The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nphy_azg, 2022-07-20 12:01:01

หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช 2565

หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช 2565

Keywords: หลักสูตรกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช 2565

หลกั สตู รสถานศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐)

กลุ่มสาระการเรยี นรู้

วทิ ยาศและาเทสคโนตโลรยี ์

โรงเรยี นบา้ นวาวี

สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งราย เขต ๒
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

1

ประกาศโรงเรยี นบ้านวาวี

เรือ่ ง ใหใ้ ช้หลกั สูตรโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศกั ราช ๒๕๖๕

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)

__________________________________

เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม

วัฒนธรรมสภาพแวดล้อม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

เป็นการพัฒนาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคนของชาติให้สามารถเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของ

ประเทศ การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากล สอดคล้อง

กับประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการ

แข่งขันและดำรงชีวติ อย่างสรา้ งสรรค์ในประชาคมโลก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โรงเรียนบ้านวาวีได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช

๒๕๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐)

เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการบริหารจัดการเวลาเรียน และปรับ

มาตรฐานและตัวชี้วัดสอดคล้องกับคำสั่ง สพฐ. ที่ ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐

ประกาศ สพฐ. ลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ คำสั่ง สพฐ. ที่ ๙๒๑/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม

๒๕๖๑ และคำสั่ง สพฐ.ที่ ๙๒๒/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี

เงื่อนไขและระยะเวลาในการใช้หลกั สูตร ดงั นี้

๑. ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ใหใ้ ชใ้ นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ และ ๔

๒. ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ใหใ้ ชใ้ นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๒ ๔ และ ๕

๓. ต้งั แตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ใหใ้ ชใ้ นทกุ ชนั้ เรยี น

ทั้งนี้หลักสูตรโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

สถานศึกษาข้ันพน้ื ฐาน เมอื่ วันท่ี ๑๗ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ จึงประกาศให้ใชห้ ลกั สตู รโรงเรียน

บา้ นวาวี ตั้งแต่บดั นี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕

............................................. วา่ ท่ี ร.อ. ..................................................
( นายทรงเดช คำเมือง ) ( เสรี เชือ้ อ้วน )

ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นวาวี



คำนำ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นวาวี พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ได้จัดทำข้ึนตามแนวทางที่กำหนด
ไว้ในตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๕ และเป็นไปตามมาตรา ๒๗
วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ.๒๕๔๕ ซึ่งกำหนดให้สถานศึกษามีหน้าที่จัดทำสาระ ของหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักการ
จุดหมายของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กำหนดเพอื่ ตอบสนอง ต่อความต้องการในส่วน
ที่เกี่ยวกบั สภาพปญั หาในชุมชนและสงั คม ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ เพื่อใหเ้ ยาวชน
เป็นสมาชิกทีด่ ขี องครอบครวั ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาติ

การศึกษาข้อมูลทิศทางและกรอบยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ซึง่ เกดิ ขึ้นในชว่ งเวลาของการปฏิรูปประเทศ และสถานการณ์โลก
ท่ีเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วและเชือ่ มโยงใกลช้ ดิ กันมากข้นึ โดยจัดทำบนพื้นฐานของกรอบยุทธศาสตร์
ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ซึ่งเป็นแผนหลักของการพัฒนาประเทศ และเป้าหมายของ
การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :SDGs) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ รวมทั้งการปรบั โครงสร้างประเทศ ไปสู่ประเทศไทย ๔.๐ ซงึ่ ยทุ ธศาสตร์ชาติที่จะใช้
เป็นกรอบแนวทางการพฒั นาในระยะ ๒๐ ปีต่อจากนี้

ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง (๒) ยุทธศาสตร์ด้าน
การสร้างความสามารถในการแข่งขัน (๓) ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน
(๔) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม (๕) ยุทธศาสตร์
ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อมและ (๖) ยุทธศาสตร์ด้านการปรบั
สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ และทิศทางการพัฒนาประเทศ
“ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมคนให้สามารถปรับตัวรองรับ
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงได้อยา่ งเหมาะสม กระทรวงศกึ ษาธิการจึงกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ
และเร่งด่วนให้มีการปรับปรุง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในกลุ่ม
สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม รวมทั้งเทคโนโลยีในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนินการปรับปรุง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และสาระเกี่ยวกับเทคโนโลยี



ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขัน้ พน้ื ฐานดำเนินการปรับปรงุ สาระภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ทั้งนี้การดำเนินงานประกาศใช้หลักสูตรยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักงาน
คณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน

การปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ ยังคงหลักการและโครงสร้างเดิมของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ คือประกอบด้วย ๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ไดแ้ ก่ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สุขศึกษาและพลศกึ ษา ศลิ ปะ การงานอาชพี และภาษาตา่ งประเทศ แต่มงุ่ เน้นการปรบั ปรุงเน้ือหาให้
มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้า ทางวิทยาการต่าง ๆ คำนึงถึงการ
ส่งเสริมให้ผู้เรียน มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นสำคัญเตรียมผู้เรียนให้มี
ความพร้อมทจี่ ะเรียนรูส้ ่ิงตา่ ง ๆ พรอ้ มทจี่ ะประกอบอาชพี เม่อื จบการศกึ ษา หรอื สามารถศกึ ษาต่อใน
ระดับท่ีสูงขึ้น สามารถแขง่ ขนั และอยรู่ ่วมกับประชาคมโลกได้

หลักสตู รสถานศึกษา ฉบบั นี้ ประกอบด้วย สว่ นนำ โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา คำอธิบาย
รายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น และเกณฑ์การจบการศกึ ษา ซึ่งทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ในหลักสูตร
สถานศึกษา เพ่ือให้ผทู้ เ่ี ก่ียวขอ้ งและผทู้ ่ีนำหลกั สูตรไปใชไ้ ด้เข้าใจ และสามารถนำไปใช้ไดอ้ ย่างถูกต้อง
และบรรลุผลตามที่ต้องการหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตัวชี้วัดและ
สาระการเรียนรู้แกนกลางกลุม่ สาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับนี้ สำเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดีด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือ
จากบุคลหลายฝ่าย ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย
เขต ๒ หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต ๒ คณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานของโรงเรียน ผู้ปกครองนกั เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครูและผู้ที่มีสว่ น
เก่ียวขอ้ งทกุ ภาคสว่ นทม่ี สี ว่ นรว่ มดำเนนิ การ ทางโรงเรยี นจึงขอขอบพระคณุ ทา่ นมา ณ โอกาสน้ี

ว่าท่รี .อ.
(เสรี เชื้ออ้วน )

ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านวาวี



คำช้ีแจง

ตามที่โรงเรียนบ้านวาวี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๒
ได้มอบหมายให้คณะกรรมการจัดทำหลักสูตรสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยได้วิเคราะห์หลักสูตร
แกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) นั้นเพื่อจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
พุทธศักราช ๒๕๖๕ คณะทำงานได้ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำคำอธิบายรายวิชา มาตรฐาน
ตัวชี้วัด โครงสร้างรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม
การออกแบบการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
ระดับประถมศึกษา (ป.๑-๖) ซึ่งเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี เล่มนี้จะเป็นแนวทางให้ครูใช้ในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของ
โรงเรียนได้ชัดเจนตามวสิ ยั ทัศน์ และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ท่ีสถานศกึ ษาตอ้ งการ โดยนำหน่วยการ
เรียนรู้ ตัวช้ีวัด ไปออกแบบการเรียนรู้ จดั ทำเปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ลงส่หู ้องเรียนคุณภาพอย่างมี
ประสิทธิภาพ เกิดประสทิ ธผิ ลกับผู้เรียน ผ้เู รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม เกง่ ดีและมสี ุข

สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหลักสูตรโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช
๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐)
ฉบับนี้ ประกอบด้วย ความสำคัญ คุณภาพผู้เรียน โครงสร้างเวลาเรียน สาระมาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชี้วัดรายปี คำอธิบายรายวิชา การจัดหน่วยการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ การวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้สื่อการเรียนแหล่งเรียนรู้ ซึ่งทางโรงเรียนได้กำหนดไว้ในสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหลักสตู รโรงเรยี นบ้านวาวี พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ฉบับนี้ เพอื่ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้
เขา้ ใจ และสามารถนำไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและบรรลผุ ลตามที่ตอ้ งการ

สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหลักสูตรโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช
๒๕๖๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ฉบับน้ี สำเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดีกด็ ้วยความร่วมมอื จากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐานของโรงเรียน
ผ้ปู กครองนักเรียน คณะครูและผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งทกุ ภาคส่วนท่ีมีส่วนร่วมดำเนินการทางโรงเรียนจึง
ขอขอบพระคุณทา่ นมา ณ โอกาสนี้

ว่าท่ีร.อ.
(เสรี เชือ้ อว้ น )

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวาวี



สารบัญ

ประกาศโรงเรียน ความนำ หน้า
คำนำ ความนำ
คำชีแ้ จง วสิ ยั ทัศนห์ ลกั สูตรสถานศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ก
สารบญั เป้าประสงคข์ องหลกั สูตร ค
สว่ นท่ี ๑ วิสัยทศั น์ ง
พันธกจิ 1
ส่วนที่ ๒ เปา้ ประสงค์ 1
สว่ นที่ ๓ ตวั ชีว้ ัด 6
คา่ นิยมในองคก์ ร 6
อัตลกั ษณ์ เอกลักษณ์ คำขวัญของสถานศึกษา 7
กลยทุ ธ์ 7
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7
ค่านยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช. 8
ความสมั พนั ธข์ องการพัฒนาผเู้ รยี นตามหลักสตู รแกนกลาง 9
การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน 9
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 10
หลกั สตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา 10
โครงสรา้ งหลักสูตร โรงเรยี นบ้านวาวี 12
โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรยี นบา้ นบ้านวาวี 13
โครงสร้างเวลาเรียนของหลกั สตู รสถานศกึ ษา พุทธศักราช ๒๕๖๕
โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษา ระดับช้นั ปี โรงเรยี นบา้ นบา้ นวาวี 14
หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นวาวี กล่มุ สาระการเรียนวิทยาศาสตร์และ 20
เทคโนโลยี 21
22
23
24
30

สารบัญ (ต่อ) จ

บรรณานกุ รม สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน้า
ภาคผนวก ความนำ 31
เป้าหมายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 31
คณะผ้จู ัดทำ ทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 34
คุณภาพผู้เรียน 36
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 39
โครงสรา้ งเวลาเรยี น กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ 42
และเทคโนโลยี 44
สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั
45
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 45
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๒ 65
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ 70
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ 86
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ 100
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ 116
สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ 134
การวัดและประเมินผล 135
เกณฑ์การตดั สินผลการเรียน 136
153
ภาคผนวก ก คำอภธิ านศัพท์ 154
ภาคผนวก ข คำส่งั โรงเรยี นบ้านวาวี 155
ภาคผนวก ค ประกาศ/ คำส่งั กระทรวงศึกษาธิการ 161
171
185



ส่วนที่ ๑

ความนำ



ความนำ

ดว้ ยกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ เพื่อให้การจัดการศึกษา
ขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจริญก้าวหน้าทาง
วิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สามารถตอบสนองความ
ต้องการของบุคคล สังคมไทย ผเู้ รียนมศี ักยภาพในการแข่งขันและรว่ มมืออยา่ งสร้างสรรคใ์ นสังคมโลก
ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกความเป็นไทย มีระเบียบวินัย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดมั่นใน
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์
มาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และพระราชบัญญัติ
การศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ โดยกำหนดจุดหมายและ
มาตรฐานการเรียนรู้เปน็ เปา้ หมายและกรอบทิศทางในการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นให้เป็นคนดีมีปัญญา
มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก (กระทรวงศึกษาธิการ,
๒๕๔๔) พร้อมกันนี้ได้ปรับเปลี่ยนจุดเน้นในการพัฒนาคุณภาพคนในสังคมไทยให้ มีคุณธรรม และ
มีความรอบรู้อยา่ งเทา่ ทัน ให้มีความพร้อมทัง้ ด้านรา่ งกาย สติปัญญา อารมณ์ และศีลธรรม สามารถ
ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่สังคมฐานความรู้ได้อย่างมั่นคง แนวการพัฒนาคนดังกล่าว
มุ่งเตรียมเดก็ และเยาวชนให้มพี ืน้ ฐานจติ ใจท่ีดงี าม มีจิตสาธารณะ พรอ้ มท้ังมสี มรรถนะ ทักษะ โดยได้
มีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐาน
การเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน กำหนดโครงสร้างเวลาเรียน กระบวนการวัดและประเมินผลผู้เรียน
เกณฑ์การจบการศึกษาแต่ละระดับ และเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาให้มีความสอดคล้อง
กับมาตรฐานการเรยี นรู้ และมคี วามชดั เจนต่อการนำไปปฏิบตั ิ

อนุสนธิคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ สั่ง ณ วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐
เรอ่ื ง ให้ใช้มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

โรงเรียนบ้านวาวี จึงนำมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ และบรหิ ารจัดการหลักสูตรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนจึง
ได้จัดทำเอกสารหลักสูตรขึ้นสำหรับครูนำไปจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย
ทกุ คนในระดบั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐานให้มีคุณภาพด้านความรู้ และทกั ษะทีจ่ ำเปน็ สำหรับการดำรงชีวิต
ในสงั คมทม่ี กี ารเปล่ยี นแปลง และแสวงหาความร้เู พ่ือพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเน่อื งตลอดชีวติ



ลกั ษณะของหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นวาวี พุทธศกั ราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนได้
พัฒนาขึ้น เพื่อพัฒนาผู้เรียนในระดับประถมศึกษา โดยยึดองค์ประกอบหลักสำคัญ ๕ ส่วน คือ ๑)
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๒) มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๓) นโยบายการจดั การเรียนการสอนหน้าที่พลเมือง ๔) กรอบหลักสูตรระดับ
ท้องถิ่น และ ๕) สาระสำคัญจุดเน้นที่โรงเรียนพัฒนา เพิ่มเติม เป็นกรอบในการจัดทำรายละเอียด
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดเหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถ่ินและ
จุดเน้นของโรงเรียน โดยหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช๒๕๖๕ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช๒๕๖๐) ทพี่ ัฒนาขึ้นมี
ลักษณะของหลักสูตร ดังนี้

๑. เป็นหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนบ้านวาวีสำหรับจัดการศึกษาในหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานจัดในระดบั ประถมศึกษาถงึ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

๒. เป็นหลกั สูตรท่ีมีความเปน็ เอกภาพสอดคลอ้ งกับหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ สำหรับให้ครูผู้สอนนำไปจัดการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย โดยกำหนดให้มี
รายละเอยี ด ดังนี้

๒.๑ สาระการเรียนร้ทู ่โี รงเรียนใชเ้ ปน็ หลกั เพื่อสร้างพืน้ ฐานการคดิ การเรยี นรู้ และ
การแกป้ ญั หาประกอบด้วย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๒.๒ สาระการเรียนรูท้ ี่เสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทำงาน
ประกอบด้วย สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพ และ
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

๒.๓ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามความ
เหมาะสมและสอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน
และบรบิ ทของโรงเรยี น และเพม่ิ วชิ าภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์
หน้าที่พลเมือง และการปอ้ งกันการทุจรติ ให้สอดคล้องกบั นโยบายของสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา
ประถมศึกษาเชียงราย เขต ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานและกระทรวงศกึ ษาธิการ
ดว้ ย



๒.๔ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
อารมณแ์ ละสังคม เสรมิ สร้างการเรียนรนู้ อกจากกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๘ กลุม่ และการพัฒนาตนตาม
ศกั ยภาพ

๒.๕ การกำหนดมาตรฐานของโรงเรียนที่สอดคล้องกบั มาตรฐานระดบั ต่าง ๆ เพ่ือ
เป็นเป้าหมาย ของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน จัดทำรายละเอียดสาระการเรียนรูแ้ ละ
จัดกระบวนการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกบั สภาพในชมุ ชน สงั คม และภูมิปัญญาท้องถน่ิ

๓. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพหลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) เปน็ หลกั สูตรที่มีมาตรฐานเปน็ ตัวกำหนดเก่ียวกับความรู้
ทักษะกระบวนการ สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ
ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา โดยมีการกำหนดมาตรฐานไวด้ งั นี้

๓.๑ มาตรฐานหลักสูตร เปน็ มาตรฐานด้านผ้เู รยี นหรอื ผลผลติ ของหลักสตู รโรงเรียน
เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมตามโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมดของครู และใช้เป็นแนวทางในการ
ตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ของการจัดการศกึ ษาตามหลักสูตรในทุกระดับ ซึ่งโรงเรียนต้องใช้สำหรับ
การประเมินตนเองเพ่ือจัดทำรายงาน ประจำปตี ามบทบญั ญตั ิในพระราชบัญญตั ิการศกึ ษา เพ่ือนำมา
เปน็ ขอ้ มลู ใน การกำหนดแนวปฏบิ ตั ใิ นการส่งเสรมิ กำกบั ตดิ ตาม ดแู ล และปรับปรุงคุณภาพ เพื่อให้
ไดต้ ามมาตรฐานท่กี ำหนด

๓.๒ มีตัวชี้วัดชั้นปีเป็นเป้าหมายระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมท้ัง
คณุ ลกั ษณะของผเู้ รียน ในแต่ละระดบั ช้นั ซึง่ สะทอ้ นถงึ มาตรฐานการเรยี นรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและ
มคี วามเป็นรูปธรรม นำไปใชใ้ นการ กำหนดเนอื้ หา จัดทำหนว่ ยการเรียนรู้ จัดการเรยี นการสอนและ
เปน็ เกณฑ์สำคัญสำหรบั การวดั ประเมนิ ผล เพือ่ ตรวจสอบคณุ ภาพผู้เรยี น ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน
ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มอันพงึ ประสงค์ และเปน็ หลักในการเทียบ
โอนความรแู้ ละประสบการณ์จากการศึกษาในระบบนอกระบบและตามอัธยาศัย

๓.๓ มีความเป็นสากล ความเป็นสากลของหลักสูตรโรงเรียน คือมุ่งให้ผู้เรียนมี
ความรู้ ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการส่ิงแวดล้อม ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น มีคุณลักษณะ ที่จำเป็นในการอยู่ในสังคมได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อ
เวลาการเสียสละ การเอื้อเฟื้อ โดยอยู่บนพื้นฐานของความพอดีระหวา่ งการเป็นผู้นำ และผู้ตามการ
ทำงานเป็นทีม และการทำงานตามลำพัง การแข่งขัน การรู้จักพอ และการร่วมมือกันเพื่อสังคม
วิทยาการสมัยใหม่ และภูมิปัญญาท้องถิ่น การรับวฒั นธรรม ต่างประเทศและการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรม
ไทยการฝึกฝนทักษะเฉพาะทาง และการบูรณาการในลกั ษณะ ทเ่ี ปน็ องคร์ วม



๔. มีความยดื หยุ่น หลากหลาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐)
เป็นหลักสูตรท่ีโรงเรยี นจดั ทำรายละเอยี ดต่าง ๆ ขน้ึ เอง โดยยึดโครงสรา้ งหลักท่กี ำหนดไว้ในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กรอบหลักสตู รระดบั ทอ้ งถนิ่ เปน็ ขอบข่ายในการ
จดั ทำจงึ ทำใหห้ ลกั สตู รของโรงเรียนมีความยืดหย่นุ หลากหลาย สอดคลอ้ งกับสภาพปัญหา และความ
ต้องการของทอ้ งถนิ่ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ มคี วามเหมาะสมกับตวั ผเู้ รยี น

๕. การวดั และประเมินผลเนน้ หลกั การพนื้ ฐานสองประการคอื การประเมินเพือ่ พัฒนาผู้เรียน
และเพ่ือ ตดั สินผลการเรียน โดยผู้เรยี นต้องไดร้ ับการพัฒนาและประเมนิ ตามตัวชว้ี ัดเพ่ือให้บรรลุตาม
มาตรฐาน การเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนเป็น
เป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับ
สถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็น
กระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และใช้ผลการประเมินเป็น ข้อมูลและสารสนเทศที่แสดง
พัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผูเ้ รียน ตลอดจนข้อมูลท่ี เป็นประโยชน์
ต่อการสง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนเกดิ การพฒั นาและเรียนรู้อยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ



วสิ ัยทัศน์หลกั สูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๕

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นวาวี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) มุ่งพัฒนาศักยภาพผู้เรียนเพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถในการแข่งขันโดยพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นให้มีความรู้ ทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต ทักษะ
วชิ าชีพ และคณุ ลักษณะ

เป้าประสงค์หลกั สูตร (Corporate objective)

๑. เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีการพัฒนา เต็มตามศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งมาเป็นแนว ทางการดำเนนิ ชวี ิต เปน็ ผนู้ ำท่ีดีของสงั คมและมคี วามสามารถในการใช้
เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร อย่างหลากหลาย ผู้เรียนมีศักยภาพเป็นพลโลก (World
Citizen)

๒. เพื่อให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพ (Quality
System Management) เพ่อื รองรบั การกระจายอำนาจอยา่ งท่ัวถงึ

๓. เพื่อให้บุคลากรทุกคนมีทักษะวิชาชีพในการพัฒนาการเรียนการสอนและใช้นวัตกรรม
เทคโนโลยีที่ ทันสมัยยกระดับการจัดการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล (Worle Class
standard)

๔. เพ่อื ใหก้ ารใช้งบประมาณและทรพั ยากรของทกุ หน่วยงานเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธิผลสูงสุด

๑. เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีการพัฒนา เต็มตามศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงมาเปน็ แนว ทางการดำเนินชวี ิต เปน็ ผ้นู ำทีด่ ีของสงั คมและมีความสามารถในการใช้
เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร อย่างหลากหลาย ผู้เรียนมีศักยภาพเป็นพลโลก (World
Citizen)

๒. เพื่อให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพ (Quality
System Management) เพื่อรองรบั การกระจายอำนาจอย่างทั่วถงึ

๓. เพื่อให้บุคลากรทุกคนมีทักษะวิชาชีพในการพัฒนาการเรียนการสอนและใช้นวัตกรรม
เทคโนโลยีที่ ทันสมัยยกระดับการจัดการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล (Worle Class
standard)

๔. เพ่ือใหก้ ารใชง้ บประมาณและทรัพยากรของทกุ หน่วยงานเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลสงู สุด



วิสยั ทศั น์ (Vision)

ภายในปี ๒๕๖๕ โรงเรยี นบา้ นวาวี องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ มุง่ พัฒนาคุณภาพปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรม ดำรงตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

พนั ธกิจ (Mission)

๑. จัดการศึกษาให้ผูเ้ รยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรม คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสูตรและ
ปลกู ฝงั ค่านิยมหลกั ๑๒ ประการ มที ักษะชวี ิตบนพ้นื ฐานของความเป็นไทย น้อมนำหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง และศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาทย่ี ง่ั ยืน

๒. จัดการศึกษาพัฒนาผูเ้ รียนให้อ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น คิดวิเคราะห์และสร้างความ
เปน็ เลศิ ทางวชิ าการ

๓. จัดระบบเพื่อส่งเสริมและพฒั นาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา สู่ความเป็นมอื
อาชีพและมีส่วนร่วมตามหลกั ธรรมาภิบาล

๔. จดั การศกึ ษาใหม้ คี ุณภาพและมมี าตรฐานตามบริบทของสถานศกึ ษา
๕. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาจีนใน
ชวี ติ ประจำวนั
๖. ส่งเสริมพัฒนาระบบการบริหารการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยี
ดิจิทัลและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษา ให้ชุมชน องค์กรทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมใน
การสง่ เสรมิ สนับสนุน การจดั การศกึ ษา

เปา้ ประสงค์ (Goal)

๑. ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จริยธรรม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลกั สูตรและปลูกฝังค่านิยม
หลัก ๑๒ ประการ มีทักษะชีวิตบนพื้นฐานของความเป็นไทย น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง และศาสตรพ์ ระราชาสูก่ ารพฒั นาทีย่ ่ังยนื

๒. ผู้เรียนสามารถอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น คิดวิเคราะห์และสร้างความเป็นเลิศทาง
วชิ าการ

๓. ผู้บรหิ าร ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาไดร้ ับการสง่ เสรมิ และพฒั นาสคู่ วามเปน็ มืออาชพี
และมีส่วนร่วมตามหลกั ธรรมาภบิ าล

๔. ผ้เู รยี นมคี ุณภาพและมีมาตรฐานตามบรบิ ทของสถานศึกษา
๕. ผเู้ รยี นมที ักษะในการสือ่ สารภาษาองั กฤษและภาษาจนี ในชวี ิตประจำวัน



๖. สถานศึกษามีการจัดการศึกษา พัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกสถานศึกษาโดยใช้
เทคโนโลยดี ิจิทลั และชุมชนองคก์ รทกุ ภาคส่วนมสี ว่ นรว่ มในการส่งเสรมิ สนับสนนุ การจัดการศึกษา

ตวั ชวี้ ดั

๑. ผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ๘ กลมุ่ สาระการเรียนรตู้ ามหลกั สูตรสถานศกึ ษา ระดับ
ผลการเรยี น ๓ ข้นึ ไป

๒. ผู้เรียนมีระดับผลการเรียนสูงขึ้นจากปีการศึกษาที่ผ่านมา อย่างน้อย ๑ กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้หรือกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ร้อยละ ๙๕ ขนึ้ ไป

๓. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีผลการทดสอบการประเมินความสามารถด้านการอ่าน
ของผ้เู รียน (RT) ระดับดีขึ้นไป รอ้ ยละ ๖๕ ขน้ึ ไป

๔. ผู้เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ มีผลการทดสอบระดับชาติ (NT) ระดบั ดขี ้นึ ไปรอ้ ยละ ๕๐
ขนึ้ ไป

๕. ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีผลคะแนนจากการคำนวณ ร้อยละ ๓๐ ของผลการ
ทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ัน้ พ้นื ฐาน (O-NET) ระดบั คะแนน ต้งั แต่ ๐.๔๕ รอ้ ยละ ๘๖ ขน้ึ ไป

๖. ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐานในการจัดการ เจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับ
ช้นั ทส่ี งู ขนึ้ การทำงานหรืองานอาชีพ รอ้ ยละ ๘๖ ข้นึ ไป

๗. ครูมกี ารใช้ส่อื และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในการจดั การเรียนรู้ รอ้ ยละ ๘๖ ขนึ้ ไป
๘. ครูจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัดของหลักสตู รสถานศึกษาท่ี
เนน้ ให้ผู้เรียนไดเ้ รยี นรโู้ ดยผ่านกระบวนการคดิ และปฏิบตั จิ รงิ รอ้ ยละ ๑๐๐
๙. ผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมทุกครั้งในการจัด
การศึกษา หรอื ประชุมหาแนวทางการจดั การศกึ ษา
๑๐. โรงเรียนมีการบริหารงานจัดการที่มีคุณภาพให้เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับ
ดเี ลิศขนึ้ ไป
๑๑. โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนที่ทันสมัยมาใช้ในการ
จัดการเรยี นการสอนอย่างมคี ุณภาพ



คา่ นยิ มในองคก์ ร

โรงเรียนบา้ นวาวี ไดก้ ำหนดคา่ นิยม ซึง่ เปน็ วฒั นธรรมองค์กร ในการปฏิบตั งิ าน คือ Vavee
SMART Model มคี วามหมาย ดังนี้

อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา

ชาวาวสี วู่ ถิ ีความพอเพยี ง

เอกลักษณข์ องสถานศกึ ษา

วถิ ชี วี ิตเรื่องชา

คำขวญั ของสถานศึกษา

เรยี นดี มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ เชิดชคู ุณธรรม น้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

๑๐

กลยทุ ธ์

จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ของโรงเรียนบ้านวาวีจึงกำหนด กลยุทธ์ จำนวน
๔ กลยทุ ธ์ ดงั ตอ่ ไปนี้

กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาผู้เรียนให้อ่านออกเขียนได้ คิด วิเคราะห์เป็น มีทักษะ สมรรถนะตาม
จดุ มงุ่ หมายของหลักสูตรและตามมาตรฐานการศกึ ษา

กลยุทธ์ที่ ๒ เสริมสร้างให้ผู้เรียนมี คุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม
หลักสตู ร มคี า่ นิยมหลกั ๑๒ ประการ และนำปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั

กลยุทธ์ท่ี ๓ พฒั นาครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรฐานวิชาชพี
กลยุทธ์ท่ี ๔ พฒั นาแหล่งเรยี นรแู้ ละสอ่ื เทคโนโลยีในโรงเรียน ใหช้ ุมชน องค์กรทุกภาคส่วน
เขา้ มามสี ว่ นร่วม สง่ เสริม สนบั สนนุ ในการจดั การศกึ ษา

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ม่งุ เนน้
พฒั นาผู้เรยี นใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ
ดงั นี้

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการ

ใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเข้าใจ ความรสู้ กึ และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูล
ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทง้ั การเจรจาต่อรอง
เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรบั หรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและ
ความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสอ่ื สาร ที่มีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเอง
และสงั คม

๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้
หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มา

๑๑

ใชใ้ นการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา และมีการตัดสินใจทมี่ ีประสิทธิภาพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้น
ต่อตนเอง สงั คมและส่ิงแวดล้อม

๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต เปน็ ความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างตอ่ เนื่อง การทำงาน และการอยู่
ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ
ขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม
และการร้จู ักหลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้าน
ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้
การสื่อสาร การทำงาน การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม

คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๔๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง

การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์ เพ่ือใหส้ ามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ นื่ ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองประเทศ
ไทย ๔.๐ และโลกศตวรรษที่ ๒๑ ดงั น้ี

๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซ่อื สตั ย์สุจริต
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖. มุง่ มน่ั ในการทำงาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจติ สาธารณะ

๑๒

ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช.

๑. ความรกั ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์
๒. ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสิง่ ทีด่ งี ามเพื่อส่วนรวม
๓. กตญั ญตู อ่ พ่อแม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์
๔. ใฝห่ าความรู้ หมั่นศึกษาเลา่ เรียนทัง้ ทางตรง และทางออ้ ม
๕. รกั ษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
๖. มศี ลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ น่ื เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั
๗. เข้าใจเรยี นรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง
๘. มีระเบยี บวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยร้จู ักการเคารพผูใ้ หญ่
๙. มสี ตริ ู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รูป้ ฏิบตั ติ ามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว
๑๐. รู้จกั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่ายกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลสมีความ
ละอายเกรงกลัว ตอ่ บาปตามหลักของศาสนา
๑๒. คำนงึ ถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

๑๓
ความสัมพนั ธ์ของการพฒั นาผเู้ รยี นตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

๑๔

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘ กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้ จำนวน ๓๑ สาระ ๕๕ มาตรฐาน ดงั นี้

กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย (๕ สาระ ๕ มาตรฐาน)

สาระที่ ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิดเพอ่ื นำไปใช้ แกป้ ญั หาในการ

ดำเนนิ ชวี ิต และมีนิสัยรกั การอ่าน
สาระท่ี ๒ การเขียน

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ
สาระท่ี ๓ การฟงั การดแู ละการพดู

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ
ความรู้สึก ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณ และสร้างสรรค์
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลังของ ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไว้เป็นสมบัติ ของชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง
เหน็ คณุ คา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ

กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ (๓ สาระการเรยี นรู้ ๗ มาตรฐานการเรียนรู้)

สาระท่ี ๑ จำนวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ

ของจำนวน ผลท่เี กดิ ขึ้นจากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดบั และอนุกรม และ

นำไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วย

แกป้ ัญหา กำหนดให้

๑๕

สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ ้องการวัด

และนำไปใช้
มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์

ระหวา่ งรปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้
สาระท่ี ๓ สถติ แิ ละความนา่ จะเปน็

มาตรฐาน ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถติ แิ ละใชค้ วามรูท้ างสถิตใิ นการแก้ปัญหา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนับเบอ้ื งตน้ ความนา่ จะเป็น และนำไปใช้

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๔ สาระ ๑๐ มาตรฐาน)
สาเรรยีะนทรี่ ๑้)ู วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต
กบั สง่ิ มีชีวติ และความสัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ มชี วี ติ กับสิ่งมีชวี ิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศการถา่ ยทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ใน ระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหา และผลกระทบที่มีต่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทาง ในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
สง่ิ แวดล้อม รวมท้งั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมชี ีวิต การลำเลียงสารเข้า
และออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่
ทำงานสัมพันธก์ ัน ความสมั พนั ธ์ ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชทีท่ ำงานสัมพันธ์
กนั รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม
สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมที่มีผลตอ่ สิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ
วิวฒั นาการของ ส่งิ มีชีวติ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบัติ
ของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง
สถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ
ลักษณะการ เคลอ่ื นทแ่ี บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

๑๖

มาตรฐาน ว ๒.๓ เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งาน
ปฏิสัมพนั ธ์ ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เก่ียวข้องกบั เสียง แสง และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ รวมท้งั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของ เอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและ
การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยี อวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลยี่ นแปลงภายใน โลก และบนผวิ โลก ธรณพี ิบัตภิ ยั กระบวนการเปล่ียนแปลงลม ฟ้า อากาศ และ
ภูมอิ ากาศโลก รวมทัง้ ผลต่อ สงิ่ มชี ีวิตและสิ่งแวดล้อม
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการ
เปลย่ี นแปลงอย่าง รวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ
เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
เลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวิต สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวิตจริงอย่างเป็น
ขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และ
การแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ร้เู ท่าทัน และมจี ริยธรรม

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม (๕ สาระ ๑๑ มาตรฐาน)

สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รูแ้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา

หรือศาสนาท่ีตน นับถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาที่ถกู ตอ้ ง ยึดมัน่ และปฏบิ ัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่
ร่วมกนั อยา่ งสันตสิ ขุ

มาตรฐาน ส๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษา
พระพทุ ธศาสนาหรือ ศาสนาทต่ี นนับถอื
สาระท่ี ๒ หนา้ ท่พี ลเมอื งวฒั นธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม

มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัตติ นตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มคี ่านิยมท่ดี ีงามและ
ธำรงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่รว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสันติสุข

มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยดึ มั่น ศรทั ธา และธำรง
รักษาไว้ซึง่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ

๑๗

สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ และการบรโิ ภคการ

ใชท้ รัพยากรท่ี มีอยู่จำกดั ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและค้มุ คา่ รวมทัง้ เข้าใจหลกั การของเศรษฐกิจ
พอเพียง เพอ่ื การดำรงชีวิตอย่างมี ดุลยภาพ

มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจ
และความ จำเปน็ ของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก
สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์

มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์
สามารถใช้ วิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อย่างเปน็ ระบบ

มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถึงปจั จบุ ัน ในดา้ น
ความสมั พนั ธ์และการ เปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถ
วเิ คราะหผ์ ลกระทบที่เกดิ ขึ้น

มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทยมีความรักความ
ภูมใิ จและ ธำรงความเป็นไทย
สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมี
ผลต่อกัน ใช้แผน ที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ตาม
กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ ภูมสิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสมั พันธ์ระหว่างมนษุ ยก์ บั สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการ
สรา้ งสรรค์ วิถีการดาเนินชีวติ มจี ิตสำนกึ และมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมเพ่ือ
การพัฒนาท่ียัง่ ยืน

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา (๕ สาระ ๖ มาตรฐาน)

สาระที่ ๑ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

สาระที่ ๒ ชีวติ และครอบครัว
มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษาและมีทักษะในการ

ดำเนนิ ชวี ิต

๑๘

สาระท่ี ๓ การเคล่อื นไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี าปฏบิ ัตเิ ป็นประจำอย่าง

สม่ำเสมอมีวนิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีน้ำใจนกั กฬี า มจี ติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมใน
สุนทรยี ภาพของการกฬี า
สาระที่ ๔ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค

มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ
การป้องกนั โรคและ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ
สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชีวติ

มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ
การใช้ยาสารเสพติด และความรนุ แรง
กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ (๓ สาระ ๖ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์

มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์
วิพากษ์ วจิ ารณค์ ณุ ค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคดิ ต่องานศิลปะอย่างอิสระช่ืนชมและ
ประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจำวนั

มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเหน็
คุณคา่ งาน ทัศนศิลปท์ ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทยและสากล
สาระที่ ๒ ดนตรี

มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน

มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรมเห็นคณุ ค่า
ของดนตรี ทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์

มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์วพิ ากษ์วิจารณ์
คณุ คา่ นาฏศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคดิ อย่างอิสระชน่ื ชมและประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน

มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็น
คณุ คา่ ของนาฏศลิ ป์ที่ เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ภูมิปัญญาไทยและสากล

๑๙

กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ (๒ สาระ ๒ มาตรฐาน)

สาระท่ี ๑ การดำรงชวี ติ และครอบครวั
มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะ

การจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้
มคี ุณธรรม และลักษณะ นสิ ัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และส่ิงแวดล้อม
เพอื่ การดำรงชวี ติ และครอบครัว
สาระที่ ๒ การอาชพี

มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจ มีทักษะที่จำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้
เทคโนโลยเี พ่อื พัฒนาอาชพี มคี ุณธรรมและมเี จตคติท่ีดีต่ออาชพี

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (๔ สาระ ๘ มาตรฐาน)

สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่อื การส่อื สาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความ

คิดเหน็ อยา่ งมี เหตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดง

ความร้สู ึกและ ความคดิ เห็นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งตา่ ง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ
นำไปใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสมกับกาลเทศะ

มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
เจา้ ของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สาระที่ ๓ ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับกลุม่ สาระการเรยี นร้อู ่นื

มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
และเป็นพ้ืนฐานใน การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
สาระท่ี ๔ ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และ
สังคม

มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชพี และการ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก

๒๐

หลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา

กรอบการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกัน
การทุจริตโดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบ
การเรียนรู้ ดา้ นการป้องกันการ ทจุ รติ หวั ขอ้ วชิ า ๔ วชิ า ประกอบดว้ ย

๑) การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม
๒) ความอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
๓) STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ
๔) พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
เน้ือหาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้ ดา้ นการปอ้ งกันการทุจริต หลกั สูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
(ระดับปฐมวัย และป.๑-ป.๖) มีชื่อหลักสูตรว่า “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” หลักสูตร
การศึกษาข้ันพื้นฐาน ดำเนินการจัดทำเป็นแผนการจัดการเรียนรูโ้ ดยแยกเป็น ๑๓ ระดับชั้นปี ได้แก่
ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา ชั้นปีที่ ๑-๖ ในแต่ละระดับชั้นปีจะใช้เวลาเรียนทั้งปี จำนวน ๔๐
ชั่วโมง ต้องจัดทำเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนให้แตกต่างกัน ตามความเหมาะสมและ
การเรียนร้ใู นแตล่ ะชว่ งวัย

๒๑

ส่วนท่ี ๒

โครงสร้างหลกั สูตร โรงเรียนบ้านวาวี

๒๒

โครงสรา้ งหลักสูตรโรงเรียนบ้านวาวี

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นวาวี พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๐) ได้กำหนดโครงสร้างของหลักสูตรสถานศึกษา
เพื่อใหผ้ สู้ อนและผู้ท่เี ก่ยี วข้องในการจดั การเรียนร้ตู ามหลักสูตรของสถานศกึ ษามแี นวปฏิบัติ ดังน้ี

ระดบั การศึกษา
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา
ขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) จัดการศกึ ษา ดงั นี้
ระดบั ประถมศกึ ษา (ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖) การศึกษาระดับนเ้ี ปน็ ช่วงแรกของการศึกษา
ภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ ทักษะการคิดพื้นฐาน
การติดตอ่ สื่อสาร กระบวนการ เรียนรทู้ างสงั คม และพื้นฐานความเปน็ มนษุ ย์ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิต
อย่างสมบรู ณ์และสมดุลท้ังในดา้ นรา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ สงั คม และวัฒนธรรม โดยเน้นจัดการ
เรียนรูแ้ บบบูรณาการ

การจดั เวลาเรยี น
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรบั ปรุง ๒๕๖๐) ได้จดั เวลาเรียนตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้
๘ กลุ่มสาระ และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน โดยจัดให้เหมาะสมตามบริบท จุดเน้นของโรงเรียน และ
สภาพของผู้เรียน ดงั นี้ ระดบั ประถมศกึ ษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖) จดั เวลาเรียนเป็นรายปี โดยมี
เวลาเรียนวนั ละ ๖ ชวั่ โมง

โครงสร้างหลักสูตร
โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวาวี พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง ๒๕๖๐) ประกอบด้วยโครงสร้างเวลาเรียนและ
โครงสร้างหลกั สูตรชนั้ ปี ดงั นี้
๑. โครงสร้างเวลาเรียน เป็นโครงสรา้ งที่แสดงรายละเอยี ดในภาพรวม เวลาเรียนของแต่ละ
กลุ่มสาระการ เรียนรู้ทง้ั ๘ กล่มุ สาระ ทเี่ ปน็ เวลาเรียนพื้นฐาน เวลาเรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ และเวลาใน
การจดั กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน จำแนกแตล่ ะชัน้ ปี ในระดบั ประถมศกึ ษา ดังนี้

๒๓

โครงสรา้ งเวลาเรียน

โครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านวาวี พุทธศักราช พ.ศ.๒๕๖๕

ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

สัดสว่ นเวลาเรยี น(ช่วั โมง/ป)ี

กลุม่ สาระการเรยี นรู้/ กจิ กรรม ระดบั ประถมศึกษา

ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖

๑.รายวชิ าพน้ื ฐาน

๑.๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐

๑.๒ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐

๑.๓ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

๑.๔ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

- ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม

- เศรษฐศาสตร์

- ภมู ศิ าสตร์
- หน้าที่พลเมือง

ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

๑.๕ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

๑.๖ ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

๑.๗ การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

๑.๘ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

รวมเวลาเรยี น (พนื้ ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐

๒. รายวิชาเพ่มิ เติม

๒.๑ ภาษาจีน ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

รวมเวลาเรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

๓. กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กจิ กรรมนักเรยี น

- ชมุ นมุ ชมรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- ลกู เสือ-เนตรนารี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์

รวมเวลาเรียนกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

รวมเวลาเรยี นทั้งหมด ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐

* หมายเหตุ หลักสูตรต้านทุจริตและหน้าที่พลเมืองบูรณาการการเรียนการสอนกับกลุ่มสาระการ

เรียนรสู้ งั คมศกึ ษาศาสนา และวัฒนธรรม

๒๔

โครงสร้างหลกั สูตรสถานศกึ ษาระดบั ชน้ั ปีโรงเรยี นบา้ นวาวี

โครงสรา้ งหลักสูตรโรงเรยี นบา้ นวาวี พุทธศักราช ๒๕๖๕
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑

รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพน้ื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔๐
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐
รายวชิ า/กิจกรรมเพมิ่ เติม ๔๐
จ ๑๑๒๐๑ ภาษาจนี ๔๐
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
กจิ กรรมนกั เรยี น
- ชมรม/ชมุ นุม ๔๐
- ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ๓๐
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรียนทัง้ สน้ิ ๑,๐๐๐

๒๕

โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรยี นบ้านวาวี พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๒

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพนื้ ฐาน ๘๔๐
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐
ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒๐๐
รายวชิ า/กจิ กรรมเพิม่ เตมิ ๔๐
จ ๑๒๒๐๒ ภาษาจีน ๔๐
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑๒๐
กิจกรรมแนะแนว ๔๐
กจิ กรรมนักเรยี น
- ชมรม/ชุมนุม ๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนารี/ยวุ กาชาด ๓๐
กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรยี นท้งั ส้นิ ๑,๐๐๐

๒๖

โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนบ้านวาวี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพนื้ ฐาน ๘๔๐
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔๐
ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒๐๐
รายวชิ า/กจิ กรรมเพม่ิ เติม ๔๐
จ ๑๓๒๐๓ ภาษาจีน ๔๐
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ๑๒๐
กิจกรรมแนะแนว ๔๐
กจิ กรรมนักเรยี น
- ชมรม/ชุมนมุ ๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนารี/ยุวกาชาด ๓๐
กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรยี นท้งั ส้ิน ๑,๐๐๐

๒๗

โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนบา้ นวาวี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน(ชม./ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑๒๐
ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๘๐
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๒๐
รายวิชา/กจิ กรรมเพิม่ เติม ๔๐
จ ๑๔๒๐๔ ภาษาจีน ๔๐
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
กิจกรรมนกั เรียน
- ชมรม/ชุมนมุ ๔๐
- ลกู เสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ๓๐
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรยี นทัง้ ส้นิ ๑,๐๐๐

๒๘

โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนบา้ นวาวี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน(ชม./ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑๒๐
ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๕๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๒๐
รายวิชา/กจิ กรรมเพิม่ เติม ๔๐
จ ๑๕๒๐๕ ภาษาจนี ๔๐
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
กิจกรรมนกั เรียน
- ชมรม/ชุมนมุ ๔๐
- ลกู เสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ๓๐
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรยี นทัง้ ส้นิ ๑,๐๐๐

๒๙

โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนบา้ นวาวี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน(ชม./ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑๒๐
ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐
ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๒๐
รายวิชา/กจิ กรรมเพิม่ เติม ๔๐
จ ๑๖๒๐๖ ภาษาจนี ๔๐
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
กิจกรรมนกั เรียน
- ชมรม/ชุมนมุ ๔๐
- ลกู เสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ๓๐
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐
รวมเวลาเรยี นทัง้ ส้นิ ๑,๐๐๐

๓๐

สว่ นที่ ๓

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นวาวี

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

๓๑

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความนำ

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตร
แกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) นี้ได้กำหนดสาระ
การเรียนร้อู อกเป็น ๘ สาระ ไดแ้ ก่ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ สำระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ
สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลกและ อวกาศ สาระท่ี ๔ ชีววทิ ยา สาระที่ ๕ เคมี สาระท่ี ๖ ฟิสกิ ส์ สาระท่ี
๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ และสาระ ที่ ๘ เทคโนโลยี ซ่งึ องคป์ ระกอบของหลักสูตร ท้ังในด้าน
ของเนอื้ หา การจดั การเรียนการสอนและการวัดและ ประเมนิ ผลการเรียนรนู้ ้ัน มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ในการวางรากฐานการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรข์ องผู้เรยี นในแต่ละ ระดับชน้ั ให้มคี วามตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยงกัน
ตง้ั แต่ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ จนถึงชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ สำหรบั กลมุ่ สาระ การเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ได้
กำหนดตวั ชว้ี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทผี่ ู้เรยี นจำเป็นตอ้ งเรยี นเปน็ พ้ืนฐาน เพ่อื ใหส้ ามารถนำ
ความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิต หรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้วิทยาศาสตร์ได้ โดยจัดเรียงลำดับ
ความยากง่าย ของเนื้อหาทั้ง ๘ สาระ ในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ
เรียนรู้ และการจัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ีสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคดิ เป็นเหตุเป็นผล
คดิ สร้างสรรค์ คิดวเิ คราะห์ วิจารณ์ มที กั ษะท่สี ำคญั ท้งั ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะ
ในศตวรรษที่ ๒๑ ในการค้นคว้าและ สร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถ
แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่
ตรวจสอบได้

กระทรวงศึกษาธกิ ารตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ที่มุ่งหวังให้
เกิดผล สัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนมากที่สุด จึงมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ (สสวท.)
จดั ทำตวั ชวี้ ดั และสาระ การเรยี นรแู้ กนกลางกล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ขึ้น เพื่อให้สถานศึกษา
ครูผู้สอน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทาง ในการพัฒนา หนังสือเรียน คู่มือครู
สื่อประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผล โดยตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้
แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ที่จัดทำขึ้นนี้ได้ปรับปรุงให้มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกัน
ภายในสาระการเรียนรู้เดียวกันและระหว่างสาระการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ตลอดจนการ เชื่อมโยงเนื้อหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรงุ

๓๒

เพอื่ ให้มคี วามทันสมยั ตอ่ การเปลี่ยนแปลง และความเจรญิ ก้าวหน้าของวทิ ยาการตา่ ง ๆ และทดั เทยี ม
กบั นานาชาติ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์สรปุ เปน็ แผนภาพได้ดังนี้

แผนภาพ สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัดกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐)

สาระท่ี ๒
วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
- มาตรฐาน ว ๒.๑-ว ๒.๓

สาระท่ี ๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สาระที่ ๓
วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ
- มาตรฐาน ว ๑.๑-ว ๑.๓ - มาตรฐาน ว ๓.๑-ว ๓.๓

สาระท่ี ๔
เทคโนโลยี
- มาตรฐาน ว ๔.๑-ว ๔.๒

๓๓

วทิ ยาศาสตร์เพม่ิ เตมิ ● สาระชวี วิทยา ● สาระเคมี ● สาระฟสิ ิกส์
● สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ

สำหรับวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม สาระชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ และโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ
จัดทำขึ้น สำหรับผู้เรียนในระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ที่จำเป็นต้อง
เรียน เพื่อเป็นพื้นฐาน สำคัญและเพียงพอสำหรับการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ
ด้านวทิ ยาศาสตร์

๓๔

เปา้ หมายของการจดั การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติโดยมนุษย์ใช้กระบวนการสังเกต
สำรวจ ตรวจสอบ และการทดลองเกีย่ วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาตแิ ละนำผลมาจดั ระบบ หลักการ
แนวคดิ และทฤษฎี ดงั นัน้ การเรียนการสอนวิทยาศาสตรจ์ ึงมงุ่ เน้นให้ผู้เรยี นไดเ้ ป็นผู้เรียนรู้และค้นพบ
ดว้ ยตนเองมากที่สดุ นน่ั คือให้ได้ ทง้ั กระบวนการและองค์ความรู้ตั้งแต่วยั เริม่ แรกก่อนเขา้ เรยี น เม่ืออยู่
ในสถานศึกษาและเมื่อออกจากสถานศึกษา ไปประกอบอาชีพแล้ว การจัดการเรียนการสอน
วิทยาศาสตร์ในสถานศกึ ษามเี ปา้ หมายสำคัญดังนี้

๑. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจหลกั การ ทฤษฎีทีเ่ ป็นพื้นฐานในวทิ ยาศาสตร์
๒. เพ่อื ให้เข้าใจขอบเขต ธรรมชาติและข้อจำกัดของวทิ ยาศาสตร์
๓. เพื่อใหม้ ที ักษะท่สี ำคญั ในการศกึ ษาคน้ คว้าและคดิ คน้ ทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
๔. เพอ่ื พฒั นากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจัดการ
ทกั ษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสินใจ
๕. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมวลมนุษย์และ
สภาพแวดล้อมในเชิงที่มีอิทธิพลและผลกระทบซงึ่ กนั และกัน
๖. เพื่อนำความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อ
สงั คม และการดำรงชวี ติ
๗. เพื่อให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และ เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์

เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ทเี่ นน้ การ เช่ือมโยง

ความรกู้ บั กระบวนการ มีทกั ษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการ
สบื เสาะหาความรู้และ แก้ปญั หาทีห่ ลากหลาย ให้ผ้เู รยี นมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการทำ
กิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริง อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชั้น โดยกำหนดสาระสำคัญ
ดังนี้

✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของส่ิงมีชวี ิต การ
ดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ
วิวัฒนาการ ของสิ่งมชี ีวติ

✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรเู้ กยี่ วกบั ธรรมชาตขิ องสาร การเปลย่ี นแป ลงของสาร การ
เคล่อื นท่ี พลังงาน และคลืน่

๓๕

✧ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ เรยี นรเู้ กี่ยวกบั องคป์ ระกอบของเอกภพ ปฏสิ ัมพันธ์ ภายใน
ระบบ สุรยิ ะ เทคโนโลยอี วกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณวี ิทยา กระบวนการ เปลีย่ นแปลง
ลมฟ้าอากาศ และ ผลตอ่ ส่งิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม

✧ เทคโนโลยี
● การออกแบบและเทคโนโลยีเรยี นรู้เกี่ยวกบั เทคโนโลยีเพอ่ื การดำรงชวี ิต ในสงั คมที่มี การ
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ
เพื่อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม
เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม
● วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็น
ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ประยุกตใ์ ช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ และ
การ สื่อสาร ในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชวี ติ จริงได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

๓๖

ทกั ษะและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การศึกษาทางวทิ ยาศาสตรค์ อื การศกึ ษาเกี่ยวกับทุกๆสงิ่ ทีอ่ ยู่รอบตัวอย่างมีระเบียบแบบแผน
เพอื่ ใหไ้ ด้ ขอ้ สรปุ และสามารถนำความรู้ทีไ่ ด้มาอธิบายปัญหาต่างๆซึง่ การจะตอบหรืออธิบายปัญหาที่
สงสยั ได้ น้นั จำเป็นต้อง มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์(science process skill) หมายถึงความสามารถ และ
ความ ชำนาญ ในการคิดเพื่อค้นหาความรู้และการแก้ไขปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
อาทิการสังเกต การวัดการ คำนวณ การจำแนก การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับเวลาการจัด
กระทำและส่ือความหมาย ข้อมูลการลง ความคดิ เหน็ การพยากรณก์ ารตง้ั สมมตฐิ านการกำหนดนิยาม
การกำหนดตัวแปรการทดลอง การวิเคราะห์และแปร ผลข้อมูลการสรุปผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ถูกตอ้ งและแมน่ ยำทกั ษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์๑๓ ทักษะ แบง่ เป็น๒ ระดับคือ

๑. ระดับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ๘ เป็นทักษะเพื่อการแสวงหา
ความรูท้ ่ัวไป ประกอบด้วย

ทกั ษะที่ ๑ การสังเกต(observing) หมายถงึ การใชป้ ระสาทสัมผสั ของร่างกายอย่างใดอย่าง
หนึ่งหรือ หลายอย่างไดแ้ กห่ ูตา จมูกลิ้นกายสัมผัสเข้าสัมผัสกับวัตถุหรือเหตุการณ์เพ่ือให้ทราบและ
รับรู้ข้อมูลรายละเอียด ของสิ่งเหล่านั้นโดยปราศจากความคิดเห็นส่วนตนข้อมูลเหล่านี้จะ
ประกอบด้วยข้อมูลเชงิ คณุ ภาพเชงิ ปรมิ าณและ รายละเอียดการเปลยี่ นแปลงทีเ่ กดิ ขึน้ จากการสังเกต

ทักษะที่ ๒ การวัด (Measuring) หมายถึงการใช้เครื่องมือสำหรับการวัดข้อมูลในเชิง
ปริมาณของสิ่ง ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็นตัวเลขในหน่วยการวัดที่ถูกต้อง แม่นยำได้ ทั้งน้ี การใช้
เครื่องมือให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการวัด รวมถึงเข้าใจวิธีการวัด และแสดงขั้นตอนการวัดได้อย่าง
ถูกตอ้ ง

ทักษะ ท่ี ๓ การคำนวณ (Using numbers) หมายถึง การนับจำนวนของวัตถุ และการนำ
ตัวเลขที่ได้ จากนับ และตัวเลขจากการวัดมาคำนวณด้วยสูตรคณิตศาสตร์ เช่น การบวก การลบ
การคูณ การหาร เป็นต้น โดย การเกิดทักษะการคำนวณจะแสดงออกจากการนับที่ถูกต้อง ส่วนการ
คำนวณจะแสดงออกจากการเลือกสูตร คณิตศาสตร์ การแสดงวิธีคำนวณ และการคำนวณที่ถูกต้อง
แม่นยำ

ทักษะท่ี ๔ การจำแนกประเภท (Classifying) หมายถึง การเรียงลำดับ และการแบ่งกลุ่ม
วัตถุหรือ รายละเอยี ดขอ้ มลู ด้วยเกณฑ์ความแตกต่างหรอื ความสมั พันธใ์ ด ๆ อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ

ทักษะที่ ๕ การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา (Using
space/Time relationships) สเปสของวัตถุหมายถึง ที่ว่างที่วัตถุนั้นครองอยู่ ซึ่งอาจมีรูปร่าง
เหมือนกันหรือแตกนั้น โดยทั่วไป แบ่งเป็น ๓ มิติ คือ ความกว้าง ความยาว และความสูง
ความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสของวัตถุได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่าง ๓ มิติ กับ ๒ มิติ
ความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุหนึ่งกับวตั ความสัมพันธ์ระหว่าง สเปสของวัตถุกับเวลา

๓๗

ได้แกค่ วามสัมพันธ์ของการเปล่ียนแปลงตำแหนง่ ของวัตถกุ ับช่วงเวลา หรอื ความสมั พันธ์ ของสเปสข
องวัตถุทเ่ี ปลยี่ นไปกับช่วงเวลา

ทักษะที่ ๖ การจัดกระทำ และสื่อความหมายข้อมลู (Communication) หมายถงึ การนำ
ข้อมลู ทไี่ ด้ จากการสังเกต และการวดั มาจัดกระทำให้มคี วามหมาย โดยการหาความถี่ การเรยี งลำดับ
การจัดกลุ่ม การคำนวณคา่ เพื่อใหผ้ ู้อื่นเข้าใจความหมายได้ดีขึ้น ผ่านการเสนอในรปู แบบของตาราง
แผนภมู ิ วงจร เขียนบรรยาย เปน็ ต้น

ทักษะที่ ๗ การลงความเหน็ จากขอ้ มูล (Inferring) หมายถงึ การเพมิ่ ความคิดเห็นของตน
ต่อขอ้ มลู ที่ ได้ จากการสงั เกตอยา่ งมีเหตผุ ลจากพ้ืนฐานความรู้หรือประสบการณท์ ี่มี

ทักษะท่ี ๘ การพยากรณ์(Predicting) หมายถึง การทำนายหรือการคาดคะเนคำตอบ
โดยอาศัย ข้อมูล ที่ได้จากการสังเกตหรือการทำซ้ำผ่านกระบวนการแปรความหายของข้อมูลจาก
สมั พนั ธ์ภายใตค้ วามรู้ ทางวิทยาศาสตร์

๒.ระดับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณา ๕ ทักษะ การเป็นทักษะ
กระบวนการขั้นสูงที่มี ความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อแสวงหาความรู้โดยใช้ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ขน้ั พ้ืนฐานเปน็ พนื้ ฐาน ในการพฒั นา ประกอบด้วย

ทักษะท่ี ๙ การตั้งสมมติฐาน(Formulating hypotheses) หมายถึง การตั้งคำถามหรือ
คิดคำตอบ ล่วงหน้าก่อนการทดลองเพื่ออธิบายหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ว่ามี
ความสัมพันธ์สมมติฐานสร้างขึ้นจะ อาศัยการสังเกต ความรู้ และประสบการณ์ภายใต้หลักการ
กฎหรือทฤษฎีทส่ี าม อธบิ ายคำตอบได้

ทักษะที่ ๑๐ การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (Defining operationally) หมายถึง
การกำหนด และอธิบายความหมาย และขอบเขตของคำต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือ
การทดลองเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ ตรงกันระหว่างบุคคล

ทักษะที่ ๑๑ การกำหนด และควบคุมตัวแปร (Identifying and controlling
variables) หมายถึง การบ่งชี้ และกำหนดลักษณะตัวแปรใด ๆ ให้เป็นเป็นตัวแปรอิสระหรือ
ตวั แปรตน้ และตัวแปรต้นให้เป็นตวั แปรตาม และตัวแปรใด ๆ ใหเ้ ปน็ ตัวแปรควบคมุ

ทักษะที่ ๑๒ การทดลอง (Experimenting) หมายถึง กระบวนการปฏิบัติ และทำซ้ำใน
ขน้ั ตอนเพ่อื หา คำตอบจากสมมตฐิ าน แบง่ เป็น ๓ ข้นั ตอน คอื

๑. การออกแบบการทดลอง หมายถึง การวางแผนการทดลองก่อนการทดลองจริงๆเพื่อ
กำหนดวิธกี าร และข้นั ตอนการทดลองทสี่ ามารถดำเนินการได้จรงิ รวมถึงวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาอุปสรรค
ทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ ขณะการ ทดลองเพ่ือใหก้ ารทดลองสามารถดำเนนิ การใหส้ ำเร็จลลุ ่วงด้วยดี

๒. การปฏิบตั ิการทดลอง หมายถงึ การปฏบิ ตั ิการทดลองจริง

๓๘

๓. การบันทกึ ผลการทดลอง หมายถึง การจดบนั ทึกข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการทดลองซึ่งอาจเป็นผล
จากการสังเกต การวัด และอื่น ๆ

ทักษะท่ี ๑๓ การตีความหมายข้อมูล และการลงข้อมูล(Interpreting data and
conclusion) หมายถึงการแปรความหมายหรือการบรรยายลักษณะและสมบัติของข้อมูลที่มีอยู่
การตคี วามหมายข้อมลู บางครัง้ อาจตอ้ งใช้ทักษะอื่น ๆ เชน่ ทกั ษะการสงั เกต ทกั ษะการคำนวณ
จิตวิทยาศาสตร์

คณุ ลักษณะดา้ นจิตวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะชบี้ ง่ /พฤติกรรม

๑.เห็นคณุ คา่ ทางวทิ ยาศาสตร์ ๑.๑ นยิ มยกยอ่ งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑.๒ นิยมยกยอ่ งความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์
๑.๓ เพม่ิ พูนความรู้และประสบการณ์ทางวทิ ยาศาสตร์
๑.๔ ตระหนักความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ในการพัฒนา
คุณภาพชีวติ

๒.คุณลักษณะทางวทิ ยาศาสตร์ ๒.๑.๑ การยอมรับข้อสรุปท่ีมเี หตผุ ล
๒.๑ ความมเี หตุผล ๒.๑.๒ มีความเชือ่ วา่ ส่ิงที่เกดิ ข้นึ ต้องมสี าเหตุ
๒.๑.๓ นยิ มยกยอ่ งบคุ คลที่มีความคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
๒.๑.๔ เห็นคณุ คา่ ในการสืบหาความจริงก่อนท่ีจะยอมรับ
หรือปฏบิ ัติตาม

๒.๒ ความอยากรอู้ ยากเห็น ๒.๒.๑ ชื่อว่าวิธีการทดลองค้นคว้าจะทำให้ค้นพบวิธีการ
๒.๓ ความใจกว้าง แกป้ ัญหาได้
๒.๔ ความมรี ะเบียบในการ ทำงาน ๒.๒.๒ พอใจใฝ่หาความร้ทู างวิทยาศาสตร์เพมิ่ เติม
๒.๒.๓ ชอบทดลองคน้ ควา้

๒.๓.๑ ตระหนักถึงความสำคัญของความมีเหตุผลของ
ผ้อู น่ื
๒.๓.๒ ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นและคำวิจารณข์ องผู้อ่ืน

๒.๔.๑ ตระหนักถึงการระวังรักษาความปลอดภัยของ
ตนเองและเพอ่ื นในขณะทดลองวทิ ยาศาสตร์
๒.๔.๒ เห็นคุณค่าของการระวังรักษาเครื่องมือที่ใช้มิให้
แตกหักเสยี หายในขณะทดลองวทิ ยาศาสตร์

๓๙

คณุ ลักษณะด้านจติ วทิ ยาศาสตร์ ลักษณะชีบ้ ่ง/พฤตกิ รรม

๒.๕ การมีค่านิยมตอ่ ความ เสยี สละ ๒.๕.๑ ตระหนกั ถงึ การทำงานใหส้ ำเรจ็ ลลุ ่วงตามเปา้ หมาย
โดยไม่ คำนงึ ถึงผลตอบแทน
๒.๕.๒ เต็มใจที่จะอุทิศตนเพื่อการสร้างผลงานทาง
วิทยาศาสตร์

๒.๖ การมคี ่านิยมตอ่ ความ ซ่อื สัตย์ ๒.๖.๑ เห็นคุณค่าต่อการเสนอผลงานตามความเป็นจริงท่ี
ทดลองได้
๒.๖.๒ ตำหนิบุคคลที่นำผลงานผู้อื่นมาเสนอเป็นผลงาน
ของตนเอง

๒.๗ การมีคา่ นยิ มตอ่ การ ประหยัด ๒.๗.๑ ยินดที ่จี ะรกั ษาซ่อมแซมส่งิ ที่ชำรุดให้ใชก้ ารได้
๒.๗.๒ เหน็ คณุ ค่าของการใช้วัสดอุ ปุ กรณ์อย่างประหยดั
๒.๗.๓ เหน็ คณุ ค่าของวสั ดุทเ่ี หลอื ใช้

คุณภาพผเู้ รียน

จบชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓

❖ เข้าใจลักษณะที่ปรากฏ ชนิดและสมบัติบางประการของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุและ
การเปล่ยี นแปลงของ วัสดรุ อบตวั

❖ เข้าใจการดงึ การผลกั แรงแม่เหลก็ และผลของแรงทมี่ ตี อ่ การเปล่ียนแปลง การเคลื่อนท่ี
ของวัตถุ พลังงานไฟฟ้า และการผลิตไฟฟา้ การเกดิ เสียง แสงและการมองเห็น

❖ เขา้ ใจการปรากฏของดวงอาทติ ย์ดวงจนั ทร์และดาว ปรากฏการณข์ ึ้นและตกของ ๘ ดวง
อาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ลักษณะของหิน การจำแนกชนิดดินและการใช้
ประโยชน์ลกั ษณะและ ความสำคญั ของอากาศ การเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม

❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกีย่ วกับสิง่ ที่จะเรียนรู้ตามที่กำหนดใหห้ รือตามความสนใจ
สังเกต สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการสำรวจ
ตรวจสอบด้วยการ เขียนหรือวาดภาพ และสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ด้วยการเล่าเรื่อง หรือด้วยการแสดง
ทา่ ทางเพอื่ ให้ผูอ้ ่ืนเขา้ ใจ

๔๐

❖ แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการ ส่อื สารเบ้อื งตน้ รักษาขอ้ มลู ส่วนตวั

❖ แสดงความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรูม้ ีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษา
ตามท่ี กำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรบั ฟังความคดิ เห็น
ผู้อ่ืน

❖ แสดงความรับผิดชอบดว้ ยการทำงานทีไ่ ด้รับมอบหมายอย่างมุง่ มัน่ รอบคอบ ประหยดั
ซอ่ื สัตย์ จนงานลลุ ว่ งเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื อยา่ งมคี วามสขุ

❖ ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน
การดำรงชีวิตศกึ ษา หาความร้เู พมิ่ เตมิ ทำโครงงานหรอื ชิน้ งานตามที่กำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ

จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

❖ เข้าใจโครงสร้าง ลักษณะเฉพาะและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งความสัมพนั ธ์ของ
สิ่งมชี ีวิตใน แหลง่ ท่ีอยู่การทำหน้าท่ีของส่วนตา่ ง ๆ ของพืช และการทำงานของระบบย่อยอาหารของ
มนุษย์

❖ เข้าใจสมบัติและการจำแนกกลุ่มของวัสดุสถานะและการเปลี่ยนสถานะของสสารการ
ละลาย การ เปลี่ยนแปลงทางเคมีการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และผันกลับไม่ได้และการแยกสาร
อย่างงา่ ย

❖ เข้าใจลักษณะของแรงโนม้ ถ่วงของโลก แรงลพั ธ์แรงเสยี ดทาน แรงไฟฟ้าและผลของแรง
ตา่ งๆ ผล ทเ่ี กิดจากแรงกระทำตอ่ วตั ถุความดนั หลักการทม่ี ีต่อวัตถุวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย ปรากฏการณ์
เบอื้ งตน้ ของเสียง และแสง

❖ เข้าใจปรากฏการณ์การข้ึนและตก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์
องค์ประกอบของระบบสุริยะ คาบการโคจรของดาวเคราะหค์ วามแตกต่างของดาวเคราะห์และ ดาว
ฤกษ์การขึน้ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์การใช้แผนท่ีดาว การเกิดอปุ ราคา พฒั นาการและประโยชนข์ อง
เทคโนโลยีอวกาศ

❖ เข้าใจลักษณะของแหล่งน้ำ วัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง น้ำค้างแข็ง
หยาดน้ำ ฟ้า กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน การใช้ประโยชน์หินและแร่ การเกิดซากดึกดำบรรพ์
การเกิดลมบก ลมทะเล มรสุม ลักษณะและผลกระทบของภัยธรรมชาติธรณีพิบัติภัย การเกิดและ
ผลกระทบของปรากฏการณเ์ รอื นกระจก

๔๑

❖ ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมินความน่าเชื่อถือ ตัดสินใจเลือกข้อมูลใช้
เหตุผลเชิง ตรรกะในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทำงานร่วมกัน
เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ทขี่ องตน เคารพสิทธขิ องผอู้ นื่

❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกีย่ วกบั สิง่ ทีจ่ ะเรียนรู้ตามทีก่ ำหนดใหห้ รือตามความสนใจ
คาดคะเน คำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคำถามหรือปัญหาที่จะสำรวจ
ตรวจสอบ วางแผนและสำรวจ ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ี
เหมาะสม ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูลท้งั เชงิ ปรมิ าณ และคุณภาพ

❖ วิเคราะห์ข้อมูล ลงความเห็น และสรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลที่มาจากการสำรวจ
ตรวจสอบใน รูปแบบที่เหมาะสม เพือ่ ส่ือสารความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบได้อย่างมีเหตุผลและ
หลักฐานอา้ งอิง

❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมนั่ ในส่งิ ท่จี ะเรยี นรู้มีความคิดสรา้ งสรรค์เกย่ี วกบั เรื่องท่ีจะศึกษา
ตาม ความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเหน็ ของตนเอง ยอมรบั ในข้อมลู ทมี่ หี ลกั ฐานอา้ งองิ และรับ
ฟังความคิดเห็น ผูอ้ น่ื

❖ แสดงความรับผิดชอบดว้ ยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอยา่ งมุง่ มัน่ รอบคอบ ประหยดั
ซือ่ สตั ย์ จนงานลุลว่ งเปน็ ผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผ้อู นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์

❖ ตระหนกั ในคณุ ค่าของความรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ใชค้ วามรู้และกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต แสดงความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้นและ
ศกึ ษาหาความรู้ เพิ่มเติม ทำโครงงานหรือช้ินงานตามท่ีกำหนดใหห้ รือตามความสนใจ

❖ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย แสดงพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้การดูแลรักษาทรัพยากร
ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มอย่างรูค้ ณุ ค่า

๔๒

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ ไมม่ ชี ีวิต

กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด
พลงั งาน การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีใน ระบบนเิ วศ ความหมายของ ประชากร ปญั หาและผลกระทบที่มี
ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทาง ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข
ปญั หาสิง่ แวดล้อม รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมชี ีวิต หน่วยพืน้ ฐานของส่ิงมีชวี ิต การลำเลียงสารเขา้
และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ี
ทำงานสมั พนั ธ์กัน ความสมั พันธ์ของ โครงสรา้ ง และหนา้ ที่ ของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ีทำงานสัมพันธ์
กัน รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรม สารพันธุกรรม การ เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลตอ่ ส่ิงมีชีวิต ความหลากหลาย ทาง
ชวี ภาพและววิ ัฒนาการของส่ิงมีชวี ติ รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ

ของ สสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง
สถานะของสสาร การเกิด สารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ
ลกั ษณะ การเคล่ือนท่ี แบบตา่ ง ๆ ของวัตถรุ วมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลีย่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ ง สสารและพลังงาน พลังงานในชวี ติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ อง คลน่ื ปรากฏการณ์ที่
เก่ียวขอ้ งกับเสียง แสง และคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมท้ัง นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

๔๓

สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ

กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมท้งั ปฏสิ ัมพนั ธภ์ ายในระบบสุริยะ ที่สง่ ผลตอ่ ส่ิงมชี ีวติ และการ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลง ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟา้ อากาศและ
ภมู ิอากาศโลก รวมทั้งผลตอ่ สิง่ มีชวี ติ และ สิ่งแวดล้อม

สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการ

เปลยี่ นแปลง อย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตรค์ ณิตศาสตร์และ ศาสตร์อ่ืน ๆ
เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมี ความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
เลอื กใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม

มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น
ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการ
แก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม


Click to View FlipBook Version