151
ใครเห็นต่าง อย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมกัน
อภปิ ราย
8. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปท่ีเหมือนกับนักเรียนท่ีนําเสนอเอา
ภาพของตนเองมาตดิ แลว้ จดั ใหอ้ ยใู่ นกลุม่ เดยี วกนั
9. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปที่แตกต่างจากเพ่ือนท่ีนําเสนอไป
แล้วออกมานําเสนอรูปของตนเองพร้อมทั้งบอกว่า รูปนั้นคือ
อะไร (สร้างเป็นรูปอะไรในชีวิตจริง) แล้วถามนักเรียนในชั้น
เรียนว่านักเรียนเห็นว่าเป็นภาพของ (ส่ิงที่เพื่อนนําเสนอ)
หรือไม่ ใครเห็นเหมือน หรือใครเห็นต่าง อย่างไร ครูเปิด
โอกาสใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภิปราย
4. สรปุ เพอ่ื เช่ือมโยงแนวคิดของนกั เรยี นทเ่ี กดิ ขึํนในชนํั
เรียน (10 นาที)
10. ครถู ามนกั เรยี นว่า “จากกระดาษสีท่คี รใู หน้ ักเรียนไป แค่
2 ชนิ้ ทาํ ไมนกั เรียนถึงสามารถนาํ ไปสรา้ งรูปได้เยอะแยะเลย
มีวธิ กี ารสรา้ งยงั ไงนะ” ให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบ และสรุปส่ิงท่ี
ได้เรยี นร้ใู นคาบน้ี
กิจกรรมคาบที่ 17 “สามเหลี่ยมเปลีย่ นรา่ ง ” 152
หมายเหตุ
จุดมงุ่ หมาย รปู แบบการกิจกรรม สอื่ และอปุ กรณ์
1. นักเรยี นสามารถสรา้ งรูปโดยเลื่อน หมุน 1. ขนัํ นาํ เสนอสถานการณป์ ัญหา ( 5 นาที)
พลิก กระดาษสีสามเหลี่ยมเพอื่ สรา้ งรปู ต่างๆ 1. ครูถามนักเรียนเกี่ยวกบั การเรยี นคร้ังทแี่ ล้วว่า “เมือ่ วานเรา
ได้ เรยี นเร่อื งอะไร” (นกั เรยี นตอบ สร้างรูป สร้างสามเหล่ยี ม สรา้ ง
2. นักเรียนสามารถนาํ กระดาษสสี ามเหลย่ี ม สีเ่ หล่ยี ม สรา้ งนก ปลา ภูเขา ฯลฯ จากกระดาษสี)
มาวางทาบลงบนรปู ท่กี าํ หนดขึน้ มาได้ 2. ครถู ามนักเรยี นเกีย่ วกับวิธกี ารสงั เกตว่ารูปแตล่ ะรปู ทส่ี ร้างวา่
เป็นรปู อะไร ดูจากตรงไหน (ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั อธบิ ายวธิ ีการ)
3. ครูเลา่ ว่า “วนั น้คี รกู จ็ ะให้นกั เรยี นชว่ ยกันสรา้ งรูปอีกนะคะ
คณุ ครจู ะให้นกั เรียน 4 ช้นิ แตค่ ุณครจู ะให้นกั เรียนสร้างตาม
แบบทคี่ ณุ ครกู ําหนดมาให้” ครูตดิ แถบชือ่ กิจกรรม แถบ
สถานการณ์ปญั หา และแถบคาํ ส่ังท่ี 1 บนกระดาน จากน้ันให้
นักเรยี นอ่านพรอ้ มกนั
4. ครใู ห้นักเรียนทายว่ารูป a คอื รูปอะไร จากน้ันครใู หต้ ัวแทน
นักเรียนสร้างรูป a โดยใช้กระดาษสี 4 ชนิ้ ติดลงบน
กระดานหน้าชัน้ เรยี น โดยติดท้ังหมด 4 รูป
5. ครตู ิดแถบคําสัง่ ท่ี 2 จากน้ันใหน้ ักเรียนอา่ นพรอ้ มกัน และ
ตดิ รูป b c d และ e บนกระดานเพอ่ื ให้นักเรียนดเู ปน็ ตวั อยา่ ง
6. ครใู ห้นกั เรียนทายว่ารูป b c d และ e คอื รปู อะไร แลว้ ให้
นกั เรยี นออกมาสรา้ งรูป b c d และ e โดยการขยบั ปรบั เปลี่ยน
จากรูป a ท่นี กั เรยี นเคยสร้างไว้ 4 รปู บนกระดาน
153
2. การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองของนกั เรียน (10 นาที)
7. ครูเลอื กนกั เรียนออกมาสรา้ งรูปตา่ งๆ โดยการขยับ
ปรบั เปลีย่ น บนกระดานหนา้ ชั้นเรยี นทีละรูป
3. ขนํั อภิปรายและเปรยี บเทยี บแนวคดิ ทงํั ชํันเรียน (15 นาที)
8. ครูเลือกนักเรียนออกมาสร้างรูปร่างตามรูปที่ครูกําหนดที
ละรปู พร้อมนาํ เสนอแนวคิด และวิธีการสรา้ ง
9. จากนั้นครูถามว่า “มีใครมีแนวคิดที่แตกต่างจากเพื่อน
หรือไม่” จากน้ันให้นักเรียนท่ีสร้างรูปร่างได้ตามรูปที่ครู
กําหนดแต่มีลําดับการสร้างแตกต่างจากคนที่ออกไปนําเสนอ
กอ่ นหน้า มานาํ เสนอแนวคิดของตนเอง
10. ครูให้นักเรียนออกมานําเสนอจนกว่าจะครบทุกแนวคิด
แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับแต่ละ
วิธกี าร โดยใช้การอภิปรายไปทลี ะรปู
4. สรุปเพอื่ เชือ่ มโยงแนวคดิ ของนักเรยี นทีเ่ กดิ ขํึนในชัํนเรียน
(5 นาที)
11. ครูถามนักเรียนว่า “ในแต่ละรูปท่ีคุณครูกําหนดให้
นักเรียนคิดว่า มีวิธีการสร้างได้เพียงรูปแบบเดียว จริงหรือไม่
154
เพราะเหตใุ ด” ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันอธิบาย
12. ครถู ามนักเรียนในชั้นเรยี นว่า “วิธีการของใครทขี่ ยบั
ปรับเปลย่ี น a โดยใช้ขน้ั ตอนนอ้ ยที่สุด”
ช่วงท่ี 2
1. ขัํนนําเสนอสถานการณป์ ัญหา (5 นาที)
1. ครตู ิดรูปท่ี และ บนกระดาน จากนัน้ ใหน้ กั เรียน
ทายวา่ รูปอะไร
2. ครูติดแถบช่ือกิจกรรม แถบสถานการณ์ปัญหา และแถบ
คาํ สง่ั บนกระดาน จากน้ันใหน้ ักเรยี นอ่านพรอ้ มกนั
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลองทายว่าต้องใช้กระดาษสีก่ี
แผ่นก่อนเร่ิมกจิ กรรม
4. ครูแจกใบกิจกรรม และอปุ กรณ์ให้นักเรยี นลงมือทาํ
2. ขันํ แกป้ ัญหาเพอ่ื เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (10 นาที)
5. นกั เรียนสร้างรปู รา่ งตามท่ีครูกําหนดให้ โดยใชก้ ระดาษสี
สามเหลีย่ ม
155
3. ขัํนนาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนักเรยี น (5 นาที)
6. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปร่างได้ตามรูปท่ีครูกําหนดออกมา
นาํ เสนอแนวคดิ และวธิ ีการสร้าง
7. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปร่างได้ตามรูปท่ีครูกําหนดแต่มี
ลําดับการสร้างแตกต่างจากคนที่ออกไปนําเสนอก่อนหน้า มา
นําเสนอแนวคดิ ของตนเอง
8. ครูให้นักเรียนออกมานําเสนอจนกว่าจะครบทุกแนวคิด
แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับแต่ละ
วิธกี าร
4. การสรุปบทเรียนจากการเช่ือมโยงแนวคิดของนักเรียนที่
เกิดขํนึ ในชนํั เรียน (5 นาที) 9. ค รู
ถามนักเรียนว่า “ในแต่ละรูปที่คุณครูกําหนดให้นักเรียนคิดว่า
มีวิธีการสร้างได้เพียงรูปแบบเดียว จริงหรือไม่ เพราะเหตุใด”
ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั อธบิ าย
10. ครูถามนักเรียนในชั้นเรยี นว่า “แต่ละรูปใชก้ ระดาษกี่แผ่น”
กิจกรรมคาบที่ 18 “ นกั สร้างภาค 3” 156
หมายเหตุ
จุดมุ่งหมาย รปู แบบการกจิ กรรม สื่อและอปุ กรณ์
1. นักเรียนสามารถสรา้ งรปู ร่างท่ีแตกต่างกนั 1. ขัํนนําเสนอสถานการณป์ ญั หา (10 นาที)
จากเส้นตรงได้ 1.1 ขันํ นาํ เข้าสู่บทเรยี น (3 นาที)
1. ครูพูดคุยถึงรูปที่เคยสร้างจากกระดาษสีสามเหล่ียม
จํานวน 2 ชิ้น โดยให้นักเรียนทายว่ารูปท่ีครูสร้างจาก
กระดาษสีสามเหลี่ยมคือรูปอะไร (ปลา) และถาม
นกั เรียนว่าดจู ากตรงไหน
1.2 ขนํั นาํ เสนอสถานการณ์ปญั หา (7 นาที)
2. ครูนําหลอดข้ึนมาถือไว้แล้วถามนักเรียนว่า
“นักเรียนรู้จักไหมว่านี่คืออะไร” (นักเรียนตอบว่า
หลอด) “นักเรียนคิดว่าวันนี้คุณครูจะให้ทําอะไร” ให้
นกั เรยี นทาย
3. ครูต่อหลอดเป็นรูปปลา ดังภาพ แล้วให้นักเรียนทาย
ว่ารูปที่ครูสร้างคือรูปอะไร ดูจากตรงไหน (ให้นักเรียน
ชว่ ยกนั อธิบายวิธกี าร)
4. ครูถามนักเรียนว่า "คุณครูสร้างรูปอะไร (ปลา) แล้ว
สองรูปน้ีต่างกันตรงไหน" (นักเรียนตอบ ใช้หลอดแทน
157
กระดาษสีสามเหล่ียม) จากนั้นครูให้นักเรียนสังเกตว่า
รูปปลาของคุณครูทั้ง 2 รูปมีลักษณะอย่างไร (นักเรียน
ตอบ รปู ปลาของคณุ ครูปิดสนิท ไม่มชี อ่ งโหว)่
5. ก่อนท่ีจะเข้ากิจกรรม ครูอธิบายก่อนว่า รูปร่างน้ัน
ต้องปิดสนิท ไม่มีช่องโหว่ จากนั้น ครูติดแถบชื่อ
กิจกรรม แถบสถานการณ์ปัญหา และแถบคําสั่งบน
กระดาน ให้นกั เรยี นอ่านพรอ้ มกัน
6. ครูแจกใบกิจกรรม หลอดสีต่างๆ สําหรับนักเรียนคน
ละ 25 ชิ้น และกาว จากน้ันครูให้นักเรียนใช้หลอดสร้าง
รูปตา่ งๆ
2. ขํนั แกป้ ญั หาเพือ่ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง (15 นาที)
7. นักเรยี นสรา้ งรปู ต่างๆ โดยใช้หลอดและครสู ังเกต
แนวคิดพร้อมจัดลาํ ดับแนวคดิ ของนกั เรียน
3. ขัํนนาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนกั เรยี น (15
นาที)
8. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปร่างท่ีมีช่องโหว่ออกมา
นาํ เสนอแนวคดิ และวธิ กี ารสร้าง
9. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปร่างได้ปิดสนิท ไม่มีช่องโหว่
มานาํ เสนอแนวคดิ ของตนเอง
4. การสรุปบทเรียนจากการเช่ือมโยงแนวคิดของ
นกั เรียนที่เกิดขนึํ ในชํันเรยี น (10 นาที)
158
10. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนนําหลอดมาสร้างเป็น
รปู อะไรบ้าง เยอะแยะเลย” ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันตอบ
11. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนดูตรงไหนว่าเป็นรูป....
(ครูสุ่มภาพ) ดูจากตรงไหนช่วยบอกคุณครูหน่อย เป็น
ปลาตรงไหน เป็นบ้านตรงไหน ตรงนี้เป็นรูปอะไร (ครูใช้
มือชี้ หรือลากเป็นรูปสามเหลี่ยม หรืออ่ืนๆ)” ให้
นักเรยี นชว่ ยกันอธบิ าย
12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ แนวคดิ (หลอดจะ
สามารถสรา้ งรูปไดเ้ ยอะกว่ากระดาษสี) (การสรา้ ง
รูปรา่ งจะตอ้ งปดิ สนทิ ไม่มีชอ่ งโหว)่
กจิ กรรมคาบท่ี 19 “เช่อื มจดุ เชอื่ มใจ” 159
หมายเหตุ
จุดมุง่ หมาย รูปแบบการกิจกรรม สื่อและอปุ กรณ์
นกั เรยี นสามารถลากเส้นเชื่อมจดุ กับจดุ เพ่อื สร้างรูป 1. ขนํั นําเสนอสถานการณ์ปัญหา (10 นาที)
ท่ีปิดสนทิ ไม่มชี อ่ งโหวไ่ ด้ 1.1 ขัํนนาํ เข้าส่บู ทเรยี น (3 นาที)
1. ครูพูดคุยถึงรูปท่ีเคยสร้างจากกระดาษสีสามเหล่ียม
จํานวน 2 ชิ้น และหลอดสีต่างๆ โดยถามนักเรียนว่า
“เราสรา้ งรูปร่างต่างๆ จากอะไรมาแลว้ บา้ ง”
1.2 ขนํั นําเสนอสถานการณป์ ัญหา (7 นาที)
2. ครูติดกระดาษท่ีมีจุดๆ บนกระดาน แล้วลากเส้น
เช่ือมจุดกับจุดเป็นรูปหมาจิ้งจอก ดังภาพ จากนั้นให้
นักเรียนทายวา่ ครสู รา้ งรปู อะไร ดจู ากตรงไหน
3. ครูถามนักเรียนว่า “รูปท่ีคุณครูสร้างวันนี้ ต่างจากรูป
ท่ีเราเคยสร้างอย่างไร” (นักเรียนตอบ เราลากเส้นเช่ือม
จุด เราไมใ่ ชก้ ระดาษสหี รอื หลอด)
4. ก่อนที่จะเข้ากิจกรรม ครูอธิบายก่อนว่า รูปร่างน้ัน
ต้องปิดสนิท ไม่มีช่องช่องโหว่ จากนั้นครูติดแถบช่ือ
กิจกรรม แถบสถานการณ์ปัญหา และแถบคําส่ังบน
160
กระดานให้นกั เรียนอา่ นพรอ้ มกัน
5. ครแู จกใบกิจกรรม ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ
2. ขํันแก้ปญั หาเพื่อเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (15 นาที)
6. นักเรยี นสร้างรปู ต่างๆ โดยการลากเสน้ เช่อื มจดุ กบั
จุดและต้งั ช่อื รูปท่สี รา้ งขน้ึ มา ครูสังเกตแนวคดิ ของ
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเพือ่ เรียงลําดบั แนวคดิ ในการนําเสนอ
3. ขันํ นําเสนอและอภปิ รายแนวคิดของนักเรยี น (15
นาท)ี
7. ครูให้นักเรียนที่สร้างรูปร่างได้มีช่องโหว่ ออกมา
นาํ เสนอแนวคิดและวธิ กี ารสรา้ ง
8. ครูให้นักเรียนท่ีสร้างรูปร่างได้ปิดสนิท ไม่มีช่องโหว่
มานําเสนอแนวคดิ ของตนเอง
9. ครูให้นักเรียนออกมานําเสนอจนกว่าจะครบทุก
แนวคิด แล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมกันอภิปราย
เก่ยี วกบั แต่ละวิธกี าร
4. การสรุปบทเรียนจากการเชื่อมโยงแนวคิดของ
นักเรยี นทเ่ี กดิ ขนึํ ในชนัํ เรยี น (10 นาที)
10. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนสร้างเป็นรูปอะไรบ้าง”
ให้นักเรยี นช่วยกันตอบ
11. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนดูตรงไหนว่าเป็น
รูป.... (ครูสุ่มภาพ) ดูจากตรงไหนช่วยบอกคุณครูหน่อย
161
เป็นปลาตรงไหน เป็นบ้านตรงไหน ตรงนี้เป็นรูปอะไร”
ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั อธบิ าย
12. ครูแจกกระดาษสําหรับเขียนความรู้สึก ให้
นักเรียนเขียนความรู้สึกต่อกิจกรรม “ลากเส้นต่อจุด”
จากนั้นครูสุ่มอ่านหน้าชนั้ เรยี น
13. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ แนวคดิ (การสรา้ งรปู รา่ ง
จะต้องปดิ สนิท ไมม่ ชี ่องโหว่) (เสน้ กส็ ามารถสร้างรูปร่างได้
หลากหลาย)
กิจกรรมคาบที่ 20 “เชอื กวเิ ศษ” 162
หมายเหตุ
จดุ มุ่งหมาย รูปแบบการกจิ กรรม สอื่ และอุปกรณ์
นักเรียนเขา้ ใจความหมายของเสน้ ตรง 1. ขํันนาํ เสนอสถานการณป์ ัญหา (15 นาที)
และสรา้ งเสน้ ตรงได้ 1.1 ขํนั นาํ เข้าสู่บทเรียน (5 นาท)ี
1. ครูทักทายนักเรียนแล้วบอกนักเรียนว่า วันน้ีครูนําของ
บางอย่างมาด้วย นักเรียนลองทายซิว่าครูเอาอะไรมาด้วย ครูให้
นักเรียนทาย ครูนําเชือกขึ้นมาแล้วถามนักเรียนว่าเรานําเชือกมา
ไวใ้ ช้ทําอะไรไดบ้ ้าง ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันตอบ
1.2 ขํันนําเสนอสถานการณป์ ญั หา (10 นาที)
2. ครใู ห้ตัวแทนนาํ เชือกมาขึงให้หยอ่ น แล้วถามนกั เรียนว่า
เชือกมลี ักษณะอย่างไร (หย่อน โค้ง ไม่ตงึ ส้นั เบย้ี ว) ให้นักเรียน
ชว่ ยกันอธบิ าย ถ้าคาํ ตอบของนกั เรยี นมีคําที่คาดการณไ์ ว้ ครจู ะ
ถามนักเรยี นตอ่ ไปอีกว่า โค้งอยา่ งไร เบ้ียวอยา่ งไร เพ่อื ให้
นักเรยี นขยายความเพิม่ เติม จากน้ันก็ให้ตัวแทนขงึ เชือกใหต้ ึง
แลว้ ถามนักเรยี นว่าเชอื กมีลกั ษณะอย่างไร (ตึง ยาว ตรง ไม่โคง้
ไม่เบีย้ ว) ใหน้ ักเรียนช่วยกนั อธิบาย ถ้าคาํ ตอบของนักเรยี นมีคาํ ท่ี
คาดการณ์ไว้ ครูจะถามนักเรียนต่อไปอีกว่า ตรงอยา่ งไร ตึง
อย่างไร เพ่อื ให้นักเรียนขยายความเพมิ่ เติม
163
3. ครูถามนักเรียนว่า “นอกจากเชือกแล้ว มีอย่างอื่นอีกไหมท่ี
สามารถทําให้เป็น ตรงๆได้ (ครูเลือกใช้คําท่ีนักเรียนพูด)” ครูให้
นักเรียนช่วยกันตอบ (เส้นด้าย หนังยาง ลวด เส้นผม อะไรท่ีเป็น
เส้นๆ) “แล้วถ้านักเรียนจะทํา หนังยางให้เป็นตรงๆ ต้องทํา
อย่างไรคะ” ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย และสุ่มให้นักเรียน
ออกมาจับหนังยางให้เป็นเส้นตรง ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดว่าหนังยางตรงหรือไม่ ตรงอย่างไร ให้นักเรียนร่วมกัน
อภิปราย ครูและนักเรียนพูดคุยถึงลักษณะของเส้นตรงตามความ
เข้าใจของนกั เรยี น
4. ครูถามนักเรียนว่า “มีอย่างอื่นอีกไหมนะ ที่สามารถนํามา
สร้างเป็นเส้นตรงได้ (ครูเลือกใช้คําที่นักเรียนพูด เช่น ตรงๆ)”
ครูให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น ครูลองให้นักเรียนพับ
กระดาษโดยแจกกระดาษให้นักเรียนแต่ละคู่ จากนั้นให้นักเรียน
พับกระดาษไป 1 ครั้ง ครูใหน้ ักเรียนสังเกตรอยพบั ทเ่ี กิดข้ึน
5. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนลองช่วยกันอธิบายซิคะว่า รอย
พบั ทเ่ี กิดข้ึนมีลักษณะเปน็ อย่างไร” ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันอธบิ าย
6. ครูพูดกับนักเรียนว่า “จากท่ีเราได้ดึงเชือก ดึงหนังยาง พับ
164
กระดาษ ไปแล้ว ครูอยากให้นักเรียนช่วยกันสรุปลักษณะต่าง
ๆเหล่าน้ีสิว่า มีอะไรบ้าง” ครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายเพื่อสรุป
ลักษณะ “แล้วเราจะเรียกลักษณะแบบน้ีว่าอะไรดีนะ” ครูให้
นักเรียนช่วยกันตอบเพอ่ื ใหไ้ ดค้ าํ ว่า เสน้ ตรง
7. ครูพูดกับนักเรียนว่า “นักเรียนคิดว่าเราสามารถสร้าง
เส้นตรง โดยใช้ไม้บรรทัดและปากกาเมจิกได้หรือไม่ แล้วสร้าง
อย่างไร”
2. ขนัํ แก้ปัญหาเพ่อื เรียนรู้ด้วยตนเอง (15 นาท)ี
8. นกั เรยี นทําใบกจิ กรรมซง่ึ นกั เรียนอธิบายความหมายของ
เสน้ ตรงตามความเข้าใจของตนเอง สร้างเส้นตรงโดยการดึงเชอื ก
ดงึ หนงั ยาง พับกระดาษ และวาดเส้นตรงโดยใช้ไมบ้ รรทัด
3. ขนํั นําเสนอและอภปิ รายแนวคดิ ของนักเรียน (15 นาที)
9. ครูให้นักเรียนที่มีแนวคิดพ้ืนฐานหรือต้องการที่จะนําเสนอ
แนวคิดในการแก้ปัญหาและแนวคิดแตกต่างได้นําเสนอแนวคิด
ต่อเพื่อน ตามลาํ ดับทไี่ ดจ้ ดั ไว้
4. การสรุปบทเรียนจากการเชอ่ื มโยงแนวคิดของนกั เรยี นท่ี
เกิดขึนํ ในชัํนเรยี น (5 นาที)
10. ครถู ามนกั เรียนว่า เส้นตรงคืออะไร มลี กั ษณะอย่างไร
บ้าง ตามความเขา้ ใจของนกั เรียนและอะไรบ้างทีเ่ ป็นเส้นตรง
165
นักเรียนจะสร้างเส้นตรงไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
11. ครูตดิ แถบสรุป
กิจกรรมคาบท่ี 21-22 “จัดไป” 166
หมายเหตุ
จดุ ม่งุ หมาย รูปแบบการกจิ กรรม สื่อและอปุ กรณ์
1.นกั เรยี นสามารถลากเส้นตรงเชอื่ มจดุ ให้ 1. ขํันนาํ เสนอสถานการณป์ ญั หา (10 นาที)
ล้อมรอบสัตว์โดยใชเ้ สน้ ให้น้อยท่ีสดุ ได้ 1.1 ขันํ นาํ เข้าส่บู ทเรยี น (2 นาที)
2. นกั เรียนสามารถแบ่งรปู รา่ งที่ล้อมรอบดว้ ย 1. ครูทักทายนักเรียนแล้วทบทวนเรื่องท่ีเรียนไปเม่ือวาน “เมื่อวานน้ีเรา
เสน้ ตรงได้
3. นักเรียนสามารถจาํ แนกประเภทของรูป เรียนเร่ืองอะไร ใครจําได้บ้าง” ให้นักเรียนช่วยกันอธิบาย “นักเรียนจํา
สามเหลี่ยมและรปู สีเ่ หลย่ี มได้ ไดไ้ หมว่าสร้างเส้นตรง” ให้นักเรียนช่วยกันตอบ
1.2 ขันํ นาํ เสนอสถานการณป์ ญั หา (8 นาที)
2. จากนั้นครูนําภาพสวนสัตว์ติดบนกระดาน ครูถามนักเรียนว่า
“นักเรียนเห็นอะไรบ้างจากภาพบนกระดาน” ครูถามนักเรียนว่า
“นักเรียนคิดว่าจะได้ทําอะไรกับภาพสวนสัตว์น้ี” ครูให้นักเรียนแสดง
ความคิดเหน็
3. ครูติดคําส่ังท่ี 1 “ลากเส้นตรงเช่ือมจุดให้ล้อมรอบสัตว์แต่ละตัวโดยใช้
167
เส้นตรงจํานวนน้อยที่สุด” บนกระดาน ครูให้นักเรียนอ่านและทําความ
เข้าใจร่วมกันโดยครูเน้นยํ้าท่ีการสร้างเส้นตรงเช่ือมจุดกับจุด และต้องใช้
เส้นตรงใหไ้ ด้นอ้ ยทีส่ ดุ แตต่ อ้ งสามารถล้อมรอบสัตวแ์ ตล่ ะตัวได้
4. ครูติดคําส่ังท่ี 2 บนกระดาน ครูให้นักเรียนอ่านและทําความเข้าใจ
ร่วมกันโดยครูเน้นยํ้าที่การจัดกลุ่มหรือแบ่งประเภท จากรูปร่างที่อยู่บน
กระดาน ครูถามถงึ ความเข้าใจของนกั เรยี นเกยี่ วกับการจดั กลุ่ม
2. ขันํ แก้ปัญหาเพ่อื เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง (15 นาที)
5. นักเรียนลงมือทําใบกิจกรรม ครูกระตุ้นให้นักเรียนพิจารณาว่าจะ
แบ่งกลุ่มโดยใช้เกณฑ์อะไรในการแยก จากจํานวนเส้นตรงท่ีใช้สร้าง
รูปร่าง จํานวนจุดท่ีใช้สร้างรูปร่าง และ แยกรูปร่างเป็นกลุ่มรูป
สามเหลี่ยมและรปู สเ่ี หลยี่ ม
3. ขันํ นาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนกั เรยี น (15 นาที)
6. ครใู หน้ กั เรยี นไดน้ ําเสนอวิธีการและเหตผุ ลในการแก้ปัญหา
- ให้นักเรียนที่สามารถแบ่งกลุ่มรูปสามเหล่ียมและรูปสี่เหล่ียมโดยมี
เกณฑใ์ นการแยกคือพิจารณาจํานวนเส้นตรงทใ่ี ช้สรา้ งได้นําเสนอ
- ให้นักเรียนท่ีสามารถแบ่งกลุ่มรูปสามเหลี่ยมและรูปส่ีเหลี่ยมโดยมี
เกณฑอ์ ่ืนๆ ท่ีนา่ สนใจได้นําเสนอตอ่ เพื่อน
- ให้นักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการจัดกลุ่มรูปร่างท่ีได้จากสร้าง
เสน้ ตรงลอ้ มรอบตวั สตั ว์แต่ละตวั วา่ มกี กี่ ล่มุ อะไรบา้ ง และเพราะเหตุใด
4. การสรุปบทเรียนจากการเช่ือมโยงแนวคิดของนักเรียนท่ีเกิดขํึนใน
ชัํนเรยี น (10 นาที)
7. ครูให้นักเรียนบอกเกณฑ์ท่ีนักเรียนใช้ในการจัดกลุ่มรูปร่างท่ีได้จาก
168
สร้างเสน้ ตรงล้อมรอบตวั สตั ว์แต่ละตวั ทั้งหมดทน่ี กั เรยี นในหอ้ งใช้
8. ครูถามนักเรียนว่ามีกลุ่มของรูปร่างท้ังหมดกี่กลุ่ม กลุ่มอะไรบ้าง และ
เพราะเหตใุ ดจึงเปน็ กลุ่มเหล่านั้น
9. ครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายลักษณะสําคัญของแต่ละกลุ่มท่ีนักเรียน
แยกได้
10. ครูติดแถบสรุป
กิจกรรมคาบท่ี 24 “ตัดให้ขาดเลยชับ๊ ชับ๊ ชบ๊ั ” 169
หมายเหตุ
จดุ มุ่งหมาย รูปแบบการกจิ กรรม สื่อและอปุ กรณ์
1. นักเรยี นสามารถวาดรปู สามเหลยี่ มและ 1. ขัํนนําเสนอสถานการณ์ปญั หา (10 นาที)
รูปสีเ่ หลยี่ มโดยการลากเสน้ ตรงเชื่อมจุดกับ 1. ครตู ิดภาพจดุ บนกระดาน และใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมาวาดรูป
จดุ ได้ สามเหล่ยี มและรปู ส่เี หล่ียมหลายๆแบบโดยลากเสน้ ตรงเชอ่ื มจดุ
2. นักเรยี นสามารถสร้างรปู สามเหลย่ี มและ
รูปสี่เหล่ียมโดยการตดั กระดาษรูป 2. ครูติดภาพกระดาษบนกระดาน จากน้นั ตดิ คําสง่ั “ตดั กระดาษ
สเ่ี หล่ียมผนื ผ้าออกเป็น 2 ชิ้นได้ ออกเปน็ 2 ชิ้นเพ่อื ทาํ รูปรา่ งตอ่ ไปนี้
3. นกั เรียนสามารถคน้ หาสิง่ ทมี่ ีรูปรา่ ง
เหมือนกับรปู สามเหลี่ยมและรปู สเ่ี หลีย่ มได้ 1. รปู สามเหล่ียม 2 รูป
2. รูปสี่เหล่ยี ม 2 รปู
3. รูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหล่ียม” บนกระดาน ครูให้นักเรียนอ่านและ
ทาํ ความเข้าใจรว่ มกนั
2. ขนํั แก้ปัญหาเพ่อื เรียนรู้ด้วยตนเอง (15 นาที)
3. นักเรียนลงมือแก้ปัญหาร่วมกันภายในกลุ่ม และครูคอยสังเกตแนวคิด
ของนักเรยี น เพื่อจดั ลําดับแนวคดิ
3. ขัํนนาํ เสนอและอภปิ รายแนวคิดของนกั เรียน (15 นาที)
4. ครูให้นักเรียนที่สามารถตัดกระดาษได้ตามเง่ือนไขได้นําเสนอวิธีการ
170
แก้ปัญหาต่อเพอ่ื น
5. ครูให้นักเรียนอภิปรายในประเด็นการสร้างรูปสามเหลี่ยมและรูป
สเี่ หลยี่ มท่ีนกั เรยี นสามารถสรา้ งไดจ้ ากกิจกรรมวา่ มีหลากหลายแค่ไหน
4. การสรุปบทเรียนจากการเชื่อมโยงแนวคิดของนักเรียนที่เกิดขํึนใน
ชันํ เรยี น (10 นาที)
6. ครูให้นักเรียนบอกวิธีการสร้างรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหล่ียมท่ี
นักเรียนใช้ท้ังหมด และนักเรียนคิดว่ามีวิธีการสร้างรูปสามเหล่ียมหรือ
รูปส่ีเหลี่ยมแบบอืน่ อกี หรือไม่ ถ้ามจี ะสรา้ งได้อย่างไร
7. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนจะตัดกระดาษด้วยวิธีใดบ้าง ถึงจะ
สามารถตัดกระดาษรูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้าให้กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 รูป /
รูปสี่เหลี่ยม 2 รปู / รูปสามเหล่ียมและรปู สีเ่ หลี่ยม
8. ครูถามนักเรียนถึงส่ิงท่ีมีรูปร่างเหมือนกับรูปสามเหล่ียมและรูป
สี่เหล่ียมในชวี ติ ประจาํ วนั ของนกั เรยี น
171
ตัวอยา่ งหนงั สอื คณติ ศาสตรก์ บั เพอ่ื นๆ : เรื่อง รปู รา่ ง
172
ตัวอยา่ งหนงั สอื คณติ ศาสตรก์ บั เพอ่ื นๆ : เรื่อง รปู รา่ ง
173
ตวั อย่างหนงั สอื คณติ ศาสตรก์ บั เพือ่ นๆ : เรื่อง รปู สามเหลยี่ มและรูปสีเ่ หลย่ี ม
174
ตัวอย่างหนงั สอื คณิตศาสตร์กับเพอ่ื นๆ : เรอื่ ง รปู สามเหล่ยี มและรปู ส่ีเหลย่ี ม
.
ภาพการจัดกิจกรรม : เรื่อง รูปรา่ ง 175
ประถมศึกษาปที ่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 16 “ นกั สร้างภาค 1” ขัน้ นาํ เสนอแนวคิดกลุ่ม
ขั้นนําเขา้ สูบ่ ทเรยี น
ข้นั การเรยี นรดู้ ้วยตนเองของ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
นกั เรยี น แนวคดิ ของนกั เรยี น
176
ภาพการจัดกิจกรรม : เร่อื ง รูปรา่ ง ขนั้ นําเข้าส่บู ทเรียน
ประถมศกึ ษาปที ่ี 2/2 ESC กจิ กรรมคาบที่ 16 “ นกั สร้างภาค 1”
ขั้นนําเสนอแนวคดิ กลุ่ม
ข้นั การเรียนรู้ดว้ ยตนเองของ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
นกั เรียน แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจัดกิจกรรม : เรือ่ ง รปู ร่าง 177
ประถมศกึ ษาปีท่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบที่ 17 “สามเหล่ียมเปล่ียนรา่ ง”
สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
ขน้ั นาํ เข้าสบู่ ทเรียน แนวคดิ ของนกั เรยี น
ข้นั นําเสนอแนวคดิ กลมุ่
ขนั้ การเรยี นรดู้ ้วยตนเองของ
นกั เรยี น
ภาพการจัดกิจกรรม : เร่ือง รูปร่าง 178
ประถมศึกษาปที ่ี 2/2 ESC กจิ กรรมคาบที่ 17 “สามเหลีย่ มเปล่ยี นรา่ ง”
ขัน้ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองของ
นกั เรยี น
ขน้ั นาํ เข้าสู่บทเรยี น
ข้ันนาํ เสนอแนวคิดกลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจัดกจิ กรรม : เรอ่ื ง รูปร่าง 179
ประถมศึกษาปที ี่ 2/1 TP กจิ กรรมคาบที่ 18 “นักสรา้ งภาค 3”
ขนั้ การเรียนรดู้ ้วยตนเองของ
ขนั้ นาํ เข้าสู่บทเรียน นกั เรยี น
ขนั้ นาํ เสนอแนวคิดกลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจดั กิจกรรม : เรอ่ื ง รูปรา่ ง 180
ประถมศึกษาปีที่ 2/2 ESC กจิ กรรมคาบท่ี 18 “นักสร้างภาค 3”
ขนั้ การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองของ
ขั้นนําเขา้ สบู่ ทเรยี น นกั เรียน
ขั้นนําเสนอแนวคิดกล่มุ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจัดกจิ กรรม : เรอ่ื ง รูปรา่ ง 181
ประถมศกึ ษาปีท่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 19 “เช่ือมจุดเชอ่ื มใจ”
ข้นั การเรียนรู้ด้วยตนเองของ
นกั เรยี น
ขนั้ นาํ เขา้ สู่บทเรยี น
ข้นั นําเสนอแนวคิดกลมุ่ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจดั กิจกรรม : เรอ่ื ง รปู ร่าง 182
ประถมศกึ ษาปีที่ 2/2 ESC กิจกรรมคาบที่ 19 “เชอ่ื มจุดเชอ่ื มใจ”
ข้ันการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองของ
ข้ันนําเขา้ สบู่ ทเรยี น นกั เรียน
สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ขั้นนําเสนอแนวคิดกลุ่ม
ภาพการจัดกจิ กรรม : เรอื่ ง รปู รา่ ง 183
ประถมศกึ ษาปีที่ 2/1 TP กิจกรรมคาบที่ 20 “เชอื กวิเศษ”
ขัน้ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเองของ
ข้นั นําเข้าสบู่ ทเรียน นกั เรียน
ขั้นนาํ เสนอแนวคดิ กลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจัดกิจกรรม : เร่อื ง รูปรา่ ง 184
ประถมศึกษาปีท่ี 2/2 ESC กิจกรรมคาบที่ 20 “เชือกวเิ ศษ”
ข้ันการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองของ
ขั้นนําเขา้ สบู่ ทเรยี น นักเรียน
ขัน้ นําเสนอแนวคดิ กลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจดั กิจกรรม : เร่ือง รปู ร่าง 185
ประถมศึกษาปที ่ี 2/1 TP กจิ กรรมคาบท่ี 21-22 “จัดไป”
ข้ันการเรียนรดู้ ้วยตนเองของ
ขน้ั นําเข้าสบู่ ทเรียน นกั เรยี น
ข้ันนําเสนอแนวคดิ กลุม่
สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจัดกจิ กรรม : เรือ่ ง รูปรา่ ง 186
ประถมศกึ ษาปที ่ี 2/2 ESC กจิ กรรมคาบที่ 21-22 “จดั ไป” ขน้ั นําเสนอแนวคิดกลมุ่
ขนั้ นาํ เขา้ สบู่ ทเรียน
ข้นั การเรียนรู้ดว้ ยตนเองของ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
นกั เรยี น แนวคดิ ของนกั เรยี น
187
ภาพการจัดกิจกรรม : เรอ่ื ง รปู ร่าง
ประถมศึกษาปที ่ี 2/1 TP กจิ กรรมคาบที่ 24 ตดั ใหข้ าดเลยชบั๊ ชบ๊ั ช๊ับ
ขนั้ การเรียนรดู้ ้วยตนเองของ
นักเรียน
ขั้นนําเขา้ สู่บทเรียน
ข้นั นําเสนอแนวคดิ กลมุ่ สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
ภาพการจดั กจิ กรรม : เรื่อง รปู รา่ ง 188
ประถมศกึ ษาปที ี่ 2/2 ESC กจิ กรรมคาบท่ี 24 “ตัดใหข้ าดเลยชับ๊ ช๊บั ช๊ับ”
ข้ันการเรียนรู้ดว้ ยตนเองของ
นักเรยี น
ข้ันนาํ เข้าสู่บทเรียน
ข้ันนาํ เสนอแนวคดิ กลุ่ม สรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยง
แนวคดิ ของนกั เรยี น
189
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบท่ี 16 “ นักสรา้ งภาค 1”
190
ใบงานและผลงาน กิจกรรมคาบท่ี 17 “สามเหลย่ี มเปลยี่ นรา่ ง”
191
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบท่ี 18 “นักสรา้ งภาค 3”
192
ใบงานและผลงาน กิจกรรมคาบที่ 19 “เชอื่ มจดุ เช่อื มใจ”
193
ใบงานและผลงาน กิจกรรมคาบที่ 20 “เชือกวิเศษ”
194
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบท่ี 21-22 “จัดไป”
195
ใบงานและผลงาน กจิ กรรมคาบท่ี 24 “ตัดให้ขาดเลยชั๊บช๊ับชบ๊ั ”
196
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศึกษาปีที่ 2/1 TP กิจกรรมคาบที่ 16 “ นักสร้างภาค 1”
ผลการสอน
1. นักเรียนสามารถสร้างรูปร่างที่แตกต่างกัน จากรูปสามเหลีย่ มท่ีกาํ หนดให้ได้
2. นกั เรยี นสามารถใช้การเล่ือนขนาน การสะทอ้ น และการหนนุ ในการสรา้ งรูปรา่ งตา่ งๆ จากรปู ต้นแบบทกี่ าํ หนดใหไ้ ด้
3. นกั เรียนสามารถสรา้ งรูปรา่ งท่แี ตกต่างกนั จากเส้นตรงได้
4. นักเรยี นสามารถสรา้ งรปู ร่างทแี่ ตกต่างกันโดยการเชื่อมจุดกับจดุ ด้วยเส้นได้
ปญั หา/อุปสรรค
-มนี ักเรียนบางกลุม่ ที่ไม่สามารถสรา้ งรูปรา่ งต่างๆ ได้ โดยใช้กระดาษสีสามเหลีย่ มจาํ นวน 2 ช้นิ
-มนี ักเรยี นได้กลุ่มทสี่ ามารถใช้กระดาษสามเหลยี่ มออกมาตามเป้าหมายได้
แนวทางการแกไ้ ข/ขอ้ เสนอแนะ
- ครูช่วยนักเรียนด้วยการตง้ั คําถาม ว่า สามารถทจี่ ะทําอยา่ งอน่ื ไดอ้ ีกหรอื ไม่นอกจากทีค่ ณุ ครยู กตวั อยา่ ง เพือ่ ให้นักเรียนมีการคดิ
และจนิ ตนาการท่หี ลากหลายมากขึน้
197
สะท้อนผล Open Approach ประถมศกึ ษาปที ี่ 2/2 ESC กจิ กรรมคาบที่ 16 “ นักสร้างภาค 1”
ผลการสอน
1. นกั เรียนสามารถสร้างรปู ร่างทแี่ ตกต่างกัน จากรูปสามเหลีย่ มทก่ี ําหนดให้ได้
2. นกั เรยี นสามารถใช้การเลื่อนขนาน การสะทอ้ น และการหนุนในการสรา้ งรูปร่างตา่ งๆ จากรปู ตน้ แบบทีก่ ําหนดให้ได้
3. นักเรียนสามารถสร้างรปู รา่ งท่ีแตกต่างกัน จากเส้นตรงได้
4. นกั เรยี นสามารถสร้างรปู ร่างทแ่ี ตกต่างกนั โดยการเชือ่ มจดุ กบั จุดดว้ ยเสน้ ได้
ปัญหา/อปุ สรรค
นักเรยี นไม่สามารถสรา้ งรปู ร่างต่างๆ ได้ โดยใช้กระดาษสีสามเหลี่ยมจํานวน 2 ชน้ิ
แนวทางการแก้ไข/ข้อเสนอแนะ
- ครูชว่ ยนักเรียนดว้ ยการตงั้ คาํ ถาม ว่า สามารถท่ีจะทาํ อย่างอน่ื ได้อกี หรอื ไมน่ อกจากทค่ี ณุ ครูยกตัวอย่าง เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมีการคิด
และจินตนาการทหี่ ลากหลายมากข้นึ
198
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศึกษาปีท่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 17 “สามเหลยี่ มเปลย่ี นร่าง”
ผลการสอน
1. นกั เรียนสามารถสร้างรูปรา่ งทแ่ี ตกต่างกนั จากรปู สามเหลย่ี มท่กี ําหนดให้ได้
2. นกั เรียนสามารถใชก้ ารเล่ือนขนาน การสะท้อน และการหนุนในการสร้างรปู รา่ งตา่ งๆ จากรูปตน้ แบบที่กําหนดให้ได้
3. นกั เรยี นสามารถสร้างรปู ร่างท่ีแตกต่างกนั จากเส้นตรงได้
4. นกั เรยี นสามารถสร้างรปู ร่างทแี่ ตกต่างกันโดยการเชอื่ มจุดกบั จุดด้วยเสน้ ได้
ปญั หา/อุปสรรค
นักเรียนบางสว่ นไม่สามารถสรา้ งรูปโดยเลื่อน หมุน พลกิ กระดาษสสี ามเหลีย่ มเพอ่ื สร้างรปู ต่างๆ และสามารถนาํ กระดาษสี
สามเหลีย่ มมาวางทาบลงบนรูปที่กําหนดขึ้นมาได้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
ครจู ะตอ้ งคอยให้คาํ แนะนําอย่างขา้ งๆ และคอยตั้งคาํ ถามเพอื่ ให้นักเรียนเกิดความคดิ ทต่ี รงประเดน็ มากขน้ึ
199
สะทอ้ นผล Open Approach ประถมศึกษาปีที่ 2/2 ESC กจิ กรรมคาบท่ี 17 “สามเหล่ยี มเปล่ยี นร่าง”
ผลการสอน
1. นกั เรยี นสามารถสรา้ งรูปร่างทแ่ี ตกตา่ งกัน จากรปู สามเหล่ียมทีก่ ําหนดใหไ้ ด้
2. นกั เรียนสามารถใชก้ ารเล่อื นขนาน การสะท้อน และการหนนุ ในการสรา้ งรปู รา่ งตา่ งๆ จากรปู ตน้ แบบทก่ี ําหนดให้ได้
3. นักเรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งท่แี ตกต่างกัน จากเสน้ ตรงได้
4. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งที่แตกตา่ งกนั โดยการเชื่อมจุดกบั จดุ ด้วยเส้นได้
ปญั หา/อปุ สรรค
นักเรยี นบางส่วนไมส่ ามารถสร้างรูปโดยเลอ่ื น หมนุ พลกิ กระดาษสสี ามเหลย่ี มเพอื่ สรา้ งรปู ตา่ งๆ และสามารถนํากระดาษสี
สามเหลย่ี มมาวางทาบลงบนรูปท่กี าํ หนดขึน้ มาได้
แนวทางการแกไ้ ข/ข้อเสนอแนะ
ครจู ะตอ้ งคอยใหค้ าํ แนะนาํ อย่างข้างๆ และคอยต้ังคําถามเพ่อื ใหน้ ักเรียนเกิดความคดิ ทต่ี รงประเดน็ มากขน้ึ
200
สะท้อนผล Open Approach ประถมศึกษาปที ่ี 2/1 TP กิจกรรมคาบท่ี 18 “นกั สร้างภาค 3”
ผลการสอน
1. นักเรยี นสามารถสรา้ งรูปรา่ งที่แตกตา่ งกัน จากรปู สามเหลย่ี มที่กําหนดให้ได้
2. นักเรยี นสามารถใชก้ ารเลือ่ นขนาน การสะทอ้ น และการหนนุ ในการสรา้ งรปู รา่ งตา่ งๆ จากรปู ต้นแบบท่กี ําหนดใหไ้ ด้
3. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งที่แตกต่างกนั จากเสน้ ตรงได้
4. นักเรียนสามารถสรา้ งรปู รา่ งทีแ่ ตกตา่ งกันโดยการเชอื่ มจุดกับจุดด้วยเสน้ ได้
ปญั หา/อุปสรรค
-นกั เรยี นบางสว่ นไมส่ ามารถสร้างรปู รา่ งทแ่ี ตกตา่ งกนั จากเสน้ ตรงได้
-นักเรยี นสามารถสร้างรูปรา่ งทแ่ี ตกตา่ งกัน จากรูปสามเหลี่ยมท่กี ําหนดใหไ้ ด้
แนวทางการแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
ครูถามกระต้นุ นักเรยี นบ่อยๆ ด้วยการถามถงึ ส่ิงท่ีนกั เรยี นเหน็ ในชวี ติ ประจําวนั และถามต่ออกี วา่ สามารถนาํ มาสรา้ งรปู ที่เราต้องการ
ไดห้ รอื ไม่