[ ][นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 1 บทเรยี นสำเร็จรปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 2
[ ]เลม่ ที่ 7 การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก และอทิ ธพิ ลท่ีมตี อ่ กัน
แบบทดสอบก่อนเรียน(Pre – test)
เร่ือง การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก
คำชี้แจง ให้นักเรยี นกากบาท (X) ทับขอ้ ที่ถูกท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี วในกระดาษคำตอบ
1. พระเจ้าอเล็กซานเดอรม์ หาราชแหง่ มาซโิ ดเนยี รุกรานมาจนถึงอนิ เดียมผี ลทำใหเ้ กดิ สงิ่ ใดขน้ึ ในโลก
ตะวันออก
ก. การแต่งกายตามแบบตะวนั ตก
ข. การหลอ่ พระพุทธรูปตามแบบกรกี
ค. การสรา้ งป้อมปราการตามแบบกรกี
ง. การจัดกองกำลงั กองทพั แบบตะวนั ตก
2. จกั รพรรดิจนี สมัยราชวงศ์ฮั่นสง่ คณะทูตไปยังอาณาจักรทางตะวนั ตก ด้วยเหตผุ ลใด
ก. การคา้ ขาย
ข. การขยายอำนาจ
ค. การเผยแผ่ศาสนา
ง. การแสวงหาพนั ธมติ ร
3. เส้นทางทางบกทีน่ ยิ มใช้ติดตอ่ ระหว่างโลกตะวนั ตกและตะวนั ออกในอดีต เรียกวา่ อะไร
ก. เส้นทางสายไหม
ข. เส้นทางสายทรานไซบีเรีย
ค. เสน้ ทางสายอาทิตย์อุทัย
ง. เสน้ ทางยโุ รป-ฉางอาน
4. บุคคลที่ทำให้เร่อื งราวของจีนถูกเปิดเผยไปยังยโุ รป และเป็นที่สนใจของชาวยโุ รปอย่างมากคือใคร
ก. เจิ้งเหอ
ข. มาร์โค โปโล
ค. อิบน์ บันตูตา
ง. พระถังซำจ๋งั
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 2 3
บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ
[ ]เล่มที่ 7 การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก และอิทธิพลท่ีมตี ่อกัน
5. พระถงั ซำจัง๋ เปน็ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีนอย่างไร
ก. เปน็ พระสงั ฆราชองค์แรกของจีน
ข. เป็นผไู้ ปสบื ทอดพระพุทธศาสนาจากอินเดยี
ค. เป็นผแู้ ปลพระไตรปฎิ กเป็นภาษาจีนคนแรก
ง. เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึง่ ตามความเช่ือของจนี
6. การนับถอื เทพเจ้า การประกอบพธิ ีกรรมตามความเชอ่ื การสรา้ งพระพทุ ธรูป รวมทั้งแนวคดิ ในเรื่อง
ระบบวรรณะ และการเมืองการปกครอง เกดิ จากสาเหตุและรูปแบบของการตดิ ตอ่ แลกเปล่ยี น
วัฒนธรรมแบบใด
ก. การติดตอ่ ค้าขาย
ข. การเผยแผศ่ าสนา
ค. การผจญภยั แสวงหาโชค
ง. การทำสงครามและการขยายอำนาจ
7. สนิ คา้ จากจีนท่เี ป็นทต่ี อ้ งการมากทส่ี ุดของจกั รวรรดโิ รมันคอื อะไร
ก. ชา
ข. ผ้าไหม
ค. หนังสตั ว์
ง. เครือ่ งเทศ
8. ชาวตะวนั ตกชาติแรกทสี่ ามารถเดินเรือมายังเกาะเครือ่ งเทศได้สำเรจ็ คอื ชาติใด
ก. สเปน
ข. อังกฤษ
ค. ฝรง่ั เศส
ง. โปรตุเกส
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 3 4
บทเรยี นสำเรจ็ รปู เร่อื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ
[ ]เลม่ ที่ 7 การติดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลท่มี ีต่อกัน
9. ตัวอยา่ งของการผสมผสานวัฒนธรรมดา้ นอาหารท่ีตะวนั ตกได้รบั แบบอย่างจากตะวนั ออก และ
กลายเปน็ อาหารประจำชาติของอิตาลคี อื อะไร
ก. ขนมอบ
ข. มกั กะโรนี
ค. เสน้ สปาเก็ตตี้
ง. วฒั นธรรมการดื่มชา
10. ความรูเ้ รอื่ งเขม็ ทิศทีใ่ ชใ้ นการเดนิ เรือเป็นผลงานของชนชาตใิ ดเปน็ ชาติแรก
ก. จนี
ข. สเปน
ค. อาหรับ
ง. โปรตุเกส
ไมย่ ากเลยใชไ่ หมครบั เพ่อื นๆ
ไหนลองตรวจดูสิครับ ไดก้ ี่คะแนน
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 4 5
บทเรยี นสำเร็จรูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ
[ ]เล่มท่ี 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธิพลทมี่ ีต่อกัน
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น( Pre - test )
เร่ือง การติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก
21. ข
22. ง
23. ก
24. ข
25. ข
26. ง
27. ข
28. ง
29. ค
30. ก
[ ][นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 5 บทเรยี นสำเร็จรปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 6
[ ]เล่มท่ี 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลทีม่ ีตอ่ กนั
สวัสดคี รับ เพ่อื นๆ
การติดตอ่ ระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกกน็ ่าสนใจ นะครับ
แล้ว...เราจะศึกษา การติดต่อระหว่างโลก
ตะวันออกกับโลกตะวนั ตกดา้ นใดบ้างคะ
สำหรับ การติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกเราจะ
ศกึ ษาเก่ยี วกับ สาเหตุและรปู แบบของการตดิ ต่อ
เส้นทางการตดิ ตอ่ ระหวา่ ง โลกตะวันออกและโลกตะวันตก
เสน้ ทางเคร่ืองเทศ (Spice trade)
ตัวอย่างของวัฒนธรรมที่เกิดจากการแลกเปล่ียนกันระหว่างโลกตะวันออก
กับโลกตะวนั ตก
ถา้ งัน้ เรามาศกึ ษาการติดตอ่ ระหว่างโลกตะวันออกกับ
โลกตะวันตกในหวั ขอ้ ตามกรอบตา่ งๆเลยนะครับ
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 6 บทเรยี นสำเรจ็ รูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 7
[ ]เล่มท่ี 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก และอทิ ธพิ ลที่มีต่อกัน
กรอบท่ี 1
สาเหตแุ ละรปู แบบของการติดต่อ
โลกตะวันตก กับโลกตะวันออก มีการติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 2,000 ปี มาแล้ว เมื่อสังคมมนุษย์มี
ความก้าวหน้าในการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือเครอื่ งใช้จากโลหะ และสามารถเพม่ิ ผลผลิตทางการเกษตร ทำให้
เกิดความจำเป็นท่ีจะหาแหล่งวัตถุดิบ และตลาดสำหรับสินค้าที่ผลิตได้ ทำให้เกิดการรับและแลกเปล่ียนทาง
วัฒนธรรมและความรู้ทางวิทยาการด้านต่างๆ ทำให้เกิดการแลกเปล่ียนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน สาเหตุและ
รูปแบบของการตดิ ต่อมีดงั น้ี
1. การติดต่อค้าขาย ในระยะแรกของการติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก เร่ิมต้นจาก
การค้าขาย ทพ่ี อ่ คา้ ชาวตะวันตกกบั ตะวนั ออกไดอ้ าศัยเสน้ ทางท่เี รียกกนั ในสมยั หลังวา่ “เส้นทางสายไหม”(Silk
Road) เส้นทางนี้เร่ิมจากกรุงฉางชาน (เมืองซีอานในปัจจุบัน) ประเทศจีนไปทางตะวันตก ผ่านทะเลทรายใน
เอเชียกลาง จนถึงเมืองท่าริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แล้วลงเรือต่อไปทวีปยุโรป สินค้าสำคัญท่ีพ่อค้า
ชาวตะวนั ตกต้องการคือผ้าไหม ส่วนสินค้าท่ีโลกตะวันออกต้องการ เชน่ หนิ มคี ่า งาช้าง เป็นต้น ต่อมาเส้นทาง
ทางบกไดล้ ดความสำคัญลงเม่ือมกี าร พัฒนาเทคนิคการตอ่ เรอื และเดินเรือทำให้การติดตอ่ ค้าขายขยายวงกว้าง
เส้นทางการค้าจึงได้ เปลี่ยนมาเป็นเส้นทางทางทะเลท่ีเรียกกันในสมัยหลังว่า “เส้นทางเคร่ืองเทศ” (Spice
Route) เน่ืองจากชาวตะวันตกมคี วามต้องการเครอ่ื งเทศและเน้ือสัตวม์ ากข้นึ
2. การเผยแผ่ศาสนา เนื่องจากชาวตะวันตกมีความเช่ือพระผู้เป็นเจ้าจะพอพระทัย หากสามารถ
ชักชวนผู้ที่อยหู่ ่างไกลมานับถือศาสนาครสิ ตไ์ ดแ้ ละคิดวา่ ชาวพ้ืนเมืองที่นับถือศาสนาครสิ ต์จะให้ความเชอ่ื ถอื ตน
มากกว่าพวกที่ไม่ได้นับถือ เป็นเหตุให้ชาวตะวันตกต้องการจะเผยแผ่ศาสนาไปยังดินแดนโลกตะวนั ออกพร้อม
กับการค้าขายดังนน้ั การเผยแผ่ศาสนาจงึ ทำให้เกิดการ แลกเปลย่ี นอารยธรรมระหวา่ งกนั
คำถามกรอบท่ี 1 ทำเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว
ตรวจคำตอบไดเ้ ลยครบั
เสน้ ทางบกทีใ่ ช้ตดิ ตอ่ ระหวา่ งเอเชยี กับยุโรป เรียกว่าอะไร
ตอบ………………………………………………………………..……………
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หน้า 7 บทเรียนสำเร็จรปู เรื่อง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 8
[ ]เล่มท่ี 7 การติดต่อระหวา่ งโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก และอทิ ธพิ ลที่มีต่อกนั
คำตอบกรอบท่ี 1
เสน้ ทางสายไหมหรือเสน้ ทางแพรไหม (The Silk Rood)
3. การทำสงครามและการขยายอำนาจ ตั้งแต่สมัยโบราณ จักรวรรดิที่มีความเข้มแข็งทางการทหาร
จะขยายอำนาจและอทิ ธพิ ลทางกการเมอื งเขา้ ครอบครองดนิ แดนต่างๆ เชน่ ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหา
ราชแห่งมาซิโดเนีย มีการขยายอำนาจจากดินแดนกรีกไปจนถึงเอเชียกลาง เข้ามาจนถึงลุ่มแม่น้ำสินธุ (ใน
ประเทศปากีสถานและอินเดียทางตอนเหนือ) ทำให้อิทธิพลทางศาสนา เช่น การนับถือเทพเจ้า การประกอบ
พธิ ีกรรมตามความเชือ่ และศิลปกรรมของกรีก แพรห่ ลายในเอเชีย เช่น การสร้างพระพทุ ธรปู รวมทั้งแนวคิดใน
เร่อื งระบบวรรณะ การเมืองการปกครอง
การขยายอำนาจทางการสงครามท่ีสง่ ผลใหเ้ กิดการแลกเปล่ียนทางวัฒนธรรมอย่างชัดเจนคือ สงคราม
ครูเสด ซ่ึงเป็นสงครามระหว่างคริสต์ศาสนกิ ชนตะวนั ตกกับพวกมุสลิมในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ชาวตะวันตก
ได้มีโอกาสสัมผัสกบั อารยธรรมของโลกตะวันออก เกิดการแลกเปลย่ี นอารยธรรมและการติดต่อทางการคา้ และ
นำไปส่กู ารฟืน้ ฟูศิลปะวทิ ยาการของยโุ รปในเวลาต่อมา
4. การผจญภัยแสวงหาโชค ในยุคฟ้ืนฟูศิลปวิทยาของชาวตะวันตกเร่ิมหันมาสนใจเรื่อง รอบๆ ตัว
ความเช่ือว่าโลกแบน และเรือที่แล่นไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่อาจตกขอบโลก จึงทำให้ชาวตะวันตกหันมา
สนใจต่อความล้ีลบั ของท้องทะเลทีข่ วางกั้นพวกเขากบั โลกของตะวนั ออก ประกอบกับการพัฒนาเรอื ที่มีความ
แข็ง แรง ที่สามารถแล่นในมหาสมุทรไดด้ ีขึ้น ทำให้ชาวตะวันตกมีโอกาสเดินทางไปเผชิญโชคไปค้าขายหรือไป
ต้ังถนิ่ ฐานในดินแดนใหม่ และไดน้ ำวฒั นธรรมการดำรงชวี ิตของชาวตะวนั ตกไป เผยแพร่ ดว้ ย
คำถามกรอบท่ี 1 (ต่อ)
การนบั ถอื เทพเจา้ การประกอบพธิ กี รรมตามความเชื่อ การสร้างพระพทุ ธรูป รวมท้ังแนวคดิ ในเรือ่ ง
ระบบวรรณะ การเมืองการปกครอง เกิดจากสาเหตุและรปู แบบของการตดิ ตอ่ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
แบบใด
ตอบ…………………………………………………………………………………………………..…………..……………
ทราบหรอื ไม่ว่า
เส้นทางการตดิ ต่อระหวา่ ง โลกตะวันออกและโลกตะวันตก
แบ่งออกเป็น 2 เส้นทาง ถ้าอยากรู้เราไปศึกษากรอบต่อไปเลยคะ
แตก่ ่อนอนื่ อย่าลืมตอบคำถามกรอบที่ 1 กอ่ นนะคะ…
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 8 บทเรียนสำเรจ็ รูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 9
[ ]เล่มที่ 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลทม่ี ีตอ่ กัน
คำตอบกรอบท่ี 1 (ต่อ)
การทำสงครามและการขยายอำนาจ
กรอบที่ 2
เสน้ ทางการตดิ ต่อระหว่าง โลกตะวันออกและโลกตะวันตก
การติดต่อกันระหว่างดินแดนต่างๆ ทำให้เกิดเส้นทางคมนามคมตดิ ต่อระหว่างเอเชียและยุโรปทั้งแบ่ง
ออกเป็น 2 เสน้ ทางคือ ทางบกและทางทะเล
1. เส้นทางบก
ในอดีต การพัฒนาเสน้ ทางบกติดต่อระหวา่ งดินแดนตา่ งๆ มักเป็นเสน้ ทางสั้นๆ ที่เชือ่ มระหว่างรัฐต่อรัฐ
สว่ นการก่อสร้างถนนเพื่อติดต่อกับดินแดนท่ีอยหู่ ่างไกลกนั มากนั้น เป็นผลจากการขยายอำนาจของจักรวรรดิ
ต่างๆ เชน่
- จักรวรรดิแอสซีเรียได้สร้างถนนจำนวนมากเชื่อมติดต่อระหว่างดินแดนเมโสโปเตเมียกับอียิปต์และ
เอเชียไมเนอร์ เพอ่ื ใชใ้ นการเดนิ ทัพและการสอื่ สาร
- จักรวรรดเิ ปอร์เซียสร้างถนนเชื่อมเมืองหลวงของตนกับชายฝ่ังตะวันตกของเอเชยี ไมเนอร์ นอกจากนี้
ยังมีถนนจำนวนมากเช่ือมระหว่างเมืองต่างๆ ตงั้ แต่เอเชียไมเนอร์ จนถึงอินเดียตามเส้นทางท่ีพระเจา้ อเลก็ ซาน
เดอรม์ หาราชยกทพั ไปโจมตเี อเชยี
- จักรวรรดิโรมันสร้างถนนหลวงซ่ึงปูด้วยหินท่ีแข็งแรงเช่ือมต่อระหว่างกรุงโรมกับเมืองท่ีอยู่ใต้การ
ปกครองของโรมัน เพอื่ ใช้ประโยชน์ในด้านการทหารและไปรษณีย์ จนมคี ำกลา่ วว่า “ถนนทกุ สายมุ่งสู่กรงุ โรม”
คำถามกรอบที่ 2
เหตุใดจงึ มคี ำกล่าวว่า “ถนนทุกสายม่งุ สู่กรุงโรม”
ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 9 บทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 10
[ ]เล่มท่ี 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก และอทิ ธิพลท่ีมตี ่อกนั
คำตอบกรอบท่ี 2
1. จเกักษรวตรรรกดรโิ รรมมันแสลระ้าเงดถนิ เนรหอื ลวงซ2ง่ึ.ปดูดอ้วเยรหยี ินท(แี่ Dขoง็ แriรaงns)
เช่ือมตอ่ ระหว่างกรุงโรมกับเมืองท่ีอยู่ใต้การปกครองของโรมัน
- ด้านเอเชียตะวันออก ราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 220) ของจีนมีนโยบายส่งเสริม
การติดต่อค้าขายกับดนิ แดนตะวันตกตามเส้นทางบก ทำให้เกดิ เส้นทางการค้าระหว่างเอเชียตะวนั ออกกับโลก
ตะวนั ตก ซึ่งเร่ิมจากนครฉางอนั (Chang-an) หรอื ซีอานในสุ่มแม่น้ำหวางเหอไปสู่ดินแดนตะวนั ตกของจีนทาง
ดา่ นประตหู ยก (Yu-men) ในเขตมณฑลกานซู (Gansu) ปัจจุบัน และผา่ นทะเลทรายในเขตเอเชียกลางจากนั้น
จะมีเส้นทางแยกลงใต้ผ่านเปอรเ์ ซียไปสูเ่ อเชยี ไมเนอร์และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตามลำดับ เส้นทางสายน้ีมีช่ือ
ว่า “เส้นทางสายไหม” (Silk Route) เนื่องจากสินค้าหลักที่พ่อค้าบรรทุกกองคาราวานอูฐรอนแรมไปตาม
เส้นทางในเขตทะเลทราย คือ ผ้าไหม และสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงอ่ืนๆ ซึ่งเป็นท่ีต้องการของชนชั้นสูงใน
จกั รวรรดิโรมันและยโุ รป เชน่ หยก และผลงานศิลปะทปี่ ระดับดว้ ยวัตถลุ ำ้ คา่
นอกจากน้ี จักรพรรดิสมัยราชวงศ์ฮ่ันได้ใช้เส้นทางน้ีในการส่งคณะทูตเพ่ือแสวงหาพันธมิตรกับ
อาณาจักรตะวันตกอีกด้วย
ภาพที่ 7.1 แสดงภาพเสน้ ทางสายแพรไหม
ทม่ี า : http://mimhew.blogspot.com/2013/09/blog-post_5361.html
คำถามกรอบท่ี 2
เหตใุ ดจึงเรยี กเส้นทางการติดตอ่ คา้ ขายกับดินแดนตะวันตกตามเส้นทางบกว่า เส้นทางสายไหม
ตอบ……………………………………………………………………………………………..…………………………………
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หน้า 10 บทเรยี นสำเร็จรูป เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 11
[ ]เลม่ ที่ 7 การตดิ ต่อระหวา่ งโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก และอทิ ธิพลทม่ี ตี อ่ กนั
คำตอบกรอบท่ี 2
เนอื่ งจากสนิ คา้ หลักที่พ่อค้าบรรทกุ กองคาราวานอูฐรอนแรม
ไปตามเส้นทางในเขตทะเลทราย คอื ผ้าไหม
2. เสน้ ทางทะเล
การติดต่อทางทะเลระหว่างดินแดนต่างๆ เริ่มมาต้งั แต่สมัยโบราณ เนื่องจากศนู ย์กลางความเจริญของ
ดนิ แดนส่วนใหญต่ ้งั อยใู่ กลแ้ ม่น้ำและทะเล ทำให้มีโอกาสติดต่อกบั โลกภายนอกไดง้ า่ ยกว่าดินแดนที่อยลู่ กึ เขา้ ไป
เหตผุ ลของการติดตอ่ มที ั้งจุดหมายทางการคา้ และการขยายดินแดน
ในระยะแรก เสน้ ทางติดต่อทางทะเลมกั อยู่ในพื้นทซี่ ึ่งไมห่ ่างไกลจากกนั มากนกั เช่น การติดตอ่ ระหวา่ ง
อียิปต์กับเมืองท่าในเขตทะเลแดง การตดิ ต่อระหวา่ งอียิปต์ ฟนี เิ ชีย เมโสโปเตเมยี เอเชยี ไมเนอร์ เกาะครีต กรีก
แหลมอิตาลี และเมืองท่าต่างๆ ของแอฟรกิ าเหนือในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และการติดต่อระหว่างเมโสโป
เตเมียกับอินเดยี ในเส้นทางระหวา่ งอา่ วเปอร์เซียกับทะเลอาหรับ
ต่อมาเมื่อดินแดนต่างๆ มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเดินเรือเป็นต้นว่า พวกฟีนิเชียสามารถต่อ
เรือขนาดใหญ่ทีบ่ รรทุกไดจ้ ำนวนมาก และจีนสามารถประดิษฐ์เขม็ ทิศและต่อเรือสำเภาขนาดใหญท่ ี่บรรทุกคน
ได้มากกว่า 500 คน ทำให้นักเดินเรือสามารถเดินทางไปยังดินแดนที่ห่างไกลมากขึ้น ดังเช่น พวกอาหรับ
สามารถต่อเรือเดินสมุทรเดินทางไปถึงยุโรปและขยายอิทธิพลทางการค้าและศาสนาอิสลามไปถึงหมู่เกาะชวา
ส่วนจีนก็สามารถเปิดเส้นทางการคา้ ทางทะเลระหว่างเอเชยี ตะวนั ออกกับตะวนั ออกกลางในตน้ คริสต์ศตวรรษที่
15 เมื่อ เจิ้งเหอ ขุนนางขันทีได้รับพระราชโองการจากจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 –
1644) ให้นำกองเรือรบขนาดใหญ่จำนวนมาก เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีพร้อมกับสำรวจดินแดนและ
เส้นทางการค้าสายใต้รวม 7 คร้งั โดยเดนิ ทางไปไกลถึงปากทางเขา้ ทะเลแดงและชายฝ่ังแอฟรกิ าตะวนั ออก
คำถามกรอบที่ 2 (ต่อ)
จดุ ม่งุ หมายของการตดิ ต่อทางทะเลระหว่างดินแดนตา่ งๆ ต้ังแต่สมัยโบราณ คืออะไร
ตอบ……………………………………………………………………………………………..…………………………………
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 11 บทเรยี นสำเรจ็ รูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 12
[ ]เล่มที่ 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธิพลที่มตี อ่ กัน
คำตอบกรอบที่ 2 (ต่อ)
การค้าและการขยายดินแดน
กรอบท่ี 3
เสน้ ทางเครอื่ งเทศ (Spice trade)
ในสมัยโบราณเส้นทางเครื่องเทศมี 2 แห่ง เท่าน้ัน คือ อินเดียกับหมู่เกาะโมลุกกะของอินโดนีเซียใน
ปัจจุบัน โดยพริกไทยอบเชยและกระวานมาจากอินเดียเป็นหลัก ส่วนอบเชยกานพลุลูกจันทน์เทศและ
ดอกจันทน์มาจากโมลุโกะ การค้าเครื่องเทศมีมาช้านานแล้ว ในเอเชียจีนมีการค้าขายขิงกับกานพลูกับ
อินโดนเี ซียมาเป็นระยะเวลานานกว่า 300 ปี ก่อนครสิ ต์ศักราช ชาวเกาะโมลุกกะก็มีการเดินเรือค้าเครื่องเทศ
ไปไกลถึงแอฟริการตะวนั ออก จากนเี้ ครือ่ งเทศเดนิ ทางสู่อาณาจักรโรมันในเมดิเตอร์เรเนียน โดยผ่านทะเลแดง
หรอื อ่าวเปอร์เซียสู่อเลก็ ซานเดรยี และกรงุ โรมัน
นอกจากเส้นทางทะเลแล้ว การค้าเครื่องเทศกับตะวันตกยังมีการใช้เส้นทางบก คือ เส้นทางสายไหม
เครื่องเทศจากอินโดนีเซีย เม่ือไปจนถึงจีนหรืออินเดียแล้วจะสมทบเคร่ืองเทศและ สินค้าท้องถ่ินเป็นกอง
คาราวานเดินทางตามเส้นทางสายไหม ภายใต้การกำกับดูแลของพ่อค้าอาหรับสู่อเล็กซานเดรียและโรมัน
การค้าขายเครอ่ื งเทศจากตะวันออกดำเนินมาจนถึงครสิ ต์ศตวรรษที่ 7 ตอ้ งสะดดุ ลงในช่วงสงครามครูเสด (ค.ศ.
1092-1291) กองทหารยุโรปท่ีเข้าประจำการรบ ได้ติดต่อกับพวกอาหรับทำให้รู้เคร่ืองเทศ นับจากน้ัน
เคร่ืองเทศก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของชาวยุโรป มูลค่าของเคร่ืองเทศมีราคาเทียบเท่ากับทองคำ
เครือ่ งเทศกลายเป็นสนิ ค้าฟุ่มเฟอ่ื ย หรูหรา ของชาวยุโรป
เน่ืองจากชาวยโุ รปไม่สามารถเดนิ ทางผา่ นทะเลแดงอา่ วเปอร์เซยี หรือผา่ นช่องแคบเฮอรม์ สุ ทเี่ ชอ่ื มกับ
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่พ่อค้าอาหรับใช้เพราะเป็นเขตอิทธิพลของชาว
มสุ ลมิ หากตอ้ งการค้าเครื่องเทศด้วยเส้นทางนี้จำเป็นต้องพึ่งชาวมสุ ลมิ ที่คุมอ่าวเปอรเ์ ซียจากข้อจำกัดดังกล่าว
จงึ เป็นแรงกระตุ้นให้ชาวยุโรปแสวงหาเส้นทางเดินเรือใหม่เพื่อติดต่อค้าขายกับอินเดีย และแหล่งเคร่ืองเทศใน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยตรง ในปี ค.ศ.1498 วาสโกดากามา ชาวโปรตุเกสเป็นคนแรกท่ีเดินทางข้าม
แหลมกู๊ดโฮป แล้วข้ามมหาสมุทรอินเดียไป สู่ประเทศอินเดียได้ทำให้การผูกขาดเร่ืองของเคร่ืองเทศกับชาว
อาหรับยตุ ลิ ง และเป็นการเปิดเสน้ ทางใหม่ที่เรียกว่า “เส้นทางเครื่องเทศ” เริ่มตั้งแต่เกาะกวั (Goa) ทางตอนใต้
ของอินเดีย ลงั กา มะละกา และ หมูเ่ กาะโมลลกุ กะในประเทศอนิ โดนเี ซยี ซึ่งไดช้ ื่อวา่ เปน็ “หมเู่ กาะเครื่องเทศ”
คำถามกรอบท่ี 3 “เส้นทางเครื่องเทศ” เร่มิ ต้นจากการเดนิ ทางของใคร
ตอบ………………………………………………………………
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หน้า 12 บทเรยี นสำเร็จรปู เร่ือง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 13
[ ]เลม่ ที่ 7 การตดิ ต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอทิ ธพิ ลท่มี ีต่อกัน
คำตอบกรอบที่ 3
วาสโกดากามา ชาวโปรตเุ กส
นอกจากดนิ แดนในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้แล้ว พบว่าการคน้ พบดนิ แดนใหม่คอื อเมรกิ าของโคลัมบัส
ได้ค้นพบเคร่อื งเทศท่ีสำคัญ 2 ชนิดคือ ชนิดแรกเป็นเคร่ืองเทศที่ผลแห้งของมันมีรสชาติคลา้ ยลกู จันทน์อบเชย
และกานพลูผสมกันจึงรยี กว่า”ออลสไปซ์”(allspice) และเครอ่ื งเทศอกี ชนดิ หน่ึงท่ีมรี สรอ้ นแรง สามารถแทนที่
พริกไทยท่ีมีรสเผ็ดร้อนจากป่าดงดิบของเอเชียได้ ซ่ึงเครื่องเทศชนิดนี้ชาวพื้นเมืองของอเมริกา และหมู่
เกาะเวสต์อินดีส ปลูกกันมาช้านานมีหลากสีหลายขนาดและรูปร่างนนั้ คอื “พรกิ ” ซึ่งต่อมาเป็นเคร่ืองเทศที่ท่ัว
โลกรจู้ ักและหลงไหลในรสชาตทิ เ่ี ผด็ ร้อน
แหล่งการค้าขายเคร่ืองเทศที่สำคัญยังคงมาจากกลุ่มประเทศในเอเชียเขตร้อน เครื่องเทศท่ีส่งออก
สำคัญ ได้แก่ อบเชย พริกไทย ขิง กานพลู และลูกจันทร์เทศ สำหรับอเมริกากลางและอินเดียตะวันตก เป็น
แหลง่ ของพริก วานิลา และออลสไปซ์ ความสำคัญของเครื่องเทศในชาตติ ะวันตกมิได้มีความสำคัญแต่ในฐานะ
เคร่ืองปรุงอาหารเหมือนครัวอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ใช้เคร่ืองเทศเพ่ือแต่งกล่ินขนม ขนมปัง
เค้ก และอาหารอน่ื ๆ
ภาพที่ 7.2 แสดงภาพเคร่อื งเทศ
ทม่ี า : http://mimhew.blogspot.com/2013/09/blog-post_5361.html
คำถามกรอบท่ี 3
พริก มตี ้นกำเนิดจากประเทศใด
ตอบ………………………………………………………………
[ ][นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 13 บทเรียนสำเรจ็ รปู เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 14
[ ]เล่มท่ี 7 การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตก และอทิ ธิพลทม่ี ีต่อกนั
คำตอบกรอบที่ 3
อเมรกิ า
กรอบที่ 4
ตัวอย่างของวฒั นธรรมท่เี กดิ จากการแลกเปล่ยี นกันระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตก
1. ความต้องการสินคา้ จากโลกตะวันออก เครื่องอุปโภคบริโภคเปน็ ผลของการสร้างสรรค์อารยธรรม
สมัยจักรวรรดิโรมัน ความนิยมแต่งกายของชนช้ันสูงด้วยผ้าไหมจากจีน จนทำให้ทองของจักรวรรดิโรมันไม่
พอใช้จา่ ยเพราะนำไปซื้อผ้าไหมจากจนี ในสมยั กลางโลกตะวนั ตกรู้จกั ใช้เครอื่ งเทศและพริกไทยปรงุ อาหาร จึง
กลายเป็นของจำเป็น แต่ต้องซื้อผ่านพ่อค้าคนกลางคือชาวอาหรับ ในช่วงสงครามครูเสดมีราคาสูงมาก ทำให้
โปรตุเกสสำรวจทางทะเลเพื่อแสวงหาเส้นทางเดินเรือมายังหมู่เกาะเครื่องเทศโดยตรงได้สำเร็จ และได้กำไร
อย่างมหาศาลจากสนิ ค้าดงั กลา่ ว
ตวั อย่างของวฒั นธรรมท่เี กดิ จาการแลกเปลีย่ นกัน
- เสน้ สปาเกต็ ตข้ี องอติ าลี ดดั แปลงมาจากเสน้ บะหม่ีของจนี โดยมารโ์ คโปโลเป็นผูน้ ำไปเผยแพร่
ภาพที่ 7.3 แสดงภาพเส้นสปาเก็ตตีข้ องอติ าลี
ทม่ี า : https://www.sanook.com/women/80277/
- วัฒนธรรมการดื่มน้ำชาของชาวตะวันตก เกิดจากปลายครสิ ต์ศตวรรษที่18 อังกฤษซ้อื ใบชาจากจีน
และต่อมานำไปปลกู ในอาณานคิ มของอังกฤษในลังกา อนิ เดีย และนำไปปรุงรสกล่นิ ตามความนิยม
คำถามกรอบท่ี 4
สนิ ค้าที่โลกตะวันตกในสมัยกลางตอ้ งการ และมีความจำเปน็ คืออะไร
ตอบ………………………………………………………………………………………………………..
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หน้า 14 บทเรยี นสำเร็จรูป เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 15
[ ]เลม่ ที่ 7 การตดิ ต่อระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอทิ ธิพลทมี่ ตี อ่ กนั
คำตอบกรอบท่ี 4
เคร่อื งเทศและพริกไทย
2. เลขอารบิกและระบบคำนวณ โดยเฉพาะวิชาเรขาคณิต เลขคณิต และพีชคณิต ที่สำคัญคือ
การคิดระบบตัวเลข 1-9 เดิมเลขโรมันกำหนดใช้จำนวนค่าของตัวเลขเพิ่มขึน้ ตามจำนวนขีด ซ่ึงไม่สะดวกเมื่อ
จำนวนเพ่ิมขึ้น แต่เม่ือชาวอินเดียคิดคน้ เคร่ืองหมายแทนตัวเลขสบิ ตัวแตล่ ะตัวมคี ่าตามท่ีตั้งไว้เช่น หนง่ึ (1)สอง
(2)สาม(3)ส่ี(4)ห้า(5)หก(6)และเม่ือตัวเลขเพิม่ ขนึ้ เป็นหลักสิบ หลักร้อย หลักพนั หรือมากข้ึนเรอ่ื ยๆ ก็นำตัวเลข
มาผสมกันตามหลักท่ีกำหนดไว้ ทำใหก้ ารคำนวณ การทำกจิ กรรมเก่ียวกับตัวเลขมีความสะดวกขนึ้ มาก ตวั เลข
เหลา่ นี้เรียกว่า เลขอารบิก โดยชาวอาหรับนำไปจากอนิ เดยี และชาวยโุ รปรับไปอกี ตอ่ หนงึ่
ความก้าวหน้าด้านการคำนวณเป็นผลมาจากความต้องการของมนุษย์ท่ีหาทางคิดค้นวิธีการต่างๆเพ่ือ
ความสะดวกในการดำรงชีวิต เช่น การแลกเปลี่ยนสินค้า การค้าขาย การคำนวณผลตอบผลตอบแทนฯลฯ
กิจกรรมตา่ งๆเหล่านต้ี ้องหาวิธีการคำนวณเพอื่ หาคำตอบ
3. เข็มทิศจีน สามารถประดิษฐ์เข็มทศิ ได้เป็นชาติแรกของโลก และสามารถใช้ในการเดนิ เรือเม่ือชาว
อาหรับมาติดตอ่ กับจนี ได้นำความรเู้ รือ่ งเขม็ ทิศไปใชแ้ ละชาวยโุ รปก็รบั ความรจู้ ากอาหรบั ไปอกี ตอ่ หนึ่ง
ภาพท่ี 7.4 แสดงภาพเข็มทิศของจีนสมัยโบราณ
ทมี่ า : http://119.46.166.126/self_all/selfaccess12/m6/201/lesson3/content2.php
คำถามกรอบท่ี 4 (ต่อ)
ชนชาตใิ ดสามารถประดษิ ฐ์เขม็ ทิศไดเ้ ป็นชาติแรกของโลก
ตอบ……………………………………………………………………………
[ ][นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 15 บทเรยี นสำเร็จรูป เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 16
[ ]เล่มท่ี 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลที่มตี ่อกนั
คำตอบกรอบท่ี 4 (ต่อ)
จีน
กรอบท่ี 5
ผลของการติดต่อระหว่างโลกตะวันออกกบั โลกตะวันตก
ระหว่างประมาณ ค.ศ. 500 - 1,500 โลกตะวันออกมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าโลกตะวันตก แต่
หลงั จากโลกตะวันตกเข้าสู่การฟน้ื ฟูศิลปวิทยาการ การปฏิวัตวิ ิทยาศาสตร์ การปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรม แนวคิดเรอ่ื ง
จักรวรรดินิยม จึงทำให้อารยธรรมยุโรปเจริญรุดหน้ามากกว่ารวมทั้งอำนาจทางเศรษฐกิจ และการทหารท่ี
เขม้ แขง็ ในขณะท่ีโลกตะวนั ออกยังไมม่ ีการเปลย่ี นแปลงที่สำคญั โลกตะวันออกจึงด้อยความเจรญิ กว่าและเป็น
ผู้รับอารยธรรมของโลกตะวนั ตกมาใช้ในการดำเนินชวี ติ ประจำวนั จนกระท่งั ถงึ ปัจจบุ นั
สรุป ผลของการติดต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตกคอื เกิดการแลกเปล่ียนสินค้า เกิดการ
รบั และแลกเปลย่ี นความเจริญทางด้านต่างๆ และเกิดความมงั่ ค่ังทางเศรษฐกจิ
อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวนั ออกและตะวนั ตกที่มตี ่อกนั ดงั น้ี
1. อิทธพิ ลของอารยธรรมตะวันออกท่เี ผยแพร่ไปยงั โลกตะวันตก
1. ดา้ นวทิ ยาการ เช่น ความรูท้ างด้านคณติ ศาสตร์ เรขาคณติ พีชคณิต
2. ดา้ นปรชั ญา ศาสนา เช่น หลกั ปรชั ญาขงจือ๊ ที่เน้นการใช้เหตุผล ซึง่ ไดม้ อี ิทธพิ ลตอ่ นกั คิดยุโรป
เช่น วอลแตร์ อดัม สมิธ
3. ด้านประดษิ ฐ์กรรม เชน่ ผ้าไหม กระดาษ ดินปนื เขม็ ทิศ การตอ่ เรือ การใช้หางเสอื
เครื่องป่นั ด้าย
4. ดา้ นวัฒนธรรมการดำรงชีวติ เช่น วัฒนธรรมการด่มื ชา สนิ ค้าเครื่องเทศ
2. อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวันตกท่ีเผยแพรไ่ ปยังโลกตะวนั ออก
1. ด้านวิทยาการ เช่น ความร้เู กี่ยวกับตรีโกณมติ ิ เรขาคณิต พีชคณติ ความรู้ทางการแพทย์
เช่น การฉีด วัคซีน การผ่าตัด การศกึ ษาแบบตะวนั ตก
2. ดา้ นศลิ ปกรรม เชน่ การปนั้ หรอื แกะสลักรปู เหมือนมนษุ ย์ การก่อสร้างโดม ประตูโคง้
3. ด้านปรัชญา ศาสนา เช่น ปรัชญาการเมืองตา่ งๆ
4. ด้านประดิษฐ์กรรม เช่น รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน รถถงั อาวุธปนื ระเบดิ ปรมาณู
5. ด้านวัฒนธรรมการดำรงชวี ติ ได้แก่ การแตง่ กายแบบตะวนั ตก (ใส่สูทผูกเนคไท สวมกระโปรง
สวมหมวก) การรบั ประทานอาหารแบบตะวันตก (ใชช้ อ้ นสอ้ ม การด่ืมกาแฟ ขนมปงั ขนมเคก้ )
[ ][นายอุไทย โกยชยั ] หนา้ 16 บทเรียนสำเรจ็ รปู เรอื่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 17
[ ]เล่มที่ 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก และอิทธิพลทีม่ ีต่อกนั
แบบทดสอบหลงั เรยี น
Post – test
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนกากบาท (X) ทับข้อที่ถกู ที่สดุ เพยี งขอ้ เดยี วในกระดาษคำตอบ
1. พระเจา้ อเล็กซานเดอรม์ หาราชแหง่ มาซโิ ดเนีย รุกรานมาจนถงึ อนิ เดยี มีผลทำใหเ้ กดิ สงิ่ ใดขน้ึ ในโลก
ตะวันออก
ก. การแตง่ กายตามแบบตะวนั ตก
ข. การหลอ่ พระพุทธรูปตามแบบกรกี
ค. การสร้างปอ้ มปราการตามแบบกรีก
ง. การจดั กองกำลังกองทัพแบบตะวันตก
2. จกั รพรรดิจีนสมัยราชวงศ์ฮนั่ สง่ คณะทตู ไปยงั อาณาจักรทางตะวันตก ดว้ ยเหตผุ ลใด
ก. การคา้ ขาย
ข. การขยายอำนาจ
ค. การเผยแผ่ศาสนา
ง. การแสวงหาพนั ธมิตร
3. เส้นทางทางบกทน่ี ิยมใชต้ ิดต่อระหวา่ งโลกตะวนั ตกและตะวนั ออกในอดตี เรยี กว่าอะไร
ก. เสน้ ทางสายไหม
ข. เส้นทางสายทรานไซบีเรยี
ค. เส้นทางสายอาทิตย์อุทัย
ง. เสน้ ทางยโุ รป-ฉางอาน
4. บุคคลที่ทำให้เร่ืองราวของจีนถกู เปดิ เผยไปยงั ยุโรป และเปน็ ที่สนใจของชาวยโุ รปอย่างมากคอื ใคร
ก. เจ้งิ เหอ
ข. มาร์โค โปโล
ค. อิบน์ บันตูตา
ง. พระถงั ซำจัง๋
[นายอไุ ทย โกยชยั ] หนา้ 17 [ ]บทเรยี นสำเร็จรปู เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 18
[ ]เล่มท่ี 7 การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลทีม่ ีตอ่ กนั
5. พระถงั ซำจง๋ั เปน็ บุคคลสำคญั ในประวัตศิ าสตรจ์ นี อย่างไร
ก. เป็นพระสงั ฆราชองค์แรกของจีน
ข. เป็นผไู้ ปสืบทอดพระพทุ ธศาสนาจากอนิ เดีย
ค. เป็นผแู้ ปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาจีนคนแรก
ง. เป็นพระโพธสิ ตั วอ์ งคห์ นึ่งตามความเชื่อของจีน
6. การนับถอื เทพเจ้า การประกอบพธิ กี รรมตามความเชอ่ื การสรา้ งพระพุทธรปู รวมท้ังแนวคิดในเรอ่ื ง
ระบบวรรณะ และการเมอื งการปกครอง เกดิ จากสาเหตุและรูปแบบของการตดิ ต่อแลกเปลี่ยน
วฒั นธรรมแบบใด
ก. การติดต่อค้าขาย
ข. การเผยแผศ่ าสนา
ค. การผจญภยั แสวงหาโชค
ง. การทำสงครามและการขยายอำนาจ
7. สนิ คา้ จากจนี ทเี่ ปน็ ทต่ี ้องการมากทสี่ ุดของจักรวรรดิโรมนั คอื อะไร
ก. ชา
ข. ผ้าไหม
ค. หนงั สตั ว์
ง. เคร่อื งเทศ
8. ชาวตะวันตกชาตแิ รกท่ีสามารถเดนิ เรอื มายังเกาะเครอื่ งเทศไดส้ ำเร็จ คือชาติใด
ก. สเปน
ข. อังกฤษ
ค. ฝร่งั เศส
ง. โปรตุเกส
[ ][นายอไุ ทย โกยชัย] หนา้ 18 บทเรียนสำเรจ็ รปู เรอ่ื ง อารยธรรมโลกสมยั โบราณ 19
[ ]เลม่ ที่ 7 การติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก และอทิ ธิพลท่ีมีตอ่ กัน
9. ตวั อยา่ งของการผสมผสานวฒั นธรรมด้านอาหารทต่ี ะวนั ตกไดร้ บั แบบอย่างจากตะวนั ออก และ
กลายเปน็ อาหารประจำชาติของอิตาลคี อื อะไร
ก. ขนมอบ
ข. มักกะโรนี
ค. เส้นสปาเกต็ ต้ี
ง. วัฒนธรรมการดม่ื ชา
10. ความรู้เรื่องเข็มทิศท่ใี ช้ในการเดนิ เรือเป็นผลงานของชนชาติใดเปน็ ชาตแิ รก
ก. จนี
ข. สเปน
ค. อาหรบั
ง. โปรตุเกส
[ ][นายอุไทย โกยชัย] หนา้ 19 บทเรียนสำเรจ็ รูป เรือ่ ง อารยธรรมโลกสมัยโบราณ 20
[ ]เล่มที่ 7 การตดิ ตอ่ ระหวา่ งโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก และอิทธพิ ลทม่ี ีตอ่ กัน
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
Post – test
1. ข
2. ง
3. ก
4. ข
5. ข
6. ง
7. ข
8. ง
9. ค
10. ก
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธกิ าร.หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐานประวัตศิ าสตรช์ ้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 เลม่ 2
ประวตั ิศาสตรส์ ากล.กรงุ เทพ : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว , 2557.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั คณะอกั ษรศาสตร์. เอกสารการสอนรายวชิ าอารยธรรม. กรงุ เทพมหานคร
: สำนกั พมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, 2550.
ชมพนู ชุ นาครี กั ษ์ และวงเดอื น นาราสจั จ์. ประวัติศาสตร์สากลเล่ม2 : พัฒนาการทางประวัติศาสตรข์ อง
มนุษยชาติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6. กรุงเทพมหานคร : สำนกั พมิ พบ์ รษิ ทั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ,2554.
ชัย ลาภเพิม่ ทวี. หวั ใจสงั คม O-NET. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัทธนเชษฐ์ จำกดั , 2555.
ชาติชาย พญานานนท์. หนังสือเรยี นสงั คมศกึ ษา ม.4-6 ประวัตศิ าสตร์โลก. กรงุ เทพมหานคร : แมค็ , 2551.
ณัทธนัท เลี่ยวไพโรจน.์ คัมภรี ์พชิ ิต Entrance สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม, กรุงเทพมหานคร
: โรงพมิ พ์ทรัพยก์ ารพิมพ์, ม.ป.ป.
ธิดาสาระยาและคณะ. หนงั สอื เรยี นสงั คมศกึ ษา ส 605 สังคมศึกษาช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6. กรุงเทพมหานคร
: ไทยวฒั นาพานิช. 2537.
นวิ ัตร ตนั ไพศาลและคณะ. คมู่ ือเตรียมสอบสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ม.6. กรุงเทพมหานคร
: ไฮเอ็ดพับลชิ ชิ่ง, ม.ป.ป.
นนั ทนา กปลิ กาญจน์. ประวัติศาสตร์และอารยธรรมโลก. กรงุ เทพมหานคร : สำนักพิมโอเดยี นสโตร์, 2530.
ไพรฑูรย์ มกี ศุ ลและคณะ. ประวตั ิศาสตร์สากล ม.4-6 กรุงเทพมหานคร : สำนกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกดั , ม.ป.ป.
ระพิน ทองระอา และคณะ. ไทมส์ ารานุกรม ประวัติศาสตรโ์ ลก. เลม่ ที่ 1.โลกสมยั โบราณ. กรงุ เทพมหานคร
: พาร์อสิ ทีมลิเกช่นั , 2545.
ศิวพล ชมพพู ันธ์.ุ สรปุ สงั คมม.ปลาย. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์วชั รินทร์ พ.ี พ.ี , พมิ พค์ ร้งั ที่ 11, 2557.
สถานบนั กวดวิชาติวเตอรพ์ อยท์. สรุปสังคมมัธยมปลาย. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั กรนี ไลฟ์พรน้ิ ทต์ ้ิงเฮ้าส์, 2557.
สัญชยั สุวงั บุตร และคณะ. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์สากล ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที 4ี่ -6.
กรงุ เทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทศั น์,2557.
สุปราณี มขุ วชิ ิต. ประวัตศิ าสตรย์ ุโรป เล่ม 2 ฉบับปรบั ปรงุ . กรงุ เทพมหานคร : สำนักพิมพโ์ อเดียนสโตร์, 2541.
อุดทศิ จงึ นพิ นธ์สกลุ , คมู่ ือเตรียมสอบ O-NET ม.6 และสอบเข้ามหาลยั สังคมศกึ ษาฯ .กรงุ เทพมหานคร
: ไฮเอด็ พบั ลชิ ชิ่ง, 2555.
แหล่งกำเนดิ อารยธรรมโบราณของโลก. http://arayatum007.blogspot.com/2012/09/blog-post.html
(สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2559)
อารยธรรมโลกยุคโบราณ. https://panupong088.wordpress.com/(สบื ค้นเมอื่ 28 มกราคม 2559)
ประวัตศิ าสตรโ์ ลก http://worldrecordthistory.blogspot.com/p/blog-page.html
(สบื ค้นเม่อื 28 มกราคม 2559)