แผนการจัดการเรียนรู้ อ21101

What time does she go to school?
What time does she visit her grandma on Tuesday?
What does she do at 3.00 p.m. on Wednesday?
What does she do at 3.30 p.m. on Thursday?
What does she do on Saturday morning?
Where is she going on Sunday?
5. นกั เรียนจบั คู่และทาความเข้าใจกับประโยคใตต้ าราง
6. ครตู รวจสอบข้อมูลว่านักเรียนเขา้ ใจทุกประโยค
7. นักเรียนทากจิ กรรมท่ี 4 โดยวงกลมคาตอบทถ่ี ูกต้อง
Answer Key

1. true 2. false 3. false 4. true 5. true

ขนั้ การสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร (Production)

1. นักเรยี นทา schedule ของนกั เรยี นใน 1 สัปดาห์ โดยดตู ัวอยา่ งจากกจิ กรรมท่ี 4
2. นกั เรยี นนา schedule ทีท่ ามาเขยี นให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเองอย่างนอ้ ย 5 ประโยค
3. ครูให้นักเรยี นอาสาออกมานาเสนอ schedule ของตนเองหนา้ ชน้ั เรยี น
ขนั้ สรปุ (Wrap up)

1. นักเรยี นสรปุ คาศพั ท์ท่ีใชเ้ รยี ก วนั และเดอื น

บันทกึ หลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังน้ี
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

37. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมนิ .......................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .................................
 จานวนนกั เรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คิดเปน็ ร้อยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ ันตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรียน ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผบู้ ันทึก
( .................................... )

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 39

เรอ่ื ง Write a daily schedule

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ชอื่ หนว่ ย What time is it?
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1
ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 2 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัติตามคาสง่ั คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาช้ีแจงงา่ ย ๆ ที่ฟังและอ่าน

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั

ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรอ่ื งท่ฟี งั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดล้อม

ใกลต้ วั
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม

ของเจ้าของภาษา
ต. 2.1 ม.1/3 เข้าร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต.3.1 ม.1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู / ข้อเท็จจรงิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรู้
อน่ื จากแหลง่ เรยี นรู้และนาเสนอด้วยการพดู /การเขียน

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรยี นและ

สถานศกึ ษา

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ
- พูดและเขียนให้ขอ้ มลู ของเกย่ี วกับเร่อื งใกลต้ วั ได้ถกู ตอ้ ง
- เปรียบเทียบการใช้คาบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้

2. ผ้เู รยี นมสี มรรถนะทีส่ าคญั
- ความสามารถในการสือ่ สาร

- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
3. ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะท่พี ึงประสงค์

- มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน

3. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด

การรคู้ าศพั ทท์ ี่ใชบ้ อกวนั เดือน ปี คาบุพบทบอกเวลา ช่วยให้สามารถพดู และเขียนบอกข้อมูลส่วนตัว
ได้ และสอื่ สารตามโครงสร้างภาษาได้อยา่ งถูกตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้ Time of the workweek, weekend, month and year.
Talk about your routine.
Vocabulary Preposition of time.
Speaking Write a daily schedule.
Grammar and Structures
Writing

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคดิ /ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ /

ความสามารถในการแก้ปัญหา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรียนรู้

6.1 การบูรณาการโรงเรียนคุณธรรม
- การสง่ เสริมคุณธรรมให้แก่นกั เรียน เร่อื งของความรับผดิ ชอบและการตรงตอ่ เวลา
7. ช้ินงาน/ภาระงาน
- การเขียน Daily Schedule ของตนเอง

8. การวดั และการประเมนิ ผล

วธิ ีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารผา่ น

1. การเขยี นให้ขอ้ มลู แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ ดี ขน้ึ ไป
2. การประเมนิ พฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ ดี ขน้ึ ไป
การประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล
9. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะ

1. หนงั สือเรียน New Frontiers 1
2. Class Audio CD
3. แบบฝึกหัด New Frontiers 1
4. YouTube
5. Long Do Dict.

10. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1

ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน (Warm up)
1. ครูนาเข้าสู่บทเรยี นโดยใชเ้ พลง Preposition of Time จากลงิ ก์วิดโี อ
https://www.youtube.com/watch?v=zYam00egugc

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครพู ดู ประโยคต่อไปน้ี และขออาสาสมคั รนักเรยี นมาเขยี นประโยคทค่ี รพู ดู บนกระดาน
I get up at 6 o’clock.
I have a shower before having breakfast.
I go to school after having breakfast.
I go shopping in the afternoon.
2. ครูเขียนคาศัพท์ in, at, before, after บนกระดาน
3. นกั เรยี นออกมาเขยี นคาท่ตี ามหลงั in, at, before, after จากประโยคท่ีครูพดู
4. นกั เรยี นชว่ ยกันออกมาเขียนคาทใี่ ชต้ ามหลงั in, at, before, after เพิ่มเตมิ
5. ครูตรวจคาตอบของนักเรยี น

ขน้ั ฝึกฝน (Practice)
1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ี 5 โดยวงกลมคาตอบทีถ่ ูกต้อง
Answer Key
1. before 2. at 3. in 4. before 5. in 6. after 7. in 8. after
2. นกั เรยี นอ่านประโยคหลังเตมิ คาตอบทีถ่ กู ต้อง
3. นกั เรยี นทากิจกรรมท่ี 6 โดยเตมิ คาบพุ บทในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง
Answer Key
1. before 2. after 3. in 4. at 5. before 6. at
4. นกั เรียนอ่านคาถามในกจิ กรรมท่ี 7 โดยให้นักเรยี นอา่ นคาถามและจับคคู่ าถามกับคาตอบ
5. นกั เรยี นจับคคู่ าถามกับคาตอบ
Answer Key
1.c 2.a 3.e 4.b 5.d

ขนั้ การสร้างผลงาน การใชภ้ าษาเพื่อการสือ่ สาร (Production)
1. นักเรยี นดูตารางในกจิ กรรมที่ 8 โดยใหน้ ักเรียนกิจกรรมทน่ี กั เรียนทาในแตล่ ะชว่ งเวลา

และใชค้ าบุพบท in, at, on, before, after ในประโยค
2. นักเรยี นเตมิ ข้อมลู ในตาราง
Sample answers
I wake up at 7 in the morning.
I play games at night.
I eat breakfast before I go to school
I have piano practice after school.
3. นกั เรยี นจับคใู่ ช้ข้อมูลในตารางทเ่ี ติมถาม-ตอบ เช่น
S1: What do you do in the morning?
S2: I wake up at 7 in the morning.
S1: What do you do at night?
S2: I play games at night.
S1: What do you do before you go to school?
S2: I take a shower and get dressed before school.
S1: What do you do after school?
S2: I do my homework.
4. นักเรยี นแลกเปลี่ยนกันถาม-ตอบจนครบขอ้ มูลในตาราง
5. ครูสงั เกตการพดู และให้ feedback แกน่ กั เรยี น

ขั้นสรปุ (Wrap up)

1. นักเรยี นสรุปการใช้ Preposition of time
2. ครูและนักเรียนแลกเปล่ียนความคิดเห็นเร่ืองการตรงต่อเวลาส่งผลต่อการเรียนหรือไม่ ครูชี้แนะ
แนวทางการวางแผนเรื่องของเวลาในการใช้ชีวิตประจาวัน การแบ่งเวลาในการใช้โทรศัพท์มือถือ การทา
การบ้าน การทบทวนบทเรียน หรือกิจกรรมอ่ืนๆ และส่งเสริมคุณธรรมด้านความรับผิดชอบให้แก่นักเรียน
รวมถงึ การวางแผนการทางานจะสง่ ผลใหน้ กั เรียนทางานได้อย่างเปน็ ระบบมากขนึ้

ชว่ั โมงท่ี 2

ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

1. ครทู บทวนเรือ่ ง Preposition of Time
ขัน้ นาเสนอ (Presentation)

1. ครูแจกใบงานเรื่อง Prepositions of Time ใหน้ ักเรยี น
2. นักเรียนอ่านใบงาน และวงกลมคาศพั ท์ทนี่ กั เรียนไม่รคู้ วามหมาย
3. ครูอธบิ ายความหมาย หรือใหน้ ักเรียนใช้ smartphone ในการหาความหมายใน dictionary
ออนไลน์

ขน้ั ฝกึ ฝน (Practice)
1. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดในใบงาน
2. ครสู มุ่ นกั เรยี นตอบและครเู ฉลยคาตอบท่ถี กู ตอ้ ง
3. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น

ขน้ั การสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพ่ือการส่อื สาร (Production)
1. ครูใหน้ กั เรยี นเขยี นเรียงความในหัวข้อ “My golden week” ใหน้ ักเรยี นจินตนาการวา่

หากนกั เรยี นสามารถทาอะไรก็ไดใ้ นหนง่ึ สัปดาห์ นักเรียนจะทาอะไรและเวลาใดบ้างในแต่ละวนั โดยนักเรียน
จะตอ้ งใช้ preposition of time ในการเขยี นเรียงความ และสามารถหาขอ้ มูลหรือคาศพั ทใ์ นอินเทอรเ์ น็ต
เพ่มิ เติมได้

2. ครใู ห้นกั เรียนอาสาจานวน 5 คน ออกมานาเสนอหนา้ ห้อง
3. นกั เรยี นลงคะแนนเสียงว่าเร่ืองราวของใครนา่ สนใจมากท่ีสุด
4. ครูให้ feedback แก่นักเรยี น
ขน้ั สรุป (Wrap up)

1. ครูและนักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการตรงต่อเวลาส่งผลต่อการเรียนหรือไม่ ครูช้ีแนะ

แนวทางการวางแผนเรื่องของเวลาในการใช้ชีวิตประจาวันการแบ่งเวลาในการใช้โทรศัพท์มือถือการทา

การบ้าน การทบทวนบทเรียน หรือกิจกรรมอื่นๆ และส่งเสริมคุณธรรมด้านความรับผิดชอบให้แก่นักเรียน

รวมถึงการวางแผนการทางานจะสง่ ผลให้นกั เรียนทางานไดอ้ ยา่ งเป็นระบบมากข้นึ

บนั ทกึ หลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดงั น้ี
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

38. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรยี นทีผ่ ่านการประเมิน .......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จานวนนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ ...................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 อืน่ ๆ .............................................................................................................................................

3. ปญั หาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรียนทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรยี นทไี่ ม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผู้บันทึก

( .................................... )



แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 40

เรอื่ ง Write a daily schedule

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ช่ือหน่วย What time is it?
รายวิชา ภาษาองั กฤษ 1
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รหสั วิชา อ21101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 4 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาชีแ้ จงง่าย ๆ ท่ีฟงั และอา่ น

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรือ่ งที่ฟังหรืออา่ น
อย่างเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ และสงิ่ แวดล้อม

ใกล้ตวั
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ิยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษา
ต. 2.1 ม.1/3 เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ

การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต.3.1 ม.1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมลู / ข้อเทจ็ จริงทเี่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและ

สถานศกึ ษา

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความสามารถ
- การถามตอบโดยใช้ประโยคคาถาม What time ได้ถกู ต้อง
- การพูดเพือ่ ให้ขอ้ มูลและเปรยี บเทียบขอ้ มูล

2. ผู้เรียนมีสมรรถนะที่สาคัญ
- ความสามารถในการส่อื สาร

- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. ผู้เรียนมคี ุณลักษณะที่พงึ ประสงค์

- มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน

3. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ท่ีใช้บอกวัน เดือน ปี คาบุพบทบอกเวลา ช่วยใหส้ ามารถพดู และเขยี นบอกข้อมูลส่วนตัว
ได้ และสอื่ สารตามโครงสรา้ งภาษาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้

Grammar and Structures Telling time, What time

Project Your daily schedule

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคดิ /ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ /
ความสามารถในการแกป้ ญั หา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรียนรู้
-

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- การแสดงบทบาทสมมุติ Your Daily Schedule

8. การวัดและการประเมนิ ผล

วิธกี ารวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์การผ่าน
4. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ
2. การประเมนิ พฤติกรรม แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมุติ คะแนน 6 ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน

9. สือ่ และแหล่งเรียนรู้ เกณฑ์

การประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ ดี ขนึ้ ไป

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะ

1. หนงั สือเรยี น New Frontiers 1
2. Class Audio CD

3. แบบฝกึ หัด New Frontiers 1
4. YouTube
5. Long Do Dict.

10. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ชั่วโมงท่ี 1
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน (Warm up)

1. นกั เรยี นดูภาพหนา้ 54 ชว่ ยกันคาดเดาวา่ เป็นวดิ โี อเกีย่ วกบั อะไร
Look at the pictures. What do you think the video will be about? Talk with

a partner.
2. นกั เรียนจับคู่แบ่งปันสิง่ ท่คี าดเดากับเพอ่ื น

ขนั้ นาเสนอ (Presentation)
1. ครสู แกน QR Code แล้วเปดิ วดิ ีโอให้นักเรียนดู 1 รอบ จากนั้นตรวจสอบว่าตรงกบั ท่ีคาดเดาไว้

หรือไม่
2. ครเู ปิดวดิ ีโอรอบที่ 2 ใหน้ กั เรียนดูเพอื่ ทากิจกรรมท่ี 2 โดยเรียงลาดบั เรอ่ื งในวิดโี อให้ถูกตอ้ ง
Answer Key
From left to right
1, 2, 3

ขั้นฝกึ ฝน (Practice)
1. ครูเปดิ คลปิ วิดโี อรอบที่ 3 เพอ่ื ใหน้ ักเรียนทากิจกรรมท่ี 3 โดยวงกลมตวั อกั ษรหน้าข้อประโยค

ทไ่ี ด้ยิน
Answer Key

1. a 2. a 3. b

2. นกั เรียนอา่ นประโยคในกจิ กรรมท่ี 4 จากน้ันทากิจกรรมโดยการเตมิ คาจากกลอ่ งสเี่ หล่ียมลงในโดย
ช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

Answer Key

1. in the evening 2. before 3. after 4.morning

4. นกั เรียนอ่านประโยคอกี ครง้ั แลว้ อา่ นออกเสยี ง
5. นักเรียนอา่ นประโยคในกิจกรรมที่ 5 จากนน้ั ทากิจกรรมโดยวงกลมรอบตัวอกั ษรหนา้ คาตอบที่
ถกู ต้อง

Answer Key

1.c 2.b 3.b 4.a 5.c

ขั้นการสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพื่อการสือ่ สาร (Production)
1. แบง่ นักเรียนกลมุ่ ๆ ละ 4 คน
2. ครแู จก flashcards เร่ือง Daily Routines ชดุ ที่ 2-5 กลมุ่ ละ 1 ชุด

3. นกั เรยี นเลอื ก flashcard คนละ 1 แผ่น
4. นกั เรยี นพดู ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั คนในภาพ โดยใชร้ ปู แบบประโยคในกิจกรรมที่ 4-5 มาเปน็ แนวทาง
ในการพูดได้
5. ครสู ังเกตการพูดและให้ feedback แก่นักเรยี น

ขั้นสรุป (Wrap up)

1. นกั เรียนสรปุ คาศพั ท์ที่ใช้บอกกิจกรรมต่าง ๆ

ชั่วโมงท่ี 2
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครถู ามคาถามนักเรยี น ดังน้ี
What time do you get up?
When do you go to school?
What time do you have lunch?
When do you do your homework?
What time do you get home?
When do you go to sleep?

ขั้นนาเสนอ (Presentation)
1. ครูใช้ Flashcards เรือ่ ง Daily Routines 2 นาเสนอประโยค
https://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Daily_Routines_2/Daily%20Routines2.pdf

2. ครูพูดประโยค ดงั นี้
She has breakfast at 8.
She has lunch at 2.
She has dinner at 7.
She makes dinner in the evening.
He studies at night.
She goes shopping in the afternoon.
He reads the paper in the morning
She cleans the house in the afternoon.

3. นกั เรียนตอบคาถาม ดังนี้
What time does she have breakfast?
What time does she have lunch?
What time does she have dinner?
When does she make dinner?
When does he study?
When does she go shopping?
When does he read the paper?
When does she clean the house?

NOTE
การตอบดว้ ยเวลานักเรยี นสามารถตอบแบบสั้นได้ เชน่ At 7:30 p.m.
ขั้นฝกึ ฝน (Practice)
1. ครูเปดิ CD 4-17 ให้นกั เรียนฟงั และอา่ นตาม

2. นกั เรยี นเติมขอ้ มลู ในกิจกรรมท่ี 7
Answer Key

1. starts 2. eat 3. leaves 4. closes

3. ครนู าภาพใน Flashcards 2, 3, 4, 5 มาตดั เป็นเปน็ อย่างละ 1 ภาพ
4. นักเรยี นเลอื กภาพคนละ 1 ภาพ
5. นกั เรียนใช้ภาพทม่ี เี ลือกถามเพื่อนในหอ้ งเรียนดว้ ยคาถาม What time do you………? นักเรยี น
เลอื กเวลาท่ีเหมาะสมมาตอบคาถามเพื่อน หลังจากนน้ั ให้ใชภ้ าพของตวั เอง ถามเพ่ือนคนตอ่ ไป นักเรียนฝึก
ถาม-ตอบจนครบเพ่อื นทุกคนในหอ้ ง เชน่

S1: What time do you have dinner?
S2: I have dinner at 6.
S2: What time do you make dinner?
S3: I make dinner at 4.
S3: What time do you study?
S4: I study at 8.
ขั้นการสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร (Production)
1. นักเรียนแบง่ กลุม่ ๆ ละ 4 คน
2. นกั เรียนอ่านคาถามในตาราง
3. แตล่ ะกลมุ่ เขียนคาถามเพมิ่ อีก 3 คาถาม
4. นกั เรียนเขยี นคาตอบของตนเอง
5. นกั เรียนใชค้ าถาม ถามข้อมูลเพือ่ นและเตมิ ลงในตาราง
6. นักเรียนนาข้อมลู มาคยุ กบั เพอื่ นและหาวา่ โดยเฉล่ียทากิจกรรมแต่ละอยา่ งเวลาอะไร
ข้นั สรปุ (Wrap up)

1. นกั เรยี นสรุปการใช้ at (time) ตามดว้ ยกิจกรรมต่าง ๆ

ช่วั โมงท่ี 3
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครทู บทวนเน้อื หาท่ีเรียนมาโดยการซักถามนกั เรียน
2. ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกมตอ่ คา โดยเขียนคา ๆ หน่ึงบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นตอ่ แถวเขียนคาศัพท์
ใหม่ กนั ไปเรอื่ ย ๆ โดยเอาพยญั ชนะตัวสุดท้ายทา้ ยของคาทแ่ี ลว้ เปน็ พยัญชนะตน้ ของคาถัดไป

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครูแจกใบงาน Daily Routine ให้นักเรียน

2. นกั เรยี นอา่ นใบงานและวงกลมคาศัพท์ท่ีไมร่ ู้
3. ครใู หน้ กั เรยี นหาความหมายของคาศัพท์ทีไ่ มร่ ูโ้ ดยให้เปิด online dictionary หรือครอู ธิบาย
ความหมายใหน้ กั เรยี น
ขัน้ ฝึกฝน (Practice)
1. ครูใหน้ ักเรยี นจบั กลมุ่ ๆ ละ 3 คน
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั ทาแบบฝึกหัดในใบงานในขอ้ A โดยแปลคาศพั ทห์ รือวลีใหถ้ กู ตอ้ ง

Answer Key
Wake up = ต่ืนนอน
Get up = ต่นื นอน
Get dressed / put the shoes on = แต่งตัว / ใสร่ องเทา้
Go to the bathroom = เข้าหอ้ งนา้
Have a shower = อาบน้า
Brush my teeth = แปรงฟนั
Comb my hair = หวีผม
Have breakfast = รับประทานอาหารเช้า
Make the bed = จดั ทน่ี อน
Leave home = ออกจากบ้าน
Go to school = ไปโรงเรียน
Arrive at school = มาถึงโรงเรยี ง
Start school = โรงเรียนเร่มิ
Finish school = โรงเรยี นเลกิ
Do the homework = ทาการบา้ น
Come back home = กลับบา้ น
Help my mother at home = ชว่ ยคุณแม่ทางานบ้านทีบ่ า้ น
Have lunch / dinner = รับประทานอาหารกลางวัน / อาหารเยน็
Talk on the phone = คุยโทรศพั ท์
Work on the computer = ทางานโดยใช้คอมพวิ เตอร์
Feed the cat / dog =ให้อาหารสนุ ัข / แมว
Read = อา่ น

Write = เขียน

Do the housework = ทางานบ้าน

Walk the dog = พาสนุ ัขออกไปเดินเลน่

Watch TV = ดูทวี ี

Listen to music = ฟังเพลง

Download music and films = ดาวน์โหลดเพลงและภาพยนตร์
Play computer game = เลน่ เกมคอมพวิ เตอร์
Update my status on the facebook = อพั เดตสเตตัสบนเฟซบุ๊ก
Check my email = ตรวจสอบอีเมล
Get undressed = ถอดเส้ือผ้า
Say the prayers = สวดมนต์
Go to bed = เข้านอน
Go to bed / fall asleep = นอนหลับ

3. ครูสุ่มใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ เฉลยคาตอบ จากน้ันครูเฉลยคาตอบ
4. ครูใหน้ ักเรียนลองแตง่ ประโยคจากคาหรอื วลีในข้อ A
5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าห้อง
6. ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดในใบงานขอ้ B และ C โดยผันคากริยาในวงเล็บในรปู Simple
Present Tense แล้วเตมิ ในช่องวา่ งให้ถูกต้อง
7. ครูสมุ่ ถามนักเรียนแต่ละกลมุ่ และเฉลยคาตอบที่ถูกตอ้ ง
ข้นั การสรา้ งผลงาน การใชภ้ าษาเพื่อการส่อื สาร (Production)
1. นักเรียนจับคู่
2. ครูใหน้ ักเรยี นแสดงบทบาทสมมุติ โดยแต่ละคแู่ สดงเปน็ เพอ่ื นท่ีไม่ได้เจอกนั นาน
แลว้ บังเอิญเจอกนั ที่รา้ นอาหารแห่งหนึง่ จากนน้ั ถามกิจวัตรประจาวันของเพอื่ นตวั เอง
3. ครใู ห้เวลานกั เรียนแต่งบทสนทนาและซกั ซอ้ มการแสดง 20 นาที
4. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคู่ออกมาแสดงบทบาทสมมุตหิ นา้ ชัน้ เรยี น
5. ครูสงั เกตการแสดงและให้ feedback แกน่ ักเรยี น
6. นกั เรียนช่วยกันลงคะแนนเสยี งวา่ คู่ไหนแสดงได้ดีที่สดุ
ข้นั สรุป (Wrap up)

1. นกั เรียนสรุปการใช้ at (time) ตามด้วยกิจกรรมตา่ ง ๆ

ช่ัวโมงที่ 4

ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น (Warm up)

1. ครทู บทวนคาศัพท์ทไี่ ดเ้ รียนมาใน Unit 3-4
ขน้ั นาเสนอ (Presentation)

1. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นเน้อื หาในกจิ กรรมที่ 1 จากนนั้ วงกลมรอบตัวอกั ษรหน้าคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง
2. ครูให้นักเรียนดูส่วนของประโยคในกิจกรรมที่ 2 จากนั้นเขียนประโยคใหม่ให้ถูกต้องตามหลัก
ไวยากรณ์

3. ครใู ห้นักเรยี นเติมคาตอบในช่องว่างให้สมบรู ณ์ในตารางกิจกรรมท่ี 3 โดยดูจากคาตอบจาก
กจิ กรรมท่ี 2

ขน้ั ฝึกฝน (Practice)

1. นักเรียนอ่านข้อความในกิจกรรมท่ี 4 จากนั้นทากจิ กรรมโดยเลือกคาบพุ บทที่ถูกตอ้ ง
2. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นข้อความและตารางการบรกิ ารของลูกคา้ ในกจิ กรรมท่ี 5 จากน้นั วงกลม
รอบตวั อักษรหนา้ คาตอบท่ีถกู ต้อง
ข้ันการสรา้ งผลงาน การใชภ้ าษาเพ่อื การส่ือสาร (Production)
1. นักเรียนอา่ นประโยคในกจิ กรรมที่ 6 จากนน้ั ครูเปิด CD R2-1 ใหน้ กั เรยี นฟงั
2. ครเู ปดิ CD R2-1 อีกครัง้ จากนัน้ นักเรียนทากจิ กรรมที่ 6 โดยพิจารณาจรงิ หรอื เท็จ
3. นกั เรียนอ่านประโยคในกิจกรรมที่ 6 จากนั้นครเู ปิด CD R2-2 ใหน้ ักเรียนฟงั
4. ครเู ปดิ CD R2-2 อกี ครั้ง จากนั้นนักเรยี นเตมิ คาลงในช่องว่างให้ถูกต้องจากทไ่ี ด้ยนิ
ข้ันสรุป (Wrap up)

1. นกั เรียนและครูสรปุ ความรู้จากบทเรยี นและแบบฝกึ หัดใน Unit 3-4

บันทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังน้ี
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

39. ผลการเรียนของนักเรียน
 จานวนนกั เรยี นทผี่ า่ นการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จานวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ ...................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรบั ปรงุ เร่อื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทไี่ มผ่ ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรียน ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มขี ้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผ้บู ันทกึ
( .................................... )