191
1.2 จัดกิจกรรมโดยสุ่มเลือกนักเรียน 2 คน ออกมาเป็นตัวแทนนักเรียน ให้นักเรียนแต่ละ
คนปิดตาแล้วให้สัมผัสวัตถุบางอย่าง และให้นักเรียนท้ังสองคนเคาะเพื่อฟังเสียงของวัตถุน้ัน
แลว้ ถามนกั เรยี นว่า “นกั เรียนทราบหรือไมว่ ่าวตั ถุน้ันคืออะไร”
1.3 ครูซกั ถามนกั เรียนเพอ่ื เช่อื มโยงกจิ กรรมดังกล่าว ด้วยคาถามตอ่ ไปน้ี
- จากกจิ กรรมข้างต้น นกั เรยี นใช้อวัยวะรบั รูส้ กึ ใดบ้างในการทากิจกรรม
- นอกจากมือทสี่ มั ผสั วตั ถุแล้วร่างกายยังมีอวัยวะรบั ความรู้สึกอนื่ ๆ อกี หรอื ไม่
1.4 ทบทวนความรู้ เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึกของรา่ งกาย วา่ อวยั วะรับความรสู้ กึ เปน็ ระบบ
ท่ีร่างกายสร้างขึ้นมาเพ่ือทาหน้าที่ในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้นร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ
ประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ ดังน้ี
- ตา เปน็ อวัยวะรบั ความรสู้ กึ จากส่ิงเรา้ ประเภทแสง
- หู เป็นอวยั วะรบั ความร้สู กึ จากส่ิงเรา้ ประเภทเสียง
1.5 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถของผู้เรียน (เก่ง กลาง
ออ่ น) และเพศ (ชาย หญงิ ) เพ่อื ให้นักเรียนไดช้ ่วยเหลือกันระหว่างปฏิบัติงานกลุ่ม และใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม
เลือกประธาน สมาชิก และเลขานุการ เพื่อแบ่งหน้าที่ในการทางาน พร้อมกับต้ังชื่อกลุ่มให้ตรงกับ
เนื้อวิชาตามความสนใจ และส่งรายชื่อสมาชิกในกลุ่มให้ครูผู้สอน เพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมการ
เรียนรูท้ ก่ี าหนดไว้
1.6 ครแู นะนาชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง ระบบประสาท
และอวัยวะรับความรู้สึก ให้นักเรียนเข้าใจก่อนที่จะใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 6 เรื่อง อวัยวะ
รับความรสู้ กึ (1)
ขน้ั ท่ี 2 ขั้นรู้ (Knowing)
2.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลและศึกษา เรื่อง โครงสร้างของตา และการ
มองเหน็ ภาพ จากแบบจาลองโครงสรา้ งของนยั นต์ า
2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรม การหาตาแหน่งของจุดบอดและโฟเวีย เพ่ือหาตาแหน่ง
ของจุดบอดและโฟเวียในการมองเห็นได้ จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6
2.3 ซกั ถามนักเรียนเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใชค้ าถามต่อไปนี้
- หากแสงตกกระทบบริเวณเรตินาท่ีมีเซลล์รูปกรวยจานวนมากจะเห็นภาพได้ชัดเจน
หรอื ไม่ อยา่ งไร
- หากมองวัตถทุ ี่อยไู่ กล เอ็นยดึ เลนส์และกลา้ มเนือ้ ยึดเลนสจ์ ะมีลกั ษณะอย่างไร
192
- เพราะเหตุใดเม่ือเข้าไปในห้องที่มแี สงสลัว ในช่วงแรกจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน แต่เมื่อเวลา
ผา่ นไปจะมองเห็นไดช้ ัดเจนขน้ึ ทัง้ ทไี่ มไ่ ด้เพ่มิ ความสวา่ ง
2.4 นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลและศึกษา เร่ือง โครงสร้างของหู และการได้ยิน
จากแบบจาลองโครงสร้างของหูหรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชวี วทิ ยา ม.6 จากนนั้ ถามคาถามนักเรยี นเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน ดังน้ี
- ลักษณะของใบหแู ละชอ่ งหมู ีส่วนชว่ ยในการได้ยินอย่างไร
- ท่อยูสเตเชียนทาหนา้ ทีอ่ ย่างไร
- เพราะเหตุใดจึงรู้สึกปวดแก้วหูเมื่อข้ึนดอยท่ีอยู่สูงจากระดับน้าทะเลมาก ๆ
และรา่ งกายมีกลไกแกไ้ ขอย่างไร
- การสั่นของของเหลวในคอเคลียและในเซมิเซอร์คิวลาร์แคแนลมีผลต่อร่างกาย
แตกตา่ งกนั อย่างไร
- เพราะเหตุใดเม่ือเล่นปั่นจ้ิงหรีดหลาย ๆ รอบ แล้วหยุดยืนตรง จึงไม่สามารถทรงตัว
ไดต้ ามปกติ
2.5 นักเรียนรับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 6 เรื่อง อวัยวะรับความรู้สึก (1)
จากครูและลงมือปฏิบัติตามคาช้ีแจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 6 เร่ือง อวัยวะรับ
ความรู้สึก (1)
ขัน้ ท่ี 3 ขน้ั เขา้ ใจ (Understanding)
3.1 นักเรียนศึกษาเน้ือหาและทากิจกรรม เรื่อง อวัยวะรับความรู้สึก (1) จากชุดกิจกรรม
การเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 6 เร่ือง อวัยวะรับความรสู้ กึ (1)
3.2 นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกหัด จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 6 เรื่อง
อวัยวะรบั ความรู้สกึ (1)
3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มโครงสร้างและการทางานของอวัยวะรับความรู้สึกที่
ได้รับมอบหมาย โดยระหว่างการนาเสนอให้นักเรียนในชั้นเรียนร่วมแสดงความคิดเห็น และครูคอย
เพ่มิ เติมในประเดน็ ท่ขี าดหายไป
3.4 มอบหมายให้นักเรียนทุกกลุ่มจัดป้ายนิเทศหน้าห้องเรียน เร่ือง ตา และ หู โดยให้ทา
นอกเหนือจากเวลาเรียนในชว่ั โมงปกติ
3.5 นกั เรียนและครรู ่วมกันอภิปรายกจิ กรรม โรคที่เกยี่ วข้องกับอวยั วะรบั ความรู้สกึ เพื่อให้
ได้ข้อสรุป ดังน้ี โรคที่เก่ียวกับอวัยวะรับสัมผัสมีหลายโรค แต่ละโรคมีแนวทางในการดูแลและรักษา
โรคแตกต่างกนั เช่น
193
- ต้อหิน (glaucoma) เป็นโรคท่ีเกิดจากความดันในลูกตาสูงและไปกดเส้นประสาทตา
เน่ืองจากการถ่ายเทของของเหลวในตาขัดข้อง หรือเกิดจากการใช้ยาหยอดตาบางชนิด
บ่อยเกินไป มีวิธีการรักษาโดยลดความดันของลูกตาโดยใช้ยาที่มีสมบัติขับของเหลวในลูก
ตา แต่หากเป็นมากต้องผ่าตัดระบายของเหลวในลูกตาเพ่ือลดความดันในลูกตา
- ต่อกระจก (cataract) เป็นโรคที่เกิดจากเลนส์ตาขุ่นมั่วทาให้เห็นภาพมั่วเหมือนมองผ่าน
หมอก มีวิธีการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา อาการตาเพลียเป็นอาการปวดรอบ ๆ
ตาและหน้าผาก เนื่องจากใช้สายตามากเกินไปหรือมีแสงสว่างน้อยเกินไป มีวิธีแก้ไขโดย
การจดั แสงให้เหมาะสมและพกั สายตา
- โรคน้าในหูไม่เทา่ กัน (Meniere’s disease) เกดิ จากความผดิ ปกติของน้าในหูชั้นในซงึ่ เกิด
จากการระบายของของเหลวในหูชั้นในท่ีผิกปกติ สารเคมีของน้าในหูไม่สมดุล การติดเชื้อ
การบาดเจ็บบริเวณศีรษะ หรือความบกพร่องทางพันธุกรรม ผู้ป่วยจะมีอาการวิงเวียน
ศีรษะ หอู ือ้ สูญเสียการไดย้ ิน ซึง่ อาการมกั เกิดขึ้นอยา่ งกระทันหนั ต่อเน่ือง และเกิดขึ้นกับ
หขู ้างใดข้างหนึ่ง มวี ธิ กี ารรกั ษาโดยการรับประทานยา ฉีดยา การใชเ้ ครือ่ งชว่ ยฟัง หรอื การ
ผา่ ตดั
- โรคหูน้าหนวก เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในหูช้ันกลาง ทาให้เกิดหนองซึ่งจะดันเยื่อ
แก้วหูให้ทะลุเป็นรูและรูน้ันอาจไม่สามารถปิดเองได้ ผู้ป่วยมีอาการหูอื้อ หูตุง มีของเหลว
หรอื หนองไหลออกจากหูช้ันกลาง มีวธิ กี ารรักษาโดยการใชย้ าต้านจลุ ชพี หรือการผา่ ตดั
ข้ันท่ี 4 ขน้ั ลงมือทา (Doing)
4.1 มอบหมายให้นักเรียนทากิจกรรมต่าง ๆ ในบัตรกิจกรรมและแบบฝึกหัดที่กาหนดใน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชดุ ท่ี 6 เรอื่ ง อวยั วะรับความรู้สึก (1)
4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่ม ลงมือปฏิบัติตามคาชี้แจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชุดที่ 6 เร่ือง อวยั วะรบั ความรู้สึก (1)
4.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มนักเรียนแบ่งกลุ่ม (ตามกลุ่มที่แบ่งในกิจกรรม โรคที่เกี่ยวข้องกับ
อวัยวะรับความรู้สึก) สร้างแบบจาลองโครงสร้างของอวัยวะรับความรู้สึก ได้แก่ ตา หู โดยใช้วัสดุ
อปุ กรณ์ที่เหมาะสมและมรี าคาถูก เพือ่ ใช้เปน็ แบบจาลองสาหรบั การศกึ ษาของนักเรียนในรนุ่ ต่อไป
4.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปล่ียนความรู้และวิเคราะห์ผลการปฏิบัติกิจกรรม
แล้วอภิปรายผลร่วมกัน จากน้ันส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรม ในระหว่างที่นักเรียน
นาเสนอครคู อยให้ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติมเพื่อใหน้ ักเรยี นมีความเข้าใจทถี่ ูกต้อง และร่วมกันตอบคาถาม
ท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันอภปิ รายเพอ่ื หาคาตอบ
194
ข้นั ที่ 5 ขน้ั สรุป (Summary)
5.1 นักเรียนและครูร่วมกันสรุป เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึก เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า ร่างกาย
มนุษย์มีอวัยวะรบั ความรสู้ กึ ประกอบด้วยอวยั วะตา่ ง ๆ ซึง่ มีโครงสรา้ งและหน้าท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ี
- ตา เม่ือแสงตกกระทบกับวัตถุและสะท้อนเข้าสู่นัยน์ตา แสงผ่านรูม่านตาโดยมีเลนส์ตา
ทาหน้าท่ีรวมแสงไปตกบริเวณเรตินาท่ีประกอบด้วยเซลล์รูปแท่งและเซลล์รูปกรวย
แล้วแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปทางเส้นประสาทสมองคู่ที่ 2 เข้าสู่สมองส่วน
ออพติกโลบ
- หู เมื่อคลน่ื เสียงผ่านเข้าหู จากหูสว่ นนอก หูส่วนกลาง และหูสว่ นใน คล่ืนเสียงจะทาให้
ของเหลวในคอเคลียสั่นสะเทือน แล้วแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปยังเส้นประสาท
สมองค่ทู ่ี 8 เพื่อเขา้ สู่สมองส่วนเซรบี รมั และยังทาหนา้ ทร่ี ับรกู้ ารทรงตวั ของร่างกายโดย
อาศัยการเปลี่ยนแปลงของของเหลวในเซมิเซอร์คิวลาร์แคแนล แล้วแปลเป็นกระแส
ประสาทส่งไปยังเสน้ ประสาทสมองคู่ที่ 8 เพ่อื เขา้ สสู่ มองส่วนเซรเี บลลมั
5.2 นักเรียนเขียนสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึก (1) อธิบายถึง
โครงสรา้ ง การทางานและความผดิ ปกติทเี่ กดิ ขนึ้ จากอวัยวะรับความร้สู ึกต่าง ๆ ลงในกระดาษบรูฟ
5.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายสรุปเก่ียวกับอวัยวะรับความรู้สึก (1) จากชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 6 เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึก (1) โดยนักเรียนนาเสนอเป็นแผนผังมโนทัศน์
(Concept mapping) หน้าชน้ั เรียน
ขน้ั ที่ 6 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
6.1 ประเมนิ ความร้เู กย่ี วกบั เรอ่ื ง อวยั วะรับความรู้สกึ โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม
ตรวจแบบฝึกหดั ตรวจผงั มโนทศั น์ ตรวจรายงาน ตรวจแผน่ พับนาเสนอ และตรวจป้ายนิเทศ
6.2 ประเมินทักษะและกระบวนการ โดยสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ การทาปฏบิ ัติการ
การสร้างแบบจาลอง และการนาเสนอผลงาน
6.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา
และความมุ่งม่นั ในการทางาน
6.4 ประเมินจากการทากิจกรรมจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 6 เร่ือง
อวยั วะรบั ความรูส้ ึก (1)
6.5 ประเมนิ จากการทาแผนผังมโนทัศน์ (Concept mapping) เรอื่ ง อวัยวะรับความรู้สึก
(1) จากชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 6 เรื่อง อวัยวะรบั ความรู้สึก (1)
6.6 ประเมินจากคะแนนการทาแบบทดสอบหลังเรียน จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ ชดุ ที่ 6 เร่ือง อวัยวะรบั ความรู้สึก (1) จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
195
แบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรอ่ื ง...............................................................................................
รายการประเมนิ
ท่ี ชือ่ – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรีสขุ
2 นายธนากร พาที
3 นายธนั วา ดาวลั ย์
4 นายปิยวัตร พาเรือง
5 นายฤทธิไกร สายสมบัติ
6 นายวรพงษ์ รกั พงษ์
7 นายวิทยา เถาว์โท
8 นายอรรถชัย บญุ คูณ
9 นางสาวกรรภริ มย์ พงศ์ศักด์สิ ริ ิ
10 นางสาวจารุวรรณ บัวคา
11 นางสาวจฬุ ารัตน์ คาใส
12 นางสาวชมพนู ทุ ผลดี
13 นางสาวชลธดิ า พาเรือง
14 นางสาวณัฐธดิ า มนตรีนอก
15 นางสาวณัตนิ ี มนตรีนอก
16 นางสาวทิพยว์ รรณ ปรองดอง
17 นางสาวธัญญลักษณ์ แสวงบญุ
18 นางสาวธาดารตั น์ สุขสนอง
19 นางสาวปิยพร เรอื อาจ
20 นางสาวนภิ าวรรณ ดรณุ พันธุ์
196
รายการประเมนิ
ท่ี ชือ่ – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)
321321321321321
21 นางสาวปรียาภรณ์ ดรณุ พันธ์
22 นางสาวป่นิ ดาว แสวงบญุ
23 นางสาวพัชรนิ ฝางคา
24 นางสาวมานติ า พลิ าภ
25 นางสาวรสทิพย์ พุม่ จนั ทร์
26 นางสาวลัดดาพร เพี้ยบญุ มาก
27 นางสาววนิดา บวั ใหญ่
28 นางสาวสกุลรตั น์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบัติ
30 นางสาวมนทริ า บุญมี
31 นางสาวหน่งึ ฤทยั คณู ตุ้ม
เกณฑ์ท่ใี ช้ในการประเมนิ การสรุปผลการประเมนิ
3 คะแนน หมายถึง ดีมาก 11 - 15 = ดมี าก
2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ 1 – 5 = ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การผ่าน ระดบั ดขี ึน้ ไป
นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดบั ..........................
ลงช่อื .......................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
197
เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานของนกั เรียนรายบคุ คล
ระดับคะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ 3 21
1. ความสนใจ (11 – 15 คะแนน)
สมาชกิ ส่วนใหญม่ ี (6 – 10 คะแนน) (1 – 5 คะแนน)
2. การแสดง ความสนใจในกิจกรรม
ความคิดเหน็ การทดลอง ไดอ้ ยา่ ง สมาชิกทุกคนในกลุ่มมี สมาชกิ ส่วนใหญไ่ ม่มี
เหมาะสม
3. การตอบคาถาม ใหค้ วามรว่ มมือในการ ความสนใจในกิจกรรม ความสนใจในกิจกรรม
แสดงความคิดเห็น
4. การยอมรับฟังผอู้ ืน่ ภายในกลมุ่ ดี การทดลอง ไม่คอ่ ย การทดลอง
5. ทางานตามท่ีได้รบั
มอบหมาย มกี ารตอบคาถาม เหมาะสม
ภายในห้องเปน็ อย่างดี
ใหค้ วามรว่ มมือในการ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ยอมรับฟังผอู้ ืน่ อยา่ ง
เตม็ ใจ แสดงความคดิ เหน็ ในการแสดงความคดิ เห็น
ทางานท่ีไดร้ ับ
มอบหมายอย่างเต็ม ภายในกลุม่ เป็นส่วน ภายในกลุ่ม
กาลังความสามารถ
และไดผ้ ลงานการ ใหญ่
ปฏบิ ตั ทิ ม่ี คี ุณภาพดี
มกี ารตอบคาถาม ไมค่ ่อยตอบคาถาม
ภายในห้องเปน็ ส่วน ภายในหอ้ ง
ใหญ่
ยอมรบั ฟงั ผอู้ นื่ อยา่ ง ไมค่ ่อยยอมรบั ฟังผอู้ ่ืน
เต็มใจเป็นส่วนใหญ่ อย่างเตม็ ใจ
ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย
มอบหมายอยา่ งเตม็ อย่างไมเ่ ต็มกาลัง
กาลังความสามารถ ความสามารถและได้ผล
บา้ งเปน็ บางครั้งและได้ งานการปฏบิ ัติท่ีมี
ผลงานการปฏิบัตทิ มี่ ี คุณภาพตา่
คุณภาพพอใช้
198
แบบประเมนิ พฤติกรรมการร่วมปฏบิ ัติงานกลุ่ม
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรื่อง...............................................................................................
รายการประเมิน
ท่ี ชือ่ – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น
ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน
ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม
สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรสี ุข
2 นายธนากร พาที
3 นายธันวา ดาวลั ย์
4 นายปิยวัตร พาเรอื ง
5 นายฤทธไิ กร สายสมบัติ
6 นายวรพงษ์ รกั พงษ์
7 นายวทิ ยา เถาวโ์ ท
8 นายอรรถชัย บญุ คณู
9 นางสาวกรรภริ มย์ พงศ์ศักดิส์ ิริ
10 นางสาวจารวุ รรณ บัวคา
11 นางสาวจุฬารตั น์ คาใส
12 นางสาวชมพนู ทุ ผลดี
13 นางสาวชลธดิ า พาเรอื ง
14 นางสาวณัฐธดิ า มนตรีนอก
15 นางสาวณตั ินี มนตรีนอก
16 นางสาวทิพยว์ รรณ ปรองดอง
17 นางสาวธญั ญลกั ษณ์ แสวงบุญ
18 นางสาวธาดารตั น์ สขุ สนอง
19 นางสาวปยิ พร เรอื อาจ
20 นางสาวนิภาวรรณ ดรณุ พนั ธ์ุ
199
รายการประเมิน
ที่ ช่อื – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น
ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน
ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม
สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)
321321321321321
21 นางสาวปรยี าภรณ์ ดรณุ พันธ์
22 นางสาวปนิ่ ดาว แสวงบุญ
23 นางสาวพชั ริน ฝางคา
24 นางสาวมานิตา พลิ าภ
25 นางสาวรสทพิ ย์ พมุ่ จันทร์
26 นางสาวลดั ดาพร เพ้ยี บุญมาก
27 นางสาววนดิ า บวั ใหญ่
28 นางสาวสกลุ รัตน์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบตั ิ
30 นางสาวมนทริ า บญุ มี
31 นางสาวหนึ่งฤทัย คูณต้มุ
เกณฑท์ ่ใี ชใ้ นการประเมิน การสรุปผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถึง ดีมาก 11 - 15 = ดมี าก
2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ 1 – 5 = ปรับปรงุ
เกณฑ์การผา่ น ระดบั ดีขึ้นไป
นักเรียนได้คะแนน..........................คะแนน มรี ะดับคุณภาพในระดบั ..........................
ลงช่ือ.......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
200
แบบประเมนิ พฤติกรรมการแสวงหาความรจู้ ากแหล่งข้อมูล
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที่...............
รายการประเมิน
ท่ี ช่ือ – สกลุ การวางแผนค้นค ้วา
แหล่ง ้ขอมูล
การเ ็กบรวบรวม ้ขอมูล
การ ัจดกระทา ้ขอมูล
การนาเสนอ ้ขอ ูมล
การเ ีขยนรายงานและ
การสรุปผล
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1
2
3
4
5
เกณฑท์ ีใ่ ช้ในการประเมิน การสรปุ ผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดมี าก
2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การผา่ น ระดับดีข้ึนไป
นักเรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มีระดบั คุณภาพในระดับ..........................
ลงชื่อ.......................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
201
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ตามสภาพจริงตามพฤติกรรมการแสวงหาแหล่งข้อมูล
เกณฑ์การประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1
1. การวางแผน (11 – 15 คะแนน) 2 (1 – 5 คะแนน)
คน้ ควา้ แหลง่ ข้อมลู มกี ารวางแผนท่จี ะ มกี ารวางแผนทีจ่ ะ
คน้ ควา้ แหลง่ ข้อมลู จาก (6 – 10 คะแนน) คน้ คว้าแหลง่ ข้อมลู เพียง
2. การเกบ็ รวบรวม แหล่งการเรยี นรทู้ ี่ มีการวางแผนทีจ่ ะ แหล่งเดียว และได้
ข้อมลู หลากหลายเชื่อถือได้ ค้นคว้าแหล่งข้อมลู จาก ขอ้ มลู ที่ตรงตาม
3. การจัดกระทา แหลง่ การเรยี นรดู้ ว้ ย จดุ ประสงค์
ข้อมูล มกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู หลากหลายวิธี มีการบันทึกข้อมลู เป็น
ตามแผนท่กี าหนดทุก ระยะ
4. การนาเสนอข้อมลู ประการ มีการคดั เลือกและ/หรือ
มีการจัดทาขอ้ มูลอย่าง ประเมนิ ข้อมลู ไมม่ ีการจดั กระทาข้อมลู
5. การเขียนรายงาน เป็นระบบ แยกแยะ
และการสรุปผล ขอ้ มลู และจดั กลุม่ มกี ารจดั เรยี งลาดับ นาเสนอข้อมูล
ข้อมูลอยา่ งถูกต้อง ขอ้ มูลถูกต้อง ไม่ส่อื ความหมาย
ชดั เจน ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ชัดเจน
นาเสนอข้อมลู ด้วยแบบ นาเสนอข้อมูลดว้ ยแบบ
นาเสนอตา่ ง ๆ นาเสนอตา่ ง ๆ แตย่ ังไม่ เขยี นรายงานโดย
ไดถ้ ูกตอ้ ง กะทัดรัด ถูกต้อง สอ่ื ความหมายได้
ชัดเจน และ สรุปผลโดยไมใ่ ชข้ อ้ มลู
สอื่ ความหมาย เขียนรายงานโดยใช้ และไม่ถูกต้อง
เขยี นรายละเอียดตรง ภาษาถูกต้อง สรปุ ผลได้
ตามจดุ ประสงค์ ถูกต้อง กระชับ กะทดั รัด แต่ไม่
และชดั เจน การสรุปผล ชดั เจน
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งกระชับ
และชัดเจน มีเหตุผลท่ี
อา้ งองิ จากการสืบคน้ ได้
202
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
ลงชือ่ ......................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
203
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ังคบั บญั ชาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชื่อ)
(นางสาวทศั นว์ รรณ ขนั ทอง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความเห็นของหัวหนา้ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชอื่ )
(นางพชั รี คูณทอง)
หวั หน้าฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ
ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
(ลงชอื่ )
(นางสาวพรพนธ์ แพทยเ์ พียร)
ผอู้ านวยการโรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
……………/………………./……………
204
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบเนน้ แผนผงั มโนทศั น์ (Concept Based Teaching)
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว30244
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความร้สู ึก เวลา 14 ชว่ั โมง
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 : อวัยวะรับความรสู้ ึก (2) จมูก ล้ิน ผิวหนัง เวลา 2 ช่วั โมง
วันท.่ี ............../......................./.................. ผสู้ อน : นางสาวนภศร เสรกี ุล
สาระ ชีววิทยา
4. สารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และการ
ตอบสนอง การเคล่ือนที่ การสืบพันธ์ุ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษา
เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการแลกเปล่ียน
แก๊ส การลาเลียงดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมท้ังนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
7. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนัง
ของมนุษย์ ยกตวั อยา่ งโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกัน
และรักษา
8. สงั เกต และอธบิ ายการหาตาแหนง่ ของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผัส
ของผิวหนัง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าทีข่ องอวัยวะรบั ความรู้สึก จมูก ลน้ิ และผวิ หนัง (K)
2. ทดสอบความไวในการรบั สัมผสั ของผวิ หนัง (P)
3. สบื ค้นขอ้ มลู เกย่ี วกบั โรคท่เี กี่ยวข้องกับอวยั วะรับความรสู้ ึก จมูก ลิ้น และผวิ หนงั (P)
4. นาความรู้มาใชใ้ นการดูแลรกั ษาและป้องกันอันตรายของอวัยวะรบั ความรู้สึก จมกู ลนิ้
และผิวหนัง (A)
5. ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเก่ียวกับอวัยวะรับความรู้สึก จมูก ล้ิน
และผิวหนัง ในการร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนและนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
(A)
205
6. สนใจใฝร่ ู้ในการศึกษาและมุ่งมนั่ ในการทางาน ทางานร่วมกับผ้อู ื่นอยา่ งสร้างสรรค์
ยอมรับความคดิ เห็นของผู้อื่นได้ (A)
สาระสาคญั
มนุษย์มีอวัยวะรับสัมผัสประกอบด้วยตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง ซึ่งอวัยวะรับสัมผัสแต่ละ
อวยั วะมีการทางานแตกตา่ งกนั ดงั นี้
จมูก เม่ือโมเลกุลสารเคมีผ่านเข้าจมูก ออลแฟกทอรีเซลล์ทาหน้าท่ีรับกล่ินและแปลเป็น
กระแสประสาทส่งไปยงั เสน้ ประสาทสมองคูท่ ่ี 1 นาเขา้ ส่สู มองส่วนเซรีบรมั
ลน้ิ มตี ุม่ รบั รสทาหนา้ ทร่ี บั รสและแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปตามเส้นประสาทสมองคูท่ ี่ 7
และ 9 เข้าสสู่ มองสว่ นเซรบี รมั
ผวิ หนัง มีเซลลป์ ระสาทรับความร้สู กึ จานวนมาก ทั้งการสมั ผัส แรงกด ความร้อน ความเย็น
ซึ่งจะส่งกระแสประสาทไปยังสมอง
สาระการเรยี นรู้
อวยั วะรับความร้สู กึ (2) จมูก ล้ิน ผิวหนงั
ทักษะ / กระบวนการ / กระบวนการคดิ
- ทกั ษะการสังเกต
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทักษะการอภปิ ราย
- ทกั ษะการลงข้อสรปุ
- ทักษะการจดั ระบบความคิดเปน็ แผนภาพ
- ทักษะการสบื ค้นโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
1.1 สามารถเลอื กใชว้ ธิ ีการสื่อสารอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
2. ความสามารถในการคิด
2.1 สามารถคิดวเิ คราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ คิดอย่างเป็นระบบ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถประยุกต์ความรู้เพื่อการแก้ปญั หา
206
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
4.1 สามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเอง
4.2 สามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ย่างสร้างสรรค์
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.1 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี และการเลือกใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
6. มุ่งมั่นในการทางาน
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 7. รักษ์ความเป็นไทย
2. ซ่ือสัตย์ สุตจริต 8. มจี ิตสาธารณะ
3. มีวนิ ัย
4. ใฝ่เรียนรู้
สอื่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้
1. สือ่ การเรียนรู้
1.1 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เรอื่ ง อวยั วะรับความรู้สึก (2)
1.2 กระดาษบรูฟ
1.3 ปากกาเคมี และสีเมจิก
1.4 แบบจาลองโครงสรา้ งของจมูก
1.5 แบบจาลองโครงสร้างของลน้ิ
1.6 แบบจาลองโครงสร้างของผวิ หนงั
1.7 QR Code เรื่อง โครงสร้างของผิวหนงั
1.8 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ E-book จาก http://online.anyflip.com/drgvx/wrgh/
1.9 หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 เล่ม 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด
207
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
1.10 แบบทดสอบหลงั เรยี น
2. แหลง่ เรียนรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม
2.2 ห้องปฏบิ ัตกิ ารวทิ ยาศาสตร์โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม
2.3 ห้องคอมพิวเตอร์โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม (สืบคน้ จากอนิ เทอรเ์ นต)
2.4 สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์
กระบวนการวัดผลประเมินผล
1. วธิ ีการวดั
1.1 การประเมินพฤติกรรมการทางานกลุ่ม/พฤติกรรมการทางานรายบคุ คล/การทดลอง
1.2 ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
1.3 ตรวจประเมนิ ผลงานนักเรียน
2. เครอ่ื งมอื วัด
2.1 แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางานกลมุ่ /การทางานรายบคุ คล ชนิดรบู ริค 5 รายการ
15 คะแนน
2.2 แบบทดสอบย่อยชนิดเลอื กตอบ 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2.3 แบบประเมินผลงานนักเรียนชนดิ รบู ริค 5 รายการ 15 คะแนน
3. เกณฑ์การวดั
นกั เรียนทุกคนต้องได้คะแนนจากกระบวนการของแผนการจัดการเรียนรู้ระหว่างเรียน
ร้อยละ 80 ซึ่งประกอบด้วย คะแนนจากการทดสอบย่อยหลังเรียน 10 คะแนน คะแนนประเมิน
พฤติกรรม 15 คะแนน และผลงานนักเรียน 15 คะแนน รวมทั้งหมด 40 คะแนน รวมคะแนนเฉลี่ย
ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
กจิ กรรมการเรียนรู้แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ข้นั ที่ 1 ขั้นการใช้ความร้เู ดิมเช่ือมโยงความรูใ้ หม่ (Prior Knowledge)
1.1 จัดกิจกรรมโดยสุ่มเลือกนักเรียน 5 คน ออกมาเป็นตัวแทนนักเรียน ให้นักเรียนแต่ละ
คนปิดตา ดมกลนิ่ และชิมรสลกู อมรสชาตติ า่ ง ๆ แล้วถามคาถามนกั เรยี นท้งั 5 คน ว่า นกั เรียนทราบ
หรือไม่ว่า ลูกอมทน่ี ักเรียนชมิ เปน็ รสอะไร
208
1.2 ถามคาถามเชอ่ื มโยงกบั กจิ กรรม ดังน้ี
- จากกิจกรรมขา้ งต้น นักเรยี นใชอ้ วยั วะรับรสู้ กึ ใดบ้างในการทากจิ กรรม
- นอกจากจมูกและลิน้ ร่างกายยังมีอวยั วะรบั ความรสู้ กึ อน่ื ๆ อกี หรอื ไม่
1.3 ทบทวนความรู้ เรือ่ ง อวยั วะรบั ความรสู้ กึ ของร่างกาย วา่ อวัยวะรบั ความรสู้ กึ เป็นระบบ
ที่ร่างกายสร้างข้ึนมาเพื่อทาหน้าที่ในการตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีมากระตุ้นร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ
ประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้
- จมูก เป็นอวยั วะรบั ความรูส้ กึ จากส่ิงเรา้ ประเภทสารเคมี
- ลน้ิ เปน็ อวัยวะรับความรสู้ กึ จากส่ิงเรา้ ประเภทสารเคมี
- ผิวหนัง เป็นอวัยวะรับความรู้สึกจากส่ิงเร้าประเภทการสัมผัสต่าง ๆ เช่น อณุ หภมู ิ ความ
เจ็บปวด แรงกดแรงดึง
1.4 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน โดยคละความสามารถของผู้เรียน (เก่ง กลาง
อ่อน) และเพศ (ชาย หญงิ ) เพอ่ื ให้นกั เรยี นได้ช่วยเหลือกันระหว่างปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ และใหแ้ ต่ละกลุ่ม
เลือกประธาน สมาชิก และเลขานุการ เพ่ือแบ่งหน้าที่ในการทางาน พร้อมกับต้ังชื่อกลุ่มให้ตรงกับ
เน้ือวิชาตามความสนใจ และส่งรายช่ือสมาชิกในกลุ่มให้ครูผู้สอน เพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมการ
เรียนรูท้ ี่กาหนดไว้
1.5 ครแู นะนาชดุ กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง ระบบประสาท
และอวัยวะรับความรู้สึก ใหน้ ักเรียนเข้าใจก่อนที่จะใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 7 เรื่อง อวยั วะรับ
ความรูส้ กึ (2)
ขั้นท่ี 2 ข้นั รู้ (Knowing)
2.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบคน้ ข้อมูลและศึกษา เรอ่ื ง โครงสร้างของจมูก และการดม
กลิ่น จากแบบจาลองโครงสร้างของจมูกหรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6
2.2 นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสบื ค้นขอ้ มลู และศกึ ษา เร่ือง โครงสร้างของลน้ิ และการรับรส
จากแบบจาลองโครงสร้างของล้ินหรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชีววทิ ยา ม.6
2.3 นกั เรียนแต่ละกลุ่มกล่มุ ร่วมกันสืบค้นข้อมูลและศึกษา เรื่อง โครงสร้างของผิวหนัง และ
การรับความรู้สึกต่าง ๆ จากแบบจาลองโครงสร้างของผิวหนังหรือจากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6
2.4 นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทากจิ กรรม ความไวของผิวหนังแต่ละบริเวณ เพ่ือตรวจสอบความไว
ของการรบั ความรู้สึกของผวิ หนังแตล่ ะบรเิ วณ จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ชวี วทิ ยา ม.6
209
2.5 สุ่มเลือกนักเรียนอย่างน้อย 3 กลุ่ม นาเสนอผลและอภิปรายผลกิจกรรม ความไวของ
ผวิ หนงั แตล่ ะบรเิ วณ แลว้ ถามคาถามทา้ ยกจิ กรรม ดังน้ี
- นักเรยี นสรปุ ผลกจิ กรรมนี้ได้อยา่ งไร
- แต่ละบริเวณของร่างกายรบั สัมผัสไดเ้ หมือนหรอื แตกต่างกนั อย่างไร
2.6 ถามคาถามเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน เชน่
- การรับรู้ความอร่อยของอาหารประกอบด้วยใช้อวัยวะรับความรู้สึกใดบ้าง
และอวยั วะรับความร้สู กึ ตา่ ง ๆ ทางานรว่ มกนั อย่างไร
- เพราะเหตใุ ดเม่ือลูบเสน้ ขนเบา ๆ จงึ รบั รู้ความรู้สกึ ได้เช่นกัน
2.7 นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรม โรคท่ีเก่ียวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก เพื่อสืบค้นข้อมูล
เกยี่ วกับโรค ตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกบั อวัยวะรบั สัมผัสต่าง ๆ และบอกแนวทางในการดูแลและรักษาโรค
จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ม.6 โดยแต่ละกลุ่มเลือก 1
เรอื่ ง ดงั น้ี
- 1 โรคทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับตา
- 2 โรคทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั หู
- 3 โรคทเ่ี กย่ี วข้องกบั จมูก
- 4 โรคทเ่ี กี่ยวข้องกบั ลน้ิ
- 5 โรคท่เี ก่ียวขอ้ งกับผวิ หนงั
จัดทารายงาน แผน่ พับนาเสนอ และป้ายนิเทศหน้าหอ้ งเรียน โดยใหท้ าเป็นการบา้ นและทา
นอกเหนือจากเวลาเรยี นปกติ กาหนดให้เวลานกั เรยี น 1 สัปดาห์
2.8 นักเรียนรับชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 7 เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึก (2)
จากครูและลงมือปฏิบัติตามคาชี้แจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เร่ือง อวัยวะรับ
ความรสู้ กึ (2)
ขัน้ ท่ี 3 ข้นั เข้าใจ (Understanding)
3.1 นักเรียนศึกษาเนื้อหาและทากิจกรรม เรื่อง อวัยวะรับความรู้สึก (2) จากชุดกิจกรรม
การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เรอื่ ง อวยั วะรบั ความรู้สึก (2)
3.2 นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกหัด จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เร่ือง
อวยั วะรับความรู้สกึ (2)
3.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มโครงสร้างและการทางานของอวัยวะรับความรู้สึกท่ี
ได้รับมอบหมาย โดยระหว่างการนาเสนอให้นักเรียนในช้ันเรียนร่วมแสดงความคิดเห็น และครูคอย
เพิ่มเตมิ ในประเดน็ ที่ขาดหายไป
210
3.4 มอบหมายให้นักเรียนทุกกลุ่มจัดป้ายนิเทศหน้าห้องเรียน เรื่อง จมูก ลิ้น และ ผิวหนัง
โดยใหท้ านอกเหนอื จากเวลาเรยี นในช่ัวโมงปกติ
3.5 นักเรยี นและครูร่วมกันอภิปรายกจิ กรรม โรคท่ีเกีย่ วข้องกบั อวัยวะรับความรู้สกึ เพื่อให้
ได้ข้อสรุป ดังน้ี โรคที่เก่ียวกับอวัยวะรับสัมผัสมีหลายโรค แต่ละโรคมีแนวทางในการดูแลและรักษา
โรคแตกตา่ งกัน เช่น
- โรคไซนัสอักเสบ (sinusitis) เป็นภาวะท่ีเย่ือบุบริเวณโพรงอากาศข้างจมูกเกิดการอักเสบ
จากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผ่านเข้ามาทางกระบวนการหายใจ ทาให้มีอาการคัดจมูก
มีน้ามูกข้น ปวดบริเวณจมูก ตา โหนกแก้ม หน้าผาก และฟัน ลมหายใจมีกล่ินเหม็น
มวี ธิ ีการรักษาโดยการใชย้ าพ่น ยารบั ประทาน หรอื การผ่าตัด
- โรคจมูกอักเสบชนิดแพ้ (allergic rhinitis) เป็นโรคที่มีการอักเสบของเน้ือเย่ือจมกู ทาให้มี
อาการบวมแดงและมีเมือกภายในโพรงจมูกมากกว่าปกติ มีสาเหตุเกิดจากการติดเช้ือ
ระบบทางเดินหายใจ เกิดจากโรคภูมิแพ้ หรือการเปล่ียนแปลงทางอากาศ มีวิธีการรักษา
โดยการหลีกเล่ียงสารก่อภูมิแพ้ การใช้ยา หรือการให้วัคซีนภูมิแพ้ในผู้ป่วยที่มีอาการ
รุนแรง
- ล้ินอักเสบ (glossitis) เป็นภาวะท่ีล้ินมีอาการอักเสบ บวม เปลี่ยนสี ผิวของล้ินมีลักษณะ
เปลี่ยนไปจากเดิม หรือตุ่มรบั รสได้รับความเสียหาย ทาให้เกิดอาการบวม ปวด และส่งผล
ต่อการรับรสอาหารหรือการพูด มีสาเหตุเกิดจากการบาดเจ็บท่ีเกิดบริเวณปากซ่ึงอาจ
ส่งผลต่อลิ้น การแพ้ยาบางชนิด การแก้ยาสีฟันหรือผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก พฤติกรรมกา
รบริโรคอาหารที่กอ่ ให้เกดิ อาการปวดแสบปวดร้อน หรอื การติดเชื้อแบคทเี รยี เช้ือรา หรือ
เชื้อไวรัส มีวิธีการรักษาจะข้ึนอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งอาจเป็นใช้การดูแลสุขภาพ
ของช่องปาก การปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมการบรโิ ถค หรอื การรกั ษาด้วยยา
- เกลื้อน (Tinea versicolor) เกิดจากเช้ือ Malassezia spp. ทาให้ผู้ป่วยมีผ่ืนขึ้นตาม
ผิวหนังในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น หน้าอก หลัง ไหล่ ซอกคอ ลาคอ ต้นแขน หน้า
ท้อง ใบหน้า และผู้ป่วยอาจมีอาการคันในช่วงที่มีเหง่ือออกมาก มีวิธีการรักษาโดยการใช้
ยาแบบทา (ในกรณีท่ีมีผื่นไม่มาก) ยาแบบดิน (ในกรณีที่มีผื่นมากและเป็นบริเวณกว้าง)
หรอื อาจใช้สมนุ ไพรรักษาโรคเกลอื้ น
- โรคเรมิ (herpes) เกิดจากการตดิ เช้ือไวรัส HPV (Herpes Simplex Virus) ผปู้ ่วยจะมตี ุ่ม
น้าใสบริเวณท่ีติดเชื้อ เช่น ปาก อวัยวะเพศ ทวารหนัก ต้นขา ทาให้มีอาการปวด แสบท่ี
แผล โรคเริมเป็นโรคผิวหนังท่ีไม่สามารถรักษาให้หายขาด เนื่องจากเชื้อไวรัสจะยังคงแฝง
อยู่ในร่างกายแม้อาการของโรคจะสงบลงแล้ว และอาจจะกลับมาแสดงอาการอีกหาก
211
ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกนั อ่อนแอ การรักษาจึงเป็นการบรรเทาอาการเจ็บปวดและควบคุม
การแพร่กระจายของเชื้อไวรสั
- โรคอีสุกอีใส (chickenpox/varicella) เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังท่ีเกิดจากการติดเช้ือ
ไวรสั วีซีวี (Varicella Zoster Virus: VZV) ผปู้ ่วยจะเกดิ ผ่นื เป็นจดุ แดง ๆ ตามรา่ งกายและ
จะเร่ิมกลายเป็นตุ่มพองขนาดเล็กที่มีน้าใส อีกทั้งยังมีอาการไข้ต่า รู้สึกครั่นเน้ือครั่นตัว
เหน่ือยง่าย ปวดศีรษะ และเจ็บคอ โดยท่ัวไปการรักษาโร คอีสุกอีใสเป็นการ
ประคับประคองตามอาการท่ีเกิดขึ้นกับผปู้ ่วยเป็นหลัก เพอ่ื ชว่ ยบรรเทาอาการของโรคให้ดี
ข้ึน เชน่ การทานยาในกล่มุ ต้านการอับเสบ การใช้ยาทาภายนอกเพอื่ ลดอาการคันและเก็บ
ความช้ืนแก่ผิวหนัง แต่ในผูป้ ว่ ยที่มอี าการรุนแรงอาจตอ้ งใช้ยาในกลุ่มต้านไวรัสเพ่ือช่วยฆ่า
เช้อื
ขั้นท่ี 4 ข้นั ลงมอื ทา (Doing)
4.1 มอบหมายให้นักเรียนทากิจกรรมต่าง ๆ ในบัตรกิจกรรมและแบบฝึกหัดท่ีกาหนดใน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 7 เร่ือง อวยั วะรับความรูส้ ึก (2)
4.2 นักเรียนแต่ละกลุ่ม ลงมือปฏิบัติตามคาชี้แจงในชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ชดุ ท่ี 7 เรื่อง อวยั วะรับความรสู้ ึก (2)
4.3 นักเรียนแบ่งกลุ่ม (ตามกลุ่มที่แบ่งในกิจกรรม โรคที่เก่ียวข้องกับอวัยวะรับความรู้สึก)
สร้างแบบจาลองโครงสร้างของอวัยวะรับความรู้สึก ได้แก่ จมูก ลิ้น และผิวหนัง โดยใช้วัสดุอุปกรณ์
ที่เหมาะสมและมีราคาถูก เพื่อใชเ้ ป็นแบบจาลองสาหรบั การศึกษาของนักเรยี นในรุ่นต่อไป
4.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และวิเคราะห์ผลการปฏิบัติกิจกรรม
แล้วอภิปรายผลร่วมกัน จากนั้นส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรม ในระหว่างท่ีนักเรียน
นาเสนอครคู อยให้ข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ เพื่อใหน้ ักเรยี นมีความเข้าใจทีถ่ ูกต้อง และรว่ มกันตอบคาถาม
ท้ายกจิ กรรม โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั อภิปรายเพ่อื หาคาตอบ
ขน้ั ท่ี 5 ขนั้ สรุป (Summary)
5.1 นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ เก่ียวกับอวัยวะรบั ความรู้สึก (2) เพอื่ ให้ไดข้ อ้ สรปุ ดังน้ี
- จมูก เม่ือโมเลกุลสารเคมีผ่านเข้าจมูก ออลแฟกทอรีเซลล์ภายในจมูกทาหน้าท่ีรับกล่ิน
และแปลเป็นกระแสประสาทส่งไปยังเส้นประสาทสมองคู่ท่ี 1 นาเข้าสู่สมองส่วน
เซรีบรมั
- ลน้ิ มีตุ่มรับรสทาหน้าท่ีรับรสและแปลเปน็ กระแสประสาทส่งไปตามเสน้ ประสาทสมอง
คู่ที่ 7 และ 9 เข้าสู่สมองสว่ นเซรีบรัม
212
- ผิวหนัง มีเซลล์ประสาทรับความรู้สึกจานวนมาก ทั้งการสัมผัส แรงกด ความร้อน
ความเย็น ซึ่งจะสง่ กระแสประสาทไปยังสมอง
5.2 นักเรียนเขียนสรุปในรูปแบบผังมโนทัศน์ เรื่อง อวัยวะรับความรู้สึก (2) โดยอธิบายถึง
โครงสร้าง การทางานและความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากอวัยวะรับความรู้สึกต่าง ๆ ลงในกระดาษบรูฟ
5.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายสรุปเก่ียวกับอวัยวะรับความรู้สึก (2) จากชุดกิจกรรมการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดท่ี 7 เร่ือง อวัยวะรับความร้สู ึก (2) โดยนักเรียนนาเสนอเป็นแผนผังมโนทัศน์
(Concept mapping) หนา้ ชัน้ เรียน
ข้ันท่ี 6 ขัน้ ประเมิน (Evaluation)
6.1 ประเมินความรู้เกี่ยวกับ เร่ือง อวัยวะรับความรู้สึก (2) โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบ
คาถาม ตรวจแบบฝกึ หดั ตรวจผงั มโนทัศน์ ตรวจรายงาน ตรวจแผน่ พับนาเสนอ และตรวจป้ายนเิ ทศ
6.2 ประเมนิ ทักษะและกระบวนการ โดยสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม การทาปฏิบัติการ
การสรา้ งแบบจาลอง และการนาเสนอผลงาน
6.3 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษา
และความม่งุ ม่ันในการทางาน
6.4 ประเมินจากการทากิจกรรมจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เรื่อง
อวัยวะรบั ความร้สู ึก (2)
6.5 ประเมนิ จากการทาแผนผังมโนทัศน์ (Concept mapping) เร่อื ง อวัยวะรับความรู้สึก
(2) จากชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เรอ่ื ง อวยั วะรับความรู้สึก (2)
6.6 ประเมินจากคะแนนการทาแบบทดสอบหลังเรียน จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ชุดที่ 7 เรื่อง อวัยวะรบั ความรสู้ ึก (2) จานวน 10 ขอ้ ข้อละ 1 คะแนน
213
แบบประเมนิ พฤติกรรมการปฏิบตั งิ านรายบคุ คล
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรอ่ื ง...............................................................................................
รายการประเมนิ
ท่ี ชือ่ – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรีสขุ
2 นายธนากร พาที
3 นายธนั วา ดาวลั ย์
4 นายปิยวัตร พาเรือง
5 นายฤทธิไกร สายสมบัติ
6 นายวรพงษ์ รกั พงษ์
7 นายวิทยา เถาว์โท
8 นายอรรถชัย บญุ คูณ
9 นางสาวกรรภริ มย์ พงศ์ศักด์สิ ริ ิ
10 นางสาวจารุวรรณ บัวคา
11 นางสาวจฬุ ารัตน์ คาใส
12 นางสาวชมพนู ทุ ผลดี
13 นางสาวชลธดิ า พาเรือง
14 นางสาวณัฐธดิ า มนตรีนอก
15 นางสาวณัตนิ ี มนตรีนอก
16 นางสาวทิพยว์ รรณ ปรองดอง
17 นางสาวธัญญลักษณ์ แสวงบญุ
18 นางสาวธาดารตั น์ สุขสนอง
19 นางสาวปิยพร เรอื อาจ
20 นางสาวนภิ าวรรณ ดรณุ พันธุ์
214
รายการประเมนิ
ที่ ช่ือ – สกลุ ความสนใจ
การแสดง
ความคิดเห็น
การตอบคาถาม
การยอมรับ ัฟงผู้อ่ืน
ทางานตาม ีท่ไ ้ดรับ
มอบหมาย
คะแนนรวม (15)
321321321321321
21 นางสาวปรยี าภรณ์ ดรุณพนั ธ์
22 นางสาวปน่ิ ดาว แสวงบุญ
23 นางสาวพชั รนิ ฝางคา
24 นางสาวมานติ า พิลาภ
25 นางสาวรสทิพย์ พมุ่ จนั ทร์
26 นางสาวลัดดาพร เพ้ยี บญุ มาก
27 นางสาววนิดา บัวใหญ่
28 นางสาวสกุลรัตน์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบตั ิ
30 นางสาวมนทริ า บญุ มี
31 นางสาวหนึ่งฤทัย คูณตุม้
เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการประเมนิ การสรปุ ผลการประเมนิ
3 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรับปรุง
เกณฑ์การผา่ น ระดับดขี ้ึนไป
นักเรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดบั คุณภาพในระดบั ..........................
ลงช่อื .......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ุล)
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
……………./…………………/…………….
215
เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานของนกั เรียนรายบคุ คล
ระดับคะแนน
เกณฑก์ ารประเมนิ 3 21
1. ความสนใจ (11 – 15 คะแนน)
สมาชกิ ส่วนใหญม่ ี (6 – 10 คะแนน) (1 – 5 คะแนน)
2. การแสดง ความสนใจในกจิ กรรม
ความคิดเหน็ การทดลอง ได้อยา่ ง สมาชิกทุกคนในกลุ่มมี สมาชกิ ส่วนใหญไ่ ม่มี
เหมาะสม
3. การตอบคาถาม ใหค้ วามรว่ มมือในการ ความสนใจในกิจกรรม ความสนใจในกิจกรรม
แสดงความคิดเห็น
4. การยอมรับฟังผอู้ ืน่ ภายในกลุ่มดี การทดลอง ไม่คอ่ ย การทดลอง
5. ทางานตามท่ีได้รบั
มอบหมาย มกี ารตอบคาถาม เหมาะสม
ภายในห้องเป็นอยา่ งดี
ใหค้ วามรว่ มมือในการ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ยอมรับฟังผู้อืน่ อยา่ ง
เตม็ ใจ แสดงความคดิ เหน็ ในการแสดงความคดิ เห็น
ทางานท่ีได้รับ
มอบหมายอยา่ งเต็ม ภายในกลุม่ เป็นส่วน ภายในกลุ่ม
กาลังความสามารถ
และไดผ้ ลงานการ ใหญ่
ปฏบิ ตั ทิ ม่ี ีคณุ ภาพดี
มกี ารตอบคาถาม ไมค่ ่อยตอบคาถาม
ภายในห้องเปน็ ส่วน ภายในหอ้ ง
ใหญ่
ยอมรบั ฟงั ผอู้ นื่ อยา่ ง ไมค่ ่อยยอมรบั ฟังผอู้ ่ืน
เต็มใจเป็นส่วนใหญ่ อย่างเตม็ ใจ
ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย
มอบหมายอยา่ งเตม็ อย่างไมเ่ ต็มกาลัง
กาลังความสามารถ ความสามารถและได้ผล
บา้ งเปน็ บางครั้งและได้ งานการปฏบิ ัติท่ีมี
ผลงานการปฏิบัตทิ มี่ ี คุณภาพตา่
คุณภาพพอใช้
216
แบบประเมนิ พฤติกรรมการร่วมปฏบิ ัติงานกลุ่ม
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
เรื่อง...............................................................................................
รายการประเมิน
ท่ี ชือ่ – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น
ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน
ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม
สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1 นายชลสทิ ธ์ิ ศรสี ุข
2 นายธนากร พาที
3 นายธันวา ดาวลั ย์
4 นายปิยวัตร พาเรอื ง
5 นายฤทธไิ กร สายสมบัติ
6 นายวรพงษ์ รกั พงษ์
7 นายวทิ ยา เถาวโ์ ท
8 นายอรรถชัย บญุ คณู
9 นางสาวกรรภริ มย์ พงศ์ศักดิส์ ิริ
10 นางสาวจารวุ รรณ บัวคา
11 นางสาวจุฬารตั น์ คาใส
12 นางสาวชมพนู ทุ ผลดี
13 นางสาวชลธดิ า พาเรอื ง
14 นางสาวณัฐธดิ า มนตรีนอก
15 นางสาวณตั ินี มนตรีนอก
16 นางสาวทิพยว์ รรณ ปรองดอง
17 นางสาวธญั ญลกั ษณ์ แสวงบุญ
18 นางสาวธาดารตั น์ สขุ สนอง
19 นางสาวปยิ พร เรอื อาจ
20 นางสาวนิภาวรรณ ดรณุ พนั ธ์ุ
217
รายการประเมนิ
ท่ี ชือ่ – สกลุ รับผิดชอบงาน ี่ท
ไ ้ดรับมอบหมาย
รับฟังความคิดเห็น
ของผู้อ่ืน
นคาเวสานมอคิผดเลห็งานน
ได้น่าสนใจ
ีมความ ิคดริเร่ิม
สร้างสรรค์
ทางานเสร็จตาม
เวลา ่ทีกาหนด
คะแนนรวม (15)
321321321321321
21 นางสาวปรียาภรณ์ ดรณุ พนั ธ์
22 นางสาวปนิ่ ดาว แสวงบญุ
23 นางสาวพชั รนิ ฝางคา
24 นางสาวมานติ า พลิ าภ
25 นางสาวรสทพิ ย์ พุ่มจันทร์
26 นางสาวลดั ดาพร เพี้ยบญุ มาก
27 นางสาววนิดา บัวใหญ่
28 นางสาวสกุลรตั น์ ทองสด
29 นางสาวอรฤดี สายสมบตั ิ
30 นางสาวมนทิรา บญุ มี
31 นางสาวหนงึ่ ฤทัย คูณตมุ้
เกณฑ์ท่ใี ชใ้ นการประเมิน การสรุปผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง 1 – 5 = ปรับปรงุ
เกณฑ์การผา่ น ระดบั ดีขึน้ ไป
นกั เรยี นได้คะแนน..........................คะแนน มรี ะดบั คุณภาพในระดบั ..........................
ลงชอื่ .......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวนภศร เสรีกลุ )
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
……………./…………………/…………….
218
แบบประเมนิ พฤติกรรมการแสวงหาความรู้จากแหล่งขอ้ มูล
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วชิ า ว30244 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
เรอ่ื ง............................................................................................... กลุ่มที่...............
รายการประเมิน
ท่ี ช่อื – สกลุ การวางแผนค้นค ้วา
แหล่ง ้ขอมูล
การเ ็กบรวบรวม ้ขอมูล
การ ัจดกระทา ้ขอมูล
การนาเสนอ ้ขอ ูมล
การเ ีขยนรายงานและ
การสรุปผล
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1
2
3
4
5
เกณฑท์ ี่ใช้ในการประเมนิ การสรปุ ผลการประเมนิ
3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถงึ ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรุง
เกณฑ์การผา่ น ระดับดขี ้ึนไป
นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดบั ..........................
ลงชื่อ.......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรกี ลุ )
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………………/…………….
219
เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ ตามสภาพจริงตามพฤติกรรมการแสวงหาแหล่งข้อมูล
เกณฑ์การประเมิน 3 ระดบั คะแนน 1
1. การวางแผน (11 – 15 คะแนน) 2 (1 – 5 คะแนน)
คน้ ควา้ แหลง่ ข้อมลู มกี ารวางแผนท่จี ะ มกี ารวางแผนทีจ่ ะ
คน้ ควา้ แหล่งข้อมลู จาก (6 – 10 คะแนน) คน้ คว้าแหลง่ ข้อมลู เพียง
2. การเกบ็ รวบรวม แหล่งการเรียนรทู้ ี่ มีการวางแผนทีจ่ ะ แหล่งเดียว และได้
ข้อมลู หลากหลายเชื่อถือได้ ค้นคว้าแหล่งข้อมลู จาก ขอ้ มลู ที่ตรงตาม
3. การจัดกระทา แหลง่ การเรยี นรดู้ ว้ ย จดุ ประสงค์
ข้อมูล มกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู หลากหลายวิธี มีการบันทึกข้อมลู เป็น
ตามแผนท่กี าหนดทุก ระยะ
4. การนาเสนอข้อมลู ประการ มีการคดั เลือกและ/หรือ
มีการจัดทาขอ้ มูลอย่าง ประเมนิ ข้อมลู ไมม่ ีการจดั กระทาข้อมลู
5. การเขียนรายงาน เป็นระบบ แยกแยะ
และการสรุปผล ขอ้ มลู และจดั กลุม่ มกี ารจดั เรยี งลาดับ นาเสนอข้อมูล
ข้อมูลอยา่ งถูกต้อง ขอ้ มูลถูกต้อง ไม่ส่อื ความหมาย
ชดั เจน ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ชัดเจน
นาเสนอข้อมลู ด้วยแบบ นาเสนอข้อมูลดว้ ยแบบ
นาเสนอตา่ ง ๆ นาเสนอตา่ ง ๆ แตย่ ังไม่ เขยี นรายงานโดย
ไดถ้ ูกตอ้ ง กะทัดรัด ถูกต้อง สอ่ื ความหมายได้
ชัดเจน และ สรุปผลโดยไมใ่ ชข้ อ้ มลู
สอื่ ความหมาย เขียนรายงานโดยใช้ และไม่ถูกต้อง
เขยี นรายละเอียดตรง ภาษาถูกต้อง สรปุ ผลได้
ตามจดุ ประสงค์ ถูกต้อง กระชับ กะทดั รัด แต่ไม่
และชดั เจน การสรุปผล ชดั เจน
ไดอ้ ย่างถกู ต้องกระชับ
และชัดเจน มีเหตุผลท่ี
อา้ งองิ จากการสืบคน้ ได้
220
แบบประเมนิ พฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที.่ ..............
รายการประเมนิ
ที่ ชื่อ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์
ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์
ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์
ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์
การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1
2
3
4
5
เกณฑท์ ใี่ ช้ในการประเมิน การสรุปผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรุง
เกณฑ์การผา่ น ระดบั ดีขน้ึ ไป
นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดับ..........................
ลงช่ือ.......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………………/…………….
221
แบบประเมนิ พฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที.่ ..............
รายการประเมนิ
ที่ ชื่อ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์
ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์
ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์
ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์
การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1
2
3
4
5
เกณฑท์ ใี่ ช้ในการประเมิน การสรุปผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรุง
เกณฑ์การผา่ น ระดบั ดีขน้ึ ไป
นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดับ..........................
ลงช่ือ.......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………………/…………….
222
แบบประเมนิ พฤติกรรมการจัดกระทาผังมโนทศั น์
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
เรอื่ ง............................................................................................... กลุ่มที.่ ..............
รายการประเมนิ
ที่ ชื่อ – สกลุ ความ ูถกต้องและความ
ครบถ้วนของมโนทัศน์
ความสม ูบรณ์ของ
ผังมโนทัศน์
ความประณีตในการทา
ผังมโนทัศน์
ความรับผิดชอบในการ
ทาผังมโน ัทศน์
การปรับปรุง/แก้ไขการ
ทาผังมโน ัทศน์
คะแนนรวม (15)
321321321321321
1
2
3
4
5
เกณฑท์ ใี่ ช้ในการประเมิน การสรุปผลการประเมิน
3 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 11 - 15 = ดีมาก
2 คะแนน หมายถึง ดี 6 – 10 = ดี
1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง 1 – 5 = ปรบั ปรุง
เกณฑ์การผา่ น ระดบั ดีขน้ึ ไป
นกั เรียนได้คะแนน..........................คะแนน มีระดับคุณภาพในระดับ..........................
ลงช่ือ.......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………………/…………….
223
เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินตามสภาพจริงของผงั มโนทศั น์
ระดับคะแนน
เกณฑก์ ารประเมิน 321
1. ความถูกต้อง
และความครบถ้วน (11 – 15 คะแนน) (6 – 10 คะแนน) (1 – 5 คะแนน)
ของมโนทัศน์
เขียนมโนทศั น์ได้ เขียนมโนทัศน์ได้ เขียนมโนทศั น์ได้
2. ความสมบูรณข์ อง
ผังมโนทัศน์ ถกู ต้องครบถ้วน ถูกต้องครบถว้ น ถูกต้องแต่ไมค่ รบถ้วน
3. ความประณตี และแสดงลาดับขนั้ ของ แตแ่ สดงลาดับขนั้ ของ และแสดงลาดับข้นั ของ
ในการทาผงั มโนทัศน์
มโนทศั นไ์ ด้อย่าง มโนทัศน์ไม่ถูกตอ้ ง มโนทศั นไ์ มถ่ ูกตอ้ ง
4. ความรับผดิ ชอบใน
การทาผงั มโนทัศน์ ถูกต้อง
5. การปรบั ปรงุ /แก้ไข
การทาผังมโนทัศน์ มีช่อื ผงั มโนทศั น์ มชี ือ่ ผงั มโนทศั น์ มีช่ือผงั มโนทศั น์ไม่มี
คาเช่ือมมโนทศั น์ และมี คาเชื่อมมโนทัศน์ คาเชอื่ มมโนทศั น์
การแสดงความสัมพนั ธ์ แตไ่ ม่มกี ารแสดง และไม่มีการแสดง
ระหวา่ งมโนทัศนด์ ้วย ความสมั พันธ์ระหว่าง ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง
สญั ลักษณ์อย่างชดั เจน มโนทศั น์ดว้ ยสญั ลกั ษณ์ มโนทศั น์ด้วยสญั ลักษณ์
อยา่ งชดั เจน อยา่ งชดั เจน
ผลงานมคี วามประณตี ผลงานมคี วามประณีต ผลงานไมม่ ีความ
และขนาดตัวอักษรทใ่ี ช้ แตข่ นาดตัวอักษรทใ่ี ช้ ประณีตและขนาด
เขยี นผงั มโนทัศน์ เขยี นผังมโนทัศน์เล็ก ตวั อกั ษรท่ีใชเ้ ขยี นผงั
เหมาะสม หรอื ใหญ่เกนิ ไป มโนทศั นเ์ ล็กหรือใหญ่
เกนิ ไป
ส่งผงั มโนทศั นต์ รงเวลา ส่งผังมโนทศั นช์ า้ กว่า สง่ ผังมโนทศั น์
เวลาที่กาหนด 1-2 วัน ช้ากว่าเวลาทีก่ าหนด
มากกว่า 3 วัน
มกี ารนาคาแนะนา ข้อ มกี ารนาคาแนะนา ไม่มีการนาคาแนะนา
ควรปรับปรุงท่ีครบู อก ขอ้ ควรปรบั ปรุงท่คี รู ข้อควรปรบั ปรงุ ท่คี รู
ไปปรับปรงุ งานของ บอกไปปรับปรุงงาน บอกไปปรบั ปรุงงาน
ตนเองอย่เู สมอ ของตนเองบางครง้ั ของตนเอง
224
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
ลงชือ่ ......................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
225
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ังคบั บญั ชาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชื่อ)
(นางสาวทศั นว์ รรณ ขนั ทอง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความเห็นของหัวหนา้ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชอื่ )
(นางพชั รี คูณทอง)
หวั หน้าฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ
ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
(ลงชอื่ )
(นางสาวพรพนธ์ แพทยเ์ พียร)
ผอู้ านวยการโรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
……………/………………./……………
226
แผนการจัดการเรียนรู้แบบเนน้ แผนผังมโนทศั น์ (Concept Based Teaching)
รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรูส้ กึ เวลา 14 ช่ัวโมง
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
แผนการจดั การเรยี นรู้ : ปจั ฉมิ นเิ ทศ เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ท.ี่ ............../......................./.................. ผู้สอน : นางสาวนภศร เสรกี ลุ
สาระ ชวี วิทยา
4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการ
แลกเปลี่ยนแก๊ส การลาเลียงสารและการหมุนเวียนเลอื ด ภมู ิคมุ้ กันของร่างกาย
การขับถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคล่ือนที่ การสืบพันธุ์ และการ
เจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมท้ังนา
ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ผเู้ รยี นวิเคราะห์ระบบประสาทและอวัยวะรับความรสู้ ึกได้ (K)
2. เพอื่ วัดความรู้ของผูเ้ รียนหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบเน้นแผนผังมโนทัศน์
(Concept Based Teaching) เรอ่ื ง ระบบประสาทและอวัยวะรับความร้สู ึก รายวชิ าชวี วทิ ยา 4 รหัส
วชิ า ว30244 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 (K)
3. นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหา เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก รายวิชา
ชีววทิ ยา 4 รหัสวิชา ว30244 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6 (K)
4. นักเรียนสามารถนาความรู้ท่ีได้จาก เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
รายวิชาชวี วิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ (P)
5. เพ่ือทราบทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการสอน เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะ
รับความรสู้ ึก รายวชิ าชวี วทิ ยา 4 รหัสวชิ า ว30244 ดา้ นตา่ งๆ ได้ (A)
6. เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนและหลังเรียน
(K)
227
สาระสาคญั
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแต่ละรายวิชาต้องมีการปัจฉิมนิเทศ เพื่อวัดผล
และประเมินผลการเรียนรู้ โดยทาการทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและทดสอบความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์
(Concept Based Teaching) เร่ือง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก รายวิชาชีววิทยา 4
รหัสวิชา ว30244 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6
สาระการเรยี นรู้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก ประกอบด้วย เน้ือหาหน่วย
ยอ่ ย 7 เรอ่ื ง ดังน้ี
1. การรับรู้และการตอบสนองของสัตว์ เวลา 2 ชั่วโมง
2. เซลลป์ ระสาท เวลา 2 ชั่วโมง
3. การทางานของเซลล์ประสาท เวลา 2 ชว่ั โมง
4. ศูนย์ควบคุมระบบประสาท เวลา 2 ชั่วโมง
5. การทางานของระบบประสาท เวลา 2 ชั่วโมง
6. อวัยวะรบั ความรู้สกึ (1) หู ตา เวลา 2 ช่ัวโมง
7. อวัยวะรบั ความรสู้ ึก (2) จมูก ลน้ิ ผิวหนงั เวลา 2 ช่ัวโมง
ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1. ทักษะการสังเกต
2. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
3. ทกั ษะการอภปิ ราย
4. ทกั ษะการลงข้อสรปุ
5. ทกั ษะการจัดระบบความคิดเปน็ แผนภาพ
6. ทกั ษะการสืบค้นโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
1.1 สามารถเลือกใช้วิธกี ารสอ่ื สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
2. ความสามารถในการคิด
2.1 สามารถคิดวิเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ คดิ อย่างเป็นระบบ
228
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3.1 สามารถประยุกตค์ วามร้เู พอื่ การแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
4.1 สามารถเรยี นรู้ด้วยตนเอง
4.2 สามารถทางานรว่ มกบั ผู้อื่นไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5.1 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี และการเลอื กใช้เทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
6. มุ่งม่ันในการทางาน
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 7. รักษ์ความเป็นไทย
2. ซ่ือสตั ย์ สุตจริต 8. มีจิตสาธารณะ
3. มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้
1. สอ่ื การเรียนรู้
1.1 แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรยี น จานวน 40 ข้อ
2. แหล่งเรยี นรู้
2.1 หอ้ งสมดุ โรงเรียนโนนกลางวิทยาคม
2.2 ห้องปฏบิ ัตกิ ารวทิ ยาศาสตร์โรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
2.3 ห้องคอมพิวเตอรโ์ รงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม (สบื คน้ จากอินเทอร์เนต)
2.4 สอื่ อิเล็กทรอนิกส์
กระบวนการวดั ผลประเมนิ ผล
1. วธิ กี ารวัด
- ตรวจแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนหลงั เรียน
2. เครือ่ งมอื วัด
- แบบทดสอบวัดผลการสัมฤทธิ์เรียน เร่ือง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
ชนดิ เลือกตอบ 4 ตัวเลอื ก จานวน 40 ขอ้ คะแนนเตม็ 40 คะแนน
229
กิจกรรมการเรียนร้แู บบเนน้ แผนผงั มโนทัศน์ (Concept Based Teaching)
ข้นั ที่ 1 ขั้นการใชค้ วามร้เู ดิมเชื่อมโยงความร้ใู หม่ (Prior Knowledge)
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ระบบประสาทและ
อวัยวะรับความรู้สึก ที่เรียนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept
Based Teaching) เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการเรียนรู้และสาระ
การเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ประกอบด้วยเน้อื หายอ่ ย
7 เรือ่ ง ดังน้ี
1. การรับร้แู ละการตอบสนองของสัตว์ เวลา 2 ชวั่ โมง
2. เซลล์ประสาท เวลา 2 ชว่ั โมง
3. การทางานของเซลลป์ ระสาท เวลา 2 ช่ัวโมง
4. ศูนยค์ วบคุมระบบประสาท เวลา 2 ชว่ั โมง
5. การทางานของระบบประสาท เวลา 2 ชว่ั โมง
6. อวยั วะรบั ความรู้สึก (1) เวลา 2 ช่วั โมง
7. อวัยวะรบั ความรู้สึก (2) เวลา 2 ชั่วโมง
ข้ันที่ 2 ขั้นรู้ (Knowing)
แจง้ สาระการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ทีต่ ้องการวัดสาหรับ
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผลการ
เรียนรู้และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้
นกั เรยี นทราบ
ข้ันที่ 3 ข้นั เข้าใจ (Understanding)
3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based
Teaching) เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และการนา
ความร้ทู ไ่ี ดไ้ ปใช้ประโยชน์
230
3.2 ครูแนะนาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเพ่ือให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติม จากท่ีได้เรียนรู้
ในห้องเรยี น
ขั้นท่ี 4 ขัน้ ลงมอื ทา (Doing)
4.1 ครูแจกแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน (ฉบับเดิม) เพ่ือวัดพัฒนาการ
ของนักเรียนหลังเรียนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based
Teaching) เร่ือง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือก จานวน 40 ข้อ ใช้เวลา 30 นาที
4.2 นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชาชีววิทยา 4
รหัสวิชา ว30244 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก ชนิดเลือกตอบ
4 ตัวเลือก จานวน 40 ข้อ ใชเ้ วลา 30 นาที
4.3 เม่อื หมดเวลาครเู ก็บรวบรวมกระดาษคาตอบไวต้ รวจและบันทึกคะแนนลงใน
แบบบันทกึ และแบบสรุปคะแนน
ขั้นที่ 5 ขั้นสรุป (Summary)
ค รู แ ล ะ นั ก เ รี ย น ร่ ว ม กั น อ ภิ ป ร า ย ส รุ ป เ พ่ิ ม เ ติ ม เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร เ รี ย น รู้ โ ด ย ใ ช้
กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นแผนผังมโนทัศน์ (Concept Based Teaching) เร่ือง ระบบ
ประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก รายวิชาชีววิทยา 4 รหัสวิชา ว30244 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ขั้นท่ี 6 ขัน้ ประเมิน (Evaluation)
6.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้และการร่วมกิจกรรมของนักเรียนในขณะจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน
6.2 สงั เกตจากการตอบคาถามในช้ันเรียน ขณะทาการเรยี นการสอน
6.3 ตรวจแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ระบบประสาทและ
อวัยวะรับความรูส้ ึก
231
คะแนนผลการทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหัสวชิ า ว30244 เร่อื ง ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู กึ
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม อาเภอพบิ ลู มังสาหาร จงั หวัดอุบลราชธานี
นักเรยี นคนท่ี คะแนนเต็ม (40) นกั เรียนคนที่ คะแนนเตม็ (40)
1 33 17 33
2 34 18 34
3 35 19 34
4 33 20 36
5 33 21 34
6 34 22 34
7 35 23 33
8 36 24 34
9 35 25 35
10 34 26 34
11 33 27 34
12 35 28 35
13 34 29 36
14 36 30 33
15 33 31 35
16 34 - -
รวม 1,061
เฉล่ีย 34.22
ร้อยละ 85.56
232
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………..…………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
ลงชือ่ ......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวนภศร เสรีกุล)
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
……………./…………../……………..
233
ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผ้บู ังคบั บญั ชาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชื่อ)
(นางสาวทศั นว์ รรณ ขนั ทอง)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความเห็นของหัวหนา้ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
(ลงชอื่ )
(นางพชั รี คูณทอง)
หวั หน้าฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ
ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………..……………………………………………………………………..
………………………………………………………..…………………………………………………………………………………
(ลงชอื่ )
(นางสาวพรพนธ์ แพทยเ์ พียร)
ผอู้ านวยการโรงเรียนโนนกลางวทิ ยาคม
……………/………………./……………
234
บรรณานุกรม
235
บรรณานกุ รม
กฤษณะ โฆษชุณหนันท.์ (2553). รปู แบบการเรียนการสอนแบบมโนทัศน์. ชลบรุ ี
: มหาวิทยาลยั บรู พา.
เกรียงศักดิ์ เจรญิ วงศ์ศกั ด.ิ์ (2549). การคิดเชงิ มโนทศั น์ (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 7). กรงุ เทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
เฉลมิ ลาภ ทองอาจ. (2552). “การจดั การเรยี นรูห้ ลักการใช้ภาษาโดยใชร้ ปู แบบการสอน
มโนทัศน์”. วารสารศกึ ษาศาสตร์. ปีที่ 20 ฉบบั ที่ 1 ตลุ าคม 2551 – มกราคม 2552,
หน้า 1-14.
ทศิ นา แขมมณ.ี (2550). ศาสตรก์ ารสอน : องคค์ วามรู้เพื่อการจัดการกระบวนการเรยี นรู้
ท่ีมีประสิทธภิ าพ (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 5). กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
ทศิ นา แขมมณ.ี (2550). รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกท่ีหลากหลาย (พิมพ์ครัง้ ท่ี 6).
กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน : องคค์ วามรเู้ อการจัดกระบวนการเรยี นรู้
ท่มี ีประสิทธภิ าพ. พิมพค์ ร้งั ท่ี 13. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลยั .
ภูษิต ศรปี ะโค (2563). แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาเพม่ิ เตมิ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชีววิทยา ชัน้ มัยมศึกษาปีที่ 6 เลม่ 1. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจรญิ ทัศน์ อจท.จากดั .
ฤทธิ์ วฒั นชัยยง่ิ เจริญ และ เกศทิพย์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา. (2564). หนงั สือเรียนรายวิชาเพ่มิ เติม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชวี วิทยา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เลม่ 1. (พิมพ์ครง้ั ท่ี 3)
กรงุ เทพฯ : ไทยร่มเกลา้ , บรษิ ทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากัด.
ฤทธิ์ วัฒนชยั ยิ่งเจริญ และ เกศทิพย์ อศิ รางกูร ณ อยุทธยา. (2565). หนังสอื เรียนรายวิชาเพิ่มเติม
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชีววิทยา ชัน้ มัยมศกึ ษาปีท่ี 6 เลม่ 1. (พิมพค์ รัง้ ที่ 4)
กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์ อจท.จากัด.
วมิ ลรัตน์ สุนธรโรจน์. (2554). การออกแบบการจัดการเรยี นร้ตู ามแนว Backward Desing.
พิมพค์ รงั้ ที่ 2 สานกั พิมพ์มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.
ศกึ ษาธกิ าร, กระทรวง. (2560). ตัวชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาชั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ซมุ นุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.
236
สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน. (2554). หนงั สอื เรียนรายวชิ าชวี วิทยา
เพม่ิ เติมเล่ม 5. กรุงเทพมหานคร : สกสค.
สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบนั . (2555). คมู่ อื ครูรายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ
เล่ม 5. กรงุ เทพมหานคร : สกสค.
ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน. (2556). หนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพ่ิมเดมิ
ชีววิทยา เลม่ 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์.
พมิ พค์ รั้งที่ 9. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน.(2558). หนังสือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เดมิ
ชวี วทิ ยา เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร.์
พิมพค์ รั้งท่ี 9. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว.
สวุ ทิ ย์ มลู คา. (2551). การสอนคิดเชิงมโนทศั น.์ กรงุ เทพฯ : ภาพพิมพ.์
238
ภาคผนวก
239
ภาคผนวก ก
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
รายวชิ าชีววิทยา 4 รหสั วชิ า ว30244 เรือ่ ง ระบบประสาทและอวยั วะรบั ความรูส้ ึก
240
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
รายวิชาชีววิทยา 4 รหสั วิชา ว30244 เร่ือง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึก
กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
โรงเรยี นโนนกลางวิทยาคม อาเภอพบิ ลู มงั สาหาร จงั หวัดอบุ ลราชธานี
คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบแบบปรนัย ชนดิ เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ขอ้ 40 คะแนน
2. ให้นักเรยี นทำเครอ่ื งหมำยกำกบำท (X) ลงในช่อง ก , ข , ค หรอื ง
ของกระดำษคำตอบท่แี จกให้ โดยเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องท่สี ดุ เพยี งข้อเดยี ว
3. หำ้ มขดี เขยี นข้อควำมใด ๆ ลงในแบบทดสอบ
4. เวลำทใี่ ชใ้ นกำรทำแบบทดสอบ 30 นำที
หน่วยย่อยที่ 1 การรบั รแู้ ละการตอบสนองของสัตว์ จานวน 6 ขอ้
1. ถ้าตดั เส้นใยประสานงานของพารามเี ซยี มออกจะเกิดผลอย่างไรตอ่ พารามีเซยี ม
ก. พำรำมเี ซยี มจะตำยทันที
ข. พำรำมีเซยี มไมส่ ำมำรถเคลือ่ นทไี่ ด้
ก. พำรำมเี ซยี มไมส่ ำมำรถจริญเตบิ โตได้
ง. พำรำมเี ซยี มเคล่อื นท่ไี ปขำ้ งหนำ้ ได้อย่ำงเดียว
2. รา่ งแหประสาททผ่ี นงั ลาไส้เล็กทาหนา้ ท่ีอยา่ งไร
ก. ควบคุมกำรดดู ซึมอำหำร
ข. ควบคุมกำรขบั ถำ่ ยของเสยี บรเิ วณลำไสเ้ ล็ก
ค. ควบคุมกระบวนกำรย่อยอำหำรประเภทโปรตีน
ง. ควบคมุ กระบวนกำรเพอรสิ หลั ซิสของลำใส้ ทำใหเ้ กิดกำรบบี ไล่อำหำรให้่ำ่ นไปได้
241
3. ส่วนสมองท่ีมีขนาดเล็กลงตามลาดบั วิวฒั นาการของ ปลา กบ และหนู คือ สมองสว่ นใด
ก. ส่วนหนำ้
ข. ส่วนทำ้ ย
ค. ส่วนกลำง
ง. สว่ นหนำ้ และส่วนทำ้ ย
4. การรบั รแู้ ละตอบสนองต่อสิง่ เรา้ ของสิ่งมีชีวิต กล่มุ ใดจะมีการตอบสนองตอ่ สิ่งเร้าเร็วที่สุด
ก. แมลง
ข. อะมบี ำ
ค. พลำนำเรยี
ง. พำรำมเี ซยี ม
5. การที่เรานาปลาโลมาหรือลงิ ซิมแพนซีมาฝึกหัดให้เรียนรู้สงิ่ ที่ซบั ซ้อนเพ่ือการแสดงได้เพราะ
เหตุใด
ก. เนอื่ งจำกมขี นำดของสมองใหญ่
ข. สมองมีกำรพฒั นำและมรี อยหยักบนสมองเยอะ
ค. เพรำะลงิ ซิมแพนซีและปลำโลมำมวี ิวฒั นำกำรรว่ มกับมนุษย์
ง. ปลำโลมำและลิงชมิ แพนซีอยใู่ กลช้ ิดมนุษยท์ ำใหเ้ กิดกำรเรยี นรูไ้ ดเ้ ร็ว
6. ในพวกแอนเนลดิ า ระบบประสาทพัฒนามากขนึ้ จะมปี มประสาทอยบู่ รเิ วณส่วนใดของลาตัว
ก. บริเวณส่วนหวั ของลำตัว
ข. บริเวณสว่ นทำ้ ยของลำตวั
ค. บริเวณค้ำนหลังในชอ่ งกระดูก
ง. บริเวณค้ำนบนและดำ้ นล่ำงของหลอดอำหำร