The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคอมเพิ่มเติม ม1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kitikornsawangha, 2022-03-07 22:07:44

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคอมเพิ่มเติม ม1

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคอมเพิ่มเติม ม1

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

เร่ือง ปัญหาในชีวิตประจาวนั ของมนุษย์และกระบวนการแก้ปัญหา

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่อื การดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ
เพอ่ื แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ
สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม
ตวั ชีว้ ดั
ว 4.1 ม.1/2 ระบุปัญหาหรือความตอ้ งการในชีวิตประจาวนั รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู
และแนวคดิ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา
ว 4.1 ม.1/3 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูล
ท่ีจาเป็น นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ วางแผนและดาเนินการ
แกป้ ัญหา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. บอกปัญหาในชีวติ ประจาวนั และกระบวนการแกป้ ัญหา (K)
2. แสดงบทบาทสมมุติในหวั ขอ้ ที่จบั สลาก (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

ในชีวติ ประจาวนั ของมนุษยน์ ้นั มกั จะพบปัญหาและอปุ สรรคตลอดเวลา แต่มนุษยส์ ามารถแกป้ ัญหา
เหล่าน้นั ไดโ้ ดยประสบการณ์และกระบวนการแกป้ ัญหา

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

ทาไมจึงตอ้ งใชก้ ระบวนการในการแกป้ ัญหา

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ันส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. ตวั แทนนกั เรียนออกมาเล่าประสบการณ์ปัญหาท่ีพบในชีวติ ประจาวนั จากน้นั นกั เรียนร่วมกนั
สนทนาแลกเปล่ียนประสบการณ์

2. นกั เรียนแบ่งกล่มุ เป็น 2 กลมุ่ สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประเภทของปัญหาในชีวติ ประจาวนั
ของมนุษย์ ดงั น้ี

• กลุ่มท่ี 1 ปัญหาที่เกิดจากปัจจยั พ้ืนฐานในการดารงชีวิต
• กลมุ่ ที่ 2 ปัญหาที่เกิดจากปัจจยั การอยรู่ ่วมกนั ของมนุษย์
3. ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาอธิบายความรู้ที่ไดจ้ ากการสืบคน้ ขอ้ มูล จากน้นั นกั เรียน
สนทนาแลกเปล่ียนความรู้กนั แลว้ บนั ทึกเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง

แหล่งน้าไกลจากแหลง่ เพาะปลกู วสั ดุมงุ หลงั คาอายสุ ้นั ผพุ งั เร็ว

ปัญหาท่เี กดิ จาก
ปัจจยั พืน้ ฐานในการ

ดารงชีวิต

ทอผา้ ไดช้ า้ ไม่เพียงพอต่อ ผลิตยารักษาโรคไม่เพยี งพอ
ความตอ้ งการ

การกาจดั ขยะชุมชนท่ีมีจานวนมาก ปัญหาที่เกดิ ผลิตสินคา้ ในจานวนท่ีไมเ่ พยี งพอ
ทาไดช้ า้ และใชต้ น้ ทุนสูง จากการอยู่ร่วมกนั ตอ่ ความตอ้ งการ

ระบบธุรกรรมทางการเงิน ของมนุษย์ การจดั สรรทรัพยากรไมเ่ ป็นธรรม
ไมป่ ลอดภยั

4. นกั เรียนระบปุ ัญหาที่พบในชีวติ ประจาวนั ของตนเองวา่ พบปัญหาอะไรบา้ ง เขยี นบนั ทึกคาตอบ
ลงในแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง

นงั่ อ่านหนงั สือที่บา้ นแลว้ ยงุ กดั

การเดินทางมาโรงเรียนแลว้ ฝนตก ปัญหาทพ่ี บ ตอนเชา้ ตอ้ งรดน้าตน้ ไมท้ กุ วนั
ทาใหไ้ ม่สะดวกในการเดินทาง ในชีวิตประจาวนั ทาใหบ้ างคร้ังไปโรงเรียนสาย

ผลไมท้ ่ีเก็บไวเ้ น่าเร็ว ของตนเอง ก่อนออกจากบา้ นบางคร้ัง
รับประทานไม่ทนั ลืมปิ ดอปุ กรณ์ไฟฟ้า

5. นกั เรียนร่วมกนั สนทนา และตอบคาถามกระตุน้ ความสนใจ ดงั น้ี
• ทาไมจึงตอ้ งใชก้ ระบวนการในการแกป้ ัญหา
(ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะจะทาใหก้ ารแกป้ ัญหาสาเร็จโดยไมพ่ บปัญหาในระหวา่ งการแกป้ ัญหา)

6. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั เร่ือง ปัญหาในชีวิตประจาวนั ของมนุษย์
และกระบวนการแกป้ ัญหา จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เนต็

•ข้นั• ค•ดิ •วิเค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

7. นกั เรียนเลือกปัญหาในขอ้ 4 มา 1 ปัญหา แลว้ ระบุสาเหตุของปัญหา ผลที่เกิดข้ึน พร้อมเสนอ
แนวทางการแกป้ ัญหา เขยี นบนั ทึกคาตอบลงในแผนภาพที่กาหนด ดงั ตวั อยา่ ง

มีส่ิงที่ยงุ ชอบยงุ จึงมา อยใู่ กลแ้ หล่งของยงุ ปัญหา ผลที่เกดิ ขึน้
อยใู่ กลท้ ่ีอบั ช้ืน สาเหตุ
นง่ั อา่ นหนงั สือท่ีบา้ น เสี่ยงต่อการเป็ น
ไม่มีอุปกรณ์ป้องกนั ยงุ แลว้ ยงุ กดั โรคไขเ้ ลือดออก

แนวทางการแก้ปัญหา

หาวธิ ีป้องกนั ยงุ โดยอาจหาวิธีไล่ยงุ หรือสร้างอปุ กรณ์
ดกั จบั ยงุ

8. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์เกี่ยวกบั ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปัญหา ความตอ้ งการ และปัจจยั
ที่เป็นสาเหตุ โดยการตอบคาถาม ดงั น้ี

• การวเิ คราะห์สาเหตุของปัญหาทาใหเ้ กิดผลดีต่อการแกป้ ัญหาอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาใหท้ ราบสาเหตุท่ีแทจ้ ริงและดาเนินการแกป้ ัญหาไดต้ รงประเด็น
ทาใหป้ ัญหาน้นั ถูกกาจดั ใหห้ มดสิ้นไป)
9. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะหป์ ัญหาต่อไปน้ี
• การใชไ้ ฟฟ้ามากข้ึน
• อาหารที่รับประทานมีสารปนเป้ื อน โดยวิเคราะหค์ วามสัมพนั ธร์ ะหวา่ งปัญหา
ปัจจยั ท่ีเป็นสาเหตุ และความตอ้ งการในชีวติ ประจาวนั (นกั เรียนวิเคราะหป์ ัจจยั /สาเหตุเพิ่มเติม
จากที่กาหนด)
10. นกั เรียนร่วมกนั คิดวเิ คราะห์เกี่ยวกบั ข้นั ตอนกระบวนการแกป้ ัญหา โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• เพราะเหตใุ ดการวิเคราะห์ปัญหาจึงตอ้ งต้งั คาถามใหห้ ลากหลายมิติ
(ตวั อยา่ งคาตอบ เพอ่ื หาสาเหตทุ ่ีแทจ้ ริงของปัญหา ซ่ึงจะทาใหส้ ามารถแกป้ ัญหาไดต้ รงประเดน็ )
• การรวบรวมขอ้ มลู ที่ดี จะทาใหเ้ กิดผลอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาให้แกป้ ัญหาไดต้ รงประเด็นและขจดั อุปสรรคท่ีทาใหเ้ กิดปัญหาไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ)
• เพราะเหตุใดการสร้างทางเลือกจึงควรสร้างทางเลือกหลาย ๆ วธิ ี
(ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะทาใหท้ ราบขอ้ ดี-ขอ้ เสียของแต่ละวธิ ี เพ่อื นามาประกอบในการตดั สินใจ
เลือกวธิ ีแกป้ ัญหา)
• การตดั สินใจเลือกวิธีการแกป้ ัญหาควรมีวิธีการสารองหรือไม่ อยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ควรมี เพราะหากการแกป้ ัญหาดว้ ยวิธีท่ีตดั สินใจเลือกในคร้ังแรกไม่สามารถ
ดาเนินการแกป้ ัญหาใหล้ ลุ ว่ งไดก้ ็อาจนาแผนสารองท่ีเตรียมไวม้ าดาเนินการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที)
• การวางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหาก่อนการลงมือแกป้ ัญหาจริงมีขอ้ ดีอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาใหท้ กุ ฝ่ายท่ีเกี่ยวขอ้ งสามารถเขา้ ใจไดต้ รงกนั และทางานเพอื่ ดาเนินการ
แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ ง อีกท้งั ยงั ช่วยใหป้ ระหยดั เวลา ทรัพยากร และเคร่ืองมือต่าง ๆ)
• หากไม่มีข้นั ตอนการประเมินผลจะทาใหเ้ กิดผลอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ อาจทาใหก้ ารแกป้ ัญหาไมร่ าบรื่นไมเ่ ป็นไปตามกาหนดเวลา และเป้าหมาย
ของการแกป้ ัญหาท่ีไดว้ างแผนไว)้
11. นกั เรียนร่วมกนั คิดประเมินเพอ่ื เพ่มิ คณุ คา่ เก่ียวกบั กระบวนการแกป้ ัญหา โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• กระบวนการแกป้ ัญหา มีขอ้ ดีอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ช่วยในการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็ นระบบ มีลาดบั ข้นั ตอนและแกป้ ัญหา
ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ)

12. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั ปัญหาในชีวิตประจาวนั ของมนุษยแ์ ละ
กระบวนการแกป้ ัญหา ดงั น้ี

เน่ืองจากมีปัญหาที่เกิดข้นึ อยา่ งมากมายในชีวิตประจาวนั เมื่อเกิดปัญหาข้นึ แลว้ กต็ อ้ งเรียนรู้
และแกป้ ัญหาน้นั ใหไ้ ด้ โดยใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบเป็นลาดบั ข้นั ตอน เพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์
ตามที่ตอ้ งการ

ข•้นั •ปฏ•ิบ•ัตแิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลัง•กา•รป•ฏ•บิ ัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•
13. •นกั เรียนสังเกตภาพเครื่องชง่ั สปริงและขอ้ ความที่กาหนด แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถาม

เคร่ืองชงั่ สปริงที่พบเห็นในตลาดส่วนใหญ่จะมีลกั ษณะ ดงั น้ี

ถา้ หากมองระบบการทางานของเครื่องชงั่ สปริง ปัจจยั นาเขา้ คอื วตั ถทุ ่ีนามาชง่ั
จากน้นั มีการประมวลผลภายใน แลว้ แสดงผลลพั ธ์ออกมาเป็นน้าหนกั ของวตั ถุที่นามาชงั่

• โครงสร้างภายในเคร่ืองชงั่ สปริงมีลกั ษณะอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ แรงจากน้าหนกั กดสปริง โดยสปริงจะยุบลงมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั น้าหนกั )
จากน้นั นกั เรียนวาดภาพโครงสร้างตามแนวคิดของตนเอง แลว้ ตอบคาถาม

สปริง
เขม็

• ถา้ หากเคร่ืองชงั่ สปริงทางานผดิ พลาด นกั เรียนคิดวา่ ปัญหาเกิดจากส่ิงใด และมีแนวทาง
การแกป้ ัญหาอยา่ งไร

(ตวั อยา่ งคาตอบ อาจเกิดจากมีสิ่งใดติดอยทู่ ี่ใตถ้ าดของเคร่ืองชง่ั สปริงหรือสปริงเส่ือมลง)

14. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั จากน้นั แต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลือกหวั ขอ้
ที่จะใชใ้ นการแสดงบทบาทสมมตุ ิในหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี

• ปัญหาการมาโรงเรียนสาย
• ปัญหาผลการเรียนต่า
• ปัญหารักในวยั เรียน
โดยแต่ละกลุ่มจะตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นถึงปัญหาและวิธีการแกไ้ ขปัญหา พร้อมท้งั ให้ขอ้ คดิ สาคญั ดว้ ย

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการร่วมมือทางานเป็นทีม

15. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
ในชีวติ ประจาวนั ของมนุษยน์ ้นั มกั จะพบปัญหาและอปุ สรรคตลอดเวลา แต่มนุษยส์ ามารถ

แกป้ ัญหาเหล่าน้นั ไดโ้ ดยประสบการณ์และกระบวนการแกป้ ัญหา

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

16. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั วิธีการแกป้ ัญหาโดยใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาของเพอ่ื น
แต่ละกลุม่ ท่ีไดแ้ สดงบทบาทสมมุติในแตล่ ะหวั ขอ้ วา่ มีวิธีการหรือกระบวนการแกป้ ัญหาอ่ืนอีกหรือไม่

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสื่อสาร

17. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วิธีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธีการทางาน
ท่ีมีแบบแผน

ข• ้ัน•ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ• ม่ิ •คณุ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จติ •ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

18. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• ส่ิงท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด
• เพ่ือนนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ที่ไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป

ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทกุ ข้นั ตอนวา่ จะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม
เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากข้ึนกวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังตอ่ ไป

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แถบขอ้ ความเกี่ยวกบั ระบบของเทคโนโลยี
3. ภาพเครื่องชง่ั สปริง
4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เรื่อง ปัญหาในชีวิตประจาวนั ของมนุษยแ์ ละกระบวนการแกป้ ัญหา (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

เรื่อง เคร่ืองมือท่ีใช้ในกระบวนการแก้ปัญหา

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ
เพือ่ แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต
สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม
ตวั ชีว้ ัด
ว 4.1 ม.1/2 ระบุปัญหาหรือความตอ้ งการในชีวติ ประจาวนั รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มูล
และแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ระบุเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา (K)
2. วเิ คราะหป์ ัญหาเป็นแผนภาพความคิดแบบ The Mind Map และ The Fish Bone (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

ในกรณีท่ีปัญหามีความซบั ซอ้ นมากอาจตอ้ งใชเ้ ครื่องมือเขา้ มาช่วยในการรวบรวมขอ้ มลู
การวิเคราะห์ การตดั สินใจ เพือ่ ดาเนินการแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ซ่ึงมีเครื่องมืออยู่ 2 แบบ คือ
การระดมพลงั สมองและแผนภาพความคดิ

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

การวางแผนการแกป้ ัญหาโดยการระดมพลงั สมองกบั การใชแ้ ผนภาพความคดิ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ข•้ันส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตภาพบนกระดาน แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี

• จากภาพ นกั เรียนคดิ วา่ บุคคลเหล่าน้ีใชเ้ ครื่องมือในกระบวนการแกป้ ัญหารูปแบบใด
(การระดมพลงั สมอง)

• จากภาพ นกั เรียนคิดวา่ ผหู้ ญิงใชเ้ ครื่องมือในกระบวนการแกป้ ัญหาการเป็นไขห้ วดั
ดว้ ยรูปแบบใด

(ตวั อยา่ งคาตอบ แผนภาพความคดิ )
2. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั เรื่อง เครื่องมือท่ีใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา
จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต

•ข้นั• ค•ดิ •วเิ ค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

3. นกั เรียนร่วมกนั คิดวิเคราะห์เกี่ยวกบั เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา โดยตอบคาถาม
ดงั น้ี

• การระดมพลงั สมองมีวธิ ีการอยา่ งไร
(ต้งั ประเด็นปัญหาและรวมกลุ่ม เพอ่ื นาเสนอแนวคิดหรือแนวทางในการแกป้ ัญหาออกมา
ใหม้ ากที่สุด โดยไมม่ ีการพูดเพื่อขดั แยง้ หรือแสดงความคิดเห็นตอบโตใ้ ด ๆ ในระหวา่ งการระดมความคิด
และมีสมาชิก 1 คน เป็นผจู้ ดบนั ทึก)
• การระดมพลงั สมองมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ไดค้ วามคดิ หลากหลาย กวา้ งไกล เกิดมมุ มองที่แตกต่าง ซ่ึงสามารถนาไปสู่
ความคิดสร้างสรรคท์ ี่แปลกใหม่)
• แผนภาพความคิดมีจุดเด่นอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ มีหลายรูปแบบ ทาใหก้ ารนาเสนอความคิด มีความน่าสนใจ เขา้ ใจงา่ ย)
• แผนภาพความคดิ มีประโยชนอ์ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ ช่วยให้แสดงความคิดเชิงนามธรรมออกมาใหเ้ ห็นภาพชดั เจน)
4. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม กาหนดประเด็นท่ีกลมุ่ ตนเองสนใจ 1 เรื่อง
เขยี นเป็นแผนภาพความคิด The Mind Map ออกแบบตกแตง่ ใหน้ ่าสนใจ สวยงาม ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
จากน้นั ออกมานาเสนอและอธิบายความคดิ ทีละกลุ่ม นกั เรียนกลุ่มอื่นร่วมกนั พิจารณาว่าขอ้ มูลที่นาเสนอ
เหมาะสมกบั แผนภาพความคิดรูปแบบน้ีหรือไม่ ดงั ตวั อยา่ ง

5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ กาหนดประเด็นที่กลมุ่ ของตนเองสนใจ 2 เรื่อง เช่น ปัญหาการมาโรงเรียนสาย
อกหกั ติดโซเชียล ผลการเรียนไมด่ ี จากน้นั เขยี นเป็นแผนภาพความคิด โดย 1 เรื่อง ให้เขียนแบบ The Mind Map
ส่วนอีก 1 เร่ืองให้เขยี นแบบ The Fish Bone ออกแบบตกแต่งใหน้ ่าสนใจ สวยงาม แลว้ ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง ดงั ตวั อยา่ ง

แบบท่ี 1 The Mind Map

แบบที่ 2 The Fish Bone

6. นกั เรียนร่วมกนั คิดวิเคราะห์ แลว้ ตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ดงั น้ี
• การวางแผนการแกป้ ัญหาโดยการระดมพลงั สมองกบั การใชแ้ ผนภาพความคิดแตกต่างกนั

อยา่ งไร
(• การระดมพลงั สมอง เป็นวิธีการท่ีสมาชิกกาหนดประเด็นปัญหาข้ึน แลว้ รวมกลุม่ เพ่อื นาเสนอ

แนวคิดหรือแนวทาง และเป็นการแกป้ ัญหาอยา่ งรวดเร็ว โดยให้สมาชิกพดู แสดงความคิดเห็นออกมาใหม้ าก
ท่ีสุด และมีสมาชิกอีก 1 คน เป็นผจู้ ดบนั ทึก และในระหวา่ งน้นั จะไม่มีสมาชิกคนอื่นพูดโตแ้ ยง้

• ส่วนการใชแ้ ผนภาพความคดิ จะเป็นการใชเ้ ครื่องมือจาลองความคิดที่อยใู่ นสมองและถา่ ยออก
สู่ภายนอกใหป้ รากฏเห็นเป็นภาพ สัญลกั ษณ์ รูป และสีสนั ตา่ ง ๆ โดยทาใหค้ วามคิดท่ีกระจดั กระจาย
สามารถรวมกลุม่ กนั ได)้

7. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั เคร่ืองมือที่ใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา ดงั น้ี
การแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ อาจแกไ้ ขไม่ไดโ้ ดยทนั ที นนั่ หมายความวา่ ปัญหาน้นั มีความซับซอ้ น

ดงั น้นั จึงตอ้ งอาศยั เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา ประกอบไปดว้ ยการระดมพลงั สมองและ
การใชแ้ ผนภาพ อีกท้งั การใชแ้ ผนภาพยงั มีวิธียอ่ ยออกไปอีก ประกอบไปดว้ ยการใชแ้ ผนภาพความคิด
แบบ The Mind Map และแบบ The Fish Bone

ข•้นั •ปฏ•บิ •ตั แิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•ิบัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•
8. •นกั เรียนแบง่ กลุ่มใหม่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั โดยแตล่ ะกลุ่มเลือกกาหนดประเด็นท่ีกลมุ่ ตนเองสนใจ

มา 1 เร่ือง โดยไม่ใหซ้ ้ากบั ประเด็นใน Step 2 จากน้นั เขยี นเป็นแผนภาพความคิด โดยเขยี นท้งั แบบ
The Mind Map และแบบ The Fish Bone พร้อมออกแบบตกแตง่ ใหน้ ่าสนใจ สวยงาม แลว้ ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

9. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
ในกรณีที่ปัญหามีความซบั ซอ้ นมากอาจตอ้ งใชเ้ ครื่องมือเขา้ มาช่วยในการรวบรวมขอ้ มลู

การวเิ คราะห์ การตดั สินใจ เพ่อื ดาเนินการแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ซ่ึงมีเคร่ืองมืออยู่ 2 แบบ คอื การระดม
พลงั สมองและแผนภาพความคิด

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

10. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอแผนภาพความคิดท้งั 2 แบบของกลมุ่ ตนเองหนา้ ช้นั เรียน
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอเพ่ือใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั ข้ึน
และมีความน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

11. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทางาน
ที่มีแบบแผน

•ข้ัน•ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ• มิ่ •คณุ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จิต•ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

12. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• สิ่งที่นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพยี งใด
• เพือ่ นนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพียงใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ท่ีไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไป

ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทกุ ข้นั ตอนวา่ จะเพิม่ คณุ ค่าไปสู่สงั คม
เกิดประโยชน์ต่อสงั คมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังต่อไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. ภาพกลมุ่ บุคคลกาลงั ระดมพลงั สมอง
3. ภาพผหู้ ญิงป่ วยเป็นไขห้ วดั กาลงั คดิ แกป้ ัญหาอาการป่ วย
4. แผนภาพความคิดแบบ The Mind Map และ แบบ The Fish Bone
5. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เรื่อง เครื่องมือที่ใชใ้ นกระบวนการแกป้ ัญหา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพื่อแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3

เร่ือง การประยกุ ต์ใช้กระบวนการแก้ปัญหา

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พือ่ การดารงชีวติ ในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ
เพ่อื แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ
สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม
ตัวชี้วดั
ว 4.1 ม.1/2 ระบปุ ัญหาหรือความตอ้ งการในชีวติ ประจาวนั รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูล
และแนวคิดท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา
ว 4.1 ม.1/3 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูล
ท่ีจาเป็น นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ วางแผนและดาเนินการ
แกป้ ัญหา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ระบุข้นั ตอนการประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหา (K)
2. วเิ คราะหก์ ารประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหา (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาจะประกอบไปดว้ ย การวเิ คราะห์ปัญหา การรวบรวมขอ้ มลู
การสร้างทางเลือก การตดั สินใจเลือก วธิ ีการแกป้ ัญหา การวางแผนการดาเนินการแกป้ ัญหา การทดสอบ
ประเมินผล และระบขุ อ้ บกพร่องท่ีเกิดข้ึน พร้อมท้งั แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ขและนาเสนอผลการ
แกป้ ัญหา

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

หากตดั สินใจเลือกวิธีการแกป้ ัญหาผดิ พลาดจะส่งผลใหเ้ กิดสิ่งใด

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั ส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั อา่ นสถานการณ์บนกระดาน แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี

ส้มโอพิมพส์ ัมผสั มือไดไ้ มค่ ล่อง จากน้นั สม้ โอไดค้ ิดหาวิธีการแกป้ ัญหา
โดยการรวบรวมขอ้ มูลจากอินเทอร์เนต็ และห้องสมดุ เพอ่ื นาขอ้ มูล
มาวิเคราะห์

• ส้มโอมีปัญหาเรื่องใด (พมิ พส์ มั ผสั มือไดไ้ ม่คลอ่ ง)
• จากสถานการณ์ นกั เรียนคดิ ว่าสม้ โอกาลงั ดาเนินการใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาในข้นั ตอนใด

(ข้นั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มูล)
2. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั เร่ือง การประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหา
จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เนต็

•ข้นั• ค•ดิ ว•เิ ค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

3. นกั เรียนร่วมกนั อา่ นสถานการณ์ตวั อยา่ งเกี่ยวกบั เร่ือง ยงุ แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี

ตัวอย่างสถานการณ์ปัญหา ยุง
1. การวิเคราะห์ปัญหา

ปัญหา คือ ยงุ เป็นอนั ตรายกบั ร่างกายมนุษย์
ความต้องการ ตอ้ งการป้องกนั ยงุ โดยการไลย่ งุ หรือดกั จบั ยงุ
2. การรวบรวมข้อมูล
การไลย่ งุ หรือดกั จบั ยงุ ตอ้ งพิจารณาวา่ ยงุ ชอบอะไรและไม่ชอบอะไร หากตอ้ งการไล่ยงุ
ควรเลือกส่ิงท่ียงุ ไมช่ อบ หากตอ้ งการดกั จบั ยงุ ควรเลือกสิ่งท่ียงุ ชอบ โดยพบวา่ ยงุ จะรับรู้ถึงเหยอ่ื ได้ 3 วธิ ี คือ
กลิ่น การมองเห็น และอณุ หภูมิ
3. การสร้างทางเลือก
ลองเปรียบเทียบขอ้ มูลตา่ ง ๆ พบวา่ เม่ืออณุ หภมู ิสูงข้ึนยงุ จะรับรู้ไดด้ ี ส่วนกลิ่น ยงุ จะรับรู้
กลิ่นไดไ้ กล ตวั อยา่ งกลิ่นท่ียงุ ชอบคอื แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนกลิ่นท่ียงุ ไม่ชอบ เช่น ตะไคร้
กระเทียม

4. การตดั สินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหา
ยงุ จะรับรู้กลิ่นไดไ้ กล ถา้ หากตอ้ งการสร้างเครื่องดกั จบั ยงุ ควรลือกส่ิงที่ยงุ ชอบ

แต่ถา้ หากสร้างอปุ กรณ์ไล่ยงุ ควรเลือกส่ิงท่ียงุ ไม่ชอบ แต่กรณีน้ีตอ้ งการสร้างเคร่ืองดกั จบั ยงุ
5. การวางแผนการดาเนินการแก้ปัญหา
เป็นการวางแผนการดาเนินการสร้างเครื่องดกั จบั ยงุ อาจเลือกกลิ่นที่ยงุ ชอบ คือ

แกส๊ คาร์บอนไดออกไซดซ์ ่ึงอาจผลิตไดโ้ ดยการนายีสตก์ บั น้าตาลมาหมกั รวมกนั โดยออกแบบเป็น
เครื่องท่ีสวยงาม แลว้ เติมยสี ตก์ บั น้าตาลลงไป

6. การทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่องทเี่ กดิ ขึน้ พร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรุง
แก้ไขและนาเสนอผลการแก้ปัญหา

เป็นการนาเคร่ืองดกั จบั ยงุ ไปใชง้ านในพ้ืนที่ทดลอง เมื่อพบวา่ ไมม่ ียงุ มากดั อาจบอกไดว้ า่
เคร่ืองดกั จบั ยงุ ทางานไดด้ ี หรืออาจพจิ ารณาดูจากเคร่ืองดกั จบั ยงุ วา่ มียงุ เขา้ มาหรือไม่ และอาจปรับปรุงใหม้ ี
ประสิทธิภาพดียง่ิ ข้นึ

จากสถานการณ์ตวั อยา่ งปัญหาเรื่อง ยงุ ถา้ นกั เรียนจะสร้างโครงงานสาหรับการแกป้ ัญหาน้ี
นกั เรียนจะทาอยา่ งไร และมีเร่ืองใดที่ตอ้ งหาความรู้เพิ่มเติม

(ตวั อยา่ งคาตอบ
• ตอ้ งเลือกวา่ จะสร้างเคร่ืองดกั จบั ยงุ หรืออปุ กรณ์ไล่ยงุ
• ตอ้ งหาความรู้วา่ ยงุ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หากสร้างเครื่องดกั จบั ยงุ ตอ้ งเลือกสิ่งท่ียงุ ชอบ
• หากสร้างอุปกรณ์ไลย่ งุ ตอ้ งเลือกสิ่งที่ยงุ ไม่ชอบ
• ถา้ หากเลือกสร้างเคร่ืองดกั จบั ยงุ ตอ้ งคิดและหาขอ้ มลู วา่ จะจบั ยงุ ไดอ้ ยา่ งไร)
4. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม 4 กลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆ กนั โดยแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลือก
หวั ขอ้ ปัญหา ดงั น้ี
• การใชง้ านคอมพวิ เตอร์ไมค่ ล่อง
• การอา่ นภาษาไทยไม่คล่อง
• ต้งั ครรภใ์ นวยั เรียน
• ยาเสพติด
จากน้นั แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ วเิ คราะห์วธิ ีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงาน โดยการประยกุ ตใ์ ช้
กระบวนการแกป้ ัญหา ดงั ตวั อยา่ ง

ตวั อย่างสถานการณ์ ผสู้ ูงอายไุ ม่สามารถเดินไดด้ ว้ ยตนเอง
1. การวิเคราะห์ปัญหา
ปัญหา คือ ผสู้ ูงอายไุ ม่สามารถเดินดว้ ยตนเอง ตอ้ งมีผชู้ ่วยดูแล พยงุ เดินหรือเขน็ รถเขน็
ความต้องการ ตอ้ งการใหผ้ สู้ ูงอายสุ ามารถเดินไดด้ ว้ ยตนเอง

ภาพที่ 1.1 ผชู้ ่วยผสู้ ูงอายเุ ขน็ รถเขน็
2. การรวบรวมข้อมูล

ปัจจยั รอบดา้ นท่ีเก่ียวขอ้ งในการช่วยผสู้ ูงอายสุ ามารถเดินไดด้ ว้ ยตนเอง

แผนภาพท่ี 2.1 การรวบรวมขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งในการช่วยใหผ้ สู้ ูงอายสุ ามารถเดินไดด้ ว้ ยตนเอง

3. การสร้างทางเลือก
แนวทางการสร้างทางเลือกสามารถนาตารางมาประยกุ ตใ์ ช้ ดงั น้ี

ตารางท่ี 3.1เปรียบเทียบคณุ สมบตั ิของการช่วยผสู้ ูงอายเุ ดินแต่ละแบบ

การช่วยผ้สู ูงอายุเดิน คุณสมบตั ิ หมายเหตุ
รถเขน็ ช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินได้ ตอ้ งมีผชู้ ่วยคอยดูแล
ไมเ้ ทา้ ช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินได้ ผสู้ ูงอายตุ อ้ งแขง็ แรง
ผชู้ ่วยพาเดิน ช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินได้ ตอ้ งมีผชู้ ่วยคอยดูแล
อุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า ช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินได้
-

4. การตดั สินใจเลือกวธิ ีการแก้ปัญหา
ตดั สินใจเลือกอุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า โดยมีเหตผุ ล คอื สามารถช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินได้

ดว้ ยตนเอง โดยไม่ตอ้ งมีผูช้ ่วยดูแล และผสู้ ูงอายไุ มจ่ าเป็นตอ้ งแขง็ แรงมาก เพราะอุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า
มีระบบขบั เคล่ือนในตวั ไม่ตอ้ งใชแ้ รงในการยกหรือพยงุ น้าหนกั ตวั เอง

5. การวางแผนการดาเนินการแก้ปัญหา
ศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดการออกแบบเบ้ืองตน้ ในดา้ นกลไกและหลกั การทางานของ

อุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า เนน้ ไปดา้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูลและดา้ นหลกั การทางานเบ้ืองตน้ ของผลิตภณั ฑ์
ซ่ึงจะเป็นแนวคิดในการออกแบบ เม่ือไดข้ อ้ มลู ในดา้ นหลกั การทางานของผลิตภณั ฑท์ ี่ได้ทาการวเิ คราะห์
มาแลว้ จากน้นั ทาการออกแบบโดยขอคาแนะนาจากผเู้ ชี่ยวชาญในสาขาท่ีเกี่ยวขอ้ ง และสร้างตน้ แบบ
อุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า

6. การทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่องที่เกดิ ขึน้ พร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรุง

แก้ไขและนาเสนอผลการแก้ปัญหา
เมื่อจดั ทาตน้ แบบอปุ กรณ์ช่วยเดินไฟฟ้าเสร็จแลว้ นาไปทดสอบการทางานกบั กล่มุ ผสู้ ูงอายุ

ใหผ้ สู้ ูงอายทุ ดลองใชง้ าน ทาแบบประเมินผลดา้ นความพงึ พอใจและคาแนะนาในการใชง้ านของผสู้ ูงอายุ
ตอ่ อปุ กรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า

ข้อบกพร่องท่ีเกดิ ขึน้
1. ล้อ ยดึ กบั ขาซ่ึงเป็นทอ่ ดว้ ยนอต 2 ตวั แนวบน-ล่าง ป้องกนั การหมนุ (rotation) ไดไ้ ม่ดีนกั
ทาใหล้ อ้ ไม่ตรง และอาจไม่แขง็ แรงพอถา้ คนไขน้ ้าหนกั มาก และตาแหน่งลอ้ หลงั ยดึ ดว้ ยนอต 2 ตวั
อาจจะไม่แขง็ แรงพอ
2. สวติ ช์ ตาแหน่งการวางแผงกดและแบตเตอรี่อยดู่ า้ นหนา้ เวลาใชโ้ หมดอตั โนมตั ิ
อาจจะกดปิ ดลาบาก ควรมีไฟระบุป่ มุ เริ่มและหยดุ

การปรับปรุงแก้ไข
1. ล้อ ติดลอ้ ตรงกบั ขาพอดีจะรับแรงไดด้ ีกวา่
2. สวิตช์ ตาแหน่งป่ ุมควบคุมที่มือ 2 ขา้ ง ยา้ ยลงไปขา้ งล่าง เพราะตาแหน่งนิ้วเวลากา
จะลงไปดา้ นล่าง กดไดส้ ะดวกกวา่

ภาพท่ี 6.1 อปุ กรณ์ช่วยเดินไฟฟ้า
สรุปผล
อปุ กรณ์ช่วยเดินไฟฟ้าสามารถช่วยใหผ้ สู้ ูงอายเุ ดินไปท่ีต่าง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเองโดยไม่ตอ้ ง
มีผชู้ ่วยพยงุ เดิน หรือเข็นรถให้ เม่ือทาการปรับปรุงแกไ้ ขอุปกรณ์ช่วยเดินไฟฟ้าตามขอ้ เสนอแนะเรียบร้อยแลว้
เครื่องสามารถทางานไดด้ ี ความพึงพอใจของผใู้ ชง้ านเครื่องอยใู่ นระดบั ดีมาก
5. นกั เรียนร่วมกนั คิดวเิ คราะห์ แลว้ ตอบคาถามกระตุน้ ความคิด ดงั น้ี
• หากตดั สินใจเลือกวิธีการแกป้ ัญหาผิดพลาดจะส่งผลใหเ้ กิดส่ิงใด
(ตวั อยา่ งคาตอบ ทาใหก้ ารแกป้ ัญหาหรือสร้างชิ้นงานไม่สาเร็จตามเป้าหมาย)
6. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั การประยกุ ตใ์ ช้กระบวนการแกป้ ัญหา ดงั น้ี
การประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาจะตอ้ งทาการวเิ คราะห์และปฏิบตั ิตามข้นั ตอน
โดยเร่ิมจากการวิเคราะหป์ ัญหา การรวบรวมขอ้ มูล การสร้างทางเลือก การตดั สินใจเลือก วิธีการแกป้ ัญหา
การวางแผนการดาเนินการแกป้ ัญหา แลว้ นาไปทดสอบ ประเมินผล และระบุขอ้ บกพร่องที่เกิดข้ึน พร้อมท้งั
แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ขและนาเสนอผลการแกป้ ัญหาจนไดว้ ิธีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงานท่ีสมบูรณ์

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. ตวั อยา่ งสถานการณ์ปัญหา ยุง
3. ตวั อยา่ งสถานการณ์ ผสู้ ูงอายไุ ม่สามารถเดินไดด้ ว้ ยตนเอง
4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เรื่อง การประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมินกระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกล่มุ ไมม่ ีการกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท บทบาทสมาชิก
และไม่มีการช้ีแจง
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ เป้าหมาย สมาชิก
ต่างคนตา่ งทางาน
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไม่มีการช้ีแจงเป้าหมาย

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไมค่ รบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4

เรื่อง การวิเคราะห์ปัญหา การรวบรวมข้อมูล และการสร้างทางเลือกการแก้ปัญหา

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชีวติ ในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ
เพอ่ื แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ
สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม
ตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.1/2 ระบปุ ัญหาหรือความตอ้ งการในชีวติ ประจาวนั รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู
และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายเก่ียวกบั การวิเคราะห์ปัญหา การรวบรวมขอ้ มลู และการสร้างทางเลือกการแกป้ ัญหา (K)
2. แสดงการวิเคราะหป์ ัญหา รวบรวมขอ้ มูล และสร้างทางเลือกการแกป้ ัญหา (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การแกป้ ัญหาจาเป็นตอ้ งทาการวิเคราะหป์ ัญหา รวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนามาใชใ้ นการ
สร้างทางเลือกการแกป้ ัญหา

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

คาถามสาคัญ

นกั เรียนจะรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื นามาใชว้ เิ คราะหส์ ร้างทางเลือกการแกป้ ัญหาไดจ้ ากแหลง่ ใด
ท่ีมีความรวดเร็วและหลากหลาย

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั •ปฏ•ิบ•ัติแ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•ิบัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•
1. •นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละเท่า ๆ กนั โดยแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ระบุปัญหาในชีวิตประจาวนั

ท่ีตอ้ งการแกป้ ัญหากลุม่ ละ 1 ปัญหา จากน้นั ออกแบบวธิ ีการหรือชิ้นงาน เพื่อแกป้ ัญหาดงั กลา่ ว
โดยดาเนินการตามข้นั ตอนกระบวนการแกป้ ัญหา การวิเคราะห์ การรวบรวมขอ้ มลู และการสร้างทางเลือก
โดยหวั ขอ้ ที่นกั เรียนเลือกหา้ มซ้ากนั กบั แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 ใน Step 2 อาจจะใชอ้ ินเทอร์เน็ต
ในการรวบรวมขอ้ มลู เพื่อให้ไดข้ อ้ มลู ท่ีหลากหลายและรวดเร็ว

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การแกป้ ัญหาจาเป็นตอ้ งทาการวเิ คราะห์ปัญหา รวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ตา่ ง ๆ

เพ่อื นามาใชใ้ นการสร้างทางเลือกการแกป้ ัญหา

•ข้นั• ส•่ือส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลการวิเคราะหป์ ัญหา การรวบรวมขอ้ มลู และการสร้าง
ทางเลือกการแกป้ ัญหาของกลมุ่ ตนเองหนา้ ช้นั เรียน เพ่อื แลกเปล่ียนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office
PowerPoint ในการนาเสนอ เพ่ือใหเ้ ห็นขอ้ มลู ท่ีชดั เจนและน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสื่อสาร

4. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเก่ียวกบั การวิเคราะห์ปัญหา การรวบรวมขอ้ มูล
และการสร้างทางเลือก โดยตอบคาถาม ดงั น้ี

• นกั เรียนจะรวบรวมขอ้ มูลเพือ่ นามาใชว้ เิ คราะหส์ ร้างทางเลือกการแกป้ ัญหาไดจ้ ากแหล่งใด
ท่ีมีความรวดเร็วและหลากหลาย (ตวั อยา่ งคาตอบ อินเทอร์เน็ต)

5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วิธีการทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทางาน
ท่ีมีแบบแผน

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การวิเคราะหป์ ัญหา การรวบรวมขอ้ มูล และการสร้างทางเลือกการแกป้ ัญหา
(K) ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลมุ่ ไมม่ ีการกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท บทบาทสมาชิก
และไมม่ ีการช้ีแจง
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ เป้าหมาย สมาชิก
ต่างคนตา่ งทางาน
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไม่ครบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพื่อแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5

เร่ือง การตดั สินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหา และการวางแผนการดาเนินการแก้ปัญหา

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พื่อการดารงชีวติ ในสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ
เพ่ือแกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ
สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม
ตวั ชีว้ ัด
ว 4.1 ม.1/3 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูล
ที่จาเป็น นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ วางแผนและดาเนินการ
แกป้ ัญหา

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. ระบวุ ิธีการแกป้ ัญหา และการวางแผนดาเนินการแกป้ ัญหา (K)
2. เลือกวธิ ีการแกป้ ัญหาและวางแผนออกแบบการแกป้ ัญหา (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การวเิ คราะห์ เปรียบเทียบและตดั สินใจเลือกขอ้ มลู ท่ีจาเป็นโดยคานึงถึงเงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่
จะช่วยใหก้ ารออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาไดห้ ลายวธิ ีอยา่ งเหมาะสม ส่งผลใหก้ ารแกป้ ัญหา
สาเร็จตามเป้าหมาย

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุง่ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

หากนกั เรียนไม่เขา้ ใจในวิธีการหรือชิ้นงานที่จะนามาใชใ้ นการแกป้ ัญหาน้นั นกั เรียนควรทาอยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ัน•ปฏ•ิบ•ัตแิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•ิบตั•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•
1. •ใชน้ กั เรียนกลมุ่ เดิมจากชว่ั โมงท่ีแลว้

2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ระดมพลงั สมองในการตดั สินใจเลือกวิธีการแกป้ ัญหาและวางแผน
ดาเนินการแกป้ ัญหา จากน้นั ทาการออกแบบวิธีการหรือชิ้นงานท่ีใชแ้ กป้ ัญหา

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการคดิ แกป้ ัญหา การคิดตดั สินใจ
และการร่วมมือทางานเป็ นทีม

3. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• หากนกั เรียนไม่เขา้ ใจในวธิ ีการหรือชิ้นงานท่ีจะนามาใชใ้ นการแกป้ ัญหาน้นั

นกั เรียนควรทาอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ปรึกษาผเู้ ชี่ยวชาญในเรื่องน้นั ๆ โดยตรง)
4. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การวเิ คราะห์ เปรียบเทียบและตดั สินใจเลือกขอ้ มูลที่จาเป็น โดยคานึงถึงเงื่อนไขและทรัพยากร

ที่มีอยู่ จะช่วยใหก้ ารออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาไดห้ ลายวธิ ีอยา่ งเหมาะสม ส่งผลใหก้ ารแกป้ ัญหาสาเร็จ
ตามเป้าหมาย

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การตดั สินใจเลือกวิธีการแกป้ ัญหา และการวางแผนดาเนินการแกป้ ัญหา
(K) ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6

เร่ือง การทดสอบ และการประเมนิ ผลวธิ ีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ
เพือ่ แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชิงวิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต
สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม
ตวั ชี้วัด
ว 4.1 ม.1/4 ทดสอบ ประเมินผล และระบุขอ้ บกพร่องที่เกิดข้ึน พร้อมท้งั หาแนวทางการ
ปรับปรุงแกไ้ ข และนาเสนอผลการแกป้ ัญหา

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายเกี่ยวกบั การทดสอบ ประเมินผล และระบุขอ้ บกพร่อง พร้อมท้งั แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข
และนาเสนอผลการแกป้ ัญหา (K)

2. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ วิธีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงานแลว้ ปรับปรุงแกไ้ ข (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การทดสอบ และประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือวธิ ีการวา่ สามารถแกป้ ัญหาไดต้ าม
วตั ถปุ ระสงคภ์ ายใตก้ รอบของปัญหา เพื่อหาขอ้ บกพร่อง และดาเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้า
เพ่อื ใหส้ ามารถแกป้ ัญหาได้

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

การทดสอบและการประเมินผลมีความสาคญั อยา่ งไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ัน•ปฏ•บิ •ตั แิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•ิบัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•
1. •ใชน้ กั เรียนกลุม่ เดิมจากชว่ั โมงท่ีแลว้

2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ทาการทดสอบ และประเมินผลวธิ ีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงานของกลุ่มตนเอง
โดยนาผลการทดสอบมาวิเคราะหห์ าจุดเด่น-จุดดอ้ ย หรือสิ่งที่ควรปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ ทาการปรับปรุงแกไ้ ข

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดสร้างสรรคแ์ ละการสร้างนวตั กรรม
การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ การคดิ แกป้ ัญหา และการร่วมมือทางานเป็นทีม

3. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคดิ เห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• การทดสอบและประเมินผลมีความสาคญั อยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ ช่วยใหเ้ ห็นผลสรุปของ

สิ่ง ๆ น้นั ท้งั ดา้ นบวกและดา้ นลบ เพ่ือนามาพฒั นาปรับปรุงใหด้ ีข้ึน)
4. นกั เรียนแบง่ กล่มุ ใหม่ 4 กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั โดยแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อา่ นและวเิ คราะห์

สถานการณ์ตวั อยา่ งที่กาหนดให้ ดงั น้ี

กิจกรรมต่าง ๆ ที่บา้ นของนกั เรียนตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้าเป็นจานวนมาก และจากขอ้ มูล
การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าพบวา่ บา้ นของนกั เรียนมีคา่ ใชจ้ ่ายในส่วนของพลงั งานไฟฟ้าสูงกวา่
ท่ีประมาณการไวท้ กุ ปี

จากน้นั แต่ละกลุ่มร่วมกนั เขยี นระบุกระบวนการแกป้ ัญหาใหค้ รบทุกข้นั ตอนลงในชิ้นงานท่ี 8
เร่ือง กระบวนการแกป้ ัญหา

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

5. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การทดสอบ และประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือวิธีการวา่ สามารถแกป้ ัญหาได้

ตามวตั ถุประสงคภ์ ายใตก้ รอบของปัญหา เพอื่ หาขอ้ บกพร่อง และดาเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้า
เพ่ือใหส้ ามารถแกป้ ัญหาได้

•ข้นั• ส•่ือส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

6. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอวธิ ีการหรือชิ้นงานการแกป้ ัญหาหนา้ ช้นั เรียน
เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั โดยนาเสนอเป็นนิทรรศการหรือสื่อออนไลน์

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

7. นกั เรียนนาเสนอชิ้นงานท่ี 8 เร่ือง กระบวนการแกป้ ัญหา หนา้ ช้นั เรียน
8. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทางาน
ที่มีแบบแผน

•ข้ัน•ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ• ม่ิ •คณุ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จิต•ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

9. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• ส่ิงท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• เพอื่ นนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ท่ีไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไป

ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปล่ียนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทกุ ข้นั ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณค่าไปสู่สังคม
เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังต่อไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การทดสอบ และการประเมินผลวิธีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงาน (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินชิ้นงาน เร่ือง กระบวนการแกป้ ัญหา (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลมุ่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไมม่ ีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

แบบประเมินชิ้นงาน เร่ือง กระบวนการแก้ปัญหา

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

4 321

กระบวนการแกป้ ัญหา อ่านและวิเคราะห์ อา่ นและวิเคราะห์ อา่ นและวเิ คราะห์ อา่ นและวเิ คราะห์

สถานการณ์ตวั อยา่ ง สถานการณ์ตวั อยา่ ง สถานการณ์ตวั อยา่ ง สถานการณ์ตวั อยา่ ง

และตอบคาถามได้ และตอบคาถามได้ และตอบคาถามได้ แตย่ งั ตอบคาถามได้

ทุกข้นั ตอน อธิบาย ทกุ ข้นั ตอน อธิบาย ค่อนขา้ งดีในทุกข้นั ตอน ไม่ค่อยดีนกั

ไดอ้ ยา่ งละเอยี ด ไดอ้ ยา่ งละเอียดชดั เจน แตย่ งั ไม่คอ่ ยละเอียด ไม่ค่อยชดั เจน

ต่อเนื่องกนั ชดั เจน และเขา้ ใจงา่ ย เท่าไรนกั

และเขา้ ใจงา่ ย มีความ สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา

สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา

ของในแตล่ ะข้นั ตอน

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7

เร่ือง ความหมายและประโยชน์ของอลั กอริทึม

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชีว้ ดั
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมที่ใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ที่พบในชีวิตจริง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความหมายและประโยชน์ของอลั กอริทึม (K)
2. วเิ คราะหก์ ารนาอลั กอริทึมไปใชป้ ระโยชนใ์ นการแกป้ ัญหาหรือสร้างชิ้นงาน (P)
3. เห็นประโยชนแ์ ละความสาคญั ของอลั กอริทึม (A)

สาระการเรียนรู้

อลั กอริทึมหรือข้นั ตอนวธิ ีเป็นการอธิบายแนวคิดอยา่ งมีเหตุผล โดยใชก้ ระบวนการหรือวิธีดาเนินงาน
อยา่ งเป็นข้นั ตอน สามารถแยกแยะส่วนที่เป็นสาระสาคญั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ทาใหง้ านสาเร็จอยา่ งรวดเร็ว
ปัญหาลดลง หรือสามารถคน้ หาตน้ เหตุของปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคัญ

อลั กอริทึมคืออะไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ันส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความหมายของอลั กอริทึม โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• อลั กอริทึมคืออะไร
(แนวคดิ อยา่ งมีเหตุผลท่ีใชอ้ ธิบายกระบวนการทางาน วิธีการดาเนินงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน

ประเมินความสาคญั แยกแยะส่วนท่ีเป็นสาระสาคญั ออกไดต้ ามลาดบั จนสามารถแกป้ ัญหาได้)
2. นกั เรียนจบั ค่กู บั เพ่ือน ร่วมกนั สืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประโยชน์ของอลั กอริทึมท่ีดีตอ้ งมีคณุ ลกั ษณะ

แบบใดบา้ ง โดยเขยี นบนั ทึกคาตอบเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง

ใชเ้ วลาในการ
ปฏิบตั ิงานนอ้ ยที่สุด

มีความถูกตอ้ ง ลกั ษณะของ มีข้นั ตอนส้ัน กระชบั
อลั กอริทึมทีด่ ี เฉพาะข้นั ท่ีจาเป็นเท่าน้นั
เขา้ ใจง่าย สื่อสาร
ไดต้ รงกนั ใชท้ รัพยากรนอ้ ยที่สุด

ใชเ้ วลาในการ มีความยดื หยนุ่
พฒั นานอ้ ยท่ีสุด ในการใชง้ าน

3. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั เรื่อง อลั กอริทึม จากแหล่งการเรียนรู้
ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต

•ข้นั• ค•ิด•วิเค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

4. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละเท่า ๆ กนั จากน้นั แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ วเิ คราะห์วา่ อลั กอริทึมสามารถ
นาไปใชใ้ นการลาดบั การทางานหรือวางแผนการทางานกบั งานใดไดบ้ า้ ง โดยเขยี นเป็นแผนภาพความคิด

ดงั ตวั อยา่ ง

การเขยี นโปรแกรม
คอมพิวเตอร์

การออมเงิน อลั กอริทมึ ที่ใช้ในการลาดบั การคดั เลือก
ใชใ้ นการทารายงาน การทางานหรือวางแผน บุคคลเขา้ ในองคก์ ร
การทางานกบั งานต่าง ๆ
การออกแบบงานช่าง

แกป้ ัญหา
ผลการเรียนต่า
5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาผลของการวิเคราะหจ์ ากขอ้ 4. มาวเิ คราะห์ต่อวา่ แต่ละแบบจะนาอลั กอริทึม
ไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร โดยเลือกมา 1 หวั ขอ้ แลว้ เขยี นเป็นแผนภาพความคิด ดงั ตวั อย่าง

งานช่าง

เตรียมอปุ กรณ์การช่าง

ลงมือปฏิบตั ิ

ตรวจสอบความเรียบร้อย

ชิ้นงาน
แผนภาพความคดิ การใชอ้ ลั กอริทึมในงานช่าง

6. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั อลั กอริทึม โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขยี นอลั กอริทึมช่วยในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ นามาช่วยเลือกข้นั ตอนการดาเนินงานและการตดั สินใจในการแกป้ ัญหา

ทีละข้นั ตอน)
• อลั กอริทึมมีประโยชน์อยา่ งไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ 1. ทาใหง้ านสาเร็จอยา่ งรวดเร็ว
2. สามารถคน้ หาตน้ เหตุของปัญหาไดจ้ ากการจดั เรียงเป็นข้นั ตอน)

7. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั ความหมายและประโยชน์ของอลั กอริทึม ดงั น้ี
อลั กอริทึมเป็นการออกแบบข้นั ตอนการแกป้ ัญหาหรือการสร้างชิ้นงานต่าง ๆ ใหเ้ ห็นถึง

ความสาคญั ของสิ่งใดส่ิงหน่ึง เพ่อื ใหเ้ ราแกป้ ัญหาหรือสร้างชิ้นงานไดต้ รงประเดน็ มีความรวดเร็ว
และถูกตอ้ งแม่นยา

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

2. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง ความหมายและประโยชน์ของอลั กอริทึม (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
เรื่อง การเขียนอลั กอริทึม

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชีว้ ัด
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมที่ใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ท่ีพบในชีวิตจริง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายอลั กอริทึมแบบบรรยาย แบบรหสั ลาลอง และแบบผงั งาน (K)
2. วเิ คราะห์อลั กอริทึมแบบบรรยาย แบบรหสั ลาลอง และแบบผงั งาน (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

อลั กอริทึมเป็นข้นั ตอนการลาดบั ความคดิ ในสมอง โดยการนาเสนอใหค้ นเขา้ ใจน้นั จะตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือ
ในการอธิบาย ซ่ึงมีเครื่องมืออยหู่ ลายอยา่ งประกอบไปดว้ ย การเขยี นแบบบรรยาย แบบรหสั ลาลอง
และแบบผงั งาน จะทาใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั เจนมากยง่ิ ข้ึน

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุง่ มนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

การเขียนอลั กอริทึมแบบใดท่ีแสดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานในรูปแบบภาพหรือสัญลกั ษณ์

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ันส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. ตวั แทนนกั เรียนออกมาเลา่ ประสบการณ์การแกป้ ัญหาหรือการสร้างชิ้นงานในชีวิตประจาวนั วา่
มีข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาหรือการสร้างชิ้นงานอยา่ งไร จากน้นั นกั เรียนร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียน
ประสบการณ์

2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 3 กลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั จากน้นั แตล่ ะกลุ่มสืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การเขยี น
อลั กอริทึม ดงั น้ี

• กลมุ่ ที่ 1 การเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยาย
• กลุ่มที่ 2 การเขียนอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง
• กล่มุ ท่ี 3 การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน

3. ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมาอธิบายความรู้ที่ไดจ้ ากการสืบคน้ ขอ้ มูล จากน้นั นกั เรียน
สนทนาแลกเปล่ียนความรู้กนั แลว้ บนั ทึกเป็นแผนภาพความคิด ดงั ตวั อยา่ ง

เขยี นบรรยาย
ดว้ ยภาษาใดภาษาหน่ึง

แสดงข้นั ตอนการทางาน การเขยี นอลั กอริทมึ ผเู้ ขียนและผอู้ ่าน
ในลกั ษณะของสญั ลกั ษณ์ แบบผงั งาน ตอ้ งเขา้ ใจในภาษาน้นั ดว้ ย

บางสญั ลกั ษณ์ไม่นิยมใช้ สัญลกั ษณ์การเขียนผงั งานกาหนด
เพราะไม่สอดคลอ้ งกบั ฮาร์ดแวร์ โดยหน่วยงาน American National
และซอฟตแ์ วร์ที่พฒั นาข้นึ ในปัจจุบนั Standards Institute (ANSI) และหน่วยงาน
Standardization and Organization (ISO)

4. นกั เรียนร่วมกนั สนทนา และตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ดงั น้ี
• การเขยี นอลั กอริทึมแบบใดท่ีแสดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานในรูปแบบภาพหรือสญั ลกั ษณ์
(ตวั อยา่ งคาตอบ แบบผงั งาน)

5. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรื่อง การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย
แบบรหสั ลาลอง และแบบผงั งาน จากแหลง่ การเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต

•ข้ัน• ค•ิด•วเิ ค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

6. นกั เรียนร่วมกนั คิดวเิ คราะห์เก่ียวกบั การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยายมีลกั ษณะอยา่ งไร

(เป็นการแสดงข้นั ตอนการทางานในลกั ษณะการบรรยายเป็นขอ้ ความดว้ ยภาษาใด ๆ ก็ได้
ส่วนใหญ่จะเขียนบรรยายข้นั ตอนการทางานเป็นขอ้ ๆ ส้ัน ๆ กระชบั )

7. นกั เรียนจบั ค่กู บั เพอื่ นร่วมกนั คดิ วเิ คราะหข์ ้นั ตอนการปลูกตน้ กลา้ โกงกาง แลว้ ร่วมกนั
ใส่หมายเลขลาดบั ข้นั ตอนใน ใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั นกั เรียนแตล่ ะคูช่ ่วยกนั เขยี นลาดบั แสดงข้นั ตอน
การทางานดว้ ยอลั กอริทึมแบบบรรยาย ดงั ตวั อยา่ ง

1 2 3

ตน้ กลา้ ไมห้ ลกั ฉีกถงุ ดาออก ใชไ้ มห้ ลกั หมนุ วน
เป็นวงกลม เพื่อขยายหลุม

4 นาตน้ กลา้ 5 เอาดินกลบหลุม 6

ใส่ลงในหลุม ผกู ตน้ กลา้ ไวก้ บั ไมห้ ลกั

กนั ตน้ กลา้ ลม้

การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย แสดงข้นั ตอนการปลกู ตน้ กลา้ โกงกาง ดงั น้ี
1. เตรียมตน้ กลา้ ไมห้ ลกั ปักดิน
2. ฉีกถุงดาออก
3. ใชไ้ มห้ ลกั หมนุ วนเป็นวงกลม เพ่ือขยายหลุม
4. นาตน้ กลา้ ใส่ลงในหลมุ
5. เอาดินกลบหลุม
6. ผกู ตน้ กลา้ ไวก้ บั ไมห้ ลกั กนั ตน้ กลา้ ลม้

8. นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทียบขอ้ ดี-ขอ้ เสียของวิธีการเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยายลงในตาราง
บนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

ข้อดี ข้อเสีย
1. สามารถเขียนโดยใชภ้ าษา 1. ทาใหก้ ารบรรยายอาจมีการ

ของตนเอง ใชข้ อ้ ความที่ทาใหเ้ กิด
2. ทาใหบ้ รรยายขอ้ มลู รายละเอียด การสื่อสารท่ีคลาดเคล่ือนกนั ได้
2. เกิดการบรรยายรายละเอียด
ของอลั กอริทึมไดอ้ ยา่ งชดั เจน ท่ีมากเกินไป ทาใหก้ ารแปล
ครอบคลมุ ความหมายของอลั กอริทึม
กวา้ งเกินไป และแปรผลการ
ออกแบบเป็ นโปรแกรม
ทาไดย้ าก

9. นกั เรียนร่วมกนั คิดวิเคราะห์เก่ียวกบั การเขียนอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง มีลกั ษณะอยา่ งไร
(เป็นการเขยี นข้นั ตอนของอลั กอริทึม โดยใชข้ อ้ ความส้ัน ๆ ง่าย ๆ ที่เป็นวลี โดยทว่ั ไปจะใช้

ภาษาองั กฤษในการสื่อสาร นิยมใชค้ าส้ัน ๆ ท่ีทางานเฉพาะ เช่น read get start if than else case หรือ do
while เป็นวลีพ้นื ฐานในการกาหนดอลั กอริทึม)

10. นกั เรียนคู่เดิมร่วมกนั อา่ นบตั รคาข้นั ตอนการแปลงเงินบาทเป็นดอลลาร์ จากน้นั นกั เรียนแต่ละคู่
ร่วมกนั เรียงลาดบั แสดงข้นั ตอนการทางานดว้ ยอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง ดงั ตวั อยา่ ง

end read m

compute dollar = m/33.17 start

print dollar

การเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลองแสดงข้นั ตอนการแปลงเงินบาทเป็นดอลลาร์ ดงั น้ี
start
1. read m
2. compute = m/33.17
3. print dollar
end


Click to View FlipBook Version