ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครวั
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะ
กระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการทำงานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม และลักษณะนิสัยในการ
ทำงาน มจี ติ สำนึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม เพอื่ การดำรงชีวติ และครอบครัว
ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.2 1. บอกวิธีการและประโยชนก์ ารทำงานเพอ่ื การทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครวั เชน่
ช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั - บทบาทและหน้าท่ีของสมาชกิ ในบา้ น
2. ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือใน - การจัดวาง เกบ็ เสื้อผ้า รองเทา้
การทำงาน อย่างเหมาะสมกับงาน - การช่วยเหลอื ครอบครวั เตรียม ประกอบอาหาร
และประหยัด - การกวาดบา้ น
3. ทำงานเพือ่ ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครัว - การลา้ งจาน
อยา่ งปลอดภยั การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือให้หมาะสมกับงาน
ช่วยให้ประหยดั และปลอดภยั เชน่
- การเพาะเมลด็
- การดูแลแปลงเพาะกล้า
- การทำของเลน่
- การประดิษฐข์ องใชส้ ่วนตวั
ความปลอดภัยเปน็ ลกั ษณะนิสัยในการทำงาน
คำอธบิ ายรายวิชาการงานอาชีพ
รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 20 ช่ัวโมง
ศึกษา วิเคราะหว์ ิธีการทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครวั และส่วนรวม เลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ
เครื่องใช้ในการทำงานได้อย่างเหมาะสมกบั งาน โดยการสาธิต ทดลองปฏิบัติและนำผลมาอภิปราย กำหนดแนวทาง
ในการทำงาน ฝึกการทำงาน โดยเน้นขั้นตอนกระบวนการและนิสัยการทำงาน สังเกตการณ์ปฏิบัติงานและผลงาน
แลว้ นำมาอภิปรายหาข้อบกพร่องและวิธแี ก้ไข เพอื่ ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะเบื้องต้น และทำงานร่วมกับสมาชิก
ในครอบครวั ได้ ปรับปรุงงานอย่เู สมอ เห็นคณุ คา่ ของการทำงานและมนี สิ ยั รักการทำงาน
โดยใช้กระบวนการทำงาน กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ และกระบวนการทำงานกลุม่
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และเห็นคุณค่าของการทำงานและนำ
ความรู้ที่เรียนไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีความสามารถในการตัดสินใจ มีจริยธรรม คุณธรรม ค่านิยมท่ี
เหมาะสม และมีจติ สำนกึ ในการอนุรักษ์สงิ่ แวดลอ้ ม
ตัวช้ีวดั บอกวธิ กี ารและประโยชน์การทำงานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั
ง 1.1 ป.2/1 ใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมือในการทำงานอยา่ งเหมาะสมกับงานและประหยดั
ง 1.1 ป.2/2 ทำงานเพื่อชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั อยา่ งปลอดภัย
ง 1.1 ป.2/3
รวม 3 ตวั ชว้ี ัด
โครงสร้างรายวชิ า การงานอาชพี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
ลำดบั ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา
ท่ี การเรยี นรู้ (ชม.)
การเรยี นรู้ /
1. หนา้ ท่ใี นบ้าน ตวั ชี้วดั
ง 1.1 บ้านเป็นที่อยู่อาศัยและยังช่วยสร้างความอบอุ่นใจให้แก่ผู้อยู่ 4
ป. 2/1 อาศัยภายในบา้ น แต่ละบา้ นจะมสี มาชกิ ทีแ่ ตกต่างกนั บางบ้าน
ป. 2/2 ก็จะมีครอบครัวที่ใหญ่หรือเล็กแตกต่างกันออกไป และหน้าท่ี
ป. 2/3 ของสมาชิกภายในบ้านก็จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งการที่แต่ละ
คนทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีจะทำให้ครอบครัวอยู่
ร่วมกันได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดี
ภายในครอบครัว เพราะไดท้ ำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ร่วมกันอกี ด้วย
2. หนเู ข้าครัว ง 1.1 อาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่อาหารท่ี 4
ป. 2/1 มนุษย์รับประทานนั้น ควรจะเป็นอาหารที่ผ่านการปรุงและทำ
ป. 2/2 ให้สุกก่อนด้วยกระบวนการวิธีต่าง ๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการ
ป. 2/3 ปรุงอาหารควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของอาหาร เช่น
ทอด ต้ม หรือผัด ส่วนวัตถุดิบที่จะใช้ในการประกอบอาหารก็
ควรเป็นวัตถุดิบที่มีความสด สะอาด เพื่อให้ได้อาหารที่ดี มี
คุณค่าทางโภชนาการ มคี วามอรอ่ ย นา่ รบั ประทาน
3. หนูปลกู ต้นไม้ ง 1.1 พืชมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งพืชสามารถแบ่ง 6
ป.2/2 ออกได้เป็นพืชไร่และพืชสวน มีทั้งแบบรับประทานได้ ให้ความ
ร่มรื่น หรือประดับตกแต่ง การเพาะเมล็ดเป็นการขยายพันธุ์พืช
ที่ทำได้ง่าน สะดวก ซึ่งการขยายพันธุ์พืชโดยการเพาะเมล็ดจะ
ทำใหไ้ ด้ตน้ ตอที่มคี วามแข็งแรง ทนทานต่อโรค และแมลง แต่ถึง
อย่างไรเราก็ควรที่จะศึกษาวิธีการการดูแลแปลงเพาะกล้าและ
ดูแลรักษาอุปกรณ์ การเพาะเมล็ดในแปลงหรือการย้ายจาก
แหล่งที่เพาะลงในแปลงเพาะกล้า ซึ่งการดูแลแปลงเพาะกล้ามี
หลายวิธีข้นึ อยกู่ บั ความเหมาะสมในแต่ละด้านดว้ ย
ลำดับ ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา
ท่ี การเรยี นรู้ (ชม.)
การเรยี นรู้ /
ตัวชว้ี ดั
4 หนทู ำของเลน่ ง 1.1 งานประดิษฐ์ของเล่น ของใช้ ของตกแต่ง โดยใช้วัสดุที่หาได้ 3
ป. 2/2 ง่ายหรือวัสดุท้องถิ่นนำมาประกอบกันผ่านกระบวนการ
ออกแบบงานประดิษฐ์และกระบวนการทำงานประดิษฐ์ เพอ่ื ให้
ได้ของเล่น ของใช้ ของตกแต่ง ที่ทำด้วยตนเองอย่างภาคภูมใิ จ
และเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังเป็น
จุดเร่ิมต้นในการสรา้ งอาชีพไดอ้ ีกทางด้วย
5 หนูประดิษฐ์ ง 1.1 การประดิษฐ์ของใช้สามารถทำได้ตามความต้องการและตาม 3
ของใช้ ป. 2/2 ประโยชน์ใช้สอย การประดิษฐ์ของใช้สามารถทำได้จากวัสดุ
เหลอื ใช้ หรือเลือกวัสดุท่ีหาได้ง่ายนำมาทำเป็นของใช้ นอกจาก
จะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว อีกทั้งยังเป็น
ความภาคภูมิใจของตนองและครอบครวั ด้วย
Pedagogy
ส่อื การเรยี นร้รู ายวชิ าพ้นื ฐาน การงานอาชพี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 ผู้จดั ทำไดอ้ อกแบบการสอน (Instructional
Design) อนั เปน็ วิธกี ารจัดการเรียนรู้และเทคนิคการสอนท่ีเป่ยี มดว้ ยประสทิ ธิภาพและมีความหลากหลายให้กับผู้เรียน
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด รวมถึงสมรรถนะและคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ของผู้เรียนที่หลักสูตรกำหนดไว้ โดยครูสามารถนำไปใช้สำหรับจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้
อยา่ งเหมาะสม สำหรับ Pedagogy หลักทีน่ ำมาใชอ้ อกแบบกิจกรรมการเรียนร้ปู ระกอบดว้ ย
กระบวนการการเรยี นรู้
เลอื กใชก้ ระบวนการปฏบิ ัติ เนื่องจากเปน็ กระบวนการท่ีมงุ่ ให้ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิจนเกิดทักษะ สามารถรับรู้ขั้นตอน
ทั้งหมดจนสามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งสร้างผลงานใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และนำไปปรับใช้ได้จริง
ในสถานการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ครูผู้สอนจะต้องเป็นผู้วางแผน นำผู้เรียนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้
จนบรรลตุ ามเป้าหมายทไี่ ด้วางไว้ ซง่ึ กระบวนการปฏบิ ตั มิ ีขั้นตอนดังนี้
1. สงั เกตรับรู้ ใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ ห็นตวั อย่างหลากหลายจนเกดิ ความเข้าใจและสรุปความคดิ รวบยอด
2. ทำตามแบบ ทำตามตัวอย่างทแ่ี สดงให้เห็นทีละข้ันตอนจากข้ันพ้นื ฐานไปสูง่ านที่ซบั ซ้อนขึ้น
3. ทำเองโดยไม่มแี บบ เปน็ การให้ฝกึ ปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนตง้ั แตต่ น้ จนจบดว้ ยตนเอง
4. ฝึกให้ชำนาญ ให้ผู้เรียนปฏิบัติด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญหรือทำได้โดยอัตโนมัติซึ่งอาจเป็นชิ้นงาน
เดิมหรืองานทีค่ ิดขึน้ ใหม่
เลือกใช้กระบวนการเรียน ความรู้ความเข้าใจ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหา
เชงิ ความรู้ กอ่ นเร่ิมการปฏิบตั ิงานจรงิ ตามขัน้ ตอนตา่ งๆ ของแต่ละงาน
1. สังเกต ตระหนัก ผู้เรียนพิจารณาข้อมูล สาระความรู้ เพื่อสร้างความคิดรวบยอด ตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกต
สงั เคราะห์ขอ้ มลู เพื่อทำความเข้าใจในส่ิงทต่ี ้องการเรยี นรู้ และกำหนดเป็นวัตถุประสงคท์ ี่จะแสวงหาคำตอบตอ่ ไป
2. วางแผนปฏบิ ัติ ผู้เรยี นนำวัตถุประสงคห์ รือคำถามทีท่ ุกคนสนใจจะหาคำตอบมาวางแผนเพื่อกำหนดแนวทาง
ปฏบิ ตั ทิ ่เี หมาะสม
3. ลงมือปฏิบัติ ผู้สอนกำหนดให้สมาชิกในกลุ่มย่อย ๆ ได้แสวงหาคำตอบจากแหล่งความรู้ด้วยวิธีต่าง ๆ
เช่น คน้ คว้า สัมภาษณ์ ศึกษานอกสถานท่ี หาขอ้ มูลจากองคก์ รในชมุ ชน เป็นต้น ตามแผนที่ไดว้ างไว้
4. พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้มารายงานและอภิปรายเชิงแปลความ ตีความ ขยายความ
นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมนิ ค่า
5. สรปุ ผเู้ รียนรวบรวมเป็นสาระที่ควรรู้บนั ทกึ ลงสมุด
กระบวนการการเรยี นรู้
เลือกใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม เนื่องจากเป็นกระบวนการที่มุ่งให้ผู้เรียนทำงานร่วมกัน คิดวางแผนการทำงาน
ร่วมกันอย่างเป็นระบบ และสร้างสรรค์ อีกทั้งได้เกิดทักษะการติดต่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นในเชิงบวก
รวมถงึ สามารถทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ซงึ่ กระบวนการนีเ้ ปน็ กระบวนการทม่ี ุ่งให้ผูเ้ รียนทำงานร่วมกัน
โดยเน้นกิจกรรมดงั นี้
1. มผี นู้ ำกลมุ่ ซ่งึ อาจผลดั เปล่ยี นกนั
2. วางแผนกำหนดวัตถุประสงคแ์ ละวิธีการ
3. รับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทุกคนบนพ้ืนฐานของเหตุผล
4. แบง่ หน้าทร่ี บั ผดิ ชอบ เมื่อมีการปฏบิ ัติ
5. ตดิ ตามผลการปฏิบตั ิ และปรบั ปรุง
6. ประเมนิ ผลรวมและช่ืนชมในผลงานของคณะ
วิธกี ารสอน (Teaching Method)
เลอื กใชว้ ิธีการสอนท่ีหลากหลาย เชน่ การสาธิต นิรนยั อุปนัย แบบค้นพบ เพ่ือสง่ เสรมิ การเรยี นรู้และเกิดความ
เข้าใจในเนื้อหาของการงานอาชีพและเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ ซึ่งจะเน้นใช้วิธีสอนที่หลากหลาย เช่น วิธีสอนแบบ
อุปนัย (Inductive Method) เนื่องจากเป็นการสอนที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์
ที่กำหนด โดยการนำตัวอย่าง ข้อมูล ความคิด เหตุการณ์ สถานการณ์ ปรากฏการณ์ ที่มีหลักการ/แนวคิด ที่ต้องการ
สอนให้แกผ่ ้ทู ่เี รยี นวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ได้ดึงหลกั การ/แนวคิดทแี่ ฝงอยู่ออกมา เพ่ือนำไปใช้ในสถานการณ์
อน่ื ๆ ทีจ่ ะเกิดขนึ้ ตอ่ ไปได้เปน็ อย่างดี
เทคนิคการสอน (Teaching Technique)
เลือกใช้เทคนิคสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับเรื่องที่เรียน เช่น การตั้งคำถาม การยกตัวอย่าง การใช้ สื่อ
การเรียนรู้ที่น่าสนใจ เพื่อส่งเสริมวิธีการสอนและรูปแบบการสอนให้มีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ให้มากขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
สามารถฝึกทักษะการเรยี นรู้และทกั ษะการปฏบิ ัติเก่ยี วกับงานตา่ ง ๆ ในศตวรรษที่ 21 ได้
โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิช
หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการ
สอน/
1. หน้าที่ในบ้าน แผนที่ 1 บทบาทและหนา้ ท่ีของ
สมาชิกในบ้าน วิธีการสอน/เทคนคิ
แบบการบรรยาย
แผนที่ 2 หนา้ ที่ของนักเรยี นใน แบบกระบวนการปฏบิ ตั ิ
ฐานะสมาชิกในบา้ น
ชา การงานอาชพี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
เวลา 20 ชั่วโมง
ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมนิ เวลา
(ช่วั โมง)
1. ทักษะในการคดิ วิเคราะห์ 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ย 2
การเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ ทีใ่ นบ้าน
2. ตรวจใบงานท่ี 1.1.1 เร่ือง บ้านของ
ฉัน
3. ตรวจใบงานที่ 1.1.2 เร่อื ง หน้าที่นน้ั
หนูทำได้
4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
5. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผดิ ชอบ
ใฝ่เรยี นรู้มุง่ มนั่ ในการทำงาน
1. ทักษะระหวา่ งบคุ คลและ 1. ตรวจใบงานท่ี 1.2 1 เร่ือง การจัดเกบ็ 2
การร่วมมือรว่ มใจ เสื้อผ้าเครอ่ื งแต่งกาย
2. ทักษะในการปรบั ตวั 2. ตรวจใบงานที่ 2.1.1 เรอ่ื ง ทำแบบนี้
3. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน ถกู หรือไม่
3. ประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
กจิ กรรม
4. งานบ้านของครอบครวั
5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
6. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการ
สอน/
วธิ ีการสอน/เทคนิค
2. หนูเขา้ ครวั แผนที่ 1 การประกอบอาหารและ แบบกระบวนการนริ นยั
อปุ กรณ์ในการประกอบอาหาร
แผนท่ี 2 การเตรียมอาหารประเภท แบบกระบวนการนริ นัย
เนอื้ สัตวแ์ ละผัก
ทักษะท่ีได้ การประเมนิ เวลา
(ชั่วโมง)
7. สังเกตความมวี ินัย ความรับผิดชอบ
ใฝ่เรยี นรู้
8. และมุ่งม่นั ในการทำงาน
9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการ
เรยี นรู้ท่ี 1 หน้าที่ในบา้ น
1. ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย 2
2. ทักษะการทำงานรว่ มกัน การเรยี นรู้ที่ 2 หนเู ขา้ ครัว
2. ประเมินการนำเสนอผลงาน
3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
5. สงั เกตความมีวินยั ความรบั ผดิ ชอบ
ใฝเ่ รยี นรู้และมงุ่ ม่ันในการทำงาน
1. ทกั ษะการแปลความ 1. ประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 2
2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล กิจกรรมอาหารฝมี ือหนู
2. ประเมินการนำเสนอผลงาน
3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
5. สงั เกตความมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบ
ใฝ่เรียนรู้ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
6. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ย
การเรียนรู้ท่ี 2 หนูเขา้ ครวั
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการ
3. หนปู ลูกต้นไม้ แผนที่ 1 พันธุ์พชื ที่ควรรจู้ กั สอน/
วธิ ีการสอน/เทคนิค
กระบวนการเรียนความรู้
ความเข้าใจ
แผนที่ 2 การเพาะเมล็ด กระบวนการปฏบิ ตั ิ
แผนที่ 3 การดแู ลแปลงเพาะกล้า วธิ กี ารสาธิต
และดูแลรกั ษาอุปกรณ์
ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา
(ชั่วโมง)
1. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย 2
2. ทกั ษะการแก้ปญั หา การเรยี นรู้ที่ 3 หนลู กู ต้นไม้ 2
2
ทักษะการคดิ และการ 2. ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 เรื่อง พันธ์พุ ืชที่
แกป้ ญั หา ควรร้จู กั
1. ทักษะการคิดและการ 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
แกป้ ัญหา 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
5. สังเกตความมวี ินยั ความรบั ผิดชอบ
2. ทกั ษะระหวา่ งบคุ คลและ
เขา้ ใจตนเอง ใฝ่เรยี นรู้มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
1. ตรวจใบงานท่ี 3.1.1 เร่ือง พันธ์ุพชื ที่
ควรร้จู กั
2. ประเมินการนำเสนอผลงาน
3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
4. สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ใน
การทำงาน
1. ประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
2. ตรวจแบบบันทึกผลการปลูกพชื
3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
4. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
6. สังเกตความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบ
ใฝเ่ รียนรู้มุ่งม่ันในการทำงาน
7. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ย
การเรยี นรู้ท่ี 3 หนปู ลกู ต้นไม้
หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการ
4. หนทู ำของเลน่ แผนที่ 1 ประดษิ ฐ์ของเลน่ สอน/
วิธีการสอน/เทคนิค
แบบกระบวนการอุปนยั
ทักษะที่ได้ การประเมิน เวลา
(ช่ัวโมง)
1. ทักษะการคิดอย่าง
สร้างสรรค์ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วย 3
การเรียนรู้ท่ี 4 หนูทำของเล่น
2. ประเมนิ การประดิษฐ์ชนิ้ งาน (ของ
เลน่ )
3. ประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
4. กจิ กรรมตุ๊กตาจากเศษผ้า
5. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
6. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
7. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
8. สังเกตความมีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบ
ใฝ่เรยี นรู้
9. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
10. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ย
การเรยี นรู้ที่ 4 หนูทำของเล่น
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แนวคดิ /รปู แบบการ
สอน/
5. หนูประดษิ ฐ์ แผนท่ี 1 ประดิษฐ์ของเล่น
ของใช้ วิธกี ารสอน/เทคนิค
แบบกระบวนการอุปนยั
ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมนิ เวลา
(ชั่วโมง)
1. ทักษะการคิดอย่าง
สร้างสรรค์ 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วย 3
การเรยี นรู้ที่ 5 หนูประดิษฐข์ องใช้
2. ประเมินการประดิษฐ์ชิน้ งาน (ของใช้)
3. ประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
4. กจิ กรรมของใชจ้ ากของเหลอื ใช้
5. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
6. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่
8. สังเกตความมีวินยั ความรับผดิ ชอบ
ใฝ่เรยี นรู้ มีความพอเพยี ง และมงุ่ มัน่
ในการทำงาน
9. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วย
การเรยี นรู้ที่ 5 หนปู ระดิษฐข์ องใช้
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้าทใ่ี นบ้าน
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1
หนา้ ท่ีในบา้ น
เวลา 4 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ัด
ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะ
กระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม
และลักษณะนิสัยในการทำงาน มจี ติ สำนึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม
เพื่อการดำรงชวี ิตและครอบครวั
ง 1.1 ป.2/1 บอกวิธีการและประโยชน์การทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองและครอบครัว
ง 1.1 ป.2/2 ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครอื่ งมือในการทำงานอยา่ งเหมาะสมกบั งานและ
ประหยัด
ง 1.1 ป.2/3 ทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั อย่างปลอดภัย
2. สาระการเรียนรู้
2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) การทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั เช่น
- บทบาทและหน้าทีข่ องสมาชิกในบา้ น
- การจดั วาง เก็บเสอ้ื ผ้า รองเท้า
- การกวาดบา้ น
- การลา้ งจาน
2) การใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือใหเ้ หมาะสมกบั งาน ชว่ ยใหป้ ระหยัดและปลอดภยั
3) ความปลอดภัยเป็นลกั ษณะนิสัยในการทำงาน
2.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
บา้ นเป็นที่อยู่อาศัยและยงั ชว่ ยสรา้ งความอบอุน่ ใจใหแ้ ก่ผูอ้ ยู่อาศยั ภายในบา้ น แตล่ ะบา้ นจะมสี มาชกิ ที่
แตกต่างกัน บางบ้านกจ็ ะมีขนาดครอบครัวท่ีใหญ่หรือเล็กแตกตา่ งกันออกไป และหน้าทข่ี องสมาชิกภายในบ้านก็
จะมีความแตกต่างกัน ซง่ึ การทแ่ี ต่ละคนทำหน้าท่ีของตนเองไดเ้ ป็นอยา่ งดจี ะทำให้ครอบครัวอยรู่ ว่ มกันได้
อยา่ งมีความสุข อกี ท้งั ยังช่วยสร้างสัมพนั ธภาพท่ีดภี ายในครอบครวั เพราะได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันอีกด้วย
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
3. ความสามารถในการส่ือสาร
4. ทักษะการทำงานร่วมกนั
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 หนา้ ทีใ่ นบา้ น
5. ทักษะในการคิดวเิ คราะห์
6. ทกั ษะระหว่างบุคคลและการรว่ มมือร่วมใจ
7. ทกั ษะในการปรบั ตวั
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี ินัย รบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
4. มีจติ สาธารณะ
6. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
กจิ กรรมเร่ือง งานบา้ นของครอบครวั
7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
ตรวจกิจกรรม แบบประเมนิ กิจกรรม ระดับคุณภาพ 3
รายการวัด งานบ้านของครอบครวั งานบ้านของครอบครัว ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมินช้นิ งาน/ ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจริง
ภาระงาน (รวบยอด) ก่อนเรียน
กจิ กรรมงานบา้ นของ - ใบงานที่ 1.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ครอบครัว - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ใบงานท่ี 1.1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.2 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจใบงานท่ี 1.1.2
แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1
เรอ่ื ง หน้าทีใ่ นบ้าน
7.3 การประเมนิ ระหว่าง
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ขนาดและลำดับของ
ครอบครวั จากสมาชกิ
ในครอบครัวตนเอง
2) บทบาทและหน้าที่ของ
สมาชกิ ในครอบครวั
3) การจดั เก็บเส้ือผา้ - ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เคร่อื งแต่งกาย - ตรวจใบงานท่ี 1.2.2 - ใบงานที่ 1.2.2
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
4) ทำแบบน้ถี ูกหรือไม่ ระดบั คุณภาพ 3
ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม
รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ ทใ่ี นบ้าน วิธวี ดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
- สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 3
รายการวดั การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
6) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3
ความรบั ผดิ ชอบ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
กล่มุ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั อนั พึงประสงค์
7) คุณลักษณะ ในการทำงาน ประเมินตามสภาพจริง
แบบทดสอบหลงั เรยี น
อันพงึ ประสงค์ ตรวจแบบทดสอบ
หลงั เรยี น
7.4 การประเมินหลังเรียน
แบบทดสอบหลงั เรียน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1
เรอื่ ง หนา้ ท่ใี นบา้ น
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 หนา้ ทใ่ี นบ้าน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 หน้าทใี่ นบ้าน 2 ชวั่ โมง
เรอ่ื งที่ 1 : บทบาทและหนา้ ที่ของสมาชิกในบ้านเวลา
วธิ สี อนแบบการบรรยาย
ข้นั นำ
1. ครูทกั ทายพร้อมแนะนำตนเอง จากน้นั ให้นกั เรียนแนะนำตนเองโดยบอกชือ่ นามสกุล และชอื่ เลน่
2. ครแู นะนำสาระสำคญั ของการเรยี นวิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยีวา่ “วิชาการงานอาชีพ
และเทคโนโลยมี งุ่ หมายให้นักเรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะทีจ่ ำเป็นต่อการดำเนินชีวิต
รู้เทา่ ทันการเปลย่ี นแปลง สามารถนำความความร้ตู ่าง ๆ มาเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพได้”
3. ครูถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า “ในการดำเนนิ ชีวิตประจำวันของนกั เรยี นมีกจิ กรรมใดบา้ ง
ท่ีนักเรยี นคิดว่าสอดคล้องกับวชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี”
ขน้ั สอน
ขั้นท่ี 1 เตรยี มการบรรยาย
1. ครถู ามกระตนุ้ ความคิดนักเรียนวา่ “นักเรียนเข้าใจความหมายของครอบครัวว่าอย่างไร”
2. ครูอธิบายพร้อมแสดงรูปภาพครอบครัวขนาดใหญ่และภาพครอบครวั ขนาดเล็ก
3. ครูใหน้ ักเรียนศึกษาเรอ่ื ง บทบาทและหน้าที่ของสมาชิกในบ้าน จากหนงั สือเรยี นการงาน
อาชพี และเทคโนโลยี ป.2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 หนา้ ทีใ่ นบ้าน
4. ครสู ุ่มนักเรยี น 5-6 คน ให้นักเรยี นออกมาเลา่ เกยี่ วกบั หน้าที่ของตนเองและสมาชกิ ใน
ครอบครวั มีหนา้ ทท่ี ่ตี ้องรับผิดชอบภายในบ้านอย่างไร
ข้ันที่ 2 การบรรยาย
5. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกบั บทบาท หน้าทข่ี องตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั วา่
“หน้าทีข่ องแต่ละคนจะแตกตา่ งกัน แตห่ น้าที่ของนักเรียนที่เหมือนกันและสำคัญที่สุดในเวลานี้
คอื การตั้งใจเรยี นหนังสือ ชว่ ยเหลือตนเอง ชว่ ยเหลอื งานบ้านท่ีตนเองสามารถทำได้ และเชื่อ
ฟังคำสงั่ สอนของพ่อ แม่ และผู้ปกครอง”
6. ครถู ามกระตุน้ ความคดิ นักเรยี นว่า “นกั เรยี นคิดว่าการแต่งชดุ นกั เรยี นด้วยตนเองเปน็ หน้าท่ี
ของเราหรือไม่”
7. ครูถามคำถามกระตุน้ ความคิดนกั เรยี นเพิ่มเติมวา่ “นักเรยี นคิดว่านอกจากการแต่งชุดนักเรียน
ด้วยตนเองแลว้ มีส่งิ ใดทีน่ ักเรียนคดิ วา่ เปน็ หนา้ ทข่ี องนักเรียน หรือเปน็ สงิ่ ท่นี กั เรยี นสามารถ
ชว่ ยเหลือหรือแบ่งเบาภาระพ่อ แม่ ผูป้ กครองไดบ้ า้ ง”
8. ครูกลา่ วเพิม่ เตมิ เพือ่ เสริมความรใู้ หก้ บั นกั เรยี นวา่ “เราสามารถช่วยงานบ้านของพ่อ แม่
ผูป้ กครองได้ แต่เราตอ้ งรจู้ ักระมัดระวงั ข้ันตอนการทำงาน เพ่อื ไม่ให้เกดิ อันตรายต่อร่างกาย
ด้วย ดังนน้ั นักเรยี นตอ้ งพจิ ารณาดว้ ยว่างานบา้ นท่ีนักเรยี นจะสามารถช่วยได้มีอะไรบ้าง และ
เปน็ อนั ตรายกบั ตนเองหรือไม่”
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ ที่ในบ้าน
ข้นั ที่ 3 การอภิปรายสรุปการเรียนรู้
9. ครูสมุ่ นักเรยี น 4-5 คน ออกมาหน้าชนั้ เรยี น และใหเ้ ล่าถงึ หน้าทข่ี องตนที่ไดท้ ำในวันหยดุ
ว่ามีอะไรบ้าง
10. จากน้นั ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคดิ วา่ “นอกจากหน้าทใ่ี นบ้านแล้ว หนา้ ที่ของนักเรียนใน
โรงเรยี นมอี ะไรบา้ ง”
ขนั้ สรุป
1. นักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกบั บทบาท หนา้ ท่ีของตนเอง และสมาชกิ ในครอบครวั
2. นักเรียนทำใบงานที่ 1.1.1 เร่ือง บา้ นของฉัน และใบงานท่ี 1.1.2 เร่อื ง หนา้ ทน่ี นั้ หนทู ำได้
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้าทใี่ นบา้ น เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่อื งที่ 2 : หนา้ ท่ขี องนกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
วธิ สี อนแบบกระบวนการปฏิบัติ
ขั้นนำ
1. ครูทบทวนบทเรียนในชัว่ โมงที่ผา่ นมาและถามคำถามกระตุ้นความสนใจนกั เรยี นว่า “ทบี่ ้านของ
นักเรยี นมงี านบา้ นอะไรบ้างที่นกั เรยี นสามารถปฏิบตั เิ พ่ือชว่ ยเหลอื ผู้ปกครองได้”
2. ครกู ล่าวเสรมิ จากการตงั้ คำถามว่า “เม่ือนักเรยี นโตขน้ึ นกั เรียนตอ้ งร้จู ักทีจ่ ะช่วยเหลือพ่อ แม่
ผปู้ กครอง หรือสมาชิกในบา้ น เช่น ชว่ ยเก็บจาน ลา้ งจาน กวาดบา้ น เกบ็ เสือ้ ผ้า เปน็ ต้น
ขัน้ สอน
ขัน้ ที่ 1 สังเกต รับรู้
1. ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตขนั้ ตอนการเก็บเสอ้ื ผา้ จากการสาธิตการพับเส้อื ผา้ และรดี
เส้อื ผา้
2. ครูอธบิ ายเกยี่ วกับการเก็บเส้ือผ้าว่า “การเก็บเสือ้ ผา้ ที่ได้ทำความสะอาดแล้วมอี ยู่ 2 แบบ คือ
เก็บแบบท่ตี ้องนำไปรีดต่อกับท่ีไมจ่ ำเปน็ ต้องรีด เชน่ เสื้อยืดทใ่ี ส่อยู่บา้ น กางเกงขาสนั้ ชุดนอน
ผ้าเชด็ ตวั ควรพบั เกบ็ และแยกประเภทไว้เพื่อความสะดวกในการหยบิ ใช้งาน ส่วนเสื้อผา้ ทีท่ ำ
ความสะอาดแล้วท่ตี ้องรีดให้นำมารดี ตามขัน้ ตอน เม่ือรีดเสร็จแล้วก็ควรนำใส่ไม้แขวนเสือ้ และ
ควรแขวนแยกประเภทของเสื้อผา้ เพ่ือสะดวกในการเลือกมาสวมใสห่ รือใชง้ านต่อไป”
3. ครูส่มุ เรยี กนักเรียน 2-3 คน ออกมาแสดงวธิ กี ารเก็บรองเท้าของนักเรียนว่ามวี ิธกี ารเกบ็ รองเทา้
อย่างไร และใหน้ ักเรียนคนอ่ืนๆ ในชน้ั เรียนสังเกตและรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ
วธิ ีการเกบ็ รองเท้าของเพือ่ น
4. ครแู สดงวิธีการเก็บรองเท้านกั เรยี นในกล่องใสร่ องเทา้ หรอื ช้นั วางรองเทา้ อย่างถกู วธิ ใี หน้ ักเรียน
ในชนั้ เรียนดู
5. ครูให้นกั เรยี นศึกษาเก่ยี วกับการเกบ็ เส้ือผ้าและเคร่อื งแต่งกาย การจดั เก็บเสอื้ ผ้าที่ทำ
ความสะอาดแล้ว การจดั วางและการเก็บรองเทา้ จากหนังสือเรียนวิชาการงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนา้ ที่ในบา้ น
6. ครขู ออาสาสมัครนักเรียนออกมาเล่าวธิ ีและแสดงท่าทางประกอบการลา้ งจาน ชาม ส้อม
7. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ถึงขัน้ ตอนวิธีการล้างจานว่า “ทุกครั้งเมอื่ นกั เรียนรับประทานอาหารเสรจ็
นักเรยี นตอ้ งนำเศษอาหารออกจากจาน หรอื นำออกจากภาชนะทีใ่ สอ่ าหารและกำจดั คราบ
อาหารก่อนจะนำไปลา้ ง จากนั้นรวบรวมภาชนะทต่ี ้องทำความสะอาดโดยเริ่มจากการลา้ ง
ภาชนะต่าง ๆ
ดว้ ยนำ้ เปล่า เพือ่ ให้คราบสกปรกหลุดออก แล้วล้างดว้ ยนำ้ ยาล้างจานโดยเทน้ำยาลา้ งจานลง
บนฟองน้ำ นำไปถทู ่ภี าชนะให้สะอาดจนสงั เกตได้ว่าคราบสกปรกออกหมดแล้ว จงึ นำไปล้างน้ำ
สะอาดอกี ครงั้ จนหายลนื่ หรอื ไขมนั หลุดออกหมดแล้ว จากน้ันนำภาชนะท่ีสะอาดแล้วนำไป
ผ่ึงบนชัน้ วางให้เป็นระเบยี บเรียบร้อยตอ่ ไป”
8. ครูใหน้ กั เรียนเตรียมอุปกรณ์ล้างจานเพ่ือลงมือปฏิบตั ิจริงในชว่ั โมงตอ่ ไป
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 หนา้ ท่ีในบ้าน
ขัน้ ที่ 2 ทำตามแบบ
9. ครูอธิบายวิธกี ารใชง้ านอุปกรณล์ ้างจาน จากนั้นครูนำนักเรียนไปโรงอาหารหรอื บริเวณทลี่ า้ ง
ภาชนะ เพอ่ื ปฏบิ ัตจิ ริงเก่ยี วกับการลา้ งจาน
10. ครูสาธิตวธิ กี ารลา้ งจานตามขั้นตอน โดยเรม่ิ จากการกวาดเศษอาหารลงในถังขยะ นำ
จานหรือภาชนะไปล้างนำ้ ให้สะอาด เทน้ำยาลา้ งจานลงบนฟองน้ำนำไปถบู นภาชนะให้สะอาด
จากนั้นนำไปล้างนำ้ สะอาด เสร็จแลว้ นำจานหรือภาชนะไปผง่ึ ใหแ้ ห้ง
11. ครูให้นกั เรยี นทำตามขนั้ ตอนการลา้ งจานทคี่ รูไดส้ าธิต เมือ่ นกั เรียนปฏบิ ตั ิขนั้ ตอนการ
ลา้ งภาชนะเสรจ็ แลว้ ครูให้นักเรยี นทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
12. ครูเปิดวีดทิ ัศนเ์ ก่ยี วกับการทำความสะอาดพ้นื บา้ นใหน้ ักเรยี นดู พร้อมถามคำถามกระตนุ้
ความสนใจนกั เรียนว่า “จากวดี ิทัศน์ถ้านักเรยี นตอ้ งทำความสะอาดพ้ืนบา้ นของตนเอง
นกั เรยี นจะมีวธิ กี ารทำความสะอาดพนื้ บ้านอยา่ งไร” นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น
ข้ันที่ 3 ทำตามโดยไม่มีแบบ
13. ครแู บง่ นักเรยี นออกเป็นกลุ่ม จากน้นั ครูแจกไม้กวาดดอกหญ้าให้กลุ่มละ 2 ด้าม และทีโ่ กยผง
กลุ่มละ 1 อัน ซึ่งสมาชิกภายในกลมุ่ ต้องผลดั กนั กวาดหรอื ทำความสะอาดพน้ื หอ้ งเรียนตามที่
แตล่ ะกลุม่ ได้รบั มอบหมายงาน
14. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำความสะอาดพน้ื ห้องเรียน โดยมกี ารแบง่ พ้นื ที่ในการทำ ดงั นี้
กลุม่ ที่ 1 กวาดบริเวณหนา้ ชนั้ เรยี น
กลุม่ ท่ี 2 กวาดบริเวณหนา้ หอ้ งเรียน
กลมุ่ ที่ 3 กวาดบรเิ วณดา้ นซ้ายของห้องเรยี น
กลมุ่ ท่ี 4 กวาดบริเวณด้านขวาของหอ้ งเรยี น
15. เม่อื นักเรียนทำความสะอาดพืน้ ห้องเสร็จแล้ว ครูให้นกั เรียนโกยฝุ่นผงลงทโ่ี กยผงแลว้ นำไปทิง้
ทถ่ี ังขยะ
ข้นั ท่ี 4 ฝกึ ใหช้ ำนาญ
16. ครบู อกนักเรียนให้นำความร้ทู ไี่ ดร้ บั จากการปฏิบัติในชั่วโมงเรยี นไปช่วยผปู้ กครองทำงานบ้าน
เกยี่ วกบั การจัดเกบ็ เส้อื ผ้า ทำความสะอาดพ้ืนบา้ นของตนเองจนเกดิ ความชำนาญ จากนัน้ ครู
ให้นักเรียนทำใบงานท่ี 1.2.1 เรอ่ื ง จัดเก็บใหเ้ รียบร้อย ใบงานท่ี 1.2.2 เรื่อง ทำแบบนถ้ี กู
หรือไม่ และมอบหมายให้นักเรียนทำชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง งานบา้ นของครอบครัว
ขัน้ สรุป
นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความร้เู ก่ียวกับหนา้ ท่ีของนักเรียนในฐานะสมาชกิ ในบา้ นว่า
“การทำงานบ้านเป็นสิ่งท่จี ะช่วยแบง่ เบาภาระงานจากการทำงานของผปู้ กครองไดเ้ ปน็ อย่างมาก
แตก่ ารเลือกทำงานบา้ นต้องคำนงึ ถงึ ความเหมาะสมกับวัยและความปลอดภยั ขณะปฏิบตั ิงาน
ซ่งึ ในระหวา่ งทำงานบา้ นต้องระมดั ระวังเรอื่ งความปลอดภัยจากเครื่องมือ อปุ กรณท์ ่ีทำความ
สะอาดด้วย”
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 หน้าที่ในบ้าน
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 หนา้ ท่ีในบ้าน
2) ใบงานท่ี 1.1.1 เรือ่ ง บ้านของฉนั
3) ใบงานท่ี 1.1.2 เรื่อง หนา้ ที่น้ันหนูทำได้
4) ใบงานท่ี 1.2.1 เรอ่ื ง การจัดเกบ็ เส้อื ผา้ เคร่ืองแตง่ กาย
5) ใบงานท่ี 1.2.2 เร่ือง ทำแบบนีถ้ ูกหรอื ไม่
6) วดี ทิ ัศน์เก่ียวกับการทำความสะอาดพื้นบา้ น
7) ตัวอยา่ งรูปภาพครอบครวั ขนาดเลก็
8) ตัวอยา่ งรูปภาพครอบครวั ขนาดใหญ่
9) รองเท้านักเรยี นและกล่องใส่รองเทา้ นักเรียน
10) อปุ กรณล์ ้างจาน
11) ไม้กวาดดอกหญา้ และที่โกยผง
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
- โรงอาหารของสถานศึกษา
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 หนา้ ทใี่ นบ้าน
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ เพียงขอ้ เดียว
1. ขอ้ ใดกล่าวถึงหนา้ ท่ีของลูกได้ถูกต้อง 6. เพราะเหตใุ ดจงึ ไม่ควรสะบัดปลายไมก้ วาด
ก. ทำตัวเป็นแบบอยา่ งท่ีดใี ห้กับคนในครอบครัว ทางมะพร้าวขณะกวาดน้ำทีพ่ ้ืน
ข. เชอ่ื ฟังคำส่งั สอน ชว่ ยเหลือตนเองเพ่ือแบง่ เบา ก. น้ำจะกระเดน็ ใส่ตัว
ข. ปลายไม้กวาดจะเกิดการเสียหาย
ภาระของคณุ พ่อคณุ แม่ ค. จะทำให้กวาดน้ำไมส่ ะดวก
ค. ดแู ลสมาชกิ ในครอบครวั และช่วยซ่อมแซม 7. เพราะเหตุใดจงึ ไมค่ วรลา้ งแก้วน้ำพร้อมภาชนะอน่ื
ของใชใ้ นบ้าน ก. เพราะแกว้ นำ้ จะเกดิ แตกรา้ ว
2. การทำงานบา้ นมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
ก. ทำให้ท่อี ยู่อาศัยสะอาด น่าอยู่
ข. ทำใหผ้ ้ทู มี่ าเยีย่ มเยยี นทีบ่ ้านกลา่ วชนื่ ชม ข. เพราะแก้วนำ้ จะมกี ลน่ิ เหมน็ คาว
ค. ทำให้ผู้ที่อยใู่ นบา้ นมคี วามสขุ ค. เพราะจานชามจะมีกล่ินเหมน็ คาว
3. วัยของนักเรียนสามารถทำงานบ้านใดไดด้ ว้ ย 8. ของใชส้ ิง่ ใดที่นกั เรียนควรจะเลอื กล้างเป็นอนั ดบั แรก
ตนเอง ก. ช้อนส้อม
ก. กวาดพ้ืน ข. จานชาม
ข. ล้างตเู้ ยน็ ค. แก้วน้ำ
ค. ซอ่ มกอ๊ กน้ำ 9. เพราะเหตุใดจึงต้องกวาดเศษอาหารทงิ้ กอ่ นล้างจานชาม
4. เมื่อใช้ไม้กวาดดอกหญา้ เสร็จแลว้ ควรทำอยา่ งไร ก. เพือ่ ไมใ่ ห้สกปรกมาก
ก. ผึ่งแดดให้แห้ง ข. เพอื่ ไม่ให้เปลืองนำ้ ยาล้างจาน
ข. เคาะฝุ่นละออง ค. เพ่อื ไมใ่ หเ้ ศษอาหารไปอดุ ตนั ท่อระบายน้ำ
ค. ล้างด้วยน้ำสะอาด 10. เม่ือรบั ประทานอาหารเสรจ็ แลว้ ควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร
5. เครอ่ื งมือชนดิ ใดควรใชใ้ นการกวาดพื้นดนิ ก. นำจานชามไปใหค้ ุณแม่ลา้ ง
ก. ไมก้ วาดดอกหญ้า ข. ลา้ งจานชามดว้ ยตนเองทันที
ข. ไมก้ วาดทางมะพรา้ ว ค. เก็บจานชามไว้หลายๆ วนั แลว้ จงึ ล้างพร้อม
ค. ไมก้ วาดทางมะพร้าวมีดา้ ม
กันทเี ดียว
เฉลย
1. ข 2. ก 3. ก 4. ข 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค 9. ค 10. ข
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้าท่ใี นบ้าน
แบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1
คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพยี งข้อเดยี ว
1. การสะบัดปลายไม้กวาดทางมะพรา้ วขณะกวาดนำ้ 7. ขอ้ ใดทำให้ท่ีอยอู่ าศยั สะอาดและนา่ อยู่
ทพ่ี ้ืนจะก่อให้เกิดสิง่ ใด ก. ทำความสะอาดบา้ นอย่างสม่ำเสมอ
ก. จะทำให้กวาดน้ำไมส่ ะดวก ข. มีเฟอรน์ ิเจอรแ์ พง ๆ ประดับภายในบ้าน
ข. ปลายไม้กวาดจะเกิดการเสยี หาย ค. นำของใชท้ ่ีไม่จำเป็นนำไปไว้มมุ ใดมมุ หน่ึง
ค. นำ้ จะกระเด็นใสต่ วั
2. เพราะเหตใุ ดจงึ ไมค่ วรลา้ งจานชามพรอ้ มแก้วนำ้ ของบา้ น
ก. เพราะแก้วน้ำจะมีกล่นิ เหม็นคาว 8. งานบ้านประเภทใดท่ีนักเรียนสามารถทำได้ด้วย
ข. เพราะแก้วน้ำจะเกดิ แตกรา้ ว
ค. เพราะจานชามจะมีกล่ินเหม็นคาว ตนเอง
3. อนั ดบั แรกของการลา้ งภาชนะควรล้างสงิ่ ใดก่อน
ก. ชอ้ นส้อม ก. ทำกับข้าว
ข. แก้วนำ้
ค. จานชาม ข. กวาดพืน้ บ้าน
4. ถ้านักเรยี นไมต่ อ้ งการให้เศษอาหารไปอดุ ตันท่อ
ระบายน้ำขณะทำการล้างภาชนะ นกั เรยี นควร ค. ล้างห้องน้ำ
ปฏบิ ัติอย่างไร
ก. ทำความสะอาดทอ่ ระบายนำ้ ก่อนทกุ คร้ัง 9. การเคาะฝนุ่ ละอองออกจากอปุ กรณ์ทำความสะอาด
ข. นำจานขามลา้ งน้ำเปลา่ กอ่ นทุกครัง้
ค. กวาดเศษอาหารทิ้งลงถังขยะก่อนลา้ งจานชาม บ้าน เหมาะสมกบั อปุ กรณ์ประเภทใด
ก. ผึ่งแดดใหแ้ หง้
ข. ไม้กวาดทางมะพร้าว
ค. ไมก้ วาดดอกหญา้
10. อุปกรณช์ นิดใดควรใช้ในการกวาดที่มนี ำ้ ขัง
ก. ไม้กวาดทางมะพรา้ ว
ข. ไมก้ วาดไม้ไผ่
ค. ไมก้ วาดดอกหญ้า
5. เมอ่ื รบั ประทานอาหารเสร็จแล้วสง่ิ ใดท่ีนกั เรียน
ควรปฏบิ ตั ิเพ่อื ช่วยเหลือครอบครวั
ก. นำจานชามไปใหค้ ุณแม่ล้าง
ข. นำจานชามของทุกคนไปล้างทนั ที
ค. เกบ็ ไว้เยอะๆ ค่อยลา้ งพรอ้ มกนั ทีเดียว
6. “การเชอ่ื ฟังคำสัง่ สอน ชว่ ยเหลอื ตนเองเพื่อ
แบง่ เบาภาระของครอบครวั ” เปน็ หนา้ ทขี่ อง
บคุ คลใดในครอบครวั
ก. ลกู
ข. คณุ พ่อคุณแม่
ค. ผ้ใู หญ่ภายในบา้ น
เฉลย
1. ค 2. ก 3. ข 4. ค 5. ข 6. ก 7. ก 8. ข 9. ค 10. ก
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หน้าที่ในบา้ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 บทบาทและหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในบา้ น
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชกิ ในบา้ น
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด
1.1 ตัวช้ีวัด
ง 1.1 ป.2/1 บอกวิธกี ารและประโยชน์การทำงานเพ่ือช่วยเหลือตนเองและครอบครัว
ป.2/2 ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการทำงานอย่างเหมาะสมกับงานและ
ประหยดั
ป.2/3 ทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครัวอย่างปลอดภัย
2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. จดั ลำดับความสำคัญของสมาชกิ ในครอบครัวตนเองได้ (K)
2. บอกบทบาท หนา้ ทขี่ องตนเองและสมาชกิ ในครอบครัวได้ (K)
3. ปฏิบตั หิ น้าที่ของตนเองตามบทบาท หนา้ ท่ี ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากสมาชกิ ในครอบครัวได้ (P)
4. รบั ผิดชอบหน้าที่ของตนเองตามท่ีได้รบั มอบหมายได้เป็นอย่างดี (A)
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) การทำงานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั เช่น
- บทบาทและหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ในบา้ น
2) การใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือให้เหมาะสมกับงาน ชว่ ยประหยัดและปลอดภัย
3) ความปลอดภยั เป็นลักษณะนิสยั ในการทำงาน
3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
บ้านเป็นที่อยู่อาศัยและยังช่วยสร้างความอบอุ่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน แต่ละบ้านจะมีสมาชิกท่ี
แตกต่างกัน เช่น พ่อ แม่ ลูก ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย จัดได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่แต่บางบ้านก็จะมีขนาด
ครอบครัวท่ีเล็กแตกต่างกันออกไป และแต่ละบ้านหน้าที่ของสมาชิกภายในบ้านก็จะต่างกัน ซึ่งหน้าที่ของนักเรียน
คือ การต้ังใจเรียนหนังสือ ช่วยเหลือทำงานบ้านท่ีเหมาะสมตามวัย และควรปฏิบัติเป็นประจำเพ่ือที่จะได้เกิดเป็น
ลกั ษณะนิสัยที่ดีในการทำงาน แต่ระหว่างการปฏิบัติงานเราควรเช่ือฟังพ่อ แม่ ผู้ปกครองเพราะงานบางอย่างอาจทำ
ให้เกิดอันตรายได้ และสมาชิกแต่ละคนภายในบ้านควรทำหน้าที่ของตนเองตามความเหมาะสมและปฏิบัติได้เป็น
อยา่ งดี สงิ่ เหล่านี้เปน็ ส่วนหน่งึ ทจ่ี ะทำให้ครอบครัวอยรู่ ่วมกันได้อยา่ งมีความสุข
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 หนา้ ทใ่ี นบา้ น
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 บทบาทและหนา้ ทีข่ องสมาชกิ ในบา้ น
5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
3. ทักษะในการคดิ วเิ คราะห์
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
4. มีจติ สาธารณะ
7. กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ ีสอนโดยเน้นการบรรยาย
ชว่ั โมงท่ี 1
นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนา้ ทีใ่ นบ้าน
ขัน้ นำ
1. ครทู ักทายพร้อมแนะนำตนเอง จากนั้นใหน้ กั เรยี นแนะนำตนเองโดยบอกชอื่ นามสกุล และช่อื เล่น
2. ครแู นะนำสาระสำคญั ของการเรยี นวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีว่า “วชิ าการงานอาชีพ
และเทคโนโลยีมุ่งหมายใหน้ ักเรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะทจ่ี ำเปน็ ต่อการดำเนินชวี ติ
รูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง สามารถนำความความรู้ต่าง ๆ มาเปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี ได้”
3. ครูถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียนวา่ “ในการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั ของนกั เรยี นมกี จิ กรรมใดบ้าง
ท่นี กั เรยี นคดิ วา่ สอดคล้องกบั วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี” จากน้นั ครูกล่าวเช่ือมโยงเขา้ สู่
บทเรยี น
(แนวตอบ : การทำความสะอาดบ้าน การประกอบอาหาร การปลกู ผักสวนครัว การซ่อมแซม
เส้อื ผ้า เป็นต้น)
ขนั้ สอน
ขัน้ ที่ 1 เตรยี มการบรรยาย
1. ครถู ามกระตุ้นความคิดนักเรยี นว่า “นักเรยี นเขา้ ใจความหมายของครอบครวั วา่ อยา่ งไร”
(แนวตอบ : เป็นกลุ่มบุคคลท่ีมีความผกู พนั และใชช้ วี ิตรว่ มกนั ซึง่ ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก ปู่
ยา่ ตา ยาย ลงุ ป้า นา้ อา หลาน เปน็ ต้น ครอบครวั ถือวา่ เป็นสถาบันทีส่ ำคัญของสงั คม)
2. ครอู ธบิ ายพร้อมแสดงรูปภาพครอบครวั ขนาดใหญ่จะประกอบไปดว้ ย ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า
นา้ อา พ่อ แม่ ลูก ส่วนครอบครวั ขนาดเล็กจะมีสมาชิกน้อยกว่า ซงึ่ อาจประกอบไปดว้ ย พ่อ
แม่ ลูก หรือปู่ ยา่ พ่อ ลกู หรือตา ยาย แม่ ลูก เป็นต้น
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน้าท่ีในบ้าน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 บทบาทและหน้าท่ีของสมาชิกในบา้ น
3. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาเรอ่ื ง บทบาทและหนา้ ท่ขี องสมาชิกในบ้าน จากหนังสือเรยี นการงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ป.2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 หน้าที่ในบ้าน
4. ครูสุ่มนักเรียน 5-6 คน ใหน้ ักเรียนออกมาเล่าเกี่ยวกบั หนา้ ทขี่ องตนเองและสมาชกิ ใน
ครอบครวั มีหน้าท่ีท่ีต้องรบั ผดิ ชอบภายในบา้ นอยา่ งไร
ช่ัวโมงที่ 2
ขั้นที่ 2 การบรรยาย
5. จากนั้นครูอธบิ ายเพิ่มเติมเกีย่ วกับบทบาท หน้าท่ีของตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั ว่า
“หนา้ ท่ขี องแต่ละคนจะแตกต่างกัน แตห่ นา้ ท่ีของนักเรยี นที่เหมอื นกนั และสำคัญท่ีสดุ ในตอนนี้
คือ การตั้งใจเรยี นหนงั สอื ช่วยเหลือตนเอง ช่วยเหลอื งานบ้านทีต่ นเองสามารถทำได้ และเชอ่ื
ฟงั คำสง่ั สอนของพ่อ แม่ และผ้ปู กครอง”
6. ครูถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียนว่า “นักเรียนคดิ วา่ การแต่งชดุ นักเรียนดว้ ยตนเองเป็นหน้าท่ี
ของเราหรือไม”่ จากนั้นครูกล่าวเสริมว่า “การท่ีนกั เรยี นสามารถแต่งชดุ นักเรียนเองได้ เปน็
การช่วยแบ่งเบาภาระพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ท่จี ะไดไ้ มต่ ้องเสียเวลากับการแต่งตวั ให้นักเรยี น”
7. ครถู ามคำถามกระต้นุ ความคิดนกั เรยี นเพ่ิมเตมิ วา่ “นักเรยี นคิดวา่ นอกจากการแตง่ ชุดนักเรยี น
ดว้ ยตนเองแล้ว มสี ง่ิ ใดท่นี ักเรียนคิดว่าเปน็ หน้าท่ขี องนักเรยี น หรือเป็นสง่ิ ที่นักเรยี นสามารถ
ชว่ ยเหลอื หรือแบง่ เบาภาระพ่อ แม่ ผปู้ กครองไดบ้ ้าง”
(แนวตอบ : การแยกเสื้อผ้าที่ตนเองสวมใสแ่ ลว้ การจัดเกบ็ เสือ้ ผ้าของตนเองและของสมาชกิ ใน
ครอบครัวที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว การจัดวางสงิ่ ของให้เป็นระเบยี บ)
8. ครกู ลา่ วเพิ่มเตมิ เพื่อเสรมิ ความรู้ให้กับนกั เรยี นว่า “เราสามารถช่วยงานบา้ นของพ่อ แม่
ผปู้ กครองได้ แต่เราต้องรู้จักระมดั ระวังขน้ั ตอนการทำงาน เพื่อไมใ่ ห้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ดว้ ย ดังน้ันนักเรยี นต้องพจิ ารณาดว้ ยวา่ งานบา้ นท่ีนักเรียนจะสามารถชว่ ยได้มอี ะไรบ้าง และ
เป็นอันตรายกับตนเองหรอื ไม่”
ขนั้ ท่ี 3 การอภิปรายสรปุ การเรยี นรู้
9. ครสู ุ่มนักเรยี น 4-5 คน ออกมาหนา้ ชั้นเรยี นเล่าถึงหน้าทีข่ องตนที่ได้ทำในวนั หยดุ
วา่ มอี ะไรบ้าง
10. จากนั้นครูถามคำถามกระตุ้นความคิดวา่ “นอกจากหนา้ ท่ีในบา้ นแล้ว หน้าท่ีของนักเรยี นใน
โรงเรียนมอี ะไรบา้ ง”
(แนวตอบ : การตั้งใจเรียนหนังสอื การเชอ่ื ฟังคำสง่ั สอนของครู ทำตามกฎของโรงเรียน
เป็นต้น)
Note
วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพื่อให้นกั เรยี น
- สามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครวั ได้มากขนึ้
- มีความรบั ผิดชอบและร้บู ทบาทหน้าทข่ี องตนเอง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ ท่ีในบา้ น
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 บทบาทและหน้าท่ขี องสมาชกิ ในบา้ น
ขัน้ สรุป
1. นักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกับ บทบาท หน้าที่ของตนเอง และสมาชกิ ในครอบครวั
วา่ “สมาชิกในบ้านต่างมีบทบาทหน้าทแี่ ตกต่างกันออกไป สมาชิกทีเ่ ป็นผู้ใหญ่ควรมีหน้าท่ี
ประกอบอาชีพที่สุจรติ เพ่อื หาเลี้ยงครอบครวั อบรมส่ังสอน และปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ป็นแบบอยา่ งท่ีดี
แกบ่ ตุ รหลาน สว่ นบุตรหลานก็ควรตง้ั ใจเรียนหนังสือ ชว่ ยเหลอื งานบา้ นทต่ี นเองสามารถ
ช่วยเหลอื ได้ และเช่ือฟังคำสั่งสอนของผู้ปกครอง เพอ่ื ใหบ้ รรยากาศการอยู่รว่ มกันของสมาชิกมี
ความอบอ่นุ และมคี วามสุข”
2. นกั เรียนทำใบงานที่ 1.1.1 เร่ือง บา้ นของฉนั และใบงานที่ 1.1.2 เรอ่ื ง หน้าที่นน้ั หนูทำได้
โดยใหน้ กั เรยี นทำใหเ้ สร็จในช่ัวโมงเรยี น เม่ือนกั เรยี นทำเสรจ็ แลว้ ให้นำสง่ ครู
8. การวดั และประเมินผล วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
รายการวัด ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กอ่ นเรยี น
8.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1
เรอ่ื ง หน้าทใ่ี นบา้ น
8.2 การประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานที่ 1.1.1 - ใบงานที่ 1.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การจดั กจิ กรรม
การเรยี นรู้
1) ขนาดและลำดบั ของ
ครอบครัวจากสมาชิก
ในครอบครวั ตนเอง
2) บทบาทและหน้าท่ีของ - ตรวจใบงานท่ี 1.1.2 - ใบงานท่ี 1.1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สมาชิกในครอบครัว
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล การทำงานรายบุคคล
- แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
4) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพงึ ประสงค์ ความรับผิดชอบ อันพึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น
ในการทำงาน
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 หน้าท่ีในบา้ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชกิ ในบา้ น
9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี น การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนา้ ที่ในบา้ น
2) ใบงานที่ 1.1.1 เรอื่ ง บา้ นของฉนั
3) ใบงานท่ี 1.1.2 เร่อื ง หนา้ ทีน่ ้ันหนูทำได้
3) ตวั อยา่ งรูปภาพครอบครวั ขนาดเลก็
4) ตวั อยา่ งรูปภาพครอบครัวขนาดใหญ่
9.2 แหล่งการเรียนรู้
-
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 หนา้ ที่ในบา้ น
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 บทบาทและหน้าทีข่ องสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานท่ี 1.1.1
เรื่อง บา้ นของฉัน
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นบอกขนาดครอบครวั และเรยี งลำดบั สมาชิกในครอบครัวของตนเอง
ครอบครัวของฉนั เปน็ ครอบครัวขนาด
ลำดับที่ สมาชิกในบา้ น อายุ
ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนสรุปหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในบ้านของตนเอง
1. มีหน้าที่
2. มหี นา้ ท่ี
3. มหี นา้ ที่
4. มหี น้าที่
5. มหี น้าที่
6. มหี นา้ ท่ี
7. มหี นา้ ท่ี
8. มีหน้าท่ี
9. มหี นา้ ที่
10. มีหนา้ ที่
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้าทีใ่ นบา้ น เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานท่ี 1.1.1
เรื่อง บ้านของฉนั
คำชี้แจง : ให้นักเรียนบอกขนาดครอบครัวและเรยี งลำดบั สมาชกิ ในครอบครวั ของตนเอง
ครอบครัวของฉนั เป็นครอบครัวขนาด เลก็
ลำดบั ที่ สมาชกิ ในบา้ น อายุ
35
1. คณุ พ่อ 32
8
2. คุณแม่
3. ลกู
ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรียนสรปุ หนา้ ท่ขี องสมาชิกในบ้านของตนเอง
1. พอ่ มหี น้าที่ ทำงานหาเล้ยี งครอบครวั ทำตนให้เป็นแบบอยา่ งท่ดี แี ก่ลกู
2. แม่ มีหนา้ ที่ ดแู ลครอบครวั ดูแลความเรียบร้อยภายในบา้ น อบรมสง่ั สอนลกู
3. ลกู มีหน้าท่ี ต้ังใจเรียนหนงั สือ เช่อื ฟังคำส่งั สอนของพอ่ แม่ ช่วยเหลืองานบ้าน
4. มีหนา้ ที่
5. มีหน้าที่
6. มีหนา้ ท่ี
7. มีหน้าที่
8. มีหน้าท่ี
9. มีหน้าท่ี
10. มีหน้าท่ี
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 หน้าท่ใี นบ้าน
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 บทบาทและหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานท่ี 1.1.2
เรือ่ ง หน้าทน่ี ้นั หนูทำได้
คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนใสเ่ คร่ืองหมาย ในวงกลมขอ้ ที่เปน็ หนา้ ท่ที ี่นกั เรยี นสามารถทำได้
ตั้งใจเรียนหนังสือ จัดเก็บเสื้อผ้า
เครอ่ื งแตง่ กาย
ทำงานหาเล้ยี ง ล้างจาน
ครอบครัว
ทำความสะอาด
อบรม สั่งสอน พน้ื บ้าน
เลีย้ งดลู ูก
ทำตนเองเปน็
เช่ือฟงั คำส่ังสอนของ แบบอย่างทดี่ ใี ห้กบั
พ่อ แม่ ผู้ปกครอง
ลกู หลาน
ชว่ ยเหลือตนเอง
แบง่ เบาภาระพ่อแม่ ซอ่ มแซมของใช้
เครอื่ งใช้ในบ้าน
เล้ยี งดูลกู หลาน
ทำอาหารเล้ียงสมาชกิ
ในครอบครัว
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้าท่ีในบา้ น เฉลย
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชิกในบา้ น
ใบงานท่ี 1.1.2
เร่ือง หนา้ ทน่ี ั้นหนูทำได้
คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนใส่เคร่ืองหมาย ในวงกลม ข้อทีเ่ ป็นหน้าท่ีที่นกั เรียนสามารถทำได้
ต้งั ใจเรียนหนังสอื จดั เกบ็ เสื้อผ้า
เคร่อื งแตง่ กาย
ทำงานหาเลย้ี ง ล้างจาน
ครอบครัว
อบรม สง่ั สอน ทำความสะอาด
เล้ยี งดลู กู พ้ืนบา้ น
เชอ่ื ฟังคำส่งั สอนของ ทำตนเองเปน็
พ่อ แม่ ผูป้ กครอง แบบอยา่ งท่ดี ีให้กบั
ลูกหลาน
ช่วยเหลอื ตนเอง ซอ่ มแซมของใช้
แบง่ เบาภาระพอ่ แม่ เครอ่ื งใช้ในบ้าน
เลย้ี งดลู ูกหลาน ทำอาหารเลี้ยงสมาชิก
ในครอบครวั
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 หนา้ ทใี่ นบา้ น
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1 บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชกิ ในบา้ น
ตัวอย่างรูปภาพครอบครัวขนาดเล็ก
ตัวอย่างรปู ภาพครอบครัวขนาดใหญ่
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้าทใี่ นบา้ น
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 บทบาทและหน้าที่ของสมาชกิ ในบา้ น
10. ความเห็นของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงช่อื .....................................................
(นางนาถฤดี เวชกามา)
ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนวัดโขดหินมติ รภาพที่ 42
11. บันทกึ ผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางภมู ิศาสตร์
ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทมี่ ีปญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ลงชอ่ื .....................................................ผูส้ อน
(นางสาวอัจฉราภรณ์ เกลย้ี งพร้อม)
ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย
โรงเรียนวดั โขดหนิ มติ รภาพที่ 42
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนา้ ทใี่ นบา้ น
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2 หนา้ ท่ีของนกั เรียนในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2
หนา้ ท่ีของนักเรียนในฐานะสมาชิกในบ้าน
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัด
1.1 ตัวชี้วัด
ง 1.1 ป.2/1 บอกวิธีการและประโยชน์การทำงานเพ่ือชว่ ยเหลือตนเองและครอบครวั
ป.2/2 ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือในการทำงานอยา่ งเหมาะสมกบั งานและ
ประหยัด
ป.2/3 ทำงานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครัวอย่างปลอดภัย
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกหนา้ ที่ของตนเองในฐานะสมาชกิ ในบ้านตามท่ีไดร้ ับมอบหมายได้ (K)
2. บอกวิธกี ารใช้งานอุปกรณ์การทำความสะอาดได้อย่างถูกตอ้ ง (K)
3. ใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือในการทำงานตามหน้าทีข่ องตนเองในฐานะสมาชกิ ในบ้านตามที่ได้รับ
มอบหมายได้ (P)
4. ปฏิบัตติ ามข้นั ตอนการทำความสะอาดบ้านไดอ้ ย่างถูกต้องปลอดภยั กบั ตนเองและครอบครัว (A)
3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1) การทำงานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครัว เชน่
- บทบาทและหนา้ ทีข่ องสมาชกิ ในบา้ น
- การจดั วาง เก็บเสื้อผ้า รองเท้า
- การกวาดบ้าน
- การลา้ งจาน
2) การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมอื ใหเ้ หมาะสมกับงาน ชว่ ยให้ประหยดั และปลอดภัย
3) ความปลอดภยั เปน็ ลกั ษณะนิสัยในการทำงาน
3.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน
(พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา)
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
หน้าทีเ่ ป็นการปฏบิ ัติตนตามภาระความรบั ผิดชอบท่ีได้รบั มอบหมายให้เหมาะสมและถูกต้อง สมาชิกทุกคน
ในบ้านต่างมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ไม่วา่ จะเป็นหนา้ ที่ของผู้เปน็ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หน้าทขี่ องผู้เป็นบุตรหลาน
หรือผู้เป็นพ่ีน้อง การทเ่ี ราปฏิบัตติ นตามหน้าทใ่ี นฐานะสมาชิกในบ้านจะชว่ ยทำให้บ้านน่าอยู่อาศัย เปน็ การแบ่ง
เบาภาระงานบ้านจากพ่อ แม่ ผปู้ กครอง หรือจากสมาชิกภายในครอบครัว และยังชว่ ยสร้างสัมพันธภาพท่ดี ี
ภายในครอบครัว เพราะได้ทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ รว่ มกนั อีกดว้ ย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้าท่ีในบา้ น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 หนา้ ทีข่ องนกั เรยี นในฐานะสมาชิกในบา้ น
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
3. ความสามารถในการสือ่ สาร
4. ทักษะระหวา่ งบคุ คลและการร่วมมือรว่ มใจ
5. ทกั ษะในการปรบั ตวั
6. ทักษะการทำงานรว่ มกัน
6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย รบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน
4. มจี ติ สาธารณะ
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการปฏบิ ัติ
ชวั่ โมงท่ี 1
ขน้ั นำ
1. ครทู บทวนบทเรียนในช่ัวโมงที่ผา่ นมาและถามคำถามกระตุ้นความสนใจนักเรยี นวา่ “ที่บ้าน
ของนักเรยี นมีงานบ้านอะไรบ้างทีน่ กั เรียนสามารถปฏิบตั ิเพ่ือช่วยเหลือผู้ปกครองได้” นกั เรยี น
ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็
2. ครกู ล่าวเสริมจากการตั้งคำถามว่า “เมื่อนักเรยี นโตขึ้นนักเรียนตอ้ งรูจ้ ักทจ่ี ะชว่ ยเหลอื พ่อ แม่
ผู้ปกครอง หรือสมาชกิ ในบา้ น เช่น ช่วยเก็บจาน ล้างจาน กวาดบ้าน เก็บเสือ้ ผา้ เปน็ ต้น
ข้ันสอน
ขัน้ ที่ 1 สังเกต รบั รู้
1. ครสู าธติ วิธีการพับเสื้อผา้ และรีดเส้อื ผ้า เพื่อใหน้ กั เรียนได้สังเกตขน้ั ตอนการเกบ็ เสือ้ ผา้ ท่ที ำ
ความสะอาดแล้ว
2. ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับการเกบ็ เส้ือผ้าว่า “การเก็บเสื้อผ้าท่ีไดท้ ำความสะอาดแลว้ มีอยู่ 2 แบบ คือ
เก็บแบบท่ีต้องนำไปรดี ต่อกับท่ไี ม่จำเป็นต้องรีด เช่น เสือ้ ยืดทใี่ สอ่ ยบู่ า้ น กางเกงขาส้ัน ชุดนอน
ผา้ เชด็ ตัว ควรพับเก็บและแยกประเภทไว้เพ่ือความสะดวกในการหยบิ ใชง้ าน สว่ นเสอื้ ผ้าที่ทำ
ความสะอาดแล้วตอ้ งรีดใหน้ ำมารดี ตามข้นั ตอน เมื่อรดี เสร็จแล้วกค็ วรนำใสไ่ ม้แขวนเสื้อและ
ควรแขวนแยกประเภทของเส้ือผ้า เพ่ือสะดวกในการเลือกมาสวมใส่หรือใช้งานต่อไป”
3. ครนู ำรองเทา้ นกั เรยี นและกล่องใสร่ องเทา้ นำมาวางหน้าช้ันเรยี น จากนั้นสุ่มเรยี กนักเรยี น 2-3
คน ออกมาแสดงวธิ กี ารเกบ็ รองเทา้ ของนักเรยี นว่ามวี ธิ กี ารเกบ็ รองเทา้ อย่างไร และให้นักเรียน
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 หนา้ ท่ใี นบ้าน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 หนา้ ทีข่ องนกั เรียนในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
คนอ่นื ๆ ในชนั้ เรยี นสังเกตวธิ ีการเก็บรองเทา้ ของเพ่ือนวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ อย่างไร นกั เรยี นใน
ชัน้ เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น
4. ครูแสดงวิธกี ารเก็บรองเท้านักเรยี นในกลอ่ งใสร่ องเท้าหรือวางบนช้ันวางรองเท้าอยา่ งถกู วิธใี ห้
นกั เรยี นในชั้นเรียนดู และสุม่ นักเรียนออกมา 2-3 คน (นักเรยี นไมซ่ ำ้ กับข้อทผ่ี ่านมา) เพ่ือแสดง
วิธกี ารเกบ็ รองเทา้ นกั เรียนในกล่องใสร่ องเท้าหรือนำรองเท้าไปวางบนชนั้ วางรองเท้าอย่าง
ถูกต้องให้นกั เรียนคนอืน่ ๆ ในชนั้ เรยี นดู
5. จากน้ันครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการเก็บเสื้อผา้ และเคร่ืองแตง่ กาย การจดั เกบ็ เสื้อผ้าท่ีทำ
ความสะอาดแล้ว การจดั วางและการเกบ็ รองเท้า จากหนังสือเรยี นวชิ าการงานอาชีพและ
เทคโนโลยี ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หนา้ ที่ในบา้ น
6. ครูขออาสาสมัครนักเรยี นที่เคยช่วยผ้ปู กครองลา้ งจาน ออกมาเลา่ วิธกี ารและแสดงทา่ ทาง
ประกอบการล้างจาน ชาม ส้อม อยา่ งละ 1 คน (โดยครูเป็นผเู้ ตรียมอปุ กรณต์ ามท่กี ลา่ วไวม้ า)
ใหน้ ักเรียนได้ดูเป็นตวั อยา่ ง
7. ครอู ธบิ ายถึงขั้นตอนวิธีการล้างจานว่า “ทุกคร้ังเม่ือนักเรียนรบั ประทานอาหารเสรจ็ นักเรียน
ต้องนำเศษอาหารออกจากจาน หรือนำออกจากภาชนะทใี่ ส่อาหารและกำจดั คราบอาหารก่อน
จะนำไปลา้ ง จากน้นั รวบรวมภาชนะที่ต้องทำความสะอาดโดยเร่ิมจากการล้างภาชนะต่าง ๆ
ดว้ ยน้ำเปลา่ เพ่อื ให้คราบสกปรกหลดุ ออก แลว้ ลา้ งด้วยน้ำยาลา้ งจานโดยเทน้ำยาลา้ งจานลง
บนฟองน้ำ นำไปถูทภี่ าชนะใหส้ ะอาดจนสังเกตได้วา่ คราบสกปรกออกหมดแล้ว จงึ นำไปล้างนำ้
สะอาดอีกครั้งจนหายลื่นหรือไขมนั หลดุ ออกหมดแล้ว จากนั้นนำภาชนะที่สะอาดแล้วนำไป
ผ่งึ บนชนั้ วางให้เปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยต่อไป”
8. ครใู หน้ ักเรยี นเตรยี มอุปกรณ์ล้างจาน เช่น จานหรอื ภาชนะทีท่ นทานต่อการแตกหกั ฟองน้ำ
นำ้ ยาล้างจาน ผา้ สะอาด เปน็ ต้น เพ่ือลงมือปฏิบตั จิ ริงในช่วั โมงตอ่ ไป
ขนั้ ที่ 2 ทำตามแบบ
9. ครอู ธบิ ายวิธกี ารใชง้ านอปุ กรณ์ล้างจาน ดังน้ี
- “นำ้ ยาล้างจาน ใช้ขจดั คราบสกปรก ไขมัน กลิ่นคาว บนภาชนะ สามารถใชร้ ว่ มกับฟองนำ้
ฝอยขดั หมอ้ ฟองนำ้ ใยขัด หรอื ฟองน้ำตาขา่ ย โดยเทนำ้ ยาล้างจานลงบนฟองนำ้ เปยี ก
นำไปถกู ับภาชนะใหเ้ กดิ ความสะอาด
- ฝอยขดั หม้อ ใชข้ ัดภาชนะทีมคี ราบสกปรกมากและเกาะติดแน่น
- ฟองน้ำใยขดั ใช้ถูภาชนะท่ีมีคราบอาหารเกาะตดิ และจะตอ้ งใชแ้ รงขัด แตเ่ นื้อใยขัดจะต้อง
ไม่ทำลายพ้นื ผิวภาชนะเท่ากับฝอยขดั หมอ้
- ฟองนำ้ ตาข่าย ใช้ถภู าชนะท่ีมีคราบอาหารเล็กน้อย เนื้อฟองน้ำจะไมท่ ำลายพืน้ ผิวภาชนะ
เหมาะกบั การล้างท่ีเป็นกระเบือ้ ง”
10. ครนู ำนกั เรียนไปโรงอาหารหรอื บรเิ วณท่ีล้างภาชนะ เพื่อปฏบิ ตั ิจริงเกยี่ วกบั การล้างจาน
11. ครูทำการสาธติ วธิ ีการลา้ งจานตามข้นั ตอน โดยเร่ิมจากการกวาดเศษอาหารลงในถังขยะ นำ
จานหรือภาชนะไปล้างน้ำให้สะอาด เทน้ำยาลา้ งจานลงบนฟองน้ำนำไปถูบนภาชนะให้สะอาด
จากนน้ั นำไปล้างน้ำสะอาด เสร็จแล้วนำจานหรอื ภาชนะไปผงึ่ ให้แห้ง
12. ครูให้นกั เรยี นทำตามขนั้ ตอนการล้างจานทค่ี รูไดท้ ำการสาธติ ในระหว่างทน่ี กั เรียนกำลงั ปฏบิ ตั ิ
ขั้นตอนการล้างจาน ครูแนะนำเพ่มิ เติมในเรื่องการจับภาชนะวา่ “ในขัน้ ตอนการทำความ
สะอาดด้วยน้ำยาลา้ งจานควรจบั ภาชนะให้แนน่ เพราะน้ำยาลา้ งจานมีความลนื่ ซง่ึ ถา้ เป็น
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 หน้าที่ในบ้าน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 หนา้ ทขี่ องนกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
ภาชนะกระเบ้ืองอาจจะทำใหภ้ าชนะหลดุ มือเกิดความเสียหายและอาจจะทำใหเ้ กดิ อันตราย
กบั ตนเองได”้
13. เม่ือนักเรียนปฏิบัติข้นั ตอนการล้างชนะเสรจ็ แลว้ ครใู ห้นักเรยี นทำความสะอาดภาชนะตา่ ง ๆ
ใหเ้ รยี บรอ้ ย โดยครูแนะนำเพ่ิมเติมเก่ียวกับการเกบ็ ฟองน้ำวา่ “เมือ่ นักเรียนทำความสะอาด
ภาชนะเสรจ็ แลว้ นกั เรียนควรทำความสะอาดฟองน้ำทใ่ี ชล้ ้างภาชนะดว้ ยการลา้ งนำ้ ให้สะอาด
แล้วนำไปผึ่งในที่อากาศถา่ ยเทสะดวก เพื่อไมใ่ ห้เกิดการสะสมของเชื้อโรคในฟองน้ำ”
ชว่ั โมงที่ 2
14. ครเู ปิดวีดิทศั น์เกีย่ วกับการทำความสะอาดพน้ื บา้ นให้นักเรยี นดู พร้อมถามคำถามกระตุ้น
ความสนใจนกั เรยี นวา่ “จากวดี ทิ ศั น์ถา้ นักเรียนตอ้ งทำความสะอาดพ้ืนบา้ นของตนเอง
นักเรียนจะมีวธิ กี ารทำความสะอาดพน้ื บา้ นอย่างไร” นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น
15. ครูอธบิ ายเพิ่มเติมวา่ “นอกจากนกั เรียนจะช่วยเหลือผปู้ กครองดว้ ยการลา้ งภาชนะหลงั จาก
รับประทานอาหารเสรจ็ แลว้ นักเรยี นยังสามารถชว่ ยเหลอื ผู้ปกครองดว้ ยการทำความสะอาด
บ้าน โดยนักเรยี นจะตอ้ งเลอื กอุปกรณ์ทเี่ หมาะสมในการทำความสะอาดบา้ น และเหมาะสม
กับชนดิ พน้ื บ้านของตนเองด้วย”
ขัน้ ท่ี 3 ทำตามโดยไม่มแี บบ
16. ครูแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 – 6 คน ตามความเหมาะสม จากน้ันครูแจกไม้กวาด
ดอกหญ้าใหก้ ลมุ่ ละ 2 ดา้ ม และทีโ่ กยผงกลุ่มละ 1 อนั ซ่ึงสมาชิกภายในกลุม่ ต้องผลดั กัน
กวาดหรือทำความสะอาดพ้ืนหอ้ งเรียนตามทแ่ี ตล่ ะกลุม่ ไดร้ ับมอบหมายงาน
17. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ทำความสะอาดพ้นื หอ้ งเรยี น โดยมกี ารแบง่ พนื้ ท่ใี นการทำ ดงั น้ี
กล่มุ ที่ 1 กวาดบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี น
กลุม่ ที่ 2 กวาดบรเิ วณหน้าหอ้ งเรียน
กลมุ่ ที่ 3 กวาดบรเิ วณดา้ นซา้ ยของห้องเรยี น
กลมุ่ ที่ 4 กวาดบรเิ วณด้านขวาของห้องเรยี น
18. ก่อนทีน่ ักเรยี นจะทำความสะอาดพ้ืนห้อง ครูกลา่ วแนะนำเพิ่มเติมเกยี่ วกับประเภทของไม้
กวาดว่า “ไมก้ วาดมีด้วยกันหลายประเภท ไม้กวาดที่นกั เรยี นกำลังถืออยเู่ รยี กว่า ไม้กวาดดอก
หญ้า จะใช้สำหรับกวาดในพ้ืนที่เรียบและแห้ง วิธีการทำความสะอาดด้วยไม้กวาดดอกหญ้า
ต้องเริ่มกวาดจากมุมทีเ่ ป็นซอกของห้องก่อน โดยกวาดมารวมกนั ทกี่ ลางห้องและโกยฝุ่นผงใส่
ทโ่ี กยฝนุ่ แตถ่ ้าต้องการทำความสะอาดช้ันบนของบ้าน ควรกวาดจากชนั้ บนของบา้ นลงมายงั
ชัน้ ลา่ ง และควรกวาดไปในทิศทางเดยี วกัน จากน้ันทำตามขนั้ ตอนแรก แต่ก็ยงั มีไมก้ วาดทที่ ำ
จากพลาสตกิ ท่ใี ชใ้ นกวาดพืน้ ท่ีเรยี บและแห้งด้วยเชน่ กัน สว่ นไมก้ วาดท่ีใชท้ ำความ สะอาด
พน้ื ทีเ่ ปยี กและหยาบคอื ไมก้ วาดทางมะพรา้ ว ซึ่งมีด้ามจับทย่ี าวและสัน้ ผ้ใู ชง้ านสามารถ
เลือกใช้ไดต้ ามความเหมาะสม”
19. เมื่อนักเรียนทำความสะอาดพน้ื ห้องเสรจ็ แลว้ ครใู ห้นกั เรยี นโกยฝนุ่ ผงลงทโี่ กยผงแลว้ นำไปท้งิ
ทีถ่ ังขยะ จากนน้ั ครอู ธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการเกบ็ ไม้กวาดว่า “การเกบ็ อปุ กรณ์ เช่น ไม้
กวาด ควรหนั ปลายไม้กวาดขึน้ ด้านบน และหันด้ามจบั ลงพนื้ เพื่อใหป้ ลายไม้กวาดคงสภาพ
เดมิ ไดน้ านและไมใ่ หเ้ กิดความเสยี หาย และเม่ือกวาดห้องเสรจ็ แลว้ ควรนำผา้ ชบุ นำ้ มาถพู ื้น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน้าทีใ่ นบ้าน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 หนา้ ทขี่ องนกั เรยี นในฐานะสมาชิกในบา้ น
เพราะผา้ ทีเ่ ปยี กน้ำจะชว่ ยเก็บฝ่นุ ท่ีหลงเหลือเพื่อให้พ้นื สะอาดมากย่ิงข้นึ ”
ขน้ั ท่ี 4 ฝึกใหช้ ำนาญ
20. ครูบอกนักเรียนใหน้ ำความรูท้ ไ่ี ดร้ ับจากการปฏบิ ตั ิในชัว่ โมงเรยี นไปชว่ ยผปู้ กครองทำงานบา้ น
เกยี่ วกับการจดั เก็บเสอื้ ผา้ ทำความสะอาดพนื้ บ้านของตนเองจนเกดิ ความชำนาญ จากนั้นครู
ให้นกั เรียนทำใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง จดั เกบ็ ใหเ้ รียบร้อย ใบงานที่ 1.2.2 เรื่อง ทำแบบนี้ถูก
หรอื ไม่ และมอบหมายใหน้ ักเรียนทำช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอื่ ง งานบ้านของ
ครอบครัว
Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่ือใหน้ ักเรยี น
- มที ักษะทางด้านการติดต่อส่ือสารและร้จู ักการสรา้ งความสัมพันธก์ ับบุคคลอนื่ ภายในครอบครัว
ทำงานกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
- มที กั ษะการคิดและการแกป้ ัญหา การทำงานอย่างเปน็ ระบบ วเิ คราะห์และเลือกใชอ้ ุปกรณส์ ิ่ง
ตา่ ง ๆ ให้เหมาะกบั งานท่ีจะทำได้
- มีทกั ษะการทำงานร่วมกนั ทักษะระหว่างบุคคลและการรว่ มมือรว่ มใจ รวมถึงทกั ษะในดา้ นการ
ปรบั ตัว
- มคี วามรบั ผิดชอบและปฏบิ ัติงานในหนา้ ที่ของตนเองตามบทบาทที่ไดร้ บั มอบหมายจากสมาชิก
ในครอบครวั หรอื ในสังคม
21. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนา้ ทใ่ี นบ้าน
ขน้ั สรปุ
นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรูเ้ ก่ยี วกับหนา้ ที่ของนักเรียนในฐานะสมาชกิ ในบา้ นว่า
“การทำงานบ้านเปน็ ส่งิ ท่จี ะช่วยแบ่งเบาภาระงานจากการทำงานของผ้ปู กครองไดเ้ ป็นอยา่ งมาก
แตก่ ารเลือกทำงานบา้ นต้องคำนงึ ถึงความเหมาะสมกับวัยและความปลอดภยั ขณะปฏิบัติงาน ใน
ระหว่างทำงานบ้านต้องระมัดระวงั เรอื่ งความปลอดภยั จากเครื่องมือ อุปกรณ์ทท่ี ำความสะอาด
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน้าทใี่ นบา้ น
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 หนา้ ที่ของนกั เรียนในฐานะสมาชิกในบา้ น
8. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
รายการวัด - ตรวจใบงานที่ 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
8.1 การประเมินระหวา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 1.2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - ใบงานที่ 1.2.2 ระดับคุณภาพ 3
การจดั กิจกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
การเรียนรู้ การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 3
1) การจัดเก็บเสอื้ ผา้ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 3
เครอ่ื งแตง่ กาย - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
คุณลกั ษณะ
2) ทำแบบนถ้ี ูกหรือไม่ อนั พงึ ประสงค์ ประเมินตามสภาพจริง
3) พฤติกรรมการทำงาน แบบทดสอบหลงั เรยี น ระดับคุณภาพ 3
รายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม
กลมุ่ การทำงานกลุ่ม
5) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั
อันพงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั
ในการทำงาน
8.2 การประเมนิ หลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบ
1) แบบทดสอบก่อนเรยี น หลงั เรยี น
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1
เรอ่ื ง หนา้ ท่ีในบา้ น
2) การประเมินชิน้ งาน/ ตรวจกจิ กรรมงานบา้ นของ แบบประเมนิ กิจกรรม
ภาระงาน (รวบยอด)
กจิ กรรมงานบ้านของ ครอบครวั งานบ้านของครอบครัว
ครอบครัว
9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ป.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ ท่ใี นบา้ น
2) ใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง การจดั เกบ็ เส้อื ผ้าเครื่องแตง่ กาย
3) ใบงานท่ี 1.2.2 เรอ่ื ง ทำแบบนี้ถูกหรือไม่
4) วีดิทัศนเ์ กย่ี วกบั การทำความสะอาดพนื้ บ้าน
5) รองเทา้ นกั เรยี นและกล่องใสร่ องเทา้ นักเรยี น
6) อุปกรณ์ล้างจาน
7.) ไมก้ วาดดอกหญ้าและทโ่ี กยผง
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- โรงอาหารของสถานศึกษา
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน้าที่ในบา้ น
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 หนา้ ท่ีของนกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานที่ 1.2.1
เร่อื ง การจดั เก็บเสอ้ื ผา้ เครอื่ งแตง่ กาย
คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนแต่ละคนบนั ทึกผลการจดั เก็บเสอื้ ผ้าและเครอื่ งแตง่ กายของตนเองเปน็ เวลา 1 สัปดาห์
ลงในตารางที่กำหนดให้
วัน/เดอื น/ปี เครอ่ื งแตง่ กายทตี่ ้องจัดเกบ็ วิธีการหรอื ขนั้ ตอน
ในการจัดเกบ็ เคร่ืองแตง่ กาย
ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จากการจดั เก็บเครื่องแต่งกาย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หน้าท่ีในบ้าน เฉลย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 หนา้ ที่ของนกั เรียนในฐานะสมาชิกในบา้ น
ใบงานท่ี 1.2.1
เร่ือง การจดั เกบ็ เสอ้ื ผา้ เครอ่ื งแต่งกาย
คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนแต่ละคนบนั ทึกผลการจดั เกบ็ เสื้อผ้าและเคร่ืองแต่งกายของตนเองเปน็ เวลา 1 สัปดาห์
ลงในตารางทก่ี ำหนดให้
วัน/เดือน/ปี เครอื่ งแตง่ กายทต่ี ้องจัดเกบ็ วิธกี ารจดั เกบ็ เครื่องแต่งกาย
1/ม.ค./2562 1. ถุงเท้า 1. นำถงุ เท้าทเ่ี ป็นคูเ่ ดยี วกนั นำมาจัดเกบ็ โดย
พบั ซ้อนกนั ให้เปน็ ระเบยี บ
ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับจากการจัดเกบ็ เคร่ืองแตง่ กาย
เชน่ 1. ได้ช่วยเหลอื งานผู้ปกครอง
2. เปน็ การสร้างระเบียบวินัยให้กับตนเอง
3. ขณะท่รี บี เร่งสามารถหาเครื่องแต่งกายตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ยขึน้
4 มคี วามเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
5. ทำใหบ้ ้านหรอื ห้องนอนน่าอยู่มากขึ้น
(คำตอบขึ้นอยกู่ ับการพิจารณาของครูผสู้ อน)
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 หนา้ ทีใ่ นบ้าน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2 หนา้ ท่ีของนกั เรียนในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานท่ี 1.2.2
เร่อื ง ทำแบบนีถ้ กู หรือไม่
คำชีแ้ จง : จากภาพใหน้ ักเรยี นพิจารณาการปฏิบัตงิ านของเดก็ วา่ เปน็ การกระทำทเ่ี หมาะสมหรือไม่
เพราะเหตุใด
1. เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
เพราะ
2. เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
เพราะ
3. เหมาะสม ไม่เหมาะสม
เพราะ
4. เหมาะสม ไม่เหมาะสม
เพราะ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน้าที่ในบ้าน เฉลย
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 หนา้ ทข่ี องนกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
ใบงานที่ 1.2.2
เร่ือง ทำแบบนถี้ กู หรือไม่
คำชแี้ จง : จากภาพให้นกั เรยี นพิจารณาการปฏบิ ัตงิ านของเด็กว่าเป็นการกระทำทีเ่ หมาะสมหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
1. ✓ เหมาะสม ไม่เหมาะสม
เพราะ พน้ื ปนู ซเี มนตม์ ลี กั ษณะแขง็ จงึ ควรใชไ้ มก้ วาดทางมะพรา้ วมดี า้ ม
กวาดพน้ื ซง่ึ จะทาใหก้ วาดไดส้ ะดวกและไมต่ อ้ งออกแรงมาก
2. เหมาะสม ✓ ไมเ่ หมาะสม
เพราะ จะทาใหไ้ มก้ วาดดอกหญา้ เปียกและใชง้ านไดไ้ ม่ดี ดงั นนั้ จงึ ควรใช้
ไมก้ วาดดอกหญา้ กวาดเฉพาะพน้ื ทแ่ี หง้
3. ✓ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
เพราะ เมอ่ื ใชไ้ มก้ วาดดอกหญา้ เสรจ็ แลว้ ควรทาความสะอาด โดยเคาะเศษผง
ออกใหห้ มด แลว้ จดั เกบ็ เขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บรอ้ ย
4. ✓ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
เพราะ พน้ื ซเี มนตห์ รอื พน้ื ปนู ทม่ี นี ้าขงั ควรใชไ้ มก้ วาดทางมะพรา้ วกวาดน้าท่ี
พน้ื โดยกวาดใหข้ นานกบั พน้ื และกวาดเบาๆ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 หน้าท่ีในบา้ น
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 หนา้ ทข่ี องนกั เรยี นในฐานะสมาชกิ ในบา้ น
ชิน้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง งานบา้ นของครอบครัว
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนปฏิบัติงานบา้ นตามท่ีกำหนดให้ แลว้ บันทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดังน้ี
1) การกวาดบา้ น
2) การล้างภาชนะ เชน่ แกว้ น้ำ จาน ชาม
1. ระยะเวลาในการปฏบิ ัตงิ านบ้าน
2. เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการปฏิบตั งิ านบ้าน
3. วิธีการและขัน้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ านบา้ น
4. ผลงานของการปฏิบัตงิ านบ้าน
5. ประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการปฏิบัติงานบา้ น
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 หน้าท่ีในบ้าน
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 หนา้ ทขี่ องนกั เรียนในฐานะสมาชิกในบา้ น
แบบประเมนิ การเตรยี มประกอบอาหาร : กิจกรรมงานบ้านของครอบครวั
ง 1.1 ป.2/1 บอกวธิ ีการและประโยชน์การทำงานเพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครัว
ง 1.1 ป.2/2 ใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือในการทำงานอย่างเหมาะสมกบั งานและประหยัด
ง 1.1 ป.2/3 ทำงานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั อย่างปลอดภัย
รายการ ดีมาก (4) เกณฑก์ ารประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ปรบั ปรงุ (1) ระดบั
ประเมนิ คุณภาพ
ใช้ระยะเวลาในการปฏบิ ัติงาน ดี (3) พอใช้ (2) ใช้ระยะเวลาในการ
1. ระยะเวลาในการ บ้านได้อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั งิ านบา้ นไมเ่ หมาะสม ดมี าก
ปฏิบตั ิงานบา้ น ใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ใชร้ ะยะเวลาในการปฏิบัติงาน หรอื มากเกนิ ไป
บ้านไดค้ ่อนขา้ งเหมาะสม บา้ นไดไ้ ม่คอ่ ยเหมาะสม ดี
2. เคร่อื งมอื ท่ีใช้ใน เลือกใชเ้ คร่อื งมอื ในการ เลือกใชเ้ ครื่องมือในการ เลือกใช้เครื่องมอื ในการ เลือกใช้เคร่ืองมือในการ
การปฏบิ ัติงานบา้ น ปฏิบตั งิ านบา้ นไดอ้ ย่าง ปฏบิ ตั งิ านบ้านได้คอ่ นขา้ ง ปฏบิ ตั งิ านบ้านได้ไม่คอ่ ย ปฏิบัตงิ านบา้ นไดไ้ ม่
เหมาะสมถกู ตอ้ ง เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม
3. วิธกี ารและข้นั ตอน ปฏบิ ตั ติ ามวธิ กี ารและข้ันตอน ปฏบิ ัติตามวธิ กี ารและขนั้ ตอน ปฏบิ ัตติ ามวธิ ีการและขนั้ ตอน ปฏิบตั ติ ามวิธีการและ พอใช้
ในการปฏบิ ตั งิ านบา้ น ในการปฏบิ ตั ิงานบา้ นได้ถกู ต้อง ในการปฏิบัติงานบา้ นได้ ในการปฏิบัติงานบา้ นไดไ้ ม่ค่อย ขน้ั ตอนในการปฏบิ ัติงาน ปรับปรงุ
คอ่ นข้างถูกต้อง ถกู ตอ้ ง บา้ นไดไ้ มถ่ ูกตอ้ ง
4. ผลของการปฏบิ ัติงาน ผลของการปฏบิ ตั ิงานบา้ นเป็น ผลของการปฏบิ ัตงิ านบา้ น ผลของการปฏบิ ัตงิ านบา้ นไม่ ผลของการปฏบิ ตั ิงานบา้ นไม่
บา้ น ที่นา่ พึงพอใจมาก ค่อนขา้ งพึงพอใจ คอ่ ยเปน็ ทีน่ ่าพงึ พอใจ เปน็ ที่นา่ พงึ พอใจเลย
5. ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจาก ไดร้ ับประโยชน์จากการ ได้รับประโยชน์จากการ ได้รับประโยชน์จากการ ไมไ่ ดร้ ับประโยชน์จากการ
การปฏบิ ตั ิงานบา้ น ปฏิบตั ิงานบา้ นมาก ปฏบิ ตั ิงานบา้ น
ปฏิบตั งิ านบา้ นค่อนขา้ งมาก ปฏิบตั ิงานบ้านเล็กนอ้ ย
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
17 – 20 ดีมาก
14 – 16 ดี
11 - 13 พอใช้
1 – 10 ปรับปรงุ