The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ แว่นดวงใจ (ฆราวาส)
โดย
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebook.luangta, 2021-09-08 03:07:46

หนังสือแว่นดวงใจ

หนังสือ แว่นดวงใจ (ฆราวาส)
โดย
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด)

๑๗

ไวน ัน้ ใหเหน็ วา มีกีช่ ้ินดวยกัน มีไมอะไร และชอ่ื วา อะไรบาง เรือ่ งของปญ ญาจึงเปน
ธรรมชาตคิ ลี่คลายดูสภาวธรรมซงึ่ เปนของมีอยใู นตวั ของเรา

อนึ่ง คาํ วา “สมาธิ” การทาํ ใจใหมีความสงบเยอื กเย็น ทานผฟู งทัง้ หลายคงจะ
เคยไดทราบแลววามหี ลายช้นั ขณกิ สมาธิ จิตท่รี วมลงเพยี งขณะเดยี วแลวถอนขน้ึ มา
เสยี อปุ จารสมาธิ คือสมาธทิ ่ีรวมสงบแลว ถอนออกมาเลก็ นอยแลว ออกรสู ิง่ ตาง ๆ ที่มา
สมั ผัสใจในขณะนนั้ จะเปน เรื่องสตั ว บุคคล หรือภูตผกี ็ตาม จดั เขา ในวงอปุ จารสมาธิน้ี
สวนอปั ปนาสมาธิ จติ ทห่ี ยัง่ ลงแลวมคี วามสงบอยางเตม็ ท่ี และรวมอยูไดเปนเวลานาน
ๆ คาํ วา “อัปปนาสมาธิ” นีม้ คี วามหมายกวา งขวางมาก จิตรวมอยูไดนานดวย มี
ความชํานชิ าํ นาญในการเขาออกของสมาธิดวย ตองการเวลาใดไดต ามความตอ งการ
ดว ย

แตเราผูบาํ เพ็ญในทางปญญานัน้ ไมจ ําเปน ตอ งถงึ ขัน้ อัปปนาสมาธแิ ลว จึงจะ
ตอ งพจิ ารณาทางปญ ญา เร่ืองของสมาธิ คอื ความสงบ จะสงบมากนอย พงึ ทราบวา เปน
บาทฐานแหงวปิ ส สนาคอื ปญญาเปนขนั้ ๆ ไป เพราะปญ ญามหี ลายขัน้ ขน้ั หยาบ ขนั้
กลาง ขั้นละเอียด สมาธใิ นขั้นหยาบก็เปนบาทฐานของวปิ สสนาข้นั หยาบได ข้ันกลาง
ข้ันละเอียดก็เปนบาทฐานของปญญาข้นั กลาง ขั้นละเอียดได และในขณะเดยี วกันพงึ
ทราบวา สมาธกิ บั ปญญาน้ันเปนธรรมคูเ คียงโดยจะแยกจากกันไมอ อก ควรใชป ญญาคู
เคียงกันไปกบั สมาธิตามโอกาสอนั ควร คือถา เราจะดาํ เนินในทางสมาธโิ ดยถายเดยี ว
ไมคํานงึ ถึงเร่อื งปญญาเลยแลว จะเปนเหตใุ หต ดิ สมาธิคือความสงบ

เมอ่ื จิตถอนออกมาจากสมาธิแลว ตอ งพจิ ารณาในทางปญ ญา เชนพจิ ารณาธาตุ
ขนั ธโ ดยทางไตรลกั ษณ วนั น้ีกพ็ ิจารณาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา วนั หนากพ็ ิจารณา
อนิจจงั ทุกขัง อนัตตา ไตรตรองอยเู ชนน้ที ุกวันทกุ คืนไป ไมตองสงสยั วาจะไมชํานาญ
ในทางปญญา ตอ งมคี วามคลอ งแคลวชาํ นาญเชนเดียวกนั กับทางสมาธิ ปญ ญาใน
เบอ้ื งตนตองอาศยั การบังคับใหพ ิจารณาอยูบาง ไมใชจติ เปน สมาธแิ ลวจะกลาย
เปน ปญ ญาขนึ้ มาทีเดียว ถา จิตเปนสมาธแิ ลว กลายเปนปญ ญาข้ึนมาเอง โดยผู
บําเพญ็ ไมตองสนใจมาพิจารณาทางดา นปญญาเลยแลว จิตกไ็ มมีโอกาสจะตดิ
สมาธิ ดงั ทเี่ คยปรากฏดาษดืน่ ในวงนักปฏิบัติ ความจริงเบื้องตนตองอาศยั มา
พจิ ารณา ปญญาจะมคี วามคลองแคลวและมีความสวางไสว ท้งั รเู ทาทนั กับสง่ิ ที่มาเกยี่ ว
ขอ งเปน ลําดบั จะเปน ไตรลกั ษณท หี่ ยาบกจ็ ะเหน็ ในทางปญญา

แวนดวงใจ กณั ฑเ์ ทศ-นท์ ๓่ี ๑๕๒๗-: ธรรมปา่

๑๘

คําวา ไตรลักษณอ ยางหยาบ อยา งกลาง และอยางละเอียดนั้น ข้ึนอยูก บั การ
พิจารณา เชนเราพจิ ารณาในสว นรางกายจดั วาเปน ไตรลกั ษณสว นหยาบ พจิ ารณาใน
เวทนา สัญญา สงั ขาร วญิ ญาณ จดั เปนไตรลักษณส วนกลาง พจิ ารณาเรอ่ื งจิตท่ีเปนราก
เหงา แหง วัฏฏะจริง ๆ แลว นั่นคือไตรลกั ษณสวนละเอยี ด เมื่อจิตไดกา วเขาสูไตร
ลกั ษณส วนหยาบ ไตรลักษณสว นกลาง ไตรลักษณสวนละเอยี ด จนผานพนไตรลักษณ
ทั้งสามนี้ไปแลว ธรรมชาตทิ ่ปี รากฏขึ้นในอันดบั ตอ ไปอยางไมมปี ญ หาใด ๆ นน้ั จะ
เรียกวา อัตตากต็ าม อนตั ตาก็ตาม ไมเ ปนไปตามความสมมุตนิ ิยมใด ๆ ทัง้ นนั้ เพราะ
อัตตากบั อนัตตาเปนเร่อื งของสมมุติ ซ่ึงโลกกม็ อี ยดู วยกัน ธรรมชาติอันนั้นไมใ ชส มมตุ ิ
โลกท้ังหลายจงึ เออื้ มถึงไดยาก เมือ่ มอี ัตตาและอนัตตาเปน เครื่องเคลอื บแฝงอยูในใจ

สมเด็จพระผมู ีพระภาคเจาไดท รงพจิ ารณาในสภาวะทัง้ หลาย โดยไตรลกั ษณ
สว นหยาบ สว นกลาง และสว นละเอียด จนเห็นประจักษแจม แจง พระทัยแลว กาลใด
กาลนน้ั พระองคจึงทรงเปลงพระอทุ านขึน้ วา เรียนจบไตรภพโดยสมบรู ณแลว จากนั้น
กท็ รงปลงพระทยั ท่ีจะสั่งสอนสัตวท ้ังหลาย มเี บญจวคั คียเปน ตน พรอ มกบั การประกาศ
พระองคว า เปนศาสดาของโลกได ถา พระองคยงั ไมผ านไตรลกั ษณ คือ อนิจจงั ทุกขัง
อนัตตา ทง้ั สวนหยาบ สว นกลาง และสว นละเอียดไปแลว พระองคจ ะเปน ศาสดาของ
โลกอยางเต็มท่ไี มไ ดเลย เราทง้ั หลายผมู งุ จะเปน ครสู อนตน เปนผูฝก ฝนทรมานตน เรา
กต็ อ งดําเนินไปตามแนวทางท่ีพระองคท รงพิจารณา และทรงรูเ ห็นไปโดยลาํ ดบั เชนนี้

คําวา ไตรลกั ษณ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาดว ย ไตรลกั ษณขั้นหยาบ ขนั้ กลาง
ขั้นละเอยี ดดวย พึงทราบวา มอี ยใู นกายในใจของเราทกุ ทาน ไมใ ชมีแตพ ระพุทธเจา
พระองคเ ดียวและพระสาวกของพระองคเทานั้น พึงทราบวาเราทั้งหลายเวลานก้ี ําลัง
เปนภาชนะทีส่ มบรู ณอ ยูแลวที่จะสามารถพจิ ารณา และรบั รองสภาวะทไี่ ดอธิบายมาน้ี
ใหเห็นแจม แจงขน้ึ ในใจ ซง่ึ เรยี กวา ธรรมในหลักธรรมชาติ เปน ของมอี ยตู ้งั แตว นั กา ว
เขาสปู ฏสิ นธวิ ญิ ญาณมาเปนลาํ ดบั จนถงึ วันนี้ องคสมเด็จพระผูมพี ระภาคเจาทาน
พจิ ารณาเหน็ สภาวธรรมทง้ั หลาย ไมไดไ ปคนหาท่ีไหน ธรรมท้ังหลายมอี ยูแลว อยาง
สมบรู ณ พระองคพจิ ารณาตามหลกั ธรรมชาติเหลาน้ีใหเ หน็ ชัดแจม แจง ตามหลกั แหง
ธรรมทัง้ หลายที่มอี ยูอยา งสมบูรณท ้ังภายนอกและภายใน จนหายสงสัยของพระทัยทกุ
อาการแลว จงึ ไดป ระกาศพระองคว า เปนผสู น้ิ แลวจากสังสารจักร คอื ความหมุนเวียน
เปล่ียนแปลง ไดแ กค วามเกิด แก เจ็บ ตายเหลา น้ี

แวนดวงใจ แว่นดวงใจ : ภ-าค๓๑๖๑๘-อบรมฆราวาส

๑๙

เราซ่งึ เปน พทุ ธบริษทั ของพระองคเจา ขอไดโปรดพิจารณาสภาวธรรมซงึ่ มอี ยู
ในตัว และเราอยาคดิ มากไปวา เราไมม ีศลี จะบาํ เพ็ญสมาธิใหเ ปนไปไมไ ด เราไมม ี
สมาธิจะบาํ เพญ็ ปญญาใหเปนไปไมไดด งั น้ี พงึ ทราบวา ศลี สมาธิ ปญญา เปน ธรรม
สมั พันธเกย่ี วเนือ่ งอยูกบั หัวใจของผูตงั้ ใจปฏิบตั ิดว ยกันทกุ ทา น ศลี หมายถึงปกติ
ความเปนปกตขิ องใจในปจจุบันนัน้ ปรากฏเปนศลี ขึน้ มาแลว ความสงบของใจในขณะที่
กาํ ลังภาวนาอยูนนั้ เรียกวา จติ เปน สมาธขิ ้นึ มาแลว การพิจารณาไตรตรองในหลักธรรม
ชาติ คือไตรลกั ษณท ี่มีอยทู วั่ สรรพางคร างกายและจติ ใจทั้งภายในและภายนอก จะเปน
เวลาใดก็ตาม พงึ ทราบวา ปญญาเรม่ิ ปรากฏขนึ้ มาภายในใจของเราแลว

เม่อื เราไดพ ยายามบําเพญ็ ในธรรมท้ังสามประเภท คือ ศลี สมาธิ ปญญา ใหม ี
การติดตอ กนั เปนลาํ ดับไป ศลี สมาธิ ปญญา จะเปนธรรมทมี่ ีกาํ ลงั กลา อาจปรากฏข้นึ
ภายในใจของเราท้งั สามประเภทพรอม ๆ กัน เราอยา เขา ใจวา เราเปน หญงิ หรอื ฆราวาส
แลวจะไมส ามารถบาํ เพ็ญสมณธรรม คือคุณงามความดี มมี รรค ผล นิพพานท่ีเรา
ตอ งการใหเ กิดข้นึ ในตวั ได ถา เราคดิ เชน นัน้ เปนความคดิ ผดิ จะเปนอปุ สรรคตอ ตนเอง
เพราะองคแหงอริยสจั ธรรมทง้ั สไี่ มไดน ยิ มวาน้คี ือผูหญงิ นน้ั คอื ผชู าย นน้ั ฆราวาส นนั้
คอื นักบวช พระ เณร เถร ชี แตมอี ยใู นสัตว สังขารบรรดาท่ีมีวิญญาณครองทว่ั ไป เมื่อ
ผใู ดมีปญญาพจิ ารณาอรยิ สจั ธรรมทัง้ สนี่ ี้ ผูนัน้ แลเปน ผกู ําลังกาวดําเนนิ ตามเสด็จพระ
องคทานเปนลําดบั อรยิ สจั ธรรมท้ังสนี่ ้ี คอื ทุกข สมทุ ยั นโิ รธ มรรค

คําวา “ทุกข” เปนชื่อแหง ธรรมชาตอิ ันหนงึ่ ซ่งึ เปนส่งิ ท่ีปรากฏอยูในกายและ
ในจิตของเรา ความไมสงบกายกด็ ี ความไมสงบใจก็ดี ทานเรยี กวา อรยิ สจั คือของจริง
อยางประเสรฐิ ของจริงทไ่ี มเ อนเอียงไปตามบคุ คลผูใด ใครจะตาํ หนิธรรมชาติน้ีวา ดกี ็
ตาม วา ช่ัวกต็ าม ธรรมชาตนิ ้กี ค็ อื ธรรมชาตนิ ้นี ้ันเอง ไมไดเปล่ยี นแปลงไปตามความ
ตําหนติ ชิ มของบคุ คลหรือสัตวใด ๆ ท้งั นัน้ ทานจึงเรียกวา ของจรงิ และมีอยูเ หมือน
เงาตามตัว แตเ งาจะปรากฏในทแี่ จง เทา นน้ั เขาสูที่มืดแลว เงาไมปรากฏ สวนอรยิ สัจ
ธรรมทง้ั สี่ มที กุ ขสัจเปน ตน เราจะอยใู นท่มี ดื กต็ าม อยใู นท่ีแจง ก็ตามจะปรากฏในกาย
ในใจของเราเสมอไป ไมวาเปน ทกุ ข หรอื เปนสขุ ฉะน้ันโปรดกําหนดพิจารณาใหท่ัวถึง
ตามที่อริยสัจปรากฏอยู

เรอื่ งการพิจารณากองทกุ ขน ี้ เราไมไ ดห มายจะเอาทกุ ขมาเปนสมบัตขิ องเรา แต
ถา เราไมพ จิ ารณาทุกข เรากไ็ มมอี ุบายปญ ญารรู อบคอบและหายสงสยั ในทกุ ข ก็จะเกิด
ความลมุ หลงนําทกุ ขมาพัวพนั ภายในใจวา เราท้งั อวยั วะนเี้ ปน ทุกข หรอื วาทกุ ขท งั้ หมด

แวน ดวงใจ กณั ฑ์เทศน- ท์ ๓่ี ๑๗๒๙-: ธรรมปา่

๒๐

น้ีเปนตัวของเราไปเสีย การที่เราพจิ ารณาทกุ ขใหเ หน็ ชดั ตามเปน จริงแลว เรากับทกุ ข
นั้นจะแยกกันออกได โดยไมตองคาดหมายใหเ ปน กังวล จะเห็นวาทกุ ขน นั้ เปนสวนหนึ่ง
จากเรา ในขณะเดยี วกนั เราผูรใู นสขุ กด็ ี ในทุกขก็ดี กจ็ ะเห็นวาเปน สภาพอันหนงึ่ จาก
เวทนาท้งั สามน้ัน

การพิจารณาทุกขโดยอุบายแยบคายและความรอบคอบอยางน้ี จงึ เปนทาง
ปลอ ยวางความกงั วลในทุกข หรือแยกความเปนทกุ ขนั้นออกจากตวั เราได โดยเหน็ วา
ทกุ ขน นั้ เปนของจริงอันหน่งึ ธรรมชาตทิ ี่รูทุกขคอื ใจนก้ี ็เปนของจรงิ อนั หน่ึง ไมสับสน
ปนกนั โดยถอื ทกุ ขน ้นั วาเปน เรา และถอื เราวา เปน ทุกข แมท ุกขจ ะปรากฏขนึ้ ทางกายก็
เห็นวา เปน สภาพอันหนึ่งจากความรู ไมใชเ รา ย่ิงพิจารณาเขา ไปภายใน คือทุกขทางใจ
กจ็ ะเห็นเชน เดียวกนั การพจิ ารณาทุกขท ง้ั นี้ เรียกวา ไดด าํ เนินมรรคไปในตัวแลว เพราะ
ถา ไมใชปญ ญาก็ไมม ีเครื่องมือเพอ่ื ดําเนนิ การไตรต รองหรือพจิ ารณาทกุ ขตั้งใจดูทุกข
กาํ หนดรทู ุกข ตั้งสติดูทุกข ลว นแลว แตเ ปนเรือ่ งของมรรค คอื ศีล สมาธิ ปญ ญาท้งั น้นั

คือการพจิ ารณาทุกขก ็เปน อริยสจั อนั หนึ่ง เมือ่ เหน็ เรื่องของทุกขแลว เปน เหตุให
คดิ ตอ ไปวา ทุกขนี้เกิดข้ึนเพราะอะไร เชน เราเสียใจในขณะท่ีประสบส่งิ ทีไ่ มน า ปรารถนา
โดยมีใครมาดาทอใหกระทบกระเทือนเราดว ยกริ ิยามารยาทอนั ไมส มควร เกิดความ
เสียใจขน้ึ มา เราพยายามพิจารณาหาตน เหตแุ หง ความเสยี ใจวา เกิดขึน้ มาเพราะเหตุใด
และจะมีทางแกไขความเสียใจดว ยวิธีใด ดงั นก้ี ็เรยี กวา เราพยายามจะถอนสมทุ ัยอยูใ น
ขณะเดียวกนั นัน้ แลว เมอ่ื เราทาํ การพจิ ารณาเร่อื ง ทุกข สมทุ ัย โดยมรรค คือสติกับ
ปญญาไปโดยทํานองนี้ ก็เปน การทําใหแ จงซ่งึ นโิ รธโดยลาํ ดับในขณะเดยี วกนั

อนึง่ โปรดทราบวาทกุ ขกบั สมทุ ัยมหี ลายขัน้ มรรคก็มหี ลายขั้น มอี ยางหยาบ
อยางกลาง อยา งละเอียด นิโรธกม็ ีหลายข้ันเชน เดียวกัน ทุกขสวนหยาบดบั ไป นโิ รธ
สว นหยาบไดเรมิ่ ปรากฏตวั ขึ้นมา ทกุ ขส ว นกลางดบั ไป นโิ รธสว นกลางไดปรากฏตัวข้นึ
มา ทกุ ขสวนละเอยี ดดับไป นิโรธไดปรากฏตัวขนึ้ มาอยางเต็มท่ี จึงควรทราบไวอ ยางนี้
ไมใชว า ทุกข สมทุ ัย นโิ รธ มรรค จะเปน ธรรมขัน้ เดยี ว แยกกนั ไดอ ยางน้ี เราพจิ ารณา
เบื้องตน ก็ตองเปนข้ันหยาบ ตอมากค็ อ ยเลือ่ นฐานะขนึ้ ไปขัน้ กลาง ขั้นละเอียด โดย
ความรอู ันเดียวเปน ผพู ิจารณา ความรูอันเดยี วเปน ผูวิพากษวจิ ารณ จนกลายเปน ความ
แยบคายโดยลําดบั และกลายเปน ความรคู วามฉลาดอนั ยอดเย่ยี มขนึ้ มาเปน ขน้ั ๆ จาก
ดวงใจอนั เดียวกัน

แวน ดวงใจ แว่นดวงใจ : ภ-า๓ค๒๘๑๐-อบรมฆราวาส

๒๑

พระพุทธเจา ผดู าํ เนนิ มากอนก็ทรงทําเชน น้ี รูส ึกวา พระองคเ ปน มาดว ยความ
ทกุ ขความลําบาก เปนมาดวยความอดทน เปน มาดว ยความขยนั หมั่นเพยี รและกลาเสีย
สละ แมช วี ิตก็ไมท รงเสียดาย เพ่อื ใหไดอรยิ สัจซึง่ เปนธรรมสายเอก ทรงพยายามเพอื่ รู
ชดั ในทุกขซ่งึ เปนความเดอื ดรอนในทุกขทง้ั มวล และพยายามร้อื ถอนสมุทยั อนั เปน ตวั
กอ ใหเ หตทุ ัง้ มวลเกดิ ข้นึ ดว ยมรรค คอื ศีล สมาธิ ปญญา เพือ่ ปรากฏผลคือ นโิ รธ
ความดับทกุ ขเปน ข้ัน ๆ จนไมมีอะไรเหลอื อยูภายในใจ แมอรยิ สจั สซ่ี ง่ึ เปนธรรมทเ่ี คย
เหน็ วา ลล้ี บั กป็ รากฏผลเปนธรรมเปดเผยตอ พระทยั ข้นึ มาจนได เพราะความพยายาม
เปน กญุ แจดอกสําคญั

ฉะนน้ั บรรดาเราทุกทา นผมู ุงตอ แดนพนทุกขต ามพระองค โปรดพจิ ารณาโดย
โอปนยโิ ก นอมอรยิ สจั ทง้ั สเ่ี ขามาสูกายสูใ จ ใหตรงตามหลักความจรงิ ซ่ึงเปนของมอี ยู
เชน เดียวกบั พระพทุ ธเจา ไมม อี ะไรบกพรอง และไมม ีสงิ่ ใดแปลกกนั แมแ ตนอย ปญญา
ทห่ี ย่งั ทราบในอริยสัจทั้งสกี่ เ็ กดิ จากใจดวงเดียว เราผูกําลังฟง เทศนอ ยใู นบัดน้ีจงึ ไมม ี
ความผิดแปลกอะไรจากคร้ังพทุ ธกาล และเปนปจจบุ ันกาลอยูเสมอ ภายในใจของผตู ัง้
ไวด ว ยดแี ลว ในคลองแหงธรรม และเปน ผูสามารถจะรบั รใู นสจั ธรรมทง้ั หลายซ่งึ เปน
ของมีอยใู นตวั เม่ือกาํ ลังปญญาสามารถแลว ยอมรอบรูท้งั ภายนอกและภายใน ตลอด
ดวงจติ ไมม ีอันใดเหลอื คําวารอบรูภ ายนอกน้ัน หมายถึง รปู เสยี ง กลิน่ รส เครอ่ื ง
สมั ผสั และปลอยวางได การพจิ ารณาภายใน คือ ยอนจิตเขามาสภู ายในกาย จนสามารถ
รูเทา กายทุกสวน เพราะอาํ นาจการพิจารณา จนถอนจากอปุ าทานความถือกายเสียได

สวนเวทนาจะเปนสุขก็ดี ทุกขก็ดี เฉย ๆ ก็ดี สัญญาความจําไดห มายรกู ็ดี
สังขาร ความปรงุ จะปรุงดี ปรงุ ชวั่ ปรงุ กลาง ๆ ปรงุ อดีต อนาคต กท็ ราบชดั วา เปน
เพียงสภาวะอันหนง่ึ ๆ วญิ ญาณ ความรับรูก็เปน เพยี งสภาวะอันหนึ่ง รวมแลว เรยี กวา
กองอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาทัง้ นนั้ ปญญารรู อบแลวปลอ ยวางเขา ไปเปนลาํ ดบั ทนี ้ียัง
เหลือจิตซง่ึ เปน ตัวเหตุอันสําคญั และเปน ผใู หน ามวา รปู เวทนา สัญญา สงั ขาร
วญิ ญาณก็ดี และเปนผูห ลงในรปู เวทนา สัญญา สงั ขาร วิญญาณกด็ ี มายึดในรปู
เวทนา สัญญา สังขาร วญิ ญาณกด็ ี ปญ ญาขดุ คน ตามเขาไปเปนระยะ ๆ จนถงึ รากฐาน
แหงวัฏจักร คอื ความรูอวชิ ชาผเู ปนจอมแหง ไตรภพอนั เปนเร่อื งบรรจุแหงเร่อื งท้ังปวง
ชื่อวา เร่อื งท้งั หมดรวมอยทู ีน่ ี้ เพราะเหตุนนั้ ทา นจึงใหนามวา ปมแหงวฏั จกั ร

จงพจิ ารณาจนเห็นวานกี้ ค็ ือไตรลักษณ และเปน เครื่องมือของไตรจกั ร เชน เดียว
กบั สภาวธรรมอืน่ ๆ เมอ่ื รูเห็นชัดแลวความถอื มัน่ ยดึ มั่นในความรูทีเ่ จอื ดว ยยาพษิ จะ

แวน ดวงใจ กณั ฑ์เทศน-์ท๓ี่ ๒๒๙ ๑-: ธรรมป่า

๒๒

หมดไป เพราะเหน็ เปน อสรพิษอยางแนใจ ตองสลัดปดทิ้งทันที ความรูซ ่งึ เปน ตวั
อวิชชากข็ าดกระเดน็ ออกจากใจ เรอื่ งทั้งหลายทเ่ี ต็มอยกู บั ความรทู ่ีเต็มไปดวยเรื่องก็
ขาดไปพรอม ๆ กัน เรอื่ งทเี่ ปนกเิ ลสท้ังมวลไมม ีทางเกดิ ขึน้ จึงยตุ ลิ ง ความสัมผสั จาก
การเหน็ การไดยนิ การสูดกลน่ิ ลม้ิ รสทงั้ ปวงจึงเปนเพียงสกั วากริ ิยา ไมมเี รอ่ื งจะให
เกดิ ความซมึ ซาบและยึดมัน่ ถือม่นั ซึ่งเปนตัวอปุ าทานอีกตอ ไป เพราะความรทู ีเ่ ปนไป
ดวยเร่ืองซง่ึ เปน ผูบ งการไดห มดส้ินไปแลว เรอื่ งทง้ั หลายจึงไมมี

พระพทุ ธเจา กด็ ี สาวกท้งั หลายกด็ ี ไดทาํ ลายความรูท ่เี ต็มไปดว ยเรือ่ งนีข้ าดสนิ้
ไปจากจิตใจแลว แมทานจะทรงขนั ธอยู ขันธก ็สักวา ขนั ธ คือรปู ก็สกั วา รปู เสยี ง กลน่ิ
รส เคร่ืองสมั ผัสทั้งหลายก็สกั วาเทาน้ัน รปู เวทนา สญั ญา สังขาร วิญญาณ ซ่งึ เปน ของ
มีอยูประจําขนั ธ ๕ ก็สักแตว า อาการนัน้ ๆ เทานั้น ไมมีเรือ่ งเก่ยี วของกบั จิตอันจะให
เกดิ ความกังวล เพราะจิตกลายเปน จติ ที่พนจากเรือ่ งแลว คอื เปนจิตทีไ่ มม ีสมมุติแลว ก็
จติ ท่ีเปนสมมตุ หิ มายถึงจิตทีเ่ ต็มไปดว ยเร่อื งดังกลา ว คอื มีอวิชชาเปน หัวหนา ความรูท ี่
อยใู ตอ าํ นาจอวิชชาจัดวาความรูทเี่ ต็มไปดว ยเรอ่ื ง ฉะน้นั เรื่องจะโกรธกด็ ี เรอื่ งจะโลภก็
ดี เรื่องจะหลงก็ดี จึงขึ้นอยกู บั ความรอู นั น้ที ั้งนน้ั เมื่อความรอู ันน้ไี ดดับลงไป เร่อื งจะ
โลภ เร่อื งจะหลงจึงไมมีอกี ตอไป เพราะรากเหงา มันดบั แลวกิ่งกานสาขาจะทนอยไู ด
อยา งไร จาํ ตอ งดับตามกนั ไปหมด

ปญญาทพี่ จิ ารณาเปน ไปตามลําดบั จนรแู จง เหน็ จริงแลว คาํ วา จติ กห็ มดสมมตุ ิ
ไป จะใหช ่ือใหนามกส็ กั แตว า ไมไ ดมีความผูกพันมั่นหมายในความรปู ระเภทน้นั ทา น
จึงเปน ผูหมดเร่ืองทางภายใน อยูด ว ยความไมมปี จจัยสืบตอ ระหวางจติ กบั อารมณ เปน
บรมสุขในอิริยาบถทงั้ สี่ คือ ยืน เดิน น่ัง นอนไมม เี รอื่ งทั้งนน้ั หลบั หรือตน่ื กเ็ ปนสุข
เพราะไมม สี ง่ิ รบกวนใจ เปน อยดู ว ยความหมดเร่อื ง ขนั ธ ๕ จงึ กลายเปน เครอื่ งมือ
สําหรบั ใชเ ปน ประโยชนข องนกั ปราชญโ ดยสมบรู ณก อ น แตยงั ไมร ูเ ทาทนั ขนั ธท ้งั ๕
ตองเปน เครอ่ื งมือของมหาโจรผลู ือนามซ่งึ เปน หัวหนา บงั คับขันธท งั้ ๕

คือกาย จําตอ งทําไปดว ยอาํ นาจของกิเลสตณั หา เวทนาท่ปี รากฏขึน้ มากป็ รากฏ
ข้ึนมาดวยอํานาจกิเลสตณั หา สญั ญาจําข้ึนมากจ็ าํ เพราะอํานาจของกเิ ลสตณั หา สังขารก็
ปรงุ เร่อื งกิเลสตัณหาทัง้ มวล วญิ ญาณก็รบั รเู พ่ือกเิ ลสตณั หาอาสวะไปเสียทัง้ นั้น เพราะ
เจา อวชิ ชาเปนตัวมหาโจร คือเจาเรือน เจา กเิ ลสตัณหา รากเหงาแหง กเิ ลสตณั หาทงั้
มวลอยทู ี่นนั้ ทงั้ หมด พออวิชชาดบั ไปเทานนั้ ขันธท ้งั ๕ จึงกลายเปนเครือ่ งมอื ของ
อวชิ ชาวมิ ุตติไป วิชชาวมิ ตุ ติไดผ ดุ ข้นึ มาอยางเตม็ ที่แลว ขนั ธก ลายเปนบรษิ ัทบริวาร

แวนดวงใจ แวน่ ดวงใจ : ภ-า๔ค๒๐๑๒-อบรมฆราวาส

๒๓

คอื เครือ่ งมอื วิชชาวมิ ุตติน้ันไปเสีย กิรยิ าของกายทจี่ ะเคลื่อนไหวก็จะเปนไปโดยธรรม
เวทนาคอื ความสุข ความทุกข เฉย ๆ ซ่งึ เกิดขึ้นทางกายกเ็ ปน ไปโดยธรรม สัญญา จาํ
ไดหมายรูกจ็ ําไปโดยธรรม สังขารกป็ รุงโดยธรรม วิญญาณก็รบั รูโดยธรรมท้ังนั้น ไมได
เปน ตามกเิ ลสตณั หาอาสวะท่เี คยเปน มา

องคสมเด็จพระผมู พี ระภาคทานทรงทาํ ปริวรรต ทา นทาํ อยางน้ี ทอ งเที่ยวใน
วฏั สงสาร พระพุทธเจา กท็ องเทย่ี วมานานไมม ีจบสนิ้ เทีย่ วท่ีไหนก็เกิดตายท่นี นั่ ทุกขที่
นั่น เม่ือไดป รวิ รรต กลับเขา มาทองเทย่ี วในสกลกายและใจ คือ จดุ ที่รวมแหง อรยิ ธรรม
โดยหลกั ธรรมชาตินีแ้ ลว จงึ ไดยกธงชัยวา “พทุ โธ” อยา งเต็มดวง ผูขา มหว งแหงความ
หลงแลวกน็ าํ มาประกาศใหเ ราทั้งหลายไดถ อื เปน สรณะ คอื พทุ ฺธํ ธมมฺ ํ สงฺฆํ สรณํ คจฺ
ฉามิ อยจู นบัดน้ี ธรรมทง้ั นเี้ กดิ ขึ้นมาจากการปรวิ รรตเขามาสูภายใน เรยี กวา โอปนยิ
โก นอมเขามาสภู ายใน พิจารณาใหเ หน็ ชัดแจมแจง

การขา มโลกสงสารไมขามทีไ่ หน โลกกค็ ือดวงใจทเ่ี ปนอวชิ ชาน้ที งั้ ดวง สงั สาระ
ความทอ งเท่ยี วก็หมายถงึ จิตดวงน้ี วฏั จักร ตวั หมนุ ก็คือความรูทเ่ี ตม็ ไปดวยเรือ่ งนเ้ี อง
เปนเหตใุ หว กเวยี นไปมา กรรมทัง้ หลายจึงสืบตอ กนั ไปโดยลาํ ดับ เพราะธรรมชาตซิ ่ึง
เปนตัวจกั รใหญพาหมุนอยตู ลอดเวลา เมื่อตวั จักรใหญไดทําลายลงแลว ตวั จกั รเล็กก็
พลอยถูกทําลายไปตาม ๆ กัน ผลสุดทา ยไมม อี ะไรเหลืออยู เชน เดยี วกบั ตน ไมท ถ่ี ูก
ถอนขน้ึ หมดท้งั ราก แมก ิ่งกา นสาขาจะมมี ากมายก็จะตองตายฉิบหายไปตาม ๆ กัน
หมด เร่อื งอวิชชาดับไปก็เชน เดยี วกนั กเิ ลสตัณหาประเภทใด ๆ ดบั ไปหมด ไมมีอะไร
เหลอื

วนั นแ้ี สดงธรรมเทศนาใหท านผูฟ งทง้ั หลายทราบในลักษณะแหงธรรมปา หาก
ไมถ กู จรติ จิตใจในหลกั ธรรมบางประการ ผแู สดงยงั หวังไดรบั อภัยจากบรรดาทา นผฟู ง
ทั้งหลายดวยจติ เมตตา ถา ธรรมท่แี สดงนพี้ อจะเปน ประโยชนไ ดบ า ง กข็ อไดโ ปรดนําไป
ไตรตรองและปฏบิ ัติตามในโอกาสอนั ควร ความสขุ ความเจรญิ ทโ่ี ลกปรารถนามานาน
จะเปน เครือ่ งสนองตอบแทนทานนกั ปฏิบัตทิ ง้ั หลาย ผูอุตสาหพ ยายามเปน ลาํ ดบั นบั
แตข ัน้ แรกจนถึงขั้นสูงสุด คอื วมิ ตุ ตนิ ิพพานฯ ในอนาคตอันใกลน้ี ดงั นั้นการแสดง
ธรรมกเ็ ห็นวาสมควรแกเ วลา จึงขอยตุ ิการแสดงเทาน้ี เอวํ

www.Luangta.or.th

แวนดวงใจ กัณฑ์เทศน- ท์ ๔ี่ ๒๑๒๓-: ธรรมปา่



๒๔

เมเอ่ืทเมวเศทอ่ืันนศวทอันน่ี บท์อ๘่ีบร๘รมมมเฆถิมฆนนุริถรกาุนือ้าาชณัวยวา�ำานยานฑสรสนาะพท์ณบณพใ่ีทุ จทุ ๓ุญวธวธดัศดัศปกัปัการา่รบาบาชชา้า นน๒๒ตต๕า๕าด๐ด๐๕๕

ตอ ไปน้ีจะไดเร่มิ แสดงคาํ สง่ั สอนของสมเด็จพระผูม พี ระภาคเจา ขอใหบ รรดา
ทานผฟู งพงึ สังเกตความเคลื่อนไหวแหง ใจของตนในขณะฟง ถาไดส ังเกตความเคลื่อน
ไหวของใจโดยใกลชิดแลว เราจะไดเ ห็นอาการทเ่ี คลื่อนไหว ซง่ึ แสดงออกมาท้ังดีและช่วั
จากใจดวงเดยี วทุกระยะ ทา นกลา วไววา โลกธาตุดเู หมอื นวากวา งขวางมากมาย แตนัน้
เปนสภาวธรรมอนั หนึง่ ๆ เทา น้นั เขาไมม ีความหมายและความรูสกึ ในตัวของเขาเองแต
อยา งใด

แตใจซง่ึ เปนตัวโลกธาตุนีเ้ ปน ธรรมชาติทีร่ ูสกึ ตัวเองอยูเสมอ และธรรมชาตนิ เ้ี ปน
สิ่งที่มีคณุ คายิง่ กวา สงิ่ ใด ๆ ในโลก ถา ช่วั ก็ไมม อี ะไรจะเทียบ ดกี ็ไมม อี ะไรจะทัดเทยี ม
และเปนธรรมชาติทแ่ี ปลกประหลาดย่ิงกวาส่ิงใด ๆ เหตุน้นั องคส มเด็จพระผูมีพระภาค
จึงไดตรสั ไววา มโนปุพพฺ งฺคมา ธมมฺ า เปนตน สงิ่ ทงั้ หลายมใี จเปนสําคญั จะดีหรือช่วั ข้ึน
อยูกับใจ แตส ่ิงท่ีเปน บริวารของใจกลับเปน นายของใจนน้ั มจี าํ นวนมาก ถาพดู อยางคํา
สวยงามกว็ า บรวิ ารของใจ เคร่ืองใชข องใจ แตถ า พดู ใหถกู หลักธรรมจริง ๆ แลวก็ควรวา
นายของใจ เครื่องกดถวงหรอื เคร่ืองผกู มัดจติ ใจนัน่ เอง

ใจทไ่ี มไ ดรับการอบรมยอ มมภี ยั รอบตัว แตส ว นมากก็เกดิ ข้นึ จากเรือ่ งของตวั เอง
ถายงั ไมไดอบรมใหรเู รื่องของตวั เองเสยี บางแลว ยอมจะคิดตําหนิติชมสิง่ ภายนอกมาก
กวาเร่อื งของใจผผู ลิตการตชิ มเสียเอง องคส มเด็จพระผมู ีพระภาคเจา จึงไดตรสั ไวว า
โอปนยิโก สงิ่ ท่ีเราเห็นดวยตากด็ ี ไดยนิ ดว ยหูกด็ ี พึงนอ มเขา มาสูใจใหท ราบวา สงิ่ ท้งั
หลายนั้นมใี จเปนผูร บั รู เปน ผใู หความหมายในสิ่งทง้ั ปวง ถา ใจไมเ ปน ผใู หความหมาย
แลว ส่ิงเหลานน้ั จะปรากฏความหมายขึน้ โดยลาํ พงั ตัวเองยอ มเปน ไปไมได การอบรมใจ
ก็เพ่อื จะใหรูเรอ่ื งของตวั เองผกู อ เหตุ

พระพทุ ธเจา ทรงพยายามอบรมพระองค เพ่ือใหร ูสกึ ดีชัว่ ในพระองคม าเปน เวลา
นาน แตน ่นั เปน วสิ ยั ของพระพทุ ธเจาซง่ึ เชน เดยี วกับหนทางหลวง ยอ มกวา งขวางหรือยดื
ยาว การกอสรางก็ตอ งทุม เทกําลังมากมาย จึงจะสมชอื่ วา เปนทางหลวง สว นทางของ
บุคคลท่ีจะไปสูจดุ ตา ง ๆ ยอมคบั แคบ พอหลวมตวั เทาน้นั ก็ไปไดอยา งสบาย แตภ าระที่
จะนําไปใหประโยชนสาํ หรบั ตนน้นั กม็ จี าํ นวนนอ ย พอเหมาะกับกาํ ลงั จะหอบหว้ิ ไปได

แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศ-น์ท๒๔่ี๓๓๔-: ช�ำ ระใจ

๒๕

สว นทางหลวงเมื่อสาํ เรจ็ แลวนาํ สัมภาระไปไดม าก เชน ทางรถไฟ เปน ตน ไปมาแตละ
เทย่ี วบรรทกุ คนไดเปนจาํ นวนมาก นอกจากนั้นยงั มสี ิ่งของติดมากับรถไฟกม็ ีจํานวนไม
นอย

วิสยั ของพระพทุ ธเจาจะรื้อขนสตั วโลกใหพ น จากโอฆสงสาร กย็ อ มจะทมุ เทกาํ ลัง
ลงเปน จาํ นวนมากและเปน เวลานาน เมื่อบาํ เพญ็ ใหส าํ เร็จตามภมู ิของพทุ ธวิสัยแลว จงึ
เปนผูมคี วามสามารถและฉลาดแนะนําพร่าํ สอนสัตวท ง้ั หลาย พรอมทง้ั ทราบอปุ นสิ ยั ของ
สัตวแ ตละราย ๆ วาควรจะแนะนําพรํา่ สอนได โดยวธิ ีซึ่งจะใหส าํ เรจ็ ผลแกผมู าศึกษาและ
ปฏิบัตติ ามเปนขัน้ ๆ ไป พระองคท รงทราบไดด ี นอกจากทรงทราบอธั ยาศัยของบรรดา
สัตวแลว ยงั ทราบธรรมทจ่ี ะพงึ นาํ มาแนะนาํ สง่ั สอนใหไดป ระโยชนแกบ รรดาสตั วทั้ง
หลายเปน ราย ๆ ไปดวย แตสาวกทัง้ หลายไมม คี วามสามารถทดั เทียมพระพุทธเจา ได
เพยี งมกี ําลงั และความสามารถทจ่ี ะแนะนาํ ส่งั สอน ทําหนา ท่แี ทนพระพทุ ธองคไ ดตาม
กาํ ลงั ความสามารถของตนเทา นนั้ แมจะเปน ผูบรสิ ุทธห์ิ มดจดจากกิเลสอาสวะเชน เดียว
กับพระพุทธเจากต็ าม แตกาํ ลังความเชยี่ วชาญเฉลียวฉลาดสามารถที่จะแนะนาํ พุทธ
บริษทั ใหเปน ไปไดเปนจํานวนมากเหมือนอยา งพระพุทธเจานนั้ ไมใชว สิ ยั ของสาวกผไู ม
มีความสามารถเทาเทียมพระพทุ ธเจาได

เมอ่ื ยอนเขามาถึงเราท้งั หลายผูบาํ เพญ็ ใหขามพน ไปโดยเฉพาะแลว จงึ ไมควรคิด
วา พระพทุ ธเจา ทรงบาํ เพญ็ พุทธบารมีมาเปนจํานวนเทานั้นเทาน้ี ทานจึงสามารถพน ทุกข
ไปได แตเรามีกาํ ลงั เพยี งเทาน้ี สตปิ ญ ญาเพยี งเทาน้ี ไฉนจะสามารถบาํ เพญ็ ตนใหพ นได
เชน พระพุทธเจา ทถ่ี กู เราไมควรคิดเชนน้นั เพราะวสิ ยั ของพระพทุ ธเจากับวิสัยของเรามี
ความแตกตางกนั มาก ถาจะเทยี บกับรถ รถของพระพุทธเจาเปนรถขนาดใหญ เชน
รถไฟหรอื รถบรรทุก รถของพวกเราเปนรถเล็กและรถน่ังเฉพาะ ไมส ามารถจะบรรทุก
สมั ภาระและคนโดยสารไปได แมจะบรรทกุ ไปบางก็เพียงหน่ึงคนหรอื สองคนเทาน้ันก็พอ
ดีกับกําลังของตน ไมเหมอื นรถใหญซง่ึ บรรทุกไดค ราวละมาก ๆ กบ็ ัดนเ้ี ราจะพยายาม
บรรทุกเฉพาะตวั ของเราใหข ามพนไปดวยความสะดวกและราบร่ืน โดยไมเ กีย่ วกับภาระ
ซ่งึ จะเปน ทางใหเ น่นิ ชา จึงไมค วรเทียบพระพุทธเจา กับเราในสวนบาํ เพ็ญบารมี

อนึง่ การอบรมใจท่เี รากําลงั ทําอยูขณะนี้ นบั วาเปนวิธีท่ีถกู ตองรดั กมุ อยแู ลว พอ
จะพยุงเราใหก า วพน ไปจากวัฏสงสารไดทนั กับเวลา สวนวิธีอืน่ กเ็ ปนประโยชนและเปน
อปุ กรณซ่ึงกนั และกันอยแู ลว แตว ธิ นี เี้ ปนวธิ ีทรี่ ดั กุม พอเปนทาํ นบท่ีไหลรวมแหงบารมี
ทัง้ หลายใหม ารวมอยูจ ดุ เดยี ว คอื ใจทเ่ี ต็มไปดว ยความสงบและเยอื กเย็น เพราะฉะน้ัน

แวน ดวงใจ ๒๕

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๔ค๔๑-อบรมฆราวาส

๒๖

บรรดาพระภิกษุสามเณรที่บรรพชาอปุ สมบทในพระพทุ ธศาสนาแลว หลกั พระธรรมวนิ ัย
จงึ ไมนยิ มใหป ระกอบการงานสวนอืน่ ซง่ึ นอกไปจากขอวัตรปฏิบตั ิ คือ ศลี สมาธิ ปญญา
อนั เปน หนา ที่เฉพาะของนกั บวช เฉพาะผบู วชจึงสอนทางลัดทางตรงเสมอวา เกสา โลมา
นขา ทนั ตา ตโจ เปนตน

และสอนทอี่ ยทู อ่ี าศยั เพือ่ บําเพ็ญดวยความสะดวกตามเพศของนักบวชวา รุกขฺ
มลู เสนาสนํ นสิ สฺ าย ปพฺพชฺชา ตตฺถ โว ยาวชวี ํ อสุ สฺ าโห กรณโี ย บรรพชาอุปสมบทใน
พระศาสนาแลว ขอใหท า นทง้ั หลายพยายามอุตสา หอยตู ามรกุ ขมูล คือ รม ไมช ายเขาอัน
เปน ท่สี งัดวเิ วกและสะดวกแกการบาํ เพ็ญสมณธรรม ไมใหมีภาระผูกพนั พึงประพฤติตน
เชน เดียวกบั นกซ่งึ มีปกกบั หางเทา น้ัน แมจะเท่ียวหากินผลไมห รอื อาหาร ณ ที่ใดเพยี ง
พอแกจ ะงอยปากของตนแลว ก็บนิ ไปตามสบาย ทีห่ ลับนอนของนกไมมีกาํ หนดวา จะอยูที่
ไหน คํ่าทไ่ี หนก็นอนที่น่ัน ไมมีความเกาะเกีย่ วกงั วลใด ๆ แมบินไปจับตนไมแลว เมอ่ื จะ
บินจากตนนไี้ ปสูตน หนา กไ็ มไ ดท าํ ความผูกพันหรอื อาลยั ในตน ไมต น นี้เปนของตน บนิ
ผา นไปเปน ลาํ ดับ นกไมมกี ังวลใด ๆ ท้ังอาหารท่ียงั เหลืออยู ทัง้ ตน ไมทีต่ นอาศัย บนิ จาก
ไปแลว ก็ไมเ ปน อาลัย

บรรดานักบวชในพระพุทธศาสนา ซ่ึงมุงหนาเพอื่ ความเปน ลูกศษิ ยต ถาคตแลว
จาํ ตอ งดําเนินตนใหเ ปน อยา งฝูงนกเสมอไปตลอดชีวติ พยายามอบรมตนใหเปน ทรี่ มเย็น
และเปนเนื้อนาบญุ ของตนไดอ ยา งสมบูรณ ดวยอุบายวธิ ที ปี่ ระทานไว อะไรเลาทเี่ ปน เน้อื
นาบญุ ของตน คือ ทาน ศลี ภาวนา หรอื ศลี สมาธิ ปญญา ขอ วัตร ซ่ึงเปนอปุ กรณแ หง
การบําเพญ็ สมณธรรมเหลา น้ี จดั เปน เนอื้ นาบญุ แตล ะอยาง ๆ เปน ผมู ภี ารกิจนอ ย
บําเพญ็ อยูในศีล สมาธิ ปญญา ขดั เกลาจิตใจของตนอยเู สมอ ไมทําความผกู พนั อาลยั ใน
ทอี่ ยแู ละสถานที่อาศยั ตลอดถึงตระกลู ทีอ่ ุปการะเปนประจํา ซงึ่ ตนไดเ คยอาศัยทกุ วัน
บณิ ฑบาตมาวันหนึง่ จะไดอ ะไรมากนอ ยเปน ท่ีพอใจ ไมม ีความสาํ คัญมนั่ หมายในอาหาร
การบรโิ ภควา จะมรี สประณตี บรรจงหรอื ไมก ต็ าม เมื่อเหน็ วาไมข ัดของในหลกั พระธรรม
วนิ ยั แลว ยนิ ดบี ริโภคขบฉันไปเพยี งยังอตั ภาพใหเ ปน ไปในวันหน่งึ ๆ ซ่งึ จะเปน ประโยชน
แกชีวติ และการประกอบความเพยี รเทา นนั้ นี่ชอื่ วาเปน ผูทําตนใหเปนเนอ้ื นาบญุ ของตน
ตามท่ไี ดอ ธิบายแลว

ศลี กเ็ ปนเนือ้ นาบุญอันหน่งึ สมาธกิ เ็ ปนเนือ้ นาบุญอันหน่ึง ปญญาก็เปน เนอื้ นา
บญุ อนั หน่ึง ทานกเ็ ปนเนือ้ นาบุญอนั หนงึ่ ท้งั นักบวชและฆราวาสผบู าํ เพ็ญตามนจ้ี ัดวา
เปน ผบู าํ เพ็ญตนใหเ ปน เน้ือนาบญุ ของตน วนั นบี้ ําเพ็ญ วันหนา กบ็ าํ เพ็ญ ไมลดละในเนือ้

แวน ดวงใจ ๒๖

กณั ฑเ์ ทศ-นท์ ๔่ี๕๓-: ชำ�ระใจ

๒๗

นาบุญของตน จนสามารถทาํ ศลี ทําสมาธิ ทาํ ปญญาใหส มบรู ณข ้นึ แลว กก็ ลายเปน ความ
รม เย็นแกต นอยางเตม็ ท่ี เมือ่ มคี วามเพยี รบําเพ็ญตนใหเปนเน้อื นาบญุ ของตนไดแ ลว ก็
สามารถเปนเน้ือนาบญุ คอื ใหความรม เยน็ แกป ระชาชนไดเ ชนเดียวกนั แนวทางขององค
สมเด็จพระผมู ีพระภาคเจาและสาวกอรหนั ต ทา นไดดาํ เนนิ มาอยางน้ที ั้งนนั้

แมกอนพระองคจ ะเปน ศาสดาของโลก กป็ รากฏวาเปนศาสดาของพระองคเ องมา
กอน จนมีความคลอ งแคลวแกลว กลาในวิชชาวมิ ุตตหิ ลุดพน จากกิเลสอาสวะ เมือ่ เปน
ศาสดาในพระองคอยา งสมบูรณแลว ตอ มากเ็ ปน ครสู อนของเทวดาและมนุษยทง้ั หลาย
ซ่ึงเราทงั้ หลายกก็ ลาวอยูเสมอวา ปุรสิ ทมมฺ สารถิ สตถฺ า เทวมนสุ สฺ านํ ดงั น้ี ซึง่ หมาย
ความวาพระองคเปน บรุ ษุ ผูหน่ึงซ่ึงควรฝก ทรมานใหเ ปนผคู วรแกมนษุ ยธรรม และมรรค
ผลนิพพาน เมอ่ื ฝกทรมานไดเตม็ ภมู ิแลว เปน ผสู มควรจะสงั่ สอนโลกในวาระตอไป โดย
ไมเ ลือกชาติ ชน้ั วรรณะ และความมี ความจน เพราะน่ันมันเปนกฎของกรรมประจําสัตว
และบุคคล ไมมใี ครจะหลีกเล่ยี งได ตองยอมจํานนและรับเสวยผลกรรมทีม่ ปี ระจําตน

เฉพาะนักบวชเปน ไปเพ่ือไมก อความกงั วลวุนวาย แตเปน ไปเพอ่ื ประหัตประหาร
กิเลส ซง่ึ เปนขา ศกึ ภายในใจใหคอยหมดไป และเปนไปเพอ่ื การไมส ่งั สมกเิ ลสซ่งึ ยังไม
เกิดใหเ กดิ ขนึ้ กอ็ ยูในสถานที่นน้ั ไปในสถานทีน่ ้นั บําเพญ็ อยใู นสถานที่นนั้ ศีลก็เรมิ่
บรสิ ุทธ์ิบรบิ รู ณขนึ้ มา เพราะสถานทกี่ เ็ หมาะเจาะ การบําเพญ็ กส็ ะดวก สงิ่ ทจ่ี ะมากอกวน
ใหศ ีลดา งพรอ ยก็ไมม ี จะทําใหศีลขาดทะลุกไ็ มม ี แตละวนั เจริญขนึ้ ดว ยการรกั ษาและมี
สติสืบตอ อยูเสมอ จติ กไ็ มป ลอ ยไปตามอําเภอใจ พยายามระมัดระวงั รักษาความ
กระเทือนของจิตใจซ่ึงจะเปน ไปในทางทีผ่ ิด อันเกดิ ข้นึ จากความพลง้ั เผลอ

ใจเม่ือไดร ับการอบรมรกั ษาโดยความเอาใจใส กจ็ ะเปน ไปเพือ่ ความสงบเยอื ก
เย็น เหน็ ผลในปจจุบันจิต ปรากฏวา เปนความสุขความสบาย เบาทั้งกาย เบาทงั้ จติ คิด
คน ควา หาเหตผุ ลในหลกั ธรรม ซ่งึ จะเปน ไปเพอ่ื ความชดั เจนแจม แจงเปนลาํ ดับ จน
สามารถถอดถอนกเิ ลสอาสวะไปไดเ ปนข้นั ๆ ผลทีส่ ุดก็ไมมอี ะไรเหลอื อยภู ายในจติ ใจ
กลายเปนเนื้อบาบุญข้นึ มาอยา งมหัศจรรย อันดับตอไปก็สมควรจะประกาศพระศาสนา
ส่งั สอนประชาชนทั้งหลายไดเ หน็ อรรถเหน็ ธรรม ใหรทู างผิดทางถูก แลวบาํ เพ็ญตนให
เปน ลาํ ดับ ไมเสยี ชาติที่เขาเกิดมายงั ไมไดรบั ประโยชนจ ากผเู ปน ปุญญกั เขต ทรงคณุ อัน
สงู ในโลก ไดก ราบไวบ ชู าถึงสวรรค ถึงนิพพานได เพราะเหตุแหงพระรัตนตรยั นมี้ จี ํานวน
มาก เพราะทรงคณุ ไวอยางสมบูรณ ใครมากราบไหวก ็ไดร บั ผลประโยชน

แวนดวงใจ ๒๗

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๔ค๖๑- อบรมฆราวาส

๒๘

เราทกุ ๆ คนพึงนอมธรรมเหลา นั้นเขามาสจู ิตใจ พุทธะ คือ ความรูมอี ยูท ี่ใจของ
เรา ธรรมะ ท่ีจะอบรมฝกฝนผรู นู ี้ใหม ีความเดน และมีความเฉลียวฉลาด จะตองเกิดขึ้น
จากผรู เู ปนผแู สวงหามาเอง เพอ่ื แนะนําพราํ่ สอนตนโดยทางทจี่ ะใหเปนไปเพ่ือความ
เฉลยี วฉลาด สงั ฆะ ผูจะปฏบิ ัตติ ามพระโอวาทคาํ ส่ังสอนของพระพุทธเจา พยายามแกไ ข
ตนเองก็คอื เรอื่ งของเราผเู ดียว จนสามารถปรากฏเปน พระรตั นตรัย คือพทุ ธะที่บรสิ ทุ ธิ์
แจมแจง ธรรมะคอื ความอัศจรรย ซึง่ เกดิ ข้ึนจากความบริสุทธิ์ สังฆะเปนเจา ของแหง
พุทธะและธรรมะ ทงั้ สามนัน้ กค็ ือเรอื่ งของเราคนเดยี ว การอธิบายทัง้ น้เี พ่ือนอ มพระ
รตั นตรัยเขามาสเู ราคนเดียว เพื่อเปนสมบตั ขิ องเราท่ีแทจ รงิ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ของพระ
พทุ ธเจานั้นเปน สมบตั ิสว นหนง่ึ ซงึ่ เราไดห ยบิ ยมื มาคา คือการบําเพญ็ เพ่อื หากําไรใสตัว
เองจนปรากฏเปนพุทธะ ธรรมะ สังฆะ ในธรรมชาติขึน้ ภายในจิตใจของผบู ําเพญ็ ผูเชนนี้
จะไปอยูในที่ใด ๆ พระรตั นตรัยก็ตดิ แนบอยกู ับใจ

ฉะนัน้ พทุ โธ ธัมโม สังโฆ เม่ือกลาวโดยช่อื แลวกม็ ีแตกตา งกนั อยบู าง แตเม่อื
กลาวตามหลกั ธรรมชาตแิ ลว พุทธะอันใด ธรรมะก็อันน้นั ธรรมะอนั ใด สังฆะกอ็ นั น้นั
เพราะพทุ ธะ ธรรมะ สงั ฆะ เปน ธรรมกลมเกลียวกันอยา งสนทิ ไมไดนอกเหนือไปจากใจ
ดวงเดียวน้ี พุทธะดวงนัน้ เวลาน้กี ม็ ีอยกู บั พวกเรา โปรดพยายามอบรมแกไ ขใหไ ด พุทธะ
ดวงนไ้ี มน อกเหนอื ไปจากอํานาจของสตแิ ละปญญา ไมม ใี ครจะเปน ผูม ีอาํ นาจและวาสนา
ยงิ่ กวา ตัวเราที่จะอบรมฝก ฝนทรมานใจของเราไปได พระพทุ ธเจาแมพระองคมอี าํ นาจ
วาสนาเปน ศาสดา คือ ครูของสัตวโลกกต็ าม แตก ็เปนครใู นอบุ ายวธิ กี ารส่งั สอนตา งหาก
ไมใชเ ปน ผจู ะถอดถอนกเิ ลสอาสวะใหแ กบรรดาสัตวท ้ังหลายได

การถอดถอนกิเลสอาสวะต้งั แตข ้นั หยาบจนถงึ ขนั้ ละเอยี ดเปนหนา ทข่ี องเรา ซึ่งได
รบั อบุ ายวิธีจากพระพุทธเจา แลวมาพรา่ํ สอนตวั เองและแกไ ขตนเองโดยตรง ไดยน ธรรม
เขา มาสเู ราใหเ หน็ วา ปุ ญฺ กเฺ ขตฺตํ โลกสฺส ไมใ ชผอู ่ืนผูใ ดนอกจากตวั เราทุกทา นจะ
บาํ เพ็ญตนใหเ ปนประโยชนเ ฉพาะตนเทา น้ัน ไมมใี ครจะมาทําใหเ ราได วนั นเ้ี ราบน วา ยงุ
ยาก เราบน วา ลาํ บาก บนวา ไมม ีโอกาส วนั หนา เรากจ็ าํ ตอ งบน อกี ตอไป ผจู ะมาปลด
เปลอ้ื งความยุงเหยงิ ขัดของหรือโอกาสเวล่ําเวลาใหเรานัน้ ไมม ีใครจะสามารถมาเปลอ้ื ง
ใหได เพราะใครกต็ อ งเตม็ ไปดว ยความยุง เหยิงขดั ของดว ยกันทั่วทงั้ โลกอนั นี้ เราอยูใ น
บา นคนเดยี วมกี ายอันเดยี ว ไมเ ก่ียวของกบั ใครก็บน อยภู ายในบา นคนเดยี ว วนุ วายอยู
คนเดียว คนอ่ืนบานอื่นเขาใจวาไมยุงยากเหมอื นกบั เรา เรากจ็ ะเหน็ วาในโลกน้ีหรือใน

แวน ดวงใจ ๒๘

กณั ฑเ์ ทศ-น์ท๔่ี๗๓ -: ช�ำ ระใจ

๒๙

แผน ดินอนั นม้ี แี ตเ ราคนเดียวเปน ผูร ับเคราะหก รรม ความยุงยากความทกุ ขกจ็ ะมีแตเ รา
คนเดียว ความยงุ เหยงิ ใด ๆ ก็จะมแี ตเ รารับเสียคนเดยี ว

โปรดไดเปด ประตูบา นออกไปมองดคู นภายนอก จะเห็นคนอ่ืนทีเ่ ปน ทกุ ขเ ชน เรา
หรอื ยง่ิ กวา เราอกี เปน คนที่สอง เดนิ ออกนอกบา นไปก็ยง่ิ จะเหน็ คนทีส่ าม ทส่ี เ่ี ปน ลาํ ดบั
ยิ่งเดินออกไปไกล ก็ยิ่งจะเหน็ คนเปนจํานวนมากซ่ึงเตม็ ไปดว ยความยุงยากเชนเดียวกบั
เรา เราเปน อยา งไร เขากเ็ ปน เชนน้ัน ความทกุ ขความยุงเหยิงทั้งมวล เราลองไปถามเขาดู
วา มคี วามทกุ ขความยุงเหยิงเชน เดยี วกับเราหรอื ไม โอกาสเวลาเขาจะมีหรอื ไม หรือไมม ี
เฉพาะเรา ก็จะทราบไดทนั ทวี า คนในโลกน้ี สัตวในโลกนไี้ มมใี ครจะอยเู หนือความทุกข
ความยงุ เหยงิ ไปได แมโ อกาสและความสะดวกขัดของกอ็ ยกู ับคนเรา ซงึ่ จะใหโ อกาสและ
ความขดั ขอ งแกต นโดยทางใดเทาน้ัน นอกจากตวั เราเองจะฝา ฝนตัวเราเพอ่ื ทางเจริญ
แหง โภคทรพั ยแ ละสมบตั ิภายในใจแลว ไมมที างอื่นจะทาํ ได

แมพ ระพุทธเจา ถา จะรอโอกาส รอวาสนา รอเวลาํ่ เวลา รอการงานใหเ บาบางลง
ไปเสียกอนจึงจะออกบําเพญ็ สมณธรรมแลว ปา นนพ้ี ระองคจะไมปรากฏเปน ศาสดาของ
โลก ใหเ ราท้งั หลายไดก ราบไหวเคารพนบั ถอื เลย แตพ ระองคเปน ศาสดาได กเ็ นอื่ งจาก
พระองคเ หน็ วาความไมม ีโอกาสก็ดี ความยุงยากก็ดี ก็คอื พระองคผ ูเดียว ความหวิ
กระหายทัง้ หลายมีอยูใ นธาตุในขันธข องพระองค พระองคจ ะตองรบั ประทานอาหาร ผูใด
จะมารับประทานแทนพระพทุ ธเจา ไมไ ด แมกิเลสอาสวะท่มี อี ยูภายในใจของทา น กเ็ ปน
ภาระจะทรงทําหนาทถ่ี อดถอนออกจนไมม อี ะไรเหลือ ผลที่ทรงไดร ับจากความเพียรไม
ทอถอย จึงปรากฏเปนมหศั จรรยไปทั่วโลกธาตุประหน่งึ โลกธาตหุ วัน่ ไหว

ฉะน้ัน จึงควรจะกลาวไดวา ทางพระพทุ ธเจาเดนิ เดินดินฝาฝนอุปสรรค ไมใช
เดนิ เขาไปยอมอปุ สรรค ไมใชจ ะยอมตนตอ เหตุการณท ีม่ าเผชญิ เอาอยางงา ย ๆ เราทห่ี า
เร่อื งใสเ ราท้ังวันท้ังคืนนี้มันเปนเร่อื งสาํ คญั ย่ิงกวาเรอื่ งใด ๆ ตลุ าการท่ีไหนจะมาตัดสินก็
ไมมี แตถูกฟองรองทั้งวัน คดรี ายไหนท่ีเกิดจากใจกย็ อมแพเสยี ทง้ั นั้น เพราะไมใ ช
ปญ ญามาตัดสิน แลวใครจะมาตดั สนิ ใหว าโอกาสอยูทน่ี ั่น ความวา งอยูทโ่ี นน ใหท านไป
เสาะแสวงมา แลวเราจะตดั สินใหท านเปนผูช นะความดังนี้

ทง้ั นกี้ ็เพราะโอกาสมนั กอ็ ยกู บั เรา เวลา่ํ เวลามนั กอ็ ยกู ับเรา วาสนามันก็อยูก บั เรา
ที่ทําไว ขออยางเดยี วแตอยานําความข้เี กียจขคี้ รานมาเปนหวั หนางาน เมอ่ื เราทาํ ลงไป
โอกาสวาสนาจะตองมี ไมตองไปหามาจากทไ่ี หน เพราะส่ิงทง้ั นไี้ มมีอยูกับดินฟา อากาศ
เราซ่งึ เปนลูกศิษยของพระพทุ ธเจา ผูลือพระนามในทางความเพยี ร จงึ ควรคาํ นงึ ถึงวิธีการ

แวนดวงใจ ๒๙

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๔ค๘๑-อบรมฆราวาส

๓๐

ของพระองค นอ มเขามาฝก ฝนตนใหเ ปนไปตาม อนึ่ง เราผมู งุ ตอ ของดีมคี า มาก โปรด
อยา นาํ สิง่ ทช่ี วั่ และบุคคลเลวทรามมาเปน แบบฉบบั จะทําใหเ ราใหเ สียไปดวยโดยไมตอง
สงสยั

ปราชญท านดาํ เนนิ อยา งใด เราตองพยายามนาํ ธรรมทที่ า นไดร ับผลไปแลวนนั้ มา
เปน เครอื่ งพรา่ํ สอนใจเรา ถาปลอยใหแ ตโอกาส ปลอยใหค วามยงุ ยากมาตัดสนิ ใหเรา มา
ชช้ี องใหเ รา เขาจะตองชี้ชอ งเขา ทางยุงทางวนุ วายตลอดเวลา และชเ้ี ขาชอ งไมมโี อกาส ช้ี
วา ไมม ีวาสนา ไมม บี ุญญาภิสมภารจนตลอดวนั ตาย วนั หนงึ่ ที่เขาจะชวี้ าทานมีอํานาจ
วาสนาพอแลว วันนี้ทา นวางแลว โอกาสวาสนาพรอ มมูลแลว ทานควรจะทําคณุ งามความ
ดไี ดแ ลว ไมม เี ลย แมท ส่ี ุดจนกระท่ังวนั ตายกไ็ มม เี วลาจะผอ นผนั ใหเราไดร บั ความ
สะดวกจากเขา แตมนั กต็ ายได เพราะเวลามันอยูกับความตายนัน่ เอง มันถงึ ตายไดท้งั ๆ
ไมอ ยากตาย และไมเ คยปลอ ยโอกาสใหความตายเลย โปรดคิดตรองดูดวยปญ ญาดวยดี
เราคงมที างสรา งความดีโดยอุบายที่กลา วน้ี

เพราะคนและสัตวใ นโลกไมมใี ครจะอยเู ฉย เพราะโลกนีเ้ ปน โลกท่จี ะกอรางสราง
อยูสรางกิน มีที่อยูอาศยั เปนอยหู ลับนอน มีความจําเปน อยูรอบดาน ตองจัดตองทํา ไม
ทาํ ไมไ ด ใครจะไมย ุงในโลกน้ีไมม ีเลย เราเดินออกไปกวางและไกลเทาไร จะเหน็ เรอ่ื งราว
ท่ีเตม็ ไปดว ยความยุงยากมาก ไมมจี บส้นิ แมจะใหนามความยงุ เหยงิ ในมวลสตั ว คือ โรค
เรอื้ รังกค็ งไมผิด เพราะโรคแกไ มหาย จะถามใครเขาก็จาํ ตอ งตอบเปน เสยี งเดียวกนั
เพราะมันเปนโลกยงุ เหยิงอนั เดยี วกัน ไมม ใี ครจะไดร บั เปน เอกราชจากกจิ การและโอกาส
ใด ๆ ท้ังนนั้ เพราะขนั ธแตล ะขันธเปน กองแหงความยงุ ยากจะตองบําบัดรักษา และ
กงั วลอยูต ลอดเวลา สงิ่ ที่จะนาํ มาเยยี วยารกั ษาก็ตองพยายามหามา ความกังวลในเรอ่ื งทงั้
นี้จนถึงรับประทานไมไ ด นอนไมหลับกม็ ใี นบางเวลา เพราะคิดหาทางแกไขเพ่อื ผอน
หนกั ใหเ ปน เบา และเพื่อครองตัวไปไดอยา งโลกเขา

บางรายปลอ ยใจใหเลยเถดิ จนลมื ตัวอยางมืดมิด จนปดกั้นทางเดนิ เพือ่ มรรคผล
ทต่ี นจะพึงไดรบั เพราะความกงั วลมีกาํ ลังกลาจนสามารถปกปด กําลัง แมอุปนิสยั แหง
มรรคผลอนั ควรจะไดอ ยูแ ลว ใหแคลวคลาดไป เชน เดียวกบั อาหารที่แปดเปอ นดวยของ
สกปรกเลยกลายเปน ของนาเกลยี ดไปฉะน้นั นอกจากจะชาํ ระใหสะอาดแลวจงึ จะเปน ของ
ที่นารับประทาน

การชําระใจจากส่งิ มัวหมองจึงเปน กจิ ทคี่ วรทาํ สาํ หรบั ผูมุงตอ ความสขุ อนั สมบูรณ
เพราะฉะนน้ั คําวา การทาํ ปรินพิ พานใหแจงน้ัน จึงหมายถงึ การกําจัดสง่ิ มวั หมองของใจ

แวน ดวงใจ ๓๐

กณั ฑเ์ ทศ-นท์๔่ี๙๓-: ชำ�ระใจ

๓๑

ใหคอ ยหมดไปเปน ลาํ ดับ เชน เราน่งั สมาธิ ณ บดั น้ี ก็เรียกวาเราทาํ พระนพิ พานใหแ จง
ไดเหมอื นกัน แตว ิธีท่จี ะทาํ ใหแจงไดมากนอ ยเทาไรนั้นขึน้ อยกู บั กําลงั การกระทาํ เราทาํ
บญุ ใหท าน รกั ษาศลี ภาวนา ทงั้ หมดเปน วิธกี ารจะทาํ พระนพิ พานใหแ จงท้ังนน้ั เหมอื น
เรากา วลงจากบา นไปสทู ี่ตา ง ๆ ตามความประสงค กาวแรกนั้นกค็ อื กาวจะไปอยูแลว
กาวท่ีสองก็เปนกาวที่จะไป กา วนต้ี อ กา วนนั้ ๆ ตอ กาวนั้น ก็ถงึ จดุ หมายปลายทางที่เรา
ประสงคไ ด ดังนน้ั การกระทาํ คณุ งามความดีทง้ั หมดจัดเปนความดีแตละกาวทีจ่ ะกระทาํ
พระนิพพานใหแจง ไดอยา งเตม็ ท่ี

ขอบรรดาทกุ ทานจงพยายามทําจิตใจใหเ ปน ไปเพื่อความสงบไดบ าง แมย งั ไมถงึ
ความสงบอยา งเตม็ ทีก่ พ็ อจะเปนชองทางใหเหน็ ดวงใจ วา เปน สิ่งทีม่ คี ณุ คาอยูภายในรา ง
กาย เปน แตถ กู ส่ิงตาง ๆ มาปกปด กําบังไว แลวเห็นส่งิ ทง้ั หลายวา เปน ของมีคณุ คา ยิ่งกวา
ใจของตนไปเสยี จงึ เปนเหตใุ หใจฟงุ เฟอเหอ เหมิ ตอสง่ิ เหลา นัน้ โดยไมรูสึกตัว จิตจงึ
กลายเปน เขียงเช็ดเทาและถอดตนลงเปน ทาสแหง สงิ่ ท้ังหลายไปเสยี โดยเห็นส่งิ ทัง้ หลาย
เปนของมคี ุณคากวาใจซงึ่ เปนสาระสําคัญ แลวขาดการยับยัง้ ใจ ผลจึงเปนความเดือด
รอ นท้งั วันท้ังคนื นเี่ ปน เพราะเหตแุ หง ความลืมตน

เมอ่ื พยายามทาํ ใจใหไ ดรบั ความสงบบา งดว ยวธิ ีอบรม ใจกจ็ ะเรมิ่ เหน็ ความสขุ
และเรมิ่ เช่ือพระศาสนาดง่ิ ลงไปเปนลําดบั ความเชือ่ ซ่ึงเคยมีอยูแลว นน้ั เปนความเชอ่ื ซึง่
ไมม ีหลักฐานและเหตุผลเพยี งพอ แตค วามเชื่อทป่ี รากฏขน้ึ ในเวลาจิตมีความสงบ จะ
เปน ความเช่ือทีเ่ ปน ปจจกั ขสทิ ธิ คือเปนความเชอ่ื เกิดขึน้ โดยเฉพาะ รูข นึ้ เฉพาะหนา น่ัน
เปนสําคญั ขอ นเี้ ปนธรรมดาเหลอื เกนิ ท่ีสง่ิ ใดถาไมเหน็ ผลเสียกอน ความเชอื่ กย็ ังไม
สมบรู ณ เชนใจของเราทังวันทงั้ คืนมีแตค วามรมุ รอ น ไมมคี วามสงบ ตง้ั ตวั อยูไ มไ ดแม
แตข ณะเดียว เราจะหาความสขุ ท่ีใจก็หาไมไ ด แมแตศาสนาทา นวาเปน ของประเสริฐ
ความรใู นแงห น่ึงก็ไมเ หน็ ไปตาม บางทีอาจเหน็ ไปวาศาสนาเปน โมฆะ ไมจรงิ แตเม่ือได
พยายามฝกหดั จิตใจใหห ยงั่ เขาสคู วามสงบแลว ยอ มจะเร่ิมเห็นความสุขและเริม่ เหน็
ความอัศจรรยข องพระศาสนา

คาํ วา “ใจสงบ” นี้โปรดทราบไวว า นสิ ยั ไมเหมือนกัน ลักษณะแหง ความสงบนน้ั
มตี า งกนั อยบู า ง แตเ มอื่ เขาถงึ ทแี่ ลวกเ็ ปน ธรรมชาติปลอ ยวางภาระทั้งหลายเชนเดยี วกนั
บางรายจะคอ ย ๆ สงบลงไปดว ยวิธบี รกิ รรมภาวนา จะเปนธรรมบทใดก็ตาม หรือจะ
คอย ๆ สงบลงไปดว ยลมหายใจเรียกวา อานาปานสติ ความสงบลงไปโดยลาํ ดบั จน
กระทง่ั จติ หยุดทํางาน มคี วามรอู ยจู าํ เพาะหนานน้ั เรียกวา จติ สงบ นานหรือไมนานกต็ าม

แวนดวงใจ ๓๑

แว่นดวงใจ : ภ-า๕ค๐๑-อบรมฆราวาส

๓๒

เพยี งแตเ ห็นความสงบขณะทจี่ ติ หยุดทาํ งานเทา นั้น เราก็พอจะเห็นความสุขภายในใจได
แลว ถา เราพยายามทําไปเรอื่ ย ๆ จติ ก็จะสงบไดเรว็ และจะละเอยี ดลงไปเปนลาํ ดบั จน
กระทง่ั จติ เราถอนข้นึ มาแลวจะคดิ อานการงานอะไร แทนท่ีจิตจะวนุ วายไปตามสง่ิ ตา ง ๆ
เหมือนที่เคยเปน มา กลบั เปน จิตละเอียดออน และเปน ความสะดวกสบายภายในใจไมว ุน
วาย น่ีก็เปน ผลใหเ ราประจักษอ ยูแลว ยง่ิ ใจมคี วามสงบลงไปไดน าน ๆ ปลอยภาระไดทงั้
หมดเรียกวา จติ หยดุ ทํางาน จะปรงุ แตง เรือ่ งใด ๆ ก็มีความรูอยจู าํ เพาะหนา ขณะนัน้ เรา
จะเห็นของอัศจรรยขนึ้ ทน่ี นั่ เอง เม่ือถอนขึ้นมาแลว เราควรพจิ ารณาไตรลกั ษณโ ดยทาง
ปญญา

คาํ วา “อนิจจงั ” คอื ความแปรปรวนน้นั มอี ยูรอบตวั ทั่วสรรพางครา งกาย
ไตรต รองไปตามสภาวะซง่ึ มีอยูใ นตวั อยา งสมบรู ณใหเห็นชดั แมทุกข ความบีบคน้ั กม็ ีอยู
ทัง้ วันทงั้ คนื ไมเพียงแตท กุ ขท างกาย ทุกขท างใจที่เกดิ ข้ึนเพราะอารมณตา ง ๆ กม็ อี ยูเ ชน
เดียวกนั จงกําหนดใหเหน็ ชัด คําวา “อนัตตา” ก็ปฏเิ สธในความเปน สัตว เปนสังขาร
เปน เรา เปนเขาอยูท ุกขณะ เมือ่ พิจารณาจนมคี วามชาํ นาญ กายก็จะรูส ึกวา เบา ใจก็มี
ความอศั จรรยแ ละสวา งกระจางแจง ไปโดยลาํ ดับ ปญญาก็ย่ิงจะไหวตัวทงั้ กลางวนั กลาง
คืน โทษมีอยูทไ่ี หนก็จะเห็นชดั แมคณุ ก็จะปรากฏขนึ้ ในขณะท่ีเราเหน็ โทษเปน ลาํ ดับไป
ใจคอ ย ๆ ยกฐานะขึ้นจากสิง่ กดขบ่ี งั คบั ทั้งหลาย คอยพยุงตัวสงู ขึน้ เปน ลําดบั น่ที าน
เรยี กวา จติ ใจไดรบั ความเบาบางพนจากภาระไปเปนขัน้ ๆ

ภาระกค็ ือเร่อื งของใจหรอื อารมณ ไมใชเ รือ่ งอ่นื ใด กิจการท้งั หลายเขาไมใ ชภ าระ
รปู เสยี ง กล่นิ รส ทั้งหลายไมใ ชภาระ แตเปนภาระอยกู ับเรอ่ื งของใจทปี่ รงุ ไปเกี่ยวขอ ง
เร่อื งทั้งหลายแลว ถอื มาเปน อารมณก ดถวงใจ เสยี ดแทงจิตใจตนเอง จงึ จดั วา เปน ภาระ
ของใจ เมื่อใจปลอยวางสิ่งท้งั หลาย ใจกห็ มดภาระไปเปน ระยะ ๆ จนกระทง่ั จิตไดห ลดุ
พน หรอื ปลอ ยวางสิ่งเหลาน้ันไดอยา งจริงจงั แลว ภาระท้ังหลายกห็ มดไป ไมม อี ันใดเหลือ
แมแ ตความคิดความปรงุ ของจิตก็รูเทาทัน ไมไดถ ือเปน ภาระตอไปอกี ความรคู วามเหน็
ซ่งึ เปนขนึ้ ภายในใจทกุ ดานทุกมมุ ก็รเู ทาเอาทนั ไมมีอนั ใดจะเหลืออยใู หเปน ความลมุ
หลงอีกตอไป ใจยอ มหมดภาระทเ่ี ปน ขา ศึกอนั จะพงึ ชําระสะสาง

คําวา “ขา ศกึ ” นั้น เบอ้ื งตนเราตอ งถือวา ส่งิ ภายนอกเปนขาศึกกอน ตอเมอ่ื เรา
พจิ ารณาปญญาอยา งชดั เจนแลว ยอมปฏเิ สธสิ่งทงั้ หลายเหลาน้ันวา ไมใชข าศึกเขา มา
เปนลาํ ดับ นอกจากกระแสของใจท่เี คลอ่ื นออกจากใจแลว กลายเปนอารมณเ ทา น้ัน เปน
ขา ศกึ ตอตัวเราเอง กระแสจิตที่คดิ ไปมากในเรื่องอดีต อนาคต ดี ชวั่ เมอ่ื เห็นวาเปน

แวน ดวงใจ ๓๒

กัณฑเ์ ทศ-นท์๕่ี๑๓-: ชำ�ระใจ

๓๓

ขาศึกชดั แลว ส่งิ เหลานก้ี จ็ ะปรุงแตง ไปมากมายเหมอื นท่ีเคยเปนมาไมได จะคอ ยสงบตัว
ลงไปเปน ลําดับและสงบลงไปจนถึงบอแหงความคดิ ความปรุง เหมอื นโจรไปเทีย่ วปลน
บานปลนเรอื นทุก ๆ วนั ทาํ ใหป ระชาชนทัง้ หลายไดรบั ความเดอื ดรอนอยูเ สมอ เขา
อาศัยซมุ ซอนอยูท่ไี หน เจา หนา ทเี่ ขาตรวจคนดใู หละเอียดถ่ถี วนจนเหน็ จุดทอี่ ยูของโจร
แลว ก็ทําลายโจรไมใหม ีเหลืออยใู นที่น้นั บา นเมืองก็รม เย็น หายกรรมหายเวรจากโจรทง้ั
หลาย

เรือ่ งของกระแสจิตท่ีคดิ ไปคดิ มาอยูต ลอดเวลา เปนเงาซ่งึ เกิดขนึ้ จากใจเอง แตใจ
ก็ตน่ื เงาของตวั เอง คิดไปทางดีทางชัว่ อดีต อนาคต ลวนแลว แตคดิ ไปจากจิตทง้ั นน้ั แต
จติ ก็หารไู มวา อาการทั้งหลายเหลา น้ีเกิดขน้ึ จากตัวเอง แลว กลบั มาหลอกตัวเองใหล มุ
หลง ไมม โี อกาสจะทราบได ตอ เมอ่ื ปญ ญามคี วามสามารถจําตอ งเห็นกระแสของจิตทั้ง
หมดน้ี เปนตัวขาศกึ ทีเ่ กิดข้นึ จากตัวเอง และทาํ ศกึ กับตัวเอง เพราะตัวเองเปนผหู ลง
อาการของตนจงึ กลายเปนผมู เี รอื่ งเสมอ ทกุ ขร อนเปนเรื่องตวั กอไฟเผาตัวเองไมใชค น
อ่ืนใดท้งั นั้นจะมากอไฟเผา

ปญ ญาจะตอ งยอนเขามาดทู ตี่ น เหตุ เม่ือมีความสามารถพอตัวแลว จะยอ นมา
เห็นโทษภายใน คือเหน็ โทษตวั ผรู ู ซงึ่ เปน ท่ซี ุมซอ นแหงโจรทัง้ หลาย แลว ถกู ทําลายไป
เสยี จนส้นิ ซากไมมีอนั ใดเหลอื อยู น่ันแหละเราจะอยูสบายสคุ โต ไปไหนกเ็ ปน ขันธลว น ๆ
ไมเปน กิเลสอาสวะทั้งภายนอก ภายใน ทง้ั ใจตนเอง จงึ หมดเรือ่ งหมดราว หมดภาระ
หมดหว งใยทง้ั ส้ิน นแี่ ลช่อื วา ปุญญักเขต เปน เนือ้ นาบญุ ของตนไดเอง แลว กเ็ ปนเนื้อนา
บญุ ของโลกไดดวย การบาํ เพญ็ ของทกุ ๆ ทา น ทง้ั ที่เปนนักบวชและเปนฆราวาส จงมุง
เพ่ือเปนเน้อื นาบุญของตนใหไดอ ยางสมบูรณ เม่ือสมบัตติ นมีมากเหลอื ใชจา ยแลว อาจ
จะเฉล่ยี เผอ่ื แผแ กคนอ่ืนใหเ ปนประโยชนไ ด เราบาํ เพ็ญประโยชนเต็มกําลงั ในตัวเราแลว
กส็ ามารถจะเฉลย่ี เผอ่ื แผความสุขใหแกบ ุคคลอ่นื ได

ในการแสดงพระธรรมเทศนาวันน้ี แสดงเร่ือง ปุญญักเขต โปรดพยายามทําตวั
เราใหเปน เนือ้ นาบญุ ของเรา แลว ก็จะเปน เนือ้ นาบุญของคนอ่นื ไดในขณะเดยี วกนั ขอให
ทา นผฟู งท้งั หลายจงพยายามฝก ฝนจติ ใจใหเ ปนคณุ แกตัวเรา อยา พยายามสง เสริมจติ ใจ
ใหเ ปนขา ศึกแกตนเอง ตัวเองเปน ขาศกึ ตอ ตัวนั้น ไมมเี วลาจะยับยง้ั ผอนผนั ไมม สี ถานที่
อยู ไมมีเวลาจะยตุ ิลงได ไมเ หมือนคดภี ายนอกที่เปนถอยเปนความกัน เมอ่ื ตุลาการตัด
สินถึงขั้นสงู สุดแลวกเ็ ปน อันยุติ ใครแพกแ็ พไ ป ใครชนะก็ชนะไป เปน อันเลิกแลว กนั ไป

แวนดวงใจ ๓๓

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๕ค๒๑-อบรมฆราวาส

๓๔

ได แตค ดภี ายในใจเราน้ี ผูท ่ีฟองกเ็ ราเอง ผูท รี่ ับฟองกเ็ ราเอง ผทู ี่ไดร ับความทุกขเ สยี
หายกเ็ ราเอง แลวเราจะหาตุลาการทไ่ี หนมาตดั สนิ

เราเองเปนผูก อ คดีแกต ัวเราเอง เปนผูก อ ความเสียหายใหแ กตัวเราเองน่ี ไมมี
ใครจะมาเปน ตวั การตดั สนิ ใจให นอกจากเราจะนําปญญามาเปนตลุ าการตัดสิน วา ทาง
ไหนถกู ทางไหนผดิ ใหพ ยายามงดเวน ในทางท่ีผิด พยายามบาํ เพญ็ ในทางท่ถี ูก แลว สง
เสริมทางทถ่ี กู ใหม ากเปน ลาํ ดบั ไป พยายามตดั ทอนทางผิดใหลดนอ ยถอยลงไปจนไมมี
อะไรเหลืออยูแ ลว ผูนน้ั แลเปน ผูตัดสนิ ตนไดอ ยา งเด็ดขาดและถกู ตองท่ีสดุ เหมือนพระ
พุทธเจาและสาวกทง้ั หลาย เปน ตุลาการตดั สนิ พระองคแ ละสาวกไดช ัยชนะแลว พนจาก
ทุกขในวฏั สงสารถงึ นพิ พานในวันนัน้ นอกจากน้ันยังเปน ปุญญักเขต ของเราท้งั หลายได

ในการแสดงพระธรรมเทศนาน้ี ขอบรรดาทานผูฟง ทั้งหลายจง โอปนยโิ ก นอม
เขา มาในตนใหเ ปนผลเปน ประโยชนสาํ หรับเรา เม่อื พยายามบําเพ็ญตวั เราอยเู ชนน้ี
ความแปลกประหลาดหรือความมหัศจรรยที่พระพทุ ธเจา ไดทรงแสดงไว ก็ปรากฏข้นึ ที่ใจ
ของเรา คาํ ท่วี า พทุ ฺโธ ก็ดี ธมฺโม ก็ดี สงฺโฆ ก็ดี จะเห็นปรากฏขึ้นที่ดวงใจดวงเดียวน้เี ทา
นน้ั โดยไมตอ งไปหาหยิบยืมพระพุทธเจา พระธรรม พระสงฆ มาอีกตอไปแลว ไปทไ่ี หน
พุทฺโธ กค็ อื ใจที่บริสุทธิด์ วงน้ี ธมฺโม กค็ อื ธรรมชาตอิ ันนี้ สงโฺ ฆ กค็ อื ธรรมอนั เกิดจาก
จิตดวงเดียวกัน ทั้งสามรตั นะเลยรวมอยูใ นตวั ของเราคนเดียว เปนผไู มข าดแคลนพระ
รตั นตรัย ไปทีไ่ หนติดกบั ใจของเราไปทน่ี ั่น

ในอวสานแหงพระธรรมเทศนานี้ ขอบญุ ญานุภาพองคสมเดจ็ พระผมู ีพระภาคเจา
จงดลบนั ดาลใหท า นผฟู งท้ังหลายมีความสุขกายสบายใจ และมคี วามมงุ มาดปรารถนาส่ิง
ใด ขอสงิ่ น้ัน ๆ จงสําเร็จตามความมงุ มาดปรารถนาแหงทา นทั้งหลายทกุ ทา นเทอญฯ

www.Luangta.or.th

แวนดวงใจ ๓๔

กณั ฑเ์ ทศ-น์ท๕่ี ๓๓ -: ชำ�ระใจ



กณั ฑ์ท่ี ๔ ๓๕

เทศนอบรปมคญั ณญะผาูจ อดั บพริมมพส “มทาาธงริ ม เย็น”

ณ บณเา มนบือ่ ใา้ วนนเันซทใเนทศอมซี่นยื่ออ์อสยพบมพสรฤปมฤมษรปคษภะรณาภสะคะาสงมผคงคจู้คมพ ัด์๓ุทพ๓พธมิถทุศถพนกัธน์ นรศน“าทเกัเชพพารงชชา๒รรรช๕ม่บบ๐เรุ๒ยรุ๗ี ็น๕ีพพ”๐รระ๗ะนนคคร ร

อบุ ายวธิ สี อนตน

การเรม่ิ อบรมธรรม ก็เชน เดยี วกบั การเริม่ เรียนหนังสือและเริม่ เขยี นหนังสือ
เบ้อื งตน กม็ ผี ดิ ๆ ถูก ๆ เขยี นและอานกไ็ มคลองแคลว ตัวหนงั สอื ท่เี ขยี นกไ็ มส วยงาม
อานก็ไมถกู ตอ งและชดั เจน แตการหัดเรียนและหัดเขียนบอย ๆ ความจาํ และความ
ชํานาญกเ็ กิดขึน้ ทุกระยะ จนเปน ความชํานาญจริง ๆ ตอ ไปกไ็ มจ ําเปนตองระวังในการ
อานและการเขยี น แตก ็เปน ไปโดยเรียบรอยตามความตอ งการ การฝกหัดทางดา นจิตใจ
เบื้องตนก็ตอ งมกี ารลมลุกคลกุ คลานเปนธรรมดา ไมวาพระพุทธเจา และพระสาวก ยอม
ผานการฝก หดั มากอน เชน เดยี วกับพวกเรา และมีผดิ ๆ ถูก ๆ อันเปน ลกั ษณะลม ลุก
คลกุ คลานเหมอื นกนั เมื่อเปน เชนน้นั พวกเราผูม ุง ศึกษาและปฏบิ ตั ิ ซึง่ ไมเ คยผา นและรู
เหน็ มากอนกย็ อมมกี ารผดิ พลาดเปนธรรมดา ซงึ่ จะหลีกเวน ไมไ ด แตอาศยั ความ
พยายามเปน หลกั สําคญั ซึง่ ไมควรมองขา มไปโดยเห็นวา ไมจาํ เปน

การทาํ จติ ใจใหส งบดว ยอบุ าย “สมาธิอบรมปญญา” หรือดวยอุบาย “ปญญาอบ

รมสมาธ”ิ ทง้ั สองน้ีเปน อบุ ายวิธที ถ่ี ูกตอ งเสมอกนั เพราะเปนอบุ ายเครอ่ื งกระตนุ เตอื น
สตใิ หตามรูค วามเคลื่อนไหวของจิตทกุ ระยะในขณะทําการอบรม ทานยงั ไมเคยมีประสบ
การณดวยตนเองในทางสมาธิมากอน เพราะไมเ คยศึกษาและปฏิบัติ โปรดทาํ ความ
พยายามตามวิธีทัง้ สองอยา งใดอยา งหน่งึ ตามจรติ นสิ ัยและโอกาสทค่ี วร แตว ธิ ีทําใจให
สงบดว ยวธิ ที ั้งสองนั้นโปรดทราบไวเสมอวา สติเปนของสาํ คญั ทุก ๆ ครงั้ และทุก ๆ ข้นั
ของจิตขึ้นอยกู ับสติ อยาใหข าดไปในขณะอบรม จิตจะขาดธรรมเครอ่ื งบํารุง การภาวนา
จะกําหนดลมหายใจเขา ออกทเี่ รยี กวา อานาปานสติ เปน ตนก็ตาม จงทําความพยายาม
ใหสตอิ ยูกับลมจริง ๆ ท้งั ลมเขา และลมออก ตลอดความหยาบ ความละเอียดของลมทกุ

ระยะไป จนปรากฏผลคอื ความสงบสขุ ขนึ้ มา วธิ นี ้ีเรยี กวา “สมาธอิ บรมปญ ญา” ทีก่ ลาว
ไวใ นหนงั สือซง่ึ เคยพมิ พมาหลายครงั้ แลว

กอนอ่ืนอยากจะเรยี นใหบ รรดาทา นผใู ครต อ ธรรมทราบ เพอื่ ความสงบสขุ อยาง
จริงใจ พอเปนสักขีพยานแหงการบาํ เพญ็ จติ ไดร ับความสงบมีลกั ษณะอยา งนีค้ อื มี

แวน ดวงใจ กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๔- ๓:๕๕ป๕ญั -ญาอบรมสมาธิ

๓๖

อารมณอันเดยี ว เฉพาะความรเู ดนดวงอยใู นขณะนนั้ ปลอ ยวางจากอารมณ แมบ ท
บรกิ รรมภาวนาจาํ ตองละ ไมเ กีย่ วขอ งกบั อารมณใ ด ๆ ทั้งสิ้น ดํารงตนอยูด ว ยความสงบ
สขุ ไมคดิ ปรงุ อารมณเครอ่ื งกอ กวน การพกั สงบจิตในลักษณะเชนน้จี ะนานหรอื ไมน ัน้
ยอมเปนไปตามฐานะของจติ ซง่ึ ควรจะทรงตัวอยูไ ด บางเวลาก็พกั อยไู ดน าน บางเวลาก็
ไมนานแลว ถอนขน้ึ มา จากนั้นกท็ ําหนา ทีต่ อไปอีก ตามแตจ ะเหน็ ควรของผูบ ําเพ็ญ เม่อื
ทราบผลเบ้ืองตน แลว ตอ ไปก็พอมที างทราบอุบายวิธีตา ง ๆ เพอื่ ใหจติ มคี วามสงบยิ่ง ๆ
ขน้ึ ไปและพกั อยูไ ดน าน

ตอไปน้เี ปน “ปญญาอบรมสมาธ”ิ ปญ ญาอบรมสมาธนิ ้ันเปนธรรมทค่ี วรนาํ มา
ใชใ นเวลาทจี่ ติ มีความฟงุ ซานราํ คาญจนเกินควร เชน จิตประสบเหตกุ ารณต าง ๆ จนเกิด
ความเสยี อกเสียใจอยา งรนุ แรง หรือเกดิ ความเพลดิ เพลนิ จนเกนิ ตัว ปญญาทําการ
พิจารณาหกั หามกีดกันจิตท่กี ําลงั ฟงุ ซา นกบั อารมณใ นเวลานั้น ใหจิตรสู กึ ตัวดว ยเหตผุ ล
โดยวธิ ีตา ง ๆ จนจิตยอมรบั หลกั เหตผุ ลและยอมจาํ นนตอ ปญญาผพู ราํ่ สอนแลว กลบั ตัว
แลวยอ นเขาสคู วามสงบไดเ ชนเดยี วกับสมาธอิ บรมปญญา ยกตวั อยา งเชน เรานง่ั ภาวนา
มานาน ๆ เกิดทุกขเวทนาอยางหนกั ขึน้ มา มกี ารเจ็บปวดตามแขงขาและอวัยวะสว นตาง
ๆ แทบทนไมไหว ประหนึ่งรา งกายจะแตกไปในเวลาน้ันใหไ ด เพราะทกุ ขเวทนาครอบงํา
มาก

ตามธรรมดาของใจท่มี ีกิเลส และถอื ขนั ธห าเปน ตัวตนอยแู ลว ขณะที่ทกุ ขเวทนา
ครอบงาํ รางกายมาก ๆ ใจจาํ ตอ งเปน ทุกขไปดว ย แสดงอาการระสาํ่ ระสาย กระวน
กระวาย อยากจะออกจากการนั่งสมาธมิ าอยตู ามลาํ พังบาง ตัง้ ความปรารถนาอยากให
ทกุ ขดับไปบา ง ซ่งึ ความคดิ ท้งั นีเ้ ปน การสง เสรมิ สมทุ ัย เพอื่ ผลิตทุกขเพิ่มข้นึ ท่ีใจโดยไมรู
สึกตัว แตผ ูตองการฝกทรมานใจตามหลกั ธรรม เพ่อื ยังผลประจักษข ึ้นกบั ใจโดยทาง
ปญญา จําตอ งพจิ ารณาทกุ ขเวทนาท่เี ก่ยี วกับกาย และอปุ าทานยดึ มน่ั ถอื มน่ั ในกายและ
เวทนา ซึง่ เปนเหตใุ หเ สริมทุกขข ึ้นมาอยางมากมาย

โดยแยกเวทนากบั กายออกพิจารณาดว ยปญ ญา ตามหลักเหตผุ ลวา กาย เวทนา
และจติ เปนอยา งเดยี วกันหรือไม ขณะทําการพจิ ารณาตองทําความรูส ึกอยกู บั กายและ
เวทนา ไมยอมใหจติ เลด็ ลอดสง ไปท่ีอื่น ทาํ การแยกกายและเวทนาออกดูใหเหน็ ชดั ดว ย
ปญ ญาวา ทงั้ กาย ทง้ั เวทนา เปนสวนหนงึ่ จากจติ แมกายกับเวทนาก็เปนสวนหน่งึ จากกัน
มไิ ดเ ปน อันเดียวกันตามความสาํ คัญของจิต จนสามารถแยกกาย เวทนา และจิตออกจาก
กันได โดยทางปญญา ตา งก็เปน ความจรงิ อยูต ามสภาพของตน จิตกห็ ย่ังลงสูค วามสงบ

แวน ดวงใจ ๓๖

แว่นดวงใจ : ภ-า๕ค๖๑- อบรมฆราวาส

๓๗

ดาํ รงตนอยเู ปนเอกเทศหนงึ่ จากขันธ ตั้งมัน่ เปน องคสมาธอิ ยา งเต็มทใี่ นเวลาน้นั กายกับ
ทุกขเวทนาไมปรากฏในความรูสกึ วา มี ปรากฏเหน็ จิตเปน ของที่แปลกและอัศจรรยอ ยา ง
ยง่ิ ในขณะนนั้ ซึ่งควรจะยดึ เอาเปนสักขพี ยานในการบําเพญ็ ดว ยวธิ ีนีต้ อ ไปวิธหี นึ่ง

การฝก ทรมานจติ ใหสงบเปน สมาธิลงได ดว ยท้งั จติ กาํ ลังฟงุ ซา นและระสา่ํ ระสาย
ดว ยอุบายท่ีกลาวมา เรยี กวา “ปญญาอบรมสมาธ”ิ เพราะทาํ การหักหา มจติ ลงไดดว ย
ความฉลาดรอบคอบของปญญา ผูป ฏบิ ัตโิ ปรดนําไปใชฝกจติ ดวงพยศตามกาลอันควร
จะไดร ับประโยชนเ ทา กนั กับวิธปี ลอบโยน ทีเ่ รยี กวา “สมาธิอบรมปญ ญา” อนึ่ง
การอบรมจติ ใหหายพยศดวยอุบายวธิ ีตา ง ๆ น้ี เทียบกันไดกับการอบรมสัง่ สอนเดก็
ตอ งมหี นกั บา งเบาบางเปนคูเคยี งกนั ไป เพราะนสิ ยั ของเด็กบางรายและจิตของเดก็ ซง่ึ จะ
ลาํ พองข้นึ เปนบางกาล ยอ มมปี ระจาํ นสิ ัยเด็ก ทงั้ เปน การสอ ใหผปู กครองรทู ้งั ความไมด ี
ของเด็ก และรูท้งั อบุ ายวธิ จี ะนาํ มาส่ังสอนเด็กใหก ลบั ตวั เปนคนดี ดงั น้นั ผูปกครองทง้ั
ทางบา นและทางโรงเรียน จาํ ตองคอยสอดสองเพ่อื รูความประพฤติของเด็กเสมอ เพื่อจะ
ดาํ เนินการสอนใหถูกตอ งตามจุดบกพรอ งของเดก็ และไดร บั ประโยชนทั้งสองฝา ย คือ
ฝา ยเด็กกก็ ลบั ตวั เปนคนดี ผูป กครองกม็ คี วามเย็นใจ เพราะอบุ ายวิธสี ง่ั สอนเดก็ โดยถกู
ตองและไดผ ลดี

ปญญาอบรมสมาธินี้ ผูบาํ เพ็ญมกั จะเห็นผลประจักษใ จในเวลาไมน านนกั เพราะ
ความกลาหาญตอ ความเพียร เพ่ือการพิจารณาทกุ ขเวทนา ไมย อมถอยหลังในขณะท่ีมี
ทกุ ขเวทนากลาครอบงํา แตถ ามีความทอ แทและระอาตอ ทกุ ขเวทนาที่เกดิ ขน้ึ ในขณะนนั้ ก็
อาจจะไมปรากฏผล มิหนาํ ทกุ ขท ีเ่ กิดขึ้นยังจะกลายเปน ขา ศกึ ตอผูนัน้ อกี ดวย เพราะไม
อาจจะหาทางออกไดดวยอุบายของปญญาอันแหลมคมพอ ๆ กัน

จะอยางไรกต็ าม การพยายามพราํ่ สอนใจโดยอุบายตาง ๆ นั้น ยอมเปน ผลดี
เสมอ แมจะไมไ ดผลอยา งสมใจเสยี ทเี ดยี ว แตกพ็ อมีทางทําใหใจคลอยไปตามธรรมวัน
ละเล็กละนอ ย จนกลายเปน จติ ทม่ี ีเหตผุ ลประจําตัวข้นึ เปน ลําดบั และกลายเปนผูมีธรรม
ในใจ ท้งั ปกครองงายในกาลตอ ไป เพราะตามธรรมดาของใจไมมธี รรมตามรกั ษายอ มมี
ความคะนองประจําตวั นอกจากจะไมส งั เกตเทา น้ัน จงึ ไมทราบวา จติ ของตนเปน อยางไร
คาํ วา จติ ไดแ กธ รรมชาตทิ รี่ ู ๆ และรับผิดชอบอยใู นตัวของคนและสตั วทกุ ประเภท ท้ัง
เปนส่งิ สาํ คัญมากภายในรางกาย จึงควรรกั สงวน และอบรมใหดี แตใจจะดีไดตองมี
ธรรมที่เหนือกวา คือ สตแิ ละปญญา

แวนดวงใจ ๓๗

กัณฑ์เทศนท์ ี่ ๔- :๕ป๗ญั -ญาอบรมสมาธิ

๓๘

สติปญ ญาในหลักธรรมของพระพุทธเจา ทา นสอนใหน ําไปใชใ นกิจท่ีชอบ จะไป
จะอยู จะทํา จะพูด จะคิดอะไร ควรนําสติปญญาเขา มาวนิ จิ ฉยั ไตรตรองดใู หรอบคอบ
กอนจะลงมือ จงึ จะไมค อ ยมีความผิดพลาดและเสียหายเกิดขึน้ นอกจากน้นั ยังทาํ ให
เปลี่ยนความรูความเหน็ และความประพฤตจิ ากสิ่งท่ีเหน็ วา ไมควร กลายเปนคนที่เชื่อตัว
เองได พอแมพ นี่ องเชอ่ื ถอื และไววางใจได ผูมาคบคา สมาคมดว ยกใ็ หความรมเย็น และ
เชื่อถอื แกเ ขาไดเ ทาที่ควร

ดังนั้น ผนู ับถอื พระพุทธศาสนาอันเปน ธรรมท้งั แทง ซึ่งเต็มไปดว ยความไววางใจ
และใหความสม่ําเสมอแกผูบาํ เพญ็ จึงควรไตรต รองตามหลักธรรมทส่ี อนไว ท้ังนลี้ ว นชี้
ชองทางเพ่ือความปลดเปลอื้ งทกุ ขแ ละความยงุ เหยงิ นานาชนดิ แกม วลสัตว ซึ่งจะนําไป
ปฏิบัตเิ พ่ือกําจัดสง่ิ มวั หมองของตนทงั้ นน้ั เพราะพระทัยทสี่ ถิตอยูแหงธรรมและแสดง
ออกเปนพระทัยบรสิ ุทธ์ิทส่ี ดุ ไมม สี ว นสมมตุ แิ มป รมาณูสว นละเอียดย่ิงเขา เคลือบแฝงอยู
ซง่ึ พอจะใหแสดงธรรมอันจอมปลอมออกมาใหมวลสตั วผปู ฏิบตั ิตามผดิ ทางเลย นกั บวช
หรือฆราวาสยอมมสี ทิ ธใิ นการปฏบิ ตั ธิ รรมเสมอกนั แมผลอนั พึงไดรบั ของแตล ะรายกไ็ ม
ลาํ เอียง โดยรักเพศนัน้ ชงั เพศน้ี แตถอื เหตุ คอื การบาํ เพ็ญ เปนเครือ่ งตกั ตวงผลดว ย
ความเปน ธรรม ไมนาํ ส่งิ อ่นื มาวดั ผลของการกระทํา สมกบั พระพุทธศาสนานิยมกรรม
เปนหลักใหญ

ฉะน้ันผเู ช่ือกรรมตามหลกั ศาสนาท่ีสอนไว จงึ ควรเลอื กเฟน ทํากรรมทต่ี นจะทาํ
ไมค วรทาํ ไปแบบสมุ เดา และทาํ ตามความอยากพาใหท าํ โดยไมคาํ นงึ วาผดิ หรือถกู จะ
เสยี ใจในภายหลงั ผลคอื ความทุกขร อ นท่ีเกิดจากการทาํ แบบสมุ เดาหรือแบบตัดสนิ เอา
เองโดยไมมคี รูสอน คือหลกั ธรรมน้ี แมผูรับเคราะหกรรมก็ไมพ งึ ปรารถนา แตจ ําตอ ง
ยอมรับเพราะฝนกฎของกรรมไปไมได ดว ยเหตนุ ผ้ี อู ยใู นวงแหงกรรม จงึ ควรเตรียมตวั
ไวแ ตบัดนเี้ ปนตน ไป อยา รอไปเตรยี มวนั หนา เดอื นหนา ปหนา และชาตหิ นา เด๋ยี วจะไป
เจอเอากรรมท่ีพระเทวทัตสาปแชง ไว โดยไมรูตัวเปนผทู ําเองเขาอกี ก็ย่ิงจะแย เพราะไม
มีทางหลบหลกี และแกไขเพอื่ เอาตัวรอดไดใ นเวลาเชน นนั้

อน่งึ อบุ ายวิธสี อนตนเพ่อื ใหจติ ยอมรบั หลักการ และนาํ มาใชเ ปนคณุ สมบัติ
ประจําตวั ตอไป เราควรเทยี บความรูสึกระหวางเราผมู ีกเิ ลสกับพระพุทธเจา ผูส ้นิ กิเลส
แลว วาใครจะมคี วามรูแนน อนและแมน ยําตางกนั อยา งไรบา ง ท้งั ทางโลกและทางธรรม
ท้งั การทํา การพดู การคิด ท้งั ความโง ความฉลาด ทง้ั ความดี ความชั่ว ทง้ั ความสขุ ความ
ทุกข ทง้ั หนาทก่ี ารงาน เขา ใจวาพระพุทธเจา จะเปน คตแิ กเ ราอยา งสด ๆ รอน ๆ พอจะมี

แวนดวงใจ ๓๘

แว่นดวงใจ : ภ-า๕ค๘๑-อบรมฆราวาส

๓๙

ทางผอนคลายตัวเองจากความตงึ เครียดในสง่ิ ท้ังหลาย ไมใ หผูกมัดเราเกินไปจนเลย
ขอบเขตแหงการดัดแปลงแกไข

เพราะตามปกตเิ รากม็ ีความรูค วามฉลาดอยูแลว เพราะการศกึ ษาเจรญิ สถานทท่ี ่ี
ใหการศึกษาก็มอี ยทู ุกหนทุกแหง ทั้งในเมืองและนอกเมือง ทั้งในและนอกประเทศ เด็ก
และผูใหญนบั วาไดรับการศึกษาโดยความสะดวก และมีความรูความฉลาดทัดเทยี มกัน
ไป แตสิง่ ทค่ี วรจะใหเปน คเู คยี งกนั ไปคือดา นธรรมะ ท้งั เดก็ และผใู หญจึงไมควรมองขาม
ไป ถามองขา มธรรมก็เทากบั มองขามตน เพราะตนกบั ธรรมแยกกันไมอ อก สาํ หรบั ผู
ตอ งการความเจรญิ รุงเรืองแกต นและประเทศชาติบานเมือง เพราะธรรมคือโลกบาล
เคร่ืองคมุ ครองโลก คุม ครองเราใหไ ดร บั สันติสุขทั้งภายในและภายนอก

ถา จะมองเหน็ เพยี งความรคู วามฉลาดทเี่ ลา เรยี นมา วา เปน ของมสี าระพอแลว ไซร
คนเราผไู ดร บั การศึกษาสูง ๆ มาแลว กค็ วรจะเปน ตัวอยางอันดขี องประเทศชาตบิ าน
เมืองได ไมควรจะมีความประพฤตใิ นทางเสยี หายแทรกเขา มาในคนประเภทน้นั แตก็
หลีกไปไมพน จาํ ตองหลวมตัวไปในความประพฤติผิด โดยไมเ ลือกวยั และชาติชน้ั วรรณะ
ทัง้ นเ้ี พราะมีแตความรูท ่ีเรยี นมาจากหลักวิชาลวน ๆ ไมมีธรรมอันเปน หลกั วชิ าพิเศษ
แฝงอยใู นใจบา ง จึงขาดการใครครวญและยับย้ังช่งั ตวง เห็นความอยากทาํ กลายเปนของ
ดีไปหมด

หลกั วิชาธรรมของพระพทุ ธศาสนาท้ังมวลเปนหลักวชิ าทีส่ ม่ําเสมอ ผูยดึ หลักวชิ า
ทางพุทธศาสนามาใช จงึ กลายเปน คนสมํ่าเสมอและงามตาเย็นใจทง้ั ตนและผเู ก่ยี วขอ ง
เพราะหลกั ธรรมก็คอื หลกั ความประพฤติอันดงี ามอยางลึกซงึ้ ของคนทุกช้ัน ทกุ วยั นัน่
เอง โดยไมเ ลือกชาติ ช้ัน วรรณะ และสามารถเหน่ยี วร้ังจิตใจคนใหเ ปน คนดไี ด การคดิ
การพูดและการทําทกุ อยางของคนทม่ี ธี รรมในใจ ยอมเปนไปดวยความสม่ําเสมอไมผ าด
โผนโลดเตน มีความนมิ่ นวลประจํามรรยาทและความประพฤติ ไมเ ปน ทีแ่ สลงหู แสลงตา
และแสลงใจของคนอืน่

ยิง่ สมัยทุกวันนี้ เปน สมยั ทีเ่ ก่ยี วของกับสงั คมมาก ไมวาบานนอก ในเมอื ง เมือง
ใหญห รอื เมอื งเลก็ การอาชพี มีความเกย่ี วของกับสงั คมโดยมาก ผเู กีย่ วกบั สงั คมไมวา
หญงิ หรือชาย ถาไมมีธรรมเครอื่ งคมุ กนั ภายในตวั แลว อาจมคี วามเสยี หายไดอยา งงาย
ดาย เฉพาะอยา งยิง่ ผูท อ่ี ยูในวยั รนุ ทัง้ หญิงทงั้ ชาย รสู กึ วาลอแหลมตอ ความเสยี หายอยู
มาก เพราะคนในวยั นี้ไมคอ ยจะมโี อกาสคิดอา นไตรตรองดูความประพฤติชว่ั ของตวั

แวน ดวงใจ ๓๙

กณั ฑ์เทศน์ท่ี ๔- :๕๙ปัญ-ญาอบรมสมาธิ

๔๐

นอกจากจะคดิ ไปในทางเพลิดเพลินสนกุ สนานตามหมเู พอ่ื น อนั เปนทางมาแหง ความ
หายนะมากกวาจะคดิ มาทางแงค วามประพฤติ

เร่ืองทง้ั น้เี คยไดย นิ จากผูปกครองเดก็ ท้ังทางบา นและทางโรงเรยี นเสมอ โดย
แสดงความหนักใจและเปน หว งเดก็ มาก วา เด็กทุกวันนีท้ ัง้ หญิงท้ังชาย รสู กึ วา นาหนักใจ
มาก ท้งั ทางดา นการศกึ ษาและความประพฤติ ปรากฏวา จะหนักไปในทางอบายมขุ มาก
กวาท่จี ะไปศึกษาหาความรูและความประพฤตใิ นทางท่ีดี ใครมลี กู หญิงลกู ชายมาก ๆ ก็
ยิง่ เปน เหมือนภูเขาหนิ ทับหวั ใจ ไมมีเวลาอยูแ ละหลับนอนใหส นิทลงได ไมวากลางคืน
กลางวนั มนั เตม็ ไปดวยสง่ิ แวดลอ มท่จี ะทําใหเ ด็กมคี วามเสยี หายไปไดทุกเวลา และเดก็
ทกุ วนั น้ี รสู ึกแปลกกวา กวาเด็กสมัยกอน ๆ มากทีเดียว ทกี่ าํ ลงั ดําเนินเขาถงึ จุดทเ่ี ลวราย
ก็คือ ชอบประพฤตติ วั ในลกั ษณะชิงสกุ กอ นหาม โตกวาวยั เปน หนมุ สาวกอ นเปน เดก็ รู
มากกวาผูปกครอง ชอบฉลาดในส่งิ ท่ีไมควรฉลาด แตช อบโงใ นสงิ่ ทจี่ ะควรใหฉลาด

ทีส่ าํ คญั และนากลัวมาก ก็คอื ชอบแอบฉลาดในเวลาลับหูลับตาผูป กครอง นี่ซมิ ัน
สําคญั และเปน จุดทจ่ี ะทําความเหลวแหลกแกสกุลดวย เวลาไปโรงเรียนแกไมเรยี นแต
หนงั สือ และทาํ หนาที่ทีค่ รูสั่งใหท าํ แตแ กแอบไปเรียนและแอบไปทาํ อะไรอยางลกึ ลับนน้ั
ซ่ึงเปนที่นา เจบ็ ใจมากกวาเรื่องอนื่ ๆ จะแกไขอยางไรกันดี ชว ยคิดใหท เี ถอะ นบั วา เปน
การเมตตาสงสารเดก็ ตาดํา ๆ ซ่งึ กําลังจะเปน ผใู หญในวนั หนา และเปนคนของชาตดิ ว ย
รสู ึกวาภาระทีเ่ กยี่ วกบั เดก็ สมยั นหี้ นกั มาก

และยังรสู ึกวติ กเปน หวงเดก็ ๆ ตา งจังหวดั ที่พอแมผ ูป กครองสง เขามาเรียน
หนงั สอื ในเมืองใหญ ๆ อีกดวย กลวั วา แกจะไมเ รยี นเพียงวิชาทคี่ รูสอน แตกลัวแกจะไป
เท่ียวแอบเรยี นและแอบทําวิชาไฟเผาโลก ดงั ทเี่ ห็น ๆ มาเขา อีก คดิ แลวกนิ ไมได นอน
ไมหลบั นับวา เปน เรอื่ งกวนสมองจรงิ ๆ ใครจะมอี บุ ายอยา งไร กรณุ าชวยกนั สงเคราะห
ดว ย ไมเชนนั้นจะจมไปท้ังเขาทง้ั เราผูปกครอง เพราะความเห็นของเขากับของเรามันไกล
กนั ราวฟา กับดนิ เขาเหน็ เปน ความสนกุ สนามรน่ื เรงิ แตเ รามนั คดิ เหน็ ความเสยี หาย อัน
จะมีแกต ัวเขาเองและแกวงศส กุล ตลอดประเทศชาตบิ า นเมอื ง ซึง่ เปนเร่อื งใหญโตมาก

ทางพระก็ไมท ราบวา จะตอบอยางไร เพราะตา งคนตางชอบและตางคนก็ตางวัย
กัน ไมใชอ ยูใ นวัยเดยี วกนั พอจะใหช อบอยา งเดยี วกนั เปน เพยี งสนทนากนั ไปและถาม
ยอกยอนกันไปบาง เพราะถา จะเขากบั ผใู หญกเ็ กรงเด็กจะเสียใจ ถา จะเขากบั เด็ก ผใู หญ
ซ่ึงกาํ ลงั น่งั ฟง คําตอบอยูก็จะยงิ่ เสียใจมาก ผูตอบกเ็ ปน คนมีกเิ ลสเชนเดยี วกบั เดก็ ๆ
และผถู าม จงึ ตอบแบบแบงสูแบงรับเพอ่ื ทางเดก็ บา ง เพราะเรากเ็ คยเปน เดก็ และเติบโต

แวน ดวงใจ ๔๐

แวน่ ดวงใจ : -ภา๖ค๐ ๑- อบรมฆราวาส

๔๑

มาจากเด็ก จะลบหลดู ูหม่ินเดก็ ก็ไมงาม และแบง เพอ่ื ผใู หญบ า ง เพราะเปนผเู ลี้ยงดแู ละ
ปกครองเด็กดว ยความรกั และเมตตา ปรารถนาอยากจะใหเดก็ เปน คนดี มรี าศีแกว งศ
สกลุ และประเทศชาตบิ านเมอื ง ทัง้ เปนผูรับผดิ ชอบและรับเคราะหกรรมกบั เดก็ ดว ย

ครูทางโรงเรยี นก็เปนผมู ีสวนรับผิดชอบ และรับเคราะหก รรมกบั เดก็ เหมอื นกนั
แมจ ะไมเ ปนผใู หก าํ เนดิ เดก็ แตก็เปนผใู หกําเนิดทางความรูว ิชา ตลอดมรรยาทความ
ประพฤติ และถอื วา เปนเดก็ ของครูเสมอ เดก็ ในบา นของตน ถา เดก็ ดีก็พลอยมีเกียรติ ถา
เดก็ ชวั่ ครูกพ็ ลอยเสียไปดวย เรอ่ื งมันเกย่ี วโยงกันทั้งผปู กครองทางบา นและผูปกครอง
ทางโรงเรยี น ซ่ึงมีสว นไดเสยี เก่ยี วกบั เดก็ เทียบเทากนั จึงแสดงความหนกั ใจและเปน หวง
เดก็ เทา ๆ กัน

ทางเด็กเมอ่ื ถกู ตาํ หนกิ อ็ อกตวั ไปทางหนึ่ง แตกม็ ีเหตุมผี ลพอฟง ไดไมแ พผใู หญ
ไปเสยี ทีเดยี ว ผูตําหนกิ ็เกดิ งงงนั อ้นั ตไู ปดวย โดยไมคาดวาเดก็ จะมเี หตมุ ผี ลที่นาฟงเชน
นั้น โดยใหเ หตผุ ลในเวลาถกู ตําหนิ วา ความเปน ท้งั นี้จะไปตําหนเิ ฉพาะเด็กฝายเดียวก็
เปน ความไมช อบธรรมเหมือนกนั เพราะหลักวชิ าที่ออกจากโรงเรยี นใหญและครใู หญ
มนั ออกจากผปู กครองท้งั ทางบา นและทางโรงเรียนท้ังนน้ั เดก็ ไมไ ดไ ปศึกษามาจากไหน
แมแตเมอื งนอกเมืองนา เด็กบางคนยังไมเ คยไป ไมเ คยเห็นเลย นับแตว ันเกิดมากเ็ กิด
จากพอกบั แม ความรูว ิชาก็เรียนจากพอ กับแม มรรยาทความประพฤติ คําพูดจาพาทดี ี
หรอื ชัว่ กอ็ อกมาจากพอ กับแม

พอโตขึ้นบางมองดดู ินฟา อากาศยังไมท ัว่ ถงึ พอ แมก็สง เขา โรงเรียน เวลาไปโรง
เรียนกเ็ รียนวิชาและความประพฤตมิ รรยาทจากครแู ละเพ่อื นนักเรยี นดวยกัน แมเพื่อน
นกั เรียนดวยกันกล็ วนมพี อ แมเปนแดนเกดิ และใหก ําเนิดความรูวชิ ามาเชนเดยี วกัน เด็ก
ทุกคนตองรบั ถายทอดมาจากพอแมและครซู ึง่ เปน ผปู กครองเดก็ เหมือนกัน จะเปน ความ
รแู ละความประพฤตทิ ่ีจริงหรอื ปลอม ข้นึ อยกู บั แบบพิมพม าดัง้ เดมิ เด็ก ๆ เปนเพยี งผู
นํามาใชเทานน้ั ไมไ ดอ วดรอู วดฉลาด ไปแสวงหาความรูวิชาและความประพฤตดิ ชี ั่วมา
จากทไ่ี หน พอจะมาตาํ หนิวาเด็กไมดีทาเดยี ว ความรแู ละมรรยาท ความประพฤติตลอด
คําพดู ทุกคําท่เี ดก็ ตา งคนตา งนาํ มาใชอยเู วลาน้ี ลวนแตไดม าจากพอ แมทง้ั นั้น เด็ก ๆ ไม
มคี วามรูความสามารถจะไปหาความรูและความประพฤติมาจากทไี่ หนได แมแตรา งกาย
ของเด็กท่ีเตบิ โตมาขนาดทเี่ หน็ ๆ กนั อยนู ี้เตบิ โตมาจากการเล้ียงดขู องพอแม พอแมพา
กินอะไร พานุง หม อะไร พาไป พาอยูอ ยา งไร พาประพฤติอยางไร เดก็ ๆ กจ็ าํ ตองเปน
ไปตามพอแม เพราะไมมีความสามารถในตัวเอง

แวน ดวงใจ ๔๑

กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๔- :๖๑ปญั -ญาอบรมสมาธิ

๔๒

เมอ่ื ถูกถามถงึ การชอบเทย่ี วตามโรงหนงั โรงละคร และบารเปนตน เดก็ ก็ตอบวา
โรงหนงั โรงอะไรเหลา นี้ กเ็ ปนเรอ่ื งของผูใ หญจ ัดทาํ ข้นึ และผใู หญพ าเดก็ ๆ ไปดู เด็ก
จะมีเงนิ และความฉลาดสามารถมาจากไหน พอจะจัดสรา งโรงหนัง โรงละคร โรงระบาํ
ตา ง ๆ เหลาน้นั ขนึ้ มาได แมแตเ งินคา ตัว๋ เขาดกู เ็ ปน เงินของคุณพอ คุณแมใ หท ั้งน้ัน
เพราะตนเองหาเงนิ ไมเปน เมอื่ ถกู ถามถงึ เรือ่ งคณุ พอ คณุ แมก็พาไปดูหนังและดูอะไรตอ
มิอะไรดวยหรอื เด็กกต็ อบวา คณุ พอ คณุ แมและครเู ปน ตวั การทีเดยี ว พาไปแทบทกุ วนั
ตอนเปนเด็กเลก็ ๆ ถาไปพกั ประจาํ ทโี่ รงเรียนหรอื หอพัก กอ็ าศัยเพื่อนนกั เรียนพาไป
บา ง บางทมี โี อกาสคุณครกู พ็ าไปบาง เมอ่ื ถูกถามถึงการจับจายเงิน เดก็ กใ็ หเหตผุ ลวา
คุณพอคุณแมย่ิงจายเงินเปนไฟไปเลย บางครง้ั คณุ พอ กับคณุ แมเ กิดทะเลาะกันเพราะ
การจายเงินมาก โดยไมทราบเหตผุ ลตน ปลาย การทะเลาะกนั เนื่องจากทง้ั สองฝายไมเ ขา
ใจกนั โดยฝายหน่งึ หาวาอกี ฝา ยหนึ่งแอบเอาเงนิ ไปบาํ รุงบาํ เรออะไรไมทราบ เร่ืองจึงยุง
กนั อยเู รอ่ื ย ๆ

เมื่อทราบตน สายปลายเหตจุ ากท้ังสองฝาย ซง่ึ ตา งก็มเี หตผุ ลเทา ๆ กัน จึงไม
ทราบวา จะตําหนแิ ละชมใคร เพราะฝา ยผูปกครองเด็กกม็ ีสวนผิด อันเปนตน เหตุไมด ใี ห
เดก็ ๆ มีสวนผิดไปตามไดด ังทเ่ี ด็ก ๆ อา งเหตุผล เรอื่ งจงึ ควรลงเอยกันทต่ี น เหตุเปน
กรณที ี่ควรแกกอนอน่ื ถาตน เหตุยังไมด ีพอทผ่ี รู ับถา ยทอดจะยดึ ไปใชเปนประโยชนไ ด
การตําหนิก็ไมมผี ลดีอะไรเกิดขน้ึ จะเปนทํานองปลอยใหเรอื นของตัวรว่ั แตม วั ไปตาํ หนิ
เรือนของคนอืน่ ไมเ ขาหลักของบคุ คลผูจะเปนผูน ําที่ดขี องโลก

ดงั น้ันเร่อื งจึงสําคญั อยูทีผ่ ูป กครอง จะพยายามปรบั ปรงุ ตวั ใหเปน แบบพมิ พท ด่ี ี
ของเด็ก ๆ เพราะทุกส่งิ ทกุ อยางทีเ่ ด็กนาํ ไปใชล ว นแตไดรับถายทอดไปจากผูใ หญท้ังน้นั
ดงั ทีเ่ ด็กนาํ ออกแสดงโดยมากเปน สงิ่ ทีผ่ ูใหญริเริม่ ทาํ เพอ่ื หาความสขุ เฉพาะตวั แตข าด
ความคํานึงวา เด็ก ๆ อาจจะเดินรอยตามผใู หญหรอื ไม ซ่ึงจะทําใหเดก็ เสียในอนาคต ถา
ผูใหญมีความสนใจทกุ กรณีทตี่ นจะพงึ ทําในฐานะเปนผใู หญวา ควรหรือไมค วรแลว เดก็
จะไดรบั สงิ่ ทด่ี ีและเปนประโยชนจากผใู หญไปใช กลายเปนคนดีในปจ จุบันและอนาคต
จาํ นวนไมนอ ยเลย

ดังนน้ั ผปู กครองเดก็ ทั้งหลายทั้งทางบา นและทางโรงเรียน ตา งไมควรมองขา ม
ตนและควรสงั เกตดคู วามประพฤติของตวั อยูเ สมอ อยา งไรตอ งเปนแบบพมิ พท ดี่ ีของ
เดก็ และประเทศชาติบา นเมอื งไดอ ยา งนาชนื่ ชม เมอื่ ผูใหญตัง้ เข็มทศิ ทางเดนิ ท่ีดไี วโดย
ความประพฤตติ วั ดใี หเด็ก ๆ ดาํ เนินตามแลว เด็ก ๆ ยอ มจะไมประพฤติเขวไปนอกลู

แวน ดวงใจ ๔๒

แว่นดวงใจ : ภ-า๖ค๒๑-อบรมฆราวาส

กณั ฑ์เทศน์ท่ี ๔- :๖๓ปัญ-ญาอบรมสมาธิ

๔๔

กรรมช่วั เปน เหมือนวัตถุเครอ่ื งทําลาย มหี ลายขนาดตามแตผ ทู าํ กรรมจะผลติ ขึ้น
มาใชเ อง ผลของกรรมกม็ หี ลายขนาดไปตามเหตทุ ่ีผลิตไว รวมกรรมประเภทนี้แลว เรยี ก
วา เคร่ืองทาํ ลายตัวเอง ใครเจอขนาดไหนเขา จําตองรอ งทุกขเหมือนกนั หมด ไมว าสัตว
บคุ คลและชาติช้นั วรรณะใด ทกุ คนท่เี ชื่อตอ สง่ิ ทมี่ นุษยท ําขึ้นทางดานวตั ถุ ท้ังดา นทาํ ลาย
และดานสงเสริมวา เปน ของมีประสิทธภิ าพ สามารถทําลายและสง เสรมิ ไดจรงิ จงึ ควรสน
ใจตอหลกั กรรมดี กรรมช่ัว ซึง่ เปนสงิ่ ที่มนุษยท ําเองเหมือนกนั วาจะมีผลดผี ลชว่ั เชน
เดยี วกบั ดานวัตถุ เพราะท้งั ดา นวัตถุและดา นนามธรรม ยอ มมีทางไหลออกเปนตวั ผล
เหมอื นกนั เนอ่ื งจากเหตุดเี หตชุ ่วั เปนกญุ แจเปด ทางเพ่อื ผลอยตู ลอดเวลา

ผกู ลวั ภัยจากความทุกขแ ละหวงั ความสขุ ความเจริญแกตน ทงั้ โลกนีแ้ ละโลกหนา
จึงควรเห็นกรรมท้ังฝา ยดฝี ายช่ัววาเปนส่ิงจะใหผล แมแ ตอ าหารหวานคาวและท่ีอยอู าศยั
ซ่ึงถอื วาเปน ของจําเปน ท่ัวโลกยังตองอาศัยกรรม คอื การปรุงแตงและการปลูกสรางท่ี
เรยี กวา กรรม ตามหลักของศาสนา ความสขุ ทีเ่ กดิ ข้นึ เพราะอาศยั สง่ิ เหลาน้ัน ยอมเปน ผล
ใหโลกไดค รองตวั ตลอดมา ฉะนน้ั คาํ วากรรมดีกรรมชัว่ จึงมีความสําคญั ไปคนละทาง ซึง่
ผทู าํ กรรมจะควรเลือกเฟน กอนจะมีผลตามสนอง

มนุษยเราเปน ผูม ใี จฉลาดแยบคายกวา สัตว แมจ ะอาศยั อยใู นโลกเดียวกันกเ็ ปน
ประหนึ่งอยคู นละโลก จงึ ควรทําตวั ใหแปลกจากสตั ว โดยความประพฤติ ความรู ความ
เห็นทแ่ี สดงออกมาจากใจอนั ฉลาด จะเปนความรม เยน็ แกเพ่ือนมนุษยตลอดสตั วซึง่ เปน
ผูโง หวงั พ่ึงผเู ปน ธรรมซึ่งมีการหกั หา มใจตวั เองดว ยเหตุผล คือหลกั ธรรม อนั เปนธรรม
ชาติใหความแนน อนและไววางใจได ไมป ลอยไปตามอําเภอใจที่มคี วามอยากเปน เครอื่ ง
ผลักดันใหไ หลลงทางต่าํ เพราะตามธรรมดาของใจยอ มมคี วามอยากเปน เจา เรือน ท้งั
เด็กและผใู หญ ทั้งคนโงค นฉลาด และคนมฐี านะสงู และตา่ํ ยอมมคี วามอยากฝง อยใู นใจ
ดวยกันทัง้ น้ัน แตส ําคญั ที่การฝก อบรมใจใหอ ยใู นหลักธรรมอันเปน ความพอดี ทกุ คนจะ
กลายเปนบคุ คลที่พอดไี ปตามธรรม และไมกอความเดือดรอ นใสตนเองและสว นรวม

สงิ่ ใดทไี่ ตรต รองดูแลวเห็นวา ดีและเปนประโยชนก ท็ ําลงไป แตสงิ่ ทีเ่ หน็ วา เปน
โทษ แมใ จอยากทาํ กไ็ มยอมลอุ ํานาจใหท าํ จะเปน ความเคยตวั และหักหา มไมอยูในคราว
ตอไป รบี หกั หา มเสียแตตน มอื จะสมชือ่ วา เปน ผูรักตนและผมู ีสว นเกี่ยวของ แมเ ดก็ ผูจาํ
ตอ งอาศยั ผูใหญทุกกรณี กจ็ ะตอ งเดินตามรอยและกลายเปนเด็กดีในวันตอ ไป เพราะ
รอ งรอยทางช่วั พอแมผูปกครองมิไดทําแบบพมิ พเ อาไว พอจะใหเ ดก็ หยบิ ฉวยมาเลยี น
แบบและกลายเปนคนเสยี หายไปตาม

แวน ดวงใจ ๔๔

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๖ค๔๑- อบรมฆราวาส

๔๕

ธรรมคอื ความสม่าํ เสมอไมเอนเอยี ง ผูสนใจและเลื่อมใส ยอ มนาํ ไปปฏบิ ัติไดต าม
เพศและวัยของตน เฉพาะครวั เรอื นหน่งึ ๆ ถา ขาดธรรมเปน เครอื่ งปกครองแลว แมจะมี
ความฉลาดและมีสมบตั มิ าก ก็ไมสามารถจะใหความรมเย็นแกตนและครอบครวั ได
เพราะความรมเยน็ มิใชอ ยูทีส่ มบัตแิ ละความฉลาดท่ีไดเ รยี นมาเพยี งเทานัน้ แตอ ยทู ใ่ี จซ่งึ
มธี รรมอนั นบั วา มีความพอดีประจําใจ กลายเปน ความพอดปี ระจําครอบครวั เพราะทกุ
ส่งิ ทมี่ ีความพอดปี ระจาํ อยูแลว ยอมเพยี งพอกบั ความตองการ ไมก าํ เริบ เชน แกงทแี่ ม
ครวั ปรงุ พอดแี ลว รบั ประทานกม็ ีรสอรอยและเปนสขุ กายสุขใจ

สามภี รรยามคี วามพอดีประจาํ ตน ยอ มเปนทพี่ อใจและเปนสขุ ดว ยกันท้งั สองฝาย
แตถ าฝายใดฝา ยหนึง่ ประพฤติขา มเขตความพอดี ตอ งเกดิ เรอื่ งยงุ และเดอื ดรอ นขึ้นทันที
ในครอบครัวนนั้ อยดู ว ยกันไมเ ปน สขุ แมจ ะมสี มบัติมากก็นํามาแกไขไมต ก ดังนน้ั พระ
พทุ ธเจา จึงสอนวา สนฺตุฏฐ ี ปรมํ ธนํ ความพอดีเปน หลักทรัพยอนั พึงพอใจอยา งยิง่ คน
ท่มี ีธรรมสันโดษ ความพอดีและอปั ปจ ฉตา คอื ความมกั นอ ยในอารมณเครอ่ื งเสรมิ ไฟ จงึ
มคี วามสขุ เปนเรอื นพกั ของใจ จะไมคะนองแบบลนฝงอยูตลอดเวลา แมจ ะฉลาดและมี
ทรพั ยมาก

มบี างทานมาถามวา ไดพ บในหนังสือบางฉบบั แสดงเปน เชงิ ไมอยากใหพ ระ
เทศนส อนประชาชนเกยี่ วกบั ความสนั โดษและความมกั นอย เพราะสมัยนี้เปนสมัยทก่ี าํ ลัง
ฟน ฟูเศรษฐกิจของบานเมอื งใหมคี วามเจรญิ กาวหนา การสอนธรรมท้ังสองขอน้ี จะเปน
การขัดแยง หรือเปนอปุ สรรคตอ การฟน ฟูเศรษฐกิจของบานเมือง ทานจะเหน็ วาอยา งไร?

ในขอนี้ สาํ คญั อยูกบั ผูต คี วามหมายในธรรม แลว นํามาชแี้ จงใหค นฟง คนอา น ถา
ตีความหมายวา ธรรมทัง้ สองบทนี้สอนใหเ กียจครา นออนแอ สอนใหค นกินนอ ย ใชน อ ย
ท่อี ยอู าศยั ก็ใหท ําคบั แคบไมเ พยี งพอกับการหลับนอน เครอ่ื งใชส อยทกุ อยางก็ทาํ ใหน อย
ไมพอกิน พออยูอาศยั ไมพอใช ทําอะไรกใ็ หท าํ แบบอด ๆ อยาก ๆ ทุกส่งิ ทุกอยา งที่
เกีย่ วกับมนุษยอ าศัยก็ใหท าํ แบบขาด ๆ เกนิ ๆ แมรบั ประทานก็ไมใ หอิม่ และเพียงพอ
กบั ธาตขุ นั ธท ีต่ อ งการ ถา เปนเชน นีก้ ็กลัวคนจะลําบากและอดตายกันหมดท้งั ประเทศ ก็
จําตองบอกใหทราบ เพราะปกตนิ สิ ัยของคนกข็ ้ีเกยี จอยดู วย การบอกเพอ่ื ใหคนมีความ
ขยนั หมั่นเพยี รจึงไมเปนทางผิด

ความจริง ความมักนอยกบั ความสันโดษเปนธรรมคเู คยี งของโลกตลอดมา และ
เปนธรรมจําเปนทัง้ นักบวชและคฤหสั ถ ท่ีจะนาํ ไปใชใหเหมาะกับเพศและฐานะของตน
เทา ท่จี ะเหน็ ควร เพราะความหมายของธรรมกบ็ งชดั อยูแ ลว วา จงเปนผมู กั นอ ยในสงิ่ ท่ี

แวน ดวงใจ ๔๕

กัณฑ์เทศนท์ ่ี ๔-: ๖ป๕ญั -ญาอบรมสมาธิ

๔๖

ควรมักนอย เชน คสู ามภี รรยา มเี พยี งผัวเดยี วเมียเดียวเทานนั้ เปนท่เี หมาะและงามอยา ง
ย่ิงแลว ไมพ ะรุงพะรัง หามบาป หามกรรม เพราะมเี มยี มาก เรือ่ งมาก เวลาตายไปคน
ขางหลงั จะไมย งุ ยากในการแบง ปนมรดก ยกใหเมียโทนคนเดยี วเก็บไวเ ล้ยี งลกู เขาจะได
เห็นบญุ คุณของพอ ทล่ี ว งลับไป

ท้งั ตางฝา ยตางถือวา เปนคคู รองของกนั และกนั ไมป ระพฤตินอกใจซง่ึ ผดิ จากหลัก
ความมักนอ ย ตางกไ็ วว างใจกันไดใ นทางอารมณ นคี้ อื บอแหงความสขุ ในครอบครัว
เพราะคสู ามภี รรยาเปนผูฝากเปนฝากตายกันไดต ามหลักธรรม คือความมักนอย ไมยุง
เกยี่ วกับหญงิ ชายอน่ื ๆ แมจ ะว่งิ ตามมาเพราะไมใชของเรา จะไปเกย่ี วขอ งใหย งุ ไปทาํ ไม
สมบตั ิของเราจริง ๆ คอื ผวั คนเดียวหรอื เมยี คนเดียวเทานั้น นอกน้ันไมยงุ ดว ย น้คี ือการ
ตัดตนเพลิงที่ถูกตอง เพ่ือมิใหล ุกลามมาไหมค รอบครวั

ความสนั โดษ คอื ความพอดี เชนนํา้ ทีเ่ ต็มแกวแลว จัดวา พอดีแลว จะเทน้ําลงเพ่มิ
อีกก็ผิดความพอดี ไมเปนประโยชนอ ะไร คนทต่ี ั้งอยใู นความพอดี คือคนทร่ี ูจักเราและรู
จักทาน รจู ักของเราและรูจ ักของทา น เหน็ ใจเราและเหน็ ใจทา น ซึง่ มีความรูสกึ เชนเดียว
กัน จะเปน คนมีหรอื คนจน คนโงห รือคนฉลาด กร็ ูจ ักฐานะของกนั และกนั ไมเ ยอ หยง่ิ ไม
เหยยี ดหยาม ไมกลา้ํ กราย ไมล ว งลํา้ ไมเ ห็นแกไ ด สมบตั ิของทานมีมากหรอื มีนอ ย ไม
ลวงลํ้าเขตแดนโดยเหน็ วา พอเอาได เห็นวาเขามอี าํ นาจนอ ยพอจะเค้ยี วกลืนได เหน็ วา เขา
โงพอตบตากินได เห็นวา เขามีพวกนอ ยพอขม ขเู อาได เห็นวาเขาเผลอพอหยิบฉวยเอาได
เหน็ วา เขานอนหลับพอขโมยเอาได เห็นวา เขามชี อ งโหวพอคดโกงได เห็นวาเขาไมม อี าวุธ
พอปลนจ้เี อาได เหน็ วามีแตผหู ญงิ เฝา รักษาสมบตั ิพอขูเข็ญเอาได

ผมู ีธรรมสนั โดษภายในใจแลว ทําไมล ง ปลงจิตไมตกเพื่อจะทํา เพราะความเหน็
ใจกนั และสงสาร เน่ืองจากคิดดใู จเรากบั ใจทานผูอ่นื แลวมคี วามรูสึกอนั เดยี วกัน เรามี
สมบตั นิ อ ยมาก เรารักและสงวนของเรา ไมอยากใหใครมาลวงลา้ํ มีความยินดีทจ่ี ะแสวง
หาสมบัติดว ยความชอบธรรม หาไดม ากเทา ไรก็เปน ท่เี ย็นใจ เพราะการแสวงหาสมบตั ิ
ดวยความชอบธรรมจะไดม ามากมายเทาไร ไมเ ปนการขัดแยง ตอธรรมสนั โดษ เพราะ
พระพทุ ธเจา สอนใหค นมคี วามขยนั หมั่นเพียรในทางทช่ี อบ แตมไิ ดสอนใหขยันในการ
เบียดเบยี นกันและทําลายกัน และถือเอาสมบตั เิ ขามาเปนของตน ดงั นน้ั ความมักนอ ย
และสันโดษจงึ มิไดเ ปน ขาศึกแกก ารงานของโลกทกุ ประเภท ซึ่งจะเปน ไปเพอ่ื ความเจรญิ
พระองคยังกลบั สรรเสรญิ คนมีความขยนั และอดทนในการงานท่ชี อบอกี ดว ย สมกับ

แวนดวงใจ ๔๖

แวน่ ดวงใจ : ภ-าค๖๖๑- อบรมฆราวาส

๔๗

ปฏิปทาทส่ี อนไวทุกบททกุ บาท เพ่อื การรอ้ื ฟนโลกและธรรมใหเ จริญดว ยความขยันหม่นั
เพียร ไมม ปี ฏปิ ทาขเ้ี กยี จแฝงอยูใ นวงธรรมของพระพุทธเจา เลย

ธรรมสนั โดษ คือความยินดใี นสมบตั ทิ ม่ี ีอยขู องตน จะมีนอ ยมากเทา ไรกใ็ หย นิ ดี
ในของทีต่ นมอี ยู ถาเรามคี วามขยันและฉลาดสามารถพอ จะทาํ การเพาะปลูกหรือจะปลูก
สรา งโรงงานอตุ สาหกรรมใหญ ๆ ข้นึ ทว่ั ประเทศ ก็จะเปน ที่นิยมยินดีของคนจน ๆ เปน
อนั มาก เผือ่ เขาจะไดอ าศัยพึง่ รมเงาแหง บารมีของเรา ทั้งจะเปน ที่เบาใจของรฐั บาลซ่ึง
กาํ ลงั เปนหว งพีน่ องชาวไทยเรากลวั จะไมมีทอ่ี ยูอ าศัย เคร่อื งอุปโภคบริโภคเพียงพอกับ
ความเปนอยใู นครอบครวั ทั้งจะเปนทเี่ ทิดทนู ศาสนธรรมในบทวา

อฏุ ฐานสมั ปทา ถงึ พรอ มดว ยความขยนั หมัน่ เพียร วาเปน ประโยชนแกโลกจรงิ
คาํ สัง่ สอนของพระพทุ ธเจา จะไมเปนโมฆะอยูเ ปลา ๆ โดยไมมีผสู นใจและปฏิบตั ิตามจน
เกดิ ผล

ธรรมขอ ที่สองวา อารกั ขสัมปทา ถงึ พรอมดวยการเกบ็ รกั ษาทรัพยท่แี สวงหามา
ไดดว ยความชอบธรรม ไมจบั จายอยางสรุ ยุ สุรา ยโดยไมม ีขอบเขต การจบั จายควรถือ
ความจําเปนเปนประมาณ ทรพั ยจ ะมีสถานท่ีจอดแวะบาง ไมไหลผานมือไปเสียทเี ดยี ว
ธรรมคอื มตั ตญั ตุ า ความรูจกั ประมาณในการเกบ็ รักษา และการจับจายทเี่ ปน ฝาปด
และเปด ทรพั ยใ นคราวจาํ เปนทค่ี วรปด และควรเปด แมแตบ านเรือนกย็ งั มปี ระตปู ด เปด
ที่เก็บทรัพยก ็ควรจะมบี าง ถงึ คราวจาํ เปน เชน เจบ็ ไขเ ปนตน ทรพั ยก ็จะมีทางชวยเปลอื้ ง
ทุกขไ ดเ ทาที่ควร

ขอ ทีส่ าม สมชีวติ า การเลีย้ งและรกั ษาตัวใหเปนไปพอประมาณ อยาใหถงึ กับ
ฟุม เฟอยหรือฝดเคืองจนเกนิ ไป ทงั้ ๆ ที่ทรัพยเครือ่ งแกขดั แกจนมีอยู แตอ ยาใหก ลาย
ไปวาทรพั ยเปน เคร่ืองเสรมิ คนใหเสยี และเสรมิ คนใหข เ้ี หนียวจนเขากับใครไมได เหม็น
ฟุงไปหมดดวยกล่ินของความตระหนถ่ี ่เี หนียว และสง กล่ินฟงุ ไปไกลดว ยทัง้ ตามลมและ
ทวนลม จนหาท่หี ลบซอ นจมกู ไมไ ดเลย

ขอทสี่ ่ี กัลยาณมติ ตตา ความมมี ิตรสหายทีด่ งี าม การคบมติ รเปน สง่ิ สาํ คัญมาก
ควรเลือกเฟน ดว ยดี แมอ าหารในถวยในจานซง่ึ เปน สิง่ สําเร็จรปู มาเรียบรอยแลว ผรู ับ
ประทานยงั ตอ งเลือกเฟน ทกุ ครง้ั ท่ีรับประทาน เพราะในอาหารยอ มมที ั้งกระดูกทั้งกาง
ซึ่งเปน ภยั ตอ รางกายปะปนอยู และอาหารบางชนิดยังแสลงตอโรค จาํ ตองสังเกตดวยดี
ไมเ ชน น้ันอาจเปน ภยั ตอรางกาย บาปมติ รยง่ิ เปนภยั อยางรา ยแรง ถา คบดว ยความ
สะเพรา ไมใ ชค วามสังเกตและเลือกเฟน ถาเปน กลั ยาณมิตรกเ็ ปนคณุ อยางมากมาย พงึ่

แวน ดวงใจ ๔๗

กัณฑเ์ ทศน์ท่ี ๔- :๖๗ปัญ-ญาอบรมสมาธิ

๔๘

ไดท ง้ั คราวเปนคราวตาย ไมยอมทอดทิ้ง สขุ กส็ ุขดว ย ทุกขก็ทุกขดวย เมอ่ื มีกิจจําเปนก็
ชว ยเหลือไดเตม็ ไมเ ต็มมือ ไมกลัวความสน้ิ เปลอื งใด ๆ ทั้งส้ิน ขอแตเ พอื่ นผูจําเปน หรือ
จนมุมรอดพนออกมากได จงึ จะเปนทีพ่ อใจ น่ีคือเพ่อื นผพู ่งึ เปน พ่งึ ตายจริง ๆ ควรคบ
ตลอดกาล เพอ่ื นท่ดี เี ราชอบคบ แตเ ราไมดเี พือ่ นก็รังเกียจเหมือนกัน ตองมองดตู วั บา ง
เพ่อื จะไดเปน เพอื่ นท่ีดีของเขา เขาพลชี ีพเพ่ือเราฉนั ใด เราตองพลีชพี เพ่ือเขาฉนั นั้น

วันนี้ไดอธิบายธรรมเริ่มแตสมาธิมาพอประมาณ แลว ก็อธิบายเรื่องเด็กและผูปก
ครองเปนลําดบั จนถงึ อปั ปจ ฉตาและสนั โดษ ใหทา นผูฟ งท้ังหลายทราบ ขอขอบคณุ และ
อนุโมทนากบั ทกุ ทา นท่อี ตุ สาหมาดวยความสนใจตอธรรม หากวาโลกเราใครตอธรรมดงั
ทุก ๆ ทา นทีส่ นใจและบําเพญ็ อยูเวลาน้ี โลกกจ็ ะเปน ไปเพือ่ ความเจรญิ รุงเรือง แมเด็กที่
ไดร บั การถอ ยทอดจากผูใหญก ็จะกลายเปน เด็กดี มคี วามเฉลยี วฉลาดและปฏิบตั ิตัวไดด ี
เปน ท่เี บาใจของผปู กครอง โดยเหน็ วาเด็กจะเจริญวัยทง้ั ความรวู ิชา และความประพฤติ
เปน ลาํ ดับ ทงั้ จะเปนผนู ําของชาตติ อไปดว ยความละเอยี ดสุขมุ ประเทศชาตขิ องเรากจ็ ะ
เจรญิ ถาวรสบื ๆ ไป ชั่วฟา ดินสลาย

ดังน้นั การแสดงธรรมก็เห็นวาสมควรแกเ วลา จึงยตุ ธิ รรมเทศนาเพียงเทาน้ี เอวํ ก็
มดี ว ยประการฉะน้ี

www.Luangta.or.th

แวน ดวงใจ ๔๘

แวน่ ดวงใจ : ภ-าค๖๘๑- อบรมฆราวาส



๔๙

เมอื่เทวศนั เทนทศอ่ี น๒บอ์ ๐รบมรมฆมกฆรจรารกาิตวาัณควาภาสมฑสาณพ์ทวณีุ่ทนว๕ธดัวาศัดปปักา ่ารบบาา า้ชนน๒ตตาา๕ดด๐๘

บเาํ มเอื่ พวนั ญ็ ท่ี ต๒๐นมเกพราอ่ื คมหวพุทงั ธพศักน รากชร๒ร๕ม๐๘

วันน้จี ะอธบิ ายธรรมเกย่ี วกบั การบาํ เพญ็ ทางดา นจติ ใจ ใหบ รรดาทานผฟู งที่มา
จากสถานทต่ี า ง ๆ ดวยความสนใจใครต อธรรมเปนอยางยง่ิ ทราบตามโอกาสอันควร
ทานทีเ่ ปน นกั บวชซ่ึงพาคณะศรัทธาผใู จบญุ มากทา นมาสทู นี่ ี่ นบั วา เปนผมู คี วามมุงหวัง
ในธรรมอยา งแรงกลา และมคี วามมัน่ ใจตอการปฏบิ ตั เิ พอื่ ถอดถอนเคร่อื งหมักหมมที่
นกั ปราชญถือวาเปน ภัยตอ จิตใจใหหลดุ ลอยออกเปนลาํ ดบั จนไมมอี ะไรยงั เหลือให
เปนเชื้อแหง ภพชาติอีกตอไป แตก ารอธบิ ายธรรมเกีย่ วกบั การอบรมจติ ใจตามหลกั
ธรรมทา นแสดงไวม ากมาย เมอ่ื สรปุ ลงใหย อ กม็ ีสามประการ คอื ศีล สมาธิ ปญญา หรอื
ทาน ศลี ภาวนา

คําวา ศีล เขา ใจวา ทุกทานคงเคยไดยนิ ไดฟ งและเขาใจกนั มาพอสมควรแลว แม
คําวา ทานซึง่ เปน หลกั ใหญสวนหนึ่งของพระศาสนา และเปน หลกั ธรรมทีพ่ วกเราไดเคย
บาํ เพ็ญมาเปนประจํานิสัย ผูแ สดงไมสงสัยวาทานนักใจบุญจะของใจ เพราะตา งทานก็
เปนนกั ใจบุญสนุ ทานอยูแลว แตคําวา สมาธิ และ ปญญา ท้งั สองประเภทนี้รสู ึกวา สลับ
ซบั ซอ นและละเอียดลึกซงึ้ มาก ท้ังไมอ าจจะปฏบิ ัติใหถกู ตอ งตามความหมายในคาํ วา
สมาธิและปญญาไดท ุกระยะไป ฉะน้ันอุบายวธิ อี บรมทมี่ ีผูบ าํ เพญ็ จะปฏบิ ตั ิใหถกู ตอ ง
ตามธรรมทงั้ สองประเภทน้ี จงึ ควรอาศัยครอู าจารยเ ปนผแู นะนาํ แนวทางให

อนงึ่ ทานผูจ ะควรแนะนําแนวทางใหโ ดยถูกตอง โดยมากก็เปน ผูเคยไดรบั
การอบรม และรูเรอ่ื งของสมาธิและปญญาภายในใจมาพอสมควร หรือเปนผูมคี วาม
ชาํ นิชาํ นาญและปฏบิ ัติผา นสมาธแิ ละปญ ญาไปเปน ขั้น ๆ นับแตข นั้ ตา่ํ จนถงึ ข้นั สูงสดุ
ของสมาธิและปญญา มีความเฉลียวฉลาดและสามารถใหก ารอบรมสั่งสอนแกผ ูมาอบ
รมศกึ ษาและปฏิบตั อิ ยดู ว ย ใหไดร บั ความเขาอกเขา ใจตามขนั้ ภูมิของตนทม่ี าศกึ ษา

คาํ วา สมาธิ เมอ่ื แปลตามศัพทแ ลว แปลวา ความต้ังมัน่ ประโยคแรกของความ
ตง้ั มั่นสาํ หรับนกั บวชผูม หี นา ท่โี ดยเฉพาะแลว เริม่ ต้ังมั่นไปแตขอ วัตรปฏบิ ตั ิ ตง้ั มั่นใน
ระเบยี บพระธรรมวินัย ตัง้ ม่นั ตอ การสาํ รวมระวังท้งั กจิ นอกการใน เหลือบซายมองขวา
ไมย อมปลอยวางสตแิ ละปญ ญาเคร่อื งคมุ ครองใจใหพนจากภยั ทกุ ระยะ อนั จะเกิดข้นึ
จากอายตนะภายนอกกบั ภายในสมั ผสั กนั เพ่อื เปนเคร่ืองสนบั สนนุ จติ ใจใหมคี วาม

แวนดวงใจ แว่นดวงใจ : ภ-า๗ค๔๐๙๑-อบรมฆราวาส

กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๗่ี ๕๑ :- จติ ภาวนา

๕๑

เรือ้ รงั นี้ ทานท่ีไดร บั ผลอยา งสมบรู ณม าแลว คือพระพุทธเจา มพี ระเมตตาไวว า สกฺกตฺ
วา พทุ ธฺ รตนํ ธมมฺ รตนํ สงฺฆรตนํ โอสถํ อตุ ฺตมํ วรํ พระพทุ ธเจา พระธรรม และพระ
สงฆเปนโอสถอนั อุดมเลศิ

ดังนั้น ทา นผูตองการใหใจหายหรือทเุ ลาเบาบางจากโรคประเภทน้ี จงึ ควร
อาศยั ยา คือธรรมดังทก่ี ลาวมา แตธ รรมกค็ วรเปน ธรรมทีถ่ กู กบั จรติ นิสยั ในขัน้ เริ่มแรก
เพอื่ ใจจะไดส งบลง นเ้ี ปน หลักสําคญั ที่ผูบาํ เพญ็ ไมควรมองขามไป จติ ท่ไี ดรบั
การอบรมดวยวิธที ่ถี กู ตอ งกบั หลกั ธรรมตามจริตของตน ยอมจะเหน็ ผลคอื ความสงบ
เยอื กเยน็ ประจักษใ จ ไมวาหญิง ชาย นกั บวช และฆราวาส เพราะโรคในกายและโรคใน
ใจเปนไดในบุคคลทกุ เพศ ยาท่ีควรจะถูกกบั โรคน้นั ๆ ผูท ห่ี วังประโยชนจ ากยานํามา
รกั ษาโดยถูกตองตามวธิ ี กย็ อ มจะหายไดเ ชนเดียวกัน โดยไมเ ลอื กเพศหรือชาติชน้ั
วรรณะใด ๆ เพราะสําคัญอยทู ีโ่ รคถูกกบั ยาเทานัน้ ฉะนน้ั ผูสนใจใครตอ การปฏบิ ตั ิ
ธรรมจงึ มหี วังไดร บั ผลเปนเครอื่ งตอบแทนโดยทั่วกัน หากจะมตี า งกนั อยบู า งก็ขึ้นอยู
กบั เหตุ คอื การบําเพ็ญของแตละราย อาจมคี วามหนักเบามากนอ ยไปตามจรติ นสิ ัย ผล
จงึ มกี ารเหลื่อมล้ําตํ่าสงู ไปตามเหตุท่ีทาํ ใหเปน ไป

แตก ารเรม่ิ ปฏบิ ัติเบอื้ งตน อาจมีความลําบากอยูบา ง เพราะเปนงานท่ียงั ไมเคย
คลาํ หรอื ทางทีย่ ังไมเ คยเดนิ แตอ ยาลืมวาการปฏบิ ตั อิ บรมใจก็คือการทํางาน ข้ึนช่อื วา
การทํางานแลว ไมวา งานภายนอกหรอื งานภายใน ยอมมีความเหนือ่ ยยากลําบากเชน
เดยี วกนั เฉพาะงานภายใน หากจะมีความสะดวกนบั แตข้นั เริม่ ตน จนถึงข้ันสูงสดุ ก็คง
มเี ปน บางราย ดังทที่ านเขยี นประวตั ไิ วว า สขุ า ปฏิปทา ขปิ ฺปาภิฺญา หรอื ทนธฺ าภิฺ
ญา แตจ ะอยา งไรก็ดีเราควรคํานงึ ถงึ หลกั ธรรมเสมอวา ไมไ ดส อนคนใหมองเพยี งแง
ความลาํ บาก และท่สี ะเพราทําลงไปแลวบงั คับใหเ ห็นผล อยมฺภทนฺตา ถา ไมส มใจใน
ขณะน้นั ใหเ ลกิ ลม ไปเสยี

หากหลกั ธรรมสอนเชน นัน้ แมองคพระพทุ ธเจาเองก็คงเปน บุคคลทลี่ มละลาย
ไมสามารถตรสั รูและนาํ พระธรรมมาสงั่ สอนโลกใหไดรบั ความรมเยน็ ไดเลย แตไมท รง
สอนเชน นั้น กลบั สอนลงที่ผลอนั จะพงึ ไดรับเปน ที่ภาคภมู ใิ จกบั เหตุ คอื การบาํ เพ็ญ
เพือ่ ผลเชนนั้นใหเ หมาะสมแกกัน โดยมีความขยนั หมน่ั เพียรและความหนกั แนน ตอกจิ
การทที่ ํา เปนเคร่อื งหนุนงานอยูเสมอ เพอื่ ผลจะมชี องทางแสดงขึ้นตามรอยแหงเหตุท่ี
ทําแบบพมิ พเ อาไว เพราะฉะน้นั หลกั พระพทุ ธศาสนาจึงนิยมและสอนเนน ลงทต่ี นเหตุ
คอื การกระทําเปน สําคญั กวา อืน่ เมื่อเหตเุ ปน พน้ื ฐานท่ผี ูทาํ ทาํ ไดม ากนอยเพยี งไร ผล

แวนดวงใจ แวน่ ดวงใจ : ภ- า๗ค๕๒๑๑-อบรมฆราวาส

กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๗่ี ๕๓ :-จติ ภาวนา

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๗ค๔๑-อบรมฆราวาส

กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๗่ี ๕๕ :-จติ ภาวนา

๕๕

ไดต ามแตความถนดั เพราะมคี วามมน่ั คงตอ ตนเองและตออารมณ ไมคอยจะวอกแวก
คลอนแคลนไปตามอารมณท่มี าย่ัวยวนอยา งงา ยดายเหมอื นที่เคยเปน มา

แตก ารพกั อยูไดนานหรอื ไมน ้ัน ขึ้นอยูก ับความชาํ นาญหรอื ไมชํานาญตางกนั
ถาจติ มีความชํานาญมากก็ทรงตวั อยูไดน าน และแสดงความสขุ ทแี่ ปลกประหลาดและ
อศั จรรยใหผูบ ําเพ็ญไดชมเปน เวลานาน ๆ เชน เดยี วกนั แมจ ติ ถอนขน้ึ มาแลว แต
กระแสแหง ธรรมที่เคยไดร ับในขณะทีจ่ ิตพกั อยู ก็ยังมีอานุภาพพอจะดึงดดู จิตใหม ี
ความพอใจในรสชาติอยไู มน อย ฉะนัน้ ผมู สี มาธิเปนเรอื นใจจึงมที างติดได หากไมใ ช
ความสังเกตสอดรูดวยปญญา หรือไมมีผูแ สดงใหร ไู วล ว งหนากอ น เพราะเปน ความ
สงบสุขทีแ่ ปลกประหลาดอยูไมน อ ย วิธีรกั ษาจิตประเภทน้ใี หทรงตัวหรอื ใหเจริญกาว
หนา ไดแกความเพยี ร อยา ลดละ และอยา ทาํ ความยนิ ดีเพยี งเทา นั้น เพราะธรรมท่ี
ละเอียดยง่ิ กวานยี้ งั มอี ีกมากมาย ซ่งึ จะกลายมาเปนสมบัตขิ องเรา เพราะอาํ นาจแหง
ความเพยี ร

เมอื่ จิตถอนขึน้ มาแลว พยายามพิจารณาอกี เชน ทเ่ี คยทาํ มา แตอยาคาดผลที่
เคยปรากฏมาแลว แตไ ดผ านไปแลว โปรดกาํ หนดตามวธิ ที ่ีเคยทําและเคยปรากฏมาแต
หนหลังซงึ่ เปน หลกั เหตุนไ้ี ว เม่อื หลักของเหตแุ มน ยาํ และม่ันคงอยแู ลว ผลจะปรากฏ
ข้ึนมาเองโดยไมมีใครบังคับได เชน เราเคยกาํ หนดอานาปานสติ ปรากฏผลขนึ้ มาเชน
นั้น ก็จงถือเอาธรรมน้นั เปนหลักเหตุ แลวบําเพ็ญตอ ไป เมอ่ื เหตมุ ีกาํ ลังพอจะเปน ไป
ไดใ นธรรมขัน้ ใด ผลกย็ ่ิงจะแสดงขึ้นมาในลําดับแหงเหตุ อันมีกําลงั เปนลําดับไปน่นั แล

ลาํ ดบั ตอไป เมื่อจิตมีความสงบพอทรงตัวได หลังจากจิตถอนขึ้นจากสมาธิแลว
ควรพิจารณาทางดา นปญญา เพอื่ เปนการเรืองปญ ญาและบาํ รุงสมาธใิ หม กี ําลงั ม่ันคง
เพิ่มขน้ึ อีก โดยสอดสอ งไตรต รองดูสภาพธาตขุ นั ธภ ายนอกภายใน ตามจริตของปญญา
จะหนกั ไปทางไหน ในขน้ั เรม่ิ แรก ตามธรรมดาของสภาวธรรมทั่ว ๆ ไป ยอ มมีการ
แปรและแตกสลายทัง้ ภายนอกทงั้ ภายใน ทั้งท่ีผา นมาแลว ทงั้ ทย่ี งั ไมม าถึง ทง้ั ปจจบุ นั ที่
ปรากฏดว ยหูดว ยตา และสมั ผัสรบั รอู ยกู บั ใจ มนั เต็มไปดว ยของแปรปรวนทั้งน้ัน แม
แตภ ูเขาหินท้ังลูกกย็ ังไมมีอํานาจตั้งอยเู หนืออนจิ จงั คอื ความแปรปรวนไปได ถงึ จะสูง
จรดฟา ก็เพียงแตลกั ษณะเทา นั้น สว นตวั ภเู ขายอ มอยูใตอ าํ นาจของกฎอนิจจงั พรอ มท้งั
ความสงู ของมนั ไมม สี ว นใดเลด็ ลอดตาขา ยของอนจิ จังไปไดเ ลย

แตค วามแปรสภาพของภูเขาหนิ ซง่ึ เปน วัตถทุ ่แี ข็งกวาสิ่งทไ่ี มแ ข็งแรงทัว่ ๆ ไป
จึงมีความแปรสภาพอยางเชอ่ื งชา คอย ๆ แปรไปตามความแขง็ ของตน แตมใิ ชป ญ หา

แวน ดวงใจ แวน่ ดวงใจ : ภ-า๗๕ค๖๕๑-อบรมฆราวาส

๕๖

ท่ีจะสามารถมาลบลางกฎของอนิจจังได จําตอ งแปรไปในระยะกอนและหลังกนั อยนู น่ั
เอง ยอนเขา มาถึงตัวและเร่ืองของเรา ของหมูเพื่อน และของแตล ะครอบครวั จะเหน็
เปนเร่ืองความวิปโยคพลดั พรากกันตลอดสาย ทัง้ คราวเปนและคราวตาย ลวนเปน
เรือ่ งวิปริณามธรรมประจําสัตวแ ละสังขารน้ันๆ เฉพาะในวงวัดก็แสดงตัวอยใู นลกั ษณะ
เชน เดยี วกนั กับสง่ิ ทัว่ ๆ ไป

เชนวนั นท้ี านองคน ้ีเขามา วันหนา ทานองคน ัน้ จากไป และทานองคนั้นไมสบาย
ทา นองคนป้ี วดทอง ทานองคนัน้ ปวดศีรษะ ตา งก็เปนไปอยเู ชนนน้ั ท้ังในบานในวดั ทัง้
นอกเมืองในเมือง ทวั่ ดนิ แดน ไมม ีผูใดและสิง่ ใดจะไดร ับสิทธเิ ปน พเิ ศษ อยูเหนือ
อาํ นาจของกฎไตรลักษณ คอื อนจิ จฺ ํ ทุกฺขํ อนตฺตา ซึ่งเปน กฎของคตธิ รรมดาและมี
ประจาํ อยูท ว่ั ไตรภพไปไดเลย ผูใดเรยี นจบคตธิ รรมดานโี้ ดยทางปญญาแลว ผูนั้นจะ
พน จากความทกุ ขโดยประการทง้ั ปวง

ดังนัน้ ทุกทา นซง่ึ กาํ ลังนั่งฟงการพรรณานาถงึ กฎของคติธรรมดาอยดู วยความ
สนใจ โปรดใชปญ ญาพิจารณาปลงธรรมสังเวชลงใหถึงหลกั ความจริงของธรรมทกี่ ลา ว
มาน้ี ซง่ึ ขณะน้ีมีอยกู บั ตวั ของเราทกุ ทา นอยางสมบูรณ อนิจจังไดอธิบายมาบางพอ
ประมาณ แมทุกขัง อนตั ตาก็โปรดทราบวาอยูในจดุ เดียวกนั เชน เดยี วกบั เชือกสาม
เกลียวท่ฟี น ติดกนั เปนเสน เดียวน่นั แล พดู ถึงเรอื่ งของทุกขแลวไมควรจะเปนสิง่ ที่นา
สงสยั ท่ีไหน เพราะไมใ ชเ ปน ของลี้ลับ แตม ีอยใู นกายและในใจของมนุษยและสตั วท ุก
ๆ ราย แมแ ตเดก็ ตวั แดงๆ ที่พึ่งคลอด เขายงั ตองผา นออกมากบั ความทุกขและแสดง
อาการใหเรารวู าเขาเปน ทุกข ทุกอาการท่ีเขาแสดงออกมาในเวลานน้ั ลว นเปนเคร่ืองสอ
ใหเ หน็ วา กองทกุ ขเรม่ิ แสดงตัวออกมาอยา งเปด เผย จากนนั้ ก็แสดงทกุ ขตดิ ตอ กนั ไป
ตลอดสาย จนถงึ วาระสดุ ทายก็แสดงตัวอยา งเตม็ ท่อี กี ครั้งหน่งึ แลวตา งอาการตางก็
แยกยายกันไปที่โลกใหน ามวาตาย

ส่ิงทง้ั นเี้ ปนเรือ่ งแสดงออกแหง กฎของไตรลกั ษณโดยส้ินเชิง ไมมีอะไรนอก
เหนือไปจากน้พี อจะใหเกิดความสงสัย เพอ่ื ความแจง ประจักษใ จ โปรดมองลงไปทกี่ าย
กับใจของเราเอง เราจะไดเ ห็นทุกขแสดงตัวเปน อาการตาง ๆ เต็มอยใู นกายในใจอยา ง
สมบรู ณ ไมมีวนั และเวลาบกพรอ ง ความเคล่อื นไหวไปมาตาง ๆ ทเี่ ราแสดงออก ลว น
เปน วิธหี าทางบรรเทาทุกขใ นตัวเราท้งั นน้ั ฉะนัน้ ท่วั โลกจงึ ไมม ใี ครจะอยูเ หนือใคร และ
ไดเ ปรยี บใครในเรอ่ื งความทุกขในขันธ เพราะแตล ะขนั ธม ันเปนบานเรอื นของทกุ ข

แวน ดวงใจ กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๗ี่๕๕๗๖:-จติ ภาวนา

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๗ค๘๑-อบรมฆราวาส

๕๘

ฉะน้นั ทานนักปฏิบตั ทิ ี่สนใจทุกทาน โปรดมองดูตวั เอง อยามองขามไป เพราะ
ใจเปนสงิ่ ที่มีคณุ คามากเหนอื สิง่ ใด ๆ ในตวั เรา พยายามบําเพ็ญประโยชนต นใหเต็มที่
อยา ใหเสยี ทา เสียทีที่เกดิ มาเปนมนษุ ยอ ยา งเตม็ ภูมิ พรอ มทง้ั ไดพ บไดบ วช และเปน
พทุ ธบรษิ ทั ในพระพุทธศาสนาอันสมบรู ณดวยเหตุและผล สมกบั บทธรรมทว่ี า สวาก
ขาตธรรม ธรรมท่ีตรัสไวช อบแลว และบทวา นยิ ยานกิ ธรรม เปน ธรรมที่สามารถนําผู
ปฏบิ ัตติ ามใหพ นทกุ ขไดโดยแนนอน โปรดมองดทู างพนทุกขใ นธรรมทเี่ รียกวา นิยยา
นกิ ธรรม แกไขดัดแปลงกาย วาจา ใจใหเปน ไปตามธรรมและตามเพศของตน ผทู ีไ่ ด
บาํ เพ็ญเต็มความสามารถและไดบ รรลุถงึ ผลอันสมบูรณแลว จะผา นพน จากทุกขไ ปได
ในอตั ภาพนี้ ผูท่ีกาํ ลังบาํ เพ็ญเพื่อแดนพนทุกขโดยไมล ดละความเพยี ร กจ็ ะผานพน
ทุกขไ ปในวันหนา ขออยางเดยี ว คือ อยา มองดูทางพน ทกุ ขเ ลยธรรมของพระพทุ ธเจา ท่ี
เรียกวา มชฺฌมิ า จะเปน การชอบธรรม

ในอวสานแหง ธรรม จึงขออาราธนาคณุ พระพทุ ธเจา พระธรรม และพระสงฆ
องคเปนสรณะของโลก มาคุมครองรักษาทา นพุทธบรษิ ทั ทั้งหลายใหม คี วามสุขกาย
สบายใจ และปฏบิ ตั ติ นดวยความสะอาด ปราศจากอุปสรรคเครื่องกดี ขวางทางดาํ เนนิ
ทกุ ประเภทจนถึงแดนแหงความเกษมโดยสวัสดีเถดิ

www.Luangta.or.th

แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศน-ท์ ๗่ี๕๕๙๘:-จติ ภาวนา



๕๙

เมอื่ เวทนั ศเททนศ่ี อ๑นบ๐อ์ รบกมรกมุมฆฆิเภรลรกาาาวพณัสวาาัน-สฑสอธณ์ทรณพี่ ิยวุท๖วดสั ธดั ปจัศปา่ากั บบรา้าานนชตต๒าาดด๕๐๘

เมอ่ื พวันอท่ีแ๑ม๐ ขกุมอภางพกนั ิเธล์ พสทุ ตธศณั ักราหชา๒๕๐๘

ความคิดทเ่ี กดิ ขนึ้ ในเบ้ืองตน สําหรบั นกั บวชผูมุงตอ การปฏิบตั ิ ความคิดเพ่อื
แสวงหาครูอาจารยน เี้ ปนความคดิ ท่ีถกู ตอ ง โปรดรกั ษาความคดิ เชนน้ีไว ความคดิ เชนน้ี
แลจะสามารถลบลา งความคิดทีไ่ มด ี และไมเ ปน ที่ไววางใจตอ การปฏิบตั ิพระธรรมวินัยให
ถูกตอง จงึ เปนเหตุใหคิดเพื่อเสาะแสวงหาครูอาจารย ผูช ี้แนวทางอนั ถูกตอง แลว จะได
ดําเนินไปดวยความสะดวกและราบรืน่ แมพระสาวกองคท ป่ี รากฏวา ไดถงึ แดนแหงความ
เกษม กต็ อ งมีความคิดเชน นี้เหมือนกนั เชน คดิ อยากจะเขา เฝาองคส มเดจ็ พระผูม ีพระ
ภาคเจา เพ่ือพระองคจะไดป ระทานพระโอวาทสง่ั สอนทั้งทางถูกและทางผิด เพือ่ ผูใคร
ตอ การศกึ ษาและปฏิบัติจะไดรบี แกไขและดาํ เนินโดยถกู ตอง

ดังนนั้ การแสวงหาครอู าจารย ซง่ึ เปนที่แนใ จเราวาจะเปน ผสู ามารถแนะนาํ สั่งสอน
เราได จึงเปนความคิดทด่ี แี ละควรสงเสรมิ ความคิดประเภทนีใ้ หเ จริญย่ิง ๆ ขนึ้ ไป แลว
คอยพยายามดดั แปลงกาย วาจา ใจของตนใหเปน ไปตามโอวาทของทา น แตระวงั ความ
คิดที่จะคอยแทรกสิงและลบลางความคดิ ทด่ี นี ้ี ซง่ึ อาจจะเกิดข้ึนได เพราะส่งิ เหลา นม้ี อี ยู
ในฉากเดยี วกัน เม่อื ไดโอกาสอาจจะเกิดขนึ้ ได เราเองก็อาจจะหลงเชอ่ื ไปตาม ถงึ กับกาย
วาจา ใจไหวไปดว ย นีค้ อื สาเหตุท่จี ะใหเ ราไดร บั ความเสยี หายไปวนั ละเล็กละนอ ย และ
ดอยในทางปฏบิ ตั ิ ซ่ึงยงั ผลใหปรากฏเปนลาํ ดบั

เพราะกิเลสกับธรรมตามธรรมดาทานถอื วาเปน ขาศึกตอกนั ถากิเลสมกี าํ ลังมาก
กวา ก็สามารถจะลบลา งธรรมซึง่ เปน ของดีเย่ยี มใหลดนอยลงไป จนถงึ กบั ไมมีธรรมภาย
ในใจ แตถ าธรรมมกี าํ ลังมากกวา ก็สามารถลบลางกเิ ลสใหลดนอ ยลงจนหมดสิ้นไปไมมี
อะไรเหลือ เชนพระพทุ ธเจา และพระสาวกเปนตวั อยา ง ดงั น้นั เราผเู ปนนกั ปฏบิ ัตโิ ปรด
สาํ นึกไวเสมอวามขี า ศึกประจาํ ตวั ตลอดเวลา การแสวงหาครูอาจารยจงึ เปนอุบายวิธจี ะแก
ความคดิ ฝายตา่ํ ใหม กี าํ ลงั ลดนอยลง และเพ่อื จะสง เสริมความคิดฝา ยสงู ใหมีกาํ ลงั มาก
ขึ้น พอเปนทางเกิดขน้ึ แหง ธรรมวนั ละเลก็ ละนอ ย จนกลายเปนคนมธี รรมภายในใจ เรม่ิ
ตนแตความสงบเย็นใจเปนขน้ั ๆ ไป

สว นสถานทีแ่ ละกาลเวลานั้นใหคาดเพยี งช่วั ระยะกาล เพอื่ จะแสวงหาชยั สมรภมู ิท่ี
เหมาะสาํ หรบั นกั รบ อนั ไดนามวาศิษยพ ระตถาคต แตห ลักสําคญั ท่ไี มหา งไกลจากกนั นั้น

แวน ดวงใจ กณั ฑ์เทศน์ท่ี ๖๕๙: กิเลศ-อรยิ สจั

- ๘๑ -

๖๐

คอื การบําเพ็ญตวั อยตู ลอดเวลา ไมว า อริ ยิ าบถใดใหอ ยดู วยความเพยี ร เพอ่ื ร้อื ถอนสิง่
แทรกซมึ และกอ กวนภายในใจ ดว ยอํานาจของสตแิ ละปญญาอยูเสมอ น่ีเปนหลักและจุด
สาํ คัญสาํ หรับผบู ําเพญ็ เพอ่ื ความหลดุ พน สิง่ ที่ปรากฏภายในใจ ซงึ่ เชือ่ แนวาถูกตามหลกั
ธรรม แมจ ะเพียงเล็กนอ ยก็ใหถือวา น้นั คอื ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการบําเพญ็ ของตน

เร่ืองความลําบากในการบําเพ็ญโปรดอยา ถอื เปนส่ิงสาํ คญั ถาถือเปนส่ิงสําคญั
แลว สงิ่ นั้นจะมกี ําลงั ส่ังสมตวั เองมากระทําการกดี ขวาง ทางดําเนินเพือ่ ความกา วหนา
ของเรา มีขอของใจอยูตรงไหน ซึ่งเหน็ วา ไมแนใ จตามหลักธรรม โปรดทําความรูสกึ กบั
จดุ นั้นทันที และถอื วา จุดน้ันเปน เปา หมายสาํ หรับพจิ ารณาอยาลดละ และอยา คาดคะเน
อยา เอาความรูเ ขา ไปคาด มรรค ผล นพิ พาน อนั จะเกิดจากการปฏิบตั ิ อยาคาดสถานที่
วา ควรจะรูใ นสถานทเ่ี ชน นน้ั ๆ ขณะที่ขอของใจเกิดขึ้น จงทําความรบั รูอยูกบั ความขดั
ขอ งน้นั ตามวาระที่ความขัดขอ งแสดงตัวออกมา สถานที่นน้ั แลคอื ชัยสมรภมู ิ ไดแก
สนามรบเพ่ือชัยชนะตลอดไป

คาํ วา กเิ ลสไมว า ประเภทใด จะตองแสดงขึน้ ท่ีใจของเราทกุ ๆ ทา น ไมม ที ่ีอน่ื เปน
ทีแ่ สดงขึ้นแหง กเิ ลสทัง้ หลาย เพราะส่ิงทง้ั นไี้ มไ ดม อี ยใู นสถานทีอ่ ื่นใด นอกจากจะอยูกบั
ความรูคือใจนี้เทาน้ัน ผูปฏบิ ัติเพ่ือแกไขกเิ ลสอาสวะใหเ บาบางลงเปนลําดบั จนถึงขน้ั
กิเลสหมดไปโดยสิ้นเชงิ จงอยามองขา มสิง่ ที่ปรากฏมีความขดั ขอ งภายในใจเปนตน จะมี
ทางแกไขและถอดถอนกิเลสไดตลอดไป และควรทราบวา ความขดั ของ ความไมสะดวก
สบายภายในใจ มนั เปนเรอ่ื งของกิเลสทัง้ น้นั เปนผผู ลิตออกมา ไมใ ชส ่งิ อืน่ ๆ จะสามารถ
ทาํ ได โปรดดูเรอื่ งของตัวใหล ะเอียดถถี่ ว น ถาดใู จจะรเู รอื่ งของกิเลส เพราะกิเลสกับใจ
นั้นอยดู ว ยกัน

ขณะน้เี ปนเวลาทเ่ี รามีกิเลสฝง อยูภายในใจ โปรดทราบไว เขามิไดอยูในสถานท่ี
และกาลใด ๆ นอกจากจะอยูและแสดงข้นึ ท่ใี จทุก ๆ ขณะทม่ี ีความพลงั้ เผลอเทา นั้น การ
แกไขและถอดถอนกิเลส ถาไมข ุดคน ลงทจ่ี ดุ นี้ ไมมที างผา นพนไปได ทงั้ ไมส ามารถจะรู
เรื่องของตวั วา เปนกิเลส หรือเร่อื งของกเิ ลสเปน เรอ่ื งของตัว เพราะทกุ สง่ิ ทเี่ กิดข้ึนเราถือ
วา เปนเรือ่ งของเราไปเสียหมด โดยท่ีเราไมทราบวา กิเลสกับเรานั้นเปนอยา งไรบา ง ผิด
ตา งหรอื เหมือนกัน เปน คนละอยา ง หรือเปนอยางเดยี วกัน ถา มีสตปิ ญญากจ็ ะทราบไดวา
กเิ ลสกบั ใจไมใชอ นั เดียวกัน แตถาหาไมแลว กิเลสจะกลายเปนเรา เราจะกลายเปนกิเลส
กนั วนั ยังค่าํ จะแกก เิ ลสกห็ าท่แี กไ มไ ด เพราะจะกระเทือนตวั เรา จะแกเรากแ็ กไมได
เพราะจะไปกระเทอื นกเิ ลส เพราะถอื วาเปน เรื่องของเราเชน เดยี วกัน จะประกอบความ

แวน ดวงใจ ๖๐

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๘ค๒๑-อบรมฆราวาส

๖๑

เพียรกก็ ลวั จะกระเทือนตัวเราใหไ ดรบั ความลาํ บาก ทั้งกลวั จะกระเทอื นกิเลสซึง่ ถอื วาเปน
เร่ืองเดยี วกนั กับเรา

เมื่อกิเลสมากลายเปน เราเสยี ทุกสวนแลว เราก็ไมม ีทางแกก เิ ลสได เพราะกลัวจะ
มกี ารกระทบกระเทอื นกันระหวา งกิเลสกบั เราซง่ึ กลายมาเปน อนั เดยี วกัน เร่ืองทงั้ นผี้ มู ี
สตปิ ญ ญาจะทราบไดต ามวาระแหง ธรรมท่พี ระพทุ ธเจา ทรงสอนไว ส่ิงใดทกี่ อความ
รําคาญและผลติ ทุกขขน้ึ มาใหแกตน แมจ ะเปน สง่ิ ทช่ี อบอกชอบใจก็ตาม สง่ิ น้ันทานบอก
วา เปนกิเลส เปน สิ่งท่ีจะกอ กรรมทาํ เข็ญใหเ ราตลอดไป ไมม ีสมัยใดท่กี ิเลสจะผลิตความ
ดี ความชอบ ความสุข ความเจรญิ ใหค น นอกจากจะทาํ แตความทกุ ขร อนใหต ลอดไปเทา
นัน้ แลวควรละหรือทจ่ี ะไปเชอื่ ดวงใจทีเ่ ตม็ ไปดว ยกิเลส กระซิบอยูตลอดเวลาวา เปน ของ
ดี ควรจะยอมจํานนตามเขาท่ีชเี้ ข็มทิศใหไ ปตามแลว หรอื ทาํ ไมเราจะเปน ผเู อนเอยี งและ
ลมละลายไปตามเขาเชน น้ัน จะหาตวั เราที่แทจ รงิ ไมเ จอตลอดกาล และจะหาความเปน
ตวั ของตัวจากความเพยี รไมไ ดเ หมอื นกนั

ทุก ๆ ทา นโปรดทราบไวว า เวลานีก้ ิเลสกบั เรากาํ ลังคละเคลา เปน อันเดียวกันจน
หาทางแยกไมได จะประกอบกจิ การทีช่ อบใด ๆ มแี ตกลัวจะกระเทอื นกิเลสกับเรา ซ่งึ
แยกจากกันไมออก สุดทายกอ็ ยากอยเู ฉย ๆ คอยใหกเิ ลสหลุดลอยไปเอง โดยไมทราบ
วาการอยเู ฉย ๆ ก็เปนเรอื่ งเกียจครา นและเปนทางสง่ั สมกเิ ลสเพิม่ ขึน้ ภายในใจ คนท่อี ยู
เฉย ๆ ไมท ํางานโลกเขาเรยี กวา คนเกียจครา น คนเกียจครานไมม ที รพั ยสมบตั ิเคร่อื ง
ครองชีพ ไมมอี าหารรับประทาน ไมม เี ครือ่ งนงุ หม ไมม ีบานจะอยู เครอื่ งอปุ โภคบรโิ ภค
ขาดแคลนไปตาม ๆ กัน นั่นคือคนทกุ ข เพราะสาเหตมุ าจากความเกยี จครา นเปน เจา
เรอื น ความทกุ ขเ ดอื ดรอ นเลยกลายเปนโรคระบาดเร่ียราดไปหมดทัง้ ครอบครวั ไมม ีใคร
จะไดรบั ความสมบรู ณพนู ผลในครอบครวั นน้ั นค่ี อื โทษแหงความเกียจครานหรือความ
อยูเ ฉย ๆ

จติ ท่ีชอบอยูเฉย ๆ ไมพินิจพิจารณาหาทางแกไขตน ก็ตอ งเปน ผขู าดแคลนความ
สขุ ภายในใจ ศลี สมบัติ กไ็ มสมบูรณ นบั วันจะดางพรอยและขาดทะลุไป สมาธสิ มบตั ิ คอื
ความสงบเยือกเย็นภายในใจกเ็ กิดขน้ึ มาไมได เพราะไมม ีทางจะเกดิ เนื่องจากความเกียจ
ครา นเปน เพชฌฆาตสงั หาร แม ปญ ญาสมบัติ กห็ าทางกําจดั กเิ ลสไมได เพราะความ
เกยี จครานปด กน้ั ทางเดิน เมอื่ สรปุ ความแลว ศีลสมบัติ สมาธสิ มบตั ิ และปญ ญาสมบตั ิ
จะหาทางเกดิ ขึ้นมาเองเฉย ๆ โดยไมทําอะไรนน้ั ไมไ ดเลย นอกจากจะเกดิ ขนึ้ เพราะการ

แวนดวงใจ ๖๑

กัณฑ์เทศนท์ -ี่ ๖๘๓: ก-ิเลศ-อริยสัจ

๖๒

บําเพ็ญทีเ่ รยี กวาทํางานเทานน้ั การระมัดระวงั และการบังคับจิตใจเพื่อรวู ิถที างเดินของใจ
วา เดินไปในทางถกู หรอื ผิด เหลานจี้ ัดวา มงี านไมอ ยูเ ฉย ๆ

ผูมงี านนี้แลจะเปน ผูสามารถยังสมบตั ิทัง้ สามนัน้ ใหเกิดข้ึนได ศลี สมบตั ิ กจ็ ะเปน
ไปเพ่ือความบรสิ ุทธแิ์ ละเย็นใจแกเจาของ สมาธสิ มบตั ิ คอื ความสขุ ใจเพราะความสงบ
เปน บาทฐานกจ็ ะเกดิ ขึน้ เพราะความเพียรเปนรากฐาน ปญ ญาสมบัติ คอื ความฉลาด
รอบคอบก็จะมีทางเกิดไดจากความพยายาม และยังจะสามารถถอดถอนส่งิ ลามกโสมม
ซงึ่ แทรกสงิ อยภู ายในใหห มดส้ินไปเปน ลาํ ดบั ท้ังสามารถแยกกิเลสกับเราออกจากกันได
เปน ระยะ ๆ ดว ย เพราะเร่ืองกเิ ลสกบั เราเปน เรอื่ งสาํ คญั มาก ถา รเู ทา ไมถ ึงเหตกุ ารณ
แลว กเิ ลสกบั เราและเรากบั กิเลสจะตองคละเคลากันไปตลอดสายดงั ทก่ี ลา วผานมา จะ
ทําการร้อื ฟน และถอดถอนกเิ ลสภายในใจ กก็ ลัววา จะไปทําลายใจใหฉ บิ หายไปดวยจงึ ไม
กลา ทําลงไป เพราะกลัวจะไปทาํ ความกระทบกระเทือนมิตรสหาย ซึ่งอาศยั และอยูดว ย
กนั มาเปน เวลานาน

หาทราบไมวา ความกลัวนัน้ คอื เรอ่ื งของกเิ ลสหึงหวงตวั เอง ไมอ ยากใหอ ะไรเขา
ไปแตะตอง เพราะกลวั จะเส่ือมคุณภาพและอาํ นาจวาสนาที่เคยครองไตรภพบนหวั ใจของ
คนมานาน ขอน้ีผูปฏิบัตคิ วรคํานึงเสมอ ถา ปลอยตามอําเภอใจแลว ปรากฏเปนความสขุ
ความเจริญขน้ึ มา ท้งั ทางโลกและทางธรรมจะไมมอี ะไรเปน ขอบเขต ไมม ีกฎหมายบา น
เมอื งเปน เครอ่ื งบังคบั ไมม ีหลักธรรมวนิ ัยเปนเครอ่ื งดําเนนิ แมท่สี ุดสัตวดิรัจฉานทไ่ี มรู
ภาษภี าษาอะไรเลย กจ็ ะพลอยไดรบั ความสขุ ความเจริญไปตาม ๆ กันหมด เพราะการทาํ
ตามอําเภอใจเปน ไปไดท้ังสตั วทงั้ คนโดยไมมขี อบเขต แตม นั ไมเปนดงั ท่ีวานั้น ทา นจงึ
สอนไวเสมอวา กุสลา ธมมฺ า อกุสลา ธมมฺ า ไดฟ ง ทงั้ คนเปน ท้งั คนตาย แตจ ะทราบ
ความหมายหรือไมน้ัน ไมร ับรองทงั้ คนเปนและคนตาย แมผูแสดงเองก็ยงั ไมรบั รองตวั
เองวาจะเปนไปดงั ท่ที านสอนหรอื ไม แตธรรมซงึ่ เปน ทไี่ วว างใจของโลกสอนไวอยา งไรก็
วา ไปตาม แบบนกขุนทองเพื่อหาทกี่ ําบงั ไปตามธรรมเนยี มของคนมีกิเลส

ความหมายในธรรมทง้ั สองบทนวี้ า กุสลา ธมมฺ า หนง่ึ อกุสลา ธมมฺ า หนงึ่ เปน
ธรรมกลาง ๆ ถา เปนคุณสมบัติของผทู าํ ก็แปลวาผูมีกุศลธรรมหนึ่ง ผูมีอกุศลธรรมหนงึ่
หรือจะแปลวา ผูม บี ญุ และบาปกไ็ ดส ุดแตจ ะแปล เพราะคาํ วาบุญหรอื บาปนั้นข้ึนอยูก ับผู
ทํา ถาโงก็ทาํ ความชั่วลามกใสตัวเอง ผลก็กลายเปน ทุกขเดือดรอ นข้นึ มาในบคุ คลผูนัน้
ทา นจงึ กลาวไวว า ดกี ับชั่ว สุขกับทุกขเ ปน ของคูกนั และเปน สมบตั ิของผูท าํ ซง่ึ เปน ตัวเหตุ
มิไดเ กดิ ข้ึนมาเองโดยปราศจากเหตุคือการกระทํา ฉะนนั้ ผูน บั ถือพระพทุ ธศาสนาซง่ึ เปน

แวน ดวงใจ ๖๒

แว่นดวงใจ : ภ-า๘ค๔๑-อบรมฆราวาส


Click to View FlipBook Version