The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suthiphat.n, 2023-01-27 23:19:31

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

112 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/7 สังเกต และอธิบายการเกิดเสียงสะท้อนกลับบีต ดอปเพลอร์และการสั่นพ้องของเสียง สาระสำคัญ - เมื่อเสียงจากแหล่งกําเนิดเดินทางไปกระทบวัตถุแล้วสะท้อนกลับมายังผู้ฟัง ถ้าผู้ฟังได้ยินเสียงที่ออกจาก แหล่งกําเนิดและเสียงที่สะท้อนกลับมาแยกจากกัน เสียงที่ได้ยินนี้เป็นเสียงสะท้อนกลับ - ถ้าอากาศในท่อถูกกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงที่มีความถี่เท่ากับความถี่ธรรมชาติของอากาศในท่อนั้น จะเกิดการสั่นพ้องของเสียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียงได้ (K) 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่องปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียงไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้(A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


113 สาระการเรียนรู้ 1. การได้ยินเสียงสะท้อนกลับ 2. การสั่นพ้องของเสียง กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำนักเรียนเข้าสู่บทเรียน โดยครูนำสังข์เป่า แล้วให้มาร่วมกันอภิปรายถึงองค์ประกอบของปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง โดยครูใช้คำถามกระตุ้นดังนี้ - นักเรียนรู้จักเสียงนี้หรือไม่(เสียงสังข์) (รู้หรือ ไม่รู้) - นักเรียนคิดว่าเสียงที่ได้ยินสังเกตสิว่ามีอะไรเกิดขึ้น (เสียงก้อง สะท้อน) 2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบของคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ขั้นสอน 1. ขั้นสร้างความสนใจ (1) ครูให้นักเรียนหนึ่งคนให้นักเรียนสังเกตไปรอบๆตัวเองโดยให้ นักเรียนเป่าขลุยในห้อง เพื่อหาเหตุการณ์หรือ สถานการณ์ที่แสดงว่ารอบๆ ตัวเราได้ยินเสียงแบบใดบ้าง (2) นักเรียนรวบรวมข้อมูลที่สังเกตได้และใช้ประสบการณ์ของนักเรียนมานำเสนอแลกเปลี่ยนกัน และอภิปรายร่วมกัน 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (1) ครูนำสื่อคลิปวีดีโอองค์ประกอบของปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง มาเป็นสื่อ มาให้นักเรียนศึกษา โดยใช้ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือการสังเกตจากวีดีโอ จากการทดลอง (2) นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จากคลิปวีดีโอองค์ประกอบของปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง แต่ละการทดลองจากวีดีโอ จากการเรียนการสอน 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 1) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถามต่อไปนี้ - การที่เราได้ยินเสียงสะท้อนกลับเกิดจากอะไรบ้างอะไรบ้าง (เกิดจากมีสิ่งกีดขวางข้างหน้าจึงทำให้เราได้ยินเสียงกับมา ของเสียง โดยเสียงเดินทาง 180 องศา ไปแล้วกลับ) 2) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ได้ข้อสรุปว่า เสียงย้อนกลับเกิดจากมีสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ จึงทำให้เราได้ยินเสียงกลับมา แต่ถ้าเราอยู่ในห้องน้ำแต่เราได้ยินเสียงก้องที่น้อยลงหรือไม่ได้ยิน คือการกังวานของเสียง นั่นเอง 4. ขั้นขยายความรู้


114 (1) ให้นักเรียนวีดีโอการทดลอง ของ ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การได้ยินของเสียง สะท้อนกลับ และการสั่นพ้องของเสียง (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 5. ขั้นประเมิน (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อ สงสัย ถ้ามีครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ (2) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายกิจกรรม เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของ เสียง ขั้นสรุป (1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง เช่น การได้ยินการสะท้อนของเสียง การสั่นพ้องของเสียง (2) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้นักเรียนเล่นเกม Vonder Go เรื่อง พฤติกรรมของเสียง จำนวน 10 ข้อ คิดเป็น 60 % จาก 100 % (3) ครูให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาบทเรียนชั่วโมงหน้า เรื่อง บีต และปรากฏการดอปเพลอร์ เพื่อการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในครั้งต่อไป (4) ครูให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียน เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ Powerpoint เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 3. ใบงาน เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 4. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/0_-YFaT6agM แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1. อธิบายลักษณะของ ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของ เสียงได้ (K) ตรวจแบบทดสอบด้วย ใบงานกิจกรรม เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของ เสียง ใบงานกิจกรรม เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์


115 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) แบบทดสอบเรื่อง เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของ เสียง แบบทดสอบ Vonder Go เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์ 3. นักเรียนสามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ (A) พฤติกรรมการตอบคำถาม ของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการตอบ คำถามของนักเรียน คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ผ่าน


116


117


118 ใบงานกิจกรรม เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง กิจกรรม 5.4 การสั่นพ้องของเสียง 1. เมื่อเลื่อนท่อให้จมลงช้าๆซึ่งทำให้ความยาวลำอากาศในท่อลดลง เสียงที่ได้ยินเปลี่ยนแปลงอย่างไร ............................................................................................................................. ....................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. เมื่อเปลี่ยนความถี่ของแหล่งกำเนิดเสียง ความยาวของลำอากาศในท่อขณะเกิดเสียงดังมากที่สุดเปลี่ยนแปลงอย่างไร ........................................................................................................................................................................ ............................ ....................................................................................................... ............................................................. ให้นักเรียนอธิบายขั้นตอนการทดลองการสั่นพ้องของเสียง จากกิจกรรม 5.4 คำตอบใบงานกิจกรรม เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง


119 กิจกรรม 5.4 การสั่นพ้องของเสียง 1. เมื่อเลื่อนท่อให้จมลงช้าๆซึ่งทำให้ความยาวลำอากาศในท่อลดลง เสียงที่ได้ยินเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเลื่อนท่อให้จมลง เสียงที่ได้ยินมีความดังเปลี่ยนแปลงไป โดยบางตำแหน่งมีเสียงดังมากที่สุด 2. เมื่อเปลี่ยนความถี่ของแหล่งกำเนิดเสียง ความยาวของลำอากาศในท่อขณะเกิดเสียงดังมากที่สุดเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเพิ่มความถี่ของแหล่งกำ เนิดเสียง ความยาวลำ อากาศในท่อขณะเกิดเสียงดังมากที่สุดจะสั้นลง ให้นักเรียนอธิบายขั้นตอนการทดลองการสั่นพ้องของเสียง จากกิจกรรม 5.4


120 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27


121 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


122 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


123 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


124 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง บีตของเสียง เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/7 สังเกต และอธิบายการเกิดเสียงสะท้อนกลับบีต ดอปเพลอร์และการสั่นพ้องของเสียง สาระสำคัญ บีตของเสียงเกิดจากการรวมกันของคลื่นเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง 2 แหล่งที่มีความถี่ ต่างกัน เล็กน้อยให้ได้ยิน เสียงดังค่อยสลับกันไปเป็นจังหวะคงตัว โดยหูจะได้ยินเสียงของการบีต เมื่อ เสียงทั้งสองมีความถี่ต่างกันไม่เกิน 7 เฮิรตซ์ จำนวนครั้งที่ได้ยินเสียงดังในหนึ่งวินาทีเรียกว่า ความถี่ บีต (beat frequency)จะเกิดการสั่นพ้องของเสียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนอธิบายการเกิดบีตของเสียงได้(K) 2) นักเรียนทดลองและสังเกตการเกิดบีตของเสียงได้(P) 3) ใฝ่เรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


125 สาระการเรียนรู้ 1. บีตของเสียง กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ 1.1 ครูทบทวนความรู้ เรื่อง เสียงสะท้อนกลับ และการสั่นพ้องของเสียง 1.2 ครูตั้งคำถามเพื่อนำเข้าสู่การทำกิจกรรม 1) นักเรียนมีเครื่องดนตรีประเภทสายที่ชอบเล่นหรือไม่ 2) ก่อนการเล่นเครื่องดนตรีต้องมีการปรับเทียบเสียงเครื่องดนตรีให้มีเสียงตรงตาม เสียงมาตรฐานหรือไม่ 3) ถ้าคลื่นเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงทั้งสองมีความถี่ต่างกันเล็กน้อย เคลื่อนที่มา พบกัน เสียงที่ได้ยินจะ เป็นอย่างไร (โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบอภิปรายอย่างอิสระ ไม่คาดหวัง คำตอบที่ถูกต้อง) 2. ขั้นสำรวจและค้นหา 2.1 ครูแบ่งนักเรียนเป็น 5 กลุ่มละ 5-6 คน (คละกลุ่มเก่ง/กลาง/อ่อน) 2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบกิจกรรม 5.5 บีตของเสียง 2.3 ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ อุปกรณ์ และขั้นตอนการทำกิจกรรมอย่างละเอียด 2.4 นักเรียนรับอุปกรณ์การทำกิจกรรม พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ให้เรียบร้อย 2.5 นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม สังเกตและบันทึกผลกิจกรรมลงในใบกิจกรรม 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 ครูสุ่มนักเรียน 1 คน ออกมานำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน 3.2 ครูนำนักเรียนอภิปรายเพื่อนำไปสู่การสรุปโดยใช้คำถามต่อไปนี้ 1) เมื่อปรับความถี่และความดังให้เท่ากัน เสียงที่ได้ยินมีลักษณะอย่างไร (แนวการตอบ ได้ยินเสียงจาก ลำโพง 2 ชุด เสียงดังต่อเนื่องสม่ำเสมอ) 2) เมื่อปรับความถี่แตกต่างกันเล็กน้อย จนแตกต่างกันมากขึ้น เสียงที่ได้ยินมี ลักษณะเปลี่ยนแปลงอย่างไร (แนวการตอบ เมื่อความถี่แตกต่างกันเล็กน้อยจะได้ยินเสียงดัง-ค่อย สลับกันไปเป็นจังหวะ และเมื่อความถี่แตกต่าง กันมากขึ้นจะได้ยินเสียงดัง-ค่อย สลับกันไปเป็นจังหวะที่ เร็วขึ้น และไม่ได้ยินเสียงดังสลับค่อยเมื่อความถี่แตกต่างกัน มากๆ) 3.3 นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสรุปผลของกิจกรรมจนสรุปได้ ดังนี้ เมื่อแหล่งก˚าเนิดเสียง 2 แหล่ง มี ความถี่เท่ากันจะได้ยินเสียงดังสม่ำเสมอต่อเนื่องกัน แต่เมื่อความถี่แตกต่างกันเล็กน้อยจะได้ยินเสียงดังและค่อย สลับกันเป็น จังหวะ เรียกว่า บีตของเสียง เมื่อความถี่แตกต่างกันมากขึ้น เสียงดังค่อยสลับกันจะมีจำนวนครั้งที่ได้ยินในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า ความถี่บีต มีค่ามากขึ้น และเมื่อความถี่แตกต่างกันมากขึ้นต่อไป มนุษย์จะไม่สามารถได้ยินเสียงดัง สลับค่อยเป็น จังหวะได้


126 4. ขั้นขยายความรู้ 4.1 ครูอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่เสียงดังสลับค่อยดังกล่าว เกิดจากการ รวมคลื่น ใช้ภาพการเกิดบี ตจากคลื่นเสียงสองคลื่นที่มีความถี่ต่างกันเล็กน้อยประกอบการอธิบายตาม บทเรียนตามรายละเอียดในหนังสือเรียนหน้า 173 5. ขั้นประเมิน 5.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำการเรียนการสอน 5.2 สังเกตจากการส่ง กิจกรรม 5.5 บีตของเสียง 5.3 สังเกตการตอบคำถามในชั้นเรียน และการสรุปองค์ความรู้ในสมุด ( ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอธิบายเกี่ยวกับบีตของเสียง 2. ครูให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาบทเรียนชั่วโมงหน้า เรื่อง ปรากฏการดอปเพลอร์ เพื่อการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนในครั้งต่อไป สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ Powerpoint เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 3. ใบงาน เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 4. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/0_-YFaT6agM แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1. อธิบายลักษณะของ ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของ เสียงได้ (K) ตรวจใบกิจกรรม 5.5 บีตของเสียง (ตรวจคำถามท้ายกิจกรรม) ใบกิจกรรม 5.5 บีตของ เสียง(ตรวจคำถามท้าย กิจกรรม) ร้อยละ60 ผ่านเกณฑ์


127 2. นักเรียนทดลองและ สังเกตการเกิดบีตของเสียง ได้(P) ตรวจใบกิจกรรม 5.5 บีตของเสียง แบบทวัดทักษะ กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ นักเรียนสา ม า ร ถ บันทึกผลและสรุปผล ของ กิจกรรมได้ ผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 3. นักเรียนสามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ (A) สังเกตพฤติกรรมการใฝ่ เรียนรู้และเป็นผู้มีความ มุ่งมั่นในการทำงาน แบบวัดเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ นักเรียนทำภาระงาน ที่มอบหมายได้ผ่าน เกณฑ์ระดับดี ขึ้นไป


128


129


130


131


132


133


134 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26


135 27 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


136 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


137 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


138 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ของเสียง เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/7 สังเกต และอธิบายการเกิดเสียงสะท้อนกลับบีต ดอปเพลอร์และการสั่นพ้องของเสียง ว 2.3 ม.5/8 สืบค้นข้อมูลและยกตัวอย่างการนำความรู้เกี่ยวกับเสียงไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน สาระสำคัญ ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ของเสียงเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้ฟังได้ยินเสียงมีความถี่เปลี่ยนไปจาก ความถี่ ของ แหล่งกำเนิดเสียง ซึ่งเกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้ฟังเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันความรู้เกี่ยวกับเสียงนำไปอธิบายและประยุกต์ใช้ ในด้านต่าง ๆ เช่น การเดินเรือและการประมง การแพทย์ เป็นต้น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) นักเรียนอธิบายปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ได้(K) 2) ยกตัวอย่างการน าความรู้เกี่ยวกับเสียงไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน (K) 3) นักเรียนทดลองและสังเกตปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ได้(P) 4) ใฝ่เรียนรู้และเป็นผู้มีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


139 สาระการเรียนรู้ 1. ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ 2. ประโยชน์ของเสียงในด้านต่าง ๆ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ 1.1 ครูทบทวนความรู้ เรื่อง การเกิดบีตของเสียง 1.2 ครูเปิดคลิปวีดีทัศน์รถพยาบาลที่เปิดไซเรนวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง (นาทีที่ 13.00- 13.50)พร้อมตั้งคำถามเพื่อ นำเข้าสู่การทำกิจกรรม https://www.youtube.com/watch?v=3IhB4Jc3M7I) 1) นักเรียนเคยสังเกตเสียงรถพยาบาลหรือรถกู้ภัยที่เปิดไซเรนวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูงหรือไม่ ลักษณะของ เสียงที่ได้ยินเป็นอย่างไร 2) ความถี่เสียงที่ได้ยินจากคลิปวีดีทัศน์มีลักษณะอย่างไรขณะรถวิ่งเข้าหาเรา และขณะวิ่งผ่านเราไป 2. ขั้นสำรวจและค้นหา 2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5-6 คน 2.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบกิจกรรม 5.6 ดอปเพลอร์ 2.3 ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ อุปกรณ์ และขั้นตอนการทำกิจกรรมอย่างละเอียด 2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม สังเกตและบันทึกผลกิจกรรมลงในใบกิจกรรม 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 ครูสุ่มนักเรียน 1 คน ออกมานำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน 3.2 ครูนำนักเรียนอภิปรายเพื่อนำไปสู่การสรุปโดยใช้คำถามต่อไปนี้ 1) เมื่อแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่เข้าหาผู้ฟังและเคลื่อนที่ออกจากผู้ฟัง เสียงที่ได้ ยินในแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างไร (แนวการตอบ ขณะแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่เข้าหาผู้ฟัง ผู้ฟังจะ ได้ยินเสียงแหลมขึ้น ขณะแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ออก จากผู้ฟัง ผู้ฟังจะได้ยินเสียงทุ้มลง) 2) เมื่อแกว่งแหล่งกำเนิดเสียงให้มีอัตราเร็วเพิ่มขึ้น ขณะเคลื่อนที่เข้าหาผู้ฟังและ เคลื่อนที่ออกจากผู้ฟัง เสียงที่ได้ยิน ในแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างไร (แนวการตอบ ขณะแหล่งกำเนิด เสียงเคลื่อนที่เข้าหาผู้ฟัง ผู้ฟังจะได้ยินเสียงแหลมมากยิ่งขึ้น ขณะแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ออกจาก ผู้ฟัง ผู้ฟังจะได้ยินเสียงทุ้มลงยิ่งขึ้น) 3) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสรุปผลของกิจกรรมจนสรุปได้ ดังนี้ เมื่อแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่เป็น วงกลมโดยผู้ฟังอยู่นิ่ง ผู้ฟังจะได้ยินเสียงแหลมขึ้น ขณะแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่เข้าหาผู้ฟัง และจะได้ยินเสียงทุ้มลง ขณะ แหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ ออกจากผู้ฟัง จากกิจกรรมเมื่อแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ทำให้ผู้ฟังที่อยู่นิ่งได้ยินเสียงมีความถี่ เปลี่ยนไปจากเดิมเรียก ปรากฏการณ์นี้ว่า ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์


140 4. ขั้นขยายความรู้ 4.1 ครูอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ของปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ ได้แก่ กรณีแหล่งกำเนิดเสียง เคลื่อนที่โดยผู้ฟังอยู่นิ่ง กรณีผู้ฟังเคลื่อนที่โดยแหล่งกำเนิดเสียงอยู่นิ่ง หรือทั้งผู้ฟังและแหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ ทำให้ผู้ฟัง ได้ยินเสียงมีความถี่เปลี่ยนไปจากเดิมเช่นกัน ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน หน้า 175-176 4.2 ครูอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของเสียงในด้านต่างๆ ตาม รายละเอียดในหนังสือเรียน หน้า 176-178 5. ขั้นประเมิน 5.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทำการเรียนการสอน 5.2 สังเกตจากการส่ง ใบกิจกรรม 5.6 ดอปเพลอร์ 5.3 สังเกตการตอบคำถามในชั้นเรียน และการสรุปองค์ความรู้ในสมุด ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอธิบายเกี่ยวกับดอปเพลอร์ สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ Powerpoint เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 3. ใบงาน เรื่อง ปรากฏการณ์อื่น ๆ ของเสียง 4. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/0_-YFaT6agM แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1) นักเรียนอธิบาย ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ได้ (K) - ตรวจคำถามท้ายกิจกรรม - ตรวจคำถามตรวจสอบ ความเข้าใจ -คำถามท้ายกิจกรรม 5.5 - คำถามตรวจสอบความ เข้าใจ นักเรียนตอบคำถาม ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม เข้าใจผ่านร้อยละ60 ผ่านเกณฑ์


141 2) ยกตัวอย่างการน า ความรู้เกี่ยวกับเสียงไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน (K) 3) นักเรียนทดลองและ สังเกตปรากฏการณ์ดอป เพลอร์ได้ (P) ตรวจใบกิจกรรม 5.6 ดอปเพลอร์ แบบทวัดทักษะ กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ นักเรียนสา ม า ร ถ บันทึกผลและสรุปผล ของ กิจกรรมได้ ผ่าน เกณฑ์ระดับดีขึ้นไป 4) ใฝ่เรียนรู้และเป็นผู้มี ความมุ่งมั่นในการทำงาน (A) สังเกตพฤติกรรมการใฝ่ เรียนรู้และเป็นผู้มีความ มุ่งมั่นในการทำงาน แบบวัดเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ นักเรียนทำภาระงาน ที่มอบหมายได้ผ่าน เกณฑ์ระดับดี ขึ้นไป


142


143


144


145


146


147


148


149


150


151


152


153


154 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26


155 27 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


156 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


157 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


158 พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ร่วมสอนครั้งที่ 1 วันที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 13.00 – 14.40 น. ครูผู้สอนชื่อ นายดิเรก พูนศรีไทย วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง ให้นักศึกษาสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั่วโมงที่นักศึกษาร่วมทดลองสอนกับครูพี่เลี้ยงในรายวิชา เฉพาะด้าน จำนวน 2 ครั้ง แล้วบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนดังต่อไปนี้ 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความร่วมมือในการถามตอบ 2.2 นักเรียนมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่อยากรู้ในเนื้อหาบทเรียน 2.3 นักเรียนถามเนื้อหาในบทเรียนที่ไม่เข้าใจกับครูผู้สอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง 3.1 แนวทางและทักษะในการใช้คำพูดในเวลาสอน 3.2 รู้วิธีการ control นักเรียนไปพร้อมกับการสอน 3.3 การแบ่งเวลาในช่วงโมงให้พอดีกับการสอน และการทำงานหรือกิจกรรมในห้องเรียน 4. จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง นักศึกษาคิดว่ามีแนวทางการพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพได้ อย่างไรบ้าง 4.1 หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและเทคนิคในการสอนใหม่ๆอยู่เสมอ 4.2 การเข้าใจและรับรู้ว่านักเรียนต้องการอะไร 4.3 ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมและการควบคุมอารมณ์ในการเป็นครูให้ดี


159 พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ร่วมสอนครั้งที่ 2 วันที่ 4 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 08.00 – 09.20 น. ครูผู้สอนชื่อ นายดิเรก พูนศรีไทย วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง ให้นักศึกษาสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั่วโมงที่นักศึกษาร่วมทดลองสอนกับครูพี่เลี้ยงในรายวิชา เฉพาะด้าน จำนวน 2 ครั้ง แล้วบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนดังต่อไปนี้ 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความร่วมมือในการถามตอบ 2.2 นักเรียนมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่อยากรู้ในเนื้อหาบทเรียน 2.3 นักเรียนถามเนื้อหาในบทเรียนที่ไม่เข้าใจกับครูผู้สอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง 3.1 แนวทางและทักษะในการใช้คำพูดในเวลาสอน 3.2 รู้วิธีการ control นักเรียนไปพร้อมกับการสอน 3.3 การแบ่งเวลาในช่วงโมงให้พอดีกับการสอน และการทำงานหรือกิจกรรมในห้องเรียน 3.4 ควรหาความรู้เพิ่มอยู่ตลอดและก่อนเข้าควรทบทวนเนื้อหาให้ดีอยู่เสมอ 4. จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง นักศึกษาคิดว่ามีแนวทางการพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพได้ อย่างไรบ้าง 4.1 หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและเทคนิคในการสอนใหม่ๆอยู่เสมอ 4.2 การเข้าใจและรับรู้ว่านักเรียนต้องการอะไร 4.3 ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมและการควบคุมอารมณ์ในการเป็นครูให้ดี


160 พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ร่วมสอนครั้งที่ 3 วันที่ 8 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 13.00 – 14.40 น. ครูผู้สอนชื่อ นายดิเรก พูนศรีไทย วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง ให้นักศึกษาสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั่วโมงที่นักศึกษาร่วมทดลองสอนกับครูพี่เลี้ยงในรายวิชา เฉพาะด้าน จำนวน 2 ครั้ง แล้วบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนดังต่อไปนี้ 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน – 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความร่วมมือในการถามตอบ 2.2 นักเรียนมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่อยากรู้ในเนื้อหาบทเรียน 2.3 นักเรียนถามเนื้อหาในบทเรียนที่ไม่เข้าใจกับครูผู้สอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง 3.1 แนวทางและทักษะในการใช้คำพูดในเวลาสอน 3.2 รู้วิธีการ control นักเรียนไปพร้อมกับการสอน 3.3 การแบ่งเวลาในช่วงโมงให้พอดีกับการสอน และการทำงานหรือกิจกรรมในห้องเรียน 3.4 ควรหาความรู้เพิ่มอยู่ตลอดและก่อนเข้าควรทบทวนเนื้อหาให้ดีอยู่เสมอ 4. จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง นักศึกษาคิดว่ามีแนวทางการพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพได้ อย่างไรบ้าง 4.1 หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและเทคนิคในการสอนใหม่ๆอยู่เสมอ 4.2 การเข้าใจและรับรู้ว่านักเรียนต้องการอะไร 4.3 ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมและการควบคุมอารมณ์ในการเป็นครูให้ดี


161 พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ร่วมสอนครั้งที่ 4 วันที่ 11 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 08.00 – 09.20 น. ครูผู้สอนชื่อ นายดิเรก พูนศรีไทย วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง ให้นักศึกษาสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั่วโมงที่นักศึกษาร่วมทดลองสอนกับครูพี่เลี้ยงในรายวิชา เฉพาะด้าน จำนวน 2 ครั้ง แล้วบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนดังต่อไปนี้ 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความร่วมมือในการถามตอบ 2.2 นักเรียนมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่อยากรู้ในเนื้อหาบทเรียน 2.3 นักเรียนถามเนื้อหาในบทเรียนที่ไม่เข้าใจกับครูผู้สอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง 3.1 แนวทางและทักษะในการใช้คำพูดในเวลาสอน 3.2 รู้วิธีการ control นักเรียนไปพร้อมกับการสอน 3.3 การแบ่งเวลาในช่วงโมงให้พอดีกับการสอน และการทำงานหรือกิจกรรมในห้องเรียน 3.4 ควรหาความรู้เพิ่มอยู่ตลอดและก่อนเข้าควรทบทวนเนื้อหาให้ดีอยู่เสมอ 4. จากการมีส่วนร่วมในการสอนกับครูพี่เลี้ยง นักศึกษาคิดว่ามีแนวทางการพัฒนาตนเองให้มีความเป็นครูมืออาชีพได้ อย่างไรบ้าง 4.1 หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและเทคนิคในการสอนใหม่ๆอยู่เสมอ 4.2 การเข้าใจและรับรู้ว่านักเรียนต้องการอะไร 4.3 ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมและการควบคุมอารมณ์ในการเป็นครูให้ดี


Click to View FlipBook Version