื�องเป็นหนังสือชุดที�มีเอกภาพแต่ก็แยกแยะเนื�อหาออกจากกันได้ง่ายหนังสือชุดนี�ได้รับรางวัล JAGDA Shizuoka Award, 6th Graphic Designer’s Power Show 2020 โดย JAGDA Shizuoka รางวัลเหรียญเงินออกแบบหนังสือ โดย The Japan Book Design Award 2018 และรางวัลออกแบบหน้าปก และ เลย์เอาท์100 Annual Book and Cover Design Awards 2018 โดย PUBAT และ ThaiGa แม้ ว่าหนังสือชุดนี�จะถูกจ้ากัดด้ วยต้นทุนผลิต แต่กลายเป็นโอกาส ที�ได้ทดลองน้าเทคนิคพื�นฐานทางการพิมพ์ มาใช้ในการออกแบบ และได้ทดลอง เรื�องระยะการมองเห็นส้าหรับสื�อสิ�งพิมพ์ประเภทหนังสือ ที� ต้องใส่ใจออกแบบ ทั�งการมองเห็นจากระยะไกลเมื�อวางอยู่บนชั�นหนังสือและจากระยะใกล้เมื�อได้หยิบหนังสือข่�นมาในมือ สามารถพิจารณารายละเอียดของเทคนิคการพิมพ์ได้ในปีนี�จะมีการจัดท้าหนังสือชุดนี�ในรูปแบบออนไลน์เพื�อประโยชน์ในการเผยแพร่ในอนาคตอีกด้วย 18.415 x 24.765 ซม. | พิมพ์ออฟเซต Outstanding Learning Support
28 | FACULTY Grand shadow play อาจารย์ ดร.ไพโรจน์ พิทยเมธี | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สืบเนื�องมาจากผลจากงานวิจัยเรื�อง “การสร้างสรรค์ภาพเคลื�อนไหวเสมือนจริง (AR) หนังใหญ่วัดขนอน” โครงการ “การสร้างสรรค์พื�นที�ทางวัฒนธรรมเพื�อการ ท่องเที�ยว กรณีศ่กษา: วัดขนอนหนังใหญ่อ้าเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี” ที�ได้ รับงบประมาณจากกองทุนวิจัย นวัตกรรม และการสร้างสรรค์ คณะมัณฑนศิลป์ ในครั�งนั�นได้มีการจ้าลองหนังใหญ่ภาพจับพระนารายณ์ทรงครุฑ และภาพจับพระรามต่อสู้กับมังกรกัณฐ์ในคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรม Illustrator โดยจ้าลอง ให้เหมือนการตอกแบบจุดบนหนังใหญ่ จ่งเลือกใช้การสร้างเครื�องมือ Brush เพื�อแทนเครื�องมือตอกหนังใหญ่ที�ใช้การเดินเส้นด้วยการตอกเป็นจุดๆ โดยการ สร้าง Brush ในหลายรูปแบบเพื�อให้ครอบคลุมการสร้างแบบจ้าลองหนังใหญ่ทั�ง 2 ชุด และได้เลือกสร้างเครื�องมือ Pattern เพื�อสร้างลวดลายบนพื�นหนังใหญ่ และได้ค้นพบว่าลวดลายบนพื�นหนังใหญ่แต่ละชุด แต่ละตัวมีความหลากหลาย งดงามแตกต่างกัน ได้รูปแบบ Brush และ Pattern เป็นจ้านวนมาก จ่งมีความ คิดว่าเครื�องมือเหล่านี�จะสามารถน้าไปเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ส้าหรับ นักออกแบบเพื�อน้าไปต่อยอดสร้างแรงบันดาลใจในองค์ประกอบของทัศนธาตุ การออกแบบ เพื�อให้เกิดความเป็นไทย เพิ�มการสื�อความหมายในการออกแบบ กราฟิกไทยร่วมสมัยได้ดียิ�งข่�น จ่งได้น้าเครื�องมือนี�มาสร้างสรรค์ผลงานในครั�งนี� แนวความคิด ต้องการที�จะใช้เครื�องมือ Brush รูปแบบต่างๆ ที�ได้จากลวดลาย การตอกหนังใหญ่วัดขนอน เพื�อใช้แทนเครื�องมือตอกหนังใหญ่ที�ใช้การเดินเส้น ลวดลายด้วยการตอกเป็นจุด ๆ มาจัดองค์ประกอบใหม่ ให้มีความร่วมสมัย ตัด การเล่าเรื�องรามเกียรติ�ในรูปแบบเดิม ๆ ประกอบเป็นรูปสามเหลี�ยมที�หมายถ่ง รูปทรงที�เป็นเอกลักษณ์ในศิลปะไทย ที�มีความหมายถ่งเขาพระสุเมรุ มีการ เปลี�ยนวัสดุเป็นแผ่นเหล็กแทนแผ่นหนัง น้าไปเลเซอร์ฉลุลาย บนพื�นสีแดงชาด กระบวนการสร้างสรรค์โดยการสร้างสรรค์ผลงานในคอมพิวเตอร์ก้าหนดขนาด และรูปแบบไฟล์แล้วส่งไฟล์ไปเลเซอร์ฉลุลายบนแผ่นเหล็กหนา 3 มิลลิเมตร แล้วจ่งน้าแผ่นเหล็กมาลงสีแดงชาด แล้วน้าไปติดตั�งจัดแสดง โดยการติดตั�งแสง ไฟส่องย้อนแสงให้เห็นความงามของลวดลายการเจาะรูในแบบต่างๆ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในครั�งนี�ได้น้าเครื�องมือ Brush รูปแบบต่างๆ ที�ได้ จากลวดลายการตอกหนังใหญ่วัดขนอนมาต่อยอดสร้างสรรค์ จะเป็นประโยชน์ ในแง่ของตัวอย่างผลงานการต่อยอดสร้างสรรค์ที�ใช้ภูมิปัญญาของหนังใหญ่วัด ขนอน มาต่อยอดให้เป็นงานสร้างแบบร่วมสมัยได้องค์ความรู้ที�เกิดข่�นคือลวดลาย ที�มาจากหนังใหญ่เป็นการคลี�คลายมาจากลายไทยให้มีความเรียบง่าย จ่งง่าย ต่อการน้าไปใช้งานต่อยอดได้อีกมากมาย สามารถน้าลวดลายเหล่านี�ไปสร้างผล งานศิลปะและการออกแบบได้ทุกสาขา เช่น ลวดลายผ้า ลายกราฟิกการฉลุลาย ในภาชนะเครื�องปั�นดินเผา ลวดลายบนโคมไฟ เป็นต้น 180 x 120 cm. | แผ่นเหล็ก เลเซอร์ฉลุลาย ทำสี
FACULTY | 29 การจัดการเรียนการสอนวิชาวาดเส้นในประเทศไทย ยังขาดสื�อการสอนประเภท หุ่นศีรษะที�มีมาตรฐาน เช่น สัดส่วนที�สมบูรณ์ ความเชื�อมโยงของอวัยวะแต่ละชิ�น ทำให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปได้ลำบาก นักศ่กษาไม่สามารถใช้สัดส่วน ทั�วไปกับหุ่นปูนที�มีเพื�อฝึกฝนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จ่งต้องการสร้างสื�อการ สอนที�เป็นศีรษะและใบหน้าที�มีองค์ประกอบที�สมบูรณ์ โดยมีอวัยวะชัดเจนและให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของส่วนต่างๆ ที�สอดคล้องกัน และสร้างด้วยขนาดใกล้เคียงกับศีรษะคนจริง เริ�มทำแบบร่างศีรษะและใบหน้า มองหาความเชื�อมโยงของแต่ละส่วน ด้วยแนวคิด ที�ว่าอวัยวะในร่างกายสามารถเชื�อมโยงถ่งกันได้ โดยนำจุดเด่นที�เกิดเหลี�ยมมุมมาเป็นหลักย่ดเพื�อหาความสัมพันธ์ของแต่ละจุด ความสัมพันธ์เหล่านี�จะเชื�อมโยง กันด้วยเส้นที�มองไม่เห็น เส้นที�เกิดข่�นนี�จะเรียกว่า เส้นประสาน หรือเส้นสัมพันธ์ ก็ได้ การมองเห็นและเข้าใจสิ�งนี�จะส่งผลต่อการวาด เพราะเมื�อวาดส่วนใดก็ตามจะส่งผลต่อส่วนอื�นๆ ด้วย สูง 33 เซนติเมตร | ประติมากรรม Outstanding Learning Support สื่อการเรียนศิลปะเรื่องศีรษะและใบหน้า อาจารย์วรรณฤทธิ� กะรินทร์ | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สร้างสรรค์ด้วยโปรแกรม Zbrush และ 3D Print การสร้างผลงานแบบดิจิทัลจะ ให้รูปปั�นมีความสมมาตร เมื�อผลิตสามารถสร้างขนาดเท่าใดก็ได้ เนื�องจากไฟล์ ดิจิทัล นำไป Print ขนาดเล็กหรือใหญ่ได้ตามต้องการ ไม่มีข้อจำกัดเรื�องขนาด หลังจากนั�นนำผลงานไปหล่อเป็นเรซิ�นและพ่นสีขาว การสร้างผลงานชิ�นนี�ทำให้ ได้ศ่กษาเรื�องใบหน้าคนมากข่�น กระทั�งพบว่าเรื�องสัดส่วนแม้จะมีความสำคัญกับการวาดศีรษะและใบหน้า แต่ความสัมพันธ์ของอวัยวะจะช่วยในเรื�องการวาดและ ความเข้าใจแต่ละส่วนได้มากกว่าคำน่งถ่งเรื�องเอกภาพโดยไม่แยกแต่ละส่วนจากกัน
30 | FACULTY Social Media Life รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จากผลการส้ารวจพฤติกรรมทางดิจิทัลของคนไทย ประจ้าปี 2023 โดย We Are Social และ Meltwater (InsightEra, 2566) พบว่า คนไทยกว่า 71.75 ล้านคน มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมากถ่ง 61.21 ล้านคน (85.3% ของประชากร) และใช้ โซเชียลมีเดียมากถ่ง 52.25 ล้านคน โดยใช้เวลามากถ่ง 2 ชั�วโมง 44 นาทีต่อวัน แพลทฟอร์มยอดนิยม ได้แก่ Facebook, LINE, Facebook Messenger, TikTok, Instagram และ Twitter การใช้โซเชียลมีเดียช่วยให้เราสามารถรับรู้ข่าวสารได้ รวดเร็ว เชื�อมความสัมพันธ์กับผู้คน หรือใช้เป็นช่องทางสร้างงานสร้างรายได้ แต่การใช้งานที�มากเกินไปจนเกิดพฤติกรรมเสพติด ก็อาจส่งผลกระทบในชีวิต ประจ้าวัน เช่น ประสิทธิภาพการท้างานแย่ลง ผลการเรียนลดลง การเข้าสังคม และการสื�อสารปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแบบ Face to Face ลดลง หรืออาจน้า ไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้ในอนาคต จากที�มาข้างต้น ผู้ออกแบบจ่งต้องการออกแบบสื�อที�สะท้อนปัญหาการใช้งาน โซเชียลมีเดียในรูปแบบโปสเตอร์ โดยใช้ภาพศรีษะของมนุษย์สไตล์ป็อบอาร์ต (Pop Art) ผสมผสานกับภาพสัญลักษณ์ในโซเชียลมีเดีย ในการสื�อสารถ่งพฤติกรรม และความคิดของคนที�ใช้โซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ได้แก่ 1) ภาพตาทั�งสองข้างที� ถูกทดแทนด้วยเครื�องหมายแฮชแท็ก (Hash Tag) สื�อถ่งการมองโลกผ่านหน้า ต่างแฮชแท็ก จะถูกท้าให้แคบลงด้วยการชี�น้าบางอย่างจากกระแสความคิดและ ความรู้ส่กของคนในสังคมออนไลน์ 2) ภาพปากที�ถูกทดแทนด้วยเครื�องหมายแชร์ (Share) สื�อถ่งพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสาร แล้วส่งต่อออกไปในสังคมซ่�งมี ทั�งส่วนที�ดีและส่วนที�เป็นอันตราย เช่น เฟคนิวส์ ข้อมูลหรือแนวคิดที�ผิดกฎหมาย หรือขัดต่อศีลธรรมในนามของเสรีภาพ 3) ภาพส่วนศรีษะที�มีเครื�องหมายไลค์ (Like) และ เลิฟ (Love) อัดแน่นอยู่ภายในจนล้นออกมา สื�อถ่งกลุ่มคนที�เสพติด การยอมรับจากโลกออนไลน์มากๆ เมื�อไม่ได้รับการตอบสนองที�พอใจก็เกิด ความทุกข์ บางคนยอมทำทุกอย่างเพื�อให้ได้ยอดไลค์ในโลกออนไลน์ เช่น การท้า คอนเทนต์ที�มีเนื�อหารุนแรงหรือสุ่มเสี�ยงต่อการท้าผิดกฎหมาย หรือการดิ�นรน เพื�ออวดความมั�งมีซ่�งอาจน้าไปสู่การหลอกลวงผู้อื�นเพื�อให้ได้มาซ่�งทรัพย์สิน ดังที� ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นบ่อยครั�ง ผู้ออกแบบเองก็เป็นคนหน่�งที�มีพฤติกรรมเสพติดโซเชียลมีเดียในระดับหน่�ง จ่ง ต้องการสะท้อนปัญหาดังกล่าวผ่านผลงานออกแบบเพื�อเตือนใจตนเอง และมี เป้าหมายให้ผู้อื�นที�ได้รับชม ตระหนักถ่งปัญหาในการใช้งานโซเชียลมีเดียที�มาก เกินไปจนท้าให้เกิดความคิดและพฤติกรรมที�น้าไปสู่ปัญหาเฉพาะตน เช่น การ ถูกครอบง้าทางความคิด ปัญหาสุขภาพจิตและสุขภาพกาย และอาจน้าไปสู่ปัญหา สังคม ในประเด็นด้านการออกแบบ การจัดวางภาพขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางผลงาน เพื�อให้เกิดจุดด่งดูดสายตา การเลือกใช้ภาพสไตล์ป๊อบอาร์ตหรือศิลปะประชานิยม ซ่�งมักจะใช้สิ�งที�คนคุ้นเคยในชีวิตประจ้าวันมาสะท้อนเรื�องราวที�ปรากฏในปัจจุบัน จ่งมีความสอดคล้องกับเนื�อหาของผลงานนี�และการสื�อสารด้วยภาพอย่างเดียว โดยไม่ใช้ตัวอักษรหรือข้อความก็เป็นวิธีการหน่�งที�นิยมใช้ในงานศิลปะและงาน ออกแบบโฆษณา โดยในงานออกแบบนี�ใช้ภาพสัญลักษณ์ในการสื�อสารเชิงวิพากษ์ ซ่�งเป็นภาพสัญลักษณ์ที�กลุ่มผู้ชมเป้าหมายมีความคุ้นเคยจากการใช้โชเชียล มีเดียอยู่แล้ว เช่น เครื�องหมายแฮชแท็ก เครื�องหมายแชร์ เครื�องหมายไลค์/เลิฟ ซ่�งผู้ชมน่าจะสามารถตีความและท้าความเข้าใจได้ไม่ยากนัก 70 x 100 ซม. | คอมพิวเตอร์กราฟิก เอกสารอ้างอิง InsightEra, สรุปข้อมูลที�ควรรู้ DIGITAL 2023 THAILAND จาก We Are Social และ Meltwate,เข้าถ่งเมื�อ 27 มิถุนายน 2566, เข้าถ่งได้จาก https://www.insightera.co.th/digital-2023- thailand/#:~:text=คนไทยใช้%20Social%20Media,อันดับ%201%20Facebook%2091%25
FACULTY | 31 ยันต์ไทยในมิติ Extended Reality ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โกเมศ กาญจนพายัพ | [email protected] หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผลงานสร้างสรรค์นี�มีวัตถุประสงค์เพื�อน้าเสนอความรู้เรื�องลายสักยันต์ไทยผ่าน เทคโนโลยีความจริงขยาย หรือ Extended Reality โดยในวัฒนธรรมไทยมี ความเชื�อว่ายันต์มีคุณสมบัติล่กลับที�สามารถน้าพลังงานด้านบวกมาสู่ชีวิตของผู้ สวมใส่ “ยันต์” ในพจนานุกรมภาษาไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถ่ง ตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข อักขระหรือรูปภาพที�เขียน สัก หรือแกะ สลักลงบนแผ่นผ้า ผิวหนัง ไม้โลหะ เป็นต้น ซ่�งลายแต่ละชนิดแสดงถ่งคาถาและ พลังที�แตกต่างกัน การสักยันต์มีมาตั�งแต่สุโขทัย โดยต้นแบบน่าจะมาจากขอมที�เรืองอ้านาจอยู่ในแคว้นสุวรรณภูมิในขณะนั�น หรือราว 1,600 ปีที�แล้ว เพราะ อักขระเป็นแบบอักษรขอมและภาษาบาลี (เจนจบ ยิ�งสุมล, 2563) ส้าหรับเทคโนโลยี XR เป็นการผสานโลกจริงและโลกเสมือนให้เป็นหน่�งเดียวกัน ซ่�งสื�อที�เหมาะแก่ผู้ชมซ่�งเป็นผู้ที�เกิดในยุคดิจิทัลหรือ Digital natives การสัก ยันต์ไทยลวดลายที�นิยมกันอย่างแพร่หลายในบรรดาผู้ที�นิยมการสักคือ ลวดลาย สักที�ให้ผลทางไสยศาสตร์ซ่�งแบ่งเป็น เพื�อผลทางเมตตามหานิยม และเพื�อผล ทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีให้แคล้วคลาดจากอันตราย (ลายสักยันต์, 2564) ผู้ สร้างสรรค์ได้ท้าการคัดเลือกลายยันต์เจ็ดแบบที�เป็นที�นิยมดังนี� 1. ฉัตรเพชร ให้ คุณ โชคลาภเงินทอง 2. เก้ายอด ให้คุณ คงกระพันชาตรีป้องกันภัย 3. พุฒซ้อน ให้คุณเมตตามหานิยม ความส้าเร็จ 4. เสือเผ่น ให้คุณ แคล้วคลาด ปลอดภัย คง กระพันมหาอ้านาจ บารมี 5. แปดทิศ ให้คุณ แคล้วคลาด เสริมดวง หนุนดวง 6. หนุมานตัวเก้า ให้คุณ เมตตา มหานิยม คงกระพัน กันภูติผีปีศาจ อ้านาจ บารมี และ 7. พิฆเนศปางนิยม ให้คุณ เมตตา มหานิยม บารมีสติปัญญา ความส้าเร็จ โดยท้าการสร้างผลงานในโปรแกรม Open Brush ด้วยอุปกรณ์จอแสดงผลแบบ สวมศีรษะ Pico 4 ผลที�ได้คือผลงานนิวมีเดียอาร์ต XR ยันต์ไทย น้าเสนอลายยันต์ทั�งเจ็ดพร้อม ความหมายของลายแต่ละชนิดแก่ผู้ชมแบบด่�มด�้า แสดงผลลายยันต์ซ้อนบนพื�นที� จริงขนาดสี�ตารางเมตร ซ่�งเป็นวิธีใหม่ในการศ่กษาความหมายของยันต์ไทย ซ่�ง เป็นส่วนส้าคัญของวัฒนธรรมและประเพณีไทย ซ่�งวิธีนี�สามารถน้าไปประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงขยายในการสร้างสื�อการเรียนรู้แบบดื�มด�้าได้ เอกสารอ้างอิงเจนจบ ยิ�งสุมล. (2563). รอยสักไทย เส้นสายลายลักษณ์แห่งศรัทธา - National Geographic Thailand. National Geographic Thailand. เข้าถ่งเมื�อ 13 เมษายน 2566 เข้าถ่งจาก https://ngthai.com/cultures/31619/thai-traditional-tattoos/ ลายสักยันต์ - ลายสัก รอยสัก ช่างสัก ร้านสัก tattoo. (2564). เข้าถ่งเมื�อ 13 เมษายน 2566 เข้าถ่งจาก https://becomeinked.com/talisman-tattoo-30-06-2021/ 1920 x 1920 pixels (54 วินาที) | Extended Reality art รับชมผ่านจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ
32 | FACULTY พิมพ์ IIIII ประดับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดขวัญ สวัสดี | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบเครื�องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เรขศิลป (หรืองานออกแบบเรขศิลป์ ที�จริงแล้วก็คือชื�อภาษาไทยของค้าว่า “กราฟิกดีไซน์” ที�มาจากค้าทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Graphic Design การแบ่ง รูปแบบของเรขศิลป์ หรือการออกแบบกราฟิกดีไซน์เพื�อน้าไปใช้ในสื�อต่างๆ ตาม ประเภทของสื�อสิ�งพิมพ์ ในปัจจุบันมีการแบ่งประเภทของสื�อสิ�งพิมพ์หลากประเภท ทั�งสิ�งพิมพ์ 2 มิติ และ 3 มิติ ส้าหรับสิ�งพิมพ์ 2 มิติ คือสิ�งพิมพ์ที�มีลักษณะเป็นแผ่นเรียบใช้วัสดุจ้าพวกกระดาษ และมีเป้าหมายเพื�อน้าเสนอเนื�อหา ข่าวสารต่างๆ เช่น หนังสือ นิตยสาร จุลสาร หนังสือพิมพ์ พ็อกเก็ตบุ๊ก แผ่นพับ โบรชัวร์ ใบปลิว นามบัตร เป็นต้น การออกแบบหนังสือ นอกจากจะเป็นการท้าหน้าที�สื�อสารข้อมูลจากผู้เขียนสู่ผู้อ่าน แล้ว ยังต้องท้าหน้าที�ในการสื�อสารบุคลิกลักษณะของข้อมูลนั�นให้ออกมาเป็นรูปธรรม โดยการเลือกหรือสร้างภาพ ตัวอักษร และองค์ประกอบทางการออกแบบ อื�นๆ แล้วน้ามาจัดวางอย่างเหมาะสม หนังสือแต่ละประเภทที�มีลักษณะของข้อมูล ที�แตกต่างกัน ก็ย่อมมีบุคลิกลักษณะที�แตกต่างกันด้วย การทราบว่าหนังสือที�จะ ท้าการออกแบบเป็นหนังสือประเภทใด จะช่วยให้เข้าใจบุคลิกลักษณะที�เหมาะสม ส้าหรับข้อมูลเนื�อหา ท้าให้สามารถเลือกใช้องค์ประกอบ และหลักการในการออกแบบที�เหมาะสมกับหนังสือนั�นๆ ได้ดีข่�น หนังสือวิชาการทั�ง 5 เล่ม ได้แก่ สังขาร (SAMSARA) ธาตุ (DHATU) ปางมะผ้า (WORMHOLE) หน่�งวงสะท้อนของน�้า (RIPPLE OF WATER) และใยประดับ (WHY NOT JEWELLERY) เขียน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุภาวี ศิรินคราภรณ์ “ประดับ” ถูกใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบหนังสือ ที�มีเนื�อหาว่าด้วยเรื�องการ ออกแบบเครื�องประดับหลากหลายมิติ “ประดับ” ยังเป็นแกนหลักของแนว 21.5 x 30 cm. จำนวน 5 เล่ม | พิมพ์สีพิเศษ (Specialty Colors) ความคิดในการออกแบบรูปเล่มผ่านองค์ประกอบเรขศิลป์ ซ่�งท้าหน้าที�ไม่ต่าง จากเครื�องประดับที�ถูกจัดวางในพื�นที�ว่างบนงานสิ�งพิมพ์ ดังนั�นในการออกแบบ หนังสือชุดนี� มุ่งเน้นการออกแบบจัดวางตัวอักษรที�สะท้อนเนื�อหาของแต่ละเล่ม ประกอบกับการน้าเสนอเทคนิคงานพิมพ์รูปแบบสีที�แตกต่างกัน โดยเน้นการ ทดลองการใช้สีพิเศษประเภทสีเมทาลิค ในทุกองค์ประกอบของงานออกแบบ หนังสือชุดนี�ได้ท้าหน้าที�ไม่ต่างไปจากการ “ประดับ” องค์ประกอบต่าง ๆ ให้เกิด ความงามและสื�อความหมาย น้าไปสู่สุนทรียภาพที�เชื�อมโยงเนื�อหา งานออกแบบ และกระบวนการพิมพ์การออกแบบเรขศิลป์ ปก รูปเล่มที�มีขนาด 21.5 x 30 เซนติเมตร มุ่งเน้นการออกแบบเรขศิลป์ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์เพื�อให้ สื�อสารบุคลิกลักษณะของข้อมูลให้เป็นรูปธรรม โดยผ่านองค์ประกอบงานออกแบบสิ�งพิมพ์ 2 มิติ ได้เริ�มด้วยการศ่กษา รวบรวมข้อมูลโครงสร้างหนังสือ ลักษณะ รูปแบบ การจัดวาง ตัวอักษรที�สัมพันธ์กับเรื�องราวงานเขียน การใช้สีให้สอดคล้อง กับเนื�อหา เป็นต้น การสร้างสรรค์นี�นอกเหนือจากการประเมินคุณค่าของงานออกแบบเรขศิลป์ ด้วยการอธิบายถ่งความเป็นสื�อกลางในการสื�อสารความหมายผ่านรูปแบบการ สร้างสรรค์สัญลักษณ์ที�เข้าใจกันได้ภายในสังคม แสดงประสิทธิภาพในการถ่ายทอด ข้อมูลให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน ์สามารถโน้มน้าวผู้รับสารให้เกิดความ นิยม ประทับใจ เรียนรู้ หรือยอมรับ รวมทั�งส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าทาง ความคิดที�ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เอกสารอ้างอิง ไพโรจน์ ธีระประภา และคณะฯ. (2561). ๗๐ สุดยอดผลงานเรขศิลป์ในรัชกาลที� ๙. เนคทาร์อารยะ ศรีกัลยาณบุตร. (2550). การออกแบบสิ�งพิมพ์. วิสคอมเซนเตอร์ Outstanding Learning Support
FACULTY | 33 กาลิเลโอ คินีในมุมมองของฉัน ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ดร.วีรวัฒน์ สิ ริเวสมาศ | [email protected] หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สาขาศิลปะการออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที� มาของการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในรู ปแบบของคลิปวี ดีโอ Short Teaser Documentary งานนี�เกิดจากการบันท่กและตัดต่อคลิปวี ดีโอ ผลงานการแสดง Hope Blood Love ที�จัดแสดงข่�นในวันที� 2 เมษายน 2566 ณ พื�นที� ว่างของกรม ธนารักษ์ สามเสนซอย 3 อันเป็นพื�นที�ที� มีสมมติฐานว่าเป็นที� พักของนายกาลิเลโอ คิ นี (Galileo Chini 1873-1956 ศิลปินจิตรกรชาวอิตาเลียนที�เข้ามาวาดภาพ ด้ วยเทคนิคสีปูนเปียก (Fresco) โดมเพดานในพระที�นั�งอนันตสมาคม ในระหว่าง ปี พ.ศ. 2456) การแสดง Hope Blood Love ครั�งนี�มี นักแสดงเพียงคนเดียวของ เรื�องคือ คุณวรรณศักดิ� ศิริหล้า ศิลปินศิลปาธร สาขาการแสดงประจำปี 2563 ซ่�งเป็นเรื�องราวของเจ้าหญิง Turandot ในมุมมองของเจ้าหญิงผ่านการตีความ ใหม่อย่างสร้างสรรค์ ผลงานที� มี ส่ วนร่วมในการประกอบการแสดงทั�งฉากละคร กลางแจ้งที�สามารถปรับเปลี�ยนเป็นอุ ปกรณ์ ชุดประกอบการแสดงได้รวมถ่ง เครื�องประดับตบแต่ง และชุดการแสดงทั�งหมดนี� เกิดจากการพลิกแพลง ผสม ผสาน โดยคณะทำงาน โดยใช้ ชุดผลงานเก่าๆ ที�ใช้ประกอบการแสดง ที�ผลิต โดยนักศ่กษาภาควิชาออกแบบเครื�องประดับ ภายใต้รายวิชาการออกแบบ 2 (Design II) ในระหว่างปีการศ่กษา 2563-64 โดยมี ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ดร. วีรวัฒน์ สิ ริเวสมาศ และ อ.ภู ษิต รัตนภานพ เป็นผู้ควบคุ มการเรียนการสอนใน ช่ วงเวลาดังกล่าว รวมถ่งชุดประกอบการแสดงในครั�งนี� (2565) ก็ได้ รับการ ศ่กษาวางแผนและบรรจุเข้าเป็นส่ วนหน่�งของโจทย์สรุ ปในการเรียนการสอน ที� มี นักศ่กษาภาควิชาออกแบบเครื�องประดับชั�นปีที� 1 (ประจำปีการศ่กษา 2565)เป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำงานสร้างสรรค์ภายใต้กรอบที�กำหนด การใช้ วัสดุเหลือใช้ มาสร้างสรรค์ผลงาน (Reuse Recycle materials) เป็น แนวคิดหลักของรายวิชาการออกแบบ 2 และเป็นแนวทางหลักเพื�อให้ นักศ่กษาได้ ฝึกคิดฝึกทดลองปฏิบั ติในการทดลองวัสดุเพื�อให้เกิดวิธีการสร้างผลงานใหม่ๆ อยู่เสมอ การบูรณาการดังกล่าวจ่งก่อให้เกิดผลงานสร้างสรรค์ในรู ปแบบบูรณา การระหว่างการเขียนบท การกำกับการแสดง การคิดและออกแบบท่าทางการ แสดง (Choreography) รวมถ่งการออกแบบชุดประกอบการแสดงทั�งในส่ วน ของการประดับร่างกายและการประดับตบแต่งพื�นที�แวดล้อมเพื�อสร้างสัญญะ และบรรยากาศของงานแสดงสร้างสรรค์ ที� ส่งผลกระทบต่อผู้ชมในทุกโสต ประสาท กระตุ้นจินตนาการอารมณ์และเสริ มสร้างความรู้ ความอยากรู้เพื�อต่อ ยอดในการค้นคว้าหาความรู้กันต่อ ผลงานการแสดงนี�มิแค่เพียงจัดแสดงในเมือง ไทย ยังได้ รับเชิญจากเทศบาลเมือง Camaiore ประเทศอิตาลีเพื�อให้ไปจัด แสดงที�โรงละคร Il Teatro dell’ Oliva ในวันที� 9 กันยายน 2566 นี� ณ ประเทศอิตาลี เนื�องในโอกาสครบรอบ 150 ปี ชาตะกาลของกาลิเลโอคินี และครบรอบ 155 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอิตาลี ขอขอบคุณ “โครงการวิจัยการสร้างสรรคผ์ลงานประติ มากรรมที� สัมพันธ์ กับร่างกายและพ�ืนที� จากการ ตีความประวัติและผลงานของ Galileo Chini ศิลปะข้ามกาลเวลาสู่ชุ มชนเจ้าสามพระยา เขตพระนคร โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรวัฒน์ สิริเวสมาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.ประจำปีงบประมาณ 2566 ที�สนับสนุนทุนวิจัย Funda- mental Fund ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภัทรา โต๊ะบุรินทร์ ภาควิชานาฏยสังคีต คณะอักษรศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากรคุณวรรณศักดิ� ศิริหล้า ศิลปินศิลปาธร สาขาการแสดง ประจำปี 2563 คณะทำงานตามรอยกาลิเลโอคิ นี ชุ มชนเจ้าสามพระยา เขตพระนตร ความยาว 60 วินาที | ตัดต่อวี ดีโอ
34 | FACULTY GANESH ROBOT อาจารย์กฤษณวงศ์ ศิวะพราหมณ์สกุล | [email protected] สาขาวิชาศิลปศ่กษา คณะศ่กษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พระพิฆเนศ (Ganesh) เป็นเทพเจ้าของชาวฮินดูเป็นพระโอรสของพระศิวะ เชื�อ ว่าพระพิฆเนศเป็นองค์เทพผู้ขจัดความขัดข้อง และเป็นผู้ที�อ้านวยความส้าเร็จให้ กับกิจการทั�งหมดทั�งปวง ชาวอินเดียเมื�อจะประกอบพิธีต่างๆ ทางศาสนา หรือมี การเล่าเรียนวิชาความรู้ต่างๆ ด้านศิลปะ จะต้องบูชาและท้าความเคารพต่อองค์ พระพิฆเนศก่อน เพื�อขอความส้าเร็จให้กิจการและการเรียนนั�นๆ ส้าหรับคติ ความเชื�อการนับถือพระพิฆเนศในประเทศไทยนั�น นับถือในฐานะที�ทรงเป็นเทพ แห่งความฉลาดรอบรู้และเป็นเทพแห่งศิลปะวิทยาการต่างๆ ซ่�งได้มีการก้าหนดใช้รูปพระพิฆเนศเป็นตราเครื�องหมายสัญลักษณ์ของกรมศิลปากร มหาวิทยาลัย ศิลปากร และโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศ่กษา) ตามล้าดับ ในปีการศ่กษา 2566 โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศ่กษา) ได้ เปิดหลักสูตรใหม่ระดับมัธยมศ่กษาตอนต้นห้องเรียนพิเศษ “บูรณาการสร้างสรรค์” ส่งเสริมศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีภาษาอังกฤษ ศิลปะ คณิตศาสตร์และวิทยาการหุ่นยนต์ (STEAM ROBOTICS PROGRAM) ทางคณะกรรมการบริหารหลักสูตรห้องเรียนพิเศษฯ จ่งได้มอบหมายให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ออกแบบรูปภาพสัญลักษณ์ (Mascot) ของหลักสูตร STEAM ROBOTICS PROGRAM ข่�น ข้าพเจ้าจ่งน้าภาพพระพิฆเนศซ่�งเป็นตราสัญลักษณ์ประจ้ามหาวิทยาลัยศิลปากร และเป็นตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศ่กษา) 40 x 40 ซม. | Computer Graphic มาเป็นที�มาของแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้างสรรค์ให้มีความสวยงามและ ร่วมสมัย โดยค้าน่งถ่งความสอดคล้องเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรที� มีการบูรณาการศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีภาษาอังกฤษ ศิลปะ คณิตศาสตร์ และวิทยาการหุ่นยนต์ด้วยการออกแบบภาพร่างลายเส้นดินสอบน กระดาษ เพื�อค้นหาความเป็นไปได้ในการออกแบบรูปทรงที�มีการผสมผสานระหว่าง รูปทรงพระพิฆเนศและรูปทรงหุ่นยนต์ในท่าทางที�มีชีวิตชีวา บุคลิกลักษณะน่ารัก สวยงาม ทันสมัย จากนั�นจ่งน้าภาพลายเส้นเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้ววาด ทับด้วยการสร้างภาพแบบเวกเตอร์ (Vector) พร้อมทั�งก้าหนดโครงสีทิศทางของแสงเพื�อให้ผลงานดูมีมิติและใส่รายละเอียดผลงานจนเสร็จสมบูรณ์ ผลงาน “GANESH ROBOT” ชิ�นนี�ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรห้องเรียนพิเศษฯ โรงเรียนสาธิตฯ (มัธยมศ่กษา) ให้น้ามาใช้เป็นรูปภาพ สัญลักษณ์(Mascot) ของหลักสูตร STEAM ROBOTICS PROGRAM และได้น้าไปใช้ในสื�อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ส้าหรับการรับสมัครนักเรียนใหม่ในปีการศ่กษา 2566 อีกทั�งข้าพเจ้ายังได้น้าผลงาน “GANESH ROBOT” นี�มาใช้เป็นสื�อการสอน ในรายวิชากราฟิกดีไซน์ส้าหรับนักเรียนระดับชั�นมัธยมศ่กษาปีที� 5 โรงเรียน สาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศ่กษา)
FACULTY | 35 อาร์ ต ออฟ โนนชาด อาจารย์ ทัพพ์เทพ ภาปราชญ์ | [email protected] สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื�อสารมหาวิทยาลัยศิลปากร กระแสนิยมการใส่ ผ้าทอมือลดลงส่งผลให้การทอผ้าที�เป็นภู มิปัญญาท้องถิ�นแบบ ดั�งเดิ มเริ�มสูญหาย บริ ษัท ประชารัฐ รักสามัคคีวิสาหกิ จเพื�อสังคม (ประเทศไทย) ด้าเนิน “โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ�นหัตถศิลป์ไทย” ร่วมกับโครงการ Education Institute Support Activity หรือ eisa ของบริ ษัท ไทยเบฟเวอเรจ จ้ากัด (มหาชน) มี วัตถุ ประสงค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ้าทอมือ และส่งเสริมศักยภาพในการท้า งานร่วมกันระหว่างบริ ษัท สถาบันการศ่กษา ผ่านการแลกเปลี�ยนวิถี ชีวิตกับชุ มชน ในการเรียนรู้เกี�ยวกับผลิตภัณฑ์ในปี 2565 โครงการท้างานร่วมกับ 15 ชุ มชนและ 13 สถาบันการศ่กษา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื�อสาร มหาวิทยาลัย ศิลปากร คือหน่�งในสถาบันที�เข้าร่วมในรู ปแบบงานบริการวิชาการ มี วัตถุ ประสงค์ เพื�อผลิตวี ดิโอประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ให้ กับกลุ่มปลูกหม่อนเลี�ยง ไหมบ้านโนนชาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเจ้าของผลงานเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบ แนวความคิด กระบวนการสร้างสรรค์ ด้าเนินงานตามแนวทางการสร้างสรรค์ โฆษณาของ กัลป์ยกร วรกุลลัฏฐานี ย์ และพรทิพย์ สัมปัตตะวนิช (2553) ด้ วย กระบวนการ 3 ขั�นตอนคือ การพัฒนาแนวคิดโฆษณา การทดสอบแนวคิดก่อน การผลิต และประเมินผลความพ่งพอใจโดยผู้ที�เกี�ยวข้อง เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติ การ (Candy, 2006) ตามกรอบการท้างานสร้างสรรค์ของ ปรีชา เถาทอง (2014) เริ�มต้นค้นหาแรงบันดาลใจผ่านการปฏิบัติแบบมี ส่ วนร่วม สนทนากลุ่ม กับสมาชิกกลุ่มผ้าไหมบ้านโนนชาด และผู้ประสานงานโครงการ eisa จุดแข็ง ของผ้าไหมของบ้านโนนชาด คือภู มิปัญญาในการผลิตที� ถูกส่งต่อมาตั�งแต่อดีต เอกลักษณ์เฉพาะถิ�นคือการน้าเอาใบชาดจากต้นชาดมาย้อมสี ผ้า ลูกค้าหลักคือ หน่ วยงานในชุ มชนที�สั�งซื�อผ้าไหมเพื�อให้เป็นของฝากกับผู้ที� มาเยี�ยมเยือนหรือดู งานในอ้าเภอและจังหวัดกาฬสินธุ์ แนวคิด ทัศนคติและความเชื�อในการผลิตผ้า ไหมแบบดั�งเดิมมีความใกล้เคียงกับงานออกแบบในระดับสากล เจ้าของผลงานตีความและทดสอบแนวคิดก่อนการผลิตร่วมกับผู้ที�เกี�ยวข้อง ผ้าไหมของบ้าน โนนชาดคืองานหัตถศิลป์ที�ละเมียดในการผลิต การเล่าเรื�องใช้สไตล์ วี ดิโอสารคดี เจ้าของสินค้าเป็นผู้ด้าเนินเรื�องอธิบายบทบาทหน้าที�ของตัวเองในการท้าผ้าไหม แบบดั�งเดิ ม เปรียบเทียบกับต้าแหน่งเป็นภาษาอังกฤษในระบบของงานออกแบบ ร่วมสมัย อธิบายถ่งกระบวนการในการท้าผ้าไหม รวมทั�งมีการใช้ค้าในภาษาอีสานมาผสมในค้าโฆษณา ผลการประเมินวี ดิโอ ความพ่งพอใจอยู่ในระดับมาก วี ดิโอสามารถน้าเสนอ ภู มิปัญญาชาวบ้านในมิ ติความเป็นภู มิปัญญาท้องถิ�นได้ในระดับสากล ควรวางแผน การถ่ายท้าวี ดิโอโฆษณาในรู ปแบบสารคดีเป็น 2 ส่ วนคือ 1) การบันท่กภาพแบบ ธรรมชาติเจ้าของสินค้ามิได้เป็นนักแสดงมืออาชีพ การควบคุมทิ ศทางการแสดง ความคิดเห็นเป็นสิ�งที� ต้องล้าดับการตัดต่อจากค้าตอบของพวกเขาในระหว่างการ ถ่ายท้า 2) การบันท่กภาพสินค้า มีการเซ็ทอัพให้ได้สไตล์ภาพในมาตรฐานหนัง โฆษณา เอกสารอ้างอิงกัลยยกร วรกุลลัฏฐานี ย์ และพรทิพย์ สัมปัตตะวนิช, การโฆษณาเบื�องต้น. (กรุงเทพฯ: ส้านัก พิมพ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2551) ปรีชา เถาทอง,การเขียนเนื�อหาสาระทางวิชาการจากการสร้างสรรค์ศิลปะวิชาการ, Journal of the Association of Researchers.,Vol. 19 No.2 May-August, (2014) Candy, L. Practice Based Research: A Guide. Creativity & Cognition Studios. CCS Report: V.1.0 November. (2006) 5.10 นาที | วี ดิโอโฆษณาในรู ปแบบสารคดี Outstanding Social, Environment & Cultural Impact
36 | FACULTY สลาย-สร้าง Degenerate-Generate อาจารย์ ดร.จนัธ เที�ยงสุรินทร์ | [email protected] สาขาวิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานนี�สร้างข่�นเพื�อประกอบศิลปะการแสดงในงาน Pico Conference 2022 มีผู้กำกับการแสดงคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.สุพรรณี บุญเพ็ง ประพันธ์เพลง โดย อ.ร้อยเอก.ดร.ดนุเชฐ วิสัยจร และมี อ.ดร.จนัธ เที�ยงสุรินทร์เป็นผู้ออกแบบ ภาพ วัตถุประสงค์ของการแสดงนี�คือ การนำวัฒนธรรมไทยมานำเสนอในรูป แบบร่วมสมัยให้กับผู้ที�เข้ามาร่วมงานประชุมซ่�งกว่า 80% เป็นชาวต่างชาติ “All causal relations are contingent” ของ Meillassoux and Mackay (2012) ทำให้เกิดแนวคิดที�ว่า ความเป็นไทย คือ ชุดความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยตามสถานการณ์ การมองวัฒนธรรมไทยจ่งไม่สามารถมองแบบชาตินิยมหรือมองตามลำดับยุคสมัย (canonical) เพราะวัฒนธรรมทุกชนิดต่างเป็นสิ�ง สร้างสรรค์ที�เกิดจากอิทธิพลของโลกรอบตัวที�ผสมผสานหยืบยืม ซ่�งมีตั�งแต่การหยิบมาประยุกต์ใช้ตามแนวสุนทรียศาสตร์แบบ Cosmopolitanism (LSE 2015; Appadurai 2013; Igarashi and Saito 2014) หรือถ่งข่�นหยืบมาทำซ�ำหรือลอกเลียนตามแนวสุนทรียศาสตร์แบบซานจ้าย หรือ Shanzhai (Han 2017) ความพยายามที�จะ “สลาย” ความเป็นไทย จ่งเป็นการรื�อ (deconstruct) ความเป็นไทยที�เห็นในปัจจุบันเพื�อหาอิทธิพลเชิงวัฒนธรรมที�เกี�ยวข้องในอดีตให้เจอก่อน แล้วจ่ง “สร้าง” ข่�นใหม่อีกทีหน่�งตามบริบทและความคิดของผู้สร้างสรรค์ เมื�อค้นคว้าประวัติศาสตร์ศิลปะไทยพบว่าขนบการสร้างงานศิลปะผ่านการหยิบยืมเพื�อมาต่อยอดไม่ใช่เรื�องใหม่ในดินแดนสยาม หลักฐานสำคัญคือเพลง ‘ลาว ดวงเดือน’ ซ่�งแต่เดิมเพลงนี�มีชื�อว่าเพลง ‘ลาวดำเนินเกวียน’ แต่งโดยกรมหมื�นพิ ไชยมหินทโรดม โดยได้ดัดแปลงมาจากเพลง ‘ลาวดำเนินทราย’ ที�แต่งโดย พระยาประสานดุริยศัพท์ ซ่�งอันที�จริงก็ดัดแปลงมาจากทำนองเพลงลาวอีกทอด หน่�ง จากที�กล่าวมาข้างต้น จังหวะของดนตรีประกอบจ่งใช้เพลงลาวดวงเดือน เป็นหลัก กระบวนการสร้างสรรค์เริ�มตั�งแต่การรวบรวมข้อมูล (Sources) ได้แก่ การถ่าย ภาพนิ�งวัดโพธิ (ที�มีความเป็นจีนแบบทัวริสต์ทั�วไป การใช้คลิป Video Loop สำเร็จรูป รวมถ่งคลิปวิดีโอฟุตเทจท่ารำมาตรฐานของไทยอีสาน ชุดข้อมูลนี� เปรียบเสมือนการยำใหญ่ทางวัฒนธรรม ข้อมูลทั�งหมดถูกนำมาเรียงต่อกันใน แฟ้มบนคอมพิวเตอร์ แล้วใช้โปรแกรม Touchdesigner ทำการเรียกภาพข่�นมารันทีละภาพ ๆ ละ 4-6 วินาที รอยต่อระหว่างภาพได้สั�งให้ทำการทรานซิชันแบบง่ายที�สุดนั�นคือการ Fade หลังจากนั�นจ่งใช้ Touchdesigner ทำการดีเจเนอเรต (Degenerate) ให้ภาพแตกออกเป็นพิกเซลทรงกลม ซ่�งต้องการอุปลักษณ์ให้คล้ายกับเม็ดทราย (จากเพลงลาวดำเนินทราย) ส่วนภาพฟุตเทจการรำถูกนำไป ใส่ใน Deep Motion เพื�อ Generate ตัว Robot ข่�นมาเพื�อสลายอัตลักษณ์ผู้รำจริง ผู้สร้างสรรค์ได้ทดลองความเป็นไปได้ (Contingency) แบบต่างๆ ไปเรื�อยๆ จนพอใจ ก่อนทำการตัดต่อในขั�นตอนสุดท้าย จากการปฏิบัติงานสร้างสรรค์ ทำให้ได้รับองค์ความรู้จากการสร้างภาพแบบเจเน เรทีฟอาร์ต (ผ่านโปรแกรม Touchdesigner) และ ปัญญาประดิษฐ์ (Deep motion) ซ่�งจะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ�งต่อการนำไปเป็นส่วนประกอบในการจัด ทำโชว์ ศิลปะการแสดง (Performing art) และงานศิลปะติดตั�ง (Installation) ที�ผู้สร้างสรรค์ภาพต้องมีความคล่องตัวในการตอบสนองต่อสภาพหน้างาน (ที�มีปัจจัยที�คาดไม่ถ่งหลายอย่าง) รวมถ่งลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายของเวิร์กโฟลว์ในการจัดทำแอนิเมชันทั�งสองมิติและสามมิติ 280 วินาที (4.40 นาที) | วิดีโอ เอกสารอ้างอิง Appadurai, Arjun. 2013. “The Cosmopolitanism of the Urban Poor: An Example from Mumbai, India” Universita degli Studi di Milano-Bicocca. https://www.youtube. com/watch?v=X91C12zz6RI. Han, Byung-Chul. 2017. Shanzhai: Deconstruction in Chinese. Massachusetts: The MIT Press. Igarashi, Hiroki, and Hiro Saito. 2014. “Cosmopolitanism as Cultural Capital: Exploring the Intersection of Globalization, Education and Stratification.” Cultural Sociology 8 (3): 222-239. https://doi.org/10.1177/1749975514523935. https://doi.org/10.1177/1749975514523935. LSE. 2015. New Forms of Cultural Capital. lse.ac.uk. Accessed November 16. Meillassoux, Quentin, and Robin Mackay. 2012. “The Contingency of the Laws of Nature.” Environment and Planning D: Society and Space 30 (2): 322-334.
FACULTY | 37 งานออกแบบอัตลักษณ์องค์กร INSECTOR อาจารย์ ดร.สรัล ตั�งตรงสิทธิ� | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ธุรกิจแมลงนับเป็นธุรกิจที�มีแนวโน้มเติบโตเพิ�มข่�นในอนาคตรวมทั�งเป็นทาง เลือกหน่�งที�สามารถรองรับความต้องการด้านอาหารจากการเพิ�มข่�นของ ประชากรกว่า 9 พันล้านคนในปี 2050 ที�กำลังจะมาถ่ง 1 ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบ การเริ�มหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจนี�มากข่�น เช่นเดียวกับ Insector หรือบริษัท อินเซ็คเตอร์ จำกัด ซ่�งเป็นการรวมกลุ่มกันของผู้เชี�ยวชาญด้านแมลงก็ได้ถือกำเนิด ข่�นในปี 2022 เพื�อผลิตแบรนด์สินค้าที�ได้จากแมลงชนิดต่างๆ ให้กับผู้บริโภคที� เป็นทั�งคนและสัตว์ เพื�อเป็นทางเลือกหน่�งให้กับผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Veta ซ่�งเป็นแบรนด์น�ำมันสกัดสำหรับสัตว์เลี�ยงที�มีส่วนประกอบของแมลงอย่างตัวอ่อนหนอนแมลงวันลายที�มีโปรตีนสูงและไขมันดีแน่นอนว่าธุรกิจแมลงนับ เป็นธุรกิจใหม่ที�จำเป็นต้องมีภาพลักษณ์ที�น่าเชื�อถือเพื�อสร้างความเชื�อมั�นให้กับ ผู้บริโภค ทำให้งานออกแบบอัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) เข้ามามี บทบาทสำคัญ รวมทั�งควบคุมความเป็นเอกภาพของสื�อต่างๆ2 ผลงานชิ�นนี�จ่งมี วัตถุประสงค์ในออกแบบอัตลักษณ์องค์กรของ Insector เพื�อสร้างความน่าเชื�อถือ ให้กับผู้บริโภคและสร้างเอกภาพ งานออกแบบทั�งหมดถูกย่ดโยงด้วยแนวคิดขององค์กรที�ว่า Insect Intersection หมายถ่งการประสานความร่วมมือของคนที�สนใจในเรื�องแมลง จากแนวคิดดัง กล่าวผู้ออกแบบได้ศ่กษาข้อมูลขององค์กรผ่านการพูดคุยกับผู้ประกอบการ เพื�อ ศ่กษาความต้องการและเฟ้นหาองค์ประกอบที�จะสามารถนำมาใช้ในการ ออกแบบ รวมทั�งศ่กษางานออกแบบอัตลักษณ์แบรนด์ธุรกิจแมลงอื�นๆ ในท้อง ตลาดปัจจุบันเพื�อเป็นกรณีศ่กษาในการหาอัตลักษณ์ที�แตกต่าง ถัดมาจ่งได้ร่าง แบบตราสัญลักษณ์ในหลากหลายแนวทางเพื�อหาความเป็นไปได้ของแนวทาง การออกแบบ จากการพิจารณาร่วมกันระหว่างนักออกแบบและผู้ประกอบการ จ่งได้เลือกตราสัญลักษณ์ที�ได้แรงบันดาลใจจากรังแมลงที�เกิดจากการประสาน กัน (Intersection) ของรูปทรงใบไม้โดยรูปทรงโดยรวมยังสามารถมองออกได้ เหมือนกับรูปทรงของแผงไข่ซ่�งเป็นบรรจุภัณฑ์ที�มักถูกใช้เลี�ยงแมลง ทั�งนี�รูปทรง ของตราสัญลักษณ์นั�นเกิดจากการประสานกันไปมาของวงกลมอีกด้วย เทคนิค การประสานยังถูกต่อยอดในงานออกแบบส่วนอื�นอย่างพิคโทแกรม (Pictogram) หรือชุดสัญลักษณ์ (Icon) ที�ใช้ในองค์กรอีกด้วย นอกจากนี�ผู้ออกแบบได้ออกแบบ ลวดลายเพื�อใช้ในสื�อต่างๆ ซ่�งเป็นลวดลายของรูปทรงแผงไข่และใบไม้ที�เป็น แนวคิดของตราสัญลักษณ์ทั�งนี�เพื�อย�ำแนวคิดของตราสัญลักษณ์ให้ผู้กับบริโภค ทั�งนี� งานออกแบบทั�งหมดถูกกำหนดการใช้งานลงในคู่มือการใช้งานอัตลักษณ์ องค์กรโดยคำน่งถ่งความหลากหลายของสื�อในปัจจุบันทั�งสิ�งพิมพ์และออนไลน์ เช่น การกำหนดค่าสีในรูปแบบต่างๆ ทั�ง CMYK, RGB, PANTONE และ Wed Safe รวมทั�งกำหนดสัดส่วนของตราสัญลักษณ์ด้วยค่า X เพื�อความยืดหยุ่นใน การใช้งานในขนาดที�แตกต่าง จากการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�พบว่าแบรนด์ธุรกิจแมลงในปัจจุบันมักใช้รูปทรง ของชนิดแมลงซ่�งเป็นวัตถุดิบหลักมาใช้ในการออกแบบและสร้างอัตลักษณ์ซ่�ง อาจทำให้ยากต่อการต่อยอดแบรนด์ในอนาคตกรณีที�แบรนด์นั�นๆ ต้องการผลิต สินค้าจากแมลงชนิดใหม่ๆ การเลือกใช้รูปทรงก่�งนามธรรมอย่างงานออกแบบ อัตลักษณ์บริษัท อินเซ็คเตอร์ จำกัด จ่งสามารถเอื�อต่อการต่อยอดแบรนด์สินค้า ได้ในอนาคตในกรณีที�แบรนด์สินค้ามีความหลากหลายของชนิดแมลงที�ใช้เป็นวัตถุดิบของสินค้า ท้ายสุดผลงานชิ�นนี�สามารถเป็นต้นแบบกรณีศ่กษาให้กับองค์กร หรือแบรนด์สินค้า/บริการที�เกี�ยวข้องกับแมลงให้เกิดความมั�นใจแก่ผู้บริโภคได้ เพื�อตอบโจทย์กระแสความนิยมของสินค้าประเภทแมลงในอนาคตอันใกล้ 42 x 59.4 ซม. | Computer Graphic เอกสารอ้างอิง 1 Tanyaporn Thasak, “แมลงกินได้” ธุรกิจทำเงินแห่งโลกอนาคต, เข้าถ่งเมื�อ 5 พฤษภาคม 2566, เข้าถ่งได้จาก https://missiontothemoon.co/society-edible-insects/ 2 เกร็กก์ เบอร์รีแมน, ออกแบบกราฟิก : Graphic Design = Notes on Graphic Design and Visual Communication, (กรุงเทพฯ: อีแอนด์ไอคิว, 2545), 95-98.
38 | FACULTY PRINCESS MAHA CHAKRI AWARD อาจารย์ชูเกียรติ อ่อนชื�น | [email protected] สาขาวิชามีเดียอาตส์ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เนื�องในวรโรกาสที�สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จะทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชานุญาตตั�งพระนามรางวัลว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” หรือ Princess Maha Chakri Award และพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั�ง “มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” เพื�อเป็นองค์กรหลักในการวางแผนการ ดำเนินงานและพิจารณารางวัลมอบให้แก่ครู เพื�อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้มีผลงานดีเด่น สร้างคุณประโยชน์ต่อการศ่กษาในประเทศต่างๆ1 ในภูมิภาคเอเซียตะวัน ออกเฉียงใต้ รวม 11 ประเทศ โดยที�ผ่านมามีการนำตราสัญลักษณ์ และอัตลักษณ์ องค์กรของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพื�อใช้ในการสื�อสาร ประชาสัมพันธ์ ข่าวสาร กิจกรรม และการดำเนินการของมูลนิธิและพิจารณารางวัล ผ่านสื�อต่างๆ อาทิ เช่น สื�อสิ�งพิมพ์ สื�อออนไลน์ สื�อประชาสัมพันธ์บิลบอร์ดขนาดใหญ่ รวมไป ถ่งของที�ระล่กต่างๆ ในการดำเนินงานขององค์กรทั�งในประเทศและระดับนานา ชาติตราสัญลักษณ์และอัตลักษณ์องค์กรของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รูปแบบเดิมนั�น ทางมูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรีได้มีการนำตราประจำพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาเป็นองค์ประกอบ หลักในการออกแบบเรขศิลป์ของตราสัญลักษณ์ของรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี ซ่�ง เมื�อพิจารณาการใช้งานของตราสัญลักษณ์แล้วมีลักษณะการใช้งานที�หลาก หลายโอกาสทั�งที�เป็นแบบทางการ (formal) และไม่เป็นทางการ (informal) จ่ง เป็นที�มาของตราสัญลักษณ์และอัตลักษณ์องค์กรของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหา จักรี (ไม่เป็นทางการ) ทั�งนี�เพื�อความเหมาะสมกับกาลเทศะของโอกาสต่างๆ แนวคิดในการตราสัญลักษณ์และอัตลักษณ์องค์กรได้แรงบันดาลใจมาจาก ตัวอักษรย่อ สธ. ของตราประจำพระองค์ซ่�งเป็นอักษรประดิษฐ์ (Lettering) และถอดนำเอาอัตลักษณ์ที�ศิลปะยุคโรโกโก (Rococo) ที�วิจิตรบรรจง พลิ�วไหว หรูหรา ร่าเริงน่าสนใจมาออกแบบให้เข้ากับอักษรย่อภาษาอังกฤษของรางวัล เจ้าฟ้ามหาจักรี คือ PMCA ซ่�งสามารถสะท้อนผ่านตัวอักษรย่อของตราสัญลักษณ์ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสมดั�งตัวแทนของพระองค์ท่านมานำเสนอให้มี ความเรียบง่าย สง่างาม และมีคุณค่า สมกับรางวัลครูผู้สร้างการเปลี�ยนแปลง แก่ชีวิตศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศ่กษา องค์ความรู้ที�ได้จาการออกแบบผลงานการออกแบบตราสัญลักษณ์ และอัตลักษณ์ องค์กรของรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี โดยหลักจะเป็นเรื�องอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ได้แก่ 1) ความแข็งแกร่งและสมดุล 2) ความยืดหยุ่นในการ ใช้งาน 3) การใช้เลือกใช้สี 4) เชื�อมโยงคุณค่า และ 5) ลักษณะที�น่าจดจำ มา ใช้ในการออกแบบของตราสัญลักษณ์เพื�องานประชาสัมพันธ์ (public relations) ผ่านสื�อต่างๆ รวมถ่งของที�ระล่ก (Souvenir) ของมูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี และการใช้งานร่วมกับตราสัญลักษณ์ขององค์กรเอกชน หรือหน่วยงานภายนอก ทั�งในประเทศและนานาชาติ ทั�งนี�เพื�อความเหมาะสมกับกาลเทศะของโอกาสต่างๆ ซ่�งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานออกแบบกราฟิกประเภทอื�นๆ ต่อไป 42 x 80 ซม. | Corporate Identity Design เอกสารอ้างอิง 1 มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี. (2023). เจตนารมณ์. เข้าถ่งได้จาก https://www. pmca.or.th/thai/?page_id=57
FACULTY | 39 แผ่นพับเส้นทางเรียนรู้วัฒนธรรม ชิม มูดูไม้ @บางโพ อาจารย์มนินทรา ทุมโฆสิต | [email protected] สาขาวิชาออกแบบภายใน คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผลงานการออกแบบแผ่นพับเส้นทางเรียนรู้พหุวัฒนธรรม ชิม มู ดู ไม้ @บางโพ เป็นส่วนหน่�งในผลงานสร้างสรรค์จากงานวิจัย “พหุวัฒนธรรม: พลวัตของย่าน เก่าสู่กระบวนการออกแบบเส้นทางวัฒนธรรมเพื�อการเรียนรู้คุณค่าวิถีชุมชน กรณีศ่กษาย่านบางโพ เขตบางซื�อ กรุงเทพมหานคร” วิทยานิพนธ์ระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมีวัตถุประสงค์เพื�อออกแบบกระบวนการเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนผ่านเส้นทางวัฒนธรรมย่านบางโพในบริบทปัจจุบันเพื�อให้ชุมชนสามารถต่อยอดสู่นโยบาย และแผนการพัฒนาและนำไปเป็นต้นแบบให้ย่านเก่าอื�นๆ ในเมืองได้ แนวความคิดของการออกแบบแผ่นพับเส้นทางการเรียนรู้วัฒนธรรมนี�เกิดจาก การกำหนดขอบเขตพื�นที�ที�ได้จากการรับรู้ของประชาชนถ่งความเป็นย่าน เนื�องจากย่านบางโพในปัจจุบันเป็นเพียงชื�อของย่านเก่าในอดีตเท่านั�น ซ่�งในย่าน หน่�งจะมีการใช้งานหลากหลายทั�งการอยู่อาศัย การค้า และการผลิต เป็นพื�นที�ที� ได้รับการขนานนามและเป็นที�รับรู้ของประชาชน ทั�งนี�อาจมองว่าเมืองกรุงเทพฯ เกิดจากการเชื�อมต่อกันของย่านหลายแหล่ง (O’Cornor,1990:61-62) จากการศ่กษารวบรวมข้อมูลทั�งจากการสำรวจและสัมภาษณ์พบว่าย่านบางโพ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมนับตั�งแต่อดีตจนถ่งปัจจุบัน การเปลี�ยนแปลง จากการพัฒนาเมืองทำให้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั�งเดิมถูกกลืนกลายและเลือน หายไป ผู้วิจัยจ่งออกแบบเส้นทางพหุวัฒนธรรมเพื�อให้เกิดการเรียนรู้วิถีชีวิตและ วัฒนธรรมของย่าน องค์ประกอบทางวัฒนธรรมที�จับต้องได้มีความสัมพันธ์แนบ แน่น ไม่สามารถแยกออกจากองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที�จับต้องไม่ได้ ที�รวม ถ่งวิถีชีวิตของประชาชนผู้อยู่อาศัยในพื�นที� (ศรีศักร วัลลิโภดม,2554) ดังนั�น ผู้วิจัยจ่งได้นำอัตลักษณ์ของสถานที�สำคัญทางวัฒนธรรมมาเป็นหมุดหมายใน แผนที�เพื�อให้เกิดภาพจำที�จดจำได้ง่าย โดยมีภาพประกอบการเล่าเรื�องราวจาก สถานที�ต่างๆ แบบย่อ การจัดรูปแบบหน้ากระดาษให้อยู่ในหน้าเดียวกับแผนที� เพื�อให้สามารถเชื�อมโยงวัฒนธรรมที�จับต้องได้และวัฒนธรรมที�จับไม่ได้เข้าด้วย กัน ได้แก่ วัดอนัมนิกายาราม (วัดญวนบางโพ)-เทศกาลประจำปี โรงเลื�อยไม้ ไท้เชียง-ประวัติศาสตร์วิถีชีวิต ร้านวิเศษไก่ย่าง-อาหารที�ได้รับอิทธิพลจากชาว จีนไหหลำ ซุ้มถนนสายไม้ (ถนนประชานฤมิตร)-ภูมิปัญญา ศาลเจ้าแม่ทับทิมความเชื�อ เส้นทางเรียนรู้พหุวัฒนธรรม ชิม มู ดู ไม้ @บางโพนี� สามารถเป็นต้น แบบและต่อยอดสู่การออกแบบเส้นทางเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการ ท่องเที�ยวทางเชิงวัฒนธรรมของย่านบางโพและย่านอื�นๆ ได้ โดยแผ่นพับ ชิม มู ดู ไม้ @บางโพนี� ได้รับเลือกจากเขตบางซื�อให้ใช้เป็นแผ่นพับนำทางในกิจกรรม One Day Trip ย่านบางโพ ที�จัดเมื�อวันที� 24 มิถุนายน 2566 ที�ผ่านมา 21 x 29.7 ซม. | Adobe Illustrator, พิมพ์ 4 สี หน้า-หลัง
40 | FACULTY เพลงที่ลูกชอบสู่ของที่ลูกใช้ อาจารย์สุชาดา คันธารส | [email protected] สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลและบรรจุภัณฑ์ คณะเทคโนโลยีสื�อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ผลงานชุดเพลงที�ลูกชอบสู่ของที�ลูกใช้เป็นการสร้างสรรค์ภาพประกอบที�มีแรง บันดาลใจมาจากบทเพลงของเด็ก มีวิธีสร้างสรรค์และแสดงออกทางความรู้ส่ก หรือความหมายของเนื�อเพลงโดยผ่านกระบวนการถอดสัญญะคลี�คลายออกมา เพื�อกำหนดเป็นรูปภาพ ลายเส้น และสีสัน นำมาจัดองค์ประกอบศิลป์ให้สอดคล้อง กับความชื�นชอบของเด็ก ซ่�งมักจะมีจินตนาการเชื�อมโยงกับสิ�งที�เด็กพบเห็นใน ชีวิตประจำวัน เช่น ของใช้ ของเล่น สัตว์เลี�ยง หรือบุคคลที�อยู่รอบข้าง การ สร้างสรรค์ภาพประกอบโดยแรงบันดาลใจจากเพลงที�ลูกชอบนี� ยังเป็นส่วนหน่�ง ของการสร้างความสัมพันธ์ที�ดีในครอบครัวเพราะเป็นเสมือนช่องทางในการ สื�อสารกับเด็กผ่านภาพที�เด็กมองเห็น เช่น เมื�อเราร้องเพลงและเปิดดนตรีที�มี ภาพประกอบในขณะที�เด็กกำลังใช้สิ�งของนั�นอยู่ เมื�อเด็กได้ยินและได้เห็นภาพ อยู่ใกล้ตัวเขาก็จะช่วยส่งเสริมความจำความเข้าใจในเนื�อหาของบทเพลงและ เสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ของเขาได้มากข่�น ภาพประกอบ ลวดลายและสีสันต่างๆที�ปรากฏในผลงานชุดนี� มาจากการคัดเลือก บทเพลงที�เป็นที�นิยมและชื�นชอบของเด็ก โดยศ่กษาจากจำนวนยอดการรับชม และฟังในสื�อต่างๆ และการสอบถามจากผู้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กโดยตรง ได้คัดเลือก มา 11 บทเพลง ได้แก่ เพลงกบเอยทำไมจ่งร้อง เพลงหนอนผีเสื�อ เพลงเป็ดอาบ น�ำในคลอง เพลงจับปูดำขยำปูนา เพลงลิง เพลงม้าวิ�งกรับกรับ เพลงมดแดง เพลงเต่าเอ๋ยเต่า เพลงช้าง เพลงไก่ และเพลงแมวเหมียว การที�ทำให้เกิดแรง บันดาลใจ มาจากการได้ฟังบทเพลงบ่อยๆ มีความรู้ส่กสนุกสนานร่วมกับเด็ก แล้วเข้าสู่กระบวนการทางสัญญะศาสตร์กับแนวทางการคลี�คลายความหมาย สัญญะ (sign) และการแปลความ (Interpretation) คือ ถอดองค์ประกอบทาง ตรงจากความหมาย1 ซ่�งอยู่ในบทเพลง เช่น เมื�อบทเพลงร้องว่า “ก้าบ ก้าบ ก้าบ เป็ดอาบน�ำในคลอง” ความหมายทางตรง คือ จะต้องมีภาพประกอบ เป็ด น�ำ และองค์ประกอบที�อยู่ในลำคลอง เช่น ดอกบัว หอย ปลา และปู และถอดองค์ ประกอบเชิงบริบทจากความหมายในบทเพลง เพื�อเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับเด็ก ให้มากข่�นและให้เกิดมิติที�กว้างข่�นในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยการเสริมภาพ ประกอบ ของเล่น และสิ�งของที�เขาชื�นชอบ ซ่�งอยู่นอกเหนือจากเนื�อหาในบทเพลง เชื�อมโยงกับองค์ประกอบหลักเข้าไป เช่น เมื�อเป็นรูปเป็ดก็ให้ถือของเล่นรูบิคที�มี สีสันสดใสซ่�งเป็นของเล่นที�เด็กชื�นชอบ และสวมใส่หมวกใบเล็กที�เสมือนกับหมวก ที�เด็กมักสวมใส่เมื�อออกไปเล่นนอกบ้าน เป็นต้น จากการสัมภาษณ์ผู้เชี�ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย พบว่า ภาพ ประกอบในงานสร้างสรรค์ชุดนี�หากนำมาปรับใช้ในการเป็นสื�อประกอบการสอน ในชั�นเรียนควรมีการเพิ�มเติมเรื�องราว เนื�อหา หรือนำมาจัดองค์ประกอบในรูปแบบ ของสื�อการสอน เช่น หนังสือนิทานเพลง หรือสื�อวิดิทัศน์ และนำไปประเมินผล การนำไปใช้ ก่อนและหลังเรียนกับผู้เรียนซ่�งเป็นเด็กปฐมวัย หรือหากนำไปพัฒนา ต่อในรูปแบบของลวดลาย เช่น ลวดลายบนของใช้เด็ก กลุ่มเป้าหมายในการ ประเมินผลจะเป็นผู้ปกครองและผู้ใกล้ชิดกับเด็ก และควรนำไปประเมินผล ความพ่งพอใจและความสนใจที�จะซื�อ ข้อเสนอแนะในการสร้างสรรค์ผลงานหรือ การต่อยอด คือ ผู้สร้างสรรค์จะต้องคำน่งถ่งช่วงอายุและพัฒนาการของเด็กใน แต่ละช่วงวัย เนื�องจากกลุ่มอายุของเด็กแต่ละช่วงวัยมีความชื�นชอบและความสนใจที�แตกต่างกัน 59.4 x 84.1 ซม. | ลวดลายบนวัสดุแผ่นผืน, Illustration, Computer Graphic เอกสารอ้างอิง 1 สุชาติ เถาทอง. (2562). วิธีคิดทางศิลปะและการออกแบบขั�นสูง คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ บูรณาการความรู้ใหม่. (น.183-134). พิมพ์ครั�งที� 1.ชลบุรี: สำนักพิมพ์บางแสนการพิมพ์.
FACULTY | 41 มาสคอตนักเลงสายหวาน อาจารย์พิทวัส แสงธรรม | [email protected] สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ขนมฟู นักเลงสายหวาน เป็นร้านเบเกอรี�ที�มีชื�อเสียงร้านหน่�ง โดยคำว่า “นักเลง สายหวาน“ มีที�มาจากเจ้าของร้าน คุณปัณณพัฒน์ อชิรญาวณิชย์ เป็นคน จ.เพชรบุรี อดีตเคยเป็นคนเกเรและติดการพนัน ปัจจุบันกลับตัวหันมาเปิดร้านเบเกอรี�ขนม หวานที�มีความคิดสร้างสรรค์โดยนำวัตถุดิบจากบ้านเกิดอย่างลูกตาล จ.เพชรบุรี มาใส่ในขนม จ่งเกิดเป็นเมนูที�มีชื�อเสียงของร้านอย่างชิฟฟ่อนลูกตาลที�สร้างราย ได้ต่อเดือนมากถ่ง 30 ล้านบาท1 ทางร้านมีการใช้ตัวละครมาสคอตในการ ประชาสัมพันธ์ แต่มาสคอตยังมีความคล้ายคล่งกับร้านขนมหวานทั�วไป และยัง ไม่สื�อสารถ่งเอกลักษณ์ของร้าน เจ้าของร้านจ่งมีความต้องการที�จะพัฒนาตัว มาสคอตให้มีเอกลักษณ์ และสื�อสารถ่งชื�อร้านอย่าง “นักเลงสายหวาน“ เพื�อ สร้างภาพจำให้กับลูกค้า มาสคอตนั�นมีความสำคัญต่อธุรกิจและองค์กร ในการ สร้างภาพลักษณ์ให้กับร้านทำให้เป็นที�น่าจดจำ อีกทั�งยังเป็นตัวแทนในการสื�อสาร ประชาสัมพันธ์ให้กับร้าน ผู้สร้างสรรค์จ่งมีความสนใจในการออกแบบมาสคอต ของร้านข่�นใหม่เพื�อให้ได้มาสคอตที�มีความแตกต่างจากร้านขนมหวานเจ้าอื�น และสามารถนำมาสคอตนี�ใช้ร่วมกับสื�อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของทางร้านได้ แนวความคิดการสร้างสรรค์คำน่งถ่งการสื�อสารภาพลักษณ์ของร้าน โดยนำข้อมูล ที�ได้จากการสัมภาษณ์จากเจ้าของร้านที�มีความต้องการนำชื�อร้าน “นักเลงสาย หวาน” มาสร้างเป็นเอกลักษณ์ของตัวมาสคอต จ่งออกแบบมาสคอตให้มีลักษณะ นิสัยคล้ายนักเลงตามชื�อร้าน ให้ดูมีความมั�นใจ กล้าหาญ อีกทั�งยังผสมผสาน ความน่ารักดูเป็นมิตร ดูตลกน่าขบขันแบบร้านขนมหวาน ในส่วนของรูปลักษณ์ ผู้สร้างสรรค์ได้นำเมนูที�เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านอย่างชิฟฟ่อนลูกตาล มาเป็น ส่วนหลักของการออกแบบ และใช้ขนมหวานเมนูอื�นๆ ที�มีจำหน่ายในร้านมาเป็น ส่วนเสริม เมื�อได้ข้อมูลข้างต้นจ่งเริ�มวิเคราะห์ และทำการร่างภาพตามแนว ความคิดจนออกมาเป็นมาสคอต และนำแบบที�ได้ให้เจ้าของร้านได้ตรวจสอบ เพื�อ ปรับปรุงแก้ไข แล้วจ่งนำไปเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้ได้มาสคอตที�มีความ สมบูรณ์พร้อมใช้งานในสื�อประชาสัมพันธ์ประเภทต่างๆ ได้ง่าย มาสคอตนักเลงสายหวาน ประกอบด้วย 2 รูปแบบคือ 1) แบบลายเส้นที�ลงสี ที� พร้อมใช้งานร่วมกับสื�อประเภทต่างๆ ได้ง่าย และสามารถใช้งานได้สะดวก 2) แบบลายเส้น เพื�อเป็นแบบทางเลือกของการใช้งานสื�อที�ไม่ต้องการให้สี หรือราย ละเอียดในงานสื�อนั�นๆ เยอะจนเกินไป โดยมาสคอตนักเลงสายหวาน ได้ผ่าน การนำทฤษฎี และหลักการออกแบบมาพัฒนา ให้มีรูปลักษณ์ที�ตรงตามต้องการ และสื�อถ่งภาพลักษณ์ของชื�อร้านอย่าง “นักเลงสายหวาน” มีเอกลักษณ์แตกต่าง จากร้านขนมหวานในท้องตลาด องค์ความรู้จากการสร้างสรรค์ทำให้พบว่า การออกแบบมาสคอตต้องคำน่งถ่ง การสื�อสารภาพลักษณ์ของร้านเป็นสำคัญ เพราะมาสคอตนั�นเป็นตัวแทนการสื�อสาร ประชาสัมพันธ์ของร้าน ต้องมีเอกลักษณ์ที�สื�อสารถ่งภาพลักษณ์ของร้านค้านั�นๆ เมื�อนำไปใช่ร่วมกับสื�อประชาสัมพันธ์ มาสคอตที�ได้นั�นจะสร้างภาพจำให้กับผู้พบเห็น และสร้างความแตกต่างจากร้านขนมหวานเจ้าอื�นที�มีอยู่ในท้องตลาด สอดคล้อง กับ ไพโรจน์ ธีระประภา ที�กล่าวว่า มาสคอตเป็นเครื�องมือหน่�งที�สามารถสร้าง ภาพลักษณ์และเป็นเครื�องมือที�ไม่ควรมองข้าม ในการช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ หน่วยงาน องค์กร ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กหรือกลุ่มสตาร์ตอัป ธุรกิจเหล่านี� ล้วนต้องการให้ตนเองเป็นที�สนใจเพิ�มความน่าสนใจให้แก่กลุ่มผู้บริโภคให้หันมามองมากข่�น 21 x 29.7 ซม. | digital painting เอกสารอ้างอิง 1 มติชน เส้นทางเศรษฐีออนไลน์, “หนุ่มเพาะช่าง สร้างอาณาจักรเบเกอรี� “ขนมฟู” วัตถุดิบพรี เมี�ยม ขายราคาตลาดนัด,” เข้าถ่งเมื�อ 28 มิถุนายน 2566, https://www.sentangsedtee. com/food-recipes-for-job/article_132214.
42 | FACULTY Dishonest อาจารย์ ดร.วันวิสาข์ พรมจีน, พสชนันท์ บุญช่ วย | [email protected], [email protected] สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิ จ และสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิ จ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ งานวิจัยชิ�นนี�มี วัตถุ ประสงค์เพื�อศ่กษาวิธีการพัฒนาออกแบบสื�อแอนิเมชั�น 3 มิ ติ เพื�อรณรงค์ปรับเปลี�ยนทัศนคติ หยุดการทุจริตทางการศ่กษา เนื�องจากปัจจุ บัน เยาวชนสังคมไทยส่ วนใหญ่ คิดว่าการทุจริตทางการศ่กษาเป็นเรื�องที�ไม่ ผิด เมื�อ เยาวชนมีโอกาสหรือช่องทางในการทุจริตก็ จะลงมือกระท้าทันทีโดยไม่ค้าน่งถ่งผลเสียที�ตามมา ปัจจุบันจากผลส้ารวจการทุจริตในประเทศไทยสถิติเพิ�มข่�นอย่างต่อเนื�อง รัฐบาลเห็นความส้าคัญของปัญหา จ่งจัดตั�งโครงการ “บัณฑิตไทย โตไปไม่โกง” เพื�อสร้างการเปลี�ยนแปลงค่านิยมและวัฒนธรรมของคนไทย ให้รักความซื�อสัตย์รับผิดชอบ ไม่เอารัดเอาเปรียบ รังเกียจการโกงและไม่ยอมให้ใครโกงแต่ยังมีข้อด้อยของสื�อที�ยังไม่สามารถด่งดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมาก พอ จ่งศ่กษาแนวทางการสร้างสื�อที�เหมาะสม เพื�อน้าสื�อมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใน การรณรงค์และสร้างความเข้าใจที� ถูกต้องต่อปัญหาการทุจริตโดยใช้สื�อแอนิเมชั�น 3 มิ ติความยาวไม่เกิน 3 นาที จากการศ่กษาข้อมูลจากเอกสารที�เกี�ยวข้องกับการทุจริตทางการศ่กษา หลักการ ทางจิตวิทยาความต้องการของมนุษย์ ค้นคว้าทฤษฎีและแนวคิดเกี�ยวกับ กระบวนการออกแบบแอนิเมชั�น 3 มิ ติ วิเคราะห์ ข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายเพื�อ ด้าเนินการออกแบบ ผู้ชมเป้าหมายนักศ่กษาระดับอุดมศ่กษา อายุระหว่าง 18-23ปี พบว่าของกลุ่มเป้าหมายมีความพ่งพอใจในสื�อแอนิเมชั�น 3 มิติ กลุ่มเป้าหมาย สามารถตระหนักและมี ทัศนคติที� ถูกต้องมากข่�นเกี�ยวกับการทุจริตทางการศ่กษา ท้าให้กลุ่มเป้าหมายค้าถ่งน่งผลเสียที� จะตามมาจนน้าไปสู่การปรับเปลี�ยน พฤติกรรมทุจริตทางการศ่กษาได้โดยมี วัตถุ ประสงค์ 1) สร้างจิตส้าน่กเยาวชน ไทยผ่านแอนิเมชั�น 2) กระตุ้นสังคมไทยปลูกฝังค่านิยมของสังคมให้ มี คุณธรรม จริยธรรม ต่อต้านการคอร์ รัปชั�น 3) เพื�อเป็นการหล่อหลอมให้เกิดคุณสมบัติที� พ่งประสงค์ให้แก่ นักศ่กษาและเยาวชน ผู้วิจัยท้าการรวบรวมข้อมูลกับอาจารย์ ผู้สอนและอาจารย์ผู้คุ มสอบในคณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที�อยู่ในสังกัด มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะ ศิลปศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการ ออกแบบ โดยจะท้าการเก็บข้อมูลด้ วยการ Group Discussion ทั�งทางด้าน พฤติกรรมและเหตุการณ์ ต่างๆ ในสนามสอบเพื�อใช้ในการออกแบบโดยจะเก็บ ข้อมูลเฉพาะส่ วนที� มีความเกี�ยวข้องกับกระบวนการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั�น เท่านั�น ซ่�งจะประกอบด้ วย ข้อมูลพฤติกรรมในแง่ มุมต่างๆ ได้แก่ การจับทุจริต ได้ในสนามสอบ เหตุผลของการทุจริตของนักศ่กษา และอิทธิพลที� ส่งผลต่อ พฤติกรรมเหล่านี� บุคลิกภาพของนักศ่กษา การแต่งกายตามกฎระเบียบของ สถานศ่กษาส่ วนของการแต่งกาย การเก็บข้อมูลในส่ วนของการแต่งกายของ นักศ่กษาที�ท้าการทุจริตในห้องสอบเพื�อหาแนวทางในการออกแบบคาแรคเตอร์ส่วนของบุคลิกภายนอกสรุป เนื�อหาทางการทุจริตทางการศ่กษายังมีอีกหลายรูปแบบในสถานการณ์ที� แตกต่างกันไป และยังมีการทุจริตเล็กๆ น้อยๆ ในสถานศ่กษาที� ส่งผลต่อ พฤติกรรมการทุจริตระยะยาวที�แอนิเมชั�นไม่ได้กล่าวถ่ง โดยอาจเปลี�ยนไปสร้าง แอนิเมชั�นที� มี ลักษณะเป็นตอนๆ แทน เพื�อความครอบคลุ มของเนื�อหาที� ต้องการ น้าเสนอเพื�อการรณรงค์และควรร่วมกับการพัฒนาไปกับสื�อประเภทอื�นๆ เพื�อสร้างความหลากหลายมีประสิทธิภาพและไม่ท้าให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความเบื�อหน่ายต่อการตระหนักรู้ ความยาว 1 นาที 15 วินาที | 3D Animation
FACULTY | 43 ตัวพิมพ์ “ธนบุรีบุญจัน” Thonburi Boonchun อาจารย์สมัชชา อภิสิทธิ�สุขสันติ | [email protected] สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในอดีตประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ การเขียนหนังสือจะต้องใช้วิธี ชุบหม่กเขียน ซ่�งต้องอาศัยบุคคลที�มีลายมือสวยงาม ผู้ที�จดหรือเขียนตามค้าสั�ง ของพระมหากษัตริย์จะมีต้าแหน่งเป็น “นายอาลักษณ์” ท้าหน้าที�คัดลอกเอกสาร ราชการเพื�อกราบบังคมทูล นายอาลักษณ์จ่งเป็นผู้ที�รู้หนังสือแตกฉาน มีลายมือ สวยงามและเป็นที�ไว้วางพระราชหฤทัยของพระเจ้าแผ่นดิน จากการสืบค้นเอกสาร โบราณ พบว่า ในสมัยกรุงธนบุรี (พ.ศ. 2310 - 2315) มีเอกสารโบราณส้าคัญ ทางราชการอยู่พอสมควร ส่วนใหญ่จะพบผลงานของนายอาลักษณ์ 4 ท่าน คือ นายบุญจัน นายเชด นายสน และนายทองค้า พบหลักฐานด้านตัวอักษร การสะกด ค้า ลายมือหวัดแกมบรรจง และยังพบรูปแบบอักขรวิธีการเขียนพยัญชนะ 2 ตัว เชื�อมต่อเป็นตัวเดียวกัน เรียกว่า “อักษรสังโยค” หรือ “อักษรควบอักษร” (Ligatures) เกิดเป็นตัวอักษรที�มีรูปลักษณ์พิเศษข่�นใหม่ 1 ซ่�งประเด็นเรื�อง ตัวอักษรและอักขรวิธีในสมัยกรุงธนบุรียังไม่ค่อยมีผู้ให้ความสนใจศ่กษามากนัก ผู้สร้างสรรค์จ่งสนใจศ่กษาและออกแบบตัวพิมพ์เพื�อฟ้�นฟูและพัฒนาเอกลักษณ์ เฉพาะของตัวอักษรเหล่านี�ให้กลับมาใช้งานได้ใหม่อีกครั�งในยุคปัจจุบันตัวพิมพ์ ตระกูลธนบุรี บุญจัน มีแนวความคิดการสร้างสรรค์อิงจากตัวอักษรที�พบใน เอกสารโบราณสมัยกรุงธนบุรี กระบวนการออกแบบ คือ การสืบค้นรวบรวมเอกสารโบราณ เปรียบเทียบ ลายมือนายอาลักษณ์และได้เลือกรูปแบบลายมือของนายบุญจันมาอ้างอิง เนื�องจากพบว่ามีความสมบูรณ์ มีลักษณะการเขียนเป็นระเบียบ เส้นอักษรมีหัว แยกพยัญชนะ-สระ ออกจากกันชัดเจน และมีผลงานการอาลักษณ์เอกสารส้าคัญ จ้านวนมากที�สุด (5 ผลงาน) ได้แก่ พระราชโองการประกาศเทพารักษ์ให้ก้าจัด ปิศาจ กฎหมายให้พระราชาคณะถวายพระพรเตือนพระสติ สมุดภาพไตรภูมิ ฉบับกรุงธนบุรี (เก็บรักษา ณ กรุงเบอร์ลิน) บทละครรามเกียรติ�ฉบับกรุงธนบุรี เล่ม 4 และ 5 จากนั�นจ่งพัฒนาตัวอักษรในโปรแกรมคอมพิวเตอร์รวมถ่งรูปแบบ อักษรสังโยค (Ligatures) แบบโบราณครบชุด ตัวพิมพ์ตระกูลธนบุรี บุญจัน ประกอบด้วย 2 รูปแบบ คือ 1) แบบโบราณ (Antique) มีอักขรวิธีการสะกด ตามแบบโบราณ ประกอบด้วยอักษร Ligatures จ้านวน 29 ตัว เหมาะกับงาน เชิงอนุรักษ์ที�ต้องการใช้รูปแบบการสะกดแบบดั�งเดิมและ 2) แบบสมัยใหม่ (Modern) รูปแบบอักขรวิธีการสะกดปัจจุบัน เหมาะกับงานร่วมสมัยในสื�อต่างๆ โดยผ่านการน้าทฤษฎีและหลักการออกแบบมาพัฒนา ภายใต้ระบบกริด (Grids) ความเอียง (Slant) น�้าหนักเส้นให้มีช่วงความหนา-บาง ปรับส่วนสูงของแบบตัว อักษรบางตัว ช่องไฟระหว่างอักษร (Letter Space) กรอบรูปอักษร (Glyph Space) องค์ความรู้จากการสร้างสรรค์พบว่า การออกแบบตัวพิมพ์โบราณ จ้าเป็นต้อง ค้าน่งถ่งการอ่านในยุคปัจจุบันด้วย เนื�องจากคนส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นเคยกับรูปแบบ อักษรโบราณมากนัก จ่งจ้าเป็นต้องมีรูปแบบทางเลือกในการใช้งานตัวอักษรให้ เกิดความหลากหลาย ทั�งนี�ยังต้องรักษาลายมือเขียนแบบโบราณที�สวยงามอัน เป็นตัวแทนของสมัยกรุงธนบุรีไว้ให้ได้อย่างครบถ้วนด้วย สอดคล้องกับ Cyrus Highsmith ที�กล่าวว่า การสร้างฟอนต์ไม่ใช่การเขียนตัวหนังสือให้สวย แต่บรรดาชิ�นส่วนทั�งหมดจะต้องน้ามาผสมผสานกันได้ให้เกิดเป็นค้าเป็นวลีและต้องมีลักษณะที�สวยงาม2 60 x 84 ซม. | Digital Typeface เอกสารอ้างอิง 1 ธนโชติ เกียรติณภัทร, “เอกสารสมัยกรุงธนบุรีเรื�อง พระราชโองการประกาศเทพารักษ์ให้ ก้าจัดปิศาจ,” ด้ารงวิชาการ 18, 1 (มกราคม-มิถุนายน 2562): 118-150. 2 Cyrus Highsmith, Inside Paragraphs: Typographic Fundamentals, 2nd ed. (New York: Princeton Architectural, 2020), 27.
44 | FACULTY อัตลักษณ์ชุมชนกลุ่มมะพร้าวทับสะแก ออร์แกนิค อาจารย์สุเทพ จ้อยศรีเกตุ | [email protected] สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จากการที�ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจสำหรับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ หน่�งตำบลหน่�งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และโครงการชุมชนท่องเที�ยว (OTOP นวัตวิถี) เพื�อพัฒนาเศรษฐกิจฐานล่างของประเทศ จ่งเกิดสินค้าชุมชนและโครงการ ท่องเที�ยวชุมชนเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน แต่ปัญหาอย่างหน่�งที�เกิดข่�นตามมาก็ คือการที�ชุมชนขาดอัตลักษณ์ที�เหมาะสมในการสื�อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่าง ชัดเจน ส่วนใหญ่จะสื�อสารคล้ายคล่งกัน ไม่มีเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของชุมชน ที�โดดเด่นและชัดเจน ชุมชนกลุ่มมะพร้าวทับสะแก ออร์แกนิค ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งผลิตมะพร้าวที�มีชื�อเสียง เพราะมีลักษณะที� โดดเด่น คือ ผลใหญ่ เนื�อหนา กะลาบาง และไม่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก เป็นมะพร้าวอินทรีย์ น�ำกะทิที�ได้จากมะพร้าวของทับสะแกเป็นที�ต้องการในท้อง ตลาด และเป็นที�ถูกใจของผู้บริโภคที�รักสุขภาพ นอกจากนี�ชุมชนยังมีสินค้าที� ผลิตจากมะพร้าว และบริการประเภทต่างๆ แต่ก็ยังขาดอัตลักษณ์ชุมชนที�จะ สื�อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสมเช่นกัน จ่งเป็นที�มาของการออกแบบ อัตลักษณ์ชุมชนกลุ่มมะพร้าว ทับสะแก ออร์แกนิค โดยในการออกแบบอัตลักษณ์ชุมชนในครั�งนี� จะมีการออกแบบอยู่ 2 ขั�นตอน โดยเริ�มต้นจากการออกแบบตราสัญลักษณ์ชุมชน ใช้ความเป็นธรรมชาติของ มะพร้าวอินทรีย์จากทับสะแก เป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบ เป็นรูปแบบ ของภาพตัดทอน แต่ยังคงอัตลักษณ์ของวิถีเกษตรอินทรีย์ของชาวทับสะแกอยู่ มี รูปทรงเป็นธรรมชาติ สื�อสารแบบตรงไปตรงมา โดยใช้ภาพผลมะพร้าวขนาด ใหญ่สีน�ำตาล เพื�อสื�อว่าเป็นมะพร้าวแก่สำหรับทำเป็นน�ำกะทิ มีตัวอักษรคำว่า “ทับสะแก” ขนาดใหญ่บนภาพมะพร้าว และคำว่า “ออร์แกนิค” ขนาดเล็กอยู่ ด้านล่าง ตัวอักษรเป็นสีเขียวอ่อนจะสื�อถ่งสีของความเป็นเกษตรอินทรีย์และ ภาพต้นมะพร้าวที�มีผลเต็มต้นสีเขียวเข้ม หมายถ่งต้นมะพร้าวของทับสะแกที�มี ความอุดมสมบูรณ์ และในขั�นตอนที� 2 เป็นการออกแบบตัวอักษรชุด “ทับสะแก ออร์แกนิค” แนวความคิดในการออกแบบจะเป็นการพัฒนารูปแบบตัวอักษรให้มี ความสอดคล้องกับตราสัญลักษณ์ของชุมชน มีความเป็นธรรมชาติผสมกับ ความเป็นไทยประยุกต์ ซ่�งตัวอักษรชุดนี�เหมาะกับการใช้เป็นตัวอักษรพาดหัวหรือ ตัวอักษรนำข้อความ หลังจากได้อัตลักษณ์ชุดนี�แล้ว จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ กับสินค้าและบริการของชุมชนอย่างมีเอกลักษณ์ต่อไป สินค้าและบริการชุมชนที�จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ภาพลักษณ์ของสินค้า และบริการจะต้องมีความสวยงาม น่าสนใจ และเป็นที�จดจำได้ดี การนำเอา เอกลักษณ์ของชุมชนมาสร้างอัตลักษณ์เพื�อเป็นแนวทางในการออกแบบสื�อสาร ให้กับชุมชน จะสร้างความโดดเด่นที�แตกต่าง มีความชัดเจน และน่าจดจำมากยิ�ง ข่�น ในการใช้อัตลักษณ์ชุมชนในเชิงพาณิชย์สำหรับสินค้าและบริการประเภทต่างๆ ในส่วนของชุมชนเองจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเบื�องต้นในการรักษารูปแบบ และการนำเอาอัตลักษณ์ไปประยุกต์ใช้ในสื�อต่างๆ ชุมชนจะต้องเห็นคุณค่าและ ความสำคัญในการใช้อัตลักษณ์ที�จะสามารถเป็นส่วนหน่�งในการพัฒนาสินค้า และบริการของชุมชนให้ประสบความสำเร็จได้ อัตลักษณ์ที�ดีจะมีคุณค่า ส่งผล ให้เกิดความภาคภูมิใจต่อชุมชนของตนเอง และสามารถก่อเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ของชุมชนในอนาคตอย่างยั�งยืนได้ 45 x 60 ซม. | โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิก เอกสารอ้างอิง อารยะ ศรีกัลยาณบุตร. (2541) การออกแบบตราสัญลักษณ์.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิสคอมเซ็นเตอร์. ประชิด ทิณบุตร. (2556).การออกแบบกราฟิกเอกลักษณ์มาตรฐานสำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม.
FACULTY | 45 WOMEN ผู้ช่วยศาสตราจารย์รินรดา สันติอาภรณ์ | [email protected] หลักสูตรออกแบบสื�อสาร คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในปัจจุบันสังคมไทยมีความเจริญมากข่�น แต่ความปลอดภัยของผู้หญิงในสังคม กลับลดน้อยลง ซ่�งผู้หญิงร้อยละ 70 รู้ส่กว่าสังคมทุกวันนี�ไม่มีความปลอดภัย และผู้หญิงมากกว่า 45% ต่างเคยถูกคุกคามทางเพศมาแล้ว โดยจากผลสำรวจ World Population Review ปี 2022 (Top 10 Most Dangerous Countries for Solo Female Travelers, 2022) ประเทศไทยติดอันดับ 10 ของประเทศที� อันตรายสำหรับนักท่องเที�ยวผู้หญิง โดยสถานที�ที�ผู้หญิงรู้ส่กไม่ปลอดภัยและถูก คุกคาม เช่น บนขนส่งสาธารณะ รถแท็กซี� รถบัส หรือรถตู้ การอยู่ในพื�นที�ปิดหรือ พื�นที�คับแคบกับเพศตรงข้าม ตามแหล่งชุมชนโดยเฉพาะตอนกลางคืน เช่น ตรอก ซอกซอย รวมถ่งการเข้าพักโรงแรมที�มีความเสี�ยงในเรื�องของการถูกแอบถ่าย วัตถุประสงค์ 1) เพื�อออกแบบงานภาพประกอบเกี�ยวกับสถานที�ที�ไม่ปลอดภัยของ ผู้หญิงในสังคม 2) เพื�อให้ตระหนักถ่งความเสี�ยงและความไม่ปลอดภัยที�ผู้หญิง ต้องเผชิญในสังคมปัจจุบัน จากความรู้ส่กไม่ปลอดภัยที�ประสบในสังคมต่างๆเหล่านี� ผู้สร้างสรรค์จ่งต้องการ ออกแบบภาพประกอบ WOMEN โดยมีแนวความคิด คือ การนำเสนอความไม่ ปลอดภัยของผู้หญิงจากสถานที�ต่างๆ ในสังคม โดยสะท้อนผ่านสไตล์งานแบบ Playful Doodle Illustration ที�มีการเลือกใช้สีและลายเส้นที�สดใสและสนุกสนาน เป็นส่วนประกอบหลัก ซ่�งเปรียบเสมือนกับเป็นตัวแทนผู้หญิงในสายตาของเพศ ตรงข้ามที�ดูสดใส น่ารัก ยิ�มแย้ม และร่าเริง มีการเลือกใช้สีดำเป็นกรอบของ งาน เพื�อแสดงถ่งอันตรายที�ล้อมรอบตัว โดยจะแสดงให้เห็นถ่งความขัดแย้งที� เกิดข่�นกับผู้หญิงในชีวิตประจำวันที�ภายนอกดูสดใสร่าเริง ใช้ชีวิตและดำเนินชีวิต ตามปกติ แต่ในชีวิตประจำวันเหล่านั�นกลับไม่มีความปลอดภัยให้กับผู้หญิงเลย แม้แต่น้อย โดยมีกระบวนการสร้างสรรค์ คือ การทำแบบสอบถามเพื�อเก็บ รวบรวมข้อมูล การกำหนดแนวความคิดและเนื�อหาที�จะออกแบบเพื�อใช้สื�อความ หมาย ร่างแบบ ทำผลงานจริงด้วย Procreate และ Adobe Illustrator และ สรุปผลการออกแบบ สรุปผลที�เกิดข่�นจากการสร้างสรรค์ผลงาน พบว่า ผลงานภาพประกอบ WOMEN สามารถนำเสนอสอดแทรกเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในงานได้ อีกทั�งการใช้ลายเส้น แบบ Doodle ยังสามารถสร้างเรื�องราวให้เกิดข่�นในภาพได้อย่างน่าสนใจ และ สามารถแสดงออกถ่งจินตนาการได้ จากการออกแบบผู้สร้างสรรค์ยังพบว่า องค์ ความรู้ในเรื�องของวิธีการวาดลายเส้นในรูปแบบ Doodle กับงานภาพประกอบ นอกจากจะต้องคำน่งถ่งการจัดองค์ประกอบรูปภาพทั�งหมดให้มีการลื�นไหลของ ภาพและเรื�องราวไปด้วยกันแล้ว ยังต้องคำน่งภาพรวมของงาน ไม่ให้สีใดสีหน่�ง ขัดแย้งกัน โดยต้องกำหนดสีหลักที�จะปรากฎบนภาพเพื�อให้ภาพมีจุดเด่นและ ด่งดูดสายตา รวมถ่งควรทดลองใช้ขนาดของเส้นขอบรูปที�แตกต่างกันเพื�อสร้าง มิติให้กับรูปภาพ เช่น บางจุดควรใช้เส้นขอบหนา เพื�อเน้นให้เป็นจุดเด่น หรือบาง จุดควรใช้เส้นขอบบาง เพื�อสามารถใส่รายละเอียดของงานให้มากข่�น ซ่�งปัญหา ในการสร้างสรรค์ผลงาน คือในเรื�องการนำข้อมูลมาเปลี�ยนเป็นรูปภาพบางจุด อาจจะยังไม่ชัดเจน ซ่�งต้องเพิ�มคำเพื�อให้ในการอธิบายลงไปในภาพ การลงสี อาจจะต้องมีการเปลี�ยนสีที�เลือกลงหลายรอบเพื�อให้สีไม่โดนกลืนและเกิดจุดเด่น ข่�น อีกทั�งควรปรับเส้นขอบให้บางลงในบางจุดเพื�อสามารถใส่รายละเอียดของรูปภาพให้มากข่�น 100 x 150 ซม. | Illustration (Procreate, Adobe Illustrator)
46 | FACULTY ผ้ายันต์..วิถีชาวเมืองเจียง(เจน)ใหม่ อาจารย์ศิวพร ดวงแก้ว | [email protected] สาขาวิชาออกเเบบสื�อสาร คณะศิลปกรรมเเละสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา “ผ้ายันต์แห่งเมืองล้านนาโบราณ” โดยนัยยะของการจัดสร้างผ้ายันต์ สืบเนื�องมาจากในสมัยก่อน ชาวล้านนาจะไม่บูชาพระพุทธรูปไว้ที�บ้าน แต่จะนำไปไว้ที�วัดแทน ดังนั�นเมื�อต้องการสร้างความย่ดมั�นในพระพุทธศาสนาให้มั�นคง จ่งมีการวาด ภาพพระพุทธรูปลงบนผืนผ้า เมื�อกาลเวลาผ่านไป พระพุทธรูปกลับถูกนำไปตั�ง บูชาที�บ้าน ทำให้การสร้างผ้ายันต์แขนงนี�ถูกลืมเลือนและแทบสูญหายไปจากสังคม ล้านนา จ่งนำมาสู่การออกแบบ “ผ้ายันต์….วิถีชาวเมืองเจียง(เจน)ใหม่” เป็นการ ออกแบบสร้างสรรค์ผ้ายันต์ในรูปแบบใหม่ที�ถูกถ่ายถอดออกมาในรูปแบบเวคเตอร์ เพื�อเชื�อมโยงความเชื�อในเรื�องการบูชาสิ�งศักดิ�สิทธิ� องค์เทพ คาถา และวิถีชีวิตเข้าด้วยกัน ภายใต้กรอบความคิดทางวัฒนธรรมของชาวเชียงใหม่ และการเข้าถ่งกลุ่มคนในยุคสมัยปัจจุบัน แสดงถ่งวิถีชีวิตชาวเมืองและเหตุการณ์ ที�สะท้อนให้เห็นถ่งความเปลี�ยนแปลงจากอตีด ผ่านการประยุกต์และออกแบบ สร้างสรรค์ผ้ายันต์ แนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน ผู้ออกแบบได้เรียนรู้คุณค่าทางความเชื�อ ของชาวล้านนาในเรื�องผ้ายันต์ล้านนา ซ่�งเป็นความรู้ขั�นพื�นฐานทางวัฒนธรรม และเพื�อสะท้อนให้เห็นถ่งวิถีชีวิตชาวเมืองเชียงใหม่ของคนเจนเนอเรชั�นใหม่ใน แง่มุมต่างๆโดยวางแนวคิดออกเป็น 4 มุมมองหลักคือ 1) เมืองท่องเที�ยวที�ไม่ เคยเงียบ 2) เมืองที�อากาศแย่ที�สุดในโลก 3) เมืองที�เต็มไปด้วยร้านกาแฟ 4) เมืองที�ตำรวจตั�งด่านจับทุกแยก และออกแบบเป็นวงกลม 7 วง ซ่�งอ้างอิงมา จากวงของผ้ายันต์ล้านนา วงที� 1 ลงรูปองค์เทพสามตา ที�ช่วยในเรื�องของการ เลื�อนตำแหน่งงานและการทำธุรกิจ อีกทั�งยังเป็นชื�อเพลงที�ฮิตติดกระแสในตอนนี�สื�อถ่งความรวยจากการที�องค์เทพสามตามาดลใจ วงที� 2, 3 ลงอักขระล้านนา พูดถ่งเหตุการณ์ปัจจุบัน วงที� 4 ลงภาพสิ�งของที�จำเป็นต้องใช้เมื�อเจอเหตุการณ์ นั�นๆ และสิ�งที�คนเจนเนอเรชั�นใหม่นิยม วงที� 5 ใช้เส้นรอบวงที�มีลักษณะเป็น คลื�นน�ำเพื�อใช้เป็นสัญลักษณ์ของคูเมืองจังหวัดเชียงใหม่ วงที� 6 ลงภาพเหตุการณ์ ในปัจจุบัน ด้วยลวดลายแบบเรขาคณิต วงที� 7 ลงอักขระล้านนา คาถามหาเศรษฐี เนื�องจากคนในยุคปัจจุบัน ต้องการชีวิตที�มั�งคั�งและร�ำรวย นอกจากการทำมา หากินแล้ว คนมักนิยมท่องคาถาเพื�อเป็นอีกหน่�งในการสร้างขวัญและกำลังใจให้ ตัวเอง สี�แยกตรงกลางของยันต์ ออกแบบให้เป็นแยกรินคำ หรือแยกเมญ่าใน ปัจจุบันที�แสดงให้เห็นถ่งการจราจรที�ติดขัด เป็นแยกไฟแดงที�นานที�สุด และทั�ง สี�มุมของยันต์ออกแบบให้เป็นแจ่งเมืองทั�งสี�ทิศของชาวเชียงใหม่ กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน ผู้สร้างสรรค์ได้ถอดรูปแบบของผ้ายันต์ล้านนนา และกำหนดแนวความคิดหลักในการสร้างสรรค์ผลงานให้เชื�อมโยงกับคุณค่าของ ศิลปวัฒนธรรมในพื�นที�ให้เข้ากับวิถีชีวิตคนเจนเนอเรชั�นใหม่ จ่งทำการร่างแบบ คร่าว ๆ เมื�อได้ทิศทางการออกแบบที�ชัดเจนแล้ว จ่งลงมือทำการวาดภาพประกอบ ผ่านโปรแกรม illustrator ปรับแก้ไขการจัดวางจนเป็นผ้ายันต์ที�สมบูรณ์แบบ และสามารถทำเป็นลวดลายบนของที�ระล่กต่างๆ เช่น พิมพ์เป็นลวดลายบน กระเป๋าหรือถุงผ้า เพื�อการจำหน่ายได้ องค์ความรู้ที�ได้จากการปฏิบัติผลงานสร้างสรรค์ 1) องค์ความรู้ด้านการออกแบบ ภาพประกอบและการจัดองค์ประกอบของภาพ ขนาด น�ำหนัก ความท่บโปร่ง ช่องว่าง ความสมดุล 2)การออกแบบให้เกิดสัญญะในการแสดงออกของวิถีชีวิต ชาวเมืองในปัจจุบันที�สามารถสื�อสารไปสู่สังคมได้ โดยยังคงคุณค่าความเป็นผ้ายันต์ล้านนา 120 x 120 ซม. | illustration เอกสารอ้างอิง วิลักษณ์ ศรีป่าซาง. (2558). คง เข้ม ข่าม ขลัง เครื�องรางล้านนา. สำนักพิมพ์บ้านวรรณกรรม.
FACULTY | 47 การออกแบบสติกเกอร์ไลน์หลักสูตรออกแบบสื่อสาร อาจารย์สิริกานต์ สุภาแสน | [email protected] สาขาวิชาออกแบบสื�อสาร คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา การออกแบบสติกเกอร์ไลน์หลักสูตรออกแบบสื�อสาร เป็นการทำวิจัยต่อยอด จากวิจัยเรื�อง “การออกแบบสัญลักษณ์นำโชคสำหรับหลักสูตรออกแบบสื�อสาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา” ที�พบว่านักศ่กษาปัจจุบัน อาจารย์และ ศิษย์เก่าของหลักสูตรออกแบบสื�อสาร มีความเห็นสอดคล้องกันว่า นาก มีความ เหมาะสมในการเป็นสัญลักษณ์นำโชคของหลักสูตรออกแบบสื�อสารมากที�สุด เพราะ นาก เป็นตัวแทนของคนที�มีจินตนาการ ขยัน มีความคิดสร้างสรรค์ และมีแนวคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำงานหนัก อดทน ฉลาด มีไหวพริบ เข้ากับคนง่าย ต้อง มีบุคลิกและนิสัยร่าเริง กวนๆ เป็นมิตร รูปร่างและรูปทรงของสัญลักษณ์นำโชค ควรเป็นแบบผสมผสานเอกลักษณ์เดิมเข้ากับการออกแบบแนวลดทอน วัตถุประสงค์ 1) เพื�อออกแบบสติกเกอร์ไลน์หลักสูตรออกแบบสื�อสาร 2) เพื�อ ประชาสัมพันธ์สัญลักษณ์นำโชคหลักสูตรออกแบบสื�อสาร ให้เป็นตัวแทนในการ ติดต่อสื�อสารและสามารถใช้แทนบุคลิกภาพขององค์กรได้ การออกแบบสติกเกอร์ ไลน์หลักสูตรออกแบบสื�อสาร มีแนวความคิดคือ เสมือนเพื�อน ผ่านตัวละคร 1 ตัว คือ นาก ชื�อน้องใจ๋ใจ๋ นำเสนอในรูปของภาษาและใส่ข้อความตามที�วาง โครงสร้างไว้ มีข้อความหรือท่าทางการสื�อสารที�สามารถใช้ได้ทุกๆ วัน เช่น สวัสดีจ้า ขอโทษน๊า ขอบคุณจ้า หิวแล้วจ้า เป็นต้น มีคำที�สามารถใช้กับเพื�อนได้ เช่น จ้า จัดไป เพลีย ปั�นงานอยู่ เป็นต้น และมีคำตามเทศกาล เช่น สุขสันต์วัน เกิด Merry Christmas เป็นต้น โดยวัจนภาษามักนำเสนอเป็นภาษาวัยรุ่น และ อวัจนภาษานำเสนอการแสดงอารมณ์ความรู้ส่กด้วยการแสดงสีหน้าท่าทาง ผ่าน ตัวละครนาก ที�สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย เนื�องจากน้องใจ๋ใจ๋ไม่มีเพศ กระบวนการสร้างสรรค์ เริ�มด้วยการหาข้อมูลเพื�อเก็บรวบรวมข้อมูล ออกแบบ สร้างสติกเกอร์ไลน์ (Create Sticker Line) กำหนดขนาดภาพตามขนาดที� บริษัทไลน์ได้กำหนด กำหนดข้อความและท่าทาง ร่างแบบ และทำผลงานจริง ด้วยโปรแกรม Procreate และโปรแกรม Adobe Illustrator จากนั�นจ่งนำมา ประเมินคุณภาพสื�อโดยผ่านผู้เชี�ยวชาญ เมื�อได้ภาพสติกเกอร์ไลน์ที�จัดทำแบบ สมบูรณ์แล้ว นำภาพที�ได้นำมาอัปโหลดให้บริษัทไลน์ทำการตรวจสอบ ซ่�งมีข้อ กำหนดและเงื�อนไขไว้ตามที�บริษัทกำหนด สรุปผลที�เกิดข่�นจากการสร้างสรรค์ผลงานพบว่า ในการผลิตสติกเกอร์ไลน์ ควร ใช้ภาษาที�สื�อสารได้ง่ายและสื�อถ่งอารมณ์และความคิดด้วยสีหน้า ตัวละครควรมี ความทันสมัยและควรนำเสนออุปนิสัยสนุกสนานรื�นเริงเพื�อตอบสนองความ ต้องการ และไลน์มีข้อกำหนดในการสร้างสติกเกอร์ไลน์ที�ครอบคลุมเรื�องความ เชื�อ ศาสนา ดังนั�นในการออกแบบจำเป็นต้องหลีกเลี�ยงสิ�งเหล่านี� 9.79 x 8.47 ซม. จำนวน 32 ตัว | Digital Paint (Procreate, Adobe Illustrator)
48 | FACULTY ภาพถ่ายประเพณีและวัฒนธรรมการแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วยหรือกุย-กวย บ้านประอางอําเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ อาจารย์ ภัทรศักดิ� สิ มโฮง | [email protected] หลักสูตรการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานกลุ่มชาติพันธุ์ส่วย (กุย) ลักษณะการแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วยหรือกุย-กวย นั�น ได้ รับอิทธิ จากทั�งชาติ พันธ์ุเขมรและลาว ผู้หญิงกุยนั�นนิยมนุ่งซิ�นที�เรียกว่า “อะโหลนระหวี” ระวี กะหวี� หวี วี� ซ่�งต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ�น ค้าว่า “ระหวี” มีความหมายว่า การน้าไหมสองสี มาปั�นควบกัน ซ่�งตรงกับค้าว่า “เข็น” ของลาว “อะโหลนระหวี” นี�ส่วนเสื�อนั�นนิยมสวมเสื�อที�เรียกว่า “ฮับแก็บ” หรือ “ฮับตะแวง” ซ่�งหมายถ่งเสื�อไหมเหยียบย้อมมะเกลือ ส้าหรับผู้ชาย เดิมนิยมนุ่งโจงกระเบนด้วยผ้าไหมผืนยาวที�เรียกว่า “ฉิกระหวีซอยโปร๊ะ” แปลว่า ผ้าเข็นหางผู้ชาย คาดด้วย “ฉิกปาลาย” หรือ “ฉิกพงจีก” หรือ นุ่งผ้าโสร่งที�เรียกว่า “กจราย” และไดพ้ ัฒนาจนเป็นเอกลักษณ์การแต่งกายที� มี อัตลักษณ์การแต่งกาย โดดเด่น ของกลุ่มชาติ พันธุ์ส่ วยหรือกุย-กวย บ้านประอาง อ้าเภอไพรบ่ง จังหวัด ศรีสะเกษ แนวความคิด การถ่ายภาพประเพณีและศิลปวัฒนธรรม ช่างภาพจ่งต้องศ่กษาข้อมูลที�เกี�ยวกับประเพณีต่าง ๆ ก่อนที�จะวางแผนบันท่กภาพ การประยุกต์หลัก EDFAT ซ่�งเป็นค้าย่อของค้า 5 ค้าได้แก่ 1) Entire 2) Detail 3) Framing 4) Angle 5) Timing และการประยุกต์ใช้ ร่วมกับการจัดองค์ประกอบการถ่ายภาพ ควบคู่ไปกับศิลปะภาพถ่ายว่าเป็นเรื�องของเรื�องราวของภาพ บรรยากาศของภาพ อารมณ์ของภาพ และองค์ประกอบภาพ (วิทยา ด้ารงเกียรติ ศักดิ�, 2537: 152- 157) 1) Story เรื�องราวของภาพ 2) Atmosphere บรรยากาศของภาพ 3) Mood อารมณ์ของภาพ 4) Composition การจัดองค์ประกอบภาพ ผลงานภาพถ่ายประเพณีและวัฒนธรรมการแต่งกายของกลุ่มชาติ พันธุ์ส่ วยหรือ กุย-กวย ประยุกต์หลัก EDFAT 1) หลัก Entire การน้าเสนอภาพโดยรวมของบรรยากาศ สถานที�และการแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วยหรือกุย-กวย ไปพร้อม ๆ กัน 2) Detail ที�น้าเสนอรายละเอียดเครื�องแต่งกาย พร้อมกับกิจวัตรประจ้าวัน ต้องใช้เลนส์ที�มีทางยาวโฟกัสสูง เพราะไม่สามารถเข้าไปใกล้เหตุการณ์มากจนเกินไป ต้องเฝ้าจับจังหวะเหตุการณ์นั�นในต้าแหน่งภาพที�ดีที�สุด 3) Framing การเลือกใช้แนวตั�ง หรือแนวนอน ข่�นอยู่กับรู ปแบบของสื�อที�น้าไปใช้ ในการประชาสัมพันธ์ 4) Angle มุ มกล้องในการถ่ายภาพเป็นภาพมุมต้�า เพราะ เหมาะกับกิ จกรรมที� ต้องการสื�อถ่งความยิ�งใหญ่ของบุคคลหรือสถานที�ใน เหตุการณ์ 5) Timing ช่ วงเวลาส้าคัญของแต่ละเหตุการณ์ จะต้องไม่พลาด จังหวะเหตุการณ์ส้าคัญ การสร้าง 1) Story เรื�องราวของภาพ ต้องมีการคัดเลือก แบบนักแสดง ที� มีความชัดเจน สามารถสื�อสารถ่งชุ มชนได้ ผ่านเครื�องแต่งกาย 2) Atmosphere บรรยากาศของภาพ เป็นสิ�งที� ช่ วยเสริ มให้เรื�องราวเด่นข่�น โดย มีการใช้ อุ ปกรณ์เสริ ม เช่น ไฟแฟลช และอุ ปกรณ์สร้างควัน ซ่�งสามารถแก้ไข ปัญหาสภาพแสง และสร้างบรรยากาศได้กลมกลืนกับเรื�องราวของภาพ 3) Mood อารมณ์ของภาพ ภาพที� ดี ต้องมีผลทางใจหรืออารมณ์ ต่อผู้ชมภาพให้คล้อยตาม ไปกับภาพ ให้ ทุกคนเกิดความภาคภู มิใจในการแสดงออกทางวัฒนธรรมของ ชุ มชน เกิดจิตส้าน่กรักษ์ท้องถิ�นเกิดความหวงแหนในวัฒนธรรมของตนเอง 4) Composition จัดวางวัตถุอยู่ในต้าแหน่งที� น่าสนใจ มีบรรยากาศของภาพลักษณะ เส้น แสงและเงา ช่ วงระยะ และสีที�กลมกลืนกับเครื�องแต่งกาย ให้ มี สุนทรีย ศาสตร์ คือ มีการเน้นจุดเด่นของเรื�องราว 30 ซม. x 40 ซม. จำนวน 2 ภาพ | ภาพถ่าย Outstanding Social, Environment & Cultural Impact