แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคอมเพิ่มเติม ม1

11. นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทียบความแตกต่างของการเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยายกบั แบบรหสั ลาลอง
12. นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทียบขอ้ ดี-ขอ้ เสียของวิธีการเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง ดงั ตวั อยา่ ง

ข้อดี ข้อเสีย

1. เขียนง่าย กระชบั และไดใ้ จความ 1. เป็นขอ้ ความส้ัน ๆ อาจทาใหเ้ ขา้ ใจ

2. แกไ้ ขหรือเพิ่มเติมข้นั ตอนไดง้ า่ ย แตกตา่ งกนั

3. สามารถช้ีแจงอธิบายลาดบั ความคิด 2. ใชภ้ าษาทอ้ งถิ่น ซ่ึงทาใหต้ ่างชาติ

ไดม้ ากกวา่ ผงั งาน ตา่ งภาษาไมเ่ ขา้ ใจในภาษาท่ีสื่อสาร

4. ใชต้ รวจสอบลาดบั การทางานได้ 3. การใชภ้ าษาสื่อสารโดยไมไ่ ด้

5. สร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภณั ฑ์ คดั กรองก่อน หากนาไปเขียน

ในกรณีท่ีใชอ้ ธิบายข้นั ตอน โปรแกรมอาจเกิดความผดิ พลาดได้

การใชง้ านหรือการประกอบชิ้นงาน 4. คาส่งั ขอ้ ความ วลีที่ใชไ้ มไ่ ดก้ าหนด

ของผลิตภณั ฑ์ เป็ นมาตรฐานแต่ละหน่วยงาน

ก็จะใชไ้ ม่ตรงกนั

5. ไม่สามารถมองภาพรวม

ของอลั กอริทึมได้

13. นกั เรียนร่วมกนั คิดวเิ คราะหเ์ ก่ียวกบั การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขียนอลั กอริทึมแบบผงั งานมีลกั ษณะข้นั ตอนการทางานอยา่ งไร
(แสดงข้นั ตอนในลกั ษณะของภาพหรือสัญลกั ษณ์)
• เพราะเหตุใด ผงั งานในปัจจุบนั จึงเป็นผงั งานท่ีใชส้ ญั ลกั ษณ์ท่ีกาหนดโดยหน่วยงาน

American National Standards Institute (ANSI) และหน่วยงาน International Standardization and Organization
(ISO)

(ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะตอ้ งการใหเ้ ป็นมาตรฐานใหผ้ ใู้ ชง้ านส่ือสารไดต้ รงกนั )

14. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและวเิ คราะหส์ ญั ลกั ษณ์ต่าง ๆ ในการเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน

การเขียนอลั กอริทึมแบบผงั งาน
(flowchart)

สัญลกั ษณ์ ความหมาย ตัวอย่างการใช้ คาอธบิ าย

การเร่ิมตน้ หรือการสิ้นสุด 1. เริ่มการทางาน
ของการเขียนผงั งาน 2. จบการทางาน

การรับขอ้ มลู หรือแสดง 1. รับ (อา่ น) คา่ a
ขอ้ มูลทว่ั ไป โดยไม่ระบุส่ือท่ี
บนั ทึกค่า a
การแสดงขอ้ มลู
หรือผลลพั ธ์ 2. แสดงค่า b
พมิ พท์ างเคร่ืองพมิ พ์ โดยไม่ระบสุ ื่อ
ลงบนกระดาษตอ่ เน่ือง
ใหพ้ มิ พค์ ่า a ทาง
กระดาษต่อเน่ือง

การแสดงผลลพั ธท์ างจอ แสดงค่า a และ b
แสดงผล ทางจอแสดงผล

การประมวล เช่น 1. คานวณค่า a
การคานวณ หรือ บวกคา่ b
การกาหนดคา่
2. กาหนดให้
sum = 0

สัญลกั ษณ์ ความหมาย ตวั อย่างการใช้ คาอธบิ าย
-
กาหนดทิศทางลาดบั -
ของการทางาน
ตามปลายลกู ศร หลงั จากพมิ พค์ ่า a
แลว้ ใหท้ าตามท่ีจุด
จุดต่อเน่ืองที่อยู่ ต่อเนื่องช่ือ 1 ซ่ึง
ในหนา้ เดียวกนั อยใู่ นหนา้ เดียวกนั
หลงั จากกาหนดคา่
จุดต่อเนื่องท่ีอยู่ a = 3 แลว้ ใหไ้ ปทา
คนละหนา้ ตามจุดต่อเนื่อง
ชื่อ b ซ่ึงไม่ไดอ้ ยู่
การอธิบายส่วนใด หนา้ เดียวกนั
ส่วนหน่ึงในผงั งาน
ระบบเพ่มิ เติมหรือเป็น ค่า a คอื คา่ ของ age
การหมายเหตุ
เปรียบเทียบคา่ i > 7
การเปรียบเทียบ หรือไม่ ถา้ ใช่ กาหนด
หรือตดั สินใจ ค่า a มีค่าเท่ากบั 4 และ
ไปทางานข้นั ตอนที่ 3
การกาหนดคา่ ต่าง ๆ ถา้ ไม่ใช่ หยดุ
ลว่ งหนา้ ซ่ึงเป็นการ การทางาน
ทางานภายใน
ช่วงหน่ึงท่ีซ้า ๆ กนั กาหนดให้ i มีคา่ เท่ากบั
1 และเพ่ิมคา่ ทีละ 1
จนครบ 20 จึงออกจาก
การทางานวนซ้าไป
ทางานท่ีจุด a

15. นกั เรียนร่วมกนั คิดวิเคราะห์เก่ียวกบั การเขียนรหสั ลาลองท่ีดี จะตอ้ งมีลกั ษณะอยา่ งไร
สรุปเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง

ใชส้ ัญลกั ษณ์ วางลาดบั มีลกู ศรเช่ือม
ท่ีกาหนดเป็ น การทางานของ เพ่ือแสดงทศิ ทาง
ผงั งานจากดา้ นบน การไหลของขอ้ มูล
ผงั งาน สู่ดา้ นล่าง และ จากบนลงล่าง
ใชม้ าตรฐาน จากดา้ นซา้ ย และจากดา้ นซา้ ย
ไปทางดา้ นขวา
เดียวกนั ไปขวา
ลกั ษณะของการ
ตรวจสอบ เขียนอลั กอริทึม ขอ้ ความอธิบายส้นั
ความถูกตอ้ ง แบบผังงานทดี่ ี กะทดั รัด เขา้ ใจงา่ ย
ของผงั งาน และเขา้ ใจตรงกนั
ก่อนนาไปใช้
เขยี นโปรแกรม

ใชส้ ญั ลกั ษณ์ผงั งาน การวางตาแหน่ง
จุดเชื่อมทดแทน เช่ือมตอ่ ผงั งาน
เส้นแสดงทิศทาง
การไหลขอ้ มูล ควรสมดุล
ท่ีไกลมาก ๆ ท้งั 2 ดา้ น

16. นกั เรียนจบั คูก่ บั เพื่อน ร่วมกนั อ่านบตั รขอ้ ความข้นั ตอนการแปลงเงินบาทเป็นดอลลาร์
จากน้นั นกั เรียนแต่ละคู่ช่วยกนั เขยี นลาดบั แสดงข้นั ตอนการทางานดว้ ยอลั กอริทึมแบบผงั งาน ดงั ตวั อยา่ ง

print m + “ดอลลาร์” จบ

เริ่มตน้ m = m/33.17
m = รับคา่ จานวนเงินบาท

การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งานแสดงข้นั ตอนการแปลงเงินบาทเป็นดอลลาร์ ดงั น้ี
เริ่มตน้

m = รับค่าจานวนเงินบาท

m = m/33.17

print m + “ดอลลาร์”

จบ

17. นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทียบขอ้ ดี-ขอ้ เสียของวิธีการเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน ลงในตาราง
บนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

ข้อดี ข้อเสีย

1. สามารถเขา้ ใจไดต้ รงกนั 1. ผเู้ ขยี นและผอู้ ่านอลั กอริทึม
2. เขา้ ใจง่ายและตรวจสอบ ตอ้ งมีความรู้เรื่องสัญลกั ษณ์

ความถูกตอ้ งไดร้ วดเร็ว 2. อลั กอริทึมที่ซบั ซอ้ นจะทาใหก้ าร
3. นาไปแปลงเป็นโปรแกรมไดง้ ่าย เขา้ ใจลาดบั หรือกระบวนการ
4. สามารถปรับปรุงหรือเปล่ียนแปลง โดยรวมไมส่ ามารถเขา้ ใจ
เพียงกระดาษแผน่ เดียว
ลาดบั การทางานของอลั กอริทึม
ไดง้ า่ ย 3. การนาเสนอเขยี นผงั งานดว้ ยมือ
เม่ือมีการปรับเปล่ียนโปรแกรม
อาจตอ้ งวาดใหมท่ ้งั ระบบ
ทาใหเ้ สียเวลา

4. ใชท้ รัพยากรกระดาษหรือพ้นื ท่ี
หนา้ จอมากกวา่ การอธิบาย
ดว้ ยวิธีอื่น

18. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั วธิ ีการเขียนอลั กอริทึม ดงั น้ี
การเขียนอลั กอริทึมเป็นข้นั ตอนของลาดบั การคิดในสมอง อลั กอริทึมตอ้ งใชเ้ ครื่องมือเขา้ มา

ช่วยในการอธิบาย มีรูปแบบการเขยี นหลายรูปแบบ เพอ่ื นาไปแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. ภาพแสดงข้นั ตอนการปลูกตน้ กลา้ โกงกาง
3. ภาพสัญลกั ษณ์อลั กอริทึมแบบผงั งาน
4. ภาพสัญลกั ษณ์การเขียนรหสั ลาลอง
5. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย แบบรหสั ลาลอง และแบบผงั งาน (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

เร่ือง การเขียนอลั กอริทมึ แบบบรรยาย

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตัวชี้วดั
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมที่ใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ที่พบในชีวิตจริง

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยาย (K)
2. แสดงวธิ ีการเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยาย (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยายเป็นการแสดงข้นั ตอนการทางานในลกั ษณะบรรยายขอ้ ความ
ดว้ ยภาษาใด ๆ ก็ได้ โดยใชภ้ าษาทอ้ งถ่ิน เช่น คนไทยใชภ้ าษาไทย คนองั กฤษใชภ้ าษาองั กฤษ
ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ความถนดั ของผเู้ ขยี นดว้ ย

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยายมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ัน•ปฏ•ิบ•ตั แิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•ิบตั•ิ (•A•pp•lyi•ng•an•d•Co•n•str•uc•tin•g•th•e •Kn•ow• le•dg•e)
1. •นกั •เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละเท่า ๆ กนั โดยแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั เลือกหวั ขอ้ ปัญหาหรือการทางาน

ที่กลมุ่ ตนเองสนใจ 3 หวั ขอ้ เช่น ผลการเรียนต่า การประดิษฐ์แจกนั จากวสั ดุเหลือใช้ วิธีการลดความอว้ น
จากน้นั แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั นาหวั ขอ้ ที่สนใจ 1 หวั ขอ้ ไปออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดยเขียนเป็นอลั กอริทึม
แบบบรรยาย

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยายเป็นการแสดงข้นั ตอนการทางานในลกั ษณะบรรยายขอ้ ความ

ดว้ ยภาษาใด ๆ กไ็ ด้ โดยใชภ้ าษาทอ้ งถ่ิน เช่น คนไทยใชภ้ าษาไทย คนองั กฤษใชภ้ าษาองั กฤษ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั
ความถนดั ของผเู้ ขียนดว้ ย

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เลือกเพียง 1 หวั ขอ้ ที่ดีที่สุดของกลมุ่ ตนเอง ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
เพอื่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอเพื่อใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั เจน
และน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสื่อสาร

4. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยายมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ
• ขอ้ ดี ผอู้ อกแบบหรือผเู้ ขียนสามารถเขยี นไดโ้ ดยใชภ้ าษาของตนเอง ทาใหเ้ ห็นรายละเอียด

การทางานของอลั กอริทึมไดช้ ดั เจน ครอบคลมุ เพราะไม่ตอ้ งคานึงถึงขอ้ จากดั ของการใชภ้ าษาในการสื่อสาร

• ขอ้ เสีย เน่ืองจากไม่จากดั การใชภ้ าษาท่ีเขยี น อาจทาใหข้ อ้ ความที่ใชส้ ื่อสารเกิดความ
คลาดเคลื่อนได้ และการบรรยายรายละเอียดท่ีมากเกินไปจะทาใหก้ ารแปลความหมายของอลั กอริทึมกวา้ ง
ส่งผลใหโ้ ปรแกรมหรือการจดั การทาไดย้ าก)

5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทางาน
ที่มีแบบแผน

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลมุ่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนตา่ งทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไมค่ รบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10

เรื่อง การเขียนอลั กอริทึมแบบรหัสลาลอง

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชี้วัด
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมท่ีใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพื่อแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ที่พบในชีวติ จริง

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง (K)
2. แสดงวธิ ีการเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การเขียนอลั กอริทึมแบบรหัสลาลอง เป็นการเขยี นโดยใชข้ อ้ ความส้นั ๆ ง่าย ๆ ที่เป็นวลี โดยทวั่ ไปจะใช้
ภาษาองั กฤษในการสื่อสาร เพือ่ อธิบายการทางานคาส่ังส้นั ๆ ท่ีทางานเฉพาะ

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

การเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลองมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอย่างไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั •ปฏ•บิ •ัติแ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลัง•กา•รป•ฏ•บิ ัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•an•d•Co•n•str•uc•tin•g•th•e •Kn•ow• le•dg•e)
1. •ใชน้ •กั เรียนกลมุ่ เดิมจากชว่ั โมงที่แลว้

2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั เลือกหวั ขอ้ ปัญหาหรือการทางานที่กลุ่มตนเองสนใจ 3 หวั ขอ้
จากน้นั แตล่ ะกลุ่มช่วยกนั นาหวั ขอ้ ที่สนใจ 1 หวั ขอ้ ไปออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาโดยเขียนเป็นอลั กอริทึม
แบบรหสั ลาลอง

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

3. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การเขยี นอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง เป็นการเขยี นโดยใชข้ อ้ ความส้ัน ๆ ง่าย ๆ ที่เป็นวลี

โดยทวั่ ไปจะใชภ้ าษาองั กฤษในการส่ือสาร เพื่ออธิบายการทางานคาสัง่ ส้ัน ๆ ท่ีทางานเฉพาะ

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเลือกเพียง 1 หวั ขอ้ ท่ีดีท่ีสุดของกล่มุ ตนเอง ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
เพอ่ื แลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอเพ่ือใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั เจน
และน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขียนอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลองมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ
1. ขอ้ ดี
• เขยี นงา่ ย ประหยดั เพราะเขยี นแตข่ อ้ ความก็สามารถอธิบายไดแ้ ลว้
• แกไ้ ขและเพ่มิ เติมข้นั ตอนไดง้ ่าย โดยไมม่ ีผลกระทบกบั ข้นั ตอนอื่น

• ช้ีแจงลาดบั ความคิดไดม้ าก
• ใชต้ รวจสอบลาดบั การทางานได้ และสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภณั ฑใ์ นกรณีท่ีอธิบาย
ข้นั ตอนการใชง้ านของผลิตภณั ฑ์
2. ขอ้ เสีย
• เน่ืองจากเป็นขอ้ ความส้ัน ๆ อาจทาใหเ้ ขา้ ใจแตกต่างกนั
• การใชภ้ าษาท่ีส่ือสารไมไ่ ดถ้ กู คดั กรองไวยากรณ์ และคาสงวนของแตล่ ะโปรแกรม
ดงั น้นั การนาไปเขียนอาจเกิดขอ้ ผิดพลาดได้
• คาสงั่ ขอ้ ความ วลีท่ีใชไ้ มไ่ ดก้ าหนดเป็นมาตรฐาน
• ไม่สามารถมองภาพรวมของอลั กอริทึมได้
6. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วิธีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธีการทางาน
ท่ีมีแบบแผน

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การเขียนอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11

เร่ือง การเขียนอลั กอริทึมแบบผังงาน

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชี้วัด
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมท่ีใชแ้ นวคดิ เชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ที่พบในชีวติ จริง

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน (K)
2. แสดงวธิ ีการเขียนอลั กอริทึมแบบผงั งาน (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งาน เป็นการเขยี นแสดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานโดยใชภ้ าพหรือสัญลกั ษณ์
และใชก้ ารเขยี นบรรยายดว้ ยภาษาใดภาษาหน่ึง

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งานมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ัน•ปฏ•ิบ•ัตแิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลัง•กา•รป•ฏ•บิ ตั•ิ (•A•pp•lyi•ng•an•d•Co•n•str•uc•tin•g•th•e •Kn•ow• le•dg•e)
1. •ใชน้ •กั เรียนกลุม่ เดิมจากชว่ั โมงที่แลว้

2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั เลือกหวั ขอ้ ปัญหาหรือการทางานท่ีกลุ่มตนเองสนใจ 3 หวั ขอ้
จากน้นั แต่ละกลุ่มช่วยกนั นาหวั ขอ้ ท่ีน่าสนใจ 1 หวั ขอ้ ไปออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดยเขียนเป็นอลั กอริทึม
แบบผงั งาน

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

3. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การเขียนอลั กอริทึมแบบผงั งาน เป็นการเขยี นแสดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานโดยใชภ้ าพ

หรือสัญลกั ษณ์และใชก้ ารเขยี นบรรยายดว้ ยภาษาใดภาษาหน่ึง

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ เลือกเพยี ง 1 หวั ขอ้ ท่ีดีที่สุดของกลมุ่ ตนเอง ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
เพือ่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอเพ่ือใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั เจน
และน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• การเขยี นอลั กอริทึมแบบผงั งานมีขอ้ ดีและขอ้ เสียอยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ
1. ขอ้ ดี
• สามารถทาใหเ้ ขา้ ใจไดต้ รงกนั เพราะมีการกาหนดมาตรฐานผงั งานจากหน่วยงานท่ีเป็น

มาตรฐานเดียวกนั

• ผงั งานทาใหเ้ ขา้ ใจและตรวจสอบความถูกตอ้ งไดร้ วดเร็ว
• นาไปแปลงเป็นโปรแกรมไดง้ า่ ย
• คน้ หาตาแหน่งท่ีตอ้ งการปรับปรุงแกไ้ ขอลั กอริทึมไดง้ ่าย
2. ขอ้ เสีย
• ท้งั ผเู้ ขยี นและผอู้ า่ นจะตอ้ งเขา้ ใจในสัญลกั ษณ์ลาดบั การทางาน
• ในกรณีท่ีอลั กอริทึมมีความซับซอ้ น จะทาใหผ้ งั งานค่อนขา้ งใหญ่ และมีการอา้ งอิงไปสู่
หลาย ๆ หนา้ ส่งผลใหท้ าความเขา้ ใจไมไ่ ดใ้ นกระดาษแผน่ เดียว
• การนาเสนอผงั งานดว้ ยมือ เม่ือมีการปรับเปล่ียนโปรแกรม อาจจะตอ้ งวาดข้ึนใหม่ท้งั ระบบ
ทาใหเ้ สียเวลา
• ใชพ้ ้ืนท่ีกระดาษหรือพ้ืนที่หนา้ จอมากกวา่ การอธิบายดว้ ยวธิ ีการอื่น
6. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธีการทางาน
ท่ีมีแบบแผน

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การเขียนอลั กอริทึมแบบผงั งาน (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกล่มุ

รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไม่มีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12

เรื่อง การออกแบบการแก้ปัญหาหรือการทางานในชีวติ ประจาวันโดยใช้อลั กอริทึม

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตวั ชีว้ ดั
ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอลั กอริทึมท่ีใชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรืออธิบายการทางาน
ท่ีพบในชีวติ จริง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายวธิ ีการเขียนอลั กอริทึมแบบต่าง ๆ (K)
2. เขียนอลั กอริทึมตามความเหมาะสมของหวั ขอ้ ปัญหาหรือการทางาน (P)
3. เห็นประโยชน์และความสาคญั ของอลั กอริทึมกบั การนาไปใช้ (A)

สาระการเรียนรู้

อลั กอริทึมเป็นแนวคิดอยา่ งมีเหตผุ ลที่ใชอ้ ธิบายการทางาน วิธีการทางาน วธิ ีการดาเนินงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน
มีการใชเ้ คร่ืองมือเขา้ มาช่วยในการอธิบาย เช่น การเขียนอลั กอริทึมแบบบรรยาย อลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง
และอลั กอริทึมแบบผงั งานตามวตั ถปุ ระสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

นกั เรียนจะนาทกั ษะการคดิ และการออกแบบอลั กอริทึมไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาหรือการทางานอยา่ งไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั •ปฏ•ิบ•ตั แิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลัง•กา•รป•ฏ•บิ ตั •ิ (•A•pp•lyi•ng•an•d•Co•n•str•uc•tin•g•th•e •Kn•ow• le•dg•e)

1. •นกั •เรียนแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อ่านสถานการณ์ท้งั 2 สถานการณ์

ท่ีกาหนดให้
1) การหาปริมาตรทรงกระบอก โดยเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยายได้ ดงั น้ี

เริ่มตน้
1. รับค่ารัศมีของวงกลมท่ีเป็นฐาน
2. รับคา่ ความสูงของกระบอก
3. คานวณคา่ ปริมาตรจาก ปริมาตร = (22/7)  (รัศมี)2  ความสูง
4. แสดงคา่ ปริมาตร

จบ

2) ดชั นีมวลกาย (Body Mass Index) หรือค่า BMI คือ คา่ ดชั นีที่ใชช้ ้ีวดั ความสมดุลของน้าหนกั ตวั

โดยคา่ BMI คานวณไดจ้ ากค่าน้าหนกั ตวั ในหน่วยของกิโลกรัมหารดว้ ยคา่ ความสูงในหน่วยเมตร

ยกกาลงั สอง

BMI = น้าหนกั ตวั (กิโลกรัม) / (ความสูง (เมตร))2

โดยค่า BMI จะบอกภาวะน้าหนกั ตวั ดงั น้ี

นอ้ ยกวา่ 18.5 น้าหนกั ต่ากวา่ เกณฑ์

18.5-22.9 สมส่วน

23.0-24.9 น้าหนกั เกิน

25.0-29.9 โรคอว้ น

มากกวา่ 30 โรคอว้ นอนั ตราย

จากน้นั ช่วยกนั ออกแบบการเขียนอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลองและแบบผงั งานลงในชิ้นงานที่ 9
เร่ือง การเขียนอลั กอริทึม

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ การคดิ สร้างสรรค์
และการร่วมมือทางานเป็ นทีม

2. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั แลว้ ร่วมกนั อา่ นและวเิ คราะหส์ ถานการณ์ท่ีกาหนดให้ ดงั น้ี

1) ค่าสมั บรู ณ์ของตวั เลขเป็นตวั เลขจานวนบวกเสมอ เช่น ค่าสัมบรู ณ์ของเลข 8 คือ 8
คา่ สมบูรณ์ของเลข –8 คอื 8 ถา้ หากมองวธิ ีการหาค่าสัมบูรณ์ของตวั เลขเป็นระบบ จะพบวา่

ปัจจยั นาเขา้ ค่าตวั เลขที่ตอ้ งการหาคา่ สมั บรู ณ์ ผลลพั ธ์ คือ คา่ สัมบูรณ์ของเลขน้นั เช่น
9 การประมวลผล 9
–7 การประมวลผล 7

สาหรับการประมวลผล คือ การทาคา่ ตวั เลขนาเขา้ ใหเ้ ป็นคา่ สมั บรู ณ์

2) การจดั การเรียนการสอนวชิ าหน่ึง มีเง่ือนไขการให้ระดบั คะแนน หรือเกรด ดงั น้ี

ไดค้ ะแนนมากกวา่ 80 คะแนน ไดเ้ กรด 4

ไดค้ ะแนนต้งั แต่ 71 ถึง 80 คะแนน ไดเ้ กรด 3

ไดค้ ะแนนต้งั แต่ 61 ถึง 70 คะแนน ไดเ้ กรด 2

ไดค้ ะแนนต้งั แต่ 51 ถึง 60 คะแนน ไดเ้ กรด 1

ไดค้ ะแนนต้งั แต่ 0 ถึง 50 คะแนน ไดเ้ กรด 0

จากน้นั ช่วยกนั ออกแบบอลั กอริทึมแบบรหสั ลาลอง แบบรหสั บรรยาย และแบบผงั งาน
สาหรับในแต่ละสถานการณ์ลงในชิ้นงานที่ 10 เรื่อง การประยกุ ตใ์ ชอ้ ลั กอริทึม

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการร่วมมือ
ทางานเป็ นทีม

3. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
อลั กอริทึมเป็นแนวคดิ อยา่ งมีเหตุผลท่ีใชอ้ ธิบายการทางาน วิธีการทางาน วิธีการดาเนินงาน

อยา่ งเป็นข้นั ตอน มีการใชเ้ คร่ืองมือเขา้ มาช่วยในการอธิบาย เช่น การเขยี นอลั กอริทึมแบบบรรยาย อลั กอริทึม
แบบรหสั ลาลอง และอลั กอริทึมแบบผงั งานตามวตั ถปุ ระสงค์

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนออลั กอริทึม อธิบายการแกป้ ัญหาหรือการทางานท้งั 3 แบบ
หนา้ ช้นั เรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอเพื่อใหเ้ ห็นภาพ
ไดช้ ดั เจนและน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทางาน
ที่มีแบบแผน

ข• ้นั •ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ• มิ่ •คุณ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จติ •ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

6. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• นกั เรียนจะนาทกั ษะการคดิ และการออกแบบอลั กอริทึมไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาหรือการทางาน

อยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ นาไปใชท้ ้งั ที่บา้ นและโรงเรียน พร้อมท้งั หาโอกาสไปสร้างประโยชน์ในการ

ช่วยเหลือชุมชน เพอื่ ใหไ้ ดว้ ิธีการแกป้ ัญหาหรือการทางานท่ีมีคณุ ภาพ)
7. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม

ในประเด็นต่อไปน้ี
• สิ่งที่นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพอื่ นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพียงใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ที่ไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทวั่ ไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปล่ียนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทุกข้นั ตอนวา่ จะเพิ่มคณุ ค่าไปสู่สังคม

เกิดประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังต่อไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การออกแบบการแกป้ ัญหาหรือการทางานในชีวิตประจาวนั โดยใชอ้ ลั กอริทึม (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินกระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินชิ้นงาน เร่ือง การเขียนอลั กอริทึม (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินชิ้นงาน เร่ือง การประยกุ ตใ์ ชอ้ ลั กอริทึม (P) ดว้ ยแบบประเมิน
5. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลมุ่ ไมม่ ีการกาหนด
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท บทบาทสมาชิก
และไม่มีการช้ีแจง
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ เป้าหมาย สมาชิก
ตา่ งคนตา่ งทางาน
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเป้าหมาย

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แตไ่ ม่มีการประเมิน ไม่ครบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

แบบประเมนิ ชิ้นงาน เรื่อง การเขยี นอลั กอริทมึ

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ
การเขยี นอลั กอริทึม
4321

อา่ นและวเิ คราะห์ อา่ นและวเิ คราะห์ อ่านและวิเคราะห์ อ่านและวิเคราะห์

สถานการณ์ แลว้ เขียน สถานการณ์ แลว้ เขียน สถานการณ์ แลว้ เขยี น สถานการณ์ แลว้ เขียน

ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม

ไดด้ ีมาก มีลาดบั ข้นั ตอน ไดด้ ี มีลาดบั ข้นั ตอน ไดพ้ อใช้ อธิบายไม่คอ่ ย ยงั ไมค่ อ่ ยเชื่อมโยง

เหตกุ ารณ์เชื่อมโยงกบั เช่ือมโยงกบั สถานการณ์ ชดั เจนเท่าไรนกั กบั สถานการณ์มากเท่าไร

สถานการณ์ที่กาหนดให้ ที่กาหนดให้ มีความ แต่ยงั เชื่อมโยงกบั การจดั วางไม่เป็นระเบียบ

มีความเป็นระเบียบ เป็นระเบียบเรียบร้อย สถานการณ์ที่กาหนดให้ ตอ้ งแกไ้ ขก่อน

เรียบร้อย การจดั วาง การจดั วางพอใชไ้ ด้ การจดั วางไม่คอ่ ย จึงจะสามารถเขา้ ใจได้

ตาแหน่งดูแลว้ สามารถ อธิบายเพิม่ เลก็ นอ้ ย เป็นระเบียบ ตอ้ งอธิบาย

เขา้ ใจไดใ้ นทนั ที กส็ ามารถเขา้ ใจได้ เพิ่มเติมจงึ จะเขา้ ใจ

แบบประเมนิ ชิ้นงาน เร่ือง การประยุกต์ใช้อลั กอริทึม

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

การประยกุ ตใ์ ช้ 4321
อลั กอริทึม
อ่านและวิเคราะห์ อา่ นและวเิ คราะห์ อ่านและวเิ คราะห์ อา่ นและวเิ คราะห์

สถานการณ์ แลว้ เขยี น สถานการณ์ แลว้ เขียน สถานการณ์ แลว้ เขียน สถานการณ์ แลว้ เขยี น

ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม ออกแบบอลั กอริทึม

ไดด้ ีมาก มีลาดบั ข้นั ตอน ไดด้ ี มีลาดบั ข้นั ตอน ไดพ้ อใช้ อธิบายไม่คอ่ ย ยงั ไม่ค่อยเชื่อมโยง

เหตุการณ์เช่ือมโยงกบั เช่ือมโยงกบั สถานการณ์ ชดั เจนเทา่ ไรนกั กบั สถานการณ์มากเทา่ ไร

สถานการณ์ท่ีกาหนดให้ ท่ีกาหนดให้ มีความ แต่ยงั เช่ือมโยงกบั การจดั วางไม่เป็นระเบียบ

มีความเป็นระเบียบ เป็นระเบียบเรียบร้อย สถานการณ์ท่ีกาหนดให้ ตอ้ งแกไ้ ขก่อน

เรียบร้อย การจดั วาง การจดั วางพอใชไ้ ด้ การจดั วางไมค่ อ่ ย จึงจะสามารถเขา้ ใจได้

ตาแหน่งดูแลว้ สามารถ อธิบายเพม่ิ เลก็ นอ้ ย เป็นระเบียบ ตอ้ งอธิบาย

เขา้ ใจไดใ้ นทนั ที ก็สามารถเขา้ ใจได้ เพม่ิ เติมจึงจะเขา้ ใจ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13

เร่ือง การทางานของคอมพวิ เตอร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน
และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

ตัวชีว้ ัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพ่ือแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายกระบวนการทางานของคอมพิวเตอร์ (K)
2. สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบทางกายภาพดา้ นฮาร์ดแวร์ของคอมพวิ เตอร์ (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเขา้ ใจความตอ้ งการของมนุษยไ์ ด้ จึงมีการสื่อสารดว้ ยภาษาเครื่อง
ที่คอมพิวเตอร์เขา้ ใจ ดงั น้นั จึงมีการพฒั นาภาษาสาหรับการเขียนโปรแกรม ซ่ึงคอมพวิ เตอร์จะทางาน
โดยการผนวกกนั ระหวา่ งฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

ทาไมจึงตอ้ งเขียนโปรแกรม

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้ันส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียนประสบการณ์ โดยตอบคาถาม ดงั น้ี
• คอมพวิ เตอร์สามารถเขา้ ใจภาษามนุษยไ์ ดอ้ ยา่ งไร
(คอมพวิ เตอร์ไม่เขา้ ใจความตอ้ งการของมนุษย์ ตอ้ งมีตวั กลางมาช่วยแปลภาษาของมนุษย์

ใหค้ อมพิวเตอร์เขา้ ใจ)
2. นกั เรียนศึกษาองคป์ ระกอบของฮาร์ดแวร์ท่ีทางานร่วมกนั ในคอมพวิ เตอร์ ดงั แผนภาพ

หน่วยความจาหลกั
(main memory unit)

หน่วยนาเขา้ หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยแสดงผล
(input unit) (Central Processing Unit: CPU) (output unit)

หน่วยความจาสารอง
(secondary memory unit)

3. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั องคป์ ระกอบหลกั ของฮาร์ดแวร์ แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี
• องคป์ ระกอบหลกั ของฮาร์ดแวร์มีความสาคญั กบั การทางานของคอมพวิ เตอร์อยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ คอมพวิ เตอร์จะทางานเป็นระบบไดต้ อ้ งมีหน่วยรับขอ้ มลู หน่วยประมวลผล

หน่วยแสดงผล และอปุ กรณ์อีกหลายส่วนในการทางานร่วมกนั ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์)
4. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั เร่ือง การทางานของคอมพวิ เตอร์

จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต

•ข้นั• ค•ดิ •วิเค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

5. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและวิเคราะห์บตั รภาพและบตั รคาบนกระดาน จากน้นั ส่งตวั แทนนกั เรียน
ออกมาจบั คู่ความสัมพนั ธ์ของบตั รภาพและบตั รคา แลว้ เขียนอธิบายลกั ษณะการทางานของแต่ละส่วน
ดงั ตวั อยา่ ง

จอภาพ

output เป็นส่วนแสดงผลขอ้ มูล เช่น
แสดงผลรูปภาพ

ตวั เครื่อง PC

process เป็นส่วนประมวลผล ควบคมุ และ

สัง่ การการทางานตา่ ง ๆ ของคอมพวิ เตอร์

แป้นพมิ พ์

input เป็นส่วนขอ้ มูลนาเขา้ เช่น
การพิมพช์ ื่อ-นามสกลุ

6. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและอ่านบตั รคาอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์กบั บตั รคาองคป์ ระกอบหลกั
ของคอมพวิ เตอร์ จากน้นั ร่วมกนั โยงเสน้ แสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งอปุ กรณ์กบั องคป์ ระกอบหลกั ของ
เครื่องคอมพวิ เตอร์ใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั ตวั อยา่ ง

อปุ กรณ์ องค์ประกอบหลกั

1. ไมโครโฟน

2. แฟลชไดรฟ์

3. ลาโพง หน่วยนาเขา้
4. จอภาพ หน่วยความจาสารอง

5. CPU หน่วยแสดงผล

6. เมาส์ปากกา หน่วยความจาหลกั

7. เคร่ืองอา่ นซีดีรอม หน่วยประมวลผลกลาง
8. การ์ดหน่วยความจา

9. RAM

7. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์เก่ียวกบั องคป์ ระกอบของฮาร์ดแวร์วา่ แต่ละส่วนมีอปุ กรณ์ใดบา้ ง
แลว้ เขยี นบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

CPU

หน่วยประมวลผลกลาง
RAM

หน่วยความจาหลกั

แป้นพิมพ์ กลอ้ งเวบ็ แคม

เมาส์ หน่วยนาเข้า
ซีดีรอม
สแกนเนอร์
ROM
หน่วยความจา ฮาร์ดดิสก์
สารอง ฮาร์ดไดรฟ์

ลาโพง

หน่วยแสดงผล

เคร่ืองพิมพ์ จอภาพ

8. นกั เรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งและเปรียบเทียบอวยั วะของร่างกายมนุษยก์ บั คอมพิวเตอร์
โดยตอบคาถาม ดงั น้ี

• ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์มีอะไรบา้ ง
(หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจาหลกั หน่วยความจาสารอง หน่วยนาเขา้ หน่วยแสดงผล)
• หน่วยประมวลผลกลางเปรียบเสมือนกบั อวยั วะใดของร่างกายมนุษย์ (สมอง)
• หน่วยความจาหลกั เปรียบเสมือนกบั อวยั วะใดของร่างกายมนุษย์ (ตวั อยา่ งคาตอบ สมอง)
• หน่วยนาเขา้ เปรียบเสมือนกบั อวยั วะใดของร่างกายมนุษย์ (ตวั อยา่ งคาตอบ ตา หู จมูก)
• หน่วยแสดงผลเปรียบเสมือนกบั อวยั วะใดของร่างกายมนุษย์
(ตวั อยา่ งคาตอบ ปาก อวยั วะขบั ถ่าย)
• สามารถเปรียบเทียบส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์กบั อะไรไดอ้ ีกบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ การรับประทานอาหาร)
9. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์โปรแกรมการทางานของคอมพวิ เตอร์ที่นกั เรียนเคยใชใ้ นชีวิตประจาวนั
แลว้ เขียนคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน แลว้ ตอบคาถาม ดงั ตวั อยา่ ง

โปรแกรม Microsoft Office
PowerPoint, Word, Excel

โปรแกรม Adobe photoshop โปรแกรมการทางาน โปรแกรมเครื่องคิดเลข
โปรแกรม Adobe Flash ของคอมพวิ เตอร์ทน่ี ักเรียน โปรแกรมระบายสี (Paint)

เคยใช้ในชีวติ ประจาวัน

• จากโปรแกรมท่ีกลา่ วมา นกั เรียนใชโ้ ปรแกรมใดบ่อยท่ีสุด และใชท้ าอะไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint ใชใ้ นการนาเสนองาน
โปรแกรม Microsoft Office Word ใชใ้ นการทารายงาน และโปรแกรม Microsoft Office Excel ใชใ้ นการ
สร้างตารางงาน การคานวณ)
• โปรแกรมเหล่าน้ีถกู เขียนข้ึนมาเพื่อส่ิงใด (ตวั อยา่ งคาตอบ เพอื่ ตอบสนองการใชง้ านของผใู้ ช)้

10. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์และตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ ดงั น้ี
• ทาไมจึงตอ้ งเขียนโปรแกรม
(ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะตอ้ งการใหค้ อมพิวเตอร์ทางานตามท่ีเราตอ้ งการ)

11. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเก่ียวกบั การทางานของคอมพิวเตอร์ ดงั น้ี
การทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบไปดว้ ยฮาร์ดแวร์หลายหน่วย ประกอบไปดว้ ย

หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจาหลกั หน่วยความจาสารอง หน่วยนาเขา้ หน่วยแสดงผล
ท่ีผนวกการทางานร่วมกบั ซอฟตแ์ วร์ท่ีถูกเขยี นข้ึนมา เพื่อใหค้ อมพวิ เตอร์ทางานตามท่ีเราตอ้ งการ

ข•้ัน•ปฏ•ิบ•ัตแิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลัง•กา•รป•ฏ•บิ ัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•

12. •นกั เรียนจบั คู่หรือแบ่งกล่มุ ตามความเหมาะสมของจานวนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใหม้ ีนกั เรียน

1 คนท่ีมีประสบการณ์ในการใชค้ อมพิวเตอร์ โดยแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากในหวั ขอ้
องคป์ ระกอบทางกายภาพดา้ นฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ ดงั น้ี

• หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
• หน่วยความจาหลกั (main memory unit)
• หน่วยความจาสารอง (secondary memory unit)
• หน่วยนาเขา้ (input unit)
• หน่วยแสดงผล (output unit)
เม่ือแต่ละกลมุ่ ไดร้ ับหวั ขอ้ แลว้ จากน้นั ร่วมกนั สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั หวั ขอ้ ที่กลุ่มของตนเอง
ไดร้ ับ โดยสืบคน้ ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
• ความหมายและลกั ษณะของอปุ กรณ์
• มีระบบการทางานเป็นอยา่ งไร
• อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั หวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับ
• หลกั การทางานร่วมกนั กบั ซอฟตแ์ วร์ (อาจยกตวั อยา่ งโปรแกรมมา 1 โปรแกรม
เพือ่ ทาการอธิบายควบคูก่ นั )

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการร่วมมือทางานเป็ นทีม
และความรอบรู้ในสารสนเทศ

13. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
เคร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเขา้ ใจความตอ้ งการของมนุษยไ์ ด้ จึงมีการส่ือสารดว้ ยภาษาเคร่ือง

ที่คอมพิวเตอร์เขา้ ใจ ดงั น้นั จึงมีการพฒั นาภาษาสาหรับการเขยี นโปรแกรม ซ่ึงคอมพิวเตอร์จะทางาน
โดยการผนวกกนั ระหวา่ งฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

14. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลของการสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบทางกายภาพ
ดา้ นฮาร์ดแวร์ของคอมพวิ เตอร์ของกลุม่ ตนเองหนา้ ช้นั เรียน เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั อาจใช้
Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอ เพอ่ื ใหเ้ ห็นภาพไดช้ ดั เจนและน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่ือสาร

15. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทางาน
ที่มีแบบแผน

ข• ้นั •ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ• ม่ิ •คณุ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จติ •ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

16. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• ส่ิงท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคอื อะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• เพอื่ นนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ท่ีไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป

ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทุกข้นั ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม
เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังต่อไป

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. บตั รภาพและบตั รคาหน่วยการทางานของคอมพิวเตอร์ 3 หน่วย
3. บตั รคาอุปกรณ์ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์
4. บตั รคาองคป์ ระกอบของเครื่องคอมพวิ เตอร์
5. เครื่องคอมพวิ เตอร์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เนต็
6. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง การทางานของคอมพวิ เตอร์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

รายการการประเมนิ ระดบั คุณภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลมุ่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไม่มีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไม่มีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนตา่ งทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไมค่ รบทกุ คน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 การเขยี นโปรแกรม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14

เรื่อง ระดับของภาษาสาหรับการเขียนโปรแกรม

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน
และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม

ตวั ชีว้ ัด

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายระดบั ของภาษาที่ใชส้ าหรับการเขียนโปรแกรม (K)
2. วเิ คราะห์โจทย์ แลว้ เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปแบบของกระบวนการแปลงภาษาคอมพิวเตอร์ในการ

เขียนโปรแกรม (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

การเขยี นโปรแกรมเพื่อส่งั การเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใหเ้ ขา้ ใจในความตอ้ งการและทางาน
ตามวตั ถุประสงค์ สามารถใชภ้ าษาในการเขยี นคาส่ัง ซ่ึงภาษาท่ีใชเ้ ขยี นประกอบไปดว้ ย ภาษาเคร่ือง
ภาษาแอสเซมบลี ภาษาระดบั สูง

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคัญ

ภาษาคอมพวิ เตอร์ภาษาใดท่ีมีความใกลเ้ คยี งกบั ภาษามนุษย์

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั ส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ภาษาที่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม จากน้นั บนั ทึกคาตอบ
เป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

ภาษาเครื่อง

ภาษาท่ใี ช้ในการ
เขยี นโปรแกรม

ภาษาระดบั สูง ภาษาแอสเซมบลี

2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนา แลว้ ตอบคาถามกระตุน้ ความสนใจ ดงั น้ี
• ภาษาคอมพวิ เตอร์ภาษาใดที่มีความใกลเ้ คยี งกบั ภาษามนุษย์ (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาษาระดบั สูง)

3. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั เร่ือง ระดบั ของภาษาสาหรับการเขียนโปรแกรม
จากแหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เนต็

•ข้นั• ค•ิด•วิเค•ร•าะ•ห์แ•ละ•ส•รุป•ค•วาม•ร•ู้ (•Pr•oc•ess•in•g) •

4. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ระดบั ของภาษาสาหรับการเขยี นโปรแกรม โดยเขียนบนั ทึกคาตอบ
เป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

เป็ นหน่วยของการประมวลผล เป็นภาษาที่มีตวั เลขเพยี ง 2 ตวั
หรือที่เรียกวา่ CPU คือ 0 กบั 1 ซ่ึงเรียกวา่ เลขฐาน 2

ภาษาเคร่ือง

มนุษยไ์ ม่สามารถเขา้ ใจได้ ส่ือสารดว้ ย binary code
โดยเป็นคาสั่งยาว ๆ

คอมพิวเตอร์ไมส่ ามารถทางานดว้ ย การส่ือสารเป็นคาส่ังส้ัน ๆ เช่น
ภาษาแอสเซมบลีได้ จึงมีกระบวนการ หากตอ้ งการใชก้ ารบวกหรือเพิม่
แปลงภาษาแอสเซมบลีใหเ้ ป็น ใหใ้ ชค้ าส่งั add
ไบนารีโคด กระบวนการน้ีเรียกวา่
แอสเซมเบลอ

ภาษาแอสเซมบลี

ผทู้ ่ีเขียนโปรแกรมจะตอ้ งจดจาคาส่งั มนุษยเ์ ขา้ ใจภาษาคอมพิวเตอร์ได้
จานวนมาก มากข้ึน แต่กม็ ีคาส่ังจานวนมาก
ท่ียงั ไม่สื่อความหมาย

ใชภ้ าษาองั กฤษที่มีโครงสร้างงา่ ย ๆ ภาษาระดับสูง มีความใกลเ้ คียงกบั ภาษามนุษย์
ในการสื่อสาร มากข้ึน

เร่ิมใชใ้ นช่วงปี 1950 เป็นตน้ มา ใชส้ าหรับการเขียนโปรแกรม
ที่มากกวา่ 100 ภาษา มีไวยากรณ์
และการใชง้ านท่ีแตกต่างกนั

5. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตและวิเคราะห์ภาพที่ติดอยบู่ นกระดาน แลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี
assembler source file

assembler

machine code file
• จากภาพเกี่ยวขอ้ งกบั ภาษาคอมพวิ เตอร์ภาษาใด (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาษาแอสเซมบลี)
• จากภาพเป็นกระบวนการท่ีเรียกวา่ อะไร (ตวั อยา่ งคาตอบ การแปลงคาสงั่ จากแอสเซมบลี
ใหเ้ ป็นไบนารีโคด หรือเรียกวา่ แอสเซมเบลอ)

high-level source file

compiler

machine code file

executer

• จากภาพเกี่ยวขอ้ งกบั ภาษาคอมพวิ เตอร์ภาษาใด (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาษาระดบั สูง)
• จากภาพเป็นกระบวนการท่ีเรียกวา่ อะไร (ตวั อยา่ งคาตอบ การแปลงคาสัง่ จากภาษาระดบั สูง
มาเป็ นภาษาเคร่ื อง)

6. นกั เรียนร่วมกนั อา่ นและวเิ คราะห์ขอ้ มลู ที่กาหนดให้ แลว้ ตอบคาถาม

การทางาน คาส่ังเลขฐานสอง คาสั่งภาษาแอสเซมบลี
นงั่ ลง 00 DOWN
ยนื ข้ึน 01 UP
เดินหนา้ หน่ึงกา้ ว 10 GO
นอน 11 SLEEP

• ถา้ หากหุ่นยนตน์ งั่ อยกู่ บั พ้ืน และตอ้ งการเขยี นโปรแกรมใหห้ ุ่นยนตต์ วั น้ีเคลื่อนที่ไปขา้ งหนา้
5 กา้ ว แลว้ นอนลง นกั เรียนจะเขียนโปรแกรมภาษาแอสเซมบลีและภาษาเคร่ืองไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ)

ภาษาแอสเซมบลี ภาษาเคร่ือง
(UP) (01)
(GO) (10)
(GO) (10)
(GO) (10)
(GO) (10)
(GO) (10)
(DOWN) (00)
(SLEEP) (11)

7. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั ระดบั ของภาษาสาหรับการเขยี นโปรแกรม ดงั น้ี
ภาษาท่ีใชใ้ นการเขยี นโปรแกรมประกอบไปดว้ ย ภาษาเคร่ืองเป็นภาษาที่มีเพยี งตวั เลข 2 ตวั

(binary code) มีเพยี ง 0 และ 1 เรียกวา่ เลขฐานสอง ซ่ึงมีความซบั ซอ้ น ยากต่อการเขา้ ใจ ภาษาแอสเซมบลี
ถกู พฒั นามาจากภาษาเครื่องท่ีส่ือสารดว้ ยไบนารีโคดที่มีความยงุ่ ยากใหเ้ ป็นคาสัง่ ส้ัน ๆ เช่น หากตอ้ งการ
เพิ่มหรือบวกจะใชค้ าสั่ง add แตก่ ็ยงั มีคาสัง่ อีกมากท่ีไม่ส่ือความหมาย และคอมพิวเตอร์ไมส่ ามารถทางาน
ดว้ ยภาษาแอสเซมบลีได้ จึงมีการแปลภาษาแอสเซมบลีเป็นไบนารีโคด ที่เรียกวา่ แอสเซมเบลอ และ
ภาษาระดบั สูงจะเป็นภาษาท่ีมีความใกลเ้ คยี งกบั ภาษามนุษย์ โดยใชภ้ าษาองั กฤษที่มีโครงสร้างงา่ ย ๆ
ในการสื่อสาร ใชส้ าหรับการเขยี นโปรแกรมมากกวา่ 100 ภาษาที่มีไวยากรณ์และการใชง้ านที่แตกตา่ งกนั
เม่ือเราเขียนโปรแกรมหรือป้อนคาส่งั เขา้ ไปจะมีการแปลงคาสงั่ จากภาษาระดบั สูงเป็นภาษาเคร่ือง
ซ่ึงภาษาระดบั สูงเริ่มใชใ้ นช่วงปี 1950 เป็นตน้ มา

ข•้ัน•ปฏ•บิ •ัตแิ•ล•ะส•รุป•ค•วา•มร•ู้ห•ลงั •กา•รป•ฏ•บิ ัต•ิ (•A•pp•lyi•ng•a•nd•C•on•st•ru•cti•ng•th•e•Kn•o•wl•ed•ge)•

8. •นกั เรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็น 2 กลุ่ม เท่า ๆ กนั โดยแตล่ ะกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลาก

เลือกหวั ขอ้ ระดบั ของภาษาสาหรับการเขยี นโปรแกรม ดงั น้ี
• ภาษาแอสเซมบลี
• ภาษาระดบั สูง
จากน้นั แตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั วเิ คราะห์โจทย์ แลว้ นามาเขยี นใหอ้ ยใู่ นรูปแบบของกระบวนการ

แปลงภาษาคอมพิวเตอร์ ในการเขียนโปรแกรมตามรูปแบบของภาษาน้นั ๆ โดยมีโจทย์ ดงั น้ี
• ภาษาแอสเซมบลี
• นิดหน่อยมีเงินอยู่ 10 บาท คุณพ่อใหเ้ พิ่ม 20 บาท คุณแมใ่ หเ้ พ่มิ 10 บาท
• จากขอ้ แรก นิดหน่อยนาเงินไปซ้ือขนม 5 บาท ซ้ือแป้งอีก 15 บาท
• ภาษาระดบั สูง
• นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 มีนกั เรียนหญิงจานวน 20 คน มีนกั เรียนชายจานวน 35 คน
• โรงเรียนแห่งหน่ึงมีนกั เรียนที่เขา้ ร่วมชมรมภาษาองั กฤษ โดยมีจานวนนกั เรียนเขา้ ร่วม

120 คน จากน้นั ทางชมรมตอ้ งการท่ีจะจดั ทาใบความรู้แจกใหก้ บั สมาชิกในชมรมคนละ 10 ชุด

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
และการร่วมมือทางานเป็ นทีม

9. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การเขียนโปรแกรมเพ่ือสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ใหเ้ ขา้ ใจในความตอ้ งการและทางาน

ตามวตั ถุประสงค์ สามารถใชภ้ าษาในการเขียนคาสง่ั ซ่ึงภาษาท่ีใชเ้ ขยี นประกอบไปดว้ ย ภาษาเครื่อง
ภาษาแอสเซมบลี ภาษาระดบั สูง

•ข้นั• ส•ื่อส•า•รแ•ละ•น•าเส•น•อ •(A•pp•ly•ing• t•he•C•om• m• u•ni•ca•tio•n •Sk•ill•)

10. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอผลการวิเคราะห์โจทยท์ ี่อยใู่ นรูปแบบของกระบวนการ
แปลงภาษาคอมพิวเตอร์ในการเขียนโปรแกรมตามรูปแบบของภาษาน้นั ๆ ของกลมุ่ ตนเองหนา้ ช้นั เรียน
เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้กนั อาจใช้ Microsoft Office PowerPoint ในการนาเสนอ เพ่ือให้เห็นภาพไดช้ ดั เจน
และน่าสนใจ

กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการส่ือสาร

11. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกบั วิธีการทางานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธีการทางาน
ที่มีแบบแผน

ข• ้นั •ป•ระ•เม•ินเ•พื่อ•เพ• ม่ิ •คุณ• ค•่าบ• ร•ิกา•รส•ังค•ม•แ•ละ•จิต•ส•าธ•าร•ณะ• (•Se•lf-•Re•gu•la•tin•g•)

12. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทากิจกรรม
ในประเด็นต่อไปน้ี

• ส่ิงที่นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคอื อะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพียงใด
• เพ่อื นนกั เรียนในกลมุ่ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนาความรู้ท่ีไดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไป

ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทกุ ข้นั ตอนวา่ จะเพ่มิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม
เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาหรับการทางานในคร้ังตอ่ ไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. ภาพกระบวนการแปลงคาส่ังภาษาแอสเซมบลีเป็นไบนารีโคด
3. ภาพกระบวนการแปลงคาส่งั ภาษาสูงใหเ้ ป็นภาษาเครื่อง
4. ขอ้ มูลของหุ่นยนตท์ ่ีทางานดว้ ยคาสงั่ แบบสองบิต
5. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

กจิ กรรมเสนอแนะ

นกั เรียนร่วมกนั ออกแบบสร้างหุ่นยนตด์ ว้ ยแนวทางการออกแบบเชิงวศิ วกรรม โดยระบุข้นั ตอน
ใหค้ รบถว้ น และอธิบายวา่ จะส่งั ใหห้ ุ่นยนตต์ วั น้ีทาอะไร อยา่ งไร

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมินความรู้ เร่ือง ระดบั ของภาษาสาหรับการเขยี นโปรแกรม (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทางานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ

กระบวนการ 432 1
ทางานกลุม่
มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท มีการกาหนดบทบาท ไมม่ ีการกาหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ และไมม่ ีการช้ีแจง
เป้าหมาย สมาชิก
และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไม่มีการช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนต่างทางาน

การทางาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน

มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกนั

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไมค่ รบทุกคน

พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

เป็นระยะ ๆ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การเขียนโปรแกรม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15
เร่ือง ตัวแปร

ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอน
และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

ตัวชีว้ ดั

ว 4.2 ม.1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เพ่ือแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายเกี่ยวกบั ตวั แปร (K)
2. วเิ คราะหก์ ารประกาศและจดั เกบ็ ตวั แปร (P)
3. มีความกระตือรือร้นในกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

สาระการเรียนรู้

ก่อนที่โปรแกรมจะส่งั ใหเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ทางานโดยภาษาใดภาษาหน่ึงในการเขียนโปรแกรม
เราจาเป็นตอ้ งรู้จกั ลกั ษณะของตวั แปรแตล่ ะชนิด จะทาใหเ้ ราเลือกใชช้ นิดของตวั แปรไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ ง
กบั ขอ้ มูลที่ตอ้ งการเกบ็ ทาใหเ้ ราเขียนโปรแกรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

คาถามสาคัญ

ตวั แปรหมายถึงอะไร

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ข•้นั ส•ัง•เกต• ร•วบ• ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•a•the•ri•ng•) •

1. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาและทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั ตวั แปร จากน้นั ร่วมกนั สนทนา โดยตอบคาถาม
ดงั น้ี

• ตวั แปรหมายถึงอะไร (ตวั แปรคอื สิ่งท่ีใชส้ าหรับเกบ็ คา่ เพ่ือประมวลผล ซ่ึงสามารถเปล่ียนค่า
ในโปรแกรมได้ มีขนาดของหน่วยความจาไม่เทา่ กนั ข้นึ อยกู่ บั ชนิดของตวั แปร)

2. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาและทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั การเลือกชนิดของตวั แปร ซ่ึงมีขนาดของ
หน่วยความจาท่ีแตกตา่ งกนั ใหเ้ หมาะสมกบั ชนิดของขอ้ มูล ดงั ตวั อยา่ ง

ตารางท่ี 1 เปรียบเทียบภาชนะท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมในการเก็บขอ้ มลู

ภาชนะทีเ่ หมาะสม ภาชนะทไ่ี ม่เหมาะสม

ภาชนะที่เหมาะสมกบั การเก็บผลเชอร์รี ภาชนะท่ีไมเ่ หมาะสมกบั การเกบ็ ผลเชอร์รี

ภาชนะท่ีเหมาะสมกบั การเก็บผลมะพร้าว ภาชนะท่ีไมเ่ หมาะสมกบั การเกบ็ ผลมะพร้าว