๑๓๘ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ท้งั ภาษมลายทู อ้ งถ่ิน ภาษาพ้ืนเมือง และภาษามลายู
กลาง (หมายถึงภาษาที่ใชใ้ น มาเลเซีย อินโดนีเซีย)
********************
ฉันจาํ ได้ว่า คร้ังท่ียงั เรียนหนังสือช่วงเป็ น
วยั รุ่นท่านเคยแต่งหนงั สือ ท่ีใชเ้ ป็ นแบบเรียนอยเู่ ล่ม
หน่ึง ที่เก่ียวกบั ภาษาอาหรับพ้ืนฐาน ซ่ึงหนงั สือเล่น
น้ันมีขายกันแพร่หลายอยู่จนถึงปัจจุบนั เป็ นศพั ท์
ภาษาอาหรับ และมีรูปภาพประกอบดว้ ย เหมาะกบั
เด็กนักเรียนอายุประมาณ 6-7 ขวบซ่ึงก็เท่ากบั ว่า
ท่านไดส้ งั่ สมประสบการณ์ ต้งั แต่วยั เรียนของท่าน
๑๓๙ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ฉนั ไดพ้ บกบั นกั ศึกษาท่านหน่ึง เขาเล่าให้ฟัง
วา่ “พ่อฉนั เล่าให้ฟังเม่ือก่อนตอนที่ท่านเชคอิสมาอีล
ลุตฟี ยงั เป็ นวยั รุ่นกาํ ลังเรียนอยู่ ท่านชอบไปอ่าน
คุตบะฮ์ วนั ศุกร์ ที่หมู่บา้ นบราโอ ซ่ึงอยู่ไม่ไกลจาก
ปอเนาะบราโอมากนกั ท่านอ่านคุตบะฮไ์ ดด้ ีมาก พ่อ
ฉนั บอกว่าตอนน้นั หมู่บา้ นของเรามีบาลาย(อาคาร)
ไม้อยู่หลังหน่ึง ที่ใช้เป็ นที่ละหมาดของคนใน
หมู่บา้ นน้นั ”
********************
ชีวิตการเป็ นนักพูดและนักบรรยายของท่าน
จึงสืบสานต้งั แต่คร้ังน้นั เป็นตน้ มา
๑๔๐ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
หลายคร้ังที่ฉนั ได้มีโอกาสติดตามรับฟังการ
บรรยายรับฟังการสอนของ เชค อิสมาอีล ลุตฟี ใน
ระยะหลงั ๆ น้ีท่านมกั ชอบใชภ้ าษาไทย การปราศรัย
และบรรยาย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และต่างจงั หวดั
พฒั นาการของท่านในการใชภ้ าษาไทยดูค่อนขา้ งจะ
ดีมาก
ฉนั เองเคยมีโอกาสแนะนาํ ท่านเกี่ยวกบั การใช้
คาํ ศพั ท์บางคาํ เช่น คาํ ว่า ความลบั และสิ่งเร้นลบั
ซ่ึงท่านกไ็ ดน้ าํ ไปใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งในคร้ังต่อๆ มา
๑๔๑ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
นบั วา่ ท่าน เชค อีสมาอีล ลุตฟี เป็นบุคคลหน่ึง
ท่ีเรี ยนรู้ภาษาไทยได้รวดเร็วและดีมาก สําหรับ
ภาษาองั กฤษน้นั ท่านก็ไดน้ าํ ศพั ทใ์ หม่ๆทางวิชาการ
ไปใชใ้ นการบรรยาย และปราศรัยในเวทีใหญ่ๆ ซ่ึง
ท่านนิยมใชใ้ นวลี และคาํ ที่ตอ้ งการเนน้ ย้าํ เช่น คาํ วา่
เวอร์ชนั่ เป็นตน้
จากวนั วานมาถึงวนั น้ี เชคอิสมาอีล ลุตฟี ทาํ
หนา้ ท่ี เป็นท้งั ครูแห่งอลั กุรอานของเดก็ ๆท่ีโรงเรียน
บาํ รุงอิสลาม อาจารยบ์ รรยายในมหาวิทยาลยั มฟน.
วิทยากรในการเรียนการสอนวนั เสาร์ และท่านยงั ทาํ
หน้าท่ีเป็ นที่ปรึกษาและฝ่ ายประสานงานระหว่าง
องคก์ รต่างๆ ท้งั ภาครัฐ และเอกชนดว้ ย
๑๔๒ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
๑๔๓ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
...ไม่กลบั ไปพกั ผอ่ นหรือครับ...ท่านเดินทางมาไกล
๑๔
ฉันพกั ผ่อนมามากแล้ว
๑๔๔ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
วันก่อนท่านเชคอิสมาอีล ลุตฟี ไดร้ ับเชิญไป
ร่วมงานสมั มนาท่ีประเทศศรีลงั กา ท่านกไ็ ดเ้ ดินทาง
ไปตามคาํ เชิญ ท่านไปกบั ดร.สุกรี หลงั ปูเต๊ะ ซ่ึงดร.
สุกรี หลงั ปูเต๊ะ กบั ฉันสมยั เม่ือ 30 กว่าปี ท่ีแลว้ เรา
เรียนด้วยกนั ท่ีสตูล ท่านเป็ นคนท่ีคล่องแคล่วมาก
ท่านชอบวิชาเก่ียวกบั การบรรยายการอภิปรายหน้า
ช้นั เช่น วิชาสังคม ท่านเป็ นคนพูดเก่ง ต้งั แต่คร้ังยงั
เรี ยนมัธยมด้วยกัน ที่โรงเรี ยนจริ ยธรรมอิสลาม
จงั หวดั สตูล ลีลา และวาทการพูดของท่านถอดแบบ
มาจากผเู้ ป็นบิดาของท่าน ครูอาหมาด หลงั ปูเต๊ะ ซ่ึง
๑๔๕ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ท่านเคยดาํ รงตาํ แหน่งเป็ นผอ.โรงเรียนแห่งหน่ึงที่
สตูล
ดร.สุกรี หลงั ปูเต๊ะ เป็ นเสมือนเพ่ือนร่วมทาง
และล่ามภาษาองั กฤษประจาํ ตวั ของท่าน เชค อิสมา
อีล ลุตฟี ท้งั สองไดใ้ ชเ้ วลาอยทู่ ี่ศรีลงั กา ประมาณ 7
วนั
การสัมมนาคร้ังน้ันเป็ นการสัมมนาระดับ
ภูมิภาค เพื่อหารือในเรื่องต่างๆ เก่ียวกบั การพฒั นา
ความเป็นอยขู่ องประชากรท้งั สองประเทศเน่ืองจาก
ท้งั ไทยและ ศรีลงั กา เป็นประเทศท่ีมีผนู้ บั ถือศาสนา
พุทธเป็นส่วนใหญ่ และศาสนาอิสลามรองลงมา จึงมี
ความคลา้ ยคลึงกนั ท้งั สองจึงพบกนั เพื่อแลกเปล่ียน
ประสบการณ์ศึกษาแนวทาง เพ่ือสร้างความเขา้ ใจอนั
๑๔๖ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ดีระหวา่ งผคู้ นในสงั คมท่ีมีความหลากหลายท้งั ภาษา
วฒั นธรรม และเช้ือชาติ
หลงั จากเสร็จสิ้นการสมั มนา สองสหายเพ่ือน
ร่วมทาง หน่ึงสหายแห่งอนั ดามนั กบั อีกหน่ึงสหาย
แห่งอ่าวไทย ท่ีพระผูเ้ ป็ นเจา้ ลิขิตมาให้ได้ใช้ชีวิต
ร่วมกนั ในร้ัว มฟน. เม่ือ 16ปี ผา่ นมา เมื่อเสร็จภารกิจ
ท้งั สองกจ็ ดั กระเป๋ าเดินทางกลบั ประเทศไทย
เม่ือถึงสนามบินสุวรรณภูมิเป็ นที่เรียบร้อย
แลว้ ท้งั สองก็แยกยา้ ยกนั เน่ืองจากดร.สุกรี หลงั ปู
เต๊ะ ยงั ติดภารกิจท่ีกรุงเทพ และเชคอิสมาอีล ลุตฟี ก็
มีภารกิจท่ีจะตอ้ งกระทาํ ใน ตอนเยน็ ของวนั น้นั
ท่านเชคอิสมาอีล ลุตฟี น้นั เมื่อเดินทางมาถึง
สนามบินหาดใหญ่แล้ว ท่านก็เดินทางต่อไปยงั
ปัตตานี ขณะอยู่บนรถเมื่อใกล้ถึงตวั เมืองปัตตานี
๑๔๗ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ท่านพูดกับคนขับรถว่า“ฉันจะเลยไป มฟน .
เนื่องจากมีโปรแกรมงานสอนหนงั สือนกั ศึกษามฟน.
ท่ีมสั ยดิ ฮารอมยั น์ในช่วงเยน็ ”...
“ไม่กลับไปพักผ่อนก่อนหรื อครับ ท่าน
เดินทางมาไกล” คนขับรถถามท่านคล้ายกับจะ
ขอร้องบางอยา่ ง
“ไม่เป็ นไรหรอก ฉันพกั ผ่อนมาแลว้ บนรถ”
ท่านตอบเสียงส้นั ๆ แต่ไดใ้ จความยง่ิ นกั
คนขบั รถจึงนิ่ง และขบั รถไปถึงมฟน.ในตอน
เยน็ ของวนั พธุ วนั น้นั
ท่านลงจากรถปรากฏว่า เป็ นเวลาเดียวกบั ท่ี
มสั ยิดฮารอมัยน์ เต็มไปด้วยนักศึกษาท่ีน่ังแถวรอ
ท่านอยู่แล้ว...เพื่อฟังการบรรยายในหัวขอ้ “เคียง
ขา้ งอลั กรุ อาน”
๑๔๘ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
สําหรับเชคอิสมาอีล ลุตฟี ท่านมีวิธีการ
พกั ผอ่ นผอ่ นคลายจากการทาํ งาน หรือปฏิบตั ิภารกิจ
ไม่ว่าจะเป็ นการบรรยายการประชุม สัมมนา การ
ผ่อนคลายของท่าน ดูเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั เลย
ทีเดียว เป็นพรสวรรคป์ ระจาํ ตวั ของท่าน อนั บ่งบอก
ถึงสมาธิ และจิตใจของท่านท่ีสงบน่ิง
ตวั อย่างท่ีเกิดข้ึนในอีกคร้ังหน่ึง วนั น้ันเป็ น
วนั อาทิตย์ มีการสมั มนาเร่ือง “วากฟั วาระการพฒั นา
สงั คมและเศรษฐกิจ”จดั ข้ึนท่ีหอประชุมตึกเฉลิมพระ
เกียรติ ในคร้ังน้นั มีผเู้ ขา้ ร่วมสมั มนาจากหลายจงั หวดั
ด้วยกัน มีวิทยากรจากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย
อินโดนีเซีย ตุรกี เป็นตน้
๑๔๙ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ในช่วงเช้า เป็ นการเปิ ดพิธีเพ่ือสัมมนาโดย
ท่านอาจารยว์ นั นอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา
จากน้นั ต่อดว้ ยการปราศรัยของเชคอิสมาอีล ลุตฟี
คร้ันในภาคบ่าย ท่านเชคอิสมาอีล ลุตฟี ก็ตอ้ ง
ข้ึนเวทีอีกคร้ัง เพื่อร่วมเสวนากบั คณะวิทยากรจาก
มาเลเซียและอินโดนีเซีย
ในคร้ังน้ันฉันได้เข้าร่ วมรับฟังด้วย เม่ือ
วิทยากรท้งั หมดได้ข้ึนบนเวทีแล้ว วิทยากรท่านที่
หน่ึงกล็ ุกข้ึนบรรยายซ่ึงเป็นการนาํ เสนอรูปแบบและ
การวากฟั ในประเทศมาเลเซีย
ขณะน้ันฉนั มองเห็นท่านเชค อิสมาอีล ลุตฟี
ซ่ึงนั่งอยู่ตรงกลาง สังเกตเห็นท่านคลา้ ยๆ กบั ง่วง
นอน ท่านเอามือขวามากุมท่ีขมบั ค้าํ กบั เก้าอ้ีขา้ งๆ
แลว้ ท่านกง็ ีบหลบั ไปบนเกา้ อ้ีสมั มนาตวั น้นั
๑๕๐ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ขณะที่วิทยากรกาํ ลังบรรยายเพียงไม่ถึง 15
นาที ท่านก็ต่ืน และขยบั นั่งในท่าตรงเหมือนเดิม
อากปั กริยาของท่านในตอนน้ัน สําหรับผูเ้ ข้าร่วม
สมั มนาท่ีนงั่ ในแถวหลงั ๆ ถา้ ไม่สังเกตจริงๆจะไม่รู้
เลยวา่ ท่านกาํ ลงั หลบั อยู่ ดูผวิ เผนิ เหมือนท่านกาํ ลงั นงั่
กม้ หนา้ ลงมองพ้ืนเวที...
คร้ันพอถึงช่วงการนาํ เสนอของท่าน ท่านลุก
ข้ึนแลว้ เดินไปที่แท่นปราศรัย
ปรากฏว่า ท่านปราศรัยได้น่าฟังมาก น่า
ประทบั ใจที่สุด ท่านพูดดว้ ยภาษาไทยที่ดูดีมาก ท้งั
สําเนียงภาษา และเน้ือหาท่ีท่าน นําเสนอ ซ่ึงก่อน
หน้าน้ันฉันเองก็หวนั่ ๆ อยู่เหมือนกนั ว่าท่านจะจบั
ประเดน็ พูดไดด้ ีหรือเปล่า เพราะท่านเผลอหลบั ไป..
๑๕๑ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
แต่ท่านกลบั พูดไดด้ ีท่ีสุดเท่าท่ีฉนั เคยฟังมา ท่านพูด
ไม่ติดเลยแมแ้ ต่คาํ เดียวในคร้ังน้นั ...
๑๕๒ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
๑๕๓ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
...การจะอาบน้าํ ละหมาดก็ควรใช้น้าํ ให้น้อย
ใช้เวลาให้ส้ันที่สุ ด ไม่จาํ เป็ นต้องเอาให้
ล ะ เ อี ย ด เ ห มื อ น ต อ น อ ยู่ ท่ี บ้า น . . .
๑๕
ฮัจญ์ ปี ’49
๑๕๔ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ในฤดูกาลประกอบพิธีฮจั ญ์แต่ะละปี จะมี
ผคู้ นเป็ นจาํ นวนมาก เดินทางไปประกอบพิธีฮจั ญ์ที่
นครมกั กะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย แมว้ า่ ระยะทางจะ
ไกลแสนไกล อีกท้ังยงั จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็ น
จาํ นวนนับแสนบาท แต่ทุกคนก็มีหัวใจท่ีแน่วแน่
และมุ่งหวงั ในภารกิจแห่งฮจั ญอ์ นั ทรงเกียรติน้ี ทุก
คนทราบและมองเห็นถึงผลลพั ธอ์ นั คุม้ ค่า ท่ีจะไดร้ ับ
สิทธิประโยชน์อันอเนกอนันต์ ท้งั ต่อตนเองและ
สังคม พวกเขาจะได้ขัดเกลาจิตใจ ให้ใสสะอาด
๑๕๕ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ฝึ กฝนตนเองให้มีจิตอาสา ช่วยเหลือเพื่อนมนุษยใ์ น
ยามยาก รักและศรัทธาในภราดรภาพ เก้ือกูลกัน
ขบั เคลื่อนสังคมไปสู่ทิศทางท่ีดีงาม ยามเม่ือกลบั สู่
มาตุภูมิบา้ นเกิด
ในแต่ละปี จะมีคณะทาํ งาน(อามีรุลฮัจญ์)ที่
ทางส่วนกลาง (สาํ นกั จุฬาราชมนตรี) คดั เลือกเพ่ือไป
ประจาํ การอยู่ที่นครมกั กะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย
เพ่ือคอยดูแล ประสานงานในเร่ืองต่างๆ คอยให้
คาํ แนะนาํ และพบปะประชาชนผูไ้ ปทาํ ฮจั ญ์ท่ีนคร
มกั กะฮแ์ ละมะดีนะฮ์
คณะทาํ งาน(อามีรุลฮจั ญ)์ ของประเทศไทยเรา
ซ่ึงปี น้ี (ปี พ.ศ.49) อยภู่ ายใตก้ ารนาํ ทีมของเชคอิสมา
อีลลุตฟี จะปะกียา ไดไ้ ปประจาํ การอยทู่ ี่ตึกแห่งหน่ึง
ซ่ึงต้ังอยู่ไมไกลจากมัสยิดฮารอมในมักกะฮ์ มี
คณะแพทยแ์ ละพยาบาลและชุดต่างๆไปดูแลอย่าง
๑๕๖ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ใกลช้ ิด เมื่อมีผูป้ ระกอบพิธีฮจั ญค์ นใด ป่ วยหรือไม่
สบาย มีปัญหาดา้ นสุขภาพ กจ็ ะไปใหก้ ารรักษาทนั ที
ฉนั เองดีใจมากที่ไดม้ ีโอกาสไปทาํ ฮจั ญใ์ นปี น้ี
ดว้ ยเช่นกนั ไดพ้ บและติดตามคณะของท่านอิสมาอีล
ลุตฟี ในบางโอกาสเหมือนกัน ฉันไปกับทีมของ
คณาจารยจ์ ากยะลา (มหาวทิ ยาลยั อิสลามยะลา)
ในแต่ละปี ผูค้ นจะหลง่ั ไหลกันมาอยู่ ณ ที่นี่
มากนั เป็นแสนๆคนเลยทีเดียว พวกเขามาจากทวั่ ทุก
ภูมิภาคทุกประเทศ เช้ือชาติและภาษาต่างๆ มาใช้
ชีวิตดว้ ยกนั ตลอดระยะเวลา 40 กว่าวนั การอยู่ท่ีนี่
ทุกคนจาํ เป็นจะตอ้ งมีระเบียบ มีสามญั สาํ นึกมีความ
เป็นพี่นอ้ ง เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผก่ นั โดยเฉพาะผดู้ อ้ ยกวา่
มีอยู่วนั หน่ึง ขณะท่ีฉันพกั อยู่ที่มีนา ฉันไป
อาบน้าํ ละหมาดที่หอ้ งน้าํ ซ่ึงมีก๊อกน้าํ ท่ีจดั เตรียมใช้
น้าํ สําหรับผูค้ น วนั น้นั ฉนั ตอ้ งไปเขา้ แถวยืนรออยู่
นานหลายสิบนาที กว่าจะได้อาบน้าํ ละหมาด คร้ัน
๑๕๗ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
วนั ต่อมา ฉนั จึงพาขวดน้าํ ไปดว้ ย เมื่อถึงคิวฉนั ก็รอง
น้าํ แลว้ พาขวดน้าํ ไปนงั่ อาบน้าํ ละหมาดอยคู่ นเดียวที่
บริเวณใกลๆ้ น้นั ฉนั ชอบทาํ เช่นน้ีอย่ปู ระจาํ เพราะ
จะไดท้ าํ ใหค้ นอื่นๆ อาบน้าํ ละหมาดไดเ้ ร็วข้ึน...
คณะทาํ งาน(อามีรุลฮัจญ์)จากไทยไดป้ ฏิบตั ิ
หน้าท่ีอย่างเสียสละ ทุ่มเท อย่างเต็มความสามารถ
ฉนั ไดพ้ บคณะของท่านเชคอิสมาอีล ลุตฟี ขณะอยทู่ ่ี
ทุ่งอารอฟะฮ์ ไดร้ ับฟังการกล่าวคุตบะฮ์ (โอวาท)ให้
กบั ฮุจญาจ ของไทย ฉนั ไดต้ ิดตามท่านไปถึง มุซดา
ลีฟะฮ์ และนอนคา้ งคืนกบั คณะของท่านท่ีนั่น เรา
นอนกันในทุ่งทะเลทราย เช่นเดียวกับฮุจญาจคน
อื่นๆอีกนบั แสนคนที่นน่ั เราปูเสื่อและนอนกนั แบบ
ลูกเสือกัน ทุกคนมาท่ีน่ีเพ่ือเก็บก้อนหินเล็กๆไว้
ขวา้ งในวนั รุ่งข้ึนตามกระบวนการของการทาํ ฮจั ญ์
"ในปี น้ีมีผูป้ ระกอบพิธิฮัจญ์จากเมืองไทย
ประมาณ 14,000 คน เราภูมิใจมากท่ีไดท้ าํ หนา้ ที่ดว้ ย
๑๕๘ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
เตม็ กาํ ลงั ความสามารถท่ีเรามีอยู่ เราไดร้ ณรงคเ์ รื่อง
“ซิกอยะตุลฮาจญ์” เราได้แจกกล่องอาหารเล็กๆ
พร้อมน้าํ ดื่มใหก้ บั ผคู้ นในช่วงฮจั ญ์ อนั น้ีเป็นมิติใหม่
ของเราเลยทีเดียว เป็ นการสืบทอด และปฏิบตั ิตาม
ส่ิงท่ีมีมาในอดีต"
เชคอิสมาอีล ลุตฟี พูดกบั คณะในขณะปฏิบตั ิ
หนา้ ท่ีอนั มีเกียรติน้ี
นอกจากน้นั ท่านยงั ไดใ้ ห้คาํ แนะนาํ และบอก
กบั ทุกคนอีกว่า "ขอให้ทุกคนกล่าวทกั ทายให้สลาม
กนั ให้มากๆขณะอยู่ที่น่ี ไม่ว่าเขาจะเป็ นใครก็ตาม
เพราะมนั จะทาํ ใหเ้ รารู้สึกถึงความเป็นพ่ีนอ้ งกนั "
“การช่วยแบ่งน้าํ แบ่งอาหารกนั เลก็ ๆน้อยๆก็
เป็ นสิ่งที่เราจะตอ้ งฝึ กฝนเสียสละ เพื่อเพ่ือนมนุษย์
จะเป็นใครกแ็ ลว้ แต่เขาคือพี่นอ้ งของเราท้งั สิ้น หลาย
คนต้องเหน็จเหนื่อย อ่อนเพลียจากการเดินไปมา
โดยเฉพาะคนมีอายแุ ละผอู้ าวโุ ส”
๑๕๙ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
“เม่ือเรามาอยทู่ ่ีน่ี ขอให้ทุกคนช่วยกนั ให้มาก
เสียสละให้มาก กระทง่ั การจะอาบน้าํ ละหมาดกค็ วร
ใช้น้าํ ให้น้อย ใชเ้ วลาให้ส้ันที่สุด ไม่จาํ เป็ นตอ้ งเอา
ให้ละเอียดเหมือนตอนอยู่ท่ีบา้ น เพราะคนท่ีอยู่ขา้ ง
หลงั เราที่ต่อแถวเอาน้าํ ละหมาดยงั รออยอู่ ีกหลายสิบ
คน ถ้าทุกคนช่วยกันจะได้ประหยดั เวลามากข้ึน
ศาสนาอิสลามมาเพื่อให้ความรักความเมตตาแก่
มนุษยไ์ ม่ใช่สร้างความลาํ บากแก่ผใู้ ดเลย”
ฉันใช้เวลาอยู่ที่นครมกั กะฮ์ และมะดีนะฮ์
หน่ึงเดือนเตม็ ๆ ฉนั รู้สึกประทบั ใจกบั หลายสิ่งหลาย
อย่างในการเดินทางคร้ังน้ี ไดร้ ับประสบการณ์ดีๆ
มากมาย ไดร้ ู้จกั พ่ีนอ้ งจากประเทศต่างๆ จากมอรอค
โค อฟั กานิสถาน และอีกหลายประเทศ ฉันไปทาํ
เร่ืองขอหนังสือคมั ภีร์ อลั กุรอานฉบับแปลภาษา
ต่างประเทศไดม้ า 15 ภาษาดว้ ยกนั ฉนั ไปขอที่มสั ยิด
มาดีนะฮ์ โดยไดแ้ นบใบรับรองของ เชคอิสมาอีล ลุต
ฟี ไปดว้ ย
๑๖๐ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
30 ธันวาคม พ.ศ.2549 วนั น้ีเป็ นวนั สุดทา้ ย
แลว้ ... พรุ่งน้ีฉันจะต้องเดินทางกลบั ... คืนน้ันฉัน
ต้งั ใจเป็ นพิเศษ ฉนั เดินไปท่ีลานฏอวาฟเพียงลาํ พงั
คนเดียว ฉันไปเพ่ือเก็บโลกส่วนตัวของฉัน ฉัน
พยายามเขา้ ใกลบ้ ยั ตุลเลาะฮ์ให้ไดม้ ากท่ีสุด ฉันน่ัง
พกั ที่มุมหน่ึงของมสั ยิดอลั ฮารอม ฉันต้งั ใจใช้เวลา
มองดูบยั ตุลเลาะฮ์ ใหไ้ ดน้ านท่ีสุด เพ่ือเก็บภาพแห่ง
ความประทบั ใจให้อยู่ในดวงตา อยู่ในความทรงจาํ
ของฉนั ตลอดไป
คร้ันพอรุ่งอรุณ ฉนั จดั กระเป๋ าสมั ภาระต้งั แต่
เชา้ มืดเสร็จก่อนคนอ่ืนๆ เราลาํ เลียงกระเป๋ าออกจาก
ที่พกั เพ่ือเดินทางข้ึนเคร่ืองบินท่ีสนามบินเจดดาห์
ฉนั ไดเ้ ห็นท่านเชค อิสมาอีล ลุตฟี มาส่งคณะของเรา
อีกคร้ังในวนั น้นั ท่านมากบั ภรรยาของท่าน...
๑๖๑ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ฉันยงั จาํ ไดถ้ ึงสิ่งเหล่าน้ี ฉนั จดบนั ทึกไวเ้ ม่ือ
สิบปี ท่ีแลว้ ฉันคิดว่า เชคอิสมาอีล ลุตฟี ท่านเห็น
บางสิ่งบางอยา่ งไกลกวา่ ที่เราหลายคนเห็นจริงๆ
๑๖๒ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
๑๖๓ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
...ผู้นาํ ไม่ใช่เร่ื องของอาํ นาจ ทรัพย์สิ นเงินทอง
แต่เป็ นเร่ื องการปฏิบัติที่ต้องสอดคล้องกัน
สร้างความเข้าใจ และเป็ นที่ยอมรับแก่คนทั่วไป...
๑๖
เชค อสิ มาอลี ลตุ ฟี
ในวทิ ยานิพนธ์
๑๖๔ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ชีวติ เริ่มตน้ ท่ีมกั กะฮ์ …..
เชค อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา เป็นบุตรของ
นางอามีนะห์ จะปะกียา และฮจั ญีอบั ดุลเราะฮ์
มาน จะปะกียาเกิดที่หมู่บา้ นเลก็ ๆ ระหวา่ งภูเขา
ซอฟา และมรั วะฮ์ เมืองมกั กะฮ์ ประเทศซาอุ
อาระเบียในปี ค.ศ. 1950 ในช่วงท่ีบิดา กาํ ลงั ศึกษา
วชิ าการศาสนาอยู่
เชค อิสมาอีล ลุตฟี เป็ นบุตรคนที่ 3 ใน
บรรดาบุตรท้งั หมด 11 คน
๑๖๕ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ช่ือ อิสมาอีล เป็ นชื่อท่ีถูกต้งั ข้ึนโดยครูสอน
ศาสนาที่มีชื่อเสียงในเมืองมกั กะฮ์ในสมยั น้นั โดยต้งั
ตามช่ือของเขาเองคือ อิสมาอีล บินอบั ดุลกอเดร์เป็น
ชื่อเดียวกับช่ือของท่านศาสดา อิสมาอีล ซ่ึงเป็ น
ผสู้ ร้างเมืองมกั กะฮใ์ นอดีตกาล
ส่วนคาํ ว่า “ลุตฟี ” น้นั ไดน้ าํ มาต่อทา้ ยช่ืออิส
มาอีลเนื่องจากความชอบที่มีมาต้งั แต่เดก็ และเป็นชื่อ
ของป่ ู โดยเร่ิมนาํ เอาชื่อน้ีมาใชเ้ ม่ืออายุประมาณ 12
ปี แลว้ ใชเ้ ร่ือยมาจนถึงทุกวนั น้ี
เชคอิสมาอีลลุฟี ใช้ชีวิตในวยั เด็กท่ีเมืองมัก
กะฮจ์ นกระทงั่ อายไุ ด้ 6 ขวบ คุณพอ่ ซ่ึง เชค อิสมาอีล
ลุตฟี เรียกวา่ “บาบอ” ก็ไดย้ า้ ยกลบั มายงั ประเทศ
ไทย โดยแรกเริ่มน้ันได้ไปช่วยสอนศาสนาอยู่ท่ี
ปอเนาะแห่งหน่ึงช่ือวา่ ปอเนาะ ปะแดรู อาํ เภอยะหา
จงั หวดั ยะลา จนกระทง่ั ปอเนาะมีความเจริญมากข้ึน
กอปรกบั เป็ นความตอ้ งการของคุณป่ ูของท่านท่ีจะ
๑๖๖ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ให้ยา้ ยกลบั มาอยู่ที่บา้ นเกิดที่ตาํ บลพงสะตา อาํ เภอ
ยะรัง จังหวัดปัตตานี จึงได้ซ้ื อที่ดินเพ่ือสร้าง
โรงเรี ยนท่ีบ้านเกิดคือโรงเรี ยนบํารุ งอิสลาม
(โรงเรียนอรั เราะฮม์ านียะฮ)์
โรงเรียนบาํ รุงอิสลามเป็นโรงเรียนที่ริเริ่มการ
บริหารงานโดย ฮจั ญีอบั ดุลเราะฮม์ านหรือ “บาบอ”
โดยไดร้ ับการสนบั สนุนจากผูว้ ่าราชการจงั หวดั ใน
สมัย น้ัน เนื่ อง จาก เห็ นว่ามี ศักย ภาพ ใน กา ร
บริหารงานและจัดการการเรียนการสอนได้ดี ใน
ปัจจุบนั น้ีมีสถานะเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาท่ี
มีช่ือเสียงแห่งหน่ึงในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
ในอีกดา้ นหน่ึงการริเริ่มสร้างโรงเรียนบาํ รุง
อิสลามข้ึนมาน้ัน ฮจั ญีอบั ดุลเราะฮ์มาน เล็งเห็นว่า
ระบบการศึกษาแบบปอเนาะ มุ่งเน้นให้ความรู้ใน
ส่วนของภาคการศรัทธาและพิธีกรรมในอิสลามเสีย
เป็ นส่วนใหญ่(ซ่ึงเป็ นไปตามบริบทของปอเนาะ
๑๖๗ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ทว่ั ไปในยุคน้นั ) แต่หากขยายรูปแบบการเรียนการ
สอนให้มีระบบโรงเรี ยนแบบสามัญด้วยจะได้
ครอบคลุมท้งั หมด ซ่ึงรวมท้งั วิชาการทางดา้ นสงั คม
การประกอบอาชีพ อีกท้งั คิดว่าสังคมยุคน้ันเริ่มจะ
ยอมรับระบบการเรียนการสอนแบบโรงเรียน มี
มหาวิทยาลยั เป็ นแหล่งศึกษาต่อเน่ือง รองรับอยู่ใน
ขณะท่ียงั ตอ้ งการการส่งเสริม ดา้ นการศึกษาศาสนา
จากภาครัฐ
ประเดน็ การทาํ โรงเรียนนอกจากจะไดร้ ับการ
สนับสนุ นจากหลายฝ่ ายแล้ว “เป็ นการสร้ าง
ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ สั ง ค ม ใ น ก า ร พ ัฒ น า คุ ณ ภ า พ ข อ ง
ประชาชนในพ้ืนที่ และยกระดบั ความเป็ นอยู่ของ
ประชาชน เน่ื องจากภาษาไทยและวิทยาการ
สมยั ใหม่เขา้ มามีบทบาทในสงั คมมากข้ึน”
ดว้ ยความที่ฮจั ญีอบั ดุลเราะฮม์ าน เป็ นโต๊ะครู
ที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเดินทางไป
๑๖๘ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
บรรยายศาสนาท่ีไหนกม็ กั จะนาํ ลูกนอ้ ยไปดว้ ยเสมอ
ทาํ ใหเ้ ชค อิสมาอีล ลุตฟี ไดเ้ ห็นการทาํ งานและคลุก
คลีอยู่ในวงวิชาการมาต้งั แต่เด็ก ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีเป็ น
จุดเริ่มตน้ หล่อหลอมให้มีบุคลิกภาพและความรักใน
การศึกษา โดยเฉพาะวิชาการดา้ นศาสนา
ชีวิตในวยั เด็กของ เชค อิสมาอีล ลุตฟี คลุก
คลีอยกู่ บั การอ่านหนงั สือ การสอนศาสนามาตลอด
บรรดาลูกศิษย์ที่มาเรียนหนังสือกับบาบอ ได้เคย
ขอให้ท่านสอนศาสนาต้งั แต่ท่านยงั เป็นเด็ก เชค อิส
มาอีล ลุตฟี เล่าให้ฟังว่า “สมยั ก่อนมีชาวบา้ นมา
เรี ยนศาสนาที่บ้าน พวกเขาได้ขอให้อุสต๊าซ
(อาจารย)์ สอนศาสนาต้งั แต่อายไุ ดป้ ระมาณ 6 ขวบ
ยงั ไม่รู้อะไรเลยกเ็ ลยสอนไปตามประสาแบบไม่รู้ว่า
อะไรเป็ นอะไรคงเป็ นไปไดว้ ่าเราเป็ นลูกโต๊ะครู ท่ี
ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือจึงได้รับเกียรติจาก
ชาวบา้ นในขณะน้นั เป็นอยา่ งมาก
๑๖๙ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
เป็นความสมั พนั ธ์ระหวา่ งชาวบา้ นกบั โต๊ะครู
หรือผูน้ ําศาสนาในแง่ความศรัทธาเลื่อมใส ท้งั น้ีก็
เพราะจงั หวดั ชายแดนภาคใตเ้ ป็ นสงั คมศาสนา ผนู้ าํ
ศาสนาจึงเป็ นเสมือนอุดมคติและมกั เป็ นตวั อยา่ งใน
การประพฤติปฏิบตั ิ จึงไดร้ ับการยกย่องนบั ถือมาก
รวมไปถึงบุคคลรอบขา้ งซ่ึงหมายถึง ภรรยา บุตร
และเครือญาติดว้ ย
การศึกษา
เชค อิสมาอีล ลุตฟี เร่ิมการศึกษาในระดบั ช้นั
ประถมศึกษา เมื่ออายไุ ด้ 8 ขวบ (เน่ืองจากอายมุ าก
แลว้ จึงเขา้ เรียนในช้นั ป.2) ที่โรงเรียนประถมศึกษา
บา้ นบราโอ จนกระทงั่ จบช้นั ป.4 จึงไดร้ ับเขา้ ศึกษา
ต่อที่โรงเรียนเมืองปัตตานีในช้นั ป.5 ถึง ป.7
ต่อมา เชค อิสมาอีล ลุตฟี มีความสนใจใน
การเรียนศาสนามากจึงตดั สินใจที่จะเลือกเรียนภาค
ศาสนาในที่สุดกไ็ ดเ้ ขา้ เรียนศาสนาในโรงเรียนสอน
๑๗๐ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ศาสนาท่ีโรงเรี ยนบํารุ งอิสลาม ซ่ึงในสมัยน้ัน
โรงเรียนสอนศาสนามีเพียงระดบั ช้นั ปี ที่ 1-7เชค อิส
มาอีล ลุตฟี ไดเ้ ขา้ เรียนในระดบั ช้นั ปี ที่ 4 ของระบบ
การเรียนศาสนาเนื่องจากมีพ้ืนฐานความรู้ที่ดี จึง
สามารถขา้ มช้นั เรียนได้ เรียนจนกระทง่ั ถึงช้นั ปี ที่ 5
กข็ อออกมาสอนศาสนาท่ีบา้ น เปล่ียนสถานะเป็นครู
สอนระดบั ปี ท่ี 4 ท่านสอนวิชาภาษาอาหรับ นาฮู เตา
ฮีด เป็นตน้
เชค อิสมาอีล ลุตฟี ไดเ้ ขา้ สอบแข่งขนั ชิงทุน
เพ่ือไปศึกษาต่อในประเทศซาอุดิอาระเบียถึง 2 คร้ัง
ซ่ึงผลปรากฏว่าการสอบในคร้ังแรกไม่ผ่านจึงได้
พยายามสอบอีกคร้ังในปี ต่อมา ปรากฏว่าสอบผ่าน
จึงไดเ้ ดินทางไปศึกษาในสาขาดะวะห์ และอุซูลุดดีน
(การเผยแพร่และหลกั การศาสนา) ท่ี “มหาวิทยาลยั
๑๗๑ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
อิสลามนครมาดีนะห์” ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในปี
ค.ศ. 1972
ผลการเรียนในช่วงปี ท่ี1 - 4 ดีข้ึนตามลาํ ดบั
จนเมื่อจบการศึกษาผลการเรียนสะสมดีเด่นไดเ้ กียรติ
นิยมอนั ดบั 1 เป็นนกั ศึกษาไทยคนแรกของประเทศ
ที่เรียนในมหาวิทยาลยั แห่งน้ีแลว้ สามารถควา้ เกียรติ
นิยมมาครองไดส้ าํ เร็จ
เชค อิสมาอีล ลุตฟี รักการอ่านหนงั สือมาก
โดยนิสยั แลว้ เมื่อไดอ้ ่านหนงั สือกม็ กั จะสรุปใจความ
สาํ คญั ออกมาทาํ ให้เขา้ ใจไดง้ ่ายข้ึน ลกั ษณะนิสยั ใน
การรักการอ่านหนงั สือน้นั มีมาต้งั แต่ยงั เด็ก หนงั สือ
ท่ีอ่านมกั เป็นหนงั สือศาสนา ภาษาอาหรับ และภาษา
มาลายู
เน่ืองจากมีพ้ืนฐานเดิมในช่วงวยั เดก็ ที่ประเทศ
ซาอุดิอาระเบียและการสอนเพ่ิมเติมจากฮจั ญีอบั ดุล
๑๗๒ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
เราะฮม์ าน จึงทาํ ใหส้ ามารถอ่านท้งั สองภาษาไดอ้ ยา่ ง
คล่องแคล่ว
เมื่อจบการศึกษาในระดบั ช้นั ปริญญาตรี แลว้
ก็มีความมุ่งมน่ั เป็ นท่ีสุดท่ีจะกลบั มายงั ประเทศไทย
เพื่อสอนหนังสืออย่างที่ใจปรารถนา แต่เมื่อถูกทดั
ทานจากเพื่อนๆและอาจารยใ์ ห้เรียนต่อในระดับ
ปริ ญญาโท เชค อิสมาอีล ลุตฟี จึงได้ระงับการ
เดินทางกลบั บา้ นไวก้ ่อน และเลือกที่จะสมคั รสอบ
เขา้ เรียนต่อในมหาวิทยาลยั 2 แห่งคือ มหาวิทยาลยั
อิสลามมะดีนะฮ์ ซ่ึงเป็ นสถานท่ีเรี ยนเดิม และ
มหาวิทยาลยั มุหัมมดั บิน ซาอูด ที่กรุงริยาด ซ่ึงผล
ปรากฏว่าสอบติดท้งั 2 แห่ง แต่ไดต้ ดั สินใจเลือกท่ี
มหาวิทยาลัยมุหัมมัด บิน ซาอูด ท่ีกรุ งริ ยาด
เน่ืองจากมีหลกั สูตรการศึกษาเป็ นระยะเวลาเพียง 2
ปี แมว้ า่ จะเลือกเรียนหลกั สูตร 2 ปี แต่ในช่วงเวลา
เรียนน้นั เชค อิสมาอีล ลุตฟี ไดใ้ ชเ้ วลาส่วนใหญ่ไป
กับการทํากิจกรรม ทําให้ช่วงระยะเวลายืดเย้ือ
๑๗๓ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ออกไปถึง 4 ปี จึงจบการศึกษาในระดบั ปริญญาโท
ในสาขาวิชานิติศาสตร์อิสลามเปรียบเทียบ ในปี พ.ศ.
2524 โดยมีผลงานวิทยานิพนธ์เรื่อง “ความต่างของ
สองโลก สองวฒั นธรรม ในประมวลกฎหมายอาญา”
กิ จ ก ร ร ม ที่ ทํา ใ น ช่ ว ง เ รี ย น น้ัน มี ค ว า ม
หลากหลาย แต่มกั จะเนน้ ท่ีการใหบ้ ริการให้กบั ผคู้ น
อื่นๆ ซ่ึงเป็นอุปนิสยั ของท่านอยแู่ ลว้
เป็นผใู้ หค้ าํ แนะนาํ ตกั เตือนและให้บริการ แก่
ผไู้ ปประกอบพิธีฮจั ญ์ ภาคพ้ืนเอเซีย ในนครมกั กะฮ์
และมะดีนะห์ ในปี พ.ศ.2517-2518
การใหค้ วามรู้แก่บรรดาผไู้ ปประกอบพิธีฮจั ญ์
ณ มสั ยิดฮะรอม มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มนักศึกษา
ท่ีต้งั วงสนทนาประเด็นศาสนา จนกระทง่ั มีผูส้ นใจ
ร่วมเขา้ ฟังดว้ ย ตลอดจนมีประเด็นท่ีสงสยั ก็สามารถ
หาคาํ ตอบได้ กลุ่มคนท่ีเขา้ ฟังโดยส่วนใหญ่จะมา
จากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย
๑๗๔ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
จนกระทงั่ วงสนทนาขยายใหญ่ข้ึนจากการนง่ั พูดคุย
ธรรมดา ทาํ ให้ เชค อิสมาอีล ลุตฟี ตอ้ งยืนข้ึนเพ่ือ
อธิบายความรู้ให้กับผูท้ ่ีสนใจเข้าร่วมรับฟังท้งั ใน
มสั ยดิ อลั ฮารอม ท่ีมกั กะฮ์ และในมสั ยิดนะบะวีย์ ท่ี
มะดีนะฮ์ นอกจากน้ียงั ปรากฏว่าในปี ต่อๆมามีผูท้ ี่
ติดตามรับฟังอยา่ งสนใจเป็นจาํ นวนมาก
เคยดาํ รงณ์ตาํ แหน่งเป็ นหวั หนา้ บรรณาธิการ
นิตยสาร “หวนรําลึก” และนิตยสาร“อลั ฮิดายะฮ์”
ของมหาวทิ ยาลยั อิสลามนครมะดีนะห์
จดั ต้งั สหกรณ์อิสลามเพื่อแบ่งปันผลกาํ ไรใน
กลุ่มนักศึกษาและชาวบา้ นที่มกั กะฮ์ และมะดีนะฮ์
จาํ นวน 2 แห่ง
แมว้ ่าในบางปี หรือบางฤดูกาลบรรยากาศใน
การทาํ กิจกรรมของนกั ศึกษาดูค่อนขา้ งเงียบเหงา แต่
โดยส่วนตวั แลว้ เชค อิสมาอีลลิตฟี มีความพอใจใน
๑๗๕ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
การทาํ งานของตนท่ีได้บริการและรับใช้สังคมใน
แผน่ ดินอนั บริสุทธ์ิ
ในส่วนของการทาํ กิจกรรม แม้ว่าจะส่งผล
กระทบบา้ ง ท่ีทาํ ให้ระยะเวลาการเรียนตอ้ งยืดเย้ือ
ออกไป ก็ไม่ได้ทาํ ให้ผลการเรียนลดลงแต่อย่างใด
ผลการเรียนของเชค อิสมาอีล ลุตฟี น้นั อยใู่ นระดบั ดี
เย่ียมตลอดมา กระทงั่ ถึงการศึกษาในระดบั ปริญญา
เอก ในมหาวิทยาลยั แห่งเดิม เชค อิสมาอีลลุฟี ไดร้ ับ
ปริ ญญาดุษฎี บัณฑิต เกี ยรตินิ ยมอันดับ ๑ ใน
สาขาวชิ านิติศาสตร์อิสลามเปรียบเทียบ
ผล จา กกา รเรี ยน ดี เด่ น แ ล ะควา มมุ่ ง ม่ัน กับ
กิจกรรมต่างๆ น้ันส่งผลให้เชค อิสมาอีล ลุตฟี
ได้รับประกาศนียบัตร “นักศึกษาตัวอย่าง” จาก
สถาบันเดี ยวกัน ในปี พ.ศ.2526 ต่ อมาทาง
มหาวิทยาลยั กม็ อบเกียรติบตั ร “นกั ศึกษายอดเยี่ยม”
อันเป็ นเกียรติสูงสุดและหน่ึงเดียวท่ีท่านได้รับ
๑๗๖ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
นบั เป็ นความเมตตาอนั ใหญ่หลวงจากพระผเู้ ป็ นเจา้
และเม่ือจบการศึกษา ก็ได้เดินทางกลบั มาประเทศ
ไทยในปี พ.ศ.2529
ครอบครัว ชีวติ และตวั ตนในปัจจุบนั
เชค อิสมาอีลลุตฟี เกิดในครอบครัวที่อบอุ่น
ไดร้ ับการเล้ียงดูมาอยา่ งเอาใจใส่และเขม้ งวดท้งั บิดา
และมารดามีความเคร่งครัด และสงั่ สอนวิชาศาสนา
มาต้งั แต่เยาวร์ วมท้งั การท่องจาํ คมั ภีร์อลั กรุ อาน และ
การอธิบายความหมาย ท้ังหมดเป็ นส่ิงที่นํามาสู่
ตวั ตนของ เชค อิสมาอีล ลุตฟี ในวนั น้ี
ความนอบนอ้ มต่อพระผเู้ ป็นเจา้ ส่งผลใหผ้ นู้ าํ
อย่างเชค อิสมาอีล ลุตฟี ได้รับความเคารพและยก
ย่องจากคนใกลช้ ิดและบุคคลทวั่ ไป ในขณะท่ีเชค
๑๗๗ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
อิสมาอีล ลุตฟี เองน้นั ท่านปฏิบตั ิกบั คนทว่ั ไปอย่าง
เป็ นกนั เอง มารยาทที่นอบน้อมต่อผูห้ ลกั ผูใ้ หญ่รัก
การประนีประนอมเป็ นนิสัยท่ีมีมาต้งั แต่ยงั เยาวว์ ยั
แลว้
ในช่วงที่ เชค อิสมาอีล ลุตฟี มีอายุ 14-16 ปี
ท่านไดเ้ ขา้ เรียนท่ีโรงเรียนเมืองปัตตานี ในระดบั ม.5
ขณะเดียวกนั ท่านก็ไดท้ าํ หน้าที่เป็ นครูสอน ในวนั
เสาร์และวนั อาทิตย์ ลูกศิษยข์ องท่าน ขณะน้นั บางคน
ก็เป็ นเพ่ือนร่วมห้องเรียนของท่าน ท่ีโรงเรียนเมือง
ปัตตานี และบางคนก็เป็ นนักเรียนรุ่นพี่จากท่าน
หลงั จากท่ีจบแลว้ ท่านก็ไดเ้ ขา้ เรียนต่อในโรงเรียน
ศาสนา ในระดบั อิบตีดาอีย์ ช้นั 4 หลงั จากน้นั คร่ึง
เทอม ท่านก็ได้รับการเล่ือนช้ัน ข้ึนไปสู่ระดับ
มุตะวสั ซิต (ช้นั 1 มุตะวสั ซิต) หลงั จากน้นั ท่านก็ได้
๑๗๘ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
เป็นครูสอนศาสนา ในขณะน้นั อายทุ ่านประมาณ 17-
18 ปี ท่านสอนวชิ าภาษามลายแู ละวิชาภาษาอาหรับ
เชค อิสมาอีล ลุตฟี แต่งงานกบั นางเฟาซียะห์
จะปะกียา และมีบุตรท้งั หมด 6 คน ท้งั สองไดส้ มรส
กันในช่วงเวลาที่เชค อิสมาอีล ลุตฟี กําลังศึกษา
ปริญญาโท โดยความเห็นชอบของผใู้ หญ่ท้งั สองฝ่ าย
และได้เร่ิ มต้นชี วิตคู่ ณ นครริ ยาด ประเทศ
ซาอุดิอาระเบีย จนกระทั่งสําเร็จการศึกษาจึง
เดินทางกลบั มาประเทศไทยดว้ ยกนั
ขณะที่กาํ ลงั ศึกษาอยู่น้นั นางเฟาซียะห์ ผูเ้ ป็ น
ภรรยาเป็ นผูช้ ่วยเหลือในเรื่องการทาํ วิทยานิพนธ์
เป็ นผูช้ ่วยคนสาํ คญั ที่คอยให้การช่วยเหลือมาตลอด
ท้งั ในช่วงการทาํ ปริญญาโท และปริญญาเอก เธอได้
๑๗๙ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ใช้ความพยายามและทุ่มเทเป็ นอย่างมาก ในการ
ช่วยเหลือสามีในขณะที่อยกู่ รุงริยาดดว้ ยกนั เพ่ือเป็น
การแบ่งเบาภาระหนา้ ท่ีของสามี เนื่องจาก เชค อิสมา
อีล ลุตฟี มีภาระทางกิจกรรมดา้ นอ่ืน ๆ อีกมาก
เชค อิสมาอีล ลุตฟี ใช้ชีวิตอย่างเรี ยบง่าย
ภายในบ้านช้ันเดียวซ่ึงอยู่ภายในโรงเรี ยนบํารุ ง
อิสลาม และอยใู่ กลก้ บั มสั ยดิ อิบาดุรเราะห์มาน ที่นน่ั
ใช้เป็ นสํานักชุมชน เพื่อให้ความรู้ทางศาสนาแก่
ประชาชนทว่ั ไปในวนั เสาร์ ส่วนบิดาคือฮจั ญีอบั ดุล
เราะฮ์มาน อาศยั อยู่ที่บา้ นอีกหลงั หน่ึงใกลก้ บั บา้ น
ของเชค อิสมาอีล ลุตฟี ทาํ ให้มีการไปมาหาสู่กัน
เป็ นประจํา มีการร่วมรับประทานอาหาร และมี
กิจกรรมการพูดคุยเก่ียวกบั ประเด็นทางศาสนาอยู่
เป็นประจาํ เน่ืองจากบา้ นอยใู่ กลก้ บั มสั ยดิ เดินเพยี ง
ไม่กี่กา้ วก็ถึง จึงไดใ้ ชช้ ีวิตส่วนหน่ึงในมสั ยิด นบั แต่
๑๘๐ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ตอนเชา้ มืด (ประมาณ 4.00 น. ) จนถึงสวา่ ง (7.00 น.
) เพื่อละหมาดและอ่านคมั ภีร์อัลกุรอาน ซ่ึงเป็ น
กิจวตั รท่ีกระทาํ เป็นเนืองนิตย์ เพื่อการรําลึกถึงพระผู้
เป็ นเจา้ ผูท้ ี่อยู่ใกล้ชิดจะทราบดีว่าเวลาน้ีเป็ นเวลา
ส่วนตัว ซ่ึงจะไม่มีใครเข้ามารบกวนจนกว่าจะ
ประกอบภารกิจเสร็จสิ้น
การตื่นมาเพื่อทาํ การรําลึกถึงพระผเู้ ป็นเจา้ ใน
เวลาเช่นน้ีมิไดเ้ ป็ นท่ีบงั คบั ให้กระทาํ สาํ หรับมุสลิม
แต่ถือเป็ นกิจวตั รประจาํ วนั ที่ควรปฏิบตั ิเป็นอยา่ งยิ่ง
เนื่องจากเป็นการปฏิบตั ิตามแนวทางของท่านศาสน
ฑูตมูฮัมมัด (ซ.ล.)และเพ่ือให้หัวใจได้ใกล้ชิดกับ
พระผูเ้ ป็ นเจา้ ได้มากที่สุด เป็ นการเสริมสร้างขวญั
กาํ ลงั ใจที่ดีสาํ หรับมุสลิมทุกคน
๑๘๑ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
การท่ีเชค อิสมาอีล ลุตฟี มีวิถีชีวิตเช่นน้ีทาํ ให้
เป็ นแบบอยา่ งในการปฏิบตั ิของประชาชนโดยส่วน
ใหญ่บอกว่าท่านเป็ นผู้นําที่ มี การปฏิ บัติ เป็ น
แบบอย่างที่ดีสอดคลอ้ งกบั แนวทางของเชค อิสมา
อีล ลุตฟี ที่บอกวา่ “การสอนท่ีถูกตอ้ งคือการปฏิบตั ิ
ในส่ิงท่ีดีใหเ้ ห็น”
ชี วิตในช่ วงแรกเริ่ มหลังจากกลับเมื องไทย
ของเชค อิสมาอีล ลุตฟี ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ท่ี
วิทยาลยั อิสลามท้งั สองวิทยาเขต เน่ืองจากวิทยาลยั
กําลังดําเนินการไปสู่การสถาปนาวิทยาลัยเป็ น
มหาวิทยาลยั อิสลามนานาชาติ จึงมีภาระรับผิดชอบ
มากยิ่งข้ึน แมว้ ่าจะมีภารกิจมากเพียงใดก็ไดใ้ ชเ้ วลา
ส่วนหน่ึงสร้างงานเขียนใหม่ ๆ ออกมาเสมอ ที่
แพร่หลายและกล่าวขานกันมากที่สุดในวนั น้ีคือ
หนงั สือ“อิสลาม ศาสนาแห่งสนั ติภาพ”
๑๘๒ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
เชค อิสมาอีล ลุตฟี มีความชอบและได้รับ
การปลูกฝังทศั นคติอนั ดีงาม ในการเผยแผศ่ าสนามา
ต้งั แต่เลก็ โดยติดตามบิดาออกไปเผยแผศ่ าสนาหรือ
ดะวะห์ตามสถานท่ีต่าง ๆ ต้งั แต่เด็ก การไดร้ ับการ
ปลูกฝังประกอบกับการศึกษาเก่ียวกับภารกิจด้าน
การดะวะห์ในช่วงท่ีเรี ยนมหาวิทยาลัย ทําให้
ตระหนกั ถึงภารกิจดา้ นน้ีมากท่ีสุด
ชีวติ กบั บทบาทการทางานด้านต่าง ๆ
เชค อิสมาอีล ลุตฟี เร่ิมเขียนตาํ ราเรียนวิชา
ศาสนาต้งั แต่อายุ 17 ปี มีจุดเร่ิมตน้ มาจากแบ่งเบา
งานครูสอนศาสนา ดว้ ยงานง่าย ๆ เช่น การจดั เรียง
เอกสาร การโรเนียว และการคดั ลอกบทความต่าง ๆ
นอกจากหนงั สือที่เป็ นงานเขียนแลว้ ไดม้ ีการ
รวมกลุ่มเพ่ือจดั ทาํ หนงั สือวารสาร วารสารฉบบั แรก
๑๘๓ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
ท่ีมีการตีพิมพเ์ ป็ นภาษามลายู คือ “วารสารอาซาน”
มีนายเด่น โต๊ะมีนา เป็ นท่ีปรึ กษาในการจัดทํา
“วารสารอาซาน” ฉบับแรกออกวางจาํ หน่ายเมื่อ
เดือนพฤศจิกายน ปี 1972 ในราคา 2 บาท ซ่ึงเน้ือหา
สาระของวารสารมุ่งเนน้ ใหค้ วามรู้เรื่องศาสนา ภาษา
สุขภาพ ฯลฯ
ตาํ ราเรียนท่ี เชค อิสมาอีล ลุตฟี ไดเ้ ขียนและ
รวบรวมข้ึนน้นั มีมากมาย เช่น เรื่องหลกั เอกภาพแห่ง
พระผูเ้ ป็ นเจ้า, นิติศาสตร์อิสลาม, ชีวประวตั ิท่าน
ศาสดามูฮมั มดั (ซ.ล.) หลกั ตจั ญวีด หนงั สือเหล่าน้ี
ได้นาํ มาใช้ในโรงเรียนสอนศาสนาในแถบจงั หวดั
ชายแดนภาคใต้ ต้งั แต่อดีตมาจนถึงปัจจุบนั
นอกจากงานเขียนตาํ ราเรียนแลว้ ท่านยงั ได้
เขียนหนงั สืออีกมากมายหลายเล่ม โดยส่วนใหญ่จะ
๑๘๔ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
เ ก่ี ย ว กับ วิ ช า ก า ร ด้า น ศ า ส น า เ ช่ น ห นัง สื อ
อรรถาธิบายคัมภีร์อัลกุรอาน หนังสื ออ่ืนๆอีก
มากกว่า 40 เล่ม โดยส่วนใหญ่จะตีพิมพ์เป็ นภาษา
มลายู (มีแปลเป็นภาษาไทยบา้ ง)
เชค อิสมาอีล ลุตฟี ทาํ งานดา้ นการศึกษามา
เมื่อต้งั แต่คร้ังก่อนท่ีจะเดินทางไปศึกษาต่อท่ีประเทศ
ซาอุดิอาระเบีย โดยท่านได้ดาํ เนินการก่อร่างและ
บริหารโรงเรียนตาดีกา ท้งั หมด 13 แห่ง ซ่ึงใน
ปัจจุบนั โรงเรียนตาดีกาท้งั 13 แห่งน้ียงั คงดาํ เนินการ
อยแู่ ละมีความเจริญกา้ วหนา้ เร่ือยมา
เมื่อเดินทางกลบั มาประเทศไทยในปี พ.ศ.
2529 ก็เข้ามารับตาํ แหน่งผูจ้ ัดการและอาจารย์
โรงเรียนบาํ รุงอิสลาม ซ่ึงเป็นโรงเรียนชุมชนที่ก่อต้งั
ข้ึนโดยฮจั ญีอบั ดุลเราะฮม์ าน จะปะกียา ผเู้ ป็นบิดา
ในขณะท่ีทาํ หน้าท่ีเป็ นผูจ้ ดั การโรงเรียนน้ัน
ไดส้ านต่อความคิดในการก่อต้งั สถาบนั การศึกษาใน
๑๘๕ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
ร ะ ดับ อุ ด ม ศึ ก ษ า ท่ี มี ม า ต้ัง แ ต่ ส มัย เ รี ย น ใ น
มหาวิทยาลัย ซ่ึงเป็ นความคิดร่ วมกันกับกลุ่ม
นักศึกษาไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย จึงได้
ดาํ เนินการเร่ือยมา จนเกิดเป็นวิทยาลยั อิสลามยะลา
อันเป็ นสถาบันการศึ กษาศาสนาอิ สลามใ น
ระดบั อุดมศึกษา
วิ ท ย า ลั ย อิ ส ล า ม ย ะ ล า ถื อ เ ป็ น
สถาบนั อุดมศึกษาเอกชนอิสลามแห่งแรกในประเทศ
ไทย ที่เกิดข้ึนเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม
ท้ังน้ี แม้ว่าทางเลื อกของนักเรี ยนท่ี จบในช้ัน
มธั ยมศึกษา โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปในแนวทาง
การศึกษาที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็มี
นกั ศึกษาอีกจาํ นวนหน่ึง มีความตอ้ งการที่จะศึกษา
ในดา้ นวิชาการศาสนา ดงั น้นั วิทยาลยั อิสลามจึงเป็ น
เส มื อ น โ อ ก า ส แ ล ะ ท า ง เ ลื อ กอี ก ด้า น หน่ ึ ง สํา ห รั บ
เยาวชน
๑๘๖ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ที่ ฉั น จา ได้
วิทยาลยั อิสลามยะลา ประกอบดว้ ย 2 วิทยา
เขตคือ วิทยาลยั อิสลามยะลาต้งั อยทู่ ี่ตาํ บลบุดี อาํ เภอ
เมือง จงั หวดั ยะลา และวิทยาลยั อิสลาม วิทยาเขต
ปัตตานี ต้ังอยู่ที่ตาํ บลเขาตูม อาํ เภอยะรัง จงั หวดั
ปัตตานี
จุดกาํ เนิดวิทยาลยั อิสลามตามคาํ บอกเล่าของ
เชค อิสมาอีล ลุตฟี น้ันเร่ิมตน้ จากกลุ่มนักวิชาการ
มุสลิมที่ยงั อยใู่ นช่วงศึกษา ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย
ท่ีมีอุดมการณ์ท่ีแน่วแน่ เพ่ือท่ีจะทาํ ประโยชน์ต่อ
สังคมไดร้ วมตวั กนั และวางแผนงาน ส่ิงที่ดูจะเป็ น
ประโยชน์กับสังคมมากที่สุ ดขณะน้ัน คือให้
การศึกษากบั เยาวชนและประชาชน โดยตกลงกนั ว่า
จะกลบั มาสร้างสถาบนั อุดมศึกษาอิสลามในประเทศ
ไทย แต่การดาํ เนินการเบ้ืองตน้ ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
นัก เน่ืองจากตระหนักว่าอุดมการณ์เหล่าน้ันจะ
เกิดข้ึนได้ ตอ้ งใช้งบประมาณเป็ นจาํ นวนมาก และ
ในขณะน้นั มิไดม้ ีงบประมาณอยเู่ ลยแมแ้ ต่นอ้ ย
๑๘๗ เ ช ค อิ ส ม า อี ล ลุ ต ฟี ท่ี ฉั น จา ได้
อย่างไรก็ตามอุปสรรคเหล่าน้ีก็ไม่ได้ทาํ ให้
นกั ศึกษาทุกคนเลิกลม้ ความต้งั ใจดงั กล่าว
การดาํ เนินงานในเบ้ืองตน้ เท่าที่นักศึกษาจะ
กระทําได้ในขณะน้ัน ก็โดยการเชิญชวนแนะนํา
เพ่ือน ๆนักศึกษารวบรวมเงิน และวิธีขอความ
อนุเคราะห์งบประมาณในเบ้ืองตน้ จากบุคคลที่มีจิต
อนุเคราะห์
บุคคลท่ีมอบเงินให้เป็ นจาํ นวนมากท่ีสุดใน
ขณะน้ัน ก็คือผู้ชายคนหน่ึงซ่ึงมีอาชีพทําแหวน
ประทับตรา อยู่บริ เวณริ มฟุตบาทท่ีประเทศ
ซาอุดิอาระเบีย จึงนาํ เงินที่ไดจ้ ากการอนุเคราะห์มา
ซ้ือท่ีดินที่หมู่บ้านโสร่ง ตาํ บลเขาตูม อาํ เภอยะรัง
จงั หวดั ปัตตานี (วิทยาเขตปัตตานี) เมื่อประมาณ 20
ปี ท่ีผ่านมา โดยซ้ือที่ดินจาํ นวนท้งั หมด 72 ไร่ ใน
ราคาไร่ละ 10,000 - 20,000 บาท (ปัจจุบนั เพ่ิมเป็ น
300 ไร่)