ก
แผนการจัดการเรยี นรู้
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช 2551 สาระความรพู้ ้ืนฐาน
รายวิชา ภาษาอังกฤษเพอ่ื ชวี ิตและสังคม (พต 31001) 5 หนว่ ยกติ
จานวน 200 ชว่ั โมง ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
โดย
นางสุวพร วรรณทอง
ครู กศน. ตาบลสระแจง
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน
สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั สงิ ห์บรุ ี
สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก
บันทึกขอ้ ความ
ส่วนราชการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาํ เภอบางระจนั
ทศ่ี ธ.0210.7904/ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
เรอ่ื ง การตรวจคุณภาพแผนการจดั การเรยี นรู้
เรยี นผ้อู าํ นวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาํ เภอบางระจนั
ดว้ ยงานการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
อําเภอบางระจนั ได้จัดทาํ แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าภาษาอังกฤษเพ่ือชีวิตและสงั คม รหสั วชิ า พต31001
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เพอื่ ใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 เรียบร้อยแลว้
จงึ ขอเสนอแผนการจดั การเรียนรมู้ าเพื่อตรวจสอบคุณภาพก่อนนาํ ไปจัดการเรียนรู้ รายละเอียดดังแนบมา
พรอ้ มน้ี
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดพจิ ารณา
(นางสาววจิ ิตรา กองแก้ว)
ครผู ู้ชว่ ย
หวั หน้างานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
ผลการตรวจสอบ
องคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น
การจัดการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามเป้าหมายของสถานศึกษา
เนื้อหาสาระตรงตามโครงสร้าง
ใชก้ ระบวนการจดั การเรียนรู้ท่เี น้นผู้เรียนเปน็ สาํ คัญ
ส่ือท่ใี ชเ้ รยี นร้เู หมาะสม
อนมุ ตั ใิ หด้ ําเนนิ การได้ ไม่อนมุ ัติ
ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................. ......................................
(นางสาวปรารถนา ชโี พธ์ิ)
ผู้อาํ นวยการ กศน. อําเภอบางระจัน
ข
คานา
แผนการจัดการเรยี นรู้ เปน็ เครื่องมือสําคัญสาํ หรบั ครทู ี่จะทําใหก้ ารจดั การเรียนรบู้ รรลุเป้าหมายตาม
ตัวชีว้ ัด แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพื่อชวี ติ และสงั คม รหสั วิชา พต31001 ระดับ
มธั ยมศึกษาตอนปลายเล่มนี้ จดั ทาํ ขึ้นเพือ่ เป็นแนวทางในการเรยี นการสอน สาํ หรบั ครูผู้สอน และบุคคลท่ี
เก่ยี วข้อง สามารถนําไปใชไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมีเนื้อหา จาํ นวน 17 บท ประกอบด้วย
บทที่ 1 Everyday English
บทท่ี 2 What should you do?
บทที่ 3 Hello could you tell me……?
บทที่ 4 Cultural Difference
บทท่ี 5 News & News Headline
บทท่ี 6 Self – Sufficiency Economy
บทท่ี 7 Have you exercised today?
บทที่ 8 Shall we save the energy?
บทท่ี 9 What have I done?
บทท่ี 10 What is your e – mail address?
บทที่ 11 Natural Disaster
บทที่ 12 Let’s Travel
บทที่ 13 Will it rain tomorrow?
บทที่ 14 Global Warming
บทที่ 15 Urgently Wanted
บทที่ 16 ภาษาอังกฤษสาํ หรับพนักงานนวดแผนไทย
บทท่ี 17 ภาษาอังกฤษสาํ หรบั พนักงานขาย
ผู้จัดทาํ ขอขอบคุณผู้ท่เี กี่ยวข้องทกุ คนทม่ี ีสว่ นในการจดั ทําแผนการเรยี นรู้เล่มนี้ หากมีข้อพกพร่อง
ประการใดขอความกรณุ าให้ข้อคดิ เห็น และข้อเสนอแนะ เพ่ือจะนาํ ไปสู่การปรบั ปรงุ ในการจดั ทําแผนการ
เรียนรู้ รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม รหสั วิชา พต31001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลายใหด้ ยี ิง่ ข้นึ
ตอ่ ไป และหวังเปน็ อย่างยง่ิ วา่ แผนการจดั การเรยี นรเู้ ล่มนจี้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ ครูผ้สู อน นักศกึ ษา ตลอดจน
บุคคลทเ่ี กี่ยวขอ้ งต่อไป
(นางสวุ พร วรรณทอง)
ครู กศน.ตาํ บล
วนั ที่ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
สารบญั ค
คาํ นาํ หน้า
คําอธิบายรายวชิ า 1
รายละเอยี ดคาํ อธิบายรายวิชา 2
ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตรรายวิชา 24
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 52
54
การปฐมนิเทศนักศึกษา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 59
65
EverydayEnglish 71
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 76
82
Whatshouldyoudo? 89
96
แผนการจดั การเรยี นรู้คร้งั ท่ี 4 104
Hellocouldyoutellme……? 109
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
Cultural Difference
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6
Cultural Difference
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7
News & News Headline
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8
Self – Sufficiency Economy
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9
Have you exercised today?
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10
Shall we save the energy?
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11
What have I done?
สารบญั (ต่อ) ง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 118
What is your e – mail address? 124
133
แผนการจัดการเรียนรู้ครงั้ ท่ี 13 139
Natural Disaster 144
149
แผนการจดั การเรยี นรู้ครั้งที่ 14 153
Let’s Travel 158
แผนการจดั การเรยี นรู้คร้ังท่ี 15
The Weather
แผนการจดั การเรียนรู้ครง้ั ที่ 16
Global Warming
แผนการจดั การเรียนรู้ครง้ั ท่ี 17
Urgently Wanted
แผนการจดั การเรียนรู้ครง้ั ท่ี 18
ภาษาอังกฤษสําหรับพนกั งานนวดแผนไทย
แผนการจัดการเรียนรู้ครง้ั ท่ี 19
ภาษาอังกฤษสาํ หรบั พนักงานขาย
แผนการจดั การเรียนรู้คร้ังท่ี 20
การปจั ฉมิ นิเทศ
คณะผจู้ ดั ทาํ
๑
คาอธิบายรายวิชา พต31001 ภาษาองั กฤษเพ่ือชีวิตและสังคม จานวน 5 หนว่ ยกิต
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ่าน เขยี น
ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนมากขนึ้ ในชีวิตประจําวนั และงานอาชีพของตน ถูกต้องตามหลักภาษา
วัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ียวกับเรอื่ งดังต่อไปนี้
1. การตคี วามหมายจากนํ้าเสียงของผู้อ่ืนวา่ มคี วามรู้สกึ ดีใจ เสยี ใจ พงึ พอใจ ไมพ่ ึงพอใจซาบซงึ้
ผดิ หวัง ปรารถนาดี ชืน่ ชมหรือเหน็ ใจ และการใช้นาํ้ เสียงแสดงความรสู้ ึกของตัวเองในโอกาสตา่ ง ๆการอา่ น ทํา
ความเข้าใจและปฏิบตั ิตามข้อมลู ท่ีปรากฏอยู่ในสลากสนิ คา้ การพูดทางโทรศัพทใ์ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทถ่ี ูกตอ้ ง
การเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรมองั กฤษและวฒั นธรรมไทย รวมทั้งสามารถปฏบิ ตั ติ นไดถ้ ูกต้อง
ตามวฒั นธรรมและประเพณีต่าง ๆ
2. การอ่านและวเิ คราะห์ข้อมูลจากสอื่ ต่าง ๆ เชน่ หนงั สอื พมิ พ์ วทิ ยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ในดา้ น
ตา่ ง ๆ ที่หลากหลาย การสบื คน้ ข้อมูลจาก Internet เพ่ือนํามาใชป้ ระโยชน์ในการดํารงชีวิตในสังคม การรับ
และตอบ e-mail ท้ังในเรื่องส่วนตวั ในการศกึ ษาและในการประกอบอาชีพ วิธกี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร
และความรู้ ตา่ ง ๆ กบั ผู้อ่นื ทั้งอยา่ งเป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ โดยเข้าใจโครงสร้างของประโยคที่
ซับซอ้ น (Complex Sentence) และใช้ Tense ต่าง ๆ ในการแสวงหาขา่ วสาร ข้อมูล ความรแู้ ละในการ
สอื่ สารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกบั สถานการณ์
การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้
เน้นการฟงั พูด อ่าน เขียน จากสถานการณ์จรงิ หรอื สถานการณจ์ าํ ลอง โดยใชส้ ือ่ ท่ีเหมาะสมและ
สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาในการเรียนรู้
การวัดและประเมนิ ผล
พจิ ารณาจากความสามารถในการนําความรแู้ ละทักษะไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
เหมาะสม
๒
รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชา
พต31001 ภาษาองั กฤษเพ่ือชีวติ และสังคม จานวน 5 หน่วยกิต
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภ าษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน
ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซี่ บั ซอ้ นมากขน้ึ ในชวี ิตประจําวนั และงานอาชพี ของตน ถูกต้องตามหลักภาษา
วัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
ท่ี หวั เรื่อง ตัวชว้ี ดั เนือ้ หา จานวน
(ชัว่ โมง)
1 Everyday English ตีความหมายจาก 1. การออกเสียงพยญั ชนะต้นคา - ท้ายคา 12
น้ําเสยี งของผู้อน่ื และ 1.1ทบทวนการออกเสยี ง พยญั ชนะตน้ คาํ ท่ี
รู้จักใชน้ าํ้ เสยี งในการ ยาก เช่น เสยี ง s z ch sh
แสดงความรสู้ กึ - sit, see, soon
ระหวา่ งการสนทนา - zebra, zero, zoo
ได้แก่ ดีใจ เสยี ใจ - cheap, chat, choose
พงึ พอใจ ไม่พึงพอใจ - ship, shoe, shut
ซาบซงึ้ ผิดหวัง etc.
ปรารถนาดี 1.2 การอา่ นออกเสยี งท้ายคาทถ่ี ูกต้อง
ชื่นชมและ เช่น เสียง [d] , [t] , หรอื [id] เมื่อเป็น
เห็นใจ กริยาช่อง 2 และ past participle เช่น
- moved, turned, loved
- walked, talked, knocked
- wanted, rented, waited
etc.
2. การออกเสยี งหนกั -เบา (Stress)
วิธกี ารออกเสยี ง หนัก-เบา ของคาํ ใน
ลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ คําเด่ียว คาํ ประสมใน
ลักษณะต่าง ๆ เป็นตน้ ว่าคาํ ประเภทใด
จะตอ้ งออกเสยี งเนน้ ท่พี ยางค์แรก พยางค์
กลางหรือ พยางคห์ ลงั
3. การออกเสยี งตามระดับเสยี งสูง-ตา่
(Intonation)
วิธีการออกเสียงของประโยคลักษณะตา่ ง ๆ
ซึง่ จะต้องออกเสียงสงู -ตา่ํ ให้ถกู ต้องเพ่ือให้ส่ือ
ความหมายทีผ่ ู้พูดต้องการ ประโยคประเภท
เดียวกนั ถา้ ออกเสียงสงู -ตํ่า ตา่ งกนั จะให้
ความรสู้ กึ ท่ตี ่างกัน
4. การออกเสียงเชือ่ มโยง (Linking Sound)
วิธีการอา่ นออกเสียงเช่ือมโยงระหว่างคาํ ใน
ภาษาอังกฤษทถี่ ูกต้องตามกฎเกณฑ์ของ
๓
ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เน้อื หา จานวน
(ชั่วโมง)
ภาษาองั กฤษเช่น
- Ten years ago.
- Far away
etc.
5. การแสดงความดใี จ/เสียใจ
การใช้คาํ วลีและรปู ประโยคทจี่ ะนํามาใช้ใน
การแสดงความดีใจและเสียใจในโอกาสตา่ ง ๆ
ไดถ้ ูกต้อง เช่น แสดงความดใี จที่ได้พบกนั อีก
ครง้ั หรอื แสดงความเสียใจท่ีทําผิด เปน็ ต้น
ตัวอยา่ ง คําวลี และรปู ประโยค เช่น
- Congratulations!
- Sorry. Glad is hear about that.
- Sorry about that.
- I’m glad
to................................................
- I’m pleased
to...........................................
- I love
to....................................................
- I’m sorry
to..............................................
- It’s my fault
that.......................................
5. การแสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจ ให้ร้จู ักคํา วลี
และรปู ประโยคที่จะท่ีจะนํามาใชใ้ นการแสดง
ความพอใจ/ไม่พอใจในโอกาสต่าง ๆ ได้
ถกู ต้อง เชน่ แสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจในการ
รับบรกิ าร เป็นตน้ ตัวอยา่ งคํา วลี และรปู
ประโยค เช่น
- Great!
- Awful!
- Good news!
- How nice!
- How terrible!
- That’s fantastic!
- I can’t stand it!
- I’m very disappointed
with.....................
๔
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จานวน
(ชัว่ โมง)
- It’s ashamed
that.....................................
6. การแสดงความปรารถนา/ เหน็ ใจและการ
ตอบรบั การใช้คํา วลี และรูปประโยคทจ่ี ะ
นํามาใชใ้ น การแสดงความปรารถนาดี/เห็น
ใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง เช่น การแสดง
ความระลกึ ถึง การแสดงความเหน็ ใจเม่ือผอู้ ื่น
ประสบปญั หา เป็นต้น ตัวอย่างคาํ วลี และรูป
ประโยค เชน่
- Best wishes.
- Take care.
- Get well soon.
- Good luck.
- With sympathy.
- We hope everything go well through
this suffering period.
- I understand how difficultit is.
- It must be for you.
- I feel sympathy for you.
- Thank you for your hospitality.
- Thanks a million for............................
- I’m very grateful to your....................
- It’s very appreciative that..................
- I’m very appreciated for....................
7. การแสดงความตอ้ งการการเสนอ/ใหค้ วาม
ช่วยเหลือ/บริการ รวมทัง้ การตอบรับ/
ปฏเิ สธ การ ให้ความชว่ ยเหลือ/บริการ
การใช้คาํ วลี และรปู ประโยคเพื่อ
แสดงความต้องการ การเสนอ/ให้ความ
ช่วยเหลือ/บรกิ าร รวมท้งั การตอบรับ/ปฏเิ สธ
ในการให้ความชว่ ยเหลอื /บรกิ ารในโอกาสและ
สถานที่ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ได้แก่ การซ้อื
สินคา้ /บรกิ ารในร้าน การส่ังจองต๋วั เคร่ืองบิน/
รถไฟ/ภาพยนตร์/การบริการในบริษัททัวร์
การจองโรงแรม/ ท่ีพัก การใช้บรกิ ารในทที่ ํา
การไปรษณีย/์ ธนาคาร/รา้ นอินเตอรเ์ นต็
ตวั อย่าง คาํ วลี และรปู ประโยค เช่น
- May I help you?
๕
ท่ี หัวเรื่อง ตัวชวี้ ัด เนอ้ื หา จานวน
(ช่วั โมง)
2 What should
you do? - What can I do for you?
- Let me..............................
- Shall I ...............................?
- Is there anything I can do for you?
- I would like.........................
- I prefer.................................
- I’d rather..............................
- How much..............................?
- How about..............................?
- I’m afraid................................?
- We recommend........................
- Would you please....................?
- Please let me know..................
- It’s occupied.
etc.
อ่านและทําตาม 1. การใช้พจนานกุ รม (Dictionary) 12
คาํ แนะนําในการใช้คู่มือ 1.1 ทบทวนการค้าหาความหมายของคาํ ศพั ท์
ป้าย คาํ แนะนํา วิธกี าร โดยเรยี งตามตวั อกั ษรของคําศพั ท์ทคี่ น้ หาจาก a
ปรงุ ข้อควรระวงั และ ถึง z
ปา้ ยประกาศ 1.2 ให้อ่านวิธกี ารใชพ้ จนานุกรมและข้อมูลตา่ ง
ๆ ทอ่ี ยใู่ นสว่ นหนา้ (คาํ ชี้แจงในการใช้) ของ
Dictionary ให้เขา้ ใจ
1.3เมอื่ ค้นหาคําศพั ทพ์ บแลว้ ใหศ้ กึ ษาวธิ ีการ
อ่านออกเสยี งหน้าทีข่ องคาํ ความหมายและ
ตัวอยา่ งในการใช้ (ซ่งึ คําบางคําอาจจะทาํ หน้าที่
ได้หลายอย่าง) และคาํ ที่มคี วามหมายใกล้เคยี งกัน
เช่น drug (ดรกั ) n. ยา ผลิตภัณฑย์ า ยาเสพติด
สินคา้ ท่ีเกย่ี วกับสุขภาพท่ีขายในร้านขายยา vt.
drugged, drugging ผสมกับยา ทาํ ให้ตดิ ยา ทํา
ให้ไดร้ ับพิษจากยา drug on the market สินคา้
ที่มี มากเกนิ ความตอ้ งการในตลาด
2. การวิเคราะห์ศัพท์และรปู ประโยคทใ่ี ช้ใน
สัญลกั ษณ์ ปา้ ยประกาศ/คาแนะนาในการใช้/
คาแนะนา/คาเตอื นตา่ ง ๆ
2.1 การวเิ คราะห์ศพั ท์โดยการรจู้ ักส่วนทีเ่ ปน็
รากศัพท(์ Root) อปุ สรรค หรือทีค่ ําเตมิ ไป
ข้างหนา้ (Prefix) และปัจจัยหรอื คาํ ท่ีเติมขา้ งหลัง
(Suffix) โดยทราบความหมายของสว่ นประกอบ
๖
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนอ้ื หา จานวน
(ชว่ั โมง)
ของคําศัพทต์ ่าง ๆ เหลา่ นั้นก็จะทราบความหมาย
ของศพั ทไ์ ด้ เชน่
Prefix :re = again
anti = against
tele = far
etc.
Suffix : ant = person
er = person who
dom = condition
ern = direction
etc.
2.2 รูปประโยคทีใ่ ชใ้ นสัญลักษณ์/ปา้ ยประกาศ/
คาํ แนะนําในการใช้/คําแนะนํา/คาํ เตอื นตา่ ง ๆ
ซึ่งจะใชร้ ปู ประโยคคาํ สง่ั (Imperative
Sentence) ทั้งในลักษณะบอกเล่าและปฏิเสธ
เชน่
- Don’t smoke.
- No smoking.
- No entry.
- Put some oil in the pan, then
put the garlic and stir until it
become yellow.
etc.
1 สัญลกั ษณ์และปา้ ยประกาศต่าง ๆ (Signs
& Notices) รจู้ กั ความหมายของสญั ลักษณ์
และ ป้ายประกาศทพี่ บในชีวิตประจาํ วัน
และการประกอบอาชพี เช่น การปฏบิ ตั ิตน
ในแหล่งทอ่ งเที่ยว โรงแรมพิพิธภณั ฑ์ โรงงาน
สํานกั งาน ยานพาหนะ เปน็ ตัวอย่าง เช่น
2
= Don’t take
= do not disturb
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชี้วัด เน้ือหา ๗
= danger
จานวน
(ช่ัวโมง)
= safety first
= no parking
= Disabled Symbol
etc.
3 สลากยาและค่มู ือในการใชอ้ ุปกรณต์ า่ ง ๆ
(Instructions) การอ่าน ทําความเข้าใจและ
ปฏิบตั ิตามคําแนะนําในการใชย้ าและอุปกรณ์
ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวติ ประจาํ วัน เช่น หมอ้ หุงข้าว
ไฟฟ้า เครื่องซักผา้ คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์มอื ถือ เป็นตน้ โดยใหเ้ ขา้ ใจสํานวน
หรอื โครงสรา้ งของประโยคที่มักใช้ เช่น
- Keep out of reach of children.
- Take one tablet after each meal.
- Shake well before use.
การใช้ Active Voice และ PassiveVoice
Modal verb Direct Speech, Indirect
speech,
Conjunction และ Connective words
ท่สี าํ คัญ เช่น
- You should have it directly after
๘
ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จานวน
(ชว่ั โมง)
meal.
- The doses must not be divided.
- Don’t use if the package is open.
- First open the can with the opener. Pull
it in
a bowl. Then put some chopped
chili, lemon
juice and fish sauce. After that
mix them
together.
4 คาแนะนาและคาเตอื นตา่ ง ๆ (Tips and 4
Warning) ร้จู กั วิธกี ารอ่านและตคี วาม
คําแนะนํา คําช้แี จง และคาํ อธบิ ายตา่ ง ๆ เช่น
พยากรณอ์ ากาศประกาศ เตอื นภยั
คําแนะนําในการเขา้ ไปในสถานท่ีตา่ ง ๆ
คาํ อธบิ ายสินค้าและสว่ นประกอบหรือ
เครอ่ื งปรุง วธิ ีการปรุงอาหาร เป็นต้น
3 Hello, could you ติดต่อส่ือสารทาง 1. การตดิ ตอ่ ทางโทรศพั ทก์ ับผู้ที่คุ้นเคย
tell me.............? โทรศพั ท์ไดค้ ล่องแคลว่ รู้จักวธิ กี ารพูดโตต้ อบทางโทรศพั ท์กบั เพอ่ื น
ญาติ พน่ี อ้ งและผู้ทค่ี ุ้นเคยในเร่อื งตา่ ง ๆ โดย
ใชส้ าํ นวนและภาษาทเี่ หมาะสม เช่น
- Is ……………. at home?
- Could I speak to………., please?
- May I speak to ……..…., please?
- She/he is out.
- Sorry, she’s not here now.
- Would you like to wait?
- Will you leave a message?
- May I take a message for her/him?
- Wait a minute, please.
- Will you hole on?
- Just a moment, please.
- Please tell ............... to call me
at.......................
2. การติดตอ่ ทางโทรศัพท์เพ่ือสอบถามข้อมลู
ต่าง ๆ
การใชส้ าํ นวนภาษาที่ใชพ้ ูดทางโทรศัพท์เพื่อ
สอบถามขอ้ มูลต่าง ๆ ที่ต้องการทราบโดยใช้
๙
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา จานวน
(ชว่ั โมง)
รูปประโยคขอรอ้ ง /ขอร้องอย่างสภุ าพ
(request, polite, request) ประโยค
direct/ indirect speech ประโยคคาํ ถาม
ลกั ษณะตา่ ง ๆประโยคแสดงความคิดเห็นและ
การขอบคณุ เช่น การสอบถามเสน้ ทางการ
เดินทางไปทต่ี ่าง ๆ สอบถามตารางรถไฟ
เคร่อื งบนิ สอบถามขอ้ มูลดา้ นการคุม้ ครอง
ผ้บู รโิ ภค/ สุขภาพอนามยั /พยากรณ์อากาศ
เป็นต้น
ตวั อยา่ งประโยคที่ใช้
- Hello, I’d like to ask
about.........................
- Could you tell me......................,
please?
- Would you mind giving me the
information
about.................................?
- Can/Could you...............................?
- May/Can/Could I.................................?
- Don’t............................, please?
- At what time..............................?
- How many.................................?
- How far......................................?
- How much.................................?
- I need your help.........................?
- Pradon.
- I think............................................
- Well, I must...................................
- In my opinion, ..............................
- Thanks. /Thank you.
- Sorry. /I’m sorry.
- You’re welcome.
3. การติดต่อทางโทรศัพทเ์ พ่ือการประกอบ
อาชพี
วิธีการพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์ เพ่ือถาม-ให้
ขอ้ มูลเก่ยี วกบั การประกอบอาชพี โดยใช้
สาํ นวนและภาษาทเี่ หมาะสมในการสอบถาม
ข้อมูลเก่ียวการสมัครงาน การซ้ือ-ขายสินคา้
๑๐
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน
(ชว่ั โมง)
การให้ข้อมูลเก่ยี วกับคณุ ภาพและราคาของ
สนิ ค้า การสง่ เสรมิ การขาย การตอ่ รองราคา
การรับและส่งของ ตัวอย่างประโยคท่ใี ช้
- Hello. I’d like to ask/know
about......................
- Can/could you tell me
about...........................?
- May/Could I speak
to..........................,please?
- Can/Could you inform me
about.................?
- What is the position required?
- What is the qualification?
- How can I apply for this position?
- When is the dateline of the
application?
- Do I have to send the application
form?
- Should I also send the
resume/reference?
- When/Where will the interview take
place?
- What kind of goods are available?
- How much does it cost?
- How can I send the order?
- Is there any discount?
- How about the present promotion?
- How about the quality?
- Where/When can I buy this
product?
- What is the product’s significance?
- Please let me know
if............................
- I’m interested in...........................
- That’s very interesting.
- I’m very appreciated.........................
- When will I receive the product?
- How should I pay for the product?
๑๑
ที่ หัวเร่อื ง ตวั ช้วี ัด เน้อื หา จานวน
(ชวั่ โมง)
4 Cultural 1. ปฏิบตั ติ นตาม
Difference มารยาท วฒั นธรรม - By cash/check /credit.
และประเพณตี ่าง ๆ ได้
อย่างถูกต้อง - Thanks for your interest
2. เปรียบเทียบความ
แตกต่างระหวา่ ง /kindness/information.
วัฒนธรรมองั กฤษกบั
วฒั นธรรมไทย - It’s my pleasure.
- You’re welcome.
- Sorry. /I’m sorry.
1. การใชภ้ าษาในการสือ่ สารไดเ้ หมาะสมตาม 12
มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของ
เจา้ ของภาษา
การใช้ภาษา น้ําเสียงและภาษาท่าทางได้อยา่ ง
เหมาะสมกบั บคุ คล เวลา สถานทแ่ี ละโอกาส
เชน่ การสมั ผสั มือ การโบกมือ การใช้สหี นา้
ท่าทาง และนา้ํ เสยี งประกอบการพดู การ
แนะนาํ ตัวเอง การแสดงความรูส้ กึ ในโอกาส
ตา่ ง ๆ การแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร
รว่ มงานงานเลีย้ ง งานสงั สรรค์ และกิจกรรม
ทางสงั คมตา่ ง ๆ
ตัวอยา่ ง เชน่
- Blow a kiss. (สง่ จบู )
- I love you. (ภาษาใบ)้
- Be quiet. (เงยี บ)
- That’s bad. (ยกหัวแม่มือชี้ลงไปที่พน้ื )
๑๒
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เน้ือหา จานวน
(ชว่ั โมง)
- How’s everything?
- How have you been?
- What’s going on with your life?
- How’s life?
- What’s up?
- May I introduce myself?
- Let me introduce myself,
.............................
- Allow me to
introduce...............to................
- Have you met......................?
- Congratulations
on.......................................
- Happy Birthday.
- Merry Christmas.
- Happy New Year.
- I’m sorry
for.................................................
- May god bless you.
- May god be with you.
- I feel
sorry...................................................
- Please pass my warm regards
to..................
- Toast!
- I wish
you....................................................
- Would you
mind..........................................
- Please let me
know......................................
- Would you
please........................................
- May I
have.................................................
๑๓
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวช้ีวดั เนอื้ หา จานวน
(ชว่ั โมง)
- Can you help
me........................................
- You look smart.
- How
nice....................................................
- I wonder
if.................................................
- How to
cook..............................................
etc.
2. ความเชือ่ และขนบธรรมเนียม ประเพณขี อง
เจา้ ของภาษา
ความเปน็ มาของความเชือ่ ขนบธรรมเนยี ม
และประเพณตี ่าง ๆ ในสังคมของเจ้าของภาษา
การทาํ กจิ กรรมตามความเชือ่ ขนบธรรมเนยี ม
และประเพณีตา่ ง ๆ ในดา้ นบทเพลง การแตง่ กาย
อาหาร เคร่ืองดืม่ และการประกอบพธิ กี รรมท่ี
เกีย่ วข้อง ไดแ้ ก่ วันครสิ ต์มาส วนั ขอบคณุ พระ
เจ้า วนั วาเลนไทน์ และวนั พ่อ
3. การเปรยี บเทียบโครงสร้างภาษาไทยกับ
ภาษาองั กฤษ
เปรยี บเทยี บลักษณะคาํ ที่มาของคาํ
ความหมายและการประยุกต์คําใน
ภาษาองั กฤษใชใ้ นภาษาไทยและคําใน
ภาษาไทย ท่นี าํ ไปในภาษาอังกฤษ ตวั อย่าง
เชน่
- ศพั ท์ของภาษาไทยสว่ นใหญม่ าจากภาษา
บาล/ี สนั สกฤตในขณะท่ีศัพท์ของภาษาอังกฤษ
สว่ นใหญจ่ ากภาษากรีกและโรมัน
- คาํ ในภาษาองั กฤษที่นํามาใชใ้ นภาษาไทย เชน่
กิโลกรมั กิโลเมตร เซนตเิ มตร คําในภาษาไทย
ที่นําไปใชใ้ นภาษาองั กฤษ เช่น Tom Yam
Kung, Muai Thai เปน็ ต้น
โครงสร้างของประโยคตา่ งๆ
- ประโยคความเดียว (Simple Sentence)
- ประโยคความรวม (Compound
Sentence)
- ประโยคความซอ้ น (Complex
๑๔
ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ช้วี ัด เนื้อหา จานวน
(ชั่วโมง)
Sentence)
- ประโยคความผสม (Compound-
Complex Sentence)
- การใช้ Transitive / intransitive/
auxiliary verbs
- Tense ตา่ งๆ
- ลักษณะของประโยคคาํ ถาม
- ประโยคเง่ือนไข
- การใช้สนั ธาน (Conjunction) และบุพบท
(Preposition)
etc.
4. เปรียบเทียบ สานวน คาพงั เพย สภุ าษติ บท
กลอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
4.1 คาํ และสาํ นวนที่ได้รับอิทธพิ ลจากศาสนา
เช่น
- Oh, god! = คุณพระช่วย
- Oh, my god! = พทุ โธ ธัมโม สงั โฆ
etc.
4.2คาํ พงั เพย สภุ าษติ ที่มกั จะใช้ในชวี ติ ประจําวัน
เชน่
- It’s a piece of cake.
= ปลอกกล้วยเข้าปาก
- Silence is gold. = น่ิงเสยี ตาํ ลงึ ทอง
- Time and tide wait for no one.
= เวลาและวารไี มเ่ คยคอยใคร
ลกั ษณะของบทกลอนภาษาไทยกับภาษาองั กฤษ
ท่ีเหมือนและแตกตา่ งกัน แรงบนั ดาลใจของกวี
ในการแตง่ คําประพันธพ์ ร้อมตัวอย่างที่มักได้
ยินเสมอ ๆ เช่น Roses are red, violets are
blue, sugar is sweet, but not as sweet as
you. แม้เนื้อเย็นเปน็ ห้วงมหรรณพจะขอพบศรี
สวัสดเิ์ ป็นมัจฉาแม้เป็นบวั ตวั พ่ีเป็นภมุ รา เชย
ผกาโกสุมภป์ ระทุมทองแม้เป็นถา้ํ อําไพใคร่เป็น
หงส์จะรอ่ นลงสงิ สเู่ ป็นคสู่ อง จะตดิ ตาม
ทรามสงวนนวลละอองเปน็ คู่ครอง พิสวาส ทกุ
ชาตไิ ป
etc.
๑๕
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ดั เนอื้ หา จานวน
(ช่วั โมง)
5 News &
News 1. เขา้ ใจและใช้ 1. เสียง คาํ ศัพท์ วลี สํานวน ท่ี มกั ใช้บอ่ ย ๆ 12
Headline
ประโยคท่ซี ับซ้อนใน ในข่าว
สถานการณ์ต่าง ๆ 2. องค์ประกอบของขา่ วประกอบด้วย
2. ใช้ Tenses ที่ Headline, Sub headline, Lead และ
ยุ่งยากและซบั ซ้อน Detail
3. ศึกษาคน้ คว้า 3. ประเภทของขา่ วเช่น ข่าวการเมือง
ความรแู้ ละขอ้ มูลจาก ข่าวการศึกษา ข่าวกฬี า ขา่ วสงั คม
ส่อื หนังสือพิมพ์ ขา่ วเศรษฐกจิ เป็นตน้
4. แลกเปล่ยี นข้อมลู 4. โครงสร้างของการเขยี นพาดหวั ข่าว (News
ขา่ วสารความร้อู ยา่ ง Headline) ได้แก่
เป็นทางการ 4.1 ขา่ วและพาดหวั ข่าว
5. สืบค้นข้อมลู ในดา้ น 4.2 การถามและตอบคาํ ถามจากข่าวดว้ ย
ตา่ ง ๆ จาก Internet คาํ ถามท่ี เป็น Wh-Question และ
Yes/No Question
4.3 การถามและแสดงความคดิ เหน็ วา่ เห็นด้วย
หรือไม่เห็นด้วย เชน่
- Do you agree with
this....................?
- What do you think
about..................
4.4 Website ของหนังสอื พมิ พ์ TheNation
หรือ Bangkok Post เพอื่ ศึกษาขา่ วประเภท
ต่างๆ ทสี่ นใจแลว้ วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของพาด
หวั ข่าวน้ัน ๆ หรือบอกประเภทของขา่ วน้ัน ๆ
- Subj. + V1
- Subj. + V3
- Subj. + to + V1
- Subj. + V. ing
Noun phrase
6 Self -Sufficiency 1. ศึกษาคน้ คว้าความรู้ 1. บทความเกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพียงจาก 12
Economy และข้อมูลจากสื่อ หนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือ Website ที่
ต่าง ๆ เกย่ี วขอ้ ง
2. สืบคน้ ข้อมลู ในด้าน 2. คาํ ศัพท์ วลี สาํ นวน ท่ีเกี่ยวข้องกบั
ตา่ ง ๆ จาก Internet เศรษฐกิจพอเพียง เชน่ moral ,
3. เข้าใจและใช้ moderation, reasonable, knowledge,
ประโยคซับซ้อนใน savingเป็นตน้
๑๖
ท่ี หัวเรื่อง ตัวชีว้ ัด เนือ้ หา จานวน
(ชว่ั โมง)
7 Have you สถานการณต์ ่าง ๆ 3. โครงสร้าง Conditional sentence (If -
exercised 4. การแลกเปลีย่ น clause) 12
today? ข้อมูลขา่ วสารความรู้
4. โครงสร้าง Imperative 12
8 Shall we save 1. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 5. การนาํ เสนอการนาํ เศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ น
the energy? และข้อมลู จากสื่อ 12
ต่างๆ รูปแบบตา่ ง ๆ เช่น การตดิ คาํ ขวัญ
9 What have I 2. สบื คน้ ขอ้ มลู ในด้าน การสมั ภาษณ์ การทาํ Poster เป็นต้น
done? ต่าง ๆ จาก Internet 6. การเลน่ เกม Cross word
3. เข้าใจและใช้ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เกยี่ วกับ
ประโยคซบั ซ้อนใน การดแู ลสขุ ภาพจากหนังสือหรือ Website
สถานการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวข้อง
4. ใช้ Tense ทยี่ งุ่ ยาก 2. การอ่านออกเสยี ง คาํ ศพั ท์ สํานวน วลี
และซบั ซ้อน ทเ่ี กยี่ วข้องกับสุขภาพ เช่น aerobics,
5. แลกเปลยี่ นข้อมลู once, relaxed, health, healthy, firm,
ขา่ วสารความรู้ have a headache เปน็ ต้น
ท้งั อยา่ งเปน็ ทางการ 3. ประโยคท่ีเขียนด้วย Modal Verb เชน่
และไมเ่ ปน็ ทางการ should, must, ought to, had better,
1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ will เปน็ ต้น
และข้อมลู จากสื่อ 4. Present PerfectTense
ต่างๆ 5. การสํารวจแบบสอบถามเกย่ี วกบั สขุ ภาพ
2. สบื ค้นข้อมูลในดา้ น บคุ คลใกล้ชิด แล้วนาํ เสนอขอ้ มลู เปน็
ต่าง ๆ จาก Internet รูปกราฟหรือแผนภมู ิ
3. เขา้ ใจและใช้ประโยค 1. บทความเก่ยี วกบั การประหยัดพลังงาน
ซบั ซ้อนในสถานการณ์ (Energy Saving) จากหนังสือ
ตา่ ง ๆ ได้อย่างถูกต้อง หนังสอื พมิ พ์ หรอื Website ท่เี ก่ียวข้อง
4. ใช้ Tense ที่ยุง่ ยาก 2. เสยี ง คาํ ศพั ท์ วลี สาํ นวนทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั
และซบั ซ้อนได้อยา่ ง การประหยดั พลังงาน เช่น reuse,
ถูกต้อง recycle, plug in, unplug, turn on,
5. แลกเปลยี่ นข้อมูล turn off, reduce เปน็ ต้น
ขา่ วสารความรทู้ ง้ั อย่าง 3. โครงสร้าง เรื่อง Imperative +
เป็นทางการและไมเ่ ปน็ V1_________.
ทางการ
1. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ Don’t + V1 +
และข้อมูลจากส่ือตา่ งๆ
........................
1. บทสนทนาเก่ียวกบั การไปตัดเสอื้
2. การอา่ นออกเสียง คําศพั ท์ วลี สาํ นวน ที่
๑๗
ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน
(ชวั่ โมง)
10 What is youre- 2. อา่ นออกเสียงคาํ ศพั ท์ เกี่ยวข้องกับการไปตัดเส้ือเชน่ measure,
mail address? 10
วลี สาํ นวน ไดอ้ ยา่ ง sleeves, seam, shorten เป็นตน้
11 Natural Disaster 10
ถกู ต้อง 3. โครงสร้าง have something done
3. เขา้ ใจและใช้ประโยค 4. โครงสร้าง Reported Speech
ซับซอ้ นในสถานการณ์ 5. การเล่าเร่อื ง (สถานการณ)์
ต่าง ๆ
4. ใช้ Tense ทีย่ ุ่งยาก
และซับซ้อน
5. แลกเปล่ียนขอ้ มูล
ขา่ วสารความรู้
1. การสืบคน้ ข้อมลู 1. การขอมี e-mail
ดา้ นต่าง ๆ จาก 2. การเปดิ /ปดิ e-mail
Internet และรบั สง่ 3. ภาษา e-mail
e-mail 4. บทอา่ นแนะนาํ ตนเองท่พี ิมพม์ าจาก e-mail
2. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 5. การสรา้ งประโยคคําถามจากคําตอบท่ีให้มา
และข้อมลู จาก 6. การถามและการตอบข้อมูลการเปรียบเทยี บ
ส่ือตา่ ง ๆ 7. การเขียนแนะนําตนเองถงึ Pen pal โดยสง่
3. เขา้ ใจและใช้ ทาง e-mail
ประโยคซบั ซ้อนใน
สถานการณ์ต่าง ๆ
4. แลกเปลย่ี นข้อมูล
ข่าวสารความรู้
ทงั้ อย่างเปน็ ทางการ
และไมเ่ ปน็ ทางการ
1. ศกึ ษา คน้ คว้า 1. บทอ่านเกยี่ ว Earthquake, Tornado
ความรู้ และข้อมลู จาก หรือ Flood จากหนงั สอื พิมพ์ หรือ
สอื่ ตา่ งๆ Website ของหนงั สือพิมพ์ The Nation
2. สืบค้นขอ้ มูลในดา้ น หรือ Bangkok Post
ต่าง ๆ จาก Internet 2. คําศัพท์ วลี สํานวนท่เี กีย่ วข้องเช่น kill,
3. เข้าใจและใช้ injured, die, homeless, help,
ประโยคทีซ่ ับซ้อนใน shelter, landslide เป็นต้น
สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ 3. Past Simple Tense, PastContinuous
อยา่ งถูกต้อง Tenseและ Past Perfect Tense.
4. การใช้ Tense ท่ี 4. Compound Sentence และ Complex
ยงุ่ ยากและซับซ้อน Sentence
5. แลกเปล่ยี นข้อมลู 5. การถามและการตอบคาํ ถามจากบทอ่าน
ข่าวสารความรู้ ท้งั เปน็ 6. การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play)เป็น
ทางการและ ผู้สื่อข่าว นําเสนอข่าวทีเ่ กี่ยวกับ Natural
๑๘
ที่ หัวเร่ือง ตวั ช้ีวดั เนือ้ หา จานวน
12 Let’s Travel (ชวั่ โมง)
ไม่เป็นทางการ Disaster
13 The Weather 1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ 6
และข้อมลู จาก 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane,
สือ่ ตา่ งๆ Boat หรือ Subway จากส่ือต่าง ๆ เช่น 6
2. สืบคน้ ขอ้ มูลในด้าน แผ่นพบั หนงั สอื พิมพ์ หรอื Website ท่ี
ต่าง ๆ จาก Internet เกยี่ วข้อง
และรับสง่ E-mail
3. เข้าใจและใช้ 2. Asking & giving Information เชน่
ประโยคทซี่ ับซ้อนใน - Could you please tell
สถานการณ์ต่าง ๆ me....................?
4. ใช้ Tense ท่ียงุ่ ยาก - Please tell me..............................
และซับซ้อนได้ - Excuse me. Do you
5. แลกเปล่ียนข้อมูล know.......................?
ขา่ วสารความรู้
3. การบอกทิศทาง (Direction)เช่น
1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ - Go straight.
และข้อมลู จากสื่อตา่ งๆ - Keep walking to..........................
เช่น หนังสือพมิ พ์ - Walk past..................................
ภาษาองั กฤษและ - It’s at the opposite
Website of..........................
2. แลกเปลย่ี นขอ้ มลู - Next to....................................
ขา่ วสารความรู้ทั้งอยา่ ง
เปน็ ทางการและไม่เปน็ 4. Past Simple Tense และ Past Simple
ทางการ Tense
3. เข้าใจและใช้
ประโยคทซี่ ับซ้อนใน 5. การเขยี นเลา่ เร่อื งหรอื ประสบการณ์ในการ
สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ ท่องเท่ียว
อย่างถูกต้อง
4. สืบค้นขอ้ มูลในดา้ น 6. การวางแผนการเดินทางทอ่ งเทีย่ ว
ต่าง ๆ จาก Internet
1. บทอา่ น การพยากรณ์อากาศ (Weather
Forecast) ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ
2. การถาม-ตอบ คาํ ถามจากบทอ่าน
การพยากรณ์อากาศ (Weather Forecast)
3. การถามและการขอข้อมูล (Asking &
Giving Information)
เสยี ง คําศัพท์ วลี สาํ นวนทีม่ ักใช้บอ่ ยๆ ใน
ข่าวพยากรณอ์ ากาศ เชน่ shower,
windy, heavy,scatter, stormy,
sunrise, sunset,
maximum, minimum,Northeast
4. Parts of Speech การทาํ คํานาม Noun
ให้เปน็ Adjective
5. Website ที่เก่ยี วกับการพยากรณ์อากาศ
Role play เปน็ ผู้ประกาศข่าวการ
๑๙
ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนอื้ หา จานวน
14 Global Warming (ชวั่ โมง)
พยากรณ์อากาศ
15 Urgently Wanted 12
1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทความเกีย่ วกับภาวะโลกรอ้ น (Global
12
และข้อมลู จาก Warming) สาเหตขุ องภาวะโลกรอ้ นหรอื
สือ่ ต่างๆ ผลกระทบของภาวะโลกร้อนจากหนังสือ
2. สืบค้นขอ้ มูลในด้าน หรือหนงั สือพิมพห์ รือWebsite ท่เี กย่ี วข้อง
ต่างๆ จาก Internet 2. การอา่ นออกเสยี งคําศัพท์ วลี สาํ นวน ที่
3. เข้าใจและใช้ เกยี่ วขอ้ ง เช่น temperature, increase,
ประโยคซบั ซ้อนใน melt, burn, earth, hot เปน็ ต้น
สถานการณต์ ่าง ๆ 3. โครงสร้าง Passive Voice
4. ใช้ Tense ทย่ี ่งุ ยาก Subj + V to be + V3
และซับซ้อน
5. แลกเปล่ียนข้อมลู 4. บทสนทนาที่เกีย่ วกับการป้องกันหรอื ลด
ข่าวสารความรู้ท้งั อยา่ ง ภาวะโลกร้อน
เป็นทางการและไมเ่ ปน็ 5. Mind map แสดงเหตุผลและผลกระทบ
ทางการ ของภาวะโลกร้อน
1. ศึกษาคน้ คว้าความรู้ 1. โฆษณาตําแหน่งงาน (Job
และข้อมลู จาก Advertisement)จากหนังสือ หนังสือพมิ พ์
ส่ือต่าง ๆ หรอื Website เก่ยี วข้อง
2. สบื ค้นข้อมลู ในดา้ น 2. คําศัพท์ สาํ นวน วลี โครงสร้างท่เี กยี่ วข้อง
ต่าง ๆ จาก Internet เชน่ qualification, salary, graduation,
และ รบั สง่ age, photo, apple เป็นต้น
e-mail 3. การเขียนประวัติ (Resume) เพอื่ สมัครงาน
3. เข้าใจและใช้ การส่ง e-mail สมัครงาน
ประโยคซบั ซ้อนใน
สถานการณต์ ่าง ๆ
4. การแลกเปลย่ี น
ข้อมลู ขา่ วสารความรู้
ทัง้ อย่างเป็นทางการ
และไม่เป็นทางการ
๒๐
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวช้วี ดั เนอื้ หา จานวน
(ช่ัวโมง)
ท่ี หวั เรื่อง ตัวชว้ี ัด เนื้อหา จานวน
ชว่ั โมง
16 ภาษาองั กฤษ 1. ใช้คาํ ศัพทเ์ กยี่ วกับ 1. คําศัพทเ์ ก่ยี วกบั การให้บริการนวดแผนไทย
สําหรบั พนกั งาน การใหบ้ ริการนวดแผน เช่น massage, relax etc. 12
นวดแผนไทย ไทยไดถ้ ูกต้อง 2. สาํ นวนภาษาการกล่าวเชิญชวนลูกค้า การ
2. ใช้สาํ นวนภาษาใน นัดหมายลกู ค้า การให้ข้อมูลเกี่ยวกบั การบริการ
การเชิญชวน นัดหมาย นวดแผนไทย เชน่
ลูกคา้ และการให้ข้อมูล
เกยี่ วกบั การนวดแผน Come this way to the massage
ไทย room. Please straight out your foot.
Please check your belongings before
you leave.
Would you like to return for another
massage later?
๒๑
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวช้ีวดั เนอื้ หา จานวน
ชวั่ โมง
17 ภาษาอังกฤษ 1. ผ้เู รยี นสามารถใช้ 1. การโตต้ อบและชักชวนลกู ค้าเขา้ ชมร้านขาย
สาํ หรบั พนักงาน 12
ขาย
ถ้อยคํา สาํ นวน และ ของท่ีระลกึ
ประโยคตอบโตใ้ นการ 2. การฝกึ สนทนาในสถานการณ์ที่กาํ หนดและ
บอกข้อมูล ความ การฝึกเรยี งลาํ ดับประโยค
ประสงคใ์ นการซ้ือ 3. การตอ่ รองราคาสนิ ค้าในรา้ นค้า
สินค้าได้ ใน 4. การฝึกเรียงลําดับบทสนทนา
สถานการณ์ดังนี้ 5. การจองต๋วั รถโดยสาร รถไฟ เคร่ืองบิน
1.1 การทกั ทาย เชญิ 6. การฝกึ เรียงลําดบั บทสนทนา
ชวนลูกค้า 7. แบบทดสอบท้ายบท
1.2 เจรจาซื้อขายและ
ตอ่ รองราคาสินคา้ ได้
1.3 โตต้ อบในการซอื้
ขายตั๋วโดยสาร บอก
จดุ หมายปลายทาง
สาํ หรบั รถโดยสาร
รถไฟ และเครื่องบินได้
1.4 มคี วามรู้ความ
เขา้ ใจและ
สามารถนาํ ความรู้
เกยี่ วกับการเจรจาซอ้ื
ขายไปใช้ได้ทุก
สถานการณ์
การวิเคราะหต์ ารางการจดั การเรยี นรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเ
ระดบั มธั ยมศึก
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ
ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
หัวเรื่อง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา
Everyday English ตคี วามหมายจาก 1. การออกเสยี งพยัญชนะต้นคา
น้ําเสยี งของผู้อืน่ และ ทา้ ยคา
รู้จักใช้นํา้ เสียงในการ 1.1ทบทวนการออกเสียง พยญั ชนะต้นคาํ
แสดงความรูส้ กึ ระหว่าง
การสนทนา ได้แก่ ดีใจ ท่ียาก เช่น เสยี ง s z ch sh
เสียใจ พึงพอใจ ไม่พึง - sit, see, soon
พอใจ ซาบซ้งึ ผิดหวัง
ปรารถนาดี ช่ืนชมและ etc.
เห็นใจ 1.2 การอ่านออกเสียงท้ายคาที่ถกู ต้อง
เช่น เสยี ง [d] , [t] , หรือ [id] เมอ่ื เป็น
กริยาชอ่ ง 2 และpast participle เชน่
- moved, turned, loved
etc.
๒๒
เพื่อชีวติ และสังคม รหสั พต31001 จานวน ๕ หน่วยกติ
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซบั ซอ้ นมากข้ึนในชวี ิตประจําวัน และงานอาชีพ
วเิ คราะห์เน้อื หา จานวน รูปผลการจัดการเรยี นรู้
ง่าย ปาน ยาก ชวั่ โมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
า 2
2
การวเิ คราะหต์ ารางการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษเ
ระดบั มธั ยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ
ของตน ถูกต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
วิเค
หัวเร่ือง ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา งา่ ย
Everyday ตีความหมายจาก 1. การออกเสยี งหนกั - เบา
English น้าํ เสียงของผู้อ่ืนและ (Stress) วธิ ีการออกเสียง หนกั -
รจู้ กั ใช้น้าํ เสียงในการ เบา ของคําในลกั ษณะต่าง ๆ
แสดงความรู้สกึ เช่น คาํ เด่ยี ว คําประสมในลกั ษณะ
ระหวา่ งการสนทนา ตา่ ง ๆ เปน็ ต้น ว่าคาํ ประเภทใด
ได้แก่ ดีใจ เสียใจ จะต้องออกเสียงเนน้ ทีพ่ ยางคแ์ รก
พยางค์กลางหรอื พยางคห์ ลัง
2. การออกเสียงตามระดับเสียงสูง
- ต่าํ (Intonation) วิธีการออก
เสียงของประโยคลักษณะตา่ ง ๆ
ซ่ึงจะต้องออกเสยี งสูง-ตาํ่
ใหถ้ กู ต้องเพ่อื ให้สื่อความหมายทผ่ี ู้
พดู ตอ้ งการ ประโยคประเภท
เดียวกนั ถ้าออกเสียงสูง-ตา่ํ ต่างกนั
จะใหค้ วามรสู้ ึกที่ตา่ งกนั
๒๓
เพ่ือชีวิตและสงั คมรหัส พต31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคท่ีซับซอ้ นมากขึ้นในชวี ติ ประจําวนั และงานอาชีพ
คราะห์เนื้อหา จานวน รูปผลการจัดการเรยี นรู้
ช่ัวโมง ตนเอง
ปาน ยาก พบ เข้า อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
2
1
การวเิ คราะห์ตารางการจดั การเรยี นรู้ วิชา ภาษาอังกฤษเพ
ระดับมัธยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเก่ยี วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ
ของตน ถูกต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หวั เร่อื ง ตวั ชี้วัด เน้ือหา
Everyday English ตีความหมายจากนํ้าเสียง 3. การออกเสยี งเช่อื มโยง(Linking Soun
ของผู้อนื่ และรู้จักใช้ วธิ ีการอา่ นออกเสียงเช่ือมโยงระหว่างคาํ
น้ําเสียงในการแสดง ภาษาองั กฤษทถ่ี ูกต้องตามกฎเกณฑ์ของ
ความรสู้ ึกระหวา่ งการ ภาษาอังกฤษ เชน่
สนทนา ได้แก่ ดีใจ เสียใจ
- Ten years ago.
etc.
4. การแสดงความดใี จ/เสยี ใจ การใช้ค
และรปู ประโยคทจ่ี ะนาํ มาใชใ้ นการแสดง
ดีใจและเสียใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถูกต้อ
แสดงความดีใจทีไ่ ด้พบกนั อีกครั้งหรือแส
ความเสยี ใจที่ทําผิด เปน็ ต้น
ตัวอย่าง คําวลี และรูปประโยค เชน่
- Congratulations!
etc.
๒๔
พื่อชีวิตและสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคที่ซบั ซ้อนมากขนึ้ ในชีวิตประจําวนั และงานอาชีพ
วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา จานวน รูปผลการจัดการเรียนรู้
ง่าย ปาน ยาก ชวั่ โมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ ค่าย
nd) 1
าใน
ง
คาํ วลี 1
งความ
อง เชน่
สดง
การวิเคราะห์ตารางการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาอังกฤษเ
ระดับมัธยมศึก
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ ก่ียวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ
ของตน ถกู ต้องตามหลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา
Everyday ตคี วามหมายจากน้าํ เสียง 5. การแสดงความพอใจ/ไม่
English ของผู้อนื่ และรู้จักใช้นํา้ เสียง
ในการแสดงความรู้สึกระหว่าง พอใจ ให้รูจ้ ักคาํ วลี และรปู
การสนทนา ไดแ้ ก่ ดใี จเสยี ใจ
ประโยคที่จะนํามาใช้ในการ
แสดงความพอใจ/ไม่พอใจใน
โอกาสตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้อง เช่น
แสดงความพอใจ/ไม่พอใจใน
การรบั บริการ เปน็ ตน้ ตัวอย่าง
คํา วลี และรูปประโยค เช่น
- Great!
- Awful!
- Good news!
๒๕
เพือ่ ชีวิตและสังคม รหสั พต31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคที่ซบั ซอ้ นมากขนึ้ ในชวี ติ ประจําวัน และงานอาชีพ
วเิ คราะห์เนอ้ื หา จานวน รปู ผลการจัดการเรียนรู้
ช่วั โมง ตนเอง
ง่าย ปาน ยาก พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
2
ง
การวิเคราะห์ตารางการจดั การเรียนรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเพ
ระดับมัธยมศึก
มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดับ
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกบั ภาษาท่าทาง การฟงั พดู อ่าน เขียน
ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
หวั เรือ่ ง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา
Everyday English ตีความหมายจากน้าํ เสียง 6. การแสดงความปรารถนา/ เห็นใจ
ของผู้อน่ื และรจู้ ักใช้ และการตอบรบั การใช้ คํา วลี และ
นาํ้ เสียงในการแสดง รูปประโยคทจ่ี ะนํามาใช้ใน การแสดง
ความรสู้ กึ ระหวา่ งการ ความปรารถนาด/ี เหน็ ใจในโอกาสตา่ ง
สนทนา ได้แก่ ดีใจ เสียใจ ๆ ได้ถูกตอ้ ง เชน่ การแสดงความ
ระลึกถงึ การแสดงความเหน็ ใจเม่ือ
ผ้อู นื่ ประสบปญั หา เปน็ ตน้ ตัวอย่าง
คํา วลี และรปู ประโยค เชน่
- Best wishes.
- Take care.
- Get well soon. etc.
๒๖
พือ่ ชีวิตและสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกติ
กษาตอนปลาย
น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี บั ซอ้ นมากขึ้นในชวี ิตประจําวนั และงานอาชีพของตน
วเิ คราะห์เนื้อหา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้
ชัว่ โมง ตนเอง
ง่าย ปาน ยาก พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
1
การวิเคราะหต์ ารางการจดั การเรยี นรู้ วิชา ภาษาองั กฤษเพ
ระดบั มธั ยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พูด อ่าน เขยี น
ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หัวเรอื่ ง ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา
Everyday English ตคี วามหมายจาก 7. การแสดงความต้องการการเสนอ/ให้
นา้ํ เสยี งของผู้อื่นและ ความชว่ ยเหลือ/บรกิ าร รวมท้งั การตอบ
รจู้ กั ใช้นํา้ เสียงในการ รับ/ปฏเิ สธ การ ให้ความช่วยเหลอื /บริการ
แสดงความรูส้ กึ การใช้คํา วลี และรูปประโยคเพ่ือแสดง
ระหวา่ งการสนทนา ความตอ้ งการ การเสนอ/ใหค้ วาม
ได้แก่ ดีใจ เสยี ใจ ช่วยเหลอื /บริการ รวมท้ังการตอบรบั /
ปฏเิ สธในการให้ความชว่ ยเหลอื /บรกิ ารใน
โอกาสและสถานที่ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง
ไดแ้ ก่ การซือ้ สินคา้ /บริการในรา้ น การสงั่
จองต๋ัวเครื่องบนิ /รถไฟ/ภาพยนตร/์ การ
บริการในบรษิ ัททัวร์ การจองโรงแรม/ ทพ่ี ัก
การใช้บรกิ ารในท่ที ําการไปรษณยี /์
ธนาคาร/ร้านอินเตอรเ์ น็ต ตวั อยา่ ง คาํ วลี
และรูปประโยค
๒๗
พือ่ ชีวิตและสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกติ
กษาตอนปลาย
น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี บั ซอ้ นมากขึ้นในชวี ิตประจําวนั และงานอาชีพของตน
วเิ คราะห์เนื้อหา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้
ชัว่ โมง ตนเอง
ง่าย ปาน ยาก พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
1
การวิเคราะหต์ ารางการจดั การเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษเพ
ระดบั มธั ยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พดู อ
ของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หัวเร่ือง ตัวชว้ี ัด เนอื้ หา
What should อา่ นและทาํ ตามคําแนะนําใน 2. การใชพ้ จนานุกรม (Dictionary)
you do?
การใชค้ ูม่ ือ ป้าย คาํ แนะนํา 1.1 ทบทวนการคา้ หาความหมายของคําศ
วธิ ีการปรงุ ขอ้ ควรระวงั และ โดยเรยี งตามตวั อกั ษรของคําศัพท์ท่คี ้นหาจ
ป้ายประกาศ a ถึง z
1.2 ให้อ่านวิธกี ารใช้พจนานุกรมและข้อม
ตา่ ง ๆ ทีอ่ ยู่ในส่วนหนา้ (คําชี้แจงในการใช
ของ Dictionary ให้เข้าใจ
1.3 เม่ือค้นหาคาํ ศพั ท์พบแล้ว ใหศ้ ึกษาวธิ
อ่านออกเสียงหน้าทข่ี องคาํ ความหมายแล
ตวั อย่างในการใช้ (ซง่ึ คําบางคําอาจจะทําห
ได้หลายอย่าง) และคําท่ีมคี วามหมายใกล้เ
กัน เชน่ drug (ดรกั ) n. ยา ผลติ ภณั ฑย์ า
เสพตดิ สินค้าทเี่ กยี่ วกบั สุขภาพทีข่ ายในร้า
ขายยา
๒๘
พื่อชีวิตและสังคม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซอ้ นมากขน้ึ ในชีวิตประจําวัน และงานอาชีพ
วเิ คราะห์เนอื้ หา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้
ง่าย ปาน ยาก ช่วั โมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
ศพั ท์ 2
จาก
มูล 2
ช้)
ธีการ 2
ละ
หนา้ ท่ี
คียง
ยา
าน
การวเิ คราะหต์ ารางการจดั การเรียนรู้ วิชา ภาษาองั กฤษเพ
ระดับมธั ยมศึก
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟงั พดู อ
ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หวั เรื่อง ตัวช้ีวดั เนือ้ หา
What should อ่านและทําตามคาํ แนะนาํ ใน 2. การวิเคราะห์ศัพท์และรปู ประโยคท่ี
you do? การใช้คูม่ ือ ป้าย คําแนะนาํ ใชใ้ นสญั ลักษณ์ ป้ายประกาศ/คําแนะนํา
วิธีการปรุง ข้อควรระวงั และ ในการใช/้ คําแนะนํา/คาํ เตือนตา่ ง ๆ
ป้ายประกาศ 2.1 การวเิ คราะห์ศัพท์โดยการร้จู ักสว่ น
ทเ่ี ปน็ รากศัพท์ (Root) อปุ สรรค หรือที่
คําเติมไปข้างหน้า (Prefix) และปจั จัย
หรอื คาํ ทีเ่ ติม ข้างหลงั (Suffix) โดย
ทราบความหมายของส่วนประกอบของ
คําศัพทต์ า่ ง ๆ เหลา่ นน้ั ก็จะทราบ
ความหมายของศพั ท์ได้ เชน่
Prefix : re = again
etc.
Suffix : ant = person
etc.
๒๙
พือ่ ชวี ติ และสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทีซ่ บั ซ้อนมากขึ้นในชวี ิตประจําวนั และงานอาชีพ
วิเคราะห์เนื้อหา จานวน รปู ผลการจัดการเรียนรู้
งา่ ย ปาน ยาก ช่ัวโมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
2
การวเิ คราะหต์ ารางการจดั การเรยี นรู้ วิชา ภาษาอังกฤษเพ
ระดบั มัธยมศึก
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเก่ยี วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขยี น
ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
วิเค
หัวเร่อื ง ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา งา่ ย
What should อ่านและทําตาม 2.2 รปู ประโยคท่ีใชใ้ นสัญลกั ษณ์/
you do? คําแนะนําในการใช้ ปา้ ยประกาศ/คําแนะนาํ ในการใช้/
คู่มอื ป้าย คําแนะนํา คาํ แนะนํา/คําเตือนต่าง ๆ ซ่ึงจะใช้
วธิ ีการปรุง ข้อควร รปู ประโยคคําสัง่ (Imperative
ระวงั และ ป้าย Sentence) ทัง้ ในลกั ษณะบอกเลา่
ประกาศ และปฏเิ สธ เชน่
- Don’t smoke.
- No smoking.
- No entry.
etc.
2.3 สญั ลกั ษณ์และปา้ ยประกาศ
ต่าง ๆ (Signs & Notices) รู้จัก
ความหมายของสญั ลกั ษณ์และปา้ ย
ประกาศที่พบในชีวติ ประจาํ วันและ
การประกอบอาชพี
๓๐
พอื่ ชีวิตและสังคม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกติ
กษาตอนปลาย
น ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซอ้ นมากขนึ้ ในชีวติ ประจําวนั และงานอาชีพของตน
คราะห์เนอ้ื หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้
ชว่ั โมง ตนเอง
ปาน ยาก พบ เข้า อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
1
1
การวิเคราะห์ตารางการจดั การเรยี นรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษเพ
ระดบั มัธยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ
ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หัวเรอื่ ง ตวั ช้ีวัด เน้ือหา
What should อา่ นและทําตาม 4. สลากยาและคมู่ ือในการใช้อปุ กรณ์ต่าง ๆ
you do? คาํ แนะนําในการใช้ (Instructions) การอ่าน ทําความเข้าใจและ
คู่มือ ป้าย คําแนะนํา ปฏิบัติตามคาํ แนะนาํ ในการใช้ยาและอปุ กรณ์
วิธกี ารปรงุ ขอ้ ควร ตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั เช่น หมอ้ หุงขา้ ว
ระวังและ ป้าย ไฟฟา้ โทรศัพท์มือถือ เปน็ ต้น โดยให้เข้าใจ
ประกาศ สํานวนหรือโครงสร้างของประโยคทม่ี ักใช้
5. คาํ แนะนาํ และคําเตือนต่าง ๆ
(Tips and Warning) รู้จกั วธิ ีการอา่ นและ
ตคี วามคาํ แนะนาํ คําชีแ้ จง และคําอธิบายต่าง
ๆ เช่น พยากรณ์อากาศ ประกาศ เตอื นภัย
คําแนะนําในการเข้าไปในสถานทตี่ า่ ง ๆ
คําอธิบายสินคา้ และส่วนประกอบหรือ
เครื่องปรุง วธิ กี ารปรงุ อาหาร เป็นต้น
๓๑
พื่อชีวิตและสงั คม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขยี น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคท่ีซับซอ้ นมากขึ้นในชวี ติ ประจําวนั และงานอาชีพ
วเิ คราะห์เนอ้ื หา จานวน รปู ผลการจัดการเรยี นรู้
ชั่วโมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน
ง่าย ปาน ยาก กลมุ่ คา่ ย
กลาง 1
1
การวเิ คราะห์ตารางการจัดการเรยี นรู้ วิชาภาษาองั กฤษเพ
ระดับมธั ยมศกึ
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกยี่ วกับ ภาษาท่าทาง การฟงั พูด อ
ของตน ถกู ต้องตามหลกั ภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
หวั เร่อื ง ตัวชีว้ ัด เนือ้ หา
Hello, could ติดตอ่ สื่อสาร 1. การติดต่อทางโทรศพั ทก์ ับผูท้ ่ีคุ้นเคย
you tell ทางโทรศัพท์ได้ รูจ้ กั วธิ กี ารพดู โต้ตอบทางโทรศพั ท์กับ
me.............? คล่องแคลว่ เพ่อื น ญาติ พี่น้องและผู้ทค่ี ุ้นเคยในเร่อื ง
ต่าง ๆ โดยใช้สาํ นวนและภาษาทเ่ี หมาะสม
2. การติดต่อทางโทรศัพทเ์ พื่อสอบถาม
ข้อมูล
ต่าง ๆ การใช้สาํ นวนภาษาที่ใชพ้ ดู ทาง
โทรศพั ท์เพอื่ สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ที่
ต้องการทราบโดยใชร้ ูปประโยคขอร้อง /
ขอร้องอยา่ งสุภาพ (request, polite,
request) ประโยค direct/ indirect
speech ประโยคคาํ ถามลักษณะต่าง ๆ
ประโยคแสดงความคิดเห็นและการ
ขอบคุณ เชน่ การสอบถามเส้นทางการ
เดนิ ทางไปทตี่ า่ ง ๆ
๓๒
พื่อชีวิตและสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต
กษาตอนปลาย
อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซ่ี บั ซอ้ นมากขน้ึ ในชวี ิตประจําวัน และงานอาชีพ
วิเคราะห์เน้ือหา จานวน รปู ผลการจัดการเรยี นรู้
ช่วั โมง ตนเอง
ง่าย ปาน ยาก พบ เข้า อบรม โครงงาน
กลาง กลมุ่ คา่ ย
4
4
การวเิ คราะหต์ ารางการจัดการเรียนรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเพ
ระดบั มัธยมศกึ
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟงั พดู อ่าน เขียน
ถกู ต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
หัวเร่ือง ตัวช้วี ดั เน้ือหา
Hello, ตดิ ต่อสือ่ สารทางโทรศัพท์ไดค้ ลอ่ งแคลว่ 3. การตดิ ตอ่ ทางโทรศพั ท์เพ่ือการ
could you ประกอบอาชีพ
tell วิธกี ารพูดโตต้ อบทางโทรศัพท์ เพือ่
me.............? ถาม-ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบ
อาชีพ โดยใช้สํานวนและภาษาที่
เหมาะสมในการสอบถามข้อมูล
เกย่ี วการสมคั รงาน การซื้อ-ขาย
สนิ ค้า การส่งเสรมิ การขาย การ
ตอ่ รองราคา การรับและส่งของ
Cultural 1. ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาท วฒั นธรรม 5. 1. การใชภ้ าษาในการส่อื สารได้
Difference และประเพณตี ่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมตามมารยาททางสังคม
2. เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่าง และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
วัฒนธรรมองั กฤษกับวฒั นธรรมไทย การใชภ้ าษา นํา้ เสียงและภาษา
ทา่ ทางไดอ้ ย่างเหมาะสมกับบุคคล
เวลา สถานที่และโอกาส
๓๓
พอ่ื ชีวิตและสังคม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกติ
กษาตอนปลาย
น ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ซี บั ซอ้ นมากขึ้นในชวี ิตประจําวัน และงานอาชีพของตน
วเิ คราะห์เน้อื หา จานวน รปู ผลการจดั การเรียนรู้
งา่ ย ปาน ยาก ชัว่ โมง ตนเอง พบกลุ่ม เข้า อบรม โครงงาน
กลาง ค่าย
ร 4
อ
บ
3
ล