FACULTY | 149 สังคมปัจจุบันช่�งอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์และเงื�อนไขต่างๆ การเชื�อมต่อระหว่างกันของ มนุษย์ผ่านเครือข่ายความสัมพันธ์ที�ค่อยๆ ครอบคลุม ทำให้เรามีแนวโน้มที�จะ ปฎิเสธตัวตนข่�นเรื�อยๆ ข้อบกพร่องไม่สมบูรณ์ เต็มไปด้วยความรู้ส่กคิดลบต่อ เหตุการณ์ปัจจุบันทำให้เกิดสภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ การสะสมอารมณ์ ความทุกข์ไว้ในจิตโดยไม่รู้ตัว กระตุ้นให้เกิดจินตนาการถ่งสภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ สภาวะนี�นำมาเป็นเนื�อหาสาระหลักในผลงานชุดนี� โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี� 1) เพื�อสะท้อนสภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ในสังคมร่วมสมัยของข้าพเจ้า 2) เพื�อนำเสนอผลงานการสร้างสรรค์จิตรกรรมนามธรรม 3) เพื�อเผยแพร่ให้ สาธารณชนได้สัมผัสรับรู้ถ่งคุณค่าทางสุนทรียภาพทางด้านทัศนศิลป์ กระบวนการการสร้างสรรค์ ได้ค้นคว้า ศ่กษา ทดลองเทคนิคของการเทสี หยอด สี ราดสี โดยใช้สีอะคริลิกกับดินสอพอง เพื�อสื�อถ่งความหมายของเนื�อหาเรื�องราวและแสดงออกถ่งสภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ในสังคมร่วมสมัย ก่อเกิดรูป ร่างรูปทรงอิสระของจิตใต้สำน่ก ตามหลักการทางทัศนธาตุและองค์ประกอบศิลป์ 150 X 220 ซม. | จิตรกรรมผสม น�ำหนักสี พื�นผิว แทนความรู้ส่กทางด้านอารมณ์ รูปร่างรูปทรงแทนความทุกข์ ของจิต และความรู้ส่กที�ข้าพเจ้าสัมผัสสภาวะเหล่านั�น การใช้หลักการจัด องค์ประกอบศิลป์สื�อเป็นภาษาภาพที�จะแสดงออกให้เห็นความจริงเหล่านั�น อิทธิพลที�ได้รับในงานศิลปะนามธรรมเกิดการเชื�อมโยงจากจิตใต้สำน่กในด้าน อารมณ์ทุกข์ สิ�งรอบตัวเป็นประสบการณ์จากจิตใต้สำน่กกลายเป็นนามธรรมใหม่ โดยลดทอนความเหมือนจริงแต่สร้างรูปร่างรูปทรงประสานสัมพันธ์กันอย่างลงตัว เกิดความสมบูรณ์อย่างเหมาะสม การเรียนรู้การพัฒนาตนเองและความคิดมุ่งเน้นไปสู่การสร้างสรรค์ สื�อให้เห็นความจริงของอารมณ์และความคิดในจิตใจของข้าพเจ้า จิตรกรรมนามธรรม ชื�อ ผลงาน “สภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ในสังคมร่วมสมัย” นี� ได้สรุปกระบวนการ ทำงานและความคิดให้สอดคล้องกับเนื�อหา มีจุดเชื�อมโยงกัน กลายเป็นรูปแบบนามธรรมที�แสดงบุคลิกอุปนิสัยและตัวตนที�มีลักษณะเฉพาะตน สภาวะจิตแห่งอารมณ์ความทุกข์ในสังคมร่วมสมัย อาจารย์มานัส แก้วโยธา | [email protected] สาขาวิชามีเดียทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
150 | FACULTY Magic Moment อาจารย์วารีนันท์ ระวีโชติพัฒน์ | [email protected] สาขาวิชาออกแบบภายใน วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 100 x 120 ซม. | Acrylic on canvas “Magic Moment” ช่วงเวลามหัศจรรย์ ศิลปะแห่งความสัมพันธ์ที�เชื�อมด้วย “เวลา” และ “โมเมนต์” ที�มาของช่วงเวลามหัศจรรย์ เป็นประสบการณ์ที�พิเศษและน่าจดจ้า ที�เติมเต็มคุณด้วยความรู้ส่ก ความหวาดกลัวหรือความลุ่มหลง เป็นช่วงเวลาที�ดู เหมือนจะอยู่เหนือชีวิตธรรมดาและด่งดูดความรู้ส่กและอารมณ์ ความสำคัญของ Magic Moment สามารถเกิดข่�นได้ในบริบทต่างๆ เช่น การได้เห็นปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติที�น่าท่�ง ยกตัวอย่าง การดูพระอาทิตย์ข่�นหรือพระอาทิตย์ตก ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าและสร้างบรรยากาศที�น่าด่งดูด การกระทำที�บรรลุเป้าหมายส่วนตัวให้สำเร็จ การเชื�อมต่ออย่างล่กซ่�งกับใครบางคน วัตถุประสงค์ของการเขียนภาพนี�เพื�อที�จะสื�อสารถ่ายทอดอารมณ์ความรู้ส่กผ่านทางภาพวาด แนวความคิดและกระบวนการสร้างสรรค์ จ่งเริ�มจากการตีความหมาย หาข้อมูล และทำการออกแบบ พร้อมทั�งกำหนดโทนสีและการใช้ฝีแปรงเพื�อให้ภาพดูมีมิติ จ่งเลือกจังหวะทางอารมณ์ความสัมพันธ์ของจังหวะการตกหลุมรัก ซ่�งเป็นจังหวะที�บุคคลทั�วไปจะสามารถเข้าใจและเข้าถ่งได้ง่าย โดยกระบวนการสร้างสรรค์ เริ�มจากการวิเคราะห์ความหมายของคำว่า “Magic Moment” คิดถ่งการใช้โทน สีที�สื�อถ่งอารมณ์ การใช้สีออกโทนชมพู ฟ้า สีเขียว เหลือง ที�ดูสดใส การวิเคราะห์ ช่วงเวลาและความรู้ส่กและความต้องการทางอารมณ์โดยตีความเป็นการใช้จังหวะ ตีความการเริ�มต้นความสัมพันธ์ ก่อนที�จะเกิดเป็นความรักที�มีความสัมพันธ์ที� มั�นคง จะมีจังหวะและความสนใจตลอดจนความใกล้ชิดที�เพิ�มข่�น เช่น การพบปะ สัมผัสกันบ่อยๆ การพูดคุยเป็นเวลานาน จ่งแสดงความรักเปรียบกับอารมณ์ของ ฝีแปรงบนผืนผ้าใบ มีองค์ประกอบที�ไม่เท่ากันเพื�อให้เกิดการซ้อนทับของภาพ ยิ�งเวลานานมากความผูกพันก็มากตาม จ่งนำมาจัดองค์ประกอบของภาพที�ด้าน บนความหนาแน่นจะน้อยกว่าฝีแปรงด้านล่างเพื�อให้เกิดมิติ จากการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�ได้ออกแบบงานบนผืนผ้าใบโดยการใช้สีอะคริลิก ซ่�งเป็นสีที�ทำให้เกิดพื�นผิวของวัตถุและแห้งไว เพื�อสื�อถ่งอารมณ์ความรู้ส่กตาม ช่วงเวลาและการตีความของแต่ละบุคคลเพื�อทำให้เกิดความรู้ส่กคล้อยตามในการดูภาพ ข้อเสนอแนะอาจลองใช้เทคนิคสีน�ำ หรือสีชนิดอื�นๆ เพื�อทำให้เกิดความรู้ส่กที�ต่างกันในแต่ละประเภทสี ในการจัดแสดงงานศิลปะครั�งต่อไป อาจมีการให้ผู้ที�ชมงานศิลปะสามารถสร้างผลงานตามอารมณ์ความรู้ส่กผ่านฝีแปรงของช่วงเวลาพิเศษของแต่ละบุคคลเพื�อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันต่อไป
FACULTY | 151 พื้นผิวแห่งชีวิ ต หมายเลข 3 ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ไชโย พันธ์ ดี | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมสื�อผสมในปัจจุ บันมีกระบวนการสร้างงานด้ วย เทคนิคผสมที� มากมายหลายรู ปแบบ ผู้สร้างสรรค์ มีความอิสระในการเลือกใช้สื�อ วัสดุอย่างหลากหลาย (ธวัชชานนท์ ตาไธสง. 2552 : 99) วัสดุที�เป็นสื�อในงาน ศิลปะนั�น ผู้สร้างสรรค์ ส่ วนใหญ่ จะไม่ มี ข้อจำกัดทางสื�อวัสดุ จะมีความอิสระไร้ ขอบเขต โดยวัสดุ ประเภทต่างๆ นั�น จะมีความหมาย คุณค่าในตัววัสดุเอง ศิลปิน จะหาวัสดุและวิธีการที�เหมาะสมแปลจินตภาพภายในออกมาเป็นรู ปภายนอก (ชลูด นิ� มเสมอ. 2554 : 433) ดังนั�นในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมสื�อผสม ชุด ”พื�นผิ วแห่งชีวิต” ข้าพเจ้าได้ รับแรงบันดาลใจสื�อวัสดุจริงจากธรรมชาติและ วัสดุ สังเคราะห์ นำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิตรกรรมสื�อผสม ที� มีเนื�อหาเกี�ยวกับ การประกอบอาชีพของบุคคลที� มีรายได้พอเพียง เช่น ชาวนา พ่อค้า คนเก็บขยะ ช่างก่อสร้าง โดยนำเสนอพื�นผิ ว ร่องรอย ความหลากหลายของสภาพ บริบท แต่ละอาชีพ ผ่านรูปลักษณ์ใบหน้าบุคคล ใช้สื�อวัสดุจริงจากธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ในอาชีพนั�นๆ เป็นสัญลักษณ์แทนบุคคลมาประกอบผสมผสาน มีการ จัดการวัสดุโดยการเพิ� ม ลด สกัด ตัด ทอน แปรสภาพเดิมที�เป็นอยู่ของวัสดุนั�น เพื�อสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ การต่อสู้ ความเหน็ดเหนื�อย โดยถ่ายทอดเป็นผลงานจิตรกรรมเทคนิคสื�อผสม รูปแบบ เหมือนจริง เพื�อทดลอง ค้นคว้าวิธี การสร้างพื�นผิวจากวัสดุจริง งานสร้างสรรค์ ชุดนี�มีแนวคิดในการนำเสนอพื�นผิว ร่องรอย ความหลากหลาย ของสภาพบริบทแต่ละอาชีพ ผ่านรูปลักษณ์ใบหน้าบุคคล โดยในผลงานชิ�นนี�เป็น ใบหน้าบุคคลที� ประกอบอาชีพคนขายผลไม้รถเข็น ใช้สื�อวัสดุจริง ได้แก่ กระดาษ ฟอยล์ กระดาษแก้ วใสสี พลาสติกใส แทนค่าวัสดุที�ใช้ประกอบอาชีพขายผลไม้ เช่น กระดาษแก้ วใสสีแทนค่าความเป็นผลไม้ที� มี คุณลักษณะสีที�สดใส เรียบ มัน วาว และสร้างพื�นผิ วโดยวิธีการขูดสีอะคริ ลิกบนกระดาษแก้ วใส ให้เกิดร่องรอย ขรุขระ เรียบ หยาบ ลื�น บนใบหน้า เพื�อแสดงความรู้ส่กหยาบกร้าน ไหม้เกรียมไม่สมบูรณ์ สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของอาชีพ การต่อสู้ ความ เหน็ดเหนื�อย ความอดทน สรุปอภิปรายผลของการสร้างสรรค์ 1) ผลการทดลองการสร้างสรรค์พื�นผิวจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ก่อให้เกิดความงามจากพื�นผิวที�มี ความสัมพันธ์กับเนื�อหาที�ต้องการแสดงออก ซ่�งผลการทดลองสามารถนำมาสร้างสรรค์ผลงานได้เป็นอย่างดี 2) คุณค่าและความหมายการสร้างพื�นผิววัสดุจากบริบทแต่ละ อาชีพ สามารถสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถี ชีวิตที� ต้องต่อสู้ อดทน ต่อความเหน็ดเหนื�อยได้ 3) พื�นผิ วในผลงานสร้างสรรค์ ชุดนี�มีบทบาทในการ สร้างความจริงทางวัตถุให้ กับจิตรกรรมหรือกล่าวได้ ว่าเป็น “ตรรกะแห่งจิตรกรรม” เป็นวัตถุในตัวของมันเอง (อิทธิพล ตั�งโฉลก. 2551 : 15) พื�นผิวจากวัสดุ ต่าง ๆ สามารถเป็นสัญลักษณ์ ตัวแทนในแต่ละนานาอาชีพ สื�อความหมายเรียบง่าย แสดงความเป็นจริงในตัวเองอย่างตรงไปตรงมาข้อเสนอแนะ: การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมสื�อผสม ชุด พื�นผิ วแห่งชีวิต สามารถ พัฒนาจากงานรู ปแบบเหมือนจริงสู่สภาวะก่�งเหมือนจริงหรือนามธรรมและ พัฒนาการประกอบของพื�นผิว เพื�อสร้างอิสระในการออกแบบรู ปทรงและองค์ ประกอบของผลงาน วัสดุและเทคนิคอาจต้องพัฒนาเรื�องความคงทน สภาพความเสื�อมของวัตถุทางชีวภาพ 30 x 40 ซม. | จิตรกรรมสื�อผสม
152 | FACULTY clay of life อาจารย์ธีรพงษ์ ศรีฮาด | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 14 x 45 x 35 ซม. | ดินเผาประกอบโลหะและสเตนเลส เครื�องปั�นดินเผาเป็นผลิตภัณฑ์จาก “ภูมิปัญญา” ของมวลมนุษยชาติที�มีมาแล้วตั�งแต่ครั�งบรรพกาล ทุกภูมิภาคทั�วโลกปรากฏร่องรอยของเครื�องปั�นดินเผามาก บ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป เครื�องปั�นดินเผาจัดเป็นศิลปหัตถกรรมแขนงหน่�งที� เก่าแก่และเป็นส่วนหน่�งของชีวิตประจำวันของคนทั�วไป งานเครื�องปั�นดินเผา เหล่านี�เป็นเครื�องชี�ให้เห็นถ่งอารยธรรมและความเจริญของมนุษย์เป็นมรดก ทางวัฒนธรรมที�มีเอกลักษณ์สะท้อนให้เห็นความเชื�อมโยงในการดำเนินชีวิต ความเชื�อ ความศรัทธา ศาสนา ตลอดจนภูมิปัญญาที�มีอยู่ให้ผสมผสานและถ่ายทอดออกมาอย่างวิจิตรซ่�งแสดงให้เห็นถ่งคุณค่าของความงามทางศิลปะเครื�องปั�นดินเผาในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน ทั�งนี�เนื�องมาจากกระบวนการ ผลิต กระบวนการเผา คุณลักษณะของดินในแต่ละพื�นที�สิ�งเหล่านี�ล้วนส่งผลให้เกิด ลักษณะเด่นของเครื�องปั�นดินเผาในแต่ละแหล่ง ซ่�งมีความเหมือนและแตกต่างกัน ด้วยความประทับใจในความงามที�ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ข่�น ผสมผสานวัสดุ อุตสาหกรรมสมัยใหม่และนำมาประยุกต์ใช้ในงานศิลปะโดยเพิ�มเติมหรือลด ทอนบางส่วนเพื�อรสชาติทางสายตาและความลงตัวของทัศนธาตุองค์ประกอบ ทางศิลปะ แสดงออกส่วนตัวภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ จ่งนำมาสู่แรงบันดาล ใจการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมชุดนี�ในรูปแบบก่�งนามธรรมแสดงผ่าน รูปทรงความสัมพันธ์ระหว่างที�ว่างในงานประติมากรรมโดยใช้วัสดุดินพื�นถิ�นจาก ภูมิปัญญาอีสานผสานกับโลหะและสเตนเลส ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ นำ เสนอเป็นผลงานประติมากรรมเพื�อให้สังคมได้เห็นคุณค่าของธรรมชาติและ ภูมิปัญญา ซ่�งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความรักถิ�นฐาน ภูมิปัญญา สิ�งแวดล้อมที� อยู่รวมกันในสังคมอย่างสงบสุข โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี� 1) เพื�อสร้างสรรค์ ผลงานประติมากรรมร่วมสมัย 2) เพื�อสร้างองค์ความรู้กระบวนการสร้างสรรค์ ผลงานประติมากรรม 3) เพื�อเผยแพร่ผลงานประติมากรรมสร้างสรรค์ยกระดับ สุนทรียภาพ ดิน เป็นจุดเริ�มต้นของการเชื�อมโยงความสัมพันธ์สรรพสิ�งในธรรมชาติ เป็นแรง บันดาลใจของโครงสร้างชีวิต ตระหนักถ่งการมองเห็น การสร้างสรรค์ผลงาน ประติมากรรมร่วมสมัยโดยใช้วัสดุพื�นถิ�นเป็นผลงานประติมากรรมเพื�อสร้างองค์ ความรู้กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมจากภูมิปัญญาอีสานที�มีกระบวนการผสานวัสดุและได้เผยแพร่ผลงานประติมากรรมร่วมสมัยยกระดับ สุนทรียภาพทางสังคมให้สงบสุขด้วยผลงานสร้างสรรค์ ประโยชน์ที�จะได้รับ 1) ได้ทดลองกระบวนการเทคนิคและขั�นตอนการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ 2) ได้สร้างผลงานประติมากรรมที�ผสมผสานวัสดุที�หลากหลายมา สร้างผลงาน
FACULTY | 153 บัวบานยามเช้ารับแสงของวันใหม่การเริ�มต้นใหม่ในทุกๆ วัน เชื�อกันว่าบัวคือความหมายของความบริสุทธิ�ดีงามและความศรัทธา จ่งมีคนนิยมน้าดอกบัวไป ถวายพระหรือสิ�งศักดิ�สิทธิ�ต่างๆ ทุกๆ เช้าที�ตื�นเช้าข่�นมาแล้วออกไปเก็บสายบัว ยามเช้า การได้นั�งมองบ่งบัวยามเช้าที�มีสายหมอกปกคลุม และแสงแรกของพระ อาทิตย์ค่อยๆ โผล่ข่�นมา ทุกๆ ชีวิตต้อนรับแสงใหม่ของวันใหม่ ท้าให้ข้าพเจ้า รู้ส่กถ่งการเริ�มต้นของวันใหม่ในทุกๆ เช้า การมีความหวังใหม่ในทุกๆ วัน การรับอากาศบริสุทธิ�และแสงยามเช้าที�ค่อยๆ โผล่ข่�นมาเป็นการเริ�มต้นของวัน ใหม่การเริ�มต้นสิ�งดีๆ และสิ�งใหม่ๆ ได้ในทุกๆ วัน กระบวนการสร้างสรรค์ ข้าพเจ้าใช้การสร้างสรรค์เป็นผลงานภาพพิมพ์ด้วยเทคนิค Woodcut + Digital print + Stamprint เป็นการผสมผสานเทคนิคเพื�อให้เกิดความงามและจินตนาการ ก่�งเหมือนจริง เริ�มจากการตกแต่งภาพโดยใช้โปรแกรม Photoshop จากนั�นพรินต์ภาพที�เราวาดและตกแต่งเรียบร้อยแล้ว น้ามาทับด้วยเทคนิค Woodcut และตบท้ายด้วยเทคนิค Stamprint 45 x 75 ซม. | Woodcut + Digitalprint + Stamprint ผลงานสร้างสรรค์เป็นการถ่ายทอดความรู้ส่กจากสภาพจริงของแวดล้อมจริงของธรรมชาติจากบ่งบัวในยามเช้าของที�บ้าน และบ่งบัวในสถานที�ต่างๆ จาก ภาพถ่ายที�ได้บันท่กไว้ กล่าวคืออาศัยรูปแบบที�มีอยู่จริงมาผสมผสานในคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรม Photoshop ดัดแปลงรูปทรง ซ่�งให้ภาพธรรมชาติซ้อนทับกับ ภาพของข้าพเจ้าที�ก้าลังนอนหลับและใช้เทคนิคภาพพิมพ์แกะไม้ทับซ้อนลงไป และเทคนิคประทับรอยทับซ�้ารอบสุดท้ายเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ทางด้านเทคนิค เพื�อต้องการแสดงถ่งธรรมชาติผืนนาที�อุดมสมบูรณ์ห่มกายของข้าพเจ้า สะท้อนมุมมองอากาศยามเช้าที�บริสุทธิ�และแสงยามเช้าที�เริ�มใหม่ได้ทุกๆ วัน ปัญหาในการท้าผลงานสร้างสรรค์อาจมีปัญหาเรื�องเวลาในการถ่ายภาพต้องใช้เวลารอ พอสมควรให้อยู่ในช่วงเวลาที�ต้องการ แนวทางแก้ไขคือใช้โปรแกรม Photoshop ดัดแปลงหรือตกแต่งบ้างบางส่วนในช่วงเวลาที�ต้องการ ห่มบัวในสายหมอกของเช้าวันใหม่ อาจารย์นภาพร มบขุนทด | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
154 | FACULTY “ยามเมื�อมีแสงสีทอง”สาดกระทบบนร่องรอยลวดลายประติมากรรมแกะสลัก บนปราสาทหินของเขมร เราจะเห็นรายละเอียดแห่งความงดงามอันละเอียดอ่อน วิจิตรบรรจง อันหมายถ่งความเจริญรุ่งเรืองทางสติปัญญาและภูมิปัญญาแห่ง อารยธรรม แต่ในทางตรงกันข้าม เมื�อแสงพาดผ่านเคลื�อนไป ความมืดมิดของ เงาดำก็แทรกซ่อนตัวเข้ามาบดบังความงามของลวดลาย การเคลื�อนตัวของแสง และเงานี�เปรียบเสมือนการเปลี�ยนแปลงที�กำลังคืบคลานเข้ามา เสมือนการเกิดดับที�เป็นสิ�งอยู่คู่กัน เป็น “สัจธรรมแห่งการเปลี�ยนแปลง” ของทุกสรรพสิ�ง ไม่ เว้นแม้ความเจริญรุ่งเรืองและความยิ�งใหญ่แห่งอาณาจักรอารยธรรมเขมร จาก เจริญและยิ�งใหญ่สูงสุดสู่การล่มสลายในจุดต�ำสุด “ยามเมื�อได้สัมผัสความงามแห่งแสงและเงาที�ปรากฎบนร่องรอยอารยธรรม ก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้ส่กสะเทือนใจจากการสูญเสีย ความงามที�ไม่สมบูรณ์ สัมผัสได้ถ่งคุณค่าแห่งมรดกทางอารยธรรม” ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคการวาดเส้นด้วยหม่กดำบนผืนผ้าใบสีทอง. ในการสร้างสรรค์มีวัตถุประสงค์เพื�อถ่ายทอดความงดงามจากน�ำหนักแสง-เงา ผ่านผลงานวาดเส้นด้วยหม่กดำบนผ้าใบสีทองที�สร้างสรรค์ข่�นเพื�อให้ผลงานได้ก่อเกิดอารมณ์ความรู้ส่กสะเทือนใจจากร่องรอยของรูปทรง ลวดลายและพื�นผิวของประติมากรรมแกะสลักบนปราสาทหินของเขมรที�เสื�อมสลายในปัจจุบัน กระตุ้นเตือนให้ระล่กถ่งความงดงามและความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญา มรดกทางศิลปวัฒนธรรม 80 x 180 ซม. | วาดเส้นด้วยหม่กดำบนผ้าใบสีทอง การสร้างสรรค์ผลงานเน้นการใช้น�ำหนักแสง-เงา โดยการควบคุมทิศทางของ แสงที�ตกกระทบลงบนภาพแกะสลักนาคราช เป็นจุดเด่นและเป็นพื�นที�ส่วนที�แสง สาดส่องมาแบบจงใจ จากแนวคิดที�ว่า นาคราชกับคติความเชื�อทางศาสนา พราหมณ์และชาวเขมร กล่าวคือ พญานาคเป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ ซ่�งมีชื�อ ว่า “พญาอนันตนาคราช” เป็นต้นกำเนิดของนารายณ์บรรทมสินธุ์ทั�งยังเป็น สัญลักษณ์แห่งสายน�ำ เป็นผู้พิทักษ์รักษาและเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์” การใช้น�ำหนักแสงและเงาแบบนุ่มนวลสามารถสร้างอารมณ์และความรู้ส่กใน แบบเหนือจริงหรืออุดมคติ เชื�อมโยงกับคติความเชื�อ ความศรัทธาทางศาสนาที� มีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างอารยธรรม ต่อความเจริญรุ่งเรือง ต่อการ ดำรงชีวิตของชาวเขมรในอดีตต่อเนื�องมาถ่งปัจจุบัน Stories of the stones No.2 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชยารัฐ จุลสุคนธ์ | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
FACULTY | 155 ครอบครัว 2 อาจารย์ มาริ ษา เอี�ยมวงค์ | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตย์กรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มนุษย์ กับสัตว์ มีความสัมพันธ์ กันมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ�งมนุษย์ กับแมวมี ความสัมพันธ์ กันมายาวนานถ่ง 5,000 ปี ก่อนคริสตกาล ชาวอี ยิปต์เห็นคุณค่า ของแมวว่าช่ วยกำจัดหนู ด้ วยเหตุนี�แมวซ่�งเป็นสัตว์ที� มีประโยชน์ มากจ่งถูกจัดว่า เป็นสัตว์ ศักดิ� สิทธิ� สำหรับประเทศไทยตั�งแต่โบราณมา แมวไทยเป็นสัตว์ที�ได้ รับ เกียรติ สูง เพราะได้เข้าร่วมพิ ธีเฉลิ มพระราชมนเฑียร นอกจากนี�ยังมี พิ ธีแห่นาง เเมวเพื�อเป็นการขอฝน (ทองสุข เกตุโรจน์. 2534. 47-51) แมวเป็นสัตว์ที� มีพลัง ล่กลับ โอ้อวด ไม่ ติดเจ้าของ รักสันโดษ หวงแหนถิ�นที�อยู่ สำหรับข้าพเจ้าแมว เป็นสัตว์ที� มี รูปร่างหน้าตาน่ารักน่ากอด และมี จิตใจเหมือนคน แมวจ่งเปรียบ เสมือนสมาชิกในครอบครัว จากที� มาดังกล่าว ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการ สร้างสรรค์ผลงานชื�อ “ครอบครัว 2” มี วัตถุ ประสงค์เพื�อนำองค์ความรู้จากการ ศ่กษาทฤษฏีความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ กับแมว มาสร้างสรรค์เป็นผลงาน จิตรกรรมรู ปแบบก่�งเหมือนจริง เทคนิคผสมบนผ้าใบ แนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานคือ เป็นผลงานจิตรกรรมที� มีเนื�อหาแสดง ถ่งความรักความผูกพันของข้าพเจ้ากับแมวที�เลี�ยงไว้ชื�อทองขาว กับสีเทา ซ่�งเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว โดยมีกระบวนการสร้างสรรค์คือ ศ่กษาทฤษฏีความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับแมว และทฤษฏีการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมก่�งเหมือนจริง สัมภาษณ์ สังเกตบุคลิก และบันท่กภาพแมวกับข้าพเจ้า นอนกอดกันซ่�งเป็นกิจกรรมที�ทำร่วมกันในชีวิตประจำวัน เพราะทำให้ข้าพเจ้ารู้ส่กผ่อน คลาย เมื�อได้เล่นและนอนกับแมวทั�งสองตัว ทำภาพร่าง เพื�อแก้ปัญหาด้านเทคนิคและองค์ประกอบในภาพ และถ่ายทอดเป็นผลงานจริง ด้วยเทคนิคการใช้สีโปสเตอร์และสีอะคริลิก ระบายโดยใช้ฝีแปรงที�ทับซ้อนกันเหมือนเส้นขนกำลัง ปลิ วและปกคลุมทั�วทั�งภาพ ก่อให้เกิดความรู้ส่กนุ่มนวลและอบอุ่น เพื�อแสดงถ่ง การโอบอุ้มของข้าพเจ้าที�เฝ้ารักและทะนุถนอมแมวเหมือนดั�งลูกน้อยทั�งสอง ที�เต็มไปด้วยความสุขสงบ โดยสร้างบรรยากาศอบอุ่นในโทนสีเหลืองและแสงที�เป็นประกายทั�วทั�งภาพเพื�อให้เกิดจินตนาการเหมือนอยู่ในความฝันอันสงบสุข การดำเนินงาน ข้อค้นพบในการสร้างสรรค์ผลงาน คือผลงานชิ�นนี�มี รู ปแบบ “ก่�ง นามธรรม (Semi - abstract)” ซ่�งถือเป็นรู ปแบบหน่�งใน “ศิลปะลัทธินามธรรม (Abstract Art)” กล่าวคือ มีการดัดแปลงรู ปทรงที� ยังคงเค้าโครงเดิ มอยู่ สามารถ “สื�อสาร” ได้ตามเนื�อหาที�กำหนดและตามหลักการของศิลปะกี�งนามธรรม ในส่วนของแนวเรื�อง คือ “การทับซ้อนของรูปทรงและสี” ของคนและแมว ได้ค้นพบ เทคนิคที�สอดคล้องกับแนวเรื�อง คือ 1) เทคนิคจากการใช้ฝีแปรงจากพู่กันสร้างเส้นขนให้เกิดความนุ่มนวลและซ้อนกันเป็นรูปทรงคน 2) เทคนิคผสม คือ การ ผสมผสานระหว่างเทคนิคสีโปสเตอร์และเทคนิคสีอะคริ ลิก ซ่�งทั�งสองเทคนิคนี� เมื�อนำมาผสมกันตามขั�นตอนที�ผู้วิจัยได้ทดลอง ทำให้เกิดเทคนิคใหม่ในการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมก่�งเหมือนจริง ซ่�งมีหลักการคือ การตัดทอนรูปทรงจากธรรมชาติและนำมาจัดองค์ประกอบ ก่อให้เกิดรูปทรงใหม่ระหว่างคนกับแมวรูปทรงสามารถแสดงถ่งคนและแมวได้ชัดเจนในด้านเทคนิคผสมระหว่างสีโปสเตอร์และสีอะคริลิก โดยใช้ฝีแปรงระบายทับซ้อนกันก่อให้เกิดความรู้ส่กนุ่ม และอบอุ่นของครอบครัวได้ผลตามวัตถุ ประสงค์ที�ตั�งไว้ 120 x 120 ซม. | สีโปสเตอร์และสีอะคริ ลิก
156 | FACULTY มนุษย์ มีความเชื�อ ความศรัทธา มายาวนาน จากวิถีชีวิต เชื�อชาติ ศาสนา เรื�องราว ประวัติศาสตร์ ที�แตกต่าง กัน จากอดีตจนถ่ง ปัจจุบัน มนุษย์ จะมีสิ�งหน่�งภายใน จิตใจ ที�ต้องการให้เกิดความพิเศษ เหนือสิ�งอื�นใด คือความเชื�อ ศรัทธา ต่อสิ�งที� อยู่นอกเหนือเหตุผลใดๆ ในรูปธรรม แต่หากส่งผลภายในต่อจิตใจ จนเกิดการ จินตนาการ ในสิ�งนามธรรมนั�นๆ ข่�นมาเป็นสิ�งที�มนุษย์ ให้ความสำคัญ ต่อความ เชื�อ ศรัทธา ข่�นมา จนเกิดเป็นเรื�องเล่า ตำนาน ลัทธิ ศาสนา ฯ จนเกิดการสร้าง รูปเคารพที�เป็นดังตัวแทนของความเชื�อ พระพิฆเนศ คือรูปเคารพที�ข้าพเจ้าสนใจ อีกทั�งเป็นสิ�งที�เคารพบูชา พระพิฆเนศ เป็นความเชื�อที�มาจากศาสนาฮินดู เป็น บุตรของพระศิวะและพระปารวตี มีพระเศียรเป็นช้าง เป็นที�เคารพกันโดยทั�วไป ในฐานะเทพเจ้าผู้ขจัดอุปสรรค และยังเป็นเทพที�เป็นที�นับถือกันในศาสตร์ทาง ด้านศิลปะต่างๆ การนำรูปเคารพพระพิฆเนศมาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยโดยผ่านการตีความใหม่จากกระบวนสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์ให้มีความสอดคล้อง กับวิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุปัน “รูปเคารพ” (Idol) คือสิ�งที�ข้าพเจ้า ต้องการ นำเสนอผ่านแรงบันดาลใจ ต่อสิ�งที�เป็นนามธรรม ผ่านรูปเคารพทางความเชื�อ คือพระพิฆเนศ(Ganesha ) เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ความสุข และความสมบูรณ์ ที�มีลักษณะ รูปลักษณ์ ศีรษะเป็นช้างร่างกาย เป็นมนุษย์สามารถ มีรูปลักษณ์ ได้หลากหลายลักษณะ ตามบริบทของความเชื�อทางศาสนา ผู้ สร้างสรรค์ ได้แรงบันดาลใจ จากรูปเคารพพระพิฆเนศ (Ganesha) ในรูปแบบที�เกิดข่�นจาก No.1) 80 x 60 ซม. No.2) 120 x 160 ซม. No.3) 120 x 160 ซม. | Oil on canvas จินตนาการ ส่วนตน ให้รูปเคารพนั�นสามารถ มีความร่วมสมัย กับปัจจุบัน ของ มนุษย์และมีความใกล้ชิดกับมนุษย์ปัจจุบัน มากข่�น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบวิถีชีวิต และบริบทต่างๆ ซ่�งต่างจากขนบความเชื�อเดิม ๆ ที�เทพเจ้า จะต้องมีลักษณะ เฉพาะเจาะจงตามบริบทนั�นๆ ที�เรียกกันว่า พระพิฆเนศ ปาง....ฯ นั�นๆ แตกต่าง กันไป ข้าพเจ้าจ่งต้องการนำเสนอผ่านมุมมองสร้างสรรค์ส่วนตน ต่อรูปเคารพ พระพิฆเนศ เป็นผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย เทคนิคสีน�ำมันบนแคนวาส จำนวน 3 ชิ�น โดยการทำร่างแบบและพัฒนาชิ�นงาน จากชิ�นที� 1-3 ตามลำดับ จากนั�นเข้า สู่กระบวนการสร้างสรรค์ทางจิตรกรรมในชิ�นงานจริง การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เฟรมผ้าใบ ขนาด 60 x 80 ซม. จำนวน 1 ชิ�น ขนาด 120 x 150 ซม. จำนวน 2 ชิ�น โดยการทำงานเริ�มจากชิ�นที� 1-3 ตามลำดับ มีการพัฒนาและปรับแก้ ผลงานจากภาพร่างต้นแบบเพื�อให้ชิ�นงานจริงมีความสมบูรณ์ข่�น โดยใช้ระยะเวลา ประมาณการทำงานทั�งหมดเป็นเวลาร่วมสามเดือน จ่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ ผลงานจิตรกรรมชุดนี�เป็นการปฏิบัติงานจิตรกรรมร่วมสมัยทางทัศนศิลป์ เพื�อสะท้อนแนวคิด ต่อความเชื�อของมนุษย์ ต่อรูปเคารพ พระพิฆเนศ และวิถีชีวิตของสังคม มนุษย์ในยุคปัจจุบัน เป็นการถ่ายทอดผลงานสร้างสรรค์ทางทัศนศิลป์รวมทั�งเป็นการเผยแพร่ผลงาน ทางศิลปะและพัฒนาวงการศิลปะร่วมสมัยของไทยควบคู่กับการพัฒนาและการแลกเปลี�ยนองค์ความรู้ในการสร้างสรรค์ผลงานทางทัศนศิลป์ ศิลปะ และการออกแบบ IDOL No.1, 2, 3 อาจารย์ไกรสิงห์ สุดสงวน | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร
FACULTY | 157 27.5 x 37.5 ซม. | ปากกาหม่กซ่มสีดำบนกระดาษ 100 ปอนด์เรียบ จงส่งต่อความรักออกไป อาจารย์พัชรี พันธุ์ยางน้อย | [email protected] สาขาวิชามีเดียอาตส์ โครงการร่วมบริหารหลักสูตรฯ (มีเดีย) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี จากการเปลี�ยนแปลงทางสังคม และวัฒนธรรม (Socio-Cultural Change) ใน ปัจจุบัน การขับเคลื�อนทางเศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื�อ การพัฒนาสู่การเป็นสังคมเมืองขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดการเปลี�ยนแปลงโครงสร้าง และบรรทัดฐานทางสังคม ก่อให้เกิดการแข่งขันที�สูงข่�น เปิดปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาทางสังคม ที�ส่งผลกระทบต่อการเปลี�ยนแปลงทางวัฒนธรรม และ การเปลี�ยนแปลงวิถีแห่งการดำเนินชีวิตเพื�อการเอาตัวรอด การพัฒนาทางสังคม ในลักษณะรูปธรรมเพียงอย่างเดียวอาจไม่ส่งผลต่อการพัฒนาในระยะยาว การพัฒนาคุณค่าทางจิตใจของมนุษย์ในสังคมย่อมส่งผลต่อการพัฒนาสังคมได้อย่าง เข้มแข็ง และยืนยาว โดยการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี� มีวัตถุประสงค์เพื�อการ สร้างความตระหนักรู้ถ่งความรู้ส่กรัก และความรู้ส่กเมตตาของมนุษย์และสิ�ง แวดล้อม สำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชม เพื�อ สร้างให้เกิดความรู้ส่กการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข “จงส่งต่อความรัก ออกไป” ได้รับแรงบัลดาลใจจากการพบเห็น “ชายพิการกำลังให้อาหารนกพิราบ บริเวณริมคลองภาษีเจริญ ด้วยใบหน้าที�แสดงออกถ่งความรัก เมตตา และความ สุขผ่านรอยยิ�มที�อิ�มเอม” เรื�องราวที�สร้างแรงสะท้อนต่อจิตใจและสร้างความ ซาบซ่�งใจ (Impressive) เป็นอย่างมาก สร้างสรรค์ผลงานจินตภาพจากจินตนาการ และประสบการณ์ของศิลปิน ด้วยเทคนิคการวาดเส้นสร้างสรรค์ (Creative Drawing) เพื�อสื�อสารความหมายจากการมองเห็นแบบพื�นฐานอย่างสร้างสรรค์ กอปรกับแนวคิดทางศิลปะลัทธิเหนือจริง (Surrealism) อุปมาภาพชายพิการที� ส่งต่อความรักแม้นตนเองจะขาดแคลน โดยมีฉากหลังของภาพเป็นซากปรักหัก พัง เพื�อต้องการสื�อสารให้ผู้ชมเข้าใจถ่ง ความไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์พร้อมจ่งจะ แสดงความรัก และเมตตาต่อผู้อื�น องค์ประกอบ และขนาดที�สร้างสรรค์ข่�นเพื�อ ให้เกิดการรับรู้ส่กถ่งเรื�องราว และรายละเอียด น�ำหนักของการวาดเส้นที�แสดง ออกถ่งอารมณ์ความคิดที�หลากหลาย สะท้อนให้เกิดแรงบันดาลใจ สีสันที�กลมกลืน สื�อสารจิตนภาพของเรื�องราวที�สามารถเกิดข่�นได้อยู่ทุกช่วงวันเวลาในปัจจุบัน การนำเสนอเรื�องราวจากแรงบันดาลใจด้วยเทคนิคการวาดเส้นสร้างสรรค์ (Creative Drawing) กอปรกับแนวคิดทางศิลปะลัทธิเหนือจริง (Surrealism) ก่อให้เกิดแรงผลักดันทางการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ การใช้ขนาดขององค์ ประกอบ และการวาดเส้นที�มีลักษณะที�แตกต่างกันสามารถสร้างให้เกิดมิติทาง อารมณ์ความรู้ส่กผ่านผลงานการสร้างสรรค์ทางศิลปะ อีกทั�งคุณค่าของเรื�อง ราวจากแรงบันดาลใจที�สามารถแรงสะท้อนทางจิตใจต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างอบอุ่นและมีความสุข แสดงออกถ่งมนุษย์ทุกคนสามารถแสดงความรัก ความเมตตา ความเอื�ออาทรต่อผู้คน และสรรพสัตว์ได้ แม้จะไม่มีความเพียบพร้อมหรือสมบูรณ์แบบในชีวิต
158 | FACULTY จากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครองของประเทศไทย ความ หมายของ “ชาติไทย” มีการเปลี�ยนแปลงมาโดยตลอด ตั�งแต่รัฐชาติถูกสร้างข่�น ไม่ว่าจะเป็นคำนิยามในสมัยรัชกาลที� 5 ที�ปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิ ราชย์ หรือเปลี�ยนแผ่นดินมาเป็นรัชกาลที� 6 คำนิยามก็ไม่เหมือนเดิม จนมาถ่ง การเปลี�ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 คณะราษฎรกลับกล่าวว่า “ชาติ” เป็นของประชาชนไม่ใช่ของกษัตริย์อย่างที�ใครเขาว่ากัน และเปลี�ยนแปลงอีกครั�ง จากฝ่ายอนุรักษณ์นิยม กลับมาใช้วิธีคิด “อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ” คือ กษัตริย์และประชาชนอยู่ด้วยกัน จนพัฒนามาเป็น “ราชประชาสมาสัย” ทำให้ เกิดการขัดแย้งจนเกิดรัฐประหารและเปลี�ยนเป็นราชประชาอาศัย (สรุปแล้ว “ชาติ” คืออะไรกันแน่ ประชาชนหรือกษัตริย์) แม้จะผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือยุคสมัยพลเอกเปรม ล่วงมาถ่งนายกทักษิณ จนมาถ่งการรัฐประหารของ คสช. และการเลือกตั�งปี 2562 ความหมายของ “ชาติ” นั�น ดูราวกับจะถูกแย่ง ชิงกลับไปฝั�งประชาชน เราอาจจะต้องยอมรับถ่งการถูกสร้างและให้ความหมายของวัตถุทางวัฒนธรรมทุกอย่าง ซ่�งในสังคมไทยใช้เวลาในการทำความเข้าใจ แนวคิดลักษณะนี�ยาวนานหลายทศวรรษ สัญลักษณ์หน่�งที�ใช้แทนความหมายของความเป็น “ชาติ”นั�น ก็คือ “ธงชาติ” ซ่�งอาจจะเป็นสิ�งที�ทำให้เห็นได้ชัดกว่ามากในแง่ของการออกแบบ จากการศ่กษาประวัติศาสตร์ที�มาของธงชาติไทยก็เช่นเดียวกับธงชาติอื�นๆ ที�ถูกออกแบบโดยผู้ ที�มีอำนาจทางการเมืองในเวลานั�นๆ เพื�อฉกชิงความหมายอันก่อให้เกิดผลดีกับ ฝ่ายตน งานจิตรกรรมประยุกต์ชิ�นนี�เป็นเสมือนสุนทรียะในการทำให้เรามอง เห็นถ่งความหมายของสีหรือรูปแบบที�มีการเปลี�ยนแปลงและการเคลื�อนที�ของ อำนาจในการกำหนดทิศทางของความหมาย ทำให้เห็นถ่งการช่วงชิงความหมาย ของความเป็นชาติโดยในที�นี�บอกเล่าผ่านสัญญะธงชาติ ซ่�งประกอบไปด้วยแถบ สีสามสี คือ สีแดง สีขาว และสีน�ำเงิน หากแม้กระทั�งความเป็นชาติที�ซับซ้อน กว้างใหญ่ยังสามารถถูกฉกชิง เปลี�ยนแปลงหรือโปรแกรมได้ สุนทรียศาสตร์ แม่สี (Primary color) แดง ขาว น�ำเงิน จ่งเป็นเรื�องที�น่าสนใจในแง่มุมของการ ออกแบบทัศนศิลป์ที�ประสบความสำเร็จ ในการปลูกสร้างความจริง ความดีและ ความงามลงในผืนธงชาติ งานทัศนศิลป์ชุดนี� จ่งเป็นเสมือนการตั�งคำถามถ่งการให้คุณค่าในเชิงรูปแบบ การเลือกใช้สี ไปจนถ่งการที�สังคมถูกให้และให้ความหมายกับสีและแถบสีเหล่านี� สภาพสังคมที�เหลื�อมล�ำ สร้างมุมมองของประชาชนรากหญ้าในชาติที�มองการห�ำหั�นแย่งชิงอำนาจของกลุ่มชนชั�นนำในชาติราวกับมนุษย์แหงนมองการวิวาท ของเหล่าเทพเทวดาบนสรวงสวรรค์ จ่งเป็นเหตุผลในการเลือกหยิบยืมรูปแบบงานประดับกระจกในพุทธศาสนา อันมีที�มาจากการสร้างบรรยากาศให้ผู้เข้ามาทำบุญในวัดได้เห็นถ่งโลกสวรรค์หรือเมืองแก้ว 60 x 60 ซม. | จิตรกรรมติดกระจก แดง, ขาว, นํ้าเงิน ผู้ช่วยศาสตราจารย์นิธิศ วนิชบูรณ์ | [email protected] สาขาวิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
FACULTY | 159 ความสัมพันธ์การเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์ อาจารย์ปรพล ชินวรรณโชติ | [email protected]หมวดพื�นฐาน วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต การสร้างสรรค์ผลงานประติ มากรรมจากวัสดุสเตนเลส เพื�อให้เกิดรู ปแบบและ รู ปทรงใหม่ แต่ ยังคงความเป็นวัสดุที� มีความคงทนถาวร และถ่ายทอดเรื�องราว รู ปทรงออกมา 3 มิ ติ โดยการจ้าลองรู ปทรงที�เกี�ยวข้องกับเมล็ดพันธุ์ในการเติบโต ที�เป็นแรงบันดาลใจหลักในการสร้างสรรค์และน้ามาขยายรู ปทรงให้ มีความ เหมาะสมและสร้างสิ�งใหม่ที�เกิดเปลี�ยนแปลงจากรู ปทรงเดิ มลดทอนลง โดยใช้ เทคนิคการเชื�อมสเตนเลส ซ่�งท้าให้เกิดการสร้างสรรค์ในตัวงาน ของงานประติมากรรมชุดนี� แนวความคิด กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน เรื�องความสัมพันธ์การเจริญเติบโต ของเมล็ดพันธุ์ ข้าพเจ้าได้ รับแรงบันดาลใจจากการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ทุกเมล็ดมี คุณค่าในแต่ละเมล็ด มีการเจริญเติบโต มีการออกดอก ออกผล เป็นที� พักพ่งของสภาพแวดล้อมต่างๆ แต่การเจริญเติบโตนั�นต้องอาศัย ปัจจัยหลายประการ เพื�อให้ มีการเจริญเติบโต จ้าเป็นต้องได้ รับองค์ประกอบที� ส้าคัญ เช่น ดิน น�้า อากาศ ซ่�งมีผลต่อการเจริญเติบโต แต่หากขาดปัจจัยใดปัจจัยหน่�งที�ส้าคัญไป เมล็ดพันธุ์อาจไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ มนุษย์ ก็เป็นหน่�งเมล็ดพันธุ์ ถ้าเปรียบเป็นเหมือนการเติบโต จ้าเป็นต้องได้ รับ องค์ประกอบที�ส้าคัญในการเติบโต เช่น มีสภาพแวดล้อมที�สมบูรณ์ มีครอบครัว ที� ดี มี มิตรที� ดี และมี สังคมที� ดี ก็ จะมีโอกาสพัฒนาการเจริญเติบโตได้อย่างดี ดังนั�น จุดเริ�มต้นของทุกชีวิต ต้องได้ รับองค์ประกอบต่างๆ ในการเจริญเติบโต เป็นสิ�ง ส้าคัญและจะส่งผลสร้างประโยชน์สิ�งที� ดีๆ ต่อไป ผลงานสร้างสรรค์ในชุดนี�ข้าพเจ้าได้ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานโดยผ่าน กระบวนการคิด การวิเคราะห์ การหาข้อมูลและการสร้างสรรค์ชิ�นงานออกมา ในรู ปแบบของงานประติ มากรรม โดยเลือกใช้สเตนเลส (Stainless Steel) วัสดุ ที� มีความแข็งแรง คงทนถาวร ที�สอดคล้องกับแนวความคิดในการออกแบบ และ เป็นหัวใจส้าคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน ผลงานสร้างสรรค์ ชุดนี�เป็นส่ วนประกอบส้าหรับแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะ จุดประสงค์หลักในการค้นคว้า มุ่งเน้นให้เห็นคุณค่าของประติ มากรรมจากวัสดุ สเตนเลส ที� มีแนวความคิดจากเมล็ดพันธุ์) น้าเสนอผ่านกระบวนความคิด วิเคราะห์ แบบมีขั�นตอน ให้เกิดการตอบสนองต่อผู้พบเห็นที� มองเห็นคุณค่าเชิงศิลปะใน อนาคต ในส่ วนที�เป็นผลงานจริงนั�นคืองานประติ มากรรมที� มี ลักษณะเฉพาะตน ข้าพเจ้าได้ ค้นหาและพัฒนารู ปแบบการท้างานที� มี ลักษณะที�เป็นอัตลักษณ์ของ ตนเองประโยชน์ที�ได้ จากการปฏิบัติงานสร้างสรรค์ คือ เทคนิควิธีการและขั�นตอนใหม่ๆ ในการเชื�อมโลหะให้เกิดความรู้ส่กผ่านรู ปทรงที�สามารถใช้ วัสดุที� มีความหมาย หน่�งในการสื�อสารความหมายที�แตกต่างออกไปจากความรู้ส่กเดิม ขั�นตอนการสร้างสรรค์โดยใช้วัสดุโลหะ จ้าเป็นต้องศ่กษาวัสดุและเทคนิควิธีการใหม่ๆ เพิ�มเติมในกระบวนการการสร้างชิ�นงานเพื�อให้ผลงานต่อไปในอนาคตมีความผิดพลาดน้อยที�สุด 103 x 36 x 27 ซม. | สเตนเลส
160 | FACULTY ต่อเด็กแว้นและเด็กสก๊อยผ่านคติความเชื�อแบบภาพเหมารวม (stereotype) ส่ง ผลให้การรับรู้และแสดงออกของผู้คน ได้ละทิ�งสำน่กของความเห็นอกเห็นใจ และ ผิดเพี�ยนไปจากข้อเท็จจริงตามเหตุและผลอันสมควร การนำเสนอให้ประเด็นด้านอัตลักษณ์ (Identity) เกิดข่�นจากภาพลักษณ์ของ เด็กแว้นและเด็กสก๊อยที�เคยถูกล้อเลียนในสื�อออนไลน์ มานำเสนอใหม่ในบริบท ของผลงานภาพถ่ายเชิงความคิด (Conceptual Photography) นำเสนอผ่าน ร่างกายในลักษณะเต็มตัว (full-shot) แสดงให้เห็นสภาวะที�คลุมเครือเสมือนอยู่ ในห้วงขณะของการหลับใหล เกิดข่�นในสภาพแวดล้อมว่างเปล่า ไม่สามารถคาด เดาทิศทางได้ อัตลักษณ์ของร่างกายได้ถูกกดทับและบิดเบือนไปจากระนาบที� มองไม่เห็น เพื�อชักชวนให้ผู้ชมพิจารณาภาพลักษณ์ร่างกายที�ปรากฏ ผลจากการดำเนินโครงการ ผลงานสร้างสรรค์ชุด “Slumber” เป็นผลสัมฤทธิ�ที�ได้จากการดำเนินโครงการวิจัยเรื�อง “กระบวนการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะเชิงความคิดผ่านสื�อภาพถ่าย” นำเสนอด้วยรูปแบบภาพถ่ายโปร่งแสง (Transparency in Lightbox) ติดตั�ง และจัดวางในพื�นที� (Installation) ในการดำเนินโครงการ นี�ทำให้เกิดกระบวนการในการพัฒนากายภาพของภาพถ่าย เกิดกระบวนทัศน์ที�สะท้อนมุมมองของสังคมผ่านการใช้ผลงานสร้างสรรค์ กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายในโครงการนี� ถือเป็นแบบจำลองหน่�งในการสร้างสรรค์ ซ่�งผู้วิจัยหวังว่าจะเกิดประโยชน์ต่อผู้สนใจศิลปะ นักศ่กษา และบุคคลที�สนใจศ่กษาไม่มาก ก็น้อย Slumber ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนุพงศ์ เจริญมิตร | [email protected] สาขาวิชาคอมพิวเตอร์อาร์ต คณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต ที�มาของโครงการสร้างสรรค์นี� จากการลงพื�นที�ภาคสนามเพื�อเก็บข้อมูล การ สัมภาษณ์กลุ่มเยาวชนผู้ร่วมงาน การสัมภาษณ์ผู้จัดงานคอนเสิร์ต “แว้นหลุดโลก” ณ จังหวัดปราจีนบุรี ผู้ให้สัมภาษณ์ได้สะท้อนมุมมองของตนเองหลายด้าน เช่น ความเชื�อของการประชันความเร็ว แนวคิดของการประกวดรถสวยงาม และ จินตนาการของตนเองต่อกิจกรรมในพื�นที�ปิด เสมือนเป็นพรมแดนใหม่ที�มี ความเสมอภาค มีเสรีภาพ สร้างการยอมรับในตัวตน เป็นดินแดนแห่งการปลด ปล่อยความน่กคิดให้โลดแล่นตามจังหวะของเสียงท่อไอเสีย และจากเสียงดนตรี ที�ปกคลุมบรรยากาศ ได้สร้างความพอใจชั�วขณะที�โลกแห่งความเป็นจริงไม่ สามารถตอบสนองได้ ซ่�งกิจกรรมในพื�นที�ปิดยังคงเป็นพื�นที�สีเทาคลุมเครือเมื�อ มองผ่านกฎหมาย เมื�อภาพกิจกรรมของเยาวชนชายขอบได้ถูกเผยแพร่ในสนาม ภาพโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เกิดการผลิตซ�ำของอัตลักษณ์ร่างกายของเด็กแว้น และเด็กสก๊อยผ่านการแชร์ (share) การโพสต์ (post) ความเห็น จนเกิดกิจกรรมใหม่ของผู้คนในโลกออนไลน์ คือ การลดทอนความเป็นมนุษย์ผ่านการแสดงความเห็น เช่น การเปรียบเทียบร่างกายกับผี สัตว์ และสิ�งของต่างๆ ราวกับร่างกายเป็นวัตถุไร้ชีวิต แนวความคิดการสร้างสรรค์ จากปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์ผ่านการดูถูกภาพลักษณ์ แสดงให้เห็นถ่งอคติของสังคมผ่านภาพเหมารวมที�มีต่อเด็กแว้นและเด็ก สก๊อย ทำให้สามารถพิพากษาความผิดล่วงหน้าได้ทันทีหากภาพลักษณ์ที�ปรากฏเป็นภาพของเด็กแว้นและเด็กสก๊อย ผู้วิจัยจ่งได้สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายชุด “Slumber” เพื�อใช้ภาพถ่ายเป็นเสมือนเครื�องมือที�สะท้อนมุมมองของสังคมที�มี 55 x 82.5 ซม. | Transparency in Lightbox
FACULTY | 161 Rest Time With Fluffy Bear อาจารย์ ดร.ชลิต กังวาราวุฒิ | [email protected] สาขามัลติมีเดียและอีสปอร์ต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ตุ๊กตา เป็นตัวแทนของเพื�อนที�เต็มไปด้วยจินตนาการของวัยเด็ก เป็นตัวแทนของ การรับฟังความรู้ส่กของเด็กในช่วงเวลาต่าง ๆ ที�สำคัญ เมื�อเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ สภาวะความวุ่นวายของสังคมในปัจจุบัน โรคระบาด ความเครียดจากหน้าที�การ งาน ความเหน็ดเหนื�อยที�ทำให้อยากหลบพัก โดยแต่ละบุคคลสามารถนิยามช่วง เวลาของการพักที�แตกต่างกัน การหยุดนิ�ง ออกห่างหรือเปลี�ยนพื�นที� จากกิจวัตร ประจำวัน เป็นรูปแบบหน่�งที�สามารถสร้างบรรยากาศแห่งการพัก เพื�อเตรียม พร้อมกลับมาสู่ภาระหน้าที�ของชีวิตและเพื�อการโหยหาการพักในครั�งต่อไป แนวคิดนี�จ่งทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื�อถ่ายทอดผลงานที�แสดงออกถ่งเวลาที�หยุดนิ�งของช่วงเวลาพัก 2) เพื�อ สร้างสรรค์ผลงานด้วยเทคนิคจิตรกรรมดิจิทัลบนภาพถ่าย โดยมีแนวความคิด ใน การถ่ายทอดผลงานผ่านตุ๊กตาหมีที�เป็นตัวแทน ของเล่นที�เคยเป็นพื�นที�แห่งการ พักผ่อน ความฝัน ที�เชื�อมโยงไปสู่วัยเด็ก ในพื�นที�แห่งการพักผ่อนที�เรียบง่ายอย่าง ริมทะเล สถานที�สงบและกว้างใหญ่ ที�ท้องฟ้าและน�ำได้บรรจบกัน โดยกระบวนการ ในการสร้างสรรค์ ศิลปินเดินทางไปในสถานที� แล้วเกิดแรงบันดาลใจในองค์ประกอบของภาพถ่าย ที�ถ่ายในระหว่างการเดินทางช่วงเวลาของการพักผ่อน จ่ง ได้ทำการ ร่างภาพยังสถานที� ณ หัวแหลมปากคลองแกลง จังหวัดระยอง ด้วยแอปพลิเคชัน Autodesk Sketchbook บนสมาร์ตโฟน และนำมาเก็บรายละเอียด ให้สมบูรณ์ด้วยเทคนิคจิตรกรรมดิจิทัล เพื�อหนดแสงเงา และบรรยากาศของสีให้สอดคล้องกับช่วงเวลา 40 x 26 ซม. | จิตรกรรมดิจิทัล การสร้างสรรค์โดยใช้เทคนิคจิตรกรรมดิจิทัล ช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างผลงาน ที�มีความเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจได้อย่างหลากหลาย สามารถผสมผสานรูป แบบต่างๆ ในการวาดและใช้ความคิดสร้างสรรค์ พู่กันหรือหัวแปรงที�หลากหลาย ในโปรแกรม สีที�มีให้เลือกผสมอย่างไม่จำกัด ทำให้แสดงออกผ่านภาพได้อย่าง อิสระ โดยใช้แนวความคิดและทักษะในการสร้างสรรค์ผลงาน ทฤษฏีสี หลักการ ทางองค์ประกอบศิลป์ กลวิธีต่างๆ ทางทัศน์ศิลป์ทั�งสิ�น โดยเทคนิคของจิตรกรรม ดิจิทัลช่วยให้ศิลปินสามารถทำงานที�สะดวกและยืดหยุ่นมากข่�น เป็นทางเลือกหน่�ง ที�ไม่ต้องใช้สื�อทางกายภาพหรือวัสดุศิลปะ สามารถแก้ไขและปรับแต่งผลงานใน ทุกที� ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์ที�สามารถติดตั�งแอปพลิเคชัน ได้แก่ แท็บเล็ตและ สมาร์ตโฟน อย่างไรก็ตาม จิตรกรรมดิจิทัล อาจเป็นข้อถกเถียงปัญหาบางอย่าง เช่น การสูญเสียความเป็นต้นฉบับ ขาดความเสมือนจริงของลายเส้นเฉพาะของ ศิลปิน และความไม่คุ้นชินในการใช้เทคนิคและแอปพลิเคชันสำหรับการวาด ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี�ศิลปินสามารถทำการฝึกฝนทักษะ ความเชี�ยวชาญในเทคนิคการวาดของการใช้แอปพลิเคชันวาดภาพ สร้างความเป็นเอกลักษณ์ที�แตกต่างในการใช้เทคนิคและสร้างรูปแบบเฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี
162 | FACULTY เลือดเนื้อของแม่ อาจารย์กาญจนี มฤคทัต | [email protected] สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ความรักความอบอุ่นของแม่ผนวกความคิดสร้างสรรค์ จนเกิดรูปทรงที�นุ่มนวลมี โครงสร้างโค้ง เพื�อแสดงถ่งความอ่อนโยนสีสันของงาน มีความสดใสเป็นพลัง แห่งความดีและความงาม ประเภทของวัสดุบ่งบอกถ่งสภาวะจิตใจ ณ ขณะนั�น ได้เป็นอย่างดีเหมือนเป็นการเก็บบันท่กข้อมูลในชีวิตในทุกช่วงวัย ผลงานศิลปิน จ่งมีค่าแห่งการจดจ้าทุกขณะจิต การสื�อสารในรูปแบบผลงานศิลปะสู่ความ น่กคิดของผู้ที�มาเสพผลงานนั�นยิ�งทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ชมหรือเสพ ผลงานอย่างเดียวแต่คนดูได้กลับติดตัวติดเข้าไปในใจกลับไปด้วย งานถ่งจะเข้าสู่กระบวนการเสร็จอย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ความประทับใจด้านอารมณ์ที�ดีงามของแม่ผ่านสู่ลูก ความรักความผูกพัน จ่งเกิด รูปทรงที�นุ่มนวล จนถ่งวัสดุของงานที�มีความหลากหลาย แต่ยังคงความนุ่มนวล ของวัสดุผ้า วัสดุที�แสดงความแข็งแก่งของความเป็นแม่จากภายในคือ โครงสร้าง เหล็ก ในตัวงานจะใช้สีที�แสดงถ่งความเป็นแม่ ความรักของแม่นั�นโดนด่งเลือด เนื�อแห่งความเจ็บปวดออกมาสู่ความรักความดีงามที�แม่ให้ลูก จนเกิดผลงาน สร้างสรรค์ชิ�นนี�ออกมาเป็นผลงานสื�อผสม ในผลงานประติมากรรมชิ�นนี�ใช้วัสดุแสดงถ่งอารมณ์ความรู้ส่ก ในการสร้างสรรค์ ผลงานต้องใช้หลักจิตวิทยาทางสีในการสร้างสรรค์ผลงานที�ใช้สภาวะจิตใจสื�อ ออกมา มีสองแนวทางคืองานที�สื�อทางด้านความดีงาม และงานที�สื�อถ่งสภาพจิต ที�หดหู่ จิตใจที�เศร้าหมอง งานที�น้าเสนอนั�นเป็นในแง่ที�ดีงามส่งผลถ่งสภาพจิตใจ ที�สดใส ความดีงามเหมาะสมกับคนที�มาเสพงานต้องการความดีงามกลับไปให้ หัวใจชุ่มชื�นกลับไป 40 x 70 x 124 ซม. | สื�อผสม
FACULTY | 163 รูปทรงในบริบทธรรมชาติ อาจารย์ กิตติ พันธ์ุชินวรรณโชติ | [email protected] สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ คณะมนุ ษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุ รี รู ปทรงในบริบทธรรมชาติฉบับนี�มี วัตถุ ประสงค์เพื�อศ่กษาแนวทางในการพัฒนา รู ปทรงของงานประติ มากรรมที�สื�อความหมายของการแสดงออกทางด้านความ รู้ส่กและจินตนาการ โดยอาศัยแรงบันดาลใจและความประทับใจจากรู ปทรงทาง ธรรมชาติ เช่น รู ปทรงดอกไม้ รู ปทรงของเมล็ดพันธ์ุจ่งนำมาเป็นผลงานค้นคว้า หารู ปทรงประติ มากรรมตามทั ศนคติและจินตนาการส่ วนตัว มีการถ่ายทอด ความรู้ส่กน่กคิด ความสัมพันธ์ ต่างๆ ผ่านการแกะสลักหิน เพื�อคลี�คลายพัฒนา รู ปทรงให้ มีการเปลี�ยนแปลงทางด้านองค์ประกอบ ปริ มาตร และขนาด โดยการ ผ่านกระบวนการจัดการรู ปทรง ลดขนาดรู ปทรงตามปริ มาตรของเนื�อหิน และ สื�อความหมายถ่งวัสดุที� มาจากธรรมชาติ มาสร้างสรรค์ให้เกิดรู ปทรงในมิ ติของ งานประติ มากรรมหิน จากความน่าสนใจของหินอ่อน ที�สามารถถ่ายทอดเรื�อง ราวในอดีต ผนวกกับความเป็นศิลปะที�สามารถถ่ายทอดเรื�องราวผ่านผลงาน จ่งส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจที�จะเลือกนำวัสดุที�น่าค้นหา เช่น “หิน” มาถ่ายทอดเรื�องราวผ่านเทคนิคกระบวนการในงานประติมากรรมลอยตัว ด้วยการแกะสลักหิน โดยเลือกถ่ายทอดเรื�องราวผ่านวัสดุและรูปทรง ให้เกิดทั�งความรู้ส่กอิสระและ โครงสร้างเส้นที�แสดงออกของร่องรอยความงามของธรรมชาติและเรื�องราวในเวลาเดียวกัน กระบวนการในการสร้างสรรค์ 1) ศ่กษาข้อมูลจากการค้นคว้า 2) ศ่กษาจากรู ปแบบ ของธรรมชาติ 3) วิเคราะห์ รู ปแบบและแนวความคิด 4) วิเคราะห์ ทัศนธาตุทาง ประติ มากรรมให้สอดคล้องกับแนวคิด เทคนิค วิธีการ องค์ประกอบ ตลอดจน วัสดุและขนาดของงานจริง 5) สร้างแบบจำลองประติ มากรรมด้ วย 3 มิ ติ 6) ขยาย ผลงานประติ มากรรมจากแบบร่างที�กำหนดให้ มีขนาดที�เหมาะสมและสอดคล้อง กับแนวความคิด 7) วิเคราะห์ปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที�เกิดข่�นกับงานจริง เพื�อ หาข้อสรุ ปให้ตรงตามวัตถุ ประสงค์ที� ต้องการในการสร้างสรรค์ผลงาน ผลงานสร้างสรรค์ฉบับนี�เป็นเพียงแค่ ส่ วนประกอบสำหรับชี�แนะแนวทางการ สร้างสรรค์ศิลปะในวงกว้างเท่านั�น จุดประสงค์หลักที�แท้จริงในการค้นคว้า มุ่งเน้นให้เห็นคุณค่าของประติมากรรมแกะสลักหินอ่อน ที�สื�อมาในเรื�องของรูปทรงทางธรรมชาติ นำเสนอทางด้านมิติกระบวนความคิด วิเคราะห์แบบมีขั�นตอน ให้เกิด การตอบสนองต่อผู้พบเห็นที� มองเห็นคุณค่าเชิงศิลปะในอนาคต ในส่ วนที�เป็น ผลงานจริงนั�นคืองานประติ มากรรมที� มี ลักษณะเฉพาะตน ข้าพเจ้าได้ ค้นหาและ พัฒนารู ปแบบการทำงานที� มี ลักษณะที�เป็นอัตลักษณ์ของตนเอง ประโยชน์ที�คาดว่าจะได้ รับ: 1) ได้เทคนิควิธีการและขั�นตอนใหม่ๆ 2) สามารถ ใช้ วัสดุที� มีความหมายหน่�งในการสื�อสารความหมายที�แตกต่างออกไปจากความ รู้ส่กตามธรรมชาติ 3) สามารถใช้เทคนิคการสร้างงานประติ มากรรมในการเพิ� ม มูลค่าให้ กับวัสดุ ประเภทหิน ข้อเสนอแนะ: บางขั�นตอนนั�นมีกระบวนที�ซ�ำซ้อนและกระบวนการสร้างสรรค์ ผลงานที� มีขนาดและน�ำหนักมาก จ่งต้องใช้เทคนิคการติดตั�งพิเศษรวมถ่งอุ ปกรณ์ ในการติดตั�งและความระมัดระวังที� สูง โดยอาศัยประสบการณ์และสร้างสรรค์ อย่างต่อเนื�องมาพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ�งข่�น 21 x 23 x 75 ซม. | แกะสลักหิน
164 | FACULTY การสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�เป็นการสร้างสรรค์ผลงานสถานที�ส้าคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ คือซุ้มประตูเมืองลับแล โดยเป็นการจ้าลองออกแบบ 3D Model แบบ เสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ เป็นเครื�องมือในการ สร้างสรรค์ออกแบบโครงสร้าง องค์ประกอบ สัดส่วน รูปร่าง รูปทรง จากภาพถ่ายในมุมมองต่างๆ โดยมีการย่อส่วน ตัดทอน ตามจินตนาการของผู้ สร้างสรรค์แต่ยังคงเป็นเอกลักษณ์เมื�อพบเห็น น้าไปสู่เรื�องราวรายละเอียดรูปแบบของโครงสร้างในผลงานทางสถาปัตยกรรมที�สวยงาม วัตถุประสงค์ของการผลิตผลงานสร้างสรรค์ 1) เพื�อศ่กษาค้นคว้าทดลองและ สร้างสรรค์ผลงาน 3D Model แบบเสมือนจริง 2) เพื�อเป็นการค้นหาแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบ 3 มิติ ประกอบการเรียนการสอนในสาขา วิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ 3) เพื�อเป็นการส่งเสริมพัฒนารูปแบบผลงาน 3 มิติ ในการสร้างสรรค์ที�เกี�ยวกับสถานที�ส้าคัญในรูปแบบการจ้าลอง 3D Model กระบวนการของการผลิตผลงานสร้างสรรค์ 1) ศ่กษาค้นคว้าข้อมูล ก้าหนด กรอบแนวคิด และวางขอบเขตในการสร้างสรรค์ผลงาน ทั�งรูปแบบเทคนิค และ วิธีการ 2) ก้าหนดหัวข้อเรื�องราว ปฏิบัติการสร้างสรรค์ผลงาน วิเคราะห์เรื�อง ราวเนื�อหา ปรับปรุงแก้ไขสิ�งที�เกิดข่�นและพัฒนาผลงานสร้างสรรค์ให้สมบูรณ์ และท้าให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์ผลงาน 20 x 20 x 10 ซม. | 3D Model Creation การสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบการจ้าลอง 3D Model แบบเสมือนจริง “เมือง ลับแล อุตรดิตถ์” ก้าหนดเทคนิคผสมผสานระหว่างภาพถ่ายกับเทคโนโลยีโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ โดยก้าหนดรูปแบบภาพสถานที�ส้าคัญให้มีความน่าสนใจ โดยใช้ หลักการทางศิลปะ ด้านองค์ประกอบ โครงสร้าง รูปร่าง รูปทรง สัดส่วน มาเป็น หลักในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื�อสะท้อนความเป็นอัตลักษณ์ ท้าให้ผู้ที�พบเห็น เห็นภาพเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จากผลงานที�สร้างสรรค์ข่�น การสร้างสรรค์ผลงานท้าให้เกิดแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบ เทคนิคการจ้าลองออกแบบ 3D Model แบบเสมือนจริง โดยใช้กระบวนการ เทคโนโลยีภาพ 3 มิติ เพื�อน้าเสนอความทรงจ้า สื�อถ่งความประทับใจ จาก ประสบการณ์ที�ผ่านมาในสถานที�ส้าคัญต่างๆ เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงาน รูปแบบใหม่ๆ เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในรายวิชาการออกแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ และสามารถน้าไปประยุกต์ใช้ในงานออกแบบต่างๆ ต่อไป เอกสารอ้างอิง กองบรรณาธิการ. (2564). สร้างงาน 3D และแอนิเมชันด้วย 3Ds Max พร้อมความสามารถ ใหม่ใน 2021 ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: Simplify. ชลูด นิ�มเสมอ. (2553). องค์ประกอบของศิลปะ. พิมพ์ครั�งที� 7. กรุงเทพฯ: อมรินทร์. ปาพจน์ หนุนภักดี. (2555). หลักการออกแบบกราฟิก. นนทบุรี: ไอดีซีฯ. มณีนุช สมานหมู่. (2564). ออกแบบสร้างโมเดล 3 มิติด้วย V-Ray for SketchUp. กรุงเทพฯ: Simplify. เมืองลับแล อุตรดิตถ์ อาจารย์อภินันท์ ปานเพชร | [email protected] สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
FACULTY | 165 กฎแห่งกาล อาจารย์ ดร.อติยศ สรรคบุรานุรักษ์ | [email protected] สาขาวิชาศิลปศ่กษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ครอบครัว ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูก ลูก(น.) หมายถ่ง ผู้มีกำเนิดจากพ่อแม่ หรือโดยปริยายถือว่ามีฐานะเสมือนลูก คำที�พ่อแม่เรียกลูกของตนโดยตรง หรือ เรียกเด็กอื�น หรือผู้เยาว์กว่าผู้พูดหลายปีด้วยความรู้ส่กรักและเอ็นดู (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, 2554) ชีวิตคนเรานั�นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จ่ง ต้องตั�งมั�นอยู่ในศูนย์ถ่วงที�แน่นอน ซ่�งสัมพันธ์กับเรื�องของความตาย เพราะความ ตายคือสิ�งที�แน่นอนที�สุด จ่งทำให้สร้างผลงานเป็นรูปทรงของงานประติมากรรม ที�มีลักษณะคล้ายกับโกศเก็บกระดูก เปรียบเสมือนงานประติมากรรมของชีวิต คนเรา การใช้ชีวิตก็ต้องมีศิลปะ ดังที�ท่านพุทธทาสภิกขุ (2533) กล่าวถ่ง ศิลปะ สำหรับการมีชีวิตอยู่ในโลกว่า ในเรื�องครอบครัว ก็มีศิลปะเกี�ยวกับการมีครอบครัว ต้องเป็นอยู่อย่างมีครอบครัว ต้องมีการประพฤติกระทำที�ถูกต้อง การสมรส การแต่งงานที�ประกอบไปด้วยธรรมะ มีบุตร และมีการอบรมบุตรที�ประกอบไป ด้วยธรรมะ ไม่มีอาชญากรรมหรือโรคภัยไข้เจ็บเกี�ยวกับเรื�องการสืบพันธุ์นี�คือ ศิลปะการมีครอบครัว การมีบุตร การอบรมบุตรให้สำเร็จประโยชน์ตามความ คาดหมายของมนุษย์นี�เรียกว่าการดำรงชีวิตในโลกอย่างถูกต้อง เกี�ยวกับการมี ครอบครัว การเลือกใช้รูปทรงของเชิงกราน เชิงกรานของเพศชายซ่�งหมายถ่งตัวแทนของ ความเป็นพ่อ และเชิงกรานของเพศหญิงซ่�งหมายถ่งตัวแทนของความเป็นแม่ ซ่�ง เชิงกรานเพศชายจะมีลักษณะคล้ายหัวใจ แต่ในเพศหญิงจะกลมหรือรีกว่าเหมือน รูปไข่ ออกแบบผลงานให้มีการตัดผ่าเซคชั�น (Section) ด้านในของเชิงกรานให้ เหลือความแบนแล้วคลี�ออกกลายเป็นแผ่นๆ นำมาเรียงต่อกันจนครบวงรอบ บรรจบกัน เพื�อสร้างให้เกิดจังหวะของกาลเวลา เลือกใช้ลูกสเตนเลส (Stainless) ซ่�งเป็นตัวแทนของลูกและลูกกลม ๆ เล็กๆ คือความสมดุล ผู้ทำหน้าที�พ่อและแม่ ต้องคอยประคับประคองดูแลลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยประกอบกันข่�น เป็นรูปโกศบรรจุกระดูกของผู้เสียชีวิต ต้องการสื�อให้เห็นว่าความตาย การพราก จากกันคือสิ�งเดียวที�แน่นอนที�สุด ดังนั�นต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติให้มากที�สุด โดยมีความตายเป็นที�ตั�ง ต้องไม่ประมาท ถ้าครอบครัวขาดคนใดคนหน่�งไปจะ ทำให้คนที�เหลืออยู่ประสบกับความไม่แน่นอนของชีวิต ผลงานต้องการนำเสนอเรื�องของความสมดุล ความสมมาตรในการประคับประคอง ชีวิต ผลงานชิ�นนี�เลือกใช้เทคนิคการเชื�อมเหล็กมาประกอบข่�นเป็นรูปทรง อาศัย กระบวนการตัดพลาสมาซีเอ็นซี (Plasma CNC machine cutting) เป็นการตัด เหล็กที�ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย และกระบวนการเชื�อมสแตนเลส ด้วยการเชื�อมแบบอาร์คไฟฟ้า หรือเชื�อมธูปไฟฟ้า (MMAW/SMAW) และการเชื�อมแบบทิก หรือเชื�อมอาร์กอน (TIG/GTAW) ผลงานประติมากรรมชิ�นนี�เป็นการปฏิบัติการทางทัศนศิลป์ เพื�อสะท้อนแนวคิด ความตระหนักรู้เกี�ยวกับครอบครัว ผ่านรูปทรงของเชิงกรานและโกศบรรจุกระดูก เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะ รวมทั�งเป็นการ เผยแพร่ผลงานทางศิลปะ ตลอดจนต่อยอดและพัฒนาวงการศิลปะร่วมสมัยของ ไทย ควบคู่กับการพัฒนาและแลกเปลี�ยนองค์ความรู้การสร้างสรรค์ผลงาน ทัศนศิลป์และการออกแบบ 52 x 52 x 117 ซม. | เชื�อมเหล็ก เอกสารอ้างอิง พจนานุกรมศัพท์ศิลปะฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (2541). กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน. พุทธทาสภิกขุ.(2533). ศิลปะสำหรับการมีชีวิตอยู่ในโลก. กรุงเทพฯ : มิตรนราการพิมพ์.
166 | FACULTY Somebody’s Watching You อาจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� รักษาเดช | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์อยู่ในโลกข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที�ทุกคนต่างนำเรื�องราวส่วนตัวเสนอบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยหารู้ไม่ว่าเรากำลังถูกติดตาม จากอัลกอริท่มที�ปรากฏอยู่ทุกที�ในโลกยุคใหม่ที�เชื�อมต่อกัน บางครั�งเราไม่รู้ตัว ด้วยซ�ำว่าระบบเหล่านี�ทำงานตลอดเวลาโดยเรียนรู้จากวิธีที�เราท่องโลกโซเชียล มีเดียหรือค้นหาข้อมูลใน Google หรือตอนที�เราเลื�อนหน้าจอผ่าน Facebook, Twitter ดู YouTube อัลกอริท่มจะประมวลพฤติกรรมการบริโภคของเรา สิ�งที� เราสนใจ และนำเสนอข้อมูลที�มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื�อของที�เราทั�งอยากได้ และไม่อยากได้ในโลกออนไลน์ ฯลฯ เทคโนโลยีเหล่านี�ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเพื�อที�จะเปลี�ยนวิถีการดำเนินชีวิตมนุษย์และสังคมในแต่ละวัน ผลงานชิ�นนี� เป็นการนำเสนอแนวคิดอัลกอริท่มที�ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล มีเดีย ซ่�งมีผลต่อการตัดสินใจและวิถีการดำเนินชีวิตมนุษย์และสังคมในแต่ละวัน ในขั�นตอนการดำเนินการ ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสื�อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบ (Interactive) ด้วยโปรแกรม TouchDesigner ในขั�นตอนต่อไป ผู้สร้างสรรค์ได้นำ ผลงานชุดนี�บรรยายให้กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศ่กษาสาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จำนวน 30 คน ในวิชาศิลปะกับ เงื�อนไขเวลา (Time-based media art) เนื�อหาเรื�องอัลกอริท่มที�ส่งผลกับการ ดำเนินชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน หลังจากนั�น ผู้สร้างสรรค์ใช้กระบวนการ สังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant observation) ทำการบันท่กภาพวิดีโอ นักศ่กษาที�เดินผ่านอาคารเรียนที�ติดตั�งเครื�องโปรเจคเตอร์ฉายสื�อวิดีโอเชิง ปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบ (Interactive projection mapping video) บนผนัง อาคาร อุปกรณ์โมชั�นเซ็นเซอร์ (Kinect motion sensor) จะจับการเคลื�อนไหว ของนักศ่กษาและส่งสัญญาณป้อนกลับมายังคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื�อปฏิสัมพันธ์เชิงโต้ตอบทำให้เกิดสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับสื�อที�อยู่ตรงหน้าได้โดยตรง ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและรับรู้การตอบสนองของสื�อผ่านวิดีโอ ซ่�งการตอบ สนองและการเคลื�อนไหวจะส่งผลต่อภาพที�ปรากฏ ทำให้นักศ่กษาเกิดการเรียนรู้ และตอบกลับในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น ความสงสัย หรือการ สัมผัส ปฏิกิริยาโต้ตอบของนักศ่กษาที�มีต่อกล้องวิดีโอและภาพเสมือนมีทั�งความ เมินเฉย ความสงสัย ความสนใจ เพื�อสะท้อนถ่งการเป็นผู้ถูกเฝ้ามอง การติดตาม และปฏิสัมพันธ์ที�มนุษย์ตอบสนองต่อเทคโนโลยี สื�อปฏิสัมพันธ์มีประโยชน์ในการเพิ�มการมีส่วนร่วมและประสบการณ์การชมงาน ศิลปะร่วมสมัยสามารถด่งดูดความสนใจของผู้เรียน เสริมสร้างกระบวนการ เรียนรู้ และการมีส่วนร่วมกับเนื�อหาที�นำไปสู่ความเข้าใจที�ดีในเนื�อหาที�ดีข่�น รวม ถ่งแนวคิดศิลปะร่วมสมัยที�ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ 2.22 นาที | Interactive projection mapping
FACULTY | 167 การศึกษาเชิงสัญญะผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ผูก มัด ผ้า สู่ประเพณีในวัฒนธรรมอิสลาม ชุด มะฮัร ผู้ช่วยศาสตราจารย์คีต์ตา อิสรั�น | [email protected] สาขาวิชาออกแบบประยุกต์ศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 60 x 60 ซม. | ศิลปะสื�อผสมวัสดุ การผูก และมัดจากผ้าท้องถิ�น การศ่กษาเชิงสัญญะผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ผูก มัด ผ้าสู่ประเพณี ใน วัฒนธรรมอิสลาม เป็นศาสนาที�เน้นในการปฏิบัติตั�งอยู่บนพื�นฐานแห่งความศรัทธา เพื�อเป็นแนวทางในการด้าเนินชีวิตและน้ามาใช้เป็นแนวทางตามหลักหน้าที�ใน การเป็นผู้ปฏิบัติถ่ายทอดและสืบทอดวัฒนธรรมอิสลาม ในชีวิตที�มุสลิมถือปฏิบัติ อย่างถูกต้องและเหมาะสม วิถีการด้าเนินชีวิตตั�งแต่เกิดจนตาย ตั�งแต่ตื�นจนหลับ ข้าพเจ้าเติบโตมาในครอบครัว มุสลิม ผ้า ถูกน้าไปใช้ในพิธีกรรมตั�งแต่วัยเด็ก การผูก มัด ผ้า ประเพณีตั�งแต่ การเกิดและการตายในวัฒนธรรมอิสลาม การเฉลิมฉลอง พิธีกรรมที�สอดคล้อง กับการด้าเนินชีวิต ผ้ากับการผูก ความเชื�อที�ใช้สัญลักษณ์สร้างเอกภาพของวัตถุ โดยให้ผ้าเชื�อมความประสานร่วมกันเป็นหน่�งเดียวในประเพณี ที�ผูกพันกับวิถี ของวัฒนธรรมอิสลาม การผูกเพื�อก่อให้เกิดรูป การมัดเพื�อก่อให้เกิดพื�นที� และ สัมพันธภาพที�ก่อตัวข่�นจากวัตถุ การสื�อสารที�แสดงออกในปฎิสัมพันธ์ของรูปทรงโครงสร้างทางกายภาพ สู่วิธีการผูก มัด ผ้า การน้ารูปทรงและวัสดุมาสร้างสรรค์ ประกอบชิ�นผลงาน เชื�อมโยงสัมพันธภาพระหว่างพื�นที�ว่าง ด้วยเทคนิคและวิธีการผูก มัด ผ้า อัตลักษณ์ที�ใช้สัญญะเชื�อมโยงกับวิถีชีวิต ถ่ายทอดประเพณีทาง วัฒนธรรมสู่ความเป็นปัจจุบันที�แสดงออกในชุดผลงาน วัตถุประสงค์: ศ่กษาทฤษฎีหลักการวัฒนธรรมอิสลาม ประเพณีที�เป็นศาสนากิจที�มุสลิมจะต้องปฏิบัติ ผ่านวิธีการเทคนิค การเล่าเรื�องผ่านกระบวนการ ผูก มัด ผ้า การประกอบสร้างรูปทรง โดยใช้ผ้าเป็นวัสดุหลักในการสร้างสรรค์ แนวความคิด: ชุดผลงาน “มะฮัร” การน้าเสนอผลงานศิลปะการมีส่วนร่วมของคน ในชุมชนพื�นที�จังหวัดนราธิวาส การศ่กษาเชิงสัญญะผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ ศิลปะ ผูก มัด ผ้าสู่ประเพณี ในวัฒนธรรมอิสลาม การนิกะฮฺ หรือ การแต่งงาน ในศาสนาอิสลามในประเพณีและพิธีกรรม ที�ผ่านกระบวนการ ผูก พัน ผ้า ศิลปะ ที�สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคนและวิถีชีวิต กระบวนการสร้างสรรค์: 1) ขั�นตอนของการสร้างภาพแบบร่างลายเส้น Sketch ของรูปทรง จากการศ่กษาค้นคว้าที�มาของผลงานสร้างสรรค์ 2) ก้าหนดกลุ่ม รูปทรงในลักษณะต่างๆ เช่น ดอกไม้ ลักษณะเป็นพุ่ม แบบก่�งนามธรรม การมัด อย่างอิสระ การเรียงต่อ จังหวะการซ�้าของรูปทรง สร้างพื�นที�ว่างในสัดส่วนของผ้า เพื�อก่อตัวการประกอบรูป 3) กระบวนการของการมัดจากวัสดุผ้า การผูกลวดลาย จากผ้าโพกหัว หรือการประกอบในเครื�องแต่งกายของมุสลิม 4) การประกอบ ติดตั�งพื�นที� เพื�อน้าเสนอในรูปแบบการจัดวางต้าแหน่งและสัดส่วน การมัดผ้าด้วยมะฮัรหรือสินสอด ได้ถูกเลือนหายไปในอดีตด้วยสังคมและยุค สมัยทางเทคโนโลยี ซ่�งปัจจุบันการทำมะฮัรส่วนใหญ่ใช้เป็นวัสดุสำเร็จรูปมีการ จัดวางและประดับตกแต่งด้วยวัสดุสังเคราะห์ซ่�งในกระบวนการผูกและการมัดผ้า ที�ยังคงรักษาไว้ด้วยขนบประเพณีและวัฒนธรรมอิสลาม จากงานฝีมือของกลุ่มมุสลิมะห์ในพื�นที� ที�สามารถนำมาประยุกต์สร้างคุณค่าและความงามในการ ประกอบรูปทรง โครงสร้างของการก่อรูปทรงของสัจจะวัสดุ ผ้า เพื�อนำมาประกอบพิธีกรรมและสืบทอดประเพณี ทางวัฒนธรรมในปัจจุบันของพื�นที�ชุมชน ที�ควรอนุรักษ์สืบทอดต่อไป Outstanding Artistic Skill
168 | FACULTY ฉุดรั้ง รองศาสตราจารย์ สิทธิกร เทพสุ วรรณ | [email protected] สาขาวิชานวัตกรรมการออกแบบสื�อ คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้สร้างสรรค์ตระหนักคิด และเล็งเห็นถ่งสภาวะจิตของมนุษย์ในสภาวการณ์ปัจจุ บัน ที�แต่ละคนมีความต้องการที�หลากหลายแตกต่างกัน จนบางครั�งเกิดเป็นความ ฟุ่มเฟ้อยจนมากเกินความพอดี ส่งผลให้เกิดการแก่งแย่งแข่งขันเพื�อให้ได้ มาซ่�ง สิ�งที�ตนเองต้องการ จนหลงลืมคุณค่าทางจิตใจไปโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ กิเลสเข้า มาครอบงำโดยอัตโนมัติการจะรู้เท่าทันกิเลสได้นั�นคือการมีสติ ซ่�งสตินี�เองเป็นสิ�งสำคัญในยามที�จิตกำลังตกอยู่ในสภาวะของกิเลส ดังนั�นผู้สร้างสรรค์จ่งมุ่งเน้นถ่งการสร้างสำน่กแห่งการตื�นรู้ไม่ให้ตกอยู่ในสภาวะของกิเลส อันเป็นต้นเหตุของการนำพาจิตใจให้ตกต�ำและจมดิ�งอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์เพื�อให้ มนุษย์เกิดปัญญาอันเป็นคุณค่าทางจิตใจที� สูงส่งอย่างแท้จริง ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที� มีเนื�อหาและรู ปแบบที�สะท้อนให้เห็นถ่ง สภาวะจิตของมนุษย์ที� ถูกกิเลสอันเป็นสิ�งสกปรกเข้าครอบงำโดยไม่รู้ตัว กิเลสนี� เองเป็นตัวฉุดรั�ง และชักนำให้ความเป็นมนุษย์ที�สมบูรณ์ ค่อยๆ ลดน้อยถอยลง ทุกขณะจิต สุดท้ายก็ ส่งผลให้เกิดเป็นผลเสียที�เข้ามากระทบกับชีวิตในทุกๆ ด้าน จะเห็นได้ จากรู ปทรงภายในภาพผู้สร้างสรรค์ เจตนาและเน้นให้เห็นรู ปทรงอมนุษย์ ที�นำมาใช้แทนค่ากิเลสที�คอยเกาะเกี�ยวฉุดรั�งจิตใจมนุษย์ ดังนั�นหากมนุษย์เรา ขาดสติ หลงไหลไปในภวังค์ของอวิชชาอันเรียกว่ากิเลสนี� ก็ จะส่งผลเสียต่อตนเอง ทั�งสภาวะของจิตใจ และการดำรงของชีวิต อีกทั�งยังส่งผลกระทบถ่งผู้อื�นใน สังคมได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ทั�งหมดที�กล่าวมาข้างต้นผู้สร้างสรรค์จ่งถ่ายทอดเป็นผลงานจิตรกรรม เพื�อแสดงถ่งเนื�อหาและสร้างสรรค์รูปแบบผลงานอันเป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้สร้างสรรค์เอง โดยขั�นตอนในการสร้างสรรค์ผลงานมี 4 ขั�นตอน ดังนี� 1) ศ่กษาข้อมูลจาก สภาพแวดล้อม หนังสือ สื�อภาพเคลื�อนไหว และอื�นๆ เพื�อหาแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงาน 2) จัดเตรียมอุปกรณ์และการร่างรูปทรงภายในภาพให้ชัดเจน โดยในขั�นตอนนี�ผู้สร้างสรรค์พยายามให้เกิดข้อผิดพลาดหรือเกิดความคลาด เคลื�อนให้ น้อยที� สุด 3) พ่นสีสเปรย์ในรู ปทรงที�ได้ ร่างไว้เพื�อให้เกิดพื�นผิวที�ขรุขระ ตามที� ต้องการ จากนั�นจ่งลงสี ขับเน้นให้ รู ปทรงเกิดความชัดเจนและมีระยะ มิ ติ เพื�อสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดสุนทรียะทางศิลปะและขั�นตอนการสร้างสรรค์ที� วางไว้ 4) แก้ไขปรับปรุงผลงานให้ มีความสมบูรณ์ ซ่�งเป็นขั�นตอนสุดท้ายในการสร้างสรรค์ โดยผู้สร้างสรรค์ จะทำการเก็บรายละเอียด และตกแต่งส่ วนต่างๆ โดยรวมภายใน ภาพให้เกิดความกลมกลืนเป็นเอกภาพให้ มากที� สุด ความสำคัญของจิตใจที� ถูกกิเลสเข้าครอบงำเป็นประเด็นหลักที�ผู้สร้างสรรค์ ต้องการถ่ายทอด ในงานศิลปะก่�งนามธรรมที� มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้านเนื�อหา และรู ปแบบ ใช้ รู ปทรงมนุษย์ มาตีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ผสมผสานกับ เทคนิคการสร้างพื�นผิวด้ วยสีสเปรย์ นำทัศนธาตุทางศิลปะมาเชื�อมโยง จัดวาง องค์ประกอบ ให้เกิดความลงตัวทางรู ปแบบ เนื�อหา และเทคนิค เพื�อตอบสนอง เนื�อหากับแนวความคิดที� ต้องการนำเสนอให้เกิดความน่าสนใจและเกิดประสิทธิภาพ มากที� สุด 90 x 110 ซม. | สีอะคริ ลิกผสมสีสเปรย์
FACULTY | 169 Reverie - ภวังค์ อาจารย์ ชุ ติ มา พรหมเดชะ | [email protected] สาขาวิชาทฤษฎีศิลป์ วิทยาลัยช่างศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การดำรงตนในฐานะมนุษย์ ย่อมมีภาระและความรับผิดชอบมากมายดำเนินคู่กัน ไปดั�งเส้นขนานจนกว่าจะถ่งวันละสังขาร ภาระต่างๆ เหล่านั�นล้ วนมีเพื�อความเจริญ ก้าวหน้าอันเป็นรากฐานของความผาสุกในอนาคต ในขณะเดียวกันนั�น ระหว่างเส้นทางแห่งการไขว่คว้าความสำเร็จและก่อสร้างความมั�นคง ภารกิจแห่งชีวิตได้พรากพลังงานของมนุษย์แต่ละคนไปอย่างมหาศาล พร้อมเหลือทิ�งร่องรอยแห่งความตรากตรำและเหนื�อยล้าไว้ในทุกๆ วัน หลายๆ ครั�งที�เมื�อความเหนื�อยล้าเข้าปะทะอารมณ์ของมนุษย์จะถูกปลดปล่อยและล่องลอยไปตามสายธารของความคิด บังเกิดเป็น “ภวังค์” หรือความเป็นอยู่โดยไม่รู้ส่กตัว เพราะจิตตกอยู่ ภายใต้อำนาจของมโนภาพที� ปรากฏข่�นอย่างหลากหลาย ข่�นอยู่กับประสบการณ์ ของแต่ บุคคล และจากประสบการณ์ ส่ วนบุคคลนั�น ภวังค์ จิตในห้ วงเวลาดังกล่าว มักปรากฏให้เห็นเป็นพื�นที�แห่งสี สัน เปรียบดั�งห้องมืดหรือเอกภพกว้างใหญ่ที� เต็ มไปด้ วยก้อนสี มากมาย วูบไหวล่องลอยไปตามจังหวะของความคิดและลมหายใจ ก้อนสี ทุกก้อนแลดู อ่อนนุ่ม มีน�ำหนัก บางก้อนคล้ายมวลน�ำ บางก้อนคล้ายมวลเมฆ บางก้อนเป็นสีเข้มท่บ เมื�อลอยผ่านไปมา จะบดบังก้อนสีอื�นๆ ในขณะที�บางก้อนมีความโปร่งแสง เมื�อลอยผ่านไปมา จะยังสามารถมองทะลุเห็นก้อนสีอื�นๆ ได้ ทุกครั�งที�เกิดมโนภาพดังกล่าว การปลดปล่อยจิตใจไปกับการพิจารณาก้อนสีเหล่า นั�นจะเกิดข่�นเสมอและทำให้ความเหนื�อยล้าที�สะสมมาตลอดทั�งวัน ค่อยๆ ละลาย หายจางไป พัฒนาเป็นช่ วงเวลาแห่งสุนทรียะที�หาได้ยากยิ�งในชีวิตที�เต็ มไปด้ วยภาระ และความรับผิดชอบ การสร้างสรรค์ในครั�งนี�เพื�อถ่ายทอดประสบการณ์ สุนทรียะ ส่ วนบุคคล จ่งเกิดแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานรู ปแบบ 2 มิ ติ ด้ วยกรรมวิธี การปักไหมพรมด้ วยปากกาปักผ้า (Punch Needle) การปักด้ วยมือ และ การ ฉลุ ผืนผ้า โดยการนำทัศนธาตุพื�นฐาน ได้แก่ เส้น สี รูปร่าง พื�นที� ว่างและพื�นผิ ว มาจัดองค์ประกอบทางศิลปะ พร้อมสื�อสารความประทับใจและนำเสนอความ งามของช่ วงเวลาสุนทรียะผ่านเทคนิคและวิธีการที�ทำให้เกิดความสุขระหว่างการ สร้างสรรค์ ขั�นตอนในการสร้างสรรค์ประกอบด้ วย 1) กลั�นกรองแนวความคิด 2) ศ่กษาค้นคว้าและสืบค้นข้อมูล 3) สร้างแบบร่างผลงานและคัดเลือกแบบร่าง 4) จัดเตรียมวัสดุ และอุ ปกรณ์ที�ใช้ในการสร้างสรรค์ 5) เตรียมผืนผ้าสำหรับสร้างสรรค์ 6) ปัก ไหมพรมลงบนผืนผ้าโดยใช้ปากกาปักไหมพรม 7) ปักไหมพรมด้ วยมือในพื�นที�ที� กำหนดไว้ และฉลุ ผืนผ้าเพื�อสร้างพื�นที�โปร่ง ถ่ายทอดความงามของสี สันในห้ วง ภวังค์ ผ่านการใช้ สี การสร้างพื�นผิ วโดยใช้ไหมพรม และการสร้างพื�นที� ว่าง โดย ในส่ วนของการใช้ สี จะเน้นกลุ่มสีโทนร้อน ได้แก่ สีเหลือง สี ส้ ม สีแดง สีชมพู และสีน�ำตาล โดยแต่ละสีได้เลือกใช้หลากหลายเฉด อ้างอิงจากมโนภาพส่ วน บุคคล พร้อมสร้างสมดุลโดยการใช้ สีเทา อันเป็นการบรรเทาพลังของสีโทนร้อน จุดเด่นของผลงาน คือ “พื�นผิวฟูนุ่มที� มีระดับแตกต่างกัน” อันเกิดจากการปรับ ระดับคามยาวเข็ มของปากกาปักไหมพรม ทำให้ผลงานมีพื�นผิ วในระดับที�แตก ต่างกัน พร้อมกับการปักมือโดยการสานเส้นไหมเป็นลวดลายต่างๆ นอกจากนี�ยังได้มีการกำหนดพื�นที�ว่างในผลงานโดยจัดวางกระจาย เป็นพื�นที�โปร่งที�เกิดจากการปักเส้นไหมพรมด้วยมือแล้วฉลุผ้าพื�นออก เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ในผลงาน สามารถนำไปต่อยอดกับการสร้างสรรค์ผลงานในอนาคตได้ โดย การสร้างสรรค์ในครั�งนี�ทำให้พบว่าไหมพรมเป็นวัสดุที� น่าสนใจ มีหลากหลาย ชนิดสามารถนำเสนอพื�นผิวฟูนุ่มได้ ดี แต่ขาดง่าย มีเส้นใยที�ฟุ้งกระจาย จ่ง ควรระมัดระวังในการสร้างสรรค์ครั�งต่อไป อีกทั�งผลงานในครั�งนี�เต็ มไปด้ วยสีโทนร้อน ในครั�งต่อไปจ่งควรเพิ�มกลุ่มสีเย็นหรือสีที�หลากหลาย เพื�อให้ผลงานน่า สนใจมีความสมดุลและอาจถ่ายทอดสุนทรียะสู่ผู้ชมได้ ดีข่�น 80 x 80 ซม. | ปักไหมพรม
170 | FACULTY Garden of Eden ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมตตา สุวรรณศร | [email protected] สาขาวิชาทัศนศิลป์ วิทยาลัยช่างศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ งานหัตถกรรมมีส่วนสำคัญในชีวิต เป็นปัจจัยที�ใช้ตอบสนองการใช้สอยภายใน ครัวเรือน เครื�องนุ่งห่ม จนพัฒนาไปสู่การนำมาใช้ตกแต่งอาคารบ้านเรือนให้งดงาม จนท้ายที�สุดสามารถยกระดับกลายเป็นผลงานศิลปะหัตถกรรมที�สามารถนำมา เพิ�มมูลค่าได้อย่างน่าสนใจให้กับงานปักผ้าในรูปแบบโบราณ นำมาพัฒนาเป็น ลายปักผ้าแนวศิลปะร่วมสมัย การสร้างสรรค์ครั�งนี�มีวัตถุประสงค์ 1) เพื�อสร้าง สรรค์ผลงานในหัวข้อ “งานปักครอสติชประยุกต์ร่วมกับงานถักโครเชต์ที�ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากสีของดอกไม้ในธรรมชาติ” 2) เพื�อสร้างสรรค์ผลงานในเทคนิค ปักครอสติชในรูปแบบอิสระนำมาประยุกต์ร่วมกับงานถักโครเชต์ให้เป็นงาน ศิลปะที�มีลักษณะเฉพาะตน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงาน หัตถกรรมจากเส้นใยให้เกิดเป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยและเผยแพร่ผลงานออกสู่ สาธารณชน เทคนิคปักครอสติชมีที�มาจากภาษาอังกฤษคือ Cross-Stitch ซ่�งจะเป็นลักษณะ รูปแบบการปักด้ายเป็นรูปตัว X ไขว้กันอย่างประณีต เรียงไปในทิศทางเดียวกัน อย่างสม�ำเสมอ ผู้สร้างสรรค์จ่งนำเทคนิคปักครอสติชมาประยุกต์ให้มีความอิสระ ในการปัก ไม่ติดย่ดกับรูปแบบเดิมทำให้เกิดความงามบนผืนผ้าที�แตกต่างทั�งพื�นผิว สีสัน ลวดลาย สามารถสอดแทรกความรู้ส่กลงบนผืนผ้าได้อย่างอิสระ เป็นการ สร้างสรรค์ผลงานปักในทิศทางที�ไม่มีข้อกำหนดที�ตายตัว นอกจากนั�นการนำเทคนิคงานถักโครเชต์มาสร้างสรรค์ร่วมกันทำให้เกิดผลงานที�แตกต่างจากการปักแบบ ดั�งเดิมที�ปรากฏมาก่อน และสามารถแสดงออกถ่งความประทับใจในสีสันของ ดอกไม้ในธรรมชาติ ที�บริสุทธิ� งดงาม เบิกบานใจ ให้เกิดเป็นผลงานปักร่วมสมัย ในรูปแบบจิตรกรรมนามธรรม ที�พยายามค้นหากระบวนการ ขั�นตอนที�แปลกใหม่ 90 x 100 ซม. | ปักครอสติซ ถักโครเชต์ ปักไหมพรมอิสระ และแตกต่างจากที�เคยมีมาก่อนเพื�อสร้างผลงานที�มีเอกลักษณ์เฉพาะตน อันนำ มาซ่�งความพิเศษของผืนผ้า เกิดชิ�นงานที�สร้างแนวทางใหม่ให้ผู้สนใจสามารถนำ เทคนิคปักครอสติชอิสระร่วมกับงานถักโครเชต์นี�ไปพัฒนาต่อยอดเพื�อยกระดับ ผลงานหัตถกรรมแบบเก่าเป็นผลงานศิลปะที�ทรงคุณค่าและเป็นที�ยอมรับ งานปักครอสติชที�ผู้สร้างสรรค์ทำการศ่กษานั�นเป็นงานปักครอสติชมาตรฐานนี� ต้องใช้อุปกรณ์ คือเข็มและด้าย ไหมพรม ที�ต้องปักลงบนผ้าที�เป็นตารางที�กำหนด สีไว้ และต้องใช้สมาธิในการดูช่องตารางอย่างมาก เพราะหากไม่ปักไปตามตาราง สีที�เป็นต้นแบบที�กำหนด จะทำให้ผิดแบบ ขาดความสวยงามทันที ต้องทำการแก้ไข โดยการตัดด้ายทิ�งและทำการปักลงไปใหม่ สร้างความเครียด ทำให้ขาดอิสระใน การคิด ผู้สร้างสรรค์นั�นเริ�มสนใจเทคนิคการปักครอสติชว่าสามารถใช้เส้นใย แทนค่าสี เกิดพื�นผิวภาพที�เต็มไปด้วยสีสันที�แปรเปลี�ยนเป็นภาพที�เต็มไปด้วยความ เคลื�อนไหวไม่หยุดนิ�ง โดยการปักเส้นใยเส้นเล็กๆ สีสดใส นี�จะผสานกันในสายตา ของผู้ดู มากกว่าการผสมสีอันเกิดจากการผสมบนจานสี เกิดการผสมสีด้วยม่านตา ซ่�งเมื�อสังเกตผลงานปักครอสติชเราจะเห็นว่าคล้ายการค่อยๆ แต้มสีทีละจุด ด้วยการใช้เส้นใยเรียงต่อกันเป็นจำนวนมาก ก่อเกิดกลุ่มของสีเส้นใย กลายเป็น รวมตัวกันเกิดเป็นภาพ จ่งทำให้ผู้สร้างสรรค์เลือกเทคนิคปักครอชติชมาสร้างสรรค์ ต่อยอดนำไปพัฒนาเทคนิคทางงานหัตถกรรม ทำให้งานปักครอสติชมาตรฐาน สามารถนำมาพัฒนาเป็นลายปักผ้าแนวศิลปะ เพื�อเพิ�มมูลค่าได้อย่างน่าสนใจ จนสามารถเป็นอาชีพสร้างผลิตภัณฑ์ให้กับงานปักผ้าสามารถสร้างให้กลายเป็น เทคนิคหน่�งที�คนรักศิลปะและศิลปินจะหันมาสนใจ นำไปใช้เป็นกระบวนการทาง เทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานอีกแนวทางหน่�ง
| 171 ผลงานสร้างสรรค์ของคณาจารย์คณะมัณฑนศิลป์ ร่วมแสดงโดยไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
172 | จั่ว อาจารย์ประธาน เลิศงาม | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 60 ซม. | พิมพ์ภาพแคนวาส การถ่ายทอดลักษณะไทยอย่างง่าย ผ่านแนวศิลปะแบบ POP ART +U 2 อาจารย์ ดร.พสุ จารุศิริ | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 60 x 42 ซม. | Computer program rendering การออกแบบชุดเครื�องเรือน ที�ได้นำเอาองค์ความรู้จากการทำการศ่กษา และ ผสมผสานกันของสัดส่วนทองคำ (Golden ratio) และสัดส่วนเงิน (Silver ratio) ทำให้เกิดแนวความคิดและองค์ประกอบความเป็นไปได้ในรูปลักษณะใหม่ โดย ได้นำการผสมผสานสัดส่วนที�เกิดข่�น ภายได้ชื�อ สัดส่วน ยู (U ratio) มาใช้เป็น องค์ประกอบหลักในงานออกแบบเครื�องเรือนใช้สำหรับนั�งชิ�นนี� โดยวัสดุในงาน สร้างเครื�องเรือน +U2 ทำมาจากไม้วอลนัทซ้อนแผ่น (เทคนิค Laminated wood veneer) และ แบสวู้ด ในลักษณะไม้ท่อน ในส่วนของพนักพิงถูกออกแบบโดย วัสดุโลหะข่�นรูป ทำสีเมทาลิท มีการเจาะรูให้เหมาะสมสำหรับการเคลื�อนย้าย
| 173 #A51931 อาจารย์พัฒนา เจริญสุข | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 40 x 40 ซม. | สื�อผสม พลัง Garden. 2023 (กระทือ) อาจารย์ภาคย์ธิร์วัฒน์ บุญมี | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 45 x 60 ซม. | สีน�ำ นำเสนอความเรียบง่ายของการดำรงวิถีชีวิต การทำสวน อยู่แบบพ่�งพาตนเอง โดยถ่ายทอดผลงานเทคนิคสีน�ำบนกระดาษจากต้นแบบที�ปลูกเอง
174 | โครงการออกแบบอุโบสถวัดไทยถํา้เอลโลร่า ณ เมืองออรังกาบาด แคว้นอัสกะ รัฐมหาราษฏร์ สาธารณรัฐอินเดีย อาจารย์สมบัติ วงศ์อัศวนฤมล | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 90 ซม. | Sketch up modelแรงบันดาลใจจากวิหารถ�ำเจติยะ หมายเลข ๑๐ แห่งเอลโลร่า ถ่ายทอดความคิด ความรู้ส่กผ่านงานออกแบบสถาปัตยกรรมอุโบสถไทยแห่งแรก ณ วัดไทยถ�ำ เอลโลร่า เมืองออรังกาบัด รัฐมหาราษฏร์ (แคว้นอัสสกะ) สาธารณรัฐอินเดีย เพื�อถวายเป็นพุทธบูชา ฐาตุ จีรัง สะตัง ธัมโม “ขอพระสัทธรรม พระสัมมา สัมพุทธเจ้า จงสถิตย์สถาพรตลอดไป” เทอญฯ Office Lobby Design อาจารย์สลิล สมัครพงศ์ | [email protected] ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 42 x 90 ซม. | Furniture Layout Plan & Perspectives Blue On Blue
| 175 Frühling (วสนฺตฤดู) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เตือนฤดี รักใหม่ | [email protected] ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 30.48 x 25.4 ซม. | ภาพถ่าย แนวปะทะของไออุ่นค่อยๆ คืบคลานแทนที�ความหนาวเย็น สีแห่งวสนฺตฤดูปลุก เร้าอารมณ์สุนทรียะให้รับรู้ได้ถ่งการยื�อยุดระหว่างทุ่งเรพซีด (Rapeseed) กับ ฟากฟ้า รูปทรงนัยของวัตถุทางธรรมชาติถูกถ่ายทอดผ่านพื�นที�สีเหลืองและสีฟ้า ในฐานะรูปทรงทางศิลปะซ่�งเป็นสิ�งที�จบสิ�นและมีความหมายในตัวเอง แบบสาน อาจารย์ศรีนาฎ ไพโรหกุล | [email protected] ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 9 x11 ซม. จำนวน 4 ชิ�น | งานตัดเลเซอร์/งานสาน การนำแบบแผ่นคลี�มารวมกับวิธีการสานขัดกันเพื�อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ซองใส่ ของขนาดเล็กและเกิดเป็นลวดลาย นำมาเพิ�มมิติของพื�นผิวด้วยการออกแบบชิ�น ส่วนเพิ�มเติมที�ใส่เพิ�มในขั�นตอนการสาน มีการใช้เทคโนโลยีการตัดงานด้วย เครื�องเลเซอร์แล้วนำมาผสมผสานกับแนวคิดงานหัตถกรรมจักสานแล้วสร้างเป็นผลงานต้นแบบ
176 | หญิงสาว ผู้ช่วยศาสตราจารย์เนติกร ชินโย | [email protected] ภาควิชาประยุกตศิลปศ่กษา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 50 ซม. | สีน�ำมันบนผ้าใบ ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรม Love ผู้ช่วยศาสตราจารย์สหเทพ เทพบุรี | [email protected] ภาควิชาประยุกตศิลปศ่กษา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 40 x 42 x 45 ซม. | ไฟเบอร์กลาส โลหะ ความอิสระจากความจริง เป็นความสุขที�เกิดจากภายใน
| 177 รําลึก ศ.ศิลป์พีระศรี รองศาสตราจารย์กรธนา กองสุข | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 18 ซม. | ปูนปลาสเตอร์ ต้นแบบจำลองและฐานรูปเหมือน เป็นที�ระล่กถ่งความสำคัญของบุคคล และบอก ถ่งช่วงเวลาในอดีตที�เกี�ยวข้องเชื�อมโยงถ่งปัจจุบันเพื�อแสดงออกถ่งความเคารพ ศรัทธาต่อ ศ.ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย Birds In The Greenland อาจารย์ไกรสร ลีสีทวน | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 20 x 10 ซม. | Throwing, Engobe White Clay, Paint Underglaze Color, Glass Lampworking ธรรมชาติ ที�ขาดหายไปในสังคมเมือง
178 | ทวารวเดียร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธาตรี เมืองแก้ว | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 55 x 150 x 115 ซม. | ข่�นรูปด้วยปูนปั�นตกแต่งด้วยกระเบื�องโมเสค ผลงานชิ�นนี�สร้างสรรค์ภายใต้โครงการสร้างสรรค์ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัย กับสิ�งแวดล้อมในพื�นที�ชุมชนนครปฐม “นครปฐม Art Fest 2023” โดย คณะ มัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนใน จังหวัดนครปฐม วัตถุประสงค์เพื�อส่งเสริมการท่องเที�ยวแหล่งเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรม ร่วมสมัยกับสิ�งแวดล้อมในพื�นที�สาธารณะ โดยผลงานชิ�นนี�ได้แรงบันดาลใจมาจาก กวางหินแกะสลักในสมัยทวารวดี พุทธศตรรษที� 12 จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ผลงานชิ�นนี�มีการสร้างสรรค์และตกแต่งด้วยวัสดุร่วมสมัย แนวความคิดในการสร้างสรรค์เพื�อนำอัตลักษณ์ที�มีมาแต่อดีตของศิลปะทวารวดีคือธรรมจักรและกวางหมอบซ่�งเป็นศิลปะวัตถุที�ขุดพบในพื�นที�จังหวัดนครปฐม แต่ปัจจุบันไม่มีให้พบเห็นแล้ว จ่งอยากสร้างผลงานที�แสดงสัญลักษณ์ถ่งเหง้า วัฒนธรรมที�มีมาแต่เดิมในพื�นที�แห่งนี�ผลงานชิ�นนี�ติดตั�งถาวรบริเวณทางแยก หน้าประตูทางเข้าองค์พระปฐมเจดีย์ทางทิศตะวันตก เพื�อส่งเสริมการท่องเที�ยว แหล่งเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยกับสิ�งแวดล้อมและส่งเสริมความมีสุนทรียะ ในพื�นที�ชุมชน ตะเกียง Lamplight ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรรณณา ธิธรรมมา | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 7 x 11 ซม., 7 x 14 ซม. | Wheel throwing, Hand built, White semi matt glaze 1250 ‘c มนุษย์เอาชนะความมืดด้วยการจุดไฟ ก่อกองไฟ ตะเกียงดินเผาเป็นอีกหน่�งใน วิวัฒนาการของการออกแบบสร้างสรรค์เครื�องใช้ให้แสงสว่างในที�พักอาศัย ใช้ในงานประเพณี พิธีกรรมบูชาสิ�งศักดิ�สิทธิ�ต่างๆ ตามความเชื�อจนถ่งปัจจุบัน
| 179 คืน จันทร์ รองศาสตราจารย์สยุมพร กาษรสุวรรณ | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 30 x 30 x 15 ซม. | การข่�นรูปด้วยพิมพ์อัด เผาอุณหภูมิ 1,220 องศาเซลเซียส นำรูปทรงของลูกจันทร์ที�อิ�มเอิบสมบูรณ์ มาสร้างสรรค์งานในบรรยากาศที�คล้าย พระจันทร์ยามค�ำคืน Chain รองศาสตราจารย์สืบพงศ์ เผ่าไทย | [email protected] ภาควิชาเครื�องเคลือบดินเผา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 32 x 35 x 22 ซม. | Mailing casting
180 | The leafe in the air รองศาสตราจารย์ปนท ปลื�มชูศักดิ� | [email protected] ภาควิชาการออกแบบเครื�องแต่งกาย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 80 ซม. | สีอะครีลิกเเละสีไม้บนกระดาษ ความสุข ความงดงาม ในบรรยากาศที�คุ้นเคย man-flower Seree Thianjalee | [email protected] ภาควิชาการออกแบบเครื�องแต่งกาย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 80 x 80 cm. | Acrylic on canvas The life’s beginning,we are alone growing,living,working,it’s usual of dairy day,happiness and sadness is like a couple of of life.We walk trough the light and face the darkness and meet the sunlight again. The colorful flower bloom when sunshine .A few day later,the bright color become fade and fallen on the ground.It ‘s normal for human being.From the sky at the beginning and finally to the ground.
| 181 ศาสตราจารย์ศิลป์พีระศรี อาจารย์ภูษิต รัตนภานพ | [email protected] ภาควิชาออกแบบเครื�องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 24 x 30 x 32 ซม. | ข่�นรูปด้วยมือ เคลือบใส เผาที�อุณหภูมิ 1,200 ้C แสดงความเคารพและระล่กถ่ง ศาลตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ผู้ก่อตั�งมหาวิทยาลัย ศิลปากร และคณบดีคณะมัณฑนศิลป์คนแรก Japan in my mind ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุกูล บูรณประพฤกษ์ | [email protected] ภาควิชาการออกแบบเครื�องแต่งกาย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 17 x 19 inch Series of 2 | Film Photography, Cyanotype on Watercolor paper. Memory of my journey is often kept in the form of photographs. I prefer recording my photographs in the traditional way of film. Unlike digital photography, film photography excites me with the anticipation. It is sentimental and meaningful. Japan is a unique country. The culture, the landscape, the language, are very interesting. I arrived in Japan with a warm welcome and we were served food in a wooden box called “Bento”. The box is divided into little squares to separate different types of food. It was very nice and neat. I present my photographs by putting them in the wooden boxes, a reminiscence of the Bento. I added some Japanese texts that I collected from the places I visited. These series of photographs are my memento.
พวกเธอต้องเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ก่อน แล้วจ่งเรียนศิลปะ ศิลป์ พีระศรี (2435 - 2505)