The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aoomery, 2022-02-25 08:03:51

M 4 unit 3 lesson plans.

M 4 unit 3 lesson plans.

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

5. หนงั สือเรยี น หน้า 70 Ex. 2c นักเรยี นอา่ นบทสนทนาอีกคร้งั แลว้ ชว่ ยกันบอกเหตผุ ลว่า ทำไมคนถึง
ชอบทอ่ งเท่ียวแบบ eco-friendly ครใู หเ้ วลานักเรียนคิดสักครู่ จากนนั้ นักเรยี นเดนิ ไปรอบ ๆ หอ้ งเพ่ือ
หาว่ามีเพื่อนคนใดที่ให้เหตุผลเช่นเดียวกันกับนักเรียน และครูอาจสุ่มเรียกนักเรียนหลาย ๆ คน อ่าน
เหตุผลของตนเองให้เพ่ือนฟงั

I think people go on eco-friendly holidays to help animals and to
help protect the environment.

6. นักเรียนทำงานคู่ สนทนาเกี่ยวกับกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำ โดยใช้บทสนทนาใน Ex. 2 เป็นต้นแบบ
ครอู ธิบายวา่ ใหน้ ักเรยี นเปลย่ี นสถานท่ีทไี่ ปเที่ยวกบั กิจกรรมท่ีนกั เรยี นจะทำ

7. หนังสือเรียน หน้า 111 หัวข้อ O-NET Practice นักเรียนทบทวนวิธีการอ่านเพื่อเติมคำในช่องว่าง
จากนนั้ นักเรยี นทำ Ex. 1 เสรจ็ แล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรยี นและเฉลยคำตอบพร้อมกัน

Ex. 1
1 B ความหมายของประโยคทีเ่ ติมคำ คอื “เปน็ หน่ึงในสอง ... ของสัตว์เล้ยี งลกู

ด้วยน้ำนมเท่าน้นั ทว่ี างไข่” คำท่ขี าดหายไปจึงควรเปน็ species (สายพันธุ์)
2 D ความหมายของประโยคทีเ่ ติมคำ คอื “สงิ่ มชี ีวติ ทง้ั สองชนดิ นี้กำลงั … อยา่ งมาก”

คำทีข่ าดหายไปจงึ ควรเป็น endangered (กำลงั ตกอยใู่ นอันตรายหรือใกล้สญู พันธุ์)
3 A ความหมายของประโยคท่ีเติมคำ คือ “สิ่งมีชีวติ ท้ังสองชนิดนี้กำลังตกอยใู่ นอนั ตราย

อยา่ งมาก และกำลังเผชญิ กบั ...” คำที่ขาดหายไปจงึ ควรเป็น extinction (การสญู พันธุ์)
4 C ความหมายของประโยคที่เติมคำ คือ “เปน็ เรอ่ื งงา่ ยทจี่ ะทำให้สาธารณชนสนใจ

เกี่ยวกับสตั ว์ ... อย่างเสอื ที่สง่างามหรือแพนดา้ ทีน่ า่ รักและน่ากอด”
คำทข่ี าดหายไปจงึ ควรเป็น threatened (ทถี่ กู คุกคาม)
5 D ความหมายของประโยคท่เี ติมคำ คือ “แตเ่ มื่อกลา่ วถึงสิ่งมีชีวิตท่ี ... น้อยกวา่ ”
ประโยคนขี้ ึ้นตน้ ดว้ ย but แสดงวา่ มคี วามหมายขัดแย้งกับประโยคขา้ งหน้าทกี่ ลา่ วถึง
สตั ว์ท่ีสงา่ งามและน่ารักน่ากอด ดงั นั้นจงึ ควรเป็น attractive (ที่ดึงดูดความสนใจ)
6 A ความหมายของประโยคทเ่ี ติมคำ คอื “เป็นเรื่องยากทจ่ี ะโน้มน้าวคนให้ชว่ ย ... สัตว์
เหลา่ นี้” คำท่ขี าดหายไปจึงควรเป็น save (ปกป้อง, รักษา, คมุ้ ครอง)
7 B ความหมายของประโยคที่เติมคำ คอื “ถงึ แมจ้ ะมี ... เช่นนนั้ สตั วเ์ หลา่ น้ีกลับมี
ความสำคัญมาก” คำท่ขี าดหายไปจงึ ควรเป็น appearance (รูปลกั ษณ,์ รูปรา่ งหนา้ ตา)

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

8 C ความหมายของประโยคทเ่ี ติมคำ คือ “นักสงิ่ แวดลอ้ มกำลงั ... อย่างหนกั เท่าทพ่ี วกเขาจะ
สามารถทำได้ เพื่อยบั ยั้งสัตว์ทม่ี ีคา่ เหลา่ นี้จาก...” คำท่ขี าดหายไปในช่องแรกจึงควรเปน็
trying (พยายาม)

9 B ความหมายของประโยคที่เติมคำ คอื “นักสิ่งแวดลอ้ มกำลงั พยายามอยา่ งหนักเทา่ ที่พวก
เขาจะสามารถทำได้ เพอ่ื ยับยั้งสตั ว์ที่มีค่าเหลา่ นี้จาก... สูญพนั ธุ์” คำว่า extinct เป็น
คำคณุ ศัพท์ คำท่ีขาดหายไปจึงควรเป็น becoming เพราะ become เปน็ linking verb
สามารถตามด้วยคำคุณศัพท์ได้

10 D ความหมายของประโยคทีเ่ ติมคำ คือ “… ประชาชนทั่วไปจะตระหนักวา่ รปู ลกั ษณ์
ภายนอกไมใ่ ชท่ กุ ส่ิง ก่อนทจ่ี ะสายเกินไป” คำท่ีขาดหายไปจึงควรเป็น hopefully
(อย่างมคี วามหวัง)

ตอ่ มานักเรียนอ่านคำสง่ั ใน Ex. 2 แลว้ ระบวุ า่ ส่วนทขี่ ีดเส้นใต้ 1-4 สว่ นใดท่ผี ิด พร้อมทง้ั เลอื กตวั เลอื ก
A-D ที่ถูกต้อง ครใู ห้เวลานกั เรียนตดั สินใจเลอื กคำตอบ แล้วจึงเฉลยคำตอบพรอ้ มกนั

Ex. 2
3 A ส่วนที่ 1 to be held ถูกต้องแล้ว เราสามารถใช้ infinitives กล่าวถึงอนาคตได้
โดยวลีน้ี ยอ่ มาจาก (which is) to be held

สว่ นที่ 2 will focus ถกู ตอ้ งแล้ว เพราะเราใช้ will กลา่ วถึงส่งิ ท่ีจะเกิดข้นึ แน่นอน
ในอนาคต เชน่ การประชุม และส่วนนท้ี ำหนา้ ท่ีเป็นกรยิ าหลกั ของประโยค

สว่ นท่ี 4 national security ถูกตอ้ งแล้ว เพราะ national เป็นคำคุณศัพทข์ ยายหน้า
คำนาม security

สว่ นท่ีไมถ่ ูกต้อง คือ ส่วนที่ 3 เนือ่ งจากประโยคนมี้ ีกรยิ าหลักแล้ว คอื focus ดังน้นั
Concerns ซงึ่ เปน็ คำกรยิ าจึงไม่ถกู ต้อง ทถี่ กู ต้องจงึ เปน็ concerning ซง่ึ เป็นคำบพุ บท
มคี วามหมายวา่ about something; involving somebody/something (เกย่ี วกบั )

ประโยคทถ่ี ูกต้องจึงเปน็ Discussion in the meeting to be held next week will
focus on ideas concerning matters of national security (การอภิปรายในการประชมุ ท่ี
จะจดั ขน้ึ ในสปั ดาหห์ นา้ น้ันจะมุง่ เนน้ ไปท่ีความคดิ เกีย่ วกบั เรอื่ งความมนั่ คงแห่งชาติ)

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

ขั้นสรปุ
1. นกั เรยี นช่วยกนั บอกกิจกรรมทเ่ี ก่ยี วกับการทอ่ งเทยี่ วเชงิ นิเวศทีเ่ รียนมา หรอื นกั เรียนร้จู ักเพม่ิ เตมิ เช่น
go bird watching, go hiking, go trekking, go dolphin-watching, go snorkelling, diving, go
sailing
2. นกั เรียนเขียนส่ิงทนี่ ักเรียนต้งั ใจจะทำเมื่อปิดภาคเรียนน้ี โดยใหเ้ ป็นกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกับการทอ่ งเทย่ี ว
เชิงนิเวศ จากนนั้ นักเรยี นพูดคนละ 1 ประโยค ครูอาจยกตัวอย่างใหน้ กั เรยี นดูก่อน เช่น I’m going
to go diving on the school holidays.
3. แบบฝึกหัด (Workbook) นักเรยี นทำ Ex. 17 หนา้ 17 เป็นการบ้าน

ชั่วโมงท่ี 2
ขั้นนำ

นักเรยี นแบ่งเปน็ 2 กลุ่ม ฝกึ อ่านออกเสียงบทสนทนาในหนังสอื เรียน หน้า 70 ตาม CD แล้วจงึ อา่ น
ออกเสียงด้วยตนเอง
ขั้นสอน
1. ครเู ขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน

I’m going to visit my grandparents next month.
She’s going to be a professional singer when she grows up.
They’re going to play basketball after school.
ครูถามนักเรยี นว่า จำได้หรือไมว่ า่ be going to ใช้กล่าวถงึ อะไร เม่อื ได้คำตอบว่าสิ่งทีต่ งั้ ใจจะทำแล้ว
ครูให้นักเรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยคบนกระดาน พรอ้ มกับระบโุ ครงสรา้ งประโยค

verb to be + going to + base form จะใชเ้ พือ่ บอกสงิ่ ท่ีตงั้ ใจจะทำ

จากนั้นนกั เรยี นชว่ ยกันเปล่ียนประโยคบนกระดานให้อยใู่ นรปู ปฏิเสธและประโยคคำถาม
I’m not going to visit my grandparents next month.
She’s not going to be a professional singer when she grows up.
They’re not going to play basketball after school.
Are you going to visit Japan next month?
Yes, I am. / No, I’m not.
Is Kate going to be a professional singer when she grows up?
Yes, she is. / No, she isn’t.
Are they going to play basketball after school?
Yes, they are. / No, they aren’t.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

Where are you going to visit next month?
I am going to visit Japan my holidays in Italy.
What is Kate going to be when she grows up?
She is going to be a professional singer when she grows up.
When are they going to play basketball?
They are going to play basketball after school.
ต่อมาครเู ขยี นตัวอย่างประโยคตอ่ ไปน้บี นกระดาน แล้วให้นักเรยี นช่วยกนั วิเคราะหว์ ่า be going to
นอกจากจะกล่าวถึงสงิ่ ที่ตั้งใจจะทำแล้ว ยังใชใ้ นสถานการณใ์ ดได้อีก
It’s going to rain again soon. (The speaker can probably see dark clouds.)
Look out! He’s going to break that vase.
เสร็จแลว้ ครสู รุปใหน้ กั เรยี นฟังว่า be going to นอกจากจะใช้บอกถึงสงิ่ ทต่ี ้งั ใจจะทำหรือแผนการใน
อนาคตแลว้ ยังสามารถใช้บอกถึงสง่ิ ทีเ่ ราม่ันใจว่า จะเกดิ ข้ึนอยา่ งแนน่ อนในอนาคตหรือคาดการณ/์
ทำนายสงิ่ ที่จะเกดิ ในอนาคต เนือ่ งจากเหน็ หลักฐานในขณะทพ่ี ดู

ในภาษาพดู เจ้าของภาษานยิ มใช้ gonna ซง่ึ ออกเสียงว่า /gənə/ แทน going to
โดยเฉพาะในเพลงภาษาอังกฤษ

Extra activities: ครหู าเพลงที่มีการใช้ gonna ในเนือ้ เพลงมาเปดิ ใหน้ กั เรยี นฟงั และทำกจิ กรรม
เช่น เรยี งลำดับเนือ้ เพลง หรือเตมิ คำในช่องว่าง
ตวั อยา่ งเพลง I’m gonna be around โดย Michael Learns To Rock

One way or another โดย One Direction
2. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 3a นักเรียนอ่านการใช้ be going to ในตาราง ครูให้นักเรียนช่วยกัน

อธิบายการโครงสร้างและการใช้ be going to โดยครูช่วยสรุปให้นักเรยี นฟังอีกครั้ง จากนั้นครูขอให้
นกั เรียนหาตวั อย่างของ be going to ในรูปประโยคบอกเล่าและปฏิเสธจากบทสนทนาในหน้า 70

Jenny isn’t going to go with me, though.
She’s going to patrol the beach.
It seems like it’s going to be an interesting experience.
We’re even going to see sea turtles hatch from their eggs.

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

3. หนงั สอื เรยี น หนา้ 71 Ex. 4a นกั เรยี นดตู ารางและช่วยกันวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคคำถามและ
คำตอบ จากน้นั หาตวั อยา่ งประโยคเหล่านใ้ี นบทสนทนา หนา้ 70

Are you going to go scuba diving?

Extra activity: นักเรียนช่วยกันหาว่ามีคำใดในภาษาไทยที่มีความหมายเหมือนกับ be going to
พร้อมกบั เปรียบเทยี บการใชร้ ะหว่างภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษ
4. หนงั สือเรยี น หน้า 71 Ex. 3b นกั เรยี นฝกึ ใช้ be going to ในรูปประโยคปฏเิ สธ โดยอ่านข้อมูลที่ให้
มา แล้วแต่งประโยคปฏิเสธจากคำที่ให้มาในวงเล็บ เมื่อนักเรียนทำเสร็จ ครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่าน
คำตอบของตนเอง ถา้ ผิด ครูใหเ้ พอื่ น ๆ ชว่ ยกันแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง แลว้ ครูเขยี นเฉลยคำตอบท่ีถูกต้องบน
กระดาน

2 They aren’t going to stay there.
3 He isn’t going to travel by plane.
4 They aren’t going to go sea kayaking.
5 She isn’t going to take photographs.

5. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 4b นักเรียนดูตารางรายการสิ่งที่ Helen วางแผนไว้แล้วว่าจะทำใน
สัปดาห์หน้า จากนั้นนักเรียนนำข้อมูลในข้อ 2-5 มาแต่งประโยคคำถาม แล้วดูข้อมูลจากในตารางใน
การเขียนคำตอบ เมื่อนักเรียนทำเสร็จ ครูสุ่มเรียกนักเรียนพูดถาม-ตอบกัน แล้วครูเขียนคำตอบท่ี
ถกู ต้องบนกระดาน เพือ่ ใหน้ ักเรยี นตรวจคำตอบ

2 Are Helen and John going to scuba dive on Tuesday? (Yes, they are.)
3 Are Helen’s parents going to visit a museum on Monday? (Yes, they are.)
4 Is Monica going to patrol the beach on Thursday? (No, she isn’t.)
5 Are Helen and Monica going to plant trees on Friday? (No, they aren’t.)

6. หนังสือเรยี น หน้า 71 Ex. 4c นักเรยี นอ่าน note แล้วนำขอ้ มลู มาเขยี นเป็นประโยคคำถามท่ีสัมพันธ์
กบั คำตอบทใี่ ห้มาในข้อ 2-4 ครแู นะนำให้นกั เรยี นดขู ้อที่ 1 เป็นตัวอยา่ ง เมอื่ นกั เรียนทำเสร็จ

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

ครูสุ่มเรียกนักเรียนอ่านคำถาม แล้วนักเรียนที่เหลืออ่านคำตอบ ถ้าคำถามที่นักเรียนแต่งผิด ครูให้
เพื่อน ๆ ช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้อง เสร็จแล้วครูเขียนคำถามที่ถูกต้องบนกระดาน แล้วให้นักเรียนอ่าน
คำถามและคำตอบพรอ้ ม ๆ กนั อกี ครั้ง

2 Who’s going with Christina?
3 Where are they going to have lunch?/What are they going to do in town?
4 When are they going to be back?

7. หนังสือเรียน หน้า 71 Ex. 5 นักเรียน 2 คน อ่านคำถามและคำตอบที่ให้มา จากนั้นนกั เรียนจับคูก่ ัน
พูดถาม-ตอบเกี่ยวกับแผนการในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยใช้ข้อความที่ให้มา หรือนักเรียนคิดกิจกรรม
อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ เสร็จแล้วนักเรียนนำข้อมูลของเพื่อนมาเขียนเป็นประโยคสั้น ๆ เมื่อทำเสร็จ
นักเรยี นอา่ นงานของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟัง

A: Are you going to stay at home this weekend?
B: Yes, I am./No, I am not. He/She is/isn’t going to stay at home this weekend.
A: Are you going to have a party this weekend?
B: Yes, I am./No, I am not. He/She is/isn’t going to have a party this weekend.
A: Are you going to visit your aunt this weekend?
B: Yes, I am./No, I am not. He/She is/isn’t going to visit his/her aunt this weekend.
A: Are you going to hang out with your friends this weekend?
B: Yes, I am./No, I am not.

He/She is/isn’t going to hang out with his/her friends this weekend.

8. ครเู ขยี นคำถามต่อไปนี้บนกระดาน

When are you going to go ___________? Who is going to go with you?

What are you going to (do, buy, see)? Where are you going to go _______?

How are you going to get there? Are you going to ___________?

จากนั้นครูอธิบายว่า ให้นักเรียนวางแผนการไปเที่ยวของตนเอง โดยใช้คำถามบนกระดานเป็น

แนวทางในการเขียน เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ให้นักเรียนจับคู่กัน ฝึกพูดถาม-ตอบ เสร็จแล้วครูสุ่มเรียก

นักเรียน ออกมาพดู นำเสนอที่หนา้ ชัน้

I’m going to go scuba dive at Koh Chang this weekend.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

My friends Ken and Ben are going to go with you.
I’m going to stay in a resort. I’m going to get there by train.
I’m going to stay there 3 days and 2 nights.

ขน้ั สรุป
1. นักเรยี นชว่ ยสรุปวา่ be going to ใชเ้ มื่อไร และมีโครงสร้างประโยคอย่างไร เสรจ็ แล้วนักเรียนทำงาน
คู่ ช่วยกันแต่งประโยคคู่ละ 2 ประโยค
2. ครเู ขยี นคำวา่ New Year’s resolution (= a resolution made on 1st January) บนกระดาน
และอธบิ ายวา่ เป็นคำสัญญากับตวั เองวา่ จะทำบางส่งิ บางอยา่ งตั้งแตป่ หี น้าเปน็ ตน้ ไป หรือเรยี กว่า
ปณธิ านวันปีใหม่ โดยธรรมเนียมน้ี ชาวตะวนั ตกนิยมปฏิบัติกนั ค่อนขา้ งมาก จากน้ันครสู มมตวิ ่า วนั น้ี
เปน็ วันส้นิ ปี ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอกส่ิงทน่ี ักเรียนตั้งใจจะทำหรือเปล่ียนแปลงตนเองมาคนละ 1 อยา่ ง
เช่น I’m going to do all my English homework.
3. แบบฝึกหดั (Workbook) นักเรียนอา่ นทบทวนเรอ่ื ง be going to หน้า 43 แลว้ ทำ Exs. 7-9 เป็น
การบ้าน

สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
1. หนังสือเรียน Upload 4 ม. 4
2. แบบฝกึ หัด Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด Upload 4 ม. 4

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ด้านความรู้
กลุ่มผ้เู รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กลมุ่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นคุณลกั ษะอันพึงประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรับปรงุ 0-1

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงชื่อ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกับผ้เู รียน
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ กี าญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ

 ถกู ต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผา่ นการนิเทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใช้สอน  หลังใช้สอน

 มบี ันทึกหลงั จัดกิจกรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวสั ด์ิ)
หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

เกณฑก์ ารประเมินการพดู

รายการ ระดบั คะแนน / ระดบั คุณภาพ น้ำหนัก คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ต้อง ใช้คำศัพทส์ อ่ื ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสำคัญ 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใชค้ ำศัพท์สอ่ื ใชค้ ำศพั ทส์ ่อื ใช้คำศัพท์ส่อื 2 8
กบั เนอ้ื หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกับ ความหมายตรงกับ ความหมายไม่ตรง 8
ทุกประโยค 4
เนือ้ หาและ เนือ้ หาและ กับเนื้อหาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถกู ต้อง ไวยากรณ์ไม่

เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางส่วน ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ใหญ่

การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ 2
เสียง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคไม่ถกู ต้อง
ความ
คลอ่ งแคลว่ ตามหลักการออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำให้สอ่ื สารไมไ่ ด้

การแสดง เสียงเน้นหนกั คำ/ เสยี งเนน้ หนักคำ/ เสียง แต่สว่ นใหญ่
ทา่ ทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสยี ง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พดู ตอ่ เนอ่ื ง ไม่ พูดตะกกุ ตะกักบ้าง พูดเปน็ คำๆ หยดุ พูดไดบ้ างคำ ทำ 2
ให้ส่อื ความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชดั เจน แตย่ งั พอสื่อสารได้ เปน็ ชว่ งๆ ทำให้ ไม่ได้
พดู ไดน้ ้อยมาก
ทำให้ส่อื สารไดด้ ี ส่อื สารไดไ้ มช่ ัดเจน

แสดงท่าทางและ พดู ด้วยน้ำเสียง พดู เหมือนอ่าน ไม่

พูดด้วยนำ้ เสยี ง เหมาะสมกับ เป็นธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกับ สถานการณ์แตไ่ ม่มี ความน่าสนใจ

สถานการณ์ ทา่ ทางประกอบ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
24-28 ดมี าก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรับปรุง
ต่ำกว่า 14

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

แบบประเมนิ ช้นิ งาน

ท่ี ชอ่ื - นามสกุล รูปแบบ ิ้ชนงาน หมายเหตุ
การใ ้ชภาษา 24
1. เน้ือหา
2. รวม
3.
4. 888
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

เกณฑป์ ระเมินชิ้นงาน

รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคุณภาพ นำ้ หนกั คะแนน
ความสำคัญ รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 8
2
รปู แบบ - รปู แบบชิ้นงาน - รปู แบบช้ินงาน - รูปแบบ - รูปแบบ 8
2
ชน้ิ งาน ถูกต้องตามท่ี ถูกต้องตามท่ี ช้นิ งานถกู ต้อง ชนิ้ งานไมต่ รง

กำหนด กำหนด ตามท่กี ำหนด ตามท่กี ำหนด

- รูปแบบแปลก - มีขนาดเหมาะสม - รูปภาพ - รปู ภาพไม่

ใหม่ น่าสนใจ - รปู ภาพมีสสี ัน สัมพันธก์ บั สัมพันธก์ ับ

- มขี นาดเหมาะสม สวยงาม เนือ้ หา เนอ้ื หา

- รูปภาพมีสสี ัน - รูปภาพสมั พนั ธก์ บั

สวยงาม เนอ้ื หา

- รปู ภาพสัมพนั ธ์

กับเนอ้ื หา

การใช้ภาษา ตวั สะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ ตัวสะกดและ

ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณผ์ ดิ ไวยากรณ์ผดิ

ถกู ต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง เปน็ ส่วน เลก็ น้อย เป็นจำนวนมาก

อ่านเขา้ ใจง่าย ใหญ่ อ่านเข้าใจง่าย อา่ นเข้าใจยาก

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรับปรุง
ต่ำกว่า 12

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่ัวโมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วนั ............... เดือน...................... พ.ศ. .........

ประเมนิ จากการสงั เกตพฤติกรรมและชิน้ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 9

รายวชิ าภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า 31102 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 Places เวลา 40 ช่ัวโมง

เร่ือง In days to come เวลา 1 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดษิ ฐ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สรุ าษฎร์ธานี

แนวคดิ สำคญั
การเรียนรคู้ ำศัพทเ์ ก่ยี วกับเหตุการณท์ ่ีอาจจะเกิดขน้ึ ในอนาคต การใช้ will/won’t ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเรื่อง

ท่ีอา่ น พูดอภิปราย แสดงความแนใ่ จ/ไม่แน่ใจ และเขยี นทำนายจากความคดิ ของตนเองเก่ยี วกบั สิ่งทจ่ี ะเกดิ ขนึ้
ในอนาคตได้

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึก

และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ม.4-6/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็
เก่ียวกับเรอ่ื งประเด็น/ขา่ ว/เหตุการณท์ ่ีฟังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม

ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ เรื่องต่าง ๆ
กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตผุ ล

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- นกั เรียนสามารถพดู อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่านได้
- นักเรียนสามารถพูดแสดงความแนใ่ จ/ไม่แน่ใจเกี่ยวกบั เหตุการณ์ในอนาคตได้
- เขยี นทำนายจากความคดิ ของตนเองเกยี่ วกับเหตกุ ารณ์ที่จะเกดิ ข้ึนในอนาคตได้

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

สาระการเรยี นรู้

1) Language Features and Functions

Vocabulary: the future (have enough food for everyone, fossil fuels run out, find

cures for diseases, rivers and lakes dry up, live longer, stop wars,

animals lose their homes, go on holidays in space, temperatures

rise); nouns (cure, cancer, researchers, source, fossil fuels,

government); adjectives (bright, extinct, global); phrasal verbs

(dry up, run out)

Pronunciation: ’ll

Grammar: will

Functions: expressing certainty/uncertainty

2) Language Skills

Listening: -

Speaking: พูดอภิปรายเก่ียวกบั เร่ืองท่ีอ่าน, พดู แสดงความแน่ใจ/ไม่แน่ใจเก่ยี วกบั เหตุการณ์

ในอนาคต

Reading: อา่ นเพอื่ ความเข้าใจ

Writing: เขียนทำนายจากความคิดของตนเองเกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ในอนาคต

3) Culture: -

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
 2. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ  7. รักความเปน็ ไทย
 3. มีวนิ ัย  8. มีจิตสาธารณะ
 4. ใฝเ่ รยี นรู้
 4. มวี ินัย
เบญจวถิ ีกาญจนา  5. ใหเ้ กียรติ
 1. เทดิ ทูนสถาบัน
 2. กตญั ญู  4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
 3. บุคลิกดี  5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

สมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการสื่อสาร
 2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทักษะท่ีจำเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อ่านออก)
 R2– (W)Riting (เขยี นได้)
 R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทศั น)์
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสื่อสาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้)
 C8 - Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 - Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
 L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผูน้ ำ)

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธกี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์ทใ่ี ช้
- รอ้ ยละ 60
เขียนทำนาย ตรวจคำตอบ

อนาคตจาก

ความคดิ ของตนเอง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์ที่ใช้
แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
การสนทนา ประเมินการพูดอภิปราย
แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
เกีย่ วกับสิ่งท่ีตัง้ ใจ และแสดงความคิดเหน็

จะทำ เกี่ยวกบั เร่อื งทีอ่ ่าน

การพูดแสดงความ ประเมนิ การพดู แสดงความ

แน่ใจ/ไม่แน่ใจ แน่ใจ/ไม่แน่ใจเก่ียวกบั

เกีย่ วกบั เหตุการณ์ เหตกุ ารณใ์ นอนาคต

ในอนาคต

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑท์ ี่ใช้
ระดบั คุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหว่าง สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้านใฝ่ แบบประเมิน
เรยี น เรียนรู้และมุ่งม่ันในการ คณุ ลักษณะ

ทำงาน อันพงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

กิจกรรมการเรียนรู้

ใช้กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชเ้ กมส์

ขั้นนำ

1. ครูสมมติว่า สปั ดาหห์ น้า นักเรียนจะไปเขา้ คา่ ยกนั ครูถามนกั เรียนว่า What are you going to

bring when you go camping? ครูให้นกั เรยี นบอกส่ิงทีต่ ้ังใจจะนำไปด้วย โดยให้พูดต่อกันไปเร่ือย ๆ เช่น

S1: I’m going to bring some snacks.

S2: I’m going to bring jeans.

S3: I’m going to bring my toothbrush.

S4: I’m going to bring a tube of toothpaste.

S5: I’m going to bring my facial foam.

S6: I’m going to bring my shower gel.

S7: I’m going to bring a towel.

2. ครถู ามนักเรยี นว่า What will you do after school today? แลว้ รวบรวมคำตอบจากนักเรยี น

หลาย ๆ คน เช่น

S1: I will go to the library. S2: I will do homework.

S3: I will go home. S4: I will play football.

Extra activities: ครเู ปดิ เพลง Fix You ของ Cold Play ให้นักเรียนฟงั และทำกิจกรรม เชน่

เรียงลำดับประโยคของเนื้อเพลง หรือเติมคำในชอ่ งวา่ ง

ข้นั สอน
1. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 1 นกั เรยี นดภู าพและอา่ นคำศัพท์ในแตล่ ะภาพ แลว้ ชว่ ยกนั อธบิ าย
ความหมาย ครชู ว่ ยอธบิ ายคำศัพท์ยากบางคำ เช่น
Cure (n) การรักษา
fossil fuel (n) เชือ้ เพลิงฟอสซลิ คือ เชือ้ เพลงิ ทไ่ี ด้จากซากสตั วแ์ ละพืชดึกดำบรรพ์ เช่น
ถ่านหินและนำ้ มนั ปโิ ตรเลยี ม
run out (phr v) หมด
ครสู รปุ ความหมายท่ีถูกต้อง แล้วจงึ ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งตาม CD จนคล่อง ครชู ใ้ี ห้นักเรยี นสังเกต
การออกเสยี งคำว่า temperature และให้นักเรียนฝกึ ออกเสียงคำนใี้ ห้ถูกต้อง
temperature (n) /ˈtemprətʃər/
2. หนงั สอื เรียน หน้า 72 Ex. 2 นกั เรยี นอ่านช่อื เร่ืองพร้อม ๆ กนั แลว้ ครูอธบิ ายชอื่ เรื่องให้นักเรียนฟงั
If you say that the future holds something, you mean that that thing will happen.
เชน่ Who can tell what the future holds?

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

จากนั้นครูตรวจสอบวา่ นักเรียนเขา้ ใจคำศพั ท์ยากในบทอ่านหรอื ไม่ แล้วชว่ ยอธิบายให้นักเรยี นฟัง

เชน่

pessimist (n) คนทีม่ องโลกในแงร่ ้าย

optimist (n) คนท่มี องโลกในแง่ดี

definitely (adv) อย่างแนน่ อน

probably (adv) นา่ จะเปน็ ไปได,้ คอ่ นขา้ งแน่

maybe (adv) บางที (= perhaps)

so so (adj/adv) ง้ันๆ, ไม่ดีไม่เลว

ครูเขียนคำถามต่อไปนี้บนกระดาน Are you a pessimist or an optimist? ครูอธิบายว่า ให้

นักเรยี นทำแบบทดสอบ What future holds ทใ่ี ห้มา เพอื่ ดวู า่ ตนเองเปน็ คนที่มองโลกในแง่ร้ายหรือ

แงด่ ี โดยให้นักเรียนอา่ นประโยค 1-10 และกรอกหมายเลข 1-5 โดยแต่ละหมายเลขมีความหมายดงั นี้

Definitely 5 Probably 4

Maybe 3 I doubt it 2

Definitely not 1

ครสู อบถามความหมายของคำสำคัญเหลา่ นอี้ ีกคร้ัง เช่น Definitely not หมายความวา่ ถ้าขอ้ ความที่

อ่าน ไม่ตรงกับส่ิงทน่ี ักเรียนคิดอยา่ งแนน่ อน ใหน้ ักเรียนกรอกหมายเลข 1

ครูให้เวลานักเรียนในการทำแบบทดสอบ 5-7 นาที เสร็จแล้วครูให้นักเรียนรวมคะแนนทั้งหมดท่ี

ตนเองได้ เมื่อได้แล้ว ครูให้นักเรียนที่ได้คะแนนอยู่ในช่วง 10-15 คะแนนยกมือขึ้น แล้วให้นักเรียน

ช่วยกันอ่านคำอธิบายที่ให้มาในกรอบ Scoring เช่น What a pessimist! Cheer up! ครูทำกิจกรรม

เชน่ เดยี วกนั นีจ้ นถงึ ระดบั คะแนน 36-50

ตอ่ มาครูให้นกั เรยี นพูดถาม-ตอบกบั เพอื่ นทีน่ ั่งใกล้ ๆ กนั วา่ Are you a pessimist or an optimist?

3. นักเรยี นอภิปรายเก่ียวกบั ประเดน็ ในแบบทดสอบอีกครั้ง โดยครูถามนักเรยี น เชน่

Who thinks people will definitely be healthier and live longer? Why do you think like

that?

Do you agree with him/her? Why?/Why not?

Weak classes: ครูเลือกประเด็นมาให้นักเรียนอภิปรายแค่ 1 ข้อ โดยให้นักเรียนที่คิดเห็นแบบ

เดยี วกนั มารวมกลุม่ กนั แลว้ ชว่ ยกันอภปิ รายแสดงเหตุผล เช่น

We think that people will definitely be healthier and live longer because there

will be new developments in technology. Then scientists will find cures for diseases.

We think that people will definitely not be healthier and live longer because

global temperatures will rise and cause serious environmental problems. Maybe we

won’t have enough food to eat in the future.

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

4. หนังสือเรยี น หน้า 72 กรอบ Check these words นกั เรียนอา่ นออกเสียงคำศัพท์ในกรอบ แล้ว
ช่วยกันบอกความหมาย ครแู นะนำใหเ้ ดาความหมายของคำศัพท์ท่ไี ม่รูจ้ ากข้อความหรอื บรบิ ทที่
แวดล้อมคำศพั ทน์ ้ัน ๆ ในกรณีทเี่ ดาไมไ่ ด้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันเปิดพจนานุกรมเพ่ือหาความหมาย

bright (adj) pleasant or successful
cure (n) a treatment that makes an illness/disease go away
cancer (n) a serious disease that causes abnormal cell growth
extinct (adj) wiped out
dry up (phr v) stop having water
researchers (n pl) people whose job it is to try to discover facts about sth
source (n) the person/place where you get sth from
fossil fuels (n pl) oil, coal and gas
run out (phr v) have no more of sth left
government (n) a body of elected people who run a country
global (adj) worldwide, all parts of the world

5. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3a นักเรียนอ่านกฎการใช้ will และ won’t จากตาราง ครูให้นักเรียน
ช่วยกันสรุปหลักการใช้ เสร็จแล้วครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า will และ won’t ใช้เพื่อคาดการณ์
เหตุการณ์ในอนาคตทั่ว ๆ ไป ซึ่งมักเกิดจากความคิดหรือความเชื่อของตนเอง ไม่ได้คาดเดาจาก
หลักฐาน และใชพ้ ูดถงึ ส่ิงที่ตดั สินใจจะทำในขณะท่ีพดู ซึ่งไมไ่ ดว้ างแผนมาก่อนล่วงหนา้
will + base form
Extra activities: นักเรยี นชว่ ยกันหาคำในภาษาไทยทมี่ ีความหมายเหมอื นกับ will/won’t พรอ้ มทัง้
เปรยี บเทียบการใชใ้ ห้เหน็ ความแตกต่างระหว่างภาษาไทยกับภาษาองั กฤษ

6. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3b ครูอธิบายวิธีการอ่านเพื่อเติมคำว่า ให้นักเรียนอ่านข้อความที่ให้มา
อย่างรวดเร็วก่อน 1 รอบ เพื่อจับใจความสำคัญ แล้วอ่านเนื้อเรื่องอีกครั้งอย่างละเอียดทีละประโยค
จากนั้นเติมช่องว่างด้วย will หรือ won’t เสร็จแล้วอ่านเน้ือเรื่องที่เติมคำสมบูรณ์แล้วอีกครั้ง เพื่อให้
แน่ใจว่าคำที่เติมลงไปในช่องว่างมีความสมเหตุสมผล เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูให้เวลานักเรียนทำ
กิจกรรม เสรจ็ แลว้ ครรู วบรวมคำตอบจากนกั เรียน และเฉลยคำตอบพร้อมกัน สุดทา้ ยครถู ามนักเรียน
ว่า Is the person optimistic or pessimistic?

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

1 will 4 won’t 7 won’t
2 will 5 will 8 will
3 will 6 will
The person is optimistic.

Extra activities: นักเรียนเขียนขอ้ ความใน Ex. 3b ใหม่ จากทศั นคติของคนท่ีมองโลกในแงร่ า้ ย
(pessimist) เม่ือนกั เรียนเขยี นเสร็จแล้ว ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คน อ่านให้เพ่ือนฟัง
7. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3c นักเรียนอ่านประโยคตัวอย่างที่ให้มา จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยค
โดยใช้คำที่กำหนดให้ ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน เสร็จแล้วให้นักเรียนตอบคำถามเหล่านี้ด้วย
ต่อมาครูให้นักเรียนทั้งห้องอ่านคำถามพร้อม ๆ กัน ทีละข้อ ครูสุ่มเรียกให้นักเรียนบอกคำตอบของ
ตนเอง ถ้ามเี วลามากพอ ครใู ห้นักเรยี นจบั คกู่ ันและฝกึ พูดถาม-ตอบกนั อีกครัง้

2 Will robots do all the housework? Yes, they will. / No, they won’t.
3 Will people have more free time? Yes, they will. / No, they won’t.
4 Will koalas become extinct? Yes, they will. / No, they won’t.
5 Will cars fly in the air? Yes, they will. / No, they won’t.
6 Will people read books? Yes, they will. / No, they won’t.
7 Will people use money? Yes, they will. / No, they won’t.
8 Will computers be faster? Yes, they will. / No, they won’t.

8. หนังสอื เรยี น หน้า 73 Ex. 4a ครูอธบิ ายวิธกี ารออกเสยี งรูปย่อของ will และใหน้ ักเรียนออกเสียง

ตามครู ดังน้ี

I’ll /aɪl/ he’ll /il, hil/

she’ll /ʃil/ you’ll /juːl/

we’ll /wil/ they’ll /ðeɪl/

ครูอาจเปิดพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษออนไลน์ของ Longman จาก

http://www.ldoceonline.com/dictionary/ โดยพมิ พ์คำสรรพนามกับรปู ยอ่ ของ will ในช่อง

คน้ หา เช่น I’ll แล้วให้นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งรปู ย่อกบั ตัวอยา่ งประโยค เชน่

I’ll see you tomorrow.

Don’t worry, he’ll be there.

You’ll feel better soon.

They’ll be tired after the long journey.

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

ตอ่ มาครูเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟังและขดี เสน้ ใต้ประโยคทีไ่ ดย้ ิน ครอู าจเปิดให้นักเรียนฟัง 2-3 คร้ัง เสรจ็
แลว้ ครูตรวจคำตอบพร้อมกนั กับนักเรียน เมื่อเฉลยคำตอบแล้ว ครเู ขยี นประโยคบนกระดาน และเปิด
CD อีกคร้งั เพ่ือนกั เรียนอ่านออกเสยี งตามใหถ้ ูกตอ้ ง

1 I’ll go 3 You’ll go
2 We’ll live 4 They’ll have

9. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 4b ครูเลือกนักเรียน 2 คน อ่านตัวอย่างประโยคที่ให้มา จากนั้นให้
นักเรียนอ่านสำนวนภาษาที่ใช้แสดงความแน่ใจและไม่แน่ใจที่ให้มาในตาราง ครูให้นักเรียนช่วยกัน
อธิบายความหมายของแต่ละสำนวน โดยครูช่วยสรุปความหมายที่ถูกต้องอีกครั้ง ต่อมาครูให้นกั เรียน
จับคู่กันเพื่อแต่งบทพูดโต้ตอบสั้น ๆ เหมือนดังตัวอย่าง ซึ่งจะเกี่ยวกับการคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ ที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคต ครูแนะนำให้นักเรียนกลับไปดูภาพในหน้า 80 เพื่อเป็นแนวความคิดในการพูด
ขณะที่นกั เรยี นทำกิจกรรมน้ี ครูเดินไปรอบ ๆ เพ่อื ช่วยเหลือ รวมท้งั จดบันทึกขอ้ ผดิ พลาดทีพ่ บบ่อยใน
การพูดของนักเรียน เพอ่ื นำมาอธิบายหลังจากท่ีนักเรยี นทำกิจกรรมเสรจ็ เม่อื นักเรียนฝึกพูดจนคล่อง
แลว้ ครสู ุม่ เรยี กนกั เรยี นหลาย ๆ คอู่ อกมาพดู ถาม-ตอบท่หี น้าช้นั

A: Will people go on holidays in space? B: I don’t think so.
A: Will fossil fuels run out? B: Absolutely.
A: Will we live longer? B: Perhaps.
A: Will researchers find a cure for B: Probably.

most disease?

10. หนงั สือเรียน หน้า 73 Ex. 5 ครูอธิบายว่า ใหน้ กั เรยี นเขยี นประโยคเพ่ือทำนายส่งิ ทีจ่ ะเกดิ ข้นึ ใน
อีก 50 ปีข้างหน้า จากนนั้ ให้นักเรยี นอ่านตัวอยา่ งท่ีใหม้ า ครใู ห้เวลานกั เรยี นในการเขยี น เมื่อนกั เรยี น
ทำเสร็จ ครใู หน้ ักเรียนอา่ นงานของตนเองใหเ้ พื่อนฟัง แล้วให้เพ่ือนคนอ่ืน ๆ ในช้ันเรียนช่วยกนั บอกวา่
นักเรียนคนท่ีอา่ นเป็นคนมองโลกแง่ดหี รอื แงร่ า้ ย

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

I think people will fly in the air on their own.
I think we will have robots that do all the housework.
I think we won’t have to go to school anymore.
I think people won’t eat the same kind of food we eat now.
I think scientists will find cures for all the diseases.
I am an optimist.

ข้ันสรุป
1. นักเรียนชว่ ยกันสรุปคำศัพทท์ ่ีนักเรียนได้เรยี นในวนั น้ี จากน้ันชว่ ยกนั สรปุ หลกั การใช้ will แล้ว
ช่วยกนั นำคำศัพทท์ ่เี รยี นมาแตง่ ประโยค
2. แบบฝกึ หดั (Workbook) นักเรียนทำ Ex. 18 หนา้ 17 และอ่านทบทวนเร่อื ง will/won’t
ในหนา้ 43-45 จากนน้ั ทำ Exs. 10-11 หนา้ 45 เป็นการบ้าน

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น Upload 4 ม. 4
2. แบบฝกึ หัด Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ Upload 4 ม. 4
4. พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษออนไลน์
http://www.ldoceonline.com/dictionary/

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ด้านความรู้
กลุ่มผ้เู รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กลมุ่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นคุณลกั ษะอันพึงประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรับปรงุ 0-1

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงชื่อ..........................................................ผูส้ อน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ กี าญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ

 ถกู ต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผา่ นการนิเทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใช้สอน  หลังใช้สอน

 มบี ันทึกหลงั จัดกิจกรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวสั ด์ิ)
หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑ์การประเมินการพูด

รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ตอ้ ง ใชค้ ำศพั ท์ส่อื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใช้คำศพั ท์สือ่ ใชค้ ำศพั ท์สือ่ ใช้คำศพั ทส์ ือ่ 2 8
กบั เนือ้ หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เน้อื หาและ เนอ้ื หาและ กับเน้อื หาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่

เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น ถูกต้องเป็นส่วน

ใหญ่

การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ 2
เสยี ง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ ื่อสารไม่ได้

การแสดง เสียงเน้นหนักคำ/ เสยี งเนน้ หนกั คำ/ เสยี ง แตส่ ่วนใหญ่
ท่าทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสียง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พูดต่อเนื่อง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบา้ ง พดู เปน็ คำๆ หยุด พดู ไดบ้ างคำ ทำ 2
ใหส้ ่ือความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชัดเจน แตย่ ังพอส่ือสารได้ เปน็ ช่วงๆ ทำให้ ไม่ได้
พูดได้น้อยมาก
ทำใหส้ ่ือสารได้ดี สือ่ สารได้ไมช่ ัดเจน

แสดงท่าทางและ พูดดว้ ยนำ้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ไม่

พูดดว้ ยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เปน็ ธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกบั สถานการณ์แต่ไม่มี ความนา่ สนใจ

สถานการณ์ ท่าทางประกอบ

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 14

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่วั โมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วัน............... เดอื น...................... พ.ศ. .........

ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมและช้นิ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรับปรุง

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 9

รายวชิ าภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า 31102 ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 Places เวลา 40 ช่ัวโมง

เร่ือง In days to come เวลา 1 ช่วั โมง

ผสู้ อน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดษิ ฐ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สรุ าษฎร์ธานี

แนวคดิ สำคญั
การเรียนรคู้ ำศัพทเ์ ก่ยี วกับเหตุการณท์ ่ีอาจจะเกิดขน้ึ ในอนาคต การใช้ will/won’t ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเรื่อง

ท่ีอา่ น พูดอภิปราย แสดงความแนใ่ จ/ไม่แน่ใจ และเขยี นทำนายจากความคดิ ของตนเองเก่ยี วกบั สิ่งทจ่ี ะเกดิ ขนึ้
ในอนาคตได้

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรูส้ ึก

และความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ม.4-6/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย อธบิ าย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็
เก่ียวกับเรอ่ื งประเด็น/ขา่ ว/เหตุการณท์ ่ีฟังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม

ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับ เรื่องต่าง ๆ
กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์อย่างมีเหตผุ ล

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- นกั เรียนสามารถพดู อภิปรายและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่านได้
- นักเรียนสามารถพูดแสดงความแนใ่ จ/ไม่แน่ใจเกี่ยวกบั เหตุการณ์ในอนาคตได้
- เขยี นทำนายจากความคดิ ของตนเองเกยี่ วกับเหตกุ ารณ์ที่จะเกดิ ข้ึนในอนาคตได้

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

สาระการเรยี นรู้

1) Language Features and Functions

Vocabulary: the future (have enough food for everyone, fossil fuels run out, find

cures for diseases, rivers and lakes dry up, live longer, stop wars,

animals lose their homes, go on holidays in space, temperatures

rise); nouns (cure, cancer, researchers, source, fossil fuels,

government); adjectives (bright, extinct, global); phrasal verbs

(dry up, run out)

Pronunciation: ’ll

Grammar: will

Functions: expressing certainty/uncertainty

2) Language Skills

Listening: -

Speaking: พูดอภิปรายเก่ียวกบั เร่ืองท่ีอ่าน, พดู แสดงความแน่ใจ/ไม่แน่ใจเก่ยี วกบั เหตุการณ์

ในอนาคต

Reading: อา่ นเพอื่ ความเข้าใจ

Writing: เขียนทำนายจากความคิดของตนเองเกี่ยวกับเหตกุ ารณ์ในอนาคต

3) Culture: -

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์  5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
 2. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ  7. รักความเปน็ ไทย
 3. มีวนิ ัย  8. มีจิตสาธารณะ
 4. ใฝเ่ รยี นรู้
 4. มวี ินัย
เบญจวถิ ีกาญจนา  5. ใหเ้ กียรติ
 1. เทดิ ทูนสถาบัน
 2. กตญั ญู  4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
 3. บุคลิกดี  5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

สมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการสื่อสาร
 2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทักษะท่ีจำเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อ่านออก)
 R2– (W)Riting (เขยี นได้)
 R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทศั น)์
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสื่อสาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้)
 C8 - Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 - Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
 L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผูน้ ำ)

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธกี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์ทใ่ี ช้
- รอ้ ยละ 60
เขียนทำนาย ตรวจคำตอบ

อนาคตจาก

ความคดิ ของตนเอง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ช้ินงาน วิธีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์ที่ใช้
แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
การสนทนา ประเมินการพูดอภิปราย
แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
เกีย่ วกับสิ่งท่ีตัง้ ใจ และแสดงความคิดเหน็

จะทำ เกี่ยวกบั เร่อื งทีอ่ ่าน

การพูดแสดงความ ประเมนิ การพดู แสดงความ

แน่ใจ/ไม่แน่ใจ แน่ใจ/ไม่แน่ใจเก่ียวกบั

เกีย่ วกบั เหตุการณ์ เหตกุ ารณใ์ นอนาคต

ในอนาคต

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑท์ ี่ใช้
ระดบั คุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหว่าง สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีด้านใฝ่ แบบประเมิน
เรยี น เรียนรู้และมุ่งม่ันในการ คณุ ลักษณะ

ทำงาน อันพงึ ประสงค์

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

กิจกรรมการเรียนรู้

ใช้กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชเ้ กมส์

ขั้นนำ

1. ครูสมมติว่า สปั ดาหห์ น้า นักเรียนจะไปเขา้ คา่ ยกนั ครูถามนกั เรียนว่า What are you going to

bring when you go camping? ครูให้นกั เรยี นบอกส่ิงทีต่ ้ังใจจะนำไปด้วย โดยให้พูดต่อกันไปเรื่อย ๆ เช่น

S1: I’m going to bring some snacks.

S2: I’m going to bring jeans.

S3: I’m going to bring my toothbrush.

S4: I’m going to bring a tube of toothpaste.

S5: I’m going to bring my facial foam.

S6: I’m going to bring my shower gel.

S7: I’m going to bring a towel.

2. ครถู ามนักเรยี นว่า What will you do after school today? แลว้ รวบรวมคำตอบจากนกั เรยี น

หลาย ๆ คน เช่น

S1: I will go to the library. S2: I will do homework.

S3: I will go home. S4: I will play football.

Extra activities: ครเู ปดิ เพลง Fix You ของ Cold Play ให้นักเรียนฟังและทำกิจกรรม เชน่

เรียงลำดับประโยคของเนื้อเพลง หรือเติมคำในชอ่ งวา่ ง

ข้นั สอน
1. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 1 นกั เรยี นดภู าพและอา่ นคำศัพท์ในแตล่ ะภาพ แลว้ ชว่ ยกนั อธิบาย
ความหมาย ครชู ว่ ยอธบิ ายคำศัพท์ยากบางคำ เช่น
Cure (n) การรักษา
fossil fuel (n) เชือ้ เพลิงฟอสซลิ คือ เชือ้ เพลงิ ทไ่ี ด้จากซากสตั วแ์ ละพืชดึกดำบรรพ์ เช่น
ถ่านหินและนำ้ มนั ปโิ ตรเลยี ม
run out (phr v) หมด
ครสู รปุ ความหมายท่ีถูกต้อง แล้วจงึ ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งตาม CD จนคล่อง ครชู ีใ้ หน้ ักเรียนสังเกต
การออกเสียงคำว่า temperature และให้นักเรียนฝกึ ออกเสียงคำนใี้ ห้ถูกต้อง
temperature (n) /ˈtemprətʃər/
2. หนงั สอื เรียน หน้า 72 Ex. 2 นกั เรยี นอ่านช่อื เร่ืองพร้อม ๆ กนั แลว้ ครูอธบิ ายชอื่ เร่ืองให้นักเรียนฟงั
If you say that the future holds something, you mean that that thing will happen.
เชน่ Who can tell what the future holds?

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

จากนั้นครูตรวจสอบวา่ นักเรียนเขา้ ใจคำศพั ทย์ ากในบทอา่ นหรือไม่ แล้วช่วยอธิบายให้นักเรยี นฟงั

เชน่

pessimist (n) คนทมี่ องโลกในแง่รา้ ย

optimist (n) คนที่มองโลกในแงด่ ี

definitely (adv) อยา่ งแนน่ อน

probably (adv) นา่ จะเปน็ ไปได,้ คอ่ นขา้ งแน่

maybe (adv) บางที (= perhaps)

so so (adj/adv) ง้นั ๆ, ไม่ดีไม่เลว

ครูเขียนคำถามต่อไปนี้บนกระดาน Are you a pessimist or an optimist? ครูอธิบายว่า ให้

นักเรยี นทำแบบทดสอบ What future holds ท่ใี ห้มา เพือ่ ดูว่า ตนเองเป็นคนทีม่ องโลกในแง่ร้ายหรือ

แงด่ ี โดยให้นักเรียนอา่ นประโยค 1-10 และกรอกหมายเลข 1-5 โดยแต่ละหมายเลขมคี วามหมายดังนี้

Definitely 5 Probably 4

Maybe 3 I doubt it 2

Definitely not 1

ครสู อบถามความหมายของคำสำคญั เหลา่ นอี้ ีกคร้ัง เชน่ Definitely not หมายความวา่ ถา้ ข้อความที่

อ่าน ไม่ตรงกับส่ิงทน่ี ักเรียนคิดอยา่ งแนน่ อน ให้นกั เรยี นกรอกหมายเลข 1

ครูให้เวลานักเรียนในการทำแบบทดสอบ 5-7 นาที เสร็จแล้วครูให้นักเรียนรวมคะแนนทั้งหมดท่ี

ตนเองได้ เมื่อได้แล้ว ครูให้นักเรียนที่ได้คะแนนอยู่ในช่วง 10-15 คะแนนยกมือขึ้น แล้วให้นักเรียน

ช่วยกันอ่านคำอธิบายที่ให้มาในกรอบ Scoring เช่น What a pessimist! Cheer up! ครูทำกิจกรรม

เชน่ เดยี วกนั นีจ้ นถงึ ระดบั คะแนน 36-50

ตอ่ มาครูให้นกั เรยี นพูดถาม-ตอบกับเพอื่ นทีน่ ั่งใกล้ ๆ กันวา่ Are you a pessimist or an optimist?

3. นักเรยี นอภิปรายเก่ียวกบั ประเด็นในแบบทดสอบอีกคร้ัง โดยครูถามนักเรียน เช่น

Who thinks people will definitely be healthier and live longer? Why do you think like

that?

Do you agree with him/her? Why?/Why not?

Weak classes: ครูเลือกประเด็นมาให้นักเรียนอภิปรายแค่ 1 ข้อ โดยให้นักเรียนที่คิดเห็นแบบ

เดยี วกนั มารวมกลุม่ กนั แลว้ ชว่ ยกนั อภปิ รายแสดงเหตุผล เช่น

We think that people will definitely be healthier and live longer because there

will be new developments in technology. Then scientists will find cures for diseases.

We think that people will definitely not be healthier and live longer because

global temperatures will rise and cause serious environmental problems. Maybe we

won’t have enough food to eat in the future.

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

4. หนังสอื เรยี น หน้า 72 กรอบ Check these words นกั เรียนอา่ นออกเสียงคำศัพท์ในกรอบ แลว้
ช่วยกันบอกความหมาย ครแู นะนำใหเ้ ดาความหมายของคำศัพท์ท่ไี ม่รูจ้ ากข้อความหรอื บริบทที่
แวดล้อมคำศพั ทน์ ้ัน ๆ ในกรณีทเี่ ดาไม่ได้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันเปิดพจนานุกรมเพ่ือหาความหมาย

bright (adj) pleasant or successful
cure (n) a treatment that makes an illness/disease go away
cancer (n) a serious disease that causes abnormal cell growth
extinct (adj) wiped out
dry up (phr v) stop having water
researchers (n pl) people whose job it is to try to discover facts about sth
source (n) the person/place where you get sth from
fossil fuels (n pl) oil, coal and gas
run out (phr v) have no more of sth left
government (n) a body of elected people who run a country
global (adj) worldwide, all parts of the world

5. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3a นักเรียนอ่านกฎการใช้ will และ won’t จากตาราง ครูให้นักเรียน
ช่วยกันสรุปหลักการใช้ เสร็จแล้วครูสรุปให้นักเรียนฟังว่า will และ won’t ใช้เพื่อคาดการณ์
เหตุการณ์ในอนาคตทั่ว ๆ ไป ซึ่งมักเกิดจากความคิดหรือความเชื่อของตนเอง ไม่ได้คาดเดาจาก
หลักฐาน และใชพ้ ูดถึงส่ิงที่ตัดสินใจจะทำในขณะท่ีพดู ซึ่งไม่ไดว้ างแผนมาก่อนล่วงหน้า
will + base form
Extra activities: นักเรยี นชว่ ยกันหาคำในภาษาไทยทมี่ ีความหมายเหมอื นกับ will/won’t พร้อมทง้ั
เปรยี บเทียบการใชใ้ ห้เหน็ ความแตกต่างระหวา่ งภาษาไทยกับภาษาองั กฤษ

6. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3b ครูอธิบายวิธีการอ่านเพื่อเติมคำว่า ให้นักเรียนอ่านข้อความที่ให้มา
อย่างรวดเร็วก่อน 1 รอบ เพื่อจับใจความสำคัญ แล้วอ่านเนื้อเรื่องอีกครั้งอย่างละเอียดทีละประโยค
จากนั้นเติมช่องว่างดว้ ย will หรือ won’t เสร็จแล้วอ่านเนื้อเรื่องที่เติมคำสมบูรณ์แล้วอีกคร้ัง เพ่ือให้
แน่ใจว่าคำที่เติมลงไปในช่องว่างมีความสมเหตุสมผล เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูให้เวลานักเรียนทำ
กิจกรรม เสรจ็ แลว้ ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลยคำตอบพร้อมกัน สุดทา้ ยครถู ามนักเรียน
ว่า Is the person optimistic or pessimistic?

แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

1 will 4 won’t 7 won’t
2 will 5 will 8 will
3 will 6 will
The person is optimistic.

Extra activities: นักเรยี นเขียนขอ้ ความใน Ex. 3b ใหม่ จากทัศนคติของคนที่มองโลกในแงร่ า้ ย
(pessimist) เม่ือนกั เรียนเขียนเสร็จแล้ว ครสู ุม่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คน อ่านใหเ้ พอ่ื นฟัง
7. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 3c นักเรียนอ่านประโยคตัวอย่างที่ให้มา จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยค
โดยใช้คำที่กำหนดให้ ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน เสร็จแล้วให้นักเรียนตอบคำถามเหล่านี้ด้วย
ต่อมาครูให้นักเรียนทั้งห้องอ่านคำถามพร้อม ๆ กัน ทีละข้อ ครูสุ่มเรียกให้นักเรียนบอกคำตอบของ
ตนเอง ถ้ามเี วลามากพอ ครูให้นักเรยี นจับคู่กันและฝึกพูดถาม-ตอบกนั อีกครงั้

2 Will robots do all the housework? Yes, they will. / No, they won’t.
3 Will people have more free time? Yes, they will. / No, they won’t.
4 Will koalas become extinct? Yes, they will. / No, they won’t.
5 Will cars fly in the air? Yes, they will. / No, they won’t.
6 Will people read books? Yes, they will. / No, they won’t.
7 Will people use money? Yes, they will. / No, they won’t.
8 Will computers be faster? Yes, they will. / No, they won’t.

8. หนังสอื เรยี น หนา้ 73 Ex. 4a ครอู ธบิ ายวิธีการออกเสยี งรูปยอ่ ของ will และให้นักเรียนออกเสียง

ตามครู ดังน้ี

I’ll /aɪl/ he’ll /il, hil/

she’ll /ʃil/ you’ll /juːl/

we’ll /wil/ they’ll /ðeɪl/

ครูอาจเปิดพจนานกุ รมอังกฤษ-อังกฤษออนไลน์ของ Longman จาก

http://www.ldoceonline.com/dictionary/ โดยพมิ พ์คำสรรพนามกบั รูปย่อของ will ในช่อง

คน้ หา เช่น I’ll แลว้ ให้นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งรปู ย่อกบั ตวั อยา่ งประโยค เช่น

I’ll see you tomorrow.

Don’t worry, he’ll be there.

You’ll feel better soon.

They’ll be tired after the long journey.

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

ตอ่ มาครูเปดิ CD ให้นกั เรยี นฟงั และขีดเส้นใตป้ ระโยคที่ไดย้ นิ ครอู าจเปดิ ให้นักเรยี นฟงั 2-3 ครัง้ เสรจ็
แลว้ ครูตรวจคำตอบพร้อมกันกบั นักเรียน เมอื่ เฉลยคำตอบแล้ว ครูเขยี นประโยคบนกระดาน และเปิด
CD อีกคร้งั เพอ่ื นักเรยี นอ่านออกเสยี งตามให้ถูกต้อง

1 I’ll go 3 You’ll go
2 We’ll live 4 They’ll have

9. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 4b ครูเลือกนักเรียน 2 คน อ่านตัวอย่างประโยคที่ให้มา จากนั้นให้
นักเรียนอ่านสำนวนภาษาที่ใช้แสดงความแน่ใจและไม่แน่ใจที่ให้มาในตาราง ครูให้นักเรียนช่วยกัน
อธิบายความหมายของแตล่ ะสำนวน โดยครูช่วยสรุปความหมายท่ีถกู ต้องอีกคร้ัง ต่อมาครูให้นกั เรียน
จับคู่กันเพื่อแต่งบทพูดโต้ตอบสั้น ๆ เหมือนดังตัวอย่าง ซึ่งจะเกี่ยวกับการคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ ที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคต ครูแนะนำให้นักเรียนกลับไปดูภาพในหน้า 80 เพื่อเป็นแนวความคิดในการพูด
ขณะที่นกั เรียนทำกจิ กรรมนี้ ครเู ดนิ ไปรอบ ๆ เพ่ือชว่ ยเหลอื รวมทงั้ จดบันทึกข้อผดิ พลาดทพ่ี บบ่อยใน
การพูดของนักเรียน เพื่อนำมาอธิบายหลังจากทน่ี ักเรียนทำกิจกรรมเสรจ็ เมอื่ นักเรียนฝึกพูดจนคล่อง
แลว้ ครสู ุม่ เรียกนักเรียนหลาย ๆ คอู่ อกมาพดู ถาม-ตอบทหี่ นา้ ชนั้

A: Will people go on holidays in space? B: I don’t think so.
A: Will fossil fuels run out? B: Absolutely.
A: Will we live longer? B: Perhaps.
A: Will researchers find a cure for B: Probably.

most disease?

10. หนงั สือเรียน หนา้ 73 Ex. 5 ครูอธิบายว่า ให้นักเรียนเขียนประโยคเพื่อทำนายสิ่งทจี่ ะเกิดขน้ึ ใน
อีก 50 ปีข้างหน้า จากน้นั ให้นักเรียนอ่านตัวอย่างที่ใหม้ า ครใู ห้เวลานักเรยี นในการเขียน เม่ือนกั เรยี น
ทำเสร็จ ครใู ห้นกั เรยี นอ่านงานของตนเองใหเ้ พ่ือนฟัง แลว้ ใหเ้ พือ่ นคนอนื่ ๆ ในชั้นเรยี นช่วยกนั บอกวา่
นักเรียนคนที่อ่านเป็นคนมองโลกแงด่ หี รือแงร่ ้าย

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

I think people will fly in the air on their own.
I think we will have robots that do all the housework.
I think we won’t have to go to school anymore.
I think people won’t eat the same kind of food we eat now.
I think scientists will find cures for all the diseases.
I am an optimist.

ข้ันสรุป
1. นักเรียนชว่ ยกันสรุปคำศัพทท์ ่ีนักเรียนได้เรยี นในวนั น้ี จากน้ันชว่ ยกนั สรปุ หลกั การใช้ will แล้ว
ช่วยกนั นำคำศัพทท์ ีเ่ รยี นมาแต่งประโยค
2. แบบฝกึ หดั (Workbook) นักเรียนทำ Ex. 18 หนา้ 17 และอ่านทบทวนเร่อื ง will/won’t
ในหนา้ 43-45 จากน้ันทำ Exs. 10-11 หนา้ 45 เป็นการบ้าน

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น Upload 4 ม. 4
2. แบบฝกึ หัด Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบสือ่ ฯ ชดุ Upload 4 ม. 4
4. พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษออนไลน์
http://www.ldoceonline.com/dictionary/

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ

สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ด้านความรู้
กลุ่มผ้เู รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กลมุ่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นคุณลกั ษะอันพึงประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรับปรงุ 0-1

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………

ลงชื่อ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
 กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
 ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
 สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
 สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
 สง่ เสรมิ เบญจวถิ ีกาญจนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)

หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ

 กอ่ นใชส้ อน  หลงั ใชส้ อน

 มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )

รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แบบประเมินการพูด

ความ ูถกต้องของ
เนื้อหา

การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง

น้ำเ ีสยง
ประกอบการพูด

รวม
ท่ี ช่อื - นามสกลุ หมายเหตุ
8 88 4 28
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

เกณฑ์การประเมินการพูด

รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ตอ้ ง ใชค้ ำศพั ท์ส่อื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใช้คำศพั ท์สือ่ ใชค้ ำศพั ท์สือ่ ใช้คำศพั ทส์ ือ่ 2 8
กบั เนือ้ หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เน้อื หาและ เนอ้ื หาและ กับเน้อื หาและ

ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่

เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น ถูกต้องเป็นส่วน

ใหญ่

การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ 2
เสยี ง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ ื่อสารไม่ได้

การแสดง เสียงเน้นหนักคำ/ เสยี งเนน้ หนกั คำ/ เสยี ง แตส่ ่วนใหญ่
ท่าทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสียง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก

พูดต่อเนื่อง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบา้ ง พดู เปน็ คำๆ หยุด พดู ไดบ้ างคำ ทำ 2
ใหส้ ่ือความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชัดเจน แตย่ ังพอส่ือสารได้ เปน็ ช่วงๆ ทำให้ ไม่ได้
พูดได้น้อยมาก
ทำใหส้ ่ือสารได้ดี สือ่ สารได้ไมช่ ัดเจน

แสดงท่าทางและ พูดดว้ ยนำ้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ไม่

พูดดว้ ยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เปน็ ธรรมชาติ ขาด

เหมาะสมกบั สถานการณ์แต่ไม่มี ความนา่ สนใจ

สถานการณ์ ท่าทางประกอบ

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 14

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่ัวโมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วนั ............... เดอื น...................... พ.ศ. .........

ประเมนิ จากการสงั เกตพฤติกรรมและชิน้ งาน

ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน

123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18

ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 10

รายวิชาภาษาองั กฤษ รหัสวชิ า 31102 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 Places เวลา 40 ช่ัวโมง

เรอ่ื ง What will be, will be เวลา 1 ชั่วโมง

ผ้สู อน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดิษฐ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎรธ์ านี

แนวคิดสำคญั
การร้แู ละเขา้ ใจคำศัพทเ์ กีย่ วกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต การใช้ will - be going to ช่วยให้เขา้ ใจเรอื่ ง

ทีอ่ า่ น พูดเปรยี บเทียบแผนการในชวี ติ ของตนเองกบั บคุ คลจากเร่ืองทอี่ ่าน อกี ทัง้ เขยี นเล่าแผนการ
ในอนาคตของตนเอง และเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาได้

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ม.4-6/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมลู บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เร่อื งประเดน็ /ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ที่ฟงั และอ่านอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดย
การพดู และการเขียน

ม.4-6/1 พดู และเขียนนำเสนอข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เร่ือง และ
ประเดน็ ตา่ ง ๆ ตามความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ม.4-6/3 เข้าร่วม แนะนำ และจดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมอย่างเหมาะสม

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ

- นกั เรียนสามารถอ่านเพอ่ื จบั ใจความสำคัญและหาข้อมลู เฉพาะได้
- นกั เรียนสามารถพูดเปรียบเทียบแผนการในชวี ติ ของตนเองกบั บคุ คลจากเรื่องที่อ่านได้
- นักเรียนสามารถเขยี น blog เล่าเกี่ยวกบั แผนการในอนาคตได้
- นักเรยี นสามารถร้องเพลงภาษาอังกฤษได้

สาระการเรยี นรู้

1) Language Features and Functions

Vocabulary: stages of life (education, marriage/family, career, investments,

start school, graduate from university, get a job, get a promotion,

start your own business, buy a car, get married, buy a house, have

children, retire); verb (volunteer); nouns (goal, medicine, charity,

stray animals, donation); adjective (important); phrases (look

ahead, raise money, run a business)

Pronunciation: -

Grammar will - be going to

Functions: expressing plans for the future’s life

2) Language Skills

Listening: -

Speaking: พดู เปรียบเทยี บแผนการในอนาคตของตนเองกบั ผู้อน่ื

Reading: อ่านเพ่ือจบั ใจความสำคัญและหาข้อมูลเฉพาะ

Writing: เขยี น blog เลา่ เก่ียวกบั แผนการในอนาคต

3) Culture: -

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง
 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
 2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต  7. รกั ความเปน็ ไทย
 3. มวี ินัย  8. มีจิตสาธารณะ
 4. ใฝเ่ รยี นรู้
 4. มวี ินยั
เบญจวถิ ีกาญจนา  5. ใหเ้ กียรติ
 1. เทิดทูนสถาบัน
 2. กตญั ญู
 3. บุคลกิ ดี

สมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รียน

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ

 1. ความสามารถในการส่ือสาร  4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
 2. ความสามารถในการคิด  5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผเู้ รียน
ความสามารถและทักษะทจ่ี ำเป็นในการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อ่านออก)
 R2– (W)Riting (เขียนได)้
 R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมต่างกระบวนทศั น)์
 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็
ทีมและภาวะผ้นู ำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศและร้เู ทา่ ทันสื่อ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่อื สาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)
 C8 - Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู้)
 L2 – Leadership (ทักษะความเปน็ ผนู้ ำ)


Click to View FlipBook Version