The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by slmaum, 2021-11-22 09:50:42

วิทยานิพนธ์

วิทยานิพนธ์

180

6.3 ผลการวิเคราะห์ระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการ
พัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จงั หวดั นราธิวาส

ผู้วิจัยเสนอสรุปผลการวิเคราะห์ระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจา
มัสยิดในการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ ด้านศาสนา ด้านการศึกษา
และด้านกจิ กรรม ผลการวิเคราะหร์ ะดับบทบาทในแต่ละด้าน พบว่า ระดบั บทบาทของคณะกรรมการ
อิสลามประจามัสยิดในการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับปานกลาง (¯x =3.43, SD=.64) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับท่ีต่างกัน
สามารถเรียงลาดบั จากมากไปหาน้อยได้แก่ บทบาทด้านการศกึ ษา (¯x =3.60 , SD=.60) บทบาทด้าน
ศาสนา(¯x =3.55,SD=.56) และบทบาทด้านกิจกรรม (¯x =3.14, SD=.76)

6.4 แนวทางในการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จงั หวดั นราธวิ าส
ผลการจัดสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เช่ียวชาญ

เกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จานวน 20 ท่าน ในวันจันทร์ ท่ี 12
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ณ ห้องประชุมสานักงานคณะกรรมการอิสลามประจาจังหวัดนราธวิ าส
โด ย มี ผู้ ท ร งคุ ณ วุ ฒิ แ ล ะ ผู้ เชี่ ย ว ช า ญ จ า ก ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร อิ ส ล า ม ป ร ะ จ า จั งห วั ด น ร า ธิ ว า ส แ ล ะ
คณะกรรมการชมรม อิมาม เคาะฎีบ บิลาลอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสได้แนวทางการสร้าง
เยาวชน ดงั ต่อไปนี้

6.4.1 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องจัดอบรมในเร่ืองของศาสนาเป็นระยะๆโดย
เชญิ วิทยากรจากภายนอกมาให้ความร้ซู ่ึงสามารถสร้างบรรยากาศใหมๆ่ ต่อเยาวชน

6.4.2 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องจัดคืนแห่งการบูรณะมัสยิดของเยาวชนที่
เปน็ รายเดอื นเพื่อให้เยาวชนมคี วามเข้าใจศาสนามากยิง่ ขน้ึ และเพอื่ ให้เยาวชนสามารถสอบถามปัญหา
ในเรอื่ งศาสนาในรูปแบบเป็นกนั เอง

6.4.3 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องให้เยาวชนมีการเชิญชวนเยาวชนด้วยกัน
เข้ามสั ยดิ และเน้นให้เยาวชนปฏบิ ตั ิศาสนกจิ ได้อยา่ งสมบรู ณท์ ่มี สั ยิด

6.4.4 ทางมัสยิดควรเอ้ือให้เยาวชนออกไปหาประสบการณ์ขา้ งนอกในรูปแบบออกดะอฺวะฮฺ
ในทุกๆเดือนโดยผา่ นการสนับสนุนงบจากมสั ยิดสาหรับบางคน

181

6.4.5 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องก่อตั้งชมรมเยาวชนที่มีโครงสร้างของชมรม
ตั้งแต่ประธาน รอง เลขา เหรญั ญิกพร้อมกับแต่งต้ังฝ่ายต่างๆในการแบ่งภาระงานท่ีต้องทาและฝ่ายที่
สาคัญคอื ฝา่ ยการจดั การศึกษาของเยาวชน

6.4.6 คณะกรรมการอิสลามประจามสั ยิดต้องจัดสัปดาห์แห่งการเรียนรู้ของเยาวชน
เพ่ือรบั ร้สู งิ่ ท่ีสงั คมมุสลิมกาลังเผชญิ อยู่

6.4.7 คณะกรรมการอสิ ลามประจามสั ยิดต้องจดั การศึกษาท่ีเป็นเร่อื งๆ แบ่งเป็นหมวดหมู่
พร้อมกบั การสร้างความใกลช้ ิดด้วยการกินอาหารร่วมกนั บางม้ือ

6.4.8 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดควรเปิดช่องทางการศึกษาในช่องทางที่
หลากหลายโดยเฉพาะช่องทางเทคโนโลยี

6.4.9 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องให้มัสยิดเป็นศูนย์กลางของชุมชนใน
ทกุ ๆเรอ่ื งโดยเฉพาะในเรื่องของกจิ กรรม

6.4.10 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องสร้างความใกล้ชดิ และใหค้ วามสาคัญ
ตอ่ เยาวชนดว้ ยกิจกรรม

6.4.11 คณะกรรมการอสิ ลามประจามัสยดิ ต้องพยายามหากิจกรรมใหมๆ่ เช่นกจิ กรรมพบปะ
ครอบครัว กิจกรรมเย่ียมเยียนระหว่างเยาวชนกับผู้อาวุโสในชุมชนและกิจกรรมกีฬาสีของชุมชนท่ี
สามารถใหเ้ ยาวชนมีความรู้สึกวา่ ตนเปน็ สว่ นหนงึ่ ของชุมชน

7. อภิปรายผล
7.1 ระดับความรู้ความเข้าใจของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนา

เยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จงั หวดั นราธวิ าส

ผลการศึกษาระดับความรคู้ วามเขา้ ใจของคณะกรรมการอสิ ลามประจามัสยิดในการ
พัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวดั นราธวิ าส พบว่าอยใู่ นระดับมาก

ท้ังน้ีอาจจะเป็นเพราะคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดมีประสบการณ์ในการ
ทางานหลายปีพรอ้ มกับมีการอบรมและการประชมุ ทีบ่ ่อยคร้ัง

7.2 ระดับบทบาทของคณะกรรมการอสิ ลามประจามัสยดิ ในการพฒั นาเยาวชนในเขต
อาเภอตากใบ จังหวดั นราธิวาส

182

ผลการศึกษาระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนา
เยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้อาจจะ
เปน็ เพราะคณะกรรมการอิสลามประจามสั ยิดมภี าระหนา้ ท่ีในการดูแลครอบครัวและยังมหี นา้ ทใ่ี นการ
ประสานงานกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆท่ีมีอยู่ในสังคมจนส่งผลกระทบต่อความตระหนักใน หน้าท่ีที่
ได้รับการไวว้ างใจ ซึ่งจะสอดคล้องกับอบั ดุลลอฮมาลิก หมัดเหระ, (2012 : 5) ท่ีกล่าวว่าปัญหาที่ทาให้
ผู้นามุสลิมไม่สามารถดูแลเยาวชนตามวิถีแห่งศาสนาอิสลามได้มี 4 ประการ คือ ประการแรกผู้นา
มุสลิมขาดความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง และจะซึ่งสอดคล้องกับประการท่ีสองผู้นา
มุสลิมไม่ตระหนักและไม่ให้ความสาคัญในการดูแลเยาวชน ประการที่สามผู้นาขาดทักษะและ
ประสบการณ์ในการดแู ลเยาวชน และประการสดุ ทา้ ยผู้นาขาดความสัมพันธก์ ับกลุม่ เยาวชน

เมื่อพิจารณาระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิด ในการพัฒ นา
เยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จงั หวัดนราธวิ าสเปน็ รายข้อในแต่ละดา้ น ปรากฏผลดังน้ี

7.2.1 ระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอ

ตากใบจังหวัดนราธิวาสด้านศาสนา ในระดบั มาก

ท้งั นี้อาจจะเป็นเพราะการใหค้ วามสาคญั ตอ่ เรอ่ื งเหล่านัน้ เป็นอย่างมากซง่ึ สอดคลอ้ ง
กับอิบรอฮิม ตาเยะ, (2012 : 5) ท่ีกล่าวว่า บทบาทของอิมามโดยรวม บทบาทในด้านศาสนาและ
บทบาทในด้านการบริหารอยู่ในระดับมาก ดรลั รตั น์ ภมรบุตร, (2007) ที่กล่าววา่ ผูน้ าศาสนาอสิ ลาม
มกี ารปฏิบัตติ ามบทบาทหน้าท่ีมากท่สี ุด คอื ดา้ นศาสนา

7.2.2 ระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนาเยาวชนในเขต
อาเภอตากใบ จังหวดั นราธิวาสดา้ นการศกึ ษา ในระดับมาก

ท้ังน้ีอาจจะเป็นเพราะความตระหนักของผู้นาในความรับผิดชอบท่ีจะต้องถูก
สอบถามจากชุมชนและจะถูกสอบสวนจากอัลลอฮ์  ในบทบาทซึ่งสอดคล้องกับ อับดุลอาซิซ เจ๊ะมามะ,
(2012 : 5) ที่กล่าวว่า ระดับภาวะผู้นาของอิมามด้านความรับผิดชอบ ด้านวิสัยทัศน์กว้างไกล ด้านการ
บรหิ ารแบบมีส่วนร่วม และด้านกระบวนการควบคุม โดยภาพรวมและหลายดา้ นอยู่ในระดบั มาก

7.2.3 ระดับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนาเยาวชนใน
เขตอาเภอตากใบ จังหวดั นราธิวาสดา้ นกิจกรรม ในระดบั ปานกลาง

ท้ังน้ีอาจจะเป็นเพราะทางมัสยิดได้จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เยาวชนท่ีมีการศึกษา
เทา่ นั้นแตไ่ ม่มีกิจกรรมที่เหมาะสาหรบั เยาวชนท่ัวไปและโดยปกติกิจกรรมท่ีทางคณะกรรมการอสิ ลาม

183

ประจามัสยิดจัดข้ึนจะเป็นกิจกรรมท่ีเน้นนักในเรื่องวิชาการ การบรรยาย การช้ีแนะและก็เป็นเร่ืองที่
ไม่สามารถสรา้ งความดงึ ดดู ต่อเยาวชนอกี เชน่ กนั

8. แนวทางในการพฒั นาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธวิ าส
ผลจากการสะท้อนสภาพปัญหาของเยาวชนท่ีเกดิ ข้ึนในชุมชนทม่ี ากมายโดยมีปัญหา

คือ ปัญหาที่เก่ียวกับหลักปฏิบัติ เยาวชนไม่ให้ความสาคัญกับการปฏิบัติศาสนกิจ การละหมาดที่ไม่
ตรงตามเวลาทีก่ าหนด ละหมาดที่บ้านเปน็ ส่วนใหญ่ เยาวชนบางคนไม่ละหมาด ปญั หาที่เกย่ี วกับหลัก
ศรัทธาท่มี ีเยาวชนไม่เข้าใจความหมายของคาว่า ซีรกิ เขา้ ใจในหลกั การศรัทธาแต่ไมส่ ามารถอธบิ ายได้
ตามท่ีเข้าใจ รู้ในหลักศรัทธาแต่ขาดความเชื่อม่ันอย่างจริงจัง ปัญหาท่ีเกี่ยวกับอบายมุข มีเยาวชนที่
ม่วั สุมกบั ยาเสพติด ด่ืมนา้ กระท่อมและปัญหาความเป็นผู้นาของเยาวชน ผู้นาในการนาละหมาด การ
อ่านคฏุ บะฮฺในวนั ศกุ ร์และกจิ กรรมอนื่ ๆ ดงั นน้ั ทางผเู้ ขา้ ร่วมสนทนากลุ่มไดเ้ สนอแนวทางดงั น้ี

8.1 แนวทางในการพฒั นาเยาวชนดา้ นศาสนา
ผู้เข้าร่วมคนท่ี 1 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องจัดอบรม

ในเรื่องของศาสนาเป็นระยะๆโดยเชิญวิทยากรจากภายนอกมาให้ความรู้เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ๆต่อ
เยาวชนและสามารถสร้างความเข้าใจในหลักคาสอนของศาสนาต่อผู้เข้าอบรมเป็นอย่างมากซ่ึงในการ
อบรมนั้นทางคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องมีคู่มือหรือหลักสูตรประกอบการอบรมท่ีได้
เตรียมมาโดยเฉพาะคู่มือที่ทางคณะกรรมการอิสลามประจาจังหวัดได้จัดพิมพ์และแจกให้มัสยิดนามา
เปน็ แนวทางในการอบรมหรอื หลกั สูตรอื่นๆทีจ่ ะทาให้การอบรมนัน้ บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้”

ผู้เข้าร่วมคนท่ี 2 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยดิ ควรจัดคืนแห่ง
การบูรณะมัสยิดของเยาวชนท่ีเป็นรายเดือนเพื่อให้เยาวชนมีความเข้าใจศาสนามากยิ่งข้ึนและเพื่อให้
เยาวชนสามารถสอบถามปัญหาในเร่ืองศาสนาในรูปแบบท่ีเป็นกันเองและการจัดคืนแห่งการบูรณะ
มัสยิดท่ีมีช่ือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อิมารอฮฺ มัสยิดซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งท่ีมุสลิมได้ปฏิบัติมาแล้วในเดือน
เราะมะฏอนด้วยการเข้ามาในมัสยิดในเวลาก่อนละหมาดมัฆรบิ พร้อมกบั การปฏิบัติตามกาหนดการท่ี
ได้กาหนดไว้ซึ่งในกาหนดการน้ันจะเร่ิมด้วยการบรรยาย การอ่านอัลกุรอาน การสนทนาในหลักคา
สอนของศาสนาในกลุ่มย่อยโดยมีพ่ีเล้ียงหรือคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดมาเป็นผู้ช่วยและจบ
ด้วยการฟังการนาศีฮะฮฺหลังละหมาดซุบฮีซ่ึงการอิมารอฮฺ มัสยิดนั้นถือเป็นการต่อยอดรูปแบบท่ี
เกิดขน้ึ ในเดอื นเราะมะฏอนของทกุ ปี”

184

ผู้เข้าร่วมคนที่ 3 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องให้เยาวชนมี
การเชิญชวนเยาวชนด้วยกันเข้ามัสยิดและเน้นให้เยาวชนปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ท่ีมัสยิด
เน่อื งจากการท่ีเยาวชนสามารถเข้ามัสยดิ เพ่ือปฏิบตั ศิ าสนกิจถอื เป็นส่ิงทมี่ ีความหมายยิ่งต่อชุมชนหน่ึง
ซ่ึงทางมัสยิดก็ได้พยายามเชิญชวนอย่างสุดความสามารถแต่การตอบรับของเยาวชนมีน้อยเน่ืองด้วย
การเชญิ ชวนจากบุคคลทีต่ ่างวยั ต่างความคดิ และการใช้ภาษาทต่ี ่างกนั จึงเป็นการดีถา้ การเชิญชวนนั้น
ไดถ้ ูกปฏิบัตโิ ดยเยาวชนท่เี ปน็ บุคคลในวัยเดยี วกัน ความคิดคลา้ ยกันและภาษาท่ีใช้เหมือนกันคงจะไม่
มีการปฏเิ สธตอ่ การเชิญชวนดงั กลา่ ว”

ผู้เข้าร่วมคนที่ 4 ให้ความเห็นว่า “ทางมัสยิดควรเอ้ือให้เยาวชนออกไปหาประสบการณ์
ข้างนอกในรูปแบบออกดะอฺวะฮฺในทุกเดือนโดยผ่านการสนับสนุนงบจากมัสยิดสาหรับบางคน การ
ออกไปหาประสบการณ์ในชุมชนอื่นของเยาวชนจากมัสยิดหน่ึงไปยังมัสยิดหนึ่ง จากชุมชนหนึ่งไปอีก
ชุมชนหน่ึง ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตและสร้างความรู้ใหม่ต่อเยาวชนซ่ึงบางครั้งการ
เปล่ียนแปลงน้ันจะเกิดขึ้นกับเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรมโดยผ่านกระบวนการนั้นต้องมีกิจกรรมท่ีต้อง
ปฏบิ ัติร่วมกันตั้งแต่การกาหนดกฎในการอยู่รว่ มกนั การแบง่ หนา้ ทที่ ีจ่ ะต้องรบั ผิดชอบ การมอบหมาย
งานและการเรียนรู้ศาสนาพร้อมการศึกษาประวัติของบรรดานบี เศาะฮาบะฮฺ เพ่ือนาประสบการณ์น้ันไป
ใช้ในการดาเนนิ ชีวิต”

ท้ังน้ีอิสลามก็ได้วางแนวทางข้างต้นในการสร้างปัจเจกบุคคลโดยผ่านหลักคาสอน
ของศาสนาในรูปแบบการฝ่ายหาความรู้โดยการที่มุสลิมต้องฟังการอ่านอายะฮฺอัลกุรอานในเวลา
ละหมาดซ่ึงอัลกุรอานนั้นเป็นบ่อเกิดของความรู้ท่ีแท้จรงิ การฟังเคาะฎีบอ่านคุฏบะฮใฺ นทุกๆวันศุกร์ก็
เป็นการอบรมอีกเช่นกันแต่เป็นการอบรมที่เป็นรายสัปดาห์ท่ีมุสลิมต้องปฏิบัติและเมื่อมุสลิมได้ฟัง
อายะฮฺอัลกุรอานและฟังคุตบะฮฺก็สามารถทาให้เขาเกิดความรู้สึกอยากเชิญชวนผู้อ่ืนไปสู่แนวทางที่
ถกู ต้องแต่รปู แบบที่กลา่ วทง้ั หมดน้ันจะไม่เกิดข้นึ ยกเว้นบุคคลน้ันต้องออกจากจดุ หน่ึงไปสู่อีกจุดหนึ่ง

8.2 แนวทางในการพัฒนาเยาวชนด้านการศึกษา
ผู้เข้าร่วมคนท่ี 5 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องก่อต้ัง

ชมรมเยาวชนท่ีมีโครงสรา้ งของชมรมต้ังแต่ประธาน รอง เลขา เหรัญญิกพรอ้ มกับแต่งต้ังฝ่ายต่างๆใน
การแบ่งภาระงานที่ต้องทาและฝ่ายที่สาคัญคือฝ่ายการจัดการศึกษาของเยาวชน การก่อต้ังชมรม
เยาวชนท่ีอยู่ภายใต้การกากับดูแลของมัสยิดเป็นเร่ืองท่ีทางมัสยิดต้องให้ความสาคัญอย่างมาก
เนอ่ื งจากบุคคลเหล่านั้นจะเปน็ คนท่สี ามารถสานต่อกิจกรรมทที่ างมัสยิดได้ปฏิบัตไิ วแ้ ละจะเป็นปัญหา

185

หลกั ของชุมชนถา้ บุคคลที่ได้มอบความหวงั ในการสานตอ่ ไมส่ ามารถใหค้ วามหวังไดโ้ ดยเฉพาะกิจกรรม
ทเ่ี กี่ยวกบั การศึกษาของเยาวชน การจดั การศึกษาของเยาวชนในมัสยิดต้องได้รับการดูแลจากเยาวชน
ดว้ ยกันซงึ่ เปน็ หนา้ ท่หี น่งึ ของชมรมทไ่ี ดถ้ กู แตง่ ตั้งและจะเป็นรปู แบบการศึกษาท่ีสามารถสอดคล้องกับ
ความต้องการของบุคคลนัน้ ๆได”้

ผู้เข้าร่วมคนที่ 6 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องจัดสัปดาห์
แห่งการเรียนรู้ของเยาวชนเพื่อรับรู้ส่ิงท่ีสังคมมุสลิมกาลังเผชิญอยู่ การเรียนรู้ที่สม่าเสมอของเยาวชน
เป็นส่ิงสาคัญที่มัสยิดต้องให้การสนับสนุนเนื่องจากการศึกษาน้ันถือเป็นสะพานเช่ือมระหว่างความ
เข้าใจในหลักการของศาสนากับการนาไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจาวัน เมื่อเยาวชนไม่มีการศึกษาโดย
ปริยายเยาวชนจะไม่เข้าใจหลักคาสอนและจะสง่ ผลต่อการปฏิบัติในชวี ิตประจาวันท่ีผิดหลักการอย่าง
ส้ินเชิง การจัดการการศึกษาที่เกิดขึ้นในมัสยิดท่ีไม่ได้วางกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนแต่เป็นการศึกษา
ในภาพรวมบางคร้ังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเยาวชนท่ีอยากจะศึกษาในประเด็นใหม่ๆ
ประเด็นท่ีกาลังเกิดข้ึนในโลกมุสลิมและประเด็นท่ีเยาวชนอยากเรียนรู้อย่างเจาะลึกกับส่ิงที่เกิดข้ึนใน
วัยของตน ดังนั้นการก่อตั้งชมรมก็สามารถสนองต่อความต้องการน้ันที่มีฝ่ายที่ดูแลการศึกษาของ
เยาวชนดาเนินการตามท่ีเยาวชนอยากได้ตามความตอ้ งการ”

ผู้เข้าร่วมคนที่ 7 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องจัดการศึกษา
ท่ีเป็นเรื่องๆ แบ่งเป็นหมวดหมู่พร้อมกับการสร้างความใกล้ชิดด้วยการกินอาหารร่วมกันบางม้ือ
การศึกษาท่ีเป็นหมวดหมู่ถือเป็นการศึกษาเฉพาะกิจที่ไม่ต้องใช้เวลามากแต่สามารถ สร้างความเข้าใจ
ในเร่อื งนนั้ ๆไดอ้ ย่างดโี ดยแบง่ เรอื่ งที่ตอ้ งการจะศึกษาเป็นหมวดหม่ตู ามความตอ้ งการของเยาวชนหรือ
ตามสภาพปัญหาท่ีเกิดขึ้นในสังคมโดยเฉพาะในเรื่องหลักปฏิบัติและหลักศรัทธาที่ยังมีเยาวชนบางคน
ท่ีป ฏิ บั ติ ไม่ ถูก ต้องแ ละมี ความ เข้าใจผิด ซ่ึงสามารถ เป รียบ เที ยบ รู ป แบ บ การจั ดการศึ กษ าท่ี เป็ น
หมวดหมู่นนั้ เหมอื นการเรียนพิเศษของเยาวชน

ผู้เข้าร่วมคนที่ 8 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดควรเปิดช่องทาง
การศึกษาในช่องทางที่หลากหลายโดยเฉพาะช่องทางเทคโนโลยี ในเม่ือเยาวชนเป็นกลุ่มคนที่นา
เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการดาเนินชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ซ่ึงเทคโนโลยีนั้นมีทั้งคุณประโยชน์และโทษ
การเปิดช่องทางการศึกษาในช่องทางเทคโนโลยขี องคณะกรรมการอสิ ลามประจามัสยิดก็เป็นสงิ่ ที่ดีอีก
รปู แบบหนึ่งทส่ี ามารถตอบคาถามของเยาวชนอยา่ งเรว็ โดยไม่ตอ้ งคานึงถงึ เวลา สถานทห่ี รือข้อคาถาม
ที่จะถามซ่ึงบางครั้งการถามคาถามน้ันสามารถถามตรงประเด็นโดยไม่มีความรู้สึกอายหรือก ลัวใน

186

คาถามที่ออกมาพร้อมกับการสร้างความเข้าใจและสร้างการรับรู้ในส่ิงที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอีก
ดว้ ย”

ทั้งน้ีอิสลามก็ได้ให้ความสาคัญต่อการอยู่ในระบบชมรมหรือท่ีเรียกว่า ญะมาอะฮฺ
โดยมีผู้นาและผู้ตามเป็นองค์ประกอบหนึ่งพร้อมกับการปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อบังคับและ
กระบวนการต่างๆของชมรม เช่น ประชุม แต่งตั้งคณะกรรมการชมรม แบ่งหน้าท่ี ดาเนินงานและ
ติดตามพร้อมกับประเมินผลจึงจะนาชมรมไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างสมหวังและสามารถกาหนด
แนวทางและเสนอทางออกตอ่ สังคมอีกดว้ ย

8.3 แนวทางในการพัฒนาเยาวชนดา้ นกิจกรรม
ผู้เข้าร่วมคนท่ี 9 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องให้มัสยิด

เป็นศูนย์กลางของชมุ ชนในทกุ ๆเรอื่ งโดยเฉพาะในเรอื่ งของกิจกรรม โดยปกติมัสยิดเป็นสถานทร่ี วมตัว
กันของมุสลิมหรือเม่ือมีเร่ืองด่วนท่ีหน่วยงานต่างๆจะประชาสัมพันธ์ ซ่ึงกิจกรรมเหล่านั้นก็ได้
ดาเนินการเป็นเวลาอันยาวนาน จนทาให้ชุมชนนึกถึงมัสยิดโดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์คนเสียชีวิต
ที่ทางมัสยิดต้องประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบอย่างละเอียดโดยสามารถกล่าวได้ว่ามัสยิดเป็น
ศูนย์กลางในการประชาสัมพันธ์ ซึ่งการท่ีมัสยิดเป็นศูนย์กลางของการประชาสัมพันธ์ก็เป็นการง่ายใน
การท่ีจะทาให้มัสยิดเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมมัสยิดเป็นศูนย์กลางของชุมชนถือเป็น
ศนู ยก์ ลางของชุมชนทที่ ุกคนในชมุ ชนให้ความสาคัญ”

ผู้เข้าร่วมคนท่ี 10 ให้ความเห็นว่า “คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องสร้างความ
ใกล้ชิดและให้ความสาคัญต่อเยาวชนด้วยกิจกรรม การสร้างความใกล้ชิดและให้ความสาคัญต่อ
เยาวชนน้ันเป็นเรื่องที่สมควรตอ้ งได้รับการตระหนักอย่างย่ิงจากผู้นาศาสนาโดยเฉพาะคณะกรรมการ
อิสลามประจามัสยิด ซึ่งการสร้างความใกล้ชิดน้ันเป็นเรื่องที่ทางมัสยิดต้องมีการประชุมในการวาง
รูปแบบหรือแนวทาง วัตถุประสงค์และเป้าหมายของเยาวชนอย่างชัดเจนและนามติการประชุมมา
ปฏบิ ัตใิ นแนวทางเดียวกันตามที่ทกุ คนเห็นชอบโดยไม่ได้มอบหมายความรบั ผิดชอบกับบุคคลใดบุคคล
หนึ่งแต่เป็นหน้าท่ีของทุกคนที่เป็นคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องปฏิบัติเช่นการสร้างความ
ใกล้ชิดด้วยกิจกรรมพูดคุย ถามทุกข์สุขและมอบความหวังต่อเยาวชน เมื่อการให้ความสาคัญของ
คณะกรรมการอสิ ลามประจามัสยดิ ต่อเยาวชนเกิดขน้ึ โดยอตั โนมตั ิเยาวชนกจ็ ะมคี วามรสู้ ึกการมีคุณค่า
ของตนในสายตาสังคมทีก่ าลังมองอยแู่ ละกาลังมอบความหวังให้”

187

ผู้เข้าร่วมคนที่ 11 ให้ความเห็นว่า “ความห่างเหินของเยาวชนกับมัสยิดท่ีปรากฏใน
ชุมชนมุสลิมโดยภาพรวม การท่ีเยาวชนจะเข้ามัสยิดด้วยวัตถุประสงค์เพ่ือการปฏิบัติศาสนกิจมีน้อย
มาก การท่ีจะมอบให้เยาวชนเป็นผู้นาละหมาด อ่านคุ ฏ บะฮฺและอ่ืนๆก็เป็นไปได้ยาก
ดังน้ันคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดต้องพยายามหากิจกรรมใหม่ๆ ที่สามารถสร้างความรู้สึก
ให้กับเยาวชนวา่ ตนเปน็ ส่วนหนงึ่ ของชมุ ชนและเป็นความหวงั ของสังคม”

ผู้เข้าร่วมคนท่ี 12 ให้ความเห็นว่า “การจัดกิจกรรมพบปะครอบครัวในชุมชนคงจะ
เป็นกิจกรรมใหม่อีกกิจกรรมหนึ่งโดยให้ทุกครอบครัวมารวมตัวกันท่ีมัสยิด มีการเปิดพิธีด้วยการ
อ่านอัลกุรอานท่ีมาจากตัวแทนของครอบครัว เล่นเกมด้วยกัน ทานอาหารร่วมกัน บอกความรู้สึกถึง
กิจกรรมพบปะครอบครัว มอบรางวัลให้กับครอบครัวดีเด่นตามความเห็นชอบของผู้เข้าร่วมและขอ
ข้อเสนอแนะพร้อมกับเชิญผอู้ าวุโสในชุมชนเปน็ ผู้กล่าวปิด”

ผเู้ ข้าร่วมคนที่ 13 ให้ความเห็นว่า “รูปแบบการจัดกจิ กรรมเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสในชุมชน
โดยที่เยาวชนได้เลือกบุคคลที่จะไปเยี่ยมเยียน แจ้งวนั เวลาให้ทราบ พาสิ่งของที่จะมอบ พบปะพูดคุย
ในประเดน็ ทเ่ี ยาวชนต้องการทราบและสุดท้ายขอคาแนะนาและมอบส่งิ ของเพ่ือเป็นการขอบคณุ ”

ผเู้ ขา้ ร่วมคนที่ 14 ให้ความเห็นว่า “รูปแบบการจัดกิจกรรมกีฬาสีโดยเรม่ิ ด้วยการประชุม
คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิด แต่งตั้งคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดให้เป็นหัวหน้าสี ร่าง
กาหนดการ แต่งตั้งคณะกรรมการในการจัดกิจกรรมกีฬาสี ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบ แจ้งงบท่ี
ต้องใช้จ่าย ของบสนับสนุนงบจากผู้ที่มีจิตศรัทธาและดาเนินการกิจกรรม ซ่ึงในกิจกรรมดังกล่าวจะ
มอบใหค้ ณะกรรมการที่รับผดิ ชอบดแู ล”

ทั้งนี้ศาสนาอิสลามก็ได้มีกิจกรรมทางศาสนาต้ังแต่เกิดจนเสียชีวิตโดยมีกิจกรรมที่
ตอ้ งปฏิบตั ิ ห้ามปฏิบัติและกิจกรรมที่สามารถเลือกปฏบิ ัติได้ ซึ่งกิจกรรมเหล่าน้นั จะครอบคลุมรายวัน
รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี จนสามารถกลา่ วได้วา่ อิสลามเปน็ ศาสนาทเี่ ต็มไปดว้ ยกจิ กรรม

9. ข้อเสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการวิจัยบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดใน

การพัฒนาเยาวชนไปปรับใช้ มีดังนี้

188

9.1 ข้อเสนอแนะในการนาผลการวิจยั ไปประยกุ ต์ใช้
จากการวจิ ัยบทบาทคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดในการพัฒนาเยาวชนในเขต

อาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พบว่าบทบาทในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก และเพื่อสร้างคุณภาพใน
การพัฒนาเยาวชน ผวู้ ิจัยใคร่ขอเสนอแนะแนวทางดงั น้ี

9.1.1 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดควรสร้างความใกลช้ ิดกับเยาวชน
9.1.2 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยดิ ควรก่อตงั้ ชมรมเยาวชนท่ีอยู่ภายใตก้ ารกากับดูแล
ของมัสยิด โดยมีระเบียบของชมรมมาบังคับใช้พร้อมกับกาหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์และแนวทางการ
ปฏิบตั งิ านที่สามารถประเมนิ และติดตามโดยมัสยิดอกี ดว้ ย
9.1.3 คณะกรรมการอิสลามประจามัสยิดควรช้ีแนะเยาวชนในทุกๆกิจกรรมท่ีได้จัด
ขึ้น ซึ่งเยาวชนถือเป็นเสาหลักของสังคมที่มีความสามารถเหนือบุคคลอื่นเนื่องด้วยความแข็งแกร่งใน
ด้านจิตใจและร่างกายแต่เมื่อปราศจากการช้ีแนะจากบุคคลท่ีมีประสบการณ์สังคมนั้นก็จะไม่ประสบ
ความสาเรจ็ อีกเชน่ กัน
9.1.4 การพัฒนาเยาวชนต้องมีแนวทางท่ีหลากหลายเพ่ือไปปรับใช้กับใครคนใดคน
หน่ึงให้ไดผ้ ลและสาเรจ็ เนื่องจากความไม่เหมือนของแต่ละบุคคล บางทีแนวทางและรปู แบบการสร้าง
อาจจะสาเร็จกับคนน้ี แต่แนวทางและรูปแบบการสร้างเดียวกันน้ีอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับอีกคนหน่ึง
ดังน้ันผู้นาจงึ จาเป็นจะต้องรู้จกั และเข้าใจบคุ คลท่ีกาลังสร้างอยอู่ ยา่ งแท้จริง พร้อมด้วยความไม่ทอ้ แท้
ต่อบททดสอบที่ไดเ้ ผชิญอยู่ ซ่งึ ไม่มีความสาเร็จทไ่ี ด้มายกเวน้ ต้องไดร้ ับการทดสอบจากอลั ลอฮ์ 
9.2 ข้อเสนอแนะในการทาวิจัยครง้ั ต่อไป
9.2.1 เสนอใหม้ ีการสมั ภาษณ์ เจาะลึกในประเด็นแนวทางในการพัฒนาเยาวชนและ
ดาเนินการวิจัยต่อในเร่ืองดังกล่าวเพ่ือสามารถนาแนวทางการพัฒนาเยาวชนใช้จริงในบริบทสังคมที่
แตกตา่ งกนั
9.2.2 เสนอใหม้ กี ารศึกษาวิจัยเกยี่ วกบั ความคดิ เหน็ ความพึงพอใจของเยาวชนและสัปบุรุษ
ตอ่ บทบาทของคณะอสิ ลามประจามสั ยิด
9.2.3 เสนอให้มีการศึกษาเก่ียวกับบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิด
กับการสร้างผนู้ าที่มีศักยภาพในการสืบทอดบทบาทผู้นาต่อไป

189

บรรณานกุ รม

หนงั สอื
สมาคมศิษยเ์ ก่าอาหรับประเทศไทย. 1999. พระมหาคมั ภีรอ์ ัลกุรอานพร้อมความหมายภาษาไทย.

อัลมะดนี ะฮฺ อัลมเุ นาะวะเราะฮฺ : ศนู ย์กษัตริย์ฟะฮดฺ ์ เพอ่ื การพิมพอ์ ลั กรุ อาน
ราชกิจจานเุ บกษา. 2540. พระราชบัญญัติการบรหิ ารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540.
วนิ ัย สะมะอนู . 1996. คมู่ อื การบริหารมสั ยดิ และชมุ ชน พมิ พ์ที่ โรงพมิ พ์การศาสนา กรงุ เทพมหานคร
หนังสือแปล
Ahmad Yānī . 2000. Panduan Memakmurkan Masjid Kajian Praktis bagi

Aktivis Masjid. Jakarta : Penerbit Dea Press

หนงั สอื ภาษาอาหรบั

Abū Dāwūd, Sulaiman bin al-’Ash‘ath. n.d. Sunan Abī Dāwūd(‫(سنن أبي داود‬.Bairūt :
Maktabah al-‘Aṣriyyah

Ibn Kathīr, Ismā‘il bin ‘Umar. n.d. Tafsīr al-Qur’ān al-‘Azīm(‫)تفسير القرآن العظيم‬.
Dār al-Ṭoyyibah lin Nashr wal Tawzī ‘i

Muhammad Nāṣiruddīn al-Albāniy. n.d. Ṣaḥīḥ wa Da‘iīf Sunan Abī Dāwūd )‫صحيح‬

‫)وضعيف سنن أبي داود‬. Markaz Nūr Islām li Abḥāth al-Qur’ān wa al-Sunnah bi

Askandariyyah
___________________________. n.d. Ṣaḥīḥ wa Da‘iīf Sunan al-Tirmidhīy( ‫صحيح‬

‫) وضعيف سنن ا لترمذ ي‬. Markaz Nūr Islām li Abḥās al-Qur’ān wa al-Sunnah bi
Askandariyyah

al-Qurṭubiy, Muhammad bin Ahmad. 1964.al-Jāmi‘u li ’Ahkām al Qur’aān( ‫الجامع‬

)‫لأحكام القرآن‬. al Qāhirah : Dār al-Kutub al-Miṣriyyah

al-Sa‘adiy, Abdur Rahmān bin Nāṣir. 2000. Taisīr al-Karīm al-Rahmān fi Tafsīr

Kalām al-Mannān(‫(تيسير الكريم الرحمن في تفسيركلام المنان‬. Mu’assasah al-Risālah

al-Tirmidhiy, Muhammad bin ‘Isa bin Thaurah. 1975. Sunan al-Tirmidhiy )‫سنن‬
‫)الترمذي‬. Misr : Sharkah Maktabah wa Mutaba‘ah Musṭafā Bābī al-Halaby

al‘Usaimīn, Muhammad bin Sōlih. 1957. Sharah Riyād al-Sōlihīn )‫ش رح رياض‬

‫(الصالحين‬. Riyād : Dār al-Waṭon li al-Nashr

190

รายงานวจิ ยั /วทิ ยานพิ นธ์
ดรัลรัตน์ ภมรบุตร. 2007. บทบาทของผู้นาศาสนาอิสลาม(โต๊ะอิมาม) ในการบริหารพัฒนาชุมชน

มุสลิม : กรณีศกึ ษามสั ยิดในเขตมีนบรุ .ี วทิ ยาลัยศาสนศึกษา มหาวทิ ยาลัยมหิดล
อับดุลลอฮมาลิก หมัดเหระ. 2012. การดูแลเยาวชนตามวิถีแห่งศาสนาอิสลามของผู้นามุสลิมใน

สาม จังห วัด ช ายแ ด น ภ าค ใต้ .วิท ยานิ พ น ธ์สาขาวิช าพั ฒ น าม นุ ษ ย์แ ละสั งค ม
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อบั ดุลอาซซิ เจ๊ะมามะ. 2012. ภาวะผู้นาและบทบาทของอิมามในการจัดการศูนยก์ ารศึกษาอสิ ลามประจา
มัสยิด (ตาดีกา) ในจังหวัดนราธิวาส.วิทยานิพนธ์สาขาอิสลามศึกษา วิทยาลัยอิสลามศึกษา
มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์
อิบรอฮิม ตาเยะ. 2012. บทบาทด้านศาสนา การศึกษาและการบริหารของอิมามในจังหวัดนราธิวาส.
วทิ ยานิพนธส์ าขาอสิ ลามศึกษา วิทยาลัยอสิ ลามศกึ ษา มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์
บคุ ลานุกรม
บรอเฮง แวนาแว. 2017 สมั ภาษณ,์ วนั ท่ี 20 ตุลาคม

191

ประวัตผิ ู้เขียน

ชอ่ื สกุล นายมูหามะ แวนาซา

รหัสประจาตัวนักศกึ ษา 5720420011

วฒุ ิการศกึ ษา

วุฒิ ชือ่ สถาบนั ปีทส่ี าเร็จการศกึ ษา

ศกึ ษาศาสตรบัณฑติ (การสอนอิสลาม) มหาวทิ ยาลัยอินโดนเี ซยี 2547

ตาแหน่งและสถานท่ที างาน

วิทยากรอสิ ลามศึกษา โรงเรียนบ้านตาบา ตาบลเจ๊ะเห อาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สังกดั สานักงาน

เขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานราธวิ าส เขต 2

การตีพิมพเ์ ผยแพร่ผลงาน
มูหามะ แวนาซา และอีสมาแอ กาเต๊ะ. (2562). บทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจามัสยิด

ในการพัฒนาเยาวชนในเขตอาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส. เอกสารประกอบการประชุม
วิชาการระดับชาติและนานานชาติด้านอิสลามศึกษาและการศึกษาเพ่ือพัฒนา, “The 2nd

National and International Conforence on Islamic Education and Education for

Development” 14–15 มนี าคม 2562 ณ มหาวิทยาลยั ราชภฎั ยะลา


Click to View FlipBook Version