ค ำน ำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา
ื้
ุ
ขั้นพนฐาน พทธศักราช 2551 มีสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 5 สาระ ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้
ั
ื้
ความรู้พนฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการด าเนินชีวิต การพฒนาสังคม และมีแนวทางในการจัด
การศึกษา เช่น การจัดการเรียนรู้ การจัดกระบวนการการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การเทียบโอน
การวัดผลและประเมินผล เกณฑ์การจบหลักสูตร เอกสารหลักฐานการศึกษา ในการจัดการศึกษาตาม
ื้
หลักสูตรการศึกษานอกระบบการศึกษาขั้นพนฐาน พุทธศักราช 2551 สถานศึกษาจะต้องด าเนินการ
จัดท าหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการพัฒนาของจังหวัด อ าเภอ ชุมชน และผู้เรียน
ซึ่งสามารถออกแบบได้ตามสถานการณ์ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่
ั
ก าหนดไว้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยอ าเภอเกาะจันทร์ ได้ด าเนินการจัดท า
หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
กระทรวงศึกษาธิการได้ก าหนดแผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.2563-
2565) ก าหนดวิสัยทัศน์ “กระทรวงศึกษาธิการวางระบบเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ - ทักษะ มีทัศนคติที่
ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพนฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานท า มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง”
ื้
ั
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยอาเภอเกาะจันทร์ จึงได้ด าเนินงานปรับปรุงและ
พฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โดยอาศัยแนวทางที่ส านักงาน กศน.(ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ
ั
ุ
ื้
การศึกษาขั้นพนฐาน พทธศักราช 2551) ให้เป็นแนวทางในการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาไว้จน
ส าเร็จด้วยดี
ั
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยอาเภอเกาะจันทร์ ขอขอบคุณ
ในความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณะครู กรรมการสถานศึกษา ผู้น าชุมชน ตัวแทนนักศึกษา ใน
การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์มา ณ โอกาสนี้
นายนพรัตน์ มุกดา
ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเกาะจันทร์
บทที่ 1
ข้อมูลทั่วไปของสถำนศึกษำ
สถำนศึกษำ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเกาะจันทร์
ที่ตั้ง/ กำรติดต่อ เลขที่ 5 หมู่ที่ 1 ต าบลเกาะจันทร์ อ าเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี รหัสไปรษณีย์
20240 หมายเลขโทรศัพท์ 0-3816-6327 โทรสาร 0-3816-6327
E-mail : [email protected]
Website : http://202.143.146.67/nfekohjun/
สังกัด ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชลบุรี
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ส านักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
ประวัติควำมเป็นมำของสถำนศึกษำ
เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศจัดตั้งศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอ าเภอ เกาะ
จันทร์ เป็นสถานศึกษาเพิ่มขึ้นจากอ าเภอที่ตั้งขึ้นใหม่ในจังหวัดชลบุรี จ านวน 1 อาเภอ คือ อาเภอเกาะจันทร์ เมื่อ
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 ท าให้มีสถานศึกษาเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง และแต่งตั้งมอบหมายให้ ผู้อ านวยการ
ศูนย์บริการการ ศึกษานอกโรงเรียนอาเภอพนัสนิคมไปรักษาการ ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศจัดตั้งตาม
ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องบัญชรายชอสถานศึกษาในสังกัดส านักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน
ี
ื่
ส านักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของสถานศึกษา ตามพระราชบัญญัติ
ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2551 ได้เปลี่ยนชอ
ื่
จากศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอ าเภอเกาะจันทร์ เป็นศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
อ าเภอเกาะจันทร์ (เรียกโดยย่อว่า กศน.อ าเภอเกาะจันทร์) เป็นสถานศึกษาสังกัดราชการบริหารส่วนกลาง สังกัด
ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ส านักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ
อำณำเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ต าบลนาวังหิน อ าเภอพนัสนิคม และต าบลหนองไม้แก่น
อ าเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทิศใต้ ติดต่อกับ ต าบลธาตุทอง, ต าบลวัดสุวรรณ และต าบลบ่อกวางทอง
อ าเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ต าบลคลองตะเกรา อ าเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต าบลนาเริก, ต าบลหนองเหียง อ าเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
สภำพชุมชน
เดิมอ าเภอเกาะจันทร์ เป็นส่วนหนึ่งของอ าเภอพนัสนิคม ซึ่งทางราชการได้แยกพื้นที่การปกครองออกมา
ตั้งเป็นกิ่งอ าเภอเกาะจันทร์ ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2540 โดยมีผลบังคับใช ้
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2540 และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 24 สิงหาคม 2550 ยกฐานะขึ้นเป็น
อ าเภอเกาะจันทร์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2550
ลักษณะที่ตั้ง
อ าเภอเกาะจันทร์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดชลบุรี อยู่ห่างจากจังหวัดชลบุรีเป็นระยะทาง
52 กิโลเมตร (ตามเส้นทางถนนสายชลบุรี - พนัสนิคม – เกาะจันทร์)
เนื้อที่และประชำกร
อ าเภอเกาะจันทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 233.20 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นเนื้อที่ 145,751 ไร่ พื้นที่
ต าบลเกาะจันทร์ จ านวน 97,735 ไร่ พื้นที่ต าบลท่าบุญมี จ านวน 48,016 ไร่ ประชากรทั้งสิ้นจ านวน 35,075
คน แยกเป็น ชาย 16,888 คน และหญิง 18,187 คน
ลักษณะภูมิประเทศ
อ าเภอเกาะจันทร์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบ และที่เนินมีความลาดชัน 1-10 % ไม่มีแม่น้ าไหล
ผ่าน มีเพียงคลองหลวง ซึ่งเป็นคลองสายส าคัญไหลมาจากอาเภอบ่อทอง ผ่านอ าเภอเกาะจันทร์ ไปยังอ าเภอพนัส
นิคม ในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ ามากท าให้เกิดน้ าท่วมขังในพื้นที่อ าเภอเกาะจันทร์ อ าเภอพนัสนิคม และอ าเภอพาน
ทอง ส่วนฤดูแล้งมีปริมาณน้ าน้อย
ลักษณะภูมิอำกำศ
โดยทั่วไปมีลักษณะภูมิอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 32 องศาเซลเซียส ฤดู
หนาวสั้น และอากาศเย็นเล็กน้อย ฝนตกชุกเดือน มิถุนายน - ตุลาคม และแห้งแล้งในเดือนมีนาคม - พฤษภาคม
กำรปกครอง
อ าเภอเกาะจันทร์ แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2547 เป็น 2
ต าบล 27 หมู่บ้าน ดังนี้
1. ต าบลเกาะจันทร์ จ านวน 15 หมู่บ้าน
2. ต าบลท่าบุญมี จ านวน 12 หมู่บ้าน
การปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งเป็น 2 รูปแบบ มีเทศบาล 3 แห่ง คือ
1. เทศบาลต าบลเกาะจันทร์
2. เทศบาลต าบลท่าบุญมี
3. เทศบาลเมืองปรกฟ้า
องค์การบริหารส่วนต าบล 1 แห่ง ดังนี้
1. องค์การบริหารส่วนต าบลท่าบุญมี
กำรประกอบอำชีพ
1. ด้ำนกำรเกษตร
ี
อ าเภอเกาะจันทร์มีพื้นที่ท าการเกษตร 90,876 ไร่ ประชากรประกอบอาชพทางการเกษตร
3,051 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรปลูกพืชเศรษฐกิจ เชน อ้อย มันส าปะหลัง ยูคาลิปตัส ยางพารา ไม้ดอกไม้
่
ประดับ และพืชผักต่าง ๆ ไม่มีระบบชลประทาน อาศัยน้ าฝนและน้ าคลอง เกษตรกรอาศัยน้ าจากแหล่งน้ าธรรมชาติ
และขุดสระน้ าขนาดเล็กไว้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพการเกษตร พืชเศรษฐกิจที่ปลูกในพื้นที่ ได้แก่
1. มันส าปะหลัง
2. อ้อยโรงงาน
3. ข้าว
4. สับปะรด
5. ยูคาลิปตัส
6. ยางพารา
7. ไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน มะพร้าว
8. พืชผักสวนครัว
2. ด้ำนอุตสำหกรรม
การอุตสาหกรรมของอ าเภอเกาะจันทร์ ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรม จ านวน 16 แห่ง ดังนี้
1. บริษัทรีไซเคิลเอ็นจิเนียรริ่ง จ ากัด
2. บริษัท ลาฟาร์จ เพรสเตีย จ ากัด
3. บริษัท ยูบี - เฮาเวิร์ท (ประเทศไทย) จ ากัด
4. บริษัท สยามวินอินดัสทรี จ ากัด
5. บริษัท ยู.พี.เอ็น.อินดัสเทรียลเท็ค จ ากัด
6. บริษัท เซิ่งไท่อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จ ากัด
7. บริษัท อาร์.เอส.เจ เฟอร์นิเจอร์ วู๊ดพาร์ท จ ากัด
8. บริษัท เซิ่งไท่บราซแวร์ (ประเทศไทย) จ ากัด
9. บริษัท เอสทีที อินดัสตรีส์ จ ากัด
10. สยามเซ้นทรัลอุสาหกรรมเครื่องเรือน จ ากัด
11. บริษัท เค.ที.คอนสดักชั่นแอนด์ซัพพลาย จ ากัด
12. บริษัทดีลักซ์ จ ากัด
13. ทองค าบรรจง จ ากัด
14. บริษัท เอฟอาร์ พี โปรดักศ์ จ ากัด
15. บริษัท ดี.บี.ไดมอนด์ (ประเทศไทย)
16. บริษัท ทอร์ซ 2100 จ ากัด
3. กำรพำณิชย์ และกำรบริกำร
ธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่
1. ธนาคารกสิกรไทย
2. ธนาคารกรุงไทย
3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)
ไปรษณีย์ 1 แห่ง ได้แก่ ไปรษณีย์ท่าบุญมี
4. ด้ำนกำรท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว มี 4 แห่ง ได้แก่
1. รอยพระพุทธบาทเขานางนม
2. อ่างเก็บน้ าสระตาพรม
3. หอพระพุทธเชียงแสนมิ่งมงคลเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
4. อ่างเก็บน้ าคลองหลวง รัชชโลธร
กำรศึกษำ และศำสนำ
1. ด้ำนกำรศึกษำ
1. สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 2 จ านวน 15 โรงเรียน
2. สังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษา จ านวน 2 โรงเรียน
3. สังกัดส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ านวน 1 แห่ง
2. ด้ำนกำรศำสนำ
ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประกอบด้วย
- วัด จ านวน 13 แห่ง
- ส านักสงฆ์ศาสนาพุทธ จ านวน 3 แห่ง
- มัสยิด จ านวน 2 แห่ง
- ศาลเจ้า จ านวน 3 แห่ง
กำรสำธำรณสุข
1. โรงพยาบาลอ าเภอเกาะจันทร์
2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล มีจ านวน 4 แห่ง ได้แก่
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลท่าบุญมี บ้านเกาะโพธ ิ์
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล ท่าบุญมี
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลเกาะจันทร์ บ้านปรกฟ้า
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลเกาะจันทร์ บ้านหนองชุมเห็ด
5. โครงสร้ำงสถำนศึกษำ
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอเกาะจันทร์ แบ่งโครงสร้างการ
บริหารงานออกเป็น 3 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานอ านวยการ กลุ่มงานจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย และกลุ่มงานภาคีเครือขายและกิจการพิเศษ ดังแผนภูมิต่อไปนี
่
โครงสร้ำงกำรบริหำรงำนศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอ ำเภอเกำะจันทร์
ผู้อ านวยการ กศน.อ าเภอเกาะจันทร์ คณะกรรมการสถานศึกษา
กลุ่มงานอ านวยการ กลุ่มการจัดการศึกษานอกระบบและ กลุ่มภาคีเครือข่ายและกิจการพิเศษ
การศึกษาตามอัธยาศัย
- งานอาคารสถานท ี่ งำนประสำนภำคีเครือข่ำย - งานประสานภาคีเครือข่าย
- งานบุคลากร - งานส่งเสริมการรู้หนังสือ - งานกิจการพิเศษ
- งานการเงินและบัญช ี - งานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน - งานสนับสนุนนโยบายพิเศษ
่
- งานพัสดุ งำนกำรศึกษำตอเนื่อง ของรัฐบาล/กระทรวง
- งานแผนงานโครงการ - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ
- งานข้อมูลสาร สนเทศ - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
- งานประชาสัมพันธ ์ - งานการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน
- งานศูนย์ราชก ารใสสะอาด - งานการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- งานประกันคุณภาพภายใน งำนศูนย์ให้ค ำปรึกษำแนะน ำ
- งานนิเทศภายในสถานศึกษา - งานศูนย์ให้ค าปรึกษาแนะน า
- งานกิจการนักศึกษา
งำนพัฒนำสื่อ หลักสูตร นวัตกรรมและเทคโนโลยี
กำรศึกษำ
- งานพัฒนาสื่อ หลักสูตร นวัตกรรม และเทคโนโลยี
การศึกษา
- งานวิจัยและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน
งำนกำรศึกษำตำมอัธยำศัย
ท ำเนียบผู้บริหำร
ล ำดับที่ ชื่อ – สกุล ต ำแหน่ง ระยะเวลำที่ด ำรงต ำแหน่ง
1 นายธีรยล แสงอ านาจเจริญ รักษาการ ผู้อ านวยการ พ.ศ. 2550 – 2551
2 นางเสาวลักษณ์ บุพพาศิริกุล ผู้อ านวยการ 30 มิถุนายน 2551 – 1 เมษายน 2552
3 นายวิรัช ภัทรบูชา ผู้อ านวยการ 1 เมษายน 2552 – 1 เมษายน 2555
4 นางสุรัสวดี เลี้ยงสุพงศ์ ผู้อ านวยการ 15 พฤษภาคม 2555 – 28 กุมภาพันธ์ 2556
ี่
5 ว่าท ร.ต.อาศิส เชยกลิ่น ผู้อ านวยการ 1 มีนาคม 2556 – 1 สิงหาคม 2556
6 นางนิตยา เจริญสุข ผู้อ านวยการ 1 สิงหาคม 2556 – 17 กุมภาพันธ์ 2557
7 นายทศพล ทิพยไพฑูรย์ รักษาการ ผู้อ านวยการ 1 มีนาคม 2556 – 17 กุมภาพันธ์ 2557
8 นางรุจิมา ปรัชญาโณทัย ผู้อ านวยการ 17 กุมภาพันธ์ 2557 –
9 นายมาโนช ชลารักษ ์ ผู้อ านวยการ พ.ศ.2558 - พ.ศ.2561
10 นางณัชธกัญ หมื่นสา รักษาการ ผู้อ านวยการ พ.ศ.2561
11 นางสาวกฤตติยา ชรารัตน์ ผู้อ านวยการ พ.ศ.2562-พ.ศ.2563
12 นางสุภาภรณ์ อินทมาตย์ รักษาการ ผู้อ านวยการ มีนาคม 2563 - ตุลาคม 2563
13 นางสาวสุวิภา ขนชัยภูมิ รักษาการ ผู้อ านวยการ พฤศจิกายน 2563 - ปัจจุบัน
14 นางณัชธกัญ หมื่นสา รักษาการ ผู้อ านวยการ 20 กรกฎาคม 2564 – 2 สิงหาคม 2564
15 นายนพรัตน์ มุกดา ผู้อ านวยการ 3 สิงหาคม 2564 - ปัจจุบัน
จ ำนวนบุคลำกร
1. ผู้อ านวยการสถานศึกษา จ านวน 1 อัตรา
2. ข้าราชการครู จ านวน 1 อัตรา
3. พนักงานราชการ จ านวน 2 อัตรา
๔. ครูศูนย์การเรียนชุมชน จ านวน 1 อัตรา
๕. บรรณารักษ์ (อัตราจ้าง) จ านวน 1 อัตรา
จ ำนวน
ประเภท/ต ำแหน่ง
ต่ ำกว่ำ ป.ตรี ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวมจ ำนวน
ผู้บริหารสถานศึกษา - - 1 - 1
ข้าราชการครู - 1 - - 1
บุคลากรทางการศึกษา - - - - -
พนักงานราชการ - 2 - - 2
ครูศูนย์การเรียนชุมชน - 1 - - 1
์
บรรณารักษ (อัตราจ้าง) - 1 - - 1
ท ำเนียบบุคลำกร
ที่ ชื่อ - สกุล ต ำแหน่ง วุฒิกำรศึกษำ
1. นายนพรัตน์ มุกดา ผู้อ านวยการ ปริญญาโท (การบริหารการศึกษา)
2. นางสาวตวงพร ศรีศักดา ครูผู้ช่วย ปริญญาตรี ศษ.บ.
(การศึกษาตลอดชีวิต)
3. นางสาวแพรวลี วรรณศรี ครู กศน.ต าบล ปริญญาตรี บธ.บ (การจัดการ
อุตสาหกรรม)
ที่ ชื่อ - สกุล ต ำแหน่ง วุฒิกำรศึกษำ
4 นางสาวศรัณยา ชัยกิจ ครู กศน.ต าบล ปริญญาตรี วท.บ. (วิทยาศาสตร์
บัณฑิต)
5. นายวีระชาติ ชัยศักดิ์ประเสริฐ ครูศูนย์การเรียนชุมชน ปริญญาตรี
6. นางสาวพัชราภรณ์ นามพันธ์ บรรณารักษ์ (อัตราจ้าง) ปริญญาตรี บค.บ (คอมพิวเตอร์
ธุรกิจ)
ท ำเนียบครูประจ ำกลุ่ม
ที่ ชื่อ - สกุล สังกัด
1. จ.ส.อ.พนา บ่ายคล้อย กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
2. จ.ส.อ.แสนสุข พึ่งวาน กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
3. จ.ส.อ.อมรพงษ์ มาลาธรรม กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
4 จ.ส.อ.ปานเพชร บวรรัมย์ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
5. จ.ส.อ.ธงชัย โลจายะ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
6. ส.อ.เสกสรร เหลื่อมศรีจันทร์ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
7. จ.ส.อ.ชวลิต ทองมณี กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
8. ส.ท.สมเกียรติ แก้ววิจิตร กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
9. ส.ท.พีระพงษ์ วงษ์ละคร กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
10. ส.ท.อภิสิทธิ์ ขันเคน กองบัญชาการช่วยรบที่ 1
11. ร.ต.มาณะชัย คิดไร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 111
12. ร.ต.บรรเจิด สีสัน กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 111
13. จ.ส.อ.สันติ โปธายะ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 111
14. ส.ต.สิทธินนท์ เกียรติธนาวรดา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 111
15. ส.ต.จักรพงศ์ ใจแสวง กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 111
16. ร.ต.มณฑล หมูทอง กรมทหารราบที่ 112
17. ร.ต.ชานนท์ จ าปารัตน์ กรมทหารราบที่ 112
18. จ.ส.อ.กิตติคุณ พันธ์พูล กรมทหารราบที่ 112
ที่ ชื่อ - สกุล สังกัด
19. จ.ส.อ.ปิยฤทธิ์ กุลบุตร กรมทหารราบที่ 112
20. จ.ส.อ.ถาวร อ่อนค า กรมทหารราบที่ 112
21. จ.ส.อ.สุพจน์ ใจจุมปู กรมทหารราบที่ 112
22. ส.ท.ปณต เดชน ู กรมทหารราบที่ 112
23. ส.ต.วศิน ทวิชัย กรมทหารราบที่ 112
24. ส.ต.ชนะพงค์ อันชัน กรมทหารราบที่ 112
25. ส.ต.นรากร อินนาค กรมทหารราบที่ 112
26. นางสาววาลิกา วรประดิษฐ ์ ส านักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี
แหล่งกำรเรียนรู้และภำคีเครือข่ำย
ชื่อ กศน.ต ำบล ที่ตั้ง ผู้รับผิดชอบ
นางสาวแพรวลี วรรณศรี
กศน.ต าบลเกาะจันทร์ อาคาร เทศบาลต าบลเกาะจันทร์
นายวีระชาติ ชัยศักดิ์ประเสริฐ
กศน.ต าบลท่าบุญมี อาคาร อปพร. เทศบาลต าบลท่าบุญมี นางสาวศรัณยา ชัยกิจ
ภูมิปัญญำท้องถิ่น
ภูมิปัญญำท้องถิ่น ควำมสำมำรถ ที่อย ู่
นางบังอร วันน้อย น้ าพริกปรุงรส 160/4 ม.10 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์
038-209394
นางบุญเรือน อินสม กลุ่มจักสานวัดเขานางนม 131 ม.5 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์
(พรมเช็ดเท้า) 080-1043020
นายชาตรี วัฒนโคกสัน กลุ่มสุราชุมชนเมืองพระรด 97/1 ม.4 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์
087-5836587
นายประสงค์ สุริยะ 128 ม.3 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์
กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้จามจุรี 038-209277
นายทรงกลด ประทุมวัลย์ 480 ม.1 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
กลุ่มตะไคร้ปลอดสารพิษ 082-6032071
นายสิรภพ เหล่าตระกูล กลุ่มยางทอง (รวบรวมยางพาราจ าหน่าย) 6 ม.4 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
080-5678089
นางนกน้อย บุญก่อเกื้อ กลุ่มต้นกล้าพอเพียง (ท าขนมชนิดต่างๆ) 17/2 ม.4 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
084-3594606
นายเบญจพงษ์ กฤติเกียรติเสรี กลุ่มปลูกปาล์มน้ ามัน 123/5 ม.6 ต.เกาะจันทร์
อ.เกาะจันทร์ 089-9887980
นางอ านวย ใจดี กลุ่มไม้กวาดดอกหญ้า 495 ม.9 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
089-5158659
ภูมิปัญญำท้องถิ่น ควำมสำมำรถ ที่อย ู่
ิ
นางขนษฐา รุ่งเสถียร กลุ่มผลิตข้าวชุมชน 196/9 ม.12 ต.เกาะจันทร์
อ.เกาะจันทร์ 087-0260051
นายปราโมทย์ สุขนิยม กลุ่มผลิตมะม่วงโชคอนันต์คุณภาพ 9/2 ม.3 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
081-2442403
นายเกียรติศักดิ์ กอชะมาน กลุ่มผู้เลี้ยงโค บ้านโปร่งหิน 50 ม.5 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์
087-9008140
ภำคีเครือข่ำย
ชื่อภำคีเครือข่ำย ที่ตั้ง/ที่อย ู่
เทศบาลต าบลเกาะจันทร์ ม.1 ต าบลเกาะจันทร์
เทศบาลต าบลท่าบุญมี ม.4 ต าบลท่าบุญมี
เทศบาลเมืองปรกฟ้า ม.1 ต าบลเกาะจันทร์
อบต.ท่าบุญมี ม.4 ต าบลท่าบุญมี
พัฒนาการอ าเภอ ที่ว่าการอ าเภอเกาะจันทร์
เกษตรอ าเภอ ที่ว่าการอ าเภอเกาะจันทร์
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลท่าบุญมี บ้านเกาะโพธ ิ์ ม.1 ต าบลท่าบุญมี
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลท่าบุญมี บ้านสามแยก ม.4 ต าบลท่าบุญมี
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลเกาะจันทร์ บ้านปรกฟ้า ม.7 ต าบลเกาะจันทร์
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลเกาะจันทร์ บ้านหนองชุมเห็ด ม.2 ต าบลเกาะจันทร์
สถานีต ารวจภูธรเกาะจันทร์ ม.4 ต าบลเกาะจันทร์
วัดเกาะจันทน์ ม.1 ต าบลเกาะจันทร์
วัดปรกฟ้า ม.7 ต าบลเกาะจันทร์
วัดบ้านแปลง ม.11 ต าบลเกาะจันทร์
วัดหนองยายหมาด ม.9 ต าบลเกาะจันทร์
วัดเขาสัตตาพรหม ม.3 ต าบลเกาะจันทร์
วัดหนองชุมเห็ด ม.2 ต าบลเกาะจันทร์
วัดเขาวนาพุทธาราม ม.5 ต าบลท่าบุญมี
วัดหนองล าดวลพรมศรี ม.2 ต าบลท่าบุญมี
วัดหนองงูเหลือม ม.7 ต าบลท่าบุญมี
วัดเกาะโพธิ์ธาวาส ม.4 ต าบลท่าบุญมี
วัดท่าบุญมี ม.1 ต าบลท่าบุญมี
วัดห้วยหวาย ม.8 ต าบลท่าบุญมี
วัดป่าเลิศรัตนาราม ม.4 ต าบลท่าบุญมี
วัดทับบริบูรณ์ ม.6 ต าบลเกาะจันทร์
วัดกะบกคู่ ม.4 ต าบลท่าบุญมี
วัดสายวารี ม.15 ต าบลเกาะจันทร์
วัดเขาวังแก้ว ม.12 ต าบลเกาะจันทร์
วัดเจ็ดเนิน ม.4 ต าบลเกาะจันทร์
โรงเรียนอนุบาลเกาะจันทน์ ม.1 ต าบลเกาะจันทร์
โรงเรียนเกาะโพธิ์ (วันครู 2500) ม.4 ต าบลท่าบุญมี
โรงเรียนเกาะจันทร์พิทยาคม ม.1 ต าบลเกาะจันทร์
ทิศทำงกำรด ำเนินงำนของสถำนศึกษำ
ปรัชญำ “พัฒนาองค์ความรู้ เชิดชูคุณธรรม น าประชาธิปไตย ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง”
ึ
วิสัยทัศน์ “ ประชาชนในอ าเภอเกาะจันทร์ได้รับการศกษาขั้นพื้นฐาน การศกษาต่อเนื่อง และ
ึ
การศึกษาตาม อัธยาศัย อย่างทั่วถึงและมคุณภาพ เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และการมีอาชีพ
ี
อย่างยั่งยืน ” อัตลักษณ์ “พึ่งตนเอง”
เอกลักษณ์ “มุ่งฝึกอาชีพ”
พันธกิจ
ี
1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มคุณภาพ
2. ส่งเสริมสนับสนุน และประสานการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชน ในการจัด
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน รวมทั้ง
การด าเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียน และแหล่งการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
ื่
3. จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการน าเทคโนโลยีเพอการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพเพอการมีงาน
ื่
ท าให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง
4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เทคโนโลยี สื่อและนวัตกรรม การ
วัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน
5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาที่มี
คุณภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วม
6. จัดและส่งเสริมการศึกษาด้านอาชีพเพื่อการมีงานท าสู่อาชีพที่พอเพียงยั่งยืน
7. พฒนาคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธยาศัยส าหรับ
ั
ั
ประชาชน ให้สามารถแก้ปัญหาและมีทักษะการด าเนินชีวิตบนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
8. พัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการที่เหมาะสมต่อการบริหารจัดการของสถานศึกษา
9. พฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วนเพอการบริหารจัดการที่ตรงต่อความ
ื่
ั
ต้องการของผู้รับบริการ
โครงสร้ำงหลักสูตรสถำนศึกษำ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
หลักกำร
1. เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นด้านสาระการเรียนรู้ เวลาเรียน และการจัดการเรียนรู้
โดยเน้นการบูรณาการเนื้อหาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ความแตกต่างระหว่างบุคคล และชุมชน
สังคม
2. ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ
การศึกษาตามอัธยาศัย
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พฒนาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยตระหนักว่าผู้เรียน มี
ั
ความส าคัญ สามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ
4. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถและมีทักษะด้านอาชีพ เพื่อการมีงานท า
5. ส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
จุดหมำย
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาให้
ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพและ
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการ จึงก าหนดจุดหมายดังต่อไปนี้
1. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข
2. มีความรู้พื้นฐานส าหรับการด ารงชีวิต และการเรียนรู้ต่อเนื่อง
3. ความสามารถในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพและบริบทรอบๆ ตัวผู้เรียน
ในด้านต่างๆ คือ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านภูมิอากาศ ด้านภูมิประเทศ และท าเลที่ตั้ง ด้าน
ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิต และด้านทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นที่
4. มีทักษะการด าเนินชีวิตที่ดี และสามารถจัดการกับชีวิต ชุมชน สังคม ได้อย่างมีความสุข
ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
5. มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศิลปะ
วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ความเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ยึด
มั่นในวิถีชีวิต และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
6. มีจิตส านึกในการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
7. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และ
บูรณาการความรู้มาใช้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
กลุ่มเป้ำหมำย
กลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้น าท้องถิ่น กลุ่มคนพิการ
ระดับกำรศึกษำ
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
สำระกำรเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ประกอบด้วย 5 สาระ ดังนี้
1. สำระทักษะกำรเรียนรู้ เป็นสาระเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้
การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย
2. สำระควำมรู้พื้นฐำน เป็นสาระเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3. สำระกำรประกอบอำชีพ เป็นสาระเกี่ยวกับการมองเห็นช่องทาง และการตัดสินใจ
ุ
ประกอบอาชีพ ทักษะในอาชีพ การจัดการอาชีพอย่างมีคณธรรม และการพัฒนาอาชีพให้มีความ
มั่นคง
4. สำระทักษะกำรด ำเนินชีวิต เป็นสาระเกยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สุขภาพอนามัย
ี่
และความปลอดภัยในการด าเนินชีวิต ศิลปะและสุนทรียภาพ
5. สำระกำรพัฒนำสังคม เป็นสาระที่เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
การเมือง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หน้าที่พลเมือง และการพัฒนาตนเอง
ครอบครัว ชุมชน สังคม
กิจกรรมพัฒนำคุณภำพชีวิต
ั
ื่
กิจกรรมพฒนาคุณภาพชีวิตเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพอให้ผู้เรียนพฒนาตนเอง ครอบครัว
ั
ชุมชน สังคม
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
ื้
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนฐาน พทธศักราช 2551 ก าหนด
ุ
มาตรฐานการเรียนรู้ ตามสาระการเรียนรู้ทั้ง 5 สาระ ที่เป็นข้อก าหนดคุณภาพของผู้เรียน ดังนี้
1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้กำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เป็นมาตรฐาน
การเรียนรู้ในแต่ละสาระการเรียนรู้ เมื่อผู้เรียนเรียนจบหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
2. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ เป็นมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละสาระการเรียนรู้ เมื่อผู้เรียน
เรียนจบในแต่ละระดับ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนฐาน พทธศักราช
ื้
ุ
2551
เวลำเรียน
ในแต่ละระดับใช้เวลาเรียน 4 ภาคเรียน ยกเว้นกรณีที่มีการเทียบโอนผลการเรียน ทั้งนี้
ผู้เรียนต้องลงทะเบียนเรียนในสถานศึกษาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน
หน่วยกิต
ใช้เวลาเรียน 40 ชั่วโมง มีค่าเท่ากับ 1 หน่วยกิต
โครงสร้ำงหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวนหน่วยกิต
ที่ สำระกำรเรียนรู้ วิชำบังคับ วิชำเลือก
1 ทักษะการเรียนรู้ 5 -
2 ความรู้พื้นฐาน 16 -
3 การประกอบอาชีพ 8 -
4 ทักษะการด าเนินชีวิต 5 -
5 การพัฒนาสังคม 6 -
40 16
รวม 56 หน่วยกิต
กิจกรรมพัฒนำคุณภำพชีวิต 200 ชั่วโมง
หมำยเหตุ วิชาเลือกในแต่ละระดับ สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการท าโครงงาน จ านวน
อย่างน้อย 3 หน่วยกิต
สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้
ึ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ดังนี้
1. สำระทักษะกำรเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 มาตรฐาน ดังนี้
มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการใช้แหล่งเรียนรู้
มาตรฐานที่ 1.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการจัดการความรู้
มาตรฐานที่ 1.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการคิดเป็น
มาตรฐานที่ 1.5 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการวิจัยอย่างง่าย
2. สำระควำมรู้พื้นฐำน ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน ดังนี้
มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพนฐานเกี่ยวกับภาษาไทย
ื้
ภาษาต่างประเทศ และการสื่อสาร
มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพนฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
ื้
และเทคโนโลยี
3. สำระกำรประกอบอำชีพ ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้
มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ดีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทาง และ
ตัดสินใจประกอบอาชีพได้ตามความต้องการ และศักยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสินใจเลือก
ุ
มาตรฐานที่ 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชีพอย่างมีคณธรรม
มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคง
4. สำระทักษะกำรด ำเนินชีวิต ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน ดังนี้
ี
มาตรฐานที่ 4.1 มีความรู้ ความเข้าใจ เจตคติที่ดีเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยง และ
สามารถประยุกต์ใช้ในการด าเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม
มาตรฐานที่ 4.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแล ส่งเสริม
สุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในการด าเนินชีวิต
ี่
มาตรฐานที่ 4.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติทดีเกี่ยวกับศิลปะและสุนทรียภาพ
5. สำระกำรพัฒนำสังคม ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้
มาตรฐานที่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความส าคัญเกี่ยวกับภูมิศาสตร์
ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถน ามาปรับใช้ในการด ารงชีวิต
มาตรฐานที่ 5.2 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
มาตรฐานที่ 5.3 ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย มีจิตสาธารณะ เพื่อความ
สงบสุขของสังคม
ั
มาตรฐานที่ 5.4 มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นความส าคัญของหลักการพฒนา และสามารถ
พัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน/สังคม
1. สำระทักษะกำรเรียนรู้
เป้ำหมำยกำรเรียนรู้
ุ
ื้
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนฐาน พทธศักราช 2551 ก าหนด
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เป็นข้อก าหนด เป้าหมายการเรียนรู้ โดยมีรายละเอยด เป้าหมายการเรียนรู้
ี
ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ดังนี้
กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
1. วิเคราะห์ความรู้จากการอ่าน การฟัง การสังเกต และสามารถจดบันทึก
2. เห็นความส าคัญ จัดระบบการแสวงหาความรู้ให้กับตนเอง
3. ปฏิบัติตามขั้นตอนในการแสวงหาความรู้ เกี่ยวกับทักษะการอาน ทักษะการฟง
่
ั
และทักษะการจดบันทึกถูกต้อง ตามหลักวิชา
กำรใช้แหล่งเรียนรู้
1. จ าแนกความแตกต่างของแหล่งเรียนรู้ และตัดสินใจเลือกใช้แหล่งเรียนรู้
2. เรียงล าดับความส าคัญของแหล่งเรียนรู้ และจัดท าระบบในการใช้แหล่งเรียนรู้
ของตนเอง
3. สามารถปฏิบัติการใช้แหล่งเรียนรู้ตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง
กำรจัดกำรควำมรู้
1. วิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นของขอบข่ายความรู้ ตัดสินคุณค่า ก าหนดแนวทางการพัฒนา
2. เห็นความสัมพนธ์ของกระบวนการจัดการความรู้ กับการน าไปใช้ในการพฒนาชุมชน
ั
ั
ปฏิบัติการ
3. ปฏิบัติการตามกระบวนการจัดการความรู้ได้อย่างเป็นระบบ
กำรคิดเป็น
1. จ าแนก เปรียบเทียบ ตรวจสอบ ข้อมูลด้านตนเอง ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม
และด้านวิชาการ ใช้ประกอบการคิดและตัดสินใจแก้ปัญหา
2. เห็นความสัมพันธ์ ของกระบวนการคิดเป็น กับการน าไปใช้ในชีวิต
3. ปฏิบัติตามกระบวนการคิดเป็นได้อย่างเป็นระบบ
กำรวิจัยอย่ำงง่ำย
1. ระบุปัญหา ความจ าเป็น วัตถุประสงค์ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
และสืบค้นข้อมูล เพอท าความกระจ่างในปัญหาการวิจัย รวมทั้งก าหนดวิธีการหาความรู้
ื่
ความจริง
2. เห็นความสัมพันธ์ ของกระบวนการวิจัยกับการน าไปใช้ในชีวิต
3. ปฏิบัติการศึกษา ทดลอง รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปความรู้ ความจริง
ตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้องชัดเจน
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
สามารถวิเคราะห์เห็นความส าคัญ และ 1. สามารถวิเคราะห์ความรู้จากการอ่าน การฟัง
ปฏิบัติการแสวงหาความรู้จากการอ่าน การฟัง การสังเกต และสรุปได้ถูกต้อง
และสรุปได้ถูกต้อง ตามหลักวิชาการ 2. สามารถจัดระบบการแสวงหาความรู้
ให้กับตนเอง
3. ปฏิบัติตามขั้นตอนการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับ
ทักษะการอ่าน ทักษะ การฟัง และทักษะการจด
บันทึก
4. สามารถน าความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง 5
ศักยภาพของพื้นที่ และหลักการพื้นฐาน ตาม
ยุทธศาสตร์ 2555 กระทรวงศึกษาธิการไปเพิ่ม
ขีดความสามารถการประกอบอาชีพ โดยเน้นที่
้
กลุ่มอาชีพใหม่ให้แข่งขันได้ในระดับทองถิ่น
มำตรฐำนที่ 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการใช้แหล่งเรียนรู้
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
สามารถจ าแนกจัดล าดับความส าคัญ และ 1. จ าแนกความแตกต่างของแหล่งเรียนรู้และ
ปฏิบัติการเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ตัดสินใจเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม
2. เรียงล าดับความส าคัญของแหล่งเรียนรู้และ
จัดท าระบบในการใช้แหล่งเรียนรู้ของตนเอง
3. สามารถปฏิบัติการใช้แหล่งเรียนรู้ตามขั้นตอน
ได้อย่างถูกต้อง
4. สามารถเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม
อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์
การบริหารจัดการและการบริการ เกี่ยวกับอาชีพ
ของพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ได้ตามความต้องการ
มำตรฐำนที่ 1.3 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการจัดการความรู้
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
สามารถจ าแนกผลที่เกิดขึ้นจากขอบเขตความรู้ 1. วิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นของขอบข่ายความรู้
ตัดสินคุณค่าก าหนดแนวทางพัฒนา ตัดสินคุณค่า ก าหนดแนวทางพัฒนา
2. เห็นความสัมพันธ์ของกระบวนการจัดการ
ความรู้กับการน าไปใช้ในการพัฒนาชุมชน
3. ปฏิบัติตามกระบวนการจัดการความรู้ได้อย่าง
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
เป็นระบบ
4. สามารถน ากระบวนการจัดการความรู้ของ
ชุมชน จ าแนกอาชีพในด้านต่างๆ ของ ชุมชน คือ
ิ
เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พณชยกรรม ความคิด
สร้างสรรค์ การบริหารจัดการ ได้อย่างถูกต้อง
มำตรฐำนที่ 1.4 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการคิดเป็น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
ความสามารถในการศึกษา เลือกสรร จัดเก็บ 1. น าปรัชญา “คิดเป็น” และการใช้ระบบ
และการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งสามประการ และ ของข้อมูลด้านวิชาการ ตนเอง สังคมสิ่งแวดล้อม
ั
ื่
การใช้เทคนิคในการฝึกทกษะการคิดเป็น เพื่อ มาวิเคราะห์และสังเคราะห์เพอประกอบ
ใช้ ประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหา กระบวนการการคิด การตัดสินใจ ในการแก้
ปัญหาแก้ปัญหา
2. จ าแนก เปรียบเทียบ ตรวจสอบข้อมูล
ด้านวิชาการ ตนเอง สังคมสิ่งแวดล้อมที่จัดเก็บ
และทักษะในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล
ทั้งสามด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหา
3. ปฏิบัติตามเทคนิคกระบวนการ “คิดเป็น”
ประกอบการตัดสินใจ ได้อย่างเป็นระบบ
4. สามารถน าความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง 5
ศักยภาพของพื้นที่ และหลักการพื้นฐานตาม
ยุทธศาสตร์ตามกระทรวงศึกษาธิการ 2555 ไป
เพิ่มขดความสามารถการประกอบอาชีพ โดยเน้น
ี
ที่กลุ่มอาชีพใหม่ ให้แข่งขันได้ในระดับชาติ
มำตรฐำนที่ 1.5 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการวิจัยอย่างง่าย
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจ าเป็น เห็น 1. ระบุปัญหา ความจ าเป็น วัตถุประสงค์ และ
ความสัมพันธ์ของกระบวนการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
กับการน าไปใช้ในชีวิต และด าเนินการวิจัย 2. อธิบายความสัมพันธ์ของกระบวนการวิจัย
ทดลองตามขั้นตอน กับการน าไปใช้ในชีวิต
3. ปฏิบัติการศึกษา ทดลอง รวบรวม วิเคราะห์
ั้
ข้อมูล และสรุปความรู้ตามขนตอนได้อย่าง
ถูกต้อง ชัดเจน เช่น การวิเคราะห์อาชีพ
ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระทักษะกำรเรียนรู้
มำตรฐำนที่ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
1.1 ทร 21001 ทักษะการเรียนรู้ 5
1.2
1.3
1.4
1.5
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ
ค ำอธิบำยรำยวิชำ ทร21001 ทักษะกำรเรียนรู้ จ ำนวน 5 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
ั
สาระทักษะการเรียนรู้ เป็นสาระเกี่ยวกับการพฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้าน
การเรียนรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความรู้ การคิดเป็น และการวิจัยอย่างง่าย โดยมี
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถก าหนดเป้าหมาย วางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเองเข้าถึงและเลือกใช้
แหล่งเรียนรู้ จัดการความรู้ กระบวนการแก้ปัญหา และตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ที่สามารถใช้เป็น
เครื่องมือในการชี้น าตนเองในการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับหลักการพนฐาน
ื้
ั
ุ
และการพฒนา 5 ศักยภาพของพนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ เกษตรกรรม อตสาหกรรม
ื้
พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ ตามยุทธศาสตร์ 2555
กระทรวงศึกษาธิการ ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตดังนั้นสาระทักษะการเรียนรู้ระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้นมีมาตรฐานการเรียนรู้ระดับดังนี้
1. สามารถวิเคราะห์ เห็นความส าคัญ และปฏิบัติการแสวงหาความรู้จากการอาน ฟง และ
ั
่
สรุปได้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. สามารถจ าแนก จัดล าดับความส าคัญ และปฏิบัติการเลือกใช้แหล่งเรียนรู้ได้
อย่างเหมาะสม
3. สามารถจ าแนกผลที่เกิดขึ้นจากขอบเขตความรู้ ตัดสินคุณค่า ก าหนดแนวทางพัฒนา
4. ความสามารถในการศึกษา เลือกสรร จัดเก็บ และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล
ทั้งสามประการ และการใช้เทคนิคในการฝึกทักษะ การคิดเป็น เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจแก้ปัญหา
5. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจ าเป็น เห็นความสัมพนธ์ของกระบวนการวิจัย
ั
กับการน าไปใช้ในชีวิต และด าเนินการวิจัยทดลองตามขั้นตอน
ิ่
ื้
6. สามารถจ าแนก และวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพนที่ในการเพม
ขีดความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
1. กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
ทบทวน ความหมาย ความส าคัญ และกระบวนการของการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ทบทวนทักษะพนฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหา และเทคนิค ใน
ื้
การเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการอ่าน การฟัง การสังเกต การจ า และการจดบันทึก
ฝึกทักษะการวางแผนการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะพนฐาน
ื้
และเทคนิคในการเรียนรู้ด้วยตนเองในเรื่องการวางแผน การประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง
และการวิเคราะห์วิจารณ์
เจตคติ/ปัจจัย ที่ท าให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความส าเร็จ การเปิดรับโอกาส
การเรียนรู้ การคิดริเริ่มและเรียนรู้ด้วยตนเอง การสร้างแรงจูงใจ การสร้างวินัยในตนเอง การคิดเชิง
บวก ความคิดสร้างสรรค์ การใฝ่รู้ใฝ่เรียน และความรับผิดชอบ
2. กำรใช้แหล่งเรียนรู้
ทบทวนความหมาย ความส าคัญของการใช้แหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ ศึกษาแหล่งเรียนรู้
ิ
ิ
หอสมุดแห่งชาติ หอสมุดวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรียน พพธภัณฑ์
อุทยานแห่งชาติ แหล่งเรียนรู้ส าคัญอื่น ๆ ในประเทศ
ศึกษา เรียนรู้ การใช้อินเทอร์เน็ต การเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการและสนใจ
3. กำรจัดกำรควำมรู้
ทบทวนความหมาย ความส าคัญ หลักการของการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการ
ื่
ความรู้ การรวมกลุ่มเพอต่อยอดความรู้ การพฒนาขอบข่ายความรู้ของกลุ่ม การจัดท าสารสนเทศ
ั
เผยแพร่ความรู้
ฝึกทักษะกระบวนการจัดการความรู้ด้วยตนเองและด้วยการรวมกลุ่มปฏิบัติการ โดย
การก าหนดเป้าหมายการเรียนรู้ ระบุความรู้ที่ต้องใช้ การแสวงหาความรู้ สรุปองค์ความรู้ ประยุกต์ใช้
ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ การรวมกลุ่มปฏิบัติการเพอต่อยอดความรู้ การพฒนาขอบข่ายความรู้ของ
ื่
ั
กลุ่ม
สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม จัดท าสารสนเทศองค์ความรู้ในการพฒนาตนเอง ครอบครัว
ั
ชุมชน
4. กำรคิดเป็น
ื้
ทบทวน ท าความเข้าใจกับความเชื่อพนฐานทางการศึกษาผู้ใหญ่/การศึกษานอกระบบ
และเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่องความหมายและความส าคัญของการคิดเป็น โดยใช้ข้อมูล
อย่างน้อย 3 ประการ คือ ข้อมูลด้านวิชาการ ตนเอง และสังคมสิ่งแวดล้อม อย่างพอเพยง มา
ี
วิเคราะห์ และสังเคราะห์เพอก าหนดทางเลือกในการคิด การตัดสินใจแก้ปัญหาที่เหมาะสม
ื่
อย่างคนคิดเป็น
ิ
ศึกษาท าความเข้าใจและฝึกทักษะในการพจารณาข้อมูล ทั้งด้านด้านวิชาการ ตนเอง
และสังคม สิ่งแวดล้อม จนสามารถจ าแนกและเปรียบเทียบลักษณะของข้อมูลทั้ง 3 ประการได้
จากกรณีที่หลากหลาย เพอน าไปใช้ในการเลือกเก็บข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประกอบการคิดตัดสินใจอย่าง
ื่
คนคิดเป็น
ฝึกปฏิบัติการคิด การตัดสินใจอย่างเป็นระบบในการแก้ปัญหาอย่างคนคิดเป็นจากกรณี
ตัวอย่าง
5. กำรวิจัยอย่ำงง่ำย
ทบทวนความหมาย ความส าคัญการวิจัยอย่างง่าย กระบวนการและขั้นตอนของ
การด าเนินงาน
ื่
ศึกษา ฝึกทักษะ สถิติง่าย ๆ เพอการวิจัย เครื่องมือการวิจัย และการเขียนโครงการวิจัย
อย่างง่าย ๆ
6. ทักษะกำรเรียนรู้ และศักยภำพหลักของพื้นที่ในกำรพัฒนำอำชีพ
ื้
ศึกษา วิเคราะห์ และจ าแนกใช้ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพนที่ในการเพม
ิ่
ขีดความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม
ุ
อตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ โดยค านึงถึง
ื้
ื้
ื้
ศักยภาพหลักของพนที่ คือ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ในแต่ละพนที่ ศักยภาพของพนที่ตาม
ื้
ลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศ และท าเลที่ตั้งของแต่ละพนที่ ศักยภาพของศิลปะ
วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นที่
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
1. กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่างๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซับซ้อน อย่างสร้างสรรค์ เพื่อ
1) ฝึกให้ผู้เรียนได้กาหนดเป้าหมายและวางแผนการเรียนรู้
ู
2) เพมพนให้มีทักษะพนฐานในการการวางแผน การประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ิ่
ื้
การวิเคราะห์วิจารณ์
3) มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ท าให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบผลส าเร็จ
และน าความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน/สังคม
2. กำรใช้แหล่งเรียนรู้
ให้ผู้เรียนศึกษาสารสนเทศ จากระดับชุมชนสู่ระดับจังหวัด ประเทศ และโลก การเรียนรู้
การใช้อนเทอร์เน็ต และแหล่งเรียนรู้ได้สอดคล้องกับความต้องการ ความจ าเป็นในการน าไปใช้
ิ
ในการแสวงหาข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ของตนเอง
3. กำรจัดกำรควำมรู้
ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าหลักการ และกระบวนการของการจัดการความรู้ การฝึกปฏิบัติ
จริง โดยการรวมกลุ่มปฏิบัติการ/ชุมชนปฏิบัติการ (Community of practice = Cops) สรุปองค์
ความรู้ของกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่ม ยกระดับความรู้ และจัดท าสารสนเทศเผยแพร่ความรู้
4. กำรคิดเป็น
ให้ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเรียนสาระนี้มาก่อนได้ศึกษาเล่าเรียน และฝึกทักษะการคิด
การตัดสินใจในรายละเอียด เช่นเดียวกับในระดับประถมศึกษา ส าหรับผู้เรียนที่ได้เรียนสาระนี้มาก่อน
แล้ว ควรจัดให้ผู้เรียนได้ทบทวน ท าความเข้าใจกับการเชื่อมโยง ความเชื่อพนฐานทางการศึกษา
ื้
ผู้ใหญ่/การศึกษานอกระบบมาสู่การคิดเป็นคล้ายกระบวนการอภิปรายอย่างกว้างขวาง
ให้ผู้เรียนได้ศึกษาท าความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของข้อมูลทางด้านวิชาการ ตนเอง
และสังคม สิ่งแวดล้อม จากเอกสาร แหล่งความรู้ ใบความรู้ ฯลฯ และให้มีการฝึกอธิบาย
และยกตัวอย่างเพอเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของลักษณะข้อมูลทั้ง 3 ประการ ควรให้มี
ื่
การท าใบงาน ในการฝึกปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการเรียนรู้ลักษณะของข้อมูลทั้ง 3 ด้าน
ให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกปฏิบัติในการท าแบบฝึกหัดในใบงาน และการอภิปรายกระบวนการ
คิด แก้ปัญหาอย่างคนคิดเป็นจากกรณีตัวอย่างที่หลากหลายยิ่งขึ้น
5. กำรวิจัยอย่ำงง่ำย
จัดให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสารที่เกี่ยวข้อง ฝึกทักษะการสังเกตและค้นหาปัญหาที่พบ
ในชีวิตประจ าวัน / ในสาระที่เรียน การตั้งค าถาม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพอน / ผู้รู้ การคาดเดา
ื่
ค าตอบอย่างมีเหตุผล / การตั้งสมมติฐาน การฝึกปฏิบัติการเขียนโครงการวิจัยที่มีความซับซ้อนขึ้น
ื้
การเก็บรวบรวมข้อมูล การสร้างเครื่องมือ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพนฐาน การน าเสนอข้อมูล
การสรุปข้อมูลและเขียนรายงานผล การเผยแพร่ข้อค้นพบ
6 ทักษะกำรเรียนรู้ และศักยภำพหลักของพื้นที่ในกำรพัฒนำอำชีพ
จัดให้ผู้เรียนทั้งรายบุคคล/กลุ่มได้ศึกษา วิเคราะห์ จ าแนกทักษะการเรียนรู้ โดยค านึงถึง
ื้
ศักยภาพหลักของแต่ละพนที่ ที่มีความแตกต่าง และมีความต้องการของท้องถิ่นที่ไม่เหมือนกัน เพอ
ื่
ิ่
เพมขีดความสามารถของการประกอบอาชีพใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม
ุ
ื่
อตสาหกรรม พาณิชยกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการและการบริการ เพอสร้างอาชีพ
และรายได้ อย่างมั่นคงและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
กำรวัดและประเมินผล
1. กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
ใช้การประเมินจากผลงานของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับ การก าหนดเป้าหมาย และ
วางแผนการเรียนรู้ รวมทักษะพนฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจัยที่ท าให้
ื้
การเรียนรู้ประสบความส าเร็จ
2. กำรใช้แหล่งเรียนรู้
จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วมและ ผลงานที่ได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้
3. กำรจัดกำรควำมรู้
จากการสังเกต ความสนใจ การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วม การให้ความร่วมมือ
ในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ชิ้นงานจากการรวมกลุ่มปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วม
ระหว่างครู ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องร่วมกันประเมินตีค่าความสามารถ ความส าเร็จกับเป้าหมาย
ที่วางไว้ และระบุข้อบกพร่องที่ต้องแกไข ส่วนที่ท าได้ดีแล้วก็พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
้
4. กำรคิดเป็น
ประเมินจากการอภิปราย การท าแบบฝึกหัด ท าใบงาน และการสังเกตจากการอภิปราย
ี
ี
การให้เหตุผล ความรอบคอบและละเอยดยิ่งขึ้น ความพอเพยง และความเหมาะสมในการแสวงหา
ข้อมูลทั้ง 3 ด้าน ประกอบการคิด การตัดสินใจ
5. กำรวิจัยอย่ำงง่ำย
จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานที่
มอบหมาย ให้ฝึกปฏิบัติ ในระหว่างเรียน และการสอบต้นภาคเรียน
6 ทักษะกำรเรียนรู้ และศักยภำพหลักของพื้นที่ในกำรพัฒนำอำชีพ
จากการสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานที่มอบหมาย
ให้ฝึกปฏิบัติ และการประเมินแบบมีส่วนร่วม
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำบังคับ สำระทักษะกำรเรียนรู้
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ
ิ
ทร21001 ทักษะกำรเรียนรู้ จ ำนวน 5 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
1. สามารถวิเคราะห์ เห็นความส าคัญ และปฏิบัติการแสวงหาความรู้จากการอาน ฟง
่
ั
และสรุปได้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. สามารถจ าแนก จัดล าดับความส าคัญ และปฏิบัติการเลือกใช้แหล่งเรียนรู้
ได้อย่างเหมาะสม
3. สามารถจ าแนกผลที่เกิดขึ้นจากขอบเขตความรู้ ตัดสินคุณค่า ก าหนดแนวทางพัฒนา
4. ความสามารถในการศึกษา เลือกสรร จัดเก็บ และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล
ื่
ทั้ง สามประการ และการใช้เทคนิคในการฝึกทักษะ การคิดเป็น เพอใช้ประกอบการตัดสินใจ
แก้ปัญหา
5. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ความจ าเป็น เห็นความสัมพนธ์ของกระบวนการวิจัยกับการน า
ั
ไปใช้ในชีวิต และด าเนินการวิจัยทดลองตามขั้นตอน
ื้
6. สามารถจ าแนก และวิเคราะห์ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพหลักของพนที่ในการเพมขีด
ิ่
ความสามารถของการประกอบอาชีพ 5 กลุ่มอาชีพใหม่
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 กำรเรียนรู้ 1. บอกความหมาย ตระหนัก 1. ความหมาย ความส าคัญ 3
ด้วยตนเอง และเห็นความส าคัญของการ ของการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เรียนรู้ด้วยตนเอง
2. มีทักษะพื้นฐานทาง 2. ทักษะพื้นฐานทางการศกษา 3
ึ
้
การศึกษาหาความรู้ ทักษะ หาความรู้ ทักษะการแกปัญหา
การแก้ปัญหา และเทคนิคใน และเทคนิคในการเรียนรู้ด้วย
การเรียนรู้ด้วยตนเอง ตนเอง
3. อธิบายปัจจัยที่ท าให้ 3. ปัจจัยที่ท าให้การเรียนรู้ด้วย 3
การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบ ตนเองประสบความส าเร็จ
ความส าเร็จ ประเมินผล 4. การก าหนดเป้าหมายและ 3
การเรียนรู้ด้วยตนเองได้ การวางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4. สามารถวางแผนการเรียนรู้ 5. การวางแผนการเรียนรู้ และ 6
และการ การประเมินผลการเรียนรู้ด้วย
ตนเอง 15
6. การฝึกทักษะวางแผนการ
เรียนรู้และการประเมินผลการ
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
2 กำรใช้ 1.อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความส าคัญ ของ 3
แหล่งเรียนรู้ ความส าคัญ ของการใช้ การใช้ห้องสมุดอ าเภอ
ห้องสมุดอ าเภอ
2. อธิบายการเข้าถง 2. การเข้าถึงสารสนเทศของ 3
ึ
สารสนเทศของห้องสมุด ห้องสมุดประชาชน
ประชาชน
3. อธิบายแหล่งเรียนรู้ 3. แหล่งเรียนรู้ หอสมุดแห่งชาติ 14
หอสมุดแห่งชาติ หอสมุด หอสมุดวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย
วิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรียน
ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ อุทยานแห่งชาติ แหล่ง
โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ อุทยาน เรียนรู้ส าคัญอื่น ๆ ในประเทศ
แห่งชาติ แหล่งเรียนรู้ส าคัญ
อื่นๆ ในประเทศ
4. อธิบายและปฏิบัติการใช้ 4. การใช้อินเทอร์เน็ต การเข้าถึง 14
อินเทอร์เน็ต และ ข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการ
้
การเข้าถึงขอมูลสารสนเทศที่ และสนใจ
ต้องการและสนใจ
3 กำรจัดกำร 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความส าคัญ 6
ควำมรู้ ความส าคัญ หลักการ หลักการ กระบวนการจัดการ
กระบวนการจัดการความรู้ ความรู้ การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอด
การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอด ความรู้ การพัฒนาขอบข่าย
ความรู้ การพัฒนาขอบข่าย ความรู้ของกลุ่ม และการจัดท า
ความรู้ของกลุ่ม และการจัด สารสนเทศเผยแพร่ความรู้
ท าสารสนเทศเผยแพร่ความรู้
2. ปฏิบัติการจัดการความรู้ใน 2. การฝึกทักษะกระบวนการ 18
เนื้อหาที่สอดคล้องกับความ จัดการความรู้ด้วยตนเอง และ
ต้องการของชุมชน กระบวนการจัดการความรู้ด้วย
การรวมกลุ่มปฏิบัติการ
3. จัดท าสารสนเทศและ 3. สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม 10
เผยแพร่ความรู้ จัดท าสารสนเทศองค์ความรู้
ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
4 กำรคิดเป็น 1. อธิบายได้ถึงความเชื่อ 1. ความเชื่อพื้นฐานทาง 3
พื้นฐานทางการศกษาผู้ใหญ่/ การศึกษา
ึ
ึ
การศึกษานอกระบบ และ ผู้ใหญ่/การศกษานอกระบบ 5
ิ
เชื่อมโยงมาสู่กระบวนการคด ประการโดยสรุป
เป็น และระบบคิด 2. ปรัชญาการคิดเป็น 3
การแก้ปัญหาอย่าง 2.1 ความหมาย/ความส าคัญ
คนคิดเป็น 2.2 ศัพท์เฉพาะ
2.3 การเชื่อมโยงของ
ความเชื่อพื้นฐานทางการศึกษา
ผู้ใหญ่/กศน. สู่ปรัชญาคิดเป็น
2. อธิบายลักษณะของข้อมูล 3. ลักษณะของข้อมูล 3 10
วิชาการ ตนเอง และสังคม ประการ ที่จะน ามาใช้
สิ่งแวดล้อม โดยเปรียบเทียบ ประกอบการคิดในการตัดสินใจ
ให้เห็นความแตกต่างของ คือ ข้อมูลทางวิชาการ ตนเอง
ึ
ข้อมูลทั้ง 3 ประการ และสังคม สิ่งแวดล้อม รวมถง
การเปรียบเทียบเพื่อให้เห็น
ความแตกต่างของข้อมูล
ทั้ง 3 ประการดังกล่าว
3. อธิบาย และฝึกปฏิบัติ 4. กระบวนการคิดการแก้ปัญหา 9
การคิดเป็น จากกรณีตัวอย่าง อย่างคนคิดเป็นในรายละเอียด
ต่าง ๆ ถึงกระบวนการ พร้อมตัวอย่างการน าไปปฏิบัติใน
ว
แก้ปัญหาอย่างคนคิดเป็นได้ ารด าเนินชีวิตจริง
ิถีก
อย่างเป็นระบบ 5. กรณีตัวอย่างที่หลากหลาย 9
เพื่อการฝึกทักษะการปฏิบัติ
5 กำรวิจัย 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความส าคัญ 8
่
อย่ำงง่ำย ความส าคัญการวิจัยอย่างงาย การวิจัยอย่างง่าย กระบวนการ
กระบวนการและขั้นตอนของ และขั้นตอนของการด าเนินงาน
การด าเนินงาน
2. มีทักษะในการใช้สถิติ 2. ฝึกทักษะสถิติง่ายๆ เพอ 8
ื่
ง่ายๆ เพื่อการวิจัยและจัดท า การวิจัย เครื่องมอการวิจัย
ื
เครื่องมือในการเกบรวบรวม
็
ข้อมูล
3. มีทักษะในการเขียน 3. ฝึกทักษะในการเขียน 18
โครงการวิจัยอย่างง่าย ๆ โครงการวิจัยอย่างง่าย ๆ
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
6 ทักษะการ 1. บอกความหมาย ตระหนัก 1. ความหมาย ความส าคัญ ของ 2
เรียนรู้และ และเห็นความส าคัญ ของ ทักษะการเรียนรู้ และศักยภาพ
ศักยภาพ ทักษะการเรียนรู้ และ หลักของพื้นที่
หลักของ ศักยภาพหลักของพื้นที่ 2. ทักษะการเรียนรู้พื้นฐาน และ 3
ึ
พื้นที่ในการ 2. มีทักษะการเรียนรู้พื้นฐาน เทคนิค วิธีทางศกษาหาความรู้
พัฒนา และเทคนิควิธีในการแสวงหา
อาชีพ ความรู้
3. สามารถบอกอาชีพในกลุ่ม 3. การเข้าถึงและการเลือกใช้ 10
อาชีพใหม่ ได้แก่ กลุ่มอาชีพ ศักยภาพหลักของพื้นที่
ด้านเกษตรกรรม
อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม
ความคิดสร้างสรรค์
การบริหารจัดการ และ
การบริการ
4. สามารถบอกและ 4. ตัวอย่างอาชีพในกลุ่มอาชีพ 15
ยกตัวอย่างทักษะการเรียนรู้ ด้าน
เพื่อพัฒนาศักยภาพ 5 กลุ่ม 4.1 การเกษตรกรรม
อาชีพใหม่ 4.2 อุตสาหกรรม
4.2 พาณิชยกรรม
4.3 ความคิดสร้างสรรค์
4.4 บริหารจัดการ และ
การบริการที่สอดคล้อง
กับศักยภาพหลักของ
พื้นที่
ค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระทักษะกำรเรียนรู้
รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
ทร02009 การอ่านเพอความเข้าใจ 1
ื่
ทร02021 แหล่งเรียนรู้ในชุมชน 1
ค ำอธิบำยรำยวิชำ ทร02009 กำรอ่ำนเพื่อควำมเข้ำใจ
สำระทักษะกำรเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
ี่
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
่
่
ความหมายและความส าคัญของการอาน ระดับของความเข้าใจในการอาน ความสามารถใน
ื่
ื่
่
การอานเพอความเข้าใจ องค์ประกอบที่ส่งผลต่อการอานเพอความเข้าใจ กระบวนการอานเพอ
ื่
่
่
ความเข้าใจ การประเมินระดับความยากของการอ่าน และเทคนิคการอ่านเร็ว
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ใน
ื่
่
ื่
การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพอฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเทคนิคการอานเพอความเข้าใจ และมีเจตคติที่ดีต่อ
การเรียนรู้ด้วยตนเองที่ท าให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความส าเร็จ และน าความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิต
ให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับการอ่านเพอความเข้าใจ
ื่
ิ
ค ำอธิบำยรำยวชำ ทร02021 แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
สำระทักษะกำรเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
มำตรฐำนที่ 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการใช้แหล่งเรียนรู้
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
ความหมาย ความส าคัญ และประโยชน์ของแหล่งเรียนรู้ ประเภทของแหล่งเรียนรู้
ในชุมชนและแหล่งเรียนรู้ใกล้ตัว
การให้บริการ (1) กลุ่มบริการข้อมูล (2) กลุ่มศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ (3) กลุ่มข้อมูล
ท้องถิ่น (4) กลุ่มสื่อ และ (5) กลุ่มสันทนาการ
การศึกษาส ารวจแหล่งเรียนรู้ในชุมชน/ใกล้ตัว
การก าหนดเนื้อหาสาระที่ตนสนใจและปฏิบัติการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล/ความรู้จาก
แหล่งเรียนรู้ 5 กลุ่มเนื้อหาจาก 5 แหล่งเรียนรู้
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ
ื่
เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพอฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนใกล้ตัว และมีเจตคติที่ดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ท าให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความส าเร็จ และน าความรู้ไปใช้ในวิถี
ชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ใน
ชุมชนใกล้ตัว
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระทักษะกำรเรียนรู้
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ ทร02009 กำรอ่ำนเพื่อควำมเข้ำใจ
ิ
สำระทักษะกำรเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
ี่
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 กำรอ่ำนเพื่อ 1. ตระหนักและเห็นความ 1. ความหมาย/ความส าคัญ 40
ควำมเข้ำใจ ส าคัญของการอ่าน ของการอ่าน
2. รู้เข้าใจเกี่ยวกับวิธี 2. ระดับของความเข้าใจใน
การอ่าน การอ่าน
3. บอกหรืออธิบาย 3. ความสามารถในการอ่าน
เกี่ยวกับองค์ประกอบ เพื่อความเข้าใจ
ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการอ่าน 4. องค์ประกอบที่ส่งผลต่อ
เพื่อความเข้าใจได้ การอ่านเพอความเข้าใจ
ื่
4. อธิบายหรือประเมิน 5. กระบวนการอ่านเพื่อ
ระดับการอ่านของตนเอง ความเข้าใจ
ได้ 6. การประเมินระดับความ
5. มีทักษะและการใช้การ ยากของการอ่าน
อ่านเพื่อพัฒนาตนเองได้ 7. เทคนิคการอ่านเร็ว
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ ทร02021 แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ิ
สำระทักษะกำรเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
มำตรฐำนที่ 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีต่อการใช้แหล่งเรียนรู้
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 แหล่งเรียนรู้ใน 1. มีความรู้ความเข้าใจ 1. ความหมาย ความส าคัญ 40
ชุมชน/ใกล้ตัว เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ใน และประโยชน์ของแหล่ง
ชุมชน/ใกล้ตัว เรียนรู้
ความส าคัญและ
ประโยชน์ที่จะได้รับ 2. ประเภทของแหล่งเรียนรู้
2. ส ารวจแหล่งเรียนรู้ใน ในชุมชนและแหล่งเรียนรู้
ชุมชน/ใกล้ตัวให้ได้มาก ใกล้ตัว การให้บริการ
ที่สุด เขียนค าอธิบาย (1) กลุ่มบริการข้อมูล
บทบาทหน้าที่และการ (2) กลุ่มศิลปวัฒนธรรม
ให้บริการ ตลอดจน ประวัติศาสตร์
้
กฎ กติกาเงื่อนไข (3) กลุ่มขอมูลท้องถิ่น
ของแต่ละแหล่งเรียนรู้ (4) กลุ่มสื่อ
3. ด าเนินการศึกษา/ (5) กลุ่มสันทนาการ
ค้นคว้า/รวบรวมข้อมูล 3. การศึกษาส ารวจแหล่ง
ความรู้ตามที่ตนเองสนใจ เรียนรู้ในชุมชน/ใกล้ตัว
อย่างน้อย 5 กลุ่มเนื้อหา 4. การก าหนดเนื้อหาสาระ
โดยใช้แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่ตนสนใจและปฏิบัติ
เหล่านั้นอย่างน้อย 5 การศึกษาค้นคว้า รวบรวม
แหล่ง ข้อมูล/ความรู้จากแหล่ง
เรียนรู้ เรียนรู้ 5 กลุ่มเนื้อหาจาก
5 แหล่งเรียนรู้
2. สำระควำมรู้พื้นฐำน
วิชำภำษำไทย
เป้ำหมำยกำรเรียนรู้
ู
1. เข้าใจเกี่ยวกับการฟง การสังเกต การอาน พด เขียน ด้วยประโยคที่ซับซ้อนและ
ั
่
การถ่ายทอดในชีวิตประจ าวัน และการประกอบอาชีพ
ั
2. จัดระบบความสัมพนธ์ของการติดต่อสื่อสารด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน
และการประกอบอาชีพ
3. มีทักษะในการสื่อสารตามหลักการใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
มำตรฐำนที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
กำรฟัง กำรดู
1. สามารถสรุปความ จับประเด็นส าคัญของเรื่อง 1. สรุปความ จับประเด็นส าคัญของเรื่องที่ฟัง
ที่ฟังและดู และดู
2. วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น 2. วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและ
และจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู ดูสื่อโฆษณาและข่าวสารประจ าวันอย่างมีเหตุผล
3. สามารถแสดงทรรศนะและความคิดเห็น 3. วิจารณ์การใช้น้ าเสียง กริยาท่าทาง ถ้อยค า
ต่อผู้พูดอย่างมีเหตุผล ของผู้พูดอย่างมีเหตุผล
ั
4. มีมารยาทในการฟังและดู 4. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทในการฟงและดู
กำรพูด
ิ
1. สามารถพูด น าเสนอความรู้ แสดงความ 1. พูดน าเสนอความรู้ ความคดเห็น
คิดเห็น สร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจ ปฏิเสธ สร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจ ปฏิเสธ
เจรจาต่อรองด้วยภาษากริยาท่าทางที่สุภาพ ใน เจรจาต่อรองด้วยภาษากริยาท่าทางที่สุภาพ
โอกาสต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
2. มีมารยาทในการพูด 2. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทในการพูด
กำรอ่ำน
1. สามารถอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. อ่านในใจได้คล่องและเร็ว
้
2. จับใจความส าคัญ แยกขอเท็จจริงและ 2. อ่านออกเสียงและอ่านท านองเสนาะ
ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ได้อย่างถูกต้องตามลักษณะค าประพันธ์
3.
3. สามารถอ่านหนังสือและสื่อสารสนเทศ วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น
ได้อย่างกว้างขวาง เพื่อพัฒนาตนเอง และจุดมุ่งหมายของเรื่องที่อ่าน
4. มีมารยาทในการอ่านและนิสัยรักการอ่าน 4. ลือกอ่านหนังสือและสื่อสารสนเทศ เพื่อ
พัฒนาตนเอง
5. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทในการอ่าน
และนิสัยรักการอ่าน
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
กำรเขียน
1. สามารถเลือกใช้ภาษาในการน าเสนอ 1. เลือกใช้ภาษาในการน าเสนอตามรูปแบบ
้
ตามรูปแบบของงานเขียนประเภทต่างๆ ของงานเขียนประเภทร้อยแกวและร้อยกรอง
ได้อย่างสร้างสรรค์ ได้อย่างสร้างสรรค์
2. สามารถใช้แผนภาพความคิด จัดล าดับ 2. ใช้แผนภาพความคิดจัดล าดับความคิด
ความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน ก่อนการเขียน
3. สามารถแต่งบทร้อยกรองตามความสนใจ 3. แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอน
ได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์และ สุภาพ
ลักษณะค าประพันธ์ 4. เขียนบทร้อยแก้วประเภทประวัติตนเอง
4. สามารถเขียนสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ได้ อธิบายความ ย่อความ ข่าว
5. มีมารยาทในการเขียนและนิสัยรักการเขียน 5. เขียนรายงานการค้นคว้าสามารถอ้างอิง
แหล่งความรู้ได้ถูกต้อง
6. กรอกแบบรายการต่างๆ
7. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทในการเขียน
และมีการจดบันทึกอย่างสม่ าเสมอ
หลักกำรใช้ภำษำ
1. รู้และเข้าใจชนิดของหน้าที่ของค า พยางค์ วลี 1. อธิบายความแตกต่างของค า พยางค์ วลี
ประโยค และสามารถอาน เขียนได้ถกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง
่
ู
์
ตามหลักเกณฑของภาษา 2. ใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ
2. สามารถใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ ค าราชาศัพท์ ได้ถูกต้อง
ค าราชาศัพท์ 3. อธิบายความแตกต่างระหว่างภาษาพูด
3. สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่าง และภาษาเขียนได้
ภาษาพูดและภาษาเขียน 4. อธิบายความแตกต่าง ความหมายของส านวน
4. รู้และเข้าใจส านวนสุภาษิต ค าพังเพยใน สุภาษิต ค าพังเพยและการน าไปใช้ในชีวิต
การพูด และเขียน ประจ าวันได้อย่างถูกต้อง
วรรณคดี วรรณกรรม
1. รู้และเข้าใจความแตกต่างของวรรณคดี 1. อธิบายความแตกต่างและคณค่าของวรรณคดี
ุ
วรรณกรรมปัจจุบัน และวรรณกรรมท้องถิ่น วรรณกรรมปัจจุบันและวรรณกรรมท้องถิ่น
ตลอดจนเห็นคุณค่า
ภำษำไทยกับกำรประกอบอำชีพ
1. ใช้ความรู้ด้านการพูดภาษาไทยเพื่อ 1. ใช้ความรู้การพูดภาษาไทยเป็นช่องทาง
การประกอบอาชีพ ในการประกอบอาชีพ
2. ใช้ความรู้ด้านการเขียนภาษาไทยเพอ 2. ใช้ความรู้การเขียนภาษาไทยเป็นช่องทาง
ื่
การประกอบอาชีพ การประกอบอาชีพ
ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำไทย
มำตรฐำนที่ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
2.1 พท21001 ภาษาไทย 4
ค ำอธิบำยรำยวิชำ พท21001 ภำษำไทย จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
กำรฟัง กำรดู
1. สามารถสรุปความ จับประเด็นส าคัญของเรื่องที่ฟังและด ู
2. วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู
3. สามารถแสดงทรรศนะและความคิดเห็นต่อผู้พูดอย่างมีเหตุผล
4. มีมารยาทในการฟังและดู
กำรพูด
ู
1. สามารถพด น าเสนอความรู้ แสดงความคิดเห็น สร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจ
ปฏิเสธ เจรจาต่อรองด้วยภาษากิริยาท่าทางที่สุภาพในโอกาสต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
2. มีมารยาทในการพูด
กำรอ่ำน
1. สามารถอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. จับใจความส าคัญ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน
3. สามารถอ่านหนังสือและสื่อสารสนเทศได้อย่างกว้างขวาง เพื่อพัฒนาตนเอง
4. มีมารยาทในการอ่านและนิสัยรักการอ่าน
กำรเขียน
1. สามารถเลือกใช้ภาษาในการน าเสนอตามรูปแบบของงานเขียนประเภทต่างๆ
ได้อย่างสร้างสรรค์
2. สามารถใช้แผนภาพความคิด จัดล าดับความคิด เพื่อพัฒนา งานเขียน
3. สามารถแต่งบทร้อยกรองตามความสนใจได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และ
ลักษณะค าประพันธ์
4. สามารถเขียนสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ได้
5. มีมารยาทในการเขียนและนิสัยรักการเขียน
หลักกำรใช้ภำษำ
1. รู้และเข้าใจชนิด และหน้าที่ของค า พยางค์ วลี ประโยค และสามารถอาน เขียน
่
ได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของภาษา
2. สามารถใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ ค าราชาศัพท์
3. สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างภาษาพูดและภาษาเขียน
4. รู้และเข้าใจส านวน สุภาษิต ค าพังเพยในการพูดและเขียน
วรรณคดี วรรณกรรม
1. รู้และเข้าใจความแตกต่างของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบันและวรรณกรรม
ท้องถิ่น ตลอดจนเห็นคุณค่า
ภำษำไทยกับกำรประกอบอำชีพ
1. ใช้ความรู้ด้านการพูดภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ
ื่
2. ใช้ความรู้ด้านการเขียนภาษาไทยเพอการประกอบอาชีพ
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
กำรฟัง กำรดู
การสรุปความ จับประเด็นส าคัญของเรื่องที่ฟัง ดู และมีมารยาทในการฟังและดู
กำรพูด
ู
การพดน าเสนอความรู้ ความคิดเห็น โน้มน้าวใจ ปฏิเสธเจรจาต่อรอง และ
มารยาทในการพูด
กำรอ่ำน
่
การอ่านออกเสียงและอานในใจทั้งร้อยแก้ว และร้อยกรอง การแยกแยะข้อเท็จจริง
ข้อคิดเห็น และจุดมุ่งหมายของเรื่องที่อ่าน ตลอดจนมารยาทในการอ่าน
กำรเขียน
การใช้แผนภาพความคิด จัดล าดับความคิดก่อนการเขียน การแต่งบทร้อยกรอง
ประเภท กลอนสี่ กลอนสุภาพ การเขียนสื่อสารเรื่องราวต่างๆ และการเขียนรายงาน การค้นคว้า
อ้างอิง ตลอดจนมารยาทในการเขียน
หลักกำรใช้ภำษำ
ชนิดและหน้าที่ของค า พยางค์ วลี ประโยค การใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ
พจนานุกรม ค าราชาศัพท์ ความแตกต่างและความหมายของส านวน สุภาษิต ค าพังเพย
วรรณคดีและวรรณกรรม
ความแตกต่างและคุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบันและวรรณกรรมท้องถิ่น
ภำษำไทยกับกำรประกอบอำชีพ
การใช้ความรู้ด้านการพูด การเขียนภาษาไทยเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพ
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
จัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตประจ าวันให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดย
การฝึกปฏิบัติจริงเป็นรายบุคคล หรือกระบวนการกลุ่มเกี่ยวกับทักษะการฟง การดู การพด การอาน
ั
ู
่
การเขียน และหลักการใช้ภาษา
กำรวัดและประเมินผล
การสังเกต การฝึกปฏิบัติ การทดสอบ (แบบทดสอบ) และการประเมินชิ้นงาน
ในแต่ละกิจกรรม
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำไทย
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พท 21001 ภำษำไทย จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ิ
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
กำรฟัง กำรดู
1. สามารถสรุปความ จับประเด็นส าคัญของเรื่องที่ฟังและด ู
2. วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและด ู
3. สามารถแสดงทรรศนะและความคิดเห็นต่อผู้พูดอย่างมีเหตุผล
4. มีมารยาทในการฟังและดู
กำรพูด
1. สามารถพูดน าเสนอความรู้ แสดงความคิดเห็น สร้างความเข้าใจ โน้มน้าวใจ ปฏิเสธ
เจรจาต่อรองด้วยภาษากิริยาท่าทางที่สุภาพในโอกาสต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
2. มีมารยาทในการพูด
กำรอ่ำน
1. สามารถอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. จับใจความส าคัญ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน
3. สามารถอ่านหนังสือและสื่อสารสนเทศได้อย่างกว้างขวาง เพื่อพัฒนาตนเอง
4. มีมารยาทในการอ่านและนิสัยรักการอ่าน
กำรเขียน
1. สามารถเลือกใช้ภาษาในการน าเสนอตามรูปแบบของงานเขียนประเภทต่างๆ
ได้อย่างสร้างสรรค์
2. สามารถใช้แผนภาพความคิด จัดล าดับความคิดเพื่อพัฒนางานเขียน
3. สามารถแต่งบทร้อยกรองตามความสนใจได้ถูกตองตามหลักไวยากรณ์และลักษณะ
้
ค าประพันธ ์
4. สามารถเขียนสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ได ้
5. มีมารยาทในการเขียนและนิสัยรักการเขียน
หลักกำรใช้ภำษำ
ี่
1. รู้และเข้าใจชนิด และหน้าทของค า พยางค์ วลี ประโยค และสามารถอ่าน เขียนได ้
ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของภาษา
2. สามารถใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษรย่อ ค าราชาศัพท ์
3. สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างภาษาพูดและภาษาเขียน
4. รู้และเข้าใจส านวน สุภาษิต ค าพังเพยในการพูดและเขียน
วรรณคดี วรรณกรรม
รู้และเข้าใจความแตกต่างของวรรณคดี วรรณกรรมปัจจุบันและวรรณกรรมท้องถิ่น
ตลอดจนเห็นคุณค่า
ภำษำไทยกับกำรประกอบอำชีพ
1. ใช้ความรู้ด้านการพูดภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ
2. ใช้ความรู้ด้านการเขียนภาษาไทยเพื่อการประกอบอาชีพ
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1. การฟัง การดู 1. สรุปความ จับประเด็นส าคัญ อง 1. สรุปความ จับประเด็น 2
เรื่องที่ฟังและดู ส าคัญของเรื่องที่ฟงและ ดู
ั
2. วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจาก 2. หลักการจับใจความ 2
การฟัง และดูสื่อโฆษณา และข่าวสาร ส าคัญของเรื่องที่ฟังและดู
ประจ าวันอย่างมีเหตุผล
3. วิจารณ์การใช้น้ าเสียง กิริยาท่าทาง 3. การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง 4
ถ้อยค าของผู้พูด อย่างมีเหตุผล ข้อคิดเห็นและสรุปความ
4. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาท 4. การมีมารยาทในการฟัง 2
ั
ในการฟง และดู และดู
2. การพูด 1. พูดน าเสนอความรู้ 1. สรุปความ จับประเด็น 2
ู
ความคิดเห็น สร้างความเข้าใจ ส าคัญของเรื่องที่พดได้
โน้มน้าวใจ ปฏิเสธ เจรจาต่อรอง 2. การพูดน าเสนอความรู้ 4
ด้วยภาษากิริยาท่าทาง ที่สุภาพ ความคิดเห็น และ การพูด
ในโอกาสต่างๆ เช่น
- พูดแนะน าตนเอง
- พูดกล่าวต้อนรับ
- พูดกล่าวขอบคุณ
- พูดโน้มน้าวใจ
- พูดปฏิเสธ
- พูดเจรจาต่อรอง
- พูดแสดงความคิดเห็น
2. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาท 3. การมีมารยาท 2
ในการพูด ในการพูด
่
3. การอ่าน 1. อ่านในใจได้คล่องและเร็ว 1. หลักการอานในใจ 5
จากสื่อประเภทต่างๆ
2. อ่านออกเสียงและอ่านท านอง 2. หลักการอานออกเสียง 5
่
เสนาะได้อย่าง ถูกต้องตามลักษณะ ที่เป็นทั้งร้อยแก้ว และ
ค าประพันธ์ ร้อยกรอง
3. วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจริง 3. หลักการเลือกอ่านหนังสือ 3
ข้อคิดเห็น และจุดมุ่งหมายของ และสื่อสารสนเทศ
เรื่องที่อ่าน 4. หลักการอานจับใจความ 10
่
ส าคัญ
4. เลือกอ่านหนังสือ และสื่อสาร 5. หลักการวิเคราะห์ 15
สนเทศเพอพัฒนาตนเอง วิจารณ์
ื่
่
5. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทใน 6. มารยาทในการอาน และ 2
่
การอานและมีนิสัยรักการอ่าน นิสัยรักการอ่าน
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
4. การเขียน 1. เลือกใช้ภาษาในการน าเสนอ 1. หลักการเขียน การใช้ 4
ตามรูปแบบของงานเขียนประเภท ภาษาในการเขียน
ร้อยแก้วและร้อยกรองได้อย่าง
สร้างสรรค์
2. ใช้แผนภาพความคิด จัดล าดับ 2. หลักการเขียนแผนภาพ 14
ความคิดก่อนการเขียน ความคิด
3. แต่งบทร้อยกรอง ประเภท 3. หลักการเขียนเพื่อ 18
กลอนสี่ กลอนสุภาพ การสื่อสารประเภทต่าง ๆ
4. เขียนบทร้อยแก้วประเภทประวัติ เช่น การเขียนเรียงความ
ตนเอง อธิบายความ ย่อความ ข่าว ย่อความ เขียนชี้แจง
5. เขียนรายงานการค้นคว้าสามารถ เขียนแสดงความคิดเห็น
อ้างอิงแหล่งความรู้ได้ถูกต้อง ค าขวัญ ค าคม ค าโฆษณา
6. กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนรายงานการค้นคว้า
การกรอกแบบพิมพ์ และ
ใบสมัครงาน
7. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาท ใน 4. การปฏิบัติตนเป็น 2
การเขียน และ มีการจดบันทึก ผู้มีมารยาทในการเขียน
อย่างสม่ าเสมอ และมีนิสัยรักการเขียน
หลักการใช้ 1. อธิบายความแตกต่างของค า 1. ค าราชาศัพท์ 3
5.
ภาษา พยางค์ วลี ประโยค ได้ถูกต้อง 2. หลักในการสะกดค า 3
2. ใช้เครื่องหมายวรรคตอน อักษร 3. การใช้เครื่องหมาย 4
ั
ย่อ ค าราชาศัพท์ ได้ถูกต้อง วรรคตอน อกษรย่อ
และการใช้เลขไทย
3. อธิบายความแตกต่างระหว่าง 4. การใช้ค า และการสร้าง 9
ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ ค าในภาษาไทย
- การสร้างค าไทย
- ค าประสม
- ค าซ้อน
- ค าซ้ า
- ค าสมาส ค าสนธิ
- หลักการสังเกตค า
ภาษาอื่นๆที่ใช้ในภาษาไทย
5. ชนิดของประโยค 8
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
6. การใช้ระดับภาษาที่เป็น 4
ทางการ และไม่เป็นทางการ
4. อธิบายความแตกต่าง 7. การใช้ส านวน สุภาษิต 5
ความหมายของส านวน สุภาษิต ค าพังเพย
ค าพังเพยและน าไปใช้ใน
ชีวิตประจ าวันได้ถูกต้อง
5. อธิบายหลักการและสามารถ 8. หลักการแต่งค าประพันธ์ 4
แต่งค าประพันธ์ประเภทต่างๆ ประเภทต่าง ๆ เช่น
- กาพย์ยานี 11
- กาพย์ฉบัง 16
- กลอน
ฯลฯ
6. วรรณคดี 1. อธิบายความแตกต่าง และ 1. หลักการพิจารณา 5
วรรณกรรม คุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรม วรรณคดี
ปัจจุบัน และวรรณกรรมท้องถิ่น 2. หลักการพินิจวรรณกรรม 5
3. ประวัติความเป็นมา 5
ลักษณะ และคุณค่า ของเพลง
พื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก
4. หลักการพินิจวรรณคดี 5
ด้านวรรณศิลป์ และด้านสังคม
- สามก๊ก
- ราชาธิราช
- กลอนเสภาขุนช้าง
ขุนแผน
- กลอนบทละครเรื่อง
รามเกียรติ์
7 ภาษาไทยกับ 1. ใช้ความรู้การพูดภาษาไทย 1. ภาษาไทยด้านการพูดกับ 2
การประกอบ เป็นช่องทางในการประกอบ ช่องทางการประกอบอาชีพ
อาชีพ อาชีพ
2. ใช้ความรู้การเขียนภาษาไทย 2. ภาษาไทยด้านการเขียนกับ 2
เป็นช่องทางการประกอบอาชีพ ช่องทางการประกอบอาชีพ
ค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำไทย
รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
พท22003 บันทึกไว้ได้ประโยชน์ 1
ค ำอธิบำยรำยวิชำ พท22003 บันทึกไว้ได้ประโยชน์
สำระควำมรู้พื้นฐำน (ภำษำไทย) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
มำตรฐำนที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
ความหมาย ประโยชน์ของการบันทึกการใช้ภาษาให้เหมาะสมกับบุคคล ประเภท
ของการบันทึกได้แก่ บันทึกเหตุการณ์ บันทึกย่อเรื่อง บันทึกรายงาน บันทึกความเห็น
บันทึกติดต่อ สั่งการ และรูปแบบหลักการเขียนบันทึกของแต่ละประเภท
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ครูน าตัวอย่างการเขียนบันทึกประเภทต่าง ๆ มาให้ผู้เรียนศึกษา โดยครูน าเสนอประเด็น
ส าคัญของการบันทึกแต่ละประเภทให้ผู้เรียนเลือกเขียนบันทึกประเภทใดประเภทหนึ่ง
ี
มาคนละ 1 ฉบับ รายละเอยดต่างๆ ให้สมมุติขึ้นเองตามความเหมาะสม น าผลงานของผู้เรียน
แต่ละคนมาวิเคราะห์วิจารณ์ร่วมกันและผู้เรียนช่วยกันให้ข้อเสนอแนะเพอการปรับปรุงแก้ไข
ื่
กำรวัดและประเมินผล
1. การสังเกต
2. การฝึกปฏิบัติ
3. การมีส่วนร่วมของผู้เรียน
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำไทย
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พท22003 บันทึกไว้ได้ประโยชน์
สำระควำมรู้พื้นฐำน (ภำษำไทย) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)
มำตรฐำนที่ 2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 ความหมาย ประเภท บอกความหมาย ความหมาย ประเภท 2
และประโยชน์ ประเภท และประโยชน์ และประโยชน์ของการบันทึก
ของการบันทึก ของการบันทึก
2 รูปแบบหลักการ อธิบายรูปแบบหลักการ รูปแบบของการเขียนบันทึก 6
เขียนบันทึก เขียนบันทึกแต่ละ ได้แก่ บันทึกเหตุการณ์
ประเภท บันทึกย่อเรื่อง บันทึก
รายงาน บันทึกความเห็น
บันทึกติดต่อ สั่งการ
3 ภาษาที่ใช้ ใช้ภาษาได้เหมาะสมกับ การใช้ภาษาในการเขียน 6
ในการบันทึก บุคคลและประเภทของ บันทึก
การบันทึก
4 การเขียนบันทึก เขียนบันทึกแต่ละ รูปแบบหลักการเขียนบันทึก 26
แต่ละประเภท ประเภทได ้ ของแต่ละประเภท
วิชำภำษำต่ำงประเทศ
เป้ำหมำยกำรเรียนรู้
ั
1. เข้าใจเกี่ยวกับภาษาท่าทาง ฟง พูด อ่าน เขียน ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน
และงานอาชีพ
2. จัดระบบความสัมพันธ์ของการติดต่อสื่อสาร ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน
และงานอาชีพ
3. มีทักษะที่ถูกต้องตามหลักภาษา วัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ ผลกำรเรียนที่คำดหวัง
มำตรฐำนที่ 2.1 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ 1. เข้าใจเกี่ยวกับภาษา ท่าทาง ฟัง พูด อ่าน
่
ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อาน เขียน เขียน ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน
ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อน และงานอาชีพ
ในชีวิตประจ าวัน และงานอาชีพของตนได้ 2. จัดระบบความสัมพันธ์ของการติดต่อสื่อสาร
ถูกต้องตามหลักภาษา วัฒนธรรมและกาลเทศะ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน
ของเจ้าของภาษา และงานอาชีพ
3. มีทักษะที่ถูกต้องตามหลักภาษา วัฒนธรรม
และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำภำษำต่ำงประเทศ
มำตรฐำนที่ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
2.1 พต21001 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจ าวัน 4
ค ำอธิบำยรำยวิชำ พต21001 ภำษำอังกฤษในชีวิตประจ ำวัน จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
ู
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟง พด อาน เขียน
ั
่
ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน และงานอาชีพของตนได้ถูกต้อง ตาม
หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
1. การใช้ภาษาท่าทางในการสื่อความหมาย วิธีการรับ-ตอบโทรศัพท์อย่างง่าย ๆ การแสดง
ความรู้สึกดีใจ เสียใจ เข้าใจ พอใจ ไม่พอใจ ให้ก าลังใจ สนใจ และไม่สนใจ วิธีการพูดแทรก
พูดขอบคุณและการตอบรับ วิธีการพูดแสดงความคิดเห็น ความต้องการ และการเสนอให้ความ
ช่วยเหลือผู้อื่นพร้อมกับการตอบรับ รวมทั้งลักษณะของประโยคบอกเล่า ประโยคค าถาม
ประโยคปฏิเสธ ประโยคค าสั่งและประโยคอุทาน ซึ่งใช้ในชีวิตประจ าวันในสถานการณ์ต่าง ๆ
2. ลักษณะและการใช้ประโยคความรวม (Compound Sentence) Past Tense ในรูป
ต่างๆ ค ากริยา ค ากริยาวิเศษณ์ ค าสันธาน และค าอทาน โดยสามารถน าไปใช้ในการเล่าเรื่องราว
ุ
่
่
เกี่ยวกับชีวิตประจ าวันและการประกอบอาชีพ การอานข่าวสารข้อมูลจากสื่อประเภทต่างๆ การอาน
สลากสินค้าและการตีความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์
รวมทั้งเข้าใจการใช้ Internet เพื่อสืบค้นข้อมูล
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
1. ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้สถานการณ์จ าลอง และ/
หรือสื่อที่เหมาะสม
2. ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน จากสถานการณ์จ าลองโดยใช้สื่อต่าง ๆ ที่เหมาะสม และสอดคล้อง
กับสถานการณ์
กำรวัดและประเมินผล
ู
1. ตรวจสอบจากการน าไปใช้ได้ถกต้องและเหมาะสมตามสถานการณ์
2. สามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์
ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำภำษำต่ำงประเทศ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พต21001 ภำษำอังกฤษในชีวิตประจ ำวัน จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ิ
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
มำตรฐำนที่กำรเรียนรู้ระดับ
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน
ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน และงานอาชีพของตนได้ ถูกต้อง ตาม
หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 ภาษาท่าทาง เข้าใจและใช้ภาษาในการ 1. ภาษาตามมารยาทสังคม 6
ในการสื่อสาร สื่อสารในชีวิตประจ าวัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง
ในชีวิตประจ าวัน บุคคลในสถานการณ์ต่างๆ ดังนี้
(Language in 1.1 การทักทาย การกล่าวลา
daily life) เช่น
- Good morning.
- Good afternoon.
- Good evening.
- Hi / Hello.
- How are you?
- How are you today?
- I’ m fine, thank you
and you?
- Nice to see you.
- Nice to see you too.
- Glad to see you.
- Glad to see you too.
- Good bye. Bye.
- See you soon.
- See you on…(Day)…
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1.2 การแนะน าตนเองและผู้อื่น 6
เช่น
Pat : Hello, I’m Pat.
Suda : Hi, my name is
Suda. How do you do?
หรือ
A : Bob, this is John, my
friend from New Zealand.
B : How do you do? Nice
to meet you.
John : How do you do?
Nice to meet you, too.
etc.
1.3 การกล่าวขอบคุณ
และตอบรับ เช่น
- Thank you for your
help.
- Thank you every much
for your kindness.
- Thank you for your
invitation.
etc.
1.4 การพูดขออนุญาต และ
ตอบรับ
- May I interrupt you for a
moment?
- May I come in?
- Can I borrow your pen?
- (It’s) my pleasure.
- Don’t mention it.
- Yes, you can.
etc