The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Concept-แผนการจัดการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patcharee01k, 2022-12-10 19:13:03

Concept-แผนการจัดการเรียนรู้

Concept-แผนการจัดการเรียนรู้

41

4) เสนอขอ้ มลู ที่ใชแ่ ละไม่ใช่ตัวอย่ำงสงิ่ ท่ีจะสอนอยำ่ งละ 1 ข้อมูล แล้วให้ผเู้ รียนช่วยกัน
ยกตัวอย่ำงข้อมูลที่ผู้เรียนคิดว่ำใช่ตัวอย่ำงของสิ่งท่ีจะสอน โดยผู้สอนจะเป็นผู้ตอบว่ำใช่หรือไม่ใช่
วิธีน้ีผู้เรียนจะมีโอกำสคดิ มำกขึ้นอีก

ข้ันที่ 4 ขน้ั ลงมอื ทา (Doing)
ให้ผู้เรียนบอกคุณสมบัติเฉพำะของสิ่งท่ีต้องกำรสอนจำกกิจกรรมท่ีผ่ำนมำในข้ันต้น ๆ

ผู้เรียนจะต้องพยำมหำคุณสมบัติเฉพำะของตัวอย่ำงท่ีใช่และไม่ใช่สิ่งท่ีผู้เรียนต้องกำรสอน
และทดสอบคำตอบของตน หำกคำตอบของตนผิดผู้เรียนก็จะต้องหำคำตอบใหม่ซ่ึงก็หมำยควำมว่ำ
ต้องเปล่ียนสมมติฐำนที่เป็นฐำนของคำตอบเดิม ด้วยวิธีนี้ผู้เรียนจะค่อย ๆ สร้ำงควำมคิดรวบยอด
ของสง่ิ น้นั ข้ึนมำ ซ่ึงก็จะมำจำกคุณสมบัติเฉพำะของส่งิ นนั้ นั่นเอง

ขัน้ ท่ี 5 ขน้ั สรุปกฎเกณฑ์
ให้ผู้เรียนสรุปและให้คำจำกัดควำมของสิ่งที่ต้องกำรสอน เมื่อผู้เรียนได้รำยกำรของ

คุณสมบัติเฉพำะของส่ิงที่ต้องกำรสอนแล้ว ผู้สอนให้ผู้เรียนช่วยกันเรียบเรียงให้เป็นคำนิยำมหรือคำ
จำกดั ควำม

ข้นั ที่ 6 ขัน้ ประเมนิ
ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรำยร่วมกันถึงวิธีกำรที่ผู้เรียนใช้ในกำรหำคำตอบให้ผู้เรียนได้เรียนรู้

เก่ยี วกับกระบวนกำรคดิ ของตวั เอง


42

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รำยวชิ ำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 สำระกำรเรียนรเู้ พ่ิมเตมิ
ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ 6
เวลำ 60 ชว่ั โมง

ศึกษาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ การสืบพันธ์ุของสัตว์ การสืบพันธ์ุ
ของมนุษย์ การเจริญเติบโตของสัตว์ และการเจริญเติบโตของมนุษย์ ศึกษาเก่ียวกับระบบประสาท
และอวัยวะรับความรู้สึก การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ เซลล์ประสาท การทางานของเซลล์
ประสาท ศูนยค์ วบคุมระบบประสาท การทางานของระบบประสาท และอวัยวะรับความรู้สึก ศึกษา
เก่ียวกับระบบต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและอวัยวะที่สาคัญ การรักษาดุลยภาพ
ของร่างกายด้วยฮอร์โมน และฟีโรโมน ศึกษาเกี่ยวกับการเคล่ือนท่ีของส่ิงมีชีวิต การเคล่ือนที่
ของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว การเคล่ือนท่ีของสัตว์ และการเคลือ่ นท่ีของมนุษย์ ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรม
ของสัตว์ ประเภทของพฤติกรรม ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับพัฒนาการของระบบประสาท
และการสอื่ สารระหวา่ งสตั ว์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล
การสงั เกต การวเิ คราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และการสรุป

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้
และนาความร้ไู ปใช้ในชีวติ ของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ ม


43

ผลกำรเรยี นรู้

กล่มุ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

รำยวิชำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 สำระกำรเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ
ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 6
เวลำ 60 ชวั่ โมง

1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบ
อาศัยเพศในสตั ว์

2. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบ
สบื พันธเ์ุ พศหญิง

3. อธิบายกระบวนการสร้างสเปิรม์ กระบวนการสรา้ งเซลลไ์ ข่ และการปฏิสนธใิ นมนุษย์
4. อธบิ ายการเจรญิ เติบโตระยะเอ็มบรโิ อและระยะหลังเอ็มบรโิ อของกบ ไก่ และมนษุ ย์
5. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องระบบประสาทของไฮดรา
พลานาเรยี ไสเ้ ดอื นดนิ กุง้ หอย แมลง และสัตว์มกี ระดกู สันหลงั
6. อธบิ ายเกีย่ วกบั โครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องเซลลป์ ระสาท
7. อธิบายเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของศักยไ์ ฟฟ้าทเ่ี ย่อื หุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาทและกลไก
การถา่ ยทอดกระแสประสาท
8. อธิบาย และสรุปเก่ียวกับโครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาท
รอบนอก
9. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ในสมองส่วนหน้า สมอง
ส่วนกลาง สมองส่วนหลงั และไขสนั หลัง
10. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทางานของระบบประสาทโซ
มาติก และระบบประสาทอตั โนวัติ
11. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนังของมนุษย์
ยกตวั อยา่ งโรคต่างๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกันและรักษา
12. สังเกต และอธิบายการหาตาแหน่งของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผัสของ
ผวิ หนงั
13. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าที่ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและ
เนื้อเยือ่ ที่สร้างฮอรโ์ มน
14. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะท่ีเก่ียวข้องกับ
การเคลื่อนท่ีของแมงกะพรุน หมกึ ดาวทะเล ไส้เดอื นดิน แมลง ปลา และนก


44

15. สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของกระดูกและกล้ามเน้ือท่ีเกี่ยวข้องกับ
การเคล่อื นไหวและการเคลือ่ นทข่ี องมนุษย์

16. สังเกต และอธิบายการทางานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทางานของกล้ามเนื้อโครง
รา่ งที่เกย่ี วข้องกับการเคลือ่ นไหวและการเคล่ือนที่ของมนุษย์

17. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิด
และพฤติกรรมทเี่ กิดจากการเรยี นรู้ของสัตว์

18. สบื ค้นข้อมลู อธบิ าย และยกตัวอย่างความสมั พันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของ
ระบบประสาท

19. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสอ่ื สารระหวา่ งสัตวท์ ที่ าใหส้ ัตว์แสดงพฤติกรรม

รวม 19 ผลกำรเรยี นรู้


45

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รำยวิชำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 สำระกำรเรียนรู้เพม่ิ เตมิ
ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 6
เวลำ 60 ช่วั โมง

ลำดับ ชอ่ื หน่วยกำร ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

1. ระบบสบื พนั ธ์ุ 1. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ าย ก า ร สื บ พั น ธุ์ ข อ ง สั ต ว์ แ บ่ ง 12
และการเจริญ แ ล ะ ย ก ตั ว อ ย่ า ง ก า ร ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การ
เติบโตของสตั ว์ สืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ สืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศเป็นการ
และการสืบพันธุ์แบบอาศัย สืบพันธุ์ที่ไม่มีการรวมของเซลล์
สบื พันธุ์ และการสืบพนั ธุ์แบบอาศัย
เพศในสตั ว์
เพศเป็นการสืบพันธ์ุที่เกิดจากการ
2. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล รวมนิวเคลียสของเซลล์สืบพันธ์ุซ่ึงมี
อธิ บ า ย โ ค ร ง ส ร้า ง แ ล ะ ทั้งการปฏิสนธิภายนอกและการ
หน้าที่ของอวัยวะในระบบ ปฏสิ นธิภายใน
สืบพันธ์ุเพศชายและระบบ
สืบพันธเุ์ พศหญิง การสืบพันธ์ุของมนุษย์เป็นการ
สืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศ โดยการ
3. อธบิ ายกระบวนการ ปฏิสนธิของสเปิร์มท่ีสร้างจากเซลล์
สร้างสเปิร์ม กระบวนการ สเปอร์มาโทโกเนียมภายในอัณฑะ
สร้างเซลล์ไข่ และการ กับเซลล์ไข่จากเซลล์โอโอโกเนียม
ปฏิสนธิในมนษุ ย์
ภายในรังไข่ กระบวนการสร้าง

4. อ ธิ บ า ย ก า ร สเปิร์มเร่ิมจากสเปอร์มาโทโกเนียม

เจริญเติบโตระยะเอ็มบริโอ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้สเปอร์มา

และระยะหลังเอ็มบริโอของ โทโกเนียม ซึ่งต่อมาบางเซลล์

กบ ไก่ และมนุษย์ พั ฒ น า เ ป็ น ส เ ป อ ร์ ม า โ ท ไ ซ ต์

ระยะแรก โดย สเปอร์มาโทไซต์

ระยะแรกจะแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส

I ได้สเปอร์มา- โทไซตร์ ะยะที่สองซ่ึง

จ ะ แ บ่ ง เ ซ ล ล์ แ บ บ ไ ม โ อ ซิ ส II

ได้สเปอร์มาทิด จากนั้นพัฒนาเป็น

สเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่


46

ลำดับ ช่ือหน่วยกำร ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรียนรู้ (ชม.)

เริ่มจากโอโอโกเนียมแบ่งเซลล์แบบ

ไมโทซิสได้ โอโอโกเนียมซ่ึงจะ

พัฒนาเป็นโอโอไซต์ระยะแรก แล้ว

แบง่ เซลลแ์ บบไมโอซสิ I ได้โอโอไซต์

ระยะทส่ี องซ่ึงจะเกิดการตกไข่ต่อไป

เม่ือได้รับการกระตุ้นจากสเปิร์ม โอ

โอไซต์ระยะที่สองจะแบ่งแบบไมโอ

ซิส II แล้วพัฒนาเป็นเซลล์ไข่ การ

ปฏิสนธิเกิดขึ้นภายในท่อนาไข่ได้ไซ

โ กตซึ่งจะเจริญเป็นเอ็มบริโ อ

และฝังตัวที่ผนังมดลูกจนกระทั่ง

ครบกาหนดคลอด

การเจริญเติบโตของสัตว์ เช่น

กบ ไก่ และสัตว์เล้ียงลูกด้วยน้านม

เร่ิมต้นด้วยการแบ่งเซลล์ของไซโกต

การเกิดเนือ้ เย่อื เอ็มบรโิ อ 3 ชน้ั การ

เกิดอวัยวะ โดยมีการเพิ่มจานวน

ขยายขนาด และการเปล่ียนแปลง

รปู รา่ งของเซลล์เพ่ือทาหน้าท่ีเฉพาะ

อย่าง ซ่ึงพัฒนาการของอวัยวะ

ต่าง ๆ จะทาให้มีการเกิดรูปร่างที่

แนน่ อนในสตั ว์แตล่ ะชนดิ

การเจริญเติบโตของมนุษย์จะมี

ขั้นตอนคล้ายกับการเจริญเติบโต

ของสัตว์เล้ียงลูกด้วยน้านม โดย

เอ็มบริโอจะฝังตัวท่ผี นังมดลูกและมี

การแลกเปล่ียนสารระหว่างแม่กับ

ลูกผา่ นทางรก


47

ลำดับ ชอื่ หน่วยกำร ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

2. ระบบประสาท 4. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย สัตว์มีระบบประสาททาให้ 14
และอวัยวะรบั และเปรียบเทียบโครงสร้าง สามารถรับรู้และตอบสนองต่อส่ิง

ความรู้สกึ แ ล ะ ห น้ า ท่ี ข อ ง ร ะ บ บ เร้าได้ เช่น ไฮดรามีร่างแหประสาท

ประสาทของไฮดรา พลานา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย
เรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แ ล ะ แ ม ล ง มี ป ม ป ร ะ ส า ท แ ล ะ

แมลง และสัตว์มีกระดูกสัน เส้นประสาท ส่วนสัตว์มีกระดูกสัน

หลงั หลัง มีสมอง ไขสนั หลัง ปมประสาท

5. อ ธิ บ า ย เ กี่ ย ว กั บ และเส้นประสาท
โครงสร้างและหน้าที่ของ เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัว
เซลล์และเส้นใยประสาท แบ่ง
เซลล์ประสาท
ออ ก เป็ น เด น ไ ดร ต์ เป็ น เส้ น ใ ย
6. อธิบายเก่ียวกับการ ประสาทท่ีนากระแสประสาทออก
เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ข อ ง จากตัวเซลล์และแอกซอนเปน็ เส้นใย
ศักย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือหุ้มเซลล์ ประสาทที่นากระแสประสาทเข้าสู่
ของเซลล์ประสาท และ ตัวเซลล์
กลไกการถ่ายทอดกระแส
ประสาท เซลล์ประสาทจาแนกตามหน้าท่ี
ได้ 3 ประเภท ได้แก่ เซลล์ประสาท
7. อ ธิ บ า ย แ ล ะ ส รุ ป รับความรู้สึก เซลล์ประสาท สั่งการ
เ ก่ี ย ว กั บ โ ค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง และเซลล์ประสาทประสานงาน
ระบบประสาทส่วนกลาง เซลล์ประสาทจาแนกตามรูปร่างได้
และระบบประสาทรอบ 4 ประเภท ได้แก่ เซลล์ประสาทขั้ว
นอก เดียว เซลล์ประสาทขั้วเดียวเทียม

8. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล เซลล์ประสาทสองข้ัว และเซลล์
อธิ บ า ย โ ค ร ง ส ร้า ง แ ล ะ ประสาทหลายขัว้
หน้าท่ีของส่วนต่างๆ ใน กระแสประสาทเกิดจากการ
ส ม อ ง ส่ ว น ห น้ า ส ม อ ง เปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้ม
ส่วนกลาง สมองส่วนหลัง เซลลข์ องเดนไดรต์และแอกซอน ทา
และไขสนั หลงั
ให้มีการถ่ายทอดกระแสประสาท

จ า ก เ ซ ล ล์ ป ร ะ ส า ท ไ ป ยั ง เ ซ ล ล์


48

ลำดบั ช่ือหน่วยกำร ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

1 0 . สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ประสาทหรือเซลล์อื่น ๆ ผ่านทาง
อธิบาย เปรียบ เทียบ และ ไซแนปส์
ยกตัวอย่างการทางานของ ระบบประสาทของมนุษย์แบ่ง
ระบบประสาทโซมาติก ได้เป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ
และระบบประสาทอตั โนวตั ิ ประสาทส่วนกลางเป็นการทางาน

11. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ของสมองและไขสันหลัง และระบบ
อธิ บ า ย โ ค ร ง ส ร้า ง แ ล ะ ประสาทรอบนอกเป็นการทางาน
หน้าท่ีของตา หู จมูก ล้ิน ข อ ง เ ส้ น ป ร ะ ส า ท ส ม อ ง แ ล ะ
และผิวหนังของมนุษย์ เส้นประสาทไขสันหลัง
ยก ตัวอย่างโรคต่างๆท่ี สมองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
เ กี่ ย ว ข้ อ ง แ ล ะ บ อ ก สมองสว่ นหนา้ สมองส่วนกลาง และ
แนวทางในการดูแลป้องกัน สมองส่วนหลัง มีเส้นประสาทท่ีแยก
ออกจากสมอง 12 คู่ ไปยังอวัยวะ
และรกั ษา
ต่ า ง ๆ ซึ่ ง บ า ง คู่ ท า ห น้ า ท่ี รั บ
1 2 . สั ง เ ก ต แ ล ะ ความรู้สึกเข้าสู่สมอง หรือนาคาสั่ง
อธิบายการหาตาแหน่งของ จากสมองไปยังหน่วยปฏิบัติงาน
จุดบอด โฟเวีย และความ หรือทาหน้าท่ีท้ังสองอย่าง ไขสัน
ไว ในการรับสัมผัสของ ห ลั ง เ ป็ น ส่ ว น ท่ี ต่ อ จ า ก ส ม อ ง อ ยู่
ผิวหนงั ภ า ย ใ น ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง แ ล ะ มี

เส้นประสาทแยกออกจากไขสันหลัง

เป็นคู่ ทาหน้าที่ประมวลผลการ

ต อ บ ส น อ ง โ ด ย ไ ข สั น ห ลั ง

เส้นประสาทไขสันหลังทุกคู่จะทา

หน้าท่ีรับความรู้สึกเข้าสู่ไขสันหลัง

และนาคาสง่ั ออกจากไขสันหลัง

ระบบประสาทรอบนอก ส่วนท่ี

สั่งการแบ่งเป็นระบบประสาทโซ

มาติกซ่ึงควบคุมการทางานของ

กล้ามเน้ือโครงร่าง และระบบ


49

ลำดับ ชอ่ื หน่วยกำร ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

ประสาทอัตโนวัติซ่ึงควบคุมการ

ท า ง า น ข อ ง ก ล้ า ม เ น้ื อ หั ว ใ จ

กลา้ มเน้อื เรยี บ และต่อมต่างๆ

ตาประกอบด้วยช้ันสเคลอรา

โครอยด์ และ เรตินา เลนส์ตาเป็น

เล น ส์นู น อยู่ ถั ดจ า กก ร ะจ ก ต า

ทาหน้าท่ีรวมแสงจากวัตถุไปท่ีเรติ

นา ซึ่งประกอบ ด้วยเซลล์รับแสง

แ ล ะ เ ซ ล ล์ ป ร ะ ส า ท ที่ น า ก ร ะ แ ส

ประสาทสู่สมอง หูประกอบด้วย 3

ส่วน คือ หูส่วนนอก หูส่วนกลาง

และหูส่วนใน ภายในหูส่วนในมีคอ

เคลีย ซึ่งทาหน้าท่ีรับและเปล่ียน

ค ลื่ น เ สี ย ง เ ป็ น ก ร ะ แ ส ป ร ะ ส า ท

นอกจากน้ี ยังมีเซมิเซอร์คิวลาร์-

แคเเนลทาหน้าท่ีรับรู้เกี่ยวกับการ

ทรงตัวของร่างกาย จมูกมีเซลล์

ประสาทรับกล่ินอยู่ภายใน เย่ือบุ

จมูกท่ีเป็นตัวรับสารเคมีบางชนิด

แล้วเกิดกระแสประสาทส่งไปยัง

สมอง ล้ินทาหน้าท่ีรับรส โดยมีตุ่ม

รับรสกระจายอยู่ทั่วผิวลิ้น ตุ่มรับรส

มีเซลล์รับรสอยู่ภายใน เม่ือเซลล์รับ

รสถูกกระตุ้นด้วยสารเคมีจะกระตุ้น

เดนไดรต์ของเซลล์ประสาทเกิด

ก ร ะ แ ส ป ร ะ ส า ท ส่ ง ไ ป ยั ง ส ม อ ง

ผิวหนังมีหน่วยรับสิ่งเร้าหลายชนิด

เช่น หน่วยรับสัมผัส หน่วยรับแรง


50

ลำดบั ชอ่ื หน่วยกำร ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

กด หน่วยรับความเจ็บปวด หน่วย

รบั อณุ หภมู ิ

3 ระบบต่อมไรท้ ่อ 13. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ฮอรโ์ มนเป็นสารท่คี วบคุมสมดุล 14
อธิบาย และเขียนแผนผัง ต่าง ๆ ของร่างกายโดยผลิตจาก

สรุปหน้าทข่ี องฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อหรือเนื้อเย่ือ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อและเน้ือเย่ือที่ สร้างหรือหลั่งฮอร์โมนโดยอาศัย

สร้างฮอรโ์ มน ระบบหมุนเวียนเลือดไปยังอวัยวะ
เปา้ หมายท่ีจาเพาะเจาะจง

ต่อมไพเนียลสร้างเมลาโทนิน

ซึ่งยับย้ังการเจริญเติบโตของอวัยวะ

สืบพันธุ์ช่วงก่อนวัยเจริญพันธุ์และ

ตอบสนองต่อการเปล่ียนแปลงของ

แสงในรอบวัน

ต่ อ ม ใ ต้ ส ม อ ง ส่ ว น ห น้ า ส ร้ า ง

และหล่ังโกนาโดโทรฟิน (FSH LH)

โกรทฮอร์โมน ไทรอยด์สติมิวเลติง

ฮอร์โมน อะดรีโนคอร์ติโคโทรปิน

โพรแลกทนิ ซงึ่ ทาหนา้ ท่ีแตกตา่ งกัน

ต่อมใต้สมองส่ว นหลังหล่ัง

ฮอร์โมนซ่ึงสร้างจากไฮโพทาลามัส

ได้แก่ ฮอร์โมนแอนติไดยูเรติกและ

ออกซิโทซิน ซง่ึ ทาหนา้ ท่แี ตกตา่ งกัน

ต่อมไทรอยด์สร้างไทรอกซินซึ่ง

ค ว บ คุ ม อั ต ร า เ ม แ ท บ อ ลิ ซึ ม ข อ ง

ร่างกาย และสร้างแคลซิโทนิน

ซ่ึงควบคุมระดับแคลเซียมในเลือด

ให้ปกติ


51

ลำดับ ช่ือหน่วยกำร ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรียนรู้ (ชม.)

ต่อมพาราไทรอยด์สร้างพารา

ทอร์โมนซึ่งควบคุมระดับแคลเซียม

ในเลือดให้ปกติ

ตั บ อ่ อ น มี ก ลุ่ ม เ ซ ล ล์ ที่ ส ร้ า ง

อินซูลินและกลูคากอนซึ่งควบคุม

ระดบั น้าตาลในเลอื ดให้ปกติ

ต่อมหมวกไตส่วนนอกสร้าง

กลูโคคอร์ติคอยด์ มิเนราโลคอร์ติ

คอยด์ และฮอร์โมนเพศ ซึ่งมีหน้าท่ี

แตกต่างกัน ส่วนต่อมหมวกไตส่วน

ในส ร้า ง เอ พิเน ฟริ นแ ละ นอ ร์

เอพิเนฟริน ซง่ึ มีหนา้ ท่ีเหมอื นกัน

อัณฑะมีกลุ่มเซลล์สร้างเทสโท

สเทอโรน ส่วนรังไข่มีกลุ่มเซลล์ท่ี

สร้างอีสโทรเจนและโพรเจสเทอโรน

ซึง่ มีหน้าทแี่ ตกตา่ งกนั

เน้ือเย่ือบางบริเวณของอวัยวะ

เช่น รก ไทมัส กระเพาะอาหาร

ลาไส้เล็ก สามารถสร้างฮอร์โมนได้

หลายชนิด ซง่ึ มหี นา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั

การควบคุมการหลั่งฮอร์โมน

จากต่อมไร้ท่อ มีท้ังการควบคุมแบบ

ป้อนกลับยับย้ัง และการควบคุม

แบบป้อนกลับกระตุ้น เพื่อรักษา

ดุลยภาพของรา่ งกาย

ฟีโรโมนเป็นสารเคมีท่ีผลิตจาก

ต่อมมีท่อของสัตว์ซ่ึงส่งผลต่อสัตว์

ตวั อืน่ ท่ีเป็นชนดิ เดยี วกัน


52

ลำดบั ชื่อหน่วยกำร ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรยี นรู้ (ชม.)

4 การเคลอ่ื นท่ี 14. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวบางชนิด 12

ของส่ิงมชี วี ติ อธิบาย และเปรียบเทียบ เคล่ือนท่ีโดยการไหลของไซโทพลา

โครงสร้างและหน้าที่ของ ซึม เช่น อะมีบา บางชนิดใช้ แฟล

อวัยวะที่เก่ียวข้องกับการ เจลลัม เช่น ยูกลีนา บางชนิดใช้ซิ

เคล่ือนที่ของแมงกะพรุน เลีย เชน่ พารามีเซยี ม

หมึก ดาวทะเล ไส้เดือนดิน สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น

แมลง ปลา และนก แมงกะพรุน เคลื่อนท่ีโดยอาศัยการ

15. สืบค้นข้อมูล และ หดตัวของเนื้อเย่ือบริเวณขอบ

อธิ บ า ย โ ค ร ง ส ร้า ง แ ล ะ กระด่ิงและแรงดันน้า หมึกเคล่ือนท่ี

ห น้ า ท่ี ข อ ง ก ร ะ ดู ก แ ล ะ โดยอาศัยการหดตัวของกล้ามเน้ือ

กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับ บริเวณลาตัว ทาให้น้าภายในลาตัว

การเคล่ือนไหวและการ พ่นออกมาทางไซฟอน ส่วนดาว

เคลอ่ื นทขี่ องมนษุ ย์ ทะเลใช้ระบบท่อน้าในการเคลื่อนที่

1 6 . สั ง เ ก ต แ ล ะ ไส้เดือนดินมีการเคลื่อนที่โดยอาศัย

อธิบายการทางานของข้อ ก า ร ห ด ตั ว แ ล ะ ค ล า ย ตั ว ข อ ง

ต่อชนิดต่างๆ และการ กล้ามเน้ือวงและกล้ามเน้ือตามยาว

ทางานของกล้ามเน้ือโครง ซ่ึงทางานในสภาวะตรงกันข้าม

ร่า งท่ี เก่ี ยว ข้อ งกั บก า ร แมลงเคล่ือนท่ีโดยใช้ปกี หรือขา ซึง่ มี

เ ค ลื่ อ น ไ ห ว แ ล ะ ก า ร กล้ามเนื้อภายในเปลือกหุ้มทางาน

เคลอื่ นทข่ี องมนุษย์ ในสภาวะตรงกันข้าม ส่วนสัตว์มี

กระดูกสันหลัง เช่น ปลาเคลื่อนที่

โดยอาศัยการหดตัวและคลายตัว

ของกล้ามเนื้อท่ียึดติดอยู่กับกระดูก

สันหลังทั้ง 2 ข้าง ทางานในสภาวะ

ตรงกันข้าม และมีครีบท่ีอยู่ใน

ตาแหน่งต่างๆ ช่วยโบกพัดในการ

เคล่ือนท่ี นกเคล่ือนที่โดยอาศัยการ

หดตัวและคลายตัวของกลา้ มเน้ือกด


53

ลำดบั ชื่อหน่วยกำร ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ
เรียนรู้ (ชม.)

ปีกกับกล้ามเนื้อยกปีกซึ่งทางานใน

สภาวะตรงกันขา้ ม

5 พฤติกรรมของ 17. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล พฤติกรรมของสัตว์เป็นผลจาก 8
สัตว์ อธิบาย เปรียบ เทียบ และ พันธุกรรมและส่ิงแวดล้อม แบ่ง

ยกตัวอย่างพฤติกรรมที่ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ พฤติกรรม

เ ป็ น ม า แ ต่ ก า เ นิ ด แ ล ะ ท่ีเป็นมาแต่กาเนิดแบ่งออกเป็นหลาย

พฤติกรรมที่เกิดจากการ ชนิด เช่น โอเรียนเตชัน (แทกซิสและ

เรียนร้ขู องสตั ว์ ไคนีซิส) รีเฟล็กซ์ ฟิกแอกชันแพ

ทเทิร์น และพฤติกรรมท่ีเกิดจากการ

เรียนรู้ แบ่งออกเป็นแฮบบิชูเอชัน

การฝังใจ การลองผิดลองถูก การมี

เง่อื นไข และการใช้เหตุผล

18. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล พฤติกรรมที่สัตว์แต่ละชนิด

อธิบาย และยก ตัวอย่าง แสดงออกจะแตกต่างกันซ่ึงเป็นผลมา

ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง จากวิวัฒนาการของระบบประสาทที่

พฤติกรรมกับวิวัฒนาการ แตกต่างกนั

ของระบบประสาท การส่ือสารเป็นพฤติกรรมทาง

19. สื บ ค้ น ข้ อ มู ล สังคมแบบหนึ่งซ่ึงมีหลายวิธี ไก้แก่

อธิบาย และยก ตัวอย่าง การส่ือสารด้วยท่าทาง การส่ือสาร

การสื่อสารระหว่างสัตว์ท่ี ด้วยเสียง การส่ือสารด้วยสารเคมี

ทาให้สัตว์แสดงพฤติกรรม และการสื่อสารดว้ ยการสัมผสั

รวม 60


54

กำรวเิ ครำะห์เน้ือหำกับเวลำเรียน

หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรสู้ กึ

รำยวชิ ำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 6

เวลำเรียน 14 ชั่วโมง ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2565

ตำรำงที่ 5 กำรวิเครำะห์เนอ้ื หำกับเวลำเรียน

ท่ี ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ย่อย ผลกำรเรียนรู้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เวลำ
(ชัว่ โมง)

1 การรบั ร้แู ละการ 1. สืบค้นข้อมูล อธิบาย 1. อธิบายและเปรียบเทียบ 2

ตอบสนองของสตั ว์ แ ล ะ เ ป รี ย บ เ ที ย บ โครงสร้างและหน้าท่ีของ

โครงสร้างและหน้าท่ีของ ระบบประสาทของสัตว์ (K)

ระบบประสาทของไฮดรา 2. ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์

พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่าง

หอย แมลง และสัตว์มี ถูกต้อง (P)

กระดกู สันหลัง 3. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ กี่ ย ว กั บ

โ ค ร ง ส ร้ า ง แ ล ะ ห น้ า ที่ ข อ ง

ระบบประสาทของสัตว์ ใน

การร่วมกิจกรรมการเรียนการ

สอนและนาความรู้ไปใช้ใน

ชวี ติ ประจาวัน (A)

4. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งม่ันในการทางาน ทางาน

ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น

ได้ (A)

2 เซลลป์ ระสาท 2. อ ธิ บ า ย เ ก่ี ย ว กั บ 1. อธิบา ยโ คร งสร้า งแล ะ 2
โครงสร้างและหน้าท่ีของ หนา้ ทขี่ องเซลลป์ ระสาท (K)
เซลล์ประสาท


55

ที่ ชอื่ หน่วยกำรเรียนร้ยู ่อย ผลกำรเรียนรู้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เวลำ
(ช่วั โมง)

2. สามารถจาแนกประเภท

ของเซลล์ประสาท (K)

3. ใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์

ท า ง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ไ ด้ อ ย่ า ง

ถูกตอ้ ง (P)

4. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ กี่ ย ว กั บ

โครงสร้างและหน้าท่ีของเซลล์

ประสาท ในการรว่ มกจิ กรรมการ

เรียนการสอนและนาความรู้ไป

ใช้ในชวี ิตประจาวนั (A)

5. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งมั่นในการทางาน ทางาน

ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน

ได้ (A)

3 การทางานของเซลล์ 2. อ ธิ บ า ย เ ก่ี ย ว กั บ 1. อธิบายการทางานของ 2

ประสาท โครงสร้างและหน้าท่ีของ เ ซ ล ล์ ป ร ะ ส า ท ใ น ก า ร ส่ ง

เซลล์ประสาท กระแสประสาท (K)

3. อธิบายเก่ียวกับการ 2. อ ธิ บ า ย เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร

เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข อ ง เปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าท่ี

ศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ เ ยื่ อ หุ้ ม เ ซ ล ล์ ข อ ง เ ซ ล ล์

ของเซลล์ประสาทและ ประสาท (K)

กลไกการถ่ายทอดกระแส 3. อธิบายเกี่ยวกับกลไกการ

ประสาท เกิดกระแสประสาทและการ

ถ่ายทอดกระแสประสาท (K)

4. เขียนแผนภาพแสดงการ

เปล่ียนแปลงศักย์ไฟฟ้าท่ีเย่ือ


56

ที่ ชือ่ หน่วยกำรเรยี นร้ยู ่อย ผลกำรเรียนรู้ จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ เวลำ
(ช่วั โมง)

หุ้ ม เ ซ ล ล์ แ ล ะ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด

กระแสประสาท (K)

5. ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์

ท า ง วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ไ ด้ อ ย่ า ง

ถูกต้อง (P)

6. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงเกี่ยวกับการ

ท า ง า น ข อ ง เ ซ ล ล์ ป ร ะ ส า ท

ในการร่วมกิจกรรมการเรียน

การสอนและนาความรู้ไปใช้

ในชวี ิตประจาวัน (A)

7. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งม่ันในการทางาน ทางาน

ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น

ได้ (A)

4 ศูนย์ควบคมุ ระบบ 4. อ ธิ บ า ย แ ล ะ ส รุ ป 1. อธบิ ายโครงสรา้ งของระบบ 2

ประสาท เก่ียวกับโครงสร้างของ ประสาทส่วนกลางและระบบ

ระบบประสาทส่วนกลาง ประสาทรอบนอกได้ (K)

และระบบประสาทรอบ 2. อธิบา ยโ คร งสร้า งแล ะ

นอก หน้าท่ีของสมองและไขสัน

5. สืบค้นข้อมูล อธิบาย หลังได้ (K)

โครงสร้างและหน้าท่ีของ 3. เ ขี ย น แ ผ น ภ า พ แ ส ด ง

ส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วน โครงสร้างของระบบประสาท

ห น้ า ส ม อ ง ส่ ว น ก ล า ง ส่วนกลางและระบบประสาท

สมอง ส่วนหลัง และไขสัน รอบนอก (K)

หลงั 4. ปฏิบัติงานตามหน้าท่ีท่ี

ได้รับมอบหมายได้ครบถ้วน

(P)


57

ที่ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรยู้ ่อย ผลกำรเรียนรู้ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ เวลำ
(ช่วั โมง)

5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงเกี่ยวกับศูนย์

ควบคุมระบบประสาท ในการ

ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน

แ ล ะ น า ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้ ใ น

ชวี ิตประจาวนั (A)

6. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งมั่นในการทางาน ทางาน

ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน

ได้ (A)

5 การทางานของระบบ 6. สืบค้นข้อมูล อธิบาย 1. อธิบาย เปรียบเทียบ และ 2

ประสาท เ ป รี ย บ เ ที ย บ แ ล ะ ยกตัวอย่างการทางานของ

ยกตัวอย่างการทางานของ ระบบประสาทโซมาติกและ

ระบบประสาทโซมาติก ระบบประสาทอัตโนวัติ (K)

และระบบประสาทอัตโน 2. เขียนแผนผังแสดงการ

วตั ิ ทางานของระบบประสาท

โซมาติก (P)

3. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ท่ี

ได้รับมอบหมายได้ครบถ้วน

(P)

4. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงเกย่ี วกับศูนย์

ควบคุมระบบประสาทในการ

ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน

แ ล ะ น า ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้ ใ น

ชวี ติ ประจาวัน (A)

5. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งมั่นในการทางาน ทางาน


58

ท่ี ชื่อหน่วยกำรเรยี นรูย้ ่อย ผลกำรเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เวลำ
(ชว่ั โมง)

ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน

ได้ (A)

6 อวยั วะรับความรูส้ กึ (1) 7. สืบค้นข้อมูล อธิบาย 1. อธิบา ยโ คร งสร้า งแล ะ 2

ตา หู โครงสร้างและหน้าที่ของ หนา้ ท่ีของอวัยวะรบั ความรู้สึก

ตา หู จมูก ล้นิ และผวิ หนงั ตา และหู (K)

ของมนุษย์ ยกตัวอย่างโรค 2. หาตาแหน่งของจุดบอด

ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง และ และโฟเวีย (P)

บอกแนวทางในการดูแล 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโรคท่ี

ป้องกนั และรักษา เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ อ วั ย ว ะ รั บ

8. สังเกต และอธิบายการ ความรสู้ กึ ตา และหู (P)

หาตาแหน่งของจุดบอด 4. นาความรู้มาใช้ในการดูแล

โฟเวีย และความไวในการ รักษาและป้องกันอันตราย

รับสัมผัสของผิวหนัง ของอวัยวะรับความรู้สึก ตา

และหู (A)

5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ ก่ี ย ว กั บ

อวัยวะรับความรู้สึก ตาและหู

ในการร่วมกิจกรรมการเรียน

การสอนและนาความรไู้ ปใช้ใน

ชีวติ ประจาวัน (A)

6. สนใจใฝ่รู้ในการศึกษาและ

มุ่งม่ันในการทางาน ทางาน

ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์

ยอมรับความคิดเห็นของผู้อ่ืน

ได้ (A)

7 อวยั วะรับความรู้สกึ (2) 7. สืบค้นข้อมูล อธิบาย 1. อธิบา ยโ คร งสร้า งแล ะ 2

จมกู ลิ้น ผวิ หนงั โครงสร้างและหน้าท่ีของ หนา้ ท่ีของอวยั วะรับความรูส้ ึก

ตา หู จมูก ล้ิน และผวิ หนัง จมูก ล้นิ และผิวหนงั (K)


59

ที่ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรยู้ ่อย ผลกำรเรยี นรู้ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ เวลำ
(ชั่วโมง)

ของมนุษย์ ยกตัวอย่างโรค 2. ทดสอบความไวในการรับ

ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง และ สมั ผัสของผิวหนงั (P)

บอกแนวทางในการดูแล 3. สืบค้นข้อมูลเก่ียวกับโรคที่

ปอ้ งกัน และรักษา เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ อ วั ย ว ะ รั บ

8. สังเกต และอธิบายการ ความรู้สึก จมูก ลิ้น และ

หาตาแหน่งของจุดบอด ผวิ หนงั (P)

โฟเวีย และความไวในการ 4. นาความรู้มาใช้ในการดูแล

รบั สัมผสั ของผวิ หนงั รักษาและป้องกันอันตราย

ของอวัยวะรับความรู้สึก จมูก

ลน้ิ และผวิ หนงั (A)

5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับ

อวัยวะรับความรู้สึก จมูก ล้ิน

แ ล ะ ผิ ว ห นั ง ในการร่ ว ม

กิจกรรมการเรียนการสอน

แ ล ะ น า ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้ ใ น

ชีวติ ประจาวัน (A)

รวมเวลำเรียน 14

ทดสอบกอ่ นเรยี น 2

ทดสอบหลังเรียน 2

รวมเวลำเรยี นทง้ั หมด 18


60

แผนการจัดการเรียนรู้แบบเนน้ แผนผงั มโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วชิ า ว30244

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ กึ เวลา 14 ชัว่ โมง

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรียนรู้ : ปฐมนิเทศ เวลา 2 ชั่วโมง

วันท.ี่ ............../......................./.................. ผูส้ อน : นางสาวนภศร เสรกี ลุ

สาระ ชีววิทยา

4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมท้ังการหายใจและการ
แลกเปล่ียนแก๊ส การลาเลยี งสารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคมุ้ กนั ของร่างกาย
การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนท่ี การสืบพันธ์ุ และการ
เจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทั้งนา
ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. เพอ่ื ทำควำมรู้จักและสร้ำงควำมค้นุ เคยระหว่ำงครูกบั นกั เรยี น (A)
2. เพ่ือทำควำมเข้ำใจกับนักเรียน เรื่องคะแนน เวลำเรียน ระเบียบปฏิบัติ และกติกำในกำร

เรยี นรำยวิชำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 เร่ือง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สกึ (K)
3. บอกเกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผลกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้เร่ืองระบบประสำทและ

อวัยวะรับควำมรสู้ กึ (K)
4. เพ่อื ใหน้ กั เรียนทรำบขอ้ ปฏบิ ตั ิ และข้อควรระวังในกำรทำกจิ กรรมในชน้ั เรยี น (P)
5. นักเรียนทรำบถึงบทบำทหน้ำท่ี และกำรปฏิบัติตนในกำรเรียนรู้เรื่องระบบประสำท

และอวัยวะรับควำมรูส้ กึ (P)
6. เพอื่ ให้นักเรยี นมเี วลำในกำรเตรยี มตัวล่วงหนำ้ นักเรียนสำมำรถวำงแผนในกำรเรียนเร่ือง

ระบบประสำทและอวยั วะรับควำมรูส้ กึ และพรอ้ มทจ่ี ะเรียนเนอ้ื หำในชว่ั โมงตอ่ ไป (P)
7. เพ่ือวัดควำมรู้พ้ืนฐำนของนักเรียนเก่ียวกับระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก

ก่อนเรียน (A)
8. ทรำบทัศนคติและข้อมูลพ้ืนฐำนของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนกำรสอนของวิชำชีววิทยำ 4

รหัสวิชำ ว30244 เรอ่ื ง ระบบประสำทและอวยั วะรับควำมรู้สึก ดำ้ นตำ่ งๆ ได้ (A)


61

สาระสาคญั
กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนแต่ละรำยวิชำต้องมีกำรปฐมนิเทศเพ่ือสร้ำงควำมเข้ำใจ

เกี่ยวกับคำอธิบำยรำยวิชำ สำระกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้และจุดประสงค์กำรเรียนรู้ท่ีต้องกำรวัดใน
แต่ละระดับชั้น วิธีกำรวัดผลประเมินผล เกณฑ์กำรวัดวัดผลประเมินผลของรำยวิชำน้ัน ๆ กำรจัด
กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนเนน้ แผนผังมโนทัศน์ (Concept Based Teaching) ก่อนจึงดำเนินกำรจัด
กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนต่อไป

สาระการเรยี นรู้

หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 ระบบประสำทและอวยั วะรับควำมรูส้ ึก ประกอบด้วยเนื้อหำหนว่ ยย่อย

7 เรอื่ ง ดังน้ี

1. กำรรับรแู้ ละกำรตอบสนองของสัตว์ เวลำ 2 ช่วั โมง

2. เซลลป์ ระสำท เวลำ 2 ชั่วโมง

3. กำรทำงำนของเซลล์ประสำท เวลำ 2 ชวั่ โมง

4. ศูนยค์ วบคมุ ระบบประสำท เวลำ 2 ชั่วโมง

5. กำรทำงำนของระบบประสำท เวลำ 2 ช่ัวโมง

6. อวัยวะรบั ควำมรู้สกึ (1) เวลำ 2 ชว่ั โมง

7. อวัยวะรับควำมรสู้ ึก (2) เวลำ 2 ชั่วโมง

ทกั ษะ / กระบวนการ / กระบวนการคดิ
- ทกั ษะกำรสังเกต
- ทกั ษะกำรคดิ วิเครำะห์
- ทกั ษะกำรอภิปรำย
- ทักษะกำรลงข้อสรปุ
- ทกั ษะกำรจดั ระบบควำมคิดเป็นแผนภำพ
- ทกั ษะกำรสบื คน้ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร
1.1 สำมำรถเลอื กใชว้ ธิ ีกำรสอื่ สำรอยำ่ งมีประสิทธิภำพ
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
2.1 สำมำรถคดิ วิเครำะห์ คิดสร้ำงสรรค์ คิดอยำ่ งเป็นระบบ


62

3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
3.1 สำมำรถประยุกตค์ วำมรเู้ พื่อกำรแก้ปัญหำ

4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชีวติ
4.1 สำมำรถเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
4.2 สำมำรถทำงำนรว่ มกับผอู้ ื่นไดอ้ ย่ำงสรำ้ งสรรค์

5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี
5.1 มที ักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี และกำรเลอื กใช้เทคโนโลยี

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  5. อยู่อย่ำงพอเพียง
 6. มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน
 1. รักชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์  7. รักษ์ควำมเป็นไทย
 2. ซื่อสัตย์ สุตจรติ  8. มีจิตสำธำรณะ
 3. มวี นิ ัย
 4. ใฝ่เรยี นรู้

สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้
1. สื่อการเรยี นรู้
1.1 แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนก่อนเรียน จำนวน 40 ขอ้

2. แหลง่ เรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมุดโรงเรยี นโนนกลำงวิทยำคม
2.2 ห้องปฏิบตั กิ ำรวทิ ยำศำสตร์โรงเรียนโนนกลำงวิทยำคม
2.3 หอ้ งคอมพวิ เตอรโ์ รงเรยี นโนนกลำงวทิ ยำคม (สืบค้นจำกอนิ เทอรเ์ นต)
2.4 สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์

กระบวนการวดั ผลประเมนิ ผล

1. วธิ กี ารวัด
- ตรวจแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นก่อนเรยี น

2. เครือ่ งมอื วัด
- แบบทดสอบวัดผลกำรสัมฤทธ์ิเรียน เรื่อง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก

ชนิดเลอื กตอบ 4 ตวั เลือก จำนวน 40 ขอ้ คะแนนเต็ม 40 คะแนน


63

กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบเน้นแผนผงั มโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

ขัน้ ท่ี 1 ขนั้ การใชค้ วามรเู้ ดิมเช่ือมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
1.1 สอบถำมนักเรียนเกี่ยวกับผลกำรเรียน กำรเรียนกำรสอน และสภำพปัญหำ กำร

เรียนในเนอื้ หำหน่วยกำรเรยี นรู้ทีผ่ ำ่ นมำ
1.2 สอบถำมนักเรียนเกี่ยวกับผลกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน และปัญหำท่ีพบเพ่ือ

สร้ำงควำมค้นุ เคยและทรำบแนวทำงท่จี ะจดั กำรเรียนกำรสอนต่อไป
1.3 ครูกล่ำวสวัสดีนักเรียน และแนะนำตัวเอง โดยบอกช่ือ นำมสกุล บอกภูมิลำเนำ

สถำบนั ท่ีจบกำรศึกษำ ประวตั กิ ำรทำงำน และรำยวชิ ำที่สอน
1.4 จัดกิจกรรมสร้ำงควำมสัมพันธ์กับผู้เรียนและครูผู้สอนด้วยกำรให้นักเรียนแนะนำ

ตนเอง
1.5 สุ่มสอบถำมนักเรียนว่ำในบทเรียนท่ีผ่ำนมำนักเรียนมีควำมรู้เก่ียวกับเนื้อหำมำกน้อย

เพียงใด และนำเขำ้ สเู่ รอื่ งทจ่ี ะเรยี น

ขน้ั ที่ 2 ข้นั รู้ (Knowing)
2.1 ครแู ละนักเรยี นตกลงหลักเกณฑก์ ำรวัดผลและกำรใหค้ ะแนนในสว่ นต่ำง ๆ ร่วมกัน
2.2 ครูแจ้งรำยละเอียดเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้ที่จะเรียนในหน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง

ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก รำยวิชำชีววทิ ยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 6
ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2565 ประกอบด้วยเนื้อหำย่อย 7 เร่ือง ดังนี้ 1) กำรรับรู้และกำร
ตอบสนองของสัตว์ 2) เซลล์ประสำท 3) กำรทำงำนของเซลล์ประสำท 4) ศูนย์ควบคุมระบบ
ประสำท 5) กำรทำงำนของระบบประสำท 6) อวัยวะรับควำมรู้สึก (1) และ 7) อวัยวะรับ
ควำมรูส้ ึก (2)

2.3 ครูแจง้ สำระกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด และจุดประสงค์กำรเรียนร้ทู ี่ตอ้ ง
วัดผลประเมินผล ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก รำยวิชำชีววิทยำ
4 รหัสวชิ ำ ว30244 ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6

2.4 ครูอธิบำยกำรทำกจิ กรรมในกำรเรียนกำรสอนรำยวิชำชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244
เรื่อง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเน้นแผนผังมโนทัศน์
(Concept Based Teaching) กิจกรรมในแต่ละคร้ังท่ีเรียนให้นักเรียนร่วมกันอภิปรำยว่ำนักเรียน
ควรปฏิบตั ิตนอย่ำงไร เม่อื ทำกิจกรรมเปน็ กล่มุ

2.5 ครูแจ้งหลักเกณฑ์กำรวัดผลและกำรให้คะแนนในส่วนต่ำงๆ ของกิจกรรมกำรเรียน
กำรสอนให้นกั เรียนทรำบ


64

2.6 ครแู ละนักเรียนตกลงเกี่ยวกับหลกั กำร ขอ้ ปฏิบัตแิ ละกฎระเบยี บในกำรเรียนกำรสอน
ในหอ้ งเรยี น

ขั้นที่ 3 ขั้นเข้าใจ (Understanding)
3.1 ครูตกลงร่วมกับนักเรียนเกี่ยวกับวนั และเวลำที่จะต้องทำกจิ กรรมในชุดกิจกรรมกำร

เรียนรู้วิทยำศำสตร์ เร่ือง ระบบประสำทและอวัยวะรับควำมรู้สึก หรืองำนอ่ืนๆ ที่ได้รับมอบหมำย
ทุกสัปดำห์ และนัดวันไปรับงำนคืนจำกครูเพื่อรับรู้ผลกำรทำงำนของตนเอง และปรับปรุงแก้ไขให้ดี
ขึ้นในงำนช้นิ ตอ่ ไป

3.2 ครูตกลงร่วมกับนักเรียนเก่ียวกับหลักกำร ข้อปฏิบัติและกฎระเบียบในกำรเรียนกำร
สอนในห้องเรียน ด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ เร่ือง ระบบประสำทและอวัยวะรับ
ควำมรสู้ กึ

3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มวำงแผนร่วมกันเพ่ือศึกษำและอภิปรำยขอบข่ำยเน้ือหำ กำรวัด
และประเมินผล ทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และเจตคติเชิงวิทยำศำสตร์ ของวิชำชีววทิ ยำ 4
รหัสวิชำ ว30244 ที่จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนแบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based
Teaching) เรอ่ื ง ระบบประสำทและอวัยวะรบั ควำมรสู้ กึ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6

ขัน้ ท่ี 4 ขนั้ ลงมอื ทา (Doing)
4.1 ครูแจกแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน เพื่อวัดควำมรู้พ้ืนฐำนของนักเรียน

กอ่ นเรียน และให้นักเรียนทำเพ่ือวัดควำมร้พู ้ืนฐำนของนักเรียนก่อนเรียน เร่ือง ระบบประสำทและ
อวัยวะรับควำมรู้สึก ชีววิทยำ 4 รหัสวิชำ ว30244 มัธยมศึกษำปีท่ี 6 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
จำนวน 40 ข้อ เวลำที่ใช้ 30 นำที

4.2 ครูนำอภิปรำยสรุป เนื้อหำ ผลกำรเรียนรู้ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ กำรวัดผลและ
ประเมินผล เจตคติต่อวิทยำศำสตร์ และทักษะต่ำงๆ ท่ีจะสำมำรถนำไปใช้ในกำรเรียน เร่ือง ระบบ
ประสำทและอวยั วะรับควำมรสู้ กึ

ข้นั ที่ 5 ข้ันสรปุ (Summary)
5.1 ครูถำมนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องทคี่ รูกล่ำวมำขำ้ งต้น ว่ำมีอะไรบ้ำงมรี ำยละเอียดที่สำคัญ

อยำ่ งไร
5.2 ครูถำมเพื่อทบทวนว่ำนัดส่งงำนวันไหนของสัปดำห์ และรับงำนที่ตรวจแล้วคืนทุกวัน

ไหนของสปั ดำห์


65

5.3 ครูบอกให้นักเรยี นไปศึกษำเร่อื งท่ีจะเรียนในช่ัวโมงเรียนต่อไป (เรือ่ ง ระบบประสาท
และอวัยวะรับความรู้สึก) และให้นักเรียนไปสืบค้น และศึกษำค้นคว้ำมำล่วงหน้ำเพื่อเตรียม
ควำมพรอ้ มในกำรเรยี น

ข้ันท่ี 6 ขั้นประเมิน (Evaluation)
6.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน
6.2 สังเกตจำกกำรตอบคำถำมในชน้ั เรียน
6.3 ตรวจแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน เร่ือง ระบบประสำทและอวัยวะรับ

ควำมรูส้ กึ


66

คะแนนผลการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นกอ่ นเรียน
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว30244 เรอื่ ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ กึ
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม อาเภอพิบลู มงั สาหาร จงั หวัดอบุ ลราชธานี



นักเรยี นคนที่ คะแนนเต็ม (40) นกั เรยี นคนท่ี คะแนนเตม็ (40)
1 15 17 18
2 16 18 17
3 18 19 18
4 15 20 18
5 13 21 16
6 18 22 15
7 16 23 16
8 17 24 17
9 14 25 19
10 17 26 18
11 16 27 17
12 16 28 16
13 16 29 18
14 18 30 15
15 19 31 19
16 18 - -
รวม 519
เฉลีย่ 16.74
รอ้ ยละ 41.85


67

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

2. ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

ลงช่ือ......................................................ผูป้ ระเมนิ
(นำงสำวนภศร เสรีกุล)

ตำแหน่ง ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำร
……………./…………../……………..


68

ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ังคับบัญชาหรอื ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

(ลงช่ือ)
(นำงสำวทศั นว์ รรณ ขนั ทอง)

หัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ความเห็นของหัวหน้าฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

(ลงชอื่ )
(นำงพัชรี คณู ทอง)

หวั หน้ำฝ่ำยบริหำรงำนวชิ ำกำร

ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………

(ลงชอื่ )
(นำงสำวพรพนธ์ แพทยเ์ พยี ร)

ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นโนนกลำงวิทยำคม
……………/………………./……………


69

แผนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นแผนผงั มโนทศั น์ (Concept Based Teaching)

รายวชิ าชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว30244

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ ึก เวลา 14 ชั่วโมง

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 : การรบั รแู้ ละการตอบสนองของสตั ว์ เวลา 2 ชวั่ โมง

วันท.ี่ ............../......................./.................. ผ้สู อน : นางสาวนภศร เสรกี ลุ

สาระ ชวี วทิ ยา

4. สารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการ
ตอบสนอง การเคลื่อนท่ี การสืบพันธ์ุ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษา
เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมท้ังการหายใจและการแลกเปลี่ยน
แก๊ส การลาเลียงดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทั้งนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์

ผลการเรียนรู้

1. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย และเปรียบเทียบโครงสรา้ งและหน้าท่ีของระบบประสาทของ

ไฮดรา พลานาเรยี ไสเ้ ดือนดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มกี ระดูกสนั หลงั

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายและเปรยี บเทียบโครงสร้างและหนา้ ที่ของระบบประสาทของสัตว์ (K)
2. ใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้อยา่ งถกู ต้อง (P)
3. ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับโครงสรา้ งและหน้าที่ของระบบ
ประสาทของสตั ว์ ในการร่วมกิจกรรมการเรยี นการสอนและนาความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน (A)
4. สนใจใฝร่ ู้ในการศึกษาและมงุ่ มนั่ ในการทางาน ทางานร่วมกบั ผูอ้ นื่ อยา่ งสร้างสรรค์
ยอมรับความคิดเหน็ ของผู้อ่นื ได้ (A)

สาระสาคัญ

สัตว์ส่วนใหญม่ ีระบบประสาททาให้สามารถรับรู้ และตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ ได้ เชน่ ไฮดรา
มีร่างแหประสาท พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย และ แมลงมปี มประสาทและเส้นประสาท ส่วนสัตว์
มกี ระดกู สันหลัง มสี มอง ไขสันหลงั ปมประสาท และเส้นประสาท


70

สัตว์ชนิดต่าง ๆ ทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูกสันหลังมีการรับรู้และการ
ตอบสนองต่อสิ่งเร้าในรปู แบบท่แี ตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของร่างกายและการดารงชีวิตของสัตว์
ชนิดน้ัน ๆ การรับรู้และการตอบสนองมีการทางานอย่างเป็นระบบ เม่ือมีสิ่งเร้ามากระตุ้น หน่วยรับ
ความรู้สึกจะส่งสัญญาณผ่านเซลล์ประสาทรับความรู้สึก หน่วยแปลความรู้สึก เซลล์ประสาทสั่งการ
แล้วสง่ ตอ่ ไปยังหน่วยปฏบิ ัติงาน เพ่ือตอบสนองตอ่ ส่งิ เร้าทีม่ ากระตุ้น

สาระการเรยี นรู้
การรบั รูแ้ ละการตอบสนองของสัตว์

ทักษะ / กระบวนการ / กระบวนการคดิ
- ทักษะการสงั เกต
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทักษะการอภิปราย
- ทกั ษะการลงข้อสรุป
- ทกั ษะการจดั ระบบความคิดเปน็ แผนภาพ
- ทกั ษะการสืบคน้ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
1.1 สามารถเลอื กใช้วิธกี ารสอ่ื สารอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
2. ความสามารถในการคิด
2.1 สามารถคิดวเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์ คดิ อยา่ งเป็นระบบ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถประยุกต์ความรเู้ พื่อการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4.1 สามารถเรียนรูด้ ้วยตนเอง
4.2 สามารถทางานรว่ มกับผอู้ ่ืนได้อย่างสรา้ งสรรค์
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี และการเลอื กใช้เทคโนโลยี


71

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์  5. อยู่อย่างพอเพยี ง
 6. มุ่งม่นั ในการทางาน
 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  7. รักษ์ความเป็นไทย
 2. ซื่อสตั ย์ สุตจริต  8. มีจิตสาธารณะ
 3. มีวินัย
 4. ใฝ่เรียนรู้

สอ่ื การเรียนรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. สอ่ื การเรียนรู้
1.1 ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 เร่ือง การรบั รแู้ ละการตอบสนองของสัตว์
1.2 กระดาษบรูฟ
1.3 ปากกาเคมี และสีเมจิก
1.4 บตั รภาพการรับรู้และการตอบสนอง
1.5 วีดทิ ศั น์ เรอื่ ง การตอบสนองต่อสิง่ เรา้ ของสัตว์
1.6 PowerPoint เรือ่ ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรูส้ ึก
1.7 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ E-book จาก http://online.anyflip.com/drgvx/atnr/

1.8 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

1.9 แบบทดสอบหลังเรียน
2. แหลง่ เรียนรู้

2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
2.2 หอ้ งปฏิบัตกิ ารวทิ ยาศาสตร์โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
2.3 ห้องคอมพิวเตอร์โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม (สืบคน้ จากอนิ เทอรเ์ นต)
2.4 ส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์


72

กระบวนการวัดผลประเมินผล
1. วิธีการวดั
1.1 การประเมินพฤติกรรมการทางานกลุม่ /พฤติกรรมการทางานรายบุคคล/การทดลอง
1.2 ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
1.3 ตรวจประเมินผลงานนักเรยี น
2. เคร่อื งมือวดั
2.1 แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม/การทางานรายบคุ คล ชนิดรบู ริค 5รายการ

15 คะแนน
2.2 แบบทดสอบย่อยชนิดเลอื กตอบ 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
2.3 แบบประเมนิ ผลงานนักเรียนชนดิ รูบรคิ 5 รายการ 15 คะแนน

3. เกณฑก์ ารวดั
นกั เรียนทุกคนต้องได้คะแนนจากกระบวนการของแผนการจัดการเรียนรู้ระหว่างเรียน

ร้อยละ 80 ซึ่งประกอบด้วย คะแนนจากการทดสอบย่อยหลังเรียน 10 คะแนน คะแนนประเมิน
พฤติกรรม 15 คะแนน และผลงานนักเรียน 15 คะแนน รวมทั้งหมด 40 คะแนน รวมคะแนนเฉล่ีย
ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80

กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)

ขั้นท่ี 1 ขน้ั การใชค้ วามรู้เดิมเช่ือมโยงความร้ใู หม่ (Prior Knowledge)
1.1 ทบทวนความรู้เดิม เร่ือง การรับร้แู ละการตอบสนองของส่ิงมีชีวิต ซ่งึ มีการทางานอย่าง

เปน็ ระบบ เมื่อมี สิ่งเร้ากระต้นุ หน่วยรบั ความรู้สึกหรอื อวยั วะรับความร้สู ึกจะสง่ กระแสประสาทผ่าน
เซลล์ประสาทรับความรู้สึกไปยังเซลล์ไขสันหลังหรือสมอง ซ่ึงไขสันหลังหรือสมองจะสั่งการไปยัง
หนว่ ยปฏิบตั งิ านหรืออวัยวะทตี่ อบสนองผา่ นเซลลป์ ระสาทสั่งการ ทาให้เกดิ การตอบสนองต่อสิง่ เร้า

1.2 เขียนแผนผังหรือใช้แผนภาพแสดงการรับรู้และการตอบสนอง โดยยกตัวอย่าง
สถานการณ์ เช่น การเหยียบหนามแหลมหรือเศษไม้แหลม การถูกหนามของต้นกระบองเพชรทิ่มนิ้ว
ให้นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ แลว้ เตมิ คาในกรอบให้สมบูรณ์ ดงั ต่อไปนี้


73

หนาม 1. ผวิ หนงั บริเวณน้ิว 2. เซลล์ประสาท
รบั ความร้สู ึก

3. เซลล์ประสาท
ประสานงานใน
ไขสันหลงั หรอื สมอง

6. ยกน้วิ ออกจาก 5. กล้ามเนือ้ โครง่ 4. เซลลป์ ระสาท
ต้นกระบองเพรช รา่ งบรเิ วณแขน สัง่ การ

1.3 ครูซักถามนักเรียนเพื่อให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า “เพราะเหตุใด มนุษย์จึงมีการ
ตอบสนองต่อส่ิงเร้าซับซอ้ นกวา่ สัตว์ชนดิ อน่ื ๆ”

1.4 นักเรียนดูวีดิทัศน์แสดงการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ จากนั้นซักถามนักเรียนว่า
“สตั วต์ ่าง ๆ ตอบสนองต่อสง่ิ เร้าแตกต่างกนั อยา่ งไร”

1.5 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถของผู้เรียน (เก่ง กลาง
ออ่ น) และเพศ (ชาย หญิง) เพ่อื ให้นักเรียนได้ช่วยเหลือกันระหว่างปฏิบัตงิ านกลมุ่ และให้แตล่ ะกลุ่ม
เลือกประธาน สมาชิก และเลขานุการ เพื่อแบ่งหน้าที่ในการทางาน พร้อมกับตั้งช่ือกลุ่มให้ตรงกับ
เน้ือวิชาตามความสนใจ และส่งรายชื่อสมาชิกในกลุ่มให้ครูผู้สอน เพ่ือให้เหมาะสมกับกิจกรรมการ
เรียนร้ทู ่ีกาหนดไว้

1.6 ครแู นะนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง ระบบประสาท
และอวัยวะรับความรู้สึก ให้นักเรียนเข้าใจก่อนทีจ่ ะใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 1 เร่ือง การรับรู้
และการตอบสนองของสตั ว์

ขนั้ ที่ 2 ขนั้ รู้ (Knowing)
2.1 อธิบายให้นักเรียนฟังว่า สัตว์กลุ่มต่าง ๆ มีโครงสร้างของระบบประสาทท่ีแตกต่างกัน

จึงตอบสนองต่อสิ่งเร้าในรูปแบบท่ีแตกต่างกัน สัตว์ท่ีมีวิวัฒนาการต่า เช่น ไฮดรา พลานาเรีย จะมี
การตอบสนองในรูปแบบท่ีไม่ซับซ้อน แต่สัตว์ท่ีมีวิวัฒนาการสูง เช่น สัตว์มีกระดูกสันหลัง จะมีการ
ตอบสนองในรปู แบบที่ซับซอ้ นข้ึน

2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรม การตอบสนองของไฮดรา เพื่อศึกษาการรับรู้และการ
ตอบสนองของไฮดราเม่ือถูกกระตุ้นจากส่ิงเร้า จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชวี วิทยา ม.6 เลม่ 1 หนา้ 39


74

2.3 สุม่ เลือกนกั เรียนอย่างน้อย 3 กลุ่ม นาเสนอผลและอภิปรายผลกิจกรรม การตอบสนอง
ของไฮดรา และถามคาถามทา้ ยกจิ กรรมกับนักเรยี น ดงั น้ี

- ถ้าใช้เข็มแตะท่ีปลายเทนทาเคิลของไฮดราจะเกิดอะไรข้ึน นักเรียนอธิบายผลการ
ทดลองน้วี ่าอยา่ งไร

2.4 นกั เรียนและครูร่วมกนั อภปิ รายผลกิจกรรม การตอบสนองของไฮดรา เพื่อให้ได้ข้อสรุป
ดงั น้ี เมื่อใช้เข็มแตะที่ปลายเทนทาเคิลของไฮดรา เทนทาเคลิ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายจะหดสั้นลง
เพราะเซลล์ประสาทของไฮดราเชื่อมโยงกันเป็นร่างแห ทาให้มีกระแสประสาทแผ่กระจายไปท่ัว
รา่ งกาย

2.5 นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาการตอบสนองของสัตวไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั ได้แก่ ไฮดรา
พลานาเรีย ไส้เดือนดิน หอยทาก กุ้ง แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง จากหนังสือเรียนรายวิชา
เพิ่มเติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เล่ม 1 หนา้ 38-43

2.6 นักเรียนรับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 เร่ือง การรับรู้และการ
ตอบสนองของสตั ว์จากครูและลงมือปฏิบัติตามคาช้ีแจงในชุดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1
เรอ่ื ง การรบั รูแ้ ละการตอบสนองของสัตว์

ขนั้ ที่ 3 ขนั้ เขา้ ใจ (Understanding)

3.1 นักเรียนศึกษาเน้ือหาและทากิจกรรม เรื่อง การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ จาก

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 เรอื่ ง การรับรู้และการตอบสนองของสตั ว์

3.2 นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกหัด จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 เรื่อง

การรับรูแ้ ละการตอบสนองของสตั ว์

3.3 สุ่มเลือกนักเรยี นแต่ละกลุ่มจับสลากเลือกสตั วต์ ่าง ๆ โดยมีตวั อยา่ งสตั ว์ เชน่

- แมงกระพรนุ - พยาธิใบไม้

- ปลงิ นา้ จืด - หมึก

- กง้ั - ตัก๊ แตน

- สนุ ขั - แมลงสาบ

- ปลา - ววั

นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ระบบประสาทและการตอบสนองต่อส่ิงเร้าของสัตว์ที่จับสลากได้

วาดภาพโครงสร้างของระบบประสาท แล้วส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอโครงสร้างของระบบประสาท

และการตอบสนองต่อส่ิงเร้าที่หน้าช้ันเรียน (ครูสามารถทาสลากตัวอย่างสัตว์ท่ีนอกเหนือจาก

ตัวอย่างข้างต้น)


75

3.4 ถามคาถามเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน เช่น
- ถ้าใชเ้ ขม็ แตะท่ปี ลายเทนทาเคลิ ของไฮดราจะเกิดอะไรขนึ้
- การรบั ร้แู ละการตอบสนองตอ่ สิง่ เร้าของไฮดรากบั พลานาเรยี แตกตา่ งกันอย่างไร
- พลานาเรีย ไส้เดือนดิน และแมลงตอบสนองต่อสิ่งเร้าเหมือนหรือแตกต่างกัน

อยา่ งไร
3.5 นักเรียนทาแบบฝกึ หดั เรอื่ ง การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ ในแบบฝึกหัดรายวิชา

เพ่ิมเติมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววทิ ยา ม.6 เลม่ 1 (อาจส่ังใหน้ กั เรียนทาเปน็ การบ้าน)

ข้นั ท่ี 4 ข้ันลงมอื ทา (Doing)
4.1 มอบหมายให้นักเรียนทากิจกรรมต่าง ๆ ในบัตรกิจกรรมและแบบฝึกหัดที่กาหนดใน

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 เร่ือง การรบั รูแ้ ละการตอบสนองของสัตว์
4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่ม ลงมือปฏิบัติตามคาชี้แจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชุดท่ี 1 เร่ือง การรบั ร้แู ละการตอบสนองของสัตว์
4.3 นกั เรียนแต่ละกลุ่มสารวจสตั ว์บริเวณบ้านหรือชุมชนของนักเรียน 1 ชนิด แบ่งออกเป็น

สตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 5 ชนิด และสัตว์มีกระดกู สันหลัง 5 ชนิด สืบค้นข้อมูลและอธิบายโครงสร้าง
ของระบบประสาท และการรบั รู้และการตอบสนองต่อส่ิงเรา้ ของสัตว์ จัดทาเป็นรายงานส่งครูผู้สอน
โดยนักเรียนแต่ละคนภายในกลุ่มแบ่งหน้าท่ีกันรับผิดชอบตามคาช้ีแจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง การรับรแู้ ละการตอบสนองของสตั ว์

4.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และวิเคราะห์ผลการปฏิบัติกิจกรรม
แล้วอภิปรายผลร่วมกัน จากนั้นส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรม ในระหว่างที่นักเรียน
นาเสนอครคู อยให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมเพื่อใหน้ ักเรียนมคี วามเข้าใจที่ถูกต้อง และร่วมกันตอบคาถาม
ทา้ ยกจิ กรรม โดยใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภปิ รายเพื่อหาคาตอบ

ข้นั ที่ 5 ข้นั สรุป (Summary)
5.1 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ เพื่อให้ได้

ขอ้ สรุป ดงั นี้
- ไฮดรา มรี ่างแหประสาทเช่อื มโยงกนั เมือ่ เส้นใยประสาทถูกกระตุ้น ทกุ ส่วนของลาตวั จะหด
จากการ ทางานประสานกันระหวา่ งเซลล์
- พลานาเรีย มีปมประสาทสมองบรเิ วณหวั 2 ปม ทาหน้าท่เี ปน็ สมอง มเี สน้ ประสาทดา้ นข้าง
2 เส้น ท่ีตอ่ มาจากปมประสามสมอง และมีเส้นประสาทตามขวางเช่ือมเส้นประสาทด้านขา้ ง
ท้ัง 2 เสน้


76

- ไส้เดือนดิน มีปมประสาทสมองบริเวณหัว 2 ปม มีเส้นประสาทรอบคอหอย 2 เส้น โอบ
รอบคอหอยมาเช่ือมกันเป็นปมประสาทใต้คอหอยและเช่ือมกับปมประสาทคู่ดา้ นทอ้ ง อีกท้ัง
ยังมีปมประสาทท่ีปล้องทุกปล้องตามแนวยาวของลาตัวซ่ึงมีแขนงประสาทยื่นเข้าไปในชั้น
กลา้ มเนื้อ

- หอยทาก มีปมประสาท 3 คู่ ได้แก่ ปมประสาทสมองควบคุมบริเวณส่วนหัว ปมประสาท
เท้าควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อสาหรับการเคล่ือนท่ี และปมประสาทอวัยวะภายใน
ควบคุมการทางานของอวัยวะภายใน

- กุ้ง มีสมองเป็นปมประสาทขนาดใหญ่อยู่บริเวณส่วนหัว มีแขนงแยกไปเลี้ยงตาและหนวด
สมองมี เส้นประสาทล้อมรอบหลอดอาหารลงมายังปมประสาทด้านล่าง รวมกันเป็นปม
ประสาททรวงอกซ่ึงมีปมประสาท 7 ปม ทอดยาวเป็นปมประสาทส่วนท้อง และมีปม
ประสาทแยกออกไปยงั กลา้ มเนอื้ และระยางค์ตา่ ง ๆ

- แมลง มีปมประสาทส่วนหัว 6 คู่ (3 คู่ รวมเป็นสมอง และ 3 คู่ รวมเป็นปมประสาทใต้
สมอง) ซ่ึงจะเช่ือมต่อกับปมประสาทตามปล้องตลอดแนวยาวของลาตัวและมีเส้นประสาท
แยกไปเลยี งอวยั วะ ตา่ ง ๆ

- สัตว์มีกระดูกสันหลัง มีเซลล์ประสาทรวทกันเปน็ สมองบริเวณส่วนหัว มไี ขสันหลังทอดยาว
ไปตามลาตัวและมีเส้นประสาทแยกออกมาจานวนมากเพ่ือทาหน้าท่ีควบคุมและประสาท
งานต่าง ๆ
5.2 นกั เรียนเขียนสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เรื่อง การรบั รแู้ ละการตอบสนอง โดยอธิบาย

โครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของสัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดกู สันหลัง รวมทั้ง
อธิบายความสมั พนั ธข์ องระบบประสาทกับวิวัฒนาการของสัตว์ ลงในกระดาษบรฟู

5.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายสรุปเก่ียวกับการรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ จากชุด
กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 เรื่อง การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ โดยนักเรียน
นาเสนอเปน็ แผนผังมโนทัศน์ (Concept mapping) หนา้ ช้ันเรยี น

ขัน้ ที่ 6 ข้นั ประเมนิ (Evaluation)
6.1 ประเมนิ ความรู้เกย่ี วกับ เร่ือง การรับรแู้ ละการตอบสนอง โดยสงั เกตพฤติกรรมการตอบ

คาถาม ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตรวจแบบฝกึ หัด ตรวจผงั มโนทศั น์ และตรวจรายงาน
6.2 ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมพฤติกรรมการทาปฏิบัติการใน

กจิ กรรม และการใช้เคร่ืองมอื และอุปกรณท์ างวทิ ยาศาสตร์
6.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา

และความมงุ่ มัน่ ในการทางาน


77

6.4 ประเมินจากการทากิจกรรมจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 1 เร่ือง การ
รบั รูแ้ ละการตอบสนองของสตั ว์

6.5 ประเมินจากการทาแผนผังมโนทัศน์ (Concept mapping) เร่ือง การวิเคราะห์ข้อมูล
จากโฆษณา จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 1 เรื่อง การรับรู้และการตอบสนองของ
สัตว์

6.6 ประเมินจากคะแนนการทาแบบทดสอบหลังเรียน จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 1 เรือ่ ง การรบั รู้และการตอบสนองของสตั ว์ จานวน 10 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน


78

แบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหสั วชิ า ว30244 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

เร่อื ง..............................................................................................................

รายการประเมนิ

ที่ ช่ือ – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)

321321321321321

1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรสี ุข
2 นายธนากร พาที
3 นายธันวา ดาวัลย์
4 นายปยิ วัตร พาเรือง
5 นายฤทธไิ กร สายสมบตั ิ
6 นายวรพงษ์ รักพงษ์
7 นายวทิ ยา เถาวโ์ ท
8 นายอรรถชัย บุญคณู
9 นางสาวกรรภริ มย์ พงศ์ศกั ด์ิสริ ิ
10 นางสาวจารุวรรณ บวั คา
11 นางสาวจฬุ ารัตน์ คาใส
12 นางสาวชมพูนทุ ผลดี
13 นางสาวชลธดิ า พาเรอื ง
14 นางสาวณฐั ธดิ า มนตรนี อก
15 นางสาวณัตินี มนตรนี อก
16 นางสาวทิพยว์ รรณ ปรองดอง
17 นางสาวธัญญลักษณ์ แสวงบญุ
18 นางสาวธาดารัตน์ สขุ สนอง
19 นางสาวปยิ พร เรืออาจ
20 นางสาวนิภาวรรณ ดรณุ พันธ์ุ


79

รายการประเมนิ

ที่ ชอ่ื – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)

321321321321321

21 นางสาวปรียาภรณ์ ดรุณพันธ์
22 นางสาวปนิ่ ดาว แสวงบญุ
23 นางสาวพัชรนิ ฝางคา
24 นางสาวมานติ า พิลาภ
25 นางสาวรสทิพย์ พมุ่ จนั ทร์
26 นางสาวลัดดาพร เพ้ียบญุ มาก
27 นางสาววนิดา บัวใหญ่
28 นางสาวสกุลรัตน์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบตั ิ
30 นางสาวมนทิรา บุญมี
31 นางสาวหน่งึ ฤทยั คณู ตุ้ม

เกณฑท์ ่ีใช้ในการประเมนิ การสรุปผลการประเมิน

3 คะแนน หมายถึง ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรุง

เกณฑ์การผา่ น ระดับดขี ้ึนไป

นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดบั ..........................

ลงชอ่ื .......................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


80

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏิบตั ิงานของนักเรยี นรายบุคคล

ระดบั คะแนน

เกณฑ์การประเมนิ 3 21
1. ความสนใจ (11 – 15 คะแนน)
สมาชกิ ส่วนใหญ่มี (6 – 10 คะแนน) (1 – 5 คะแนน)
2. การแสดง ความสนใจในกิจกรรม
ความคดิ เห็น การทดลอง ไดอ้ ย่าง สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มมี สมาชิกส่วนใหญไ่ ม่มี
เหมาะสม
3. การตอบคาถาม ให้ความรว่ มมือในการ ความสนใจในกจิ กรรม ความสนใจในกิจกรรม
แสดงความคดิ เหน็
4. การยอมรบั ฟังผ้อู น่ื ภายในกลมุ่ ดี การทดลอง ไม่ค่อย การทดลอง
5. ทางานตามที่ไดร้ บั
มอบหมาย มีการตอบคาถาม เหมาะสม
ภายในหอ้ งเป็นอย่างดี
ใหค้ วามรว่ มมือในการ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ยอมรบั ฟังผู้อืน่ อย่าง
เตม็ ใจ แสดงความคดิ เห็น ในการแสดงความคิดเหน็
ทางานท่ีได้รบั
มอบหมายอยา่ งเต็ม ภายในกล่มุ เป็นส่วน ภายในกลมุ่
กาลงั ความสามารถ
และได้ผลงานการ ใหญ่
ปฏิบตั ิทมี่ คี ณุ ภาพดี
มกี ารตอบคาถาม ไมค่ ่อยตอบคาถาม

ภายในหอ้ งเปน็ ส่วน ภายในห้อง

ใหญ่

ยอมรบั ฟงั ผู้อน่ื อยา่ ง ไมค่ ่อยยอมรบั ฟังผูอ้ ่นื

เตม็ ใจเป็นสว่ นใหญ่ อย่างเต็มใจ

ทางานท่ีไดร้ ับ ทางานที่ได้รบั มอบหมาย

มอบหมายอยา่ งเตม็ อย่างไม่เต็มกาลัง

กาลังความสามารถ ความสามารถและได้ผล

บ้างเปน็ บางครง้ั และได้ งานการปฏบิ ัติท่ีมี

ผลงานการปฏิบตั ิท่ีมี คณุ ภาพต่า

คุณภาพพอใช้


81

แบบประเมนิ พฤติกรรมการร่วมปฏบิ ัติงานกลุ่ม
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว30244 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

เรอ่ื ง...............................................................................................

รายการประเมิน

ท่ี ช่ือ – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น

ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน

ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม

สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)

321321321321321

1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรีสขุ

2 นายธนากร พาที

3 นายธันวา ดาวลั ย์

4 นายปิยวัตร พาเรอื ง

5 นายฤทธไิ กร สายสมบัติ

6 นายวรพงษ์ รกั พงษ์

7 นายวิทยา เถาว์โท

8 นายอรรถชยั บญุ คูณ

9 นางสาวกรรภิรมย์ พงศ์ศกั ดสิ์ ิริ

10 นางสาวจารวุ รรณ บัวคา

11 นางสาวจุฬารตั น์ คาใส

12 นางสาวชมพนู ทุ ผลดี

13 นางสาวชลธดิ า พาเรอื ง

14 นางสาวณัฐธิดา มนตรนี อก

15 นางสาวณัตินี มนตรีนอก

16 นางสาวทิพย์วรรณ ปรองดอง

17 นางสาวธญั ญลักษณ์ แสวงบญุ

18 นางสาวธาดารตั น์ สขุ สนอง

19 นางสาวปิยพร เรืออาจ

20 นางสาวนภิ าวรรณ ดรณุ พันธุ์


82

รายการประเมนิ

ท่ี ชอื่ – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น

ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน

ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม

สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)

321321321321321

21 นางสาวปรียาภรณ์ ดรุณพันธ์
22 นางสาวปิ่นดาว แสวงบุญ
23 นางสาวพชั ริน ฝางคา
24 นางสาวมานติ า พลิ าภ
25 นางสาวรสทิพย์ พ่มุ จนั ทร์
26 นางสาวลดั ดาพร เพ้ยี บญุ มาก
27 นางสาววนดิ า บวั ใหญ่
28 นางสาวสกุลรัตน์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบัติ
30 นางสาวมนทิรา บุญมี
31 นางสาวหน่ึงฤทยั คูณตุ้ม

เกณฑ์ทใ่ี ช้ในการประเมิน การสรปุ ผลการประเมิน

3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ 1 – 5 = ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ระดบั ดขี ึ้นไป

นกั เรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มีระดบั คุณภาพในระดับ..........................

ลงชือ่ .......................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวนภศร เสรกี ุล)

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


83

แบบประเมนิ พฤติกรรมการแสวงหาความร้จู ากแหล่งขอ้ มูล
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

เร่อื ง............................................................................................... กล่มุ ท.่ี ..............

รายการประเมนิ

ท่ี ชื่อ – สกลุ การวางแผนค้นค ้วา
แหล่ง ้ขอมูล

การเ ็กบรวบรวม ้ขอมูล
การ ัจดกระทา ้ขอมูล
การนาเสนอ ้ขอ ูมล
การเ ีขยนรายงานและ

การสรุปผล
คะแนนรวม (15)

321321321321321
1
2
3
4
5

เกณฑ์ทใ่ี ช้ในการประเมนิ การสรปุ ผลการประเมนิ

3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง 1 – 5 = ปรับปรุง

เกณฑ์การผา่ น ระดับดขี ึ้นไป

นักเรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดับ..........................

คดิ เป็นรอ้ ยละ..............................

ลงชื่อ.......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ุล)

ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


84

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ ตามสภาพจริงตามพฤติกรรมการแสวงหาแหลง่ ข้อมูล

เกณฑ์การประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1
1. การวางแผน (11 – 15 คะแนน) 2 (1 – 5 คะแนน)
ค้นคว้าแหลง่ ข้อมูล มีการวางแผนท่จี ะ มีการวางแผนทจ่ี ะ
คน้ คว้าแหลง่ ข้อมลู จาก (6 – 10 คะแนน) คน้ ควา้ แหลง่ ข้อมูลเพยี ง
2. การเกบ็ รวบรวม แหล่งการเรียนรู้ที่ มีการวางแผนที่จะ แหลง่ เดยี ว และได้
ข้อมูล หลากหลายเช่ือถือได้ ค้นควา้ แหล่งข้อมูลจาก ขอ้ มลู ท่ีตรงตาม
3. การจดั กระทา แหลง่ การเรยี นร้ดู ้วย จดุ ประสงค์
ข้อมลู มีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู หลากหลายวิธี มีการบนั ทึกข้อมูลเป็น
ตามแผนท่กี าหนดทุก ระยะ
4. การนาเสนอข้อมูล ประการ มกี ารคดั เลือกและ/หรือ
มกี ารจดั ทาข้อมูลอยา่ ง ประเมนิ ข้อมูล ไมม่ ีการจดั กระทาข้อมลู
5. การเขยี นรายงาน เป็นระบบ แยกแยะ
และการสรปุ ผล ข้อมูล และจัดกลุ่ม มกี ารจดั เรยี งลาดบั นาเสนอข้อมูล
ขอ้ มลู อยา่ งถูกต้อง ข้อมลู ถูกต้อง ไมส่ อ่ื ความหมาย
ชัดเจน ไมถ่ ูกต้อง และไม่ชดั เจน
นาเสนอข้อมลู ด้วยแบบ นาเสนอข้อมูลด้วยแบบ
นาเสนอต่าง ๆ นาเสนอต่าง ๆ แตย่ ังไม่ เขยี นรายงานโดย
ไดถ้ ูกตอ้ ง กะทัดรดั ถกู ต้อง สอื่ ความหมายได้
ชัดเจน และ สรุปผลโดยไมใ่ ชข้ อ้ มลู
สอื่ ความหมาย เขียนรายงานโดยใช้ และไม่ถูกต้อง
เขียนรายละเอยี ดตรง ภาษาถกู ต้อง สรุปผลได้
ตามจุดประสงค์ ถกู ต้อง กระชับ กะทดั รดั แต่ไม่
และชดั เจน การสรปุ ผล ชดั เจน
ได้อย่างถูกต้องกระชับ
และชดั เจน มีเหตุผลที่
อ้างอิงจากการสืบคน้ ได้


85

แบบประเมินพฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที่...............

รายการประเมิน

ที่ ช่ือ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์

ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์

ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์

ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์

การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)

321321321321321
1
2
3
4
5

เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการประเมิน การสรปุ ผลการประเมิน

3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ระดับดีขนึ้ ไป

นกั เรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มรี ะดบั คุณภาพในระดับ..........................

ลงชอื่ .......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


86

แบบประเมินพฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที่...............

รายการประเมิน

ที่ ช่ือ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์

ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์

ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์

ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์

การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)

321321321321321
1
2
3
4
5

เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการประเมิน การสรปุ ผลการประเมนิ

3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ระดับดีขนึ้ ไป

นกั เรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มรี ะดบั คุณภาพในระดับ..........................

ลงชอื่ .......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกลุ )

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


87

แบบประเมินพฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที่...............

รายการประเมิน

ที่ ช่ือ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์

ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์

ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์

ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์

การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)

321321321321321
1
2
3
4
5

เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการประเมิน การสรปุ ผลการประเมนิ

3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก

2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี

1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ระดับดีขนึ้ ไป

นกั เรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มรี ะดบั คุณภาพในระดับ..........................

ลงชอื่ .......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกลุ )

ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


88

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ ตามสภาพจริงของผงั มโนทศั น์

ระดบั คะแนน

เกณฑก์ ารประเมิน 321
1. ความถกู ต้อง
และความครบถว้ น (11 – 15 คะแนน) (6 – 10 คะแนน) (1 – 5 คะแนน)
ของมโนทัศน์
เขียนมโนทัศน์ได้ เขยี นมโนทศั น์ได้ เขยี นมโนทัศน์ได้
2. ความสมบรู ณข์ อง
ผังมโนทศั น์ ถกู ต้องครบถ้วน ถกู ต้องครบถ้วน ถูกต้องแต่ไม่ครบถว้ น

3. ความประณตี และแสดงลาดับขั้นของ แต่แสดงลาดบั ขั้นของ และแสดงลาดับขนั้ ของ
ในการทาผังมโนทัศน์
มโนทัศนไ์ ด้อยา่ ง มโนทศั นไ์ ม่ถูกต้อง มโนทัศนไ์ ม่ถกู ต้อง
4. ความรับผิดชอบใน
การทาผังมโนทัศน์ ถูกต้อง
5. การปรบั ปรงุ /แก้ไข
การทาผงั มโนทัศน์ มีช่ือผังมโนทัศน์ มชี ่ือผงั มโนทศั น์ มชี อ่ื ผังมโนทศั น์ไม่มี

คาเช่อื มมโนทศั น์ และมี คาเชื่อมมโนทัศน์ คาเชื่อมมโนทศั น์

การแสดงความสัมพนั ธ์ แต่ไม่มกี ารแสดง และไม่มกี ารแสดง

ระหว่างมโนทศั น์ด้วย ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความสัมพันธ์ระหวา่ ง

สญั ลกั ษณ์อย่างชัดเจน มโนทัศน์ด้วยสัญลกั ษณ์ มโนทัศนด์ ้วยสัญลักษณ์

อย่างชัดเจน อยา่ งชดั เจน

ผลงานมคี วามประณตี ผลงานมคี วามประณีต ผลงานไมม่ ีความ

และขนาดตวั อกั ษรทใ่ี ช้ แตข่ นาดตัวอักษรทใี่ ช้ ประณตี และขนาด

เขียนผังมโนทัศน์ เขียนผงั มโนทศั นเ์ ล็ก ตวั อักษรที่ใชเ้ ขยี นผงั

เหมาะสม หรอื ใหญ่เกินไป มโนทัศนเ์ ล็กหรือใหญ่

เกนิ ไป

ส่งผังมโนทัศนต์ รงเวลา ส่งผังมโนทศั นช์ า้ กว่า ส่งผงั มโนทัศน์

เวลาทก่ี าหนด 1-2 วัน ชา้ กว่าเวลาท่ีกาหนด

มากกวา่ 3 วัน

มีการนาคาแนะนา ขอ้ มกี ารนาคาแนะนา ไม่มีการนาคาแนะนา

ควรปรบั ปรงุ ท่ีครบู อก ขอ้ ควรปรบั ปรุงทีค่ รู ขอ้ ควรปรับปรงุ ทคี่ รู

ไปปรบั ปรงุ งานของ บอกไปปรับปรุงงาน บอกไปปรบั ปรงุ งาน

ตนเองอยู่เสมอ ของตนเองบางคร้ัง ของตนเอง


89

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

ลงช่ือ......................................................ผู้ประเมนิ
(นางสาวนภศร เสรีกลุ )

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..


90

ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ังคับบัญชาหรอื ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย

ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

(ลงช่ือ)
(นางสาวทศั นว์ รรณ ขนั ทอง)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความเห็นของหัวหน้าฝา่ ยบรหิ ารงานวชิ าการ
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..

(ลงชอื่ )
(นางพัชรี คณู ทอง)

หวั หน้าฝ่ายบริหารงานวชิ าการ

ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………

(ลงชอื่ )
(นางสาวพรพนธ์ แพทย์เพยี ร)

ผู้อานวยการโรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม
……………/………………./……………


Click to View FlipBook Version