2. การวิ่ง การวิ่งเป็นการเพิ่มแรงให้กระโดดได้สูงขึ้น และเป็นการเลือกจุดและจังหวะของการกระโดด ที่เหมาะสม ก่อนที่จะออกวิ่งผู้ตบต้องคิดคาดคะเนตั้งแต่เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมรับลูกบอลจังหวะแรก ที่ส่งไปยังคนเซต โดยคำนวณระยะทาง ทิศทาง ความเร็ว ความโค้งและจุดตกของลูกบอลจาก การเซตลูกจังหวะสอง เมื่อคาดคะเนสิ่งต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ก็พร้อมที่จะออกวิ่ง การวิ่งเร็วหรือช้าจำนวนก้าวมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม แต่จุดมุ่งหมายเพื่อวิ่งไปกระโดดขึ้น ดังนั้นถ้าจังหวะของการวิ่งไม่ดีจะทำให้การกระโดดไม่ดีตามไปด้วย จังหวะและทิศทางของการวิ่ง ขึ้นอยู่กับความเร็วความช้าและความสูงของลูกบอลด้วยเนื่องจากความเร็วในการวิ่งของแต่ละคน แตกต่างกัน ผู้ที่เคลื่อนไหวช้า ควรออกวิ่งให้เร็ว คนที่เคลื่อนไหวเร็ว อาจเริ่มวิ่งช้าๆ ก่อน แสดงลักษณะการวิ่งเพื่อเข้าตบลูกบอล การตบแบบวิ่งสองก้าว การตบลูกแบบวิ่งสองก้าว มักจะใช้ในการตบลูกเร็วผู้ตบจะยืนอยู่บริเวณเส้นรุกถ้าตบลูก ด้วยมือขวาจะเริ่มก้าวเท้าซ้ายยาวๆเป็นก้าวแรก พร้อมกับย่อตัวตำ่ ลงเพื่อให้เกิดแรงส่งขณะกระโดด แล้วก้าวเท้าขวาตามเป็นก้าวที่สอง ปลายเท้าขวาอาจจะเสมอหรือเหลื่อมกับปลายเท้าซ้ายเล็กน้อย การตบแบบวิ่งสามก้าว การตบแบบวิ่งสามก้าวนี้ถ้าตบลูกบอลด้วยมือขวาจะเริ่มก้าวแรกด้วยเท้าขวาและก้าวเท้า ซ้ายตามเป็นก้าวที่สอง ก้าวที่สามจะก้าวเท้าขวายาวๆ ขณะลอยตัวกระโดดขึ้นตบให้ลากเท้าซ้าย ตามเท้าขวาเล็กน้อย การตบที่วิ่งมากกว่าสามเก้า การตบที่ผู้ตบต้องวิ่งมากกว่าสามก้าวซึ่งอาจจะวิ่งถึง 7-8 ก้าว จะใช้สำหรับการตบ ลูกยาวหรือลูกโด่งสูง การวิ่งก้าวแรกๆ จะสั้น แต่ก้าวสุดท้ายต้องก้าวยาว การที่ก้าวแรกๆ สั้นๆ เพราะเป็นการสร้างความเร็วในการกระโดด ถ้าก้าวแรกยาวจะไม่สามารถสร้างความเร็วในก้าวต่อไป ก้าวสุดท้ายให้ก้าวยาวเพราะเป็นจุดของจังหวะการกระโดด หากก้าวสั้นอีกอาจจะเสียจังหวะ หรือชนตาข่ายได้ 144 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
3. การกระโดด จุดมุ่งหมายของการกระโดดเพื่อสร้างความสูงสิ่งที่จะช่วยให้เกิดแรงส่งให้ลอยตัวสูงขึ้นอีก ก็คือ การเหวี่ยงแขน สปริงข้อเท้า การยืดลำตัว มุมของเข่า คือ ก่อนการกระโดดเข่าต้องงอเล็กน้อย โน้มตัวไปข้างหน้าเหวี่ยงแขนทั้งสองไปข้างหน้าเหยียดตัวขึ้นพร้อมกับใช้แรงสปริงจากข้อเท้ากระโดดขึ้น การกระโดดใช้ทั้งปลายเท้าและส้นเท้า การกระโดดด้วยปลายเท้าใช้เมื่อตบลูกเร็วหรือลูกสั้น หรือลูกใกล้ตาข่ายส่วนการกระโดดด้วยส้นเท้าการลอยตัวจะสูงกว่าจึงใช้ตบลูกไกลหรือลูกห่างตาข่าย 4. การเหวี่ยงแขน การเหวี่ยงแขนนอกจากจะช่วยให้มีแรงส่งตัวลอยขึ้นแล้วยังช่วยให้การทรงตัวดีโดยบังคับ ไม่ให้ตัวพุ่งไปข้างหน้าและช่วยให้ลอยตัวอยู่กลางอากาศได้นาน การเหวี่ยงแขนให้กำมือหลวมๆ กางแขนออกเล็กน้อย อย่าเหวี่ยงแขนไปข้างหลังมากเกินไป เพราะจะทำให้การเหวี่ยงแขนไปข้างหน้าช้าลงและจะเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างขึ้นอย ่างรวดเร็ว โดยเหยียดแขนซ้ายไปข้างหน้าเหมือนกับจะจับลูกบอลให้ข้อศอกขวาอยู่หลังใบหูขวา แอ่นลำตัว ไปข้างหลังแขนขวาเหยียดตรงไปตบลูกบอลด้วยฝ่ามือและข้อมือของแขนขวา โดยหักข้อศอก ขณะเหวี่ยงลำตัวโค้งไปข้างหน้า ขณะจะตบลูกบอลให้เหวี่ยงแขนทั้งสองข้างขึ้นอย ่างรวดเร็ว โดยเหยียดแขนซ้ายไปข้างหน้าเหมือนกับจะจับลูกบอลให้ข้อศอกขวาอยู่หลังใบหูขวา เหยียดแขน ตรงไปตบลูกบอลด้วยฝ่ามือและหักข้อมือลง ลักษณะของแขนที่ตบจะเหยียดตึง ข้อมือจะต้องสะบัด ลงเหมือนกับการใช้แส้ตีวัวหรือตีม้า การตบนอกจากการยกแขนและเหวี่ยงแขนอย่างถูกต้องแล้ว ยังต้องใช้ข้อมือด้วย แสดงลักษณะท่าทางของแขนในการตบลูกบอล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 145
5. การลงสู่พื้น เนื่องจากขณะตบลูกบอลจะยกไหล่ขวาขึ้นสูงกว่าไหล่ซ้าย (ผู้ตบลูกบอลด้วยมือขวา) ดังนั้น ขณะลงสู่พื้นเท้าซ้ายมักจะลงสู่พื้นก่อน ทำให้เท้าซ้ายต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจึงทำให้ ข้อเข่าได้รับบาดเจ็บ จึงควรฝึกหัดลงสู่พื้นด้วยเท้าคู่ และลงสู่พื้นด้วยปลายเท้าในลักษณะทิ้งย่อ คือเอนปลายเท้าลงสู่พื้นพร้อมกับงอเข่าพับตัวลงเล็กน้อยเมื่อลงสู่พื้นแล้วให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อม ที่จะเล่นลูกบอลได้ต่อไป การเหวี่ยงแขนและการลงสู่พื้นด้วยเท้าเดียวอย่างนี้ไม่ถูกต้องอาจได้รับ บาดเจ็บที่หัวไหล่และหัวเข่าได้ หลักสำคัญของการตบลูกบอลไว้ดังนี้ 1. การเคลื่อนที่เข้าหาบอลและกระโดดเพื่อทำการตบ การเคลื่อนที่เข้าหาบอล(Approaching and take off) เป็นจุดที่สำคัญที่สุดในการตบ 1.1 การก้าวเท้าเข้าบอล โดยปกติแล้วการก้าวเท้าเข้าหาบอล 2 ก้าวสุดท้ายของผู้เล่นที่ตบด้วยมือขวา จะก้าวด้วยเท้าขวาตามด้วยเท้าซ้ายและถีบตัวขึ้นจากพื้น การก้าวเท้าแบบนี้จะทำให้ตบบอลได้ใน จุดที่สูงขึ้น ควบคุมการทรงตัวได้ง่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีผลดีในการปรับจังหวะการถีบตัว ขึ้นจากพื้น แสดงลักษณะการก้าวเท้าเข้าหาบอล 1.2 การวิ่งเข้าหาบอลด้วยความเร็วเต็มที่ ทักษะการตบบอลเปลี่ยนทิศทาง เช ่น วิ่งเข้าหาบอลเป็นแนวเฉียงกับสนาม แต่เปลี่ยนทิศทางตบบอลเป็นแนวตรงต้องอาศัยการก้าวเท้าให้ยาวเต็มที่ เมื่อเริ่มต้นวิ่งเข้าหาบอล แล้วใช้2 ก้าวสุดท้ายปรับจังหวะในการถีบตัวขึ้นจากพื้นพร้อมทั้งบิดลำตัวเพื่อเปลี่ยนทิศทางจาก แนวเฉียงเป็นแนวตรง 146 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
2. การถีบตัวจากพื้นและการกระโดด (Take off and Jump) เป็นการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องกันมาก และเป็นจุดสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้เล่นกระโดด ได้สูงสุดผู้เล่นหลายๆ คนมีกล้ามเนื้อดีมาก แต่จังหวะการเคลื่อนไหวต่อเนื่องระหว่างการถีบตัว จากพื้นและการกระโดดไม่ดีจึงเป็นเหตุให้กระโดดได้ไม่สูงสุด ดังนั้น เทคนิคการฝึกตบบอลจะต้องเป็นไปอย่างถูกต้องตั้งแต่การเคลื่อนที่เข้าหาบอล (Approaching) การถีบตัวจากพื้น (Take off) การกระโดด (Jump) การเหวี่ยงลำตัวและแขน (Arms and Back Swing) หากการเคลื่อนไหวจุดใดจุดหนึ่งขาดความต่อเนื่อง จะทำให้ประสิทธิภาพในการตบ ลดลงกว่าที่ควรจะได้รับ 2.1 มุมในการย่อตัวเพื่อกระโดดตบบอล ผู้เล่นจะกระโดดได้ไม่สูง ถ้าการย่อตัวต่ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไปในขณะที่ก้าวเท้า ก้าวสุดท้ายเพื่อถีบตัวขึ้นจากพื้น การย่อตัวที่ถูกต้อง สะโพกและหัวเข่าต้องงอเป็นมุม 90-100 องศา สรุปแล้ว ข้อสำคัญในการกระโดดจะอยู่ที่ 2 ก้าวสุดท้ายและการย่อตัว เพราะ จะช่วยในการปรับจังหวะ เปลี่ยนทิศทาง และช่วยให้กระโดดได้สูง แสดงลักษณะการวิ่งเข้าหาบอลด้วยความเร็วเต็มที่ แสดงลักษณะมุมในการย่อตัวเพื่อกระโดดตบบอล คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 147
2.2 การก้าวเท้าลักษณะหันปลายนิ้วเท้าเข้าหากัน การก้าวเท้ามีลักษณะหันปลายนิ้วเท้าเท้าทั้งสองข้างเข้าหากันเล็กน้อย ทั้งนี้เพื่อให้ พลังของกล้ามเนื้อขาทั้งหมดมีศูนย์รวมที่หัวเข่าและจะทำให้กระโดดได้สูงสุด ถ้าปลายนิ้วเท้าหันออกจากกันขณะก้าวเท้า ศูนย์พลังจะกระจายออกกระโดดได้ สูงสุดน้อยลง เรื่องเล็กๆ น้อยๆเช่นในรูปสุดท้ายเป็นรูปที่สำคัญ มิฉะนั้นแล้วฝึกซ้อมกันหนักเพียงใด ก็จะไม่ได้รับผลสำเร็จสูงสุด แสดงลักษณะการก้าวเท้าลักษณะหันปลายนิ้วเท้าเข้าหากัน 3. การเหวี่ยงแขนและลำตัวเพื่อตบบอล การฝึกเหวี่ยงแขนและลำตัวนี้สามารถช่วยให้ ตบบอลได้รุนแรง และตบได้ในจุดที่สูงสุด จุดสำคัญที่จะตบบอลได้ในจุดสูงสุดก็คือ จังหวะสุดท้าย ในการเหวียงแขนและลำตัว การตบบอลข้อศอกและลำตัวจะต้องเหยียดตรงขณะที่ฝ่ามือลูกบอลพอดี 3.1 การเหวี่ยงแขน แสดงลักษณะการเหวี่ยงแขนเพื่อการตบ 148 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
3.2 การใช้แรงเหวี่ยงของลำตัว เมื่อบอลที่เซตมาให้ตบห่างจากตาข่ายลอยมาช้าและสูงผู้เล่นสามารถใช้แรงเหวี่ยง ของลำตัวช่วย โดยง้างข้อศอกให้กว้าง ยืดหน้าอก แอ่นหลัง แล้วตบบอล ขาข้างขวาที่งอ 90 องศา จะเหยียดออกเพื่อทำการตบเพื่อช่วยสร้างพลังในการตบให้รุนแรงยิ่งขึ้น แสดงลักษณะการใช้แรงเหวี่ยงของลำตัว 3.3 การเหวี่ยงแขนเพื่อให้ตบบอลได้ในจุดสูงสุด การเหวี่ยงแขนตบบอล จังหวะที่ฝ่ามือจะถูกบอล ข้อศอกต้องตั้งสูง แขนเหยียดตรง จุดที่ฝ่ามือถูกบอลต้องถูกที่กึ่งกลางของบอลพอดีถ้าศอกไม่ตั้ง แขนไม่เหยียดตรง จุดที่ตบบอล จะอยู่ระดับต่ำ แสดงลักษณะการเหวี่ยงแขนเพื่อให้ตบบอลได้ในจุดสูงสุด คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 149
การตบลูกในลักษณะต่างๆ วิธีการตบลูกบอลสูง (หัวเสา) การตบลูกบอลสูง(หัวเสา) เป็นกลยุทธ์หลักของเกมการรุกประจำของทุกทีม อีกทั้งทุกทีม จะต้องมีผู้เล่นที่ตบลูกบอลสูงเป็นหลักของทีมอีกด้วยการตบลูกบอลสูงจะกระทำตรงตำแหน่งที่4 คือ หน้าซ้าย ชาญฤทธิ์วงศ์ประเสริฐ หลักการตบลูกบอลสูง มีดังนี้ 1.การเคลื่อนที่เข้าหาบอลโดยมองดูลูกบอลที่เซตมาจากตัวเซตซึ่งไปอยู่ในตำแหน่งสูงสุด ดังนี้ แสดงลักษณะการเคลื่อนที่ขณะลูกบอลอยู่ในตำแหน่งสูงสุด 2.การเคลื่อนที่เข้าหาบอลโดยมองดูลูกบอลที่เซตมาจากตัวเซตซึ่งไปอยู่ในตำแหน่งสูงสุด ดังนี้ แสดงลักษณะการก้าวเท้าก่อนก้าวสุดท้าย 150 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
3.การกระโดดหลังจากเหยียดเข่าและลำตัวอย่างแรงแล้วยกแขนทั้งสองขึ้นโดยงอข้อศอก ของแขนที่จะตบลูกบอล และตึงไปด้านหลังของไหล่ด้านนั้น แสดงลักษณะการกระโดดและดึงแขนไปด้านหลัง 4. การตบโดยลดแขนข้างที่ไม่ได้ตบลูกบอลลง เริ่มเหวี่ยงแขน บิดแขนที่ตบลูกบอลให้ ข้อศอกอยู่ชิดหูไหล่และแขนข้างที่ตบลูกจะต้องเหยียดให้เต็มที่ตบลูกบอลที่อยู่ด้านหน้าของไหล่ ที่ตบลูกด้วยการสะบัดมือลง ส่วนอีกแขนหนึ่งที่อยู่ต่ำกว่าให้ชิดลำตัว แสดงลักษณะการตบลูกบอลโดยตบลูกบอลด้านหน้าหัวไหล่ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 151
วิธีการตบลูกเร็ว (Quick Spike) การตบลูกเร็ว (Quick Spike) เป็นกลยุทธ์ของการรุกที่ถือว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยเหตุผลเป็นการรุกที่เร็วฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถตั้งรับหรือสกัดกั้นได้ทัน เหมาะสำหรับทีมที่มีผู้เล่น มีความคล่องตัวสูง สามารถสร้างเกมรุกได้ทันทีเมื่อรับบอลแรกส่งให้ตัวเซต เซตลูกให้ผู้ตบๆ ลูกเร็ว เกมรุกจะเร็วมาก ทำให้ทีมฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถป้องกันหรือโต้ตอบด้วยการรุกที่มีประสิทธิภาพได้ มีดังนี้ 1.ตัวเซตปรับจังหวะเพื่อการเซตโดยปรับเปลี่ยน ท่าทางของตัวเซตของตัวตบจะต้องเข้าหาอย่างรวดเร็ว จับจังหวะเพื่อการกระโดด 2. การกระโดดขึ้นก ่อนที่ตัวเซตจะถูกลูกบอล จากนั้นตัวเซตๆ ลูกไปข้างหน้าในจุดที่สัมผัส 3. ในจังหวะสูงสุดของการกระโดดให้ตบบริเวณ บนสุดของลูกบอล ด้วยการเหวี่ยงแขนอย ่างเร็วและ หักข้อมือลง แสดงลักษณะการเคลื่อนที่เข้าตบลูกบอล แสดงลักษณะการกระโดดขึ้นก่อนที่ตัวเซตจะถูกบอล แสดงลักษณะจังหวะสูงสุดของการกระโดด 152 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
วิธีการตบเพื่อการรุกในแบบต่างๆ วิธีการตบเพื่อการรุกในแบบต่างๆ ดังนี้ 1. การตบลูกสูง ตัวเซตจะอยู่บริเวณกึ่งกลางตาข่ายหรือค่อนข้างไปทางด้านข้างเล็กน้อย แล้วเซตบอลให้สูงไปที่บริเวณปลายสุดของตาข่ายด้านหน้า เพื่อให้ผู้ตบสามารถตบได้ แสดงลักษณะการเคลื่อนที่เข้าตบลูกสูง 4. การตบลูกบอล บิดตัวไปทางด้านตรงข้าม เพื่อเปลี่ยนแนวทางในการตบ แสดงลักษณะการตบและการบิดตัว แสดงลักษณะการตบลูกเร็ว ด้านหน้า (A-Quick) 2. การตบลูกเร็วด้านหน้าหรือเรียกว่า A-Quick เป็นการตบที่ผู้เซตและผู้ตบต้องมีความสัมพันธ์กันมาก โดยผู้เซตจะพยายามเซตลุกให้ขึ้นจากมือเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ผู้ตบๆ ด้วยความรวดเร็ว คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 153
3. การตบลูกเร็วด้านหลัง ใช้วิธีการเหมือนกับ การตบลูกเร็วด้านหน้า แต่ต่างกันที่ผู้เซตลุกไปด้านหลัง เล็กน้อย ผู้ตบต้องกระโดดให้ไปทางด้านหลังผู้เซต 4. การตบลูกระยะกลางด้านหน้า หรือเรียกว่า B-Quick เป็นการตบลูกที่ความสูงปานกลาง ซึ่งผู้เซต จะเซตลูกไปทางด้านหน้าสูงประมาณ 1-1 ½ เมตร ผู้ตบสามารถตบในทิศทางต่างๆ ได้ 5. การตบลูกระยะกลางด้านหลัง ทำเช่นเดียว กับการตบลูกเร็วด้านหลัง แต ่ต ่างกันที่ระยะความสูง ของลูกบอลนั้นจะสูงกว่าเล็กน้อย แสดงลักษณะการตบลูกเร็วด้านหลัง แสดงลักษณะการตบลูกระยะกลาง ด้านหน้า B-Quick แสดงลักษณะการตบลูกระยะกลางด้านหลัง 154 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
2. การตบบอลเร็ว เอ. (A-Quick) ตัวตบจะกระโดดห่างจากตัวเซตเล็กน้อยลอยตัวขึ้น ในขณะที่ตัวเซตกำลังจะเซตบอลและจะตบบอลที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่บอลยังลอยไม่สูง การตบบอลเร็วเช่นนี้ทั้งตัวเซตและตัวตบต้องมีความสัมพันธ์ในเรื่องของจังหวะการเซต การกระโดดและการตบอย่างดียิ่ง การเล่นบอลเร็วแบบนี้ นิยมเรียกกันว่า “บอลเร็ว เอ.” ซึ่งเป็นพื้นฐานของบอลเร็ว แบบอื่นๆ ที่จะได้กล่าวถึงกันต่อไป บอลเร็ว เอ. (A-Quick) คือ การเซตบอลเร็วให้ตัวตบในระยะใกล้กับตัวเซตและอยู่หน้า ของตัวเซต วิธีการตบเพื่อการรุกในแบบต่างๆ ดังนี้ 1.การตบลูกสูงผู้เล่นตำแหน่งซ้ายหรือตำแหน่งที่4 ปกติแล้วจะเป็นตัวตบหลักของทีม และจะยืนห ่างจากตัวเซตมาก เป็นตัวตบที่ต้องมีลำหักลำโค่น เพราะเป็นตัวตบที่ทำคะแนน ให้กับทีมโดยมีตัวตบบอลเร็วหลอกให้แต่ต้องอาศัยการเซตที่แม่นยำ จึงจะทำให้การตบทำได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ให้สังเกตลักษณะข้อมือของตัวเซตเมื่อเซตบอลตัวเซตที่ดีข้อมือต้องยืดหยุ่นได้อย่างดียิ่ง เพราะต้องใช้ข้อมือดึงดูดบอล เร่งความเร็วของบอลและปรับทิศทางของบอลให้สัมพันธ์กับจังหวะ ของตัวตบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเซตบอลให้ตัวตบที่ตำแหน่งหน้าซ้ายอยู่ห่างจากตัวเซต แสดงการเซตบอลให้ผู้เล่นตำแหน่งหน้าซ้าย ทำการตบลูกสูง แสดงความสัมพันธ์ในการตบบอลเร็ว เอ. (A-Quick) คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 155
3. การตบบอลเร็ว บี. (Quick) คือ การเซตบอลเร็วให้ตัวตบทำการตบในระยะห่าง จากตัวเซตออกไปอีกเล็กน้อย คือ ห่างจากตัวเซตมากกว่าบอลเร็ว เอ. และการเซตบอลเร็ว บี. จะสูงกว่าบอลเร็ว เอ. เล็กน้อยด้วย โดยอยู่หน้าตัวเซตเช่นกัน ตัวเซตจะเคลื่อนที่ไปอยู่ใต้บอล รอตัวที่จะตบเพื่อให้จังหวะในการเซตบอลสัมพันธ์กับ ตัวตบ แล้วจึงเซตบอลอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่สูงนัก สำหรับตัวตบที่ต้องกระโดดขึ้นในขณะที่ตัวเซตทำการเซตซึ่งจะเป็นการกระโดดช้ากว่า การตบบอลเร็ว เอ. ที่ตัวตบต้องลอยตัวขึ้นก่อน ตัวเซตทำการเซตบอล จะเห็นว่าตัวตบกระโดดขึ้น ไปแล้วหยอดด้วยปลายนิ้ว แสดงความสัมพันธ์การตบบอลเร็ว บี. (B-Quick) แสดงลักษณะการตบบอลเร็ว ดี (D-Quick) แสดงลักษณะการตบบอลเร็ว ซี (C-Quick) 4.การตบบอลเร็ว ซี. (C-Quick)คือการเซตแบบเดียว กับบอลเร็ว เอ. แต่อยู่ด้านหลังของตัวเซต ยุทธวิธีการรุกแบบนี้ ตัวตบกระโดดจากด้านหลังของตัวเซต พร้อมกับที่ตัวเซตจะเซตบอล ให้การตบบอลเร็วซี. นี้ตัวตบต้องกระโดดก่อนที่ตัวเซตจะเซตบอล 5.การตบบอลเร็ว ดี. (D-Quick)คือการเซตแบบเดียว กับบอลเร็ว บี. แต่อยู่ด้านหลังของตัวเซตเช่นเดียวกับบอลเร็ว ซี. การเซตรูปนี้จะสามารถทำการรุกได้ทั้งการตบบอล ซี. และตบบอล ดี. ผสมกันไปผู้สกัดกั้นของทีมตรงข้ามในตำแหน่ง กลางหน้าจะทำการสกัดกั้นได้ยาก ในภาพจะเห็นว่า ผู้สกัดกั้นตำแหน่งกลางหน้าคาดว่า ทีมตรงข้ามจะรุกโดยการตบบอลเร็ว ซี. จึงพร้อมจะกระโดดขึ้น สกัดกั้น แต ่ทีมตรงข้ามกลับตบด้วยบอลเร็ว ดี. โดยมีผู้เล ่น หมายเลข 8 กระโดดหลอกเหมือนกับจะตบด้วยบอลเร็ว ซี. 156 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
แบบฝึกเพื่อการตบ แบบฝึกที่1 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬายืนเข้าแถวขนานตาข่าย 2 ด้าน จับบอลคนละลูก 2. ให้นักกีฬาโยนลูกขึ้นและตบบอลให้ลูกบอลหมุนลงพุงเข้าหาตาข่ายเพื่อฝึกหัด บังคับทิศทางและการหมุนของลูกบอล แบบฝึกที่2 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาจับคู่กัน ยืนเป็นแถวหน้ากระดาน 2 แถว แถวหนึ่งมีบอล 2. ให้นักกีฬาที่มีบอลชูลูกขึ้นสูงสุดแขนด้วยมือทั้งสอง แล้วนักกีฬาที่ไม่มีบอล ยืนทำท่าเงื้อมือจะตบลูก 3. เมื่อผู้ฝึกสอนให้สัญญาณให้นักกีฬาที่ยืนเงื้อมือ ตบลูกที่อยู ่ในมือของคู ่ โดยพร้อมเพรียงกัน แบบฝึกที่3 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาย่อตัวมือแตะพื้นที่เส้นบนข้างทั้งสอง หันหน้าเข้าสนาม 2. เมื่อผู้ฝึกสอนให้สัญญาณ ให้นักกีฬาทุกคนก้าวเท้าออกหน้า 1 ก้าว พร้อมกับรวบเท้าทำท่ากระโดดตบลูกในอากาศ 1 ครั้ง แล้วกลับเข้าที่เดิม คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 157
แบบฝึกที่4 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาวิ่งเหยาะๆ บนเส้นรอบสนาม 2. เมื่อผู้ฝึกสอนให้สัญญาณให้ผู้เล่นรวบเท้าทำท่ากระโดดขึ้นตบลูกในอากาศ 1 ครั้งแล้ววิ่งต่อ แบบฝึกที่5 วิธีปฏิบัติ 1. ให้นักกีฬาเคลื่อนไหว 1 ก้าว 2 ก้าว และ 3 ก้าว แล้วกระโดดตบมือเปล่า หรือ 2. ให้นักกีฬาถือบอลคนละลูกกระโดดในท่าตบลูกแล้วใช้วิธีขว้างบอล 2 มือ ข้ามตาข่ายไปลงแดนตรงข้าม 3. ให้นักกีฬาถือบอลกระโดดชูบอลเหนือตาข่ายแล้วปล่อยมือทั้งสองออกจาก ลูกพร้อมกับสะบัดมือตบบอลข้ามตาข่ายไปอย่างรวดเร็ว แบบฝึกที่6 วิธีปฏิบัติ 1. ให้นักกีฬาโยนบอลโด่งไปหน้าตาข่ายแล้ววิ่งไปกระโดดหยอดบอลข้ามตาข่าย ไปหรือ 2. ให้นักกีฬาโยนบอลโด่งไปหน้าตาข่าย แล้ววิ่งไปกระโดดตบลูกข้ามตาข่ายไปหรือ 3. ให้นักกีฬาโยนบอลโด่งในระดับต่างๆ แล้ววิ่งไปตบลูกให้ข้ามตาข่ายไปลง สนามด้านตรงข้ามในทิศทางต่างๆ แล้วแต่จะกำหนด 158 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
แบบฝึกที่5 วิธีปฏิบัติ 1. ให้นักกีฬาแต่ละแถววิ่งกระโดดทำตบลูกหน้าตาข่ายพร้อมๆกัน แล้วถอยกลับ ที่เดิมอย่างรวดเร็ว หรือ 2. ให้นักกีฬาแถวหนึ่งทำท่ากระโดดตบลูกอีกแถวหนึ่งย่อตัวทำท่ารับลูกสอง มือล่าง แถวที่กระโดดแล้วรีบถอยกลับที่เดิมอีกแถวหนึ่งวิ่งเข้าทำท่ากระโดดตบบ้างสลับกัน แบบฝึกที่6 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาเข้าแถวตอน 3 แถว และมีนักกีฬา 3 คน ยืนอยู่ใกล้ตาข่าย ดังรูป ให้นักกีฬาในแถวโยนบอลให้นักกีฬาที่อยู่หน้าตาข่ายๆ รับลูกได้แล้วก็โยนบอลขึ้นในระดับต่างๆ เพื่อให้นักกีฬาเจ้าของวิ่งเข้าไปกระโดดตบลูกข้ามตาข่ายไปลงแดนตรงข้าม 2. คนตบลูกแล้ววิ่งไปแทนที่คนโยน คนโยนแล้ววิ่งไปเก็บลูกไปต่อท้ายแถว หมุนเวียนกันเรื่อยไป (ตบ 1 ครั้ง โยน 1 ครั้ง แล้วเก็บลูกไปตบใหม่) คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 159
การสกัดกั้นหรือการบล็อก (Blocking) การสกัดกั้นหรือการบล็อก (Blocking) นับว่าเป็นทักษะการเล่นส่วนบุคคลที่มีความสำคัญมาก ทักษะหนึ่ง เนื่องด้วยการสกัดกั้นหรือการบล็อก เป็นทั้งการป้องกันการรุกของฝ ่ายตรงข้าม โดยผู้เล่นแดนหน้าแล้วการสกัดกั้นหรือการบล็อกที่มีประสิทธิภาพก็อาจจะเป็นการรุกได้โดยทันที ที่การสกัดกั้นแล้วลูกบอลตกลงบนพื้นของฝ่ายตรงข้าม การสกัดกั้นหรือการบล็อกอนุญาตให้ผู้เล่น ยื่นมือไปแดนของคู่ต่อสู้แต่ต้องไม่รบกวนหรือเล่นลูกบอลก่อนที่คู่ต่อสู้จะเล่นบอล ความหมายของการสกัดกั้นหรือการบล็อก (Blocking) กรมพลศึกษาให้ความหมายการสกัดกั้นไว้ว่าการสกัดกั้น คือวิธีการป้องกันการรุกของคู่ต่อสู้ ที่ถือว่าดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอาจทำเพียงคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ได้ การเตรียมพร้อมในการสกัด ท่าเตรียมพร้อมของผู้เล่นในการเตรียมตัวเพื่อการสกัดกั้นนั้นจะย่อตัวลงเล็กน้อย มือทั้งสองข้าง พร้อมที่จะเหยียดขึ้นสูงสายตาจ้องจับที่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าลูกฝ่ายตรงข้ามรุกด้วยบอลเร็วก็ต้องพร้อม ที่จะกระโดดได้ทันทีโดยมือทั้งสองยกเตรียมพร้อมอยู่ข้างใบหูเพื่อเอื้อมไปสกัดกั้นบอล การสกัดกั้นจะได้ผลหรือไม่นั้นจำเป็นต้องอาศัยการก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งปกติแล้ว ถ้าเป็น 1-2 ก้าว จะใช้วิธีการก้าวขึ้นไปด้านหน้า (Side Step) แต่ถ้าเกิน 2 ก้าว ควรใช้วิธีหันกลับตัว วิ่งและหยุดเท้าเพื่อกระโดดสกัดกั้นและถอยหลังออกจากตาข่ายให้ได้อย่างรวดเร็ว ในลักษณะ เป็นแนวเฉียงโดยใช้การก้าวเท้าแบบไขว้เท้า วอลเลย์บอลที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ในปัจจุบันเป็นเพราะดูมัน ทันใจ และ สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งจากได้เปรียบเป็นเสียเปรียบ แต่บางครั้งจากเสียเปรียบ เป็นได้เปรียบในชั่วพริบตาเดียว เทคนิคที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ก็คือ การสกัดกั้น จะได้ให้บ่อยๆเมื่อทีมที่ทำการรุก(Attacking)ต้องผิดหวังทั้งที่ขณะผู้เล่นกระโดดขึ้นตบ ทุกคนคิดว่าฝ่ายรับไม่มีทางจะรับได้แต่ชั่วเสี้ยวของวินาทีสถานการณ์อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งสกัดกั้นการตบไว้ได้อย่างที่เรียกกันว่า “ไม่รู้ว่าใครตบใคร” เป็นเหตุให้ฝ่ายหัวเราะ ต้องกลายเป็นฝ่ายร้องไห้อยู่บ่อยๆ และเป็นที่ยอมรับว่า การสกัดกั้นทำให้รับกลายเป็นรุกและ รุกกลายเป็นรับได้ในพริบตา การสกัดกั้นจึงเป็นเทคนิคที่น่าสนใจฝึกเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกับการเสิร์ฟ เพราะดูแล้ว เป็นเทคนิคธรรมดาๆ แต่ความจริงแล้วเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำทีมไปสู่ชัยชนะได้อย่างง่ายๆ 160 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
การเคลื่อนที่ในการสกัดกั้น การสกัดกั้นจะต้องเคลื่อนที่ไปช่วยกันสกัดกั้น 3 แบบ คือ 1. แบบสไลด์เท้า การเคลื่อนที่แบบสไลด์เท้าใช้เคลื่อนที่ระยะสั้นๆ โดยการก้าวเท้าไปข้างๆ แล้วลากอีกเท้าหนึ่งตาม เช่น เคลื่อนที่ไปทางขวา ให้ก้าวเท้าขวาไปข้างๆ 1 ก้าว แล้วลากเท้าซ้าย ตามเท้าขวา พร้อมกับถีบตัวขึ้นบล็อก 2. แบบก้าวไขว้เท้า การเคลื่อนที่แบบก้าวไขว้เท้านี้ใช้บล็อกเมื่อลูกบอลอยู่ไม่ไกลตัว สมมุติว่าจะบล็อกทางขวามือให้บิดลำตัวไปทางขวามือเล็กน้อย พร้อมกับถ่ายน้ำหนักตัวไปยังเท้า ขวาแล้วก้าวเท้าซ้ายไขว้หน้าเท้าขวา 1 ก้าว แล้วก้าวเท้าขวาตามไป ขณะที่ก้าวเท้าซ้ายลงสู่พื้น ให้บิดปลายเท้าเข้าหาตาข่าย พร้อมกับก้าวเท้าขวาตามในลักษณะเท้าขนานกันเพื่อหันหน้าเข้าหา ตาข่าย 3. แบบวิ่ง การเคลื่อนที่แบบวิ่งใช้สำหรับการเคลื่อนที่ไปบล็อกไกลจากตัวผู้บล็อก ถ้าวิ่งเฉียงขนานกับตาข่าย เมื่อถึงตำแหน่งที่จะบล็อกก็ปิดปลายเท้าของก้าวสุดท้ายให้ปลายเท้าชี้ เข้าหาตาข่ายแล้วกระโดดขึ้นบล็อกแต่ถ้าวิ่งเร็วมากจนไม่สามารถบิดปลายเท้าเข้าหาตาข่ายได้ทัน ลำตัวก็จะเฉียงเข้าหาตาข่ายในช่วงจังหวะที่กระโดดขึ้นไปแล้วจึงบิดตัวกลาอากาศเพื่อให้เป็นท่าทาง ในการบล็อกที่ถูกต้อง แสดงลักษณะการเคลื่อนที่แบบวิ่ง แสดงลักษณะการเคลื่อนที่แบบสไลด์เท้า แสดงลักษณะการเคลื่อนที่แบบก้าวไขว้เท้า 5 6 3 4 1 2 6 5 4 3 2 1 6 5 4 3 2 1 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 161
ชาญฤทธิ์วงประเสริฐกล่าวว่าการเคลื่อนไปข้างๆเพื่อทำการสกัดกั้นว่าการเคลื่อนที่ไป ด้านข้างขณะยืนอยู่ชิดกับตาข่าย สามารถเคลื่อนที่ได้3 แบบ คือ 1. ถ้าเป็นระยะใกล้ๆ ควรเคลื่อนที่วิธีก้าวเท้าไปด้านข้าง (Side Steps) แสดงลักษณะก้าวเท้าไปข้างหน้า (Side Steps) แสดงลักษณะการมองเพื่อการสกัดกั้น แสดงลักษณะการยืนเตรียมพร้อม 1. การมองเพื่อสกัดกั้น ลำดับการมองขณะทำการ สกัดกั้น ตามองที่ตัวตบและเปลี่ยนมาที่ตัวเซตแขนเหยียดขึ้น ด้านหน้าชิดกับตาข่าย 2. การเตรียมพร้อม ท่าเตรียมพร้อมยกมือขึ้น เข่างอ เล็กน้อยพร้อมที่จะเคลื่อนที่เท้าแยกออก ยืนห่างจากตาข่าย ประมาณ 1 ช่วงแขน ให้ไหล่ทั้งสองขนานกับตาข่าย วิธีการสกัดกั้นหรือการบล็อก (Blocking) ทรงศักดิ์เจริญพงศ์กล่าวถึงวิธีการสกัดกั้นหรือการบล็อก (Blocking) ไว้ดังนี้ 2 1 4 3 6 5 162 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
3. ถ้าต้องเคลื่อนที่เป็นระยะไกลกล่าวคือต้องก้าวเท้ากัน หลายก้าว การเคลื่อนที่โดยวิธีการไขว้เท้า (Cross Step) 4. การหมุนตัวกลับและวิ่งไปยังด้านนั้นๆ(Turntothe Side and Run) เป็นการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว โดยหมุนตัวไป ด้านข้างและวิ่ง แล้วจึงหันตัวกลับเข้าหาตาข่ายด้วยการหยุดเท้า แล้วสกัดกั้น 5. พร้อมที่จะเคลื่อนที่หลังจากเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งแล้ว ผู้สกัดกั้นต้องอ่านรูปแบบการรุกและพร้อมที่จะกระโดดตาดูที่มือ ของตัวเซต ถ้าเป็นการตบลูกเร็ว มือต้องยกสูงตลอด 6. การย่อเข่าลงให้มาก เมื่อเคลื่อนที่ไปถึงตำแหน่งแล้ว ผู้สกัดกั้นต้องพร้อมที่จะกระโดดให้เร็วที่สุด ตามองที่ตัวตบ ย่อเข่าลงให้มากเพื่อให้มีแรงส่งมาก แสดงลักษณะเคลื่อนที่แบบก้าวไขว้เท้า (Cross Step) แสดงลักษณะการเคลื่อนที่หมุนตัวกลับและวิ่งไปด้านข้าง แสดงลักษณะพร้อมที่จะเคลื่อนที่ แสดงลักษณะการย่อเข่าลง 2 1 4 3 6 5 6 5 4 3 2 1 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 163
7. การยกแขนขึ้น เหยียดขาขึ้น แขนเริ่มยกขึ้น เพื่อพร้อมที่จะเหยียดไปที่ด้านหน้าลำตัว พยายามรักษา การทรงตัวให้ดี 8. ไหล่ขนานตาข่าย เข่าและศอกเริ่มเหยียด โดยใช้ ข้อเท้าดันพื้น ไหล ่ยังคงขนานตาข ่ายแขนทั้งสองข้างอยู ่หน้า ลำตัวและใบหน้า 9. การเหยียดแขนและขา การเหยียดแขนให้ขึ้นไป เหนือตาข ่าย แขนอยู ่หน้าลำตัวเพื่อยื่นเข้าหาตาข ่ายได้อย ่าง รวดเร็วทุกส่วนของร่างกายต้องเหยียดให้มา 10. การเหยียดศอกต้องพยายามเหยียดแขนให้ล้ำแนว ตาข่ายเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามข้อศอกเหยียดให้สูงกว่า ตาข่าย ตาดูที่ตัวตบ แสดงลักษณะการยกแขนขึ้น แสดงลักษณะไหล่ขนานตาข่าย แสดงลักษณะการเหยียดแขนและขา แสดงลักษณะการเหยียดศอก 164 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
11. การเหยียดแขนชิดตาข่าย แขนและมือต้องกว้าง น้อยกว่าลูกบอล หักข้อมือลงเพื่อให้ลูกกระดอนลงพื้น แขนทั้งสอง อยู่ชิดตาข่ายเท่าที่จะทำได้ 12. การยื่นปลายแขน เหยียดไหล่และยื่นปลายแขน เข้าไปเหนือตาข่าย มือและนิ้วเกร็งแขนตึง 13. การยื่นมือไปที่ลูก แขนต้องใกล้ตาข ่าย ศีรษะ ตั้งตรงตามองที่ตัวตบ เหวี่ยงแขนขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับการยื่นมือ ไปหาตาข่าย แสดงลักษณะการเหยียดแขนชิดตาข่าย แสดงการยื่นปลายแขนเข้าไปเหนือตาข่าย แสดงการยื่นมือไปที่ลูก แสดงลักษณะการสกัดกั้นหรือการป้องกันของผู้เล่นแถวหน้า 3 คน คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 165
ชาญฤทธิ์วงษ์ประเสริฐกล่าวว่าลักษณะการสกัดกั้นแบบต่างๆ ดังนี้ 1. ท่าทางของผู้สกัดกั้น ตำแหน่งและการเคลื่อนที่ (Blockers Posture, Position and Movements) 1.1 ตำแหน่งและท่าทางของผู้สกัดกั้นผู้สกัดกั้นต้องยกมือ ทั้งสองข้างขึ้นมาระดับหัวไหล่หัวเข่าย่อลงเล็กน้อย และพุ่งความสนใจ ไปยังการเคลื่อนไหวของตัวตบทีมตรงข้าม เมื่อทีมตรงข้ามจะเริ่มทำการรุก ผู้สกัดกั้นต้องอยู่ในลักษณะย่อตัวลงตำ่พร้อมจะกระโดดโดยสะเอวและ หัวเข่างอทำมุมเกือบ 100องศาเพื่อให้ลอยตัวได้สูงที่สุดเมื่อกระโดดขึ้นไป แสดงลักษณะตำ�แหน่ง และท่าทางของผู้สกัดกั้น แสดงลักษณะของผู้เล่นแถวหน้า 3 คน ในการสกัดกั้น แสดงลักษณะมุมในการย่อตัวก่อนกระโดด สกัดกั้นเพื่อกระโดดให้สูงในการสกัดกั้น 1.2 ตำแหน ่งของผู้เล ่นแถวหน้า 3 คน ในการสกัดกั้น ถ้าทีมตรงข้ามมักจะทำการรุกด้วยการตบ บอลเร็วจากตำแหน่งกลางหน้า ผู้สกัดกั้นทั้ง 3 คน ต้อง ยืนใกล้ๆกันที่ตำแหน่งกลางหน้ามุ่งความสนใจไปที่ผู้เล่น ทีมตรงข้าม ซึ่งเคลื่อนที่ทำการตบท ่าทางของตัวเซต และการเคลื่อนที่ของตัวตบบอลเร็วตำแหน่งกลางหน้า เพื่อคาดการณ์ว่าทีมตรงข้ามจะใช้รูปแบบใดในการรุก 1.3 มุมในการย่อตัวก่อนกระโดดสกัดกั้นเพื่อกระโดดให้สูงในการสกัดกั้น ผู้เล่นต้อง ย่อตัวให้สะเอวและหัวเข่าทำมุมที่เหมาะสม แล้วจึงถีบตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกส่วนของลำตัวยืดตรง สะเอวและหัวเข่าควรทำมุมประมาณ 100 องศา เช่นเดียวกับการกระโดดตบบอลยกข้อศอกขึ้น ข้างลำตัว และเหวี่ยงแขนขึ้นเพื่อทำการกระโดด 166 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
2. การเอื้อมมือข้ามตาข่ายเข้าไปสกัดกั้น 2.1 ใช้การสกัดกั้นเป็นการรุก ตัวผู้สกัดกั้นเอื้อม มือเข้าไปในแดนของทีมตรงข้ามได้บอลจะสะท้อนกลับจากมือ เป็นมุมแคบๆ ฝ่ายตรงข้ามจะรับบอลได้ยากมาก การเอื้อมมือ เข้าไปสกัดกั้นในแดนของทีมตรงข้ามได้จะมีผลดีมากกว ่า การเหยียดแขนขึ้นสกัดกั้นในแดนของตนเอง 2.2 การสกัดกั้นเพื่อให้บอลสะท้อนกลับลงบน พื้นสนาม การสกัดกั้นให้บอลที่ทีมตรงข้ามตบมาสะท้อนกลับ ลงบนพื้นสนาม ต้องดึงสะโพกออกจากตาข ่าย แต ่เอื้อมมือ ข้ามตาข ่ายเข้าไปในแดนตรงข้าม พยายามทำมือให้เป็นรูป ของหลังคา แสดงลักษณะใช้การสกัดกั้นเป็นการรุก แสดงลักษณะสกัดกั้นเพื่อให้บอล สะท้อนกลับลงบนพื้นสนาม แสดงลักษณะการสกัดกั้นและการดักทิศทางของบอลที่ตบมาสนาม 3. การสกัดกั้น 3.1 การสกัดกั้นและการดักทิศทางของบอลที่ตบมา การสกัดกั้นที่ดีต้องอาศัย การกระโดดสูงเท ่าๆ กับการดักทิศทางของบอล จากรูปนี้จะเห็นได้ว ่าผู้สกัดกั้นสองคนจับตา อยู่ที่ตัวตบและดักทิศทางของบอลที่ตบมา คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 167
3.2 การโยกตัวในอากาศ ขณะทำการสกัดกั้น การสกัดกั้นผู้เล ่น จะกระโดดเหยียดแขนสูงขึ้นไปในอากาศ ถ้ามีช ่องว ่างระหว ่างผู้สกัดกั้นสองคน จะต้องพยายามปิดช่องว่างโดยการโยกตัว เข้าหากัน การสกัดกั้นเป็นการเคลื่อนที่ หลังจากการกระโดดผู้สกัดกั้นต้องปรับ ตำแหน่งของตนเองขณะลอยตัวในอากาศ ตามทิศทางของตัวตบ แสดงลักษณะการโยกตัวในอากาศขณะทำ�การสกัดกั้น แสดงลักษณะการสกัดกั้นซ้อนกันของผู้เล่นสองคน 3.3 การสกัดกั้นซ้อนกันของผู้เล่นสองคน ถ้าผู้เล่นสองคน ทำการสกัดกั้นทิศทางของบอลที่ถูกตบมาได้อย่างถูกต้อง แต่มือของ ผู้เล่นสกัดกั้นซ้อนกันดังในภาพ ทำให้การสกัดกั้นแคบลงดังนั้นผู้สกัดกั้น สองคนต้องร่วมกันกำหนดศูนย์กลางของการสกัดกั้นเพื่อควบคุมพื้นที่ สนามได้มากที่สุด 3.4 การสกัดกั้นเกิดช่องว่างของผู้เล่นสองคน ถ้าบอล ผ่านช่องว่างระหว่างผู้สกัดกั้นสองคน ถือว่าเป็นความผิดพลาดของ ผู้เล่นกองหน้าที่ไม่กระโดดขึ้นสกัดกั้นให้ชิดกับผู้สกัดกั้นหลักหมายเลข 6 ยังดีที่ผู้สกัดกั้นหลักในรูปนี้สกัดกั้นได้ตรงกับทิศทางของบอลพอดี จึงทำการสกัดกั้นได้สำเร็จ 4. การสกัดกั้นสามคน ถ้าตัวตบทีมตรงข้ามตบดีมาก หรือสามารถอ่านทิศทาง การส่งบอลของตัวเซตได้ถูกต้องก็จำเป็นที่ผู้เล่นสามคนทำการสกัดกั้น พร้อมกัน อย่างไรก็ตามการสกัดกั้นสามคน ทำให้เหลือผู้ตั้งรับบอล เพียงสามคน อาจทำให้การรับมีประสิทธิภาพน้อยลง แสดงลักษณะการสกัดกั้นเกิดช่องว่างของผู้เล่นสองคน แสดงลักษณะการสกัดกั้นสามคน 168 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
แบบฝึกการสกัดกั้น แบบฝึกที่1 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬายืนเข้าแถวหน้ากระดาน 3 แถว หันหน้าไปทางผู้ฝึกสอนที่แดนตรงข้าม 2. ผู้ฝึกสอนให้จังหวะการเคลื่อนที่ประกอบทักษะการสกัดกั้น (ซ้าย-กระโดด, ขวา-กระโดด, หน้า-กระโดด) ให้นักกีฬาปฏิบัติพร้อมกันทั้งหมด แบบฝึกที่2 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาจับคู่กัน นั่ง-ยืน ยกมืออยู่ในท่าเตรียมสกัดกั้น 2. เมื่อผู้ฝึกสอนให้สัญญาณ ให้นักกีฬาคนหนึ่ง (นั่ง-ยืนหรือกระโดด ยื่นมือ ทำท่าสกัดกั้น ตรงหน้า, ซ้ายหรือขวา นักกีฬาอีกคนหนึ่งต้องพยายามปฏิบัติตามให้ถูกทิศทางโดยเร็ว เป็นการฝึกการคาดคะเนทิศทางของคู่ต่อสู้ แบบฝึกที่3 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาเข้าแถวตอนนอกสนาม คนละด้าน 2. ให้นักกีฬาหัวแถวแต่ละด้าน เดินไปที่หน้าตาข่ายทำการกระโดดสกัดกั้นแล้ว เคลื่อนที่พร้อมกัน 3 จุด หน้าตาข่าย แล้ววิ่งไปต่อท้ายแถวต่อไป คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 169
แบบฝึกที่4 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาเข้าแถวตอน 4 แถว ดังรูป 2. ให้นักกีฬาหัวแถวแต่ละแถว กระโดดสกัดกั้นกับนักกีฬาที่อยู่ตรงข้ามตนเอง ด้านตรงข้ามอยู่กับที่ 1 ครั้ง แล้วเคลื่อนไหวไปตำแหน่งกลางหน้า กระโดดสกัดกั้นพร้อมกัน ทั้ง 4 คน อีก 1 ครั้งแล้วกลับไปต่อท้ายแถวตนเอง แบบฝึกที่5 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาเข้าแถวตอนสองแถว ผู้ฝึกสอนยืนบนที่สูงหน้าตาข่ายในแดนตรงข้าม 2. ให้นักกีฬาหัวแถวทั้งสองกระโดดสกัดกั้นลูกจากการตบของผู้ฝึกสอนพร้อมกัน แล้ววิ่งไปต่อท้ายแถวตนเอง แบบฝึกที่6 วิธีปฏิบัติ 1. นักกีฬาถือบอลที่แถวตอนดังรูป โดยมีนักกีฬาที่จะฝึกการสกัดกั้นยืนหน้าตาข่าย ด้านตรงข้าม ผู้ฝึกสอนยืนในตำแหน่งกลางหน้า 2. นักกีฬาคนหัวแถวส่งบอลให้ผู้ฝึกสอนเซตลูกสูง แล้ววิ่งเข้าตบลูก นักกีฬา ที่ฝึกการสกัดกั้นก็กระโดดการสกัดกั้นลูกไว้ให้คนตบๆ บอลใส่มือผู้สกัดกั้นแล้วเก็บบอลไปต่อท้ายแถว เตรียมตบต่อไป 170 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
ผู้เล่นตัวรับอิสระหรือลิโบโร่ (The Libero) ลิโบโร่หรือผู้เล่นตัวอิสระสำหรับนักกีฬาวอลเลย์บอลในปัจจุบัน ลิโบโร่ถือว่าเป็นตำแหน่ง ที่มีบทบาทสำคัญตำแหน่งหนึ่ง เพราะหลังจากที่กติกาการนับแต้มได้เปลี่ยนมาเป็นระบบ Rally-Point ทำให้ทีมต่างๆ นั้น ต้องใส่ใจในรายละเอียดในการทำแต้ม และการป้องกันการเสียแต้มมากขึ้น ดังนั้น ลิโบโร่จะมีอิทธิพลในการที่จะทำให้แท็คติคและยุทธวิธีในการเล่นของทีมประสบความสำเร็จ มากขึ้น ลิโบโร่ เป็นผู้เล่นที่ช่วยให้ยุทธวิธีในการรุกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในเรื่องของการทำการรุก ครั้งแรกในประเทศไทย จะใช้ศัพท์ทำการรุกครั้งแรกว่า k 1 หรือ c 1 คือเริ่มจากการรับลูกเสิร์ฟ เข้าหาตัวเซตตัวเซตตั้งบอลให้ตัวตบ ตัวตบ ตบบอลลงฝั่งตรงข้าม นี่คือk1 หรือc1(Complex1) ถ้าตบไปแล้วติดบล็อกลงมาฝั่งเรา หรือตบไปแล้วคู่ต่อสู้รับได้แก้ไขกลับมา บอลลงมาฝั่งเรา ก็ต้อง ใช้k 2 หรือ c 2 ต่อไป สำหรับกีฬาวอลเลย์บอล แพ้ชนะขึ้นอยู่กับการทำ k 1 มากกว่า k 2 ในหนึ่งเซต ต้องใช้ k 1 ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนแต้ม 25 แต้ม ดังนั้นในการฝึกซ้อมต้องทำการฝึกซ้อม k1ให้มีความชำนาญ โดยผู้เล่นที่จะมีบทบาทสำคัญก็คือลิโบโร่ เพราะk1จะสมบูรณ์แบบหรือไม่ ก็อาจจะขึ้นอยู่กับการรับบอลเสิร์ฟเป็นหลักสำคัญ จากการวิจัยธรรมชาติของกีฬาวอลเลย์บอลในระดับสูงในปัจจุบันพบว่าเปอร์เซ็นต์ในการ รับบอลของลิโบโร่นั้น จะรับบอลเสิร์ฟ ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ในการรับบอลตบนั้น มีเพียง 7-8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สาเหตุเป็นเพราะว่ายุทธวิธีในการรุกในปัจจุบันมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักกีฬาก็มีประสิทธิภาพในการเล่นมากขึ้น ดังนั้นเปอร์เซ็นต์ในการออกแบบการฝึกซ้อมนักกีฬาระดับสูง ควรออกแบบฝึกมาให้ลิโบโร่ทำการรับบอลเสิร์ฟมากกว่ารับบอลตบ ทั้งนี้จะไม่รวมถึงนักกีฬา วอลเลย์บอลระดับกลางและไม่ระดับล่างเพราะนักกีฬาระดับกลางและระดับล่างต้องเรียนรู้ทักษะ ทั้งหมดให้ละเอียดก่อน ลักษณะพิเศษของผู้เล่นลิโบโร่ - เป็นผู้ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรง - มีความคล่องตัวสูง - มีปฏิภาณไหวพริบดี(ปฏิกิริยาตอบสนอง) - มีความเข้าใจในเกมกีฬาวอลเลย์บอลเป็นอย่างดี - มีความสามารถด้านทักษะกีฬาวอลเลย์บอลที่ดีโดยเฉพาะการรับบอลและการเซต - มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความมั่นคงในอารมณ์ไม่หงุดหงิดง่าย คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 171
- มีความมุ่งมั่นสูง - มีสภาวะผู้นำ - เป็นผู้ประสานงานที่ดี - ถ้ามีรูปร่างสูงยาวจะได้เปรียบมาก หน้าที่ของลิโบโร่ ผู้เล่นที่เป็นลิโบโร่ ส่วนใหญ่จะรับบอลที่มาจากการเสิร์ฟและมาจากการรุกของคู่ต่อสู้ ดังนั้น ลิโบโร่ต้องเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ดีจึงจะสามารถทำหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์ซึ่งลักษณะที่จะต้องสังเกต ในการรับบอล มีดังนี้ การรับบอลเสิร์ฟ - สังเกตผู้ที่จะทำการเสิร์ฟ ว่าใช้วิธีการเสิร์ฟแบบใด กระโดดเสิร์ฟ หรือยืนเสิร์ฟ ฯลฯ - ทิศทางของบอลมาทางใดมากที่สุด - คนเสิร์ฟมีสภาพจิตใจเป็นอย่างไร แต้ม 23 : 23, 24 : 24 ที่ผ่านมาเขาเสิร์ฟอย่างไร กี่เปอร์เซ็นต์ - มีการเสิร์ฟสั้น-ยาวไปหลังบ้างหรือเปล่า ถ้ามีเสิร์ฟตอนสถานการณ์อย่างไร เป็นต่อ หรือเป็นรอง - คุณภาพของการเสิร์ฟเป็นอย่างไร เสียบ่อยหรือไม่ เฉลี่ยออกมากี่เปอร์เซ็นต์ในแต่ละ สถานการณ์ - มีการเสิร์ฟใส่ตัวตีบอลหลักของเราที่อยู่แดนหน้าหรือไม่ การรับบอลตบ - ต้องทราบข้อมูลของตัวตบบอลว่าทำหน้าที่ตบบอลอะไรลูกเร็ว หรือลูกโค้งหน้าตาข่าย - ตัวตบตบบอลหลากหลายทิศทางหรือไม่ หรือชอบตบบอลทางเดียว - ตัวตบมีสภาพจิตใจเป็นอย่างไร มุ่งมั่นตลอดเวลาหรือไม่เวลาตบติดบล็อกแสดงอาการกลัว ออกมาให้เห็นหรือเปล่า แต้มเท่าๆ กันใกล้จะเกม ตัวเซตยกให้ตัวนี้ตีบ่อยหรือไม่ - เวลาบล็อก ตัวตบตัวนี้ชอบตีหรือหยอด - ต้องทราบความสามารถของบล็อกในแต่ละหน้าของทีมเรา - ต้องทราบว่าคนใดบล็อกก่อน คนใดบล็อกดี - มีการประสานงานที่ดีในทีมรับสามคนแดนหลัง ใครจะขึ้นไปรองหยอด ใครจะถอย ต้องทำจนเป็นอัตโนมัติ - มีการอ่านเกมการบล็อกที่ดีถ้ามีช่องว่างระหว่างบล็อกต้องทราบโดยอัตโนมัติทันทีว่า จะต้องทำอย่างไร 172 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
หลักการฝึกซ้อมลิโบโร่ - ฝึกให้ลิโบโร่เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง ในการฝึกรับบอลทุกๆ ช่วงของการฝึกซ้อม โค้ชต้องพยายามหาวิธีการฝึกให้ผู้เล่นลิโบโร่เกิดความเชื่อมั่นในตนเองให้ได้เพราะถ้าฝึกให้นักกีฬา เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองได้เท่ากับว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว 75 % - ฝึกเทคนิคในการรับบอลในช่วงต้นๆ ชั่วโมงของการฝึกซ้อม - ฝึกความมุ่งมั่น จดจ่อในเกมส์ในช่วงท้ายชั่วโมงของการฝึกซ้อม - ฝึกการเคลื่อนที่ของตัวลิโบโร่ในทุกๆ ทิศทางที่เข้ารับบอลตามระบบการตั้งรับบอลเสิร์ฟ และบอล defence - แก้ไขข้อผิดพลาดในการเคลื่อนของเท้าในการรับบอลให้เข้าเป้าหมายอย่างจริงจัง อย่าปล่อยปะละเลย - พยายามรักษาลักษณะท่าทาง ลำตัว รูปแบบการรับบอลให้เข้าเป้าหมาย - ฝึกซ้อมเกมการแข่งขันให้เหมือนสถานการณ์จริง วิธีการออกแบบการฝึก - ออกแบบฝึกในการรับบอลเสิร์ฟ - ออกแบบฝึกในการรับบอลตบ - ออกแบบฝึกในการรองรับบอลตบ รับบอลเสิร์ฟตรงหน้า แบบเคลื่อนที่ไปรับ - โค้ชเป็นผู้โยนบอลจากง่ายไปยาก - ลิโบโร่ออกจากตำแหน่ง 5, 6 หรือ 1 มารับบอลเข้าจุด - ความเร็วเริ่มจากง่ายไปหายาก - หลังจากนั้นโค้ชเปลี่ยนตำแหน่งถอยไป ให้เหมือนการเสิร์ฟจริง C L คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 173
แบบฝึกในการรับบอลเสิร์ฟด้านข้างล�ำตัว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยในระหว่างการทำแข่งขัน บอลที่มาทางข้างลำตัวจะมีความเร็ว และแรงคนรับมักจะวางมือไม่ทันหรือช้าไปทำให้บอลนั้นไม่เข้าเป้าหมาย ดังนั้น ต้องฝึกให้ลิโบโร่ คิดถึงจุดที่สัมผัสบอลให้ทันเวลา โดยหันมือหรือลำตัวชี้ไปทางเป้าหมายให้ได้และใช้การยืดหยุ่น ของลำตัวช่วงบนผ่อนแรงบอลที่มาด้วยความเร็วและแรง - โค้ชเสิร์ฟบอลให้รับข้างลำ ตัวซ้าย-ขวา เริ่มจากง่ายไปหายาก - หลังจากนั้นโค้ชถอยไปยืนบนโต๊ะเสิร์ฟบอล มาในระยะประมาณ 3.5-4 เมตร ฝึกให้ ลิโบโร่เคลื่อนที่ไปรับข้างลำตัว ซ้าย-ขวา - ฝึกรับตำแหน่ง 5, 6, 1 ให้เข้าจุดตัวเซต ลักษณะในการเตรียมพร้อมที่จะรับบอลของตัวลิโบโร่คือ - ต้องยืนอยู่ในตำแหน่งเตรียมพร้อม - ท่าทางการรับต้องยืนบนเท้าทั้งสองข้าง ไม่เอนไปด้านใดด้านหนึ่ง - กางแขนออกข้างลำตัว ยืดอก งอเข่าเล็กน้อย ไม่ย่อลงไปมาก เพราะยากแก่การรุก ขึ้นไปเล่นบอล - ก่อนมือสัมผัสบอลตัวต้องหยุดทุกครั้ง ไม่ใช่สัมผัสบอลแล้วตัวยังไม่หยุดนิ่งเลย ฝึกรับบอลสองมือบน กีฬาวอลเลย์บอลในปัจจุบัน กติกาอนุญาตให้ลูกแรกนั้นสามารถที่จะเล่นลูกสองมือบนได้ โดยไม่ผิดกติกาดังนั้น การรับบอลเสิร์ฟแบบสองมือบนจึงมีความสำคัญมากในการรับเสิร์ฟแบบ Floatserve วิธีการฝึก - ให้ลิโบโร่ยืนห่างจากตาข่ายประมาณ 4-5เมตรโค้ชตบบอลมาตรงหน้าของลิโบโร่ให้ลิโบโร่ ใช้สองมือ บนส่งบอลเข้าจุดที่ตัวเซตยืน - ในการฝึกให้ฝึกจากง่ายไปหายาก - ความแรงของบอลที่มาจากการทำ Floatserveจะไม่มีความรุนแรงเหมือนการกระโดดเสิร์ฟ C C L 174 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
ฝึกรับบอลในสถานการณ์ต่างๆ - บอลที่มาจากการเสิร์ฟด้วยความรุนแรง - บอลที่ตกลงตรงจุดเกรงใจ - บอลที่จะต้องรับจังหวะสอง (บอลเสียจังหวะเช่น บอลอาจจะถูกตาข่ายระหว่างแข่งขัน หรือบอลที่คนเสิร์ฟกระโดดขึ้นเสิร์ฟด้วยความรุนแรงแต่ไม่เสิร์ฟกลับตีเบาๆ หยอดลงมา) รูปแบบการตั้งรับเสิร์ฟของลิโบโร่ ในการตั้งโซนการรับบอลเสิร์ฟ ลิโบโร่ต้องรับผิดชอบพื้นที่ในการรับบอลเสิร์ฟมากกว่า ผู้เล่นคนอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อจะกดดันคนเสิร์ฟ เพราะโดยปกติคนเสิร์ฟจะเสิร์ฟบอลหนีผู้เล่นที่เป็น ลิโบโร่ดังนั้นถ้าลิโบโร่บีบพื้นที่ให้ผู้เล่นคนอื่นรับผิดชอบพื้นที่น้อยลงทำให้คนเสิร์ฟนั้นต้องเสิร์ฟลง ผู้เล่นคนอื่นด้วยความยากลำบากเพราะถ้าเสิร์ฟไม่ตรงบอลอาจจะออกข้างสนามก็ได้หรือถ้าเสิร์ฟ ไม่ดีก็เข้าตำแหน่งลิโบโร่ รูปแบบการรับบอลเสิร์ฟ เมื่อลิโบโร่เข้ามาแทนตำแหน่ง 1 ตัวเซตอยู่ตำแหน่ง 6 รูปแบบการรับบอลเสิร์ฟ เมื่อลิโบโร่เข้ามาแทนตำแหน่ง 5 และตัวเซตอยู่ตำแหน่ง 1 L L 3 2 1 4 4 5 5 3 6 2 L 4 3 6 2 1 รูปแบบการเสิร์ฟแสดงพื้นที่รับผิดชอบ ของลิโบโร่ - ตำแหน่งตัวเซตอยู่ตำแหน่ง 5 - ลิโบโร่เข้าไปแทนตำแหน่ง 6 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 175
การรับบอลตบ ในการรับบอลที่มีประสิทธิภาพของผู้เล่นที่เป็นลิโบโร่นั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับการสังเกต ผู้เล่นที่ทำการรุกของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังขึ้นอยู่กับระบบการบล็อกของฝ่ายเรา ดังนั้นผู้เล่นลิโบโร่ ต้องอ่านเกมการแข่งขันให้ละเอียดถี่ถ้วน จนสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าลักษณะการเซตของ คู่ต่อสู้แบบนี้จะบล็อกกี่คน หนึ่งคน สองคน หรือสามคน - ในการสกัดกั้นคนเดียว ลิโบโร่ต้องรู้ว่าคนบล็อกของเราจะบล็อกตรงไหน จะคลุมด้านซ้าย หรือด้านขวาด้วยการสื่อสารหรือนัดแนะกันก่อนที่จะทำการบล็อก การตั้งรับแดนหลังเมื่อมีการสกัดกั้นคนเดียว 4 3 2 5 1 L 4 3 2 5 1 L 2 4 3 5 1 L 2 3 4 5 1 L 176 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
การตั้งรับแดนหลังเมื่อมีการสกัดกั้นสองคน การตั้งรับเมื่อตัวสกัดกั้นตรงกลางไม่สามารถไปช่วยตัวริมท�ำการสกัดกั้นได้ทัน การที่ลิโบโร่ท�ำหน้าที่ได้ประสบความส�ำเร็จในการรับบอลจากการรุกของคู่ต่อสู้คือ - ทำอย่างไรก็ได้ให้บอลสัมผัสมือขึ้นมาโดยไม่จำเป็นต้องให้ตัวเซตก็ได้ถ้าบอลมาด้วย ความเร็วและแรง - สามารถทำการต่อบอลให้เพื่อนตบได้ - สามารถเปลี่ยนตำแหน่งจาก 6 เป็น 5 หรือตำแหน่ง 1 ก็ได้เพื่อกดดันตัวตบให้ตบหนี ตำแหน่งลิโบโร่ในการตั้งรับ 3 2 4 5 1 L 3 2 4 5 1 L 3 4 5 1 L 2 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 177
มินิวอลเลย์บอล การเริ่มเล่นกีฬาวอลเลย์บอลที่ได้รับรองและสนับสนุนโดยสหพันธ์ วอลเลย์บอลนานาชาติ(FIVB) โดยเป็นเกมการเล่นสำหรับเด็กที่มีอายุเริ่มเล่นระหว่าง 9-10 ปี ไปจนถึง12-13 ปีทั้งนี้โดยกฎ กติกาและระเบียบการเล่นที่แน่นอนชัดเจน โดยสมาคมวอลเลย์บอล จะกำหนดอายุที่แตกต่างกันของการแข่งขันในระดับใดระดับหนึ่งในระดับโรงเรียน เช่น อายุไม่เกิน 12 ปีเป็นต้น โดยแข่งขันเพื่อพัฒนานักกีฬาในระดับต่างๆ ของประเทศนั้นๆ การเล่นมินิวอลเลย์บอลในโรงเรียน ปรัชญาการสอนมินิวอลเลย์บอล คือ การเริ่มต้นสู่เกมการเล่นวอลเลย์บอลอย่างถูกต้อง “เราจะปลูกฝังการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลอย่างไร” คำตอบง่ายๆ คือ ทำการพัฒนาเกมการเล่น และพัฒนาการสอนวอลเลย์บอลให้แก่เด็กที่เริ่มเล่นวอลเลย์บอลให้มีขีดความสามารถในการเล่น กีฬาวอลเลย์บอลดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเป็นลำดับ โดยให้ทักษะที่ถูกต้องนั้นติดตัวไปและไม่ให้กลับไป เหมือนเดิม (การเล ่นโดยใช้ทักษะที่ไม ่ถูกต้อง) ฉะนั้น ทั้งครูและนักเรียนจะต้องมีเวลาที่ง ่าย และสะดวกต่อกันและกันในการฝึก วิธีเริ่มต้นใหม่สำหรับการสอนและการเล่นวอลเลย์บอล • การใช้แบบการเรียนพลศึกษาในชั้นเรียนระดับประถมศึกษา • ใช้เทคนิคการเล่นที่เข้าใจง่าย • พัฒนาและเล่นง่าย • มุ่งเน้นในเรื่องการเรียนรู้เพื่อใช้ในการมีส่วนร่วมในการเล่น มินิวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายโดยทำการแข่งขันเป็น 2ฝ่าย(สองทีม) ในสมัยเมื่อก่อน อาจจะใช้กติกาการเล่นแบบข้างละ2-4คน โดยใช้ความกว้างของสนาม 4.5-6 เมตร และความยาว 9-12 เมตร และใช้ความสูงของตาข่าย 1.9-2.0 เมตร บทที่ 8 มินิวอลเลย์บอล 178 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
ปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดการแข่งขันมินิวอลเลย์บอลชิงแชมป์ประเทศไทย โดยใช้ กติกาและผู้เล่นที่ทำการแข่งขันเหมือนเช่นกติกาการแข่งขันสากล เพียงแต่แตกต่างกันที่ความสูง ของตาข่ายเท่านั้นเอง วัตถุประสงค์ของการแข่งขัน คือความพยายามของนักกีฬาที่จะต้องส่งลูกบอลข้ามตาข่าย ไปลงสนามฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่นักกีฬาฝ่ายตรงข้ามก็เตรียมพร้อมที่จะทำเช่นเดียวกัน เริ่มต้นการเล่น 1. เริ่มต้นโดยการเสิร์ฟบอลจากเส้นหลังของฝ่ายตนข้ามตาข่ายไปให้ฝ่ายตรงข้ามและ ฝ่ายตรงข้ามสามารถเล่นลูกได้3ครั้ง หากแต่เพียงไม่สามารถเล่นติดต่อกันเกิน 1ครั้งในคนๆเดียว (ต้องเล่นลูกบอลเพื่อให้คนอื่นเล่นต่อจากตน แล้วจึงจะสามารถเล่นลูกบอลได้อีกครั้ง) เพื่อส่งบอล ข้ามตาข่ายมายังฝ่ายแรก 2. ทีมที่ชนะในคะแนนนั้นคือ ทีมที่สามารถส่งลูกบอลไปยังแดนฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ ก็จะเป็นฝ่ายได้เสิร์ฟลูกต่อไป โดยทำการหมุนตำแหน่งตามเข็มนาฬิกาเพื่อไปเสิร์ฟลูกเหมือนใน ข้อ 1. (หากทีมที่เสิร์ฟเป็นฝ ่ายที่ชนะในคะแนนนั้น ก็ให้ทำการเสิร์ฟต ่อโดยนักกีฬาคนเดิม ยังไม่ต้องหมุนตำแหน่ง) 3. การนับคะแนนก็นับแต้มไปจนถึง 25 คะแนน ทีมใดมีคะแนนถึง 25 คะแนน ก่อนเป็นฝ่ายชนะในเซตนั้น (หากทีมทั้ง2 มีคะแนนเท่ากัน ที่คะแนน 24เท่ากัน ให้แข่งขันกันจนกว่า จะมีคะแนนห่างกัน 2 คะแนน เช่น 26 : 24 หรือ 27: 25 ฯลฯ ให้ถือว่าทีมใดมีคะแนนมากกว่า 2 คะแนนเป็นฝ่ายชนะ 4. หากการแข่งขันเป็นแบบ 2 ใน 3 ทีม ที่เป็นฝ่ายชนะ 2 เซต เป็นฝ่ายชนะ a. เช่น ในเซตที่ 1 ทีม ก. ชนะทีม ข. 25 : 20 b. เช่น ในเซตที่ 2 ทีม ก. ชนะทีม ข. 25 : 20 i. ผลการแข่งขัน คือ ทีม ก. เป็นฝ่ายชนะทีม ข. 2 : 0 เซต แต่หากทีม ก. เป็นฝ่ายชนะในเซตที่ 1 และแพ้ในเซตที่ 2 ให้ทำการแข่งขันในเซตที่ 3 ซึ่งจะทำการแข่งขัน 15 คะแนน หากทีมใดมีคะแนนชนะที่ 15 คะแนนก่อน จึงจะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากทีมทั้ง 2 ทีม มีคะแนนเท่ากันที่14 : 14 ให้ทำการแข่งจนกว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งมีคะแนน นำอยู่ 2 คะแนน จึงจะเป็นฝ่ายชนะ เช่น ทีม ก. เป็นฝ่ายชนะ ทีม ข. ด้วยคะแนน 16 : 14 หรือ 17 : 15 หรือ 18 : 16 ฯลฯ ผลการแข่งขัน คือ ทีม ก. เป็นฝ่ายชนะ ทีม ข. 2 : 1 เซต คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 179
เทคนิคการฝึกสอนผู้เล่นมินิวอลเลย์บอล (Coaching Techniques for the Mini Volleyball Players) 1. การอบอุ่นร่างกายก่อนการแข่งขัน 1.1 ไม่บริหารร่างกายมากเกินไป ควรบริหารร่างกายเบาๆ เพื่อเพิ่มอัตราการเต้น ของหัวใจให้อยู่ประมาณ 120 ครั้งต่อนาที 1.2 เลือกวิธีซึ่งจะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพผ่อนคลายไม่ตึงเครียด 2. หัวข้อสำคัญในการฝึกสอนก่อนเริ่มการแข่งขัน 2.1 ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ในการสร้างความมั่นใจต่อการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น 2.2 ชี้ให้เห็นถึงลักษณะต่างๆ ของทีมตรงข้าม ก. ใครเป็นตัวตบหลักของทีมตรงข้าม เขาจะตบจากจุดไหน ทิศทางและจังหวะ ในการกระโดดเป็นอย่างไร ข. ใครเป็นผู้เสิร์ฟดีที่สุดของทีมตรงข้าม, เสิร์ฟอย่างไร และเสิร์ฟไปทางไหน ค. การเล่นลูกหยอดและทิศทางของลูกหยอด ง. หลักในการเล ่นของผู้เล ่นตัวรับอิสระเป็นอย ่างไร เป็นตัวเซตหรือตัวรับ หรือเล่นได้ทุกอย่าง จ. รูปแบบในการรุกและรับของทีมตรงข้ามที่ใช้เป็นประจำในการแข่งขัน 2.3 อธิบายแผนการต่อไปนี้ในการแข่งขัน ก. รูปแบบในการรุก เช่น ใครควรเป็นตัวตบหลักในทีมของตนเอง ข. รูปแบบในการรับลูกเสิร์ฟ (เป็นแบบ 1-5 หรือ 0-6 รูปตัว W หรือรูป M) ค. รูปแบบในการรับลูกตบ (รูปแบบ 2-1-3 หรือ 2-2-2 หรือ 2-5) ง. ลักษณะการสกัดกั้นแบบใดที่ควรนำมาใช้ควรตั้งใจสกัดกั้นผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามคนไหน จ. ควรเสิร์ฟบอลไปที่ไหน, ใครเป็นตัวรับลูกเสิร์ฟที่อ่อนที่สุดในจำนวนผู้เล่น 6คน ของทีมตรงข้าม 3. การคาดการจังหวะในการแข่งขัน ก่อนเริ่มการแข่งขันควรคาดการณ์ถึงความก้าวหน้าต่อไปนี้ในการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น พยายามใช้เทคนิคที่เคยฝึกซ้อมตามจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เล่นแต่ละคนเล่น แต่จาก 8-10 คะแนน ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เทคนิคในการหยอดและในช่วงสุดท้าย 20-25 คะแนน ควรเซตบอลให้ตัวตบหลัก ทำการตบเป็นส่วนใหญ่ 180 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
4. จุดต่างๆ ที่ต้องตรวจสอบในการแข่งขัน 4.1 ผู้เล่น เล่นได้ตามจังหวะเดิมและได้ผลตามที่ฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวันหรือไม่ 4.2 ลักษณะและการเคลื่อนที่ของผู้เล่นเป็นอย่างไร, ผู้เล่นอยู่ในลักษณะย่อตัวลงต่ำ และเคลื่อนที่ได้รวดเร็วหรือไม่ 4.3 ผู้เล่นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนลูกบอลอยู่ตรงด้านหน้าของลำตัวหรือไม่ 4.4 ผู้เล่นกระโดดถูกจังหวะหรือไม่ รูปแบบของการตบและตำแหน่งของการกระโดด เป็นอย่างไร 4.5 การคาดการณ์ทิศทางของลูกที่ตบมา และจังหวะในการสกัดกั้นเป็นอย่างไร 4.6 ผู้เล่นเสิร์ฟลูกบอลจะไปยังผู้รับลูกเสิร์ฟที่อ่อนที่สุดของทีมตรงข้ามได้ถูกต้องหรือไม่ 4.7 ผู้เล่นรักษารูปแบบการเล่นเป็นทีมได้เหมาะสมหรือไม่ 4.8 การเล่นโดยรวมๆ ของทีมเป็นอย่างไร 4.9 ผู้เล่น เล่นได้ดีเหมือนซ้อมหรือไม่ 4.10 จิตใจของความเป็นนักสู้ของผู้เล่นเป็นอย่างไร 4.11 ผู้เล่นมีการตัดสินใจที่ดีหรือเยือกเย็นหรือไม่ 4.12ผู้เล่น เล่นโดยมีการคาดการณ์และสังเกตเทคนิคการเล่นของฝ่ายตรงข้ามออกหรือไม่ 5. การนึกถึงสถานการณ์อันคับขันที่สุดของทีมตนเองระหว่างการแข่งขัน 5.1 ต้องเตรียมแก้ไขสภาพอันคับขันที่สุดในการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา(เมื่อตกเป็นฝ่าย แพ้อย่างยับเยิน) 5.2 การรับลูกเสิร์ฟบ่อยๆ 5.3 การเสิร์ฟเสียเอง เพราะสภาพความเครียดทางจิตใจ 5.4 ตัวตบของทีมตรงข้ามตบได้หนักมากอย่างไม่คาดคิดมาก่อน 5.5 ทีมตรงข้ามใช้เทคนิคการเล่นซึ่งเป็นแผนการที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน 5.6 ผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหรืออยู่ในสภาพที่เล่นไม่ได้โดยไม่คาดคิดมาก่อน 5.7 จิตใจของผู้เล่นเครียดมากเกินไปเพราะต้องการชัยชนะ 5.8 เกิดปัญหาทางจิตใจระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง 6. ควรขอเวลานอกเมื่อไหร่ 6.1 เมื่อทีมของท่านเสียจังหวะในการเล่นที่เคยเล่นได้ตามปกติ, ฝ่ายตรงข้ามควบคุม การเล่นได้ดีและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง 6.2 การประสานงานในการเล่นไม่ดี 6.3 ตัวตบหลักขาดความแน่นอนและทำคะแนนไม่ได้ 6.4 ทีมตรงข้ามใช้เทคนิคและแผนการเล่นที่ไม่คาดคิดมาก่อน คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 181
6.5 เพื่อแนะนำเทคนิคขั้นสุดท้ายที่จะแก้ไขสถานการณ์ 6.6 เพื่อเปลี่ยนแผนการเล่น 6.7 สภาพจิตใจของผู้เล่นในทีมไม่มั่นคง 6.8 เมื่อผู้เล่นขาดความตั้งอกตั้งใจในการแข่งขัน 6.9 เพื่อทำให้ทีมตรงข้ามเสียจังหวะและสภาพที่ดีในการแข่งขัน 7. ควรเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อไหร่ 7.1 เพื่อเอาผู้เล่นสำรองที่เสิร์ฟดีกว่าลงไปเสิร์ฟแทนผู้เล่น 6 คนแรก 7.2 เพื่อเอาตัวรับที่ดีกว่าลงไปแทนผู้เล่น 6 คนแรก 7.3 เพื่อให้ผู้เล่นที่มีความสามารถเป็นพิเศษในเทคนิคการเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งลงเล่น 7.4 หลังจากที่ขอเวลานอกหมดไปแล้ว 2 ครั้ง 8. จะใช้เวลาพักระหว่างเซตอย่างไร 8.1 ชี้ให้เห็นถึงการเล่นที่ได้ผลดีในเซตที่ผ่านมา 8.2 ถ้าเป็นฝ ่ายแพ้ในเซตที่ผ ่านมา ต้องชี้ให้เห็นถึงเหตุผลที่ทำให้แพ้อย ่างชัดเจน และแนะนำเทคนิคที่ใช้ในเซตต่อไป 8.3 ให้กำลังใจผู้เล่นเพื่อเล่นเซตต่อไป 8.4 ต้องไม่ให้ผู้เล่นยอมแพ้พยายามให้ผู้เล่นทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในการเล่น ทุกลูก แล้วเขาอาจจะได้รับผลสำเร็จเอง 9. ภายหลังการแข่งขัน 9.1 ชมความพยายามที่ผู้เล่นได้แสดงออกระหว่างการแข่งขัน 9.2 ชี้ให้เห็นถึงเทคนิคที่ได้รับผลสำเร็จและเทคนิคที่ผิดพลาดเพื่อเตรียมการฝึกซ้อมต่อไป 9.3 ผ่อนคลายและพักผ่อนเพื่อการแข่งขันครั้งต่อไป 182 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
การฝึกซ้อมทักษะเด็กอายุ 12-14 ปี 1. การเสิร์ฟ (Serve) • ทักษะที่นำมาใช้ • พื้นฐาน :การเสิร์ฟมือบน (TennisServe) หรือการเสิร์ฟมือล่างด้านข้าง(SidearmServe) (หากเป็นไปได้ควรให้เริ่มฝึกในสนามก่อน/กำหนดเขตการเสิร์ฟ) กุญแจสำคัญในการสอน - ท่าเตรียมพร้อม - การโยนลูกบอล - การยกแขนให้สูงเพื่อปะทะลูกบอล - การถ่ายน้ำหนัก - จุดที่สัมผัสลูกบอล (มือกับบอล) - การเสิร์ฟมือบน = แบมือให้เต็มที่สัมผัสบอลเต็มฝ่ามือโดยพยายามไม่ให้สัมผัสนิ้วมือทั้ง5 - การเสิร์ฟมือล่าง = กำมือให้แน่นหงายมือขึ้นสัมผัสลูกเต็มมือที่กำไว้ • ยุทธวิธีที่นำมาใช้ - พื้นที่เป้าหมาย:ข้างซ้ายหรือข้างขวาของสนามใกล้ตาข่ายหรือไกลตาข่ายท้ายสนาม จุดที่ 1/2/3/4 - ลักษณะเฉพาะของเป้าหมาย : ไม่เสีย • คาดหวังผล : 60% 3 2 1 4 4 1 2 3 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 183
2. การเซตบอล (Set) • ทักษะที่นำมาใช้ • พื้นฐาน - ส่งลูกบอลเหนือศีรษะ - ส่งบอลให้สูงและแรงเต็มที่ไปยังด้านข้างสนาม - ส่งบอลระดับกลางไปกลางสนาม กุญแจสำคัญในการสอน - ตำแหน ่งของมืออยู ่เหนือหน้าผากห ่างจากหน้าผากประมาณ 5-8 เซนติเมตร ก่อนที่จะสัมผัสลูกบอล - เคลื่อนมือทั้งสองข้างเข้าหาลูกบอลโดยให้ลูกบอลอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้างห่างจาก หน้าผากประมาณ 10-15 เซนติเมตร/รับบอลโดยให้บอลอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง/ใช้ปลายนิ้วทั้ง 5 สัมผัสบอล โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เป็นฐาน - จัดนิ้วมือให้เป็นรูปสามเหลี่ยมโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เป็นฐาน/นิ้วที่เหลือกางออก งุ้มปลายนิ้วเล็กน้อย โดยที่สายตาสามารถมองผ่านช่องสามเหลี่ยมของนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ได้ - จัดท่าทางให้สมดุล มีความมั่นคง มีท่าทางที่สบายผ่อนคลายไม่เกร็ง - ลูกบอลสัมผัสมือเหนือหน้าผากและสัมผัสบอลโดยใช้ปลายนิ้ว โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและ นิ้วชี้เป็นฐานรองรับลูก ส่วนนิ้วที่เหลือให้ใช้ประคองลูกบอลให้สมดุลและผลักบอลออกไปข้างหน้าด้านบน - สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและข้างบน (กระโดดเซต) เพื่อเล่นลูกได้ • ยุทธวิธีที่นำมาใช้ - ระบบการเล่นยังไม่กำหนดลักษณะพิเศษเฉพาะ • ความคาดหวังผล - สามารถเซตบอลได้อย่างถูกวิธีเข้าเป้าหมาย 60-80% 184 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
3. การส่งลูก (Pass) • ทักษะที่นำมาใช้ • พื้นฐาน : ส่งบอลด้วยท่อนแขนด้านล่าง (forearm pass) กุญแจสำคัญในการสอน - การยืนให้เท้ากว้างเสมอความกว้างของช่วงไหล่-ย่อเข่า,สะโพกอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเท้า - หันหัวแม่เท้าโค้งงอเข้าหากัน เปิดส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย จับมือประสานกันให้แน่น - แขนเหยียดตึงจัดแขนทั้งสองให้อยู่ในโคนขาด้านใน - เล่นลูกบอลให้บอลกระทบโดนที่ท่อนแขนด้านล่างทั้งสองข้างเท่าๆกัน/ใกล้ๆ บริเวณ โคนขาด้านใน - สัมผัสลูกบอลให้มั่นคง/ยกตัวส่งแรงดันบอลไปด้านหน้า • ยุทธวิธีที่นำไปใช้ - ฝึกซ้อมปรับรูปแบบการเล่นลง : เล่นแบบ 4 on 4 ในสนามขนาดเล็ก - เล่นระบบ 6-6 : ตั้งรับเสิร์ฟรูปแบบ “W” (รับ 5 คน) โดยใช้ตัวเซตอยู่หน้าตาข่าย แบบแผนและรูปแบบการรับเสิร์ฟ • ความคาดหวังผล : 60% รูปแบบการรับเสิร์ฟแบบ 5 คน รับเสิร์ฟรูป (W Form) และ (M Form) เหมาะสำหรับทีมที่พึ่งเล ่นใหม ่ๆ และยังมีพื้นฐานการเคลื่อนที่รับเสิร์ฟยังไม ่ดีนัก จึงจำเป็นต้องช่วยกันรับเสิร์ฟก่อนเป็นอันดับแรกของหัวใจของปรัชญาการทำเปลี่ยนเสิร์ฟ และ การเสิร์ฟของฝ่ายตรงข้ามมีทิศทางที่ไม่แน่นอน ฉะนั้น การรับเสิร์ฟแบบนี้จึงเป็นที่นิยมในทีม ที่เพิ่งจะหัดเล่นวอลเลย์บอลใหม่ๆ และคู่แข่งขันมีทิศทางการเสิร์ฟที่ไม่แน่นอนในตำแหน่งนั้น คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 185
4. การรุก (ATTACK) • ทักษะที่นำมาใช้ • พื้นฐาน : การตบบอล (SPIKE) - ตบบอลในตำแหน่งที่ 4 โค้งหน้า - ตบบอลในตำแหน่งที่ 3 กลางหน้า - ตบบอลในตำแหน่งที่ 2 โค้งหลัง กุญแจสำคัญในการสอน - ใช้พลังเคลื่อนที่เข้าไปใกล้/ทำมุมกับตาข่าย - ก้าวสุดท้ายห่างจากตาข่ายประมาณ 1 เมตร - ใช้พลังขาทั้งหมดกระโดดขึ้นข้างไปบนโดยเหวี่ยงแขนทั้ง 2 ข้าง ช่วยในการกระโดดขึ้น - ข้อศอก ยกสูงเหนือหัวไหล่แล้วโน้มตัวไปด้านข้างลำตัวและเอียงหลัง - มีปฏิกิริยาในการใช้แขนอย่างรวดเร็วในการตบ - ตบบอลเหนือศีรษะด้านหน้า หวดตีลูกบอลอย่างแรงโดยใช้ข้อมือบังคับทิศทางที่ตีไป ทักษะอื่นที่เสริมเพิ่มเติม • ทักษะอื่นที่เสริมเพิ่มเติม : การหยอดบอลโดยใช้ปลายนิ้ว Tip ball • ยุทธวิธีที่นำไปใช้ - ระบบการเล่นยังไม่กำหนดลักษณะพิเศษเฉพาะแต่นักกีฬาสามารถตบบอลได้ใน ตำแหน่งที่ตนเองอยู่หน้าตาข่ายในตำแหน่งที่ 4, 3, 2 โดยสามารถตบบอลได้ดังนี้ - ตบบอลในตำแหน่งที่ 4 โค้งหน้า - ตบบอลในตำแหน่งที่ 3 กลางหน้า - ตบบอลในตำแหน่งที่ 2 โค้งหลัง • ความคาดหวังผล • สามารถเคลื่อนที่และก้าวเท้าเข้าตบบอลได้อย่างถูกวิธีและเข้าเป้าหมาย 60-80% 186 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
5. การป้องกันแดนหลัง • ทักษะที่นำมาใช้ • พื้นฐาน : การใช้ท่อนแขนด้านล่าง ในการควบคุมลูกบอลหลังจากเคลื่อนที่ไปข้างหน้า/หลัง หรือด้านข้างเคลื่อนที่โดยใช้การไขว้ขาหรือสไลด์ กุญแจสำคัญในการสอน - ลูกบอลอยู่ในแนวพื้นที่ของท่าทางในการรับตบ - ยืนฐานให้กว้างและให้จุดศูนย์ถ่วง (บริเวณต่ำกว่าสะดือประมาณ 1 ฝ่ามือ) อยู่ใน ตำแหน่งที่ค่อนข้างต่ำ/หัวเข่าห่างจากพื้นประมาณ ½ ของท่ายืนปรกติ - สัมผัสบอลระหว่างท่าทางการยืนรับ/ลูกบอลอยู่บนท่อนแขนด้านล่างเหนือเข่า • ยุทธวิธีที่นำมาใช้ - (การเตรียมตัวป้องกันแดนหลัง) Reading การอ่านระบบการรุกของคู่แข่งขัน - ตำแหน่งตัวเซตในสนามและท่าทางการเตรียมตัวที่จะเซตของฝ่ายตรงข้าม - ระบบการเล่นของฝ่ายตรงข้าม - การสกัดกั้นของฝ่ายเราระบบ 2 คน หรือ 1 คน - ใช้ระบบ 4 คนป้องกันแดนหลัง • ความคาดหวังผล(ช่องเตรียมตัวที่1/40-60%ช่วงเตรียมตัวที่2/60-80%ช่วงแข่งขัน 80-100%) การรับบอลตบแบบสองมือล่างด้านข้างล�ำตัว คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 187
การพัฒนาเทคนิคของนักกีฬาวอลเลย์บอล บทบาทที่สำคัญของโค้ชควรมีการพัฒนาเทคนิคของผู้เล่น ซึ่งการพัฒนานี้ควรได้จากการ วิเคราะห์และวิธีการพัฒนาที่เป็นระบบจึงบรรลุผลสำเร็จ โค้ชควรจะเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้ - ขั้นตอนการพัฒนาเทคนิคของนักกีฬาวอลเลย์บอล - กิจกรรมและข้อกำหนดแต่ละขั้นตอน - บทบาทของโค้ชในและขั้นตอน ประสิทธิภาพเทคนิคของนักกีฬาจะเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันซึ่งเปรียบได้กับนักดนตรี หรือช่างฝีมือ เพราะความชำนาญหรือเทคนิคที่มีประสิทธิภาพนั้นเกิดหลังจากการฝึก อาจกล่าวได้ว่า เทคนิคที่มีประสิทธิภาพนั้น คือการเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ กำหนดไว้ จะเห็นได้จากความต่อเนื่องในการเคลื่อนไหว การกำหนดจำนวนฝึกที่ถูกต้อง และผลสำเร็จภายใต้ เงื่อนไขที่โค้ชกำหนด เทคนิคการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขันนั้นเป็นปัจจัยที่เกิดจาก การฝึกการบรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาเทคนิคให้มีประสิทธิภาพนั้น นักกีฬาจะได้รับอิทธิพลจากโค้ช โค้ชควรคำนึงถึงบทบาทการให้ความช่วยเหลือนักกีฬาและศักยภาพของโค้ชในการช่วยให้ ผู้เล่นเอาชนะอุปสรรคหรือสถานการณ์ที่ซับซ้อน เพื่อปรับปรุงความสามารถ วิธีการปฏิบัติสำหรับ วัตถุประสงค์ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่และการประยุกต์หลักการดังต่อไปนี้ • การพัฒนาเทคนิคของนักกีฬาต้องพิจารณาถึงความเข้าใจความก้าวหน้าและความต่อเนื่อง ของแก่นแท้ของเทคนิคการเล่น • การฝึกทักษะและการพัฒนาคุณลักษณะขึ้นอยู ่กับกายภาพที่มีความสัมพันธ์กัน อย่างใกล้ชิดสำหรับการแข่งขัน • การใช้ทฤษฎีและตัวอย่างประกอบแต่ละขั้นตอน ในบทนี้ได้กำหนดขั้นตอนการพัฒนา เทคนิคที่สมบูรณ์สำหรับนักวอลเลย์บอลการสร้างเงื่อนไขและเป้าหมายของโค้ชดำเนินการดังต่อไปนี้ • การสอนวิธีการเคลื่อนไหว • ความคุ้นเคยในการเคลื่อนไหว • การพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับกลวิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ • การบูรณาการผู้เล่นและทักษะเข้าสู่ระบบการเล่น • การตรวจสอบประสิทธิภาพของผู้เล่นและทักษะในรูปของการแข่งขัน 188 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
โค้ชควรคาดหวังผลของเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ นั้นคือ ความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้นการวางแผนเพื่อพัฒนาต้องรวมถึงองค์ประกอบดังต่อไปนี้ • ระดับของการบรรลุผลสำเร็จในการพัฒนาของนักกีฬาความสามารถทางด้านกายภาพ และความสามารถในการเคลื่อนไหว • ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา และเป้าหมายของแต่ละบุคคล เช่น ความต้องการการทำงาน ความต้องการเพื่อปรับปรุง และต้องการการยอมรับ เป็นต้น การสอนกลวิธีการเคลื่อนไหว การเริ่มต้นการฝึกนั้น นักกีฬาควรเลียนแบบต้นแบบให้ใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งโดยปกตินั้น ต้นแบบควรจะเป็นโค้ชหรือนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จและมีความชำนาญในกีฬาชนิดนี้ เพื่อสาธิตการปฏิบัติเทคนิคต่างๆ นอกจากนี้นักกีฬาต้องมีความแม่นยำทางด้านทักษะกระบวนการ คิดเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนไหวการใช้ทัศนูปกรณ์การใช้รูปในการอธิบายยกตัวอย่างภาพยนตร์ หรือการสังเกตการณ์เล่นของนักกีฬาก็เป็นอีกวิธีที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดีอย่างไร ก็ตามสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ นักกีฬาควรจดจำองค์ประกอบที่จำเป็นในแต่ละขั้นตอนการฝึก อีกด้วยซึ่งรายละเอียดจะกล่าวภายหลัง หลังจากนักกีฬาได้ฝึกทักษะและมีความก้าวหน้าประมาณ 70เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้นทำให้เห็นว่าการพัฒนานั้นเป็นระบบนั้นจะมีส่วนผลักดันให้นักกีฬา ได้ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวเฉพาะส่วนกลายเป็นการฝึกทักษะโดยการบูรณาการเคลื่อนไหวความเข้าใจ ทางด้านลักษณะทางกายภาพ และหลักการของการเคลื่อนไหวของร่างกายสำหรับการสอนให้มี ประสิทธิภาพโค้ชจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับความถูกต้องและความเป็นไปได้ในการฝึก นักกีฬาได้วางตำแหน่งครั้งแรกภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดอย่างง่ายและเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้น ในการแข่งขัน ประการแรก โค้ชควรใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์วัสดุ อุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการเรียนรู้ เกี่ยวกับทักษะในการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น การวาดจังหวะการก้าว การใช้บอลที่มีหลายขนาด เพื่อให้ผู้เล่นคุ้นเคยกับการสัมผัสบอลที่ต่างกัน ประการที่สอง นักกีฬาควรฝึกจากทักษะง่ายๆในการปรับให้เข้ากับสถานการณ์เพื่อเอาชนะ อุปสรรคภายในข้อบังคับของขั้นตอนในการฝึก สิ่งเหล่านี้เหมารวมถึงความสมบูรณ์ในการฝึกแต่ละขั้นตอนสำหรับหลักเบื้องต้นในการวาง ตำแหน่งทิศทางการเคลื่อนไหว การเคลื่อนที่และการกำหนดจังหวะของการเคลื่อนไหว คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 189
การเล่นวอลเลย์บอลในสวนสาธารณะ (Park Volleyball) แปลและเรียบเรียงโดย เรืออากาศโทชาญฤทธิ์วงษ์ประเสริฐ วอลเลย์บอลในสวนสาธารณะมีจุดมุ ่งหมายอยู ่ที่ผู้เล ่น โดยไม่จำกัดเพศและอายุ การมีโอกาสได้ร่วมเล่นสำคัญกว่าชัยชนะ (ถึงแม้ว่าคะแนนยังเป็นส่วนสำคัญของการเล่น) วอลเลย์บอลในสวนสาธารณะใช้กติกาง ่ายๆ และผู้เล ่นไม ่ต้องใช้เทคนิคระดับสูง จึงเป็นการเล่นที่จะนำเข้าสู่การแข่งขันวอลเลย์บอลได้นอกจากนั้นแล้วเนื่องจากครึ่งหนึ่งของ การเล ่นวอลเลย์บอลทั่วโลกเป็นการเล ่นกลางแจ้งไม ่มีหลังคา วอลเลย์บอลในสวนสาธารณะ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายใน 5 ทวีป ถึงแม้ว่าวอลเลย์บอลในสวนสาธารณะเป็นกิจกรรมพักผ่อนในยามว่างแต่ก็สามารถนำไป ใช้จัดการแข่งขันในระดับสูงได้เช่นกัน กติกาพื้นฐาน • การแข่งขันเป็นการเล่นข้างละ 4 คน แต่ละทีมจะมีผู้เล่นสำรองกี่คนก็ได้แล้วแต่จะ ตกลงกัน • การแข่งขันจะแบ่งเป็น 4 ระดับอายุ อายุ ประเภท ความสูงตาข่าย ขนาดสนาม 9-12 ปี ชาย-หญิง/ผสมชาย-หญิง 215 ซม. 7 X 14 ม. 13-14 ปี ชาย/ผสม ชาย-หญิง 230 ซม. 7 X 14 ม. หญิง 224 ซม. 7 X 14 ม. 15-17 ชาย/ผสม ชาย-หญิง 230 ซม. 7 X 14 ม. หญิง 224 ซม. 7 X 14 ม. 18 ปีขึ้นไป ชาย 243 ซม. 8 X 16 ม. ผสม ชาย-หญิง 230 ซม. 8 X 16 ม. หญิง 224 ซม. 8 X 16 ม. 190 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
• สนามขนาด 7 X 14 เมตร และสามารถปรับเป็นขนาดอื่นๆ เช่น 6 X 12 เมตร, 8 X 16 เมตร, หรือ 9 X 18 เมตร เพื่อปรับการเล่นตามสภาพของพื้นที่ • ลูกบอลจะเป็นลูกวอลเลย์บอลปกติหรือลูกที่เบากว่าสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่น หรือเบากว่า แต่ใหญ่กว่าสำหรับเด็กๆ • การตัดสิน โดยพื้นฐานแล้วผู้เล่นจะต้องตัดสินกันเอง หรือใช้ผู้ตัดสินเพียง 1 คน ในการเล่นแบบแข่งขัน • การเริ่มต้นเล่นเริ่มโดยการเสิร์ฟ (การใช้มือตีลูกไปยังแดนของทีมตรงข้าม) จากด้านหลัง ของเส้นท้ายสนาม (หรือเสิร์ฟจากบริเวณใกล้ตาข่าย ถ้าทำความตกลงกันก่อนการแข่งขัน • แต่ละทีมเล่นลูกได้3ครั้ง เพื่อส่งลูกกลับไปยังแดนตรงข้าม (Blocking) ไม่นับรวมด้วย และผู้เล่นคนเดียวกันจะเล่นลูก 2 ครั้งติดต่อกันไม่ได้ • ส่งเสริมให้การเล่นลูกแต่ละครั้งเล่นกันได้นานๆจะหยุดการเล่นลูกเมื่อกระทำผิดกติกา อย่างชัดเจนเท่านั้น เฉพาะการตบลูกเท่านั้นที่ต้องถูกตามกติกา “การตีลูกที่ชัดเจน” • จะใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเล่นลูกก็ได้แต่ต้องเป็นการถูกลูกบอลหรือตีลูกบอล • เมื่อฝ่ายรับการเสิร์ฟชนะการเล่นลูก ผู้เล่นคนใหม่จะต้องทำการเสิร์ฟตามลำดับการ เสิร์ฟของเซตนั้น • เมื่อ “ลูกตาย” จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรองกี่คนก็ได้ • การแข่งขันเป็นแบบได้-เสีย คะแนนทุกครั้งที่เล่นลูก (การเล่นลูกแต่ละครั้งจะต้องได้ 1 คะแนน) และจบเซตที่ 25 คะแนน (ทีมชนะต้องได้คะแนนมากกว่าทีมแพ้อย่างน้อย 2 คะแนน โดยไม่มีการจำกัดคะแนน) จำนวนเซตที่แข่งขันแล้วแต่ตกลงกัน โดยผู้จัดการแข่งขันหรือผู้เล่น ถ้าได้เซตเท่ากันจะแข่งขันเซตตัดสิน 15 คะแนน (ทีมชนะต้องได้คะแนนมากกว่าทีมแพ้อย่างน้อย 2 คะแนน โดยไม่มีการจำกัดคะแนน) คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 191
ทที่ 9 การเล่นทีม (Team) วอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีม โดยมีผู้เล่นในสนามทีมละ 6 คน และผู้เล่นสำรองอีก 6 คน จุดประสงค์ในการเล่นวอลเลย์บอลที่สำคัญ คือ พยายามให้ลูกบอลข้ามตาข่ายตกในแดนของคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเกิดจากการเสิร์ฟ การตบ การสกัดกั้น การหยอด ฯลฯ ซึ่งผู้เล่นทั้ง 6 ตำแหน่งในสนาม จะต้องนำทักษะส่วนบุคคลนำมาใช้ในการเล่นทีม เพื่อผสมผสานความสัมพันธ์ในทีม และยังเป็นการนำ ศักยภาพที่ดีที่สุดของตนเองมาใช้ในการเล่นทีม การเล ่นกีฬาวอลเลย์บอล นอกจากจะนำทักษะพื้นฐานมาประกอบในการเล ่นทีมแล้ว ผู้เล่นต้องมีความเข้าใจองค์ประกอบในการเล่นทีม เช่น ตำแหน่งผู้เล่น การหมุนตำแหน่ง การยืน ในการรับลูกเสิร์ฟ การรุกและการสกัดกั้น ฯลฯ นอกจากนี้ผู้เล่นยังต้องนำเทคนิคต่างๆในการเล่น และความรู้จากกติกาแข่งขันนำมาประกอบในการเล่นทีมอีกด้วย ต�ำแหน่งของผู้เล่นกีฬาวอลเลย์บอล ผู้เล่นกีฬาวอลเลย์บอลจะต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่องตำแหน่งของผู้เล่น เพื่อเป็นความรู้ ประกอบในการเล่นทีม ตำแหน่งของผู้เล่นทั้ง 6 คน ในสนาม มีคุณสมบัติของผู้เล่นตามการหมุน อีกด้วย กล่าวคือ เป็นผู้เล่นแดนหน้า 3 คน และเป็นผู้เล่นแดนหลัง 3 คน ตามที่กติกากำหนด ตำแหน่งผู้เล่น คน ในสนามประกอบด้วย ตำแหน่งที่ 1 เรียกว่า หลังขวา หรือ ตำแหน่งเสิร์ฟหลังขวา ตำแหน่งที่ 2 เรียกว่า หน้าขวา ตำแหน่งที่ 3 เรียกว่า กลางหน้า ตำแหน่งที่ 4 เรียกว่า หน้าซ้าย ตำแหน่งที่ 5 เรียกว่า หลังซ้าย ตำแหน่งที่ 6 เรียกว่า กลางหลัง บ แสดงลักษณะการยืนตำ�แหน่งในสนาม 4 5 3 6 2 1 192 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate
ชนินทร์ ยุกตะนันทน์ กล ่าวถึงตำแหน ่งผู้เล ่น ในการแข ่งขันผู้เล ่นทุกคนจะต้อง เข้าใจตำแหน่งหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีเพราะตามกติกาการแข่งขัน ผู้เล่นซึ่งประกอบด้วย 6 ตำแหน่ง จะยืนผิดตำแหน่งกันไม่ได้โดยกำหนดตำแหน่งไว้ดังต่อไปนี้ ตำแหน่งที่ 1 คือผู้เล่นแดนหลังจะต้องยืนอยู่หลังตำแหน่งที่ 2 และอยู่ข้างขวามือ ของตำแหน่งที่ 6 ตำแหน่งที่ 2 คือผู้เล่นแดนหน้าจะต้องยืนอยู่หน้าตำแหน่งที่ 1 และอยู่ข้างขวามือ ของตำแหน่งที่ 3 ตำแหน่งที่ 3 คือผู้เล่นแดนหน้าจะต้องยืนอยู่หน้าตำแหน่งที่ 6 และอยู่ข้างขวามือ ของตำแหน่งที่ 4 และอยู่ทางซ้ายมือของตำแหน่งที่ 2 ตำแหน่งที่ 4 คือผู้เล่นแดนหน้าจะต้องยืนอยู่หน้าตำแหน่งที่ 5 และอยู่ทางซ้ายมือ ของตำแหน่งที่ 3 ตำแหน่งที่ 5 คือผู้เล่นแดนหลังจะต้องยืนอยู่หลังตำแหน่งที่ 4 และอยู่ทางซ้ายมือ ของตำแหน่งที่ 6 ตำแหน ่งที่ 6 คือผู้เล ่นแดนหลังจะต้องยืนอยู ่หลังตำแหน ่งที่ 3 อยู ่ทางขวามือ ของตำแหน่งที่ 5 และอยู่ทางซ้ายมือของตำแหน่งที่ 1 แสดงลักษณะตำแหน่งการยืนของผู้เล่นในสนาม หน้าที่ของผู้เล่นทั้งหกคน ก ่อนที่จะพิจารณารูปแบบของการเล ่นทีมผู้ฝึกสอนควรทราบขีดความสามารถของ ผู้เล่นของตนในแต่ละคนทั้ง 3 อย่าง คือ ความสามารถทางด้านร่างกาย, คุณภาพทางจิตใจ และความสามารถทางด้านเทคนิคการเล่น (ทักษะ 8 อย่าง คือ 1.การเสิร์ฟ, 2.การรับเสิร์ฟ, 3.เซตบอล, 4.ตบบอล, 5.การสกัดกั้น, 6.การตบ, 7.การรองบอล, 8.การควบคุมบอล เมื่อเราทราบ ความสามารถของนักกีฬาแต่ละคนแล้ว สิ่งที่จะทำต่อไปก็คือการจัดวางตำแหน่งของผู้เล่นในสนาม โดยทั่วไปการจัดตำแหน่งผู้เล่นในสนามจะมีการแบ่งแยกตำแหน่งสำคัญดังนี้ 4 5 3 6 2 1 คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล T-Certificate 193