๑๔๔
๒.๔ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- การประเมินผลสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ประเมนิ โดยใช้แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั
ของผเู้ รยี น กำหนดเกณฑ์การประเมิน ดังน้ี
ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
(๓) ดีเยีย่ ม ผ้เู รยี นปฏบิ ตั ติ นตามสมรรถนะจนเปน็ นสิ ัย และนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน เพ่อื
ประโยชน์สุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดบั ดีเยี่ยม
จำนวน ๓-๕ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี
(๒) ดี ผเู้ รียนมีสมรรถนะในการปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ เพือ่ ใหเ้ ปน็ การยอมรบั ของสังคม
พจิ ารณาจาก
๑. ได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยยี่ ม จำนวน ๑-๒ สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะใดได้ผล
การประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับดี หรอื
๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดเี ยี่ยม จำนวน ๒ สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะใดไดผ้ ล
การประเมินตำ่ กว่าระดับผา่ น หรือ
๓. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ผา่ น
(๑) พอใช้ ผูเ้ รียนรบั รูแ้ ละปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขท่สี ถานศึกษากำหนด พิจารณาจาก
๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผา่ น จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผล
การประเมินต่ำกว่าระดบั ผ่าน หรอื
๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี จำนวน ๒ สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการ
ประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับผ่าน
(๐) ปรบั ปรุง ผเู้ รยี นรบั รู้และปฏบิ ัตไิ ดไ้ ม่ครบตามเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขท่ีกำหนด โดยพจิ ารณา จากผล
การประเมินระดบั ตอ้ งปรบั ปรงุ ตง้ั แต่ ๑ สมรรถนะ
เกณฑ์การให้คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบอ่ ยคร้งั ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ ๑ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิน้อยคร้งั ให้ ๐ คะแนน
เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ๑๔๕
ช่วงคะแนน
๑๓-๑๕ ระดบั คณุ ภาพ
๙-๑๒ ดเี ย่ียม (๓)
๕-๘
ตำ่ กว่า ๕ ดี (๒)
ผา่ น (๑)
ไมผ่ ่าน (๐)
๑๔๖
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ช่ือ.............................................นามสกลุ ......................................เลขท.่ี .............ชั้น..................
คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น และขีด ✓ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดีเย่ียม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑. ความสามารถ ๑.๑ มีความสามารถในการรับ-ส่งสาร
ในการส่ือสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความ
เขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
๑.๓ ใชว้ ิธีการสอ่ื สารที่เหมาะสม มปี ระสิทธิภาพ
๑.๔ เจรจาต่อรองเพอ่ื ขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งตา่ ง ๆ ได้
๑.๕ เลอื กรับและไมร่ บั ขอ้ มลู ข่าวสารด้วยเหตผุ ลและถูกตอ้ ง
สรปุ ผลการประเมิน รวม ........ คะแนนระดบั ...........
๒. ความสามารถ ๒.๑ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์
ในการคิด ๒.๒ มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
๒.๓ สามารถคดิ อย่างมีวิจารณญาณ
๒.๔ มีความสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้
๒.๕ ตดั สินใจแกป้ ัญหาเกยี่ วกับตนเองได้อย่างเหมาะสม
สรุปผลการประเมนิ รวม ........ คะแนนระดบั ...........
๓. ความสามารถ ๓.๑ สามารถแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ท่ีเผชญิ ได้
ในการแก้ปญั หา ๓.๒ ใชเ้ หตผุ ลในการแก้ปัญหา
๓.๓ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงในสังคม
๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรูม้ าใชใ้ นการปอ้ งกันและ
แก้ไขปญั หา
๓.๕ สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวยั
สรุปผลการประเมิน รวม ........ คะแนนระดับ ...........
๔. ความสามารถ ๔.๑ เรยี นรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย
ในการใชท้ กั ษะ ๔.๒ สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกบั ผู้อื่นได้
ชวี ติ ๔.๓ นำความรทู้ ่ีไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน
๔.๔ จดั การปญั หาและความขัดแย้งไดเ้ หมาะสม
๑๔๗
ระดับคุณภาพ
สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดเี ยีย่ ม ดี ผา่ น ไมผ่ า่ น
๕. ความสามารถ (๓) (๒) (๑) (๐)
ในการใช้
เทคโนโลยี ๔.๕ หลกี เลยี่ งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบต่อ
ตนเอง
สรปุ ผลการประเมิน รวม ........ คะแนนระดับ ...........
๕.๑ เลือกและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวยั
๕.๒ มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
๕.๓ สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง
๕.๔ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์
๕.๕ มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
สรุปผลการประเมิน รวม ........ คะแนนระดับ ...........
ระดับคณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ในหลักสูตรรายชน้ั
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
๑๔๘
๓. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
การประเมินผลคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ประเมนิ โดยใชแ้ บบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
กำหนดเกณฑใ์ นการประเมนิ ดงั นี้
ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
(๓) ดเี ย่ียม ผู้เรียนปฏิบตั ิตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นิสยั และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เพอ่ื
ประโยชนส์ ุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินทั้ง ๘ คุณลกั ษณะ
คือ ได้ระดบั ๓ จำนวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมนิ ต่ำ
กวา่ ระดบั ๒
(๒) ดี ผ้เู รยี นมีคณุ ลักษณะในการปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ เพ่อื ใหเ้ ป็นการยอมรับของสังคม
พิจารณาจาก
๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ๓ จำนวน ๑-๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใด ได้ผล
การประเมินตำ่ กวา่ ระดับ ๒ หรือ
๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ ๓ จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคณุ ลักษณะใดได้ผล
การประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับ ๑ หรือ
๓. ไดผ้ ลการประเมิน ระดับ ๒ จำนวน ๕-๘ คณุ ลักษณะ และไม่มีคณุ ลักษณะใด ไดผ้ ล
การประเมินต่ำกวา่ ระดับ ๑
(๑) ผ่าน ผเู้ รียนรบั รแู้ ละปฏิบัติตามกฎเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขท่สี ถานศกึ ษากำหนด พจิ ารณาจาก
๑. ไดผ้ ลการประเมิน ระดับ ๑ จำนวน คุณลักษณะ และไม่มคี ุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ๑ หรือ
๒. ไดผ้ ลการประเมิน ระดบั ๒ จำนวน ๔ คุณลกั ษณะ และไม่มคี ณุ ลกั ษณะใดได้ผล
การประเมินต่ำกวา่ ระดบั ๑
(๐) ไม่ผ่าน ผู้เรยี นรบั รู้และปฏบิ ัติได้ไมค่ รบตามเกณฑแ์ ละเง่อื นไขที่กำหนด โดยพิจารณาจากผล
การประเมนิ ระดับ ๐ ตงั้ แต่ ๑ คุณลกั ษณะข้ึนไป
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตสิ ม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติบ่อยครงั้ ให้ ๒ คะแนน
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏิบัตนิ ้อยครั้ง ให้ ๐ คะแนน
๑๔๙
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ชอ่ื .........................................นามสกุล....................................................เลขท.่ี .............ชนั้ ...................
คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น และขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกบั คะแนน
สมรรถนะ รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ดา้ น ดเี ยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน
(๓) (๒) (๑) (๐)
๑. รักชาติ - ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
ศาสน์ กษัตริย์ - เขา้ ร่วมกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และ
เปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น
- เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏบิ ัติตาม
หลัก ศาสนา
- เขา้ รว่ มกิจกรรมทเ่ี ก่ียวกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
ตามที่ โรงเรียนจดั ขน้ึ
๒. ซอื่ สตั ย์ - ใหข้ ้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง
สุจรติ - ปฏิบตั ิในสิง่ ทีถ่ กู ต้อง
๓. มีวินัย - ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ
รบั ผิดชอบ ครอบครวั มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้ - รูจ้ ักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้
- รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
- เชื่อฟังคำสั่งสอนของบดิ า
- มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง
– ตัง้ ใจเรียน
๕. อยู่อย่าง - ใช้ทรัพย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
พอเพียง - ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรูค้ ณุ คา่
- ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
๖. มุง่ มนั่ ใน - มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ไี ดร้ ับมอบ
การทำงาน หมาย
- มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งาน
สำเรจ็
๑๕๐
สมรรถนะ รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ
ด้าน ดเี ยีย่ ม ดี ผ่าน ไมผ่ า่ น
- มจี ติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย (๓) (๒) (๑) (๐)
๗. รักความ - เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
เปน็ ไทย - รู้จักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน
๘. มจี ิต - รจู้ ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั ิและสิ่งแวดลอ้ มของ
สาธารณะ ห้องเรยี นและโรงเรียน
ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมินในหลักสูตรรายช้นั
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ
๑๕๑
เกณฑก์ ารตัดสินผลการเรยี น
๑. เกณฑ์การตดั สินระดับผลการเรยี น
ระดับผลการเรยี น ความหมาย ชว่ งคะแนน
๘๐ - ๑๐๐
๔ ผลการเรียนดีเยีย่ ม ๗๕ – ๗๙
๗๐ – ๗๔
๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๖๕ – ๖๙
๖๐ – ๖๔
๓ ผลการเรยี นดี ๕๕ – ๕๙
๕๐ – ๕๔
๒.๕ ผลการเรยี นค่อนข้างดี ๐ - ๔๙
๒ ผลการเรียนปานกลาง
๑.๕ ผลการเรียนพอใช้
๑ ผลการเรยี นผา่ นเกณฑ์ขัน้ ตำ่
๐ ผลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑ์
๒. เกณฑ์การตดั สินผลการเรียน ร และ มส.
๒.๑) ตัดสินผลการเรยี น ร หมายถึง รอการตัดสินและยงั ตดั สินผลการเรยี นไมไ่ ดเ้ นอื่ งจาก
ผู้เรยี นไม่มีข้อมูลผลการเรียนในรายวชิ าครบถ้วน ได้แก่ ไม่ไดว้ ดั ผลกลางภาคเรยี น/ปลายภาคเรียน
ไมไ่ ด้สง่ งานที่ มอบหมายให้ทำซ่งึ งานน้นั เป็นสว่ นหนง่ึ ของการตดั สนิ ผลการเรียน หรือมีเหตุสุดวสิ ัยท่ี
ทำให้ประเมนิ ผลการเรียนไม่ได้
๒.๒) ตดั สินผลการเรยี น มส. หมายถึง ผเู้ รยี นไม่มสี ทิ ธเิ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรียน
เนอ่ื งจากผู้เรยี นมี เวลาเรยี นไมถ่ ึงรอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมด และไม่ไดร้ ับการผ่อนผนั ให้เขา้
รับการวดั ผลปลายภาคเรียน
๑๕๒
การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และการเขียน
เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละการเขียน คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
ระดับคณุ ภาพ ความหมาย ชว่ งคะแนน
ดีเย่ยี ม มีผลงานท่แี สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละ ๘๐ - ๑๐๐
เขยี น ทีม่ ีคุณภาพดเี ลิศอยเู่ สมอ
ดี มผี ลงานทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และ ๖๕ – ๗๙
เขยี น ท่ีมคี ุณภาพเป็นที่ยอมรับได้
ผ่าน มีผลงานทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ ๕๐ – ๖๔
และเขียน ทม่ี คี ุณภาพเป็นทย่ี อมรับได้ แตย่ งั มขี อ้ บกพร่อง
บางประการ
ไมผ่ า่ น ไมม่ ีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ ๑ - ๔๙
และเขียน หรอื ถา้ มผี ลงาน ผลงานน้นั ยังมขี อ้ บกพรอ่ งท่ี
ตอ้ งการได้รบั การปรับปรุงแก้ไขหลายประการ
๑๕๓
บรรณานกุ รม
กรมวชิ าการ.(๒๕๕๕). พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเติม
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบงั คับ พ.ศ. ๒๕๔๕.กรุงเทพฯ
อักษรไทย. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๔๕). หลักสูตรการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช
๒๕๔๕. กรุงเทพฯ :คุรุสภา ลาดพร้าว.
________________. (๒๕๕๑). หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
กรุงเทพฯ : ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั .
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (๒๕๖๐). ตัวช้ีวดั และสาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู ร
แกนกลาง การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตร
แหง่ ประเทศไทย จำกดั .
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (๒๕๕๗,๒๙ กันยายน). แนวทางบริหารจัดการ
หลักสูตร สถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้คณติศาสตร์และวทิยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ
: ผูแ้ ตง่ .
__________________________________. (๒๕๖๑, ๕ มกราคม). คำสั่งสำนกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัดการ เรียนรู้ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม
หลักสตู รแกนกลาง การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : ผู้แตง่ .
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๕๑). แนวทางการบรหิ ารจัดการหลักสตู ร. กรุงเทพฯ :
ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกัด.
_____________________________. (๒๕๖๑). เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ
พัฒนา บุคลากร หลักเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการจัดทำมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวช้ีวัดกลุ่มสาระการ เรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สาระภูมิศาสตรฯ์ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ไปสู่การ
ปฏิบตั ิ. กรุงเทพฯ : ผแู้ ต่ง.
๑๕๔
ภาคผนวก
๑๕๕
ภาคผนวก ก
คำอภธิ านศพั ท์
๑๕๖
อภธิ านศพั ท์
กำหนดปัญหา (Define problem)
ระบคุ ำถาม ประเดน็ หรือสถานการณ์ ทเี่ ป็น ขอ้ สงสัยเพอื่ นำไปสกู่ ารแก้ปญั หา หรอื อภิปราย
ร่วมกนั
แก้ปญั หา (Solve problem)
หาคำตอบของปญั หาทย่ี ังไมร่ ้วู ิธกี ารมากอ่ น ทง้ั ปญั หาที่เก่ียวข้องกบั วทิ ยาศาสตร์โดยตรง
และ ปัญหาในชีวิตประจำวนั โดยใชเ้ ทคนคิ และวธิ ีการตา่ ง ๆ
เขยี นแผนผัง/ วาดภาพ (Construct diagram/ illustrate)
นำเสนอข้อมลู หรือผลการสำรวจตรวจสอบดว้ ย แผนผัง กราฟ หรือภาพวาด
คาดคะเน (Predict)
คาดการณ์ผลทจ่ี ะเกดิ ข้นึ ในอนาคต โดยอาศัย ข้อมูลที่สงั เกตได้ และประสบการณ์ที่มี
คำนวณ (Calculate)
หาผลลพั ธจ์ ากขอ้ มูลโดยใชห้ ลกั การ ทฤษฎี หรือ วธิ กี ารทางคณิตศาสตร์
จำแนก (Classify)
จดั กลุ่มของสิง่ ตา่ ง ๆ โดยอาศัยลกั ษณะที่ เหมือนกันเป็นเกณฑ์
ตัง้ คำถาม (Ask question)
พดู หรือเขียนประโยค หรือวลเี พ่ือใหไ้ ดม้ าซึ่ง การคน้ หำคำตอบที่ต้องการ
ทดลอง (Conduct/ experiment)
ปฏิบตั กิ ารเพือ่ หำคำตอบของคำถาม หรือปญั หา ในกำรทดลอง โดยต้งั สมมติฐานเพอ่ื เป็น
แนวทาง ในการกำหนดตัวแปรและวางแผนดำเนินการ เพื่อตรวจสอบสมมติฐาน
นำเสนอ (Present)
แสดงขอ้ มูล เรอื่ งราว หรือ ความคดิ เพือ่ ให้ผู้อืน่ รบั รหู้ รอื พิจารณา
๑๕๗
บรรยาย (Describe)
ให้รายละเอยี ดของเหตุการณ์หรอื ปรากฏการณ์ที่ เกดิ ขึน้ ให้ผอู้ ่ืนได้รับรูด้ ้วยการบอกหรือ
เขียน
บอก (Tell)
ใหข้ อ้ มูล ขอ้ เท็จจริง แกผ่ ู้อน่ื ดว้ ยการพูด หรือเขยี น
บันทกึ (Record)
เขยี นข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการสังเกต เพอื่ ช่วยจำ หรือ เพื่อเป็นหลักฐาน
เปรยี บเทยี บ (Compare)
บอกความเหมือน และ/หรอื ความแตกต่างของ สิ่งที่เทียบเคยี งกนั
แปลความหมาย (Interpret)
แสดงความหมายของขอ้ มูลจากหลักฐานทป่ี รากฎ เพ่อื ลงข้อสรุป
ยกตวั อย่าง (Give examples)
ใหข้ ้อมูล เหตกุ ารณ์ หรอื สถานการณ์ เพอื่ แสดง ความเข้าใจในสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้
ระบุ (Identify)
ชีบ้ อกสิ่งต่าง ๆ โดยใชข้ อ้ มูลประกอบอยา่ งเพียงพอ
เลือกใช้ (Select)
พจิ ารณาและตดั สินใจนำวัสดุ สิ่งของ อุปกรณ์ หรือวิธกี ารมาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม
วัด (Measure)
หาขนดหรอื ปรมิ าณของสงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้เครอ่ื งมอื ท่เี หมาะสม
วเิ คราะห์ (Analyze)
แยกแยะ จัดระบบ เปรยี บเทยี บ จดั ลำดบั จดั จำแนก หรอื เช่อื มโยงขอ้ มูล
สรา้ งแบบจำลอง (Construct model)
๑๕๘
นำเสนอแนวคิดหรอื เหตุการณ์ในรูปของ แผนภาพ ช้นิ งาน สมการ ข้อความ คำพูด และ/
หรอื ใช้แบบจำลองเพ่ืออธิบายความคดิ วัตถุ หรอื เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ
สงั เกต (Observe)
หาข้อมูลดว้ ยการใชป้ ระสาทสัมผสั ทงั้ หำ้ ทเี่ หมาะสม ตามขอ้ เท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่ใช้
ประสบการณ์เดมิ ของผู้สังเกต
สำรวจ (Explore)
หาขอ้ มลู เกยี่ วกบั สิ่งต่าง ๆ โดยใชว้ ธี กี ารและ เทคนคิ ที่เหมาะสมเพอ่ื นำขอ้ มูลมาใชต้ าม
วตั ถปุ ระสงคท์ กี่ ำหนดไว้
สบื คน้ ขอ้ มลู (Search)
หาข้อมลู หรอื ขอ้ สนเทศท่มี ีผูร้ วบรวมไวแ้ ลว้ จาก แหล่งต่าง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
สอ่ื สาร (Communicate)
นำเสนอและแลกเปล่ียนความคดิ ข้อมูล หรือผล จากการสำรวจตรวจสอบด้วยวธิ ีท่เี หมาะสม
อธิบาย (Explain)
กลา่ วถึงเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ อย่างมเี หตุผล และมี ขอ้ มูล หรือประจกั ษพ์ ยานอา้ งอิง
อภปิ ราย (Discuss)
แสดงความคิดเห็นตอ่ ประเด็น หรอื คาถามอย่าง มีเหตุผลโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์
ของผอู้ ภปิ รายและข้อมลู ประกอบ
ออกแบบกำรทดลอง (Design experiment)
กำหนดและวางแผนวิธีกำรทดลองใหส้ อดคล้องกบั สมมติฐานและตวั แปรต่าง ๆ รวมท้งั การ
บันทกึ ข้อมลู
๑๕๙
ศพั ท์ทีเ่ ก่ียวข้องกับตัวช้วี ัดสาระเทคโนโลยี
การใชล้ ิขสิทธิ์ของผอู้ ืน่ โดยชอบธรรม (Fair use)
การนำสอื่ หรอื ขอ้ มลู ที่เป็นลขิ สทิ ธ์ิของผู้อื่นไปใชโ้ ดยชอบด้วยกฎหมายภายใต้เง่ือนไขบางประการ
เชน่
๑) นำไปใช้ในการศกึ ษา หรือการค้ำ
๒) งานน้ันเปน็ งานวิชำการ หรือบันเทิง
๓) คัดลอกเพยี งส่วนน้อย หรอื คัดลอกจานวนมาก
๔) ทำให้เจา้ ของเสียผลประโยชนท์ างการเงิน มากนอ้ ยเพยี งใด
การตรวจและแก้ไขข้อผิดพลาด (Debugging)
กระบวนการในการค้นหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม เพ่ือแก้ไขให้ทำงานได้ถกู ต้อง
การประมวลผลขอ้ มูล (Data processing)
การดำเนินการต่าง ๆ กบั ข้อมูลเพอ่ื ใหไ้ ด้ผลลัพธท์ ี่มีความหมาย และมีประโยชนต์ อ่ การ
นำไปใชง้ านมากย่งิ ขน้ึ
การวบรวมข้อมลู (Data collection)
กระบวนกรในการรวบรวมขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งจากแหลง่ ข้อมูลตา่ ง ๆ
ข้อมลู ปฐมภมู ิ (Primary data)
ข้อมูลท่รี วบรวมโดยตรงจากแหล่งขอ้ มูลขัน้ ต้นโดยอาจใชว้ ิธีการสงั เกต การทดลอง การ
สำรวจ การสมั ภาษณ์
เทคโนโลยี (Technology)
ส่งิ ทม่ี นุษยส์ รา้ ง หรือพัฒนาขนึ้ ซ่ึงอาจเป็นได้ทั้งช้นิ งาน หรอื วิธีการ เพ่อื ใช้แกป้ ัญหา สนอง
ความตอ้ งการ หรือเพ่ิมความสามารถในการทำงำนของมนุษย์
แนวคดิ เชิงคำนวณ (Computational thinking)
กระบวนการในการแก้ปญั หา การคิดวเิ คราะหอ์ ย่างมเี หตุผลเปน็ ข้นั ตอน เพ่อื หำวธิ กี าร
แก้ปัญหาในรูปแบบท่ีสามารถนำไปประมวลผลได้
๑๖๐
แนวคิดเชงิ นามธรรม (Abstraction)
การพิจารณารายละเอียดที่สำคญั ของปญั หา แยกแยะสำระสำคัญออกจากสว่ นที่ไมส่ ำคัญ
ระบบทางเทคโนโลยี (Technological system)
กลุ่มของส่วนตา่ ง ๆ ตั้งแต่สองสว่ นขึน้ ไปประกอบเขา้ ด้วยกันและทำงานรว่ มกนั เพื่อใหบ้ รรลุ
วัตถปุ ระสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปดว้ ย ตัวป้อน (input)
กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ท่ีสมั พันธก์ นั นอกจากนร้ี ะบบทางเทคโนโลยอี าจมี
ข้อมูลยอ้ นกลับ (feedback) เพือ่ ใช้ปรับปรุง การทำงานไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์
เหตุผลเชิงตรรกะ (Logical reasoning)
การใชเ้ หตุผล กฎ กฎเกณฑ์ หรอื เงอ่ื นไข ท่ีเกีย่ วขอ้ ง เพ่อื แกป้ ัญหาไดค้ รอบคลมุ ทุกกรณี
เหตผุ ลวิบัติ (Logical fallacy)
การใช้เหตุผลท่ีผิดพลาด ไมอ่ ยูบ่ นพ้ืนฐานของความจรงิ ไมม่ ีนำ้ หนกั สมเหตุสมผล มา
สนับสนุน หรือชีน้ ำข้อสรปุ ทีผ่ ิดใหด้ นู ่าเชือ่ ถือ
อตั ลกั ษณ์ (Identity)
ลักษณะเฉพาะ หรือขอ้ มูลสำคญั ท่ีบ่งบอกถงึ ความเป็นตัวตนของบคุ คลหรือส่ิงใดส่งิ หน่งึ เช่น
ชื่อบัญชีผ้ใู ช้ ใบหนา้ ลายนว้ิ มือ
อัลกอรทิ มึ (Algorithm)
ข้ันตอนในการแก้ปัญหา หรือการทำงาน โดยมลี ำดับของคำสั่งหรอื วิธีการท่ชี ดั เจน ท่ี
คอมพวิ เตอร์สามารถปฏิบัติตามได้
แอพพลเิ คชัน (Software application)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณเ์ ทคโนโลยี
อื่น ๆ
๑๖๑
ภาคผนวก ข
คำส่ังโรงเรยี นบ้านวาวี
- คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนนวาวี
พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ
ปรับปรุง ๒๕๖๐) และหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
- คำส่งั แตง่ ตัง้ คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
โรงเรียนบ้านวาวี (คำส่งั สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๒)
- คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานโรงเรียน
บ้านวาวี (คำสง่ั โรงเรียนบา้ นวาวี)
๑๖๒
๑๖๓
๑๖๔
๑๖๕
๑๖๖
๑๖๗
๑๖๘
๑๖๙
๑๗๐
๑๗๑
ภาคผนวก ค
ประกาศ/ คำส่งั กระทรวงศึกษาธิการ
- คำสั่ง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
- คำสั่ง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และ
วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑
- คำส่งั ยกเลิกมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ดั สาระท่ี ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระท่ี ๓
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปลี่ยนช่ือกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
- คำสั่ง การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
- ประกาศ การบริหารจัดการหลักสตู รสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
- ประกาศ การบรหิ ารจดั การเวลาเรียนของสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน
๑๗๒
๑๗๓
๑๗๔
๑๗๕
๑๗๖
๑๗๗
๑๗๘
๑๗๙
๑๘๐
๑๘๑
๑๘๒
๑๘๓
๑๘๔
คณะผูจ้ ัดทำหลกั สตู รโรงเรียนบ้านวาวี
๑๘๕
คณะผู้จดั ทำ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๑.นางสาวโชตกิ า วงศป์ ญั ญา หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๒.นายอนุพงษ์ สมศรี ครผู สู้ อนรายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คณะบรรณาธิการ
๑. ว่าท่รี ้อยเอกเสรี เชอื้ อ้วน ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นวาวี
๒. นายรชั ชานนท์ วนั เพ็ญ รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านวาวี
๓. นางสาวสรุ ชั ญา พิศาลไพโรจน์ หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ
๔. นางสาวพลอยณิชชา เศรษฐปิตวิ งศ์ หวั หนา้ งานพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษา
จัดพมิ พ์ตน้ ฉบับ หัวหน้างานพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา
นางสาวพลอยณชิ ชา เศรษฐปิติวงศ์