The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ แว่นดวงใจ (ฆราวาส)
โดย
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebook.luangta, 2021-09-08 03:07:46

หนังสือแว่นดวงใจ

หนังสือ แว่นดวงใจ (ฆราวาส)
โดย
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดเกษรศีลคุณ(วัดป่าบ้านตาด)

๖๓

ศาสนาท่มี ีหลักเหตุผลบนหวั ใจดวยแลว จงึ ควรพิจารณาโดยรอบคอบในกิจการทกุ อยาง
ไมควรทาํ ไปแบบสมุ เดาโดยถอื วา ไมจ ําเปน และไมส ําคญั เพราะผลดชี ่ัว สขุ ทุกข จะเปน
สมบัติของผทู ํา แมตนจะถือวาไมจ าํ เปน และไมส ําคัญก็ตาม

ผูมธี รรมวนิ ัยประจําใจ ยอมมีการใครค รวญดว ยดกี อ นทาํ กิจทกุ อยาง ผลจงึ เปนที่
พงึ พอใจไมกระทบกระเทอื นตัวเองและผอู น่ื และไมถือคําวายากหรืองายมาเปนหลกั
สําคัญกวา ความเหน็ วา ควรทาํ หรือไมค วรทํา เพราะเลง็ เห็นผลทจ่ี ะพึงไดร บั ไมดอ ยกวา
เหตทุ ีจ่ ะทาํ ลงไป เมอื่ เหตุกับผลลงกนั แลวยากก็ตองทํา งายก็ตองทํา ไมค ํานึงถงึ ความ
ยากลาํ บาก

การบาํ เพญ็ เพียรมาเปน ลําดบั นบั เปน เวลาหลายวนั หลายเดือน และหลายป แต
ผลไมปรากฏขนึ้ มาประจักษใ จ น่ีเปน เพราะเหตุใด เขาใจวา เปน เพราะสักแตว ากิริยาแหง
การทาํ เทา น้ัน แตหลักใหญซ ึ่งเปนองคแหงเหตจุ รงิ ๆ คอื การบําเพญ็ อันเปน ไปดว ย
ความจงใจ มสี ตแิ ละปญ ญาเปนเคร่ืองควบคุม ไดบกพรอ งหรือขาดไปในระยะนัน้ ๆ ยงั
เหลอื แตก ิริยาของการบาํ เพญ็ เทา น้ันปรากฏตัวอยเู ฉย ๆ ผลจึงไมปรากฏตามทค่ี าดไว
หากมีความเพียรสมบรู ณตามองคภาวนาจรงิ ๆ ผลจะขัดขนื และแยง เหตไุ ปไมไ ด ตอง
แสดงออกมาประจกั ษใจโดยแนน อน

ความยากลําบากในการบําเพญ็ เพื่อร้อื ถอนตนใหพน จากทกุ ขน้ี รูสึกจะเปน
อุปสรรคแกผ บู ําเพ็ญอยูไมนอย แตควรนาํ ไปเทยี บกบั ความทกุ ขลําบาก ท่เี กีย่ วแกก าร
เกดิ การตายในภพท่ีเปน มาเปนอยแู ละจะเปนในอนาคต ลองดทู างไหนจะมีทุกขม ากกวา
กันและมคี วามยดื เยื้อกวา กนั เพยี งเทานกี้ ็พอจะตัดปญหาความลาํ บากในการบาํ เพญ็ ที่
เคยถอื วาเปน อุปสรรคออกไปได ความเพยี รพยายามทุกประโยคกจ็ ะเปนไปดว ยความ
มานะอดทนและสนใจตอ หนา ทข่ี องตนมากขนึ้ ทกุ สงิ่ ทเ่ี คยขัดของกจ็ ะเปน ไปเพือ่ ความ
สะดวกและราบร่นื คงไมเปน ทาํ นองกา งคอยจะขวางคอในเวลาจะบําเพ็ญความดีทุก
ประเภทอยางท่เี คยเปนมาทงั้ ทา นและเรา เพราะตางกม็ ีส่ิงที่คอยกระซิบใหแยกทางจาก
ความเพียรอยเู ชนเดียวกนั

การกําหนดภาวนาขอใหหยัง่ ลงสูกายคตา คือสวนรา งกายทง้ั หมดหรอื สว นใดสวน
หนงึ่ ไมตองไปคํานึงวา จะถูกหรอื ผดิ ในเวลาน้นั เพราะกายน้ีเปนหลกั สัจธรรมดวย เปน
หลกั สตปิ ฏ ฐานส่ีดวย ถา ใจดาํ เนนิ ไปในกายอนั เปน หลกั ของธรรมทง้ั สองประเภทนน้ั
สถิตอยแู ลว ตองเปน มรรคปฏิปทาเพอื่ ความพนทุกขเปนลําดบั ไป ขอ สาํ คัญขอใหมี
ความจงใจตัง้ หนา ทาํ จรงิ ๆ วันนจ้ี ิตดูดด่มื ในอาการน้ี วันหลงั จิตดดู ดมื่ ในอาการนน้ั และ

แวน ดวงใจ ๖๓

กัณฑ์เทศนท์ -่ี ๖๘๕: ก-ิเลศ-อริยสจั

๖๔

พจิ ารณาอยา งนัน้ รเู ห็นในอาการนน้ั อยางนนั้ มอี าการแปลกตางกนั ในอาการของกาย
และการพจิ ารณากต็ าม ถาอยใู นหลกั ของกายแลว ชือ่ วาไมผ ดิ หลกั สติปฏ ฐานและอรยิ สัจ
ซ่งึ เปนธรรมรบั รองเพ่อื ความถกู ตองอยูแลว

การพิจารณาจะหนักไปในอาการใดของรา งกาย อาการนน้ั จะไมทําใหผิดจากองค
ของการภาวนา แมค วามรสู กึ ทเ่ี กดิ จากการพจิ ารณากายคตา จะผิดแปลกกนั ไปตามวาระ
ของการบาํ เพ็ญ กป็ ลอ ยใหเปน ไปตามนั้น อยา นําความสงสยั เขาไปทาํ ลายความรแู ละการ
พิจารณาในขณะน้นั จิตจะหยุดชะงักไมกาวตอไปอีก การเห็นกายดว ยสญั ญาจดั เปน บาท
ฐานเบื้องตน เพราะเบ้อื งตน ตอ งอาศัยสัญญาคาดหมายไปกอ น ปลอ ยจิตใหคลอ ยตาม
ปญญาก็ทําหนา ท่ีไตรต รองไปตามเสนทางทีส่ ัญญาคาดไว การใชขนั ธใ หเปน ไปในทางแก
กิเลสอาสวะ ไมวา ขนั ธใดท่คี วรแกการงานในเวลาน้นั จงนาํ ไปใชไดต ามที่เหน็ สมควร
เพราะการแกห รอื การผกู ทง้ั สองนี้ตองอาศยั ขนั ธเปน เครือ่ งมือทาํ งาน คอื ฝา ยกิเลสและ
ฝายธรรมจําตอ งอาศัยขนั ธเ ปนเครื่องมอื ของตน ไมเ ชน นั้นจะสาํ เรจ็ เปนกิเลสและธรรม
ขน้ึ มาอยางออกหนาออกตาไมไ ด การบาํ เพ็ญโดยถูกตองตามองคภาวนา จะตองปรากฏ
ผลประจกั ษอยา งแนน อน

ความสงบเยอื กเย็นเปน สมาธิ เราไดย นิ แตครูอาจารยพ ดู ใหฟงและไดยนิ แตทาน
กลา วในตาํ รา แมกิเลสบาปธรรมก็ไดยนิ แตท า นกลา วไวในตาํ รา แตเ รื่องของธรรมคอื
ความสงบเย็นใจเปน ขัน้ ๆ จนถึงข้ันสงู สดุ และเรื่องของกเิ ลสบาปธรรมทีแ่ ทจ ริงนัน้ เรา
ไมร ูว าเปน ใครและอยูท ่ีไหนเวลาน้ี ทั้งธรรมทงั้ กเิ ลสเคยแสดงตัวใหป รากฏกับเราบาง
ไหม ทางท่ีกิเลสเกดิ ขน้ึ น้ัน เกิดขนึ้ จากทางใดบาง ทางเขาและทางออกของกิเลส เขา
อาศัยทางสายใดบางเปนท่ีเขา ทอี่ อกและที่เกดิ ข้นึ พอแมของกิเลสคืออะไร เราเคยเหน็
แตพ อ แมข องสัตว พอแมของคน แตไมเ คยเห็นพอแมของกิเลสอยา งแทจรงิ และเราเคย
เห็นแตช่อื ของกิเลสตณั หาท่ที านกลาวไวใ นคัมภรี  น้นั เปน ช่อื ของกเิ ลสตัณหา น้ันเปน พอ
แมของคน ของสัตวต า งหาก ไมใ ชเ ปน กิเลสตณั หาและไมใ ชพ อแมข องกเิ ลสตณั หาอนั แท
จรงิ

เพราะเหลา น้นั มไิ ดมาทําความกระทบกระเทือนเราใหไดความทกุ ขร อน และไม
ใชเรือ่ งของธรรมทีจ่ ะยงั ความสุขความเจริญใหเกดิ ขน้ึ ภายในตน นอกจากขนั ธคือกายกับ
ใจนีท้ ไี่ หวตวั ไปทางผดิ หรอื ทางถกู ซ่ึงเปนทางเกิดขนึ้ แหง กิเลสและธรรมเทา นั้น นคี่ อื
เร่อื งของกเิ ลสอาสวะและเรอ่ื งธรรมอนั แทจรงิ อวชิ ชาที่อาศยั ใจเกดิ ขนึ้ ทําใหค นและสัตว
กลายเปน ผมู กี ิเลสตณั หาไปตาม นี่แหละคือพอ แมของกิเลสตัณหาอนั แทจ ริง ถาไม

แวนดวงใจ ๖๔

แว่นดวงใจ : ภ-าค๘๖๑- อบรมฆราวาส

๖๕

สามารถคลีค่ ลายเรือ่ งของตวั ออกใหร ูช ัดวา สว นไหนดี สวนไหนชัว่ ตัวเราเองก็จะเปน
กิเลสวันยังคา่ํ และตกนรกหลมุ อารมณตลอดกาล ไมมีฝงมีฝา มีเขตมแี ดน เสวยอารมณ
ทกี่ ิเลสปรุงใหอ ยา งเผด็ รอ นไมม ีวันสิ้นสุดลงได

ไมเคยเหน็ แบบแผนตาํ ราไปตกนรกขน้ึ สวรรคช นั้ พรหม สาํ เรจ็ มรรคผลนพิ พาน
และไปทาํ โจรกรรมทํารา ยตดิ คุกตะรางทไ่ี หน เปนแตบอกชื่อกเิ ลสของธรรม ของผูทําดี
ทําช่ัว ผูบริสุทธิเ์ ศราหมองไวเ ทาน้นั การทําความดีความชว่ั เปนเรอ่ื งของคนของสตั ว
เพราะฉะนัน้ กิเลสบาปธรรมจงึ อยูกับคนและสัตว เราเปน ผูหนงึ่ ในมวลมนษุ ย จงึ ควรทาํ
ความรสู กึ วา เปนตวั กิเลสหรอื เปนธรรมกนั แน คลี่คลายดใู หด ี จะไดร เู หน็ ท้งั เรื่องของ
กิเลสและเรื่องของธรรมภายในใจเราเอง โดยไมตองไปหาคนดทู ไ่ี หนใหเสียเวลาและ
เหนด็ เหน่ือยเปลา ๆ ถา ผูบ าํ เพญ็ มีความสามารถอาจหาญปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรมทช่ี ้ี
บอกไว จะควา เอาชยั ชนะมาไดเ ปน ระยะ ๆ จนถงึ ความบริสุทธโิ์ ดยส้ินเชิงจากกายกับใจนี้
แนน อน

การมองหากิเลสตัณหาอนั แทจ รงิ จะไปมองที่ไหนกัน ถา ไมมองดูกายกับใจอนั
เปน สถานท่ีอยูข องกเิ ลสและธรรมแลว จะไมพบของจริงตลอดกาล เพราะตํารากบั ตวั ยา
ไมเ หมอื นกนั และไมไดอ ยดู ว ยกัน แตอยคู นละแหง เราตองไปดชู อ่ื ของยาท่ีตําราแลว ไป
รับเอายาทีต่ ูย า เราจะพบความจรงิ ทั้งสองอยาง คือตําราก็จะรู ตวั ยากจ็ ะไดมาสม
ประสงค นี่เราตอ งไปดชู อื่ ของกเิ ลสตณั หา และธรรมเคร่อื งแกท ่คี มั ภีร แลว มาแกไ ขหรอื
ถอดถอนกเิ ลสตัณหาดวยธรรมท่ตี ัวของเรา เราจะพบความจริงทงั้ สองประเภท คือเร่อื ง
ของกเิ ลสก็จะรู การถอดถอนกเิ ลสดว ยธรรมกจ็ ะประจักษใจ ภายในกายในใจนแ้ี ล

ขอยกอรยิ สัจมาเปน ตวั อยางพอไดความ ทกุ ฺขํ อะไรเปน ทุกขแน มันเปน เรอ่ื งของ
เราของทานทง้ั น้นั โปรดไปดทู ีโ่ รงพยาบาลจะเหน็ แตคนและสัตวเตม็ ไปหมด จนไมม ี
หอ งใหอยู ไมมเี ตยี งใหนอน แตจะไมพบตําราไปแทรกอยูท ีน่ น้ั เพอ่ื รกั ษาตวั แมค มั ภรี 
เดียว สมุทยั ความฟุง เฟอเหอเหมิ เกิดจากกามตณั หา ภวตัณหา และวภิ วตณั หาเหลา น้ี ก็
เปน เรื่องของเราของทา น มรรค คอื ทาน ศลี ภาวนา หรอื ศีล สมาธิ ปญญา น่กี ็เปน เรอ่ื ง
ของเราของทาน จะบาํ เพญ็ ใหเกดิ มขี ้ึนตามความหวงั นโิ รธ ความดับทุกขก เ็ ปน เรือ่ งของ
เราของทานจะดบั ทุกขของตัวเองแตละรายตามธรรมในตํารา ทา นชเ้ี ขา มาหาเรา มิไดชี้ไป
ท่อี นื่

เมอื่ เปน เชนนี้ เราจะเห็นอะไรเปนตวั บาปตัวบญุ โปรดทวนดอู กี ครงั้ เพอื่ ความแน
ใจ คือความรมุ รอนอยทู ไี่ หน บาปกอ็ ยูท น่ี ่ัน ความสขุ สบายอยูที่ไหน บญุ ก็อยูที่น่ัน ความ

แวน ดวงใจ ๖๕

กัณฑเ์ ทศน์ท-่ี ๖๘๗: ก-ิเลศ-อริยสจั

๖๖

เศรา หมองอยูท่ีไหน กิเลสก็อยูที่นัน่ ความผองใสและบริสทุ ธ์อิ ยูท่ไี หน ธรรมกอ็ ยทู น่ี ่ัน
รวมลงแลว มนั อยูที่เราทงั้ น้นั ไมไ ดอ ยใู นทอ่ี ่ืนใด จึงไมน า สงสยั อะไรอกี มอี ยเู พยี งวาเรา
จะทําความสนใจตอการบาํ เพ็ญแคไ หน เพอ่ื ทราบเรอื่ งของตวั กับเร่ืองของกเิ ลส ถาทราบ
แลวกเ็ ทากบั ทราบเร่อื งสุขเรื่องทุกขภายในภายนอกโดยตลอด เพราะเปนเรื่องอรยิ สัจ
อยา งสมบรู ณ แมหลดุ พนก็จาํ ตองหลดุ พนไปในระหวางอริยสจั ทง้ั สี่น้ี ไมม ีท่ีอน่ื เปน ทาง
หลุดพน ฉะน้ัน จงใชสตปิ ญญาพจิ ารณาลงในทุกขอ ยางรอบคอบ เพือ่ ทราบวา ทกุ ขเกดิ
ขึน้ มาจากอะไร และอะไรเปนสาเหตุใหทุกขเกิด กจ็ ะทราบเร่ืองทุกข สมุทัย ซงึ่ มีอยูในจุด
เดียวกนั อยา งแนนอน ไมเชนน้ันพระพทุ ธเจา จะอุบตั ขิ น้ึ เปนศาสดาของโลก และตรัส
เปนสวากขาตธรรมโดยชอบใหพ วกเราศึกษาและปฏิบตั ิตามไมไ ดเลย พุทธฺ ํ ธมมฺ ํ สงฺฆํ
จะไมป รากฏขนึ้ ในโลก

โปรดทําความม่ันใจและหาวหาญตอความเพียรเพ่ือแดนพนทกุ ข อยาถอยทัพให
ขา ศึกคือกเิ ลสหัวเราะเยาะและเหยยี บย่ําลํ้าแดนแหง ความเพยี รเขามา เราจะตกอยูในวง
ลอมของขาศึกหาทางออกไมได การบาํ เพญ็ มรรค คอื ศีล สมาธิ ปญญา ดวยความเพยี ร
จงทําใหส มบรู ณถงึ ขั้นรูทกุ ขกจ็ ะรอู ยา งสมบรู ณ รแู ละถอนสมทุ ยั กจ็ ะรูและถอนอยาง
หมดเชอ้ื นิโรธความดับทุกขด ว ยมรรคก็จะดับอยางสมบรู ณ เพราะธรรมท้ังส่ีประเภทนี้
เก่ยี วโยงกนั จะแยกจากกนั ไมไ ด เมอื่ รูรอบสจั จะทงั้ สนี่ แ้ี ลว ความบริสทุ ธิ์กป็ รากฏข้นึ มา
เอง แมจะไมเ คยทราบมากอนกไ็ มม ที างสงสัย เพราะไมม สี องมีสามกับอะไรอีก พอจะให
ผบู รรลถุ งึ ความบริสทุ ธ์ิแลวเลือกหาเอา แตธรรมนั้นเปน เอกธมฺโม คือ เปน ธรรมแทง
เดยี วนอกสมมตุ ิ สุดทจ่ี ะสงางามและอัศจรรยเหนอื โลกใด ๆ จึงหมดปญหาจะเปนอยา ง
อน่ื อกี

การแสดงธรรมเพือ่ ผูมงุ ตอ แดนพนทุกข ซง่ึ เตรียมพรอมแลว จะแสดงไปท่ีอน่ื ๆ
จึงขอเรยี นใหทราบอยางเปนกันเอง รูสกึ วาไมค อ ยถนดั ใจ คลายกบั ตะครุบเงา แตถาได
แสดงลงท่กี าย ทใ่ี จซึ่งเปนเรอื นรงั ของอรยิ สัจแลว รูสึกวาสนิทใจ เพราะเทาที่ไดปฏบิ ัตมิ า
กป็ ฏบิ ัตอิ ยา งนี้ หากจะรมู ากนอยตามกาํ ลงั ก็ไมไ ดรูจ ากทไ่ี หน แตร ขู น้ึ มาทนี่ ่ี แมธรรมที่
กําลงั แสดงอยูข ณะนกี้ ็ไมไ ดไ ปหามาจากทไ่ี หน นอกจากจะนํามาจากทานจากเราซง่ึ เปน
เรือนรา งของสัจธรรมดว ยกันเทา นัน้ ไมม อี าํ นาจวาสนามากมายพอจะไปแสวงหาธรรม
นอกจากอรยิ สัจ ซงึ่ มีอยูกบั กายกับใจมาแสดงใหหมูเพือ่ นฟง ได ดังน้นั จงึ ขออภัยจาก
ทานผฟู งมาก ๆ ดว ย ทไี่ มไ ดธรรมแปลกประหลาดมาปฏิสันถารตอนรับทาน ทม่ี าจากท่ี
ตา ง ๆ ท้ังใกลและไกลอยางสมใจ ทั้งนีเ้ พราะความจนใจดงั ท่เี รยี นใหท ราบแลว

แวนดวงใจ ๖๖

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๘ค๘๑-อบรมฆราวาส

๖๗

ไดท ราบแตพระพทุ ธเจา สอนพวกเราท่เี ปน พทุ ธบริษทั ทานยกเอาเรือ่ งของทา น
และของเรามาส่งั สอนพวกเรา โดยบอกวาเปนอริยกจิ เสมอกนั ท่วั ไตรภพ การปฏบิ ตั กิ ็ให
ถอื เอาอริยสจั เปน ทางเดนิ ยกเอามรรคเปน เสนทาง เราเปน ผูก าวเดินตามเสน ทาง ทุกข
กบั สมุทัยเปนหนิ กรวด ทราย ทโี่ รยบนเสนทางผสมดวยยาง รวมทกุ ข สมทุ ัย มรรค เขา
ดวยกันกลายเปน ถนนลาดยาง ผเู ดนิ ทางก็กาวไปโดยสะดวกไมขลุกขลกั จนถึงทห่ี มาย
นโิ รธ คือหยุดจากการเดนิ ทาง ผลทีเ่ กิดจากการหยุดเดนิ เปนความสุขสบาย เพราะหาย
กงั วลจากการเดนิ และการหยดุ โดยประการท้ังปวงแลว นัน่ คือธรรมนอกจากสจั จะท้ังสี่
ธรรมนีผ้ ูเ ดินทางถงึ ทแี่ ลวเปน สันทิฏฐโิ ก รูเอง ไมตองถามใคร เพราะสนั ทฏิ ฐโิ ก เปน
มัชฌิมา ไมรอคอยอยกู าลหนา กาลหลัง เน่อื งจากธรรมนี้ไมใ ชรถยนต รถไฟ พอจะเขาควิ
รอเวลา ผูจะควรรับผลจากสันทฏิ ฐโิ กก็ไมใชค นโดยสารรถยนต รถไฟ พอที่จะไปรอที่คิว
และรอเวลารถจะออกจะเขา

ในอวสานแหงธรรมท่แี สดงมาก็เหน็ สมควรแกก าล ขอความสะดวกกายสบายใจ
ตอการบําเพญ็ ธรรม จงเปนไปในทานทงั้ หลาย นบั แตข ั้นเรมิ่ แรกจนถึงจุดทหี่ มาย อยา
ไดมอี ปุ สรรคมากีดขวางในวงการ จงมแี ตค วามสขุ ความสาํ ราญ ประจําอริ ิยาบถความ
เคลอื่ นไหว ทกุ ทิวาราตรีกาล โดยนัยท่ไี ดแ สดงมาดว ยประการฉะนี้

www.Luangta.or.th

แวนดวงใจ ๖๗

กัณฑเ์ ทศน์ท-่ี ๖๘๙: ก-ิเลศ-อริยสัจ



กัณฑ์ที่ ๗ ๖๘

เทศนจอ รบติรมนฆสิ รัยาวใานสกณารวดับปำ�า เบพา ็ญนตาด

เม่ือเวทมนั ่ือเุกทวทนัศข่ี ๒ทนป่ี๒อ์ ๒บร๒กระมมุ กจฆภุมรําาภาพสวาาพนัตั สนั ธวธณ์พแพทุ วุทลธัดธะศปศา่บกัักบรรุคา้าานชชคต๒๒าลด๕๕๐๐๘๘

การฝกหัดอบรมตวั เองควรจะใชความสังเกตสอดรูนิสัยของตวั เพราะคนเรานสิ ยั
ไมเ หมอื นกัน เชนเดียวกบั เหลก็ ซ่งึ มหี ลายประเภท แตจะยกมาเทยี บเพียง ๔ ประเภท
พอเขา รูปกัน คือ ประเภทท่ีหนง่ึ เปนเหล็กกลาและเหนียว คุณภาพกด็ ีเยย่ี ม ประเภทท่ี
สองเนื้อเหล็กและคณุ ภาพลดกนั ลงมาบาง แตอยูในเกณฑดี ประเภทท่สี าม เน้อื เหลก็
ออ นคุณภาพไมสูจะดี แตย งั อยใู นเกณฑพอใชไ ด ประเภทท่ีสี่เปนเหล็กทเ่ี ลวมาก ทัง้ คณุ
ภาพไมดเี ลย เพยี งสกั แตวา เหลก็ เทา นน้ั ไมค อยมีใครสนใจนาํ ไปทําประโยชน

นายชา งก็มี ๔ ประเภท คอื นายชางท่หี นึ่ง มคี วามฉลาดและชํานาญ ทง้ั รเู น้อื เหลก็
ทกุ ประเภทไดอยา งดีเย่ยี มดว ย นายชา งทส่ี องมีความฉลาดและชาํ นาญรองกันลงมา แต
อยใู นเกณฑด ีมคี วามสามารถพอสมควร นายชา งทีส่ าม พอทําไดแ ตไมคอยมีความฉลาด
และชาํ นาญ ทาํ เหลก็ ทไี ดท ีเสยี เอาแนไ มคอยได และนายชา งที่สไ่ี มเปน ทาอะไรเลย ไว
วางใจไมได ขาดความเชื่อถอื จากนายชางท่ัว ๆ ไป ไมคอ ยมีคนมาวา จางใหทํา เพราะ
กลวั จะทาํ เหลก็ เขาใหเ สอ่ื มคณุ ภาพและเสยี ไป

เหล็กประเภททห่ี นงึ่ ท้งั นายชางก็เปน ประเภททห่ี นึ่ง มคี วามฉลาดและชาํ นาญใน
เน้อื เหลก็ ทกุ ประเภทดวย ยอ มสามารถทาํ เหล็กทั้งสามประเภทใหเ ปน เครื่องใชช นิดตา ง
ๆ ไดด ีมาก ทง้ั คุณภาพกส็ งู เยย่ี ม และยงั สามารถเสริมคุณภาพจากฐานะเดมิ ของเหลก็
ประเภทตาง ๆ ใหด ขี ้นึ ไดด ว ย

นายชางประเภททส่ี อง มคี วามฉลาดพอสมควร และมคี วามสามารถทําเหลก็ สาม
ประเภทใหท รงคุณภาพเดิมไวได และใชป ระโยชนไ ดด ีพอสมควร แตไมส ามารถเสรมิ
คณุ ภาพของเหล็กทกุ ประเภทใหดขี ึ้นจากฐานะเดมิ เทานัน้

นายชา งประเภททีส่ าม ไมอาจทําเหล็กสามประเภทใหทรงคุณภาพตามฐานะเดมิ
ของตนไวได ทั้งอาจทําเหลก็ สามประเภทใหเ ส่อื มคณุ ภาพลงไดดวย

สว นนายชางประเภทที่สีน่ ั้น รูสึกจะไมเปน ทเ่ี ชอื่ ถือของนายจางทั่ว ๆ ไป แมมผี ู
นําเหลก็ มปี ระเภทตา ง ๆ มาวา จา งใหทาํ เคร่ืองใชช นิดตา ง ๆ แทนทีจ่ ะไดคาจางแรงงาน
จากเจาของเหล็กผมู าวา จางใหทาํ แตกลับทําเหล็กประเภทที่หนง่ึ และที่สองของเขาใหล ด

แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศนท์ ี่ ๗ -: จ๖๙ร๑๘ิตน-ิสยั ในการบำ�เพญ็

๖๙

คุณภาพลงมากเกือบจะใชการอะไรไมไ ด และทําเหล็กประเภททส่ี ามของเขาใหเสยี ไปเลย
จําตองชดใชคาเสยี หายใหแกเ ขา จนตัวเองเสยี หายปน ปไ ปหมด

บคุ คลกม็ ี ๔ ประเภทดังทา นกลาวไว อคุ ฆฏิตญั ู รูธ รรมไดอ ยา งรวดเร็วทันใจ
หมาย วปิ จิตญั ู รูธรรมไดร องลาํ ดบั กนั ลงมา เนยยะ พอแนะนาํ สง่ั สอนได เสมอทา น
เสมอเรา และ ปทปรมะ บุคคลประเภทท่หี นามาก จนไมเ ชอื่ วา บาปมี บญุ มี หรือสูญไป
เลย แมเ ขาจะหาบหามสิง่ เหลานี้อยบู นบา กไ็ มร วู า ดี ชัว่ บญุ บาปเปน อยางไร พระพุทธ
เจาจงึ จัดเปน บคุ คลประเภททหี่ มดหวังเพราะชวยอะไรไมได ถา เปน คนไขก ็เรียกวา ท้งั
หมอทงั้ ญาติหมดหวัง ไมมีทางฟนตอไปได นอกจากจะเตรียมกสุ ลามาติกาไปตาม
ระเบยี บและธรรมเนยี มของคณะญาติทน่ี บั ถือพุทธเทาน้ัน แตจ ะไดบ ุญหรือไมนน้ั ไมร ับ
รอง เพราะเปน บุคคลทสี่ ้นิ หวงั มาแตปทปรมะอยแู ลว ผใู หบ ุญก็ไมอ าจทราบวาเขาจะ
ตองการอะไรหรือไม แตข ัดคาํ นิมนตไมไดจ ําตอ งไปตามคาํ เช้ือเชิญ เพราะพระกบั ญาติ
โยมเปนเร่อื งแยกจากกนั ไมอ อกตง้ั แตไหนแตไ รมา และเผ่อื ทานผูหวงั บุญจะไดร ับ
ประโยชนจากกุสลามาตกิ าเทาทคี่ วร

อาจารยผ ใู หธ รรมกม็ ี ๔ ประเภท ประเภทท่ีหนง่ึ ขอนอ มเกลา ทูลพระพทุ ธเจา
ของเรา ประเภทท่ีสอง ขอนอมถวายพระสาวกอรหนั ตทา น ประเภทที่สาม ยกถวายครู
อาจารยผ อู าวโุ สดวยอายุพรรษา และคุณวฒุ ทิ ี่ทานไดเลา เรยี นและปฏบิ ตั ิมากอน สว น
ประเภทที่สนี่ ้ยี กใหพ วกเราท่ปี ฏบิ ัตแิ ละรธู รรมพองู ๆ ปลา ๆ และสอนกันไปแบบงู ๆ
ปลา ๆ ตามธรรมเนยี มที่เขาเสกสรรวา “เปน อาจารย” ถา ไมต อบกม็ คี นมาถาม ถาไม
สอนกม็ ีคนมาเรยี นดว ย จึงรสู ึกลําบากท่เี ปนอาจารยต ามคาํ เสกสรร เพราะไมใชอ าจารย
ที่ทรงคณุ ธรรมภายในใจและควรแกก ารสัง่ สอนอบรมผใู ครต อความดีท่มี าศึกษาดว ย

อาจารยม ี ๔ ประเภท และบุคคลมี ๔ ประเภท ในคร้งั พุทธกาลพวกเราก็พอจะ
ทราบไดว า คนดี คนช่วั คนโง คนฉลาดมีสับปนกนั อยู แมสมยั ปจ จุบนั เมือ่ ยกเวน
อาจารยป ระเภทหน่งึ แลวกค็ งจะมบี ุคคลประเภทดงั กลา วนีป้ ะปนกันอยู ดงั นั้นอาจารย
สามประเภทดงั กลาวจงึ อาจมีสับสนปนกันมาตามลําดับกาล

คาํ วา อาจารยย ังแยกออกเปน สองแผนก คอื อาจารยผ ูคอยสังเกตสอดรจู ริตนสิ ัย
และความประพฤตผิ ิด ถูก ชวั่ ดีของตน วาควรจะฝกฝนดดั แปลงตนอยางไร ดวยวิธใี ด
บา ง จงึ จะเหมาะสมและไดร บั ประโยชนเปน ขัน้ ๆ ไป ท่เี รยี กวา อาจารยภายในหนึ่ง

อาจารยผใู หก ารอบรมสง่ั สอนแกผูมาศึกษาอบรมดวย วา จะควรสงั เกตรอบรูจรติ
นิสยั และความประพฤติของผมู ารบั การศึกษาอบรมอยางไรบา ง และจะควรใหอบุ ายสงั่

แวน ดวงใจ ๖๙

แวน่ ดวงใจ : -ภา๙ค๒๑- อบรมฆราวาส

๗๐

สอนอยางไรจึงจะเหมาะ และเปน ประโยชนแกผ ูมาศกึ ษาตามขน้ั ภมู แิ หงความรแู ละจริต
นิสยั ทีเ่ รียกวาอาจารยภายนอกหน่งึ

อาจารยทัง้ สองนเี้ ปน เรอื่ งสาํ คัญไมน อ ย สําหรับผูจะหวังพงึ่ ตนเอง และผยู งั ไม
สามารถจาํ ตองอาศัยอาจารยผแู นะแนวทางให เฉพาะผูห วงั พ่งึ ตนอันเปน หลกั ประกนั
สําคญั ตองพยายามสอดรคู วามประพฤติและจรติ นิสัยของตนอยเู สมอ วาจะควรปฏบิ ตั ิ
ตอ ตนอยา งไรแคไหน จงึ จะพอเหมาะแกนสิ ัยและกําลงั ของตวั ผลท่ีเกิดจากการสังเกต
ตัวเอง ถารวู า เรามีนสิ ัยหยาบละเอียดแคไ หน จากนน้ั กพ็ ยายามดัดแปลงตัวเองไปตาม
นิสยั ท่ีตนเหน็ วา หยาบหรือละเอยี ด ถา นสิ ยั เราหยาบ การบําเพ็ญเพียรพอประมาณไม
เห็นผลปรากฏ จาํ ตอ งเรงขอวตั รปฏิบตั แิ ละความพากเพียรภายในใจเขา ใหมากกวา ปกติ
ธรรมดา เชนเดยี วกบั นายชางตเี หลก็ ถาเหล็กยังอยใู นข้นั หยาบซงึ่ ควรจะตีใหหนักมอื
เขาตองลงกาํ ลังแรง เมอ่ื เหล็กละเอยี ดลงไป ซง่ึ ควรจะถงึ จุดท่ีหมายแลว เขากเ็ บามือลง
เมอ่ื ถึงจดุ ท่หี มายแลวเขากห็ ยุด จากนนั้ เขาก็เปลยี่ นเครอ่ื งมือใหมใ หพ อเหมาะสมกนั กบั
เหลก็ ซง่ึ ตองการความละเอียด คอ ยขัดสีอยา งระมดั ระวงั จนถึงจดุ ทตี่ องการ แลว เขาก็
หยดุ ทนั ที

การสังเกตนสิ ัยของตวั กต็ อ งทาํ เชน นนั้ เหมอื นกนั ถาจติ ยังอยใู นขัน้ หยาบมาก จาํ
ตอ งทรมานกนั ใหห นกั บา ง แมจะทนลําบากกต็ อ งฝนและอดทนจนจติ หายพยศ เพราะ
นิสัยตางกัน คือผมู ีนิสยั หยาบ กลาง และละเอยี ด แมใ นคน ๆ เดยี วก็ยังมหี ยาบ กลาง
และละเอยี ดตามสมัยกาล การฝก อบรมจึงจะทําแบบเดียวไมไ ด จาํ ตอ งเปลี่ยนแปลงไป
ตามจิตทเ่ี ปลย่ี นแปลงตัวเองไปเปนระยะ ๆ เชน จติ ประเภทละเอยี ดอยบู า งแลว พอได
รบั การอบรมจากครูอาจารย แลว นาํ ไปปฏบิ ัติก็ปรากฏผลไดเ รว็ จิตประเภททีส่ องตองทํา
ครงั้ แลว คร้งั เลา จนพอแกกาํ ลงั จะเปน ความสงบไดกป็ รากฏผลข้ึนมา

สวนจติ ประเภทท่สี ามไมคอยจะไดเร่อื งไดร าวอะไรเลยในขั้นเรมิ่ แรก ทง้ั ไมทราบ
วา จติ ของตนเปน อยางไร แมน่ังภาวนา จติ ไมเคยมคี วามสงบเยอื กเย็นเลย น่ังเพียงสอง
สามนาทกี ็บนวาจะตายแลว ถงึ กบั รองหาพอหาแม จะพาน่ังภาวนาคราวไรคลา ยกับจะถกู
นาํ เขา ตะแลงแกง เหมือนเขาจะนาํ สัตวไปสทู ฆ่ี า ทั้ง ๆ ทีก่ ็ทราบอยูวาเราไมใ ชส ตั ว
ประเภททจ่ี ะถกู นําไปเพื่อขน้ึ เขียงฆา แตเ ราเขาสหู อ งเพอื่ ทาํ ความสะอาดแกจิตดว ย
เครอื่ งซกั ฟอก คือธรรมอันเปนธรรมชาตสิ ะอาดยิ่งเทา น้ัน เพราะจิตน้ีสกปรกมาก จึงทํา
ความทกุ ขใ หแ กต ัวอยตู ลอดเวลา ไมว าเวลาอด เวลาอมิ่ เวลาม่งั มี และเวลายากจน มัน

แวน ดวงใจ ๗๐

กณั ฑเ์ ทศน์ที่ ๗ -: จ๙ร๓ติ น-สิ ยั ในการบำ�เพญ็

๗๑

ทําทกุ ขใหเราไดทงั้ น้ัน จงึ ควรจะทําความสะอาดใหจ ิตเพือ่ จะไดมีความสขุ บา งพอสมควร
หากไดไ มม าก

แตม ันฝนเอาเสยี จริง ๆ ไมอ ยากหันมองวัด มองหอ งทาํ ภาวนา มองทางเดิน
จงกรม ไมอ ยากหันหนา มองหนังสือธรรม ไมอ ยากฟง คําวา ภาวนาเสียเลย ถาถกู บงั คับ
เขา จรงิ ๆ ทนไมไ หว กท็ าํ บา งเพยี งหา นาทีสิบนาที คอยแตจ ะเผน ออกทา เดียว จากนั้นก็
ตัง้ กฎเกณฑบงั คับบญั ชาใหธ รรมแสดงผล ถาไมไดอ ยางใจหวงั ก็จะหยุดเดยี๋ วน้ี การทํา
เชนน้ไี มใชเ ราเขา ทภ่ี าวนาเพ่ือความสงบเยน็ ใจ แตกลายเปนการเขาทีท่ ําความกังวลใสตวั
เอง เพราะไมถ ูกตอ งตามหลักการบําเพญ็ ของผมู ุงหนาตอ ความสขุ ทางใจ ซึ่งเปนคํารบั
รองจากนิยยานิกธรรมท่ีถูกตอ ง

พยายามปรับปรงุ ตวั เองเขาสหู ลกั ธรรม ซึ่งจะนาํ ความสขุ มาใหตามควรแกกําลงั
ของตนทบ่ี าํ เพญ็ ได ตอ งตง้ั กฎกติกาและตงั้ ความเพียรบงั คับตัวเองเขา สูธรรม บกพรอ ง
ตรงไหนรีบปรับปรงุ แกไ ขจุดบกพรอ งนน้ั ใหดี วันน้ที าํ ความเพียรไดเ ทานั้นชว่ั โมง ผลท่ี
ไดรับเปนอยางไร และขณะท่ที าํ ความเพยี ร จิตไดเล็ดลอดออกไปสอู ารมณทไี่ หนบาง
หรอื ไม เพราะการสง จติ ออกไปตามอาํ เภอใจน้ัน ไมใ ชหลักของการภาวนา แมจะสงจิต
ออกไปขา งนอกกเ็ พ่ือรเู หตุผลตามหลกั ของการภาวนา จะสง จติ เขามาภายในกายในใจก็
เพ่อื รเู หตผุ ลของสง่ิ นัน้ ๆ ตามหลักของการภาวนา ซง่ึ มอี ยทู ้งั ภายนอกภายใน น่ีคือหลกั
ของการภาวนาท่ถี ูกตอ ง

เมอ่ื เราทําถกู ตามวธิ ีนี้ เวลาทําไดส ักกนี่ าที กชี่ ว่ั โมง ผลปรากฏอยางไรบาง ถา ยงั
ไมป รากฏตองเพิม่ เวลาเขา อกี เหมอื นหมอเพิ่มยาแกโรคใหแ กค นไขฉะนั้น ตอ งเพมิ่ เวลา
และความเพยี รเขา ไปโดยลาํ ดบั จนกวา จะเห็นผลปรากฏจากการภาวนาวาไดป รากฏผล
เชนนั้น ๆ อน่ึง ผลท่ปี รากฏนัน้ จะไมตอ งศึกษาไตถ ามใคร จะเปนส่ิงทแี่ ปลกประหลาด
ข้ึนกบั จิตของผูภาวนาโดยถูกตอ ง ความเพียรทเ่ี คยตะเกียกตะกายแบบลมลกุ คลุกคลาน
มาแตกอ น จะตง้ั ตนขน้ึ มาทันที เพราะอํานาจศรทั ธาความเชื่อมน่ั ตอ ผลที่เคยประจกั ษใจ
เปนเคร่ืองสนับสนุน กาํ ลงั ทุกดานซ่งึ เปนเคร่ืองสงเสรมิ ความเพยี รจะเปน มาพรอ มกนั
เวลํา่ เวลาทเ่ี คยกดขบ่ี ังคับเรามาแตก อ น เลยไมเ ปน ปญ หาสําคญั เพราะความมุง ในธรรม
เบือ้ งสงู ขึน้ ไปมกี าํ ลงั มากกวา

หลักของการภาวนาทีจ่ ะเหน็ ผลประจักษตองทาํ อยางน้ี เพราะเราทุกคนไมเ คย
จารกึ การสรางวาสนาบารมีมาแตกอ น ๆ ไวแมแตร ายเดยี ว ใครจะสรา งไวมากนอย ยอม
ไมมโี อกาสทราบได เพราะสิ่งปดบงั มีอยูภ ายในใจ จําตองอาศัยการอบรมบมอินทรยี 

แวน ดวงใจ ๗๑

แว่นดวงใจ : ภ-า๙ค๔๑-อบรมฆราวาส

๗๒

เพ่อื เปน การเพิ่มวาสนาบารมีข้นึ ใหม าก ดวยการกระทําความดี สิ่งทป่ี ดบงั วาสนาบารมกี ็
จะคอ ยหายจางไปเปน ลําดบั แลว กจ็ ะทราบชดั วา เรานแ้ี ลเปน ผสู รา งวาสนาบารมมี าเอง

การสงั เกตนสิ ัยของตัวกับความเพียรใหเหมาะสมกนั เปนเรอื่ งสาํ คญั มาก โปรด
อยามองขามไป ถาสกั วา ทําไปเทา นนั้ กย็ ากทีจ่ ะรูเห็นเหตผุ ล ซง่ึ จะเกิดข้ึนจากการกระทาํ
เพียงลอย ๆ ทกุ สิง่ ถา ทาํ เพียงลอย ๆ ไมว าทางโลกและทางธรรม ไมคอ ยจะปรากฏผลท่ี
พึงพอใจ ดังน้ันจงึ ควรสังเกตนสิ ยั เพอ่ื รูความหนักเบา ถาเปนนิสยั หยาบตามวาระของจติ
ซ่งึ ควรจะเขมแข็งใหห นักมือในทางความเพยี ร จึงจะปรากฏผลข้ึนมา เรากค็ วรทาํ อยา ง
นัน้ เหมือนเขาทํานา เพราะนาบางแปลงทาํ ยาก แตน าบางแปลงทาํ งา ย

นาของเราเปนนาท่ีทาํ ยาก จะทําอยา งงายดายเหมือนนาที่เขาทาํ งายนั้นไมไ ด แต
เพราะนาแปลงนเ้ี ปน นาของเรา แมจะทํายากแสนยากเราก็ตอ งทาํ งายเรากต็ อ งทาํ จะไป
ทาํ นาคนอน่ื ไมได ผดิ คตธิ รรมดาความนิยมของโลก นาของเขาจะงายหรือยาก เขาก็ตอง
ทํานาของเขาเชน เดยี วกับเรา นสิ ัยนี้เปน นิสยั ของเรา จะหยาบหรอื ละเอยี ดกม็ ใิ ชผูอ ื่นใด
มาสรา งนสิ ยั ประเภทน้ใี หเรา เราเปน ผูสรางมาเอง เราตองเปน ผูบกึ บนึ แกนสิ ยั ของตวั
เองจากนสิ ัยหยาบข้นึ สูความละเอียด ตอไปก็จะกลายเปน ของงา ยข้ึนมา รายท่ีบําเพญ็
ปรากฏผลไดงา ยกม็ หี นาทีจ่ ะเรง ความเพียร เพ่อื ปรากฏผลขน้ึ ไปโดยรวดเร็วเชน เดยี วกนั
จนถงึ จุดหมายทีต่ อ งการ จะประมาทนอนใจ โดยถือวา ตนทาํ งา ยยอมไมควรเหมือนกนั

เพราะฉะน้ัน ครั้งพุทธกาล การบาํ เพ็ญเพยี รของโยคาวจรจึงมลี กั ษณะตาง ๆ กัน
ในประโยคความเพียร บางทา นก็งาย บางทา นก็ยาก เชนเดยี วกับสมยั ทกุ วนั น้ี แตจะยาก
หรืองา ยกเ็ ปนหนา ทีข่ องตนจะตอ งทาํ เพราะเปน งานของตนโดยเฉพาะ จะรอเวลาํ่ เวลา
หรือใหคนอนื่ ทาํ แทนหรือชว ยทาํ ไมได ไมเหมอื นปลกู บานปลูกเรอื นหรือธุระอยางอืน่ ๆ
แมครอู าจารยก็เปน แตผ ูแนะแนวทางใหเ ทา นนั้ สวนการประกอบน้นั เปน หนา ที่ของเรา
โดยเฉพาะ ทา นแนะวธิ ีใหแลวโดยถูกตอ งไมมีขอสงสัยสวนใหญ แตธ รรมบางแขนง วิธี
ประกอบกต็ อ งเปน อุบายความแยบคายของเราเอง ถา จะรอรับอบุ ายจากทา นทกุ แงทกุ
กระทงยอ มไมท นั กับเหตกุ ารณทปี่ รากฏขน้ึ ภายในใจทมี่ คี วามเพยี รเปน ไปอยู เราตอ ง
พยายามคิดคนหาอุบายโดยวธิ ตี า ง ๆ เพ่ือใหทันกับใจทมี่ แี งงอนมากมาย ไมเชนน้นั ไม
ทนั กนั

งานไหนก็ไมย ากลาํ บากเทา งานเพ่ือขา มกองทกุ ขที่มีอยใู นขนั ธแ ละในจติ งานนี้
เปน งานอันยง่ิ ใหญต องทมุ เทกาํ ลงั ลงไปดว ยความเพียรอยา งหนกั คลายกบั วาจะเปน จะ
ตายเทา กัน เพราะผลก็ยิง่ ใหญเ ทา เทยี มกนั เมื่อเขาถงึ แลว ผตู องการกาํ ไรมากมายจํา

แวน ดวงใจ ๗๒

กณั ฑเ์ ทศน์ท่ี ๗ -: จ๙ร๕ิตน-ิสยั ในการบ�ำ เพญ็

แวน่ ดวงใจ : ภ-า๙ค๖๑-อบรมฆราวาส

๗๔

ทกุ ขโ ดยสน้ิ เชิงกจ็ ะปรากฏขน้ึ มาจากทนี่ น่ั การพจิ ารณาสภาวธรรมทัง้ หลายไมวา ขางนอก
ขางใน เปน อุบายวธิ ีจะถอดถอนจิตทมี่ คี วามเก่ียวขอ งกงั วลกับสงิ่ เหลา นั้น ใหก ลบั ยอน
เขา มาเปนลําดบั เพอ่ื ภาระของจติ จะไดม วี งแคบเขามา ความกังวลก็มนี อย เรื่องทุกขก็มี
นอย จนทราบไดชัดวา ทกุ ขท ัง้ มวลมันมีอยใู นขันธและในจติ น้เี ทานนั้ นอกจากนกี้ ็เปน
ดนิ ฟา อากาศ แมจะกวางแสนกวา ง มีมากแสนมากก็เปนเพียงธรรมชาตขิ องเขา หากมี
และเคยเปน อยูอ ยางนน้ั ตามธรรมดาของตน ๆ ไมไดม ากดข่ีบังคับเราใหไ ดร บั ความชอก
ช้าํ เดอื ดรอนเหมือนกบั เรอ่ื งของตวั ทที่ าํ ความกระทบกระเทือนตนอยตู ลอดเวลาเชนนี้

การบําเพญ็ พิจารณา เราก็มิไดไปเชา สถานที่บานเรือนของใครเพอื่ ทาํ งานประเภท
น้ี รางกายจิตใจซงึ่ เปนท่ที ํางานและเครอ่ื งทํางานก็ไมต องไปหามาจากไหน สติปญญากม็ ี
อยูก ับเราผูเปน นักคนควา มีอยูพรอ มมลู ในสถานท่แี หงเดียว มีอยอู ยางเดยี ววา เราจะ
พิจารณาใหถงึ รากฐานแหง ความจรงิ ที่มีอยกู ับเราหรือไมเทา น้ัน ถา พจิ ารณาใหรูเรื่องของ
สจั ธรรมซ่ึงมีบรบิ รู ณอ ยูในกายในใจของเราอยา งเตม็ ท่แี ลว ความส้นิ สดุ แหง ทุกขทเี่ คย
บบี คน้ั จติ ใจเรามาเปน เวลานาน ไมตองกลัววา จะไมมที ่ีบรรจตุ ําแหนงความบริสทุ ธิ์
เพราะพระนพิ พานไมใ ชส ถานที่ทาํ งานแผนกตาง ๆ พอจะเต็มไมม บี รรจุเน่อื งจากคน
สอบไดมาก

โปรดเรียนและสอบตัวเองไปดว ยขอ ปฏิบัติ กาํ จัดสิง่ เคยเปนขา ศกึ ของใจออกให
หมด จนปรากฏเปน ผบู ริสทุ ธิ์ขึน้ มา จะบริสุทธเิ์ ปนจํานวนแสน ๆ ลา น ๆ คนก็ไมจ น
สถานทบ่ี รรจุ เพราะพระนิพพานไมม ีขอบเขตจาํ กัดเหมือนงานแผนกตาง ๆ เนือ่ งจาก
พระนพิ พานไมใ ชส มมตุ ิ

ความยืดเย้อื แหงภพแหงชาตินน้ั ถาเปนสง่ิ ที่นับได อานได และไดจ ดบนั ทกึ ไว
เหมือนบันทึกสิ่งตาง ๆ แลว ไมมีกองวัตถุใด ๆ จะใหญโตและสงู ยิง่ กวา กองบัญชีแหง
การเกิดตายของสัตวแตล ะราย ๆ เกดิ ภพนี้ ก็จดไวในภพน้ี มีทุกขปรากฏขน้ึ ขณะใดบา ง
จดไว วันน้ีทกุ ขเกดิ มากนอยเทา ไรจดไว วนั หนาทกุ ขเกดิ เทาไรจดไว เดือนหนาทุกขเ กิด
เทา ไรจดไว ปห นาทกุ ขเ กดิ เทา ไรจดไว จดไวทุก ๆ ระยะทที่ ุกขปรากฏขึ้น ไมวาทุกขจ ะ
เกิดข้นึ ทางกายหรือทางใจจดไวห มด จนรวมหมดทง้ั ชาติมีทกุ ขประมาณเทาไรแลว อีก
ภพชาตหิ นึง่ ๆ ท่ีตดิ ตอกนั มาเปน ลาํ ดับ จนถึงปจจุบันวนั น้ี มกี ่ภี พกีช่ าติ แตละภพ แต
ละชาติ มกี วี่ ัน กี่เดือน กีป่ ข องชีวิตในภพน้นั ๆ และมีทกุ ขเ กิดขึน้ ในวนั นน้ั ๆ เดือนนนั้
ๆ ปน น้ั ๆ ภพชาตินั้น ๆ มากเทาไร อานตลอดกัปตลอดกัลปก็ไมมีจบ ในประวัตขิ อง
เราคนเดยี วเทา นน้ั

แวนดวงใจ ๗๔

กัณฑ์เทศนท์ ่ี ๗ -: ๙จ๗รติ น-สิ ัยในการบ�ำ เพญ็

๗๕

ความยืดเยื้อแหงทกุ ขเปน มาเชนน้ี ถา เราสามารถบนั ทกึ ความเปน มาของเราแต
ตน ภพตนชาติจนถงึ บัดนี้ จะไมมแี ผนดนิ อนั กวา งขวางทีไ่ หนเปน ทเี่ กบ็ บญั ชีแหง กองทกุ ข
ของเราทที่ าํ สถิติเอาไวในโลก แผน ดินทีอ่ าศัยอยเู วลานีเ้ พียงบญั ชขี องเราคนเดยี วกห็ าที่
เกบ็ ไมไดแ ลว ยงั บัญชขี องคนอ่ืนสตั วอืน่ จะเอาไปเก็บไวทีไ่ หนกันอกี ทั้งทองฟา
มหาสมทุ รจะไมมที ่ีเกบ็ ไวเลย เพราะมันเต็มไปดว ยกองทะเบียนบัญชีของความเกดิ
ความตาย ความทกุ ขทรมาน ความลม หายตาย พลัดพรากจากสัตวและสงั ขารท้งั ของเขา
ของเรา สับสนปนเปกนั ไปหมดอยา งนี้ ไมมีที่ไหนวา งพอจะเอาปลายเข็มแยงลงได วาไม
ถกู กองบัญชีเกดิ ตายของเรา แมอนาคตขางหนา โนน ก็คอื จติ ดวงนเ้ี องเปน ผูจะวางรอ ง
รอยของตนไปเปนลาํ ดับ ๆ เชนเดียวกับทีเ่ คยเปนมาแลว

เหยียบยา งไปทไี่ หนถูกแตภ พแตช าติ ถูกแตกองทุกขของตนวันยังค่ํา คืนยงั รงุ
ทุกขซ้ําทุกข ทุกขภายนอกไดแกท ุกขในขันธ ทกุ ขภ ายในไดแ กทุกขใ จ ทกุ ขแลว ทกุ ขเลา
อยูภ ายในขันธต ลอดเวลา แมจะไมม ีการเจบ็ ไขก ็ตาม ทกุ ขป ระจําขันธต องทกุ ขแ ลว ทกุ ข
เลาอยูอยางนัน้ ทุก ๆ คน ทุก ๆ สตั ว และยังทกุ ขภายในใจอกี ออกจะเหลือทน เพราะ
ยํ้ากันไปไสกนั มาเหมอื นกงจักร ถา เปน ตัวหนงั สือแลว จะหาทอี่ า นไมได เพราะเขยี นซํ้า
รอยกนั แตน้ีเปนเรอ่ื งของทุกขซ้าํ รอยกัน ไมทราบวาซาํ้ กนั กมี่ ากนอย แลว ยังจะซํ้ากันไป
อกี ขางหนา ไมท ราบวา จะนานสกั เทา ไร ไมมปี ระมาณเลย

ในชาติท่ีเหน็ อยูน ี้ นบั วาเรามีวาสนาบารมมี ากยิ่งกวา สตั วทัง้ หลายอยูแลว เพราะ
ไดม าเกิดเปน มนษุ ย ทั้งไดพ บพระพทุ ธศาสนาที่เตม็ ไปดวยเหตุผล และทนตอการพิสูจน
ทงั้ เปน สวากขาตธรรมทีต่ รัสไวช อบ และเปน นิยยานกิ ธรรมผูปฏิบตั ติ ามตองไดร ับผล
เพอื่ นาํ ตนออกจากทุกขเ ปนลําดับ อยาใหเ สยี ทแี ละผา นไปเปลา จงพยายามถอื เอา
ประโยชนจากศาสนธรรมใหไดเ ทา ทีค่ วร

ทผ่ี านมานไี้ ดอธิบายเร่ืองทกุ ขซึ่งเปนสิ่งคลกุ เคลากับเราอยูต ลอดเวลา เพ่อื ทา นผู
ฟงจะไดถ ือเปนคตแิ ละหาอุบายพร่าํ สอนตน เพอ่ื หาทางออก เพราะความเหน็ โทษใน
ทุกขประจักษใจ ความพากเพียรเพื่อหนีทุกข หากเกิดขนึ้ มาเองเชน เดยี วกบั คนหรอื สัตว
กลัวอนั ตราย วง่ิ ไมไดก็ตองเสอื กคลานไปจนสุดกําลัง ใคร ๆ ก็ตองตะเกียกตะกายหนี
ภยั จะยอมนอนตายอยูเฉยๆ ไดอยางไร สดุ วสิ ยั ณ ที่ใดแลว คอ ยลมตายที่น่นั ผกู ลวั
ทุกขก็ตองตะเกียกตะกายเหมือนกัน สุดวิสัย ณ ทีใ่ ดแลว จึงมอบไวก บั ความจําเปน ทส่ี ดุ
วสิ ยั จรงิ ๆ

แวน ดวงใจ ๗๕

แวน่ ดวงใจ : ภ- า๙ค๘๑- อบรมฆราวาส

๗๖

ถากลัวบา ง กลา บา ง ยงั มที างเขา ๆ ออก ๆ บางทีก็ข้ีเกียจทําความดี คดิ ขน้ึ มา
บางวาระกก็ ลัวทุกข คดิ ขน้ึ มาบางวาระก็กลาหาญตอ ทกุ ข โดยเห็นวาคนท้งั โลกไหนจะมี
ความทกุ ขแ ตเ ราคนเดียว เขากต็ อ งทกุ ขเ ชน เดียวกบั เรานี่เองจะไปกลัวมนั ทาํ ไม แมจ ะไป
ตกนรกหมกไหม ในทน่ี น่ั กม็ ที ั้งผูห ญิงผูชาย จะแสวงหาสามีภรรยาและโรงหนงั โรงละคร
ในทีน่ ้ันกย็ งั พอได แตขอนีเ้ ราลองคิดดซู ิวา เน้ือเปด เน้ือไกซง่ึ มที ้ังตวั ผูต ัวเมียท่ีถูกเขาสบั
ยําจนแหลกละเอียด แลว โยนลงไปในหมอ ที่กําลงั เดือดพลา นน้ัน เคยเหน็ สตั วเ หลา นไ้ี ป
เท่ียวแสวงหาครอบครัวผวั เมีย และเลนระบาํ ทําเพลงกนั สนกุ สนานในหมอ แกงนัน้ บา ง
ไหม หรือเขาโยนเขียด โยนหอย โยนปลา ซง่ึ มีทัง้ ตัวเลก็ ตัวใหญ มีทง้ั ตัวผตู วั เมียลงใน
หมอ นาํ้ รอ นท่กี ําลงั เดอื ด มีสัตวตวั ใดบา งท่ีแสวงหาครอบครวั และความสนกุ สนานรน่ื เริง
ในทีเ่ ชนน้ัน มองเห็นแตตวั ไหนกท็ าํ กระเสือกกระสนจนสุดกาํ ลงั แลวนอนตายแชน ้าํ รอ น
อยูเ ทานั้น โดยมไิ ดสนใจวาเขาเปนตวั ผู เราเปน ตวั เมยี เพราะความทกุ ขทรมานจนถงึ
ตายจะไปสนใจกับเรอ่ื งผวั ๆ เมีย ๆ ท่ไี หนกนั

เร่อื งทุกขท รมานทีจ่ ะเปน ไปในกาลขา งหนา ก็ควรเทยี บในทาํ นองเดยี วกนั จึงจะ
เห็นภัยประจกั ษใ จ ความขยนั หมนั่ เพียรเพ่ือความแหวกวายหนีทุกขน ้นั จะมขี ึน้ มาเอง
เชนเดียวกบั บุคคลไปเจอเสอื ซ่งึ เปน สัตวรา ย ใครก็ทราบกนั อยูแ ลว แมจ ะมองไมเห็นตวั
เพียงไดยินแตชื่อก็กลวั กัน ที่ไหนเราไปเจอเอาอยา งจงั ๆ เสยี เองจะยอมใหเสือกนิ มี
อยางหรือ อยางไรก็ตองวิ่งจนสดุ ฝเ ทา ที่จะว่ิงได ขณะนนั้ ถา มี ๕ ขา ก็ตองวิ่งพรอมกันทั้ง
๕ ขา ไมเ พียงแต ๒ ขาเทานั้น ถาเปนผูแสดงไปเจอเอาอยา งนั้น จะอยางไรกค็ งจะไมมี
อะไรเหลอื ตดิ ตัว แมสบงจีวรจะขาดหลุดลยุ ไปหมดกต็ องยอม แตฝ เ ทา จะไมยอมหยดุ วิ่ง
เปนอะไรเปน กนั

เพราะมนั สาํ คญั อยทู ี่ชีวติ ซึ่งเปนของมีคาเหนือตวั เรา ใครจะไปยอมใหเ สือกนิ
เปลา ๆ มีประโยชนอ ะไร แตการว่ิงหนีเสอื มันมปี ระโยชนม าก เพราะไดช ีวิตเราไวทัง้ คน
ไมล มจมเปลา แตนีย้ ังดี เวลาเทยี่ วกรรมฐานตามปา ตามเขาซ่งึ เปน ชมุ นมุ ของสตั วร า ยมี
เสือเปน ตน ก็ไมเคยเจอเสือ แมเสอื กค็ งจะทราบนิสัยเราซึ่งเปน คนขขี้ ลาดหวาดกลวั เสอื
กเ็ ลยกลวั เรา ไมก ลา เจอกนั ในสถานทแี่ ละกาลเชนนั้น ท้งั น้ีเพราะความรักชวี ติ มีขนาด
ไหน ความตะเกียกตะกายเพ่อื หนภี ัยกม็ ีขนาดน้นั

ถาเรารกั สงวนจิตใจ เราไมอยากใหสิง่ ท่เี ปน ภัยตอ ใจ ฉดุ ลากไปเพอื่ การเกิดการ
ตายไมม จี บสนิ้ เชน เดียวกบั ไปพบเสือ และไมย อมตัวใหเ สือกนิ เปลา แลว กค็ วรทาํ ความ
พยายามตะเกยี กตะกายเพอื่ แหวกวา ยออกจากกองทุกขดงั กลาวมา เพราะไมม ีอะไรทจ่ี ะ

แวน ดวงใจ ๗๖

กัณฑ์เทศน์ที่ ๗ -: จ๙ร๙ิตน-สิ ัยในการบ�ำ เพ็ญ

๗๗

นา สงสัยแลวในโลกนอกโลกใน ท้งั โลกทานโลกเรา ถา ยงั สงสยั ไมแนใจจะไปเทย่ี วสอบ
ถามโลกไหนกไ็ ปถามลองดู หรือจะไปสอบถามนายยมบาลกไ็ ด เขาคงจะบอกเรอื่ งความ
ยงุ ยากเกี่ยวกับหนา ทค่ี อยจดทะเบยี นบญั ชีของคนของสัตวท ท่ี ําดีทาํ ชว่ั เกิด ๆ ตาย ๆ
ซง่ึ เปน เรอ่ื งทกุ ขยุงไปหมด หรอื เขาอาจจะไมม เี วลาคยุ อะไรกบั เรามากนักก็ได เพราะ
หนาท่เี ขากวางขวางและยุงมากยิง่ กวา โลกของเราเสียอกี เนือ่ งจากคนและสัตวใ นสามภพ
ตกอยูในความรบั ผิดชอบเของเขา จะตอ งคอยลงทะเบยี นบญั ชีและอ่ืนๆ อีก

เพยี งโลกมนษุ ยเรากพ็ อจะสอบถามไดความชดั ในเร่ืองทกุ ขทม่ี ปี ระจาํ อยูทุกสัตว
ทกุ บุคคล เชนไปถามคนจน เขากจ็ ะบอกวาเปน ทุกขเพราะความจนบงั คับ ทั้งติดหนี้สิน
เขาพะรุงพะรงั ยงุ ไปหมด เขามาทวงหน้ีสินแทบทกุ วนั ทงั้ ขา วจะรับประทานกไ็ มมี ไป
ถามคนมั่งมกี ็จะบอกวา ทุกขเพราะการงานมากไมมีเวลาพกั ผอ น หาเวลาเปน ตัวของตวั
แทบไมไ ดใ นวนั คนื หน่งึ ๆ ท้งั รายรบั รายจายยงุ ไปหมด จะหาใครทาํ แทนกไ็ มไ ด เพราะ
เปน เรอ่ื งสาํ คญั เราตองทําเอง และติดแจอยูกับงานนีต้ ลอดเวลา ไปไหนไมได

บางคร้ังนัง่ หลบั คาโตะก็มี เพราะเวลาพักผอนไมเพียงพอ เนอ่ื งจากงานตดิ ตอ กัน
อยูตลอดสาย ทั้งงานในบาน ทง้ั งานนอกบาน ทงั้ งานใกลแ ละงานไกล ตลอดสินคา ทีส่ ง
มาจากทต่ี าง ๆ ทงั้ ในและนอกประเทศ เราเปน ผรู ับผิดชอบทุก ๆ สง่ิ และทกุ ๆ แขนง
ของงาน บางวนั ถงึ กบั รบั ประทานไมไดแ ละนอนไมห ลบั ตองใชค วามคิดมาก เพราะงาน
มาก เงนิ มาก ไหลเขามารวมอยูท ี่เราเปนผรู ับผดิ ชอบคนเดียว ฉะนัน้ เรอื่ งมนั จึงยุงอยู
อยา งนี้

ตามธรรมดาแลว นเ้ี ปนงานอาชีพซง่ึ จาํ เปนอยางย่ิงที่ทั่วโลกตองทํากัน เพราะธาตุ
ขันธมดี วยกนั ทุกคน ทั้งตอ งอาศยั สิ่งเหลาน้เี ปนเครือ่ งบํารงุ เปน ประจํา จะขาดไปไมได
ถา ขาดส่งิ เหลา นี้โลกตองสลายตั้งอยูไมไ ด ถงึ เชน นน้ั คนเรายงั บน กนั ทั่วโลก ไมม ีทไ่ี หนจะ
ไมบ นเกยี่ วกับเรื่องการงาน ไมค อยจะไดย ินวา ฉันจน ฉนั สบาย เพราะไมต อ งเปนภาระ
กับสมบตั เิ งนิ ทองและสงิ่ ตา ง ๆ มากมายนกั และฉนั มเี งินทองมากฉันอยสู บาย สามีก็
ถูกอกถูกใจ ภรรยาก็ถูกอกถูกใจ ลูกหญิงลูกชายก็ถูกอกถูกใจ ญาติมิตรเพื่อนฝูงถูกอก
ถูกใจ ทุกสง่ิ ทกุ อยา งทเี่ กย่ี วขอ งกับฉนั เปนทถ่ี ูกอกถกู ใจทัง้ น้ัน

แตมกั จะไดยนิ แตบ น กนั ท้ังน้นั ไมวา คนจน คนมี คนโง คนฉลาด ไมวาหญิง ไม
วา ชาย ไมวา นักบวชและฆราวาส พวกเรารูทุกข รเู พยี งข้นั บนกนั เทานนั้ ฉะนนั้ ใครจงึ บน
กับทกุ ขอ ยูทุกแหงทกุ หน ท้งั คนมี คนจน ทงั้ คนโง คนฉลาด ทงั้ ในวัด นอกวดั ท้ังในบา น

แวนดวงใจ ๗๗

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๐๑ -อบรมฆราวาส

๗๘

นอกบา น ท้ังในเมอื ง นอกเมือง ทงั้ เมอื งเลก็ เมืองใหญ ทง้ั ในประเทศและนอกประเทศ
ทั้งประเทศเลก็ และประเทศใหญ ทั่วโลกบน เหมือนกนั หมด

แตพ ระพุทธเจา ทา นรูถงึ ความจรงิ ของทกุ ข รฐู านทเี่ กิดของทุกข และรูว ิธรี ือ้ ถอน
สาเหตุใหเ กิดทกุ ขท้งั ภายในภายนอก ทา นจึงสามารถดับทกุ ขไดโ ดยสน้ิ เชงิ ไมม ีการบน
ใหท ุกขดับไปเฉย ๆ ทั้ง ๆ ท่ไี มท าํ การแกไ ขและรื้อถอน ฉะนั้นทานจงึ สอนโลกดว ย
โลกวทิ ู (ความรูแจงโลก) โดยความองอาจกลา หาญ ไมม ีความสะทกสะทา นในการส่ัง
สอน เพราะทา นรูโลกชดั ทั้งโลกนอก โลกใน ทง้ั ธรรมนอกและธรรมใน ดวยพระปญญา
อันแหลมคมอยา งยิง่

พวกเราเหยยี บย่ํากันไป เหยียบยาํ่ กันมา กไ็ มทราบวา ของดี ของชั่วคืออะไร เชน
เดียวกับผไู มม ีความฉลาดในการคนแรแ ปรธาตุ แมจ ะเดนิ เหยียบย่ําไปมาอยตู ลอดกาล
ก็ไมร ูว า อะไรเปน แรและเปนธาตชุ นดิ ไร แตผูมคี วามรคู วามฉลาดในทางนี้ เพยี งเดนิ ไป
เทาน้นั เขาก็รวู าท่ีนัน่ มแี รช นิดนนั้ แมจ ะเปน คนเหมือนกนั แตมันตางกันท่มี คี วามฉลาด
แหลมหลักตางกนั นพี้ วกเราก็น่งั ทับ นอนทับความดี ความช่วั อยูตลอดเวลาอกาลโิ ก ก็
ไมท ราบวาจะเลอื กเฟน เอาอะไร จงึ เลยยกเอาหมดท้งั รงั รบั กันหมดท้ังเปลือก สขุ บา ง
ทุกขบา งกย็ อมทนเอา

วนั นไี้ ดอธบิ ายเรือ่ งทกุ ขใหบ รรดาทา นผฟู ง ทราบ ตามเรือ่ งของทุกขทม่ี ีอยูกับตวั
โปรดนาํ ไปพิจารณาและบาํ เพ็ญตนเต็มสติกาํ ลงั ความสามารถ อยาลดละความเพียร
พยายาม จะไดมากหรือนอยเปนสมบตั ิของเรา เพราะของดแี มจะมีนอ ยกด็ ี ยง่ิ มมี ากกย็ งิ่
ดีมาก และใครกต็ องการ เชน บา นดแี นนหนาม่นั คงและสวยงาม ใครก็ชอบ ท่ดี นิ ดีมรี าคา
แพงจะปลูกบา นเรือนก็ดี จะทาํ เปนสวน เปน นากด็ ี ใครก็ชอบ เด็กดมี ีความเช่อื ฟงผปู ก
ครองเรยี นหนังสอื ดี ไมชอบเที่ยวเตร็ดเตร ไมเปน คนผลาญทรพั ย ชอบประหยดั หัด
นสิ ยั ใหตรงตอเวลา ผูปกครองก็ชอบ ผหู ญงิ ดี ประพฤตติ วั สมศักดิศ์ รีของหญงิ ไมเ ปน
คนชอบเท่ียวและชอบเกยี้ วผชู ายใครกช็ อบ

สรุปความแลว ทุกส่ิงถา เปนของดีมปี ระโยชนแลว ใครกช็ อบกนั ทงั้ โลก ดงั นนั้ จง
พยายามดัดแปลงตนใหดี หากยังไมพ นจากวฏั สงสารในวนั น้ี วนั หนา กจ็ ะไดอ าศยั ความดี
เหลา น้ีเปนเครือ่ งพยงุ ในภพนน้ั ๆ จงึ มคี วามสุขความเจรญิ ในภพชาติทต่ี นอาศยั เหมอื น
คนเดนิ ทางมีเครือ่ งปองกันตวั แดดรอนแตม เี ครอ่ื งปกปดกายกพ็ อบรรเทาทุกขไปได ไม
รอนแผดเผาเสียทีเดียว การทองเทยี่ วในวฏั ฏะก็ตอ งอาศยั บุญวาสนาบารมที ่เี คยสรา งมา

แวน ดวงใจ ๗๘

กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๗-: ๑จ๐ร๑ิตน-ิสยั ในการบำ�เพ็ญ

๗๙

เปนเครอื่ งปกปองกําบงั ทุกขท้งั หลาย ไมใหท กุ ขท รมานจนเกินไป พอมที างหายใจไดบา ง
ในภพชาตหิ นงึ่ ๆ ไมรบั แบกหามเอาทกุ ขทงั้ โลกธาตเุ สียแตผ ูเดยี ว

ในอวสานแหง พระธรรมเทศนาน้ี จึงขออาราธนาคณุ พระศรีรัตนตรยั มาอภบิ าล
คมุ ครองทานทง้ั หลาย ในอริ ยิ าบถทง้ั สี่ คือ ยนื เดิน น่งั นอน จงมีคณุ พระพทุ ธเจา พระ
ธรรม และพระสงฆต ามรักษา และขอใหเปนผมู ีโอกาสวาสนาอาํ นวย ไดบ าํ เพ็ญคุณงาม
ความดตี ลอดไปโดยความสะดวก จนถงึ แดนแหงความสมหวังโดยทัว่ กนั เถดิ

www.Luangta.or.th

แวน ดวงใจ ๗๙

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๒๑ -อบรมฆราวาส



๘๐

เมอื่ เวเทมนั ศื่อเทวทนี่คันศอ๒ทนบว๔ี่อ์ รา๒บกม๔มรมุฆมกงภฆครมุารากาวภวาพณัมวาาานัพาสมแฑสนัธณเ์ทหธพณพ์่ี งพวทุยี๘ดัวุทธธรดัธปศรปศา กัา่รกับบรรมา าา้านนชชตต๒๒าาด๕ด๕๐๐๘๘

พระศาสนาถาจะเทยี บทางดานวตั ถุ กเ็ หมอื นนํา้ ที่สะอาดสาํ หรบั ซักฟอกสง่ิ
สกปรกทงั้ หลายใหก ลายเปน ของสะอาดขึน้ มา ใจจึงเทียบกบั วัตถุที่ไมสะอาด คือมี
ความเศราหมองอยูภายในตวั เพราะอาศัยความคลกุ เคลากับอารมณท่ีสกปรก การทํา
ใจใหส กปรกนน้ั เรามีทางทําไดดว ยกนั ไมว า สตั วบ ุคคลและชาติชน้ั วรรณะใด เพราะ
ทางน้ีเปนทางที่เคยชนิ ของจิตมาแลว ทางนี้จงึ เปน ทางสะดวกราบรน่ื ของจติ และ
อารมณทโี่ สมมทุกประเภท ถาเทยี บกบั ทางภายนอกก็เหมือนทางท่ีมีผูคนสญั จรไปมา
ตลอดเวลา ไมร กรงุ รงั เพราะอาศยั การเหยียบย่ําผา นไปมาอยเู สมอ ทางที่มาของ
มลทนิ ผา นเขาออกระหวางจติ กับอารมณ ยอมมีความเตยี นและราบรื่นเชนเดียวกนั
โดยมีจิตเปน สถานทอี่ ยูอาศยั มีจติ เปนสถานท่ีเกีย่ วของ อารมณกบั จติ จงึ เปน ไปดวย
กันอยา งงา ยดาย

แตอบุ ายวิธีซกั ฟอกใจใหเปน ไปเพอ่ื ความสะอาดผองใส เปน ท่ีเยน็ ใจนาดนู าชม
แกตน และระบายออกมาทางกาย วาจา ใหเ ปนท่นี าดนู าชมของคนอน่ื นัน้ ตองมคี รู มี
อาจารยเปน ผคู อยแนะนําสั่งสอน ใหร ทู งั้ ทางถกู และทางผิด ดงั นน้ั ธรรมจึงเปน เหมือน
เครือ่ งซักฟอกทด่ี ีเยยี่ ม ซ่ึงออกจากพระทัยอนั บรสิ ุทธขิ์ องพระพุทธเจา ผเู ปน เจา ของ
แหง ธรรม และทรงนํามาประกาศสอนบรรดาสัตวใหร ูทางดําเนิน อนั เปน ไปเพอ่ื ความ
เกษมเปน ข้นั ๆ โดยแนะนําอุบายวิธตี าง ๆ ตามควรแกอ ุปนิสัยของผูมาอบรมศกึ ษา

ในขัน้ เรม่ิ แรกแหงการส่งั สอน ทรงแนะนาํ ดว ยพระองคเอง จนเหน็ ผลประจกั ษ
แกผ มู าศกึ ษาและปฏิบัตดิ วยเปน ขนั้ ๆ แหง ธรรม ตลอดถึงข้นั บรรลุเปน สาวกอรหันต
ข้ึนมาในวงแหง ธรรมเปน จํานวนมากพอสมควรแลว จากนนั้ กท็ รงมอบใหสาวกทาํ หนา
ทสี่ ั่งสอนชว ยบา ง ทรงสัง่ สอนเองบาง มีการถา ยทอดมาเปน ลําดับจนถงึ ครูอาจารยซ ึ่ง
สมควรจะเปน ท่ยี ึดเหน่ยี วน้ําใจประชาชนดวยหลกั ปรยิ ัติ ปฏิบตั ิ และความรภู ายในใจ
ถา ยทอดมาถงึ พวกเรา

ใจท่ไี ดร บั การซักฟอกดว ยการบําเพ็ญคุณงามความดี ตามพระโอวาทธรรมของ
พระพทุ ธเจา จงึ กลายเปน ใจที่น่มิ นวลแกตนเอง จะคิดปรงุ เกย่ี วกบั การงานทกุ ดาน จะ
พดู จาพาที กริ ยิ ามารยาท ความเคล่ือนไหวทกุ อาการ เปน กิริยาที่นา ดู นาชมไปตาม ๆ

แวน ดวงใจ แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๘๐๔๐๑ -อบรมฆราวาส

๘๑

กัน ฉะนน้ั นักปราชญมพี ระพทุ ธเจาเปน ตน จึงนิยมการฝก ฝนอบรมตนมากกวา สงิ่ อืน่
ๆ เพราะเล็งเหน็ วาใจเปนรากฐานสาํ คญั ของงานทกุ ช้ิน ไมว า งานทางโลกหรอื ทางธรรม
มีใจเปนผูรับผดิ ชอบท้งั นั้น งานทุกชิ้นจะสําเรจ็ ข้ึนมาในลักษณะใด ยอมเปน เคร่ืองสอ
ถงึ ใจผูเปนเจา ของงานเสมอ

ใจทานเปรยี บเหมือนเนอื้ ผา ทคี่ อยจะสกปรกไดอ ยางงา ยดาย เจาของตองคอย
ระวงั รกั ษาความสะอาดอยเู สมอ ลักษณะของจิตกค็ อยจะคลกุ เคลา ดวยอารมณเคร่ือง
เศราหมองอยูตลอดเวลา จงึ ทําใหโ ลภ ใหโกรธ ใหห ลง บอย ๆ จนตามรไู มทัน แตเ มอ่ื
ไดร บั การอบรมดว ยวิธีตา ง ๆ ตามแนวทางแหงธรรมทีช่ ้บี อกไว ใจกค็ อ ยหายพยศและ
มคี วามสงา ราศขี นึ้ มา คอยฟงคําส่ังเราบาง ไมค อ ยผาดโผนโลดเตนเหมอื นทีย่ ังไมไ ด
รบั การอบรม และใจเปน สิ่งสําคัญกวา วัตถุภายนอกอกี มากมาย จงึ จําตองมกี ารอบรม
เสมอ

แตการอบรมจติ ยอมมกี ารฝา ฝนธรรมดาของจติ ที่เคยเปนมาอยูบ า ง คําวา
ธรรมดาหมายถึงสิง่ ที่เคยมีเคยเปน และเคยชนิ มาแลว จติ ทีเ่ คยเปน มาจนไมทราบความ
ผดิ ถูก ช่วั ดีของตน เพราะความไมสนใจสงั เกต เน่อื งจากความเคยชินมาอยางนนั้ เปน
นสิ ยั นเ่ี รียกวา ธรรมดา แตการฝก หดั ดัดแปลงใจใหผ ิดจากเรอ่ื งธรรมดา ความคดิ
ธรรมดา การกระทาํ ธรรมดาน้นั เปนการลําบากอยบู าง จะอยางไรกด็ เี ราอยา ลืม พทุ ฺธํ
สรณํ คจฉฺ ามิ ซ่ึงเปนองคแ หง สรณะอนั ประเสรฐิ ของเรา พระองคทรงบําเพญ็ มากอ น
ดวยความฝาฝนตง้ั แตตน เปนลาํ ดบั มา ไมทรงปลอยไปตามกระแสของใจท่มี คี วาม
อยากเปนประจาํ ตลอดอบุ ายตา ง ๆ ที่ทรงนาํ มาแกไ ขดัดแปลงพระองคจ นสาํ เรจ็ เปน
พระพุทธเจา ขน้ึ มา ก็เปนเรอ่ื งฝน คตธิ รรมดาทจ่ี ติ เคยเปนมาทั้งน้ัน

การตัดสินใจสละตําแหนงหนาที่จากความเปน กษตั ริย อันเปน พระเกียรติสูงสดุ
การเสดจ็ ออกจากปราสาท การพลดั พรากจากพระชายาและพระโอรส พระชนก ชนนี
ไพรฟ า ประชาชี ตลอดจนพระราชสมบัติทง้ั แผน ดนิ ทาํ ไมจะไมเปนการฝา ฝน คติ
ธรรมดาเลา ตอ งเปน การฝาฝน อยางยิ่ง และฝาฝน จนสลบไสลไปในบางคร้งั เพราะ
อาํ นาจความมงุ หวงั เตม็ พระทยั ในความพนทุกข และมุงหวังจะรื้อขนสัตวซ ง่ึ เปน สมบัติ
อนั มคี า มาก มพี ระชายาและพระโอรส เปนตน ใหตามเสดจ็ สธู รรมอนั เปน แดนเกษม
จึงทรงฝนพระองคอ ยางเตม็ ท่ี โดยไมทรงอาลยั และเสยี ดายในชวี ิตวาจะเปนหรือจะ
ตาย และทรงฝน จนโลกสะเทอื นไปหมดทง้ั แผนดนิ

แวน ดวงใจ กณั ฑเ์ ทศน-์ท๑ี่ ๘๐๘๕๑: -ความเพยี ร

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๐๖๑ -อบรมฆราวาส

๘๓

ไมมีกเิ ลสตวั ใดจะสามารถฝนเอาชวี ติ แลกสติปญ ญาปรมาณู ทนตง้ั อยบู นพระ
ทัยไดตอไป กเิ ลสทกุ ประเภทตา งกห็ ลดุ ลอยออกจากพระทัยโดยสิ้นเชิง ยงั คงเหลอื แต
พทุ ธะอนั เดน ดวง ซ่ึงเปนม่ิงขวัญของพระองคผ ูก ลาตายในสงคราม ทรงสละทกุ สง่ิ ทุก
อยา งกเ็ พอ่ื ธรรมดวงนเ้ี ทาน้ัน ครัน้ แลว กส็ มพระประสงค และเปน พระพทุ ธเจา ที่
สมบูรณข ้ึนมา ใหเปน มิ่งขวญั ของโลกในลาํ ดบั ตอมา

ดังนน้ั เราผเู ปน พทุ ธบรษิ ัทที่จดั วาเปน ลูกศษิ ยพระตถาคต ผูปรากฏเดนทาง
ความเพยี รและบรสิ ุทธ์ใิ นพระทยั เวลาประกอบความพากเพียรไปถึงทค่ี ับแคบและจน
มุม จงึ ไมควรจะหาทางออกดวยความทอ ถอย อนั เปน ทางมดั ตนเองโดยไมร สู กึ เพื่อ
เปน หลกั ชยั โปรดระลึกถงึ ทาน ทั้งการดําเนิน วธิ ีดาํ เนนิ และการฝนคติธรรมดา วา ทา น
ทรงทําอยา งไรบา ง จงึ ไดชัยชนะมาส่งั สอนพวกเรา ทานมคี วามลาํ บากยากเยน็ เขญ็ ใจ
แคไ หน อยา เหน็ เพยี งวา การประกอบคณุ งามความดีเพียงเล็กนอ ยเทา นั้น แลว เขา ใจ
วาตนมคี วามขยันหม่ันเพียร และมีความกลา หาญย่งิ กวา ครูคือศาสดา

ถามคี วามคิดไปทาํ นองนั้นแสดงใหเ หน็ วา เราจะเปน ผทู อ ถอยความเพียร และ
ดอยในการดัดแปลงตนเองดว ยความเขม แขง็ ทาํ อยางไรจึงจะเปนไปเพื่อความเขมแขง็
และกา วหนา เพือ่ ตามเสด็จพระพุทธเจาใหทัน นั่นแลเปน ความคดิ ท่ีดีและหนาทอ่ี ัน
เหมาะสมแกเ รา ผเู ปนพทุ ธบริษทั ถอื พระพุทธเจาเปนครู ตามทเ่ี หน็ ในพระประวัติซึ่ง
ไดน าํ มากลา วบา งแลว รูสึกวาเปนคติตวั อยางแกโลกไดอ ยางสมบรู ณ ไมมที างจะตําหนิ
ไดแมแตนอ ย สว นเรายังไมมถี งึ ขนาดนั้น ไหนจะถือวาตนเกงกลา สามารถย่งิ กวาครู
เราตอ งยอนจติ มาสอนตนอยางนบ้ี า ง จะมีแกใ จทําความเขมแขง็ ตอ การดําเนนิ เพือ่
ความปลดเปลอื้ งสิง่ ท่ีเคยทาํ การกดี ขวางตอ ใจมานาน ใหลดนอยหรอื สนิ้ ไปทุกระยะ

การงานเพ่อื ปลดเปลือ้ งถอดถอนตวั ใหขน้ึ จากหลม ลึก แมจะยากลําบากขนาด
ไหน ไมค วรไปยึดถือสง่ิ นน้ั มาเปน อปุ สรรคตอใจ ผูก าํ ลังมงุ หวังตอ ความสขุ สมบูรณ จะ
เปน การตัดหนามก้ันทางตนเอง จนหาทางเดนิ เพอ่ื ความพน ทุกขไปไมไ ด ตอ งพยายาม
แหวกขวากหนามที่มอี ยใู นหนทางและสองฟากทางออกเปน ลาํ ดับ ดวยความขยนั หมัน่
เพียร เราอยูท่ีไหนไมวาในบานหรือในปา การบําเพญ็ คณุ งามความดีมที างทําได โอกาส
วาสนามกี ารอาํ นวยแกผูมีความมงุ มั่นตอ ธรรมอยูเสมอ แตโอกาสวาสนาน้ันจะไม
อํานวยสาํ หรับบุคคลผชู อบตตี นตายกอนเปน ไข ผตู าํ หนิตโิ ทษตนเองโดยไมมีเหตุผล
และยงั จะเปนการเปดทางใหค วามทอแทออ นแอ เขา มาเปนเจา เรือนบนจติ ใจมากข้นึ
แลวจะหาโอกาสวาสนาอาํ นวยไมไ ดต ลอดกาล

แวน ดวงใจ กณั ฑ์เทศน-์ท๑่ี ๐๘๘๗:๓-ความเพียร

๘๔

ผตู ั้งใจจะดําเนินตามหลกั ธรรมของพระพุทธเจา ตอ งคาํ นึงถึงทางดาํ เนินของ
พระองคแ ละพระธรรมท่ปี รากฏเปน ธมโฺ ม ปทีโป มีความสวา งไสวเหนอื ส่งิ ใด ๆ ใน
โลก ธรรมน้กี เ็ กดิ ข้นึ จากการฝน คติธรรมดาของพระพทุ ธเจาและพระสาวกทั้งหลาย ซึ่ง
ตอ งตามเสด็จพระพุทธเจา ดวยปฏปิ ทาเครอ่ื งดาํ เนินแบบเดยี วกัน ไมว าจะยากหรอื งาย
แตมคี วามเพียรเปน ทีต่ ั้งในกจิ การท่เี หน็ วา ชอบธรรม จนเปนผลสําเร็จได ฉะน้นั ทงั้
สามรตั นะจึงเปน ท่ยี ึดเหน่ยี วใจของสัตวโ ลกไดในขั้นมหาอดุ มมงคล

ใจของสามัญชนทั่ว ๆ ไป ถา พูดถงึ ความดื้อดงึ ตองเปนจติ ท่ดี อ้ื ดึงเชนเดียวกนั
ไมวาจิตผูหญิง ผชู าย นกั บวชและฆราวาส เพราะมสี ิ่งสง เสริมอยูภายในใหแ สดงตัว
ออกมาเปนความดอ้ื ดึงแขง็ กระดางเหมือนกัน ไมว า จิตใครที่ปรากฏเปน รูปรางขึ้นมา
เชน เราเชน ทา นแลว จะกลายเปน จิตทีบ่ อกงา ยสอนงาย และมกี ารส่ังสมอบรมคุณงาม
ความดใี สตัวโดยไมต องมีการบังคบั บัญชา พาจัดพาทาํ อะไรทัง้ นัน้ แตเปนไปเองโดย
ลําพังตัวเองอยางน้ี จะหาไมเ จอเลยในแหลงแหงไตรโลกธาตุ

แมจ ะเปน ผมู ีนิสัยวาสนาเบาบางมากเพียงไรกต็ าม เบือ้ งตน ตอ งอาศัยการฝก
หัดอบรมดวยกันทั้งนั้น จึงจะเปนไปได ไมเชน น้นั กไ็ มต องมีครมู อี าจารยต อ งคอยชี้แจง
ส่ังสอนใหเหนด็ เหน่อื ยเปลา เฉพาะผูแสดงแลว ถอื วา การสอนคนใหเปนคนท่ีดีและการ
สอนพระใหเปนพระท่ีดีน้ี เปน ภาระหนักอยา งฝงลึกทีเดียว เพราะผูมาศึกษาอบรมดวย
มีความรสู ึกในแงหนกั เบาตา งกนั เปนราย ๆ ไป การสงั่ สอนจงึ จะทําแบบนายสานายมา
ไมได ผูมารบั การศึกษาจะไมไดร บั ประโยชนเ ทาทคี่ วรจะได เมือ่ เปน เชน นี้ จําตองเปน
ภาระอยกู ับผูใหการอบรมสง่ั สอนโดยดี

ฉะนนั้ การฝกฝนตนตามนัยทคี่ รูอาจารยอธบิ ายใหฟ ง แลว จึงควรถอื เปนภาระ
ของตวั อยา งไมส นใจหาผเู ปลย่ี นตวั เพราะไมใชงานซง่ึ จะทาํ แทนกนั ได แมจะยากหรือ
ลําบากเพยี งไร กเ็ ปน งานจาํ เปน สาํ หรบั เราโดยเฉพาะ งานทีจ่ ะกาวไปเพื่อความพนทุกข
ตามเสด็จพระพุทธเจานี้ เปน งานที่มีเกียรติสําหรับเรา และเปน งานตวั อยางของโลก
และธรรมทั่ว ๆ ไป เชนเดียวกับพระพทุ ธเจาทที่ รงบําเพญ็ มาจนสําเร็จเตม็ ภูมแิ ลว ยงั
เปน บคุ คลตวั อยา งของโลกใหถ ือเปนแบบฉบบั ตลอดถงึ สมยั ทกุ วันน้ี ไมเ คยลาสมัย
และจืดจางตลอดมา

เราผเู ปนลูกของทานผูกลา หาญจึงควรเอาแบบอยา งจากครูมาใช อยา มีความ
อิดหนาระอาใจตอความเพยี ร จติ ถา ไดร บั การบาํ รุงจากความเพยี รเสมอแลว ตองขยับ
ตวั ขน้ึ ไปเปนลาํ ดับไมมวี นั จะถอยกลบั ลงมา วันนี้รูเร่ืองของตวั ขนาดนี้ วันนม้ี ีอารมณ

แวน ดวงใจ แว่นดวงใจ : -ภา๑๘ค๐๘๔๑ -อบรมฆราวาส

๘๕

เก่ยี วขอ งใจเทานี้ และไดใชค วามเพยี รพยายามรูแ ละแกไ ขกนั ไดข นาดน้ี วนั หนา รู
อารมณป ระเภทนั้น และทําการแกไ ขกันไดเ ทานั้น ๆ และมคี วามเพียรสืบตอ กนั ไปทกุ
วนั และเวลา กิเลสอาสวะจะมกี าํ ลงั กอตัวมาจากทไี่ หนบาง พอจะมากลุมรุมใจของผูมี
ความเพยี รใหห นาแนน ข้นึ ไป มแี ตน บั วันจะนอยลงเปน ลําดับเทา นน้ั นอกจากผไู มสน
ใจจะอบรมดดั แปลงตนเองเทา นั้น น้นั เปน คนหาประมาณมิได คือเปนคนไมมเี ขตแดน
อยา ถือเอามาเปน คตติ วั อยาง จะทําใหด อ ยลงในทางความเพยี รและมที างเสยี ไปดว ย

ผูเปน คนดมี ีคตปิ ระจาํ ตน จะเปนหญิง เปน ชาย เปน นกั บวชหรอื ฆราวาส โปรด
ยดึ เอามาเปนคตทิ ันที แมท ่ีสุดมองเห็นใบไมร วงหลน ลงจากขว้ั ของมัน ก็ใหย ึดเอามา
เปนธรรมเครื่องพรํา่ สอนตน โดยถือวากริ ยิ าท่ใี บไมรว งลงมานัน้ คือ ความหมดกําลงั ที่
จะตั้งอยูได จึงรว งโรยลงไปเชนนั้น ชีวิตของมนษุ ยและสตั วกย็ อมมีสภาพเชนเดยี วกนั
มีความทกุ ขแ ละความแปรปรวนประจาํ ตน เรอื่ งสภาพของธาตขุ ันธเคยเปน เชน นน้ั
ตลอดมา ใครจะรหู รือไมร กู เ็ ปน อยูอยา งนนั้ สภาพเหลา นี้ตั้งอยเู หนือโลกธรรมท้งั
หลาย ไมเ คยเปนไปตามการตาํ หนิตชิ ม และคําออนวอนของผใู ดท้งั น้นั

และเรือ่ งเชนนเี้ คยมปี ระจําอยทู ั่วไป ไมว า จะเปน สภาพใดทีอ่ ยใู นวงสมมุติ ยอม
มีทางเดินสายเดียวกัน ไมมีผูใดมีอํานาจราชศักด์ิ จะกาวเดินทางสายแปลกจากโลกไตร
ภพนี้ไปได นอกจากทา นผบู รสิ ุทธโ์ิ ดยส้ินเชงิ แลวเทา น้นั จะไมเดนิ ทางสายสมมตุ ิท่ีโลก
เดินกนั ผูใชต ามความไตรต รองดว ยปญ ญาไปที่ไหนมีแตธ รรมโอสถเครอ่ื งแกใ จทัง้ น้นั
เพราะความรับสัมผสั จากสง่ิ ตาง ๆ เตอื นอยูเสมอทงั้ วันท้งั คนื ยนื เดิน นัง่ นอน ตรง
กับทา นวา ฟงธรรมในหลกั ธรรมชาติ ไดฟ งตลอดเวลาไมมขี าดวรรคขาดตอน ไม
เหมอื นพระทา นเทศนใ หฟ ง บนธรรมาสน

กพ็ วกเรามศี าสดาเปน ครสู อนอยแู ลว ทุกบททกุ บาท ทานตรัสไวใ นธรรมนับได
๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ สวนทีเ่ ปนปลีกยอยไมอาจคณานบั ทง้ั นลี้ ว นเปนอบุ ายวิธีที่
สอนเราทั้งนัน้ เพราะเรือ่ งทุกสง่ิ ทกุ อยา งมอี ยูกบั เรา ธรรมทงั้ หมดจึงมาเก่ยี วขอ งกับเรา
ถา เรามีโอปนยโิ ก นอ มมาปฏบิ ตั ดิ ัดแปลงตนเองใหเปน ไปตามพระโอวาทท่ีพร่าํ สอน
แลว ยอมมที างเลด็ ลอดจากทุกขไปไดเปน ลาํ ดับ ฉะนัน้ สตปิ ญญาท่เี ราไตรต รองดเู ร่อื ง
ภายนอกภายใน จงึ ควรใหแนบสนิทกบั ใจ เรื่องของทุกขก็มีทั้งทุกขขางนอก มีทั้งทุกข
ขา งใน มีทั้งทุกขของทานและทุกขของเรา และทุกขของสตั วแตล ะประเภทเต็มไปหมด
ลว นเปนเรื่องของทกุ ขค ือความบบี คัน้ อันเดยี วกัน

แวนดวงใจ กัณฑ์เทศน-์ท๑่ี ๘๘๐๙๕: -ความเพียร

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๑๐๑ -อบรมฆราวาส

๘๗

แสดงขึ้นมาตามจุดบกพรองของใจ ทเี่ รียกวา ความเลนิ เลอ เผลอสติ นีเ่ ปน จุดบกพรอ ง
ของใจทีย่ ังทุกขใหเกดิ ขนึ้ ได

เม่ือสขุ ทุกขเกดิ ข้นึ ตามสาเหตดุ ชี ่ัวเปนหลกั ประกันอยแู ลว การตาํ หนิตชิ มใน
ผลคือสุข ทุกข จงึ ไมมผี ลดอี ะไรเกดิ ขนึ้ นอกจากจะเปน เรอื่ งสง เสริมสมุทัยใหท าํ การสง่ั
สมทุกขเพม่ิ ขึ้นอีกเทานน้ั ฉะนัน้ เพือ่ ดับทุกขใหถ กู ตามทางมรรคปฏิปทา ผรู บั ทราบ
ทกุ ขท ีเ่ กดิ ขน้ึ จงึ ควรจบั ทกุ ขขึ้นเปน เปา หมาย แลว พจิ ารณาตามสาเหตทุ ีใ่ หเกดิ ทกุ ขโ ดย
รอบคอบดวยปญญา เชน วนั นเ้ี ราไมส บายใจ เพราะคดิ ถงึ เรื่องอะไรจึงเปนสาเหตใุ ห
เกดิ ความไมสบาย ไมส บายใจกบั ส่ิงใดหรอื กับผใู ด เกิดขนึ้ ทไ่ี หน ขณะน้คี วามไมส บาย
ตง้ั อยทู ี่ไหน ตั้งอยูกับอะไร ความไมส บายนเี้ ปนใครหรอื เปนของใคร

ทานวา ความไมส บายเปน ตนนเี้ ปนของจริงอันประเสริฐ มิไดเ ปนของใครและ
เปน ของใครทง้ั นั้น การใชปญ ญาตามขดุ คน เขา ไปก็จะพบตนเหตอุ ยางชัดเจนวา โรง
งานผลติ ทกุ ข คอื ใจทไี่ มมีสติ ไมมปี ญญารกั ษาตน ปลอยใหความคดิ ปรงุ อนั เปน ฝาย
สมทุ ยั สัง่ สมทกุ ขข ้นึ มา โดยไมม ีการตา นทานขดั ขวาง ใจจึงไดร ับความทกุ ขอยางไมม ี
ใครชวยได ทกุ ขม สี าเหตุเกดิ ข้นึ ไดดังท่ีกลาวมาน้ีแล ฉะน้ัน ผูพ ิจารณาเพือ่ ดับทุกขโ ดย
ชอบธรรม จงึ ควรใชปญญาจดจอ งเขาไปในจดุ ท่แี สดงอาการกระเพ่อื มอยูตลอดเวลา
จุดนนั้ เปนทีเ่ กิดขน้ึ แหงทกุ ขแ ละสมทุ ยั ทัง้ มวล และเปน โรงงานใหญโตและแขง็ แรงมนั่
คงมาก ตอ งทดสอบดูใหละเอยี ดถีถ่ ว น ไมเ ชนนั้น จิตจะไปทําความสําคัญวา สงิ่ เหลา
นนั้ เปนเราและเปนของเราข้ึนมา ความสุขทุกขกจ็ ะกลายเปน เรา เปนของเราขึ้นมาตาม
ๆ กัน คําวา “เรา” กับความคิดดี คิดชั่ว และสุข ทุกขก จ็ ะเช่อื มเขา เปน อนั เดยี วกนั จน
หาทางแกไ ขไมไ ด

ฉะนัน้ จงคอยสงั เกตดวยสตกิ บั ปญ ญา ตามลาํ ดับทีค่ วามคดิ ดีหรอื ช่วั เกิดขนึ้
ภายในใจ ท้ังขณะตงั้ อยูและดบั ไป พรอ มทงั้ การทราบตนเหตทุ เ่ี กิดขนึ้ ของสิง่ เหลา น้นั
ไปในระยะเดยี วกัน เชน ความดใี จเสียใจเปน ตนเกดิ ขนึ้ จงจบั จุดนี้แลว ขดุ คน หาสาเหตุ
ท่ีเกดิ ขนึ้ เรื่องความสุข ความทกุ ขที่เปน ผลซงึ่ ออกมาจากจดุ เดยี วกันกจ็ ะดบั ไป แลว
เปลี่ยนสภาพขึ้นมาใหม ใหจิตตามรกู ันตามลาํ ดบั ของเรอื่ งท่ียังไมจบส้นิ ลงโดยส้ินเชิง
ยังจะไดค ติทีส่ ําคญั ๆ จากการพจิ ารณาในเวลานน้ั ดว ย

วธิ ีดาํ เนินจิตตอ งถือความสมั ผสั และความกระเพื่อมของจติ เปน เปาหมายของ
การพจิ ารณา จิตจะแสดงตัวขนึ้ มาอยา งไร เชน แสดงเปน ความเสยี ใจและเศรา หมองข้นึ
มา อยาตนื่ เตนตกใจไปตามอาการทแ่ี สดงน้ัน ๆ จงพจิ ารณาใหรโู ดยท่วั ถงึ ตามหลัก

แวน ดวงใจ ๘๗

กณั ฑเ์ ทศน-ท์ ๑่ี ๘๑๑: -ความเพียร

๘๘

สตปิ ญ ญาของผูตองการทราบตนเหตุแหงเรอื่ งทัง้ ปวง ไมใ หม ีจดุ บกพรอ งตอการ
พิจารณา ความเสียใจและเศรา หมองเปน สาเหตุมาจากสมุทยั ความดีใจและผอ งใสเปน
สาเหตมุ าจากมรรค คือขอปฏิบัตทิ ั้งสองประเภทนี้ จงถอื เปน ทางเดนิ ของสตปิ ญญาตอ
ไป อยาไปยึดเอาความเศราหมองและผอ งใสนนั้ มาเปน ตน สตปิ ญ ญาจะหาทางเดินตอ
ไปไมได เนือ่ งจากความเศราหมองและความผอ งใส จะกลายเปนเราข้นึ มาในระยะทไ่ี ป
ยดึ เขา เรากับเขาจะแกก ันไมต ก เพราะความผองใสเรากเ็ สียดายและรกั สงวน สว น
ความเศราหมองเราก็เกลียดชัง ความเกลียดชังก็เปน เรือ่ งของเรา แมเราไมชอบความ
เศราหมอง แตเ รากลบั ชอบความเกลียดชงั จึงถอื ความเกลยี ดชงั ข้ึนมาเปน ตวั โดยไมร ู
สกึ กเิ ลสกับเราจงึ มีโอกาสคละเคลากันไดอ ยางนี้

เร่อื งมารยาของใจท่มี กี ิเลส มนั แสดงอาการหลอกลวงเรา ไดร อ ยแปดพนั
ประการ เพ่ือการดําเนินไปดวยความสะดวกและราบรื่น จงถอื เอาเรือ่ งดี เร่ืองช่วั และ
ความเศราหมองผองใสเปน ตน เปน ทางเดินของสตปิ ญ ญา จติ จะแสดงอาการอยา งใด
ขน้ึ มาจงทราบ และทาํ ความเขา ใจกบั สิ่งท่ีปรากฏขนึ้ มาทันที อยาไปทาํ ความเขา ใจเอา
เองวา ส่ิงทีป่ รากฏขึน้ มานนั้ เปน ส่งิ ที่ควรไววางใจ และควรถอื เปนหลกั ยดึ ของใจ จะ
กลายเปน ความพลั้งเผลอและหลงยดึ เอาสง่ิ นนั้ แลวกลายเปน สมมุตจิ ดุ หน่ึงขึน้ มาให
เปน เครื่องกดถวงใจโดยไมรสู ึก เมอื่ สง่ิ ทเ่ี ห็นวา เปน สง่ิ ถูกกบั ใจสลายตัวลงไป และส่ิงที่
ไมชอบใจเขา มากีดขวาง ใจกจ็ ะแสดงความเสยี ใจข้ึนมา น่นั เปน เรื่องเสรมิ สมุทยั ใหเกดิ
ความทกุ ขข้นึ มาอกี

ดังนน้ั เพ่อื ความรอบคอบตอทางดาํ เนนิ ของตน จงทําความเขา ใจกับสงิ่ เหลา
นัน้ ดว ยดีวา เมือ่ ยงั มีอารมณด ี ชวั่ และสุข ทุกข ปรากฏในวงปฏิบัติของจติ กแ็ สดงวา
ทางเดินของเรายงั มอี ยู ยงั ไมถ งึ ทีส่ ดุ ซึง่ ควรจะหยดุ การเดิน และจาํ ตองเดนิ ตามส่ิงที่
ปรากฏ สิง่ ทปี่ รากฏข้ึนมาเฉพาะหนาไมว า ดวี าชั่ว และไมวาจิตจะแสดงอาการใดๆ ออก
มา ตองตามรูต ามเห็นดว ยการพิจารณา และถือจุดหรืออาการน้นั ๆ เปนทางเดนิ ของ
สติปญญาโดยพจิ ารณาใหถี่ถว น อยา ไดนอนใจกับส่ิงใด ๆ เม่ือสงิ่ ท่ีกลาวมายงั ปรากฏ
อยูกบั ใจมากนอย ใหถ อื วา สิง่ ท่ีปรากฏนี้แล กําลงั เปน ทางเดนิ ของจติ และสติปญญาอยู
เวลาน้ี เรายังมีทางเดนิ ตอ ไปอกี ยงั ไมสนิ้ สดุ ทางเดนิ ของเรา จนกวา สติปญญาจะรูรอบ
คอบ และสิง่ ท้ังหลายที่เคยปรากฏกบั ใจกส็ ลายตวั ลงไป พรอมทัง้ รากฐานของมนั ทเ่ี ปน
จุดของสมมุตอิ ันสาํ คญั

แวน ดวงใจ แวน่ ดวงใจ : -ภา๑๘ค๑๒๘๑ -อบรมฆราวาส

๘๙

เม่ือทกุ สิง่ ทีเ่ คยเปนขา ศกึ ของใจสลายตัวลงไปโดยสิ้นเชงิ แลว นั่นแลการเดนิ
ทางของจิต มีสติ ปญญา ศรัทธา ความเพียร เปนเพื่อนสอง ยอมยุติลงเพยี งเทานัน้
น่นั ชือ่ วาหมดทางเดนิ จรงิ ๆ การหมดทางเดนิ จากสมมตุ ิ ดี ชว่ั นน้ั แล ทา นเรียกวา
วมิ ตุ ติ เราจะไปหาวิมตุ ตทิ ไี่ หนกัน นอกจากจะทําลายสมมุตอิ อกจากใจหมดแลว กเ็ ปน
วิมตุ ติขน้ึ มาเทา น้ัน ไมม ที ีไ่ หนเปนวมิ ตุ ตติ ามความคาดหมายของใจ ซึ่งเปนเจาอารมณ

คาํ วา วิมุตติ กับ นพิ พาน น่นั เปนไวพจนของกนั และกัน คอื ใชแ ทนกนั ได เชน
เดียวกบั การกินกบั การรับประทาน ซึ่งเปน ความหมายอันเดียวกัน พูดเพยี งคําใดคํา
หน่ึง โลกกร็ ทู ั่วถึงกัน จติ ทเี่ ปนวิมตุ ติของทานผูหลุดพน เพราะกาํ ลังความเพียร จะยอน
กลับเหน็ คณุ ของความเพียรทีพ่ าตะเกียกตะกายและลม ลุกคลุกคลาน จนถงึ แดนเกษม
ในปจ จุบนั อยางเต็มท่ี และเห็นโทษแหง ความเกียจครา น และความโงเขลาท่พี าใหซ บ
เซาเหงาหงอย เพราะความบีบบงั คบั ของกเิ ลสบาปธรรมซ่ึงเปน เจา ครองใจ ไมมเี วลา
ปลดแอกพอใหอ ยูสบายสกั เวลาหน่งึ เชน เดยี วกนั

น่ีแล การดาํ เนนิ ตามแบบ พทุ ฺธํ ธมมฺ ํ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ เปน สรณะ ยอมมีจดุ
จบเปน ท่หี วงั ดงั ท่อี ธบิ ายมา ทกุ ทา นโปรดนาํ ไปประดับตน จะไดมากนอ ยตามกําลงั
ความสามารถ ธรรมจะงามในเราตามขน้ั แหง ธรรมทต่ี นบําเพญ็ ได เรากเ็ ปนผูงามใน
ธรรม เพราะช่อื วาธรรมแลวยอ มงามเปน ลาํ ดบั ไมม สี น้ิ สุด คอื งามในเบอ้ื งตนทีเ่ ราเริ่ม
บําเพญ็ กเ็ ปน อาทกิ ลยฺ าณํ งามในทามกลางของทานผบู าํ เพ็ญขั้นสมาธิ ปญญากเ็ ปน
มชเฺ ฌกลยฺ าณํ งามในทสี่ ุดของทา นผมู ีจิตบรรลุถึงวมิ ุตตพิ ระนพิ พาน กเ็ ปน
ปริโยสานกลยฺ าณํ คอื งามอยา งสุดขีดสุดแดน ไมมอี ันใดเสมอเหมอื น เพราะฉะนนั้
ทุกทานโปรดทําความบากบ่นั ตอ ความงามแหงธรรมในจุดสุดทาย ใหส มกับธรรมทม่ี ีไว
สําหรับโลกจะนอ มนาํ มาประดบั ตัวไดทุกเวลาท่ตี อ งการ

ในอวสานแหง ธรรม จงึ ขออัญเชิญคณุ พระศรีรตั นตรัยมาอภิบาลคุม ครองทา น
ท้งั หลาย ใหม ีความสะดวกสบายในการบาํ เพญ็ จนเหน็ ผลเปนท่ีพงึ พอใจโดยทวั่ หนา
กนั เทอญ

www.Luangta.or.th

แวนดวงใจ กณั ฑ์เทศน-ท์ ๑ี่ ๘๘๑๓๙: -ความเพียร



กัณฑ์ท่ี ๙

ธรรมเป็นโอสถสำ�คัญ

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดปา่ บ้านตาด
เมอ่ื วันท่ี ๑ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๘

กัณฑเ์ ทศน์ที่ ๙-: ๑ธ๑ร๕รม-เป็นโอสถส�ำ คญั

๙๑

เดก็ ไมค อ ยมีความสนใจในหนาทีก่ ารงานท่ีจะใหเ กิดประโยชน นอกจากจะประพฤติตาม
ความชอบใจของตนเทานั้น ถาพอ แมผ ูป กครองทางบานและครทู างโรงเรยี นไมคอย
ตกั เตือนวากลา วเสมอแลว เดก็ อาจมีทางเสยี ได เพราะเด็กยงั ไมม คี วามรคู วามฉลาดพอ
จะรักษาตัวคมุ ตวั ฉะนั้นพอแมและครูตองคอยสั่งสอน ทงั้ ความประพฤติ มรรยาท การ
ศกึ ษาเลาเรยี นและหนาทกี่ ารงานตามวยั ของเดก็ เพ่อื เด็กจะไดมที างรักษาตัวไมไหลลงสู
ทางตํ่า เพราะความประพฤตไิ มด ี จนเดก็ เตบิ โตข้ึนเปนผูใหญแ ละมีวิชาหาเล้ยี งชพี ไม
ขัดสนจนทรัพยอับปญญา

จติ กจ็ ําตอ งการอาศัยการปกครองดวยความถูกตอ งจากเจาของ เพราะการศกึ ษา
อบรมมาจากทต่ี า ง ๆ คอื จากทางโลกบาง จากทางธรรมบา ง นาํ มาดดั แปลงตนเองใหถ ูก
ตอ งตามหลักวชิ านนั้ ๆ แตการดดั แปลงตนใหเ ปนไปในทางท่ดี ี ไมว าทางโลกและทาง
ธรรม รสู ึกจะเปน การฝน อยูบา งในขัน้ แรกเริ่ม เพราะเปน กิจทไ่ี มเ คยทาํ และยังไมเ หน็ ผล
พอจะเปน เคร่ืองดึงดดู ใจ

เฉพาะดา นธรรม ยงั จะมีการฝนมากกวาทางโลกอยบู าง ฉะนน้ั จึงหาคนดีในดาน
ธรรมและดานจติ ใจไดย าก ท้ังหมูเพ่อื นทีเ่ ปน นักธรรมและครอู าจารยผูใ หความอบอนุ ใน
ทางนี้ก็มีจํานวนนอย เม่ือพดู มาถงึ ตอนน้ีเปน เหตใุ หระลึกถึงพระคุณของพระพทุ ธเจา ผู
ประทานกําเนดิ แหง ธรรมใหแ กพวกเรามากข้ึน เพราะความเช่ือในพระปรีชาสามารถ
ฉลาดรอบรูของพระองคท่ที รงเสกสรรคนชัว่ ใหเปนคนดี เสกสรรคนมีกเิ ลสหนาปญ ญา
ทึบ ใหก ลายเปน ผเู บาบาง และเสกสรรผูม ีอุปนิสยั ทค่ี อนขางเบาบางอยแู ลว ใหเปน
บุคคลพเิ ศษขึ้นเปนขัน้ ๆ โดยเปน พระโสดา พระสกทิ าคา พระอนาคาและพระอรหนั ต
บุคคล ซง่ึ คนธรรมดาสามัญเราไมม ีใครสามารถจะทําไดอ ยา งพระองคทา น

ดังนน้ั การแสวงหาของดีทกุ ชนดิ จงึ เปนของหายากมาก ไมใชเปน ของหาไดอ ยา ง
งา ยดายเลย เราหาของดีในตวั เราก็ยอมเปนของยากอยบู าง คอื ยากตรงท่ีตอ งฝน ใจทํา
เชนเดยี วกบั คนไขฝน ใจใหหมอฉดี ยา แมเ จบ็ ก็อดทนเอาบาง แตอ ยางไรก็ดี อยา ลมื นิสยั
ของเราชาวพทุ ธท่ถี อื หลกั เหตุผลเปนท่ตี ง้ั ของการงานทกุ ประเภท จะหนักบาง เบาบา งไม
สาํ คญั แตชาวพุทธเราเหน็ สาํ คญั อยูท่ผี ลประโยชนอันจะพึงไดร บั เปนทีพ่ อใจ ไมเ ปน ไป
เพ่อื ความกระเทอื นตนและผอู ่ืน ชาวพุทธเราถือวาเปน กิจท่คี วรทาํ อยา งยงิ่ และอยาลมื
คาํ วา พระพทุ ธเจา พระธรรม และพระสงฆ ซง่ึ เปนสรณะและเขม็ ทิศของเรา ทา นทวน
กระแสของโลกท้งั ดา นความประพฤตแิ ละความรสู กึ พระธรรมท่ปี รากฏขึน้ ในพระทัยจึง

แวน ดวงใจ ๙๑

แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๑๖๑-อบรมฆราวาส

๙๒

เปนธรรมทท่ี วนกระแส พระสาวกพระอรหนั ตกเ็ ปน ผูปฏิบัติทวนกระแสตามเสดจ็ พระ
พทุ ธเจา

เราทน่ี อมนึกถึงทานเปน สรณะ และฝากเปน ฝากตายในชวี ิต กเ็ พราะทานเปน
สรณะพิเศษกวา สรณะเครอ่ื งอาศยั ทว่ั ๆ ไป ถาจะพูดถึงพุทธะ คือธรรมชาตทิ ่ีรูของพระ
พทุ ธเจาและสาวกกับของบคุ คลท่ัว ๆ ไปก็มเี ชน เดยี วกนั แตไ มบ ริสทุ ธพ์ิ เิ ศษเหมือน
พทุ ธะของพระพุทธเจาและสาวกทาน ถา จะพูดถึงธรรม ธรรมของพวกเราก็มี แตย ังมิใช
ธรรมอันศกั ด์ิสทิ ธวิ์ เิ ศษเหมอื น ธมโฺ ม ปทีโป ขององคส รณะ เพราะยังไมส ามารถบําเพญ็
ใหเ ต็มภูมิไดเ หมอื นอยางทา น เพราะฉะน้นั สรณะทัง้ สามจงึ เปน ทเี่ คารพรักและสงวนยงิ่
ของปวงชนชาวพุทธตลอดมา ไมมใี ครสามารถอาจเออ้ื มดหู ม่ินเหยยี ดหยาม เพราะถือ
เปน หัวใจของชาวพทุ ธแตล ะทาน

พระพทุ ธเจาองคสรณะทีห่ นึง่ ซงึ่ เปน ผูร ื้อฟน สรณะทสี่ องและท่ีสามข้นึ มา ใหเปน
ขวญั ตาขวญั ใจของโลกไดกราบไหวบ ูชาเปนคูเคียงกันมา รูสกึ วาเปนทน่ี าแปลกและ
อศั จรรยใจอยา งยิ่งในพระประวตั ทิ ีท่ รงบําเพ็ญมา เปนประวตั ิอนั ยิ่งใหญประหนึ่งโลก
สะเทอื น เพราะเปนประวตั ทิ ่เี อาจริงเอาจัง ไมใชแ บบพดู พลา มทําเพลงเฉย ๆ แลวไมท าํ
ตามทีพ่ ูดไว ทง้ั ไมทรงเกริ่นเวลาและโฆษณาชวนเช่อื ตลอดทรงหวังพระเกียรติในการ
เสดจ็ ออกเพือ่ ทรงผนวชแตอ ยางใด แตเสด็จออกแบบนายสานายมาไปเยี่ยมญาติโดยไม
มีใครทราบ เพราะไมรบั สัง่ อาํ ลาใคร แมพ ระชายาและพระโอรสกไ็ มทรงอาํ ลา เกรงจะ
เปนอปุ สรรคตอ การเสด็จออกเพอื่ พระโพธญิ าณ ซง่ึ กาํ ลงั จะเขา ถงึ เงอ้ื มพระหตั ถอยูแลว
ไมท รงอาลยั เสยี ดายพระราชสมบัติและพระราชฐานที่เคยเสดจ็ ประทับอยอู าศัย เสด็จ
ออกในเวลากลางคนื ยามดึกสงัด มเี พยี งนายฉันนะและมาเทา นนั้ ตามเสด็จ

พอเสดจ็ ถึงทีแ่ ละเสรจ็ การทรงผนวชแลว กร็ ับสงั่ ใหนายฉันนะและมากลบั พระ
ราชฐาน สวนพระองคก ท็ รงบําเพ็ญพรตอยูในปา นัน้ พระองคเดยี วเปลีย่ วพระทัย หมดท่ี
พ่ึงอาศยั ในพระอริ ยิ าบถทง้ั สี่ไมมีความสะดวกพระกายสบายพระทัยเลย ในระยะทีท่ รง
เรมิ่ บาํ เพ็ญ แตก ท็ รงอดทนฝนความที่เคยเปนมาใหเ ขารปู กับความเปน นักบวช ซงึ่ เปน
เพศทช่ี วยตวั เอง ไมทรงหว่นั ไหวตอความทกุ ขท รมานใด ๆ ทั้งสนิ้ ทรงมคี วามเพียรอัน
เดด็ เด่ียวกลา หาญตอพระโพธญิ าณ บางครั้งถึงกบั สลบไสลไปเพราะความเพยี รกลา แต
ทรงมงุ หนา ตอความเปน พระพทุ ธเจา ไมทรงลดละ ถา เปนพวกเราไปโดนอยางน้ันเขา บา ง
กน็ า กลัวจะรอ งโวยวายไปทว่ั ทั้งปา และรอ งเรยี กใหคนไปชวยหามกลับมาบา นอยา งไมม ี
ปญหา

แวน ดวงใจ ๙๒

กณั ฑ์เทศนท์ ่ี ๙- :๑ธ๑ร๗รม-เปน็ โอสถสำ�คญั

๙๓

แตก ารหามคนที่แพก ารตอสู นอกจากหามนกั มวยที่ถูกนอ็ กบนเวทลี งมาเพือ่ ชว ย
พยาบาลแลว ไมม ปี ระเพณหี ามกัน นอกจากจะหามลงใสต มใสโคลนไปตามเรอื่ งของคน
ที่แพเ ทา นัน้ เพ่อื ใหเ หน็ โทษในความไมเ ปน ทา ของตน ไมมีทางเปนท่นี าชมเชย เพราะ
ประเพณีของโลกท่นี ิยมกัน ตองหามผูม ีชัยชนะจากการตอ สู เพอื่ เสริมเกยี รตใิ หเขามแี ก
ใจในวาระตอ ไปเทา นน้ั แตจะหามเพอ่ื เสริมเกยี รติคนทีแ่ พการตอ สูอยางหลดุ ลยุ นั้น กจ็ ะ
เปนการสงเสริมคนขี้เกียจออนแอไมเ ปน ทา ใหแ สวงหาเกียรตใิ นทางนัน้ มากขนึ้ ศาสนา
ก็จะลมจม คนดีจะสูญพันธไุ ปหมด จะปรากฏแตค นประเภทไมเ ปน ทา เต็มแผน ดินเทา
น้นั เอง

พระพทุ ธเจาทรงบาํ เพ็ญทุกประโยคแหงความเพียร แมจ ะผดิ พลาดไปบางในกจิ
ไมเ คยทํา แตก เ็ ปน คตแิ กโลก สมการบําเพ็ญของศาสดาวามใิ ชผูท าํ เลน ๆ แตทาํ สมภูมิ
ของผูจ ะเปนศาสดาของโลกจรงิ ๆ เราพอจะทราบความเปนมาแหงศาสดาของโลก ควร
เปน ผสู มพระนามวา สตถฺ า เทวมนสุ สฺ านํ จรงิ ทั้งดานความเพียรอันทรหดอดทน ทง้ั
ดา นความรจู รงิ เหน็ จรงิ และดานการสงั่ สอนสัตวโลกดวยสวากขาตธรรม เพอื่ นยิ ยานกิ
ธรรมจรงิ ๆ ธรรมสมบัตทิ ีท่ รงคนพบก็เปน ธรรมอันประเสรฐิ และสงั ฆสมบตั ทิ ที่ รงผลติ
ขึน้ กเ็ ปน สงฆองคป ระเสริฐ รวมองคของพระศาสนาแลวมีแกว อนั ประเสรฐิ สามดวงเปน
หัวใจของโลกตลอดมา ดังน้ัน เราผมู แี กว สามดวงเปนหวั ใจ โปรดยดึ เย่ียงอยางแหงแกว
สามดวงน้ันดว ย เทา ที่เพศวัยและกําลังความสามารถจะอํานวย

วนั หน่ึงคืนหนึง่ ผา นไป อายุและวัยของเราก็ชือ่ วากา วเคยี งกนั ไปกบั วนั คนื เดือน
ปด วย ในรอบของคืนหน่ึงและวันหนงึ่ ควรถือเปน เวลาสําคัญ เพอื่ คิดบญั ชีของตัวสกั หน่งึ
เวลา คือการบาํ เพญ็ ความดเี พ่อื เปน ช้ินเปน อันของตวั บาง ไดแกแบงเวลาไวอบรมจิตต
ภาวนา เพ่ือรวู ถิ ที างเดินของชวี ติ จิตใจ ทางทดี่ คี วรตงั้ ความสตั ยกําหนดเวลาบงั คบั ตน
บา ง เพ่ือไมใหจ ติ หาเรอ่ื งออกตัว เพราะจิตข้ันเริ่มแรกแหงการอบรม รสู กึ จะมเี ร่อื งมาก
ทง้ั ๆ ที่ไมมเี รือ่ ง เชน เดียวกบั เราบงั คบั เด็กใหทํางาน โดยมากเดก็ ชอบออกตวั เพ่อื หลบ
งานเสมอ ถา ผใู หญเ ผลอเดก็ กห็ าทางหลีกงานไปได ถาถูกบงั คับเขาจริง ๆ จนหาทาง
หลบหลีกไมได เด็กก็ยอมทาํ งานใหตามคําสัง่

จติ ข้นั เริ่มแรกกร็ ูสกึ จะเปน เชน นน้ั ถา สติไมบ ังคับและความสตั ยไ มบบี ตวั จริง ๆ
จติ อาจหาทางออกได อยา งหนึง่ ไมยอมทํางาน คือ การภาวนา อยางหนึ่งยอมทํางานแต
ไมจดจอ กับงาน พอใหเ สยี เวลาโดยไมไ ดผ ล ฉะนั้น การตง้ั กฎเกณฑแ ละตง้ั สตบิ งั คบั ใจ
จงึ เปน กิจที่ควรทําอยา งยงิ่ สําหรับผมู งุ ความกา วหนา ทางดา นจติ ตภาวนา จนกวา จติ จะมี

แวนดวงใจ ๙๓

แว่นดวงใจ : ภ-า๑ค๑๘๑ -อบรมฆราวาส

๙๔

ความเคยชินตอ กฎเกณฑ เคยชนิ ตอ ตวั เอง และปรากฏผลขึ้นมาบางแลว จากน้ันจิตจะ
มุงทาํ งานในหนา ทข่ี องตวั ไปเอง แมจะมธี ุระมากนอ ยก็ไมย อมลดละ พอถึงเวลาอนั ควร
จติ จะปลอยวางและยอ นกลับเขามาหางานภายในทนั ที โดยไมตอ งบงั คับขเู ขญ็ ดังที่เคย
เปน มา

อนึ่ง การสมาคมเปนส่งิ สําคัญท้งั ดานความเจรญิ และดา นความเสอ่ื มเสีย เพราะ
การสมาคมก็เทากับการศกึ ษาและทําความจดจําอยา งฝง ใจเหมอื นกนั ความจาํ เปน นน่ั แล
เปนสาเหตุแหงความประพฤตดิ ีชว่ั ซ่งึ จะพาตัวใหเ จรญิ และเสื่อมเสยี ไป ทานจึงสอน
เสมอวา อเสวนา จ พาลานํ ปณฑฺ ติ านฺจ เสวนา จงพยายามปด เปาสิ่งทีช่ ว่ั อยาใหเขา
ใกลชดิ ตวั และจงพยายามแสวงหาของดี อยาข้เี กียจ ไมว า ชว่ั ขา งนอกหรือช่ัวขา งใน อยา
ทําความนอนใจ จะทาํ เราใหเ สียไดจ รงิ และไมวา ดขี า งนอกหรือดีขางในจงทําความหมาย
ม่นั ปนมือเสาะแสวงและสง เสรมิ จะทาํ เราใหเปนคนดีไดจริงๆ จิตท่ีไดรบั การบาํ รงุ รกั ษา
ดวยดีตองเปนไปเพื่อความกา วหนา ไมล า ถอย เพราะเปนสงิ่ ทีเ่ สรมิ ใหด ีและกดใหเลวได
จากผเู ปนเจาของ

เรือ่ งความอยาก ทง้ั มนษุ ยแ ละสัตวยอมมเี หมอื น ๆ กัน ความอยากตามธรรมดา
ท่ธี าตุขันธต องการก็มี ความอยากตามอํานาจของตัณหากม็ ี ประเภทหลังน้ีสาํ คญั มาก ถา
ปลอ ยใหค วามอยากประเภทหลงั นถี้ อื พวงมาลยั อยางไรตองเรง เครอื่ งใหญ และมีหวัง
พาเราลงคลองแน ๆ พอสง เราลงไปนอนสลบไสลอยใู นคลองแลว ตัวมนั กเ็ ผนหนเี ลย
ตามจบั ตัวมาเขาหอ งขังไมไ ด สุดทา ยตอ งยอมเสียทั้งเราและเสียท้งั ชีวิตไปดวย การ
ปลอ ยตามอํานาจของความอยากคอื ตณั หาไมม ีเมอื งพอดนี ้ี ยอมลําบากและไดร ับความ
เสยี หายอยางมากมาย ฉะนน้ั จงพยายามกดข่บี งั คบั มันใหย อมตัวลงเปน ลอรถ เราเปน ผู
ขบั ขแี่ ละถอื พวงมาลยั บงั คับเคร่ืองเอง เรง เครอื่ งและหมนุ พวงมาลัยรถไปในทางดี จนลอ
ตัณหามันหมนุ เปน ไฟไปเลย จะพอดกี บั ท่ีมนั เคยขีโ้ กงและแสนงอนตอเรามานาน

โดยมากทท่ี าํ ตัวใหเสยี จนไมสามารถยบั ยง้ั ชัง่ ตวั ได ก็เพราะตณั หาตัวเดยี วนเ้ี ทา
นน้ั ถือพวงมาลัย ส่ิงและสถานท่ที ีจ่ ะใหเ กิดความฉบิ หาย มันชอบขับขี่พาเราเขาไป เชน
โรงหนงั โรงละคร โรงบาร และสถานท่ขี ับกลอมบาํ รงุ บําเรอตา ง ๆ เปน สถานทเ่ี กบ็ รถ
ของมันท้ังน้นั เงินทองแสวงหามาไดมากนอยไมพอจบั จา ย และชดใชค า เสยี หายที่เจา
ตณั หามันเท่ียวทําเอาไว มนั เปน ผกู ินผูใ ชอ ยางไมมีปรานปี ราศรัย แตเ ราเปน ผจู า ยตาม
หลงั มันแบบเปนน้ําเปน ไฟไปเลย ไมมีเหลือ ชดใชไมท นั กับความตอ งการของมนั ตอง
ขอเชื่อเครดิตไปกอน นาน ๆ ไปมันสง่ั ใหเ ชอื่ แกมโกง และขอเอาแบบด้อื ๆ ถา ไมใหมนั

แวน ดวงใจ ๙๔

กณั ฑ์เทศน์ที่ ๙- :๑ธ๑ร๙รม-เปน็ โอสถส�ำ คัญ

๙๕

มนั กส็ ่งั แบบใชอ ํานาจ มนั ไปท่ีไหน เปน โรคระบาดฆาตกรรม ไมม ีการยับยั้ง ใคร ๆ ตอง
กลวั อาํ นาจโรคประเภทนี้

ทง้ั นี้ผูแสดงเคยถกู มันหลอกไปตมเสยี อยา งมอมแมมจนนับประมาณไมไ ด ที่
บอบช้ํามาจนบัดนี้ ก็เพราะถูกเจาตัณหาผูมกี ลมารยามากมายหลอกลวงน่ันเอง จึงถือ
โอกาสแสดงเรอื่ งของตวั ทีถ่ ูกหลอกใหทา นผูฟ ง ทราบ เผอื่ จะไดหาทางหลบหลีกปลีกตัว
พอมที างลอดตาขายของมนั ไปบาง หากไมไ ดอยางสมใจ

โดยมาก ตณั หามีกาํ ลังแผอ ํานาจเพราะมีอาหารเครื่องบํารุง คือความคลอ ยตาม
ไมมกี ารหกั หามบัน่ ทอน ทานที่เห็นโทษมันมาแลว จึงสอนใหห ักหา มบนั่ ทอนตณั หาใหมี
กําลังลดนอ ยลง จะพอมีทางสบายบาง ไมถ ูกไสไปโดยถายเดียว ถาเปนฆราวาสกใ็ หต้ัง
อยูในความเปนพลเมอื งดี ไมเปน ท่รี งั เกยี จของทา นผดู ี จนเกิดเบื่อหนา ยไมอ ยากคบคา
สมาคมดวย ถาเปน พระก็ใหต ้งั อยใู นสังวรธรรม มีความสงบเสงี่ยมสมกบั เพศของตน ที่
ไดน ามวา สมณะ คอื ผูสงบงามตา ยิ่งกวานน้ั กข็ อใหเปน ตณหฺ านํ ขยมชฺฌคา ผูส ิ้น
ตณั หาทั้งหลายจะเปน เพศท่ีเย็นใจและงามเตม็ ภมู ขิ องสมณะเรา ซึง่ โลกนบั ถือและไวว าง
ใจอยา งยง่ิ

ตามหลกั ธรรมดา ไมว าตน ไมใ บหญา สัตว บุคคล และดี ชว่ั เปนตน จะต้งั อยู
หรือเจรญิ ขน้ึ ได ตอ งอาศัยเครือ่ งบาํ รุง ถา หาไมแลวจะเจรญิ เตบิ โตข้ึนไปไมไ ด ถามีส่ิง
บน่ั ทอนอยูเ สมอ ไมว าดหี รอื ช่วั ตองนับวนั เวลาเส่ือมลงเปนลาํ ดบั จนสิ้นสญู ไปเลย ไมมี
สง่ิ ใดจะฝนตวั ตงั้ อยูได ที่พระพทุ ธเจาตรสั สอนวา จงพยายามสง่ั สมคณุ งามความดที ีละ
เล็กละนอย ความดีจะคอยเจริญเตบิ โตขน้ึ เปน ลําดับจนถงึ ขั้นสมบรู ณเตม็ ทไ่ี ด และจง
พยายามตดั ทอนความชัว่ ลงวนั ละเลก็ ละนอ ย ความชวั่ จะคอ ยหมดไป จนไมป รากฏซาก
เหลอื อยเู ลย นที้ านหมายถงึ การสง เสรมิ สงิ่ ทค่ี วรจะสง เสรมิ และตัดทอนในสงิ่ ท่ีควรตัด
ทอนนนั่ เอง

ฉะนน้ั การสงเสริมและการตดั ทอนเปนสง่ิ ทเี่ ราควรจะสนใจเปนพเิ ศษ เพอื่ จะนํา
ไปใชในกิจการท่ีชอบซึ่งควรจะสง เสริม และในสิ่งท่ไี มช อบซึง่ ควรจะตัดทอน ตามอุบาย
วิธที ที่ า นสั่งสอน ไมเชนนั้นกจิ การทงั้ ปวงจะไมม ีประมาณพอดีทย่ี งั เหลืออยู พอใหเ ปน ท่ี
นา ดเู ลย เรือ่ งความดีความช่ัว และความสขุ ความทกุ ขท่ีมปี ระจาํ อยูใ นตัวเรา อยา เขา ใจวา
เกิดขน้ึ อยางลอย ๆ และต้งั อยูอยา งลอย ๆ ตอ งมเี ครื่องบาํ รงุ สง เสรมิ พอสง่ิ เหลานัน้ จะ
เกิดข้นึ ตงั้ อยูและเจริญขนึ้ ได การบําเพ็ญใจดว ยคุณงามความดี ทา นจดั วา เปน การบาํ รงุ
สงเสรมิ เพ่ือใหใจมีกําลังกาวหนา ไปสูความสุขความเจรญิ เปนข้นั ๆ

แวน ดวงใจ แวน่ ดวงใจ : -ภา๑๙ค๒๕๐๑ -อบรมฆราวาส

๙๖

ธรรมอันเปนฝายสงู กบั กิเลสตัณหาอนั เปน ฝา ยต่ํา นักปราชญถอื วาเปน ขา ศกึ ของ
กนั และกันแตไหนแตไรมา ถา ฝายต่าํ ไดรบั การสงเสริมใหมีกําลังมากข้นึ ธรรมอนั เปน
ฝายสูงก็ลดกําลังลงเปนลําดบั ทาํ ใหล ืมกิจธุระที่เปนกศุ ลซง่ึ ตนเคยบาํ เพญ็ มาเปนประจาํ
หนกั เขา กล็ มื วนั พระ วนั ธรรมสวนะ ลมื เจรญิ ภาวนา ลมื ไหวพระสวดมนต ลมื ทางเดนิ
จงกรม น่ังสมาธิอบรมภาวนา ลมื ขอ วตั รปฏิบัตปิ ระจาํ เพศ และหนาทข่ี องตน เลยกลาย
เปน คนไมม หี ลักยดึ และมคี ติไมแ นนอน จติ ใจคลกุ เคลา กับความยุง เหยงิ จนไมม ีวันและ
เวลาปลงวางลงได นรกซึง่ ไดยินแตชอ่ื ไมทราบวาอยูใกลอยไู กลหรืออยูโลกไหน แต
ความทกุ ขในไตรโลกธาตุกม็ ากลุมรุมอยทู ี่ใจของตนคนเดยี ว ประหน่ึงไขส ุมอยตู ลอดวัน
ไมม เี วลาสรา ง

โทษทง้ั น้ีเกิดจากการปลอ ยตัว ใหเปน ไปตามอํานาจของกิเลสตณั หาอนั เปนฝา ย
ตาํ่ เปนผนู ําทาง ซ่ึงเขาชอบทางมืดประจํานิสยั อยแู ลว จะเห็นไดจ ากกเิ ลสตณั หาพาใหท าํ
โดยมากจะไมชอบทาํ ในทเ่ี ปด เผย แตช อบทาํ ในที่ลับหลู บั ตาซ่ึงมีทางกาํ บัง สรปุ ความ
แลว กเิ ลสตัณหาชอบเดินทางมดื ชอบอยูใ นทมี่ ืด ชอบทําในทีม่ ดื สมกับกิเลสเปน ตัวมืด
มน ไมมีความสวา งแจมใสภายในตวั ของมัน เมือ่ เขา สิงจติ จึงทาํ ใหจ ิตมืด เขาสงิ คนทาํ ให
เปน คนมืด ถาเขาสงิ มาก ๆ ก็ทําใหมดื บอดไปเลย หมดทนหนทางแกไข ท่ที านเรยี กวา
ปทปรมะ คงจะหมายจาํ พวกนก้ี ไ็ ด สว นธรรมเปน ความสวา ง ทานจึงใหน ามวา ธมโฺ ม
ปทีโป ถามีในบุคคลกเ็ ปน คนสวาง รูสึกผดิ ชอบ ชว่ั ดี ตามความแทรกซมึ ของธรรมที่มี
มากนอ ย ผมู ธี รรมในใจจะไปจะมา จะทาํ จะพูด จะคดิ ยอ มเปน ผเู ปดเผยเสมอ ไมเปน
นสิ ัยลอบ ๆ มอง ๆ มคี วามสงา ผา เผย ไมเปนคนอับเฉา สมกบั ธรรมเปน ความสวางและ
เปด เผย

ทานนักบวชและทานสาธชุ นผใู จบญุ ซงึ่ สนใจตอการบาํ เพญ็ ตนเปน ประจํานิสัย
ของผูรกั ธรรม ตา งทานจงึ ไมเหน็ แกความลาํ บากและสิน้ เปลืองใด ๆ อตุ สา หมาบาํ เพ็ญ
เตม็ สติกําลังความสามารถ เพ่ือการตัดทอนฝา ยตาํ่ ใหลดนอยลงเปนลําดบั และเพอ่ื สง
เสริมธรรมฝา ยสงู ใหม ีกาํ ลังมากข้นึ ดวยการบาํ เพ็ญโดยลาํ พังตนเองบาง ดว ยการสดับ
ฟง จากครูอาจารยบา ง เพือ่ ธรรมจะไดค ุน กับใจจนมกี ําลงั ทรงตัวได โดยไมต อ งอาศยั การ
บังคับขเู ขญ็ จากตนเองและจากครอู าจารย อยูท ี่ใดไปที่ใดมีธรรมเปน เพ่ือนสอง คอย
กระตนุ เตือนในเวลาผดิ พลาด ประหนึ่งมีเขม็ ทศิ ประจาํ ตวั ในการเดนิ ทางไมผดิ พลาด แม
จะทาํ กิจการใดๆ ไมวาทางโลกทางธรรม ยอมมีธรรมเปนแวนสอ งทาง ผลไดและเสยี อนั

แวน ดวงใจ ๙๖

กณั ฑเ์ ทศนท์ ่ี ๙- :๑ธ๒ร๑รม-เปน็ โอสถสำ�คญั

๙๗

จะเกิดจากงานนั้น ๆ ไมทาํ เอาตามใจชอบ แตมีหลักธรรมเปนเคร่อื งทดสอบเสมอ ไม
ทาํ แบบพรวดพราดพอขอไปที ท้ังงานสวนตวั และงานสว นรวม

ชอบทําดวยความสังเกตสอดรแู ละพิถพี ิถัน เพ่ือหวังผลเปน ทเ่ี รยี บรอ ยจากงาน
จรงิ ๆ ทําดว ยความจงใจ และมีความขยันหมน่ั เพียรในการงานทีเ่ ก่ียวขอ งกบั ตน สมกับ
ทําเหตุเพอื่ ผลทีต่ นมุง หวงั จริง ๆ จะไปมาทางไหนกบั ใครกไ็ มทําใหเปน สง่ิ ที่รงั เกยี จและ
หนักใจดว ย แตกลบั เปนเครอื่ งดึงดูดจติ ใจของคนอน่ื ไดดี ความเปน ผูมธี รรมในใจนีร้ สู ึก
วาเปนผงู ามอยางยิง่ งามไมม ีจดื จาง งามไมม ีสถานที่ กาล บคุ คลเขาเคลือบแฝงเลย ไมมี
เครอื่ งประดับใดจะมคี ุณคา และงามกวา ผมู ธี รรมประดบั ตน เปนฆราวาสกง็ ามไปทาง
หน่ึง เปนนกั บวชกง็ ามไปทางหนงึ่ ถา จะใหก รรมการผมู ธี รรมไมล ําเอียงมาตดั สนิ จาํ ตอ ง
ตัดสินใหเสมอกัน เพราะตางก็งามไปตามหนาทแี่ ละเพศของตน ไมซ ้ํารอยกนั พอจะให
ฝายใดฝา ยหนงึ่ เปน ทห่ี น่ึงหรือทีส่ อง

ยงิ่ ไดร บั การอบรมใจใหงามดว ย สมาธิ ปญญา วมิ ุตตแิ ละวิมตุ ตญิ าณทสั สนะดวย
แลว ยิ่งงามอยา งลึกซึง้ ไมมีอะไรเสมอเหมอื นได ความงามดว ยธรรมภายในใจท่ีบรสิ ทุ ธิ์
นัง่ อยูก็งาม เดนิ ไปกง็ าม ยนื อยกู ง็ าม หลับหรือตืน่ ก็งาม งามไปตลอดอิริยาบถไมลดละ
ความงาม การเกยี่ วขอ งกบั ฝงู ชนทั้งใกลแ ละไกล ยอมงามไปตามลําดับแหง การอบรมส่ัง
สอน

งามในเบ้อื งตน คอื การสัง่ สอนคนใหรูจกั ตนกับศาสนา วา มีความสมั พนั ธเก่ยี ว
เน่ืองกนั อยา งไร ตนกบั ศาสนามีความจาํ เปนตอ กันอยา งไร และจะควรปฏิบัติตอ กันอยาง
ไรบางใหสมกับศาสนาเปน สมบัติจาํ เปน ของทุกคน ผมู ุง หวงั ความสุขความเจรญิ แกตน
จนทราบชัดวาหลกั ศาสนากบั ตนเองไมเ ปน อน่ื จากกนั แตต นกบั ศาสนาเปน อันเดียวกนั
การติชมพระศาสนาก็เทากบั ตชิ มตนเองดว ย เมื่อเขา ใจหลักศาสนากบั ตนวาเปน อวัยวะ
เดียวกันแลว จะปฏบิ ัตศิ าสนาอยางเต็มใจเทากับปฏิบัตติ อตนเอง เพราะหลกั ศาสนาหนึง่
กรรมหนึ่ง และตนหนง่ึ เปน กฎตายตวั อนั เดียวกนั โดยแยกจากกันไมออก

การทํากรรมดี กรรมช่ัวจงึ กระเทือนถงึ ศาสนาและตวั ผทู าํ กรรมเอง ผูไตรต รองดู
กฎอันตายตวั ทง้ั สามนีจ้ นทราบชัดแลว จําตองยอมเชื่อศาสนา เชอ่ื กรรม และเชอ่ื ผลแหง
กรรมท่จี ะพงึ ไดร บั แกผ ทู าํ ท้ังมคี วามพอใจตอการทาํ ดีทกุ ประเภท ทเี่ ปนวิสยั ของตนจะ
ทําได ไมบิดพลว้ิ เพื่อหาทางออก โดยเห็นวา กรรมไมมผี ลแกผทู าํ และศาสนาไมเ กีย่ วของ
กับตน มีความเชอ่ื ตอกรรมเชน เดียวกบั การเชือ่ ตอการรบั ประทาน เพ่ือผลคือความอมิ่
สาํ หรบั ตนผรู บั ประทาน

แวนดวงใจ ๙๗

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๒๒๑ -อบรมฆราวาส

๙๘

งามในทามกลาง คอื การสัง่ สอนใหรูจ ักวธิ อี บรมใจใหม คี วามสงบเปนสมาธิ อัน
เปนเหมอื นเรือนพกั หลบั นอน คอื ความอยเู ย็นสบายของใจเปน ข้นั ๆ ของสมาธิ สมาธิมี
แงท ี่ควรสงสัยตอนไหน พยายามอธิบายใหฟ งอยางแจมแจงตามที่รูเ ห็นและตามหลกั
ธรรมท่ีทานแสดงไว สมาธิตอนไหนมีทางจะเกิดความรูความเหน็ เปนตาง ๆ ซ่ึงอาจจะทํา
ผบู ําเพญ็ นนั้ ใหเสียหรือเขวไป สมาธิตอนไหนทเี่ ห็นวา ถูกและควรสงเสริม เพอ่ื ใหผู
บาํ เพ็ญแนวแนแ ละมีกาํ ลงั ใจ ตลอดปญญาทจี่ ะนาํ มาใชใ นสมาธขิ ั้นน้นั ๆ ตามกาลท่คี วร
จะใช กพ็ ยายามชแี้ จงใหฟงอยา งละเอยี ด จนผบู ําเพ็ญหายสงสยั ในภมู ิธรรมของตนที่
กําลงั เปนอยู และพอใจพยายามบําเพญ็ เพื่อความกาวหนา เพราะอบุ ายทีแ่ สดงใหฟ ง เปน
เคร่อื งสนบั สนนุ

งามท่สี ดุ คอื การสั่งสอนเก่ียวกับสมาธิและปญญาขน้ั ละเอยี ด ซึ่งจะปฏิบตั ิตอกัน
ใหพ อเหมาะสมตลอดไปจนถงึ จุดหมายปลายทาง สมาธิข้นั ละเอยี ดทม่ี แี งซึง่ ผบู าํ เพญ็
อาจจะตดิ และทําใหเ สียเวลา กพ็ ยายามอธิบายใหฟงจนเปน ทเ่ี ขา ใจ เพอื่ มใิ หทําความผูก
พันอยกู ับสมาธจิ นเกินไป ในเวลาทคี่ วรจะออกคดิ คน ทางดา นปญญา การพจิ ารณากไ็ ม
เพลินจนลมื พกั สงบในสมาธทิ เี่ คยเปนธรรมหนนุ กําลังปญญา ปญ ญาทีจ่ ะรเู ทา ทนั กบั เหตุ
การณ ตอ งพลิกแพลงตัวเองกับส่งิ เกยี่ วของอยา งรวดเรว็ โดยแยกขนั ธออกเปน สวน ๆ
ทดสอบดวยปญ ญาอยางรอบคอบ ไมยอมใหนอนจมอยูกับขันธใดขันธห น่งึ โดยเขา ใจวา
เปนตน

ทกุ สงิ่ ท่ีปรากฏขึน้ กบั ใจไมวาดหี รือชว่ั มนั เปน เร่อื งของขันธท ้ังนนั้ ทแี่ สดงตวั ออก
มา ตอ งใชปญ ญาตามรูลงไปในจุดท่ีปรากฏน้ันทนั ที ไมยอมยึดถือหรอื ใหผ านไปเปลา
ไมเ ชน น้ันจะกลับมาหลอกจติ ใหหลงเช่ือจนได นอกจากการพจิ ารณาขันธใหเ ขาใจแลว
ปญ ญายังมีทางสืบตอ จากขนั ธลงไปถึงจดุ ใหญแหง ภพ คือ จิต กับ อวิชชา ซ่ึงกาํ ลงั คละ
เคลา กนั อยปู ระหนง่ึ เปน อันเดยี วกนั โดยเห็นวาน่ันคือ จดุ ขา ศึกอันใหญหลวงกาํ ลงั ต้งั อยู
จนเหน็ ชดั ดว ยปญ ญาแลว ขณะน้นั แลเปนขณะที่อวชิ ชาจะสลายตวั ออกจากจิต และไมม ี
ทางตอสปู ญญาอันแหลมคมไปได อวิชชาตองดับไปในจดุ น้ี ไมมีทางออกตัวไดอีกตอไป

หลังจากอวิชชาดบั ไปแลว ขันธแตล ะขันธ อายตนะหกแตละอยาง ตา งกท็ รงความ
จรงิ ของตนไวอยางสมบรู ณ เพราะจิตซึง่ เปนหลกั ใหญข องส่ิงเหลาน้ี เขา ถงึ ความจรงิ
อยางเตม็ ภมู ิแลว ไมมีสวนใดจะเกดิ ปญหาโตแ ยงกันดงั ที่เคยเปน มา โลกกบั ธรรม ขนั ธ
กบั จติ กาวลงสคู วามสนั ตติ อกันอยา งสมบูรณโดยไมม ีใครมาบงั คับ จิตกับสภาวธรรมท่วั
ๆ ไปหมดทางขดั แยงกันนบั แตขณะอวิชชาดบั ไป ตางก็เปน สคุ โตไปตามสภาพของตน ๆ

แวน ดวงใจ ๙๘

กณั ฑเ์ ทศน์ที่ ๙- :๑ธ๒ร๓รม-เป็นโอสถส�ำ คัญ

๙๙

น่กี ลา วถงึ ทานผเู ปนสุคโตอนุเคราะหแ กพวกเราชาวพุทธมามกะ เปนความงามมา
เปนลําดบั จนตลอดสาย ไมม ีความเปน ลมุ ๆ ดอน ๆ แฝงอยูใ นอบุ ายแหงการสั่งสอน
ของทานเลย ก็คุณธรรม คือ ศลี สมาธิ ปญญา วิมุตติ และวิมตุ ตญิ าณทสั สนะเหลา น้ี เรา

จะไปแสวงหาทไ่ี หนกนั จึงจะพบความจรงิ ดังกลา วมา นอกจากจะแสวงหาดว ยขอปฏบิ ัติ
อันชอบธรรม จนปรากฏผลขึ้นกับตนเทาน้ัน ไมมีท่ีอืน่ ใดพอจะเปนบรษิ ทั หา งรานของ
ธรรม มีวิมตุ ตญิ าณทสั สนะเปนตนเลย เพราะธรรมเหลา นม้ี ิไดข น้ึ อยูก บั กาล สถานที่
บคุ คลทั่ว ๆ ไป แตขน้ึ อยกู บั การบาํ เพญ็ โดยไมอา ง กาล สถานทเี่ ทานนั้

ถา กลาวตามธรรมคอื ความเสมอภาคแลว รสู กึ วาใหความสะดวกและเสรีแกผ ู
บาํ เพญ็ โดยไมเ ลือก กาล สถานท่ี ชาติ ชนั้ วรรณะ และเพศวัย ตลอดอริ ยิ าบถที่เหน็ วา
สะดวกแกการบําเพญ็ ตามเวลาทีต่ อ งการ ไมมีการหวงหา ม นอกจากผบู าํ เพ็ญจะทําความ
ขดั ขอ งแกตนเสียเองแลวไมอ ยากทาํ โดยหาวธิ ีหลกี เลย่ี งไปตา ง ๆ นานา ตามวิสัยของ

กเิ ลสพาใหเปนไปเทา น้ัน ถาถือเปน กจิ จําเปนเสมอดวยงานอนื่ ๆ แลว จิตคงไมตกอยู
ความอับจนและขนทุกขใสตัวเองจนมากมายนัก อยางไรตอ งมีสขุ สมบัติประดับใจ ไมเ สยี
ทีที่ไดเ กิดมาเปนมนษุ ยอนั เปน สถานทรี่ วมแหงสมบตั ติ า ง ๆ แตน าเห็นใจทงั้ ทา นและเรา
ทมี่ กี ิเลสเปนเจาเรือนดวยกัน มันชอบไปหาเกาในสถานทไ่ี มควรจะเกา ไปคนั ในสถานท่ี

ไมควรจะคนั และชอบเที่ยวหาเกาในสถานทไี่ มคนั ทค่ี นั ๆ ควรจะเกาแตไ มส นใจเกาให
หายคัน โรคคันจึงไมหายจากการเกา เพราะเกาไมถูกกับจดุ ที่คนั
ชอบสนใจในส่งิ ทีไ่ มค วรสนใจ ชอบเพลดิ เพลินในสง่ิ ทไี่ มควรเพลดิ เพลิน ชอบ
แสวงหาความสุขในสิง่ ทีจ่ ะใหเกดิ ทุกข ชอบเห็นวา เปน ทุกขในสงิ่ ท่ีจะใหเกิดความสุข
ชอบขเ้ี กียจในสงิ่ ที่จะควรขยนั แตชอบขยนั ในสง่ิ ท่จี ะใหเกิดความฉบิ หายเดอื ดรอน ชอบ

สรรเสริญในสิ่งทคี่ วรจะตําหนิและหาทางออก แตช อบตาํ หนิกจิ ท่ีควรจะเปน คณุ
ประโยชน ฉะน้ัน โทษคือความทกุ ข จึงไมว ายจากใจ อยูทใี่ ดไปที่ใด ไดยินแตความบน
กัน ประหน่ึงความบน เปนยาอายุวฒั นะขนานวิเศษ ไปทีไ่ หนแอบถอื ตดิ ตัวไปจนได หรอื
จะไดอ วดเขาวา เรามยี าอันศักด์สิ ทิ ธ์ิวิเศษ คือความบน

ถา ไมไดติดตวั ไปมากแตขนาดอบุ อบิ พึมพาํ จําตอ งมีตดิ ตัวไปดว ย จะขาดไมได
ท้ังทานและเรา ท้งั หญงิ และชาย ท้ังนักบวชและฆราวาส ไมคอ ยมใี ครปราศจากได และมี
อยทู กุ แหง ทกุ หนไมตอ งออกรานคา เพราะตางคนตางมี แมจ ะนาํ มาบนวันยงั คํ่าคงไมจบ
เร่ืองความบนของแตละคน อิม่ กบ็ น หวิ ก็บน จะนอนก็บน ตน่ื นอนขน้ึ มากบ็ น นง่ั อยเู ฉย

ๆ ไมม ีอะไรมาทาํ ใหย งุ ก็บน ยง่ิ ไดสมาคมกับเพ่ือนฝงู ท่ถี กู คอกันดว ยแลว จะไดย ินแต

แวน ดวงใจ ๙๙

แว่นดวงใจ : -ภา๑ค๒๔๑ -อบรมฆราวาส

๑๐๐

เสียงบน จนไมทราบวาเสยี งเขา เสยี งออก เปนเสียงอะไรกนั แน เพราะไมมีผูสม่ําเสมอ
และเช่อื งชนิ ตอ ความสขุ ทกุ ข พอจะรับฟงและใหอบุ ายไปแกไขปรบั ปรุงตัว เพ่ือบรรเทา
ความบนใหน อยลง หรือหมดไปโดยวธิ ที ถ่ี ูก

ธรรมเปน โอสถสําคญั สาํ หรับแกค วามคะนองทางกาย วาจา ใจอันเปน สาเหตแุ หง
ความบนเพอไดเปนอยา งดี ผูส นใจและยึดธรรมเปน หลักใจ จึงเปน ผรู จู กั สภาพการณ
ของส่งิ ตาง ๆ ไดดี ไมคอ ยมีความตืน่ เตน และดีใจเสยี ใจจนเลยความพอดี รูจักวิธี
ปฏบิ ตั ิตัวเองตอส่ิงตาง ๆ ที่เปล่ยี นแปลงไปตามเหตุการณ แลวสลายตวั ลงตามหลกั
อนิจจัง อันมรี ะยะสน้ั และระยะยาวไดเ ปนอยางดี ไมค อ ยมกี ารหอยโหนโยนตัวไปตาม
ความดีใจและเสียใจ เพราะสง่ิ ทร่ี ักชอบพลัดพรากจากไป และส่งิ ทไ่ี มพ งึ ปรารถนาผาน
เขา มา สามารถวางตวั ไดอ ยางนาดนู า ชม และเปนคติตัวอยา งอันดแี กค นอ่ืนไดดว ย
เพราะธรรมเครอ่ื งหักหามใจ ยอมเปนเชน กบั เบรกเคร่ืองหา มลอรถ ซงึ่ จะนํามาใชไดต าม
เวลาตอ งการและจาํ เปน

ใจทไี่ มมีธรรมเคร่ืองหักหา ม ยอ มหมุนตัวไปทางผดิ ไดอยา งงายดาย และไมม สี ่งิ
ใดจะมีกาํ ลังเรีย่ วแรงสามารถหักหามจิต ใหดํารงตนอยูโดยถูกตอ งได นอกจากธรรม แม
จะมคี วามรู ความฉลาดจากการศึกษาและสมาคมมามาก ก็เปน เพยี งบรวิ ารหรอื เคร่อื ง
มอื ซงึ่ จะคอยปฏบิ ัติตามคําสั่งของตณั หาอยูนั่นเอง ดังน้นั ผมู คี วามรคู วามฉลาดเสมอทาน
ๆ เรา ๆ จงึ ตกอยใู นอํานาจแหงความผิด ๆ ถูก ๆ ตามอาํ นาจของส่ิงขับพาใหเปนไป
ธรรมเมือ่ นํามาใชย อมเปน เคร่ืองมอื ตานทาน และหกั หา มสิง่ เปนภัยตอจติ ไดดี ตาม
กาํ ลงั ของผูมธี รรมมากนอ ย ถามเี พียงพอก็สามารถหักลางกนั ไดอ ยางไมมปี ญหา เชน
ทานผถู ึงธรรมอนั สูงสุดแลว ชอ่ื วา เปนผูหมดภัยทางใจโดยสนิ้ เชงิ ไมม ปี ญหาใด ๆ ตก
คา งอยูในใจของทา นเลย นค่ี อื ทานผูห ยดุ เดินและหมดภัยจริง ๆ

ทานนักปฏิบัติทเ่ี ตรยี มพรอมแลวเพอื่ กา วเดินใหผา นพน ทางกนั ดาร ยิ่งเปน ผูจํา
เปนตอ ธรรมทุกขน้ั เรมิ่ ตน แตหลักสมาธิ ซึง่ เคยไดย นิ แตชอ่ื เวลานจี้ ิตของเราเปนอยา ง
ไรบา ง ม่ันคงไปในทางขี้เกยี จตามหลกั ของกิเลส หรือมนั่ คงไปในทางความขยันหมั่น
เพยี รตามหลักธรรมของศาสนา โปรดสังเกตตลอดสายของจิตท่ีมอี ะไรฝงจมอยภู ายใน
ถา จติ มธี รรมกาํ กับอยางใกลชิด จิตตองเปน สมาธิมั่นคงตอ ตนเองอยา งแนนอน จติ เคย
เปนนกั ทอ งเท่ียวและซัดเซพเนจรมานาน เพราะไมม ีธรรมเปนเคร่ืองยดึ

แตเวลานเ้ี ราพาจติ กาวไปสูแดนแหงธรรมอันเปนเกาะยึดท่มี นั่ คงแลว โปรดยดึ
ธรรมใหม่นั คงอยาปลอ ยวาง และขยบั ความเพยี รเขาเปน ลาํ ดับอยา ลดละ สมาธิจะกลาย

แวนดวงใจ ๑๐๐

กัณฑเ์ ทศน์ท่ี ๙- :๑ธ๒ร๕รม-เปน็ โอสถสำ�คัญ

๑๐๑

เปนสมบัติของเราในเรว็ วัน ไมผ า นตาขายของความเพยี รไปได โปรดตัง้ หลกั จิตกับธรรม
ใหส นิทตอ กัน อยาปลอยใหส ่งิ ที่เคยเปน ปรปก ษเ ขา มาแอบแฝงในวงความเพยี รได จะทาํ
ใหจ ติ และความเพียรเอนเอยี งและลม ไปตาม และโปรดทราบไวเ สมอวา จิตกาํ ลงั แสวง
หาทย่ี ดึ เหน่ียวอยูตลอดเวลา เชน เดยี วกับคนตกน้าํ ควา หาทยี่ ดึ เหนีย่ วเพอ่ื ความพน ภยั
ฉะนัน้ แตจิตไมมคี วามฉลาดพอ จึงไมส ามารถยดึ ถกู สงิ่ ท่จี ะพาใครใหไ ดร ับความปลอด
ภยั จงึ กลายเปน เรอ่ื งพาใหจติ ลมจมไปเพราะอารมณอยางไมมีจดุ หมาย

ก็บัดนี้เราควา ถูกเกาะอันเย่ียมคอื ธรรมแลว จงพยายามยึดไวใ หเตม็ มอื ถอื ไวให
เตม็ ใจ จติ จะเคยรวนเรมานานเทา ไรไมเ ปนปญ หา ตองหย่ังลงสคู วามแนวแนแ ละสงบได
ในเวลาไมน าน ผลจะเปนความสุขเย็นใจ หายจากทกุ ขท นั ที มีแตความสขุ เปนเคร่ือง
เสวยผลในขณะนน้ั น่ีคือองคข องสมาธแิ ททีป่ รากฏขึ้นกับผมู ีความเพยี ร แมชื่อของสมาธิ
ท่ีเคยไดยนิ จนชนิ หูกม็ ารวมกันอยใู นจดุ นี้ และหมดปญ หาทง้ั ชือ่ และองคของสมาธิใน
ขณะนั้น เมอ่ื ไดห ลกั เบือ้ งตนแลว หากสมาธิจะเปลีย่ นสภาพขน้ึ สูค วามละเอียดตามลาํ ดบั
ของความเพียรที่เปน ไปอยู กจ็ ะทราบภายในตวั เอง เชนเดียวกบั ทเี่ คยทราบในสมาธขิ ้นั
เรมิ่ แรกมาแลว

สติปญ ญาซึง่ เปน ธรรมจาํ เปน ทค่ี วรจะนาํ มาใชใ นโอกาสอันควร จงึ ถอื เปน เรอื่ ง
สําคญั ซ่ึงควรจะแอบแฝงกนั ไป กายวิภาคหรือขนั ธวิภาคมอบใหเ ปนหนาท่ีของสติปญ ญา
เปน ผูจ ะทาํ การตรวจตรองโดยละเอียดถ่ถี ว น นกั ภาวนาที่หนกั ไปทางกายวภิ าคหรือขันธ
วภิ าค จะเปนผกู าํ ชัยชนะไวในเงอื้ มมือโดยไมม ีอุปสรรคใด ๆ มากีดขวางไวได คําวา สติ
ปญญาอยาเขาใจวา เปน ธรรมเล็กนอ ย แตเปนเครือ่ งมือรื้อถอนกเิ ลสท้งั มวลออกจากใจ
ไดโดยสนิ้ เชงิ เพราะผบู รรลุถึงพระนพิ พาน ตอ งเปน ผูส มบูรณดวยมหาสติมหาปญ ญาทง้ั
น้นั

ไมป รากฏวา มผี เู ล็ดลอดถึงพระนพิ พานได เพราะความรอดสายตาของกเิ ลสมอง
ไมท่วั ถงึ แตเพราะกเิ ลสฉบิ หายไปโดยสน้ิ เชิงดว ยอํานาจของมหาสตมิ หาปญญาเผา
ผลาญตางหาก ทกุ ทา นโปรดจําไวอ ยางฝง ใจ แลว นําไปปฏิบตั หิ นา ท่ีตอกิเลสทน่ี อนจมอยู
ในใจเรา จะไดเ หน็ มันหล่งั ไหลออกจากใจ จนไมม ีกเิ ลสตวั ใดจะฝน อวดดวี า ฝมือเกงกวา
มหาสติมหาปญญา แลว นอนจมอยใู นจิตไดอกี ตอไป นอกจะจะถกู ทําลายลงอยา ง
ละเอยี ดผยุ ผงไปเทานนั้ ไมมีทางตอสมู หาสติมหาปญ ญาอนั เปนกองทพั ปรมาณไู ปไดเ ลย

ผูมคี วามเพยี รไมลดละนบั แตข น้ั เรมิ่ แรกเปนลําดบั ถงึ ขัน้ สมาธิ และตามลําดับขั้น
ของสมาธเิ ปนระยะ มสี ติปญญาสอดแทรกเขา ไปตามสมยั ทคี่ วรคดิ คน ไมวาธาตหุ รือขนั ธ

แวน ดวงใจ ๑๐๑

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๒๖๑ -อบรมฆราวาส

๑๐๒

ใด ๆ จาํ ตอ งถูกพจิ ารณาและคลค่ี ลายออกเปนชิน้ เปน อัน และกาํ หนดละลายถึงธาตุเดมิ
จนหมด ความสําคัญวา สัตว บคุ คล และประกอบเขาไวตามสวนผสมของธาตุขนั ธทเ่ี รยี ก
วา สตั ว บคุ คลตามเดมิ แลว แตค วามตอ งการและความแยบคายของปญ ญา เชนเดยี วกบั
เขาถอดเครื่องอะไหลของรถออกตรวจดเู ครอื่ งแลว ประกอบไวต ามเดิมฉะนนั้ เปนผมู ี
หวงั หลดุ พน โดยแนนอน ขอแตความเพยี รอนั เปน ทางสมหวังอยา ลดละ สตปิ ญ ญาข้ัน
เร่ิมแรกจะเชือ่ มโยงถึงข้นั มหาสติมหาปญญา อยา งไมมีทางปลกี แวะเปน อยางอนื่ ทั้งกอง
ธาตุกองขันธ และดวงจติ จะเปนท่ีทํางานของสติปญญาตลอดเวลาไมม ีการหยดุ ยงั้ จน
สามารถรูเทาและปลอ ยวางไดโดยตลอดทั่วถงึ

จิตที่เคยนอนจมอยูกบั กิเลสสมมุติมานานแสนนาน ก็หลุดลอยข้ึนมาเหนือโลก
สมมุติ ดาํ รงตนอยดู ว ยอสิ รธรรม มีความบรสิ ทุ ธ์เิ ปน ผล พนจากเครือ่ งกดถว งทางใจท่ี
เคยเปนมา คาํ วา พุทโธก็ถึงใจ ธัมโมก็ถึงใจ และสังโฆกถ็ ึงใจ ข้นึ ชอ่ื วาธรรมที่พระพทุ ธ
เจา ตรสั ไวท กุ บททุกบาทท่ไี ดเห็นไดยินมา เปน ธรรมทถี่ ึงใจโดยตลอด เพราะปญ หาหัวใจ
ส้นิ สดุ ลงไมม กี ารขัดแยง อีกตอไป

ธรรมทีอ่ ธบิ ายมาทง้ั นี้ พวกเรานัง่ ทับนอนทับกนั อยตู ลอดอริ ิยาบถ แตไมป รากฏ
เปน ของแปลก ดังนั้น โปรดคยุ เขย่ี ขน้ึ มาใหท วั่ ถงึ จะเหน็ ธรรมเปน ของแปลกขึน้ มาท่ใี จ
คาํ วา พระพทุ ธเจาตรสั รูท ่ีไหนจะไมม แี งส งสัย เพราะทรงตรัสรูที่สัจธรรมสถิตอยูนน่ั เอง

การแสดงธรรมกณั ฑน ้ีนับวา มากและนาน กเ็ ห็นวา ควรแกก ารยุติ ทา นทีไ่ ดสดบั
แลวโปรดนาํ ไปไตรตรองดตู ัวเรากับหลักธรรมที่แสดงในคัมภีร ชเี้ ขา มาท่ตี วั ของเราทกุ
บททุกบาท ไมมีชี้ใหผดิ พลาดไปท่ีไหน จะไดท ําความเขา ใจระหวางธรรมกบั เราโดยถกู
ตอง ผลที่เกิดขนึ้ จากความคิดท่ีถกู ตอ งจะเปนสมบัติของเราแตผูเดยี ว จึงขอยุติเพยี งเทา
น้ี เอวํ

www.Luangta.or.th

แวน ดวงใจ ๑๐๒

กัณฑเ์ ทศน์ที่ ๙- :๑ธ๒ร๗รม-เปน็ โอสถสำ�คัญ



ปญั ญกาณัถอฑดท์ ถี่ ๑อ๐นกเิ ลส

เทศนอ์ บรมฆราวาส ณ วัดปา่ บ้านตาด
เมอ่ื วนั ท่ี ๓ เมษายน พุทธศกั ราช ๒๕๐๘

กัณฑเ์ ทศนท์ ี่ ๑๐- :๑๒ป๙ญั ญ- าถอดถอนกิเลส

๑๐๔

ศรัทธา วริ ยิ ะ สติ สมาธิ ปญญา เปนตน จัดเปนหมวดธรรม พระวินัยเปนของจําเปนตาม
ข้ันและเพศของผรู กั ษา ผูรกั ษาศลี ๕ ศีล ๘ ในเวลาใดก็ถือเวลานน้ั เปนเวลาจาํ เปนของ
ตน ผูรกั ษาศลี ๑๐ ศลี ๒๒๗ ก็เปนผูจําเปนตอศลี ประเภทน้ัน ๆ ตามเพศและหนาที่
ของตน ไมอ าจเอือ้ มลว งเกนิ ใจก็มคี วามเยอื กเยน็ ไมเ ปนอารมณ เพราะเหตแุ หง ความ
ผดิ ศีลท่ีตนรกั ษา จะอบรมใจใหสงบ กไ็ มม ีศีลวิบตั ิเปน อารมณเคร่อื งกวนใจ ใจมีทาง
สงบไดงา ย แมอยูโดยลําพังกเ็ ยน็ ใจ ผิวพรรณก็ผอ งใส และมีกิริยาองอาจ ไมสะทก
สะทา น นเี่ ปน ศีลสมบตั ิที่เราไดร บั ในปจจุบนั

ตอไปกเ็ ริ่มใหเปน สมบตั ิขึ้นภายในใจ โดยวิธอี บรมจติ เชน น่งั กาํ หนดอานาปาน
สติ ถือลมหายใจเขาออกเปนอารมณข องใจ หรอื พุทโธ ธัมโม สงั โฆ บทใดบทหนง่ึ ทจี่ ริต
ชอบ มีสตกิ าํ กับอยทู ่ใี จซึ่งบริกรรมธรรมบทน้ัน ๆ เปนอารมณอ ยู ใจจะคอยมีความรูเดน
ขึ้นที่จดุ นัน้ และมคี วามเยน็ สบาย ความสขุ ท่ีเกดิ ขึ้นจากความสงบจะไมเ หมอื นความสขุ
อืน่ ใดทีเ่ คยผา นมา ผูไดร บั ความสขุ ประเภทน้ีแลว จะเปนท่สี ะดดุ ใจทนั ที พรอมทงั้ ความ
พอใจที่จะพยายามใหความสงบสขุ นี้เกดิ ข้นึ บอ ย ๆ โดยวิธีทางภาวนาใหมากขึ้น เพราะ
ฉะนน้ั ทา นผมู จี ติ อันสงบแลว จงึ เปนผูมีความหนักแนนตอความพากเพียร เช่อื บุญ เชื่อ
กรรม และเช่ือผลแหง กรรมทตี่ นทําแลววาเปนส่ิงไมไ รผล ผูเปนนักบวชทป่ี รากฏความ
สงบประจักษใจ จงึ เปนผเู ชื่อตอ ความเพียรเพอื่ ผลอันยอดเย่ยี มข้ึนไปเปนข้ัน ๆ ไมม กี าร
ลดละความเพยี ร

ความสงบของใจมีหลายขน้ั คอื ขั้นหยาบ ขัน้ กลาง และขั้นละเอยี ด ตามแตผ ู
บําเพ็ญจะสามารถทําไดเปน ข้ัน ๆ และพยายามทาํ จติ ของตนใหขยับขน้ึ ไปเปนระยะ จน
ถึงข้ันละเอยี ดสุดของสมาธิ สวนความสขุ อนั เปน ผลยอมมคี วามละเอียดข้นึ ไปตามขัน้ ของ
สมาธิ ปญญาก็มขี ัน้ หยาบ ขั้นกลาง และข้นั ละเอียดเชนเดียวกบั สมาธิ และควรนาํ มาใช
กาํ กับสมาธิข้นั น้ัน ๆ ไดตามโอกาสอันควร จะเปน ความรอบคอบของนกั ปฏิบัติธรรมทกุ
ๆ ขน้ั ไป

แตใจท่ไี มย อมเขาสูความสงบไดต ามใจหวงั ในเวลาบําเพญ็ นน้ั โดยมากใจมี
อารมณเ คร่ืองยว่ั ยวนมาก เชน รปู ไหลเขา มาในคลองจักษุ เสยี ง กล่นิ รส เคร่อื งสัมผัส
ตา งกไ็ หลเขา มาทางหู ทางจมกู ทางลนิ้ ทางกาย แลวไหลผานเขา ไปถึงใจ กลายเปน
ธรรมารมณข ้ึนมา ใจซึง่ เปนผรู บั ผิดชอบ ช่วั ดี และสขุ ทุกข จึงมคี วามกระเพื่อมรับ
อารมณอ ยูต ลอดเวลา หาโอกาสดาํ รงตนอยูดว ยความสงบสุขไมไ ดเลย จําตอ งรับรู รบั
เหน็ รบั สขุ รับทกุ ขจ นไมม ีเดือน ป นาที ชัว่ โมง เปนเวลาพักผอ นใจ แตเ ปน ธรรมดาของ

แวน ดวงใจ ๑๐๔

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๐๑ -อบรมฆราวาส

๑๐๕

สามัญจติ จะอยูโ ดดเดยี่ วโดยลําพังตนเองยอ มไมได ตอ งอาศัยอารมณเปนผูพาอยู พาไป
พาใหดี ใหช่ัว พาใหส ุข ใหทุกข พาใหด ใี จและเสียใจ พาใหเพลดิ เพลนิ และเศรา โศกอยู
เปน ประจาํ จงึ ไมมีโอกาสไดเหน็ ความสุขอนั แทจ ริงของใจ

ความสุขท่เี กดิ จากการอบรม แมจะอาศยั ธรรมเปนอารมณของใจ แตก ็เปน เครื่อง
สนบั สนุนใจใหไ ดรับความสขุ เพ่อื เปนตวั ของตัวข้นึ ไปเปนลําดบั จนถงึ ข้นั เปน ตัวของตวั
ไดอ ยางสมบูรณ ซง่ึ แปลกตางจากอารมณชนดิ อ่นื ๆ ทีค่ วรจะใหนามวา อารมณของโลก
อารมณข องธรรม ขณะที่ใจไดร บั ความสงบเพราะอารมณแ หงธรรมท่ีนํามาภาวนา กายก็
เบา ใจก็เบา ทกุ สวนในรา งกายและจิตใจรูสกึ วาเบาไปตาม ๆ กนั หมด กายกับใจก็
ปรากฏวาเปน คนละสว น ไมคละเคลา กัน ขณะทจี่ ติ หยัง่ ลงสูค วามสงบจริง ๆ แลว แม
กายจะปรากฏตวั อยใู นทานง่ั หรอื ทานอน แตค วามรขู องจติ ปรากฏวากายไมม ีเลย คง
ปรากฏแตจ ิตลวน ๆ ทแ่ี สดงความสงบและสวา งอยภู ายในตวั เองเทา นั้น ไมปรากฏเร่ือง
กายและเรื่องอ่ืน ๆ มาแฝงเลย นี้เปน ความสงบทแ่ี ปลกประหลาดและอัศจรรยย ิง่ กวา
ความสงบขนั้ ตน ซ่งึ รสู ึกวากายมี แตไ มรบกวนใจดว ยอาการตาง ๆ เพียงสักวากายมอี ยู
เทา นน้ั

เมอ่ื ความสงบประเภทนป้ี รากฏขนึ้ บอย ๆ จนรูสกึ เปนความเคยชนิ ในการเขาการ
ออก หากจิตมีธรุ ะทจี่ ะตองทําในเวลาออกจากที่ภาวนาแลว แตความสงบอันเปน ฐานของ
ใจจะมปี ระจาํ อยู พอยอนความรูสึกเขา มาสตู ัวเม่อื ไรก็ปรากฏความสงบ อันเปน พ้นื ฐาน
นั้น รูเดน อยูเฉพาะตัว คือเปน เอกเทศหน่งึ จากกาย มิไดค ละเคลา กนั ดังท่เี คยเปน มาใน
คราวที่จิตยังไมม ีความสงบ เชน เดียวกับเราอยูในบาน แตบ านเปน อนั หนึ่งจากเราผอู ยูใน
บา น ฉะนัน้ เบอ้ื งตน กแ็ ยกกนั ไมออก กายกบั ใจคลายกบั เปน อันเดยี วกัน เพราะใจไมม ี
เวลาเปน ตวั ของตัว แตใ จท่ไี ดรบั การอบรมทีค่ วรจะเขาใจตามความจริงของตนบา งกท็ น
อยูไมได จาํ ตองรแู ละเขา ใจ

ใจทม่ี ีความสงบเปน พ้ืนฐานแลว เราจะไปทําการงานอะไรก็คงเปน ความสงบ
ประจาํ ตนอยเู ชน น้นั และไมทําการงานนนั้ ๆ ใหเสยี ดวย เพราะฉะน้นั ผูบาํ เพญ็ ธรรม
ภายในใจจงึ ไมท ํางานใด ๆ ใหเ สียไป นอกจากจะเปนหลักอันดีของงานแลว ยงั สนบั สนนุ
งานทกุ ดานใหสําเรจ็ เรียบรอยลงดว ยความสวยงามและนาดอู ีกดวย ผมู ีธรรมภายในใจ
ประกอบการงานทุกประเภทไมว า ทางโลกและทางธรรม ยอมสาํ เร็จเปน ช้ินเปน อนั ไม
ทํางานใหเปน เคร่อื งหมักดองจนกลายเปน อากลู (ทาํ งานคงั่ คาง) นี่กลา วถงึ ความสงบ

แวนดวงใจ ๑๐๕

กัณฑ์เทศน์ท่ี ๑๐- :๑๓ป๑ัญญ- าถอดถอนกเิ ลส

๑๐๖

ทา นผูฟงพอจะทราบไดวา กายกบั ใจแยกจากกนั ไดใ นความรูส ึกของจติ ทีม่ ีสมาธเิ ปน
เรอื นใจ

ตอ ไปนี้กลาวเรอื่ งปญ ญา ปญญายงั เปน สง่ิ ทล่ี ะเอียดเขาไปอีกมากมายตามข้นั ของ
ปญญา ความสงบนัน้ เปนเพียงระงบั ความฟุงเฟอ ของใจใหไ ดร บั ความสงบสขุ ในขนั้ ตน
แตป ญ ญาเปน ผูท ําหนาทีถ่ อดถอนกเิ ลสขึน้ มา สง่ิ ใดที่ยังหมักหมมอยใู นใจมากนอย
ปญญาตอ งทําการถอดถอนออกเปน ลาํ ดับ เชน การพจิ ารณาธาตขุ ันธเพอ่ื รตู ามเปนจรงิ
ของเขา นับแตวันเกิดมาถึงวนั นี้ ถานับเปนวนั เดือน ป ไดกว่ี นั กี่เดือน กี่ป สภาพรา ง
กายน้คี งทอี่ ยหู รือคอยเปล่ียนแปลงไป ตามความจริงแลวเขามีความเปล่ยี นตัวเองอยูทกุ
ขณะ ไมมีการหยดุ พกั เหมอื นคนทาํ งาน จนถึงจดุ สดุ ทายของการเปล่ยี นแปลง แลว ก็สิ้น
สดุ ลงไปพักหน่ึง

สรุปความแลว ทกุ สวนในรา งกายมีความเปลย่ี นแปลงอยูตลอดเวลา ไมมีอาการ
ใดยับยัง้ ตัวไวได โดยไมถ ูกเปลย่ี นแปลงแมอ าการเดยี ว แตเปนสว นละเอยี ดจึงไม
สามารถทราบไดว า เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองอยางไรบาง อาศัยปญ ญาเปนเครือ่ งพิจารณา
ยอมรูเหน็ ไดชัดตามความเปนจรงิ ของความเปลยี่ นแปลง และมีทางปลดเปล้อื งอปุ าทาน
คือ ความยดึ มั่นในกาย อนั เปน ภาระหนักออกไดเปนลําดบั จนปลดเปล้อื งใหหมดไปโดย
ไมเหลอื เพราะอปุ าทานเปนเครื่องกดถวงใจใหจ มดงิ่ ลงไปในทางต่าํ อนั มีทุกขเปนผล มี
มากเทาไรก็มีทกุ ขมากเทา นัน้

ทา นกลา วไวว า อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา เราเคยไดเหน็ ไดย ินในคัมภีร สว นตวั จรงิ
ของธรรมเหลานีต้ ิดแนบอยูกบั กายกับใจของเรา แตเ ราไมร ูไ มเห็นจงึ ปลงไมต ก เพยี งจํา
ไดแ ตช่ือเทาน้ัน เหมือนคนจําชือ่ ของโจรไดว า นนั่ ชอื่ โจร ก. นนั่ ช่อื โจร ข. และนน่ั โจรชอื่
ค. เปน ตน แตก ารจําช่ือไดห รือไมไ ดน ้นั ไมทาํ ใหพวกโจรหยุดจากการทําโจรกรรม และ
ทาํ ความเยน็ ใจแกช าวบา น จึงไมสจู ะมปี ระโยชนอะไรนักจากการจาํ ช่อื ของโจรได โดยมิ
ไดมดั โจรใหอยใู นเงื้อมมอื การจําชือ่ ของไตรลกั ษณ คอื อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า เปน ตน ได
จึงไมทําใหเกดิ ประโยชนแกผ ไู มส นใจพิจารณาตามฐานะความจรงิ ของธรรมเหลา น้ี ทุกข
ก็คงเปนทุกข สมุทยั กค็ งเปน สมทุ ยั อยูอ ยางเดมิ ไมหยดุ ทํางานบนรา งกายและจิตใจของ
คน เพราะเราไมนําสจั จะเหลา น้ีเขามาพจิ ารณาใหร ูตามฐานะความจริงดวยปญ ญา อัน
เปน ทางรเู ทาและปลอยวาง

หากสนใจพจิ ารณาบา ง แมจ ะไมมองและพิจารณาไปทางอ่นื แตมองและพิจารณา
ลงไปในกายในจติ ก็พอจะรเู ห็นไดว า อาการของกายและจติ ทุกสวนทํางานเปน ไตรลกั ษณ

แวน ดวงใจ ๑๐๖

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๒๑ -อบรมฆราวาส

๑๐๗

ทัง้ น้ัน ไมม ีเรอ่ื งอ่ืนมาแฝงเลย เหตุใดจึงไมรูไมเ หน็ ทานผสู ั่งสอนเชนพระพทุ ธเจา
เปนตน กค็ งจะแปลกพระทยั ไมนอยทีพ่ วกเราเหยยี บย่าํ ธรรมของจรงิ อยูตอหนาตอตา
ทา น แตจ บั จดุ ธรรมไมถ ูก ควาหาธรรมไมพบ ไมท ราบวา จะใหท า นสอนวาอยางไรตอ ไป
อีก ผสู อนก็รสู ึกจะหมดภูมิธรรมของจริงท่ีรูเห็นมา เพราะผรู ับไปควาเอาของปลอมมา
ครองใจเสีย มากกวา จะรับเอาของจริงจากทานมาแกไ ขตนเอง เชน ทานสอนใหล งทงุ
กวาง แตพ วกเรากลบั ว่ิงเขา ปา ดงพงลกึ ไปเสียเชนนี้ คาํ สอนก็จะเปนประโยชนอะไรเลา
แมจะเปนธรรมของจริงและประเสรฐิ แคไ หน กค็ งเปนโมฆะสาํ หรบั พวกเราอยูน ัน่ เอง

พระกายและพระทยั ของพระพุทธเจา และกายใจของสาวกทานเปนธรรมของจรงิ
ทงั้ แทง แตก าย ใจของพวกเราจะเปน ของจรงิ หรือปลอมแคไหนกันแน นีเ่ ชือ่ แนวา มี
ความจริงเทา กัน ถา พิจารณาใหถึงฐานความจรงิ แตถาไมสนใจพจิ ารณาก็จะเปน ของ
ปลอมไปหมด และยังจะปลอมไปอีกตลอดกาล ไมมโี อกาสกลบั ตัวไดโดยลําพงั ถาไมใ ช
สติ ปญญา ศรทั ธา ความเพียร รื้อฟนใหก ลบั ตัวในเวลาท่มี ีชวี ิตอยูนี้ การใชสตปิ ญญา
ความเพียร ขดุ คนคล่คี ลายสวนตา ง ๆ ของกายและใจ อยา งไรจะตองรเู หตุรผู ลซอ นขึน้
มาในวงความเพยี รอยา งแนน อน ธรรมของจรงิ จะเลด็ ลอดตาขายแหงความเพยี รไปไม
พน สงิ่ จอมปลอมตองจนมุมวนั หนึง่ แนนอน ไมมีทางออก

วยั ขนาดเรา ๆ เปน วยั ที่ควรคิดตรองไปขา งหนา และยอนหลังเก่ยี วกบั สภาพ
การณทเี่ ปนมา เปน อยู และจะเปน ไปไดแลว จิตทนี่ อนจมอยกู ับกองธาตกุ องขันธแ ละ
กเิ ลสโสมม โดยถือวาเปน สมบัติอันพึงพอใจ แลว ประมาทนอนใจไมห าทางออก เมือ่ ถึง
กาลของธาตุขันธพงั ทลายลงตามสภาพของเขา เราจะไมหมดหวงั ในสมบัติอันพงึ พอใจ
และเกิดทกุ ขเดอื ดรอนขึน้ ในเวลาน้นั บา งหรือ? เราเปน นักบวชซ่ึงเปนเพศทสี่ ุขมุ ดว ย
ความคิดอา นไตรต รอง ทาํ ไมจงึ ไมค ิดใหละเอียดถี่ถวนในเรอื่ งที่เกย่ี วกบั ตน พอใหสม
กับเพศที่สุขมุ ดวยธรรมทน่ี ํามาครองตวั จะเปนความงามและเหมาะสมกบั เพศอยางยง่ิ
สวนท่เี ก่ยี วกบั การพจิ ารณาซ่ึงจะทาํ ใหแยบคายสําหรบั นักปฏิบัตคิ นควา ก็มเี พียงกายกบั
จติ เทานั้น ซ่ึงไมเหลอื กําลังแกการพิจารณา

อาการของกายทกุ สวนก็มีหนังหุมหอ เปนวงแคบอยแู ลว ไมก วางขวางและลึกลับ
อะไรมากนักพอจะพจิ ารณาไดทวั่ ถึง โปรดหย่งั ปญญาลงไปที่นั่น อยา ยอมปลอ ยจติ ตวั
คะนองใหเลด็ ลอดออกจากวงความเพยี ร ทุกอาการของกายและธาตใุ นรา งกายจะรูก ันขึ้น
ณ ท่นี ัน่ และปลอ ยวางกนั ได ณ ทนี่ น่ั ดวยอุบายของปญ ญา ซงึ่ เคยอธบิ ายใหฟ ง มาหลาย

แวนดวงใจ ๑๐๗

กัณฑเ์ ทศน์ท่ี ๑๐- :๑๓ป๓ัญญ- าถอดถอนกเิ ลส

๑๐๘

ครั้งแลว อุปาทานของกายเปนภาระกดถวงใจอนั หนงึ่ ผูถอดถอนอปุ าทานน้ไี ดช ่ือวา ผู
เปลอ้ื งทกุ ขไ ปไดขนั้ หนงึ่ รูส ึกเบาขึ้นมาก

อปุ าทานของใจกเ็ ปนภาระกดถวงใจไดอยา งละเอียดและแนบแนน มาก ตองใช
สตปิ ญ ญาอันทนั สมยั คอื มหาสติ มหาปญ ญา มหาวริ ยิ ะ เขา รวมกนั และขดุ คน ลงตรงท่ี
จติ รกั และสงวนมาก ๆ นน่ั แล จนส่ิงนนั้ ถูกทําลายพนิ าศลงไปแลว กลายเปน วิวัฏจติ ขึน้
มาในขณะนน้ั จากนัน้ กเ็ ปน ใจท่ีหมดสมมุติ แตเ ขา กันไดก ับสมมตุ ทิ ั่ว ๆ ไป ท้งั ดานวตั ถุ
และนามธรรมแตไ มต ดิ เพราะจิตทบ่ี รสิ ุทธเิ์ ปนจติ ทพ่ี อตัวแลว ไมจ าํ ตองหาอะไรมาเพมิ่
อีก การเพม่ิ เติมไมจัดเปน สนั ติ คอื ความสงบอนั แทจ รงิ และตายตวั ตามบทธรรมวา
นตถฺ ิ สนฺตปิ รํ สขุ ํ สขุ อ่นื ยิ่งกวา ความสงบไมม ี

เพราะฉะน้นั จติ ท่ยี งั ไมไดรบั การอบรมธรรม จึงมกี ารเอนเอยี งและนอ มไปตาม
ส่งิ ทมี่ าหลอกลวง ตามธรรมเนียมของจิตทแี่ สวงหาความพอตวั ยงั ไมเจอ จงึ ยบั ย้ังตัวไม
คอยได คอยแตจะลม ละลายไปตามส่งิ ทมี่ ายวั่ ยวนอยเู สมอ ยงิ่ เปน สิง่ ทีเ่ คยฝงนสิ ัยแลว รู
สึกวา แกไขดัดแปลงยากมาก ดงั น้นั หลกั นิสยั จงึ เปนส่ิงสําคญั ในตัวเรา ไมค วรมองขา มไป
โดยถอื วาไมสาํ คัญ เชนเราเคยดูหนังจนฝงนสิ ยั แลว ภายในใจคอยกระซิบใหพ าไปดหู นัง
อยเู สมอมไิ ดขาด จาํ ตองไดพ าไปเสียจึงจะผา นวนั ผา นคืนไปได ถาวนั ไหนไมไดไ ป แหม
ใจไมส บายเลย ใครมาพดู ใหเ คืองหูนิดหนอยไมไ ด คอยแตจ ะโกรธเอาทาเดียว นั่น
เพราะความเคยชินฝงใจ จนถอื เร่อื งเชน นั้นเปน กจิ สาํ คญั ประจํานิสยั ทงั้ น้ีเพราะการสง
เสริมและคลอ ยตาม จนกลายเปน ยาเสพยต ิดขนึ้ มาอยางฝง ลึกและแกไ มต ก

ขณะที่ดรู ูสึกเพลดิ เพลินใจ และนาํ เอาเรอ่ื งราวท่เี ขาแสดงมาครุนคดิ เปนอารมณ
ถงึ บทเพลินกเ็ พลนิ ถงึ บทรกั กร็ ัก ถงึ บทเศรา โศกก็เศราโศกไปตาม เงนิ คา ต๋ัว คาขา วตม
ขนมนมเนยและเครอื่ งดืม่ ชนดิ ตา ง ๆ ตลอดคาอะไรชนิดท่ีรูไมถ ึงก็เสยี ไป หลกั นิสัยท่ี
เคยเปนคนดีก็คอ ยเสื่อมเสียไปวนั ละเล็กละนอย รวมหลายครัง้ และหลายวนั เขา กม็ ากไป
เอง จติ ท่เี สียหลักแลว เลยหาท่ยี ดึ ไมได จึงกลายเปนจิตลอยลมไปเลย โดยไมม ีฝงมีฝาหา
ที่จอดแวะไมได

การกลาวทั้งนี้ กลา วเปนการเทยี บเคยี งเพ่ือเปนคติเตือนใจเพอื่ นมนุษยผหู วัง
ความเจรญิ แกต นเองและสวนรวม ควรสนใจในหลักนสิ ัยเปน สาํ คัญกวา อนื่ มไิ ดกลาว
เพ่ือตําหนิทั้งทา นผเู สนอเพื่อความสะดวกของประชาชน และทา นผูช มเพอ่ื เปนการผอ น
คลายอารมณท ีต่ งึ เครียดกบั งานมาตลอดเวลา และเพอ่ื ยดึ เอาสาระจากการชมมาบาํ เพ็ญ
ประโยชนแกต นและสวนรวมไดเ ทาทีเ่ ห็นควร เพราะทกุ สง่ิ ยอ มเปน ประโยชนแกผมู งุ

แวน ดวงใจ ๑๐๘

แวน่ ดวงใจ : -ภา๑ค๓๔๑ -อบรมฆราวาส


Click to View FlipBook Version