แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
โดยยกตวั อย่างป้ายสัญลักษณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากในหนังสือเรียน
1 must 3 must 5 mustn’t
2 mustn’t 4 mustn’t
13. หนังสือเรียน หน้า 65 Ex. 4c ครูทบทวนคำที่บอกเนื้อหา (content words) ว่า เป็นคำที่มักได้รับ
การลงเสียงหนักในประโยค เช่น คำนาม, คำกริยา, คำคุณศัพท์, คำวิเศษณ์ รวมทั้งกริยาช่วยรูปฏิเสธ
ส่วนคำไวยากรณ์ เช่น คำบุพบท คำนำหน้านาม กริยาช่วย (modals) จะไม่ได้รับการลงเสียงหนักใน
ประโยค ครูอธิบายว่า ปกติแล้ว must จะไมไ่ ดร้ ับการลงเสยี งหนกั ในประโยค เพราะเป็นคำไวยากรณ์
แต่ในกรณีท่ีเราต้องการเน้น ก็สามารถลงเสยี งหนักคำว่า must ในประโยคได้
strong form weak form
/mʌst/ /məst/
ส่วน mustn’t รูปย่อปฏิเสธ จะลงเสียงเน้นหนักในประโยค โดยตัว t ท้ายคำว่า must ในรูปย่อ
ปฏิเสธ จะไม่ออกเสียง ดังนี้ /ˈmʌsənt/
จากนั้นครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังทีละประโยค เพื่อสังเกตการออกเสียงคำว่า must, must not และ
mustn’t
ต่อมาครูเปิด CD และให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงประโยคที่ให้มาตาม CD หลาย ๆ ครั้ง สุดท้ายครู
สุ่มเรยี กนกั เรียนอา่ นออกเสยี งทลี ะคน
ครเู พม่ิ ประโยคต่อไปน้บี นกระดาน You must arrive on time. ครูอธบิ ายวา่ ถา้ must ตามด้วย
เสยี งสระ นกั เรยี นจะต้องออกเสียงเชื่อมระหวา่ งเสยี งทา้ ย /t/ กบั สระทต่ี ามมา You must arrive on
time.
Extra activities: ครเู ปดิ คลิปช่ือ The silent ‘t’ in ‘mustn‘t’ and spoken ‘t’ in ‘must’ -
Pronunciation Tips จาก www.youtube.com หรือเขา้ ไปท่ี
https://www.youtube.com/watch?v=DStfrgkz_uk
14. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 4d ครสู ุ่มนักเรียนหลาย ๆ คน อ่านออกเสียงประโยคใน Ex. 4b โดยเน้น
ให้นักเรยี นลงเสียงหนกั -เบาในประโยคใหถ้ ูกต้อง
15. หนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 5 นกั เรียนเขยี นรายการสน้ั ๆ เก่ียวกบั สิ่งท่ตี ้องทำและห้ามทำในโรงเรียน
เหมือนดงั ตวั อย่างท่ีให้มา เมื่อทำเสรจ็ ครใู หน้ กั เรยี นหลาย ๆ คนอ่านประโยคของตนเองใหเ้ พือ่ นฟัง
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
We must hand in our homework on time.
We must not litter.
We must respect our teachers.
We must not use mobile phones in class.
16. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม แลว้ เลอื กกฎระเบียบที่นักเรยี นเหน็ ด้วยตรงกันว่า เปน็ ส่ิงทต่ี อ้ งปฏิบัติตามและห้าม
ปฏบิ ตั ิ จากนัน้ เขยี นประโยคเหลา่ นเี้ หมือนอย่างใน Ex.4b พรอ้ มทงั้ ทำแผ่นป้ายประกาศเพ่ือนำไปติด
แสดงที่สถานท่ตี ่าง ๆ ภายในโรงเรยี น
ขั้นสรปุ
1. นักเรียนทบทวนการใช้ must/mustn’t จากนั้นทำงานคู่ ช่วยกันแต่งประโยคคนละ 3-5 ประโยค
และอา่ นประโยคที่ตนเองแตง่ ใหเ้ พ่ือนฟัง
2. นักเรียนอภิปรายความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้องและของโรงเรียน รวมท้ัง
กฎหมาย เพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการมีวินัย ซึ่งส่งผลต่อความสงบสุขของชุมชน
และสงั คม
3. แบบฝึกหดั (Workbook) นักเรียนทำ Exs.11-12 หน้า 16 เป็นการบา้ น
สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น Upload 4 ม. 4
2. แบบฝึกหัด Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด Upload 4 ม. 4
4. คลปิ วดิ โี อจากอินเทอรเ์ น็ต
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ด้านความรู้
กลุ่มผ้เู รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กลมุ่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง
ดา้ นคุณลกั ษะอันพึงประสงค์
กลมุ่ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
ดี 3
ปานกลาง 2
ปรับปรงุ 0-1
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ลงชื่อ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............
การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
สง่ เสรมิ เบญจวถิ ีกาญจนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ
ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน
ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ
กอ่ นใชส้ อน หลงั ใชส้ อน
มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ
ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แบบประเมนิ ช้ินงาน
รูปแบบ ิ้ชนงาน
การใ ้ชภาษา
เน้ือหา
รวม
ที่ ชื่อ - นามสกุล หมายเหตุ
8 8 8 24
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน
รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนัก คะแนน
ความสำคัญ รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 8
2
รปู แบบ - รปู แบบช้นิ งาน - รูปแบบช้นิ งาน - รูปแบบ - รปู แบบ 8
2 8
ชนิ้ งาน ถกู ต้องตามท่ี ถกู ต้องตามท่ี ชน้ิ งานถูกต้อง ชน้ิ งานไมต่ รง 2
กำหนด กำหนด ตามทก่ี ำหนด ตามทก่ี ำหนด
- รูปแบบแปลก - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพ - รูปภาพไม่
ใหม่ นา่ สนใจ - รูปภาพมสี สี นั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธ์กบั
- มีขนาดเหมาะสม สวยงาม เนือ้ หา เนือ้ หา
- รปู ภาพมสี สี นั - รปู ภาพสัมพนั ธ์กบั
สวยงาม เนอ้ื หา
- รูปภาพสัมพนั ธ์
กับเนอื้ หา
การใชภ้ าษา ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ
ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์มีความ ไวยากรณผ์ ดิ ไวยากรณผ์ ิด
ถูกต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง เปน็ สว่ น เล็กน้อย เป็นจำนวนมาก
อา่ นเขา้ ใจงา่ ย ใหญ่ อา่ นเข้าใจงา่ ย อา่ นเขา้ ใจยาก
เน้ือหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบายเนื้อหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย
เน้ือหาได้ตรง ไดค้ ่อนข้างตรง เนือ้ หาได้พอ เน้อื หาไมค่ รบ
ประเดน็ และ ประเด็นและ เข้าใจ และไมต่ รง
ครบถ้วน ครบถ้วน ประเด็น
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ 12
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่วั โมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วัน............... เดอื น...................... พ.ศ. .........
ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมและช้นิ งาน
ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน
123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรับปรุง
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
รายวิชาภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า 31102 ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 Places เวลา 40 ชัว่ โมง
เรอื่ ง Survival เวลา 1 ชว่ั โมง
ผู้สอน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดิษฐ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย สรุ าษฎร์ธานี
แนวคดิ สำคัญ
การรู้และเข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับอุบัติเหตุต่าง ๆ และวิธีการเอาตัวรอดในป่า การใช้
should/shouldn’t ช่วยให้ระบุหัวข้อจากเรื่องที่อ่าน พูดและเขียนให้คำแนะนำ อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานในการ
คน้ ควา้ หาขอ้ มลู ทเ่ี กีย่ วข้องกับกล่มุ สาระวชิ าอ่ืนได้
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คิดเห็นอย่างมีเหตผุ ล
ม.4-6/4 จับใจความสำคญั วิเคราะหค์ วาม สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคดิ เหน็ จากการฟังและ
อา่ นเรือ่ งที่เปน็ สารคดีและบันเทงิ คดี พร้อมทง้ั ให้เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ม.4-6/2 เลอื กและใชค้ ำขอร้อง ใหค้ ำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธิบาย อยา่ งคล่องแคล่ว
สาระที่ ๓ ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
ม.4-6/1 คน้ คว้า/สืบคน้ บนั ทึก สรปุ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ข้อมลู ท่ีเก่ียวข้องกับกลุม่ สาระ
การเรยี นรู้อ่ืน จากแหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- นักเรียนสามารถอา่ นเพอ่ื ระบุหวั ข้อได้
- นักเรียนสามารถพดู ให้คำแนะนำในสถานการณ์ที่กำหนดได้
- นกั เรียนสามารถเขียนใหค้ ำแนะนำเกีย่ วกับความปลอดภยั ได้
สาระการเรยี นรู้
1) Language Features and Functions
Vocabulary: accidents (poison yourself, burn yourself, bang your head, twist
your ankle, get sunburned, cut yourself, get a nasty bite, drown);
verbs (remember, swing, fall on, keep to, poison, avoid); nouns
(jungle, survival tips, branch, forest floor, worm, insect, ant,
warning, leech, bite, tracks); adjectives (exciting, injured, hairy,
toxic, nasty, trouble-free); phrase (go trekking, wildlife experience,
stay safe); phrasal verb (put on)
Pronunciation: -
Grammar: should/shouldn’t
Functions: giving advice
2) Language Skills -
Listening: พูดใหค้ ำแนะนำ
Speaking: อา่ นเพ่ือระบหุ ัวข้อ
Reading: เขยี นคำแนะนำเก่ยี วกับความปลอดภยั ในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต
Writing:
3) Culture: -
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
2. ซอื่ สัตยส์ จุ รติ 7. รักความเปน็ ไทย
3. มวี ินยั 8. มจี ติ สาธารณะ
4. ใฝ่เรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
เบญจวิถีกาญจนา
1. เทิดทูนสถาบนั 4. มีวนิ ยั
2. กตญั ญู 5. ให้เกียรติ
3. บคุ ลิกดี
สมรรถนะท่สี ำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
จุดเน้นส่กู ารพัฒนาผู้เรยี น
ความสามารถและทกั ษะที่จำเปน็ ในการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
R1– Reading (อ่านออก)
R2– (W)Riting (เขยี นได้)
R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ัญหา)
C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน)์
C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศและรเู้ ทา่ ทันสื่อ)
C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การสื่อสาร)
C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)
C8 - Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)
L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู้)
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผู้นำ)
การวัดและประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑท์ ่ใี ช้
รอ้ ยละ 60
แบบฝกึ หดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนังสอื เรียน หนา้ 66
การอา่ น Exs.2b-2c,
แบบทดสอบ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑท์ ี่ใช้
แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
การพูดให้ ประเมนิ การพดู ให้
แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
คำแนะนำใน คำแนะนำในสถานการณ์
สถานการณ์ ทก่ี ำหนด
ที่กำหนด
ช้นิ งานโปสเตอร์ ประเมินชนิ้ งานโปสเตอร์
เกีย่ วกับวธิ ีการใช้ เกยี่ วกบั วิธกี ารใช้
อนิ เทอรเ์ น็ตอย่าง อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั
ปลอดภัย
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์ทใ่ี ช้
ระดบั คุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหวา่ ง สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชี้ด้านใฝ่ แบบประเมิน
เรยี น เรียนรแู้ ละมุ่งม่ันในการ คณุ ลักษณะ
ทำงาน อันพึงประสงค์
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชก้ ระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมส์
ขนั้ นำ
ครูถามคำถาม เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน
Do you like going camping?
What do you do when you go camping? (build campfire, watch the wildlife, go trekking, cook etc)
What do you bring when you go camping? (sleeping bag, sunscreen, hat, hiking boots/sneakers,
flashlight, rucksack)
ขั้นสอน
1. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 1 นักเรียนดูภาพแต่ละภาพที่ให้มาและอธิบายว่าแต่ละภาพเกิดอะไรข้ึน
จากนั้นครเู ปดิ CD ให้นักเรียนฟงั และฝึกออกเสียงตาม 2-3 ครง้ั ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนอา่ นออกเสียง
ทีละคน เสร็จแล้วนักเรยี นช่วยกันอธบิ ายความหมายของแต่ละวลี โดยครชู ่วยอธบิ ายความหมายของ
คำศัพทย์ าก เช่น
poison (v) ทำใหถ้ ูกพษิ
burn (v) โดนไฟหรือความรอ้ นจนบาดเจ็บ
bang (v) กระแทกหรอื ชน
twist (v) ทำให้เคลด็ ขัดยอก หรอื บาดเจบ็
sunburned (adj) ไหมจ้ ากแสงแดด
cut (v) ทำใหถ้ กู บาด
nasty (adj) รา้ ยแรง (= severe, very painful)
drown (v) จมนำ้
2. หนังสือเรยี น หนา้ 66 Ex. 2a นกั เรียนดภู าพประกอบบทอา่ นในหน้า 66-67 จากนัน้ ครเู ปิด CD
ใหน้ กั เรยี นหลบั ตาและฟังเสยี ง แล้วจนิ ตนาการตามเสียงที่ไดฟ้ งั วา่ อยูท่ ่ีใด เหน็ ได้ยนิ ได้กลน่ิ และ
สมั ผัสอะไรไดบ้ ้าง และนักเรยี นร้สู กึ อย่างไร
I am in the jungle. I can see tall trees and large plants with huge leaves. I
can hear birds and wild animals. I can smell the damp moist earth of the
forest floor. The air is hot and I can feel it on my skin. I can touch the
leaves. I feel a bit scared.
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
3. หนงั สือเรียน หน้า 66 Ex. 2b ครูเขียน Jungle Survival บนกระดาน นักเรยี นชว่ ยกนั บอก
ความหมาย แลว้ ครสู รุปความหมายที่ถูกต้อง (being safe in the jungle) จากนั้นครถู ามคำถาม
ต่อไปนี้
What do you know about jungle survival?
What else would you like to know about it?
นกั เรยี นช่วยกนั คิดคำถามเพ่ิมเติมท่ีเกย่ี วข้องกบั หัวข้อ Jungle Survival คนละ 2 คำถาม จากนน้ั ครู
เปิด CD ให้นกั เรียนฟงั พร้อมกับอา่ นบทอ่านเร่ือง Jungle Survival Tips ตามไปด้วย เพอื่ ตรวจวา่
มีคำตอบของคำถามท่ีคดิ ไว้หรือไม่
I know it is very difficult to survive in the jungle without food, water and
shelter.
What dangerous animals should I watch out for? (insects & snakes in your
clothes and boots, leeches, alligators)
What insects are safe to eat? (insects that are not brightly coloured or
hairy, worms)
4. หนงั สือเรยี น หน้า 66 Ex. 2c นักเรียนฝกึ อ่านเพื่อจบั ใจความสำคญั โดยใชว้ ิธีการทคี่ รเู คยแนะนำไป
แล้ว ครูอาจให้นักเรียนทบทวนวิธกี ารร่วมกนั ก่อน
จากนัน้ ครูชว่ ยอธบิ ายคำศพั ท์ยาก
beware (of) (v) ระมดั ระวัง
watch (out) for (phr v) ระมัดระวงั
stay out (of) (phr v) อยู่ใหห้ า่ งจาก
treatment (n) รกั ษา
ครูอาจช่วยอธบิ ายคำศัพท์ยากในบทอา่ นด้วย เชน่
injured (adj) ท่ีมอี าการบาดเจ็บ
leech (n) ทาก
tracks (n) รอยเทา้ บนพน้ื ดิน
ครูให้เวลานกั เรยี นสัน้ ๆ จับค่ยู ่อหนา้ กบั หวั ขอ้ ทม่ี ามา เสร็จแลว้ ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรียน และ
เฉลยคำตอบพร้อมกัน
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
1 E 2A 3D 4B
5. หนังสือเรียน หนา้ 66 กรอบ Check these words นกั เรยี นอ่านคำศัพทใ์ นกรอบ แล้วช่วยกันบอก
ความหมาย ครอู าจช่วยบอกความหมายของศพั ทบ์ างคำ แลว้ นักเรียนทายว่าเป็นศัพท์คำใด เชน่ thick
forest in a tropical country = jungle เปน็ ตน้ จากนน้ั ครูเขียนความหมายของคำศพั ท์บนกระดาน
แล้วนักเรียนบนั ทึกลงในสมุด
go trekking (phr) go on a journey through a difficult area on foot
wildlife experience (phr) seeing, hearing and touching animals and plants in their
natural habitat
exciting (adj) great, thrilling
jungle (n) thick forest in a tropical country
survival tips (n pl) pieces of advice to help you live through an experience
stay safe (phr) protect yourself from danger
remember (v) not forget
swing (v) sway, move backwards and forwards from a certain point
branch (n) an arm of a tree
injured (adj) hurt
fall on (v) drop down on top of sb/sth
keep to (v) stay on
forest floor (n) the ground in the forest
worm (n) long, thin animal with no legs and no bones that usually
lives in the ground
insect (n) small animal with six legs or more and sometimes
wings such as flies, beetles etc.
ant (n) small insect that crawls and lives in groups
warning (n) notice of danger
hairy (adj) covered in hair
toxic (adj) poisonous
poison (v) make ill or kill by giving sb a harmful substance
put on (phr v) wear
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
leech (n) small bloodsucking animal
nasty (adj) very bad, awful
bite (n) an injury where sth has bitten sb
avoid (v) stay away from
tracks (n) marks left in the ground by an animal, person or vehicle
trouble-free (adj) without problems
6. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 3 นักเรียนช่วยกันบอกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทอ่านเรื่อง Jungle Survival
Tips จากนน้ั นักเรยี นจับคู่กัน ผลัดกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ จะปฏิบัตติ ามคำแนะนำของผู้เขียนหรือไม่
เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรยี นหลาย ๆ คู่
I learned that brightly coloured insects are often poisonous and that
insects and snakes like to sleep in people’s clothes and boots. If I
am ever in the jungle, I will follow the writer’s advice.
7. หนงั สือเรยี น หนา้ 67 Ex. 4a นักเรยี นอา่ นกฎการใช้ should/shouldn’t แลว้ อา่ นตวั อยา่ งประโยค
ในกรอบตาม CD โดยเน้นการลงเสยี งสูง-ต่ำตามท่ีไดฟ้ งั จาก CD ครยู ำ้ ว่า modals รปู บอกเล่า และ
คำแสดงไวยากรณ์มกั จะไมไ่ ดร้ บั การลงเสยี งหนกั เช่น คำสรรพนาม คำบพุ บท คำนำหน้านาม
จากนั้นครูช่วยกันสรุปหลักการใช้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างเพิ่มเติม เสร็จแล้วครูให้นักเรียนหาตัวอย่าง
ประโยคของ should/shouldn’t ในบทอ่านเรื่อง Jungle Survival Tips ครูให้นักเรียนที่หาพบ
ออกมาเขยี นประโยคบนกระดาน แล้วช่วยกันอธบิ ายความหมายของแตล่ ะประโยค
… you shouldn’t swing from trees
… you shouldn’t sleep under dead trees…
You should keep to the forest floor.
You shouldn’t eat insects that are brightly coloured …
You should always check your boots and clothing for insects …
You should also check your boots during the day …
You should avoid swimming in rivers and lakes.
… you should always check for alligator tracks.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
8. หนงั สือเรียน หน้า 67 Ex. 4b นกั เรยี นอ่านประโยค 1-5 จากน้นั นำ should/shouldn’t มาเตมิ
ให้ถกู ตอ้ ง เมือ่ นกั เรียนทำเสรจ็ ครตู รวจคำตอบพร้อมกนั กบั นักเรียน นักเรยี นอา่ นประโยค 1-5
อีกคร้ังโดยเน้นการลงเสียงสงู -ตำ่ ใหถ้ กู ต้อง
1 shouldn’t 3 should 5 should
2 shouldn’t 4 should
9. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 5a นักเรียนอ่านประโยค/โครงสร้างที่ใช้ในการขอและให้คำแนะนำ
รวมทั้งการยอมรับและปฏิเสธคำแนะนำที่ให้มาในตาราง จากนั้นครูอธิบายว่า ในการให้คำแนะนำ
นอกจากจะใช้ should แล้ว ยังมีสำนวนอื่น ๆ ครูเขียนตัวอย่างบนกระดานและให้นักเรียนวิเคราะห์
โครงสร้างประโยค
You should tell him what you think.
Why don’t you tell him what you think?
How about telling him what you think?
The best thing you can do is to tell him what you think.
ครใู ห้นักเรยี นฝึกพูดแนะนำ โดยเปลี่ยนจาก should เปน็ สำนวนอืน่ เชน่
You should keep to the forest floor.
- Why don’t you keep to the forest floor?
- How about keeping to the forest floor?
- The best thing you can do is to keep to the forest floor.
ต่อมาครใู ห้นกั เรียนอ่านสถานการณ์ที่ให้มา แลว้ ชว่ ยกนั คดิ คำแนะนำในแตล่ ะสถานการณ์ร่วมกันก่อน
ครเู ขยี นวลที ีน่ ักเรยี นบอกบนกระดาน แล้วจงึ ให้นักเรยี น 1 คู่ ออกมาสนทนาในสถานการณ์แรกให้
เพอื่ น ๆ ดู เสร็จแลว้ จงึ ให้นักเรียนจบั คกู่ นั ฝกึ พูดแนะนำในแต่ละสถานการณ์
Situation 1
A: I want to lose weight. What should I do?
B: You should go on a diet. You shouldn’t eat junk food.
A: That’s a good idea. Thanks.
Situation 2
A: I want to buy a camera, but I haven’t got any money. What should I do?
B: Why don’t you get a part-time job to save up the money?
A: That’s a good idea. Thanks
Situation 3
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
A: I want to get fit, but I don’t really like sports. What should I do?
B: How about joining a gym?
A: Thanks for the advice, but that’s too expensive for me.
10. หนงั สือเรียน หน้า 67 Ex. 5b นักเรยี นทำงานคู่ ผลัดกันพูดใหค้ ำแนะนำเพื่อนเกย่ี วกับทำอย่างไร
จึงจะปลอดภัยเมื่ออยู่ในป่า โดยใช้ข้อมูลจากในบทอ่านเรื่อง Jungle Survival Tips และใช้
โครงสร้าง should/shouldn’t ครูให้เวลานักเรียนทำกิจกรรม เสร็จแล้วสุ่มเรียกนักเรียนออกมาพูด
แนะนำทีห่ นา้ ช้ัน
You shouldn’t swing from trees or sleep under dead trees.
You should keep to the forest floor.
You should check your boots and clothes for insects and snakes.
You should check for leeches every now and then too.
You should avoid swimming in rivers and lakes.
You should always check for alligator tracks near water.
11. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 5c นกั เรยี นแบง่ กลุม่ ช่วยกันรวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั วิธีการใช้อินเตอร์เน็ต
อย่างปลอดภัย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาเขียนใหม่ให้เป็นประโยคโดยใช้ should/shouldn’t แล้ว
นำเสนอข้อมูลเหล่านี้ในรูปแบบของโปสเตอร์ ครูแนะนำว่า นักเรียนสามารถค้นหาข้อมูลจาก
อินเทอร์เน็ต โดยใช้คำว่า Internet Safety เป็นคำสำคัญในการค้นหา เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว
ครมู อบหมายให้นักเรียนไปทำเป็นการบา้ น
You shouldn’t give out personal information on the Net.
You should always keep your username and password secret.
You should make sure that the sites you visit are suitable for kids.
You shouldn’t arrange to meet anyone from the Net in real life. …etc.
ขั้นสรุป
1. นักเรยี นสรุปความรูท้ ไี่ ดเ้ รยี นวันนี้ เช่น ถา้ นกั เรยี นจะไปเทยี่ วป่า นกั เรยี นจะทำอย่างไร
2. นักเรยี นชว่ ยสรุปสำนวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการขอและให้คำแนะนำ รวมทงั้ การตอบรับและปฏเิ สธ
3. แบบฝกึ หดั (Workbook) นักเรยี นทำ Exs.13-14 หนา้ 16
สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี น Upload 4 ม. 4
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
2. แบบฝึกหดั Upload 4 ม. 4 คดิ เป็นร้อยละ
3. Class Audio CD ประกอบส่อื ฯ ชดุ Upload 4 ม. 4
4. อุปกรณก์ ารทำโปสเตอร์
สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้
กลุ่มผู้เรียน ช่วงคะแนน จำนวน (คน)
ดี
ปานกลาง
ปรับปรงุ
ด้านทักษะ/กระบวนการ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กลุม่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรับปรงุ
ดา้ นคณุ ลกั ษะอันพึงประสงค์
กลุม่ ผู้เรียน ชว่ งระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คิดเป็นรอ้ ยละ
ดี 3
ปานกลาง 2
ปรบั ปรุง 0-1
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
บันทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ปัญหาทีพ่ บระหว่างหรอื หลังจัดกจิ กรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ลงชื่อ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดษิ ฐ)
............/........................../.............
การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวชีว้ ดั ของหลกั สตู รฯ
กิจกรรมการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ
มีการวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ มีความหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
ใชส้ อ่ื หรือแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมยั และส่งเสริมการเรยี นรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องตามจดุ เนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรยี น
สง่ เสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
สง่ เสริมเบญจวถิ ีกาญจนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเสน็ )
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
การตรวจสอบและความคดิ เห็นของหัวหน้ากลมุ่ บริหารวิชาการ
ถูกต้องตามรปู แบบของโรงเรียน
ผา่ นการนิเทศตรวจสอบจากหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ
ก่อนใช้สอน หลังใช้สอน
มบี นั ทกึ หลงั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพนั ธ์ เพง็ สวสั ดิ์)
หัวหน้ากล่มุ บรหิ ารวชิ าการ
ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )
รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
แบบประเมนิ การพูด
ความ ูถก ้ตองของ
เน้ือหา
การออกเ ีสยง
ความค ่ลองแค ่ลว
การแสดง ่ทาทาง
น้ำเ ีสยง
รปวระมกอบการพูด
ท่ี ชอื่ - นามสกลุ หมาย
เหตุ
1.
2. 8 8 8 4 28
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
เกณฑ์การประเมินการพูด
รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ตอ้ ง ใชค้ ำศพั ท์ส่อื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง ใช้คำศพั ท์สือ่ ใชค้ ำศพั ท์สือ่
ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ใช้คำศพั ทส์ ือ่ 2 8
กบั เนือ้ หาและ เน้อื หาและ เนอ้ื หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น 4
กับเน้อื หาและ
ไวยากรณ์ไม่
ถูกต้องเป็นส่วน
ใหญ่
การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ 2
เสยี ง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ ื่อสารไม่ได้
การแสดง เสียงเน้นหนักคำ/ เสยี งเนน้ หนกั คำ/ เสยี ง แตส่ ่วนใหญ่
ท่าทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสียง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก
พูดต่อเนื่อง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบา้ ง พดู เปน็ คำๆ หยุด พดู ไดบ้ างคำ ทำ 2
ใหส้ ่ือความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชัดเจน แตย่ ังพอส่ือสารได้ เปน็ ช่วงๆ ทำให้ ไม่ได้
พูดได้น้อยมาก
ทำใหส้ ่ือสารได้ดี สือ่ สารได้ไมช่ ัดเจน
แสดงท่าทางและ พูดดว้ ยนำ้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ไม่
พูดดว้ ยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เปน็ ธรรมชาติ ขาด
เหมาะสมกบั สถานการณ์แต่ไม่มี ความนา่ สนใจ
สถานการณ์ ท่าทางประกอบ
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 14
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แบบประเมนิ ช้ินงาน
รูปแบบ ิ้ชนงาน
การใ ้ชภาษา
เน้ือหา
รวม
ที่ ชื่อ - นามสกุล หมายเหตุ
8 8 8 24
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน
รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนัก คะแนน
ความสำคัญ รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 8
2
รปู แบบ - รปู แบบช้นิ งาน - รูปแบบช้นิ งาน - รูปแบบ - รปู แบบ 8
2 8
ชนิ้ งาน ถกู ต้องตามท่ี ถกู ต้องตามท่ี ชน้ิ งานถูกต้อง ชน้ิ งานไมต่ รง 2
กำหนด กำหนด ตามทก่ี ำหนด ตามทก่ี ำหนด
- รูปแบบแปลก - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพ - รูปภาพไม่
ใหม่ นา่ สนใจ - รูปภาพมสี สี นั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธ์กบั
- มีขนาดเหมาะสม สวยงาม เนือ้ หา เนือ้ หา
- รปู ภาพมสี สี นั - รปู ภาพสัมพนั ธ์กบั
สวยงาม เนอ้ื หา
- รูปภาพสัมพนั ธ์
กับเนอื้ หา
การใชภ้ าษา ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ
ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์มีความ ไวยากรณผ์ ดิ ไวยากรณผ์ ิด
ถูกต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง เปน็ สว่ น เล็กน้อย เป็นจำนวนมาก
อา่ นเขา้ ใจงา่ ย ใหญ่ อา่ นเข้าใจงา่ ย อา่ นเขา้ ใจยาก
เน้ือหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบายเนื้อหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย
เน้ือหาได้ตรง ไดค้ ่อนข้างตรง เนือ้ หาได้พอ เน้อื หาไมค่ รบ
ประเดน็ และ ประเด็นและ เข้าใจ และไมต่ รง
ครบถ้วน ครบถ้วน ประเด็น
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ 12
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ช่วั โมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วัน............... เดอื น...................... พ.ศ. .........
ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมและช้นิ งาน
ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน
123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
รายวชิ าภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า 31102 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 Places เวลา 40 ชั่วโมง
เรื่อง Save the Earth เวลา 2 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวธีรดา ไชยบรรดษิ ฐ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย สรุ าษฎร์ธานี
แนวคดิ สำคัญ
การรู้และเข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับอุบัติเหตุต่าง ๆ และวิธีการเอาตัวรอดในป่า การใช้
should/shouldn’t ช่วยให้ระบุหัวข้อจากเรื่องที่อ่าน พูดและเขียนให้คำแนะนำ อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานในการ
ค้นคว้าหาข้อมลู ทเี่ กยี่ วข้องกับกล่มุ สาระวชิ าอ่ืนได้
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คิดเห็นอย่างมเี หตุผล
ม.4-6/4 จบั ใจความสำคญั วิเคราะหค์ วาม สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคิดเหน็ จากการฟังและ
อ่านเรื่องที่เปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทง้ั ให้เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และความคิดเห็นอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ม.4-6/2 เลือกและใชค้ ำขอร้อง ใหค้ ำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธิบาย อยา่ งคลอ่ งแคล่ว
สาระที่ ๓ ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น และเปน็
พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน
ม.4-6/1 ค้นคว้า/สืบคน้ บนั ทึก สรปุ และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ข้อมลู ที่เก่ียวข้องกบั กลุ่มสาระ
การเรียนรูอ้ น่ื จากแหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
จุดประสงค์การเรียนรู้
- นักเรียนสามารถฟงั และอา่ นเพือ่ หาข้อมลู เฉพาะได้
- นกั เรียนสามารถพูดให้คำเสนอแนะได้
- นักเรียนสามารถเขยี น email เพอื่ ให้คำเสนอแนะเกีย่ วกับการอนรุ กั ษ์สิ่งแวดล้อมได้
สาระการเรยี นรู้
1) Language Features and Functions
Vocabulary: accidents (poison yourself, burn yourself, bang your head, twist
your ankle, get sunburned, cut yourself, get a nasty bite, drown);
verbs (remember, swing, fall on, keep to, poison, avoid); nouns
(jungle, survival tips, branch, forest floor, worm, insect, ant,
warning, leech, bite, tracks); adjectives (exciting, injured, hairy,
toxic, nasty, trouble-free); phrase (go trekking, wildlife experience,
stay safe); phrasal verb (put on)
Pronunciation: -
Grammar: should/shouldn’t
Functions: giving advice
2) Language Skills -
Listening: พูดให้คำแนะนำ
Speaking: อา่ นเพื่อระบหุ ัวขอ้
Reading: เขยี นคำแนะนำเกี่ยวกบั ความปลอดภัยในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็
Writing:
3) Culture: -
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
2. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ 7. รกั ความเป็นไทย
3. มวี นิ ยั 8. มจี ิตสาธารณะ
4. ใฝเ่ รยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
เบญจวิถีกาญจนา
1. เทิดทูนสถาบนั 4. มีวนิ ยั
2. กตญั ญู 5. ให้เกยี รติ
3. บคุ ลิกดี
สมรรถนะท่สี ำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
จุดเน้นส่กู ารพัฒนาผู้เรยี น
ความสามารถและทกั ษะที่จำเปน็ ในการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
R1– Reading (อ่านออก)
R2– (W)Riting (เขยี นได้)
R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและ
ทักษะในการแกป้ ัญหา)
C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน)์
C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศและรเู้ ทา่ ทันสื่อ)
C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การสื่อสาร)
C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)
C8 - Compassion (ความมเี มตตากรุณา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม)
L1 - Learning (ทักษะการเรียนรู้)
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผู้นำ)
การวัดและประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งาน วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑท์ ่ใี ช้
รอ้ ยละ 60
แบบฝกึ หดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนังสอื เรียน หนา้ 66
การอา่ น Exs.2b-2c,
แบบทดสอบ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑท์ ี่ใช้
แบบประเมินการพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
การพูดให้ ประเมนิ การพดู ให้
แบบประเมินชิน้ งาน ระดับคุณภาพ พอใช้
คำแนะนำใน คำแนะนำในสถานการณ์
สถานการณ์ ทก่ี ำหนด
ที่กำหนด
ช้นิ งานโปสเตอร์ ประเมินชนิ้ งานโปสเตอร์
เกีย่ วกับวธิ ีการใช้ เกยี่ วกบั วิธกี ารใช้
อนิ เทอรเ์ น็ตอย่าง อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั
ปลอดภัย
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ภาระงาน/ช้นิ งาน วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์ทใ่ี ช้
ระดบั คุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหวา่ ง สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชี้ด้านใฝ่ แบบประเมิน
เรยี น เรียนรแู้ ละมุ่งม่ันในการ คณุ ลักษณะ
ทำงาน อันพึงประสงค์
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชก้ ระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมส์
ขนั้ นำ
ครูถามคำถาม เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน
Do you like going camping?
What do you do when you go camping? (build campfire, watch the wildlife, go trekking, cook etc)
What do you bring when you go camping? (sleeping bag, sunscreen, hat, hiking boots/sneakers,
flashlight, rucksack)
ขั้นสอน
3. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 1 นักเรียนดูภาพแต่ละภาพที่ให้มาและอธิบายว่าแต่ละภาพเกิดอะไรข้ึน
จากนั้นครเู ปดิ CD ให้นักเรียนฟงั และฝึกออกเสียงตาม 2-3 ครง้ั ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนอา่ นออกเสียง
ทีละคน เสร็จแล้วนักเรยี นช่วยกันอธบิ ายความหมายของแต่ละวลี โดยครูช่วยอธบิ ายความหมายของ
คำศัพทย์ าก เช่น
poison (v) ทำใหถ้ ูกพษิ
burn (v) โดนไฟหรือความรอ้ นจนบาดเจ็บ
bang (v) กระแทกหรอื ชน
twist (v) ทำให้เคลด็ ขัดยอก หรอื บาดเจบ็
sunburned (adj) ไหมจ้ ากแสงแดด
cut (v) ทำใหถ้ กู บาด
nasty (adj) รา้ ยแรง (= severe, very painful)
drown (v) จมนำ้
4. หนังสือเรยี น หนา้ 66 Ex. 2a นกั เรียนดภู าพประกอบบทอา่ นในหน้า 66-67 จากนัน้ ครเู ปิด CD
ใหน้ กั เรยี นหลบั ตาและฟังเสยี ง แล้วจนิ ตนาการตามเสียงที่ไดฟ้ งั วา่ อยูท่ ่ีใด เหน็ ได้ยนิ ได้กลน่ิ และ
สมั ผัสอะไรไดบ้ ้าง และนักเรยี นร้สู กึ อย่างไร
I am in the jungle. I can see tall trees and large plants with huge leaves. I
can hear birds and wild animals. I can smell the damp moist earth of the
forest floor. The air is hot and I can feel it on my skin. I can touch the
leaves. I feel a bit scared.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
3. หนังสือเรียน หนา้ 66 Ex. 2b ครูเขยี น Jungle Survival บนกระดาน นักเรยี นช่วยกนั บอก
ความหมาย แลว้ ครสู รุปความหมายท่ถี ูกตอ้ ง (being safe in the jungle) จากน้นั ครถู ามคำถาม
ต่อไปนี้
What do you know about jungle survival?
What else would you like to know about it?
นักเรียนช่วยกันคดิ คำถามเพ่มิ เตมิ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั หัวข้อ Jungle Survival คนละ 2 คำถาม จากน้นั ครู
เปิด CD ให้นักเรยี นฟงั พร้อมกบั อ่านบทอ่านเร่ือง Jungle Survival Tips ตามไปด้วย เพอื่ ตรวจวา่
มีคำตอบของคำถามท่ีคิดไวห้ รอื ไม่
I know it is very difficult to survive in the jungle without food, water and
shelter.
What dangerous animals should I watch out for? (insects & snakes in your
clothes and boots, leeches, alligators)
What insects are safe to eat? (insects that are not brightly coloured or
hairy, worms)
5. หนังสอื เรียน หนา้ 66 Ex. 2c นกั เรยี นฝกึ อ่านเพ่ือจับใจความสำคญั โดยใชว้ ธิ ีการทค่ี รูเคยแนะนำไป
แลว้ ครูอาจใหน้ ักเรียนทบทวนวธิ กี ารร่วมกนั ก่อน
จากน้ันครูชว่ ยอธบิ ายคำศัพท์ยาก
beware (of) (v) ระมัดระวัง
watch (out) for (phr v) ระมดั ระวงั
stay out (of) (phr v) อยูใ่ ห้ห่างจาก
treatment (n) รักษา
ครอู าจชว่ ยอธบิ ายคำศพั ทย์ ากในบทอ่านด้วย เช่น
injured (adj) ท่มี อี าการบาดเจ็บ
leech (n) ทาก
tracks (n) รอยเท้าบนพนื้ ดิน
ครใู หเ้ วลานกั เรียนสน้ั ๆ จบั คยู่ อ่ หนา้ กบั หวั ข้อท่ีมามา เสร็จแลว้ ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรยี น และ
เฉลยคำตอบพร้อมกัน
1 E 2A 3D 4B
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
5. หนังสือเรยี น หนา้ 66 กรอบ Check these words นกั เรยี นอา่ นคำศัพท์ในกรอบ แล้วช่วยกันบอก
ความหมาย ครอู าจชว่ ยบอกความหมายของศพั ท์บางคำ แลว้ นกั เรยี นทายว่าเปน็ ศัพท์คำใด เช่น thick
forest in a tropical country = jungle เป็นต้น จากนัน้ ครูเขยี นความหมายของคำศัพท์บนกระดาน
แลว้ นักเรียนบันทึกลงในสมุด
go trekking (phr) go on a journey through a difficult area on foot
wildlife experience (phr) seeing, hearing and touching animals and plants in their
natural habitat
exciting (adj) great, thrilling
jungle (n) thick forest in a tropical country
survival tips (n pl) pieces of advice to help you live through an experience
stay safe (phr) protect yourself from danger
remember (v) not forget
swing (v) sway, move backwards and forwards from a certain point
branch (n) an arm of a tree
injured (adj) hurt
fall on (v) drop down on top of sb/sth
keep to (v) stay on
forest floor (n) the ground in the forest
worm (n) long, thin animal with no legs and no bones that usually
lives in the ground
insect (n) small animal with six legs or more and sometimes
wings such as flies, beetles etc.
ant (n) small insect that crawls and lives in groups
warning (n) notice of danger
hairy (adj) covered in hair
toxic (adj) poisonous
poison (v) make ill or kill by giving sb a harmful substance
put on (phr v) wear
leech (n) small bloodsucking animal
nasty (adj) very bad, awful
bite (n) an injury where sth has bitten sb
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
avoid (v) stay away from
tracks (n) marks left in the ground by an animal, person or vehicle
trouble-free (adj) without problems
6. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 3 นักเรียนช่วยกันบอกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทอ่านเรื่อง Jungle Survival
Tips จากน้ันนกั เรยี นจับค่กู นั ผลัดกันแสดงความคดิ เหน็ วา่ จะปฏิบัติตามคำแนะนำของผเู้ ขียนหรือไม่
เสรจ็ แลว้ ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรยี นหลาย ๆ คู่
I learned that brightly coloured insects are often poisonous and that
insects and snakes like to sleep in people’s clothes and boots. If I
am ever in the jungle, I will follow the writer’s advice.
7. หนงั สือเรยี น หนา้ 67 Ex. 4a นกั เรียนอ่านกฎการใช้ should/shouldn’t แล้วอา่ นตัวอย่างประโยค
ในกรอบตาม CD โดยเน้นการลงเสยี งสูง-ตำ่ ตามท่ีไดฟ้ งั จาก CD ครูยำ้ วา่ modals รูปบอกเล่า และ
คำแสดงไวยากรณ์มักจะไมไ่ ดร้ ับการลงเสียงหนกั เช่น คำสรรพนาม คำบพุ บท คำนำหน้านาม
จากนั้นครูช่วยกันสรุปหลักการใช้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างเพิ่มเติม เสร็จแล้วครูให้นักเรียนหาตัวอย่าง
ประโยคของ should/shouldn’t ในบทอ่านเรื่อง Jungle Survival Tips ครูให้นักเรียนที่หาพบ
ออกมาเขียนประโยคบนกระดาน แล้วชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของแตล่ ะประโยค
… you shouldn’t swing from trees
… you shouldn’t sleep under dead trees…
You should keep to the forest floor.
You shouldn’t eat insects that are brightly coloured …
You should always check your boots and clothing for insects …
You should also check your boots during the day …
You should avoid swimming in rivers and lakes.
… you should always check for alligator tracks.
8. หนังสือเรียน หนา้ 67 Ex. 4b นักเรยี นอ่านประโยค 1-5 จากนนั้ นำ should/shouldn’t มาเตมิ
ใหถ้ ูกต้อง เมอื่ นักเรียนทำเสร็จ ครตู รวจคำตอบพรอ้ มกนั กบั นักเรยี น นักเรียนอ่านประโยค 1-5
อกี ครั้งโดยเนน้ การลงเสียงสงู -ตำ่ ให้ถูกต้อง
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
1 shouldn’t 3 should 5 should
2 shouldn’t 4 should
9. หนังสือเรียน หน้า 67 Ex. 5a นักเรียนอ่านประโยค/โครงสร้างที่ใช้ในการขอและให้คำแนะนำ
รวมทั้งการยอมรับและปฏิเสธคำแนะนำที่ให้มาในตาราง จากนั้นครูอธิบายว่า ในการให้คำแนะนำ
นอกจากจะใช้ should แล้ว ยังมีสำนวนอื่น ๆ ครูเขียนตัวอย่างบนกระดานและให้นักเรียนวิเคราะห์
โครงสร้างประโยค
You should tell him what you think.
Why don’t you tell him what you think?
How about telling him what you think?
The best thing you can do is to tell him what you think.
ครใู ห้นักเรยี นฝึกพดู แนะนำ โดยเปลย่ี นจาก should เป็นสำนวนอ่นื เชน่
You should keep to the forest floor.
- Why don’t you keep to the forest floor?
- How about keeping to the forest floor?
- The best thing you can do is to keep to the forest floor.
ตอ่ มาครใู ห้นักเรียนอ่านสถานการณ์ท่ีใหม้ า แล้วช่วยกันคิดคำแนะนำในแตล่ ะสถานการณ์รว่ มกนั ก่อน
ครเู ขยี นวลีทีน่ ักเรียนบอกบนกระดาน แล้วจึงให้นักเรียน 1 คู่ ออกมาสนทนาในสถานการณ์แรกให้
เพื่อน ๆ ดู เสร็จแล้วจึงใหน้ ักเรยี นจับค่กู นั ฝึกพูดแนะนำในแต่ละสถานการณ์
Situation 1
A: I want to lose weight. What should I do?
B: You should go on a diet. You shouldn’t eat junk food.
A: That’s a good idea. Thanks.
Situation 2
A: I want to buy a camera, but I haven’t got any money. What should I do?
B: Why don’t you get a part-time job to save up the money?
A: That’s a good idea. Thanks
Situation 3
A: I want to get fit, but I don’t really like sports. What should I do?
B: How about joining a gym?
A: Thanks for the advice, but that’s too expensive for me.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
10. หนงั สอื เรยี น หน้า 67 Ex. 5b นักเรียนทำงานคู่ ผลดั กันพูดใหค้ ำแนะนำเพ่อื นเก่ียวกับทำอย่างไร
จึงจะปลอดภัยเมื่ออยู่ในป่า โดยใช้ข้อมูลจากในบทอ่านเรื่อง Jungle Survival Tips และใช้
โครงสร้าง should/shouldn’t ครูให้เวลานักเรียนทำกิจกรรม เสร็จแล้วสุ่มเรียกนักเรียนออกมาพูด
แนะนำทห่ี นา้ ช้นั
You shouldn’t swing from trees or sleep under dead trees.
You should keep to the forest floor.
You should check your boots and clothes for insects and snakes.
You should check for leeches every now and then too.
You should avoid swimming in rivers and lakes.
You should always check for alligator tracks near water.
11. หนงั สือเรียน หน้า 67 Ex. 5c นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ช่วยกนั รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั วธิ ีการใช้อินเตอร์เน็ต
อย่างปลอดภัย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาเขียนใหม่ให้เป็นประโยคโดยใช้ should/shouldn’t แล้ว
นำเสนอข้อมูลเหล่านี้ในรูปแบบของโปสเตอร์ ครูแนะนำว่า นักเรียนสามารถค้นหาข้อมูลจาก
อินเทอร์เน็ต โดยใช้คำว่า Internet Safety เป็นคำสำคัญในการค้นหา เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว
ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปทำเป็นการบา้ น
You shouldn’t give out personal information on the Net.
You should always keep your username and password secret.
You should make sure that the sites you visit are suitable for kids.
You shouldn’t arrange to meet anyone from the Net in real life. …etc.
ขนั้ สรุป
4. นกั เรยี นสรปุ ความรู้ท่ีไดเ้ รียนวนั น้ี เชน่ ถา้ นักเรียนจะไปเทย่ี วป่า นักเรยี นจะทำอย่างไร
5. นกั เรียนชว่ ยสรปุ สำนวนภาษาท่ีใช้ในการขอและให้คำแนะนำ รวมทงั้ การตอบรบั และปฏเิ สธ
6. แบบฝึกหดั (Workbook) นักเรยี นทำ Exs.13-14 หน้า 16
สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น Upload 4 ม. 4
2. แบบฝึกหดั Upload 4 ม. 4
3. Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชดุ Upload 4 ม. 4
4. อุปกรณ์การทำโปสเตอร์
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
ด้านความรู้
กลุ่มผ้เู รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ชว่ งคะแนน จำนวน (คน) คดิ เปน็ ร้อยละ
กลมุ่ ผเู้ รยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง
ดา้ นคุณลกั ษะอันพึงประสงค์
กลมุ่ ผเู้ รยี น ช่วงระดับคณุ ภาพ จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
ดี 3
ปานกลาง 2
ปรับปรงุ 0-1
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………...………..…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ปัญหาทพี่ บระหวา่ งหรอื หลังจดั กิจกรรม
…………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………….....…………………………
ลงชื่อ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธีรดา ไชยบรรดิษฐ)
............/........................../.............
การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั ของหลกั สตู รฯ
กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ
มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
ใชส้ อ่ื หรือแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องตามจุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และจุดเน้นของโรงเรียน
สง่ เสริมทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls
สง่ เสรมิ เบญจวถิ ีกาญจนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ..............................................................
(นายคเชนทร์ สายเส็น)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ
ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน
ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ
กอ่ นใชส้ อน หลงั ใชส้ อน
มบี นั ทกึ หลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวัสด์ิ)
หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารวิชาการ
ความคดิ เห็นของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ....................................................................
(นางสาวชณิดาภา เวชกลุ )
รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
แบบประเมินการพูด
ที่ ช่ือ - นามสกุล ความ ูถกต้องของ หมายเหตุ
เนื้อหา 28
1.
2. การออกเ ีสยง
3. ความค ่ลองแค ่ลว
4. การแสดง ่ทาทาง
5.
6. น้ำเ ีสยง
7. ประกอบการพูด
8.
9. รวม
10.
11. 8 88 4
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาอังกฤษ
เกณฑ์การประเมินการพูด
รายการ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ดีมาก (4) รวม
ความถกู ตอ้ ง ใชค้ ำศพั ท์ส่อื ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ความสำคญั 8
ของเนื้อหา ความหมายตรง
ใช้คำศพั ท์สือ่ ใชค้ ำศพั ท์สือ่ ใช้คำศพั ทส์ ือ่ 2 8
กบั เนือ้ หาและ
ไวยากรณ์ถกู ต้อง ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ความหมายไมต่ รง 8
ทกุ ประโยค 4
เน้อื หาและ เนอ้ื หาและ กับเน้อื หาและ
ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ถูกต้อง ไวยากรณ์ไม่
เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น ถูกต้องเป็นส่วน
ใหญ่
การออก ออกเสียงคำศัพท์ ออกเสียงคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศพั ท์ ออกเสยี งคำศัพท์ 2
เสยี ง
ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคได้ถกู ต้อง ประโยคได้ถูกต้อง ประโยคไม่ถูกต้อง
ความ
คล่องแคลว่ ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ตามหลกั การออก ทำใหส้ ื่อสารไม่ได้
การแสดง เสียงเน้นหนักคำ/ เสยี งเนน้ หนกั คำ/ เสยี ง แตส่ ่วนใหญ่
ท่าทาง
น้ำเสยี ง ประโยคได้ ประโยคเป็นส่วน ขาดการออกเสียง
ประกอบ
การพูด สมบรู ณ์ ใหญ่ เน้นหนัก
พูดต่อเนื่อง ไม่ พดู ตะกกุ ตะกักบา้ ง พดู เปน็ คำๆ หยุด พดู ไดบ้ างคำ ทำ 2
ใหส้ ่ือความหมาย 1
ตดิ ขัด พดู ชัดเจน แตย่ ังพอส่ือสารได้ เปน็ ช่วงๆ ทำให้ ไม่ได้
พูดได้น้อยมาก
ทำใหส้ ่ือสารได้ดี สือ่ สารได้ไมช่ ัดเจน
แสดงท่าทางและ พูดดว้ ยนำ้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ไม่
พูดดว้ ยนำ้ เสียง เหมาะสมกบั เปน็ ธรรมชาติ ขาด
เหมาะสมกบั สถานการณ์แต่ไม่มี ความนา่ สนใจ
สถานการณ์ ท่าทางประกอบ
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 14
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แบบประเมนิ ช้ินงาน
รูปแบบ ิ้ชนงาน
การใ ้ชภาษา
เน้ือหา
รวม
ที่ ชื่อ - นามสกุล หมายเหตุ
8 8 8 24
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน
รายการ ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนัก คะแนน
ความสำคัญ รวม
การประเมิน ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 8
2
รปู แบบ - รปู แบบช้นิ งาน - รูปแบบช้นิ งาน - รูปแบบ - รปู แบบ 8
2 8
ชนิ้ งาน ถกู ต้องตามท่ี ถกู ต้องตามท่ี ชน้ิ งานถูกต้อง ชน้ิ งานไมต่ รง 2
กำหนด กำหนด ตามทก่ี ำหนด ตามทก่ี ำหนด
- รูปแบบแปลก - มขี นาดเหมาะสม - รปู ภาพ - รูปภาพไม่
ใหม่ นา่ สนใจ - รูปภาพมสี สี นั สมั พนั ธก์ บั สมั พนั ธ์กบั
- มีขนาดเหมาะสม สวยงาม เนือ้ หา เนือ้ หา
- รปู ภาพมสี สี นั - รปู ภาพสัมพนั ธ์กบั
สวยงาม เนอ้ื หา
- รูปภาพสัมพนั ธ์
กับเนอื้ หา
การใชภ้ าษา ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ
ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์มีความ ไวยากรณผ์ ดิ ไวยากรณผ์ ิด
ถูกต้องสมบูรณ์ ถกู ต้อง เปน็ สว่ น เล็กน้อย เป็นจำนวนมาก
อา่ นเขา้ ใจงา่ ย ใหญ่ อา่ นเข้าใจงา่ ย อา่ นเขา้ ใจยาก
เน้ือหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบายเนื้อหา เขียนอธิบาย เขยี นอธิบาย
เน้ือหาได้ตรง ไดค้ ่อนข้างตรง เนือ้ หาได้พอ เน้อื หาไมค่ รบ
ประเดน็ และ ประเด็นและ เข้าใจ และไมต่ รง
ครบถ้วน ครบถ้วน ประเด็น
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
20-24 ดมี าก
16-19 ดี
12-15 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ต่ำกวา่ 12
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้
หน่วยการจดั การเรียนรทู้ .่ี ....... จำนวน …. ชว่ั โมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงท่.ี ......... วัน............... เดอื น...................... พ.ศ. .........
ประเมินจากการสงั เกตพฤติกรรมและชนิ้ งาน
ท่ี ชอ่ื -สกุล รวม
คะแนน
123123123123
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
ข้อสังเกตอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คุณภาพ
3 คะแนน = ปฏิบตั ิสมำ่ เสมอ 9-12 คะแนน = ดี
2 คะแนน = ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 5-8 คะแนน = พอใช้
1 คะแนน = ปฏิบัตินอ้ ยคร้งั 1-4 คะแนน = ปรบั ปรุ
แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาองั กฤษ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8
รายวิชาภาษาองั กฤษ รหัสวิชา 31102 ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 Places เวลา 40 ช่ัวโมง
เรื่อง Eco-tourism เวลา 2 ชั่วโมง
ผูส้ อน นางสาวธรี ดา ไชยบรรดษิ ฐ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวทิ ยาลัย สุราษฎร์ธานี
แนวคิดสำคญั
การรูแ้ ละเข้าใจคำศัพท์เก่ยี วกับการท่องเท่ยี วเชิงนิเวศ การใช้ be going to ช่วยใหเ้ ขา้ ใจเร่อื งที่อา่ น
และสนทนาเก่ียวกบั แผนการหรอื สิง่ ทต่ี ั้งใจจะทำได้
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ
คิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล
ม.4-6/4 จับใจความสำคญั วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตคี วาม และแสดงความคิดเห็นจากการฟังและ
อ่านเรือ่ งทเ่ี ปน็ สารคดีและบนั เทงิ คดี พร้อมทง้ั ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์
สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเดน็ ที่อย่ใู นความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ม.4-6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลอง ท่เี กิดขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน
และสังคม
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- นกั เรยี นสามารถอ่านเพอื่ หาข้อมลู เฉพาะได้
- นกั เรยี นสามารถสนทนาเกย่ี วกบั สง่ิ ทตี่ ้ังใจจะทำได้
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
สาระการเรียนรู้
1) Language Features and Functions
Vocabulary: eco-tourism activities (see sea turtles hatch from their eggs,
scuba dive along coral reefs, go whale watching, stay in
bungalows, go sea kayaking)
Pronunciation: -
Grammar: be going to
Functions: talking about weekend plans
2) Language Skills
Listening: -
Speaking: สนทนาเกีย่ วกบั ส่งิ ท่ตี ง้ั ใจจะทำ
Reading: อา่ นบทสนทนาเพื่อระบุขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขียนเกยี่ วกับแผนการในวันหยุดสุดสัปดาห์
3) Culture: New Year’s resolution
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
2. ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
3. มีวนิ ยั 7. รกั ความเป็นไทย
4. ใฝ่เรียนรู้ 8. มีจติ สาธารณะ
เบญจวิถีกาญจนา
1. เทดิ ทนู สถาบนั 4. มีวนิ ยั
2. กตญั ญู 5. ใหเ้ กียรติ
3. บุคลกิ ดี
สมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทักษะที่จำเปน็ ในการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
R1– Reading (อ่านออก)
R2– (W)Riting (เขยี นได้)
R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)
C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน์)
C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผนู้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร
สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ)
C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)
C8 - Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)
L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู้
L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผ้นู ำ)
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
การวดั และประเมินผล
ด้านความรู้
ภาระงาน/ชนิ้ งาน วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑท์ ี่ใช้
ร้อยละ 60
แบบฝึกหดั ตรวจการตอบคำถามจาก หนงั สอื เรยี น หน้า 71
Ex. 2,
การอ่าน แบบทดสอบ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
ภาระงาน/ชนิ้ งาน วธิ กี ารวัด เครื่องมอื เกณฑ์ท่ีใช้
การสนทนา ประเมนิ การสนทนา แบบประเมนิ การพูด ระดับคุณภาพ พอใช้
เก่ยี วกับสงิ่ ทต่ี ง้ั ใจ เก่ยี วกบั สง่ิ ทต่ี ัง้ ใจจะทำ
จะทำ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ภาระงาน/ชนิ้ งาน วิธีการวัด เคร่อื งมือ เกณฑท์ ่ีใช้
ระดับคุณภาพ ผ่าน
พฤติกรรมระหว่าง สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ชีด้ า้ นใฝ่ แบบประเมนิ
เรียน เรียนรแู้ ละมุ่งม่ันในการ คณุ ลักษณะ
ทำงาน อนั พงึ ประสงค์
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาอังกฤษ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้เกมส์
ชั่วโมงท่ี 1
ขนั้ นำ
1. ครูถามคำถามเกย่ี วกับตัวนักเรยี นเองเพ่ือนำเขา้ ส่บู ทเรยี น
- What activities do you often do at the weekend?
- Where do you usually go for relaxing yourself at the weekend?
2. ครอู ธบิ ายความหมายของคำว่า eco-tourism ดงั นี้
eco-tourism (n) the business of organising holidays to places of natural beauty
in a way that helps local people and does not damage the environment (การ
ท่องเท่ียวเชิงนิเวศ)
จากนน้ั ครอู ธบิ ายวา่ eco- เป็น prefix มีความหมายวา่ relating to the environment เชน่
eco-warriors (n) people who try to stop damage to the environment
eco-friendly (adj) not harmful to the environment
ขัน้ สอน
1. หนังสือเรียน หน้า 70 Ex. 1 นักเรียนดูภาพ A-D และช่วยกันบอกว่า แต่ละภาพคือภาพอะไร
โดยอธิบายเป็นภาษาไทยได้ จากนั้นนักเรียนอ่านข้อความ 1-5 ครูถามคำศัพท์ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบ
ความเข้าใจของนักเรียน และอธบิ ายคำศพั ท์บางคำทนี่ กั เรียนไมร่ ู้ เชน่
hatch (v) ออกจากไข่
coral reef (n) แนวปะการงั
จากนั้นนักเรียนจับคู่ข้อความกับรูปภาพ A-D เมื่อทำเสร็จแล้ว ครูตรวจคำตอบพร้อมกันกับนักเรียน
แล้วเปิด CD ให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสยี งข้อความ โดยครูหยดุ CD เป็นระยะเพื่อให้นักเรียนออกเสียง
ตามทีละขอ้ ความ เสรจ็ แล้วครสู ่มุ เรียกนักเรียนอา่ นทลี ะคน
1B 2D 3A 4E 5C
2. หนังสือเรียน หน้า 70 Ex. 2a ครูอธิบายว่า บทสนทนาที่นักเรียนจะได้อ่านเป็นบทสนทนาทาง
โทรศัพท์ระหว่าง Jason กับ Simon ซึ่งเป็นเพื่อนกัน จากนั้นนักเรียนอ่านบทสนทนา 4 บรรทัดแรก
แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี
Where’s Jason? (Jason is in Barbados.)
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาองั กฤษ
Which of the activities (1-5) do you think he is going to do? (I think he is going
to stay in a bungalow, scuba dive and watch sea turtles hatch.)
ครูอธิบายว่า be going to + base form ใช้บอกเล่าถึงสิ่งที่ตั้งใจจะทำ เมื่อหมดเวลาที่กำหนด
ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนมาเขียนบนกระดาน แล้วให้นักเรียนตรวจคำตอบของตนเองจากการ
ฟงั บทสนทนาพร้อมกบั อ่านบทสนทนาตามไปด้วย
Barbados ตัง้ อยู่ทางตอนเหนอื ของมหาสมุทรแอตแลนตกิ ซ่ึงอยูท่ างตะวันออกเฉยี งเหนือ
ของประเทศเวเนซุเอลา มเี มอื งหลวง คือ Bridgetown และมภี าษาองั กฤษเป็นภาษา
ราชการ ประชากรมีท้ังหมดประมาณ 3000,000 คน
3. หนงั สอื เรยี น หนา้ 70 Ex. 2b ครูอธบิ ายคำศพั ท์สำคญั ก่อนการอ่าน เช่น
patrol (v) เดินตรวจตรา
cool (adj) (informal) เย่ยี ม, สุดยอด
จากนั้นครูอธิบายว่า ให้นักเรียนฝึกอ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ โดยครูให้นักเรียนสังเกตคำหรือวลีใน
คำถามที่ให้มา แล้วย้อนไปดูบทสนทนาอีกครั้ง แล้วอ่านแบบกวาดสายตา หรือ scan เพื่อดูว่าคำถาม
ที่ถามนั้นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องส่วนใดในบทสนทนา โดยดูจากคำหรือวลีที่ให้มาในคำถาม เมื่อพบแล้วให้
อ่านเฉพาะประโยคหรือข้อความที่คำถามนั้นพาดพิงไปถึงหรืออาจจะอ่านข้อความแวดล้อมประมาณ
1-2 ประโยคก่อนหน้าหรือถัดไปที่มขี ้อมูลพาดพิงไปถึง เมื่อเข้าใจแล้วจงึ ตอบคำถามทีใ่ ห้มา เมื่อหมด
เวลาที่กำหนด ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรยี นและเฉลยคำตอบพร้อมกัน
1 Jason 2 Jason & Jenny 3 Jenny 4 Jason & Jenny
4. ครถู ามคำถามนกั เรียน ดงั นี้
- What kind of holiday do Jason and Jenny are going? (An eco-friendly
holiday.)
- What is eco-friendly holiday? (Responsible travel to natural areas that
conserves the environment and improves the well-being of local people.)
- Have you ever been on eco-friendly holiday? Do you like it?
- How do you think about eco-friendly holiday? And would you like to have
travel experience like Jason? Why or Why not?