151
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรูส้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดับ เกณฑ์คณุ ภาพ คุณภาพ
321
1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ มุ คา่
2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับ KAP
3 สาระเรียนรคู้ รอบคลมุ เนอ้ื หา เน้อื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ
4 กิจกรรมการเรียนรูเ้ นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น
6 ออกแบบการวดั ประเมินจากชนิ้ งานกลุ่ม/เด่ยี วของผูเ้ รยี น
7 มีความสมั พันธ์ระหวา่ งองค์ประกอบขอ้ ที1่ -6
8 ส่ือการเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเน้ือหา น่าสนใจ เหมาะสมกบั วัย สะดวกใช้
รวม
เฉลีย่
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพ
2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรับปรุง
กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
ลงช่ือ เดือน ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหน่ง พ.ศ.
วันท่ี
152
ภาคผนวก
ใบงาน เรอ่ื ง การรนิ ออก
แบบประเมินการทำงานเรอื่ ง 153
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่
รายการประเมิน
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชื่อ ผู้ประเมนิ
6 ( )
7 วนั ที่ เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรบั ปรงุ
154
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑ์การให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถูกต้อง
ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธิบาย ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงตอ่ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไมค่ รบ
เวลา ครบถ้วนถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทกุ ขอ้ แต่ ทกุ ขอ้ และ
ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ต้องบางสว่ น ถูกต้อง ถูกตอ้ งบางสว่ น
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2
จุด)
ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบรอ้ ย สะอาด
ส่งงานตาม สง่ งานชา้ กว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
155
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่
ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไ่ี ด้รับ
ความคดิ เหน็ ฟังคนอ่นื มอบหมาย สรปุ
ช่อื -สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไมพ่ ดู คุยในชน้ั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าชัน้ เรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชื่อ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วนั ที่ เดอื น
156
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึ้น
2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง
3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงตอ่ เวลา
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่อื ฟังคำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อย่อู ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
6. ม่งุ มน่ั 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อม
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง
ลงช่ือ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วันที่ เดอื น
157
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การแยกสารเนือ้ ผสม เรอ่ื ง การทดลองแยกสารด้วยการรินออก
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหัสวิชา ว 16101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ป.6 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครูผู้สอน นายดิเรกฤทธิ์ ยุเหลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใช้สอนวัน....................... ท.ี่ ........... เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
2. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหวา่ งสมบตั ขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
3. ตัวช้ีวดั
ว 2.1 ป.6/1 อธบิ ายและเปรยี บเทียบการแยกสารผสมโดยการหยบิ ออก การรนิ การใชแ้ มเ่ หล็กดึงดูด
การรนิ ออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษร์ วมท้ังระบวุ ิธแี ก้ปญั หา ใน
ชีวิตประจำวนั เก่ียวกบั การแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การรินออก เมื่อของแข็งเกิดการตกตะกอนและนอนที่ก้นภาชนะโดยของแข็งนั้นต้องไม่รวมกับ
ของเหลว โดยใช้เอยี งภาชนะใหข้ องเหลวไหลออก
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายวธิ กี ารแยกสารดว้ ยการรนิ ออกได้ (K)
2) ทดลองการแยกสารผสมด้วยการรนิ ออกได้ (P)
3) รับผิดชอบและม่งุ ม่นั ในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์
1) มีวินัย
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
7. สมรรถนะที่สำคัญ
1) ความสามารถในการคิด
1.1) ทักษะการสังเกต
158
1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทกั ษะการเชื่อมโยงความรู้
2) ความสามารถในการสื่อสาร
3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
8. ทักษะกระบวนการคิด
การคดิ วิเคราะห์ คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
9. เน้ือหาสาระ
การรนิ ออก เปน็ วิธีการแยกสารผสมทมี่ ีของแข็งผสมอยู่กับของเหลว โดยของแขง็ จะไม่ละลายใน
ของเหลวนัน้ เปน็ อะไรในการแยกด้วยการรนิ ออกทำได้งา่ ยโดยรินสารส่วนทเ่ี ปน็ ของเหลวออกจากส่วนทีเ่ ปน็
ของแข็ง เชน่ รินนำ้ ซาวข้าวเพื่อแยกนำ้ ออกจากเมล็ดข้าว
10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
• วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ข้ันที่ 1 กระตุ้นความสนใจ
1) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับลักษณะของสารผสมที่สามารถใช้วิธีการริน
(แนวคำตอบ: เป็นของแขง็ ผสมกบั ของเหลว ทีข่ องแข็งน้ันไม่รวมกับของเหลว)
2) ครสู ่มุ ตวั แทนนกั เรยี น 2 - 3 คน ออกมานำเสนอการออกแบบวธิ กี ารทดลองสารผสมดว้ ย
การรินออกจากช่ัวโมงที่แล้วหน้าช้นั เรยี นเพ่อื ทบทวนความรู้ของนกั เรยี นเกีย่ วกับการหยบิ ออก
3) ครชู ีแ้ จงจดุ ประสงค์ในการเรียนใหแ้ ก่นักเรียนทราบ
ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา
4) รินนำ้ ปูนลงในแก้วพลาสตกิ ใส 3 ใบ เท่า ๆ กนั สังเกตลกั ษณะน้ำปนู และระบุสถานะของ
สารในน้ำปูน บนั ทกึ ผล
5) วางนำ้ ปนู แกว้ ที่ 1 ไวน้ ิง่ ๆ สงั เกตและบันทึกผลทุก ๆ 5 นาที จนครบ 15 นาที บนั ทกึ ผล
6) ระดมความคดิ เพ่ือหาวิธกี ารแยกนำ้ ปนู และแยกน้ำปนู ตามวิธีนนั้ สังเกตและบันทกึ ผล
7) นำน้ำปนู แกว้ ที่ 2 มาแยกสารโดยใช้ผา้ ขาวบางในกรวยกรองแลว้ เทนำ้ ปนู ไปตามแทง่ แก้ว
อย่างชา้ ๆ สงั เกตและบันทกึ ผล
8) นำน้ำปูนแก้วท่ี 3 มาแยกสารโดยใช้กระดาษกรองในกรวยกรองแลว้ เทน้ำปนู ไปตามแท่ง
แก้วอยา่ งชา้ ๆ สังเกตและบนั ทกึ ผลลงในใบบนั ทกึ กิจกรรม
ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้
9) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการทดลอง และผลการวิเคราะห์ข้อดีและ
ขอ้ จำกดั ของวธิ ที เี่ ลอื กใชใ้ นการแยกสารหนา้ ช้นั เรยี น โดยนักเรยี นคนอ่นื ๆ สามารถแสดงความคดิ เหน็ เพ่ิมเติม
อย่างสร้างสรรค์ได้
159
10) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลอง โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอ
ขอ้ มูล (จากการทดลองพบว่า การแยกสารเป็นของแขง็ ผสมกับของเหลว โดยท่ขี องแข็งน้นั ไม่รวมกับของเหลว
สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไดแ้ ก่ การกรอง การตกตะกอน และการรนิ ออก)
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ยกตวั อยา่ งสารผสมท่ีมสี ถานะเป็นของแข็งผสมกบั ของเหลว ที่
ของแข็งน้นั ไมร่ วมกับของเหลว กลุ่มละ 10 ชนิด เขียนลงในกระดาษ A4 ให้ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มากท่สี ุด
12) ใหน้ กั เรียนนำกระดาษของกล่มุ ตวั เองไปแลกกับเพือ่ นกลมุ่ ข้าง ๆ โดยให้นักเรยี นกล่มุ
ดงั กล่าวระบวุ ิธกี ารแยกสารผสมทง้ั 10 ชนดิ นน้ั วา่ จะใช้วธิ กี ารกรอง การรนิ ออก หรือการตกตะกอน
13) ครูให้นกั เรยี นต้ังคำถามท่สี นใจเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับการแยกสารทีม่ ีสถานะเปน็ ของแข็งกบั
ของเหลวผสมรวมกันเพิ่มเตมิ (แนวคำตอบ : อสิ ระตามความคิดเหน็ ของนักเรยี น )
ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล
14) ครูสุ่มนักเรียน 2 คน สรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การแยกสารที่มีสถานะ
เป็นของแข็งกับของเหลวผสมรวมกัน จากน้ันให้เพอ่ื น ๆ ในหอ้ งร่วมกันแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็
15) ครตู ั้งคำถามเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- การแยกสารท่มี ีสถานะเปน็ ของแขง็ กบั ของเหลวผสมรวมกนั มวี ธิ อี ะไรบ้าง
(แนวคำตอบ : การกรอง การรินออก หรือการตกตะกอน)
- การแยกสารท่มี ีสถานะเปน็ ของแข็งกบั ของเหลวผสมรวมกนั ใดที่ต้องใชอ้ ปุ กรณ์
(แนวคำตอบ : การกรอง)
16) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบบันทึกผลกิจกรรม เรื่อง การแยกของแข็งกับ
ของเหลวในสารเนอื้ ผสมออกจากกันไดอ้ ยา่ งไร การนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน และการมีสว่ นร่วมในการตอบคำถาม
ในชั้นเรยี น
11. สอ่ื การเรยี นรู้
1) สอื่ การเรียนรู้
1.1) หนังสอื เรยี น วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบบนั ทกึ ผลกิจกรรม เร่อื ง การแยกของแขง็ กบั ของเหลวในสารเนื้อผสมออกจากกันได้
อย่างไร
1.3) อุปกรณ์ในการทดลอง เรอ่ื ง การแยกของแขง็ กับของเหลวในสารเน้อื ผสมออกจากกนั ได้
อยา่ งไร
2) แหลง่ การเรียนรู้
2.1) ห้องเรยี น
2.2) ห้องสมุด
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 160
ท่ี วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1 ตรวจใบบนั ทกึ ผลกจิ กรรม แบบประเมินการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
2 สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในกจิ กรรม การทำงานรายบคุ คล
3 สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์
13. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 161
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผู้เรยี นท่ผี า่ นตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นร้อยละ.................
ผู้เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
เลขท่ีของนกั เรยี นทสี่ อบไมผ่ ่านตวั ชว้ี ัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ไี มผ่ ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรยี นทีม่ คี วามสามารถพิเศษ ได้แก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพฒั นา/ส่งเสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนไดร้ บั ความรู้ (K) ในเรอ่ื ง ............................................................................................................
ผเู้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผเู้ รียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................
13.2 ปญั หาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครูผู้สอน
(นายดิเรกฤทธ์ิ ยเุ หลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1
วันท่.ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
162
14. ความคิดเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษา/ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ......................................หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้
(นางสาวพสั ราภรณ์ พูลแจง้ )
วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจดั การเรียนรู้
ลงชื่อ....................................................... ลงชอื่ ......................................................
(.............................................) (นายวริ ัชต์ จำปาทอง)
ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ฝ่ายบรหิ ารวิชาการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
วนั ที่............เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ท่.ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ..........
163
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรูส้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดับ เกณฑ์คณุ ภาพ คุณภาพ
321
1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ มุ คา่
2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับ KAP
3 สาระเรียนรคู้ รอบคลมุ เนอ้ื หา เน้อื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ
4 กิจกรรมการเรียนรูเ้ นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น
6 ออกแบบการวดั ประเมินจากชนิ้ งานกลุ่ม/เด่ยี วของผูเ้ รยี น
7 มีความสมั พันธ์ระหวา่ งองค์ประกอบขอ้ ที1่ -6
8 ส่ือการเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเน้ือหา น่าสนใจ เหมาะสมกบั วัย สะดวกใช้
รวม
เฉลีย่
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพ
2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรับปรุง
กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
ลงช่ือ เดือน ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหน่ง พ.ศ.
วันท่ี
164
ภาคผนวก
ใบบันทกึ ผลการทดลอง เรื่อง แยกของแขง็ กบั ของเหลวในสารเน้ือผสมออกจากกันได้อย่างไร
ภาคผนวก
แบบประเมินการทำงานเรอื่ ง 165
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่
รายการประเมิน
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชื่อ ผู้ประเมนิ
6 ( )
7 วนั ที่ เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรบั ปรงุ
166
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑ์การให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถูกต้อง
ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธิบาย ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงตอ่ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไมค่ รบ
เวลา ครบถ้วนถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทกุ ขอ้ แต่ ทกุ ขอ้ และ
ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ต้องบางสว่ น ถูกต้อง ถูกตอ้ งบางสว่ น
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2
จุด)
ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบรอ้ ย สะอาด
ส่งงานตาม สง่ งานชา้ กว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
167
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่
ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไ่ี ด้รับ
ความคดิ เหน็ ฟังคนอ่นื มอบหมาย สรปุ
ช่อื -สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไมพ่ ดู คุยในชน้ั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าชัน้ เรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชื่อ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วนั ที่ เดอื น
168
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึ้น
2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง
3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงตอ่ เวลา
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่อื ฟังคำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อย่อู ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
6. ม่งุ มน่ั 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อม
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง
ลงช่ือ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วันที่ เดอื น
169
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 15
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 การแยกสารเนอื้ ผสม เรื่อง เปรยี บเทียบวิธกี ารแยกสารเนอ้ื ผสมดว้ ยวิธตี า่ ง ๆ
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ว 16101 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชั้น ป.6 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผู้สอน นายดิเรกฤทธ์ิ ยุเหลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1
ใชส้ อนวนั ....................... ท.่ี ........... เดือน.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
3. ตัวชีว้ ดั
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชวี ิตประจำวันเก่ียวกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
วธิ ีการที่เหมาะสมในการแยกสารผสมขึน้ อย่กู ับลักษณะและสมบัติของสารท่ผี สมกัน ถ้าองค์ประกอบ
ของสารผสมเป็นของแขง็ กบั ของแข็งทมี่ ีขนาดแตกต่างกนั อย่างชดั เจน อาจใชว้ ธิ กี ารหยิบออกหรือการรอ่ นผ่าน
วสั ดุทม่ี รี ถู า้ มีสารใดสารหนงึ่ เปน็ สารแม่เหลก็ อาจใชว้ ธิ ีการใช้แมเ่ หลก็ ดึงดูด ถา้ องค์ประกอบเป็นของแข็งที่ไม่
ละลายในของเหลว อาจใช้วิธกี ารรินออกการกรอง หรอื การตกตะกอน
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายวธิ ีการแยกสารเน้ือผสมดว้ ยวธิ ีตา่ งๆ ได้ (K)
2) เปรยี บเทยี บวิธกี ารแยกสารเนอื้ ผสมดว้ ยวิธีต่างๆ ได้ (P)
3) รบั ผิดชอบและมงุ่ มัน่ ในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
1) มวี ินยั
2) ใฝ่เรียนรู้
3) มุง่ ม่นั ในการทำงาน
7. สมรรถนะท่ีสำคัญ 170
1) ความสามารถในการคิด
1.1) ทกั ษะการสังเกต วธิ ีการ
1.2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา การหยบิ ออก
1.3) ทกั ษะการเชื่อมโยงความรู้ การร่อน
2) ความสามารถในการส่อื สาร การริน
3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การแกว่งสารส้ม
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต การกรอง
แม่เหลก็ ดดู
8. ทกั ษะกระบวนการคดิ
การคิดวเิ คราะห์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
9. เน้อื หาสาระ
การเปรียบเทยี บวธิ ีการแยกสารเนอ้ื ผสมด้วยวิธกี ารต่าง ๆ
สถานะของสารผสม ลกั ษณะของสารผสม
ของแข็ง + ของแข็ง ของแข็งผสมมีขนาดใหญ่
ของแขง็ ผสมมีขนาดเลก็
ของแขง็ + ของเหลว ของแข็งตกตะกอนก้นภาชนะ
(ของแข็งไม่รวมกบั ของเหลว) ของแขง็ เปน็ สารแขวนลอย
ของแขง็ มขี นาดใหญ่กว่ารพู รุน
ของแขง็ + สารทีแ่ ม่เหลก็ ดดู ได้ สารท่แี ม่เหล็กดูดได้
10. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
• วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ช่วั โมงที่ 1
ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ
1) ครูขออาสาสมัครนกั เรยี น 3 คน เพือ่ ใบค้ ำเกยี่ วกบั วิธีการแยกสาร 3 คำ ได้แก่ การกรอง
การรอ่ น และการใช้แม่เหล็กดูด โดยใหน้ กั เรียนที่ใบ้จะต้องใช้ท่าทางประกอบการใบ้ ไมใ่ ชเ้ สียงในการใบ้ สว่ น
นกั เรยี นใหห้ ้องร่วมคนอน่ื ๆ พิจารณาคำใบ้ท่ีเพอื่ นกันทาย
2) ครใู หน้ กั เรียนร่วมกันอภิปรายวิธกี ารทดลองทีน่ กั เรียนได้เรียนร้จู ากหน่วยการเรยี นรู้ การ
แยกสารเนื้อผสมว่ามวี ิธีการใดบา้ ง (แนวคำตอบ : การหยิบออก การร่อน การรนิ การแกวง่ สารส้ม การกรอง
แมเ่ หลก็ ดูด
171
3) ครูชแ้ี จงจดุ ประสงคใ์ นการเรียนให้แกน่ กั เรยี นทราบ
ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา
4) ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน เพอ่ื รว่ มกันทำกิจกรรมเปรยี บเทียบวิธีการแยก
สารเนื้อผสมด้วยวิธีต่าง ๆ โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิดและนำข้อมูลที่ได้รับจากการทำ
กจิ กรรมในช่วั โมงกอ่ นหน้านี้มาใชท้ ำกิจกรรม
5) นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อเปรียบเทียบวิธกี ารแยกสารเนือ้ ผสมด้วยวิธีต่าง ๆ
ในรูปแบบใดก็ได้ เช่น ตาราง แผนผงั ความคิด หรอื อื่น ๆ ตามความเหมาะสมของนกั เรยี น ลงในกระดาษบรู๊ฟ
และตกแต่งใหส้ วยงาม
6) ในระหว่างที่นักเรียนทำกิจกรรมครูคอยอำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำนักเรียน
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เกณฑ์ในการเปรียบเทียบ และการเลือกรูปแบบในการนำเสนอเพื่อให้เข้าใจง่ายและ
ชัดเจนมากที่สดุ
7) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการเปรียบเทียบวิธีการแยกสารเนื้อผสมด้วย
วิธีการต่าง ๆ หน้าชั้นเรียน ในระหว่างนี้นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ สามารถตั้งคำถามหรือแสดงความคิดอืน่ ๆ อย่าง
สร้างสรรคเ์ พ่ิมเตมิ ได้
ช่ัวโมงที่ 2
ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้
8) ครทู บทวนผลการเปรยี บเทียบวธิ ีการแยกสารเนอ้ื ผสมตา่ ง ๆ โดยให้นักเรยี นพจิ ารณาต่าง
ดังตอ่ ไปนี้
สถานะของสารผสม ลกั ษณะของสารผสม วิธีการ
ของแข็ง + ของแข็ง ของแข็งผสมมขี นาดใหญ่ การหยิบออก
ของแข็งผสมมีขนาดเลก็ การรอ่ น
ของแขง็ + ของเหลว ของแขง็ ตกตะกอนกน้ ภาชนะ การรนิ
(ของแขง็ ไม่รวมกับของเหลว) ของแขง็ เป็นสารแขวนลอย การแกว่งสารส้ม
ของแขง็ มขี นาดใหญ่กวา่ รพู รุน การกรอง
ของแขง็ + สารทีแ่ มเ่ หลก็ ดูดได้ สารทีแ่ มเ่ หลก็ ดดู ได้ แมเ่ หลก็ ดูด
9) ครอู ธบิ ายนกั เรยี นเพ่มิ เติมเกย่ี วกบั การเปรียบเทียบการแยกสารในตารางโดยพิจารณา
สถานะ ลักษณะภายนอก และสมบัตเิ ฉพาะตัวของสารในการแยก
172
10) ครอู ธบิ ายความรเู้ พ่มิ เติมเกี่ยวกบั สง่ิ ทต่ี ้องคำนึงในการแยกสารคอื อปุ กรณท์ ี่จะใช้ควร
จะตอ้ งมีความสมั พนั ธก์ ับขนาดของสารผสม เชน่ ขนาดของรตู ะแกรง หรอื การแกวง่ ดว้ ยสารส้ม หากแกว่งแรง
เกินไปจะทำใหต้ ะกอนทน่ี อนกน้ ภาชนะไปแล้วกลับขึ้นมาอกี ได้
ขัน้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ
11) ครูใหน้ กั เรยี นทำใบงานเรือ่ ง การวเิ คราะหข์ ้อมลู การแยกสารเนือ้ ผสมด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ
เพือ่ ขยายความเข้าใจของนักเรยี น
12) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยใบงานเรอ่ื ง การวเิ คราะหข์ ้อมลู การแยกสารเนอ้ื ผสมดว้ ย
วิธีการตา่ ง ๆ โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคญั ในการเสนอคำตอบ สว่ นครูคอยพจิ ารณาและคำแนะนำเพิ่มเตมิ
เพอ่ื ให้ได้สาระความรคู้ รบถ้วน
13) ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายขอ้ ดีของการเปรียบเทยี บวธิ ีการแยกสารดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ
(แนวคำตอบ : ช่วยใหต้ ัดสนิ ใจเลือกวธิ กี ารท่เี หมาะสมกับสารผสมมากยิ่งข้นึ )
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล
14) ครูสุ่มนักเรยี น 2 คน สรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การเปรียบเทียบวธิ กี าร
แยกสารดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ จากนัน้ ให้เพื่อน ๆ ในห้องร่วมกันแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น
15) ครตู ้งั คำถามเพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นในประเดน็ ต่าง ๆ ดังนี้
- การแยกของแขง็ + สารทีแ่ ม่เหล็กดูดได้ ควรทำอย่างไร
(แนวคำตอบ : ใชแ้ มเ่ หล็กดดู )
- ผ้าขาวบางเหมาะกบั การนำมารอ่ นหรือไมเ่ พราะเหตใุ ด
(แนวคำตอบ : ไมเ่ หมาะสม ผ้าขาวบางควรนำไปใชก้ ับการกรองเพราะเมอื่ ทำการ
ส่ายผ้าขาวไปมาอย่าทำให้สารผสมหกเลอะเทอะได้)
16) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบงาน เรื่อง การเปรียบเทียบวิธีการแยกสารด้วย
วิธีการตา่ ง ๆ การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในช้นั เรียน
11. สือ่ การเรียนรู้
1) สื่อการเรียนรู้
1.1) หนังสอื เรียน วิทยาศาสตร์ ป.6
1.2) ใบงาน เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ขอ้ มูลการแยกสารเนอ้ื ผสมด้วยวิธีการต่าง ๆ
1.3) กระดาษบร๊ฟู
1.4) ปากกาเคมี
2) แหล่งการเรียนรู้
2.1) หอ้ งเรียน
2.2) หอ้ งสมุด
12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 173
ท่ี วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1 ตรวจใบงาน แบบประเมินการทำงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
2 สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ ม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ในกจิ กรรม การทำงานรายบคุ คล
3 สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ
และมุ่งมนั่ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์
13. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 174
13.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผ้เู รยี นทีผ่ า่ นตวั ชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นร้อยละ.................
ผูเ้ รียนทีไ่ ม่ผา่ นตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................
เลขที่ของนักเรยี นที่สอบไม่ผ่านตวั ชี้วัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ีไมผ่ ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผ้เู รยี นทมี่ คี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/สง่ เสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผูเ้ รยี นได้รับความรู้ (K) ในเร่ือง ............................................................................................................
ผเู้ รียนเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) ในเรื่อง............................................................................................
ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................
13.2 ปัญหาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครผู ู้สอน
(นายดิเรกฤทธิ์ ยเุ หลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1
วันท่ี............เดอื น..........................พ.ศ. ................
175
14. ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศึกษา/ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้
(นางสาวพสั ราภรณ์ พลู แจง้ )
วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจดั การเรียนรู้
ลงชือ่ ....................................................... ลงชอื่ ......................................................
(................................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วนั ท.ี่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ..........
176
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรูส้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดับ เกณฑ์คณุ ภาพ คุณภาพ
321
1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ มุ คา่
2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับ KAP
3 สาระเรียนรคู้ รอบคลมุ เนอ้ื หา เน้อื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ
4 กิจกรรมการเรียนรูเ้ นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น
6 ออกแบบการวดั ประเมินจากชนิ้ งานกลุ่ม/เด่ยี วของผูเ้ รยี น
7 มีความสมั พันธ์ระหวา่ งองค์ประกอบขอ้ ที1่ -6
8 ส่ือการเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเน้ือหา น่าสนใจ เหมาะสมกบั วยั สะดวกใช้
รวม
เฉลีย่
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพ
2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรับปรุง
กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
ลงช่ือ เดือน ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหน่ง พ.ศ.
วันท่ี
177
ภาคผนวก
ใบงานเรื่อง การเปรยี บเทียบวธิ ีการแยกสารด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ
แบบประเมินการทำงานเรอื่ ง 178
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่
รายการประเมิน
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชื่อ ผู้ประเมนิ
6 ( )
7 วนั ที่ เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรบั ปรงุ
179
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑ์การให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถูกต้อง
ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธิบาย ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงตอ่ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไมค่ รบ
เวลา ครบถ้วนถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทกุ ขอ้ แต่ ทกุ ขอ้ และ
ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ต้องบางสว่ น ถูกต้อง ถูกตอ้ งบางสว่ น
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2
จุด)
ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบรอ้ ย สะอาด
ส่งงานตาม สง่ งานชา้ กว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
180
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่
ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไ่ี ด้รับ
ความคดิ เหน็ ฟังคนอ่นื มอบหมาย สรปุ
ช่อื -สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไมพ่ ดู คุยในชน้ั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าชัน้ เรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชื่อ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วนั ที่ เดอื น
181
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึ้น
2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง
3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงตอ่ เวลา
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่อื ฟังคำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อย่อู ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
6. ม่งุ มน่ั 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อม
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง
ลงช่ือ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วันที่ เดอื น
182
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 การแยกสารเน้อื ผสม เรอื่ ง วิธกี ารแยกสารเพื่อนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ว 16101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ ช้ัน ป.6 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครผู ู้สอน นายดิเรกฤทธิ์ ยเุ หลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใช้สอนวัน....................... ที.่ ........... เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหว่างสมบตั ิของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี
3. ตวั ชว้ี ัด
ว 2.1 ป.6/1 อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็ก
ดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหา
ในชีวิตประจำวนั เกย่ี วกับการแยกสาร
4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ในการดำเนินชวี ติ ของมนุษยม์ กี ารแยกสารผสมด้วยวิธีการต่าง ๆ มากมาย เช่น การร่อนแป้งทำขนม
การรินนำ้ ซาวขา้ ว การกรองน้ำ เปน็ ตน้
5. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายวิธีการแยกสารเนือ้ ผสมดว้ ยวธิ ตี ่างๆ ได้ (K)
2) เลือกวธิ ีการท่เี หมาะสมกบั สารผสมที่พบในชีวิตประจำวัน (P)
3) รบั ผิดชอบและมงุ่ มนั่ ในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A)
6. คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
1) มวี นิ ัย
2) ใฝ่เรยี นรู้
3) ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
7. สมรรถนะทีส่ ำคญั
1) ความสามารถในการคิด
1.1) ทกั ษะการสังเกต
183
1.2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา
1.3) ทกั ษะการจำแนกประเภท
2) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
8. ทกั ษะกระบวนการคิด
การคดิ วิเคราะห์ คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ
9. เนื้อหาสาระ
การดำเนินชวี ติ ของมนษุ ยม์ กี ารแยกสารผสมดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ มากมาย ดังตาราง
สถานะของสารผสม ลักษณะของสารผสม วธิ กี าร ตัวอย่างสารผสม
ของแขง็ + ของแข็ง ของแข็งผสมมีขนาดใหญ่ การหยบิ ออก การแยกเมล็ดข้าวเปลือก
ของแข็งผสมมีขนาดเล็ก การรอ่ น การรอ่ นแป้งทำขนม
ของแขง็ + ของเหลว ของแข็งตกตะกอนก้น การริน การรินน้ำซาวขา้ ว
(ของแขง็ ไมร่ วมกับ ภาชนะ การบำบดั นำ้ เสยี
ของเหลว) การแกวง่ กรองกากมะพรา้ วออกจากน้ำ
ของแข็งเปน็ สาร สารสม้
แขวนลอย
การกรอง
ของแข็งมขี นาดใหญก่ ว่า
รพู รนุ
ของแขง็ + สารท่แี ม่เหลก็ สารที่แม่เหลก็ ดูดได้ แมเ่ หลก็ ดูด การคดั แยกขยะทเ่ี ปน็ โลหะ
ดดู ได้
10. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
• วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E
ขั้นที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ
1) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกับการดำเนนิ ชวี ิตใน 1 วนั ของนกั เรยี นมคี วาม
เกย่ี วขอ้ งกบั การแยกสารอะไรบ้าง หรือมีความเก่ียวขอ้ งมากนอ้ ยเพียงใด
2) ครยู กตัวอย่างสถานการณ์เพ่ือกระตุน้ ความคดิ ของนกั เรียน “พลอยใสตนื่ เช้ามาหุงข้าว
ซาวน้ำซาวขา้ ว 2 ในระหวา่ งทรี่ อข้าวสกุ พลอยใสก็คดั แยกขยะท่ีไม่จำเป็นออกจากหอ้ งนอน หลังจากนัน้ เธอก็
เดินไปช่วยแมท่ ำกบั ข้าวโดยการคน้ั น้ำกะท”ิ จากเหตกุ ารณ์ดังกล่าวมีการแยกสารให้ช่วงใดบ้าง
- ซาวข้าว > การรนิ ออก
- การแยกขยะ > การหยบิ ออก
- คน้ั น้ำกะทิ > การกรอง
184
3) ครชู แ้ี จงจุดประสงคใ์ นการเรยี นให้แก่นักเรยี นทราบ
ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา
4) ครูแบ่งกลุม่ ให้นักเรยี น กลุ่มละ 5 – 6 คนเท่า ๆ กัน เพื่อให้นักเรยี นทำกิจกรรมการแยก
สารในชีวิตประจำวัน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกแบบบทละครการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องมีความ
เก่ยี วข้องในการแยกสารผสม โดยความยาวของละครเรอื่ งนไี้ มค่ วรเกิน 3 - 4 นาที
5) ครูให้นักเรียนระดมความคิดเห็นร่วมกันในการเขียนบทละคร โดยละครแต่ละเรื่องจะมี
วิธีการแยกสารกีว่ ธิ กี ็ไดต้ ามความสนใจของนกั เรยี น แต่ถ้าวธิ กี ารแยกสารสอดแทรกในละครมากเทา่ ไรกลุ่มนั้น
จะได้รบั คะแนนเพ่ิมมากข้ึน
6) ครูให้นักเรยี นไดม้ กี ารซักซอ่ มทำความคุน้ เคยกบั บทละคร 10 นาที กอ่ นการนำเสนอ
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้
7) ครูให้นักเรยี นนำเสนอวิธีการแยกสารเพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั หน้าชนั้ เรยี น
8) ในละครทกุ เรือ่ ง นักเรยี นทีเ่ ปน็ ผ้ชู มจะตอ้ งรว่ มกันวิเคราะหก์ ารกระทำของตวั ละครวา่ แต่
ละกลมุ่ มกี ารสอดแทรกการแยกสารในช่วงใดบ้าง บันทกึ ลงในสมดุ ของตนเอง
9) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการแสดงละคร และให้นกั เรียนในหอ้ งรว่ มกนั โหวตละคร
ยอดเยย่ี มประจำชั้นป.6 โดยกลุม่ ทรี่ ับคะแนนโหวตสูงที่สุดจะได้รับรางวลั จากครผู ู้สอน
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
10) ครูยกตวั อยา่ งการทำนาเกลอื โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ วา่ น้ำเกลอื
จดั เปน็ เน้ือผสมหรอื ไม่ หากตอ้ งการแยกเกลอื อกจากนำ้ จะทำได้อย่างไร (แนวคำตอบ : นำ้ เกลือไม่ใชส่ ารเนื้อ
ผสม หากตอ้ งการจะแยกต้องทำการระเหยนำ้ ออกกอ่ น)
11) ครขู ยายความเข้าใจของนกั เรยี นเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกบั การแยกสารทมี่ สี ถานะเป็นของแขง็ แต่
ละลายรวมกันในของเหลว สามารถแยกไดโ้ ดยการใหค้ วามรอ้ น ความรอ้ นจะทำให้ของเหลวระเหยเปลยี่ น
สถานะเปน็ แกส๊ จะเหลอื สว่ นทเี่ ป็นของแขง็ ติดทีก่ ้นภาชนะ ดงั เชน่ ตัวอย่างการทำนาเกลอื
ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล
12) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม เรื่อง การแยกสารใน
ชวี ิตประจำวัน จากนน้ั ใหเ้ พื่อน ๆ ในหอ้ งรว่ มกนั แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
13) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภปิ รายการนำความรู้จากการเรยี นเรื่อง การแยกสารเน้ือผสมไป
ใช้ในชวี ิตประจำวันได้อยา่ งไร
14) ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง การแยกสารเนื้อผสม
15) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุด การนำเสนอหน้าชั้นเรียน การทำแบบทดสอบ
หลงั เรยี น และการมีสว่ นร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรยี น
11. ส่ือการเรียนรู้ 185
1) ส่ือการเรียนรู้ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1.1) หนังสอื เรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
1.2) สมุด
2) แหลง่ การเรยี นรู้
2.1) หอ้ งเรียน
2.2) ห้องสมดุ
12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ท่ี วิธีการ เครอื่ งมอื
1 ตรวจสมุด แบบประเมินการทำงาน
2 สังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ ม แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ในกจิ กรรม การทำงานรายบคุ คล
3 สงั เกตความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์
13. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ 186
13.1 ผลการจัดการเรียนรู้
ผ้เู รียนทผ่ี ่านตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นร้อยละ.................
ผ้เู รยี นทีไ่ มผ่ ่านตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................
เลขที่ของนกั เรยี นที่สอบไมผ่ ่านตวั ชวี้ ดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ีไมผ่ ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผูเ้ รยี นท่มี ีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพฒั นา/ส่งเสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รยี นไดร้ บั ความรู้ (K) ในเรอื่ ง ............................................................................................................
ผ้เู รียนเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) ในเรื่อง............................................................................................
ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม (A) ในเรอื่ ง.................................................................................
13.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
13.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครผู ู้สอน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ )
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วนั ที่............เดือน..........................พ.ศ. ................
187
14. ความคิดเห็นของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา/ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจ้ง)
วนั ที.่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจดั การเรยี นรู้
ลงชื่อ....................................................... ลงชอื่ ......................................................
(..............................................) (นายวริ ชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ฝา่ ยบริหารวิชาการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
วนั ท.่ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ........... วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ..........
188
แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรูส้ าระวทิ ยาศาสตร์
ลำดับ เกณฑ์คณุ ภาพ คุณภาพ
321
1 เขียนสาระสำคญั ครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัตคิ มุ คา่
2 จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับ KAP
3 สาระเรียนรคู้ รอบคลมุ เนอ้ื หา เน้อื หา กระบวนการ คุณลกั ษณะ
4 กิจกรรมการเรียนรูเ้ นน้ สมอง RL เกดิ Active Learning
5 ออกแบบแตล่ ะกจิ กรรมเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น
6 ออกแบบการวดั ประเมินจากชนิ้ งานกลุ่ม/เด่ยี วของผูเ้ รยี น
7 มีความสมั พันธ์ระหวา่ งองค์ประกอบขอ้ ที1่ -6
8 ส่ือการเรยี นรูส้ อดคลอ้ ง จุดประสงค์ ตรงเน้ือหา น่าสนใจ เหมาะสมกบั วยั สะดวกใช้
รวม
เฉลีย่
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพ
2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถงึ ดี
1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้
0 - 1.49 ระดบั 1 หมายถึง ปรับปรุง
กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี
ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษาหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
ลงช่ือ เดือน ผ้ปู ระเมิน
( )
ตำแหน่ง พ.ศ.
วันท่ี
แบบประเมินการทำงานเรอื่ ง 189
เลขท่ี ชอ่ื – นามสกลุ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่
รายการประเมิน
1 ความ ความ ความตรง รวมคะแนน ผลการ
2 ถูกต้อง สวยงาม ตอ่ เวลา (10) ประเมนิ
3 (5) (3) (2)
4
5 ลงชื่อ ผู้ประเมนิ
6 ( )
7 วนั ที่ เดอื น
8 พ.ศ.
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
9-10 ดมี าก
7-8 ดี
5-6 พอใช้
1-4 ตอ้ งปรบั ปรงุ
190
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงาน
รายการ เกณฑ์การให้คะแนน
ประเมิน
5 4 3 21
ความถูกต้อง
ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธิบาย ระบุหรอื อธิบาย ระบหุ รืออธบิ าย ระบุหรืออธบิ าย
ความสวยงาม
ความตรงตอ่ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทกุ ขอ้ คำตอบทุกขอ้ คำตอบไม่ครบ คำตอบไมค่ รบ
เวลา ครบถ้วนถูกต้อง ครบถว้ นแต่ ครบถว้ นแต่ ทกุ ขอ้ แต่ ทกุ ขอ้ และ
ถกู ตอ้ งบางสว่ น ถกู ต้องบางสว่ น ถูกต้อง ถูกตอ้ งบางสว่ น
(ผดิ 1-2 จดุ ) (ผิดมากกวา่ 2
จุด)
ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี ตกแตง่ ระบายสี
- - สวยงาม สะอาด สวยงาม ใบงานไม่
เรียบรอ้ ย สะอาด
ส่งงานตาม สง่ งานชา้ กว่า
- - - ระยะเวลาที่ ระยะเวลาท่ี
กำหนด กำหนด
191
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่
ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบคำถาม การยอมรับ ทำงานทไ่ี ด้รับ
ความคดิ เหน็ ฟังคนอ่นื มอบหมาย สรปุ
ช่อื -สกลุ 432143214321432143 2 1
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไมพ่ ดู คุยในชน้ั ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าชัน้ เรียนแต่การแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไมต่ รงต่อเวลา
ลงชื่อ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วนั ที่ เดอื น
192
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์
1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึ้น
2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง
3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงตอ่ เวลา
4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัติได้
4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เช่อื ฟังคำส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อย่อู ยา่ ง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด
พอเพียง 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรคู้ ุณค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงิน
6. ม่งุ มน่ั 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ในการทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสำเร็จ
7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ล รกั ษาทรพั ย์สมบตั ิและสิ่งแวดล้อม
รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 46 - 60 ดี
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
30 - 45 พอใช้
ต่ำกวา่ 30 ปรบั ปรุง
ลงช่ือ ผู้สังเกต
( )
พ.ศ.
วันที่ เดอื น