หลักสูตรสถานศึกษา กศน.อำเภอเกาะจันทร์

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

1.5 การพูดขอโทษและตอบรับ
- I’m very sorry to be
late.

- I’m lost your box, I’m
so sorry.
- Forget it.

- Don’t worry.
- It doesn’t matter.
etc.
1.6 การพูดแทรกอย่างสุภาพ

เช่น
- Excuse me, sir. Could

you speak louder?
- Excuse me, madam.
- Could you show me
that book ?

etc.
2. ภาษาท่าทางที่ใช้ในโอกาสต่างๆ 2

ดังนี้
2.1 ท่าทางที่สื่อความหมาย

ทางภาษา เช่น
กวักมือ = Come here.
โบกมือ = Bye-bye.
ชู 2 นิ้ว = Victory

ผายมือ = This way,
please.
etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชวัด เนื้อหำ
ี้
(ชั่วโมง)
2.2 ท่าทางการปฏิบัติตาม 2
วัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษา เช่น

- Hand Shaking.






- Waving good-bye.






- Good-bye hug/kiss
- Good night hug/kiss
etc.

ั
2.3 ค าศพท์ จ านวน ประโยค 2
และท่าทางที่ใช้สื่อสารใน
โอกาสต่าง ๆ เช่น

- Merry Christmas.
- Happy New Year.
- Happy Valentine’s.

- Happy Birthday.
- Congratulations on
your graduation.

- Thanks.
- Thank you very
much.

- The same to you.
- Many happy returns.
etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

ั
2 การโต้ตอบ รับ-ตอบ โทรศัพท์อย่างง่าย ๆ 1. ค าศพท์ ส านวน ประโยคต่างๆ 8
โทรศัพท์ ได้ ที่ใช้ในการสื่อสารในการรับ
(Telephone โทรศัพท์อย่างง่าย
Conversation) - Is Miss/Mrs./Mr. Robert

home?
- I’m speaking.
- He / She is out.

- He / She will be back soon.
Would you like to wait?
etc.
2. การรับฝากข้อความทางโทรศัพท์

A : Hello, may I speak to
Mrs.Wanida?
B : Sorry, she’s not here now.
Would you like to leave

her
a massage?
A : My name is Somsri.
Please tell her to call me

to 02-728-8888.
etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3 การแสดงความรู้สึก ใช้ภาษาอังกฤษในการ 1. ค า วลี ประโยค บทสนทนา 8
์
ต่าง ๆ (Expression แสดงความรู้สึกได้ ที่แสดงอารมณความรู้สึกต่างๆ
of feelings) (ดีใจ/เสียใจ/เข้าใจ/พอใจ/ 1.1 เข้าใจ/ไม่เข้าใจ
ไม่พอใจ/ให้ก าลังใจ/ - Oh, I see.

สนใจ/ ไม่สนใจ) - I get it now.
- I beg you pardon.
- Pardon me. Can you

say that again?
- I don’t understand
that.
- I don’t get it.

etc.
1.2 พอใจ/ไมพอใจ
่
- That’s great./ That’s

bad.
- How wonderful!
- How awful!

- I am so pleased to hear
that.
- I am afraid I don’t like

it.
- I love/like/enjoy it.
- I am disappointed to

see that.
etc.
1.3 สนใจ/ไม่สนใจ

- I’m interested
in.......................
- I’m not interested
in.......................

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

- don’t care (about
I
that)....................
- I have no idea.

etc.
1.4 ให้ก าลังใจ/เห็นใจ/ปลอบใจ
- Don’t worry.

- Cheer up.
- Take it easy.
- Relaxed.

- You will be fine.
- Well done.

- You did a good job.
etc.
1.5 ดีใจ/เสียใจ

I’m glad that you can come.

- I’m so pleased to see
you.
- I’m glad to hear from
you.

- I’m so sorry for being
late.

- I’m terrible sorry
for.....................
- Sorry, it’s my fault.
- Please forgive me for

being late.
etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

ื่
4 การพูดแสดง พูดแสดงความคิดเห็นและ ภาษาเพอแสดงความคิดเห็นความ 20
ความคิดรูปแบบ แสดงความต้องการ รวมทั้ง ต้องการ
ต่าง ๆ การเสนอ 1. การแสดงความคิดเห็น (เห็นด้วย/
(Expression of ไม่เห็นด้วย/ยอมรับ/ ไม่ยอมรับ)

opinion, ideas / A : The weather in Bangkok is
wishes / offering hotter than Singapore.
helps, etc.) B : I think so./ I don’t think

so./
I agree with you.
A : Living in Bangkok is not
so pleasant, don’t you

think
that?
B : Yes, but living in rural

areas
is less convenient.
etc.
2. การแสดงความต้องการและ
ตอบรับ เช่น

- I’d like some more
coffee.

- I want to go to....................
- I wish you should go
with me.

- I need........................
- Yes, .................please do. /
Sure.

etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3. การแสดงความช่วยเหลือและ
บริการผู้อื่น รวมทั้งตอบรับ เช่น
- What can I do for you?

- Can I help you?
- Need some help?

- If you need anything,

please tell me./ let me know.
- Certainly.
- Yes, of course.

- I’m afraid..........................
- Sorry, but........................

etc.
5 ประโยคต่างๆ ใน รู้จักลักษณะของประโยค ประโยค/ส่วนประกอบของประโยค
ภาษาอังกฤษ ในภาษาอังกฤษ (ประโยค ชนิดต่าง ๆ และรูปแบบการจัดล าดับ
(Different Types บอกเล่า/ประโยคค าถาม/ ค าในประโยค 18
of ประโยคปฏิเสธ/ประโยค 1. ประโยคบอกเล่า

English ค าสั่ง/ประโยคอุทาน)และ โครงสร้างของประโยคบอกเล่า
Sentences) สามารถน าไปใช้ใน
ชีวิตประจ าวันได้ Subject + Verb

เช่น
- Bob smokes.
หรือ

Subject + Verb + Complement

เช่น
- They are students.

ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ จ ำนวน
(ชั่วโมง)


หรือ 20
Subject + Verb + Object.

เช่น

- Suda likes John.
2. ประโยคค าถาม
ค าที่ใช้ในการตั้งคาถาม ได้แก่

Who, When, Where, Why,
What, Whom, How เช่น
- What is your name?

- Where do you teach?
- When did he leave
school?

- How do you like it?
etc.


3. ประโยคปฏิเสธ
รูปแบบประโยคปฏิเสธและ
ค ากริยาที่ใช้ เช่น

- They are not farmer.
- He doesn’t like Bobby.
- I don’t want to go with

him.
etc.
4. ประโยคค าสั่ง

รูปแบบประโยคค าสั่ง/กลุ่มค าที่ใช้
และตัวอย่างประโยค เช่น
- Come here.

- Let’s go now.

ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ จ ำนวน
(ชั่วโมง)


- Open the door, please.
- Please sit down.

- Come hear right now.
etc.
5. ประโยคอุทาน

รูปแบบประโยคอุทานและตัวอย่าง
ประโยค เช่น

- Oh! My god.
- Oh, my god!

- How marvelous!
- What a wonderful party!
etc.


6 ประโยคความรวม รู้จักลักษณะของ 1. ส่วนประกอบของ Compound 40
(Compound Compound Sentence Sentence (Independent Clause)

sentence) และสามารถน าไปใช้ใน 2. ประโยค 2 ประโยคมารวมกันด้วย
ชีวิตประจ าวันได้ ค าเชื่อมที่เหมาะสม คือ and, but, or
เช่น
- We tried our best but we

lost the game.
- Both they and we tried
hard.
- I’ll go to the cinema or

visit my parent.

ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ จ ำนวน
(ชั่วโมง)


3. การเชื่อมประโยคให้เป็น Compound Sentence
โดยใช้เครื่องหมาย/ค าเชื่อม ต่อไปนี้
3.1 , (Comma) + ค าสันธาน เช่น

- They tried their best, yet they
didn’t succeed.

3.2 ; (Semicolon) ใช้ในกรณีที่มีเครื่องหมาย
อื่นๆ อยู่ด้วยหลายแห่ง เช่น
- I also bought her a new car ; I have

not yet, nowhere, given it to her.
Correlative Conjunction ได้แก่ค า
ต่อไปนี้

both……..and………
either…….or……….
neither…..nor………
not only...........but also.........
เช่น

- Neither did he listen, nor did he
improve.
- Not only the English teacher get

him a bad grade, but also the social
teacher did so.


7 Past Tense ใช้ Past Tense Past Tense ในรูปแบบต่างๆ 38

ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ 1. Past Simple Tense



Subject + was + V2
Subject + were +V3

ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ จ ำนวน
(ชั่วโมง)


ึ้
1.1 เหตุการณ์ที่เกิดขนในอดีต และจบลงไปแล้ว
ก่อนพูดประโยคนั้น เช่น
- He spoke.

- She came here yesterday.
1.2 แสดงการกระท าที่กระท าเป็นประจ าในอดีต
โดยมีค าที่แสดงความบ่อย ความเป็นประจ าอยู่ด้วย
เช่น

- He always got up late when he
was young.
2. Past continuous tense

Subject + + V. ing + conj. + Subject
was
+ V2 were

กล่าวถึงเหตุการณ์ 2 อย่างในอดีต โดยขณะที่

- เหตุการณ์หนึ่งด าเนินอยู่มีอีกเหตุการณ์
แทรกเข้ามา
- เหตุการณ์ที่ด าเนินอยู่ ใช้ Past continuous tense
- เหตุการณ์ที่เกิดใหม่แทรกเข้ามาใช้

Past simple tense
์
- ค าที่เชื่อมเหตุการณที่สองเข้าด้วยกัน คือ
when หรือ while เช่น
- I was reading a book when she came
in.
- While I was reading a book, she came in.

ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ จ ำนวน
(ชั่วโมง)


8 ภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษตาม - การพูดภาษาอังกฤษตามมารยาทสังคมและ 5
ส าหรับ มารยาท สังคม และ เหมาะสมกับสถานการณ ์
อาชีพพนักงาน เหมาะสมกับ - การพูดแสดงความรู้สึกและแสดงความคิดเห็น

ขับ สถานการณ์ พูดแสดง - การพูดแสดงความช่วยเหลือ
รถรับจ้าง ความรู้สึก แสดง - การขออนุญาต
ความคิดเห็น แสดง - การพูดแทรกอย่างสุภาพ
ความช่วยเหลือ

ขออนุญาต พดแทรก
ู
อย่างสุภาพในอาชีพ
พนักงานขับรถ
รับจ้าง


9 ภาษาอังกฤษ 1. ใช้ประโยค - การกล่าวต้อนรับทักทายลูกค้าของพนักงานบริการ 5
ส าหรับ ต้อนรับลูกค้าใน - ประโยคการให้บริการความช่วยเหลือ และบริการ
พนักงานบริการ สถานบริการ ในสถานบริการต่าง ๆ เช่น ททาการไปรษณีย ์

ี่
ใน ต่าง ๆ สถานีรถไฟ โรงแรม เป็นต้น เช่น What can I do
สถานที่ต่าง ๆ 2. ใช้ประโยค/ for you? May I help you? etc.

ส านวน เสนอ
ความช่วยเหลือ/
ให้ข้อมูลแก่
ลูกค้าในสถานบริการ
ต่าง ๆ

ค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำต่ำงประเทศ



รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
พต22004 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2

รวม 2

ั
ค ำอธิบำยรำยวิชำ พต22001 ภำษำองกฤษอ่ำน – เขียน
สำระควำมรู้พื้นฐำน ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

จ ำนวน 2 หน่วยกิต (80 ชั่วโมง)

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
ู
ั
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟง พด อาน เขียน
่
ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม
หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา

ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information) ค าสั่ง ค าขอร้อง การแสดงความต้องการ และ
ความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึก และความคิดเห็น ค าอธิบาย ความชอบ และไม่ชอบ หัวข้อเรื่อง
(Topic) ใจความส าคัญ (Main Idea)


กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ฝึกอ่าน เขียน ข้อมูลส่วนบุคคล ค าขอร้อง การแสดงความต้องการ และความช่วยเหลือ และ
การแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น ค าอธิบาย ความชอบ และไม่ชอบ สามารถจับใจความส าคัญ

น าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้

กำรวัดและประเมินผล
่
พิจารณาจากความสามารถในการน าความรู้และทักษะการอาน เขียน ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน ภำษำต่ำงประเทศ
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พต22001 ภำษำองกฤษอ่ำน – เขียน
ั
ิ
ั
สำระ ควำมรู้พื้นฐำน ระดับ มธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 2 หน่วยกิต ( 80 ชั่วโมง)

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ
ั
ู
่
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟง พด อาน เขียน
ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจ าวัน และงานอาชีพของตน ได้ถูกต้องตาม
หลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา


จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 ข้อมูลส่วนบุคคล อ่าน เขียนข้อมูลและ ค าศพท์ ส านวนภาษา ประโยค และ 5
ั
(Personal แสดงความคิดเห็น ข้อความที่ใช้ในการขอและให้ข้อมูล

Information) เกี่ยวกับเรื่องที่อานได้ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท ี่
่
อย่างเหมาะสม อ่าน
2  ค าสั่ง 1. อ่าน เขียนประโยค ประโยคค าสั่ง 10
 ค าขอร้อง ค าสั่ง ค าขอร้องได้ Look at the ...../here/over

 การแสดง 2. อ่าน เขียนแสดง there.
ความต้องการ ความต้องการและขอ Say it again./Read and draw./Put
และการขอความ ความช่วยเหลือได้ a/an ....in/on/under
ช่วยเหลือ 3. อ่านและเขียน a/an.../Don’t go over there. 10

 การตอบรับ ตอบรับและปฏิเสธ ประโยคค าขอร้อง
และปฏิเสธการ การให้ความช่วยเหลือ Please look up the meaning in a
ให้ความ ได้ dictionary. Please take a

ช่วยเหลือ 4. อ่านและเขียน queue./Can/Could you help me. 10
 การแสดง แสดงความรู้สึกและ ประโยคขอความช่วยเหลือตอบรับ
ความรู้สึกและ ความคิดเห็น และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
ความคิดเห็น พร้อมทั้งให้เหตุผล Please ..../...... please. / I’d
ประกอบได้อย่าง like..../ I need.....

เหมาะสม May/Can/Could...? Yes...?
Please do. /

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

ประโยคตอบรับและปฏิเสธให้ความ 10
ช่วยเหลือ
Certainly./ Yes of course./ Sure./ 10
Go right ahead./ Need some

help?/ What can I do to help?/
Would you like any help?/ I’m
afraid.../ I’m sorry, but...../ Sorry,

but......etc
ประโยคแสดงความรู้สึกและความ
คิดเห็น
Nice./ Very nice./ Well done./

Congratulation on..../
I like.....because.../ I
love...../because......
I feel....because..../ I think..../

I believe...../ I agree/disagree.....
I’m afraid I don’t like.../
I don’t believe....../I have no
idea...../

ค าอธิบาย ปฏิบัติตามค าอธิบาย Oh no! etc. 10
ง่าย ๆ ได้ ค าอธิบาย เช่น การท าอาหารและ
เครื่องดื่ม การประดิษฐ์ การใช้ยา/

สลากยา บอกทิศทาง การใช้อุปกรณ์
 Passive Voice ที่ใช้ใน
โครงสร้างประโยคง่าย เช่น is/are
+ Participle
 ค าสันธาน(Conjunction)

and / but/ for/ before/ after
etc.
 ตัวเชื่อม(connective words)

เช่น First..../ Second...../
Third..../Fourth..../
Finally..... etc.

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3 การแสดง อ่านและเขียนแสดง ภาษาที่ใช้ในการแสดงความรู้สึก 10
ความรู้สึกชอบ ความรู้สึกและความ ความคิดเห็นและให้เหตุผลประกอบ
และไม่ชอบ คิดเห็นของตนเอง เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี
(Like and เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ความสุข เศร้า หิว รสชาติ

Dislike) ใกล้ตัว กิจกรรมต่าง สวย น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี จาก
ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล ข่าว เหตุการณ์ สถานการณ์ ใน
สั้น ๆ ประกอบอย่าง ชีวิตประจ าวัน เช่น

เหมาะสมได้ Nice./ /Very nice./ Well done./
Congratulations.
I like.....because.../ I
love...../because....../

I feel....because..../ I think..../
I believe...../ I agree/disagree.....
I don’t believe....../I have no
idea...../

Oh no! etc.
4 หัวข้อเรื่อง 1. ระบุหัวข้อเรื่อง บทสนทนา นิทาน เรื่องสั้นและเรื่อง 15
่
(Topic) (Topic) จากการอาน จากสื่อประเภทต่าง ๆ เช่น
และใจความ บทสนทนา นิทาน หนังสือพิมพ์ วารสาร วิทยุ

ส าคัญ(Main และเรื่องสั้น โทรทัศน์ เว็บไซต์
Idea)ของบท 2. สรุปใจความส าคัญ การจับใจความส าคัญ เช่น หัวข้อเรื่อง
สนทนา นิทาน (Main Idea)จากการ ใจความส าคัญ รายละเอียดสนับสนุน

และเรื่องสั้น อ่านบทสนทนา ค าถามเกี่ยวกับใคร ความส าคัญของ
นิทานและ เรื่อง เช่น ใคร ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร
เรื่องสั้นได้ อย่างไร ท าไม ใช่หรือไม่
3. ตอบค าถามจาก
การอ่านบทสนทนา

นิทานและ
เรื่องสั้นได้

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
 Yes/No Question
 Wh-Question
 Or-Question

Etc.
Tenses : present

simple/present continuous/

Past simple/future simple
etc.
Simple sentence/
Compound sentence

วิชำคณิตศำสตร์


เป้ำหมำยกำรเรียนรู้

1. วิเคราะห์ความคิด กระบวนการและเหตุผลคณิตศาสตร์เพอน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน
ื่
2. เห็นความสัมพันธ์ของการคิด กระบวนการและเหตุผลอย่างเป็นระบบ ระเบียบ
3. ปฏิบัติการคิด กระบวนการและเหตุผลคณิตศาสตร์ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง


มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
คณิตศำสตร์
มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับจ านวนเต็ม 1. ระบุหรือยกตัวอย่างเกี่ยวกับจ านวนเต็ม เศษส่วน
ั
เศษส่วนและทศนิยม เลขยกก าลัง และทศนิยม เลขยกก าลัง อตราส่วน สัดส่วนและ
อัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ การวัด ร้อยละ การวัด การหาปริมาตรและพื้นที่ผิว คู่อันดับ
ปริมาตรและ พื้นที่ผิว คู่อันดับและกราฟ และกราฟความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติ
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติและ และเรขาคณิตสามมิติ สถิติและความน่าจะเป็น

เรขาคณิต สามมิติ สถิติและความน่าจะเป็น 2. สามารถคิดค านวณและแก้โจทย์ปัญหาที่ใช้ใน
ชีวิตประจ าวัน
3. มีความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง
คณิตศาสตร์กับงานอาชีพได้ สามารถวิเคราะห์งาน

อาชีพในสังคมที่ใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์ได้

ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำคณิตศำสตร์



มำตรฐำนที่ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต

2.2 พค21001 คณิตศาสตร์ 4

ค ำอธิบำยรำยวิชำ พค21001 คณิตศำสตร์ จ ำนวน 4 หน่วยกิต

ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี
มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับจ านวนและการด าเนินการ เศษส่วนและทศนิยม
ั
เลขยกก าลัง อตราส่วนสัดส่วน และร้อยละ การวัด ปริมาตรและพนที่ผิว คู่อนดับและกราฟ
ื้
ั
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติและเรขาคณิตสามมิติ สถิติและความน่าจะเป็น

ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
จ ำนวนและกำรด ำเนินกำร จ านวนเต็มบวก จ านวนเต็มลบ และศูนย์ การเปรียบเทียบ
จ านวนเต็ม การบวก ลบ คูณและหารจ านวนเต็ม สมบัติของจ านวนเต็มและการน าไปใช้

เศษส่วนและทศนิยม ความหมายของเศษส่วนและทศนิยม การเขียนเศษส่วนและทศนิยม
และเขียนทศนิยมซ้ าเป็นเศษส่วน การเปรียบเทียบเศษส่วนและทศนิยม การบวก ลบ คูณ หาร
เศษส่วนและทศนิยม โจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์เกี่ยวกับเศษส่วนและทศนิยม

เลขยกก ำลัง ความหมายของเลขยกก าลัง การเขียนแสดงจ านวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
การคูณ และการหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกัน และเลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็ม
อัตรำส่วน สัดส่วน และร้อยละ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ
ื้
ั
กำรวด หน่วยความยาว พนที่ การหาพนที่ของรูปเรขาคณิต การแก้ปัญหา หรือสถานการณ์
ื้
ในชีวิตประจ าวัน โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่และการคาดคะเน
ื้
ปริมำตรและพื้นที่ผิว การหาพนที่ผิว และปริมาตรของปริซึมทรงกระบอก การหาปริมาตร
ของพระมิด กรวย และทรงกลม การเปรียบเทียบหน่วยปริมาตร การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ
ี
พื้นที่ผิวและปริมาตร

คู่อันดับและกรำฟ คู่อันดับและกราฟ การน าไปใช้
ควำมสัมพันธ์ของรูปเรขำคณิตสองมติและสำมมิติ ภาพของรูปเรขาคณิตสองมิติที่เกิดจาก
ิ
การคลี่รูปเรขาคณิตสามมิติ ภาพที่ได้จากการมองทางด้านหน้า ด้านข้างหรือด้านบนของ
รูปเรขาคณิต สามมิติ การวาดหรือประดิษฐ์รูปเรขาคณิตที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์

สถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การน าเสนอข้อมูล การหาค่ากลางของข้อมูล การเลือกใช้
ค่ากลางของข้อมูล การอ่าน การแปลความหมายและการวิเคราะห์ข้อมูล การใช้ข้อมูลสารสนเทศ
ควำมน่ำจะเป็น การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ การหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์

และการน าไปใช้
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
จัดประสบการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตประจ าวันให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า
ั
ื่
โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพอพฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดค านวณ
การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และน าประสบการณ์ด้านความรู้
ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ ในชีวิตประจ าวัน
อย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่า และมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถท างานอย่างเป็นระบบ
ระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชื่อมั่นในตนเอง

กำรวัดและประเมินผล
ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะ

ที่ต้องการวัด

รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำคณิตศำสตร์
ิ
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พค21001 คณิตศำสตร์ จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

1 จ านวนและ 1. ระบุหรือยกตัวอย่างจ านวนเต็มบวก 1. จ านวนเต็มบวก 3
การด าเนินการ จ านวนเต็มลบ และศูนย์ได้ จ านวนเต็มลบ และศูนย์
2. เปรียบเทียบจ านวนเต็มได้ 2. การเปรียบเทียบจ านวนเต็ม 3
3. บวก ลบ คูณ หาร จ านวนเต็ม 3. การบวก ลบ คูณ และหาร 13

และอธิบายผลที่เกิดขึ้นได้ จ านวนเต็ม
4. บอกสมบัติของจ านวนเต็ม 4. สมบัติของจ านวนเต็มและ 6
และน าความรู้เกี่ยวกับสมบัติของ การน าไปใช้

จ านวนเต็มไปใช้ได้
2 เศษส่วนและ 1. บอกความหมายของเศษส่วน 1. ความหมายของเศษส่วน 1
ทศนิยม และทศนิยมได้ และทศนิยม
2. เขียนเศษส่วนในรูปทศนิยมและ 2. การเขียนเศษส่วนด้วย 2

เขียนทศนิยมซ้ าในรูปเศษส่วนได้ ทศนิยม และการเขียน
ทศนิยมซ้ าเป็นเศษส่วน
3. เปรียบเทียบเศษส่วนและทศนิยมได้ 3. การเปรียบเทียบเศษส่วน 2
และทศนิยม

4. บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนและ 4. การบวก ลบ คูณ หาร 6
ทศนิยมได้ และอธิบายผลที่เกิดขึ้นได้ เศษส่วนและทศนิยม
5. น าความรู้เกี่ยวกับเศษส่วนและ 5. โจทย์ปัญหาหรือ 6
ทศนิยมไปใช้แก้โจทย์ปัญหา รวมทั้ง สถานการณ์เกี่ยวกับ

สถานการณ์เกี่ยวกับความน่าจะเป็นได้ เศษส่วนและทศนิยม
3 เลขยกก าลัง 1. บอกและเขียนเลขยกก าลังที่มีเลข 1. ความหมายของเลขยก 2
ชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มแทนจ านวน ก าลัง

ที่ก าหนดให้ได้
2. บอกและน าเลขยกก าลังมาใช้ 2. การเขียนแสดงจ านวนใน 4
ในการเขียนแสดงจ านวน รูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์
ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้
3. คูณและหารของเลขยกก าลังที่มี 3. การคูณและการหาร 7

ฐานเดียวกัน และเลขชี้ก าลัง เลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกัน
เป็นจ านวนเต็มได้ และเลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็ม
4 อัตราส่วนและ 1. ก าหนดอัตราส่วนได้ 1. อัตราส่วน 5

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

ร้อยละ 2. ค านวณสัดส่วนได้ 2. สัดส่วน 3
3. หาค่าของร้อยละได้ 3. ร้อยละ 5
4. แก้โจทย์ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ 4. การแก้โจทย์ปัญหา 7
เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน

และร้อยละได้ และร้อยละ
5 การวัด 1. เปรียบเทียบหน่วยความยาวพื้นที่ใน 1. การเปรียบเทียบหน่วย 1
ระบบเดียวกันและต่างระบบได้ ความยาวพื้นที่

2. เลือกใช้หน่วยการวัดเกี่ยวกับ 2. การเลือกใช้หน่วยการวัด 1
ความยาวและพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม เกี่ยวกับความยาวและพื้นที่
3. หาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตได้ 3. การหาพื้นที่ของ 2
รูปเรขาคณิต

4. แก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ 4. การแก้โจทย์ปัญหา 4
สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจ าวันได้ เกี่ยวกับพื้นที่ในสถานการณ ์
ต่างๆ
5. อธิบายวิธีการคาดคะเน 5. การคาดคะเนเวลา 2

และน าวิธีการไปใช้ในการคาดคะเน ระยะทาง ขนาด น้ าหนัก
เวลา ระยะทาง ขนาด น้ าหนักได้
6 ปริมาตรและ 1. อธิบายลักษณะและสมบัติ 1. การหาพื้นที่ผิวและ 3
พื้นที่ผิว ของปริซึม พีระมิด ทรงกระบอก กรวย ปริมาตรของปรึซึม

ทรงกลม หาปริมาตรและพื้นที่ผิว ของ
ปริซึมได้
2. หาปริมาตรและพื้นที่ผิว 2. การหาปริมาตรและพื้นที่ 2

ของทรงกระบอกได้ ผิวของทรงกระบอก
3. หาปริมาตรของพีระมิด กรวย 3. การหาปริมาตรของพีระมิด 5
และทรงกลมได้ กรวยและทรงกลม
4. เปรียบเทียบหน่วย ความจุ 4. การเปรียบเทียบหน่วย 2

หรือหน่วยปริมาตรในระบบเดียวกัน ปริมาตร
หรือต่างระบบ และเลือกใช้
หน่วย การวัดเกี่ยวกับความจุหรือ
ปริมาตร ได้อย่างเหมาะสม

5. ใช้ความรู้เกี่ยวกับปริมาตรและพื้นที่ 5. การแก้โจทย์ปัญหา 2
ผิว แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้ เกี่ยวกับปริมาตรและ พื้นที่
6. ใช้การคาดคะเนเกี่ยวกับปริมาตร ผิว
และพื้นที่ผิวในสถานการณ์ต่างๆ 6. การคาดคะเนปริมาตร 2

ได้อย่างเหมาะสม และพื้นที่ผิว

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

7 คู่อันดับและ 1. อ่านและอธิบายความหมาย 1. คู่อันดับ 2
กราฟ คู่อันดับได้
2. อ่านและแปลความหมายกราฟ 2. กราฟ 3
ิ
บนระนาบพกัดฉากทก าหนดให้ได้
ี่
3. เขียนกราฟแสดงความเกี่ยวข้อง 3. การน าคู่อันดับและ กราฟ 3
ของปริมาณสองชุดที่ก าหนดให้ได้ ไปใช้
8 ความสัมพันธ์ 1. อธิบายลักษณะของรูปเรขาคณิต 1. ภาพของรูปเรขาคณิตสอง 4

ระหว่าง สามมิติจากภาพสองมิติที่ก าหนดให้ได้ มิติที่เกิดจากการคลี่ รูป
รูปเรขาคณิต เรขาคณิตสามมิติ
สองมิติและ 2. ระบุภาพสองมิติที่ได้จากการมอง 2. ภาพของมิติที่ได้จากการ 4
สามมิติ ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน ของ มองด้านหน้า ด้านข้าง หรือ

รูปเรขาคณิตสามมิติที่ก าหนดให้ได้ ด้านบนของรูปเรขาคณิตสาม
มิติ
3. วาดหรือประดิษฐ์รูปเรขาคณิต 3. การวาดหรือประดิษฐ์ รูป 2
ที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์ เรขาคณิตที่ประกอบขึ้นจาก

เมื่อก าหนดภาพสองมิติที่ได้ ลูกบาศก ์
จากการมองทางด้านหน้า ด้านข้าง
หรือด้านบนได้
9 สถิติ 1. เก็บรวบรวมข้อมูลที่เหมาะสมได้ 1. การรวบรวมข้อมูล 2

2. น าเสนอข้อมูลในรูปแบบ 2. การน าเสนอข้อมูล 5
ที่เหมาะสมได้

3.
3. การหาค่ากลางของข้อมูล การหาค่ากลาง 5
ที่ไม่แจกแจงความถี่ได้ ของข้อมูล
4. เลือกและใช้ค่ากลางของข้อมูล 4. การเลือกใช้ค่ากลาง ของ 2
ที่ก าหนดให้ได้อย่างเหมาะสม ข้อมูล
5. อ่าน แปลความหมาย และ 5. การอ่าน การแปล 2

้
้
วิเคราะห์ขอมูล จากการน าเสนอขอมูล ความหมายและ
ที่ก าหนดให้ได้ การวิเคราะห์ข้อมูล
6. อภิปรายและให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ 6. การใช้ข้อมูลสารสนเทศ 2
ข้อมูลข่าวสารทางสถิติที่สมเหตุสมผล

ได้
10 ความน่าจะ 1. อธิบายเกี่ยวกับการทดลองสุ่มและ 1. การทดลองสุ่ม และ 3
เป็น เหตุการณ์ได้ เหตุการณ์
2. หาค่าความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ 2. การหาความน่าจะเป็นของ 5

ได้ เหตุการณ์

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3. ใช้ความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็น 3. การน าความน่าจะเป็นของ 5
ในการคาดการณได้อย่าง เหตุการณ์ต่างๆ ไปใช้
์
สมเหตุสมผล

11 การใช้ทักษะ 1. สามารถวิเคราะห์งานอาชีพในสังคม 1. ลักษณะประเภทของงาน 2
กระบวนการ ที่ใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์ อาชีพที่ใช้ทักษะทาง
ทาง คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์ 2. มีความสามารถในการเชื่อมโยง 2. การน าความรู้ทาง 2

ในงานอาชีพ ความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์กับ คณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับ
งานอาชีพได้ งานอาชีพในสังคม

ค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน คณิตศำสตร์




รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
พค22002 ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจ ำนวนจริง 1
รวม 1

ค ำอธิบำยรำยวิชำ พค22002 ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจ ำนวนจริง
สำระควำมรู้พื้นฐำน (คณิตศำสตร์) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจ านวนและการด าเนินการ เศษส่วนและ
ทศนิยม เลขยกก าลัง อัตราส่วนสัดส่วน และร้อยละ การวัด ปริมาตร

และพื้นที่ผิว คู่อันดับและกราฟ ความสัมพนธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติ
ั
และเรขาคณิต สามมิติ สถิติและความน่าจะเป็น

ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้

จ านวนจริงที่เป็นจ านวนตรรกยะ อตรรกยะ และสามารถเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปทศนิยมซ้ า
และเขียนทศนิยมซ้ าให้อยู่ในรูปเศษส่วน พร้อมทั้งสามารถหาค่ารากที่สอง รากที่สามของจ านวนเต็ม
โดยการแยกตัวประกอบ และน าไปใช้แก้โจทย์ปัญหา


กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
จัดประสบการณ์ในชีวิตประจ าวันให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง
สรุปรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดค านวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ

ความหมายทางคณตศาสตร์และน าประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ใน
ิ
การเรียนรู้สิ่งต่างๆ และใช้ในชีวิตประจ าวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของค าตอบที่ได้ สามารถท างานอย่างเป็นระบบมี
ระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชื่อมั่นในตนเอง


กำรวัดและประเมินผล
ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงมีความสอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะที่
ต้องการวัดและประเมินผล เช่น การอภิปรายกลุ่ม การมีส่วนร่วมในการท ากิจกรรมการเรียนรู้ของ

ผู้เรียน ใบงาน การทดสอบย่อย และการน าเสนอผลงาน

รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน คณิตศำสตร์
ิ
ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พค 22002 ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจ ำนวนจริง
สำระควำมรู้พื้นฐำน (คณิตศำสตร์) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจ านวนและการด าเนินการ เศษส่วนและ

ทศนิยม เลขยกก าลัง อัตราส่วนสัดส่วน และร้อยละ การวัด ปริมาตร
และพื้นที่ผิว คู่อันดับและกราฟ ความสัมพนธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติ
ั
และเรขาคณิต สามมิติ สถิติและความน่าจะเป็น


จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 ความสัมพันธ์ของ 1. เขียนเศษส่วนให้อยู่ใน ความรู้เกี่ยวกับจ านวนจริง 4

จ านวนจริง กับ รูปทศนิยมซ้ า และ จ านวนตรรกยะ และ
จ านวนตรรกยะ เขียนทศนิยมซ้ าให้อยู่ จ านวนอตรรกยะ
และจ านวน ในรูปเศษส่วน
อตรรกยะ 2. บอกจ านวนจริงที่เป็น

ตรรกยะ และ
จ านวนอตรรกยะ

2 การหาค่ารากที่สอง หาค่ารากที่สอง และรากที่ 1. การหาค่ารากที่สอง 8

และรากที่สามของ สามของจ านวนเต็ม โดย 2. การหาค่ารากที่สาม 8
จ านวนเต็ม การแยกตัวประกอบ และ
น าไปใช้แก้โจทย์ปัญหา

วิชำวิทยำศำสตร์


เป้ำหมำยกำรเรียนรู้
1. เข้าใจกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม

สารเพื่อชีวิต แรงและพลังงานเพื่อชีวิต ดาราศาสตร์เพื่อชีวิต
2. มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสมในการด าเนินชีวิต
ู
3. มีความสามารถในการตัดสินใจอย่างถกต้อง ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ื่
เพอการด าเนินชีวิตประจ าวัน

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง


ิ
มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจและทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี


มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเห็นคุณค่า 1. ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

เกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทาง
เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ วิทยาศาสตร์ และท าโครงงานวิทยาศาสตร์ได้
ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น 2. อธิบายเกี่ยวกับเซลล์ กระบวนการด ารงชีวิต
และประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ ของพืช และระบบต่างๆ ของสัตว์
เปลี่ยนแปลงของโลกและดาราศาสตร์ มีจิต 3. อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต

วิทยาศาสตร์และน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ กับสิ่งแวดล้อม ในระบบนิเวศการถ่ายทอด
พลังงาน การใช้ ปัญหา การดูแลรักษาและ
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ของท้องถิ่นและประเทศ
4. อธิบายเกี่ยวกับโลกและบรรยากาศ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ การกระท าของมนุษย์
ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

ในปัจจุบัน การป้องกันภัยที่เกิดจากปรากฏการณ์
ธรรมชาติ
5. อธิบายเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพและ
ทางเคมีของสาร การจ าแนกสาร กรด เบส ธาตุ

สารประกอบ สารละลาย และของผสม และใช้
สารและผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจ าวันได้อย่าง
ถูกต้องและปลอดภัยต่อชีวิต
6. อธิบายเกี่ยวกับแรงและการใช้ประโยชน์

ของแรง
7. อธิบายเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า การต่อวงจร
ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ในชีวิตประจ าวัน แสงและ

สมบัติของแสง เลนส์ ประโยชน์และโทษจากแสง
การเปลี่ยนรูปพลังงาน พลังงานความร้อน และ
แหล่งก าเนิด การน าพลังงานไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจ าวัน และการอนุรักษ์พลังงานได้
8. อธิบายเกี่ยวกับดวงดาว และการใช้ประโยชน์

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวัง

9. อธิบาย ออกแบบ วางแผน ทดลอง ทดสอบ
ปฏิบัติการเรื่องไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง และ
ปลอดภัย คิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย
ของการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม แบบขนาน
แบบผสม ประยุกต์และเลือกใช้ความรู้ และทักษะ

อาชีพช่างไฟฟ้าให้เหมาะสมกับด้านบริหารจัดการ
และการบริการ เพอน าไปสู่การจัดท า
ื่
โครงงานวิทยาศาสตร์

ค ำอธิบำยรำยวิชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำวิทยำศำสตร์




มำตรฐำนที่ รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
2.2 พว21001 วิทยาศาสตร์ 4

ค ำอธิบำยรำยวิชำ พว21001 วิทยำศำสตร์ จ ำนวน 4 หน่วยกิต

ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ

มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถิ่นและประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการด าเนินชีวิต

ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
1. กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ และเทคโนโลย ี

ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโครงงานวิทยาศาสตร์
2. สิ่งมชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ี
ื
เซลล์ กระบวนการด ารงชีวิตของพชและสัตว์ ระบบนิเวศ โลก บรรยากาศ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. สำรเพื่อชีวิต
การจ าแนกสาร ธาตุและสารประกอบ สารละลาย กรด-เบส สารและผลิตภัณฑ์

ในชีวิต
4. แรงและพลังงำนเพื่อชีวิต
แรงและการใช้ประโยชน์ของแรง งานและพลังงาน
5. ดำรำศำสตร์เพื่อชีวิต

ดวงดาวกับชีวิต
6. วิทยำศำสตร์กับช่องทำงในกำรประกอบอำชีพ
ความรู้เกี่ยวกับช่างไฟฟ้า การบริหารจัดการและการบริการ โครงงานวิทยาศาสตร์สู่
อาชีพ ค าศัพท์ทางไฟฟ้า


เพอให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด และทักษะ มีความสามารถในการตัดสินใจ
ื่
น าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม

กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ให้ผู้เรียน ศึกษา ค้นคว้า ส ารวจ ตรวจสอบ ทดลอง จ าแนก อธิบาย อภิปราย

น าเสนอด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้ ด้วยการพบกลุ่ม การสอนเสริม การเรียนรู้ด้วยตนเอง
การรายงาน การศึกษา จากแหล่งเรียนรู้ ประสบการณ์ตรง โดยใช้สถานการณ์จริง ปรากฏการณ์
ธรรมชาติ และประสบการณ์จากผู้เรียน


กำรวัดและประเมินผล
ประเมินจากการสังเกต การอภิปราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏิบัติ รายงานการทดลอง
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การน าไปใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจ าวัน

ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำบังคับ สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำวิทยำศำสตร์
รำยละเอียด ค ำอธิบำยรำยวชำ พว21001 วิทยำศำสตร์ จ ำนวน 4 หน่วยกิต
ิ
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ระดับ

มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเห็นคุณค่าเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งมีชีวิต
ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในท้องถิ่นและประเทศ สาร แรง พลังงาน กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงของโลก และดาราศาสตร์ มีจิตวิทยาศาสตร์และน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการด าเนินชีวิต
จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ และ

เทคโนโลยี
1.1 กระบวนการ 1. อธิบายธรรมชาติและ 1. กระบวนการทาง 5
ทางวิทยาศาสตร์ ความส าคัญของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี และเทคโนโลยีได้ 1.1 ความหมายและ

ความส าคัญของวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
2. อธิบายกระบวนการทาง 1.2 กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ วิธีการทาง วิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์ ทักษะ 1.2.1วิธีการทาง
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 5 ขั้น
และเจตคติ ทางวิทยาศาสตร์ 1.2.2 ทักษะกระบวน
ได้ การทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ

3. น าความรู้ และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ 1.2.3 เจตคติทาง

4. เกิดเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ 6 ลักษณะ
วิทยาศาสตร์ 1.2.4 จิตวิทยาศาสตร์
2. เทคโนโลยี
5. มีจิตวิทยาศาสตร์ 2.1 ความหมาย และ
6. อธิบายความหมาย ความสัมพันธ์ของวิทยาศาสตร์และ

ความส าคัญ และความสัมพันธ์ เทคโนโลยีต่อชีวิตและสังคม
ของเทคโนโลยีต่อชีวิต 2.2 ความก้าวหน้าของ
เทคโนโลยีในปัจจุบัน

7. น าความรู้ และเลือกใช้ 2.3 เทคโนโลยีกับ
เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม การประกอบอาชีพ และ
การน าเทคโนโลยีไปใช้ในชีวิต

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3. วัสดุ และอุปกรณ์ทาง
วิทยาศาสตร์
8. เลือกใช้วัสดุ และอุปกรณ์ 3.1 ประเภทของวัสดุและ
ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่าง อุปกรณ์

ถูกต้องและเหมาะสม 3.2 วิธีใช้วัสดุ และอุปกรณ์
1. โครงงานวิทยาศาสตร์
1.2 โครงงาน 1.1 ประเภทของโครงงาน 5

วิทยาศาสตร์ 1. อธิบายประเภท เลือก 1.2 การเลือกหัวข้อโครงงาน
หัวข้อ วางแผน วิธีท า 1.3 การวางแผนการ
น าเสนอและประโยชน์ของ กระท าโครงงาน
โครงงานได้

2. วางแผนการท าโครงงานได้ 1.4 การน าเสนอโครงงาน
3. ท าโครงงานวิทยาศาสตร์
กลุ่มได้
4. อธิบายและบอกแนว 1.5 ประโยชน์ของโครงงาน

ในการน าผลจากโครงงาน เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ไปใช้ได้
5. น าความรู้เกี่ยวกับ
วิทยาศาสตร์ กระบวนการ

ทางวิทยาศาสตร์และโครงงาน
ไปใช้ได้
2 สิ่งมีชีวิตและ

สิ่งแวดล้อม
2.1 เซลล์ 1. อธิบายลักษณะ โครงสร้าง 1. ลักษณะ รูปร่างของเซลล์พืช 10
องค์ประกอบ และหน้าที่ และเซลล์สัตว์
ของเซลล์ได้ 1.1 สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
1.2 สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์

2. เปรียบเทียบความ 2. องค์ประกอบโครงสร้าง
แตกต่างระหว่างเซลล์พืชและ และหน้าที่ของเซลล์พืช
เซลล์สัตว์ได้ และเซลล์สัตว์

3. กระบวนการที่สารผ่านเซลล์
3.1 การแพร่
3.2 การออสโมซิส
2.2 กระบวนการ 1. อธิบายกระบวนการแพร่ 1. การด ารงชีวิตของพืช 20

ด ารงชีวิตของพืช และออสโมซิสได ้ 1.1 ระบบการล าเลียงน้ า
และสัตว์ อาหาร และแร่ธาตุของพืช

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

2. อธิบายโครงสร้างและ 1.2 โครงสร้างและ
การท างานของระบบล าเลียง การท างานของระบบล าเลียงน้ า
ในพืชได้ ในพืช
1.3 โครงสร้างและ

การท างานของระบบล าเลียง
อาหารในพืช


3. อธิบายความส าคัญและ 1.4 กระบวนการสังเคราะห์
ปัจจัยที่จ าเป็นส าหรับ ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ 1.4.1 ความส าคัญ
ด้วยแสงได้ ของกระบวนการสังเคราะห์ด้วย

แสง
1.4.2 ปัจจัยที่จ าเป็น
ส าหรับกระบวนการสังเคราะห์
ด้วยแสง

ั
4. อธิบายโครงสร้างและ 1.5 ระบบสืบพนธุ์ในพืช
การท างานของระบบสืบพันธุ์ 1.5.1 โครงสร้างและ
ในพืชในท้องถิ่นได้ การท างานของระบบสืบพันธุ์ของ
พืชไร้ดอก

1.5.2 โครงสร้างและ
การท างานของระบบสืบพันธุ์ของ
พืชมีดอก

5. อธิบายการท างานของ 2. การด ารงชีวิตของสัตว์
ระบบต่างๆ ในสัตว์ได้ 2.1 โครงสร้างและ
การท างานของระบบต่างๆ ของ
สัตว์
2.1.1 ระบบหายใจ

2.1.2 ระบบย่อยอาหาร
2.1.3 ระบบขับถ่าย
2.1.4 ระบบสืบพันธ์

ฯลฯ
2.3 ระบบนิเวศ 1. อธิบายเกี่ยวกับ 1. ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต 10
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ต่างๆ ในระบบนิเวศ
ต่างๆในระบบนิเวศ ใน 2. การถ่ายทอดพลังงาน

ท้องถิ่นและการถ่ายทอด 3. สายใยอาหาร
พลังงานได้ 4. วัฏจักรของน้ า

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

2. อธิบายและเขียนแผนภูมิ 5. วัฏจักรคาร์บอน
แสดงสายใยอาหาร
ของระบบนิเวศต่างๆ
ในท้องถิ่นได้

3. อธิบายวัฏจักรของน้ า
และคาร์บอนได้
2.4 โลก 1. บอกส่วนประกอบและ 1.โลก 20

บรรยากาศ วิธีการ 1.1โลก ส่วนประกอบและ
ปรากฏการณ์ แบ่งชั้นของโลกได้ การแบ่งชั้นของโลก

ทางธรรมชาติ 1.2 ทรัพยากรธรณี
สิ่งแวดล้อมและ ในท้องถิ่น และประเทศ

ทรัพยากรธรรมชาติ 1.3 การเปลี่ยนแปลง
ของเปลือกโลก
1.3.1 กระบวนการยก
ตัว และการยุบตัว

1.3.2 การผุพังอยู่กับที่
1.3.3 การกร่อน
1.3.4 การพัดพา
1.3.5 การทับถม

1.3.6 กรณีศึกษาภัย
จากการเปลี่ยนแปลง
ของเปลือกโลก เช่นแผ่นดินไหว

การเกิดปรากฏการณ์สึนามิ
2. อธิบายการเปลี่ยนแปลง 2. บรรยากาศ
ของเปลือกโลก 2.1 ชั้นบรรยากาศ
โดยกระบวนการต่างๆ ได้ องค์ประกอบและ
การแบ่งชั้นบรรยากาศ

2.2 อุณหภูมิ ความชื้น และ
ความกดอากาศในท้องถิ่น


2.3 ความสัมพันธ์
ของอุณหภูมิ ความชื้น
และความกดอากาศ
ที่มีผลกระทบต่อชีวิต

ความเป็นอยู่

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3.
3. บอกองค์ประกอบและ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
การแบ่งชั้นบรรยากาศได้ 3.1 ชนิดของลม
3.1.1 ลมมรสุม
3.1.2 ลมพายุหมุน

เขตร้อน ฯลฯ
3.1.3 กรณีศกษา
ึ
การเกิดพายุนากีส พายุงวงช้าง

พายุนาคเล่นน้ า ฯลฯ
3.2 อทธิพลของลม
ิ
ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
3.3 การป้องกันภัยที่เกิดจาก

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

3.4 ความส าคัญและ
ประโยชน์ของการพยากรณ์

อากาศ
4. บอกความหมายและ 4. ทรัพยากรธรรมชาติ
ความส าคัญของอุณหภูมิ และสิ่งแวดล้อม
ความชื้นและความกดอากาศ 4.1 การใช้และปัญหา

ได้ เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของ
ท้องถิ่นและประเทศ
4.2 การดูแลรักษา

ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น
4.2.1 ขยะ
4.2.2 น้ าเสีย
4.2.3 ดินถล่ม
4.2.4 การกัดเซาะ

ชายฝั่ง
ฯลฯ
4.3 สภาพสิ่งแวดล้อม

ในท้องถิ่น และประเทศ
4.4 ปัญหาและการแก้ไข
สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น
และประเทศ

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

4.5 การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
อย่างยั่งยืน
4.6 สภาวะโลกร้อน สาเหตุ

5. อธิบายความสัมพันธ์ และผลกระทบ การป้องกัน และ
ของอุณหภูมิ ความชื้น การแกไขปัญหาโลกร้อน
้
และความกดอากาศต่อชีวิต

ความเป็นอยู่ได้

6. บอกชนิดของลมได้
7. อธิบายอิทธิพลของลม

ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้
8. บอกวิธีการป้องกันภัย
ที่เกิดจากปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติได้

9. บอกประโยชน์
ของการพยากรณ์อากาศได้
10. อธิบาย เกี่ยวกับ
สภาพ ปัญหา การใช้และ

การแกไขสิ่งแวดล้อม และ
้
ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น
และประเทศ

11. อธิบาย สรุปแนวคิด
ในการรักษาสมดุลของ
ระบบนิเวศ การอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมและการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติ

อย่างยั่งยืนได้
3 สารเพื่อชีวิต
3.1 สารและ 1. อธิบายสมบัติทางกายภาพ 1.สมบัติของสาร 10

การจ าแนกสาร และสมบัติทางเคมีได้ 1.1สมบัติทางกายภาพ
2. อธิบายความแตกต่าง และ ของสาร
ี
จ าแนกธาตุ สารประกอบ 1.2สมบัติทางเคมของสาร
สารละลาย และสารผสมได้ 2. เกณฑ์ในการจ าแนกสาร

3. จ าแนกสารโดยใช้เนื้อสาร 2.1 ใช้สถานะ
และสถานะเป็นเกณฑได้ 2.2 ใช้เนื้อสาร
์

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3. สมบัติของธาตุ สารประกอบ
สารละลาย สารผสม
3.2 ธาตุและ 1. อธิบายและจ าแนกธาตุ 1. ความหมายและสมบัติ 10

สารประกอบ สารประกอบ โลหะ อโลหะ ของธาตุกัมมันตรังสี
และโลหะกึ่งอโลหะได้ 2. สมบัติของโลหะ อโลหะ และ
2. บอกผลกระทบที่เกิด โลหะกึ่งอโลหะ
จากธาตุกัมมันตรังสีได้ 3. ธาตุกัมมันตรังสี

3. อธิบายการเกิด 4. สารประกอบ
สารประกอบได้ 4.1 ความหมาย
4. บอกธาตุและสารประกอบ 4.2 การเกิดสารประกอบ
ที่ใช้ในชีวิตประจ าวันได้ 4.3 ธาตุและสาร

ในชีวิตประจ าวัน
3.3 สารละลาย 1. อธิบายสมบัติและ 1. สารละลาย 10
องค์ประกอบของสารละลาย 1.1 สมบัติของสารละลาย

ได้ และองค์ประกอบ
ขอ
2. อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อ งสารละลาย
การละลายของสารได้ 1.2 ความสามารถ
3. หาความเข้มข้น ในการละลายของสาร
ของสารละลายได้ 1.3 ปัจจัยที่มีผลต่อ

4. อธิบายและเตรียม การละลายของสาร
สารละลายบางชนิดได้ 1.4 ความเข้มข้น
5. อธิบายและจ าแนก กรด- ของสารละลาย

เบส และเกลือได้ 1.5 การเตรียมสารละลาย
6. อธิบายและตรวจสอบ 2. กรด-เบส
ความเป็นกรด-เบส ของสารได้ 2.1 ความหมายและสมบัติ
7. อธิบายการใช้กรด-เบส ของกรด-เบส และเกลือได้

บางชนิดในชีวิตได้ 2.2 ความเป็นกรด-เบส
ของสาร
2.3 กรด – เบส ของสาร
ในชีวิตประจ าวัน

2.4 กรณีศึกษากรด-เบส
ุ
ที่มีผลต่อคณสมบัติของดิน
3.4 สารและ 1. อธิบายสาระและ 1. สาร 10
ผลิตภัณฑ์ในชีวิต สารสังเคราะห์ได้ 1.1 สารอาหาร

2. อธิบายการใช้สารและ 1.2 สารปรุงแต่ง
ผลิตภัณฑ์ของสารบางชนิด 1.3 สารปนเปื้อน

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

ในชีวิตประจ าวันและ 1.4 สารเจือปน
เลือกใช้ได้ 1.5 สารพิษ
3. อธิบายผลกระทบที่เกิด 2. สารสังเคราะห์
จากการใช้สาร และผลิตภัณฑ์ 2.1 ประเภท และการเกด
ิ
ที่มีต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม 2.2 สมบัติและประโยชน์
3. สารและผลิตภัณฑ์
ที่ใช้ในชีวิต

4. การเลือกใช้สารในชีวิต
5. ผลกระทบที่เกิดจาก
การใช้สารต่อชีวิตและ
สิ่งแวดล้อม

4 แรงและพลังงาน
เพื่อชีวิต
4.1 แรงและการใช้ 1. ระบุประเภทและ 1. แรง 20
ประโยชน์ ความหมายของแรงประเภท 1.1 ความหมายและ

ต่างๆ ได้ หน่วยของแรง
1.2 ผลการกระท าของแรง
2. อธิบายการกระท าของแรง 2.โมเมนต์
และโมเมนต์ของแรงได้ 2.1 ความหมายและ

3. บอก ระบุประโยชน์ของ ชนิดของโมเมนต์
แรงในชีวิตประจ าวันได้ 2.2 การหาค่าโมเมนต์
4. การหาค่าผลจากการ 2.3 การใช้โมเมนต์

กระทบของแรง และโมเมนต์ ในชีวิตประจ าวันได้
ได้
5. ให้ความรู้ในเรื่องโมเมนต์
ในชีวิตประจ าวันได้

4.2 งานและ 1. อธิบายความหมายของงาน 1. ความหมายของงานและ 10-20
พลังงาน และพลังงานในรูปแบบ พลังงาน
ต่างๆ ได้ 2. รูปของพลังงาน
2. การต่อวงจรไฟฟ้า 3.ไฟฟ้า

อย่างง่ายได้ 3.1 พลังงานไฟฟ้า
3. ใช้กฎของโอห์ม 3.2 กฎของโอห์ม
ในการค านวณได้ 3.3 การต่อความต้านทาน
แบบต่างๆ

3.4 การหาค่าความต้านทาน
3.5 ไฟฟ้าในชีวิตประจ าวัน

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

3.6 การอนุรักษ์พลังงาน
ไฟฟ้า
4. บอกวิธีการอนุรักษ์และ 4. แสง
ประหยัดพลังงานได้ 4.1 แสง และสมบัติของแสง

5. อธิบายสมบัติของแสง 4.2 เลนส์
พลังงานความร้อน และ 4.3 ประโยชน์ และโทษ
น าประโยชน์ไปใช้ ของแสง

ในชีวิตประจ าวันได้ 5. พลังงานความร้อน และ
แหล่งก าเนิด
5.1 พลังงานความร้อน และ
แหล่งก าเนิด


5.2 อุณหภูมิ และการวัด
การขยายตัวของวัตถุ
5.3 การน าไปใช้ประโยชน์

5.4 พลังงานทดแทนและ
การใช้ประโยชน์ เช่น
6.อธิบายพลังงานทดแทน เอททานอล ไบ โอดีเซล
และเลือกใช้ได้ พลังงานนิวเคลียร์

ฯลฯ

5 ดาราศาสตร์เพื่อ

ชีวิต 1. ระบุชื่อของกลุ่มจักราศีได้ 1. กลุ่มดาวจักราศี 10
ดวงดาวกับชีวิต 2. การสังเกตต าแหน่ง
ของดาวฤกษ์
2. อธิบายวิธีการหาดาวเหนือ 3. วิธีการหาดาวเหนือ
ได้ 4. แผนที่ดาว

3. อธิบายการใช้แผนที่ดาวได้ 5. การใช้ประโยชน์
4. อธิบายประโยชน์ จากกลุ่มดาวฤกษ ์
จากกลุ่มดาวฤกษ์

ต่อการด ารงชีวิตประจ าวันได้

6 วิทยาศาสตร์กับช่อง อธิบาย การออกแบบ วางแผน 1. ประเภทของไฟฟ้า 10
ทางในการประกอบ ทดลอง ทดสอบ ปฏิบัติการ 2. วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือช่าง

อาชีพ เรื่องไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง ไฟฟ้า
(หมายเหตุ : บูรณา และ 3. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ใน

จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)

การใช้เวลาการ ปลอดภัย คิด วิเคราะห์ วงจรไฟฟา
้
เรียน เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของ 4. การต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
การสอนใน การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม 5. กฎของโอห์ม
มาตรฐานการ แบบขนาน แบบผสม 6. การเดินสายไฟฟ้าอย่างง่าย

เรียนรู้ ประยุกต์ 7. การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง
เรื่อง แรงและ และเลือกใช้ความรู้ และทักษะ ง่าย
พลังงานเพื่อชีวิต อาชีพช่างไฟฟ้า ให้เหมาะสม 8. ความปลอดภัยและอุบัติเหตุ

ใน กับด้านบริหารจัดการและการ จากอาชีพช่างไฟฟ้า
หัวข้อ พลังงาน บริการ 9. การบริหารจัดการและการ
ไฟฟ้า 10 ชั่งโมง) บริการ
10. โครงงานวิทยาศาสตร์สู่

อาชีพ
11. ค าศัพท์ทางไฟฟา
้

ค ำอธิบำยรำยวิชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำวิทยำศำสตร์




รหัสรำยวิชำ รำยวิชำ หน่วยกิต
พว02010 การเลือกซื้อและการเลือกใช้สารเคมีและผลิตภัณฑ ์ 1
รวม 1

ค ำอธิบำยรำยวิชำ พว02010 กำรเลือกและกำรเลือกใช้สำรเคมีและผลิตภัณฑ์
สำระควำมรู้พื้นฐำน(วิทยำศำสตร์) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น

จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)

ั
มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจและทกษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี


ศึกษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
ความส าคัญ การเลือกซื้อ เลือกใช้สารเคมี และผลิตภัณฑ์ทางเคมี แนวทางการใช้สารเคมี
และผลกระทบที่เกิดจากการใช้สารเคมี และผลิตภัณฑ์ทางเคม ี


กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้า ทดลอง จ าแนก อธิบาย อภิปราย น าเสนอด้วยการจัด
กระบวนการเรียนรู้โดยการพบกลุ่ม การเรียนรู้แบบทางไกล แบบชั้นเรียน ตามอธยาศัย การสอน
ั
เสริม การเรียนรู้ด้วยตนเอง การท ารายงาน การศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ประสบการณ์โดยตรง ใช้
สถานการณ์จริง ประสบการณ์การเรียน และการเรียนรู้ด้วยโครงงาน


กำรวัดและประเมินผล
การสังเกต การอภิปราย การสัมภาษณ์ ทักษะปฏิบัติ รายงานการทดลอง การมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมการเรียนรู้ ผลงาน การทดสอบ การประเมิน และการน าไปใช้ประโยชน์

ิ
รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำเลือก สำระควำมรู้พื้นฐำน วิชำวิทยำศำสตร์


รำยละเอียดค ำอธิบำยรำยวชำ พว02010 กำรเลือกและกำรเลือกใช้สำรเคมและผลิตภัณฑ์
ิ
ี
สำระควำมรู้พื้นฐำน(วิทยำศำสตร์) ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น
จ ำนวน 1 หน่วยกิต (40 ชั่วโมง)


มำตรฐำนที่ 2.2 มีความรู้ความเข้าใจและทกษะพื้นฐานเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
ั
เทคโนโลยี


จ ำนวน
ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหำ
(ชั่วโมง)
1 การเลือกและการ 1. อธิบายความส าคัญของ 1. ความส าคัญของสารเคม ี 40
ี
เลือกใช้สารเคมีและ สารเคมและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ ์
ผลิตภัณฑ์ ทางเคมีได้ 1.1 สิ่งมีชีวิต
2. 1.2 สิ่งแวดล้อม
ื้
3. อธิบายการเลือกซอ 2. หลักการเลือกซื้อ
สารเคมีและผลิตภัณฑ์ สารเคมีและผลิตภัณฑ์

ทางเคมีได้ 3. หลักการเลือกใช้สารเคม ี
4. อธิบายการเลือกใช้ และผลิตภัณฑ ์
สารเคมีและผลิตภัณฑ์ 4. การเลือกซื้อและการ
ทางเคมีได้ เลือกใช้ผงซักฟอก

ื้
5. อธิบายการเลือกซอและ 5. แนวการใช้สารเคมีและ
เลือกใช้สารเคมีและ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและ
ผลิตภัณฑ์ทางเคมีได้ เหมาะสม

6. อธิบายแนวทางการใช้ 6. ผลกระทบที่เกิดจากการ
สารเคมีและผลิตภัณฑ์ ใช้
ู
ทางเคมีที่ถกต้องและ
เหมาะสมได้

3. สำระกำรประกอบอำชีพ

เป้ำหมำยกำรเรียนรู้


กำรงำนอำชีพ
1. อธิบายความหมาย ความส าคัญ วิเคราะห์ลักษณะงาน ขอบข่ายการงาน
อาชีพในชุมชน ประเทศ และโลก เพื่อน าไปสู่การพัฒนาอาชีพ

2. อธิบายเหตุปัจจัยความจ าเป็นในการตัดสินใจพฒนาอาชีพที่เหมาะสม
ั
กับศักยภาพของตนเอง
3. จัดระบบความส าคัญในการตัดสินใจพัฒนาอาชีพ
4. ปฏิบัติการวิเคราะห์เพื่อการพัฒนาอาชีพ


ทักษะในอำชีพ
1. วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การตลาด การจัดการทุน ระบบการผลิต
และระบบการจัดการเพื่อพัฒนาอาชีพ

2. เห็นความสัมพันธ์ของการจัดระบบเตรียมความพร้อมกับการพัฒนาอาชีพ
3. ปฏิบัติการวิเคราะห์ทักษะในการพัฒนาอาชีพ

จัดกำรในอำชีพ

1. วิเคราะห์สภาวะแวดล้อมธุรกิจ จัดท าแผนพัฒนาธุรกิจ การจัดการขาย
การจัดการ การตลาด และการขับเคลื่อนพัฒนาธุรกิจ
2. เห็นความสัมพันธ์ระหว่างระบบการพัฒนาธุรกิจ กับการขับเคลื่อนธุรกิจ

ุ
ไปอย่างมีคณธรรม
3. ปฏิบัติการจัดท าแผนงานและโครงการพัฒนาธุรกิจถูกต้องตามขั้นตอน

พัฒนำอำชีพ

1. วิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจ การตลาด การผลิต/บริการ แผนธุรกิจ
เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง
2. จัดระบบการพัฒนาอาชีพสู่ความเข้มแข็ง
3. ปฏิบัติการท าแผนและโครงการพัฒนาอาชีพให้มีความเขมแขง
้
็