ประวัติครคุรุสู ภา
๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
หนังสือประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
จัดพมิ พ์หนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์
ISBN 978-616-7746-73-9
จดั พมิ พโ์ ดย
ส�ำนักงานเลขาธิการครุ สุ ภา
ส�ำนกั พัฒนาและส่งเสริมวชิ าชีพ กลุ่มยกยอ่ งและผดุงเกยี รตวิ ิชาชพี
๑๒๘/๑ ถนนนครราชสมี า เขตดุสิต กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐
โทร. ๐ ๒๒๘๒ ๓๑๕๓
ออกแบบปกหนังสือ นางสาวปณิตา แสงสวา่ ง
พิมพ์ที่ : บรษิ ทั เจเอสพี พริน้ ตงิ้ จำ� กดั
ประวัติครู
ครุ สุ ภาจัดพมิ พเ์ นอ่ื งในงานวนั ครู
๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
สำ�นกั งานเลขาธิการคุรสุ ภา
www.ksp.or.th
คำ� น�ำ
หนงั สอื ประวตั ิครู เป็นหนงั สอื ท่จี ัดท�ำข้ึนเพื่อยกย่องเชิดชูเกยี รติ พรอ้ มทง้ั
เผยแพร่ประวัติและผลงานของครูผู้ล่วงลับท่ีสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ
ใหเ้ ป็นแบบอย่างแกค่ รูรนุ่ หลงั ต่อไป โดยจัดพมิ พเ์ นื่องในงานวันครู ๑๖ มกราคม
ของทุกปี เร่ิมจัดพิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ได้เผยแพร่แล้วจ�ำนวน
๑,๑๒๐ ประวัติ และใน พ.ศ. ๒๕๖๖ ได้เผยแพร่จ�ำนวน ๑๗ ประวัติ รวมทั้งส้ิน
เป็นจ�ำนวน ๑,๑๓๗ ประวตั ิ
ในการเรียบเรียงประวัติครู ส�ำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้รับข้อมูลจาก
หลายแหลง่ ท้ังส่วนราชการ ผูเ้ คยร่วมงาน หรือทายาทเจา้ ของประวตั ิ การเผยแพร่
ทางสอ่ื สารมวลชน ตลอดจนผสู้ นใจนำ� เสนอ คณะกรรมการจดั ทำ� หนงั สอื ประวตั คิ รู
ได้พิจารณาคัดสรรและค้นคว้าข้อมูลเพ่ิมเติม เพื่อให้ทุกประวัติมีความสมบูรณ์
ถกู ต้องส�ำหรบั การศกึ ษาและอ้างอิงตอ่ ไป ประวัติครทู ีเ่ รยี บเรยี งในเล่มน้ี จัดกลุม่
การนำ� เสนอตามความสอดคลอ้ งของการปฏิบัตแิ ละผลงานเปน็ ๔ กลุม่ ดงั น้ี
ผนู้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ประกอบดว้ ย สมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์
(สมศักดิ์ อุปสโม, ป.ธ.๙) พระเถระผู้ทรงธรรม นักบริหารจัดการเพื่อเผยแผ่
พระพุทธศาสนา และแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้สร้างนวัตกรรมเพ่ือเผยแผ่
พระพทุ ธศาสนา
ครูภูมปิ ัญญาไทย ประกอบดว้ ย นายเต็ม พงษ์พรหม ครผู ูส้ อนปพี่ าทย์
เปน็ วทิ ยาทานแกศ่ ษิ ย์ นายประพนั ธ์ สคุ นธชาติ ครพู ากยเ์ สยี งทองแหง่ วงการโขนไทย
นายพงษล์ กั ษณ์ สวุ รรณมาลี ครูภมู ิปัญญาผูพ้ ัฒนาศลิ าดล นายไพฑรู ย์ ศิรริ กั ษ์
ครูผู้ฟื้นฟูวิถีชีวิต โหนด-นา-เล และนายอ่ิม จันทร์ชุม ครูผู้รังสรรค์หนังตะลุง
ให้มชี วี ิต
ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 3
ครู ผู้บริหาร และศึกษานเิ ทศก์ ประกอบด้วย นางชโลมใจ ภงิ คารวฒั น์
ศกึ ษานเิ ทศกม์ อื อาชพี นายบญุ ธรรม แกว้ สาร ผบู้ รหิ ารทม่ี จี ติ วญิ ญาณความเปน็ ครู
นางพศิ วาส ยุติธรรมด�ำรง ผูบ้ รหิ ารนกั พัฒนา นางสาวยุพิน ดุษยิ ามี ครู ผู้บรหิ าร
นกั พัฒนาการศึกษา นายวิศษิ ฏ์ ดวงสงค์ ครู ผบู้ ริหาร และศึกษานิเทศก์ต้นแบบ
และนางแสงทอง วรรณพบิ ูลย์ ครูคหกรรมศาสตรย์ อดกลุ สตรไี ทย
ครใู นสถาบนั อดุ มศกึ ษา ประกอบดว้ ย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยเ์ ชาวน์ ปยิ สทุ ธ์ิ
ครูดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ นายไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ครูผู้เปี่ยมล้นพลังสร้างสรรค์
ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์รน่ื ฤทยั สจั จพันธ์ุ ครูผูเ้ ป็นเลิศดา้ นวรรณกรรมไทย และ
ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ุณอิทธิพล ต้งั โฉลก ครูศลิ ปะผสู้ ร้างสรรค์ผลงานศลิ ปกรรม
เพอื่ ประโยชนต์ อ่ วงการศกึ ษาศิลปะ
สำ� นกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภาขอขอบคณุ คณะกรรมการจดั ทำ� หนงั สอื ประวตั คิ รู
หน่วยงาน ตลอดถึงบุคคล ผู้กรุณาให้ข้อมูลและค�ำแนะน�ำอันเป็นประโยชน์
เพอ่ื การพฒั นา ใหก้ ารจดั ทำ� หนงั สอื ประวตั คิ รบู รรลวุ ตั ถปุ ระสงคส์ งู สดุ เพอ่ื เชดิ ชเู กยี รติ
ครูผู้เป็นบุคคลต้นแบบในการสร้างความเจริญงอกงามด้านการศึกษาของ
ประเทศไทยสบื ไป
สำ� นกั งานเลขาธกิ ารคุรุสภา
4 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
สารบัญ ๖
๗
ผู้น�ำในการเผยแผ่พระพุ ทธศาสนา ๑๗
สมเด็จพระพทุ ธชนิ วงศ์ (สมศกั ดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙, ศ.ดร.)
แมช่ ศี ันสนีย์ เสถยี รสตุ ๒๘
๒๙
ครูภูมิปั ญญาไทย ๓๙
นายเต็ม พงษ์พรหม ๕๑
นายประพนั ธ์ สคุ นธชาต ิ ๖๓
นายพงษล์ กั ษณ์ สุวรรณมาลี ๗๕
นายไพฑูรย์ ศริ ิรกั ษ์
นายอิ่ม จนั ทรช์ ุม ๘๖
๘๗
ครู ผู้บริหาร และศึกษานิเทศก์ ๙๗
นางชโลมใจ ภงิ คารวฒั น์ ๑๐๙
นายบญุ ธรรม แก้วสาร ๑๒๕
นางพิศวาส ยตุ ิธรรมดำ� รง ๑๓๗
นางสาวยุพนิ ดุษิยาม ี ๑๔๙
นายวิศษิ ฏ์ ดวงสงค์
นางแสงทอง วรรณพิบูลย ์ ๑๖๐
ครูในสถาบันอุดมศึกษา ๑๖๑
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์เชาวน์ ปยิ สทุ ธ ์ิ ๑๗๕
นายไพฑรู ย์ เมืองสมบูรณ์ ๑๘๕
ศาสตราจารย์ ดอกเตอรร์ ื่นฤทยั สจั จพนั ธุ์ ๑๙๕
ศาสตราจารย์เกยี รติคณุ อทิ ธิพล ตั้งโฉลก
๒๐๙
ภาคผนวก ๒๑๐
• นามานุกรมครู ๒๕๕
• ค�ำส่งั แตง่ ตัง้ คณะกรรมการจดั ท�ำหนังสอื ประวตั ิคร ู
ผู้น�ำในการเผยแผ่
พระพุทธศาสนา
สมเด็จพระพทุ ธชนิ วงศ์
(สมศกั ดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙, ศ.ดร.)
พ.ศ. ๒๔๘๔–๒๕๖๒
สมเดจ็ พระพุ ทธชินวงศ์ (สมศกั ด์ิ อุปสโม ป.ธ.๙, ศ.ดร.) นามเดิม
สมศกั ด์ิ ชูมาลัยวงศ์ ฉายา อุปสโม เกิดเม่อื วันอาทติ ยท์ ่ี ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๔๘๔ ณ บา้ นเลขท่ี ๑๐๐ หมูท่ ่ี ๒ ต�ำบลปากจ่นั อ�ำเภอนครหลวง จงั หวัด
พระนครศรอี ยุธยา เป็นบุตรของนายเหล่ียม กับนางสำ� ลี ชูมาลัยวงศ์
ผูน้ �ำในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
พระ คณุ ท่านเทีย่ งแท้ ในธรรม
พทุ ธ– านุภาพน�ำ หลดุ พน้
ชิน ชาโลกธรรมส�ำ– เรจ็ ลว่ ง
วงศ์ ศากยะหลากล้น หล่ังนำ้� ตาถวาย
ขรรค์ชยั บนุ ปาน : ประพันธ์
สำ� เรจ็ ชน้ั ประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวดั ละมุด ต�ำบลปากจัน่ อ�ำเภอนครหลวง
จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เม่อื พ.ศ. ๒๔๙๔ ต่อมาอปุ สมบท ณ วัดละมดุ ต�ำบล
ปากจนั่ อำ� เภอนครหลวง จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เมอื่ วนั ท่ี ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๔
โดยมี พระครูนครวิหารคุณ (ฟัก วฑฺฒโน) วัดบันได จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ พระอธกิ ารเมย้ี น วดั ละมดุ เปน็ พระกรรมวาจาจารย์ ไดร้ บั ฉายาวา่
อุปสโม มีความหมายวา่ “ผูม้ ีจิตใจสงบในธรรมอันลึกซ้งึ ”
เมอ่ื อปุ สมบทแล้ว ไดศ้ กึ ษาแผนกนักธรรม-บาลี สอบได้นักธรรมชน้ั เอก
เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๐๖ สอบไดเ้ ปรยี ญธรรม ๙ ประโยค ส�ำนกั เรยี นวัดพนญั เชงิ จงั หวดั
8 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
พระนครศรอี ยุธยา เม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๕ จากนัน้ เดินทางไปศกึ ษาทม่ี หาวทิ ยาลัยมคธ
ประเทศอินเดยี สำ� เรจ็ ปริญญามหาบณั ฑติ สาขาวิชาประวัติศาสตร์อนิ เดียโบราณ
และประวตั ิศาสตรเ์ อเชยี ใต้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๙ และปรญิ ญาดษุ ฎีบณั ฑติ สาขา
เดียวกัน เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๖ นอกจากนี้ ยงั ไดร้ ับถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกติ ตมิ ศกั ดิ์
สาขาวชิ าสงั คมศาสตรเ์ พอ่ื การพฒั นา จากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา
เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๕๙
การไปศกึ ษาทีป่ ระเทศอนิ เดยี ในสมัยน้ันมคี วามล�ำบากมาก ไม่วา่ จะเป็น
เร่ืองการเดินทาง ความเป็นอยู่ โดยเฉพาะภัตตาหารต่างจากของไทย จึงต้องใช้
ความอดทน ตง้ั ใจเรยี นใหจ้ บโดยเรว็ เพอื่ นำ� ความรกู้ ลบั มาทำ� งานดา้ นพระพทุ ธศาสนา
ในประเทศไทย เมอื่ สำ� เร็จการศกึ ษาและเดินทางกลับมาประเทศไทย ได้รับแตง่ ต้ัง
เปน็ คณบดคี ณะพุทธศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั เม่อื พ.ศ.
๒๕๒๗ และด้วยความสนใจงานด้านวิปัสสนากรรมฐาน จึงมุ่งมั่นในการปรับปรุง
หลักสูตรการเรียนการสอนของพระสงฆ์ให้มีการศึกษาทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ
ควบคู่กัน แล้วน�ำความรู้มาปรับใช้สืบสานต่องานพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญ
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 9
ผู้นำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ก้าวหน้า รวมทั้งได้สนับสนุนให้ส่งพระสงฆ์ไทยไปศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ทสี่ าธารณรฐั แห่งสหภาพเมียนมาร์ ครัง้ ละหลายเดอื น ปีละหลายรูป
งานพฒั นาการศกึ ษาของคณะสงฆท์ สี่ ำ� คญั คอื การกอ่ ตงั้ สถาบนั บาฬศี กึ ษา
พทุ ธโฆสทจี่ งั หวดั นครปฐม เพอื่ ใหเ้ ปน็ สถานศกึ ษาคมั ภรี บ์ าลมี ลู กจั จายนแ์ บบโบราณ
เรยี นบาลี พระไตรปฎิ ก จดั การเรยี นการสอนวปิ สั สนากรรมฐานในรปู แบบการศกึ ษา
จนต่อมาสถาบันนี้ได้รับการยกฐานะเป็นวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
ในสังกัดมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั นอกจากนี้ ยงั ไดป้ ระพันธ์และ
แปลต�ำราเรียน ศึกษาบาลีและวิปัสสนา เช่น สัททานุกรมพระไตรปิฎกเชิงวิจัย
ฉบบั บาล-ี ไทย กัจจายนะสังเขป กจั จายนะขั้นพน้ื ฐาน ธาตวัตถสังคหปาฐนสิ สยะ
อภธิ านปั ปทปี กิ าฎกี า ปทรปู สทิ ธิ พระคมั ภรี บ์ าลกี จั จายนมลู พระคมั ภรี ก์ จั จายนมลู
การตรวจชำ� ระคัมภีรส์ ัททนตี ิปกรณ์ คัมภรี ์สัททนีติปทมาลา เปน็ ตน้ รวมท้ังไดจ้ ัด
หลักสตู รตา่ ง ๆ เช่น การปฏบิ ัตวิ ิปัสสนากรรมฐาน หลักสูตร ๗ เดอื น ส�ำหรบั นสิ ิต
หลกั สูตร ๔๕ วัน สำ� หรบั เจ้าคณะพระสงั ฆาธกิ าร เป็นต้น
สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก
(อัมพร อมฺพโรมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงยกย่อง
สมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์ ในหนงั สอื งานออกเมรพุ ระราชทานเพลงิ ศพสมเดจ็ พระพทุ ธ
ชินวงศ์ (สมศักด์ิ อุปสโม ป.ธ.๙) ว่าเป็นผู้มั่นคงในคารวตาธรรม กล่าวคือ
“เปน็ พระเถระผมู้ คี วามถงึ พรอ้ มดว้ ยศลี าจารวตั ร เปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในการบรหิ ารงาน
พระศาสนา การปกครอง การเผยแผ่ และการสาธารณสงเคราะห์ สงั เกตไดช้ ัดว่า
ท่านเป็นผู้ครองคารวตาไว้อย่างมั่นคงเสมอต้นเสมอปลาย ความเคารพ
ในพระรัตนตรัย ยังให้ท่านเป็นสังฆโสภณ ความเคารพในการศึกษา ยังให้ท่าน
เป็นผู้มีปัญญาสอดส่องกว้างขวาง และยังอุดหนุนบ�ำรุงการศึกษาพระปริยัติธรรม
ของพระภิกษุสามเณรเป็นอย่างย่ิงมาโดยตลอด ความเคารพในความไม่ประมาท
ยงั ใหท้ า่ นมนั่ คงในพระธรรมวนิ ยั และความเคารพในปฏสิ นั ถาร ยงั ใหท้ า่ นเปน็ ทน่ี ยิ ม
นบั ถือ เคารพเลอ่ื มใสโดยท่วั ”
10 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
สมเดจ็ พระมหารชั มงั คลาจารย์ (ชว่ ง วรปญุ โฺ ญ) อดตี เจา้ อาวาสวดั ปากนำ�้
กล่าวถึงผลงานด้านพัฒนาการศึกษาของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ไว้ในหนังสือ
เล่มเดยี วกัน ความว่า
“เป็นพระมหาเถระท่ีมีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาน่าเล่ือมใส มีวิสัยทัศน์
กว้างไกลด้านปริยัติ สร้างประวัติศาสตร์การศึกษาพระบาลีของประเทศไทย
ในยุคปัจจุบัน ด้วยการต้ังสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส หรือวิทยาเขตบาฬีศึกษา
พุทธโฆส มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ส่งผลให้เกิดต�ำราวิชาการ
ด้านภาษาบาลีเป็นจ�ำนวนมาก ในด้านการปฏิบัติ ได้ส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐาน
ตามแนวมหาสตปิ ฏั ฐาน สง่ ผลใหเ้ กดิ การฝกึ อบรมพระวปิ สั สนาจารยท์ วั่ ราชอาณาจกั ร
สร้างความรักและการตื่นตัวในการปฏิบัติแก่พระสงฆ์และคฤหัสถ์อย่างไพศาล
เป็นผู้อุทิศชีวิตและงานเพอื่ พระพทุ ธศาสนาตราบลมหายใจสดุ ทา้ ย”
สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (สนทิ ชวนปญโฺ ญ) เจา้ อาวาสวดั ไตรมติ รวทิ ยาราม
กล่าวถึงความเปน็ นักการศึกษาไวใ้ นหนังสอื เลม่ เดียวกนั ความวา่
“ทา่ นเปน็ นกั การศกึ ษาทน่ี า่ อนโุ มทนายงิ่ นกั แตง่ คน้ ควา้ ตำ� ราไวห้ ลายเลม่
โดยเฉพาะคำ� บรรยายขยายความทมี่ าของศพั ทต์ า่ ง ๆ อา่ นแลว้ เขา้ ใจถงึ ทม่ี าของศพั ท์
อยา่ งลกึ ซงึ้ ตามแบบฉบบั ของบาลไี วยากรณใ์ หญ่ เมอื่ มโี อกาสคยุ กนั ไดถ้ ามเกย่ี วกับ
ทมี่ าของศพั ทต์ า่ ง ๆ ทา่ นกว็ จิ ารณย์ กทมี่ า ยกสตู ร แยกศพั ท์ กวา่ จะเปน็ ศพั ทใ์ ด ๆ
ทา่ นแยกได้หมด สมกบั ความเป็นนกั ปราชญ์ทางการศึกษาจริง ๆ
ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 11
ผูน้ �ำในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ท่านเป็นนักปฏิบัติ ไปปฏิบัติกรรมฐาน ณ ท่าขี้เหล็ก และที่ส�ำนัก
พระมหาสีสะยาด่อร์ นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ท่านบอกว่าอยากไปปฏิบัติ
ใหห้ ายสงสยั วา่ พระโยคาวจร ผเู้ จรญิ สตปิ ฏั ฐาน ๔ มสี ตอิ ยกู่ บั กาย เวทนา จติ ธรรม
เมื่อปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดปี จะบรรลุธรรมดังท่ีตรัสไว้ใน
พระไตรปฎิ กหรอื ไม่ ทา่ นกท็ ำ� เปน็ แบบอยา่ ง ไปเรยี นรกู้ ารปฏบิ ตั ติ ามหลกั สตปิ ฏั ฐาน
ที่พม่า แล้วน�ำมาปฏิบัติต่อยอดเป็นกระบวนการเรียนการสอนทางวิปัสสนา
ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถึงปริญญาตรี ปริญญาโท และ
ปริญญาเอก”
พระพรหมบัณฑติ (ประยรู ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวดั ประยุรวงศาวาส
กลา่ วถงึ ผลงานดา้ นการศึกษา เผยแผ่ไวใ้ นหนังสอื เลม่ เดียวกัน ความว่า
“ดา้ นการศาสนศกึ ษา ไดด้ ำ� เนนิ การจดั ตงั้ สถาบนั บาฬพี ทุ ธโฆส ซงึ่ ตอ่ มา
ยกฐานะเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตน้ี
เปิดการเรียนการสอนสาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์ท่ีเน้นการศึกษาคัมภีร์สัททาวิเสส
และคัมภรี ์บาลพี ระไตรปฎิ ก และยังรับผู้จบเปรียญธรรม ๙ ประโยค เข้าศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาโทและปรญิ ญาเอกอกี ด้วย
ดา้ นการศกึ ษาสงเคราะห์ ไดส้ านตอ่ นโยบายของสมเดจ็ พระมหาธรี าจารย์
อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่ก�ำหนดให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการในเขตปกครอง
คณะสงฆห์ นกลางมอบทนุ การศกึ ษาสงเคราะหเ์ ปน็ ประจำ� ทกุ ปี เปน็ จำ� นวนเงนิ ปลี ะ
ไมต่ �่ำกวา่ ๑๐๐ ลา้ นบาท
ด้านการเผยแผ่ เป็นประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
แหง่ ชาติ ทสี่ ำ� คญั คอื เปดิ หลกั สตู รปรญิ ญาโท สาขาวปิ สั สนาภาวนา ทจี่ ดั การศกึ ษา
หลักกรรมฐานที่วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส พร้อมกับจัดสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม
ธรรมโมลี ทอ่ี ำ� เภอปากช่อง จังหวดั นครราชสีมา ใชเ้ ปน็ ท่ปี ฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน
ของเจา้ คณะพระสังฆาธิการ พระนิสติ และประชาชนทวั่ ไป”
12 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
พระพรหมเสนาบดี (พมิ พ์ ญาณวโี ร) เจ้าอาวาสวดั ปทุมคงคา ซ่ึงเคย
ศกึ ษาที่มหาวทิ ยาลัยมคธ ประเทศอนิ เดยี ดว้ ยกนั กลา่ วไวใ้ นหนังสือเลม่ เดียวกัน
ความวา่
“เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ก่อตั้งสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
เพอ่ื เปดิ สอนคมั ภรี พ์ ระไตรปฎิ กอรรถกถา และสทั ทาวเิ สส และเปน็ รองอธกิ ารบดฯี
ที่นา่ อัศจรรย์มากกค็ อื ได้ประพันธห์ นังสือตา่ ง ๆ ถงึ ๑๕ เรื่อง และผลงานวิชาการ
ในฐานะผู้ตรวจช�ำระ ๙ เล่ม ทั้ง ๆ ที่งานในหน้าที่ส�ำคัญ ๆ ก็มีมากมาย จึงนา่
อัศจรรย์มาก ที่ส�ำคัญคือ ได้ให้ความส�ำคัญในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานมาก
ยคุ ของเจา้ ประคณุ สมเดจ็ ฯ เปน็ ยคุ ทเ่ี จรญิ รงุ่ เรอื งทว่ั ประเทศ เปน็ เหตใุ หก้ ารเผยแผ่
พระพุทธศาสนาภาคปฏิบตั เิ กดิ การตื่นตัว ทำ� ให้พระสังฆาธกิ ารไดต้ ่นื ตัว เป็นผลดี
ตอ่ การคณะสงฆ์ และการพระศาสนาอยา่ งกวา้ งขวาง”
พลเอก พลภทั ร วรรณภกั ตร์ อดตี ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารรฐั มนตรวี า่ การกระทรวง
กลาโหม กลา่ วถึงความเป็นพระสงฆ์นักพัฒนาของสมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์ ความว่า
“เป็นพระมหาเถระท่ีกอปรด้วยความรู้ความสามารถ ท�ำงานเพ่ือ
พระพุทธศาสนา สังคม และประเทศชาติ ด้วยความทมุ่ เทเสยี สละมาอยา่ งต่อเนือ่ ง
ทั้งด้านการปกครองคณะสงฆ์ ด้านสาธารณูปการ ด้านการบูรณปฏิสังขรณ์
วดั พชิ ยญาตกิ าราม จากพระอารามเกา่ แกแ่ ละทรดุ โทรมไปตามกาลเวลาใหก้ ลบั มา
สมบูรณ์งดงาม อาทิ บูรณะพระอุโบสถและศิลปวัตถุต่าง ๆ ในลานพระอุโบสถ
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 13
ผู้นำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
พระปรางค์ได้รับการบูรณะให้กลับมาสู่สภาพงดงาม บูรณะพระอสีติมหาสาวก
๘๐ องค์ บรู ณะศาลาปฏบิ ัตวิ ปิ สั สนากรรมฐาน ศาลาการเปรยี ญ โรงเรียนสุขุมาลยั
กุฏิทรงช่วย ซ่ึงเป็นกุฏิสงฆ์ที่รัชกาลท่ี ๕ พระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยในการ
กอ่ สรา้ งหมกู่ ฏุ บิ รวิ าร สรา้ งอาคารเฉลมิ พระเกยี รติ ๖๐ พรรษา สมเดจ็ พระเทพรตั น-
ราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี สรา้ งอาคารทพ่ี กั รวม ๓ ชนั้ สรา้ งศาลาปฏบิ ตั ธิ รรม
รวมท้ังสรา้ งถาวรวัตถุเพื่อให้พุทธศาสนกิ ชนใชใ้ นการปฏิบตั ิธรรม เชน่ กอ่ ตง้ั และ
พฒั นาศนู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรมธรรมโมลี ทอ่ี ำ� เภอปากชอ่ ง จงั หวดั นครราชสมี า เปน็ ประธาน
กรรมการอนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาพทุ ธมณฑล โดยจดั สรา้ งอาคารโพธญิ าณมหาวชิ ชาลยั
เพือ่ ใช้ในกจิ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาของชาวพทุ ธโลก ณ พุทธมณฑล ก่อสร้าง
ประสาทนครหลวง (จ�ำลอง) รองรับผูป้ ฏิบตั ิธรรมท่ีวัดพิชยญาตกิ าราม เป็นต้น”
ต�ำแหน่งและหน้าท่ีทางการปกครองคณะสงฆ์ ได้รับแต่งต้ังเป็นผู้ช่วย
เจา้ อาวาสวดั ชนะสงคราม เมอื่ พ.ศ. ๒๕๑๖ เปน็ รองเจา้ คณะภาค ๑๓ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๘
เปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๒๙ เปน็ เจา้ อาวาสวดั พชิ ยญาตกิ าราม เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๐
เป็นเจ้าคณะภาค ๑๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นเจ้าคณะภาค ๑ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔
เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง
เม่อื พ.ศ. ๒๕๕๔
ล�ำดับสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะช้ันสามัญท่ี พระศรีสุทธิพงศ์ เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นพระราชาคณะช้ันราชที่ พระราชปริยัติโมลี ตรีปิฎกบัณฑิต
มหาคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๑ เปน็ พระราชาคณะชน้ั เทพท่ี
พระเทพปริยัติโมลี ศรีปาพจนานสุ ฐิ ตรปี ิฎกบณั ฑติ มหาคณสิ สร บวรสงั ฆาราม
คามวาสี เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๖ เปน็ พระราชาคณะชน้ั ธรรมท่ี พระธรรมโมลี ศรีปรยิ ตั โยดม
วกิ รมธรรมธารี ตรปี ฎิ กบณั ฑติ มหาคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๑
เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏที่ พระพรหมโมลี ศรีสังฆโสภณ
วมิ ลศลี าจารนวิ ฐิ พพิ ธิ คมั ภรี ป์ รวิ รรตธารี ตรปี ฎิ กบณั ฑติ มหาคณสิ สร บวรสังฆาราม
คามวาสี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
14 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
พรหมวหิ ารธำ� รงวราธมิ ตุ วสิ ทุ ธศิ ลี าจารนวิ ฐิ ภาวนากจิ สวุ ธิ าน ไพศาลหติ านหุ ติ ดลิ ก
ตรปี ฎิ กบณั ฑติ มหาคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี อรญั วาสี เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๔
ในดา้ นการศกึ ษา ไดร้ ับแต่งต้ังเปน็ คณบดีคณะพุทธศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๗-๒๕๓๐ เป็นรองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬศี ึกษาพทุ ธโฆส นครปฐม
เมือ่ พ.ศ. ๒๕๓๖ เปน็ ศาสตราจารย์พิเศษ สาขาวชิ าภาษาบาลี ประจ�ำมหาวทิ ยาลยั
มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๑ และไดร้ บั แตง่ ตง้ั เปน็ อคั คมหาบณั ฑติ
โดยรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๖
สมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์ มรณภาพ เมอื่ วนั ศกุ รท์ ี่ ๒๘ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๒
ดว้ ยอาการหวั ใจล้มเหลวเฉียบพลัน ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ ๗๘ ปี ๔ เดอื น
๒๖ วัน ๕๘ พรรษา พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้
สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี
เสดจ็ ฯ แทนพระองคไ์ ปพระราชทานเพลงิ ศพ ณ เมรหุ ลวงหนา้ พลบั พลาอศิ รยิ าภรณ์
วัดเทพศริ ินทราวาส กรงุ เทพฯ เมอ่ื วันเสารท์ ี่ ๒๗ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
นายตรีวิทย์ วนิ ิชส�ำเภาทิพย์ ผ้เู รียบเรียง
ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 15
ผูน้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ขอ้ มูลอ้างอิง
๑. สจู บิ ตั ร งานออกเมรพุ ระราชทานเพลงิ ศพ สมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์ (สมศกั ดิ์ อปุ สโม ป.ธ.๙)
วนั เสารท์ ี่ ๒๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ณ เมรหุ ลวงหนา้ พลบั พลาอศิ รยิ าภรณ์ วดั เทพศริ นิ ทราวาส
๒. นอ้ มอาลัยสมเดจ็ พระพุทธชินวงศ์ พระเถระนักปราชญ์ มติชน ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒
๓. สมเดจ็ พระพุทธชินวงศ์ มรณภาพหัวใจลม้ เหลวเฉยี บพลัน ไทยรฐั ๒๙ มิถนุ ายน ๒๕๖๒
๔. www.sangkhatikan.com สมเดจ็ พระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙, ศ.ดร.)
๕. ผใู้ หข้ อ้ มลู เพ่ิมเตมิ
๕.๑ พระครวู ศนิ ปรยิ ตั ยากร (สมภมู ิ สมจติ โฺ ต) เจา้ อาวาสวดั ไกเ่ ตย้ี เขตตลงิ่ ชนั กรงุ เทพมหานคร
๕.๒ พลเอก พลภัทร วรรณภกั ตร์
๕.๓ คุณหญิง สมนึก เปรมวัฒนะ
16 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
แม่ชีศนั สนยี ์ เสถยี รสุต
พ.ศ. ๒๔๙๖ – ๒๕๖๔
แมช่ ีศนั สนีย์ เสถยี รสุต นามเดิม นางสาวศนั สนยี ์ ปัญญศริ ิ เกิดเม่ือ
วันท่ี ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นบุตรของนายเฉลียว จรัสศรี และ
นางจำ� ลอง พรหมนิ ทะโรจน์ มพี ่สี าวรว่ มบดิ ามารดา ๑ คน คอื นางสายสมั พนั ธ์
ปัญญศิริ และมีพ่ีน้องต่างมารดา ๒ คน คือ นางสาวทัศนะ จรัสศรี และ
ศาสตราจารย์ ดอกเตอรน์ ราพงษ์ จรัสศรีประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 17
ผูน้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
แมช่ ีศนั สนีย์เกดิ ท่อี ำ� เภอบางปะหนั จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะน้นั บดิ า
เป็นนายอ�ำเภอบางปะหัน มารดาเป็นครูโรงเรียนบางปะหัน (เชื่อมประชานุกูล)
สำ� เรจ็ การศกึ ษาชน้ั อนบุ าลจากโรงเรยี นอนบุ าลพระนครศรอี ยธุ ยา ชน้ั ประถมศกึ ษา
ปที ่ี ๔ จากโรงเรยี นบางปะหนั (เชอ่ื มประชานกุ ลู ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๗ จากโรงเรยี น
ประตูชัย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ จากโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ ประกาศนียบัตร
วิชาการศึกษา (ป.กศ.) จากโรงเรียนฝึกหัดครูพระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันคือ
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรอี ยธุ ยา หลงั จากมารดาถงึ แกก่ รรมไดเ้ ขา้ ไปศกึ ษาตอ่
ในกรงุ เทพมหานคร จบปริญญาตรที างคหกรรมศาสตรบณั ฑิต จากมหาวิทยาลยั
สโุ ขทยั ธรรมาธิราช
ดว้ ยความเปน็ หญงิ สวย บคุ ลกิ ดี มารยาทงาม และวาจาออ่ นหวาน แมช่ ศี นั สนยี ์
ขณะเป็น นางสาวศันสนีย์ ปัญญศิริ ได้เริ่มบทบาทชีวิตทางโลกในวงการนางแบบ
ไดร้ บั คดั เลอื กเปน็ ๑๐ ยอดนางแบบของโรงเรยี นสอนตดั เสอื้ ระพี ตอ่ มาไดเ้ ขา้ ประกวด
มสิ ออด๊าซ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๑๘ ขณะอายุได้ ๒๒ ปี ไดค้ รองตำ� แหน่งรองมสิ ออดา๊ ซ
18 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
และนางงามบุคลิกภาพ จากนั้น ได้ประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าท่ีประชาสัมพันธ์
สถานออกกำ� ลังกายและเสริมความงาม World Club และเป็นพธิ กี รทางโทรทศั น์
และนางแบบทม่ี ชี อื่ เสยี ง กอ่ นจะสละชวี ติ ทางโลกเขา้ สชู่ วี ติ ทางธรรมจนถงึ บนั้ ปลาย
ของชวี ติ
ณ วนั ที่ ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๓ เปน็ วนั ทแ่ี มช่ ศี นั สนยี ไ์ ดส้ มาทานศลี แปด
เป็นแม่ชีท่ีวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ถนนวัชรพล เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
มพี ระครภู าวนาภธิ าน (เสง็ ยสนิ ธฺ โร) เจา้ อาวาสวดั ศริ พิ งษธ์ รรมนมิ ติ เปน็ ผใู้ หศ้ ลี แปด
ขณะเปน็ แมช่ อี ยู่ ณ วดั ศริ พิ งษธ์ รรมนมิ ติ แมช่ ศี นั สนยี ไ์ ดร้ บั มอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบ
ดูแลศูนย์เด็กเล็กของวัด ซ่ึงปัจจุบันคือ ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต
หลังจากบวชเรียน ศกึ ษา และปฏิบตั ธิ รรมอยา่ งจรงิ จงั ก็พบว่า ธรรมะของพระพทุ ธ
ศาสนาสามารถแกไ้ ขปญั หาความทกุ ขใ์ นชวี ติ ไดจ้ รงิ สมตามคำ� สอนของอปุ ชั ฌายว์ า่
“ถา้ มีปญั ญาสมบตั ิ ก็ไม่เปน็ ทุกข์”
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 19
ผูน้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ใน พ.ศ. ๒๕๓๐ แม่ชีศันสนีย์จึงได้สร้าง
“เสถยี รธรรมสถาน” บนพน้ื ที่ ๑๔ ไร่ ทถ่ี นนวชั รพล
เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ใกล้กบั วัดศิริพงษ-์
ธรรมนิมติ มีนายเสถียร เสถยี รสุต เป็นผอู้ ปุ ถัมภ์
คนสำ� คญั ในการกอ่ ตงั้ “กองทนุ เสถยี รธรรม” หรอื
“มลู นธิ ิเสถียรธรรมสถาน” ในปัจจุบัน เพ่อื ใชใ้ น
การดำ� เนนิ งานของเสถียรธรรมสถาน อนั เปน็ ชื่อท่ี
สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (อาจ อาสภะ) ผเู้ ปน็ อาจารย์
ของพระครูภาวนาภิธานตั้งให้ มีความหมายว่า
สถานท่ีที่มีธรรมอันยั่งยืน เสถียรธรรมสถาน
มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการสง่ เสรมิ การศกึ ษาธรรม ปฏบิ ตั ธิ รรม และเผยแผธ่ รรม เปน็ ชมุ ชน
แหง่ การเรยี นรู้ทจ่ี ะอยู่ร่วมกนั อยา่ งศานตโิ ดยใช้หลกั พทุ ธธรรมนำ� สงั คม โดยเฉพาะ
เด็ก สตรี และนักบวชหญิง เพื่อแบ่งปันความสขุ ความสงบร่มเยน็ แก่เพอื่ นมนษุ ย์
อาณาบริเวณอันกว้างขวางของเสถียรธรรมสถานจึงร่มร่ืนด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
มีส่ิงก่อสร้างส�ำคัญ อาทิ ลานโพธ์ิ ธรรมศาลา ธรรมาศรม ถ้�ำนิพพานชิมลอง๑
อาคารมหาสมทุ รแหง่ ปญั ญา๒ พระมหาเจดยี พ์ ระอารยตารามหาโพธสิ ตั วห์ มน่ื พระองค์
ถ้�ำพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ และรูปหล่อพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ซึ่งเป็น
พระโพธสิ ตั วใ์ นรา่ งสตรขี องพระพทุ ธศาสนานกิ ายวชั รยาน เพอ่ื รำ� ลกึ ถงึ พระคณุ ของ
พระพทุ ธเจา้ ทท่ี รงทำ� งานรบั ใชม้ วลมนษุ ยชาตดิ ว้ ยหวั ใจโพธสิ ตั ว์ เปน็ รปู หลอ่ ขนาดใหญ่
หน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร สูง ๒๑ เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ในการท�ำงานของ
เสถยี รธรรมสถานทใ่ี ชค้ ณุ ธรรมในการทำ� งานชว่ ยผคู้ นตามคณุ ธรรมของพระโพธสิ ตั ว์
๑ “นิพพานชิมลอง” เปน็ ปริศนาธรรมในการเขา้ ถงึ พระนิพพาน เสมือนการชิมหรือลองสนิ ค้า
ดูก่อนตอ่ เม่ือถกู ใจจึงซ้ือ ลักษณะอาคาร รูปคลา้ ยอโุ มงค์ พนื้ ลาดทรายสำ� หรบั นั่งสมาธิ
๒ อาคารภายในมีสระน้�ำส�ำหรับผู้ฝึกโยคะสมาธิแล้ว ให้นอนลอยตัวในน้�ำฟังคลื่นเสียงบ�ำบัด
เพ่อื ปรบั โมเลกุลน้�ำในร่างกาย
20 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
คอื ไม่มคี วามถือตัว ไม่มคี วามอิจฉาริษยา ไม่มคี วามเหน็ ทีผ่ ดิ ไมม่ คี วามโลภ ไมม่ ี
ความยึดม่ันถอื มัน่ และไม่มคี วามยึดตดิ
นับแตแ่ รกกอ่ ต้ังเสถยี รธรรมสถานมาเป็นเวลารว่ ม ๔ ทศวรรษ แม่ชีศนั สนีย์
ไดใ้ ช้นวัตกรรมและเทคโนโลยกี ารสื่อสารแบบต่าง ๆ ในการเผยแผ่หลกั ธรรมของ
พระพทุ ธศาสนาผา่ นโครงการตา่ ง ๆ ของเสถยี รธรรมสถานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทงั้ ในระดบั
สงั คม ระดบั ชาติ และระดบั โลก เป็นจ�ำนวนมาก อาทิ โรงเรียนพอ่ แม่ จิตประภัสสร
ตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ ศิลปะการพัฒนาชีวิตด้วยอานาปานสติภาวนา บวชพุทธ
สาวกิ าศีล ๑๐ ธรรมชาติบ�ำบัด การเยยี วยาผ้ปู ว่ ยระยะสดุ ทา้ ย อารยตาราภาวนา
วิชชาลัย สาวิกาสิขาลัย โครงการเยาวชน บ่มเพาะ แตกหน่อ ต่อยอดเมล็ดพันธุ์
แหง่ ปัญญา (Seeds of Spirituality: SOS) ; International Tara Awards รางวัล
ส�ำหรับคนปลุกสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์ ; ISV Club (International Spiritual
Volunteer Club) ; CSV Club (Community Spiritual Volunteer Club)
โครงการสำ� คญั ซงึ่ เปน็ ผลงานชน้ิ สดุ ทา้ ยของแมช่ ศี นั สนยี ์ คอื การสรา้ งเสถยี รธรรม-
สถาน ๒ หรือหุบเขาโพธิสัตว์ ทีอ่ ำ� เภอแก่งกระจาน จงั หวัดเพชรบรุ ี เพอ่ื ถวายเป็น
พุทธบูชาและเผยแผ่ธรรมะออกสู่ภูมิภาค เหล่านี้ล้วนเป็นผลงานที่กระท�ำด้วย
เจตนารมณอ์ นั มนั่ คงในการใชธ้ รรมะสอนคนให้พน้ ทกุ ข์อย่างยงั่ ยนื มคี วามแข็งแรง
มีการตระหนักรู้ในวิถีชีวิตและวิถีธรรม ส่งเสริมการเป็นมรดกธรรม-มรดกโลก
ดว้ ยมรดกกรรม
ผู้แสดงใหเ้ ปน็ ท่ีประจักษ์วา่ การสอนธรรมะนั้น
สามารถใช้นวัตกรรมเสรมิ สรา้ งการเรยี นรู้
ทจ่ี ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งศานติ แกส่ งั คม ประเทศชาติ
และโลกได้ ท้ังในวิถีธรรมและวถิ ีชวี ติ ของคนรุน่ ใหม่
ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 21
ผูน้ �ำในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
นอกจากการบรรยายธรรมทเ่ี สถยี รธรรมสถาน การบรรยายผา่ นสอื่ ออนไลน์
ตา่ ง ๆ ตลอดจนการเขยี นหนงั สอื ธรรมะหลายเลม่ แมช่ ศี นั สนยี ไ์ ดใ้ ชน้ วตั กรรมตา่ ง ๆ
ในการนำ� หลกั ธรรมเขา้ สวู่ ถิ ชี วี ติ ของคนรนุ่ ใหม่ ดว้ ยการสอนใหด้ ำ� เนนิ ชวี ติ ทเี่ รยี บงา่ ย
พ่ึงพาตนเอง วธิ ีบริหารความรู้สกึ อารมณ์ และจติ ใจด้วยมมุ มองในชีวิตทป่ี ล่อยวาง
จากทกุ ข์ อารมณ์โกรธ และไมย่ ึดตดิ การอย่ใู หเ้ ยน็ และเป็นประโยชน์ การเปน็ ผู้ให้
เปน็ ผรู้ บั ใช้ และเมอ่ื หมดสงสยั กห็ มดทกุ ข์ ผลงานสรา้ งสรรคท์ ส่ี ำ� คญั ของแมช่ ศี นั สนยี ์
ผผู้ ดงุ บทบาทของแมช่ ไี ทยและแสดงใหเ้ ปน็ ทปี่ ระจกั ษว์ า่ การสอนธรรมะนน้ั สามารถ
ใชน้ วตั กรรมเสรมิ สรา้ งการเรยี นรทู้ จี่ ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งศานติ แกส่ งั คม ประเทศชาติ
และโลกได้ ทงั้ ในวถิ ีธรรมและวิถชี ีวิตของคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างเชน่
มูลนิธิเสถียรธรรมสถาน เดิมคือกองทุนเสถียรธรรม มีนายเสถียร
เสถยี รสตุ เปน็ ประธาน แมช่ ศี นั สนยี เ์ ปน็ ผอู้ ำ� นวยการ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เผยแผธ่ รรมะ
แก่เพ่ือนมนุษย์ ทั้งเด็ก หนุ่มสาว และผู้ใหญ่ ให้ได้รับความสงบเย็นและผ่องใส
เบกิ บาน ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ โครงการศิลปะการพัฒนาชีวติ ดว้ ยอานาปานสติ
ภาวนา แกผ่ ูส้ นใจทั้งทเี่ ปน็ ผู้สูงวัย ครูอาจารย์ นักเรียนนกั ศึกษา และนักบวชสตรี
โครงการคา่ ยโลกสวยดว้ ยพระธรรม เพอื่ อบรมเยาวชนใหร้ จู้ กั และเขา้ ใจการพฒั นา
22 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
ตนเองอย่างสร้างสรรค์ โครงการบ้านสายสัมพันธ์ เพ่ือสร้างสายใยแห่งความรัก
ความอาทรอย่างอบอุ่นระหว่างแม่กับลูก และยังร่วมกับศูนย์เด็กเล็กก่อนเกณฑ์
วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต (บ้านเรียนแห่งรักและศานติ) ซึ่งเป็นสถานที่เล้ียงเด็กเล็ก
ในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาโดยใช้หลักพุทธธรรมฝึกสมาธิ ปัญญา และ
ปลูกฝงั คณุ ธรรม
สาวิกาสิขาลัย ก่อต้ังเม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นมหาวิชชาลัยธรรมะ
เพ่ือเยียวยาสังคม มุ่งส่งเสริมคนให้เป็นอริยชนที่รู้จักใช้ปัญญาในการด�ำเนินชีวิต
เพอื่ เปลย่ี นจากการเปน็ ทกุ ขไ์ ปสกู่ ารเหน็ ทกุ ข์ ดำ� เนนิ ชวี ติ ตามหลกั พทุ ธธรรมอยา่ งผรู้ ู้
ผู้ต่ืน ผู้เบิกบาน โดยจัดกระบวนการศึกษาเรียนรู้เพื่อการบรรลุธรรมในระดับ
ปริญญาตรแี ละปริญญาโท
ธรรมาศรม (Mindfulness Hospital) กอ่ ตงั้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๖๐ เปน็ อาศรม
ส�ำหรับผู้ปฏิบตั ธิ รรมในระยะยาว ด�ำเนนิ งานโดยใชน้ วัตกรรมในการฉดุ ชว่ ยให้คน
ทกุ ชว่ งวยั อยอู่ ยา่ งมคี วามหมาย ตายอยา่ งมคี ณุ คา่ ดว้ ยหลกั พทุ ธธรรมตง้ั แตเ่ กดิ แก่
เจบ็ ตาย คอื เกดิ อยา่ งมสี ตปิ ญั ญา แกอ่ ยา่ งเหน็ คณุ คา่ ในตวั เอง เจบ็ อยา่ งไมห่ วน่ั กลวั
ต่ออันตราย และตายอย่างกล้าคืนไม่ฝืนไว้ ยอมรับการจากพรากจากส่ิงท่ีรัก
เพราะได้บริหารเวลาอยา่ งประเสริฐสุดแล้วในขณะทม่ี กี นั และกัน
เสถยี รธรรมสถาน ๒ หรือหุบเขาโพธิสัตว์ ต้งั อยูท่ ี่อำ� เภอแกง่ กระจาน
จงั หวดั เพชรบรุ ี ลกั ษณะพนื้ ทเ่ี ปน็ หบุ เขาซง่ึ ไดร้ บั บรจิ าคทดี่ นิ จากครอบครวั นางบญุ เกอื้
ยศสิงห์ พันต�ำรวจเอก สุพฤกษ์และนางเรืองศรี สุขประเสริฐ และนางชัญญา
เศรษฐบตุ ร ได้พัฒนาให้เปน็ พื้นทท่ี เี่ ออื้ ตอ่ การบ�ำเพญ็ ภาวนาเปน็ สัปปายะ ภายใต้
แนวคดิ ปลกู ปา่ ปลกู ชวี ติ ปลกู หวั ใจโพธสิ ตั ว์ ถวายเปน็ พทุ ธบชู าแกพ่ ระอารยตารา
มหาโพธิสัตว์ โดยเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ถอดองค์ความรู้มาจากเสถียรธรรมสถาน คือ
หลกั ๕ ธรรม ๕ ทำ� ประกอบดว้ ย ธรรมทายาท จติ อาสาหวั ใจโพธสิ ตั ว์ นำ� หลกั ธรรม
บรู ณาการกบั ความร้ตู ่าง ๆ ไปปฏบิ ัติในชวี ิตประจ�ำวัน ธรรมเยยี วยา นำ� หลกั ธรรม
มาปรับปรุงให้เป็นโครงการหรือหลักสูตรท่ีเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มวัย ธรรมนิเวศ
ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 23
ผูน้ �ำในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ท�ำส่ิงแวดล้อมให้ส่งเสริมการเรียนรู้และการบรรลุธรรม ธรรมชาติบ�ำบัด วิถีของ
การกนิ อยทู่ ไี่ มเ่ บยี ดเบยี นและพงึ่ พาตนเอง ประการสดุ ทา้ ย คอื ธรรมนเิ ทศ การสอื่ สาร
ทุกรปู แบบทส่ี อนใหเ้ ห็นจรงิ นำ� ไปปฏบิ ัติได้จรงิ
การจดั ฟน้ื ฟจู ติ ใจบคุ ลากรทางการแพทยผ์ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในสถานการณ์
โควิด-๑๙ เปน็ โครงการร่วมกบั กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข น�ำบุคลากร
ทางการแพทย์และสาธารณสุขท่ีต้อง
ท�ำงานหนักต่อเนื่องกันเป็นเวลาร่วม
๒ ปี นับแต่เร่ิมมีการแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (โควดิ -๑๙)
ในประเทศไทย ต้ังแต่ต้น พ.ศ. ๒๕๖๓
ม า ฝ ึ ก อ บ ร ม เ ยี ย ว ย า ท า ง จิ ต ใ จ แ บ บ
Spiritual Therapy น�ำความคิดเห็น
ด้านสาธารณสุขมาใช้ร่วมกับธรรมะ
เพื่อให้รู้แจ้งด้วยกระบวนการฟื้นฟูจิตใจ
แทนค�ำปลอบโยน ท�ำเป็นหลักสูตร
“ศลิ ปะการใชช้ วี ติ ดว้ ยลมหายใจแหง่ สต”ิ
เพอ่ื พฒั นาความเขม้ แขง็ ทางจิตใจให้มีพลังและความหวัง ท่ีจะฝ่าข้ามวิกฤตไปได้
อยา่ งมสี ขุ ภาวะ และเปน็ หลกั สตู รตน้ แบบเพอื่ พฒั นาสกู่ ารเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพจติ ทด่ี ี
ส�ำหรบั ประชาชนทัว่ ไปในวงกว้าง ดว้ ยการจัดธรรมาศรมในเสถียรธรรมสถานเปน็
โรงพยาบาลแหง่ จติ ใจและสตปิ ญั ญา (Mindfulness Hospital) ออกแบบสภาพแวดลอ้ ม
โดยใชอ้ ายตนะทงั้ รปู รส กลน่ิ เสยี ง โผฏฐพั พะ และธรรมารมณ์ ใหบ้ คุ ลากรทางการแพทย์
และสาธารณสขุ ทต่ี อ้ งแบกรบั ความเครยี ด ความวติ กกงั วล สามารถละวาง ปลดปลอ่ ย
ขจัดความกลัว หยั่งรู้เท่าทันอวิชชา และเปลี่ยนวธิ ีคิดตามหลัก “หัวใจโพธสิ ตั ว์”
หลักคิดด้วยหัวใจโพธิสัตว์ เป็นหลักคิดที่แม่ชีศันสนีย์ได้น�ำออกเผยแพร่
ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
24 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
ซง่ึ ประชาชนทกุ คนไดร้ บั ผลกระทบโดยทว่ั กนั หลกั คดิ ดว้ ยหวั ใจโพธสิ ตั ว์ มี ๓ ประการ
คอื (๑) ยอมตนใหค้ นใช้ (๒) ฝกึ ตนเพ่อื ใชค้ น และ (๓) ไม่รอใหใ้ ครใช้ เพื่อนำ� ไปสู่
ความสขุ ๓ ขั้น คือ (๑) สขุ ง่าย ๆ จากการใช้ให้น้อยลง (๒) สุขเมอ่ื สร้าง ไมใ่ ช่สขุ
เม่ือเสพ และ (๓) สุขเม่ือให้ รบั ใชก้ ันทางสติปญั ญามากข้นึ ท้ังนี้ เพราะแมช่ ศี นั สนยี ์
คาดว่าหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
(โควดิ -๑๙) คลค่ี ลายแลว้ โลกจะมีนกั ทอ่ งเทีย่ วในลักษณะการท่องเทีย่ วทางจิตใจ
(Spiritual Tourists) เพ่มิ ขนึ้ นักทอ่ งเท่ยี วเหล่าน้จี ะตอ้ งการสงิ่ ทด่ี ตี ่อเขาในมติ ิ
ด้านจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสุขภาพ การภาวนา การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
มิตรภาพ การเกอื้ กลู ดแู ล การเคารพในความแตกต่าง ซึ่งสิง่ เหล่าน้ีมีพรอ้ มอย่แู ล้ว
ในพระพทุ ธศาสนา และเปน็ เอกลักษณข์ องประชาชนชาวไทยทกุ คน
เกียรติคุณท่ีแม่ชีศันสนีย์ได้รับการยกย่องจากการท�ำงานในระดับประเทศ
และระดบั โลก อาทิ
พทุ ธศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวชิ าธรรมนเิ ทศ จากมหาวิทยาลยั
มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย
พยาบาลศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ กิตติมศกั ด์ิ จากมหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ สาขาวิชาการจัดการการเรียนรู้ จากมหาวิทยาลัย
ราชภฏั พระนครศรีอยธุ ยา
รางวัล Spiritual Leadership Award ในฐานะผู้น�ำทางจิตวิญญาณ
ในการยุตคิ วามรุนแรงในเด็กและสตรี จาก The Living Wellness Foundation
พร้อมกบั ผู้ไดร้ ับรางวัลทา่ นอ่นื ๆ เชน่ องค์ทะไลลามะ และ Ashley Judd
นอกจากน้ี แม่ชีศันสนีย์ยังได้รับแต่งต้ังให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการ
อ�ำนวยการความร่วมมือสร้างคนดีให้มีคุณธรรมโดยธรรมะ เพ่ือชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ ภาคเี ครือข่ายของวดั เทพศิรนิ ทราวาส กรงุ เทพมหานคร
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 25
ผูน้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ในบน้ั ปลายของชวี ติ แมช่ ศี นั สนียเ์ รมิ่ ปว่ ยดว้ ยโรคมะเรง็ ทีก่ ระเพาะอาหาร
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้รับการรักษาพยาบาลจนสามารถควบคุมอาการของโรคได้
ต่อมากลางปี พ.ศ. ๒๕๖๓ แพทยต์ รวจพบกอ้ นมะเร็งในกระเพาะอาหารอกี ครั้ง
ไดร้ บั การรกั ษาท่ีโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กรงุ เทพมหานคร ตอ่ มา
โรคมะเรง็ กำ� เริบขนึ้ อีกจนขยายขนาดลุกลามเขา้ สู่ระยะสดุ ทา้ ย ผดู้ แู ลจงึ เลอื กเขา้ สู่
กระบวนการดูแลรักษาแบบประคับประคอง (Palliative Care) ตามเจตนารมณ์
ของแม่ชีศันสนีย์และด้วยความเห็นชอบของคณะแพทย์ จนถึงแก่กรรมอย่างสงบ
ณ เสถียรธรรมสถาน เมอ่ื วนั ท่ี ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๑๘.๒๓ นาฬกิ า
สิรอิ ายุ ๖๘ ปี ๑ เดือน ๗ วนั พรรษา ๔๑
นางสาวทรงสรรค์ นิลกำ� แหง ผู้เรยี บเรยี ง
26 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
ข้อมูลอ้างอิง
๑. เอกสารขา่ ว
๑.๑ มูลนธิ เิ สถยี รธรรมสถาน. แถลงการณ์ (ฉบับที่ ๑) แจ้งความคบื หน้าอาการป่วยของ
ท่านแมช่ ีศนั สนีย์ เสถียรสตุ . ๗ ธนั วาคม ๒๕๖๔
๑.๒ มูลนิธเิ สถียรธรรมสถาน. แถลงการณ์ (ฉบบั ท่ี ๒) แจง้ ขา่ วการคนื สธู่ รรมชาตขิ อง
ทา่ นแมช่ ีศนั สนีย์ เสถียรสุต ผกู้ ่อตง้ั เสถียรธรรมสถาน. ๗ ธันวาคม ๒๕๖๔
๑.๓ มูลนิธิเสถยี รธรรมสถาน. ก�ำหนดการเคารพกายสงั ขารท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต.
๑๔ ธนั วาคม ๒๕๖๔
๒. หนงั สือพมิ พ์
๒.๑ ขา่ วสด. ฉบับวนั ท่ี ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒, ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๖๒, ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔.
๒.๒ เดลนิ ิวส.์ ฉบบั วนั ท่ี ๘, ๙, ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔.
๒.๓ ไทยรฐั . ฉบับวันที่ ๑๖ ตลุ าคม ๒๕๖๔, ๑๐, ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๔.
๒.๔ ไทยโพสต.์ ฉบบั วนั ท่ี ๘ ธนั วาคม ๒๕๖๔.
๒.๕ แนวหนา้ . ฉบบั วันที่ ๑๐ มถิ ุนายน ๒๕๖๔.
๒.๖ ผ้จู ัดการรายวัน ๓๖๐°. ฉบับวนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓, ๘, ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔.
๓. เว็บไซต์
๓.๑ https://www.amarintv.com/news/detail/111317, 111330.
๓.๒ https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/976150.
๓.๓ https://komchadluek.net/news/495958.
๓.๔ https://www.pptvhd36.com/news/สงั คม/162063
๓.๕ https://www.sdsweb.org
๓.๖ เพจเฟซบุ๊ก “เสถียรธรรมสถาน Sathira Dhammasathan”
ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 27
ผูน้ ำ� ในการเผยแผพ่ ระพุ ทธศาสนา
ครูภูมิปัญญาไทย
28 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
นายเต็ม พงษพ์ รหม
พ.ศ. ๒๔๖๘–๒๕๕๓
นายเต็ม พงษ์พรหม เกิดเม่ือวันท่ี ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘
ณ บา้ นเลขท่ี ๕๗ หมูท่ ่ี ๑๐ ตำ� บลเขาสมอคอน อำ� เภอทา่ วุง้ จงั หวดั ลพบุรี
เป็นบุตรคนโตของนายทองใบ และนางเตมิ พงษพ์ รหม มีนอ้ ง ๕ คน คอื
นางสาวตอ่ ม นางสาวละมอ่ ม นายลำ� พู (ทงั้ ๓ คน ถงึ แกก่ รรม) นางละมูล
สวา่ งแสง และนางสาวศรีนวล พงษ์พรหม
ครูภูมปิ ัญญาไทย
นายเตม็ จบการศึกษาในช้นั ประถมปที ี่ ๔ ที่โรงเรียนสมอคอน อำ� เภอท่าว้งุ
จงั หวัดลพบรุ ี เมือ่ พ.ศ. ๒๔๗๙ และไม่ได้ศึกษาต่อเนือ่ งจากต้องไปชว่ ยครอบครวั
ประกอบอาชพี เกษตรกรรมทำ� นาเปน็ หลกั จงึ ตอ้ งทำ� งานหนกั ตงั้ แตเ่ ยาวว์ ยั แตด่ ว้ ย
เปน็ ผมู้ คี วามรกั ดา้ นดนตรไี ทย จงึ ไดไ้ ปเรยี นปพ่ี าทยก์ บั ครบู ญุ ชู พมุ่ พวง ทบ่ี า้ นทา้ ยไลย์
หมู่ท่ี ๑๐ ต�ำบลเขาสมอคอน อ�ำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ต้ังแต่อายุเพียง ๙ ขวบ
เมอื่ เรยี นไดป้ ระมาณ ๔ ปี กส็ ามารถท�ำปพ่ี าทย์เลน่ โขนและลเิ กได้ หลังจากนัน้
จงึ ไปเรยี นเพลงเดยี่ วกบั ครพู นู พานทอง ครสู ขุ ชดิ ชอบ ครซู อ้ น บญุ รอด นอกจากน้ี
ยงั ไดไ้ ปเรียนเครอื่ งหนงั กับครเู สนาะ อ�่ำสำ� ราญ อีกดว้ ย
นายเต็มได้ประกอบอาชีพท�ำนาและเล่นดนตรีปี่พาทย์ในบางโอกาส
โดยในระยะแรกนายเตม็ ไดไ้ ปยมื วงปพ่ี าทยข์ องวดั ไลย์ ตำ� บลเขาสมอคอน อำ� เภอทา่ วงุ้
มาเล่นตั้งแต่สมัยที่ลูกสาวคนโตซ่ึงเกิดเม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๑ ยังไม่เกิด ต่อมาได้ซื้อ
วงปพ่ี าทยเ์ ปน็ ของตนเอง อยา่ งไรกต็ าม กอ่ นนำ� เครอ่ื งดนตรปี พ่ี าทยไ์ ปคนื ใหว้ ดั ไลย์
ก็ไดข้ ดั สฉี วีวรรณและทาสใี ห้เหมอื นของใหม่
30 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
ผู้สอนและถ่ายทอดดนตรีป่ี พาทย์ให้แก่เด็ก เยาวชน
และประชาชนโดยไม่คดิ มูลค่า
เม่ือนายเตม็ อายปุ ระมาณ ๓๐ ปี ได้พจิ ารณาเหน็ ว่าแมว้ ่าสังคมไดพ้ ัฒนา
และเปลี่ยนแปลงไปมากก็ตาม แต่โดยท่ีดนตรีไทยเป็นเอกลักษณ์ประจ�ำชาติและ
เปน็ แบบฉบบั ของคนไทย สมควรถา่ ยทอดใหก้ บั คนรนุ่ หลงั ไดเ้ รยี นรเู้ พอ่ื ดำ� รงรกั ษา
ศลิ ปะนไ้ี วใ้ หค้ งอยคู่ ชู่ าตไิ ทยตลอดไป จงึ เรม่ิ สอนดนตรไี ทย (ปพ่ี าทย)์ ณ บา้ นเลขท่ี ๕๕
หมทู่ ี่ ๘ ตำ� บลบา้ นชี อำ� เภอบา้ นหม่ี จงั หวดั ลพบรุ ี โดยสอนลกู หลานของตนเองกอ่ น
จนเลน่ ดนตรไี ทยไดท้ กุ คน ตอ่ มากม็ เี ดก็ และเยาวชนบา้ นใกลเ้ รอื นเคยี งสนใจขอเรยี น
ปพ่ี าทยก์ นั มากขน้ึ นายเตม็ กส็ อนใหเ้ ปน็ วทิ ยาทานโดยไมค่ ดิ คา่ สอน แตป่ ระการใด
ในการสอนดนตรีให้ลูกหลานนน้ั นางกฏั ฐกัญญา เดชชนาพรสิทธ์ิ บุตรคน
สุดท้อง อดีตหัวหน้าหมวดศิลปศึกษา โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
ซ่ึงรับผิดชอบงานดนตรีไทย อังกะลุง นาฏศิลป์ และวาดภาพ ได้ให้ข้อมูลว่า
กอ่ นการเรยี นตอ้ งทำ� พธิ ไี หวค้ รกู อ่ นแลว้ จงึ สอน สว่ นในการไหวค้ รนู น้ั นายเตม็ ใหเ้ รมิ่
ในวันพฤหสั บดซี ึง่ เปน็ วนั ครู ด้วยการใหน้ �ำพานดอกไม้ ธูป ๓ ดอก เทยี น ๑ เลม่
เงิน ๖ บาท เป็นค่ากำ� นล๑ บูชาครู มามอบให้นายเตม็ เพื่อไหวค้ รแู ละมอบตวั
เปน็ ศษิ ย์ พร้อมทงั้ กล่าวถงึ การสอนของนายเต็มว่า
๑ น. เงินคา่ ค�ำนับครู เงินค�ำนบั บชู าครปู พ่ี าทย์ คอื พระประคนธรรพ หรอื พระนารท ซึ่งถือว่า
เปน็ ครูเดมิ ของตน มีเทยี นสำ� หรับจุดทต่ี ะโพนด้วย
ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 31
ครูภมู ปิ ัญญาไทย
“...การตอ่ เพลงตามแบบของพ่อเตม็ นนั้ เปน็ การตีให้ดูหรือฟังก่อน แลว้ ให้
ลูกศิษย์ตีตาม ในขณะท่พี อ่ เต็มตีเครอ่ื งอยูด่ ้วย แต่ถา้ พอ่ เตม็ ไม่ไดต้ ีเคร่ืองอยู่ด้วย
พ่อเต็มก็บอกหรือออกเสียงเป็นท�ำนองเพลงให้ตรงเสียงเคร่ืองท่ีเราตีอยู่ด้วย เช่น
ท�ำนองเพลง /- - - ล /- ด ด ด /- - - ร /- ด ด ด / เป็นตน้ พ่อเต็ม
ก็ออกเสียง /- - - ถง่ /-ติงนังแนง/- - -แต๊ง/-ติงนงั แนง/ แล้วศษิ ยก์ ต็ ตี าม...”
นายสมบตั ิ นชิ เปย่ี ม ครชู ำ� นาญการพเิ ศษ โรงเรยี นพบิ ลู วทิ ยาลยั จงั หวดั ลพบรุ ี
ลกู ศษิ ยค์ นหนงึ่ ไดก้ ลา่ วเสรมิ วา่ “...ทา่ นมวี ธิ กี ารถา่ ยทอดโดยยดึ หลกั พอ่ สอนลกู
โดยใชเ้ วลาในการถา่ ยทอดชว่ งเชา้ และเยน็ หลงั จากทล่ี กู ศษิ ยเ์ สรจ็ จากภารกจิ ในเรอื่ ง
การเรียนและภาระงานของครอบครัว หลักการต่อเพลงของท่าน ท่านใช้ลักษณะ
การต่อเพลงแบบโบราณ เน้นความแม่นย�ำในการจ�ำเสียงแทนการจ�ำตัวโน้ต
เครื่องดนตรไี ทยทีล่ ูกศษิ ยท์ ุกคนตอ้ งฝึกเป็นเครอื่ งแรก คอื ฆอ้ งวงใหญ่ โดยฝึกจาก
เพลงสาธกุ ารเรื่อยไปจนจบชุดโหมโรงเยน็ ...”
การสอนดนตรขี องนายเตม็ ทำ� ใหเ้ ยาวชนมวี ชิ าความรตู้ ดิ ตวั และไดใ้ ชเ้ วลาวา่ ง
ใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละหา่ งไกลสิง่ เสพติด ผลงานการสอนเป็นที่ประจกั ษแ์ ละยอมรบั
ของคนในหมู่บา้ น ต�ำบล อ�ำเภอ และจงั หวัดเปน็ อย่างดี
นอกจากเดก็ และเยาวชนแลว้ นายเตม็ ยังได้สอนใหป้ ระชาชนท่วั ไปทส่ี นใจ
เรยี นดนตรีเพื่อน�ำไปประกอบอาชพี เปน็ จำ� นวนมาก ลูกศษิ ย์บางคนใชว้ ิชาป่พี าทย์
ไปสอบเขา้ ศึกษาต่อในโรงเรยี นมธั ยมศกึ ษา สถาบันราชภฏั (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั
ในปจั จบุ ัน) หรือวิทยาลัยนาฏศิลปดว้ ย
นายเตม็ เปน็ คนขยนั มงุ่ มนั่ ในการถา่ ยทอดดนตรไี ทยจนทำ� ใหล้ กู ศษิ ยม์ คี วามรู้
ความสามารถในการเลน่ ดนตรไี ดด้ แี ละเกง่ ลกู ศษิ ยท์ กุ คนรกั และซาบซง้ึ ในดนตรไี ทย
และไดร้ ซู้ ง้ึ ถงึ ประโยชน์ของดนตรไี ทย
นอกจากสอนดนตรีไทยท่ีบ้านแล้ว เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ นายเต็มไดร้ ับเชิญจาก
โรงเรียนบ้านชวี ทิ ยา ต�ำบลบา้ นชี อ�ำเภอบ้านหมี่ ให้เปน็ วทิ ยากรภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น
สอนป่ีพาทยใ์ หแ้ ก่นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไปในชุมชนในวันเสารแ์ ละ
อาทติ ย์โดยไดร้ ับคา่ สอนบ้างเลก็ น้อย จนกระทั่งถึงแก่กรรม
32 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
เพอ่ื เสรมิ ความชำ� นาญใหล้ กู ศษิ ย์ นายเตม็ ไดน้ ำ� ลกู ศษิ ยซ์ งึ่ เปน็ เดก็ และเยาวชน
ทเ่ี ลน่ ดนตรเี กง่ ไปแสดงตามงานตา่ ง ๆ ของชมุ ชน โดยไดร้ บั คา่ ตอบแทนดว้ ย พรอ้ ม ๆ กบั
การสอนศษิ ยใ์ นหลาย ๆ เรอ่ื ง โดยนายเตม็ ไดเ้ นน้ ยำ�้ วา่ ดนตรไี ทยสอนใหม้ ปี ระสบการณ์
ในหลาย ๆ อย่าง ทัง้ มารยาท ผ้คู น สถานที่ และแม้กระทงั่ เรื่องอาหารการกิน
นายสุชาติ นิชเป่ยี ม ครูชำ� นาญการพเิ ศษ โรงเรยี นบรรพตพิสยั พิทยาคม
จงั หวดั นครสวรรค์ ลกู ศษิ ยค์ นหนง่ึ ของนายเตม็ ไดใ้ หข้ อ้ มลู วา่ “ขา้ พเจา้ ไดไ้ ปบรรเลง
ดนตรีไทยกับครูเต็มตอนก�ำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษา สนุกกับการได้เล่น
ดนตรีไทย เพราะนอกจากได้เล่นดนตรีไทยตามงานต่าง ๆ แล้ว ข้าพเจ้ายังได้
กนิ อาหารทไ่ี มเ่ คยไดก้ นิ นอกจากไดไ้ ปสถานทต่ี า่ ง ๆ ทไ่ี มเ่ คยไปแลว้ ยงั ไดเ้ งนิ กนิ ขนม
อกี ดว้ ย โดยไดเ้ งนิ คา่ ตอบแทนงานละ ๕ บาท เงนิ ทไ่ี ดเ้ ปน็ เพยี งองคป์ ระกอบเทา่ นนั้
แตท่ ่ีข้าพเจ้าไดร้ บั คอื ไดก้ ิน ไดเ้ ท่ียว ไดฝ้ กึ ความอดทนในการขนเคร่ืองดนตรีไทย
สมยั นนั้ ไมม่ รี ถยนตม์ าบรรทกุ เครอ่ื งดนตรี ไปงานตอ้ งแบกเครอ่ื งดนตรซี ง่ึ หนกั มาก
และระยะทางก็ไกลด้วย แบกไกลสุดประมาณ ๓ กิโลเมตร ซึ่งต้องเดินด้วยเท้า
ถ้างานไหนอยู่ใกล้แม่น�้ำก็ขนเครื่องดนตรีลงเรือไป งานไหนท่ีมีวันเดียว เช่น
เทศน์มหาชาติ ก็ไดร้ ับค่าแรง ๕ บาท ถ้าเปน็ งานบวชคอื เล่น ๒ วัน กบั ๑ คนื กไ็ ด้
ค่าแรง ๘ บาท งานศพบางงาน ๗ วนั ๗ คนื ได้ ๒๐ บาท ดีใจมาก สมัยน้นั
๒๐ บาท ถือว่าเยอะมาก”
ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 33
ครูภูมปิ ัญญาไทย
ดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วแลว้ วา่ นายเตม็ ไมไ่ ดส้ อนดนตรเี พยี งอยา่ งเดยี ว แตไ่ ดส้ อนใหศ้ ษิ ย์
มมี ารยาทและมจี ติ สาธารณะดว้ ย นายสชุ าติ นชิ เปย่ี ม ไดก้ ลา่ ววา่ “...ครเู ตม็ จะสอน
ให้กินพร้อม ๆ กัน เมื่อกินอาหารคาวอิ่มแล้วต้องรอกินของหวานพร้อม ๆ กัน
เมอ่ื กินหวานเสร็จแลว้ ต้องนง่ั อยู่ก่อน รอลุกพร้อม ๆ กนั หา้ มลกุ กอ่ น ครบู อกว่า
ถ้าลกุ ก่อน คนที่ยงั ไมอ่ ิม่ อาจอายไดเ้ พราะกลัวถูกต่อว่าวา่ กินตะกละ ครูเต็มเนน้ วา่
นักดนตรีเปน็ ผู้มีเกยี รติ ไปงานไหนกม็ ีคนคอยต้อนรบั เวลากินกม็ คี นหาให้กนิ ...”
นายสมบตั ิ นชิ เปยี่ ม ไดก้ ล่าวในเรอื่ งการสอนใหม้ ีจิตสาธารณะวา่ “...นอกจาก
การให้ความรู้ทางด้านดนตรีไทยแล้ว ท่านยังสอนให้ลูกศิษย์มีจิตสาธารณะท่ีดี
ตอ่ ผอู้ น่ื โดยการจดั เวรในการทำ� ความสะอาด ดแู ลเครอื่ งดนตรไี ทย สถานทฝี่ กึ ซอ้ ม
รวมถึงดูแลเรอ่ื งการบรโิ ภค (นำ้� ด่ืม) เสมือนกบั เปน็ บา้ นของตนเอง...”
ลกู ศษิ ยข์ องนายเตม็ ไดใ้ ชว้ ชิ าดนตรที ไี่ ดร้ บั การถา่ ยทอดไปใชใ้ นการประกอบ
สัมมาชีพ เป็นอาชพี เสริม และเปน็ คร–ู อาจารยส์ อนดนตรีไทยตาโรงเรยี นต่าง ๆ
โดยได้น�ำหลักการสอนของนายเต็มไปใช้ด้วย นับได้ว่าลูกศิษย์หลายคนได้ประสบ
ความสำ� เรจ็ ในชวี ติ ซง่ึ เปน็ เรอื่ งทน่ี า่ ชนื่ ชม นายสมบตั ิ นชิ เปย่ี ม ไดก้ ลา่ วในเรอื่ งนวี้ า่
“...หลักการสอนของท่าน ข้าพเจ้าน�ำไปใช้ถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์ของข้าพเจ้าเอง
จนสามารถปฏิบัติดนตรีไทยได้ช�ำนาญและสามารถน�ำความรู้ทางดนตรีไทย
ไปตอ่ ยอดเพอ่ื ศึกษาต่อในระดับที่สงู ขนึ้ ...”
34 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
นอกจากการสอนและถ่ายทอดดนตรีไทยแล้ว นายเต็มยังน�ำวงปี่พาทย์
ไปบรรเลงชว่ ยงานและรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ เชน่ งานประจำ� ปวี ดั ไลย์ ตำ� บลเขาสมอคอน
เปน็ ผอู้ า่ นโองการในพธิ ไี หวค้ รดู นตรไี ทย บรรเลงดนตรไี ทยเทดิ พระเกยี รตใิ นโอกาส
วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
๕ ธันวามหาราช ทุกปี บรรเลงดนตรีไทยวนั อนรุ ักษ์มรดกไทย ซง่ึ ตรงกบั วนั คลา้ ย
วันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี วนั ที่ ๒ เมษายนของทุกปี และงานบุญต่าง ๆ ในชมุ ชน
นายเตม็ ไดช้ ว่ ยงานราชการหลายอยา่ ง ทส่ี ำ� คญั ไดร้ บั แตง่ ตงั้ ใหเ้ ปน็ กรรมการ
ศึกษาประจ�ำต�ำบลบ้านชี อ�ำเภอบ้านหม่ี จังหวัดลพบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓
เป็นคณะกรรมการฝ่ายด�ำเนินงาน ในงานมหกรรมดนตรีไทยเทิดพระเกียรติ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช เนอื่ งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ จงั หวัดลพบุรี เป็นวิทยากรในโครงการต่าง ๆ ของ
ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 35
ครูภมู ิปัญญาไทย
สำ� นกั งานการประถมศกึ ษาจงั หวดั ลพบรุ ี (ปจั จบุ นั คอื สำ� นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา
ประถมศกึ ษาลพบรุ ี เขต ๑ และ เขต ๒) ของคณะกรรมการจดั งานมหกรรมดนตรไี ทย
จังหวัดลพบุรี เป็นวิทยากรท้องถิ่น สอนดนตรีไทยให้นักเรียนโรงเรียนบ้านชีวิทยา
ตำ� บลบา้ นชี เยาวชนและประชาชนทว่ั ไปรว่ มกจิ กรรมมหกรรมดนตรไี ทย และรว่ มแสดง
ดนตรีไทยหลาย ๆ แห่ง เช่น ร่วมแสดงดนตรีไทยมัธยมศึกษา จังหวัดลพบุรี
เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เน่ืองในโอกาส
เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ร่วมงานแสดงมหกรรมดนตรีไทย เน่ืองใน
วันอนรุ กั ษม์ รดกไทยของสำ� นกั งานสามญั ศกึ ษา จงั หวดั ลพบรุ ี รว่ มกจิ กรรมการแสดง
และเผยแพรว่ ัฒนธรรมพื้นบ้าน-ชุมชนเข้มแข็งจากเครือข่ายกองทุนชุมชนร่วมใจ
จงั หวดั ลพบรุ ี และกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของจงั หวดั ลพบรุ ี ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ลพบรุ ี
ของชมุ ชนในจังหวดั และชมรมผู้สงู อายุอีกด้วย
36 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
นายเตม็ ไดร้ บั รางวลั พอ่ ตวั อยา่ ง จงั หวดั ลพบรุ ี เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๘ ไดร้ บั รางวลั
ชนะเลศิ การประกวดวงมโหรี จากเทศบาลของดบี า้ นหม่ี อำ� เภอบา้ นหม่ี ไดร้ บั รางวลั
บุคคลดีเด่น สาขาอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทยจากชมรมพลังสังคม
อ�ำเภอบ้านหม่ี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ภูมิปัญญาอาวุโส ด้านศิลปกรรม (ดนตรีไทย)
ของเครือข่ายชมรมผู้สูงอายุ จังหวัดลพบุรี ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้รู้ภาคกลาง
สาขาศิลปะการแสดงดนตรีไทย จากส�ำนักงานกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม
ธนาคารออมสนิ นอกจากนน้ั ยงั ไดร้ บั ใบประกาศเกยี รตคิ ณุ จากสถานทต่ี า่ ง ๆ อกี ดว้ ย
เป็นตน้
เปน็ เวลามากกวา่ ๖๐ ปี ท่ีนายเต็มสอนและถา่ ยทอดดนตรีไทยและไปชว่ ย
งานตา่ ง ๆ ดว้ ยใจรกั และเต็มใจโดยไมร่ ้จู กั เหนด็ เหนื่อยหรอื เบื่อหน่าย ภูมใิ จและ
ปลื้มใจในความสำ� เรจ็ ของลกู ศษิ ย์ทุกคน
แมว้ า่ นายเตม็ ไดร้ บั การศกึ ษานอ้ ย แตม่ คี วามรู้ ความสามารถ และความชำ� นาญ
ดา้ นดนตรมี าก เปน็ ทย่ี อมรบั ของชมุ ชน ถอื ไดว้ า่ เปน็ ปชู นยี บคุ คลทคี่ วรยกยอ่ งเชดิ ชู
ใหเ้ ปน็ บคุ คลตวั อยา่ งทางดา้ นดนตรไี ทย ซงึ่ เปน็ เอกลกั ษณข์ องชาตไิ ทยทคี่ วรอนรุ กั ษ์
และสบื สานไวต้ ลอดไป
นายเต็มสมรสกับนางสาวปุ่น ดาวสวย มีบุตร ๖ คน คือ นางส�ำเนียง
นายจงกล นาวาเอก ฉลอง นายจรญั นายปรชี า พงษพ์ รหม และนางกัฏฐกญั ญา
เดชชนาพรสิทธิ์
นายเต็มถงึ แก่กรรมด้วยความชรา เมื่อวนั ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
สิริอายุ ๘๕ ปี ๗ เดอื น ๑๒ วัน
นายพธุ ทรัพย์ มณศี รี ผเู้ รยี บเรียง
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 37
ครูภมู ปิ ัญญาไทย
ขอ้ มูลอา้ งอิง
๑. แฟ้มประวัติและผลงานของนายเต็ม พงษ์พรหม
๒. สำ� นักงานราชบณั ฑิตยสภา. ๒๕๕๔. พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔.
สืบค้นเมื่อ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕, จาก https://dictionary.orst.go.th/
๓. ผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
๓.๑ นางกัฏฐกัญญา เดชชนาพรสิทธ์ิ บุตรคนสุดท้อง อดีตหัวหน้าหมวดศิลปศึกษา ครู
โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร
๓.๒ นายสมบัติ นิชเปี่ยม ครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี
๓.๓ นายสุชาติ นิชเปี่ยม ครูช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนบรรพตพิสัยพิทยาคม จังหวัด
นครสวรรค์
38 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
นายประพนั ธ์ สุคนธชาติ
พ.ศ. ๒๔๗๔–๒๕๖๒
นาม “ประพันธ์” ครูพากย์นั้น เกริกไกร
ลือเล่ืองระบือใน นาฏซ้ อง
“สุคนธชาติ” เทิดไทย สังคีต ศิลป์ นา
ศิษย์ท่ัววงการพร้อง พร่ังพร้อมสักการ
ครูภูมปิ ัญญาไทย
นายประพนั ธ์ สุคนธชาติ๑ เกดิ เมือ่ วันที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ณ บา้ น
สุคนธชาติ เลขที่ ๘๐ ตรอกสลกั หนิ ต�ำบลรองเมือง อำ� เภอปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
เป็นบุตรคนท่ี ๔ ของรองอ�ำมาตย์เอกหลวง วิวิธธนการ (ฟ้อน สุคนธชาติ)
กับนางววิ ธิ ธนการ (ภลู เนตรนยิ ม) มพี ่ี ๓ คน คอื นางประพณิ เวคะวากยานนท์
นางทวสี ขุ และนายประนยั สคุ นธชาติ ซึง่ ถงึ แก่กรรมแล้วทง้ั หมด
นายประพนั ธเ์ รม่ิ เขา้ เรยี นชน้ั ประถมทโ่ี รงเรยี นสตี บตุ รบำ� รงุ ชน้ั มธั ยมทโี่ รงเรยี น
ปทุมคงคา และเข้าศึกษาตอ่ ท่โี รงเรยี นนาฏศลิ ป กรมศิลปากร (ปจั จุบันคอื สถาบัน
บัณฑิตพัฒนศิลป์) ในแผนกพากย์ และเจรจาโขน โดยมีครูหม่ืนพากย์ฉันทวัจน์
(พากย์ พากยฉ์ นั ทวจั น)์ ครถู นอม โหมดเทศน์ อกี ทงั้ ไดเ้ รยี นรดู้ า้ นดนตรแี ละนาฏศลิ ป์
กับครูหม่ืนไพเราะห์พจมาน (อาบ สุนทรสนาน) ครูถม โพธิเวส คุณหญิงช้ิน
ศิลปบรรเลง ครทู ว้ ม ประสิทธิกุล และครเู หนยี่ ว ดุรยิ พันธ์ุ
๑ นามสกุลสุคนธชาติ เดิมคือ “สุคนธะชาติ” เป็นนามสกุลพระราชทาน แต่คร้ังหน่ึง
เมอ่ื นายประพนั ธไ์ ปตดิ ตอ่ ทำ� บตั รประชาชนไดเ้ กดิ ความผดิ พลาดในการสะกดคำ� เปน็ “สคุ นธชาต”ิ
จึงใช้นามสกลุ “สุคนธชาติ” ตัง้ แตน่ น้ั มา
40 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
หลงั จากจบการศึกษาท่ีโรงเรยี นนาฏศลิ ป กรมศิลปากรแลว้ นายประพันธ์
ไดเ้ ข้ารบั ราชการในแผนกนาฏศิลป กองการสังคีต กรมศลิ ปากร ในต�ำแหน่งศลิ ปนิ
ประเภทสามญั (พากย-์ เจรจาโขน) เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๕ เคยท�ำงานร่วมกบั อาจารยเ์ สรี
หวังในธรรม ซึง่ ท้ังสองเป็นนักพากยโ์ ขนฝีปากเอกที่มชี อ่ื เสยี งมากของกรมศลิ ปากร
ในสมัยน้ัน
นายประพันธ์มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณด์ า้ นการพากยโ์ ขน
อยา่ งดยี ง่ิ มคี วามมงุ่ มนั่ ในการปฏบิ ตั งิ าน ใชว้ ชิ าความรจู้ ากครบู าอาจารยม์ าพฒั นา
ตนเอง ได้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือต่าง ๆ มาโดยตลอด
นายประพนั ธ์ไดร้ วบรวมและเรยี บเรียงต�ำราเกย่ี วกับโขน ละครไว้หลายเลม่ เช่น
หนังสือนารายณ์สิบปางและพงศ์ในเร่ืองรามเกียรติ์ ประกอบด้วยแผนผังล�ำดับ
วงศ์สกุลของตัวละครในเร่ือง (แผนผังวงศ์กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาและแผนผัง
พรหมพงศว์ งศก์ ษตั รยิ แ์ หง่ กรงุ ลงกา) รวมถงึ เรอื่ งราวในพงศาวดารเรอื่ งการสงคราม
ของพระรามาวตาร หนงั สอื หวั โขน และบทโขนรามเกยี รติ์ ตอนนางลอย แผนท่ี
การเดินทัพของพระรามาวตาร รวมท้ังเป็นท่ีปรึกษาให้แก่ลูกศิษย์และสถาบัน
การศกึ ษาตา่ ง ๆ ในด้านโขนละครมาโดยตลอด
นายประพันธ์ ถ่ายรปู ร่วมกับ
นายเสรี หวังในธรรม
เมื่อครง้ั ไปพากย์โขนทบ่ี า้ น
หม่อมราชวงศค์ ึกฤทธ์ิ ปราโมช
ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 41
ครูภูมปิ ัญญาไทย
ครูพากย์เสียงทองแห่งวงการโขนไทย
นายสมโภชน์ อินทรก�ำแหง อดีตผู้อ�ำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา
ส�ำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (ปัจจุบันคือ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
กระทรวงวฒั นธรรม) ได้กลา่ วถงึ นายประพนั ธ์วา่
“ครูเปน็ นักพากย์ทม่ี ีเสยี งไพเราะ กงั วาน หนกั แน่น มเี สนห่ ์ และมีความจ�ำ
เปน็ เลศิ จงึ สามารถพากยก์ ระทตู้ า่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งแมน่ ยำ� ครงั้ หนงึ่ เมอ่ื ราว ๆ ๖๐ กวา่ ปี
มาแล้ว (พ.ศ. ๒๕๐๐) ในการแสดงโขนทีท่ อ้ งสนามหลวง งานฉลองปใี หม่ของ
กรุงเทพมหานคร ผมได้มีโอกาสฟังครูพากย์เป็นครั้งแรก และยังประทับใจอยู่
จนทกุ วนั นี้ โดยเฉพาะบทพากยต์ อนพระรามเหน็ ศพนางสดี า (นางเบญกายแปลง)
ลอยน้ำ� มา และในชว่ งของการพากย์บทกระทู้ เจรจาโต้ตอบระหว่างพระรามกับ
หนุมานในเร่ืองรามเกียรติ์ ตอนนางลอย (คัดจากค�ำพากย์และค�ำเจรจาในเรื่อง
รามเกยี รติ์ ตอน “นางลอย” ของเกา่ ในหนังสอื อนุสรณง์ านพระราชทานเพลงิ ศพ
นายประพันธ์ สคุ นธชาต)ิ ความวา่
พากย์ ในวารินทะเลวน
พระเหลือบเลง็ ชลาสินธ์ุ อันกลายแกล้งเป็นสีดา
เห็นรูปอสุรกล ไมท่ นั คดิ กโ็ ศกา
ผวาวิ่งประหวั่นจติ ฤดดี ้ินลงแดยนั ๚
พระกอดแก้วขนิษฐา
เจรจา
วายบุ ตุ รสดุ กลวั ตวั หลอบหมอบตดิ ดนิ สน้ิ ความคดิ เหน็ ผดิ นกั จงึ กราบทลู วา่
อนั อสรุ ยกั ษห์ ลายเลห่ เ์ พทุบายหมายตดั ศึก ข้าพระบาทตรองตรกึ พเิ คราะหใ์ คร่
เหน็ ว่าจะมใิ ชอ่ งค์พระมเหสดี อก พ่ะยะ่ คะ่ ๚
ทำ� ไมวะหนมุ าน จงึ วา่ ขานมใิ ชน่ างสดี า พระภษู าผนื นี้ พระธำ� มรงคก์ ว็ งนี้
ท�ำไมกระบี่ ยงั เถียงว่ามใิ ช่ หรอื ว่าเจา้ เห็นเป็นอย่างไรกอ็ ย่าชา้ จงช้แี จงใหเ้ รา
แจง้ กจิ จา เถิดนะเจา้ ๚
42 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
พะ่ ย่ะคะ่ พระภูษากผ็ นื นี้ พระธำ� มรงคก์ ็วงน้ี แต่ตัวข้าพระบาทเหน็ ผดิ ที
เป็นหนักหนา ด้วยสุวรรณพลับพลาอยู่ข้างทิศอุดร ส่วนลงกาพระนคร
อยู่ขา้ งทิศทักษิณ อน่งึ กระแสวารินกไ็ หลสง่ ลงฝ่ายเดยี วเชีย่ วควา้ ง ศพพระนาง
หรอื จะลอยทวนน้ำ� ขนึ้ มาได้ ข้าพระบาทยงั สงสัยอยพู่ ่ะยะ่ ค่ะ ๚
ชะ ไอ้ช่างแก้ ว่ากระแสไหลส่งลงฝ่ายเดียวเช่ียวคว้าง ศพนาง
หรือจะลอยหวนทวนขึ้นมาได้ เม่ือบังเกิดเพลามีคล่ืนใหญ่ระดมลมพัด
ระลอกซดั สักสามที ซากศพนดิ หนงึ่ เทา่ น้จี ะมาติดอย่ทู ีน่ ่ีไม่ไดห้ รอื วะหนมุ าน ๚
กระแสเสียงครูท่านพากย์ออกมาอย่างแจ่มใส ไพเราะ ชัดเจน สะกดผู้ชม
ใหต้ รงึ อยกู่ บั การแสดงอยา่ งใจจดใจจอ่ ขณะนนั้ ผมกำ� ลงั เปน็ นกั เรยี นโรงเรยี นนาฏศลิ ป
ของกรมศิลปากร ได้รับการคัดเลือกให้มาแสดงโขนในครั้งนั้นด้วย จึงมีโอกาส
ได้ซึมซับในศิลปะและลีลาการพากย์โขนของครูจนเกิดแรงบันดาลใจให้รักในศิลปะ
ดา้ นนไ้ี ปดว้ ย ตอ่ มาเมอ่ื ปี ๒๕๑๑ ผมไดบ้ รรจเุ ขา้ รบั ราชการเปน็ ศลิ ปนิ ของกองการสงั คตี
กรมศิลปากร ท�ำหน้าท่ีเป็นนักแสดงอยู่หลายปี จนกระท่ังปี ๒๕๒๕ ได้เห็นว่า
คนพากย์โขนมีน้อย เหน็ ควรท่จี ะสบื ทอดศลิ ปะการพากย์โขนไวอ้ กี ทางหนึ่ง จึงได้
ขอมอบตัวเป็นศิษย์พากย์โขนกับครูและได้ท�ำหน้าที่คนพากย์อีกหน้าท่ีหน่ึง
นอกจากการเปน็ ผู้แสดง”
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 43
ครูภูมปิ ัญญาไทย
คุณูปการของนายประพันธ์ท่ีมีต่อวงการโขน ละครเป็นที่ประทับใจของ
บรรดาเพือ่ นรว่ มวชิ าชีพและลกู ศิษยโ์ ดยทัว่ ไป ดงั ที่ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์อรวรรณ
ขมวฒั นา อาจารยโ์ รงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย (ฝา่ ยมัธยม) ไดก้ ล่าวไว้
ในหนังสอื อนสุ รณ์งานพระราชทานเพลิงศพนายประพนั ธ์ ความตอนหนึง่ วา่
“ข้าพเจ้ามีโอกาสเรียนพากย์โขนกับคุณครูประพันธ์ สุคนธชาติ ในสมัยที่
ยังเป็นเด็กนกั เรยี นชน้ั กลางของโรงเรียนนาฏศิลป กรมศลิ ปากร ทงั้ ท่ีข้าพเจา้ เรยี น
ร�ำไทยเป็นวิชาเอกและเลือกเรียนวิชาร้องไทยเป็นวิชาโท ซ่ึงจะต้องมีการเรียน
ปฏบิ ตั พิ ากย์ (โขน) และเสภารว่ มดว้ ย ขา้ พเจา้ เลอื กเรยี นพากยโ์ ขนกบั คณุ ครปู ระพนั ธ์
เพราะเคยเหน็ ทา่ นพากยโ์ ขนรว่ มกบั คณุ ครถู นอม โหมดเทศน์ บอ่ ยครงั้ ในการแสดงโขน
ของกรมศลิ ปากร ณ โรงละคร และทอ้ งสนามหลวง (โขนมกั จะแสดงทท่ี อ้ งสนามหลวง
ในงานหลวงต่าง ๆ และใช้เวลาแสดงต่อเนื่องหลายวัน) ข้าพเจ้าก็ต้องปฏิบัติงาน
ที่ท้องสนามหลวงในฐานะตัวประกอบบ้าง นางก�ำนัลบ้าง จึงมีโอกาสได้เห็น
ความสามารถของคณุ ครใู นการพากยป์ ระกอบอารมณข์ องตวั โขนในสถานการณข์ อง
การแสดงดว้ ยน�้ำเสียงท่ชี ัดเจน มปี ฏิภาณในการโต้ตอบ ได้เห็นวา่ คณุ ครปู ฏบิ ตั ิงาน
ดว้ ยความทมุ่ เททง้ั กายและใจทกุ ครงั้ ดว้ ยความศรทั ธาทำ� ใหข้ า้ พเจา้ เลอื กเรยี นพากย์
กับคุณครูซึ่งไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากจะได้ความรู้ในการปฏิบัติการพากย์
ชนิดตา่ ง ๆ แลว้ ยงั ไดร้ บั ความรเู้ กรด็ ตา่ ง ๆ ของเรอื่ งรามเกยี รตอิ์ กี มากมายทไ่ี มเ่ คยรู้
หรอื เคยอา่ นมากอ่ น นบั เปน็ การปลกุ ความสนใจเรอ่ื งโขนใหแ้ กข่ า้ พเจา้ เปน็ อยา่ งมาก
จนเมอื่ ขา้ พเจา้ จบการศกึ ษาเขา้ รบั ราชการทจี่ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สงั กดั การสอน
ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดการแสดงโขนให้กับนักเรียน
โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ในสมัยน้ัน ซึ่งทุกครั้งข้าพเจ้าจะได้รับค�ำปรึกษาจากคุณครู
ประพนั ธเ์ สมอมา”
นายจตุพร รตั นวราหะ ศลิ ปินแห่งชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง ไดก้ ลา่ วถงึ
ความรคู้ วามสามารถของนายประพนั ธไ์ วใ้ นหนังสือเลม่ เดยี วกัน ความวา่
44 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
“พี่ประพันธ์เดิมสอนทางดนตรี แต่พ่ีมีความสามารถทางการพากย์โขน
มีชือ่ เสียงโด่งดงั จนหาตัวจบั ยาก ผมไดม้ ีโอกาสร่วมงานกับพป่ี ระพันธ์มาโดยตลอด
ในการแสดงโขน รสู้ ึกดใี จและภมู ิใจทไ่ี ด้รว่ มงานกบั นักพากยฝ์ ีมอื หนงึ่ ของกรมศลิ ป์
พี่ประพันธ์เป็นผู้สอนให้ผมเข้าใจในการใช้บทบาทและอารมณ์ร่วมกับการพากย์
และเจรจาโขนทุกครัง้ จนผมเข้าใจและทำ� ได้ดีขน้ึ มาตามล�ำดับ...”
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐
ในพระราชปู ถมั ภ์ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ไดก้ ลา่ วถงึ
ความเชี่ยวชาญและผลงานของนายประพันธ์ไวใ้ นหนังสอื เลม่ เดยี วกนั วา่
“อาจารย์ประพันธ์ สุคนธชาติ ผู้ได้รับ “รางวัลคึกฤทธ์ิ” สาขาคีตศิลป์
ประจ�ำปี ๒๕๖๑ ท่านเป็นผูเ้ ชี่ยวชาญด้านการทำ� บทโขน พากย์-เจรจาโขนชนั้ ครู
ท่ีหาตัวจับยาก มีความสามารถท้ังทางปฏิบัติและทางวิชาการ เขียนต�ำรา
ด้านนาฏศิลป์ส่งต่อความรู้ตกทอดต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น ผลงานของท่านนับได้ว่า
เป็นคุณูปการต่อวงการนาฏศิลป์-โขน เป็นอย่างมาก...อาจารย์ประพันธ์ได้มีส่วน
ในการเผยแพร่ ถา่ ยทอดความรดู้ า้ นนาฏศลิ ปไ์ ทยไปยงั หนว่ ยงาน สถานศกึ ษาตา่ ง ๆ
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การทำ� บทโขนและการพากย-์ เจรจาโขน ในการแสดงโขนธรรมศาสตร์
ยคุ เรม่ิ ตน้ ทา่ นเปน็ ศลิ ปนิ ผไู้ ดร้ บั ความไวว้ างใจจากศาสตราจารย์ พลตรี หมอ่ มราชวงศ์
คกึ ฤทธ์ิ ปราโมชเป็นอย่างมาก...”
ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 45
ครูภมู ปิ ัญญาไทย
สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม
วรวิหาร ได้กล่าวถึงคุณความดีและอัธยาศัยใจคอของนายประพันธ์ไว้ในหนังสือ
เลม่ เดียวกนั ความวา่
“รู้จักคุณโยมประพันธ์มายาวนาน บ้านท่านอยู่ในซอยสลักหิน ใส่บาตร
ท�ำบุญทุก ๆ วัน คนในตรอกน้ีใจบุญ พระวัดไตรมิตรวิทยาราม วัดปทุมคงคา
วดั ดวงแข กไ็ ดร้ บั ภตั ตาหารทก่ี ลมุ่ บา้ นคหบดแี ถวนี้ หนงึ่ ในจำ� นวนหลายบา้ น กม็ บี า้ น
ของคุณประพันธ์ใส่บาตรมาหลายช่ัวอายุคน คุณประพันธ์บวชท่ีวัดไตรมิตรฯ
สนิทและคุ้นเคยกับพระเถระเก่า ๆ หลายรูป เม่ือเจอกันคราใด อดพูดเร่ืองเก่า
เล่าความหลังไม่ได้ ท่านเจ้าคุณพิศิฏฐ์ ท่านเจ้าคุณมาโนช ท่านเจ้าคุณณรงค์
เมตตาคณุ ประพันธเ์ ปน็ พิเศษ เพราะอายุรนุ่ ราวคราวเดียวกนั พบกนั คราใดมีเรื่อง
พดู คยุ กนั ยาวนาน คุณโยมประพนั ธค์ ยุ สนกุ ออกรสออกชาติ ยงิ่ เฉพาะโขน รหู้ มด
ไมว่ ่าจะตวั พระตวั นาง ยง่ิ ไปเจรญิ สามคั ครี สเพลทบ่ี า้ นของทา่ น ยงิ่ เหน็ ลกั ษณะตวั พระ
ตัวนาง ตัวยักษ์ ตัวลิง ได้ชัดเจน เพราะท่ีบ้านคุณประพันธ์มีหัวโขน เศียรครู
และพอ่ แกค่ รบถว้ น ทา่ นอธบิ ายไดท้ กุ เศยี ร บง่ บอก อธบิ ายความผดิ เพยี้ นแตกตา่ ง
อยา่ งถกู ตอ้ งแม่นย�ำ
คณุ โยมประพนั ธโ์ ยงเรอ่ื งราวของรามเกยี รตไิ์ ดอ้ ยา่ งนา่ ฟงั พระราม พระลกั ษณ์
กเ็ ปรยี บเสมอื นกศุ ล ทศกณั ฐแ์ ละยกั ษต์ า่ ง ๆ กเ็ หมอื นอกศุ ล มหี ลากหลายแตกตา่ ง
กนั ไป ยิ่งฟังยง่ิ เพลนิ ย่ิงเม่อื ทา่ นใหเ้ สยี งตัวพระ ตัวยักษ์ ตัวนาง ตวั ลงิ ยง่ิ บรรเจดิ
เห็นตัวละครด้วยเสียงพากย์โขนทันที การพากย์และเจรจาโขนจึงเป็นศิลปะ
ที่น่าศกึ ษาย่งิ นกั ยง่ิ คนพากย์ให้เสยี งและอารมณต์ ามตวั ละครยิง่ แสนจะสนุกสนาน
เพลิดเพลิน
คณุ โยมประพนั ธ์บอก เม่อื ดลู ะคร ให้ย้อนมาดูตวั ทกุ เชา้ สายบา่ ยค�ำ่ ก็จะมี
หนา้ พระหรือเศียรยักษ์มาสวมใสใ่ นหนา้ เรา คนฉลาดตอ้ งฝกึ หนา้ ตวั หนา้ ใจ ใหใ้ ส
สะอาดเหมือนมีหน้าพระหน้านางมาสวมใส่ จะได้เป็นท่ีมาของใจท่ีมีแต่ให้ มีแต่
ปัญญา มแี ตค่ วามสขุ ทกุ ๆ ครง้ั ทเี่ ห็นการแสดงโขนในทต่ี ่าง ๆ อดคดิ ถึงสภุ าพบรุ ษุ
ที่มบี ญุ ใจบุญสนุ ทรทานนามวา่ ประพนั ธไ์ มไ่ ด”้
46 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
นายประพันธ์เป็นผู้ที่ใช้ความรู้ความสามารถสร้างสรรค์คุณประโยชน์
ด้านการศึกษาให้แก่วงการนาฏศิลป์ไทยเป็นท่ีประจักษ์ดังกล่าวมาแล้วจนเป็นท่ี
เคารพรกั และศรทั ธาของบรรดาลกู ศษิ ยแ์ ละผสู้ นใจศกึ ษางานดา้ นน้ี และเปน็ ทรี่ กั ของ
คนในครอบครวั พรอ้ มทงั้ เครอื ญาตมิ าโดยตลอด เพราะเปน็ ผมู้ จี ติ ใจดี เออื้ เฟอ้ื เผอ่ื แผ่
รักครอบครัว คอยให้ความช่วยเหลือญาติมิตร ลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ อีกทั้ง
ยงั หมน่ั ทำ� บญุ ทำ� ทาน ใฝใ่ จในการทำ� นบุ ำ� รงุ พระศาสนาอยเู่ ปน็ นจิ และไดส้ รา้ งศาลา
วิวิธธนการ (ศาลา ๕) วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ใกล้สถานีรถไฟหัวล�ำโพง
เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๓ เพอื่ ใชเ้ ปน็ สถานทปี่ ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนาแกป่ ระชาชนทวั่ ไป
นางสาวภทั ราวดี สคุ นธชาติ บตุ รคนเลก็ ของนายประพนั ธ์ กลา่ วไวใ้ นหนงั สอื
เลม่ เดียวกนั ความว่า
“ตลอดเวลาท่ผี า่ นมาทีเ่ ราได้เห็นภาพของคุณพอ่ เป็นคนที่แต่งตัวสบาย ๆ
เรียบง่าย ชอบใส่กางเกงขาส้ัน เม่ืออยู่บ้านก็จะนุ่งกางเกงแพร ใส่เส้ือคอกลม
คณุ พอ่ ชอบทำ� อะไรดว้ ยตวั เอง ไมค่ อ่ ยบอกใหใ้ ครทำ� มกั จะบอกวา่ เกรงใจเราทำ� เองได้
ชอบไปไหนมาไหนเอง ชอบเดนิ คุยกับคนน้ันทคี นโนน้ ที คณุ พ่อมคี นรจู้ กั มากมาย
แตน่ อ้ ยคนทจี่ ะรวู้ า่ ผชู้ ายทแี่ ตง่ ตวั เรยี บงา่ ยคนนที้ แ่ี ทเ้ ปน็ อาจารยท์ มี่ คี วามเชยี่ วชาญ
ดา้ นโขนและนาฏศลิ ปเ์ ปน็ อยา่ งมาก คณุ พอ่ เปน็ ตวั อยา่ งของความถอ่ มตน ไมย่ ดึ ตดิ
กบั ตำ� แหนง่ และชอื่ เสยี ง มกั จะบอกกบั ลกู ๆ วา่ ตำ� แหนง่ ชอื่ เสยี งไมจ่ รี งั เมอ่ื ถงึ เวลา
ก็จะหมดไป สิง่ ท่ีอยกู่ บั เราคือความดที ี่เราทำ� ไว้
คณุ พอ่ รกั ความเปน็ ครมู าก ทา่ นชอบแตง่ หนงั สอื เรามกั จะเหน็ คณุ พอ่ นง่ั เขยี น
หนงั สือบนโต๊ะม้าหินเป็นเวลานาน ๆ คุณพ่อเปน็ ครูทเ่ี ป็น “ผู้ให”้ ไมว่ ่าใครมาขอ
คำ� แนะน�ำหรอื ขอความรู้ คุณพ่อกจ็ ะเตม็ ใจและตงั้ ใจมอบให้เสมอ
ภาพตอ่ มาเปน็ ภาพทเี่ ราในครอบครวั จะเหน็ บอ่ ย ๆ คอื ภาพทคี่ ณุ พอ่ จะเหน็ ดว้ ย
กับคุณแม่ คุณแม่บอกอะไรก็เป็นแบบน้ัน คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ดูแลครอบครัว
เป็นอย่างดี การเป็นครอบครัวเราต้องช่วยเหลือกัน ครอบครัวเปรียบเสมือนเป็น
เรอื ลำ� ใหญ่ คณุ พอ่ เปน็ เรอื และยกใหค้ ณุ แมเ่ ปน็ กปั ตนั ลกู ๆ เปน็ คนพายเรอื พวกเรา
ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ 47
ครู ภูมิปั ญญาไทย
อยากจะบอกวา่ คุณพ่อเปน็ เรอื ท่แี ขง็ แรงและล�ำใหญม่ าก เพราะถ้าเรอื ไม่แขง็ แรง
พวกเรากจ็ ะไมถ่ ึงฝง่ั และจะไมเ่ จรญิ รุ่งเรอื งจนถึงทกุ วันน”ี้
นายประพนั ธไ์ ดล้ าออกจากราชการดว้ ยเหตผุ ลสว่ นตวั เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๐ แตก่ ็
มิได้ท้ิงงานโขน ละคร ที่ตนรัก ได้ไปช่วยสอน ช่วยท�ำบทโขน เป็นที่ปรึกษาให้แก่
โรงเรยี นต่าง ๆ อยูเ่ สมอ ดงั เช่น โรงเรยี นอสั สัมชญั และโรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัย
ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ประสานมติ ร (ฝา่ ยประถม) ซง่ึ ไดไ้ ปชว่ ยอยเู่ ปน็ เวลานานถึง ๒๗ ปี
นบั วา่ เป็นการสืบทอดศิลปะการแสดงโขนให้คงอยสู่ ืบไป
นายสมโภชน์ อนิ ทรกำ� แหง ศษิ ยพ์ ากยโ์ ขนคนหนงึ่ ของนายประพนั ธ์ ไดก้ ลา่ วถงึ
คณุ ปู การของนายประพนั ธอ์ กี วา่ “หลงั จากครอู อกจากราชการแลว้ กย็ งั คงไปมาหาสู่
เยยี่ มเยยี นเพอ่ื นพอ้ งลกู ศษิ ยล์ กู หาในกองการสงั คตี อยเู่ ปน็ ประจำ� เมอ่ื กองการสงั คตี
จดั การแสดงทใ่ี ด ครกู จ็ ะไปดแู ละคอยเสนอแนะแนวทางการแสดงใหถ้ กู ตอ้ งทกุ ครง้ั ไป
เนอื่ งจากครยู ดึ หลกั การแสดงแบบโบราณอยา่ งเครง่ ครดั แมน่ ยำ� จงึ กลวั วา่ นกั แสดง
รุ่นใหม่จะละเลยขนบของการแสดงแบบโบราณไปเสีย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๕
ขณะนน้ั ผมเปน็ ศิลปนิ สงั กดั กองการสงั คตี กรมศิลปากร ไดเ้ ข้าไปริเร่มิ วางรากฐาน
การสอนโขนใหแ้ กน่ กั เรยี นโรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒประสานมติ ร
(ฝา่ ยประถม) ซึ่งจะจัดใหม้ กี ารแสดงโขนทโี่ รงเรียนทกุ ปี ครูก็จะมาช่วยทำ� บทโขน
พรอ้ มทง้ั กำ� กบั การแสดงใหท้ กุ ครงั้ ผมกบั ครไู ดท้ ำ� งานรว่ มกนั มาโดยตลอด จนกระทงั่
ผมยา้ ยไปเปน็ ขา้ ราชการทศี่ นู ยว์ ฒั นธรรมแหง่ ประเทศไทย ครกู ย็ งั มาชว่ ยใหค้ ำ� ปรกึ ษา
และใหข้ อ้ เสนอแนะเสมอมา ตอ่ มาเมอื่ ผมดำ� รงตำ� แหนง่ ผอู้ ำ� นวยการศนู ยว์ ฒั นธรรม
แหง่ ประเทศไทย ผมและครกู ไ็ ดม้ โี อกาสสง่ เสรมิ สรา้ งสรรค์ และสบื ทอดการแสดงโขน
ตลอดจนการแสดงไทย ๆ อยา่ งเตม็ กำ� ลงั และกวา้ งขวางยงิ่ ขน้ึ ”
นายประพันธ์เป็นศิลปินที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอยู่เต็มเปี่ยม และ
ยังไดป้ ลูกฝังให้ลกู ศิษยม์ จี ติ สำ� นึกในความเปน็ ศลิ ปินโดยแท้ ดงั ท่ไี ดใ้ ห้คำ� เตือนแก่
ลกู ศษิ ยอ์ ยเู่ สมอวา่ ‘ศลิ ปะจะเจรญิ ไดก้ อ็ ยทู่ ศี่ ลิ ปนิ หากวา่ ศลิ ปนิ ไมร่ กั ษาศลิ ปะแลว้
นนั่ กห็ มายถงึ ความเสอ่ื มยอ่ มจะตอ้ งสะทอ้ นยอ้ นกลบั มาสศู่ ลิ ปนิ เอง’ และยงั ไดแ้ ตง่
48 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖