1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การดำรงชีวิตของพืช เรอ่ื ง กระบวนการการสังเคราะหด์ ้วยแสง
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหัสวชิ า ว 21101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ 1 ชัน้ ม.1 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครูผสู้ อน นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหล็ก ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใชส้ อนวนั ....................... ท่ี............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องสิ่งมีชวี ิตหนว่ ยพนื้ ฐานของส่งิ มชี ีวติ การลำเลียงสารผ่านเซลลค์ วามสมั พนั ธ์
ของโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องระบบต่างๆของสัตว์และมนุษยท์ ี่ทำงานสัมพนั ธ์กันความสมั พันธข์ องโครงสรา้ งและ
หน้าท่ขี องอวัยวะต่างๆของพืชทีท่ ำงานสมั พันธ์กนั รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตัวช้วี ัด
ว 1.2 ม.1/6 ระบปุ ัจจัยทจ่ี าเป็นในการสังเคราะห์ด้วยแสงและผลผลติ ทีเ่ กิดข้ึนจากการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
ว 1.2 ม.1/7 อธิบายความสำคัญของการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ตอ่ ส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม
ว 1.2 ม.1/8 ตระหนกั ในคุณค่าของพืชทม่ี ตี ่อส่งิ มีชวี ิตและส่ิงแวดล้อมโดยการรว่ มกนั ปลกู และดูแล
รักษาต้นไม้ในโรงเรียนและชมุ ชน
2. สาระสำคัญ
พชื เปน็ สิง่ มชี วี ติ ท่ีสามารถสรา้ งอาหารเองได้ และเปน็ แหล่งอาหารท่สี ำคญั ของสงิ่ มชี วี ติ ชนดิ อนื่ ทไ่ี ม่
สามารถสรา้ งอาหารได้ กระบวนการสรา้ งอาหารของพืชเรียกวา่ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ซ่ึงมีนำ้ และ
แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์เปน็ วัตถดุ ิบ มีแสงและคลอโรฟิลลช์ ่วยทำให้ไดผ้ ลติ ภณั ฑ์คือ นำ้ ตาล น้ำ และแก๊ส
ออกซเิ จน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
อธบิ ายความสำคัญของคลอโรฟิลล์ในกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืชได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ทดลองทดลองหาปจั จัยบางประการทีจ่ ำเป็นต่อการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
2
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
รอบคอบ ความรบั ผิดชอบ ความซื่อสัตย์
4. สาระการเรียนรู้
1. กระบวนการการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
2. ความสำคญั ของคลอโรฟิลลใ์ นกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง
5. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ช่วั โมงท่ี 1
ขนั้ สร้างความสนใจ
1. ครูนำสนทนาเกี่ยวกบั สิง่ มชี วี ติ โดยตงั้ ประเดน็ คำถามต่อไปนี้
- สิ่งมชี วี ิตชนดิ ใดสามารถสร้างอาหารเองได้ และทราบได้อยา่ งไรวา่ สิ่งมชี วี ิตชนิดนน้ั
สามารถสรา้ งอาหารเองได้
- คน สัตว์ สามารถสรา้ งอาหารเองได้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายคำตอบของนกั เรียน เพ่อื เชือ่ มโยงไปสู่การเรียนรูเ้ รอื่ ง
กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
3. ครนู ำภาพสว่ นประกอบของต้นไม้มาให้นักเรียนดู แล้วตง้ั ประเด็นเพ่อื ใหน้ กั เรียนอภิปราย
ดังน้ี
- การสร้างอาหารของพชื หรอื กระบวนการสังเคราะหแ์ สงเกดิ ข้นึ ท่ีส่วนใดของพืช เพราะ
เหตุใดจึงเกดิ ข้นึ ทสี่ ่วนนัน้
- พชื ใชป้ ัจจัยใดบา้ งในกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง
- นกั เรยี นคิดวา่ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงมีความสำคญั ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม
อย่างไร
ขน้ั สำรวจและคน้ หา
1. นักเรียนศึกษาเกยี่ วกับปัจจยั ตา่ ง ๆ ทพี่ ืชใช้ในการสงั เคราะห์แสง และปฏิกิริยาเคมีท่ี
เกิดขึน้ ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
2. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน โดยคละเพศและความสามารถ และแจ้งให้นักเรยี นทราบ
ว่าผลงานของนักเรียนคือ ผลงานของกลมุ่ โดยให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ มีหมายเลขประจำตัว
เชน่ คนที่ 1 หมายเลข 1 คนท่ี 2 หมายเลข 2 คนท่ี 3 หมายเลข 3 และคนที่ 4 หมายเลข 4 และให้สมาชกิ
แต่ละกลุ่มแบง่ หน้าทกี่ นั ทำงานตามหมายเลขทไ่ี ด้
หมายเลข 1 อ่านกจิ กรรม ใบความรู้
หมายเลข 2 ตรวจอุปกรณ์ วเิ คราะห์ข้อมูล
3
หมายเลข 3 ทำการทดลอง ทำกิจกรรมจากใบงาน
หมายเลข 4 บนั ทกึ ผลการทดลอง ตอบคำถาม
3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ทำการทดลอง พรอ้ มทัง้ สังเกตผลท่ีเกดิ ขน้ึ เก็บรวบรวมข้อมลู และ
บันทกึ ผลการทดลอง แล้วช่วยกนั เขยี นรายงานการทดลอง
ชวั่ โมงที่ 2
ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป
1. แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการทดลองหนา้ ชั้นเรยี น
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รายผลการทดลองโดยใชแ้ นวคำถาม ดงั น้ี
- หลงั จากการตม้ ใบชบาดา่ งในแอลกอฮอลแ์ ลว้ ใบชบาดา่ งมลี กั ษณะเปน็ แบบใด และ
แอลกอฮอล์ที่ใช้ต้มมีสอี ะไร
- แอลกอฮอล์ทีใ่ ชต้ ม้ ใบชบาด่างทำหน้าท่อี ะไร
- เมอ่ื หยดสารละลายไอโอดีนแลว้ ใบชบาดา่ งมลี ักษณะแตกต่างจากใบชบาด่างกอ่ นการ
ทดลองหรอื ไม่ ลกั ษณะใด
- นักเรยี นคิดวา่ บริเวณใดของใบชบาด่างท่สี ามารถสร้างอาหารได้
3. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ผลการทดลอง โดยให้ไดข้ ้อสรุปดงั น้ี
- จากการทดลองจะพบว่า เมอ่ื ทดสอบกับสารละลายไอโอดีน ใบชบาดา่ งส่วนทีม่ ีสีเขยี ว
เปลยี่ นเป็นสีนำ้ เงนิ เข้มเชน่ เดียวกับนำ้ แป้ง แสดงวา่ ส่วนของพืชดงั กลา่ วมีแป้ง สำหรับใบชบาด่างท่ีมสี ีขาว
ตรวจไมพ่ บแป้ง ท้งั นี้เพราะเมอื่ หยดสารละลายไอโอดนี แล้วยังคงเป็นสนี ำ้ ตาลเชน่ เดมิ
ด้วยเหตทุ ่ีแป้งที่ทดสอบได้น้ันเปลยี่ นมาจากน้ำตาล ซง่ึ เป็นสารอาหารที่ใบชบาด่างสรา้ งขึน้ มา ดังนั้นสว่ นท่ี
เปน็ สเี ขยี วของพืชที่เรยี กว่า คลอโรฟิลล์ นนั้ นับวา่ เปน็ ปัจจยั สำคัญปัจจยั หนง่ึ ในการสร้างอาหารของพชื หรือ
ท่เี ราเรียกว่า การสังเคราะห์ด้วยแสง
ชั่วโมงที่ 3
ขนั้ ขยายความรู้
1. ใหน้ ักเรียนทดสอบกบั พืชทีม่ ใี บสตี ่างๆ วา่ สามารถสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้หรือไม่
แล้วนำเสนอผลการทดลอง
4
2. ครใู หร้ ายละเอียดเพม่ิ เติมว่ากระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสงมีความจำเป็นต่อการดำรงชวี ติ
ของพชื
3. ครูรณรงค์ใหน้ กั เรียนการร่วมกันปลกู และดูแลรักษาตน้ ไม้ในโรงเรยี นและชมุ ชน
ขน้ั ประเมนิ
ทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยการให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั
เฉลยคำตอบ
6. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. ภาพปา่ ไม้
2. ส่ือส่ิงพมิ พ์ และเว็บไซตต์ า่ ง ๆ ทางอินเทอร์เน็ตที่เก่ียวข้อง
3. อปุ กรณ์การทดลองของแต่ละกจิ กรรมในการจัดการเรียนรู้แต่ละคร้ัง
4. ใบงาน เร่ือง คลอโรฟลิ ลก์ บั การสรา้ งอาหารของพชื
5. ใบความรู้ เร่ือง การสรา้ งอาหารของพืช
6. หอ้ งสมุด
7. การวดั และประเมนิ ผล
ส่ิงที่ตอ้ งการประเมิน วิธีการวดั ผล เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์การผ่าน
ในการวดั ผล การประเมินผล
ความรู้ การตรวจผลงาน แบบประเมนิ การตรวจ ได้คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ
อธบิ ายความสำคัญของ ผลงาน 60 ขึ้นไป
คลอโรฟิลล์ใน - การนำเสนอผลงาน
กระบวนการสงั เคราะห์ - สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ การ ได้คะแนนเฉล่ีย รอ้ ยละ
ดว้ ยแสงของพืชได้ ทำงานกลุ่ม นำเสนอผลงาน 60 ขนึ้ ไป
ทกั ษะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
กระบวนการสบื เสาะ สงั เกตพฤติกรรม การทำงานกล่มุ
หาความรู้ รายบคุ คล
แบบประเมินพฤตกิ รรม ไดค้ ะแนนเฉล่ีย 2 (ด)ี
คณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์ รายบคุ คล ขึ้นไป
ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
ม่งุ มนั่ อดทน
8. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ 5
8.1 ผลการจดั การเรียนรู้
ผเู้ รยี นท่ผี า่ นตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
ผ้เู รียนที่ไม่ผ่านตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.................
เลขท่ีของนักเรียนที่สอบไม่ผ่านตัวช้ีวัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุทไ่ี ม่ผา่ น .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผ้เู รยี นที่มีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/สง่ เสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรียนได้รบั ความรู้ (K) ในเร่ือง ............................................................................................................
ผ้เู รยี นเกดิ ทักษะกระบวนการ (P) ในเร่ือง............................................................................................
ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม (A) ในเรื่อง.................................................................................
8.2 ปัญหาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครผู ูส้ อน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ )
ตำแหน่ง ครู คศ.1
วนั ท.่ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
6
9. ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ......................................หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พูลแจ้ง)
วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
รบั ทราบผลการจัดการเรยี นรู้
ลงชอ่ื ....................................................... ลงช่ือ......................................................
(...................................................) (นายวริ ชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ........... วันที.่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ..........
7
ใบงาน
เรอื่ ง คลอโรฟลิ ล์กับการสรา้ งอาหารของพืช
จดุ ประสงค์
สรุปความสำคญั ของคลอโรฟลิ ลต์ ่อการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืชได้
อุปกรณ์
1. ใบชบาดา่ ง 1 ใบ
2. สารละลายไอโอดีน 1 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
3. นำ้ แปง้ 5 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
4. แอลกอฮอล์ 15 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร
5. นำ้ 100 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร
6. ไมข้ ีดไฟ 1 กลัก
7. บีกเกอรข์ นาด 250 ลบ.ซม. 1 ใบ
8. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 1 หลอด
9. หลอดทดลองขนาดเลก็ 1 หลอด
10. หลอดหยด 1 อัน
11. ถว้ ยกระเบื้อง 1 ใบ
12. ปากคบี 1 อัน
13. ตะเกยี งแอลกอฮอล์พรอ้ มทก่ี ้ันลมและตะแกรงลวด 1 ชดุ
วธิ ีการทดลอง
1. นำใบชบาด่างที่ถูกแสงแดดประมาณ 3 ชัว่ โมง มาวาดรูป เพ่อื แสดงส่วนที่เปน็ สขี าว
และสเี ขียว
2. ใส่น้ำประมาณ 40 ลกู บาศก์เซนติเมตร ลงในบีกเกอร์ ตม้ ใหเ้ ดือด ใสใ่ บชบาด่างลงใน
บีกเกอร์ท่มี นี ้ำเดอื ด ต้มตอ่ ไปนาน 1 นาที
3. ใชป้ ากคบี คีบใบชบาด่างทต่ี ้มแลว้ ใส่ในหลอดทดลองขนาดใหญ่ทมี่ ีแอลกอฮอล์
พอทว่ มใบ แล้วนำไปต้มในน้ำเดอื ดประมาณ 1-2 นาที จนกระทง่ั ใบมีสซี ีด สังเกตการเปลี่ยนแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ
4. นำใบชบาดา่ งในขอ้ 3 ไปล้างด้วยนำ้ เย็น สังเกตการเปล่ียนแปลงที่เกิดขนึ้
5. นำใบชบาดา่ งที่ล้างแลว้ วางในถว้ ยกระเบอื้ ง แลว้ หยดดว้ ยสารละลายไอโอดีน ใหท้ ว่ั ทัง้ ใบ ท้งิ ไว้
ประมาณครึ่งนาที
8
6. นำใบชบาด่างไปลา้ งนำ้ สังเกตการเปลย่ี นแปลง แลว้ วาดรูปเปรยี บเทยี บกบั รูปใบชบาดา่ งที่
วาดไวก้ อ่ นการทดลอง พร้อมท้ังบันทกึ ผล
7. ใส่น้ำแปง้ ประมาณ 5 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร ลงในหลอดทดลองขนาดเลก็
หยดสารละลายไอโอดนี 2-3 หยด ลงในหลอดทดลอง สังเกตการเปลย่ี นแปลงและบนั ทึกผล
หมายเหตุ
1. ใบชบาด่างที่ใชใ้ นการทดลองตอ้ งเปน็ ใบท่ีเดด็ มาในวนั ทำการทดลอง
2. แอลกอฮอล์เปน็ สารไวไฟ ดงั นั้น ในการต้มใบชบาด่างในแอลกอฮอลจ์ ึงต้องให้ ความรอ้ นผ่านน้ำ
3. ในการใช้หลอดหยดดูดสารละลายไอโอดนี ควรระวงั อย่าให้สารละลายไอโอดีนถกู ผิวหนงั
9
แบบบันทกึ ใบงาน
เร่อื ง คลอโรฟิลลก์ บั การสรา้ งอาหารของพชื
กลมุ่ ที่.........................สมาชิก 1............................................... 2.............................................
3............................................... 4.............................................
5............................................... 6.............................................
วตั ถุประสงค์.......................................................................................................................................
ปญั หา.................................................................................................................................................
สมมติฐาน..........................................................................................................................................
บนั ทึกผลการทดลอง
สิ่งทีน่ ำมาทดสอบ ผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดนี
สว่ นของใบพชื ที่มสี ีเขียว
สว่ นของใบพชื ทีม่ ีสีขาว
น้ำแปง้
คำถามหลังการทดลอง
1. การแชใ่ บผักบ้งุ ในแอลกอฮอลแ์ ลว้ ให้ความรอ้ น มวี ตั ถปุ ระสงค์ใด
......................................................................................................................................................
2. เหตุใดจงึ ไม่ใสแ่ อลกอฮอล์ในบกี เกอร์ แลว้ ต้มใบผกั บงุ้ ในบีกเกอรโ์ ดยตรง
.....................................................................................................................................................
3. เมือ่ ใช้สารละลายไอโอดีนตรวจสอบแปง้ ในใบผักบ้งุ ทัง้ 2 ใบ ได้ผลอย่างไร ผลการตรวจเหมือนกันหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
.....................................................................................................................................................
สรุปผลการทดลอง
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
10
เฉลยใบงาน
เรื่อง คลอโรฟิลล์กับการสรา้ งอาหารของพืช
ผลการทดลอง
ส่ิงท่ีนำมาทดสอบ ผลการทดสอบดว้ ยสารละลายไอโอดนี
ส่วนของใบพชื ทม่ี สี เี ขียว เปล่ียนเป็นสีน้ำเงินเขม้
สว่ นของใบพืชทีม่ สี ีขาว ไม่เปลย่ี นแปลง
น้ำแปง้ เปลย่ี นเปน็ สนี ้ำเงนิ เข้ม
คำถามทา้ ยการทดลอง
1. การแชใ่ บผักบงุ้ ในแอลกอฮอล์แลว้ ให้ความร้อน มวี ัตถุประสงคใ์ ด
ตอบ การแช่ในแอลกอฮอล์เพ่ือสกดั คลอโรฟลิ ลอ์ อกจากใบ ส่วนการใหค้ วามรอ้ นทำใหค้ ลอโรฟิลล์
ละลายไดเ้ ร็วขึ้น การที่ตอ้ งสกัดคลอโรฟิลลอ์ อก เพราะคลอโรฟิลล์จะบดบังสีที่เกดิ จากปฏิกริ ิยาระหว่างแป้ง
กบั ไอโอดีน ทำใหส้ ังเกตได้ยาก
2. เหตใุ ดจึงไม่ใส่แอลกอฮอล์ในบีกเกอร์ แล้วตม้ ใบผักบุ้งในบกี เกอรโ์ ดยตรง
ตอบ เน่อื งจากแอลกอฮอลต์ ิดไฟได้งา่ ย อาจเกิดอันตรายในระหว่างการ
3. เม่อื ใช้สารละลายไอโอดนี ตรวจสอบแปง้ ในใบผกั บุ้งทั้ง 2 ใบ ได้ผลอยา่ งไร ผลการตรวจเหมือนกันหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
ตอบ ได้ผลไม่เหมือนกัน เม่ือทดสอบกับสารละลายไอโอดีน ใบชบาด่างส่วนท่ีมีสีเขียว
เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเช่นเดียวกับน้ำแป้ง แสดงว่าส่วนของพืชดังกล่าวมีแป้ง สำหรับใบชบาด่างท่ีมีสีขาว
ตรวจไม่พบแป้ง ท้ังนี้เพราะเมื่อหยดสารละลายไอโอดีนแล้วยังคงเป็นสีน้ำตาลเช่นเดิม ด้วยเหตุท่ีแป้งท่ี
ทดสอบได้น้นั เปลย่ี นมาจากนำ้ ตาล ซึ่งเป็นสารอาหารที่ใบชบาดา่ งสร้างขึ้นมา ดังนนั้ ส่วนทเ่ี ป็นสีเขียวของพืช
ท่ีเรยี กวา่ คลอโรฟิลล์ น้ันนับว่าเป็นปจั จัยสำคัญปจั จัยหน่ึงในการสร้างอาหารของพชื หรือที่เราเรียกว่า การ
สังเคราะห์ดว้ ยแสง
11
แบบฝกึ หัด
คำช้แี จง จงเตมิ ขอ้ ความลงในชอ่ งว่าง และตอบคำถามให้ถกู ต้อง
1. ออรแ์ กเนลท่ีอยใู่ นไซโทพลาซมึ ของใบพชื สีเขยี ว ..................................................................
ซึง่ ภายในจะมีรงควัตถสุ ีเขยี ว เรยี กวา่ .....................................................................................
2. กระบวนการสร้างอาหารของพชื เรยี กว่า................................................................................
3. ปัจจัยที่จำเปน็ ต่อกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ไดแ้ ก่.......................................................
12
เฉลยแบบฝกึ หดั
คำชแ้ี จง จงเตมิ ขอ้ ความลงในช่องว่าง และตอบคำถามใหถ้ ูกต้อง
1. ออร์แกเนลท่ีอย่ใู นไซโทพลาซึมของใบพืชสีเขียว คือ คลอโรพลาสต์ ซ่งึ ภายในจะมรี งควตั ถุ
สเี ขียว เรยี กวา่ คลอโรฟลิ ล์
2. กระบวนการสรา้ งอาหารของพืช เรยี กวา่ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
3. ปจั จัยที่จำเป็นตอ่ กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ไดแ้ ก่
1. คลอโรฟิลล์ ซ่งึ เปน็ รงควตั ถุในคลอโรพลาสต์
2. แสง โดยมีแหล่งกำเนิดจากดวงอาทติ ย์
3. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
4. น้ำ ซ่งึ รากพชื จะดดู ข้นึ มาจากดิน
ใบความรู้
เร่ือง การสร้างอาหารของพืช
พชื ทเ่ี ราเห็นอยทู่ ว่ั ๆไป เปน็ พชื ที่มีสีเขียว สามารถสรา้ งอาหารเพือ่ การเจริญเติบโตไดเ้ องกระบวนการ
สรา้ งอาหารของพืชน้ีเรียกวา่ การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง อาหารทพี่ ืชสร้างข้นึ คอื น้ำตาลกลูโคส ซงึ่ จะเปล่ยี นเปน็
แปง้ เกบ็ ไวต้ ามสว่ นตา่ งๆของพืช
การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื จะใช้นำ้ จากดิน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์จากอากาศ แสง
และคลอโรฟลิ ล์ ซง่ึ เป็นรงควัตถสุ เี ขยี วท่ีพืชสร้างขึน้ ทใ่ี บ โดยคลอโรฟิลลจ์ ะทำหน้าทใ่ี นการดดู ซบั พลังงาน
แสงนำไปเปลีย่ นนำ้ และแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นน้ำตาล นอกจากนั้นยังได้ ไอน้ำและแกส๊ ออกซิเจนซึง่
จะถกู ปล่อยออกสู่บรรยากาศทางปากใบ แก๊สออกซเิ จนนเ้ี ป็นแก๊สทีม่ นุษย์และสัตวน์ ำไปใช้ในการหายใจ
ปจั จัยทีจ่ ำเปน็ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
ปัจจัยที่จำเปน็ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชได้แก่ คลอโรฟลิ ล์ แสง
แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ และนำ้
คลอโรฟิลล์
เปน็ สารสีเขยี วที่อย่ภู ายในเมด็ คลอโรพลาสต์ ซึ่งเม็ดคลอโรพลาสตน์ ้ีจะอยใู่ นไซโทพลาซึม สาร
คลอโรฟลิ ล์จะทำหนา้ ที่ ดดู พลงั งานแสงจากดวงอาทิตย์ มาทำใหน้ ้ำและแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดเ์ กิดปฏกิ ิรยิ า
เคมี ไดน้ ้ำตาลกลโู คส นำ้ และแก๊สออกซิเจน
แสง
เปน็ พลังงานท่ีได้จากดวงอาทติ ย์เปน็ ส่วนใหญ่ ถ้าแสงจากดวงอาทิตย์ไมเ่ พียงพอพืชอาจใช้แสงจาก
แหล่งกำเนิดแสงอนื่ ๆ เช่น ดวงไฟ ช่วยในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงได้
13
นำ้
เปน็ วตั ถุดบิ ท่พี ชื ใช้ในการสร้างอาหาร สว่ นใหญ่อาศยั รากในการดดู น้ำขึน้ มาใชใ้ นกระบวนการต่างๆ
ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การดำรงชวี ิต
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
เป็นวัตถุดิบที่พืชใช้ในการสรา้ งอาหาร ซง่ึ แกส๊ ชนิดน้ีจะมอี ยใู่ นอากาศรอบ ๆ ตวั เรา และเกิดจากการ
เผาไหมข้ องสารอินทรีย์ ซ่งึ ใช้ เช้อื เพลงิ จากการหายใจของสิ่งมีชีวติ สว่ นใหญพ่ ืชจะได้รับแก๊ส
คารบ์ อนไดออกไซด์ทางปากใบมากที่สดุ และเปน็ แก๊สชนดิ นี้จะทีล่ ะลายน้ำได้ จึงเปน็ ประโยชนส์ ำหรับการ
สังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
ปจั จัยที่จำเป็นในการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช
จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช พืชสร้างน้ำตาล และเป็นวตั ถุดบิ ในการสังเคราะห์
สารอินทรียอ์ ืน่ ๆ เชน่ แป้ง ไขมันและโปรตนี บางสว่ นของพืชจะนำสารเหล่านี้ ไปใช้ในกระบวนการ
ดำรงชวี ิต เช่น การเจรญิ เติบโต การสบื พันธุ์ และบางส่วนจะเกบ็ สะสมไวต้ ามสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื เชน่ เมลด็
ราก ใบ และลำต้น นำ้ ตาลกลโู คสท่เี กดิ ขน้ึ จากกระบวน การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชน้จี ะถกู เปลยี่ นเปน็
แปง้ ทนั ที ซงึ่ จะถูกสะสมไวใ้ นเซลล์สีเขยี ว และแป้งจะถูกเปลี่ยนเป็นกลโู คสอีกคร้งั เมอื่ พชื ตอ้ งการนำไปใชใ้ น
การดำรงชวี ิต
14
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 การดำรงชีวติ ของพืช เรอ่ื ง ปัจจัยต่อกระบวนการการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วิชา ว 21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ 1 ชั้น ม.1 เวลาเรียน 2 ช่วั โมง
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ครูผ้สู อน นายดิเรกฤทธิ์ ยเุ หลก็ ตำแหน่ง ครู คศ.1
ใช้สอนวนั ....................... ท่ี............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของสิ่งมชี ีวติ หน่วยพ้นื ฐานของสง่ิ มีชวี ิตการลำเลียงสารผา่ นเซลล์ความสัมพนั ธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องระบบต่างๆของสัตว์และมนษุ ยท์ ี่ทำงานสัมพันธก์ นั ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ งและ
หนา้ ทีข่ องอวยั วะตา่ งๆของพืชที่ทำงานสมั พันธก์ นั รวมท้ังนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
ตัวช้ีวัด
ว 1.2 ม.1/6 ระบุปัจจัยทจ่ี าเปน็ ในการสังเคราะหด์ ้วยแสงและผลผลิตที่เกิดข้ึนจากการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
ว 1.2 ม.1/7 อธบิ ายความสำคัญของการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชตอ่ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม
2. สาระสำคญั
พชื เปน็ สงิ่ มีชีวติ ท่ีสามารถสรา้ งอาหารเองได้ และเปน็ แหล่งอาหารท่ีสำคญั ของส่ิงมชี ีวติ ชนดิ อืน่ ท่ีไม่
สามารถสร้างอาหารได้ กระบวนการสร้างอาหารของพืชเรยี กวา่ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง ซ่งึ มนี ้ำและ
แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์เปน็ วตั ถุดบิ มแี สงและคลอโรฟิลล์ช่วยทำใหไ้ ดผ้ ลติ ภณั ฑ์คอื นำ้ ตาล นำ้ และแกส๊
ออกซเิ จน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
ทดลองและอธิบายความสำคัญของปัจจยั บางประการที่จำเปน็ ในกระบวนการสงั เคราะห์
ด้วยแสงและผลทีไ่ ด้จากกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
ทดลองทดลองหาปัจจยั บางประการทจี่ ำเป็นต่อการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช
15
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
รอบคอบ ความรบั ผิดชอบ ความซ่ือสัตย์
4. สาระการเรียนรู้
ปัจจัยบางประการทจ่ี ำเป็นในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการสบื เสาะหาความร)ู้
ช่ัวโมงที่ 1
ขัน้ สร้างความสนใจ
1. ทบทวนเรอ่ื งคลอโรฟิลล์กบั การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช
2. ซกั ถามนักเรียนถึงปจั จยั บางประการท่ีจำเป็นในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงดังน้ี
- พืชใชป้ ัจจัยใดบ้างในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
- นักเรียนคิดวา่ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงมีความสำคัญต่อสงิ่ มีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม
อย่างไร
ขน้ั สำรวจและคน้ หา
1. นักเรียนศกึ ษาเก่ียวกับปจั จัยต่าง ๆ ที่พืชใช้ในการสงั เคราะหแ์ สง และปฏกิ ริ ยิ าเคมีท่ี
เกดิ ขึน้ ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
2. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน โดยคละเพศและความสามารถ และแจ้งใหน้ ักเรยี นทราบ
วา่ ผลงานของนกั เรยี นคือ ผลงานของกลมุ่ โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มมหี มายเลขประจำตวั เช่น คนที่ 1
หมายเลข 1 คนท่ี 2 หมายเลข 2 คนที่ 3 หมายเลข 3 และคนที่ 4 หมายเลข 4 และใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มแบ่ง
หน้าที่กันทำงานตามหมายเลขทไี่ ด้
หมายเลข 1 อา่ นกจิ กรรม ใบความรู้
หมายเลข 2 ตรวจอุปกรณ์ วิเคราะหข์ อ้ มูล
หมายเลข 3 ทำการทดลอง ทำกิจกรรมจากใบงาน
หมายเลข 4 บนั ทกึ ผลการทดลอง ตอบคำถาม
3. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มทำการทดลองตามใบงาน พร้อมท้งั สงั เกตผลทีเ่ กดิ ขนึ้
เก็บรวบรวมข้อมลู และบันทกึ ผลการทดลอง แล้วช่วยกนั เขยี นรายงานการทดลอง
ช่วั โมงที่ 2
ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ
1. แต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน
2 . นกั เรียนและครรู ่วมกนั อภปิ รายผลการทดลองโดยใชแ้ นวคำถาม ดังนี้
3. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปผลการทดลอง โดยให้ไดข้ ้อสรปุ ดงั น้ี
16
ใบงาน เร่ือง สิ่งจำเปน็ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง (1)
- จากการทดลอง เม่ือหยดสารละลายไอโอดีนลงบนใบท่ีไดร้ ับแสงและใบทป่ี ิดดว้ ย
กระดาษลอกลายซึง่ ได้รับแสงน้อย ปรากฏว่าเปน็ สนี ำ้ เงินเขม้ แสดงว่ามแี ป้งเกดิ ข้ึนในใบ แตเ่ มอื่ หยดไอโอดีน
ลงบนใบทปี่ ิดด้วยกระดาษดำ ไม่เกดิ การเปลีย่ นแปลง ทเ่ี ป็นเช่นนเี้ พราะในใบที่ไดร้ บั แสงทง้ั สองใบมี
กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงเกิดขึน้ จึงตรวจสอบพบแปง้ ขณะทีใ่ บทปี่ ิดด้วยกระดาษดำไม่ได้รบั แสงแสดง
วา่ ไม่มกี ารสงั เคราะห์ด้วยแสงเกิดขึน้ จึงตรวจสอบไม่พบแป้ง ดังนน้ั แสงจงึ เป็นปจั จัยจำเป็นในกระบวนการ
สงั เคราะห์ด้วยแสง
ใบงานเรอื่ งสงิ่ จำเป็นในการสังเคราะหด์ ้วยแสง (2)
- จากผลการทดลองอาจพจิ ารณาได้วา่ อากาศในถงุ พลาสตกิ ท่มี ีกล่องสารละลาย
โซเดียมไฮดรอกไซดบ์ รรจุอย่จู ะมแี ก๊สคาร์บอนไดออกไซดน์ อ้ ย เน่ืองจากถกู สารละลายโซเดียม
ไฮดรอกไซดด์ ูดไวห้ มด ดังนน้ั เมอ่ื นำใบผกั บุ้งจากถงุ พลาสตกิ ใบนี้ไปทดสอบจงึ ไมพ่ บแปง้ เพราะ
สารละลายไอโอดีนไม่เปลย่ี นสี สว่ นใบผักบงุ้ ที่มาจากถงุ อีกใบหนึง่ ท่ีไมม่ ีกลอ่ งสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์
บรรจอุ ยู่ อากาศในถุงใบนม้ี ีแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดม์ ากกวา่ และเมื่อนำ ใบผกั บุ้งไปทดสอบพบว่ามแี ป้งอยู่
เพราะสารละลายไอโอดีนเปล่ยี นสเี ปน็ สีน้ำเงินเข้มจึงสรปุ ได้ว่า แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดเ์ ปน็ ส่ิงจำเป็นอีกอยา่ ง
หนึ่งในการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
ขัน้ ขยายความรู้
ใหน้ กั เรียนออกแบบการทดลองตรวจสอบปัจจัยท่ีจำเปน็ ตอ่ การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืชใตน้ ้ำ
แล้วนำเสนอหน้าช้ันเรยี น
ขน้ั ประเมิน
ทดสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยการใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัด เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นช่วยกัน
เฉลยคำตอบ
6. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
1. สอ่ื สง่ิ พิมพ์ และเวบ็ ไซต์ต่าง ๆ ทางอนิ เทอร์เนต็ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง
3. อปุ กรณก์ ารทดลองของแตล่ ะกิจกรรมในการจัดการเรียนรูแ้ ต่ละครั้ง
4. ใบงาน เรื่อง ส่งิ จำเปน็ ในการสงั เคราะหด์ ้วยแสง (1)
6. ใบงาน เรอื่ ง ส่ิงจำเป็นในการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง (2)
7. ใบความรู้ เร่อื ง การสร้างอาหารของพืช
9. หอ้ งสมุด
17
7. การวัดและประเมนิ ผล
สิ่งทต่ี ้องการประเมนิ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารผ่าน
ในการวัดผล การประเมนิ ผล
ความรู้ การตรวจผลงาน แบบประเมนิ การตรวจ ได้คะแนนเฉลี่ย ร้อยละ
ทดลองและอธบิ าย ผลงาน 60 ขึ้นไป
ความสำคัญของปัจจัย - การนำเสนอผลงาน
บางประการทีจ่ ำเปน็ ใน - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมินการ ไดค้ ะแนนเฉล่ีย ร้อยละ
กระบวนการสงั เคราะห์ ทำงานกลมุ่ นำเสนอผลงาน 60 ข้ึนไป
ดว้ ยแสงและผลท่ีไดจ้ าก สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินพฤติกรรม
กระบวนการสงั เคราะห์ รายบคุ คล การทำงานกลุ่ม
ด้วยแสงได้
ทกั ษะ แบบประเมินพฤตกิ รรม ได้คะแนนเฉลยี่ 2 (ด)ี
กระบวนการสืบเสาะ
หาความรู้ รายบคุ คล ขนึ้ ไป
คณุ ลักษณะอนั พงึ
ประสงค์
ความสนใจใฝ่รู้ ความ
มุง่ ม่นั อดทน
8. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 18
8.1 ผลการจัดการเรยี นรู้
ผ้เู รียนท่ผี ่านตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
ผเู้ รียนทีไ่ ม่ผา่ นตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................
เลขที่ของนักเรยี นที่สอบไม่ผา่ นตวั ช้วี ัด..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุท่ีไม่ผ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนท่ีมคี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/ส่งเสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรยี นได้รบั ความรู้ (K) ในเรอื่ ง ............................................................................................................
ผูเ้ รียนเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเรอ่ื ง............................................................................................
ผู้เรียนมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม (A) ในเรอื่ ง.................................................................................
8.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ปัญหา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .......................................................ครผู สู้ อน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยเุ หล็ก)
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วันท.่ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ................
19
9. ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา/ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พูลแจง้ )
วนั ท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจัดการเรียนรู้
ลงช่อื ....................................................... ลงชื่อ......................................................
(...................................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ฝ่ายบรหิ ารวิชาการ ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการสถานศึกษา
วนั ที.่ ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วันที.่ ...........เดอื น..........................พ.ศ. ..........
20
ใบงาน
เร่ือง สิ่งจำเปน็ ในการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง (1)
จดุ ประสงค์ของกจิ กรรม
1. สรุปเกี่ยวกับความสำคัญของแสงต่อการสร้างอาหารของพืชได้
2. บอกส่วนของพืชทสี่ ามารถสงั เคราะหด์ ้วยแสงได้
อุปกรณ์
1. ผักบุ้งขนาดสูงประมาณ 5 cm 1 ตน้
2. สารละลายไอโอดีน 1 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
3. น้ำแปง้ 5 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร
4. แอลกอฮอล์ 15 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
5. น้ำ 100 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร
6. กระดาษลอกลาย
7. คลิปหนีบกระดาษ 2 อัน
8. กล่องทบึ 1 ใบ
9. ไมข้ ีดไฟ 1 กลกั
10. บีกเกอร์ขนาด 250 ลบ.ซม. 1 ใบ
11. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 1 หลอด
12. หลอดทดลองขนาดเล็ก 1 หลอด
13. หลอดหยด 1 อัน
14. ปากคีบ 1 อัน
15. ถ้วยกระเบอ้ื ง 1 ใบ
16. ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ รอ้ มทก่ี ั้นลมและตะแกรงลวด 1 ชดุ
วิธีการทดลอง
1. นำต้นผักบุง้ ทป่ี ลกู ไว้ในกระปอ๋ งไปไวใ้ นกล่องทึบ 1 คนื เด็ดใบมา 1 ใบ เก็บไว้ไม่ให้
ถกู แสง
2. ใชก้ ระดาษสดี ำหนาปดิ ใบผักบุ้งที่อยู่ในกระป๋อง 1 ใบ ท้งั ดา้ นบนและด้านลา่ งนำกระปอ๋ งผักบ้งุ
ไปตงั้ กลางแดดประมาณ 2-3 ชัว่ โมง
3. เด็ดใบผักบุ้งท่ถี กู แสงท้งั หมดมา 1 ใบ และใบท่ีปดิ ด้วยกระดาษลอกลาย
4. นำใบผกั บงุ้ ท้งั สามใบ ได้แก่ ใบท่ีปดิ ดว้ ยกระดาษดำ ใบที่ถกู แสงท้ังใบ และใบทปี่ ิดด้วยกระดาษ
ลอกลาย ไปทำการสกัดคลอโรฟิลล์ออกด้วยแอลกอฮอล์ แล้วทดสอบดว้ ยสารละลายไอโอดีน ตามวิธกี ารที่
เคยทดสอบมาแล้ว สังเกตผลที่ไดแ้ ละบันทกึ ผลการทดลอง
21
แบบบนั ทึกผล ใบงาน
เร่อื ง สง่ิ จำเป็นในการสงั เคราะห์ด้วยแสง (1)
กลมุ่ ท.่ี ........................สมาชกิ 1............................................... 2.............................................
3............................................... 4.............................................
5............................................... 6.............................................
วัตถปุ ระสงค์.......................................................................................................................................
ปญั หา.................................................................................................................................................
สมมตฐิ าน..........................................................................................................................................
บันทกึ ผลการทดลอง
ใบผกั บงุ้ ท่ีทดสอบ ผลการทดสอบ
ใบทปี่ ิดดว้ ยกระดาษดำ
ใบท่ีถกู แสง
ใบทีป่ ิดดว้ ยกระดาษลอกลาย
คำถามหลังการทดลอง
- เมื่อใชส้ ารละลายไอโอดีนตรวจสอบแปง้ ในใบผักบงุ้ ท้งั 3 ใบ ได้ผลอยา่ งไร ผล
การตรวจเหมอื นกันหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
.............................................................................................................................................................
สรุปผลการทดลอง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
22
เฉลยใบงาน
เร่อื ง สงิ่ จำเปน็ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง (1)
ใบผักบ้งุ ท่ีทดสอบ ผลการทดสอบ
ใบท่ปี ิดด้วยกระดาษดำ ไมเ่ ปลยี่ นแปลง
ใบท่ีถูกแสง เปลยี่ นเปน็ สีนำ้ เงินเข้ม
ใบทบ่ี างสว่ นปดิ ด้วยกระดาษลอกลาย เปล่ียนเปน็ สนี ้ำเงนิ เขม้
คำถามหลังการทดลอง
เม่ือใช้สารละลายไอโอดีนตรวจสอบแปง้ ในใบผกั บุ้งทง้ั 3 ใบ ได้ผลอยา่ งไร ผล
การตรวจเหมือนกนั หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ตอบ ได้ผลไมเ่ หมอื นกนั เม่อื หยดสารละลายไอโอดีนลงบนใบทไ่ี ดร้ ับแสงและใบ
ที่ปดิ ดว้ ยกระดาษลอกลายซึง่ ไดร้ บั แสงน้อย ปรากฏวา่ เป็นสีนำ้ เงนิ เขม้ แสดงว่ามแี ป้งเกิดข้นึ ในใบ แต่เมื่อหยด
ไอโอดนี ลงบนใบท่ปี ิดด้วยกระดาษดำ ไม่เกิดการเปลยี่ นแปลง ที่เป็นเช่นนีเ้ พราะ
ในใบท่ไี ดร้ ับแสงท้ังสองใบมกี ระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงเกดิ ข้นึ จงึ ตรวจสอบพบแป้ง ขณะท่ใี บ
ทป่ี ิดดว้ ยกระดาษดำไมไ่ ดร้ บั แสงแสดงวา่ ไมม่ กี ารสงั เคราะหด์ ้วยแสงเกิดขึ้นจึงตรวจสอบไม่พบแป้ง ดังนนั้ แสง
จึงเป็นปจั จัยจำเป็นในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง
สรุปผลการทดลอง
แสงเป็นปัจจัยทจี่ ำเปน็ ในการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง แม้ว่าพืชจะได้รบั แสงในปรมิ าณเล็กนอ้ ย
กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงก็สามารถเกิดขึ้นได้
23
ใบงาน
เรื่อง สง่ิ จำเปน็ ในการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง (2)
จดุ ประสงค์ของกจิ กรรม
สรปุ เกีย่ วกบั ความสำคัญของแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ได้
อปุ กรณ์ 1 กระปอ๋ ง
1. ต้นผักบุ้งทเี่ พาะแล้ว 1 ลกู บาศก์เซนติเมตร
2. สารละลายไอโอดนี 15 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร
3. แอลกอฮอล์ 20 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร
4. โซเดียมไฮดรอกไซด์เขม้ ข้น 50% 100 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร
5. น้ำ 2 ใบ
6. ถุงพลาสตกิ ขนาด 20 cm x 30 cm 2 เสน้
7. เชอื กเสน้ เลก็ ยาว 30 cm 1 ชุด
8. ตะเกยี งแอลกอฮอลพ์ ร้อมทก่ี น้ั ลมและตะแกรงลวด 1 ใบ
9. กลอ่ งทึบ 1 กลัก
10. ไมข้ ีดไฟ
11. กล่องพลาสติกเบอร์ 1 1 กลอ่ ง
12. บกี เกอร์ขนาด 250 cm 3 1 ใบ
13. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 1 หลอด
14. หลอดทดลองขนาดเลก็ 1 หลอด
15. ถ้วยกระเบอื้ ง 1 ใบ
16. ปากคีบ 1 อัน
วิธกี ารทดลอง
1. นำกระปอ๋ งต้นผกั บุ้งไปไว้ในกล่องทึบ 1 คืน
2. นำกระป๋องต้นผกั บงุ้ ออกจากกล่องทบึ
3. ใสส่ ารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซดเ์ ขม้ ข้น 50% ประมาณ 20 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงใน
กล่องพลาสตกิ เบอร์ 1 แล้วนำไปใสไ่ วใ้ นถุงพลาสตกิ ใบหน่ึง
4. แบง่ ผักบงุ้ ในกระป๋องออกเปน็ 2 สว่ น เท่า ๆ กนั แล้วใชถ้ งุ พลาสตกิ ใสใบหนึง่ สวม ใบผักบุง้ สว่ น
หนงึ่ ใหถ้ งึ กิ่ง ใช้เชอื กรดั ปากถุงระวงั อยา่ ใหล้ ำตน้ หักหรอื ชำ้ อีกส่วนหนึง่ ใหโ้ นม้ ลงในถงุ พลาสติกที่มกี ลอ่ ง
พลาสติกบรรจุสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์หรอื แคลเซียม- ไฮดรอกไซดอ์ ย่ขู า้ งใน แล้วรดั ปากถงุ
24
5. นำกระป๋องผักบุ้งไปวางไวก้ ลางแดดประมาณ 3 ช่ัวโมง
6. นำใบผักบุ้งจากทั้งสองถุง ถุงละ 2 ใบ ทำเครือ่ งหมายแตล่ ะใบว่าเดด็ มาจากถงุ ใด
แล้วนำมาสกดั คลอโรฟลิ ลแ์ ละทดสอบดว้ ยสารละลายไอโอดนี สังเกตและบันทึกผล
หมายเหตุ
1. นกั เรียนเตรยี มเพาะต้นผกั บงุ้ ไวใ้ นกระปอ๋ งลว่ งหนา้ 1 สัปดาห์ แล้วนำไปใส่ในกลอ่ งทึบ 1 คนื
ก่อนวันทจี่ ะทำการทดลอง ท้งั นี้กอ่ นเพาะเมลด็ นักเรยี นควรแชเ่ มล็ดผกั บุง้ ไวล้ ว่ งหน้า 1 คนื หรือแชใ่ นนำ้ อุ่น
ประมาณ 2 ชัว่ โมง
2. นักเรียนทำซองกระดาษสีดำไว้ใส่ใบผกั บ้งุ ท่ีเดด็ จากต้นซ่งึ ไดเ้ ก็บไวใ้ นกลอ่ งทึบ 1 คนื เพือ่ ไมใ่ ห้
ไปถกู แสงก่อนทจ่ี ะทำการทดลอง
3. นักเรียนควรนำตน้ ผกั บงุ้ ไปวางไว้ให้ถูกแสงเป็นเวลานาน 3 ชว่ั โมง กอ่ นท่จี ะ
ทำการทดลอง
4. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) เข้มข้น 50% เตรยี มได้โดยใช้โซเดียม
ไฮดรอกไซด์ จำนวน 125 กรมั ใสน่ ้ำกล่ัน 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงไปคนให้ละลายจนหมด
25
แบบบันทกึ ผล ใบงาน
เร่อื ง สง่ิ จำเปน็ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง (2)
กลุ่มที.่ ........................สมาชกิ 1............................................... 2.............................................
3............................................... 4.............................................
5............................................... 6.............................................
วตั ถปุ ระสงค์.......................................................................................................................................
ปัญหา.................................................................................................................................................
สมมตฐิ าน..........................................................................................................................................
บันทึกผลการทดลอง ผลการทดสอบ
ใบผักบุ้งทท่ี ดสอบ
ใบจากถงุ ทม่ี ีสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์
ใบจากถงุ ทไ่ี ม่มีสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์
คำถามหลงั การทดลอง
- เมื่อใช้สารละลายไอโอดนี ตรวจสอบแปง้ ในใบผักบุง้ ทัง้ 2 ใบ ไดผ้ ลอย่างไร ผล
การตรวจเหมอื นกันหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
.............................................................................................................................................................
สรปุ ผลการทดลอง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
26
เฉลยใบงาน
เรอื่ ง ส่ิงจำเป็นในการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง (2)
บนั ทึกผลการทดลอง ผลการทดสอบ
ใบผกั บุ้งที่ทดสอบ
ใบจากถุงที่มีสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
ใบจากถุงทไ่ี ม่มีสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
คำถามหลังการทดลอง
- เมอ่ื ใช้สารละลายไอโอดนี ตรวจสอบแปง้ ในใบผักบุ้งทง้ั 2 ใบ ไดผ้ ลอย่างไร ผลการตรวจเหมือนกัน
หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
ตอบ ไดผ้ ลไม่เหมอื นกัน เมื่อนำใบผักบุง้ จากถุงพลาสติกท่ีมีกลอ่ งสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์บรรจอุ ยู่ไป
ทดสอบจงึ ไมพ่ บแปง้ เพราะอากาศในถุงพลาสติกจะมแี ก๊ส คารบ์ อนไดออกไซดน์ ้อย เน่ืองจากถูกสารละลาย
โซเดียมไฮดรอกไซด์ดูดไว้หมด ดงั นนั้ เมือ่ นำใบผกั บงุ้ จากถงุ พลาสติกใบน้ีไปทดสอบจึงไมพ่ บแป้ง เพราะ
สารละลายไอโอดีนไมเ่ ปลยี่ นสีส่วนใบผกั บ้งุ ทีม่ าจากถุงอีกใบหนึง่ ทไ่ี มม่ กี ลอ่ งสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์
บรรจุอยู่ อากาศในถุงใบนมี้ แี กส๊ คาร์บอนไดออกไซดม์ ากกว่า และเม่อื นำใบผกั บุ้งไปทดสอบพบว่ามีแปง้ อยู่
เพราะสารละลายไอโอดนี เปล่ยี นสเี ป็นสีนำ้ เงนิ เข้มจึง
สรุปผลการทดลอง
แก๊สคาร์บอนไดออกไซดเ์ ปน็ สงิ่ จำเปน็ อีกอยา่ งหนึง่ ในการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช
27
แบบฝึกหัด
คำชแี้ จง จงเตมิ ขอ้ ความลงในช่องวา่ ง และตอบคำถามให้ถูกต้อง
1. ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง พืชตอ้ งการ .......................... .และ...................................
เป็นวตั ถดุ บิ โดยม.ี ..................................เป็นตัวกระตุ้น ซ่ึงผลทไี่ ดจ้ ากกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
คอื ...................................และ...................................จากนั้น ................................... จะ
ถูกเปลย่ี นให้เป็น...................................แล้วสะสมไวต้ ามส่วนตา่ ง ๆ ของพืช
2. จงบอกประโยชน์ของการสังเคราะห์ด้วยแสงต่อมนษุ ย์และสัตว์
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
28
เฉลยแบบฝกึ หดั
คำช้แี จง จงเติมขอ้ ความลงในชอ่ งว่าง และตอบคำถามใหถ้ ูกต้อง
1. ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง พืชตอ้ งการ น้ำ และ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
เป็นวตั ถดุ บิ โดยมี คลอโรฟิลล์ แสง และแรธ่ าตุ เป็นตัวกระตนุ้ ซึ่งผลทไี่ ด้จากกระบวนการสังเคราะห์
ด้วยแสง คอื นำ้ ตาลกลโู คส และ แกส๊ ออกซิเจน จากนน้ั นำ้ ตาล จะถกู เปลยี่ นให้เป็น แปง้ แลว้
สะสมไวต้ ามส่วนตา่ ง ๆ ของพืช
2. จงบอกประโยชนข์ องการสงั เคราะห์ด้วยแสงต่อมนุษย์และสัตว์
1. การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงเปน็ การสร้างอาหารของพชื โดยพชื จะสะสมอาหารไวใ้ นส่วน
ต่าง ๆ ของพชื เชน่ ลำต้น ใบ ผล ซงึ่ มนษุ ยแ์ ละสตั ว์กินพืชเป็นอาหาร
2. ไดแ้ กส๊ ออกซิเจนทีพ่ ืชและสตั ว์ใช้ในการหายใจ
29
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การดำรงชีวติ ของพืช เรอ่ื ง ผลที่ไดจ้ ากกระบวนการการสังเคราะห์ด้วยแสง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหสั วิชา ว 21101 รายวิชา วิทยาศาสตร์ 1 ชั้น ม.1 เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผสู้ อน นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหลก็ ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใชส้ อนวนั ....................... ท่ี............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของส่งิ มีชวี ิตหน่วยพนื้ ฐานของสิ่งมชี วี ติ การลำเลียงสารผา่ นเซลล์ความสมั พนั ธข์ อง
โครงสร้างและหนา้ ท่ขี องระบบต่างๆของสัตว์และมนษุ ย์ท่ีทำงานสมั พนั ธก์ ันความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหนา้ ที่
ของอวัยวะตา่ งๆของพืชทีท่ ำงานสมั พันธก์ นั รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตัวชีว้ ัด
ว 1.2 ม.1/6 ระบปุ จั จยั ทจ่ี าเปน็ ในการสงั เคราะหด์ ้วยแสงและผลผลติ ท่เี กิดข้ึนจากการสงั เคราะห์ด้วยแสง
โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ว 1.2 ม.1/7 อธบิ ายความสำคัญของการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ตอ่ สง่ิ มีชวี ิตและสงิ่ แวดล้อม
2. สาระสำคัญ
พืชเป็นสิง่ มีชีวิตท่ีสามารถสรา้ งอาหารเองได้ และเปน็ แหล่งอาหารที่สำคัญของสิ่งมีชวี ติ ชนดิ อืน่ ที่ไม่
สามารถสร้างอาหารได้ กระบวนการสร้างอาหารของพืชเรยี กวา่ กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง ซึง่ มีนำ้ และ
แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์เป็นวัตถุดิบ มแี สงและคลอโรฟิลลช์ ่วยทำให้ไดผ้ ลิตภณั ฑ์คือ น้ำตาล น้ำ และแกส๊
ออกซเิ จน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
อธิบายผลทไี่ ดจ้ ากการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื ได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
ทดลองและอธิบายผลที่ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
รอบคอบ ความรับผิดชอบ ความซ่อื สัตย์
30
4. สาระการเรียนรู้
ผลท่ไี ด้จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ชัว่ โมงที่ 1
ขั้นสรา้ งความสนใจ
1. สนทนากับนกั เรยี นทบทวนเรื่องกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงโดยกำหนดประเดน็
อภิปรายดังน้ี
- เหตุใดจึงถือว่าพชื เปน็ ผผู้ ลติ อาหารของโลก
- ถ้าไม่มีกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงเกิดข้นึ บนโลกนกั เรียนคดิ วา่ ส่งิ มีชีวติ จะ
เปน็ อยา่ งไร
- จะตรวจสอบแก๊สท่เี กิดขึ้นในกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงได้อยา่ งไร
ขน้ั สำรวจและค้นหา
1. นักเรยี นแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน โดยคละเพศและความสามารถ และแจ้งใหน้ ักเรยี นทราบ
วา่ ผลงานของนักเรยี นคอื ผลงานของกลมุ่ โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มมหี มายเลขประจำตัว เชน่ คนที่ 1
หมายเลข 1 คนท่ี 2 หมายเลข 2 คนท่ี 3 หมายเลข 3 และคนท่ี 4 หมายเลข 4 และให้สมาชิกแต่ละกลุ่มแบง่
หน้าท่ีกนั ทำงานตามหมายเลขทไ่ี ด้
หมายเลข 1 อา่ นใบงาน ใบความรู้
หมายเลข 2 ตรวจอปุ กรณ์ วเิ คราะห์ขอ้ มูล
หมายเลข 3 ทำการทดลอง ทำใบงาน
หมายเลข 4 บนั ทกึ ผลการทดลอง ตอบคำถาม
3. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ทำการทดลองเรือ่ งแก๊สที่เกดิ จากกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง
พร้อมทง้ั สงั เกตผลที่เกิดข้นึ เก็บรวบรวมข้อมูลและบนั ทึกผลการทดลอง แลว้ ช่วยกันเขยี นรายงานการทดลอง
ชวั่ โมงท่ี 2
ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ
1. แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการทดลองหน้าช้ันเรียน
2. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปรายผลการทดลองโดยใชแ้ นวคำถาม ดงั น้ี
- นักเรยี นจะอธบิ ายผลการทดลองทเี่ กิดขน้ึ ได้อย่างไร
3. นักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ผลการทดลอง โดยให้ได้ข้อสรุปดังนี้
- การสังเคราะหด์ ้วยแสงทำให้เกดิ แก๊สออกซิเจนทีม่ คี วามสำคัญต่อสงิ่ มชี ีวิต เพราะ
31
สิ่งมีชีวติ ทุกชนิดใชแ้ กส๊ น้ีในการหายใจแล้วให้ผลผลิตหนึ่งเปน็ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ จงึ ทำให้เกิดการ
หมนุ เวยี นคาร์บอนไดออกไซดแ์ ละออกซิเจนในบรรยากาศ
- การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงคือกระบวนการสรา้ งอาหารของพืช ซึง่ พชื นำไปใชใ้ นการ
เจริญเติบโตและการดำรงชวี ิต และอาหารทพ่ี ืชสร้างข้ึนน้ีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดไดน้ ำไปใช้เปน็ แหลง่ พลังงานไม่
ทางตรงก็โดยทางออ้ ม
ช่ัวโมงที่ 3
ขั้นขยายความรู้
1. ให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายง่าถ้าจะทำการทดลองเพ่มิ เติม เพื่อศึกษาเร่อื งการ
สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงนักเรียนต้องการศกึ ษาในเร่อื งใด และจะออกแบบการทดลองอย่างไร
2. ให้นกั เรยี นนำเสนอผลการอภิปรายหน้าช้นั เรียน
ขั้นประเมนิ
ทดสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยการใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั
เฉลยคำตอบ
6. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
1. สือ่ สง่ิ พมิ พ์ และเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ทางอนิ เทอร์เน็ตท่ีเกยี่ วขอ้ ง
2. อุปกรณก์ ารทดลองของแตล่ ะกจิ กรรมในการจัดการเรียนรแู้ ต่ละครั้ง
3. ใบงาน เรอื่ ง แกส๊ ท่เี กดิ จากกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง
4. ใบความรู้ เรือ่ ง การสร้างอาหารของพชื
5. ห้องสมดุ
32
7. การวัดและประเมนิ ผล
ส่งิ ทีต่ อ้ งการประเมิน วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑก์ ารผ่าน
ในการวัดผล การประเมนิ ผล
ความรู้ การตรวจผลงาน แบบประเมินการตรวจ ได้คะแนนเฉลี่ย ร้อยละ
อธบิ ายผลทีไ่ ดจ้ ากการ ผลงาน 60 ขึ้นไป
สงั เคราะหด์ ้วยแสงของ - การนำเสนอผลงาน
พชื ได้ - สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ การ ไดค้ ะแนนเฉล่ีย ร้อยละ
ทกั ษะ ทำงานกลุ่ม นำเสนอผลงาน 60 ข้ึนไป
กระบวนการสบื เสาะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
หาความรู้ สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานกลุ่ม
รายบคุ คล
คุณลักษณะอนั พงึ แบบประเมินพฤตกิ รรม ไดค้ ะแนนเฉลยี่ 2 (ด)ี
ประสงค์
ความสนใจใฝร่ ู้ ความ รายบุคคล ขึ้นไป
มงุ่ มน่ั อดทน
8. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 33
8.1 ผลการจดั การเรียนรู้
ผ้เู รยี นที่ผา่ นตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ จำนวน...............คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................
ผเู้ รียนท่ไี มผ่ ่านตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ.................
เลขท่ีของนักเรียนที่สอบไมผ่ า่ นตัวชี้วดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุทไ่ี ม่ผ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ญั หา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผูเ้ รยี นท่ีมีความสามารถพเิ ศษ ได้แก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/ส่งเสรมิ ..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รียนได้รับความรู้ (K) ในเร่ือง ............................................................................................................
ผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการ (P) ในเรื่อง............................................................................................
ผ้เู รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม (A) ในเรือ่ ง.................................................................................
8.2 ปญั หาอปุ สรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................ครูผู้สอน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยเุ หล็ก)
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
34
9. ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ......................................หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
(นางสาวพัสราภรณ์ พลู แจง้ )
วันท่ี............เดือน..........................พ.ศ. ................
รับทราบผลการจัดการเรียนรู้
ลงช่อื ....................................................... ลงช่ือ......................................................
(...................................................) (นายวริ ชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา
วนั ที.่ ...........เดอื น..........................พ.ศ. ........... วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ..........
35
ใบงาน
เรื่อง แก๊สท่เี กดิ จากการสงั เคราะห์ด้วยแสง
จดุ ประสงค์
ทำการทดลองเพื่อตรวจสอบไดว้ ่าแกส๊ ท่เี กดิ จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงคอื แก๊ส
ออกซิเจน
อปุ กรณ์ 10 ช่อ
1. สาหรา่ ยหางกระรอก 1 ใบ
2. อ่างแกว้ หรือบกี เกอรข์ นาด 2 ลิตร 1 หลอด
3. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 อัน
4. กรวยแกว้ 1 ดอก
5. ธปู 1 กลัก
6. ไม้ขดี ไฟ 4,000 cm3
7. นำ้
วธิ กี ารทดลอง
1. ใส่สาหร่ายหางกระรอกไวใ้ นกรวยแกว้ ก้านส้ัน แลว้ ควำ่ ลงในอ่างแกว้ หรือบีกเกอร์ขนาด
2 ลติ ร ซง่ึ มนี ้ำอยดู่ ว้ ยโดยให้ปลายของก้านกรวยแกว้ จมอยู่ในนำ้
2. ใส่นำ้ จนเตม็ หลอดทดลองที่มขี นาดใหญ่กวา่ กา้ นกรวยแก้วเล็กน้อย คว่ำหลอดทดลอง
ครอบอบกา้ นกรวยแก้ว ระวังอย่าให้มฟี องอากาศเกนิ ข้นึ ในหลอดทดลองนำอ่างน้ไี ปตง้ั ไวก้ ลางแดดประมาณ
3-4 ชว่ั โมง สงั เกตและบันทึกผลการเปลีย่ นแปลงท่ีเกิดขึน้ ในหลอดทดลอง
3. คอ่ ยๆ ยกหลอดทดลองให้สงู ขน้ึ เหนือกรวยแก้ว แต่ปากหลอดทดลองยงั อย่ใู ตร้ ะดบั น้ำ
ใช้นว้ิ อุดปากหลอดทดลองไว้ แล้วยกหลอดทดลองให้ขนึ้ ขณะเดยี วกันรีบแหยเ่ ศษไมห้ รือธูปติดไฟแดง ๆ ลงไป
ในหลอดทดลองสังเกตการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึน
36
แบบบนั ทึกใบงาน
เรอื่ ง แก๊สที่เกิดจากการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
กลมุ่ ท่ี.........................สมาชิก 1............................................... 2.............................................
3............................................... 4.............................................
5............................................... 6.............................................
บันทึกผลการทดลอง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
คำถามหลงั การทดลอง
1. นกั เรียนจะอธบิ ายผลการทดลองท่เี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ย่างไร
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
สรปุ ผลการทดลอง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
37
เฉลยแบบบนั ใบงาน
เรอ่ื ง แก๊สทเี่ กดิ จากการสังเคราะห์ด้วยแสง
กล่มุ ท.ี่ ........................สมาชิก 1............................................... 2.............................................
3............................................... 4.............................................
5............................................... 6.............................................
บันทึกผลการทดลอง
เมอ่ื สาหร่ายหางกระรอกใสน่ ำ้ จนเตม็ หลอดทดลองท่มี ขี นาดใหญ่กวา่ ก้านกรวยแกว้ เลก็ นอ้ ย
คว่ำหลอดทดลองครอบอบก้านกรวยแกว้ นำอา่ งนไ้ี ปตัง้ ไวก้ ลางแดดประมาณ 3-4 ชวั่ โมง จะมแี ก๊สเกดิ ขึ้น
แกส๊ จะเขา้ ไปแทนที่นำในหลอดทดลอง
เม่อื แหยเ่ ศษไมห้ รอื ธปู ติดไฟแดง ๆ ลงไปในหลอดทดลอง เศษไมจ้ ะจะเกดิ ไฟลกุ ไหม้
คำถามหลังการทดลอง
1. นกั เรยี นจะอธบิ ายผลการทดลองท่เี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร
สาหรา่ ยหางกระรอกสงั เคราะห์ด้วยแสงให้แกส๊ ซ่ึงทำให้ไฟตดิ
สรุปผลการทดลอง
แกส๊ ท่ีไดจ้ ากการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงคือแก๊สออกซเิ จน
38
ใบความรู้
เรื่อง การสรา้ งอาหารของพชื
กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื เป็นปฏิกริ ยิ าเคมีท่ีซบั ซ้อน โดยสามารถเขียนสมการเคมีแสดง
การเกิดกระบวนการได้ดงั น้ี
จากสมการจะเหน็ ไดว้ า่ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชนัน้ มีวตั ถุดบิ และสิง่ ที่พืชจำเปน็ ต้องใช้
ดังน้ี
1. แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) เป็นแก๊สทเี่ กดิ ข้นึ จากการหายใจของพชื และส่งิ มชี วี ติ
ตา่ งๆ เกิดจากการเผาไหม้ของสาร และการย่อยสลายของสิง่ มชี วี ิตและสงิ่ ไมม่ ชี วี ติ ซึง่ ในอากาศมแี กส๊
คาร์บอนไดออกไซดป์ ระมาณ 0.03-0.04 เปอร์เซน็ ต์ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ วัตถุดิบท่ีใช้ในการสร้าง
อาหารของพืช โดยเปน็ แก๊สท่ใี ห้ธาตุคาร์บอนแก่พืชเพอื่ นำไปใช้การสร้างแปง้ และน้ำตาล (สารอาหารประเภท
คารโ์ บไฮเดรต)
2. น้ำ (H2O) เป็นวัตถดุ บิ ทพ่ี ืชดูดซึมมาจากดนิ โดยอาศยั หลกั การแพรข่ องน้ำจากรากเขา้ สู่ท่อ
ลำเลยี งน้ำของพชื ไปยังใบ นำ้ เปน็ สารทใ่ี ห้ธาตุไฮโดรเจนแกพ่ ชื เม่อื ธาตไุ ฮโดรเจนรวมกบั แกส๊
คารบ์ อนไดออกไซด์จะไดเ้ ป็นสารประกอบคารโ์ บไฮเดรต
3. แสงสว่าง (light) เป็นพลงั งานท่มี ีบทบาทสำคัญตอ่ กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื โดย
พลังงานแสงทำใหเ้ กิดปฏกิ ริ ิยาเคมีระหว่างแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์และน้ำซงึ่ เป็นวตั ถดุ ิบ สำคญั ในการสร้าง
น้ำตาลกลโู คสและแกส๊ ออกซเิ จน พชื แต่ละชนดิ ต้องการแสงเพ่ือใช้ในการสรา้ งอาหารไมเ่ ทา่ กนั พชื บางชนดิ
ตอ้ งการแสงในปรมิ าณมาก เชน่ ทานตะวัน เฟื่องฟา้ ข้าว เปน็ ต้น แตพ่ ชื บางชนิดตอ้ งการแสงในปริมาณนอ้ ย
เชน่ พลดู ่าง เป็นต้น
4. คลอโรฟลิ ล์ (chlorophyll) เปน็ สารประกอบพวกรงควัตถุท่ที ำหนา้ ท่ีดดู กลนื พลงั งานแสงสี
ตา่ งๆ จากแสงแดด (ยกเวน้ แสงสีเขียวและสีเหลอื ง) คลอโรฟิลล์เป็นโปรตนี ชนดิ หนง่ึ ทมี่ ีธาตแุ มกนีเซยี ม ธาตุ
เหลก็ และธาตแุ มงกานีสเปน็ องคป์ ระกอบอยภู่ ายในโมเลกลุ พบได้ในพชื และสาหร่ายทุกชนิด ซ่ึงในพืชและ
สาหรา่ ยแต่ละชนิดนั้นประกอบด้วยคลอโรฟลิ ล์หลายชนดิ ท่ีแตกต่างกนั ออกไปดงั น้ี
39
- คลอโรฟิลล์เอ เปน็ คลอโรฟลิ ล์ท่ีมีสีเขยี วแกมน้ำเงิน มสี มบัตทิ างเคมีคือ ไมล่ ะลายในนำ้ แตส่ ามารถ
ละลายไดใ้ นตวั ทำละลายอนิ ทรีย์ เช่น เอทิลแอลกอฮอล์ เอทิลอเี ทอร์ อะซโี ตน คลอโรฟอรม์ เปน็ ต้น
คลอโรฟลิ ล์เอพบในพชื สเี ขียวหรือพืชท่ีมีกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงทกุ ชนิด
- คลอโรฟลิ ล์บี เป็นคลอโรฟิลล์ทมี่ ีสเี ขียวแกมเหลือง มสี มบัติทางเคมีคอื ไมล่ ะลายน้ำ แต่สามารถ
ละลายไดใ้ นตัวทำละลายอินทรีย์ เชน่ เอทิลแอลกอฮอล์ เอทิลอเี ทอร์ อะซีโตน เปน็ ต้น พบในพืชชน้ั สูงและ
สาหรา่ ยสีเขียว (green algae)
- คลอโรฟลิ ล์ซี เปน็ คลอโรฟลิ ล์ทีพ่ บในสาหรา่ ยสีน้ำตาล (brown algae) และสาหร่ายสีทอง
(golden algae)
- คลอโรฟลิ ล์ดี เป็นคลอโรฟิลลท์ ีพ่ บในสาหร่ายสีแดง (red algae)
พชื ตอ้ งการนำ้ แสงสว่าง และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์
มาใชใ้ นกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
ผลผลิตทไ่ี ด้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
เมื่อพชื เกดิ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง ซง่ึ เป็นกระบวนการทีเ่ ปล่ยี นรูปพลังงานแสงให้
เปน็ พลงั งานเคมี โดยมีการสะสมพลงั งานเคมอี ยใู่ นผลิตภัณฑ์คือ น้ำตาลกลูโคสและแก๊สออกซิเจน ดงั น้ี
1. นำ้ ตาลกลูโคส นำ้ ตาลกลโู คสทส่ี ังเคราะหไ์ ด้นบี้ างสว่ นถกู นำไปใชใ้ นกระบวนการหายใจของพชื
เพ่ือเปล่ยี นเปน็ พลังงานต่อไป น้ำตาลบางสว่ นถกู เปลี่ยนไปเปน็ แป้งทันทแี ละพชื จะเก็บสะสมไวท้ ีใ่ บ ราก และ
ลำต้น และนำ้ ตาลบางส่วนถูกนำไปใช้ในการสรา้ งเซลลโู ลสซึ่งเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ของพชื
นอกจากน้ีน้ำตาลบางส่วนจะรวมกับแรธ่ าตใุ นเซลลพ์ ืชแลว้ เปลย่ี นไปเป็นสารอนื่ ได้อีก เชน่ โปรตนี ไขมัน
นำ้ มนั ในเมลด็ พชื เปน็ ต้น
40
2. แกส๊ ออกซิเจน แก๊สออกซิเจนถูกนำไปใช้ในกระบวนการหายใจของพืช ซง่ึ เมอ่ื แก๊สออกซิเจนรวม
กบั อาหารจะเปล่ียนเป็นพลงั งานให้แกเ่ ซลลพ์ ชื เพ่ือนำไปใช้ในการดำเนนิ ใบงานต่าง ๆ ภายในเซลล์ ส่วนแกส๊
ออกซเิ จนท่มี ากเกินความต้องการของพชื พชื ก็จะคายออกมาทางปากใบ
นำ้ และแกส๊ ออกซิเจนที่ได้จากกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
ของพืชจะถกู คายออกมาทางปากใบ
ภาพแสดง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงและการหายใจของพชื
41
ความสำคัญของกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืชที่มตี ่อสง่ิ มีชวี ิตและส่ิงแวดล้อม
1. เปน็ แหลง่ อาหารและแหล่งพลงั งานท่ีสำคัญของสงิ่ มชี ีวิตทกุ ชนิด เน่ืองจากพืชสีเขียว
ไดด้ ูดนำ้ รบั แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ และดูดพลังงานแสงจากดวงอาทติ ย์ไปสรา้ งอาหารพวกน้ำตาล และ
สารอาหารนส้ี ามารถเปลี่ยนแปลงไปเปน็ สารอาหารอน่ื ๆ ได้ เช่น แปง้ โปรตนี ไขมนั ซงึ่ ส่งิ มชี ีวติ ไดน้ ำไปใช้
ประโยชน์ในกระบวนการต่าง ๆ ของส่ิงมีชวี ิตจงึ ถือว่าสารอาหารเหลา่ น้ีเป็นแหลง่ พลังงานที่สำคญั ของ
สิ่งมชี ีวิตทกุ ชนดิ
2. เป็นแหล่งผลิตแก๊สออกซเิ จนที่สำคัญของระบบนเิ วศ โดยแก๊สออกซเิ จนเปน็ ผลท่เี กดิ จาก
กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ซึ่งแกส๊ ออกซเิ จนเป็นแก๊สทสี่ ิ่งมีชวี ิตทุกชนิดต้องนำไปใช้ในการเผา
ผลาญอาหาร เพื่อสรา้ งพลงั งานหรอื ใช้ในกระบวนการหายใจนน่ั เอง
3. ช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ เพราะพชื ต้องใชแ้ ก๊สน้ีเป็นวตั ถดุ บิ
ในการสงั เคราะห์ด้วยแสง โดยปกติแก๊สชนดิ นเี้ ป็นแก๊สท่ไี มม่ ีสไี มม่ กี ลิน่ มีอยูใ่ นบรรยากาศประมาณ 0.03 %
เทา่ น้ัน แตเ่ น่ืองจากในปัจจบุ นั การเผาไหมเ้ ช้ือเพลิงเพือ่ การอุตสาหกรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์
มมี ากขึ้น จงึ ทำให้มีแก๊สชนดิ น้เี พมิ่ มากข้ึนดว้ ย สัดส่วนของอากาศท่ีหายใจจึงเสยี ไปทำใหไ้ ดร้ ับแก๊สออกซเิ จน
นอ้ ยลงจึงเกิดการอ่อนเพลยี และแก๊สชนดิ นย้ี ังทำใหโ้ ลกของเรามีอณุ หภมู ิสูงขน้ึ เรื่อยๆเรยี กว่าปรากฏการณ์
เรือนกระจก
42
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
เรอ่ื ง การสร้างอาหารของพืช
คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ที่สดุ เพยี งคำตอบเดยี ว
1. ข้อใด ไมใ่ ช่ ปัจจยั ทีส่ ำคญั ในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง
ก. นำ้
ข. แสง
ค. ออกซิเจน
ง. คาร์บอนไดออกไซด์
2. ในกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื สิ่งแรกที่ได้คอื อะไร
ก. น้ำ
ข. แปง้
ค. นำ้ ตาล
ง. แกส๊ ออกซเิ จน
3. ผลติ ภัณฑ์ทไ่ี ด้จากกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง คือข้อใด
ก. นำ้ ตาล แปง้ น้ำ
ข. น้ำตาล แกส๊ ออกซิเจน น้ำ
ค. แป้ง น้ำตาล คลอโรฟิลล์ น้ำ
ง. น้ำตาล แก๊สออกซเิ จน คลอโรฟลิ ล์
4. กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงมีความสัมพนั ธ์กบั ข้อใดมากท่ีสุด
ก. ปริมาณแร่ธาตุอาหารที่จำเปน็ ในพนื้ ดิน
ข. ปรมิ าณอาหารทีจ่ ำเป็นต่อสิง่ มีชวี ิตทุกชนดิ
ค. จำนวนพืชและสตั ว์ท่ีอาศัยอยู่ในบรเิ วณต่าง ๆ
ง. การหมุนเวยี นของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และออกซิเจน
5. “ในบรรยากาศทีม่ แี ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์นอ้ ยหรือไม่มเี ลยจะมผี ลต่อการเจริญเติบโตของพืช”
นกั เรียนเหน็ ดว้ ยหรือไมก่ ับคำกล่าวข้างต้น
ก. เหน็ ดว้ ย เพราะพชื ใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซดส์ ำหรับการหายใจ
ข. เหน็ ด้วย เพราะแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ ปัจจัยสำคญั สำหรับการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
ของพืช
ค. ไม่เหน็ ด้วยเพราะพชื ตอ้ งการแกส๊ ออกซเิ จนชว่ ยในการเจรญิ เติบโตของพชื
ง. ไม่เห็นด้วย เพราะการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ไมจ่ ำเป็นตอ้ งใชแ้ ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
43
6. การสงั เคราะห์ด้วยแสงหมายถึง
ก. กระบวนการสร้างอาหารของพชื
ข. กระบวนการคายความร้อนของพืช
ค. กระบวนการเปลยี่ นพลังงานความรอ้ น
ง. กระบวนการเปลยี่ นพลงั งานจลน์เปน็ พลังงานศกั ย์
7. สว่ นใดของพชื ทส่ี ามารถสังเคราะหด์ ้วยแสงได้
ก. ราก
ข. ใบ
ค. ลำต้น
ง. หวั
8. เซลล์ของพืชบริเวณใดมีคลอโรพลาสตม์ ากทีส่ ดุ และบรเิ วณใดไมพ่ บคลอโรพลาสตเ์ ลย
ก. ใบ ลำต้น
ข. ลำต้น ราก
ค. ใบ ราก
ง. ลำตน้ ใบ กลูโคส + ( B)
9. (A) + น้ำ + แสง แร่ธาตุ
จากสมการ (A) และ (คBล)อโครือฟอิละลไ์ ร
ก. กลูโคส , ออกซิเจน
ข. คลอโรพลาสต์ , กลูโคส
ค. ออกซิเจน , คาร์บอนไดออกไซด์
ง. คาร์บอนไดออกไซด์ , ออกซเิ จน
10. ข้อใดสรุปเกย่ี วกับการหมนุ เวยี นแก๊สในกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ได้ถูกตอ้ ง
ก. มกี ารคายแก๊สออกซเิ จนเพียงอยา่ งเดียว
ข. มีการคายแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์เพยี งอย่างเดยี ว
ค. มีการดดู แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละคายแก๊สออกซิเจน
ง. มกี ารดูดแกส๊ ออกซิเจนและคายแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์
44
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การดำรงชีวิตของพืช เร่ือง ขนรากกับการลำสารในพืช
กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รหสั วิชา ว 21101 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ 1 ชั้น ม.1 เวลาเรียน 3 ช่วั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผสู้ อน นายดิเรกฤทธิ์ ยเุ หล็ก ตำแหนง่ ครู คศ.1
ใชส้ อนวัน....................... ท่ี............ เดอื น.................................... พ.ศ. .........................
*************************************
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสงิ่ มชี ีวติ หน่วยพ้ืนฐานของสง่ิ มีชวี ติ การลำเลียงสารผา่ นเซลลค์ วามสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องระบบตา่ งๆของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ีทำงานสัมพันธ์กันความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างและ
หน้าที่ของอวัยวะต่างๆของพืชทีท่ ำงานสมั พันธ์กันรวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชว้ี ัด
ว 1.2 ม.1/9 บรรยายลกั ษณะและหนา้ ทีข่ องไซเลม็ และโฟลเอ็ม
ว 1.2 ม.1/10 เขยี นแผนภาพท่ีบรรยายทศิ ทางการลำเลยี งสารในไซเล็มและโฟลเอม็ ของพืช
2. สาระสำคญั
ขนรากทำหนา้ ท่ดี ูดซึมนำ้ และแรธ่ าตุ ขนรากจะอยเู่ หนือปลายรากเลก็ นอ้ ยมีลักษณะเปน็
ขนเล็ก ๆ เปน็ ฝอยจำนวนมาก ทำหนา้ ที่ดูดซมึ น้ำและแร่ธาตุในดิน โดยการแพร่เขา้ สู่รากพชื โดยวธิ ีออสโมซิส
และลำเลียงไปสูส่ ่วนตา่ ง ๆ ของพชื ทางทอ่ ลำเลียงนำ้
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. อธิบายความสำคัญของขนรากทม่ี ตี อ่ การดดู ซมึ นำ้ และแรธ่ าตไุ ด้
2. อธิบายถงึ ส่วนของพืชทีท่ ำหนา้ ทลี่ ำเลยี งน้ำและแร่ธาตุได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ทดลองเกย่ี วกบั การลำเลยี งนำ้ ของพชื
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
สนใจเรยี น
45
4. สาระการเรยี นรู้
การลำเลยี งสารในขนราก
5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (กระบวนการสบื เสาะหาความร้)ู
ชัว่ โมงที่ 1
ขนั้ สร้างความสนใจ
1. ครนู ำต้นผักบ้งุ ท่ีมีรากอยดู่ ว้ ย มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ถามนักเรยี นวา่ ตน้ ผกั บุ้งใช้
ส่วนใดในการลำเลยี งน้ำและอาหารไปเลยี้ งสว่ นต่าง ๆ ทท่ี ำใหต้ ้นผกั บุ้งเจริญเตบิ โต เพอื่ เช่อื มโยงไปสกู่ าร
เรียนรเู้ รอื่ งขนราก
2. ครนู ำรากแก้ว รากแขนง และขนราก มาให้นักเรยี นดู แล้วร่วมกนั อภิปรายถึงลกั ษณะและ
หน้าทขี่ องส่วนตา่ ง ๆ ดังกลา่ ว
ขนั้ สำรวจและค้นหา
1. นกั เรยี นแบง่ เป็นกลุม่ กล่มุ ละ 4 คน โดยคละเพศและความสามารถ ครแู จง้ ให้นักเรียนทราบ
ว่าผลงานของแตล่ ะคน คือ ผลงานของกล่มุ โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนมหี มายเลขประจำตวั เชน่ คนที่ 1
หมายเลข 1 คนที่ 2 หมายเลข 2 คนที่ 3 หมายเลข 3 และคนที่ 4 หมายเลข 4
หมายเลข 1 อา่ นใบงานใบความรู้
หมายเลข 2 ตรวจอปุ กรณ์ วิเคราะหข์ ้อมูล
หมายเลข 3 ทำการทดลอง ทำใบงาน
หมายเลข 4 บนั ทกึ ผลการทดลอง ตอบคำถาม
2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาใบงานท่ี 9 เร่ืองขนราก
- ใบงานเรื่องขนรากครคู วรมอบหมายลว่ งหน้าให้แต่ละกลุ่มนำเอาเมลด็ ถ่ัวดำ แช่น้ำไว้ 1 คืน
ก่อนการทดลอง
3. แต่ละกลมุ่ ปฏิบัตใิ บงาน พร้อมทงั้ สงั เกตผลทีเ่ กดิ ขึ้น เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และบนั ทกึ ผลการ
ทดลอง แลว้ ชว่ ยกนั เขียนรายงานการทดลอง
ช่วั โมงที่ 2
ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป
1. แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการทดลองหน้าชน้ั เรียน
2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละอภิปรายผลการทดลอง โดยใช้คำถามดังน้ี
- นกั เรยี นพบขนรากบรเิ วณใด
- ขนรากที่นักเรียนพบมลี ักษณะอยา่ งไร
46
- นกั เรียนคิดว่าลกั ษณะดังกลา่ วเป็นผลดตี ่อพชื อย่างไร
- การทขี่ นรากมีจำนวนมากมาย มีประโยชน์ต่อพชื อย่างไร
- จากการทดลองโดยใชแ้ ว่นขยายสอ่ งดทู ร่ี ากของเมลด็ ถ่ัวดำ จะเหน็ ขนรากมีลักษณะเปน็
ขนเสน้ เลก็ ๆ จำนวนมากมายอยู่รอบ ๆ เหนอื ปลายรากเลก็ นอ้ ย สว่ นท่ีเหน็ นีเ้ ป็นสว่ นสำคญั ของพชื ทใ่ี ช้ใน
การดดู นำ้ และแรธ่ าตุ
3. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปสาระสำคญั เกีย่ วกับรากและขนราก วา่ ขนรากมีลักษณะเปน็
ขนเส้นเล็ก ๆ จำนวนมากมายอยู่รอบ ๆ ปลายราก และการที่ขนรากมจี ำนวนมากน้ี กเ็ พื่อเพิ่มพืน้ ทสี่ ัมผัสกับ
นำ้ และแรธ่ าตไุ ดม้ ากขน้ึ
ชัว่ โมงที่ 3
ขั้นขยายความรู้
ใหน้ กั เรียนนำพืชชนดิ ตา่ ง ๆ มาดูลักษณะของขนรากว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร
ข้นั ประเมนิ
ให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั
6. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
1. ส่อื ส่ิงพมิ พ์ และเว็บไซต์ต่าง ๆ ทางอนิ เทอร์เน็ตที่เก่ยี วข้อง
2. อุปกรณก์ ารทดลองของแตล่ ะใบงานในการจดั การเรยี นรูแ้ ตล่ ะครง้ั
3. ใบงาน เร่ือง ขนราก
4. ห้องสมดุ
47
7. การวดั และประเมนิ ผล
ส่งิ ที่ตอ้ งการประเมิน วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมอื ท่ีใช้ เกณฑก์ ารผา่ น
ในการวัดผล การประเมนิ ผล
ความรู้
1. อธบิ ายความสำคญั การตรวจผลงาน แบบประเมินการตรวจ ได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ
ผลงาน 60 ขึน้ ไป
ของขนรากท่ีมตี ่อการดดู
ซึมนำ้ และแรธ่ าตไุ ด้
2. อธบิ ายถึงสว่ นของพชื
ทท่ี ำหน้าท่ลี ำเลียงน้ำ
และแรธ่ าตไุ ด้
ทกั ษะ
กระบวนการสบื เสาะ - การนำเสนอผลงาน - แบบประเมินการ ได้คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ
นำเสนอผลงาน 60 ขน้ึ ไป
หาความรู้ - แบบประเมินพฤติกรรม
การทำงานกลมุ่
- สังเกตพฤติกรรมการ
ทำงานกลุ่ม
คณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์
ความสนใจใฝ่รู้ ความ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมินพฤตกิ รรม ได้คะแนนเฉลย่ี 2 (ดี)
มุง่ มั่น อดทน รายบคุ คล รายบคุ คล ขน้ึ ไป
8. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 48
8.1 ผลการจดั การเรยี นรู้
ผู้เรยี นทผี่ ่านตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คดิ เป็นร้อยละ.................
ผู้เรยี นทไี่ มผ่ า่ นตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ จำนวน...............คน คิดเป็นร้อยละ.................
เลขที่ของนักเรยี นทสี่ อบไมผ่ ่านตัวชว้ี ดั ..................................................................................................
............................................................................................................................................................................
สาเหตุที่ไมผ่ ่าน .....................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา..................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผเู้ รยี นท่ีมีความสามารถพเิ ศษ ไดแ้ ก่ ....................................................................................................
............................................................................................................................................................................
แนวทางการพัฒนา/ส่งเสริม..................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ผู้เรียนได้รบั ความรู้ (K) ในเรอ่ื ง ............................................................................................................
ผเู้ รยี นเกิดทักษะกระบวนการ (P) ในเร่ือง............................................................................................
ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) ในเรอ่ื ง.................................................................................
8.2 ปัญหาอุปสรรค
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
8.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางแกป้ ญั หา
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.......................................................ครูผู้สอน
(นายดเิ รกฤทธิ์ ยุเหล็ก)
ตำแหนง่ ครู คศ.1
วันท.่ี ...........เดอื น..........................พ.ศ. ................
49
9. ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา/ผูท้ ไี่ ด้รบั มอบหมาย
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ......................................หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
(นางสาวพสั ราภรณ์ พูลแจง้ )
วันที่............เดอื น..........................พ.ศ. ................
รบั ทราบผลการจดั การเรียนรู้
ลงช่อื ....................................................... ลงชื่อ......................................................
(...................................................) (นายวิรชั ต์ จำปาทอง)
ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ฝ่ายบริหารวิชาการ ตำแหนง่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา
วนั ท.ี่ ...........เดือน..........................พ.ศ. ........... วันท.่ี ...........เดือน..........................พ.ศ. ..........
50
ใบงาน
เรื่อง ขนราก
จุดประสงค์
1. อธบิ ายหน้าท่ีของระบบลำเลยี งในพืชได้
อปุ กรณ์
1. เมลด็ ถัว่ ดำทม่ี ีรากยาวประมาณ 2 cm 4 เมล็ด
2. แว่นขยาย 1 อนั
วธิ ีการทดลอง
1. นำเมล็ดถ่ัวดำทแี่ ชน่ ้ำไว้ 1 คนื วางลงบนจานเพาะทีม่ ีสำลี กระดาษชำระ หรือกระดาษ
หนงั สอื พิมพ์อย่างใดอยา่ งหน่ึงรอง รดนำ้ ใหช้ ่มุ ปิดฝาแล้วตงั้ ท้งิ ไว้ 3 วนั
2. เลือกเมล็ดท่ีมรี ากงอกยาวประมาณ 2 เซนตเิ มตร มาประมาณ 3-4 เมลด็ วางบนจานแกว้ ใช้
แวน่ ขยายส่องดลู ักษณะของราก โดยให้ตำแหนง่ ของตาอยูก่ ับทแ่ี ลว้ เลื่อนแว่นขยายขึ้น-ลง จนกระทงั่ เหน็ ภาพ
ชดั เจน วาดรูปแสดงลกั ษณะของขนรากทสี่ งั เกตได้ และบนั ทกึ ผล
หมายเหตุ
1. ในการเพาะเมลด็ ถวั่ ดำ ควรใช้เมลด็ ถัว่ ดำจำนวนหลาย ๆ เมลด็
2. ถา้ ไมใ่ ชเ้ มล็ดถัว่ ดำ นกั เรยี นจะใชเ้ มล็ดข้าวโพดแทนก็ได้ แตต่ ้องใช้เวลาเพาะ 5 วัน
3. การหยบิ เมลด็ ถั่วดำที่กำลงั งอกควรหยิบเบาๆเพราะขนรากบอบบางมาก เมอื่ ถูกสัมผสั จะลู่แนบ
ไปกับรากอันใหญ่ ๆ ทำให้มองเหน็ ลักษณะต่าง ๆ ได้ยาก