๖๓
ศาสนาท่มี ีหลักเหตุผลบนหวั ใจดวยแลว จงึ ควรพิจารณาโดยรอบคอบในกิจการทกุ อยาง
ไมควรทาํ ไปแบบสมุ เดาโดยถอื วา ไมจ ําเปน และไมส ําคญั เพราะผลดชี ่ัว สขุ ทุกข จะเปน
สมบัติของผทู ํา แมตนจะถือวาไมจ าํ เปน และไมส ําคัญก็ตาม
ผูมธี รรมวนิ ัยประจําใจ ยอมมีการใครค รวญดว ยดกี อ นทาํ กิจทกุ อยาง ผลจงึ เปนที่
พงึ พอใจไมกระทบกระเทอื นตัวเองและผอู น่ื และไมถือคําวายากหรืองายมาเปนหลกั
สําคัญกวา ความเหน็ วา ควรทาํ หรือไมค วรทํา เพราะเลง็ เห็นผลทจ่ี ะพึงไดร บั ไมดอ ยกวา
เหตทุ ีจ่ ะทาํ ลงไป เมอื่ เหตุกับผลลงกนั แลวยากก็ตองทํา งายก็ตองทํา ไมค ํานึงถงึ ความ
ยากลาํ บาก
การบาํ เพญ็ เพียรมาเปน ลําดบั นบั เปน เวลาหลายวนั หลายเดือน และหลายป แต
ผลไมปรากฏขนึ้ มาประจักษใ จ น่ีเปน เพราะเหตุใด เขาใจวา เปน เพราะสักแตว ากิริยาแหง
การทาํ เทา น้ัน แตหลักใหญซ ึ่งเปนองคแหงเหตจุ รงิ ๆ คอื การบําเพญ็ อันเปน ไปดว ย
ความจงใจ มสี ตแิ ละปญ ญาเปนเคร่ืองควบคุม ไดบกพรอ งหรือขาดไปในระยะนัน้ ๆ ยงั
เหลอื แตก ิริยาของการบาํ เพญ็ เทา น้ันปรากฏตัวอยเู ฉย ๆ ผลจึงไมปรากฏตามทค่ี าดไว
หากมีความเพียรสมบรู ณตามองคภาวนาจรงิ ๆ ผลจะขัดขนื และแยง เหตไุ ปไมไ ด ตอง
แสดงออกมาประจกั ษใจโดยแนน อน
ความยากลําบากในการบําเพญ็ เพื่อร้อื ถอนตนใหพน จากทกุ ขน้ี รูสึกจะเปน
อุปสรรคแกผ บู ําเพ็ญอยูไมนอย แตควรนาํ ไปเทยี บกบั ความทกุ ขลําบาก ท่เี กีย่ วแกก าร
เกดิ การตายในภพท่ีเปน มาเปนอยแู ละจะเปนในอนาคต ลองดทู างไหนจะมีทุกขม ากกวา
กันและมคี วามยดื เยื้อกวา กนั เพยี งเทานกี้ ็พอจะตัดปญหาความลาํ บากในการบาํ เพญ็ ที่
เคยถอื วาเปน อุปสรรคออกไปได ความเพยี รพยายามทุกประโยคกจ็ ะเปนไปดว ยความ
มานะอดทนและสนใจตอ หนา ทข่ี องตนมากขนึ้ ทกุ สงิ่ ทเ่ี คยขัดของกจ็ ะเปน ไปเพือ่ ความ
สะดวกและราบร่นื คงไมเปน ทาํ นองกา งคอยจะขวางคอในเวลาจะบําเพ็ญความดีทุก
ประเภทอยางท่เี คยเปนมาทงั้ ทา นและเรา เพราะตางกม็ ีส่ิงที่คอยกระซิบใหแยกทางจาก
ความเพียรอยเู ชนเดียวกนั
การกําหนดภาวนาขอใหหยัง่ ลงสูกายคตา คือสวนรา งกายทง้ั หมดหรอื สว นใดสวน
หนงึ่ ไมตองไปคํานึงวา จะถูกหรอื ผดิ ในเวลาน้นั เพราะกายน้ีเปนหลกั สัจธรรมดวย เปน
หลกั สตปิ ฏ ฐานส่ีดวย ถา ใจดาํ เนนิ ไปในกายอนั เปน หลกั ของธรรมทง้ั สองประเภทนน้ั
สถิตอยแู ลว ตองเปน มรรคปฏิปทาเพอื่ ความพนทุกขเปนลําดบั ไป ขอ สาํ คัญขอใหมี
ความจงใจตัง้ หนา ทาํ จรงิ ๆ วันนจ้ี ิตดูดด่มื ในอาการน้ี วันหลงั จิตดดู ดมื่ ในอาการนน้ั และ
แวน ดวงใจ ๖๓
กัณฑ์เทศนท์ -่ี ๖๘๕: ก-ิเลศ-อริยสจั
๖๔
พจิ ารณาอยา งนัน้ รเู ห็นในอาการนน้ั อยางนนั้ มอี าการแปลกตางกนั ในอาการของกาย
และการพจิ ารณากต็ าม ถาอยใู นหลกั ของกายแลว ชือ่ วาไมผ ดิ หลกั สติปฏ ฐานและอรยิ สัจ
ซ่งึ เปนธรรมรบั รองเพ่อื ความถกู ตองอยูแลว
การพิจารณาจะหนักไปในอาการใดของรา งกาย อาการนน้ั จะไมทําใหผิดจากองค
ของการภาวนา แมค วามรสู กึ ทเ่ี กดิ จากการพจิ ารณากายคตา จะผิดแปลกกนั ไปตามวาระ
ของการบาํ เพ็ญ กป็ ลอ ยใหเปน ไปตามนั้น อยา นําความสงสยั เขาไปทาํ ลายความรแู ละการ
พิจารณาในขณะน้นั จิตจะหยุดชะงักไมกาวตอไปอีก การเห็นกายดว ยสญั ญาจดั เปน บาท
ฐานเบื้องตน เพราะเบ้อื งตน ตอ งอาศัยสัญญาคาดหมายไปกอ น ปลอ ยจิตใหคลอ ยตาม
ปญญาก็ทําหนา ท่ีไตรต รองไปตามเสนทางทีส่ ัญญาคาดไว การใชขนั ธใ หเปน ไปในทางแก
กิเลสอาสวะ ไมวา ขนั ธใดท่คี วรแกการงานในเวลาน้นั จงนาํ ไปใชไดต ามที่เหน็ สมควร
เพราะการแกห รอื การผกู ทง้ั สองนี้ตองอาศยั ขนั ธเปน เครือ่ งมือทาํ งาน คอื ฝา ยกิเลสและ
ฝายธรรมจําตอ งอาศัยขนั ธเ ปนเครื่องมอื ของตน ไมเ ชน นั้นจะสาํ เรจ็ เปนกิเลสและธรรม
ขน้ึ มาอยางออกหนาออกตาไมไ ด การบาํ เพ็ญโดยถูกตองตามองคภาวนา จะตองปรากฏ
ผลประจกั ษอยา งแนน อน
ความสงบเยอื กเย็นเปน สมาธิ เราไดย นิ แตครูอาจารยพ ดู ใหฟงและไดยนิ แตทาน
กลา วในตาํ รา แมกิเลสบาปธรรมก็ไดยนิ แตท า นกลา วไวในตาํ รา แตเ รื่องของธรรมคอื
ความสงบเย็นใจเปน ขัน้ ๆ จนถึงข้ันสงู สดุ และเรื่องของกเิ ลสบาปธรรมทีแ่ ทจ ริงนัน้ เรา
ไมร ูว าเปน ใครและอยูท ่ีไหนเวลาน้ี ทั้งธรรมทงั้ กเิ ลสเคยแสดงตัวใหป รากฏกับเราบาง
ไหม ทางท่ีกิเลสเกดิ ขน้ึ น้ัน เกิดขนึ้ จากทางใดบาง ทางเขาและทางออกของกิเลส เขา
อาศัยทางสายใดบางเปนท่ีเขา ทอี่ อกและที่เกดิ ข้นึ พอแมของกิเลสคืออะไร เราเคยเหน็
แตพ อ แมข องสัตว พอแมของคน แตไมเ คยเห็นพอแมของกิเลสอยา งแทจรงิ และเราเคย
เห็นแตช่อื ของกิเลสตณั หาท่ที านกลาวไวใ นคัมภรี น้นั เปน ช่อื ของกเิ ลสตัณหา น้ันเปน พอ
แมของคน ของสัตวต า งหาก ไมใ ชเ ปน กิเลสตณั หาและไมใ ชพ อแมข องกเิ ลสตณั หาอนั แท
จรงิ
เพราะเหลา น้นั มไิ ดมาทําความกระทบกระเทือนเราใหไดความทกุ ขร อน และไม
ใชเรือ่ งของธรรมทีจ่ ะยงั ความสุขความเจริญใหเกดิ ขน้ึ ภายในตน นอกจากขนั ธคือกายกับ
ใจนีท้ ไี่ หวตวั ไปทางผดิ หรอื ทางถกู ซ่ึงเปนทางเกิดขนึ้ แหง กิเลสและธรรมเทา นั้น นคี่ อื
เร่อื งของกเิ ลสอาสวะและเรอ่ื งธรรมอนั แทจรงิ อวชิ ชาที่อาศยั ใจเกดิ ขนึ้ ทําใหค นและสัตว
กลายเปน ผมู กี ิเลสตณั หาไปตาม นี่แหละคือพอ แมของกิเลสตัณหาอนั แทจ ริง ถาไม
แวนดวงใจ ๖๔
แว่นดวงใจ : ภ-าค๘๖๑- อบรมฆราวาส
๖๕
สามารถคลีค่ ลายเรือ่ งของตวั ออกใหร ูช ัดวา สว นไหนดี สวนไหนชัว่ ตัวเราเองก็จะเปน
กิเลสวันยังคา่ํ และตกนรกหลมุ อารมณตลอดกาล ไมมีฝงมีฝา มีเขตมแี ดน เสวยอารมณ
ทกี่ ิเลสปรุงใหอ ยา งเผด็ รอ นไมม ีวันสิ้นสุดลงได
ไมเคยเหน็ แบบแผนตาํ ราไปตกนรกขน้ึ สวรรคช นั้ พรหม สาํ เรจ็ มรรคผลนพิ พาน
และไปทาํ โจรกรรมทํารา ยตดิ คุกตะรางทไ่ี หน เปนแตบอกชื่อกเิ ลสของธรรม ของผูทําดี
ทําช่ัว ผูบริสุทธิเ์ ศราหมองไวเ ทาน้นั การทําความดีความชว่ั เปนเรอ่ื งของคนของสตั ว
เพราะฉะนัน้ กิเลสบาปธรรมจงึ อยูกับคนและสัตว เราเปน ผูหนงึ่ ในมวลมนษุ ย จงึ ควรทาํ
ความรสู กึ วา เปนตวั กิเลสหรอื เปนธรรมกนั แน คลี่คลายดใู หด ี จะไดร เู หน็ ท้งั เรื่องของ
กิเลสและเรื่องของธรรมภายในใจเราเอง โดยไมตองไปหาคนดทู ไ่ี หนใหเสียเวลาและ
เหนด็ เหน่ือยเปลา ๆ ถา ผูบ าํ เพญ็ มีความสามารถอาจหาญปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมทช่ี ้ี
บอกไว จะควา เอาชยั ชนะมาไดเ ปน ระยะ ๆ จนถงึ ความบริสุทธโิ์ ดยส้ินเชิงจากกายกับใจนี้
แนน อน
การมองหากิเลสตัณหาอนั แทจ รงิ จะไปมองที่ไหนกัน ถา ไมมองดูกายกับใจอนั
เปน สถานท่ีอยูข องกเิ ลสและธรรมแลว จะไมพบของจริงตลอดกาล เพราะตํารากบั ตวั ยา
ไมเ หมอื นกนั และไมไดอ ยดู ว ยกัน แตอยคู นละแหง เราตองไปดชู อ่ื ของยาท่ีตําราแลว ไป
รับเอายาทีต่ ูย า เราจะพบความจรงิ ทั้งสองอยาง คือตําราก็จะรู ตวั ยากจ็ ะไดมาสม
ประสงค นี่เราตอ งไปดชู อื่ ของกเิ ลสตณั หา และธรรมเคร่อื งแกท ่คี มั ภีร แลว มาแกไ ขหรอื
ถอดถอนกเิ ลสตัณหาดวยธรรมท่ตี ัวของเรา เราจะพบความจริงทงั้ สองประเภท คือเร่อื ง
ของกเิ ลสก็จะรู การถอดถอนกเิ ลสดว ยธรรมกจ็ ะประจักษใจ ภายในกายในใจนแ้ี ล
ขอยกอรยิ สัจมาเปน ตวั อยางพอไดความ ทกุ ฺขํ อะไรเปน ทุกขแน มันเปน เรอ่ื งของ
เราของทานทง้ั น้นั โปรดไปดทู ีโ่ รงพยาบาลจะเหน็ แตคนและสัตวเตม็ ไปหมด จนไมม ี
หอ งใหอยู ไมมเี ตยี งใหนอน แตจะไมพบตําราไปแทรกอยูท ีน่ น้ั เพอ่ื รกั ษาตวั แมค มั ภรี
เดียว สมุทยั ความฟุง เฟอเหอเหมิ เกิดจากกามตณั หา ภวตัณหา และวภิ วตณั หาเหลา น้ี ก็
เปน เรื่องของเราของทา น มรรค คอื ทาน ศลี ภาวนา หรอื ศีล สมาธิ ปญญา น่กี ็เปน เรอ่ื ง
ของเราของทาน จะบาํ เพญ็ ใหเกดิ มขี ้ึนตามความหวงั นโิ รธ ความดับทุกขก เ็ ปน เรือ่ งของ
เราของทานจะดบั ทุกขของตัวเองแตละรายตามธรรมในตํารา ทา นชเ้ี ขา มาหาเรา มิไดชี้ไป
ท่อี นื่
เมอื่ เปน เชนนี้ เราจะเห็นอะไรเปนตวั บาปตัวบญุ โปรดทวนดอู กี ครงั้ เพอื่ ความแน
ใจ คือความรมุ รอนอยทู ไี่ หน บาปกอ็ ยูท น่ี ่ัน ความสขุ สบายอยูที่ไหน บญุ ก็อยูที่น่ัน ความ
แวน ดวงใจ ๖๕
กัณฑเ์ ทศน์ท-่ี ๖๘๗: ก-ิเลศ-อริยสจั
๖๖
เศรา หมองอยูท่ีไหน กิเลสก็อยูที่นัน่ ความผองใสและบริสทุ ธ์อิ ยูท่ไี หน ธรรมกอ็ ยทู น่ี ่ัน
รวมลงแลว มนั อยูที่เราทงั้ น้นั ไมไ ดอ ยใู นทอ่ี ่ืนใด จึงไมน า สงสยั อะไรอกี มอี ยเู พยี งวาเรา
จะทําความสนใจตอการบาํ เพ็ญแคไ หน เพอ่ื ทราบเรอื่ งของตวั กับเร่ืองของกเิ ลส ถาทราบ
แลวกเ็ ทากบั ทราบเร่อื งสุขเรื่องทุกขภายในภายนอกโดยตลอด เพราะเปนเรื่องอรยิ สัจ
อยา งสมบรู ณ แมหลดุ พนก็จาํ ตองหลดุ พนไปในระหวางอริยสจั ทง้ั สี่น้ี ไมม ีท่ีอน่ื เปน ทาง
หลุดพน ฉะน้ัน จงใชสตปิ ญญาพจิ ารณาลงในทุกขอ ยางรอบคอบ เพือ่ ทราบวา ทกุ ขเกดิ
ขึน้ มาจากอะไร และอะไรเปนสาเหตุใหทุกขเกิด กจ็ ะทราบเร่ืองทุกข สมุทัย ซงึ่ มีอยูในจุด
เดียวกนั อยา งแนนอน ไมเชนน้ันพระพทุ ธเจา จะอุบตั ขิ น้ึ เปนศาสดาของโลก และตรัส
เปนสวากขาตธรรมโดยชอบใหพ วกเราศึกษาและปฏิบตั ิตามไมไ ดเลย พุทธฺ ํ ธมมฺ ํ สงฺฆํ
จะไมป รากฏขนึ้ ในโลก
โปรดทําความม่ันใจและหาวหาญตอความเพียรเพ่ือแดนพนทกุ ข อยาถอยทัพให
ขา ศึกคือกเิ ลสหัวเราะเยาะและเหยยี บย่ําลํ้าแดนแหง ความเพยี รเขามา เราจะตกอยูในวง
ลอมของขาศึกหาทางออกไมได การบาํ เพญ็ มรรค คอื ศีล สมาธิ ปญญา ดวยความเพยี ร
จงทําใหส มบรู ณถงึ ขั้นรูทกุ ขกจ็ ะรอู ยา งสมบรู ณ รแู ละถอนสมทุ ยั กจ็ ะรูและถอนอยาง
หมดเชอ้ื นิโรธความดับทุกขด ว ยมรรคก็จะดับอยางสมบรู ณ เพราะธรรมท้ังส่ีประเภทนี้
เก่ยี วโยงกนั จะแยกจากกนั ไมไ ด เมอื่ รูรอบสจั จะทงั้ สนี่ แ้ี ลว ความบริสทุ ธิ์กป็ รากฏข้นึ มา
เอง แมจะไมเ คยทราบมากอนกไ็ มม ที างสงสัย เพราะไมม สี องมีสามกับอะไรอีก พอจะให
ผบู รรลถุ งึ ความบริสทุ ธ์ิแลวเลือกหาเอา แตธรรมนั้นเปน เอกธมฺโม คือ เปน ธรรมแทง
เดยี วนอกสมมตุ ิ สุดทจ่ี ะสงางามและอัศจรรยเหนอื โลกใด ๆ จึงหมดปญหาจะเปนอยา ง
อน่ื อกี
การแสดงธรรมเพือ่ ผูมงุ ตอ แดนพนทุกข ซง่ึ เตรียมพรอมแลว จะแสดงไปท่ีอน่ื ๆ
จึงขอเรยี นใหทราบอยางเปนกันเอง รูสกึ วาไมค อ ยถนดั ใจ คลายกบั ตะครุบเงา แตถาได
แสดงลงท่กี าย ทใ่ี จซึ่งเปนเรอื นรงั ของอรยิ สัจแลว รูสึกวาสนิทใจ เพราะเทาที่ไดปฏบิ ัตมิ า
กป็ ฏบิ ัตอิ ยา งนี้ หากจะรมู ากนอยตามกาํ ลงั ก็ไมไ ดรูจ ากทไ่ี หน แตร ขู น้ึ มาทนี่ ่ี แมธรรมที่
กําลงั แสดงอยูข ณะนกี้ ็ไมไ ดไ ปหามาจากทไ่ี หน นอกจากจะนํามาจากทานจากเราซง่ึ เปน
เรือนรา งของสัจธรรมดว ยกันเทา นัน้ ไมม อี าํ นาจวาสนามากมายพอจะไปแสวงหาธรรม
นอกจากอรยิ สัจ ซงึ่ มีอยูกบั กายกับใจมาแสดงใหหมูเพือ่ นฟง ได ดังน้นั จงึ ขออภัยจาก
ทานผฟู งมาก ๆ ดว ย ทไี่ มไ ดธรรมแปลกประหลาดมาปฏิสันถารตอนรับทาน ทม่ี าจากท่ี
ตา ง ๆ ท้ังใกลและไกลอยางสมใจ ทั้งนีเ้ พราะความจนใจดงั ท่เี รยี นใหท ราบแลว
แวนดวงใจ ๖๖
แวน่ ดวงใจ : ภ-า๘ค๘๑-อบรมฆราวาส
๖๗
ไดท ราบแตพระพทุ ธเจา สอนพวกเราท่เี ปน พทุ ธบริษทั ทานยกเอาเรือ่ งของทา น
และของเรามาส่งั สอนพวกเรา โดยบอกวาเปนอริยกจิ เสมอกนั ท่วั ไตรภพ การปฏบิ ตั กิ ็ให
ถอื เอาอริยสจั เปน ทางเดนิ ยกเอามรรคเปน เสนทาง เราเปน ผูก าวเดินตามเสน ทาง ทุกข
กบั สมุทัยเปนหนิ กรวด ทราย ทโี่ รยบนเสนทางผสมดวยยาง รวมทกุ ข สมทุ ัย มรรค เขา
ดวยกันกลายเปน ถนนลาดยาง ผเู ดนิ ทางก็กาวไปโดยสะดวกไมขลุกขลกั จนถึงทห่ี มาย
นโิ รธ คือหยุดจากการเดนิ ทาง ผลทีเ่ กิดจากการหยุดเดนิ เปนความสุขสบาย เพราะหาย
กงั วลจากการเดนิ และการหยดุ โดยประการท้ังปวงแลว นัน่ คือธรรมนอกจากสจั จะท้ังสี่
ธรรมนีผ้ ูเ ดินทางถงึ ทแี่ ลวเปน สันทิฏฐโิ ก รูเอง ไมตองถามใคร เพราะสนั ทฏิ ฐโิ ก เปน
มัชฌิมา ไมรอคอยอยกู าลหนา กาลหลัง เน่อื งจากธรรมนี้ไมใ ชรถยนต รถไฟ พอจะเขาควิ
รอเวลา ผูจะควรรับผลจากสันทฏิ ฐโิ กก็ไมใชค นโดยสารรถยนต รถไฟ พอที่จะไปรอที่คิว
และรอเวลารถจะออกจะเขา
ในอวสานแหงธรรมท่แี สดงมาก็เหน็ สมควรแกก าล ขอความสะดวกกายสบายใจ
ตอการบําเพญ็ ธรรม จงเปนไปในทานทงั้ หลาย นบั แตข ั้นเรมิ่ แรกจนถึงจุดทหี่ มาย อยา
ไดมอี ปุ สรรคมากีดขวางในวงการ จงมแี ตค วามสขุ ความสาํ ราญ ประจําอริ ิยาบถความ
เคลอื่ นไหว ทกุ ทิวาราตรีกาล โดยนัยท่ไี ดแ สดงมาดว ยประการฉะนี้
www.Luangta.or.th
แวนดวงใจ ๖๗
กัณฑเ์ ทศน์ท-่ี ๖๘๙: ก-ิเลศ-อริยสัจ
กัณฑ์ที่ ๗ ๖๘
เทศนจอ รบติรมนฆสิ รัยาวใานสกณารวดับปำ�า เบพา ็ญนตาด
เม่ือเวทมนั ่ือเุกทวทนัศข่ี ๒ทนป่ี๒อ์ ๒บร๒กระมมุ กจฆภุมรําาภาพสวาาพนัตั สนั ธวธณ์พแพทุ วุทลธัดธะศปศา่บกัักบรรุคา้าานชชคต๒๒าลด๕๕๐๐๘๘
การฝกหัดอบรมตวั เองควรจะใชความสังเกตสอดรูนิสัยของตวั เพราะคนเรานสิ ยั
ไมเ หมอื นกัน เชนเดียวกบั เหลก็ ซ่งึ มหี ลายประเภท แตจะยกมาเทยี บเพียง ๔ ประเภท
พอเขา รูปกัน คือ ประเภทท่ีหนง่ึ เปนเหล็กกลาและเหนียว คุณภาพกด็ ีเยย่ี ม ประเภทท่ี
สองเนื้อเหล็กและคณุ ภาพลดกนั ลงมาบาง แตอยูในเกณฑดี ประเภทท่สี าม เน้อื เหลก็
ออ นคุณภาพไมสูจะดี แตย งั อยใู นเกณฑพอใชไ ด ประเภทท่ีสี่เปนเหล็กทเ่ี ลวมาก ทัง้ คณุ
ภาพไมดเี ลย เพยี งสกั แตวา เหลก็ เทา นน้ั ไมค อยมีใครสนใจนาํ ไปทําประโยชน
นายชา งก็มี ๔ ประเภท คอื นายชางท่หี นึ่ง มคี วามฉลาดและชํานาญ ทง้ั รเู น้อื เหลก็
ทกุ ประเภทไดอยา งดีเย่ยี มดว ย นายชา งทส่ี องมีความฉลาดและชาํ นาญรองกันลงมา แต
อยใู นเกณฑด ีมคี วามสามารถพอสมควร นายชา งทีส่ าม พอทําไดแ ตไมคอยมีความฉลาด
และชาํ นาญ ทาํ เหลก็ ทไี ดท ีเสยี เอาแนไ มคอยได และนายชา งที่สไ่ี มเปน ทาอะไรเลย ไว
วางใจไมได ขาดความเชื่อถอื จากนายชางท่ัว ๆ ไป ไมคอ ยมีคนมาวา จางใหทํา เพราะ
กลวั จะทาํ เหลก็ เขาใหเ สอ่ื มคณุ ภาพและเสยี ไป
เหล็กประเภททห่ี นงึ่ ท้งั นายชางก็เปน ประเภททห่ี นึ่ง มคี วามฉลาดและชาํ นาญใน
เน้อื เหลก็ ทกุ ประเภทดวย ยอ มสามารถทาํ เหล็กทั้งสามประเภทใหเ ปน เครื่องใชช นิดตา ง
ๆ ไดด ีมาก ทง้ั คุณภาพกส็ งู เยย่ี ม และยงั สามารถเสริมคุณภาพจากฐานะเดมิ ของเหลก็
ประเภทตาง ๆ ใหด ขี ้นึ ไดด ว ย
นายชางประเภททส่ี อง มคี วามฉลาดพอสมควร และมคี วามสามารถทําเหลก็ สาม
ประเภทใหท รงคุณภาพเดิมไวได และใชป ระโยชนไ ดด ีพอสมควร แตไมส ามารถเสรมิ
คณุ ภาพของเหล็กทกุ ประเภทใหดขี ึ้นจากฐานะเดมิ เทานัน้
นายชา งประเภททีส่ าม ไมอาจทําเหล็กสามประเภทใหทรงคุณภาพตามฐานะเดมิ
ของตนไวได ทั้งอาจทําเหลก็ สามประเภทใหเ ส่อื มคณุ ภาพลงไดดวย
สว นนายชางประเภทที่สีน่ ั้น รูสึกจะไมเปน ทเ่ี ชอื่ ถือของนายจางทั่ว ๆ ไป แมมผี ู
นําเหลก็ มปี ระเภทตา ง ๆ มาวา จา งใหทาํ เคร่ืองใชช นิดตา ง ๆ แทนทีจ่ ะไดคาจางแรงงาน
จากเจาของเหล็กผมู าวา จางใหทาํ แตกลับทําเหล็กประเภทที่หนง่ึ และที่สองของเขาใหล ด
แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศนท์ ี่ ๗ -: จ๖๙ร๑๘ิตน-ิสยั ในการบำ�เพญ็
๖๙
คุณภาพลงมากเกือบจะใชการอะไรไมไ ด และทําเหล็กประเภททส่ี ามของเขาใหเสยี ไปเลย
จําตองชดใชคาเสยี หายใหแกเ ขา จนตัวเองเสยี หายปน ปไ ปหมด
บคุ คลกม็ ี ๔ ประเภทดังทา นกลาวไว อคุ ฆฏิตญั ู รูธ รรมไดอ ยา งรวดเร็วทันใจ
หมาย วปิ จิตญั ู รูธรรมไดร องลาํ ดบั กนั ลงมา เนยยะ พอแนะนาํ สง่ั สอนได เสมอทา น
เสมอเรา และ ปทปรมะ บุคคลประเภทท่หี นามาก จนไมเ ชอื่ วา บาปมี บญุ มี หรือสูญไป
เลย แมเ ขาจะหาบหามสิง่ เหลานี้อยบู นบา กไ็ มร วู า ดี ชัว่ บญุ บาปเปน อยางไร พระพุทธ
เจาจงึ จัดเปน บคุ คลประเภททหี่ มดหวังเพราะชวยอะไรไมได ถา เปน คนไขก ็เรียกวา ท้งั
หมอทงั้ ญาติหมดหวัง ไมมีทางฟนตอไปได นอกจากจะเตรียมกสุ ลามาติกาไปตาม
ระเบยี บและธรรมเนยี มของคณะญาติทน่ี บั ถือพุทธเทาน้ัน แตจ ะไดบ ุญหรือไมนน้ั ไมร ับ
รอง เพราะเปน บุคคลทสี่ ้นิ หวงั มาแตปทปรมะอยแู ลว ผใู หบ ุญก็ไมอ าจทราบวาเขาจะ
ตองการอะไรหรือไม แตข ัดคาํ นิมนตไมไดจ ําตอ งไปตามคาํ เช้ือเชิญ เพราะพระกบั ญาติ
โยมเปนเร่อื งแยกจากกนั ไมอ อกตง้ั แตไหนแตไ รมา และเผ่อื ทานผูหวงั บุญจะไดร ับ
ประโยชนจากกุสลามาตกิ าเทาทคี่ วร
อาจารยผ ใู หธ รรมกม็ ี ๔ ประเภท ประเภทท่ีหนง่ึ ขอนอ มเกลา ทูลพระพทุ ธเจา
ของเรา ประเภทท่ีสอง ขอนอมถวายพระสาวกอรหนั ตทา น ประเภทที่สาม ยกถวายครู
อาจารยผ อู าวโุ สดวยอายุพรรษา และคุณวฒุ ทิ ี่ทานไดเลา เรยี นและปฏบิ ตั ิมากอน สว น
ประเภทที่สนี่ ้ยี กใหพ วกเราท่ปี ฏบิ ัตแิ ละรธู รรมพองู ๆ ปลา ๆ และสอนกันไปแบบงู ๆ
ปลา ๆ ตามธรรมเนยี มที่เขาเสกสรรวา “เปน อาจารย” ถา ไมต อบกม็ คี นมาถาม ถาไม
สอนกม็ ีคนมาเรยี นดว ย จึงรสู ึกลําบากท่เี ปนอาจารยต ามคาํ เสกสรร เพราะไมใชอ าจารย
ที่ทรงคณุ ธรรมภายในใจและควรแกก ารสัง่ สอนอบรมผใู ครต อความดีท่มี าศึกษาดว ย
อาจารยม ี ๔ ประเภท และบุคคลมี ๔ ประเภท ในคร้งั พุทธกาลพวกเราก็พอจะ
ทราบไดว า คนดี คนช่วั คนโง คนฉลาดมีสับปนกนั อยู แมสมยั ปจ จุบนั เมือ่ ยกเวน
อาจารยป ระเภทหน่งึ แลวกค็ งจะมบี ุคคลประเภทดงั กลา วนีป้ ะปนกันอยู ดงั นั้นอาจารย
สามประเภทดงั กลาวจงึ อาจมีสับสนปนกันมาตามลําดับกาล
คาํ วา อาจารยย ังแยกออกเปน สองแผนก คอื อาจารยผ ูคอยสังเกตสอดรจู ริตนสิ ัย
และความประพฤตผิ ิด ถูก ชวั่ ดีของตน วาควรจะฝกฝนดดั แปลงตนอยางไร ดวยวิธใี ด
บา ง จงึ จะเหมาะสมและไดร บั ประโยชนเปน ขัน้ ๆ ไป ท่เี รยี กวา อาจารยภายในหนึ่ง
อาจารยผใู หก ารอบรมสง่ั สอนแกผูมาศึกษาอบรมดวย วา จะควรสงั เกตรอบรูจรติ
นิสยั และความประพฤติของผมู ารบั การศึกษาอบรมอยางไรบา ง และจะควรใหอบุ ายสงั่
แวน ดวงใจ ๖๙
แวน่ ดวงใจ : -ภา๙ค๒๑- อบรมฆราวาส
๗๐
สอนอยางไรจึงจะเหมาะ และเปน ประโยชนแกผ ูมาศกึ ษาตามขน้ั ภมู แิ หงความรแู ละจริต
นิสยั ทีเ่ รียกวาอาจารยภายนอกหน่งึ
อาจารยทัง้ สองนเี้ ปน เรอื่ งสาํ คัญไมน อ ย สําหรับผูจะหวังพงึ่ ตนเอง และผยู งั ไม
สามารถจาํ ตองอาศัยอาจารยผแู นะแนวทางให เฉพาะผูห วงั พ่งึ ตนอันเปน หลกั ประกนั
สําคญั ตองพยายามสอดรคู วามประพฤติและจรติ นิสัยของตนอยเู สมอ วาจะควรปฏบิ ตั ิ
ตอ ตนอยา งไรแคไหน จงึ จะพอเหมาะแกนสิ ัยและกําลงั ของตวั ผลท่ีเกิดจากการสังเกต
ตัวเอง ถารวู า เรามีนสิ ัยหยาบละเอียดแคไ หน จากนน้ั กพ็ ยายามดัดแปลงตัวเองไปตาม
นิสยั ท่ีตนเหน็ วา หยาบหรือละเอยี ด ถา นสิ ยั เราหยาบ การบําเพ็ญเพียรพอประมาณไม
เห็นผลปรากฏ จาํ ตอ งเรงขอวตั รปฏิบตั แิ ละความพากเพียรภายในใจเขา ใหมากกวา ปกติ
ธรรมดา เชนเดยี วกบั นายชางตเี หลก็ ถาเหล็กยังอยใู นข้นั หยาบซงึ่ ควรจะตีใหหนักมอื
เขาตองลงกาํ ลังแรง เมอ่ื เหล็กละเอยี ดลงไป ซง่ึ ควรจะถงึ จุดท่ีหมายแลว เขากเ็ บามือลง
เมอ่ื ถึงจดุ ท่หี มายแลวเขากห็ ยุด จากนนั้ เขาก็เปลยี่ นเครอ่ื งมือใหมใ หพ อเหมาะสมกนั กบั
เหลก็ ซง่ึ ตองการความละเอียด คอ ยขัดสีอยา งระมดั ระวงั จนถึงจดุ ทตี่ องการ แลว เขาก็
หยดุ ทนั ที
การสังเกตนสิ ัยของตวั กต็ อ งทาํ เชน นนั้ เหมอื นกนั ถาจติ ยังอยใู นขัน้ หยาบมาก จาํ
ตอ งทรมานกนั ใหห นกั บา ง แมจะทนลําบากกต็ อ งฝนและอดทนจนจติ หายพยศ เพราะ
นิสัยตางกัน คือผมู ีนิสยั หยาบ กลาง และละเอยี ด แมใ นคน ๆ เดยี วก็ยังมหี ยาบ กลาง
และละเอยี ดตามสมัยกาล การฝก อบรมจึงจะทําแบบเดียวไมไ ด จาํ ตอ งเปลี่ยนแปลงไป
ตามจิตทเ่ี ปลย่ี นแปลงตัวเองไปเปนระยะ ๆ เชน จติ ประเภทละเอยี ดอยบู า งแลว พอได
รบั การอบรมจากครูอาจารย แลว นาํ ไปปฏบิ ัติก็ปรากฏผลไดเ รว็ จิตประเภททีส่ องตองทํา
ครงั้ แลว คร้งั เลา จนพอแกกาํ ลงั จะเปน ความสงบไดกป็ รากฏผลข้ึนมา
สวนจติ ประเภทท่สี ามไมคอยจะไดเร่อื งไดร าวอะไรเลยในขั้นเรมิ่ แรก ทง้ั ไมทราบ
วา จติ ของตนเปน อยางไร แมน่ังภาวนา จติ ไมเคยมคี วามสงบเยอื กเย็นเลย น่ังเพียงสอง
สามนาทกี ็บนวาจะตายแลว ถงึ กบั รองหาพอหาแม จะพาน่ังภาวนาคราวไรคลา ยกับจะถกู
นาํ เขา ตะแลงแกง เหมือนเขาจะนาํ สัตวไปสทู ฆ่ี า ทั้ง ๆ ทีก่ ็ทราบอยูวาเราไมใ ชส ตั ว
ประเภททจ่ี ะถกู นําไปเพื่อขน้ึ เขียงฆา แตเ ราเขาสหู อ งเพอื่ ทาํ ความสะอาดแกจิตดว ย
เครอื่ งซกั ฟอก คือธรรมอันเปนธรรมชาตสิ ะอาดยิ่งเทา น้ัน เพราะจิตน้ีสกปรกมาก จึงทํา
ความทกุ ขใ หแ กต ัวอยตู ลอดเวลา ไมว าเวลาอด เวลาอมิ่ เวลาม่งั มี และเวลายากจน มัน
แวน ดวงใจ ๗๐
กณั ฑเ์ ทศน์ที่ ๗ -: จ๙ร๓ติ น-สิ ยั ในการบำ�เพญ็
๗๑
ทําทกุ ขใหเราไดทงั้ น้ัน จงึ ควรจะทําความสะอาดใหจ ิตเพือ่ จะไดมีความสขุ บา งพอสมควร
หากไดไ มม าก
แตม ันฝนเอาเสยี จริง ๆ ไมอ ยากหันมองวัด มองหอ งทาํ ภาวนา มองทางเดิน
จงกรม ไมอ ยากหันหนา มองหนังสือธรรม ไมอ ยากฟง คําวา ภาวนาเสียเลย ถาถกู บงั คับ
เขา จรงิ ๆ ทนไมไ หว กท็ าํ บา งเพยี งหา นาทีสิบนาที คอยแตจ ะเผน ออกทา เดียว จากนั้นก็
ตัง้ กฎเกณฑบงั คับบญั ชาใหธ รรมแสดงผล ถาไมไดอ ยางใจหวงั ก็จะหยุดเดยี๋ วน้ี การทํา
เชนน้ไี มใชเ ราเขา ทภ่ี าวนาเพ่ือความสงบเยน็ ใจ แตกลายเปนการเขาทีท่ ําความกังวลใสตวั
เอง เพราะไมถ ูกตอ งตามหลักการบําเพญ็ ของผมู ุงหนาตอ ความสขุ ทางใจ ซึ่งเปนคํารบั
รองจากนิยยานิกธรรมท่ีถูกตอ ง
พยายามปรับปรงุ ตวั เองเขาสหู ลกั ธรรม ซึ่งจะนาํ ความสขุ มาใหตามควรแกกําลงั
ของตนทบ่ี าํ เพญ็ ได ตอ งตง้ั กฎกติกาและตงั้ ความเพียรบงั คับตัวเองเขา สูธรรม บกพรอ ง
ตรงไหนรีบปรับปรงุ แกไ ขจุดบกพรอ งนน้ั ใหดี วันน้ที าํ ความเพียรไดเ ทานั้นชว่ั โมง ผลท่ี
ไดรับเปนอยางไร และขณะท่ที าํ ความเพยี ร จิตไดเล็ดลอดออกไปสอู ารมณทไี่ หนบาง
หรอื ไม เพราะการสง จติ ออกไปตามอาํ เภอใจน้ัน ไมใ ชหลักของการภาวนา แมจะสงจิต
ออกไปขา งนอกกเ็ พ่ือรเู หตุผลตามหลกั ของการภาวนา จะสง จติ เขามาภายในกายในใจก็
เพ่อื รเู หตผุ ลของสง่ิ นัน้ ๆ ตามหลักของการภาวนา ซง่ึ มอี ยทู ้งั ภายนอกภายใน น่ีคือหลกั
ของการภาวนาท่ถี ูกตอ ง
เมอ่ื เราทําถกู ตามวธิ ีนี้ เวลาทําไดส ักกนี่ าที กชี่ ว่ั โมง ผลปรากฏอยางไรบาง ถา ยงั
ไมป รากฏตองเพิม่ เวลาเขา อกี เหมอื นหมอเพิ่มยาแกโรคใหแ กค นไขฉะนั้น ตอ งเพมิ่ เวลา
และความเพยี รเขา ไปโดยลาํ ดบั จนกวา จะเห็นผลปรากฏจากการภาวนาวาไดป รากฏผล
เชนนั้น ๆ อน่ึง ผลท่ปี รากฏนัน้ จะไมตอ งศึกษาไตถ ามใคร จะเปนส่ิงทแี่ ปลกประหลาด
ข้ึนกบั จิตของผูภาวนาโดยถูกตอ ง ความเพียรทเ่ี คยตะเกียกตะกายแบบลมลกุ คลุกคลาน
มาแตกอ น จะตง้ั ตนขน้ึ มาทันที เพราะอํานาจศรทั ธาความเชื่อมน่ั ตอ ผลที่เคยประจกั ษใจ
เปนเคร่ืองสนับสนุน กาํ ลงั ทุกดานซ่งึ เปนเคร่ืองสงเสรมิ ความเพยี รจะเปน มาพรอ มกนั
เวลํา่ เวลาทเ่ี คยกดขบ่ี ังคับเรามาแตก อ น เลยไมเ ปน ปญ หาสําคญั เพราะความมุง ในธรรม
เบือ้ งสงู ขึน้ ไปมกี าํ ลงั มากกวา
หลักของการภาวนาทีจ่ ะเหน็ ผลประจักษตองทาํ อยางน้ี เพราะเราทุกคนไมเ คย
จารกึ การสรางวาสนาบารมีมาแตกอ น ๆ ไวแมแตร ายเดยี ว ใครจะสรา งไวมากนอย ยอม
ไมมโี อกาสทราบได เพราะสิ่งปดบงั มีอยูภ ายในใจ จําตองอาศัยการอบรมบมอินทรยี
แวน ดวงใจ ๗๑
แว่นดวงใจ : ภ-า๙ค๔๑-อบรมฆราวาส
๗๒
เพ่อื เปน การเพิ่มวาสนาบารมีข้นึ ใหม าก ดวยการกระทําความดี สิ่งทป่ี ดบงั วาสนาบารมกี ็
จะคอ ยหายจางไปเปน ลําดบั แลว กจ็ ะทราบชดั วา เรานแ้ี ลเปน ผสู รา งวาสนาบารมมี าเอง
การสงั เกตนสิ ัยของตัวกับความเพียรใหเหมาะสมกนั เปนเรอื่ งสาํ คญั มาก โปรด
อยามองขามไป ถาสกั วา ทําไปเทา นนั้ กย็ ากทีจ่ ะรูเห็นเหตผุ ล ซง่ึ จะเกิดข้ึนจากการกระทาํ
เพียงลอย ๆ ทกุ สิง่ ถา ทาํ เพียงลอย ๆ ไมว าทางโลกและทางธรรม ไมคอ ยจะปรากฏผลท่ี
พึงพอใจ ดังน้ันจงึ ควรสังเกตนสิ ยั เพอ่ื รูความหนักเบา ถาเปนนิสยั หยาบตามวาระของจติ
ซ่งึ ควรจะเขมแข็งใหห นักมือในทางความเพยี ร จึงจะปรากฏผลข้ึนมา เรากค็ วรทาํ อยา ง
นัน้ เหมือนเขาทํานา เพราะนาบางแปลงทาํ ยาก แตน าบางแปลงทาํ งา ย
นาของเราเปนนาท่ีทาํ ยาก จะทําอยา งงายดายเหมือนนาที่เขาทาํ งายนั้นไมไ ด แต
เพราะนาแปลงนเ้ี ปน นาของเรา แมจะทํายากแสนยากเราก็ตอ งทาํ งายเรากต็ อ งทาํ จะไป
ทาํ นาคนอน่ื ไมได ผดิ คตธิ รรมดาความนิยมของโลก นาของเขาจะงายหรือยาก เขาก็ตอง
ทํานาของเขาเชน เดยี วกับเรา นสิ ัยนี้เปน นิสยั ของเรา จะหยาบหรอื ละเอยี ดกม็ ใิ ชผูอ ื่นใด
มาสรา งนสิ ยั ประเภทน้ใี หเรา เราเปน ผูสรางมาเอง เราตองเปน ผูบกึ บนึ แกนสิ ยั ของตวั
เองจากนสิ ัยหยาบข้นึ สูความละเอียด ตอไปก็จะกลายเปน ของงา ยข้ึนมา รายท่ีบําเพญ็
ปรากฏผลไดงา ยกม็ หี นาทีจ่ ะเรง ความเพียร เพ่อื ปรากฏผลขน้ึ ไปโดยรวดเร็วเชน เดยี วกนั
จนถงึ จุดหมายทีต่ อ งการ จะประมาทนอนใจ โดยถือวา ตนทาํ งา ยยอมไมควรเหมือนกนั
เพราะฉะน้ัน ครั้งพุทธกาล การบาํ เพ็ญเพยี รของโยคาวจรจึงมลี กั ษณะตาง ๆ กัน
ในประโยคความเพียร บางทา นก็งาย บางทา นก็ยาก เชนเดยี วกับสมยั ทกุ วนั น้ี แตจะยาก
หรืองา ยกเ็ ปนหนา ทีข่ องตนจะตอ งทาํ เพราะเปน งานของตนโดยเฉพาะ จะรอเวลาํ่ เวลา
หรือใหคนอนื่ ทาํ แทนหรือชว ยทาํ ไมได ไมเหมอื นปลกู บานปลูกเรอื นหรือธุระอยางอืน่ ๆ
แมครอู าจารยก็เปน แตผ ูแนะแนวทางใหเ ทา นนั้ สวนการประกอบน้นั เปน หนา ที่ของเรา
โดยเฉพาะ ทา นแนะวธิ ีใหแลวโดยถูกตอ งไมมีขอสงสัยสวนใหญ แตธ รรมบางแขนง วิธี
ประกอบกต็ อ งเปน อุบายความแยบคายของเราเอง ถา จะรอรับอบุ ายจากทา นทกุ แงทกุ
กระทงยอ มไมท นั กับเหตกุ ารณทปี่ รากฏขน้ึ ภายในใจทมี่ คี วามเพยี รเปน ไปอยู เราตอ ง
พยายามคิดคนหาอุบายโดยวธิ ตี า ง ๆ เพ่ือใหทันกับใจทมี่ แี งงอนมากมาย ไมเชนน้นั ไม
ทนั กนั
งานไหนก็ไมย ากลาํ บากเทา งานเพ่ือขา มกองทกุ ขที่มีอยใู นขนั ธแ ละในจติ งานนี้
เปน งานอันยง่ิ ใหญต องทมุ เทกาํ ลงั ลงไปดว ยความเพียรอยา งหนกั คลายกบั วาจะเปน จะ
ตายเทา กัน เพราะผลก็ยิง่ ใหญเ ทา เทยี มกนั เมื่อเขาถงึ แลว ผตู องการกาํ ไรมากมายจํา
แวน ดวงใจ ๗๒
กณั ฑเ์ ทศน์ท่ี ๗ -: จ๙ร๕ิตน-ิสยั ในการบ�ำ เพญ็
แวน่ ดวงใจ : ภ-า๙ค๖๑-อบรมฆราวาส
๗๔
ทกุ ขโ ดยสน้ิ เชิงกจ็ ะปรากฏขน้ึ มาจากทนี่ น่ั การพจิ ารณาสภาวธรรมทัง้ หลายไมวา ขางนอก
ขางใน เปน อุบายวธิ ีจะถอดถอนจิตทมี่ คี วามเก่ียวขอ งกงั วลกับสงิ่ เหลา นั้น ใหก ลบั ยอน
เขา มาเปนลําดบั เพอ่ื ภาระของจติ จะไดม วี งแคบเขามา ความกังวลก็มนี อย เรื่องทุกขก็มี
นอย จนทราบไดชัดวา ทกุ ขท ัง้ มวลมันมีอยใู นขันธและในจติ น้เี ทานนั้ นอกจากนกี้ ็เปน
ดนิ ฟา อากาศ แมจะกวางแสนกวา ง มีมากแสนมากก็เปนเพียงธรรมชาตขิ องเขา หากมี
และเคยเปน อยูอ ยางนน้ั ตามธรรมดาของตน ๆ ไมไดม ากดข่ีบังคับเราใหไ ดร บั ความชอก
ช้าํ เดอื ดรอนเหมือนกบั เรอ่ื งของตวั ทที่ าํ ความกระทบกระเทือนตนอยตู ลอดเวลาเชนนี้
การบําเพญ็ พิจารณา เราก็มิไดไปเชา สถานที่บานเรือนของใครเพอื่ ทาํ งานประเภท
น้ี รางกายจิตใจซงึ่ เปนท่ที ํางานและเครอ่ื งทํางานก็ไมต องไปหามาจากไหน สติปญญากม็ ี
อยูก ับเราผูเปน นักคนควา มีอยูพรอ มมลู ในสถานท่แี หงเดียว มีอยอู ยางเดยี ววา เราจะ
พิจารณาใหถงึ รากฐานแหง ความจรงิ ที่มีอยกู ับเราหรือไมเทา น้ัน ถา พจิ ารณาใหรูเรื่องของ
สจั ธรรมซ่ึงมีบรบิ รู ณอ ยูในกายในใจของเราอยา งเตม็ ท่แี ลว ความส้นิ สดุ แหง ทุกขทเี่ คย
บบี คน้ั จติ ใจเรามาเปน เวลานาน ไมตองกลัววา จะไมมที ่ีบรรจตุ ําแหนงความบริสทุ ธิ์
เพราะพระนพิ พานไมใ ชส ถานที่ทาํ งานแผนกตาง ๆ พอจะเต็มไมม บี รรจุเน่อื งจากคน
สอบไดมาก
โปรดเรียนและสอบตัวเองไปดว ยขอ ปฏิบัติ กาํ จัดสิง่ เคยเปนขา ศกึ ของใจออกให
หมด จนปรากฏเปน ผบู ริสทุ ธิ์ขึน้ มา จะบริสุทธเิ์ ปนจํานวนแสน ๆ ลา น ๆ คนก็ไมจ น
สถานทบ่ี รรจุ เพราะพระนิพพานไมม ีขอบเขตจาํ กัดเหมือนงานแผนกตาง ๆ เนือ่ งจาก
พระนพิ พานไมใ ชส มมตุ ิ
ความยืดเย้อื แหงภพแหงชาตินน้ั ถาเปนสง่ิ ที่นับได อานได และไดจ ดบนั ทกึ ไว
เหมือนบันทึกสิ่งตาง ๆ แลว ไมมีกองวัตถุใด ๆ จะใหญโตและสงู ยิง่ กวา กองบัญชีแหง
การเกิดตายของสัตวแตล ะราย ๆ เกดิ ภพนี้ ก็จดไวในภพน้ี มีทุกขปรากฏขน้ึ ขณะใดบา ง
จดไว วันน้ีทกุ ขเกดิ มากนอยเทา ไรจดไว วนั หนาทกุ ขเกดิ เทาไรจดไว เดือนหนาทุกขเ กิด
เทา ไรจดไว ปห นาทกุ ขเ กดิ เทา ไรจดไว จดไวทุก ๆ ระยะทที่ ุกขปรากฏขึ้น ไมวาทุกขจ ะ
เกิดข้นึ ทางกายหรือทางใจจดไวห มด จนรวมหมดทง้ั ชาติมีทกุ ขประมาณเทาไรแลว อีก
ภพชาตหิ นึง่ ๆ ท่ีตดิ ตอกนั มาเปน ลาํ ดับ จนถึงปจจุบันวนั น้ี มกี ่ภี พกีช่ าติ แตละภพ แต
ละชาติ มกี วี่ ัน กี่เดือน กีป่ ข องชีวิตในภพน้นั ๆ และมีทกุ ขเ กิดขึน้ ในวนั นน้ั ๆ เดือนนนั้
ๆ ปน น้ั ๆ ภพชาตินั้น ๆ มากเทาไร อานตลอดกัปตลอดกัลปก็ไมมีจบ ในประวัตขิ อง
เราคนเดยี วเทา นน้ั
แวนดวงใจ ๗๔
กัณฑ์เทศนท์ ่ี ๗ -: ๙จ๗รติ น-สิ ัยในการบ�ำ เพญ็
๗๕
ความยืดเยื้อแหงทกุ ขเปน มาเชนน้ี ถา เราสามารถบนั ทกึ ความเปน มาของเราแต
ตน ภพตนชาติจนถงึ บัดนี้ จะไมมแี ผนดนิ อนั กวา งขวางทีไ่ หนเปน ทเี่ กบ็ บญั ชีแหง กองทกุ ข
ของเราทที่ าํ สถิติเอาไวในโลก แผน ดินทีอ่ าศัยอยเู วลานีเ้ พียงบญั ชขี องเราคนเดยี วกห็ าที่
เกบ็ ไมไดแ ลว ยงั บัญชขี องคนอ่ืนสตั วอืน่ จะเอาไปเก็บไวทีไ่ หนกันอกี ทั้งทองฟา
มหาสมทุ รจะไมมที ่ีเกบ็ ไวเลย เพราะมันเต็มไปดว ยกองทะเบียนบัญชีของความเกดิ
ความตาย ความทกุ ขทรมาน ความลม หายตาย พลัดพรากจากสัตวและสงั ขารท้งั ของเขา
ของเรา สับสนปนเปกนั ไปหมดอยา งนี้ ไมมีที่ไหนวา งพอจะเอาปลายเข็มแยงลงได วาไม
ถกู กองบัญชีเกดิ ตายของเรา แมอนาคตขางหนา โนน ก็คอื จติ ดวงนเ้ี องเปน ผูจะวางรอ ง
รอยของตนไปเปนลาํ ดับ ๆ เชนเดียวกับทีเ่ คยเปนมาแลว
เหยียบยา งไปทไี่ หนถูกแตภ พแตช าติ ถูกแตกองทุกขของตนวันยังค่ํา คืนยงั รงุ
ทุกขซ้ําทุกข ทุกขภายนอกไดแกท ุกขในขันธ ทกุ ขภ ายในไดแ กทุกขใ จ ทกุ ขแลว ทกุ ขเลา
อยูภ ายในขันธต ลอดเวลา แมจะไมม ีการเจบ็ ไขก ็ตาม ทกุ ขป ระจําขันธต องทกุ ขแ ลว ทกุ ข
เลาอยูอยางนัน้ ทุก ๆ คน ทุก ๆ สตั ว และยังทกุ ขภายในใจอกี ออกจะเหลือทน เพราะ
ยํ้ากันไปไสกนั มาเหมอื นกงจักร ถา เปน ตัวหนงั สือแลว จะหาทอี่ า นไมได เพราะเขยี นซํ้า
รอยกนั แตน้ีเปนเรอ่ื งของทุกขซ้าํ รอยกัน ไมทราบวาซาํ้ กนั กมี่ ากนอย แลว ยังจะซํ้ากันไป
อกี ขางหนา ไมท ราบวา จะนานสกั เทา ไร ไมมปี ระมาณเลย
ในชาติท่ีเหน็ อยูน ี้ นบั วาเรามีวาสนาบารมมี ากยิ่งกวา สตั วทัง้ หลายอยูแลว เพราะ
ไดม าเกิดเปน มนษุ ย ทั้งไดพ บพระพทุ ธศาสนาที่เตม็ ไปดวยเหตุผล และทนตอการพิสูจน
ทงั้ เปน สวากขาตธรรมทีต่ รัสไวช อบ และเปน นิยยานกิ ธรรมผูปฏิบตั ติ ามตองไดร ับผล
เพอื่ นาํ ตนออกจากทุกขเ ปนลําดับ อยาใหเ สยี ทแี ละผา นไปเปลา จงพยายามถอื เอา
ประโยชนจากศาสนธรรมใหไดเ ทา ทีค่ วร
ทผ่ี านมานไี้ ดอธิบายเร่ืองทกุ ขซึ่งเปนสิ่งคลกุ เคลากับเราอยูต ลอดเวลา เพ่อื ทา นผู
ฟงจะไดถ ือเปนคตแิ ละหาอุบายพร่าํ สอนตน เพอ่ื หาทางออก เพราะความเหน็ โทษใน
ทุกขประจักษใจ ความพากเพียรเพื่อหนีทุกข หากเกิดขนึ้ มาเองเชน เดยี วกบั คนหรอื สัตว
กลัวอนั ตราย วง่ิ ไมไดก็ตองเสอื กคลานไปจนสุดกําลัง ใคร ๆ ก็ตองตะเกียกตะกายหนี
ภยั จะยอมนอนตายอยูเฉยๆ ไดอยางไร สดุ วสิ ยั ณ ที่ใดแลว คอ ยลมตายที่น่นั ผกู ลวั
ทุกขก็ตองตะเกียกตะกายเหมือนกัน สุดวิสัย ณ ทีใ่ ดแลว จึงมอบไวก บั ความจําเปน ทส่ี ดุ
วสิ ยั จรงิ ๆ
แวน ดวงใจ ๗๕
แวน่ ดวงใจ : ภ- า๙ค๘๑- อบรมฆราวาส
๗๖
ถากลัวบา ง กลา บา ง ยงั มที างเขา ๆ ออก ๆ บางทีก็ข้ีเกียจทําความดี คดิ ขน้ึ มา
บางวาระกก็ ลัวทุกข คดิ ขน้ึ มาบางวาระก็กลาหาญตอ ทกุ ข โดยเห็นวาคนท้งั โลกไหนจะมี
ความทกุ ขแ ตเ ราคนเดียว เขากต็ อ งทกุ ขเ ชน เดียวกบั เรานี่เองจะไปกลัวมนั ทาํ ไม แมจ ะไป
ตกนรกหมกไหม ในทน่ี น่ั กม็ ที ั้งผูห ญิงผูชาย จะแสวงหาสามีภรรยาและโรงหนงั โรงละคร
ในทีน่ ้ันกย็ งั พอได แตขอนีเ้ ราลองคิดดซู ิวา เน้ือเปด เน้ือไกซง่ึ มที ้ังตวั ผูต ัวเมียท่ีถูกเขาสบั
ยําจนแหลกละเอียด แลว โยนลงไปในหมอ ที่กําลงั เดือดพลา นน้ัน เคยเหน็ สตั วเ หลา นไ้ี ป
เท่ียวแสวงหาครอบครัวผวั เมีย และเลนระบาํ ทําเพลงกนั สนกุ สนานในหมอ แกงนัน้ บา ง
ไหม หรือเขาโยนเขียด โยนหอย โยนปลา ซง่ึ มีทัง้ ตัวเลก็ ตัวใหญ มีทง้ั ตัวผตู วั เมียลงใน
หมอ นาํ้ รอ นท่กี ําลงั เดอื ด มีสัตวตวั ใดบา งท่ีแสวงหาครอบครวั และความสนกุ สนานรน่ื เริง
ในทีเ่ ชนน้ัน มองเห็นแตตวั ไหนกท็ าํ กระเสือกกระสนจนสุดกาํ ลงั แลวนอนตายแชน ้าํ รอ น
อยูเ ทานั้น โดยมไิ ดสนใจวาเขาเปนตวั ผู เราเปน ตวั เมยี เพราะความทกุ ขทรมานจนถงึ
ตายจะไปสนใจกับเรอ่ื งผวั ๆ เมีย ๆ ท่ไี หนกนั
เร่อื งทุกขท รมานทีจ่ ะเปน ไปในกาลขา งหนา ก็ควรเทยี บในทาํ นองเดยี วกนั จึงจะ
เห็นภัยประจกั ษใ จ ความขยนั หมนั่ เพียรเพ่ือความแหวกวายหนีทุกขน ้นั จะมขี ึน้ มาเอง
เชนเดียวกบั บุคคลไปเจอเสอื ซ่งึ เปน สัตวรา ย ใครก็ทราบกนั อยูแ ลว แมจ ะมองไมเห็นตวั
เพียงไดยินแตชื่อก็กลวั กัน ที่ไหนเราไปเจอเอาอยา งจงั ๆ เสยี เองจะยอมใหเสือกนิ มี
อยางหรือ อยางไรก็ตองวิ่งจนสดุ ฝเ ทา ที่จะว่ิงได ขณะนนั้ ถา มี ๕ ขา ก็ตองวิ่งพรอมกันทั้ง
๕ ขา ไมเ พียงแต ๒ ขาเทานั้น ถาเปนผูแสดงไปเจอเอาอยา งนั้น จะอยางไรกค็ งจะไมมี
อะไรเหลอื ตดิ ตัว แมสบงจีวรจะขาดหลุดลยุ ไปหมดกต็ องยอม แตฝ เ ทา จะไมยอมหยดุ วิ่ง
เปนอะไรเปน กนั
เพราะมนั สาํ คญั อยทู ี่ชีวติ ซึ่งเปนของมีคาเหนือตวั เรา ใครจะไปยอมใหเ สือกนิ
เปลา ๆ มีประโยชนอ ะไร แตการว่ิงหนีเสอื มันมปี ระโยชนม าก เพราะไดช ีวิตเราไวทัง้ คน
ไมล มจมเปลา แตนีย้ ังดี เวลาเทยี่ วกรรมฐานตามปา ตามเขาซ่งึ เปน ชมุ นมุ ของสตั วร า ยมี
เสือเปน ตน ก็ไมเคยเจอเสือ แมเสอื กค็ งจะทราบนิสัยเราซึ่งเปน คนขขี้ ลาดหวาดกลวั เสอื
กเ็ ลยกลวั เรา ไมก ลา เจอกนั ในสถานทแี่ ละกาลเชนนั้น ท้งั น้ีเพราะความรักชวี ติ มีขนาด
ไหน ความตะเกียกตะกายเพ่อื หนภี ัยกม็ ีขนาดน้นั
ถาเรารกั สงวนจิตใจ เราไมอยากใหสิง่ ท่เี ปน ภัยตอ ใจ ฉดุ ลากไปเพอื่ การเกิดการ
ตายไมม จี บสนิ้ เชน เดียวกบั ไปพบเสือ และไมย อมตัวใหเ สือกนิ เปลา แลว กค็ วรทาํ ความ
พยายามตะเกยี กตะกายเพอื่ แหวกวา ยออกจากกองทุกขดงั กลาวมา เพราะไมม ีอะไรทจ่ี ะ
แวน ดวงใจ ๗๖
กัณฑ์เทศน์ที่ ๗ -: จ๙ร๙ิตน-สิ ัยในการบ�ำ เพ็ญ
๗๗
นา สงสัยแลวในโลกนอกโลกใน ท้งั โลกทานโลกเรา ถา ยงั สงสยั ไมแนใจจะไปเทย่ี วสอบ
ถามโลกไหนกไ็ ปถามลองดู หรือจะไปสอบถามนายยมบาลกไ็ ด เขาคงจะบอกเรอื่ งความ
ยงุ ยากเกี่ยวกับหนา ทค่ี อยจดทะเบยี นบญั ชีของคนของสัตวท ท่ี ําดีทาํ ชว่ั เกิด ๆ ตาย ๆ
ซง่ึ เปน เรอ่ื งทกุ ขยุงไปหมด หรอื เขาอาจจะไมม เี วลาคยุ อะไรกบั เรามากนักก็ได เพราะ
หนาท่เี ขากวางขวางและยุงมากยิง่ กวา โลกของเราเสียอกี เนือ่ งจากคนและสัตวใ นสามภพ
ตกอยูในความรบั ผิดชอบเของเขา จะตอ งคอยลงทะเบยี นบญั ชีและอ่ืนๆ อีก
เพยี งโลกมนษุ ยเรากพ็ อจะสอบถามไดความชดั ในเร่ืองทกุ ขทม่ี ปี ระจาํ อยูทุกสัตว
ทกุ บุคคล เชนไปถามคนจน เขากจ็ ะบอกวาเปน ทุกขเพราะความจนบงั คับ ทั้งติดหนี้สิน
เขาพะรุงพะรงั ยงุ ไปหมด เขามาทวงหน้ีสินแทบทกุ วนั ทงั้ ขา วจะรับประทานกไ็ มมี ไป
ถามคนมั่งมกี ็จะบอกวา ทุกขเพราะการงานมากไมมีเวลาพกั ผอ น หาเวลาเปน ตัวของตวั
แทบไมไ ดใ นวนั คนื หน่งึ ๆ ท้งั รายรบั รายจายยงุ ไปหมด จะหาใครทาํ แทนกไ็ มไ ด เพราะ
เปน เรอ่ื งสาํ คญั เราตองทําเอง และติดแจอยูกับงานนีต้ ลอดเวลา ไปไหนไมได
บางคร้ังนัง่ หลบั คาโตะก็มี เพราะเวลาพักผอนไมเพียงพอ เนอ่ื งจากงานตดิ ตอ กัน
อยูตลอดสาย ทั้งงานในบาน ทง้ั งานนอกบาน ทงั้ งานใกลแ ละงานไกล ตลอดสินคา ทีส่ ง
มาจากทต่ี าง ๆ ทงั้ ในและนอกประเทศ เราเปน ผรู ับผิดชอบทุก ๆ สง่ิ และทกุ ๆ แขนง
ของงาน บางวนั ถงึ กบั รบั ประทานไมไดแ ละนอนไมห ลบั ตองใชค วามคิดมาก เพราะงาน
มาก เงนิ มาก ไหลเขามารวมอยูท ี่เราเปนผรู ับผดิ ชอบคนเดียว ฉะนัน้ เรอื่ งมนั จึงยุงอยู
อยา งนี้
ตามธรรมดาแลว นเ้ี ปนงานอาชีพซง่ึ จาํ เปนอยางย่ิงที่ทั่วโลกตองทํากัน เพราะธาตุ
ขันธมดี วยกนั ทุกคน ทั้งตอ งอาศยั สิ่งเหลาน้เี ปนเครือ่ งบํารงุ เปน ประจํา จะขาดไปไมได
ถา ขาดส่งิ เหลา นี้โลกตองสลายตั้งอยูไมไ ด ถงึ เชน นน้ั คนเรายงั บน กนั ทั่วโลก ไมม ีทไ่ี หนจะ
ไมบ นเกยี่ วกับเรื่องการงาน ไมค อยจะไดย ินวา ฉันจน ฉนั สบาย เพราะไมต อ งเปนภาระ
กับสมบตั เิ งนิ ทองและสงิ่ ตา ง ๆ มากมายนกั และฉนั มเี งินทองมากฉันอยสู บาย สามีก็
ถูกอกถูกใจ ภรรยาก็ถูกอกถูกใจ ลูกหญิงลูกชายก็ถูกอกถูกใจ ญาติมิตรเพื่อนฝูงถูกอก
ถูกใจ ทุกสง่ิ ทกุ อยา งทเี่ กย่ี วขอ งกับฉนั เปนทถ่ี ูกอกถกู ใจทัง้ น้ัน
แตมกั จะไดยนิ แตบ น กนั ท้ังน้นั ไมวา คนจน คนมี คนโง คนฉลาด ไมวาหญิง ไม
วา ชาย ไมวา นักบวชและฆราวาส พวกเรารูทุกข รเู พยี งข้นั บนกนั เทานนั้ ฉะนนั้ ใครจงึ บน
กับทกุ ขอ ยูทุกแหงทกุ หน ท้งั คนมี คนจน ทงั้ คนโง คนฉลาด ทงั้ ในวัด นอกวดั ท้ังในบา น
แวนดวงใจ ๗๗
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๐๑ -อบรมฆราวาส
๗๘
นอกบา น ท้ังในเมอื ง นอกเมือง ทงั้ เมอื งเลก็ เมืองใหญ ทง้ั ในประเทศและนอกประเทศ
ทั้งประเทศเลก็ และประเทศใหญ ทั่วโลกบน เหมือนกนั หมด
แตพ ระพุทธเจา ทา นรูถงึ ความจรงิ ของทกุ ข รฐู านทเี่ กิดของทุกข และรูว ิธรี ือ้ ถอน
สาเหตุใหเ กิดทกุ ขท้งั ภายในภายนอก ทา นจึงสามารถดับทกุ ขไดโ ดยสน้ิ เชงิ ไมม ีการบน
ใหท ุกขดับไปเฉย ๆ ทั้ง ๆ ท่ไี มท าํ การแกไ ขและรื้อถอน ฉะนั้นทานจงึ สอนโลกดว ย
โลกวทิ ู (ความรูแจงโลก) โดยความองอาจกลา หาญ ไมม ีความสะทกสะทา นในการส่ัง
สอน เพราะทา นรูโลกชดั ทั้งโลกนอก โลกใน ทง้ั ธรรมนอกและธรรมใน ดวยพระปญญา
อันแหลมคมอยา งยิง่
พวกเราเหยยี บย่ํากันไป เหยียบยาํ่ กันมา กไ็ มทราบวา ของดี ของชั่วคืออะไร เชน
เดียวกับผไู มม ีความฉลาดในการคนแรแ ปรธาตุ แมจ ะเดนิ เหยียบย่ําไปมาอยตู ลอดกาล
ก็ไมร ูว า อะไรเปน แรและเปนธาตชุ นดิ ไร แตผูมคี วามรคู วามฉลาดในทางนี้ เพยี งเดนิ ไป
เทาน้นั เขาก็รวู าท่ีนัน่ มแี รช นิดนนั้ แมจ ะเปน คนเหมือนกนั แตมันตางกันท่มี คี วามฉลาด
แหลมหลักตางกนั นพี้ วกเราก็น่งั ทับ นอนทับความดี ความช่วั อยูตลอดเวลาอกาลโิ ก ก็
ไมท ราบวาจะเลอื กเฟน เอาอะไร จงึ เลยยกเอาหมดท้งั รงั รบั กันหมดท้ังเปลือก สขุ บา ง
ทุกขบา งกย็ อมทนเอา
วนั นไี้ ดอธบิ ายเรือ่ งทกุ ขใหบ รรดาทา นผฟู ง ทราบ ตามเรือ่ งของทุกขทม่ี ีอยูกับตวั
โปรดนาํ ไปพิจารณาและบาํ เพ็ญตนเต็มสติกาํ ลงั ความสามารถ อยาลดละความเพียร
พยายาม จะไดมากหรือนอยเปนสมบตั ิของเรา เพราะของดแี มจะมีนอ ยกด็ ี ยง่ิ มมี ากกย็ งิ่
ดีมาก และใครกต็ องการ เชน บา นดแี นนหนาม่นั คงและสวยงาม ใครก็ชอบ ท่ดี นิ ดีมรี าคา
แพงจะปลูกบา นเรือนก็ดี จะทาํ เปนสวน เปน นากด็ ี ใครก็ชอบ เด็กดมี ีความเช่อื ฟงผปู ก
ครองเรยี นหนังสอื ดี ไมชอบเที่ยวเตร็ดเตร ไมเปน คนผลาญทรพั ย ชอบประหยดั หัด
นสิ ยั ใหตรงตอเวลา ผูปกครองก็ชอบ ผหู ญงิ ดี ประพฤตติ วั สมศักดิศ์ รีของหญงิ ไมเ ปน
คนชอบเท่ียวและชอบเกยี้ วผชู ายใครกช็ อบ
สรุปความแลว ทุกส่ิงถา เปนของดีมปี ระโยชนแลว ใครกช็ อบกนั ทงั้ โลก ดงั นนั้ จง
พยายามดัดแปลงตนใหดี หากยังไมพ นจากวฏั สงสารในวนั น้ี วนั หนา กจ็ ะไดอ าศยั ความดี
เหลา น้ีเปนเครือ่ งพยงุ ในภพนน้ั ๆ จงึ มคี วามสุขความเจรญิ ในภพชาติทต่ี นอาศยั เหมอื น
คนเดนิ ทางมีเครือ่ งปองกันตวั แดดรอนแตม เี ครอ่ื งปกปดกายกพ็ อบรรเทาทุกขไปได ไม
รอนแผดเผาเสียทีเดียว การทองเทยี่ วในวฏั ฏะก็ตอ งอาศยั บุญวาสนาบารมที ่เี คยสรา งมา
แวน ดวงใจ ๗๘
กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๗-: ๑จ๐ร๑ิตน-ิสยั ในการบำ�เพ็ญ
๗๙
เปนเครอื่ งปกปองกําบงั ทุกขท้งั หลาย ไมใหท กุ ขท รมานจนเกินไป พอมที างหายใจไดบา ง
ในภพชาตหิ นงึ่ ๆ ไมรบั แบกหามเอาทกุ ขทงั้ โลกธาตเุ สียแตผ ูเดยี ว
ในอวสานแหง พระธรรมเทศนาน้ี จึงขออาราธนาคณุ พระศรีรัตนตรยั มาอภบิ าล
คมุ ครองทานทง้ั หลาย ในอริ ยิ าบถทง้ั สี่ คือ ยนื เดิน น่งั นอน จงมีคณุ พระพทุ ธเจา พระ
ธรรม และพระสงฆต ามรักษา และขอใหเปนผมู ีโอกาสวาสนาอาํ นวย ไดบ าํ เพ็ญคุณงาม
ความดตี ลอดไปโดยความสะดวก จนถงึ แดนแหงความสมหวังโดยทัว่ กนั เถดิ
www.Luangta.or.th
แวน ดวงใจ ๗๙
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๒๑ -อบรมฆราวาส
๘๐
เมอื่ เวเทมนั ศื่อเทวทนี่คันศอ๒ทนบว๔ี่อ์ รา๒บกม๔มรมุฆมกงภฆครมุารากาวภวาพณัมวาาานัพาสมแฑสนัธณเ์ทหธพณพ์่ี งพวทุยี๘ดัวุทธธรดัธปศรปศา กัา่รกับบรรมา าา้านนชชตต๒๒าาด๕ด๕๐๐๘๘
พระศาสนาถาจะเทยี บทางดานวตั ถุ กเ็ หมอื นนํา้ ที่สะอาดสาํ หรบั ซักฟอกสง่ิ
สกปรกทงั้ หลายใหก ลายเปน ของสะอาดขึน้ มา ใจจึงเทียบกบั วัตถุที่ไมสะอาด คือมี
ความเศราหมองอยูภายในตวั เพราะอาศัยความคลกุ เคลากับอารมณท่ีสกปรก การทํา
ใจใหส กปรกนน้ั เรามีทางทําไดดว ยกนั ไมว า สตั วบ ุคคลและชาติชน้ั วรรณะใด เพราะ
ทางน้ีเปนทางที่เคยชนิ ของจิตมาแลว ทางนี้จงึ เปน ทางสะดวกราบรน่ื ของจติ และ
อารมณทโี่ สมมทุกประเภท ถาเทยี บกบั ทางภายนอกก็เหมือนทางท่ีมีผูคนสญั จรไปมา
ตลอดเวลา ไมร กรงุ รงั เพราะอาศยั การเหยียบย่ําผา นไปมาอยเู สมอ ทางที่มาของ
มลทนิ ผา นเขาออกระหวางจติ กับอารมณ ยอมมีความเตยี นและราบรื่นเชนเดียวกนั
โดยมีจิตเปน สถานทอี่ ยูอาศยั มีจติ เปนสถานท่ีเกีย่ วของ อารมณกบั จติ จงึ เปน ไปดวย
กันอยา งงา ยดาย
แตอบุ ายวิธีซกั ฟอกใจใหเปน ไปเพอ่ื ความสะอาดผองใส เปน ท่ีเยน็ ใจนาดนู าชม
แกตน และระบายออกมาทางกาย วาจา ใหเ ปนท่นี าดนู าชมของคนอน่ื นัน้ ตองมคี รู มี
อาจารยเปน ผคู อยแนะนําสั่งสอน ใหร ทู งั้ ทางถกู และทางผิด ดงั นน้ั ธรรมจึงเปน เหมือน
เครือ่ งซักฟอกทด่ี ีเยยี่ ม ซ่ึงออกจากพระทัยอนั บรสิ ุทธขิ์ องพระพุทธเจา ผเู ปน เจา ของ
แหง ธรรม และทรงนํามาประกาศสอนบรรดาสัตวใหร ูทางดําเนิน อนั เปน ไปเพอ่ื ความ
เกษมเปน ข้นั ๆ โดยแนะนําอุบายวิธตี าง ๆ ตามควรแกอ ุปนิสัยของผูมาอบรมศกึ ษา
ในขัน้ เรม่ิ แรกแหงการส่งั สอน ทรงแนะนาํ ดว ยพระองคเอง จนเหน็ ผลประจกั ษ
แกผ มู าศกึ ษาและปฏิบัตดิ วยเปน ขนั้ ๆ แหง ธรรม ตลอดถึงข้นั บรรลุเปน สาวกอรหันต
ข้ึนมาในวงแหง ธรรมเปน จํานวนมากพอสมควรแลว จากนนั้ กท็ รงมอบใหสาวกทาํ หนา
ทสี่ ั่งสอนชว ยบา ง ทรงสัง่ สอนเองบาง มีการถา ยทอดมาเปน ลําดับจนถงึ ครูอาจารยซ ึ่ง
สมควรจะเปน ท่ยี ึดเหน่ยี วน้ําใจประชาชนดวยหลกั ปรยิ ัติ ปฏิบตั ิ และความรภู ายในใจ
ถา ยทอดมาถงึ พวกเรา
ใจท่ไี ดร บั การซักฟอกดว ยการบําเพ็ญคุณงามความดี ตามพระโอวาทธรรมของ
พระพทุ ธเจา จงึ กลายเปน ใจที่น่มิ นวลแกตนเอง จะคิดปรงุ เกย่ี วกบั การงานทกุ ดาน จะ
พดู จาพาที กริ ยิ ามารยาท ความเคล่ือนไหวทกุ อาการ เปน กิริยาที่นา ดู นาชมไปตาม ๆ
แวน ดวงใจ แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๘๐๔๐๑ -อบรมฆราวาส
๘๑
กัน ฉะนน้ั นักปราชญมพี ระพทุ ธเจาเปน ตน จึงนิยมการฝก ฝนอบรมตนมากกวา สงิ่ อืน่
ๆ เพราะเล็งเหน็ วาใจเปนรากฐานสาํ คญั ของงานทกุ ช้ิน ไมว า งานทางโลกหรอื ทางธรรม
มีใจเปนผูรับผดิ ชอบท้งั นั้น งานทุกชิ้นจะสําเรจ็ ข้ึนมาในลักษณะใด ยอมเปน เคร่ืองสอ
ถงึ ใจผูเปนเจา ของงานเสมอ
ใจทานเปรยี บเหมือนเนอื้ ผา ทคี่ อยจะสกปรกไดอ ยางงา ยดาย เจาของตองคอย
ระวงั รกั ษาความสะอาดอยเู สมอ ลักษณะของจิตกค็ อยจะคลกุ เคลา ดวยอารมณเคร่ือง
เศราหมองอยูตลอดเวลา จงึ ทําใหโ ลภ ใหโกรธ ใหห ลง บอย ๆ จนตามรไู มทัน แตเ มอ่ื
ไดร บั การอบรมดว ยวิธีตา ง ๆ ตามแนวทางแหงธรรมทีช่ ้บี อกไว ใจกค็ อ ยหายพยศและ
มคี วามสงา ราศขี นึ้ มา คอยฟงคําส่ังเราบาง ไมค อ ยผาดโผนโลดเตนเหมอื นทีย่ ังไมไ ด
รบั การอบรม และใจเปน สิ่งสําคัญกวา วัตถุภายนอกอกี มากมาย จงึ จําตองมกี ารอบรม
เสมอ
แตการอบรมจติ ยอมมกี ารฝา ฝนธรรมดาของจติ ที่เคยเปนมาอยูบ า ง คําวา
ธรรมดาหมายถึงสิง่ ที่เคยมีเคยเปน และเคยชนิ มาแลว จติ ทีเ่ คยเปน มาจนไมทราบความ
ผดิ ถูก ช่วั ดีของตน เพราะความไมสนใจสงั เกต เน่อื งจากความเคยชินมาอยางนนั้ เปน
นสิ ยั นเ่ี รียกวา ธรรมดา แตการฝก หดั ดัดแปลงใจใหผ ิดจากเรอ่ื งธรรมดา ความคดิ
ธรรมดา การกระทาํ ธรรมดาน้นั เปนการลําบากอยบู าง จะอยางไรกด็ เี ราอยา ลืม พทุ ฺธํ
สรณํ คจฉฺ ามิ ซ่ึงเปนองคแ หง สรณะอนั ประเสรฐิ ของเรา พระองคทรงบําเพญ็ มากอ น
ดวยความฝาฝนตง้ั แตตน เปนลาํ ดบั มา ไมทรงปลอยไปตามกระแสของใจท่มี คี วาม
อยากเปนประจาํ ตลอดอบุ ายตา ง ๆ ที่ทรงนาํ มาแกไ ขดัดแปลงพระองคจ นสาํ เรจ็ เปน
พระพุทธเจา ขน้ึ มา ก็เปนเรอ่ื งฝน คตธิ รรมดาทจ่ี ติ เคยเปนมาทั้งน้ัน
การตัดสินใจสละตําแหนงหนาที่จากความเปน กษตั ริย อันเปน พระเกียรติสูงสดุ
การเสดจ็ ออกจากปราสาท การพลดั พรากจากพระชายาและพระโอรส พระชนก ชนนี
ไพรฟ า ประชาชี ตลอดจนพระราชสมบัติทง้ั แผน ดนิ ทาํ ไมจะไมเปนการฝา ฝน คติ
ธรรมดาเลา ตอ งเปน การฝาฝน อยางยิ่ง และฝาฝน จนสลบไสลไปในบางคร้งั เพราะ
อาํ นาจความมงุ หวงั เตม็ พระทยั ในความพนทุกข และมุงหวังจะรื้อขนสัตวซ ง่ึ เปน สมบัติ
อนั มคี า มาก มพี ระชายาและพระโอรส เปนตน ใหตามเสดจ็ สธู รรมอนั เปน แดนเกษม
จึงทรงฝนพระองคอ ยางเตม็ ท่ี โดยไมทรงอาลยั และเสยี ดายในชวี ิตวาจะเปนหรือจะ
ตาย และทรงฝน จนโลกสะเทอื นไปหมดทง้ั แผนดนิ
แวน ดวงใจ กณั ฑเ์ ทศน-์ท๑ี่ ๘๐๘๕๑: -ความเพยี ร
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๖๑ -อบรมฆราวาส
๘๓
ไมมีกเิ ลสตวั ใดจะสามารถฝนเอาชวี ติ แลกสติปญ ญาปรมาณู ทนตง้ั อยบู นพระ
ทัยไดตอไป กเิ ลสทกุ ประเภทตา งกห็ ลดุ ลอยออกจากพระทัยโดยสิ้นเชิง ยงั คงเหลอื แต
พทุ ธะอนั เดน ดวง ซ่ึงเปนม่ิงขวัญของพระองคผ ูก ลาตายในสงคราม ทรงสละทกุ สง่ิ ทุก
อยา งกเ็ พอ่ื ธรรมดวงนเ้ี ทาน้ัน ครัน้ แลว กส็ มพระประสงค และเปน พระพทุ ธเจา ที่
สมบูรณข ้ึนมา ใหเปน มิ่งขวญั ของโลกในลาํ ดบั ตอมา
ดังนน้ั เราผเู ปน พทุ ธบรษิ ัทที่จดั วาเปน ลูกศษิ ยพระตถาคต ผูปรากฏเดนทาง
ความเพยี รและบรสิ ุทธ์ใิ นพระทยั เวลาประกอบความพากเพียรไปถึงทค่ี ับแคบและจน
มุม จงึ ไมควรจะหาทางออกดวยความทอ ถอย อนั เปน ทางมดั ตนเองโดยไมร สู กึ เพื่อ
เปน หลกั ชยั โปรดระลึกถงึ ทาน ทั้งการดําเนิน วธิ ีดาํ เนนิ และการฝนคติธรรมดา วา ทา น
ทรงทําอยา งไรบา ง จงึ ไดชัยชนะมาส่งั สอนพวกเรา ทานมคี วามลาํ บากยากเยน็ เขญ็ ใจ
แคไ หน อยา เหน็ เพยี งวา การประกอบคณุ งามความดีเพียงเล็กนอ ยเทา นั้น แลว เขา ใจ
วาตนมคี วามขยันหม่ันเพียร และมีความกลา หาญย่งิ กวา ครูคือศาสดา
ถามคี วามคิดไปทาํ นองนั้นแสดงใหเ หน็ วา เราจะเปน ผทู อ ถอยความเพียร และ
ดอยในการดัดแปลงตนเองดว ยความเขม แขง็ ทาํ อยางไรจึงจะเปนไปเพื่อความเขมแขง็
และกา วหนา เพือ่ ตามเสด็จพระพุทธเจาใหทัน นั่นแลเปน ความคดิ ท่ีดีและหนาทอ่ี ัน
เหมาะสมแกเ รา ผเู ปนพทุ ธบริษทั ถอื พระพุทธเจาเปนครู ตามทเ่ี หน็ ในพระประวัติซึ่ง
ไดน าํ มากลา วบา งแลว รูสึกวาเปนคติตวั อยางแกโลกไดอ ยางสมบรู ณ ไมมที างจะตําหนิ
ไดแมแตนอ ย สว นเรายังไมมถี งึ ขนาดนั้น ไหนจะถือวาตนเกงกลา สามารถย่งิ กวาครู
เราตอ งยอนจติ มาสอนตนอยางนบ้ี า ง จะมีแกใ จทําความเขมแขง็ ตอ การดําเนนิ เพือ่
ความปลดเปลอื้ งสิง่ ท่ีเคยทาํ การกดี ขวางตอ ใจมานาน ใหลดนอยหรอื สนิ้ ไปทุกระยะ
การงานเพ่อื ปลดเปลือ้ งถอดถอนตวั ใหขน้ึ จากหลม ลึก แมจะยากลําบากขนาด
ไหน ไมค วรไปยึดถือสง่ิ นน้ั มาเปน อปุ สรรคตอใจ ผูก าํ ลังมงุ หวังตอ ความสขุ สมบูรณ จะ
เปน การตัดหนามก้ันทางตนเอง จนหาทางเดนิ เพอ่ื ความพน ทุกขไปไมไ ด ตอ งพยายาม
แหวกขวากหนามที่มอี ยใู นหนทางและสองฟากทางออกเปน ลาํ ดับ ดวยความขยนั หมัน่
เพียร เราอยูท่ีไหนไมวาในบานหรือในปา การบําเพญ็ คณุ งามความดีมที างทําได โอกาส
วาสนามกี ารอาํ นวยแกผูมีความมงุ มั่นตอ ธรรมอยูเสมอ แตโอกาสวาสนาน้ันจะไม
อํานวยสาํ หรับบุคคลผชู อบตตี นตายกอนเปน ไข ผตู าํ หนิตโิ ทษตนเองโดยไมมีเหตุผล
และยงั จะเปนการเปดทางใหค วามทอแทออ นแอ เขา มาเปนเจา เรือนบนจติ ใจมากข้นึ
แลวจะหาโอกาสวาสนาอาํ นวยไมไ ดต ลอดกาล
แวน ดวงใจ กณั ฑ์เทศน-์ท๑่ี ๐๘๘๗:๓-ความเพียร
๘๔
ผตู ั้งใจจะดําเนินตามหลกั ธรรมของพระพุทธเจา ตอ งคาํ นึงถึงทางดาํ เนินของ
พระองคแ ละพระธรรมท่ปี รากฏเปน ธมโฺ ม ปทีโป มีความสวา งไสวเหนอื ส่งิ ใด ๆ ใน
โลก ธรรมน้กี เ็ กดิ ข้นึ จากการฝน คติธรรมดาของพระพทุ ธเจาและพระสาวกทั้งหลาย ซึ่ง
ตอ งตามเสด็จพระพุทธเจา ดวยปฏปิ ทาเครอ่ื งดาํ เนินแบบเดยี วกัน ไมว าจะยากหรอื งาย
แตมคี วามเพียรเปน ทีต่ ั้งในกจิ การท่เี หน็ วา ชอบธรรม จนเปนผลสําเร็จได ฉะน้นั ทงั้
สามรตั นะจึงเปน ท่ยี ึดเหน่ยี วใจของสัตวโ ลกไดในขั้นมหาอดุ มมงคล
ใจของสามัญชนทั่ว ๆ ไป ถา พูดถงึ ความดื้อดงึ ตองเปนจติ ท่ดี อ้ื ดึงเชนเดียวกนั
ไมวาจิตผูหญิง ผชู าย นกั บวชและฆราวาส เพราะมสี ิ่งสง เสริมอยูภายในใหแ สดงตัว
ออกมาเปนความดอ้ื ดึงแขง็ กระดางเหมือนกัน ไมว า จิตใครที่ปรากฏเปน รูปรางขึ้นมา
เชน เราเชน ทา นแลว จะกลายเปน จิตทีบ่ อกงา ยสอนงาย และมกี ารส่ังสมอบรมคุณงาม
ความดใี สตัวโดยไมต องมีการบังคบั บัญชา พาจัดพาทาํ อะไรทัง้ นัน้ แตเปนไปเองโดย
ลําพังตัวเองอยางน้ี จะหาไมเ จอเลยในแหลงแหงไตรโลกธาตุ
แมจ ะเปน ผมู ีนิสัยวาสนาเบาบางมากเพียงไรกต็ าม เบือ้ งตน ตอ งอาศัยการฝก
หัดอบรมดวยกันทั้งนั้น จึงจะเปนไปได ไมเชน น้นั กไ็ มต องมีครมู อี าจารยต อ งคอยชี้แจง
ส่ังสอนใหเหนด็ เหน่อื ยเปลา เฉพาะผูแสดงแลว ถอื วา การสอนคนใหเปนคนท่ีดีและการ
สอนพระใหเปนพระท่ีดีน้ี เปน ภาระหนักอยา งฝงลึกทีเดียว เพราะผูมาศึกษาอบรมดวย
มีความรสู ึกในแงหนกั เบาตา งกนั เปนราย ๆ ไป การสงั่ สอนจงึ จะทําแบบนายสานายมา
ไมได ผูมารบั การศึกษาจะไมไดร บั ประโยชนเ ทาทคี่ วรจะได เมือ่ เปน เชน นี้ จําตองเปน
ภาระอยกู ับผูใหการอบรมสง่ั สอนโดยดี
ฉะนนั้ การฝกฝนตนตามนัยทคี่ รูอาจารยอธบิ ายใหฟ ง แลว จึงควรถอื เปนภาระ
ของตวั อยา งไมส นใจหาผเู ปลย่ี นตวั เพราะไมใชงานซง่ึ จะทาํ แทนกนั ได แมจะยากหรือ
ลําบากเพยี งไร กเ็ ปน งานจาํ เปน สาํ หรบั เราโดยเฉพาะ งานทีจ่ ะกาวไปเพื่อความพนทุกข
ตามเสด็จพระพุทธเจานี้ เปน งานที่มีเกียรติสําหรับเรา และเปน งานตวั อยางของโลก
และธรรมทั่ว ๆ ไป เชนเดียวกับพระพทุ ธเจาทที่ รงบําเพญ็ มาจนสําเร็จเตม็ ภูมแิ ลว ยงั
เปน บคุ คลตวั อยา งของโลกใหถ ือเปนแบบฉบบั ตลอดถงึ สมยั ทกุ วันน้ี ไมเ คยลาสมัย
และจืดจางตลอดมา
เราผเู ปนลูกของทานผูกลา หาญจึงควรเอาแบบอยา งจากครูมาใช อยา มีความ
อิดหนาระอาใจตอความเพยี ร จติ ถา ไดร บั การบาํ รุงจากความเพยี รเสมอแลว ตองขยับ
ตวั ขน้ึ ไปเปนลาํ ดับไมมวี นั จะถอยกลบั ลงมา วันนี้รูเร่ืองของตวั ขนาดนี้ วันนม้ี ีอารมณ
แวน ดวงใจ แว่นดวงใจ : -ภา๑๘ค๐๘๔๑ -อบรมฆราวาส
๘๕
เก่ยี วขอ งใจเทานี้ และไดใชค วามเพยี รพยายามรูแ ละแกไ ขกนั ไดข นาดน้ี วนั หนา รู
อารมณป ระเภทนั้น และทําการแกไ ขกันไดเ ทานั้น ๆ และมคี วามเพียรสืบตอ กนั ไปทกุ
วนั และเวลา กิเลสอาสวะจะมกี าํ ลงั กอตัวมาจากทไี่ หนบาง พอจะมากลุมรุมใจของผูมี
ความเพยี รใหห นาแนน ข้นึ ไป มแี ตน บั วันจะนอยลงเปน ลําดับเทา นน้ั นอกจากผไู มสน
ใจจะอบรมดดั แปลงตนเองเทา นั้น น้นั เปน คนหาประมาณมิได คือเปนคนไมมเี ขตแดน
อยา ถือเอามาเปน คตติ วั อยาง จะทําใหด อ ยลงในทางความเพยี รและมที างเสยี ไปดว ย
ผูเปน คนดมี ีคตปิ ระจาํ ตน จะเปนหญิง เปน ชาย เปน นกั บวชหรอื ฆราวาส โปรด
ยดึ เอามาเปนคตทิ ันที แมท ่ีสุดมองเห็นใบไมร วงหลน ลงจากขว้ั ของมัน ก็ใหย ึดเอามา
เปนธรรมเครื่องพรํา่ สอนตน โดยถือวากริ ยิ าท่ใี บไมรว งลงมานัน้ คือ ความหมดกําลงั ที่
จะตั้งอยูได จึงรว งโรยลงไปเชนนั้น ชีวิตของมนษุ ยและสตั วกย็ อมมีสภาพเชนเดยี วกนั
มีความทกุ ขแ ละความแปรปรวนประจาํ ตน เรอื่ งสภาพของธาตขุ ันธเคยเปน เชน นน้ั
ตลอดมา ใครจะรหู รือไมร กู เ็ ปน อยูอยา งนนั้ สภาพเหลา นี้ตั้งอยเู หนือโลกธรรมท้งั
หลาย ไมเ คยเปนไปตามการตาํ หนิตชิ ม และคําออนวอนของผใู ดท้งั น้นั
และเรือ่ งเชนนเี้ คยมปี ระจําอยทู ั่วไป ไมว า จะเปน สภาพใดทีอ่ ยใู นวงสมมุติ ยอม
มีทางเดินสายเดียวกัน ไมมีผูใดมีอํานาจราชศักด์ิ จะกาวเดินทางสายแปลกจากโลกไตร
ภพนี้ไปได นอกจากทา นผบู รสิ ุทธโ์ิ ดยส้ินเชงิ แลวเทา น้นั จะไมเดนิ ทางสายสมมตุ ิท่ีโลก
เดินกนั ผูใชต ามความไตรต รองดว ยปญ ญาไปที่ไหนมีแตธ รรมโอสถเครอ่ื งแกใ จทัง้ น้นั
เพราะความรับสัมผสั จากสง่ิ ตาง ๆ เตอื นอยูเสมอทงั้ วันท้งั คนื ยนื เดิน นัง่ นอน ตรง
กับทา นวา ฟงธรรมในหลกั ธรรมชาติ ไดฟ งตลอดเวลาไมมขี าดวรรคขาดตอน ไม
เหมอื นพระทา นเทศนใ หฟ ง บนธรรมาสน
กพ็ วกเรามศี าสดาเปน ครสู อนอยแู ลว ทุกบททกุ บาท ทานตรัสไวใ นธรรมนับได
๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ สวนทีเ่ ปนปลีกยอยไมอาจคณานบั ทง้ั นลี้ ว นเปนอบุ ายวิธีที่
สอนเราทั้งนัน้ เพราะเรือ่ งทุกสง่ิ ทกุ อยา งมอี ยูกบั เรา ธรรมทงั้ หมดจึงมาเก่ยี วขอ งกับเรา
ถา เรามีโอปนยโิ ก นอ มมาปฏบิ ตั ดิ ัดแปลงตนเองใหเปน ไปตามพระโอวาทท่ีพร่าํ สอน
แลว ยอมมที างเลด็ ลอดจากทุกขไปไดเปน ลาํ ดับ ฉะนัน้ สตปิ ญญาท่เี ราไตรต รองดเู ร่อื ง
ภายนอกภายใน จงึ ควรใหแนบสนิทกบั ใจ เรื่องของทุกขก็มีทั้งทุกขขางนอก มีทั้งทุกข
ขา งใน มีทั้งทุกขของทานและทุกขของเรา และทุกขของสตั วแตล ะประเภทเต็มไปหมด
ลว นเปนเรื่องของทกุ ขค ือความบบี คัน้ อันเดยี วกัน
แวนดวงใจ กัณฑ์เทศน-์ท๑่ี ๘๘๐๙๕: -ความเพียร
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๑๐๑ -อบรมฆราวาส
๘๗
แสดงขึ้นมาตามจุดบกพรองของใจ ทเี่ รียกวา ความเลนิ เลอ เผลอสติ นีเ่ ปน จุดบกพรอ ง
ของใจทีย่ ังทุกขใหเกดิ ขนึ้ ได
เม่ือสขุ ทุกขเกดิ ข้นึ ตามสาเหตดุ ชี ่ัวเปนหลกั ประกันอยแู ลว การตาํ หนิตชิ มใน
ผลคือสุข ทุกข จงึ ไมมผี ลดอี ะไรเกดิ ขนึ้ นอกจากจะเปน เรอื่ งสง เสริมสมุทัยใหท าํ การสง่ั
สมทุกขเพม่ิ ขึ้นอีกเทานน้ั ฉะนัน้ เพือ่ ดับทุกขใหถ กู ตามทางมรรคปฏิปทา ผรู บั ทราบ
ทกุ ขท ีเ่ กดิ ขน้ึ จงึ ควรจบั ทกุ ขขึ้นเปน เปา หมาย แลว พจิ ารณาตามสาเหตทุ ีใ่ หเกดิ ทกุ ขโ ดย
รอบคอบดวยปญญา เชน วนั นเ้ี ราไมส บายใจ เพราะคดิ ถงึ เรื่องอะไรจึงเปนสาเหตใุ ห
เกดิ ความไมสบาย ไมส บายใจกบั ส่ิงใดหรอื กับผใู ด เกิดขนึ้ ทไ่ี หน ขณะน้คี วามไมส บาย
ตง้ั อยทู ี่ไหน ตั้งอยูกับอะไร ความไมส บายนเี้ ปนใครหรอื เปนของใคร
ทานวา ความไมส บายเปน ตนนเี้ ปนของจริงอันประเสริฐ มิไดเ ปนของใครและ
เปน ของใครทง้ั นั้น การใชปญ ญาตามขดุ คน เขา ไปก็จะพบตนเหตอุ ยางชัดเจนวา โรง
งานผลติ ทกุ ข คอื ใจทไี่ มมีสติ ไมมปี ญญารกั ษาตน ปลอยใหความคดิ ปรงุ อนั เปน ฝาย
สมทุ ยั สัง่ สมทกุ ขข ้นึ มา โดยไมม ีการตา นทานขดั ขวาง ใจจึงไดร ับความทกุ ขอยางไมม ี
ใครชวยได ทกุ ขม สี าเหตุเกดิ ข้นึ ไดดังท่ีกลาวมาน้ีแล ฉะน้ัน ผูพ ิจารณาเพือ่ ดับทุกขโ ดย
ชอบธรรม จงึ ควรใชปญญาจดจอ งเขาไปในจดุ ท่แี สดงอาการกระเพ่อื มอยูตลอดเวลา
จุดนนั้ เปนทีเ่ กิดขน้ึ แหงทกุ ขแ ละสมทุ ยั ทัง้ มวล และเปน โรงงานใหญโตและแขง็ แรงมนั่
คงมาก ตอ งทดสอบดูใหละเอยี ดถีถ่ ว น ไมเ ชนนั้น จิตจะไปทําความสําคัญวา สงิ่ เหลา
นนั้ เปนเราและเปนของเราข้ึนมา ความสุขทุกขกจ็ ะกลายเปน เรา เปนของเราขึ้นมาตาม
ๆ กัน คําวา “เรา” กับความคิดดี คิดชั่ว และสุข ทุกขก จ็ ะเช่อื มเขา เปน อนั เดยี วกนั จน
หาทางแกไ ขไมไ ด
ฉะนัน้ จงคอยสงั เกตดวยสตกิ บั ปญ ญา ตามลาํ ดับทีค่ วามคดิ ดีหรอื ช่วั เกิดขนึ้
ภายในใจ ท้ังขณะตงั้ อยูและดบั ไป พรอ มทงั้ การทราบตนเหตทุ เ่ี กิดขนึ้ ของสิง่ เหลา น้นั
ไปในระยะเดยี วกัน เชน ความดใี จเสียใจเปน ตนเกดิ ขนึ้ จงจบั จุดนี้แลว ขดุ คน หาสาเหตุ
ท่ีเกดิ ขนึ้ เรื่องความสุข ความทกุ ขที่เปน ผลซงึ่ ออกมาจากจดุ เดยี วกันกจ็ ะดบั ไป แลว
เปลี่ยนสภาพขึ้นมาใหม ใหจิตตามรกู ันตามลาํ ดบั ของเรอื่ งท่ียังไมจบส้นิ ลงโดยส้ินเชิง
ยังจะไดค ติทีส่ ําคญั ๆ จากการพจิ ารณาในเวลานน้ั ดว ย
วธิ ีดาํ เนินจิตตอ งถือความสมั ผสั และความกระเพื่อมของจติ เปน เปาหมายของ
การพจิ ารณา จิตจะแสดงตัวขนึ้ มาอยา งไร เชน แสดงเปน ความเสยี ใจและเศรา หมองข้นึ
มา อยาตนื่ เตนตกใจไปตามอาการทแ่ี สดงน้ัน ๆ จงพจิ ารณาใหรโู ดยท่วั ถงึ ตามหลัก
แวน ดวงใจ ๘๗
กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๑่ี ๘๑๑: -ความเพียร
๘๘
สตปิ ญ ญาของผูตองการทราบตนเหตุแหงเรอื่ งทัง้ ปวง ไมใ หม ีจดุ บกพรอ งตอการ
พิจารณา ความเสียใจและเศรา หมองเปน สาเหตุมาจากสมุทยั ความดีใจและผอ งใสเปน
สาเหตมุ าจากมรรค คือขอปฏิบัตทิ ั้งสองประเภทนี้ จงถอื เปน ทางเดนิ ของสตปิ ญญาตอ
ไป อยาไปยึดเอาความเศราหมองและผอ งใสนนั้ มาเปน ตน สตปิ ญ ญาจะหาทางเดินตอ
ไปไมได เนือ่ งจากความเศราหมองและความผอ งใส จะกลายเปนเราข้นึ มาในระยะทไ่ี ป
ยดึ เขา เรากับเขาจะแกก ันไมต ก เพราะความผองใสเรากเ็ สียดายและรกั สงวน สว น
ความเศราหมองเราก็เกลียดชัง ความเกลียดชังก็เปน เรือ่ งของเรา แมเราไมชอบความ
เศราหมอง แตเ รากลบั ชอบความเกลียดชงั จึงถอื ความเกลยี ดชงั ข้ึนมาเปน ตวั โดยไมร ู
สกึ กเิ ลสกับเราจงึ มีโอกาสคละเคลากันไดอ ยางนี้
เร่อื งมารยาของใจท่มี กี ิเลส มนั แสดงอาการหลอกลวงเรา ไดร อ ยแปดพนั
ประการ เพ่ือการดําเนินไปดวยความสะดวกและราบรื่น จงถอื เอาเรือ่ งดี เร่ืองช่วั และ
ความเศราหมองผองใสเปน ตน เปน ทางเดินของสตปิ ญ ญา จติ จะแสดงอาการอยา งใด
ขน้ึ มาจงทราบ และทาํ ความเขา ใจกบั สิ่งท่ีปรากฏขนึ้ มาทันที อยาไปทาํ ความเขา ใจเอา
เองวา ส่ิงทีป่ รากฏขึน้ มานนั้ เปน ส่งิ ที่ควรไววางใจ และควรถอื เปนหลกั ยดึ ของใจ จะ
กลายเปน ความพลั้งเผลอและหลงยดึ เอาสง่ิ นนั้ แลวกลายเปน สมมุตจิ ดุ หน่ึงขึน้ มาให
เปน เครื่องกดถวงใจโดยไมรสู ึก เมอื่ สง่ิ ทเ่ี ห็นวา เปน สง่ิ ถูกกบั ใจสลายตัวลงไป และส่ิงที่
ไมชอบใจเขา มากีดขวาง ใจกจ็ ะแสดงความเสยี ใจข้ึนมา น่นั เปน เรื่องเสรมิ สมุทยั ใหเกดิ
ความทกุ ขข้นึ มาอกี
ดังนน้ั เพ่อื ความรอบคอบตอทางดาํ เนนิ ของตน จงทําความเขา ใจกับสงิ่ เหลา
นัน้ ดว ยดีวา เมือ่ ยงั มีอารมณด ี ชวั่ และสุข ทุกข ปรากฏในวงปฏิบัติของจติ กแ็ สดงวา
ทางเดินของเรายงั มอี ยู ยงั ไมถ งึ ทีส่ ดุ ซึง่ ควรจะหยดุ การเดิน และจาํ ตองเดนิ ตามส่ิงที่
ปรากฏ สิง่ ทปี่ รากฏข้ึนมาเฉพาะหนาไมว า ดวี าชั่ว และไมวาจิตจะแสดงอาการใดๆ ออก
มา ตองตามรูต ามเห็นดว ยการพิจารณา และถือจุดหรืออาการน้นั ๆ เปนทางเดนิ ของ
สติปญญาโดยพจิ ารณาใหถี่ถว น อยา ไดนอนใจกับส่ิงใด ๆ เม่ือสงิ่ ท่ีกลาวมายงั ปรากฏ
อยูกบั ใจมากนอย ใหถ อื วา สิง่ ท่ีปรากฏนี้แล กําลงั เปน ทางเดนิ ของจติ และสติปญญาอยู
เวลาน้ี เรายังมีทางเดนิ ตอ ไปอกี ยงั ไมสนิ้ สดุ ทางเดนิ ของเรา จนกวา สติปญญาจะรูรอบ
คอบ และสิง่ ท้ังหลายที่เคยปรากฏกบั ใจกส็ ลายตวั ลงไป พรอมทัง้ รากฐานของมนั ทเ่ี ปน
จุดของสมมุตอิ ันสาํ คญั
แวน ดวงใจ แวน่ ดวงใจ : -ภา๑๘ค๑๒๘๑ -อบรมฆราวาส
๘๙
เม่ือทกุ สิง่ ทีเ่ คยเปนขา ศกึ ของใจสลายตัวลงไปโดยสิ้นเชงิ แลว นั่นแลการเดนิ
ทางของจิต มีสติ ปญญา ศรัทธา ความเพียร เปนเพื่อนสอง ยอมยุติลงเพยี งเทานัน้
น่นั ชือ่ วาหมดทางเดนิ จรงิ ๆ การหมดทางเดนิ จากสมมตุ ิ ดี ชว่ั นน้ั แล ทา นเรียกวา
วมิ ตุ ติ เราจะไปหาวิมตุ ตทิ ไี่ หนกัน นอกจากจะทําลายสมมุตอิ อกจากใจหมดแลว กเ็ ปน
วิมตุ ติขน้ึ มาเทา น้ัน ไมม ที ีไ่ หนเปนวมิ ตุ ตติ ามความคาดหมายของใจ ซึ่งเปนเจาอารมณ
คาํ วา วิมุตติ กับ นพิ พาน น่นั เปนไวพจนของกนั และกัน คอื ใชแ ทนกนั ได เชน
เดียวกบั การกินกบั การรับประทาน ซึ่งเปน ความหมายอันเดียวกัน พูดเพยี งคําใดคํา
หน่ึง โลกกร็ ทู ั่วถึงกัน จติ ทเี่ ปนวิมตุ ติของทานผูหลุดพน เพราะกาํ ลังความเพียร จะยอน
กลับเหน็ คณุ ของความเพียรทีพ่ าตะเกียกตะกายและลม ลุกคลุกคลาน จนถงึ แดนเกษม
ในปจ จุบนั อยางเต็มท่ี และเห็นโทษแหง ความเกียจครา น และความโงเขลาท่พี าใหซ บ
เซาเหงาหงอย เพราะความบีบบงั คบั ของกเิ ลสบาปธรรมซ่ึงเปน เจา ครองใจ ไมมเี วลา
ปลดแอกพอใหอ ยูสบายสกั เวลาหน่งึ เชน เดยี วกนั
น่ีแล การดาํ เนนิ ตามแบบ พทุ ฺธํ ธมมฺ ํ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ เปน สรณะ ยอมมีจดุ
จบเปน ท่หี วงั ดงั ท่อี ธบิ ายมา ทกุ ทา นโปรดนาํ ไปประดับตน จะไดมากนอ ยตามกําลงั
ความสามารถ ธรรมจะงามในเราตามขน้ั แหง ธรรมทต่ี นบําเพญ็ ได เรากเ็ ปนผูงามใน
ธรรม เพราะช่อื วาธรรมแลวยอ มงามเปน ลาํ ดบั ไมม สี น้ิ สุด คอื งามในเบอ้ื งตนทีเ่ ราเริ่ม
บําเพญ็ กเ็ ปน อาทกิ ลยฺ าณํ งามในทามกลางของทานผบู าํ เพ็ญขั้นสมาธิ ปญญากเ็ ปน
มชเฺ ฌกลยฺ าณํ งามในทสี่ ุดของทา นผมู ีจิตบรรลุถึงวมิ ุตตพิ ระนพิ พาน กเ็ ปน
ปริโยสานกลยฺ าณํ คอื งามอยา งสุดขีดสุดแดน ไมมอี ันใดเสมอเหมอื น เพราะฉะนนั้
ทุกทานโปรดทําความบากบ่นั ตอ ความงามแหงธรรมในจุดสุดทาย ใหส มกับธรรมทม่ี ีไว
สําหรับโลกจะนอ มนาํ มาประดบั ตัวไดทุกเวลาท่ตี อ งการ
ในอวสานแหง ธรรม จงึ ขออัญเชิญคณุ พระศรีรตั นตรัยมาอภิบาลคุม ครองทา น
ท้งั หลาย ใหม ีความสะดวกสบายในการบาํ เพญ็ จนเหน็ ผลเปนท่ีพงึ พอใจโดยทวั่ หนา
กนั เทอญ
www.Luangta.or.th
แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศน-ท์ ๑ี่ ๘๘๑๓๙: -ความเพียร
กัณฑ์ท่ี ๙
ธรรมเป็นโอสถสำ�คัญ
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดปา่ บ้านตาด
เมอ่ื วันท่ี ๑ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๘
กัณฑเ์ ทศน์ที่ ๙-: ๑ธ๑ร๕รม-เป็นโอสถส�ำ คญั
๙๑
เดก็ ไมค อ ยมีความสนใจในหนาทีก่ ารงานท่ีจะใหเ กิดประโยชน นอกจากจะประพฤติตาม
ความชอบใจของตนเทานั้น ถาพอ แมผ ูป กครองทางบานและครทู างโรงเรยี นไมคอย
ตกั เตือนวากลา วเสมอแลว เดก็ อาจมีทางเสยี ได เพราะเด็กยงั ไมม คี วามรคู วามฉลาดพอ
จะรักษาตัวคมุ ตวั ฉะนั้นพอแมและครูตองคอยสั่งสอน ทงั้ ความประพฤติ มรรยาท การ
ศกึ ษาเลาเรยี นและหนาทกี่ ารงานตามวยั ของเดก็ เพ่อื เด็กจะไดมที างรักษาตัวไมไหลลงสู
ทางตํ่า เพราะความประพฤตไิ มด ี จนเดก็ เตบิ โตข้ึนเปนผูใหญแ ละมีวิชาหาเล้ยี งชพี ไม
ขัดสนจนทรัพยอับปญญา
จติ กจ็ ําตอ งการอาศัยการปกครองดวยความถูกตอ งจากเจาของ เพราะการศกึ ษา
อบรมมาจากทต่ี า ง ๆ คอื จากทางโลกบาง จากทางธรรมบา ง นาํ มาดดั แปลงตนเองใหถ ูก
ตอ งตามหลักวชิ านนั้ ๆ แตการดดั แปลงตนใหเ ปนไปในทางท่ดี ี ไมว าทางโลกและทาง
ธรรม รสู ึกจะเปน การฝน อยูบา งในขัน้ แรกเริ่ม เพราะเปน กิจทไ่ี มเ คยทาํ และยังไมเ หน็ ผล
พอจะเปน เคร่ืองดึงดดู ใจ
เฉพาะดา นธรรม ยงั จะมีการฝนมากกวาทางโลกอยบู าง ฉะนน้ั จึงหาคนดีในดาน
ธรรมและดานจติ ใจไดย าก ท้ังหมูเพ่อื นทีเ่ ปน นักธรรมและครอู าจารยผูใ หความอบอนุ ใน
ทางนี้ก็มีจํานวนนอย เม่ือพดู มาถงึ ตอนน้ีเปน เหตใุ หระลึกถึงพระคุณของพระพทุ ธเจา ผู
ประทานกําเนดิ แหง ธรรมใหแ กพวกเรามากข้ึน เพราะความเช่ือในพระปรีชาสามารถ
ฉลาดรอบรูของพระองคท่ที รงเสกสรรคนชัว่ ใหเปนคนดี เสกสรรคนมีกเิ ลสหนาปญ ญา
ทึบ ใหก ลายเปน ผเู บาบาง และเสกสรรผูม ีอุปนิสยั ทค่ี อนขางเบาบางอยแู ลว ใหเปน
บุคคลพเิ ศษขึ้นเปนขัน้ ๆ โดยเปน พระโสดา พระสกทิ าคา พระอนาคาและพระอรหนั ต
บุคคล ซง่ึ คนธรรมดาสามัญเราไมม ีใครสามารถจะทําไดอ ยา งพระองคทา น
ดังนน้ั การแสวงหาของดีทกุ ชนดิ จงึ เปนของหายากมาก ไมใชเปน ของหาไดอ ยา ง
งา ยดายเลย เราหาของดีในตวั เราก็ยอมเปนของยากอยบู าง คอื ยากตรงท่ีตอ งฝน ใจทํา
เชนเดยี วกบั คนไขฝน ใจใหหมอฉดี ยา แมเ จบ็ ก็อดทนเอาบาง แตอ ยางไรก็ดี อยา ลมื นิสยั
ของเราชาวพทุ ธท่ถี อื หลกั เหตุผลเปนท่ตี ง้ั ของการงานทกุ ประเภท จะหนักบาง เบาบา งไม
สาํ คญั แตชาวพุทธเราเหน็ สาํ คญั อยูท่ผี ลประโยชนอันจะพึงไดร บั เปนทีพ่ อใจ ไมเ ปน ไป
เพ่อื ความกระเทอื นตนและผอู ่ืน ชาวพุทธเราถือวาเปน กิจท่คี วรทาํ อยา งยงิ่ และอยาลมื
คาํ วา พระพทุ ธเจา พระธรรม และพระสงฆ ซง่ึ เปนสรณะและเขม็ ทิศของเรา ทา นทวน
กระแสของโลกท้งั ดา นความประพฤตแิ ละความรสู กึ พระธรรมท่ปี รากฏขึน้ ในพระทัยจึง
แวน ดวงใจ ๙๑
แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๑๖๑-อบรมฆราวาส
๙๒
เปนธรรมทท่ี วนกระแส พระสาวกพระอรหนั ตกเ็ ปน ผูปฏิบัติทวนกระแสตามเสดจ็ พระ
พทุ ธเจา
เราทน่ี อมนึกถึงทานเปน สรณะ และฝากเปน ฝากตายในชวี ิต กเ็ พราะทานเปน
สรณะพิเศษกวา สรณะเครอ่ื งอาศยั ทว่ั ๆ ไป ถาจะพูดถึงพุทธะ คือธรรมชาตทิ ่ีรูของพระ
พทุ ธเจาและสาวกกับของบคุ คลท่ัว ๆ ไปก็มเี ชน เดยี วกนั แตไ มบ ริสทุ ธพ์ิ เิ ศษเหมือน
พทุ ธะของพระพุทธเจาและสาวกทาน ถา จะพูดถึงธรรม ธรรมของพวกเราก็มี แตย ังมิใช
ธรรมอันศกั ด์ิสทิ ธวิ์ เิ ศษเหมอื น ธมโฺ ม ปทีโป ขององคส รณะ เพราะยังไมส ามารถบําเพญ็
ใหเ ต็มภูมิไดเ หมอื นอยางทา น เพราะฉะน้นั สรณะทัง้ สามจงึ เปน ทเี่ คารพรักและสงวนยงิ่
ของปวงชนชาวพุทธตลอดมา ไมมใี ครสามารถอาจเออ้ื มดหู ม่ินเหยยี ดหยาม เพราะถือ
เปน หัวใจของชาวพทุ ธแตล ะทาน
พระพทุ ธเจาองคสรณะทีห่ นึง่ ซงึ่ เปน ผูร ื้อฟน สรณะทสี่ องและท่ีสามข้นึ มา ใหเปน
ขวญั ตาขวญั ใจของโลกไดกราบไหวบ ูชาเปนคูเคียงกันมา รูสกึ วาเปนทน่ี าแปลกและ
อศั จรรยใจอยา งยิ่งในพระประวตั ทิ ีท่ รงบําเพ็ญมา เปนประวตั ิอนั ยิ่งใหญประหนึ่งโลก
สะเทอื น เพราะเปนประวตั ทิ ่เี อาจริงเอาจัง ไมใชแ บบพดู พลา มทําเพลงเฉย ๆ แลวไมท าํ
ตามทีพ่ ูดไว ทง้ั ไมทรงเกริ่นเวลาและโฆษณาชวนเช่อื ตลอดทรงหวังพระเกียรติในการ
เสดจ็ ออกเพือ่ ทรงผนวชแตอ ยางใด แตเสด็จออกแบบนายสานายมาไปเยี่ยมญาติโดยไม
มีใครทราบ เพราะไมรบั สัง่ อาํ ลาใคร แมพ ระชายาและพระโอรสกไ็ มทรงอาํ ลา เกรงจะ
เปนอปุ สรรคตอ การเสด็จออกเพอื่ พระโพธญิ าณ ซง่ึ กาํ ลงั จะเขา ถงึ เงอ้ื มพระหตั ถอยูแลว
ไมท รงอาลยั เสยี ดายพระราชสมบัติและพระราชฐานที่เคยเสดจ็ ประทับอยอู าศัย เสด็จ
ออกในเวลากลางคนื ยามดึกสงัด มเี พยี งนายฉันนะและมาเทา นนั้ ตามเสด็จ
พอเสดจ็ ถึงทีแ่ ละเสรจ็ การทรงผนวชแลว กร็ ับสงั่ ใหนายฉันนะและมากลบั พระ
ราชฐาน สวนพระองคก ท็ รงบําเพ็ญพรตอยูในปา นัน้ พระองคเดยี วเปลีย่ วพระทัย หมดท่ี
พ่ึงอาศยั ในพระอริ ยิ าบถทง้ั สี่ไมมีความสะดวกพระกายสบายพระทัยเลย ในระยะทีท่ รง
เรมิ่ บาํ เพ็ญ แตก ท็ รงอดทนฝนความที่เคยเปนมาใหเ ขารปู กับความเปน นักบวช ซงึ่ เปน
เพศทช่ี วยตวั เอง ไมทรงหว่นั ไหวตอความทกุ ขท รมานใด ๆ ทั้งสนิ้ ทรงมคี วามเพียรอัน
เดด็ เด่ียวกลา หาญตอพระโพธญิ าณ บางครั้งถึงกบั สลบไสลไปเพราะความเพยี รกลา แต
ทรงมงุ หนา ตอความเปน พระพทุ ธเจา ไมทรงลดละ ถา เปนพวกเราไปโดนอยางน้ันเขา บา ง
กน็ า กลัวจะรอ งโวยวายไปทว่ั ทั้งปา และรอ งเรยี กใหคนไปชวยหามกลับมาบา นอยา งไมม ี
ปญหา
แวน ดวงใจ ๙๒
กณั ฑ์เทศนท์ ่ี ๙- :๑ธ๑ร๗รม-เปน็ โอสถสำ�คญั
๙๓
แตก ารหามคนที่แพก ารตอสู นอกจากหามนกั มวยที่ถูกนอ็ กบนเวทลี งมาเพือ่ ชว ย
พยาบาลแลว ไมม ปี ระเพณหี ามกัน นอกจากจะหามลงใสต มใสโคลนไปตามเรอื่ งของคน
ที่แพเ ทา นัน้ เพ่อื ใหเ หน็ โทษในความไมเ ปน ทา ของตน ไมมีทางเปนท่นี าชมเชย เพราะ
ประเพณีของโลกท่นี ิยมกัน ตองหามผูม ีชัยชนะจากการตอ สู เพอื่ เสริมเกยี รตใิ หเขามแี ก
ใจในวาระตอ ไปเทา นน้ั แตจะหามเพอ่ื เสริมเกยี รติคนทีแ่ พการตอ สูอยางหลดุ ลยุ นั้น กจ็ ะ
เปนการสงเสริมคนขี้เกียจออนแอไมเ ปน ทา ใหแ สวงหาเกียรตใิ นทางนัน้ มากขนึ้ ศาสนา
ก็จะลมจม คนดีจะสูญพันธไุ ปหมด จะปรากฏแตค นประเภทไมเ ปน ทา เต็มแผน ดินเทา
น้นั เอง
พระพทุ ธเจาทรงบาํ เพ็ญทุกประโยคแหงความเพียร แมจ ะผดิ พลาดไปบางในกจิ
ไมเ คยทํา แตก เ็ ปน คตแิ กโลก สมการบําเพ็ญของศาสดาวามใิ ชผูท าํ เลน ๆ แตทาํ สมภูมิ
ของผูจ ะเปนศาสดาของโลกจรงิ ๆ เราพอจะทราบความเปนมาแหงศาสดาของโลก ควร
เปน ผสู มพระนามวา สตถฺ า เทวมนสุ สฺ านํ จรงิ ทั้งดานความเพียรอันทรหดอดทน ทง้ั
ดา นความรจู รงิ เหน็ จรงิ และดานการสงั่ สอนสัตวโลกดวยสวากขาตธรรม เพอื่ นยิ ยานกิ
ธรรมจรงิ ๆ ธรรมสมบัตทิ ีท่ รงคนพบก็เปน ธรรมอันประเสรฐิ และสงั ฆสมบตั ทิ ที่ รงผลติ
ขึน้ กเ็ ปน สงฆองคป ระเสริฐ รวมองคของพระศาสนาแลวมีแกว อนั ประเสรฐิ สามดวงเปน
หัวใจของโลกตลอดมา ดังน้ัน เราผมู แี กว สามดวงเปนหวั ใจ โปรดยดึ เย่ียงอยางแหงแกว
สามดวงน้ันดว ย เทา ที่เพศวัยและกําลังความสามารถจะอํานวย
วนั หน่ึงคืนหนึง่ ผา นไป อายุและวัยของเราก็ชือ่ วากา วเคยี งกนั ไปกบั วนั คนื เดือน
ปด วย ในรอบของคืนหน่ึงและวันหนงึ่ ควรถือเปน เวลาสําคัญ เพอื่ คิดบญั ชีของตัวสกั หน่งึ
เวลา คือการบาํ เพญ็ ความดเี พ่อื เปน ช้ินเปน อันของตวั บาง ไดแกแบงเวลาไวอบรมจิตต
ภาวนา เพ่ือรวู ถิ ที างเดินของชวี ติ จิตใจ ทางทดี่ คี วรตงั้ ความสตั ยกําหนดเวลาบงั คบั ตน
บา ง เพ่ือไมใหจ ติ หาเรอ่ื งออกตัว เพราะจิตข้ันเริ่มแรกแหงการอบรม รสู กึ จะมเี ร่อื งมาก
ทง้ั ๆ ที่ไมมเี รือ่ ง เชน เดียวกบั เราบงั คบั เด็กใหทํางาน โดยมากเดก็ ชอบออกตวั เพ่อื หลบ
งานเสมอ ถา ผใู หญเ ผลอเดก็ กห็ าทางหลีกงานไปได ถาถูกบงั คับเขาจริง ๆ จนหาทาง
หลบหลีกไมได เด็กก็ยอมทาํ งานใหตามคําสัง่
จติ ข้นั เริ่มแรกกร็ ูสกึ จะเปน เชน นน้ั ถา สติไมบ ังคับและความสตั ยไ มบบี ตวั จริง ๆ
จติ อาจหาทางออกได อยา งหนึง่ ไมยอมทํางาน คือ การภาวนา อยางหนึ่งยอมทํางานแต
ไมจดจอ กับงาน พอใหเ สยี เวลาโดยไมไ ดผ ล ฉะนั้น การตง้ั กฎเกณฑแ ละตง้ั สตบิ งั คบั ใจ
จงึ เปน กิจที่ควรทําอยา งยงิ่ สําหรับผมู งุ ความกา วหนา ทางดา นจติ ตภาวนา จนกวา จติ จะมี
แวนดวงใจ ๙๓
แว่นดวงใจ : ภ-า๑ค๑๘๑ -อบรมฆราวาส
๙๔
ความเคยชินตอ กฎเกณฑ เคยชนิ ตอ ตวั เอง และปรากฏผลขึ้นมาบางแลว จากน้ันจิตจะ
มุงทาํ งานในหนา ทข่ี องตวั ไปเอง แมจะมธี ุระมากนอ ยก็ไมย อมลดละ พอถึงเวลาอนั ควร
จติ จะปลอยวางและยอ นกลับเขามาหางานภายในทนั ที โดยไมตอ งบงั คับขเู ขญ็ ดังที่เคย
เปน มา
อนึ่ง การสมาคมเปนส่งิ สําคัญท้งั ดานความเจรญิ และดา นความเสอ่ื มเสีย เพราะ
การสมาคมก็เทากับการศกึ ษาและทําความจดจําอยา งฝง ใจเหมอื นกนั ความจาํ เปน นน่ั แล
เปนสาเหตุแหงความประพฤตดิ ีชว่ั ซ่งึ จะพาตัวใหเ จรญิ และเสื่อมเสยี ไป ทานจึงสอน
เสมอวา อเสวนา จ พาลานํ ปณฑฺ ติ านฺจ เสวนา จงพยายามปด เปาสิ่งทีช่ ว่ั อยาใหเขา
ใกลชดิ ตวั และจงพยายามแสวงหาของดี อยาข้เี กียจ ไมว า ชว่ั ขา งนอกหรือช่ัวขา งใน อยา
ทําความนอนใจ จะทาํ เราใหเ สียไดจ รงิ และไมวา ดขี า งนอกหรือดีขางในจงทําความหมาย
ม่นั ปนมือเสาะแสวงและสง เสรมิ จะทาํ เราใหเปนคนดีไดจริงๆ จิตท่ีไดรบั การบาํ รงุ รกั ษา
ดวยดีตองเปนไปเพื่อความกา วหนา ไมล า ถอย เพราะเปนสงิ่ ทีเ่ สรมิ ใหด ีและกดใหเลวได
จากผเู ปนเจาของ
เรือ่ งความอยาก ทง้ั มนษุ ยแ ละสัตวยอมมเี หมอื น ๆ กัน ความอยากตามธรรมดา
ท่ธี าตุขันธต องการก็มี ความอยากตามอํานาจของตัณหากม็ ี ประเภทหลังน้ีสาํ คญั มาก ถา
ปลอ ยใหค วามอยากประเภทหลงั นถี้ อื พวงมาลยั อยางไรตองเรง เครอื่ งใหญ และมีหวัง
พาเราลงคลองแน ๆ พอสง เราลงไปนอนสลบไสลอยใู นคลองแลว ตัวมนั กเ็ ผนหนเี ลย
ตามจบั ตัวมาเขาหอ งขังไมไ ด สุดทา ยตอ งยอมเสียทั้งเราและเสียท้งั ชีวิตไปดวย การ
ปลอ ยตามอํานาจของความอยากคอื ตณั หาไมม ีเมอื งพอดนี ้ี ยอมลําบากและไดร ับความ
เสยี หายอยางมากมาย ฉะนน้ั จงพยายามกดข่บี งั คบั มันใหย อมตัวลงเปน ลอรถ เราเปน ผู
ขบั ขแี่ ละถอื พวงมาลยั บงั คับเคร่ืองเอง เรง เครอื่ งและหมนุ พวงมาลัยรถไปในทางดี จนลอ
ตัณหามันหมนุ เปน ไฟไปเลย จะพอดกี บั ท่ีมนั เคยขีโ้ กงและแสนงอนตอเรามานาน
โดยมากทท่ี าํ ตัวใหเสยี จนไมสามารถยบั ยง้ั ชัง่ ตวั ได ก็เพราะตณั หาตัวเดยี วนเ้ี ทา
นน้ั ถือพวงมาลัย ส่ิงและสถานท่ที ีจ่ ะใหเ กิดความฉบิ หาย มันชอบขับขี่พาเราเขาไป เชน
โรงหนงั โรงละคร โรงบาร และสถานท่ขี ับกลอมบาํ รงุ บําเรอตา ง ๆ เปน สถานทเ่ี กบ็ รถ
ของมันท้ังน้นั เงินทองแสวงหามาไดมากนอยไมพอจบั จา ย และชดใชค า เสยี หายที่เจา
ตณั หามันเท่ียวทําเอาไว มนั เปน ผกู ินผูใ ชอ ยางไมมีปรานปี ราศรัย แตเ ราเปน ผจู า ยตาม
หลงั มันแบบเปนน้ําเปน ไฟไปเลย ไมมีเหลือ ชดใชไมท นั กับความตอ งการของมนั ตอง
ขอเชื่อเครดิตไปกอน นาน ๆ ไปมันสง่ั ใหเ ชอื่ แกมโกง และขอเอาแบบด้อื ๆ ถา ไมใหมนั
แวน ดวงใจ ๙๔
กณั ฑ์เทศน์ที่ ๙- :๑ธ๑ร๙รม-เปน็ โอสถส�ำ คัญ
๙๕
มนั กส็ ่งั แบบใชอ ํานาจ มนั ไปท่ีไหน เปน โรคระบาดฆาตกรรม ไมม ีการยับยั้ง ใคร ๆ ตอง
กลวั อาํ นาจโรคประเภทนี้
ทง้ั นี้ผูแสดงเคยถกู มันหลอกไปตมเสยี อยา งมอมแมมจนนับประมาณไมไ ด ที่
บอบช้ํามาจนบัดนี้ ก็เพราะถูกเจาตัณหาผูมกี ลมารยามากมายหลอกลวงน่ันเอง จึงถือ
โอกาสแสดงเรอื่ งของตวั ทีถ่ ูกหลอกใหทา นผูฟ ง ทราบ เผอื่ จะไดหาทางหลบหลีกปลีกตัว
พอมที างลอดตาขายของมนั ไปบาง หากไมไ ดอยางสมใจ
โดยมาก ตณั หามีกาํ ลังแผอ ํานาจเพราะมีอาหารเครื่องบํารุง คือความคลอ ยตาม
ไมมกี ารหกั หามบัน่ ทอน ทานที่เห็นโทษมันมาแลว จึงสอนใหห ักหา มบนั่ ทอนตณั หาใหมี
กําลังลดนอ ยลง จะพอมีทางสบายบาง ไมถ ูกไสไปโดยถายเดียว ถาเปนฆราวาสกใ็ หต้ัง
อยูในความเปนพลเมอื งดี ไมเปน ท่รี งั เกยี จของทา นผดู ี จนเกิดเบื่อหนา ยไมอ ยากคบคา
สมาคมดวย ถาเปน พระก็ใหต ้งั อยใู นสังวรธรรม มีความสงบเสงี่ยมสมกบั เพศของตน ที่
ไดน ามวา สมณะ คอื ผูสงบงามตา ยิ่งกวานน้ั กข็ อใหเปน ตณหฺ านํ ขยมชฺฌคา ผูส ิ้น
ตณั หาทั้งหลายจะเปน เพศท่ีเย็นใจและงามเตม็ ภมู ขิ องสมณะเรา ซึง่ โลกนบั ถือและไวว าง
ใจอยา งยง่ิ
ตามหลกั ธรรมดา ไมว าตน ไมใ บหญา สัตว บุคคล และดี ชว่ั เปนตน จะต้งั อยู
หรือเจรญิ ขน้ึ ได ตอ งอาศัยเครือ่ งบาํ รุง ถา หาไมแลวจะเจรญิ เตบิ โตข้ึนไปไมไ ด ถามีส่ิง
บน่ั ทอนอยูเ สมอ ไมว าดหี รอื ช่วั ตองนับวนั เวลาเส่ือมลงเปนลาํ ดบั จนสิ้นสญู ไปเลย ไมมี
สง่ิ ใดจะฝนตวั ตงั้ อยูได ที่พระพทุ ธเจาตรสั สอนวา จงพยายามสง่ั สมคณุ งามความดที ีละ
เล็กละนอย ความดีจะคอยเจริญเตบิ โตขน้ึ เปน ลําดับจนถงึ ขั้นสมบรู ณเตม็ ทไ่ี ด และจง
พยายามตดั ทอนความชัว่ ลงวนั ละเลก็ ละนอ ย ความชวั่ จะคอ ยหมดไป จนไมป รากฏซาก
เหลอื อยเู ลย นที้ านหมายถงึ การสง เสรมิ สงิ่ ทค่ี วรจะสง เสรมิ และตัดทอนในสงิ่ ท่ีควรตัด
ทอนนนั่ เอง
ฉะนน้ั การสงเสริมและการตดั ทอนเปนสง่ิ ทเี่ ราควรจะสนใจเปนพเิ ศษ เพอื่ จะนํา
ไปใชในกิจการท่ีชอบซึ่งควรจะสง เสริม และในสิ่งท่ไี มช อบซึง่ ควรจะตัดทอน ตามอุบาย
วิธที ที่ า นสั่งสอน ไมเชนนั้นกจิ การทงั้ ปวงจะไมม ีประมาณพอดีทย่ี งั เหลืออยู พอใหเ ปน ท่ี
นา ดเู ลย เรือ่ งความดีความช่ัว และความสขุ ความทกุ ขท่ีมปี ระจาํ อยูใ นตัวเรา อยา เขา ใจวา
เกิดขน้ึ อยางลอย ๆ และต้งั อยูอยา งลอย ๆ ตอ งมเี ครื่องบาํ รงุ สง เสรมิ พอสง่ิ เหลานัน้ จะ
เกิดข้นึ ตงั้ อยูและเจริญขนึ้ ได การบําเพ็ญใจดว ยคุณงามความดี ทา นจดั วา เปน การบาํ รงุ
สงเสรมิ เพ่ือใหใจมีกําลังกาวหนา ไปสูความสุขความเจรญิ เปนข้นั ๆ
แวน ดวงใจ แวน่ ดวงใจ : -ภา๑๙ค๒๕๐๑ -อบรมฆราวาส
๙๖
ธรรมอันเปนฝายสงู กบั กิเลสตัณหาอนั เปน ฝา ยต่ํา นักปราชญถอื วาเปน ขา ศกึ ของ
กนั และกันแตไหนแตไรมา ถา ฝายต่าํ ไดรบั การสงเสริมใหมีกําลังมากข้นึ ธรรมอนั เปน
ฝายสูงก็ลดกําลังลงเปนลําดบั ทาํ ใหล ืมกิจธุระที่เปนกศุ ลซง่ึ ตนเคยบาํ เพญ็ มาเปนประจาํ
หนกั เขา กล็ มื วนั พระ วนั ธรรมสวนะ ลมื เจรญิ ภาวนา ลมื ไหวพระสวดมนต ลมื ทางเดนิ
จงกรม น่ังสมาธิอบรมภาวนา ลมื ขอ วตั รปฏิบัตปิ ระจาํ เพศ และหนาทข่ี องตน เลยกลาย
เปน คนไมม หี ลักยดึ และมคี ติไมแ นนอน จติ ใจคลกุ เคลา กับความยุง เหยงิ จนไมม ีวันและ
เวลาปลงวางลงได นรกซึง่ ไดยินแตชอ่ื ไมทราบวาอยูใกลอยไู กลหรืออยูโลกไหน แต
ความทกุ ขในไตรโลกธาตุกม็ ากลุมรุมอยทู ี่ใจของตนคนเดยี ว ประหน่ึงไขส ุมอยตู ลอดวัน
ไมม เี วลาสรา ง
โทษทง้ั น้ีเกิดจากการปลอ ยตัว ใหเปน ไปตามอํานาจของกิเลสตณั หาอนั เปนฝา ย
ตาํ่ เปนผนู ําทาง ซ่ึงเขาชอบทางมืดประจํานิสยั อยแู ลว จะเห็นไดจ ากกเิ ลสตณั หาพาใหท าํ
โดยมากจะไมชอบทาํ ในทเ่ี ปด เผย แตช อบทาํ ในที่ลับหลู บั ตาซ่ึงมีทางกาํ บัง สรปุ ความ
แลว กเิ ลสตัณหาชอบเดินทางมดื ชอบอยูใ นทมี่ ืด ชอบทําในทีม่ ดื สมกับกิเลสเปน ตัวมืด
มน ไมมีความสวา งแจมใสภายในตวั ของมัน เมือ่ เขา สิงจติ จึงทาํ ใหจ ิตมืด เขาสงิ คนทาํ ให
เปน คนมืด ถาเขาสงิ มาก ๆ ก็ทําใหมดื บอดไปเลย หมดทนหนทางแกไข ท่ที านเรยี กวา
ปทปรมะ คงจะหมายจาํ พวกนก้ี ไ็ ด สว นธรรมเปน ความสวา ง ทานจึงใหน ามวา ธมโฺ ม
ปทีโป ถามีในบุคคลกเ็ ปน คนสวาง รูสึกผดิ ชอบ ชว่ั ดี ตามความแทรกซมึ ของธรรมที่มี
มากนอ ย ผมู ธี รรมในใจจะไปจะมา จะทาํ จะพูด จะคดิ ยอ มเปน ผเู ปดเผยเสมอ ไมเปน
นสิ ัยลอบ ๆ มอง ๆ มคี วามสงา ผา เผย ไมเปนคนอับเฉา สมกบั ธรรมเปน ความสวางและ
เปด เผย
ทานนักบวชและทานสาธชุ นผใู จบญุ ซงึ่ สนใจตอการบาํ เพญ็ ตนเปน ประจํานิสัย
ของผูรกั ธรรม ตา งทานจงึ ไมเหน็ แกความลาํ บากและสิน้ เปลืองใด ๆ อตุ สา หมาบาํ เพ็ญ
เตม็ สติกําลังความสามารถ เพ่ือการตัดทอนฝา ยตาํ่ ใหลดนอยลงเปนลําดบั และเพอ่ื สง
เสริมธรรมฝา ยสงู ใหม ีกาํ ลังมากข้นึ ดวยการบาํ เพ็ญโดยลาํ พังตนเองบาง ดว ยการสดับ
ฟง จากครูอาจารยบา ง เพือ่ ธรรมจะไดค ุน กับใจจนมกี ําลงั ทรงตัวได โดยไมต อ งอาศยั การ
บังคับขเู ขญ็ จากตนเองและจากครอู าจารย อยูท ี่ใดไปที่ใดมีธรรมเปน เพ่ือนสอง คอย
กระตนุ เตือนในเวลาผดิ พลาด ประหนึ่งมีเขม็ ทศิ ประจาํ ตวั ในการเดนิ ทางไมผดิ พลาด แม
จะทาํ กิจการใดๆ ไมวาทางโลกทางธรรม ยอมมีธรรมเปนแวนสอ งทาง ผลไดและเสยี อนั
แวน ดวงใจ ๙๖
กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๙- :๑ธ๒ร๑รม-เปน็ โอสถสำ�คญั
๙๗
จะเกิดจากงานนั้น ๆ ไมทาํ เอาตามใจชอบ แตมีหลักธรรมเปนเคร่อื งทดสอบเสมอ ไม
ทาํ แบบพรวดพราดพอขอไปที ท้ังงานสวนตวั และงานสว นรวม
ชอบทําดวยความสังเกตสอดรแู ละพิถพี ิถัน เพ่ือหวังผลเปน ทเ่ี รยี บรอ ยจากงาน
จรงิ ๆ ทําดว ยความจงใจ และมีความขยันหมน่ั เพียรในการงานทีเ่ ก่ียวขอ งกบั ตน สมกับ
ทําเหตุเพอื่ ผลทีต่ นมุง หวงั จริง ๆ จะไปมาทางไหนกบั ใครกไ็ มทําใหเปน สง่ิ ที่รงั เกยี จและ
หนักใจดว ย แตกลบั เปนเครอื่ งดึงดูดจติ ใจของคนอน่ื ไดดี ความเปน ผูมธี รรมในใจนีร้ สู ึก
วาเปนผงู ามอยางยิง่ งามไมม ีจดื จาง งามไมม ีสถานที่ กาล บคุ คลเขาเคลือบแฝงเลย ไมมี
เครอื่ งประดับใดจะมคี ุณคา และงามกวา ผมู ธี รรมประดบั ตน เปนฆราวาสกง็ ามไปทาง
หน่ึง เปนนกั บวชกง็ ามไปทางหนงึ่ ถา จะใหก รรมการผมู ธี รรมไมล ําเอียงมาตดั สนิ จาํ ตอ ง
ตัดสินใหเสมอกัน เพราะตางก็งามไปตามหนาทแี่ ละเพศของตน ไมซ ้ํารอยกนั พอจะให
ฝายใดฝา ยหนงึ่ เปน ทห่ี น่ึงหรือทีส่ อง
ยงิ่ ไดร บั การอบรมใจใหงามดว ย สมาธิ ปญญา วมิ ุตตแิ ละวิมตุ ตญิ าณทสั สนะดวย
แลว ยิ่งงามอยา งลึกซึง้ ไมมีอะไรเสมอเหมอื นได ความงามดว ยธรรมภายในใจท่ีบรสิ ทุ ธิ์
นัง่ อยูก็งาม เดนิ ไปกง็ าม ยนื อยกู ง็ าม หลับหรือตืน่ ก็งาม งามไปตลอดอิริยาบถไมลดละ
ความงาม การเกยี่ วขอ งกบั ฝงู ชนทั้งใกลแ ละไกล ยอมงามไปตามลําดับแหง การอบรมส่ัง
สอน
งามในเบ้อื งตน คอื การสัง่ สอนคนใหรูจกั ตนกับศาสนา วา มีความสมั พนั ธเก่ยี ว
เน่ืองกนั อยา งไร ตนกบั ศาสนามีความจาํ เปนตอ กันอยา งไร และจะควรปฏิบัติตอ กันอยาง
ไรบางใหสมกับศาสนาเปน สมบัติจาํ เปน ของทุกคน ผมู ุง หวงั ความสุขความเจรญิ แกตน
จนทราบชัดวาหลกั ศาสนากบั ตนเองไมเ ปน อน่ื จากกนั แตต นกบั ศาสนาเปน อันเดียวกนั
การติชมพระศาสนาก็เทากบั ตชิ มตนเองดว ย เมื่อเขา ใจหลักศาสนากบั ตนวาเปน อวัยวะ
เดียวกันแลว จะปฏบิ ัตศิ าสนาอยางเต็มใจเทากับปฏิบัตติ อตนเอง เพราะหลกั ศาสนาหนึง่
กรรมหนึ่ง และตนหนง่ึ เปน กฎตายตวั อนั เดียวกนั โดยแยกจากกันไมออก
การทํากรรมดี กรรมช่ัวจงึ กระเทือนถงึ ศาสนาและตวั ผทู าํ กรรมเอง ผูไตรต รองดู
กฎอันตายตวั ทง้ั สามนีจ้ นทราบชัดแลว จําตองยอมเชื่อศาสนา เชอ่ื กรรม และเชอ่ื ผลแหง
กรรมท่จี ะพงึ ไดร บั แกผ ทู าํ ท้ังมคี วามพอใจตอการทาํ ดีทกุ ประเภท ทเี่ ปนวิสยั ของตนจะ
ทําได ไมบิดพลว้ิ เพื่อหาทางออก โดยเห็นวา กรรมไมมผี ลแกผทู าํ และศาสนาไมเ กีย่ วของ
กับตน มีความเชอ่ื ตอกรรมเชน เดียวกบั การเชือ่ ตอการรบั ประทาน เพ่ือผลคือความอมิ่
สาํ หรบั ตนผรู บั ประทาน
แวนดวงใจ ๙๗
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๒๒๑ -อบรมฆราวาส
๙๘
งามในทามกลาง คอื การสัง่ สอนใหรูจ ักวธิ อี บรมใจใหม คี วามสงบเปนสมาธิ อัน
เปนเหมอื นเรือนพกั หลบั นอน คอื ความอยเู ย็นสบายของใจเปน ข้นั ๆ ของสมาธิ สมาธิมี
แงท ี่ควรสงสัยตอนไหน พยายามอธิบายใหฟ งอยางแจมแจงตามที่รูเ ห็นและตามหลกั
ธรรมท่ีทานแสดงไว สมาธิตอนไหนมีทางจะเกิดความรูความเหน็ เปนตาง ๆ ซ่ึงอาจจะทํา
ผบู ําเพญ็ นนั้ ใหเสียหรือเขวไป สมาธิตอนไหนทเี่ ห็นวา ถูกและควรสงเสริม เพอ่ื ใหผู
บาํ เพ็ญแนวแนแ ละมีกาํ ลงั ใจ ตลอดปญญาทจี่ ะนาํ มาใชใ นสมาธขิ ั้นน้นั ๆ ตามกาลท่คี วร
จะใช กพ็ ยายามชแี้ จงใหฟงอยา งละเอยี ด จนผบู ําเพ็ญหายสงสยั ในภมู ิธรรมของตนที่
กําลงั เปนอยู และพอใจพยายามบําเพญ็ เพื่อความกาวหนา เพราะอบุ ายทีแ่ สดงใหฟ ง เปน
เคร่อื งสนบั สนนุ
งามท่สี ดุ คอื การสั่งสอนเก่ียวกับสมาธิและปญญาขน้ั ละเอยี ด ซึ่งจะปฏิบตั ิตอกัน
ใหพ อเหมาะสมตลอดไปจนถงึ จุดหมายปลายทาง สมาธิข้นั ละเอยี ดทม่ี แี งซึง่ ผบู าํ เพญ็
อาจจะตดิ และทําใหเ สียเวลา กพ็ ยายามอธิบายใหฟงจนเปน ทเ่ี ขา ใจ เพอื่ มใิ หทําความผูก
พันอยกู ับสมาธจิ นเกินไป ในเวลาทคี่ วรจะออกคดิ คน ทางดา นปญญา การพจิ ารณากไ็ ม
เพลินจนลมื พกั สงบในสมาธทิ เี่ คยเปนธรรมหนนุ กําลังปญญา ปญ ญาทีจ่ ะรเู ทา ทนั กบั เหตุ
การณ ตอ งพลิกแพลงตัวเองกับส่งิ เกยี่ วของอยา งรวดเรว็ โดยแยกขนั ธออกเปน สวน ๆ
ทดสอบดวยปญ ญาอยางรอบคอบ ไมยอมใหนอนจมอยูกับขันธใดขันธห น่งึ โดยเขา ใจวา
เปนตน
ทกุ สงิ่ ท่ีปรากฏขึน้ กบั ใจไมวาดหี รือชว่ั มนั เปน เร่อื งของขันธท ้ังนนั้ ทแี่ สดงตวั ออก
มา ตอ งใชปญ ญาตามรูลงไปในจุดท่ีปรากฏน้ันทนั ที ไมยอมยึดถือหรอื ใหผ านไปเปลา
ไมเ ชน น้ันจะกลับมาหลอกจติ ใหหลงเช่ือจนได นอกจากการพจิ ารณาขันธใหเ ขาใจแลว
ปญ ญายังมีทางสืบตอ จากขนั ธลงไปถึงจดุ ใหญแหง ภพ คือ จิต กับ อวิชชา ซ่ึงกาํ ลงั คละ
เคลา กนั อยปู ระหนง่ึ เปน อันเดยี วกนั โดยเห็นวาน่ันคือ จดุ ขา ศึกอันใหญหลวงกาํ ลงั ต้งั อยู
จนเหน็ ชดั ดว ยปญ ญาแลว ขณะน้นั แลเปนขณะที่อวชิ ชาจะสลายตวั ออกจากจิต และไมม ี
ทางตอสปู ญญาอันแหลมคมไปได อวิชชาตองดับไปในจดุ น้ี ไมมีทางออกตัวไดอีกตอไป
หลังจากอวิชชาดบั ไปแลว ขันธแตล ะขันธ อายตนะหกแตละอยาง ตา งกท็ รงความ
จรงิ ของตนไวอยางสมบรู ณ เพราะจิตซึง่ เปนหลกั ใหญข องส่ิงเหลาน้ี เขา ถงึ ความจรงิ
อยางเตม็ ภมู ิแลว ไมมีสวนใดจะเกดิ ปญหาโตแ ยงกันดงั ที่เคยเปน มา โลกกบั ธรรม ขนั ธ
กบั จติ กาวลงสคู วามสนั ตติ อกันอยา งสมบูรณโดยไมม ีใครมาบงั คับ จิตกับสภาวธรรมท่วั
ๆ ไปหมดทางขดั แยงกันนบั แตขณะอวิชชาดบั ไป ตางก็เปน สคุ โตไปตามสภาพของตน ๆ
แวน ดวงใจ ๙๘
กณั ฑเ์ ทศน์ที่ ๙- :๑ธ๒ร๓รม-เป็นโอสถส�ำ คัญ
๙๙
น่กี ลา วถงึ ทานผเู ปนสุคโตอนุเคราะหแ กพวกเราชาวพุทธมามกะ เปนความงามมา
เปนลําดบั จนตลอดสาย ไมม ีความเปน ลมุ ๆ ดอน ๆ แฝงอยูใ นอบุ ายแหงการสั่งสอน
ของทานเลย ก็คุณธรรม คือ ศลี สมาธิ ปญญา วิมุตติ และวิมตุ ตญิ าณทสั สนะเหลา น้ี เรา
จะไปแสวงหาทไ่ี หนกนั จึงจะพบความจรงิ ดังกลา วมา นอกจากจะแสวงหาดว ยขอปฏบิ ัติ
อันชอบธรรม จนปรากฏผลขึ้นกับตนเทาน้ัน ไมมีท่ีอืน่ ใดพอจะเปนบรษิ ทั หา งรานของ
ธรรม มีวิมตุ ตญิ าณทสั สนะเปนตนเลย เพราะธรรมเหลา นม้ี ิไดข น้ึ อยูก บั กาล สถานที่
บคุ คลทั่ว ๆ ไป แตขน้ึ อยกู บั การบาํ เพญ็ โดยไมอา ง กาล สถานทเี่ ทานนั้
ถา กลาวตามธรรมคอื ความเสมอภาคแลว รสู กึ วาใหความสะดวกและเสรีแกผ ู
บาํ เพญ็ โดยไมเ ลือก กาล สถานท่ี ชาติ ชนั้ วรรณะ และเพศวัย ตลอดอริ ยิ าบถที่เหน็ วา
สะดวกแกการบําเพญ็ ตามเวลาทีต่ อ งการ ไมมีการหวงหา ม นอกจากผบู าํ เพ็ญจะทําความ
ขดั ขอ งแกตนเสียเองแลวไมอ ยากทาํ โดยหาวธิ ีหลกี เลย่ี งไปตา ง ๆ นานา ตามวิสัยของ
กเิ ลสพาใหเปนไปเทา น้ัน ถาถือเปน กจิ จําเปนเสมอดวยงานอนื่ ๆ แลว จิตคงไมตกอยู
ความอับจนและขนทุกขใสตัวเองจนมากมายนัก อยางไรตอ งมีสขุ สมบัติประดับใจ ไมเ สยี
ทีที่ไดเ กิดมาเปนมนษุ ยอนั เปน สถานทรี่ วมแหงสมบตั ติ า ง ๆ แตน าเห็นใจทงั้ ทา นและเรา
ทมี่ กี ิเลสเปนเจาเรือนดวยกัน มันชอบไปหาเกาในสถานทไ่ี มควรจะเกา ไปคนั ในสถานท่ี
ไมควรจะคนั และชอบเที่ยวหาเกาในสถานทไี่ มคนั ทค่ี นั ๆ ควรจะเกาแตไ มส นใจเกาให
หายคัน โรคคันจึงไมหายจากการเกา เพราะเกาไมถูกกับจดุ ที่คนั
ชอบสนใจในส่งิ ทีไ่ มค วรสนใจ ชอบเพลดิ เพลินในสง่ิ ทไี่ มควรเพลดิ เพลิน ชอบ
แสวงหาความสุขในสิง่ ทีจ่ ะใหเกดิ ทุกข ชอบเห็นวา เปน ทุกขในสงิ่ ท่ีจะใหเกิดความสุข
ชอบขเ้ี กียจในสงิ่ ที่จะควรขยนั แตชอบขยนั ในสง่ิ ท่จี ะใหเกิดความฉบิ หายเดอื ดรอน ชอบ
สรรเสริญในสิ่งทคี่ วรจะตําหนิและหาทางออก แตช อบตาํ หนิกจิ ท่ีควรจะเปน คณุ
ประโยชน ฉะน้ัน โทษคือความทกุ ข จึงไมว ายจากใจ อยูทใี่ ดไปที่ใด ไดยินแตความบน
กัน ประหน่ึงความบน เปนยาอายุวฒั นะขนานวิเศษ ไปทีไ่ หนแอบถอื ตดิ ตัวไปจนได หรอื
จะไดอ วดเขาวา เรามยี าอันศักด์สิ ทิ ธ์ิวิเศษ คือความบน
ถา ไมไดติดตวั ไปมากแตขนาดอบุ อบิ พึมพาํ จําตอ งมีตดิ ตัวไปดว ย จะขาดไมได
ท้ังทานและเรา ท้งั หญงิ และชาย ท้ังนักบวชและฆราวาส ไมคอ ยมใี ครปราศจากได และมี
อยทู กุ แหง ทกุ หนไมตอ งออกรานคา เพราะตางคนตางมี แมจ ะนาํ มาบนวันยงั คํ่าคงไมจบ
เร่ืองความบนของแตละคน อิม่ กบ็ น หวิ ก็บน จะนอนก็บน ตน่ื นอนขน้ึ มากบ็ น นง่ั อยเู ฉย
ๆ ไมม ีอะไรมาทาํ ใหย งุ ก็บน ยง่ิ ไดสมาคมกับเพ่ือนฝงู ท่ถี กู คอกันดว ยแลว จะไดย ินแต
แวน ดวงใจ ๙๙
แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๒๔๑ -อบรมฆราวาส
๑๐๐
เสียงบน จนไมทราบวาเสยี งเขา เสยี งออก เปนเสียงอะไรกนั แน เพราะไมมีผูสม่ําเสมอ
และเช่อื งชนิ ตอ ความสขุ ทกุ ข พอจะรับฟงและใหอบุ ายไปแกไขปรบั ปรุงตัว เพ่ือบรรเทา
ความบนใหน อยลง หรือหมดไปโดยวธิ ที ถ่ี ูก
ธรรมเปน โอสถสําคญั สาํ หรับแกค วามคะนองทางกาย วาจา ใจอันเปน สาเหตแุ หง
ความบนเพอไดเปนอยา งดี ผูส นใจและยึดธรรมเปน หลักใจ จึงเปน ผรู จู กั สภาพการณ
ของส่งิ ตาง ๆ ไดดี ไมคอ ยมีความตืน่ เตน และดีใจเสยี ใจจนเลยความพอดี รูจักวิธี
ปฏบิ ตั ิตัวเองตอส่ิงตาง ๆ ที่เปล่ยี นแปลงไปตามเหตุการณ แลวสลายตวั ลงตามหลกั
อนิจจัง อันมรี ะยะสน้ั และระยะยาวไดเ ปนอยางดี ไมค อ ยมกี ารหอยโหนโยนตัวไปตาม
ความดีใจและเสียใจ เพราะสง่ิ ทร่ี ักชอบพลัดพรากจากไป และส่งิ ทไ่ี มพ งึ ปรารถนาผาน
เขา มา สามารถวางตวั ไดอ ยางนาดนู า ชม และเปนคติตัวอยา งอันดแี กค นอ่ืนไดดว ย
เพราะธรรมเครอ่ื งหักหามใจ ยอมเปนเชน กบั เบรกเคร่ืองหา มลอรถ ซงึ่ จะนํามาใชไดต าม
เวลาตอ งการและจาํ เปน
ใจทไี่ มมีธรรมเคร่ืองหักหา ม ยอ มหมุนตัวไปทางผดิ ไดอยา งงายดาย และไมม สี ่งิ
ใดจะมีกาํ ลังเรีย่ วแรงสามารถหักหามจิต ใหดํารงตนอยูโดยถูกตอ งได นอกจากธรรม แม
จะมคี วามรู ความฉลาดจากการศึกษาและสมาคมมามาก ก็เปน เพยี งบรวิ ารหรอื เคร่อื ง
มอื ซงึ่ จะคอยปฏบิ ัติตามคําสั่งของตณั หาอยูนั่นเอง ดังน้นั ผมู คี วามรคู วามฉลาดเสมอทาน
ๆ เรา ๆ จงึ ตกอยใู นอํานาจแหงความผิด ๆ ถูก ๆ ตามอาํ นาจของส่ิงขับพาใหเปนไป
ธรรมเมือ่ นํามาใชย อมเปน เคร่ืองมอื ตานทาน และหกั หา มสิง่ เปนภัยตอจติ ไดดี ตาม
กาํ ลงั ของผูมธี รรมมากนอ ย ถามเี พียงพอก็สามารถหักลางกนั ไดอ ยางไมมปี ญหา เชน
ทานผถู ึงธรรมอนั สูงสุดแลว ชอ่ื วา เปนผูหมดภัยทางใจโดยสนิ้ เชงิ ไมม ปี ญหาใด ๆ ตก
คา งอยูในใจของทา นเลย นค่ี อื ทานผูห ยดุ เดินและหมดภัยจริง ๆ
ทานนักปฏิบัติทเ่ี ตรยี มพรอมแลวเพอื่ กา วเดินใหผา นพน ทางกนั ดาร ยิ่งเปน ผูจํา
เปนตอ ธรรมทุกขน้ั เรมิ่ ตน แตหลักสมาธิ ซึง่ เคยไดย นิ แตชอ่ื เวลานจี้ ิตของเราเปนอยา ง
ไรบา ง ม่ันคงไปในทางขี้เกยี จตามหลกั ของกิเลส หรือมนั่ คงไปในทางความขยันหมั่น
เพยี รตามหลักธรรมของศาสนา โปรดสังเกตตลอดสายของจิตท่ีมอี ะไรฝงจมอยภู ายใน
ถา จติ มธี รรมกาํ กับอยางใกลชิด จิตตองเปน สมาธิมั่นคงตอ ตนเองอยา งแนนอน จติ เคย
เปนนกั ทอ งเท่ียวและซัดเซพเนจรมานาน เพราะไมม ีธรรมเปนเคร่ืองยดึ
แตเวลานเ้ี ราพาจติ กาวไปสูแดนแหงธรรมอันเปนเกาะยึดท่มี นั่ คงแลว โปรดยดึ
ธรรมใหม่นั คงอยาปลอ ยวาง และขยบั ความเพยี รเขาเปน ลาํ ดับอยา ลดละ สมาธิจะกลาย
แวนดวงใจ ๑๐๐
กัณฑเ์ ทศน์ท่ี ๙- :๑ธ๒ร๕รม-เปน็ โอสถสำ�คัญ
๑๐๑
เปนสมบัติของเราในเรว็ วัน ไมผ า นตาขายของความเพยี รไปได โปรดตัง้ หลกั จิตกับธรรม
ใหส นิทตอ กัน อยาปลอยใหส ่งิ ที่เคยเปน ปรปก ษเ ขา มาแอบแฝงในวงความเพยี รได จะทาํ
ใหจ ติ และความเพียรเอนเอยี งและลม ไปตาม และโปรดทราบไวเ สมอวา จิตกาํ ลงั แสวง
หาทย่ี ดึ เหน่ียวอยูตลอดเวลา เชน เดยี วกับคนตกน้าํ ควา หาทยี่ ดึ เหนีย่ วเพอ่ื ความพน ภยั
ฉะนัน้ แตจิตไมมคี วามฉลาดพอ จึงไมส ามารถยดึ ถกู สงิ่ ท่จี ะพาใครใหไ ดร ับความปลอด
ภยั จงึ กลายเปน เรอ่ื งพาใหจติ ลมจมไปเพราะอารมณอยางไมมีจดุ หมาย
ก็บัดนี้เราควา ถูกเกาะอันเย่ียมคอื ธรรมแลว จงพยายามยึดไวใ หเตม็ มอื ถอื ไวให
เตม็ ใจ จติ จะเคยรวนเรมานานเทา ไรไมเ ปนปญ หา ตองหย่ังลงสคู วามแนวแนแ ละสงบได
ในเวลาไมน าน ผลจะเปนความสุขเย็นใจ หายจากทกุ ขท นั ที มีแตความสขุ เปนเคร่ือง
เสวยผลในขณะนน้ั น่ีคือองคข องสมาธแิ ททีป่ รากฏขึ้นกับผมู ีความเพยี ร แมชื่อของสมาธิ
ท่ีเคยไดยนิ จนชนิ หูกม็ ารวมกันอยใู นจดุ นี้ และหมดปญ หาทง้ั ชือ่ และองคของสมาธิใน
ขณะนั้น เมอ่ื ไดห ลกั เบือ้ งตนแลว หากสมาธิจะเปลีย่ นสภาพขน้ึ สูค วามละเอียดตามลาํ ดบั
ของความเพียรที่เปน ไปอยู กจ็ ะทราบภายในตวั เอง เชนเดียวกบั ทเี่ คยทราบในสมาธขิ ้นั
เรมิ่ แรกมาแลว
สติปญ ญาซึง่ เปน ธรรมจาํ เปน ทค่ี วรจะนาํ มาใชใ นโอกาสอันควร จงึ ถอื เปน เรอื่ ง
สําคญั ซ่ึงควรจะแอบแฝงกนั ไป กายวิภาคหรือขนั ธวิภาคมอบใหเ ปนหนาท่ีของสติปญ ญา
เปน ผูจ ะทาํ การตรวจตรองโดยละเอียดถ่ถี ว น นกั ภาวนาที่หนกั ไปทางกายวภิ าคหรือขันธ
วภิ าค จะเปนผกู าํ ชัยชนะไวในเงอื้ มมือโดยไมม ีอุปสรรคใด ๆ มากีดขวางไวได คําวา สติ
ปญญาอยาเขาใจวา เปน ธรรมเล็กนอ ย แตเปนเครือ่ งมือรื้อถอนกเิ ลสท้งั มวลออกจากใจ
ไดโดยสนิ้ เชงิ เพราะผบู รรลุถึงพระนพิ พาน ตอ งเปน ผูส มบูรณดวยมหาสติมหาปญ ญาทง้ั
น้นั
ไมป รากฏวา มผี เู ล็ดลอดถึงพระนพิ พานได เพราะความรอดสายตาของกเิ ลสมอง
ไมท่วั ถงึ แตเพราะกเิ ลสฉบิ หายไปโดยสน้ิ เชิงดว ยอํานาจของมหาสตมิ หาปญญาเผา
ผลาญตางหาก ทกุ ทา นโปรดจําไวอ ยางฝง ใจ แลว นําไปปฏิบตั หิ นา ท่ีตอกิเลสทน่ี อนจมอยู
ในใจเรา จะไดเ หน็ มันหล่งั ไหลออกจากใจ จนไมม ีกเิ ลสตวั ใดจะฝน อวดดวี า ฝมือเกงกวา
มหาสติมหาปญญา แลว นอนจมอยใู นจิตไดอกี ตอไป นอกจะจะถกู ทําลายลงอยา ง
ละเอยี ดผยุ ผงไปเทานนั้ ไมมีทางตอสมู หาสติมหาปญ ญาอนั เปนกองทพั ปรมาณไู ปไดเ ลย
ผูมคี วามเพยี รไมลดละนบั แตข น้ั เรมิ่ แรกเปนลําดบั ถงึ ขัน้ สมาธิ และตามลําดับขั้น
ของสมาธเิ ปนระยะ มสี ติปญญาสอดแทรกเขา ไปตามสมยั ทคี่ วรคดิ คน ไมวาธาตหุ รือขนั ธ
แวน ดวงใจ ๑๐๑
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๒๖๑ -อบรมฆราวาส
๑๐๒
ใด ๆ จาํ ตอ งถูกพจิ ารณาและคลค่ี ลายออกเปนชิน้ เปน อัน และกาํ หนดละลายถึงธาตุเดมิ
จนหมด ความสําคัญวา สัตว บคุ คล และประกอบเขาไวตามสวนผสมของธาตุขนั ธทเ่ี รยี ก
วา สตั ว บคุ คลตามเดมิ แลว แตค วามตอ งการและความแยบคายของปญ ญา เชนเดยี วกบั
เขาถอดเครื่องอะไหลของรถออกตรวจดเู ครอื่ งแลว ประกอบไวต ามเดิมฉะนนั้ เปนผมู ี
หวงั หลดุ พน โดยแนนอน ขอแตความเพยี รอนั เปน ทางสมหวังอยา ลดละ สตปิ ญ ญาข้ัน
เร่ิมแรกจะเชือ่ มโยงถึงข้นั มหาสติมหาปญญา อยา งไมมีทางปลกี แวะเปน อยางอนื่ ทั้งกอง
ธาตุกองขันธ และดวงจติ จะเปนท่ีทํางานของสติปญญาตลอดเวลาไมม ีการหยดุ ยงั้ จน
สามารถรูเทาและปลอ ยวางไดโดยตลอดทั่วถงึ
จิตที่เคยนอนจมอยูกบั กิเลสสมมุติมานานแสนนาน ก็หลุดลอยข้ึนมาเหนือโลก
สมมุติ ดาํ รงตนอยดู ว ยอสิ รธรรม มีความบรสิ ทุ ธ์เิ ปน ผล พนจากเครือ่ งกดถว งทางใจท่ี
เคยเปนมา คาํ วา พุทโธก็ถึงใจ ธัมโมก็ถึงใจ และสังโฆกถ็ ึงใจ ข้นึ ชอ่ื วาธรรมที่พระพทุ ธ
เจา ตรสั ไวท กุ บททุกบาทท่ไี ดเห็นไดยินมา เปน ธรรมทถี่ ึงใจโดยตลอด เพราะปญ หาหัวใจ
ส้นิ สดุ ลงไมม กี ารขัดแยง อีกตอไป
ธรรมทีอ่ ธบิ ายมาทง้ั นี้ พวกเรานัง่ ทับนอนทับกนั อยตู ลอดอริ ิยาบถ แตไมป รากฏ
เปน ของแปลก ดังนั้น โปรดคยุ เขย่ี ขน้ึ มาใหท วั่ ถงึ จะเหน็ ธรรมเปน ของแปลกขึน้ มาท่ใี จ
คาํ วา พระพทุ ธเจาตรสั รูท ่ีไหนจะไมม แี งส งสัย เพราะทรงตรัสรูที่สัจธรรมสถิตอยูนน่ั เอง
การแสดงธรรมกณั ฑน ้ีนับวา มากและนาน กเ็ ห็นวา ควรแกก ารยุติ ทา นทีไ่ ดสดบั
แลวโปรดนาํ ไปไตรตรองดตู ัวเรากับหลักธรรมที่แสดงในคัมภีร ชเี้ ขา มาท่ตี วั ของเราทกุ
บททุกบาท ไมมีชี้ใหผดิ พลาดไปท่ีไหน จะไดท ําความเขา ใจระหวางธรรมกบั เราโดยถกู
ตอง ผลที่เกิดขนึ้ จากความคิดท่ีถกู ตอ งจะเปนสมบัติของเราแตผูเดยี ว จึงขอยุติเพยี งเทา
น้ี เอวํ
www.Luangta.or.th
แวน ดวงใจ ๑๐๒
กัณฑเ์ ทศน์ที่ ๙- :๑ธ๒ร๗รม-เปน็ โอสถสำ�คัญ
ปญั ญกาณัถอฑดท์ ถี่ ๑อ๐นกเิ ลส
เทศนอ์ บรมฆราวาส ณ วัดปา่ บ้านตาด
เมอ่ื วนั ท่ี ๓ เมษายน พุทธศกั ราช ๒๕๐๘
กัณฑเ์ ทศนท์ ี่ ๑๐- :๑๒ป๙ญั ญ- าถอดถอนกิเลส
๑๐๔
ศรัทธา วริ ยิ ะ สติ สมาธิ ปญญา เปนตน จัดเปนหมวดธรรม พระวินัยเปนของจําเปนตาม
ข้ันและเพศของผรู กั ษา ผูรกั ษาศลี ๕ ศีล ๘ ในเวลาใดก็ถือเวลานน้ั เปนเวลาจาํ เปนของ
ตน ผูรกั ษาศลี ๑๐ ศลี ๒๒๗ ก็เปนผูจําเปนตอศลี ประเภทน้ัน ๆ ตามเพศและหนาที่
ของตน ไมอ าจเอือ้ มลว งเกนิ ใจก็มคี วามเยอื กเยน็ ไมเ ปนอารมณ เพราะเหตแุ หง ความ
ผดิ ศีลท่ีตนรกั ษา จะอบรมใจใหสงบ กไ็ มม ีศีลวิบตั ิเปน อารมณเคร่อื งกวนใจ ใจมีทาง
สงบไดงา ย แมอยูโดยลําพังกเ็ ยน็ ใจ ผิวพรรณก็ผอ งใส และมีกิริยาองอาจ ไมสะทก
สะทา น นเี่ ปน ศีลสมบตั ิที่เราไดร บั ในปจจุบนั
ตอไปกเ็ ริ่มใหเปน สมบตั ิขึ้นภายในใจ โดยวิธอี บรมจติ เชน น่งั กาํ หนดอานาปาน
สติ ถือลมหายใจเขาออกเปนอารมณข องใจ หรอื พุทโธ ธัมโม สงั โฆ บทใดบทหนง่ึ ทจี่ ริต
ชอบ มีสตกิ าํ กับอยทู ่ใี จซึ่งบริกรรมธรรมบทน้ัน ๆ เปนอารมณอ ยู ใจจะคอยมีความรูเดน
ขึ้นที่จดุ นัน้ และมคี วามเยน็ สบาย ความสขุ ท่ีเกดิ ขึ้นจากความสงบจะไมเ หมอื นความสขุ
อืน่ ใดทีเ่ คยผา นมา ผูไดร บั ความสขุ ประเภทน้ีแลว จะเปนท่สี ะดดุ ใจทนั ที พรอมทงั้ ความ
พอใจที่จะพยายามใหความสงบสขุ นี้เกดิ ข้นึ บอ ย ๆ โดยวิธีทางภาวนาใหมากขึ้น เพราะ
ฉะนน้ั ทา นผมู จี ติ อันสงบแลว จงึ เปนผูมีความหนักแนนตอความพากเพียร เช่อื บุญ เชื่อ
กรรม และเช่ือผลแหง กรรมทตี่ นทําแลววาเปนส่ิงไมไ รผล ผูเปนนักบวชทป่ี รากฏความ
สงบประจักษใจ จงึ เปนผเู ชื่อตอ ความเพียรเพอื่ ผลอันยอดเย่ยี มข้ึนไปเปนข้ัน ๆ ไมม กี าร
ลดละความเพยี ร
ความสงบของใจมีหลายขน้ั คอื ขั้นหยาบ ขัน้ กลาง และขั้นละเอยี ด ตามแตผ ู
บําเพ็ญจะสามารถทําไดเปน ข้ัน ๆ และพยายามทาํ จติ ของตนใหขยับขน้ึ ไปเปนระยะ จน
ถึงข้ันละเอยี ดสุดของสมาธิ สวนความสขุ อนั เปน ผลยอมมคี วามละเอียดข้นึ ไปตามขัน้ ของ
สมาธิ ปญญาก็มขี ัน้ หยาบ ขั้นกลาง และข้นั ละเอียดเชนเดียวกบั สมาธิ และควรนาํ มาใช
กาํ กับสมาธิข้นั น้ัน ๆ ไดตามโอกาสอันควร จะเปน ความรอบคอบของนกั ปฏิบัติธรรมทกุ
ๆ ขน้ั ไป
แตใจท่ไี มย อมเขาสูความสงบไดต ามใจหวงั ในเวลาบําเพญ็ นน้ั โดยมากใจมี
อารมณเ คร่ืองยว่ั ยวนมาก เชน รปู ไหลเขา มาในคลองจักษุ เสยี ง กล่นิ รส เคร่อื งสัมผัส
ตา งกไ็ หลเขา มาทางหู ทางจมกู ทางลนิ้ ทางกาย แลวไหลผานเขา ไปถึงใจ กลายเปน
ธรรมารมณข ้ึนมา ใจซึง่ เปนผรู บั ผิดชอบ ช่วั ดี และสขุ ทุกข จึงมคี วามกระเพื่อมรับ
อารมณอ ยูต ลอดเวลา หาโอกาสดาํ รงตนอยูดว ยความสงบสุขไมไ ดเลย จําตอ งรับรู รบั
เหน็ รบั สขุ รับทกุ ขจ นไมม ีเดือน ป นาที ชัว่ โมง เปนเวลาพักผอ นใจ แตเ ปน ธรรมดาของ
แวน ดวงใจ ๑๐๔
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๐๑ -อบรมฆราวาส
๑๐๕
สามัญจติ จะอยูโ ดดเดยี่ วโดยลําพังตนเองยอ มไมได ตอ งอาศัยอารมณเปนผูพาอยู พาไป
พาใหดี ใหช่ัว พาใหส ุข ใหทุกข พาใหด ใี จและเสียใจ พาใหเพลดิ เพลนิ และเศรา โศกอยู
เปน ประจาํ จงึ ไมมีโอกาสไดเหน็ ความสุขอนั แทจ ริงของใจ
ความสุขท่เี กดิ จากการอบรม แมจะอาศยั ธรรมเปนอารมณของใจ แตก ็เปน เครื่อง
สนบั สนุนใจใหไ ดรับความสขุ เพ่อื เปนตวั ของตัวข้นึ ไปเปนลําดบั จนถงึ ข้นั เปน ตัวของตวั
ไดอ ยางสมบูรณ ซง่ึ แปลกตางจากอารมณชนดิ อ่นื ๆ ทีค่ วรจะใหนามวา อารมณของโลก
อารมณข องธรรม ขณะที่ใจไดร บั ความสงบเพราะอารมณแ หงธรรมท่ีนํามาภาวนา กายก็
เบา ใจก็เบา ทกุ สวนในรา งกายและจิตใจรูสกึ วาเบาไปตาม ๆ กนั หมด กายกับใจก็
ปรากฏวาเปน คนละสว น ไมคละเคลา กัน ขณะทจี่ ติ หยัง่ ลงสูค วามสงบจริง ๆ แลว แม
กายจะปรากฏตวั อยใู นทานง่ั หรอื ทานอน แตค วามรขู องจติ ปรากฏวากายไมม ีเลย คง
ปรากฏแตจ ิตลวน ๆ ทแ่ี สดงความสงบและสวา งอยภู ายในตวั เองเทา นั้น ไมปรากฏเร่ือง
กายและเรื่องอ่ืน ๆ มาแฝงเลย นี้เปน ความสงบทแ่ี ปลกประหลาดและอัศจรรยย ิง่ กวา
ความสงบขนั้ ตน ซ่งึ รสู ึกวากายมี แตไ มรบกวนใจดว ยอาการตาง ๆ เพียงสักวากายมอี ยู
เทา นน้ั
เมอ่ื ความสงบประเภทนป้ี รากฏขนึ้ บอย ๆ จนรูสกึ เปนความเคยชนิ ในการเขาการ
ออก หากจิตมีธรุ ะทจี่ ะตองทําในเวลาออกจากที่ภาวนาแลว แตความสงบอันเปน ฐานของ
ใจจะมปี ระจาํ อยู พอยอนความรูสึกเขา มาสตู ัวเม่อื ไรก็ปรากฏความสงบ อันเปน พ้นื ฐาน
นั้น รูเดน อยูเฉพาะตัว คือเปน เอกเทศหน่งึ จากกาย มิไดค ละเคลา กนั ดังท่เี คยเปน มาใน
คราวที่จิตยังไมม ีความสงบ เชน เดียวกับเราอยูในบาน แตบ านเปน อนั หนึ่งจากเราผอู ยูใน
บา น ฉะนัน้ เบอ้ื งตน กแ็ ยกกนั ไมออก กายกบั ใจคลายกบั เปน อันเดยี วกัน เพราะใจไมม ี
เวลาเปน ตวั ของตัว แตใ จท่ไี ดรบั การอบรมทีค่ วรจะเขาใจตามความจริงของตนบา งกท็ น
อยูไมได จาํ ตองรแู ละเขา ใจ
ใจทม่ี ีความสงบเปน พ้ืนฐานแลว เราจะไปทําการงานอะไรก็คงเปน ความสงบ
ประจาํ ตนอยเู ชน น้นั และไมทําการงานนนั้ ๆ ใหเสยี ดวย เพราะฉะน้นั ผูบาํ เพญ็ ธรรม
ภายในใจจงึ ไมท ํางานใด ๆ ใหเ สียไป นอกจากจะเปนหลักอันดีของงานแลว ยงั สนบั สนนุ
งานทกุ ดานใหสําเรจ็ เรียบรอยลงดว ยความสวยงามและนาดอู ีกดวย ผมู ีธรรมภายในใจ
ประกอบการงานทุกประเภทไมว า ทางโลกและทางธรรม ยอมสาํ เร็จเปน ช้ินเปน อนั ไม
ทํางานใหเปน เคร่อื งหมักดองจนกลายเปน อากลู (ทาํ งานคงั่ คาง) นี่กลา วถงึ ความสงบ
แวนดวงใจ ๑๐๕
กัณฑ์เทศน์ท่ี ๑๐- :๑๓ป๑ัญญ- าถอดถอนกเิ ลส
๑๐๖
ทา นผูฟงพอจะทราบไดวา กายกบั ใจแยกจากกนั ไดใ นความรูส ึกของจติ ทีม่ ีสมาธเิ ปน
เรอื นใจ
ตอ ไปนี้กลาวเรอื่ งปญ ญา ปญญายงั เปน สง่ิ ทล่ี ะเอียดเขาไปอีกมากมายตามข้นั ของ
ปญญา ความสงบนัน้ เปนเพียงระงบั ความฟุงเฟอ ของใจใหไ ดร บั ความสงบสขุ ในขนั้ ตน
แตป ญ ญาเปน ผูท ําหนาทีถ่ อดถอนกเิ ลสขึน้ มา สง่ิ ใดที่ยังหมักหมมอยใู นใจมากนอย
ปญญาตอ งทําการถอดถอนออกเปน ลาํ ดับ เชน การพจิ ารณาธาตขุ ันธเพอ่ื รตู ามเปนจรงิ
ของเขา นับแตวันเกิดมาถึงวนั นี้ ถานับเปนวนั เดือน ป ไดกว่ี นั กี่เดือน กี่ป สภาพรา ง
กายน้คี งทอี่ ยหู รือคอยเปล่ียนแปลงไป ตามความจริงแลวเขามีความเปล่ยี นตัวเองอยูทกุ
ขณะ ไมมีการหยดุ พกั เหมอื นคนทาํ งาน จนถึงจดุ สดุ ทายของการเปล่ยี นแปลง แลว ก็สิ้น
สดุ ลงไปพักหน่ึง
สรุปความแลว ทกุ สวนในรา งกายมีความเปลย่ี นแปลงอยูตลอดเวลา ไมมีอาการ
ใดยับยัง้ ตัวไวได โดยไมถ ูกเปลย่ี นแปลงแมอ าการเดยี ว แตเปนสว นละเอยี ดจึงไม
สามารถทราบไดว า เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองอยางไรบาง อาศัยปญ ญาเปนเครือ่ งพิจารณา
ยอมรูเหน็ ไดชัดตามความเปนจรงิ ของความเปลยี่ นแปลง และมีทางปลดเปล้อื งอปุ าทาน
คือ ความยดึ มั่นในกาย อนั เปน ภาระหนักออกไดเปนลําดบั จนปลดเปล้อื งใหหมดไปโดย
ไมเหลอื เพราะอปุ าทานเปนเครื่องกดถวงใจใหจ มดงิ่ ลงไปในทางต่าํ อนั มีทุกขเปนผล มี
มากเทาไรก็มีทกุ ขมากเทา นัน้
ทา นกลา วไวว า อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา เราเคยไดเหน็ ไดย ินในคัมภีร สว นตวั จรงิ
ของธรรมเหลานีต้ ิดแนบอยูกบั กายกับใจของเรา แตเ ราไมร ูไ มเห็นจงึ ปลงไมต ก เพยี งจํา
ไดแ ตช่ือเทาน้ัน เหมือนคนจําชือ่ ของโจรไดว า นนั่ ชอื่ โจร ก. นนั่ ช่อื โจร ข. และนน่ั โจรชอื่
ค. เปน ตน แตก ารจําช่ือไดห รือไมไ ดน ้นั ไมทาํ ใหพวกโจรหยุดจากการทําโจรกรรม และ
ทาํ ความเยน็ ใจแกช าวบา น จึงไมสจู ะมปี ระโยชนอะไรนักจากการจาํ ช่อื ของโจรได โดยมิ
ไดมดั โจรใหอยใู นเงื้อมมอื การจําชือ่ ของไตรลกั ษณ คอื อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า เปน ตน ได
จึงไมทําใหเกดิ ประโยชนแกผ ไู มส นใจพิจารณาตามฐานะความจรงิ ของธรรมเหลา น้ี ทุกข
ก็คงเปนทุกข สมุทยั กค็ งเปน สมทุ ยั อยูอ ยางเดมิ ไมหยดุ ทํางานบนรา งกายและจิตใจของ
คน เพราะเราไมนําสจั จะเหลา น้ีเขามาพจิ ารณาใหร ูตามฐานะความจริงดวยปญ ญา อัน
เปน ทางรเู ทาและปลอยวาง
หากสนใจพจิ ารณาบา ง แมจ ะไมมองและพิจารณาไปทางอ่นื แตมองและพิจารณา
ลงไปในกายในจติ ก็พอจะรเู ห็นไดว า อาการของกายและจติ ทุกสวนทํางานเปน ไตรลกั ษณ
แวน ดวงใจ ๑๐๖
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๒๑ -อบรมฆราวาส
๑๐๗
ทัง้ น้ัน ไมม ีเรอ่ื งอ่ืนมาแฝงเลย เหตุใดจึงไมรูไมเ หน็ ทานผสู ั่งสอนเชนพระพทุ ธเจา
เปนตน กค็ งจะแปลกพระทยั ไมนอยทีพ่ วกเราเหยยี บย่าํ ธรรมของจรงิ อยูตอหนาตอตา
ทา น แตจ บั จดุ ธรรมไมถ ูก ควาหาธรรมไมพบ ไมท ราบวา จะใหท า นสอนวาอยางไรตอ ไป
อีก ผสู อนก็รสู ึกจะหมดภูมิธรรมของจริงท่ีรูเห็นมา เพราะผรู ับไปควาเอาของปลอมมา
ครองใจเสีย มากกวา จะรับเอาของจริงจากทานมาแกไ ขตนเอง เชน ทานสอนใหล งทงุ
กวาง แตพ วกเรากลบั ว่ิงเขา ปา ดงพงลกึ ไปเสียเชนนี้ คาํ สอนก็จะเปนประโยชนอะไรเลา
แมจะเปนธรรมของจริงและประเสรฐิ แคไ หน กค็ งเปนโมฆะสาํ หรบั พวกเราอยูน ัน่ เอง
พระกายและพระทยั ของพระพุทธเจา และกายใจของสาวกทานเปนธรรมของจรงิ
ทงั้ แทง แตก าย ใจของพวกเราจะเปน ของจรงิ หรือปลอมแคไหนกันแน นีเ่ ชือ่ แนวา มี
ความจริงเทา กัน ถา พิจารณาใหถึงฐานความจรงิ แตถาไมสนใจพจิ ารณาก็จะเปน ของ
ปลอมไปหมด และยังจะปลอมไปอีกตลอดกาล ไมมโี อกาสกลบั ตัวไดโดยลําพงั ถาไมใ ช
สติ ปญญา ศรทั ธา ความเพียร รื้อฟนใหก ลบั ตัวในเวลาท่มี ีชวี ิตอยูนี้ การใชสตปิ ญญา
ความเพียร ขดุ คนคล่คี ลายสวนตา ง ๆ ของกายและใจ อยา งไรจะตองรเู หตุรผู ลซอ นขึน้
มาในวงความเพยี รอยา งแนน อน ธรรมของจรงิ จะเลด็ ลอดตาขายแหงความเพยี รไปไม
พน สงิ่ จอมปลอมตองจนมุมวนั หนึง่ แนนอน ไมมีทางออก
วยั ขนาดเรา ๆ เปน วยั ที่ควรคิดตรองไปขา งหนา และยอนหลังเก่ยี วกบั สภาพ
การณทเี่ ปนมา เปน อยู และจะเปน ไปไดแลว จิตทนี่ อนจมอยกู ับกองธาตกุ องขันธแ ละ
กเิ ลสโสมม โดยถือวาเปน สมบัติอันพึงพอใจ แลว ประมาทนอนใจไมห าทางออก เมือ่ ถึง
กาลของธาตุขันธพงั ทลายลงตามสภาพของเขา เราจะไมหมดหวงั ในสมบัติอันพงึ พอใจ
และเกิดทกุ ขเดอื ดรอนขึน้ ในเวลาน้นั บา งหรือ? เราเปน นักบวชซ่ึงเปนเพศทสี่ ุขมุ ดว ย
ความคิดอา นไตรต รอง ทาํ ไมจงึ ไมค ิดใหละเอียดถี่ถวนในเรอื่ งที่เกย่ี วกบั ตน พอใหสม
กับเพศที่สุขมุ ดวยธรรมทน่ี ํามาครองตวั จะเปนความงามและเหมาะสมกบั เพศอยางยง่ิ
สวนท่เี ก่ยี วกบั การพจิ ารณาซ่ึงจะทาํ ใหแยบคายสําหรบั นักปฏิบัตคิ นควา ก็มเี พียงกายกบั
จติ เทานั้น ซ่ึงไมเหลอื กําลังแกการพิจารณา
อาการของกายทกุ สวนก็มีหนังหุมหอ เปนวงแคบอยแู ลว ไมก วางขวางและลึกลับ
อะไรมากนักพอจะพจิ ารณาไดทวั่ ถึง โปรดหย่งั ปญญาลงไปที่นั่น อยา ยอมปลอ ยจติ ตวั
คะนองใหเลด็ ลอดออกจากวงความเพยี ร ทุกอาการของกายและธาตใุ นรา งกายจะรูก ันขึ้น
ณ ท่นี ัน่ และปลอ ยวางกนั ได ณ ทนี่ น่ั ดวยอุบายของปญ ญา ซงึ่ เคยอธบิ ายใหฟ ง มาหลาย
แวนดวงใจ ๑๐๗
กัณฑเ์ ทศน์ท่ี ๑๐- :๑๓ป๓ัญญ- าถอดถอนกเิ ลส
๑๐๘
ครั้งแลว อุปาทานของกายเปนภาระกดถวงใจอนั หนงึ่ ผูถอดถอนอปุ าทานน้ไี ดช ่ือวา ผู
เปลอ้ื งทกุ ขไ ปไดขนั้ หนงึ่ รูส ึกเบาขึ้นมาก
อปุ าทานของใจกเ็ ปนภาระกดถวงใจไดอยา งละเอียดและแนบแนน มาก ตองใช
สตปิ ญ ญาอันทนั สมยั คอื มหาสติ มหาปญ ญา มหาวริ ยิ ะ เขา รวมกนั และขดุ คน ลงตรงท่ี
จติ รกั และสงวนมาก ๆ นน่ั แล จนส่ิงนนั้ ถูกทําลายพนิ าศลงไปแลว กลายเปน วิวัฏจติ ขึน้
มาในขณะนน้ั จากนัน้ กเ็ ปน ใจท่ีหมดสมมุติ แตเ ขา กันไดก ับสมมตุ ทิ ั่ว ๆ ไป ท้งั ดานวตั ถุ
และนามธรรมแตไ มต ดิ เพราะจิตทบ่ี รสิ ุทธเิ์ ปนจติ ทพ่ี อตัวแลว ไมจ าํ ตองหาอะไรมาเพมิ่
อีก การเพม่ิ เติมไมจัดเปน สนั ติ คอื ความสงบอนั แทจ รงิ และตายตวั ตามบทธรรมวา
นตถฺ ิ สนฺตปิ รํ สขุ ํ สขุ อ่นื ยิ่งกวา ความสงบไมม ี
เพราะฉะน้นั จติ ท่ยี งั ไมไดรบั การอบรมธรรม จึงมกี ารเอนเอยี งและนอ มไปตาม
ส่งิ ทมี่ าหลอกลวง ตามธรรมเนียมของจิตทแี่ สวงหาความพอตวั ยงั ไมเจอ จงึ ยบั ย้ังตัวไม
คอยได คอยแตจะลม ละลายไปตามส่งิ ทมี่ ายวั่ ยวนอยเู สมอ ยงิ่ เปน สิง่ ทีเ่ คยฝงนสิ ัยแลว รู
สึกวา แกไขดัดแปลงยากมาก ดงั น้นั หลกั นิสยั จงึ เปนส่ิงสําคญั ในตัวเรา ไมค วรมองขา มไป
โดยถอื วาไมสาํ คัญ เชนเราเคยดูหนังจนฝงนสิ ยั แลว ภายในใจคอยกระซิบใหพ าไปดหู นัง
อยเู สมอมไิ ดขาด จาํ ตองไดพ าไปเสียจึงจะผา นวนั ผา นคืนไปได ถาวนั ไหนไมไดไ ป แหม
ใจไมส บายเลย ใครมาพดู ใหเ คืองหูนิดหนอยไมไ ด คอยแตจ ะโกรธเอาทาเดียว นั่น
เพราะความเคยชินฝงใจ จนถอื เร่อื งเชน นั้นเปน กจิ สาํ คญั ประจํานิสยั ทงั้ น้ีเพราะการสง
เสริมและคลอ ยตาม จนกลายเปน ยาเสพยต ิดขนึ้ มาอยางฝง ลึกและแกไ มต ก
ขณะที่ดรู ูสึกเพลดิ เพลินใจ และนาํ เอาเรอ่ื งราวท่เี ขาแสดงมาครุนคดิ เปนอารมณ
ถงึ บทเพลินกเ็ พลนิ ถงึ บทรกั กร็ ัก ถงึ บทเศรา โศกก็เศราโศกไปตาม เงนิ คา ต๋ัว คาขา วตม
ขนมนมเนยและเครอื่ งดืม่ ชนดิ ตา ง ๆ ตลอดคาอะไรชนิดท่ีรูไมถ ึงก็เสยี ไป หลกั นิสัยท่ี
เคยเปนคนดีก็คอ ยเสื่อมเสียไปวนั ละเล็กละนอย รวมหลายครัง้ และหลายวนั เขา กม็ ากไป
เอง จติ ท่เี สียหลักแลว เลยหาท่ยี ดึ ไมได จึงกลายเปนจิตลอยลมไปเลย โดยไมม ีฝงมีฝาหา
ที่จอดแวะไมได
การกลาวทั้งนี้ กลา วเปนการเทยี บเคยี งเพ่ือเปนคติเตือนใจเพอื่ นมนุษยผหู วัง
ความเจรญิ แกต นเองและสวนรวม ควรสนใจในหลักนสิ ัยเปน สาํ คัญกวา อนื่ มไิ ดกลาว
เพ่ือตําหนิทั้งทา นผเู สนอเพื่อความสะดวกของประชาชน และทา นผูช มเพอ่ื เปนการผอ น
คลายอารมณท ีต่ งึ เครียดกบั งานมาตลอดเวลา และเพอ่ื ยดึ เอาสาระจากการชมมาบาํ เพ็ญ
ประโยชนแกต นและสวนรวมไดเ ทาทีเ่ ห็นควร เพราะทกุ สง่ิ ยอ มเปน ประโยชนแกผมู งุ
แวน ดวงใจ ๑๐๘
แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๔๑ -อบรมฆราวาส