201
สะท้อนผล Open Approach ประถมศึกษาปีท่ี 2/2 ESC กิจกรรมคาบที่ 18 “นกั สร้างภาค 3”
ผลการสอน
1. นักเรียนสามารถสร้างรูปรา่ งที่แตกตา่ งกนั จากรูปสามเหลย่ี มท่ีกาํ หนดให้ได้
2. นกั เรียนสามารถใช้การเล่ือนขนาน การสะท้อน และการหนุนในการสรา้ งรปู รา่ งตา่ งๆ จากรปู ตน้ แบบทีก่ าํ หนดให้ได้
3. นกั เรยี นสามารถสรา้ งรปู ร่างท่ีแตกตา่ งกัน จากเส้นตรงได้
4. นักเรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งทแ่ี ตกต่างกันโดยการเช่ือมจดุ กบั จดุ ด้วยเส้นได้
ปัญหา/อปุ สรรค
นกั เรยี นบางส่วนไม่สามารถสรา้ งรปู รา่ งทีแ่ ตกต่างกัน จากเส้นตรงได้
แนวทางการแกไ้ ข/ขอ้ เสนอแนะ
ครูถามกระตนุ้ นักเรยี นบอ่ ยๆ ดว้ ยการถามถึงส่งิ ท่นี กั เรียนเหน็ ในชีวติ ประจาํ วนั และถามตอ่ อกี ว่าสามารถนํามาสรา้ งรูปที่เราต้องการ
ไดห้ รือไม่
202
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศึกษาปีที่ 2/1 TP กิจกรรมคาบที่ 19 “เชื่อมจุดเชอ่ื มใจ”
ผลการสอน
1. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งทีแ่ ตกตา่ งกัน จากรปู สามเหลย่ี มท่กี าํ หนดให้ได้
2. นกั เรยี นสามารถใช้การเล่ือนขนาน การสะท้อน และการหนนุ ในการสรา้ งรปู ร่างต่างๆ จากรูปต้นแบบทีก่ ําหนดให้ได้
3. นกั เรยี นสามารถสรา้ งรปู ร่างที่แตกต่างกัน จากเส้นตรงได้
4. นกั เรยี นสามารถสรา้ งรปู รา่ งที่แตกตา่ งกนั โดยการเชอ่ื มจดุ กบั จดุ ด้วยเส้นได้
ปัญหา/อปุ สรรค
-นกั เรียนบางสว่ นไม่สามารถลากเส้นเช่อื มจุดกบั จุด เพอ่ื สรา้ งรปู ที่ปิดสนิท ไมม่ ชี ่องโหว่ได้
-นกั เรียนสามารถใชก้ ารเลอื่ นขนาน การสะท้อน และการหนนุ ในการสร้างรูปร่างต่างๆ จากรูปต้นแบบทกี่ าํ หนดใหไ้ ด้
แนวทางการแก้ไข/ข้อเสนอแนะ
เม่ือนักเรียนกล่มุ ทลี่ ากเส้นเชอ่ื มจดกบั จุดแล้วมีชอ่ งโหว่ ว่า รูปนี้สมบรู ณอ์ ย่างไร หรือมลี ักษณะไหนทแี่ ปลกตาไปบ้าง
203
สะท้อนผล Open Approach ประถมศึกษาปที ่ี 2/2 ESC กจิ กรรมคาบท่ี 19 “เชอ่ื มจุดเช่อื มใจ”
ผลการสอน
1. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปร่างที่แตกตา่ งกนั จากรูปสามเหลย่ี มทกี่ ําหนดใหไ้ ด้
2. นกั เรยี นสามารถใช้การเล่อื นขนาน การสะท้อน และการหนนุ ในการสรา้ งรูปรา่ งต่างๆ จากรูปต้นแบบท่กี าํ หนดใหไ้ ด้
3. นักเรียนสามารถสร้างรปู ร่างทีแ่ ตกตา่ งกนั จากเสน้ ตรงได้
4. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยการเชอ่ื มจุดกับจุดด้วยเส้นได้
ปัญหา/อปุ สรรค
นักเรยี นบางสว่ นไมส่ ามารถลากเส้นเชื่อมจุดกับจดุ เพื่อสร้างรูปทีป่ ิดสนทิ ไม่มีชอ่ งโหวไ่ ด้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
เม่ือนักเรียนกล่มุ ทลี่ ากเสน้ เชอ่ื มจดกบั จดุ แลว้ มชี อ่ งโหว่ วา่ รปู นส้ี มบูรณอ์ ยา่ งไร หรือมลี ักษณะไหนที่แปลกตาไปบา้ ง
204
สะท้อนผล Open Approach ประถมศกึ ษาปีที่ 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 20 “เชอื กวเิ ศษ”
ผลการสอน
1. นักเรียนเข้าใจความหมายของเสน้ ตรง
2. นักเรียนสามารถสรา้ งรปู สามเหลี่ยมและรปู ส่เี หล่ียมโดยใช้เสน้ ตรงได้
3. นกั เรียนสามารถจําแนกประเภทของรูปสามเหล่ียมและรูปสี่เหลยี่ มได้
ปญั หา/อปุ สรรค
- นักเรียนเขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรงของรูปร่างสามเหลย่ี ม และสเ่ี หลีย่ ม
- นักเรยี นบางคนไม่เขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรงและสร้างเส้นตรงได้
แนวทางการแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ
- ครูคอยยํา้ การขีดเส้นตรง ว่า สามารถใชอ้ ะไรเปน็ ตวั ชว่ ยไดบ้ ้าง หาก ไม่มีไม้บรรทัด
205
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศกึ ษาปีที่ 2/2 ESC กิจกรรมคาบท่ี 20 “เชอื กวิเศษ”
ผลการสอน
1. นักเรยี นเขา้ ใจความหมายของเส้นตรง
2. นักเรียนสามารถสรา้ งรูปสามเหลย่ี มและรูปสเี่ หล่ยี มโดยใช้เสน้ ตรงได้
3. นักเรียนสามารถจาํ แนกประเภทของรูปสามเหล่ียมและรูปสเ่ี หลี่ยมได้
ปญั หา/อุปสรรค
- นักเรยี นบางคนไมเ่ ข้าใจความหมายของเสน้ ตรงและสร้างเสน้ ตรงได้
แนวทางการแก้ไข/ข้อเสนอแนะ
- ครคู อยยํ้าการขีดเส้นตรง ว่า สามารถใชอ้ ะไรเป็นตวั ช่วยไดบ้ า้ ง หาก ไมม่ ไี ม้บรรทดั
206
สะท้อนผล Open Approach ประถมศกึ ษาปที ่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบที่ 21-22 “จดั ไป”
ผลการสอน
1. นักเรยี นเขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรง
2. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปสามเหลย่ี มและรปู สี่เหล่ยี มโดยใชเ้ สน้ ตรงได้
3. นกั เรียนสามารถจาํ แนกประเภทของรปู สามเหลยี่ มและรูปสี่เหลยี่ มได้
ปญั หา/อปุ สรรค
- นักเรยี นบางคนไม่สามารถลากเส้นตรงเชอ่ื มจดุ ให้ล้อมรอบสัตว์โดยใช้เสน้ ให้น้อยท่สี ดุ ได้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
- ครูต้องกระตุน้ และยํ้าบ่อยๆวา่ ใชจ้ ดุ ใหน้ อ้ ยที่สุดแต่ไมใ่ ห้ทับรปู สัตว์นั้นๆ
207
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศึกษาปีที่ 2/2 ESC กจิ กรรมคาบท่ี 21-22 “จดั ไป”
ผลการสอน
1. นักเรียนเขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรง
2. นักเรยี นสามารถสรา้ งรูปสามเหลย่ี มและรูปสเ่ี หลยี่ มโดยใช้เส้นตรงได้
3. นกั เรียนสามารถจาํ แนกประเภทของรูปสามเหล่ียมและรปู ส่ีเหลี่ยมได้
ปัญหา/อุปสรรค
- นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถลากเส้นตรงเชอ่ื มจุดใหล้ ้อมรอบสัตวโ์ ดยใชเ้ ส้นให้น้อยทส่ี ดุ ได้
แนวทางการแก้ไข/ข้อเสนอแนะ
- ครูต้องกระตุน้ และยาํ้ บอ่ ยๆวา่ ใช้จดุ ใหน้ อ้ ยทสี่ ดุ แต่ไมใ่ หท้ บั รปู สตั วน์ น้ั ๆ
208
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศกึ ษาปีท่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 24 “ตัดให้ขาดเลยช๊บั ชบั๊ ช๊บั ”
ผลการสอน
1. นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรง
2. นักเรียนสามารถสร้างรปู สามเหลยี่ มและรูปสีเ่ หลยี่ มโดยใชเ้ สน้ ตรงได้
3. นกั เรียนสามารถจําแนกประเภทของรปู สามเหลย่ี มและรูปสี่เหลย่ี มได้
ปัญหา/อปุ สรรค
- นกั เรยี นไม่สามารถวาดรปู สามเหลี่ยมและรปู สี่เหลีย่ มโดยการลากเส้นตรงเช่ือมจุดกบั จุดได้
- นักเรยี นสามารถจําแนกประเภทของรปู สามเหลย่ี มและรูปสเ่ี หลย่ี มได้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
- ครชู ว่ ยกําชับเร่ืองการ ขดี เส้นตรง เพอื่ ให้จุด 2 จดุ บรรจบกนั พอดี
- ครกู ระตุ้นนักเรียนโดยให้นักเรียนคิดตามวา่ รูปทนี่ กั เรยี นวาดนั้นเปน็ รูปแบบทนี่ ักเรียนต้องการหรือยัง
209
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศกึ ษาปีที่ 2/2 ESC กิจกรรมคาบท่ี 24 “ตดั ให้ขาดเลยช๊บั ชบั๊ ช๊บั ”
ผลการสอน
1. นักเรียนเข้าใจความหมายของเส้นตรง
2. นกั เรียนสามารถสรา้ งรปู สามเหลยี่ มและรปู สเ่ี หลีย่ มโดยใชเ้ ส้นตรงได้
3. นักเรยี นสามารถจําแนกประเภทของรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยมได้
ปัญหา/อปุ สรรค
- นกั เรียนไม่สามารถวาดรูปสามเหลย่ี มและรูปส่เี หลี่ยมโดยการลากเสน้ ตรงเชื่อมจดุ กบั จดุ ได้
แนวทางการแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ
- ครชู ่วยกําชบั เรอ่ื งการ ขีดเสน้ ตรง เพ่อื ใหจ้ ุด 2 จุดบรรจบกันพอดี
- ครกู ระตนุ้ นักเรยี นโดยให้นกั เรียนคิดตามว่า รปู ที่นักเรียนวาดน้นั เป็นรปู แบบทีน่ กั เรียนต้องการหรอื ยัง
210
สรุปการจัดกจิ กรรม OPEN APPROACH
เร่ือง ตารางและแผนภูมิ
211
แผนการจดั กจิ กรรมรูปแบบ OPEN APPROACH เพอ่ื ส่งเสริมทกั ษะกระบวนการคดิ
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปี ท่ี 2
หนังสือเร่ือง เรยี นคณิตศาสตรก์ บั เพ่ือนๆ
สาระสาํ คญั ตารางและแผนภมู ิ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจดั จาํ แนกขอ้ มลู เป็นหมวดหมไู่ ด้
2. นกั เรยี นสามารถบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการจาํ แนกประเภทของส่งิ ตา่ งๆ ดว้ ยการเขียนแสดงแทนส่ิงเหลา่ นนั้ ดว้ ยตวั เลขหรอื สญั ลกั ษณ์
ลงในตารางได้
3. นกั เรยี นบอกความหมายของตวั เลขจากตารางท่ีไดจ้ ากการบนั ทกึ จาํ แนกประเภทของส่งิ ของตา่ งๆ ได้
4. นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภมู ิอยา่ งง่ายจากตารางได้
5. นกั เรยี นสามารถอา่ นขอ้ มลู จากแผนภมู ิได้
6. นกั เรยี นสามารถแสดงแทนตาํ แหน่งส่ิงของท่ีเรยี งกนั อยใู่ นแนวตงั้ และแนวนอนได้
กจิ กรรมคาบที่ 25 “แผนภมู จิ ากผัก” แผนการจดั กจิ กรรมนวตั กรรมOPEN APPROACH 212
หมายเหตุ
จดุ มงุ่ หมาย รูปแบบการกิจกรรม ส่ือและอปุ กรณ์
1. นกั เรยี นสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มลู และ 1. ขัํนนําเสนอสถานการณ์ปัญหา (5 นาที)
จัดจําแนกข้อมูลเป็นหมวดหมู่ได้ 1.1 ขนํั นาํ เข้าสบู่ ทเรียน (2 นาท)ี
2. นักเรียนสามารถบันทกึ ข้อมูลจากการ (1) ครทู บทวนกจิ กรรมในคาบทแี่ ลว้ โดยตดิ ตาราง “การเลือก
จําแนกประเภทของสิง่ ตา่ งๆ ด้วยการเขยี น ชนิดผัก” บนกระดาน จากนั้นใหน้ กั เรยี นทั้งหอ้ งชว่ ยกันตอบ
แสดงแทนสิ่งเหล่านั้นด้วยตวั เลขหรือ จํานวนนักเรียนท่ีเลอื กผักแตล่ ะชนดิ
สัญลกั ษณ์ ลงในตารางได้ มะเ ืขอเทศ
มันฝ ั่รง
3. นักเรยี นบอกความหมายของตัวเลขจาก ชอ่ื ผัก ถั่วเห ืลอง
ตารางทไ่ี ดจ้ ากการบนั ทึก จําแนกประเภท มะเ ืขอ ่มวง
้ขาวโพด
แตงกวา
ของสิง่ ของต่างๆ ได้ จาํ นวน 7 5 4 5 8 3
4. นกั เรียนสามารถเขียนแผนภมู อิ ยา่ งง่าย นักเรียน
จากตารางได้ 1.2 ขนํั นําเสนอสถานการณ์ปญั หา (3 นาท)ี
5. นกั เรยี นสามารถอา่ นข้อมลู จากแผนภู (2) ครูติดแถบคําสั่ง ให้นักเรียนเขียน ลงในแผนภูมิเพ่ือ
มไิ ด้ แสดงแทนจํานวนผักแต่ละชนิดท่ีนักเรียนในห้องเลือก บน
6. นักเรียนสามารถแสดงแทนตําแหนง่ กระดานแล้วให้นักเรียนอ่านทําความเข้าใจพร้อมกัน โดยครูเน้น
สิ่งของทีเ่ รียงกันอยใู่ นแนวตงั้ และแนวนอน
ได้ ยํ้าว่าให้นักเรียนนําจํานวนผักแต่ละชนิดในตารางมาเขียนลง
แผนภูมิ โดยเขียนแทนด้วย 1 อันต่อผัก 1 อย่าง แล้วให้
อาสาสมคั รออกมาเขียนแผนภูมิ
213
2. ขัํนแก้ปญั หาเพือ่ เรียนรดู้ ้วยตนเอง (5 นาที)
(3) ครูให้นกั เรยี นอาสาสมัครออกมาเขยี นแผนภูมิ โดยการเขยี น
สัญลกั ษณ์ ลงในแผนภมู ิ เพ่ือแสดงแทนจํานวนผักแต่ละชนดิ
ทนี่ ักเรียนในห้องเลอื ก และให้นกั เรียนในหอ้ งชว่ ยกนั แสดงความ
คิดเห็นใหอ้ าสาสมคั รเขยี น โดยครูคอยกระตุ้นและสังเกตช้ันเรียน
3. ขนัํ นาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนกั เรยี น (5 นาที)
(4) ครูให้นักเรยี นเปรียบเทียบแนวคดิ ในการในการเขียน
สัญลกั ษณ์ ลงในแผนภมู ิ เพือ่ แสดงแทนจาํ นวนผกั แต่ละชนิด
ท่นี กั เรียนในห้องเลอื กวา่ “ผักชนิดใดมากท่สี ดุ ” “ผักชนิดใด
นอ้ ยท่ีสดุ ” “การเขยี นแผนภูมิแบบใดของเพ่อื นทีด่ งู า่ ยกว่ากนั ”
4. การสรปุ บทเรียนจากการเชอ่ื มโยงแนวคดิ ของนักเรียนที่
เกิดขํนึ ในชนํั เรยี น (5 นาที)
(5) ครูสอบถามนักเรียนเก่ยี วกับวธิ กี ารสร้างแผนภูมอิ ยา่ งงา่ ย
จากตาราง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ถงึ ความหมาย
ของแผนภมู ิ ความหมายของแผนภมู ริ ูปภาพ และข้อดขี อง
การนาํ เสนอข้อมลู ในรปู แบบตารางหรอื แผนภูมิ (ขอ้ ดขี อง
แตล่ ะรปู แบบจะเป็นการแสดงแทนขอ้ มูลในรปู แบบ ตารางท่บี ัน
ทึกตวั เลข และแผนภมู ิอยา่ งงา่ ย ซงึ่ ขนึ้ อยกู่ ับลกั ษณะของ
ข้อมูล และความเหมาะสมของรูปแบบการนําเสนอ)
ชว่ งท่ี 2 (30 นาที)
214
1. ขนํั นาํ เสนอสถานการณป์ ญั หา (5 นาที)
(1) “ครบู อกวา่ เดยี๋ วเราลองมาอา่ นข้อมลู จากแผนภมู ินด้ี ีกว่า
ครอู ยากรู้วา่ ” ครตู ดิ แถบคาํ สัง่ ที่ 1 นักเรยี นในห้องเลอื กผัก
ชนดิ ไหนมากท่ีสุดและมีกี่อนั บนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรยี น
อ่านพร้อมกัน และช่วยกนั ตอบพรอ้ มทัง้ บอกเหตผุ ล จากนัน้
ครใู ช้คําถามกระต้นุ นักเรียนวา่ “ถา้ จะวาดเสน้ ทบึ ตรงคนท่ี
5 จะเป็นอยา่ งไรนะ” นกั เรยี นช่วยกนั ตอบ
(2) ครตู ิดแถบคําสัง่ ท่ี 2 นักเรยี นในห้องเลอื กข้าวโพดมาก
กวา่ เลอื กมันฝรัง่ อยูก่ ่ีอัน บนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนอ่านพร้อม
กนั และช่วยกันตอบพร้อมทั้งบอกเหตุผล
(3) ครบู อกวา่ “แล้วถา้ เราจะสร้างแผนภูมทิ ี่มันเข้างา่ ยกวา่ นอ้ี กี
ละ่ เราจะสร้างอยา่ งไรถงึ จะเห็นวา่ ผักแต่ละชนิดต่างกันเท่าไร”
ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบพร้อมท้ังบอกเหตุผล โดยครูใชค้ ํา
ถามกระต้นุ นักเรยี นว่า “ถ้าจะเขียนตัวเลข 1, 2, 3, … กาํ กับ
ไว้ตามแนวตงั้ ของแผนภมู จิ ะได้ไหมนะ” นกั เรียนชว่ ยกัน
ตอบ จากน้นั ครตู ิดแถบคาํ ส่ังที่ 3 จากแผนภูมิ “การเลอื กผัก”
นํี ให้นกั เรยี นสรา้ งแผนภูมิให้เขา้ ใจงา่ ยขนํึ โดยครูเน้นยํา้ ว่า
ใหน้ ักเรยี นสร้างแผนภูมิทเ่ี ข้าใจงา่ ยข้นึ ตามแนวคิดของ
ตนเอง จากนั้นแจกใบกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคน
215
2. ขํันแกป้ ัญหาเพื่อเรยี นรู้ด้วยตนเอง (10 นาท)ี
(4) นกั เรียนลงมือแก้สถานการณป์ ัญหา โดยครูเดนิ สํารวจแนว
คิดนกั เรียนแต่ละคน สังเกตการทํากิจกรรมของนักเรียน
ในขณะเดยี วกันกจ็ ัดลําดับแนวคิดของนกั เรียนเพ่อื การนํา
เสนอหนา้ ช้ันเรียน
3. ขนํั นาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนักเรยี น (10 นาที)
(5) ครูเลือกนกั เรยี นออกมานาํ เสนอที่มาของคําตอบของแต่
ละคาํ สัง่ ตามที่ครไู ด้เรยี งลาํ ดับแนวคดิ ไว้ในขน้ั ทีแ่ ล้ว โดยใชค้ ํา
ถามในการอภปิ รายร่วมกนั วา่
1. นกั เรยี นทราบได้อยา่ งไรว่าผักชนดิ ไหนมากที่สุด
2. นกั เรียนทราบได้อย่างไรวา่ ขา้ วโพดมากกวา่ มนั ฝรงั่ อยเู่ ท่าไร
3. นักเรียนสรา้ งแผนภูมใิ ห้เขา้ ใจงา่ ยขึน้ ไดอ้ ยา่ งไร
4. การสรุปบทเรยี นจากการเชื่อมโยงแนวคดิ ของนกั เรียน
ที่เกิดขํึนในชัํนเรียน (5 นาที)
(6) ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปถึงวิธกี ารอ่านแผนภูมิวา่
“เราจะอา่ นแผนภูมไิ ดอ้ ยา่ งไร ดจู ากตรงไหน”
(7) ครูสรุปภาพรวมทั้งหมดต้ังแต่วิธีการอ่านแผนภูมิแบบเดิม
วิธีการสร้างและอ่านแผนภูมิแบบใหม่ที่ทําให้เข้าใจได้ง่ายข้ึนว่า
“นักเรียนจะสร้างแผนภูมิที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นได้อย่างไร” (จาก
คําถามน้ีนักเรียนอาจเขียนสัญลักษณ์ หรือภาพ เช่น ลงใน
216
แผนภูมิเพื่อแสดงแทนจํานวนนักเรียนท่ีเลือกผักแต่ละชนิดลงใน
แผนภูมิ เมอื่ จาํ นวนนักเรยี น
มากขนึ้ หน่วยท่วี างซ้อนกนั จะยาวข้ึนและอ่านคา่ ยาก นักเรยี น
อาจใช้วธิ กี ารขดี เสน้ ทึบบนแผนภูมทิ นี่ ักเรียนคนที่ 5 ดังภาพ)
217
ตวั อยา่ งหนงั สอื คณิตศาสตรก์ บั เพ่ือนๆ : เร่ือง ตารางและแผนภมู ิ
.
218
ตวั อยา่ งหนงั สอื คณิตศาสตรก์ บั เพ่ือนๆ : เรื่อง ตารางและแผนภมู ิ
ขั้นนําเข้าสู่บทเรียน ภาพการจดั กจิ กรรม: เร่ือง แผนภมู ิจากผัก 219
ขั้นนาํ เสนอแนวคดิ กลุม่
ข้นั การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองของ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
นกั เรยี น แนวคดิ ของนกั เรยี น
220
ภาพการจัดกจิ กรรม : เรื่อง แผนภมู ิจากผัก
ขน้ั นําเข้าส่บู ทเรยี น ขนั้ การเรียนรู้ดว้ ยตนเองของนักเรียน
ขั้นนําเสนอแนวคดิ กลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
221
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบที่ 25 “แผนภมู จิ ากผัก”
222
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบที่ 25 “แผนภมู จิ ากผัก”
223
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศกึ ษาปี ท่ี 2/1 TP กจิ กรรมคาบท่ี 25 “แผนภมู จิ ากผัก”
ผลการสอน
1. นกั เรยี นสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจดั จาํ แนกขอ้ มลู เป็นหมวดหมไู่ ด้
2. นกั เรยี นสามารถบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการจาํ แนกประเภทของส่งิ ตา่ งๆ ดว้ ยการเขียนแสดงแทนส่ิงเหลา่ นนั้ ดว้ ยตวั เลขหรอื สญั ลกั ษณ์ ลงในตารางได้
3. นกั เรยี นบอกความหมายของตวั เลขจากตารางท่ีไดจ้ ากการบนั ทกึ จาํ แนกประเภทของส่งิ ของตา่ งๆ ได้
4. นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภมู ิอยา่ งงา่ ยจากตารางได้
5. นกั เรยี นสามารถอา่ นขอ้ มลู จากแผนภมู ิได้
6. นกั เรยี นสามารถแสดงแทนตาํ แหนง่ ส่งิ ของท่ีเรยี งกนั อยใู่ นแนวตงั้ และแนวนอนได้
ปญั หา/อปุ สรรค
- นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถเขียนแผนภมู ิอยา่ งงา่ ยจากตารางจาํ แนกชนิดของผกั ไดแ้ ละไมส่ ามารถสรา้ งแผนภมู ิใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยได้
- นกั เรยี นสามารถบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการจาํ แนกประเภทของส่งิ ตา่ งๆ ดว้ ยการเขียนแสดงแทนส่ิงเหลา่ นนั้ ดว้ ยตวั เลขหรอื สญั ลกั ษณ์ ลงในตารางได้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
- ครูคอยเปรยี บเทียบตวั อยา่ งท่ีกาํ หนดใหก้ บั แบบท่ีนกั เรยี นคดิ วา่ มีความเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั อยา่ งไร และแบบใดท่ีอา่ นงา่ ยกวา่ กนั
224
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศกึ ษาปี ท่ี 2/2 ESC กจิ กรรมคาบที่ 25 “แผนภมู ิจากผัก”
ผลการสอน
1. นกั เรยี นสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มลู และจดั จาํ แนกขอ้ มลู เป็นหมวดหมไู่ ด้
2. นกั เรยี นสามารถบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการจาํ แนกประเภทของส่ิงตา่ งๆ ดว้ ยการเขียนแสดงแทนส่ิงเหลา่ นนั้ ดว้ ยตวั เลขหรอื สญั ลกั ษณ์ ลงในตารางได้
3. นกั เรยี นบอกความหมายของตวั เลขจากตารางท่ีไดจ้ ากการบนั ทกึ จาํ แนกประเภทของส่งิ ของตา่ งๆ ได้
4. นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภมู ิอยา่ งงา่ ยจากตารางได้
5. นกั เรยี นสามารถอา่ นขอ้ มลู จากแผนภมู ิได้
6. นกั เรยี นสามารถแสดงแทนตาํ แหนง่ ส่ิงของท่ีเรยี งกนั อยใู่ นแนวตงั้ และแนวนอนได้
ปญั หา/อุปสรรค
- นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถเขียนแผนภมู ิอยา่ งงา่ ยจากตารางจาํ แนกชนิดของผกั ไดแ้ ละไมส่ ามารถสรา้ งแผนภมู ิใหเ้ ขา้ ใจงา่ ยได้
แนวทางการแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ
- ครูคอยเปรยี บเทียบตวั อยา่ งท่ีกาํ หนดใหก้ บั แบบท่ีนกั เรยี นคดิ วา่ มีความเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั อยา่ งไร และแบบใดท่ีอา่ นงา่ ยกวา่ กนั
225
ความคดิ เหน็ ของครูผู้สอนเกยี่ วกับการใช้นวตั กรรม Open Approach
Open Approach เป็นนวตั กรรมการศกึ ษาในชนั้ เรยี นท่ีเนน้ การทาํ งานตามขนั้ ตอนของการเรยี นในแตล่ ะสปั ดาห์ เนน้ กระบวนการ
ทาํ งานเป็นกลมุ่ หรอื เป็นทีมของนกั เรยี น โดยฝึกใหร้ ูจ้ กั การแกป้ ัญหาตามสถานการณต์ า่ งๆโดยผา่ นการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองในรูปแบตา่ งๆ
ฝึกใหน้ กั เรยี นไดค้ ิดแกป้ ัญหาไดห้ ลากหลายวิธี นกั เรยี นไดฝ้ ึกการสงั เกตและมองเหน็ ส่ิงตา่ งๆในมมุ มองท่ีแตกตา่ งกนั ยอมรบั ฟัง
ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน มีความกลา้ แสดงออก สามคั คีและรว่ มมือกนั ทาํ งาน
จากการนกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้ Open Approach เรอ่ื งการลบสามารถนาํ นวตั กรรมจากการเรยี นแบบ
Open Approach มาปรบั ใชใ้ นหอ้ งเราทาํ ใหน้ กั เรยี นเกิดการเรยี นรูม้ ากขนึ้ มีการแสดงความคดิ เห็นและวิเคราะหค์ วามคดิ เห็น
ออกมา มีการทาํ งานเป็นกลมุ่ แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ ไดม้ ากย่ิงขนึ้ การใชก้ ารเรยี นแบบ
Open Approach พฒั นากระบวนการคิดของนกั เรยี น คอื การกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นเกิดความคิดโดยพฒั นากิจกรรมในการตอบคาํ ถามและ
การเสนอแนวคดิ เป็นกิจกรรมสง่ เสรมิ ทกั ษะทางการเปิดความคิดท่ีหลากหลาย และการแสดงออกมาผา่ นการแสดความรูส้ กึ ทา่ ทางการ
พดู เป็นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีใชป้ ัญหาปลายเปิด (Open-ended problems) ซง่ึ เป็นปัญหาชนิดท่ีมีคาํ ตอบ หรอื มีแนวทาง
ในการแกป้ ัญหาไดห้ ลากหลาย การพิจารณาคาํ ตอบ ของปัญหาปลายเปิดไมใ่ ชต่ ดั สนิ เฉพาะความถกู ผิดของคาํ ตอบ หรอื ตดั สนิ โดยคน
สว่ นมากวา่ ถกู หรอื ผิดแตจ่ ะมีการพิจารณาถงึ เหตผุ ลวา่ มีความสมเหตสุ มผลมากนอ้ ยเพียงใดการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีเนน้
การใชป้ ัญหาปลายเปิดจงึ เป็นกิจกรรมหนง่ึ ท่ีสามารถตอบสนองตอ่ ความคิดท่ีหลากหลายของนกั เรยี นไดเ้ น่ืองจากกิจกรรมการเรยี นการ
สอน ท่ีเนน้ การใชป้ ัญหาปลายเปิดสามารถจดั กิจกรรมท่ีเป็นการบรู ณาการเนือ้ หาหลายๆ เรอ่ื ง เขา้ ไวใ้ นกิจกรรมเดียวกนั ได้ ซง่ึ เป็นการ
จดั สรรเนือ้ หาโดยการเนน้ กิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั เวลาท่ีมีอยนู่ อกจากนี้ ส่อื การสอนท่ีใชจ้ ะเป็นลกั ษณะของการดงึ เอากระบวนการคิด
226
ของนกั เรยี นออกมา ทาํ ใหส้ ามารถศกึ ษากระบวนการคิดของนกั เรยี นแตล่ ะคน และสง่ เสรมิ ใหม้ ีการพฒั นาดา้ นการใหเ้ หตผุ ลของ
นกั เรยี นไดเ้ ป็นอยา่ งดยี ่ิงอีกดว้ ย
จากการท่ีนกั เรยี นไดเ้ รยี นรูก้ ิจกรรม Open Approach ซง่ึ เป็นนวตั กรรมท่ีนาํ มาใชท้ าํ ใหน้ กั เรยี นไดม้ ีสว่ นรว่ มในกิจกรรม นกั เรยี น
มีความคิดและกลา้ แสดงออกท่ีมากขนึ้ ไดเ้ รยี นรูก้ ารทาํ งานเป็นกลมุ่ มีความม่นั ใจในตวั เองมากขนึ้ จากการสงั เกตพบวา่ นกั เรยี นมี
ความสขุ และสนกุ กบั การเรยี นรูส้ ่งิ ใหมๆ่ เป็นกิจกรรมท่ีสง่ เสรมิ ทกั ษะดา้ นการฟัง การพดู การอธิบาย และการวิเคราะห์ เป็นการแสดง
ออกมาผา่ นการพดู การบรรยาย การอธิบาย เพ่ือแลกเปล่ียนขอ้ มลู ซง่ึ กนั และกนั