[นายอุไทย โกยชยั ]หน้า 19 [ ]บทเรยี นสำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 20
ดำรงชีวิต]20119 [เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียปิ ต์]
กรอบที่ 8 การสร้างสรรคอ์ ารยธรรมของอยี ปิ ต์ ด้านวทิ ยาการ
ชาวอียิปต์สั่งสมความเจริญทางวิทยาการต่างๆ ให้แก่ชาวโลกหลายแขนง ท่ีสำคัญได้แก่
ความเจรญิ ด้านดาราศาสตร์ คณติ ศาสตร์ การแพทย์ และอกั ษรศาสตร์
1. ด้านดาราศาสตร์
เกิดจากการสังเกตปรากฏการณ์ที่น้ำในแม่น้ำไนล์หลากท่วมล้นตลิ่ง เม่ือน้ำลดแล้วพ้ืนดินก็มี
ความเหมาะสมท่ีจะเพาะปลูก หลังจากชาวนาเกบ็ เก่ียวพืชผลแล้ว นำ้ ในแม่น้ำไนล์ก็กลับมาท่วมอีก หมนุ เวียน
เช่นนี้ตลอดไป ชาวอียิปตไ์ ด้นำความรู้จากประสบการณ์ดังกลา่ วไปคำนวณปฏิทิน นับรวมเป็น 1 ปี มี 12 เดอื น
ในรอบ 1 ปียังแบ่งเป็น 3 ฤดทู กี่ ำหนดตามวถิ ีการประกอบอาชีพ คอื ฤดนู ำ้ ท่วม ฤดไู ถหวา่ น และฤดูเก็บเกยี่ ว
2. ดา้ นคณติ ศาสตร์
อยี ิปต์เปน็ ผู้วางรากฐานหลักวิชาเลขคณิตและเรขาคณิต รู้จักการบวก ลบ หาร แต่ยังไม่รู้จัก
วิธีคูณ โดยเฉพาะด้านเรขาคณิต อียิปต์โบราณเจริญมาก กล่าวคือ สามารถคำนวณหาพื้นท่ีของสามเหลี่ยม
สี่เหลี่ยมคางหมแู ละวงกลมได้ ตลอดจนชำนาญในการวัดที่ดิน ความสามารถในด้านคณิตศาสตรม์ ีส่วนชว่ ยอย่าง
มากในงานสถาปตั ยกรรม รจู้ ักคำนวณหาปริมาตรของพรี ะมดิ ค้นพบเลขระบบทศนยิ ม คน้ พบวา่ ¶ ( Pie) มีค่า
เท่ากบั 3.14 คำถามกรอบที่ 8
ดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์
1. ปฏิทินของชาวอยี ิปต์ มีการคำนวณโดยสังเกตอะไรเปน็ หลัก
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………….
2. อียปิ ตเ์ ป็นผูว้ างรากฐานหลักวิชาอะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………….
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 20 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 21
ดำรงชีวติ ]22/2119[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียปิ ต์]
คำตอบกรอบที่ 8 (ดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์)
1. สังเกตปรากฏการณท์ ่ีนำ้ ในแมน่ ำ้ ไนล์หลากทว่ มลน้ ตลง่ิ
2. เลขคณติ และเรขาคณิต รู้จักการบวก ลบ หาร แต่ยงั ไมร่ ู้จกั วธิ ีคณู
3. ด้านการแพทย์
ในระยะแรกๆยังรักษาพยาบาลคนป่วยไข้ด้วยความเช่ือในเรื่องเวทย์มนต์คาถา ประมาณ
1,700 ปีก่อนครสิ ตกาลเร่ิมนำแนวทางของวทิ ยาศาสตร์เข้ามาใช้ในการรักษา ทำใหก้ ารแพทย์ของอียิปต์เจริญ
ขึ้นเป็นลำดบั มีแพทยผ์ ู้เช่ียวชาญสาขาต่างๆ เช่น จกั ษุแพทย์ ทันตแพทย์ และศัลยแพทย์ แพทย์อยี ิปต์มีความ
เข้าใจในความสำคัญของหัวใจ มีความเช่ียวชาญในการผ่าตัด รู้จักใช้น้ำเกลือรักษาบาดแผลเพื่อป้องกันการ
อักเสบ มีการค้นพบการทำน้ำยารักษาศพไม่ให้เน่าเป่ือย ชาวอียิปต์โบราณได้คิดค้นวิธีท่ีจะรักษาสภาพศพให้
สมบูรณ์ เพื่อรอคอยการเกิดใหม่ของดวงวิญญาณ การทำมัมมี่จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์น้ีคำว่า "มัมม่ี"
(Mummy) เชอื่ กันวา่ มาจากคำว่า มัมมยี ะ (Mummiya) คำในภาษาเปอร์เชยี ซ่งึ หมายถงึ ร่างของศพทถี่ ูกทำให้
มีสีดำ มัมมี่มีส่วนชี้ให้เห็นถึงความสวยงามทางการแพทย์ของอียิปต์โบราณซึ่ง แอ็ดวินสมิธ เป็นผู้พบข้อความ
ทั้งหมดถูกบันทึกไว้เม่ือประมาณปี 1600 ระบุแสดงความสามารถของแพทย์อียิปต์โบราณด้านการผ่าตัด
กระโหลก ผ่าตดั กระดกู สันหลงั การวจิ ยั และรักษาโรคตา่ งๆ เพอื่ นๆทราบหรือไมว่ ่า
กา รท ำ มั ม มี่ เข า มี วิ ธีก า รท ำ
อย่างไรครับ ถ้าอยากรู้เรามา
ศกึ ษากรอบต่อไปเลยครับ
ภาพที่ 2.4 แสดงมัมมีอ่ ียปิ ต์
ท่มี า : http://www.chaoprayanews.com/2013/02/07
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 21 [ ]บทเรยี นสำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 22
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอยี ิปต์]
กรอบที่ 8 การสรา้ งสรรค์อารยธรรมของอยี ปิ ต์ ด้านวิทยาการ (ตอ่ )
ข้นั ตอน การทำมัมมี่
ข้ันตอนที่ 1 ศพถูกนำไปยังเต๊นท์พิเศษ ที่เรียกว่า อีบู ซึ่งมีความหมายว่า สถานที่ชำระศพให้บริสุทธ์ิ ผู้ทำ
มัมมจ่ี ะอาบศพด้วยเหลา้ ทท่ี ำจากน้ำตาลสด และชำระลา้ งดว้ ยน้ำจากแม่น้ำไนล์
ขน้ั ตอนท่ี 2 ช่างกจ็ ะผา่ ชอ่ งท้องดา้ นซ้ายเพ่อื เอาอวยั วะภายในออก เน่ืองดว้ ยอวัยวะภายใน ซงึ่ มีความชน้ื สูง
จะเปน็ สง่ิ แรกท่ีเนา่ สลายอยา่ งรวดเรว็ จึงตอ้ งเอาออก เหลือไวแ้ ต่หวั ใจที่จะทง้ิ ไวภ้ ายในศพ เพราะพวกเขาเชอื่ วา่ หัวใจ
คือศนู ย์รวมแหง่ ปญั ญาและความรับรู้ทง้ั ปวง ทผี่ ู้ตายยังต้องการใชใ้ นโลกแหง่ วิญญาณ
ขั้นตอนที่ 3 ตับ ปอด กระเพาะ และลำไส้ จะถูกนำมาชำระลา้ งจนสะอาด แล้วนำไปกลบไว้ด้วยเกลือเมด็ ท่ี
เรียกว่า Natron ซง่ึ เป็นเกลือโซเดียมคาร์บอรเ์ นต … แล้วเขาจะสอดตะขอผา่ นเข้าทางชอ่ งจมูก เพ่อื เกยี่ วเอาเนอ้ื สมอง
ออกมา เพราะสมองกเ็ หมือนอวยั วะภายในที่มีความชืน้ สูง ถ้าทิง้ ไว้จะทำให้แหง้ ยาก และก่อให้เกิดการยอ่ ยสลายได้งา่ ย
ข้นั ตอนท่ี 4 เอาศพไปวางกลบดว้ ยเกลอื เมด็ ให้แหง้
ขั้นตอนท่ี 5 ช่องว่างภายในก็ใส่เกลือเม็ด ไว้เพ่ือป้องกัน การเจริญเติบโตของเช้ือแบคทีเรยี อันจะทำให้ร่าง
เป่ือยเนา่ สูญสลายไปได้
ขั้นตอนท่ี 6 แชเ่ กลือไว้สสี่ บิ วันจนแหง้ ดี แล้วนำมาชำระล้างดว้ ยน้ำจากแม่น้ำไนล์ เคลอื บผิวหนงั ดว้ ยน้ำมัน
ข้นั ตอนท่ี 7 นำอวยั วะภายในท่แี ห้งแล้วมาบรรจุในโถ อาโทพตุ 4 อัน ได้แก่ โถหนา้ ลิง สนุ ัข เหยยี่ ว และคน
ขั้นตอนที่ 8 เตมิ ข้ีเล่ือยหรือใบไมแ้ ละผ้าลนิ นิ เพ่ือไมใ่ หย้ ุบตวั ลงไปตามกาลเวลาในภายหลงั
ขั้นตอนท่ี 9 ชำระศพด้วยน้ำมันหอมอีกคร้ังหน่ึง ก่อนท่ีจะนำไปพันผา้ ลินินในขน้ั ต่อไป การพันห่อมัมมี่ ข้ัน
แรก ศีรษะและลำคอจะถกู พันกอ่ น ด้วยแถบผ้าลินินอย่างดี แล้วก็จะพนั นิ้วมือและนวิ้ เท้าแยกกนั ทลี ะนิ้ว แล้วกพ็ นั ห่อ
แขนและขา แตล่ ะทบกจ็ ะใสเ่ ครอ่ื งราง เพอ่ื ปกปกั รักษาผ้ตู ายในระหวา่ งการเดนิ ทางไปสภู่ พใหม่
ขน้ั ตอนท่ี 10 พระท่องมนต์เพ่ือขจัดสง่ิ ท่เี ลวรา้ ยมใิ ห้แผว้ พานผู้ตาย ชว่ ยให้ผตู้ ายเดินทางได้สะดวกในภพหนา้
ขน้ั ตอนที่ 11 แลว้ แขนขามมั มี่กจ็ ะถูกพันเข้ากับส่วนร่าง ตำรา “มนตราสำหรับผู้ตาย” กจ็ ะรวมหอ่ ไปด้วยให้
ถอื ไว้ในมือของมัมมี่
ขั้นตอนที่ 12 พันผ้าเพิ่มรวมให้ร่างถูกพันรวมกันหมด แต่ละช้ันของผ้าลินิน ผู้ทำมัมม่ีก็จะทาไว้ด้วยเรซิน
เพอื่ ให้ผ้าลินินยดึ ติดกนั ไม่หลุดรุ่ยออกไดง้ ่าย แล้วห่อด้วยผา้ ผืนใหญ่อกี ทีหนึ่ง จากน้ันก็จะวาดรูปเทพ โอซีรีส บนผ้าที่
หอ่ มมั มน่ี น้ั
ขั้นตอนท่ี 13 จากนั้นก็เอาผ้าผน้ ใหญ่ห่ออีกช้ันหนึ่ง แล้วมัดตราสงั ข์ดว้ ยแถบผ้าลนิ นิ ตลอดรา่ งอย่างแน่นหนา
อีกเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ปิดด้านบนของมมั ม่ีด้วยแผ่นกระดานก่อนท่ีจะเอาไปใส่ในโลงศพสองโลง ซ้อนกัน ในพิธี
ศพ ญาติพี่น้องของผู้ตายมาไว้อาลัยและทำพิธี “เปิดปากศพ” เพ่ือเป็นการเลี้ยงอาหารให้ผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ขั้น
สดุ ทา้ ย กจ็ ะเอาโลงไปใส่ในโลงหินแกะสลัก ทีต่ ั้งอย่ใู นสถานเกบ็ ศพ พรอ้ มด้วยเครือ่ งเรอื น เสอ้ื ผา้ ของมคี ่า อาหารและ
เครือ่ งด่มื อาโทพุตทง้ั 4 อัน จะถกู จัดวางไวอ้ ย่างพร้อมเพรียง เป็นเสบยี งกรงั ให้ผตู้ ายได้เดินทางสู่ปรภพโดยสะดวก
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 22 บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 23
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียปิ ต์]
กรอบท่ี 9 การสร้างสรรค์อารยธรรมของอยี ปิ ต์ ด้านอกั ษรศาสตร์
อักษรของอยี ิปต์โบราณเร่ิมเม่ือประมาณ 300 B.C. การบนั ทกึ ทำเป็นอักษรภาพ รจู้ ักในนาม
อักษรภาพ เฮียโรกลิฟฟิค (Hieroglyphic) แปลว่า อักษรศักดิ์สิทธ์ิ ซ่ึงมีทั้งแบบที่เป็นรูปภาพและแบบที่เป็น
สญั ลักษณป์ ระกอบเป็นคำ โดยจะบนั ทึกลงในแผ่นหินและมว้ นกระดาษปาปิรัส ซ่ึงทำจากตน้ กก ตัวอักษรอยี ิปต์
มีประมาณ 1,000 ตัว ในสมัยก่อน ผู้ท่ีสามารถอ่านเขียนอักษรเฮียโรกลิฟฟิคได้คล่องแคล่ว จะมีโอกาสได้
ทำงานเป็นอาลักษณ์ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสที่จะเลื่อนขึ้นเป็นขุนนาง หรอื นักบวชสำคัญ ต่อมาได้พัฒนาการเขียน
ให้มีตัวอักษรภาพนอ้ ยลงเรียกอักษรเฮราติค (Hieratic) ภาษาเขียนทั้งสองแบบนี้เขียนได้ในหมู่พระเท่าน้ัน ใน
ประมาณศตวรรษที่ 8 กอ่ นคริสตกาลได้มีการพัฒนาการเขียนให้ดขี ้ึนกว่าเดมิ ตัวอักษรภาพลดจำนวนน้อยลง
และจำนวนผทู้ ่ีสามารถเขียนไดม้ ากขึ้น จากเหตผุ ลดงั กล่าวทำให้อักษรภาพลดเหลอื เพยี ง 24 ตวั เรียกตัวอักษร
เดโมติค (Demotic) สำหรับอักษรของอียิปต์นั้น นับแต่อารยธรรมล่มสลายลงไปก็ไม่มีใครสามารถตีความได้
จนกระทั่งได้มีการค้นพบ ศิลาจารึก โรเซทต้า (ROSETTA) ในปี ค.ศ.1799 ที่มีจารึกอักษรเฮียโรกลิฟฟิคกับ
อักษรกรีกโบราณเอาไว้ ฟรองซัวส์ ชองโพลียอง ใช้วิธีการค้นคว้าโดยอ่านเทียบกับอักษรกรีกโบราณ และ
สามารถตคี วามได้สำเรจ็ ในปี ค.ศ.1822
ภาพที่ 2.5 แสดงอักษรภาพเฮียโรกลฟิ ฟิค
ที่มา : http://www.chaoprayanews.com/2013/02/07
คำถามกรอบที่ 9 จงเรียงลำดับพฒั นาการของอกั ษรอยี ิปต์
ตอบ……………………………………………………………………………
[ ][นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 23 บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 24
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 25 [เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียิปต์]
คาตอบกรอบท่ี 9
เฮียโรกลิฟฟิค (Hieroglyphic) เฮราตคิ (Hieratic) และเดโมติค (Demotic) ตามลาดับ
กรอบท่ี 10 การสรา้ งสรรค์อารยธรรมของอยี ปิ ต์ ด้านสถาปตั ยกรรม
การก่อสร้างพีระมิดขนาดใหญ่ เพ่ือเก็บพระศพของกษัตริย์เป็นการยกย่องเชิดชูกษัตริยห์ รือ
ฟาร์โรห์ที่เชื่อว่าทรงเป็นเทวะหรือเทพเจ้า เป็นเจ้าของแผ่นดิน เอกลักษณ์ของพีระมิดอียิปต์คือ สฟิงซ์
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อวา่ สฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ท่ีชาญฉลาดและมีพลังเพ่ือ
ปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติภายในพีระมิดสันนิษฐานว่า พีระมิดรุ่นแรกๆ สร้างขึ้นราวปี 2,770 ก่อน
ครสิ ตศ์ ักราช ความย่งิ ใหญ่ของพีระมิดสะท้อนถงึ อำนาจของฟาโรห์ ความสามารถในการออกแบบและก่อสรา้ ง
ของชาวอยี ิปต์ เช่น พรี ะมดิ แห่งเมอื งกิซา (Giza) ซง่ึ ใช้แรงงานคนถึง 100,000 คน ทำการกอ่ สรา้ งพีระมดิ ขนาด
ความสงู 137 เมตร เป็นเวลานานถึง 20 ปี โดยใชห้ นิ ทรายตัดเป็นกอ้ นสี่เหล่ยี ม นำ้ หนักขนาด 2.2-2.5 ตนั รวม
ประมาณ 2 ล้านกอ้ นเปน็ วสั ดุก่อสรา้ ง
นอกจากพีระมิดแล้ว อียิปต์ยังสร้างวิหารจำนวนมาก เพื่อบูชาเทพเจ้าแต่ละองค์และเทพ
ประจำท้องถิ่นภายในวิหารมักจะประดับด้วยเสาหินขยาดใหญ่ซ่ึงแกะสลักลวดลายอย่างงดงาม วิหารที่สำคัญ
และยง่ิ ใหญ่ของอียิปต์ ไดแ้ ก่ วหิ ารแหง่ เมืองคารน์ ัก (Karnak) และวหิ ารแห่งเมอื งลกั ซอร์ (Luxor)
ภาพท่ี 2.5 แสดงมหาพีระมิดแห่งอยี ปิ ต์ หรือ พีระมดิ คฟู ู หรือ มหาพรี ะมิดแห่งกีซา่
ที่มา : http://www. http://belleairimages.com
คำถามถามกรอบที่ 10
พีระมดิ สร้างขึน้ เพือ่ จดุ ประสงคใ์ ด
ตอบ……………………………………………………………………………
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 24
[ ][นายพัทรวชิ ญ์ 25
เก้ือกลู วุฒิหิรณั ] Pagบeทเร2ยี 5นสำเร็จรปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ
119 [เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียปิ ต์]
คำตอบกรอบท่ี 10
เพ่ือเก็บพระศพของกษตั ริยเ์ ปน็ การยกย่องเชิดชูกษัตริยห์ รอื ฟารโ์ รห์ที่เช่ือว่า
ทรงเป็นเทวะหรือเทพเจา้ เป็นเจา้ ของแผ่นดิน
เพ่ือนๆ ศกึ ษาจนจบบทเรียนแลว้ เรามาดูผลการประเมิน
กันเลยดกี วา่ นะครบั ในเรอ่ื งนกี้ รอบละ 1 คะแนนนะครับ
ถ้ากรอบใดมีแบบทดสอบ 2-3 ขอ้ กข็ ้อละ 1 คะแนน นะครบั
พกั เหนือ่ ยกอ่ นนะคะ แลว้ ชัว่ โมงตอ่ ไป
เรามาเรยี นเรอื่ ง
“อารยธรรมกรกี ” ค่ะ
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 25 26
[ ][นายพัทรวชิ ญ์ เกื้อกลู วฒุ หิ ริ ณั ] Pบaทgเeรยี 2น6สำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียปิ ต์]
แบบทดสอบก่อนเรียน (Post – test)
เรื่อง อารยธรรมอียิปต์
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นกากบาท (X) ทบั ข้อท่ีถูกที่สุดเพยี งข้อเดยี วในกระดาษคำตอบ
1. สถานทีต่ ้งั ในปัจจบุ นั ของอารยธรรมอยี ิปตอ์ ยูท่ ่ีใด
ก. ทางทิศเหนอื ของแอฟริกา
ข. ทางทิศใต้ของทวีปแอฟริกา
ค. ทางทิศตะวนั ออกของแอฟริกา
ง. ทางทศิ ตะวันออกเฉียงเหนือของทวปี แอฟริกา
2. แหล่งอารยธรรมอียิปต์ เรียกอีกอยา่ งหนง่ึ วา่ อยา่ งไร
ก. อารยธรรมลมุ่ แมน่ ้ำคงคา
ข. อารยธรรมลุม่ แมน่ ้ำสนิ ธุ
ค. อารยธรรมลมุ่ แมน่ ำ้ ไนล์
ง. อารยธรรมล่มุ แมน่ ำ้ หวงเฮอ
3. ชาวอยี ิปต์โบราณสร้างพีระมดิ ขนึ้ มาเพื่ออะไร
ก. รกั ษาพระศพของฟาโรห์ไมใ่ ห้เนา่ เปอ่ื ย
ข. เปน็ การสรา้ งงานระหวา่ งที่แม่นำ้ ไนลท์ ว่ ม
ค. รกั ษาความเชื่อในเร่อื งชีวติ หลงั จากความตาย
ง. เพือ่ เก็บพระศพของกษัตริย์และยกย่องเชิดชูกษตั รยิ ์
4. อียปิ ต์บนมลี กั ษณะเฉพาะคอื อะไร
ก. ดนิ เหนยี วสดี ำ ชมุ่ น้ำ
ข. ดนิ อดุ มสมบรู ณ์จากตะกอนนำ้ พัดพา
ค. อยูต่ อนในของทวีป คอ่ นข้างแห้งแลง้
ง. อยู่ตอนบนของอยี ปิ ต์ติดทะเล ติดตอ่ ค้าขายสะดวก
[ ][นายพทั รวชิ ญ์ 27
เกื้อกูลวุฒิหริ ัณ] Pบagทeเรยี 2น7สำเรจ็ รูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียิปต์]
5. ขอ้ ใดไม่ใช่มรดกความเจรญิ ที่เริ่มตน้ มาจากอยี ิปต์
ก. การใชก้ ระดาษและน้ำหมึก
ข. การคำนวณหาพนื้ ท่ีวงกลม
ค. การสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่
ง. การใชน้ ำ้ เกลอื ในการรักษาบาดแผล
6. คำวา่ เฮียโรกลฟิ ฟคิ มคี วามหมายตรงกบั ข้อใด
ก. อักษรภาพ
ข. อักษรศกั ดส์ิ ิทธิ์
ค. อกั ษรของฟาโรห์
ง. อักษรภาพแบบเขียนหวดั
7. อียิปตโ์ บราณเรมิ่ ก่อสรา้ งความเจริญข้ึนได้เพราะอะไร
ก. ผู้นำใช้ทหารเป็นเครอ่ื งมอื
ข. เปน็ ชนชาตทิ ีเ่ จริญมาก่อน
ค. ทต่ี ัง้ ภูมศิ าสตรเ์ หมาะสมท้ังในดา้ นอาชพี และอุดมการณ์
ง. จดั ระบบการทำงานดว้ ยการแบ่งหนา้ ที่กันอย่างเปน็ ระเบียบ
8. การสร้างสสุ านหิน พีระมิด ให้คงอยไู่ ด้ทกุ วนั นแี้ สดงวา่ ชาวอยี ปิ ตม์ ีความร้เู หนอื ชนชาติอนื่ ในยุค
เดยี วกันในขอ้ ใด
ก. ทางเลขคณติ เรขาคณิต ฟสิ ิกส์
ข. ทางเลขคณติ และ เรขาคณิต
ค. ทางเลขคณติ เรขาคณติ เคมี
ง. ทางเลขคณติ เรขาคณิต เคมีและฟสิ ิกส์
[ ]บทเรยี นสำเร็จรูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 28
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอียิปต์]
9. เหตใุ ดทีท่ ําให้อาณาจักรอียิปต์ล่มสลาย
ก. เพราะภยั ธรรมชาติ
ข. เพราะความเป็นแก่ตัวของกษตั รยิ ์
ค. เพราะความอดอยาก ปัญหาการเมอื ง
ง. เพราะมกี ารโกงกนั ของเจ้านาย ขา้ ราชการ
10. ท่รี าบลมุ่ ของอยี ิปต์โบราณอดุ มสมบรู ณ์เพราะอะไร
ก. ฝนตกตลอดปี
ข. บำรุงท่ีดินโดยการใช้ปุย๋
ค. นำ้ ทว่ มล้นฝ่ังแม่นำ้ ไนล์ทกุ ปี
ง. เนื้อดนิ ซยุ่ เหมาะแกก่ ารไถคราด
[ ][นายพัทรวชิ ญ์ เก้อื กูลวฒุ หิ ิรณั ] Paบgทeเรีย28นสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 29
[เล่มท่ี 2 อารยธรรมอยี ปิ ต์]
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post - test )
เรอื่ ง อารยธรรมอียิปต์
1. ง
2. ค
3. ง
4. ค
5. ค
6. ข
7. ค
8. ก
9. ค
10. ค
[ ]บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 1
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
สวัสดีครับ.. บทเรียนในเลม่ ท่ี 3 น้ี เพอ่ื นๆ จะได้ศกึ ษาอารยธรรมกรกี
ซึง่ เป็นอกี อารยธรรมหนึง่ ท่ีทุกคนตอ้ งเรยี นรู้ และนำไปใช้ในการเตรยี มสอบประเมินผล
และสอบเข้าศกึ ษาตอ่ ในระดบั ที่สูงขึน้
ขอให้เพือ่ นๆ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน จำนวน 10 ข้อก่อน
โดยใหท้ ำในกระดาษคำตอบทค่ี รูแจกให้ ขอใหส้ นุกกับการเรียนนะครบั …..
เพ่ือนๆ ตอ้ งซื่อสตั ย์ต่อตนเองดว้ ยนะครบั
เอ้า..ทำแบบทดสอบกันเลย
คณุ ธรรมท่ตี ้องการเน้น คือ
5. ความมวี ินยั
6. ความซื่อสัตย์
7. การทำงานรว่ มกบั ผอู้ น่ื
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 1 [ ]บทเรยี นสำเร็จรปู เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 2
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
แบบทดสอบก่อนเรยี น(Pre – test)
เรื่อง อารยธรรมกรีก
คำชี้แจง ให้นกั เรียนกากบาท (X) ทับขอ้ ที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดยี วในกระดาษคำตอบ
1. นครรฐั เอเธนสเ์ ปน็ ดนิ แดนแห่งแรกของโลกที่มกี ารปกครองในแบบใด
ก. เผด็จการ
ข. คอมมิวนิสต์
ค. ประชาธปิ ไตย
ง. สมบูรณาญาสิทธริ าชย์
2. งานสร้างสรรคศ์ ิลปวฒั นธรรมของกรกี เกิดจากคุณลักษณะเฉพาะตัวของกรีกโบราณเร่อื งใด
ก. ความรกั ศรัทธา และผกู พันกับศาสนา
ข. ความมีระเบียบวนิ ัยรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
ค. ความเป็นตัวของตวั เอง ความรกั ในเสรภี าพ
ง. ความสามารถในการผสานอารยธรรมหลายชาติ
3. สถาปัตยกรรมของอารยธรรมกรีกในเรอ่ื งใดที่มอี ทิ ธพิ ลต่อสถาปตั ยกรรมในปัจจุบนั
ก. การสร้างอาคารยกพนื้ สูง
ข. การสรา้ งหลงั คามุงอาคาร
ค. การป้ันรูปผชู้ ายเปลอื ยกาย
ง. การใช้เสาและคานรับน้ำหนกั อาคาร
4. ข้อใดคือท่ีต้ังของอารยธรรมกรีกโบราณ
ก. บรเิ วณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลข่านและชายฝ่งั ทะเลแดง
ข. บริเวณตอนใต้ของคาบสมุทรแปซิฟกิ และชายฝ่งั ทะเลอเี จยี น
ค. บรเิ วณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลขา่ นและชายฝั่งทะเลดำ
ง. บรเิ วณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลข่านและชายฝงั่ ทะเลอีเจยี น
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 2 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 3
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
5. หัวเสางานสถาปตั ยกรรมของกรกี แบบใด ท่ีตกแตง่ ประณีต หรหู รา และได้รบั ความนิยมมากในสมยั
เฮเลนนิสตกิ
ก. แบบดอรกิ
ข. แบบไอโอนิก
ค. แบบคอรนิ เธียน
ง. แบบไมซีเนยี น
6. ขอ้ ใดเปน็ จุดเดน่ ของอารยธรรมกรกี ยุคเฮเลนกิ
ก. เนน้ ความหรูหรา และอารมณ์ให้เกิดพลงั ในการดศู ลิ ปะ
ข. เปน็ ศิลปะยคุ ทองในสมัยพระเจา้ อเล็กซานเดอรม์ หาราช
ค. เปน็ ศิลปะผสมผสานระหวา่ งตะวันตกและตะวนั ออกไดอ้ ย่างลงตวั
ง. เนน้ แสดงสรรี ะของมนษุ ย์ มกี ล้ามเนือ้ และสัดส่วนของรา่ งกายท่ีแขง็ แรงสมบูรณส์ วยงาม
7. ขอ้ ใด ไม่ใชอ่ งคก์ รสำคญั ในการปกครองแบบประชาธิปไตยของเอเธนส์
ก. ดา้ นตุลาการ
ข. ด้านสภานกั การเมือง
ค. สภาราษฎร (Ekklesia)
ง. สภาห้ารอ้ ย (Boule; Council of the five Hundreds)
8. ประชาชนในนครรัฐสปาร์ตาแบง่ ออกเป็น 3 กลุ่ม ยกเว้นข้อใด
ก. อะโครโปลิส
ข. เปริโอซิ
ค. สปาร์เตียตส์
ง. เฮลอ็ ต
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 3 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 4
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
9. ข้อใดเป็นงานวรรณกรรมกรีกต้นแบบ ทใ่ี หค้ วามรทู้ างประวัตศิ าสตรแ์ ละอารยธรรมกรกี ในยคุ แรกๆ
ก. งานประพนั ธร์ อ้ ยแกว้ ของซเิ ซโร
ข. ประวัติศาสตร์ (History) โดยเฮโรโดตัส
ค. มหากาพย์อีเนียด (Aeneid) โดยเวอรจ์ ิล
ง. มหากาพยอ์ เี ลียด (Iliad) และโอดสี ซยี ์ (Odyssey) โดยโฮมเมอร์
10. เมื่อส้นิ สุดสงครามเพโลพอลนีเชยี น สง่ ผลกระทบอย่างไรต่อนครรฐั ต่างของกรีก
ก. ออ่ นแอและเสอ่ื มอำนาจ
ข. เจริญรุ่งเรืองและมงั่ คั่ง
ค. เป็นประชาธิปไตยทง้ั หมด
ง. ถูกผนวกรวมเข้ากบั นครรฐั เอเธนส์
ไม่ยากเลยใช่ไหมครบั เพือ่ นๆ
ไหนลองตรวจดูสิครับ ไดก้ ่ีคะแนน
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 4 [ ]บทเรียนสำเร็จรูป เร่อื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 5
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น( Pre - test )
เรือ่ ง อารยธรรมกรีก
1. ค
2. ค
3. ง
4. ง
5. ค
6. ง
7. ข
8. ก
9. ง
10. ก
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 5 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 6
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
สวสั ดคี รับ เพื่อนๆ
อารยธรรมกรกี กน็ า่ สนใจ นะครบั
แ ล้ ว ...เร า จ ะ ศึ ก ษ า อ า ร ย ธ ร ร ม ก รี ก ด้ า น
ใดบ้างคะ
สำหรับอารยธรรมกรีก เราจะศึกษาเก่ียวกับ ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิด
อารยธรรมกรีก ที่ตง้ั ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดินแดนกรีก การสร้างสรรค์
อารยธรรมดา้ นตา่ งๆ ในดินแดนกรีก
ถา้ งัน้ เรามาศึกษาอารยธรรม
กรีกในหัวขอ้ ตามกรอบต่างๆ
เลยนะครบั น้องๆ
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 6 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่อื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 7
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
กรอบที่ 1 ปัจจัยท่ีส่งเสริมใหเ้ กดิ อารยธรรมกรกี
อารยธรรมกรีกท่ีเป็นมรดกตกทอดมาถึงปัจจุบันนี้ประกอบด้วยอารยธรรมหลัก 2 ส่วน ได้แก่
อารยธรรมของชาวกรีกโบราณ หรืออารยธรรมเฮลเลนิก (Hellenic Civilizaton, ปี 750-336 ก่อน
คริสต์ศักราช) และ อารยธรรมเฮลเลนิสติก (Hellenistic Civilization, ปี 336-31 ก่อนคริสต์ศักราช) ซ่ึง
เกิดข้ึนในช่วงเวลาที่กรีกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิมาซิโดเนีย (Macedonia) และเป็นอารยธรรมท่ี
ผสมผสานกับความเจริญท่ีรับจากดินแดนรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจัยท่ีสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิด
อารยธรรมกรีกโดยรวม คือ ท่ตี ้งั ทางภมู ศิ าสตร์ ชาวกรีกโบราณ และระบอบนครรัฐกรกี
ภูมิประเทศของกรีก ประกอบด้วย ภูเขา พ้ืนดิน และทะเล โดยกรีกมีพื้นที่ราบน้อย พ้ืนท่ีส่วนใหญ่
เป็นภูเขา และหมู่เกาะในทะเลอีเจียน ประชาชนอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านในบริเวณที่ราบเล็กๆ ในหุบเขาที่
ล้อมรอบด้วยภูเขาสงู ซ่ึงเปน็ อุปสรรคสำคญั ในการติดต่อส่อื สาร ซ่ึงสภาพภมู ิศาสตรเ์ ช่นน้ที ำให้แยกชมุ ชนต่างๆ
ออกจากกัน ส่งผลให้แต่ละเมืองแตกแยกเป็นนครรัฐต่าง ๆ มากมายซึ่งเป็นอิสระไม่ข้ึนแก่กัน นครรัฐท่ีสำคัญ
ได้แก่ นครรัฐเอเธนส์ และนครรัฐสปาร์ตา พ้ืนดินส่วนใหญ่ของกรีกขาดความอุดมสมบูรณ์และมีพื้นดินขนาด
เล็ก ประกอบกับมีแม่น้ำสายสั้น ๆ น้ำไหลเช่ียวและพัดพาเอาความอุดมสมบูรณ์ของดินไป และจากลักษณะ
ภูมปิ ระเทศท่ีมีลักษณะคล้ายแหลมยนื่ ไปในทะเล ทำให้กรีกมีชายฝงั่ ทะเลท่ียาว ซึ่งความเว้าแหว่งของทะเลเป็น
ที่กำบังคล่นื ลมได้เป็นอย่างดี ใชเ้ ป็นอ่าวสำหรบั จอดเรือ ทำให้ชาวกรีกเป็นคนชอบค้าขายทางทะเล นอกจากน้ี
ดินแดนกรีกยงั เป็นดินแดนที่มีทรพั ยากรธรรมชาติมากมาย เชน่ เหล็ก ทอง เงนิ หนิ อ่อน เป็นตน้
คำถามกรอบที่ 1 ทำเสร็จเรยี บร้อยแล้ว
ตรวจคำตอบได้เลยครับ
1. นครรฐั ท่สี ำคัญของกรกี ได้แก่อะไรบา้ ง
ตอบ……………………………………………………
2. ปจั จัยท่ีสำคัญท่สี ่งเสรมิ ให้เกดิ
อารยธรรมกรีกโดยรวมมีอะไรบา้ ง
ตอบ……………………………………………………
[นายอุไทย โกยชยั ] หน้า 7 [ ]บทเรียนสำเร็จรูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 8
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 1
1. นครรฐั เอเธนส์ และนครรัฐสปารต์ า
2. ท่ตี ง้ั ทางภมู ศิ าสตร์ ชาวกรกี โบราณ และระบอบนครรฐั
กรอกบรทกี ี่ 2
ทีต่ ้งั ของอารยธรรมกรีก
อารยธรรมกรีกเกิดขึน้ ในบริเวณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลข่านและชายฝ่ังทะเลอีเจียน ซ่ึงกน้ั ระหวา่ ง
คาบสมุทรบอลขา่ นและเอเชียไมเนอร์ บรเิ วณเหล่าน้ีอยู่ในเขตทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนียน ซึง่ รายรอบด้วยอารยธรรม
สำคัญของโลก คืออารยธรรมอียิปต์และเมโสโปเตเมีย โดยเฉพาะอย่างย่งิ อยู่ใกลก้ ับเกาะครีตซงึ่ เป็นศูนย์กลาง
ของอารยธรรมไมนวน (Minoan Civilization ประมาณปี 2000-1400 ก่อนคริสต์ศักราช) ท่ีเกิดจากการ
ผสมผสานอารยธรรมของดินแดนในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้ชาวกรกี สมัยโบราณมีโอกาสรับและ
แลกเปล่ียนความเจรญิ ด้านตา่ งๆ ของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี และอียปิ ต์จากเกาะครตี
ภาพที่ 3.1 แสดงแผนที่และทตี่ ้ังของอารยธรรมกรีก
ท่ีมา : https://nokngamphol.wordpress.com/image003/
[นายอไุ ทย โกยชัย] หน้า 8 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รปู เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 9
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
กรอบที่ 3
ชาวกรกี โบราณ
ชาวกรีกโบราณเรียกตัวเองว่า “เฮลลีน” (Hellene) เป็นพวกอินโด-ยูโรเปียนกลุ่มหน่ึงท่ีอพยพมา
จากทางตอนเหนือของประเทศกรีซปัจจุบันเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในระยะแรก กระจายอยู่
เปน็ เผา่ ต่างๆ ในคาบสมทุ รบอลขา่ นและเขตทะเลอีเจยี น ทส่ี ำคญั ได้แก่ พวกไอโอเนียน (Ionians) และพวกไมซี
เนียน (Mycenaeans) โดยทั่วไปชาวกรีกโบราณประกอบอาชีพ เกษตรกรรมและเดินเรือ ต่อมาเผ่าท่ีมีความ
เจริญได้ขยายอำนาจและก่อต้ังเป็นนครรัฐ ท่ีสำคัญได้แก่ นครรฐั ของพวกไมซีเนียนซึ่งยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่
และมอี ำนาจสูงสุดประมาณปี 1,600-1,100 ก่อนคริสตศ์ ักราช โดยมีศูนย์กลางอยู่ทเ่ี มืองไมซีเนียนทางตอนใต้
ของประเทศกรีซในปัจจุบัน พวกไมซีเนียนเป็นนักรบที่มีความเก่งกล้าสามารถยดึ ครองดินแดนของนครรฐั อ่ืนๆ
รวมท้งั เกาะครตี และรับอิทธิพลของอารยธรรมต่างๆ โดยเฉพาะอารยธรรมไมนวนของชาวเกาะครีต
ต่อมาประมาณปี 1,100 ก่อนคริสต์ศักราช พวกกรีกอีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ดอเรียน (Dorians) ซึ่ง
อพยพมาจากทางเหนือและขยายอำนาจครอบครองดินแดนของพวกไมซีเนียน พวกนี้ได้สร้างนครรัฐสปาร์ตา
เป็นศูนย์กลางปกครองของตน พวกดอเรียนมีความเจริญน้อยกว่าไมซีเนียนและไม่รู้หนังสือ จึงไม่มีหลักฐานที่
กล่าวถึงดินแดนกรีกภายใต้อทิ ธิพลของพวกดอเรียนในช่วงปี 1,100-750 กอ่ นคริสต์ศักราชมากนัก จนกระท่ัง
ประมาณปี 750 ก่อนคริสต์ศักราช ได้มีการประดิษฐ์อักษรซ่ึงรับรูปแบบมาจากอักษรและพยัญชนะของพวก
ฟีนิเชียน ที่เข้ามาติดต่อค้าขายในช่วงน้ัน อย่างไรก็ตามแม้พวกดอเรียนจะมีอำนาจเข้มแขง็ แต่ก็ไม่สามารถรวม
อำนาจปกครองนครรัฐกรกี ไดท้ งั้ หมด
คำถามกรอบท่ี 3
1. ชาวกรีกโบราณประกอบอาชีพอะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………..
2. ชาวกรกี กลุ่มใดที่สร้างนครรัฐสปารต์ า เปน็ ศนู ย์กลางปกครองของตน
ตอบ…………………………………………………………………………………………………..
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 9 [ ]บทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 10
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบท่ี 23
11..เกเกษษตตรรกกรรรรมมแแลละะเดเดินินเรเรืออื 22..ดดออเเรรียียนน((DDoorriaiannss))
อารยธรรมกรีกในระยะแรกๆ เป็นอารยธรรมทางทะเล ความเจริญเกิดขึ้นบริเวณเกาะต่างๆ และ
ชายฝ่ังทะเลอีเจียน ประกอบด้วยอารยธรรม 2 แหล่ง คือ อารยธรรมไมนวน (Minoan Civilization) และ
อารยธรรมไมซินี (Mycenae Civilization)
1. แหลง่ อารยธรรมไมนวน (Minoan Civilization)
เกิดข้ึนบนเกาะครีต ในทะเลอีเจียน ชนพ้ืนเมืองของไมนวน เรียกว่า ชาวครีต (Crete)
หรอื ครตี นั (Cretan) สรปุ ความเจรญิ ไดด้ ังน้ี
- รู้จักประดิษฐ์อักษรภาพและตัวอักษรที่เป็นเส้นตรง เรียกว่า ลิเนียร์ เอ (Linear A)
ซ่ึงมสี ัญลักษณ์ทง้ั หมด 87 ตัว ใชแ้ ทนคำพยัญชนะ ปจั จุบนั ยงั ไมม่ ใี ครสามารถอ่านได้
- อารยธรรมไมนวนเจริญรุ่งเรืองมากระหว่าง 1,800 – 1,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ในสมัยพระเจ้ามินอส (Minos) มีการสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ ชื่อ พระราชวังนอสซัส หรือ
คนอสซุส (Knossos) บนเกาะครีต เป็นส่ิงก่อสร้างสูง 3 ช้ัน สร้างด้วยอิฐและหินทำให้รู้ว่า
ชาวครีตัน มีความสามารถทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอย่างสูง ซึ่งขุดค้นพบซาก
พระราชวังดังกล่าวโดยนกั โบราณคดชี าวองั กฤษ
- การสิ้นสุดของแหล่งอารยธรรมไมนวน เม่ือประมาณ 1,460 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
เกาะครีตถกู รกุ รานและยึดครองโดยพวกไมซินี (Mycenae) จากแผ่นดินใหญ่ เน่อื งจากเกาะครีต
ไมม่ กี ำแพงเมอื ง หรือปอ้ มปราการใดๆจึงถูกข้าศึกเขา้ โจมตีได้ง่าย
คำถามกรอบที่ 3 แหล่งอารยธรรมไมนวน
หลกั ฐานท่แี สดงถึงความเจริญด้านสถาปัตยกรรม และวศิ วกรรมของอารยธรรมไมนวน คอื อะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………….
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 10 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 11
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบที่ 3 (แหล่งอารยธรรมไมนวน)
พระราชวังนอสซสั หรอื คนอซุส (Knossos) เปน็ สงิ่ กอ่ สรา้ งสูง 3 ช้นั สรา้ งด้วยอฐิ และหนิ
2. แหลง่ อารยธรรมไมซนิ ี (Mycenae Civilization)
เป็นอารยธรรมของพวกไมซีเนียน มีศูนย์กลางอยู่ท่ีเมืองไมซีเนบนคาบสมุทร
เพโลพอนนีซัส โดย บรรพบุรุษของชาวไมซีเนียน คือ พวกเอเคียน มีความสามารถในการรบ
และการค้า ซ่ึงพวกน้ีโจมตีเกาะครีต ทำลายพระราชวังคนอสซุส และได้สร้างเมืองไมซีเนขึ้น
ซ่ึงมีป้อมปราการที่แข็งแรง ทำให้พวกเอเคียนมีช่ือใหม่ว่า ไมซีเนียน ตามช่ือเมือง ต่อมา
พวกเอเคียนได้ไปทำสงครามกับเมืองทรอยในสงครามโทรจัน เน่ืองจากเมืองทรอยต้ังอยู่ทางทิศ
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของเอเชยี ไมเนอร์ ซึง่ เป็นคู่แขง่ ทางการคา้ กับเมอื งไมซเี นจนสำเรจ็
สรปุ ความเจรญิ ได้ดงั น้ี
- มีความสามารถในการรบและการค้าทางทะเล สามารถขยายอำนาจและอิทธิพลเข้า
ครอบครองดินแดนชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดเิ ตอร็เรเนียน
- อารยธรรมไมซินีได้ถ่ายทอดให้ชาวกรีกสมัยหลังๆ คือ การประดิษฐ์ตัวอักษรไมซีเนียน
ซ่ึงเป็นรากฐานของตัวอักษรกรีกโบราณ และความเชื่อทางศาสนา ซึ่งนับถือเทพเจ้าหลายองค์
โดยเฉพาะเทพเจ้าซูส (Zeus)
- การสิ้นสุดของแหล่งอารยธรรมไมซินี เม่ือประมาณ 1,120 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ถูก
พวกดอเรียน (Dorian) ซึ่งเปน็ ชาวกรีกเผ่าหน่ึงเข้ามารุกรานจนทำให้ความเจริญหยดุ ลงช่ัวขณะ
คำถามกรอบท่ี 3 แหล่งอารยธรรมไมซนิ ี
สงิ่ ที่อารยธรรมไมซินไี ดถ้ า่ ยทอดใหช้ าวกรีกสมัยหลังๆ คืออะไร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………….
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 11 [ ]บทเรียนสำเร็จรูป เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 12
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบที่ 3 (แหล่งอารยธรรมไมซินี)
การประดิษฐ์ตัวอกั ษรไมซเี นียน ซงึ่ เปน็ รากฐานของตัวอักษรกรีกโบราณ
และความเชื่อทางศาสนาซึง่ นบั ถือเทพเจ้าหลายองค์ โดยเฉพาะเทพเจ้าซูส (Zeus)
ภาพที่ 3.2 แสดงอักษรลเิ นยี ร์ เอ (Linear A) บนแผน่ ดินเหนียว
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/
ภาพที่ 3.3 แสดงสว่ นหนึ่งของพระราชวงั คนอสซุส (Knossos) จากการขดุ คน้ ของนกั โบราณคดี
ท่ีมา : https://th.wikipedia.org/wiki/
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หน้า 12 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 13
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
กรอบที่ 4
ยุคมดื ของอารยธรรมกรีก
สงครามเป็นเหตุให้เศรษฐกิจกรีกพินาศ ซึ่งสร้างความยากจนและสับสน ทางการเมืองยาวนาน
กษัตริย์ไมซีเนียนถูกแทนท่ีด้วยหัวหน้าเล็ก ๆ เป็นช่วงที่กรีกอยู่อย่างกระจัดกระจาย ไม่สามารถรวมตัวเป็น
ปึกแผ่นเหมือนแต่ก่อน กรีกเพาะปลูกในพื้นดินน้อยนิด มีคนมาต้ังถิ่นฐานน้อย และการค้าขายท่ีเคย
เจริญรุ่งเรืองก็ตกเป็นของต่างชาติ (ชาวฟินีเซีย) ซ่ึงเร่ืองราวต่าง ๆ ของกรีกยุคมืดปรากฏอยู่ในวรรณกรรม
มขุ ปาฐะ เรื่อง มหากาพย์อิเลียด (Iliad) และโอดิสซี (Odyssey) ของมหากวีโฮเมอร์ (Homer) ซ่ึงมหากาพย์
อิเลียด เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสงครามกับทรอย ส่วนมหากาพย์โอดิสซี เป็นเร่ืองการเดินทางหลังจากได้
ชยั ชนะจากการทำสงครามกบั ทรอย
ภาพท่ี 3.4 แสดงภาพปกมหากาพย์ อเี ลยี ด เชอ่ื ว่าพิมพใ์ นปี ค.ศ. 1572
ทม่ี า : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c0/Homer_Ilias_Griphanius_c1572.jpg
คำถามกรอบที่ 4
วรรณกรรม มหากาพย์อเิ ลยี ด (Iliad) และโอดิสซี (Odyssey) เป็นผลงานของใคร
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………..
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 13 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 14
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 4
มหากวีโฮเมอร์ (Homer)
กรอบที่ 5
การปกครองของกรีก
นครรัฐกรีกโบราณ มีรูปแบบการเมืองการปกครองเป็นนครรัฐ เป็นหน่วยทางการเมืองท่ีมีอธิปไตย
อย่างสมบูรณ์ แตล่ ะหน่วยคือ รัฐอิสระท่ีดำเนนิ นโยบายและตัดสนิ เรอ่ื งตา่ งๆ ด้วยตัวเอง ท่ีสำคญั และมบี ทบาท
มากในอารยธรรมยุคโบราณ ได้แก่ เอเธนส์ และสปาร์ตา
นครรฐั สปารต์ า
มกี ารปกครองแบบทหารนิยม คณะผู้ปกครองมีอำนาจสงู สุดและเด็ดขาด พลเมืองชายทุก
คนท่ีมีอายุต้ังแต่ 20-60 ปี ต้องถูกฝึกฝนให้เป็นทหาร เรียนรู้วิธีการต่อสู้และเอาตัวรอดในสงคราม
แม้แต่พลเมืองหญิงก็ยังต้องฝึกให้มีสุขภาพแข็งแรงเพื่อเตรียมเป็นมารดาของทหารที่แข็งแกร่งใน
อนาคต อนึ่ง สปาร์ตาไม่สนับสนุนการค้าขายและการสร้างสรรค์ศิลปกรรมใดๆ การปกครองของ
พวกสปารต์ านับเป็นการขัดขวางสิทธิของปัจเจกชน และเป็นต้นกำเนิดของระบอบการปกครองแบบ
เผด็จการเบ็ดเสร็จ (Totalitarianism) ประชาชนในนครรัฐสปาร์ตาแบ่งออกเปน็ 3 กล่มุ คอื
1. สปารเ์ ตยี ตส์ (Spartites) 2. เปรโิ อซิ ((Perioeci) 3. เฮล็อต (Helot)
นครรัฐเอเธนส์
เป็นต้นกำเนิดของรัฐประชาธิปไตย นครรัฐเอเธนส์ปกครองโดย สภาห้าร้อย ซึ่งได้รับเลือก
จากพลเมอื งเอเธนส์ทม่ี ีสิทธิออกเสยี ง สภาน้ีมีหน้าที่ตรวจสอบร่างกฎหมายและบริหารการปกครอง
นอกจากนี้ยังมีสภาราษฎร ซึ่งเป็นท่ีประชุมของพลเมืองที่มีสิทธิออกเสียงทุกคนและทำหน้าที่
ตุลาการพิจารณารา่ งกฎหมาย การที่เอเธนส์ให้สิทธิและเสรีภาพแก่ปัจเจกชน ทำให้เกิดนักคิดและ
นักปราชญ์ท่ีเรียกว่าพวกโซฟิสต์ (Sophists) สำนักต่างๆ ในสังคมเอเธนส์ แนวคิดและปรัชญาของ
นักปรชั ญาคนสำคัญ ได้แก่ โซเครติส และเพลโต ยังเปน็ หลกั ปรัชญาของโลกตะวันตกด้วย
คำถามกรอบที่ 5 1. นครรัฐสปารต์ า มีการปกครองแบบใด ตอบ……………………
2. นครรัฐเอเธนส์ มีการปกครองโดยสภาใดบ้าง ตอบ……………………
[นายอุไทย โกยชยั ] หน้า 14 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เร่อื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 15
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 5
1. แบบทหารนยิ ม 2. สภาหา้ ร้อย และสภาราษฎร
กรอบที่ 6
สงครามกรกี กับเปอรเ์ ซยี และสงครามเพโลพอนนเี ซยี น
สงครามกรกี กบั เปอรเ์ ซีย
ประมาณ 492 – 449 ปีก่อนครสิ ต์ศักราช เอเธนสแ์ ละนครรฐั อื่นๆ รวมกำลงั เป็นพนั ธมิตรกัน
เพ่ือทำสงครามต่อต้านการรุกรานของเปอร์เซีย เม่ือคร้ังท่ีพระเจ้าเซอร์เซสของเปอร์เชียยกทัพเข้า
รุกรานดินแดนกรีกมีการสู้รบกันเป็นระยะๆ ในท่ีสุดกรีกเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะและเอเธนส์ได้รับการ
ยอมรับให้เป็นผนู้ ำของนครรัฐกรีก เอเธนส์และนครรัฐอื่น ๆ อีกหลายนครได้รวมตัวกันเป็นสมาพันธ์
เดลอส (Confederacy of Delos) โดยมีเอเธนส์เป็นผู้นำ ซึ่งหลังจากสงครามคร้ังน้ันส้ินสุดลง โดย
เปอร์เชียลา่ ถอยกลับไปแล้ว สมาพันธ์ดังกล่าวก็ยังดำรงอยู่ โดยสมาชิกต้องสง่ เงินบำรุงสมาพันธ์ไปยัง
เอเธนส์ ซ่ึงเอเธนสจ์ ะมสี ิทธอิ ย่างเต็มทใี่ นการใช้จา่ ยเงนิ ดังกลา่ ว เรียกไดว้ ่า เป็นยคุ ทองของเอเธนส์
สงครามเพโลพอนนเี ซยี น
ประมาณ 431 – 404 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นสงครามท่ีเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสอง
นครรัฐมหาอำนาจของดินแดนกรีกโบราณ คือ นครรัฐเอเธนส์ และนครรัฐสปาร์ตา โดยในช่วงเวลา
ดังกลา่ ว นครรัฐเอเธนส์มีกองทัพเรอื ที่เข้มแข็งท่ีสุด และถือว่าเป็นมหาอำนาจทางทะเล ในขณะท่ีนคร
รัฐสปาร์ตาน้ัน มีกองทัพบกท่ีเกรียงไกรยิ่งกว่านครรัฐใด ๆ เอเธนส์ร่วมมือกับพันธมิตรของตนทำ
สงครามกับสปาร์ตา เน่ืองด้วยสปาร์ตาเป็นนครรัฐทางทหารทำให้นครรัฐอ่ืนๆหวาดระแวงเกรงจะถูก
รุกราน อีกทั้งสปาร์ตายังต้องการแย่งชิงอำนาจการเป็นผู้นำของนครรัฐกรีก ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันถึง
27 ปี ทำให้นครรฐั กรีกท้ังหมดอ่อนแอและเสอ่ื มอำนาจลงในที่สดุ
คำถามกรอบท่ี 6
1. ภายหลงั การทำสงครามกรกี กับเปอร์เซยี กรกี ไดก้ อ่ ตงั้ สมาพนั ธอ์ ะไร และใครเป็นผูน้ ำ
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. สงครามเพโลพอนนเี ซียน เกิดจากสาเหตุใด
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………………….
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 15 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 16
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบที่ 6
1. สมาพนั ธ์เดลอส (Confederacy of Delos) โดยมเี อเธนส์เป็นผู้นำ
2. สปาร์ตาตอ้ งการแยง่ ชงิ อำนาจการเปน็ ผู้นำของนครรฐั กรีก
กรอบที่ 7
การเสื่อมอำนาจของกรีก
เมื่อนครรัฐกรีกอ่อนแอ มาซิโดเนีย (Macedonia) ซ่ึงเป็นอาณาจักรอิสระทางตอนเหนือ ได้ขยาย
อำนาจเข้ายดึ ครองนครรัฐกรีกได้ทั้งหมด โดยพระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great 336 –
323 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราช)
การขยายอำนาจของรัฐมาซิโดเนีย
สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เรียกว่า ยุคเฮเลนิสติก (Hellenistic Age) เป็นยุคที่
จักรวรรดิขยายดินแดนออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมถึงเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ (เอเซียไมเนอร์)
อยี ิปต์ เปอร์เซีย ไปจนถึงอินเดีย และมีความเจริยรงุ่ เรืองทางศิลปวัฒนธรรมอย่างมาก อารยธรรมกรีก
แพร่หลายไปทั่วจักรวรรดิ มีการจัดต้ังเมืองอเล็กซานเดรยี (Alexandria) ชายฝ่ังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทางตอนเหนอื ของอยี ิปต์ เป็นเมืองศูนย์กลางทางการคา้ และศิลปวัฒนธรรมของกรกี
การเส่ือมอำนาจของกรีก
เมื่อสิ้นยุคสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช จักรวรรดิกรีกก็แตกแยกและเสื่อมอำนาจ
และถกู ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันทเ่ี ข้มแขง็ กว่าเม่ือประมาณ 200 ปกี อ่ นคริสต์ศกั ราช
คำถามกรอบที่ 7
กษัตริย์ของรัฐมาซิโดเนียที่สามารถเข้าครอบครองกรีกและขยายดินแดนออกไปกว้างใหญ่ไพศาล
ครอบคลุมถึงเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ (เอเซยี ไมเนอร์) อียิปต์ เปอร์เซีย ไปจนถงึ อินเดีย คอื ใคร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 16 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 17
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบที่ 7
พระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราช
ภาพที่ 3.5 แสดงภาพวาดและรปู ประติมากรรมหลอ่ พระเจา้ อเล็กซานเดอร์มหาราช
ท่มี า : https://th.wikipedia.org/media/File:Aleksander-d-store.jpg
รู้หรอื ไม่……
ชาวกรีกโบราณมคี ณุ ลักษณะพเิ ศษทน่ี ่าชื่นชมอยู่ 2 ประการ คอื
1. เป็นผู้มีสติปัญญารอบรู้ สิ่งน้ีเป็นผลมาจากความอยากรู้อยากเห็น และมี
จิตใจเป็นผู้ชอบซักถามและมีวิจารณญาณท่ีดี ชอบค้นคว้าแสวงหาเหตุผลของ
ทุกๆ ส่ิงทอ่ี ยู่รอบตวั และในชมุ นุมชนทอ่ี ยู่ห่างไกลออกไป
2. เป็นผู้มีความรู้สึกละเอียดอ่อนละมุนละไมในความงดงามและมีพลัง
ความสามารถท่ีจะสรา้ งส่ิงทีง่ ดงาม ความเปน็ ตวั ของตัวเอง ความรักในเสรีภาพ
ดว้ ยคุณลักษณะ 2 ประการดังกล่าว ชาวกรีกโบราณได้ประสบผลสำเร็จ
ในการสรา้ งสมอารยธรรมอันเปน็ มรดกตกทอดมาสโู่ ลกตะวันตกจนถึงปัจจบุ ัน
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 17 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 18
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
กรอบท่ี 8 การสร้างสรรคอ์ ารยธรรมกรีก
ชาวกรกี ได้สร้างสรรค์ความเจริญใหเ้ ป็นมรดกแก่ชาวโลกจำนวนมาก
เราไปศกึ ษากันต่อเลยครบั …
ดา้ นสถาปตั ยกรรม
ชาวเอเธนส์ได้สร้างสรรค์งานด้านสถาปัตยกรรมท่ีโดดเด่นให้แก่ชาวโลกจำนวนมาก
สว่ นใหญ่เป็นการก่อสร้างอาคารเพื่อกจิ กรรมสาธารณะ เช่น วิหาร สนามกฬี า และโรงละคร ความโดด
เด่นของงานสถาปัตยกรรมไม่ได้ข้ึนอยู่กับความใหญ่โตของส่งิ ก่อสร้าง แต่เป็นความงดงามของสัดส่วน
ท่ีสมบูรณ์แบบ ตัวอย่างเช่น วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอะโครโพลิส
(Acropolis) เป็นส่ิงก่อสร้างท่ีมีสัดส่วนงดงาม มีขนาดกว้าง 101.4 ฟุต หรือ 30.9 เมตร และยาว
228.0 ฟุต หรือ 69.5 เมตร เป็นศาสนสถานบูชาถวายแด่เทพีอะธีนา (Athena) เทพีแห่งปัญญา
ความรอบรู้ ในศตวรรษท่ี 5 กอ่ นครสิ ตศ์ กั ราช จดั ว่าเป็นผลงานชิน้ เอกของโลก
คำถามกรอบที่ 8
ชาวเอเธนส์ได้สร้างวิหาร
พาร์เธนอน(Parthenon) เพ่ืออะไร
ตอบ…………………………………………
ภาพที่ 3.6 แสดงวิหารพาร์เธนอน (Athena Parthenon)
ทม่ี า : https://www.instyletravels.com/วหิ ารพารเ์ ธนอนathena-parthenos-29963.page
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 18 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 19
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 8
เปน็ ศาสนสถานบูชาถวายแดเ่ ทพีอะธีนา หรือเทพแี หง่ ปญั ญาความรอบรู้
ด้านสถาปัตยกรรม (ต่อ)
ใช้ระบบโครงสร้างแบบเสาและคาน แผนผังอาคารเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผา้ มีการสร้างเสาราย
รอบอาคาร ซงึ่ จะมีความแตกตา่ งตรงหัวเสา สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
1. แบบดอรกิ (Doric) หวั เสาเรยี บ เนน้ ความแขง็ แรง ไมม่ ลี วดลายมากนัก เช่น วหิ ารพาร์เธนอน
2. แบบไอโอนิก (Ionic) หวั เสาโคง้ มว้ นย้อยลงมาท้ังสองขา้ ง ใหค้ วามรสู้ ึกอ่อนโยนและเข้มแข็ง
3. แบบคอรินเธียน (Corinthian) หรูหรา ประณีต โดยนำรูปใบไม้มาตกแต่งอย่างสวยงามเป็น
ลกั ษณะหวั เสาท่ีนิยมมากในสมยั เฮเลนิสตกิ
ภาพท่ี 3.7 แสดงภาพหวั เสาแบบตา่ งๆ
ที่มา : https://panupong088.files.wordpress.com/2012/12/17.png
คำถามกรอบท่ี 8
ชาวกรกี มกี ารสรา้ งเสารายรอบอาคาร ซ่ึงจะมคี วามแตกต่างตรงหัวเสา แบ่งออกเป็นกี่แบบ อะไรบา้ ง
ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………………
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 19 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 20
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 8 ด้านสถาปตั ยกรรม (ต่อ)
แบ่งออกเปน็ 3 แบบคอื แบบดอรกิ (Doric) แบบไอโอนกิ (Ionic) และแบบคอรนิ เธียน (Corinthian)
ด้านประติมากรรม
ชาวกรีกสร้างงานประติมากรรมจำนวนมาก ส่วนใหญ่เปน็ รูปปั้นเทพเจ้าของกรีก มีลักษณะเป็น
ธรรมชาติ ลักษณะของสรีระกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นคล้ายมนุษย์ท่ีมีชีวิต มีท้ังแกะสลักด้วยหินอ่อนและ
หลอ่ ด้วยโลหะสำรดิ
- ยุคเฮลเลนิก หรือสมัยคลาสสิก เน้นแสดงสรีระของมนุษย์ในลักษณะเปลือยกาย มีกล้ามเนื้อ
และสัดสว่ นของรา่ งกายทแ่ี ข็งแรงสมบูรณส์ วยงาม หรือแสดงเสือ้ ผา้ ทีด่ ูออ่ นพลว้ิ เหมอื นจริง
- ยุคเฮลเลนิสติก รูปปั้นหรืองานแกะสลักเน้นแสดงออกตามธรรมชาติที่เป็นจริงของมนุษย์
มักจะแสดงอากปั กิริยาทีเ่ จบ็ ปวด ทุกข์ทรมาน และความชรา ไม่สมบรู ณแ์ ข็งแรงตามอดุ มคติ
ภาพท่ี 3.8 แสดงรปู ปัน้ เทพเจา้ อะทนี าและรูปป้นั เทพเจา้ ซสุ
ที่มา : https://metricsyst.files.wordpress.com/2013/02/02.jpg
คำถามกรอบท่ี 8
ด้านประติมากรรม
ผลงานประตมิ ากรรมของกรกี มลี กั ษณะอยา่ งไร
ตอบ………………………………………
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 20 [ ]บทเรียนสำเรจ็ รูป เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 21
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คคาำตตออบบกกรรออบบทที่่ี 48 ดดา้้านนปปรระะตติมิมาากกรรรรมม
เปเปน็ น็ ธธรรรรมมชชาาตติ ิ ลลกัักษษณณะะขขอองงสสรรรีีระะกกลล้า้ามมเเนนื้อ้ือแแลละะเเสส้น้นเเออน็็นคคลล้า้ายยมมนนษุ ุษยย์ท์ทีม่ ี่มีชีชีววี ิตติ
กรกอรบอทบี่ท4ี่ 8กากราสรรสา้ รงา้ สงรสรรครอ์ คา์อรายรธยรธรรมรขมอกงรกีกร(กี ต(่อต)อ่ )
ด้านจติ รกรรม
จติ รกรรม รูจ้ ักกนั ดีกม็ ีแตภ่ าพวาดระบายสตี กแต่งผิวแจกนั เทา่ นน้ั ทช่ี าวกรีกนยิ มทํามา จนถงึ
พทุ ธศตวรรษที่1เป็นภาพทีม่ ีรูปรา่ งทถี่ ูกตัดทอนรูปจนใกลเ้ คยี งกับรปู เรขาคณติ มีความเรียบงา่ ยและ
คมชดั สที ีใ่ ช้ ไดแ้ ก่ สดี ินคือเอาสดี ําอมนาํ้ ตาลผสม บางๆระบายสีเป็นภาพบนพื้นผิวแจกันทเ่ี ปน็ ดนิ สี
น้ําตาลอมแดงแต่บางทกี ม็ ีสีขาว และสอี น่ื ๆรว่ มดว้ ยเทคนิคการใช้รปู ร่างสดี ําระบายพน้ื หลังเปน็ สแี ดง
นีเ้ รียก ว่า”จติ รกรรมแบบรูปตัวดาํ ”และทาํ กันเรอื่ ยมาจนถึงสมัยพทุ ธศตวรรษท่ี1มรี ปู แบบ ใหม่ขน้ึ มา
คอื ”จติ รกรรมแบบรปู ตัวแดง”โดยใชส้ ดี ําอมนํ้าตาลเปน็ พ้นื หลงั ภาพตวั รูปเปน็ สสี ้มแดงหรอื สีนํ้าตาล
ไม้ตามสีดนิ ของพ้นื แจกัน เช่น แจกนั คนโท ฯลฯ และจิตรกรรมฝาผนงั ท่พี บในวหิ ารและกําแพง
ภาพท่ี 3.9 แสดงแจกนั คนโท
ทมี่ า : https://iissbelle.files.wordpress.com/2013/09/gree001.jpg
คำถามกรอบที่ 8
ดา้ นจติ รกรรม
จติ รกรรมแบบรูปตัวแดง มีลักษณะอยา่ งไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 21 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 22
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 8 ด้านจิตรกรรม
เอาสีดำอมนำ้ ตาลบางๆ ระบายสีเปน็ ภาพบนพน้ื ผวิ แจกนั
ที่เป็นดนิ สนี ้ำตาลอมแดงแต่บางทีก็มสี ขี าว และสีอน่ื ๆร่วมด้วย
ดา้ นวรรณกรรม
วรรณกรรมของกรีกได้รับการยกย่องอยู่ในกลุ่มวรรณกรรมที่ดีท่ีสุดของโลก วรรณกรรม
ทโี่ ดดเด่น ได้แก่ มหากาพย์ของโฮเมอร์ เร่ือง อเี ลียด และ โอเดสซี ซึ่งแต่งข้ึนประมาณช่วงศตวรรษที่ 8
ก่อนคริสต์ศักราช เพ่ือสะท้อนความรสู้ ึกของกวีต่อโศกนาฏกรรมในสงครามกรุงทรอย (Troy) นอกจาก
ความงดงามของภาษาและการดำเนินเร่ืองแล้ว มหากาพยท์ ้ังสองเร่ืองนี้ยังให้ข้อมูลทางประวตั ิศาสตร์
เกย่ี วกบั วถิ ชี วี ติ ประเพณแี ละความคดิ ของชาวกรีกในชว่ ง 1,000-700 ปกี ่อนคริสตศ์ กั ราช
ด้านประวัติศาสตร์
กรีกเป็นชาติแรกในโลกตะวันตกท่ีเร่ิมศึกษาประวัตศิ าสตร์ตามแบบวิธกี าร ทางประวัติศาสตร์
ซงึ่ ได้แก่ การสืบค้นขอ้ มลู การตรวจสอบหลักฐาน และการเลอื กใช้ข้อมูล นกั ประวัตศิ าสตรก์ รกี คนแรก
ที่เร่ิมเขียนงานประวัติศาตร์ในลักษณะน้ีคือ เฮโรโดตัส (Herodotus) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดา
แห่งประวัตศิ าสตร์ของโลกตะวันตก นอกจากนี้ยังมี ทูซิดิดสี (Thucydides) นักประวัติศาสตร์ที่ได้รับ
การยกย่อง ด้านการสร้างผลงานทางประวัติศาสตร์และมาตรฐานของวิธีการศึกษาค้นคว้าทาง
ประวตั ศิ าสตร์ ซึง่ เป็นแบบอยา่ งท่ียดึ ถือกนั อยใู่ นปจั จุบัน
คำถามกรอบท่ี 8
ดา้ นวรรณกรรมและด้านประวตั ศิ าสตร์
1. มหากาพย์เรอื่ ง อีเลียด และ โอเดสซี เปน็ งานประพันธท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เรอื่ งใด
ตอบ……………………………………………………………………………………………………….
2. ผทู้ ไ่ี ดร้ ับการยกย่องว่าเปน็ บิดาแห่งประวัติศาสตรข์ องโลกตะวันตกคือใคร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………….
[นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 22 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรื่อง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 23
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบท่ี 8 ด้านวรรณกรรมและด้านประวตั ศิ าสตร์
1. โศกนาฏกรรมในสงครามกรงุ ทรอย (Troy) 2. เฮโรโดตสั (Herodotus)
คณติ ศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์
เจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสต์ศักราช นักคณิตศาสตร์ชาวกรีก ค้นพบทฤษฎีทาง
เรขาคณิตและพีชคณิต ซึ่งเป็นพ้ืนฐานของการคำนวณและประมวลผลข้ันสูง นอกจากน้ีกรีก
ยังมีความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีอริสโตเติล เป็นผู้วางรากฐานการศกึ ษาวิชาพฤกษศาสตร์
สัตวแพทย์ และกายวภิ าค
ดา้ นการแพทย์
ฮิปโปเครตีส (Hippocrates) เป็นแพทย์ชาวกรีกที่มีช่ือเสียง และค้นพบว่าโรคร้ายต่างๆ ที่
เกิดข้ึนมีสาเหตุมาจากธรรมชาติไม่ใช่การลงโทษของพระเจ้า เชาเชื่อว่าวิธีการรักษาท่ีดีที่สุดคือการ
ควบคุมด้านโภชนาการและการพักผ่อน นอกจากนี้ ฮิปโปเครตีสยังเป็นผู้ริเริ่มวิธีการรักษาโรคด้วยการ
ผ่าตัด และกำหนดหลกั จรรยาแพทย์ท่ีถือปฏบิ ัติตอ่ มาจนถึงปจั จุบัน
ดาราศาตรแ์ ละภมู ิศาสตร์
ความก้าวหน้าด้านคณิตศาสตร์ ช่วยให้นักดาราศาตร์ชาวกรีกคำนวณตำแหน่งของดวงดาวและ
ระบบสุริยจักรวาล นักดาราศาตร์กรีกบางคนเช่ือว่าโลกและดาวเคราะห์ดวงอ่ืนหมุนรอบดวงอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถโน้มน้าวใหช้ าวกรีกยอมรบั การคน้ พบน้ี อน่ึง นักภูมิศาสตร์กรีกยังเชื่อ
ว่าโลกกลมซึ่งทำให้สามารถเดินเรือจากกรีกไปถึงอินเดียได้ รวมทั้งยงั ค้นพบว่าการข้ึนลงของกระแสน้ำ
เกดิ จากอทิ ธิพลของดวงจันทร์
คำถามกรอบท่ี 8 1. ผู้วางรากฐานการศึกษาวิชาพฤกษศาสตร์
สัตวแพทย์ และกายวภิ าค
ด้านคณิตศาสตรว์ ิทยาศาสตร์
ด้านการแพทย์ ดา้ นดาราศาสตร์ ตอบ…………………………………………………….
และภมู ิศาสตร์ 2. ผไู้ ด้รับยกย่องใหเ้ ปน็ บิดาแห่งการแพทย์
ของโลก คอื ใคร ตอบ…………………….………
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 23 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 24
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบที่ 8 ดา้ นคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ด้านการแพทย์ ดา้ นดาราศาตร์และภูมิศาสตร์
1. อรสิ โตเตลิ 2. ฮปิ โปเครตีส
กรอบท่ี 9
นกั ปรัชญาของกรีก
ความเจริญด้านปรัชญาได้รับการยกย่องว่าเป็นความเจริญสูงสุดของภูมิปัญญากรกี เช่นเดียวกับความ
เจริญดา้ นศลิ ปกรรม นักปรัชญากรีกทีม่ ีชื่อเสยี งโดดเด่น ได้แก่ โซเครตสิ เพลโต และอรสิ โตเติล
โซเครตสิ (Socrates)
เกิดท่ีนครเอเธนส์ มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 469-399 ก่อนคริสต์ศักราช เขาสอน
ให้คนใช้เหตุผลและสติปัญญาในการแสวงหาความจริงเก่ียวกับชีวิตมนุษย์ วิธีสอน
ของเขาซ่ึงเรียกว่า “Socretic method” ไมเ่ น้นการท่องจำ แต่ใช้วิธีตั้งคำถามโดยไม่
ต้องการคำตอบ แต่ให้ผู้ถูกถามขบคิดปัญหาเพ่อื หาคำตอบดว้ ยตนเอง แมโ้ ซเครติสจะ
สั่งสอนลูกศิษย์มากมาย แต่ก็ไม่เคยมีผลงานเขียนของตนเอง ดังน้ันปรัชญาและ
ทฤษฎีของเขาทรี่ ูจ้ ักกันสบื มาจงึ เปน็ ผลงานทถ่ี า่ ยทอดโดยลกู ศษิ ย์ของเขา
เพลโต (Plato)
เป็นศิษย์เอกของโซเครติส เกิดท่ีนครเอเธนส์ประมาณ 429 ปีก่อน
คริสตศ์ ักราชและเป็นผถู้ ่ายทอดหลกั การและความคิดของโซเครติสให้ชาวโลกได้รับรู้
เพลโตได้เปิดโรงเรียนชื่อ “อะแคเดอมี” (Academy) และได้เขียนหนังสือท่ีสะท้อน
แนวคิดเก่ียวกับการปกครอง การศึกษา ระบบยุติธรรม ผลงานทโี่ ดนเด่นและทำให้เขา
ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งปรัชญาการเมืองสมัยใหม่คือหนังสือช่ือ สาธารณรัฐ
(Republic) ซึ่งเสนอแนวคิดในการปกครองประเทศและมีอิทธิพลต่อความคิดทาง
การเมืองของผคู้ นทั่วโลก
อริสโตเติล (Aristotle)
เป็นทั้งนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์ เขาเป็นศิษย์ที่ชาญฉลาดของเพลโต
และเคยเป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย
อรสิ โตเตลิ เป็นทั้งปราชญ์และนกั วิจัยท่ีมีความสนใจหลากหลาย นอกจากปรชั ญาทาง
การเมืองแล้ว เขายังสนใจวิทยาการใหมๆ่ อีกมาก เช่น ชวี วทิ ยา ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์
หลกั ตรรกศาสตร์ วาทกรรม จรยิ ศาสตร์ ฯลฯ ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือหนังสือช่ือ
การเมือง (Politics) ซึ่งเปน็ การวจิ ัยรูปแบบการปกครองนครรัฐต่างๆ ถึง 150 แหง่
คำถามกรอบท่ี 9
ไมเ่ น้นการทอ่ งจำ แต่ใช้วธิ ตี ้งั คำถามโดยไมต่ อ้ งการคำตอบ แต่ให้ผู้ถูกถามขบคิดปัญหาเพอ่ื หาคำตอบดว้ ย
ตนเอง เป็นวิธีสอนแบบใด และเป็นวธิ สี อนของใคร ตอบ…………………………………………………………………..
ตอบ………………………………………………………………………………………..
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 24 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เร่อื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 25
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
คำตอบกรอบที่ 9
วิธสี อนของเขาซง่ึ เรยี กว่า “Socretic method” เปน็ ของนกั ปรัชญาโซเครตสิ (Socrates)
กรอบท่ี 10
เทพเจา้ กรกี โบราณ
ชาวกรีกโบราณนับถือธรรมชาติ เชื่อว่าพลังลึกลับท่ีสามารถให้คุณให้โทษได้เกิดข้ึนเพราะมีเทพเจ้า
ต่างๆ บันดาลให้เป็นไป เทพโอลิมปัส (The Olympians, Major gods) เป็นเทพท่ีอาศัยบนยอดเขา
โอลมิ ปสั (Olympus) มีท้งั หมด 12 องค์ แตถ่ ้านบั อย่างถ่ถี ว้ นจะมที งั้ ส้นิ 16 องค์ ดังนี้
1. ซุส (Zeus) เป็นราชาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายและเหล่ามนุษย์บนโลก ซุสมีอาวุธเป็น
Thunderbolt (สายฟ้า) เทพซุสมพี ่ีน้องซงึ่ เปน็ เทพปกครองโลกรว่ มกนั 5 องค์ ไดแ้ ก่ เทพโพไซดอน
เทพดี มี เิ ทอร์ เทพเี ฮร่า เทพฮาเดส และเทพเี ฮสเตีย
2. โพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของพระองคค์ ือ สามง่าม หรอื
ตรีศลู ทีส่ ามารถแหวกน้ำทะเลและทำให้เกิดแผ่นดนิ ไหวได้
3. ดิมิเทอร์ (Demeter) เทพแี หง่ ความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรรม การเก็บเกีย่ ว
4. เฮรา (Hera) ราชินีแห่งสวรรค์ เป็นท้ังน้องสาวของซีอูสและเป็นภรรยาด้วย เฮร่าเป็นเทพีแห่ง
การใหก้ ำเนดิ ทารก การสมรส และสตรี สัตวป์ ระจำพระองค์คอื นกยูง
5. เฮสเทีย (Hestia) เทพีพรหมจรรย์แหง่ การครองเรือน เทพแหง่ ครอบครวั ในฐานะของเทพีผู้รกั ษา
บ้าน พระนางเป็นผู้ที่สร้างบ้านขึ้นเป็นคนแรก วิหารของพระนางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งจะได้รับการ
บวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสญั ลกั ษณ์เป็นไฟนิรันดร
6. เอรีส (Ares) เทพแห่งสงคราม บุตรของ ซูส กับ เฮร่า สัตว์ประจำพระองค์คือ เหยี่ยวและสุนัข
มังกรไฟ (บางตำราวา่ เปน็ นกแร้ง)
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หน้า 25
[ ]บทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 26
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
กรอบที่ 10
เทพเจา้ กรีกโบราณ (ต่อ)
7. อพอลโล (Apollo) เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพ
แห่งพระอาทิตย์ เป็นบุตรแห่ง ซีอุส และ เทพีลีโต้ (Leto) มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ อาร์เทมีส
(Artemis) อะพอลโลม่ ีต้นไม้ศักดิส์ ิทธ์ิคือ ต้นลอเรล Laurel สตั ว์ศักดิ์สิทธคิ์ ือนกกาเหว่าและหา่ น
เคร่ืองดนตรีประจำพระองค์คือพิณ วิหารศักดิ์สิทธ์ิของพระองค์อยู่ท่ีเดลฟี่ Delphi ซ่ึงท่ีน่ันจะมี
นกั บวชคอยบอกคำทำนายของพระองค์ใหแ้ ก่ประชาชนท่มี าสักการบชู า
8. อาร์เทมีส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ เป็นบุตรีของซูสและ เทพีลีโต้ เป็น
น้องสาวแฝดของอะพอลโล่ พระองค์เป็นเทพีพรหมจรรย์องค์หน่ึงใน 3 องค์ ภาพท่ีผู้คนเห็นอยู่
เสมอๆ คือ พระองค์จะถือธนูและศร มสี ุนขั ติดตาม สวมกระโปรงส้นั บางครั้งอาจเห็นเธออยบู่ นรถ
ศึกเทยี มด้วยกวางขาว
9. เฮอร์มสี (Hermes) เทพแห่งการค้า การโจรกรรม และผู้สง่ สารของเหล่าทวยเทพ เป็นบุตรของ ซูส
กับ มีอา พระองคม์ กั จะปรากฏกายในลกั ษณะสวมหมวกขอบกว้าง สวมรองเท้ามีปกี ถอื คทาทมี่ ีงูพนั
10. อะธีนา (Athena) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์ทุกแขนงของกรีกรวมถึงศิลปะ
การตอ่ สูด้ ้วย ต้นไม้ศกั ด์สิ ทิ ธิข์ องพระองค์คือตน้ มะกอก
เ1ท1พ.ีออธีนโฟ่า เรปไ็นดผททู้ ์ ี่ม(อAบpมhะrกoอdกiใtหeก้ )บั เมทนพุษีแยเ์หป่็งนคองวคาแ์ มรกรักทแาใลหะเ้ มคือวงาAมtงhาeมnsเปได็นใ้ ชบช้ ุต่ือรขีอขงอพงระซอูสงคเ์กปับ็นชเือ่ ทเมพอื ีไงดเพโ่ืออนี่
เ(ปบ็นาเงกตยี รำตริาวา่ เกิดจากฟองคล่ืน) สัตว์ศักด์ิสิทธ์ิของเธอได้แก่ นกกระจอก นกนางแอ่น ห่าน และเต่า
ส่วนดอกไม้และผลไมศ้ ักดิส์ ิทธ์ิของพระนางได้แก่ กุหลาบ Myrtle และแอปเปลิ กลา่ วกนั ว่าพระนาง
เป็นเทพผี ู้คมุ้ ครองเหล่าโสเภณีดว้ ย
12. เฮฟเฟตัส (Hephaestus) เทพแห่งไฟ โลหะ และการช่าง เป็นบุตรของ ซูส กับ เฮร่า
(บางตำราวา่ เปน็ บุตรของ Hera ผู้เดยี ว) พระองคเ์ ป็นเทพท่พี ิการและอัปลักษณ์
[นายอุไทย โกยชยั ] หน้า 26
[ ]บทเรียนสำเร็จรูป เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 27
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
กรอบที่ 10
เทพเจ้ากรีกโบราณ (ตอ่ )
13. ไดโอไนซัส (Dionysus) เทพแหง่ ไวน์ การทาไวน์ การเก็บเกย่ี วผลไม้ เป็นเทพองค์ล่าสดุ ท่ขี ้นึ ไปอยบู่ นโอลิมปสั
14. เพอร์เซโฟเน (Persephone) เทพีแห่ง ดใู บไมผ้ ลิ เปน็ บตุ รีแห่ง ซูส และ ดีมิเทอร์
15. อรี อส ( Eros) กามเทพ รู้จักกนั ดใี นภาษาโรมนั วา่ ควิ ปดิ Cupid เปน็ บตุ รแห่งเทพีความรัก
อะโฟรไ์ ดต้ี และ เทพการศึกสงคราม เอเรส
16. เฮเดส (Hades) เทพแหง่ ใตพ่ ิภพยมโลก และเป็นเทพดแู ลอญั มณีใต้ดิน
คำถามกรอบที่ 10
1. เทพเจ้าท่ีเป็นราชาของบรรดาเทพทั้งหลาย และเหลา่ มนษุ ย์บนโลก มีชอื่ ว่าอะไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………….
2. เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศลิ ปศาสตร์ทกุ แขนงของกรกี มีชื่อว่าอะไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………….
3. นกกระจอก นกนางแอน่ หา่ น เตา่ กหุ ลาบ และแอปเปลิ เกีย่ วข้องกบั เทพองคใ์ ด
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………….
ตอบเสรจ็ แล้ว ไปดูเฉลยกันเลยครบั
[ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 28
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
คำตอบกรอบท่ี 10
1. ซสุ (Zeus)
2. เทพอี ะธนี า (Athena)
3. . อโฟรไดท์ (Aphrodite)
ซสุ (Zeus) เฮสเทีย (Hestia) เฮอร์มสี (Hermes) ไดโอไนซัส (Dionysus)
โพไซดอน (Poseidon) เอรีส (Ares) อะธีนา (Athena) อรี อส (Eros)
ดมิ เิ ทอร์ (Demeter) อพอลโล (Apollo) อโฟรไดท์ (Aphrodite) อรี อส (Eros)
ภาพที่ 3.10 แสดงภาพเทพเจ้ากรีก ทม่ี า : http://exchange360.org
[ ]บทเรยี นสำเร็จรูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 29
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ยอดเขา “โอลมิ ปัส” ต้นกำเนิด กีฬาโอลิมปิกในดนิ แดนกรีก
กีฬาโอลิมปิก จัดขึ้นทุกๆ สี่ปี ณ เชิงเขาโอลิมปัส แคว้นอีลิส และถือปฏิบัติ
ติดต่อกันมาโดยไม่เว้น เม่ือถึงกำหนดการแข่งขัน ทุกรัฐจะต้องให้เกียรติ หากว่าขณะนั้น
กำลังทำสงครามกนั อยู่ จะตอ้ งหยุดพักรบ และมาดูนักกีฬาของตนแข่งขนั หลังจากเสรจ็ จาก
การแข่งขันแล้ว จึงคอ่ ยกลบั ไปทำสงครามกันใหม่ ประเภทของการแขง่ ขัน ประเภทกรฑี าที่
แข่งขันท่ีถือเป็นทางการในคร้ังแรกนี้ มี 5 ประเภท คือ วิ่ง, กระโดด, มวยปล้ำ, พุ่งแหลน
และขว้างจักร ผู้เข้าแข่งขันทุกคน จะต้องเล่นท้ัง 5 ประเภท โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัล คือ
มงกุฎที่ทำด้วยกง่ิ ไม้มะกอกซ่ึงข้นึ อยบู่ นยอดเขาโอลมิ ปัสน่ันเอง และได้รบั เกยี รติให้เดนิ ทาง
ท่องเท่ยี วไปทุกรัฐ ในฐานะตัวแทนของพระเจ้า
ความหมายของธงกีฬาโอลิมปิก ในปัจจุบนั
• ธงโอลิมปกิ มีพืน้ สขี าว บนธงมหี ่วง 5 หว่ งคลอ้ งตดิ กนั มีความหมายให้ท่วั ทุกชาติ
ทั่วโลกสมคั รสมานสามัคคกี ัน
• ห่วงสนี ำ้ เงนิ หมายถึง ทวีปยโุ รป
• หว่ งสเี หลือง หมายถึง ทวีปเอเชยี
• หว่ งสดี ำ หมายถงึ ทวีปแอฟรกิ า
• ห่วงสีเขยี ว หมายถงึ ทวปี ออสเตรเลยี
• ห่วงสีแดง หมายถึง ทวปี อเมริกาเหนอื และทวีปอเมรกิ าใต้
[ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 30
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรกี ]
แบบทดสอบหลงั เรยี น( Post-test )
เร่อื ง อารยธรรมกรกี
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นกากบาท (X) ทับข้อท่ีถกู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดียวในกระดาษคำตอบ
1. สถาปัตยกรรมของอารยธรรมกรีกในเรื่องใดที่มีอิทธพิ ลตอ่ สถาปตั ยกรรมในปัจจุบนั
ก. การสร้างอาคารยกพนื้ สูง
ข. การปน้ั รูปผู้ชายเปลือยกาย
ค. การสรา้ งหลงั คามงุ อาคาร
ง. การใช้เสาและคานรับน้ำหนกั อาคาร
2. ข้อใดคือที่ตงั้ ของอารยธรรมกรกี โบราณ
ก. บรเิ วณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลข่านและชายฝงั่ ทะเลอเี จียน
ข. บริเวณตอนใต้ของคาบสมุทรแปซฟิ กิ และชายฝ่ังทะเลอีเจียน
ค. บริเวณตอนใตข้ องคาบสมุทรบอลข่านและชายฝง่ั ทะเลแดง
ง. บรเิ วณตอนใตข้ องคาบสมทุ รแปซฟิ ิกและชายฝัง่ ทะเลแดง
3. นครรัฐเอเธนสเ์ ปน็ ดินแดนแห่งแรกของโลกที่มีการปกครองในแบบใด
ก. เผดจ็ การ
ข. คอมมวิ นสิ ต์
ค. ประชาธปิ ไตย
ง. สมบูรณาญาสิทธิราชย์
4. งานสร้างสรรค์ศลิ ปวัฒนธรรมของกรีกเกิดจากคณุ ลกั ษณะเฉพาะตวั ของกรกี โบราณเร่ืองใด
ก. ความรัก ศรทั ธา และผกู พนั กบั ศาสนา
ข. ความเป็นตัวของตวั เอง ความรกั ในเสรีภาพ
ค. ความมรี ะเบียบวนิ ัยรบั ผิดชอบต่อสังคม
ง. ความสามารถในการผสานอารยธรรมหลายชาติ
[ ]บทเรยี นสำเรจ็ รปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 31
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
5. ข้อใด ไม่ใชอ่ งคก์ รสำคัญในการปกครองแบบประชาธปิ ไตยของเอเธนส์
ก. ดา้ นตุลาการ
ข. ด้านสภานักการเมอื ง
ค. สภาราษฎร (Ekklesia)
ง. สภาห้าร้อย (Boule; Council of the five Hundreds)
6. ประชาชนในนครรัฐสปารต์ าแบ่งออกเปน็ 3 กลมุ่ ยกเว้นขอ้ ใด
ก. อะโครโปลิส
ข. เปรโิ อซิ
ค. สปาร์เตยี ตส์
ง. เฮล็อต
7. หัวเสางานสถาปตั ยกรรมของกรกี แบบใด ท่ีตกแต่งประณีต หรหู รา และไดร้ ับความนยิ มมากในสมยั
เฮเลนนิสตกิ
ก. แบบดอรกิ
ข. แบบไอโอนกิ
ค. แบบไมซีเนียน
ง. แบบคอรนิ เธยี น
8. ข้อใดเปน็ จดุ เดน่ ของอารยธรรมกรกี ยุคเฮเลนกิ
ก. เนน้ ความหรูหรา และอารมณ์ใหเ้ กดิ พลังในการดูศลิ ปะ
ข. เป็นศิลปะยุคทองในสมยั พระเจ้าอเล็กซานเดอรม์ หาราช
ค. เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างตะวนั ตกและตะวนั ออกได้อย่างลงตวั
ง. เน้นแสดงสรรี ะของมนุษย์ มีกล้ามเน้อื และสัดส่วนของร่างกายทแี่ ขง็ แรงสมบรู ณ์สวยงาม
[ ]บทเรียนสำเร็จรปู เรื่อง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 32
[เลม่ ท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
9. ขอ้ ใดเป็นงานวรรณกรรมกรกี ต้นแบบ ทีใ่ หค้ วามรทู้ างประวัตศิ าสตร์และอารยธรรมกรกี ในยคุ แรกๆ
ก. งานประพันธร์ ้อยแกว้ ของซิเซโร
ข. ประวตั ิศาสตร์ (History) โดยเฮโรโดตัส
ค. มหากาพยอ์ ีเนยี ด (Aeneid) โดยเวอรจ์ ิล
ง. มหากาพยอ์ ีเลยี ด (Iliad) และโอดีสซีย์ (Odyssey) โดยโฮมเมอร์
10. เมื่อสิ้นสดุ สงครามเพโลพอลนเี ชยี น ส่งผลกระทบอย่างไรตอ่ นครรัฐตา่ งๆของกรกี
ก. เจรญิ ร่งุ เรอื งและมง่ั คงั่
ข. เป็นประชาธปิ ไตยทงั้ หมด
ค. อ่อนแอและเส่อื มอำนาจ
ง. ถกู ผนวกรวมเขา้ กับนครรัฐเอเธนส์
32
[ ] 33บทเรียนสำเร็จรูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ
[เล่มท่ี 3 อารยธรรมกรีก]
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน
( Post - test )
1. ง
2. ก
3. ค
4. ข
5. ข
6. ก
7. ง
8. ง
9. ง
10. ค
เพอื่ นๆศึกษาจนจบบทเรยี นแลว้ เรามาดผู ลการประเมินกนั
เลยดกี วา่ นะครับ ในกรอบนีก้ รอบละ 1 คะแนน ถ้ากรอบใด
มีแบบทดสอบ 2 ขอ้ ก็ขอ้ ละ 1 คะแนน
พักเหน่อื ยก่อนนะคะ แล้วชัว่ โมงตอ่ ไปเรามาเรยี น
เรอื่ ง อารยธรรมโรมัน…
[ ]นายอไุ ทย โกยชัย] หน้า 33 บทเรียนสำเร็จรูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 1
[เลม่ ท่ี 4 อารยธรรมโรมนั ]
สวัสดีครับ.. บทเรียนในเลม่ ท่ี 4 นี้ เพอื่ นๆ จะได้ศึกษาอารยธรรมโรมนั
ซงึ่ เป็นอกี อารยธรรมหนง่ึ ที่ทุกคนต้องเรยี นรู้ และนำไปใช้ในการเตรียมสอบประเมินผล
และสอบเขา้ ศึกษาตอ่ ในระดับที่สูงข้นึ
ขอให้เพื่อนๆ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ขอ้ กอ่ น
โดยใหท้ ำในกระดาษคำตอบท่คี รูแจกให้ ขอใหส้ นกุ กับการเรียนนะครับ…..
เพ่อื นๆ ตอ้ งซือ่ สัตย์ต่อตนเองดว้ ยนะครบั
เอา้ ..ทำแบบทดสอบกนั เลย
คณุ ธรรมทตี่ ้องการเนน้ คอื
8. ความมีวนิ ยั
9. ความซ่อื สัตย์
10. การทำงานร่วมกับผู้อน่ื
[ ][นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 1 บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่อื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 2
[เลม่ ท่ี 4 อารยธรรมโรมัน]
แบบทดสอบก่อนเรียน(Pre – test)
เรื่อง อารยธรรมโรมัน
คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนกากบาท (X) ทับขอ้ ท่ีถกู ท่ีสดุ เพยี งข้อเดยี วในกระดาษคำตอบ
1. ลักษณะทเ่ี ป็นเอกลักษณข์ องสถาปตั ยกรรมแบบโรมันคอื ขอ้ ใด
ก. ความอ่อนชอ้ ยสมจรงิ
ข. ลักษณะหวั เสาแบบดอริก
ค. แบบหลังคารปู โดมประตูโค้ง
ง. ภาพประดับด้วยหนิ สหี รอื โมเสก
2. ศูนยก์ ลางความเจริญของอารยธรรมโรมนั อยู่ทใี่ ด
ก. กรุงโรม
ข. เกาะครตี
ค. นครรฐั เอเธนส์
ง. นครรฐั วาตกิ ัน
3. สนามกีฬากรงุ โรมหรอื โคลอสเซยี ม สร้างขึน้ เพ่อื จดุ ประสงคใ์ ด
ก. เพื่อใหป้ ระชาชนได้พบกัน
ข. เพอ่ื ใหร้ ัฐดูแลประชาชนได้งา่ ย
ค. เพอื่ แสดงความยิ่งใหญข่ องรฐั
ง. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนได้พักผ่อนและนนั ทนาการ
4. การสรา้ งงานศลิ ปกรรมของโรมันมีจดุ มงุ่ หมายใดเปน็ หลกั
ก. เพอ่ื ประโยชนใ์ ชส้ อย
ข. เพ่ือใช้ในการประกอบพธิ ีกรรม
ค. เพ่ือแสดงความศรัทธาตอ่ เทพเจ้า
ง. เพอื่ แสดงความยิ่งใหญ่ของจกั รวรรดิ
[นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 2 [ ]บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 3
[เล่มท่ี 4 อารยธรรมโรมนั ]
5. อารยธรรมโรมันตะวันตกล่มสลายลงเพราะเหตุใด
ก. ถกู มุสลิมรุกราน
ข. ถูกอนารยชนเผ่าเยอรมันรุกราน
ค. เกิดแผ่นดินไหวบอ่ ยครง้ั
ง. เกิดสงครามบอ่ ยครั้งทาํ ใหก้ องทพั ออ่ นแอ
6. ข้อใดต่อไปนี้ไมใ่ ชผ่ ลงานการสร้างสรรค์ของอารยธรรมโรมนั
ก. การสร้างถนน
ข. ระบบกฎหมาย
ค. อกั ษรอลั ฟาเบต
ง. การปกครองแบบสาธารณรฐั
7. กรุงคอนสแตนติโนเปิล ศูนย์กลางของอารยธรรมโรมันตะวนั ออก ปัจจบุ นั คือเมอื งใด
ก. กรงุ โรม
ข. นครเวนสิ
ค. นครอิสตนั บูล
ง. นครเยรูซาเล็ม
8. อารยธรรมโรมนั ตะวันออกเรยี กอกี ชอื่ หนง่ึ ว่าอะไร
ก. อารยธรรมมายนั
ข. อารยธรรมออตโตมัน
ค. อารยธรรมไบแซนไทน์
ง. อารยธรรมเอเชยี ไมเนอร์
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 3 [ ]บทเรียนสำเร็จรปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 4
[เล่มท่ี 4 อารยธรรมโรมนั ]
9. ข้อใดถือเป็นมรดกทางอารยธรรมของโรมันท่ถี า่ ยทอดมาสชู่ าตติ า่ งๆในปจั จบุ นั
ก. ระบบกฎหมาย
ข. ระบบรัฐธรรมนญู
ค. ระบบศักดินาสวามภิ กั ดิ์
ง. การปกครองระบอบประชาธิปไตย
10. จักรวรรดิโรมนั ตะวันออกสิ้นสุดลงโดยถูกผนวกเขา้ เป็นสว่ นหนึง่ ของจกั รวรรดิใด
ก. จักรวรรดเิ ปอรเ์ ซีย
ข. จกั รวรรดอิ ังกฤษ
ค. จักรวรรดปิ รสั เซยี
ง. จักรวรรดิออตโตมนั
ไม่ยากเลยใชไ่ หมครบั เพ่อื นๆ
ไหนลองตรวจดูสิครบั ได้กี่คะแนน
[นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 4 [ ]บทเรยี นสำเร็จรูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 5
[เลม่ ท่ี 4 อารยธรรมโรมนั ]
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน( Pre - test )
เร่ือง อารยธรรมโรมนั
1. ค
2. ก
3. ง
4. ก
5. ข
6. ค
7. ค
8. ค
9. ก
10. ง