The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนบริหารความเสี่ยงกศน.อำเภอนาด้วง2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nichapa001, 2023-02-27 23:20:36

แผนบริหารความเสี่ยงกศน.อำเภอนาด้วง2566

แผนบริหารความเสี่ยงกศน.อำเภอนาด้วง2566

แผนบริหารความเสี่ยง ประจ าปีงบประมาณ 2566 ของ ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย อ าเภอนาด้วง คณะท างานบริหารความเสี่ยง ได้ร่วมกันจัดทท าขึ้นนี้ เพื่อให้ศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง มีระบบการบริหารความเสี่ยง โดยการบริหาร ปัจจัย และควบคุมกิจกรรม ในการด าเนินงานทั้งกระบวนการ เพื่อลดมูลเหตุ และโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย โดยให้ระดับความเสี่ยง และขนาดของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ ประเมินได้ ควบคุมได้และตรวจสอบ ได้อย่างมีระบบ โดยค านึงถึงการบรรลุเป้าหมายตามภารกิจหลักของ ส านักงาน กศน. และเป้าหมายตาม แผนปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ 2566 แผนบริหารความเสี่ยงนี้ จะบรรลุ วัตถุประสงค์ตามความคาดหวังได้ก็ตอเมื่อได้มีการน าแผนบริหารความเสี่ยง นี้ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็น รูปธรรมของสถานศึกษา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนบริหารความเสี่ยงฉบับนี้ จะเป็น ประโยชน์แก่การ ปฏิบัติงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้องงทุกระดับ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางาน ของ ศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง ต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง กุมภาพันธ์ 2566 ค ำน ำ ก


ค ำน ำ หน้ำ สำรบัญ บทที่ 1 บทน ำ 1 ความเป็นมา 1 วิสัยทัศน์ 2 พันธกิจ 2 เป้าประสงคและตัวชี้วัดความส าเร็จ 3 นโยบายและจุดเน้นการด าเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ 2566 4 วัตถุประสงค์ในการบริหารความเสี่ยง 8 นิยามความเสี่ยง 8 บทที่ 2 แนวทำงกำรบริหำรควำมเสี่ยง 9 เหตุผลและความจ าเป็นในการจัดท าระบบบริหารความเสี่ยง 9 บทที่ 3 กำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงและแผนกำรบริหำรควำมเสี่ยง 21 ประเด็นความเสี่ยง 21 ข้อมูล และการสื่อสารด้านการบริหารความเสี่ยง 22 แนวทางในการติดตามและประเมินผล 23 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 24 ภำคผนวก ตารางที่ 1 การระบุ วิเคราะห์ความเสี่ยง ประเมินความเสี่ยง และการจัดล าดับความเสี่ยง ERM 1 ตารางที่ 2 แผนบริหารความเสี่ยง ERM 2 ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดวางและประเมินผลระบบการควบคุมภายใน และการบริหารความเสี่ยง คณะผู้จัดท ำ ข สำรบัญ


หน้า ก. วงจรบริหารความเสี่ยง 18 ข. แผนภูมิแสดงความเชื่อมโยงของแผนยุทธศาสตร์ 19 ค. แนวทางการบริหารความเสี่ยง 20 สำรบัญแผนภูมิรูปภำพ ค


ควำมเป็นมำ การบริหารงานขององค์กรทุกประเภท ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่าง มีวัตถุประสงค์บางประการ เช่น เพื่อคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างผลก าไร เพื่อการให้บริการประชาชน เป็นต้น ไ ม่ว่าจะก าหนด วัตถุประสงค์ไว้เช่นใดก็ตาม การบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้นก็ต้องประสบกับความเสี่ยง (Risk) อยู่เสมอ ซึ่งอาจปรากฏในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปเช่น นโยบายการเงิน ทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีการเมือง ความ เสี่ยงเป็นภาวะคุกคาม ปัญหา อุปสรรค หรือการสูญเสียโอกาส ซึ่งจะมีผลท าให้องค์กรไม่สามารถบรรลุ วัตถุประสงค์ที่ก าหนดไว้หรือก่อให้เกิดผลเสียหายต่อองค์กรทั้งในด้านกลยุทธ์ การปฏิบัติงาน การด าเนินธุรกิจ อย่างต่อเนื่องสม่ าเสมอประเด็นส าคัญในเรื่องเกี่ยวกับความเสี่ยง คือ ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ของ ผลลัพธ์ถึงแม้บางท่านอาจจะให้ค าอธิบายว่า ความเสี่ยงก่อให้เกิดเฉพาะผลที่ติดตามมาทั้งในเชิงบวกหรือเชิง ลบก็ได้ และหากสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างถูกต้องแล้วความเสี่ยงจะก่อให้เกิดโอกาส และน าไปสู่ นวัตกรรมได้ ตัวอย่างเช่น โครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government) ถึงแม้ว่าอาจมีความเสี่ยงเข้ามา เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก แต่หากสามารถควบคุมความเสี่ยงได้แล้วจะช่วยก่อให้เกิดโอกาสในการพัฒนา ประสิทธิภาพในการท างานและการให้บริการประชาชนอย่างมากความเสี่ยงเป็นเรื่องประกอบกันระหว่าง องค์ประกอบอย่างน้อย 2 ส่วน คือโอกาสที่น่าจะเกิดขึ้นของสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ กับผลกระทบที่ตามมา ประโยชน์ที่พึงได้รับจากการที่องค์กรมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจะเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์และ แผนงานช่วยในการบรรลุจุดประสงค์ เข้าใจภัยคุกคามของโครงการ การปฏิบัติงานในองค์กรมีประสิทธิภาพ มากขึ้นท าให้แน่ใจว่าอยู่ในภาวะควบคุมได้สนับสนุนให้มีการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากนั้นท า ให้มีการสื่อสารกันในองค์กรมากขึ้นความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นตามมา ผลโดยรวมจะช่วยให้องค์กรมีชัยชนะต่อคู่แข่ง ถ้าองค์กรนั้นยอมรับระดับความเสี่ยง โดยสรุป ความเสี่ยง(Risk) เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยง บางอย่างเป็นเรื่องที่มีความจ าเป็น ซึ่งวิธีเดียวที่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ คือ การไม่ท าอะไรเลย แต่ก็ หมายความว่า จะไม่สามารถบรรลุผล อะไรได้เช่นกันการบริหารความเสี่ยงเป็นกระบวนการเชิงระบบเพื่อระบุ ประเมินควบคุม และสื่อสารความ เสี่ยงต่าง ๆ ที่มีผลต่อชีวิตทรัพย์สินที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการบริหาร อุปสรรคความไม่แน่นอน และโอกาสที่ จะเกิดอย่างมีประสิทธิผล การบริหารความเสี่ยงองค์กรโดยรวมเป็นการ ผสมผสานของการบริหารความเสี่ยง โดยพิจารณาความเสี่ยงทั้งหมด ให้ครอบคลุมความเสี่ยงทั้งองค์กรให้มี ความคิดมองไปข้างหน้าได้รับการ สนับสนุน และมีส่วนร่วมของผู้บริหาร และบุคลากรในองค์กรนั้นๆ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง ตระหนักและเห็นความส าคัญของ การบริหารความเสี่ยง จึงได้มีการจัดท าระบบบริหารความเสี่ยงของ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา บทที่ 1 บทน ำ 1


ตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง เพื่อบริหารปัจจัย และควบคุมกิจกรรม รวมทั้งกระบวนการด าเนินการต่าง ๆ โดย ลดมูลเหตุของ แต่ละโอกาสที่จะท าใหเกิดความเสียหาย เพื่อให้ระดับของความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตอยูในระดับที่สามารถยอมรับได้ประเมินได้ ควบคุมได้และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ โดยค านึงถึง การบรรลุเป้าหมายตามภารกิจหลัก ของ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง และเป้าหมายตามแผนปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เป็นส าคัญ วิสัยทัศน ประชาชนอ าเภอนาด้วงได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรูตลอดชีวิต อย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่ จ าเป็นและสมรรถนะที่สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถด ารงชีวิตได้อย่างเหมาะสมบนรากฐาน ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พันธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคลองกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดับการศึกษาและ พัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรูของประชาชนกลุ่มเป้าหมายใหเหมาะสมในแต่ละชวงวัย ใหพรอมรับการ เปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการด ารงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ก้าวสู่การเป็นสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต อย่างยั่งยืน 2. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรูสื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบใหมีคุณภาพและมาตรฐานสอดคลองกับรูปแบบการจัดการเรียนรูและ บริบทในปจจุบัน 3. สงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และน าเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่มชองทางและโอกาส การเรียนรูรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและใหบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยใหกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง 4. สงเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ใหเขามามีสวนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรูตลอดชีวิตในรูปแบบ ต่าง ๆใหกับประชาชน 5. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองคกรใหมีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดีบนหลัก ของธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคลองตัวมากยิ่งขึ้น 6. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรใหมีความรูทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และจริยธรรมที่ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใหบริการทางการศึกษาและการเรียนรูที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น 2


เป้ำประสงค 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาส ทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษา ตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพอย่างเทาเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปญหาและความตองการของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หนาที่ความเป็น พลเมืองที่ดีภายใตการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สอดคลองกับหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันน าไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเขมแข็งใหชุมชน เพื่อ พัฒนาไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนทาด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสิ่งแวดลอม 3. ประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรูและแสวงหาความรูด้วยตนเองผ่านแหล่งเรียนรู้ ชองทางการเรียนรูและกิจกรรมการเรียนรูรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์และแยกแยะเหตุผล และน าไปประยุกตใชในชีวิตประจ าวัน รวมถึงการแกปญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สื่อ นวัตกรรม ชองทางการเรียนรูและกระบวนการ เรียนรูในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรูในสถานการณต่าง ๆ เพื่อแกปญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความตองการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลง บริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และสิ่งแวดลอม 5. หน่วยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถน าเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาเพื่อเพิ่มชองทางการเรียนรูและน ามาใชในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรูและโอกาสการ เรียนรูใหกับประชาชน 6. ชุมชนและภาคีเครือขายทุกภาคสวน มีสวนร่วมในการจัด สงเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรูของชุมชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองคกรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตามหลักธรรมาภิบาล 8. บุคลากรกศน. ทุกประเภททุกระดับได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏิบัติงาน และการใหบริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตามสายงานอย่าง มีประสิทธิภาพ 3


นโยบำยและจุดเน้นกำรด ำเนินงำนของกระทรวงศึกษำธิกำร ประจ ำปีงบประมำณ พ.ศ.2566 1. กำรจัดกำรศึกษำเพื่อควำมปลอดภัย 1.1. เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันจากภัยคุกคาม ในชีวิตรูปแบบใหม่ และภัยอื่นๆ โดยมีการด าเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครูและบุคลากรในรูปแบบต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมทั้งด าเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ติคตามประเมินผลการ ด าเนินการและแสวงหาสถานศึกษาที่ด าเนินการได้ดีเยี่ยม (Best Practice) เพื่อปรับปรุง พัฒนาและขยายผล ต่อไป 1.2. เร่งปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการอยู่ในกระบวนการ จัดการเรียนรู้เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กับการใช้สื่อสังคมออนไลนในเชิงบวกและ สร้างสรรค์พร้อมทั้งหาแนวทางวิธีการปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา 1.3. เสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึง ประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 1.4. เร่งพัฒนาบทบาทและภารกิจของหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในทุกหน่วยงานในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการให้ด าเนินการอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ 2. กำรยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ 2.1. ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาน าหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่ส าคัญจ าเป็นส าหรับศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน 2.2. จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ค้นพบพรสวรรค์ ความสนใจ ความถนัดในอาชีพของตนเอง ด้วยการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) ทั้งในห้องเรียน สถานประกอบการ รวมทั้งการ เรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มและห้องดิจิทัลให้ค าปรึกษาแนะน า 2.3. พัฒนาและบูรณาการกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดประเมินผลฐานสมรรถนะสู่การปฏิบัติ ในชั้นเรียน เพื่อสร้างความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างตรรกะความคิดแบบเป็นเหตุ เป็นผลให้นักเรียนไทยสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ 2.4. พัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ส าหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย เพื่อรองรับ การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัสในโลกยุคใหม่ 2.5. พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรมให้มีความ ทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นและการ เสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 2.6. จัดการเรียนรู้ตามความสนใจรายบุคคลของผู้เรียนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลายและ แพลตฟอร์มการเรียนรู้อัจฉริยะที่รวบรวมช้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้สื่อการสอนคุณภาพสูง รวมทั้งมีการประเมินและพัฒนาผู้เรียน 2.7. ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน โดยบูรณาการการท างานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน สหกรณ์ ฯลฯ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ โครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ 4


และการเผยแพร่สื่อแอนิเมชันรอบรู้เรื่องเงิน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเชิงพาณิชย์เพื่อให้เกิดผลตอบแทน ที่สูงขึ้น 2.8. ปรับโฉมศูนย์วิทยาศาสตร์และศูนย์การเรียนรู้ ให้มีรูปลักษณ์ที่หันสมัย สวยงาม ร่มรื่น จูงใจให้ เข้าไปใช้บริการ โดยมีมุมค้นหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มุมจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ของ ผู้เรียนหรือกลุ่มผู้เรียน และการร่วมกิจกรรมกับครอบครัว หรือจัดเป็นฐานการเรียนรู้ด้านต่างๆ ที่ผู้เรียนและ ประชาชนสามารถมาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม และได้รับเอกสารรับรองการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อน าไปใช้ ประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ได้ รวมทั้งมีบริเวณพักผ่อนที่มีบริการ ลักษณะบ้านสวนกาแฟเพื่อการเรียนรู้ เป็นต้น 2.9. ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้มีการน าผลการทตสอบทางการศึกษาแห่งชาติไปใช้ในการวาง แผนการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน 2.10. พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน 3. กำรสร้ำงโอกำส ควำมเสมอภำค และควำมเท่ำเทียมทำงกำรศึกษำทุกช่วงวัย 3.1. พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการส่งต่อไปยัง สถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะระดับการศึกษาภาคบังคับ เพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็กออกลางคัน 3.2. ส่งเสริมสนับสนุนให้เต็กปฐมวัยที่มีอายุตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อรับการพัฒนาอย่างรอบด้าน มีคุณภาพ ตามศักยภาพ ตามวัยและต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการ ร่วมงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.3. พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งกลุ่ม NEETs ในการเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ อย่างเท่าเทียม 3.4. พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว (Home School)และการ เรียนรู้ที่บ้านเป็นหลัก (Home-based Learning) 4. กำรศึกษำเพื่อพัฒนำทักษะอำชีพและเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน 4.1. พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น แบบโมดูล (Modular System) มีการบูรณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการอาชีวศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบและระบบทวิภาคี รวมทั้งการจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วยการ เรียนรู้(Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้นเพื่อการมีงานท า 4.2. ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนาก าลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับสมรรถนะก าลังคน ตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการผลิตก าลังคนที่ตอบโจทย์ การพัฒนาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่ สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างซ่องทางอาชีพในรูปแบบ หลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานที่เกี่ยวซ้อง 5


4.4. ส่งเสริมการพัฒนาแบบทตสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตามสมรรถนะ ที่จ าเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการน าผลการทคสอบไปใช้คัดเลือกเข้าท างาน ศึกษาต่อ ขอรับประกาศนียบัตร มาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy)การขอรับวุฒิบัตรสมรรถนะภาษาอังกฤษ (English competengy) 4.5.จัดตั้งศูนย์ให้ค าปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ (ศูนย์ Start up) ภายใต้ศูนย์ พัฒนาอาชีพและการเป็น ผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการ ด้านอาชีพทั้งผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเชื่อมโยงกับ กคน. และสถานประกอบการทั้งภาครัฐ และเอกชนที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ 4.6. เพิ่มบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและก าลังแรงงานในภาลเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Famer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ที่ สามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ใด้ 4.7. ส่งเสริม และสนับสนุนการผลิตและพัฒนาก าลังคนทุกช่วงวัยเพื่อการมีงานท า โดยบูรณาการ ความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันสังคมอื่น 4.8. พัฒนาหลักสูตรอาชีพส าหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชนที่สอดคล้อง มาตรฐานอาชีพ เพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะและได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมทั้ง สามารถน าผลการเรียนรู้และมวลประสบการณ์เทียบโอนเข้าสู่การสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ได้ 5. กำรสงเสริมสนับสนุนวิชำชีพครู บุคลำกรทำงกำรศึกษำและบุคลำกรสังกัดกระทรวงศึกษำธิกำร 5.1. ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ Performnance Appraisal (PAI) โดยใช้ระบบการประเมินต าแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรหางการศึกษา ระบบ Digital Performance Appraisal (DPA) 5.2. เสริมสนับสนุนการด าเนินการ พัฒนาสมรรถะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลตามกรอบระดับสมรรถนะ ดิจิทัล (Digital Competency) ส าหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับกรศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับ อาชีวศึกษา 5.3. พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีและ นวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ( รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบอาชีพและ การด าเนินชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล 5.4. พัฒนาขีดความสามารถของข้าราชการพลเรืนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีสมรรถนะที่ สอดคล้องและเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต 5.5. เร่งรัดการด าเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ควบคู่กับการให้ ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม 6


6. กำรพัฒนำระบบรำชกำรและกำรบริกำรภำครัฐยุคดิจิทัล 6.1. ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ ๔. ด้วยนวัตกรรม และการน าเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นกลไก หลัก ในการด าเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data)การส่งเสริม ความร่วมมือ บูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก 6.2. ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้งานเครือข่ายสื่อสารข้อมูล เชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับระบบราชการ 4.0 สามารถตอบสนอง ความต้องการของประชาชนได้ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกอุปกรณ์และทุกช่องทาง 6.3. ปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยืดหลักความจ าเป็นและ ใช้พื้นที่เป็นฐาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นส าคัญ 6.4. น าเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ต าแหน่งและสายงานต่าง ๆ 6.5. ส่งเสริมสนับสนุนการด าเนินงานของส่วนราชการให้เป็นไปตามกลไกการประเมินคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ 7. กำรขับเคลื่อนกฎหมำยกำรศึกษำและแผนกำรศึกษำแห่งชำติ เร่งรัดการด าเนินการจัดท ากฎหมายล าดับรองและแผนการศึกษาแห่งชาติเพื่อรองรับพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติควบคู่กับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง แนวทำงกำรขับเคลื่อนนโยบำยสู่กำรปฏิบัติ 1. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ น านโยบายและจุดเน้นของ กระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ข้างต้น เป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษาโดย ด าเนินการจัดท าแผนและงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566 2. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ ท าหน้าที่ตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดท ารายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทราบตามล าดับ 3. กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นที่หรือข้อขัดช้องในการปฏิบัติงาน ให้ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและด าเนินการ แก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ก่อน โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง พร้อมทั้งรายงานต่อคณะกรรมการ ติดตามฯ ตามข้อ ๒ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามล าดับ 4. ส าหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่(Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพื้นที่ (Area) ซึ่งได้ด าเนินการอยู่ก่อนแล้วหากมีความ สอดคล้องกับหลักการนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัด ก ากับ ติดตามตรวจสอบให้การ ด าเนินการเกิดผลส าเร็จ และมีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม 7


วัตถุประสงค์ในกำรบริหำรควำมเสี่ยง 1. เพื่อให้ผลการด าเนินงานของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ก าหนดไว้ 2. เพื่อให้เกิดความตระหนัก และเข้าใจถึงความเสี่ยงด้านต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในสถานศึกษา และมีวิธี จัดการที่เหมาะสมในการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ 3. เพื่อมีแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้มีระบบในการติดตามตรวจสอบผลการด าเนินงานบริหารความเสี่ยง นิยำมควำมเสี่ยง 1. ความเสี่ยง หมายถึง เหตุการณ์/การกระท าใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และ จะส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหาย (ทั้งที่เป็นตัวเงิน และไม่เป็นตัวเงิน) หรือก่อใหเกิดความล้มเหลว หรือ ลดโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายของแผนงาน/โครงการที่ส าคัญในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ตามที่ระบุ ใน แผนปฏิบัติราชการประจ าปีของสถานศึกษา 2. การบริหารความเสี่ยง หมายถึง กระบวนการที่เป็นระบบในการบริหารปัจจัย และควบคุมกิจกรรม รวมทั้งกระบวนการด าเนินงานต่าง ๆ เพื่อลดมูลเหตุแต่ละโอกาสที่จะท าใหเกิดความเสียหายจากการ ด าเนินการที่ไม่เป็นไปตามแผน เพื่อให้ระดับของความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยูในระดับที่ สามารถรับได้ประเมินได้ควบคุมได้และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ โดยในการด าเนินการบริหารความเสี่ยง นั้นมุ่งเน้นแผนงาน/โครงการที่ส าคัญซึ่งผลส าเร็จ ของ แผนงาน/โครงการมีผลกระทบสูงต่อการบรรลุ ความส าเร็จตามประเด็นยุทธศาสตร์ 3. ปัจจัยเสี่ยง หมายถึง ต้นเหตุหรือสาเหตุที่มาของความเสี่ยงที่จะท าให้ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ที่ก าหนดไว้ 4. การประเมินความเสี่ยง หมายถึง การคาดคะเนหรือค านวณโอกาสที่จะเกิดมูลเหตุที่น าไปสู่ความ เสียหาย เพื่อให้ทราบถึงความส าคัญของความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และใช้ในการพิจารณาก าหนดจุดควบคุม ความเสี่ยงที่มีนัยส าคัญ 5. กิจกรรมควบคุม หมายถึง กระบวนการปฏิบัติที่ทุกคนในองค์กรรวมกันพิจารณาก าหนดขึ้น เพื่อ สร้างความมั่นใจในระดับที่สมเหตุสมผลในการบรรลุวัตถุประสงคของสถานศึกษา 8


เหตุผลและควำมจ ำเป็นในกำรจัดท ำระบบบริหำรควำมเสี่ยง มีดังนี้ 1. เพื่อปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีพ.ศ. 2546 หมวดที่ 3 มาตรา 9 (1) ก าหนดให้ส่วนราชการต้องจัดท าแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า 2. เพื่อปฏิบัติตามค ารับรองการปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ 2566 ระดับความส าเร็จของ การ พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ที่ก าหนดให้ส่วนราชการต้องมีการวิเคราะห์และจัดท าแผน บริหาร ความเสี่ยงเพื่อเตรียมการรองรับสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นแนวทางการด าเนินการบริหาร ความเสี่ยง ส ำนักงำน ก.พ.ร. ได้ก ำหนดแนวทำงในกำรด ำเนินกำรบริหำรควำมเสี่ยงไว้ ดังนี้ ส่วนราชการต้องมีขั้นตอนการด าเนินการหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์ประเมินและจัดการความเสี่ยง อย่าง เหมาะสมตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐาน COSO (Committee of Sponsoring Organization of the Tread Way Commission) คือ 1. การก าหนดเป้าหมายการบริหารความเสี่ยง (Objective Setting) 2. การระบุความเสี่ยงต่างๆ (Event Identification) 3. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) 4. กลยุทธ์ที่ใช้ในการจัดการกับแต่ละความเสี่ยง (Risk Response) 5. กิจกรรมการบริหารความเสี่ยง (Control Activities) 6. ข้อมูลและการสื่อสารด้านบริหารความเสี่ยง (Information and Communication) 7. การติดตามผลและเฝ้าระวังความเสี่ยงต่างๆ (Monitoring) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 กำรก ำหนดเป้ำหมำยกำรบริหำรควำมเสี่ยง (Objective Setting) เป็นการก าหนดวัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการความเสี่ยงและพิจารณาเลือกประเด็น/ แผนงาน/ โครงการที่มีความสอดคล้องกับทุกกลยุทธ์ในประเด็นยุทธศาสตร์และได้รับงบประมาณสูงเป็นอันดับ แรกซึ่ง สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ครบถ้วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการตัดสินใจโดยค านึงถึงปัจจัยเสี่ยง และ ความเสี่ยงในด้านต่างๆที่น่าจะมีผลกระทบกับการด าเนินงานวัตถุประสงค์และนโยบายแล้วพิจารณาหา แนวทางในการป้องกันหรือจัดการกับความเสี่ยงเหล่านั้นก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติงานหรือด าเนินกิจการตามแผนที่ ก าหนดไว้ ขั้นตอนที่ 2 กำรระบุควำมเสี่ยงต่ำงๆ (Event Identification) การวิเคราะห์เพื่อระบุความเสี่ยง ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้ใช้แนวคิด เรื่องธรรมาภิบาล ที่เกี่ยวข้องแต่ละด้านมาเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของแต่ละแผนงาน/ โครงการ โดยควรค านึงถึงปัญหาและอุปสรรคของการ 9 บทที่ 2 แนวทำงกำรบริหำรควำมเสี่ยง


ด าเนินการตามแผนงาน/โครงการซึ่งสัญญาณบ่งชี้อันจะ น าไปสู่ความเสี่ยงที่แผนงาน/โครงการไม่ประสบ ความส าเร็จโดยดูทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกเป็น ส่วนประกอบในการด าเนินการวิเคราะห์ดังกล่าว 1. ปัจจัยภายใน หมายถึงความเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้โดยองค์กรเช่นกฎระเบียบข้อบังคับ ของส่วน ราชการวัฒนธรรมองค์กรนโยบายการบริหารความรู้/ความสามารถของบุคลากรกระบวนการท างาน ข้อมูล/ ระบบสารสนเทศและเครื่องมืออุปกรณ์เป็นต้น 2. ปัจจัยภายนอก หมายถึงความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมการเกิดได้โดยองค์กรเช่นภาวะ เศรษฐกิจ สังคมการเมืองกฎหมายผู้รับบริการเครือข่ายเทคโนโลยีภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ในการวิเคราะห์เพื่อระบุความเสี่ยงต่างๆอาจพิจารณาจากปัจจัยเสี่ยงในหลายด้านเช่น 1. ควำมเสี่ยงด้ำนกลยุทธ์(Strategic Risk : S) เกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายและพันธกิจในภาพรวมโดยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นความเสี่ยงเนื่องจากการ เปลี่ยนแปลงของสถานการณ์เหตุการณ์ภายนอกส่งผลต่อกลยุทธ์ที่ก าหนดไว้ไม่ สอดคล้องกับประเด็น ยุทธศาสตร์วิสัยทัศน์การก าหนดกลยุทธ์ที่ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนการ ร่วมมือกับองค์กรอิสระท า ให้โครงการขาดการยอมรับโครงการไม่ได้น าไปสู่การแก้ไขการตอบสนองต่อความ ต้องการของผู้รับบริการหรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริงหรือเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจ ผิดพลาดหรือน าการตัดสินใจนั้น มาใช้อย่างไม่ถูกต้อง 2. ควำมเสี่ยงด้ำนกำรด ำเนินงำน (Operational Risk : O) เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพประสิทธิผลหรือผลการปฏิบัติงานโดยความเสี่ยงที่อาจ เกิดขึ้นเป็นความเสี่ยง เนื่องจากระบบงานภายในขององค์กรกระบวนการเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ใช้บุคลากร ความเพียงพอของ ข้อมูลส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการด าเนินโครงการ 3. ควำมเสี่ยงด้ำนกำรเงิน (Financial Risk : F) เป็นความเสี่ยงเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณและการเงินเช่นการบริหารการเงินไม่ ถูกต้องไม่ เหมาะสมท าให้ ขาดประสิทธิภาพและไม่ทันต่อสถานการณ์หรือเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ขององค์กรเช่น การ ประมาณการงบประมาณไม่เพียงพอและไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการด าเนินการเป็นต้น 4. ควำมเสี่ยงด้ำนกำรปฏิบัติตำมกฎหมำย/กฎระเบียบ (Compliance Risk : C) เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆโดยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเป็นความ เสี่ยงเนื่องจากความไม่ ชัดเจนความไม่ทันสมัยหรือความไม่ครอบคลุมของกฎหมายกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ รวมทั้งการท านิติกรรม สัญญาการร่างสัญญาที่ไม่ครอบคลุมการด าเนินงานในการวิเคราะห์ความเสี่ยงนั้น นอกจากส่วนราชการจะ พิจารณาปัจจัยเสี่ยงจากด้านต่างๆแล้วจะต้องน าแนวคิดเรื่องธรรมาภิบาลที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละด้านมาเป็น ปัจจัยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงเช่น 4.1 ด้านกลยุทธ์โครงการที่คัดเลือกมานั้นอาจมีความเสี่ยงต่อเรื่องประสิทธิผลและ การมีส่วน ร่วม 4.2 ด้านการด าเนินงานอาจมีความเสี่ยงต่อเรื่องประสิทธิภาพและความโปร่งใส 10


4.3 ด้านการเงินอาจมีความเสี่ยงต่อเรื่องนิติธรรมและภาระรับผิดชอบ 4.4 ด้านกฎหมาย/กฎระเบียบอาจมีความเสี่ยงต่อเรื่องนิติธรรมและความเสมอภาค ทั้งนี้ ความเสี่ยงเรื่องธรรมาภิบาลที่อาจเกิดขึ้นจากการด าเนินแผนงาน/โครงการเพื่อให้เป็นไปตาม หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ได้แก่ 1. ประสิทธิผล (Effectiveness) 2. ประสิทธิภาพ (Efficiency) 3. การมีส่วนร่วม (Participation) 4. ความโปร่งใส (Transparency) 5. การตอบสนอง (Responsiveness) 6. ภาระรับผิดขอบ (Accountability) 7. นิติธรรม (Rule of Law) 8. การกระจายอ านาจ (Decentralization) 9. ความเสมอภาค (Equity) องค์ประกอบตำมหลักธรรมำภิบำล 1. หลักประสิทธิผล ( Effectiveness ) : ผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ แผนการปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณด าเนินการรวมถึงสามารถเทียบเคียงกับกรมอื่นหรือหน่วยงานที่ มีภารกิจคล้ายคลึงกันและมีผลการปฏิบัติงานในระดับชั้นน าของประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน โดยการปฏิบัติราชการจะต้องมีทิศทางยุทธศาสตร์และเป้าประสงค์ที่ชัดเจนมีกระบวนการปฏิบัติงานและ ระบบงานที่เป็นมาตรฐานรวมถึงมีการติดตามประเมินผลและพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ 2. หลักประสิทธิภาพ ( Efficiency ) : การบริหารราชการตามแนวทางการก ากับดูแลที่ดีที่มีการ ออกแบบกระบวนการปฏิบัติงานโดยการใช้เทคนิคและเครื่องมือการบริหารจัดการที่เหมาะสมให้องค์การ สามารถใช้ทรัพยากรทั้งด้านต้นทุนแรงงานและระยะเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาขีดความสามารถ ในการปฏิบัติราชการตามภารกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม 3. หลักการมีส่วนร่วม ( Participation ) : กระบวนการที่ข้าราชการประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกกลุ่มมีโอกาสได้เข้าร่วมในการรับรู้เรียนรู้ท าความเข้าใจร่วมแสดงทักษะร่วมเสนอปัญหา/ประเด็นที่ส าคัญที่ เกี่ยวข้องร่วมคิดแนวทางร่วมการแก้ไขปัญหาร่วมในกระบวนการตัดสินในและร่วมกระบวนการพัฒนาในฐานะ หุ้นส่วนการพัฒนา 4. หลักความโปร่งใส ( Transparency ) : กระบวนการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาชี้แจงได้เมื่อมีข้อ สงสัยและสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันไม่ต้องห้ามตามกฎหมายได้อย่างเสรีโดยประชาชนสามารถรู้ทุก ขั้นตอนในการด าเนินกิจกรรมหรือกระบวนการต่างๆและสามารถตรวจสอบได้ 11


5. หลักการตอบสนอง ( Responsiveness ) : การให้บริการที่สามารถด าเนินการได้ภายในระยะเวลา ที่ก าหนดและสร้างความเชื่อมั่นความไว้วางใจรวมถึงตอบสนองความคาดหวังความต้องการของประชาชน ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความหลากหลายและมีความแตกต่าง 6. หลักภาระรับผิดชอบ ( Accountability ) : การแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และ ผลงานต่อเป้าหมายที่ก าหนดไว้โดยความรับผิดชอบนั้นควรอยู่ในระดับที่สนองต่อความคาดหวังของสาธารณะ รวมทั้งการแสดงถึงความส านึกในการรับผิดชอบต่อปัญหาสาธารณะ 7. หลักนิติธรรม ( Rule of Law ) : การใช้อ านาจของกฎหมายกฎระเบียบข้อบังคับในการบริหาร ราชการด้วยความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติและค านึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 8. หลักการกระจายอ านาจ ( Decentralization ) : การถ่ายโอนอ านาจการตัดสินในทรัพยากรและ ภารกิจจากกรมการศาสนาส่วนกลางให้แก่หน่วยการปกครองอื่น (ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น) และภาค ประชาชนด าเนินการแทนโดยมีอิสระตามสมควรรวมถึงการมอบอ านาจและความรับผิดชอบในการตัดสินใน และการด าเนินการให้แก่บุคลากรโดยมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจในการให้บริการต่อผู้รับบริการและผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียการปรับปรุงกระบวนการและเพิ่มผลิตภาพเพื่อผลการด าเนินงานที่ดีของจังหวัดทั้งนี้การกระจาย อ านาจการตัดสินในที่ดีบุคลากรต้องมีความรู้ความสามารถและข้อมูลสนับสนุนเพื่อให้เกิดการตัดสินในที่ เหมาะสม 9. หลักความเสมอภาค( Equity ) : การได้รับการปฏิบัติและได้รับบริการอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่มี การแบ่งแยกด้านชาย/หญิงถิ่นก าเนิดเชื้อชาติภาษาเพศอายุความพิการสภาพทางกายหรือสุขภาพสถานะของ บุคคลฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมความเชื่อทางศาสนาการศึกษาการฝึกอบรมและอื่นๆ ขั้นตอนที่ 3 กำรประเมินควำมเสี่ยง (Risk Assessment) การประเมินความเสี่ยงเป็นการประเมินระดับโอกาสที่จะเกิดและผลกระทบของความเสี่ยง ต่างๆโดย คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงต้องก าหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐานเพื่อประเมินโอกาสและ ผลกระทบ ของความเสี่ยงและด าเนินการวิเคราะห์และจัดล าดับความเสี่ยงซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 3.1 การก าหนดเกณฑ์การประเมินมาตรฐานเป็นการก าหนดเกณฑ์ที่จะใช้ในการประเมิน ความเสี่ยงได้แก่ระดับโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) ระดับความรุนแรงของผลกระทบ (Impact) และระดับของความเสี่ยง (Degree of Risk) โดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงจะต้องก าหนดเกณฑ์ของ หน่วยงานขึ้นซึ่งสามารถ ก าหนดเกณฑ์ได้ทั้งเกณฑ์ในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูล สภาพแวดล้อมในหน่วยงานและ ดุลยพินิจการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงฯและผู้บริหารของ หน่วยงานโดยเกณฑ์ในเชิงปริมาณจะเหมาะกับหน่วยงานที่มีข้อมูลตัวเลขหรือจ านวนเงินมาใช้ในการวิเคราะห์ อย่างพอเพียงส าหรับ หน่วยงานที่มีข้อมูลเชิงพรรณนาไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขหรือจ านวนเงินที่ชัดเจนได้ ก็ ให้ก าหนดเกณฑ์ในเชิง คุณภาพหรือก าหนดเป็นเกณฑ์เฉพาะในแต่ละประเภทความเสี่ยง ซึ่งคณะกรรมการ บริหารความเสี่ยงฯได้ก าหนดแนวทางการ 12


พิจารณาถึงโอกาสในการเกิดและความรุนแรงของเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดผลกระทบต่อ การด าเนินงานของ องค์กรซึ่งมีเกณฑ์ในการให้คะแนนผลกระทบ เป็นดังนี้ 1) ระดับโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ (Likelihood) ก าหนดเกณฑ์ไว้5 ระดับดังนี้ ระดับโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ (เชิงปริมาณ) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก 1 เดือนต่อครั้งหรือมากกว่า 4 สูง 1-6 เดือนต่อครั้งแต่ไม่เกิน 5 ครั้ง 3 ปานกลาง 1 ปีต่อครั้ง 2 น้อย 2-4 ปีต่อครั้ง 1 น้อยมาก 5 ปีต่อครั้ง ระดับโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ (เชิงคุณภาพ) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก มีโอกาสในการเกิดสูงมาก 4 สูง มีโอกาสในการเกิดค่อนข้างสูงหรือบ่อย ๆ 3 ปานกลาง มีโอกาสเกิดบ้างเป็นบางครั้ง 2 น้อย อาจมีโอกาสเกิดแต่นาน ๆ ครั้ง 1 น้อยมาก แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย 2) ระดับความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยง (Impact) ก าหนดเกณฑ์ไว้5 ระดับดังนี้ 2.1) กรณีเป็นความรุนแรงที่สามารถวัดเป็นตัวเงินได้ ระดับความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยง (เชิงปริมาณ) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก > 1 ล้านบาท 4 สูง > 2.5 แสนบาท – 1 ล้านบาท 3 ปานกลาง > 50,000 – 2.5 แสนบาท 2 น้อย > 10,000 – 50,000 บาท 1 น้อยมาก ไม่เกิน 10,000 บาท 13


2.2) กรณีเป็นความรุ่นแรงที่ไม่สามารถวัดเป็นตัวเงินได้ ระดับความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยง (เชิงคุณภาพ) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก มีการสูญเสียทรัพย์สินอย่างมหันต์มีการบาดเจ็บถึงชีวิต 4 สูง มีการสูญเสียทรัพย์สินมากมีการบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นพักงาน 3 ปานกลาง มีการสูญเสียทรัพย์สินมากมีการบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นหยุดงาน 2 น้อย มีการสูญเสียทรัพย์สินพอสมควรมีการบาดเจ็บรุนแรง 1 น้อยมาก มีการสูญเสียทรัพย์สินเล็กน้อยไม่มีการบาดเจ็บรุนแรง 2.3) กรณีเป็นความรุนแรงที่ส่งผลกระทบด้านกลยุทธ์ ระดับความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยง (ต่อเป้าหมายขององค์กร) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก มีผลกระทบต่อเป้าหมายและชื่อเสียงขององค์กรในระดับสูงมาก 4 สูง มีผลกระทบต่อเป้าหมายและชื่อเสียงขององค์กรในระดับสูง 3 ปานกลาง มีผลกระทบต่อเป้าหมายบางอย่างและชื่อเสียงขององค์กรบ้าง 2 น้อย มีผลกระทบต่อเป้าหมายและชื่อเสียงขององค์กรน้อย 1 น้อยมาก แทบไม่มีมีผลกระทบต่อเป้าหมายและชื่อเสียงขององค์กรเลย 2.4) กรณีเป็นความรุนแรงที่ส่งผลกระทบด้านการด าเนินงาน (ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ) ระดับความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยง (ต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ) ระดับ โอกาสที่จะเกิด ค าอธิบาย 5 สูงมาก เกิดความสูญเสียต่อระบบ IT ที่ส าคัญทั้งหมดและเกิดความ เสียหายอย่าง มากต่อความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ 4 สูง เกิดปัญหากับระบบ IT ที่ส าคัญและระบบความปลอดภัยซึ่ง ส่งผลต่อความ ถูกต้องของข้อมูลบางส่วน 3 ปานกลาง ระบบมีปัญหาและมีความสูญเสียไม่มาก 2 น้อย เกิดเหตุที่แก้ไขได้ 1 น้อยมาก เกิดเหตุที่ไม่มีความส าคัญ 14


2.5) กรณีเป็นความรุนแรงที่ส่งผลกระทบด้านการด าเนินงาน (บุคลากร) ผลกระทบ ค าอธิบาย สูงมาก ถูกเลิกจ้างหรือออกจากงานเนื่องจากเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตผู้อื่นโดยตรง สูง ถูกลงโทษทางวินัยตัดเงินเดือนไม่ได้ขึ้นเงินเดือน ปานกลาง ถูกท าทัณฑ์บนความรุนแรงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อื่นและสร้างบรรยากาศการ ปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสม น้อย สร้างความไม่สะดวกต่อการปฏิบัติงานบ่อยครั้ง น้อยมาก สร้างความไม่สะดวกต่อการปฏิบัติงานนานๆครั้ง 2.6) กรณีเป็นความรุนแรงที่ส่งผลกระทบด้านการด าเนินงาน (กระบวนการ) ผลกระทบ ค าอธิบาย สูงมาก มีผลกระทบต่อกระบวนการและการด าเนินงานรุนแรงมากเช่นหยุดด าเนินการ มากกว่า 1 เดือน สูง มีผลกระทบต่อกระบวนการและการด าเนินงานรุนแรงเช่นหยุดด าเนินการ 1 เดือน ปานกลาง มีการชะงักงันอย่างมีนัยส าคัญของกระบวนการและการด าเนินงาน น้อย มีผลกระทบเล็กน้อยต่อกระบวนการและการด าเนินงาน น้อยมาก ไม่มีการชะงักงันของกระบวนการและการด าเนินงาน 3) ระดับของความเสี่ยง (Degree of Risk) ก าหนดเกณฑ์ไว้4 ระดับได้แก่สูงมาก สูงปานกลาง และต่ า ตารางระดับของความเสี่ยง ((Degree of Risk) 15


3.1 การประเมินโอกาสและผลกระทบของความเสี่ยง เป็นการน าความเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงแต่ละ ปัจจัยที่ระบุไว้มาประเมินโอกาสที่จะเกิด เหตุการณ์ความเสี่ยงต่างๆและประเมินระดับความรุนแรงหรือมูลค่า ความเสียหายจากความเสี่ยงเพื่อให้เห็นถึง ระดับของความเสี่ยงที่แตกต่างกันท าให้สามารถก าหนดการควบคุม ความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานสามารถวางแผนและจัดสรรทรัพยากรได้อย่างถูกต้อง ภายใต้งบประมาณก าลังคนหรือเวลาที่มีจ ากัด โดยอาศัยเกณฑ์มาตรฐานที่ก าหนดไว้ข้างต้นซึ่งมีขั้นตอน ด าเนินการ ดังนี้ 1) พิจารณาโอกาสและความถี่ในการเกิดเหตุการณ์ต่างๆว่ามีโอกาสและความถี่ที่จะ เกิดนั้น มากน้อยเพียงใดตามเกณฑ์มาตรฐานที่ก าหนด 2) พิจารณาความรุนแรงของผลกระทบของความเสี่ยงที่มีผลต่อองค์กรหรือ หน่วยงานว่ามี ระดับความรุนแรงหรือมีความเสียหายเพียงใดตามเกณฑ์มาตรฐานที่ก าหนด 3.2 การวิเคราะห์ระดับความเสี่ยง เมื่อพิจารณาโอกาสและความถี่ที่จะเกิดเหตุการณ์และความรุนแรง ของผลกระทบของแต่ละ ปัจจัยเสี่ยงแล้วให้น าผลที่ได้มาพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างโอกาสที่จะเกิดความ เสี่ยงและผลกระทบของ ความเสี่ยงต่อองค์กรหรือหน่วยงานว่าก่อให้เกิดระดับของความเสี่ยงในระดับใด 3.3 การจัดล าดับความเสี่ยง เมื่อได้ค่าระดับความเสี่ยงแล้วจะน ามาจัดล าดับความรุนแรงของความ เสี่ยงที่มีผลต่อองค์กร เพื่อพิจารณาก าหนดกิจกรรมการควบคุมในแต่ละสาเหตุของความเสี่ยงที่ส าคัญให้ เหมาะสมโดยพิจารณาจาก ระดับของความเสี่ยงที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงและ ผลกระทบของความเสี่ยงที่ ประเมินได้ตามตารางการประเมินความเสี่ยงโดยจัดเรียงตามล าดับจากระดับสูง มากสูงปานกลางต่ าและเลือก ความเสี่ยงที่มีระดับสูงมากและสูงมาจัดท าแผนการบริหารความเสี่ยงในขั้นตอน ต่อไป ในการประเมินความเสี่ยงจะต้องมีการก าหนด แผนภูมิควำมเสี่ยง (Risk Profile) ที่ได้จาก การ พิจารณาจัดระดับความส าคัญของความเสี่ยงจากโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง (Likelihood) และผลกระทบที่ เกิดขึ้น (Impact) และขอบเขตของระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้(Risk Appetite Boundary) โดย ระดับความเสี่ยง = โอกาสในการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ x ความรุนแรงของเหตุการณ์ต่างๆ (Likelihood x Impact) ซึ่งจัดแบ่งเป็น 4 ระดับสามารถแสดงเป็น Risk Profile แบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน (4 Quadrant) ซึ่งใช้ เกณฑ์ในการจัดแบ่งดังนี้ (1) ระดับความเสี่ยงต่ า (Low) คะแนนระดับความเสี่ยง 1 – 4 คะแนนยอมรับความเสี่ยง ก าหนดเป็น สีเขียว ( ) (2) ระดับความเสี่ยงปานกลาง (Medium) คะแนนระดับความเสี่ยง 5 – 9 คะแนนยอมรับ ความเสี่ยง แต่มีแผนควบคุมความเสี่ยงก าหนดเป็นสีเหลือง ( ) 16


(3) ระดับความเสี่ยงสูง (High) คะแนนระดับความเสี่ยง 10 – 15 คะแนนมีแผนลด ความเสี่ยง ก าหนดเป็นสีส้ม ( ) (4) ระดับความเสี่ยงสูงมาก (Extreme) คะแนนระดับความเสี่ยง 16 – 25 คะแนนมีแผนลด และ ประเมินซ้ าหรือถ่ายโอนความเสี่ยงก าหนดเป็นสีแดง ( ) ขั้นตอนที่ 4 แนวทำงกำรตอบสนองควำมเสี่ยง การก าหนดแนวทางการตอบสนองความเสี่ยงมุ่งเน้นให้องค์กรสามารถบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับ ที่ยอมรับได้โดยการก าหนดแนวทางการตอบสนองความเสี่ยงสามารถท าได้หลายวิธีและสามารถปรับเปลี่ยนให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบแต่อย่างไรก็ตามแนวทางการบริหารจัดการความ เสี่ยงต้องคุ้มค่ากับการลดระดับผลกระทบความเสี่ยงทางเลือกหรือกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงแบ่งได้4 แนวทางหลักคือ 4.1 การยอมรับ (Take, Accept) หมายถึงการที่ความเสี่ยงนั้นสามารถยอมรับได้ภายใต้การ ควบคุมที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งไม่ต้องด าเนินการใดๆเช่นกรณีที่มีความเสี่ยงในระดับไม่รุนแรงและไม่คุ้มค่าที่จะ ด าเนินการใดๆให้ขออนุมัติหลักการรับความเสี่ยงไว้และไม่ด าเนินการใดๆ 4.2 การลด/ควบคุม (Reduction) หมายถึงเป็นการปรับปรุงระบบการท างาน หรือ การ ออกแบบวิธีการท างานใหม่เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดหรือลดผลกระทบให้อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ 4.3 การยกเลิก (Terminate) หรือหลีกเลี่ยง (Avoid) คือความเสี่ยงที่ไม่สามารถยอมรับและ ต้องจัดการให้ความเสี่ยงนั้นไปอยู่นอกเงื่อนไขการด าเนินงานโดยมีวิธีการจัดการความเสี่ยงในกลุ่มนี้เช่นการ หยุด 17


ด าเนินงานหรือกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงนั้นการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการด าเนินงานการลด ขนาด ของงานที่จะด าเนินการหรือกิจกรรมลงเป็นต้น 4.4 การถ่ายโอนความเสี่ยง (Transfer) หรือแบ่ง (Share) คือความเสี่ยงที่สามารถโอนไปให้ ผู้อื่นได้เช่นการท าประกันภัย/ประกันทรัพย์สินกับบริษัทประกันการจ้างบุคคลภายนอกหรือการจ้างบริษัท ภายนอกมาจัดการในงานบางอย่างแทนเช่นงานรักษาความปลอดภัยเป็นต้น ขั้นตอนที่ 5 กิจกรรมกำรบริหำรควำมเสี่ยง (Control Activities) เมื่อได้ประเมินความเสี่ยงและก าหนดกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงแล้วจึงด าเนินการ ก าหนด กิจกรรมหรือมาตรการในการจัดการความเสี่ยงให้หมดไปหรือลดลงในระดับที่ยอมรับกิจกรรมเดิมที่เคย ปฏิบัติ อยู่แล้วแต่ไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้นอกจากนี้ยังต้องก าหนดระยะเวลาที่ใช้ในการด าเนินการแต่ ละ กิจกรรมตลอดจนหน่วยงานผู้รับผิดชอบในแผนบริหารความเสี่ยงขององค์กรได้โดยกิจกรรมที่ก าหนดต้อง เป็น กิจกรรมที่หน่วยงานยังไม่เคยปฏิบัติหรือเป็นกิจกรรมที่ก าหนดเพิ่มเติม ขั้นตอนที่ 6 ข้อมูลและกำรสื่อสำรด้ำนบริหำรควำมเสี่ยง (Information andCommunication) การสื่อสารถือได้ว่าเป็นหัวใจของการบริหารความเสี่ยงในทุกๆขั้นตอนมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับความเข้าใจที่ตรงกันอย่างทั่วถึงโดยมีการเปิดช่องทางการสื่อสาร ข้อมูลด้านการบริหาร ความเสี่ยงให้กับผู้บริหารคณะท างานและบุคลากรของหน่วยงานได้เข้าถึงและรับทราบ ข้อมูลด้านการบริหาร ความเสี่ยงให้กับผู้บริหารคณะท างานและบุคลากรของหน่วยงานได้เข้าถึงและทราบ ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ เช่นระบบอินทราเน็ตหนังสือเวียนการประชุมชี้แจงโดยผู้บริหารหรือการฝึกอบรม เป็นต้น ขั้นตอนที่ 7 กำรติดตำมและเผ้ำระวังควำมเสี่ยงต่ำงๆ (Monitoring) การติดตามและเฝ้าระวังความเสี่ยงโดยการก าหนดให้มีการติดตามและประเมินผลว่าแต่ละ หน่วยงาน มีการประเมินประสิทธิผลของการจัดการความเสี่ยงที่ก าหนดไว้อย่างต่อเนื่องและสม่ าเสมอเพื่อให้เกิดความ มั่นใจว่ามาตรการในการปรับปรุงความเสี่ยงที่วางไว้เพียงพอเหมาะสมมีประสิทธิภาพประสิทธิผลและ มีการ ปฏิบัติจริงสามารถลดหรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น กระบวนกำรบริหำรควำมเสี่ยง การจัดท าระบบบริหารความเสี่ยงขอศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง มี แนวทางการด าเนินงานตามขั้นตอนต่าง ๆ สรุปเป็นแผนภูมิการด าเนินงาน ดังนี้ ก. วงจรบริหำรควำมเสี่ยง 18


ข. แผนภูมิแสดงควำมเชื่อมโยงของแผนยุทธศำสตร์ ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอ ำเภอนำด้วง กับแผนบริหำรควำมเสี่ยง 19 วิสัยทัศน์ ประชำชนอ ำเภอนำด้วงได้รับโอกำสทำงกำรศึกษำและกำรเรียนรูตลอดชีวิต อย่ำงมี คุณภำพ มีทักษะที่จ ำเป็นและสมรรถนะที่สอดรับกับทิศทำงกำรพัฒนำประเทศ สำมำรถ ด ำรงชีวิตได้อย่ำงเหมำะสมบนรำกฐำนของหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง พันธกิจ ยุทธศำสตร์ แผนบริหำรควำมเสี่ยง


ค. แนวทำงกำรบริหำรควำมเสี่ยง ของศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอ ำเภอนำด้วง 20 1. แต่งตั้งคณะกรรมกำร และคณะท ำงำนบริหำรควำมเสี่ยง 2. ประชุมเชิงปฏิบัติกำร เพื่อจัดท ำแผนบริหำรควำมเสี่ยง 3. แผนบริหำรควำมเสี่ยง 4. ด ำเนินกำรตำมแผนฯ และรำยงำนผลกำรด ำเนินงำนรำยไตรมำส 5. สรุปผลกำรด ำเนินงำนตำมแผนบริหำรควำมเสี่ยงประจ ำปี และให้ข้อเสนอแนะในกำรปรับปรุงแผนบริหำรควำมเสี่ยงปีต่อไป


ประเด็นควำมเสี่ยง คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง ได้ ร่วมกันผลักดันการด าเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายการบริหารความเสี่ยงตั้งแต่การก าหนด หลักเกณฑ์การ คัดเลือกแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมโดยให้มีการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงทุกกิจกรรมที่ ได้รับ งบประมาณที่ระบุในแผนปฏิบัติราชการประจ าปี 2565 โดยคณะท างานบริหารความเสี่ยงได้วิเคราะห์และ ประเมินความเสี่ยงตามมาตรฐาน COSO และเป็นไปตามกระบวนการแนวทาง/วิธีการบริหารความเสี่ยงที่ ระบุ ในคู่มือการบริหารความเสี่ยงและพิจารณาก าหนดมาตรการหรือแผนปฏิบัติการเพื่อลด/ควบคุมความเสี่ยง ที่ อยู่ในระดับที่ยังไม่สามารถยอมรับได้(ระดับสูง (High) และสูงมาก (Extreme)) ให้ลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับ ได้และประมวลจัดท าเป็นแผนบริหารความเสี่ยง ตามโครงสร้างการบริหารงานกศน.อ าเภอนาด้วง ดังต่อไปนี้ 1. กลุ่มอ ำนวยกำร - งานธุรการ / สารบรรณ - งานแผนงานโครงการ - งานการเงิน / บัญชี - งานพัสดุ - งานอาคารสถานที่และยานพาหนะ - งานบุคลากร - งานงบประมาณและระดมทรัพยากร - งานประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา - งานนิเทศภายในและติดตาม ประเมินผล - การควบคุมภายใน - งานข้อมูลสารสนเทศและการ รายงาน - งานประชาสัมพันธ์ - งานสวัสดิการ - งานคณะกรรมการ สถานศึกษา 21 บทที่ 3 กำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงและแผนกำรบริหำรควำมเสี่ยง


2. กลุ่มกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบ และกำรจัดกำรศึกษำตำมอัธยำศัย - งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน - งานพัฒนาหลักสูตรสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี - งานส่งเสริมการรู้หนังสือ - งานมาตรฐานการศึกษา - งานกิจการนักศึกษา - งานบริการให้ค าปรึกษาแนะแนว - งานการศึกษาต่อเนื่อง - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน - การจัดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง - งานจัดการศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ - งานพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล/ดิจิทัลชุมชน - งานการศึกษาตามอัธยาศัย 3. กลุ่มภำคีเครือข่ำยและกิจกำรพิเศษ - งานกิจการพิเศษ - งานสนับสนุนภาคีเครือข่าย - งานกลุ่มเป้าหมายอื่น - กิจกรรมลูกเสือและยุวกาชาด ข้อมูล และกำรสื่อสำรด้ำนกำรบริหำรควำมเสี่ยง ข้อมูลที่ต้องการ ช่องทางการสื่อสาร กลุ่มเป้าหมาย 1. แผนบริหารความเสี่ยง 2. สรุปรายงานความคืบหนา ของ การด าเนินการตามแผน บริหาร ความเสี่ยง 3. รายงานสรุปผลการ ด าเนินงาน ตามแผนบริหาร ความเสี่ยง 1. หนังสือเวียน 2. เว็บไซต์ของส านักงาน กศน. 1. ผู้บริหาร 2. คณะท างานโครงการ 3. ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย 22


แนวทำงในกำรติดตำมและประเมินผล การติดตามผลเป็นการติดตามผลภายหลังจากได้ด าเนินการตามแผนการบริหารความเสี่ยงแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่า แผนการบริหารความเสี่ยงนั้นมีประสิทธิภาพ ทั้งสาเหตุของความเสี่ยงที่มีผลต่อความส าเร็จ ความรุนแรงของ ผลกระทบ วิธีการบริหารจัดการกับความเสี่ยง รวมถึงค่าใช้จ่ายของการควบคุม มีความเหมาะสม กับ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลง โดยมีเป้าหมายในการ ติดตามผล คือ 1. เป็นการประเมินคุณภาพและความเหมาะสมของวิธีการจัดการความเสี่ยง รวมทั้งติดตามผลการ จัดการ ความเสี่ยงที่ได้มีการด าเนินการไปแล้ว ว่าบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของการบริหารความเสี่ยงหรือไม่ 2. เป็นการตรวจสอบความคืบหน้าของมาตรการควบคุมที่มีการท าเพิ่มเติมวาแลวเสร็จตามก าหนด หรือไม่ สามารถลดโอกาส หรือผลกระทบของความเสี่ยงใหอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่ การประเมินผลการปฏิบัติงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง ได้ก าหนด แนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานใน 2 ลักษณะ คือ 1.การประเมินผลระหว่างการปฏิบัติงาน (Ongoing Monitoring) โดยจะประเมินผลการ ปฏิบัติงาน ตามแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อติดตามว่ากระบวนงานต่างๆ ได้มีการด าเนินการตามมาตรการ/ กิจกรรม ควบคุมที่ได้ก าหนดไว้หรือไม่ และสามารถลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือมี เหตุการณ์/สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนอกเหนือจากที่ได้คาดการณ์ไว้ จะได้น าเสนอต่อคณะ กรรมการบริหารความเสี่ยงและคณะท างานบริหารความเสี่ยง เพื่อปรับแผนบริหารความเสี่ยงและด าเนินการ ปรับแก้ไขได้อย่างทันท่วงที โดยความถี่ในการติดตามประเมินผลจากกิจกรรมควบคุมเป็นรายไตรมาส และ ใน กรณีพิเศษหากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่มีสาระส าคัญ อาจจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารความ เสี่ยงเป็นกรณีพิเศษก็ได้ 2.การประเมินผลโดยการรายงานเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้ก าหนดไว้ โดยคณะกรรมการ จะ ประเมินผล ดังนี้ - มีการปฏิบัติตามมาตรการ/กิจกรรมควบคุมที่ได้ก าหนดไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ - การปฏิบัติตามกิจกรรมควบคุมนั้น สามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล หรือไม่ - มีข้อบกพร่องหรือสถานการณ์ใดๆ ที่มีผลกระทบต่อการบริหารความเสี่ยงที่ควรได้รับความ สนใจ แก้ไข หรือปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นหรือไม่ จากนั้นคณะท างานบริหารความเสี่ยงจะเสนอรายงานการ ประเมินผล การบริหารความเสี่ยงต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อน าผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรุง การจัดท า ระบบบริหารความเสี่ยงในปีต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลและคุ้มค่ายิ่งขึ้นและเสนอต่อ ส านักงาน กศน.จังหวัดเลย ทราบและพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควรต่อไป 23


ผลที่คำดว่ำจะได้รับ 1. มีแผนบริหารความเสี่ยงของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง ที่ สามารถใช้ในการควบคุมกิจกรรมและกระบวนการด าเนินงานต่างๆ โดยลดมูลเหตุของแต่ละโอกาสที่จะท าให้ เกิดความเสียหาย เพื่อให้ระดับความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ ประเมินได้ ควบคุมได้ และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ 2. การด าเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาด้วง บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ 24


ภำคผนวก


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานธุรการ/สารบรรณ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มอ านวยการ/งานธุรการ/สารบรรณ ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจากปัจจัย การประเมินคว ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกระท ควำมเสี่ยง 1.ความล่าช้าในการสืบค้น 2.เสนอหนังสือต่อผู้บริหารล่าช้า และในระยะเวลาที่กระชั้นชิด ปัจจัยเสี่ยง 1.การลงเลขหนังสือรับ-ส่ง ค าสั่ง และประกาศ บางเรื่องเจ้าของ เรื่องมาลงเลขจองหนังสือที่สาร บรรณกลางโดยไม่ได้ระบุชื่อเรื่อง และไม่น าส าเนาคู่ฉบับให้ไว้กับ ธุรการกลาง ท าให้ไม่ทราบว่าเป็น เรื่องเกี่ยวกับอะไรหรืออาจเกิด ความล่าช้าในการสืบค้น 2.เจ้าหน้าที่ไม่ได้นั่งประจ าโต๊ะ ท างาน เนื่องจากต้องเข้าร่วม กิจกรรมหรือจัดกิจกรรมที่ กศน. ต าบลหรือชุมชน ด้านการ ด าเนินงาน √ √ 4 3 3 3


วามเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 4 4 √ √ - ปานกลาง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานแผนและโครงการ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ :กลุ่มอ านวยการ/งานแผนและโครงการ ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจากปัจจัย การประเ ภายใน ภายนอก โอกาส ผล ควำมเสี่ยง 1.เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบยังไม่เข้าใจ ระบบงาน ปัจจัยเสี่ยง 2.เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบขาดความรู้ ความช านาญในเรื่องของระเบียบ การเบิก-จ่ายท าให้เกิดความล่าช้า ด าเนินงาน √ 5


เมินความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง กระทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 2 10 √ - สูง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานการเงิน /บัญชี กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มอ านวยการ/งานการเงิน /บัญชี ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจากปัจจัย การปร ภายใน ภายนอก โอกาส ผ ควำมเสี่ยง 1.เจ้าหน้าที่ขาดความช านาญและความรู้ เฉพาะทางและขาดความรู้เกี่ยวกับ กฎระเบียบการเบิกจ่าย 2.เกิดความผิดพลาดจากการใช้รหัส งบประมาณและแหล่งของเงินไม่ถูกต้อง 3.เบิกจ่ายงบประมาณ ไม่ทันตาม ก าหนดเวลา ปัจจัยเสี่ยง 1.ขาดบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญ เฉพาะทาง 2.การใช้เอกสารแบบฟอร์มจัดซื้อ-จัดจ้าง ไม่สอดคล้องกับวงเงินที่เบิกจ่าย 3.เนื่องจากเงินงบประมาณมีหลากหลาย รหัสงบประมาณและแหล่งที่มาของเงิน งบประมาณจึงท าให้เกิดความผิดพลาด ด าเนินงาน √ 5


ระเมินความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบ ประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ลกระทบ ระดับ ความเสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่าย โอน ควบคุม 1 15 √ - สูง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานพัสดุ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มอ านวยการ/งานพัสดุ ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจาก ปัจจัย ภายใ น ภายนอก โ ควำมเสี่ยง 1.การใช้เอกสารแบบฟอร์มการจัดซื้อ – จัดจ้างให้ ถูกต้องตามวงเงินที่ซื้อ และจ้าง 2.ความผิดพลาดจากการใช้รหัสงบประมาณและแหล่ง ของเงินไม่ถูกต้อง 3.การน าเอกสารจากทางร้านมาไม่ถูกต้องและไม่ ครบถ้วนและผิดประเภท ปัจจัยเสี่ยง 1.การใช้เอกสารแบบฟอร์มจัดซื้อ-จัดจ้างไม่สอดคล้อง กับวงเงินที่เบิกจ่าย 2. เอกสารจากห้าง/ร้าน/บริษัทไม่ครบถ้วน เช่น ใบส่ง ของ/ใบก ากับภาษี /ใบเสร็จรับเงิน/บิลเงินสด/ ใบส าคัญรับเงิน 3.เนื่องจากเงินงบประมาณมีหลากหลาย รหัส งบประมาณและแหล่งที่มาของเงินงบประมาณจึงท า ให้เกิดความผิดพลาด การ ด าเนินงาน จัดซื้อ-จัด จ้าง √


การประเมินความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบ ประมาณ จัดล าดับ ความ เสี่ยง อกาส ผลกระทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีก เลี่ยง ถ่าย โอน ควบคุม 4 2 8 √ - ปานกลาง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานอาคารสถานที่ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มอ านวยการ/งานอาคารสถานที่ ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความเสี่ยง เกิดจากปัจจัย การประเมิน ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกระ ควำมเสี่ยง 1.อาคารส านักงานเป็นอาคาร ไม้ที่เก่าและมีโอกาสเกิดไฟฟ้า ลัดวงจรได้ 2.สภาพปัญหาและสิ่งแวดล้อม อาคารอาจไม่แน่นหนาถาวร อาจมีการงัดแงะลักขโมยได้ ปัจจัยเสี่ยง 1.มีโอกาสที่จะเกิด กระแสไฟฟ้าลัดวงจรหรือการ ปฏิบัติงานของบุคลากรจาก การใช้ไฟฟ้า 2.อาคารติดถนนสาธารณะ อาจมีการลักขโมยหรือการงัด แงะเกิดขึ้นในยามปลอดคน การเฝ้าระวัง √ 2 2


นความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ะทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 3 √ - ต่ า ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานบุคลากร กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานบุคลากร ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความเสี่ยง เกิดจากปัจจัย การประเมิน ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกระ ควำมเสี่ยง 1.มีการเปลี่ยนบุคลากร ผู้ ปฎิบัติงาน เจ้าหน้าที่ เป็น ประจ าเนื่องจากการจ้างงาน ลักษณะจ้างเหมาบริการ ท าให้ ข้อมูลบุคลากรเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา ปัจจัยเสี่ยง การท าข้อมูลบุคลากรในส่วน บุคคลภายนอกจ้างเหมา บริการมีการเปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา ท าให้การติดตาม บุคคลท าได้ยาก กรณีสร้าง ความเสียหายให้งานราชการ ด้านการ ด าเนินงาน √ 2 2


นความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ะทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 4 √ - ต่ า ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานงบประมาณและระดมทรัพยากร กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานงบประมาณและระดมทรัพยากร ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจากปัจจัย การประเมินคว ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกระ ควำมเสี่ยง 1.ประสานกับการสนับสนุน งบประมาณขาดความต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยง โครงสร้างการบริหารงานใน หน่วยงานมีความซ้ าซ้อนในส่วน งานแผนงานโครงการ งาน งบประมาณและระดม ทรัพยากร และงานการเงินและ บัญชี ท าให้การปฎิบัติงานขาด ความต่อเนื่องและซ้ าซ้อน ด้านการ ด าเนินงาน √ 5 1


วามเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 5 √ - ต่ า ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความ เสี่ยง เกิดจากปัจจัย การปร ภายใน ภายนอก โอกาส ผ ควำมเสี่ยง 1.การด าเนินงานไม่เป็นไปตามค ่าเป้าหมาย ของสถานศ ึกษาในบางประเด็นการพิจารณา 2.ผู้รับผิดชอบด าเนินการรายมาตรฐานบาง ประเด็นการพิจารณาขาดความตระหนักใน การส่งเอกสารหลักฐานร่องรอยการอ้างอิง การด าเนินงาน ปัจจัยเสี่ยง 1.การด าเนินงานไม่เป็นไปตามค่าเป้าหมาย มาตรฐานที่ 1 การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมา จากผลสอบปลายภาคของนักศึกษามีความ เสี่ยงที่จะได้ต่ ากว่าค่าเป้าหมายหากครูไม่ ตระหนักในการจัดกิจกรรมตามเนื้อหา 2. ผู้รับผิดชอบด าเนินการรายมาตรฐาน บางประเด็นการพิจารณาขาดความ ตระหนักในการส่งเอกสารหลักฐานร่องรอย การอ้างอิงการด าเนินงาน ด้านการ ด าเนินงาน √ 2


ระเมินความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบ ประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ผลกระทบ ระดับ ความเสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่าย โอน ควบคุม 2 4 √ √ - ปานกลาง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานนิเทศ ก ากับติดตาม และประเมินผล กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานนิเทศ ก ากับติดตาม และประเมินผล ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความเสี่ยง เกิด จากปัจจัย การประเมิน ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกร ควำมเสี่ยง 1. ผลการนิเทศไม่ได้น ามาใช้ ในการจัดการกิจกรรม กศน. อย่างเป็นระบบ ปัจจัยเสี่ยง 1. กิจกรรม กศน.ไม่ได้รับการ ปรับปรุง แก้ไขจากประเด็น การนิเทศขาดความต่อเนื่อง ในการปฎิบัติงาน ด้านการ ด าเนินงาน √ 4 4


นความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ระทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 4 4 √ - สูง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานควบคุมภายใน กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานควบคุมภายใน ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความเสี่ยง เกิด จากปัจจัย การประเมิน ภายใน ภายนอก โอกาส ผลกร ควำมเสี่ยง 1. การด าเนินงานควบคุมตาม หลักเกณฑ์มาตรการและ วิธีการที่ส านักงานตรวจเงิน แผ่นดินก าหนด ปัจจัยเสี่ยง 1. เจ้าหน้าที่ขาดความ รับผิดชอบในการปฏิบัติงาน 2. เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบที่ใช้ในการปฏิบัติงาน อย่างเคร่งครัด 3. ระเบียบที่ใช้ในการ ปฏิบัติงานไม่เป็นปัจจุบัน ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก าหนด ด้านการ ด าเนินงาน √ 4 4


นความเสี่ยง กลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยง งบประมาณ จัดล าดับ ความเสี่ยง ระทบ ระดับ ความ เสี่ยง ยอมรับ หลีกเลี่ยง ถ่ายโอน ควบคุม 4 16 √ - สูง ERM1


ยุทธศำสตร์/กลยุทธ์ : การพัฒนาระบบบริหารจัดการ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/โครงกำร/กิจกรรม : งานข้อมูลสารสนเทศและการรายงาน กลุ่มงำนที่รับผิดชอบ : กลุ่มงานอ านวยการ/งานข้อมูลสารสนเทศและการรายงาน ประเด็นความเสี่ยง / ปัจจัย ประเภท ความเสี่ยง แหล่งที่มา ความเสี่ยง เกิดจากปัจจัย การป ภายใน ภายนอก โอกาส ผ ควำมเสี่ยง 1.ความเสี่ยงจากระบบ คอมพิวเตอร์แม่ ข่ายหลัก เสียหาย 2.การรายงาน ไม่เสร็จเรียบร้อย ตรง ตามก าหนดเวลา ปัจจัยเสี่ยง 1.ไม่สามารถเรียกใช้โปรแกรมหรือ ระบบงานไม่เสถียร 2.กระบวนการล่าช้าจากการพัฒนา ปรับปรุงระบบสารสนเทศ ความเสี่ยงอัน เกิดการกระบวนการท างานภายในที่ยัง ไม่เป็นระบบและขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดความผิดพลาดความล่าช้าใน การด าเนินงานและส่งผลให้การท างาน ไม่สามารถท าได้ลุล่วงตามแผนงานที่ ก าหนดไว้ ด้านการ ด าเนินงาน √ 2


Click to View FlipBook Version