The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ อ21101
รายวิชาภาษาอังกฤษ 1
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยที่ 1-40 (จำนวน 60 ชั่วโมง)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Lamin, 2021-09-23 05:32:54

แผนการจัดการเรียนรู้ อ21101

แผนการจัดการเรียนรู้ อ21101
รายวิชาภาษาอังกฤษ 1
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
หน่วยที่ 1-40 (จำนวน 60 ชั่วโมง)

ขนั้ นาเสนอ (Presentation)
1. ครูฉายติดภาพน้บี นจอโปรเจคเตอร์

2. ครพู ดู ประโยคดังน้ี There is a bed in the bedroom.
The bed is in the bedroom. There are slippers on the floor.
The slippers are on the floor. There is a teddy bear on the bed.
The teddy bear is on the bed. There is a ball beside the bed.
The ball is beside the bed.

3. ครูพูดประโยคอีกครัง้ นักเรียนฝึกพดู ตาม

ข้ันฝึกฝน (Practice)
1. ครูฉายภาพน้บี นจอโปรเจคเตอร์

2. ครูพูดประโยคดงั นี้ และนกั เรียนตอ้ งพูดอกี ครัง้ แตใ่ หข้ ้นึ ตน้ ประโยคดว้ ย There is / There are
ตัวอยา่ งประโยค

The chairs are in the kitchen.
The kettle is on the table.
The pot is on the stove.

The sink is in the kitchen.
The mug is beside the kettle.

3. นกั เรียนเปิดหนงั สอื หน้า 41 ทากจิ กรรมท่ี 6

Answer Key
There are clothes in the closet.
There is a dresser beside the lamp.
There is a tree beside the house.
There are books on the table.
There is a garden in the yard.
There is a door beside the window.

4. นักเรียนอ่านเรื่องในกิจกรรมท่ี 7
5. นักเรียนตอบคาถาม

Answer Key
Amy’s kitchen is beside the living room.
Amy’s clothes are in the closet.
There’s a shower in Amy’s bathroom.

ข้นั การสร้างผลงาน การใชภ้ าษาเพือ่ การส่อื สาร (Production)
1. นกั เรยี นดตู ารางในกจิ กรรมที่ 8
2. นักเรียนเตมิ ข้อมลู ในตาราง
Sample answers
In the yard: tree, garden
In the living room: couch, armchair, television
In the kitchen: table, refrigerator, sink, stove
In the dining room: table, chair
In the bedroom: closet, clothes, lamp
In the bathroom: bathtub, shower, sink, toilet
3. นกั เรียนนาข้อมลู ท่ีเติมในตารางมาเขยี น paragraph สัน้ ๆ
4. ครูสมุ่ นกั เรยี นนาเสนอข้อมลู ทเ่ี ขียนและครูให้ feedback

ขั้นสรปุ (Wrap up)
1. นกั เรยี นสรปุ การใช้ There is / are และ Prepositions of place

บันทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังนี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

29. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรียนทผ่ี า่ นการประเมิน .......................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ .................................
 จานวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ ันตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนทีไ่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ /ไม่สนใจเรียน ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงชอื่ ........................................... ผูบ้ นั ทกึ
( .................................... )

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 31
เร่ือง Design the perfect house

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 รหัสวชิ า อ21101 ชอื่ หน่วย My House , My Home
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ 1 ภาคเรียนที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
เวลาเรียน 3 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและข้อความให้สัมพนั ธก์ บั ส่ือทีไ่ มใ่ ช่ความเรยี ง (non-text

information) ทอ่ี า่ น
ต 1.2 ม.1/3 พูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้

ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองท่ีฟังหรืออา่ น

อยา่ งเหมาะสม

ต 2.1 ม. 1/2 บรรยายเกย่ี วกับเทศกาล วันสาคญั ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณีของเจา้ ของ
ภาษา

ต 2.2 ม. 1/2 เปรียบเทียบความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสาคัญ
และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย

ต 3.1 ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู / ข้อเท็จจริงที่เกีย่ วข้องกับกล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ ืน่

จากแหลง่ เรยี นรูแ้ ละนาเสนอด้วยการพูด/การเขยี น
ต 4.2 ม.1/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า ความรู้/ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อและ

แหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี

2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ

- การถาม-ตอบ โดยใช้ What’s / Where’s ได้ถูกตอ้ ง
- พดู เพื่อให้ขอ้ มูลการสรา้ งบ้านในฝนั

2. ผเู้ รียนมสี มรรถนะที่สาคญั
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

3. ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
- มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทางาน

3. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

การนาคาศพั ท์ทใ่ี ช้เรยี กสงิ่ ใกล้ตวั การใช้คาบุพบททถี่ กู ต้อง ชว่ ยให้สามารถสอื่ สาร ถ่ายทอดขอ้ มลู ได้

อยา่ งถกู ต้อง
4. สาระการเรียนรู้

Grammar and Structures What’s, Where’s

Project Dream House Builder

5 สมรรถะสาคญั ของผู้เรียน
- ความสามารถในการสือ่ สาร / ความสามารถในการคิด /ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

6. การบรู ณาการจัดการเรยี นรู้

6.1 การบรู ณาการโรงเรียนคุณธรรม

- การส่งเสรมิ คูณธรรม เร่อื งความรบั ผิดชอบ
7. ช้นิ งาน/ภาระงาน

- การเขยี น Dream house builder

8. การวดั และการประเมนิ ผล

วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การผ่าน
1. การเขยี นใหข้ ้อมูล แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ ดี ขน้ึ ไป
2. การประเมนิ พฤตกิ รรม การประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล ระดับคุณภาพ ดี ขน้ึ ไป
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะ
9. ส่ือและแหลง่ เรียนรู้

1. หนงั สือเรยี น New Frontiers 1
2. Class Audio CD

3. แบบฝึกหัด New Frontiers 1
4. สมารต์ โฟน
5. ดกิ ชนั นารี

10. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

1. นักเรียนดภู าพหน้า 42 ชว่ ยกนั คาดเดาวา่ เป็นคลิปเกี่ยวกบั อะไร
Look at the pictures. What do you think the video will be about?

2. นกั เรียนจับคู่แบง่ ปันส่ิงท่ีคาดเดากบั เพื่อน

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)

1. ครูสแกน QR Code เปดิ คลิปให้นักเรียนดู 1 รอบ
2. ครแู ละนักเรียนตรวจสอบวา่ ตรงกับที่คาดเดาไว้หรอื ไม่
3. ครูเปิดคลิปรอบที่ 2 นักเรยี นเรียงลาดับเร่อื งในคลิป ในกิจกรรมที่ 2

Answer Key
From left to right 3, 2, 1

4. ครูเปดิ คลปิ รอบท่ี 2 นกั เรียนใสล่ าดับส่ิงที่เดก็ ผู้ชายมอง ในกิจกรรมท่ี 3
Answer Key
From left to right, top to bottom
1. bathroom 3. yard 6. kitchen 2. living room 1. bedroom 4. roof

ขั้นฝึกฝน (Practice)
1. นักเรียนจับคู่คาถามและคาตอบในกจิ กรรมที่ 4
Answer Key
1. c 2. b 3. a

2. ครูเปดิ คลปิ รอบที่ 3 นักเรียนวงกลมคาตอบท่ีถกู ต้อง ในกจิ กรรมที่ 5
Answer Key
1. c 2. c 3. a 4. b

ข้ันการสร้างผลงาน การใชภ้ าษาเพอื่ การสื่อสาร (Production)
1. ครแู บง่ กล่มุ นักเรียน กลมุ่ ละ 4 คน
2. ครูแจกใบงาน Parts of a house ใหน้ ักเรียนกล่มุ ละ 1 ใบ
3. นกั เรยี นชว่ ยกันคิดและเขยี น Parts of a house สามารถใช้สมาร์ตโฟนหรือดิกชนั นารี

เพ่ือหาข้อมลู เพ่มิ เตมิ ได้
4. ครูให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มมานาเสนอส่งิ ท่เี ขยี นในใบงาน

ชว่ั โมงท่ี 2

ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น (Warm up)

1. ครูและนกั เรียนทบทวนคาศัพทเ์ ก่ยี วกับบ้าน

ขัน้ นาเสนอ (Presentation)

1. นกั เรยี นอ่านคาถาม-คาตอบในกิจกรรมที่ 6

NOTE

next to หมายถึง beside / on top of หมายถงึ on

2. นกั เรียนทากิจกรรมท่ี 7-8

Answer Key

1. is a 2. are 3. is a 4. is an 5. are 6. are
5. next to 6. under
1. in 2. on 3. in 4. on

ข้นั ฝึกฝน (Practice)
1. ครูแจกใบงาน The messy room ใหน้ กั เรยี นแต่ละคน
2. นกั เรยี นทาแบบฝกึ ในใบงาน

ขั้นการสร้างผลงาน การใช้ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร (Production)
1. ครแู บ่งกลุ่มนกั เรียน กลุม่ ละ 4 คน โดยครูสอดแทรกคุณธรรมเรอื่ งความรับผิดชอบใหแ้ กน่ กั เรียน

ในเรือ่ งการของทางาน และรับผิดหนา้ ทท่ี ี่ได้รบั มอบหมายจากการทางานกลุ่ม กระตุ้นให้นกั เรียนทุกคนมี
บทบาทในการทางาน ไม่เอาเปรยี บ และยอมรบั ความคิดเห็นซ่งึ กันและกนั

2. นักเรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้คาตอบในใบงานกบั เพ่ือนในกล่มุ
3. ครแู ละนักเรียนทง้ั ห้องร่วมกันเฉลย
ขั้นสรุป (Wrap up)

1. นักเรยี นสรปุ การใช้ Preposition of place

ช่ัวโมงท่ี 3
ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น (Warm up)

1. ครูทักทายนกั เรียน ถามนักเรียนวา่ นกั เรียนมีบ้านในฝันไหม และบ้านในฝนั ของนกั เรียน
เป็นอยา่ งไร

What style is your dream house?
2. ครเู ขยี นคาตอบของนกั เรยี นบนกระดาน
ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครใู ห้นักเรียนดภู าพ สไตล์ของบ้านแต่ละแบบ และยกตัวอย่างการบรรยายบา้ นแต่ละแบบ

Country French-Style Homes
Country French homes are often one story with many narrow windows and paired shutters,
steeply pitched roofs (either hipped or side-gabled), stucco walls, and a half-timbered frame.
The curb appeal really stands out and often features stunning driveways and landscape
designs.

Victorian Houses
Victorian homes often feature a steeply pitched roof, a dominant front-facing gable,
patterned shingles, cutaway bay windows, and an asymmetrical facade with a partial or
full-width front porch.

Cottage Style Homes

Common features of cottage style house plans include a warm, storybook character, steep
roof pitches and cross gables, arched doors, casement windows with small panes, and brick,
stone, or stucco siding.

ข้ันฝึกฝน (Practice)
1. นกั เรียนเขยี นสิ่งที่อยากให้มใี นบ้านในฝันของตวั เองในกจิ กรรมที่ 9
2. แบ่งนกั เรียนกล่มุ ละ 4 คน
3. นกั เรยี นแบ่งปันข้อมูลและช่วยกนั เลอื กสิ่งทอี่ ยากใหม้ ใี นบา้ นในฝนั ของกลุ่มนกั เรียน

ขนั้ การสร้างผลงาน การใช้ภาษาเพือ่ การส่อื สาร (Production)
1. ครูแจกกระดาษ 100 ปอนด์ให้นกั เรียนกลุ่มละ 1 แผน่
2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกแบบบ้าน เฟอรน์ เิ จอร์ และเครื่องใช้ตา่ ง ๆ ท่ีต้องการใหม้ ีในบ้าน
3. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าห้องเรียน

ข้นั สรุป (Wrap up)
1. นกั เรียนสรุปการใช้ What’s, Where’s, Prepositions of place และคาศัพท์เกยี่ วกับบ้าน

บนั ทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจดุ ประสงค์ K P A ดงั นี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

30. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมนิ .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จานวนนกั เรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คิดเป็นร้อยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผบู้ นั ทกึ
( .................................... )





แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 32

เรอ่ื ง Read about modes of transportation

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ช่อื หนว่ ย What time is it?

รายวิชา ภาษาองั กฤษ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 1 คาบ

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชี้วดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา และคาชแ้ี จงง่าย ๆ ทฟี่ ังและอา่ น

ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สัน้ ๆ ถูกตอ้ ง
ตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ม.1/4 ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื ง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถาม จากการฟงั
และอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสั้น

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ยี นขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ

ในชวี ติ ประจาวนั
ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับเรอ่ื งทฟี่ งั หรอื อา่ น

อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม.1/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เหน็ ของตนเองเก่ียวกบั เรอื่ งต่าง ๆ ใกล้

ตวั กิจกรรมต่าง ๆ พร้อมท้งั ให้เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม

ต 2.2 ม.1/2 เปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสาคญั
และชวี ติ ความเปน็ อย่ขู องเจา้ ของภาษากับของไทย

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ผูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความสามารถ
- ใช้คาศัพท์เรยี กรูปแบบการเดินทางไดถ้ กู ตอ้ ง
- อ่านออกเสียงขอ้ ความและตอบคาถามจากการอา่ นไดถ้ ูกต้อง
- ให้ขอ้ มูลและบอกวิธกี ารเดนิ ทางได้ถกู ตอ้ ง

2. ผู้เรยี นมีสมรรถนะทีส่ าคัญ

- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์
- มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ท่ีใช้เรียกวิธีการเดินทาง ช่วยให้สามารถพูดขอและให้ข้อมูล เปรียบเทียบความเหมือน

และความแตกต่างระหว่างรูปแบบการเดินทางของเจ้าของภาษากับของไทย และสือ่ สารตามโครงสรา้ งภาษา

ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้

Vocabulary bicycle / bike / bus / car / fly / plane / subway / taxi / train

Reading Read about modes of transportation

5. สมรรถะสาคัญของผเู้ รยี น

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคิด /ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต/
ความสามารถในการแกป้ ัญหา / ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. การบรู ณาการจัดการเรยี นรู้
6.1 การบรู ณาการประหยดั พลังงาน
- การใช้ทรพั ยากรที่มใี ห้เกิดประโยชน์อย่างสงู สดุ และคมุ้ คา่

7. ช้ินงาน/ภาระงาน
- การอ่าน Modes of Transportation

8. การวัดและการประเมินผล

วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารผา่ น
2. การสังเกตการอ่านของนักเรยี น ระดบั คณุ ภาพ ดี ขึน้ ไป
2. การประเมินพฤตกิ รรม แบบประเมินการอา่ น ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป

9. สื่อและแหลง่ เรียนรู้ การประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะ

1. หนังสือเรียน New Frontiers 1
2. Class Audio CD
3. แบบฝกึ หัด New Frontiers 1
4. YouTube
10. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (Warm up)

1. นกั เรยี นดูภาพหนา้ 44-45 และตอบคาถามต่อไปน้ี
- What do you see in the picture?
- What time do you think it is?

- Where are the people in the picture?
- What do you ride to school?

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครใู ช้ flashcards เรอ่ื ง transportation สอนคาศัพทน์ กั เรียน

https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-
transport.pdf

NOTE
subway เป็น AmE underground เปน็ BrE

2. นกั เรยี นฝกึ ออกเสียงตามภาพ

3. ครูใหน้ กั เรียนเห็นเฉพาะภาพ และใหบ้ อกคาศพั ท์ใหต้ รงกับภาพ

ข้ันฝึกฝน (Practice)

1. ใหน้ ักเรียนอ่านคาศพั ทใ์ ต้ภาพและวงกลมคาศพั ท์ทไ่ี ม่รู้

2. ครูเปดิ CD 4-01 ให้นักเรยี นฟงั และฝึกออกเสียงตาม

3. ครูเปดิ CD 4-01 ใหน้ กั เรยี นฟงั อีกครง้ั เพอ่ื ทากิจกรรมท่ี 1 ใสห่ มายเลขของคาศพั ท์ท่ไี ดย้ นิ

ในวงกลม จากน้ันครเู ฉลยคาตอบ

Answer Key

From left to right, top to bottom

8. plane 2. taxi 6. car 7. subway 9. bus

5. bicycle / bike 4. train 3. fly 1. drive 10. drive

ข้นั การสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสาร (Production)
1. นกั เรียนทากจิ กรรมท่ี 2

Answer Key
1. drive 2. ride 3. rides 4. flies

2. ครูเขยี นคาศัพท์ Ride, Drive, Fly บนกระดาน
3. นกั เรยี นเขยี น transportation ท่ใี ชก้ บั คากริยาแต่ละตัวบนกระดาน

Sample Answers
Ride – bicycle / bike / motorcycle
Drive – car / taxi / bus / train
Fly – plane

4. นกั เรียนทาใบงานเร่อื ง Travelling phrasal verb

ขั้นสรุป (Wrap up)
1. นกั เรยี นสรปุ คาศพั ท์ที่ใชเ้ รียก modes of transportation
2. นักเรียนร่วมกนั แลกเปล่ียนความคิดเห็นเส้นทางในการเดนิ ทางมาโรงเรยี นที่สะดวกและรวดเร็ว ครู

ปลูกฝังความประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการเดนิ ทางมาโรงเรียน และชว่ ยกนั หาแนวทางในการวาง
แผนการเดนิ ทางไปสถานที่ตา่ งๆในชีวิตประจาวัน

บันทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังน้ี
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

31. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมิน .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จานวนนกั เรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ /ไมส่ นใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงชอื่ ........................................... ผ้บู ันทกึ
( .................................... )



แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 33

เรอ่ื ง Read about modes of transportation

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ชอื่ หนว่ ย What time is it?

รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 2 คาบ

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา และคาชแี้ จงง่าย ๆ ท่ีฟังและอ่าน

ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงข้อความ นทิ าน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สั้น ๆ ถกู ต้อง
ตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ม.1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคัญ (main idea) และตอบคาถาม จากการฟัง
และอา่ นบทสนทนา นทิ าน และเรอื่ งสั้น

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ียนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ

ในชวี ิตประจาวัน
ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับเร่อื งท่ีฟังหรืออา่ น

อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม.1/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นของตนเองเกย่ี วกับเรือ่ งต่าง ๆ ใกล้

ตวั กิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทัง้ ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ประสบการณ์ และ
ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตัว

ต 2.2 ม.1/2 เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั
และชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษากับของไทย

ต.3.1 ม.1/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจรงิ ท่เี กย่ี วข้องกบั กลุม่ สาระการเรยี นรูอ้ ่นื

จากแหลง่ เรียนร้แู ละนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ
- ใช้คาศัพท์เรยี กรูปแบบการเดนิ ทางไดถ้ กู ต้อง
- อา่ นออกเสยี งข้อความและตอบคาถามจากการอา่ นไดถ้ กู ต้อง
- ให้ขอ้ มูลและบอกวิธกี ารเดนิ ทางได้ถกู ตอ้ ง

2. ผเู้ รยี นมีสมรรถนะท่ีสาคญั

- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

3. ผูเ้ รียนมีคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์
- มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มัน่ ในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด

การรู้คาศัพท์ท่ีใช้เรียกวิธีการเดินทาง ช่วยให้สามารถพูดขอและให้ข้อมูล เปรียบเทียบความเหมือน

และความแตกต่างระหว่างรูปแบบการเดินทางของเจ้าของภาษากับของไทย และสอื่ สารตามโครงสร้างภาษา
ได้อย่างถกู ต้อง

4. สาระการเรยี นรู้ bicycle / bike / bus / car / fly / plane / subway / taxi / train
Vocabulary Read about modes of transportation

Reading

5. สมรรถะสาคญั ของผู้เรยี น

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคดิ /ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต/
ความสามารถในการแกป้ ญั หา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรยี นรู้
-

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- การทาแบบฝึกหัด

8. การวัดและการประเมินผล

วิธกี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
1. การทาแบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60
2. การประเมินพฤติกรรม แบบฝกึ หดั ระดับคณุ ภาพ ดี ข้ึนไป

9. สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะ

1. หนงั สอื เรียน New Frontiers 1
2. Class Audio CD
3. แบบฝึกหัด New Frontiers 1
4. YouTube

10. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน (Warm up)

1. ครทู บทวนคาศัพท์เกีย่ วกบั วิธกี ารเดนิ ทางที่ไดเ้ รยี นไปแลว้
Plane / taxi / car / subway / bus / bicycle / bike / train / fly / drive / ride

ขั้นนาเสนอ (Presentation)
1. นกั เรยี นทากิจกรรมที่ 3 โดยเตมิ คาศัพท์ที่เหมาะสมกบั บริบทมากท่ีสุดลงในชอ่ งว่าง
Answer Key
1. bus 2. bicycle / bike 3. boat 4. car 5. Plane

ขน้ั ฝกึ ฝน (Practice)
1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ี 4 โดยดรู ปู ภาพสถานทีท่ ้ัง 4 ภาพ แลว้ บอกวิธกี ารเดินทางจากโรงเรยี นหรอื

บ้านของนกั เรียนไปยังสถานทเ่ี หล่าน้นั ท่ีนักเรยี นรจู้ ัก
2. ครชู ว่ ยเหลือนกั เรยี นทากิจกรรม
3. นกั เรียนแลกเปลี่ยนกันอ่าน

ขนั้ การสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพ่อื การสื่อสาร (Production)
1. ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 4 คน
2. แต่ละกลุ่มคิดแผนการเดนิ ทางทอ่ งเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ และบอกวธิ ีการเดนิ ทางไป

เท่ยี วในสถานท่ีต่าง ๆ โดยใช้คาศพั ท์ท่ไี ด้เรยี นมา นกั เรียนสามารถเปิดอินเทอรเ์ น็ตหรือใช้ smartphone
เพอื่ หาขอ้ มลู เกยี่ วกับสถานทหี่ รือคาศัพท์ทีเ่ กยี่ วกับการเดินทางเพิ่มเตมิ ได้

3. แต่ละกล่มุ นาเสนอผลงานหน้าหอ้ ง และลงคะแนนเสยี งวา่ กล่มุ ไหนทาได้ดที ่สี ดุ

ขน้ั สรปุ (Wrap up)

1. นกั เรยี นสรปุ คาศัพท์ท่ีใชใ้ นการทากจิ กรรมท่ี 4

ชั่วโมงท่ี 2
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น (Warm up)

1. นาเข้าสู่บทเรยี นโดยใช้เพลง https://www.youtube.com/watch?v=Ut-HbauKzDw

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครถู ามนกั เรียนแต่ละคนโดยใช้คาถาม ดังน้ี
How do you get to school?
2. นักเรียนแสดงความคิดเหน็ The best way to travel in cities and why

ข้นั ฝึกฝน (Practice)
1. นักเรียนอ่านชอื่ เรอ่ื ง How we travel และคาดเดาวา่ นกั เรียนจะอ่านเก่ียวกับอะไร
2. นกั เรยี นอา่ นแต่ละ paragraph อย่างเร็ว และบอกช่ือ transportation ทพี่ บในแต่ละ paragraph
3. ครูเปิด CD 4-02 ให้นกั เรยี นฟงั และอา่ นตาม
4. แบง่ นักเรยี นกลมุ่ ละ 4 คน และให้นักเรียนอ่านเรอ่ื งและตอบคาถาม
5. ครตู รวจคาตอบ
Answer Key
1. false 2. true 3.false 4.false

NOTE
เราใช้ ride in a car and taxi และ ride on a train and boat
ในเมืองใหญ่ ๆ บางเมอื งจะมี bicycle-sharing system ซงึ่ เปน็ ระบบท่เี มืองหรือบริษทั จะจดั หา
จกั รยานใหค้ นเชา่ ระยะสนั้ ๆ ในราคาท่ีไม่แพงนกั

ข้ันการสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร (Production)
1. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเขียนวิธกี ารเดินทางในเมอื งใหญ่ วา่ มีกวี่ ิธี
2. เขยี นขอ้ ดี ขอ้ เสียของการเดินทางแต่ละประเภท นกั เรียนใช้ขอ้ มูลในเร่อื งหรอื smartphone

ในการหาขอ้ มลู เพมิ่ เติมได้
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น แนะนาวธิ กี ารเดนิ ทางท่ีดที ่ีสดุ
4. นกั เรียนจบั ค่สู นทนาโดยใช้คาถามในกจิ กรรมที่ 7

ขน้ั สรปุ (Wrap up)

1. นกั เรยี นสรุปรูปแบบการเดินทางตา่ ง ๆ

บันทึกหลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มจี ดุ ประสงค์ K P A ดงั นี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนือ่ งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

32. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน .......................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 จานวนนกั เรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ...................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ .................................
 อืน่ ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ นั ตามกาหนดเวลา
 มีนักเรยี นทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนาแผนไปปรับปรุง เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มขี อ้ เสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผบู้ นั ทึก
( .................................... )

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 34

เรอื่ ง Talk about your routine

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 ช่อื หนว่ ย What time is it?
รายวิชา ภาษาองั กฤษ 1
ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 1 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา และคาชีแ้ จงงา่ ย ๆ ท่ฟี งั และอ่าน

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวติ ประจาวัน

ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรือ่ งทฟ่ี งั หรืออา่ น
อย่างเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวัตรประจาวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดล้อม

ใกลต้ ัว
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คม และวัฒนธรรม

ของเจ้าของภาษา
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ งประโยคของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความสามารถ
- ใช้คาศัพทบ์ อกกิจวตั รประจาวันได้ถูกตอ้ ง
- พดู หรือเขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับกจิ วัตรประจาวันได้ถูกตอ้ ง

2. ผู้เรียนมสี มรรถนะที่สาคัญ
- ความสามารถในการส่ือสาร

- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3. ผเู้ รียนมคี ุณลักษณะที่พงึ ประสงค์

- มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน

3. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ที่ใช้บอกกิจวัตรประจาวัน ช่วยให้สามารถพูดหรือเขียนให้ข้อมูลได้ และสื่อสารตาม
โครงสร้างภาษาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้ brush my teeth / clean my room / do my homework / get
Vocabulary dressed / go to practice / go to sleep / bed / make my bed /
pack my bag / play a game / wake up
Speaking
Pronunciation Talk about routine.

/ə/

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคิด /ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ /
ความสามารถในการแก้ปญั หา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรยี นรู้
-

7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- การพดู Telling time and talking about your routines

8. การวดั และการประเมนิ ผล

วิธีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผ่าน
1. การสังเกตการพูดของนักเรียน ระดับคุณภาพ ดี ขน้ึ ไป
2. การประเมินพฤตกิ รรม แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ ดี ขน้ึ ไป

9. สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ การประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะ

1. หนงั สือเรียน New Frontiers 1

2. Class Audio CD
3. แบบฝกึ หัด New Frontiers 1
4. YouTube
10. กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรียน (Warm up)

1. ครเู ขยี นคาถามบนกระดาน
What is your schedule in the weekdays?
What is your schedule in the weekends?

2. ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพและคาศพั ทใ์ นกิจกรรมที่ 1 แล้วตอบคาถามครูบนกระดาน
ขนั้ นาเสนอ (Presentation)

1. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพและคาศพั ทใ์ นกจิ กรรมท่ี 1 แลว้ คาดเดาความหมาย

2. ครูเปิด CD 4-03 ให้นักเรยี นฟังและฝึกออกเสียง

3. ครูเปิด CD 4-03 ให้นกั เรยี นฟงั อีกครง้ั เพ่อื ทาแบบกิจกรรมที่ 1 โดยใสห่ มายเลขลงในวงกลม
ตามลาดบั คาศัพท์ทไี่ ด้ยนิ

4. ครเู ฉลยและบอกความหมายของแตล่ ะคาศัพท์
Answer Key

From left to right, top to bottom
7.wake up 1.go to sleep/bed 6.get dressed 2.brush my teeth
9.make my bed 10.pack my bag 3.go to practice 4.do my homework

5.play a game 8.clean my room

5. ครเู ปิด CD 4-04 ใหน้ กั เรยี นฟงั เพอ่ื ทากิจกรรมที่ 2 โดยเติมคาศพั ท์ทไ่ี ดย้ นิ ลงในชอ่ งวา่ ง

6. ครเู ปดิ ซดี ีใหฟ้ งั อกี ครั้ง แลว้ เฉลย

Answer Key

1.wake up 2.clean my room 3.do my homework

4.play a game 5.brush my teeth 6.go to bed

ขัน้ ฝึกฝน (Practice)
1. นักเรียนดูภาพนาฬกิ าในกิจกรรมท่ี 3 จากน้นั ครอู ธบิ ายความหมายของวลี quarter past / half

past / quarter to
2. ตรวจสอบวา่ นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของคาทกุ คา
3. ครเู ปดิ CD 4-05 ใหน้ กั เรยี นฟังเพื่อใส่เวลาตามท่ีได้ยิน

Answer Key 3.quarter past 6
1. 3 o’clock 2 5:20 6. quarter to 7
4. quarter to 9 5. half past 4

NOTE
What time is it? และ คาตอบ It is ………………. ใช้ถาม-ตอบเรอ่ื งเวลา

12:00 p.m. is noon
12:00 a.m. is midnight

4. นกั เรยี นบอกเวลาในกิจกรรมท่ี 4
Answer Key
1.(It is) half past 8(.)

2.(It is a) quarter to 8(.)
3.(It is a) quarter past 5(.)

4.(It is) 2 o’clock (.)
5.(It is) half past 10(.)
6.(It is a) quarter to 12(.)

ขั้นการสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพ่อื การสือ่ สาร (Production)
1. นักเรยี นแบ่งกล่มุ เป็น 2 กลุ่ม
2. ครูให้นักเรียนเล่นเกม โดยใหก้ ล่มุ ท่ี 1 ส่งตวั แทนมาบอกเวลาหรือวาดรปู นาฬิกา แลว้ ให้นักเรยี น

กล่มุ ที่ 2 เขา้ แถวเพ่อื บอกเวลา หากนักเรยี นกลุ่มที่สองบอกเวลาไดถ้ กู ต้อง จะได้รับคะแนน 1 คะแนน
หากตอบผิดใหไ้ ปต่อท้ายแถว ทาแบบนจี้ นหมดเวลา 10 นาที จากนัน้ ท้ังสองกล่มุ สลบั หนา้ ทก่ี ัน

3. กลุ่มท่ีไดค้ ะแนนมากทสี่ ุด เป็นฝ่ายชนะ

ข้นั สรปุ (Wrap up)

1. นักเรยี นสรปุ การถาม-ตอบเร่อื งเวลา

บันทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังน้ี
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มกี ารบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

33. ผลการเรียนของนักเรยี น
 จานวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมิน .......................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .................................
 จานวนนกั เรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไี่ มส่ นใจเรยี น
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรื่อง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ /ไมส่ นใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ
ลงชอื่ ........................................... ผ้บู ันทกึ
( .................................... )

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 35

เร่ือง Talk about your routine

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 ชอื่ หน่วย What time is it?

รายวิชา ภาษาอังกฤษ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรยี น 2 คาบ

1.มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชี้วัด
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาชีแ้ จงง่าย ๆ ท่ฟี งั และอา่ น

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวัน

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เร่อื งที่ฟังหรืออา่ น

อยา่ งเหมาะสม
ต.1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กจิ วัตรประจาวนั ประสบการณ์ และสง่ิ แวดลอ้ ม

ใกลต้ ัว
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา นา้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม

ของเจ้าของภาษา

ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ
การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสร้างประโยคของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ต.3.1 ม.1/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู / ข้อเท็จจริงที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้

อ่ืนจากแหลง่ เรียนรแู้ ละนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่อื สาร ในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จาลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรยี นและ
สถานศึกษา

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผ้เู รยี นมคี วามรู้ ความสามารถ
- ใช้คาศพั ทบ์ อกกจิ วตั รประจาวันได้ถูกต้อง

- พูดหรอื เขยี นให้ข้อมูลเกีย่ วกับกจิ วัตรประจาวนั ไดถ้ กู ต้อง
2. ผูเ้ รยี นมสี มรรถนะที่สาคัญ

- ความสามารถในการส่อื สาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแก้ปัญหา

- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ผเู้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์
- มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคิดรวบยอด

การรู้คาศัพท์ท่ีใช้บอกกิจวัตรประจาวัน ช่วยให้สามารถพูดหรือเขียนให้ข้อมูลได้ และสื่อสารตาม
โครงสร้างภาษาไดอ้ ย่างถูกต้องไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้ brush my teeth / clean my room / do my homework / get
Vocabulary dressed / go to practice / go to sleep / bed / make my bed /
pack my bag / play a game / wake up
Speaking
Pronunciation Talk about routine.

/ə/

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

- ความสามารถในการส่ือสาร / ความสามารถในการคดิ /ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ /

ความสามารถในการแกป้ ัญหา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. การบรู ณาการจัดการเรียนรู้

-

7. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- การเขียน Daily Routines

8. การวดั และการประเมินผล

วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารผา่ น
1. การสงั เกตการพูดของนักเรยี น ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป
2. การประเมนิ พฤตกิ รรม แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ ดี ขน้ึ ไป

9. สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ การประเมินพฤติกรรมรายบุคคล
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะ

1. หนังสอื เรียน New Frontiers 1

2. Class Audio CD
3. แบบฝึกหัด New Frontiers 1
10. กิจกรรมการเรียนรู้

ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

1. ครทู บทวนคาศพั ท์ท่ีเกย่ี วกบั กจิ กรรมทท่ี าในชวี ิตประจาวนั และการบอกเวลาทน่ี กั เรียนไดเ้ รยี น

ไปแลว้

wake up / go to sleep / go to bed / get dressed / brush my teeth / make my bed / pack my
bag / go to practice / do my homework / play a game / clan my room / quarter to / quarter
past / half past

ขนั้ นาเสนอ (Presentation)
1. ครูถามนักเรียนดว้ ยคาถามตอ่ ไปนี้ โดยใหน้ ักเรียนตอบคาถามเปน็ ประโยคและบอกเวลา

ตามความเป็นจริง
What time do you have breakfast?
What time do you take a shower?
What time do you do your homework?

2. ครูอธิบายเกี่ยวกับคาถามทถ่ี ามนักเรียน วา่ เป็นประโยคท่ใี ชถ้ ามวา่ คู่สนทนาทากิจกรรมหนึง่ ๆ
เมื่อไร

3. นักเรยี นจบั คู่ และพูดบทสนทนาในกจิ กรรมท่ี 5 ผลัดกนั เปน็ ผถู้ ามและผูต้ อบ

ข้ันฝึกฝน (Practice)
1. ครูเปิด CD 4-06 ใหน้ ักเรยี นฟงั เพื่อให้นกั เรียนทากิจกรรมที่ 6 โดยจับคูก่ จิ กรรมกบั เวลา

ตามที่ไดย้ นิ
2. ครูเฉลยและอธบิ ายเพม่ิ เติม
Answer Key
1. d 2. c 3. a 4. B

3. ครูเปดิ CD 4-07 ใหน้ กั เรยี นฟังเพ่ือให้นกั เรยี นทากจิ กรรมที่ 7 โดยเตมิ ตารางเวลาใหส้ มบูรณ์
ตามท่ีไดย้ ิน

4. ครเู ฉลยและอธิบายเพมิ่ เติม

Answer Key
make my bed
get dressed
have practice
eat (dinner)
go to bed
wake up
play games
go home
do my homework
brush my teeth
pack my bag

ข้นั การสรา้ งผลงาน การใชภ้ าษาเพื่อการส่ือสาร (Production)
1. นกั เรียนจบั คู่และทากจิ กรรมที่ 8 Role play โดยผลดั การถามตารางเวลาของคบู่ ทสนทนา

โดยยึดรปู แบบตารางเวลาจากกจิ กรรมท่ี 7
2. ครูใหน้ กั เรยี นอาสา role play หน้าชั้นเรียน
3. นักเรยี นลงคะแนนเสียงว่าคู่ไหนแสดงบทบาทสมมตุ ไิ ด้ดีทสี่ ุด

ข้นั สรปุ (Wrap up)

1. นักเรยี นสรุปการถาม-ตอบการบอกเวลาและตารางเวลา

ชั่วโมงที่ 2
ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น (Warm up)

1. ครทู บทวนการถาม-ตอบเวลาและตารางเวลา
ขั้นนาเสนอ (Presentation)

1. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงาน Collocations – basic

Answer Key
1. a. do b. get c. have d. go e. watch f. go g. have

h. go i. read j. listen k. have l. do shopping m. buy n. iron
o. get p. have
2. 1. l. 2. j. 3. d. 4. o. 5. c. 6. k. 7. g. 8. i. 9. p. 10. f.
11. b. 12. h. 13. a. 14. n. 15. e. 16. m.

3. 1. I have a shower at quarter past seven.
2. I get dressed at quarter to eight.
3. I have breakfast at eight o’clock.
4. I go to work at half past eight.
5. I have lunch at one o’clock.
6. I go home at half past five.
7. I have dinner at six o’clock.
8. I watch TV at eight o’clock.
9. I go to bed at ten o’clock.
10. I do shopping on Friday.
11. I listen to music/radio on Saturday.
12. I read a book on Sunday.
13. I do the laundry on Monday.
14. I buy newspaper on Monday, Wednesday, and Friday.

ข้ันฝกึ ฝน (Practice)
1. นักเรียนเปดิ หนงั สือเรียนหน้า 49 ทากิจกรรมท่ี 9 ใหน้ กั เรียนทาตารางเวลาของตนเอง
2. นักเรยี นถามเพอ่ื นในห้องเก่ียวกบั ตารางเวลาของเพ่อื น โดยใช้บทสนทนาทีเ่ คยได้เรยี น

ไปก่อนหน้านี้
3. นักเรยี นจดบันทกึ ตารางเวลาของเพอื่ น แลว้ เอามานาเสนอหน้าชั้นเรยี น

ขนั้ การสร้างผลงาน การใช้ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร (Production)
1. ครเู ปดิ CD 4-08 ให้นกั เรียนฟังและฝกึ ออกเสยี ง
2. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4 คน
3. ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกม โดยใหน้ ักเรียนในแต่ละกลุ่มนึกคาทมี่ ีเสียง /ə/ แล้วออกมาเขยี น

บนกระดาน ภายในเวลา 3 นาที นักเรียนสามารถเปิดพจนานกุ รมหรอื พจนานกุ รมออนไลน์เพ่ือตรวจสอบวา่
คาทนี่ กั เรยี นนกึ น้ันมีเสียง /ə/ หรอื ไม่

4. กลุ่มใดท่ีสามารถหาคาท่ีมเี สยี ง /ə/ ได้มากท่สี ุด เปน็ ฝา่ ยชนะ
ข้นั สรปุ (Wrap up)

1. นกั เรยี นทบทวนการถาม-ตอบบอกเวลา และการออกเสียง /ə/

บนั ทึกหลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจดุ ประสงค์ K P A ดังนี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มีการบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนือ่ งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

34. ผลการเรยี นของนกั เรยี น
 จานวนนักเรยี นทผี่ ่านการประเมิน .......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ .................................
 จานวนนักเรยี นทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ ...................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มนี ักเรยี นท่ีไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านการประเมนิ /ไมส่ นใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผบู้ นั ทึก
( .................................... )





แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 36

เรือ่ ง Understand a schedule

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 ชื่อหน่วย What time is it?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 1
ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 รหัสวิชา อ21101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 1 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคาส่งั คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาช้แี จงง่าย ๆ ที่ฟังและอ่าน

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวัน

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเร่อื งที่ฟงั หรืออ่าน
อย่างเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ ม

ใกลต้ ัว
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ าท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คม และวัฒนธรรม

ของเจา้ ของภาษา
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ งประโยคของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต.3.1 ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ ข้อเท็จจรงิ ทีเ่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้

อน่ื จากแหล่งเรยี นรแู้ ละนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่ือสาร ในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเี่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียนและ

สถานศึกษา

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถ

- ฟงั ขอ้ ความและตอบคาถามจากการฟงั ได้อย่างถกู ตอ้ ง
- พูดสนทนาแลกเปลย่ี นเกย่ี วกบั กจิ วตั รประจาวันและเวลาได้ถกู ตอ้ ง
2. ผู้เรยี นมีสมรรถนะทสี่ าคญั

- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ผเู้ รยี นมีคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
- มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ที่ใช้บอกกิจวัตรประจาวัน ช่วยให้สามารถพูดหรือเขียนให้ข้อมูลได้ และส่ือสารตาม
โครงสร้างภาษาได้อย่างถูกตอ้ งไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้ afternoon / evening / morning / night / practice / today /
Vocabulary tomorrow / weekend

Grammar and Structures Telling time / What time and when questions
Listening
Speaking Understand a schedule.

Talk about your routine.

5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น

- ความสามารถในการสอ่ื สาร / ความสามารถในการคิด /ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต/
ความสามารถในการแก้ปัญหา / ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. การบูรณาการจัดการเรยี นรู้

6.1 การบรู ณาการสถานศึกษาสีขาวและอบายมุข
- การรู้จักบทบาทและหนา้ ทขี่ องตนเอง ตามโครงสร้างหอ้ งเรียนสขี าว ไดแ้ กห่ วั หนา้ ฝา่ ยทั้ง 4 ฝ่าย และ
การอา่ นตารางเวลาการทาเวรประจาวนั
7. ชิน้ งาน/ภาระงาน
- การตอบคาถามจากการฟงั Understand a schedule

8. การวดั และการประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผ่าน
1. การตอบคาถามจากการฟงั ระดับคุณภาพ ดี ขึน้ ไป
2. การประเมินพฤตกิ รรม แบบประเมนิ การฟัง ระดับคุณภาพ ดี ข้ึนไป

9. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะ

1. หนังสอื เรียน New Frontiers 1
2. Class Audio CD
3. แบบฝึกหัด New Frontiers 1

10. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

1. ครูเขยี นคาถามบนกระดาน

What time do you go to school?

When do you go to school?

2. ครใู หน้ ักเรียนคดิ วา่ ประโยคขา้ งต้นทง้ั 2 ประโยคแตกตา่ งกนั อยา่ งไร

ขัน้ นาเสนอ (Presentation)

1. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพและคาศัพทใ์ นกจิ กรรมท่ี 1 แล้วคาดเดาความหมาย

2. ครูเปิด CD 4-09 ให้นักเรียนฟงั และฝึกออกเสยี ง

3. ครูเปิด CD 4-09 ให้นกั เรียนฟังอกี ครงั้ เพื่อทาแบบกจิ กรรมที่ 1 โดยใสห่ มายเลขลงในวงกลม

ตามลาดบั คาศัพท์ท่ไี ดย้ นิ

4. ครเู ฉลยและบอกความหมายของแต่ละคาศัพท์

Answer Key

From left to right, top to bottom

6.morning 3.afternoon 5.today 2.tomorrow

8.evening 1.night 7.practice 4.weekend

5. ครูเปดิ CD 4-10 ใหน้ กั เรยี นฟังเพ่ือทากจิ กรรมที่ 2 โดยเขยี นคาศพั ท์จากกจิ กรรมท่ี 1 ทไ่ี ด้ยิน
Answer Key
1. night 2. tomorrow 3. afternoon 4. Morning

NOTE

เราใช้ in the morning / afternoon / evening
เราใช้ at night / on the weekend

คาหลายคาท่สี ะกดเหมอื นกนั และเปน็ ไดท้ ้งั คานามและคากริยา เชน่ practice, coach, dream,
ข้นั ฝึกฝน (Practice)

1. นักเรยี นอ่านสนทนาส้นั ๆ ในกิจกรรมท่ี 3
NOTE
การถาม When คาตอบเปน็ ช่วงเวลาโดยท่วั ไป เชน่ in the morning, on the weekend

การถาม What time คาตอบระบุเปน็ เวลาทช่ี ดั เจน เช่น at 4 o’clock
2. ครูใช้ flashcards เรือ่ ง daily routines โดยใหน้ กั เรยี นตอบคาถามโดยใช้ When และ
What time

What time do you wake up?
What time do you get up?

What time do you have a shower?
What time do you get dressed?
When do you go to school?

When do you go home? etc.

3. นกั เรยี นจับคู่ และฝกึ สนทนากบั คูข่ องตัวเองตามบทสนทนาในกจิ กรรมที่ 3 โดยผลัดกนั เปน็ คน
ถามและคนตอบ

ข้นั การสรา้ งผลงาน การใช้ภาษาเพือ่ การสื่อสาร (Production)
1. ครเู ปิด CD 4-11 ใหน้ กั เรยี นฟังและตอบคาถามตามท่ีได้ยนิ
Answer Key
1. in the morning 2. at 4 o’clock 3. at half past 2

2. นักเรยี นจบั คู่ แต่งบทสนทนาตามความคดิ สรา้ งสรรค์ของตนเองโดยใชต้ วั อยา่ งประโยค
ในกิจกรรมที่ 3 และ 4 จากนั้นฝึกสนทนา โดยผลัดกนั เปน็ ผ้ถู ามและผ้ตู อบ

3. ครูสมุ่ นกั เรยี น 5 คอู่ อกมาพดู หนา้ ชัน้ เรยี น
4. นกั เรียนลงคะแนนเสยี งว่ากลุม่ ไหนทาไดด้ ที ส่ี ดุ

ขั้นสรุป (Wrap up)

1. นักเรยี นสรุปคาศพั ทท์ ี่ใช้บอกกิจวัตรประจาวนั
2. นักเรยี นสรปุ การใช้ What time และ When
3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเก่ียวกับการรู้จักบทบาทและหน้าที่ของ
ตนเอง ตามโครงสรา้ งห้องเรียนสีขาว ได้แก่หัวหน้าฝา่ ยทง้ั 4 ฝ่าย และการอ่านตารางเวลาการทาเวรประจาวัน
การกาหนดเวลาในการทางาน โดยปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักบทบาทและหน้าท่ีอ่ื นๆท่ีได้รับมอบหมาย
นอกเหนือจากการเรยี น

บนั ทกึ หลงั สอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มีจุดประสงค์ K P A ดังนี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มีการบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

35. ผลการเรยี นของนกั เรยี น
 จานวนนักเรยี นทผี่ ่านการประเมิน .......................... คน คิดเปน็ ร้อยละ .................................
 จานวนนักเรยี นทไี่ ม่ผา่ นการประเมิน ...................... คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................................
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มนี ักเรยี นท่ีไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านการประเมิน/ไมส่ นใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผู้บันทึก
( .................................... )





แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 37

เรือ่ ง Understand a schedule

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 ชื่อหน่วย What time is it?
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 1
ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 รหัสวิชา อ21101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 1 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามคาส่งั คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาช้แี จงง่าย ๆ ที่ฟังและอ่าน

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวัน

ต 1.2 ม.1/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเร่อื งที่ฟงั หรืออ่าน
อย่างเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ ม

ใกลต้ ัว
ต 2.1 ม.1/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ าท่าทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คม และวัฒนธรรม

ของเจา้ ของภาษา
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ งประโยคของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต.3.1 ม.1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ ข้อเท็จจรงิ ทีเ่ ก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้

อน่ื จากแหล่งเรยี นรแู้ ละนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่ือสาร ในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเี่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียนและ

สถานศึกษา

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถ

- ฟงั ขอ้ ความและตอบคาถามจากการฟงั ได้อย่างถกู ตอ้ ง
- พูดสนทนาแลกเปลย่ี นเกย่ี วกบั กจิ วตั รประจาวันและเวลาได้ถกู ตอ้ ง
2. ผู้เรยี นมีสมรรถนะทสี่ าคญั

- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

3. ผเู้ รยี นมีคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
- มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ที่ใช้บอกกิจวัตรประจาวัน ช่วยให้สามารถพูดหรือเขียนให้ข้อมูลได้ และสื่อสารตาม
โครงสรา้ งภาษาได้อยา่ งถกู ตอ้ งได้อย่างถกู ต้อง

4. สาระการเรยี นรู้ afternoon / evening / morning / night / practice / today /
Vocabulary tomorrow / weekend
Telling time / What time and when questions
Grammar and Structures Understand a schedule.
Listening Talk about your routine.
Speaking

5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

- ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคดิ /ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ /
ความสามารถในการแกป้ ญั หา / ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรยี นรู้
-

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- การอ่านคาศัพท์และประโยคบอกเวลา

8. การวัดและการประเมินผล

วิธีการวดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การผา่ น
1. การอา่ นออกเสียง ระดับคณุ ภาพ ดี ขึ้นไป
2. การประเมินพฤตกิ รรม แบบประเมนิ การอ่าน ระดบั คุณภาพ ดี ข้นึ ไป

9. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ การประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะ

1. หนงั สอื เรียน New Frontiers 1
2. Class Audio CD
3. แบบฝึกหดั New Frontiers 1

10. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)

1. ครทู บทวนคาศัพท์ที่ได้เรียนไปแล้ว
Morning / afternoon / today / tomorrow / evening / night / practice / weekend

2. ครูทบทวนการใช้ What time และ When

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครเู ปิด CD 4-12 ใหน้ ักเรยี นฟงั เพื่อทากจิ กรรมที่ 5 โดยจบั คภู่ าพกจิ กรรมกับคาศพั ท์

ตามท่นี กั เรียนได้ยนิ
2. ครูเฉลยคาตอบและอธิบายเพม่ิ เตมิ

Answer Key
1. c 2.a 3. b 4.d

3. ครเู ปดิ CD 4-12 ให้นกั เรยี นฟงั อกี ครง้ั เพือ่ ทากจิ กรรมท่ี 6 โดยเตมิ ขอ้ มูลตามทไ่ี ด้ยินลงในตาราง

ให้สมบรู ณ์

4. ครูเฉลยคาตอบและอธิบายเพิม่ เติม

Answer Key

1. wake up 2. can come 3. in the afternoon

4. cook and eat 5. in the evening 6. at night

ขั้นฝึกฝน (Practice)
1. ครเู ปิด CD 4-13 ใหน้ ักเรยี นฟังเพ่อื ทากิจกรรมท่ี 7 โดยฟงั แลว้ ตอบคาถาม
2. ครเู ฉลยคาตอบและอธิบายเพม่ิ เตมิ

Answer Key
Dad goes to work in the evening.

Josie goes to school in the morning.
Mom goes to work in the afternoon.
Bill goes to practice in the afternoon.

3. ครูเปดิ CD 4-14 ให้นักเรียนฟงั เพ่อื ทากิจกรรมที่ 7 โดยฟังแล้วเลอื กคาตอบที่ถกู ต้อง
4. ครูเฉลยคาตอบและอธบิ ายเพิ่มเติม

Answer Key
1.b 2.d 3. a.false b.true c.false d.true

ขน้ั การสร้างผลงาน การใช้ภาษาเพอื่ การส่อื สาร (Production)
1. นักเรยี นดู man’s schedule ในกจิ กรรมท่ี 6
2. นักเรียนทา schedule ของนกั เรียนเองโดยเปล่ียนเวลาและข้อมลู ให้เปน็ ของนกั เรยี นเอง
3. นักเรยี นอาจใชภ้ าพใน flashcards เรือ่ ง daily routines ซ่งึ ดาวน์โหลดได้จาก
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-

daily-routines.pdf เปน็ แนวทางในการทา schedule ของนักเรียน
4. นกั เรียนสามารถใช้ Smartphone ในการหาข้อมูลเพิ่มเตมิ ได้
5. นักเรียนออกมานาเสนอ schedule หน้าช้นั เรียน

6. ครสู ังเกตการพูดและให้ feedback
ขัน้ สรปุ (Wrap up)

1. นกั เรยี นสรุปคาศัพท์ที่ใช้บอกกิจวตั รประจาวัน
2. นกั เรียนสรปุ การใช้ What time และ When

บันทึกหลังสอน

1. ผลการสอน
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ มจี ดุ ประสงค์ K P A ดงั นี้
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
 มีการบูรณาการ..............................................................................................................................
 สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก ..........................................................................
 .......................................................................................................................................................

36. ผลการเรยี นของนกั เรยี น
 จานวนนักเรยี นทผ่ี า่ นการประเมนิ .......................... คน คิดเป็นร้อยละ .................................
 จานวนนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน ...................... คน คิดเปน็ ร้อยละ .................................
 อนื่ ๆ .............................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ นั ตามกาหนดเวลา
 มนี ักเรยี นที่ไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ .............................................................................................................................................

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนาแผนไปปรับปรุง เรอื่ ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมิน/ไม่สนใจเรยี น ........................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ
ลงชอ่ื ........................................... ผบู้ ันทกึ
( .................................... )

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 38

เรอ่ื ง Write a daily schedule

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ชอื่ หนว่ ย What time is it?
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 1
ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 รหสั วชิ า อ21101 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 1 คาบ

1.มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวดั
ต 1.1 ม.1/1 ปฏิบัติตามคาสง่ั คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาช้ีแจงงา่ ย ๆ ที่ฟังและอ่าน

ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั

ต 1.2 ม.1/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรอ่ื งท่ฟี งั หรอื อา่ น
อยา่ งเหมาะสม

ต.1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดล้อม

ใกลต้ วั
ต 2.1 ม.1/1 ใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรม

ของเจ้าของภาษา
ต. 2.1 ม.1/3 เข้าร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
ต.2.2 ม.1/1 บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต.3.1 ม.1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู / ข้อเท็จจรงิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรู้
อน่ื จากแหลง่ เรยี นรู้และนาเสนอด้วยการพดู /การเขียน

ต 4.1 ม.1/1 ใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ าลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรยี นและ

สถานศกึ ษา

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ
- พูดและเขียนให้ขอ้ มลู ของเกย่ี วกับเร่อื งใกลต้ วั ได้ถกู ตอ้ ง
- เปรียบเทียบการใช้คาบุพบทบอกเวลาในภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้

2. ผ้เู รยี นมสี มรรถนะทีส่ าคญั
- ความสามารถในการสือ่ สาร

- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
3. ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะท่พี ึงประสงค์

- มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน

3. สาระสาคัญ/ ความคดิ รวบยอด

การรู้คาศัพท์ท่ีใชบ้ อกวนั เดือน ปี คาบุพบทบอกเวลา ช่วยใหส้ ามารถพูดและเขียนบอกข้อมูลสว่ นตัว
ได้ และส่ือสารตามโครงสร้างภาษาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้ Time of the workweek, weekend, month and year.
Talk about your routine.
Vocabulary Preposition of time.
Speaking Write a daily schedule.
Grammar and Structures
Writing

5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

- ความสามารถในการส่อื สาร / ความสามารถในการคิด /ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต/

ความสามารถในการแก้ปญั หา / ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. การบูรณาการจัดการเรยี นรู้
-

7. ชิน้ งาน/ภาระงาน
- การตอบคาถามจากการฟัง Days and Months of the year.

8. การวดั และการประเมินผล

วิธีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารผา่ น
1. การตอบคาถามจากการฟงั ระดับคุณภาพ ดี ขน้ึ ไป
2. การประเมนิ พฤติกรรม แบบประเมินการฟัง ระดบั คุณภาพ ดี ขึน้ ไป

9. สื่อและแหลง่ เรียนรู้ การประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะ

1. หนังสอื เรียน New Frontiers 1

2. Class Audio CD
3. แบบฝกึ หดั New Frontiers 1

10. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

1. ครูเขยี นวันท่ี เดอื น และปีคริสตศักราชในวันที่ครูสอน ลงบนกระดาน แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ อะไร

เป็น day month และ year แล้ววันน้ีเปน็ day of the workweek หรอื day of the weekend
2. ครูให้นักเรียนคาดเดาวา่ วนั น้จี ะเรียนเกย่ี วกับเรื่องอะไร

ขนั้ นาเสนอ (Presentation)

1. นักเรียนดูคาศพั ท์ในกิจกรรมที่ 1 แลว้ วงกลมคาศัพทท์ ไี่ มร่ ู้
2. ครูเปดิ CD 4-15 ใหน้ กั เรียนฟงั และออกเสยี งตาม

3. ครูเปิด CD 4-15 อกี ครงั้ ให้นกั เรยี นฟงั เพื่อทากจิ กรรมที่ 1 เตมิ คาในชอ่ งว่าง
4. ครเู ฉลยคาตอบและอธบิ ายความหมายของคาศัพทแ์ ต่ละคา

Answer Key
From left to right, top to bottom

month, year, workweek, weekend

5. ครใู ชป้ ฏิทินสอนศพั ท์เรียกช่ือวันทงั้ 7 และเดอื นท้งั 12 เดือน
6. ครใู ช้ปฏิทินสอน ดังน้ี

first day of the workweek - Monday
last day of the workweek - Friday
first day of the weekend – Saturday
7. ครูเปิดปฏิทินทีละ 1 เดอื น สอนดงั น้ี
There are 28 or 29 days in February.
There are 30 days in April, June, September and November.
There are 31 days in January, March, May, July, August, October
and December.
8. นักเรียนตอบคาถาม ดงั นี้
What is the first day of the workweek?
What is the last day of the workweek?
What is the first day of the weekend?
What month has 28 or 29 days?
What month has 30 days?
What month has 31 days?
ขน้ั ฝกึ ฝน (Practice)
1. ครูเปดิ CD 4-16 ใหน้ ักเรยี นฟงั เพื่อทากจิ กรรมท่ี 6 โดยเขียนกจิ กรรมและเวลาที่ไดย้ นิ
ลงในช่องว่าง
2. ครูเปิด CD 4-16 อกี คร้งั จากนัน้ ครเู ฉลยคาตอบ
Answer Key

1. (last) soccer game (of the year), last Sunday of October at 10 a.m.
2. Flight, Friday in April at 7 a.m.
3. take a train, March 3rd at 1.

3. นักเรยี นทากจิ กรรมท่ี 3 เติมคาตอบลงในช่องวา่ งให้ถกู ต้อง

Answer Key
1. Friday 2. February 3. Saturday 4. Year

4. นกั เรียนดู Jessica’s schedule ในกจิ กรรมที่ 4 แลว้ ตอบคาถาม ดังนี้


Click to View FlipBook Version