The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suthiphat.n, 2023-01-27 23:19:31

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

รูปเล่นฝึก-3-เทอม-2-1_220315_210027

62


63


64


65


66


67


68


69 การศึกษาและเรียนรู้บทบาทหน้าที่ครูพี่เลี้ยง/ครูประจำชั้น คำชี้แจง ให้นักศึกษาศึกษาและปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยครูร่วมกับครูพี่เลี้ยง(ครูผู้สอน/ครูประจำชั้น) แล้วบันทึกข้อมูลในประเด็น ดังต่อไปนี้ 1. บทบาทหน้าที่ของครูพี่เลี้ยง (ครูผู้สอน/ครูประจำชั้น)มีงานอะไรบ้าง จงอธิบายพร้อมรูปภาพประกอบ เช่น งานวิชาการ งานธุรการในชั้นเรียน ฯลฯ) กิจกรรมลูกเสือสามัญ งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน งานหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หัวหน้างานนักศึกษาวิชาทหาร 2. การประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณธรรมและจริยธรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู 2.1 ครูพี่เลี้ยง (ครูผู้สอน/ครูประจำชั้น) มีการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีอย่างไรบ้าง


70 -ครูผู้สอนมีความตั้งใจสอน จริงจัง และพยายามหาวิธีมาสอนนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ครูผู้สอนรักและใส่ใจนักเรียนมีความเอ็นดูต่อศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน คอยอุทิศตนช่วยเหลือสิทธิ์อย่างเต็มที่เท่าที่ตนจะ ทำได้ 2.2 ครูพี่เลี้ยง (ครูผู้สอน/ครูประจำชั้น) มีคุณธรรมและจริยธรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ในด้านต่างๆ อย่างไร จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ -หมาะสม สอนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูงมาก นอกจากจะรับผิดชอบเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียนแล้ว ยัง ต้องมีงานทั้งหมดให้รับผิดชอบอีก ซึ่งครูผู้สอนก็ทำหน้าที่ตรงนั้นได้ดีทั้งการเรียนการสอนและหน้าที่ของตนเองที่รับผิดชอบ จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ -เหมาะสม ครูผู้สอนมีความเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มที่ คอยอบรมสั่งสอนศิษย์ด้วยความเต็ม ใจและคอยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ -เหมาะสม ครูผู้สอนคอยช่วยเหลือและก็เผื่อแผ่ครูผู้อื่นอย่างเต็มใจ เต็มที่ และเต็มกำลังของตนเอง และไม่สร้าง ความเดือดร้อนให้กับคุณครูท่านอื่น นอกจากนี้ยังมีความสามัคคีกันเป็นหมู่คณะในเรื่องของการทำงานส่วนรวม จรรยาบรรณต่อสังคม -เหมาะสม ครูผู้สอนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน ในเรื่องของการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ความสำคัญกับการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นต่อประชาธิปไตย


71 รายงานการฝึกปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยครู ชื่อ-สกุลนักศึกษา นายสุทธิภัทร นิราชภัย สาขาวิชา วิทยาศาสตร์ทั่วไป รหัสนักศึกษา 62111576029 ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยครูผู้สอน/ครูประจำชั้นในชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเขาทองพิทยาคม ชื่อ-สกุล(ครูพี่เลี้ยง) นายดิเรก พูนศรีไทย โทร.(มือถือ) 0881636145 ที่ รายการที่ฝึกปฏิบัติ รายละเอียดการปฏิบัติงาน 1 การดูแลควบคุมให้นักเรียน ปฏิบัติตามระเบียบวินัย ครูผู้สอนมีการให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเด็ก สำหรับเด็กมีความสามารถน้อยร่วม กลุ่มกับเด็กมีความสามารถในการเรียนมากอยู่ร่วมกัน ก่อนเลิกเรียนให้เด็ก เดินเป็นแถวเพื่อความเป็นระเบียบวินัย 2 การติดตามและตรวจสอบ การมาเรียน ครูผู้สอนได้มีการเช็คชื่อนักเรียน ตามรายชื่อบันทึกประจำวัน (ขาด,ลา,มา ,สาย) เพื่อวัดพฤติกรรมเด็กแล้วมาปรับปรุงและแก้ไขปัญหา 3 การทำหลักฐาน การประเมินผลการเรียน โดยครูผู้สอน ได้ทำการบันทึกผลการเรียนรู้ในการตอบคำถามเพื่อให้ นักเรียนได้ คะแนนส่วนที่ขาดหายไป ถือว่าเป็นการประเมินความรู้เด็กว่า เข้าใจในสิ่งที่ครูผู้สอนถามมากน้อยเพียงใด 4 การติดตามและส่งเสริม ด้านสุขภาพอนามัย ครูผู้สอน ให้นักเรียนแต่งกายให้สะอาดส่วนนักเรียนที่ไม่สบายให้ไปรับยา ที่ห้องพยาบาล และสวมแมส ตลอดเวลาเพื่อ ป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 5 การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ครูได้มอบหมายงานการรับผิดชอบ ส่งในชั่วโมงเรียน เพื่อปลูกฝังความ รับผิดชอบของนักเรียน ก่อนออกจากห้องให้นักเรียน เก็บกวาดห้อง ทำ ความสะอาดหลังจากการใช้ห้องเรียน อยู่เสมอ สรุปสิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้ครูผู้สอนมีความตั้งใจในการสอนนักเรียน โดยการสร้างกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนการเรียนรู้ ใน การบูรณาการ ให้นักเรียนเกิดความคิดความเข้าใจ โดยสร้างกิจกรรม ลดความตึงเครียดของนักเรียน โดยครูผู้สอนสร้างเคล็ด ลับความรู้ให้นักเรียนเกิดความจำเพื่อไปใช้ประโยชน์ในชีวิตและศึกษาต่อได้ โดยเกิดความเข้าใจในการสอนให้ง่ายยิ่งขึ้น และ ทำให้นักเรียนเกิดการต่อยอดไปข้างหน้าไปในทางที่ดี ลงชื่อ................................................ ลงชื่อ................................................ (นายสุทธิภัทร นิราชภัย) (นายดิเรก พูนศรีไทย) นักศึกษา ครูพี่เลี้ยง


72 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ คำชี้แจง 1.ให้นักศึกษาเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาตามสาขาวิชาเอกอย่างน้อย 9 แผนฯละ 1-2 ชั่วโมง โดยให้ นักศึกษานำเสนอข้อมูลใน 2 ด้านคือ 1. ตารางแสดงกำหนดการสอน 2. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. ให้ครูพี่เลี้ยงประเมินแผนทั้ง 6 แผนฯ พร้อมให้ข้อเสนอแนะ 1. ตารางแสดงกำหนดการสอน ให้นักศึกษานำเสนอกำหนดการสอนในหน่วยการเรียนรู้ที่ได้รับมอบหมายจาก โรงเรียนอย่างน้อย 9 คาบ/ชั่วโมง ใน 3 สัปดาห์ ดังนี้ กำหนดการสอน ◻ online ◻ on-hand อื่นๆ on-site


73 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง พฤติกรรมของเสียง เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/5 สังเกต และอธิบายการสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบน และการรวมคลื่นของคลื่นเสียง สาระสำคัญ พฤติกรรมของเสียง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของพฤติกรรมของเสียงได้ (K) 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่องพฤติกรรมของเสียงไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้(A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สาระการเรียนรู้ 1. การสะท้อนของเสียง 2. การหักเหของเสียง


74 3. การเลี้ยวเบนของเสียง 4. การรวมกันของคลื่นเสียง กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำนักเรียนเข้าสู่บทเรียน โดยครูนำเสียงต่างๆ จาก youtube มาร่วมกันอภิปรายถึงองค์ประกอบของพฤติกรรม ของเสียง โดยครูใช้คำถามกระตุ้นดังนี้ - นักเรียนรู้จักเสียงนี้หรือไม่(เสียงลมจาก youtube) (รู้เสียง ลม หรือ ไม่รู้) - นักเรียนคิดว่าเสียงมีสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตหรือไม่ (มีไว้สื่อสาร) 2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบของคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง พฤติกรรมของเสียง ขั้นสอน 1. ขั้นสร้างความสนใจ (1) ครูสุ่มนักเรียนหนึ่งคนให้นักเรียนสังเกตไปรอบๆตัวเองโดยนั่งสมาธิ และ ตะโกน ในห้อง เพื่อหาเหตุการณ์หรือ สถานการณ์ที่แสดงว่ารอบๆ ตัวเราได้ยินเสียงแบบใดบ้าง (2) นักเรียนรวบรวมข้อมูลที่สังเกตได้และใช้ประสบการณ์ของนักเรียนมานำเสนอแลกเปลี่ยนกัน และอภิปรายร่วมกัน ว่า “ทราบได้อย่างไรว่ารอบตัวเรามีเสียงแบบใดบ้าง” (เราสามารถบอกได้ว่าเสียง เป็นคลื่นเชิงกลที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ของวัตถุ เมื่อวัตถุสั่นสะเทือน ก็จะทำให้เกิดการอัดตัวและขยายตัวของคลื่นเสียง และถูกส่งผ่านตัวกลาง เช่น อากาศ ไปยังหู แต่เสียงสามารถเดินทางผ่านสสารในสถานะก๊าซ ของเหลว และของแข็งก็ได้ แต่ไม่สามารถเดินทางผ่านสุญญากาศได้) 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (1) ครูนำสื่อคลิปวีดีโอองค์ประกอบของพฤติกรรมของเสียงมาเป็นสื่อ มาให้นักเรียนศึกษา โดยใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ คือการสังเกตจากวีดีโอ จากการทดลอง (2) นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จากคลิปวีดีโอองค์ประกอบของพฤติกรรมของเสียง แต่ ละการทดลองจากวีดีโอ จากการเรียนการสอน 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป 1) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถามต่อไปนี้ - องค์ประกอบของพฤติกรรมของเสียง ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง (การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบน การรวมคลื่น ของเสียง) 2) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยให้ได้ข้อสรุปว่า เสียงมีจุดกำเนิดได้ต้องมีอากาศเป็นตัวแปร ควบคุม การที่เราพูดคุยเป็นตัวแปรต้น และที่เราได้ยินเสียงต่างๆ เป็นตัวแปรตามนั้นเอง 4. ขั้นขยายความรู้


75 (1) ให้นักเรียนวีดีโอการทดลอง ของ พฤติกรรมของเสียง ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การสะท้อนของเสียง การหักเห ของเสียง การเลี้ยวเบนของเสียง การแทรกสอดของเสียง (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับพฤติกรรมของเสียง 5. ขั้นประเมิน (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อ สงสัย ถ้ามีครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ (2) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้นักเรียนเล่นเกม Vonder Go เรื่อง พฤติกรรมของเสียง จำนวน 10 ข้อ คิดเป็น 60 % จาก 100 % ขั้นสรุป (1) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอธิบายเกี่ยวกับองค์ประกอบของพฤติกรรมของเสียง (2) ครูให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาบทเรียนชั่วโมงหน้า เรื่อง การได้ยินเสียง เพื่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในครั้งต่อไป (3) ครูให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียน เรื่อง พฤติกรรมของเสียง ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ Powerpoint เรื่อง เสียง 3. ใบงาน เรื่อง พฤติกรรมของเสียง 4. เกม Vonder Go เรื่อง พฤติกรรมของเสียง 5. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/ZnMf540y4lI https://youtu.be/o1MgeC-m0iU https://youtu.be/LGzBXXIrsBo https://youtu.be/th6r_4NIXdY แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต


76 การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1. อธิบายลักษณะของ พฤติกรรมของเสียงได้ (K) ตรวจแบบทดสอบด้วย ใบงานกิจกรรม เรื่อง พฤติกรรมของเสียง ใบงานกิจกรรม เรื่อง พฤติกรรมของเสียง ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์ 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง พฤติกรรมของเสียงไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ (P) แบบทดสอบเรื่อง พฤติกรรมของเสียง แบบทดสอบ Vonder Go เรื่อง พฤติกรรมของเสียง ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์ 3. นักเรียนสามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ (A) พฤติกรรมการตอบคำถาม ของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการตอบ คำถามของนักเรียน คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ผ่าน


77


78


79 ใบงานกิจกรรม เรื่อง พฤติกรรมของเสียง กิจกรรม 5.1 การสะท้อน 1. เมื่อเปิดแหล่งกำ เนิดเสียง ขณะมีสิ่งกีดขวางกับไม่มีสิ่งกีดขวาง เสียงที่ได้ยินแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ............................................................................................................................. ....................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. เมื่อเสียงจากแหล่งกำ เนิดเคลื่อนที่ไปพบสิ่งกีดขวาง เหตุใดจึงได้ยินเสียงชัดเจนกว่า ไม่มีสิ่งกีดขวาง ............................................................................................................................................................................ ........................ ........................................................................................................... ......................................................... กิจกรรม 5.2 การเลี้ยวเบน 1. เมื่อนักเรียนยืนในตำแหน่งต่างๆ นอกห้องเรียน สามารถได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดในห้องเรียนหรือไม่ อย่างไร ............................................................................................................................. ....................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. ทั้งที่มองไม่เห็นแหล่งกำเนิดเสียงในห้อง นักเรียนสามารถได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดในห้องเรียนได้อย่างไร ............................................................................................................................. ....................................................................... .................................................................................................................................................................... กิจกรรม 5.3 การรวมกันของเสียง 1. เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งการฟัง เสียงที่ได้ยินมีลักษณะเสียงดังแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ............................................................................................................................. ....................................................................... ................................................................................................................................. ................................... 2. เพราะเหตุใด บางตำแหน่งจึงเสียงดัง บางตำแหน่งจึงเสียงค่อย ............................................................................................................................................................... ..................................... ....................................................................................................................................................................


80 ตรวจสอบความเข้าใจ 5.1 1. ถ้าเราตะโกนใส่กำ แพงซึ่งเป็นสิ่งกีดขวาง และได้ยินเสียงกลับมาเป็นเพราะพฤติกรรมใดของเสียง ............................................................................................................................. ....................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. เมื่อเราเห็นฟ้าแลบแล้วเตรียมยกมือขึ้นอุดหู แต่กลับไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง เป็นเพราะเหตุใด ......................................................................................................................................................................................... ........... ........................................................................................................................ ............................................ 3. ในหอประชุมของโรงเรียนที่มีลำ โพงตั้งอยู่ด้านหน้าเวที2 ตัว ผู้ฟังที่นั่งอยู่ในแถวขนานกับหน้าเวทีแต่ละตำแหน่งจะ ได้ยินเสียงดังเท่ากันหรือไม่ อย่างไร ........................................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .......................................... 4. นักเรียนสามารถได้ยินเสียงคนคุยกันจากคนละด้านของมุมตึกหรือไม่ เพราะพฤติกรรมใดของเสียง ............................................................................................................................. ....................................................................... ............................................................................................................................. .......................................


81 ใบงานกิจกรรม เรื่อง พฤติกรรมของเสียง กิจกรรม 5.1 การสะท้อน 1. เมื่อเปิดแหล่งกำ เนิดเสียง ขณะมีสิ่งกีดขวางกับไม่มีสิ่งกีดขวาง เสียงที่ได้ยินแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ เสียงที่ได้ยินแตกต่างกัน ขณะมีสิ่งกีดขวางเสียงที่ได้ยินจากท่อรับเสียงจะได้ยินชัดเจนกว่าไม่มีสิ่งกีดขวาง 2. เมื่อเสียงจากแหล่งกำ เนิดเคลื่อนที่ไปพบสิ่งกีดขวาง เหตุใดจึงได้ยินเสียงชัดเจนกว่า ไม่มีสิ่งกีดขวาง แนวคำตอบ เพราะมีเสียงเคลื่อนที่จากสิ่งกีดขวางกลับเข้ามาในท่อรับเสียงและเคลื่อนที่มาถึงผู้ฟัง ส่วนกรณีไม่มีสิ่งกีดขวาง เสียงจะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิมไม่กลับเข้ามาในท่อรับเสียง กิจกรรม 5.2 การเลี้ยวเบน 1. เมื่อนักเรียนยืนในตำแหน่งต่างๆ นอกห้องเรียน สามารถได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดในห้องเรียนหรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ เมื่อยืนนอกห้องเรียนในตำแหน่งต่างๆ โดยมองไม่เห็นแหล่งกำเนิดเสียงสามารถได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง ในห้องทุกตำแหน่ง 2. ทั้งที่มองไม่เห็นแหล่งกำเนิดเสียงในห้อง นักเรียนสามารถได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดในห้องเรียนได้อย่างไร แนวคำตอบ เสียงสามารถเคลื่อนที่อ้อมผ่านขอบประตู-ขอบหน้าต่างมายังผู้ฟังได้ กิจกรรม 5.3 การรวมกันของเสียง 1. เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งการฟัง เสียงที่ได้ยินมีลักษณะเสียงดังแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งการฟัง พบว่าเสียงที่ได้ยินมีบางตำแหน่งเสียงดังบางตำแหน่งเสียงค่อย 2. เพราะเหตุใด บางตำแหน่งจึงเสียงดัง บางตำแหน่งจึงเสียงค่อย แนวคำตอบ เสียงที่ได้ยินแต่ละตำแหน่งเป็นเสียงจากลำ โพงทั้งสองตัวมาพบกันที่ตำแหน่งนั้น ตำแหน่งเสียงดังแสดงว่าความ ดันอากาศเปลี่ยนแปลงมาก ตำแหน่งเสียงค่อยแสดงว่าความดันอากาศเปลี่ยนแปลงน้อย ตรวจสอบความเข้าใจ 5.1


82 1. ถ้าเราตะโกนใส่กำ แพงซึ่งเป็นสิ่งกีดขวาง และได้ยินเสียงกลับมาเป็นเพราะพฤติกรรมใดของเสียง แนวคำตอบ เมื่อเสียงตกกระทบกำแพงจะเกิดการสะท้อนของเสียงมาจากกำแพงได้ 2. เมื่อเราเห็นฟ้าแลบแล้วเตรียมยกมือขึ้นอุดหู แต่กลับไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้อง เป็นเพราะเหตุใด แนวคำตอบ เกิดการหักเหของเสียง ทำ ให้เสียงเปลี่ยนทิศทางจนเดินทางมาไม่ถึงผู้ฟัง 3. ในหอประชุมของโรงเรียนที่มีลำ โพงตั้งอยู่ด้านหน้าเวที2 ตัว ผู้ฟังที่นั่งอยู่ในแถวขนานกับหน้าเวทีแต่ละตำแหน่งจะ ได้ยินเสียงดังเท่ากันหรือไม่ อย่างไร แนวคำตอบ   เพราะสนาม ไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีทิศทางตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น 4. นักเรียนสามารถได้ยินเสียงคนคุยกันจากคนละด้านของมุมตึกหรือไม่ เพราะพฤติกรรมใดของเสียง แนวคำตอบ สามารถได้ยินเสียงจากคนละด้านของมุมตึกได้เนื่องจากเสียงสามารถเลี้ยวเบนอ้อมขอบสิ่งกีดขวางได้


83 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27


84 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


85 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


86 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


87 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง การได้ยินเสียง 1 เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/6 สืบค้นข้อมูล และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มเสียงกับระดับเสียงและผลของความถี่กับ ระดับเสียงที่มีต่อการได้ยินเสียง สาระสำคัญ ความถี่ของคลื่นเสียงเป็นปริมาณที่ใช้บอกเสียงสูงเสียงต่ำโดยความถี่ที่คนได้ยินมีค่าอยู่ระหว่าง ๒๐-๒๐,๐๐๐ เฮิรตซ์ ระดับเสียงเป็นปริมาณที่ใช้บอกความดังของเสียงซึ่งขึ้นกับความเข้มเสียงโดยความเข้มเสียงเป็นพลังงานเสียงที่ตกตั้งฉากบน พื้นที่หนึ่งหน่วยในหนึ่งหน่วยเวลา เสียงที่มีความดังมากเกินไปเป็นอันตรายต่อหูจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของความเข้มเสียงและระดับขอเสียงได้ (K) 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของเสียง ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้(A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


88 สาระการเรียนรู้ 1. ความเข้มเสียงและระดับของเสียง กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1) ครูถามนักเรียนถึงสิ่งต่างๆ ที่พบในชีวิตประจำวัน เช่น – ระหว่างที่นักเรียนเดินทางมาโรงเรียน นักเรียนได้ยินเสียงอะไรบ้าง (แนวคำตอบ เสียงรถยนต์ เสียง รถจักรยานยนต์ เสียงพูดคุย และเสียงนกร้อง) – อวัยวะที่ช่วยให้ได้ยินเสียงต่างๆ คืออะไร (แนวคำตอบ หู) 2) นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง ความเข้ม เสียง ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับด้าน ชั้นเรียน (flipped classroom) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนแล้วเปิดโอกาสให้นักเรียนในกลุ่มนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการได้ยินเสียง ที่ครูมอบหมายให้ไป เรียนรู้ล่วงหน้าให้เพื่อนๆ ในกลุ่มฟัง จากนั้นให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมานำเสนอข้อมูลหน้าห้องเรียน (2) ครูตรวจสอบว่านักเรียนทำภาระงานที่ได้รับมอบหมายไปหรือไม่ โดยตรวจสอบจากการจดบันทึกของนักเรียน และถามคำถามเกี่ยวกับความเข้มเสียงและระดับของเสียง ดังนี้ – เสียงอาศัยสิ่งใดในการเคลื่อนที่มาถึงหูของเรา (แนวคำตอบ ตัวกลางของเสียง) – ตัวกลางของเสียงทำหน้าที่อะไร (แนวคำตอบ ถ่ายทอดเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงไปยังอวัยวะรับเสียง) (3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตั้งประเด็นคำถามที่นักเรียนสงสัยจากการทำภาระงานอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม ซึ่งครู ให้นักเรียนเตรียมมาล่วงหน้า และให้นักเรียนช่วยกันตอบและแสดงความคิดเห็น (4) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความเข้มเสียงและระดับของเสียง โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า จุด กำเนิดเสียงถ้าเราอยู่ใกล้จะได้ยินเสียงดังถ้าเราอยู่ห่างออกไปจะได้ยินเสียงที่เบาลง


89 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของเสียง จากสไลด์หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้ นักเรียนเข้าใจว่า การได้ยินเสียงแต่ละครั้งต้องมีแหล่งกำเนิดเสียง ตัวกลางของเสียง และระดับเสียง (2) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการได้ยินเสียง ตามขั้นตอน ดังนี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อย่อยให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันสืบค้นตามที่สมาชิกกลุ่ม ช่วยกันกำหนดหัวข้อย่อย เช่น ความเข้มเสียง และระดับของเสียง – สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อย่อยที่ตนเองรับผิดชอบ โดยการสืบค้นจาก หนังสือ วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน หรืออินเทอร์เน็ต – สมาชิกกลุ่มนำข้อมูลที่สืบค้นได้มารายงานให้เพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปรายซักถามจน คาดว่าสมาชิกทุกคนมีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน – สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ทั้งหมดเป็นผลงานของกลุ่ม และช่วยกันจัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับการได้ยินเสียง (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนทุก คนซักถามเมื่อมีปัญหา 3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น – ความเข้มเสียงอย่างไร (แนวคำตอบ เสียงที่เกิดจากตัวกลาง และการได้ยินแต่ละตำแหน่งของเสียงว่าได้ยินดัง หรือเบา ขึ้นอยู่ที่กำเนิดเสียงและตำแหน่งของผู้ได้ยิน) – กำลังเสียงคืออะไร (แนวคำตอบ ปริมาณพลังงานเสียงที่ส่งออกจากแหล่งกำเนิดเสียงไหน หนึ่งหน่วยเวลา มี หน่วยเป็นจูลต่อวินาทีหรือวัตต์โดยกำลังเสียงที่ตกตั้งฉากลงบน 1 หน่วยพื้นที่ คือความเข้มเสียง) – ระดับของเสียงคือ (แนวคำตอบ ได้ยินเสียงดังมากหรือน้อยเกี่ยวข้องกับความเข้มเสียงที่ผู้ฟังได้รับเมื่อความ เข้มเสียงมากจะได้ยินเสียงดังมาก) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจ


90 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนค้นคว้าคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเกี่ยวกับการได้ยินเสียง จากหนังสือเรียนภาษาต่างประเทศหรือ อินเทอร์เน็ต และนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง คัดคำศัพท์พร้อมทั้งคำแปลลงสมุดส่งครู 5) ขั้นประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมี ข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และการนำความรู้ที่ ได้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้ตอบคำถาม เช่น – เสียงที่เราได้ยินในชีวิตประจำวัน แตรรถในระยะทาง 1 เมตรได้ยิน กี่ เดซิเบล (แนวคำตอบ 120 เดซิเบล) – ถ้าเรากระซิบคุยกับเพื่อน 1 เมตร จะได้ยินเสียงในความเข้มเสียงเท่าไหร่ (แนวคำตอบ 1.0×10-10 W/m3 ) ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความเข้มเสียง โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนผังความคิดหรือผังมโนทัศน์ สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ canva เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของเสียง 3. ใบงานกิจกรรมผังความรู้เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของเสียง 4. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/FOzmVRoOc_I แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต การวัดและประเมินผล


91 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1. อธิบายลักษณะของ พฤติกรรมของเสียงได้ (K) ตรวจแบบทดสอบด้วย ใบงานกิจกรรม เรื่อง ความ เข้มเสียงและระดับของ เสียง ใบงานกิจกรรมผังความรู้ เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของ เสียง ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์ 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของ เสียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ (P) ใบงานกิจกรรม เรื่อง ความ เข้มเสียงและระดับของ เสียง ใบงานกิจกรรมผังความรู้ เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของ เสียง คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ผ่าน 3. นักเรียนสามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ (A) พฤติกรรมการตอบคำถาม ของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการตอบ คำถามของนักเรียน คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ผ่าน


92


93


94 ใบงานกิจกรรมผังความรู้เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของเสียง ชี้แจง ให้นักเรียนทำผังความรู้ เกี่ยวกับ ความเข้มของเสียงและระดับของเสียง (10 คะแนน) ชื่อ......................................................................... ชั้น.........................ห้อง...............เลขที่..................


95 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27


96 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


97 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


98 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


99 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รหัสวิชา ว32102 ชื่อวิชา วิทยาศาสตร์ กายภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ชื่อหน่วย เสียง เรื่อง การได้ยินเสียง 2 เวลา 2 ชั่วโมง ผู้สอน นายสุทธิภัทร นิราชภัย _____________________________________________________________________________ มาตรฐาน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจําวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.5/6 สืบค้นข้อมูล และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มเสียงกับระดับเสียงและผลของความถี่กับ ระดับเสียงที่มีต่อการได้ยินเสียง สาระสำคัญ ความถี่ของคลื่นเสียงเป็นปริมาณที่ใช้บอกเสียงสูงเสียงต่ำโดยความถี่ที่คนได้ยินมีค่าอยู่ระหว่าง ๒๐-๒๐,๐๐๐ เฮิรตซ์ ระดับเสียงเป็นปริมาณที่ใช้บอกความดังของเสียงซึ่งขึ้นกับความเข้มเสียงโดยความเข้มเสียงเป็นพลังงานเสียงที่ตกตั้งฉากบน พื้นที่หนึ่งหน่วยในหนึ่งหน่วยเวลา เสียงที่มีความดังมากเกินไปเป็นอันตรายต่อหูจุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของความถี่ของเสียงได้ (K) 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง ความถี่ของเสียง ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้(A) สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 2.1 ทักษะการวิเคราะห์ 2.2 ทักษะการสร้างความรู้ 2.3 ทักษะกระบวนการคิดตัดสินใจ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้


100 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สาระการเรียนรู้ 1. ความความถี่ของเสียง 2. ผลของความถี่และระดับเสียงที่มีต่อการได้ยินเสียง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1) ครูถามคำถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น – เสียงต่างๆ ที่นักเรียนได้ยินในชีวิตประจำวันมีระดับเสียงแตกต่างกันหรือไม่ (แนวคำตอบ แตกต่างกัน) – เสียงสูงและเสียงต่ำมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ เสียงสูงเป็นเสียงที่มีความถี่สูง ส่วนเสียงต่ำ เป็นเสียงที่มีความถี่ต่ำ) 2) นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตอบ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง ความถี่ของ เสียง ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับด้าน ชั้นเรียน (flipped classroom) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้เดิมที่ได้เรียนรู้มาแล้ว โดยใช้คำถามต่อไปนี้ – ความถี่ของเสียงมีผลต่อการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำอย่างไร (แนวคำตอบ ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงสั่นด้วยความถี่สูง จะเกิดเสียงสูง แต่ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงสั่นด้วยความถี่ต่ำจะเกิดเสียงต่ำ) (2) นักเรียนร่วมกันอภิปรายหาคำตอบเกี่ยวกับคำถามตามความคิดเห็นของแต่ละคน 2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง ความถี่ของเสียง จากใช่สื่อ Canva หรือในหนังสือเรียน โดยครูช่วยอธิบายให้นักเรียน เข้าใจว่า ความถี่ของเสียง คือ ความรู้สึกได้ยินของคนเราว่าดังมากหรือดังน้อย ซึ่งเกิดจากการสั่นของแหล่งกำเนิดเสียงด้วย พลังงานที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ความถี่ของเสียงยังมีความสัมพันธ์กับความเข้มเสียงด้วย


101 (2) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความถี่ของเสียง ตามขั้นตอน ดังนี้ – แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อย่อยให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันสืบค้นตามที่สมาชิกกลุ่ม ช่วยกัน – สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูล โดยการสืบค้นจากหนังสือ วารสาร สารานุกรม วิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน หรืออินเทอร์เน็ต – สมาชิกกลุ่มนำข้อมูลที่สืบค้นได้มารายงานให้เพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมทั้งร่วมกันอภิปรายซักถามจน คาดว่าสมาชิกทุกคนมีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน – สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ทั้งหมดเป็นผลงานของกลุ่ม และช่วยกันจัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับความถี่ของเสียง (3) ครูคอยแนะนำช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนทุก คนซักถามเมื่อมีปัญหา 3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าห้องเรียน (2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น – ความถี่ของเสียงเกี่ยวข้องกับความยาวของไม้บรรทัดที่ยื่นพ้นขอบโต๊ะในลักษณะใด(แนวคำตอบ ความถี่ของ เสียงสูงขึ้นเมื่อความยาวของไม้บรรทัดที่ยื่นพ้นขอบโต๊ะลดลง) – เราควรกดไม้บรรทัดด้วยแรงที่เท่ากันทุกครั้งเพราะอะไร (แนวคำตอบ เพราะในการทดลองต้องการสังเกต ความถี่ของเสียงเท่านั้น เราจึงต้องออกแรงกดไม้บรรทัดให้คงที่ เพื่อให้ผลการทดลองเที่ยงตรงที่สุด) (3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า การสั่นของวัตถุที่เป็น แหล่งกำเนิดเสียงมีผลต่อความถี่ของเสียง โดยถ้าวัตถุที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงสั่นเร็วขึ้น เสียงที่เกิดขึ้นจะมีความถี่สูงขึ้นหรือมี เสียงสูงขึ้น 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ครูอธิบายเรื่องน่ารู้ เรื่องประโยชน์ของคลื่นเหนือเสียง ให้นักเรียนเข้าใจว่า คลื่นเสียงความถี่สูงที่คนเราไม่สามารถได้ ยิน เรียกว่า คลื่นเหนือเสียงหรือคลื่นอัลตราซาวนด์ แพทย์ใช้คลื่นนี้ในการตรวจสอบเพศของทารกในครรภ์ โดยจะปล่อยคลื่น


102 เสียงความถี่สูงถึง 2,000,000 –7,500,000 เฮิรตซ์ ผ่านผิวหนังของแม่ไปยังทารก คลื่นเสียงจะสะท้อนและแปลผลออกมา เป็นภาพให้เห็นที่หน้าจอ 5) ขั้นประเมิน (Evaluation) (1) ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมี ข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ (2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไขอย่างไรบ้าง (3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และการนำความรู้ที่ ได้ไปใช้ประโยชน์ (4) ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการให้ตอบคำถาม เช่น – ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงสั่นด้วยความถี่สูง เสียงที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะใด (แนวคำตอบ มีเสียงสูง) – ถ้าแหล่งกำเนิดเสียงสั่นด้วยความถี่ต่ำ เสียงที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะใด (แนวคำตอบ มีเสียงต่ำ) ขั้นสรุป ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความถี่ของเสียง โดยร่วมกันเขียน ใบงานกิจกรรม สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ กายภาพ เล่ม 2 มัธยมศึกษาปีที่ 5 2. สื่อการเรียนรู้ canva เรื่อง ความถี่ของเสียง 3. ใบงานกิจกรรม 4. คลิปวีดีโอการสอน https://youtu.be/nTFREh7-Ka8 https://youtu.be/ARyvvP6FuSc แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมุดโรงเรียนเขาทองพิทยาคม 2. อินเทอร์เน็ต


103 การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ 1. อธิบายลักษณะของ พฤติกรรมของเสียงได้ (K) ตรวจแบบทดสอบด้วย ใบงานกิจกรรม ใบงานกิจกรรม ร้อยละ60 ผ่าน เกณฑ์ 2. สื่อสารและนำความรู้เรื่อง ความเข้มเสียงและระดับของ เสียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ (P) ใบงานกิจกรรม ใบงานกิจกรรม คะแนนระดับ พอใช้ ขึ้นไป ผ่าน 3. นักเรียนสามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ (A) พฤติกรรมการตอบคำถาม ของนักเรียน สังเกตพฤติกรรมการตอบ คำถามของนักเรียน


104


105


106 ใบกิจกรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบความเข้าใจ 5.2 1. การได้ยินเสียงดัง-ค่อย เกี่ยวข้องกับกำ ลังเสียงของแหล่งกำ เนิดอย่างไร .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 2. การได้ยินเสียงดัง-ค่อย เกี่ยวข้องกับความเข้มเสียงอย่างไร .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. ความเข้มเสียงเกี่ยวข้องกับกำ ลังเสียงของแหล่งกำ เนิดและระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงอย่างไร .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 4. เมื่อพิจารณาร่วมกันถึงผลของความถี่และระดับเสียงที่มีผลต่อการได้ยินเสียง จากรูป 5.9 เสียงที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 0 เดซิเบล สามารถได้ยินที่ช่วงความถี่ประมาณเท่าใด .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 5. จากตารางที่ 5.1 เมื่อความเข้มเสียงเปลี่ยนไป 10 เท่า ระดับเสียงจะเปลี่ยนไป กี่ เดซิเบล ........................................................................................................................................................................................... ......... .................................................................................................................................................................... 6.   จากตาราง 5.1 ถ้าระดับเสียงเปลี่ยนไป 30 เดซิเบล ความเข้มเสียงจะเปลี่ยนไป กี่ เท่า .................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................


107 ใบกิจกรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบความเข้าใจ 5.2 1. การได้ยินเสียงดัง-ค่อย เกี่ยวข้องกับกำ ลังเสียงของแหล่งกำ เนิดอย่างไร แนวคำตอบ   กำลังเสียงของแหล่งกำเนิดมากจะได้ยินเสียงดัง กำลังเสียงของแหล่งกำเนิดน้อยจะได้ยินเสียงค่อย 2. การได้ยินเสียงดัง-ค่อย เกี่ยวข้องกับความเข้มเสียงอย่างไร แนวคำตอบ   ความเข้มเสียงมากจะได้ยินเสียงดัง ความเข้มเสียงน้อยจะได้ยินเสียงค่อย 3. ความเข้มเสียงเกี่ยวข้องกับกำ ลังเสียงของแหล่งกำ เนิดและระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงอย่างไร แนวคำตอบ  เมื่อระยะห่างเท่าเดิม กำลังเสียงของแหล่งกำเนิดมาก ความเข้มเสียงมากเมื่อกำลังเสียงเท่าเดิม ระยะห่างจาก แหล่งกำเนิดเสียงมากความเข้มเสียงน้อย 4. เมื่อพิจารณาร่วมกันถึงผลของความถี่และระดับเสียงที่มีผลต่อการได้ยินเสียง จากรูป 5.9 เสียงที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 0 เดซิเบล สามารถได้ยินที่ช่วงความถี่ประมาณเท่าใด แนวคำตอบ  ความถี่ในช่วงประมาณ 1200-8000 Hz 5. จากตารางที่ 5.1 เมื่อความเข้มเสียงเปลี่ยนไป 10 เท่า ระดับเสียงจะเปลี่ยนไป กี่ เดซิเบล แนวคำตอบ  เมื่อความเข้มเสียงเปลี่ยนไป   10   เท่า   ระดับเสียงจะเปลี่ยนไป   10เดซิเบล 6.   จากตาราง 5.1 ถ้าระดับเสียงเปลี่ยนไป 30 เดซิเบล ความเข้มเสียงจะเปลี่ยนไป กี่ เท่า แนวคำตอบ  ระดับเสียงเปลี่ยนไป   30   เดซิเบล  ความเข้มเสียงจะเปลี่ยนไป 1000 เท่า


108 แบบประเมินใบงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ เนื้อหาครบถ้วน ทำงานเสร็จตามเวลา ตกแต่งสวยงาม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27


109 28 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ครบถ้วน ตรงตามเวลา และตกแต่งใบงานได้สวยงาม 2 หมายถึง นักเรียนสามารถสรุปเนื้อหาได้ตรงประเด็นบาง ตกแต่งชิ้นงานพอได้ และส่งตรงเวลา 1 หมายถึง นักเรียนสรุปเนื้อหาที่ตรงประเด็นน้อยมาก ตกแต่งชิ้นงานพอได้ อาจส่งเกินเวลาที่กำหนด เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8-9 ดี 6-7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


110 แบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 เลขที่ ระดับคุณภาพ ความสนใจ กระตือรือร้น สนทนาซักถามครูผู้สอน สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28


111 29 30 31 เกณฑ์การให้คะแนน 1) ความสนใจ กระตือรือร้น 3 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา 2 หมายถึง มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้บางครั้ง 1 หมายถึง ไม่มีความสนใจใส่ใจในการศึกษาหาความรู้ 2) สนทนาซักถามครูผู้สอน 3 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนตลอดเวลา 2 หมายถึง ตั้งใจฟังและซักถามสิ่งที่สนใจจากครูผู้สอนบางครั้ง 1 หมายถึง ไม่ตั้งใจฟังและไม่ซักถามใดๆจากครูผู้สอน 3) สนุกสนานกับการจัดกิจกรรม 3 หมายถึง ร่าเริง แจ่มใส กระตือรือร้นที่จะปฏิบัติกิจกรรม 2 หมายถึง มีท่าทางเบื่อเหนื่อยไม่อยากปฏิบัติกิจกรรมบ้างบางครั้ง 1 หมายถึง มีท่าทางเบื่อหน่ายมากไม่อยากปฏิบัติกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ โดยมีคะแนนตามแบบสังเกตพฤติกรรมความใฝ่เรียนรู้ระดับ พอใช้ ขึ้นไป


Click to View FlipBook Version