ภาคผนวก ข หนังสือราชการ
ภาคผนวก ค ผลการวิเคราะห์เครื่องมือ
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางกับจุดประสงค์การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน รายการ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ 1. เขียนครบทุกองค์ประกอบ 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 2. จัดระเบียบตามขั้นตอนการเขียนแผน 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ สาระสำคัญ 3. เขียนสาระครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ทักษะกระบวนการและลักษณะ อันพึงประสงค์มีความชัดเจนเข้าใจง่าย +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. เขียนสาระครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการและ ลักษณะอันพึงประสงค์ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. มีความสอดคล้องกับเนื้อหา 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. สามารถวัดและประเมินผลได้ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ สาระการเรียนรู้ 7. ด้านความรู้เขียนครบทุกด้าน คือ หน้าที่ทางภาษา/ คำศัพท์/ โครงสร้าง และวัฒนธรรม +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และเนื้อหา +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางกับจุดประสงค์การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน (ต่อ) รายการ ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ คะแนน ค่า IOC คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 สรุปผล กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ความสามารถ การพัฒนาเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 9. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/และ สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. เนื้อหามีความเหมาะสมและความสนใจ ของผู้เรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. สื่อมีความเหมาะสมกับสถานที่ และสภาพแวดล้อม 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 12. กิจกรรมกระตุ้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ กับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ สื่อ/แหล่องเรียนรู้ 13. สื่อเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม มีความเหมาะสมกับกิจกรรมการอ่าน แบบกว้างขวาง +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 14. สื่อการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรม มีความเหมาะสมกับเวลา และสามารถ นำไปใช้ได้จริง +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ การวัดและประเมินผล 15. วิธีการวัดและเครื่องมือสอดคล้อง กับจุดประสงค์กระบวนการเรียนรู้และ ขั้นตอนของกิจกรรม +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางกับจุดประสงค์การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน (ต่อ) รายการ ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ คะแนน ค่า IOC คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ สรุปผล 3 16. วิธีการวัด เกณฑ์การวัด และเครื่องมือ วัดชัดเจน 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ รวม 11 16 16 43 0.89 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษกับจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับเข้าใจตามตัวอักษรจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน จุดประสงค์ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน รวม ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. สามารถระบุข้อมูลเฉพาะ จากการอ่านได้ 2. สามารถจับใจความจากเรื่อง ที่อ่านได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3. .+1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 5. +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 13. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 14. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 15. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 16. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 17. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 18. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 19. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 20. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษกับจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับการตีความจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน จุดประสงค์ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน รวม ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. สามารถบรรยายความรู้สึก เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 8. +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 13. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 14. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 15. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 16. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 17. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 18. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 19. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 20. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษกับจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับการประเมินค่าจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน จุดประสงค์ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน รวม ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. สามารถบอกได้ว่าข้อความ หรือประโยคที่อ่านเป็นจริง หรือเท็จได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 3. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 4. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 7. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 13. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 14. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 15. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 16. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 17. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 18. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 19. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 20. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษกับจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับเข้าใจตามตัวอักษร ระดับการตีความ และระดับการประเมินค่าจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน จุดประสงค์ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน รวม ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ระดับเข้าใจตามตัวอักษร 1. สามารถระบุข้อมูลเฉพาะ จากการอ่านได้ 2. สามารถจ ั บใจความ จากเรื่องที่อ่านได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3. .+1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 5. +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ระดับการตีความ 1. สามารถบรรยายความรู้สึก เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 8. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบทดสอบการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษกับจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับเข้าใจตามตัวอักษร ระดับการตีความ และระดับการประเมินค่าจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน (ต่อ) จุดประสงค์ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน รวม ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ระดับการตีความ 1. สามารถบรรยายความรู้สึก เกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้ 10. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ ระดับการประเมินค่า 1. สามารถบอกได้ว่าข้อความ หรือประโยคที่อ่านเป็นจริง หรือเท็จได้ 1. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 2. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 3. 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 4. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. +1 +1 0 3 0.67 ใช้ได้ 6. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 9. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 12. +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ รวม 31 35 34 100 0.92 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน ความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่าน แบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน ค่า IOC คนที่ สรุปผล 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ในการเรียนรู้ 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 2. เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มีความเหมาะสมกับระดับความสามารถ และความสนใจของนักเรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 3. เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มีประโยชน์ในการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 4. เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) สะดวกต่อการใช้งาน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 5. เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มีส่วนช่วยในการฝึกสังเกตการใช้คำศัพท์ และโครงสร้างประโยคในขณะที่อ่าน 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม การอ่าน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 7. กิจกรรมการเรียนการสอนช่วยพัฒนา ทักษะด้านการอ่าน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 8. กิจกรรมการอ่านช่วยให้นักเรียนเกิด การเรียนรู้คำศัพท์และสำนวน ภาษาอังกฤษใหม่ ๆ จากเรื่องที่อ่าน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 9. กิจกรรมการอ่านมีรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการปฏิบัติ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 10. กิจกรรมการอ่านช่วยเสริมสร้างนิสัย รักการอ่าน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 11. มีการประเมินผลสอดคล้องกับเนื้อหา ที่เรียน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
แสดงค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 ท่าน (ต่อ) ความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่าน แบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญ คะแนน ค่า IOC สรุปผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 12. รูปแบบการประเมินมีความเหมาะสม กับสถานการณ์ปัจจุบัน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 13. รูปแบบการประเมินแสดงผลการเรียนรู้ ชัดเจนทำให้ผู้เรียนทราบจุดเด่นและจุดที่ต้อง พัฒนาเกี่ยวกับทักษะการอ่านของตน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 14. มีการประเมินทักษะการวิเคราะห์ ข้อมูลจากเรื่องที่อ่าน +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ 15. มีการประเมินความเข้าใจในการอ่าน ตามสภาพจริง (แบบทดสอบ) +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้
ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษระดับเข้าใจตามตัวอักษรเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าความ ยากง่าย (p) การแปลผล ค่าอำนาจ จำแนก (r) การแปลผล ค่าความ เชื่อมั่น (KR-20) 1 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 0.79 2 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.78 ข้อสอบจำแนกได้ดีมาก 3 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.67 ข้อสอบจำแนกได้ดี 4 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 5 0.50 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 6 0.33 ข้อสอบค่อนข้างยาก 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 7 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 8 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 9 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.83 ข้อสอบจำแนกได้ดีมาก 10 0.69 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 11 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.83 ข้อสอบจำแนกได้ดีมาก 12 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้
ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษระดับการตีความเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าความ ยากง่าย (p) การแปลผล ค่าอำนาจ จำแนก (r) การแปลผล ค่าความ เชื่อมั่น (KR-20) 1 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.56 ข้อสอบจำแนกได้ดี 0.67 2 0.69 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 3 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 4 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 5 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.44 ข้อสอบจำแนกได้ดี 6 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 7 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.44 ข้อสอบจำแนกได้ดี 8 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 9 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 10 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 11 0.75 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 12 0.72 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้
ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษระดับการประเมินค่า เพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าความ ยากง่าย (p) การแปลผล ค่าอำนาจ จำแนก (r) การแปลผล ค่าความ เชื่อมั่น (KR-20) 1 0.67 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 0.62 2 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 3 0.72 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 4 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 5 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.44 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 6 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 7 0.39 ข้อสอบค่อนข้างยาก 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 8 0.50 ข้อสอบยากปานกลาง 0.67 ข้อสอบจำแนกได้ดี 9 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 10 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.50 ข้อสอบจำแนกได้ดี 11 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.50 ข้อสอบจำแนกได้ดี 12 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้
ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวางในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษใน 3 ด้าน เพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าความ ยากง่าย (p) การแปลผล ค่าอำนาจ จำแนก (r) การแปลผล 1 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 2 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.56 ข้อสอบจำแนกได้ดี 3 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.67 ข้อสอบจำแนกได้ดี 4 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 5 0.50 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 6 0.33 ข้อสอบค่อนข้างยาก 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 7 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 8 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 9 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.61 ข้อสอบจำแนกได้ดี 10 0.69 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 11 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.72 ข้อสอบจำแนกได้ดีมาก 12 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 13 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.67 ข้อสอบจำแนกได้ดี 14 0.69 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 15 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 16 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 17 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 18 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 19 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 20 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.50 ข้อสอบจำแนกได้ดี 21 0.64 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 22 0.47 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้
ผลการวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษใน 3 ด้าน เพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ต่อ) ข้อที่ ค่าความยากง่าย (p) การแปลผล ค่าอำนาจ จำแนก (r) การแปลผล 23 0.75 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 24 0.72 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 25 0.67 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 26 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 27 0.72 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 28 0.56 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 29 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.44 ข้อสอบจำแนกได้ดี 30 0.44 ข้อสอบยากปานกลาง 0.33 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 31 0.39 ข้อสอบค่อนข้างยาก 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 32 0.50 ข้อสอบยากปานกลาง 0.56 ข้อสอบจำแนกได้ดี 33 0.61 ข้อสอบค่อนข้างง่าย 0.22 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 34 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.50 ข้อสอบจำแนกได้ดี 35 0.53 ข้อสอบยากปานกลาง 0.39 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ 36 0.58 ข้อสอบยากปานกลาง 0.28 ข้อสอบจำแนกได้พอใช้ ค่าเฉลี่ย 0.86 ข้อสอบ จำแนกได้ดีมาก
ผลการวิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนก เป็นรายข้อของแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน ที่มีต่อการใช้กิจกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าอำนาจจำแนก การพิจารณา 1 0.49 คัดเลือกไว้ 2 0.37 คัดเลือกไว้ 3 0.33 คัดเลือกไว้ 4 0.30 คัดเลือกไว้ 5 0.27 คัดเลือกไว้ 6 0.31 คัดเลือกไว้ 7 0.57 คัดเลือกไว้ 8 0.53 คัดเลือกไว้ 9 0.25 คัดเลือกไว้ 10 0.28 คัดเลือกไว้ 11 0.29 คัดเลือกไว้ 12 0.39 คัดเลือกไว้ 13 0.59 คัดเลือกไว้ 14 0.62 คัดเลือกไว้ 15 0.59 คัดเลือกไว้
ผลการวิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อและค่าความเชื่อมั่น (α)ของแบบประเมินความพึงพอใจ ของผู้เรียนที่มีต่อการใช้กิจกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบกว้างขวาง ในการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อที่ ค่าอำนาจจำแนก การพิจารณา ค่าความเชื่อมั่น (α) 1 0.78 คัดเลือกไว้ 0.80 2 0.79 คัดเลือกไว้ 3 0.79 คัดเลือกไว้ 4 0.79 คัดเลือกไว้ 5 0.79 คัดเลือกไว้ 6 0.79 คัดเลือกไว้ 7 0.77 คัดเลือกไว้ 8 0.78 คัดเลือกไว้ 9 0.80 คัดเลือกไว้ 10 0.79 คัดเลือกไว้ 11 0.79 คัดเลือกไว้ 12 0.79 คัดเลือกไว้ 13 0.77 คัดเลือกไว้ 14 0.77 คัดเลือกไว้ 15 0.77 คัดเลือกไว้
ผลการประเมินพัฒนาการความสามารถการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายหลังการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่าน แบบกว้างขวาง ลำดับที่ คะแนน ก่อนเรียน คะแนน หลังเรียน คะแนนพัฒนาการ สัมพัทธ์ ระดับ พัฒนาการ 1 22 31 64.28 สูง 2 21 29 53.33 สูง 3 18 28 55.56 สูง 4 20 29 56.25 สูง 5 22 29 50 กลาง 6 19 27 47.06 กลาง 7 23 29 46.15 กลาง 8 21 28 46.67 กลาง 9 24 34 83.33 สูง 10 20 26 37.5 กลาง 11 22 29 50 กลาง 12 23 29 46.15 กลาง 13 24 32 66.67 สูง 14 19 29 58.82 สูง 15 23 29 46.15 กลาง 16 20 32 75 สูง 17 22 29 50 กลาง 18 20 29 56.25 สูง 19 21 32 73.33 สูง 20 19 29 58.82 สูง 21 18 28 55.56 สูง
ผลการประเมินพัฒนาการความสมารถการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายหลังการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมร่วมกับวิธีการสอนอ่าน แบบกว้างขวาง (ต่อ) ลำดับที่ คะแนน ก่อนเรียน คะแนน หลังเรียน คะแนนพัฒนาการ สัมพัทธ์ ระดับ พัฒนาการ 22 20 29 56.25 สูง 23 19 28 52.94 สูง 24 21 31 66.67 สูง 25 21 29 53.33 สูง 26 22 28 42.85 กลาง 27 19 28 52.94 สูง 28 20 26 37.5 กลาง 29 20 27 43.75 กลาง 30 22 28 42.85 กลาง 31 24 33 75 สูง 32 22 28 42.85 กลาง 33 21 29 53.33 สูง 34 19 27 47.06 กลาง 35 20 29 56.25 สูง 36 22 28 42.85 กลาง เฉลี่ย 15.08 53.98 สูง
0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ คะแนนก่อนเรียน คะแนนหลังเรียน คะแนนพัทนาการสัมพัทธ์
ภาคผนวก ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ23101 รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน5 ชื่อหน่วยการเรียนรู้Lifestyles เรื่อง Jobs and Qualities ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 ชั่วโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงคว คิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 3/1 ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบายที่ฟังและอ่าน ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้น ๆถูกต้องตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม. 3/3 ระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน ต 1.1 ม. 3/4 เลือก /ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล และยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารแสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลอธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม ต 1.2 ม. 3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์และข่าว /เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ อย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน
ตัวชี้วัด ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว /เหตุการณ์/เรื่อง/ ประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ /แก่นสาระ หัวข้อเรื่องที่ได้จากการวิเคราะห์ เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์และเหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและนำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด ต 2.1 ม. 3/1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับบุคคลและโอกาสตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 2.1 ม. 3/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยคชนิดต่าง ๆและการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ต 2.2 ม. 3/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวิตความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทยและนำไปใช้อย่างเหมาะสม สาระที่3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด ต 3.1 ม. 3/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล /ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ เรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด
ต 4.1 ม. 3/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง /สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชนและท้องถิ่น เป็นภาษาต่างประเทศ 2 สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คำศัพท์สำนวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เข้าใจ บอกรายละเอียด และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรื่องที่อ่านและฟังได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไป ใช้ในการพูดและเขียนสื่อสาร เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ อย่างถูกต้อง ตลอดจนมีความเคารพความแตกต่างซึ่งกันและกัน มองเห็นคุณค่าในตนเองและอยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รวมถึงมีความเข้าใจในมารยาทและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Jobs (stuntman, acrobat, air traffic controller, underwater photographer, crocodile trainer, bomb disposal expert, interior decorator, storm chaser, security guard, make-up artist, travel agent, social worker, airline pilot, shop assistant, graphic designer, computer programmer, bus driver, personal trainer, TV presenter, heart surgeon) Qualities (creative, brave, daring, fit, patient, highly trained, careful, artistic, flexible, reliable, skillful) Functions: Talking about reading comprehension(การอ่านเพื่อความเข้าใจ) - Literal level (ระดับเข้าใจตามตัวอักษร) - Inferential level (ระดับการตีความ) - Evaluative level (ระดับการประเมินค่า) Talking about Extensive reading (การอ่านแบบกว้างขวาง) Talking about jobs (การพูดเกี่ยวกับงานต่าง ๆ)
2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Speaking: พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานของบุคคลจากเรื่องที่ฟัง Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Writing: เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะงานต่าง ๆ 4 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมั่นในการทำงาน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ตนเองสนใจ 7 การวัดและการประเมินผล 1) การประเมินก่อนเรียน 2) การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) การประเมินหลังเรียน 4) การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ23101 รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน5 ชื่อหน่วยการเรียนรู้Lifestyles เรื่อง Jobs and Qualities ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ชั่วโมง 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้อง ตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม. 3/4 เลือก /ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้ เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน ตัวชี้วัด ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว /เหตุการณ์/เรื่อง/ ประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม จุดประสงค์ (Objectives) - บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านและฟังได้ - พูดและเขียนบรรยายคุณสมบัติและลักษณะงานของอาชีพต่าง ๆ ได้
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยคชนิดต่าง ๆและการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ อาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพและคุณสมบัติรวมถึงสำนวนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานช่วยให้เข้าใจ บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน และฟังได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียนสื่อสารได้ อย่างเหมาะสม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1) บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน และฟังได้ 2) พูดและเขียนบรรยายคุณสมบัติ และลักษณะงานของอาชีพต่าง ๆ ได้ ด้านกระบวนการ (Process) 1) ประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคล และเป็นกลุ่มในด้านการใช้ ทักษะทางสังคมและการจัดการองค์การ การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ฯลฯ ด้านคุณลักษณะ (Attribute) 1) ประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคล การทำงานร่วมกันเป็นคู่ และเป็นกลุ่มในด้านความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ
4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Jobs (stuntman, acrobat, air traffic controller, underwater photographer, crocodile trainer, bomb disposal expert, interior decorator, storm chaser, security guard, make-up artist, travel agent, social worker, airline pilot, shop assistant, graphic designer, computer programmer, bus driver, personal trainer, TV presenter, heart surgeon) Qualities (creative, brave, daring, fit, patient, highly trained, careful, artistic, flexible, reliable, skillful) Tone (enraged, possible, persuasive, amusing, disappointing, hopeless, subjective, sympathetic, factual, cheerful, humorous, awful, worried, practical, aware, argumentative, disgusting, mindful, optimistic, joking, sentimental, disgusting, sensible, justified, reasonable, imaginative, realistic, attentive) 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Speaking: พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานของบุคคลจากเรื่องที่ฟัง Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Writing: เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะงานต่าง ๆ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) ☑ มีวินัย ☑ ใฝ่เรียนรู้ ☑ มุ่นมั่นในการทำงาน 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) ☑ ความสามารถในการสื่อสาร ☑ ความสามารถในการคิด ☑ ความสามารถในการแก้ปัญหา ☑ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ☑ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R x 8C x 2Ls) (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) 1) R1-(R)eading (อ่านออก) 2) R2- W(R)iting (เขียนได้) 8. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) 1) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม 9. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมความพร้อม (Warm-up) 1. ครูยกตัวอย่างบทอ่านให้นักเรียนเลือก 3 เรื่อง ได้แก่ Let’s Save Planet Earth Now, The Flying Car และ The Sydney Opera House จากนั้นครูให้นักเรียน เลือกเรื่องที่ตนเอง สนใจคนละ 1 เรื่อง และให้นักเรียนอ่านบทอ่านที่ตนเองเลือกคนละ 1 รอบ 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันตอบว่าการที่ครูให้นักเรียนเลือกบทอ่านที่ตนเองสนใจ เมื่ออ่าน แล้วนักเรียนเข้าใจในสิ่งที่อ่าน โดยไม่ต้องใช้พจนานุกรมในการแปลคำศัพท์ เป็นวิธีการอ่านแบบใด 3. ครูอธิบายวิธีการอ่านแบบกว้างขวาง (Extensive reading) ให้นักเรียนฟังว่าวิธีการ อ่านแบบกว้างขวางคืออะไร และมีวิธีการอ่านอย่างไร 4. ครูเขียนคำว่า Reading comprehension (การอ่านเพื่อความเข้าใจ) บนกระดาน และให้นักเรียนเดาความหมายของคำที่ครูเขียน 5. ครูอธิบายความหมายของ Reading comprehension (การอ่านเพื่อความเข้าใจ) ประกอบด้วย 1) Literal level ระดับเข้าใจตามตัวอักษร คือ การอ่านที่ผู้อ่านสามารถบอกใจ ความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้ ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร หรืออย่างไร 2) Inferential level ระดับ การตีความ คือ การอ่านที่ผู้อ่านสามารถบอกความรู้สึกของผู้เขียนหรือตัวละครได้ 3) Evaluative level ระดับการประเมินค่า คือ การอ่านที่ผู้อ่านสามารถบอกได้ว่าเรื่องที่อ่านเรื่อง ไหนเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องไหนเป็นเรื่องเท็จได้ ขั้นนำเสนอ (Presentation) 1. ครูเขียนคำศัพท์บนกระดานดำ และให้นักเรียนทายว่าคำศัพท์คำใดเป็นน้ำเสียง ของเรื่อง (Tone) argumentative practical informative enraged instructive narrative anxious worried expository possible realistic persuasive disappointing descriptive imaginative possible horrifying optimistic investigate sarcastic
2. ครูออกเสียงคำศัพท์เกี่ยวกับน้ำเสียงของเรื่อง (Tone) ให้นักเรียนฟัง และให้ นักเรียนออกเสียงตามพร้อมทั้งเดาความหมายของคำศัพท์ 3. ครูแสดงตัวอย่างประโยคให้นักเรียนดู จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามว่า แต่ละประโยคตรงกับคำศัพท์ของน้ำเสียงของเรื่อง (Tone) คำใด ตัวอย่างประโยค 1) In a conversation between a mother and daughter, the mother says “I’m sorry but we cannot afford to go on vacation this year.” the daughter replies “What a surprise!” 2) Two friends are chatting and one says to the other “I have brought you a gift.” the second friend replies “Wow, that’s so lovely” 3) “My son has spent his whole life not taking things seriously, and now he expects to pass this exam. He has no hope at all.” 4) “What the hell has happened here? Is this your idea of a joke? Answer argumentative practical informative enrage instructive anxious worried possible realistic persuasive disappointing descriptive imaginative possible horrifying optimistic investigate Answer 1) The tone of the daughter is sarcastic in this situation. 2) The tone of the second friend is cheerful and grateful. 3) The tone of this statement is pessimistic. 4) The tone in this example is angry and urgent.
ขั้นฝึก (Practice) 1. ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่านเรื่อง “Best friend” หนังสือเรียนหน้า 17 และให้นักเรียนทำ Mind mapping ตามที่ครูกำหนดหัวข้อไว้ให้ 2. ครูสุ่มถามนักเรียนแต่ละกลุ่มเกี่ยวกับใจความสำคัญ ความรู้สึกของตัวละครและประโยคที่ ครูยกตัวอย่างให้นักเรียนดูว่าเป็นจริง หรือเท็จ ขั้นนำไปใช้ (Production) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 8 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีจำนวนสมาชิก 4 คน จากนั้นครู ให้นักเรียนอ่านบทอ่านเรื่อง My friend เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน 2. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดเกี่ยวกับแผนผังความคิดที่ตนเองได้ทำ 3. ครูถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอเพิ่มเติม เช่น ถามเกี่ยวกับใจความสำคัญของเรื่อง ถามความรู้สึกของผู้แต่ง หรือตัวละคร และครูยกตัวอย่างประโยคถามนักเรียนว่าประโยคใดเป็นจริง ประโยคไหนเป็นเท็จ ขั้นสรุป (Wrap up) 1. ครูและนักเรียนทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับน้ำเสียงของเรื่อง (Tone) โดยครูเขียนคำศัพท์ ลงบนกระดาน แล้วให้นักเรียนอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำศัพท์ทีละคำ My friend One of my favorite people is Mark. I first met him about four years ago at a football match and now we are very good friends. Mark looks really cool and is quite popular. He is 16 years old and is tall and well-built. He has got brown eyes and short black hair. He usually wears casual clothes such as jeans and a T-shirt or loose-fitting shirt. He is very easy-going and open-minded and has got a great sense of humor. Although he gets on well with most people, he can be a bit reserved at times. Mark has got lots of interests. He is crazy about football. He plays almost every day and is the best player on the school team. He hopes to become a professional player one day. He collects football outfits and goes to matches all the time. He also likes basketball and volleyball. All in all, I think that Mark is a great guy. I love hanging out with him, I hope that we can befriends forever.
10.การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 11.สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) บทอ่านเรื่อง Let’s Save Planet Earth Now, The Flying Car และ The Sydney Opera House 3) พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ 4) พจนานุกรมออนไลน์ 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13. ปัญหาและอุปสรรค/แนวทางแก้ไข/ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน (นางสาวปราณปริยา ชัยสวัสดิ์) วันที่…………เดือน…………พ.ศ………… วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ประเมินการอ่านออกเสียงบทอ่าน แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดับ คุณภาพพอใช้ ตรวจการตอบคำถามการอ่านและการฟัง งานที่ได้รับมอบหมาย (Assignment) ร้อยละ 60 สังเกตการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องที่อ่าน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ พอใช้ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมั่น ในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพผ่าน
14. ความเห็น / ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………ผู้บังคับบัญชา (นายพลอภิรัฒณ์ อันถาธารณ์) ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มสาระฯ
แผนการจัดการเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ23101 รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน5 ชื่อหน่วยการเรียนรู้Lifestyles เรื่อง Jobs and Qualities ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ชั่วโมง 15.สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตาม หลักการอ่าน ต 1.1 ม. 3/4 เลือก /ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล และยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 3/3 พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ต 1.2 ม. 3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูดและการเขียน ตัวชี้วัด ต 1.3 ม. 3/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว /เหตุการณ์/เรื่อง/ ประเด็นต่าง ๆ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม จุดประสงค์ (Objectives) - บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านและฟังได้ - พูดและเขียนบรรยายคุณสมบัติและลักษณะงานของอาชีพต่าง ๆ ได้
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด ต 2.2 ม. 3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ อาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด ต 4.2 ม. 3/2 เผยแพร่ /ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่นเป็น ภาษาต่างประเทศ 16.สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพและคุณสมบัติรวมถึงสำนวนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการทำงาน ช่วยให้เข้าใจบอกรายละเอียด และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน และฟังได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูดและเขียนสื่อสารได้อย่าง เหมาะสม 17. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1) ระบุข้อมูลเฉพาะจากการฟังและอ่านได้ 2) พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานของบุคคลจากเรื่องที่ฟังได้ 3) เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะงานต่าง ๆ ได้ ด้านกระบวนการ (Process) 1) ประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคล และเป็นกลุ่มในด้านการใช้ ทักษะทางสังคมและการจัดการองค์การ การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ฯลฯ ด้านคุณลักษณะ (Attribute) 1) ประเมินพฤติกรรมในการทำงานเป็นรายบุคคล การทำงานร่วมกันเป็นคู่ และเป็นกลุ่มในด้านความมีวินัย ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ
18.สาระการเรียนรู้ 4.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Jobs (stuntman, acrobat, air traffic controller, underwater photographer, crocodile trainer, bomb disposal expert, interior decorator, storm chaser, security guard, make-up artist, travel agent, social -worker, airline pilot, shop assistant, graphic designer, computer programmer, bus driver, personal trainer, TV presenter, heart surgeon) Qualities (creative, brave, daring, fit, patient, highly trained, careful, artistic, flexible, reliable, skillful) 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Speaking: พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานของบุคคลจากเรื่องที่ฟัง Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ Writing: เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะงานต่าง ๆ 19. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) ☑ มีวินัย ☑ ใฝ่เรียนรู้ ☑ มุ่นมั่นในการทำงาน 20. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) ☑ ความสามารถในการสื่อสาร ☑ ความสามารถในการคิด ☑ ความสามารถในการแก้ปัญหา ☑ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ☑ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 21. จุดเน้นสู่การพัฒนาผู้เรียน ความสามารถและทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R x 8C x 2Ls) (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) 3) R1-(R)eading (อ่านออก)
4) R2- W(R)iting (เขียนได้) 22. การบูรณาการตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะที่เกิดในแผนการจัดการเรียนรู้นี้) 2) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม 23. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมความพร้อม (Warm-up) 1. ครูนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการเขียนชื่อหน่วยการเรียนรู้ Lifestyles บนกระดาน พร้อมอ่านออกเสียงโดยเน้นเสียง -s เพื่อแสดงให้เห็นรูปพหูพจน์ และให้นักเรียนเดาความหมาย lifestyle (n) = the way in which a person or a group of people lives and works (วิถีหรือรูปแบบการดำเนินชีวิต 2. Find the page numbers for หน้า 9 นักเร ียนอ่า นหัว ข้ อที่ใ ห ้ ม า และช่วยกันอธิบายความหมายของคำศัพท์ยาก ในที่นี้อาจเป็นคำว่า lizard ครูอาจใช้วิธีการบอกใบ้ เช่น A lizard is an animal with a long tail. You can find it at your home. It usually crawls on the wall. จากนั้นให้นักเรียนหาว่าภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเหล่านี้อยู่ในหนังสือเรียนหน้าใด เมื่อ หาพบแล้วครูถามคำถามเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าว เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน Answer a man that looks like a lizard (p. 10) Why do you think he looks like this? What do you think his job is? What do you think is on his skin? What is it called? It begins with a letter “t”. a quiz (pp. 16, 20) Where can you see quizzes like these? Do you like quizzes? What is the point of a quiz? a paragraph plan (p. 17) Do you think is it important to have a paragraph plan?
ขั้น Pre-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 1 ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังคำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพ และฝึกออกเสียงตาม 2-3 ครั้ง ครูเน้นให้นักเรียนลงเสียงหนักในคำให้ถูกต้อง โดยครูอาจเขียนคำศัพท์บางคำ บนกระดาน เพื่อให้นักเรียนฝึกเป็นพิเศษก่อน เช่น controller photographer disposal decorator เมื่อนักเรียนออกเสียงได้คล่องแล้ว ให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์โดยเดาจากภาพ หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 2 นักเรียนอ่านออกเสียง adjective ที่ใช้บรรยายคุณสมบัติในการทำงานตามครู โดยครูชี้ให้เห็นว่าคำศัพท์ส่วนใหญ่จะลงเสียงหนักในพยางค์แรก ยกเว้นคำต่อไปนี้ creative artistic reliable ครูให้นักเรียนฝึกออกเสียงด้วยตนเองอีกครั้ง แล้วครูให้นักเรียนอธิบายความหมาย ถ้าคำใดไม่รู้ให้เปิด พจนานุกรม หรือครูช่วยอธิบาย เช่น daring (adj) = willing to do dangerous or unusual things; involving danger or taking risks (กล้า, โลดโผน) flexible (adj) = able to change to suit new conditions or situations (ยืดหยุ่น, ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้) reliable (adj) = that can be trusted to do something well; that you can rely on (ไว้ใจได้, เชื่อถือได้) skillful (adj) = good at doing something, especially something that needs special ability or training (เชี่ยวชาญ, มีทักษะ) จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าอาชีพใน Ex. 1 ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง Suggested Answer An acrobat needs to be flexible and fit. An air traffic controller needs to be highly trained. An underwater photographer needs to be fit. A crocodile trainer needs to be daring and careful. A bomb disposal expert needs to be highly trained and skillful. An interior decorator needs to be creative. A storm chaser needs to be daring.
2. หนังสือเรียน หน้า 9 Ex. 3 ครูทบทวน comparatives โดยยกตัวอย่างบนกระดาน เช่น The book is thicker than the notebook. The car is more expensive than the motorbike. แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกโครงสร้าง จากนั้นครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนพูดเปรียบเทียบคุณสมบัติ ของแต่ละอาชีพในภาพ โดยใช้ adjective จาก Ex. 2 ในรูป comparatives 3. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 1 ครูเขียนคำว่า entertainment(ความบันเทิง) บนกระดานแล้วให้นักเรียน อธิบายความหมาย จากนั้นครูให้เวลา 1 นาที ให้นักเรียนเขียนคำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพ ซึ่งเกี่ยวข้อง กับ entertainment ให้ได้มากที่สุด เสร็จแล้วเปรียบเทียบกับเพื่อน แล้วครูให้นักเรียนที่เขียนได้มาก ที่สุดออกมาเขียนคำศัพท์บนกระดาน โดยให้นักเรียนที่เหลือช่วยกันดูว่าเขียนถูกต้องหรือไม่ และเพิ่มเติมคำศัพท์ที่ยังไม่มีบนกระดาน 4. หากคำศัพท์คำใดที่นักเรียนไม่ทราบความหมาย ครูให้นักเรียนเปิดพจนานุกรม หรือครูช่วยอธิบาย เช่น earn a living (idiom) = to make money in order to support oneself financially (หาเลี้ยงชีพ) Suggested Answer 2 An acrobat needs to be more flexible than an air traffic controller. 3 An air traffic controller needs to be more reliable than an underwater photographer. 4 An underwater photographer needs to be more creative than a crocodile trainer. 5 A crocodile trainer needs to be fitter than a bomb disposal expert. 6 A bomb disposal expert needs to be more careful than an interior decorator. 7 An interior decorator needs to be more reliable than a storm chaser. 8 A storm chaser needs to be more daring than an interior decorator. Suggested Answer dancer, comedian, musician, clown, director, composer, magician, ballerina, circus performer etc.
sideshow performer (n) = a person who performs for an audience in a separate small show at a fair or circus (ผู้แสดงโชว์ในงานรื่นเริงหรือในละครสัตว์) swing (v) = to move backwards or forwards or from side to side while hanging from a fixed point (แกว่ง) tolerant (adj) = able to accept what other people say or do even if you do not agree with it (อดทน) 5. ครูอธิบาย วิธีการอ่านแบบกว้างขวาง (Extensive reading) คือ การอ่านบทความยาว ๆ เพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งใช้ความเร็ซในการอ่าน จากนั้นครูให้นักเรียนอ่านหนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 2 เรื่อง Extreme jobs Extreme looks และดูภาพประกอบแล้วช่วยกันเดาว่าบทอ่านนี้น่าจะมีเนื้อหา เกี่ยวกับอะไร จากนั้นครูให้นักเรียนบรรยายภาพทั้ง 3 ภาพ และเดาว่าบุคคลเหล่านี้น่าจะทำงานที่ใด และทำอาชีพอะไร แล้วครูให้นักเรียนฟัง CD เพื่อตรวจคำตอบ 6. ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่าน โดยใช้วิธีการอ่านแบบกว้างขวาง (Extensive reading) เพื่อเก็บประเด็นหรือใจความสำคัญ รวมทั้งรายละเอียดที่สำคัญบางอย่าง แล้วจับคู่ภาพ 1-3 กับบทอ่าน A-C หลังจากนั้นครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลยคำตอบพร้อมกัน Suggested Answer The pictures show people who have extreme looks in their jobs. There is someone dressed as a cartoon character, a woman who looks like a statue and a man with many tattoos who looks like a lizard. I think the cartoon character works at a theme park, the statue woman might be an actress and the man with the tattoos probably works in a stage show as a performer. Answer Picture 1 – C Picture 2 - A Picture 3 - B
ขั้น Reading 1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 3 นักเรียนอ่านคำถามที่ให้มาและขีดเส้นใต้คำสำคัญแล้วอ่าน เรื่อง Extreme jobs Extreme looks โดยมองหาคำพ้องความหมาย (synonym) คำที่มีความหมาย ตรงกันข้าม (opposite) หรือกลุ่มคำ/วลีที่มีความหมายเหมือนกันหรือต่างกันกับคำสำคัญที่ขีดเส้นใต้ ไว้เมื่อพบแล้วให้อ่านเฉพาะประโยคที่คำถามนั้นพาดพิงไปถึงหรืออาจจะอ่านข้อความแวดล้อม 1-2 ประโยคก่อนหน้าหรือถัดไปที่มีข้อมูลพาดพิงไปถึง เมื่อเข้าใจแล้วจึงตอบคำถามที่ให้มา ครูย้ำว่า คำถามบางข้อสามารถตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน และเฉลย คำตอบพร้อมกัน ขั้น Post-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 4 นักเรียนฝึกฝนคำศัพท์จากเรื่องที่อ่าน โดยเติมคำที่กำหนดลง ในช่องว่าง จากนั้นครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนแล้วเฉลยคำตอบหรือครูอาจเตรียมบัตรคำในข้อ 1- 12 และบัตรคำศัพท์ที่กำหนดให้ เช่น stand teeth, performer จากนั้นแบ่งนักเรียนออกเป็น 5-6 กลุ่ม ครูแจกบัตรคำให้กลุ่มละ 1 ชุด ให้แต่ละกลุ่มจับคู่บัตรคำให้ถูกต้อง Answer 1. A (Christina) 2. A (Christina), C (Joe) 3. B (Eric) 4. A (Christina), C (Joe) 5. B (Eric) 6. C (Joe) 7. A (Christina) Answer 1. still 5. performer 9. room 2. statue 6. teeth 10. mask 3. her skin 7. tongue 11. slowly 4. paint 8. costume 12. his arms or legs
หลังจากเฉลยคำตอบแล้ว ครูให้นักเรียนใช้วลีเหล่านี้พูดบรรยายเกี่ยวกับ Christina, Eric และ Joe 2. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5a ครูให้นักเรียจับคู่กับเพื่อนผลัดกันพูด 3 สิ่งที่จดจำได้ จากเรื่อง Extreme jobs Extreme looks 3. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 5b ครูให้เวลานักเรียนคิดและเขียนว่าอาชีพใดจากเรื่อง Extreme jobs Extreme looks ที่นักเรียนอยากทำ/ไม่อยากทำพร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ จากนั้นให้นักเรียนผลัดกันพูดให้คู่ของตนเองฟัง แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน บอกความคิดเห็นของ ตนเอง Suggested Answer A Christina is an actress and she works as a living statue. She covers her skin with body paint and stands still. It can take about 90 minutes to become a living statue. B Eric is a sideshow performer. He has pointed teeth and a forked tongue. C Joe is the Disney character Pluto. When he arrives at work, he goes to the dressing room to change. He wears a heavy mask and a furry costume. He walks slowly and doesn’t swing his arms or legs. Suggested Answer Christina covers her skin with body paint. Eric has green tattoos all over his body. Joe works at Disney World in Florida.
ขั้นสรุป (Wrap up) 1. ให้นักเรียนช่วยกันสรุปสิ่งที่เรียนโดยการตอบคำถาม โดยครูเขียนคำตอบของนักเรียนลง บนกระดาน และให้นักเรียนจดบันทึกสรุปการเรียนลงในสมุดบันทึก 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปฝึกอ่านออกเสียงบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 10 เป็นการบ้าน 3. โดยครูอาจแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มคละความสามารถ เพื่อให้นักเรียนช่วยเหลือกันในการฝึก อ่านเสร็จแล้วมาอ่านออกเสียงให้ครูฟังนอกเวลาเรียน และทำแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 4-5 Exs. 1-4 ให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน 4. ครูส่งภาพหน้าปกที่มี QR Code เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) เรื่อง Extreme jobs Extreme looks และคู่มือการใช้งานเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) ให้นักเรียน และอธิบายถึง ขั้นตอนและวิธีการในการอ่านและทำกิจกรรมในเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมให้นักเรียนฟัง โดยครูกำหนดระยะเวลาในการอ่านและทำกิจกรรมประมาณ 1 สัปดาห์ Suggested Answer I would like to be the Disney character Pluto and work at Disney World in Florida. I think it would be fun. I like children and I like seeing them smile. I think they would like my furry costume! I wouldn’t like to be a sideshow performer because I wouldn’t like to change my appearance to such an extreme.
10. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 11.สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3 3) แบบฝึกหัด SPARK 3 ม. 3 4) พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) เรื่อง Extreme jobs Extreme looks 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ประเมินการอ่านออกเสียงบทอ่าน แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดับคุณภาพพอใช้ ตรวจการตอบคำถามการอ่านและการฟัง แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 สังเกตการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคุณภาพพอใช้ ตรวจการเขียนเกี่ยวกับอาชีพ ที่ต้องการทำ สมุดนักเรียน - ประเมินการเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับ อาชีพที่ตนเองสนใจ เพื่อนำไปลง เว็บไซต์ของโรงเรียน แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพพอใช้ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความ มุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพผ่าน
13. ปัญหาและอุปสรรค/แนวทางแก้ไข/ข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ………………………………………………… ผู้สอน (นางสาวปราณปริยา ชัยสวัสดิ์) วันที่.………….. เดือน.………….. พ.ศ.………….. 14. ความเห็น / ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………ผู้บังคับบัญชา (นายพลอภิรัฒณ์ อันถาธารณ์) ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มสาระฯ