The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นิกร สระครบุรี, 2021-04-06 19:32:06

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่ออาชีพ 63

107

2. ผสู้ ื่อสาร 2. สาร

3. สื่อ 4. ผู้รบั สาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบง่ ช้ีว่าสารประสบความสาเรจ็ คอื ข้อใด

1. ผสู้ ง่ สารนาเสนอสารไดอ้ ยา่ งชัดเจน

2. มสี อ่ื หรอื ชอ่ งทางการส่ือสารที่หลากหลาย

3. ผูร้ ับสารตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผู้ส่งสาร

4. ผรู้ ับสารมปี ฏิกริ ิยาต่อสาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเป็นประโยชน์ท้งั ต่อบุคคล องคก์ ร สงั คม

3. ตวั อย่างการสอื่ สารในข้อใดทส่ี ะท้อนความสมั พันธ์ของการใช้วัจนภาษา และอวัจนภาษาได้ชดั เจนมากท่สี ุด

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวทิ ยุ

5. นกั การเมอื ง

4. อาชพี ใดทภี่ าษาทา่ ทางมอี ทิ ธพิ ลต่อความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

2. นกั พดู 2. นกั รอ้ ง

3. นักสบื 4. นักแสดง

5. นกั การเมอื ง

5. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอร์เน็ตทาให้การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมอื สอ่ื สารระดบั บุคคลที่แพรห่ ลายมากที่สุดในปจั จุบนั คือส่ือออนไลน์

3. การสื่อสารผ่านโทรทศั นไ์ มจ่ าเปน็ ต้องใช้อวัจนภาษา เพราะใชว้ าจาส่ือสารเทา่ นน้ั

4. การส่อื สารจาเปน็ ตอ้ งใชอ้ วัจนภาษาควบคูไ่ ปกบั วจั นภาษา เพราะชว่ ยให้การส่ือสารมีความชัดเจน

ยิง่ ขนึ้

5. ขอ้ 1 และข้อ 3 ถกู ต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ัยทศั นห์ าเสียงเปน็ นายกองค์การวิชาชพี โดยใช้ไมโครโฟนทม่ี ีเสยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู ร่อื งชัดเจน ปัญหาอปุ สรรคของกระบวนการสือ่ สารน้ีคอื ขอ้ ใด

๑. สอ่ื คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วสิ ยั ทัศน์ในการหาเสยี ง

๓. ผูส้ ง่ สาร คือสายชล ๔. ผรู้ บั สาร คือ ผู้เรียนฟงั ไม่รเู้ รือ่ ง

๕. ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจัดเปน็ การพฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในงานอาชพี ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพท่ีสุด

๑. สังเกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-ค้นคว้า-ปฏิบตั -ิ ปรบั ปรุง-พัฒนา

๓. ค้นควา้ -สังเกต-จดจา-ปฏบิ ตั -ิ ประเมินตนเอง-พฒั นา

๔. ค้นควา้ -จดจา-สังเกต-ประเมินตนเอง-ปรบั ปรุง-พัฒนา

๕. สังเกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏบิ ัติ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บคุ คลในข้อใดที่มคี วามสามารถในการพฒั นาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ีส่ ุด

108

๑. ปทั มนนั ต์ชมละครโทรทศั นท์ กวนั อยา่ งน้อยวนั ละ ๒ ชั่วโมง เพื่อพฒั นาการเป็นผู้ฟังผู้ชมทดี่ ี
๒. กติ ตชิ มรายการโทรทศั นต์ ง้ั แต่เวลาหน่ึงทมุ่ ถงึ เทยี่ งคนื ทุกคนื ท้งั รายการ ข่าว ละคร เพลง
ภาพยนตรโ์ ฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นท่ีนา่ สนใจ
๓. สมศกั ดเิ์ ลอื กสถานีวิทยทุ ม่ี คี ณุ ภาพและเปดิ ฟงั ตลอดทั้งวนั ขณะทางาน ทาให้เรียนรลู้ ักษณะของผู้
จัดรายการวิทยุทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
๔. ไตรภพเอาใจใส่บคุ คลรอบขา้ งเสมอและเปน็ นกั ฟังทด่ี ี หลีกเลย่ี งการโตแ้ ยง้ พรอ้ มทั้งพยายาม
ประนปี ระนอมเมื่อเพอื่ นรว่ มงานมีข้อขัดแยง้ กัน
๕. ปัญญาอา่ นขา้ วทุกวนั และอา่ นออกเสยี งก่อนนอนทกุ คนื โดยตัง้ ใจอ่านให้เหมือนผู้ประกาศข่าวใน
วทิ ยกุ ระจายเสียงและโทรทศั น์
๙. ข้อใดกลา่ วสมเหตสุ มผลมากทีส่ ุด
๑. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในชีวติ และการทางานมากทสี่ ุดคือทักษะการรบั สาร ดังนั้นต้องฝกึ ฝนการฟัง
และการอ่านใหม้ ากกวา่ การพูดและการเขยี น
๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การโนม้ น้าวใจมากทสี่ ุดคอื ทักษะการส่งสาร ดังน้ันต้องฝึกฝน
การพดู และการเขยี นให้มากกวา่ การฟงั และการอา่ น
๓. ควรฝึกฝนทกั ษะการใช้ภาษาไทย ท้งั การฟัง และการพดู การอา่ นและการเขียนไปพรอ้ ม ๆ กัน
เพราะการสง่ สารทด่ี ีย่อมมาจากการรบั สารทีด่ ี
๔. นักพูดทีด่ ีมาจากการเปน็ นักฟงั ท่ีดี และนกั เขียนท่ีดีมาจากการเปน็ นักอา่ นท่ีดี ดังนั้นความเปน็ นกั
ฟงั และนกั อ่านทดี่ ีจงึ มีผลต่องานอาชีพมากทส่ี ดุ
๕. ขอ้ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ตอ้ ง
๑๐. บคุ คลในขอ้ ใดสามารถสรา้ งความประทับใจตอ่ ผพู้ บเหน็ ได้มากท่ีสุด
๑. แตง่ กายภมู ิฐาน เคร่อื งประดบั ราคาแพง ท่าทางสงา่ พดู น้อย ยิม้ ยาก
๒. แต่งกายประณตี ย้มิ แย้มแจม่ ใส ไหว้ ทักทายผพู้ บเหน็ ดว้ ยถ้อยคาสุภาพ
๓. แต่งกายสะอาดเรียบร้อย ออ่ นน้อมถ่อมตน เป็นผูฟ้ ังทด่ี ี แสดงความคิดเห็นนอ้ ย เพราะเกรงใจ
ผอู้ ่นื
๔. แตง่ กายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แยม้ แจ่มใสท่ กั ทายผคู้ นทพ่ี บเหน็ อยา่ งเปน็ กนั เอง
แม้จะไมร่ ้จู ักกต็ าม
๕. แตง่ กายชดุ ไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟังทดี่ ี สังเกตผพู้ ูดและมองตาผู้พดู ตลอดเวลา

16. ใบความรู้ที่ ๑

หน่วยการสอนท่ี ๔ ช่ือหน่วยการสอน การพดู ในงานอาชีพ

109

ช่ือหัวข้อเร่ือง การพูดในงานอาชพี
๑ ความสาคญั
๑.๑ ความสาคญั ของการอา่ น
๑. เป็นการให้ขา่ วสาร
๒. เปน็ การสรา้ งความสนใจ
๓. เปน็ การสร้างความไวว้ างใจ
๔. เปน็ การสรา้ งสรรค์จรรโลงสังคมให้ดงี าม
๑.๒ ประเภทของการพดู ในงานอาชพี

การอ่านสารในงานอาชีพ แบ่งเป็น สองประเภท คือ การอา่ นคู่มือการปฏบิ ัตงิ านและการอ่านคมู่ ือการใช้
อุปกรณ์
๓. แนวปฏิบัติเกย่ี วกบั การพูดในงานอาชีพ

การใชภ้ าษาไทยในการอาชีพปรากฏทงั้ ในรูปแบบวัจนภาษาและอวจั นภาษา ด้านการฟงั การอ่าน
การพดู และการเขยี น เชน่ การแสดงมารยาท บคุ ลกิ ภาพไมเ่ หมาะสม ยอ่ มส่งผลใหก้ ารสอ่ื สารไมม่ ี
ประสทิ ธิภาพ

แนวทางในการพฒั นาตนเอง
๑. การพัฒนาด้านการฟงั และการดู
- ควรสงั เกตการณ์ใช้ภาษาในชีวิตประจาวนั
-ฝึกการฟังอย่างมสี ติมสี มาธิ
-ศึกษาเกีย่ วกับการใชภ้ าษาใหถ้ กู ตอ้ ง
๒. การพัฒนาด้านการอ่าน
-ชมและสังเกตการณ์อ่านข่าวสารคดี
-พัฒนาตนเองให้เปน็ นักอา่ นอย่างตอ่ เน่ือง
-อา่ นออกเสียงอย่างต่อเน่ือง อ่ายอย่างน้อย ๒ ช่วั โมง
-อ่านออกเสยี งทุกวนั
-จบั ประเด็นเรอ่ื งทอ่ี ่าน
-เลอื กเนอ้ื หาสาระทอ่ี ่านอย่างเหมาะสม
-ศึกษารปู แบบการเขียนและวรรณกรรมประเภทตา่ ง ๆ
๓. การพฒั นาดา้ นการพดู
-ควรสังเกตการณ์พูดในชวี ิตประจาวัน
-ควรศึกษาเกี่ยวกบั การพดู ท่ถี ูกต้อง
๔. การพัฒนาทกั ษะการเขียน
-ควรเขยี นอยา่ งตง้ั ใจ
-มคี วามรอบคอบระมดั ระวังในการเขยี น
-ฝกึ เขียนในวิถชี ีวติ

17. ใบงานท่ี ๒

หนว่ ยการสอนท่ี ๔ ชื่อหนว่ ยการสอน การพดู ในงานอาชพี

110

ชื่อหวั ข้อเรอ่ื ง การพดู ในงานอาชีพ
จดุ ประสงค์
1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป

1. อธบิ ายการส่อื สารได้
2. บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้
2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. แสดงบุคลิกภาพในการใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
2. มีเจตคตทิ ดี่ ีในการเรยี นเร่ืองการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ และรกั ษ์ค่านิยมหลัก 12 ประการ

ลาดบั กิจกรรม/ลาดบั การปฏบิ ัติ

1. นกั เรยี นรบั ฟงั คาอธบิ ายบรรยายในชน้ั เรยี นเกีย่ วกบั การสอ่ื สารในงานอาชพี พรอ้ มทง้ั การยกตวั อยา่ ง
แลกเปลยี่ นความรูก้ ับนกั เรียน
2. นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ ในคาบการจดั การเรยี นการสอนของครผู สู้ อน
3. ครูผสู้ อนสรปุ ผลการจัดการเรยี นการสอน นักเรียนทางานทไ่ี ด้รับมอบหมายจากครผู สู้ อนเกีย่ วกบั การส่อื สาร
ในงานอาชพี

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. การมีสว่ นร่วมในช้ันเรยี นของนกั เรยี น
2. สง่ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมายปฏิบตั ิตามทคี่ รูผู้สอนได้แนะนา
3. มพี ฤตกิ รรมทเ่ี รียบร้อยระหวา่ งเรียน

18. แบบประเมินผล
1 ก่อนเรยี น
1.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2 ขณะเรียน
2.1 การถาม – ตอบ ฝึกปฏบิ ตั ิ และนาเสนอ
3 หลงั เรยี น
3.1 ตรวจสอบแบบทดสอบหลงั เรียน

19. แบบฝกึ หดั

๑.แบบทดสอบทา้ ยบท กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
๒. แบบทดสอบทา้ ยบท(ปรนยั )

๓. ใบงานสร้างความเขา้ ใจระหวา่ งการเรียน

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นร้แู บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลกั
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

111

20.1 สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรียมการสอน

1. จัดหน่วยการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ และด้านจิตพสิ ัย

3. เตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์ สอ่ื นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้กอ่ นเข้า

สอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวิธกี ารนาเข้าสบู่ ทเรยี นทน่ี ่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพอื่ ช่วยใหผ้ ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จัดกิจกรรมทีส่ ง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นคน้ คว้าเพอื่ หาคาตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมท่เี นน้ กระบวนการคิด ( คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตุน้ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ เ่ี ชอื่ มโยงกบั ชวี ติ จริงโดยนาภูมิปญั ญา/บูรณาการเขา้ มามีส่วนรว่ ม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสรมิ แรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกตอ้ ง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ แู ลผ้เู รยี น อย่างทวั่ ถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ด้านสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้

16. ใช้สื่อท่ีเหมาะสมกับกิจกรรมและศกั ยภาพของผเู้ รยี น

17. ใช้ส่ือ แหลง่ การเรยี นร้อู ย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจรงิ เอกสาร

ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอร์เนต็ เป็นต้น

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรอื ผูท้ ีเ่ กย่ี วขอ้ งมีส่วนรว่ ม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยี่ยม 4 = ปฏิบัติดี 3 = ปฏบิ ตั ิ รวม
พอใช้ ค่าเฉล่ีย

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏิบัติ

112

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ญั หา

ปญั หาทพี่ บ แนวทางแก้ปญั หา

ด้านการเตรียมการสอน

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ด้านการวัดและประเมินผล
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

113

................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ด้านอ่ืนๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ)
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บันทกึ การนเิ ทศและติดตาม

วนั -เดอื น- เวลา รายการนิเทศและตดิ ตาม ชือ่ -สกลุ ผู้นิเทศ ตาแหนง่

ปี

114

99

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวิชา 20000 1102 วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ
หน่วยที่ 6 ชอ่ื หนว่ ย การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
ชอ่ื เรือ่ ง การเขียนจดหมายกจิ ธุระ จานวน 2 ชั่วโมง

1. สาระสาคญั

จดหมายกิจธุระเป็นจดหมายท่ีบุคคลหน่ึงเขียนถึงอีกบุคคลหน่ึง หรือบุคคลหนึ่งเขียนติดต่อ
กบั บรษิ ทั หรือองค์กร

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

๑. แสดงความรเู้ ก่ียวกับการเขยี นจดหมายกิจธุระตามหลักการและขน้ั ตอน
๒. ประยุกต์การเขียนจดหมายกิจธุระในงานอาชีพได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
๑. บอกกลวิธีในการเขียนจดหมายกิจธรุ ะได้
๒. บอกประเภทของจดหมายกจิ ธรุ ะ

3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
๑. เขยี นจดหมายกิจธรุ ะได้
๓. มีมารยาทในการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ
๕. มเี จตคตทิ ่ีดใี นการเรยี นเร่ืองการเขียนจดหมายกิจธุระ และรกั ษ์ค่านิยมหลัก ๑๒ ประการของ

ไทย

4. เน้อื หาสาระการสอน/การเรียนรู้

4.1 ดา้ นความรู้
๑. แบ่งกลุ่มผู้เรียน เลือกประธานและกาหนดหน้าที่สมาชกิ คนอื่นๆ ให้ปฏิบัติงานในกลุ่ม ร่วมกัน
ศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเรื่องความสาคัญและประเภทของการอ่านในงานอาชีพ หลักการอ่านสารในงาน
อาชพี การอ่านคูม่ ือในการปฏบิ ัติงาน และการอ่านคู่มือการใช้อปุ กรณ์หรือรายละเอยี ดของผลติ ภณั ฑ์
๒. ต้งั คาถามใหผ้ ู้เรียนเสนอขอ้ มูลจากประสบการณท์ ่รี ับรูด้ ังตัวอยา่ งน้ี

๒.๑ ความสาคญั และประเภทของการอ่านในงานอาชพี
- ความสาคัญของการอ่านมอี ะไรบ้าง
- การอ่านสารในงานอาชพี มีอะไรบ้าง

๒.๒ หลักการอา่ นสารในงานอาชีพ
- การอ่านสารในงานอาชพี โดยท่ัวไปมีหลักสาคัญอย่างไร

๒.๓ การอา่ นคมู่ ือในการปฏบิ ัตงิ าน
- แนวปฏิบตั ิเกย่ี วกับการอ่านค่มู ือในการปฏิบตั งิ านไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง

๒.๔ การอา่ นคู่มือการใช้อุปกรณ์หรือรายละเอยี ดของผลติ ภณั ฑ์
- แนวปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การอา่ นคู่มอื การใช้อปุ กรณ์หรอื รายละเอยี ดของผลติ ภัณฑไ์ ด้แก่

100

4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
จากการที่ได้ศกึ ษาเรยี นรู้เกี่ยวกับ กระบวนการสื่อสาร ความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ และ
แนวทางเก่ยี วกับการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ นกั เรยี นสามารถนาทกั ษะจากการเรยี น เชน่ องคป์ ระกอบของผู้
ส่งสารและรับสาร เพอื่ การสื่อสารที่มีประสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษา เชน่ การพฒั นา
การอ่าน การฟงั การดุ และการเขียน เปน็ ตน้

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง

นกั เรยี นเรยี นมคี วามรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในการสือ่ สาร ใชท้ กั ษะแยกองคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล สามารถนาความรทู้ ่ีเรยี นไปประกอบใชใ้ นชวี ติ ประจาวันบรหิ าร
เวลาเรียนและการทางานได้

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรอื กิจกรรมครู ขัน้ ตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของผู้เรยี น

ขน้ั เตรยี ม(จานวน.10.นาท)ี
1.สครูให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลเก่ียวกับกระบวนการ 1. นกั เรยี นศึกษาจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั
การสื่อสาร องค์ประกอบของการสื่อสาร การใช้ กระบวนการส่อื สาร องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ภาษาเพ่ือการสื่อสาร โดยต้องทราบเก่ียวกับ ตรวจสอบว่าข้อมลู ทศ่ี ึกษาครบสมบูรณ์ตอ่ รายวชิ า
ความหมายและหน้าที่ท้ัง 4 องค์ประกอบ ท้ังนี้ จริง
นั ก เ รี ย น ต้ อ ง ศึ ก ษ า เ ก่ี ย ว กั บ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร
พัฒนาการใช้ภาษา และจัดเตรียมเนื้อหาให้พร้อม
ต่อการเรยี น

ขน้ั การสอน(จานวน 40 นาท)ี
2. นักเรียนนั่งฟังคาบรรยายพร้อมทั้งแลกเปล่ียน 2. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั กระบวนการสอ่ื สาร
การเรียนการสอนกับครู อธิบายเนื้อหา พร้อม การใชภ้ าษา และแนวทางในการปฏิบตั เิ กี่ยวกบั
ยกตัวอย่างสถานการณ์ของ เรื่อง แลกเปลี่ยน การใชภ้ าษา
เรียนรู้ระหว่างครุกับนักเรียน ในเรื่องของนักเรียน
สามารถนาทักษะจากการเรียน เช่น องค์ประกอบ
ของผู้ส่งสารและรับสาร เพ่ือการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทักษะการใช้
ภาษา เช่น การพัฒนา การอ่าน การฟัง การดุ และ
การเขียน เปน็ ต้น
ขนั้ สรปุ (จานวน 10 นาที)

101

3. อธิบายขอ้ ความสาคญั เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หาทค่ี รอุ ธบิ าย และทาความ
ของผู้ ส่งสารและรับสาร เพอื่ การ เขา้ ใจ อนั จะนาไปทาแบบทดสอบต่อการเรยี นรใู้ น
สอื่ สารทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นา รายวิชาตอ่ ไป
ทกั ษะการใชภ้ าษา เชน่ การพฒั นา การอ่าน การ
ฟัง การดุ และการเขียน เป็นต้น
ทาแบบทดสอบวัดความรู้

6. สื่อการเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่อื สิง่ พิมพ์
1. หนงั สือรายวิชาภาษาไทย วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ
2. ใบงานและแบบทดสอบทา้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

6.3 สื่อของจรงิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น
1. ให้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลเกีย่ วกับการฟงั และดูสารในงานอาชพี องคป์ ระกอบการฟังและดูสารในงานอาชีพ

102

2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาข้อมูลเกย่ี วกับความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ
3. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาข้อมลู เกยี่ วกบั แนวทางในการพฒั นาการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี

8.2 ขณะเรยี น
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คาอธบิ ายเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ าย
2. นกั เรยี นตอ้ งยกตวั อยา่ งสถานการณเ์ กย่ี วกบั หวั ขอ้ ทเ่ี รยี นพรอ้ มทง้ั อธบิ ายแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สู้ อน

8.3 หลงั เรียน
1. นกั เรยี นนาความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั รายวชิ าทเ่ี รียน เชน่ การสอ่ื สาร องคป์ ระกอบของการสือ่ สาร การใช้
ภาษา แนวทางการพัฒนาแนวทางในการใชภ้ าษา
2. ทาแบบทดสอบท้ายบท

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ท่เี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น

1 มตี วั อยา่ งสถานการณ์ ใหจ้ าแนกสถานการณ์ลงในองคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ครเู ลก็ สอนในรายวชิ าภาษาไทย โดยเริ่มสอนจากบทที่ 1 เรือ่ งกระบวนการสอื่ สาร มเี นอ้ื หาสาระ

เกี่ยวกบั การส่ือสาร ความหมายของการส่ือสาร รปู แบบการส่ือสาร ความสาคัญของการใชภ้ าษาในการสือ่ สาร
ภายหลงั จากท่เี รียนนักเรยี นมกี ารแลกเปลี่ยนความรู้กับครผู ุ้สอนเกี่ยวกับเรอื่ สาระการเรียนรู้ทเี่ รียน

10. เอกสารอ้างอิง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั รายวชิ าอื่น

นาทักษะการเรียนเก่ียวกับรายวิชาเกี่ยวกบั กระบวนการสอ่ื สาร สามารถนาไปใชส้ ื่อสารในรายวิชาอืน่
รวมทัง้ นาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี นในการศึกษาและสนใจในการจดั เตรยี มเน้อื หาและศึกษาเน้ือหาท่มี อบหมาย
2. เตรยี มอปุ กรณ์การเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เพ่อื วดั ความรู้ความเข้าใจ.

12.3 หลงั เรยี น
1. ครูใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

103

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 อธบิ ายกระบวนการส่ือสาร
1. วธิ ีการประเมิน : แบบทดสอบเก่ียวกับองคป์ ระกอบของการส่ือสาร.
2. เครือ่ งการประเมนิ : ใบงานแบบทดสอบ.
3. เกณฑก์ ารประเมนิ : อยูใ่ นระดับ 60 % ข้ึนไป ผา่ น
4. เกณฑก์ ารผ่าน : เกณฑ์การพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดับ 60 % ขนึ้ ไป

จุดประสงค์ข้อท่ี 2 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
1. วธิ กี ารประเมิน : ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เพอ่ื วดั ความรู้ความเขา้ ใจ
2. เคร่ืองการประเมิน : แบบทดสอบ
3. เกณฑ์การประเมนิ : อยใู่ นระดับ 60 % ขน้ึ ไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผ่าน :

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการสอนที่ 6 ช่อื หน่วยการสอน การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ
วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ อธบิ ายกระบวนการส่ือสารได้ บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
ข้อคาถาม
1. การเขียนจดหมายกิจธุระหมายถึงอะไร จงอธบิ ายและยกตัวอย่างประกอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กลวธิ ีการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะมีอะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มารยาทในการเขยี นจดหมายกจิ ธุระมอี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เหตุใดการเขียนจดหมายกิจธุระจงึ ตอ้ งใชภ้ าษาที่สภุ าพและเรยี บรอ้ ย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การเขียนจดหมายกจิ ธุระตา่ งจากการเขียนจดหมายส่วนตัวอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

104

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. จงอธิบายการอา่ นเพ่ือจับประเดน็ สาคญั พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
จบั ใจความของสารวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมือ่ ไร อยา่ งไร เชน่ เจ้าหนา้ ท่อี ่านคาสงั่ มอบหมายงาน

2. จงอธบิ ายการอ่านสารในงานอาชพี โดยสังเขป
คมุ่ อื การปฏิบัตงิ าน คู่มือการใชอ้ ุปกรณห์ รือผลติ ภณั ฑ์

3. การอา่ นคมู่ อื การปฏิบัตงิ านมหี ลกั อยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อย่างประกอบ

เพ่ือให้ผปู้ ฏบิ ัติ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เช่น ระเบยี บ คูม่ อื การปฏบิ ัตงิ าน

4. การอา่ นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์มวี ตั ถุประสงคแ์ ละหลักการอยา่ งไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อย่าง
ปจั จบุ ันคู่มอื การใชอ้ ปุ กรณ์และรายละเอียดของผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ ไดเ้ ข้ามามีบทบาทมชี วี ติ และการ

ทางานมากข้ึน

5. จงอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานและคมู่ อื การใช้อุปกรณ์
คมู่ ือการปฏิบัตงิ าน คอื สงิ่ ทใ่ี ชอ้ ธบิ ายทศิ ทาง
คมู่ ือการใช้อุปกรณ์ คือ ศกึ ษารายละเอียดคู่มืออุปกรณ์

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนท่ี 2 ชื่อหน่วยการฟงั และดสู ารในงานอาชพี

วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ อธิบายกระบวนการสือ่ สารได้ บอกความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้

ขอ้ คาถาม

1. ความสาเร็จของการสือ่ สารขนึ้ อยูก่ ับองค์ประกอบใดสาคัญที่สดุ

1. ผูส้ ่ือสาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผู้รับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตวั บ่งช้วี า่ สารประสบความสาเร็จคอื ข้อใด

1. ผสู้ ง่ สารนาเสนอสารได้อยา่ งชดั เจน

2. มสี ่อื หรือชอ่ งทางการส่ือสารท่ีหลากหลาย

3. ผู้รับสารตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผ้สู ่งสาร

4. ผรู้ บั สารมีปฏกิ ริ ยิ าต่อสาร

5. เนื้อหาสาระของสารเป็นประโยชน์ท้งั ต่อบุคคล องค์กร สังคม

3. ตวั อย่างการสอ่ื สารในข้อใดทส่ี ะทอ้ นความสัมพันธข์ องการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาไดช้ ดั เจนมากท่สี ดุ

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวทิ ยุ

5. นกั การเมือง

105

4. อาชพี ใดทีภ่ าษาทา่ ทางมีอทิ ธิพลตอ่ ความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

1. นักพูด 2. นักร้อง

3. นักสืบ 4. นักแสดง

5. นักการเมอื ง

5. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ทาใหก้ ารใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมือสอื่ สารระดับบุคคลที่แพรห่ ลายมากท่ีสดุ ในปจั จบุ นั คอื สือ่ ออนไลน์

3. การส่อื สารผา่ นโทรทศั น์ไม่จาเป็นตอ้ งใช้อวจั นภาษา เพราะใช้วาจาสื่อสารเทา่ นัน้

4. การส่ือสารจาเป็นตอ้ งใชอ้ วัจนภาษาควบค่ไู ปกบั วัจนภาษา เพราะชว่ ยให้การส่ือสารมีความชัดเจน

ยง่ิ ขน้ึ

5. ข้อ 1 และข้อ 3 ถูกต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ยั ทศั นห์ าเสียงเปน็ นายกองคก์ ารวชิ าชีพ โดยใช้ไมโครโฟนที่มเี สยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู ร่ืองชดั เจน ปัญหาอุปสรรคของกระบวนการสอ่ื สารนคี้ อื ขอ้ ใด

๑. สือ่ คอื ไมโครโฟน ๒. สาร คอื วสิ ยั ทัศน์ในการหาเสียง

๓. ผ้สู ่งสาร คือสายชล ๔. ผู้รับสาร คือ ผู้เรยี นฟังไม่ร้เู รื่อง

๕. ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ข้อใดจดั เป็นการพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพที่สุด

๑. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-ค้นคว้า-ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พฒั นา

๓. ค้นคว้า-สงั เกต-จดจา-ปฏิบตั -ิ ประเมนิ ตนเอง-พฒั นา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นา

๕. สงั เกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏบิ ตั ิ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในข้อใดท่มี คี วามสามารถในการพัฒนาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ีส่ ุด

๑. ปทั มนนั ตช์ มละครโทรทศั นท์ กวัน อย่างนอ้ ยวันละ ๒ ช่วั โมง เพือ่ พฒั นาการเป็นผู้ฟงั ผชู้ มทด่ี ี

๒. กิตตชิ มรายการโทรทศั นต์ ง้ั แตเ่ วลาหนง่ึ ทุม่ ถงึ เทย่ี งคนื ทกุ คืน ทง้ั รายการ ขา่ ว ละคร เพลง

ภาพยนตรโ์ ฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นที่นา่ สนใจ

๓. สมศกั ด์ิเลือกสถานวี ทิ ยทุ ม่ี ีคุณภาพและเปดิ ฟังตลอดทัง้ วนั ขณะทางาน ทาให้เรยี นรลู้ ักษณะของผู้

จดั รายการวิทยทุ ่ีมปี ระสิทธภิ าพ

๔. ไตรภพเอาใจใสบ่ ุคคลรอบขา้ งเสมอและเป็นนกั ฟงั ทดี่ ี หลีกเลย่ี งการโตแ้ ย้ง พร้อมทง้ั พยายาม

ประนปี ระนอมเม่อื เพื่อนร่วมงานมขี อ้ ขดั แยง้ กัน

๕. ปัญญาอ่านข้าวทกุ วันและอ่านออกเสียงก่อนนอนทกุ คืน โดยต้ังใจอ่านใหเ้ หมอื นผปู้ ระกาศขา่ วใน

วิทยุกระจายเสียงและโทรทศั น์

๙. ข้อใดกล่าวสมเหตุสมผลมากท่ีสุด

๑. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในชวี ติ และการทางานมากทสี่ ดุ คือทกั ษะการรบั สาร ดงั นัน้ ตอ้ งฝกึ ฝนการฟัง

และการอา่ นให้มากกว่าการพดู และการเขยี น

๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการโนม้ นา้ วใจมากทีส่ ดุ คือทกั ษะการสง่ สาร ดงั นั้นต้องฝกึ ฝน

การพูดและการเขยี นใหม้ ากกว่าการฟังและการอ่าน

106

๓. ควรฝกึ ฝนทกั ษะการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง และการพูด การอา่ นและการเขียนไปพร้อม ๆ กัน
เพราะการส่งสารท่ีดียอ่ มมาจากการรับสารทดี่ ี

๔. นักพดู ท่ีดมี าจากการเปน็ นกั ฟังท่ีดี และนกั เขียนที่ดมี าจากการเป็นนักอ่านท่ีดี ดงั น้ันความเป็นนัก
ฟงั และนกั อา่ นท่ดี ีจึงมผี ลต่องานอาชีพมากท่สี ุด

๕. ขอ้ ๑. และขอ้ ๒. ถูกตอ้ ง
๑๐. บุคคลในข้อใดสามารถสรา้ งความประทบั ใจตอ่ ผ้พู บเหน็ ได้มากทส่ี ุด

๑. แตง่ กายภูมิฐาน เคร่ืองประดับราคาแพง ทา่ ทางสงา่ พดู นอ้ ย ยิ้มยาก
๒. แตง่ กายประณีต ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ไหว้ ทกั ทายผูพ้ บเหน็ ดว้ ยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แต่งกายสะอาดเรยี บรอ้ ย อ่อนนอ้ มถ่อมตน เป็นผู้ฟงั ท่ดี ี แสดงความคดิ เห็นน้อย เพราะเกรงใจ
ผู้อ่นื
๔. แต่งกายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แยม้ แจ่มใส่ทกั ทายผคู้ นทพี่ บเห็นอย่างเป็นกนั เอง
แมจ้ ะไมร่ ้จู กั กต็ าม
๕. แตง่ กายชดุ ไทยภูมิฐาน มมี ารยาทในการฟังทีด่ ี สังเกตผพู้ ูดและมองตาผพู้ ูดตลอดเวลา

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. ความสาเร็จของการส่อื สารขึ้นอยกู่ บั องค์ประกอบใดสาคญั ทสี่ ุด

107

2. ผสู้ ื่อสาร 2. สาร

3. สื่อ 4. ผู้รบั สาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบง่ ช้ีว่าสารประสบความสาเรจ็ คอื ข้อใด

1. ผสู้ ง่ สารนาเสนอสารไดอ้ ยา่ งชัดเจน

2. มสี อ่ื หรอื ชอ่ งทางการส่ือสารที่หลากหลาย

3. ผูร้ ับสารตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผู้ส่งสาร

4. ผรู้ ับสารมปี ฏิกริ ิยาต่อสาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเป็นประโยชน์ท้งั ต่อบุคคล องคก์ ร สงั คม

3. ตวั อย่างการสอื่ สารในข้อใดทส่ี ะท้อนความสมั พันธ์ของการใช้วัจนภาษา และอวัจนภาษาได้ชดั เจนมากท่สี ุด

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวทิ ยุ

5. นกั การเมอื ง

4. อาชพี ใดทภี่ าษาทา่ ทางมอี ทิ ธพิ ลต่อความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

2. นกั พดู 2. นกั รอ้ ง

3. นักสบื 4. นักแสดง

5. นกั การเมอื ง

5. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอร์เน็ตทาให้การใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมอื สอ่ื สารระดบั บุคคลที่แพรห่ ลายมากที่สุดในปจั จุบนั คือส่ือออนไลน์

3. การสื่อสารผ่านโทรทศั นไ์ มจ่ าเปน็ ต้องใช้อวัจนภาษา เพราะใชว้ าจาส่ือสารเทา่ นน้ั

4. การส่อื สารจาเปน็ ตอ้ งใชอ้ วัจนภาษาควบคูไ่ ปกบั วจั นภาษา เพราะชว่ ยให้การส่ือสารมีความชัดเจน

ยิง่ ขนึ้

5. ขอ้ 1 และข้อ 3 ถกู ต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ัยทศั นห์ าเสียงเปน็ นายกองค์การวิชาชพี โดยใช้ไมโครโฟนทม่ี ีเสยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู ร่อื งชัดเจน ปัญหาอปุ สรรคของกระบวนการสือ่ สารน้ีคอื ขอ้ ใด

๑. สอ่ื คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วสิ ยั ทัศน์ในการหาเสยี ง

๓. ผูส้ ง่ สาร คือสายชล ๔. ผรู้ บั สาร คือ ผู้เรียนฟงั ไม่รเู้ รือ่ ง

๕. ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจัดเปน็ การพฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในงานอาชพี ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพท่ีสุด

๑. สังเกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-ค้นคว้า-ปฏิบตั -ิ ปรบั ปรุง-พัฒนา

๓. ค้นควา้ -สังเกต-จดจา-ปฏบิ ตั -ิ ประเมินตนเอง-พฒั นา

๔. ค้นควา้ -จดจา-สังเกต-ประเมินตนเอง-ปรบั ปรุง-พัฒนา

๕. สังเกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏบิ ัติ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บคุ คลในข้อใดที่มคี วามสามารถในการพฒั นาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ีส่ ุด

108

๑. ปทั มนนั ต์ชมละครโทรทศั นท์ กวนั อยา่ งน้อยวนั ละ ๒ ชั่วโมง เพื่อพฒั นาการเป็นผู้ฟังผู้ชมทดี่ ี
๒. กติ ตชิ มรายการโทรทศั นต์ ง้ั แต่เวลาหน่ึงทมุ่ ถงึ เทยี่ งคนื ทุกคนื ท้งั รายการ ข่าว ละคร เพลง
ภาพยนตรโ์ ฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นท่ีนา่ สนใจ
๓. สมศกั ดเิ์ ลอื กสถานีวิทยทุ ม่ี คี ณุ ภาพและเปดิ ฟงั ตลอดทั้งวนั ขณะทางาน ทาให้เรียนรลู้ ักษณะของผู้
จัดรายการวิทยุทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ
๔. ไตรภพเอาใจใส่บคุ คลรอบขา้ งเสมอและเปน็ นกั ฟังทด่ี ี หลีกเลย่ี งการโตแ้ ยง้ พรอ้ มทั้งพยายาม
ประนปี ระนอมเมื่อเพอื่ นรว่ มงานมีข้อขัดแยง้ กัน
๕. ปัญญาอา่ นขา้ วทุกวนั และอา่ นออกเสยี งก่อนนอนทกุ คนื โดยตัง้ ใจอ่านให้เหมือนผู้ประกาศข่าวใน
วทิ ยกุ ระจายเสียงและโทรทศั น์
๙. ข้อใดกลา่ วสมเหตสุ มผลมากทีส่ ุด
๑. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในชีวติ และการทางานมากทสี่ ุดคือทักษะการรบั สาร ดังนั้นต้องฝกึ ฝนการฟัง
และการอ่านใหม้ ากกวา่ การพูดและการเขยี น
๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ การโนม้ น้าวใจมากทสี่ ุดคอื ทักษะการส่งสาร ดังน้ันต้องฝึกฝน
การพดู และการเขยี นให้มากกวา่ การฟงั และการอา่ น
๓. ควรฝึกฝนทกั ษะการใช้ภาษาไทย ท้งั การฟัง และการพดู การอา่ นและการเขียนไปพรอ้ ม ๆ กัน
เพราะการสง่ สารทด่ี ีย่อมมาจากการรบั สารทีด่ ี
๔. นักพูดทีด่ ีมาจากการเปน็ นักฟงั ท่ีดี และนกั เขียนท่ีดีมาจากการเปน็ นักอา่ นท่ีดี ดังนั้นความเปน็ นกั
ฟงั และนกั อ่านทดี่ ีจงึ มีผลต่องานอาชีพมากทส่ี ดุ
๕. ขอ้ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ตอ้ ง
๑๐. บคุ คลในขอ้ ใดสามารถสรา้ งความประทับใจตอ่ ผพู้ บเหน็ ได้มากท่ีสุด
๑. แตง่ กายภมู ิฐาน เคร่อื งประดบั ราคาแพง ท่าทางสงา่ พดู น้อย ยิม้ ยาก
๒. แต่งกายประณตี ย้มิ แย้มแจม่ ใส ไหว้ ทักทายผพู้ บเหน็ ดว้ ยถ้อยคาสุภาพ
๓. แต่งกายสะอาดเรียบร้อย ออ่ นน้อมถ่อมตน เป็นผูฟ้ ังทด่ี ี แสดงความคิดเห็นนอ้ ย เพราะเกรงใจ
ผอู้ ่นื
๔. แตง่ กายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แยม้ แจ่มใสท่ กั ทายผคู้ นทพ่ี บเหน็ อยา่ งเปน็ กนั เอง
แม้จะไมร่ ้จู ักกต็ าม
๕. แตง่ กายชดุ ไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟังทดี่ ี สังเกตผพู้ ูดและมองตาผู้พดู ตลอดเวลา

16. ใบความรู้ที่ ๑

หน่วยการสอนท่ี ๔ ช่ือหน่วยการสอน การพดู ในงานอาชีพ

109

ช่ือหัวข้อเร่ือง การพูดในงานอาชพี
๑ ความสาคญั
๑.๑ ความสาคญั ของการอา่ น
๑. เป็นการให้ขา่ วสาร
๒. เปน็ การสรา้ งความสนใจ
๓. เปน็ การสร้างความไวว้ างใจ
๔. เปน็ การสรา้ งสรรค์จรรโลงสังคมให้ดงี าม
๑.๒ ประเภทของการพดู ในงานอาชพี

การอ่านสารในงานอาชีพ แบ่งเป็น สองประเภท คือ การอา่ นคู่มือการปฏบิ ัตงิ านและการอ่านคมู่ ือการใช้
อุปกรณ์
๓. แนวปฏิบัติเกย่ี วกบั การพูดในงานอาชีพ

การใชภ้ าษาไทยในการอาชีพปรากฏทงั้ ในรูปแบบวัจนภาษาและอวจั นภาษา ด้านการฟงั การอ่าน
การพดู และการเขยี น เชน่ การแสดงมารยาท บคุ ลกิ ภาพไมเ่ หมาะสม ยอ่ มส่งผลใหก้ ารสอ่ื สารไมม่ ี
ประสทิ ธิภาพ

แนวทางในการพฒั นาตนเอง
๑. การพัฒนาด้านการฟงั และการดู
- ควรสงั เกตการณ์ใช้ภาษาในชีวิตประจาวนั
-ฝึกการฟังอย่างมสี ติมสี มาธิ
-ศึกษาเกีย่ วกับการใชภ้ าษาใหถ้ กู ตอ้ ง
๒. การพัฒนาด้านการอ่าน
-ชมและสังเกตการณ์อ่านข่าวสารคดี
-พัฒนาตนเองให้เปน็ นักอา่ นอย่างตอ่ เน่ือง
-อา่ นออกเสียงอย่างต่อเน่ือง อ่ายอย่างน้อย ๒ ช่วั โมง
-อ่านออกเสยี งทุกวนั
-จบั ประเด็นเรอ่ื งทอ่ี ่าน
-เลอื กเนอ้ื หาสาระทอ่ี ่านอย่างเหมาะสม
-ศึกษารปู แบบการเขียนและวรรณกรรมประเภทตา่ ง ๆ
๓. การพฒั นาดา้ นการพดู
-ควรสังเกตการณ์พูดในชวี ิตประจาวัน
-ควรศึกษาเกี่ยวกบั การพดู ท่ถี ูกต้อง
๔. การพัฒนาทกั ษะการเขียน
-ควรเขยี นอยา่ งตง้ั ใจ
-มคี วามรอบคอบระมดั ระวังในการเขยี น
-ฝกึ เขียนในวิถชี ีวติ

17. ใบงานท่ี ๒

หนว่ ยการสอนท่ี ๔ ชื่อหนว่ ยการสอน การพดู ในงานอาชพี

110

ชื่อหวั ข้อเรอ่ื ง การพดู ในงานอาชีพ
จดุ ประสงค์
1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป

1. อธบิ ายการส่อื สารได้
2. บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพได้
2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. แสดงบุคลิกภาพในการใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
2. มีเจตคตทิ ดี่ ีในการเรยี นเร่ืองการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ และรกั ษ์ค่านิยมหลัก 12 ประการ

ลาดบั กิจกรรม/ลาดบั การปฏบิ ัติ

1. นกั เรยี นรบั ฟงั คาอธบิ ายบรรยายในชน้ั เรยี นเกีย่ วกบั การสอ่ื สารในงานอาชพี พรอ้ มทง้ั การยกตวั อยา่ ง
แลกเปลยี่ นความรูก้ ับนกั เรียน
2. นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ ในคาบการจดั การเรยี นการสอนของครผู สู้ อน
3. ครูผสู้ อนสรปุ ผลการจัดการเรยี นการสอน นักเรียนทางานทไ่ี ด้รับมอบหมายจากครผู สู้ อนเกีย่ วกบั การส่อื สาร
ในงานอาชพี

เกณฑ์การพจิ ารณา

1. การมีสว่ นร่วมในช้ันเรยี นของนกั เรยี น
2. สง่ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมายปฏิบตั ิตามทคี่ รูผู้สอนได้แนะนา
3. มพี ฤตกิ รรมทเ่ี รียบร้อยระหวา่ งเรียน

18. แบบประเมินผล
1 ก่อนเรยี น
1.1 ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2 ขณะเรียน
2.1 การถาม – ตอบ ฝึกปฏบิ ตั ิ และนาเสนอ
3 หลงั เรยี น
3.1 ตรวจสอบแบบทดสอบหลงั เรียน

19. แบบฝกึ หดั

๑.แบบทดสอบทา้ ยบท กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
๒. แบบทดสอบทา้ ยบท(ปรนยั )

๓. ใบงานสร้างความเขา้ ใจระหวา่ งการเรียน

20. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นร้แู บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการตามหลกั
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

111

20.1 สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ดา้ นการเตรียมการสอน

1. จัดหน่วยการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมทัง้ ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ และด้านจิตพสิ ัย

3. เตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์ สอ่ื นวตั กรรม กิจกรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้กอ่ นเข้า

สอน

ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวิธกี ารนาเข้าสบู่ ทเรยี นทน่ี ่าสนใจ

5. มีกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เพอื่ ช่วยใหผ้ ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จัดกิจกรรมทีส่ ง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นคน้ คว้าเพอื่ หาคาตอบด้วยตนเอง

7. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมท่เี นน้ กระบวนการคิด ( คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ )

9. กระตุน้ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี

10. จัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ เ่ี ชอื่ มโยงกบั ชวี ติ จริงโดยนาภูมิปญั ญา/บูรณาการเขา้ มามีส่วนรว่ ม

11. จัดกิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสรมิ แรงเมือ่ นักเรยี นปฏิบัติ หรอื ตอบถูกตอ้ ง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ แู ลผ้เู รยี น อย่างทวั่ ถงึ

15. ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่ีกาหนด

ด้านสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้

16. ใช้สื่อท่ีเหมาะสมกับกิจกรรมและศกั ยภาพของผเู้ รยี น

17. ใช้ส่ือ แหลง่ การเรยี นร้อู ย่างหลากหลาย เช่น บคุ คล สถานท่ี ของจรงิ เอกสาร

ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอร์เนต็ เป็นต้น

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทง้ั ดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พิสัย

20. ครู ผู้เรยี น ผปู้ กครอง หรอื ผูท้ ีเ่ กย่ี วขอ้ งมีส่วนรว่ ม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดเี ยี่ยม 4 = ปฏิบัติดี 3 = ปฏบิ ตั ิ รวม
พอใช้ ค่าเฉล่ีย

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏิบัติ

112

20.2 ปญั หาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ญั หา

ปญั หาทพี่ บ แนวทางแก้ปญั หา

ด้านการเตรียมการสอน

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ด้านการวัดและประเมินผล
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

113

................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ด้านอ่ืนๆ (โปรดระบุเปน็ ข้อๆ)
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ลงช่อื ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บันทกึ การนเิ ทศและติดตาม

วนั -เดอื น- เวลา รายการนิเทศและตดิ ตาม ชือ่ -สกลุ ผู้นิเทศ ตาแหนง่

ปี

114

115

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวชิ า 20000 1102 วชิ า ภาษาไทยเพือ่ อาชพี
หน่วยที่ ๗ ชอื่ หนว่ ย การเขยี นโฆษณา
ชอ่ื เรื่อง การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ จานวน 2 ชัว่ โมง

1. สาระสาคญั

การโฆษณาเป็นการส่ือสารจูงใจผ่านส่ือโฆษณาประเภทต่างๆ เพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคคล้อย
ตามเนอื้ หาสาระที่โฆษณา ทาให้เกิดการซ้อื หรอื ใช้สนิ ค้าและบรกิ าร

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้

๑. แสดงความรู้เก่ียวกบั การเขยี นโฆษณาประชาสัมพันธ์
๒. ประยกุ ต์การเขยี นโฆษณาประชาสัมพันธ์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป
๑. บอกโครงสร้างข้อความโฆษณาได้
๒. บอกภาษาที่ใช้เขียนขอ้ ความโฆษณาได้

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
๑. เขียนโฆษณาประชาสมั พันธ์ได้
๒. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองการเขียนโฆษณาประชาสัมพันธ์ และรักษ์ค่านิยมหลัก ๑๒

ประการของไทย

4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
๑. แบ่งกลุ่มผู้เรียน เลือกประธานและกาหนดหน้าที่สมาชกิ คนอื่นๆ ให้ปฏิบัติงานในกลุ่ม ร่วมกัน
ศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเรื่องความสาคัญและประเภทของการอ่านในงานอาชีพ หลักการอ่านสารในงาน
อาชพี การอ่านคมู่ อื ในการปฏบิ ัติงาน และการอา่ นคมู่ ือการใชอ้ ุปกรณ์หรือรายละเอียดของผลิตภณั ฑ์
๒. ตัง้ คาถามใหผ้ เู้ รียนเสนอขอ้ มูลจากประสบการณท์ ร่ี บั รู้ดังตัวอย่างน้ี

๒.๑ ความสาคญั และประเภทของการอ่านในงานอาชพี
- ความสาคญั ของการอา่ นมอี ะไรบา้ ง
- การอา่ นสารในงานอาชีพ มอี ะไรบ้าง

๒.๒ หลักการอ่านสารในงานอาชพี
- การอา่ นสารในงานอาชพี โดยท่วั ไปมหี ลักสาคญั อยา่ งไร

๒.๓ การอา่ นคู่มอื ในการปฏิบตั งิ าน
- แนวปฏิบัตเิ ก่ียวกับการอ่านคู่มอื ในการปฏิบัตงิ านได้แก่อะไรบ้าง

๒.๔ การอ่านคู่มือการใช้อปุ กรณห์ รือรายละเอียดของผลติ ภณั ฑ์
- แนวปฏบิ ัติเกี่ยวกบั การอ่านคู่มือการใชอ้ ปุ กรณห์ รือรายละเอยี ดของผลิตภัณฑไ์ ดแ้ ก่

116

4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
จากการที่ได้ศกึ ษาเรยี นรู้เกยี่ วกบั กระบวนการสื่อสาร ความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ และ
แนวทางเก่ยี วกับการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี นกั เรยี นสามารถนาทกั ษะจากการเรยี น เชน่ องคป์ ระกอบของผู้
ส่งสารและรับสาร เพอ่ื การสอ่ื สารท่มี ีประสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทักษะการใช้ภาษา เชน่ การพฒั นา
การอ่าน การฟงั การดุ และการเขียน เป็นตน้

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง

นกั เรยี นเรยี นมคี วามรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในการสอ่ื สาร ใชท้ ักษะแยกองค์ประกอบของการส่ือสาร
ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล สามารถนาความร้ทู ่ีเรยี นไปประกอบใชใ้ นชวี ติ ประจาวันบรหิ าร
เวลาเรียนและการทางานได้

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขัน้ ตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของผู้เรยี น

ขน้ั เตรยี ม(จานวน.10.นาท)ี
1.สครูให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการ 1. นกั เรยี นศึกษาจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั
การสื่อสาร องค์ประกอบของการสื่อสาร การใช้ กระบวนการส่อื สาร องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ภาษาเพ่ือการสื่อสาร โดยต้องทราบเก่ียวกับ ตรวจสอบวา่ ข้อมลู ทศ่ี ึกษาครบสมบูรณ์ตอ่ รายวชิ า
ความหมายและหน้าที่ท้ัง 4 องค์ประกอบ ท้ังนี้ จริง
นั ก เ รี ย น ต้ อ ง ศึ ก ษ า เ ก่ี ย ว กั บ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร
พัฒนาการใช้ภาษา และจัดเตรียมเนื้อหาให้พร้อม
ต่อการเรยี น

ขน้ั การสอน(จานวน 40 นาท)ี
2. นักเรียนนั่งฟังคาบรรยายพร้อมทั้งแลกเปล่ียน 2. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั กระบวนการสอ่ื สาร
การเรียนการสอนกับครู อธิบายเนื้อหา พร้อม การใชภ้ าษา และแนวทางในการปฏิบตั เิ กี่ยวกบั
ยกตัวอย่างสถานการณ์ของ เรื่อง แลกเปลี่ยน การใชภ้ าษา
เรียนรู้ระหว่างครุกับนักเรียน ในเร่ืองของนักเรียน
สามารถนาทักษะจากการเรียน เช่น องค์ประกอบ
ของผู้ส่งสารและรับสาร เพื่อการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทักษะการใช้
ภาษา เช่น การพัฒนา การอ่าน การฟงั การดุ และ
การเขียน เปน็ ต้น
ขนั้ สรปุ (จานวน 10 นาที)

117

3. อธิบายขอ้ ความสาคญั เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หาทค่ี รอุ ธบิ าย และทาความ
ของผู้ ส่งสารและรับสาร เพอื่ การ เขา้ ใจ อนั จะนาไปทาแบบทดสอบต่อการเรยี นรูใ้ น
สอื่ สารทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นา รายวิชาตอ่ ไป
ทกั ษะการใชภ้ าษา เชน่ การพฒั นา การอ่าน การ
ฟัง การดุ และการเขียน เป็นต้น
ทาแบบทดสอบวัดความรู้

6. สื่อการเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่อื สิง่ พิมพ์
1. หนงั สือรายวิชาภาษาไทย วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ
2. ใบงานและแบบทดสอบทา้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

6.3 สื่อของจรงิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น
1. ให้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลเกีย่ วกับการฟงั และดูสารในงานอาชพี องคป์ ระกอบการฟังและดูสารในงานอาชีพ

118

2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาข้อมูลเกย่ี วกับความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ
3. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาข้อมลู เกยี่ วกบั แนวทางในการพฒั นาการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี

8.2 ขณะเรยี น
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คาอธบิ ายเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ าย
2. นกั เรยี นตอ้ งยกตวั อยา่ งสถานการณเ์ กย่ี วกบั หวั ขอ้ ทเ่ี รยี นพรอ้ มทง้ั อธบิ ายแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สู้ อน

8.3 หลงั เรียน
1. นกั เรยี นนาความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั รายวชิ าทเ่ี รียน เชน่ การสอ่ื สาร องคป์ ระกอบของการสือ่ สาร การใช้
ภาษา แนวทางการพัฒนาแนวทางในการใชภ้ าษา
2. ทาแบบทดสอบท้ายบท

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ท่เี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น

1 มตี วั อยา่ งสถานการณ์ ใหจ้ าแนกสถานการณ์ลงในองคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ครเู ลก็ สอนในรายวชิ าภาษาไทย โดยเริ่มสอนจากบทที่ 1 เรือ่ งกระบวนการสอื่ สาร มเี นอ้ื หาสาระ

เกี่ยวกบั การส่ือสาร ความหมายของการส่ือสาร รปู แบบการส่ือสาร ความสาคัญของการใชภ้ าษาในการสือ่ สาร
ภายหลงั จากท่เี รียนนักเรยี นมกี ารแลกเปลี่ยนความรู้กับครผู ุ้สอนเกี่ยวกับเรอื่ สาระการเรียนรู้ทเี่ รียน

10. เอกสารอ้างอิง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั รายวชิ าอื่น

นาทักษะการเรียนเก่ียวกับรายวิชาเกี่ยวกบั กระบวนการสอ่ื สาร สามารถนาไปใชส้ ื่อสารในรายวิชาอืน่
รวมทัง้ นาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี นในการศึกษาและสนใจในการจดั เตรยี มเน้อื หาและศึกษาเน้ือหาท่มี อบหมาย
2. เตรยี มอปุ กรณ์การเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เพ่อื วดั ความรู้ความเข้าใจ.

12.3 หลงั เรยี น
1. ครูใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

119

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 อธบิ ายกระบวนการส่ือสาร
1. วธิ ีการประเมิน : แบบทดสอบเก่ียวกับองคป์ ระกอบของการส่ือสาร.
2. เครือ่ งการประเมนิ : ใบงานแบบทดสอบ.
3. เกณฑก์ ารประเมนิ : อยูใ่ นระดับ 60 % ข้ึนไป ผา่ น
4. เกณฑก์ ารผ่าน : เกณฑ์การพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดับ 60 % ขนึ้ ไป

จุดประสงค์ข้อท่ี 2 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
1. วธิ กี ารประเมิน : ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เพอ่ื วดั ความรู้ความเขา้ ใจ
2. เคร่ืองการประเมิน : แบบทดสอบ
3. เกณฑ์การประเมนิ : อยใู่ นระดับ 60 % ขน้ึ ไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผ่าน :

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการสอนที่ 6 ช่อื หน่วยการสอน การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ
วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ อธบิ ายกระบวนการส่ือสารได้ บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
ข้อคาถาม
1. การเขียนจดหมายกิจธุระหมายถึงอะไร จงอธบิ ายและยกตัวอย่างประกอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กลวธิ ีการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะมีอะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มารยาทในการเขยี นจดหมายกจิ ธุระมอี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เหตุใดการเขียนจดหมายกิจธุระจงึ ตอ้ งใชภ้ าษาที่สภุ าพและเรยี บรอ้ ย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การเขียนจดหมายกจิ ธุระตา่ งจากการเขียนจดหมายส่วนตัวอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

120

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. จงอธิบายการอา่ นเพ่ือจับประเดน็ สาคญั พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
จบั ใจความของสารวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมือ่ ไร อยา่ งไร เชน่ เจ้าหนา้ ท่อี ่านคาสงั่ มอบหมายงาน

2. จงอธบิ ายการอ่านสารในงานอาชพี โดยสังเขป
คมุ่ อื การปฏิบัตงิ าน คู่มือการใชอ้ ุปกรณห์ รือผลติ ภณั ฑ์

3. การอา่ นคมู่ อื การปฏิบัตงิ านมหี ลกั อยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อย่างประกอบ

เพ่ือให้ผปู้ ฏบิ ัติ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เช่น ระเบยี บ คูม่ อื การปฏบิ ัตงิ าน

4. การอา่ นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์มวี ตั ถุประสงคแ์ ละหลักการอยา่ งไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อย่าง
ปจั จบุ ันคู่มอื การใชอ้ ปุ กรณ์และรายละเอียดของผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ ไดเ้ ข้ามามีบทบาทมชี วี ติ และการ

ทางานมากข้ึน

5. จงอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานและคมู่ อื การใช้อุปกรณ์
คมู่ ือการปฏิบัตงิ าน คอื สงิ่ ทใ่ี ชอ้ ธบิ ายทศิ ทาง
คมู่ ือการใช้อุปกรณ์ คือ ศกึ ษารายละเอียดคู่มืออุปกรณ์

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนท่ี 2 ชื่อหน่วยการฟงั และดสู ารในงานอาชพี

วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ อธิบายกระบวนการสือ่ สารได้ บอกความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้

ขอ้ คาถาม

1. ความสาเร็จของการสือ่ สารขนึ้ อยูก่ ับองค์ประกอบใดสาคัญที่สดุ

1. ผูส้ ่ือสาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผู้รับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตวั บ่งช้วี า่ สารประสบความสาเร็จคอื ข้อใด

1. ผสู้ ง่ สารนาเสนอสารได้อยา่ งชดั เจน

2. มสี ่อื หรือชอ่ งทางการส่ือสารท่ีหลากหลาย

3. ผู้รับสารตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผ้สู ่งสาร

4. ผรู้ บั สารมีปฏกิ ริ ยิ าต่อสาร

5. เนื้อหาสาระของสารเป็นประโยชน์ท้งั ต่อบุคคล องค์กร สังคม

3. ตวั อย่างการสอ่ื สารในข้อใดทส่ี ะทอ้ นความสัมพันธข์ องการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาไดช้ ดั เจนมากท่สี ดุ

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวทิ ยุ

5. นกั การเมือง

121

4. อาชพี ใดทีภ่ าษาทา่ ทางมีอทิ ธิพลตอ่ ความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

1. นักพูด 2. นักร้อง

3. นักสืบ 4. นักแสดง

5. นักการเมอื ง

5. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ทาใหก้ ารใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมือสอื่ สารระดับบุคคลที่แพรห่ ลายมากท่ีสดุ ในปจั จบุ นั คอื สือ่ ออนไลน์

3. การส่อื สารผา่ นโทรทศั น์ไม่จาเป็นตอ้ งใช้อวจั นภาษา เพราะใช้วาจาสื่อสารเทา่ นัน้

4. การส่ือสารจาเป็นตอ้ งใชอ้ วัจนภาษาควบค่ไู ปกบั วัจนภาษา เพราะชว่ ยให้การส่ือสารมีความชัดเจน

ยง่ิ ขน้ึ

5. ข้อ 1 และข้อ 3 ถูกต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ยั ทศั นห์ าเสียงเปน็ นายกองคก์ ารวชิ าชีพ โดยใช้ไมโครโฟนที่มเี สยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู ร่ืองชดั เจน ปัญหาอุปสรรคของกระบวนการสอ่ื สารนคี้ อื ขอ้ ใด

๑. สือ่ คอื ไมโครโฟน ๒. สาร คอื วสิ ยั ทัศน์ในการหาเสียง

๓. ผ้สู ่งสาร คือสายชล ๔. ผู้รับสาร คือ ผู้เรยี นฟังไม่ร้เู รื่อง

๕. ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ข้อใดจดั เป็นการพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพที่สุด

๑. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-ค้นคว้า-ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พฒั นา

๓. ค้นคว้า-สงั เกต-จดจา-ปฏิบตั -ิ ประเมนิ ตนเอง-พฒั นา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นา

๕. สงั เกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏบิ ตั ิ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในข้อใดท่มี คี วามสามารถในการพัฒนาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ีส่ ุด

๑. ปทั มนนั ตช์ มละครโทรทศั นท์ กวัน อย่างนอ้ ยวันละ ๒ ช่วั โมง เพือ่ พฒั นาการเป็นผู้ฟงั ผชู้ มทด่ี ี

๒. กิตตชิ มรายการโทรทศั นต์ ง้ั แตเ่ วลาหนง่ึ ทุม่ ถงึ เทย่ี งคนื ทกุ คืน ทง้ั รายการ ขา่ ว ละคร เพลง

ภาพยนตรโ์ ฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นที่นา่ สนใจ

๓. สมศกั ด์ิเลือกสถานวี ทิ ยทุ ม่ี ีคุณภาพและเปดิ ฟังตลอดทัง้ วนั ขณะทางาน ทาให้เรยี นรลู้ ักษณะของผู้

จดั รายการวิทยทุ ่ีมปี ระสิทธภิ าพ

๔. ไตรภพเอาใจใสบ่ ุคคลรอบขา้ งเสมอและเป็นนกั ฟงั ทดี่ ี หลีกเลย่ี งการโตแ้ ย้ง พร้อมทง้ั พยายาม

ประนปี ระนอมเม่อื เพื่อนร่วมงานมขี อ้ ขดั แยง้ กัน

๕. ปัญญาอ่านข้าวทกุ วันและอ่านออกเสียงก่อนนอนทกุ คืน โดยต้ังใจอ่านใหเ้ หมอื นผปู้ ระกาศขา่ วใน

วิทยุกระจายเสียงและโทรทศั น์

๙. ข้อใดกล่าวสมเหตุสมผลมากท่ีสุด

๑. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในชวี ติ และการทางานมากทสี่ ดุ คือทกั ษะการรบั สาร ดงั นัน้ ตอ้ งฝกึ ฝนการฟัง

และการอา่ นให้มากกว่าการพดู และการเขยี น

๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการโนม้ นา้ วใจมากทีส่ ดุ คือทกั ษะการสง่ สาร ดงั นั้นต้องฝกึ ฝน

การพูดและการเขยี นใหม้ ากกว่าการฟังและการอ่าน

122

๓. ควรฝกึ ฝนทักษะการใช้ภาษาไทย ท้ังการฟงั และการพดู การอา่ นและการเขียนไปพรอ้ ม ๆ กนั
เพราะการส่งสารท่ดี ียอ่ มมาจากการรบั สารทด่ี ี

๔. นกั พดู ที่ดีมาจากการเปน็ นกั ฟงั ท่ีดี และนกั เขยี นท่ีดมี าจากการเปน็ นักอ่านท่ีดี ดงั นั้นความเป็นนัก
ฟงั และนกั อา่ นที่ดจี งึ มผี ลตอ่ งานอาชีพมากที่สุด

๕. ข้อ ๑. และข้อ ๒. ถูกตอ้ ง
๑๐. บคุ คลในขอ้ ใดสามารถสร้างความประทับใจต่อผ้พู บเหน็ ได้มากทสี่ ดุ

๑. แตง่ กายภูมิฐาน เครือ่ งประดับราคาแพง ทา่ ทางสง่า พดู น้อย ย้มิ ยาก
๒. แต่งกายประณตี ย้ิมแยม้ แจม่ ใส ไหว้ ทักทายผูพ้ บเห็นด้วยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แตง่ กายสะอาดเรยี บร้อย อ่อนนอ้ มถอ่ มตน เปน็ ผ้ฟู ังท่ีดี แสดงความคิดเห็นน้อย เพราะเกรงใจ
ผอู้ ่นื
๔. แต่งกายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แยม้ แจ่มใส่ทกั ทายผคู้ นท่พี บเห็นอยา่ งเปน็ กันเอง
แมจ้ ะไมร่ ู้จักกต็ าม
๕. แต่งกายชุดไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟังทดี่ ี สงั เกตผู้พูดและมองตาผพู้ ดู ตลอดเวลา

123

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. ความสาเร็จของการสอ่ื สารขน้ึ อยกู่ ับองคป์ ระกอบใดสาคัญที่สุด

2. ผ้สู ่อื สาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผรู้ ับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบ่งชี้ว่าสารประสบความสาเรจ็ คือขอ้ ใด

1. ผู้สง่ สารนาเสนอสารไดอ้ ย่างชดั เจน

2. มสี ื่อหรือช่องทางการสือ่ สารทห่ี ลากหลาย

3. ผู้รับสารตอบสนองได้ตรงตามความตอ้ งการของผู้ส่งสาร

4. ผรู้ บั สารมปี ฏกิ ิรยิ าตอ่ สาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเปน็ ประโยชนท์ ั้งต่อบคุ คล องคก์ ร สังคม

3. ตัวอยา่ งการส่อื สารในขอ้ ใดท่ีสะทอ้ นความสมั พันธ์ของการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาไดช้ ัดเจนมากท่สี ุด

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวิทยุ

5. นักการเมอื ง

4. อาชีพใดทภ่ี าษาทา่ ทางมอี ิทธพิ ลตอ่ ความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

2. นักพูด 2. นักร้อง

3. นักสบื 4. นกั แสดง

5. นกั การเมอื ง

5. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง

1. การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ตทาใหก้ ารใช้ภาษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมอื สอื่ สารระดับบคุ คลท่แี พรห่ ลายมากทส่ี ดุ ในปจั จบุ นั คือสอ่ื ออนไลน์

3. การสื่อสารผ่านโทรทัศน์ไม่จาเป็นตอ้ งใช้อวจั นภาษา เพราะใช้วาจาสื่อสารเท่านนั้

4. การสอื่ สารจาเป็นต้องใชอ้ วจั นภาษาควบคไู่ ปกบั วจั นภาษา เพราะชว่ ยใหก้ ารสอื่ สารมคี วามชดั เจน

ยง่ิ ขนึ้

5. ขอ้ 1 และขอ้ 3 ถกู ต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ัยทัศนห์ าเสยี งเป็นนายกองค์การวชิ าชพี โดยใช้ไมโครโฟนทม่ี ีเสียงขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู รื่องชัดเจน ปญั หาอปุ สรรคของกระบวนการส่ือสารนค้ี อื ข้อใด

๑. สอ่ื คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วสิ ยั ทศั นใ์ นการหาเสยี ง

๓. ผู้ส่งสาร คอื สายชล ๔. ผู้รบั สาร คือ ผู้เรียนฟงั ไม่รเู้ รื่อง

๕. ขอ้ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจดั เป็นการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี ุด

๑. สังเกต-จดจา-เลียนแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-คน้ ควา้ -ปฏบิ ัต-ิ ปรับปรงุ -พัฒนา

๓. ค้นคว้า-สังเกต-จดจา-ปฏบิ ตั -ิ ประเมินตนเอง-พฒั นา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พัฒนา

124

๕. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-ปฏิบัติ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นา
๘. บุคคลในข้อใดทม่ี ีความสามารถในการพฒั นาการใช้ภาษาไทยของตนเองไดด้ ีที่สดุ

๑. ปัทมนันตช์ มละครโทรทัศนท์ กวนั อย่างนอ้ ยวันละ ๒ ชั่วโมง เพอ่ื พัฒนาการเปน็ ผฟู้ งั ผู้ชมท่ดี ี
๒. กติ ติชมรายการโทรทศั น์ตงั้ แต่เวลาหนึ่งทุม่ ถงึ เทีย่ งคนื ทกุ คนื ทัง้ รายการ ขา่ ว ละคร เพลง
ภาพยนตร์โฆษณา พรอ้ มบนั ทกึ ประเดน็ ทีน่ ่าสนใจ
๓. สมศักดเิ์ ลือกสถานีวทิ ยุที่มีคุณภาพและเปดิ ฟังตลอดท้ังวนั ขณะทางาน ทาให้เรยี นรลู้ ักษณะของผู้
จดั รายการวทิ ยุท่ีมีประสิทธภิ าพ
๔. ไตรภพเอาใจใส่บคุ คลรอบข้างเสมอและเป็นนกั ฟังทด่ี ี หลกี เล่ยี งการโต้แย้ง พร้อมทง้ั พยายาม
ประนปี ระนอมเมอื่ เพือ่ นร่วมงานมขี ้อขัดแย้งกนั
๕. ปัญญาอา่ นข้าวทกุ วนั และอ่านออกเสยี งกอ่ นนอนทุกคืน โดยตัง้ ใจอ่านให้เหมอื นผปู้ ระกาศข่าวใน
วิทยุกระจายเสียงและโทรทศั น์
๙. ขอ้ ใดกลา่ วสมเหตสุ มผลมากทสี่ ดุ
๑. ทักษะการใชภ้ าษาไทยในชีวติ และการทางานมากทสี่ ุดคอื ทกั ษะการรบั สาร ดงั นัน้ ต้องฝกึ ฝนการฟัง
และการอา่ นให้มากกวา่ การพดู และการเขยี น
๒. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยทมี่ อี ทิ ธิพลตอ่ การโนม้ น้าวใจมากท่ีสดุ คือทกั ษะการสง่ สาร ดงั นั้นตอ้ งฝกึ ฝน
การพูดและการเขยี นใหม้ ากกวา่ การฟังและการอ่าน
๓. ควรฝึกฝนทักษะการใชภ้ าษาไทย ทงั้ การฟัง และการพดู การอ่านและการเขียนไปพร้อม ๆ กนั
เพราะการสง่ สารท่ีดยี อ่ มมาจากการรบั สารทด่ี ี
๔. นกั พดู ท่ดี ีมาจากการเป็นนกั ฟังท่ดี ี และนักเขยี นท่ดี มี าจากการเปน็ นักอา่ นที่ดี ดังนั้นความเปน็ นัก
ฟงั และนักอ่านทดี่ จี งึ มีผลต่องานอาชีพมากท่ีสุด
๕. ข้อ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ตอ้ ง
๑๐. บุคคลในข้อใดสามารถสร้างความประทับใจต่อผูพ้ บเห็นไดม้ ากท่ีสุด
๑. แตง่ กายภูมิฐาน เครือ่ งประดบั ราคาแพง ทา่ ทางสงา่ พูดนอ้ ย ยมิ้ ยาก
๒. แตง่ กายประณตี ย้มิ แย้มแจม่ ใส ไหว้ ทักทายผพู้ บเหน็ ด้วยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แตง่ กายสะอาดเรียบรอ้ ย อ่อนน้อมถอ่ มตน เป็นผู้ฟงั ทดี่ ี แสดงความคดิ เห็นนอ้ ย เพราะเกรงใจ
ผ้อู ่นื
๔. แตง่ กายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แย้มแจม่ ใสท่ ักทายผคู้ นท่พี บเห็นอยา่ งเป็นกันเอง
แม้จะไม่รู้จกั กต็ าม
๕. แต่งกายชดุ ไทยภมู ิฐาน มมี ารยาทในการฟังท่ีดี สังเกตผพู้ ดู และมองตาผ้พู ูดตลอดเวลา

125

16. ใบความรู้ท่ี ๑

หนว่ ยการสอนที่ ๗ ชื่อหน่วยการสอน การเขียนโฆษณา
ชอ่ื หัวขอ้ เรอื่ ง การพูดในงานอาชีพ

๑ ความสาคญั
โฆษณา หมายถงึ การเผยแพรห่ รอื การกระทาด้วยวิธีใด ๆ เพ่ือนาเสนอสนิ คา้ และบริการ โดยมีจุดม่งุ หมาย
หลักเพือ่ บจูงใจใหลกู คา้ สนใจซ้อื สนิ คา้ และบริกรน้นั

๑.๑ ความสาคญั ของการอ่าน
๑. เพือ่ แนะนาให้รู้จกั สนิ คา้
๒. เพ่ือเสนอข้อมลู เกย่ี ววกับสนิ ค้าหรอื บริการ
๓. เพอ่ื สรา้ งจดุ เดน่ ใหเ้ ปน็ เอกลกั ษณ์
๔. เพอ่ื สร้างแรงจงู ใจ

๑.๒ สอื่ โฆษณา
๑. สิ่งพมิ พ์ เช่น หนังสอื พมิ พ์ นติ ยสาร หรือวารสาร การไปรษณยี ์หรอื จดหมาย แผ่นพับและใบปลวิ ต่าง


๓. โครงสร้างของโฆษณา

ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเรื่องการเขียนโฆษณาประชาสัมพันธ์ โครงสร้าง
ขอ้ ความโฆษณา และภาษาทใ่ี ช้เขยี นข้อความโฆษณา

๒. ตงั้ คาถามใหผ้ ้เู รยี นเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ทีร่ บั รดู้ งั ตวั อย่างนี้
๒.๑ การเขยี นโฆษณาประชาสัมพนั ธ์
- การโฆษณาหมายถงึ อะไร
- วัตถุประสงคข์ องการโฆษณามีอะไรบา้ ง
- สอ่ื โฆษณาแบง่ เปน็ กี่ประเภท ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง
๒.๒ โครงสรา้ งขอ้ ความโฆษณา
- ขอ้ ความโฆษณาส่วนใหญ่มโี ครงสร้างอะไรบ้าง
๒.๓ ภาษาทใ่ี ชเ้ ขียนข้อความโฆษณา
- การใช้ภาษาที่เหมาะสม ได้แกอ่ ะไรบา้ ง
- การใชภ้ าษาในการเขยี นโฆษณาควรทาอย่างไร

126

17. ใบงานที่ ๒

หน่วยการสอนท่ี ๗ ชอื่ หนว่ ยการสอน การเขียนโฆษณา
ช่ือหวั ขอ้ เรอื่ ง การพดู ในงานอาชพี
จุดประสงค์
1 จุดประสงคท์ ่วั ไป

1. อธิบายการสอื่ สารได้
2. บอกความสาคญั ของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม
1. แสดงบุคลิกภาพในการใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
2. มเี จตคตทิ ่ีดใี นการเรยี นเรือ่ งการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพ และรกั ษค์ า่ นิยมหลัก 12 ประการ

ลาดบั กิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ

1. นกั เรยี นรบั ฟงั คาอธบิ ายบรรยายในชน้ั เรยี นเกีย่ วกบั การสอ่ื สารในงานอาชพี พรอ้ มทง้ั การยกตวั อยา่ ง
แลกเปล่ยี นความรกู้ ับนกั เรียน
2. นกั เรยี นรว่ มกจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ ในคาบการจดั การเรยี นการสอนของครผู สู้ อน
3. ครผู สู้ อนสรปุ ผลการจดั การเรยี นการสอน นกั เรียนทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายจากครผู สู้ อนเกี่ยวกับการส่อื สาร
ในงานอาชีพ

เกณฑก์ ารพจิ ารณา

1. การมีสว่ นรว่ มในช้ันเรยี นของนกั เรยี น
2. ส่งงานท่ไี ด้รับมอบหมายปฏิบตั ติ ามทคี่ รผู สู้ อนได้แนะนา
3. มีพฤติกรรมท่ีเรียบร้อยระหวา่ งเรยี น

18. แบบประเมินผล
1 ก่อนเรียน
1.1 ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
2 ขณะเรียน
2.1 การถาม – ตอบ ฝึกปฏิบตั ิ และนาเสนอ
3 หลังเรยี น
3.1 ตรวจสอบแบบทดสอบหลงั เรียน

19. แบบฝึกหดั

๑.แบบทดสอบท้ายบท กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
๒. แบบทดสอบท้ายบท(ปรนยั )

๓. ใบงานสร้างความเขา้ ใจระหว่างการเรยี น

127

20. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

20.1 สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้

รายการ ระดับการปฏิบัติ
5432 1

ดา้ นการเตรยี มการสอน

1. จัดหน่วยการเรยี นร้ไู ด้สอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมทั้งดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจติ พิสยั

3. เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ สื่อ นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้กอ่ นเขา้

สอน

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

4. มีวิธกี ารนาเขา้ ส่บู ทเรยี นทนี่ า่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมทหี่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จัดกิจกรรมที่ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนคน้ คว้าเพอื่ หาคาตอบด้วยตนเอง

7. นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมทเี่ น้นกระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ )

9. กระตุน้ ให้ผเู้ รียนแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทเ่ี ชอื่ มโยงกบั ชีวติ จรงิ โดยนาภูมิปัญญา/บูรณาการเข้ามามสี ว่ นรว่ ม

11. จดั กิจกรรมโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเม่อื นักเรียนปฏบิ ัติ หรอื ตอบถูกตอ้ ง

13. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศักยภาพของผเู้ รยี น

14. เอาใจใส่ดแู ลผเู้ รยี น อย่างทว่ั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาที่กาหนด

ดา้ นสอื่ นวตั กรรม แหล่งการเรียนรู้

16. ใช้สอ่ื ท่เี หมาะสมกับกจิ กรรมและศกั ยภาพของผู้เรียน

17. ใช้ส่ือ แหลง่ การเรยี นรอู้ ย่างหลากหลาย เช่น บุคคล สถานที่ ของจรงิ เอกสาร

สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอินเทอรเ์ น็ต เป็นตน้

ดา้ นการวัดและประเมินผล

18. ผู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการกาหนดเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล

19. ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทงั้ ดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ัย

20. ครู ผเู้ รยี น ผูป้ กครอง หรอื ผทู้ เี่ ก่ียวข้องมีส่วนร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ัติ 5 = ปฏิบัตดิ เี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ตั ดิ ี 3 = ปฏิบตั ิ รวม
พอใช้ คา่ เฉล่ยี

2 = ควรปรบั ปรุง 1 = ไม่มกี ารปฏิบตั ิ

128

20.2 ปญั หาท่พี บ และแนวทางแก้ปญั หา

ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ปญั หา

ดา้ นการเตรยี มการสอน

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

................................................................................. .................................................................................

.... ....

ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ดา้ นสอื่ นวัตกรรม แหล่งการเรยี นรู้
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล
................................................................................. .................................................................................
.... ....

129

................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ดา้ นอื่นๆ (โปรดระบุเปน็ ขอ้ ๆ)
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....
................................................................................. .................................................................................
.... ....

ลงชอื่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทกึ การนิเทศและติดตาม

วนั -เดือน- เวลา รายการนิเทศและติดตาม ชอ่ื -สกุล ผูน้ ิเทศ ตาแหนง่

ปี

130

115

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหัสวชิ า 20000 1102 วชิ า ภาษาไทยเพือ่ อาชพี
หน่วยที่ ๗ ชอื่ หนว่ ย การเขยี นโฆษณา
ชอ่ื เรื่อง การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ จานวน 2 ชัว่ โมง

1. สาระสาคญั

การโฆษณาเป็นการส่ือสารจูงใจผ่านส่ือโฆษณาประเภทต่างๆ เพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคคล้อย
ตามเนอื้ หาสาระที่โฆษณา ทาให้เกิดการซ้อื หรอื ใช้สนิ ค้าและบรกิ าร

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้

๑. แสดงความรู้เก่ียวกบั การเขยี นโฆษณาประชาสัมพันธ์
๒. ประยกุ ต์การเขยี นโฆษณาประชาสัมพันธ์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

3.1 จดุ ประสงค์ทว่ั ไป
๑. บอกโครงสร้างข้อความโฆษณาได้
๒. บอกภาษาที่ใช้เขียนขอ้ ความโฆษณาได้

3.2 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
๑. เขียนโฆษณาประชาสมั พันธ์ได้
๒. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองการเขียนโฆษณาประชาสัมพันธ์ และรักษ์ค่านิยมหลัก ๑๒

ประการของไทย

4. เนือ้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
๑. แบ่งกลุ่มผู้เรียน เลือกประธานและกาหนดหน้าที่สมาชกิ คนอื่นๆ ให้ปฏิบัติงานในกลุ่ม ร่วมกัน
ศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเรื่องความสาคัญและประเภทของการอ่านในงานอาชีพ หลักการอ่านสารในงาน
อาชพี การอ่านคมู่ อื ในการปฏบิ ัติงาน และการอา่ นคมู่ ือการใชอ้ ุปกรณ์หรือรายละเอียดของผลิตภณั ฑ์
๒. ตัง้ คาถามใหผ้ เู้ รียนเสนอขอ้ มูลจากประสบการณท์ ร่ี บั รู้ดังตัวอย่างน้ี

๒.๑ ความสาคญั และประเภทของการอ่านในงานอาชพี
- ความสาคญั ของการอา่ นมอี ะไรบา้ ง
- การอา่ นสารในงานอาชีพ มอี ะไรบ้าง

๒.๒ หลักการอ่านสารในงานอาชพี
- การอา่ นสารในงานอาชพี โดยท่วั ไปมหี ลักสาคญั อยา่ งไร

๒.๓ การอา่ นคู่มอื ในการปฏิบตั งิ าน
- แนวปฏิบัตเิ ก่ียวกับการอ่านคู่มอื ในการปฏิบัตงิ านได้แก่อะไรบ้าง

๒.๔ การอ่านคู่มือการใช้อปุ กรณห์ รือรายละเอียดของผลติ ภณั ฑ์
- แนวปฏบิ ัติเกี่ยวกบั การอ่านคู่มือการใชอ้ ปุ กรณห์ รือรายละเอยี ดของผลิตภัณฑไ์ ดแ้ ก่

116

4.2 ดา้ นทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
จากการที่ได้ศกึ ษาเรยี นรู้เกยี่ วกบั กระบวนการสื่อสาร ความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ และ
แนวทางเก่ยี วกับการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี นกั เรยี นสามารถนาทกั ษะจากการเรยี น เชน่ องคป์ ระกอบของผู้
ส่งสารและรับสาร เพอ่ื การสอ่ื สารท่มี ีประสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทักษะการใช้ภาษา เชน่ การพฒั นา
การอ่าน การฟงั การดุ และการเขียน เป็นตน้

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลักปรชั ญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง

นกั เรยี นเรยี นมคี วามรอบคอบ มีระเบยี บวนิ ยั ในการสอ่ื สาร ใชท้ ักษะแยกองค์ประกอบของการส่ือสาร
ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล สามารถนาความร้ทู ่ีเรยี นไปประกอบใชใ้ นชวี ติ ประจาวันบรหิ าร
เวลาเรียนและการทางานได้

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมครู ขัน้ ตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของผู้เรยี น

ขน้ั เตรยี ม(จานวน.10.นาท)ี
1.สครูให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการ 1. นกั เรยี นศึกษาจดั เตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั
การสื่อสาร องค์ประกอบของการสื่อสาร การใช้ กระบวนการส่อื สาร องคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ภาษาเพ่ือการสื่อสาร โดยต้องทราบเก่ียวกับ ตรวจสอบวา่ ข้อมลู ทศ่ี ึกษาครบสมบูรณ์ตอ่ รายวชิ า
ความหมายและหน้าที่ท้ัง 4 องค์ประกอบ ท้ังนี้ จริง
นั ก เ รี ย น ต้ อ ง ศึ ก ษ า เ ก่ี ย ว กั บ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร
พัฒนาการใช้ภาษา และจัดเตรียมเนื้อหาให้พร้อม
ต่อการเรยี น

ขน้ั การสอน(จานวน 40 นาท)ี
2. นักเรียนนั่งฟังคาบรรยายพร้อมทั้งแลกเปล่ียน 2. นกั เรยี นศึกษาเกย่ี วกบั กระบวนการสอ่ื สาร
การเรียนการสอนกับครู อธิบายเนื้อหา พร้อม การใชภ้ าษา และแนวทางในการปฏิบตั เิ กี่ยวกบั
ยกตัวอย่างสถานการณ์ของ เรื่อง แลกเปลี่ยน การใชภ้ าษา
เรียนรู้ระหว่างครุกับนักเรียน ในเร่ืองของนักเรียน
สามารถนาทักษะจากการเรียน เช่น องค์ประกอบ
ของผู้ส่งสารและรับสาร เพื่อการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ และแนวทางการพฒั นาทักษะการใช้
ภาษา เช่น การพัฒนา การอ่าน การฟงั การดุ และ
การเขียน เปน็ ต้น
ขนั้ สรปุ (จานวน 10 นาที)

117

3. อธิบายขอ้ ความสาคญั เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ 3.นกั เรยี นบนั ทกึ เนอ้ื หาทค่ี รอุ ธบิ าย และทาความ
ของผู้ ส่งสารและรับสาร เพอื่ การ เขา้ ใจ อนั จะนาไปทาแบบทดสอบต่อการเรยี นรูใ้ น
สอื่ สารทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ และแนวทางการพฒั นา รายวิชาตอ่ ไป
ทกั ษะการใชภ้ าษา เชน่ การพฒั นา การอ่าน การ
ฟัง การดุ และการเขียน เป็นต้น
ทาแบบทดสอบวัดความรู้

6. สื่อการเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่อื สิง่ พิมพ์
1. หนงั สือรายวิชาภาษาไทย วิชา ภาษาไทยเพอ่ื อาชีพ
2. ใบงานและแบบทดสอบทา้ ยบท

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

6.3 สื่อของจรงิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7. แหลง่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

7.2 ภายนอกสถานศึกษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 ก่อนเรยี น
1. ให้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลเกีย่ วกับการฟงั และดูสารในงานอาชพี องคป์ ระกอบการฟังและดูสารในงานอาชีพ

118

2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาข้อมูลเกย่ี วกับความสาคัญของภาษาไทยในงานอาชีพ
3. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาข้อมลู เกยี่ วกบั แนวทางในการพฒั นาการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี

8.2 ขณะเรยี น
1. นกั เรยี นจดบนั ทึก พรอ้ มฟงั คาอธบิ ายเกีย่ วกบั หวั ขอ้ ทค่ี รอู ธบิ าย
2. นกั เรยี นตอ้ งยกตวั อยา่ งสถานการณเ์ กย่ี วกบั หวั ขอ้ ทเ่ี รยี นพรอ้ มทง้ั อธบิ ายแลกเปลย่ี นความรกู้ บั ครผู สู้ อน

8.3 หลงั เรียน
1. นกั เรยี นนาความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั รายวชิ าทเ่ี รียน เชน่ การสอ่ื สาร องคป์ ระกอบของการสือ่ สาร การใช้
ภาษา แนวทางการพัฒนาแนวทางในการใชภ้ าษา
2. ทาแบบทดสอบท้ายบท

9. ผลงาน/ช้นิ งาน ท่เี กดิ จากการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น

1 มตี วั อยา่ งสถานการณ์ ใหจ้ าแนกสถานการณ์ลงในองคป์ ระกอบของการสอ่ื สาร
ครเู ลก็ สอนในรายวชิ าภาษาไทย โดยเริ่มสอนจากบทที่ 1 เรือ่ งกระบวนการสอื่ สาร มเี นอ้ื หาสาระ

เกี่ยวกบั การส่ือสาร ความหมายของการส่ือสาร รปู แบบการส่ือสาร ความสาคัญของการใชภ้ าษาในการสือ่ สาร
ภายหลงั จากท่เี รียนนักเรยี นมกี ารแลกเปลี่ยนความรู้กับครผู ุ้สอนเกี่ยวกับเรอื่ สาระการเรียนรู้ทเี่ รียน

10. เอกสารอ้างอิง

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

11. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั รายวชิ าอื่น

นาทักษะการเรียนเก่ียวกับรายวิชาเกี่ยวกบั กระบวนการสอ่ื สาร สามารถนาไปใชส้ ื่อสารในรายวิชาอืน่
รวมทัง้ นาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1. สังเกตพฤติกรรมของผู้เรยี นในการศึกษาและสนใจในการจดั เตรยี มเน้อื หาและศึกษาเน้ือหาท่มี อบหมาย
2. เตรยี มอปุ กรณ์การเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย

12.2 ขณะเรียน
1. แบบทดสอบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน เพ่อื วดั ความรู้ความเข้าใจ.

12.3 หลงั เรยี น
1. ครูใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

13. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี น

119

จุดประสงค์ข้อท่ี 1 อธบิ ายกระบวนการส่ือสาร
1. วธิ ีการประเมิน : แบบทดสอบเก่ียวกับองคป์ ระกอบของการส่ือสาร.
2. เครือ่ งการประเมนิ : ใบงานแบบทดสอบ.
3. เกณฑก์ ารประเมนิ : อยูใ่ นระดับ 60 % ข้ึนไป ผา่ น
4. เกณฑก์ ารผ่าน : เกณฑ์การพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดับ 60 % ขนึ้ ไป

จุดประสงค์ข้อท่ี 2 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
1. วธิ กี ารประเมิน : ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เพอ่ื วดั ความรู้ความเขา้ ใจ
2. เคร่ืองการประเมิน : แบบทดสอบ
3. เกณฑ์การประเมนิ : อยใู่ นระดับ 60 % ขน้ึ ไป ผา่ น
4. เกณฑ์การผ่าน :

14. แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยการสอนที่ 6 ช่อื หน่วยการสอน การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ
วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ อธบิ ายกระบวนการส่ือสารได้ บอกความสาคัญของการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ได้
ข้อคาถาม
1. การเขียนจดหมายกิจธุระหมายถึงอะไร จงอธบิ ายและยกตัวอย่างประกอบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กลวธิ ีการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะมีอะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มารยาทในการเขยี นจดหมายกจิ ธุระมอี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เหตุใดการเขียนจดหมายกิจธุระจงึ ตอ้ งใชภ้ าษาที่สภุ าพและเรยี บรอ้ ย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. การเขียนจดหมายกจิ ธุระตา่ งจากการเขียนจดหมายส่วนตัวอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

120

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

1. จงอธิบายการอา่ นเพ่ือจับประเดน็ สาคญั พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
จบั ใจความของสารวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมือ่ ไร อยา่ งไร เชน่ เจ้าหนา้ ท่อี ่านคาสงั่ มอบหมายงาน

2. จงอธบิ ายการอ่านสารในงานอาชพี โดยสังเขป
คมุ่ อื การปฏิบัตงิ าน คู่มือการใชอ้ ุปกรณห์ รือผลติ ภณั ฑ์

3. การอา่ นคมู่ อื การปฏิบัตงิ านมหี ลกั อยา่ งไร จงอธิบายพร้อมยกตวั อย่างประกอบ

เพ่ือให้ผปู้ ฏบิ ัติ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เช่น ระเบยี บ คูม่ อื การปฏบิ ัตงิ าน

4. การอา่ นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์มวี ตั ถุประสงคแ์ ละหลักการอยา่ งไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อย่าง
ปจั จบุ ันคู่มอื การใชอ้ ปุ กรณ์และรายละเอียดของผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ ไดเ้ ข้ามามีบทบาทมชี วี ติ และการ

ทางานมากข้ึน

5. จงอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานและคมู่ อื การใช้อุปกรณ์
คมู่ ือการปฏิบัตงิ าน คอื สงิ่ ทใ่ี ชอ้ ธบิ ายทศิ ทาง
คมู่ ือการใช้อุปกรณ์ คือ ศกึ ษารายละเอียดคู่มืออุปกรณ์

15. แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการสอนท่ี 2 ชื่อหน่วยการฟงั และดสู ารในงานอาชพี

วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ อธิบายกระบวนการสือ่ สารได้ บอกความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพได้

ขอ้ คาถาม

1. ความสาเร็จของการสือ่ สารขนึ้ อยูก่ ับองค์ประกอบใดสาคัญที่สดุ

1. ผูส้ ่ือสาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผู้รับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตวั บ่งช้วี า่ สารประสบความสาเร็จคอื ข้อใด

1. ผสู้ ง่ สารนาเสนอสารได้อยา่ งชดั เจน

2. มสี ่อื หรือชอ่ งทางการส่ือสารท่ีหลากหลาย

3. ผู้รับสารตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของผ้สู ่งสาร

4. ผรู้ บั สารมีปฏกิ ริ ยิ าต่อสาร

5. เนื้อหาสาระของสารเป็นประโยชน์ท้งั ต่อบุคคล องค์กร สังคม

3. ตวั อย่างการสอ่ื สารในข้อใดทส่ี ะทอ้ นความสัมพันธข์ องการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาไดช้ ดั เจนมากท่สี ดุ

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวทิ ยุ

5. นกั การเมือง

121

4. อาชพี ใดทีภ่ าษาทา่ ทางมีอทิ ธิพลตอ่ ความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

1. นักพูด 2. นักร้อง

3. นักสืบ 4. นักแสดง

5. นักการเมอื ง

5. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง

1. การสือ่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ทาใหก้ ารใชภ้ าษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมือสอื่ สารระดับบุคคลที่แพรห่ ลายมากท่ีสดุ ในปจั จบุ นั คอื สือ่ ออนไลน์

3. การส่อื สารผา่ นโทรทศั น์ไม่จาเป็นตอ้ งใช้อวจั นภาษา เพราะใช้วาจาสื่อสารเทา่ นัน้

4. การส่ือสารจาเป็นตอ้ งใชอ้ วัจนภาษาควบค่ไู ปกบั วัจนภาษา เพราะชว่ ยให้การส่ือสารมีความชัดเจน

ยง่ิ ขน้ึ

5. ข้อ 1 และข้อ 3 ถูกต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ยั ทศั นห์ าเสียงเปน็ นายกองคก์ ารวชิ าชีพ โดยใช้ไมโครโฟนที่มเี สยี งขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู ร่ืองชดั เจน ปัญหาอุปสรรคของกระบวนการสอ่ื สารนคี้ อื ขอ้ ใด

๑. สือ่ คอื ไมโครโฟน ๒. สาร คอื วสิ ยั ทัศน์ในการหาเสียง

๓. ผ้สู ่งสาร คือสายชล ๔. ผู้รับสาร คือ ผู้เรยี นฟังไม่ร้เู รื่อง

๕. ข้อ ๑ และ ขอ้ ๒ ถูก

๗. ข้อใดจดั เป็นการพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชีพทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพที่สุด

๑. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-ค้นคว้า-ปฏิบัต-ิ ปรบั ปรุง-พฒั นา

๓. ค้นคว้า-สงั เกต-จดจา-ปฏิบตั -ิ ประเมนิ ตนเอง-พฒั นา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นา

๕. สงั เกต-จดจา-เลียนแบบ-ปฏบิ ตั ิ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรุง-พฒั นา

๘. บุคคลในข้อใดท่มี คี วามสามารถในการพัฒนาการใชภ้ าษาไทยของตนเองไดด้ ที ีส่ ุด

๑. ปทั มนนั ตช์ มละครโทรทศั นท์ กวัน อย่างนอ้ ยวันละ ๒ ช่วั โมง เพือ่ พฒั นาการเป็นผู้ฟงั ผชู้ มทด่ี ี

๒. กิตตชิ มรายการโทรทศั นต์ ง้ั แตเ่ วลาหนง่ึ ทุม่ ถงึ เทย่ี งคนื ทกุ คืน ทง้ั รายการ ขา่ ว ละคร เพลง

ภาพยนตรโ์ ฆษณา พร้อมบนั ทึกประเด็นที่นา่ สนใจ

๓. สมศกั ด์ิเลือกสถานวี ทิ ยทุ ม่ี ีคุณภาพและเปดิ ฟังตลอดทัง้ วนั ขณะทางาน ทาให้เรยี นรลู้ ักษณะของผู้

จดั รายการวิทยทุ ่ีมปี ระสิทธภิ าพ

๔. ไตรภพเอาใจใสบ่ ุคคลรอบขา้ งเสมอและเป็นนกั ฟงั ทดี่ ี หลีกเลย่ี งการโตแ้ ย้ง พร้อมทง้ั พยายาม

ประนปี ระนอมเม่อื เพื่อนร่วมงานมขี อ้ ขดั แยง้ กัน

๕. ปัญญาอ่านข้าวทกุ วันและอ่านออกเสียงก่อนนอนทกุ คืน โดยต้ังใจอ่านใหเ้ หมอื นผปู้ ระกาศขา่ วใน

วิทยุกระจายเสียงและโทรทศั น์

๙. ข้อใดกล่าวสมเหตุสมผลมากท่ีสุด

๑. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยในชวี ติ และการทางานมากทสี่ ดุ คือทกั ษะการรบั สาร ดงั นัน้ ตอ้ งฝกึ ฝนการฟัง

และการอา่ นให้มากกว่าการพดู และการเขยี น

๒. ทักษะการใชภ้ าษาไทยทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการโนม้ นา้ วใจมากทีส่ ดุ คือทกั ษะการสง่ สาร ดงั นั้นต้องฝกึ ฝน

การพูดและการเขยี นใหม้ ากกว่าการฟังและการอ่าน

122

๓. ควรฝกึ ฝนทักษะการใช้ภาษาไทย ท้ังการฟงั และการพดู การอา่ นและการเขียนไปพรอ้ ม ๆ กนั
เพราะการส่งสารท่ดี ียอ่ มมาจากการรบั สารทด่ี ี

๔. นกั พดู ที่ดีมาจากการเปน็ นกั ฟงั ท่ีดี และนกั เขยี นท่ีดมี าจากการเปน็ นักอ่านท่ีดี ดงั นั้นความเป็นนัก
ฟงั และนกั อา่ นที่ดจี งึ มผี ลตอ่ งานอาชีพมากที่สุด

๕. ข้อ ๑. และข้อ ๒. ถูกตอ้ ง
๑๐. บคุ คลในขอ้ ใดสามารถสร้างความประทับใจต่อผ้พู บเหน็ ได้มากทสี่ ดุ

๑. แตง่ กายภูมิฐาน เครือ่ งประดับราคาแพง ทา่ ทางสง่า พดู น้อย ย้มิ ยาก
๒. แต่งกายประณตี ย้ิมแยม้ แจม่ ใส ไหว้ ทักทายผูพ้ บเห็นด้วยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แตง่ กายสะอาดเรยี บร้อย อ่อนนอ้ มถอ่ มตน เปน็ ผ้ฟู ังท่ีดี แสดงความคิดเห็นน้อย เพราะเกรงใจ
ผอู้ ่นื
๔. แต่งกายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แยม้ แจ่มใส่ทกั ทายผคู้ นท่พี บเห็นอยา่ งเปน็ กันเอง
แมจ้ ะไมร่ ู้จักกต็ าม
๕. แต่งกายชุดไทยภมู ฐิ าน มมี ารยาทในการฟังทดี่ ี สงั เกตผู้พูดและมองตาผพู้ ดู ตลอดเวลา

123

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

1. ความสาเร็จของการสอ่ื สารขน้ึ อยกู่ ับองคป์ ระกอบใดสาคัญที่สุด

2. ผ้สู ่อื สาร 2. สาร

3. ส่ือ 4. ผรู้ ับสาร

5. ถูกทุกข้อ

2. ตัวบ่งชี้ว่าสารประสบความสาเรจ็ คือขอ้ ใด

1. ผู้สง่ สารนาเสนอสารไดอ้ ย่างชดั เจน

2. มสี ื่อหรือช่องทางการสือ่ สารทห่ี ลากหลาย

3. ผู้รับสารตอบสนองได้ตรงตามความตอ้ งการของผู้ส่งสาร

4. ผรู้ บั สารมปี ฏกิ ิรยิ าตอ่ สาร

5. เนอ้ื หาสาระของสารเปน็ ประโยชนท์ ั้งต่อบคุ คล องคก์ ร สังคม

3. ตัวอยา่ งการส่อื สารในขอ้ ใดท่ีสะทอ้ นความสมั พันธ์ของการใชว้ ัจนภาษา และอวจั นภาษาไดช้ ัดเจนมากท่สี ุด

1. รายการข่าวประจาวนั

2. รายการสารคดี

3. โฆษณา

4. รายการวิทยุ

5. นักการเมอื ง

4. อาชีพใดทภ่ี าษาทา่ ทางมอี ิทธพิ ลตอ่ ความสาเรจ็ มากทส่ี ดุ

2. นักพูด 2. นักร้อง

3. นักสบื 4. นกั แสดง

5. นกั การเมอื ง

5. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง

1. การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ตทาใหก้ ารใช้ภาษาไทยในงานอาชีพลดลง

2. เครอ่ื งมอื สอื่ สารระดับบคุ คลท่แี พรห่ ลายมากทส่ี ดุ ในปจั จบุ นั คือสอ่ื ออนไลน์

3. การสื่อสารผ่านโทรทัศน์ไม่จาเป็นตอ้ งใช้อวจั นภาษา เพราะใช้วาจาสื่อสารเท่านนั้

4. การสอื่ สารจาเป็นต้องใชอ้ วจั นภาษาควบคไู่ ปกบั วจั นภาษา เพราะชว่ ยใหก้ ารสอื่ สารมคี วามชดั เจน

ยง่ิ ขนึ้

5. ขอ้ 1 และขอ้ 3 ถกู ต้อง

6. สายชลกาลงั แสดงวสิ ัยทัศนห์ าเสยี งเป็นนายกองค์การวชิ าชพี โดยใช้ไมโครโฟนทม่ี ีเสียงขาด ๆ หาย ๆ ฟังไม่

ร้เู รื่องชัดเจน ปญั หาอปุ สรรคของกระบวนการส่ือสารนค้ี อื ข้อใด

๑. สอ่ื คือไมโครโฟน ๒. สาร คือ วสิ ยั ทศั นใ์ นการหาเสยี ง

๓. ผู้ส่งสาร คอื สายชล ๔. ผู้รบั สาร คือ ผู้เรียนฟงั ไม่รเู้ รื่อง

๕. ขอ้ ๑ และ ข้อ ๒ ถูก

๗. ขอ้ ใดจดั เป็นการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยในงานอาชพี ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี ุด

๑. สังเกต-จดจา-เลียนแบบ-พฒั นา

๒. สงั เกต-จดจา-คน้ ควา้ -ปฏบิ ัต-ิ ปรับปรงุ -พัฒนา

๓. ค้นคว้า-สังเกต-จดจา-ปฏบิ ตั -ิ ประเมินตนเอง-พฒั นา

๔. คน้ ควา้ -จดจา-สงั เกต-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พัฒนา

124

๕. สงั เกต-จดจา-เลยี นแบบ-ปฏิบัติ-ประเมนิ ตนเอง-ปรบั ปรงุ -พฒั นา
๘. บุคคลในข้อใดทม่ี ีความสามารถในการพฒั นาการใช้ภาษาไทยของตนเองไดด้ ีที่สดุ

๑. ปัทมนันตช์ มละครโทรทัศนท์ กวนั อย่างนอ้ ยวันละ ๒ ชั่วโมง เพอ่ื พัฒนาการเปน็ ผฟู้ งั ผู้ชมท่ดี ี
๒. กติ ติชมรายการโทรทศั น์ตงั้ แต่เวลาหนึ่งทุม่ ถงึ เทีย่ งคนื ทกุ คนื ทัง้ รายการ ขา่ ว ละคร เพลง
ภาพยนตร์โฆษณา พรอ้ มบนั ทกึ ประเดน็ ทีน่ ่าสนใจ
๓. สมศักดเิ์ ลือกสถานีวทิ ยุที่มีคุณภาพและเปดิ ฟังตลอดท้ังวนั ขณะทางาน ทาให้เรยี นรลู้ ักษณะของผู้
จดั รายการวทิ ยุท่ีมีประสิทธภิ าพ
๔. ไตรภพเอาใจใส่บคุ คลรอบข้างเสมอและเป็นนกั ฟังทด่ี ี หลกี เล่ยี งการโต้แย้ง พร้อมทง้ั พยายาม
ประนปี ระนอมเมอื่ เพือ่ นร่วมงานมขี ้อขัดแย้งกนั
๕. ปัญญาอา่ นข้าวทกุ วนั และอ่านออกเสยี งกอ่ นนอนทุกคืน โดยตัง้ ใจอ่านให้เหมอื นผปู้ ระกาศข่าวใน
วิทยุกระจายเสียงและโทรทศั น์
๙. ขอ้ ใดกลา่ วสมเหตสุ มผลมากทสี่ ดุ
๑. ทักษะการใชภ้ าษาไทยในชีวติ และการทางานมากทสี่ ุดคอื ทกั ษะการรบั สาร ดงั นัน้ ต้องฝกึ ฝนการฟัง
และการอา่ นให้มากกวา่ การพดู และการเขยี น
๒. ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยทมี่ อี ทิ ธิพลตอ่ การโนม้ น้าวใจมากท่ีสดุ คือทกั ษะการสง่ สาร ดงั นั้นตอ้ งฝกึ ฝน
การพูดและการเขยี นใหม้ ากกวา่ การฟังและการอ่าน
๓. ควรฝึกฝนทักษะการใชภ้ าษาไทย ทงั้ การฟัง และการพดู การอ่านและการเขียนไปพร้อม ๆ กนั
เพราะการสง่ สารท่ีดยี อ่ มมาจากการรบั สารทด่ี ี
๔. นกั พดู ท่ดี ีมาจากการเป็นนกั ฟังท่ดี ี และนักเขยี นท่ดี มี าจากการเปน็ นักอา่ นที่ดี ดังนั้นความเปน็ นัก
ฟงั และนักอ่านทดี่ จี งึ มีผลต่องานอาชีพมากท่ีสุด
๕. ข้อ ๑. และขอ้ ๒. ถกู ตอ้ ง
๑๐. บุคคลในข้อใดสามารถสร้างความประทับใจต่อผูพ้ บเห็นไดม้ ากท่ีสุด
๑. แตง่ กายภูมิฐาน เครือ่ งประดบั ราคาแพง ทา่ ทางสงา่ พูดนอ้ ย ยมิ้ ยาก
๒. แตง่ กายประณตี ย้มิ แย้มแจม่ ใส ไหว้ ทักทายผพู้ บเหน็ ด้วยถ้อยคาสภุ าพ
๓. แตง่ กายสะอาดเรียบรอ้ ย อ่อนน้อมถอ่ มตน เป็นผู้ฟงั ทดี่ ี แสดงความคดิ เห็นนอ้ ย เพราะเกรงใจ
ผ้อู ่นื
๔. แตง่ กายตามสบาย พดู ตลกขบขันตลอดเวลา ยม้ิ แย้มแจม่ ใสท่ ักทายผคู้ นท่พี บเห็นอยา่ งเป็นกันเอง
แม้จะไม่รู้จกั กต็ าม
๕. แต่งกายชดุ ไทยภมู ิฐาน มมี ารยาทในการฟังท่ีดี สังเกตผพู้ ดู และมองตาผ้พู ูดตลอดเวลา


Click to View FlipBook Version