1
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม เรอ่ื ง สารเน้อื ผสม
กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหัสวิชา ว 16101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ ช้ัน ป.6 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ครูผสู้ อน นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1
ใชส้ อนวัน....................... ที่............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี
3. ตวั ชีว้ ัด
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชวี ิตประจำวนั เกย่ี วกับการแยกสาร
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
สารเนอ้ื ผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขน้ึ ไปผสมกนั เชน่ นำ้ มันผสมน้ำ ขา้ วสารปนกรวดทราย
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายลักษณะของสารเนอื้ ผสมได้ (K)
2) จำแนกสารตามประเภทของเน้อื สารได้ (P)
3) รบั ผิดชอบและมุ่งม่ันในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
1) มีวินยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมัน่ ในการทำงาน
7. สมรรถนะที่สำคัญ
1) ความสามารถในการคิด
1.1) ทักษะการสังเกต
2
1.2) ทกั ษะการเชื่อมโยง
1.2) ทักษะการสำรวจคน้ หา
1.3) ทกั ษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการสอ่ื สาร
3) ความสามารถในใชเ้ ทคโนโลยี
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
8. ทักษะกระบวนการคดิ
การคิดวเิ คราะห์ คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
9. เน้อื หาสาระ
การจดั กลุม่ สารตามลักษณะเนอ้ื สาร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สารเนื้อเดยี ว และสารเน้ือผสม
1) สารเน้อื เดยี ว คอื สารท่ีมีองค์ประกอบทางกายภาพเพยี งอย่างเดียว หรือมอี งค์ประกอบ
มากกว่า 1 อยา่ ง มองเหน็ เนอื้ สารเปน็ เนือ้ เดยี วกนั ท้งั หมด มสี มบตั ทิ ุกส่วนเหมือนกันทกุ ประการ เชน่ น้ำเกลือ
ทองแดง นาก เหล็ก อากาศ เปน็ ตน้
2) สารเนื้อผสม คือ สารที่มีลักษณะเนื้อของสารและสมบัติไม่เหมือนกันตลอดทุกส่วนของ
สารนั้น สามารถเห็นองค์ประกอบที่แตกต่างกันได้ เช่น ดินปืน พริกกับเกลือ น้ำโคลน น้ำแป้งดิบ คอนกรีต
เป็นตน้
10. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
• วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ
1) ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง การแยกสารเน้อื ผสม
2) ครูให้นักเรียนสังเกตภาพสารในชีวิตประจำวัน 6 ภาพ ได้แก่ อากาศ น้ำเปล่า น้ำมันพืช
ควันรถยนต์ ทองคำ และพริกเกลือ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าจะจำแนกภาพทั้ง 6 นี้
ได้อย่างไร (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่น ใช้สถานะเป็นเกณฑ์ ดังนี้ ของแข็ง ได้แก่
ทองคำ พริกเกลือ ของเหลวได้แก่ นำ้ เปลา่ นำ้ มนั พืช และแก๊ส ได้แก่ อากาศ และควนั รถ)
3) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการจำแนกสารโดยใช้เกณฑ์อื่น ๆ ตาม
ประสบการณ์ที่นักเรียนได้ศึกษามา เชน่ การนำไฟฟา้ การนำความร้อน สถานะของสาร หรอื สมบัติเฉพาะตัว
อืน่ ๆ เป็นตน้
4) ครูให้นักเรียนพิจารณาภาพน้ำเปล่า และพริกเกลือ อีกคร้ัง โดยให้นักเรยี นพิจารณาเนือ้
สารของทั้งสองภาพ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าเนื้อสารของน้ำเปล่าและพริกเกลือเป็นอย่างไร
(แนวคำตอบ : นำ้ เปล่ามองเหน็ เนอ้ื สารภายในเหมือนกนั หมด สว่ นพริกเกลอื มองเห็นส่วนทีเ่ ปน็ พริกและเกลือ
แยกออกจากกัน)
5) ครชู แ้ี จงจดุ ประสงค์ในการเรยี นใหแ้ กน่ ักเรียนทราบ
3
ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา
6) ครใู ห้นกั เรยี นจบั กลมุ่ กลุ่มละ 4 - 5 คน ทำกิจกรรมจำแนกสารตามลักษณะเน้ือสาร โดย
แต่ละกลุ่มจะได้รับบัตรภาพสารจำนวน 10 ชนิด จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิดเห็นจำแนกสาร
เน้อื เดยี ว และสารเนือ้ ผสมตามความเขา้ ใจของนักเรียน จากน้ันบันทึกข้อมูลลงในสมดุ ของตนเอง
7) ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาการจำแนกประเภทของสารโดยใช้เนื้อสารเป็นเกณฑ์จาก
หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ และค้นคว้าขอ้ มลู เพิ่มเติมจากอินเตอร์ และร่วมกันสรุปลกั ษณะของเนื้อสารแต่ละ
ประเภทลงในสมดุ บนั ทึกของตนเอง
8) ครูให้นักเรียนจำแนกสารตามลกั ษณะเน้ือสารท่ีเคยจำแนกในขอ้ 6 อีกครั้ง หลังจากที่ได้
ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู โดยใหต้ รวจสอบความถูกต้องและแก้ไขการจำแนกสารในสมดุ ของตนเองให้เรียบรอ้ ย
ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้
9) ครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยบตั รภาพการจำแนกสารตามลกั ษณะเนอ้ื สาร โดยใหน้ กั เรยี น
มีบทบาทสำคัญในการเสนอคำตอบ (แนวคำตอบ : สารเนื้อเดียว ได้แก่ น้ำผึ้ง น้ำปลา ทองคำ อากาศ นาก
ส่วนสารเนอื้ ผสม ไดแ้ ก่ ควนั รถยนต์ น้ำพริก นำ้ โคลน ทราย คอนกรีต)
10) ครูอธบิ ายความรู้เพม่ิ เติมในการพจิ ารณาจำแนกสารตามลักษณะเน้ือสาร ดังนี้
- สารเนอื้ เดียว คอื สารที่มอี งค์ประกอบทางกายภาพเพียงอยา่ งเดยี ว หรอื มี
องคป์ ระกอบมากกว่า 1 อย่าง มองเหน็ เน้อื สารเปน็ เนือ้ เดยี วกนั ทง้ั มสี มบัติทกุ สว่ น
เหมอื นกันทุกประการ เช่น น้ำเกลือ ทองแดง นาก เหล็ก อากาศ เป็นตน้
- สารเน้ือผสม สารทมี่ ีลักษณะเนอ้ื ของสารและสมบตั ไิ มเ่ หมือนกนั ตลอดทุกสว่ นของ
สารนั้น สามารถเหน็ องคป์ ระกอบท่ีแตกตา่ งกันได้ เช่น ดินปืน พรกิ กับเกลอื
น้ำโคลน น้ำแป้งดิบ คอนกรีต เปน็ ตน้
11) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายว่า สารเนื้อเดียวจำเป็นหรือไม่ว่าจะต้องมี
สถานะเป็นของเหลวเสมอไป (แนวคำตอบ : ไม่จำเป็น สารเนื้อเดียวมีได้ทั้งสามสถานะ ของแข็ง ของเหลว
และแก๊ส)
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
12) ครูขยายความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งสารเน้ือผสม 10 ชนิด พร้อม
ทั้งระบุสถานะของสารเนื้อผสม เช่น พริกเกลือ = ของแข็ง + ของแข็ง, น้ำโคลน = ของเหลว + ของแข็ง
บนั ทึกขอ้ มูลลงในสมุดของตนเอง
13) ครูให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน โดยการสลับสมุดกับเพื่อนร่วมช้ัน
เพอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการระบุชอ่ื สารเน้อื ผสม และสถานะของสาร
14) ครูให้นักเรียนนำเสนอสารเนื้อผสม 10 ชนิด พร้อมทั้งระบุสถานะ โดยในระหว่างที่
นักเรียนนำเสนอ นักเรียนคนอื่น ๆ ในห้องสามารถรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ อ่นื ๆ เพิ่มเติมได้
4
15) ครใู ห้นกั เรยี นตั้งคำถามที่สนใจเพ่ิมเติมเกยี่ วกับสารเนอ้ื ผสม (แนวคำตอบ : สารเนื้อผสม
ท่ีเราเห็นองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในเนื้อสารสามารถแยกออกจากกันกลับมาเป็นสารเนื้อเดียวได้หรือไม่
อย่างไร)
ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล
16) ครูและนักเรียนสรุปผลการทำกิจกรรมการจำแนกสารตามลักษณะเนื้อสาร โดยให้
นักเรยี นมบี ทบาทสำคัญในการแสดงความคิดเห็น
17) ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับสารเนื้อผสม โดยการให้นักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายในประเด็นคำถามตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนี้
- น้ำเกลือ เปน็ สารเนือ้ ผสมใช่หรือไม่ อย่างไร
(แนวคำตอบ : ไม่ใช่ น้ำเกลอื เป็นสารเน้ือเดียว เนื่องจากมองเห็นเนอ้ื สารเนอื้ กัน
ท้ังหมด และมีสมบัตเิ หมอื นกันทง้ั เน้อื สาร)
- สารเนอื้ ผสมมลี ักษณะอย่างไร
(แนวคำตอบ : มองเห็นองคป์ ระกอบภายในเน้ือสาร และแต่ละส่วนประกอบมี
สมบตั ิแตกต่างกัน)
18) ครูประเมนิ นักเรียนจากการตรวจสมดุ การจำแนกสารตามลกั ษณะเนือ้ สาร การนำเสนอ
หน้าช้นั เรยี น และการมสี ว่ นร่วมในการตอบคำถามในช้นั เรยี น
11. ส่ือการเรยี นรู้
1) สอ่ื การเรยี นรู้
1.1) หนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) ภาพสารในชีวิตประจำวนั
1.3) บตั รภาพสารเนอ้ื เดียวและสารเน้ือผสม
2) แหล่งการเรียนรู้
2.1) ห้องเรยี น
2.2) ห้องสมุด
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ท่ี วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์
1 ตรวจสมดุ แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2 สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนร่วม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในกิจกรรม การทำงานรายบุคคล
3 สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มั่นในการทำงาน อนั พึงประสงค์
13. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 5
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผูเ้ รียนที่ผา่ นตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................
ผ้เู รียนท่ีไม่ผา่ นตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................
เลขท่ีของนกั เรียนทส่ี อบไมผ่ า่ นตัวช้ีวดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ไี มผ่ า่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รยี นทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ ได้แก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/ส่งเสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนได้รบั ความรู้ (K) ในเรือ่ ง ............................................................................................................
ผเู้ รยี นเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเร่ือง............................................................................................
ผู้เรยี นมคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A) ในเรอื่ ง.................................................................................
13.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.......................................................ครผู ู้สอน
(นายดเิ รกฤทธ์ิ ยุเหลก็ )
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................
6
14. ความคิดเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา/ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พูลแจง้ )
วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจดั การเรยี นรู้
ลงชอ่ื ....................................................... ลงช่อื ......................................................
(................................................) (นายวริ ชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
วันที.่ ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ท่.ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ..........
7
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321
1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคมุ ค่า
2 จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP
3 สาระเรียนรคู้ รอบคลุมเนื้อหา เน้อื หา กระบวนการ คุณลักษณะ
4 กิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกบั ผเู้ รยี น
6 ออกแบบการวดั ประเมนิ จากชิ้นงานกลุ่ม/เดยี่ วของผเู้ รยี น
7 มีความสมั พันธร์ ะหวา่ งองค์ประกอบข้อท่1ี -6
8 สอื่ การเรียนรสู้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา นา่ สนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้
รวม
เฉล่ยี
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดบั 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง
กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี
ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย
ลงชอ่ื เดือน ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหนง่ พ.ศ.
วนั ที่
8
ภาคผนวก
ภาพสารในชีวิตประจำวนั
9
ภาพสารในชวี ิตประจำวนั
10
ภาพสารในชวี ิตประจำวนั
11
บัตรภาพสารเนอ้ื เดียวและสารเน้อื เดยี ว
ทราย คอนกรีต ลอดช่อง
นำ้ โคลน นำ้ พรกิ นำ้ ผ้ึง
น้ำปลา ทองคำ นาก
น้ำตาลทราย
แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 12
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ
13
เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ
เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ
ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2
จดุ )
ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบร้อย สะอาด
สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
14
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี
ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอืน่ มอบหมาย สรปุ
ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
15
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์
1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ
2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม
รวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ
ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
16
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 การแยกสารเนือ้ ผสม เรอ่ื ง ประเภทของการแยกสาร
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วิชา ว 16101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ป.6 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผู้สอน นายดเิ รกฤทธ์ิ ยุเหลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1
ใชส้ อนวนั ....................... ท.ี่ ........... เดือน.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
3. ตัวชวี้ ดั
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวิตประจำวันเกีย่ วกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
วธิ กี ารทีเ่ หมาะสมในการแยกสารผสมขน้ึ อย่กู ับลกั ษณะและสมบัติของสารทผ่ี สมกัน ถ้าองค์ประกอบ
ของสารผสมเป็นของแขง็ กับของแขง็ ทมี่ ีขนาดแตกตา่ งกนั อยา่ งชัดเจน อาจใช้วธิ ีการหยบิ ออกหรือการรอ่ นผ่าน
วัสดทุ ่ีมรี ูถ้ามสี ารใดสารหน่งึ เปน็ สารแม่เหลก็ อาจใชว้ ธิ ีการใช้แม่เหล็กดงึ ดูด ถ้าองค์ประกอบเป็นของแข็งท่ีไม่
ละลายในของเหลว อาจใชว้ ิธกี ารรินออกการกรอง หรือการตกตะกอน
5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) ระบวุ ธิ กี ารแยกสารผสมแต่ละประเภทได้ (K)
2) จำแนกวธิ กี ารแยกสารผสมแต่ละประเภทได้ (P)
3) รับผิดชอบและมุ่งม่นั ในการทำงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A)
6. คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์
1) มวี นิ ยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ มั่นในการทำงาน
17
7. สมรรถนะทส่ี ำคญั
1) ความสามารถในการคิด
1.1) ทักษะการสงั เกต
1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทกั ษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
3) ความสามารถในการสอื่ สาร
4) ความสามารถในการแก้ปัญหา
8. ทักษะกระบวนการคิด
การคิดวเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
9. เนอ้ื หาสาระ
วธิ ีการแยกสารเน้ือผสมทเี่ ปน็ ของแข็ง + ของแขง็
- การหยิบออก
- การร่อน
วิธีการแยกสารเนื้อผสมท่ีเปน็ ของแขง็ + ของเหลว
- การรนิ
- การตกตะกอน
- การกรอง
วธิ ีการแยกสารเนื้อผสมทีเ่ ป็นของแขง็ ท่ีมีสารแม่เหลก็ ผสม
- แมเ่ หล็กดูด
10. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
• วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ข้ันที่ 1 กระตุ้นความสนใจ
1) ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกนั ทบทวนความรู้เดิมของตนเองเกย่ี วกับเรอื่ งสารเนื้อเดยี วและสารเน้ือ
ผสม (สารเนื้อเดียว คือ สารที่มีองค์ประกอบทางกายภาพเพียงอย่างเดียว หรือมีองค์ประกอบมากกว่า 1
มองเห็นเน้ือสารเปน็ เนื้อเดียวกันท้งั หมด มีสมบัตทิ ุกส่วนเหมือนกนั ทุกประการ ส่วนสารเน้ือผสม คือ สารท่ีมี
สมบัตไิ มเ่ หมือนกันตลอดทกุ ส่วนของสารนน้ั สามารถเหน็ องคป์ ระกอบที่แตกตา่ งกนั ได้)
2) ครูให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างสารเนื้อผสมที่พบในชีวิตประจำวันของนักเรียน โดยจะ
เลน่ เรยี งลำดับไปตามแนวหนา้ กระดาน เช่น คนที่ 1 พูดชอื่ สารในชีวิตประจำวนั คนท่ี 2 ตอ้ งพดู ว่าสารที่คนที่
1 บอกนัน้ มลี กั ษณะเน้อื สารอย่างไร จากนน้ั คนท่ี 3 ก็จะวนกลบั มาพดู ช่ือสารในชวี ติ ประจำวันท่ีไม่ซ้ำกับคนที่
1 คนที่ 4 ตอ้ งพูดว่าสารที่คนท่ี 3 บอกน้ันมลี กั ษณะเนอื้ สารอยา่ งไร
3) ครชู ้ีแจงจุดประสงค์ในการเรยี นใหแ้ กน่ ักเรียนทราบ
18
ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา
4) ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อทำกิจกรรม เลือกวิธีการแยกสารผสม โดยให้
สมาชิกในกลมุ่ รว่ มกันระดมความคดิ เหน็ เลือกวิธีแยกสารผสม 7 ชนดิ ได้แก่ ถ่วั เขยี วกับผงตะไบเหล็ก น้ำขุ่น
ลูกปัดคละสี กะทิกับกากมะพร้าว กากกาแฟกับน้ำกาแฟ ก้อนกรวดผสมกับทราย ตามความคิดเห็นของ
นกั เรียน
5) ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาวิธีการแยกสารผสมในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ และสืบค้น
ข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าลงในสมุดของตนเองในรูปของ
แผนผังความคดิ
6) ครูให้นักเรียนเลือกวิธีการแยกสารอีกครั้งตามที่เคยเลือกมาในข้อ 4 หลังจากที่ได้ศึกษา
คน้ ควา้ ข้อมลู โดยใหต้ รวจสอบความถูกตอ้ งและแกไ้ ขวธิ ีการแยกสารในสมุดของตนเองให้เรียบร้อย
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้
7) ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนนำเสนอวิธกี ารแยกสารผสม 7 ชนดิ โดยในระหวา่ งที่
นักเรยี นนำเสนอ แตล่ ะกลมุ่ สามารถแสดงความคิดเห็นอยา่ งสร้างสรรค์เพิ่มเตมิ ได้
8) ครูเฉลยคำตอบการเลอื กวิธีการแยกสาร ร่วมกบั นักเรียนดังน้ี
- ลกู ปัดคละสี ใช้วธิ กี ารหยิบออก
- นำ้ ขุ่น ใชว้ ธิ ีการตกตะกอน
- ผงตะไบเหล็กกับเมล็ดถั่วเขยี วใช้แม่เหล็กดูด
- กะทกิ ับกากมะพร้าว และกาแฟกบั นำ้ กาแฟ ใชว้ ิธกี ารกรอง
9) ครูให้นักเรยี นอภิปรายร่วมกนั ถงึ การเลอื กใชว้ ิธีการแยกสารท่เี หมาะสม ดงั นี้
- การแยกสารท่มี ีสถานะเปน็ ของแขง็ ผสมกัน ใช้วิธีการรอ่ น
- การแยกของแข็งกับของเหลว ออกจากกนั ใช้วิธกี ารกรอง การรนิ ออก การ
ตกตะกอน
- การแยกสารแม่เหลก็ ออกจากสารเน้อื ผสมโดยการใช้แมเ่ หลก็ ดูด
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
10) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการแยกสาร โดยให้นักเรียน
ช่วยกันระดมความคิดเห็นอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ในการแยกสารได้ เช่น ตะแกรง กระชอน ผ้าขาวบาง
กระดาษกรอง แมเ่ หลก็ เปน็ ตน้ จากนัน้ ให้นักเรียนทำใบงานเรอ่ื ง ประเภทของการแยกสาร
11) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการสังเกตว่าแยกสารได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์
พิจารณาอยา่ งไร โดยหลงั จากทแ่ี ยกสารเสร็จแล้วนนั้ จะตอ้ งได้สารเนื้อเดยี ว 2 ชนดิ จึงจะเสร็จสมบูรณ์
12) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการแยกสารอื่นๆ ที่สนใจเพิ่มเติม (แนวคำตอบ :
หากสารผสมที่เป็นของแข็งกับของเหลวละลายรวมตัวกัน จะสามารถแยกสารผสมเหล่านั้นออกจากกัน
ไดห้ รือไมอ่ ยา่ งไร)
19
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล
13) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมเก่ียวกับประเภทของการแยกสาร โดยให้
นักเรยี นมีบทบาทสำคญั ในการแสดงความคดิ เหน็ สว่ นครคู อยอธบิ ายเพิ่มเติมความรู้ให้ครบถ้วน
14) ครตู ง้ั คำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นในประเด็นตา่ ง ๆ ดังน้ี
- การแยกสารผสมมีวิธีการใดบ้าง
- การแยกของแขง็ ออกจากของแขง็ ควรใช้วิธีการใด เพราะเหตใุ ด
- การใชแ้ ม่เหล็กดูด เหมาะกบั การแยกสารผสม ลักษณะใด
15) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุด ใบงานเรื่อง ประเภทของการแยกสาร
การนำเสนอหน้าชัน้ เรยี น และการมสี ว่ นร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรยี น
11. สื่อการเรยี นรู้
1) สอ่ื การเรียนรู้
1.1) หนังสอื เรียน วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงานเรอ่ื ง ประเภทของการแยกสารเนอ้ื ผสม
2) แหล่งการเรียนรู้
2.1) ห้องเรียน
2.2) ห้องสมุด
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ท่ี วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์
1 ตรวจสมดุ แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงาน
2 สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในกิจกรรม การทำงานรายบุคคล
3 สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
และมุ่งม่นั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์
13. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ 20
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผู้เรียนท่ผี า่ นตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นร้อยละ.................
ผู้เรียนท่ีไม่ผา่ นตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
เลขท่ีของนักเรยี นทสี่ อบไมผ่ า่ นตวั ชีว้ ัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุทีไ่ มผ่ า่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผูเ้ รยี นทีม่ คี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/ส่งเสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) ในเรอ่ื ง ............................................................................................................
ผูเ้ รียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) ในเร่ือง............................................................................................
ผู้เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม (A) ในเร่ือง.................................................................................
13.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครูผ้สู อน
(นายดิเรกฤทธ์ิ ยุเหลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1
วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
21
14. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา/ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่อื ......................................หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
(นางสาวพสั ราภรณ์ พูลแจ้ง)
วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ................
รบั ทราบผลการจัดการเรยี นรู้
ลงชื่อ....................................................... ลงชอ่ื ......................................................
(.............................................) (นายวริ ัชต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ฝา่ ยบริหารวชิ าการ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ที่............เดือน..........................พ.ศ. ..........
22
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้สาระวทิ ยาศาสตร์
ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321
1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP
3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ
4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน
6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน
7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6
8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้
รวม
เฉล่ยี
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี
23
ภาคผนวก
ใบงานเรือ่ ง ประเภทของการแยกสารเน้ือผสม
แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 24
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ
25
เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ
เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ
ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2
จดุ )
ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบร้อย สะอาด
สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
26
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่
ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ
ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
27
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์
1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ
2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม
รวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ
ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
28
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การแยกสารเนือ้ ผสม เรือ่ ง การหยิบออก
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหสั วิชา ว 16101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชนั้ ป.6 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครผู ู้สอน นายดเิ รกฤทธ์ิ ยุเหลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใช้สอนวัน....................... ท่ี............ เดือน.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
3. ตวั ช้ีวัด
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวติ ประจำวันเกีย่ วกบั การแยกสาร
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การหยบิ ออกเป็นวิธกี ารแยกสารผสมเมือ่ ของแข็งผสมมขี นาดแตกต่างกนั ชดั เจน โดยการใชม้ ือหยิบ
หรือใชท้ ่คี ีบ
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายวิธีการแยกสารดว้ ยการหยิบออกได้ (K)
2) ออกแบบขัน้ ตอนการทดลองการแยกสารผสมด้วยการหยิบออกได้ (P)
3) รับผดิ ชอบและมงุ่ มนั่ ในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์
1) มีวินัย
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งม่นั ในการทำงาน
7. สมรรถนะทส่ี ำคญั
1) ความสามารถในการคิด
1.2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
29
1.3) ทกั ษะการเชือ่ มโยง
2) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
3) ความสามารถในการส่ือสาร
8. ทักษะกระบวนการคดิ
การคดิ วิเคราะห์ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
9. เน้อื หาสาระ
การหยิบออกเปน็ วธิ ีการแยกสารผสมเม่อื ของแขง็ ผสมมขี นาดแตกต่างกันชัดเจน โดยของแข็งนั้นตอ้ ง
มีขนาดใหญ่พอทีจ่ ะใชม้ อื หยิบ หรอื เขีย่ ออกได้
อปุ กรณ์ในการหยบิ ออกได้ : ใช้มือหยิบ หรือใช้ท่ีคีบ
วิธกี าร : ใชม้ ือหยบิ ของแข็งทมี่ ีขนาดใหญอ่ อก
ตวั อยา่ ง : ลกู ปัดคละสี การแยกเมล็ดขา้ วเปลอื กออกจากเมลด็ ขา้ วสาร
10. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
• วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ
1) ครทู บทวนความรเู้ กย่ี วกับวิธกี ารแยกสารผสมดว้ ยการหยบิ ออก ว่าสามารถทำได้อยา่ งไร
และต้องมีการเตรยี มอุปกรณห์ รือไม่อย่างไร (แนวคำตอบ : อสิ ระตามความคดิ เหน็ ของนกั เรียน เชน่ กรวดกับ
ก้อนหนิ ตะปกู ับเศษเหล็ก เปน็ ต้น โดยอปุ กรณ์ท่ีจะใชข้ ึ้นอยูก่ ับความเหมาะสมของสารผสมนัน้ ๆ )
2) ครใู หน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม saven up โดยใหน้ กั เรยี นนับ 1 ถึง 7 โดยคนที่ 7 ไม่ตอ้ งพูดคำ
ว่า 7 แต่ใหร้ ะบชุ ือ่ สารเน้ือผสม 1 อย่าง โดยคนถัดไปจะต้องระบุสารเนื้อผสมไมซ่ ำ้ กบั เพ่อื น
3) ครูเขียนคำตอบที่เป็นสารเนื้อผสมของนักเรียนลงบนกระดาน จากนั้นให้นกั เรียนรว่ มกัน
แสดงความคดิ เหน็ ว่ามีสารเนื้อผสมใดบ้างทสี่ ามารถใช้วธิ ีการหยบิ ออกในการแยกสารไดเ้ พราะเหตุใด
4) ครูชี้แจงจุดประสงคใ์ นการเรยี นใหแ้ กน่ ักเรยี นทราบ
ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา
5) ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3 - 4 คน เพื่อรว่ มกันออกแบบการทดลองสารผสม ด้วย
วิธกี ารหยิบออก
6) ครูให้นักเรียนเลือกสารผสม 3 ชนิด (มีสถานะเป็นของแข็ง และมีขนาด สี แตกต่างกัน
อย่างชัดเจน) ที่สามารถใช้วิธีการหยิบออกได้ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิดออกแบบการทดลอง
เพื่อแยกสารผสมดงั กล่าว โดยจะตอ้ งระบุอปุ กรณ์ในการทดลอง และวิธีการทดลอง เป็นตน้
7) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิดเหน็ เพื่อออกแบบการทดลองการแยกสาร
เน้อื ผสมด้วยวธิ ีการหยบิ ออกลงในกระดาษบรู๊ฟ ตกแต่งระบายสีให้สวยงาม โดยมคี รคู อยอำนวยความสะดวก
และให้คำแนะนำนกั เรียนเพ่มิ เติม
30
ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้
8) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการออกแบบการทดลองแยกสารเนื้อผสมด้วย
การหยิบออกหนา้ ช้นั เรยี น โดยนกั เรียนคนอ่นื ๆ สามารถแสดงความคดิ เห็นเพ่ิมเตมิ อยา่ งสรา้ งสรรคไ์ ด้
9) ครูอธิบายความรู้เพิม่ เติมให้แกน่ ักเรยี นทราบว่าสารเน้อื ผสมที่เหมาะสมในการหยิบออก
คือ สารผสมทีม่ สี ถานะเป็นของแขง็ และมีขนาดใหญ่ชดั เจน ทำให้สามารถหยิบหรอื เขยี่ ออกไดง้ ่าย
10) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับสารผสมท่ีมีสถานะเป็นของแขง็ ผสมกับของแข็ง
แต่มีขนาดเล็ก สามารถใช้วิธีการหยิบออกได้หรือไม่เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : อาจจะทำได้ลำบาก หรือ
อาจจะแยกสารเน้ือผสมไดไ้ มส่ มบูรณ)์
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับกิจกรรมใน
ชีวิตประจำวันหรืออาชีพทีต่ ้องมกี ารแยกสารผสมด้วยวิธีการหยิบออก จากนั้นใหน้ ักเรียนทำใบงานเรื่อง การ
หยบิ ออก เพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียนเพม่ิ เตมิ
12) ครยู กตัวอย่างสถานการณ์ หากสารผสมทม่ี ีสถานะเปน็ ของแข็งกับของแข็งมีปริมาณมาก
ไม่เหมาะกับการหยิบออก นักเรียนจะมีวิธีการแยกสารผสมนั้นได้อย่างไร (แนวคำตอบ : อิสระตามความ
คดิ เหน็ ของนักเรยี น เชน่ ออกแบบสงิ่ ประดิษฐ์ทสี่ ามารถแยกสารผสมทม่ี สี ถานะเปน็ ของแข็งได)้
13) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามที่สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแยกสารด้วยวิธีการหยิบออก เช่น
ถา้ ของแขง็ ผสมอยู่กบั ของเหลวสามารถใช้วิธกี ารหยิบออกไดห้ รอื ไม่ อย่างไร)
ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล
14) ครูสุ่มนกั เรียน 2 คน สรุปความรู้ที่ได้จากการทำกจิ กรรม การออกแบบการทดลองแยก
สารผสมด้วยการหยบิ ออก จากน้นั ให้เพ่ือน ๆ ในห้องรว่ มกนั เสนอความคดิ เห็นเพ่มิ เตมิ จนได้ข้อมลู ครบถว้ น
15) ครตู ้ังคำถามเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนในประเดน็ ตา่ ง ๆ ดังนี้
- สารเน้ือผสมลักษณะใดท่ีเหมาะสมใช้การแยกสารดว้ ยการหยบิ ออก
(แนวคำตอบ : ของแข็งท่มี ีขนาด และสีแตกตา่ งกัน)
- ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งสารผสมทใี่ ชว้ ิธกี ารหยบิ ออกได้
(แนวคำตอบ : อสิ ระตามความคิดเห็นของนักเรยี น)
16) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุด ใบงานเรื่อง การหยิบออก การนำเสนอหน้าชั้น
เรยี น และการมีสว่ นร่วมในการตอบคำถามในชนั้ เรยี น
11. สอ่ื การเรียนรู้
1) ส่ือการเรยี นรู้
1.1) หนงั สอื เรียน วทิ ยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงานเรอ่ื ง การหยิบออก
1.3) กระดาษบรฟู๊
1.4) ปากกาเคมี
2) แหลง่ การเรยี นรู้ 31
2.1) ห้องเรียน เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.2) ห้องสมดุ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ท่ี วิธีการ เครื่องมือ
1 ตรวจสมุด แบบประเมนิ การทำงาน
ตรวจใบงาน
2 สังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วม แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ในกจิ กรรม การทำงานรายบุคคล
3 สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลักษณะ
และมงุ่ มั่นในการทำงาน อนั พึงประสงค์
13. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 32
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้
ผ้เู รยี นทผ่ี ่านตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
ผู้เรยี นทไี่ มผ่ า่ นตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
เลขท่ีของนกั เรยี นทีส่ อบไมผ่ ่านตัวชว้ี ัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุที่ไม่ผ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/สง่ เสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรยี นได้รบั ความรู้ (K) ในเรอ่ื ง ............................................................................................................
ผเู้ รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม (A) ในเร่ือง.................................................................................
13.2 ปญั หาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่อื .......................................................ครผู ู้สอน
(นายดิเรกฤทธ์ิ ยเุ หลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1
วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ................
33
14. ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษา/ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ......................................หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจ้ง)
วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ................
รบั ทราบผลการจดั การเรยี นรู้
ลงช่อื ....................................................... ลงช่อื ......................................................
(..........................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ฝ่ายบริหารวิชาการ ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา
วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ........... วันท.่ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ..........
34
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321
1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP
3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ
4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน
6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน
7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6
8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้
รวม
เฉล่ยี
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี
35
ภาคผนวก
ใบงานเรอื่ ง การหยบิ ออก
แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 36
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ
37
เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ
เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ
ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2
จดุ )
ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบร้อย สะอาด
สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
38
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่
ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ
ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
39
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์
1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ
2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม
รวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ
ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
40
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม เร่อื ง การทดลองแยกสารดว้ ยการหยิบออก
กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหัสวชิ า ว 16101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชั้น ป.6 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ครูผู้สอน นายดเิ รกฤทธิ์ ยเุ หลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1
ใช้สอนวัน....................... ท่ี............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี
3. ตวั ชี้วัด
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวติ ประจำวันเก่ียวกบั การแยกสาร
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การหยบิ ออกเป็นวธิ ีการแยกสารผสมเมอ่ื ของแข็งผสมมีขนาดแตกต่างกนั ชัดเจน โดยการใช้มอื หยิบ
หรอื ใช้ทค่ี ีบ
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายวธิ ีการแยกสารดว้ ยการหยบิ ออกได้ (K)
2) ทดลองการแยกสารผสมด้วยการหยิบออกได้ (P)
3) รบั ผดิ ชอบและมุง่ มั่นในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย (A)
6. คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์
1) มวี ินยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมัน่ ในการทำงาน
7. สมรรถนะทสี่ ำคญั
1) ความสามารถในการคิด
41
1.1) ทกั ษะการสงั เกต
1.2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
1.3) ทกั ษะการการเช่อื มโยง
2) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
4) ความสามารถในการสื่อสาร
8. ทกั ษะกระบวนการคิด
การคดิ วเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
9. เนอื้ หาสาระ
การหยบิ ออกเปน็ วธิ ีการแยกสารผสมเม่ือของแข็งผสมมขี นาดแตกตา่ งกันชัดเจน โดยของแข็งนั้นตอ้ ง
มีขนาดใหญ่พอทีจ่ ะใชม้ อื หยิบ หรอื เขย่ี ออกได้
อุปกรณ์ในการหยบิ ออกได้ : ใชม้ อื หยิบ หรอื ใช้ท่ีคีบ
วธิ กี าร : ใชม้ อื หยบิ ของแขง็ ท่มี ขี นาดใหญอ่ อก
ตัวอย่าง : ลูกปัดคละสี การแยกเมลด็ ข้าวเปลอื กออกจากเมลด็ ขา้ วสาร
10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
• วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ข้นั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ
1) ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายเกยี่ วกบั ลกั ษณะของสารผสมท่ีสามารถใช้วิธกี ารหยิบออก
(แนวคำตอบ: เป็นของแขง็ ผสมกบั ของแข็ง ท่ีมีขนาดแตกตา่ งกันอย่างชัดเจน สามารถหยบิ ออกได้)
2) ครูสุม่ ตัวแทนนักเรียน 2 - 3 คน ออกมานำเสนอการออกแบบวิธกี ารทดลองสารผสมด้วย
การหยิบออกจากช่ัวโมงทแี่ ลว้ หนา้ ช้นั เรยี นเพือ่ ทบทวนความรู้ของนกั เรยี นเกยี่ วกบั การหยิบออก
3) ครชู แ้ี จงจุดประสงค์ในการเรียนใหแ้ กน่ กั เรยี นทราบ
ขัน้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา
4) ครูเตรียมสารผสมระหว่างลูกแกว้ กับลกู ปิงปอง ใสใ่ นภาชนะที่เป็นกล่องขนาดใหญ่ เพอ่ื ให้
สะดวกต่อการแยกสารดว้ ยการหยบิ ออก
5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน เพ่ือทำกิจกรรมการทดลองเร่ือง การหยิบออก
โดยก่อนการทดลองให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพิจารณาลักษณะภายนอกของสารผสม และบันทึกผลการ
ทดลองลงในสมุดของตนเอง
6) ครใู หน้ กั เรยี นทำการแยกสารด้วยการหยิบออก กล่มุ ที่แยกสารเรียบรอ้ ยให้สมาชกิ ในกลุ่ม
พูดพรอ้ มกนั วา่ “เฮ” จากน้ันครบู ันทกึ เวลาท่แี ต่ละกลมุ่ ใชใ้ นการแยกสารลงบนกระดาน
7) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน โดยให้
ลำดับการนำเสนอเปน็ ไปตามลำดับเวลาทีใ่ ช้ในการแยกสารจากเร็วที่สดุ ไปหาชา้ ท่สี ดุ รวมไปถงึ ใหน้ ักเรียนทท่ี ำ
เวลาไดร้ วดเรว็ ทสี่ ุดบอกวธิ กี ารหรอื เทคนคิ ทท่ี ำใหแ้ ยกสารได้รวดเรว็ มากยิง่ ข้ึน
42
ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้
8) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลอง โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอ
ขอ้ มูล (จากการทดลองพบว่า ลักษณะของสารผสมภายนอกมีรูปร่างเป็นทรงกลม มีขนาดแตกต่างกัน เมื่อทำ
การทดลองด้วยการหยบิ ออกจะได้สารท่เี ป็นลูกแก้ว และสารทเ่ี ปน็ ลกู ปงิ ปอง)
9) ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ “หากนำลูกแก้วไปใส่ในนำ้ ” นักเรียนคิดว่าควรใช้วธิ ีการหยบิ
ออกหรอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ : อสิ ระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่นทำได้ เพราะเราสามารถหยิบ
ลูกแก้วออกจากในน้ำได้สะดวก หรือไม่ควรใช้วิธีการหยิบออก แต่ใช้วิธีการเอาของเหลวออก
เพอื่ ประหยัดเวลา)
10) ครูอธิบายเพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้การหยิบออก เราสามารถใช้วิธีการเขี่ยหรือ
การคีบออกได้เช่นกัน ขน้ึ อยกู่ ับลกั ษณะของสารผสม
ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวนั ที่ตนเองพบเจอไม่ว่าจะเป็นสารเนื้อเดยี ว
หรือสารเนอื้ ผสม จากนั้นบันทึกลงสมุด และสลับสมุดกับเพื่อนแล้ววงกลมลอ้ มสารผสมที่สามารถแยกออกได้
ด้วยการหยิบออกลงในสมุด (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่น น้ำโคลน น้ำเน่าเสียใน
ลำคลอง เปน็ ตน้ )
12) ครูใหน้ ักเรียนต้งั คำถามที่สนใจเพิ่มเติมเกยี่ วกับการทดลองแยกสารดว้ ยการหยบิ ออก
(แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเหน็ ของนักเรยี น เชน่ ในการทดลองด้วยการหยบิ ออกสามารถใช้อุปกรณใ์ น
การช่วยหยิบหรอื ไมอ่ ย่างไร)
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล
13) ครูสมุ่ นกั เรยี น 2 คน สรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการทำกิจกรรม เร่อื ง การทดลองแยกสารด้วย
การหยิบออก จากนนั้ ใหเ้ พ่ือน ๆ ในห้องรว่ มกนั แลกเปล่ียนความคดิ เหน็
14) ครใู หน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปรายเกย่ี วกบั ลักษณะของสารผสม โดยใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดง
ความคิดเห็นว่า สารผสมที่มีสถานะเป็นของแข็งทั้งสองชนิดจะใช้วิธีการหยิบออกได้เสมอไปหรือไม่
เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่น ไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสมและความ
เปน็ ไปไดต้ ามลกั ษณะเน้ือสาร)
15) ครปู ระเมนิ นกั เรียนจากการตรวจสมุด การนำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น และการมสี ว่ นรว่ มใน
การตอบคำถามในชั้นเรยี น
11. สือ่ การเรยี นรู้
1) สื่อการเรยี นรู้
1.1) หนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) สารผสมระหว่างลูกปงิ ปองและลกู แก้ว
1.3) กลอ่ งขนาดพอเหมาะในการใส่สารผสม
2) แหล่งการเรยี นรู้ 43
2.1) ห้องเรียน
2.2) ห้องสมุด เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ท่ี วธิ ีการ เครอื่ งมือ
1 ตรวจสมดุ แบบประเมนิ การทำงาน
2 สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนร่วม แบบสงั เกตพฤติกรรม
ในกิจกรรม การทำงานรายบคุ คล
3 สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ
และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์
13. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ 44
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผู้เรียนที่ผ่านตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
ผู้เรยี นที่ไมผ่ า่ นตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................
เลขท่ีของนกั เรียนทีส่ อบไม่ผา่ นตัวช้ีวัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ีไม่ผ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผ้เู รียนทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพฒั นา/ส่งเสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรียนได้รบั ความรู้ (K) ในเรื่อง ............................................................................................................
ผูเ้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผเู้ รียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................
13.2 ปัญหาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกป้ ัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .......................................................ครูผูส้ อน
(นายดเิ รกฤทธ์ิ ยุเหลก็ )
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วันท.ี่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
45
14. ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พูลแจ้ง)
วนั ที.่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
รบั ทราบผลการจดั การเรียนรู้
ลงชื่อ....................................................... ลงช่ือ......................................................
(..............................................) (นายวริ ัชต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ฝา่ ยบริหารวิชาการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
วนั ท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ........... วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ..........
46
แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321
1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP
3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ
4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน
6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน
7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6
8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้
รวม
เฉล่ยี
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี
แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 47
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ
48
เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ
เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ
ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2
จดุ )
ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบร้อย สะอาด
สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
49
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่
ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ
ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน
50
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์
1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ
2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง
3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา
4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้
4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม
4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรยี น
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด
พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน
6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็
7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม
รวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ
ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน