The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน Active Learning รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.2 หนังสือเรียน Action 2 ภาคเรียนที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by The School of Lesson Plans, 2023-06-08 02:51:24

Action 2

แผนการสอน Active Learning รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ม.2 หนังสือเรียน Action 2 ภาคเรียนที่ 1

หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 293 9.2 การวัดและประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรม ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ Action 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 3 ใบงานเรื่อง Imperative Sentence ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นักเรียนให้ความ ร่วมมือในการทำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 10. กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องที่ 1 เรื่อง Vocabulary, reading and conversation จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูรูปภาพเกี่ยวกับปัญหาสภาพแวดล้อม (Environment problems) บน PowerPoint 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม What are causes of environmental problems?


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 294 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า poor farming practices, excessive use of fertilizers and pesticides, leakage from landfills, trash dumped in oceans, illegal dumping, disposal of large amounts of industrial waste into nearby rivers or lakes เป็นต้น 1.4 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม How can we solve environmental problems? 1.5 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน โดยนักเรียนสามารถตอบได้ว่า - replace disposable items with reusable - clean up beaches - plant trees - use public transport - recycle rubbish etc 1.6 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Earth - SOS, Global Warming global changes ในหนังสือ เรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.7 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่อง Reading : Earth - SOS, Global Warming global changes ใน หนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.8 นั ก เรีย น ท ำกิ จ ก รรม Read again and mark the sentences T (true), F (false) or DS (doesn’t say). Correct the false statement ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.9 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบในกิจกรรมที่ Read again and mark the sentences T (true), F (false) or DS (doesn’t say). Correct the false statement ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมาก ขึ้น 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Supervolcanoes ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 54 2.2 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่อง Reading : Supervolcanoes ในหนังสือเรียน Action 2หน้าที่ 54 2.3 นักเรียนทำกิจกรรม Read the text. Then match the phrase to form sentences. Explain the words in bold. ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 54 2.4 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 2.5 นักเรียนจับกลุ่มเพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 กลุ่มเพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.6 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 กิจกรรม Find phrase in the dialogue which mean 2.7 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 กิจกรรม Find phrase in the dialogue which mean หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟัง เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 295 ชั่วโมงที่ 2 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 60 3.2 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมทั้งหมดในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 60 หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 3.3 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.4 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น เรื่องที่ 2 เรื่อง Imperative Sentence จำนวนเวลาเรียน 4 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 2W3P และวิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนดูหัวข้อ Imperative Sentence บนกระดานพร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น อธิบายตาม ความเข้าใจของแต่ละคน 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม • Do you know what imperative sentence is? • Can you give the example of the imperative sentence that you know? Possible answers : pass the salt, wait for me, shut the front door, get out!, don’t eat all the cookies,..etc. 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น อธิบายตามความ เข้าใจของแต่ละคน 2.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับประโยคบน PowerPoint ว่าประโยคที่นักเรียนเห็นนั้นคือประโยค แบบ imperative 2.3 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Imperative Sentence Imperative sentence คือ การใช้คำกริยา Infinitive without to (V.1 ที่ไม่มี to) มาขึ้นต้น ประโยคเพื่อให้ประโยคนั้นเป็นประโยคคำสั่ง, ตักเตือน, แนะนำสั่งสอน, เชื้อเชิญ หรือถ้าเติม please เข้าไปจะเป็น Sit down, please Open your book at page 12.


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 296 ประโยคขอร้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำเสียงของผู้พูด, ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง และเจตนาในการสื่อความหมาย ที่สำคัญประโยค Imperative sentence จะลงท้ายด้วยเครื่องหมายวรรคตอน full-stop (.) หรือ exclamation mark (!) เสมอ เช่น • Be quiet. จงเงียบ • Come here! มานี่ • Sit down! นั่งลง รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence 1. Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่า 1.1 ใช้ Verb base form (V.1) ขึ้นต้นประโยคแล้วตามด้วยสิ่งที่จะสั่งให้ทำ หรืออาจใช้ Verb แค่คำเดียวก็ได้ เช่น • Stop! หยุด • Come here! มานี่ • Open the door. จงเปิดประตู • Speak English. จงพูดภาษาอังกฤษ 1.2 ใช้ Verb “be” ขึ้นต้นประโยค เช่น • Be careful. จงระวัง • Be a good boy. จงเป็นเด็กดี • Be kind to children.จงมีเมตตาต่อเด็ก ๆ 2. Imperative sentence ในรูปแบบประโยคปฏิเสธ 2.1 การทำ Imperative sentence เป็นรูปแบบประโยคปฏิเสธ เพียงแค่วาง don’t (do not) หน้าคำกริยา Don’t + V.1 เช่น • Don’t go! อย่าไป • Don’t touch me. อย่ามาแตะต้องตัวฉัน • Don’t swim in this canal. อย่าว่ายน้ำในคลองนี้ 2.2 Imperative sentence ที่ขึ้นต้นด้วยกริยา “be” ก็เช่นเดียวกัน เพียงวาง don’t หน้า กริยา be เช่น • Don’t be noisy. อย่าส่งเสียงดัง 3. Imperative sentence ในเชิงขอร้อง สามารถใช้ Imperative sentence ในเชิงขอร้องได้ โดยเพียงเติม Please เข้าไปวางไว้หน้า หรือท้ายประโยคก็ได้ เพื่อให้ดูสุภาพขึ้น เช่น • Please sit down. หรือ Sit down, please. กรุณานั่งลง • Please wait here. กรุณารอตรงนี้ • Please give me chocolate. เอาช็อกโกแลตให้ผมหน่อยครับ • Be quiet, please. กรุณาเงียบ • Please don’t smoke here. กรุณาอย่าสูบบุหรี่ตรงนี้ 4. Imperative sentence ในเชิงเชื้อเชิญ


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 297 Imperative sentence ในเชิงเชื้อเชิญ เป็นประโยคคำสั่งที่รวมถึงตัวผู้พูดเข้าไปด้วย ทำได้โดย เติม Let’s ไว้หน้าคำกริยา และถ้าเป็นในรูปปฏิเสธ ใช้ Let’s not วางหน้าคำกริยา มีโครงสร้างคือ Let’s / Let’s not + V.1 เช่น • Let’s stop now. ตอนนี้หยุดกันเถอะ • Let’s not tell him about it. อย่าบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยเถอะ วิธีตอบ ถาม Let’s ก็ตอบด้วย Let’s เช่น Yes, let’s. / No, let’s not ***ข้อสังเกต : ใน Imperative sentence ไม่มีประธาน (Subject) โดยละประธานซึ่งคือ สรรพ นามบุรุษที่ 2 “You” ไว้ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint 3.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นและส่งตัวแทนออกมาเขียนประโยคโดยใช้Imperative sentence ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรูปภาพ Possible answer : Open the window, Close the window, Don’t cheat on the exam, Stop smoking, No smoking, Quit smoking, Sleep early,…etc. 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยสมาชิกประกอบไปด้วยนักเรียน เก่ง อ่อน และ ปานกลาง 4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint โดยเขียนคำตอบลงบนกระดาษที่ครู เตรียมให้ Part I : Write I (for imperative) next to the sentences that contain imperative. 1. Stir the milk and egg into the cake mixture. …………..…… 2. You need to follow the instructions exactly. …………..…… 3. I want you to always look both ways before you cross the road. …………..…… 4. Be careful with that box. It’s very heavy. …………..…… 5. Can you please pick me up at 7 o'clock this evening? …………..…… 6. Pass the ketchup, please. …………..……


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 298 7. Please don’t go yet. …………..…… 8. Don’t forget to charge your phone before you leave. …………..…… 9. I don’t want you to cut down that tree. …………..…… 10. Stop fighting! …………..…… Part II : Rewrite the unmarked sentences above as imperatives. 1. …………………………………………………………………………………………………………………… . 2. …………………………………………………………………………………………………………………… . 3. …………………………………………………………………………………………………………………… . 4. …………………………………………………………………………………………………………………… . 5. …………………………………………………………………………………………………………………… . Answer key Part I 1, 4, 6, 7, 8, and 10 have imperatives. 2, 3, 5, and 9 don’t have imperatives. Part II (Students then rewrite the unmarked sentences from Part I as imperatives) 2. Follow the instructions exactly. 3. Always look both ways before you cross the road. 5. Please pick me up at 7 o’clock this evening. 9. Don’t cut down that tree! 4.6 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดบน PowerPoint 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเติม Imperative sentence ลงใน ประโยคของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence ที่ได้เรียนไป ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 ทบทวนเนื้อหา Imperative sentence ที่นักเรียนเรียนในชั่วโมงก่อนหน้านี้ 1.2 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน Imperative sentence พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ รูปภาพและประโยคที่นักเรียนเห็น


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 299 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Imperative sentences คืออะไร ใช้อย่างไร จาก https://www. youtube.com/watch?v=yPnPTeOM-6Y 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Imperative sentence ประโยคคำสั่ง เข้าใจง่ายด้วย Grammar GO! จาก https://www.youtube.com/watch?v=bRFZIHEj-rc 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง เรื่อง การใช้ประโยค Imperative sentences จากhttps://www. youtube.com/watch?v=LobAJrVO9mE 2.4 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูโอคลิปทั้ง 3 วิโอคลิป 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันอธิบายและสรุปเรื่อง Imperative sentence 3.2 นักเรียนยกตัวอย่าง Imperative sentence เช่น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence ในเอกสารประกอบการเรียน 4.2 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Imperative sentence ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่อง Imperative sentence 5.2 นักเรียนและครูช่วยกันอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อให้นักเรียน ทุก ๆ คนเข้าใจหลักการใช้ Imperative sentence 5.3 นักเรียนและครูร่มกันสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ของ Imperative sentence 5.4 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence เรื่องที่ 3 เรื่อง Imperative sentence (Revision) จำนวนเวลาเรียน 2 ชั่วโมง วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 3Ps) กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1.1 นักเรียนแบ่งออกเป็น 5 ทีม ทีมละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.2 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint จำนวน 10 รูปภาพ แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดคำตอบที่เหมาะสม และถูกต้องสำหรับแต่ละรูปภาพ โดยใช้Imperative sentence


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 300 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน โดยตัวแทนที่ออกมาเขียนจะต้อง ไม่ซ้ำกับนักเรียนที่เคยออกมาเขียน Possible answer : 1. Open the window. Let some fresh air into the room 2. Please close the door 3. Don’t eat too much 4. Take a breath and hold it. 1.4 นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบที่นักเรียนเขียนบนกระดาน 2. ขั้นการนำเสนอ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคทั้ง 2 ประโยคมี ความเหมือนหรือแตกต่างกัน มีความหมายว่าอย่างไร 2.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Imperative sentence กรณีพิเศษ 1. Imperative sentence แบบมีประธาน (Subject) แม้ว่าปกติแล้ว Imperative sentence ไม่ ต้องใส่ประธาน (สรรพนามบุรุษที่ 2 “You”) แต่บางครั้งเราสามารถสร้างประโยค Imperative แบบมีประธาน ชัดเจนได้ เช่น • You be quiet! คุณ เงียบ! • You, don’t touch me! แก อย่ามาถูกตัวฉันนะ • Everybody sit down. ทุกคน นั่งลง • Mike look! ไมค์ ดูสิ 2. ประโยคคำสั่งแบบนามธรรม เราสามารถแสดงความหวังหรือความปรารถนาและข้อเสนอแนะ ด้วยรูปแบบประโยค Imperative ได้ ซึ่งประโยคเหล่านี้ไม่ใช่คำสั่งจริง ๆ เช่น • Have a nice day. ขอให้เป็นวันที่ดีนะ • If there’s no soy milk try almond milk.ถ้าไม่มีนมถั่วเหลืองก็ลองนมอัลมอนด์สิ 3. ประโยค Imperative กับ Do ถ้าต้องการเน้น Imperative sentence ให้เป็นประโยคขอร้อง, ขอโทษ และตำหนิมากขึ้น ก็เติม Do หน้าคำกริยา อีกทั้งยังมีความสุภาพมากขึ้นด้วย เช่น • Do tell me about her. ช่วยเล่าเรื่องของหล่อนให้ผมฟังหน่อยนะ) • Do try to keep the noise down, lady. ลองเบาเสียงลงหน่อยนะสาว ๆ 4. ใช้ประโยค Imperative กับ always, never, ever โดยวางคำเหล่านี้หน้าคำกริยาช่อง 1 (V.1) เช่น • Always remember my advice. จงจำคำแนะนำฉันไว้เสมอ • Never run in this room. อย่าวิ่งในห้องนี้


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 301 • Don’t ever leave your keys in your car. อย่าทิ้งกุญแจไว้ในรถ 5. Imperative sentence กับ and บางครั้งเราก็ใช้ประโยค Imperative กับ and แทนประโยค เงื่อนไข (if-clause) เช่น • Work hard, and you will succeed in the end. จงมุ่งมั่นทำงานหนัก และคุณจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด ประโยคนี้ใช้แทนประโยค if-clause ที่ว่า If you work hard, you will succeed in the end. (ถ้าคุณมุ่งมั่นทำงานหนัก คุณจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด) 6. ใช้ประโยค Imperative กับ Question tag เราสามารถนำ question tag อย่าง can you?, can’t you?, could you?, will you?, won’t you? would you? มาวางไว้หลังประโยค Imperative ได้ เช่น • Don’t smoke in this room, will you? อย่าสูบบุหรี่ในห้องนี้ จะทำไหม • Open the door, will you? (เปิดประตูหน่อย จะเปิดให้ไหม) 2.4 นักเรียนสอบถามครูผู้สอนเพิ่มเติมเมื่อนักเรียนไม่ เข้าใจ ชั่วโมงที่ 2 3. การฝึก (Practice) 3.1 นักเรียนดูตารางการสรุปเพิ่มเติมเรื่อง Imperative sentence และฟังครูอธิบายเพิ่มเติม Sentence Structure Polite Example Positive Bare inf. + N. Do + Bare inf. Please + Bare inf. Be quiet. Do be quiet. Please call me back. Negative Don’t + Bare inf. - Don’t be late. No / Stop + V.ing - No smoking. Stop talking. 3.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Imperative sentence บน PowerPoint Instructions : Complete the following instructions with these verbs: go, take, turn, cross. Dialogue A A : Excuse me. How can I get to the bank? B : 1)…………………………..straight on, 2)…………………………..the second turning on the left, then 3)…………………………..at the pedestrian crossing, 4)…………………………..past the post office and the bank is just next to it. Dialogue B A : Good morning, can you tell me how I can go to the bus station? B : 5)…………………………..up this road, 6)…………………………..right at the corner, 7)…………………………..along to the end of the street and you’ll find it there.


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 302 Answer Key : 1) go 2) take 3) cross 4) turn 5) go 6) turn 7) go 3.3 นักเรียนและครูช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจ 4. การนำไปใช้ (Production) 4.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Imperative sentence (Revision) ในเอกสารประกอบการเรียนรู้ 4.2 นักเรียนและครูช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจ


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 303 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our planet แผนการจัดการเรียนรู้ที่21 เรื่อง Vocabulary, reading and conversation รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ต 2.1 ม.2/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.2/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด / การเขียน ต 4.2 ม.2/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น / ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลพูดแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนพูดและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Vocabulary ในการสื่อสารระหว่างบุคคล สืบค้น / การ ค้นคว้าความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ รวบรวม สรุป นำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 304 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Vocabulary ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ นำมาสรุปและนำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริง และมีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Vocabulary ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ นำมาสรุปและ นำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our planet 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our planet 3. การใช้ Vocabulary ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้)


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 305 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่องVocabulary - แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ Action 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Vocabulary, reading and conversation วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบค้นพบ Discovery Method) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.1 นักเรียนดูรูปภาพเกี่ยวกับปัญหาสภาพแวดล้อม (Environment problems) บน PowerPoint


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 306 1.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม What are causes of environmental problems? 1.3 นักเรียนสามารถตอบได้ว่า poor farming practices, excessive use of fertilizers and pesticides, leakage from landfills, trash dumped in oceans, illegal dumping, disposal of large amounts of industrial waste into nearby rivers or lakes เป็นต้น 1.4 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม How can we solve environmental problems? 1.5 นักเรียนส่งตัวแทนออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน โดยนักเรียนสามารถตอบได้ว่า - replace disposable items with reusable - clean up beaches - plant trees - use public transport - recycle rubbish etc 1.6 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Earth - SOS, Global Warming global changes ในหนังสือ เรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.7 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่อง Reading : Earth - SOS, Global Warming global changes ใน หนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.8 นั ก เรีย น ท ำกิ จ ก รรม Read again and mark the sentences T (true), F (false) or DS (doesn’t say). Correct the false statement ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 1.9 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบในกิจกรรมที่ Read again and mark the sentences T (true), F (false) or DS (doesn’t say). Correct the false statement ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 52 หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมาก ขึ้น 2. ขั้นเรียนรู้ 2.1 นักเรียนทำกิจกรรม Reading : Supervolcanoes ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 54 2.2 นักเรียนช่วยกันสรุปเนื้อเรื่อง Reading : Supervolcanoes ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 54 2.3 นักเรียนทำกิจกรรม Read the text. Then match the phrase to form sentences. Explain the words in bold. ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 54 2.4 นักเรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 2.5 นักเรียนจับกลุ่มเพื่อฝึกบทสนทนา และส่งตัวแทนออกมา 1 กลุ่มเพื่อออกมาพูดบทสนทนา 2.6 นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 กิจกรรม Find phrase in the dialogue which mean 2.7 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 58 กิจกรรม Find phrase in the dialogue which mean หากมีข้อใดที่นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟัง เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 307 ชั่วโมงที่ 2 3. ขั้นนำไปใช้ 3.1 นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรู้ในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 60 3.2 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยกิจกรรมทั้งหมดในหนังสือเรียน Action 2 หน้าที่ 60 หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 3.3 นักเรียนศึกษาคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.4 นักเรียนทำใบงานแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน 3.5 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ในเอกสารประกอบการเรียน หากมีข้อใดที่ นักเรียนยังตอบได้ไม่ถูกต้องให้ครูผู้สอนอธิบายคำตอบให้นักเรียนฟังเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น 11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ Action 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2. ใบความรู้เรื่อง Vocabulary 3. ใบงานเรื่อง Vocabulary 4. แบบฝึกหัดเรื่อง Reading and conversation ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาอังกฤษ Action 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือพิมพ์ 2. อินเทอร์เน็ตหรือสื่ออื่น ๆ 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Vocabulary ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค ว าม ร่วม มื อใน ก ารท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2 แบ บ ฝึ ก หั ด เรื่อ ง Reading and conversation ใน ห นั งสื อ เรี ย น รายวิช าพื้ น ฐาน ภ าษ าอังกฤษ Action 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด นั ก เรีย น ให้ ค ว าม ร่วม มื อใน ก ารท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 308 ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ............................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 309 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our planet แผนการจัดการเรียนรู้ที่22 เรื่อง Imperative Sentence รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ต 2.1 ม.2/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.2/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด / การเขียน ต 4.2 ม.2/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น / ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลพูดแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนพูดและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Imperative Sentence ในการสื่อสารระหว่างบุคคล สืบค้น / การค้นคว้าความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ รวบรวม สรุป นำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 310 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยใช้ Imperative Sentence ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Imperative Sentence และนำมาสรุปและนำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริง และมีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยใช้ Imperative Sentence ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Imperative Sentence และนำมาสรุปและนำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our planet 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our planet 3. การใช้โครงสร้าง Imperative Sentence ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 311 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Imperative Sentence 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Imperative Sentence วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 2W3P และวิธีการสอนแบบ Inquiry Method : 5Es) ชั่วโมงที่ 1 - 2 1. ขั้นกระตุ้นทบทวนและปูพื้นฐานความรู้(Warm up) 1.1 นักเรียนดูหัวข้อ Imperative Sentence บนกระดานพร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น อธิบายตาม ความเข้าใจของแต่ละคน 1.2 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม • Do you know what imperative sentence is? • Can you give the example of the imperative sentence that you know?


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 312 Possible answers : pass the salt, wait for me, shut the front door, get out!, don’t eat all the cookies,..etc. 2. ขั้นนำเสนอเนื้อหาสาระ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น อธิบายตามความ เข้าใจของแต่ละคน 2.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับประโยคบน PowerPoint ว่าประโยคที่นักเรียนเห็นนั้นคือประโยค แบบ imperative 2.3 นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง Imperative Sentence Imperative sentence คือ การใช้คำกริยา Infinitive without to (V.1 ที่ไม่มี to) มาขึ้นต้น ประโยคเพื่อให้ประโยคนั้นเป็นประโยคคำสั่ง, ตักเตือน, แนะนำสั่งสอน, เชื้อเชิญ หรือถ้าเติม please เข้าไปจะเป็น ประโยคขอร้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำเสียงของผู้พูด, ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง และเจตนาในการสื่อความหมาย ที่สำคัญประโยค Imperative sentence จะลงท้ายด้วยเครื่องหมายวรรคตอน full-stop (.) หรือ exclamation mark (!) เสมอ เช่น • Be quiet. จงเงียบ • Come here! มานี่ • Sit down! นั่งลง รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence 1. Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่า 1.1 ใช้ Verb base form (V.1) ขึ้นต้นประโยคแล้วตามด้วยสิ่งที่จะสั่งให้ทำ หรืออาจใช้ Verb แค่คำเดียวก็ได้ เช่น • Stop! หยุด • Come here! มานี่ • Open the door. จงเปิดประตู • Speak English. จงพูดภาษาอังกฤษ 1.2 ใช้ Verb “be” ขึ้นต้นประโยค เช่น • Be careful. จงระวัง • Be a good boy. จงเป็นเด็กดี • Be kind to children.จงมีเมตตาต่อเด็ก ๆ 2. Imperative sentence ในรูปแบบประโยคปฏิเสธ Sit down, please Open your book at page 12.


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 313 2.1 การทำ Imperative sentence เป็นรูปแบบประโยคปฏิเสธ เพียงแค่วาง don’t (do not) หน้าคำกริยา Don’t + V.1 เช่น • Don’t go! อย่าไป • Don’t touch me. อย่ามาแตะต้องตัวฉัน • Don’t swim in this canal. อย่าว่ายน้ำในคลองนี้ 2.2 Imperative sentence ที่ขึ้นต้นด้วยกริยา “be” ก็เช่นเดียวกัน เพียงวาง don’t หน้า กริยา be เช่น • Don’t be noisy. อย่าส่งเสียงดัง 3. Imperative sentence ในเชิงขอร้อง สามารถใช้ Imperative sentence ในเชิงขอร้องได้ โดยเพียงเติม Please เข้าไปวางไว้หน้า หรือท้ายประโยคก็ได้ เพื่อให้ดูสุภาพขึ้น เช่น • Please sit down. หรือ Sit down, please. กรุณานั่งลง • Please wait here. กรุณารอตรงนี้ • Please give me chocolate. เอาช็อกโกแลตให้ผมหน่อยครับ • Be quiet, please. กรุณาเงียบ • Please don’t smoke here. กรุณาอย่าสูบบุหรี่ตรงนี้ 4. Imperative sentence ในเชิงเชื้อเชิญ Imperative sentence ในเชิงเชื้อเชิญ เป็นประโยคคำสั่งที่รวมถึงตัวผู้พูดเข้าไปด้วย ทำได้โดย เติม Let’s ไว้หน้าคำกริยา และถ้าเป็นในรูปปฏิเสธ ใช้ Let’s not วางหน้าคำกริยา มีโครงสร้างคือ Let’s / Let’s not + V.1 เช่น • Let’s stop now. ตอนนี้หยุดกันเถอะ • Let’s not tell him about it. อย่าบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยเถอะ วิธีตอบ ถาม Let’s ก็ตอบด้วย Let’s เช่น Yes, let’s. / No, let’s not ***ข้อสังเกต : ใน Imperative sentence ไม่มีประธาน (Subject) โดยละประธานซึ่งคือ สรรพ นามบุรุษที่ 2 “You” ไว้ 3. ขั้นฝึกฝนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์ (Practice) 3.1 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน PowerPoint


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 314 3.2 นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นและส่งตัวแทนออกมาเขียนประโยคโดยใช้Imperative sentence ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรูปภาพ Possible answer : Open the window, Close the window, Don’t cheat on the exam, Stop smoking, No smoking, Quit smoking, Sleep early,…etc. 4. ขั้นนำไปใช้หรือการบูรณาการความรู้(Production) 4.1 นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยสมาชิกประกอบไปด้วยนักเรียน เก่ง อ่อน และ ปานกลาง 4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำแบบฝึกหัดบน PowerPoint โดยเขียนคำตอบลงบนกระดาษที่ครู เตรียมให้ Part I : Write I (for imperative) next to the sentences that contain imperative. 1. Stir the milk and egg into the cake mixture. …………..…… 2. You need to follow the instructions exactly. …………..…… 3. I want you to always look both ways before you cross the road. …………..…… 4. Be careful with that box. It’s very heavy. …………..…… 5. Can you please pick me up at 7 o'clock this evening? …………..…… 6. Pass the ketchup, please. …………..…… 7. Please don’t go yet. …………..…… 8. Don’t forget to charge your phone before you leave. …………..…… 9. I don’t want you to cut down that tree. …………..…… 10. Stop fighting! …………..…… Part II : Rewrite the unmarked sentences above as imperatives. 1. …………………………………………………………………………………………………………………… . 2. …………………………………………………………………………………………………………………… . 3. …………………………………………………………………………………………………………………… . 4. …………………………………………………………………………………………………………………… . 5. …………………………………………………………………………………………………………………… . Answer key Part I 1, 4, 6, 7, 8, and 10 have imperatives. 2, 3, 5, and 9 don’t have imperatives. Part II (Students then rewrite the unmarked sentences from Part I as imperatives) 2. Follow the instructions exactly. 3. Always look both ways before you cross the road. 5. Please pick me up at 7 o’clock this evening. 9. Don’t cut down that tree! 4.6 นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัดบน PowerPoint


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 315 5. ขั้นสรุปความรู้ที่ได้รับจากกระบวน การเรียนรู้(Wrap up) 5.1 สังเกตความเข้าใจของนักเรียนในการทำกิจกรรมและการเติม Imperative sentence ลงใน ประโยคของนักเรียน 5.2 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence ที่ได้เรียนไป ชั่วโมงที่ 3 - 4 1. สร้างความสนใจ (Engage) 1.1 ทบทวนเนื้อหา Imperative sentence ที่นักเรียนเรียนในชั่วโมงก่อนหน้านี้ 1.2 นักเรียนดูรูปภาพและประโยคบน Imperative sentence พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ รูปภาพและประโยคที่นักเรียนเห็น 2. สำรวจและค้นหา (Explore) 2.1 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Imperative sentences คืออะไร ใช้อย่างไร จาก https://www. youtube.com/watch?v=yPnPTeOM-6Y 2.2 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง Imperative sentence ประโยคคำสั่ง เข้าใจง่ายด้วย Grammar GO! จาก https://www.youtube.com/watch?v=bRFZIHEj-rc 2.3 นักเรียนดูวิดีโอคลิปเรื่อง เรื่อง การใช้ประโยค Imperative sentences จากhttps://www. youtube.com/watch?v=LobAJrVO9mE 2.4 นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้จากการดูโอคลิปทั้ง 3 วิโอคลิป 3. อธิบาย (Explain) 3.1 นักเรียนช่วยกันอธิบายและสรุปเรื่อง Imperative sentence 3.2 นักเรียนยกตัวอย่าง Imperative sentence เช่น 4. ขยายความรู้ (Elaborate) 4.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence ในเอกสารประกอบการเรียน 4.2 นักเรียนทำใบงานเรื่อง Imperative sentence ในเอกสารประกอบการเรียน 5. ประเมินผล (Evaluate) 5.1 นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบคำตอบจากการทำใบงานเรื่อง Imperative sentence


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 316 5.2 นักเรียนและครูช่วยกันอธิบายถึงสาเหตุในการตอบคำถามหรือเลือกตอบในแต่ละข้อเพื่อให้นักเรียน ทุก ๆ คนเข้าใจหลักการใช้ Imperative sentence 5.3 นักเรียนและครูร่มกันสรุปหลักการของกฎต่าง ๆ ของ Imperative sentence 5.4 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาเรื่อง Imperative sentence 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Imperative Sentence 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Imperative Sentence 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Imperative Sentence ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค ว าม ร่วม มื อใน ก ารท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 317 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................................. ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................................. ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 318 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our planet แผนการจัดการเรียนรู้ที่23 เรื่อง Imperative Sentence(Revision) รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุจินดา ปรากฏวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 1.2 ตัวชี้วัด ต 1.2 ม.2/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ต 2.1 ม.2/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.2/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่นจากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด / การเขียน ต 4.2 ม.2/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น / ค้นคว้า รวบรวมและสรุปความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) - นักเรียนมีความรู้ในการสื่อสารระหว่างบุคคลพูดแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) - นักเรียนพูดและเขียนประโยคโดยเลือกใช้ Imperative Sentence ในการสื่อสารระหว่างบุคคล สืบค้น / การค้นคว้าความรู้ / ข้อมูลต่าง ๆ รวบรวม สรุป นำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 319 2.3 คุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) - รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและฝึกฝนอย่างจริงจังเพียงพอ - ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล 3. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด - พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยใช้ Imperative Sentence ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Imperative Sentence และนำมาสรุปและนำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริง และมีทักษะในการเลือก พอประมาณ มีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม ในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง พูดนำเสนอข้อมูลและเขียนประโยคโดยใช้ Imperative Sentence ได้ถูกต้องตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Imperative Sentence และนำมาสรุปและนำเสนอข้อมูล / ข้อเท็จจริงได้ 4.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1. คำศัพท์ในเรื่อง Unit 5 : Our planet 2. บทสนทนาในเรื่อง Unit 5 : Our planet 3. การใช้โครงสร้าง Imperative Sentence ในรูปแบบต่าง ๆ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 6.1 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย 8) มีจิตสาธารณะ 6.2 คุณลักษณะตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 1) มีความรู้พื้นฐานในยุคดิจิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหุวัฒนธรรม ตระหนักสำนึกระดับโลก 2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตัวใฝ่รู้ ใฝ่เรียน วิเคราะห์ สังเคราะห์สรุป สร้างองค์ความรู้ 3) มีทักษะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 320 7. ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 7C เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 7.1 ทักษะการอ่าน (Reading) 7.2 ทักษะการเขียน (Writing) 7.3 ทักษะการคิดคำนวณ (Arithmetic) 7.4 ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 7.5 ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 7.6 ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, teamwork and leadership) 7.7 ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 7.8 ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 7.9 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7.10 ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรู้นี้) 8.1 บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 8.2 บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 8.3 บูรณาการห้องเรียนสีเขียว 8.4 อื่น ๆ (โปรดระบุ)................................................................................................................................................. 9. ชิ้นงาน / ภาระงาน 1. ภาระงาน - ใบงานเรื่อง Imperative Sentence (Revision) 2. ชิ้นงาน - 10. กิจกรรมการเรียนรู้(Active Learning) เรื่อง Imperative Sentence (Revision) วิธีการสอน (วิธีการสอนแบบ 3Ps) ชั่วโมงที่ 1 1. ขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up) 1.1 นักเรียนแบ่งออกเป็น 5 ทีม ทีมละเท่าๆ กัน โดยแต่ละทีมประกอบไปด้วยนักเรียนกลุ่มเก่ง ปาน กลางและอ่อน 1.2 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint จำนวน 10 รูปภาพ แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดคำตอบที่เหมาะสม และถูกต้องสำหรับแต่ละรูปภาพ โดยใช้Imperative sentence


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 321 1.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน โดยตัวแทนที่ออกมาเขียนจะต้อง ไม่ซ้ำกับนักเรียนที่เคยออกมาเขียน Possible answer : 1. Open the window. Let some fresh air into the room 2. Please close the door 3. Don’t eat too much 4. Take a breath and hold it. 1.4 นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบที่นักเรียนเขียนบนกระดาน 2. ขั้นการนำเสนอ (Presentation) 2.1 นักเรียนดูรูปภาพบน PowerPoint พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าประโยคทั้ง 2 ประโยคมี ความเหมือนหรือแตกต่างกัน มีความหมายว่าอย่างไร 2.2 นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Imperative sentence กรณีพิเศษ 1. Imperative sentence แบบมีประธาน (Subject) แม้ว่าปกติแล้ว Imperative sentence ไม่ ต้องใส่ประธาน (สรรพนามบุรุษที่ 2 “You”) แต่บางครั้งเราสามารถสร้างประโยค Imperative แบบมีประธาน ชัดเจนได้ เช่น • You be quiet! คุณ เงียบ! • You, don’t touch me! แก อย่ามาถูกตัวฉันนะ • Everybody sit down. ทุกคน นั่งลง • Mike look! ไมค์ ดูสิ 2. ประโยคคำสั่งแบบนามธรรม เราสามารถแสดงความหวังหรือความปรารถนาและข้อเสนอแนะ ด้วยรูปแบบประโยค Imperative ได้ ซึ่งประโยคเหล่านี้ไม่ใช่คำสั่งจริง ๆ เช่น • Have a nice day. ขอให้เป็นวันที่ดีนะ • If there’s no soy milk try almond milk.ถ้าไม่มีนมถั่วเหลืองก็ลองนมอัลมอนด์สิ 3. ประโยค Imperative กับ Do ถ้าต้องการเน้น Imperative sentence ให้เป็นประโยคขอร้อง, ขอโทษ และตำหนิมากขึ้น ก็เติม Do หน้าคำกริยา อีกทั้งยังมีความสุภาพมากขึ้นด้วย เช่น • Do tell me about her. ช่วยเล่าเรื่องของหล่อนให้ผมฟังหน่อยนะ) • Do try to keep the noise down, lady. ลองเบาเสียงลงหน่อยนะสาว ๆ 4. ใช้ประโยค Imperative กับ always, never, ever โดยวางคำเหล่านี้หน้าคำกริยาช่อง 1 (V.1) เช่น • Always remember my advice. จงจำคำแนะนำฉันไว้เสมอ • Never run in this room. อย่าวิ่งในห้องนี้


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 322 • Don’t ever leave your keys in your car. อย่าทิ้งกุญแจไว้ในรถ 5. Imperative sentence กับ and บางครั้งเราก็ใช้ประโยค Imperative กับ and แทนประโยค เงื่อนไข (if-clause) เช่น • Work hard, and you will succeed in the end. จงมุ่งมั่นทำงานหนัก และคุณจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด ประโยคนี้ใช้แทนประโยค if-clause ที่ว่า If you work hard, you will succeed in the end. (ถ้าคุณมุ่งมั่นทำงานหนัก คุณจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด) 6. ใช้ประโยค Imperative กับ Question tag เราสามารถนำ question tag อย่าง can you?, can’t you?, could you?, will you?, won’t you? would you? มาวางไว้หลังประโยค Imperative ได้ เช่น • Don’t smoke in this room, will you? อย่าสูบบุหรี่ในห้องนี้ จะทำไหม • Open the door, will you? (เปิดประตูหน่อย จะเปิดให้ไหม) 2.4 นักเรียนสอบถามครูผู้สอนเพิ่มเติมเมื่อนักเรียนไม่ เข้าใจ ชั่วโมงที่ 2 3. การฝึก (Practice) 3.1 นักเรียนดูตารางการสรุปเพิ่มเติมเรื่อง Imperative sentence และฟังครูอธิบายเพิ่มเติม Sentence Structure Polite Example Positive Bare inf. + N. Do + Bare inf. Please + Bare inf. Be quiet. Do be quiet. Please call me back. Negative Don’t + Bare inf. - Don’t be late. No / Stop + V.ing - No smoking. Stop talking. 3.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตอบแบบฝึกหัดเรื่อง Imperative sentence บน PowerPoint Instructions : Complete the following instructions with these verbs: go, take, turn, cross. Dialogue A A : Excuse me. How can I get to the bank? B : 1)…………………………..straight on, 2)…………………………..the second turning on the left, then 3)…………………………..at the pedestrian crossing, 4)…………………………..past the post office and the bank is just next to it. Dialogue B A : Good morning, can you tell me how I can go to the bus station? B : 5)…………………………..up this road, 6)…………………………..right at the corner, 7)…………………………..along to the end of the street and you’ll find it there.


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 323 Answer Key : 1) go 2) take 3) cross 4) turn 5) go 6) turn 7) go 3.3 นักเรียนและครูช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจ 4. การนำไปใช้ (Production) 4.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่อง Imperative sentence (Revision) ในเอกสารประกอบการเรียนรู้ 4.2 นักเรียนและครูช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อนักเรียนไม่เข้าใจ 11. สื่อการเรียนรู้/ แหล่งเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนเรื่อง Imperative Sentence 11.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานเรื่อง Imperative Sentence (Revision) 12. การวัดและประเมินผล ลำดับ รายการที่วัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ใบงานเรื่อง Imperative Sentence (Revision) ตรวจใบงานท้ายบท ใบงานท้ายบท นั ก เรีย น ให้ ค ว าม ร่วม มื อใน ก ารท ำ แบบฝึกหัดและตอบ ถูกร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. เกณฑ์การประเมิน 16 - 20 คะแนน ดีมาก 11 - 15 คะแนน ดี 6 - 10 คะแนน พอใช้ น้อยกว่า 6 คะแนน ควรปรับปรุง ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 324 บันทึกหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ...................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ................................. ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ............................... ลงชื่อ ผู้จัดทำ (นายสุจินดา ปรากฏวงศ์) ตำแหน่ง ครู วันที่..............เดือน..................................พ.ศ. ..................


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 325 ภาคผนวก • เกณฑ์การให้คะแนนใบงาน • เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน / ชิ้นงาน • แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ • แบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ • แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 326 เกณฑ์การให้คะแนนใบงาน ประเด็น ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 5 4 3 2 1 การคิด วิเคราะห์ จับประเด็น สำคัญได้ ทั้งหมด ขยาย ความพร้อม ตัวอย่าง 3 ประโยคขึ้นไป เขียน เปรียบเทียบ และสรุป ความคิดรวบ ยอดได้ดี จับประเด็น สำคัญได้ ขยาย ความ พร้อม เขียนตัวอย่าง 3 ประโยค เปรียบเทียบ และสรุป ความคิดรวบ ยอดได้ดี จับประเด็น สำคัญได้ ขยาย ความ พร้อม เขียนตัวอย่าง 2 ประโยค เปรียบเทียบ และสรุป ความคิดรวบ ยอดได้ดี จับประเด็น สำคัญได้บ้าง ขยายความ พร้อมเขียน ตัวอย่าง 1 ประโยค เปรียบเทียบได้ จับประเด็น สำคัญไม่ได้ไม่ ขยายความ ไม่ มีตัวอย่าง ประโยค เปรียบเทียบไม่ ชัดเจน การเขียนสื่อ ความ เขียนสื่อความ ได้ถูกต้องตาม อักขรวิธี ตรง ประเด็น และ เข้าใจง่าย เขียนสื่อความ ได้บ้างตาม อักขรวิธี ตรง ประเด็น และ พอเข้าใจได้ เขียนสื่อความ ได้บ้าง ตรง ประเด็น และ เข้าใจยาก เขียนสื่อความ ไม่ชัดเจน ไม่ ค่อยตรง ประเด็น เข้าใจ ยาก เขียนสื่อความ ไม่ชัดเจน ไม่ ตรงประเด็น เข้าใจยาก เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 1 - 8 ปรับปรุง


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 327 เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน / ชิ้นงาน ประเด็นการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน น้ำหนัก / ความสำคัญ คะแนน 4 3 2 1 รวม การใช้ภาษา การสะกด คำศัพท์ ถูกต้อง การเลือกใช้คำ ตรงกับเนื้อหา ประโยค ถูกต้องมี เครื่องหมาย วรรคตอนที่ ถูกต้อง การสะกด คำศัพท์ผิด เล็กน้อย พอ เดาวามหมายได้ เขียนรูป ประโยคผิด หลักไวยากรณ์ เล็กน้อย เครื่องหมาย วรรคตอนผิด เล็กน้อย สะกดคำผิด มาก แต่พอ เดาความหมาย ได้รูปประโยค ผิดพลาดมาก เครื่องหมาย วรรคตอนไม่ ครบหรือไม่ ถูกต้อง สะกดคำผิด มาก เขียนรูป ประโยคไม่ ถูกต้อง ไม่มี เครื่องหมาย วรรคตอน 2 5 เนื้อหา มีรายละเอียด เนื้อหาตรง กับลักษณะที่ กำหนดมาก ที่สุด รายละเอียด ของเนื้อหา มากแต่ยังไม่ ครอบคลุม ทั้งหมด มีรายละเอียด ของเนื้อหา น้อย มีรายละเอียด ของเนื้อหาน้อย มาก 2 5 ความสมบูรณ์ ของชิ้นงาน ชิ้นงานมีราย ละเอียด ครอบคลุมวง คำศัพท์ ที่เรียน สมบูรณ์ ชิ้นงานมีราย ละเอียด ครอบคลุมวง คำศัพท์ ที่เรียนเป็น ส่วนใหญ่ ชิ้นงานมีราย ละเอียด ครอบคลุมวง คำศัพท์ ที่เรียนพอ สมควร ชิ้นงานมีราย ละเอียดครอบ คลุมวงคำศัพท์ ที่เรียนน้อย 1 5 ความคิด สร้างสรรค์ เป็นชิ้นงาน ที่แปลกใหม่ คิดขึ้นเอง ไม่เหมือน ตัวอย่าง เป็นชิ้นงาน ที่แปลกใหม่ แต่มีบางส่วน คล้ายกับ ตัวอย่าง เป็นชิ้นงาน ที่ปรับปรุง ดัดแปลง เล็กน้อยจาก ตัวอย่าง เป็นชิ้นงานที่ เหมือนกับ ตัวอย่าง 1 5 รวม 5 20 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 1 - 8 ปรับปรุง


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 328 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 มีความรักและภูมิใจในความเป็นชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 2.1 ปฏิบัติตามระเบียบการสอนและไม่ลอกการบ้าน 2.2 ประพฤติ ปฏิบัติตรงต่อความเป็นจริงต่อตนเอง 2.3 ประพฤติ ปฏิบัติตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อื่น 3. มีวินัย 3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 3.3 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้องและโรงเรียน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออม 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักการให้เพื่อส่วนรวมและผู้อื่น 8.2 แสดงออกถึงการมีน้ำใจหรือการให้วามช่วยเหลือผู้อื่น 8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพื่อส่วนรวมเมื่อมีโอกาส เกณฑ์การใช้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติ คะแนน ชัดเจนและสม่ำเสมอ 3 ชัดเจนและบ่อยครั้ง 2 บางครั้ง 1


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 329 แบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ มาตรฐาน ตัวชี้วัด ตัวบ่งชี้ 1. การอ่าน 1. สามารถคัดสรรสื่อที่ต้องการอ่านเพื่อหาข้อมูล สารสนเทศได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถสร้างความ เข้าใจและประยุกต์ใช้ความรู้จากการอ่าน สามารถคัดสรรการอ่านข้อมูล สารสนเทศและนำความรู้จากการ อ่านไปประยุกต์ได้ 2. สามารถจับประเด็นสำคัญและประเด็นสนับสนุน โต้แย้ง บันทึกประเด็นสำคัญทั้งข้อสนับสนุน และโต้แย้งได้อย่างเข้าใจ 2. การวิเคราะห์ 3. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ความสมเหตุสมผลความ น่าเชื่อถือลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่องที่ อ่าน วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ครู กำหนดและลำดับความน่าเชื่อถือ ความเป็นไปได้จากเรื่องที่อ่านได้ สมเหตุสมผล 4. สามารถสรุปคุณค่าแนวคิดแง่คิดที่ได้จากการอ่าน สรุปคุณค่า แนวคิดที่ได้จากการอ่าน 3. การเขียน 5. สามารถสรุป อภิปราย ขยายความ แสดงความ คิดเห็น โต้แย้ง สนับสนุน โน้มน้าว โดยการเขียน สื่อสารใน รูปแบบต่าง ๆ เช่น ผังความคิด เป็นต้น สามารถเขียนสรุปและขยายความ แสดงความคิดเห็นด้วยแผนผัง ความคิดหรือสิ่งอื่น ๆ และนำมา อภิปรายสื่อสารให้เข้าใจได้ดี เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีคุณสมบัติครบทุกมาตรฐาน ตัวบ่งชี้และปฏิบัติได้ระดับ คะแนน ดีเยี่ยม 3 ปานกลาง 2 ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 1 ปรับปรุง 0


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 330 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Day after day . รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 15 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ . คำชี้แจง โปรดเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับการปฏิบัติ ระดับการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมากที่สุด 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อยที่สุด รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ 4 3 2 1 1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3. ความสอดคล้องของสาระสำคัญกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ / กระบวนการ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ ภาระงานได้ 8. มีการประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 9. ประเด็นและหลักเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 10. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสมกับเวลาและนำไปประยุกต์ใช้ได้ จริง รวม (คะแนน) สรุปผล


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 331 ข้อคิดเห็น / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ผู้ประเมิน / ผู้เชียวชาญประจำสาขาวิชา ( ) ตำแหน่ง วิทยฐานะ . การแปลความหมาย การประเมินหน่วยการเรียนรู้ เกณฑ์ ค่าเฉลี่ย คะแนน 1.00 - 1.50 = ปรับปรุง 1.51 -2.50 = พอใช้ 2.51 - 3.50 = ดี 3.51 - 4.00 = ดีมาก 10 - 15 = ปรับปรุง 16 - 25 = พอใช้ 26 - 35 = ดี 36 - 40 = ดีมาก


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 332 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง Let’s celebrate! . รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 15 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ . คำชี้แจง โปรดเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับการปฏิบัติ ระดับการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมากที่สุด 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อยที่สุด รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ 4 3 2 1 1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3. ความสอดคล้องของสาระสำคัญกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ / กระบวนการ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ ภาระงานได้ 8. มีการประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 9. ประเด็นและหลักเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 10. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสมกับเวลาและนำไปประยุกต์ใช้ได้ จริง รวม (คะแนน) สรุปผล


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 333 ข้อคิดเห็น / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ผู้ประเมิน / ผู้เชียวชาญประจำสาขาวิชา ( ) ตำแหน่ง วิทยฐานะ . การแปลความหมาย การประเมินหน่วยการเรียนรู้ เกณฑ์ ค่าเฉลี่ย คะแนน 1.00 - 1.50 = ปรับปรุง 1.51 -2.50 = พอใช้ 2.51 - 3.50 = ดี 3.51 - 4.00 = ดีมาก 10 - 15 = ปรับปรุง 16 - 25 = พอใช้ 26 - 35 = ดี 36 - 40 = ดีมาก


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 334 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Characters larger than life . รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 14 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ . คำชี้แจง โปรดเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับการปฏิบัติ ระดับการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมากที่สุด 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อยที่สุด รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ 4 3 2 1 1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3. ความสอดคล้องของสาระสำคัญกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ / กระบวนการ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ ภาระงานได้ 8. มีการประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 9. ประเด็นและหลักเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 10. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสมกับเวลาและนำไปประยุกต์ใช้ได้ จริง รวม (คะแนน) สรุปผล


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 335 ข้อคิดเห็น / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ผู้ประเมิน / ผู้เชียวชาญประจำสาขาวิชา ( ) ตำแหน่ง วิทยฐานะ . การแปลความหมาย การประเมินหน่วยการเรียนรู้ เกณฑ์ ค่าเฉลี่ย คะแนน 1.00 - 1.50 = ปรับปรุง 1.51 -2.50 = พอใช้ 2.51 - 3.50 = ดี 3.51 - 4.00 = ดีมาก 10 - 15 = ปรับปรุง 16 - 25 = พอใช้ 26 - 35 = ดี 36 - 40 = ดีมาก


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 336 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง Unexplained mysteries . รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 8 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ . คำชี้แจง โปรดเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับการปฏิบัติ ระดับการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมากที่สุด 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อยที่สุด รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ 4 3 2 1 1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3. ความสอดคล้องของสาระสำคัญกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ / กระบวนการ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ ภาระงานได้ 8. มีการประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 9. ประเด็นและหลักเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 10. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสมกับเวลาและนำไปประยุกต์ใช้ได้ จริง รวม (คะแนน) สรุปผล


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 337 ข้อคิดเห็น / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ผู้ประเมิน / ผู้เชียวชาญประจำสาขาวิชา ( ) ตำแหน่ง วิทยฐานะ . การแปลความหมาย การประเมินหน่วยการเรียนรู้ เกณฑ์ ค่าเฉลี่ย คะแนน 1.00 - 1.50 = ปรับปรุง 1.51 -2.50 = พอใช้ 2.51 - 3.50 = ดี 3.51 - 4.00 = ดีมาก 10 - 15 = ปรับปรุง 16 - 25 = พอใช้ 26 - 35 = ดี 36 - 40 = ดีมาก


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 338 โรงเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง Our planet . รหัสวิชา อ22121 รายวิชา ภาษาอังกฤษ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลา 8 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ . คำชี้แจง โปรดเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับการปฏิบัติ ระดับการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมากที่สุด 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง มีความสอดคล้อง / เชื่อมโยง / เหมาะสมน้อยที่สุด รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ 4 3 2 1 1. ชื่อหน่วยการเรียนรู้กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3. ความสอดคล้องของสาระสำคัญกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4. ความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันระหว่างชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ 5. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความครอบคลุมในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ / กระบวนการ สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 7. กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม สามารถนำผู้เรียนไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือ ภาระงานได้ 8. มีการประเมินผลตามสภาพจริงและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 9. ประเด็นและหลักเกณฑ์การประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้ / ตัวชี้วัด 10. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรมมีความเหมาะสมกับเวลาและนำไปประยุกต์ใช้ได้ จริง รวม (คะแนน) สรุปผล


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รายวิชาภาษาอังกฤษ 3 (อ22121) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 หน้า 339 ข้อคิดเห็น / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ ผู้ประเมิน / ผู้เชียวชาญประจำสาขาวิชา ( ) ตำแหน่ง วิทยฐานะ . การแปลความหมาย การประเมินหน่วยการเรียนรู้ เกณฑ์ ค่าเฉลี่ย คะแนน 1.00 - 1.50 = ปรับปรุง 1.51 -2.50 = พอใช้ 2.51 - 3.50 = ดี 3.51 - 4.00 = ดีมาก 10 - 15 = ปรับปรุง 16 - 25 = พอใช้ 26 - 35 = ดี 36 - 40 = ดีมาก


Click to View FlipBook Version