9. มารยาททางสังคมและการทํางาน 207 3.3 มารยาทในการรับประทานอาหาร มารยาทในรับประทานอาหารแบบสากล § แขกไม่ควรจะนัQงจนกว่าเจ้าภาพหญิงและแขกผู้มีเกียรติจะนัQงแล้ว หรือจนเจ้าภาพ เชิญให้นัQง ถ้าเป็นผู้ชายก็ควรจะช่วยเลืQอนเก้าอีVให้ผู้หญิงด้านขวาเข้านัQงก่อน § เวลานัQงให้พยายามนัQงตัวตรง โดยวางมือไว้บนตักหรือวางเบาๆ บนโต๊ะ แต่อย่าไป วางข้อศอกบนโต๊ะ เพราะอาจเผลอกดโต๊ะพลิกได้ และยังทําให้ผู้อยู่ซ้ายและขวา พูดคุยกันไม่สะดวก § เวลานัQงโต๊ะควรเลืQอนเก้าอีVให้ตัวชิดกับโต๊ะมากทีQสุด จะได้ไม่ต้องก้มหรือเอนตัวเยอะ เวลาทานอาหาร เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. มารยาททางสังคมและการทํางาน 208 มารยาทในรับประทานอาหารแบบสากล § ควรรอให้ทุกคนได้รับอาหารจนครบก่อน และอย่าลืมรอให้เจ้าภาพเชิญ ให้ทานก่อนค่อยเริQมลงมือ § ไม่ควรแลกอาหารหรือแบ่งอาหารให้คนอืQนในโต๊ะ § อย่าทานแต่อาหารจานทีQชอบ แต่ควรทานอาหารทีQเสิร์ฟทุกจาน § ถ้าต้องการเกลือ พริกไทย หรือเครืQองปรุงอืQน ๆ ทีQหยิบไม่ถึงนัVน ให้ รบกวนคนร่วมโต๊ะช่วยส่งต่อ ๆ กันมาให้ อย่าได้เอืVอมหยิบหรือลุกขึVน ยืนหยิบ และเมืQอใช้เสร็จแล้วก็ควรส่งต่อไปทางขวาให้ช่วยเก็บทีQเดิม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 3.3 มารยาทในการรับประทานอาหาร หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. มารยาททางสังคมและการทํางาน 209 3.4 มารยาทในการเข้าประชุม • ต้องตรงต่อเวลา • ให้ความเคารพประธาน ข้อคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม และมติทีQประชุม • ให้ความสนใจกับการประชุม ไม่แสดงกิริยาเบืQอหน่าย นัQงหลับ หรือนัQงเล่นโทรศัพท์มือถือ • ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้เข้าประชุม กรณีทีQถ้าต้องการแสดงความคิดเห็น • ควรยกมือเพืQอขออนุญาต และแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ • ไม่ถกเถียงนอกประเด็นการประชุม • ในระหว่างการประชุม เมืQอต้องเข้าหรือออกจากห้องประชุม ควรแสดงความเคารพประธานก่อน https://www.google.com/imgres?imgurl=https%3 เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. มารยาททางสังคมและการทํางาน • ไม่ควรหวีผม แต่งหน้า ตัดเล็บ • ไม่ควรขบเคีYยวหมากฝรัGงหรือสิGงใด ในขณะสนทนากับผู้อืGน • ไม่ควรจิYม ควัก ล้วง แคะ แกะ เกา ร่างกาย ในทีGสาธารณะ • ไม่หาว เรอ ไอ จามด้วยเสียงอันดัง และไม่มีการป้องกัน • ไม่แสดงกิริยาล่วงละเมิดทางเพศ หรืออนาจาร ทัYงทางร่างกายและคําพูด • ไม่เรียกขานผู้อืGนด้วยถ้อยคําไม่สุภาพ ล้อเลียน • ควรสํารวมกิริยามารยาท ท่าทาง คําพูด ไม่พูดคําหยาบคาย ตลกคะนอง หรือส่งเสียงดัง • มีความเกรงใจ และเคารพสิทธิของผู้อืGน x • เคารพกฎเกณฑ์ ระเบียบของแต่ละสถานทีG 210 3.5 มารยาทในทีAสาธารณะ เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
Ö.มารยาททางอ ินเทอร์เน็ต (Netiquette) 211 กฎกต ิกามารยาทการใช้อินเทอร์เน็ต กฎข้อทีQ 1 จําไว้เสมอว่าอีกฝ่ายหนึQงคือ มนุษย์ (Remember the Human) กฎข้อทีQ 2 ยึดบรรทัดฐานเดียวกับสังคมในชีวิตจริง (Adhere to the same standards of online behavior that you follow in real life) กฎข้อทีQ N ระลึกอยู่เสมอว่าคุณอยู่ทีQใดในสังคมออนไลน์ (Know where you are in cyberspace) กฎข้อทีQ R เคารพผู้อืQนด้วยการตระหนักในเรืQองของเวลาและช่วงสัญญาณ (Respect other people’s time and bandwidth) มารยาททางอ ินเทอร์เน็ต หมายถึง การรู้จักมารยาท ธรรมเนียมปฏิบัติ และวิธีวางตัวได้อย่างเหมาะสมเมืQอมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อืQนทางสังคมออนไลน์ เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
Ö.มารยาททางอ ินเทอร์เน็ต (Netiquette) 212 กฎกต ิกามารยาทการใช้อินเทอร์เน็ต กฎข้อทีQ 5 ทําตัวเองให้ดูดีในสังคมออนไลน์ (Make yourself look good online) กฎข้อทีQ 6 แบ่งปันความรู้ซึQงกันและกัน (Share expert knowledge) กฎข้อทีQ 7 ยับยัVงการโต้ตอบกันด้วยถ้อยคําทีQรุนแรง (Help keep flame wars under control) กฎข้อทีQ 8 เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อืQน (Respect other people's privacy) กฎข้อทีQ ¸ อย่าใช้อํานาจไปในทางทีQผิด (Don't abuse your power) กฎข้อทีQ 10 รู้จักให้อภัยผู้อืQน (Be forgiving of other people's mistakes) เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
สรุป 213 !.มารยาท เป็นกิริยาวาจาทีQถือว่าเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ บุคลิกภาพของบุคคลได้รับอิทธิพลของพันธุกรรมและอิทธิพลของสิQงแวดล้อม D.มารยาททางสังคมและการทํางาน ประกอบด้วย มารยาทในการทักทายมารยาทใน การแต่งกาย มารยาทในการรับประทานอาหาร มารยาทในการเข้าประชุม และ มารยาทในทีQสาธารณะ 3. มารยาททางอินเทอร์เน็ต หมายถึง การรู้จักมารยาท ธรรมเนียมปฏิบัติและวิธี วางตัวได้อย่างเหมาะสมเมืQอมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อืQนทางสังคมออนไลน์ โดยควรปฏิบัติ ตามกฎกติกามารยาทการใช้อินเทอร์เน็ต เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
เอกสารอ้างอิ ง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม. (2562). มารยาทไทย มารยาทในสังคม. กรุงเทพมหานคร: สํานักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. (พิมพ์ครัYงทีG 2). กรุงเทพมหานคร: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชัGนส์จํากัด. สุนทรีย์ ศักดิศรี. ( x 2562). การพัฒนาบุคลิกภาพ. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ผลิตตําราเรียน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. ศรีเรือน แก้งกังวาล. (2551). ทฤษฎีจิตวิทยาบุคลิกภาพ. (พิมพ์ครัYงทีG |w). กรุงเทพมหานคร: หมอชาวบ้าน อริยา คูหา. (2562). จิตวิทยาเพืIอการดํารงชีวิต. (พิมพ์ครัYงทีG }). บริษัทนีโอพ้อยท์(|~~w) จํากัด Cronin, A.C., and Mandich, M. (2016). Human Development and Performance Cengage Learning. Boston: Cengage Learning. Marlowe, C. (2014). Presenting Yourself: Business Manners, Personality, and Etiquette. Pennsylvania: Mason Crest. เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 214 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
วัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมืQอศึกษาบทนีVจบแล้ว นักศึกษาสามารถ !. อธิบายถึงความสัมพันธ์ของวัฒนธรรมและบุคลิกภาพทีQมีอิทธิพลต่อกัน D. อธิบายความแตกต่างของวัฒนธรรมแบบปัจเจกนิยมและกลุ่มนิยมทีQมีผลต่อบุคลิกภาพได้ N. เข้าใจความตืQนตระหนกทางวัฒนธรรม และมีแนวทางในการปรับตัวทางวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 216 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
โครงร่างเนืJอหา 1. ความหมายและความสําคัญของวัฒนธรรมและบุคลิกภาพ !.! ความหมายและลักษณะของวัฒนธรรม !.D ความสําคัญของวัฒนธรรมและบุคลิกภาพ D. ความแตกต่างทางวัฒนธรรม D.! ความแตกต่างทางวัฒนธรรมกับการอนุมานสาเหตุ D.D ความแตกต่างทางวัฒนธรรมกับมุมมองทีQมีต่อตนเอง N. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน N.! ความตืQนตระหนกทางวัฒนธรรม N.D การปรับตัวทางวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 217 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
1. ความหมายและความสําคัญของวัฒนธรรมและบุคลิ กภาพ • วัฒนธรรม คือ รูปแบบของความรู้ ความเชืQอ ทัศนคติ และพฤติกรรม อันเป็นสิQงทีQกลุ่ม บุคคลยอมรับและยึดถือ ประกอบกับการมีจุดร่วมทางประวัติศาสตร์ ประเพณี ค่านิยม ทัศนคติ เป้าหมาย และการปฏิบัติทีQเป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่ม • ดังนัVนวัฒนธรรมจึงเป็นส่วนหนึQงของมุมมองทีQผู้คนใช้เพืQอทําความเข้าใจโลก ทําให้ภูมิหลัง ทางวัฒนธรรมเป็นสิQงทีQกําหนดรูปแบบและชีVนําวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล (Hungerford, Donna, Clancy, Murphy, & Doyle, 2021) เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 218 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
1. ความหมายและความสําคัญของวัฒนธรรมและบุคลิ กภาพ • ความแตกต่างทางวัฒนธรรมไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยใดล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพของมนุษย์ ดังนัVนการเรียนรู้และสร้างความตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมเป็นหนทางทีQจะ ช่วยให้มนุษย์เข้าใจและเรียนรู้ซึQงกันและกัน การยอมรับในความแตกต่าง ซึQงนําไปสู่การ ไตร่ตรองทบทวนความเชืQอเดิม การปรับตัวเข้ากับความแตกต่าง การเคารพในความ แตกต่าง และนําไปสู่การสร้างสังคมทีQมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 219 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
1. ความหมายและความสําคัญของวัฒนธรรมและบุคลิ กภาพ • วัฒนธรรม และบุคลิกภาพเป็นผลผลิตจากปัจเจกบุคคล ทัMงวัฒนธรรมและบุคลิกภาพเป็น สิ9งที9ส่งอิทธิพลต่อกัน กําหนดหรือเปลี9ยนแปลงซึ9งกันและกัน มีความต่อเนื9องกันเป็นวงจร ที9ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แม้ว่าปัจเจกบุคคลจะเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ และการสร้างความเป็นตัวตนจะอยู่ภายใต้เจตจํานงอันเสรีของตนเอง แต่เมื9อปัจเจกบุคคล มีปฏิสัมพันธ์กับสิ9งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในบริบททางสังคมวัฒนธรรม ปัจเจกบุคคลจะ เกิดการปรับตัวและเปลี9ยนแปลงพฤติกรรมตนเองตามสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม เช่นเดียวกับวัฒนธรรมซึ9งเป็นเสมือนนวัตกรรมของสังคมที9กําหนดคุณค่า ความเชื9อและ ค่านิยมให้ปัจเจกบุคคล อาจมีการแปรเปลี9ยนเมื9อปัจเจกบุคคลซึ9งอยู่ภายใต้วัฒนธรรมเดิม เริ9มตัMงคําถามต่อความเชื9อเดิมและเสนอแนวคิดใหม่ต่อสังคม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 221 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
2. ความแตกต ่างทางวัฒนธรรม • ความแตกต่างทางวัฒนธรรมไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยใดล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพของมนุษย์ ดังนัVนการเรียนรู้และสร้างความตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมเป็นหนทางทีQจะ ช่วยให้มนุษย์เข้าใจและเรียนรู้ซึQงกันและกัน การยอมรับในความแตกต่าง ซึQงนําไปสู่การ ไตร่ตรองทบทวนความเชืQอเดิม การปรับตัวเข้ากับความแตกต่าง การเคารพในความ แตกต่าง และนําไปสู่การสร้างสังคมทีQมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 222 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน 3.1 ความตื6นตระหนกทางวัฒนธรรม ความตื9นตระหนกทางวัฒนธรรม (cultural shock) เป็นประสบการณ์เผชิญกับแรง กดดันที9เกิดจากการสัมผัสกับวัฒนธรรมที9แตกต่างหรือไม่คุ้นเคย มักเกิดกับนักศึกษาต่างชาติ ผู้ลีMภัย องค์กรทางธุรกิจที9มีการปรับเปลี9ยนโครงสร้าง หรือแม้แต่การเผชิญกับความ เปลี9ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี ซึ9งในสังคมพหุวัฒนธรรมที9มีความหลากหลายชาติพันธุ์ มักแฝงด้วยความขัดแย้งและการซึมซับข้ามวัฒนธรรมในชีวิตประจําวัน เป็นที9มาของความตื9น ตระหนกทางวัฒนธรรม นําไปสู่วิกฤตทางจิตใจหรือความสัมพันธ์ทางสังคมบกพร่องลง (psychological crises or social dysfunctions) เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 225 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน 3.1 ความตื+นตระหนกทางวัฒนธรรม 1. ช่วงฮันนีมูน หรือท่องเที9ยว (the honeymoon or tourist phase) 2. ช่วงวิกฤต หรือเกิดความตื9นตระหนกทางวัฒนธรรม (the crises or cultural shock phase) 3. ช่วงปรับเปลี9ยน หรือกําหนดทิศทางใหม่ หรือฟืMนกลับ (the adjustment, reorientation, and gradual recovery phase) 4. ช่วงปรับตัว หรือช่วงหาทางออก หรือช่วงปรับตัวทางวัฒนธรรม (the adaptation, resolution, or acculturation phase) (Winkelman, 1994) เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 227 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
9. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน 3.2 การปรับตัวทางวัฒนธรรม (cultural adaptation) 1. การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง (predeparture preparation) 2. การปรับตัวเพื9อการเปลี9ยนผ่าน (transition adjustments) 3. ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลและสังคม (personal and social relations) 4. กฎแห่งการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรม (cultural and social interaction rules) (Winkelman, 1994) เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 228 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
สรุป Ç. วัฒนธรรม คือรูปแบบของความรู้ ความเชื9อ ทัศนคติ และพฤติกรรมที9บุคคลในสังคมนัMน ยอมรับและยึดถือ ประกอบกับมีจุดร่วมทางประวัติศาสตร์ ประเพณี ค่านิยม ทัศนคติ เป้าหมาย และการปฏิบัติที9เป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่ม ดังนัMน วัฒนธรรมจึงเป็นส่วนหนึ9งของ มุมมองที9ผู้คนใช้เพื9อทําความเข้าใจโลก ทําให้ภูมิหลังทางวัฒนธรรมเป็นสิ9งที9กําหนดรูปแบบ และชีMนําวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล É. วัฒนธรรมและบุคลิกภาพ มีความสัมพันธ์และกําหนดซึ9งกันและกันเป็นวงจร บุคลิกภาพ ของปัจเจกบุคคลเปลี9ยนแปลงตามวัฒนธรรมที9บุคคลนัMนอาศัยอยู่ได้เช่นเดียวกับวัฒนธรรม อาจเปลี9ยนแปลงตามบุคลิกภาพของผู้คนในสังคมได้ เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 229 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
สรุป Ñ. ความแตกต่างทางวัฒนธรรม มีหลายระดับและแง่มุม หนึ9งในความแตกต่างที9ถูกนํามา ศึกษาคือวัฒนธรรมแบบปัจเจกนิยมและกลุ่มนิยม โดยวัฒนธรรมปัจเจกนิยมจะให้ความสําคัญ กับความต้องการของตนเองมากกว่าความต้องการของผู้อื9นและสังคม รวมทัMงเน้นเสรีภาพใน การสร้างตัวตน ส่วนวัฒนธรรมกลุ่มนิยมให้ความสําคัญกับผู้อื9นและสังคม การสร้างตัวตนหรือ บุคลิกภาพจะยึดโยงกับกลุ่มในสังคม และรับรู้ตัวตนเป็นส่วนหนึ9งของกลุ่ม นอกจากนีM วัฒนธรรมปัจเจกนิยมและกลุ่มนิยมยังมีอิทธิพลต่อการอนุมานสาเหตุและมุมมองที9มีต่อตนเอง ของบุคลลที9อยู่ภายใต้วัฒนธรรมนัMน Ö. ความตื9นตระหนกทางวัฒนธรรม เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลในเผชิญกับแรงกดดันที9เกิด จากการสัมผัสกับวัฒนธรรมที9แตกต่างหรือไม่คุ้นเคย และรู้สึกสับสนหรือสูญเสียอัตลักษณ์จาก วัฒนธรรมเดิม ซึ9งมักเกิดกับบุคคลที9เคลื9อนย้ายไปในพืMนที9แตกต่างทางวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 230 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
สรุป Ü. วงจรของความตื9นตระหนกทางวัฒนธรรม มีลักษณะต่อเนื9อง แบ่งเป็น Ö ช่วง ได้แก่ ช่วง ฮันนีมูน ช่วงวิกฤต ช่วงปรับเปลี9ยน และช่วงปรับตัว á. การปรับตัวทางวัฒนธรรม คือ การปรับแต่งคุณลักษณะส่วนบุคคลเพื9อทําความเข้าใจ วัฒนธรรมที9แตกต่าง และการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกให้เกิดคุ้นชินกับวัฒนธรรม ใหม่ และพัฒนาไปสู่การเป็นบุคคลที9มีอัตลักษณ์แบบสองวัฒนธรรม เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 231 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย
เอกสารอ้างอิ ง • Hungerford, C. L., Donna, D., Clancy, R., Murphy, G., & Doyle, K. E. A. (2021). Mental health care: An introduction for health professionals. • Markus, H. R., & Kitayama, S. (2010). Cultures and selves: A cycle of mutual constitution. Perspectives on psychological science, 5(4), 420-430. • Oishi, S., Kushlev, K. & Benet-Martínez, V. (2021). Culture and Personality: Current Directions. In O. P. John & R. W. Robins (Eds.), Handbook of personality: Theory and research (4th ed., pp.686-703). NY: Guilford Press • Twenge, J. M., & Campbell, W. K. (2017). Personality Psychology: Understand Yourself and Others. Boston: Pearson. • Winkelman, M. (1994). Cultural shock and adaptation. Journal of Counseling & Development, 73(2), 121-126. เอกสารประกอบการสอน RAM1141 ศาสตร์แห่งบุคลิกภาพ 232 หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย หนังสือนี้เป็นเอกสารทางราชการของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย ห้ามพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย