1
(ฉบบั แก้ไขปรับปรงุ )
คานา
สานักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดมีภารกิจสาคัญ ได้แก่การศึกษาวิเคราะห์
พิจารณาปรับปรุงแก้ไข ระเบียบ คาส่ัง ให้คาปรึกษา ตลอดจนจัดทาเอกสารวิชาการ และคู่มือ
ปฏิบตั งิ านรังวดั ของสานกั งานทดี่ ินให้เปน็ ปัจจบุ นั เพือ่ วางกรอบการปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ที่ให้เปน็ ไป
ในทศิ ทางเดยี วกนั
คู่มือปฏิบัติงานการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนแรก
หมวดที่ 1 – 3 เป็นการอธบิ ายเร่อื งความหมายของการรังวัด วิธีการรังวัดทาแผนที่และอานาจหน้าท่ี
ส่วนที่สอง หมวดที่ 4 - 11 เป็นเร่ืองการดาเนินการเกี่ยวกับเร่ืองรังวัดเฉพาะราย และส่วนท่ีสาม
หมวดท่ี 12 – 13 เป็นเรื่องเคร่ืองมือรังวัดและเบ็ดเตล็ด เพื่อให้เจ้าหน้าที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่
สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานรังวัดเฉพาะรายเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
ประสทิ ธิผล แต่ไม่ควรนาไปใช้เป็นเอกสารอ้างองิ ในการดาเนนิ การทางกฎหมาย
สานกั มาตรฐานและส่งเสรมิ การรงั วัด
19 กันยายน 2562
2
สารบัญ หนา้
การรังวัดเฉพาะราย 6
หมวดท่ี 1 การรงั วดั
7
- การรังวดั เฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ 9
- วธิ ีการรังวัดทาแผนที่ 13
18
หมวดท่ี 2 อานาจและหนา้ ที่ 18
19
หมวดที่ 3 เอกสารสทิ ธเิ กี่ยวกบั ที่ดนิ 20
21
หมวดท่ี 4 การรบั คาขอ การนดั รงั วัด การเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนยี มและค่าใช้จา่ ยในการรงั วัด 22
- การรบั คาขอ
- การชีต้ าแหน่งประกอบการรับคาขอออกโฉนดท่ีดิน 29
- สว่ นราชการมีหนังสือขอความร่วมมอื (ช้ีตาแหน่งทดี่ นิ ) หรอื แจง้ ให้ทาการรงั วดั
- การนัดรงั วดั 37
- การเรียกเก็บค่าธรรมเนยี มและค่าใช้จ่ายในการรังวดั 38
- ประกาศจังหวดั เรอ่ื งค่าใช้จ่ายในการรังวดั เกี่ยวกบั โฉนดทด่ี นิ หรอื พิสูจนส์ อบสวน 43
หรอื ตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกับหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์ 45
- บัญชคี ่าใช้จา่ ยสาหรบั การรงั วดั เก่ยี วกับโฉนดท่ีดินหรอื พิสูจน์สอบสวนหรือ 45
ตรวจสอบเนอ้ื ท่ีเกย่ี วกับหนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ 45
- ตวั อย่าง บัญชีค่าใช้จ่ายฯ
46
หมวดท่ี 5 การดาเนินการเก่ียวกับเจา้ ของทีด่ ินข้างเคียง
48
- การตรวจสอบหลกั ฐานการ สง่ /รบั หนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินขา้ งเคียง 48
- การคน้ หาชอ่ื และทีอ่ ยู่ของเจ้าของทด่ี ินข้างเคียง 49
- การลงนามในหนงั สือแจ้งการระวงั ชีแ้ นวเขตและลงชอ่ื รับรองเขตที่ดนิ (ท.ด.38) 50
- การจา่ หน้าซองหนงั สือแจ้งให้เจ้าของที่ดินขา้ งเคียงมาระวงั ชี้แนวเขตและลงชอ่ื 52
52
รบั รองแนวเขตท่ีดิน (ท.ด.38) 55
- การดาเนินการเก่ยี วกบั ขา้ งเคียงกรณีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรบั รองการทา 55
ประโยชน์ ตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2532)
- การดาเนนิ การเก่ยี วกับขา้ งเคียงกรณีรงั วัดสอบเขตโฉนดท่ีดนิ หรอื ตรวจสอบเนอื้ ท่ฯี
- การแจ้งหมายข้างเคียงกรณรี ังวัดแบง่ แยกท่ดี นิ ทีม่ กี ารรงั วดั ใหมแ่ ลว้
- การสอบถามเจ้าของท่ดี นิ ข้างเคียง
- การรบั รองแนวเขตทีด่ ินของทางราชการ
- การสอบผู้ปกครองท้องทกี่ ่อนออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในทีด่ ิน
หมวดที่ 6 การรังวัดเฉพาะราย
- การเตรียมการรังวดั
• หลักฐานแผนที่
• เครอื่ งมอื เครอ่ื งใช้แบบพิมพ์
3
• การยมื เงินมดั จารังวดั 57
- การรังวดั และการปักหลักเขต
58
• การรังวัด 58
• การปักหลักเขตท่ีดิน 60
60
• วธิ ีการปกั หลักเขตทีด่ นิ
- การรังวัดประเภทตา่ ง ๆ 65
68
• การรงั วัดออกโฉนดทีด่ นิ 69
71
การรังวดั ซา้ ใบไตส่ วน 72
การรงั วดั สอบเขตใบไต่สวน 72
80
การเตรยี มการรงั วดั ออกโฉนดท่ีดิน 81
การรังวดั ออกโฉนดทีด่ ินเฉพาะรายที่มีผคู้ ัดค้าน 84
การรงั วัดและการลงรปู แผนท่ใี นระวางแผนท่ี 85
87
• การรังวดั สอบเขตโฉนดท่ีดิน 87
• การรังวดั รวมโฉนดที่ดิน 88
90
• การรงั วัดแบ่งแยกโฉนดท่ีดิน
• การรงั วดั แบง่ หกั ทีส่ าธารณประโยชน์
• การรังวดั แบง่ เวนคนื
• การรงั วดั ทาแผนทีพ่ ิพาทตามคาส่ังศาล
• การรังวัดตรวจสอบท่ีดนิ สาธารณประโยชน์
• การรงั วดั ออกหนงั สือสาคญั สาหรับท่ีหลวง
• การรังวัดทาแผนทอ่ี น่ื ๆ
- การคดั คา้ นแนวเขตท่ีดิน
- การงดรงั วัด รอการสง่ เรื่องรงั วัด และการยกเลิกคาขอรังวัด
- การตรวจสอบหลกั ฐานและเอกสารกอ่ นกลับจากการรงั วัด
- การคานวณและลงทห่ี มายแผนที่
หมวดที่ 7 การรังวัดโดยระบบโครงข่ายการรังวัดดว้ ย
ดาวเทียมแบบจลน์ (RTK GNSS Network)
หมวดที่ 8 การสอบสวนบันทกึ ถ้อยคา 91
- การบนั ทึกแบบไม่สมยอมซอ้ื ขาย แลกเปล่ยี น ให้ปนั แนวเขตกัน 92
- การบนั ทกึ การปักหลกั ไม่ถงึ เขต (หลกั พยาน) 94
- การบนั ทกึ กรณีขา้ งเคียงขอไมล่ งนามรบั รองเขตเนอ่ื งจากมีสาธารณฯค่นั กลางระหว่างทดี่ ิน
- การบนั ทึกการคัดคา้ นแนวเขตท่ีดิน 98
- การบนั ทึกแทนผ้วู ายชนม์ กรณีเจ้าของท่ีดนิ ขา้ งเคยี งผถู้ ือกรรมสิทธถ์ิ ึงแก่กรรม 100
- การบนั ทกึ การลงนามแทนผูเ้ ยาว์ 102
- แกค้ าขอรังวัด และการปักหลักเขต 104
- การบันทึกแบ่งหกั ทีส่ าธารณประโยชน์ 107
- การบันทึกแบ่งแยกจากัดเนื้อท่เี ปน็ ไมจ่ ากดั เนอื้ ที่ หรือกลับกัน 109
- การบนั ทึกงดทาการรงั วัด 111
4
- การบนั ทึกถอ้ ยคากรณผี ถู้ ือกรรมสิทธ์ิรวมตกลงเขตทีจ่ ะแบ่งแยกระหวา่ งกนั เองไมไ่ ด้ 113
- การบันทกึ ถ้อยคาเจา้ ของท่ดี นิ ข้างเคยี งท่ียังไมม่ ีหนังสือแสดงกรรมสทิ ธิ์ 115
- การบนั ทึกกรณอี ่ืน ๆ
หมวดที่ 9 การรายงานการรงั วัด 117
- การรายงานการรังวดั 117
• การรายงานการรังวดั (ร.ว. 3 ก) กรณอี อกโฉนดทดี่ ิน 117
• การรายงานการรังวดั (ร.ว. 3 ก) กรณสี อบเขต แบง่ แยก 118
• การรายงานการรังวัด (ร.ว. 3 ก) กรณีรวมโฉนดทดี่ ิน 118
- การรายงานการรงั วดั ทตี่ อ้ งใชแ้ บบพิมพ์ ร.ว. 3 119
- ความหมายของถอ้ ยคาที่ใช้ประกอบการรายงานการรงั วัด 119
- การพจิ ารณาดาเนนิ การยกเลิกเรือ่ งที่ค้างอยู่กองกลางฝุายรงั วดั 121
- การเรยี งเอกสารเรอื่ งรงั วัดทดี่ ิน 121
หมวดท่ี 10 การแก้ไขแผนทีแ่ ละ/หรือเนอ้ื ที่ 124
- การพิจารณาแกไ้ ขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายทดี่ นิ 124
• การตรวจสอบหลกั ฐานแผนที่ 125
• การรายงานและหมายเหตุในหลกั ฐานแผนที่
• การส่งหลกั ฐานให้กรมทด่ี ินพจิ ารณาแก้ไขรูปแผนทห่ี รอื เนื้อที่
- การพิจารณาแก้ไขตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน
หมวดที่ 11 การดาเนนิ การเกี่ยวกบั ระวางและหลักฐานแผนท่ี 127
- ประโยชนข์ องระวางแผนท่ี
- ชนดิ ของระวางแผนท่ี
- การเรียกชอ่ื ระวางแผนท่ี / การใช้ระวางแผนที่ 128
- การลงรูปแผนท่ใี นระวางแผนที่ 131
• การลงรปู แผนทใี่ นระวางแผนทก่ี รณีออกโฉนดที่ดนิ เฉพาะราย
• การลงรปู แผนทใี่ นระวางแผนทรี่ ูปถ่ายทางอากาศกรณอี อกโฉนดทด่ี นิ 133
เฉพาะราย
• การลงรปู แผนทใี่ นระวางแผนทก่ี รณีการรงั วัดสอบเขต แบง่ แยกและ
รวมโฉนดท่ีดิน
• การนารูปแผนท่ีรงั วัดใหม่ดว้ ยระบบ RTK GNSS Network ลงระวางแผนที่ 133
- การควบคมุ เก็บรักษาระวางแผนท่ี 136
• การจัดเก็บระวางแผนท่รี ะบบเดิม
• การจดั เก็บระวางแผนท่รี ะบบพกิ ดั ฉาก ยู ที เอ็ม
• การจัดเก็บระวางแผนทีแ่ ผน่ พิมพ์
- การควบคุมหลกั ฐานแผนท่ี 138
• ตน้ รา่ งแผนที่
ประโยชน์ของตน้ ร่างแผนที่ /การควบคมุ ตน้ ร่างแผนที่ /การเก็บตน้ ร่างแผนที่
• รายการรงั วัด (ร.ว. 67) และรายการคานวณ 5
หมวดที่ 12 การควบคมุ การรงั วดั 144
- ระยะเวลาในปฏิบตั ิงาน 144
- บญั ชีควบคุมงานรงั วดั 145
• บัญชรี บั เรอื่ งและนัดรงั วดั (ร.ว. 12) 145
• บญั ชีคมุ การนัดรังวัด (ร.ว. 70) 145
• บญั ชีคุมเร่ืองประจาตัวชา่ งรังวดั (ร.ว. 71) 146
• บัญชีงานรงั วดั เกย่ี วกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ 147
• บญั ชีคุมงานคา้ ง (กองกลาง) ของฝุายรงั วดั 147
• การรายงานผลงานรงั วัดประจาเดอื น (ร.ว.9 ค) 147
- ขอ้ ควรระวังในการปฏิบตั ิงาน 149
150
หมวดที่ 13 เครอ่ื งมอื รังวดั
- การดแู ลรกั ษาเครอ่ื งวัดระยะอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์และกล้องสารวจแบบประมวลผล 153
- ขอ้ ควรระวงั การใชเ้ คร่ืองมอื รงั วดั 153
- ข้อควรระวงั เก่ียวกบั แบตเตอรแี่ ละระบบไฟฟาู ในกล้องและเคร่อื งวัดระยะฯ 157
• ข้อควรระวงั สาหรับแบตเตอร่ี 159
• ขอ้ กาหนดในการชารจ์ แบตเตอรี่ 159
- การต่อระบบไฟข้างนอก 159
- การเบกิ จา่ ยและสง่ คืนเครื่องมอื 160
- โปรแกรมสานักงานท่ดี นิ สาหรับเครือ่ งลงทห่ี มาย 160
161
หมวดที่ 14 เบ็ดเตล็ด 161
- การอ่านคา่ ระยะในไม้สเกล 162
- การยอ่ และขยายแผนที่ 162
- การตรวจหรือคัดหลักฐานแผนท่ี 164
- การเขียนแผนทปี่ ระกอบสญั ญาเช่า 165
- การขดี เขตแบง่ แยกในโฉนดท่ดี นิ
- การปิดผนกึ รูปแผนที่ในโฉนดทีด่ นิ
- การต่อรูปแผนที่ในโฉนดที่ดนิ แบบ น.ส.4จ
- การเขยี นรปู แผนทใ่ี นโฉนดทดี่ นิ
- คาสัง่ ให้กลดั ท.ด.80 , ท.ด.80ก และ ท.ด.80ข
- ร.ว.ม. ปรากฏตดิ / ร.ว.ม. ปรากฏเป็น
- หลกั เขตที่ดินและรายการประกอบแบบมาตรฐานหลักเขตที่ดนิ
- แบบพมิ พ์เกยี่ วกับงานรงั วัดในสานกั งานที่ดิน
- กฎ ระเบียบ คาสงั่ ท่ีสาคัญเกย่ี วกับการรงั วดั
6
หมวดที่ 1
การรงั วัด
การรงั วัด เปน็ ศาสตร์แขนงหน่งึ วา่ ด้วยการหาความสมั พันธข์ องตาแหน่งสิ่งต่าง ๆ บนพ้ืนผิวพิภพ
ซึ่งการรังวัดตามความหมายของกรมท่ีดิน ตามมาตรา 1 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน หมายความว่า
การรงั วดั ปกั เขต และทาเขต จดหรอื คานวณการรังวัด เพ่ือให้ทราบที่ตั้งแนวเขตที่ดิน หรือทราบท่ีตั้ง
และเนอ้ื ท่ขี องที่ดนิ
เมอ่ื พเิ คราะหถ์ อ้ ยคาทก่ี ฎหมายบญั ญตั ไิ ว้ การรงั วัดตามนัยน้ี แยกออกเป็นหลกั ใหญ่ ๆ ไดด้ งั น้ี
- การรงั วัดระยะ (รงั วัด) แนวเขตทด่ี ิน
- การใชเ้ ครอื่ งมือในการรงั วัด การรงั วัดเพือ่ ให้ทราบท่ีตั้งของทด่ี ิน
- การปกั หลกั เขตทด่ี นิ
- การทาเขต จด หรือทาแนวเขตใหร้ ้วู า่ ที่ดินนีจ้ ดเขตทีด่ นิ ของผู้ใด
- การคานวณเนื้อที่ของทดี่ ิน โดยวธิ ีคณิตศาสตร์จากค่าพกิ ัดฉากของแตล่ ะมุมเขต หรอื
โดยวธิ มี าตราส่วน
การรงั วดั เฉพาะราย ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน แยกตามแต่ละประเภท ได้แก่ การรังวัด
ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ การรังวัดสอบเขต แบ่งแยก รวมโฉนดที่ดิน
การรังวัดตรวจสอบเน้ือท่ีตามหนังสือรับรองการทาประโยชน์ รวมถึง การออกหนังสือสาคัญสาหรับ
ทห่ี ลวง ซงึ่ พอสรปุ ได้ ดังน้ี
การรังวัดออกโฉนดท่ดี นิ หรือหนังสือรบั รองการทาประโยชน์
ตามมาตรา 59 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน กาหนดให้ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองท่ีดินมาขอ
ออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนงั สือรับรองการทาประโยชน์ เป็นการเฉพาะราย ไม่ว่าจะได้มีการประกาศของ
รัฐมนตรี ตามมาตรา 58 แลว้ หรอื ไมก่ ต็ าม หรอื ไดค้ รอบครองและทาประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจาก
ผูซ้ ่งึ มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง เมือ่ พนักงานเจ้าหนา้ ที่พจิ ารณาเห็นสมควร ให้ดาเนินการออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวล
กฎหมายท่ดี นิ กาหนด โดยผู้ซง่ึ ครอบครองและทาประโยชน์ในท่ีดินอยู่ก่อนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดิน
ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสาคัญแสดงกรรมสิทธ์ิท่ีดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่ง
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่ไม่รวมถึง ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา
27 ตรี ถ้ามีความจาเปน็ จะขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์เป็นการเฉพาะราย
เม่ือพนักงานเจ้าหน้าท่ีพิจารณาเห็นสมควรให้ดาเนินการออกโฉนดท่ีดิน หรือหนังสือรับรองการทา
ประโยชนแ์ ลว้ แต่กรณี ได้ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารทีก่ ฎหมายกาหนด
ตามคาพิพากษาฎีกาท่ี 920/2526 น.ส. 3 มิใช่หลักฐานท่ีแสดงว่าผู้มีชื่อใน น.ส. 3 เป็นเจ้าของ
กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นในทางทะเบียนเช่นเดียวกับโฉนดท่ีดิน ดังนั้น โฉนดท่ีดินจึงเป็นเพียงองค์ประกอบ
หน่ึงของทะเบียนท่ีดิน การที่จะเป็นทะเบียนที่ดินได้น้ันจะต้องอาศัยกรรมวิธีอ่ืนประกอบด้วย เช่น
สามารถตรวจสอบเพ่ือให้ทราบที่ตั้งแนวเขตท่ีดิน หรือทราบท่ีต้ังและเนื้อท่ีของที่ดินได้ด้วยจึงจะ
ครบองค์ประกอบ และถือได้ชื่อว่าเป็นหลักฐานทะเบียนท่ีดินอย่างแท้จริง เอกสารท่ีจะถือว่าเป็น
ทะเบยี นทด่ี ินจะตอ้ งมีองค์ประกอบ ดังนี้
7
1. สามารถตรวจสอบทีต่ ้งั แนวเขตทด่ี ิน และเน้อื ทขี่ องที่ดนิ ได้
2. เปน็ หนงั สอื สาคญั แสดงกรรมสิทธิท์ ่ีดนิ
การทาทะเบียนที่ดินเพ่ือให้สามารถตรวจสอบที่ต้ังแนวเขตท่ีดิน และเน้ือท่ีของท่ีดินได้นั้น
จะต้องมีการรังวัดวางโครงสร้างหมุดหลักฐานแผนที่และสร้างระวางแผนที่ขึ้นก่อน เม่ือดาเนินการ
ดังกล่าวเสรจ็ แล้วจงึ จัดใหม้ ีการรังวดั ทาแผนทีเ่ พอ่ื ออกโฉนดทีด่ นิ ซึง่ มีวิธกี ารรงั วัดดังนี้
วิธีการรังวดั ทาแผนท่เี พ่ือออกโฉนดที่ดิน ได้ถูกกาหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับท่ี 6 (พ.ศ. 2497)
และกฎกระทรวงฉบบั ที่ 49 พ.ศ. 2544 (แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ) ให้กระทาได้ 2 วิธี คอื
แผนทชี่ น้ั หนึ่ง กระทาโดยการใช้กล้องธีโอโดไลท์และเคร่ืองมือวัดระยะโยงยึดหลักเขตวัดง่ามมุม
ภาคของทิศ หรือใช้กล้องสารวจแบบประมวลผล หรือการรังวัดด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม หรือ
ด้วยเคร่ืองมือสารวจประเภทอ่ืนท่ีมีความละเอียดถูกต้องไม่ต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานท่ีกรมที่ดินกาหนด
โดยคานวณเป็นค่าพิกัดฉากสืบเนื่องจากหมุดหลักฐานแผนที่ของกรมท่ีดิน และคานวณพื้นที่
โดยวิธคี ณติ ศาสตรจ์ ากคา่ พกิ ดั ฉากของแตล่ ะมุมเขต
แผนท่ีช้นั สอง ซึ่งใช้ระวางแผนที่เป็นหลัก กระทาโดยวิธีวัดระยะเป็นมุมฉาก หรือวัดระยะ
สกัดเป็นรูปสามเหลี่ยมจากเส้นหมุดหลักฐานโครงงานแผนที่หรือโดยวิธีจากรูปถ่ายทางอากาศและ
คานวณเนื้อท่ีโดยวิธีคณิตศาสตร์ หรือโดยมาตราส่วน
ท่ดี ินบริเวณใดควรกระทาโดยวิธีใด ใหอ้ ธิบดกี าหนด (ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา)
ทดี่ ินในแผนท่ีระวางออกโฉนดที่ดิน ซ่ึงรังวัดออกโฉนดท่ีดินไว้แล้ว โดยวิธีแผนท่ีชั้นหนึ่ง
หรือโดยวิธีแผนท่ีช้ันสองเมื่อมีความจาเป็นต้องรังวัดใหม่ จาต้องรังวัดโดยมีมาตรฐานเท่าเดิม หรือดีกว่า
เชน่ เดิมเป็นแผนท่ีช้ันหนึ่งต่อมาต้องรังวัดใหม่ ก็ต้องทาการรังวัดเป็นแผนท่ีชั้นหนึ่ง จะทาการรังวัด
เป็นแผนที่ชนั้ สองไมไ่ ด้ แต่ถา้ เดมิ รังวดั เปน็ แผนทช่ี น้ั สองอยู่แลว้ ต่อมาเม่ือมีการรังวดั ใหม่จะทาการรังวัด
เปน็ แผนท่ชี นั้ สองตามเดิมหรือทาการรังวัดเปล่ียนเป็นแผนที่ชั้นหน่ึงตามที่ได้มีประกาศกาหนดพ้ืนที่
ใหท้ าการรังวัดโยวิธีแผนที่ชน้ั หนึ่ง ซึง่ ถือว่ามาตรฐานการรงั วดั เทา่ เดมิ หรอื ดีกวา่ เดิมก็ยอ่ มกระทาได้
ในการรังวดั ถ้าเส้นเขตท่ีดนิ ทร่ี ังวัดเป็นเส้นคดไปคดมาไม่เป็นเส้นตรง ให้เจ้าของท่ีดินท้ังสอง
ฝุายทาความตกลงกาหนดเส้นเขตใหม่ ให้เป็นเส้นตรงเส้นเดียวหรือหลายเส้น ต่อกันได้ เมื่อตกลงกัน
ประการใดแล้ว พนักงานเจ้าหน้าท่ีก็จะรังวัดให้เป็นไปตามที่ตกลงกัน ท้ังน้ี ก็เพ่ือให้รูปแปลงท่ีดินของ
เจ้าของท่ีดินแต่ละแปลงเป็นรูปเหล่ียมท่ีดีขึ้น ซ่ึงอาจเป็นรูปส่ีเหล่ียม ห้าเหลี่ยม เจ็ดเหลี่ยม
ก็ได้ ทาให้เกิดความสะดวกกับการดูแลรักษาแนวเขต ระงับข้อพิพาทท่ีอาจจะเกิดขึ้นได้ สะดวกต่อ
การรงั วดั และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการปักเขตด้วย เว้นแต่ท่ีดินข้างเคียงเป็นที่สาธารณประโยชน์
ซงึ่ ผู้ดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์ไม่มีอานาจหน้าท่ีในการทาความตกลงกาหนดเส้นเขตใหม่ให้เป็น
เสน้ ตรงได้ เพราะการท่ีจะเปล่ียนแปลงแนวเขตที่สาธารณประโยชน์ได้น้ัน ต้องดาเนินการเป็นไปตาม
ผลทก่ี ฎหมายกาหนดไว้เท่านนั้
สาหรบั การรงั วดั ทาแผนท่เี ป็นเร่อื งค่อนข้างจะหนักไปในทางวิชาการเกี่ยวกับแผนที่อยู่มาก
เมื่อมีความจาเป็นในการจัดทาแผนท่ี กฎหมายจึงได้วางมาตรการบางอย่างไว้เพื่อคุ้มครองปูองกัน
เจ้าหน้าท่ีและใหอ้ านาจเจา้ หนา้ ทีท่ ีผ่ ู้ออกปฏบิ ัติงานในทอ้ งที่
การรังวัดออกโฉนดที่ดิน จะต้องดาเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่
กาหนดในประมวลกฎหมายท่ีดิน การออกโฉนดที่ดินจะมีการปักหลักเขตคอนกรีตตามมุมเขตท่ีดิน มีเลข
หมายและอักษรย่อชื่อจังหวัดกากับบนหัวหลัก ส่วนหมุดหลักฐานแผนที่เป็นหมุดโลหะทองเหลือง หรือ
หมดุ เหล็ก หรือหมุดคอนกรีต ท่ีใช้ปักห่างกันประมาณ ½ หรือ 1 หรือ 2 กิโลเมตร เพ่ือประโยชน์ใน
8
การโยงยดึ หลักฐานแผนทีเ่ มอ่ื เวลารังวัดเพือ่ ออกโฉนดทด่ี ิน เปน็ การกาหนดตาแหน่งและท่ีต้ังแปลงท่ีดิน
ท่ีออกให้แก่ราษฎรโดยไม่มีการเคล่ือนที่ เมื่อต้องการค้นหาหลักเขตท่ีปักไว้ 30 – 40 ปีมาแล้ว
เจา้ หน้าท่สี ามารถชไ้ี ด้ว่าอยู่ตรงจุดใด เมื่อขุดลงไปสามารถเจอหลักเขตนัน้ ได้ ซ่ึงเป็นเรื่องทางดา้ นวิชาการ
การรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดทีด่ นิ ตามประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ม. 69 ทวิ, ม. 79)
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กาหนดให้ผู้มีสิทธิในท่ีดินประสงค์จะขอสอบเขตโฉนดท่ีดิน
(มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน) แบ่งแยกที่ดินออกเป็นหลายแปลงหรือรวมที่ดิน
หลายแปลงเข้าเป็นแปลงเดียวกัน (มาตรา 79 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน) ให้ยื่นคาขอพร้อมด้วย
หนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนการรังวัดทาแผนท่ีพิพาทตามคาส่ังศาล และการ
รังวัดตรวจสอบที่สาธารณประโยชน์ที่ไม่มีหลักฐาน นั้น ไม่ได้เป็นการรังวัดตามประมวลกฎหมายที่ดิน
(ไมม่ บี ทบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายที่ดิน) เป็นเพียงการรังวัดทาแผนท่ีและส่งรูปแผนท่ีพร้อมเอกสาร
ประกอบการรังวัดที่เกี่ยวข้องให้กับส่วนราชการผู้มีหนังสือขอความร่วมมือหรือแจ้งให้ทาการรังวัดมา
เพื่อให้สว่ นราชการน้นั พจิ ารณาดาเนินการต่อไป
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า เจ้าพนักงานซ่ึงเป็นผู้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมาย
ท่ดี นิ และพนักงานอ่นื ซ่ึงรฐั มนตรีแตง่ ต้ังให้ปฏิบตั กิ ารตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
การรังวดั ออกหนงั สือสาคัญสาหรับทีห่ ลวง
ตามมาตรา 8 ตรี ท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหรือใช้
เพ่ือประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ อธิบดีอาจจัดให้มีหนังสือสาหรับท่ีหลวงเพ่ือแสดงเขตไว้เป็น
หลักฐาน
วรรคสอง แบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง ให้เป็นไปตามท่ี
กาหนดในกฎกระทรวง (กฎกระทรวง ฉบับท่ี 26 พ.ศ.2516 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 45 พ.ศ.2537)
9
หมวดท่ี 2
อานาจและหนา้ ที่
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ.2497 กระทรวงมหาดไทยได้ออกคาส่ัง ท่ี 542/2525 เร่อื ง แต่งต้ังพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา
70 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน แต่งตั้งให้ผู้ดารงตาแหน่งช่างรังวัดและนายช่างรังวัด ต้ังแต่ระดับ 4
ข้ึนไป ฝุายรังวัดในสานักงานท่ีดินจังหวัดและสานักงานที่ดินสาขา เป็นเจ้าพนักงานที่ดินตาม
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน ในสานกั งานที่ดินจงั หวดั และสานกั งานท่ีดินสาขาน้ัน ๆ และตามหนังสือเวียน
กรมทด่ี ิน ที่ มท 0612/1/ว 29715 ลงวันท่ี 21 ธันวาคม 2525 ระบุว่าผู้ท่ีเป็นเจ้าพนักงานท่ีดินตาม
ประมวลกฎหมายทีด่ ิน ย่อมเปน็ พนักงานเจ้าหนา้ ทีต่ ามมาตรา 70 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดนิ ด้วย
ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ได้กาหนดมาตรฐาน
กาหนดตาแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญทุกส่วนราชการเข้าประเภทตาแหน่ง สายงาน และระดับ
ตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่งใหม่ ทาให้ช่ือตาแหน่งของข้าราชการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้
เป็นการสอดคล้องกับช่ือตาแหน่งของข้าราชการท่ีเปลี่ยนแปลงไปตามพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคาส่ัง ที่ 66/2552 ลงวันที่ 18
กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 เรอื่ ง แตง่ ตงั้ เจา้ พนักงานทดี่ ิน ให้ผ้ดู ารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ในสานักงานที่ดิน
จงั หวัดและสานกั งานท่ีดินสาขา เป็นเจ้าพนักงานท่ีดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ในสานักงานที่ดิน
จงั หวัดและสานักงานท่ดี ินสาขานนั้ ๆ คือ
(1) เจ้าพนกั งานที่ดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานทด่ี ินสาขา
(2) นกั วชิ าการทีด่ ิน ตงั้ แตร่ ะดับปฏบิ ัติการขน้ึ ไปในฝุายทะเบยี น
(3) เจ้าพนักงานท่ีดิน ตัง้ แต่ระดับปฏิบัตงิ านข้ึนไปในฝุายทะเบียน
(4) นายช่างรังวัด ตัง้ แตร่ ะดบั ชานาญงานข้นึ ไปในฝา่ ยรงั วดั
(5) ข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ ต้ังแต่ระดับปฏิบัติการข้ึนไป หรือ
ประเภททว่ั ไป ตง้ั แต่ระดับปฏิบัติงานข้ึนไป ซงึ่ อธบิ ดกี รมท่ีดนิ แตง่ ตงั้ ใหท้ าหน้าที่ตาม (2) (3) และ (4)
เป็นการชั่วคราว
ผู้ท่ีเป็นเจ้าพนักงานที่ดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีตาม
มาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ ดว้ ย ตามหนังสอื กรมท่ีดนิ ท่ี มท 0612/1/ว29715 ลงวันท่ี 21
ธันวาคม 2525 เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานที่ดินตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเจ้า
พนักงานท่ีดินตามประมวลกฎหมายท่ีดินน้ี คอื นายช่างรังวดั ตั้งแตร่ ะดบั ชานาญงานขึ้นไปในฝุายรังวัด
มอี านาจลงนามในหนังสือแจ้งการระวงั ช้แี นวเขตและลงชอื่ รบั รองเขตทดี่ นิ (ท.ด. 38) และหนังสือแจ้ง
ผู้มีสิทธิในท่ดี นิ ขา้ งเคียงให้มารบั รองแนวเขตหรือคัดค้านการรงั วัด (ท.ด.81) ชา่ งรงั วัดระดบั ปฏิบัติงาน
ไม่มอี านาจลงนามในหนงั สือดงั กลา่ ว
หนา้ ที่ของชา่ งรังวดั
ได้แก่ การรังวัดทาแผนที่ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
และระเบยี บคาสั่งกรมทีด่ ิน
ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน (มาตรา 66, 70, 70 ทวิ) และระเบียบคาสั่งกรมที่ดิน ได้กาหนด
อานาจหน้าท่ขี องช่างรงั วัด ซ่ึงสามารถแยกอานาจหน้าท่ีของช่างรังวัดในการรังวัดที่ดิน ตามข้ันตอน
การรังวัด ได้ดงั น้ี
10
อานาจและหนา้ ท่ี ของชา่ งรงั วัดกอ่ นวันทาการรังวัดทด่ี นิ
1. นาเร่อื งรังวัดลงบญั ชีคุมเรือ่ งประจาตัวชา่ งรงั วัด (ร.ว. 71)
2. จัดเตรียมเรื่องรังวัด เช่น ตรวจสอบเลขที่ดินข้างเคียง ขอเบิกต้นร่างหรือรายการ
รงั วดั ของท่ีดินที่ทาการรังวดั และแปลงขา้ งเคียง จัดทาสาเนารูปแผนที่ในระวาง เป็นตน้
3. จัดทาหนงั สือ (ท.ด. 38) เรียกเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตที่ดินของตน และ
ลงชื่อรับทราบแนวเขตท่ีดินของตน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ม. 70 (1) ซ่ึงควรแจ้งเจ้าของที่ดิน
ขา้ งเคียงทราบล่วงหน้าก่อนวันทาการรงั วดั ไม่น้อยกว่า 15 วนั
อานาจและหน้าที่ ของชา่ งรังวัดขณะทาการรงั วัดทีด่ ิน
1. เข้าไปในท่ีดินของผู้มีสิทธิในที่ดินหรือผู้ครอบครองในเวลากลางวัน แต่จะต้องแจ้งให้
ผมู้ ีสิทธิในท่ีดินทราบเสียกอ่ น (ม. 66 วรรคแรก) และให้ผู้มีสิทธิในที่ดินหรือผู้ครองครองที่ดินอานวย
ความสะดวกตามควรแก่กรณี ได้แก่ กระทาการอย่างใด ๆ แก่การรังวัดเท่าที่จาเป็น และการอานวย
ความสะดวกนั้น ควรเป็นกรณีท่ีเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การรังวัดเท่าน้ัน เช่น การจัดเตรียมจอบ
เสียม ชะแลง (เคร่ืองมือช่วยอานวยความสะดวกในการรังวัด) การถากถางแนวเขตที่ดินไว้ล่วงหน้า
การจกั เตรยี มไม้รวกหรือไม้ระแนงเพือ่ ทาธงปักไวต้ ามมุมเขตที่ดินและมุมเขตทแี่ บ่งแยก
2. ให้เจา้ ของทด่ี นิ และเจา้ ของท่ดี นิ ขา้ งเคียงนาทาการรังวดั ตามเขตการครอบครอง
3. เม่อื เจา้ ของท่ดี ินและเจ้าของทดี่ นิ ขา้ งเคียงนาทาการรังวัดตามเขตการครอบครองแล้ว
ช่างรังวัดจะต้องทาการรังวัดตรวจสอบตามหลักวิชาการ เพื่อตรวจสอบสิทธิของผู้ครอบครองท่ีดิน
เสียก่อนว่า มีอยู่แค่ไหนเพียงใด โดยพิจารณาจากหลักฐานในที่ดิน เช่น หมุดหลักฐานแผนท่ี หลักเขตเก่า
คันเขต ร้ัว ตน้ ไม้ ยืนต้น ส่ิงปลูกสร้าง เป็นต้น ประกอบกับเอกสารหลักฐานของทางราชการ เช่น ต้นร่าง
แผนท่ี รายการคานวณ ระวางแผนท่ี เป็นตน้
4. สร้างหมุดหลกั ฐานแผนท่ีในทด่ี ินของผู้ใดกไ็ ดต้ ามความจาเป็น (ม. 66 วรรคสอง)
5. เมอ่ื มีความจาเปน็ มีอานาจขุดดิน ตดั รานกง่ิ ไม้ หรอื กระทาการอย่างใด ๆ แก่ส่ิงขวาง
แกก่ ารรงั วดั เท่าทจี่ าเป็น (ม. 66 วรรคสาม)
(อานาจหน้าท่ตี ามมาตรา 66 นี้ ครอบคลุมถงึ คนงานรังวัดดว้ ย)
6. เรียกผู้เก่ียวข้องมาให้ถ้อยคา หรือสั่งให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดเก่ียวข้องกับ
การสอบสวน ม. 70 (2)
7. ใหผ้ ูม้ สี ทิ ธิในที่ดินจัดการปกั หลกั เขตต่อหนา้ พนกั งานเจ้าหนา้ ท่ผี ูท้ าการรงั วดั
(ให้นา ม. 66 และ ม. 70 มาใช้บังคับแก่การพิสูจน์สอบสวนท่ีดินเพื่อออกหรือการตรวจสอบ
หนังสอื รับรองการทาประโยชน์โดยอนุโลม (ม. 70 ทวิ))
อานาจดังท่ีกล่าวมาน้ีย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย กล่าวคือ หากมีผู้ใดฝุาฝืน
หรอื ไม่ปฏิบัตติ ามจะต้องมคี วามผิดตามทกี่ ฎหมายไดก้ าหนดโทษไว้
หน้าที่ ของชา่ งรงั วดั ภายหลังจากวันทาการรงั วดั ท่ดี นิ
ดาเนนิ การเก่ียวกับเร่อื งขดั ขอ้ งท่ีต้องสอบถามข้างเคียง ให้เจ้าหน้าท่ีฝุายรังวัดสอบถามไปภายใน
7 วัน นับแต่วันรังวัดเสร็จ เว้นแต่กรณีที่ต้องมีแผนที่ประกอบการสอบถามให้สอบถามภายใน 3 วัน
นับตั้งแต่วันส่ังถอนจ่าย และส่งเร่ืองรังวัดภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันทาการรังวัด ซ่ึงได้
กาหนดไว้ในคมู่ อื สาหรับประชาชน ขัน้ ตอนการรงั วดั สอบเขต แบง่ แยก รวมโฉนดทีด่ ินหรอื ตรวจสอบ
11
เนอ้ื ที่ แบ่งแยก รวมหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.อานวยความสะดวก ในการพิจารณา
อนญุ าตของทางราชการ พ.ศ. 2558
อานาจและหนา้ ท่ี ของคนงานรงั วดั
อานาจของคนงานรังวัด ได้ถูกกาหนดขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การรังวัด ซึ่งตามประมวล
กฎหมายท่ีดิน มาตรา 66 วรรคแรก ความว่า “เพื่อประโยชน์แก่การรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีและ
คนงานรงั วัดมอี านาจเขา้ ไปในท่ีดินของผู้มีสิทธิในที่ดิน หรือผู้ครอบครองในเวลากลางวันได้ แต่จะต้อง
แจง้ ให้ผมู้ ีสทิ ธิในทดี่ ินทราบเสียก่อน และให้ผู้มีสิทธิในท่ีดินหรือผู้ครองครองท่ีดินอานวยความสะดวก
ตามควรแก่กรณี”
ส่วนหน้าที่ ของคนงานรังวดั นั้น ตามคาสง่ั กรมที่ดิน ท่ี 763/2527 เร่ือง การจ้างคนงาน
รงั วดั ทดี่ นิ ลงวันที่ 21 มถิ ุนายน 2527 กาหนดให้คนงานรังวัดมีหน้าท่ีปฏิบัติงานเป็นลูกมือช่างรังวัด
ในการแบกหามอุปกรณ์การรังวัด หลักเขตที่ดิน ถากถางแนวเขตที่ดิน ขุดค้นหาหลักเขตและ
ปกั หลกั เขตที่ดิน ลากโซว่ ดั ระยะและอื่นๆ ตามทีช่ า่ งรังวัดสั่งให้ปฏิบตั ิ
หนา้ ทีข่ องผ้ขู อรังวัดในงานรงั วดั เฉพาะราย
(1) นาทาการรงั วัด ไดแ้ ก่ การนาชี้แนวเขตและลงชือ่ รับทราบแนวเขตท่ดี นิ ของตน
(2) จดั การปักหลักเขต ได้แก่ การจดั หาหลักเขตท่ีดิน โดยการจ่ายค่าธรรมเนียมค่าหลัก
เขตทด่ี นิ ให้แก่ทางราชการ (กฎกระทรวงฉบับที่ 53 พ.ศ.2549 ข้อ (10) ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตล็ด (ฌ)
ค่าหลักเขตท่ีดิน) การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ประกอบการปักหลักเขต ได้แก่ อิฐ หิน ปูน ทราย และ
อปุ กรณ์กะเทาะพื้นคอนกรตี เป็นต้น รวมถึงการให้ผู้ขอรังวัดจัดการปักหลักเขตท่ีดินลงตรงตาแหน่ง
มมุ เขตท่ดี ินของตน เพื่อให้ผู้ขอรับทราบตาแหน่งท่ีแน่นอนของหลักเขตท่ีดินและดูแลรักษาเขตที่ดิน
ของตนตอ่ ไป
(3) ในกรณยี กเลิกคาขอรังวดั ผ้ขู อมหี นา้ ที่ถอดถอนหลักเขตที่ดินท่ีตนได้นาปักหลักเขต
ไวน้ าส่งคืนสานกั งานทด่ี ิน
ม.67 ห้ามมิให้ผู้หน่ึงผู้ใด นอกจากพนักงานเจ้าหน้าที่ทาลาย ดัดแปลง เคล่ือนย้าย
ถอดถอนหลักหมายเขต หรือหมุดหลักฐานไปจากท่ีเดิม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานที่ดิน
(ต้องยื่นคาขอ และ เจ้าพนักงานท่ีดินสั่งให้เจ้าหน้าที่ออกไปทาการให้ โดยผู้ขอมีหน้าที่อานวยความ
สะดวกตามควรแก่กรณี) เช่น ผู้ขอได้ย่ืนคาขอถอดถอนหลักเขตเป็นการช่ัวคราว เพ่ือผู้ขอจะทาการ
กอ่ สร้างกาแพงรั้วคอนกรีตเปน็ ต้น จาเป็นต้องให้ช่างรังวัดทาการถ่ายระยะของหลักเขตท่ีดิน เมื่อทา
การก่อสร้างกาแพงเสร็จแลว้ ใหม้ าแจ้งช่างรงั วดั เพือ่ ทาการปักหลักเขตทีด่ นิ ลงตรงตาแหนง่ ทดี่ นิ เดมิ เป็นต้น
ในวันทาการรังวัดหากผู้ขอขอยกเลิกคาขอรังวัด ช่างรังวัดในฐานะเป็นพนักงาน
เจ้าหนา้ ท่ี ตาม ป. ท่ีดิน มีอานาจแจ้งให้ผู้ขอทาการถอดถอนหลักเขตท่ีดินที่ผู้ขอได้นาปักหลักเขตไว้
และนาไปใชใ้ นราชการต่อไป
(4) อานวยความสะดวกในเร่ืองที่เกี่ยวข้องกับการรังวัดตามควรแก่กรณี เช่น ติดตาม
บุคคลท่เี กี่ยวข้องหรือผู้สงู อายหุ รือผู้ปกครองทอ้ งท่ีมาใหถ้ อ้ ยคา หรือจัดส่งเอกสารหรือหลักฐานอื่นใด
ท่ีเก่ียวข้องในการสอบสวน เป็นต้น รวมถึงกรณีที่ผู้ขอรังวัดรับจะไปส่งหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดิน
ข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตด้วยตนเอง เช่น ข้างเคียงเป็นหน่วยงานทางราชการซ่ึงผู้ขอ รังวัด
จาเปน็ ต้องนัดหมายเก่ียวกบั การเดินทาง หรอื เปน็ กรณีท่ีเจ้าของท่ีดินเป็นบุคคลซ่ึงอาศัยอยู่ในบริเวณ
ใกล้เคียงกับที่อยู่ของผู้ขอรังวัด หรือท่ีดินถมทับหลักเขตสูงเป็นเมตรจานวนหลายหลักต้องใช้เวลา
12
ในการขุดค้นหาหลักเขตมาก และเพ่ือไม่ให้เจ้าของท่ีดินข้างเคียงรอการนาช้ีเขตนาน จึงมีความ
จาเป็นต้องขอความร่วมมือจากผู้ขอให้จัดหาคนงานช่วยขุดค้นหาหลักเขตดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหา
ในการปฏบิ ตั งิ านหลายอยา่ งพร้อมกันภายในระยะเวลาทีจ่ ากดั ทงั้ น้ีเพ่ือเป็นประโยชน์แก่ผู้ขอ การให้
ผู้ ขอ รั ง วั ด ยิ น ย อ ม อ าน ว ย คว าม สะ ดว ก ต าม ก ร ณี ดั ง ก ล่ า ว ค ว ร จั ด ทา เป็ น บั น ทึ ก ร ว ม เรื่ อ ง ไ ว้ ด้ ว ย
เพือ่ ปูองกันการกล่าวโทษการดาเนินการตามอานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีในภายหน้า เว้นแต่เป็นกรณี
ขอให้ผู้ขอรังวัดอานวยความสะดวกแก่การรังวัดให้เล็กน้อย เช่น การจัดเตรียมจอบ เสียม ชะแลง
(เคร่ืองมือช่วยอานวยความสะดวกในการรังวัด) การจักเตรียมไม้รวกหรือไม้ระแนงเพื่อทาธงปักไว้
ตามมุมเขตท่ดี ินและมุมเขตทแี่ บ่งแยก การมัดรวบกิ่งไม้หรือริดกิ่งไม้ การเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางเล็กๆ
น้อยๆ เป็นต้น จะแจง้ ใหผ้ ู้ขอรงั วดั ทราบเพ่ือชว่ ยอานวยความสะดวกใหด้ ว้ ยวาจาก็น่าจะเป็นการเพียง
พอสมควรแก่เหตุ
(ประมวลกฎหมายที่ดิน ม. 66, 70 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรังวัดปักหลัก
หมายเขตทด่ี ิน พ.ศ. 2527 และระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนด
ทีด่ นิ พ.ศ. 2527 หมวด 1 ขอ้ 5)
การรังวัดปักหลักเขต เป็นกระบวนการทางานของพนักงานเจ้าหน้าที่ (ช่างฯ /คนงานรังวัด)
ร่วมกับเจ้าของทด่ี นิ ผูซ้ ึ่งได้ย่ืนคาขอรงั วัดตามประมวลกฎหมายท่ดี ิน
ส่วนการเดินสารวจออกโฉนดท่ีดิน ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน น้ัน ตาม
กฎกระทรวงฉบับที่ 43 ข้อ 6 กาหนดใหผ้ ู้มีสิทธิในท่ดี นิ หรือตวั แทน เป็นผู้ปักหลักตามมุมเขตของตน
เพ่อื เป็นการอานวยความสะดวกในการรงั วัดตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดท่ีดนิ ทัว่ ประเทศ
13
หมวดที่ 3
เอกสารสทิ ธเิ กีย่ วกับทีด่ ิน
คาว่า “เอกสารสทิ ธิ” มบี ญั ญัติไวใ้ น ม.1 (9) แห่ง ป.ที่ดนิ
มาตรา 1(9) “เอกสารสิทธิ” หมายความวา่ เอกสารท่ีเป็นหลกั ฐานแห่งการ ก่อ เปล่ยี นแปลง โอน
สงวน หรอื ระงับซง่ึ สิทธิ (คอื เอกสารทเี่ ป็นหลกั ฐานแหง่ การ “เคลอื่ นไหวในสิทธิ”)
แบ่งประเภทเอกสารสิทธิดังกลา่ วไดด้ ังนี้
1. เอกสารสิทธิประเภททร่ี าษฎรทาข้ึนเอง
2. หนังสอื แสดงสทิ ธิในที่ดิน ทีอ่ อกใหก้ บั ราษฎรตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ
3. เอกสารสิทธทิ ีร่ าชการออกให้
1. เอกสารสทิ ธิประเภทท่ีราษฎรทาขน้ึ เอง
แบบแจง้ การครอบครองท่ดี นิ (ส.ค.1)
แบบแจ้งการครอบครองท่ดี นิ (ส.ค.1) คอื ใบแจ้งการครอบครองท่ีดินเป็นหลักฐานว่า
ผู้ครอบครองเป็นผู้แจ้งว่า ตนครอบครองท่ีดินแปลงใดอยู่ (แต่ปัจจุบันไม่มีการแจ้ง ส.ค.1 อีกแล้ว)
ส.ค.1 ไมใ่ ชห่ นงั สือแสดงสทิ ธทิ ี่ดนิ เพราะไม่ใช่หลกั ฐานท่ีทางราชการออกให้เพียงแต่เป็นการแจ้งการ
ครอบครองท่ีดินของราษฎรเท่านั้น ส.ค.1 ถือเป็นหลักฐานแห่งการสงวนสิทธิครอบครอง
(ฎ.456/2506) ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินและยังไม่ใช่หนังสือรับรองสิทธิครอบครองที่ดิน
ดังนัน้ ตามกฎหมาย ท่ดี นิ ท่มี ี ส.ค.1 จึงทาการโอนกันได้เพียงแต่แสดงเจตนาสละการครอบครองและ
ไม่ยึดถือพร้อมส่งมอบให้ผู้รับโอนไปเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นการโอนกันโดยชอบแล้ว ผู้มี ส.ค.1 มีสิทธิ
นามาขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส.3 น.ส.3 ก. หรือ น.ส.3 ข)
ได้ 2 กรณี คือ
กรณที ่ี 1 นามาเปน็ หลกั ฐานในการขอออกโฉนดทด่ี ินตามโครงการเดินสารวจ
ออกโฉนดท่ดี นิ ทั่วประเทศ กรณีนี้ทางราชการจะเป็นผู้ออกให้เป็นท้องทีไ่ ป โดยจะมีการประกาศให้ทราบ
กอ่ นล่วงหนา้
กรณที ่ี 2 นามาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการ
ทาประโยชน์ (น.ส.3 น.ส.3 ก. หรอื น.ส.3 ข) เฉพาะราย คอื กรณที ่เี จ้าของท่ีดินมีความประสงค์จะขอ
ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ก็ให้ไปยืนคาขอ ณ สานักงานที่ดินที่ที่ดินต้ังอยู่
เฉพาะการออกโฉนดที่ดินนี้ จะออกได้ในพ้ืนที่ที่ได้สร้างระวางแผนที่สาหรับออกโฉนดที่ดินไว้แล้ว
เท่าน้ัน
2. หนังสอื แสดงสิทธิในที่ดนิ ที่ออกใหก้ ับราษฎร
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ หมวด 4 การออกหนงั สอื แสดงสิทธิในท่ีดิน ตามมาตรา 56 บัญญัติว่า
ภายใต้บังคับมาตรา 56/1 แบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการออกใบจอง หนังสือรับรองการทาประโยชน์
ใบไต่สวนหรือโฉนดท่ีดิน รวมทั้งใบแทนของหนังสือดังกล่าว ให้เป็นไปตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
(กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 พ.ศ.2537) ไดแ้ ก่
14
- ใบจอง (น.ส. 2)
ใบจอง คือหนังสือท่ีทางราชการออกให้เพ่ือเป็นการแสดงความยินยอมให้ครอบครอง
ทาประโยชน์ในที่ดนิ เป็นการชั่วคราว ซงึ่ ใบจองนจี้ ะออกให้แก่ราษฎรที่ทางราชการได้จัดท่ีดินให้ทากิน
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งทางราชการจะมีประกาศเปิดโอกาสให้จับจองเป็นคราว ๆ ในแต่ละ
ท้องท่ีและผตู้ ้องการจับจองควรคอยฟงั ขา่ วของทางราชการ
ผูม้ ใี บจองจะต้องเริ่มทาประโยชน์ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนต้องทาประโยชน์
ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี นับตั้งแต่วันท่ีได้รับใบจองและจะต้องทาประโยชน์ให้ได้อย่างน้อย
ร้อยละ ๗๕ ของท่ีดนิ ท่ีจดั ให้ ที่ดินทม่ี ใี บจองน้จี ะโอนใหแ้ ก่บุคคลอนื่ ไมไ่ ด้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก
เมื่อทาประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินาใบจองน้ันมาขอออกหนังสือรับรองการ
ทาประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) หรือโฉนดที่ดินได้แต่หนังสือรับรองการทาประโยชน์
หรอื โฉนดที่ดนิ นน้ั จะต้องตกอยใู่ นบังคบั ห้ามโอนตามเงอ่ื นไขที่กฎหมายกาหนด
- หนังสือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส. 3) , (น.ส. 3 ก.) , ( น.ส. 3 ข.)
หนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. และ น.ส.๓ ข) หมายความว่า หนงั สอื
รับรองจากพนกั งานเจ้าหนา้ ทวี่ า่ ไดท้ าประโยชน์ในท่ีดินแล้ว
น.ส. 3 ออกให้แก่ผคู้ รอบครองที่ดินท่ัว ๆ ไป ในพ้ืนท่ีท่ีไม่มีระวาง มีลักษณะเป็นแผนท่ี
รูปลอย ไม่มีการกาหนดตาแหน่งท่ีดินแน่นอน หรือออกในท้องท่ีท่ีไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ
ซึ่งรัฐมนตรียังไม่ได้ประกาศยกเลิกอานาจหน้าท่ีในการปฏิบัติการตามประ มวลกฎหมายที่ดินของ
หวั หน้าเขต นายอาเภอ หรือปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจากิ่งอาเภอ (นายอาเภอท้องที่เป็นผู้ออก)
แบบ น.ส. 3 ออกตามกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 5 (พ.ศ.2497) แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
น.ส. 3 ก. ในท้องที่ท่มี ีระวางรปู ถา่ ยทางอากาศ โดยมกี ารกาหนดตาแหน่งทีด่ ินในระวาง
รูปถ่ายทางอากาศ (นายอาเภอท้องท่เี ป็นผอู้ อกให้) แบบ น.ส. 3 ก. ออกตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ 18
(พ.ศ.2515) แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน
น.ส. 3 ข. ออกในท้องที่ท่ีไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ และรัฐมนตรีได้ประกาศยกเลิก
อานาจหน้าท่ใี นการปฏบิ ัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดินของหัวหน้าเขต นายอาเภอหรือปลัดอาเภอ
ผเู้ ป็นหัวหน้าประจาก่งิ อาเภอแล้ว (เจ้าพนกั งานท่ีดินเปน็ ผูอ้ อก)
แบบหมายเลข 3 ออกได้ทุกพ้ืนท่ี วิธีการออกเหมือนกับการออก น.ส. 3 แต่ปัจจบุ นั
ไมม่ กี ารออกแลว้ เพราะกรมที่ดินไม่พิมพไ์ ปให้ ถา้ มกี ารแบ่งแยกทีด่ นิ แปลงแยกจะออก เป็นแบบ น.ส. 3
- ใบไต่สวน (น.ส. 5)
ใบไตส่ วน คอื หนังสือแสดงการสอบสวนเพ่ือออกโฉนดที่ดิน และให้หมายความรวมถึง
ใบนา ด้วย ก่อนท่ีจะออกโฉนดท่ีดินทุกคร้ังจะต้องทาใบไต่สวนขึ้นก่อนทุกคร้ัง เพราะใบไต่สวนเป็น
แบบการสอบสวน เหตุท่ีกฎหมายกาหนดให้ใบไต่สวนเป็นหนังสือแสดงสิทธ์ิท่ีดินและให้จดทะเบียน
สิทธิ์และนิติกรรมในใบไต่สวนได้เช่นเดียวกับโฉนดท่ีดินก็เพราะ เม่ือสมัยก่อนนั้น การที่กรมที่ดินได้
ดาเนนิ การเดนิ สารวจออกโฉนดท่ดี นิ ในทอ้ งที่ใดแล้ว เจา้ หน้าท่ีของกรมที่ดินจะนาเรื่องการออกโฉนด
ทด่ี นิ ทงั้ หมดกลับมาทกี่ รมทีด่ ินเพือ่ เขียนโฉนดแล้วนาไปแจกโฉนดท่ีดินให้ราษฎรภายหลัง บางครั้งใช้
เวลาเปน็ ปี ๆ ทาใหร้ าษฎรเดอื ดร้อนเพราะจะทาการโอนที่ดนิ หรือนาที่ดินไปจดทะเบียนสิทธิ์อ่ืนไม่ได้
เช่น จานองเพ่ือประกนั การกยู้ มื เงนิ เป็นต้น กฎหมายจงึ กาหนดให้ใบไต่สวนเป็นหนังสือแสดงสิทธิ์ใน
ที่ดนิ ท่จี ะจดทะเบียนสิทธแิ์ ละนติ ิกรรมใด ๆ ได้เชน่ เดยี วกบั โฉนดทดี่ ิน
15
ส่วนใบนาก็เช่นเดียวกับใบไต่สวน กล่าวคือ เม่ือเจ้าหน้าท่ีไปเดินสารวจเพื่อออกโฉนด
ทีด่ นิ ใหเ้ จา้ ของท่ีดินไปนาทาการเดินสารวจ เม่ือเจ้าหน้าท่ีได้ทาการสอบสวนเสร็จแล้วก็ออกใบนาให้
เจา้ ของท่ีดนิ ไวเ้ ป็นหลักฐาน ดังน้นั กอ่ นออกโฉนดทดี่ นิ บางสมัยก็ออกใบไต่สวน บางสมัยก็ออกใบนา
จงึ จดทะเบียนสิทธ์ิและนิติกรรมต่าง ๆ ในใบนาได้ ปัจจุบันใบนาไม่มีออกให้ ที่เหลืออยู่ก็ส่วนน้อยและ
จะคอ่ ยๆ หมดไป ถา้ ทีด่ ินมใี บไตส่ วนและมหี นงั สือรบั รองการทาประโยชนแ์ สดงว่าท่ีดินนั้นนายอาเภอ
ได้รับรองการทาประโยชน์แล้ว เม่ือจดทะเบียนโอนจะต้องจดทะเบียนในหนังสือรับรองการทา
ประโยชน์ก่อนแล้วจึงมาจดแจ้งหลังใบไต่สวน แตถ่ ้าใบไตส่ วนมแี บบแจง้ การครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑)
หรือไม่มีหลกั ฐานทด่ี ินใด ๆ และเป็นทด่ี ินที่นายอาเภอยังไม่รับรองการทาประโยชน์ จะจดทะเบียนโอน
กนั ไม่ได้ เว้นแตเ่ ปน็ การจดทะเบียนโอนมรดก
- โฉนดทด่ี ิน
โฉนดทด่ี นิ (น.ส.4, น.ส. 4 ก. ฯลฯ ปัจจุบันใชแ้ บบ น.ส.4 จ ) ตาม ม. 1 แห่งประมวล
กฎหมายที่ดิน หมายความถึง หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และให้หมายความรวมถึงโฉนดแผนท่ี
โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราว่า “ได้ทาประโยชน์แล้ว” ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ถือว่ามีกรรมสิทธิ์
ในที่ดินน้ันอย่างสมบูรณ์ เช่น มีสิทธิใช้ประโยชน์จากท่ีดิน มีสิทธิจาหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใด
เข้ามาเกย่ี วข้องกบั ทรพั ยส์ นิ โดยมชิ อบ ด้วยกฎหมาย การที่จะออกโฉนดที่ดินได้จะต้องเป็นท้องท่ีท่ีได้
สร้างระวางแผนที่หรือระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศแล้วเท่าน้ัน ถ้าไม่มีจะออกโฉนดท่ีดินไม่ได้
ตาแหนง่ ของโฉนดท่ีดนิ แตล่ ะแปลงที่ออกให้สามารถหาตาแหน่งที่ต้ังของท่ีดินได้แน่นอนเพราะมีการ
ยึดโยงหลักเขตที่ดินกับลวดรายละเอียดในระวางแผนท่ี ซ่ึงระวางดังกล่าวสร้างจากศูนย์กาเนิด
ปัจจุบันศูนย์กาเนิดของระวางท่ีใช้อยู่มี 29 ศูนย์ เช่น ท่ีกรุงเทพมหานครใช้ศูนย์กาเนิดที่ภูเขาทอง
ที่จังหวัดนครปฐม ใช้พระปฐมเจดีย์เป็นศูนย์กาเนิด ที่เชียงใหม่ใช้ยอดเจดีย์ของวัดกู่เต้า เป็นต้น
แต่ปัจจุบันกรมท่ีดินได้นาระวางแผนท่ีระบบพิกัดจาก U.T.M. ซึ่งหาตาแหน่งโดยระบบสากลมาใช้
และระบบศูนยก์ าเนดิ ก็จะค่อย ๆ หมดไป
- โฉนดแผนที่
ออกตามประกาศออกโฉนดท่ีดิน ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2445) ซ่ึงโฉนดที่ดินฉบับแรกออกท่ี
อาเภอบ้านแปูง อาเภอพระราชวัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันคืออาเภอบางปะอิน ต่อมาได้
ออกเป็นพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2452) เหตุท่ีเรียกโฉนดแผนท่ี เพราะโฉนด
ที่ออกมีแผนท่ีด้วย ซ่ึงแตกต่างจากโฉนดที่แบบเดิมซ่ึงไม่มีแผนที่ เช่น โฉนดสวน โฉนดปุา (เพื่อประโยชน์
ในการเก็บภาษี) วิธีการออกโฉนดแผนท่ีเหมือนกับการออกโฉนดท่ีดินทุกประการ หรือจะกล่าวว่า
โฉนดแผนท่ีกค็ ือโฉนดท่ดี นิ กไ็ มผ่ ดิ
- โฉนดตราจอง
ออกตามพระราชบัญญัตอิ อกตราจองชวั่ คราว ร.ศ. 121 (พ.ศ. 2446) ซึ่งตอ่ มาได้เปล่ียน
นามเป็นพระราชบัญญัติออกโฉนดตราจอง ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2449) ออกในมณฑลพิษณุโลก คือ
จงั หวัดพษิ ณโุ ลก พิจิตร อุดรดิตถ์ และสุโขทัย ต่อมาได้มีการเปล่ียนแปลงเขตจังหวัดทาให้โฉนดตรา
จองตกอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์บางส่วน ปัจจุบันไม่มีออก (เพราะ พ.ร.บ.ออกโฉนดตราจอง ร.ศ. 124
ถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. ใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. 2497) จะออกใหม่ก็เฉพาะออกเนื่องจากการ
16
แบ่งแยกโฉนดตราจองเดิม แต่ปัจจุบันกรมที่ดินไม่ได้พิมพ์แบบพิมพ์โฉนดตราจองแล้ว จึงให้นาแบบ
พมิ พโ์ ฉนดท่ีดินมาใชแ้ ทนแล้วประทับตราว่า “โฉนดตราจอง” โฉนดตราจองเป็นหนังสือสาคัญแสดง
กรรมสทิ ธเิ์ ช่นเดียวกบั โฉนดที่ดนิ จงึ จดทะเบียนสทิ ธแ์ิ ละนิติกรรมต่าง ๆ ได้เชน่ เดยี วกบั โฉนดทดี่ ิน
- ตราจองท่ีตราว่าได้ทาประโยชน์แล้ว ออกตราพระราชบัญญัติออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับ
ท่ี 6) พ.ศ. 2479 ออกได้ท่ัว ๆ ไปไม่จากัดพื้นที่ เช่น โฉนดตราจอง เดิมได้มีการออกตราจองท่ีเป็น
ใบอนุญาต เจ้าพนักงานที่ดินเป็นผู้ออกเม่ือทาประโยชน์เสร็จแล้ว เจ้าพนักงานท่ีดินจะออก
ตราจอง “ได้ทาประโยชน์แล้ว” ให้ ปัจจุบันไม่มีออก (เพราะ พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6)
พ.ศ.2479 ถูกยกเลิก โดย พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497) จะออกใหม่ก็เฉพาะ
ออกเนื่องจากการแบ่งแยกตราจองฯ เดิม แต่ปัจจุบันกรมท่ีดินไม่ได้พิมพ์แบบพิมพ์ตราจองฯ แล้วจึง
ใหน้ าแบบพมิ พโ์ ฉนดทด่ี นิ มาใช้แทน แล้วประทบั ตราวา่ “ตราจอง” เปน็ หนังสอื สาคญั แสดงกรรมสิทธ์ิ
เชน่ เดียวกบั โฉนดทด่ี นิ จงึ จดทะเบยี นสิทธแ์ิ ละนิตกิ รรมตา่ ง ๆ ไดเ้ ชน่ เดยี วกับโฉนดท่ดี ิน
- โฉนดทด่ี นิ คอื หนังสอื สาคัญแสดงกรรมสิทธใิ์ นท่ดี นิ ซงึ่ ออกให้ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
ปัจจุบัน นอกจากน้ียังรวมถึงโฉนดแผนท่ี โฉนดตราจอง และตราจองท่ีว่า "ได้ทาประโยชน์แล้ว"
ซง่ึ ออกให้ตามกฎหมายเก่า แตก่ ็ถือวา่ มกี รรมสทิ ธเ์ิ ช่นกนั ผเู้ ปน็ เจา้ ของท่ีดิน ถือว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
นั้นอย่างสมบูรณ์เช่น มีสิทธิใช้ประโยชน์จากท่ีดิน มีสิทธิจาหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใดเข้ามา
เกย่ี วข้องกบั ทรัพย์สนิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
โฉนดท่ีดิน , น.ส. 3 เป็นหลกั ฐานแหง่ การก่อสิทธิ ( ฎ.1904 / 2540 , ฎ.2684 / 2531 )
3. เอกสารสทิ ธทิ รี่ าชการออกให้
เอกสารสิทธิท่รี าชการออกให้ เอกสารสิทธิท์ ั้ง 5 ประเภทนี้ ไมใ่ ชห่ นงั สือแสดงสิทธิในที่ดิน
ผูท้ ม่ี แี บบ ก.ส.น. 5 กด็ ี น.ค.3 กด็ ี จะต้องไปขอออกหนังสอื รับรองทาประโยชน์หรือโฉนดท่ีดินแล้วแต่
กรณี ซงึ่ เมอื่ ออกหนังสอื แสดงสิทธิในที่ดินดังกลา่ วแล้วจะตอ้ งหา้ มโอน 5 ปี รายละเอยี ด ดังน้ี
ก.ส.น. 5 เป็นหนังสือแสดงการทาประโยชน์ ซึ่งออกให้ในนิคมสหกรณ์ ตาม พ.ร.บ.จัด
ที่ดนิ เพือ่ การครองชพี พ.ศ. 2511
น.ค. 3 เป็นหนงั สือแสดงการทาประโยชน์ ซึ่งออกให้ในนคิ มสรา้ งตนเอง ตาม พ.ร.บ.จัด
ที่ดนิ เพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511
ส.ท.ก. เป็นหนังสือสิทธทิ ากนิ ในเขตปุาไม้ ซึ่งทางกรมปุาไมเ้ ปน็ ผ้อู อกให้
กรมปุาไม้ได้เร่ิมดาเนินการให้สิทธิทากิน (สทก.) ในเขตปุาสงวนแห่งชาติ มานับตั้งแต่
ปี 2525 ต่อมาปี พ.ศ. 2528 รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติปุาสงวนแห่งชาติ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.
2528 กาหนดให้มีมาตรา 16 ทวิ และมาตรา 16 ตรี ขึ้นเพ่ือช่วยเหลือราษฎรที่มีความจาเป็นในการ
ครองชีพ สามารถเขา้ ทากินในเขตปุาสงวนแห่งชาติได้โดยไม่เดือนร้อน และโดยมีท่ีอยู่เป็นหลักแหล่ง
ซ่ึงความตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการรับรองว่าสิทธิทากิน (สทก.) ในเขตปุาสงวนแห่งชาติท่ี
กรมปาุ ไม้มอบใหก้ ับราษฎรน้ันเปน็ ไปตามกฎหมาย
ส.ป.ก เป็นการปรับปรุงเกี่ยวกับสิทธิและการถือครองในที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม โดยมี
สานกั งานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นผู้รับผิดชอบ ดาเนินการภายใต้ พ.ร.บ. การปฏิรูป
ท่ดี นิ เพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (ฉบับท่ี 2)พ.ศ. 2519 และ(ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2532
17
ภ.บ.ท. 5 เป็นแบบแสดงรายการเพอ่ื ชาระภาษีบารงุ ทอ้ งท่ี ไมใ่ ช่เอกสารสทิ ธิต์ ามประมวล
กฎหมายทดี่ ิน ทาได้เพียงการส่งมอบการครอบครองท่ีดินให้แก่กันเท่าน้ัน ไม่สามารถไปจดทะเบียน
สิทธิและนิตกิ รรม ณ สานักงานที่ดินท้องที่ได้ บุคคลที่มีช่ือใน ภ.บ.ท.5 อาจจะไม่ใช่เจ้าของท่ีดินและ
ท่ีดินอาจจะเป็นทีห่ วงห้าม ท่ไี มอ่ ยใู่ นหลักเกณฑท์ ่จี ะออกเอกสารสทิ ธติ ามประมวลกฎหมายที่ดนิ กไ็ ด้
(ผู้ท่ีมีแบบ ก.ส.น. 5 ก็ดี น.ค.3 ก็ดี จะต้องไปขอออกหนังสือรับรองทาประโยชน์หรือ
โฉนดท่ีดินแล้วแต่กรณี ซ่ึงเม่ือออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินดังกล่าวแล้ว จะต้องห้ามโอน 5 ปี หรือ
เป็นไปตามข้อบงั คับที่กฎหมายกาหนด)
18
หมวดที่ 4
การรับคาขอ การนัดรังวัด การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการรังวัด และ
การยกเลกิ คาขอ
ตอนท่ี 1 การรบั คาขอ
1.1 การรบั คาขอประเภททีม่ ีโฉนดท่ีดินแลว้
เมื่อเจ้าของที่ดินมีความประสงค์ ขอรังวัดสอบเขต แบ่งแยก หรือรวมโฉนดท่ีดิน
ให้ย่นื คาขอต่อเจา้ พนกั งานที่ดิน ณ สานกั งานที่ดนิ จงั หวัด/สาขา/ส่วนแยกท่ีท่ีดินน้ันต้ังอยู่ พร้อมด้วย
โฉนดทด่ี นิ สาเนาทะเบียนบา้ น สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน ถ้ามีชื่อร่วมกันหลายคนต้องไปทุกคน
หรือทาหนังสือมอบอานาจให้ผู้ใดไปทาการแทนก็ได้ กรณีโฉนดท่ีดินติดจานองอยู่ต้องมีหนังสือ
แสดงความยินยอมจากผรู้ ับจานองมาประกอบคาขอดว้ ย
การรับคาขอประเภทรังวัดสอบเขต แบง่ แยกและรวมโฉนดท่ีดิน ผู้ขอต้องยื่นคาขอ
ตามแบบ ท.ด. 9 หากเป็นการรังวัดแบ่งกรรมสิทธ์ิรวมให้ใช้แบบ ท.ด. 16 บันทึกข้อตกลง
เรอ่ื งแบง่ กรรมสทิ ธ์ริ วมเปน็ คาขอ เม่ือเขยี นประเภทคาขอแล้วให้เขียนตาแหน่งที่ดิน โดยกรอกรายละเอียด
ตามรายการที่ปรากฏในโฉนดท่ีดินแปลงน้ัน ตามด้วยช่ือและท่ีอยู่ของผู้ขอรังวัดให้ครบถ้วน และให้จาลอง
รูปแผนท่ีหลังโฉนดท่ีดินจากฉบับเจ้าของที่ดินไว้ด้านหลังคาขอ หรือจะใช้วิธีถ่ายรูปแผนท่ี
หลังโฉนดท่ีดินเดิมก็ได้ ถ้าเป็นกรณีแบ่งแยกให้แสดงรูปแผนที่สังเขปของการแบ่งแยก
แล้วให้ผขู้ อลงช่อื รบั รองรปู แผนทไี่ ว้ดว้ ย ทงั้ นี้ เพ่ือสะดวกแกก่ ารออกหนังสอื ถึงเจ้าของท่ีดินข้างเคียง
สาหรบั การถ่าย หรือจาลองน้นั ไม่ตอ้ งเรยี กคา่ ธรรมเนยี ม
ขั้นตอนการดาเนินการรับคาขอสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดที่ดิน ของเจ้าหน้าท่ี
ฝุายทะเบยี น มีดังน้ี
1. ผขู้ อตอ้ งยน่ื คาขอตามแบบ ท.ด. 9 หรือ ท.ด. 16 แลว้ แต่กรณี
2. เจ้าหนา้ ที่ตรวจสอบสารบบ ตรวจลายมอื ช่ือ ตรวจบัญชีอายดั
3. ลงบญั ชรี บั ทาการประจาวัน (บ.ท.ด. 2)
4. เขียนใบสั่งเงินคา่ ธรรมเนียม ให้ผู้ขอชาระเงินค่าธรรมเนียม คาขอแปลงละ 5 บาท
หากเป็นกรณีมอบอานาจใหเ้ รียกค่ามอบอานาจและปดิ อากรแสตมป์ให้ครบถว้ น
5. ลงบัญชสี ถติ ิงาน และเงินค่าธรรมเนยี ม (บ.ท.ด. 21)
6. ลงบัญชคี มุ เร่ืองรังวดั (บ.ท.ด. 11)
7. เขียนข้อความในบนั ทึกหนา้ เรอ่ื งรังวดั (ท.ด. 82)
8. เขียนใบแจ้งเรื่องระหว่างดาเนินการ (ท.ด. 74) กลัดหลังโฉนดฉบับสานักงานที่ดิน
เพ่อื แสดงวา่ ทด่ี ินแปลงนีม้ ีการขอรงั วัด
9. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนาม และส่งเรือ่ งให้ฝาุ ยรงั วดั ดาเนินการ
1.2 การรับคาขอประเภทที่ยงั ไม่มีโฉนดทีด่ นิ
เมื่อเจ้าของที่ดินมีความประสงค์ ขอรังวัดออกโฉนดที่ดินให้ยื่นคาขอ
ตอ่ เจา้ พนักงานที่ดิน ณ สานกั งานท่ีดินจังหวดั /สาขา/ส่วนแยกท่ีที่ดินนั้นตั้งอยู่ พร้อมด้วยหลักฐานท่ีดิน
อยา่ งใดอย่างหน่งึ เชน่ แบบแจ้งการครอบครอง (สค. 1) รวมตลอดถึงผูค้ รอบครองต่อเนื่อง ใบจอง (น.ส. 2)
ใบเหยยี บยา่ แบบหมายเลข 3 หนังสอื รับรองการทาประโยชน์ (น.ส. 3, น.ส. 3 ก., น.ส. 3 ข., สค. 1 )
19
ตราจอง ตราจองทต่ี ราว่า “ได้ทาประโยชน์แล้ว” หนังสือแสดงการทาประโยชน์ นิคมสร้างตนเอง (น.ค. 3)
หนังสือแสดงการทาประโยชน์สหกรณ์นิคม (กสน. 5) ใบแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในท่ีดิน
ตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินหรือไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินแต่ได้ครอบครองท่ีดิน
มาก่อนประมวลกฎหมายท่ีดินใช้บังคับ เป็นต้น รวมท้ังสาเนา ทะเบียนบ้าน สาเนาบัตรประจาตัว
ประชาชน บนั ทกึ คาชแี้ จงตรวจและช้ีระวางแผนที่ (ร.ว. 10) กรณีหลักฐานที่ดินท่ีนามาขอออกโฉนดท่ีดิน
ตดิ จานอง จะตอ้ งมีหนังสือแสดงความยินยอมจากผู้รบั จานองมาประกอบคาขอดว้ ย
การรับคาขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ผู้ขอต้องย่ืนคาขอตามแบบ น.ส. 1 ข. ก่อนยื่นคาขอ
ต้องให้ผู้ขอชี้ระวางแผนที่ก่อน โดยให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝุายรังวัดของสานักงานท่ีดินฯ การชี้ระวาง
แผนท่กี ็เพือ่ จะใหท้ ราบตาแหน่งที่ตั้งของท่ีดิน และรูปแผนที่ประมาณเขตติดต่อข้างเคียงทั้งส่ีทิศ หากผู้ขอ
รังวัดขอออกโฉนดท่ีดินให้จดหมายเลขระวาง เลขที่ดิน หน้าสารวจ โฉนดท่ีดินเลขที่ ตาบล อาเภอ
ของทด่ี นิ ใกลเ้ คียงมาด้วย ก็จะเป็นการสะดวกแก่การค้นหาท่ีดินแปลงท่ีจะขอออกโฉนดได้รวดเร็วยิ่งข้ึน
เน่ื อ ง จ า ก ใ น ก า ร อ อ ก โ ฉ น ด ที่ ดิ น เ ฉ พ า ะ ร า ย จ ะ กร ะ ท า ไ ด้ ใ น บ ริ เ ว ณที่ ดิ น ที่ ได้ สร้ างระวางแผนที่
เพื่อการออกโฉนดท่ีดินไว้แล้ว สาหรับการทราบอาณาเขตติดต่อข้างเคียงท้ังสี่ทิศก็เพื่อสะดวก
ในการแจ้งให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงมาระวังช้ีและรับรองแนวเขตที่ดิน ถ้าเจ้าของท่ีดินข้างเคียง
ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนที่ปรากฏในสานักงานที่ดินฯ ก็ไม่สามารถจะส่งหนังสือแจ้งให้ข้างเคียง
มาระวังชี้และรับรองแนวเขตท่ีดินได้ จึงเป็นหน้าท่ีของเจ้าของท่ีดินที่จะต้องค้นหาให้ทราบที่อยู่
ของเจ้าของท่ีดินข้างเคียงและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีทราบ เม่ือพบท่ีดินแปลงที่จะขอออกโฉนดที่ดิน
ในระวางแผนท่ีแล้ว เจ้าหน้าที่จะเขียนรูปแผนท่ีที่ดินโดยประมาณลงในแบบบันทึกคาช้ีแจงตรวจ
และช้รี ะวางแผนท่ี (ร.ว. 10) พร้อมทัง้ เขียนชื่อท่ีอยู่และตาแหน่งท่ดี ินแปลงข้างเคียง (ถ้ามี) โดยกรอก
ขอ้ ความและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แล้วให้ผู้ขอลงชื่อพร้อมด้วยช่างรังวัดผู้บันทึกลงชื่อด้วย
สาหรับการตรวจและชร้ี ะวางแผนที่เพื่อออกโฉนดท่ีดนิ ไมต่ ้องเสยี ค่าธรรมเนยี ม
ตอนท่ี 2 การชีต้ าแหน่งประกอบการรับคาขอออกโฉนดทด่ี ินเฉพาะราย
การช้ีตาแหน่งประกอบการรับคาขอออกโฉนดท่ีดนิ เฉพาะราย เป็นงานท่ีต้องดาเนินการ
ก่อนการรับคาขอออกโฉนดท่ีดินเฉพาะราย ขน้ั ตอนการออกโฉนดที่ดินเฉพาะราย มดี งั น้ี
1. ผู้ขอต้องชี้ระวางแผนท่ี (ร.ว.10) ท่ีฝุายรังวัด เพ่ือประโยชน์ในการออกหนังสือ
แจ้งข้างเคียง โดยให้ผู้ขอนาสาเนาโฉนดที่ดินแปลงใกล้เคียงที่ดินที่ขอออกโฉนดฯ หรือสอบถาม
ใหไ้ ด้ข้อมลู วา่ ทีด่ นิ อยู่ห่าง หรืออยู่ใกล้สถานท่ีสาคัญต่าง ๆ เช่น วัด โรงเรียน แม่น้า คลอง หนอง บึง
ถนนสายใด ไปทางทิศใด เป็นระยะทางเท่าไหร่ และตั้งอยู่หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ ใด เพ่ือให้สามารถ
กาหนดตาแหน่งท่ีดินในระวาง และส่งหมายแจ้งท่ีดินข้างเคียงได้ถูกต้อง หากท่ีดินข้างเคียง
เปน็ ท่ีมีการครอบครอง (ท.ค.) หรือหนงั สือรับรองการทาประโยชน์ (น.ส.3) ต้องใหผ้ ู้ขอนาช่ือและที่อยู่
ของเจา้ ของท่ดี นิ ดงั กลา่ วมาใหพ้ รอ้ มบันทึกไวเ้ ป็นหลักฐานด้วย เพือ่ ปูองกันเหตุกรณีการแจ้งข้างเคียง
ผิดพลาดคลาดเคลอ่ื น
2. ผ้ขู อต้องยนื่ คาขอตามแบบ น.ส. 1ข.
3. เจา้ หน้าทีล่ งบัญชีรับทาการประจาวัน (บ.ท.ด. 2)
4. เขียนใบส่ังเงินค่าธรรมเนียม ให้ผู้ขอชาระเงินค่าธรรมเนียม คาขอแปลงละ 5 บาท
หากเป็น กรณมี อบอานาจใหเ้ รียกคา่ มอบอานาจและตดิ อากรแสตมปใ์ หค้ รบถว้ น
5. ลงบัญชสี ถิติงาน และเงนิ ค่าธรรมเนียม (บ.ท.ด. 21)
6. ลงบัญชีคุมเรือ่ งรังวัด (บ.ท.ด. 11)
20
7. เขียนขอ้ ความในบนั ทกึ หนา้ เรอื่ งรังวัด (ท.ด. 82)
8. เสนอเจา้ พนกั งานทดี่ นิ ลงนาม และส่งเรื่องให้ฝุายรงั วัดดาเนนิ การ
ตอนที่ 3 ส่วนราชการมหี นงั สอื ขอความรว่ มมอื หรอื แจง้ ใหท้ าการรงั วดั
การช้ีตาแหน่งที่ดินกรณีส่วนราชการมีหนังสือขอความร่วมมือ หมายถึง การชี้ตาแหน่ง
เพ่ือให้ทราบที่ต้ังของที่ดินเท่านั้น มิได้หมายถึงให้ทาการรังวัดสอบเขตที่ดินตามระเบียบกรมท่ีดิน
แต่อย่างใด
การช้ีตาแหน่งท่ีดิน แยกวิธีดาเนินการออกเป็นสองกรณี คือ มี หรือไม่มีบันทึกข้อตกลง
ระหวา่ งกรมทดี่ ินกับหน่วยงานของราชการ ดังน้ี
การชี้ตาแหน่งท่ีดิน กรณีมีบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับหน่วยงานของราชการ
การดาเนินการใหเ้ ปน็ ไปตามบนั ทึกข้อตกลงนัน้ ๆ ไดแ้ ก่
- การชี้ตาแหน่งที่ดินตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับกรมบังคับคดี ท่ี มท
0711/ว 25887 ลงวนั ที่ 21 พฤศจกิ ายน 2526 ที่ มท 0726/ว 23 มถิ ุนายน 2540
- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับกรมสรรพกร ท่ี มท 0705/ว 4155 ลงวันที่ 19
กมุ ภาพนั ธ์ 2528
- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับกรมแรงงาน ท่ี มท 0705/ว 22608 ลงวันท่ี 1
ตลุ าคม 2529
- บนั ทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับสานักงาน ก.พ. ท่ี มท 0705/ว 19744 ลงวันท่ี
25 กนั ยายน 2533
- บันทกึ ขอ้ ตกลงระหว่างกรมทด่ี นิ กบั กองทนุ เพอื่ การฟ้ืนฟูและพฒั นาระบบสถาบนั การเงิน
ลงวนั ที่ 26 พฤศจิกายน 2544
- บันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับสานักงานปูองกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ที่ มท 0514/ว 15271 ลงวนั ที่ 13 มิถนุ ายน 2546
ตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการชี้ตาแหน่งที่ดินเพ่ือยึดทรัพย์นายประกันตามคาสั่ง
ศาล พ.ศ. 2526 กรณีการช้ีตาแหน่งท่ีดินที่มีบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมท่ีดินกับหน่วยงานของราชการ
กาหนดให้หัวหน้าฝุายรังวัดทาการนัดรังวัดเป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องนัดตามลาดับคาขอ เมื่อกาหนด
เจ้าหน้าท่ีและวันทาการแล้ว ให้ลงบัญชีตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการควบคุมงานรังวัดในสานักงาน
ที่ดิน พ.ศ.2523 พร้อมทั้งแจ้งให้กองยึดอายัดและจาหน่ายทรัพย์สิน หรือสานักงานบังคับคดีและวาง
ทรพั ยภ์ ูมภิ าค กรมบงั คับคดี หรือหน่วยงานตามบันทกึ ขอ้ ตกลงทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 25 วัน
การช้ีตาแหน่งท่ีดิน กรณีที่ไม่มีบันทึกข้อตกลงกับกรมท่ีดิน ให้ดาเนินการตามหนังสือ
กรมท่ีดิน ที่ มท 0726/ว 02433 ลงวันท่ี 31 มกราคม 2544 เร่ือง หน่วยราชการขอให้นาชี้ตาแหน่ง
ทด่ี ิน เมอื่ หน่วยงานทางราชการน้ันมีหนังสือขอความร่วมมือ มาให้ชี้ตาแหน่งที่ดิน ให้ถือว่าหนังสือ
ดังกล่าวไม่เป็นคาขอรังวัด และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ให้เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือ
เจา้ พนกั งานทด่ี นิ จงั หวดั สาขาใหค้ วามอนุเคราะห์ส่ังให้ช่างรังวัดร่วมไปกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานน้ัน
ออกไปชี้ตาแหน่งของที่ดินโดยยึดระวางแผนที่เป็นหลัก แล้วชี้ตาแหน่งให้เจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานนั้น
ทราบวา่ ท่ีดินตามหนงั สอื แสดงกรรมสทิ ธิ์อยู่ในบริเวณใดเทา่ นนั้ โดยไมต่ ้องเขา้ ไปในทีด่ นิ เพอ่ื ทาการขุด
หรือค้นหาหลักเขตที่ดิน จึงไม่ต้องมีหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงทราบตามความในมารา 66
แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน แต่อยา่ งใด
21
ส่วนราชการมีหนังสือถึงสานักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ขอความร่วมมือหรือ
แจ้งใหท้ าการรงั วดั เชน่ การรงั วดั ทาแผนที่พิพาทตามคาสั่งศาล การออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง
การออกโฉนดท่ดี ินทอี่ ยใู่ นเขตจดั รปู ทด่ี นิ การรังวัดตรวจสอบท่ีสาธารณประโยชน์ ท่ีไม่มีหนังสือสาคัญ
สาหรบั ที่หลวง การชี้ตาแหนง่ ที่ดินตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินกับกรมบังคับคดี , กรมแรงงาน ,
สานักงาน ก.พ. หรอื กองทนุ เพอ่ื การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบนั การเงนิ เปน็ ตน้ กรณดี ังกลา่ วข้างต้น
ให้ถือวา่ หนังสอื ที่แจ้งน้นั เป็นคาขอใหร้ ับดาเนินการตอ่ ไป สาหรับการรังวัดทาแผนที่พิพาทตามคาสั่งศาล
เจา้ พนกั งานท่ีดินผู้ไปทาแผนท่ีพิพาทตามคาสั่งศาลไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 1 และมาตรา 67
แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน เพราะมิได้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดินเป็นแต่ศาลหรือส่วนราชการ
ร้องขอใหด้ าเนนิ การให้ในฐานะผู้ชานาญงานหรือมคี วามรูใ้ นทางการรงั วัดทาแผนทเี่ ท่านั้น
ตอนที่ 4 การนัดรังวดั
ใหห้ วั หน้าฝ่ายรงั วัด หรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้นัดทาการรังวัด
ทาการนดั รังวดั ตามเกณฑ์ท่ีกรมท่ดี นิ กาหนดโดยคานงึ ถึงความรู้ความสามารถ และสมรรถนะของช่างรังวัด
แตล่ ะคนวา่ มีขีดความสามารถในการรังวัดได้เดือนละก่ีราย ถ้านัดงานรังวัดให้มากเกินไปจะทาให้งานค้าง
ในมือมาก และเมื่อช่างรังวัดออกไปทาการรังวัดแล้วต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตาม
ระเบียบที่กรมท่ีดินกาหนด มใิ ห้นัดรังวัดขา้ มลาดบั ให้นดั เรือ่ งรงั วัด ให้ชา่ งรงั วัดเรียงไปตามลาดับในบัญชี
คมุ การนัดรังวัด (ร.ว. 70) ท้ังน้ีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ยื่นคาขอและเป็นการปูองกันข้อครหาต่างๆ
อันจะมีขน้ึ แก่เจา้ หน้าท่ี
ในกรณีที่ไม่สามารถทาการรังวัดได้ในวนั นัด เช่น ผู้ขอแจง้ วา่ นา้ ท่วม ก็ให้บันทึกถ้อยคาผู้ขอไว้
ตามแบบบันทึกถ้อยคา (ท.ด. 16) ว่าจะให้นัดทาการรังวัดวันใดโดยให้เลือกเอาวันใดวันหน่ึง แต่ต้องไม่
กอ่ นวันทไี่ ดน้ ดั รงั วดั ไว้แล้ว โดยเกบ็ บันทกึ นน้ั ไว้เป็นหลักฐานรวมเรือ่ งไวเ้ ป็นตน้
หากผู้ขอรายใดมีความประสงค์จะขอให้นัดรังวัด ให้เร็วเป็นกรณีพิเศษ โดยแจ้งว่ามีธุระ
จาเป็นเร่งด่วนที่จะตอ้ งดาเนินการให้เสรจ็ โดยเร็ว ในกรณีน้ีตามระเบียบกรมทีด่ นิ ว่าด้วยการรับคาขอ
รังวัด การนัดรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ. 2547 ลงวันท่ี 17 ธ.ค. 47
กรมที่ดินได้มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้มีการนัดรังวัดเป็นกรณีพิเศ ษ
นอกเหนือจากลาดับได้ โดยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก จะต้องสอบสวนผู้ขอและผู้ที่
เก่ียวข้องถึงเหตุผล ตลอดจนความจาเป็นเร่งด่วนจริง ๆ เป็นกรณี ๆ ไปท้ังน้ีต้องมีเอกสารหลักฐาน
ประกอบการสอบสวนด้วย สาหรับอานาจการพิจารณาอนุญาตนี้เป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยเฉพาะ หากผู้ว่าราชการจังหวัดจะมอบหมายให้ผู้ใดดาเนินการควรออกคาสั่งให้ชัดแจ้งรัดกุมและ
เพ่ือปูองกันข้อครหา ไม่ควรมอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก เป็นผู้พิจารณา
อนุญาตแทน
อนึง่ บริเวณพน้ื ทลี่ ุ่มทีม่ ีนา้ ท่วมในฤดฝู นและฤดนู ้าหลาก เมอ่ื มีคาขอเกิดขึ้น ควรจะนัดรังวัด
เป็นกลุ่มในฤดูท่ีน้าไม่ท่วม ท้ังนี้ไม่ต้องนัดตามลาดับท่ีย่ืนคาขอให้ทาเรื่องขออนุมัติผู้ว่าราชการจังหวัด
เป็นคราว ๆ ไปส่วนบริเวณใดท่ีน้าไม่ท่วม ก็นัดรังวัดไปตามปกติ ในกรณีที่ผู้ขอได้มาย่ืนคาขอรังวัด
สอบเขตโฉนดที่ดินหลายแปลงพร้อมกัน หากท่ีดินที่ขออยู่บริเวณใกล้เคียงกันและสามารถจะนัด
ทาการรังวัดสอบเขตได้ในวันเดียวหลายแปลง โดยไม่เป็นปัญหาแก่เจ้าของท่ีดินข้างเคียง
ทีจ่ ะมารบั รองแนวเขตที่ดิน ให้นัดทาการรังวัดที่ดินแปลงจานวนดังกล่าวในวันเดียวกัน สาหรับกรณี
โฉนดที่ดินท่ีมีผู้ถือสิทธิ์รวม 2 คน หากผู้ขอจะย่ืนคาขอรังวัดสอบเขตท่ีดินเพียงคนเดียว โดยที่
อีกคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้วและยังไม่มีการจดทะเบียนผู้จัดการมรดกรวมทั้งยังไม่ขอรับมรดก กรณีน้ี
22
ไม่ควรรับคาขอและนัดรังวัดสอบเขต ควรแจ้งให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายไปดาเนินการ
รับมรดกให้เสรจ็ เรยี บรอ้ ยกอ่ น
อย่างไรก็ตาม กรมท่ีดินมีนโยบายที่จะเร่งรัดงานรังวัดเฉพาะรายของสานักงานที่ดิน
จังหวัด/สาขา/ส่วยแยกทุกแห่ง ให้สามารถกาหนดนัดทาการรังวัดให้เจ้าหน้าท่ีไปทาการรังวัดได้
ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับคาขอ ทั้งน้ีเพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และขจัดความเดือดร้อน
ของเจ้าของที่ดิน สาหรับการนัดเร่ืองรังวัด เก่ียวกับการออกโฉนดท่ีดิน การรังวัดแบ่งแยก สอบเขต
และรวมโฉนดท่ีดนิ ให้นัดรังวดั คละกนั
หากจังหวัดใด สานักงานที่ดินภายในจังหวัดมีระยะเวลานัดรังวัดนาน (คิวรังวัดยาว)
สามารถบรหิ ารจัดการงานรังวัดเฉพาะรายภายในพื้นที่จังหวัด โดยเกลี่ยช่างรังวัดจากสานักงานที่ดิน
จังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ท่ีมีระยะเวลานัดรังวัดสั้นไปช่วยสานักงานท่ีดินฯ ที่มีระยะเวลานัดรังวัดนาน
(คิวรังวัดยาว) หรือให้ช่างรังวัด 1 คนปฏิบัติงาน 2 สานักงาน และหรือนาวิธีนัดรังวัดเป็นกลุ่มมาใช้
ในการนัดรังวัด โดยการสารวจคาขอรังวัดท่ีค้างระหว่างรอทาการรังวัดทั้งหมด แล้วจัดกลุ่มคาขอ
ท่ีมีท้องท่ีซึ่งที่ดินตั้งอยู่ใกล้เคียงกันหรือหมู่บ้านเดียวกัน แล้วนัดทาการรังวัดเป็นกลุ่ม หรือบริหาร
จัดการตามที่เห็นควร โดยขอมติจากอนุกรรมการดาเนินการบริหารจัดการงานรังวัดเฉพาะรายระดับ
จังหวดั (ไม่ตอ้ งขออนุมตั จิ ากผู้ว่าราชการจังหวัด) (หนังสือกรมที่ดิน ด่วนมาก ที่ มท 0514.3/ว 853 ลง
วนั ที่ 13 มกราคม 2559 คาส่ังกรมที่ดิน ที่ 85/2559 เร่ือง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดาเนินการบริหาร
จัดการงานรงั วดั เฉพาะรายระดบั จงั หวดั ลงวนั ที่ 13 มกราคม 2559)
ช่างรังวัดเม่ือได้รับคาส่ังจากเจ้าพนักงานที่ดินให้ไปทาการรังวัดตามคาขอและเมื่อถึง
กาหนดใกล้วนั ใกลว้ ันนัดทาการรังวัด หรือถึงกาหนดวันนัดทาการรังวัด มีอุปสรรคทาให้ช่างรังวัดไม่
สะดวกจะไปทาการรังวดั จึงไดท้ าความตกลงใหช้ า่ งรังวดั ผู้อน่ื ไปปฏิบัติการแทนโดยพละการและมิได้
รายงานใหผ้ ู้บังคับบัญชาทราบแต่ประการใด ท้ังนี้ แม้จะเป็นการหวังดีต่อทางราชการเพ่ือให้กิจการ
ลุล่วงไปก็ตาม แต่ย่อมไม่เปน็ การชอบดว้ ยวิธีปฏิบัติราชการ กรมท่ีดินจึงมีคาส่ังท่ี 1/2496 ลงวันท่ี 1
มกราคม 2496 เรือ่ ง หา้ มช่างแผนทที่ าการรังวดั แทนกนั โดยพละการ เม่ือช่างรังวัดผู้ใดไม่สามารถจะ
ไปปฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ด้ กใ็ ห้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพ่ือจะได้ส่ังเปลี่ยนแปลงต่อไป เว้นแต่จะเป็น
กรณีรีบดว่ นไม่อาจรอรบั คาส่ังได้ เช่น มีเหตุจาเป็นโดยกะทันหัน อันเป็นเหตุไม่สามารถจะไปทาการ
รังวัดในวันตามกาหนดได้และขอร้องให้ช่างรังวัดผู้อื่นไปทาการรังวัดแทน เพ่ือมิให้เสียหายแก่ผู้ขอ
ก็ใหช้ า่ งรังวัดผรู้ ับมอบไปทาการรังวัดแทนได้ ถ้าสามารถจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบด้วยวาจา
กอ่ นเดนิ ทางไดก้ ใ็ หป้ ฏบิ ัติเสยี ก่อน และใหช้ า่ งรังวดั ผไู้ ดร้ ับคาสั่งเดมิ รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
เปน็ หลกั ฐานโดยด่วนด้วย
เม่ือถึงวันทาการรังวัดให้ช่างรังวัดเดินทางไปพบกับผู้ขอรังวัด ณ สถานท่ีนัดหมาย เช่น
บ้านกานนั บ้านผู้ใหญ่บ้าน วัดหรือโรงเรียน ซึ่งการจะนัดพบช่างรังวัดที่ใดให้เป็นไปตามความประสงค์
ของผู้ขอรังวดั
ตอนที่ 5 การเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนียมและคา่ ใชจ้ า่ ยในการรงั วดั
ตามมาตรา 103 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กาหนดให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและ
คา่ ใช้จ่ายตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบญั ชที า้ ยประมวลกฎหมายน้ี
การเรียกเกบ็ ค่าธรรมเนยี มและค่าใชจ้ ่ายในการรังวัด
1) กฎกระทรวงฉบบั ท่ี 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล
กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. 2497 กาหนดให้เรยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนียมไว้ ดังน้ี
23
o ค่าธรรมเนยี มการพิสจู นส์ อบสวนหรือตรวจสอบเนื้อทเี่ กย่ี วกบั หนังสือรับรองการทา
ประโยชน์
- ถา้ เรยี กเป็นแปลง แปลงละ 30 บาท (ออกหนังสือรับรองการทา
ประโยชน)์
- ถ้าเรียกเป็นวัน วันละ 30 บาท (ตรวจสอบเน้อื ท่)ี
- ค่าคัดหรือจาลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
- ค่าคานวณเนื้อทห่ี รอื สอบแส แปลงละ 30 บาท
- ค่าจบั ระยะ แปลงละ 10 บาท
o ค่าธรรมเนยี มรงั วดั เกีย่ วกบั โฉนดท่ีดิน
- ถ้าเรยี กเป็นแปลง แปลงละ 40 บาท (ออกโฉนดฯ 1 แปลง 40
บาท/แบง่ แยก คดิ ตามจานวนแปลงทีแ่ บ่งแปลงละ 40 บาท)
- ถา้ เรยี กเปน็ วัน วันละ 40 บาท (สอบเขต/รวมโฉนดฯ)
- ค่าคัดหรือจาลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
- ค่าคานวณเน้ือทหี่ รือสอบแส แปลงละ 30 บาท
- ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท
- ค่าหลักเขตที่ดิน หลกั ละ 15 บาท (กฎกระทรวงฉบับท่ี 53 พ.ศ.
2549 ข้อ (10) ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตลด็ (ฌ) คา่ หลักเขตท่ดี ิน)
2) กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี 48 (พ.ศ. 2542) ยกเลกิ ข้อ 4. ตาม กฎกระทรวงฉบับที่ 47 และ
ใช้ความต่อไปนีแ้ ทน
- ค่าพาหนะเดินทางให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และคนงานท่ีจ้างไปทา
การรงั วดั
- คา่ ใชจ้ ่ายอนื่ ๆ ในการรงั วัด
ใหจ้ ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของ
กระทรวงการคลัง
- คา่ ปุวยการใหแ้ กเ่ จ้าพนกั งานผู้ปกครองทอ้ งท่ี คนหนึ่ง วนั ละ 50 บาท
3) กฎกระทรวงฉบบั ท่ี 53 (พ.ศ.2549)
(10) ค่าธรรมเนยี มเบ็ดเตล็ด
(ฌ) ค่าหลักเขตท่ีดิน หลักละ 15 บาท ถ้าเป็นการเดินสารวจฯ คิดเป็นราย
แปลงๆ ละ 60 บาท
ข้อสงั เกต กฎหมายกาหนดให้ผู้ขอรังวัดจ่ายเงินค่าหลักเขตท่ีดินเป็นค่าธรรมเนียมหลัก
เขตที่ดิน และไม่มีกฎหมายใดที่ได้กาหนดไว้เป็นการเฉพาะให้กรมที่ดินขายหลักเขตที่ดินให้กับผู้ขอ
รังวัด
ตัวอย่าง กรณีรวมโฉนดและแบ่งแยกท่ีดินในคราวเดียวกัน ให้คิดค่าธรรมเนียมแต่ละ
ประเภทและนามารวมกัน เช่น รวมโฉนดฯ 2 วัน คิดค่าธรรมเนียม 80 บาท แบ่งแยกฯ 3 แปลงคิด
ค่าธรรมเนียม 120 บาท รวมเปน็ เงนิ ค่าธรรมเนียม 200 บาท เป็นตน้
การเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนียมและคา่ ใช้จา่ ยในการรงั วัด ซ่งึ เปน็ เงินนอกงบประมาณท่ีเรียก
เก็บจากผู้ขอรังวัด (เอกชน) ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับ
24
โฉนดท่ีดิน หรอื พสิ จู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเนื้อท่ีเกยี่ วกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542
กาหนดให้จังหวัดออกประกาศกาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดฯ ไม่เกินกว่าอัตราในบัญชีค่าใช้จ่ายตาม
แบบในระเบียบดังกล่าว เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดได้กาหนดค่าใช้จ่ายแล้วให้นาเสนอผู้ว่าราชการ
จังหวดั พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ ให้สานักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก และสานักงานท่ีดินอาเภอ
ปดิ ประกาศไวใ้ นทเ่ี ปดิ เผย ณ สานกั งานท่ดี ินนั้น ๆ เพ่อื ใหป้ ระชาชนท่ีมาติดต่อทราบโดยทว่ั กนั
ส่วนแนวทางการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย (เงินมัดจารังวัด) เก่ียวกับการรังวัดโฉนดที่ดิน
หรือพิสูจน์สอบสวนหรือตรวจสอบเนื้อที่ เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ เมื่อฝุายรังวัด
ไดร้ ับคาขอ (ท.ด. 9 หรือ ท.ด. 16) หรือหนังสือศาลจากฝุายทะเบียนแล้ว ให้นาลงบัญชีรับเรื่องและ
นัดรังวัด (ร.ว. 12) และกาหนดตัวช่างรังวัดพร้อมท้ังวันทาการรังวัด โดยพิจารณาจากบัญชีคุมการ
นัดรังวัด (ร.ว. 70) เม่ือนัดรังวัดให้แก่ช่างรังวัดผู้ใดให้ลงบัญชีคุมเร่ืองประจาตัวช่างรังวัด (ร.ว. 71)
ของผู้นั้นทันที จากน้ันให้ผู้ดาเนินการเขียนวันนัดรังวัดไว้ในบัญชีรับเร่ืองและนัดรังวัด (ร.ว. 12)
บันทึกหน้าเร่ืองการรังวัดที่ดิน (ท.ด. 82) ตามระเบียบให้ครบทุกช่อง แล้วมอบใบนัดทาการรังวัด
(ท.ด. 2 ก.) ให้ผขู้ อไป สาหรบั ใบนดั ทาการรังวดั (ท.ด. 2 ก.) ใหจ้ ดหมายเลขโทรศพั ท์ของเจ้าของที่ดิน
ผู้ย่ืนคาขอรังวัดและหมายเลขโทรศัพท์ของสานักงานท่ีดินท่ีสามารถติดต่อได้โดยตรงท้ังฉบับท่ีแจก
ใหผ้ ู้ขอและฉบับทเ่ี ก็บไวใ้ นเรื่องรังวัดเพื่อประโยชน์ในการติดต่อภายหลงั
คาขอท่ีเกดิ กอ่ นวันท่ี 30 มิถนุ ายน 2558 ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่าย
ในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อท่ีเก่ียวกับหนังสือรับรอง
การทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดท่ีดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือ
รวมโฉนดท่ีดิน เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ กาหนดให้ทาการรังวัด 1 วัน ใช้สาหรับพ้ืนท่ีโล่งเตียน เป็นต้น
หากเป็นพื้นที่ชุมชน ท่ีนา ที่ไร่ ท่ีสวน ที่มีแนวเขตคดโค้งและท่ีมีปัญหาอุปสรรค ซ่ึงต้องแก้ไข
ตามหลักวิชารังวัดและทาแผนที่ เช่น หมุดหลักฐานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือที่ ให้เพ่ิมจานวน
วันทาการรังวัดได้ 1 วัน โดยให้หัวหน้าฝุายรังวัด หัวหน้างานรังวัด หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย
เป็นลายลักษณ์อักษร นัดรังวัดไปตามลาดับวันท่ีรับคาขอก่อนหลัง พร้อมทั้งประมาณการเงิน
คา่ ธรรมเนยี ม ค่าหลักเขตทีด่ ิน และค่าใชจ้ ่ายในการรังวดั ทดี่ นิ
สว่ นคาขอที่เกิดตง้ั แต่วนั ที่ 30 มิถนุ ายน 2558 เป็นตน้ ไป ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือท่ีเกี่ยวกับ
หนงั สือรับรองการทาประโยชน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ได้กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดออกโฉนดที่ดิน
แบ่งแยก สอบเขต หรอื รวมโฉนดทดี่ ิน ใหเ้ รยี กคา่ ใชจ้ ่ายตามประกาศจงั หวัด โดยใช้เนื้อทแี่ ปลงท่ีขอรังวัด
เป็นเกณฑ์ และให้หัวหน้าฝ่ายรังวัด หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้นัดทาการ
รังวัด ทาการสอบสวนผู้ขอรังวัดเก่ียวกับตาแหน่งและสภาพที่ดินในขณะย่ืนคาขอ หากมีเหตุต้องเพ่ิมวัน
ทาการรงั วัด ใหพ้ จิ ารณาตามหลกั เกณฑก์ ารเพ่มิ วันทาการรงั วัดในบัญชีท้ายระเบียบฯ โดยระบุเหตุผล
ให้ปรากฏ ในใบนัดรังวัด (ท.ด. ๒ ก) ทาการบันทึกต่อจากข้อความ “สภาพที่ดินขณะขอทาการรังวัด....”
พรอ้ มช้ีแจงค่าใช้จ่ายในการรังวัดให้ผู้ขอทราบ ไม่ต้องขออนุมัติเพิ่มวันทาการรังวัดจากเจ้าพนักงานท่ีดิน
เสร็จแล้วใหห้ วั หน้าฝาุ ยรังวดั หรอื ผูท้ ่ไี ดร้ ับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้นัดทาการรังวัดเป็นผู้ลง
นามในช่องเจา้ พนักงานที่ดินในใบนัดรังวดั ท.ด.2ก แลว้ ส่งมอบ ท.ด.2ก ฉบับสาเนาให้ผู้ขอเก็บไว้เป็น
หลักฐานเพื่อใช้ในการตดิ ตามเรื่องรังวดั (ระเบียบกรมท่ีดนิ ลว. 17 ธ.ค. 47 ว่าด้วยการรับคาขอรังวัด
การนัดรงั วดั และการเรยี กคา่ ใชจ้ ่ายในการรังวัดเฉพาะราย ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2558)
25
ให้ผู้ขอวางเงินมัดจารังวัดในวันย่ืนคาขอซึ่งถือปฏิบัติตามคาสั่งกรมที่ดินที่ 131/2513
เรื่อง การรับเงินคา่ ใชจ้ ่ายในการรงั วดั ดงั นี้
ขอ้ 1. เม่อื เจา้ ของท่ีดินผขู้ อรงั วดั ยืน่ คาขอ และเจ้าหน้าที่รับคาขอแล้ว ให้ส่งเร่ืองให้ช่าง
แผนที่ประมาณเงินลงในใบนัดรังวัดตามวิธีการเดิม และให้บันทึกเจ้าของท่ีดินผู้ขอรังวัดให้ทราบว่า
จะต้องใชเ้ งนิ จานวนท่ีประมาณไว้ โดยต้องนามามอบในวันที่มารับทราบกาหนดวันทาการรังวัด และ
รบั หนังสอื ถงึ เจ้าของท่ดี ินข้างเคียง
ข้อ 2. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้กาหนดวันทาการรังวัดแล้ว ให้มีหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินผู้ขอ
รังวัดทราบลว่ งหน้าพอสมควร โดยกาหนดวันท่ีจะต้องมารับหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียง พร้อม
ทั้งนาเงนิ ท่ไี ด้ประมาณไว้ แลว้ มามอบใหส้ านักงานทด่ี นิ ไว้ดว้ ย
ฯลฯ
ขอ้ 4 สาหรับจงั หวดั ทีส่ ามารถจะกาหนดวันทาการรังวัดได้ในระยะใกล้ๆกับวันรับคาขอ
ให้เรียกเงนิ ลว่ งหน้าไวใ้ นวนั ย่ืนคาขอได้
สรปุ ผูข้ อรงั วดั ต้องวางเงินมัดจารงั วัดกอ่ นวันทาการรังวัดตามบันทึกท่ีได้แจ้งกาหนดวัน
วางเงินให้ผู้ขอทราบ หากเลยวันกาหนดนัดวางเงินไม่มาวางให้บันทึกนาเรียนเจ้าพนักงานที่ดินให้มี
หนังสอื เรียกผูข้ อมาวางเงนิ โดยถือปฏิบัติตามนัยระเบียบว่าด้วยการรายงานผลการปฏิบัติงานฯ พ.ศ.
2555 ขอ้ 36
คา่ ใชจ้ า่ ยในการรังวัดออกโฉนดท่ีดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือรวมโฉนดที่ดิน เป็นไปตาม
เกณฑ์ท่กี าหนดไว้ ดังนี้
- เนอื้ ทีไ่ มเ่ กนิ 5 ไร่ เวลาทาการ 1 วัน
- เน้อื ทไี่ มเ่ กนิ 15 ไร่ เวลาทาการ 2 วนั
- เน้อื ทไ่ี ม่เกิน 30 ไร่ เวลาทาการ 3 วนั
- เนื้อที่ไมเ่ กิน 50 ไร่ เวลาทาการ 4 วัน
- เน้อื ท่ีเกนิ กว่า 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกวา่ 25 ไร่ ใหเ้ พ่ิมวันทาการรังวดั 1 วัน
(เชน่ เน้ือท่ีมากกว่า 75 ไร่ ขนึ้ ไป ถงึ เนื้อท่ี 125 ไร่ เวลาทาการ 5 วัน /เนื้อท่ีมากกว่า
125 ไร่ขึน้ ไป ถงึ เนอ้ื ท่ี 175 ไร่ เวลาทาการ 6 วัน /เนื้อท่ี 175ไร่ ข้ึนไป ถึง เน้ือที่ 225 ไร่ เวลาทาการ
7 วัน เป็นต้น)
และมหี ลกั เกณฑ์การเพิม่ วันทาการรังวดั ดังน้ี
1. กรณีท่ีดินต้ังอยู่ในพ้ืนที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่นกรุงเทพมหานคร/
เมืองพัทยา ฯลฯ หรอื เทศบาลนคร หรอื เทศบาลเมอื ง หรือท่สี วนเป็นไม้ยืนตน้ เชน่ สวนผลไม้ สวนปาล์ม
สวนยาง ฯลฯ เปน็ ตน้ ให้เพิ่มวันทาการรงั วดั 1 วนั
2. กรณกี ารรังวดั ตอ้ งคานวณจากดั เน้ือท่ี ให้เพม่ิ วนั ทาการรงั วดั 1 วัน
3. กรณีการรงั วดั มีท่ีดนิ ขา้ งเคยี งมากแปลง ทกุ ๆ ขา้ งเคยี ง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า
15 แปลง ใหเ้ พ่ิมวันทาการรงั วดั 1 วัน
4. กรณกี ารรงั วัดแบง่ แยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรือเศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพ่ิมวัน
ทาการรงั วดั 1 วัน
5. กรณมี เี หตุข้อ 1 และ 2 รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน ให้เพ่ิมวันทาการรังวัดได้ในกรณีใด
กรณีหนง่ึ เท่านั้น
26
ทั้งน้ี การกาหนดคา่ ใช้จ่ายในการรงั วัดดงั กลา่ ว ให้คานงึ ถึงผลกระทบกับประชาชนที่จะได้รับ
หากกาหนดคา่ ใชจ้ า่ ยทส่ี งู เกนิ ความจาเป็นด้วย
ตวั อยา่ ง การเรยี กเก็บคา่ ใชจ้ า่ ยในการรงั วัด
กรณที ่ี 1. การรงั วดั ออกโฉนดทด่ี นิ เนอื้ ท่ตี ามหลกั ฐาน 51 ไร่ ทดี่ นิ ตง้ั อยูใ่ นเขตเทศบาลเมือง
- คิดเปน็ คา่ ธรรมเนียมออกโฉนดท่ีดนิ 1 แปลง 40 บาท
- ค่าหลักเขตทด่ี นิ คานวณจากรปู แผนที่ 10 หลกั เป็นเงิน 150 บาท (หลักละ 15 บาท)
- คา่ ปุวยการผูป้ กครองทอ้ งท่ี 50 บาท
- ทด่ี นิ ตัง้ อยูใ่ นพนื้ ที่เทศบาลเมอื ง เพ่มิ วนั ทาการรงั วัด 1 วนั
- คานวณวันทาการรังวัดโดยคิดตามจานวนเน้ือท่ี 51 ไร่ คิดเป็นวันทาการ 4 วัน (เน้ือท่ี
เกินกว่า 50 ไร่ แต่เศษไม่เกินกว่า 25 ไร่ ไม่เพิ่มวันทาการรังวัด คือ เนื้อท่ีไม่ถึง 75 ไร่
0.1 ตารางวา ไม่เพ่ิมวัน) และเพิ่มวันทาการรังวัดในกรณีท่ีท่ีดินตั้งอยู่ในพื้นท่ีเทศบาล
เมืองจานวน 1 วัน รวมเป็น 5 วนั ทาการ (นาจานวนวนั ไปคิดคานวณคา่ คนงานรังวัดและ
ค่าพาหนะรถยนต์)
- ค่าคนงานรงั วดั (รังวดั เปน็ งานแผนที่ชัน้ หนึง่ ) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 5 วนั เป็นเงนิ 8,400 บาท
- ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1600 บาท / 5 วัน
เปน็ เงนิ 8,000 บาท
- คา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ ๆ (ค่าสง่ หนงั สือแจ้งข้างเคยี ง) เหมาจ่าย 200 บาท
รวมเปน็ เงนิ คา่ มดั จารังวัด จานวน 16,840 บาท เป็นตน้
กรณีที่ 2.
การรังวดั แบ่งแยกโฉนดท่ีดิน เนื้อท่ี 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา ท่ีดินต้ังอยู่นอกเขต
เทศบาลเมอื ง แบ่งจากดั เน้อื ท่ใี ห้ไดเ้ นอ้ื ทแ่ี ปลงแบ่งแยกเท่ากับเน้ือที่แปลงคงเหลอื
- คิดเป็นคา่ ธรรมเนียมแบง่ แยกโฉนดท่ดี ิน 1 แปลง 40 บาท
- ค่าจากัดเนื้อที่ 2 แปลง ๆ ละ 30 บาท เปน็ เงนิ คา่ ธรรมเนียม รวมจานวน 60 บาท
- ค่าหลักเขตท่ีดนิ คานวณจากรปู แผนที่ 10 หลักเป็นเงนิ 150 บาท (หลักละ 15 บาท)
- คา่ ปวุ ยการผู้ปกครองท้องท่ี 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง กรณีท่ีข้างเคียงเป็นทีส่ าธารณประโยชน์)
- คานวณวันทาการรังวัดโดยคดิ ตามจานวนเนอื้ ท่ี 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา (เกิน 30 ไร่
เพ่ิมวันทาการรังวัด 1 วัน) คิดเป็นวันทาการ 4 วันและเพ่ิมวันกรณีจากัดเน้ือท่ี 1 วัน
รวมเปน็ 5 วนั ทาการ (นาจานวนวันไปคดิ คานวณค่าคนงานรังวัดและค่าพาหนะรถยนต์)
- ค่าคนงานรังวัด (รงั วดั เปน็ งานแผนท่ีช้ันหน่ึง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 5 วนั เป็นเงนิ 8,400 บาท
- ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1600 บาท / 5 วัน
เปน็ เงิน 8,000 บาท
- ค่าใชจ้ า่ ยอ่ืนๆ (ค่าส่งหนงั สอื แจง้ ข้างเคียง) เหมาจา่ ย 200 บาท
รวมเป็นเงนิ ค่ามัดจารงั วัด จานวน 16,900 บาท เป็นต้น
27
กรณที ี่ 3.
การรังวดั แบ่งแยกจดั สรรโฉนดทด่ี นิ เนอื้ ที่ 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา จานวน 100
แปลง โดยขอจากัดเนื้อท่ใี ห้ไดเ้ น้ือท่ีตามผังจดั สรร ทีด่ นิ ตงั้ อยู่ในเขตเทศบาลเมือง และตดิ ท่ีดนิ
ขา้ งเคียงจานวน 75 แปลง
1. คิดเป็นค่าธรรมเนยี มแบ่งแยกโฉนดท่ดี นิ 100 แปลงๆละ 40 บาท เป็นเงิน 4,000 บาท
2. ค่าจากัดเนอ้ื ท่ี 100 แปลง ๆ ละ 30 บาท เปน็ เงนิ คา่ ธรรมเนียม รวมจานวน 3,000 บาท
และการจากัดเนอ้ื ที่หรอื ที่ดนิ ตัง้ อยใู่ นเขตเทศบาลเมืองเข้าหลักเกณฑ์การเพ่มิ วันทาการรังวัด จานวน
1 วนั
3. ค่าหลักเขตทดี่ นิ คานวณจากรปู แผนที่ 300 หลักๆ ละ 15 บาทเปน็ เงิน 4,500 บาท
4. ค่าปุวยการผู้ปกครองท้องที่ 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามท่ีกาหนดใน
กฎกระทรวง กรณีทขี่ า้ งเคยี งเปน็ ทสี่ าธารณประโยชน)์
5. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า15
แปลง ใหเ้ พ่ิมวนั ทาการรงั วดั 1 วนั กรณีนที้ ดี่ ินตดิ ที่ดินข้างเคยี งจานวน 75 แปลง เพ่มิ วันทาการรังวัด
จานวน 2 วัน (เศษไมเ่ กนิ กว่า15 แปลงปดั ทงิ้ )
6. คานวณวันทาการรังวัดโดยคิดตามจานวนเน้ือท่ี 30 ไร่ – งาน 0.1 ตารางวา (เกิน 30 ไร่
เพ่ิมวนั ทาการรังวดั 1 วัน) คดิ เปน็ วันทาการจานวน 4 วนั
7. คานวณวันแบ่งแปลงจัดสรร 100 แปลง (เข้าหลกั เกณฑ์การเพ่ิมวนั ทาการรงั วัด ตาม
จานวนแปลงแบง่ แยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกนิ กวา่ 4 แปลง ให้เพ่ิมวันทาการรังวดั 1 วนั ) คิด
เปน็ วันรงั วดั แบ่งแยกจดั สรร จานวน 12 วัน (เหลือเศษไม่เกนิ กว่า 4 แปลงปดั เศษทงิ้ )
8. คิดวนั ทาการรงั วัดจากขอ้ 2 + ขอ้ 5 + ข้อ 6 และขอ้ 7 (1 วัน + 2 วัน + 4 วัน +12 วัน )
รวมเปน็ วันทาการจานวน 19 วัน
9. ค่าคนงานรังวัด (รังวัดเป็นงานแผนท่ีช้ันหนึ่ง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 19 วัน เป็นเงิน 31,920 บาท
10. คา่ พาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1,600 บาท / 19 วัน
เปน็ เงนิ 30,400 บาท
11. ค่าใชจ้ า่ ยอ่นื ๆ (ค่าส่งหนังสือแจง้ ขา้ งเคยี ง) เหมาจา่ ย 200 บาท
รวมเป็นเงนิ ค่ามดั จารังวัด จานวน 74,070 บาท เปน็ ต้น
การรังวัดออกโฉนดท่ีดิน แบ่งแยก สอบเขต หรือรวมโฉนดที่ดิน ให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่าย
ในลักษณะเหมาจ่าย กรณีมีการคัดค้านการรังวัด หากมีการรังวัดใหม่ให้เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย
ในการรังวัดใหม่เท่าท่ีจาเป็นจากผู้ขอรังวัดโดยเหมาจ่าย (หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0706/ว 25689
ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2542)
ในกรณีการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดกรณีการรังวัดทาแผนที่พิพาทตามคาส่ัง
ศาล จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดจากโจกท์และหรือจาเลย ตามท่ีศาลกาหนดมา เนื่องจากเป็น
เงินนอกงบประมาณ ตามนัยระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการรับคาขอรังวัด การนัดรังวัดและการเรียก
เก็บเงินคา่ ใชจ้ ่ายในการรงั วดั เฉพาะราย พ.ศ.2547 จึงได้กาหนดใหเ้ รยี กคา่ ใชจ้ ่ายในลักษณะเหมาจ่าย
โดยอนโุ ลม โดยแยกตามกรณที ี่ศาลมหี นงั สอื หรือคาพพิ ากษาของศาลได้ ดังนี้
28
กรณีที่ 1 ศาลมีหนังสือหรือคาพิพากษาขอให้ทาการรังวัดท่ีดินโจกท์ ท่ีดินจาเลย และ
บริเวณท่ีดินในส่วนท่ีพิพาทหรือที่ดินท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาคดีพิพาทเรื่อง
แนวเขตที่ดิน การเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดจึงต้องคิดคานวณเน้ือที่ที่ดินโจกท์ ท่ีดินจาเลย
และท่ีดินที่เกี่ยวข้องรวมกัน ในทานองเดียวกันกับการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดในการรังวัด
รวมโฉนดที่ดนิ
ตวั อย่าง การเรยี กเก็บเงินคา่ ใช้จ่ายในการรังวัดกรณีการรังวดั ทาแผนที่พพิ าท
ศาลมีหนงั สือหรอื คาพพิ ากษาขอใหท้ าการรังวัดทีด่ นิ โจกท์ ทดี่ นิ จาเลย และบริเวณท่ีดิน
ในสว่ นที่พพิ าท ที่ดินโจกท์ โฉนดท่ีดิน เน้ือที่ 30 ไร่ – งาน 1 ตารางวา ท่ีดินจาเลย โฉนดท่ีดิน เนื้อท่ี
45 ไร่ – งาน – ตารางวา ทด่ี นิ พพิ าทต้งั อย่ใู นเขตเทศบาลเมอื ง
1. คา่ ธรรมเนยี มในการรังวดั ทาแผนท่พี ิพาทโฉนดท่ีดิน 6 วันๆ ละ 40 บาทเป็นเงิน 240บาท
(เนือ้ ทรี่ วมจานวน 2 แปลง เทา่ กับ 75 ไร่ – งาน 1 ตารางวา คิดค่าใช้จ่ายตามเน้ือท่ีได้ 5 วัน
โดยเนือ้ ทเี่ กนิ กวา่ 50 ไร่ เศษเกินกว่า 25 ไร่ เพิ่มวนั ทาการรังวัด 1 วนั ) และเพ่มิ วันกรณีท่ีดิน
ตง้ั อยูใ่ นเขตเทศบาลเมอื งอกี 1 วัน รวมเป็นวนั ทาการจานวน 6 วนั )
2. ค่าปุวยการผู้ปกครองท้องท่ี 50 บาท (จ่ายให้กับผู้แทนนายอาเภอหรือตามท่ีกาหนดใน
กฎกระทรวง กรณีท่ขี ้างเคยี งเป็นท่สี าธารณประโยชน)์
3. ค่าคนงานรงั วัด (รังวัดเป็นงานแผนที่ช้ันหนึ่ง) จานวน 4 คน/วัน คนละวันละ 420 บาท
รวม 4 คน / 6 วนั เป็นเงิน 10,080 บาท
4. ค่าพาหนะรถยนต์ (เหมาจ่ายเป็นวัน) ตามประกาศจังหวัด วันละ 1600 บาท / 6 วัน เป็น
เงิน 9,600 บาท
5. ค่าใชจ้ ่ายอน่ื ๆ (ค่าส่งหนังสอื แจ้งขา้ งเคยี ง) เหมาจา่ ย 200 บาท
รวมเป็นเงินค่ามัดจารังวัด (ข้อ 1 = 240 บาท + ข้อ 2 = 50 บาท + ข้อ 3 = 10,080
บาท + ข้อ 4 = 9,600 บาท + ขอ้ 5 = 200 บาท) จานวน 20,170 บาท เปน็ ตน้
กรณีท่ี 2 ศาลมีหนังสือหรือคาพิพากษาใหท้ าการรังวัดตามการครอบครองปรปักษ์ หรือ
รงั วัดแบ่งได้มาโดยการครอบครอง หากในคาร้องมีโจกท์หลายคนและแต่ละคนขอรังวัดตามเขตการ
ครอบครองและทาประโยชน์ในโฉนดทด่ี ินตามสัดส่วนของตนเองแล้ว ในขั้นตอนการรับคาขอรังวัดจะ
แยกคาขอเป็นรายแปลงตามการได้มา จึงทาให้การเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัดแยกเป็นราย
แปลงตามแต่ละคาขอ แต่หากในคาร้องโจกท์มีเพียงคนเดียวหรือหลายคน ครอบครองและทา
ประโยชน์ในท่ีดินท่ีพิพาทแปลงเดียว การคิดค่าใช้จ่ายในการรังวัดจะคิดตามจานวนเนื้อที่ตาม
หลักฐานท่ดี ินแปลงทพี่ ิพาทเป็นเกณฑใ์ นการคิดคา่ ใช้จา่ ยในทานองเดยี วกนั กบั การรงั วดั แบง่ แยกทด่ี นิ
ส่วนแนวทางการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการรังวัด ซึ่งเป็นเงินงบประมาณหรือเงินท่ี
เรียกเก็บจากส่วนราชการซ่ึงเป็นผู้ขอรังวัด ซึ่งตามหนังสือกรมที่ดิน ด่วนท่ีสุด ที่ มท 0511.4/ว
31483 ลงวันที่ 19 ตลุ าคม 2547 กาหนดมาตรฐานวันทาการรังวัดออกหรือตรวจสอบหนังสือสาคัญ
สาหรับทหี่ ลวง พ.ศ.2547 ไว้ โดยใช้เนอื้ ท่ตี ามหลักฐานเป็นตัวกาหนดวันทาการรังวัดและให้บวกเพ่ิม
วันทาการรังวัดได้ในกรณีที่มีผู้บุกรุกหรือคัดค้าน หรือในกรณีท่ีมีปัญหาอุปสรรคในการรังวัดและได้
บันทึกผู้ขอและหรือผู้ปกครองท้องที่เป็นหลักฐานให้เจ้าพนักงานที่ดินพิจารณาอนุญาตให้เพิ่มวันทา
การรังวัดไดต้ ามความจาเป็น
29
ในกรณี การรังวดั เก่ียวกับทส่ี าธารณประโยชน์ที่ไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง เช่น รังวัด
ตรวจสอบทางหรือลารางสาธารณประโยชน์ ให้ประมาณการเงินค่ามัดจารังวัดตามจานวนแปลง
ขา้ งเคียงที่ตดิ ท่สี าธารณะโดยรอบ ซึ่งคิดคานวณได้จากจานวนแปลงข้างเคียงประมาณ 5 แปลงต่อ 1
วันทาการ รวมกนั กับวนั ทาการท่ปี ระมาณการจากคุณลกั ษณะด้านความกวา้ งหรือยาวหรือจานวนเนื้อ
ทขี่ องพ้ืนทส่ี าธารณะที่จะทาการรงั วดั เปน็ องค์ประกอบการคิดวันทาการ
การเรยี กเก็บเงินค่ามดั จารงั วัดกรณีการรังวดั เก่ยี วกับที่สาธารณประโยชน์ท่ีมีและไม่มีหนังสือ
สาคัญสาหรับที่หลวง ให้เรียกเก็บได้เท่าท่ีจาเป็นและใช้จ่ายจริง (ตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการ
รับคาขอรังวัดการนัดรังวัดและการเรียกค่าใช้จ่ายในการรังวัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 ลงวันท่ี 17
ธนั วาคม 2547 ข้อ 14) จากผู้มีหน้าท่ดี ูแลรักษา ซึ่งตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแล
รักษาและคุ้มครองปูองกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.
2553 ข้อ 13 กาหนดให้เบิกจ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสามารถเบิก
จ่ายเงินค่ามัดจารังวัดตามกรณีน้ีได้เฉพาะวันทาการของทางราชการเท่านั้น เพาะติดปัญหาข้อ
กฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒
ในกรณีที่ต้องทาการเบิกจ่ายเงินค่ามัดจารังวัด ได้แก่ เงินค่าคนงานรังวัด จากเงิน
งบประมาณซึ่งไม่เข้าหลักเกณฑ์การเหมาจ่าย จาเป็นต้องใช้คนงานท่ีได้ขึ้นทะเบียนรายชื่อคนงาน
รงั วัดทไ่ี ด้ขน้ึ ทะเบียนไวท้ ีส่ านกั งานที่ดนิ ตามคาส่งั กรมทด่ี นิ ที่ 763/2527 เรื่อง การจ้างคนงานรังวัด
ทดี่ นิ ลงวันท่ี 21 มถิ ุนายน 2527 ประกอบการเบิกจ่ายเงินค่าคนงานรังวัด ส่วนกรณีการเบิกจ่ายเงิน
คา่ มัดจารังวดั โดยวิธีเหมาจา่ ย ไม่ตอ้ งใช้เอกสารหลักฐานเก่ยี วกับคนงานรังวัดประกอบการเบิกเงินแต่
อย่างใด
ปัจจุบันงานรังวดั ทด่ี นิ ตามโครงการต่างๆ เช่น โครงการรงั วัดเพื่อการชลประทาน เป็นต้น
จะทาการจ้างเหมาบริการ ซึ่งถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ
การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แทนการจัดจ้างคนงานรังวัดท่ีได้ขึ้นทะเบียนคนงานรังวัดไว้ตาม
คาส่ังกรมทดี่ นิ ท่ี 763/2527 เรือ่ ง การจา้ งคนงานรังวดั ท่ีดิน ลงวนั ที่ 21 มิถุนายน 2527
30
ประกาศจงั หวัด......................................................................
เรอ่ื ง ค่าใช้จ่ายในการรงั วัดเก่ียวกับโฉนดทด่ี นิ หรอื พิสูจนส์ อบสวน
หรือตรวจสอบเน้ือท่เี กย่ี วกบั หนังสือรับรองการทาประโยชน์
ด้วยจังหวัด..................................... .......ได้กาหนดค่าใช้จ่ายเพ่ือใช้ เรียกเก็บในการรังวัด
เกย่ี วกับโฉนดทด่ี ิน หรอื พสิ จู น์สอบสวน หรือตรวจสอบเนอ้ื ทีเ่ กย่ี วกับหนงั สือรับรองการทาประโยชน์
ในทอ้ งทีจ่ งั หวัดนี้ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยแลว้ จงึ ประกาศใหท้ ราบทวั่ กันดังน้ี
ทอ้ งท่ี โฉนดทดี่ ิน หนังสอื รับรองการทาประโยชน์
อาเภอ/เขต ออก/ตรวจสอบ/รวม แบง่ แยก
ลาดบั ที่ ออก/สอบเขต/รวม แบ่งแยก
เนือ้ ที่ จานวน เน้ือที่ จานวน
ตาบล/แขวง เน้ือท่ี จานวน เนื้อที่ จานวน (ไร่) เงนิ (ไร่) เงนิ
(ไร่) เงิน (ไร)่ เงนิ (บาท) (บาท)
(บาท) (บาท)
1. อาเภอเมือง
ก. - รงั วัดโดย ไม่เกิน 5 X ไม่เกิน 5 X
วิธแี ผนที่ ไม่เกนิ 15 X ไมเ่ กนิ 15 X
ชน้ั หนึ่ง ไม่เกนิ 30 X ไม่เกิน 30 X
ไม่เกนิ 50 X ไมเ่ กนิ 50 X
ไม่เกนิ X ไมเ่ กิน X
100ไม่ X 100ไม่ X
เกนิ 150 X เกนิ 150 X
150 ข้ึน 150 ขึ้น
ไป ไป
ท้ังน้ี ตง้ั แตว่ ันท.ี่ ..............................พ.ศ...................
...................................................
ผวู้ ่าราชการจงั หวดั
31
ประกาศจังหวัด........................................................................
เร่อื ง ค่าใช้จา่ ยในการรงั วดั เกีย่ วกับโฉนดทด่ี ิน หรอื พิสูจนส์ อบสวน
หรือตรวจสอบเนอ้ื ทเ่ี กี่ยวกับหนังสอื รับรองการทาประโยชน์
ด้วยจังหวัด............................................ได้กาหนดคา่ ใช้จ่ายเพอ่ื ใช้เรียกเกบ็ ในการรังวัด
เกีย่ วกบั โฉนดทดี่ ิน หรือพิสูจนส์ อบสวน หรือตรวจสอบเนื้อทเี่ กยี่ วกับหนงั สือรับรองการทาประโยชน์
ในทอ้ งทจ่ี ังหวดั นี้ ตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทยแลว้ จงึ ประกาศให้ทราบท่ัวกันดงั นี้
ท้องที่ โฉนดท่ีดิน หนังสอื รับรองการทาประโยชน์
อาเภอ/เขต
ลาดบั ท่ี ออก/สอบเขต/รวม แบ่งแยก ออก/ตรวจสอบ/รวม แบ่งแยก
ตาบล/แขวง เนอ้ื ท่ี จานวน เนอ้ื ท่ี จานวน เนือ้ ที่ จานวน เน้ือที่ จานวน
(ไร่) เงนิ (ไร่) เงิน
(ไร)่ เงิน (ไร)่ เงนิ
(บาท) (บาท) (บาท) (บาท)
1. อาเภอเมือง
ก. รังวัดโดย ไมเ่ กิน 5 X ไมเ่ กนิ 5 X
วธิ ีแผนทช่ี นั้ ไม่เกิน 15 X ไมเ่ กิน 15 X
สอง(ทาการ ไม่เกิน 30 X ไม่เกิน 30 X
รังวัดดว้ ย ไมเ่ กนิ 50 X ไมเ่ กิน 50 X
กลอ้ ง) ไมเ่ กนิ X ไมเ่ กนิ X
100ไม่ X 100ไม่ X
เกิน 150 X เกนิ 150 X
150 ขนึ้ 150 ขึ้น
ไป ไป
ทง้ั น้ี ตั้งแต่วนั ท.่ี ..............................พ.ศ............
............................................................
ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด....................
32
ประกาศจังหวดั ........................................................................
เร่ือง ค่าใช้จา่ ยในการรงั วดั เกี่ยวกบั โฉนดที่ดนิ หรือพิสจู น์สอบสวน
หรือตรวจสอบเนื้อทีเ่ กย่ี วกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์
ด้วยจงั หวดั ............................................ได้กาหนดคา่ ใช้จ่ายเพ่อื ใช้เรียกเก็บในการรังวดั
เกยี่ วกบั โฉนดท่ีดนิ หรือพิสจู นส์ อบสวน หรอื ตรวจสอบเน้ือที่เกยี่ วกบั หนังสือรับรองการทาประโยชน์
ในท้องทจี่ งั หวัดนี้ ตามระเบยี บของกระทรวงมหาดไทยแล้ว จงึ ประกาศใหท้ ราบท่ัวกนั ดังนี้
ท้องที่ โฉนดทดี่ ิน หนังสือรับรองการทาประโยชน์
ลาดบั ท่ี อาเภอ/เขต ออก/สอบเขต/รวม แบง่ แยก ออก/ตรวจสอบ/รวม แบง่ แยก
ตาบล/แขวง เนอ้ื ที่ จานวน เนอ้ื ท่ี จานวน เนื้อที่ จานวน เน้ือที่ จานวน
(ไร่) เงิน (บาท) (ไร่) เงิน (บาท) (ไร)่ เงิน(บาท) (ไร)่ เงนิ (บาท)
1. อาเภอเมอื ง
ก. - รงั วัด ไมเ่ กนิ 5 X ไม่เกิน 5 X ไม่เกิน 20 X ไม่เกิน 20 X
โดยวธิ แี ผน ไมเ่ กนิ 15 X ไมเ่ กนิ 15 X ไม่เกิน 50 X ไมเ่ กนิ 50 X
ที่ชัน้ สอง(ทา ไมเ่ กิน 30 X ไม่เกิน 30 X ไมเ่ กนิ X ไมเ่ กิน X
การรงั วัด ไมเ่ กนิ 50 X ไมเ่ กิน 50 X 100ไม่ X 100ไม่ X
ด้วยโซ่) ไมเ่ กนิ 100 X ไม่เกิน X เกิน 150 X เกนิ 150 X
ไม่เกิน 150 X 100ไม่ X 150 ขน้ึ 150 ขน้ึ
150 ข้นึ ไป X เกิน 150 X ไป ไป
150 ขึ้น
ไป
ทั้งน้ี ตงั้ แตว่ ันท่ี.........................พ.ศ...................
...................................................
ผูว้ ่าราชการจังหวัด.............................................
33
หมายเหตุ
- ให้ใช้สาหรบั พืน้ ทีโ่ ลง่ เตียน
- ส่วนพื้นท่ีชุมชน ที่นา ที่สวน ที่มีแนวเขตคดโค้งและท่ีมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไขตามหลัก
วชิ าการรังวัด และทาแผนที่ เช่น หมดุ หลกั ฐานโครงงานแผนทส่ี ูญหาย จากัดเน้ือที่ ให้เพิ่มจานวน
วันทาการรังวดั 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน (หนังสือรับรองการทาประโยชน์) หากมีการตั้งคณะกรรมการ
ตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ใหเ้ พิ่มคา่ พาหนะ 1 วัน
- สาหรับการรังวัดแบ่งแยก (จัดสรร) ให้ทาการรังวัดและปักหลักเขตให้คานวณวันทาการทุก
12 แปลงต่อหนึ่งวัน (เฉพาะโฉนดท่ดี ิน)
- สาหรบั การรังวัดแบ่งแยกมากแปลง ให้ทาการรงั วัดและคานวณวันทาการทุก 20 แปลงต่อหนึ่งวัน
(เฉพาะหนงั สอื รับรองการทาประโยชน์)
34
แบบ ก.
ตวั อยา่ ง บัญชคี า่ ใชจ้ ่ายสาหรบั การรงั วดั ออกโฉนดที่ดิน แบ่งแยก สอบเขต และรวมโฉนดท่ีดิน (โดยวิธแี ผนท่ชี ้ันหน่งึ )
จานวน เวลา ค่า ค่าจา้ งคนงานรังวัด คา่ ปุวยการ คา่ ใช้จ่ายอน่ื ๆ รวมเงิน
(บาท)
เนอื้ ที่ ทาการ พาหนะ ผปู้ กครองท้องท่ี (บาท)
1,950
ลาดบั (ไร่) (วัน) คนหน่ึงวันละ 3,750
5,550
ท่ี (บาท) 7,350
9,150
วันละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวนเงนิ 10,950
12,750
(บาท) (บาท) (คน) (บาท) (บาท)
1 ไม่เกนิ 5 1 800 800 4 250 1,000 50 100
2 ไม่เกนิ 15 2 800 1,600 4 250 2,000 50 100
3 ไม่เกนิ 30 3 800 2,400 4 250 3,000 50 100
4 ไม่เกนิ 50 4 800 3,200 4 250 4,000 50 100
5 ไม่เกิน 100 5 800 4,000 4 250 5,000 50 100
6 ไมเ่ กิน 150 6 800 4,800 4 250 6,000 50 100
7 150 ขึ้นไป 7 800 5,600 4 250 7,000 50 100
หมายเหตุ - ให้ใช้สาหรบั พน้ื ที่โล่งเตยี น
- ส่วนพ้ืนท่ีชุมชน ที่นา ท่ีไร่ ที่สวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหา อุปสรรค ซ่ึงต้องแก้ไข
ตามหลักวิชาการรังวัดและทาแผนท่ี เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเนื้อท่ีให้เพิ่ม
จานวนวันทาการรังวัด 1 วนั
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน หากมีการต้ังคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง
ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ใหเ้ พิม่ คา่ พาหนะ 1 วนั
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ คา น ว ณ
วนั ทาการรังวัดทกุ 12 แปลงต่อหนงึ่ วนั
35
แบบ ข.
ตัวอย่าง บัญชีค่าใชจ้ ่ายสาหรับการรังวดั ออกโฉนดท่ีดิน แบง่ แยก สอบเขต และรวมโฉนดที่ดิน
(โดยวิธแี ผนท่ีชัน้ สอง ทาการรังวดั ด้วยกลอ้ ง)
จานวน เวลา คา่ คา่ จา้ งคนงานรังวดั ค่าปุวยการ ค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ รวมเงนิ
เน้ือท่ี ทาการ พาหนะ ผ้ปู กครองทอ้ งที่ (บาท) (บาท)
ลาดบั (ไร)่ (วนั ) คนหนึ่งวันละ
ที่ (บาท)
วันละ จานวนเงนิ จานวน คนละ จานวนเงนิ
(บาท) (บาท) (คน) (บาท) (บาท)
1 ไมเ่ กนิ 5 1 800 800 3 250 750 50 100 1,070
2 ไมเ่ กิน 15 2 800 1,600 3 250 1,500 50 100 3,250
3 ไมเ่ กนิ 30 3 800 2,400 3 250 2,250 50 100 4,800
4 ไม่เกนิ 50 4 800 3,200 3 250 3,000 50 100 6,350
5 ไมเ่ กิน 100 5 800 4,000 3 250 3,750 50 100 7,900
6 ไมเ่ กิน 150 6 800 4,800 3 250 4,500 50 100 9,450
7 150 ข้ึนไป 7 800 5,600 3 250 5,250 50 100 11,000
หมายเหตุ - ให้ใชส้ าหรับพ้นื ทีโ่ ล่งเตยี น
- ส่วนพ้ืนที่ชุมชน ที่นา ท่ีไร่ ที่สวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไข
ตามหลักวชิ าการรังวัดและทาแผนท่ี เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเนื้อท่ีให้เพิ่ม
จานวนวันทาการรงั วดั 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดท่ีดิน หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบท่ีดินตามกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพิ่มค่าพาหนะ 1 วัน
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ คา น ว ณ
วันทาการรังวดั ทกุ 12 แปลงตอ่ หน่งึ วนั
36
แบบ ค.
ตวั อย่าง บัญชีค่าใช้จา่ ยสาหรับการรังวัดออกโฉนดท่ีดนิ แบง่ แยก สอบเขต และรวมโฉนดที่ดิน
(โดยวิธีแผนที่ชน้ั สอง ทาการรงั วัดดว้ ยโซ)่
จานวน เวลา ค่า คา่ จา้ งคนงานรงั วัด ค่าปวุ ยการ ค่าใชจ้ ่ายอ่นื ๆ รวมเงนิ
(บาท) (บาท)
เน้ือท่ี ทาการ พาหนะ ผ้ปู กครองทอ้ งท่ี
50 100 1,450
ลาดบั (ไร)่ (วัน) คนหน่ึงวนั ละ 50 100 2,750
ท่ี (บาท) 50 100 4,050
50 100 5,350
วันละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวนเงิน 50 100 6,650
50 100 7,950
(บาท) (บาท) (คน) (บาท) (บาท) 50 100 9,250
1 ไม่เกนิ 5 1 800 800 2 250 500
2 ไม่เกนิ 15 2 800 1,600 2 250 1,000
3 ไมเ่ กนิ 30 3 800 2,400 2 250 1,500
4 ไม่เกนิ 50 4 800 3,200 2 250 2,000
5 ไม่เกิน 100 5 800 4,000 2 250 2,500
6 ไมเ่ กนิ 150 6 800 4,800 2 250 3,000
7 150 ขึ้นไป 7 800 5,600 2 250 3,500
หมายเหตุ - ให้ใช้สาหรบั พื้นที่โลง่ เตียน
- ส่วนพ้ืนท่ีชุมชน ท่ีนา ท่ีไร่ ที่สวนที่มีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซ่ึงต้องแก้ไข
ตามหลักวิชาการรังวัดและทาแผนที่ เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเนื้อที่ให้เพ่ิม
จานวนวันทาการรงั วัด 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดที่ดิน หากมีการต้ังคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพมิ่ คา่ พาหนะ 1 วัน
- สา ห รั บ ก า ร รัง วั ด แ บ่ ง แ ยก ( จั ด ส รร ) ใ ห้ ท าก า ร รั ง วั ด แล ะ ปั ก ห ลั ก เข ต ใ ห้ คา นว ณ
วันทาการรังวัดทุก 12 แปลงต่อหนึ่งวัน
37
แบบ ง.
ตวั อยา่ ง บัญชีค่าใช้จา่ ยสาหรับการออก การตรวจสอบเนื้อท่ี แบ่งแยก และรวมหนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์
จานวน เวลา ค่า ค่าจา้ งคนงานรังวดั ค่าปวุ ยการ ค่าใชจ้ ่ายอืน่ ๆ รวมเงนิ
(บาท)
เน้ือที่ ทาการ พาหนะ ผปู้ กครองท้องที่ (บาท)
1,450
ลาดับ (ไร่) (วนั ) คนหนึ่งวนั ละ 2,750
ท่ี (บาท) 4,050
5,350
วนั ละ จานวนเงิน จานวน คนละ จานวนเงิน 6,650
(บาท) (บาท) (คน) (บาท) (บาท)
1 ไม่เกิน 20 1 800 800 2 250 500 50 100
2 ไม่เกนิ 50 2 800 1,600 2 250 1,000 50 100
3 ไม่เกิน 100 3 800 2,400 2 250 1,500 50 100
4 ไมเ่ กิน 150 4 800 3,200 2 250 2,000 50 100
5 150 ข้ึนไป 5 800 4,000 2 250 2,500 50 100
หมายเหตุ - ให้ใชส้ าหรับพ้นื ที่โลง่ เตยี น
- ส่วนพื้นท่ีชุมชน ท่ีนา ท่ีไร่ ที่สวนท่ีมีแนวเขตคดโค้งและมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งต้องแก้ไข
ตามหลกั วชิ าการรังวัดและทาแผนท่ี เช่น หมุดหลักฐานโครงงานแผนที่สูญหาย จากัดเน้ือท่ีให้เพิ่ม
จานวนวันทาการรังวดั 1 วัน
- ในกรณีรังวัดออกโฉนดที่ดิน หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินตามกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ให้เพิ่มค่าพาหนะ 1 วัน
- ส า ห รั บ ก า ร รั ง วั ด แ บ่ ง แ ย ก ( จั ด ส ร ร ) ใ ห้ ท า ก า ร รั ง วั ด แ ล ะ ปั ก ห ลั ก เ ข ต ใ ห้ ค า นว ณ
วันทาการรังวดั ทุก 12 แปลงตอ่ หนึ่งวัน
38
ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยค่าใชจ้ ่ายในการรงั วัดเกยี่ วกบั โฉนดท่ีดิน หรอื พสิ ูจนส์ อบสวน
หรอื ตรวจสอบเนือ้ ท่เี กี่ยวกับหนังสือรบั รองการทาประโยชน์ (ฉบบั ท่ี 2)
พ.ศ. 2558
--------------------------
โดยท่ีสมควรปรบั ปรุงค่าใช้จ่ายตามบัญชีค่าใช้จ่ายในการรังวัดท้ายระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อท่ีเก่ียวกับหนังสือ
รบั รองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 ใหเ้ หมาะสมกับสภาพท้องถน่ิ และสอดคล้องกับสภาวะความเปล่ียนแปลงทาง
เศรษฐกจิ กระทรวงมหาดไทยโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังจงึ ออกระเบียบ ไว้ดังต่อไปน้ี
ขอ้ 1 ระเบียบนีเ้ รียกวา่ “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับ
โฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2558”
ขอ้ 2 ระเบยี บน้ใี หใ้ ชบ้ ังคบั ตั้งแต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกบัญชีค่าใช้จ่ายตาม แบบ ก. แบบ ข. แบบ ค. และแบบ ง. ท้ายระเบียบ
กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดที่ดิน หรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อที่
เกย่ี วกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2542 และให้ใช้บัญชีค่าใช้จ่ายตามแบบ ก. แบบ ข. แบบ ค.
และแบบ ง. ท้ายระเบียบนี้แทน
ข้อ 4 ให้จังหวัดออกประกาศกาหนดค่าใช้จ่ายตามระเบียบน้ีภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่
ระเบยี บนใี้ ชบ้ งั คบั
ประกาศจังหวัดที่กาหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดท่ีดิน หรือพิสูจน์สอบสวน
หรอื ตรวจสอบเน้อื ที่เกย่ี วกับหนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่าย
ในการรังวัดเก่ียวกับโฉนดท่ดี ิน หรือพิสูจนส์ อบสวน หรือตรวจสอบเน้ือท่ีเก่ียวกับหนังสือรับรองการทาประโยชน์
พ.ศ. 2542 ให้ยังคงใช้ไดต้ อ่ ไปจนกว่าจะมปี ระกาศตามวรรคหนงึ่ ใช้บังคับ
ประกาศ ณ วนั ท่ี 5 มถิ ุนายน พ.ศ. 2558
พลเอก
(อนพุ งษ์ เผา่ จินดา)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
39
แบบ ก.
ตวั อยา่ ง บญั ชคี ่าใช้จา่ ยสาหรบั การออก การตรวจสอบเนอื้ ที่ แบง่ แยก และรวมหนงั สือรับรองการทาประโยชน์
คา่ พาหนะ คา่ จ้างคนงานรังวดั (1) (2)
ลาดบั จานวน เวลา วนั ละ จานวน จานวน คนละ จานวน “คา่ ปุวยการ” ค่าใชจ้ ่าย รวมเงนิ
ที่ ทาการ (บาท) เงิน (คน) (บาท) เงนิ คนหน่ึงวันละ อน่ื ๆ (บาท)
เนอื้ ท่ี (วัน) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท)
(ไร)่
1 ไมเ่ กิน 20 1 1,600 1,600 2 420 840 50 200 2,690
2 ไม่เกิน 50 2 1,600 3,200 2 420 1,680 50 200 5,130
3 กรณเี นอ้ื ท่ีเกนิ กว่า 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกวา่ 25 ไร่ ให้เพ่ิมวนั ทาการรังวัด 1 วนั
หมายเหตุ หลักเกณฑก์ ารเพิ่มวนั ทาการรังวัด
1. กรณีท่ีดินต้ังอยู่ในพื้นท่ีองค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พมิ่ วันทาการรังวัด 1 วัน
2. กรณีการรงั วัดต้องคานวณจากดั เนอื้ ที่ ใหเ้ พ่ิมวนั รังวัด 1 วนั
3. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ให้เพมิ่ วันทาการรงั วัด 1 วนั
4. กรณีการรังวัดแบง่ แยกจดั สรร ทกุ ๆ 8 แปลง หรือเศษเกินกว่า 4 แปลง ใหเ้ พิ่มวนั ทาการรงั วัด 1 วนั
5. กรณีมเี หตุข้อ 1 และ 2 รวมอยูใ่ นเร่อื งเดียวกันให้เพม่ิ วันทาการรงั วัดได้ในกรณีหนึ่งเทา่ น้ัน
40
แบบ ข.
ตวั อยา่ ง บญั ชีค่าใช้จา่ ยสาหรับการรงั วัดออกโฉนดทดี่ ิน แบ่งแยก สอบเขตและรวมโฉนดทดี่ นิ
(โดยวิธแี ผนท่ชี น้ั สองทาการรงั วัดดว้ ยโซ่)
ค่าพาหนะ ค่าจ้างคนงานรังวดั (1) (2)
ลาดบั จานวน เวลา วันละ จานวน จานวน คนละ จานวน “ค่าปวุ ยการ” คา่ ใชจ้ ่าย รวมเงิน
ที่ เนอื้ ท่ี ทาการ (บาท) เงนิ (คน) (บาท) เงนิ คนหนึ่งวนั ละ อน่ื ๆ (บาท)
(ไร่) (วนั ) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท)
1 ไมเ่ กิน 5 1 1,600 1,600 2 420 840 50 200 2,690
2 ไมเ่ กนิ 15 2 1,600 3,200 2 420 1,680 50 200 5,130
3 ไมเ่ กนิ 30 3 1,600 4,800 2 420 2,520 50 200 7,570
4 ไม่เกนิ 50 4 1,600 6,400 2 420 3,360 50 200 10,010
5 กรณีเนอื้ ทีเ่ กินกวา่ 50 ไร่ ทกุ ๆ 50 ไร่ หรือเศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพ่ิมวนั ทาการรังวดั 1 วัน
หมายเหตุ หลักเกณฑก์ ารเพ่ิมวนั ทาการรังวดั
1. กรณีที่ดินต้ังอยู่ในพ้ืนที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมอื ง หรือท่ีสวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พิม่ วนั ทาการรังวดั 1 วัน
2. กรณีการรังวดั ตอ้ งคานวณจากดั เนอื้ ท่ี ใหเ้ พิม่ วันรงั วดั 1 วัน
3. กรณีการรังวัดมีท่ีดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ให้เพมิ่ วนั ทาการรงั วดั 1 วัน
4. กรณกี ารรงั วดั แบง่ แยกจัดสรร ทุก ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกินกว่า 4 แปลง ใหเ้ พิ่มวนั ทาการรังวดั 1 วนั
5. กรณีมเี หตขุ ้อ 1 และ 2 รวมอยู่ในเร่อื งเดยี วกนั ให้เพิ่มวนั ทาการรังวดั ไดใ้ นกรณีหนง่ึ เทา่ น้ัน
41
แบบ ค.
ตัวอยา่ ง บญั ชคี ่าใช้จา่ ยสาหรบั การรังวดั ออกโฉนดท่ีดนิ แบ่งแยก สอบเขตและรวมโฉนดท่ีดิน
(โดยวิธีแผนท่ชี นั้ สองทาการรังวัดดว้ ยกลอ้ ง)
ค่าพาหนะ คา่ จา้ งคนงานรงั วัด (1) (2)
ลาดับ จานวน เวลา วันละ จานวน จานวน คนละ จานวน “คา่ ปวุ ย คา่ ใชจ้ า่ ย รวมเงนิ
ที่ เนอ้ื ท่ี ทาการ (บาท) เงิน (คน) (บาท) เงิน การ” อน่ื ๆ (บาท)
(วัน) (บาท) (บาท) คนหนึ่งวันละ (บาท)
(ไร)่
(บาท)
1 ไมเ่ กิน 5 1 1,600 1,600 3 420 1,260 50 200 3,110
2 ไม่เกิน 15 2 1,600 3,200 3 420 2,520 50 200 5,970
3 ไม่เกนิ 30 3 1,600 4,800 3 420 3,780 50 200 8,830
4 ไมเ่ กนิ 50 4 1,600 6,400 3 420 5,040 50 200 11,690
5 กรณเี น้ือทเี่ กนิ กว่า 50 ไร่ ทุก ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพ่ิมวนั ทาการรังวดั 1 วัน
หมายเหตุ หลักเกณฑก์ ารเพม่ิ วันทาการรงั วัด
1. กรณีท่ีดินต้ังอยู่ในพ้ืนที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรือเทศบาลนคร หรอื เทศบาลเมือง หรือท่ีสวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ใหเ้ พ่มิ วนั ทาการรงั วัด 1 วนั
2. กรณีการรังวัดต้องคานวณจากดั เนือ้ ท่ี ให้เพ่ิมวนั รังวดั 1 วนั
3. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ใหเ้ พิม่ วนั ทาการรังวัด 1 วัน
4. กรณกี ารรังวัดแบ่งแยกจดั สรร ทุก ๆ 8 แปลง หรือเศษเกนิ กวา่ 4 แปลง ใหเ้ พมิ่ วนั ทาการรงั วดั 1 วัน
5. กรณีมีเหตุขอ้ 1 และ 2 รวมอยูใ่ นเรือ่ งเดยี วกันให้เพิ่มวันทาการรงั วดั ได้ในกรณหี นึง่ เท่านั้น
42
แบบ ง.
ตวั อย่าง บญั ชคี ่าใช้จ่ายสาหรบั การรังวัดออกโฉนดท่ดี ิน แบง่ แยก สอบเขตและรวมโฉนดที่ดนิ
(โดยวธิ แี ผนทช่ี ั้นหนึ่ง)
ค่าพาหนะ ค่าจ้างคนงานรงั วดั (1) (2)
วันละ จานวน รวมเงิน
ลาดับ จานวน เวลา (บาท) เงิน จานวน คนละ จานวน “คา่ ปุวย คา่ ใช้จา่ ย (บาท)
ท่ี เนื้อที่ ทาการ (คน) (บาท) เงิน การ” อน่ื ๆ
(บาท) 3,530
(ไร)่ (วนั ) (บาท) คนหนึ่งวนั ละ (บาท) 6,810
1,600 1,600 (บาท) 10,090
1,600 3,200 13,370
1 ไมเ่ กิน ๕ ๑ 1,600 4,800 4 420 1,680 50 200
2 ไมเ่ กนิ ๑๕ ๒ 1,600 6,400
3 ไมเ่ กิน ๓๐ ๓ 4 420 3,360 50 200
4 ไม่เกนิ ๕๐ 4
4 420 5,040 50 200
4 420 6,720 50 200
5 กรณเี น้อื ท่ีเกนิ กวา่ 50 ไร่ ทุก ๆ 50 ไร่ หรอื เศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพ่ิมวันทาการรงั วัด 1 วัน
หมายเหตุ หลักเกณฑก์ ารเพิ่มวันทาการรังวดั
1. กรณีท่ีดินต้ังอยู่ในพ้ืนที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ
หรอื เทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ
ให้เพิ่มวันทาการรังวดั 1 วัน
2. กรณกี ารรังวัดต้องคานวณจากัดเนอื้ ท่ี ใหเ้ พิม่ วนั รังวัด 1 วนั
3. กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุก ๆ ข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง
ใหเ้ พมิ่ วันทาการรังวดั 1 วนั
4. กรณกี ารรงั วัดแบ่งแยกจัดสรร ทกุ ๆ 8 แปลง หรอื เศษเกินกว่า 4 แปลง ใหเ้ พิม่ วนั ทาการรังวัด 1 วัน
5. กรณมี ีเหตขุ ้อ 1 และ 2 รวมอยู่ในเร่อื งเดียวกันให้เพม่ิ วนั ทาการรังวดั ได้ในกรณหี นึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ อัตราค่าใช้จ่ายในการรงั วดั ใหเ้ ป็นไปตามประกาศจงั หวดั และตอ้ งไมเ่ กนิ กวา่ อตั ราท่ไี ด้กาหนดไว้
ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยค่าใช้จ่ายในการรังวดั เก่ยี วกับโฉนดทีด่ ิน หรอื พิสูจน์สอบสวน หรอื
ตรวจสอบเน้อื ที่เกย่ี วกบั หนังสอื รบั รองการทาประโยชน์ พ.ศ. 2558
43
หมวดท่ี 5
การดาเนินการเกี่ยวกับเจา้ ของทีด่ นิ ข้างเคยี ง
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ “เพ่อื ประโยชน์แก่การรังวดั ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ที่มีอานาจ
เรียกผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงมาระวังแนวเขตและลงช่ือรับทราบแนวเขตท่ีดินของตน หรือเรียกให้บุคคล
ที่เก่ียวข้องมาให้ถ้อยคา หรือสั่งให้ส่งเอกสารหลักฐานอื่นใดท่ีเกี่ยวข้องในการสอบสวน” การแจ้งเจ้าของท่ีดิน
ขา้ งเคยี งหรือ ท่เี รียกกันว่า “หมายข้างเคยี ง” ในการรงั วัดสอบเขต แบง่ แยก รวมโฉนดที่ดิน ออกโฉนดท่ีดินหรือ
หนงั สือรบั รองการทาประโยชน์ กรณที ีด่ นิ ท่ีทาการรังวัดไม่มีหลักฐานการรังวัดใหม่ (ร.ว.ม.) และจะต้องแก้ไขรูป
แผนทหี่ รอื เน้ือที่ ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งกระทบสิทธ์ิของเจ้าของท่ีดินข้างเคียง จึง
จาเป็นต้องแจ้งให้ผู้สิทธิในที่ดินข้างเคียงรอบด้านให้ไประวังชี้แนวเขตที่ดิน ตลอดทั้งลงชื่อรับทราบแนวเขต
ที่ดินของตนกับใหถ้ อ้ ยคาต่อพนกั งานเจา้ หน้าที่
ในกรณีผมู้ ีสิทธิในทด่ี นิ ขา้ งเคยี งเป็นผเู้ ยาว์ การสง่ หนงั สอื แจง้ เจ้าของทด่ี นิ ข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตฯ
ใหด้ าเนินการสง่ หนังสือแจ้งผ้เู ยาว์ซ่ึงเปน็ ผ้มู สี ทิ ธใิ นทดี่ นิ ตาม มาตรา 70 แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน การระวัง
ชีแ้ นวเขตและลงช่ือรบั ทราบแนวเขตที่ดิน ไมเ่ ขา้ ลักษณะการทานติ กิ รรมตามกฎหมาย ดังนน้ั เมื่อผู้เยาว์มาระวัง
ช้แี นวเขตดว้ ยตนเองและสามารถลงนามรับรองเขตได้ก็ให้ช่างฯ จัดทาบันทึกข้อเท็จจริงพร้อมให้ผู้ที่เก่ียวข้อง
ได้แก่ บิดามารดาหรือผู้ปกครอง (ถ้ามี) ลงนามรับรองในบันทึกถ้อยคารวมเร่ืองไว้ด้วย หรือให้ผู้เยาว์มอบ
อานาจเป็นหนังสือให้บิดามารดาหรือผู้ปกครอง มาระวังช้ีแนวเขตฯ แทนก็ได้ แต่ถ้ามีกรณีคัดค้านแนวเขต
จะดาเนินการได้โดยต้องได้รับอนญุ าตจากศาลก่อน
การแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียง (การแจ้งครั้งแรก) จึงเป็นการแจ้งตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมาย
ท่ีดิน โดยใช้แบบพิมพ์ ท.ด. 38 หรือหนังสือแจ้งการระวังชี้แนวเขตและลงช่ือรับรองแนวเขตท่ีดินกรณีออก
โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ซึ่งได้พิมพ์ข้อความเป็นแบบฟอร์มไว้แล้ว เพียงกรอกข้อความที่
ตอ้ งการลงในช่องว่างไปเท่านั้น เช่น ชื่อผู้ขอ ประเภทการรังวัด ท่ีต้ังของท่ีดินของแปลงรังวัด ตาบล อาเภอ จังหวัด
กาหนดวนั ทาการรังวัด ตอนล่างเป็นใบรับหมายข้างเคียง ส่วนด้านหลังหนังสือ แจ้งข้างเคียงดังกล่าวมีแบบการ
มอบหมายใหบ้ คุ คลอ่ืนมาชเ้ี ขตแทนเจา้ ของที่ดิน เป็นการอานวยความสะดวกแก่เจ้าของท่ีดินข้างเคียงที่ไม่อาจจะไป
รว่ มระวังชี้แนวเขตดว้ ยตัวเอง
44
ตวั อยา่ ง หนงั สอื มอบเรอ่ื งการระวงั ชแี้ ละรบั รองเขตที่ดิน
วันที่..........เดือน........................พ.ศ.
.
ข้าพเจา้ .....................................................................................................อาย.ุ ......................................
อยู่บ้านเลขท.ี่ ............................ตรอก/ซอย.....................................ถนน.........................................หมู่ที่.............
ตาบล...................................อาเภอ........................................จังหวัด.................................โทร............................
เป็นเจา้ ของท่ดี ินข้างเคยี งทที่ าการรงั วดั โดยมีหลักฐาน.........................................................................................
ไดม้ อบให้……………………………………………………………………………………………………….….อายุ………………………..ปี
อย่บู ้านเลขท.ี่ .......................ตรอก/ซอย........................................ถนน..................................หมู่ท่ี......................
ตาบล..................................อาเภอ.........................................จังหวัด..................................โทร...........................
เปน็ ผ้มู าระวังชแ้ี ละลงชื่อรบั รองแนวเขตท่ดี ินแทนขา้ พเจ้าซง่ึ เป็นข้างเคยี งของ. .
. .จนเสร็จการ
(ลงลายมอื ช่อื ).......................................ผ้มู อบ
(ลงลายมือชอื่ ).......................................ผูร้ บั มอบ
(ลงลายมอื ชอ่ื )........................................พยาน
(ลงลายมอื ชือ่ )........................................พยาน
ค่าใช้จ่ายในการส่งหนงั สอื แจง้ เจ้าของท่ีดินข้างเคียง ในกรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดแบบเหมา
จา่ ยใหเ้ รียกเก็บจากผูข้ อรงั วดั เปน็ เงิน 200 บาท และให้ช่างผู้ทาการรังวัดเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่ง
หนงั สือแจง้ เจา้ ของทด่ี นิ ข้างเคียงให้มาระวงั ช้ีแนวเขตฯ
การส่งหนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังชี้แนวเขตฯ ในกรณีสอบเขตโฉนดที่ดิน หรือ
ตรวจสอบหนังสือรับรองการทาประโยชน์ หรือการแบ่งแยก หรือรวมโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทา
ประโยชน์ หรือรังวัดทาแผนท่ีพพิ าทตามคาสงั่ ศาล โดยปกติให้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เว้นแต่กรณี
ท่ีข้างเคียงบางด้านผู้ขอรังวัดรับจะไปส่งด้วยตนเอง เช่น ข้างเคียงเป็นหน่วยงานทางราชการซ่ึงผู้ขอรังวัด
จาเป็นตอ้ งนดั หมายเกี่ยวกบั การเดินทาง หรอื เปน็ กรณีท่ีเจ้าของท่ีดินเป็นบุคคลซ่ึงอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
กบั ทอ่ี ย่ขู องผู้ขอรังวดั เป็นตน้ ให้บันทึกถ้อยคาของผูข้ อรงั วัดในกรณที ีผ่ ูข้ อรังวัดรับจะไปส่งด้วยตนเองเก็บรวม
เรอ่ื งไว้เป็นหลกั ฐานดว้ ย
(หนังสือกรมท่ดี นิ ที่ มท 0726/ว 29243 ลงวนั ท่ี 26 กันยายน 2545)
การส่งหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตฯ ในกรณีการรังวัดเก่ียวกับที่
สาธารณประโยชน์ท่ีมีและไม่มีหนงั สือสาคัญสาหรับท่ีหลวง ตามระเบียบกรมท่ีดนิ ว่าด้วยการรบั คาขอรงั วัดการ
นัดรงั วดั และการเรยี กค่าใช้จ่ายในการรงั วัดเฉพาะราย พ.ศ.2547 ลงวันท่ี 17 ธันวาคม 2547 ข้อ 14 ให้เรียก
เก็บค่าใช้จ่ายในการรังวัดให้เรียกเก็บได้เท่าท่ีจาเป็นและใช้จ่ายจริง จากผู้ขอรังวัดหรือผู้มีหน้าท่ีดูแลรักษาท่ี
สาธารณประโยชน์ ซึง่ ไม่ไดเ้ รยี กเกบ็ คา่ ใช้จ่ายในการสง่ หนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังชี้แนวเขตฯ
ดังน้นั จงึ ให้ผู้ขอรังวัดหรือผู้มีหน้าท่ีดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวรับไปส่งด้วยตนเองและให้ส่งมอบ
หลักฐานการนาส่งทางไปรษณยี ห์ รือหลกั ฐานการรับหนงั สอื แจง้ เจา้ ของท่ีดนิ ข้างเคยี งใหก้ ับชา่ งรังวัดในวันรังวัด
เพ่ือรวมเรือ่ งไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
การตรวจสอบหลักฐานการ สง่ /รับ หนังสอื แจ้งเจ้าของท่ดี นิ ขา้ งเคยี ง
การตรวจสอบหลักฐานการ ส่ง/รับ หนังสือแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังช้ีแนวเขตว่าถูกต้อง
ตรงตามข้อกาหนดของไปรษณยี น์ เิ ทศหรอื ไม่นน้ั ให้ตรวจสอบจากใบตอบรับ หากผู้ลงนามรับเป็นผู้ที่มีช่ือระบุ
45
อยู่บนจา่ หนา้ ซองไปรษณีย์ (รบั เอง) หรือเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในบ้านเรือนเดียวกัน หรือเป็นบุคคลซึ่งทางานอยู่ใน
สถานที่เดียวกันกับผู้รับ หรือเป็นเจ้าหน้าที่รับรองหรือผู้ดูแลของโรงแรมหรืออาคาร หรือเป็นผู้ทาหน้าท่ี
เวรรกั ษาการณ์ของหน่วยงานหรืออาคารหลายชั้นตา่ งๆ เป็นผ้แู ทนของผู้ท่ีมีช่ือระบุอยู่บนจ่าหน้าซองไปรษณีย์
แลว้ ใหด้ าเนนิ การต่อไปได้ตามควรแก่กรณี หากผู้รับไมใ่ ช่ผู้รับดงั ท่ีกลา่ วมาแลว้ หรือเจ้าของที่ดินข้างเคียงได้รับ
หนงั สือภายหลังวนั ทาการรังวัด ให้รายงานเสนอเจ้าพนักงานท่ีดินเพ่ือนัดทาการรังวัดตรวจสอบเฉพาะด้านที่มี
ปญั หาดังกลา่ วต่อไป กรณีทีเ่ จ้าของทีด่ ินข้างเคียงไม่ไดม้ าระวังช้แี นวเขตและได้โต้แย้งเรื่องคัดค้านเรื่องลายมือ
ช่ือในใบตอบรบั ว่าเปน็ ลายมือช่ือปลอม ใหส้ านักงานท่ีดนิ มีหนังสือสอบถามข้อเทจ็ จริงจากไปรษณีย์ในประเด็น
ปญั หาดงั กลา่ ว หากไปรษณีย์ไดใ้ ห้คารับรองว่าลายมือชื่อถกู ต้องจึงดาเนินการให้ผู้ขอต่อไปตามระเบียบ แต่ถ้า
ไปรษณียใ์ ห้คารบั รองว่าลายมือช่อื ไมถ่ กู ตอ้ ง ใหน้ ัดทาการรังวัดตรวจสอบเฉพาะด้านอีกครั้ง
(ประกาศคณะกรรมการกิจการไปรษณีย์ เร่ือง ให้ใช้ไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2557 ข้อ 6. ข้อ 63.
และข้อ 103)
(หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท 0611/ว 14522 ลงวนั ที่ 23 มถิ นุ ายน 2525)
การค้นหาชอ่ื และท่อี ยเู่ จ้าของท่ดี ินขา้ งเคยี ง
หนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท 0711.1/ว 19091 ลงวันที่ 1 กันยายน 2526 ได้กาหนดให้เจ้าหน้าที่ ฝุาย
รังวัด และฝุายทะเบียนร่วมกันปฏิบัติหน้าท่ี โดยให้เจ้าหน้าที่ฝุายรังวัดเขียนเลขที่ดิน เลขหน้าสารวจ และชื่อ
ตาบล ของทีด่ ินแปลงขา้ งเคียงท่ีมเี ขตติดต่อกับแปลงที่ขอรังวัด พร้อมทั้งลงนามผู้ค้นไว้ด้วยตามแบบฯ แล้วส่งให้
ฝาุ ยทะเบียน เม่อื ฝาุ ยทะเบยี นได้รบั เรือ่ งคืนจากฝุายรงั วัดแลว้ ใหเ้ จ้าหน้าทคี่ ้นหาหมายเลขโฉนดท่ีดินชื่อและที่อยู่
เจ้าของทด่ี นิ ขา้ งเคยี ง โดยเขยี นลงในแบบฯ พรอ้ มทั้งลงนามผ้คู ้นหาไว้ดว้ ยแลว้ ส่งคืนฝุายรังวดั ภายใน 2 วัน
การลงนามในหนงั สือแจ้งการระวังชี้แนวเขตและลงชือ่ รับรองเขตท่ีดิน (ท.ด. 38)
คาส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่ 542/2525 ลงวันท่ี 14 ธันวาคม 2525 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าท่ี
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่งต้ังให้ผู้ดารงตาแหน่งช่างรังวัดและนายช่างรังวัด ต้ังแต่ระดับ 4 ข้ึน
ไป ฝุายรังวัดสานักงานท่ีดินจังหวัด หรือสานักงานที่ดินสาขา เป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ี ตามมาตรา 70 แห่ง
ประมวลกฎหมายท่ีดิน และหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท 0611/1/ว 4375 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2526 ให้ช่าง
รังวัดและนายชา่ งรังวดั ตัง้ แต่ระดบั 4 ข้ึนไปในสานักงานที่ดินจังหวัดหรือสานักงานที่ดินสาขา เป็นผู้ลงนามใน
หนังสอื แจ้งการรงั วัดช้ีแนวเขตและลงชื่อรับรองเขตท่ีดิน (ท.ด.38) ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 70
แห่งประมวลกฎหมายทดี่ ิน โดยไม่ต้องทาเปน็ หนงั สือราชการแยกต่างหาก ซง่ึ ต่อมาได้มีการกาหนดช่ือตาแหน่ง
ข้าราชการพลเรือนสามัญทุกส่วนราชการใหม่ กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคาสั่ง ที่ 66/2552 ลงวันที่ 18
กมุ ภาพนั ธ์ 2552 เรื่อง แตง่ ต้งั เจา้ พนักงานท่ดี ิน แต่งตั้งให้นายช่างรงั วัด ตงั้ แตร่ ะดับชานาญงานขึ้นไปในฝุายรังวัด
เป็นเจ้าพนกั งานที่ดินมีอานาจหนา้ ทีต่ ามมาตรา 70 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
การจา่ หน้าซองหนังสอื แจ้งให้เจ้าของท่ีดินข้างเคียงระวังช้ีแนวเขตและลงช่ือรับรองเขตท่ีดนิ (ท.ด.38)
หนงั สอื กรมทีด่ นิ ที่ มท 0606/ว 31734 ลงวนั ท่ี 3 ธันวาคม 2539 ได้กาหนดไว้ในกรณีที่เจ้าของที่ดิน
ข้างเคียงมีช่ือหลายคน ให้แจ้งช่ือคนแรกและต่อท้ายด้วยคาว่า “และผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม” เช่น เรียน นายสุพร
ทองดีน และผู้ถือกรรมสิทธ์ิรวม เป็นต้น ส่วนการจ่าหน้าซองให้แจ้งช่ือและที่อยู่ของผู้ถือกรรมสิทธ์ิรวมคนแรก
เทา่ นน้ั
การดาเนนิ การเกย่ี วกับข้างเคียง
ก. กรณอี อกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนงั สือรับรองการทาประโยชน์
46
ระเบียบของคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2532) ว่าด้วยเง่ือนไขการออกโฉนด
ที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ หมวด 2 การออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ตาม
มาตรา 59 ตรี แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ินข้อ 8 ถา้ ปรากฏวา่ ที่ดนิ มีอาณาเขตระยะของแนวเขตและท่ีดินข้างเคียง
ทุกดา้ นถกู ต้องกับหลกั ฐานการแจ้งการครอบครอง ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมาย
ที่ดิน พ.ศ. 2497 เช่ือได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่เน้ือท่ีที่คานวณได้แตกต่างไปจากเนื้อท่ีตามหลักฐานการแจ้ง
การครอบครองดังกล่าว ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าท่อี อกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเนื้อท่ี
ท่ีได้ทาประโยชน์แล้ว แต่ไม่เกินเนื้อท่ีท่ีคานวณได้ และในกรณีที่ระยะแนวเขตท่ีดินผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้
พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเน้ือท่ีท่ีได้ทาประโยชน์แล้ว
เม่ือผู้มสี ทิ ธิในทีด่ ินข้างเคยี งได้ลงชื่อรบั รองแนวเขตไวเ้ ปน็ การถูกตอ้ งครบถ้วนทกุ ด้าน
- การแจ้งข้างเคียงใช้แบบพิมพ์ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0713/ว 3549 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์
2533 ซ่ึงมีข้อความว่าถ้าผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขต โดยไม่คัดค้าน
การรังวัดเมื่อพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่วันทาการรังวัด พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์โดยไม่ต้องมีการรังรองแนวเขต การแจ้งข้างเคียงให้ส่งทางไปรษณีย์
ลงทะเบียนตอบรบั ตามท่อี ยู่ทเี่ คยติดต่อหรือตามทีอ่ ยู่ท่ีผู้มีสิทธิ ในท่ดี ินขา้ งเคียงไดแ้ จง้ เป็นหนงั สือไว้
- กรณีท่ผี ู้มีสิทธใิ นทีด่ ินขา้ งเคยี งไดร้ บั หนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มาระวังแนวเขตแล้ว แต่ไม่มา
หรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
รับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเนื้อที่ท่ีได้ทาประโยชน์แล้ว โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต เมื่อพ้นกาหนด
เวลาสามสบิ วันนบั แต่วันทาการรังวัด
- กรณที ีไ่ มอ่ าจติดต่อผู้มสี ทิ ธใิ นทีด่ ินขา้ งเคียงใหม้ าระวังแนวเขตได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศ
ตามแบบประกาศในหนงั สอื กรมที่ดนิ ท่ี มท 0713/ว 3549 ลงวนั ท่ี 16 กมุ ภาพนั ธ์ 2533 แจ้งให้ผู้มีสิทธิในที่ดิน
ข้างเคียงน้ันมาลงชื่อรับรองแนวเขต หรือคัดค้านการรังวัดไว้ในที่เปิดเผย ณ สานักงานที่ดินจังหวัดหรือ
สานักงานทด่ี ินสาขา สานักงานเขต หรือที่ว่าการอาเภอหรือก่ิงอาเภอ ท่ีทาการกานัน ที่ทาการผู้ใหญ่บ้าน และ
บริเวณท่ีดินของผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงแห่งละหน่ึงฉบับ ในกรณีท่ีดินอยู่ในเขตเทศบาลให้ปิด ณ สานักงาน
เทศบาลอีกหน่งึ ฉบบั ดว้ ย ถา้ ผูม้ ีสิทธใิ นทดี่ ินขา้ งเคียงไม่มาตดิ ตอ่ หรอื คดั ค้านประการใดภายในสามสิบวันนับแต่
วันปิดประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเนื้อที่
ทไ่ี ด้ทาประโยชนแ์ ล้ว โดยไมต่ อ้ งมีการรบั รองแนวเขต
47
ประกาศ...................................
เร่อื ง การระวงั ชแ้ี นวเขตและลงชือ่ รบั รองเขตทีด่ นิ
ด้ ว ย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ไ ด้ น า รั ง วั ด
.........................................................................ท่ีดินระวาง....................................................ตามหลักฐาน
.................................เลขที่.....................หมู่ที่................ตาบล...................................... ..อาเภอ
..................................จังหวัด.......................................พนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ดาเนินการเสร็จแล้วเม่ือวั นท่ี
......................เดือน............................................พ.ศ............................ปรากฏว่าทีด่ ินแปลงนี้มีแนวเขตข้างเคียง
ติดต่อกับท่ดี ินของ...........................................................................................................แต่พนกั งานเจ้าหน้าท่ีไม่
อาจติดตอ่ ผู้มสี ิทธใิ นทีด่ ินข้างเคียงดงั กล่าวให้ไประวังแนวเขตได้
ฉะนน้ั จึงขอให้.........................................................................................................................................
ไปตรวจสอบแนวเขตที่ดินของทา่ นวา่ ตามท่พี นกั งานเจ้าหนา้ ที่ทาการ.................................................................
ไวแ้ ลว้ นัน้ จะเป็นการถกู ตอ้ งหรือรกุ ลา้ แนวเขตที่ดินของท่านหรือไม่ เสรจ็ แล้วขอใหท้ ่านไปติดตอ่
พนักงานเจา้ หนา้ ทเี่ พอ่ื ลงช่อื รับรองแนวเขตหรอื คดั คา้ นการรังวัดภายในกาหนดสามสบิ วนั นบั แต่วนั ปิดประกาศ
นี้ หากท่านไมด่ าเนนิ การอย่างหนึง่ อยา่ งใดภายในกาหนดดังกลา่ ว พนักงานเจา้ หนา้ ที่จะได้ออก
...................................................................................โดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขต
ประกาศ ณ วันท.ี่ .............เดอื น.......................พ.ศ..................
ลงช่ือ...................................................................
(..................................................)
ตาแหนง่ ..................................................................
ประทบั ตราประจาตาแหนง่
ท.่ี ...................../........................... เขยี นท่ี
.......................................................
วันที.่ ..................เดือน..................................พ.ศ
...................
เรียน .............................................................
ขา้ พเจ้า.............................................................ไดน้ าประกาศฉบับที่
.........................../.............................
ลงวันท.่ี .....................เดือนท.ี่ ...................................พ.ศ......................แล้ว จึงเรยี นมาเพอ่ื ทราบ
(ลงชอื่ ).......................................................ผู้ปิดประกาศ
(ลงช่อื ).......................................................พยาน
(ลงชื่อ).......................................................พยาน
ต่อมากรมทด่ี ินได้มีหนงั สือ ที่ มท 0516.5/ว 30598 ลงวนั ที่ 22 ธันวาคม 2558 เรื่อง การระวังชี้แนว
เขตและลงช่ือรับรองเขตที่ดินกรณีออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ให้เจ้าหน้าท่ีถือปฏิบัติ
ดงั นี้
48
1. การออกโฉนดทีด่ ินหรอื หนงั สอื รบั รองการทาประโยชน์เปน็ การเฉพาะราย
1.1 กรณีออกโดยอาศัยหลักฐานแบบแจง้ การครอบครองที่ดนิ (ส.ค.1) ให้ถอื ปฏิบัติตามระเบียบของ
คณะกรรมการจดั ท่ีดนิ แหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2532) ข้อ 8 และข้อ 9 (1), (2) และให้ใช้หนังสือแจ้งเรื่องการ
ระวังชี้แนวเขตท่ีดินและลงช่ือรับรองเขตท่ีดิน , หนังสือนาส่งประกาศ และประกาศฯ ตามแบบแนบท้าย
หนงั สือ ที่ มท 0516.5/ว 30598 ลงวนั ท่ี 22 ธนั วาคม 2558 แลว้ แตก่ รณี
1.2 กรณอี อกโดยอาศัยหลักฐานอื่นนอกจากข้อ 1.1 หรือไม่มีหลักฐานสาหรับท่ีดิน ให้แจ้งผู้มีสิทธิ
ในที่ดินข้างเคยี งใหม้ าระวังชี้แนวเขตและลงชอ่ื รับรองเขตที่ดิน โดยใช้หนังสือแจ้งเร่ืองการระวังช้ีแนวเขตและ
ลงชื่อรับรองเขตทีด่ นิ ตามแบบแนบท้ายหนังสือ ท่ี มท 0516.5/ว 30598 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ส่งทาง
ไปรษณียล์ งทะเบยี นตอบรบั ไปยังผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงตามที่อยู่ท่ีเคยติดต่อ หรือตามที่อยู่ที่ผู้มีสิทธิในที่ดิน
ขา้ งเคียงน้ันได้แจ้งเป็นหนงั สือไวต้ อ่ พนักงานเจา้ หนา้ ท่ี เพอ่ื ให้มารบั รองแนวเขตหรอื คัดค้านการรงั วดั
ในกรณที ผี่ มู้ สี ทิ ธิในท่ีดินข้างเคียงได้รับหนังสือ แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขตท่ีดิน
โดยไม่คัดคา้ นการรงั วัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกดโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวน
เน้อื ทที่ ไี่ ดท้ าประโยชนแ์ ล้วโดยไม่ต้องมีการรับรองแนวเขตท่ีดิน เม่ือพ้นกาหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันทาการ
รงั วดั ในกรณีทีม่ าอาจตดิ ต่อผู้มีสทิ ธใิ นทดี่ ินขา้ งเคยี งได้ ใหป้ ิดประกาศตามขอ้ 5 แล้วดาเนินการตอ่ ไป
2. การออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสอื รับรองการทาประโยชน์โดยการเดินสารวจ ...ฯลฯ
3. การดาเนนิ การกรณไี ม่มีการรบั รองแนวเขตท่ีดิน
กรณีเจ้าของท่ีดินข้างเคียงไม่มาระวังช้ีแนวเขตและลงช่ือรับรองเขตที่ดิน หรือมาแต่ไม่ยอม
ลงชื่อรบั รองแนวเขตที่ดนิ โดยไม่คัดค้านในวันทาการรังวัด หรือกรณีท่ีไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง
ใหม้ าระวังชีแ้ นวเขตและลงช่ือรับรองเขตที่ดินในวันทาการรังวัดได้ ให้เจ้าของที่ดินผู้นาทาการรังวัดรับรองว่า
มิได้นาทาการรังวัดรุกล้าเขตที่ดินข้างเคียง ในใบรับรองเขตติดต่อของเจ้าของที่ดินและเจ้าของท่ีดินข้างเคียง
(ท.ด. 34) พร้อมให้หมายเหตุในใบไต่สวน (น.ส.5) หรือในแบบบันทึกการสอบสวนสิทธิและพิสูจน์การทา
ประโยชน์เพ่ือออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน (น.ส.1ก)
หรือบันทึกการสอบสวนสิทธิและพิสูจน์การทาประโยชน์เพื่อออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์เพื่อออก
หนังสือรับรองการทาประโยชน์เฉพาะราย (น.ส.1ค) แล้วแต่กรณีตามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการเขียน
ข้างเคียงและการรับรองแนวเขตทีด่ นิ ฯ
4. การดาเนินการกรณเี จา้ ของทีด่ ินขา้ งเคียงมาลงชือ่ รบั รองแนวเขตที่ดนิ ในภายหลัง
ให้บันทึกถ้อยคาเจ้าของท่ีดินข้างเคียงโดยใช้แบบพิมพ์ ท.ด.16 รับรองเขตท่ีดินรวมเรื่องไว้โดย
ไมต่ อ้ งลงช่ือในใบรับรองเขตตดิ ต่อของเจา้ ของท่ีดนิ และเจา้ ของที่ดนิ ข้างเคียง (ท.ด. 34) และให้บรรยายในช่อง
ข้างเคียงท่ีมิได้มาระวงั ช้ีแนวเขตที่ดนิ เพ่ิมเติมว่า “...(ช่ือเจ้าของท่ีดินข้างเคียง)...ได้รับรองเขตที่ดินตามบันทึก
ถ้อยคาฉบับลงวันท่ี ... เดอื น ...พ.ศ....” พร้อมลงชือ่ เจา้ หนา้ ที่ผู้บนั ทกึ กากบั ไว้
การปดิ ประกาศ
5. ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าทที่ ี่มีหนังสือนาส่งประกาศ ตามแบบแนบท้าย แจ้งให้ผมู้ ีสิทธิในทด่ี ินขา้ งเคียง
น้ันมาลงช่อื รับรองเขตท่ีดนิ หรือคัดคา้ นการรงั วดั เพ่ือปดิ ไว้ในที่เปดิ เผยมีกาหนดเวลา 30 วนั ณ สานกั งานที่ดิน
จังหวัดหรือสานกั งานท่ดี ินสาขา สานกั งานเขตหรือท่วี ่าการอาเภอ สานักงานเทศบาล ท่ีทาการองค์การบริหาร
ส่วนตาบล ท่ีทาการแขวงหรือที่ทาการกานัน ที่ทาการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องท่ี และบริเวณที่ดินของผู้มีสิทธิใน
ท่ีดนิ ข้างเคียง แห่งละหน่ึงฉบับ ถา้ ผมู้ ีสิทธใิ นท่ดี ินขา้ งเคยี งไม่มาตดิ ตอ่ หรอื คดั คา้ นประการใดภายใน 30 วันนับ
แตว่ นั ปิดประกาศ ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าท่ีออกดโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์เท่าจานวนเน้ือที่ท่ี
ได้ทาประโยชน์แลว้ โดยไมต่ ้องมกี ารรับรองแนวเขตทดี่ ิน
ข. กรณรี ังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินหรือการตรวจสอบเนอื้ ทต่ี ามหนงั สือรับรองการทาประโยชน์
49
ในการดาเนินการตามกฎกระทรวงฉบับที่ 31 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในที่ดิน
ขา้ งเคียงใหม้ าลงชือ่ รบั รอง แนวเขตท่ีดินหรือคดั ค้านการรังวัด พ.ศ. 2521 การติดตอ่ หรือการแจ้ง ผู้มีสทิ ธิในที่ดิน
ข้างเคียงให้มารับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดตามความในมาตรา 69 ทวิ วรรคสามและวรรคหก
แห่งประมวลกฎหมายทด่ี ิน นน้ั จะดาเนนิ การภายหลงั จากทไี่ ดท้ าการรังวดั เสร็จแล้ว และจะดาเนินการต่อเมื่อ
ในการรงั วดั ปรากฏว่าการครอบครองไมต่ รงกับแผนที่หรอื เนือ้ ทใ่ี นโฉนดท่ดี นิ เมื่อผู้มีสิทธิในท่ีดินได้รับรองแนว
เขตแล้ว เจ้าพนักงานที่ดินมีอานาจแก้ไขแผนท่ีหรือเน้ือที่ให้ตรงกับความเป็นจริงได้ ตามมาตรา 69 ทวิ
วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน เว้นแต่เปน็ การสมยอมเพ่ือหลกี เลี่ยงกฎหมาย
การดาเนินการในกรณีข้างต้น เม่ือผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียง ได้รับการติดต่อจากพนักงาน
เจ้าหน้าท่ีให้มาระวังแนวเขตแล้วแต่ไม่มา หรือมาแต่ไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งให้มาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด (เป็นการแจ้งครั้งท่ีสอง)
โดยส่งหนงั สอื แจง้ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงตามท่ีอยู่ที่เคยติดต่อซ่ึงปรากฏ
ในหลักฐานท่ีสานักงานท่ีดิน เช่น สารบบที่ดิน บัตรรายช่ือผู้มีสิทธิในที่ดินหรือตามท่ีอยู่ที่มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียง
แจง้ การเปลยี่ นแปลงหรือการย้ายท่อี ยไู่ วเ้ ป็นลายลักษณ์อกั ษรตอ่ พนกั งานเจา้ หน้าท่ี
ในกรณที ีไ่ ม่อาจติดต่อผ้มู ีสทิ ธใิ นทดี่ นิ ขา้ งเคียงใหม้ าระวังแนวเขตได้ ใหด้ าเนินการ ดังนี้
- ให้ปิดหนังสือแจ้งให้ผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงมาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด
โดยมอบหมายใช้ช่างผู้ทาการรังวัดหรือช่างรังวัดอ่ืนนาไปปิด ณ บริเวณที่ดินของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงน้ัน
และใหม้ พี ยานรเู้ หน็ การปดิ หนงั สอื แจง้ อยา่ งนอ้ ย 2 คน แลว้ บนั ทึกถ้อยคาพยานเป็นหลกั ฐานตดิ เรอื่ งไว้ดว้ ย
- ให้ทาหนงั สอื นาส่งหนังสือแจ้งส่งไปยงั หัวหน้าเขต นายอาเภอ หรือปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจา
ก่งิ อาเภอท้องท่ซี งึ่ ท่ีดินนน้ั ตอ้ งอยู่ เพ่อื ปดิ ประกาศไว้ ณ ทว่ี ่าการเขต ทวี่ ่าการอาเภอหรือกิ่งอาเภอแลว้ แต่กรณี
- ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับที่อยู่ท่ีพนักงาน
เจ้าหน้าท่ีสอบถามได้ความจากนายทะเบียนอาเภอ หรือนายทะเบียนท้องถ่ิน (ให้หมายความรวมถึง
การตรวจสอบข้อมูลบุคคลจากระบบสารสนเทศของกรมการปกครองด้วย ตามหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท
0514.3/ว 14574 ล.ว. 4 มิ.ย. 2550) หรือถ้าสอบถามแล้วยังไม่ทราบที่อยู่ของผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง
กใ็ ห้ส่งไปยงั ผู้มีสิทธิในทีด่ ินข้างเคยี งตามทอี่ ยู่ท่ีปรากฏหลกั ฐานทสี่ านกั งานท่ีดนิ
- การส่งหนังสือแจ้งไปปิด ณ ที่ว่าการเขต ท่ีว่าการอาเภอหรือก่ิงอาเภอท้องท่ี และการส่งหนังสือ
แจ้งไปยังผ้มู สี ทิ ธิในท่ีดินข้างเคียงใหก้ ระทาในวนั เดยี วกัน
- การปดิ หนงั สือแจ้ง ณ บริเวณท่ีดนิ ของผ้มู สี ทิ ธิในทีด่ ินขา้ งเคียงให้กระทาโดยไม่ชักช้า หนังสือแจ้งให้
ใช้แบบ ท.ด. 81
ค. การแจ้งหมายขา้ งเคยี ง กรณีรังวัดแบง่ แยกทดี่ นิ ทมี่ กี ารรังวดั ใหมแ่ ลว้
ระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการแจ้งเจ้าของท่ีดินข้างเคียงกรณีรังวัดแบ่งแยกที่ดิ นท่ีมีการรังวัด
ใหม่แล้ว พ.ศ. 2527 เมอื่ มกี ารขอรงั วดั แบง่ แยกท่ีดิน นอกจากจะต้องให้ย่ืนคาขอและดาเนินการตามระเบียบ
แล้ว ให้สอบถามผู้ขอ เช่น ขอแบ่งทางทิศใด จากไหนถึงไหน มีระยะกว้างยาวประมาณเท่าใด และให้แสดง
รูปแผนทโ่ี ดยประมาณไวห้ ลังคาขอ หรอื หลังบันทึกข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธ์ิรวม แล้วให้ผู้ขอรับรองไว้ด้วย
การเขยี นแผนท่ีประกอบเร่อื งถา้ ข้างเคยี งเปลี่ยนแปลงไปกใ็ หเ้ ขียนเพ่มิ เติมด้วย
ในการรังวัดท่ีดินซ่ึงเป็นแผนท่ีช้ันหน่ึงหรือแผนที่ช้ันสองท่ีได้ทาการรังวัดใหม่และมีหลักฐาน
แผนที่แล้ว ก่อนจะมีหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ดินข้างเคียง ให้ตรวจสอบหลักฐานแผนท่ีว่าได้ทาไว้ถูกต้องตาม
หลักวิชาการหรือไม่ ให้สอบถามผู้ขอว่าหลักเขตเก่าเฉพาะด้านท่ีจะปักหลักเขตแบ่งแยกยังมีอยู่ และสภาพ
ท่ีดินสามารถทาการรังวัดตรวจสอบตามรายการรังวัดเดิมได้หรือไม่ เช่น เดิมทาการรังวัดด้วยโซ่ปัจจุบันสามารถ