The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kunkrurachata, 2021-11-29 10:41:02

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ม6

แผน2

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้

รำยวชิ ำสังคมศึกษำ
ระดับช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี

ภำคเรยี นท่ี 2 ปกี ำรศกึ ษำ 2564

จดั ทำโดย นำยรชตะ ขำวดี

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐำนะครูชำนำญกำร

โรงเรยี นบำ้ นแพงพทิ ยำคม
อำเภอบำ้ นแพง จงั หวดั นครพนม
สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำนครพนม

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เวลา 6 ชว่ั โมง
เครอื่ งมือในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์

ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชนิ้ งาน

ภาระงาน/ชิน้ งาน ความรู้ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. การทาแบบทดสอบ 1. แผนท่ี และคา่ นยิ ม
2. การบนั ทึกความรู้ 2. เครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตร์
3. การสร้างแผนท่ีความคดิ 3. เทคโนโลยแี ละสารสนเทศ 1. มวี นิ ัย
4. การบนั ทึกกจิ กรรม ในการศึกษาภูมศิ าสตร์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
5. การนาเสนอผลงาน 3. รบั ผดิ ชอบ
เครอ่ื งมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์ 4. มุ่งมนั่ ในการทางาน

ทักษะ/กระบวนการ
1. การสอ่ื สาร
2. การคิด
3. การใช้เทคโนโลยี
4. กระบวนการกลมุ่

2

ผงั การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เครอื่ งมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์

ข้ันที่ 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขนึ้ กบั นกั เรยี น

ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชนั้
 ใชเ้ คร่ืองมอื ทางภูมิศาสตรใ์ นการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอขอ้ มลู อย่างมีประสิทธภิ าพ

(ส 5.1 ม. 4–6/1)

ความเขา้ ใจทคี่ งทนของนักเรยี นนกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ... คาถามสาคญั ท่ที าใหเ้ กดิ ความเข้าใจทคี่ งทน

แผนที่ เครือ่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ และเทคโนโลยีและ

สารสนเทศทางภมู ศิ าสตร์ เป็นเครื่องมอื ที่ใชใ้ น  เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตรม์ ีความสาคัญอย่างไร

การศกึ ษา รวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมลู ทาง

ภมู ิศาสตรใ์ นด้านต่าง ๆ เพอ่ื ให้ผูท้ ่ศี ึกษาไดร้ ับข้อมูลท่ี

ถกู ต้องและมีประสิทธภิ าพ

ความรขู้ องนกั เรยี นท่นี าไปสคู่ วามเข้าใจทค่ี งทน ทักษะ/ความสามารถของนกั เรยี นท่ีนาไปสู่

นกั เรยี นจะรวู้ ่า... ความเขา้ ใจทค่ี งทน นกั เรียนจะสามารถ...

1. คาสาคญั ได้แก่ แผนท่ีรฐั กจิ แผนทธี่ รณวี ทิ ยา ที่ 1. อธบิ ายวิธกี ารใช้งานเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์

ราบสงู ช่องแคบ เส้นช้นั ความสูง ระดับทะเลปานกลาง 2.เลอื กใช้เครอ่ื งมือในการศึกษาข้อมลู ทางภูมิศาสตร์มา

ความชื้นสัมพัทธ์ อตุ ุนิยมวทิ ยา อทุ กศาสตร์ ใช้ในการศกึ ษา รวบรวม และวิเคราะหข์ ้อมูลทาง

2.แผนท่เี ป็นเครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ที่แสดง ข้อมลู ภูมศิ าสตรไ์ ด้อย่างถูกตอ้ ง

ต่าง ๆ ทีป่ รากฏบนพืน้ ผิวโลกไว้บน วัสดุแบนราบ โดย

การย่อลงตามมาตราสว่ นท่ีตอ้ งการ และใช้สัญลกั ษณ์

แทนสิง่ ตา่ ง ๆ ที่ ปรากฏบนพืน้ ผิวโลก แผนท่มี ี

ประโยชน์ในการศกึ ษาข้อมูลเชงิ พน้ื ท่ีเพื่อใชใ้ นการ

วางแผนในด้านต่าง ๆ

3.เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

คอื เครื่องมอื ทางแผนที่ เช่น เข็มทศิ เครื่องมอื วัด

ระยะทางในแผนที่ เครื่องมือวัด พ้ืนที่ และเครอื่ งมือ

ทางภมู อิ ากาศ เชน่ บารอมิเตอร์ เทอร์โมมเิ ตอร์ ไซโคร

มเิ ตอร์ ไฮโกรมิเตอร์ มาตรวดั ลม เครื่องวัดฝน ซ่งึ

เครื่องมือแตล่ ะชนิดกจ็ ะมีคุณสมบัติการให้ ข้อมลู

แตกต่างกัน

4.เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาทาง

ภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ เครอ่ื งมือทใี่ ห้ขอ้ มูลทางภมู ศิ าสตรท์ ่ี

ทนั สมยั ได้แก่ การรับรู้จากระยะไกล ระบบสารสนเทศ

3

ภมู ศิ าสตร์ ระบบกาหนดตาแหนง่ บนโลก และ

อนิ เทอร์เนต็

ขน้ั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ งึ่ เป็นหลกั ฐานทีแ่ สดงวา่ นกั เรียนมผี ลการเรยี นรตู้ ามที่ กาหนดไว้

อยา่ งแทจ้ รงิ

1. ภาระงานท่นี กั เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิ

1.1 ศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกับเคร่ืองมือในการศกึ ษาภูมศิ าสตร์

1.2 เลอื กใช้เคร่อื งมอื ในการศึกษาภูมศิ าสตร์และเก็บข้อมลู ทางภูมิศาสตร์

1.3 รายงานบันทึกผลการเก็บข้อมลู ทางภูมศิ าสตร์

1.4 นาเสนอผลงานเกี่ยวกบั เครอ่ื งมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์

2. วธิ กี ารและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้

2.1 วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.2 เคร่ืองมอื ประเมินผลการเรียนรู้

1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน

2) การประเมินผลงาน/กจิ กรรมเปน็ 2) แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็

รายบคุ คลหรือเปน็ กล่มุ รายบคุ คลหรอื เป็นกลุ่ม

3) การประเมินดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 3) แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ

และค่านิยม คา่ นยิ ม

4) การประเมนิ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ

3. สง่ิ ทม่ี งุ่ ประเมนิ

3.1 ความสามารถ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตคี วาม การประยกุ ต์ ดดั แปลง และ

นาไปใช้ การมมี ุมมองที่หลากหลาย การให้ความสาคญั และใส่ใจในความร้สู ึกของผู้อนื่ และ การร้จู กั ตนเอง

3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เชน่ การสือ่ สาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี กระบวนการกลุม่

3.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยม เช่น รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สตั ย์สจุ รติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่าง

พอเพยี ง ม่งุ ม่นั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ

ข้ันที่ 3 แผนการจดั การเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 แผนท่ี เวลา 1 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์ เวลา 1 ช่ัวโมง

4

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1
แผนที่

สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เครอ่ื งมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

1. สาระสาคัญ
แผนท่เี ปน็ เคร่อื งมือที่ช่วยในการศึกษาขอ้ มลู ทางภูมศิ าสตร์ โดยการแสดงขอ้ มูลตา่ ง ๆ บนพื้นผิวโลกลงบน

วัสดุแบนราบ การอ่านขอ้ มูลในแผนทผ่ี ูใ้ ช้แผนที่จาเปน็ ตอ้ งมีความรเู้ บือ้ งตน้ เก่ียวกับชนิดของแผนท่ีและองค์ประกอบ
ของแผนที่
2. ตัวชว้ี ัดชว่ งช้ัน

 ใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ (ส 5.1 ม. 4–6/1)
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายความหมายและองคป์ ระกอบของแผนท่ีได้ (K)
2. บอกประโยชนข์ องแผนทไ่ี ด้ (A)
3. อ่านขอ้ มูลจากแผนทไ่ี ด้ (K, P)
4. นาแผนทไ่ี ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้ (K)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)
1. ทดสอบก่อนเรยี น
2. ซกั ถามความรู้เร่ือง แผนท่ี  ประเมนิ พฤติกรรมในการ  ประเมินพฤติกรรมในการ
3. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเปน็
รายบคุ คลหรือเปน็ กลุม่ ทางานเปน็ รายบุคคลในด้านความ ทางานเป็นรายบคุ คลและเป็น

มีวนิ ัย ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ กล่มุ ในดา้ นการส่ือสาร การคิด

การแก้ปญั หา ฯลฯ

5. สาระการเรียนรู้
 แผนท่ี

1. ชนิดของแผนท่ี
2. องคป์ ระกอบของแผนท่ี

3. การใชแ้ ผนท่ี

5

6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย  ฟงั พดู อา่ น และเขียนข้อมูลเกีย่ วกับแผนที่

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  สบื คน้ ข้อมลู เกีย่ วกบั แผนที่ จากแหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ เช่น หอ้ งสมดุ
อนิ เทอรเ์ น็ต

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวช้ีวัดช่วงช้ัน

และจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นักเรียนทราบ
2. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนผ่าน Quizizz ซ่ึงเป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้างแบบทดสอบ

เพ่อื ประเมนิ ผลคุณภาพผู้เรยี นแบบออนไลน์
3. ครสู นทนากับนักเรยี นเกย่ี วกบั ประสบการณ์ของนักเรยี นในการใช้แผนที่ แล้วโยงเขา้ สเู่ นอื้ หาในบทเรียน
ขนั้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
4. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4–6 คน โดยจัดกลุ่มและแสดงรายช่ือกลุ่มในโปรแกรม Classdojo

แชร์หน้าจอให้นักเรียนเห็น จากน้ันศึกษาความรู้เร่ือง แผนท่ี จากแหล่งการเรียนรู้ออนไลน์ต่าง ๆ แล้วบันทึก
ประเด็นปญั หาหรอื ข้อสงสัยลงในสมุด

5. ครูให้นักเรียนตัวแทนกลุ่มสรุปประเด็นท่ีศึกษาเก่ียวกับเร่ือง แผนที่ จากนั้นครูสรุปรวบรวม
เปน็ ประเด็นในการศกึ ษา

6. ครอู ธบิ ายประเด็นในการศกึ ษาที่นักเรียนเสนอทีละข้อ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น
ก่อน จากน้ันครจู งึ อธิบายข้อมลู ในประเดน็ การศกึ ษานัน้ ๆ

ประเดน็ การศกึ ษา เชน่
1) ความหมายและความสาคัญของแผนที่
2) ชนดิ ของแผนท่ี
3) องค์ประกอบของแผนท่ี
7. ครูแสดงแผนที่แสดงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาให้นักเรียนดูผ่านจอ จากน้ันให้นักเรียนนา
ความรู้ที่ได้เรียนมาช่วยกันวิเคราะห์ว่าแผนท่ีนี้แสดงพ้ืนท่ีอะไร มีองค์ประกอบของแผนท่ีอะไรบ้า ง แต่ละ
องค์ประกอบมีลักษณะอย่างไร และนักเรียนได้รับความรู้อะไรบ้างจากแผนที่น้ี สรุปและพิมพ์ส่งทางช่องแชท
ครูช่วยสรุปเพิม่ เตมิ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์แลว้ ใหน้ ักเรียนบนั ทกึ ความรทู้ ีไ่ ดล้ งสมดุ หรอื สมาร์ทโฟนของนักเรยี น
ขน้ั ที่ 3 ฝึกฝนผู้เรยี น
8. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลจากแผนท่ีภูมิประเทศของประเทศไทย แล้วให้แต่ละกลุ่ม พิมพ์
ในๆ ลิงก์ไฟล์ใน Google Drive ที่ครูแชรใ์ ห้ ตอบข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากแผนท่ีดังกล่าว พร้อมทั้งบอกประโยชน์ที่ได้จาก
การศึกษาแผนท่ีภมู ิประเทศของประเทศไทย
9. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมเกี่ยวกับแผนท่ี ในแบบฝึกทักษะภูมิศาสตร์ จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกัน
เฉลยคาตอบ

6

ขั้นที่ 4 นาไปใช้
10. ครใู ห้นกั เรียนยกตวั อยา่ งการนาแผนทไ่ี ปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน
ขั้นที่ 5 สรปุ
11. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ ก่ียวกับแผนที่
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู หน้ ักเรยี นวางแผนการเดินทางไปทอ่ งเท่ียวยังสถานทต่ี า่ ง ๆ โดยกาหนดเวลาในการเดนิ ทาง 1 วนั
9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น ในโปรแกรม Quizizz
2. แผนที่ภูมิประเทศของประเทศไทย
3. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ภูมศิ าสตร์
4. แบบฝึกทักษะ รายวชิ าพน้ื ฐาน ภมู ศิ าสตร์

7

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เคร่ืองมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์

คาชีแ้ จง เลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งคาตอบเดยี ว

1. แผนทช่ี นดิ ใดนามาใชใ้ นการอา้ งองิ สาหรบั จดั ทาแผนทช่ี นิดอนื่ ๆ
ก แผนทช่ี ุด
ข แผนที่ภมู ิอากาศ
ค แผนท่ีการใช้ทด่ี ิน
ง แผนท่ที รัพยากรธรรมชาติ

2. แผนทช่ี นดิ ใดแสดงขอ้ มลู ของพนื้ ท่ขี นาดเลก็ แลว้ ใหร้ ายละเอยี ดมาก
ก แผนท่อี ้างอิง
ข แผนทีภ่ มู ปิ ระเทศ
ค แผนทม่ี าตราส่วนขนาดเล็ก
ง แผนที่มาตราสว่ นขนาดใหญ่

3. แนว กข มคี า่ มมุ แบรงิ เทา่ ไร

N

W ก 30° E



S

ก S 30° E
ข S 60° E
ค E 30° S
ง E 60° S
4. ในแผนทจี่ ะแสดงแมน่ า้ ดว้ ยสอี ะไร
ก สีฟา้
ข สเี ทา
ค สีแดง
ง สนี ้าตาล

8

5. การบอกระดบั ความสงู ในแผนทดี่ ว้ ยวิธใี ดทนี่ ิยมใสเ่ ลขบอกระดบั ความสงู ไวด้ ว้ ย
ก การแรเงา
ข การใช้แถบสี
ค เส้นช้ันความสูง
ง เส้นลายขวานสบั

6. แนว กข มคี า่ มมุ แอซมิ ัทเทา่ ไร

N

W ก E
60°

ขS

ก 30 องศา
ข 60 องศา
ค 120 องศา
ง 210 องศา
7. แผนทท่ี ใ่ี ชแ้ สดงเกยี่ วกบั เขตการปกครองคอื แผนท่ีอะไร
ก แผนทร่ี ัฐกจิ
ข แผนทธ่ี รณีวทิ ยา
ค แผนท่ภี ูมปิ ระเทศ
ง แผนที่พชื พรรณธรรมชาติ
8. แผนทม่ี าตราสว่ น 1:50,000 ถา้ วัดระยะทางในภมู ปิ ระเทศจรงิ ได้ 15 กโิ ลเมตร แสดงวา่ ระยะทางใน
แผนทยี่ าวเทา่ ไร
ก 10 เซนตเิ มตร
ข 20 เซนตเิ มตร
ค 30 เซนตเิ มตร
ง 40 เซนตเิ มตร
9. วดั ระยะทางในแผนทไ่ี ด้ 3 เซนตเิ มตรกาหนดใหแ้ ผนทมี่ มี าตราสว่ น 1:5,000,000 หมายความวา่
ระยะทางจรงิ ในภมู ปิ ระเทศยาวเทา่ ไร
ก 120 กโิ ลเมตร
ข 130 กโิ ลเมตร
ค 140 กิโลเมตร
ง 150 กโิ ลเมตร

9

10. ข้อใดเปน็ ประโยชนข์ องกอ้ นถว่ งน้าหนกั ในเครอ่ื งมอื วดั พน้ื ท่ี
ก บอกตาแหน่งของพน้ื ที่
ข ใหข้ อ้ มลู อาณาเขตพนื้ ที่
ค ใชเ้ ปน็ จุดสังเกตในการวดั พืน้ ที่
ง ป้องกนั การเคล่ือนที่บริเวณจุดท่ีวา่ ง

11. เครอ่ื งมอื ชนดิ ใดใชใ้ นการวดั ความชนื้ สมั พทั ธใ์ นอากาศ
ก บารอกราฟ
ข เทอรโ์ มกราฟ
ค ไซโครมเิ ตอร์
ง เทอร์โมมิเตอร์

12. เสน้ ผมท่ีอยใู่ นไฮโกรมเิ ตอรม์ คี ณุ สมบตั อิ ยา่ งไร
ก ช่วยใหค้ ่าของความชืน้ คงท่ี
ข ชว่ ยยึดอปุ กรณ์เข้าไวด้ ว้ ยกัน
ค เปลย่ี นแปลงตามอณุ หภมู ขิ องอากาศ
ง เปลีย่ นแปลงตามปริมาณความช้ืนในอากาศ

13. ข้ันตอนของกระบวนการการรบั รจู้ ากระยะไกลขอ้ ใดเปน็ แหลง่ พลงั งานทส่ี าคญั
ก น้า
ข ลม
ค ดวงจนั ทร์
ง ดวงอาทิตย์

14. ถา้ ตอ้ งการศกึ ษาความเปล่ียนแปลงของทรพั ยากรปา่ ไมใ้ นประเทศไทยควรศกึ ษาจากเครอ่ื งมอื ภมู ศิ าสตร์
ใดจงึ จะเหมาะสมและรวดเรว็ มากท่ีสดุ

ก แผนท่ี
ข ภาพจากดาวเทยี ม
ค ภาพถา่ ยทางอากาศ
ง ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
15. ถา้ ตอ้ งการคน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั อณุ หภมู เิ ฉล่ียของแตล่ ะภมู ภิ าคในประเทศไทย ควรคน้ หาจากเวบ็ ไซต์ ของ
หนว่ ยงานใด
ก กรมอุตุนยิ มวิทยา
ข กรมทรัพยากรธรณี
ค กระทรวงมหาดไทย
ง กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

10

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ช่อื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1
2

3
4
5
6
7
8
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรือ

อาจใช้เกณฑ์ดังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)

11

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.

กลมุ่ ท่ี

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรุปผลการประเมนิ ให้เปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรืออาจ

ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

12

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

คาชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมท่นี ักเรยี นปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ

ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ

เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )

13

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.

คาชแี้ จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมที่นกั เรียนปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ งั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

14

มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบันทึกผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ คา่ 4 ระดับ ดงั น้ี 4

รายการประเมนิ 3

– บันทึกผลงานได้ถูกต้องตามจุดประสงค์ เขยี นบนั ทึกไดช้ ัดเจน แนวคดิ หลกั ถูกต้อง 2
มีประเด็นสาคญั ครบถ้วน
1
– ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกต้อง

– บันทกึ ผลงานไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ทมี่ บี างส่วนยงั ไมช่ ดั เจน
แนวคิดหลักถกู ตอ้ ง ส่วนทเ่ี ปน็ ประเด็นสาคัญมีไม่ครบถ้วน

– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขยี นบันทึกไมช่ ดั เจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถูกต้อง ส่วนทเี่ ปน็ ประเด็นสาคัญมไี ม่ครบถว้ น

– ใช้ภาษา คาศพั ทไ์ ม่ถูกตอ้ งในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์ เขยี นบันทกึ ไมช่ ัดเจน และแนวคิดหลัก
ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง

– ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ ม่ถูกต้อง

15

บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้

หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

ลงชื่อ (ครผู สู้ อน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//

16

ขอ้ เสนอแนะความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ลงชื่อ หัวหน้ากลุ่มสาระสงั คมศกึ ษาฯ
(นางป่ินแก้ว แกว้ เปน็ บุญ)

วนั ท่ี / /

รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ลงช่อื รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
(นางยคุ ลทร โพธิ์ศรี)
วันที่ / /

ผอู้ านวยการโรงเรยี น

ลงชือ่ ผูอ้ านวยการโรงเรียน
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วันที่ / /

17

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2
เครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์

สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ เวลา 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เครอื่ งมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

1. สาระสาคญั

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์เป็นเคร่ืองมือท่ีรวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์ท่ีต้องการ โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ

ในการใหข้ ้อมลู ทแ่ี ตกต่างกนั

2. ตัวชีว้ ดั ช่วงช้ัน

 ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี

ประสิทธภิ าพ (ส 5.1 ม. 4–6/1)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายประโยชนแ์ ละวิธกี ารใช้เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตรไ์ ด้ (K, A)

2. เลือกใชเ้ ครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ หเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการในด้านขอ้ มลู (K, P)

3. ใชเ้ คร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตรใ์ นการรวบรวมขอ้ มูลทางภมู ศิ าสตรไ์ ด้ (K, P)

4. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)

1. ซักถามความรเู้ รอ่ื ง เคร่อื งมอื  ประเมินพฤตกิ รรมในการ  ประเมินพฤตกิ รรมในการ

ทางภูมิศาสตร์ ทางานเป็นรายบุคคลในดา้ น ทางานเปน็ รายบคุ คลและเป็น

2. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็ ความมวี ินัย ความใฝ่เรยี นรู้ ฯลฯ กลมุ่ ในด้านการสื่อสาร การคดิ

รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม การแกป้ ัญหา ฯลฯ

5. สาระการเรียนรู้
 เครอ่ื งมอื ทใี่ ชห้ าข้อมูลทางภูมศิ าสตร์
1. เคร่ืองมือทางแผนที่
1.1 เขม็ ทศิ
1.2 เคร่อื งมือวดั ระยะทางในแผนท่ี
1.3 เคร่อื งมอื วัดพน้ื ที่
2. เครื่องมอื ทางภมู อิ ากาศ
2.1 บารอมเิ ตอร์
2.2 เทอรโ์ มมเิ ตอร์
2.3 ไซโครมิเตอร์

18

2.4 ไฮโกรมิเตอร์
2.5 มาตรวดั ลม
2.6 เครื่องวัดฝน
6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย  ฟัง พูด อา่ น และเขยี นเก่ียวกบั เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์
ภาษาต่างประเทศ  อา่ นและหาความหมายของคาท่เี กี่ยวกับเคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตร์
7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวช้ีวัดช่วงช้ัน
และจุดประสงค์การเรียนร้ใู หน้ กั เรยี นทราบ
2. ครูเปิดเน้ือหาจากส่ือใน Facebook Page : เรียนสังคมฯ กับKunkru P’NUT เร่ืองเครื่องมือ
ทางภูมิศาสตร์ ให้นักเรียนดูภาพเทอร์โมมิเตอร์ บอรอมิเตอร์ มาตรวัดลม เครื่องวัดฝน แล้วถามนักเรียนว่า
นักเรียนรู้จักเคร่ืองมือชนิดใดบ้าง และให้นักเรียนอธิบายการใช้งานเครื่องมือชนิดน้ันตามความรู้ของนักเรียน
จากนัน้ ครูเชื่อมโยงการสนทนาเข้าสบู่ ทเรยี น
ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ครูแสดงบัตรคาผ่านการแชร์หน้าจอ คาว่า compass, map measurer, planimeter,
barometer, thermometer, psychro-meter, hygrometer, anemometer, rain gauge
แลว้ ให้แต่ละกลุ่มค้นหาความหมายภาษาไทยของคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษในบัตรคา
4. ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี นบอกความหมายของคาในบตั รคาจนครบทุกคา
5. ครูใหน้ กั เรยี นศกึ ษาประโยชน์และวิธกี ารใช้งานของเครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์แต่ละชนิด แล้วบันทึกข้อมูล
ลงในแบบบันทกึ ความรู้
6. ครสู มุ่ เลอื กนักเรียนบอกประโยชนแ์ ละวธิ ีการใช้งานของเครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์
7. ครูแสดงข้อมูลเกย่ี วกับประเทศสมาชิกอาเซยี นผา่ นหนา้ จอ 5–8 ขอ้ เช่น อุณหภูมิเฉล่ีย ปริมาณฝน
เฉล่ียต่อปี ความช้ืนและความช้ืนสัมพัทธ์ ความกดอากาศเฉล่ีย ความเร็วลม จากนั้นให้นักเรียน แต่ละกลุ่ม
กลุ่มละ 6 คน ตอบคาถามขอ้ มูลของประเทศสมาชกิ อาเซยี นข้อมลู น้ัน ๆ ควรใช้เคร่ืองมือชนดิ ใดในการวัดค่าข้อมูล
แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ พิมพ์คาตอบสง่ ครู ครูเฉลยคาตอบ แล้วชน่ื ชมกลุ่มท่ตี อบคาถามได้ถูกต้องมากที่สุด และให้กาลังใจ
กลุม่ อ่ืน ๆ จากน้ันให้นักเรียนสรปุ ความรทู้ ีไ่ ด้ลงในสมดุ ส่งครู
ข้ันที่ 3 ฝึกฝนผ้เู รยี น
8. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มเลือกเครือ่ งมือทางภูมิศาสตร์ทีน่ กั เรยี นสนใจ แลว้ เก็บข้อมลู ทางภูมิศาสตร์ แล้ว
บนั ทึกผลจดั ทาเป็นสรุป Infographic 1 แผ่น
9. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมเกี่ยวกับเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ในแบบฝึกทักษะภูมิศาสตร์ จากน้ันครู
และนักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ

19

ขั้นที่ 4 นาไปใช้
10. ครใู ห้นักเรยี นยกตวั อย่างสถานการณ์ในการนาความรเู้ กยี่ วกบั เครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั
ขน้ั ท่ี 5 สรุป
11. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้เกย่ี วกับเครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์เปน็ แผนที่ความคิด
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู ห้นักเรียนศึกษาข้อมูลเก่ียวกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์เพิ่มเติมจากเน้ือหาในบทเรียน แล้วนาข้อมูลมา
จดั ทาเปน็ Infographic เพื่อแลกเปล่ียนเรยี นรู้
9. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
1. ส่ือเครือ่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ ใน Facebook Page : เรยี นสังคมฯ กบั Kunkru P’NUT
2. บตั รคาจากPower Point
3. แบบบันทกึ ความรู้
4. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษัท สานักพมิ พว์ ัฒนาพานิช จากัด
5. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวิชาพืน้ ฐาน ภูมิศาสตร์

20

ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชนั้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี แบบบนั ทกึ ความรู้
1. สรุปความรู้ท่ไี ด้
เรอ่ื ง

2. สรปุ แนวคดิ ใหม่ทไ่ี ด้

3. การนาไปใช้ประโยชน์

21

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ช่อื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1
2

3
4
5
6
7
8
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรือ

อาจใช้เกณฑ์ดังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)

22

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.

กลมุ่ ท่ี

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรุปผลการประเมนิ ให้เปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรืออาจ

ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

23

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

คาชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมท่นี ักเรยี นปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ

ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ

เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )

24

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.

คาชแี้ จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมที่นกั เรียนปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ งั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

25

มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบันทึกผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ คา่ 4 ระดับ ดงั น้ี 4

รายการประเมนิ 3

– บันทึกผลงานได้ถูกต้องตามจุดประสงค์ เขยี นบนั ทึกไดช้ ัดเจน แนวคดิ หลกั ถูกต้อง 2
มีประเด็นสาคญั ครบถ้วน
1
– ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกตอ้ ง

– บันทกึ ผลงานไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ทมี่ บี างส่วนยงั ไมช่ ดั เจน
แนวคิดหลักถกู ตอ้ ง ส่วนทีเ่ ปน็ ประเด็นสาคัญมีไม่ครบถ้วน

– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขยี นบันทึกไมช่ ดั เจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถูกต้อง ส่วนทเี่ ปน็ ประเด็นสาคัญมไี ม่ครบถว้ น

– ใช้ภาษา คาศัพท์ไมถ่ กู ต้องในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ไมช่ ัดเจน และแนวคิดหลัก
ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง

– ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ มถ่ กู ต้อง

26

บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้

หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

ลงชื่อ (ครผู สู้ อน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//

27

ขอ้ เสนอแนะความคดิ เห็นเพม่ิ เตมิ

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ลงชื่อ หัวหนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษาฯ
(นางปนิ่ แกว้ แก้วเปน็ บญุ )

วันที่ / /

รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ลงช่ือ รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ
(นางยุคลทร โพธิศ์ รี)
วนั ท่ี / /

ผอู้ านวยการโรงเรยี น

ลงชือ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
(นายเอกชยั คะษาวงค์)
วันท่ี / /

28

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3
เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์

สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เครอื่ งมอื ในการศกึ ษาภมู ศิ าสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

1. สาระสาคัญ

เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาทางภูมิศาสตร์เป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยในการศึกษารวบรวม วิเคราะห์

และนาเสนอขอ้ มูลทางภมู ศิ าสตร์ไดอ้ ย่างรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และทันสมัย

2. ตัวช้ีวัดชว่ งชัน้

 ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมี

ประสิทธิภาพ (ส 5.1 ม. 4–6/1)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายประโยชนแ์ ละการใช้งานเกยี่ วกบั เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศกึ ษาภูมิศาสตร์ได้ (K, A)

2. เลอื กใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภมู ศิ าสตร์ไดเ้ หมาะสม (P, K)

3. นาเทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภูมศิ าสตรไ์ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (K)

4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)

1. ทดสอบหลงั เรยี น  ประเมนิ พฤติกรรมในการ  ประเมนิ พฤติกรรมในการ

2. ซกั ถามความรู้เรื่อง เทคโนโลยี ทางานเปน็ รายบุคคลในด้าน ทางานเปน็ รายบคุ คลและเป็น

และสารสนเทศในการศกึ ษา ความมวี นิ ยั ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ กลุม่ ในด้านการส่ือสาร การคดิ

ภมู ิศาสตร์ การแก้ปัญหา ฯลฯ

3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็

รายบุคคลหรอื เปน็ กลุม่

5. สาระการเรยี นรู้
 เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภูมศิ าสตร์
1. การรับรจู้ ากระยะไกล
2. ชนดิ ของข้อมูลการรับรูจ้ ากระยะไกล
2.1 รูปถา่ ยทางอากาศ
2.2 ภาพจากดาวเทยี ม
3. ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์
4. ระบบกาหนดตาแหนง่ บนพ้นื โลก
5. อินเทอรเ์ น็ต

29

6. แนวทางบูรณาการ
ภาษาไทย  ฟัง พูด อา่ น และเขียนข้อมลู เกย่ี วกับเทคโนโลยแี ละสารสนเทศใน
การศึกษาภมู ิศาสตร์

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี  สืบคน้ ขอ้ มลู จากอินเทอรเ์ นต็ และนาเสนอผลงานรปู แบบต่าง ๆ
Power Point Mind Mapping Infographic

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันท่ี 1 นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัดช่วงชั้น

และจดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ ักเรยี นทราบ
2. ครูให้นักเรียนดูภาพจากดาวเทียมผ่านหน้าจอที่ครูแชร์ แล้วสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับภาพ

จากดาวเทียม
ข้นั ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
3. ครูให้แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 คน โดยจัดกลุ่มและแสดงรายชื่อกลุ่มในโปรแกรม Classdojo

แชร์หน้าจอให้นักเรียนเห็น ร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมิศาสตร์
ท่ีกาหนด โดยให้นักเรียนค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แล้วบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรมเร่ือง เทคโนโลยีและ
สารสนเทศในการศึกษาทางภูมิศาสตร์

กลมุ่ ที่ 1 ศกึ ษาเร่อื ง การรบั ร้จู ากระยะไกล
กลมุ่ ท่ี 2 ศกึ ษาเรอื่ ง รูปถา่ ยทางอากาศ
กลมุ่ ท่ี 3 ศกึ ษาเร่ือง ภาพจากดาวเทียม
กลุ่มท่ี 4 ศึกษาเรื่อง ระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์
กลุ่มท่ี 5 ศึกษาเร่ือง ระบบกาหนดตาแหน่งบนพืน้ โลก
(ในกลุ่มที่ 1 ให้นักเรียนภายในกลุ่มศึกษาข้อมูลเก่ียวกับการใช้ระบบการรับรู้จากระยะไกลของประเทศ
สมาชิกอาเซียน กลุ่มท่ี 2–3 ให้นักเรียนภายในกลุ่มสืบค้นรูปถ่ายทางอากาศ หรือภาพจากดาวเทียมที่เกี่ยวกับ
ประเทศสมาชิกอาเซียน กลุ่มละ 1–2 ภาพ แล้วสรุปว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร ให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศ
สมาชิกอาเซียน และมีประโยชน์ต่อการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างไร และกลุ่มท่ี 4–5 ให้
นักเรียนภายในกลุ่มศึกษาข้อมูลเก่ียวกับการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ หรือระบบกาหนดตาแหน่งบนพ้ืน
โลกของประเทศสมาชกิ อาเซียน)
4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใช้โปรแกรม Power Point
Mind Mapping Infographic ครูทาหน้าท่ีเสรมิ ความรใู้ ห้นักเรยี นใหส้ มบรู ณ์
5. ครูให้ตัวแทนกลุม่ แสดงความคดิ เห็นข้อดีและขอ้ เสยี เก่ยี วกบั การหาขอ้ มลู ภมู ศิ าสตรจ์ ากเว็บไซต์ตา่ ง ๆ
6. ครูมอบหมายงาน โดยให้นักเรียนสืบค้นภาพรูปถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียมของประเทศ
สมาชกิ อาเซยี นทีม่ คี วามเก่ียวข้องกับการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการทาเกษตรกรรม แล้วนามาช่วยกันวิเคราะห์
ว่าจากภาพการประกอบอาชีพดังกล่าวนั้น ๆ มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ อย่าง ไร
สรุปเป็นความเรยี งส่งครู

30

ขน้ั ท่ี 3 ฝึกฝนผเู้ รยี น
7. ครูให้นกั เรียนทากจิ กรรมทเี่ กีย่ วกบั เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมิศาสตร์ และแบบทดสอบ
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ประจาหน่วยการเรียนรู้ ในแบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน ภูมิศาสตร์ จากน้ันครู
และนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมและแบบทดสอบ
ขั้นที่ 4 นาไปใช้
8. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างการนาความรู้เก่ียวกับเทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมิศาสตร์
ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
ขนั้ ท่ี 5 สรปุ
9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมิศาสตร์
โดยให้นักเรียนสรุปเปน็ แผนทคี่ วามคิด
10. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน ผ่าน Quizizz ซ่ึงเป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้างแบบทดสอบ
เพอ่ื ประเมนิ ผลคณุ ภาพผเู้ รยี นแบบออนไลน์ ซ่ึงนกั เรยี นสามารถทราบคะแนนหลังทาเสรจ็ ไดท้ ันที
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูให้นักเรียนค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการนาเทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมิศาสตร์มาใช้
ในการพฒั นาประเทศ
9. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
1. ภาพจากดาวเทยี ม
2. แบบบนั ทึกกจิ กรรมเรอื่ ง เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศกึ ษาภมู ิศาสตร์
3. แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น ผ่านโปรแกรม Quizizz
4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บรษิ ัท สานกั พมิ พว์ ัฒนาพานิช จากัด
5. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพืน้ ฐาน ภูมิศาสตร์

31

แบบบนั ทกึ กจิ กรรม

เรื่อง เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศกึ ษาภมู ิศาสตร์
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เทคโนโลยีและสารสนเทศในการศึกษาภูมศิ าสตร์
ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชนั้

 ใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
(ส 5.1 ม. 4–6/1)
คาช้ีแจง ให้นกั เรียนศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลเก่ยี วกบั เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาภมู ิศาสตรท์ ี่ กาหนดจาก
เวบ็ ไซต์ สรปุ แล้วบนั ทึกข้อมลู พรอ้ มบอกชอื่ เว็บไซต์ที่มาของขอ้ มูล

สมาชกิ กลมุ่ 4. _______________________________
1. _______________________________ 5. _______________________________
2. ______________________________ 6. _______________________________
3. ______________________________

เรอื่ ง _______________________________________
บนั ทกึ ขอ้ มลู
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
ทม่ี า:
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 32
ปรากฏการณท์ างภมู ศิ าสตร์
เวลา 9 ชวั่ โมง
ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชนิ้ งาน
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ภาระงาน/ชนิ้ งาน ความรู้ และคา่ นยิ ม
1. การทาแบบทดสอบ 1. ลักษณะโครงสร้างของโลก
2. การบันทกึ ความรู้ 2. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก 1. มวี นิ ยั
3. การอภิปราย 3. กระบวนการสาคัญที่ทาใหเ้ กดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้
4. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของโลก 3. รับผิดชอบ
5. การวาดภาพระบายสี 4. ปญั หาทางกายภาพของ 4. มุง่ มนั่ ในการทางาน
6. การนาเสนอผลงาน ประเทศไทยและของโลก
5. ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาตขิ องไทย
ดว้ ยPower point และของโลก

ปรากฏการณ์
ทางภมู ศิ าสตร์

ทักษะ/กระบวนการ
1. การสอ่ื สาร
2. การคิด
3. การใช้เทคโนโลยี
4. กระบวนการกลุ่ม

33

ผงั การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ปรากฏการณท์ างภมู ศิ าสตร์

ข้ันที่ 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั นกั เรียน

ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั

1. วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซงึ่ ทาให้เกดิ ปัญหาทางกายภาพหรือภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติในประเทศไทย

และภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก (ส 5.1 ม. 4–6/2)

2. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของพื้นทีซ่ ง่ึ ไดร้ บั อิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ในประเทศไทยและทวีปตา่ ง ๆ

(ส 5.1 ม. 4–6/3)

3. ประเมินการเปลยี่ นแปลงธรรมชาติในโลกวา่ เปน็ ผลมาจากการกระทาของมนุษย์และหรอื ธรรมชาติ

(ส 5.1 ม. 4–6/4)

ความเขา้ ใจทคี่ งทนของนักเรยี น คาถามสาคญั ที่ทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทคี่ งทน

นกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ...

1. การเปลี่ยนแปลงทางภมู ิศาสตร์ซึง่ ทาใหเ้ กิดลกั ษณะ 1. ลักษณะภมู ิประเทศทป่ี รากฏบนพ้ืนผวิ โลกเกดิ ขึ้นได้

ภมู ปิ ระเทศรปู แบบต่าง ๆ บนพนื้ ผิวโลก เกิดขน้ึ จาก 3 อยา่ งไร

กระบวนการ คอื กระบวนการแปรสณั ฐาน 2. ลักษณะทางกายภาพของโลกมีอิทธพิ ลต่อมนุษย์

กระบวนการปรบั ระดับผวิ แผ่นดนิ และกระบวนการ อยา่ งไร

จากภายนอกโลก ซึง่ ลักษณะภูมปิ ระเทศบางอย่าง 3. ภัยธรรมชาตทิ ่ปี รากฏบนพืน้ โลกเกดิ ข้ึนจากสาเหตุใด

ส่งเสรมิ การดาเนินชวี ติ ของมนษุ ย์ แตบ่ างอยา่ งเป็น เปน็ สาคญั

อปุ สรรคตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตของมนุษย์

2. ภัยธรรมชาตทิ ป่ี รากฏบนพนื้ ผิวโลกมสี าเหตุสาคัญมา

จากการกระทาของมนษุ ยแ์ ละจากกระบวนการทาง

ธรรมชาติ ภัยธรรมชาตทิ ี่เกิดขึ้นทาใหเ้ กิดการ

เปล่ยี นแปลงของ สภาพแวดลอ้ มและส่งผลกระทบตอ่

การดาเนินชวี ติ ของมนษุ ย์

ความรขู้ องนกั เรยี นที่นาไปสคู่ วามเขา้ ใจทคี่ งทน ทักษะ/ความสามารถของนกั เรยี นทน่ี าไปสู่

นกั เรยี นจะรวู้ า่ ... ความเขา้ ใจทค่ี งทน นกั เรยี นจะสามารถ...

1. คาสาคัญ ไดแ้ ก่ ภูมิศาสตร์ ภเู ขาไฟ อกุ กาบาต 1. วเิ คราะหป์ ัจจยั ที่ทาให้เกดิ ลักษณะภมู ปิ ระเทศที่

รอยเลอ่ื น ธารน้าแข็ง การกร่อน ท่รี าบชายฝั่ง ดนิ ปรากฏบนพ้ืนผิวโลกในภูมิภาคตา่ งๆ ของประเทศไทย

เลิสส์ หนิ งอก หนิ ยอ้ ย และของโลก

2. โครงสรา้ งของโลกแบง่ ออกเป็น 3 ชั้น ไดแ้ ก่ ชน้ั 2. วเิ คราะหล์ ักษณะทางกายภาพที่มผี ลต่อการดาเนนิ

เปลือกโลก ชนั้ เนือ้ โลก และชัน้ แกน่ โลก ชีวติ ของมนุษย์

3. ลักษณะภูมิประเทศที่ปรากฏทั่วไปบนพ้ืนผวิ โลก 3. วิเคราะหส์ าเหตุที่ทาให้เกิดภัยธรรมชาติ

เป็นผลท่เี กิดขน้ึ จากการเปล่ียนแปลงของกระบวนการ 3

34

กลุ่ม คอื กระบวนการแปรสัณฐาน กระบวนการปรับ

ระดับผวิ แผน่ ดนิ และกระบวนการจากภายนอกโลก

กระบวนการดงั กล่าวก่อให้เกดิ ลักษณะภูมิประเทศ

รูปแบบตา่ งๆ เชน่ ทีร่ าบ ที่ราบสูง เนินเขา ภูเขา ซ่งึ

ในแตล่ ะภมู ภิ าคต่างๆ ของโลกมีลักษณะภมู ิประเทศท่ี

แตกตา่ ง กนั ไป

4. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศมอี ิทธิพลต่อการดาเนนิ ชวี ิตของ

มนษุ ย์ แต่ลกั ษณะภมู ิประเทศบางแห่งเป็นอุปสรรคใน

การดาเนินชีวติ ของมนุษย์

5. ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติทาให้เกดิ การเปล่ียนแปลงของ

สภาพแวดล้อมรวมทง้ั กระทบต่อการดาเนินชีวิตของ

มนษุ ย์ ภัยทางธรรมชาตทิ ่โี ลกเผชญิ บอ่ ยครัง้ เช่น

แผ่นดนิ ถลม่ อุทกภัย ภยั แลง้ แผ่นดินไหว

สนึ ามิ ภเู ขาไฟ พายุหมนุ

ขั้นท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ ง่ึ เปน็ หลกั ฐานท่ีแสดงวา่ นกั เรยี นมผี ลการเรยี นรตู้ ามท่ี กาหนดไว้

อยา่ งแทจ้ รงิ

1. ภาระงานทน่ี กั เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิ

1.1 ศกึ ษาคน้ คว้าและบันทึกขอ้ มลู เก่ียวกบั ปรากฏการณ์ทางภมู ิศาสตร์

1.2 นาเสนอผลงานเกีย่ วกับปรากฏการณ์ทางภมู ศิ าสตร์

1.3 อภปิ รายร่วมกันเกีย่ วกับปรากฏการณ์ทางภูมศิ าสตร์

1.4 วาดภาพระบายสีเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางภมู ศิ าสตร์

1.5 วิเคราะห์ปจั จยั ท่ีทาใหเ้ กิดปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์

2. วธิ กี ารและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้

2.1 วิธกี ารประเมินผลการเรยี นรู้ 2.2 เคร่ืองมอื ประเมินผลการเรียนรู้

1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

2) การประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเป็น 2) แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็

รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม รายบุคคลหรือเป็นกลมุ่

3) การประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 3) แบบประเมนิ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม

และคา่ นยิ ม และคา่ นยิ ม

4) การประเมินดา้ นทักษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทักษะ/กระบวนการ

3. สง่ิ ทม่ี งุ่ ประเมนิ

3.1 ความสามารถ 6 ด้าน ได้แก่ การอธิบาย ชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ ดดั แปลง

และนาไปใช้ การมีมมุ มองที่หลากหลาย การใหค้ วามสาคัญและใสใ่ จในความร้สู ึกของผอู้ ่นื และ

การร้จู กั ตนเอง

35

3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เช่น การสอ่ื สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี กระบวนการกลุ่ม

3.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม เชน่ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอื่ สัตยส์ ุจรติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ย่าง

พอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ

ขั้นท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 ลักษณะภมู ปิ ระเทศของโลก เวลา 2 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 กระบวนการสาคัญท่สี ง่ ผลใหเ้ กิดลักษณะ เวลา 2 ชั่วโมง

ภูมปิ ระเทศของโลก

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 ปญั หาทางกายภาพของประเทศไทยและของโลก เวลา 1 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 ภัยพบิ ัติทางธรรมชาตขิ องประเทศไทยและของโลก เวลา 1 ชวั่ โมง

36

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก

สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ เวลา 2 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ปรากฏการณท์ างภมู ศิ าสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

1. สาระสาคัญ

บริเวณเปลือกโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในลักษณะภูมิประเทศ และโครงสร้างทางธรณีวิทยาทาให้เกิด

ลักษณะภมู ิประเทศรปู แบบต่าง ๆ ซง่ึ มอี ทิ ธพิ ลต่อการดาเนนิ ชวี ติ ของมนษุ ย์

2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั

 วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงของพื้นทีซ่ ึง่ ไดร้ ับอทิ ธิพลจากปจั จยั ทางภูมศิ าสตรใ์ นประเทศไทยและทวปี

ต่าง ๆ (ส 5.1 ม. 4–6/3)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. วิเคราะหป์ ัจจัยทที่ าใหเ้ กิดลกั ษณะภูมปิ ระเทศแบบต่าง ๆ บนพ้ืนผวิ โลกได้ (K, P)

2. สนใจใฝ่เรียนรู้เรอ่ื งลักษณะภมู ิประเทศของโลก (A)

3. อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งลกั ษณะภูมิประเทศกับการดาเนินชวี ิตของมนษุ ยแ์ ละสภาพแวดลอ้ ม

(K, P)

4. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)

1. ทดสอบก่อนเรียน  ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ  ประเมนิ พฤติกรรมในการ

2. ซกั ถามความร้เู รอื่ ง ลักษณะ ทางานเปน็ รายบุคคลในดา้ น ทางานเป็นรายบุคคลและเป็น

ภมู ิประเทศของโลก ความมีวนิ ยั ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ กลุ่มในด้านการส่ือสาร การคิด

3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็ การแกป้ ญั หา ฯลฯ

รายบุคคลหรือเปน็ กลุ่ม

5. สาระการเรียนรู้
 ลักษณะภูมิประเทศของโลก

1. โครงสร้างของโลก

2. ลักษณะภมู ปิ ระเทศของโลก

6. แนวทางบูรณาการ

ภาษาไทย  ฟัง พดู อ่าน และเขยี นข้อมูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก
วาดภาพระบายสลี ักษณะภูมิประเทศเพือ่ ใช้ในการนาเสนอข้อมูล
ศลิ ปะ 

37

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัดช่วงช้ัน

และจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู หน้ ักเรยี นทราบ
2. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนผ่าน Quizizz ซ่ึงเป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้างแบบทดสอบ

เพื่อประเมนิ ผลคณุ ภาพผเู้ รียนแบบออนไลน์
3. ครูให้นักเรียนดูภาพภูเขารูปแบบต่าง ๆ ในแต่ละประเทศของโลก แล้วถามนักเรียนว่า เพราะเหตุใด

ลักษณะภูเขาในแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น จากน้ันครูอธิบายว่าเกิดจาก
กระบวนการที่แตกต่างกนั แลว้ เช่อื มโยงข้าสูเ่ น้ือหาในบทเรยี น

ขัน้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
4. ครอู ธิบายเรอื่ ง โครงสรา้ งของโลก โดยใชแ้ ผนภาพโครงสร้างของโลกประกอบการอธิบาย
5. ครูอธิบายเรื่อง ปัจจัยสาคัญที่ส่งผลให้เกิดลักษณะภูมิประเทศของโลก ให้นักเรียนฟัง จากนั้นให้
นักเรยี นซักถามปญั หา ขอ้ สงสยั หรืเร่อื งทไ่ี ม่เข้าใจ
6. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ลักษณะภูมิประเทศของโลก และความสัมพันธ์ของลักษณะภูมิ
ประเทศท่มี ีตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ของมนุษย์และสภาพแวดล้อม โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามข้อสงสัยก่อนทา
กจิ กรรมต่อไป
7. ครูให้แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม แล้วแชร์ไฟล์ใน Google Drive สาหรับให้แต่ละกลุ่มลงสี
ลกั ษณะภูมิประเทศเพือ่ ใชใ้ นการนาเสนอขอ้ มลู
กลมุ่ ท่ี 1 ลงสลี ักษณะภูมิประเทศทีเ่ ปน็ ท่รี าบ
กลุ่มที่ 2 ลงสลี ักษณะภูมปิ ระเทศทเ่ี ป็นทร่ี าบสงู
กลมุ่ ที่ 3 ลงสลี ักษณะภมู ปิ ระเทศทเี่ ปน็ เนนิ เขา
กลมุ่ ท่ี 4 ลงสีลกั ษณะภมู ิประเทศทเี่ ปน็ ภเู ขา
8. ครใู ห้นักเรยี นตวั แทนกลุม่ นาเสนอข้อมูลโดยอธิบายความสัมพันธ์ของลักษณะภูมิประเทศดังกล่าวต่อ
การดาเนินชีวิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อมผา่ นการแชรห์ น้าจอ
9. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มวาดภาพแผนท่ีภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเขียนลักษณะภูมิ
ประเทศ ได้แก่ ทีร่ าบ ท่ีราบสงู ทะเล ทะเลสาบ แมน่ า้ และแนวทิวเขาและเทือกเขา แล้วระบายสีให้สวยงาม แล้ว
ชว่ ยกันสรุปวา่ แตล่ ะพื้นท่ีมคี วามสัมพนั ธก์ ับการดาเนนิ ชวี ิตของมนุษยใ์ นภมู ภิ าคนอี้ ย่างไร
10. ครใู ห้นกั เรยี นสรปุ เพมิ่ เติมวา่ ความสมั พันธร์ ะหว่างลักษณะภูมิประเทศกับการดาเนินชีวิตของมนุษย์ใน
ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้มีความเกี่ยวข้องกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ อย่างไร ให้นักเรียนพิมพ์สรุป
ลงในไฟล์ Google Drive ครคู ดั เลือกความเรยี งทดี่ ีท่สี ุด 3 เร่ือง ให้เจ้าของผลงานอนาเสนอผลงานของตนเอง
11. ครูสังเกตพฤติกรรมในการทางานและการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามแบบประเมินพฤติกรรม
ในการทางานเปน็ รายบุคคลหรือเปน็ กลุ่ม

38

ขั้นท่ี 3 ฝึกฝนผเู้ รยี น
12. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมที่เก่ียวกับเร่ือง ลักษณะภูมิประเทศของโลก ในแบบฝึกทักษะ รายวิชา
พ้นื ฐาน ภมู ศิ าสตร์ ม. 4–6 จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยคาตอบ
ขัน้ ท่ี 4 นาไปใช้
13. ครใู หน้ กั เรียนนาความรเู้ ร่ือง ลกั ษณะภูมปิ ระเทศของโลก ไปเผยแพร่ต่อไป
ขั้นที่ 5 สรุป
14. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เรอื่ ง ลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก แลว้ ใหน้ กั เรยี นบันทกึ ลงสมดุ
8. กิจกรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกันจัดแผนภาพเผยแพร่ความรู้เรื่อง ลกั ษณะภูมิประเทศของโลกทาง Facebook กลุ่ม
ภายในโรงเรยี น
9. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี นผ่านโปรแกรม Quizizz
2. ภาพภเู ขารูปแบบตา่ ง ๆ ในแตล่ ะประเทศของโลก
3. หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บรษิ ทั สานักพมิ พ์วัฒนาพานิช จากัด
4. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพืน้ ฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6

39

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 ปรากฏการณท์ างภมู ศิ าสตร์
คาชแ้ี จง เลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว
1. โครงสรา้ งทอี่ ยนู่ อกสดุ ของโลกเรยี กว่าอะไร
ก ชน้ั เนื้อโลก
ข ชน้ั แกน่ โลก
ค ช้ันเปลือกโลก
ง ชน้ั แกน่ โลกชั้นนอก
2. ขอ้ ใดบอกสณั ฐานของโลกไดถ้ กู ตอ้ ง
ก มลี ักษณะคลา้ ยลกู ปิงปอง
ข มีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางในแนวด่ิงยาวกวา่ ในแนวนอน
ค มีลกั ษณะกลมรี แบนเลก็ นอ้ ยด้านขวั้ โลกเหนอื และใต้
ง ถูกทุกขอ้
3. “สภาวะทเี่ กดิ ขน้ึ กบั เปลอื กโลกและบรรยากาศทห่ี อ่ หมุ้ โลกซึ่งมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของมนษุ ย”์ ขอ้ ความ
น้เี ปน็ ความหมายของอะไร
ก วธิ ีการทางภูมศิ าสตร์
ข ปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์
ค กระบวนการทางภมู ิศาสตร์
ง การเปล่ียนแปลงทางภมู ิศาสตร์
4. ข้อใดสรปุ ข้อมลู เกย่ี วกบั ชน้ั แกน่ โลกไดถ้ กู ตอ้ ง
ก ชน้ั แก่นโลกแบ่งออกเป็น 2 ชั้นยอ่ ย
ข ชน้ั แก่นโลกชั้นนอกประกอบด้วยหนิ ชั้นหรอื หินตะกอนเปน็ ส่วนใหญ่
ค ชัน้ แก่นโลกชั้นในประกอบดว้ ยหนิ อคั นีท่ีเกิดจากหนิ หนดื เยน็ ตวั เปน็ สว่ นใหญ่
ง ชั้นแกน่ โลกชั้นนอกและชน้ั ในมีหินหนืดเป็นส่วนประกอบ โดยมีหินอคั นีลอยตวั อยู่บนผิวด้านบน
5. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั กระบวนการแปรสณั ฐาน
ก เป็นกระบวนการท่เี กิดขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว
ข เกิดจากอุกกาบาตทต่ี กลงบนพื้นผวิ โลก
ค เปน็ กระบวนการที่เกิดขน้ึ ช้า ๆ อย่างตอ่ เน่ือง
ง ผลจากกระบวนการทาให้เกดิ ลกั ษณะภูมิประเทศต่าง ๆ
6. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศใดเกดิ จากการยกตวั สงู ของภเู ขาประเภทเลอื่ นตวั ของหนิ
ก ฮอสต์
ข อาแรต
ค ฟยอร์ด
ง กราเบนิ

40

7. ทร่ี าบสงู ฮารต์ อยใู่ นประเทศใด
ก สเปน
ข ฝรั่งเศส
ค เยอรมนี
ง สหรัฐอเมริกา

8. ข้อใดเปน็ ลักษณะของภเู ขาไฟรปู โล่
ก ภูเขาไฟพลี ี ประเทศฝร่งั เศส
ข ภเู ขาไฟลากี ประเทศไอซแ์ ลนด์
ค ภูเขาไฟวิสซูเวยี ส ประเทศอิตาลี
ง ภูเขาไฟเมยอน ประเทศฟลิ ปิ ปินส์

9. แอง่ ขนาดใหญท่ ่ีเกดิ จากการระเบดิ ของภเู ขาไฟเรยี กว่าอะไร
ก ฮอสต์
ข อาแรต
ค กราเบนิ
ง แคลดรี า

10. การกดั เซาะของนา้ อยา่ งรวดเรว็ บรเิ วณทอ้ งนา้ จนเปน็ รอ่ งลกึ คอื กระบวนการเกดิ ของอะไร
ก ถ้า
ข แกง่
ค น้าตก
ง หุบผาชัน

11. ท่ีราบนา้ ทว่ มถงึ เปน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทเี่ กดิ ขนึ้ ในระยะใดของววิ ฒั นาการของแมน่ า้
ก ระยะวยั อ่อน
ข ระยะวัยหน่มุ
ค ระยะวัยหนุ่มและวยั ชรา
ง ระยะวัยอ่อนและวยั หนุ่ม

12. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศที่เกดิ จากการกระทาของแมน่ า้
ก สันทราย
ข เนินทราย
ค รอยเลอื่ น
ง เนินตะกอนรปู พดั

41

13. ทีร่ าบภาคกลางตอนบนของประเทศไทยจดั อยใู่ นทรี่ าบประเภทใด
ก ท่รี าบน้าท่วมถึง
ข ท่ีราบภายในทวีป
ค ทร่ี าบชายฝัง่ ทะเล
ง ทีร่ าบดนิ ตะกอนสามเหลีย่ ม

14. ดนิ เลสิ สพ์ บมากในบรเิ วณใด
ก บรเิ วณทร่ี าบชายฝั่งประเทศนอรเ์ วย์
ข บรเิ วณท่รี าบชายฝั่งประเทศเบลเยียม
ค บรเิ วณท่รี าบลมุ่ ตอนกลางประเทศสหรฐั อเมรกิ า
ง บรเิ วณท่ีราบเขตทุ่งหญ้าปมั ปาประเทศอารเ์ จนตนิ า

15. แกรนดแ์ คนยอนเปน็ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศทพี่ บในบรเิ วณใด
ก ที่ราบสงู ในเขตแหง้ แล้ง
ข ที่ราบสูงท่มี ฝี นตกตลอดปี
ค ทร่ี าบสงู ในเขตท่มี ฝี นตกชุก
ง ชายฝัง่ ทะเลท่ีมธี ารน้าแข็งไหลผ่าน

42

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ช่อื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1
2

3
4
5
6
7
8
9
10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรือ

อาจใช้เกณฑ์ดังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)

43

แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.

กลมุ่ ท่ี

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

การสรุปผลการประเมนิ ให้เปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรืออาจ

ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

44

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.

คาชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมท่นี ักเรยี นปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ

ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ

เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังนี้

9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)

7–8 คะแนน = 3 (ดี)

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )

45

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่

ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี

ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.

คาชแี้ จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ

พฤติกรรมที่นกั เรียนปฏบิ ัติ

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

ท่ี ชอื่ –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน

รวมคะแนน

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การให้คะแนน  ให้ 1 คะแนน

2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ งั นี้

9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)

7–8 คะแนน = 3 (ด)ี

5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)

0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)

46

มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบันทึกผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ คา่ 4 ระดับ ดงั น้ี 4

รายการประเมนิ 3

– บันทึกผลงานได้ถูกต้องตามจุดประสงค์ เขยี นบนั ทึกไดช้ ัดเจน แนวคดิ หลกั ถูกต้อง 2
มีประเด็นสาคญั ครบถ้วน
1
– ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกตอ้ ง

– บันทกึ ผลงานไดถ้ กู ตอ้ งตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ทมี่ บี างส่วนยงั ไมช่ ดั เจน
แนวคิดหลักถกู ตอ้ ง ส่วนทีเ่ ปน็ ประเด็นสาคัญมีไม่ครบถ้วน

– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขยี นบันทึกไมช่ ดั เจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถูกต้อง ส่วนทเี่ ปน็ ประเด็นสาคัญมไี ม่ครบถว้ น

– ใช้ภาษา คาศัพท์ไมถ่ กู ต้องในบางส่วน

– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ไมช่ ัดเจน และแนวคิดหลัก
ส่วนใหญไ่ ม่ถกู ตอ้ ง

– ใชภ้ าษา คาศพั ทไ์ มถ่ กู ต้อง

47

บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้

หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….

ลงชื่อ (ครผู ู้สอน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//

48

ขอ้ เสนอแนะความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ลงชื่อ หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
(นางปิน่ แกว้ แกว้ เป็นบญุ )

วันที่ / /

รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ลงช่ือ รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ
(นางยุคลทร โพธ์ศิ รี)
วนั ที่ / /

ผอู้ านวยการโรงเรยี น

ลงชือ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
(นายเอกชยั คะษาวงค์)
วันที่ / /

49

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5
กระบวนการสาคญั ทส่ี ง่ ผลใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก

สาระที่ 5 ภมู ศิ าสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ปรากฏการณท์ างภมู ศิ าสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

1. สาระสาคัญ

กระบวนการสาคัญที่ทาให้เกิดลักษณะภูมิประเทศรูปแบบต่าง ๆ ท่ีปรากฏในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก

ได้แก่ กระบวนการแปรสณั ฐาน กระบวนการปรับระดับผิวแผน่ ดิน และกระบวนการจากภายนอกโลก

2. ตัวชวี้ ดั ชว่ งชน้ั

 วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงของพน้ื ที่ซึ่งได้รบั อทิ ธิพลจากปัจจัยทางภูมศิ าสตร์ในประเทศไทยและทวปี

ตา่ ง ๆ (ส 5.1 ม. 4–6/3)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. วเิ คราะหป์ จั จัยท่ีทาใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ปิ ระเทศแบบตา่ ง ๆ ในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกได้ (K, P)

2. สนใจใฝเ่ รียนรเู้ ร่ือง ลักษณะภมู ปิ ระเทศในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก (A)

3. อธิบายและถ่ายทอดความรู้เร่ือง ลักษณะภูมิประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ให้บุคคลอ่ืนเข้าใจได้

(P, K)

4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)

1. ซกั ถามความรูเ้ รื่อง กระบวน  ประเมินพฤตกิ รรมในการ  ประเมนิ พฤติกรรมในการ

การสาคัญท่ีส่งผลให้เกิดลักษณะ ทางานเป็นรายบคุ คลในดา้ น ทางานเปน็ รายบคุ คลและเป็น

ภมู ิประเทศของโลก ความมวี ินัย ความใฝเ่ รยี นรู้ ฯลฯ กลุ่มในดา้ นการสื่อสาร การคดิ

2. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเป็น การแกป้ ญั หา ฯลฯ

รายบุคคลหรอื เป็นกลุ่ม

5. สาระการเรียนรู้
 กระบวนการสาคญั ทีส่ ่งผลใหเ้ กดิ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของโลก
1. กระบวนการแปรสัณฐาน
2. กระบวนการปรบั ระดบั ผิวแผ่นดิน
3. กระบวนการจากภายนอกโลก

6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย  ฟัง พูด อ่าน และเขยี นข้อมูลเก่ยี วกับกระบวนการสาคัญทส่ี ่งผลให้เกดิ
ลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก


Click to View FlipBook Version