M 4 unit 3 lesson plans.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์ทใ่ี ช้
ร้อยละ 60
แบบฝึกหดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนังสือเรียน หนา้ 74
Exs. 2a-2b,
การอ่าน แบบทดสอบ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธีการวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์ทใี่ ช้
แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
การพดู ประเมนิ การพดู เปรียบเทียบ
แบบประเมนิ งานเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
เปรียบเทียบ แผนการในอนาคตของ

แผนการในอนาคต ตนเองกับบคุ คลจากเรอ่ื งท่ี

ของตนเองกับ อ่าน

บุคคลจากเร่ืองที่

อา่ น

งานเขียน blog ประเมินงานเขียน blog เล่า

เลา่ เกี่ยวกบั เก่ยี วกับแผนการในอนาคต

แผนการในอนาคต ของตนเอง

ของตนเอง

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑท์ ใี่ ช้
ระดบั คุณภาพ ผา่ น
พฤติกรรมระหว่าง สังเกตพฤตกิ รรมบ่งชด้ี ้านใฝ่ แบบประเมิน
เรียน เรยี นรู้และม่งุ ม่ันในการ คุณลักษณะ

ทำงาน อันพงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ใชก้ ระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชเ้ กมส์
ข้นั นำ

ครูเปดิ เพลง Que Sera Sera ของ Doris Day จาก www.youtube.com ให้นกั เรียนฟังและฝึกร้อง
ตาม

Que Sera, Sera
When I was just a little girl
I asked my mother, what will I be
Will I be pretty, will I be rich
Here’s what she said to me

*Que sera, sera
Whatever will be, will be
The future’s not ours to see

Que sera, sera
What will be, will be
When I grew up and fell in love
I asked my sweetheart what lies ahead
Will we have rainbows, day after day
Here’s what my sweetheart said (Repeat *)
Now I have Children of my own
They ask their mother, what will I be
Will I be handsome, will I be rich
I tell them tenderly (Repeat *)

Que Sera, Sera
ครูถามนักเรยี นว่า What will be, will be มคี วามหมายวา่ อยา่ งไร (อะไรจะเกดิ ก็ต้องเกิด)

ครสู ามารถเขา้ ไปดูคำแปลเพลง Que Sera Sera ไดท้ ่ี
http://www.educatepark.com/แปลเพลง/แปลเพลง-que-sera-sera-whatever-will-be-will-be/
http://talk.mthai.com/topic/78025

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

ข้ันสอน
1. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 1a นักเรียนดูภาพและวลีที่ให้มา แล้วช่วยกันอธิบายความหมายของวลี
เหล่านีจ้ ากภาพ ครูสรปุ ความหมายท่ีถูกต้อง จากนนั้ ครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านออกเสียงตาม
หลาย ๆ ครงั้
ต่อมาครูเขียนหัวข้อต่อไปนี้ education (การศึกษา), career (อาชีพ), marriage/family (การ
แต่งงาน/ครอบครัว) และ investments (การลงทุน) บนกระดาน ครูอธิบายความหมาย แล้วให้
นักเรียนแบง่ กลุ่มของวลีในแตล่ ะภาพตามหวั ข้อเหล่าน้ี เสร็จแล้วครรู วบรวมคำตอบของนักเรียน และ
เขียนเฉลยบนกระดาน

education – start school, graduate from university
investments – buy a car, buy a house
marriage/family – get married, have children
career – get a job, get a promotion, start your own business, retire

2. หนงั สือเรียน หนา้ 74 Ex. 1b นักเรียนอ่านประโยคทใ่ี หม้ า แลว้ ครเู ปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟงั เสียงดนตรี
สนั้ ๆ และจนิ ตนาการถึงอนาคตของตนเอง จากนน้ั เขียนประโยคเกี่ยวกับอนาคตของตนเองลงในสมุด
โดยใช้โครงสร้างตามตัวอยา่ งที่ใหม้ า เมือ่ เขียนเสรจ็ นักเรยี นอ่านประโยคของตนเองให้เพื่อนฟัง

I think I’ll graduate from university and get a good job.
I don’t think I’ll buy a car.
I think I’ll get married.

3. ครูอธบิ ายความหมายของคำศัพท์ก่อนการอา่ นต่อไปน้ี

blog (n) มาจาก weblog คือ เวบ็ ไซต์รปู แบบหน่ึงทม่ี ีลักษณะรูปร่าง

หน้าตาคลา้ ย ๆ กบั การเขยี นไดอาร่หี รือบนั ทกึ ส่วนตัว

uni (n, informal) ช่อื เรียกส้ัน ๆ แบบไมเ่ ปน็ ทางการของ university (มหาวิทยาลยั )

comment (n) ความคดิ เห็น

paediatrician (n) กุมารแพทย,์ แพทยร์ กั ษาโรคเด็ก

stray (adj) (สตั ว์)ท่ีโดนเจา้ ของท้ิง/จรจดั

charity (n) องค์กรการกศุ ล

donation (n) การบริจาค ส่ิงของท่บี รจิ าค

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

4. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 2a นักเรียนดู blog ในหน้า 75 และตอบคำถามว่า What are the
people writing about?” จากนั้นนักเรียนอ่าน blog ที่ให้มาอย่างรวดเร็ว โดยใช้วิธีการอ่านแบบ
ข้าม หรอื skimming เพ่อื จบั ใจความสำคัญ เม่อื หมดเวลาทก่ี ำหนด ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรยี น

I think the people are writing about what they will do after graduating from university.

5. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 2b นักเรียนอ่านประโยค 1-6 ที่ให้มา และขีดเส้นใต้คำสำคัญ จากนั้น
นักเรียนอ่าน blog อย่างรวดเร็วแบบกวาดสายตาหรือ scanning เพื่อมองหาคำพ้องความหมาย
(synonym) คำที่มีความหมายตรงกันขา้ ม (opposite) หรือกลุ่มคำ/วลีที่มีความหมายเหมอื นกันหรอื
ตา่ งกนั กับคำสำคัญทขี่ ีดเส้นใต้ไวใ้ นประโยค 1-6
เมื่อพบแล้ว ให้อ่านเฉพาะประโยคที่มีคำสำคัญหรืออ่านข้อความแวดล้อมด้วยก็ได้ ถ้ามีข้อมูลเหมือน
ประโยคที่ให้มา ให้เขียน T (True) ถ้าผิดหรือถูกเพียงบางส่วน ให้เขียน F (False) เสร็จแล้วครู
รวบรวมคำตอบจากนักเรยี น แลว้ เฉลยคำตอบพร้อมกนั

1 F (I’m only in my second year of university…)
2 T (My goal is to retire at the age of 45 …)
3 F (I will get a full-time job)
4 T (After graduation, I’m going to study medicine…)
5 F (Someday I will get married and have children,)
6 T (I’m going to start my own charity. There are so many stray animals in

my city and I want to help them.)

6. ครเู ปิด CD จาก Ex. 2a ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกอ่านออกเสยี งตาม CD
7. หนังสือเรียน หนา้ 75 กรอบ Check these words นักเรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของคำศัพท์

โดยเดาศัพทท์ ี่ไม่รู้จากบรบิ ทหรอื ขอ้ ความทแี่ วดลอ้ มคำศัพทน์ ัน้ ๆ หรอื ในกรณีท่ีไมร่ จู้ รงิ ๆ ให้นักเรียน
ช่วยกันเปิดพจนานกุ รม

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

look ahead (phr) think about the future

important (adj) matters a lot

run a business (phr) operate, manage a company

goal (n) aim, objective

medicine (n) the science of curing or treating health problems

charity (n) an organization that helps causes and people in need

stray animals (n) domestic animals that don’t have homes

volunteer (v) to offer to help for free

raise money (phr) to collect money from donations or fundraisers

donation (n) money people give to help a cause

8. หนังสือเรียน หน้า 75 Ex. 2c นักเรียนเปรียบเทียบแผนการในอนาคตของตนเองกับของ Darren,
Jessica และ Carrie จาก blog ที่นักเรียนอ่าน ครูให้เวลานักเรียนเขียนคำตอบ แล้วจึงให้นักเรียน
อา่ นคำตอบของตนเองให้เพื่อนฟัง

I think Darren’s plans are closest to mine because I also want to find a
good full-time job and save money. However, I want to buy a house with
that money.

9. ครเู ขียนประโยคต่อไปน้บี นกระดาน แล้วให้นักเรยี นระบุการใช้ will และ be going to ของแต่ละ
ประโยค

Mom, I won’t do it again. (giving a promise)
Duangkamol will come to the party tonight, I guess. (a prediction based on what we think)
It’s hot. I will open the window. (an on-the-spot decision)
There are many black clouds in the sky now. It’s going to rain. (a prediction based on what we see)
This summer holiday, we’re going to the beach. (a future plan/intention)

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม และเขียนประโยคตัวอย่างของนักเรียนไว้บนกระดาน
เสรจ็ แลว้ ครูให้นักเรยี นชว่ ยกันอธบิ ายความแตกตา่ งของการใช้ will และ be going to แล้วครสู รปุ ให้
นักเรียนฟงั

will be going to
ใชใ้ นการทำนายหรือคาดเดาทัว่ ๆ ไป มักเกิด ใช้ในการทำนายหรือคาดเดาจากสงิ่ ท่เี ห็นหรือมี
จากส่ิงท่ตี ัวเองคดิ หรือเชอื่ จงึ มักใชร้ ่วมกับ หลกั ฐานปรากฏอยู่ต่อหน้า
คำกริยาที่แสดงความคิดหรอื ความเชื่อ เชน่
think, hope, believe, expect รวมทั้ง
คำคุณศพั ท์ afraid
ใช้กล่าวถึงสิ่งที่จะทำ โดยเป็นการตัดสินใจ ใช้กล่าวถึงสิ่งที่จะทำหรือตั้งใจจะทำในอนาคต
ขณะท่ีพูด ไม่ได้มีการวางแผนมากอ่ นลว่ งหน้า ซ่งึ มีการวางแผนไว้แลว้
ใช้ในการกลา่ วสัญญาว่าจะทำสง่ิ ตา่ ง ๆ

Extra activities: นักเรียนช่วยกันเปรียบเทียบความแตกต่างของ will/be going to กับคำใน
ภาษาไทยทใ่ี ช้บง่ บอกเหตุการณใ์ นอนาคต

10. หนังสือเรยี น หนา้ 75 Ex. 3 นกั เรียนอ่านประโยค 1-5 แล้วจับคกู่ บั การใช้ A-E เม่ือนักเรียนทำเสร็จ
ครูรวบรวมคำตอบและเฉลยบนกระดาน เช่น
A promise – I will always love you.
An on-the-spot decision - Sarah will take an IT course.
A prediction based on what we see – It’s 8 o’clock. We are going to be late.
A future plan – My brother is going to study abroad.
A prediction based on what we think. – I believe you will get a good chance
again.

1C 2E 3B 4A 5D

11. หนังสือเรียน หนา้ 75 Ex. 4 นักเรยี นอ่านบทพดู โตต้ อบสั้น ๆ ทใ่ี ห้มา แลว้ นำ am/is/are going to
หรือ will เติมลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง เม่ือนกั เรยี นทำเสร็จ ครูตรวจคำตอบ แลว้ ให้นักเรียนผลัดกนั พูด
ถาม-ตอบ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

1 will 3 will 5 am going to
2 is going to 4 is going to

12. หนังสือเรียน หนา้ 75 กรอบ Joke นกั เรียนอา่ นตลก และช่วยกนั อธิบายความหมาย
13. หนังสือเรียน หน้า 75 Ex. 5 นักเรยี นอ่านหัวข้อที่ให้มา จากนน้ั เขยี น blog ทคี่ ล้ายคลึงกบั blog

ของ James ตามหัวข้อต่อไปนี้
- สงิ่ ท่นี กั เรียนวางแผนไวด้ ้านการศึกษาและอาชีพ
- ชีวิตในอนาคตของนกั เรียนจะเปน็ อย่างไร (เช่น สถานท่อี ยู่อาศยั การสมรส การลงทุน)

นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาและอาชีพได้จากทางอินเทอร์เน็ต เพ่ือ
นำมาใช้ประกอบการเขียน ครูให้นักเรียนเขียน first draft ในห้องเรียนก่อน แล้วกลับไปตรวจความ
ถูกต้องท้ังในด้านตวั สะกด ไวยากรณ์ และเครอื่ งหมายวรรคตอนท่ีบา้ น พรอ้ มกบั แก้ไขเพ่ิมเติมเพื่อให้
งานเขียนสมบูรณ์ขึ้น ครูอาจให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันตรวจงานของเพื่อนก็ได้ เมื่อครูตรวจผลงาน
นักเรยี นแลว้ นำผลงานมาตดิ แสดงท่ีบอรด์ ของห้อง และอาจสุ่มเรียกนักเรยี นอ่านงานเขยี นของตนเอง
ให้เพอ่ื นฟัง

After I graduate, I want to get a job working as a production assistant. I
want to be a film director someday and I think it’s important to start
working as an assistant to meet the right people. I’ll live in New York
City. I don’t think I’ll get married until I’m much older and I definitely
won’t start a family until my career is stable. I won’t buy a car
because you don’t need one in New York City and I will wait until I
have more money before buying a house.

Weak classes: นักเรียนทำกิจกรรมใน Ex. 5 เป็นกลุ่ม โดยนักเรียน 1 คน เป็นเจ้าของ blog และ
เขียนข้อมลู ของตนเองลงไป จากน้ันใหส้ มาชิกท่ีเหลือเป็นผมู้ าเขยี นแสดงความคิดเห็นต่อจากเจ้าของ
blog ครูมอบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนเขียนข้อความของตนเอง โดยใชข้ อ้ มูลของตนเองจริง ๆ เสร็จ
แล้วให้สมาชิกในกลุ่มสลับกนั ตรวจงานเขียนของเพอื่ น

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

ขัน้ สรุป
1. นกั เรยี นสรปุ การใช้ will และ be going to
2. นักเรียนรอ้ งเพลง Que Sera, Sera อกี ครัง้
3. แบบฝึกหดั (Workbook) นักเรยี นทำ Ex. 19 หนา้ 17 และ Ex. 12 หน้า 45 การบ้าน

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น Upload 4 ม. 4
2. แบบฝึกหดั Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชุด Upload 4 ม. 4
4. คลปิ วดิ ีโอเพลง Que Sera Sera ของ Doris Day จากอินเทอร์เน็ต

สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ
ดา้ นความรู้
กลุ่มผูเ้ รียน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กล่มุ ผเู้ รียน
ดี
ปานกลาง
ปรับปรงุ

ด้านคณุ ลักษะอนั พงึ ประสงค์

กลมุ่ ผู้เรียน ชว่ งระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรบั ปรุง 0-1

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงชื่อ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ กี าญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใชส้ อน  หลงั ใชส้ อน

 มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )

รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑ์การประเมินการพูด

รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ตอ้ ง ใชค้ ำศพั ท์ส่อื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใช้คำศพั ท์สือ่ ใชค้ ำศพั ท์สือ่ ใช้คำศพั ทส์ ือ่ 2 8
กบั เนือ้ หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เน้อื หาและ เนอ้ื หาและ กับเน้อื หาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่

เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น ถูกต้องเป็นส่วน

ใหญ่

การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ 2
เสยี ง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ ื่อสารไม่ได้

การแสดง เสียงเน้นหนักคำ/ เสยี งเนน้ หนกั คำ/ เสยี ง แตส่ ่วนใหญ่
ท่าทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสียง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พูดต่อเนื่อง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบา้ ง พดู เปน็ คำๆ หยุด พดู ไดบ้ างคำ ทำ 2
ใหส้ ่ือความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชัดเจน แตย่ ังพอส่ือสารได้ เปน็ ช่วงๆ ทำให้ ไม่ได้
พูดได้น้อยมาก
ทำใหส้ ่ือสารได้ดี สือ่ สารได้ไมช่ ัดเจน

แสดงท่าทางและ พูดดว้ ยนำ้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ไม่

พูดดว้ ยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เปน็ ธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกบั สถานการณ์แต่ไม่มี ความนา่ สนใจ

สถานการณ์ ท่าทางประกอบ

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 14

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

แบบประเมนิ การเขียน

การเ ืลอกใ ้ช
คำศัพท์
การใ ้ชภาษา
เนื้อหา
รวม
ท่ี ชือ่ - นามสกุล หมายเหตุ
8 8 8 24
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑก์ ารประเมินการเขียน

รายการ ระดบั คะแนน / ระดบั คุณภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมิน
การเลือกใช้ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสำคญั รวม
คำศัพท์
ใช้คำศพั ท์สอื่ ใชค้ ำศพั ทส์ ่ือ ใชค้ ำศัพทส์ ่อื ใช้คำศพั ท์ส่อื 2 8
การใช้ภาษา
ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย
เน้ือหา
ตรงกบั เน้อื หา ตรงกบั เนอ้ื หา ไม่ตรงกบั ไมต่ รงกับ

เปน็ สว่ นใหญ่ เนอ้ื หาบา้ ง เนื้อหาเป็น

จำนวนมาก

ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ 2 8

ไวยากรณม์ ี ไวยากรณม์ ี ไวยากรณผ์ ิด ไวยากรณผ์ ดิ

ความถกู ตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง เลก็ น้อย เป็นจำนวน

สมบูรณ์ อา่ น เป็นสว่ นใหญ่ มาก อา่ น

เขา้ ใจงา่ ย อ่านเขา้ ใจง่าย เข้าใจยาก

เขยี นอธบิ าย เขียนอธบิ าย เขยี นอธบิ าย เขียนอธบิ าย 2 8

เนือ้ หาได้ตรง เนอ้ื หาได้ เน้อื หาได้พอ เนอื้ หาไม่ครบ

ประเดน็ และ คอ่ นข้างตรง เขา้ ใจ และไม่ตรง

ครบถว้ น ประเด็นและ ประเด็น

ครบถ้วน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 12

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ชัว่ โมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วัน............... เดือน...................... พ.ศ. .........

ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมและช้นิ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรับปรุ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 11

รายวชิ าภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า 31102 ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 Places เวลา 40 ช่ัวโมง

เร่อื ง Buckingham Palace เวลา 1 ชั่วโมง

ผู้สอน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดิษฐ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุราษฎรธ์ านี

แนวคิดสำคัญ
การรูแ้ ละเข้าใจเรื่องท่ีศึกษา ช่วยให้เขา้ ใจวฒั นธรรมและวถิ ชี วี ติ ของเจ้าของภาษา รวมทง้ั เป็นพื้นฐาน

ในการคน้ ควา้ ข้อมลู และเขยี นเผยแพร่ข้อมลู ของประเทศไทย

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความ
คิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล

ม.4-6/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง
ตามหลกั การอ่าน

ม.4-6/4 จับใจความสำคญั วเิ คราะหค์ วาม สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการฟังและ
อ่านเรอ่ื งที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พรอ้ มทั้งใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรอ่ื งต่าง ๆ โดย
การพดู และการเขยี น

ม.4-6/1 พูดและเขียนนำเสนอข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง/ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์ เรื่อง และ
ประเดน็ ต่าง ๆ ตามความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ม.4-6/2 อธบิ าย/อภิปรายวถิ ีชวี ติ ความคิด ความเชื่อ และทมี่ าของขนบธรรมเนยี ม และประเพณีของ
เจ้าของภาษา

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบ

อาชพี และการแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ับสงั คมโลก
ม.4-6/2 เผยแพร/่ ประชาสัมพันธ์ ข้อมลู ข่าวสารของโรงเรียน ชมุ ชน และท้องถ่ิน/ประเทศชาติ

เปน็ ภาษาต่างประเทศ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
- นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งและแบง่ วรรคตอนในการอา่ นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
- นักเรยี นสามารถอ่านเพอื่ หาข้อมลู เฉพาะได้
- นกั เรียนสามารถพูดให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับ Buckingham Palace ได้
- นักเรียนสามารถเขยี นเผยแพร่เกยี่ วกบั พระราชวงั ของไทยได้

สาระการเรยี นรู้

1) Language Features and Functions

Vocabulary: nouns (palace, residence); adjectives (ruling, antique,

private); phrase (be held accountable for)

Pronunciation: การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน

Grammar -

Functions: -

2) Language Skills

Listening: -

Speaking: พดู ใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับ Buckingham Palace

Reading: อ่านเพือ่ หาข้อมลู เฉพาะ

Writing: เขยี นเผยแพร่ข้อมลู เก่ียวกบั พระราชวังของไทย

3) Culture: Buckingham Palace

ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์  5. อยู่อย่างพอเพยี ง
 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  6. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
 2. ซือ่ สัตย์สุจริต  7. รักความเปน็ ไทย
 3. มีวนิ ัย  8. มจี ิตสาธารณะ
 4. ใฝเ่ รยี นรู้

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

เบญจวถิ ีกาญจนา  4. มีวนิ ยั
 1. เทิดทนู สถาบัน  5. ให้เกียรติ
 2. กตัญญู
 3. บคุ ลิกดี  4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
สมรรถนะทส่ี ำคญั ของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการส่อื สาร
 2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

จดุ เน้นสู่การพัฒนาผ้เู รียน
ความสามารถและทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อ่านออก)
 R2– (W)Riting (เขยี นได)้
 R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรมตา่ งกระบวนทศั น์)
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็น
ทีมและภาวะผูน้ ำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศและร้เู ทา่ ทันส่อื )
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การสื่อสาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้)
 C8 - Compassion (ความมเี มตตากรุณา วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 - Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
 L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผูน้ ำ)

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ชิน้ งาน วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์ทใี่ ช้

แบบฝึกหดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนังสอื เรยี น หน้า 104 ร้อยละ 60

การอ่าน Ex. 2

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธีการวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์ที่ใช้
ระดับคุณภาพ พอใช้
การอา่ นออกเสยี ง ประเมนิ การอา่ นออกเสียง แบบประเมนิ การอ่าน
ออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้
ข้อความ ข้อความ แบบประเมนิ การพดู

การพูดใหข้ ้อมลู ประเมนิ การพดู ให้ข้อมูล

เกีย่ วกบั เกีย่ วกับ Buckingham

Buckingham Palace

Palace

งานเขียนข้อความ ประเมนิ งานเขียนข้อความ แบบประเมินงานเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้

ส้ัน ๆ เกย่ี วกบั ส้ัน ๆ เกย่ี วกบั สถานที่

สถานทีท่ ่องเท่ยี ว ท่องเทยี่ วในประเทศไทย

ในประเทศไทย

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธกี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์ท่ใี ช้
ระดับคุณภาพ ผา่ น
พฤติกรรมระหวา่ ง สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ดี า้ นใฝ่ แบบประเมนิ
เรียน เรยี นรู้และม่งุ ม่ันในการ คุณลกั ษณะ

ทำงาน อนั พึงประสงค์

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ใช้กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้เกมส์
ขน้ั นำ

ครูถามนักเรียนว่า รูอ้ ะไรบ้างเกยี่ วกบั ประเทศอังกฤษ เชน่ วงการฟตุ บอลของอังกฤษ สถานที่
ทอ่ งเทย่ี ว

ขน้ั สอน
1. หนังสือเรียน หน้า 104 Ex. 1 นักเรียนดูภาพที่ให้มา และบอกชื่อสถานที่นั้น จากนั้นช่วยกันบอกวา่
นักเรียนรู้ข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าว และใครอาศัยอยู่ที่นั่น ครูรวบรวมคำตอบจาก
นักเรียนมาเขียนบนกระดาน เสร็จแลว้ ครูเปิด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพอื่ ตรวจคำตอบ

I think it is a palace and that a queen or king lives there.

2. หนังสือเรียน หน้า 104 Ex. 2 นักเรียนอ่านประโยค 1-4 ที่ให้มา เมื่ออ่านเข้าใจแล้ว ให้สังเกตคำ
หรือวลีในประโยค แล้วย้อนไปดูบทอ่านอีกครัง้ เพื่อดูว่าประโยคนั้นเกี่ยวกับเนือ้ เร่ืองสว่ นใด เมื่อพบ
แล้ว แก้ไขประโยค 1-4 ใหถ้ กู ต้อง

1 Buckingham Palace is in the City of Westminster, London.
2 The palace was built in 1702.
3 The palace has 775 rooms.
4 You can see paintings by famous artists in the palace.

ตอ่ มานกั เรยี นดูคำท่ีพมิ พ์ตัวหนาในบทอา่ น และชว่ ยกันเดาความหมาย

palace: building where a king or a queen lives
residence: house
ruling: being in charge of
antique: old-fashioned, very old
private: not public

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

เมือ่ ไดค้ วามหมายท่ีถูกต้องแลว้ นักเรียนทำงานคู่ ชว่ ยกันแต่งประโยค โดยสามารถเปิดพจนานุกรมได้
เพื่อช่วยในการเขียน
3. นักเรียนจดบันทึกสั้น ๆ เกี่ยวกับ Buckingham Palace ลงในกระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากนั้นนักเรียน
จับคู่กัน และฝึกพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Buckingham Palace นักเรียนสามารถดูบันทึกของตนเอง
ขณะทพี่ ดู ได้ แตห่ า้ มเปิดหนงั สืออ่าน ครูสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน และสุ่มเรยี กนักเรียน 2-3
คน ออกมาพูดนำเสนอทหี่ นา้ ช้นั
4. หนังสอื เรียน หน้า 104 Ex. 3 ครูอ่านคำถามที่ให้มา แลว้ รวบรวมคำตอบจากนักเรียน

1 Yes, there are a lot of palaces in Thailand.
The Grand Palace in Bangkok is where every visitor must pay a visit at
least once in their lifetime. It is probably the most visited and
remembered landmark of Thailand.
Chitralada Royal Villa, also called Chitralada Palace, was King Bhumibol
Adulyadej’s permanent residence in Bangkok. There isn’t any other
royal palace in the world like Chitralada Royal Villa where there are rice
fields, Nil fish ponds, Suan Chitralada Dairy Farm, Tissue culture plant,
mushroom cultivation unit and various kinds of pilot factories. All these
projects concern tests and experiments in agriculture and agricultural
products. Agriculture work is the main occupation of the Thai people.
The Royal Chitralada Projects, as a result, were initiated to undertake
research studies to find to the root causes of the problems as well as
create a practical knowledge base.

2 The Grand Palace was built in 1782 during the reign of King Rama I,
the founder of Chakri Dynasty, to become a royal residence, and it
has been the utmost architectural symbol of Thailand ever since.
The Grand Palace served as a significant royal residence until 1925
and is now used for ceremonial purposes only.
Chitralada Royal Villa was built in 1913 and was incorporated as part
of Dusit Palace in 1925. It was the primary residence of King Bhumibol
Adulyadej.

3 Yes, they are very beautiful and educational.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

5. ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังข้อความในหนา้ 86 อีกครั้ง ครูบอกให้นักเรียนฟังและทำเครื่องหมาย เพื่อ
ระบุตำแหน่งในการแบ่งวรรคตอนในการอ่าน จากนั้นครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน เสร็จแล้วครู
อธิบายว่า การแบ่งวรรคตอนในการอ่านนั้น ให้นักเรียนดทู ี่เครื่องหมายวรรคตอน เช่น full stop (.),
comma (,), exclamation mark (!)
ถ้าเป็นเครื่องหมาย comma (,) มักจะเป็นการหยุดพักสั้น ๆ เนื่องจากประโยคนั้นยังไม่จบสมบูรณ์
แต่ถ้าเป็นเครื่องหมายอื่น ๆ เช่น เช่น full stop (.), question mark (?), exclamation mark (!)
จะหยุดพักนานขน้ึ เพอื่ ใหผ้ ู้ฟงั สงั เกตว่าเปน็ การจบประโยค
อย่างไรก็ตามบางครั้งผู้อ่านก็แบ่งวรรคตอนในการอ่าน แม้จะไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน เช่น การ
อ่านรายการสิ่งของ จะหยุดพักสั้น ๆ เมื่อจบแต่ละรายการ หรือในการอ่านประโยคยาว ๆ เพื่อหยุด
พักหายใจ
นอกจากนี้ ประโยคที่ลงท้ายด้วยเครื่องหมาย full stop (.) และ exclamation mark (!) โดยปกติ
แลว้ จะลงท้ายประโยคด้วยเสียงต่ำ (falling intonation)
การลงทา้ ยประโยคดว้ ยเสยี งสูง (rising intonation) จะใช้กบั คำก่อนหนา้ เครอ่ื งหมาย comma (,)
เพือ่ แสดงวา่ ประโยคนั้นยังไม่จบ
เสร็จแล้วครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังอีก 1-2 ครั้ง และให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียง โดยครูอาจให้
นักเรียนฝกึ อ่านเปน็ กลุ่ม ครแู บง่ กล่มุ นักเรียนแบบคละความสามารถ เพอ่ื ให้เดก็ เกง่ ชว่ ยเหลือเด็กออ่ น

6. หนังสอื เรียน หน้า 104 กรอบ Study Skills นักเรียนอา่ นออกเสยี งข้อมูลท่ีใหม้ าในกรอบ ครอู ธบิ าย
วา่ be held accountable for มีความหมายวา่ ถือว่าเป็นคนรบั ผิดชอบต่อ เช่น
He may have had a terrible childhood, but he should still be held accountable for
his own actions.
จากนั้นนักเรียนช่วยกันอธบิ ายความหมายและอภิปรายเกีย่ วกับการทำงานกลุ่ม เสร็จแล้วครูอธิบาย
ให้นักเรยี นฟงั ดังนี้
ในการทำงานกล่มุ ต้องแน่ใจว่าสมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มเขา้ ใจอย่างชัดเจนในส่งิ ท่ีพวกเขาต้องทำ เชน่ ใคร
คอื คนทท่ี ำหนา้ ท่ีคน้ คว้าหาข้อมลู ใครคือคนท่ีทำหน้าท่ีเขยี นหรือเรียบเรียงข้อมลู ใครคือคนทำหน้าที่
ตรวจพิสจู น์อักษร และต้องถือว่าพวกเขาเป็นผู้ท่ีรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีดังกล่าว

7. หนังสือเรียน หน้า 104 Ex. 4 นักเรียนอ่านคำสัง่ จากนั้นช่วยกนั อธิบายสิง่ ที่นักเรียนต้องทำ ครูสรุป
ให้ฟังอีกครั้งว่า นกั เรยี นตอ้ งค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานทท่ี ่องเท่ยี วในประเทศไทยมา 1 แห่ง และ
เขยี นข้อความสน้ั ๆ เกย่ี วกบั สถานท่ดี งั กลา่ ว โดยตอ้ งมขี ้อมลู ต่อไปน้ี
- ช่ือสถานทแี่ ละสรา้ งเมื่อไร
- สรา้ งจากวัสดชุ นิดใด
- ใครเปน็ ผสู้ รา้ ง

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

เมื่อนักเรียนเข้าใจสิ่งที่ต้องทำแล้ว นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน และแบ่งหน้าที่กันว่า สมาชิก
แตล่ ะคน ใครจะทำหนา้ ท่ีค้นควา้ หาข้อมลู เรยี บเรียงขอ้ มลู และตรวจพิสจู นอ์ ักษร ครูให้นกั เรยี นเขียน
รายชื่อและความรับผิดชอบของแต่ละคนมาส่งครู เสร็จแล้วนักเรียนเลือกสถานที่ที่อยากจะเขียนถึง
รวมทั้งข้อมูลอืน่ ๆ ที่อยากจะเพ่มิ เตมิ แลว้ ใหน้ ักเรียนไปทำงานนอกเวลาเรยี น

ขั้นสรุป
1. นักเรียนสรปุ คำศัพท์ทีน่ ักเรียนได้เรยี นรเู้ พ่ิมในวันนี้ จากนั้นให้นักเรียนช่วยกนั แตง่ ประโยค
2. นกั เรียนสรุปเก่ียวกบั หลกั การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น และมอบหมายใหน้ ักเรยี นไปฝึกซ้อมการอา่ น
ออกเสียงทบี่ ้าน แล้วมาอ่านออกเสียงขอ้ ความในหน้า 104 ให้ครฟู งั นอกเวลาเรียน

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น Upload 4 ม. 4
2. Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Upload 4 ม. 4

สรุปผลการจดั การเรยี นรู้ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ
ดา้ นความรู้
กลมุ่ ผู้เรียน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กล่มุ ผ้เู รียน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นคณุ ลกั ษะอันพึงประสงค์

กลุม่ ผู้เรียน ชว่ งระดับคุณภาพ จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรับปรุง 0-1

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงชื่อ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ กี าญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใชส้ อน  หลงั ใชส้ อน

 มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ

ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกุล)

รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

แบบประเมินการอา่ นออกเสียง

การออกเ ีสยง
การใ ้ชน้ำเ ีสยงและ
ทำนองเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
ในการ ่อาน
ภาษากายหรือ
ภาษาท่าทาง
รวม
ท่ี ชื่อ - นามสกลุ หมายเหตุ
8 8 8 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑป์ ระเมนิ การอา่ นออกเสียง

รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมิน
การออกเสยี ง ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสำคัญ รวม

การใชน้ ้ำเสยี ง อ่านเสยี งดงั ฟงั อา่ นเสยี งดังฟังชดั อา่ นเสยี งดงั ฟังชัด อา่ นเสยี งเบา ไม่ 2 8
และทำนอง
เสยี ง ชัดสม่ำเสมอ เกือบตลอดเวลา มี เปน็ สว่ นใหญ่ มี ชัดเจน ยากแกก่ าร

ความ และไมม่ กี ารออก การออกเสยี งคำผดิ การออกเสียง เข้าใจ และมีการออก
คล่องแคลว่ ใน
การอ่าน เสยี งคำผิดเลย เลก็ น้อยหรอื 1-2 คำผดิ 3-5 คำ เสยี งคำผดิ 5 คำขึ้น

ภาษากายหรือ คำ ไป
ภาษาท่าทาง
ใชน้ ำ้ เสยี งและ ใชน้ ้ำเสียงและ ใช้น้ำเสยี งและ ใช้น้ำเสียงและ 28

ท่วงทำนองในการ ทว่ งทำนองในการ ทว่ งทำนองในการ ทว่ งทำนองในการ

อ่านเหมาะสมกับ อ่านเหมาะสมกับ อา่ นเหมาะสมกับ อ่านไม่เหมาะสม กับ

ขอ้ ความทอี่ ่าน ข้อความท่ีอ่านเป็น ขอ้ ความท่อี ่าน ข้อความทอ่ี ่าน

สว่ นใหญ่ พอใช้

อ่านได้อยา่ ง อา่ นได้อยา่ ง หยุดชะงกั เป็น อ่านเป็นคำๆ 28

ต่อเนือ่ ง มจี ังหวะ ตอ่ เนอ่ื ง มีจังหวะ บางครั้ง แตย่ ังเวน้ ไม่ต่อเนือ่ ง และ

จะโคน และเว้น จะโคน เปน็ ส่วน วรรคตอน หยดุ ชะงกั หลาย

วรรคตอนในการ ใหญ่ ในการอ่าน ครัง้ ทำใหย้ ากตอ่

อา่ นได้อยา่ ง มตี ดิ ขัดหรือ ไมถ่ ูกตอ้ ง การตดิ ตาม

ถกู ต้อง เว้นช่วงเลก็ น้อย

จับหนังสือถกู วธิ ี จับหนงั สอื ถูกวิธี จบั หนงั สือถกู วิธี จบั หนงั สอื ไม่ถูกวิธี 1 4

และไมถ่ ือหนงั สอื แตถ่ อื หนังสอื บงั แตถ่ อื หนังสือ บัง และถือหนงั สือบัง

บงั หนา้ เวลาอ่าน หน้าเป็นบางคร้ัง หนา้ เปน็ สว่ น หนา้ ตลอดเวลาที่

ใหญ่ อ่าน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
24-28 ดมี าก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ตำ่ กวา่ 14

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

เกณฑก์ ารประเมนิ การพดู

รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
การประเมิน ดีมาก (4) รวม
ความถกู ต้อง ใช้คำศพั ท์สอ่ื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใชค้ ำศัพท์สือ่ ใชค้ ำศพั ทส์ ือ่ ใช้คำศัพทส์ อ่ื 2 8
กับเนื้อหาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกับ ความหมายตรงกับ ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เนือ้ หาและ เนอื้ หาและ กบั เน้อื หาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่

เปน็ สว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น ถกู ต้องเปน็ ส่วน

ใหญ่

การออก ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ 2
เสียง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลักการออก ตามหลักการออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ อ่ื สารไมไ่ ด้

การแสดง เสียงเน้นหนกั คำ/ เสียงเน้นหนกั คำ/ เสียง แตส่ ว่ นใหญ่
ท่าทาง
นำ้ เสียง ประโยคได้ ประโยคเป็นสว่ น ขาดการออกเสยี ง
ประกอบ
การพดู สมบูรณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พดู ตอ่ เน่ือง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบ้าง พดู เป็นคำๆ หยดุ พูดได้บางคำ ทำ 2
ใหส้ ือ่ ความหมาย 1
ตดิ ขดั พูดชดั เจน แตย่ งั พอสื่อสารได้ เป็นช่วงๆ ทำให้ ไมไ่ ด้
พูดไดน้ ้อยมาก
ทำให้สื่อสารได้ดี สื่อสารได้ไม่ชดั เจน

แสดงท่าทางและ พูดด้วยนำ้ เสียง พูดเหมือนอา่ น ไม่

พดู ด้วยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เป็นธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกับ สถานการณ์แตไ่ ม่มี ความนา่ สนใจ

สถานการณ์ ทา่ ทางประกอบ

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรับปรุง
ตำ่ กว่า 14

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แบบประเมนิ การเขียน

การเ ืลอกใ ้ช
คำศัพท์
การใ ้ชภาษา
เนื้อหา
รวม
ท่ี ชือ่ - นามสกุล หมายเหตุ
8 8 8 24
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑก์ ารประเมินการเขียน

รายการ ระดบั คะแนน / ระดบั คุณภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมิน
การเลือกใช้ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสำคญั รวม
คำศัพท์
ใช้คำศพั ท์สอื่ ใชค้ ำศพั ทส์ ่ือ ใชค้ ำศัพทส์ ่อื ใช้คำศพั ท์ส่อื 2 8
การใช้ภาษา
ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย
เน้ือหา
ตรงกบั เน้อื หา ตรงกบั เนอ้ื หา ไม่ตรงกบั ไมต่ รงกับ

เปน็ สว่ นใหญ่ เนอ้ื หาบา้ ง เนื้อหาเป็น

จำนวนมาก

ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ 2 8

ไวยากรณม์ ี ไวยากรณม์ ี ไวยากรณผ์ ิด ไวยากรณผ์ ดิ

ความถกู ตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง เลก็ น้อย เป็นจำนวน

สมบูรณ์ อา่ น เป็นสว่ นใหญ่ มาก อา่ น

เขา้ ใจงา่ ย อ่านเขา้ ใจง่าย เข้าใจยาก

เขยี นอธบิ าย เขียนอธบิ าย เขยี นอธบิ าย เขียนอธบิ าย 2 8

เนือ้ หาได้ตรง เนอ้ื หาได้ เน้อื หาได้พอ เนอื้ หาไม่ครบ

ประเดน็ และ คอ่ นข้างตรง เขา้ ใจ และไม่ตรง

ครบถว้ น ประเด็นและ ประเด็น

ครบถ้วน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 12

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่ัวโมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วนั ............... เดือน...................... พ.ศ. .........

ประเมนิ จากการสงั เกตพฤติกรรมและชิน้ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12

รายวชิ าภาษาองั กฤษ รหสั วิชา 31102 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 Places เวลา 40 ชัว่ โมง

เรอ่ื ง Leaders เวลา 1 ชวั่ โมง

ผสู้ อน นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สรุ าษฎรธ์ านี

แนวคดิ สำคัญ
การรแู้ ละเขา้ ใจเรื่องท่ีศกึ ษา ชว่ ยใหเ้ ข้าใจภมู ิหลงั ความเป็นมา และวถิ ีชีวิตของเจา้ ของภาษา และทำ

ให้เข้าใจวา่ วฒั นธรรมและวถิ ีชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษาและของไทยมีทัง้ ความเหมือนและแตกตา่ งกัน

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คดิ เห็นอยา่ งมเี หตุผล

ม.4-6/4 จับใจความสำคญั วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เห็นจากการฟังและ
อ่านเร่ืองทเ่ี ปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ม.4-6/2 อธบิ าย/อภิปรายวถิ ีชวี ติ ความคิด ความเชอื่ และทมี่ าของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ
เจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

ม.4-6/2 วิเคราะห/์ อภิปรายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างวิถชี วี ิต ความเชอ่ื และวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อยา่ งมเี หตผุ ล

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

- นักเรยี นสามารถอ่านเพ่ือหาข้อมลู เฉพาะได้

- นักเรียนสามารถพูดให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ประมขุ แห่งรัฐของสหราชอาณาจักรได้

- นักเรยี นสามารถเปรียบเทียบความเหมอื น/แตกต่างของระบอบการเมอื งการปกครองของไทยกับส

หราชอาณาจกั รได้

สาระการเรยี นรู้

1) Language Features and Functions

Vocabulary: nouns (constitutional monarchy, monarch, coronation, the

crown, royal family, parliament, state occasion, residence); verb

(represent); phrasal verb (take over)

Pronunciation: -

Grammar -

Functions: -

2) Language Skills

Listening: -

Speaking: พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกับประมขุ แห่งรัฐของสหราชอาณาจักร

Reading: อ่านเพ่ือหาข้อมูลเฉพาะ

Writing: เขียนเปรยี บเทียบเก่ยี วกับระบอบการเมืองการปกครองของไทยกบั สหราชอาณาจักร

3) Culture: ประมขุ แหง่ รฐั ของสหราชอาณาจักร

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์  5. อยู่อย่างพอเพียง
 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  6. มุ่งมั่นในการทำงาน
 2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต  7. รกั ความเปน็ ไทย
 3. มีวินัย  8. มจี ติ สาธารณะ
 4. ใฝเ่ รยี นรู้
 4. มวี นิ ยั
เบญจวิถีกาญจนา  5. ให้เกียรติ
 1. เทิดทนู สถาบนั
 2. กตัญญู  4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
 3. บุคลกิ ดี  5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

สมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รยี น
 1. ความสามารถในการสื่อสาร
 2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทักษะที่จำเปน็ ในการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อ่านออก)
 R2– (W)Riting (เขยี นได้)
 R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์)
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)
 C8 - Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู้
 L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผ้นู ำ)

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

การวัดและประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑท์ ี่ใช้

แบบฝึกหดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนังสอื เรยี น หน้า 105 ร้อยละ 60

การอา่ น Ex. 1

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ กี ารวดั เครือ่ งมือ เกณฑ์ทใี่ ช้
แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
การพดู ใหข้ อ้ มูล ประเมนิ การพูดใหข้ ้อมูล
แบบประเมนิ ช้นิ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
เกยี่ วกับประมุข เกย่ี วกับประมุขแห่งรัฐของ

แหง่ รฐั ของ สหราชอาณาจักร

สหราชอาณาจักร

ชน้ิ งานโปสเตอร์ ประเมินช้นิ งานโปสเตอร์

เปรียบเทียบความ เปรยี บเทยี บความเหมอื น/

เหมอื น/แตกตา่ ง แตกต่างของระบอบ

ของระบอบ การเมืองการปกครองของ

การเมืองการ ไทยกบั สหราชอาณาจักร

ปกครองของไทย

กับสหราช

อาณาจักร

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธกี ารวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์ทีใ่ ช้
ระดับคุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหว่าง สงั เกตพฤติกรรมบง่ ชี้ดา้ นใฝ่ แบบประเมิน
เรียน เรยี นรูแ้ ละมุ่งมั่นในการ คุณลกั ษณะ

ทำงาน อันพงึ ประสงค์

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

กิจกรรมการเรียนรู้
ใชก้ ระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชเ้ กมส์
ขั้นนำ

1. ครูถามว่า นักเรียนรู้หรือไม่ว่า ประเทศอังกฤษมีระบบการปกครองแบบใด (parliamentary
democracy) จากนั้นนักเรียนช่วยกันอธิบายลักษณะของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบ
รัฐสภา

Parliamentary democracy, democratic form of government in which the
party (or a coalition of parties) with the greatest representation in the
parliament (legislature) forms the government, its leader becoming prime
minister or chancellor. Executive functions are exercised by members of the
parliament appointed by the prime minister to the cabinet. The parties in
the minority serve in opposition to the majority and have the duty to
challenge it regularly. The prime minister may be removed from power
whenever he loses the confidence of a majority of the ruling party or of the
parliament. Parliamentary democracy originated in Britain (see Parliament)
and was adopted in several of its former colonies.
ที่มา: https://www.britannica.com/topic/parliamentary-democracy

2. ครูเขียนคำว่า constitutional monarchy บนกระดาน จากนั้นครูยกตัวอย่างประโยค เพื่อให้
นกั เรียน ช่วยกันเดาความหมาย เช่น It is true that under a constitutional monarchy,
the royalty is above politics. เสร็จแล้วครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า constitutional monarchy คือ
การปกครอบระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข
constitutional monarchy (n) a country that is governed by a king or queen within
laws which limit his or her power. Britain is governed in this way, with the Queen (or
King) as head of state and with Parliament and the elected government holding
almost all the real power.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

ขนั้ สอน

1. ครชู ่วยกนั อธิบายคำศพั ท์สำคัญกอ่ นการอ่านด้วยการยกตัวอยา่ งประโยค

The British Monarchy is known as a constitutional monarchy. This means that,

while the ruling king or queen is the head of state, the ability to make and

pass legislation resides with an elected parliament.

The President of the United States of America is the head of state and head

of government of the United States.

The constitutional monarch, as head of state, has limited powers.

At his coronation on 5 May 1950, King Bhumibol made a promise to the nation:

“We shall reign with righteousness, for the benefit and happiness of the

Siamese people.”

Prince Charles is next in line to the crown.

Few of the Western democracies still have a royal family.

จากนัน้ ครสู รุปความหมายให้นกั เรยี นฟงั อีกคร้งั

head of state (n) ประมุขแห่งรัฐ, ผ้นู ำของรฐั

head of government (n) หวั หนา้ รัฐบาล

monarch (n) พระมหากษัตรยิ ์, พระราชินี

coronation (n) ราชาภเิ ษก, พธิ ีสวมมงกฎุ

the crown (n) ตำแหน่งหรอื อำนาจของกษัตริยแ์ ละราชนิ ี

royal family (n) กษัตริย์และพระบรมวงศานวุ งศ์

ตอ่ มาครถู ามนักเรยี นว่า รู้จัก Westminster Abbey หรอื ไม่ และเล่าให้นักเรียนฟงั สัน้ ๆ

วหิ ารเวสต์มินสเตอร์ แอบบลิ (Westminster Abbey) เปน็ สถาปัตยกรรมแบบโกธิก
(Gothic) ท่ีสำคญั ท่ีสุดของประเทศอังกฤษ เป็นสถานทส่ี ำหรบั พระราชพธิ ีพระบรม
ราชาภิเษก เริม่ ต้ังแต่ในสมยั ของสมเดจ็ พระเจา้ วลิ เลียม ในปี ค.ศ. 1066 เปน็ ต้นมา
อีกทั้งยังเป็นสถานทีจ่ ดั พิธอี ภเิ ษกสมรสของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ซึ่งต่อมาก็คอื สมเด็จ
พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 กับ เจ้าฟ้าชายฟิลิป ของกรีซ โดยต่อมาก็คือ ดยุคแห่ง
เอดนิ เบอระ รวมถึงพระราชพธิ ีเสกสมรสระหวา่ งเจ้าชายวลิ เลยี ม ดยกุ แหง่ เคมบริดจ์
กับแคเธอรนิ มิดเดลิ ตนั
ที่มา: http://www.oxbridge.in.th/study-ielts/westminster-abbey

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

2. หนังสือเรียน หน้า 105 Ex. 1 ครูอธิบายว่า นักเรียนจะได้อ่านข้อความเกี่ยวกับประมุขแห่งรัฐของ
สหราชอาณาจักร จากนนั้ ให้นักเรียนอ่านประโยค 1-5 แลว้ ลองเดาเนื้อหาก่อนการอา่ นว่า ประโยคใด
ท่ีนักเรยี นคดิ วา่ นา่ จะถูกตอ้ ง ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรยี นและเขยี นบนกระดาน
ต่อมาใหน้ กั เรยี นสงั เกตคำหรือวลีในประโยค 1-5 แล้วย้อนไปดบู ทอา่ นอีกครัง้ โดยใชว้ ธิ ีการอ่านแบบ
กวาดสายตาเพื่อมองหาว่า ประโยค 1-5 เก่ียวกับเนื้อเรื่องส่วนใด เมื่อพบแล้วให้อ่านเฉพาะประโยค
หรือข้อความที่มีขอ้ มูลหรืออาจจะอ่านขอ้ ความแวดล้อมด้วย เมื่อเข้าใจแล้วจงึ ระบวุ ่า ประโยคใดเป็น
จรงิ เสรจ็ แล้วครรู วบรวมคำตอบจากนกั เรียนอกี ครง้ั และเฉลยคำตอบพร้อมกัน

1, 3 and 5 are true.

3. นักเรียนช่วยกันทบทวนวธิ กี ารแบ่งวรรคตอนในการอ่าน จากนั้นครเู ปดิ CD ให้นักเรยี นฟังข้อความใน
หน้า 105 เพื่อให้นักเรียนสังเกตการแบ่งวรรคตอนในการอ่าน แล้วจึงให้นักเรียนอ่านออกเสียงด้วย
ตนเองทีละยอ่ หน้า

4. หนังสือเรียน หน้า 105 Ex. 2 นักเรียนช่วยกันอธิบายความหมายของคำศัพท์ที่พิมพ์ตัวหนาในบท
อา่ น ครแู นะนำนักเรียนใหเ้ ดาความหมายของคำศัพทท์ ี่ไมร่ ู้จากข้อความหรือบริบทที่แวดล้อมคำศัพท์
นั้น ๆ ในกรณที ่เี ดาไมไ่ ด้จริง ๆ ให้นกั เรยี นช่วยกนั เปดิ พจนานุกรมเพือ่ หาความหมาย

head of state: person who represents a country

ruling: that is in charge of a country

crown: power as a king or queen

take over: become the head of

coronation: a ceremony where the king or queen receives the crown

residence: a place where sb lives

parliament: a group of people who make laws and debate political issues

state occasions: parties and gatherings for the country

representing: speak or take action for a person or a group of people

ต่อมานักเรยี นจบั คู่กนั ผลดั กันพดู สรปุ เกีย่ วกบั ประมุขแห่งรัฐของสหราชอาณาจักร คนละ 3 ประเดน็

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

The head of state in the UK is the ruling king or queen. When the head
of state dies, the oldest male relative takes the crown. If there are no
male relatives to take over, the crown passes to the oldest female
relative.

5. หนังสือเรียน หน้า 105 Ex. 3 ให้เวลานักเรียนสั้น ๆ ตอบคำถามที่ให้มา ครูรวบรวมคำตอบจาก

นักเรียนหลาย ๆ คน และนำมาเขียนบนกระดาน โดยครชู ว่ ยเหลอื นกั เรียนในเรอื่ งคำศัพท์ เช่น

grant pardons (phr) อภยั โทษ

royal assent (n) พระบรมราชานญุ าต

head of the armed forced (phr) จอมทัพ

defender of all faiths (phr) อัครศาสนปู ถัมภกหรอื ผู้ทำนุบำรงุ ศาสนาตา่ งๆ

ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ ในประเทศไทย รา่ งพระราชบญั ญัติท่ีได้รบั ความเห็นชอบของรัฐสภาแลว้
นายกรัฐมนตรจี ะนำขึน้ ทลู เกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใชต้ ่อไป
เมอ่ื ระดมสมองเสรจ็ แลว้ ครูให้เวลานักเรยี นสั้น ๆ เขียนขอ้ ความ 1 ย่อหน้าเกี่ยวกบั ประมขุ
แหง่ รัฐของประเทศไทยตามประเด็นที่กำหนดให้

1 The head of state in Thailand is the ruling king.
2 The ruling king lives and works in a palace in Bangkok.
3 Thailand is a constitutional monarchy. The King of Thailand is under the

constitution. As the head of state, however, he is given some powers and
has a role to play in the workings of government. According to the
constitution, the king is head of the armed forces. He is required to be
Buddhist as well as the defender of all faiths in the country. The king also
retained some traditional powers such as the power to grant pardons and
the royal assent.

6. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครอง
ของสหราชอาณาจักรและของไทย แล้วเขียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง
โดยนำเสนอขอ้ มูลในรปู ของโปสเตอร์ ครแู นะนำคำสำคญั ในการคน้ หาข้อมลู เช่น

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

democracy in the UK
government and politics in Thailand

ขั้นสรปุ
1. นกั เรยี นช่วยกันพูดให้ข้อมูลเก่ียวกับระบบการเมืองการปกครองของไทย โดยครอู าจชว่ ยเขียน
คำสำคญั บนกระดาน เพื่อให้นกั เรียนนำมาใช้การพูด
The Thailand’s Monarchy is known as a constitutional monarchy. The ruling king
is the head of state. The king has little direct power under the constitution but
is a symbol of national identity. The head of government is the prime minister.
According to the constitution, the king is head of the armed forces. He is required
to be Buddhist as well as the defender of all faiths in the country. The king also
retained some traditional powers such as the power to grant pardons and the
royal assent.
2. หนงั สือเรียน หนา้ 76 หวั ขอ้ Self-Check นกั เรียนทำ Exs. 1-4 เพื่อประเมินตนเองหลังเรียนจบ
หนว่ ยฯ ท่ี 3 เสร็จแลว้ ครเู ฉลยคำตอบพรอ้ มกนั ถา้ เวลาไม่พอ ครูใหน้ กั เรยี นทำเฉพาะ Ex. 4
ในชั้นเรียน แล้วทำ Exs. 1-3 เป็นการบ้าน เม่ือตรวจงานของนักเรยี นแล้ว มีคำศัพท์และไวยากรณ์
เรือ่ งใดท่นี กั เรยี นส่วนใหญท่ ำผิด ครูทบทวนคำศัพท์และไวยากรณ์ดังกล่าวอกี คร้งั

1 1 survival 5 respect 9 endangered

2 fumes 6 hoover 10 cure

3 litter 7 drown

4 take out 8 endangered

2 1 should 5 shouldn’t 9 than

2 shouldn’t 6 most 10 sunniest

3 don’t have to 7 tallest

4 have to 8 more

3 1T 2 DS 3 T 4 DS 5 F

4 1 Japan 3 Japan 5 Japan

2 US 4 Japan

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Upload 4 ม. 4
2. Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ Upload 4 ม. 4

สรุปผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ดา้ นความรู้
กลุม่ ผู้เรียน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ด้านทักษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กล่มุ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ด้านคณุ ลักษะอันพงึ ประสงค์

กลุ่มผ้เู รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรับปรงุ 0-1

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงช่ือ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดษิ ฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลักสูตรฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มีความหลากหลายเหมาะสมกับผู้เรยี น
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรยี นรู้ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ กี าญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเสน็ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใชส้ อน  หลงั ใชส้ อน

 มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )

รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

เกณฑก์ ารประเมนิ การพดู

รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
การประเมิน ดีมาก (4) รวม
ความถกู ต้อง ใช้คำศพั ท์สอ่ื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใชค้ ำศัพท์สือ่ ใชค้ ำศพั ทส์ ือ่ ใช้คำศัพทส์ อ่ื 2 8
กับเนื้อหาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกับ ความหมายตรงกับ ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เนือ้ หาและ เนอื้ หาและ กบั เน้อื หาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่

เปน็ สว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น ถกู ต้องเป็นส่วน

ใหญ่

การออก ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ 2
เสียง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลักการออก ตามหลักการออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ อ่ื สารไมไ่ ด้

การแสดง เสียงเน้นหนกั คำ/ เสียงเน้นหนกั คำ/ เสียง แตส่ ว่ นใหญ่
ท่าทาง
นำ้ เสียง ประโยคได้ ประโยคเป็นสว่ น ขาดการออกเสยี ง
ประกอบ
การพดู สมบูรณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พดู ตอ่ เน่ือง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบ้าง พดู เป็นคำๆ หยดุ พูดได้บางคำ ทำ 2
ใหส้ ือ่ ความหมาย 1
ตดิ ขดั พูดชดั เจน แตย่ งั พอสื่อสารได้ เป็นช่วงๆ ทำให้ ไมไ่ ด้
พูดไดน้ ้อยมาก
ทำให้สื่อสารได้ดี สื่อสารได้ไม่ชดั เจน

แสดงท่าทางและ พูดด้วยนำ้ เสียง พูดเหมือนอา่ น ไม่

พดู ด้วยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เป็นธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกับ สถานการณ์แตไ่ ม่มี ความนา่ สนใจ

สถานการณ์ ทา่ ทางประกอบ

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรับปรุง
ตำ่ กว่า 14

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

แบบประเมนิ ช้นิ งาน

ท่ี ชอ่ื - นามสกุล รูปแบบ ิ้ชนงาน หมายเหตุ
การใ ้ชภาษา 24
1. เน้ือหา
2. รวม
3.
4. 888
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน

รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนัก คะแนน
ความสำคัญ รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 8
2
รปู แบบ - รปู แบบช้นิ งาน - รูปแบบช้นิ งาน - รูปแบบ - รปู แบบ 8
2 8
ชนิ้ งาน ถกู ต้องตามท่ี ถกู ต้องตามท่ี ชน้ิ งานถูกต้อง ชน้ิ งานไมต่ รง 2

กำหนด กำหนด ตามทก่ี ำหนด ตามทก่ี ำหนด

- รูปแบบแปลก - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพ - รูปภาพไม่

ใหม่ นา่ สนใจ - รูปภาพมสี สี นั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธ์กบั

- มีขนาดเหมาะสม สวยงาม เนือ้ หา เนือ้ หา

- รปู ภาพมสี สี นั - รปู ภาพสัมพนั ธ์กบั

สวยงาม เนอ้ื หา

- รูปภาพสัมพนั ธ์

กับเนอื้ หา

การใชภ้ าษา ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ

ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์มีความ ไวยากรณผ์ ดิ ไวยากรณผ์ ิด

ถูกต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง เปน็ สว่ น เล็กน้อย เป็นจำนวนมาก

อา่ นเขา้ ใจงา่ ย ใหญ่ อา่ นเข้าใจงา่ ย อา่ นเขา้ ใจยาก

เน้ือหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบายเนื้อหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย

เน้ือหาได้ตรง ไดค้ ่อนข้างตรง เนือ้ หาได้พอ เน้อื หาไมค่ รบ

ประเดน็ และ ประเด็นและ เข้าใจ และไมต่ รง

ครบถ้วน ครบถ้วน ประเด็น

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ 12

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่ัวโมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วนั ............... เดอื น...................... พ.ศ. .........

ประเมนิ จากการสงั เกตพฤติกรรมและชิน้ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรบั ปรุง