The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นิกร สระครบุรี, 2021-04-06 19:32:06

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

1

แผนการสอน/การจดั การเรยี นรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วชิ า 20000 1102 รายวชิ าภาษาไทยเพ่อื อาชีพ หน่วยกิต(ช่ัวโมง)2/2
หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2563
ประจาภาคเรียนท่ี1 ปีการศกึ ษา 2563

ประเภทวชิ า ภาษาไทย

จดั ทาโดย

นายนกิ ร สระครบุรี
ตาแหน่ง ครูพิเศษสอน
แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563
วิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดนิ

สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

2

แบบคำขออนมุ ตั ใิ ช้แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้

รำยวิชำภำษำไทยเพอื่ อำชีพ รหสั วิชำ 2000-1102

ลงชอ่ื ...........................................
(นำยนกิ ร สระครบรุ )ี
ครูประจำวชิ ำ

ควำมเห็นหัวหน้ำแผนกวิชำสำมญั สัมพันธ์ ควำมเหน็ หัวหนำ้ งำนพัฒนำหลักสตู รฯ
.................................................................. ...............................................................

ลงชอื่ ............................................... ลงชอ่ื ...............................................
(นำงมณกี ำนต์ โคตรโสภำ) (นำยคุมดวง พรมอนิ ทร)์

หวั หนำ้ แผนกวิชำสำมัญสมั พนั ธ์ งำนพฒั นำหลกั สตู รกำรเรยี นกำรสอน

ควำมเหน็ รองผอู้ ำนวยกำรฝำ่ ยวชิ ำกำร
………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………...
(นำยทนิ กร พรหมอนิ ทร์)
รองผ้อู ำนวยกำรฝำ่ ยวิชำกำร

ควำมเหน็ ผอู้ ำนวยกำรวิทยำลัยเทคนิคสวำ่ งแดนดิน
……………………………………………………….……….

ลงชอ่ื ...........................................
(นำงวรรณภำ พว่ งกลุ )

ผู้อำนวยกำรวิทยำลัยเทคนิคสว่ำงแดนดนิ

3

คานา

ภำษำไทยเพ่ืออำชีพ (รหัสวิชำ 2000- 1102) จัดทำข้ึนเพื่ออำนวยควำมสะดวกสำหรับใช้เป็นแนวทำงใน
กำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนใหม้ ีประสทิ ธิภำพและเกิดประสิทธิผลตำมหลกั สูตรประกำศนียบตั รวิชำชีพ
พทุ ธศกั รำช 2556 สำนกั คณะกรรมกำรอำชวี ศึกษำ กระทรวงศึกษำธิกำร แนวคดิ สำคญั ในกำรจัดทำแผนกำรเรยี น
รำยวิชำภำษำไทยเพื่ออำชีพ ได้ยึดแนวคิดเก่ียวกับกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ สร้ำงควำมรู้
จำกกำรปฏิบัติ และนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจริงได้ โดยใช้กระบวนจัดกำรเรียนรู้แบบ GPAS 5
Steps และออกแบกำรเรียนรู้แบบ Backward design เน้นผู้เรียนและกำรแสดงออกและผลิตผลงำนตำมภำระ
งำน นำผลงำนและกำรแสดงออกของผู้เรียนมำใช้ประเมินผลกำรเรียนตำมจุดประสงค์รำยวิชำในแต่ละหน่วยกำร
เรียนรู้ตลอดทงั้ รำยวชิ ำ เปน็ กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง สอดคล้องกับบริบทและกำรเปล่ียนแปลงของสังคม ผู้เรียน
สำมำรถคิดวิเครำะห์ แก้ปัญหำกำรส่ือสำร และผลิตผลงำนด้วยทีมงำนท่ีใช้สติปัญญำ ผ่ำนกำรประเมินควำมรู้
ควำมเข้ำใจ ทักษะ และค่ำนิยมในทกุ ดำ้ น จึงหวังเป็นอย่ำงยิง่ ว่ำหำกแผนกำรจดั กำรเรียนรู้นส้ี ำมำรถตอบสนองต่อ
ผเู้ รียนจะช่วยให้ผเู้ รยี นและผู้สอนบรรลุวตั ถุประสงค์ตำมท่หี ลักสูตรฯ กำหนดชว่ ยยกระดบั กำรศึกษำไทยให้มีระดบั
ทัดเทียมกับประเทศอื่น

นิกร สระครบรุ ี
(นำยนกิ ร สระครบรุ ี)

4

สารบญั

หนำ้

คานา................................................................................................................................... ........
สารบญั ................................................................................................................................. ........
ลกั ษณะรายวชิ า.................................................................................................................... ........
ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะการเรยี นรู้.................................................................................... ........
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตร …………………………………………………........................ ........
ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะรายวิชาโดยบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง .......
โครงการสอนหรอื โครงการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………... ........
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 การใชภ้ าษาไทยในงานอาชพี ....1....
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 การฟงั และการดูสารในงานอาชีพ ........
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 การอา่ นสารในงานอาชีพ ........
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การพูดในงานอาชพี ........
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 การเขยี นรายงานการปฏิบตั งิ าน ........
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 การเขียนจดหมายกจิ ธุระ ........
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 การเขียนโฆษณาประชาสมั พันธ์ ........

5

ลกั ษณะรายวิชา

รหัสวิชำ 20000 1102 ชื่อวิชำ ภำษำไทยเพ่อื อำชีพ
จำนวนหน่วยกติ 1 หนว่ ยกิต จำนวนชั่วโมงตอ่ สัปดำห์ 2 ชว่ั โมง รวม 36 ชว่ั โมงตอ่ ภำคเรยี น

จุดประสงค์รายวชิ า

1. เพอื่ ใหม้ ีควำมร้คู วำมเข้ำใจในกำรใชภ้ ำษำไทย
2. เพอ่ื ใหส้ ำมำรถใช้ภำษำไทยสือ่ สำรในงำนอำชพี อย่ำงถูกต้องตำมหลักกำรใชภ้ ำษำ
3. เพื่อใหส้ ำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำไทยไปใชพ้ ฒั นำตนเองและงำนอำชพี
4. เพื่อใหเ้ ห็นคุณค่ำและควำมสำคัญของกำรใช้ภำษำไทย

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงควำมรเู้ ก่ียวกบั หลักกำรใช้ภำษำในงำนอำชีพ
2. วิเครำะห์ สังเครำะห์และประเมินคำ่ สำรในงำนอำชีพ จำกกำรฟัง กำรดู กำรอ่ำนตำมหลกั กำร
3. พดู ตดิ ต่อกิจธุระและพดู ในงำนอำชพั ตำมหลกั กำร
4. เขียนเอกสำรในงำนอำชพี ตำมหลักกำร

คาอธิบายรายวิชา

ปฏิบัติเก่ียวกับกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ กำรฟังคำส่ังและข้อแนะนำในกำรปฏิบัติงำน กำรฟังและ
กำรดูสำรในงำนอำชีพจำกสื่อบุคคล ส่ือสิ่งพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์และแหล่งเรียนรู้ในชมชน กำรอ่ำนคู่มือกำร
ปฏิบัติงำนคู่มือกำรใช้อุปกรณ์หรือรำยละเอียดของผลิตภัณฑ์ กำรนำเสนอผลงำน สำธิตขั้นตอนกำรปฏิบัติงำน
หรือกระบวนกำรผลิตชิ้นงำน กำรพูดติดต่อกิจธุระ สนทนำกิจธุระทำงโทรศัพท์ สัมภำษณ์งำน พูดเสนอ
ควำมเห็นในที่ประชุม กำรเขียนรำยงำน กำรปฏิบัติงำน เขียนจดหมำยกิจธุระ และเขียนโฆษณำประชำสัมพันธ์
ในงำนอำชีพ

6

ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะการเรียนรู้

รหสั วชิ ำ 20000 1102 ชือ่ วชิ ำ ภำษำไทยเพื่ออำชีพ
จำนวนหนว่ ยกิต 1 หนว่ ยกิต จำนวนช่ัวโมงต่อสัปดำห์ 2 ชวั่ โมง รวม 36 ช่ัวโมงต่อภำคเรียน

หนว่ ยการสอน สมรรถนะการเรยี นรู้

หน่วยการสอนที่ 1 1. ดำ้ นควำมรู้
ชื่อหนว่ ยการสอน กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี 1.1 กระบวนกำรส่อื สำร
1.2 ควำมสำคญั ของภำษำไทยในงำนอำชีพ
หน่วยการสอนท่ี 2 1.3 แนวปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั กำรใช้ภำษำไทยในงำน
ชอ่ื หน่วยการสอน กำรฟงั และกำรดสู ำรในงำน อำชพี
อำชีพ
2. ด้ำนทกั ษะหรอื กำรประยุกต์ใช้
2.1 กำรปฏบิ ัตงิ ำนท่ไี ด้รบั มอบหมำยเสรจ็ ตำมเวลำ
ท่ีกำหนด
2.2 มีควำมระเอียดรอบคอบ ปลอดภัย เรยี บรอ้ ย
สวยงำม ควำมสมบูรณข์ องงำน
2.3 กำรปฏบิ ัติงำนทำใหเ้ กิดสมรรถนะแกผ่ ูเ้ รยี น

3. ดำ้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลกั ษณะทพี่ งึ
ประสงค์และบรู ณำกำรตำมหลักปรชั ญำเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
3.1 มีควำมพอเพียงควำมพอประมำณ
3.2 มีเจตคตทิ ด่ี ใี นกำรปฏบิ ัติกิจกรรม
3.3 ประพฤติตนด้วยควำมถกู ตอ้ งตำมศลี ธรรมอันดี
3.4 ควำมมวี นิ ัยตรงตอ่ เวลำ

1. ดำ้ นควำมรู้
1.1 กำรฟังคำสง่ั หรอื ข้อแนะนำกำรปฏิบัตงิ ำน
1.2 กำรฟงั และดูสำรจำกสอ่ื บุคคล
1.3 กำรดูสำรจำกสอ่ื ส่งิ พมิ พ์
1.4 กำรฟังและดสู ำรจำกส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์
1.5 กำรฟงั และกำรดูสำรจำกแหลง่ เรียนรชู้ ุมชน

2. ดำ้ นทักษะหรือกำรประยุกต์ใช้
2.1 กำรปฏบิ ตั งิ ำนทไี่ ด้รับมอบหมำยเสรจ็ ตำมเวลำ
ทกี่ ำหนด
2.2 มีควำมระเอยี ดรอบคอบ ปลอดภัย เรียบรอ้ ย
สวยงำม ควำมสมบรู ณข์ องงำน
2.3 กำรปฏบิ ตั ิงำนทำให้เกิดสมรรถนะแกผ่ ู้เรยี น

3. ดำ้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะท่พี ึง
ประสงค์และบรู ณำกำรตำมหลกั ปรัชญำเศรษฐกิจ
พอเพียง

หน่วยการสอนที่ 3 7
ชือ่ หนว่ ยการสอน การอา่ นสารในงานอาชีพ
3.1 มีควำมพอเพยี งควำมพอประมำณ
หน่วยการสอนที่ 4 3.2 มีเจตคติทด่ี ีในกำรปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
ช่อื หน่วยการสอน กำรพดู ในงำนอำชีพ 3.3 ประพฤติตนดว้ ยควำมถกู ตอ้ งตำมศีลธรรมอนั ดี
3.4 ควำมมวี ินัยตรงตอ่ เวลำ
1. ด้ำนควำมรู้
1.1 ควำมสำคญั และประเภทของกำรอ่ำนสำรใน
งำนอำชีพ
1.2 หลักกำรอำ่ นสำรในงำนอำชีพ
1.3 กำรอ่ำนค่มู ือในกำรปฏิบัตงิ ำน
1.4 กำรอำ่ นคมู่ ือกำรใชอ้ ปุ กรณ์หรอื รำยละเอียด
ของผลติ ภัณฑ์
2. ดำ้ นทกั ษะหรอื กำรประยกุ ต์ใช้
2.1 กำรปฏิบตั ิงำนท่ไี ด้รบั มอบหมำยเสร็จตำมเวลำ
ทก่ี ำหนด
2.2 มีควำมระเอียดรอบคอบ ปลอดภยั เรยี บรอ้ ย
สวยงำม ควำมสมบรู ณ์ของงำน
2.3 กำรปฏิบัติงำนทำให้เกดิ สมรรถนะแกผ่ เู้ รียน
3. ดำ้ นคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะท่พี งึ
ประสงค์และบรู ณำกำรตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
3.1 มีควำมพอเพยี งควำมพอประมำณ
3.2 มีเจตคตทิ ด่ี ีในกำรปฏบิ ัติกิจกรรม
3.3 ประพฤติตนดว้ ยควำมถูกต้องตำมศีลธรรมอันดี
3.4 ควำมมวี นิ ัยตรงต่อเวลำ
1. ดำ้ นควำมรู้
1.1 ควำมสำคญั และหลกั กำรพดู ในงำนอำชพี
1.2 กำรพูดทำงโทรศพั ท์
1.3 กำรพดู ติดตอ่ กจิ ธุระ
1.4 กำรพดู สำธิต
1.5 กำรสมั ภำษณง์ ำน
1.6 กำรพูดนำเสนอผลงำน
1.7 กำรพูดเสนอควำมคดิ เหน็ ในท่ีประชุม
2. ด้ำนทักษะหรอื กำรประยกุ ต์ใช้
2.1 กำรปฏบิ ตั งิ ำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยเสร็จตำมเวลำ
ทก่ี ำหนด
2.2 มีควำมระเอยี ดรอบคอบ ปลอดภัย เรียบรอ้ ย
สวยงำม ควำมสมบูรณข์ องงำน
2.3 กำรปฏิบตั ิงำนทำใหเ้ กิดสมรรถนะแกผ่ ู้เรียน
3. ด้ำนคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะทพี่ ึง
ประสงค์และบรู ณำกำรตำมหลักปรัชญำเศรษฐกจิ

หน่วยการสอนที่ 5 8
ช่ือหนว่ ยการสอน กำรเขยี นรำยงำนกำร
ปฏิบัติงำน พอเพยี ง
3.1 มีควำมพอเพยี งควำมพอประมำณ
หน่วยการสอนที่ 6 3.2 มเี จตคติทดี่ ใี นกำรปฏบิ ตั ิกิจกรรม
ชอื่ หน่วยการสอน กำรเขียนจดหมำยกจิ ธุระ 3.3 ประพฤติตนดว้ ยควำมถกู ต้องตำมศลี ธรรมอนั ดี
3.4 ควำมมวี ินัยตรงต่อเวลำ
1. ดำ้ นควำมรู้
1.1 ควำมหมำยของรำยงำน
1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องกำรทำรำยงำน
1.3 ประเภทของรำยงำน
1.4 สว่ นประกอบของกำรเขียนรำยงำน
1.5 หลกั กำรเขยี นรำยงำนกำรปฏบิ ัติงำน
1.6 ขั้นตอนกำรเขียนรำยงำนกำรปฏบิ ตั ิงำน
2. ดำ้ นทักษะหรอื กำรประยกุ ต์ใช้
2.1 กำรปฏบิ ัติงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยเสรจ็ ตำมเวลำ
ทก่ี ำหนด
2.2 มีควำมระเอยี ดรอบคอบ ปลอดภัย เรยี บร้อย
สวยงำม ควำมสมบูรณข์ องงำน
2.3 กำรปฏบิ ตั ิงำนทำให้เกิดสมรรถนะแกผ่ ้เู รียน
3. ด้ำนคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะท่ีพึง
ประสงคแ์ ละบรู ณำกำรตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจ
พอเพียง
3.1 มคี วำมพอเพียงควำมพอประมำณ
3.2 มีเจตคตทิ ดี่ ีในกำรปฏิบัติกจิ กรรม
3.3 ประพฤตติ นด้วยควำมถกู ตอ้ งตำมศลี ธรรมอนั ดี
3.4 ควำมมวี ินัยตรงตอ่ เวลำ
1.ดำ้ นควำมรู้
1.1 กำรเขยี นจดหมำยกิจธุระ
1.2 กลวิธีในกำรเขยี นจดหมำยกิจธุระ
1.3 มำรยำทในกำรเขยี นจดหมำยกิจธรุ ะ
1.4 ประเภทของกำรเขียนจดหมำยกจิ ธุระ
2. ดำ้ นทักษะหรือกำรประยกุ ต์ใช้
2.1 กำรปฏิบตั ิงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยเสรจ็ ตำมเวลำ
ทกี่ ำหนด
2.2 มีควำมระเอยี ดรอบคอบ ปลอดภัย เรยี บร้อย
สวยงำม ควำมสมบูรณ์ของงำน
2.3 กำรปฏิบัติงำนทำใหเ้ กิดสมรรถนะแกผ่ ูเ้ รยี น
3. ด้ำนคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ
ประสงคแ์ ละบรู ณำกำรตำมหลกั ปรัชญำเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
3.1 มีควำมพอเพียงควำมพอประมำณ

หนว่ ยการสอนที่ 7 9
ชื่อหนว่ ยการสอน กำรเขยี นโฆษณำ
ประชำสมั พันธ์ 3.2 มเี จตคตทิ ดี่ ใี นกำรปฏบิ ัติกิจกรรม
3.3 ประพฤตติ นดว้ ยควำมถกู ตอ้ งตำมศีลธรรมอนั ดี
3.4 ควำมมีวนิ ยั ตรงต่อเวลำ
1. ดำ้ นควำมรู้
1.1 กำรเขียนโฆษณำประชำสมั พนั ธ์
1.2 โครงสร้ำงขอ้ ควำมโฆษณำ
1.3 ภำษำที่ใชเ้ ขยี นขอ้ ควำมโฆษณำ
2. ดำ้ นทักษะหรือกำรประยกุ ต์ใช้
2.1 กำรปฏิบัติงำนท่ไี ด้รับมอบหมำยเสรจ็ ตำมเวลำ
ท่กี ำหนด
2.2 มีควำมระเอียดรอบคอบ ปลอดภยั เรยี บรอ้ ย
สวยงำม ควำมสมบรู ณข์ องงำน
2.3 กำรปฏิบตั งิ ำนทำให้เกดิ สมรรถนะแกผ่ เู้ รยี น
3. ด้ำนคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะท่ีพึง
ประสงค์และบรู ณำกำรตำมหลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ
พอเพยี ง
3.1 มคี วำมพอเพียงควำมพอประมำณ
3.2 มเี จตคติทดี่ ใี นกำรปฏบิ ัติกจิ กรรม
3.3 ประพฤติตนด้วยควำมถูกตอ้ งตำมศลี ธรรมอันดี
3.4 ควำมมีวินยั ตรงต่อเวลำ

10

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตร

รหัส20000 1102. วชิ าภำษำไทยเพ่อื อำชพี . หน่วยกติ 1 หน่วย
ระดับชัน้ ปวช. 2 สาขาวชิ า ภำษำไทย

ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย
ความ ้รู (5)
พฤติกรรม ความ ้ขาใจ(5)
นาไปใช้(5)
การเรียนรู้ วิเคราะ ์ห(5)
สังเคราะ ์ห(5)
ช่อื หน่วยการสอน/การเรยี นรู้ ประเมิน ่คา(5)
ด้าน ัทกษะ ิพ ัสย(5)
หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 1 กำรใชภ้ ำษำไทยในงำน ด้าน ิจต ิพสัย(5)
อำชีพ รวม(40)
ลาดับความสา ัคญ
หน่วยกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 2 กำรฟงั และกำรดู จานวน ่ัชวโมง
สำรในงำนอำชีพ

หน่วยกำรเรยี นรูท้ ี่ 3 กำรอำ่ นสำรในงำน
อำชพี

หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ 4 กำรพดู ในงำนอำชีพ

หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 5 กำรเขยี นรำยงำนกำร
ปฏิบัตงิ ำน

หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 6 กำรเขยี นจดหมำยกิจ
ธุระ

หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 7 กำรเขยี นโฆษณำ
ประชำสัมพันธ์

รวมคะแนน
ลาดับความสาคัญ

คาอธบิ าย 5 หมำยถึง ระดับควำมสำคัญของแต่ละรำยกำรมี 5 ระดบั คอื 1, 2, 3, 4, 5

11

ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะรายวิชา

โดยบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัส20000 1102. วิชาภำษำไทยเพื่ออำชีพ. หน่วยกิต 1 หน่วย

ระดบั ชั้น ปวช. 2 สาขาวิชา ภำษำไทย

ทางสายกลาง

3ห่วง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คณุ ธรรม
ชอ่ื หน่วยการสอน/
พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า มีเหตุผล(5)
ีมภูมิ ุค้ม ักน(5)
รอบ ู้ร(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระวัง(5)
ื่ซอสัตย์สุจริต(5)
ข ัยนอดทน(5)
มีสติปัญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลาดับความสา ัคญ

หน่วยการสอนที่ 1
ชอ่ื หน่วยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงาน

อาชีพ

สมรรถนะประจำหนว่ ยกำรสอน
1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกับหลกั กำรใช้

ภำษำไทยในงำนอำชพี
2. ประยุกต์ใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชีพ

ไดอ้ ย่ำงถูกต้องและเหมำะสม
หน่วยการสอนท่ี 2
ชื่อหนว่ ยการสอน กำรฟังและกำรดสู ำร
ในงำนอำชพี
สมรรถนะประจำหนว่ ยกำรสอน

3. แสดงควำมรู้เกีย่ วกับหลกั กำรฟงั
และกำรดูสำรในงำนอำชีพในงำน
อำชีพ

4. กำรฟังและกำรดูสำรในงำนอำชพี
ในงำนอำชพี ไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องและ
เหมำะสม

หนว่ ยการสอนที่ 3
ช่อื หนว่ ยการสอน กำรอำ่ นสำรในงำน
อำชีพ
สมรรถนะประจำหน่วยกำรสอน

5. แสดงควำมรู้เกี่ยวกับกำรอ่ำนสำรใน
งำนอำชพี

6. ประยกุ ต์กำรอำ่ นสำรในงำนอำชีพ
ไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสม

12

หน่วยการสอนที่ 4
ชอ่ื หนว่ ยการสอน กำรพดู ในงำนอำชีพ
สมรรถนะประจำหน่วยกำรสอน
7. แสดงควำมรเู้ กย่ี วกับกำรพดู ในงำน

อำชพี ในงำนอำชีพ
8. ประยุกต์ใช้กำรพูดในงำนอำชีพ

ไดอ้ ยำ่ งถูกต้องและเหมำะสม
หนว่ ยการสอนที่ 5
ชอ่ื หนว่ ยการสอน กำรเขยี นรำยงำน
กำรปฏิบัติงำน
สมรรถนะประจำหนว่ ยกำรสอน
9. แสดงควำมรเู้ กีย่ วกบั กำรเขยี น

รำยงำนกำรปฏิบตั ิงำน
10. ประยกุ ต์ใช้ภำษำไทยในงำนอำชพี

ได้อย่ำงถูกตอ้ งและเหมำะสม
หนว่ ยการสอนที่ 6
ช่ือหนว่ ยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงาน

อาชีพ

สมรรถนะประจำหนว่ ยกำรสอน
11. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้

ภำษำไทยในงำนอำชพี
12. ประยกุ ตใ์ ช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ

ไดอ้ ยำ่ งถูกต้องและเหมำะสม
หน่วยการสอนท่ี 7
ชอ่ื หน่วยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงาน

อาชีพ

สมรรถนะประจำหนว่ ยกำรสอน
13. แสดงควำมรเู้ กยี่ วกับหลักกำรใช้

ภำษำไทยในงำนอำชีพ
14. ประยุกตใ์ ชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี

ได้อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม

รวม

ลาดับความสาคัญ

13

โครงการสอนหรือโครงการจัดการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัส20000 1102. วิชาภำษำไทยเพอ่ื อำชีพ. หนว่ ยกติ 1 หนว่ ย
ระดับชนั้ ปวช. 2 สาขาวิชา ภำษำไทย

หน่วยที่ สัปดาห์ ช่อื หน่วยการสอน/รายการสอน จานวนชั่วโมง
ที่ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
หนว่ ยการ
สอนท่ี 1 1 การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ 10
.
1 กระบวนกำรสอ่ื สำร
- ควำมหมำยกำรสื่อสำร
- องคประกอบของกำรส่ือสำร
- กำรใช้ภำษำเพอื่ กำรส่อื สำร
- รูปแบบของกำรสือ่ สำร
2 ควำมสำคญั ของภำษำไทยในงำนอำชพี
3 แนวปฏิบตั ิเกยี่ วกบั กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี
- แนวทำงกำรพฒั นำตนเอง

รวม 1
รวมท้ังสิน้ 1

1

แผนการจัดการเรยี นรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวิชา 20000 1101 วชิ า ภำษำไทยเพ่อื อำชีพ
หนว่ ยที่ 1 ชื่อหนว่ ย กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี
ชือ่ เรอ่ื ง กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชีพ จานวน 2 ชัว่ โมง

1. สาระสาคญั

กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชพี มคี วำมสัมพันธก์ นั อยำ่ งยิ่ง เพรำะทกุ อำชีพย่อมตอ้ งใชภ้ ำษำในกำรส่อื สำร
ดงั นนั้ ผ้ทู ่ีตอ้ งกำรควำมสำเร็จในงำนอำชีพตอ้ งศกึ ษำกระบวนกำรสื่อสำรและฝึกฝนทกั ษะกำรใช้ภำษำอย่ำงมี
ประสทิ ธิภำพ ทัง้ กำรฟัง กำรดู กำรพูด กำรอ่ำน และกำรเขยี น

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้

1. แสดงควำมรเู้ กย่ี วกับหลกั กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ
2. ประยกุ ตใ์ ช้ภำษำไทยในงำนอำชีพไดอ้ ย่ำงถูกตอ้ งและเหมำะสม

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
1. อธิบายการสือ่ สารได้
2. บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้

3.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. แสดงบคุ ลิกภำพในกำรใช้ภำษำอย่ำงเหมำะสม
2. มเี จตคตทิ ี่ดีในกำรเรยี นเรอ่ื งกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ และรักษ์ค่ำนยิ มหลกั 12 ประกำร

4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ด้านความรู้
นกั เรยี นสำมำรถเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั องคป์ ระกอบของกำรสอ่ื สำร ควำมหมำยของกำรสอ่ื สำร รวมถงึ กำรใช้
ภำษำทกั ษะกำรส่งสำรและรบั สำร และรปู แบบของสำร ทั้งนย้ี ังทรำบเกยี่ วกับแนวปฏิบัติเกี่ยวกบั กำรใชภ้ ำษำไทย
ในงำนอำชพี พัฒนำทักษะกำรอ่ำน กำรฟงั กำรดู และกำรเขยี น

4.2 ด้านทักษะหรอื การประยกุ ตใ์ ช้
จำกกำรที่ได้ศกึ ษำเรียนรู้เกีย่ วกบั กระบวนกำรส่ือสำร ควำมสำคญั ของภำษำไทยในงำนอำชพี และ
แนวทำงเก่ยี วกบั กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชพี นกั เรยี นสำมำรถนำทักษะจำกกำรเรียน เชน่ องคป์ ระกอบของผู้สง่
สำรและรบั สำร เพือ่ กำรสื่อสำรท่ีมปี ระสิทธภิ ำพ และแนวทำงกำรพฒั นำทกั ษะกำรใช้ภำษำ เช่น กำรพัฒนำ กำร
อำ่ น กำรฟัง กำรดุ และกำรเขยี น เปน็ ตน้

2

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ
พอเพียง

นกั เรยี นเรยี นมคี วำมรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในกำรสือ่ สำร ใช้ทกั ษะแยกองคป์ ระกอบของกำรสอ่ื สำรได้
อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพและเกิดประสทิ ธผิ ล สำมำรถนำควำมร้ทู ี่เรยี นไปประกอบใช้ในชวี ติ ประจำวันบริหำรเวลำเรยี น
และกำรทำงำนได้

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของผ้เู รียน

ขนั้ เตรียม(จานวน.10.นาท)ี

1.สครูให้ผู้เรียนศึกษำข้อมูลเก่ียวกับกระบวนกำรกำร 1. นกั เรยี นศึกษำจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั

สื่อสำร องค์ประกอบของกำรส่ือสำร กำรใช้ภำษำเพ่ือ กระบวนกำรสือ่ สำร องคป์ ระกอบของกำรสอื่ สำร

กำรส่ือสำร โดยต้องทรำบเก่ียวกับควำมหมำยและ ตรวจสอบวำ่ ข้อมลู ที่ศึกษำครบสมบูรณ์ตอ่ รำยวิชำ

หน้ำที่ทั้ง 4 องค์ประกอบ ท้ังน้ีนักเรียนต้องศึกษำ จริง

เก่ียวกับแนวทำงในกำรพัฒนำกำรใช้ภำษำ และ

จัดเตรยี มเนื้อหำใหพ้ ร้อมตอ่ กำรเรียน

ขัน้ การสอน(จานวน 40 นาที)

2. นักเรียนนั่งฟังคำบรรยำยพร้อมท้ังแลกเปล่ียนกำร 2. นกั เรยี นศึกษำเกีย่ วกบั กระบวนกำรสอื่ สำร กำรใช้
เรียนกำรสอนกับครู อธิบำยเนื้อหำ พร้อมยกตัวอย่ำง ภำษำ และแนวทำงในกำรปฏิบตั ิเกยี่ วกับกำรใชภ้ ำษำ
สถำนกำรณ์ของ เร่ือง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหวำ่ งครุ
กับนักเรียน ในเรื่องของนักเรียนสำมำรถนำทักษะจำก
กำรเรียน เช่น องค์ประกอบของผู้ส่งสำรและรับสำร
เพื่อกำรสื่อสำรท่ีมีประสิทธิภำพ และแนวทำงกำร
พัฒนำทักษะกำรใช้ภำษำ เช่น กำรพัฒนำ กำรอ่ำน
กำรฟงั กำรดุ และกำรเขยี น เป็นต้น

ขั้นสรปุ (จานวน 10 นาท)ี

3. อธบิ ำยขอ้ ควำมสำคญั เกยี่ วกบั องคป์ ระกอบของผู้ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หำทค่ี รอุ ธบิ ำย และทำควำม
สง่ สำรและรบั สำร เพ่อื กำรสื่อสำรท่ีมปี ระสทิ ธภิ ำพ เข้ำใจ อันจะนำไปทำแบบทดสอบตอ่ กำรเรียนรู้ใน
และแนวทำงกำรพัฒนำทักษะกำรใชภ้ ำษำ เช่น กำร รำยวชิ ำต่อไป
พัฒนำ กำรอำ่ น กำรฟัง กำรดุ และกำรเขียน เป็นตน้
ทำแบบทดสอบวดั ควำมรู้

3

6. สอื่ การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

6.1 สอ่ื สิ่งพิมพ์
1. หนังสือรำยวชิ ำภำษำไทย วชิ ำ ภำษำไทยเพอ่ื อำชีพ
2. ใบงำนและแบบทดสอบทำ้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

6.3 สื่อของจรงิ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

4

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น
1. ให้นักเรยี นศึกษำขอ้ มูลเก่ยี วกบั กระบวนกำรสือ่ สำร องคป์ ระกอบกำรส่ือสำร กำรใชภ้ ำษำเพ่อื กำรส่ือสำร
2. ให้นักเรยี นศึกษำขอ้ มูลเกย่ี วกบั ควำมสำคญั ของภำษำไทยในงำนอำชีพ
3. ให้นักเรยี นศกึ ษำข้อมูลเก่ยี วกับแนวทำงในกำรพัฒนำกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ

8.2 ขณะเรียน
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คำอธบิ ำยเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ ำย
2. นักเรยี นต้องยกตัวอย่ำงสถำนกำรณ์เกีย่ วกับหัวขอ้ ท่ีเรยี นพรอ้ มท้งั อธิบำยแลกเปลีย่ นควำมร้กู ับครูผสู้ อน

8.3 หลังเรียน
1. นกั เรยี นนำควำมรู้ควำมเขำ้ ใจเกีย่ วกบั รำยวชิ ำทเ่ี รียน เชน่ กำรสอ่ื สำร องคป์ ระกอบของกำรสอ่ื สำร กำรใช้
ภำษำ แนวทำงกำรพฒั นำแนวทำงในกำรใช้ภำษำ
2. ทำแบบทดสอบท้ำยบท

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ท่ีเกิดจากการเรียนรู้ของผ้เู รียน

1 มตี วั อย่ำงสถำนกำรณ์ ใหจ้ ำแนกสถำนกำรณ์ลงในองคป์ ระกอบของกำรส่อื สำร
ครเู ล็กสอนในรำยวชิ ำภำษำไทย โดยเริม่ สอนจำกบทท่ี 1 เร่ืองกระบวนกำรสอ่ื สำร มเี นอ้ื หำสำระเก่ียวกบั

กำรส่อื สำร ควำมหมำยของกำรสื่อสำร รปู แบบกำรสอ่ื สำร ควำมสำคัญของกำรใชภ้ ำษำในกำรสอ่ื สำร ภำยหลัง
จำกท่ีเรียนนกั เรยี นมีกำรแลกเปล่ยี นควำมรู้กับครผู สุ้ อนเกยี่ วกบั เรือ่ สำระกำรเรยี นรู้ทีเ่ รยี น

10. เอกสารอา้ งองิ

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

11. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั รายวชิ าอืน่

นำทกั ษะกำรเรยี นเก่ียวกบั รำยวชิ ำเกีย่ วกบั กระบวนกำรสื่อสำร สำมำรถนำไปใช้ส่อื สำรในรำยวชิ ำอื่น
รวมทง้ั นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั

12. หลักการประเมนิ ผลการเรยี น

12.1 กอ่ นเรยี น
1. สังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี นในกำรศกึ ษำและสนใจในกำรจดั เตรียมเน้ือหำและศกึ ษำเน้อื หำที่มอบหมำย
2. เตรียมอุปกรณก์ ำรเรียนกำรสอนในรำยวิชำภำษำไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรียน เพอ่ื วดั ควำมร้คู วำมเขำ้ ใจ.

5

12.3 หลงั เรียน
1. ครใู ห้ผเู้ รียนทาแบบทดสอบเพื่อประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจ

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียน

จุดประสงคข์ อ้ ที่ 1 อธบิ ำยกระบวนกำรส่อื สำร
1. วธิ กี ำรประเมนิ : แบบทดสอบเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบของกำรสื่อสำร.
2. เครือ่ งกำรประเมิน : ใบงำนแบบทดสอบ.
3. เกณฑ์กำรประเมนิ : อยู่ในระดับ 60 % ข้ึนไป ผ่ำน
4. เกณฑ์กำรผำ่ น : เกณฑก์ ำรพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยูใ่ นระดับ 60 % ขนึ้ ไป

จุดประสงคข์ อ้ ที่ 2 วดั ความรู้ความเข้าใจ
1. วธิ ีกำรประเมิน : ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น เพื่อวดั ควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ
2. เคร่อื งกำรประเมิน : แบบทดสอบ
3. เกณฑก์ ำรประเมิน : อย่ใู นระดบั 60 % ขึ้นไป ผำ่ น
4. เกณฑก์ ำรผ่ำน :

14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หนว่ ยการสอนที่ 1 ช่อื หน่วยการสอน กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชีพ
วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ อธบิ ำยกระบวนกำรส่อื สำรได้ บอกควำมสำคญั ของกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพได้
ขอ้ คาถาม
1. องคป์ ระกอบกระบวนการส่ือสารมอี ะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กระบวนการสอื่ สารมีความสาคญั ต่ออาชพี อย่างไรบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ภาษาไทยมคี วามสาคญั ตอ่ งานอาชพี อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพควรมีลักษณะอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การพัฒนาตนเองใหใ้ ช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ควรปฏิบัตอิ ย่างไรอธบิ ายโดยสังเขป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. องค์ประกอบกระบวนการสื่อสารมีอะไรบ้าง
องคป์ ระกอบของกระบวนกำรส่อื สำรประกอบดว้ ย ผ้สู ่งสำร สำร ส่อื และผรู้ ับสำร ซึ่งองคป์ ระกอบทั้ง๔

จะทำงำนรว่ มกนั หำกขำดสว่ นใด ส่วนหนง่ึ กำรสอื่ สำรยอ่ มไม่เกดิ ข้ึน หรอื อน่ื ๆ ขึ้นอยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของผ้สู อน
2. กระบวนการสอ่ื สารมีความสาคญั ต่ออาชพี อยา่ งไรบ้าง

กระบวนกำรสือ่ สำรมีควำมสำคัญต่ออำชพี คอื กำรสอ่ื สำรจะทำใหบ้ คุ คลสำมำรถรบั รูค้ วำมรสู้ ำนกึ คดิ และ
ควำมตอ้ งกำรของแต่ละคนได้ ซงึ่ จะสง่ ผลใหป้ ระสบควำมสำเร็จในอำชพี มคี วำมเจรญิ กำ้ วหนำ้ หรืออ่ืนๆขน้ึ อยู่กับ
ดุลยพินิจของผู้สอน
3. ภาษาไทยมคี วามสาคัญตอ่ งานอาชพี อย่างไร

ภำษำไทยมคี วำมสำคัญต่องำนอำชพี คือ เปน็ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นกำรประกอบอำชีพให้ประสบควำมสำเร็จ
ไม่วำ่ จะเปน็ กำรติดต่อสอื่ สำร กำรถำ่ ยทอดควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ควำมรสู้ กึ ควำมสำมำรถสร้ำง ควำมเข้ำใจอัน
เกดิ ขนึ้ ระหวำ่ งกนั และยงั เปน็ กำรรักษำเอกลกั ษณ์ชำตไิ ทย

4. การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ควรมีลกั ษณะอย่างไร
กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชพี ควรใช้วัจนภำษำและอวจั นภำษำ ทั้งกำรพูด กำรฟัง กำรอ่ำน และกำรเขยี น

เพรำะจะทำให้กำรสอื่ สำรเกิดประสทิ ธภิ ำพ ผ้รู ับสำรและผู้สง่ สำรเกดิ ควำมเขำ้ ใจตรงกนั ทำใหป้ ระสบควำมสำเร็จ
ในงำนอำชีพ

5. การพัฒนาตนเองใหใ้ ชภ้ าษาไทยในงานอาชพี ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไรอธบิ ายโดยสังเขป
กำรพฒั นำตนเองใหใ้ ชภ้ ำษำไทยในงำนอำชีพไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพ ควรฝึกทกั ษะทง้ั ดำ้ นฟงั พูด อ่ำน

และเขียน โดยจะต้องฝกึ ฝนไปพร้อมๆ กนั กำรเปน็ ผ้พู ูดและผู้พูดและผเู้ ขยี นท่ีดยี ่อมมำจำก กำรฟัง

15. แบบทดสอบหลังเรยี น

หน่วยการสอนท่ี 1 ชื่อหนว่ ยการสอน กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ

วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือ อธบิ ำยกระบวนกำรสื่อสำรได้ บอกควำมสำคญั ของกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพได้

ข้อคาถาม

1. ควำมสำเรจ็ ของกำรสือ่ สำรขน้ึ อยู่กับองคป์ ระกอบใดสำคญั ท่สี ดุ

1. ผ้สู ือ่ สำร 2. สำร

3. สอื่ 4. ผรู้ บั สำร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบง่ ชว้ี ่ำสำรประสบควำมสำเรจ็ คือขอ้ ใด

1. ผสู้ ง่ สำรนำเสนอสำรไดอ้ ย่ำงชัดเจน

2. มสี อื่ หรือชอ่ งทำงกำรส่ือสำรทห่ี ลำกหลำย

3. ผรู้ บั สำรตอบสนองไดต้ รงตำมควำมตอ้ งกำรของผสู้ ่งสำร

4. ผรู้ ับสำรมีปฏกิ ิรยิ ำต่อสำร

5. เนอ้ื หำสำระของสำรเป็นประโยชนท์ ัง้ ต่อบคุ คล องคก์ ร สงั คม

3. ตวั อย่ำงกำรสอ่ื สำรในข้อใดทสี่ ะทอ้ นควำมสัมพันธข์ องกำรใชว้ ัจนภำษำ และอวจั นภำษำไดช้ ัดเจนมำกทส่ี ดุ

1. รำยกำรขำ่ วประจำวนั

7

2. รำยกำรสำรคดี

3. โฆษณำ

4. รำยกำรวิทยุ

5. นักกำรเมอื ง

4. อำชีพใดทภี่ ำษำท่ำทำงมีอทิ ธพิ ลต่อควำมสำเรจ็ มำกทสี่ ดุ

1. นกั พดู 2. นกั รอ้ ง

3. นกั สบื 4. นกั แสดง

5. นกั กำรเมือง

5. ขอ้ ใดกล่ำวถกู ตอ้ ง

1. กำรสอ่ื สำรผำ่ นอินเตอร์เน็ตทำใหก้ ำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพลดลง

2. เครื่องมอื สอ่ื สำรระดับบคุ คลที่แพรห่ ลำยมำกทส่ี ดุ ในปจั จุบนั คือสอ่ื ออนไลน์

3. กำรสอ่ื สำรผำ่ นโทรทศั น์ไมจ่ ำเป็นต้องใช้อวจั นภำษำ เพรำะใช้วำจำสื่อสำรเท่ำน้นั

4. กำรสื่อสำรจำเป็นต้องใช้อวัจนภำษำควบคู่ไปกับวัจนภำษำ เพรำะชว่ ยใหก้ ำรสอื่ สำรมีควำมชดั เจน

ยงิ่ ข้ึน

5. ขอ้ 1 และขอ้ 3 ถูกต้อง

6. สำยชลกำลงั แสดงวสิ ยั ทศั น์หำเสียงเป็นนำยกองค์กำรวิชำชีพ โดยใช้ไมโครโฟนทม่ี ีเสียงขำด ๆ หำย ๆ ฟังไมร่ ู้

เร่ืองชัดเจน ปญั หำอุปสรรคของกระบวนกำรสอ่ื สำรน้ีคอื ขอ้ ใด

๑. ส่อื คอื ไมโครโฟน ๒. สำร คือ วสิ ยั ทศั น์ในกำรหำเสยี ง

๓. ผู้ส่งสำร คือสำยชล ๔. ผ้รู ับสำร คือ ผ้เู รียนฟังไมร่ ู้เรอ่ื ง

๕. ขอ้ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจดั เปน็ กำรพฒั นำทกั ษะกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพที่มีประสทิ ธิภำพท่ีสุด

๑. สงั เกต-จดจำ-เลยี นแบบ-พัฒนำ

๒. สังเกต-จดจำ-ค้นควำ้ -ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พัฒนำ

๓. ค้นคว้ำ-สังเกต-จดจำ-ปฏบิ ัต-ิ ประเมนิ ตนเอง-พัฒนำ

๔. ค้นควำ้ -จดจำ-สังเกต-ประเมินตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นำ

๕. สังเกต-จดจำ-เลียนแบบ-ปฏิบัติ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นำ

๘. บคุ คลในข้อใดทมี่ คี วำมสำมำรถในกำรพฒั นำกำรใช้ภำษำไทยของตนเองไดด้ ที ่สี ดุ

๑. ปทั มนนั ตช์ มละครโทรทัศน์ทกวัน อยำ่ งนอ้ ยวันละ ๒ ช่ัวโมง เพื่อพฒั นำกำรเป็นผูฟ้ งั ผชู้ มทีด่ ี

๒. กิตติชมรำยกำรโทรทศั น์ตง้ั แตเ่ วลำหน่ึงทุ่มถึงเทยี่ งคนื ทุกคนื ทง้ั รำยกำร ขำ่ ว ละคร เพลง ภำพยนตร์

โฆษณำ พรอ้ มบันทึกประเดน็ ที่น่ำสนใจ

๓. สมศักดเ์ิ ลอื กสถำนีวิทยทุ ่ีมคี ุณภำพและเปิดฟงั ตลอดท้ังวันขณะทำงำน ทำให้เรียนรลู้ ักษณะของผจู้ ัด

รำยกำรวิทยทุ ม่ี ปี ระสทิ ธิภำพ

๔. ไตรภพเอำใจใส่บคุ คลรอบข้ำงเสมอและเป็นนักฟังท่ีดี หลีกเลีย่ งกำรโตแ้ ยง้ พร้อมทง้ั พยำยำม

ประนีประนอมเม่ือเพอ่ื นร่วมงำนมขี อ้ ขดั แย้งกนั

๕. ปัญญำอำ่ นขำ้ วทกุ วันและอ่ำนออกเสยี งก่อนนอนทกุ คนื โดยต้ังใจอ่ำนให้เหมอื นผปู้ ระกำศข่ำวใน

วทิ ยุกระจำยเสียงและโทรทศั น์

๙. ขอ้ ใดกลำ่ วสมเหตุสมผลมำกท่ีสุด

๑. ทักษะกำรใช้ภำษำไทยในชีวติ และกำรทำงำนมำกทส่ี ุดคอื ทักษะกำรรบั สำร ดังน้ันตอ้ งฝึกฝนกำรฟัง

และกำรอ่ำนให้มำกกวำ่ กำรพดู และกำรเขียน

8

๒. ทักษะกำรใชภ้ ำษำไทยที่มีอิทธิพลต่อกำรโน้มนำ้ วใจมำกทส่ี ุดคือทกั ษะกำรสง่ สำร ดงั น้นั ตอ้ งฝึกฝนกำร
พดู และกำรเขยี นใหม้ ำกกวำ่ กำรฟังและกำรอำ่ น

๓. ควรฝึกฝนทักษะกำรใช้ภำษำไทย ท้งั กำรฟงั และกำรพูด กำรอ่ำนและกำรเขียนไปพร้อม ๆ กนั เพรำะ
กำรส่งสำรทีด่ ียอ่ มมำจำกกำรรับสำรทด่ี ี

๔. นกั พดู ทีด่ มี ำจำกกำรเป็นนกั ฟังที่ดี และนกั เขียนที่ดีมำจำกกำรเปน็ นักอ่ำนทด่ี ี ดงั นั้นควำมเป็นนักฟงั
และนักอำ่ นทดี่ จี งึ มผี ลตอ่ งำนอำชีพมำกทสี่ ุด

๕. ขอ้ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ต้อง
๑๐. บุคคลในข้อใดสำมำรถสรำ้ งควำมประทบั ใจต่อผูพ้ บเห็นไดม้ ำกทสี่ ดุ

๑. แต่งกำยภูมิฐำน เครอื่ งประดบั รำคำแพง ทำ่ ทำงสงำ่ พูดน้อย ยิ้มยำก
๒. แตง่ กำยประณีต ยมิ้ แย้มแจม่ ใส ไหว้ ทักทำยผู้พบเหน็ ด้วยถ้อยคำสุภำพ
๓. แต่งกำยสะอำดเรียบร้อย ออ่ นนอ้ มถ่อมตน เป็นผู้ฟังท่ีดี แสดงควำมคดิ เห็นนอ้ ย เพรำะเกรงใจผูอ้ ื่น
๔. แตง่ กำยตำมสบำย พูดตลกขบขันตลอดเวลำ ย้มิ แยม้ แจม่ ใสท่ กั ทำยผคู้ นทีพ่ บเหน็ อยำ่ งเป็นกันเองแม้
จะไม่รูจ้ ักก็ตำม
๕. แตง่ กำยชดุ ไทยภมู ิฐำน มมี ำรยำทในกำรฟังท่ีดี สงั เกตผูพ้ ูดและมองตำผูพ้ ูดตลอดเวลำ

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. ควำมสำเรจ็ ของกำรส่ือสำรขน้ึ อยกู่ ับองคป์ ระกอบใดสำคัญท่ีสุด

2. ผู้สื่อสำร 2. สำร

3. ส่ือ 4. ผรู้ ับสำร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบ่งชวี้ ่ำสำรประสบควำมสำเรจ็ คือขอ้ ใด

1. ผสู้ ง่ สำรนำเสนอสำรได้อยำ่ งชัดเจน

2. มสี ่ือหรอื ช่องทำงกำรส่อื สำรทหี่ ลำกหลำย

3. ผู้รบั สำรตอบสนองไดต้ รงตำมควำมต้องกำรของผสู้ ง่ สำร

4. ผู้รบั สำรมปี ฏิกิริยำต่อสำร

5. เน้อื หำสำระของสำรเป็นประโยชนท์ ัง้ ต่อบคุ คล องค์กร สงั คม

3. ตวั อย่ำงกำรสอื่ สำรในขอ้ ใดทส่ี ะทอ้ นควำมสัมพนั ธ์ของกำรใชว้ ัจนภำษำ และอวัจนภำษำได้ชดั เจนมำกท่ีสุด

1. รำยกำรขำ่ วประจำวัน

2. รำยกำรสำรคดี

3. โฆษณำ

4. รำยกำรวทิ ยุ

5. นกั กำรเมือง

4. อำชพี ใดท่ภี ำษำท่ำทำงมีอทิ ธิพลต่อควำมสำเร็จมำกที่สดุ

2. นกั พูด 2. นักร้อง

3. นักสบื 4. นกั แสดง

5. นักกำรเมอื ง

5. ข้อใดกล่ำวถกู ตอ้ ง

1. กำรสื่อสำรผ่ำนอินเตอรเ์ น็ตทำให้กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชีพลดลง

2. เครือ่ งมอื สอื่ สำรระดับบคุ คลท่แี พรห่ ลำยมำกท่ีสดุ ในปจั จบุ นั คอื สอ่ื ออนไลน์

3. กำรสอ่ื สำรผ่ำนโทรทัศนไ์ มจ่ ำเป็นต้องใช้อวัจนภำษำ เพรำะใชว้ ำจำส่ือสำรเท่ำนนั้

9

4. กำรส่ือสำรจำเปน็ ต้องใช้อวจั นภำษำควบคู่ไปกบั วัจนภำษำ เพรำะช่วยให้กำรส่อื สำรมคี วำมชดั เจน

ยิ่งขึ้น

5. ข้อ 1 และขอ้ 3 ถูกต้อง

6. สำยชลกำลังแสดงวิสยั ทัศน์หำเสยี งเป็นนำยกองค์กำรวิชำชีพ โดยใช้ไมโครโฟนทีม่ เี สยี งขำด ๆ หำย ๆ ฟงั ไมร่ ู้

เรื่องชดั เจน ปัญหำอปุ สรรคของกระบวนกำรสอ่ื สำรนคี้ ือขอ้ ใด

๑. สือ่ คือไมโครโฟน ๒. สำร คอื วิสยั ทัศนใ์ นกำรหำเสียง

๓. ผูส้ ง่ สำร คอื สำยชล ๔. ผ้รู บั สำร คอื ผเู้ รยี นฟงั ไมร่ ูเ้ รื่อง

๕. ข้อ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจัดเป็นกำรพฒั นำทกั ษะกำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี ที่มปี ระสิทธภิ ำพท่ีสดุ

๑. สงั เกต-จดจำ-เลียนแบบ-พฒั นำ

๒. สังเกต-จดจำ-ค้นควำ้ -ปฏบิ ตั -ิ ปรับปรงุ -พฒั นำ

๓. คน้ คว้ำ-สงั เกต-จดจำ-ปฏิบตั -ิ ประเมินตนเอง-พัฒนำ

๔. ค้นควำ้ -จดจำ-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรับปรงุ -พัฒนำ

๕. สงั เกต-จดจำ-เลียนแบบ-ปฏบิ ตั ิ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พัฒนำ

๘. บคุ คลในข้อใดที่มคี วำมสำมำรถในกำรพฒั นำกำรใชภ้ ำษำไทยของตนเองได้ดีทส่ี ดุ

๑. ปทั มนนั ตช์ มละครโทรทศั นท์ กวนั อยำ่ งน้อยวนั ละ ๒ ชว่ั โมง เพอ่ื พฒั นำกำรเปน็ ผู้ฟังผู้ชมทีด่ ี

๒. กิตติชมรำยกำรโทรทศั นต์ งั้ แต่เวลำหน่งึ ทุ่มถงึ เท่ียงคืนทุกคืน ทั้งรำยกำร ขำ่ ว ละคร เพลง ภำพยนตร์

โฆษณำ พร้อมบันทกึ ประเด็นทีน่ ำ่ สนใจ

๓. สมศกั ดเ์ิ ลือกสถำนวี ิทยุทม่ี คี ุณภำพและเปิดฟังตลอดทั้งวันขณะทำงำน ทำใหเ้ รียนรลู้ กั ษณะของผจู้ ัด

รำยกำรวิทยทุ ่ีมปี ระสิทธิภำพ

๔. ไตรภพเอำใจใสบ่ ุคคลรอบขำ้ งเสมอและเปน็ นักฟังทีด่ ี หลีกเลี่ยงกำรโต้แย้ง พรอ้ มท้ังพยำยำม

ประนปี ระนอมเมื่อเพื่อนร่วมงำนมขี อ้ ขดั แยง้ กนั

๕. ปัญญำอำ่ นขำ้ วทกุ วนั และอำ่ นออกเสยี งก่อนนอนทกุ คนื โดยตั้งใจอำ่ นใหเ้ หมอื นผ้ปู ระกำศข่ำวใน

วิทยุกระจำยเสียงและโทรทศั น์

๙. ข้อใดกล่ำวสมเหตสุ มผลมำกที่สดุ

๑. ทักษะกำรใชภ้ ำษำไทยในชวี ิตและกำรทำงำนมำกที่สดุ คือทักษะกำรรบั สำร ดงั นั้นตอ้ งฝึกฝนกำรฟงั

และกำรอ่ำนให้มำกกว่ำกำรพูดและกำรเขยี น

๒. ทักษะกำรใช้ภำษำไทยที่มีอทิ ธพิ ลตอ่ กำรโน้มนำ้ วใจมำกทส่ี ดุ คอื ทักษะกำรสง่ สำร ดงั นนั้ ต้องฝึกฝนกำร

พดู และกำรเขียนให้มำกกว่ำกำรฟงั และกำรอ่ำน

๓. ควรฝึกฝนทกั ษะกำรใช้ภำษำไทย ท้งั กำรฟงั และกำรพดู กำรอ่ำนและกำรเขียนไปพรอ้ ม ๆ กัน เพรำะ

กำรสง่ สำรท่ดี ยี อ่ มมำจำกกำรรบั สำรทด่ี ี

๔. นักพูดที่ดมี ำจำกกำรเป็นนกั ฟังทีด่ ี และนักเขียนท่ีดีมำจำกกำรเป็นนกั อำ่ นที่ดี ดงั นั้นควำมเป็นนกั ฟงั

และนักอ่ำนทดี่ ีจงึ มผี ลต่องำนอำชพี มำกท่สี ุด

๕. ขอ้ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ตอ้ ง

๑๐. บคุ คลในขอ้ ใดสำมำรถสรำ้ งควำมประทับใจต่อผ้พู บเหน็ ได้มำกท่ีสดุ

๑. แตง่ กำยภูมฐิ ำน เครอื่ งประดบั รำคำแพง ทำ่ ทำงสงำ่ พูดน้อย ยิม้ ยำก

๒. แตง่ กำยประณตี ยิ้มแย้มแจ่มใส ไหว้ ทักทำยผพู้ บเห็นด้วยถ้อยคำสุภำพ

๓. แตง่ กำยสะอำดเรยี บรอ้ ย ออ่ นนอ้ มถอ่ มตน เปน็ ผูฟ้ งั ทด่ี ี แสดงควำมคดิ เหน็ น้อย เพรำะเกรงใจผ้อู น่ื

๔. แตง่ กำยตำมสบำย พดู ตลกขบขันตลอดเวลำ ย้มิ แย้มแจ่มใส่ทกั ทำยผคู้ นท่ีพบเห็นอยำ่ งเปน็ กันเองแม้

จะไมร่ จู้ กั กต็ ำม

10

๕. แตง่ กำยชดุ ไทยภมู ิฐำน มมี ำรยำทในกำรฟังท่ดี ี สังเกตผู้พูดและมองตำผูพ้ ดู ตลอดเวลำ

16. ใบความรู้ท่ี ๑

หน่วยการสอนที่ ๑ ชอ่ื หนว่ ยการสอน กำรใชภ้ ำษำไทยในงำนอำชพี
ชอ่ื หวั ข้อเรอ่ื ง กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ

๑ กระบวนกำรส่อื สำร
กำรสือ่ สำร กำรสอื่ สำรทำใหบ้ คุ คลสำมำรถรบั รคู้ วำมรสู้ ึกนกึ คดิ และควำมต้องกำรของแต่ละคนได้ กระบวนกำร
สอื่ สำรมปี ระสทิ ธิภำพสง่ ผลให้สงั คมเจรญิ กำ้ วหนำ้ และควำมร่มเยน็ เปน็ สุข

๑.๑ องค์ประกอบของกำรสื่อสำร
องค์ประกอบทสี่ ำคญั ๔ ประกำร ดังนี้

๑. ผูส้ ่งสำร
๒. สำร
๓. ส่อื
๔. ผรู้ บั สำร
๑.๒ กำรใชภ้ ำษำเพ่ือกำรสื่อสำร
กำรใชภ้ ำษำเพื่อกำรส่ือสำรสำมำรถใชไ้ ด้ทงั้ อวัจนภำษำและวจั นภำษำประกอบกัน มีขอ้ ทีค่ วรจะพิจำรณำ ดังน้ี
๑.๒.๑ ทกั ษะกำรใชภ้ ำษำในกำรสื่อสำร
-ทกั ษะในกำรส่งสำร ได้แก่ กำรพดู และกำรเขียน
-ทักษะกำรรบั สำร ได้แก่ กำรพูด กำรชมหรอื กำรอำ่ น
๑.๒.๒ กำรใชภ้ ำษำในกำรสอื่ สำร มี ๓ ประกำรได้แก่

๑. วิเครำะห์ในฐำนะผู้สง่ สำรว่ำมีจดุ มุง่ หมำยอย่ำงไร
๒. กำรวิเครำะหว์ ่ำผรู้ บั สำรเปน็ ใคร
๓. กำรวิเครำะห์ว่ำเป็นกำรสอื่ สำรในโอกำสใด
๑.๒.๓ กำรใชภ้ ำษำในกำรรับสำร
๑. กำรมีสมำธิและควำมตงั้ ใจในกำรรบั สำร
๒. กำรวิเครำะหจ์ ดุ ม่งุ หมำยของผรู้ บั สำร
๓. กำรวเิ ครำะห์รปู แบบและเน้ือหำ
๓. แนวปฏิบัตเิ ก่ียวกบั กำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชพี
กำรใชภ้ ำษำไทยในกำรอำชพี ปรำกฏทัง้ ในรูปแบบวจั นภำษำและอวัจนภำษำ ดำ้ นกำรฟงั กำรอ่ำน กำรพดู
และกำรเขยี น เช่น กำรแสดงมำรยำท บคุ ลกิ ภำพไมเ่ หมำะสม ยอ่ มสง่ ผลให้กำรส่อื สำรไมม่ ปี ระสิทธภิ ำพ
แนวทำงในกำรพัฒนำตนเอง
๑. กำรพฒั นำดำ้ นกำรฟงั และกำรดู
- ควรสังเกตกำรณ์ใชภ้ ำษำในชีวติ ประจำวัน
-ฝึกกำรฟงั อยำ่ งมสี ติมสี มำธิ
-ศึกษำเกีย่ วกับกำรใช้ภำษำให้ถกู ต้อง
๒. กำรพฒั นำด้ำนกำรอ่ำน
-ชมและสงั เกตกำรณอ์ ำ่ นขำ่ วสำรคดี
-พฒั นำตนเองใหเ้ ป็นนกั อำ่ นอยำ่ งตอ่ เนอื่ ง
-อ่ำนออกเสยี งอย่ำงต่อเน่ือง อำ่ ยอย่ำงน้อย ๒ ชัว่ โมง

11

-อ่ำนออกเสียงทุกวนั
-จบั ประเด็นเรอ่ื งที่อ่ำน
-เลือกเนื้อหำสำระทีอ่ ่ำนอยำ่ งเหมำะสม
-ศกึ ษำรูปแบบกำรเขียนและวรรณกรรมประเภทต่ำง ๆ

๓. กำรพฒั นำด้ำนกำรพดู
-ควรสงั เกตกำรณพ์ ดู ในชีวิตประจำวัน
-ควรศกึ ษำเก่ียวกบั กำรพูดท่ถี ูกต้อง

๔. กำรพฒั นำทกั ษะกำรเขียน
-ควรเขียนอยำ่ งตัง้ ใจ
-มีควำมรอบคอบระมัดระวังในกำรเขียน
-ฝึกเขียนในวถิ ชี วี ิต

17. ใบงานท่ี ๒

หนว่ ยการสอนที่ ๑ ชอ่ื หน่วยการสอน กำรใช้ภำษำไทยในกำรสอื่ สำร
ชอื่ หวั ข้อเรอื่ ง กระบวนการส่ือสาร ความสาคัยของภาษาไทย และแนวปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับการใช้ภาษาไทยใน
งานอาชีพ
จุดประสงค์
1 จุดประสงค์ทว่ั ไป

1. อธบิ ายการสอ่ื สารได้
2. บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
1. แสดงบุคลิกภำพในกำรใช้ภำษำอยำ่ งเหมำะสม
2. มเี จตคติทดี่ ใี นกำรเรียนเร่ืองกำรใช้ภำษำไทยในงำนอำชีพ และรักษค์ ่ำนยิ มหลัก 12 ประกำร

ลาดบั กิจกรรม/ลาดบั การปฏิบัติ

1. นกั เรยี นรบั ฟงั คำอธบิ ำยบรรยำยในชน้ั เรยี นเกีย่ วกบั กำรสอ่ื สำรในงำนอำชพี พรอ้ มทง้ั กำรยกตวั อยำ่ งแลกเปลย่ี น
ควำมรูก้ บั นักเรียน
2. นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ ในคำบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของครผู สู้ อน
3. ครูผู้สอนสรปุ ผลกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน นักเรียนทำงำนทไี่ ด้รบั มอบหมำยจำกครูผสู้ อนเกี่ยวกบั กำรสื่อสำรใน
งำนอำชีพ

เกณฑ์การพิจารณา

1. กำรมสี ่วนรว่ มในชั้นเรยี นของนกั เรียน
2. ส่งงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยปฏิบตั ิตำมที่ครผู สู้ อนไดแ้ นะนำ
3. มีพฤตกิ รรมทเี่ รียบรอ้ ยระหว่ำงเรียน

18. แบบประเมินผล
1 กอ่ นเรียน
1.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
2 ขณะเรียน
2.1 กำรถำม – ตอบ ฝกึ ปฏบิ ัติ และนำเสนอ

12

3 หลังเรียน
3.1 ตรวจสอบแบบทดสอบหลังเรยี น

19. แบบฝกึ หดั

๑.แบบทดสอบทำ้ ยบท กจิ กรรมตรวจสอบควำมเขำ้ ใจ
๒. แบบทดสอบทำ้ ยบท(ปรนยั )

๓. ใบงำนสร้ำงควำมเขำ้ ใจระหวำ่ งกำรเรียน

20. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้แบบม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

20.1 สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จัดหนว่ ยกำรเรียนรไู้ ด้สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคก์ ำรเรยี นรู้

2. กำหนดเกณฑ์กำรประเมินครอบคลมุ ทง้ั ดำ้ นควำมรู้ ดำ้ นทักษะ และด้ำนจิตพสิ ัย

3. เตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ สอ่ื นวตั กรรม กิจกรรมตำมแผนกำรจดั กำรเรียนร้กู ่อนเขำ้ สอน

ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

4. มวี ธิ กี ำรนำเขำ้ สบู่ ทเรียนทน่ี ำ่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมทหี่ ลำกหลำย เพ่อื ช่วยใหผ้ ู้เรียนเกดิ กำรเรียนรู้ ควำมเขำ้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมท่สี ง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นค้นคว้ำเพือ่ หำคำตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรียนมสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้

8. จดั กจิ กรรมที่เน้นกระบวนกำรคิด ( คิดวิเครำะห์ คดิ สังเครำะห์ คดิ สร้ำงสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนแสดงควำมคิดเห็นอยำ่ งเสรี

10. จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เชอื่ มโยงกบั ชวี ติ จรงิ โดยนำภมู ปิ ัญญำ/บูรณำกำรเขำ้ มำมสี ว่ นร่วม

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มกี ำรเสริมแรงเม่อื นักเรยี นปฏิบัติ หรือตอบถูกต้อง

13. มอบหมำยงำนให้เหมำะสมตำมศักยภำพของผ้เู รียน

14. เอำใจใสด่ แู ลผเู้ รยี น อยำ่ งทั่วถงึ

15. ใช้เวลำสอนเหมำะสมกบั เวลำทีก่ ำหนด

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้ส่ือท่เี หมำะสมกับกจิ กรรมและศกั ยภำพของผเู้ รียน

17. ใชส้ ่ือ แหลง่ กำรเรียนรอู้ ยำ่ งหลำกหลำย เชน่ บคุ คล สถำนที่ ของจรงิ เอกสำร

สอื่ อิเล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เนต็ เป็นตน้

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผูเ้ รยี นมีส่วนรว่ มในกำรกำหนดเกณฑ์กำรวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอย่ำงหลำกหลำยและครบทง้ั ดำ้ นควำมรู้ ทักษะ และจติ พสิ ยั

20. ครู ผู้เรยี น ผ้ปู กครอง หรือ ผู้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งมสี ว่ นรว่ ม ในกำรประเมนิ

13

หมายเหตุ ระดบั กำรปฏิบตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ย่ียม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏิบตั ิพอใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไมม่ ีกำรปฏิบัติ คา่ เฉลีย่

20.2 ปัญหาทีพ่ บ และแนวทางแก้ปัญหา

ปญั หาที่พบ แนวทางแก้ปญั หา

ด้านการเตรยี มการสอน

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านสอ่ื นวัตกรรม แหล่งการเรียนรู้
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านการวดั และประเมินผล
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

ด้านอ่นื ๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ)
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................
..................................................................................... .....................................................................................

14

ลงชอื่ ........................................................................ ครผู สู้ อน
(....................................................................)

ตำแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนเิ ทศและติดตาม

วนั -เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ชื่อ-สกลุ ผนู้ ิเทศ ตาแหน่ง

15

16

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วิชา 20000 1101 วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชพี
หนว่ ยที่ 1 ชือ่ หนว่ ย การใชภ้ าษาไทยในงานอาชพี
ชอื่ เร่ือง การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ จานวน 2 ชว่ั โมง

1. สาระสาคญั

การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี มีความสมั พันธก์ นั อย่างย่ิง เพราะทุกอาชพี ย่อมต้องใช้ภาษาในการสือ่ สาร
ดังนั้นผูท้ ต่ี อ้ งการความสาเรจ็ ในงานอาชพี ตอ้ งศึกษากระบวนการสอ่ื สารและฝึกฝนทักษะการใชภ้ าษาอย่างมี
ประสิทธภิ าพ ทง้ั การฟงั การดู การพดู การอ่าน และการเขียน

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ
2. ประยกุ ต์ใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. อธิบายการสอื่ สารได้
2. บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. แสดงบุคลกิ ภาพในการใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
2. มีเจตคตทิ ดี่ ีในการเรยี นเรอื่ งการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ และรักษค์ ่านิยมหลัก 12 ประการ

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
นกั เรยี นสามารถเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร ความหมายของการสอ่ื สาร รวมถงึ การใช้
ภาษาทกั ษะการส่งสารและรบั สาร และรูปแบบของสาร ทง้ั นีย้ ังทราบเก่ยี วกับแนวปฏบิ ตั ิเกีย่ วกบั การใช้ภาษาไทย
ในงานอาชพี พัฒนาทักษะการอ่าน การฟัง การดู และการเขยี น

4.2 ด้านทกั ษะหรอื การประยกุ ต์ใช้
จากการท่ไี ดศ้ ึกษาเรยี นรู้เกย่ี วกบั กระบวนการสือ่ สาร ความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ และ
แนวทางเกี่ยวกบั การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี นกั เรยี นสามารถนาทกั ษะจากการเรยี น เชน่ องคป์ ระกอบของผสู้ ง่
สารและรบั สาร เพอื่ การส่ือสารที่มีประสทิ ธภิ าพ และแนวทางการพัฒนาทกั ษะการใช้ภาษา เชน่ การพฒั นา การ
อา่ น การฟัง การดุ และการเขยี น เป็นตน้

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

17

นกั เรยี นเรยี นมคี วามรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในการสือ่ สาร ใช้ทกั ษะแยกองค์ประกอบของการส่อื สารได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพและเกิดประสิทธผิ ล สามารถนาความรทู้ เี่ รยี นไปประกอบใชใ้ นชีวติ ประจาวนั บริหารเวลาเรียน
และการทางานได้

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้

ขั้นตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผู้เรียน

ขั้นเตรียม(จานวน.10.นาที)

1.สครูให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการการ 1. นกั เรยี นศึกษาจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั

สื่อสาร องค์ประกอบของการส่อื สาร การใชภ้ าษาเพือ่ กระบวนการส่ือสาร องค์ประกอบของการส่อื สาร

การส่ือสาร โดยต้องทราบเก่ียวกับความหมายและ ตรวจสอบว่าข้อมูลท่ศี กึ ษาครบสมบูรณ์ตอ่ รายวิชา

หน้าท่ีท้ัง 4 องค์ประกอบ ท้ังนี้นักเรียนต้องศึกษา จริง

เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาการใช้ภาษา และ

จดั เตรียมเนื้อหาให้พร้อมต่อการเรียน

ข้นั การสอน(จานวน 40 นาที)

2. นักเรียนนั่งฟังคาบรรยายพร้อมทั้งแลกเปล่ียนการ 2. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั กระบวนการสอ่ื สาร การ
เรียนการสอนกับครู อธิบายเน้ือหา พร้อมยกตัวอย่าง ใชภ้ าษา และแนวทางในการปฏิบตั ิเกี่ยวกบั การใช้
สถานการณ์ของ เร่ือง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง ภาษา
ครุกับนักเรียน ในเร่ืองของนักเรียนสามารถนาทักษะ
จากการเรียน เช่น องค์ประกอบของผู้ส่งสารและรับ
สาร เพ่ือการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ และแนวทาง
การพัฒนาทักษะการใช้ภาษา เช่น การพัฒนา การ
อ่าน การฟงั การดุ และการเขียน เปน็ ตน้

ขัน้ สรุป (จานวน 10 นาท)ี

3. อธิบายขอ้ ความสาคัญเกย่ี วกับองคป์ ระกอบของผู้ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หาทค่ี รอุ ธบิ าย และทาความ
สง่ สารและรบั สาร เพ่อื การสือ่ สารทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ เขา้ ใจ อนั จะนาไปทาแบบทดสอบต่อการเรยี นรูใ้ น
และแนวทางการพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษา เช่น การ รายวชิ าต่อไป
พฒั นา การอ่าน การฟัง การดุ และการเขียน เป็นตน้
ทาแบบทดสอบวดั ความรู้

18

6. สือ่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่ือสิง่ พิมพ์
1. หนงั สือรายวชิ าภาษาไทย วิชา ภาษาไทยเพ่ืออาชพี
2. ใบงานและแบบทดสอบทา้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

6.3 สอ่ื ของจรงิ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

19

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น
1. ใหน้ กั เรยี นศึกษาข้อมูลเกย่ี วกับกระบวนการสอ่ื สาร องค์ประกอบการส่อื สาร การใชภ้ าษาเพื่อการสื่อสาร
2. ให้นักเรียนศกึ ษาขอ้ มลู เก่ียวกับความสาคญั ของภาษาไทยในงานอาชีพ
3. ใหน้ กั เรียนศึกษาข้อมลู เก่ียวกบั แนวทางในการพฒั นาการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ

8.2 ขณะเรียน
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คาอธบิ ายเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ าย
2. นกั เรยี นตอ้ งยกตวั อยา่ งสถานการณเ์ กย่ี วกบั หวั ขอ้ ทเ่ี รยี นพรอ้ มทง้ั อธบิ ายแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สู้ อน

8.3 หลังเรียน
1. นกั เรยี นนาความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั รายวชิ าทเ่ี รียน เชน่ การส่ือสาร องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร การใช้
ภาษา แนวทางการพฒั นาแนวทางในการใชภ้ าษา
2. ทาแบบทดสอบทา้ ยบท

9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่เี กดิ จากการเรยี นรูข้ องผูเ้ รียน

1 มีตัวอยา่ งสถานการณ์ ใหจ้ าแนกสถานการณ์ลงในองค์ประกอบของการสือ่ สาร
ครเู ล็กสอนในรายวชิ าภาษาไทย โดยเริม่ สอนจากบทท่ี 1 เรื่องกระบวนการสือ่ สาร มีเนอื้ หาสาระเก่ียวกบั

การสอ่ื สาร ความหมายของการส่อื สาร รปู แบบการสื่อสาร ความสาคัญของการใช้ภาษาในการสื่อสาร ภายหลัง
จากที่เรยี นนักเรียนมกี ารแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สุ้ อนเกยี่ วกบั เรอื่ สาระการเรยี นรู้ท่ีเรียน

10. เอกสารอา้ งองิ

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กับรายวชิ าอ่นื

นาทกั ษะการเรยี นเก่ียวกับรายวชิ าเกี่ยวกับกระบวนการสื่อสาร สามารถนาไปใชส้ ือ่ สารในรายวิชาอื่น
รวมทัง้ นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน
1. สังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รยี นในการศกึ ษาและสนใจในการจัดเตรียมเนือ้ หาและศกึ ษาเน้อื หาที่มอบหมาย
2. เตรยี มอปุ กรณก์ ารเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น เพ่ือวดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ.

12.3 หลังเรยี น

20

1. ครูให้ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบเพื่อประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

จดุ ประสงค์ข้อที่ 1 อธบิ ายกระบวนการสอ่ื สาร
1. วิธีการประเมนิ : แบบทดสอบเกยี่ วกบั องคป์ ระกอบของการส่ือสาร.
2. เครือ่ งการประเมนิ : ใบงานแบบทดสอบ.
3. เกณฑ์การประเมิน : อยใู่ นระดับ 60 % ขน้ึ ไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์การพดู ของผู้เรยี นต้องอยู่ในระดับ 60 % ข้นึ ไป

จุดประสงค์ขอ้ ที่ 2 วดั ความรู้ความเขา้ ใจ
1. วิธกี ารประเมิน : ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น เพื่อวัดความรู้ความเขา้ ใจ
2. เครือ่ งการประเมนิ : แบบทดสอบ
3. เกณฑก์ ารประเมิน : อย่ใู นระดับ 60 % ขึน้ ไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผ่าน :

14. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หน่วยการสอนท่ี 1 ชื่อหนว่ ยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ
วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื อธิบายกระบวนการส่อื สารได้ บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้
ขอ้ คาถาม
1. องค์ประกอบกระบวนการสอ่ื สารมอี ะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กระบวนการสอ่ื สารมคี วามสาคญั ตอ่ อาชพี อย่างไรบา้ ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ภาษาไทยมคี วามสาคญั ตอ่ งานอาชพี อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ควรมลี กั ษณะอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การพฒั นาตนเองให้ใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ควรปฏบิ ัตอิ ยา่ งไรอธบิ ายโดยสงั เขป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

21

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. องค์ประกอบกระบวนการสอื่ สารมอี ะไรบา้ ง
องคป์ ระกอบของกระบวนการสอ่ื สารประกอบด้วย ผ้สู ง่ สาร สาร ส่ือ และผู้รบั สาร ซ่ึงองคป์ ระกอบท้ัง๔

จะทางานร่วมกนั หากขาดสว่ นใด สว่ นหนงึ่ การส่อื สารยอ่ มไมเ่ กิดขนึ้ หรืออืน่ ๆ ข้ึนอย่กู ับดุลยพินิจของผู้สอน
2. กระบวนการสื่อสารมคี วามสาคญั ตอ่ อาชพี อย่างไรบ้าง

กระบวนการสอ่ื สารมคี วามสาคญั ตอ่ อาชพี คือ การสื่อสารจะทาใหบ้ คุ คลสามารถรับรคู้ วามร้สู านกึ คดิ และ
ความตอ้ งการของแตล่ ะคนได้ ซ่ึงจะส่งผลใหป้ ระสบความสาเร็จในอาชีพ มีความเจรญิ กา้ วหนา้ หรืออ่นื ๆขึน้ อยู่กบั
ดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน
3. ภาษาไทยมคี วามสาคญั ตอ่ งานอาชีพอย่างไร

ภาษาไทยมคี วามสาคัญต่องานอาชพี คือ เปน็ เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประกอบอาชพี ใหป้ ระสบความสาเรจ็
ไม่ว่าจะเป็นการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร การถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความรูส้ กึ ความสามารถสร้าง ความเขา้ ใจอัน
เกดิ ขึน้ ระหวา่ งกนั และยังเปน็ การรักษาเอกลักษณ์ชาติไทย

4. การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพควรมลี กั ษณะอย่างไร
การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพควรใช้วจั นภาษาและอวัจนภาษา ทั้งการพดู การฟัง การอ่าน และการเขียน

เพราะจะทาใหก้ ารสื่อสารเกดิ ประสิทธภิ าพ ผูร้ ับสารและผสู้ ง่ สารเกิดความเข้าใจตรงกนั ทาใหป้ ระสบความสาเรจ็
ในงานอาชพี

5. การพัฒนาตนเองใหใ้ ช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ควรปฏิบัตอิ ยา่ งไรอธิบายโดยสังเขป
การพัฒนาตนเองใหใ้ ชภ้ าษาไทยในงานอาชีพไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ควรฝึกทกั ษะทัง้ ดา้ นฟัง พดู อา่ น

และเขยี น โดยจะตอ้ งฝึกฝนไปพร้อมๆ กัน การเปน็ ผพู้ ดู และผ้พู ดู และผเู้ ขียนที่ดียอ่ มมาจาก การฟัง

15. แบบทดสอบหลังเรียน

หนว่ ยการสอนท่ี 1 ชอ่ื หน่วยการสอน การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ

วัตถุประสงค์ เพื่อ อธบิ ายกระบวนการสอื่ สารได้ บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้

ข้อคาถาม

1. ความสาเรจ็ ของการสอื่ สารขึน้ อยู่กบั องค์ประกอบใดสาคัญท่สี ุด

1. ผูส้ ือ่ สาร 2. สาร

3. ส่อื 4. ผู้รับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบ่งช้วี ่าสารประสบความสาเรจ็ คือขอ้ ใด

1. ผสู้ ่งสารนาเสนอสารไดอ้ ยา่ งชัดเจน

2. มีสือ่ หรือช่องทางการสือ่ สารทห่ี ลากหลาย

3. ผู้รบั สารตอบสนองได้ตรงตามความตอ้ งการของผสู้ ง่ สาร

4. ผรู้ บั สารมปี ฏิกิรยิ าต่อสาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเปน็ ประโยชน์ทั้งต่อบคุ คล องคก์ ร สังคม

3. ตวั อยา่ งการสอื่ สารในข้อใดท่สี ะทอ้ นความสมั พนั ธข์ องการใช้วจั นภาษา และอวจั นภาษาได้ชัดเจนมากที่สดุ

1. รายการข่าวประจาวัน

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

22

4. รายการวิทยุ

5. นกั การเมอื ง

4. อาชีพใดท่ภี าษาท่าทางมอี ทิ ธิพลต่อความสาเร็จมากท่สี ดุ

1. นกั พูด 2. นักร้อง

3. นกั สืบ 4. นักแสดง

5. นักการเมือง

5. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอร์เนต็ ทาใหก้ ารใช้ภาษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครื่องมือสอ่ื สารระดับบคุ คลทแี่ พรห่ ลายมากทส่ี ุดในปจั จบุ ันคอื สอ่ื ออนไลน์

3. การสื่อสารผา่ นโทรทศั น์ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้อวัจนภาษา เพราะใช้วาจาส่ือสารเทา่ น้นั

4. การสื่อสารจาเปน็ ตอ้ งใชอ้ วจั นภาษาควบคู่ไปกับวัจนภาษา เพราะชว่ ยใหก้ ารสื่อสารมคี วามชดั เจน

ยิ่งขึน้

5. ขอ้ 1 และข้อ 3 ถกู ตอ้ ง

6. สายชลกาลังแสดงวิสยั ทัศน์หาเสียงเป็นนายกองค์การวชิ าชีพ โดยใช้ไมโครโฟนทีม่ เี สยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟงั ไมร่ ู้

เร่ืองชัดเจน ปญั หาอปุ สรรคของกระบวนการสื่อสารน้คี ือขอ้ ใด

๑. สื่อ คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วิสยั ทัศนใ์ นการหาเสยี ง

๓. ผู้สง่ สาร คอื สายชล ๔. ผู้รบั สาร คือ ผ้เู รยี นฟังไมร่ เู้ รือ่ ง

๕. ขอ้ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ข้อใดจัดเป็นการพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ท่มี ีประสทิ ธภิ าพท่ีสุด

๑. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สังเกต-จดจา-คน้ คว้า-ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พัฒนา

๓. ค้นคว้า-สังเกต-จดจา-ปฏิบัต-ิ ประเมินตนเอง-พัฒนา

๔. คน้ คว้า-จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรับปรุง-พัฒนา

๕. สังเกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏิบัต-ิ ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในขอ้ ใดทมี่ คี วามสามารถในการพฒั นาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ่สี ุด

๑. ปัทมนันตช์ มละครโทรทัศนท์ กวนั อยา่ งน้อยวนั ละ ๒ ชวั่ โมง เพอ่ื พัฒนาการเปน็ ผู้ฟังผชู้ มทด่ี ี

๒. กติ ติชมรายการโทรทศั น์ตงั้ แตเ่ วลาหน่งึ ทุม่ ถึงเท่ียงคืนทุกคืน ท้งั รายการ ขา่ ว ละคร เพลง ภาพยนตร์

โฆษณา พรอ้ มบนั ทกึ ประเดน็ ที่นา่ สนใจ

๓. สมศักด์เิ ลือกสถานวี ทิ ยุทมี่ คี ุณภาพและเปิดฟังตลอดทั้งวนั ขณะทางาน ทาใหเ้ รยี นรลู้ ักษณะของผจู้ ัด

รายการวิทยทุ มี่ ปี ระสิทธิภาพ

๔. ไตรภพเอาใจใสบ่ คุ คลรอบขา้ งเสมอและเป็นนกั ฟังที่ดี หลีกเลย่ี งการโต้แยง้ พร้อมทั้งพยายาม

ประนปี ระนอมเม่อื เพื่อนร่วมงานมีข้อขัดแย้งกัน

๕. ปัญญาอ่านข้าวทุกวนั และอา่ นออกเสียงก่อนนอนทุกคนื โดยตั้งใจอา่ นให้เหมอื นผปู้ ระกาศขา่ วใน

วทิ ยกุ ระจายเสยี งและโทรทศั น์

๙. ขอ้ ใดกล่าวสมเหตุสมผลมากที่สุด

๑. ทักษะการใช้ภาษาไทยในชีวติ และการทางานมากทส่ี ุดคอื ทกั ษะการรบั สาร ดังนั้นต้องฝึกฝนการฟัง

และการอ่านใหม้ ากกว่าการพูดและการเขยี น

๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยท่ีมีอทิ ธิพลต่อการโนม้ นา้ วใจมากที่สดุ คือทกั ษะการส่งสาร ดงั น้นั ตอ้ งฝกึ ฝนการ

พูดและการเขียนใหม้ ากกวา่ การฟังและการอา่ น

23

๓. ควรฝึกฝนทกั ษะการใชภ้ าษาไทย ทัง้ การฟัง และการพดู การอา่ นและการเขียนไปพร้อม ๆ กนั เพราะ
การสง่ สารทด่ี ยี อ่ มมาจากการรบั สารทดี่ ี

๔. นักพูดทด่ี ีมาจากการเปน็ นักฟังท่ีดี และนกั เขยี นทดี่ ีมาจากการเป็นนักอ่านทด่ี ี ดงั น้ันความเป็นนักฟัง
และนักอา่ นทดี่ ีจึงมีผลต่องานอาชีพมากทส่ี ดุ

๕. ข้อ ๑. และขอ้ ๒. ถูกต้อง
๑๐. บคุ คลในข้อใดสามารถสรา้ งความประทับใจต่อผพู้ บเห็นได้มากทสี่ ดุ

๑. แต่งกายภูมฐิ าน เครอื่ งประดับราคาแพง ท่าทางสงา่ พดู น้อย ยิม้ ยาก
๒. แตง่ กายประณตี ยม้ิ แย้มแจ่มใส ไหว้ ทกั ทายผ้พู บเห็นดว้ ยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แตง่ กายสะอาดเรียบรอ้ ย อ่อนนอ้ มถ่อมตน เปน็ ผ้ฟู ังทด่ี ี แสดงความคิดเหน็ น้อย เพราะเกรงใจผอู้ ื่น
๔. แตง่ กายตามสบาย พูดตลกขบขนั ตลอดเวลา ยิม้ แย้มแจม่ ใสท่ กั ทายผคู้ นที่พบเห็นอยา่ งเป็นกันเองแม้
จะไม่รู้จกั กต็ าม
๕. แตง่ กายชดุ ไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟงั ทด่ี ี สังเกตผูพ้ ดู และมองตาผู้พูดตลอดเวลา

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. ความสาเรจ็ ของการสอื่ สารขึ้นอยูก่ บั องค์ประกอบใดสาคัญที่สุด

2. ผสู้ อ่ื สาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผู้รบั สาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบ่งช้วี ่าสารประสบความสาเร็จคอื ขอ้ ใด

1. ผู้สง่ สารนาเสนอสารได้อยา่ งชดั เจน

2. มสี ือ่ หรอื ชอ่ งทางการสอ่ื สารทีห่ ลากหลาย

3. ผ้รู บั สารตอบสนองได้ตรงตามความตอ้ งการของผ้สู ง่ สาร

4. ผรู้ บั สารมปี ฏิกริ ยิ าตอ่ สาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเป็นประโยชน์ทัง้ ต่อบุคคล องค์กร สงั คม

3. ตัวอย่างการส่อื สารในข้อใดที่สะทอ้ นความสัมพนั ธ์ของการใช้วัจนภาษา และอวัจนภาษาไดช้ ดั เจนมากท่ีสดุ

1. รายการขา่ วประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวิทยุ

5. นักการเมอื ง

4. อาชพี ใดทีภ่ าษาท่าทางมอี ทิ ธพิ ลตอ่ ความสาเร็จมากที่สดุ

2. นักพูด 2. นักร้อง

3. นกั สบื 4. นกั แสดง

5. นกั การเมือง

5. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง

1. การส่ือสารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ทาให้การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เคร่ืองมือสอ่ื สารระดบั บคุ คลทแี่ พรห่ ลายมากท่สี ุดในปจั จุบันคือส่ือออนไลน์

3. การสอ่ื สารผา่ นโทรทศั น์ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้อวัจนภาษา เพราะใชว้ าจาสื่อสารเทา่ น้ัน

4. การสอ่ื สารจาเปน็ ตอ้ งใช้อวัจนภาษาควบคไู่ ปกบั วจั นภาษา เพราะชว่ ยใหก้ ารสอื่ สารมีความชดั เจน

ยิ่งข้ึน

24

5. ข้อ 1 และขอ้ 3 ถูกตอ้ ง

6. สายชลกาลังแสดงวิสยั ทศั นห์ าเสยี งเปน็ นายกองค์การวชิ าชพี โดยใช้ไมโครโฟนทมี่ ีเสยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไมร่ ู้

เรือ่ งชัดเจน ปัญหาอปุ สรรคของกระบวนการส่ือสารนค้ี อื ข้อใด

๑. สื่อ คอื ไมโครโฟน ๒. สาร คือ วสิ ยั ทศั น์ในการหาเสียง

๓. ผ้สู ่งสาร คอื สายชล ๔. ผรู้ ับสาร คือ ผเู้ รยี นฟงั ไม่รู้เร่อื ง

๕. ข้อ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจัดเปน็ การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพที่มปี ระสิทธิภาพทส่ี ุด

๑. สังเกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สังเกต-จดจา-คน้ ควา้ -ปฏิบตั -ิ ปรับปรุง-พัฒนา

๓. คน้ ควา้ -สงั เกต-จดจา-ปฏิบัต-ิ ประเมินตนเอง-พัฒนา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรับปรุง-พัฒนา

๕. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-ปฏบิ ตั -ิ ประเมนิ ตนเอง-ปรับปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในขอ้ ใดที่มีความสามารถในการพัฒนาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ีทส่ี ุด

๑. ปทั มนันตช์ มละครโทรทัศนท์ กวัน อยา่ งน้อยวันละ ๒ ช่ัวโมง เพ่อื พัฒนาการเปน็ ผฟู้ งั ผู้ชมทดี่ ี

๒. กิตตชิ มรายการโทรทัศนต์ ง้ั แตเ่ วลาหน่งึ ทมุ่ ถึงเท่ยี งคนื ทุกคืน ทัง้ รายการ ข่าว ละคร เพลง ภาพยนตร์

โฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นทนี่ ่าสนใจ

๓. สมศักด์เิ ลอื กสถานวี ทิ ยทุ ่ีมีคณุ ภาพและเปดิ ฟงั ตลอดทั้งวันขณะทางาน ทาใหเ้ รยี นรลู้ กั ษณะของผจู้ ัด

รายการวิทยุท่ีมีประสิทธิภาพ

๔. ไตรภพเอาใจใส่บุคคลรอบข้างเสมอและเปน็ นกั ฟังทีด่ ี หลกี เล่ียงการโตแ้ ย้ง พร้อมทั้งพยายาม

ประนีประนอมเมือ่ เพื่อนร่วมงานมขี ้อขดั แยง้ กัน

๕. ปัญญาอ่านขา้ วทกุ วันและอา่ นออกเสยี งกอ่ นนอนทกุ คนื โดยตง้ั ใจอา่ นให้เหมือนผปู้ ระกาศขา่ วใน

วิทยกุ ระจายเสียงและโทรทศั น์

๙. ข้อใดกลา่ วสมเหตุสมผลมากทส่ี ุด

๑. ทกั ษะการใช้ภาษาไทยในชีวิตและการทางานมากที่สุดคือทักษะการรบั สาร ดงั นัน้ ตอ้ งฝึกฝนการฟงั

และการอา่ นให้มากกว่าการพูดและการเขียน

๒. ทกั ษะการใช้ภาษาไทยทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อการโนม้ นา้ วใจมากที่สุดคอื ทักษะการสง่ สาร ดังน้นั ต้องฝึกฝนการ

พดู และการเขยี นให้มากกว่าการฟังและการอา่ น

๓. ควรฝกึ ฝนทกั ษะการใช้ภาษาไทย ทัง้ การฟัง และการพูด การอ่านและการเขียนไปพร้อม ๆ กนั เพราะ

การส่งสารที่ดยี ่อมมาจากการรับสารทดี่ ี

๔. นักพูดที่ดีมาจากการเปน็ นักฟังที่ดี และนกั เขยี นที่ดีมาจากการเป็นนักอ่านทด่ี ี ดังน้ันความเป็นนักฟัง

และนกั อา่ นทด่ี ีจงึ มผี ลต่องานอาชีพมากทสี่ ดุ

๕. ข้อ ๑. และข้อ ๒. ถูกตอ้ ง

๑๐. บคุ คลในข้อใดสามารถสรา้ งความประทบั ใจต่อผ้พู บเหน็ ไดม้ ากทีส่ ดุ

๑. แต่งกายภูมิฐาน เครื่องประดับราคาแพง ท่าทางสง่า พูดนอ้ ย ย้มิ ยาก

๒. แตง่ กายประณตี ย้มิ แยม้ แจ่มใส ไหว้ ทกั ทายผู้พบเหน็ ดว้ ยถอ้ ยคาสภุ าพ

๓. แต่งกายสะอาดเรยี บรอ้ ย ออ่ นนอ้ มถ่อมตน เป็นผูฟ้ ังท่ดี ี แสดงความคิดเห็นน้อย เพราะเกรงใจผ้อู ่นื

๔. แตง่ กายตามสบาย พูดตลกขบขันตลอดเวลา ยิ้มแยม้ แจ่มใส่ทกั ทายผคู้ นท่ีพบเหน็ อยา่ งเปน็ กนั เองแม้

จะไม่ร้จู กั ก็ตาม

๕. แตง่ กายชุดไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟังทีด่ ี สงั เกตผู้พูดและมองตาผู้พดู ตลอดเวลา

25

16. ใบความร้ทู ี่ ๑

หนว่ ยการสอนที่ ๑ ชื่อหน่วยการสอน การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ
ชอื่ หวั ข้อเรื่อง การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ

๑ กระบวนการส่อื สาร
การสื่อสาร การสอื่ สารทาใหบ้ คุ คลสามารถรับรู้ความรสู้ กึ นกึ คิดและความตอ้ งการของแตล่ ะคนได้ กระบวนการ
สือ่ สารมปี ระสทิ ธภิ าพสง่ ผลใหส้ งั คมเจริญกา้ วหนา้ และความร่มเย็นเป็นสุข

๑.๑ องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
องค์ประกอบที่สาคัญ ๔ ประการ ดังนี้

๑. ผู้ส่งสาร
๒. สาร
๓. สอ่ื
๔. ผู้รับสาร
๑.๒ การใช้ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
การใช้ภาษาเพอ่ื การส่อื สารสามารถใช้ไดท้ ง้ั อวัจนภาษาและวจั นภาษาประกอบกนั มีขอ้ ท่ีควรจะพจิ ารณา ดังน้ี
๑.๒.๑ ทักษะการใชภ้ าษาในการสอื่ สาร
-ทักษะในการส่งสาร ได้แก่ การพูดและการเขียน
-ทักษะการรบั สาร ไดแ้ ก่ การพดู การชมหรอื การอ่าน
๑.๒.๒ การใชภ้ าษาในการสื่อสาร มี ๓ ประการได้แก่

๑. วิเคราะหใ์ นฐานะผู้ส่งสารวา่ มีจดุ ม่งุ หมายอย่างไร
๒. การวิเคราะหว์ า่ ผู้รับสารเปน็ ใคร
๓. การวเิ คราะหว์ า่ เป็นการส่ือสารในโอกาสใด
๑.๒.๓ การใชภ้ าษาในการรับสาร
๑. การมีสมาธิและความตง้ั ใจในการรับสาร
๒. การวเิ คราะหจ์ ดุ มุง่ หมายของผรู้ ับสาร
๓. การวเิ คราะห์รูปแบบและเน้อื หา
๓. แนวปฏิบัติเกีย่ วกบั การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี
การใชภ้ าษาไทยในการอาชพี ปรากฏท้งั ในรูปแบบวัจนภาษาและอวจั นภาษา ดา้ นการฟงั การอา่ น การพดู
และการเขยี น เชน่ การแสดงมารยาท บคุ ลิกภาพไม่เหมาะสม ย่อมสง่ ผลให้การส่ือสารไม่มปี ระสิทธภิ าพ
แนวทางในการพฒั นาตนเอง
๑. การพัฒนาดา้ นการฟงั และการดู
- ควรสงั เกตการณ์ใช้ภาษาในชีวิตประจาวัน
-ฝกึ การฟังอยา่ งมีสตมิ ีสมาธิ
-ศกึ ษาเก่ยี วกับการใชภ้ าษาใหถ้ กู ตอ้ ง
๒. การพฒั นาด้านการอ่าน
-ชมและสงั เกตการณ์อ่านขา่ วสารคดี
-พัฒนาตนเองใหเ้ ปน็ นักอ่านอย่างต่อเน่อื ง
-อ่านออกเสียงอย่างต่อเน่ือง อ่ายอยา่ งนอ้ ย ๒ ช่ัวโมง
-อา่ นออกเสยี งทุกวัน
-จบั ประเด็นเรือ่ งทอ่ี า่ น

26

-เลือกเน้อื หาสาระทอ่ี ่านอยา่ งเหมาะสม
-ศึกษารปู แบบการเขยี นและวรรณกรรมประเภทตา่ ง ๆ

๓. การพัฒนาด้านการพดู
-ควรสังเกตการณพ์ ูดในชีวติ ประจาวัน
-ควรศึกษาเก่ยี วกับการพดู ทีถ่ ูกตอ้ ง

๔. การพฒั นาทักษะการเขียน
-ควรเขียนอยา่ งต้งั ใจ
-มคี วามรอบคอบระมัดระวังในการเขยี น
-ฝกึ เขียนในวถิ ชี ีวิต

17. ใบงานที่ ๒

หนว่ ยการสอนที่ ๑ ชอื่ หนว่ ยการสอน การใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สาร
ชื่อหัวขอ้ เร่อื ง กระบวนการสอ่ื สาร ความสาคยั ของภาษาไทย และแนวปฏิบัตเิ กี่ยวกบั การใช้ภาษาไทยใน
งานอาชพี
จดุ ประสงค์
1 จุดประสงค์ท่วั ไป

1. อธิบายการสื่อสารได้
2. บอกความสาคัญของการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้
2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. แสดงบุคลกิ ภาพในการใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
2. มีเจตคตทิ ่ีดีในการเรยี นเรอ่ื งการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ และรกั ษค์ ่านยิ มหลกั 12 ประการ

ลาดบั กจิ กรรม/ลาดับการปฏบิ ตั ิ

1. นกั เรยี นรบั ฟงั คาอธบิ ายบรรยายในชน้ั เรยี นเกีย่ วกบั การสอ่ื สารในงานอาชพี พรอ้ มทง้ั การยกตวั อยา่ งแลกเปลย่ี น
ความรกู้ บั นกั เรยี น
2. นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ ในคาบการจดั การเรยี นการสอนของครผู สู้ อน
3. ครผู สู้ อนสรปุ ผลการจดั การเรยี นการสอน นกั เรยี นทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจากครผู สู้ อนเกย่ี วกบั การสอ่ื สารใน
งานอาชพี

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. การมสี ว่ นร่วมในชัน้ เรียนของนกั เรยี น
2. ส่งงานท่ไี ด้รับมอบหมายปฏบิ ัติตามท่ีครผู ู้สอนได้แนะนา
3. มพี ฤตกิ รรมทเี่ รียบรอ้ ยระหวา่ งเรียน

18. แบบประเมนิ ผล
1 ก่อนเรยี น
1.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
2 ขณะเรียน
2.1 การถาม – ตอบ ฝกึ ปฏิบัติ และนาเสนอ
3 หลังเรยี น

27

3.1 ตรวจสอบแบบทดสอบหลงั เรยี น
19. แบบฝึกหดั

๑.แบบทดสอบท้ายบท กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
๒. แบบทดสอบทา้ ยบท(ปรนยั )

๓. ใบงานสรา้ งความเขา้ ใจระหวา่ งการเรียน

20. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรแู้ บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั ปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพยี ง

20.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏิบตั ิ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จัดหน่วยการเรียนรไู้ ดส้ อดคล้องกับวัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลมุ ทัง้ ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และด้านจติ พิสยั

3. เตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ ส่อื นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นร้กู อ่ นเข้าสอน

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

4. มีวิธกี ารนาเข้าสู่บทเรียนทน่ี ่าสนใจ

5. มกี ิจกรรมทห่ี ลากหลาย เพ่อื ชว่ ยใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมให้ผู้เรยี นค้นควา้ เพือ่ หาคาตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

8. จัดกจิ กรรมทีเ่ น้นกระบวนการคดิ ( คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่เี ชอ่ื มโยงกับชีวติ จริงโดยนาภูมปิ ญั ญา/บรู ณาการเข้ามามสี ่วนร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเม่อื นักเรยี นปฏิบตั ิ หรอื ตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผ้เู รียน

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียน อยา่ งทว่ั ถึง

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาที่กาหนด

ด้านสอื่ นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้สอ่ื ทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รียน

17. ใช้สอื่ แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานที่ ของจรงิ เอกสาร

สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ และอินเทอร์เนต็ เปน็ ตน้

ด้านการวัดและประเมนิ ผล

18. ผเู้ รยี นมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทงั้ ด้านความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ยั

20. ครู ผู้เรียน ผปู้ กครอง หรือ ผูท้ ่เี กย่ี วข้องมสี ว่ นร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดับการปฏบิ ัติ 5 = ปฏบิ ตั ดิ ีเย่ยี ม 4 = ปฏิบัติดี 3 = ปฏบิ ตั ิพอใช้ รวม
2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ กี ารปฏิบัติ คา่ เฉล่ยี

28

20.2 ปญั หาท่พี บ และแนวทางแก้ปัญหา

ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ปญั หา

ดา้ นการเตรยี มการสอน

.................................................................................... ....................................................................................

..

.................................................................................... ....................................................................................

..

.................................................................................... ....................................................................................

..

.................................................................................... ....................................................................................

..

ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..

ดา้ นส่ือ นวัตกรรม แหลง่ การเรยี นรู้
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..

ด้านการวัดและประเมินผล

29

.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..

ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเปน็ ขอ้ ๆ)
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..
.................................................................................... ....................................................................................
..

ลงชื่อ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนเิ ทศและตดิ ตาม

วัน-เดือน-ปี เวลา รายการนิเทศและติดตาม ชอื่ -สกุล ผูน้ ิเทศ ตาแหน่ง

30

16

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมุง่ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วิชา 20000 1101 วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชพี
หนว่ ยที่ 1 ชือ่ หนว่ ย การใชภ้ าษาไทยในงานอาชพี
ชอื่ เร่ือง การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ จานวน 2 ชว่ั โมง

1. สาระสาคญั

การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี มีความสมั พันธก์ นั อย่างย่ิง เพราะทุกอาชพี ย่อมต้องใช้ภาษาในการสือ่ สาร
ดังนั้นผูท้ ต่ี อ้ งการความสาเรจ็ ในงานอาชพี ตอ้ งศึกษากระบวนการสอ่ื สารและฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอย่างมี
ประสิทธภิ าพ ทง้ั การฟงั การดู การพดู การอ่าน และการเขียน

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ
2. ประยกุ ต์ใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป
1. อธิบายการสอื่ สารได้
2. บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. แสดงบุคลกิ ภาพในการใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
2. มีเจตคตทิ ดี่ ีในการเรยี นเรอื่ งการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ และรักษค์ ่านิยมหลัก 12 ประการ

4. เนื้อหาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ด้านความรู้
นกั เรยี นสามารถเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร ความหมายของการสอ่ื สาร รวมถงึ การใช้
ภาษาทกั ษะการส่งสารและรบั สาร และรูปแบบของสาร ทง้ั นีย้ ังทราบเก่ยี วกับแนวปฏบิ ตั ิเกีย่ วกบั การใช้ภาษาไทย
ในงานอาชพี พัฒนาทักษะการอ่าน การฟัง การดู และการเขยี น

4.2 ด้านทกั ษะหรอื การประยกุ ต์ใช้
จากการท่ไี ดศ้ ึกษาเรยี นรู้เกย่ี วกบั กระบวนการสือ่ สาร ความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ และ
แนวทางเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี นกั เรยี นสามารถนาทกั ษะจากการเรยี น เชน่ องคป์ ระกอบของผสู้ ง่
สารและรบั สาร เพอื่ การส่ือสารที่มีประสทิ ธภิ าพ และแนวทางการพัฒนาทกั ษะการใช้ภาษา เช่น การพฒั นา การ
อา่ น การฟัง การดุ และการเขยี น เป็นตน้

4.3 ด้านคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

17

นกั เรยี นเรยี นมคี วามรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในการสือ่ สาร ใชท้ กั ษะแยกองคป์ ระกอบของการสอ่ื สารได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพและเกดิ ประสิทธิผล สามารถนาความรทู้ เี่ รยี นไปประกอบใช้ในชีวติ ประจาวนั บรหิ ารเวลาเรียน
และการทางานได้

5. กิจกรรมการเรียนการสอนหรอื การเรยี นรู้

ขั้นตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ขั้นตอนการเรยี นหรอื กิจกรรมของผู้เรยี น

ขั้นเตรียม(จานวน.10.นาที)

1.สครูให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการการ 1. นกั เรยี นศึกษาจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั

สื่อสาร องค์ประกอบของการส่อื สาร การใชภ้ าษาเพือ่ กระบวนการสื่อสาร องค์ประกอบของการส่อื สาร

การส่ือสาร โดยต้องทราบเก่ียวกับความหมายและ ตรวจสอบว่าข้อมูลท่ศี กึ ษาครบสมบูรณ์ต่อรายวิชา

หน้าท่ีท้ัง 4 องค์ประกอบ ท้ังนี้นักเรียนต้องศึกษา จริง

เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาการใช้ภาษา และ

จดั เตรียมเนื้อหาใหพ้ ร้อมต่อการเรียน

ข้นั การสอน(จานวน 40 นาที)

2. นักเรียนนั่งฟังคาบรรยายพร้อมทั้งแลกเปล่ียนการ 2. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั กระบวนการสอ่ื สาร การ
เรียนการสอนกับครู อธิบายเน้ือหา พร้อมยกตัวอย่าง ใชภ้ าษา และแนวทางในการปฏิบตั ิเกี่ยวกับการใช้
สถานการณ์ของ เรื่อง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง ภาษา
ครุกับนักเรียน ในเรื่องของนักเรียนสามารถนาทักษะ
จากการเรียน เช่น องค์ประกอบของผู้ส่งสารและรับ
สาร เพ่ือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และแนวทาง
การพัฒนาทักษะการใช้ภาษา เช่น การพัฒนา การ
อา่ น การฟงั การดุ และการเขียน เปน็ ตน้

ขัน้ สรุป (จานวน 10 นาท)ี

3. อธิบายขอ้ ความสาคญั เกยี่ วกับองคป์ ระกอบของผู้ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หาทค่ี รอุ ธบิ าย และทาความ
สง่ สารและรบั สาร เพ่อื การสอื่ สารทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ เขา้ ใจ อนั จะนาไปทาแบบทดสอบต่อการเรยี นรูใ้ น
และแนวทางการพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษา เชน่ การ รายวชิ าต่อไป
พฒั นา การอ่าน การฟัง การดุ และการเขียน เปน็ ตน้
ทาแบบทดสอบวัดความรู้

18

6. ส่อื การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่ือสิง่ พมิ พ์
1. หนังสอื รายวิชาภาษาไทย วิชา ภาษาไทยเพื่ออาชีพ
2. ใบงานและแบบทดสอบทา้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทัศน์
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

6.3 สอ่ื ของจรงิ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7. แหล่งการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

19

8. งานที่มอบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น
1. ให้นกั เรยี นศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกบั กระบวนการส่ือสาร องคป์ ระกอบการส่อื สาร การใชภ้ าษาเพื่อการสื่อสาร
2. ใหน้ ักเรยี นศึกษาข้อมูลเกย่ี วกับความสาคญั ของภาษาไทยในงานอาชีพ
3. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู เกีย่ วกบั แนวทางในการพัฒนาการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ

8.2 ขณะเรยี น
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คาอธบิ ายเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ าย
2. นกั เรยี นตอ้ งยกตวั อยา่ งสถานการณเ์ กย่ี วกบั หวั ขอ้ ทเ่ี รยี นพรอ้ มทง้ั อธบิ ายแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สู้ อน

8.3 หลงั เรยี น
1. นกั เรยี นนาความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั รายวชิ าทเ่ี รียน เชน่ การสอ่ื สาร องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร การใช้
ภาษา แนวทางการพฒั นาแนวทางในการใชภ้ าษา
2. ทาแบบทดสอบท้ายบท

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ทเี่ กิดจากการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน

1 มีตวั อยา่ งสถานการณ์ ให้จาแนกสถานการณล์ งในองค์ประกอบของการส่อื สาร
ครเู ล็กสอนในรายวชิ าภาษาไทย โดยเริม่ สอนจากบทท่ี 1 เร่อื งกระบวนการสือ่ สาร มีเนอ้ื หาสาระเกย่ี วกับ

การสอ่ื สาร ความหมายของการสอ่ื สาร รปู แบบการสอ่ื สาร ความสาคญั ของการใช้ภาษาในการสื่อสาร ภายหลัง
จากทีเ่ รียนนักเรยี นมีการแลกเปลย่ี นความรกู้ ับครูผุ้สอนเกย่ี วกบั เรื่อสาระการเรยี นรู้ท่ีเรยี น

10. เอกสารอ้างองิ

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

11. การบรู ณาการ/ความสัมพันธก์ บั รายวิชาอ่นื

นาทกั ษะการเรียนเก่ียวกับรายวิชาเกยี่ วกบั กระบวนการส่ือสาร สามารถนาไปใช้สือ่ สารในรายวิชาอ่นื
รวมทง้ั นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั

12. หลักการประเมนิ ผลการเรียน

12.1 ก่อนเรียน
1. สังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รียนในการศกึ ษาและสนใจในการจัดเตรียมเนื้อหาและศกึ ษาเนอ้ื หาทมี่ อบหมาย
2. เตรยี มอปุ กรณก์ ารเรียนการสอนในรายวชิ าภาษาไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เพือ่ วัดความรคู้ วามเขา้ ใจ.

12.3 หลังเรยี น

20

1. ครใู หผ้ ้เู รยี นทาแบบทดสอบเพือ่ ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรียน

จดุ ประสงค์ข้อที่ 1 อธบิ ายกระบวนการส่อื สาร
1. วิธกี ารประเมนิ : แบบทดสอบเก่ียวกับองคป์ ระกอบของการสือ่ สาร.
2. เคร่อื งการประเมนิ : ใบงานแบบทดสอบ.
3. เกณฑก์ ารประเมิน : อยู่ในระดบั 60 % ขึ้นไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์การพดู ของผเู้ รียนต้องอย่ใู นระดับ 60 % ข้นึ ไป

จดุ ประสงค์ขอ้ ที่ 2 วดั ความร้คู วามเข้าใจ
1. วิธกี ารประเมนิ : ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรู้ความเขา้ ใจ
2. เคร่อื งการประเมิน : แบบทดสอบ
3. เกณฑ์การประเมนิ : อย่ใู นระดบั 60 % ขึน้ ไป ผ่าน
4. เกณฑก์ ารผ่าน :

14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หน่วยการสอนท่ี 1 ชื่อหน่วยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ อธิบายกระบวนการสอ่ื สารได้ บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
ขอ้ คาถาม
1. องค์ประกอบกระบวนการสอ่ื สารมอี ะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กระบวนการส่ือสารมคี วามสาคญั ตอ่ อาชพี อย่างไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ภาษาไทยมคี วามสาคัญตอ่ งานอาชีพอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ควรมลี กั ษณะอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การพฒั นาตนเองให้ใช้ภาษาไทยในงานอาชีพไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ ควรปฏิบัตอิ ย่างไรอธบิ ายโดยสังเขป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

21

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. องคป์ ระกอบกระบวนการส่ือสารมีอะไรบ้าง
องคป์ ระกอบของกระบวนการสือ่ สารประกอบด้วย ผู้สง่ สาร สาร ส่ือ และผรู้ บั สาร ซง่ึ องค์ประกอบท้ัง๔

จะทางานรว่ มกัน หากขาดส่วนใด สว่ นหนงึ่ การส่อื สารยอ่ มไม่เกดิ ข้นึ หรืออืน่ ๆ ขึน้ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของผูส้ อน
2. กระบวนการสอื่ สารมคี วามสาคญั ตอ่ อาชีพอย่างไรบา้ ง

กระบวนการสอื่ สารมคี วามสาคัญต่ออาชีพ คือ การส่ือสารจะทาใหบ้ คุ คลสามารถรบั รู้ความร้สู านึกคดิ และ
ความตอ้ งการของแตล่ ะคนได้ ซงึ่ จะส่งผลให้ประสบความสาเร็จในอาชพี มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ หรอื อื่นๆขึน้ อยู่กบั
ดุลยพินจิ ของผสู้ อน
3. ภาษาไทยมคี วามสาคญั ตอ่ งานอาชพี อยา่ งไร

ภาษาไทยมคี วามสาคญั ตอ่ งานอาชพี คือ เป็นเครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการประกอบอาชีพใหป้ ระสบความสาเร็จ
ไม่ว่าจะเปน็ การตดิ ตอ่ ส่อื สาร การถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความรสู้ กึ ความสามารถสร้าง ความเข้าใจอัน
เกิดขึน้ ระหว่างกนั และยังเปน็ การรกั ษาเอกลักษณ์ชาติไทย

4. การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพควรมลี ักษณะอย่างไร
การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพควรใช้วัจนภาษาและอวจั นภาษา ทง้ั การพูด การฟัง การอ่าน และการเขยี น

เพราะจะทาให้การสอ่ื สารเกิดประสิทธิภาพ ผู้รับสารและผู้ส่งสารเกิดความเขา้ ใจตรงกัน ทาให้ประสบความสาเร็จ
ในงานอาชพี

5. การพัฒนาตนเองใหใ้ ชภ้ าษาไทยในงานอาชพี ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ควรปฏิบตั อิ ยา่ งไรอธบิ ายโดยสังเขป
การพฒั นาตนเองใหใ้ ชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ควรฝึกทักษะทั้งดา้ นฟัง พดู อา่ น

และเขียน โดยจะตอ้ งฝึกฝนไปพร้อมๆ กนั การเปน็ ผู้พูดและผู้พดู และผู้เขียนทีด่ ยี อ่ มมาจาก การฟัง

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนท่ี 1 ชื่อหน่วยการสอน การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ

วัตถุประสงค์ เพื่อ อธบิ ายกระบวนการสอ่ื สารได้ บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้

ข้อคาถาม

1. ความสาเรจ็ ของการสอ่ื สารขึ้นอยู่กบั องค์ประกอบใดสาคัญทีส่ ดุ

1. ผู้สอื่ สาร 2. สาร

3. ส่อื 4. ผู้รับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตวั บง่ ชว้ี า่ สารประสบความสาเร็จคอื ข้อใด

1. ผูส้ ่งสารนาเสนอสารได้อยา่ งชดั เจน

2. มสี อ่ื หรือชอ่ งทางการส่อื สารทหี่ ลากหลาย

3. ผ้รู ับสารตอบสนองไดต้ รงตามความตอ้ งการของผสู้ ่งสาร

4. ผู้รับสารมีปฏิกริ ยิ าตอ่ สาร

5. เนอื้ หาสาระของสารเปน็ ประโยชน์ทงั้ ต่อบคุ คล องค์กร สังคม

3. ตัวอย่างการสอื่ สารในขอ้ ใดทสี่ ะท้อนความสมั พนั ธ์ของการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาได้ชัดเจนมากที่สดุ

1. รายการขา่ วประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

22

4. รายการวิทยุ

5. นกั การเมือง

4. อาชีพใดท่ภี าษาทา่ ทางมีอทิ ธิพลตอ่ ความสาเร็จมากท่สี ดุ

1. นกั พูด 2. นักร้อง

3. นกั สืบ 4. นักแสดง

5. นักการเมือง

5. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

1. การสื่อสารผ่านอนิ เตอร์เน็ตทาใหก้ ารใช้ภาษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครื่องมือสอื่ สารระดับบุคคลทแี่ พรห่ ลายมากทส่ี ุดในปจั จุบันคอื สอ่ื ออนไลน์

3. การส่อื สารผา่ นโทรทศั น์ไม่จาเปน็ ตอ้ งใช้อวัจนภาษา เพราะใช้วาจาส่ือสารเทา่ น้นั

4. การส่อื สารจาเปน็ ตอ้ งใช้อวจั นภาษาควบคู่ไปกับวัจนภาษา เพราะชว่ ยใหก้ ารสื่อสารมคี วามชดั เจน

ยิ่งขึน้

5. ขอ้ 1 และข้อ 3 ถกู ตอ้ ง

6. สายชลกาลังแสดงวสิ ยั ทัศน์หาเสยี งเปน็ นายกองค์การวชิ าชีพ โดยใช้ไมโครโฟนทีม่ เี สยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟงั ไมร่ ู้

เร่ืองชัดเจน ปญั หาอุปสรรคของกระบวนการสื่อสารน้คี ือขอ้ ใด

๑. สื่อ คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วิสยั ทัศนใ์ นการหาเสยี ง

๓. ผู้สง่ สาร คอื สายชล ๔. ผู้รบั สาร คือ ผ้เู รียนฟังไมร่ เู้ รือ่ ง

๕. ขอ้ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ข้อใดจัดเป็นการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ท่มี ีประสทิ ธภิ าพท่ีสุด

๑. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สังเกต-จดจา-คน้ คว้า-ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พัฒนา

๓. ค้นคว้า-สงั เกต-จดจา-ปฏบิ ัต-ิ ประเมินตนเอง-พัฒนา

๔. คน้ คว้า-จดจา-สังเกต-ประเมินตนเอง-ปรับปรุง-พัฒนา

๕. สังเกต-จดจา-เลยี นแบบ-ปฏบิ ัต-ิ ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในขอ้ ใดที่มีความสามารถในการพฒั นาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ่สี ุด

๑. ปัทมนนั ต์ชมละครโทรทัศนท์ กวนั อยา่ งน้อยวนั ละ ๒ ชวั่ โมง เพอ่ื พัฒนาการเปน็ ผู้ฟังผชู้ มทด่ี ี

๒. กติ ติชมรายการโทรทศั น์ตงั้ แตเ่ วลาหน่งึ ทุม่ ถึงเท่ียงคืนทุกคืน ท้งั รายการ ขา่ ว ละคร เพลง ภาพยนตร์

โฆษณา พรอ้ มบันทึกประเด็นที่นา่ สนใจ

๓. สมศักดิเ์ ลอื กสถานวี ทิ ยทุ ีม่ คี ณุ ภาพและเปิดฟังตลอดทั้งวันขณะทางาน ทาใหเ้ รยี นรลู้ ักษณะของผจู้ ัด

รายการวิทยทุ มี่ ปี ระสิทธิภาพ

๔. ไตรภพเอาใจใสบ่ คุ คลรอบขา้ งเสมอและเป็นนกั ฟังท่ีดี หลีกเลย่ี งการโต้แยง้ พร้อมทั้งพยายาม

ประนปี ระนอมเม่อื เพอื่ นร่วมงานมขี อ้ ขดั แย้งกัน

๕. ปัญญาอา่ นข้าวทุกวนั และอา่ นออกเสียงก่อนนอนทุกคนื โดยตั้งใจอา่ นให้เหมอื นผปู้ ระกาศขา่ วใน

วทิ ยกุ ระจายเสยี งและโทรทศั น์

๙. ขอ้ ใดกล่าวสมเหตุสมผลมากที่สุด

๑. ทักษะการใช้ภาษาไทยในชีวติ และการทางานมากทส่ี ุดคอื ทกั ษะการรบั สาร ดังนั้นต้องฝึกฝนการฟัง

และการอ่านใหม้ ากกวา่ การพูดและการเขยี น

๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทีม่ ีอิทธิพลต่อการโนม้ นา้ วใจมากที่สดุ คือทกั ษะการส่งสาร ดงั น้นั ตอ้ งฝกึ ฝนการ

พูดและการเขียนให้มากกวา่ การฟังและการอา่ น


Click to View FlipBook Version