ความนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้เป็น
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ เม่ือวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 เร่ิมใช้ในโรงเรียนต้นแบบการใช้หลักสูตรและ
โรงเรียนท่ีมีความพร้อมในปีการศึกษา2552 และเร่ิมใช้ในโรงเรียนท่ัวไปปีการศึกษา2553 สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยสำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษาได้ดำเนินการติดตามผลการนำ
หลักสูตรไปสูก่ ารปฏิบัติอยา่ งต่อเน่ืองในหลายรูปแบบ ท้ังการประชุมรับฟังความคิดเห็น การนเิ ทศการติดตาม
ผลการใช้หลักสูตรของโรงเรียน การรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซด์ของสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
รายงานผลการวิจัยของหน่วยงานและองค์กรที่เก่ียวขอ้ งกับหลักสูตรและการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ผลจากการศึกษา พบว่า หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช
2551 มีข้อดใี นหลายประการ เชน่ กำหนดเปา้ หมายการพฒั นาไวช้ ดั เจน มีความยึดหยนุ่ พียงพอให้สถานศึกษา
บริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาได้ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากการนำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช2551 สู่การปฏิบตั ิในสถานศึกษาและในหอ้ งเรียน
นอกจากน้ีการศึกษาข้อมูลทิศทางและกรอบยุทธศาสตรข์ องแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ
ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) ซ่ึงเกิดขึ้นในช่วงเวลาของการปฏิรูปประเทศและสถานการณ์โลกที่
เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและเช่อื มโยงใกล้ชิดกนั มากข้นึ โดยจดั ทำบนพืน้ ฐานของกรอบยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี
(พ.ศ.2560 – 2579) ซึ่งเป็นแผนหลักของการพัฒนาประเทศ และเป้าหมายของการพัฒนาท่ียั่งยืน
(Sustainable Delvelopment Goal : SDGs) แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 รวมท้ังการปรับ
โครงสร้างประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งยุทธศาสตร์ทจี่ ะใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาในระยะ 20 ปีต่อ
จากนี้ ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์ด้านความม่ันคง (2) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้าง
ความสามารถในการแข่งขัน (3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน (4) ยุทธศาสตร์ด้านการ
สร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม (5) ยุทธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวิต
ท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ (6) ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
เพ่ือม่งุ สวู่ ิสัยทัศน์และทิศทางการพัฒนาประเทศ “ความม่ันคง ม่ังคั่ง ยั่งยืน” เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการ
พฒั นาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ประเด็นสำคัญเพื่อแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดขึ้นผลสัมฤทธิ์ได้อย่างแท้จริงตามยุทธศาสตร์การ
พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน คือ การเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนและการสร้างเสริมศักยภาพของ
ประชากรในทกุ ช่วงวัย มงุ่ เนน้ การยกระดบั คุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศโดยพัฒนาคนใหเ้ หมาะสมตามช่วงวัย
เพื่อให้เติบโตอยา่ งมีคุณภาพ การพฒั นาทกั ษะท่สี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการในตลาดแรงงานและทกั ษะทจี่ ำเป็น
ต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตามความเหมาะสม การเตรียมความพร้อม ของ
กำลงั คนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ี่จะเปล่ียนแปลงในอนาคต ตลอดจนการยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาสู่
ความเปน็ เลศิ
หลกั สตู รโรงเรยี นคงทองวิทยา 1
ดังนั้น เพ่ือให้การขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ชาติ เพ่ือเตรียมความพร้อมคนให้สามารถปรับตัวรองรับ
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงได้อย่างเหมาะสม กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจงึ กำหนดนโยบายสำคัญและเร่งดว่ นให้
มกี ารปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รวมทั้งเทคโนโลยี
ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนินการปรับปรุง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และสาระเทคโนโลยีในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และมอบหมายให้สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการปรับปรุงสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม ทั้งนี้ การดำเนินงานประกาศใช้หลักสูตรยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
การปรับปรงุ หลักสตู รครง้ั น้ี ยังคงหลักการและโครงสร้างเดิมโดยปรับเปลยี่ นบางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) คือ
ประกอบด้วย 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพ และ
ภาษาต่างประเทศ แต่มุ่งเน้นการปรับปรุงเน้ือหาให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปล่ียนแปลงและความ
เจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่างๆ คำนึงถึงการให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21
เป็นสำคัญ เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ พร้อมท่จี ะประกอบอาชีพ เมือ่ จบการศึกษา หรือ
สามารถศึกษาต่อในระดับท่ีสงู ข้นึ สามารถแขง่ ขันและอยรู่ ่วมกับประชาคมโลกได้
กรอบในการปรับปรุง คือ ให้มีองค์ความรู้ท่ีเป็นสากลเทียบเท่านานาชาติ ปรับมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน สอดคล้องและเช่ือมโยงกันภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และ
ระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตลอดจนเชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เข้า
ด้วยกัน จัดเรียงลำดับความยากง่ายของเน้ือหาในแต่ละระดับช้ันตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัย ให้มีความ
เช่อื มโยงความรูแ้ ละกระบวนการเรยี นรู้ โดยให้เรียนรผู้ า่ นการปฏบิ ตั ทิ ่สี ง่ เสริมให้ผเู้ รยี นพัฒนาความคดิ
สาระสำคัญของการปรบั ปรุงหลกั สตู ร มดี งั น้ี
1. กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
1.1จัดกลุ่มความรู้ใหม่และนำทักษะกระบวนการไปบูรณาการกับตัวช้ีวัด เน้นให้ผู้เรียนเกิดการคิด
วิเคราะห์ คดิ แก้ปัญหา และมที ักษะในศตวรรษท่ี 21
1.2 ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด
สำหรบั ผู้เรยี นทุกคน ที่เป็นพน้ื ฐานท่ีเกี่ยวข้องกบั ชีวิตประจำวัน และเปน็ พื้นฐานสำคัญในการศึกษาตอ่ ระดับที่
สูงขน้ึ
1.3 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดเฉพาะเจาะจงแยกส่วน
ระหว่างผู้เรียนท่ีเลือกเรียนในแผนการเรียนท่ีไม่เน้นวิทยาศาสตร์ และแผนการเรียนท่ีเน้นวิทยาศาสตร์
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 2
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดในส่วนของแผนการเรียนท่ีไม่เน้นวิทยาศาสตร์ เป็นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ
ชีวิตประจำวัน และการศึกษาต่อระดับท่ีสูงขึ้น ส่วนมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของแผนการเรียนท่ีเน้น
วิทยาศาสตร์ ผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาส่งเสริมให้มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ด้านคณิตศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องลึกซึ้ง และกวา้ งขวางตามศักยภาพของตนเองให้มากท่ีสุด อันจะเป็นพนื้ ฐานสู่ความเป็น
เลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ ศึกษาต่อในวิชาชีพทีต่ อ้ งใช้วิทยาศาสตรไ์ ด้
1.4 ปรบั จากตัวชว้ี ดั ชว่ งชั้นในระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 – 6 เป็นตวั ชว้ี ัดช้นั ปี
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้เพ่ิมสาระเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยการออกแบบและ
เทคโนโลยี และวิทยาการคำนวณ ท้ังนี้เพื่อเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทางคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กบั กระบวนการเชิงวิศวกรรม ตามแนวคดิ สะเตม็ ศึกษา
3. สาระภูมิศาสตร์ ซ่งึ เปน็ สาระหน่ึงในกล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ยังคง
มาตรฐานการเรียนรู้เดิม แต่ปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีวัดให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพัฒนาการ
ตามช่วงวัย มอี งคค์ วามรเู้ ปน็ สากล เพมิ่ ความสามารถ ทกั ษะ และกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ท่ชี ัดเจนขนึ้
เอกสารมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ จัดทำข้ึน สำหรับสถานศึกษาได้นำไปใช้เป็น
กรอบและทิศทางในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและจัดการเรยี นการสอน เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย
ทุกคนในระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานให้มีคณุ ภาพด้านความรู้ และทกั ษะทจี่ ำเป็นสำหรับการดำรงชวี ิตในสังคมท่ี
มกี ารเปล่ียนแปลง นอกจากน้ีมมี าตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดท่กี ำหนดไว้ในเอกสารน้ี จะช่วยให้ผู้ท่ีเก่ยี วข้อง
ใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้อย่าง
แทจ้ รงิ
วสิ ัยทัศน์โรงเรียนคงทองวิทยา
“โรงเรียนคงทองวิทยาเปน็ สถานศึกษาระดับมาตรฐานสากล บนพื้นฐานวถิ พี ทุ ธคุณธรรม
น้อมนาํ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เคียงคคู่ วามเป็นไทย”
พนั ธกจิ
โรงเรียนคงทองวิทยา มุ่งมั่นจะดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์โดยการประสานความร่วมมือเพ่ือ
ตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจของผ้ปู กครองและชุมชน โดยดำเนนิ การดงั นี้
1) พฒั นานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นทส่ี งู ขน้ึ มคี วามสามารถ
ในการใชภ้ าษาท่ี 2 ในการส่ือสาร และมีความคิดสรา้ งสรรค์ในการสร้างผลงาน
2) พัฒนาโรงเรยี นให้มีหลักสตู รสถานศกึ ษาทีม่ คี ณุ ภาพเทยี บเคยี งมาตรฐานสากล
หลกั สูตรโรงเรยี นคงทองวิทยา 3
3) พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาใหไ้ ดร้ ะดบั การพฒั นาทางวิชาชีพ จัดกระบวนการเรียนรโู้ ดย
ใช้เทคโนโลยีและนวตั กรรมมคี ณุ ภาพอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเทียบเคยี งมาตรฐานสากล
4) ส่งเสริมสนับสนนุ ให้นกั เรยี นมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม มีวนิ ยั ในตนเอง รกั ความเป็นไทย มคี วาม
รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
5) ส่งเสริมสนบั สนนุ ความรว่ มมือระหวา่ งชุมชนสรา้ งเครือขา่ ยระดบั องค์กรทงั้ หน่วยงาน
ภายในประเทศและต่างประเทศเพ่อื พัฒนาคุณภาพการศึกษา
6) พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการศกึ ษาดว้ ยระบบคุณภาพ การมสี ่วนร่วมการกระจายอํานาจเพ่ือพัฒนา
คณุ ภาพการศกึ ษา ครู บคุ ลากรและนักเรยี น
วสิ ยั ทัศนห์ ลักสตู รแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มี
ความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและ เป็นพลโลก ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมทง้ั เจตคติ
ทีจ่ ำเป็นต่อการศกึ ษา ต่อการประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพ้ืนฐาน
ความเชอ่ื วา่ ทกุ คนสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
หลักการ
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน มีหลักการทส่ี ำคญั ดังน้ี
1. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจดุ หมายและมาตรฐานการเรยี นรู้ เป็น
เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ทักษะเจตคติ และคุณธรรมบนพ้ืนฐานของความเป็นไทย
ควบค่กู บั ความเปน็ สากล
2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี
คุณภาพ
3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้
สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของท้องถน่ิ
4. เปน็ หลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสรา้ งยดื หยนุ่ ทง้ั ด้านสาระการเรยี นรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้
5. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาทีเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ
6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุม่ เปา้ หมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์
หลักสูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 4
จดุ หมาย
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มี
ศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกบั ผู้เรียนเมื่อจบการศึกษา
ขนั้ พน้ื ฐาน ดังน้ี
1. มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พงึ ประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มีวนิ ัยและปฏิบตั ิตนตาม
หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. มีความรู้ ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และ มีทกั ษะชีวิต
3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ดี ี มีสขุ นิสัย และรกั การออกกำลังกาย
4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลกยึดม่ันในวถิ ีชีวิต และการปกครอง
ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข
5. มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนรุ กั ษ์และพัฒนาสิ่งแวดลอ้ ม มีจิต
สาธารณะท่มี งุ่ ทำประโยชน์และสร้างสง่ิ ทีด่ งี ามในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่างมีความสขุ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานท่ีกำหนด ซงึ่ จะชว่ ยให้ผเู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสำคัญและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดงั นี้
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ม่งุ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรม ในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด
ปญั หาความขดั แย้งต่าง ๆ การเลือกรบั หรอื ไม่รบั ข้อมลู ขา่ วสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการ
เลอื กใชว้ ิธกี ารส่ือสาร ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพ่อื การตดั สนิ ใจเกีย่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั และแก้ไข
ปัญหา และมีการตัดสนิ ใจท่ีมีประสิทธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น ตอ่ ตนเอง สังคมและสง่ิ แวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ดำเนินชีวิตประจำวนั การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เน่ือง การทำงาน และการอยรู่ ว่ มกันใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
หลกั สตู รโรงเรียนคงทองวทิ ยา 5
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียง
พฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทำงาน การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้
สามารถอยรู่ ่วมกบั ผ้อู ืน่ ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซือ่ สัตย์สจุ รติ
3. มวี ินัย
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6. มุ่งม่นั ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มีจติ สาธารณะ
นอกจากน้ี สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์เพม่ิ เตมิ ให้สอดคลอ้ งตามบรบิ ทและ
จดุ เนน้ ของตนเอง
มาตรฐานการเรียนรู้
การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน จึงกำหนดใหผ้ ้เู รียนเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ดงั นี้
1. ภาษาไทย
2. คณติ ศาสตร์
3. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
5. สุขศกึ ษาและพลศึกษา
6. ศิลปะ
7. การงานอาชพี
8. ภาษาตา่ งประเทศ
ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒน า
คุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุส่ิงที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม ท่ีพึง
ประสงค์เมื่อจบการศึกษาข้ันพื้นฐาน นอกจากน้ันมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคล่ือน
พัฒนาการศึกษาท้ังระบบ เพราะมาตรฐานการเรยี นรจู้ ะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และ
หลกั สตู รโรงเรยี นคงทองวทิ ยา 6
ประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเคร่อื งมือในการตรวจสอบ เพ่ือการประกันคุณภาพการศกึ ษาโดยใช้ระบบ
การประเมนิ คณุ ภาพภายในและการประเมนิ คุณภาพภายนอก ซ่ึงรวมถึงการทดสอบระดับเขตพน้ื ท่ีการศึกษา
และการทดสอบระดบั ชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดงั กล่าวเป็นส่ิงสำคญั ทีช่ ่วยสะท้อนภาพ
การจัดการศึกษาว่าสามารถพฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ภาพตามท่ีมาตรฐานการเรยี นรู้กำหนดเพยี งใด
ตัวชีว้ ัด
ตวั ชี้วัดระบุสิ่งท่ีนักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผ้เู รียนในแต่ละระดับช้ัน ซึ่งสะท้อน
ถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มคี วามเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรมนำไปใช้ในการกำหนดเน้ือหา จดั ทำหน่วย
การเรียนรู้ จัดการเรยี นการสอน และเปน็ เกณฑส์ ำคัญสำหรบั การวัดประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผเู้ รียน
1. ตัวชี้วัดช้ันปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ
(ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 – มธั ยมศึกษาปที ี่ 3)
2. ตัวชี้วัดช่วงชน้ั เป็นเปา้ หมายในการพฒั นาผู้เรยี นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4 - ม.6)
หลักสูตรได้มีการกำหนดรหัสกำกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด เพ่ือความเข้าใจและให้ส่ือสาร
ตรงกัน ดังน้ี
ว 1.1 ป. 1/2 ตวั ชี้วัดช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 ขอ้ ที่ 2
ป.1/2 สาระท่ี 1 มาตรฐานข้อที่ 1
1.1 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
ว
ต 2.2 ม.4-6/ 3 ตัวช้วี ัดชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ข้อที่ 3
ม.4-6/3 สาระท่ี 2 มาตรฐานขอ้ ที่ 2
2.2
หลกั สูตรโรงเรยี นคงทองวิทยา 7
ความสัมพนั ธข์ องการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
วสิ ัยทัศน์
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลงั ของชาติ ให้เป็นมนุษยท์ ่มี ีความสมดุลท้งั ดา้ น
ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็ นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมนั่ ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข มีความรู้และทกั ษะพ้ืนฐาน รวมท้งั เจตคติที่จาเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพ และ
การศึกษาตลอดชีวติ โดยมุ่งเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั บนพืน้ ฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
จุดหมาย
1. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมทพ่ี งึ ประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มวี ินยั และปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือ
ศาสนาที่ตนนับถอื ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. มีความรู้อันเปน็ สากลและมคี วามสามารถในการสือ่ สาร การคดิ การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี และมที กั ษะชวี ิต
3. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีดี มสี ขุ นสิ ัย และรักการออกกำลงั กาย
4. มคี วามรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มนั่ ในวถิ ีชวี ิตและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมี
พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข
5. มจี ติ สำนกึ ในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย การอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม มจี ติ สาธารณะท่ีมุ่งทำประโยชน์ และสร้าง
ส่ิงทดี่ งี ามในสงั คม และอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอย่างมคี วามสุข
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต
2. ความสามารถในการคดิ 3. มีวนิ ัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5 อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่ง ม่นั ในการทำงาน
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ
มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชว้ี ดั 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วทิ ยาศาสตร์ 1. กจิ กรรมแนะแนว
4. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2. กิจกรรมนกั เรยี น
5. สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 6. ศลิ ปะ 3. กิจกรรมเพ่ือสงั คม และสาธารณ
7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ประโยชน์
8. ภาษาต่างประเทศ
คณุ ภาพผู้เรยี น ระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน
หลกั สตู รโรงเรียนคงทองวทิ ยา 8
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
ภาษาไทย
สาระท่ี 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชวี ิต และมนี ิสยั รักการอ่าน
สาระท่ี 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราว
ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสวงความรู้ ความคิด ความรู้สึก
ในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และสร้างสรรค์
สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษา และหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และ
พลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่า
และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ
คณติ ศาสตร์
สาระที่ 1 จำนวน และพีชคณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวนผลท่ีเกิดขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนนิ การ และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ น้ั ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาที่
กำหนดให้
หมายเหตุ: มาตรฐาน ค 1.3 สำหรบั ผู้เรียนในระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 - 6
สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกีย่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทตี่ อ้ งการวัด และ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรปู
เรขาคณิตและทฤษฏีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.3 เขา้ ใจเรขาคณติ วเิ คราะห์ และนำไปใช้
หลกั สูตรโรงเรยี นคงทองวทิ ยา 9
มาตรฐาน ค 2.4 เขา้ ใจเวกเตอร์ การดำเนนิ การของเวกเตอร์ และนำไปใช้
หมายเหตุ: 1. มาตรฐาน ค 2.1 และ ค 2.2 สำหรบั ผู้เรียนในระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ถึงระดบั ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
2. มาตรฐาน ค 2.3 และ ค 2.4 สำหรับผู้เรยี นในระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 – 6 ท่ีเน้น
วทิ ยาศาสตร์
สาระที่ 3 สถิตแิ ละความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรูท้ างสถิตใิ นการแกป้ ญั หา
มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลักการนบั เบือ้ งต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้
หมายเหตุ: มาตรฐาน ค 3.2 สำหรับผู้เรยี นในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 – 6
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ ไม่มชี ีวิตกบั ส่ิงมีชีวิต
และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปล่ียนแปลง
แทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่ อทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ๎ ขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำความสำเร็จ
ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออก
จากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน
รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร
พนั ธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมทม่ี ผี ลต่อส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวฒั นาการของ
สิ่งมชี วี ติ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสมบัติของสสาร
กบั โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ
เคลอ่ื นทแ่ี บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรไ๎ู ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ยี นแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏสิ ัมพันธ์
ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจาวนั ธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ทเี่ กี่ยวข้องกับเสียง แสง
และแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำประโยชนไ์ ปใช้ประโยชน์
หลกั สตู รโรงเรยี นคงทองวิทยา 10
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการคิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี
ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบและความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายใน
โลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟูา อากาศและภูมิโลก รวมท้ังผลต่อชีวิตและ
สิง่ แวดล้อม
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพอื่ การดำรงชีวติ ในสงั คมทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงอยำง
รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อ่ืนๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดย
คำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม
สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือ
ศาสนาทีต่ นนับถือ และศาสนาอ่ืน มศี รัทธาท่ีถกู ต้อง ยดึ มัน่ และปฏิบัตติ ามหลักธรรม เพอื่ อยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ติ
สขุ
มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนัก และปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาทต่ี นนับถอื
สาระท่ี 2 หน้าทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธำรง
รักษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทย และสังคมโลกอย่างสนั ติสุข
มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยดึ มั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้
ซ่งึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข
สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้
ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกดั ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่า รวมทง้ั เขา้ ใจหลักการของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง เพอ่ื การดำเนนิ ชวี ติ อยา่ งมีดุลยภาพ
หลกั สตู รโรงเรียนคงทองวทิ ยา 11
มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ความสมั พันธท์ างเศรษฐกจิ และความ
จำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้
วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ า่ งๆ อย่างเปน็ ระบบ
มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจากอดตี จนถึงปัจจุบัน ในดา้ นความสัมพันธ์ และ
การเปล่ยี นแปลงของเหตุการณอ์ ย่างตอ่ เน่อื ง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่เี กดิ ขนึ้
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ
และธำรงความเป็นไทย
สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์
มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง ซง่ึ มีผล
ตอ่ กันใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์
ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการ
สรา้ งสรรค์ วิถีการดำเนินชีวิต มจี ิตสำนกึ และมีส่วนร่วมในการจัดการทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพือ่ การพัฒนา
ทยี่ งั่ ย่ืน
สขุ ศึกษาและพลศึกษา
สาระที่ 1 การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการของมนษุ ย์
สาระท่ี 2 ชีวิตและครอบครวั
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนนิ ชีวติ
สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่าง
สม่ำเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชืน่ ชมในสุนทรียภาพ
ของการกฬี า
สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค
มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดำรงสขุ ภาพ การป้องกันโรค
และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ
สาระท่ี 5 ความปลอดภยั ในชวี ิต
มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา
สารเสพติดและความรุนแรง
หลกั สูตรโรงเรยี นคงทองวิทยา 12
ศลิ ปะ
สาระท่ี 1 ทัศนศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์
วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน
มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณคา่ งาน
ทัศนศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ภูมิปัญญาไทยและสากล
สาระท่ี 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
ดนตรีถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั
มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
ดนตรีท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทย และสากล
สาระท่ี 3 นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลปถ์ ่ายทอดความร้สู กึ ความคิดอย่างอสิ ระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน
มาตรฐาน ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ทเี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
การงานอาชีพ
สาระท่ี 1 การดำรงชีวติ และครอบครวั
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการ
จัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้มีคุณธรรม
และลกั ษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดำรงชีวิตและ
ครอบครวั
สาระที่ 2 การอาชีพ
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจ มที ักษะทจ่ี ำเป็น มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยีเพ่ือ
พฒั นาอาชพี มคี ณุ ธรรม และมเี จตคติทด่ี ีต่ออาชีพ
หลักสูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 13
ภาษาต่างประเทศ
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อยา่ งมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพูด
และการเขยี น
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนร้อู ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็น
พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมือพืน้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กับสังคมโลก
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้าน เพื่อความ
เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ท้ังร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มี
ระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่
ร่วมกับผู้อื่นอยา่ งมคี วามสุข
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ดังน้ี
1. กจิ กรรมแนะแนว
เปน็ กิจกรรมที่ส่งเสรมิ และพัฒนาผเู้ รียนให้รู้จกั ตนเอง รู้รกั ษ์ส่งิ แวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิด
แก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่างเหมาะสม
นอกจากน้ียังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเป็นกิจกรรมท่ีช่วยเหลือ และให้คำปรกึ ษาแก่ผู้ปกครองใน
การมีสว่ นร่วมพฒั นาผู้เรยี น
หลักสูตรโรงเรยี นคงทองวทิ ยา 14
2. กจิ กรรมนกั เรยี น
เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ
การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้อ
อาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้
ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกข้ันตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะหว์ างแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการ
ทำงาน เนน้ การทำงานรว่ มกนั เปน็ กลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของ
สถานศึกษาและทอ้ งถิน่ กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย
2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผบู้ ำเพ็ญประโยชน์ และนักศกึ ษาวชิ าทหาร
2.2 กิจกรรมชมุ นุม ชมรม
3. กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชนต์ ่อสงั คม ชุมชน และท้องถนิ่ ตามความ
สนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ
เชน่ กจิ กรรมอาสาพัฒนาตา่ ง ๆ กิจกรรมสรา้ งสรรคส์ ังคม
ระดับการศึกษา
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน จดั ระดบั การศกึ ษาเป็น 3 ระดับ ดงั น้ี
1. ระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6) การศึกษาระดับน้ีเป็นช่วงแรกของการศึกษา
ภาคบังคับ มุ่งเน้นทกั ษะพ้ืนฐานด้านการอ่าน การเขียน การคดิ คำนวณ ทักษะการคิดพนื้ ฐานการติดต่อส่ือสาร
กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพ้ืนฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวติ อย่างสมบรู ณ์และสมดลุ ทั้ง
ในดา้ นร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สงั คม และวฒั นธรรม โดยเน้นจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการ
2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ
ม่งุ เน้นใหผ้ ู้เรียนได้สำรวจความถนัดและความสนใจของตนเอง สง่ เสรมิ การพัฒนาบคุ ลิกภาพส่วนตน มีทักษะใน
การคิดวิจารณญาณ คดิ สร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา มีทักษะในการดำเนินชวี ิต มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยเี พื่อ
เปน็ เครอื่ งมอื ในการเรยี นรู้ มีความรับผิดชอบตอ่ สังคม มคี วามสมดลุ ทั้งดา้ นความรู้ ความคดิ ความดีงาม และมี
ความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนใช้เปน็ พ้ืนฐาน ในการประกอบอาชีพหรอื การศกึ ษาต่อ
3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6) การศึกษาระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้
และทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผูเ้ รยี นแตล่ ะคนทง้ั ด้านวิชาการและ
วชิ าชีพ มีทกั ษะในการใชว้ ิทยาการและเทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสงู สามารถนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้
ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถ
เป็นผนู้ ำ และผใู้ ห้บรกิ ารชุมชนในด้านต่าง ๆ
หลักสูตรโรงเรยี นคงทองวิทยา 15
การจัดเวลาเรียน
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ไดก้ ำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรยี นข้ันต่ำสำหรับกลมุ่ สาระการ
เรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซ่ึงสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้น โดย
สามารถปรบั ใหเ้ หมาะสมตามบริบทของสถานศกึ ษาและสภาพของผเู้ รียน ดงั น้ี
1. ระดับช้นั ประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 – 6) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรยี นวัน
ละไมเ่ กนิ 5 ช่วั โมง
2. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียนวัน
ละไม่เกิน 6 ช่ัวโมง คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ 40 ช่ัวโมงต่อภาคเรียนมีค่าน้ำหนักวิชา
เทา่ กับ 1 หนว่ ยกติ (นก.)
3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน
วันละไม่น้อยกวา่ 6 ช่ัวโมง คดิ น้ำหนักของรายวชิ าท่ีเรยี นเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ 40 ช่ัวโมงต่อภาคเรียน มีค่า
น้ำหนักวิชา เทา่ กับ 1 หนว่ ยกติ (นก.)
การกำหนดโครงสร้างเวลาเรยี นพ้ืนฐาน และเพิ่มเตมิ สถานศึกษาสามารถดำเนนิ การ ดังน้ี
ระดับประถมศึกษา สามารถปรับเวลาเรียนพ้ืนฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้ตามความ
เหมาะสม ทั้งนี้ ต้องมีเวลาเรยี นรวมตามที่กำหนดไว้ในโครงสร้างเวลาเรียนพ้ืนฐาน และผเู้ รียนตอ้ งมีคณุ ภาพ
ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ดั ทกี่ ำหนด
ระดับมัธยมศึกษา ต้องจัดโครงสร้างเวลาเรียนพ้ืนฐานให้เป็นไปตามท่ีกำหนด และสอดคล้องกับ
เกณฑ์การจบหลักสูตร
สำหรับเวลาเรียนเพ่ิมเติม ท้ังในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ให้จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับความพร้อม จุดเน้นของสถานศึกษาและเกณฑ์การจบ
หลักสตู ร เฉพาะระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1-3 สถานศกึ ษาอาจจดั ใหเ้ ป็นเวลาสำหรับสาระการเรยี นรพู้ ื้นฐาน
ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยและกลุม่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนท่ีกำหนดไวใ้ นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 ถึงช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีละ 120 ชั่วโมง
และชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 จำนวน 360 ช่วั โมงนั้น เป็นเวลาสำหรบั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมแนะแนวกจิ กรรมนักเรยี น
และกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชนใ์ หส้ ถานศึกษา
จดั สรรเวลาให้ผ้เู รียนได้ปฏิบตั ิกจิ กรรม ดังนี้
ระดบั ประถมศึกษา (ป.1-6) รวม 6 ปี จำนวน 60 ชว่ั โมง
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) รวม 3 ปี จำนวน 45 ช่วั โมง
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จำนวน 60 ช่วั โมง
หลกั สตู รโรงเรียนคงทองวิทยา 16
การจัดการศกึ ษาสำหรับกลุ่มเปา้ หมายเฉพาะ
การจัดการศึกษาบางประเภทสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษา
สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย
สามารถนำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไปปรับใช้ได้ตาม ความเหมาะสม กับสภาพและบริบท
ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานท่ีกำหนด ทงั้ น้ีให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ี
กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
การจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรยี นร้เู ป็นกระบวนการสำคญั ในการนำหลักสตู รสู่การปฏบิ ัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พื้นฐาน เปน็ หลกั สูตรท่ีมีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน
ในการพัฒนาผเู้ รยี นให้มคี ุณสมบัติตามเป้าหมายหลกั สตู ร ผูส้ อนพยายามคดั สรร
กระบวนการเรียนรู้ จดั การเรยี นรู้โดยชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเรยี นร้ผู ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 8 กลมุ่ สาระการ
เรียนรู้ รวมทัง้ ปลกู ฝงั เสรมิ สร้างคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทกั ษะตา่ งๆ อันเป็นสมรรถนะสำคญั ให้
ผเู้ รียนบรรลุตามเป้าหมาย
1. หลกั การจดั การเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยยึดหลักว่า
ผเู้ รยี นมีความสำคัญทส่ี ุด เช่ือวา่ ทกุ คนมคี วามสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยดึ ประโยชนท์ ่ีเกิดกับผเู้ รียน
กระบวนการจดั การเรียนรูต้ ้องส่งเสริมให้ผู้เรยี น สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึง
ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล และพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทัง้ ความรู้และคณุ ธรรม
2. กระบวนการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ ที่
หลากหลาย เป็นเครอื่ งมือท่ีจะนำพาตนเองไปส่เู ป้าหมายของหลักสตู ร กระบวนการเรยี นรทู้ ่จี ำเปน็ สำหรับ
ผ้เู รยี น อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการกระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทาง
สังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้ จากประสบการณ์จริง
กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจรงิ กระบวนการจดั การ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรยี นรู้การเรยี นรขู้ อง
ตนเอง กระบวนการพัฒนาลกั ษณะนสิ ัย
กระบวนการเหล่าน้ีเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ท่ผี ู้เรยี นควรได้รบั การฝึกฝน พัฒนา เพราะ
จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรไู้ ด้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนัน้ ผู้สอน จึงจำเป็นต้องศึกษาทำ
ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 17
3. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้
ผูส้ อนตอ้ งศึกษาหลกั สูตรสถานศึกษาให้เขา้ ใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชีว้ ัด สมรรถนะสำคัญ
ของผูเ้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบ
การจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้
ผู้เรยี นได้พฒั นาเต็มตามศกั ยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายทก่ี ำหนด
4. บทบาทของผสู้ อนและผเู้ รียน
การจัดการเรียนรเู้ พื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมี
บทบาท ดังนี้
4.1 บทบาทของผ้สู อน
1) ศกึ ษาวิเคราะหผ์ ูเ้ รยี นเปน็ รายบุคคล แลว้ นำขอ้ มลู มาใชใ้ นการวางแผน
การจัดการเรยี นรู้ทที่ ้าทายความสามารถของผูเ้ รยี น
2) กำหนดเป้าหมายที่ตอ้ งการใหเ้ กดิ ข้ึนกบั ผเู้ รียน ดา้ นความรู้และทกั ษะ
กระบวนการท่เี ป็นความคดิ รวบยอด หลักการ และความสมั พันธ์ รวมท้งั คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
3) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พัฒนาการทางสมอง เพ่ือนำผเู้ รียนไปสเู่ ป้าหมาย
4) จัดบรรยากาศทีเ่ อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้และดูแลชว่ ยเหลอื ผ้เู รียนให้เกิดการ
เรียนรู้
5) จัดเตรียมและเลือกใชส้ ื่อใหเ้ หมาะสมกับกิจกรรม นำภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่
เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมมาประยุกตใ์ ช้ในการจดั การเรยี นการสอน
6) ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของผเู้ รยี นด้วยวิธีการทีห่ ลากหลาย เหมาะสมกบั
ธรรมชาตขิ องวชิ าและระดบั พัฒนาการของผูเ้ รยี น
7) วเิ คราะหผ์ ลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสรมิ และพัฒนาผเู้ รียน รวมทัง้
ปรับปรุงการจัดการเรยี นการสอนของตนเอง
4.2 บทบาทของผเู้ รียน
1) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรียนรขู้ องตนเอง
2) เสาะแสวงหาความรู้ เขา้ ถึงแหล่งการเรยี นรู้ วเิ คราะห์ สงั เคราะหข์ ้อความรู้
ต้งั คำถาม คดิ หาคำตอบหรือหาแนวทางแก้ปญั หาดว้ ยวิธีการต่าง ๆ
3) ลงมือปฏิบัติจรงิ สรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรูด้ ้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้
ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
4) มีปฏิสมั พันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกบั กลุม่ และครู
5) ประเมนิ และพฒั นากระบวนการเรยี นร้ขู องตนเองอย่างตอ่ เน่ือง
หลักสูตรโรงเรยี นคงทองวทิ ยา 18
สื่อการเรยี นรู้
ส่ือการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ท้ังส่ือธรรมชาติ ส่ือส่ิงพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ท่ีมีใน
ทอ้ งถน่ิ การเลอื กใช้ส่อื ควรเลือกให้มคี วามเหมาะสมกับระดบั พัฒนาการ และลีลาการเรียนร้ทู ห่ี ลากหลายของ
ผู้เรยี น
การจัดหาส่ือการเรยี นรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึน้ เอง หรือปรบั ปรงุ เลือกใช้อยา่ ง
มคี ณุ ภาพจากสอื่ ต่างๆ ทม่ี ีอยรู่ อบตวั เพอ่ื นำมาใชป้ ระกอบในการจดั การเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่าง
แท้จริง สถานศึกษา เขตพ้ืนที่การศึกษา หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องและผู้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ควร
ดำเนินการดงั น้ี
1. จดั ให้มีแหลง่ การเรยี นรู้ ศนู ย์สื่อการเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครอื ขา่ ยการเรียนรู้
ท่ีมีประสิทธิภาพท้ังในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปล่ียนประสบการณ์การ
เรียนรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ทอ้ งถนิ่ ชมุ ชน สงั คมโลก
2. จดั ทำและจัดหาสือ่ การเรียนรสู้ ำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ ให้ผูส้ อน รวมทั้ง
จดั หาสิ่งทม่ี อี ย่ใู นท้องถ่นิ มาประยุกต์ใช้เปน็ สอื่ การเรียนรู้
3. เลือกและใช้ส่ือการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง
กับวิธกี ารเรียนรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรยี นรู้ และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผเู้ รียน
4. ประเมนิ คณุ ภาพของสอื่ การเรยี นรู้ทเี่ ลือกใชอ้ ย่างเป็นระบบ
5. ศึกษาค้นควา้ วิจัย เพ่ือพัฒนาสือ่ การเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกบั กระบวนการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น
6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมนิ คณุ ภาพและประสิทธภิ าพเก่ยี วกับส่ือและการใช้ สอื่ การเรยี นรู้
เป็นระยะๆ และสมำ่ เสมอ
ใน การจัดทำ ก ารเลือกใช้ และการประเมิน คุณ ภาพ ส่ือก ารเรียน รู้ท่ีใช้ใน สถาน ศึกษ า
ควรคำนึงถึงหลักการสำคัญของสื่อการเรยี นรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้
การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่
กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย
และน่าสนใจ
หลักสตู รโรงเรยี นคงทองวิทยา 19
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลกั การพ้ืนฐานสองประการคือ การประเมิน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพ่ือตดั สินผลการเรยี น ในการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จ
นนั้ ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัด เพ่ือให้บรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะท้อน
สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้เรียนซ่ึงเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผล
การเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา และ
ระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนโดยใชผ้ ลการประเมินเป็น
ขอ้ มูลและสารสนเทศ ท่ีแสดงพัฒนาการ ความก้าวหนา้ และความสำเร็จทางการเรียนของผเู้ รยี น ตลอดจน
ขอ้ มลู ท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ การสง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนเกดิ การพัฒนาและเรียนรูอ้ ยา่ งเตม็ ตามศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดบั เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา และระดับชาติ มรี ายละเอียด ดังน้ี
1. การประเมินระดบั ชัน้ เรยี น เป็นการวัดและประเมินผลทอ่ี ยู่ในกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผู้สอน
ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินช้ินงาน/ ภาระงาน แฟม้ สะสม
งาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือน
ประเมนิ เพ่ือน ผ้ปู กครองร่วมประเมิน ในกรณีท่ีไม่ผา่ นตัวชีว้ ดั ให้มี การสอนซ่อมเสริม
การประเมินระดับช้ันเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรยี นรู้
อนั เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื ไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งท่ีจะต้องได้รบั การพัฒนา
ปรับปรุงและสง่ เสริมในด้านใด นอกจากนยี้ ังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรงุ การเรียนการสอนของตนด้วย ท้ังน้ี
โดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชีว้ ัด
2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตัดสินผล การ
เรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนเ้ี พ่ือใหไ้ ด้ขอ้ มลู เก่ียวกับการจดั การศึกษา ของสถานศึกษา ว่า
สง่ ผลต่อการเรียนรขู้ องผูเ้ รียนตามเปา้ หมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจดุ พัฒนาในดา้ นใด รวมท้งั สามารถนำผลการเรียน
ของผู้เรยี นในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศเพ่ือการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรยี นการสอน ตลอดจนเพื่อการ
จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ
รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา สำนักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ผปู้ กครองและชมุ ชน
3. การประเมินระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่
การศกึ ษาตามมาตรฐานการเรียนร้ตู ามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เพือ่ ใช้เป็นขอ้ มูลพนื้ ฐานในการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ตามภาระความรบั ผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมิน
หลักสูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 20
คุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทำและดำเนินการโดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือด้วย
ความร่วมมอื กับหน่วยงานต้นสังกดั ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนขอ้ มูล
จากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นท่ีการศกึ ษา
4. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน สถานศึกษาตอ้ งจดั ใหผ้ ู้เรยี นทุกคนท่ีเรียน ในช้นั ประถมศึกษาปี
ท่ี 3 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 เข้ารบั การประเมิน ผลจาก
การประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน
ยกระดับคุณภาพการจัดการศกึ ษา ตลอดจนเป็นขอ้ มลู สนบั สนนุ การตดั สินใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน
พัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ถือเป็นภาระความรบั ผดิ ชอบของสถานศกึ ษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุง
แก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐาน ความแตกต่างระหว่างบุคคลท่ี
จำแนกตามสภาพปญั หาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทัว่ ไป กลุ่มผ้เู รยี นทมี่ ีความสามารถพเิ ศษ กลุ่ม
ผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธ
โรงเรยี น กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปญั หาทางเศรษฐกิจและสงั คม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปญั ญา เป็นต้น ข้อมูล
จากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที เปิดโอกาสให้
ผูเ้ รียนไดร้ ับการพัฒนาและประสบความสำเรจ็ ในการเรยี น
สถานศึกษาในฐานะผ้รู ับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบยี บวา่ ดว้ ยการวัดและประเมินผลการ
เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตร
แ ก น ก ล าง ก า ร ศึ ก ษ าขั้ น พื้ น ฐ าน เพ่ื อ ให้ บุ ค ล าก ร ท่ี เกี่ ย ว ข้ อ ง ทุ ก ฝ่ าย ถื อ ป ฏิ บั ติ ร่ว ม กั น
หลกั สูตรโรงเรยี นคงทองวทิ ยา 21
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 22
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 23
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 24
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 25
รายวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1
รหสั วิชา ท21101 วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน 1.5 หน่วยกิต 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์
รหัสวชิ า ท21102 วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน 1.5 หนว่ ยกติ 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 1.5 หน่วยกติ 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
รหสั วิชา ท22101 วิชาภาษาไทยพื้นฐาน 1.5 หนว่ ยกิต 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์
รหสั วิชา ท22102 วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 1.5 หนว่ ยกติ 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
รหสั วิชา ท23101 วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน 1.5 หนว่ ยกิต 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์
รหัสวชิ า ท23102 วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 26
คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
รหัสวชิ า ท21101 วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชว่ั โมง
ศึกษา วิเคราะห์ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน
จับใจความสำคัญจากเร่ืองที่อ่าน ระบุเหตุและผลและข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน ตีความคำยาก
ในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจากบริบท ระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภท
ชักจงู โน้มน้าวใจขน้ึ การวิเคราะห์คุณคา่ ที่ได้รบั จากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพ่ือนำไปใช้แก้ปัญหา
ในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร คัดลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เขียนส่ือสาร
โดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย เขียนยอ่ ความจากเร่ืองทีอ่ ่าน เขียนแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับสาระจากส่ือที่ได้รับ เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ มีมารยาทในการเขียน พูดสรุป
ใจความสำคัญของเรื่องท่ีฟงั และดู เล่าเรือ่ งยอ่ จากเรื่องท่ฟี ังและดู พูดรายงานเรื่องหรือประเดน็ ทศ่ี กึ ษาค้นคว้า
จากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด อธิบายลักษณะของ
เสยี งในภาษาไทย สร้างคำในภาษาไทย จำแนกและใช้สำนวนท่เี ป็นคำพงั เพยและสุภาษิต สรุปเน้อื หาวรรณคดี
และวรรณกรรมท่ีอ่าน วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่า
ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำ
บทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดและการวิเคราะห์ กระบวนการค้นคว้า กระบวนการ
สบื เสาะหาความรู้ และกระบวนการกลุ่มสัมพนั ธ์
เพ่ือให้เกิดองค์ความรู้ความเข้าใจในด้านการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด หลักการใช้ภาษา
และวรรณคดีวรรณกรรม เป็นผู้มีความใฝ่รู้ มีความกระตือรือรน้ ในกระบวนการคิดวิเคราะห์ มีความสามารถ
ในการทำงานร่วมกับผู้อ่ืน รกั ความเป็นไทย รวมท้ังน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม
ตวั ชว้ี ัด
สาระที่ 1 ท1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/8, ม.1/9
สาระที่ 2 ท2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/9
สาระท่ี 3 ท3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/5, ม.1/6
สาระที่ 4 ท4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/6
สาระที่ 5 ท5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
รวม 25 ตัวชีว้ ดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 27
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
รหสั วิชา ท21102 วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ระบุและอธิบาย
คำเปรียบเทียบและคำท่ีมีหลายความหมายในบริบทต่าง ๆ จากการอ่าน ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ
โดยพิจารณาจากบริบท ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับท่ียากขึ้น
วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลาย เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาท
ในการอ่าน เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ
เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทในการเขียน พูดแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
เก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดู ประเมินความน่าเช่ือถือของส่ือที่มีเนื้อหาโน้มน้าวใจ มีมารยาทในการฟัง การดู
และการพูด วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน
แต่งบทร้อยกรอง สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม
ท่อี ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจาก
การอ่านเพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า
ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดและการวิเคราะห์ กระบวนการค้นคว้า กระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ และกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ความเข้าใจในด้านการอ่าน การเขียน
การฟงั การดู การพูด หลักการใชภ้ าษา และวรรณคดวี รรณกรรม
เพ่ือให้นักเรียนเป็นผู้มีความใฝ่รู้ มีความกระตือรือร้นในกระบวนการคิดวิเคราะห์ มีความสามารถ
ในการทำงานเป็นกลุ่ม มีความสามารถในการตัดสินใจ รักความเป็นไทยมีคุณธรรม จริยธรรม และค่าท่ีนิยม
ทพ่ี ึงประสงค์ รวมทั้งน้อมนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้
ตัวช้ีวัด
สาระที่ 1 ท 1.1 ม.1/1, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
สาระท่ี 2 ท 2.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/8, ม.1/9
สาระท่ี 3 ท 3.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/6
สาระท่ี 4 ท 4.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
สาระท่ี 5 ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
รวม 21 ตัวช้วี ดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 28
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
รหสั วชิ า ท22101 วิชาภาษาไทยพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชว่ั โมง
ศึกษาและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ
สรุปความและอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองท่ีอ่าน เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ
ท่ีอ่านอภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเร่ืองที่อ่าน วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูล
สนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน ระบุข้อสังเกตชวนเช่ือ การโน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผล
ของงานเขยี น อ่านหนงั สอื บทความ หรือคำประพนั ธอ์ ย่างหลากหลาย และประเมินคุณคา่ หรอื แนวคดิ ทีไ่ ด้จาก
การอ่าน เพ่ือนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนบรรยาย
และพรรณนา เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ เขียน
วิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งในเร่ืองท่ีอ่านอย่างมีเหตุผล มีมารยาทในการ
เขียน พูดสรุปใจความสำคัญของเร่ืองท่ีฟังและดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเช่ือถือของ
ข่าวสารจากส่ือต่าง ๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องท่ีฟังและดูอย่างมีเหตุผล เพ่ือนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ
ดำเนินชีวิตพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พดู รายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้า จากการ
ฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด สร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้าง
ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน แต่งบทร้อยกรอง ใช้คำราชาศัพท์ รวบรวมและอธิบาย
ความหมายของคำภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ในระดับท่ี
ยากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีอ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ
อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอา่ นไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง
ท่องจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคณุ ค่าตามความสนใจกิจกรรมการเรียนร้เู ป็นแบบบรู ณา
การภายในกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง
โดยนำวรรณคดีและวรรณกรรมเป็นแกนกลาง ผเู้ รียนจะไดเ้ รยี นร้วู รรณคดีและวรรณกรรมสมั พันธก์ ับ
หลกั การใชภ้ าษาและทักษะการสื่อสาร เรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ ท่เี กี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง กลมกลืน
เปน็ เอกภาพและเชอื่ มโยงชีวิตจรงิ
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีพ้ืนฐานความรดู้ ้านหลกั ภาษา พัฒนาทักษะการใชภ้ าษาครบทุกด้าน และเรียนรูค้ ุณค่า
ท่ีสอดแทรกในวรรณคดีและวรรณกรรมไทย สามารถนำภาษาไทย รวมท้ังคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
ทด่ี ีงามไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 29
ตัวช้วี ัด ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
สาระท่ี 1 ท 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/5, ม.2/7, ม.2/8
สาระท่ี 2 ท 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/6
สาระที่ 3 ท 4.1 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
สาระท่ี 4 ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
สาระที่ 5
รวม 25 ตัวช้ีวดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 30
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
รหสั วิชา ท22102 วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชัว่ โมง
ศึกษาและฝึกอ่านออก เสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ
สรุปความและอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองที่อ่าน เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ
ท่ีอ่านอภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูล
สนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความท่ีอ่าน ระบุข้อสังเกตชวนเชื่อ การโน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผล
ของงานเขียน อ่านหนังสือ บทความ หรือคำประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้
จากการอ่าน เพอื่ นำไปใชแ้ ก้ปัญหาในชวี ิต มีมารยาทในการอ่าน คดั ลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทดั เขียนบรรยาย
และพรรณนา เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ
เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งในเรื่องที่อ่านอย่างมีเหตุผล มีมารยาท
ในการเขียน พูดสรุปใจความสำคัญของเร่ืองที่ฟังและดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเช่ือถือ
ของข่าวสารจากส่ือต่าง ๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องท่ีฟังและดูอย่างมีเหตุผล เพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้
ในการดำเนินชีวิตพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า
จากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด สร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์
โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน แต่งบทร้อยกรอง ใช้คำราชาศัพท์ รวบรวมและ
อธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านใน
ระดับท่ียากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่าน พร้อมยกเหตุผล
ประกอบ อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น
ชวี ิตจรงิ ทอ่ งจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนดและบทร้อยกรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ
กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นแบบบูรณาการภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ที่
เก่ียวข้อง
โดยนำวรรณคดีและวรรณกรรมเปน็ แกนกลาง ผเู้ รียนจะได้เรียนร้วู รรณคดีและวรรณกรรมสมั พันธก์ ับ
หลกั การใชภ้ าษาและทักษะการสื่อสาร เรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ๆ ทเี่ กี่ยวข้องอยา่ งกว้างขวาง กลมกลืน
เปน็ เอกภาพและเช่ือมโยงชวี ิตจริง
เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีพนื้ ฐานความรูด้ ้านหลักภาษา พฒั นาทักษะการใชภ้ าษาครบทุกด้าน และเรียนรู้คุณค่า
ที่สอดแทรกในวรรณคดีและวรรณกรรมไทย สามารถนำภาษาไทย รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
ทดี่ งี ามไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้ถูกต้อง เหมาะสม
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 31
ตวั ช้ีวัด ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/7, ม.2/8
สาระที่ 1 ท 2.1 ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
สาระที่ 2 ท 3.1 ม.2/1, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6
สาระที่ 3 ท 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/4, ม.2/5
สาระท่ี 4 ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5
สาระท่ี 5
รวม 27 ตัวช้วี ดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 32
คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน
รหัสวิชา ท23101 วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง
ศึกษาและจำแนกการใช้คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน
วเิ คราะห์ระดับภาษา อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วร้อยกรองได้ถูกต้อง ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดของ
ข้อมูลที่สนับสนุนจากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องต่าง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ
วิเคราะห์ วิจารณ์และประเมินเร่ืองท่ีอ่าน โดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีข้ึน ประเมิน
ความถูกต้องของขอ้ มูลที่ใช้สนบั สนุนในเร่ืองทอ่ี า่ น วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลำดบั ความและความเป็นไป
ได้ของเร่ือง วิเคราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองท่ีอา่ น ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีได้
จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพ่ือนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจง
ครงึ่ บรรทัด และเขียนข้อความโดยใชถ้ ้อยคำได้ถูกตอ้ งตามระดับภาษา ๆ เขียนย่อความ เขียนจดหมายกจิ ธุระ
เขียนอธิบายชี้แจง และความคิดเห็น และโต้แย้งอย่างมีเหตุผล เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้
ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเก่ียวกับความรู้ และทักษะ
ของตนเองท่ีเหมาะสมกับงาน เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทในการเขียน
แสดงความคิดเห็นและประเมินเร่ืองจากการฟังและการดู วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดู เพ่ือนำข้อคิด
มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดูและการ
สนทนา พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดโน้มน้าวโดยการนำเสนอหลักฐานตามลำดับเน้ือหา
อย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม
และวรรณกรรมท้องถน่ิ ในระดับทีย่ ากยง่ิ ขึน้ ท่องจำและบอกคณุ คา่ บทอาขยานตามท่กี ำหนด และบทร้อยกรอง
ที่มีคุณค่าตามความสนใจและนำไปใช้อ้างอิง วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน
สรปุ ความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่าน เพอ่ื นำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง
ทั้งน้ีให้ศึกษาเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อปลูกฝังความรับผิดชอบต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม
ต่อเศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์
สจุ ริต มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ
เพื่อใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินแก้ปัญหาการดำเนินชีวิต
ใช้กระบวนการเขียน เขียนเรียงความในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เลือกฟังและดู
อย่างมีอย่างมีวิจารณญาณ และพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ เข้าใจธรรมชาติของภาษา
และหลักภาษาไทย ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ เข้าใจและแสดง
ความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 33
ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ท 1.1 ม. 3/1 - ม. 3/10
สาระท่ี 2 ท 2.1 ม. 3/1 - ม. 3/9
สาระที่ 3 ท 3.1 ม. 3/1 - ม. 3/6
สาระท่ี 4 ท 4.1 ม. 3/1 - ม. 3/6
สาระที่ 5 ท 5.1 ม. 3/1 - ม. 3/4
รวมท้ังหมด 35 ตัวชีว้ ัด
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 34
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
รหสั วชิ า ท23102 วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ช่วั โมง
แต่งบทร้อยกรอง อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วร้อยกรองได้ถูกต้อง ระบุความแตกต่างของคำ
ที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุน
จากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องต่าง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ วิเคราะห์ วิจารณ์และ
ประเมินเร่ืองท่ีอ่าน โดยใช้กลวิธีการเปรยี บเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีขึ้น ประเมินความถูกต้องของข้อมูล
ท่ใี ช้สนับสนุนในเร่ืองที่อา่ น วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดบั ความและความเป็นไปได้ของเร่ือง วิเคราะห์
เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน ตีความและประเมินคุณค่าแนวคิดท่ีได้จากงานเขียนอย่าง
หลากหลาย เพ่ือนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด และเขียน
ข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา เขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติ โดยการเล่าเหตุการณ์
ข้อคิดเห็นและทัศนคติในเรื่องต่าง ๆ เขียนย่อความ เขียนอธิบายช้ีแจง และความคิดเห็น และโต้แย้ง
อย่างมีเหตุผล เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เห็นหรอื โต้แยง้ ในเรื่องต่าง ๆ เขียนรายงาน
การศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทในการเขียน แสดงความคิดเห็นและประเมินเร่ืองจากการฟัง
และการดู วิเคราะห์และวจิ ารณ์เรอ่ื งทีฟ่ ังและดู เพือ่ นำข้อคิดมาประยกุ ตใ์ ช้ในการดำเนินชีวติ พูดรายงานเร่ือง
หรือประเด็นที่ศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์
มีมารยาทในการฟงั การดูและการพดู สรปุ เน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินในระดบั ท่ยี าก
ย่ิงข้ึน วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน
เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า
ตามความสนใจและนำไปใชอ้ า้ งองิ
ทั้งน้ีให้ศึกษาเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อปลูกฝังความรับผิดชอบต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม
ต่อเศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์
สุจริต มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ
เพื่อใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินแก้ปัญหาการดำเนินชีวิต
ใช้กระบวนการเขียน เขียนเรียงความในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เลือกฟังและดู
อย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้อยา่ งสร้างสรรค์ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย
ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์
วรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 35
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ท 1.1 ม. 3/1 - ม. 3/10
สาระที่ 2 ท 2.1 ม. 3/1, ม. 3/2, ม. 3/3, ม. 3/4, ม. 3/6, ม. 3/7, ม. 3/9, ม. 3/10
สาระท่ี 3 ท 3.1 ม. 3/1 - ม. 3/6
สาระท่ี 4 ท 4.1 ม. 3/1, ม. 3/4, ม. 3/6
สาระที่ 5 ท 5.1 ม. 3/1 - ม. 3/4
รวมทัง้ หมด 31 ตวั ชว้ี ัด
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 36
รายวชิ าวิคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
รหสั วิชา ค21101 คณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 1.5 หนว่ ยกติ 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์
รหัสวชิ า ค21102 คณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน 1.5 หน่วยกติ 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 1.5 หน่วยกิต 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์
รหัสวิชา ค22101 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 1.5 หน่วยกติ 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์
รหัสวิชา ค22102 คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 1.5 หน่วยกิต 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รหัสวชิ า ค23101 คณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 1.5 หน่วยกติ 3 ช่วั โมง/สปั ดาห์
รหัสวชิ า ค23102 คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน
รายวชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
รหสั วชิ า ค21201 คณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ 1.0 หนว่ ยกติ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รหสั วิชา ค21202 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 1.0 หนว่ ยกิต 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 1.0 หน่วยกติ 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
รหัสวชิ า ค22201 คณติ ศาสตร์เพ่มิ เตมิ 1.0 หน่วยกติ 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์
รหัสวิชา ค22202 คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เติม
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 1.0 หน่วยกติ 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
รหสั วิชา ค23201 คณติ ศาสตร์เพิม่ เติม 1.0 หนว่ ยกติ 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์
รหัสวิชา ค23202 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเตมิ
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 37
คำอธบิ ายรายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน
รายวิชา ค21101 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้
จำนวนเต็ม จำนวนเต็ม การบวกจำนวนเต็ม การลบจำนวนเตม็ การคณู จำนวนเต็ม การหารจำนวน
เตม็ และสมบัติของจำนวนเตม็
การสรา้ งทางเรขาคณติ รูปเรขาคณติ พื้นฐาน การสรา้ งพนื้ ฐานทางเรขาคณติ และการสร้างรูป
เรขาคณิต
เลขยกกำลงั ความหมายของเลขยกกำลงั การคูณเลขยกกำลงั การหารเลขยกกำลัง และสญั กรณ์
วิทยาศาสตร์
ทศนิยมและเศษส่วน ทศนิยมและการเปรียบเทียบทศนิยม การบวกทศนยิ ม การลบทศนิยม การคณู
ทศนิยม การหารทศนิยม เศษส่วนและการเปรียบเทยี บเศษส่วน การบวกเศษสว่ น การลบเศษส่วน การคณู
เศษส่วน การหารเศษสว่ น และความสมั พันธ์ระหวา่ งทศนิยมและเศษสว่ น
รปู เรขาคณิตสองมิตแิ ละสามมิติ หนา้ ตดั ของรปู เรขาคณิตสามมิติ ภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง และ
ภาพด้านบนของรปู เรขาคณิตสามมิติ
เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ มที กั ษะในการคิดคำนวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสอ่ื ความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์ และสามารถนำไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ่ิงต่างๆ และใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ มี
ระเบียบ มคี วามรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชอ่ื มน่ั ในตัวเอง สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ
รวมท้ังเหน็ คุณคา่ และเจตคติท่ีดตี อ่ คณติ ศาสตร์
การวัดและประเมนิ ผล ใช้วิธกี ารทหี่ ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคล้องกบั เน้ือหาและ
ทักษะท่ีต้องการวัด
ตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ม.1/1 ม.1/2
ค 2.2 ม.1/1 ม.1/2
รวม 4 ตัวชี้วัด
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 38
คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน
รายวิชา ค21102 คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนคณิตศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว การเตรียมความพร้อมก่อนรูจ้ ักสมการ สมการและคำตอบของสมการ
การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว และโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว
อัตราสว่ นและร้อยละ อตั ราส่วน สัดสว่ น ร้อยละ และบทประยกุ ต์
กราฟและความสัมพันธ์เชงิ เส้น คู่อันดับและกราฟของคอู่ ันดบั กราฟและการนำไปใช้ และ
ความสมั พันธ์เชิงเสน้
สถติ ิ(1) คำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู การนำเสนอและการแปลความหมายของขอ้ มลู
เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจ มที ักษะในการคดิ คำนวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสือ่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใชใ้ นการเรียนรู้ส่งิ ตา่ งๆ และใชใ้ นชวี ิตประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์ มี
ระเบียบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณและมีความเช่อื มัน่ ในตวั เอง สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ
รวมทั้งเหน็ คุณค่าและเจตคตทิ ่ีดีต่อคณิตศาสตร์
เพื่อใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจ มที ักษะในการคดิ คำนวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสือ่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใช้ในการเรยี นร้สู ่งิ ตา่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ มี
ระเบียบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชือ่ มนั่ ในตัวเอง สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบ
รวมท้ังเห็นคุณค่าและเจตคตทิ ี่ดีต่อคณิตศาสตร์
การวัดและประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหาและ
ทกั ษะท่ตี ้องการวดั
ตัวชี้วัด ม.1/3
ค 1.1 ม.1/3
ค 1.3 ม.1/1 ม.1/2
ค 3.1 ม.1/1
รวม 5 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 39
คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน
รายวิชา ค22101 คณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศกึ ษา ฝึกทักษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
เลขยกกำลัง สมบัตขิ องเลขยกกำลงั ทีม่ ีเลขชี้กำลังเปน็ จำนวนเต็ม
ปรซิ ึมและทรงกระบอก พืน้ ทผ่ี ิวของปรซิ ึม ปรมิ าตรของปรซิ มึ พ้นื ทผ่ี ิวของทรงกระบอกและ
ปรมิ าตรของทรงกระบอกและการนำไปใช้
การสร้างทางเรขาคณิต การสร้างรูปเรขาคณิต และการนำไปใช้
การแปลงทางเรขาคณติ การเลอื่ นขานการสะท้อนการหมนุ และการนำไปใช้
ความเท่ากนั ทุกประการ ความเทา่ กนั ทกุ ประการของรูปเรขาคณิต ความเท่ากนั ทุกประการของรูป
สามเหลย่ี มรปู สามเหล่ียมสองรูปทมี่ ีความสัมพนั ธ์กันแบบ ด้าน – มมุ – ดา้ นรูปสามเหล่ียมสองรปู ที่มี
ความสมั พันธก์ นั แบบ มมุ – ดา้ น – มมุ รปู สามเหลย่ี มสองรปู ท่มี ีความสัมพันธก์ นั แบบ ดา้ น – ด้าน - ด้าน
เพือ่ ให้มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ มีทกั ษะในการคิดคำนวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การส่ือความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใช้ในการเรยี นร้สู ่ิงต่างๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์ มี
ระเบียบ มคี วามรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชอ่ื มนั่ ในตัวเอง สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ
รวมท้ังเหน็ คุณค่าและเจตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริง ใหส้ อดคล้องกบั เนอ้ื หาและ
ทกั ษะที่ตอ้ งการวดั
ตัวชว้ี ัด
ค 1.1 ม.2/1
ค 2.1 ม.2/1 ม.2/2
ค 2.2 ม.2/1 ม.2/3 ม.2/4
รวม 6 ตวั ช้ีวัด
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 40
คำอธบิ ายรายวิชาคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน
รายวิชา ค22102 คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระต่อไปน้ี
ทฤษฎีบทพีทาโกรสั สมบตั ิของรปู สามเหลี่ยมมมุ ฉากทฤษฎบี ทพที าโกรสั บทกลับของทฤษฎี
บทพที าโกรสั
ความร้เู บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับจำนวนจรงิ จำนวนตรรกยะจำนวนอตรรกยะรากที่สองรากทสี่ าม
พหนุ าม การดำเนินการของพหนุ ามการแยกตัวประกอบของพหนุ ามดกี รสี องการใช้พหุนามในการ
แก้ปัญหาคณิตศาสตร์
เส้นขนาน เสน้ ขนานและมมุ ภายในเสน้ ขนานและมุมแยง้ เสน้ ขนานและมมุ ภายนอกและมมุ ภายใน
เส้นขนานและรปู สามเหล่ยี ม
สถติ ิ ข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลแผนภาพจุดแผนภาพต้น–ใบฮสิ โทแกรมคา่ กลางของขอ้ มลู
การแปลความหมายของขอ้ มลู
เพอ่ื ให้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ มีทักษะในการคดิ คำนวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสอื่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ และสามารถนำไปใชใ้ นการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ งๆ และใช้ในชีวิตประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ มี
ระเบยี บ มีความรบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชอื่ มน่ั ในตวั เอง สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ
รวมท้งั เหน็ คณุ ค่าและเจตคตทิ ี่ดีตอ่ คณติ ศาสตร์
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจริง ใหส้ อดคลอ้ งกบั เนื้อหาและ
ทกั ษะท่ตี อ้ งการวัด
ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ม.2/2
ค1.2 ม.2/1 ม.2/2
ค2.2 ม.2/2
ค2.2 ม.2/5
ค 3.1 ม.2/1
รวม 6 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 41
คำอธิบายรายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน
รายวิชา ค23101 คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนคณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว การแก้อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว การนำความร้เู ก่ยี วกับอสมการเชิง
เสน้ ตวั แปรเดียวไปใช้แก้ปัญหา
การแยกตวั ประกอบพหนุ าม การแยกตวั ประกอบพหุนามทมี่ ีดีกรีสงู กว่าสอง
สมการกำลังสองตัวแปรเดยี ว การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว การนำความรเู้ กย่ี วกบั สมการ
กำลังสองตัวแปรเดยี วใช้แกป้ ญั หา
ความคล้าย รปู สามเหลย่ี มทคี่ ลา้ ยกนั การนำความรู้เกย่ี วกับความคล้ายไปใช้แกป้ ัญหา
ฟังก์ชนั กำลังสอง กราฟของฟังก์ชันกำลงั สอง การนำความรเู้ กี่ยวกับฟังก์ชนั กำลังสองไปใช้แก้ปัญหา
สถติ ิ ข้อมูลและการวิเคราะหข์ อ้ มูล การแปลความหมายผลลัพธ์ การนำสถิติไปใชใ้ นชีวิตจรงิ
โดยจัดประสบการณ์ กิจกรรม หรอื โจทย์ปัญหาท่ีส่งเสรมิ การพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง
คณิตศาสตรใ์ นการคดิ คำนวณ การให้เหตผุ ล การวเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา การสอื่ สาร การสื่อความหมาย และ
การนำเสนอ
เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ ความคดิ รวบยอด ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มีระเบยี บวินยั มุง่ มั่นในการทำงานอยา่ ง
มรี ะบบ ประหยัด ซ่อื สัตย์ มวี จิ ารณญาณ รจู้ กั นำความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำรงชีวิตได้อย่างพอเพยี ง
รวมท้ังมเี จตคติที่ดตี ่อคณิตศาสตร์
ตัวชว้ี ัด
ค.1.2 ม.3/1 ม.3/2
ค.1.3 ม.3/1 ม.3/2
ค.2.2 ม.3/1
ค.3.1 ม.3/1
รวม 6 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 42
คำอธิบายรายวชิ าคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน
รายวิชา ค23102 คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นคณิตศาสตร์
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคำนวณ และฝึกการแกป้ ญั หาในสาระต่อไปนี้
ระบบสมการเชงิ เส้น การแกร้ ะบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนำความรู้เกี่ยวกับระบบสมการเชิง
เสน้ สองตวั แปรไปใช้แก้ปญั หา
วงกลม คอร์ดและเส้นสมั ผัส ทฤษฎีบทเกีย่ วกบั วงกลม
พรี ะมดิ กรวย และทรงกลม การหาพ้ืนท่ีผวิ และปรมิ าตร การนำความรู้เกยี่ วกับพน้ื ทผี่ วิ และปรมิ าตร
ไปใช้แก้ปัญหา
ความน่าจะเป็น เหตกุ ารณจ์ าการทดลองสุ่ม ความนา่ จะเป็น การนำความรเู้ กย่ี วกับความน่าจะเปน็ ไป
ใชแ้ ก้ปญั หา
อัตราสว่ นตรโี กณมิติ การนำคา่ อตั ราสว่ นตรโี กณมติ ิของมุม 30 องศา 45 องศา และ 60 องศาไปใช้
แกป้ ญั หา
โดยจัดประสบการณ์ กจิ กรรม หรอื โจทยป์ ัญหาท่ีสง่ เสรมิ การพัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง
คณิตศาสตร์ในการคิดคำนวณ การให้เหตุผล การวเิ คราะห์ การแก้ปัญหา การสอื่ สาร การสื่อความหมาย และ
การนำเสนอ
ตวั ชีว้ ัด
ค.1.3 ม.3/3
ค 2.1 ม.3/1 ม.3/2
ค.2.2 ม.3/2 ม.3/3
ค.3.2 ม.3/1
รวม 6 ตวั ชี้วัด
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 43
คำอธิบายรายวชิ าคณติ ศาสตรเ์ พิ่มเตมิ
รายวิชา ค21201 คณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรยี นคณิตศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษา ฝกึ ทักษะ/กระบวนการการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
การประยุกต์ ของรปู เรขาคณิต จำนวนนับ และรอ้ ยละในชวี ติ ประจำวนั
จำนวนและตัวเลข อา่ นและเขยี นตัวเลขโรมนั บอกคา่ ของเลขโดดในตวั เลขฐานต่างๆ เขียนตัวเลข
ฐานท่ีกำหนดให้เป็นตัวเลขฐานต่างๆ
การประยุกตข์ องจำนวนเต็มและเลขยกกำลัง ในการคดิ คำนวณ และแกโ้ จทยป์ ัญหา
การสร้างทางเรขาคณติ การแบ่งส่วนของเส้นตรง การสรา้ งมมุ ขนาดต่างๆ การสรา้ งรปู สามเหลย่ี ม
และรูปส่เี หล่ียมด้านขนาน
โดยใช้ทักษะการคิดคำนวณ กระบวนการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสอื่ สาร การสือ่ ความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชอ่ื มโยงความรูต้ า่ งๆทางคณิตศาสตร์ เชอ่ื มโยงคณิตศาสตรก์ ับ
ศาสตร์อน่ื ๆและมีความคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์
เพ่ือให้สามารถทำงานอย่างมีระบบ มรี ะเบียบ มีความรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ มคี วามเชือ่ ม่ันใน
ตนเอง พรอ้ มท้งั ตระหนักในคณุ คา่ และมีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารท่ีหลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เนือ้ หา ทกั ษะ
กระบวนการท่ีตอ้ งการวัด และตามความสามารถของผู้เรยี น
ผลการเรียนรู้
1. ใชค้ วามรูแ้ ละทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก้ปัญหาต่างๆได้
2. ตระหนักความสมเหตุสมผลของคำตอบที่ได้
3. อา่ นและเขียนตัวเลขโรมันได้
4. บอกค่าของเลขโดดในตวั เลขฐานตา่ งๆทีก่ ำหนดใหไ้ ด้
5. เขยี นตวั เลขฐานที่กำหนดให้เป็นตวั เลขฐานต่างๆได้
6. ใชค้ วามร้เู ก่ยี วกับจำนวนเต็มและเลขยกกำลังในการแกป้ ญั หาได้
7. ใช้การสรา้ งพ้ืนฐานสรา้ งมุมขนาดต่างๆได้
8. ใชก้ ารสรา้ งพ้ืนฐานสร้างรปู ที่ซับซ้อนข้ึนได้
ท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 44
คำอธบิ ายรายวชิ าคณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม
รายวิชา ค21202 คณิตศาสตร์เพิม่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนคณติ ศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศกึ ษา ฝึกทกั ษะ/กระบวนการการคดิ คำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
การเตรียมความพรอ้ มในการใหเ้ หตผุ ล ข้อความคาดการณ์ ประโยคเงอื่ นไข บทกลบั ของประโยค
เงื่อนไข การให้เหตุผล
พหนุ าม เอกนาม การบวกและการลบเอกนาม พหนุ าม การบวกและการลบพหุนาม การคูณพหุ
นาม การหารพหุนาม
บทประยุกต์ 2 แบบรูปของจำนวน ข่ายงาน การประยกุ ตข์ องเศษสว่ นและทศนยิ ม
โดยจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ใกล้ตัวใหผ้ ้เู รียนไดศ้ กึ ษาคน้ คว้าโดยปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง
สรปุ รายงาน เพื่อพัฒนาทกั ษะ / กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปญั หา การให้เหตุผล การส่ือ
ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และนำประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน
การเรียนรูส้ ง่ิ ต่างๆ และใช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์ รวมทงั้ เห็นคุณค่าและมีเจตคติทีด่ ีตอ่ คณิตศาสตร์
สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและเชื่อมนั่ ในตนเอง
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ธิ กี ารที่หลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงใหส้ อดคล้องกับเน้ือหา ทกั ษะ
กระบวนการทีต่ อ้ งการวัด และตามความสามารถของผเู้ รยี น
ผลการเรยี นรู้
1 หาผลบวกและลบของเอกนาม และพหนุ ามได้
2 หาผลคูณและผลหารของพหุนามอยา่ งง่ายได้
3 สังเกตใหข้ อ้ ความคาดการณ์ และให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์อยา่ งงา่ ยได้
4 หาผลบวก ลบ คณู หารของเศษสว่ น และทศนิยมได้
5 ตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบทไ่ี ด้
ทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 45
คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตรเ์ พิม่ เตมิ
รายวชิ า ค22201 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลุม่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศกึ ษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ/กระบวนการเกยี่ วกบั เร่ืองต่อไปนี้
สมบัติของเลขยกกำลัง การคูณเลขยกกำลงั การหารเลขยกกำลัง สมบัตขิ องเลขยกกำลัง เลขยก
กำลังในรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์
พหนุ าม การคณู และ การหารพหนุ าม
การประยุกตข์ องอัตราส่วนและร้อยละ การแก้ปัญหาหรือสถานการณ์โดยใช้อัตราส่วนและสัดส่วน
การแก้ปญั หาหรือสถานการณ์ในชีวติ ประจำวนั โดยใช้รอ้ ยละ
การประยุกต์และการแปลงทางเรขาคณิต การสร้างสรรค์งานศลิ ปะโดยใชก้ ารแปลงทางเรขาคณิต
การออกแบบโดยใชก้ ารแปลงทางเรขาคณติ
โดยใช้ความรู้ ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาใน
สถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยใช้วิธกี ารทห่ี ลากหลายในการคิดคำนวณการแก้ปัญหา
การให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ใช้ภาษาและ
สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร การส่ือความหมายและการนำเสนอได้อย่างถูกต้อง
ชัดเจน เชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิตศาสตร์และนำความรู้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไป
เชอ่ื มโยงกับศาสตรอ์ ่นื ๆ รวมทงั้ มีเจตคติทด่ี ตี อ่ คณิตศาสตร์มีความใฝ่เรยี นรู้ ความมุ่งมั่นใน การ
ทำงาน รู้สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบมีวินัยมีความรอบคอบมีความรับผิดชอบ มี
ความซื่อสัตย์สุจริตมีวิจารณญาณและมีความเช่ือม่ันในตนเองและใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง
สร้างสรรค์
ผลการเรยี นรู้
1. คณู และหารจำนวนทเี่ ขียนอยูใ่ นรูปเลขยกกำลังทม่ี เี ลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนเตม็ โดยใชบ้ ทนยิ ามและสมบตั ขิ อง
เลขยกกำลงั และนำไปใชใ้ นการแก้ปญั หาได้
2. คำนวณและใชเ้ ลขยกกำลงั ในการเขยี นแสดงจำนวนทมี่ ีค่านอ้ ย ๆ หรอื มาก ๆ ในรูปสัญกรณว์ ิทยาศาสตรไ์ ด้
3. บวก ลบ คณู หารพหนุ ามได้
4. ใช้ความรเู้ ก่ยี วกบั อัตราส่วน สัดสว่ นและรอ้ ยละแก้ปัญหาหรอื สถานการณ์ต่าง ๆ ได้
5. ใช้ความรเู้ กย่ี วกับการเลื่อนขนาน การสะทอ้ นและการหมุนในการสร้างสรรคง์ านศลิ ปะหรือออกแบบได้
ท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวทิ ยา 46
อธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ
รายวิชา ค22202 คณติ ศาสตร์เพ่มิ เตมิ กลุม่ สาระการเรียนคณิตศาสตร์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศกึ ษาคน้ ควา้ ฝึกทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรอ์ ันไดแ้ ก่ การแกป้ ญั หา การให้เหตผุ ล การ
สื่อสารความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ตา่ งๆ ทางคณิตศาสตร์ และ
เชอ่ื มโยงคณติ ศาสตรก์ ับศาสตรอ์ ่นื ๆ และมีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดกี รสี อง โดยใชส้ มบตั ิการแจกแจง การแยกตวั ประกอบของ
พหุนามดีกรีสองตวั แปรเดียว การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดีกรีสองทเ่ี ป็นกำลงั สองสมบรู ณ์ และผลต่าง
กำลงั สอง
สมการกำลังสองตัวแปรเดียว สมการกำลังสองตวั แปรเดียวและโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับกำลังสองตัว
แปรเดียว
โดยจัดประสบการณห์ รือสร้าง สถานการณท์ ใี่ กล้ตัวให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษาคน้ คว้า ปฏบิ ัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพอื่ พฒั นาทักษะ กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การส่อื ความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ ไปใช้ในการเรียนรสู้ ิง่ ตา่ งๆ
และใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทัง้ เหน็ คุณคา่ และมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงาน
อยา่ งเปน็ ระบบ มรี ะเบยี บ รอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี ิจารณญาณและเชอ่ื มน่ั ในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. แยกตวั ประกอบของพหนุ ามดีกรีสองโดยใชค้ ุณสมบตั ิการแจกแจงได้
2. แยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรสี องท่อี ยู่ในรูป ax2 + bx + c เม่อื a,b,c เป็นค่าคงตัวและ a 0 ได้
3. แยกตัวประกอบของพหุนามดกี รสี องท่อี ยู่ในรูปกำลังสองสมบูรณไ์ ด้
4. แยกตวั ประกอบของพหุนามดีกรสี องท่อี ยใู่ นรปู ผลต่างของกำลังสองได้
5. แก้สมการกำลงั สองตัวแปรเดียวโดยใชก้ ารแยกตัวประกอบได้
6. แกโ้ จทย์ปญั หาเกยี่ วกับสมการกำลงั สองตัวแปรเดยี วโดยใช้การแยกตัวประกอบได้
ทง้ั หมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนคงทองวิทยา 47