The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม (ปี กศ.2565)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดิเรกฤทธิ์ ยุเหล็ก, 2022-07-17 10:39:02

ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม (ปี กศ.2565)

ป.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การแยกสารเนื้อผสม (ปี กศ.2565)

51

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การแยกสารเนื้อผสม เรอื่ ง การรอ่ น

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหัสวิชา ว 16101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชัน้ ป.6 เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ครูผสู้ อน นายดิเรกฤทธ์ิ ยุเหล็ก ตำแหนง่ ครู คศ.1

ใชส้ อนวัน....................... ที่............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................

*************************************

1. สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัติของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
3. ตวั ชว้ี ัด

ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวติ ประจำวันเกีย่ วกับการแยกสาร
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

การรอ่ น คือ การแยกสารผสมทเ่ี ป็นของแข็งผสมมีขนาดเล็กจนหยิบออกไมไ่ ด้ โดยใช้ตะแกรง หรือ
กระชอน เป็นอปุ กรณใ์ นการรอ่ น
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายวธิ ีการแยกสารดว้ ยการการร่อนได้ (K)
2) ออกแบบข้นั ตอนการทดลองการแยกสารผสมดว้ ยการการรอ่ นได้ (P)
3) รับผิดชอบและมุง่ มั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A)
6. คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
1) มีวนิ ยั
2) ใฝ่เรียนรู้
3) มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. สมรรถนะท่สี ำคญั
1) ความสามารถในการคิด

1.1) ทกั ษะการสงั เกต

52

1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทกั ษะการเชื่อมโยง
2) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
3) ความสามารถในการสอื่ สาร
4) ความสามารถในการแก้ไขปญั หา
8. ทกั ษะกระบวนการคดิ
การคิดวเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
9. เน้ือหาสาระ
การรอ่ น เปน็ วธิ กี ารแยกสารผสมที่มขี องแขง็ ขนาดต่างๆ ผสมกันอยู่ให้ออกจากกนั โดยของแข็งอาจมี
ขนาดเล็ก และไม่สามารถใช้มือหยบิ ออกจากกนั จงึ ต้องเลือกใชอ้ ุปกรณ์ทีม่ คี วามกวา้ งของรใู ห้เหมาะสมกับ
อนภุ าคของสารทีต่ อ้ งการแยกท่ี เช่น ตะแกรงกระชอน โดยการสา่ ยอุปกรณ์ไปมาเพื่อให้สารท่มี ีอนภุ าคเลก็ กว่า
ลอดผา่ นรูของอุปกรณ์ได้ สว่ นสารทม่ี อี นภุ าคใหญก่ วา่ จะคา้ งอยบู่ นอุปกรณ์น้ัน
10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

• วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขน้ั ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ
1) ครทู บทวนความรู้เกยี่ วกับวธิ กี ารแยกสารผสมดว้ ยการรอ่ นวา่ สามารถทำไดอ้ ย่างไร และ

ต้องมกี ารเตรียมอุปกรณห์ รอื ไมอ่ ย่างไร (แนวคำตอบ : อสิ ระตามความคิดเห็นของนกั เรยี น เชน่ อุปกรณ์ทใี่ ช้
ในการรอ่ น ไดแ้ ก่ ตะแกรง กระชอน เปน็ ต้น)

2) ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ว่าในชีวิตประจำวันของนักเรยี นตง้ั มกี าร
แยกสารดว้ ยการรอ่ นหรอื ไม่อยา่ งไร โดยใหน้ กั เรยี นที่มีประสบการณใ์ นการร่อนสารเน้อื ผสมได้อธิบายข้อมลู
เพิ่มเติมหน้าชนั้ เรียน

3) ครชู แ้ี จงจดุ ประสงคใ์ นการเรียนใหแ้ กน่ ักเรยี นทราบ
ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา

4) ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3 - 4 คน เพ่อื รว่ มกันออกแบบการทดลองสารผสม ดว้ ย
วิธีการร่อน

5) ครูให้นักเรียนเลือกสารผสม 3 ชนิด (มีสถานะเป็นของแข็ง และมีขนาดใกล้เคียงกัน) ท่ี
สามารถใช้วิธีการร่อนได้ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิดออกแบบการทดลองเพื่อแยกสารผสม
ดงั กล่าว โดยจะต้องระบอุ ุปกรณ์ในการทดลอง และวธิ ีการทดลอง เปน็ ต้น

6) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิดเห็นเพือ่ ออกแบบการทดลองการแยกสาร
เนื้อผสมด้วยวิธีการรอ่ นลงในกระดาษบรู๊ฟ ตกแต่งระบายสใี หส้ วยงาม โดยมีครูคอยอำนวยความสะดวกและ
ให้คำแนะนำนกั เรยี นเพ่มิ เตมิ

53

ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้
7) ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานการออกแบบการทดลองแยกสารเนอ้ื ผสมด้วยการ

รอ่ นหน้าชั้นเรียน โดยนกั เรยี นคนอน่ื ๆ สามารถแสดงความคิดเหน็ เพิ่มเติมอย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้
8) ครอู ธิบายความร้เู พ่ิมเติมให้แก่นกั เรยี นทราบว่าสารเน้อื ผสมที่เหมาะสมในการรอ่ น คอื

สารผสมทม่ี สี ถานะเปน็ ของแขง็ และใกล้เคียงกัน หรอื มขี นาดเล็กจนไมส่ ามารถหยบิ หรือเขี่ยออกได้ จงึ
จำเป็นต้องมอี ุปกรณใ์ นการชว่ ยร่อน เชน่ ตะแกรง หรอื กระชอน เป็นตน้

9) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับความแตกตา่ งของการแยกสารด้วยวธิ ีการหยบิ ออก
และวิธีการรอ่ น เน่ืองจากทั้งสองวธิ เี หมือนกันทเ่ี ปน็ วธิ ีการทใี่ ช้ในการแยกสารผสมท่ีเป็นของแขง็ แตจ่ ะ
แตกต่างกนั ตรงที่ขนาดของสารผสม หากสารผสมใหญ่มากพอก็จะใชว้ ธิ ีการหยบิ ออก แต่ถ้าสารผสมมีขนาด
เลก็ มากจนมอื ไมส่ ามารถหยิบไดใ้ หใ้ ช้วิธีการร่อน

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
10) ครูให้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การรอ่ นทำใหก้ ารรอ่ นสารมคี วามละเอียด

มากยิ่งขนึ้ คืออะไร (แนวคำตอบ : ขนาดของรูตะแกรง หากขนาดของรตู ะแกรงกวา้ งเกนิ ไปอาจจะทำให้สาร
ผสมทง้ั หมดหล่นผา่ นรูของตะแกรงได)้

11) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับกิจกรรมใน
ชีวิตประจำวันหรืออาชีพที่ต้องมีการแยกสารผสมด้วยวิธีการหยิบออก จากนั้นให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง
การรอ่ น เพ่อื ขยายความเข้าใจของนักเรยี นเพม่ิ เตมิ

12) ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงานเรื่อง การร่อน โดยให้นักเรียนมีบทบาท
สำคญั ในการใหข้ ้อมลู ส่วนครูคอยเพ่ิมเตมิ เน้อื หาใหค้ รบถว้ นสมบูรณ์มากยิ่งขนึ้

ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล
13) ครสู มุ่ นกั เรยี น 2 คน สรปุ ความรู้ทไ่ี ด้จากการทำกิจกรรม เร่ือง การออกแบบการทดลอง

แยกสารผสมดว้ ยการรอ่ น จากนัน้ ใหเ้ พื่อน ๆ ในหอ้ งรว่ มกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
14) ครตู ้งั คำถามเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนในประเด็นต่าง ๆ ดงั น้ี
- สารเนือ้ ผสมลกั ษณะใดท่ีเหมาะสมใช้การแยกสารดว้ ยการรอ่ น
(แนวคำตอบ : ของแขง็ ทมี่ ีขนาดเลก็ )
- ให้นกั เรียนยกตัวอยา่ งสารผสมทใี่ ช้วธิ ีการรอ่ นได้
(แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน)
15) ครปู ระเมินนักเรยี นจากการตรวจใบงาน เรอ่ื ง ประเภทของสารอาหาร บัตรภาพอาหาร

และการมีส่วนรว่ มในการตอบคำถามในช้นั เรียน
11. ส่อื การเรียนรู้

1) สื่อการเรียนรู้
1.1) หนังสอื เรียน วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงานเร่อื ง การร่อน

1.3) กระดาษบรฟู๊ 54

1.4) ปากกาเคมี เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2) แหล่งการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
2.1) หอ้ งเรยี น

2.2) หอ้ งสมดุ

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ท่ี วิธีการ เครือ่ งมือ

1 ตรวจใบงาน แบบประเมินการทำงาน

ตรวจสมุด

2 สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วม แบบสังเกตพฤตกิ รรม

ในกจิ กรรม การทำงานรายบุคคล

3 สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ

และมุ่งมน่ั ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์

13. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 55
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้
ผู้เรยี นท่ผี ่านตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
ผเู้ รยี นทไี่ ม่ผ่านตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................

เลขท่ีของนกั เรียนทส่ี อบไม่ผา่ นตัวชีว้ ดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................

สาเหตุทไ่ี ม่ผา่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางแกป้ ัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผเู้ รียนทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางการพฒั นา/สง่ เสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) ในเรื่อง ............................................................................................................
ผ้เู รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเรอื่ ง............................................................................................
ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม (A) ในเรอื่ ง.................................................................................

13.2 ปัญหาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................ครผู ู้สอน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ )
ตำแหนง่ ครู คศ.1

วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ................

56

14. ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา/ผูท้ ่ีได้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ......................................หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจง้ )

วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................

รบั ทราบผลการจดั การเรยี นรู้

ลงชื่อ....................................................... ลงชื่อ......................................................
(.............................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)

ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ฝา่ ยบริหารวชิ าการ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ..........

57

แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์

ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321

1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า

2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP

3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ

4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning

5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน

6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน

7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6

8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้

รวม

เฉล่ยี

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย

ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )

ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี

58

ภาคผนวก
ใบงานเรอ่ื ง การร่อน

แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 59

เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ

60

เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน

รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ

เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ

ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน

(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2

จดุ )

ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี

- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่

เรียบร้อย สะอาด

สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า

- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี

กำหนด กำหนด

61

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่

ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ

ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา

ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

62

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ

2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง

3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา

4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้

4.4 ต้ังใจเรยี น

5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด

พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย

ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้

ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ

ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

63

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม เรอ่ื ง การทดลองแยกสารด้วยการรอ่ น

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหัสวชิ า ว 16101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ชนั้ ป.6 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ครูผู้สอน นายดิเรกฤทธ์ิ ยเุ หลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1

ใช้สอนวัน....................... ที.่ ........... เดอื น.................................... พ.ศ. .........................

*************************************

1. สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
3. ตัวชี้วัด

ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชวี ติ ประจำวันเกย่ี วกับการแยกสาร
4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

การรอ่ น คือ การแยกสารผสมทเ่ี ป็นของแขง็ ผสมมขี นาดเล็กจนหยบิ ออกไม่ได้ โดยใชต้ ะแกรง หรือ
กระชอน เปน็ อุปกรณ์ในการร่อน
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายวธิ ีการแยกสารด้วยการการรอ่ นได้ (K)
2) ทดลองการแยกสารผสมดว้ ยการการรอ่ นได้ (P)
3) รับผดิ ชอบและมงุ่ ม่ันในการทำงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย (A)
6. คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์
1) มวี ินยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มุ่งมน่ั ในการทำงาน
7. สมรรถนะท่ีสำคัญ
1) ความสามารถในการคิด

1.1) ทกั ษะการสังเกต

64

1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทักษะการการเชือ่ มโยง
2) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการสื่อสาร
8. ทักษะกระบวนการคดิ
การคิดวิเคราะห์ คิดอยา่ งมีวิจารณญาณ
9. เนอ้ื หาสาระ
การร่อน เป็นวิธกี ารแยกสารผสมที่มขี องแขง็ ขนาดตา่ งๆ ผสมกนั อยู่ใหอ้ อกจากกัน โดยของแขง็ อาจมี
ขนาดเลก็ และไม่สามารถใช้มือหยบิ ออกจากกนั จึงตอ้ งเลือกใชอ้ ปุ กรณ์ทมี่ ีความกว้างของรูใหเ้ หมาะสมกับ
อนภุ าคของสารทตี่ ้องการแยกท่ี เชน่ ตะแกรงกระชอน โดยการส่ายอุปกรณไ์ ปมาเพอ่ื ใหส้ ารที่มอี นภุ าคเลก็ กว่า
ลอดผ่านรขู องอปุ กรณ์ได้ ส่วนสารทมี่ อี นุภาคใหญ่กวา่ จะค้างอยบู่ นอปุ กรณ์นนั้
10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

• วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ข้นั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ
1) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับลักษณะของสารผสมที่สามารถใช้วิธีการร่อน

(แนวคำตอบ: เปน็ ของแขง็ ผสมกบั ของแขง็ ท่มี ีขนาดเลก็ จนไมส่ ามารถหยิบออกได้)
2) ครูสุ่มตัวแทนนักเรยี น 2 - 3 คน ออกมานำเสนอการออกแบบวธิ กี ารทดลองสารผสมด้วย

การรอ่ นจากชวั่ โมงท่ีแลว้ หนา้ ชัน้ เรยี นเพอื่ ทบทวนความร้ขู องนกั เรียนเกีย่ วกบั การหยบิ ออก
3) ครูชี้แจงจุดประสงคใ์ นการเรียนใหแ้ ก่นกั เรยี นทราบ

ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา
4) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน เพื่อทำกิจกรรมการทดลองเรื่อง การหยิบออก

โดยกอ่ นการทดลองให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันพจิ ารณาลักษณะภายนอกของสารผสม
5) ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มตำขา้ วเปลือกเบา ๆ ให้เปลือกกะเทาะออกจากเมลด็ ขา้ ว
6) แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั อภปิ รายเพ่อื หาวธิ ตี ่าง ๆ ทใี่ ช้แยกเมลด็ ข้าวสารออกจากสารเนอื้ ผสม

และตั้งสมมติฐาน และเริ่มทำการทดลองแยกเมล็ดข้าวสารออกจากสารเนื้อผสมตามวิธีที่เลือก สังเกตและ
บนั ทึกผลลงในใบบนั ทึกผลกจิ กรรมเร่ือง การแยกของแข็งในสารเนอ้ื ผสมออกจากกนั

7) ในระหว่างทีน่ กั เรยี นทำกิจกรรมครูคอยให้คำแนะนำนกั เรียนเพิ่มเติมเกย่ี วกับการเลือกใช้
วธิ กี าร โดยให้นักเรียนพจิ ารณาลกั ษณะภายนอกของสารใหล้ ะเอียด

8) ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการแยกสารของกลุ่มตนเอง พร้อมทั้งวิเคราะห์
ข้อดแี ละขอ้ จำกัดของวธิ ีท่เี ลือก

65

ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายความรู้
9) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการทดลอง และผลการวิเคราะห์ข้อดีและ

ขอ้ จำกัดของวิธที ี่เลือกใชใ้ นการแยกสารหนา้ ชน้ั เรียน โดยนกั เรยี นคนอืน่ ๆ สามารถแสดงความคดิ เห็นเพิ่มเติม
อย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้

10) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลอง โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอ
ข้อมูล (จากการทดลองพบว่า สารผสมมีสถานะเป็นของแข็งสามารถใช้วิธีการให้การแยกได้แตกต่างกันตาม
ลกั ษณะของเนื้อสาร และมวลของสาร เชน่ การหยิบออก การรอ่ น การฝดั )

11) ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝัด ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการแยกสารผสมที่มี
สถานะเป็นของแข็ง แต่จะแตกต่างจากการร่อนคือ จะใช้แยกของแข็งที่มีมวลแตกต่างกัน ดังเช่นข้าวกับ
ข้าวเปลอื กทม่ี ีมวลแตกต่างกนั สามารถใชว้ ธิ กี ารฝดั ไดเ้ ช่นกัน)

ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูให้นกั เรยี นรว่ มกันสรุปเกณฑ์ในการพจิ ารณาเพอื่ เลอื กวธิ ีการแยกสารผสมท่ีมสี ถานะ

เปน็ ของแข็งมอี ะไรบา้ ง (แนวคำตอบ : ขนาด มวล อุปกรณ์ที่จะใชใ้ นการแยก)
12) ครูยกตวั อย่างสารผสมทมี่ ีสถานะเปน็ ของแข็ง จากน้ันใหน้ กั เรียนระบุวิธีการท่ีเหมาะสม

ในการแยกสารผสม ดังน้ี
- ทรายหยาบ (แนวคำตอบ : การร่อน)
- การหาแร่ (แนวคำตอบ : การร่อน)
- ปากกากบั ดนิ สอ (แนวคำตอบ : การหยิบออก)

13) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามที่สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลองแยกสารด้วยการร่อน
(แนวคำตอบ : อิสระตามความคดิ เห็นของนักเรียน เชน่ ในการทดลองด้วยการร่อนหากใชต้ ะแกรงกบั กระชอน
ทีม่ รี ขู นาดเทา่ กันจะไดผ้ ลการรอ่ นที่เหมือนหรอื แตกตา่ งกนั หรือไม่อยา่ งไร)

ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล
14) ครูสุ่มนักเรยี น 2 คน สรุปความรูท้ ี่ไดจ้ ากการทำกิจกรรม เรื่อง การแยกของแข็งในสาร

เนื้อผสมออกจากกนั จากนั้นใหเ้ พ่อื น ๆ ในห้องร่วมกันแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็
15) ครตู ้งั คำถามเพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั น้ี
- หากนักเรียนไม่ชอบดืม่ นม จะทำให้ขาดสารอาหารชนิดใด
(แนวคำตอบ: โปรตนี )
- นักเรียนรบั ประทานข้าวเหนียวหมปู งิ้ จะได้รับสารอาหารใดบา้ ง
(แนวคำตอบ: คาร์โบไฮเดรตจากข้าว โปรตนี และไขมนั จากหมู)
16) ครปู ระเมนิ นกั เรียนจากการตรวจใบบนั ทกึ ผลกิจกรรมเรือ่ ง การแยกของแข็งในสารเน้ือ

ผสมออกจากกนั การนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน และการมีส่วนรว่ มในการตอบคำถามในช้นั เรยี น

66

11. สื่อการเรยี นรู้

1) สอ่ื การเรียนรู้

1.1) หนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์ ป.6

1.2) ใบบันทกึ ผลกจิ กรรมเร่ือง การแยกของแขง็ ในสารเนอื้ ผสมออกจากกนั

1.3) อปุ กรณใ์ นการทดลองแยกของแข็งในสารเนอื้ ผสมออกจากกัน

2) แหล่งการเรียนรู้

2.1) ห้องเรียน

2.2) ห้องสมดุ

12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ท่ี วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์

1 ตรวจใบบันทึกผลกิจกรรม แบบประเมนิ การทำงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

2 สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ในกิจกรรม การทำงานรายบุคคล

3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์

13. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ 67
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผู้เรยี นท่ผี า่ นตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................
ผู้เรยี นทีไ่ ม่ผ่านตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................

เลขท่ีของนักเรยี นทส่ี อบไมผ่ า่ นตวั ชว้ี ดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................

สาเหตุท่ีไม่ผา่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางแกป้ ัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผเู้ รียนทม่ี คี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางการพฒั นา/ส่งเสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผู้เรียนได้รับความรู้ (K) ในเรือ่ ง ............................................................................................................
ผเู้ รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผู้เรยี นมีคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................

13.2 ปัญหาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

13.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.......................................................ครูผ้สู อน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1

วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................

68

14. ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ......................................หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจ้ง)

วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................

รบั ทราบผลการจดั การเรยี นรู้

ลงช่ือ....................................................... ลงชื่อ......................................................
(...........................................) (นายวริ ัชต์ จำปาทอง)

ตำแหนง่ รองผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา ฝ่ายบริหารวชิ าการ ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท.ี่ ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ..........

69

แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์

ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321

1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า

2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP

3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ

4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning

5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน

6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน

7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6

8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้

รวม

เฉล่ยี

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย

ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )

ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี

70

ภาคผนวก
ใบบนั ทกึ ผลกจิ กรรมเรื่อง การแยกของแข็งในสารเน้อื ผสมออกจากกนั

แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 71

เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ

72

เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน

รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ

เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ

ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน

(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2

จดุ )

ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี

- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่

เรียบร้อย สะอาด

สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า

- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี

กำหนด กำหนด

73

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่

ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ

ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา

ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

74

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ

2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง

3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา

4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้

4.4 ต้ังใจเรยี น

5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด

พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย

ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้

ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ

ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

75

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 7

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การแยกสารเนอ้ื ผสม เรอื่ ง การกรอง

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหัสวชิ า ว 16101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ ช้ัน ป.6 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผสู้ อน นายดิเรกฤทธ์ิ ยเุ หลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1

ใช้สอนวนั ....................... ท.่ี ........... เดอื น.................................... พ.ศ. .........................

*************************************

1. สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
3. ตวั ชวี้ ดั

ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การกรอง เป็นการแยกสารผสมทีเ่ ปน็ ของแข็งมขี นาดใหญก่ ว่ารูพรุนอุปกรณ์ในการกรอง และของแข็ง
นนั้ ต้องไม่รวมกับของเหลว โดยใช้ตะแกรง ผา้ ขาวบาง กระดาษกรอง เปน็ อุปกรณช์ ว่ ยในการแยกสารผสม
5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) อธบิ ายวิธกี ารแยกสารดว้ ยการกรอง ได้ (K)
2) ออกแบบข้นั ตอนการทดลองการแยกสารผสมด้วยการกรองได้ (P)
3) รับผิดชอบและมงุ่ ม่นั ในการทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A)
6. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์
1) มีวนิ ัย
2) ใฝ่เรียนรู้
3) มงุ่ มั่นในการทำงาน
7. สมรรถนะทส่ี ำคัญ
1) ความสามารถในการคิด

76

1.1) ทักษะการสงั เกต
1.2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทักษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
8. ทกั ษะกระบวนการคิด
การคิดวเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
9. เน้ือหาสาระ
การกรอง เปน็ วิธกี ารแยกสารผสมทมี่ ขี องแขง็ ผสมอยกู่ ับของเหลว หรอื ใช้ในการแยกสารแขวนลอย
ออกจากน้ำซึง่ การกรองจะตอ้ งเทสารผสมผา่ นอปุ กรณ์ท่มี ีรูพรนุ เช่น กระดาษกรองสำลี ผา้ ขาวบาง หรอื
เครอ่ื งกรองน้ำ โดยอนภุ าคของแข็งท่ลี อดผา่ นรูไม่ไดจ้ ะตดิ อยบู่ นอุปกรณ์นน้ั สวนน้ำและสารทล่ี ะลายนำ้ ได้จะ
ลอดผา่ นรลู งสภู่ าชนะท่เี ตรียมไว้
10. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

• วิธสี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ
1) ครูกระตนุ้ ความคิดของนักเรยี นโดยการถามนักเรียนว่า นักเรียนทราบหรือไมว่ า่ กวา่ น้ำดื่ม

ทใ่ี สสะอาดให้เรารับประทานทกุ วัน ตอ้ งผา่ นขน้ั ตอนใดบา้ ง (แนวคำตอบ : การกรองและการฆา่ เช่ือโรค )
2) ครเู ปดิ ภาพขัน้ ตอนการผลิตนำ้ ด่ืมใหน้ กั เรียนสังเกต จากนั้นถามนกั เรียนวา่ การกรอง

จำเป็นต้องใช้กระดาษกรองอยา่ งเดียวหรือไม่ หลักการของการกรองคืออะไร (แนวคำตอบ : ไม่จำเป็น จะใช้
กระดาษกรองหรือวสั ดุทม่ี ีรพู รุนขนาดเลก็ โดยที่ขนาดของรตู อ้ งเลก็ กว่าของแขง็ ทตี่ ้องการแยกออกจาก
ของเหลวน้ัน)

3) ครูวางอปุ กรณ์ใหน้ กั เรียนเลือกว่า วสั ดุใดบ้างท่ีสามารถนำมาใช้กรองได้ ดังนี้ ผ้าขาวบาง
แผ่นกรองอากาศ พลาสตกิ ใส สำลี หนิ ทราย เป็นต้น จากนั้นใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นว่า มวี สั ดุ
ใดบ้างที่สามารถนำมากรองได้ (แนวคำตอบ :ผ้าขาวบาง แผ่นกรองอากาศ สำลี หิน ทราย เปน็ ตน้ )

4) ครชู ี้แจงจดุ ประสงค์ในการเรยี นให้แก่นกั เรียนทราบ
ขนั้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา

5) ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน เพื่อรว่ มกันออกแบบการทดลองแยกสารผสม
ด้วยวธิ กี ารกกรอง

6) ครใู ห้สถานการณ์ “หมู่บา้ นของนกั เรียนมนี ำ้ ปะปาขุ่นมาก ทำให้ไมส่ ามารถนำน้ำไปซักผ้า
ล้างจานได้ นักเรียนจะมีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้น้ำปะปาใสจนสามารถนำไปใช้งานได้” จากนั้นให้นักเรียน
ร่วมกันระดมความคิดออกแบบการทดลองเพื่อแยกสารผสมดังกล่าว โดยจะต้องระบุอุปกรณ์ในการทดลอง
และวิธกี ารทดลอง เปน็ ตน้

77

7) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิดเห็นเพื่อออกแบบการทดลองการแยกสาร
เนื้อผสมด้วยวิธีการกรองออกลงในกระดาษบรู๊ฟ ตกแต่งระบายสใี ห้สวยงาม โดยมคี รูคอยอำนวยความสะดวก
และใหค้ ำแนะนำนกั เรียนเพม่ิ เตมิ

ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้
8) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการออกแบบการทดลองแยกสารเนื้อผสมด้วย

การกรองหนา้ ชั้นเรยี น โดยนกั เรียนคนอืน่ ๆ สามารถแสดงความคดิ เห็นเพ่มิ เตมิ อย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้
9) ครอู ธิบายความรู้เพ่ิมเตมิ ให้แก่นักเรยี นทราบวา่ สารเนอ้ื ผสมที่เหมาะสมในการกรอง คือ

สารผสมทม่ี สี ถานะเปน็ ของแขง็ ผสมกับของเหลว โดยทข่ี องแขง็ ตอ้ งไมล่ ะลายในของเหลว
10) ครูและนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกบั สารผสมท่มี ีสถานะเป็นของแข็ง ผสมกบั ของเหลว

แต่ของแข็งละลายได้ในของเหลวว่า สามารถแยกโดยใช้วิธีการกรองได้หรือไม่เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ :
ไม่ได้ เพราะเมื่อของแข็งละลายได้ในของเหลว สารละลายท่ีได้จะมขี นาดอนุภาคเล็กกว่ารขู องกระดาษกรอง)

ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับกิจกรรมใน

ชีวติ ประจำวนั หรืออาชีพทตี่ อ้ งมีการแยกสารผสมดว้ ยวิธกี ารกรอง จากนน้ั ให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง การกรอง
เพ่ือขยายความเข้าใจของนกั เรียนเพม่ิ เติม

12) ครูให้นกั เรยี นทำใบงานเรื่อง การกรอง เพอ่ื ขยายความเข้าใจของนกั เรียนเพม่ิ เติม
ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล

13) ครูสุ่มนักเรียน 2 คน สรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การกรอง จากนั้นให้
เพือ่ น ๆ ในห้องร่วมกันแลกเปล่ียนความคดิ เห็น

14) ครูต้ังคำถามเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในประเด็นต่าง ๆ ดงั นี้
- หากนักเรียนจะแยกสารด้วยวธิ ีการกรอง สารดงั กลา่ วตอ้ งเป็นอย่างไรจงึ จะ

เหมาะสม (แนวคำตอบ: เปน็ สารผสมระหว่างของเหลวกบั ของแข็งท่ไี มล่ ะลายในของเหลวน้ัน)
- หากนักรยี นจะเลือกวัสดุทีน่ ำมากรอง จะมหี ลักการเลือกอย่างไร
(แนวคำตอบ: รูพรุนของวสั ดุทจี่ ะนำมาใช้กรองต้องมขี นาดเลก็ กว่าของแขง็ ในสาร

ผสมน้ัน)
15) ครูประเมนิ นักเรียนจากการตรวจใบงาน เร่ือง การกรอง

และการมีสว่ นรว่ มในการตอบคำถามในชัน้ เรียน
11. ส่อื การเรยี นรู้

1) สอื่ การเรียนรู้
1.1) หนังสือเรยี น วทิ ยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงาน เร่ือง การกรอง

2) แหล่งการเรยี นรู้ 78

2.1) ห้องเรียน เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
2.2) ห้องสมุด ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ท่ี วธิ ีการ เครอ่ื งมือ

1 ตรวจใบงาน แบบประเมนิ การทำงาน

2 สงั เกตพฤตกิ รรมการมีสว่ นร่วม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

ในกิจกรรม การทำงานรายบุคคล

3 สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

และมุ่งมัน่ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์

13. บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 79
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้
ผู้เรยี นท่ีผา่ นตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นร้อยละ.................
ผู้เรยี นทไี่ ม่ผ่านตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................

เลขท่ีของนกั เรียนทีส่ อบไมผ่ ่านตัวช้วี ัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................

สาเหตุท่ีไม่ผา่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางแก้ปญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผู้เรียนท่ีมคี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางการพัฒนา/สง่ เสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผู้เรยี นได้รับความรู้ (K) ในเรื่อง ............................................................................................................
ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................

13.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .......................................................ครูผ้สู อน
(นายดเิ รกฤทธ์ิ ยเุ หล็ก)
ตำแหน่ง ครู คศ.1

วนั ท.ี่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ................

80

14. ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ......................................หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจง้ )

วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................

รบั ทราบผลการจัดการเรียนรู้

ลงช่ือ....................................................... ลงชอ่ื ......................................................
(..............................................) (นายวริ ัชต์ จำปาทอง)

ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ฝ่ายบริหารวิชาการ ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท.ี่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ........... วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ..........

81

แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์

ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321

1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า

2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP

3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ

4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning

5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน

6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน

7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6

8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้

รวม

เฉล่ยี

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย

ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )

ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี

82

ภาคผนวก
ใบงานเรอ่ื ง การกรอง

แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 83

เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ

84

เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน

รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ

เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ

ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน

(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2

จดุ )

ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี

- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่

เรียบร้อย สะอาด

สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า

- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี

กำหนด กำหนด

85

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่

ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ

ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา

ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

86

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ

2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง

3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา

4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้

4.4 ต้ังใจเรยี น

5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด

พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย

ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้

ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ

ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

87

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การแยกสารเน้ือผสม เรอ่ื ง การทดลองแยกสารด้วยการกรอง

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหสั วิชา ว 16101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ ช้ัน ป.6 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครูผสู้ อน นายดิเรกฤทธ์ิ ยเุ หลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1

ใช้สอนวัน....................... ที่............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................

*************************************

1. สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี
3. ตวั ชวี้ ดั

ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชวี ติ ประจำวันเกี่ยวกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การกรอง เป็นการแยกสารผสมท่เี ป็นของแข็งมขี นาดใหญ่กวา่ รพู รุนอปุ กรณใ์ นการกรอง และของแข็ง
นัน้ ต้องไมร่ วมกบั ของเหลว โดยใช้ตะแกรง ผา้ ขาวบาง กระดาษกรอง เปน็ อปุ กรณช์ ว่ ยในการแยกสารผสม
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายวธิ กี ารแยกสารดว้ ยการกรอง ได้ (K)
2) ทดลองการแยกสารผสมด้วยการกรองได้ (P)
3) รับผิดชอบและมงุ่ ม่นั ในการทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์
1) มีวินยั
2) ใฝ่เรียนรู้
3) ม่งุ มั่นในการทำงาน
7. สมรรถนะที่สำคญั
1) ความสามารถในการคิด

1.1) ทกั ษะการสังเกต

88

1.2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
1.3) ทักษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
8. ทกั ษะกระบวนการคิด
การคดิ วเิ คราะห์ คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ
9. เนื้อหาสาระ
การกรอง เป็นวิธกี ารแยกสารผสมท่มี ขี องแข็งผสมอยกู่ ับของเหลว หรือใช้ในการแยกสารแขวนลอย
ออกจากนำ้ ซึ่งการกรองจะต้องเทสารผสมผา่ นอปุ กรณ์ทีม่ ีรูพรุน เชน่ กระดาษกรองสำลี ผา้ ขาวบาง หรอื
เคร่อื งกรองนำ้ โดยอนภุ าคของแข็งทล่ี อดผ่านรูไม่ไดจ้ ะตดิ อยู่บนอปุ กรณ์น้นั สวนน้ำและสารทล่ี ะลายนำ้ ไดจ้ ะ
ลอดผ่านรลู งสภู่ าชนะท่เี ตรยี มไว้
10. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

• วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ
1) ครูใหน้ กั เรยี นอภิปรายร่วมกนั เดีย่ วกับ หลกั การแยกสารด้วยวธิ ีการกรอง (แนวคำตอบ:

สารผสมน้ันตอ้ งเปน็ สารผสมระหว่างของเหลวกบั ของแข็ง โดยที่ของแขง็ ต้องไมล่ ะลายในของเหลวนน้ั )
2) ครใู ห้นักเรียนดูสารผสม 2 บกี เกอร์ บเี กอร์ที่ 1 เป็นนำ้ ผสมกบั เกลือ บกี เกอร์ที่ 2 เป็นนำ้

ผสมกับผงถ่าน จากนัน้ ให้นกั เรียนรว่ มกันวเิ คราะห์วา่ บีกเกอรืใดสามารถแยกสารดว้ ยวิธีการกรองได้ (แนว
คำตอบ : บีกเกอรท์ ี่ 2 เพราะผงถ่านไม่ละลายนำ้ สว่ นบกี เกอรท์ ี่ 1 เกลือละลายได้ในน้ำ)

3) ครูชีแ้ จงจุดประสงคใ์ นการเรียนให้แก่นกั เรียนทราบ
ขนั้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา

4) ครแู จกสารผสมให้กลมุ่ ละ 2 สาร โดยทบี่ กี เกอร์ท่ี 1 เป็นนำ้ ผสมน้ำเกลือ และบกี เกอรท์ ี่ 2
เป็นน้ำผสมผงถ่าน พรอ้ มท้งั อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการกรอง

5) ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 3 - 4 คน เพ่อื ทำกจิ กรรมการทดลองเรอ่ื ง การทดลองการ
แยกสารผสมด้วยการกรอง โดยก่อนการทดลองให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพิจารณาลักษณะภายนอกของ
สารผสม และบนั ทกึ ผลการทดลองลงในสมดุ ของตนเอง

6) ครูให้นักเรียนทำการแยกสารด้วยการกรอง กับสารทั้ง 2 บีกเกอร์ และบันทึกผลการ
ทดลองลงในสมดุ ของตนเอง

7) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน โดยให้
ลำดบั การนำเสนอเป็นไปตามลำดบั เวลาท่ีใชใ้ นการแยกสารจากเร็วที่สุดไปหาชา้ ทสี่ ุด รวมไปถงึ ใหน้ กั เรียนทีท่ ำ
เวลาได้รวดเร็วท่ีสุดบอกวิธีการหรอื เทคนคิ ท่ีทำใหแ้ ยกสารไดร้ วดเรว็ มากยิง่ ข้นึ

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้
8) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลอง โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอ

ข้อมูล (จากการทดลองพบว่า เมื่อเทสารทั้งสองผ่านกระดาษกรอง บีกเกอร์ที่ 1 ไม่มีสารค้างอยู่บนกระดาษ

89

กรอง ส่วนบีเกอรท์ ี่ 2 มีผงถา่ นติดอยบู่ นกระดาษกรอง สรุปได้วา่ สารผสมท่ีสามารถแยกไดโ้ ดยวธิ กี ารกรองต้อง
เป็นสารผสมระหว่างของเหลวกบั ของแขง็ โดยที่ของแขง็ ตอ้ งไม่ละลายในของเหลวน้นั ดว้ ย)

9) ครูยกตัวอย่างสารผสมเพิ่มเติม เช่น “น้ำเชือ่ ม” นักเรียนคดิ ว่าควรใช้วิธีการกรองหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ :ไมค่ วรใช้ เพราะน้ำตาลสามารถละลายน้ำได)้

ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
10) ครูให้นักเรยี นยกตวั อยา่ งสถานการณห์ รืออุปกรณ์ในชวี ิตประจำวนั ที่ใช้หลกั การกรองที่

ตนเองพบเจอ คนละ 5 กิจกรรม จากนั้นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเขยี นบนกระดาน โดยที่ถ้าตัวอย่างของ
ใครไม่ซ้ำกับเพื่อนกลุ่มอื่นจะได้คะแนนพิเศษข้อละ 1 คะแนน (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของ
นกั เรียน)

11) ครูให้นักเรียนตงั้ คำถามที่สนใจเพ่มิ เติมเกยี่ วกับการทดลองแยกสารดว้ ยการกรอง (แนว
คำตอบ : อสิ ระตามความคิดเห็นของนกั เรียน เชน่ ในการทดลองด้วยการกรองชว่ ยกรองเชือ้ โรคได้หรอื ไม่ เปน็
ตน้ )

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล
12) ครสู มุ่ นักเรียน 2 คน สรุปความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทำกิจกรรม เร่ือง การทดลองแยกสารผสม

ดว้ ยการกรอง จากนั้นใหเ้ พ่ือน ๆ ในห้องร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเหน็
13) ครูต้ังคำถามเพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนในประเด็นต่าง ๆ ดังน้ี
- เม่อื เทสารผ่านกระดาษกรองไปแล้ว เราจะทราบได้อย่างไรวา่ สารชนดิ นน้ั กรองได้

หรือไมไ่ ด้ สังเกตไดจ้ ากอะไร (แนวคำตอบ: สังเกตวา่ มขี องแข็งคา้ งอยู่บนกระดาษกรองหรอื ไม่)
14) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบงาน เรื่อง ประเภทของสารอาหาร บัตรภาพอาหาร

และการมสี ่วนรว่ มในการตอบคำถามในช้นั เรียน
11. ส่ือการเรียนรู้

1) ส่อื การเรยี นรู้
1.1) หนงั สือเรียน วทิ ยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงาน เร่ือง การทดลองแยกสารผสมดว้ ยการกรอง

2) แหล่งการเรียนรู้
2.1) หอ้ งเรยี น
2.2) ห้องสมุด

12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 90

ท่ี วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1 ตรวจใบงาน แบบประเมนิ การทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

2 สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ในกจิ กรรม การทำงานรายบคุ คล

3 สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ

และมุง่ ม่นั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

13. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 91
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้
ผู้เรยี นท่ผี ่านตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
ผเู้ รยี นทไี่ ม่ผ่านตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................

เลขท่ีของนกั เรียนทส่ี อบไม่ผา่ นตัวชีว้ ดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................

สาเหตุทไ่ี ม่ผา่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางแกป้ ัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผเู้ รียนทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................

แนวทางการพฒั นา/สง่ เสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) ในเรื่อง ............................................................................................................
ผ้เู รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเรอื่ ง............................................................................................
ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม (A) ในเรอื่ ง.................................................................................

13.2 ปัญหาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................ครผู ู้สอน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ )
ตำแหนง่ ครู คศ.1

วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ................

92

14. ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศึกษา/ผูท้ ่ีได้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ......................................หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจง้ )

วนั ท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................

รบั ทราบผลการจดั การเรยี นรู้

ลงชื่อ....................................................... ลงชื่อ......................................................
(.............................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)

ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ฝา่ ยบริหารวชิ าการ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ..........

93

แบบประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรสู้ าระวทิ ยาศาสตร์

ลำดบั เกณฑค์ ุณภาพ คุณภาพ
321

1 เขยี นสาระสำคญั ครอบคลมุ องค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ ุมค่า

2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั KAP

3 สาระเรียนรู้ครอบคลมุ เนื้อหา เน้ือหา กระบวนการ คณุ ลักษณะ

4 กจิ กรรมการเรยี นร้เู นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning

5 ออกแบบแตล่ ะกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน

6 ออกแบบการวัดประเมินจากช้ินงานกลุ่ม/เดยี่ วของผ้เู รียน

7 มีความสมั พนั ธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบข้อท่1ี -6

8 สอ่ื การเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเนือ้ หา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้

รวม

เฉล่ยี

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ
2.5 – 3 ระดบั 3 หมายถึง ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถงึ พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)

ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย

ลงชอ่ื เดอื น ผ้ปู ระเมิน
( )

ตำแหนง่ พ.ศ.
วันท่ี

แบบประเมนิ การทำงานเร่ือง 94

เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี
รายการประเมนิ
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชอื่ ผปู้ ระเมนิ
6 ( )
7 วนั ท่ี เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรับปรงุ

95

เกณฑก์ ารให้คะแนนการทำงาน

รายการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถกู ตอ้ ง
ระบุหรืออธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รอื อธบิ าย ระบหุ รืออธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงต่อ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกข้อ คำตอบทกุ ข้อ คำตอบไม่ครบ คำตอบไม่ครบ

เวลา ครบถ้วนถกู ตอ้ ง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทุกขอ้ แต่ ทุกขอ้ และ

ถูกตอ้ งบางส่วน ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ งบางส่วน

(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกว่า 2

จดุ )

ตกแต่งระบายสี ตกแต่งระบายสี ตกแตง่ ระบายสี

- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่

เรียบร้อย สะอาด

สง่ งานตาม สง่ งานช้ากว่า

- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี

กำหนด กำหนด

96

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมช้นั ประถมศึกษาปีที่

ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไี่ ดร้ บั
ความคดิ เห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย สรปุ

ช่ือ-สกลุ 432143214321432143 2 1

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
13
14
15
16
17
18
19
20

เกณฑ์การวดั ผลใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคยุ ในช้นั ตอบคำถามถกู ตอ้ ง ทำงานส่งครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรียนแตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา

ลงชอื่ ผู้สงั เกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

97

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้

กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์

1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ

2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมูลท่ถี ูกต้อง และเป็นจริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถี่ ูกต้อง

3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ มคี วามตรงต่อเวลา

4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชือ่ ฟงั คำส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้

4.4 ต้ังใจเรยี น

5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด

พอเพยี ง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน

6. มุ่งมน่ั 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย

ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน

8.2 รจู้ กั การดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้

ตำ่ กว่า 30 ปรบั ปรงุ

ลงช่ือ ผสู้ ังเกต
( )
พ.ศ.
วันท่ี เดือน

98

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 9

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การแยกสารเน้ือผสม เร่ือง การใชแ้ มเ่ หล็กดงึ ดูด

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รหัสวิชา ว 16101 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ป.6 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผูส้ อน นายดเิ รกฤทธ์ิ ยเุ หล็ก ตำแหน่ง ครู คศ.1

ใชส้ อนวัน....................... ท่.ี ........... เดอื น.................................... พ.ศ. .........................

*************************************

1. สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
3. ตวั ช้วี ดั

ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชวี ิตประจำวันเกี่ยวกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การใชแ้ ม่เหลก็ ดงึ ดูด เป็นการแยกสารผสมเมอื่ ของแขง็ ผสมมสี มบตั ิในการถกู แมเ่ หล็กดูดได้ โดยใชถ้ ือ
แม่เหลก็ เหนอื สารผสม
5. จุดประสงค์การเรียนรู้

1) อธบิ ายวธิ ีการแยกสารด้วยการใช้แม่เหล็กดงึ ดูดได้ (K)
2) ออกแบบข้นั ตอนการทดลองการแยกสารผสมดว้ ยการใชแ้ ม่เหล็กดงึ ดดู ได้ (P)
3) รบั ผิดชอบและมงุ่ มนั่ ในการทำงานท่ไี ด้รับมอบหมาย (A)
6. คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
1) มีวนิ ยั
2) ใฝ่เรียนรู้
3) มุ่งมั่นในการทำงาน
7. สมรรถนะที่สำคัญ
1) ความสามารถในการคิด

1.1) ทกั ษะการสังเกต

99

1.2) ทักษะการสำรวจคน้ หา
1.3) ทกั ษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
8. ทักษะกระบวนการคดิ
การคดิ วเิ คราะห์ คิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
9. เนอ้ื หาสาระ
การใช้แมเ่ หล็กดึงดดู เปน็ วิธีการแยกสารผสมท่ใี นสว่ นประกอบหนง่ึ ของสารผสมมีสมบัตใิ นการถูก
แมเ่ หลก็ ดงึ ดูดได้ เรยี กวา่ สารแม่เหล็ก เช่น ผงตะไบเหลก็ โดยจะใชอ้ ำนาจแม่เหลก็ ดึงดดู สารแม่เหล็กให้แยก
ออกจากสารผสมนั้น
10. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

• วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ
1) ครูเตรียมอปุ กรณ์ดังนี้ กระดาษ คลิปหนบี กระดาษ ตะปู ไม้บรรทดั ผงตะไบเหลก็ เม็ด

โฟม ทราย เป็นตน้ จากนัน้ กระต้นุ ความคดิ ของนกั เรยี นโดยการให้นักเรยี นจำแนกสารดังกล่าวออกเป็น 2
กลุม่ นักเรียนจะใชเ้ กณฑ์อะไรในการจำแนก (แนวคำตอบ : การดูดติดแม่เหลก็ )

2) ครถู ามต่อว่านกั เรยี นคดิ ว่ามวี ัสดุใดบ้างที่สามารถดดู ตดิ แม่เหล็กได้ (แนวคำตอบ :คลิป
หนีบกระดาษ ตะปู ผงตะไบเหลก็ )

3) ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั แลกเปลยี่ นความคิดเห็นว่า สารท่ีสามารถใชแ้ ม่เหล็กดูดติดได้ตอ้ งมี
ลกั ษณะอย่างไร (แนวคำตอบ : ส่วนใหญจ่ ะเป็นโลหะ ที่มสี ารแมเ่ หล็กผสมอย)ู่

4) ครูช้แี จงจุดประสงค์ในการเรยี นให้แก่นักเรียนทราบ
ข้นั ท่ี 2 สำรวจค้นหา

5) ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน เพื่อร่วมกนั ออกแบบการทดลองสารผสม ด้วย
วธิ กี ารใช้แม่เหลก็ ดูด

6) ครูให้นักเรยี นออกแบบการทดลองสารผสมระหว่างของแข็งกบั ของแข็ง ที่มีโลหะผสมอยู่
กับไมม่ ี ทสี่ ามารถใช้วิธีการใช้แม่เหลก็ ดึงดูดได้ จากน้นั ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันระดมความคิดออกแบบการทดลอง
เพ่ือแยกสารผสมดงั กล่าว โดยจะต้องระบอุ ุปกรณใ์ นการทดลอง และวิธกี ารทดลอง เปน็ ต้น

7) ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันระดมความคิดเห็นเพื่อออกแบบการทดลองการแยกสาร
เน้ือผสมด้วยวธิ กี ารใช้แม่เหล็กดงึ ดูดลงในกระดาษบรู๊ฟ ตกแตง่ ระบายสใี ห้สวยงาม โดยมีครูคอยอำนวยความ
สะดวกและใหค้ ำแนะนำนักเรยี นเพมิ่ เติม

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้
8) ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการออกแบบการทดลองแยกสารเน้ือผสมด้วยการ

ใชแ้ ม่เหลก็ ดึงดดู หน้าชั้นเรียน โดยนกั เรียนคนอืน่ ๆ สามารถแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เตมิ อย่างสรา้ งสรรค์ได้

100

9) ครูอธบิ ายความรู้เพม่ิ เตมิ ให้แกน่ กั เรยี นทราบว่าสารเนือ้ ผสมท่เี หมาะสมในการใช้แม่เหล็ก
ดดู คอื สารผสมที่มีสถานะเปน็ ของแข็งและของแข็ง โดยท่ตี อ้ งมีของแขง็ หนึ่งชนดิ มีสารแมเ่ หลก็ ปนอยู่

10) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกับความแตกตา่ งของการแยกสารด้วยวิธกี ารร่อน
กบั การใชแ้ มเ่ หล็กดูด เนื่องจากทัง้ สองวธิ ีเหมอื นกนั คือ เป็นวธิ ีการทใ่ี ช้ในการแยกสารผสมที่เปน็ ของแขง็ กับ
ของแข็ง แตจ่ ะแตกตา่ งกันตรงท่ีหากใชว้ ธิ กี ารใช้แมเ่ หล็กดงึ ดดู ของแข็งตอ้ งมสี ารแม่เหลก็ ปนอยู่ดว้ ย แตก่ าร
รอ่ นจะดทู ขี่ นาดของของแขง็ ใหแ้ ตกตา่ งกัน

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภปิ รายปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การดึงดูดของแม่เหลก็ คอื อะไร (แนว

คำตอบ : ขนาดของรตู ะแกรง หากขนาดของรตู ะแกรงกวา้ งเกนิ ไปอาจจะทำให้สารผสมทง้ั หมดหล่นผา่ นรขู อง
ตะแกรงได้)

12) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับกิจกรรมใน
ชีวิตประจำวันหรืออาชีพที่ต้องมีการแยกสารผสมด้วยวิธีการหยิบออก จากนั้นให้นักเรียนทำใบงานเรื่อง
การใชแ้ มเ่ หล็กดงึ ดูด เพือ่ ขยายความเข้าใจของนักเรียนเพมิ่ เติม

13) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคำตอบในใบงานเร่ือง การใชแ้ มเ่ หลก้ ดงึ ดดู โดยใหน้ ักเรียนมี
บทบาทสำคัญในการใหข้ อ้ มูล สว่ นครคู อยเพิม่ เตมิ เนื้อหาใหค้ รบถว้ นสมบรู ณ์มากย่งิ ขึ้น

ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล
14) ครูสุ่มนักเรียน 2 คน สรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การใช้แม่เหล็กดึงดูด

จากนน้ั ให้เพ่ือน ๆ ในหอ้ งร่วมกันแลกเปล่ียนความคิดเหน็
15) ครตู ง้ั คำถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- หากนักเรียนตอ้ งการแยกสารผสมด้วยวิธีการใช้แมเ่ หล็กดูด สารผสมนน้ั ต้องมี

ลกั ษณะอย่างไร (แนวคำตอบ: เปน็ ของแขง็ ผสมกับของแขง็ โดยท่ีต้องมขี องแขง็ หน่งึ ชนิดตอ้ งมีสารแมเ่ หล็ก
ปนอยู่)

- นักเรียนยกตวั อย่างของผสมที่สามารถใช้ วธิ ีการแยกสารโดยใช้แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู ได้
(แนวคำตอบ: ผงตะไบเหลก็ กับผงกำมะถัน หรอื ผงตะไบเหลก็ กบั ทราย เปน็ ตน้ )

16) ครูประเมินนักเรยี นจากการตรวจใบงาน เรื่อง การใช้แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู
และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชัน้ เรียน
11. ส่ือการเรียนรู้

1) ส่อื การเรียนรู้
1.1) หนังสอื เรียน วทิ ยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงาน เรื่อง การใช้แมเ่ หล็กดึงดูด

2) แหล่งการเรียนรู้
2.1) ห้องเรียน
2.2) ห้องสมุด


Click to View FlipBook Version