151
โบราณสถานบงึ หนองสาหร่าย
ห่างจากจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เลยพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ ไปตามทางหลวงหมายเลข
3038 ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นหนองนํ้าธรรมชาติขนาดใหญ่ มีความสําคัญ ทางประวัติศาสตร์ในช่วงสงคราม
ยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่า สมเด็จพระนเรศวรทรงเลือกบริเวณหนอง
สาหร่ายเป็นท่ีตั้งทัพ เพราะน้ําบริเวณหนองสาหร่ายมีมากพอที่จะให้ทหารจํานวนแสนคน พร้อมช้าง ม้าได้อาศัย
เป็นเวลาแรมเดือน ประกอบกับเป็นชัยภูมิท่ีต้ังสูงห่างข้าศึก ปัจจุบันสภาพหนองนํ้าตื้นเขิน และมีเนื้อที่เหลือที่เป็น
หนองนํา้ เพยี ง 29 ไร่ บรเิ วณโดยรอบมีตน้ ไมเ้ รยี งรายร่มรนื่
รา้ นอาหาร
1. สวนอาหารเพญ็ จันทร์ ริมถนนดอนเจดยี ์ ไป อ.ศรปี ระจันต์
เมนแู นะนํา อาหารประเภทปลานํา้ จดื , อาหารปา่
เปิดบรกิ าร 10.00-22.00 น.) โทร 035-591386
2. ร้านอาหารครัวลาํ พูน หมู่ 5 ตาํ บลดอนเจดยี ์ อําเภอดอนเจดีย์ จังหวดั สพุ รรณบุร ี
เบอรโ์ ทร 081-0186286
3. ร้านอาหารอิ่มเอม หมู่ 5 ตําบลดอนเจดีย์ อําเภอดอนเจดีย ์ จังหวัด สพุ รรณบรุ ี
เปดิ 10.00 น´จนถงึ 22:00 น. โทร 062-6179648
4. ร้านอาหารกรชวัล หมู่ 5 ตําบลดอนเจดยี ์ อาํ เภอดอนเจดยี ์ จังหวดั สพุ รรณบุร ี
เปิด 10.00 น´จนถึง 22:00 น. โทร 035-591720
5. ร้านอาหารกาญจนา หมู่ 5 ตําบลดอนเจดีย์ อําเภอดอนเจดยี ์ จงั หวดั สุพรรณบุรี
เปิด 10.00 น´จนถึง 22:00 น. โทร 035-591189
6. ครวั จ่านพปลาเผา หมู่ 3 ตาํ บลดอนเจดยี ์ อาํ เภอดอนเจดีย ์ จงั หวดั สพุ รรณบุร ี โทร 086-8561979
152
อําเภอด่านชา้ ง
1. ถํา้ เวฬวุ นั
ตั้งอยู่ในบริเวณวัดวังคัน อําเภอด่านชา้ ง เป็นถํ้าขนาดกลาง สภาพภายในถํ้ามีหินงอกและหินย้อยสวยงาม
มีไฟฟ้าสว่างพอให้นักท่องเท่ียวเห็นสภาพภายในถํ้า และมีพระพุทธรูปจําลองปางป่าเลไลยก์ให้นักท่องเที่ยวได้
สักการบูชา เหมาะสําหรับผู้ท่ีต้องการไหว้พระทําบุญและชมความงามของธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน ทางเข้าถ้ํามี
บันไดคอนกรีตจํานวน 61 ข้ัน ทอดยาวเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร ข้ึนถึงบริเวณปากถํ้า ถํ้าแห่งน้ียังใช้เป็น
สถานท่ีปฏิบัติธรรมอีกด้วย นอกจากนี้ ในบริเวณวัดวังคัน ทางอําเภอได้จัดทําเป็นสวนไผ่เทิดพระเกียรติ มีพันธ์ุไผ่
ต่างๆ ปลูกไวป้ ระมาณ 10 กว่าชนิด ถา้ํ เวฬวุ ันเปดิ ทําการทุกวัน ตง้ั แตเ่ วลา 6.00 - 17.00 น.
การเดินทาง
วัดวงั คันอยหู่ า่ งจากอาํ เภอดา่ นช้างประมาณ 14 กโิ ลเมตร ทางหลวงหมายเลข 333 กิโลเมตรท่ี 77 หา่ ง
จากทางเข้าอทุ ยานแหง่ ชาตพิ เุ ตย 1 กิโลเมตร
การเดินทางโดยรถยนตส์ ว่ นตวั
หา่ งจากจงั หวัดประมาณ 90 กิโลเมตร ตง้ั อยูต่ ดิ ถนน ดา่ นชา้ ง-บ้านไร่ (333) ก่อนถงึ ทางแยกเข้าพเุ ตย
ประมาณ 1 กโิ ลเมตร
การเดินทางโดยรถโดยสาร
มรี ถปรับอากาศจากสถานขี นส่งสายใต้ สายกรุงเทพ - ดา่ นช้าง แล้วตอ่ รถประจาํ ทางสาย ด่านช้าง -บา้ นไร่
การเดนิ ทางโดยรถตโู้ ดยสาร น่งั รถตู้สาย กรงุ เทพ - ดา่ นชา้ ง
2. หาดทรายห้วยกระเสยี ว
หาดทรายห้วยกระเสียว เป็นลําธารขนาดใหญ่ที่มีต้นนํา้ มาจากอ่างเก็บนํ้ากระเสียว มีความปลอดภัยสูงทํา
ใหน้ ักท่องเท่ียวที่ลงเลน่ นา้ํ หรอื นักท่องเท่ียวที่เดินทางมากับบุตรตัวเล็กๆสบายใจได้ในการลงเล่นนํ้าเพราะระดับนํ้า
ไม่ลึกมาก นอกจากนั้นบริเวณตลอดลําห้วยมีร้านค้าและร้านจําหน่ายอาหารมากมายท่ีนักท่องเที่ยวสามารถจะ
จับจ่ายซ้ือหรือสั่งมาทานกันบนหาดทรายห้วยกระเสียวได้ หาดทรายห้วยกระเสียวเหมาะสําหรับการพักผ่อน เล่น
นาํ้ ของครอบครัว
153
บรรยากาศโดยทั่วไปของหาดทรายห้วยกระเสียวน้ันจะมีทรายไม่มากโดยทรายจะมีสีออกไปทางสีส้มแดง
ไม่ใช่สีขาวนวลละเอียดเหมือนหาดทรายตามท้องทะเลแต่น้ําใสไหลเย็นน่าจะลงไปแช่น้ําและแหวกว่ายไปมาให้สด
ช่ืน นอกจากน้ีบริเวณหาดทรายห้วยกระเสียวนักท่องเที่ยวยังสามารถพบกับค้างคาวแม่ไก่ตัวใหญ่หลายสิบตัวที่จะ
เกาะอยู่บนยอดไม้บริเวณหาดทรายห้วยกระเสียวน่ันเอง บริเวณรอบๆ ของลําธารน้ันจะมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมให้
ความร่มร่ืนแก่ผู้ท่ีแวะเวียนมาเท่ียวหาดทรายห้วยกระเสียว หากนักท่องเท่ียวได้มีโอกาสนําอาหารเครื่องดื่มมา
ปิกนิกท่ีหาดทรายห้วยกระเสียวกับครอบครัวแล้วก็จะเป็นช่วงเวลาสําคัญช่วงหนึ่งสําหรับครอบครัวที่จะพักผ่อน
หย่อนใจจากการทาํ งานที่แสนจะเหนือ่ ยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะบริเวณหาดทรายห้วยกระเสียวนั้นเหมาะแก่
การนั่งปูเส่ือปิกนิกเป็นอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากต้นไม้ใหญ่ท่ีปกคลุมอยู่ทําให้ หาดทรายห้วยกระเสียวน้ันร่มร่ืน
เหมาะแก่การน่งั หรือนอนพักผ่อน
หาดทรายห้วยกระเสียวตั้งอยู่ท่ีอําเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี การเดินทางไป หาดทรายห้วยกระเสียว
แนะนําให้นักท่องเท่ียวเดินทางด้วยรถส่วนบุคคลโดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสําหรับการไปพักผ่อน ณ หาดทราย
ห้วยกระเสยี วคอื ช่วงเวลากลางวนั ระหวา่ งเวลา 09.00 น. ถงึ 16.30 น. เพราะเปน็ ช่วงทฟี่ า้ ยงั สวา่ งอยู่
3. อา่ งเกบ็ นาํ้ หุบเขาวง
อ่างเกบ็ นาํ้ หุบเขาวง หรอื ปางอุง๋ สพุ รรณ อา่ งเก็บนํ้าเล็ก ๆ ท่ีชาวบ้านช่วยกันพัฒนาป่าที่อยู่บริเวณหมู่บ้าน
ให้เป็นสถานท่ีท่องเที่ยว บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือเนื่องจากล้อมรอบไปด้วยภูเขาเล็ก ๆ ยิ่งในช่วงฤดูหนาว
อากาศจะเย็นสบาย มีหมอกลอยอยู่เหนือนํ้าในช่วงเช้า ต้นไม้เขียวขจีในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว สามารถทํากิจกรรม
ไดห้ ลากหลายท้ังว่ายน้ํา พายเรือ ตกปลา และเป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาด ในอ่างเก็บน้ํามีแพพักไว้บริการ
หรอื กางเต๊นท์บริเวณริมนํ้า สามารถพักแบบหมู่คณะ หรือครอบครัวก็มีหลายแบบให้เลือก อ่างเก็บนํ้าหุบเขาวงจะ
ปิดเพ่ือฟน้ื ฟธู รรมชาติและชาวบ้านจะทาํ การเกษตร ในชว่ งวนั ที่ 1 เมษายน - 11 สิงหาคม ของทุกปี จะเปดิ อีกทีใน
วนั ที่ 12 สิงหาคม ตดิ ตอ่ จองทพี่ ักได้ที่ โทร. 09 8581 9199, 09 2493 3833, 08 7157 7130
เวลาเปิดทาํ การ : 24 ชั่วโมง
การเดินทาง
กรุงเทพฯ - บางใหญ่ - ถนนสาย 340 - ถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณ - ดอนเจดีย์ - สระกระโจม – ทางแยกไป
อ.หนองปรือ - วัดพุนํ้าร้อน – อ่างเก็บนํ้าหุบเขาวง ระยะทาง จากบางบัวทอง (แยกเข้าถนนเส้น 340) ถึง อ่างเก็บ
154
น้าํ หบุ เขาวงรวม 162 ก.ม. เป็นถนนลาดยางถงึ วัดพุนํ้าร้อน จากวัดพุน้ําร้อน เข้าไปถงึ ตัวอ่างเก็บนํ้าหุบเขาวง เป็น
ถนนลูกรังอัดแนน่ ระยะทาง 9 ก.ม. รถทุกชนิดสามารถเขา้ ได้
4. อทุ ยานแห่งชาติ พุเตย
ดินแดนแห่งขุนเขา ป่าหน่ึงเดียวท่ีสมบูรณ์ท่ีสุดของเมอื งสุพรรณ เป็นชายป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้ง
เป็นสถานที่ท่ีเหมาะกับนักเดินทางที่หลงใหลในธรรมชาติ ความสงบเงียบ ป่าเขา นํ้าตก ความงดงามงามของ
ดวงอาทติ ย์ยามเช้า ไอหมอก ความหนาวเย็น และวิถชี ีวติ ของชนชาวกระเหรีย่ ง
อุทยานแห่งชาตพิ ุเตย ตง้ั อยู่ในจังหวัดสพุ รรณบุรี มีเนอ้ื ท่ี 198,422 ไร่ จัดตั้งขนึ้ เนื่องจากกรมปา่ ไม้เห็นว่า
พ้ืนที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์บางส่วนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกํา และป่าห้วยพลู ท้องท่ีอําเภอ
ด่านชา้ ง จังหวัดสพุ รรณบรุ ี มสี ภาพป่าอดุ มสมบูรณเ์ ปน็ แหลง่ ตน้ น้ําลําธารในการเกษตร ของจังหวัดสุพรรณบุรีและ
จังหวัดกาญจนบุรี มีทิวทัศน์สวยงาม สัตว์ป่าชุกชุม สมควรอนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติของชาติจึงแต่งต้ังให้นายพันเทพ
อันตระกูล นักวิชาการกรมป่าไม้ ไปทําการสํารวจบุกเบิกเตรียมการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ต้ังแต่ปี 2538
จนถึงปี 2541 จึงได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลําดับที่ 84 ในราชกิจจานุเบกษาเล่มท่ี 115 ตอนท่ี 67ก ลงวันท่ี
30 กันยายน พ.ศ. 2541 โดยใช้ช่ือว่า "อุทยานแห่งชาติ พเุ ตย" ต่อมาได้มีคําสั่งกรมป่าไม้ท่ี 2421/2543 ลงวันที่
12 ธันวาคม พ.ศ. 2543 ให้โอนงานวนอุทยาน "ถํ้าเขาวง" ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของป่าไม้เขตนครสวรรค์
จํานวน 8,125 ไร่ ผนวกเข้าเป็นพ้ืนท่ีส่วนหน่ึงของอุทยานแห่งชาติ พุเตย โดยให้มีการจัดการตามระบบอุทยาน
แห่งชาติ
สถานทท่ี ่องเทยี่ วทนี่ ่าสนใจในเขต อุทยานแหง่ ชาตพิ เุ ตย
1. ป่าสนสองใบธรรมชาติ หน่วยพิทกั ษ์อทุ ยานฯ พุเตยที่ 1
มีประมาณกว่า 1,300 ต้น อยู่บนเทือกเขาพุเตยเป็น ป่าแปลกมหัศจรรย์ เพราะป่าสนจะเจริญเติบโตใน
พื้นท่ีภูเขาสูงชัน มีความสงู จากระดับนํ้าทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป แต่ป่าสนแห่งน้ีเจริญเติบโตบนพ้ืนท่ี ที่มีความสูง
จากระดับนํ้าทะเลเพียง 763 เมตรเท่านั้นสภาพป่าสมบูรณ์มาก จนได้รับเลือกให้เป็นศูนย์แม่พันธ์ุไม้สนสองใบใน
ภาคกลาง บางต้นมีขนาดใหญ่วัดได้ถึง 2-3 คนโอบ ห่างจากที่ทําการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ 1 (พุเตย) ประมาณ
12 กโิ ลเมตร
155
2. หม่บู า้ นกระเหร่ยี งตะเพนิ คี่ หน่วยพทิ กั ษ์อุทยานฯ พเุ ตยท่ี 3 ตะเพนิ ค่ี
เป็นป่าท่ีสวยงาม และเป็นท่ีต้ังของหมู่บ้านกะเหร่ียง ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยมากว่า 200 ปี ผืนป่า และต้นน้ํา
ตะเพินค่ี ยังคงสภาพสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่องเท่ียวเชิงผจญภัยล่องไพร เป็นดินแดนแห่งความหนาวเย็น ในหน้า
หนาวอุณหภูมิจะลดลง 5-6 Cํ ยอดเขาเทวดา ท่ีความสูงกว่า 1000 เมตร ในวันท่ีอากาศเหมาะสม นักทอ่ งเที่ยว
อาจจะได้ชมทะเลหมอกที่สวยงามและไปยืนจุดท่ีเป็น ดินแดนรอยต่อของสามจังหวัด สุพรรณบุรี – อุทัยธานี -
กาญจนบรุ ี การเดินทาง หนา้ ฝนควรเปน็ รถขบั เคล่ือน 4 ลอ้ สว่ นหนา้ แล้งรถยนต์น่ังธรรมดาก็สามารถไปได้แต่ควร
เปน็ รถกระบะ
3. น้ําตกตะเพนิ คน่ี อ้ ย
เป็นน้ําตกขนาดเล็กอยใู่ กลก้ บั หมู่บา้ นตะเพินคี่ มีน้ําไหลตลอดปี เป็นความงดงามทางธรรมชาติ ท่ีคน
ภายนอกไม่คอ่ ยได้มโี อกาสไปสัมผสั เหมาะสาํ หรับผทู้ ่รี กั การเดินทางแบบผจญภยั เลก็ ๆ
4. น้ําตกตะเพนิ คใ่ี หญ่
เป็นน้ําตกขนาดเลก็ มสี องชน้ั ความสูงประมาณชั้นละ 5-6 เมตร มีนาํ้ ไหลตลอดปีเพราะเป็นตน้ นํ้าและ
บ่อน้าํ ผดุ ทีเ่ กดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ และยังมถี ํา้ ทีส่ วยงามท่ยี งั อยรู่ ะหวา่ งการสาํ รวจ
156
5. วนอุทยานถ้ําเขาวง, ถาํ้ พหุ วาย
จาก อ.ด่านช้าง ไปทาง อ.บ้านไร-่ บ.สะนํา แยกซา้ ยไปวนอุทยานฯ หา่ งจากท่ีทาํ การหน่วยพทิ ักษอ์ ทุ ยานฯ
ท่ี 1 (พเุ ตย) รวมระยะทาง 52 ก.ม. ผา่ นวัดถํ้าเขาวง
การเดินทาง
หนว่ ยพิทกั ษ์อทุ ยานฯ พเุ ตยท่ี 1 (ด้านวงั คัน-ปา่ ข)ี หา่ งจากอาํ เภอดา่ นชา้ ง ประมาณ 33 กโิ ลเมตร ใช้
เสน้ ทางหลวงหมายเลข 333 เดินทางจากอาํ เภอด่านชา้ งถงึ บ้านวังคนั ประมาณ 15 กโิ ลเมตร และเลยี้ วซ้ายทีส่ าม
แยกบ้านวงั คนั ถงึ บา้ นปา่ ขี (เส้นทาง 4302) ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร แลว้ เดินทางต่ออกี 3 กิโลเมตร เป็น
ทางลาดยางตลอดเสน้ ทาง รถทุกชนดิ สามารถเขา้ ไปได้
ระยะทาง กรุงเทพ - หนว่ ยพิทกั ษอ์ ทุ ยานฯ ท่ี 1 (พเุ ตย - ปา่ ขี) 210 ก.ม.
ทที่ าํ การอทุ ยานฯพเุ ตย (พเุ ตย-ห้วยหนิ ดํา)
เดนิ ทางจากหน่วยพทิ ักษ์อุทยานฯที่ 1 ตรงไปตามทางลกู รงั ผ่านศาลเลาดาห์ และทางขน้ึ เขาสน (ถนนบาง
ช่วงเป็นหลมุ บอ่ ควรเป็นรถกระบะ) ระยะทาง 15 ก.ม.หรอื ถา้ มาจากกรงุ เทพ กอ่ นถงึ อ.ดา่ นช้าง แยกซา้ ยเขา้
เส้นทาง หมายเลข 3086 ถึงส่แี ยกบ้านปลกั ประดเู่ ลี้ยวขวาผ่าน - ท่งุ มะกอก – ห้วยหนิ ดาํ ตามปา้ ยไปจนถงึ ทที่ าํ
การฯ เปน็ ทางลาดยางตลอดเส้นทางรถทกุ ชนิดสามารถเข้าไปได้ ระยะทาง กรุงเทพ - ทที่ ําการอทุ ยานฯพุเตย
(พุเตย - หว้ ยหนิ ดํา) 240 ก.ม.
หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานฯ พเุ ตยท่ี 3 ตะเพนิ คี่ (ดา้ นปลกั ประด่-ู ตะเพนิ คี)่
จากอาํ เภอดา่ นชา้ ง เดนิ ทางไปบา้ นปลักประดู่ (เส้นทาง 3086) - บา้ นวังยาว ไปบ้านกลว้ ย ปา่ ผาก(ทาง
ลาดยาง) เล้ียวซ้ายขน้ึ เขาอีกประมาณ 14 ก.ม. (สภาพถนนเปน็ ทางลูกรงั ขรขุ ระ และเปน็ ทางขนึ้ เขาสูงชัน ควรเป็น
รถขับเคลอ่ื น 4 ลอ้ ในหนา้ ฝน และรถกระบะในหน้าแลง้ ) หม่บู า้ นกระเหรีย่ งตะเพนิ ค่ี
อยตู่ ิดเขตแนวกนั ชนมรดกโลก เขตรกั ษาพันธ์สุ ตั วป์ ่าห้วยขาแข้ง
ระยะทาง กรุงเทพ - หมู่บา้ นกระเหรี่ยงตะเพนิ ค่ี (หน่วยพิทกั ษอ์ ทุ ยานที่ 3) 260 ก.ม.
รา้ นอาหาร
1. ร้านอาหารปลาบู่ 2 เปน็ ร้านอาหารเกา่ แกท่ ม่ี ีชอื่ เสียงใน อ.ด่านช้าง เดมิ ทรี่ า้ นอยใู่ นตวั ตลาด ปัจจบุ นั
แยกออกมาตัง้ อยู่ ริมถนน เสน้ ทางไป อ.บา้ นไร่ จ.อทุ ัยธานี เปน็ รา้ นอาหารท่ีเนน้ ในเรอ่ื งรสชาตอิ าหาร บรรยากาศ
เรยี บๆ สะอาด การบริการท่คี อ่ นข้างรวดเร็ว แบบมืออาชพี
2. แพกระเสียว ตดิ กับเขือ่ นกระเสียว กอ่ นถงึ ทางเขาตวั เข่ือนแยกขวามอื 086-0762375
3. รา้ นบังเอญิ อสี าน โทร 035-595680
4. รา้ นอาหาร ดา่ นชา้ งแคม้ ปง้ิ เฮา้ ส์
5. ร้าน อบต.แดง โทร 035-595476, 081-0711248
6. รา้ นต้นกล้า โทร 089-4115976
7. รา้ นลุงแดง โทร 081-1993980
8. ร้านแพรวมใจ โทร 086-1636090
9. ครวั นมสด โทร 089-8373516
10. ตาํ นานคน โทร 035-595148
11. ร้านโอโซน โทร 086-5250868
12. ครวั หาดทราย โทร 081-7366311, 081-5715683
13. กว๋ ยเตย๋ี วเป็ดหน้าโครงการฯ 035-509515
157
14. ร้านอาหารเรณู 035-595353
15. ร้านลงุ ออ 035-509267
16. ร้านอาจารย์เจ๊ียบ 01-8807348
17. ร้านอาหาร ตดิ ลม โทร. 085-1715888
18. ร้านอาหาร เรอื นขา้ หลวง
ของฝาก ของท่รี ะลกึ
1. กลุ่มแมบ่ า้ นเกษตรกรแกม้ เจา้ จอม ทอ่ี ยู่ ต.ด่านช้าง (ขนมทองม้วนสมนุ ไพร) โทร 035-529004
2. กลมุ่ อาชีพหตั ถกรรมรากไม้ ทอ่ี ยู่ บ้านหนองผอื ต.ด่านชา้ ง (งานหัตถกรรม) โทร 035-529200
3. กลุ่มสตรกี ะเหรยี่ งทอผ้าสธี รรมชาติบา้ นห้วยดนิ ดํา ทอี่ ยู่ ต.วงั ยาว (ผา้ ทอ) โทร 035-440010
4. กลมุ่ ทอผ้าบา้ นปา่ ผาก ทีอ่ ยู่ ต.วังยาว (ผา้ ทอ) โทร 035-440010
5. กลุ่มทอผ้าลายโบราณบา้ นทุ่ง ท่อี ยู่ ต.ห้วยขม้ิน (ผา้ ทอ) โทร 086-0410985
อําเภอเดมิ บางนางบวช
1. บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ
บงึ ฉวากเฉลมิ พระเกียรติ เปน็ บึงนํ้าธรรมชาตขิ นาดใหญ่ มพี น้ื ท่ที ั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยหู่ ่างจากตัว
อําเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมีพน้ื ทีต่ ิดต่อกบั อาํ เภอหนั คา จงั หวัดชัยนาทและอําเภอเดมิ บาง
นางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนท่ีอยู่ในเขตอําเภอเดิมบางนางบวชมีพื้นท่ีประมาณ 1,700 ไร่
บึงฉวากได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ามาต้ังแต่ปี พ.ศ. 2526 และในปี พ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็น
พื้นที่ชุ่มน้ําที่มีความสําคัญระดับชาติตามอนุสัญญาแรมซาร์ท่ีประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี เนื่องจากความ
หลากหลายของพันธ์ุพืชและสัตว์ที่มีในบึง ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพ้ืนที่ชุ่มน้ําตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือ พื้นท่ีลุ่ม
พ้ืนท่ีราบลุ่ม พื้นท่ีลุ่มชื้นแฉะ พ้ืนท่ีฉํ่าน้ํา มีนํ้าท่วม น้ําขัง พ้ืนท่ีพรุ พื้นที่แหล่งนํ้า ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่
มนุษย์สร้าง ท้ังท่ีมีน้ําขังหรือน้ําท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ํานิ่งและน้ําไหล แหล่งนํ้าจืด นํ้ากร่อยและนํ้าเค็ม
รวมไปถึงพ้ืนที่ชายฝ่ังทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ําลดต่ําสุด น้ําลึกไม่เกิน 6 เมตร ซ่ึงบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะ
ดังกล่าว คือเป็นบึงนํ้าจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1–3 เมตร
158
พ้ืนท่บี งึ ฉวากอยใู่ นความดูแลของหนว่ ยราชการในสงั กดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมปศุสตั ว์ กรมส่งเสริม
การเกษตรและอตุ สาหกรรม เปน็ ตน้
เมือ่ ปี พ.ศ.2538 ฯพณฯบรรหาร ศลิ ปอาชา เปน็ นายกรัฐมนตรี ไดพ้ ัฒนาบึงฉวากเพื่อเป็น การเฉลิมฉลอง
สิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเป็นท่ีมาของช่ือ บึงฉวาก เฉลิมพระเกียรติ และ
มีการสร้างสวนสัตว์ อาคารแสดงพันธ์ุสัตว์น้ําอุทยานผักพื้นบ้าน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวท่ีสมบูรณ์มีความ
หลากหลาย ภายในบึงฉวากมีบรกิ ารนวดแผนไทย และเรอื เรว็ บรกิ าร
ริมบึงฉวากมีบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบายตลอด ในบริเวณบึงเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงและชมพู
ในช่วงตอนเช้าบัวจะบานสวยงาม นกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน
พฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมและนกจะทยอยกลับในช่วงเดือนเมษายน มีศาลาสําหรับเป็นท่ีพักผ่อนหย่อนใจของ
ประชาชน มบี ริการข่ีจกั รยานนา้ํ นักทอ่ งเท่ยี วสามารถขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมริมบึง ปัจจุบันกําลังมีการพัฒนา
บงึ ฉวากให้เป็นสถานที่ท่องเท่ียวสาํ คัญของจังหวัดสพุ รรณบรุ ี มีสถานที่ท่องเทีย่ วน่าสนใจอยู่ในความดแู ลเชน่ สถาน
แสดงพันธ์สุ ตั ว์นาํ้ บงึ ฉวากเฉลมิ พระเกยี รติ เปน็ หน่วยงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในอาคาร
แสดงพันธุ์สัตว์น้ํารวบรวมพันธ์ุปลานาํ้ จืด ปลาสวยงามและพันธุ์ปลาหายากเอาไว้ให้ประชาชนได้ศึกษา แบ่งเป็น 3
อาคาร
อาคารแสดงสัตว์นํ้าหลังท่ี 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์นํ้าจืดและสัตว์น้ําเค็ม ท้ังพันธุ์ปลาไทยและพันธุ์ปลา
ตา่ งประเทศกวา่ 50 ชนดิ เชน่ ปลาบกึ ปลากระโห้ ปลาม้า ปลากราย ปลาชอ่ นงูเห่า ปลาเสอื ตอ เป็นต้น
อาคารแสดงสตั วน์ ้าํ หลังท่ี 2 ประกอบดว้ ยตปู้ ลาขนาดใหญ่สวยงามบรรจนุ าํ้ ไดก้ วา่ 400 ลกู บาศก์เมตร
และมอี โุ มงค์ความยาวประมาณ 8.5 เมตร ผชู้ มสามารถเดนิ ลอดผ่านใตต้ ปู้ ลาได้บรรยากาศเหมือนอยู่ใกลส้ ตั วน์ ้าํ
ซ่ึงถอื วา่ เป็นอโุ มงค์ปลาน้ําจืดแหง่ แรกของประเทศไทย มนี กั ประดานํา้ หญิงสาธิตการให้อาหารปลา นอกจากน้นั
โดยรอบยังมตี ปู้ ลาน้าํ จืดอกี 30 ตู้ และตู้ปลาทะเลสวยงามอีก 7 ตู้ การแสดงตปู้ ลาใหญ่มีเฉพาะในวนั เสาร์ อาทติ ย์
และวันหยดุ นกั ขัตฤกษ์ มี 4 รอบ ต้ังแต่เวลา 10.30-16.00 น.สถานแสดงพันธสุ์ ัตวน์ าํ้ บงึ ฉวากเฉลมิ พระเกยี รติ เปดิ
ให้เข้าชมทกุ วนั ไม่เว้นวันหยุดราชการ ค่าเข้าชม ผูใ้ หญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท วนั จนั ทร์-ศกุ ร์ เปิดเวลา 08.30–
17.00 น. วันเสาร์ - อาทติ ย์ เปดิ เวลา 08.30–18.00 น.
อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์นาํ้ หลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใตท้ ะเล) จดั แสดงพันธุ์ปลาทะเลมากมายหลาย
ชนิดให้ได้ชม มีตปู้ ลาขนาดใหญ่ และตูป้ ลารปู ทรงแปลกตา เพอ่ื คอยบรกิ ารนักทอ่ งเทย่ี วใหไ้ ดช้ ื่นชมกบั ความ
สวยงามและบรรยากาศของโลกใตท้ อ้ งทะเล รวมทง้ั ตื่นตาต่ืนใจกบั อุโมงค์ปลา และบนั ไดเลอื่ น ขนาดความยาว 75
เมตร เพอื่ ใหไ้ ด้ศกึ ษาสภาพความเป็นอยขู่ องสตั วท์ ะเลอยา่ งใกลช้ ดิ รวมทั้งบ้านของเจา้ แหง่ ท้องทะเล หรอื ปลา
ฉลามอีกจาํ นวนมาก สถานแสดงพันธสุ์ ัตวน์ าํ้ บงึ ฉวากเฉลิมพระเกยี รติ เปิดให้เขา้ ชมทกุ วันไม่เว้น
วนั หยุดราชการ ค่าเขา้ ชม ผใู้ หญ่ 150 บาท เดก็ 50 บาท ชาวต่างชาติ ผ้ใู หญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท วนั จนั ทร์
- ศกุ ร์ เปิดเวลา 09.00-17.00 น. วนั เสาร์ - อาทติ ย์ เปิดเวลา 09.00 - 18.00 น.สอบถามขอ้ มลู เพ่มิ เติมไดท้ ี่
โทร. 0 3543 0043-4, 0 3543 0033 โทรสาร 0 3543 9208
เวทีริมบึง มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรี นําการแสดง
ศลิ ปะพ้ืนบา้ นทห่ี าดูได้ยากมาให้ชมในชว่ งวนั หยุดเทศกาล
บ่อจระเข้น้ําจืด เป็นบ่อจระเข้ท่ีได้จําลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดพ้ืนที่ประมาณ 3 ไร่ มี
จระเข้น้ําจืดพันธ์ุไทยขนาด 1.5 – 4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว ซ่ึงผู้ชมจะได้เห็นความเป็นอยู่แบบธรรมชาติของ
159
จระเข้และสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด มีการแสดงจระเข้วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบ 11.00 น. -
12.30 น. , 14.00 น. และ 15.30 น.
ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช มีศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สร้างขึ้น
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีท่ี 50 ประกอบไปด้วย อาคาร
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเล้ียงสัตว์ป่าชนิดต่างๆ การดูนก สภาพทาง
ภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมาของบึงฉวาก มีตู้จําลองระบบนิเวศ ห้องฉายสไลด์วิดีทัศน์ ด้านนอกอาคารมี กรง
เล้ียงนก ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ สูง 25 เมตร ภายในกรงได้รับการตกแต่งให้ดูคล้ายสภาพธรรมชาติ
ประกอบด้วยนกกว่า 45 ชนิด ที่น่าสนใจได้แก่ นกกาบบัว นกเป็ดแดง ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าสีทอง ซึ่งกล่าวกัน
ว่าเปน็ ไก่ฟ้าท่มี ีความสวยงามที่สดุ ในโลก มีการจาํ ลองนา้ํ ตกขนาดเลก็ เอาไว้ภายในกรง ผเู้ ขา้ ชมจะเดนิ ตามทางเดนิ
ที่จัดไว้และได้สัมผัสใกล้ชิดกับนกต่างๆ ที่ปล่อยให้มีชีวิตอยู่ในสภาพแบบธรรมชาติเดินผ่านหน้าเราไป หากเดิน
ถัดไปจากกรงนก จะเป็นกรงเสือขนาดใหญ่ กรงเสือขนาดเล็ก มีเสือชนิดต่างๆ ให้ชมและ ท่ีพิเศษคือ มีลูกเสือดูด
นมหมู และสัตว์สวยงามอีกหลายชนิดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมท่ี ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิด
ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 08.00–16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00–18.00 น. โทร. 0 3543 9206, 0 3543 9210
สาํ นักงานเขตห้ามลา่ สัตว์ป่าบงึ ฉวาก โทร. 0 3548 1250
กรงเสือและสงิ โต ลกั ษณะภายในตกแต่งเปน็ ถา้ํ และเนินหนิ ให้ดคู ลา้ ยสภาพธรรมชาติ ซึง่ เป็นกรงเล้ียง
สัตว์ปา่ ตระกลู แมว อันไดแ้ ก่ สิงโต เสือโครง่ เสือลายเมฆ เสอื ดาว แมวดาว เป็นต้น นอกจากนน้ั ยงั มกี รงสัตว์ป่า
หายากอีกหลายประเภทท่ีจดั แสดงไว้ เช่น นกนํ้า นกยงู และไกฟ่ ้าชนดิ ตา่ งๆ ม้าลาย อฐู และนกกระจอกเทศ
เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเตมิ ที่ ศนู ย์พัฒนาการจัดการสตั วป์ ่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250
เกาะกระต่าย พน้ื ท่ีคล้ายเกาะ สร้างเปน็ ที่พักของกระตา่ ย 2 สายพันธุ์ คือ สายพนั ธเุ์ จอรซ์ ่ี วูลล่ี และ
สายพันธแ์ุ องโกรา่ ทม่ี ีความนา่ รักและสวยงาม รวมทง้ั ยงั มีกวางดาว เน้อทราย และจากสาเหตทุ ่ีเปน็ เกาะมีพนื้ ทีน่ า้ํ
ลอ้ มรอบ จงึ เลย้ี งปลาไว้ในกระชงั อีกจาํ นวนมาก เพ่อื ให้ผู้คนได้พักผอ่ นอกี ประเภทหนึ่ง โดยการให้อาหาร เช่น
ปลาทอง ปลาคาร์ฟ ปลาสวายเผอื ก ฯลฯ ศนู ยพ์ ฒั นาการจัดการสตั วป์ า่ บงึ ฉวาก เปิดทุกวัน จันทร-์ ศกุ ร์
เวลา 08.00–16.30 น. เสาร-์ อาทติ ย์ เวลา 08.00–18.00 น.
ศูนย์จาํ หน่ายสินคา้ หนึ่งตําบล หนึ่งผลติ ภัณฑ์ อาคารสองช้นั ตดิ กรงนกขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าทัง้ ของกนิ
และของใช้จากจังหวัดสพุ รรณบรุ มี าไว้ทีน่ ่ี นอกจากจะแสดงสินคา้ ภายในจงั หวดั แล้ว ยังรวบรวมสนิ ค้าจากจังหวัด
ใกล้เคยี งมาไว้ในอาคารนีอ้ กี ดว้ ย
โรงสชี มุ ชน สถานทรี่ ับรองผลผลติ ของเกษตรกรชาวนาทป่ี ลูกข้าวปลอดสารพษิ นาํ ผลผลิตที่ไดม้ าส่งให้
โรงสีขนาด 5 ก.ก. ตอ่ ชั่วโมง เพ่ือแปรรปู เปน็ ขา้ วสารปลอดสารพิษบงึ ฉวาก ออกจําหนา่ ยเพ่อื เป็นรายไดเ้ สริม
ของเกษตรกร และอกี ทางเลอื กหนึ่งของผบู้ รโิ ภค
อทุ ยานผกั พ้นื บา้ นเพือ่ การยงั ชีพ ฉลมิ พระเกยี รติบงึ ฉวาก อยูใ่ นความดแู ลของกรมสง่ เสรมิ การเกษตร
จดั ตัง้ ขนึ้ เพ่อื สร้างจติ สํานึกใหป้ ระชาชนท่วั ไปเห็นคุณค่าและอนุรกั ษผ์ ักพน้ื บ้าน โดยรวบรวมผกั พื้นบ้านจากทวั่
ภูมิภาคของประเทศไทยกว่า 500 ชนิด มาปลูกไวใ้ นบรเิ วณเกาะกลางบงึ ฉวาก มที ัง้ สมนุ ไพร ไมย้ นื ตน้ ไมเ้ ลอื้ ย
ไม้ลม้ ลกุ และไม้ชน้ื แฉะทนี่ ่าสนใจได้แก่ น้าํ เต้าส่เี หลี่ยม บวบหอมขนาดใหญ่ อโุ มงค์น้ําพุ และการจดั สวนไม้ประดับ
ด้วยผักพ้ืนบา้ น
นอกจากน้ันยงั มีโรงปลกู พืชระบบระเหยนํา้ และสาธิตการปลูกพชื ไรด้ นิ จดั แสดงใหช้ มด้วย และมหี อ้ งสมุด
160
บรกิ ารคอมพวิ เตอรส์ ําหรบั คน้ คว้าข้อมูลพนั ธุผ์ ักต่างๆ หอ้ งนิทรรศการแสดงผลผลติ ทางการเกษตร ศนู ย์บริการ
ท่องเท่ยี วเกษตรอทุ ยานผกั พ้นื บ้านฯ เปิดให้เขา้ ชมทุกวนั ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.
สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ไดท้ ่ี โทร. 08 1948 9214, 08 9836 1358 โทร. 0 3543 0011 หรอื สาํ นักงานเกษตร
อาํ เภอเดิมบางนางบวช โทร. 0 3554 5450, 0 3555 5455
การเดนิ ทาง
จากถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เมื่อถงึ อําเภอเดิมบางนางบวช สามารถเข้าไป
ได้ 2 ทาง คือ เมื่อถึงสี่แยกทางเข้าตัวอําเภอเดิมบางนางบวช เล้ียวซ้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ําท่าจีน ตรงไปจนพบ
สามแยกตดั กับถนนเลยี บคลองชลประทาน ใหเ้ ลีย้ วขวาไปตามถนนเลยี บคลองชลประทาน
อกี เสน้ ทางหนง่ึ ไปตามทางหลวงหมายเลข 340 หลักกิโลเมตรท่ี 147 ดา้ นซา้ ยมือจะเหน็ โรงเรยี น
วัดเดิมบางนางบวช ให้เล้ียวซ้ายเข้าซอยข้างโรงเรียน ข้ามแม่นํ้าแล้วตรงไปเรื่อยๆ เม่ือถงึ สามแยกตัดกับถนนเลียบ
คลองชลประทานใหเ้ ลยี้ วขวาไปตามถนน จนพบสะพานข้ามคลองชลประทานด้านซ้ายมือ ให้เล้ียวซ้ายข้ามสะพาน
แลว้ ตรงไปเร่อื ยๆ จะเห็นบึงฉวาก
ส่ิงอํานวยความสะดวกสําหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (เฉพาะสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ําบึงฉวาก
เฉลมิ พระเกียรติ)
ทางลาด มที างลาดหลายจดุ ท้ังทางลาดภายในอาคารโดยทางลาดภายในอาคารมีความชัน ควรมผี ชู้ ว่ ย
เหลอื คนท่ีใช้ Wheel Chair ในการข้ึนทางลาด
ปา้ ยสัญลักษณ์ จดั ไวห้ ลายจดุ บริเวณหนา้ ห้องสว้ ม ทางลาด และบรเิ วณทางเข้า
หอ้ งสว้ ม มหี อ้ งนํา้ เฉพาะ 1 ห้องด้านนอกอาคารแบบไม่แยกเพศ มีบริการรถเข็นสาํ หรบั คนพิการและ
ผสู้ งู อายุฟรี วนั เปิดทําการ : วนั จันทร์ – วันอาทติ ย์ เวลาเปดิ ทําการ : 10.00 - 17.00
ทีอ่ ยู่ หา่ งจากตวั อาํ เภอเมืองสพุ รรณประมาณ 64 กโิ ลเมตร มพี น้ื ทตี่ ดิ ตอ่ กับอาํ เภอหันคา จังหวัดชัยนาท
และอําเภอเดมิ บางนางบวช จังหวดั สพุ รรณบรุ ี
2. วัดหวั เขา
วัดหัวเขาต้ังอยู่หมู่ 2 ตําบลหัวเขา อําเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี โดยอยู่ห่างจาก ตัวจังหวัด
ประมาณ 60 กิโลเมตร หากต้องการมาเยี่ยมชม ให้ขับรถยนต์ ผ่านเข้าตัวอําเภอเดิมบางนางบวช แล้วไปตามทาง
161
หลวงหมายเลข 3350 ประมาณกิโลเมตรท่ี 2-3 เมอ่ื ถงึ วดั หัวเขาจะเห็นบันไดขึ้น-ลงเขาทําด้วยคอนกรีตจํานวนรวม
212 ขั้น หนึ่งในหลวงพ่อของวัดหัวเขาที่ชาวไทยจํานวนมาก ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างสูง ก็คือ
“หลวงพ่ออิ่ม”หลวงพ่อน้ัน เป็นคนที่เคร่งในพระธรรมวินัยมาก เดิมทีท่านเป็นพระธุดงค์มาจากเมืองอื่น แล้ว
เดินทางมาปักกลดปฏิบัติธุดงควัตรอยู่บริเวณบ้านหัวเขา อําเภอเดมิ บางนางบวช ซ่ึงแต่เดิมเป็นป่ารกทึบ ท่านเห็น
ว่าอาณาบริเวณน้ีมีความสงบร่มรื่นเหมาะแก่การสร้างเป็นวัด จึงได้สร้างเป็นวัดข้ึนมาชื่อว่า“วัดหัวเขา”และท่านก็
ดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมา ท่านก็ได้เดินทางไปศึกษากับหลวงปู่และหลวงพ่ออีกหลายท่าน ซึ่งทุก
คนล้วนชื่นชมท่านเป็นอย่างมาก เมื่อศึกษาเสร็จ ท่านก็กลับมาจําพรรษาที่วัดหัวเขาต่อ ในช่วงเวลานั้น ท่านได้
พฒั นาวดั แห่งนี้จนเปน็ วัดท่เี จรญิ มากวัดหนงึ่ ในสมยั นัน้ มีลูกศิษยม์ ากมาย และได้สรา้ งเครอ่ื งรางของขลังหลายชนดิ
เช่น ตะกรุดแบบต่างๆ รวมท้ังผ้ายันต์ เหรียญปั๊ม เหรียญหล่อโบราณ รูปหล่อโบราณ (นางกวัก) แหวนแบบต่างๆ
พระผงใบลาน เป็นตน้ ซ่งึ เครอ่ื งรางของขลังของหลวงพ่อน้ัน ได้รับการกล่าวขานในวงการพระเคร่ืองว่า มีคุณวิเศษ
ในด้านบันดาลความมงั่ มีศรสี ขุ เมตตามหานยิ ม ไปมาค้าขาย ดีมาก อยู่ยงคงกระพันชาตรี เป็นอย่างมาก สําหรบั ผู้
ท่ีต้องการมาเย่ียมชมวัดแห่งน้ี สามารถมาได้ทุกวันต้ังแต่เวลา 8.00-17.00 น. ท้ังน้ี ทุกปี ทางวัดจะจัดงาน
ประเพณีตักบาตรเทโว ซ่ึงเป็นพิธีทําบุญของชาวไทยในเทศกาลออกพรรษา งานเริ่มหลังจากวันออกพรรษา 1 วัน
คือ แรม 2 ค่ํา เดือน 11 หากมาในชว่ งเวลาดังกลา่ ว จะมีผคู้ นมาร่วมทําบญุ เป็นจาํ นวนมาก ทําให้บรรยากาศคึกคัก
ไปอีกแบบ เวลาเปดิ ทําการ : 08.00 - 17.00
3. วดั เขาข้ึน หรอื วัดเขานางบวช (วดั พระอาจารยธ์ รรมโชต)ิ
วัดเขานางบวช หรือที่เรียกกันว่า วัดเขาข้ึน ต้ังอยู่ที่ ตําบลนางบวช อําเภอเดิมบางนางบวช จังหวัด
สุพรรณบุรี หา่ งจากจังหวัดไปทางทิศเหนือประมาณ 51 กิโลเมตร หากขับรถยนต์มา ให้ไปตามทางหลวงหมายเลข
340 กิโลเมตรท่ี 138-139 จะมีทางลาดยางขึ้นไปจนถึงวัดซึ่งตั้งอยู่บนเขานางบวช หรือจะเดินข้ึนบันได 249 ข้ัน
ไปจนถงึ ยอดเขาวัดแห่งน้ใี นอดีตมคี วามสาํ คญั มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงปี พ.ศ.2308 สมยั สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ
ในขณะท่ีพม่าต้ังค่ายล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ พระอาจารย์ธรรมโชติผู้ซ่ึงจําพรรษาอยู่ท่ีวัดแห่งน้ี เป็นพระที่มี
ความสําคญั ในศึก ชาวบ้านบางระจันอย่างมาก ท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านเคร่ืองราง ของขลัง ชาวบ้านบางระจันจึง
นิมนต์ไปเป็นขวัญและกําลังใจในการสู้รบกับพม่า ท่านพร้อมด้วยชาวบ้านคนอื่นๆพากันต่อสู้กับพม่าอย่างเข้มแข็ง
แล้วสชู้ นะถึง 7 ครัง้ แต่มาพา่ ยแพ้ในครั้งที่ 8
162
ภายในวัด มีส่ิงท่ีน่าสนใจมากมาย เร่ิมด้วย “มณฑปพระอาจารย์ธรรมโชติ” ในมณฑปนี้ มีสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ
หลายอย่าง ไมว่ า่ จะเป็น พระบรมสารีริกธาตุ ซึง่ ไดร้ บั มอบจากรัฐบาลไทย , พระพุทธไม้หลวงพ่อแก่นจันทร์ (องค์สี
ทอง) เป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากไม้แก่นจันทร์ สร้างข้ึนในสมัยพระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นพระพุทธรูปประจําวัดที่
ศักด์ิสิทธ์ิมาก , พระพุทธรูปไม้ สร้างขึ้นตามแบบพม่า และ รูปหล่อพระอาจารย์ธรรมโชติที่ชาวบ้านให้ความนับถือ
เป็นอย่างมาก จุดท่ีน่าสนใจจุดต่อมา เป็น “พระพุทธรูปปูนป้ันองค์ใหญ่” ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา เป็น
พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา มีความศักด์ิสิทธิ์เป็นอย่างมาก และเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวัด สุดท้าย “วิหาร
พระอาจารยธ์ รรมโชติ” ภายในประดษิ ฐานรอยพระพุทธบาทจาํ ลอง (สําริด) ที่มีอายยุ าวนาน ดา้ นนอกวหิ ารจะเห็น
เจดีย์หินแผ่น เป็นหินแผ่นบางๆ วางซ้อนเป็นรูปเจดีย์ขนาดไม่สูงมากตั้งอยู่ติดกับวิหาร ผู้ใดสนใจมาเยี่ยมชมวัดน้ี
สามารถมาไดท้ ุกวนั ตงั้ แตเ่ วลา 8.00-17.00 น.
4. วดั เดมิ บาง
วัดเดิมบางตั้งอยู่เลขท่ี 233 หมู่ที่ 1 ตําบลเดิมบางนางบวช อําเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยต้ังอยู่ริมแม่น้ําท่าจีนฝ่ังด้านทิศตะวันออก ห่างจากจังหวัดประมาณ 55 กิโลเมตร วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.
2425 คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยเดียวกับวัดใต้ วัดบนยอดเขาใหญ่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จ
พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ได้เสดจ็ มาประทบั ท่ีหน้าวัดเดมิ บาง และพระราชทานนามวดั ว่า "วดั คงคาราม"
สิ่งทนี่ ่าสนใจภายในวดั ไดแ้ ก่ “ธรรมาสน”์ ทสี่ ร้างโดยช่างชาวจนี เปน็ ศิลปะไทยผสมจนี แกะสลัก จากไม้
ขนุน สร้างเม่ือ พ.ศ. 2458 แต่มาแล้วเสร็จ พ.ศ. 2466 ปัจจุบันเก็บไว้บนศาลาการเปรียญ ต่อมา คือ
“หอสวดมนต์” ภายในมีการเก็บของมีค่าของวัดไว้ 3 ชิ้น ได้แก่ ฝาบาตรมุก ตาลปัตร และป่ินโต ซ่ึงรัชกาลท่ี 5
พระราชทานแกว่ ัด ทางวัดเกบ็ รกั ษาไวอ้ ยู่ในสภาพดี ถดั ไปคอื “มณฑปหลวงพอ่ แจม่ – หลวงพอ่ แบน” ภายในยอด
มณฑป ไดบ้ รรจพุ ระบรมสารีริกธาตุ และมรี อยพระพุทธบาทจาํ ลองที่มีอายุนานกว่า 100 ปี ต่อมาเป็น “หอระฆัง”
หอนี้ได้รับก่อสร้างอย่างประณีตสวยงาม สุดท้ายคือ “พระอุโบสถ” ที่ได้รับการบูรณะใหม่ ภายในมีพระประธาน
ปางป่าเลไลยก์ที่งดงามเป็นอย่างมาก ผนังรอบพระอุโบสถก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสภาพสมบูรณ์ ในเร่ืองของ
จิตรกรรมน้ี แต่เดิมสันนิษฐานว่าคงมีการเขียนท้ังด้านในและด้านนอกของอาคา แต่ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะภายใน
163
อาคารเท่านั้น โดยเขียนเต็มผนังท้ังส่ีด้าน เว้นเฉพาะช่องประตูและหน้าต่าง ผนังตอนบน จะเขียนภาพเทพยดา
ทั้งหมด มาน่ังชุมนุมกัน และภาพอดีตพระพุทธเจ้า ประทับนั่งปางมารวิชัย ส่วนผนังตอนล่าง เขียนภาพพุทธ
ประวตั ิ และทศชาตชิ าดกในบางเร่อื ง
หากผูใ้ ดสนใจจะเดนิ ทางมาสักการะส่ิงศักดส์ิ ิทธแ์ิ ละชมความงดงามของวดั แหง่ นี้ สามารถเดินทางมาทีน่ ีไ่ ด้
ทกุ วัน ตั้งแตเ่ วลา 8.00 - 17.00น.
5. ตลาดทา่ ชา้ ง
EVIEW LARGE IMAGE
ตลาดท่าช้าง ตั้งอยู่ท่ี อําเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี อยู่
ในอําเภอเดิมบางนางบวช เปน็ ชมุ ชนขนาดใหญอ่ ยตู่ อนเหนือสุดของเมอื งสพุ รรณฯ เป็นตลาดติดริมแม่น้ํา ทา่ จีนอีก
แห่งหน่ึง อดีตเป็นแหล่งศูนย์รวมการค้าใหญ่อีกแหล่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี และนับเป็นตลาดท่ีรุ่งเรืองมาก
แต่เดิมตวั ตลาดหนั หน้าลงแมน่ า้ํ พอ่ ค้าแมค่ า้ ส่วนใหญ่เป็นคนจนี สินคา้ ท่ที ําการค้าขาย ได้แก่ สินค้าทางการเกษตร
พริก หอม กระเทียม และข้าว รวมทั้งสินค้าอุปโภคอนื่ ๆ เช่น สบู่ ผงซักฟอก ในบริเวณท่ีตั้งของตลาดมีโรงสีตั้งอยู่
สมัยก่อนการเดินทางไปยังตัวจังหวัดพรรณบุรีต้องเดินทางโดยทางเรือ ผู้จะเดินทางเข้าจังหวัดจะต้องมาขึ้นเรือที่
ทา่ เรือหน้าตลาดแหง่ น้ี
แต่เม่ือปี พ.ศ. 2501 เกิดไฟไหม้ตลาด ทําให้บ้านเรือนโบราณสวยงามทีส่ ร้างด้วยไม้ถูกเผาทําลายไปเสีย
ส่วนใหญ่ กว่า 600 หลัง คงหลงเหลือเพียงบ้านที่อยู่รอบๆห่างออกมาไมก่ ่ีหลัง (อย่างเช่นร้านอาหารเล็กเสี่ยวหงส์)
แต่ถึงจะโดนเผาทําลายไปแล้ว ตลาดที่สร้างขึ้นมาใหม่ปัจจุบันก็มีอายุกว่า 50 ปีแล้ว รวมกับบ้านเก่าท่ียังคง
หลงเหลืออยู่ ทั้งวิถีชีวิตและอาหารการกิน มีอาหารท้ังเก่าและใหม่ที่อร่อยมากมายหลายชนิด ก็เป็นเสน่ห์ท่ีน่า
คน้ หา สําหรับนักเดนิ ทางที่ชอบบรรยากาศของการท่องเทีย่ วทไ่ี ม่ใช่สถานทท่ี อ่ งเทยี่ ว
อีกหน่ึงจุดท่ีน่าสนใจของตลาดท่าช้างคือ ร้านโชหว่ ยตลาดท่าช้าง ซ่ึงเป็นสถานที่รวบรวมของเก่าที่หาดูได้
ยาก และเปน็ ความสุขทางใจของผ้ทู ี่รักการสะสมของเก่าที่วันวานไม่สามารถหวนกลับคืนได้ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ของการมีชีวิตอยู่ของคนร่วมสมัย บรรยากาศของตลาดท่าช้างในปัจจุบันไม่ได้แตกต่างจากเม่ือ 30 ปีมากนัก
สภาพบ้านเรือนวิถีชีวิตยังคล้ายสมัยก่อน ทว่าการเดินทางโดยรถโดยสารน้ันสะดวกและรวดเร็วมากข้ึน ปัจจุบัน
ตลาดท่าช้างยังมี ตลาดยามเย็น "ท่าช้างเดินเพลิน" ถนนคนเดินสไตล์ย้อนยุคที่กําลังได้รับความนิยมเป็นอย่าง
มากของชาวสพุ รรณบรุ ีและนักทอ่ งเท่ียว เวลาเปดิ ทําการ : 08.00 - 04.00
164
6. ถนนดอกคนู สุพรรณบรุ ี
ช่วงนี้ดอกตาเบบูญ่าร่วงหมดแล้ว แต่ดอกคูนกลับมาเพิ่มความงามให้กับ ถนนสายดอกไม้ และถนนอีก
หลายสายในจังหวัดสุพรรณบุรี กําลังสดใสสวยงามด้วย ดอกคูนสีเหลืองท่ีกําลังบานสะพรั้ง โดยเฉพาะถนน 340
เส้นไปบึงฉวาก ตง้ั แต่ อําเภอศรปี ระจันต์ ตลอดทง้ั สองขา้ งทาง ดอกคนู แข่งกันออกดอกสวยงาม
ประวตั ิ ความเปน็ มาของ ราชพฤกษ์ หรอื คูน
ดอกราชพฤกษ์เป็นดอกไม้ประจําชาติไทย หรือที่เราเรียกกันว่า ดอกคูน (Golden shower) ช่ือของ
ราชพฤกษ์น้ันมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถ่ิน ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า
ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือ ลักเคย ชาวกะเหรี่ยงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพยะ มีช่ือทางวิทยาศาสตร์Cassia
fistula เป็นไม้ดอกในตระกูล Fabaceae เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียใต้ ต้ังแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึง
อินเดีย พม่า และศรีลงั กา นยิ มปลูกเปน็ ไมป้ ระดับในพน้ื ที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เจรญิ เติบโตไดด้ ที ส่ี ุดในท่โี ลง่ แจ้ง
ทนต่อความแห้งแลง้ และดนิ เค็มไดด้ ี
ร้านอาหาร
1. รา้ นเลก็ เสี่ยวหงส์ (อาหาร & บรรยากาศ) บรรยากาศรมิ แมน่ ้าํ ในตลาดท่าชา้ งไม่ไกลจากบงึ ฉวาก
อาหารไทย-จีน ปลาแมน่ ํา้ และอาหารทะเล รสชาตภิ ัตตาคาร กบั บ้านโบราณ ริมแม่นา้ํ ทา่ จนี
โทร. 035-508722, 086-5741407
2. แพขุนวัง (อาหาร & บรรยากาศ) สบายๆกบั ร้านอาหารบนแพรมิ น้าํ เมนแู นะนาํ ปลามา้ ปลาคงั ลวก
จม้ิ เปด็ อบยอดผัก ยาํ ผกั บงุ้ กรอบ แกงค่ัวหอยขม ปลาทบั ทิมทอดกระเทียม จากสามแยกไฟแดงข้ามสะพานแม่
นํ้าทา่ จนี เลย้ี วขวาเขา้ ตลาดทา่ ชา้ ง รา้ นจะอยู่ด้านขวามือ โทร 035-515500
3. ร้านลายไม้ (อาหาร) อยใู่ นบริเวณบึงฉวาก ตรงข้ามกับทางเขา้ อโุ มงคป์ ลา เมนูแนะนํา อาหารพนื้ บา้ น
ปลาแมน่ าํ้ ส้มตาํ ไกย่ ่าง เปดิ บริการ 10.00-21.00 น. โทร. 081-7952282
4. ตาหนา๊ํ บะหมี่-เกีย๊ ว (จานด่วน) ท่ารถ บขส. ตลาดท่าชา้ ง ใกลบ้ งึ ฉวาก โทร. 081-8809981
5. กว๋ ยเต๋ียวเปด็ เจ้วฑิ รู อาํ เภอเดมิ บางนางบวช (จานดว่ น)
6. ร้านอาหารตาดํา อยรู่ มิ ถนนสายสุพรรณบรุ ไี ป จ.ชยั นาท
7. รา้ นจินดา 2 ซา้ ยมือตดิ ถนนสพุ รรณ - ชัยนาท กอ่ นถงึ สามแยกไฟแดงไปตลาดทา่ ช้าง
โทร 035-516005-6
8. สวนอาหารเฟ่อื งฟ้า ตงั้ อยรู่ มิ ถนนสายสพุ รรณบรุ ไี ปจงั หวดั ชัยนาท
ของฝาก ของทีร่ ะลกึ
1. กลุ่มจกั สานผกั ตบชวา ที่อยู่ บา้ นหว้ ยทราย (งานหตั ถกรรม) โทร 081-8583548
2. ทานตะวนั ชอ๊ ป ทอ่ี ยู่ ต.เดิมบาง (ขนม) โทร 035-578090
3. เรือนรกั สมนุ ไพร ท่ีอยู่ ต.นางบวช (สมนุ ไพร) โทร 035-515366
165
4. กลมุ่ ทอผา้ โบราณ ลาวซ-ี ลาวคั่ง ทอี่ ยู่ บา้ นท่งุ ก้านเหลอื ง ต.ป่าสะแก (ผา้ ทอ) โทร 089-9622864
5. กลมุ่ ทอผ้าโบราณบ้านหนองกระท่มุ ทอี่ ยู่ ต.หนองกระทมุ่ (ผ้าทอ) โทร 035-575782
6. กลมุ่ ทอผ้าธปู หอมมงคลนมิ ติ ทอี่ ยู่ ต.หนองกระทมุ่ (ผา้ ทอ) โทร 035-575034
7. หน่อไมไ้ ผต่ งแกะสลัก ทอี่ ยู่ ต.เขาพระ โทร 081-1926730
อาํ เภอบางปลามา้
1. อุทยานมจั ฉา วัดปา่ พฤกษ์
อุทยานมัจฉาวัดป่าพฤกษ์เป็นอุทยานมัจฉาอีกแห่งหน่ึงของจังหวัด อยู่ท่ีตําบลบ้านแหลม ห่างจากตัว
จังหวัดประมาณ 17 กิโลเมตร อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ําท่าจีน บริเวณหน้าวัดมีฝูงปลาโดยเฉพาะปลาสวาย
ปลาเทโพและปลานลิ เปน็ จาํ นวนมากนกั ท่องเทย่ี วสามารถยืนชมและให้อาหารปลาได้อย่างใกล้ชิด บริเวณริมแม่น้ํา
ทางวัดก่อสร้างเป็นเขื่อนทางเท้าริมน้ํายาวประมาณ 100 เมตร ในช่วงเดือน 12 อุทยานมัจฉาวัดป่าพฤกษ์ จัดให้
นักทอ่ งเที่ยวไดท้ ําบุญตักบาตรกลางน้ําแดพ่ ระสงฆ์ 200 รูป ชมขบวนแห่เรือพิธีชักพระเล่นเพลงเรือบนลํานํ้าท่าจีน
ชมประเพณีเล่นเรือเพลงและชมการประกวดแต่งกายไทยโบราณย้อนยุค
การเดนิ ทาง อทุ ยานมัจฉาวัดป่าพฤกษห์ า่ งจากตวั จังหวัดประมาณ 17 กโิ ลเมตร ทางหลวงหมายเลข 340
กิโลเมตรท่ี 86 จะเห็นปา้ ยทางเข้าจากนัน้ ไปตามทางหลวงหมายเลข 3351 กโิ ลเมตรท่ี 10 เวลาเปดิ ทําการ :
09.00 - 18.00
2. วัดสวนหงส์
วดั สวนหงสต์ ้งั อยทู่ ่ี 6 หมู่ 8 ตาํ บลบางปลาม้า อาํ เภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ 72150
โดยต้ังอยู่ริมฝ่ังแม่นํ้าท่าจีน ตรงข้ามตลาดบางปลาม้า มีแม่น้ําวกอ้อมวัดถึง 3 ทิศ 3 ด้านวัดน้ีต้ังข้ึนเมื่อประมาณ
พ.ศ. 2379 โดยเศรษฐีสองสามีภรรยา ชื่อ นายสวน กับ นางหงส์ มีศรัทธาสร้างวัดขึ้นมา แล้วเรียกขานชื่อวัดว่า
วัดสวนหงส์ ต่อมา ในปี พ.ศ. 2408 ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เจ้าอาวาสปกครองวัดสวนหงส์ ตั้งแต่รูปแรก
จนถึงรูปปัจจุบัน มี 1.พระอธิการแก้ว นนฺทโชติ (พ.ศ. 2449 - 2469) 2.พระครูแก้ว อิสฺสโร (พ.ศ.2469 - 2489)
3.พระครพู ิทักษ์ธรรมคุณ (พ.ศ.2489 - 2491) 4.พระครูสุมนคณารักษ์ หรือ หลวงพ่อปล้ืม (พ.ศ.2491 - 2545)
และสุดท้ายพระครูโกศลธรรมานุสิฐ เป็นเจ้าอาวาสมาต้ังแต่ พ.ศ. 2545 จนถึงปัจจุบัน ท้ังน้ี เจ้าอาวาสผู้ท่ีได้รับ
ความเคารพนับถือจากศิษย์เป็นจํานวนมาก และได้ทําการบูรณะวัดแห่งน้ีข้ึนมาเสียใหม่จนสวยงาม คือ หลวงพ่อ
166
ปล้ืม หลวงพ่อปลื้ม เป็นชาวอําเภอบางปลาม้า ถือกําเนิดท่ีบ้านยอด ตําบลเก้าห้อง อําเภอบางปลาม้า จังหวัด
สุพรรณบุรี ท่านเป็นพระอาจารย์ช่ือดัง สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ชาว อําเภอบางปลาม้าให้ความเคารพนับถือมาก มีลูก
ศิษย์มากมาย ท่านเป็นพระท่ีชอบเดินจงกรม และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในตอนท่ีท่านมารับตําแหน่งเจ้าอาวาส
แรกๆ วัดแห่งนี้มีสภาพเป็นวัดเล็กๆ เสนาสนะต่างๆ ก็ทรุดโทรม หลวงพ่อจึงซ่อมแซมให้เจริญรุ่งเรืองข้ึนมา ต่อมา
เม่ือทา่ นเสียชีวิตลง ร่างกายของทา่ นถกู นํามาเก็บไวท้ ่ีวดั แต่ทีน่ ่าประหลาดใจคอื ร่างกายของท่านไม่ได้เน่าเป่ือยแต่
อย่างใจ ชาวบา้ นจึงพากนั มาไหวอ้ ย่างเคารพและศรัทธาเปน็ จํานวนมาก
วัดแห่งน้ี มจี ุดท่ีนา่ สนใจคอื บริเวณหน้าวัดเป็นสถานที่แข่งเรือยาวเป็นประจําทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการแข่งขันเรือยาวของอําเภอบางปลาม้าให้คงอยู่สืบไปและเป็นการส่งเสริม
กิจกรรมการท่องเท่ียวใน อําเภอบางปลาม้าของจังหวัดสุพรรณบุรีให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งข้ึน สาเหตุที่เลือกจัดท่ี
อําเภอนี้ เน่ืองจาก อําเภอบางปลาม้าเป็นอําเภอท่ีมีแม่นํ้าท่าจีนไหลผ่าน จึงนับว่า มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง
เจา้ อาวาสของวัดเองกไ็ ด้สนบั สนุนการแขง่ ขันประเภทนี้ และได้มีการเก็บสะสมเรือชนิดตา่ งๆท่ไี ดพ้ บเหน็ มาไว้ในวัด
ได้มากกว่า 70 ลาํ ผ้ใู ดที่ช่นื ชอบเรือ่ งเรือยาว ควรท่ีจะเขา้ มาชมเป็นอยา่ งยิง่
3. ตลาดเก้าหอ้ ง
เป็นตลาดหอ้ งแถวเก่าแกซ่ ึง่ เปน็ ยา่ นการคา้ ของชมุ ชนไทย - จีน ที่รุ่งเรืองริมแม่น้ําสุพรรณบุรีหรือแม่นํ้าท่า
จีน ผ่านเวลามากว่า 100 ปีจนถึงวันน้ี เป็นเรือนไม้ปลูกติดต่อกันเรียงเป็นแถวยาว ปัจจุบันยังคงเห็นสภาพตลาด
ริมนํ้าแบบอดีตที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ ตลาดเก้าห้องสร้างข้ึนประมาณต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คําว่า“ตลาดเก้าห้อง” มาจากช่ือของบ้านเก้าห้อง ซึ่งเป็นบ้านโบราณมีประวัติสืบทอดมา
ยาวนาน เล่ากันว่าสร้างข้ึนโดยชาวจีนคนหน่ึงช่ือ “นายฮง” อพยพมาจากกรุงเทพฯ มาทํามาค้าขายอยู่บริเวณ
ละแวกบา้ นเก้าห้อง กิจการค้ารุ่งเรืองดี โดยค้าขายบนแพที่สร้างขึ้นไว้ 1 หลัง จอดอยู่ริมน้ําหน้าบ้านเก้าห้อง ซ่ึงใน
สมัยก่อนเป็นย่านค้าขายท่ีมีเรือนแพขายของสองฝั่งแม่น้ํา ต่อมา นายฮงเร่ิมวางแผนผังและสร้างตลาดบริเวณฝ่ัง
ตรงข้ามบ้านเก้าห้อง โดยโยกย้ายแพทั้งหลายขึ้นไปค้าขายบนบกคือในตลาด เพ่ือเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางน้ํา
ในบริเวณนัน้ และเปดิ การค้าทางบกมากข้นึ และนําชอ่ื บา้ นเกา้ หอ้ งมาเปน็ ชื่อตลาด คอื “ตลาดเกา้ หอ้ ง”
อีกหนึ่งปีถัดมา นายฮง ได้สร้างป้อม ซ่ึงกว้างประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 4 เมตร มี 5 ช้ันช้ันบนสุด
เป็นดาดฟ้า บริเวณฝาผนังของทุกด้านมีรูกลมโต เหตุท่ีสร้างป้อมข้ึนมาเพราะในระยะน้ันพวกโจรหรือที่เรียกว่า
167
“เสือ” หลายคนออกปล้นฆ่าตามริมน้ําท่าจีนเสมอ จึงได้สร้างป้อมไว้สังเกตการณ์และมีการเตรียมการป้องกันการ
ปล้นสะดมของเสือทั้งหลายด้วย จากคําบอกเล่าของคนเก่าแก่ เล่าว่าในสมัยสงครามโลก เวลากลางคืนจะมียาม
คอยสังเกตการณ์อยู่บนป้อม หากมีเครื่องบิน บินมาก็จะส่งสัญญาณให้คนในตลาด ดับตะเกียงเพ่ือไม่ให้เครื่องบิน
มองเห็น จะได้ไม่ท้ิงระเบิดลงมา และ “หอดูโจร” นี้เองที่กลายมาเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของตลาดแห่งน้ี ที่นี่ได้
รวบรวมสถานที่และเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาใน “พิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้อง” ซึ่งอยู่ในโซน
ของตลาดล่างใกล้กับหอดูโจร เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน สร้างข้ึนเมือ พ.ศ. 2477 เดิมห้องแถวห้องน้ีเป็นร้านขาย
ยาโบราณ กลมุ่ พัฒนาตลาดเกา้ ห้องจึงนาํ มาทาํ เปน็ พพิ ธิ ภัณฑใ์ หค้ นรนุ่ หลังได้รู้จักเรอ่ื งราวในอดีตของที่น่ี
ตลาดเก้าห้องปัจจุบันมีสินค้าและของอร่อยมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชิม ทั้ง ขนมเป๊ียะ กระหร่ีพั๊พ
ข้าวเกรียบปากหม้อ เรือกาแฟ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสูตรดั้งเดิม ขนมไทยพ้ืนบ้านอื่นๆ รวมทั้งขนมโบราณอย่างขนม
จนั อับ เรยี กว่าเป็นแหลง่ รวมของอาหาร และขนมโบราณอร่อยๆ แหล่งหนึ่งจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนของฝากประจํา
ตลาดเกา้ คือ ขนมเปี๊ยะ เพราะท่ีน่ีเป็นแหล่งผลิตขนมเปี๊ยะทีใ่ หญ่ท่สี ดุ ในจังหวัด
การเดนิ ทาง
จากกรงุ เทพฯ ใช้ทางหลวงสาย 240 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ประมาณ 100 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายที่อําเภอ
บางปลามา้ (ปมั๊ คาลเท็กซก์ ่อนถึงทางเขา้ อาํ เภอบางปลาม้า 100 เมตร) ไปอกี ประมาณ 4 กโิ ลเมตร
ท่อี ยู่ ตําบลบางปลามา้ อําเภอบางปลามา้ จงั หวดั สพุ รรณบุรี เวลาเปิดทาํ การ : 07.00 - 16.00
4. วดั เจ้าขาว อุทยานมจั ฉา
เส้นทางกรงุ เทพ - สุพรรณ (340) ช่วงก่อนถงึ อาํ เภอบางปลาม้า สังเกต ชุมแสงรีสอร์ทซ้ายมือ แยกซ้ายมือ
ก่อนขึ้นสะพาน ตรงทางแยกมีร้าน ก๋วยเต๋ียวเรือนายเท้า จากแยกน้ันเข้ามาอีก 5 ก.ม. ก็ถึงวัดเจ้าขาว เป็นวัด
รมิ แม่นาํ้ ท่าจนี อกี วดั หนึง่ ท่มี ีฝงู ปลาจาํ นวนมาก มาอาศัยทร่ี มิ นาํ้ หน้าวัด และในช่วงวันแรม 12 ค่ําเดือน 12 ทางวัด
จะมีประเพณีตักบาตรกลางนํ้า ซ่ึงเป็นงานประเพณีที่สวยงามน่าสนใจ ซ่ึงเป็นประเพณีท่ีปฏิบัติสืบทอดกันมา
ยาวนาน งานบุญประเพณีทําบุญตักบาตรกลางนํ้าของชาวอําเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นภาพงาน
ประเพณีพ้ืนบ้านท่ีไม่คุ้นตา เป็นภาพประทับใจท่ีมีความหมาย บอกกล่าวถึงเร่ืองราวท่ีสืบทอดกันมาจากอดีต และ
กําลงั จะเป็นภาพทีค่ ่อยๆ เลอื นหายไปจากความทรงจาํ ของหลาย ๆ คน
จากการบอกเล่าของผู้สูงอายุ ซ่ึงมีอายุ 80 ปีกว่า บอกว่าท่ีจัดให้มีการตักบาตรกลางน้ําข้ึน โดยนิมนต์
พระสงฆ์ทั้งหมดพายเรือมารับอาหารนั้น สาเหตุเนื่องมาจากช่วงระยะเวลาหน่ึง ชาวบ้านไม่ว่างไปทําบุญท่ีวัด
เพราะติดฤดูกาลทํานา ชาวบ้านจะไปทํานาโดยไปสร้าง โรงนา เป็นที่พักช่ัวคราว ทํานาเสร็จจึงจะกลับมาบ้าน จึง
168
ว่างเว้นจากการทําบุญตักบาตรไป เม่ือว่างจากการทํานาจึงนิมนต์พระมารับบิณฑบาตพร้อมกัน โดยจะเตรียม
ข้าวสารอาหารแห้ง อาหารสดมาตักบาตรกัน เรียงรายไปตลอดลํานํ้า โดยกําหนดวันทําบุญไว้เป็นการแน่นอน คือ
ทุกวันแรม 12 ค่ํา เดือน 12 ของทกุ ปี
เพลงแหล่ เพลงเรือ ลําตัด เล่าเรื่องราวของสายน้ํา และนิทานท้องถิ่นอย่างนิทานเรื่อง วังตาเพชรของบ้านคอวัง
อาํ เภอบางปลาม้า
5. วดั น้อยนพคุณ (วดั นอ้ ยหลวงพ่อเนยี ม)
วัดน้อยเป็นวัดเก่าอายุกว่าร้อยปี มีเน้ือท่ีประมาณ 30 ไร่สร้างโดยผู้ใดไม่ปรากฏ อยู่ในท้องท่ีตําบล
โคกครามอําเภอบางปลาม้า จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ตงั้ อยูร่ ิมฝ่งั แม่น้ําทา่ จีน ระหว่างอําเภอบางปลาม้า กับตวั จงั หวัด อยู่
เลยไปทางด้านใตข้ องตัวเมืองราว 8 ก.ม. เส้นทางสายในเลียบแม่น้ําทา่ จีนฝง่ั ตะวันออก สมัยเม่ือราวๆ ร้อยปีที่ผ่าน
มา วัดน้อยมีความเจริญสูงสุด เพราะครองวัดโดยพระมหาเกจิ-เถราจารย์ นามกระเดื่อง ผู้เช่ียวชาญทางคันถธุระ
วปิ สั สนาธุระและวิทยาคมชอื่ หลวงปูเ่ นียม
ถาวรวัตถุที่เช่ือกันว่าสร้างมาในสมัยหลวงปู่ท่ียังพอมีให้เห็นก็คือ มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
วิหารประดษิ ฐาน พระพทุ ธรปู ปนู ปั้นองค์ใหญ่ ศาลาข้างสระน้ํา ซ่ึงส่ิงก่อสร้างท้ังสามนี้มีสภาพเป็นซากท่ีถูกทอดท้ิง
ใชก้ ารไม่ไดแ้ ลว้
169
6. บางแม่หมา้ ยโฮมสเตย์
"ย้อนอดีตบ้านทรงไทยกับวิถีชีวิตริมคลองและท้องทุ่งเมืองสุพรรณ"หมู่บ้านบางแม่หม้ายเป็นชุมชนเก่าแก่
อายุนับร้อยปี อยู่ในบริเวณพ้ืนที่ราบลุ่มทางตอนใต้ของเมืองสุพรรณ ในเขตอําเภอบางปลาม้ากลุ่มบ้านทรงไทย
โบราณกว่า 100 หลัง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและบรรยากาศของชนบท ท้องทุ่ง และคลองบางแม่หม้าย เป็น
สถานท่ี ท่ยี งั คงรูปแบบและวิถชี วี ิตดั่งเดิมของอดตี ท่ีนา่ ชมและ นา่ สัมผสั กับความเป็นอยู่ของคนในชนบท
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
บางแม่หม้ายโฮมสเตย์ ภาพวิถีชีวิตริมคลอง ที่รายล้อมด้วยท้องทุ่งนาและทิวต้นตาลยาวสุดลูกหูลูกตา
และกิจกรรม น่ังเรือชมวิถีชีวิตริมคลองบางแม่หม้าย น่ังรถอีแต๋น ชมท้องทุ่ง ถีบจักรยานชมบรรยากาศของชมชน
และบา้ นทรงไทยโบราณ หรอื สบายๆรมิ ชานเรอื นกับหนงั สือดๆี สักเลม่ ความสขุ ที่อย่ใู กลแ้ ค่เอ้อื ม
ไม้กวาดรอ้ ยปี ของดบี างแมห่ มา้ ย
เป็นไม้กวาดที่ทําจากใยมะพร้าว ภูมิปัญญาชาวบ้าน ทําจากใยของกากมะพร้าวท่ีให้ความแข็งแรง มีอายุ
การใช้งานยาวนานนับ 10 ปี มีวิธีการทําหลายขั้นตอน ตั้งแต่การนํากาบมะพร้าวมาแช่น้ํา 15-30 วัน จนเปื่อยยุ่ย
จึงค่อยนํามาทุบให้เหลือแต่เพียงเส้นใย ตากแดดให้แห้งจึงจะนํามามัดติดกับด้ามท่ีทําจากไม้หนามแดง หรือ ไม้
หนามกา้ งปลา ทีม่ ีลวดลายสวยงาม
ร้านอาหาร
1. ร้านแมบ่ ว๊ ย (อาหาร) อยตู่ รงขา้ มท่ีวา่ การ อําเภอบางปลาม้า เมนแู นะนํา กุ้งแมน่ ํา้ เผา (ตวั ใหญ่) กุ้ง
ทอดเกลอื ปลาม้านึง่ มะนาว หมกี่ รอบ แกงป่าลูกชนิ้ ทอดมันปลากราย ขนมสาลี่รสชาติดัง่ เดมิ และขนมแบบบ้านๆ
เปดิ บรกิ าร 10.00 - 18.00 น. โทร.035-586424,587077 http://www.suphan.biz/maebouy.htm
2. ริมคลองเฮา้ ส์ (อาหาร & บรรยากาศ) สถานทต่ี ั้งใกลก้ บั ตลาดเกา้ หอ้ ง หา่ งจากถนนหลัก กรุงเทพ-
สพุ รรณ เขา้ ไป 6 กโิ ลเมตร เป็นรา้ นขนาดใหญ่ มที ้งั ส่วนเปิดรับลมธรรมชาติ และสว่ นหอ้ งแอร์ 3 หอ้ ง สามารถ
รองรับลูกค้าไดถ้ ึง 300 ท่าน เมนูแนะนํา ปลาชอ่ นเผา สม้ ตาํ แมงดา เมี่ยงปลาช่อนทอด ปลาม้าสามรส กุ้งทอด
เกลอื แกงเผด็ เปด็ ย่าง ทอ่ี ยู่ 29/1 หม่2ู เทศบาลตําบลบางปลาม้า อําเภอบางปลามา้ เปิดบรกิ าร 10.00 - 21.00น.
โทร 035-446833, 089-1726820 http://www.suphan.biz/rimklonghouse.htm
3. ก๋วยเตีย๋ วเรอื นายเท้า (จานดว่ น) เสน้ ก๋วยเตีย๋ วทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณ์ของรา้ นเปน็ เส้นบะหม่ี
อยรู่ มิ ถนนสเี่ ลน สาย กรุงเทพ-สุพรรณ 340 อยูร่ ิมถนนฝงั่ ขาข้นึ (ซ้ายมอื ) กอ่ นถงึ สะพานบางยหี่ น
http://www.suphan.biz/naitaow.htm
170
4. รา้ นกยุ่ หมง (อาหาร) ข้างทว่ี ่าการอาํ เภอบางปลามา้ เมนูแนะนํา ก้งุ แม่นาํ้ ทอดเกลอื ต้มยําปลาม้า แกง
ปา่ โทร. 035-587256, 089-5151302
5. ร้านอาหาร รับลมชมแม่น้าํ (อาหาร & บรรยากาศ) อาหารไทยทเี่ น้นวัตถดุ ิบพื้นบ้าน ในบรรยากาศแพ
ลอยน้าํ รมิ แม่นา้ํ ทา่ จีน หรือจะลอ่ งเรอื โบราณพร้อมรบั ประทานอาหาร และทอ่ งเที่ยวชมความงดงามสองฝ่งั แม่น้ํา
ทีอ่ ยู่ 147 หมู่ 5 ตําบลบ้านแหลม อาํ เภอบางปลาม้า จงั หวดั สพุ รรณบุรี โทรศพั ท์ : 080-0737397, 089-
0136393, 081-4916577 http://www.suphan.biz/rublomchommeanam.htm
6. ซุปหางวัว 035-400-423
7. ครวั ไทย 035-587651
8. มานพโภชนา 035-586088
ของฝาก ของท่รี ะลกึ
1 ร้านสาล่ีแมบ่ ๊วย ตน้ ตําหรบั ขนม สาลี่สพุ รรณ สตู รดง่ั เดมิ และขนมไทยโบราณ รสชาตอิ ร่อย
โทร.035-586424, 587077
2. ร้านตั้งกยุ้ กี่ ต้นตําหรบั ขนมเปี๊ยะสตู รโบราณ ขนมจนั อบั โทร. 035-587065
3. ไม้กวาดพันปี ไมก้ วาดมลี กั ษณะพเิ ศษคอื มีความทนทาน ดา้ มสวยงามทําจากใยมะพร้าวและดอกหญ้า
ไม้กวาดใยมะพร้าว แห่งบ้านบางแมห่ มา้ ย โทร 035-424249 คุณประจวบ ออ่ นละมลู
4. กลมุ่ หตั ถกรรมจักสานบา้ นโพธิ์ศรีทอ่ี ยู่ วัดโพธ์ศิ รี (เครือ่ งจักสาน) โทร 081-2746092
5. กลมุ่ ศิลปะไมไ้ ผ่ ทอ่ี ยู่ ถ.สพุ รรณบุรี - บางบวั ทอง (เคร่ืองตกแต่งเครอื่ งเรอื น) โทร 035-400226
6. ไขเ่ คม็ ไอโอดนี ท่อี ยู่ บ้านวัดโบสถ์ ตาํ บลมะขามล้ม (อาหาร) โทร 035-416274
7. กลมุ่ แม่บ้าน บา้ นไผเ่ งิน ทอี่ ยู่ ถ.สพุ รรณบรุ ี - สวนแตง (ขนมต่างๆ) โทร 035-416497
8. เบญจรงค์ ที่อยู่ ถ.บางแมห่ ม้าย (เครือ่ งปนั้ ดินเผา) โทร 035-400176
อาํ เภอเมอื งสพุ รรณบรุ ี
1. วดั ปา่ เลไลยกว์ รวหิ าร
171
เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุราว 1200 ปี ต้ังอยู่ริมถนนมาลัยแมน 249 ตําบลร้ัวใหญ่ อําเภอเมือง
อยูท่ างฝง่ั ตะวันตกของลํานํา้ สุพรรณ ห่างจากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 4 กิโลเมตร ชาวบ้านท่ัวไปเรียกว่าวัดป่า
ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า ...พระเจ้ากาเตทรงให้มอญ
น้อย มาบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ภายหลังปี พ.ศ. 1724 เล็กน้อย หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะ
สมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท) มีนักปราชญ์หลายท่านว่า เดิมคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐม
เทศนา สรา้ งไว้กลางแจง้ อยา่ งพนัญเชงิ สมัยแรกตอ่ มาไดม้ ีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ และทําเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่
เปน็ อย่ใู นปจั จบุ ัน ภายในองค์พระพทุ ธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ท่ีได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย วัด
ป่าเลไลยก์วรวิหาร ตําบลรั้วใหญ่ อําเภอเมืองฯ จังหวัดสุพรรณบุรี ฝ่ังตะวันตกของแม่น้ําสุพรรณบุรี หรือท่าจีน
หา่ งจากฝ่ังประมาณ 2 กโิ ลเมตร เปน็ พระอารามหลวงชน้ั ตรี ชนดิ วรวหิ าร เนอ้ื ท่กี ว้าง 82 ไร่ 1 งาน มีโบราณสถาน
อันเป็นประธานของวดั คอื พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ซึง่ เรยี กกนั ว่า “หลวงพอ่ โต วัดป่าเลไลยก์”
หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เป็นพระก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 23.47 เมตร สมเด็จกรมพระยา
ดํารงราชานุภาพ มีลายพระหัตถ์ถึงศาสตราจารย์หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากรว่า
“พระพุทธรูปป่าเลไลยก์ เป็นของเก่าก่อนวัตถุอื่น ลักษณะทันสมัยอู่ทอง และสร้างเป็นพระพุทธรูปปางแสดง
พระธรรมจักรเหมือนอย่างพระประทานท่ีพระปฐมเจดีย์ มีกุฏิครอบเฉพาะองค์พระ มาสร้างวิหารต่อช้ันหลัง ส่วน
องคพ์ ระนัน้ เคยชํารดุ ถงึ พระกรหกั หาย คนช้นั หลงั ปฏสิ งั ขรณ์ เม่อื มีความรูเ้ ร่อื งพระแสดงปฐมเทศนาสญู เสียแล้วจึง
ทําเป็นปางป่าเลไลยก์ ความกล่าวในข้อนี้ยังมีข้อสังเกตด้วยพระกรเล็กกว่ากันเกือบข้างหน่ึง และซุ้มเดิมที่สร้าง
วหิ ารก็ยังปรากฏอยู่
ตามท่ีกรมพระยาดํารงราชานุภาพทรงพระวินิจฉัยว่า หลวงวัดป่าเลไลยก์ มีอายุทันสมัยอู่ทองน้ันมีความ
จริงอยู่บ้าง โดยความเป็นจริงแล้วอาจจะสูงกว่าสมัยอู่ทองข้ึนถึงสมันลพบุรีและทวารวดีเสียด้วยซํ้าไป เม่ือ พ.ศ.
1706 พระเจ้ากระแต ผู้ซ่ึงมีเชื้อสายนเรศวรหงสาวดีพาไพรพลมาครองราชย์ท่ีเมืองพันธุมบุรี ได้ให้มอญน้อยเป็น
เชื้อสายพระวงศ์ของพระองค์ ไปสร้างวัดสนามไชยแล้วมาบูรณะ วัดป่าเลไลยก์ในวัดลานมะขวิด แขวงเมืองพันธุม
บุรี เมื่อข้าราชการบูรณะวัดแล้วพากันออกบวชเสียส้ินสองพันคน จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า “เมืองสองพันบุรี”
พระเจ้ากาแตอยู่ในราชสมบัติ 40 ปี สวรรคต พ.ศ.1741 ซึ่งในช่วงน้ีอยู่ในสมัยลพบุรี โดยพุทธลักษณะของ
หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์แล้ว พระพักตร์มีเค้าเป็นศิลปะอู่ทองกลาย ๆ เพราะพระหนุ (คาง) เป็นเหล่ียม ความเป็น
จรงิ แล้วพระหนุเปน็ เหล่ียม นส่ี อ่ เค้าให้เห็นวา่ ได้รบั อทิ ธิพลถา่ ยทอดมาจากศิลปะทวารวดี
172
หลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ได้รับการบูรณะถึง 3 คร้ัง คร้ังแรก เมือ พ.ศ.1706 โดยมอญน้อย คร้ังที่ 2 ในสมัย
อยุธยาตอนปลาย สมเด็จพระท่ีน่ังสุริยาสน์ อมรินทร์ ในราชกาลที่ 3 กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา
ทรงโปรดให้พระยาสีหราชเดโชไชย ไปสร้างวิหารวัดป่าเลไลยก์ คร้ังที่ 3 ในราชกาลท่ี 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั ให้พระยานกิ รบดนิ ทร์ มาบูรณปฏสิ งั ขรณ์ การบรู ณปฏสิ ังขรณใ์ นราชกาลที่
4 แห่งกรุงรัตนโกสนิ ทร์น้ัน อันสืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะท่ียังไม่ได้ครองราชย์
พระองค์ทรงผนวชเสด็จธดุ งคม์ าจงั หวดั สุพรรณบรุ ี เพือ่ นมัสการหลวงพอ่ โตวัดป่าเลไลยก์ ทรงพบเห็นวัดป่าเลไลยก์
รกร้าง ไม่มีพระสงฆ์จําพรรษา และปกครองวัด จึงทําให้สภาพของวัดป่าเลไลยก์เส่ือมโทรมมาก เมื่อเข้านมัสการ
หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ แล้วทรงอธิษฐานว่า ถ้าหากได้ขึ้นครองราชย์เมื่อใดก็จะมาบูรณปฏิสังขรณ์ถวาย เม่ือ
พระองค์ข้ึนครองราชย์ในช่วงของการครองราชย์ โปรดเกล้าให้พระยานิกรบดินทร์มาบูรณปฏิสังขรณ์วัดป่าเลไลยก์
โดยขุดคลองตัง้ แตว่ ดั ประตูสาร ซ่ึงอยรู่ ิมแม่นา้ํ สุพรรณ ลอ่ งแพซงุ เข้าไปจนถึงวัดป่าเลไลยก์ สร้างหลังคาข้างละสอง
ชั้น ทําฝาผนังรอบนอก รวมหลังคาพระวิหาร ข้างละ 5 ชั้น พร้อมซ่อมองค์หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ด้วย สร้าง
พระพุทธรปู ไวอ้ กี 2 องค์ อยใู่ นวิหารเบ้ืองหน้าหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ท้ังซ้ายและขวา ประดิษฐานตราพระมงกุฎอยู่
ทห่ี นา้ บนั พระวหิ ารเป็นเครอ่ื งหมาย
ภาพเขียนเร่ืองราว ขุนชา้ ง-ขนุ แผน
รอบๆ วหิ ารของหลวงพ่อโต มจี ิตรกรรมฝาผนังเลา่ เรอื่ งราวของขุนช้าง-ขุนแผน ต้งั แตเ่ ร่ิมเร่อื ง จนถงึ ตอน
สุดทา้ ย เปน็ ภาพท่ีสวยงาม และไดค้ วามรู้ ชมภาพบางส่วนไดท้ ี่ นทิ าน ขนุ ช้าง-ขุนแผน
วดั ปา่ เลไลยก์ มีความเกีย่ วข้องกับวรรณคดอี ันลอื ชอื่ ของไทย คอื เสภาขนุ ช้างขุนแผน นิราศเมอื งสุพรรณ
ของสนุ ทรภู่ ปัจจุบนั วดั ป่าเลไลยก์ มีสถานะเปน็ พระอารามหลวงชัน้ ตรี ชนดิ วรวหิ าร
173
เรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทยแบบโบราณ ต้ังอยู่ภายในบริเวณวัดป่าเลไลยก์ สร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลัง
ใหญก่ ว้างขวาง ตามเรอื นของขุนช้างในวรรณคดีเร่ืองขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง
นกั ทอ่ งเทีย่ วสามารถถ่ายรปู เปน็ ท่ีระลกึ แต่ละห้องจะมีภาพบรรยายเลา่ เรอ่ื งขุนช้างขนุ แผน มีการจัดแสดงเครอ่ื งใช้
ต่างๆในสมัยก่อน มีการตกแต่บริเวณโดยรอบสวยงามน่าเที่ยวชมเสภาขุนช้างขุนแผน เม่ือนางทองประศรี พา
พลายแก้วไปอยู่เมืองกาญจน์เก็บหอมรอมริบ จนกระท่ังมีฐานะเป็นเศรษฐี และเม่ือพลายแก้วเติบโตก็ได้บรรพชา
เป็นสามเณรและได้มาเรียนคาถาอาคม พร้อมกบั เทศน์มหาชาติ กับสมภารมีแห่งวัดป่าเลไลยก์เพื่อเป็นการอนุรักษ์
เร่ืองราวดีๆ ทางวัดป่าเลไลยก์ได้จัดให้มีเทศน์มหาชาติข้ึนเป็นประจําทุกปี และสร้างเรือน ขุนช้าง เป็นเรือนไทย
ไมส้ กั เพื่อให้ลูกหลานไดท้ ัศนศึกษาสืบต่อไป
ตลาดตอ้ งชม ภายในบรเิ วณวัดเปน็ ศนู ยร์ วมจําหน่ายสนิ ค้าพน้ื เมืองของเมอื งสพุ รรณ ปลาสลดิ ดอนกํายาน
ปลาแม่น้ํา ปลาแดดเดียว พชื ผักผลไม้ และน้าํ พรกิ
มีเทศกาลปดิ ทองไหว้พระปีละ 2 คร้ัง คือ เดอื น 5 และเดอื น 12 ขน้ึ 5 – 6 – 7 – 8 - 9 คํ่า
ทางจนั ทรคตทิ กุ ปี
174
2. สวนเฉลมิ ภัทรราชินี และหอคอยบรรหาร-แจ่มใส
หอคอยบรรหาร-แจม่ ใส
ต้ังอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี บนถนนนางพิม ตําบลท่าพี่เลี้ยง หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เป็นหอคอยแห่ง
แรกและสูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 123.25 เมตร มีช้ันสําหรับชมวิวในระดับสูงสุด 78.75
บนหอได้มีการติดต้ังกล้องส่องทางไกลไว้รอบด้าน มีร้านขายของท่ีระลึกและอาหารว่าง มีการจัดแสดงนิทรรศการ
เกี่ยวกบั เมืองสุพรรณบรุ ี ทั้งด้านประวัตศิ าสตร์ วรรณคดี ศิลปวัฒนธรรม ชีวติ ความเป็นอยู่ รวมถึงสถานท่ีทอ่ งเท่ียว
สาํ คัญ และเรื่องราวนา่ รขู้ องของจงั หวัดสุพรรณบุรีไวท้ ั้งหมด
อาคารชั้น 1 ชมภาพจติ รกรรมขนุ ช้างขุนแผน และสินค้าท่รี ะลึก
อาคารช้นั 2 นง่ั พกั ผ่อนสบายๆ กับอาหารวา่ ง ไอศกรมี และเครอ่ื งดืม่ ชมทิวทศั น์ของบริเวณรอบๆสวน
อาคารขั้น 3 จาํ หน่ายของทร่ี ะลกึ และเป็นจุดชมวิวของตวั เมอื งสพุ รรณบุรี
อาคารช้ัน 4 ชมทิวทศั นข์ องจังหวดั สุพรรณบรุ ี และจังหวดั ใกล้เคียง ดว้ ยกล้องสอ่ งทางไกล และชมภาพ
จติ รกรรมเรอื่ งราวของ สมเดจ็ พระนเรศวร และภาพสถานทท่ี อ่ งเท่ยี วในจงั หวัดสุพรรณบรุ ี
175
สวนเฉลิมภัทรราชินี
บนเน้ือที่ 17 สร้างเพอื่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสครบ 60 พรรษา
บริเวณสวนประดับด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ สวนปาล์ม สวนน้ําพุ ธารน้ําตก สไลเดอร์ สนามเด็กเล่น เพลิดเพลินกับ
ลีลาของนํ้าพดุ นตรี ทีโ่ ลดเลน่ ตามจงั หวะของดนตรี
เวลาปดิ -เปดิ และเข้าชมดังน้ี วนั เสาร์ - อาทิตย์ และวนั หยดุ นักขตั ฤกษ์ 10.00 - 20.30 น.
วันองั คาร - ศกุ ร์ 10.00 - 19.00 น. หยุดทกุ วนั จันทร์ (ยกเว้นวนั นักขัตฤกษ)์
คา่ เขา้ สวนเฉลมิ ภัทรราชินี ผ้ใู หญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท คา่ ขน้ึ ชมหอคอยบรรหาร - แจ่มใส ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก
15 บาท เวลา 10.00-18.00 น. หลังเวลา 18.00 น. ผใู้ หญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
นา้ํ พดุ นตรี และผาน้ําตก วันศกุ ร์ เวลา 17.00 - 19.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนกั ขตั ฤกษ์
รอบเทยี่ งเวลา 12.00 – 14.00 น. รอบเยน็ เวลา 17.00 – 19.00 น.
สวนนํ้าสไลเดอร์
เวลาปิด-เปิด และเข้าชมดังน้ี วนั เสาร์ - อาทติ ย์ และวนั หยุดนกั ขตั ฤกษ์ 10.00 - 18.00 น.
วนั อังคาร - ศกุ ร์ 15.00 - 18.00 น. (เปิดเฉพาะช่วงปดิ เทอม) ค่าสวนน้ําสไลเดอร์ ผใู้ หญ่ 50 บาท เดก็ 30
บาท คา่ เช่าชดุ วา่ ยนํา้ เดก็ 25 ผ้ใู หญ่ 50
176
3. ศาลเจ้าพ่อหลกั เมอื ง
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งแต่เดิมเรียกกันว่า ศาลเทพารักษ์หลักเมือง เป็นสถานที่ศักด์ิสิทธ์ิและ
เป็นท่ีเคารพนับถือของชาวจังหวัดสุพรรณบุรีและประชาชนท่ัวๆไปมาต้ังแต่สมัยโบราณ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในเขตเมืองโบราณสุพรรณบุรี ถนนมาลัยแมน ตําบลรั้วใหญ่ อําเภอเมอื ง จังหวัดสุพรรณบุรี โดย
อยู่ฝัง่ ตะวันตกของแมน่ ํ้าสุพรรณบรุ ี (แมน่ ้าํ ท่าจนี ) ห่างจากฝั่งแม่นํ้าไปตาม ถนนมาลัยแมน เดิมเป็นศาลไม้ทรงไทย
มีเทวรูปพระอิศวรและพระนารายณ์สวมหมวกเติ๊ก(หมวกทรงกระบอก) สลักด้วยหินสีเขียว ปัจจุบันได้สร้างศาล
เปน็ รูปวิหารและเก๋งจนี
เจ้าพ่อหลักเมืองนี้เป็นพุทธประติมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนตํ่าในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน
แบบศิลปเขมรอายุราว พ.ศ.1185–1250 หรือประมาณ 1,300-1,400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่า พระโพธิสัตว์
อวโลกิเตศวร หรือที่เรียกกันว่า พระนารายณ์ส่ีกร เป็นที่สักการบูชาท้ังชาวไทยและชาวจีน ตามประวัติกล่าวว่า
ประมาณ 150 ปีมาแล้วมีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินจมโคลนอยู่ริมคลองศาลเจ้าพ่อ จึงได้ช่วยกัน
อัญเชิญขึ้นข้างบนพร้อมกับสร้างศาลเป็นที่ประทับ ในคราวเสด็จประพาสต้นเม่ือ พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จทรงกระทําพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมืองและพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อ
เขื่อนรอบเนินศาล ทําชานสําหรับคนบูชา สร้างกําแพงแก้ว ต่อตัวศาลออกมาเป็นเก๋งแบบจีน สมเด็จเจ้าฟ้ากรม
พระยานริศรานุวัติวงศ์กับเจ้าพระยายมราช ทรงสนพระทัยในการปรับปรุงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเม่ือในราว พ.ศ.
2480 ทุกปีในวนั ขึน้ 15 ค่าํ เดอื น 7 ของจีน จะมพี ิธีงานประเพณี “ท้ิงกระจาด” (หรอื พิธีทิ้งทาน) จัดที่สมาคมจีน
ซึ่งเป็นพิธีกรรมของพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ถือเป็นการจําเริญเมตตาแก่ดวงวิญญาณท่ีล่วงลับไปแล้ว โดยนํา
ส่งิ ของต่างๆ ที่ผตู้ ายใช้สอยและสงิ่ ของจําเปน็ อนื่ ๆ มาแจกแกผ่ ู้ยากจน
นกั ท่องเที่ยวสามารถเขา้ สักการะศาลเจา้ พอ่ หลักเมอื งได้ทกุ วันตัง้ แตเ่ วลา 08.00 - 17.00 น. ตดิ ตอ่ สอบถาม
เพมิ่ เตมิ ได้ท่ี โทร. 0 3552 1690
177
4. พิพธิ ภัณฑล์ กู หลานพนั ธมุ์ ังกร (อุทยานมงั กรสวรรค)์
ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ก่อต้ังข้ึนเพื่อเฉลิมฉลองเน่ืองในโอกาสที่ประเทศไทย
และสาธารณรฐั ประชาชนจนี มคี วามสมั พนั ธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมือ่ ปี พ.ศ. 2539 พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์ุมังกร
ออกแบบขึ้นเพื่อนําเสนอเร่ืองราวประวตั ิศาสตร์ของอารยธรรมจีนทยี่ าวนานถงึ 5,000 ปี ซ่ึงเปน็ ท่ยี อมรบั กนั ว่าเป็น
อารยธรรมทเี่ กา่ แก่และสาํ คัญทส่ี ดุ แหง่ หนึ่งของโลก ภายใตร้ ูปแบบมังกรสัตว์ศกั ดิ์สทิ ธ์ิ ภายในหอ้ งจัดแสดงเรือ่ งราว
ประวัติศาสตร์จีนซ่ึงแบ่งเป็น 18 ห้อง ต้ังแต่สมัยตํานานการสร้างโลก ยุคแรกเร่ิมทางประวัติศาสตร์ ลําดับ
ราชวงศ์ต้ังแต่ยุคหวงต้ีถึงราชวงศ์ชิง ซ่ึงเป็นราชวงศ์สุดท้าย สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองท่ี ดร. ซุนยัดเซ็น ยึด
อํานาจจากจักรพรรดิและสถาปนาระบอบประชาธิปไตย และช่วงเวลาชิงอํานาจระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย คือ
เจียงไคเช็คกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ท่ีนําโดยเหมาเจ๋อตุง จนมาถึงการสถาปนาสาธารณรัฐจีนในห้องยังมีการจัดแสดง
ประวัติความเปน็ มาของพ่ีน้องชาวไทยเชอื้ สายจีนในประเทศไทย เร่ืองราวท่ีนําเสนอประกอบดว้ ย เหตุการณ์สําคัญ
ทางประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสําคัญ ปรัชญา ภูมิปัญญา และ การค้นพบ ประดิษฐ์กรรมสําคัญของบรรพบุรุษ
ชาวจนี ผา่ นส่อื จัดแสดงที่นา่ สนใจ การจัดแสดงนิทรรศการภายในตัวมังกรใช้ส่ือจัดแสดงที่ทันสมัย เช่น ภาพยนตร์
ระบบโสตทศั นูปกรณ์ที่ควบคุมด้วยคอมพวิ เตอร์ แสง เสยี ง หุ่นจําลอง
นอกจากน้ันยังมีส่ิงอํานวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน อาทิ ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องรับฝากของ
จําหน่ายหนังสือ และห้องจําหน่ายของท่ีระลึก มุ่งเน้นให้ผู้เข้าชมได้รับความรู้และความเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน
อกี ท้งั สอดแทรกคุณธรรมสาํ คญั ในการดาํ เนนิ ชวี ติ ของมนษุ ย์ทบ่ี รรพบรุ ุษชาวจีนยดึ ถอื
พิพธิ ภณั ฑ์ลกู หลานพันธ์ุมังกร (อุทยานมงั กรสวรรค)์ เปดิ ใหเ้ ข้าชมวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. วัน
เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ปิดทุกวันอังคาร เข้าชมเป็นรอบๆ มีชุดหูฟังเสียงบรรยายภาษาอังกฤษ
และจนี ใหบ้ ริการ
ค่าเข้าชมชาวไทย ผใู้ หญ่ 299 บาท เดก็ 149 บาท ชาวตา่ งประเทศ ผใู้ หญ่ 499 บาท เดก็ ตา่ งประเทศ
299 บาท ทอ่ี ยู่ ต้งั อยบู่ นถนนมาลัยแมน อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดสุพรรณบรุ ี โทร. 0 3552 6211 – 2
178
5. หมูบ่ า้ นมังกรสวรรค์ ตลาดพนั ปี
ภายในหมู่บา้ นทอ่ี อกแบบไดส้ วยงามลงตวั เหมอื นหนึ่งได้เดินเข้าไปในหมู่บ้านโบราณของเมืองจีนซึ่งแต่ละ
หลังก็เป็นสถานท่ีที่ให้บริการต่างกันออกไป มีร้านขายสินค้า และของที่ระลึก (ร้านสําเพ็ง) โรงหนัง โรงนวด
โรงเต๊ียม ร้านอาหาร ปฏิมากรรม ที่งดงามอย่างเสามังกรฟ้า จากเมืองฉงอู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน และยังขึ้นไป
ชมวิวได้ 360 องศา บนหอคอยชมวิว ที่จะได้เหน็ ทวิ ทัศน์โดยรอบของอทุ ยานมงั กรสวรรค์
6. พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ สพุ รรณบุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี นําเสนอเรื่องราว วิถีชีวิต ของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี นับต้ังแต่
หลักฐานสําคัญทางประวัติศาสตร์ ที่กล่าวถึงเมืองสุพรรณบุรีในอดีต หลักฐานท่ีแสดงถึงพัฒนาการของ
เมอื งสพุ รรณบุรี ตั้งแตส่ มยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์ ทวาราวดี ลพบรุ ี อยุธยา และรตั นโกสนิ ทร์ เหตกุ ารณ์ยุทธหัตถี กลุ่ม
ชนต่างๆที่อาศัยในจังหวัดสุพรรณบุรี ประวัติบุคคลสําคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีในอดีต วรรณกรรมสําคัญของ
จังหวัดสุพรรณบุรี เพลงพ้ืนบ้านหรือเพลงลูกทุ่ง จนถึงสุพรรณบุรีในวันนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี
จัดตั้งขึ้นตามโครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประจําเมืองเมื่อปีพุทธศักราช 2538 เพ่ือให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้าน
โบราณคดี ประวตั ศิ าสตรม์ านษุ ยวทิ ยาศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินของจังหวดั สพุ รรณบุรีและเพื่อสนองแนวพระราชดําริ
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีท่ีได้พระราชทานให้กรมศิลปากรเพ่ิมสาขาวิชาการ อื่น ๆ ใน
การจัดแสดงของพิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ
179
ลกั ษณะอาคาร
เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ 2 ช้ัน มีพื้นที่ภายในประมาณ 3,200 ตารางเมตร ประกอบด้วย
ส่วนสํานักงาน ห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวร ห้องนิทรรศการช่ัวคราว ห้องประชุม – สัมมนา ห้องคลังเก็บ
โบราณวตั ถุ หอ้ งศูนยข์ ้อมลู เพ่อื การคน้ ควา้ และส่วนให้บรกิ าร – ประชาสัมพันธ์
การจดั แสดงนทิ รรศการ
การจัดแสดงนิทรรศการถาวรของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี มีลักษณะของการผสมผสาน
ระหว่างการจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ กับส่ือจัดแสดงประเภทต่าง ๆ เช่นหุ่นจําลอง ระบบโสตทัศนูปกรณ์
ฯลฯ เพ่ือให้ผ้เู ขา้ ชมไดร้ บั ท้งั ความรู้และความเพลิดเพลนิ โดยแบง่ หัวข้อการจดั แสดงเปน็ ห้องต่าง ๆดังน้ี
หอ้ งบทนํา
จัดแสดงหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรส์ าํ คัญเกีย่ วกบั เมอื งสพุ รรณบรุ ใี นอดตี ไดแ้ ก่ ขอ้ ความในจารกึ หลกั ต่าง
ๆ ทีก่ ลา่ วถึงชอ่ื เมอื งสุพรรณบุรี อาทิ ศลิ าจารกึ หลักท่ี 1 สมยั พอ่ ขุนรามคาํ แหงมหาราช จารึกลานทองสมัยอยุธยา
พบที่วดั สอ่ งคบ จงั หวดั ชัยนาท และหนงั สอื ชนิ กาลมาลีปกรณ์ เป็นตน้ จดั แสดงพัฒนาการของเมืองสพุ รรณบุรี
ตง้ั แตส่ มยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์ กระท่ังเข้าสูส่ มัยประวตั ศิ าสตร์ สมยั ทวารวดี สมัยลพบุรี สมัยอยุธยา ถงึ สมัย
รัตนโกสินทร์ ตามลําดับ โดยจดั แสดงโบราณวตั ถุท่พี บจาก แหล่งโบราณคดแี ละโบราณสถานสําคญั ต่าง ๆ ใน
จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบปา้ ยคาํ บรรยายและสอ่ื ระบบโสตทศั นูปกรณ์
ห้องยุทธหตั ถี
จัดแสดงเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสุพรรณบุรี คือ การกระทําสงคราม
ยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระมหาอุปราชา เม่ือ พ.ศ.2135 ที่เกิดขึ้น ณ ตําบล
180
หนองสาหร่ายปัจจุบันอยู่ในเขตอําเภอดอนเจดีย์ อันเป็นท่ีต้ังของพระบรมราชานุสาวรีย์ ของสมเด็จพระนเรศวร
มหาราช และเจดยี ย์ ุทธหัตถจี ดั แสดงโดยใชส้ ือ่ ระบบโสตทศั นปู กรณ์ ประกอบกับหุ่นจําลองและป้ายคําบรรยาย
หอ้ งคนสพุ รรณ
จัดแสดงประวัติความเป็นมาและศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ต้ังแต่
ชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีกลุ่มชนสําคัญ ๆ ได้แก่ ชาวไทยพื้นบ้าน ชาวไทยเช้ือสายจีน ชาวไทยเช้ือสาย
ละว้า ชาวไทยเช้ือสายลาวคร่ัง ชาวไทยเช้ือสายลาวโซ่งหรือไทยทรงดํา โดยใช้ส่ือเป็นหุ่นรูปบุคคล เชื้อสายต่าง ๆ
ขนาดเทา่ จริงประกอบฉากบ้านเรอื น และเสียงบรรยายรว่ มกับส่อื ระบบโสตทัศนปู กรณ์
หอ้ งบุคคลสําคัญ
จัดแสดงประวตั ิบุคคลสาํ คญั ของจังหวัดสพุ รรณบุรีในอดตี ที่ไดท้ ําคุณประโยชนน์ านปั การแก่จังหวดั
สุพรรณบรุ ี และประเทศชาติ ประกอบด้วย
• สมเดจ็ พระบรมราชาธริ าชท่ี 1 ( ขุนหลวงพระงว่ั )
• สมเดจ็ พระสงั ฆราช องค์ท่ี 17 ( ปนุ่ ปณุ ณสริ ิ )
• พระมงคลเทพมนุ ี ( หลวงพอ่ สด วดั ปากนํา้ )
• เจ้าพระยายมราช ( ปนั้ สขุ ุม )
• พลโทพระยาเฉลิมอากาศ ( สุณี สวุ รรณประทปี )
• นายมนตรี ตราโมท
181
วตั ถโุ บราณสาํ คญั ประกอบดว้ ย
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร: ประติมากรรมรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร สลักจากหินทรายสีเขียว
สูงประมาณ 148.5 ซม. พบท่ีโบราณสถานเนินทางพระในเขตอําเภอสามชุกซ่ึงเป็นโบราณ สถานในศาสนาพุทธ
นิกายมหายาน สมัยลพบุรีเดิมจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ลักษณะทางประติมาณวิทยาที่สําคัญ
คอื เป็นประตมิ ากรรมรูปบรุ ุษ เกล้ามวยผมสูงถกั ผม ลกั ษณะท่ีเรียกว่า "ชฎามกุฎ" มวยผมผายออกตอนบน ส่วนโค
นมวยคอด ตา่ งไปจากรปู พระอวโลกเิ ตศวรศิลปะขอมท่ัวไปท่ีมีมวยทรงกระบอก ปรากฏรูปภาพพระพุทธปางสมาธิ
หรอื พระอติมาภะอยูด่ ้านหนา้ มวยผม มีกรอบไรพระศกทําลายเป็นรูปเม็ดไข่ปลา พระโพธิสัตว์มีพระพักตร์ค่อนข้าง
เหล่ยี มพระเนตยาวรี ลมื พระเนตร ต่างกบั รปู พระโพธสิ ตั วท์ ั่วไปทมี่ ีพระเนตรปดิ สนิทอนั เป็นลกั ษณะของศิลปะขอม
แบบบายน สวมกุณฑลรูปตุ้ม สวมกรองศอส้ัน รูปสามเหล่ียมและพาหุรัด ม 4 กร หัตถ์ซ้ายบนถือคัมภีร์ หัตถ์ซ้าย
ล่างถือหม้อน้ํามนต์ หัตถ์ขวาบนถือพวงลูกประคําหัตถ์ขวาล่างถือดอกบัว นุ่งผ้าส้ัน มีชายผ้าเป็นรูปหางปลา คาด
เข็มขัดมี หัวรูปส่ีเหลี่ยมประดับลายดอกไม้ จากลักษณะทางประติมาณวิทยาของพระโพธิสัตว์ท่ีกล่าวไป แสดงให้
เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะพื้นเมืองบางประการที่ผสม ผสานอยู่กับศิลปะขอมแบบบายนอายุราวพุทธศตวรรษท่ี 18
อนั เป็นศลิ ปะทใ่ี หอ้ ิทธพิ ลโดยตรงกบั รูปพระโพธิสัตว์องคน์ ้ี
พระพุทธรูปนาคปรก: พระพุทธรูปนาคปรกองค์นี้ สลักจากหินทรายสีเขียว พบท่ีวัดปู่บัว เดิมจัดแสดงอยู่
ในพิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง มลี กั ษณะทางประตมิ าณวิทยาทส่ี ําคญั คอื พระพทุ ธรูปมีรัศมีเป็นรูปกลีบบัวซ้อน
กัน 3 ชั้นเม็ดพระศกทําเป็นลายรูปสี่เหล่ียมขนาดเล็กปรากฏกรอบไรพระศกพระพักตร์ มีลักษณะค่อนข้างเหลี่ยม
พระขนงต่อกันเป็นรูปปีกกาพระเนตรยาวรีลืมพระเนตรพระนาสิกโด่งงุ้มพระโอษฐ์หนาอยู่ในอาการแย้มพระสรวล
เล็กน้อยพระกรรณยาวพระพุทธรูปครองจีวรห่มเฉียง ปรากฏสังฆาฎิบนพระอังสาพระหัตถ์ทั้งสองประสานกันอยู่
บนพระเพลาในลักษณะสมาธิ ปรากฏรูปธรรมจักรอันเป็นลักษณะของมหาบุรุษอยู่บนฝ่าพระหัตถ์ ประทับ
นั่งขัดสมาธิอยู่บนขนดนาคสามชั้น ขนดนาคมีลักษณะสอบลงสู่ชั้นล่าง เบ้ืองหลังพระพุทธรูปทํารูปนาค 7 เศียร
นาคมีลักษณะใบหน้ายาว นาคเศียรข้างทุกเศียรชําเลืองไปยังนาคเศียรกลางปรากฏลายดอกจันทร์ท่ีลําคอนาค
182
ลักษณะของพระพุทธรูปนาคปรกองค์นี้ อยู่ในศิลปะลพบุรี ซ่ึงรับอิทธิพลจากศิลปะขอมแบบบายน ผสมผสานกับ
ฝีมอื ชา่ งทอ้ งถน่ิ กําหนดอายไุ ด้อยูใ่ นราวพทุ ธศตวรรษท่ี 18
สถานทตี่ ั้ง : ศนู ย์ราชการกรมศิลปากร ถนนสพุ รรณบรุ -ี ชยั นาท ตําบลสนามชยั อําเภอเมือง จงั หวดั
สุพรรณบุรี 72000 โทรศัพท์ : 0-3553-5330เวลาทาํ การ : วนั พธุ -วนั อาทติ ย์ วันนกั ขตั ฤกษ์ 09.00-16.00 น.
7. พพิ ธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ ชาวนาไทย
เดิมตั้งอยู่ท่ีถนนพระพันวษา ตําบลท่าพี่เลี้ยง ปัจจุบันได้ย้ายไปตั้งอยู่บริเวณศูนย์ราชการแห่งใหม่ ริมถนน
สาย สุพรรณ-ชัยนาท (340) เป็นอาคารคอนกรีตออกแบบผสมผสานระหว่างเรือนไทยและยุ้งฉางของชาวนา เป็น
พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเฉพาะเรื่องเก่ียวกับการทํานา เพื่อเรียนรู้เก่ียวกับภูมิปัญญา ประเพณี วิถีชีวิตชาวนาไทย
ท้ังยังเป็นสถานท่ีจัดเก็บศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ เครื่องมือและอุปกรณ์ทํานา นอกจากนี้ ยังจัดแสดงสิ่งของและเคียว
ด้ามทองคาํ ที่สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงใชท้ าํ นาสาธติ และรวงข้าวมงคล 9 รวงแรก ที่ทรงเกีย่ ว
ช้ันล่าง จัดแสดงเร่ืองราวความเป็นมาของการทํานา ประเพณีวิถีชีวิตและความเช่ือของชาวนา เร่ืองราว
ของข้าวในอดีต รวมท้ังเคร่ืองมือเครื่องใช้ในการทํานา ไม่ว่าจะเป็น คันไถ คราด จอบเสียม คันโพงหรือโซงโลง
ไม้กะทุ้งกล้า เคียว กรูด แกะ ขอฉาย คันหลาว ไม้ฟาดข้าว พัดหรือวี กระด้ง สีฝัด พล่ัว ปฏิทินชาวนา เสื้อผ้าชุด
ชาวนาพร้อมหมวก หุ่นและฉากจําลองบ้านของชาวนา เป็นต้น นอกจากน้ี ยังมีเศษภาชนะดินเผาท่ีมีร่องรอยของ
แกลบข้าวผสมอยู่ ภาพจําลองภาพเขียนสีที่ผาหมอนน้อย อําเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นภาพบุคคลกับ
ฝูงสัตว์ในทุ่งนา เคร่ืองมือเหล็ก กําไลสําริดที่มีร่องรอยของแกลบข้าว และท่ีน่าสนใจ คือ การพบภาชนะดนิ เผ่าท่ี
บ้านบางปูน ตําบลพิหารแดง อําเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ซ่ึงอาจเป็นหลักฐาน พระราชพิธีแรกนาขวัญในสมัย
อยุธยา
ชัน้ ล่าง แบ่งการแสดงออกเปน็ 5 เรอื่ ง ดงั น้ี
1. ลมมรสมุ กบั ฤดกู าลปลกู ข้าว
2. รอ่ งรอยของขา้ วจากอดตี
3. การทํานาในประเทศไทย
4. ประเพณแี ละวิถีชวี ติ ของชาวนาไทย
5. จากคันไถสคู่ วายเหลก็
นอกจากนช้ี ัน้ ล่างยังมหี อ้ งค้นควา้ ข้อมูล สาํ หรบั ค้นควา้ ข้อมลู ทางวชิ าการเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถทุ ี่จดั แสดง
ชัน้ บน จดั แสดงพระราชจรยิ วัตรพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยต้งั แตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจบุ นั ทรงเปน็ ผ้อู ปุ ถมั ภ์คาํ้ ชู
ชาวนาไทยทรงพัฒนาการทาํ นาและการเกษตรของชาติ มีการจดั แสดงภาพจําลองเหตุการณ์พระราชกรณยี กจิ ของ
สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ เม่อื ปี พ.ศ. 2529 ณ แปลงสาธติ บึงไผแ่ ขก ตําบลดอนโพธท์ิ อง อาํ เภอเมอื ง จังหวัด
สุพรรณบรุ ี ทรงทําปยุ๋ หมัก หว่านและเก็บเกยี่ วข้าวด้วยพระองคเ์ อง และยงั คงเก็บรักษาเคร่ืองมอื และอุปกรณต์ า่ งๆ
ทพี่ ระองคท์ รงใช้ ไดแ้ ก่ บัวรดน้ํา ขนั พลั่ว รถไถ เครอื่ งนวดข้าว พนั ธุ์ข้าวพระราชทาน รวงขา้ วมงคล 9 รวงแรกที่
ทรงเกี่ยว (ขา้ วเจา้ พนั ธ์ุ กย.23) เคียวด้ามทองคํา เป็นต้น ขั้นบน แบ่งออกเปน็ 3 เรอ่ื งราว ดงั นี้
1. พระบารมปี กเกลา้ ชาวนาไทย
2. ทวยราษฎร์ แซซ่ อ้ งรอเวลา
3. พระเสดจ็ มาโปรดชาวนาไทย
183
พิพิธภัณฑเ์ ปดิ ใหเ้ ข้าชมทกุ วันพุธถึงวนั อาทิตย์ (ปดิ วนั จนั ทร์ วันองั คาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ต้ังแต่เวลา
09.00 – 16.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม สอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติม โทร. 035-522191 ต้ังอยู่ในบริเวณ ศาลากลาง
จังหวัด ถนนพระพนั วษา อาํ เภอเมือง จังหวดั สพุ รรณบรุ ี
8. วดั พระลอย
วัดพระลอยเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากวัดหน่ึงของจังหวัดสุพรรณบุรี สร้างขึ้นเมื่อใด และสร้างโดยผู้ใดนั้น
ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่หากดูจากซากอุโบสถ อิฐ และใบเสมาแล้ว คาดว่าน่าจะสร้างข้ึนในช่วงกลางสมัยพระ
เจ้าอู่ทอง ชื่อวัดพระลอยนี้ เดิมเกิดจากการท่ีมีพระพุทธรูปปางนาคปรกเน้ือหินทรายขาว ซ่ึงคาดว่าเป็น
พระพุทธรปู สมยั ลพบุรี ลอยมาตามแม่นาํ้ ทา่ จนี (แม่น้ําสพุ รรณ) ชาวบ้านจึงได้ทําพิธีอาราธนาขึ้นมาจากแม่น้ํา แล้ว
สรา้ งวัดขนึ้ ในอดตี เรยี กกันวา่ “วดั ชลอ” แตต่ อ่ มา กม็ าเรียกเปน็ “วดั พระลอย” แทน
ภายในวัดแห่งนี้ นอกจากพระลอยอันเล่ืองชื่อแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น “โบสถ์” ที่ปรักหักพัง
สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง อายุไม่ต่ํากว่า 700 ปี แต่ต่อมาทางวัดได้ปฏิสังขรณ์โดยสร้างโบสถ์
ใหม่มาครอบ ต่อมาเป็น “อุโบสถ” จตุรมุขใหญ่ สูงเด่น สง่างาม ประดิษฐานพระพุทธนวราชมงคล สวยงามมาก
และยังมีพระพุทธรูปเนื้อหินทรายปางต่างๆ ที่เก่าแก่มากอีกด้วย ถัดไป คือ “สังขาร หลวงปู่แต้ม” ท่านเป็น
พระเกจอิ าจารย์ชื่อดังที่ชาวสุพรรณรวมไปถึงคนไทยท้ังประเทศ นับถือมากรูปหนึ่ง ท้งั น้ี แม้ว่าท่านจะมรณภาพมา
นานแล้ว แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจท่ีสังขารท่านก็ไม่ได้เน่าเป่ือยไปตามกาลเวลา นอกจากน้ีแล้ว บริเวณท่าน้ําหน้า
วัดยังเป็น “อุทยานมัจฉา” อันเป็นท่ีสงวนพันธุ์สัตว์น้ํา มีฝูงปลาหลายชนิดให้ผู้มาเท่ียวชมสามารถให้อาหารปลาได้
สดุ ท้าย บริเวณรอบวัดมี “รูปป้ัน” อันงดงามกระจายอโู่ ดยรอบ ไมว่ ่าจะเปน็ รปู ปัน้ เรื่องพระเวสสันดรชาดก เทพจีน
เปน็ ต้น
ที่อยู่ ม. 2 ถ.สมภารคง ตาํ บลรว้ั ใหญ่ เมอื ง สุพรรณบรุ ี 72000 โทร.035-522324, 089-6162108
วันเปดิ ทาํ การ : วนั อาทติ ย์ – วันเสาร์ เวลาเปดิ ทําการ : 08.00 - 17.00
184
9. ศาลตายาย
ศาลตายาย ต้ังอยถู่ นนนางพมิ เปน็ ศาลศักดสิ์ ทิ ธิ์ของชาวจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ตาและยายเปน็ บรรพบรุ ษุ ของ
ชาวสุพรรณบุรีที่เป่ียมไปด้วยพรหมวิหาร ผู้ใดขัดข้องหมองใจไปพบท่าน ท่านก็จะเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ให้ความกรุณา
เมตตาธรรมแกท่ กุ คนเสมอมา
สถานทพ่ี ํานักของตายายเรียกว่า ทางสี่แพ่ง เป็นชุมทางหรือว่าเป็นประตูป่าสมัยโบราณกาล ประชาชนทั่ว
4 ทิศ ผู้ใดจะไปสารทิศใดจะต้องผ่านทางส่ีแพ่งอันเป็นสถานที่พํานักของตายายน้ีเป็นประจํา ภายหลังบ้านเมืองได้
เจรญิ ขึ้นเปน็ จังหวดั สพุ รรณบุรี ทางส่ีแพ่งน้ีจึงกลายเป็นทางร่วมสําคัญสายหนึ่งที่ประชาชนในเมืองสุพรรณบุรีจาก
ทุกสารทิศที่จะเข้ามาในตลาดจะต้องเดินผ่าน มีชื่อเรียกใหม่ว่า สี่แยกนางพิม ต่อมาได้มีการย้ายศาลตายาย จากสี่
แยกนางพิมมาประดิษฐานไว้บริเวณพื้นท่ีปัจจุบัน ทางคณะกรรมการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลตายายได้มีการประชุม
และมีมติท่ีจะดําเนินการปรับปรุงบูรณะใหม่ให้มีสภาพสวยงามเป็นสถานท่ีปูชนียสถานต่อไปและยังมีการจัดงาน
ฉลองสมโภชโดยชว่ งวันที่ 5 ธนั วาคม จะมีงานสกั การะศาลตายายเป็นประจาํ ทกุ ปี
ศาลตายายท่ีถนนนางพิมสร้างเป็นศาลาทรงไทย ยกพ้ืนมีชานด้านหน้า มีร้ัวรอบขอบชิด สร้างรูปหล่อตา
ยายประดิษฐานไว้เป็นที่เคารพสักการะ ศาลตายายตั้งอยู่ใกล้สวนเฉลิมภัทรราชินี และหอคอยบรรหาร – แจ่มใส
เปิดใหน้ กั ทอ่ งเท่ียวเขา้ สักการะ ทุกวันต้ังแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
10. ศนู ยเ์ รียนรู้วถิ ีชวี ิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย
สร้างขึ้นเพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ของชาวนาและผู้ท่ีสนใจในการศึกษาค้นคว้าวิธีการทํานาท่ีเหมาะสมใน
ปัจจุบัน และวิถีชีวิตบรรพบุรุษของชาวไทยที่ประกอบอาชีพทํานามาต้ังแต่ครั้งอดีต ภายในตกแต่งอย่างร่มร่ืน
ประกอบด้วยหมเู่ รือนไทยตงั้ เรียงรายอย่างสวยงามและทงุ่ นาเขยี วขจี ประกอบดว้ ย
185
- เรือนศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ จัดแสดงพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งเสด็จข้ึน ครอง
สิริราชสมบัติ พระบรมฉายาลักษณ์ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ และพระบรมรูปและพระสาทิสลักษณ์ของราชวงศ์
จักรตี ง้ั แต่รชั กาลท่ี 1 - 9
- เรอื นแม่โพสพ จัดแสดงองคแ์ มโ่ พสพแกะสลักจากไม้สกั ทั้งท่อนและรปู หล่อแมโ่ พสพในสมยั รตั นโกสนิ ทร์
- เรือนหนังสือพระราชกรณียกิจและเรือนหนังสือข้าว ให้ชาวนาและผู้ท่ีสนใจได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจ
ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว และกระบวนการผลติ ขา้ วในขน้ั ตอนตา่ ง ๆ
- เรือนวิถีชาวนาไทยในอดีต หมู่เรือนไทยทรงสวยท่ีเก็บข้าวของเคร่ืองใช้ในการทํานาของชาวนา ในอดีต
ตอ่ กันยงั มียงุ้ ขา้ ว และคอกควายทีเ่ ป็นส่วนสาํ คญั ในการทาํ นา
- แปลงนาสาธิต ชมความเขยี วขจขี องทงุ่ นาและความหอมของข้าวที่ออกรวงใหม่ แปลงนาแห่งนี้สาธิตการ
ปลกู พนั ธข์ุ า้ วนาปรัง 12 ชนิดท่นี ยิ มปลกู ในปจั จบุ นั
- หอเตือนภัยชาวนา จุดชมวิวมุมสูงของศูนย์แห่งน้ี ใช้เป็นหอประกาศเตือนภัยต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนกับ
ชาวนาในปจั จบุ นั และอนาคต
- ร้านโชห่วยและร้านขายของ รําลึกความหลังกับร้านค้าท่ีรวบรวมสินค้าในสมัยอดีต ตั้งอยู่ที่ตําบล
บ้านโพธิ์ อาํ เภอเมืองสุพรรณบุรี เปิดทุกวันเวลา 09.00 - 18.00 น. โทร. 0 3544 6955 หมู่คณะติดต่อล่วงหน้าได้
ที่โทร. 09 2626 1515
11. โรงละครแหง่ ชาตภิ าคตะวนั ตก
โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตกเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภาคตะวันตกท่ีต้ังอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้มี
การพัฒนามาจากการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 4 มุมเมืองอันเป็นโครงการขยายงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมไปสู่แต่ละ
ภูมิภาคของกรมศิลปากรโดยได้มีการริเริ่มท่ีบริเวณวัดยางแย้เป็นท่ีแรก โดยต่อมาทางจังหวัดสุพรรณบุรีได้มี
นโยบายขยายเมืองใหม่โดยสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่ขึ้นและได้สร้างโรงละครแห่งชาติภาคตะวันตกนี้ขึ้นมาซ่ึง
ต้ังอยู่ติดกับวิทยาลัยนาฏศิลป์และได้รวมเข้าด้วยกันกับศูนย์วัฒนธรรมทั้งหมด ทั้งน้ีเพื่อเป็นการอนุรักษ์และ
สนับสนุนส่งเสริมการเผยแพรศ่ ลิ ปวัฒนธรรมทางด้านนาฏศลิ ป์และดนตรแี ก่คนรุน่ หลงั โดยโครงการมีพ้ืนที่โดยรวม
ท้ังหมดประมาณ 60 ไร่ซ่ึงประกอบไปด้วย 5 อาคาร ได้แก่ โรงละคนแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี
186
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภาคตะวันตก จังหวัดสุพรรณบุรี หอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี หอจดหมายเหตุ
แหง่ ชาติจงั หวดั สุพรรณบุรี และวทิ ยาลยั นาฏศิลป์ สุพรรณบรุ ี
ภายในศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภาคตะวันตกจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโรงละครภูมิภาคขนาด 850 ท่ีนั่งซึ่ง
กําหนดให้สร้างขึ้นสําหรับภาคตะวันตกของประเทศ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพ่ือเพิ่มพูนประสบการณ์ด้าน
การแสดง ให้บริการทางวิชาการด้านนาฏศิลป์ ดนตรี อาทิเช่น โขน ละครในวรรณคดีไทย รวมท้ังเป็นสถานท่ีจัด
กจิ กรรมเพือ่ เผยแพร่และแลกเปลีย่ นศลิ ปวัฒนธรรมระหวา่ งชาติ ประจาํ ภาคตะวนั ตก มีการจัดการแสดงละครและ
กจิ กรรมทางศลิ ปวัฒนธรรมโดยนักเรยี นของวทิ ยาลัยนาฏศลิ ปใ์ ห้ประชาชนทว่ั ไปไดเ้ ข้าชม ทกุ วันเสาร์ที่ 1,2 และ 3
สําหรับผู้ที่สนใจเข้าเย่ียมชมสามารถเข้าชมสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ท่ี โรงละคร
แห่งชาติภาคตะวันตก ต้ังอยู่ริมถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 340) ตําบลสนามชัย อําเภอเมือง
จังหวัดสุพรรณบุรี หรือสามารถติดต่อผ่านหมายเลขโทรศัพท์เพ่ือสอบถามรายละเอียดและสํารองท่ีนั่งได้ท่ีเบอร์
035535112 โดยอัตราบัตรเข้าชมราคา 40, 60 และ 80 บาท วันเปิดทําการ : วันเสาร์ – วันเสาร์ เวลาการ :
10.00 - 17.00
12. สระศกั ดส์ิ ทิ ธิ์
สระน้ําศักด์ิสิทธ์ิของจังหวัดสุพรรณบุรีนี้ต้ังอยู่ในเขตตําบลสระแก้ว ริมถนนสายดอนเจดีย์-สุพรรณบุรี
อําเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี บริเวณ หมู่บ้านท่าเสด็จซึ่งมีท่ีมาของชื่อตําบลจากการที่พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ท่ีตําบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนช่ือหมู่บ้านเป็น
บ้านท่าเสด็จทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “…แต่เหตุไฉนท่ีสระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สําคัญเป็นอัน
มาก นาํ้ ในสระกไ็ ม่ใช้ ปลาในสระก็ไมก่ ิน สระมีหญา้ ขน้ึ รกเต็มไปหมด มจี ระเขอ้ าศัยอย่ทู ง้ั สี่สระ
นํา้ สระคา สระยมนา ไม่ส้สู ะอาด มสี ีแดง แต่นํา้ สระเกษ สระแกว้ ใสสะอาด…”
สระศักด์ิสิทธ์ิ หรือThe Four red Ponds ห่างจากตัวเมือง 14 กิโลเมตร น้ําในสระทั้ง 4 นับถือว่า
ศักด์ิสิทธิ์มาแต่โบราณ เป็นนํ้าท่ีใช้ใน พิธีถือนํ้าพระพิพัฒน์สัตยา และ พระราชพิธีสรงน้ํามูรธาภิเษก สระศักดิ์สิทธิ์
เดิมพบเพียง 4 สระ คอื สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ ต่อมาพบอีก 2 สระ คือ สระอมฤต 1 และสระอมฤต
2 และท้งั นก้ี รมศลิ ปากรได้ขึ้นทะเบียนจดั ตงั้ สระน้าํ ศักด์สิ ทิ ธเิ์ ปน็ โบราณสถานไวเ้ รยี บร้อยแลว้ สระศักด์ิสทิ ธ์แิ ห่งน้ีมี
ตํานานเล่าสืบต่อกันมาโดยมีตํานานเก่ียวกับสระศักดิ์สิทธ์ิท้ัง 4 ว่า มีเจ้าผู้ครองนครองค์หนึ่งมีพระราชธิดา 4
พระองค์ทรงพระนามว่า แก้ว คา ยมนา เกศ ทุกพระองค์มีพระสวามีแล้วแต่ องค์สุดท้องคือเกศมีพระสวามีเป็น
187
ลิงเผอื ก ตอ่ มาเจ้าผูค้ รองนครไดส้ งั่ พระราชธิดา และพระราชบุตรเขยว่า ถ้าใครสามารถขุดสระได้ลึกและกว้างที่สุด
จะมอบพระขรรค์ศักดิ์สิทธแิ์ ละให้ครองนครตอ่ ไป ดงั นนั้ ทุกคนจึงเรมิ่ ตน้ ขุดสระ ส่วนน้องเกศน้องคนสุดท้องต้องขุด
อยู่คนเดียว อีกท้ังตอนถึงเวลากลางคืน พ่ีสาวท้ัง 3 และพ่ีเขยยังเอาดินมาถมสระอีก ครั้นถึงวันสุดท้ายลิงเผือกกับ
บริวารมาช่วยกันขุดสระพักเดียวก็ได้สระท่ีกว้างและลึกที่สุดกว่าทุกๆสระ และยังปลูกต้นเกศไว้ตรงกลางสระเป็น
เครอ่ื งหมายอีกดว้ ย คร้งั ถงึ ร่งุ เช้าตามกาํ หนด เจ้าผูค้ รองนครก็สวรรคตพอดี บรรดาเสนาอํามาตย์จึงต้ังกรรมการมา
ตรวจดสู ระท้ังส่ี ปรากฏวา่ สระของเกศกวา้ งใหญ่และลึกท่สี ุด จงึ มองพระขรรค์ใหเ้ กศ ทาํ ให้พีส่ าวและพี่เขยไม่พอใจ
จึงลักเอาพระขรรค์ศักด์ิสิทธ์ิหนีไป ลิงเผือกจึงข่ีม้าติดตามออกไปจนทันท่ีสระของเกศ เมื่อพี่สาวและพ่ีเขยเห็นจวน
ตัวจึงขวา้ งพระขรรค์ลงไปในสระของเกศ บังเอญิ ถกู ตดั ตน้ เกศขาดสะบ้ันลง และพระขรรค์ก็อนั ตรธานหายไป น้ําใน
สระจึงกลายเป็นนํ้าศักด์ิสิทธ์ิต้ังแต่นั้นเป็นต้นมา วันเปิดทําการ : วันอาทิตย์ – วันเสาร์ เวลาเปิดทําการ : 08.00 -
17.00 ท่อี ยู่ ตงั้ อยู่ในเขตตาํ บลสระแกว้ ริมถนนสายดอนเจดีย์-สุพรรณบรุ ี อําเภอเมอื ง จงั หวดั สุพรรณบุรี
13. วดั พระนอน
วัดพระนอนต้ังอยู่ท่ี หมู่ 2 ถนนสมภารคง ตําบลพิหารแดง อําเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์
72000 ตัววัดอยเู่ ลยวดั หน่อพทุ ธางกูรไปเลก็ นอ้ ย ติดกบั แม่นา้ํ ท่าจนี วัดแห่งนี้สรา้ งข้ึนใน สมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัด
เก่าแก่สมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ ปัจจุบันมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชม ทําบุญไหว้พระเป็นจํานวน
มาก แล้ววดั แห่งนี้ ยงั เปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วหนึง่ ใน Unseen Thailand อีกด้วย
ภายในวัดมจี ุดท่ีนา่ สนใจมากมาย เมอ่ื เข้ามาในวัด สิ่งแรกท่ีจะเจอคือ “ศาลาการเปรียญ” ศาลานี้จะตั้งอยู่
บริเวณหน้าวัด มีความสวยงามดี ต่อมาเมื่อเข้ามาด้านในจะพบ “อุทยานมัจฉา” อุทยานแห่งน้ีเป็นโครงการใน
พระราชดําริของสมเด็จพระเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณริมน้ําหน้าวัด มีปลานานาชนิดชุกชุม ท้ังปลาสวาย ปลาตะเพียน
ปลาแรด ทางวดั ประกาศเป็นเขตอภัยทาน นักท่องเทย่ี วและผมู้ จี ิตศรัทธาสามารถมาทาํ บุญให้อาหารปลาในบรเิ วณ
น้ีได้ ติดกับอุทยานมัจฉาจะเป็น “ศาลเจ้าแม่กวนอิม” ผู้ท่ีสนใจสามารถเข้าไปกราบสักการะเจ้าแม่ได้ท่ีน่ี ศาลมี
ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ต่อมาเป็น “วิหารพระนอน” เป็นวิหารทรงจตุรมุข โดยมุขด้านหน้ามีหลังคาต่อเติมออกมา
เพ่ืออํานวยความสะดวกให้กับพุทธศาสนิกชนท่ีเดินทางมาไหว้พระ ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักจากหิน
ซึ่งเป็นที่มาของช่ือวัดพระนอน พระพุทธรูปท่ีนี่มีลักษณะแปลกกว่าที่อื่น คือ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในลักษณะนอน
หงายขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ 2 เมตร ลักษณะคล้ายกับ พระนอนท่ีเมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย
188
สถานท่ีปรินิพพานของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบวัด ยังมีการปลูกต้นไม้ ท้ังไม้ผลและไม้ประดับ ทํา
ใหว้ ัดดูรม่ รน่ื สวยงาม และเปน็ สถานทีพ่ ักผอ่ นหยอ่ นใจที่ขึ้นหน้าข้นึ ตาแหง่ หนึง่ ของจังหวัดเลยทเี ดยี ว
สําหรับผู้ท่ีสนใจเดินทางมาท่ีน่ี สามารถเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางเดียวกับวัด
พระศรีรัตนมหาธาตุ จากปากทางถนนสมภารคง เข้าไป 4.1 กม. วัดจะอยู่ด้านขวามือ ทางวัดจะเปิดให้เข้าชมโดย
ไมเ่ สียคา่ ใชจ้ ่ายทุกวัน ตงั้ แตเ่ วลา 8.00 - 17.00 น. โทร. 035-543554
14. วัดพระศรรี ัตนมหาธาตุ
วัดพระศรีรัตนมหาชาติต้ังอยู่ถนนสมภารคง แยกจากถนนมาลัยแมนไปประมาณ 300 เมตรเขตตําบล
รวั้ ใหญ่ ฝัง่ ตะวนั ตกของแมน่ ้ําสุพรรณบุรี ในสมยั กอ่ นเป็นศูนยก์ ลางของเมอื งสุพรรณภมู ิ เป็นวดั คูบ่ ้านคู่เมือง มีอายุ
ไม่ตาํ่ กว่า 600 ปี สรา้ งข้ึนในสมยั ของพระเจ้าอู่ทอง ปรางค์องค์ประธานเป็นท่ีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่อย่างไร
ก็ตาม ในปี พ.ศ. 2456 ชาวบ้านพากันมาลักลอบขุดค้นหาทรัพย์สิน แล้วได้เงินทอง ทรัพย์สินไปเป็นจํานวนมาก
จนเปน็ เหตุใหใ้ นบริเวณวดั ทรุดโทรมลงไป
กรุในองค์พระปรางค์นี้เป็นต้นกําเนิดพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรีท่ีโด่งดังมากในวงการพระเคร่ือง อันเป็นหนึ่ง
ใน “เบญจภาคี” 5 พระเครื่องยอดนิยม อันได้แก่ พระสมเด็จนางพญาของสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต)
วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร พระผงสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี พระสมเด็จนางพญา จังหวัดพิษณุโลก
พระทุ่งเศรษฐี จังหวัดกําแพงเพชรและพระรอด จังหวัดลําพูน นักโบราณคดีหลายท่านให้ความเหน็ ว่าปรางค์องค์น้ี
น่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้างสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะจากหลักฐานการก่อสร้างองค์ปรางค์เป็นการ ก่ออิฐไม่ถือ
ปูน ซ่ึงเปน็ วธิ ีการเก่าแก่กอ่ นสมยั อยุธยา
ภายในวัด มีโบราณสถานท่ีสําคัญคือ พระปรางค์องค์ใหญ่ ซ่ึงเป็นเจดีย์ประธานของวัดศิลปกรรม
สมัยอยุธยาตอนต้น ด้านหน้าพระปรางค์ ก่อด้วยอิฐสอดิน ผิวด้านนอกฉาบปูนส่วนฐานทําเป็นชุดฐานบัวลูกฟัก
สี่เหล่ียมย่อมุมซอ้ นลดหล่ันกันขึ้นไป 4 ชั้น รองรับองค์เรือนธาตุ ลักษณะมุมมีมุมประธานซ่ึงมีขนาดใหญ่ อยู่กลาง
189
มมุ ย่อยซ่ึงมีขนาดใหญอ่ ยู่กลาง มมุ ย่อยซึง่ มีขนาดเลก็ กว่าขนาบทง้ั สองข้าง นอกจากนี้ ยังมี เจดยี ์ ทรงแปดเหลี่ยม
จํานวน 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์ อุโบสถ วิหารน้อย และซากเจดีย์ทรายจํานวน 2 องค์
บริเวณด้านทิศตะวันตกของพระปรางค์ แล้วภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปหินทรายอีกจํานวนหนึ่งด้วย วันเปิด
ทาํ การ: วนั อาทติ ย์ – วันเสาร์ เวลา: 08.00 - 17.00 น.
ร้านอาหาร
1. ร้านอาหาร ขนาบนํ้า (อําเภอเมือง) ร้านอาหารใกล้ตัวเมืองสุพรรณ จากถนน กรุงเทพ - สุพรรณ (340)
แยกไปทางบ้านไผ่ขวางราว 2 ก.ม. เล้ียวซ้ายตามถนนริมคลองชลประทานไปอีก 300-400 เมตร ร้านหลังคา
มงุ จากแบบรา้ นอาหารตามต่างจงั หวัด รายการอาหารแนะนาํ ปลาช่อนลุยสวน ปลาช่อนทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมผัก
พื้นบ้านต้มหลายชนิดและนํ้าพริกให้เลือกจิ้มอีก 3 ชนิด หมูทอดสมุนไพร หมูหมักนุ่มทอดพร้อมเคร่ืองสมุนไพร
หลากชนิด หอมนุ่มเนื้อหมู และกรอบหอมด้วยสมุนไพร เม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ และเครื่องเคียง ผักดอง แตงโม
ต้มแซบกระดูกอ่อน สลดั กงุ้ ทอด เปดิ บริการทุกวนั ตง้ั แตเ่ วลา 10.00 - 22.00 น.
โทร. 035-412580, 089-2062077 http://www.suphan.biz/restaurant.htm
2. ภัตตาคารนพรัตน์ (อาหารจีน-ไทย) กว่า30 ปี กับตํานานอาหารจีนเมืองสุพรรณ นพรัตน์ ภัตตาคารได้
ถอื กําเนดิ จากบรรพบุรุษ ต้งั แต่รุ่นอากง ประกอบกับประสบการณ์ในการทําโต๊ะจีนกว่า 30 ปี นพรัตน์ภัตตาคารไม่
ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหารทุกรายการ อาหารสะอาด รสชาติอร่อย ได้รับใบประกาศ CLEAN FOOD GOOD
TASTE ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึง ปัจจุบัน เมนูแนะนํา เป็ดนพรัตน์ กุ้งแม่น้ํา ผัดโหงวก้วย ออส่วน ขนมจีบ(สูตร
ด้งั เดิม) สาหรา่ ยไส้ปูอัด ปลาม้า 3 รส อย่ตู รงขา้ มวดั ป่าเลไลยก์ เปดิ บรกิ าร 10.30-21.00 น
(หยดุ ทกุ วันพธุ ) โทร 035-555-333, 035-555842, 081-5875214, 081-5876154
http://www.suphan.biz/nopparatana.htm
3. สุรชัยปลาเผา บึงไผ่แขก (อาหาร) ร้านจะอยู่ริมทุ่งนาห่างจากตัวเมืองพอสมควร จากตัวเมืองไปตาม
เส้นทางสู่ จังหวัดกาญจนบุรี ผ่านมังกรสวรรค์-วัดป่าเลไลยก์ ตรงไปถึงสามแยกอู่ยา เล้ียวซ้ายไปเล็กน้อย สังเกต
ปา้ ย " ไมเ้ อกรีสอรท์ " กลับรถและมองป้ายร้านสุรชัยปลาเผา ซ้ายมือ ตรงเขาไปอีกประมาณเกือบ 2 ก.ม. (มีแยก
ให้เลย้ี วซ้าย 2 แยก อย่กู ลางทุ่งนา) เบอร์โทร 081-7636102, 081-9424654 เมนูแนะนํา ปลาช่อนนาอบฟาง กุ้ง
ชบุ แปง้ ทอด พลา่ กุง้ เต้น ปลากด ปลาหมอผดั ฉ่า http://www.suphan.biz/surachai.htm
4. กวยจับ๊ น้องแตน อําเภอเมอื ง (จานดว่ น) รา้ นอาหาร ราคาถกู ท่ีน่าลองชมิ อยู่เลยวงั ปลาวัดพระนอนไป
ประมาณ 1 กโิ ลเมตร ร้านเปดิ ขายช่วงสายๆ ถงึ บา่ ยๆ รายการอาหาร กวยจบั๊ สูตรดง้ั เดมิ หอมอรอ่ ย ผดั ไทยเกย๊ี ว
กรอบ ก๋วยเตีย๋ วต้มยาํ ก๋วยเตยี๋ วนา้ํ ตก อาหารจานดว่ น งา่ ยๆไดร้ สชาตอิ ย่าง ขา้ วกระเพราไข่ดาว
โทร. 035-522680 http://www.suphan.biz/nongtanres.htm
5. ก๋วยเต๋ียวเดินดง (จานด่วน-อาหาร) เปน็ กว๋ ยเตีย๋ วประยกุ ตผ์ า่ นการคดิ คน้ สตู รใหม่ ๆ แตผ่ ลลัพธท์ ี่
ออกมายอดเยยี่ ม เป็นก๋วยเตยี๋ วแห้งทป่ี รุงสําเรจ็ มาแลว้ คลกุ เคล้าเครอ่ื งปรุงท่เี ข้ากนั ไดอ้ ย่างดีแบบไมต่ อ้ งปรงุ เพ่ิม
รายการอาหารแนะนาํ ก๋วยเตย๋ี วเดนิ ดง,ขาไก่ต๋นุ ลําไย, เยน็ ตาโฟเครอื่ งสด, ก๋วยเต๋ยี วทะเลน้ําข้น, ก๋วยเต๋ียวปลา
กะพง, ลวกจิ้มปลากะพง การเดินทาง ร้านนอี้ ยู่บนถนนนางพิม ถนนเดยี วกับทางไปหอคอยบรรหาร ร้านอยฝู่ ่ังตรง
ข้ามรา้ นท่าจีน ใกล้ ๆ โรงแรมศรอี ูท่ องแกรนด์ โทร 081-5704056
190
6. รา้ นอาหารเรือนแพ ครัวสพุ รรณ (อาหาร & บรรยากาศ) ต้งั อยทู่ ต่ี ําบลสนามชัย อําเภอเมอื งสุพรรณบุรี
ติดกบั แมน่ า้ํ สพุ รรณ หรอื แมน่ ้ําทา่ จนี ในเขตอทุ ยานมัจฉาแห่งชาติ ทีท่ า่ นสามารถสนกุ กับการใหอ้ าหารปลา หรอื
ลอ่ งเรอื ชมธรรมชาติ และการดาํ เนนิ ชีวติ ของชาวสพุ รรณตามสองฟากฝงั่ แม่น้ํา พร้อมกับการรับประทานอาหาร
เลิศรส ในบรรยากาศสว่ นตัว หรือจะเลอื กนั่งรบั ประทานอาหารในเรอื นแพทีม่ อี ยู่ 3 แพ ด้วยกนั เมนแู นะนํา
ประเภทกุ้ง ปลาแม่นํา้ โทร. 035-523057 http://www.suphan.biz/ruenpaekhrawsuphan.htm
7. สวนอาหารบ้านเรือนไทย (อาหาร & บรรยากาศ) ทางเข้าติดกับกับวัดหอยโข่งจากถนน สุพรรณ-
ชัยนาท (345) เล้ียวซ้ายเข้าตัวเมือง ผ่านหอนาฬิกา-ส่ีแยกไฟแดง ให้เล้ียวขวา ตรงไปอีกราว 700 เมตร ซ้ายมือ
สังเกตวัดหอยโขง และป้ายร้านบ้านเรือนไทย เข้าซอยไปประมาณ 200 เมตร เปิดบริการ 11.00-23.00
โทร 035-521582, 035-546644 รายการอาหารแนะนํา ต้มยําปลาม้า กุ้งมะขาม ปลาม้าพริกไทดํา เม่ียงปลาช่อน
สมุนไพร หมก่ี รอบกุ้ง ส้มตํากงุ้ สด http://www.suphan.biz/baanruenthai.htm
8. สวนอาหารบ้านตอไม้ (อาหาร & บรรยากาศ & ดนตรี) ร้านอาหารแนวคันทรีขนาดใหญ่ ใกล้เส้นทาง
ไหว้พระเก้าวัด (ถนนสมภารคง) แนวการจัดร้านสไตล์โมเดิร์นคันทรี บรรยากาศท่ีล้อมรอบด้วยทุ่งนาและบึงนํ้า
ขนาดใหญ่ อาหารแนะนําลาบปลาช่อนลุยสวน ปลาช่อนเผาเกลือ กุ้งแม่นํ้าอบเกลือ ปลาม้าผัดฉ่ากะทะร้อน
ปลาคังลวกจ้ิม เปดิ บรกิ าร 11.00-23.00 Tel: 035-450-060 ,081-658-6996 , 084-123-6882
การเดินทางเข้าอยู่ตรงข้ามวัดแค จากถนน สุพรรณ-ชัยนาท (345) เลีย้ วซ้ายเข้าตัวเมือง ผ่าน หอนาฬิกา-
สีแ่ ยกไฟแดง ตรงไปข้ามสะพาน (แมน่ า้ํ ทา่ จนี ) ชดิ ขวากลบั รถชอ่ งแรก ชดิ ซา้ ยเข้าถนนสมภารคง (เสน้ ทางอุทยานฯ
มัจฉาวัดพระนอน) ตรงไปสังเกตวัดแคขวามือ ทางเข้าร้านจะอยู่ฝ่ังตรงข้าม เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 1 กโิ ลเมตร มี
ปา้ ยบอกชดั เจน http://www.suphan.biz/baantormai.htm
9. สวนอาหาร ครัวนฤมล (อาหาร & บรรยากาศ อาหารจานด่วน) เป็นร้านอาหารคณุ ภาพร้านหนึ่งของ
จงั หวัดสุพรรณบุรี ซ่งึ เปน็ รา้ นทม่ี ีประสบการณก์ ารทําอาหารมายาวนาน มีช่อื เสียงในรสชาติทอ่ี รอ่ ย มคี ณุ ภาพ และ
สะอาด เคยได้รับประกันความอร่อยจากคุณชายถนัดศรี ต้ังแต่ปี 2540 ทางร้านจะเน้นคุณภาพของ วัตถุดิบและ
เคร่ืองปรุง เพอ่ื สขุ ภาพและความปลอดภัยของลกู คา้ โทร. 035-525152 บริการอาหารตามสั่ง และอาหารจานด่วน
ต้ังอยู่ในบรเิ วณเดยี วกบั เอกชัย สาล่สี พุ รรณ สถานท่ีจอดรถสะดวกสบาย และยังได้เพลิดเพลินกบั การจบั จา่ ยซ้อื หา
ของฝาก ของทรี่ ะลึก และขนมอรอ่ ยๆมากมาย
การเดนิ ทางริมถนนใหญ่ สุพรรณ-ชัยนาท (340) จากกรุงเทพจะอยฝู่ ั่งขวามือ ก่อนถึงตัวเมอื งสพุ รรณ
เลก็ นอ้ ย ท่ีอยู่ 222/2 หมู่ 5 ถ.สุพรรณบุรี – บางบวั ทอง ตําบลทา่ ระหดั อาํ เภอเมือง จงั หวัดสพุ รรณบุรี 72000
โทร. 035-525152, 035-525111 แฟกซ์.035-525060
เมนแู นะนํา เชลลช์ วนชมิ ปี 2540
ปลามา้ ทอดกระเทียม เป็นอาหารจานเดด็ ทไ่ี มค่ วรพลาด กรอบนอกนมุ่ ใน คลกุ เคลา้ ปรุงรสกับซอสรส
กลมกลอ่ ม หอมกระเทยี มทอดท่ีกรอบกําลังดี
เห็ดหอมสอดไสก้ งุ้ ผกั รวม เหด็ หอมคณุ ภาพ ปนั้ รวมกับกงุ้ สด ทอดไดห้ อมกรอบ เสิรฟ์ พรอ้ มคะนา้ กรอบ
และผักรวม รสชาตเิ ข้ากันกาํ ลงั ดี แตถ่ ้าอยากเพมิ่ ความเข้มข้น กห็ ยอดซอสเปรย้ี วลงไปลงนิดหนอ่ ย อรอ่ ยจรงิ ๆ
ปลาช่อนนฤมลชมสวน ปลาชอ่ นนาสดๆ ทอดกรอบกาํ ลงั ดี เครอ่ื งเคยี งสมนุ ไพรไทย ตะใคร้ ขิง มะนาว
พริกข้ีหนแู ละถัว่ ลสิ ง เป็นอกี หนึ่งเมนูเพือ่ สขุ ภาพทนี่ า่ ลองมาชิม
แกงเลยี งกุ้งสด เมนูบา้ นพื้นบา้ นหอมกลนิ่ เครอื่ งแกงและผกั สดน่ารับประทาน
แกงส้มชะอมกุ้งสด เมนบู า้ นๆทถ่ี ูกใจหลายคน เดด็ ตรงนํา้ แกงทีห่ อมกลมกลอ่ ม
ผกั ปลอดสาร หลากหลายเมนเู พ่ือสุขภาพกบั จากพืชผกั ทสี่ ะอาดปราศจากสารตกค้าง
191
ขนมหวานเยน็ ๆ เพ่อื ความสดชื่นกอ่ นการเดินทางท่องเทยี่ วต่อไป
http://www.suphan.biz/kruanaruemol.htm
10. "สม้ ตาํ สองหนุม่ " (อาหาร ส้มตาํ ) รา้ นสองหน่มุ ขายอาหารอสี าน อาหารพนื้ บา้ น จากรา้ นเลก็ ๆ ทอี่ ยู่
ข้างโรงเรยี นสงวนหญงิ ปัจจบุ ันได้ขยบั ขยายรา้ นมาอยู่ริมทางรถไฟสพุ รรณ
ถ้ามาจากสแี่ ยกแขวงการทางหอนาฬิกา ให้มุ่งหน้าตามถนนมาลัยแมน (321) ไปทางวัดป่า พอถึงสามแยก
หน้าโรงเรียนสารพัดช่างให้เล้ียวซ้าย ไปตามทางเจอส่ีแยกมะขามสามต้น ให้เลี้ยวขวา ไปอีกสองร้อยเมตรจะเจอ
ร้านอยขู่ วามอื เปิดบรกิ าร 9.00 - 21.00 น โทร 035-502793
http://www.suphan.biz/songnum.htm
11. อ้น ส้มตําปูมา้ (อาหาร ส้มตํา) ตําปู ตําไทย ตําแมงดา ตําไข่เค็ม ตําปลาร้า ตําไข่เค็มแมงดามีสารพัด
ส้มตาํ ร้านนก้ี ไ็ ด้ปรบั รสชาตใิ หเ้ ปน็ แบบภาคกลาง
การเดนิ ทาง การเดินทางไปร้านนี้ ถา้ มาจากสแี่ ยกแขวงการทางหอนาฬิกา ให้มุง่ หนา้ ตามถนนมาลยั แมน
(321) ไปทางวดั ป่า พอถึงสามแยก หนา้ โรงเรยี นสารพัดชา่ งใหเ้ ล้ยี วซ้าย ไปตามทางเจอสแี่ ยกมะขามสามตน้ ให้
เล้ียวขวา ไปอกี เล็กน้อยรา้ นอยขู่ วามอื เปดิ บรกิ าร 9.00 - 21.00 น โทร 035-502793
http://www.suphan.biz/ounsomtumpu.htm
12. ร้านอาหาร โกต๋ี (อาหาร ข้าวต้ม จานด่วน) จากร้านข้าวต้มเก่าแก่ ยอดนิยมของคนเมืองสุพรรณ
ปัจจุบันได้พัฒนารูปแบบร้านแนวสมัยใหม่ ท่ีดูทันสมัย แต่ยังคงความเรียบง่ายและกลิ่นไอของร้านข้าวต้ม ท่ียังคง
คณุ ภาพของความอร่อยกับเมนอู าหารทม่ี ีใหเ้ ลือกหลากหลาย กวา่ เดิม เปิดบริการ 16.30 - 02.00 น
ท่ีต้ัง 26/11 ถนนหมื่นหาญ ตําบลท่าพี่เลี้ยง อําเภอเมืองสุพรรณ โทร 035-502793 รายการอาหารแนะนําแหนม
ปีกไก่ทอด นกทอดกระเทียม ซี่โครงหมูอบ แกงป่าปลากด ปลาหมอแล่ราดพริก เอ็นหมูตุ๋นนํ้าแดง ต้มจับฉ่าย
การเดินทาง จากถนน สุพรรณ-ชัยนาท (340) พอใกล้ถึงตัวเมืองสุพรรณ ให้คอยมองสะพานลอยรถข้าม เข้า
ชอ่ งซ้ายสุด และเล้ียวซ้ายก่อนลอดสะพาน ขับตรงมาราว 400 เมตร เจอไฟแดง ให้ตรงไปอีกราว 50 เมตร สังเกต
ขวามือ โรงแรมคุม้ สุพรรณ ตรงไปอกี เล็กนอ้ ย ร้านโกตี๋จะอย่รู มิ ถนนขวามือ
http://www.suphan.biz/kotee.htm
13. ร้านอาหารขวั ะ (อาหาร ) ร้านอาหารในตึกแถวหอ้ งเดยี ว ใกลก้ ับหอคอยบรรหาร เป็นรา้ นอาหาร
เล็กๆตามส่งั ทวั่ ไป อาหารเดน่ ของทนี่ ีก่ เ็ ลอื กคดั วัตถดุ ิบทมี่ คี ณุ ภาพ และราคาคอ่ นข้างสูง เหมาะสาํ หรบั นกั ชมิ ท่ชี นื่
ชอบของเด็ดประจาํ จงั หวัด โดยพ่อครัวระดบั ฝมี ือ จะตดิ อยทู่ ข่ี นาดของรา้ นทอ่ี าจคับแคบไปนิด จํานวนโต๊ะไมม่ าก
เน้นความพิถีพิถันการปรุงและรสชาติอาหาร รายการอาหารแนะนํา ยาํ เห็ดโคน กุ้งทอดเกลอื ปลาม้าตม้ ยาํ สลดั
หมทู อด ตม้ ยําพงุ ไขป่ ลาช่อน เปดิ บริการ 10.00 - 22.00 น โทร 035-521045
การเดนิ ทาง ต้งั อยใู่ นตัวเมอื งสพุ รรณ ถนนนางพมิ ตําบลทา่ พเี่ ลย้ี ง เยื้องๆกับสวนอาหารท่าจีน อยู่ระหว่าง หอคอย
บรรหาร กับโรงแรมศรอี ู่ทองแกรนด์ ลักษณะเป็นตึกแถวหอ้ งเดยี ว
http://www.suphan.biz/kuw.htm
14. รา้ นอาหารไผข่ วาง (อาหาร ) ร้านอาหารขนาดใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองสุพรรณ เป็นร้านอาหารที่
สามารถรองรับนักท่องเที่ยวท่ีมาเป็นกรุ๊ปใหญ่ บรรยากาศภายในร้านโปร่งโล่ง เรียบง่ายน่ังสบายๆ ห่างจากถนน
หลัก (340) ประมาณ 2 ก.ม. ท่ีจอดรถสะดวกสบาย เปดิ บริการ 10.00 - 22.00 น ที่ตั้ง 167 หมู่ 2 ตําบลไผ่ขวาง
อําเภอเมืองสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี 72000 โทร 035-523014, 035-523015, 081-7366084 การเดินทางจากตัว
เมืองสพุ รรณบรุ ี ไปตามถนนสพุ รรณบุร-ี ป่าโมก เลยสแี่ ยกเขา้ เมอื งประมาณ 2 กโิ ลเมตร กลบั รถตรงหน้าวัดไผ่ขวาง
ตรงมาอีกราว 200 เมตร สวนอาหารไผข่ วางอยู่ตดิ ถนนทางด้านซา้ ยมอื
192
รายการอาหารแนะนํา ปลาม้าทอดเกลือ กุ้งทอดเกลือ หมี่กรอบกุ้ง เห็ดโคนน้ําแดง ปูหลน ปลาช่อนน่ึงใบยอ
http://www.suphan.biz/Phaikhwang.htm
15. ข้าวต้ม โกเฑียร (อาหาร ข้าวต้ม จานด่วน) ร้านข้าวต้มเก่าแก่ ที่เป็นร้านข้าวต้มยอดนิยมของคนเมือง
สุพรรณมายาวนานหลายสิบปี เป็นร้านอาหารง่ายๆสบายๆสําหรับคนนอนดึก ท่ีพัฒนารูปแบบและเมนูอาหารให้มี
ความหลากหลาย จากเมนูกบั ขา้ วต้มท่ีง่ายๆทหี่ ลายคนติดใจ เปิดบรกิ าร 17.00 - 02.00 น
ที่ตง้ั 26/4 ถนนหม่ืนหาญ ตาํ บลท่าพีเ่ ล้ียง อาํ เภอเมอื งสพุ รรณ โทร 035-502710 การเดนิ ทางจากถนน สพุ รรณ-
ชัยนาท (340) พอใกล้ถึงตัวเมอื งสุพรรณ ใหค้ อยมองสะพานลอยรถขา้ มเขา้ ชอ่ งซ้ายสดุ และเล้ยี วซ้ายก่อนลอด
สะพาน ขับตรงมาราว 400 เมตร เจอไฟแดง ให้ตรงไปอกี ราว 50 เมตร สงั เกตขวามือ โรงแรมคมุ้ สพุ รรณ ตรงไป
อกี เลก็ นอ้ ย รา้ นโกเฑียร จะอยูร่ มิ ถนนขวามือ http://www.suphan.biz/kothian.htm
16. ตอ่ ศักดอ์ิ าหารป่า (อาหารอีสาน ส้มตาํ อาหารปา่ ) รา้ นอาหารในตวั เมืองแนวลกู ทุ่ง อาหารพ้นื บา้ น
(ปา่ ) อาหารแนะนาํ แกงส้มแป๊ะซะ หมูป่าผัดเผด็ กบทอดกระเทียม หรอื สม้ ตาํ และอาหารอีสานท่ัวๆไป สาํ หรบั
อาหารแปลกๆ จาํ พวก งูเห่า เก้ง กวาง จระเข้ เขยี ด นก
การเดนิ ทางจากถนน สพุ รรณ-ชยั นาท (340) พอใกล้ถึงตวั เมืองสุพรรณ ให้คอยมองปม้ั ปตท. แลว้ เขา้ ชอ่ งซา้ ยสดุ
เล้ยี วซา้ ยไปเลก็ นอ้ ยจะมแี ยกขวาเข้าตวั เมือง ใหก้ ลับรถตรงแยก ร้านจะอยู่ซา้ ยมือกอ่ นขน้ึ สะพาน
โทร 080-2871427 เปิดบรกิ าร 10.00 - 22.00 น. http://www.suphan.biz/thosak.htm
17. โกะ๊ ข้าวตม้ (อาหาร ข้าวตม้ จานด่วน) ช่วงตั้งแตบ่ ่าย 2 ถงึ บา่ ย 4 จะมอี าหารสําเรจ็ วางขายหน้า
รา้ น อรอ่ ยและถูก ราวบ่าย 4 เปน็ ต้นไปกจ็ ะเป็นอาหารตามส่งั เปดิ จนถึง ตี 1 ตี 2 เหมาะกับนักเดนิ ทางทจ่ี ะกลับ
เขา้ กรุงเทพในช่วงเย็น คํา่ หรือดกึ ๆ เปิดบริการ 16.00 - 02.00 ท่ตี ั้ง 279/1 หมทู่ ่ี 5 บา้ นโคกหมอ้ ตาํ บลท่าระหัด
อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั สุพรรณบรุ ี โทร : 035-525159 การเดินทางรา้ นอยตู่ ิดถนน สุพรรณ-ชัยนาท (340) ซ้ายมอื ฝัง่
เขาเข้ากรุงเทพ เย้ืองๆกับหา้ งโลตสั สพุ รรณ http://www.suphan.biz/goa.htm
18. ร้านเจ๊นิจ (เจ้าเก่า) (อาหาร จานด่วน) เปิดบริการเวลา18.00 - 20.00 น. มีห้องแอร์ สามารถรับ
คณะได้ ประมาณ 70 ท่าน อาหารแนะนํา ขา้ วหมูทอด ข้าวไก่ทอด ข้าวสองหน้า ข้าวไก่ย่าง ข้าวหน้าปลาซาบะ
ข้าวปลาสองหน้า ข้าวยําไก่ย่าง ก๋วยเต๋ียวหมูตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ก๋วยเต๋ียวเป็ด สุกี้ทะเล ข้าวซอยไก่ ขนมจีน นํ้า
เงี๊ยว กาแฟสด ที่ต้ัง 249 / 228 หมู่บ้านศิริวัฒน์ ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โทร. 081-8566342 ร้านเจ๊นิจ
สาขา 2 ป้มั ปตท คูเมอื ง ก่อนถงึ โฮมโปร http://www.suphan.biz/jaenid.htm
19. พี่หมูข้าวตม้ เป็ด (ขา้ วตม้ เครือ่ ง จานดว่ น) เปน็ ร้านรถเข็นอยทู่ ต่ี ลาดทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั ริย์
จังหวัดสพุ รรณบรุ ี ถนนพระพนั วษา ตําบลทา่ พ่ีเล้ียง อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดสพุ รรณบุรี เปดิ บริการ 17.00-22.00 มี
ขา้ วต้มเปด็ ข้าวตม้ ไก่ ซโี่ ครงหมู และกระเพาะหมู http://www.suphan.biz/peemhukaowtom.htm
20.จวิ เจา้ เก่าก๋วยเตยี๋ วหม-ู ไก่ (กว๋ ยเต๋ยี ว จานด่วน) บะหมเ่ี ส้นโตๆ นํามาทําเป็นบะหมต่ี ม้ ยาํ เสริ ์ฟพรอ้ ม
มะนาว เป็นร้านหอ้ งแถวหอ้ งเดียว ท่นี ่งั จะมไี มม่ ากแต่รสชาติอรอ่ ย เปดิ บริการ 10.00-16.00 น
ท่ีตงั้ ถนนเณรแก้ว ตําบลทา่ พี่เล้ยี ง อาํ เภอเมือง จังหวดั สพุ รรณบรุ ี โทร 087-1606450
การเดนิ ทางจากถนนเณรแก้ว มาจากถนน 340 เลยี้ วเขา้ เมอื งตรงสะพานอาชาสหี มอก ถึงแยกไฟแดงเล้ียวขวาม่งุ
หนา้ ไปทางห้างนาซา่ มอลล์ อย่ทู ่เี ดียวกบั รา้ น เอกข้าวมันไก่ http://www.suphan.biz/jewjawkaw.htm
20. ข้าวตม้ 2 บาท (ขา้ วต้ม จานด่วน) อยบู่ นถนนมาลัยแมน เลยจากสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบรุ ี ไป 1
กโิ ลเมตร ฝงั่ เดยี วกับสนามกฬี า เปิดบรกิ าร 16.00-02.00 นhttp://www.suphan.biz/kawtomsongbath.htm
21. ธาราบุรี เรสเตอรองต์ (อาหาร & บรรยากาศ) ร้านอาหารบรรยากาศแบบไทยๆ ผสมผสานความ
คลาสสิค และความทันสมัย ความสะดวก ความอบอุ่น สบายๆ เป็นกันเอง แวดล้อมด้วยต้นไม้ และสายนํ้า เปิด
193
บรกิ าร 10.00-22.00 น. การเดินทางจากถนน สุพรรณ-ชัยนาท (345) เล้ียวซ้ายเข้าตัวเมือง ผ่านหอนาฬิกา-ส่ีแยก
ไฟแดง ตรงไปข้ามสะพาน (แม่นาํ้ ทา่ จนี ) ชดิ ขวากลับรถชอ่ งแรก ชดิ ซา้ ยเข้าถนนสมภารคง (เส้นทางไหวพ้ ระ 9 วัด-
อุทยานฯมัจฉาวัดพระนอน) ตรงไป 800 เมตร (สังเกตเห็นปล่องโรงสีไฟเก่า ด้านขวามือ) จอดรถได้กว่า 150 คัน
พรอ้ มระบบ CCTV http://www.suphan.biz/taraburirestaurant.htm
22. Impression Cafe & Restaurant (อาหาร & บรรยากาศ) อาหารแนว ฟิวชั่นฟู๊ด (Fusion Food)
เหมาะกับ หนุ่มสาวยุคใหม่ ท่ีช่ืนชอบความแปลกใหม่ อาหารท่ีมีรูปแบบการตกแต่งอย่างมีสไตล์ อาหารท่ี
ผสมผสานกันระหว่าง วัตถุดิบและสไตล์อาหาร โดยยังคํานึงถึงความลงตัวของรสชาติ และ การจัดแต่งหน้าตาของ
อาหาร ตั้งอยู่บริเวณช้ัน 1 หน้าห้าง Nasa Mall กลางเมืองสุพรรณบุรี เปดิ บริการ 10.00 - 22.00 น โทร. 035
524 050 http://www.suphan.biz/impression.htm
23. PLAYGROUND BISTRO (อาหาร & บรรยากาศ) ถา้ หากมาท่องเทีย่ วตัวเมอื งสพุ รรณ และกําลงั มอง
หารา้ นนง่ั ชวิ บรรยากาศฮิปๆ เพลินตากับการตกแต่งร้าน และอ่มิ อรอ่ ยกบั อาหารหลากหลายเมนู ทงั้ อาหารยุโรป
อาหารไทย และเครอื่ งดมื่ ตัง้ อยูภ่ ายในบรเิ วณ ปั้ม ปตท. หลักเมอื งสพุ รรณบรุ ี ตรงข้าม มังกรสวรรค์ ทีจ่ อดรถ
กว้างขวาง สะดวกสบาย โทร. 081-6586996 http://www.suphan.biz/playgroundbistro.htm
24. The Loft Cafe & Restaurant (อาหาร & บรรยากาศ) ร้านกาแฟ และร้านอาหาร สไตล์ Loft
บรรยากาศชิวๆ สบายๆ มีอาหารให้เลือกหลากหลายเมนู ท้ังอาหารไทย อาหารยุโรป อาหารทานเล่น และของ
หวาน กาแฟ เคร่ืองดม่ื ต่างๆ เวลาเปดิ - ปิดบริการ 10.00 น. - 22.00 น. วันอังคาร - วันอาทิตย์ (ปิดบริการทุกวัน
จนั ทร์) ดนตรสี ดเร่มิ 19.00น. (ยกเว้นวันอาทติ ย)์ โทร: 095-950-2663
http://www.suphan.biz/theloftcafe.htm
25. ค้มุ ขวัญเจา้ เอย (อาหาร & บรรยากาศ) รา้ นอาหารไทยทม่ี ีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัววสั ดทุ ใ่ี ช้กเ็ ลือกสรร
เฉพาะของดีจากแหลง่ ท่มี ากดว้ ยคุณภาพ เป็นร้านเล็กๆ ทําแบบครอบครวั ทําดว้ ยใจรกั ในการทําอาหาร ควรโทร
จองล่วงหน้าจะเปน็ การดี ส่วนราคาก็สูงพอสมควรกบั คณุ ภาพ เปดิ บริการ 9.30 - 21.30 น ทตี่ ้งั ตาํ บล ร้ัวใหญ่
อําเภอเมอื งสุพรรณบรุ ี สพุ รรณบรุ ี 72000 โทร. 081-9865426
http://www.suphan.biz/khumkhwanchaooei.htm
26. ครัวแกงป่า อาหารไทยรสจัด บรรยากาศแบบเรียบง่ายไม่เน้นบรรยากาศ แต่รสชาติความอร่อยไม่
ธรรมดา แถมหน้าตาอาหารกจ็ ดั ไดส้ วยงาม ราคากไ็ มแ่ พง สถานทจ่ี อดรถกวา้ งขวางสะดวกสบาย
เปิดบรกิ ารเวลา 10.00 - 21.00 น ทต่ี ้งั 28/1 หม1ู่ (ซอยเลศิ ศรอี าพาร์ทเม้นท์ ใกลแ้ ยกอู่ยา) ตําบลดอนกาํ ยาน
อําเภอเมอื งสพุ รรณบรุ ี โทร. 085-265-0625 http://www.suphan.biz/kruakaengpa.htm
27. บ้านอิงสวน ต.โพธิพ์ ระยา อ.เมอื ง จ.สพุ รรณบุรี โทร. 086-9995746, 089-492-8900
เวลา เปิด - ปดิ 7.00 -16.00 น. อาหารประเภท สเตก๊ ก๋วยเต๊ยี วหมู กาแฟสด ทตี่ ้ัง 108 ถนนพันศรโยธา ตําบลรว้ั
ใหญ่ อําเภอเมอื งสพุ รรณบรุ ี สพุ รรณบุรี 72000 โทร 035-450811-12, 086-996-9970 เปดิ ทกุ วนั เวลา 11.00-
24.30 น.
28. ทา่ จีน (อาหาร & บรรยากาศ & ดนตร)ี อาหารไทย มดี นตรี (เปดิ บริการ 19.00-01-00 น.)
โทร. 035-525538, 081-6395137
29. แตม้ ทอง 035-511986
30. รา้ นอาหารพชร ต้งั อยู่ 1 ถนนนางสร้อยฟ้า โทร. 035-523773,521007,511860
31. ร้านทิพย์วรรณ ตง้ั อย่ทู ถี่ นนขุนช้าง
32. ร้านย้ิม ยม้ิ โภชนา หนา้ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช อําเภอเมอื ง กว๋ ยเตยี๋ วเป็ด 035-511445
194
33. นลิ 2 035-515257
34. มะขามสามต้น 035-545209
35. บวั เงนิ 035-523816
36. สวนอาหารจานทพิ ย์ 035-511801
37. ข้าวต้มนอ้ งปู 035-511023, 502971
38. ร้านชา้ งขา้ วต้ม (ข้าวต้มปลา) อยูเ่ ลยหา้ งนาซามอลลเ์ ลก็ นอ้ ยไปทางหอนาฬิกา
ร้านของฝาก ของท่รี ะลกึ
1. ร้านสาล่ีเอกชัย
"ร้าน เอกชัย" เดิมเป็นร้านขนมเล็กๆ ที่ถือกําเนิดขึ้นในตลาดทรัพย์สิน เมื่อปี 2511 จากร้าน 1 คูหา ท่ี
ผลิตขนมอยู่ไม่กี่ชนิดนัก กลายมาเป็นร้านต้นตํารับความอร่อย ของขนมสาล่ีสุพรรณ ท่ีมีเอกลักษณ์ ทั้งในด้าน
รสชาติ และความนุ่มเนียนของเนื้อขนม อันเป็นจุดเด่นของ "สาลี่เอกชัย" จนได้รับเครื่องหมายรับประกันคุณภาพ
ความอรอ่ ย "เชลลช์ วนชิม" จาก ม.ร.ว. ถนดั ศรี สวัสดิวฒั น์ เมื่อปี 2523
ปัจจุบัน เอกชัย สาล่ีสุพรรณ เป็นโรงงานผลิตขนม ขนาดใหญ่ และทันสมัย พร้อมระบบการบริหาร
คณุ ภาพสากล และมาตรฐาน GMP & HACCP สาํ หรับโรงงานอาหาร เพื่อก้าวสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงอาคารศูนย์
รวมของฝากทรงไทยประยุกต์ ริมถนนสายบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ท่ีเป็นแหล่งรวมสินค้าของ "เอกชัย" ทุกชนิด
และของฝากจากทกุ ภาค
การเดนิ ทาง
รมิ ถนนใหญ่ สพุ รรณ-ชัยนาท (340)จากกรุงเทพจะอยูฝ่ ัง่ ขวามือกอ่ นถงึ ตวั เมอื งสพุ รรณเล็กนอ้ ย
รา้ นเอกชัย สํานกั งานใหญ่ ทอี่ ยู่ 222/2 หมู่ 5 ถ.สุพรรณบรุ ี – บางบวั ทอง ต.ทา่ ระหดั อ.เมอื ง จ.สุพรรณบรุ ี
72000 โทร.035-525111 แฟกซ์.035-525060
รา้ นเอกชัย สาขายอ่ ย
(หน้าวดั ปราสาททอง) ทอ่ี ยู่ เลขท่ี 147-151 ถ.หมื่นหาญ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 72000
โทร.035-511202 แฟกซ์.035-511205 http://www.suphan.biz/ekachai.htm
2. กลุ่มศิลปหัตถกรรมบ้านธรรมกุล งานจักสาน งานแจกันดินเผาแนวจิตรกรรมไทย ต.พิหารแดงเลยวัด
พระนอนไปเลก็ นอ้ ย โทร. 035-408400, 089-817785
3. กลุ่มแม่บ้านทพิ ยญ์ าดา หมบู่ ้านญาดา 2 (ขนมต่างๆ) โทร 085-800-584
4. เจรญิ ชัย 1 ส่ีแยกแขวงกรมทางหลวง (ขนมตา่ งๆ) โทร 035-522454
195
5. พัชนบี า้ นสาล่ีสุพรรณ ถ.บางบัวทอง - สพุ รรณบุรี (ขนมสาล)่ี โทร 035-526101
6. เกษราบ้านสาล่ีสุพรรณ ถ.สุพรรณบรุ -ี กรงุ เทพฯ กม.91(ขนมสาลี่) โทร 035-526100-3
7. กลมุ่ ทอผ้าไผร่ าชพฤกษ์ต.สวนแตง (ผา้ ทอ) โทร 081-8809052
อาํ เภอศรีประจันต์
1. บ้านอนุรกั ษ์ควายไทย
PREVIEW LARGE IMAGE
เป็นสถานท่ีรวบรวมวิถีชีวิตแบบพ้ืนบ้านภาคกลาง มีพื้นที่ 100 กว่าไร่ แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ เช่น
หมูบ่ า้ นชาวนาแสดงวิถีชีวติ ความเปน็ อยอู่ ยา่ งเรียบง่าย มีลานนวดขา้ ว คอกควาย บา้ นเรือนไทยภาคกลาง ผู้เข้า
เยี่ยมชมสามารถสัมผัสกับวิถีการดําเนินชีวิตแบบย้อนยุค และกิจกรรมท่ีน่าสนใจต่างๆ เช่น การทํานาในแบบ
โบราณท่ียังใช้แรงงานจากควายและอุปกรณ์การทํานาแบบโบราณ มีพ้ืนที่จําลองในการแบ่งสันส่วนพ้ืนท่ีทํา
เกษตรกรรมตามพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รวมทั้งสวนผีเสื้อนานา
พนั ธ์ุ สวนกลว้ ยไม้ หมู่บ้านชาวนา และสวนสมุนไพร เรือนแตล่ ะหลงั มีกิจกรรมสาํ หรับผ้สู นใจ เช่น เรอื นแพทย์แผน
ไทย การนวดแผนไทย และการใช้สมุนไพร เรอื นโหราศาสตร์ ส่วนด้านหน้าทางเข้ามีร้านขายสินค้าที่ระลึกของบ้าน
ควายสําหรับนกั ทอ่ งเที่ยว
ท้ังน้ี “บ้านควาย – สุพรรณบุรี” ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์และรักษา
ขนบธรรมเนยี มและวฒั นธรรมของไทย มพี ิธีเปิดอยา่ งเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2545 ในงานมีการจัดแสดง
สินค้าหัตถกรรม“หนึ่งตําบล หน่ึงผลิตภัณฑ์”และกิจกรรมที่น่าต่ืนตาตื่นใจ เช่น การประกวดควายงาม การแสดง
ความสามารถพิเศษของควาย และการวิ่งควาย บ้านควายยังมีลานแสดงควาย วันจันทร์-ศุกร์ โดยการแสดงมีรอบ
11.00 น. และ 15.00 น. ส่วน วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยดุ นักขัตฤกษ์ มีการแสดงรอบ 11.00 น., 14.30 น.
และ 16.00 น. นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสําหรับนักเรียน นักศึกษาที่สนใจ อาทิ กิจกรรมสุพรรณสัญจร “ย้อนอดีต
วิถีชีวิตไทย" โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับฟังคําบรรยาย เร่ืองข้าว ชาวนา ควาย พิธีการทําขวัญข้าว และลงมือทํา
กิจกรรม ไถนา คราดนา หว่านข้าว ดํานา รวมทั้งมีการเรียนการสอนบังคับควายในการใช้งาน ได้แก่ การข้ึนควาย
การให้เล้ียวซ้าย เล้ียวขวา เป็นต้น บ้านควายเปิดให้เข้าชมทุกวัน ต้ังแต่เวลา 09.00–18.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย
ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามเพ่ิมเติมได้ท่ี สํานักงาน
กรุงเทพฯ โทร. 0 2270 0395-7 สํานักงานสุพรรณบุรีโทร. 0 3558 1668 หรือท่ีเว็บไซด์
196
www.buffalovillages.com ท่ีอยู่บนเส้นทางพระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์-วัดบ้านกร่าง-เรืองทรงไทยหมู่ภาค
กลาง-บา้ นควาย อําเภอศรปี ระจนั ต์ จงั หวดั สพุ รรณบุรี เบอรโ์ ทร 0 3558 1668
การเดนิ ทาง
ตั้งอยู่ริม ถ.สายสุพรรณบุรี – ชัยนาท อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จาก อ.เมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข
340 (สุพรรณบุรี - ชัยนาท) ตรงขึ้นไปจนถึง อ.ศรีประจันต์ ตรงข้ึนไปผ่านแยกไปแดง ไปประมาณ 3 กม. จะเห็น
ทางเข้าบา้ นควายไทยอยู่ทางขวา
2. ตลาดเกา่ ศรีประจนั ต์บ้านเจา้ คุณ
ตลาดศรีประจันต์เป็นตลาดค้าส่งในอดีตริมแม่นํ้าท่าจีน อายุราว 100 ปี ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม
การท่องเทีย่ ว ประจําปี 2551 รางวลั ดเี ดน่ ประเภทแหลง่ ท่องเท่ยี ววัฒนธรรม อยู่ห่างจากตัวเมืองสุพรรณไปทางทิศ
เหนือ 20 กโิ ลเมตร อาคารสว่ นใหญ่เป็นห้องแถวไม้ 2 ช้นั
แมใ้ นปัจจบุ นั จะลดความคึกคักลงไปบ้าง แต่ในทุกวันเสาร์ อาทิตย์ชาวบ้านจะเปิดร้านจําหน่ายอาหารคาว
หวานรสชาติด้ังเดิมจําหน่ายแก่นักท่องเท่ียว อาทิ ก๋วยเต๋ียวเป็ด ก๋วยเต๋ียวราดหน้า หมี่กรอบ กาแฟโบราณ และ
ขนมต่าง ๆ ทั้งแบบไทยและจีนอย่าง ขนมถ้วย หม่ีกรอบโบราณ ข้าวเกรียบว่าว ฯลฯ ที่ตลาดยังมีร้านขายของเล่น
โบราณและโปสการ์ดสวยๆ มีพืชผลจากสวนชาวบ้านและเหด็ ชนดิ ตา่ งๆขายในราคาถกู
ตลาดศรีประจนั ต์ มสี ถานทท่ี อ่ งเที่ยวเชิงการศกึ ษาคือ บา้ นเจ้าคณุ ป.อ.ปยุตโต ซง่ึ ไดร้ บั การยกยอ่ งเป็นคน
ดศี รีประจันต์ และเป็นพระสงฆไ์ ทยซึ่งไดร้ ับการยกยอ่ งเปน็ กวที างศาสนาพุทธ และเปน็ เพชรน้ําเอกของโลก มี
ผลงานในการเขยี นหนังสอื กวา่ 300 เลม่ ท้ังภาษาไทยและภาษาองั กฤษ บา้ นของทา่ นซง่ึ เคยเปน็ ร้านขายผ้าเม่อื ใน
อดตี ได้รบั การอนุรักษใ์ หค้ งอย่สู ภาพเดิม รวมทงั้ เก็บรักษาข้าวของเคร่ืองใชเ้ มอ่ื ยคุ เกือบ 100 ปกี ่อนไวอ้ ยา่ งดี
นอกจากน้ีนักทอ่ งเทย่ี วที่มาเยือนตลาดศรีประจนั ต์ยังสามารถสกั การะศาลเจา้ แมก่ วนอมิ หรอื ลอ่ งเรือชมแม่น้าํ ท่า
จีนได้ หากตอ้ งการพักค้างแรม ในตวั อําเภอกม็ บี รกิ ารที่พกั อยู่ 2 – 3 แหง่ การเดินทางโดยรถโดยสาร สามารถใช้
บริการรถสองแถวสายสุพรรณ – ศรปี ระจนั ต์ มาลงท่ีตลาดศรีประจนั ต์ โดยตรง ทกุ วันหยดุ เสาร-์ อาทิตย์ ตัง้ แต่
เวลา 9.00 น. บริเวณริมนํา้ หลงั ตลาดเก่า จะมแี พลอยนํ้าขนาดใหญห่ ลายแพ เป็นท่ีขายของประเภทของกนิ อาหาร
ขนมไทยพืน้ บา้ นท่หี ากนิ ได้ยาก และจากแพตลาดนํ้ามสี ะพานสามารถเดนิ ข้ามไปเท่ียวทีว่ ัดบา้ นกรา่ ง ซึง่ อยูฝ่ ่งั ตรง
ขา้ มแมน่ าํ้ เปน็ วัดสําคัญของจงั หวัดสพุ รรณบุรี และเปน็ วดั ท่ขี ดุ พบกรุขนุ แผนวดั บา้ นกรา่ งทม่ี ีชอื่ เสยี ง เวลาเปิดทาํ
การ : 08.00 - 17.00 น. ทอ่ี ยู่ ตาํ บลศรปี ระจนั ต์ อําเภอศรปี ระจนั ต์ จังหวัดสพุ รรณบรุ ี เบอร์โทร
066 3554 8722
197
3. วดั บา้ นกร่าง
วัดบ้านกร่างต้ังอยู่ที่ หมู่ 2 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ท้ังนี้ จะอยู่ริมฝ่ังทิศตะวันตกของ
แม่นํ้าสุพรรณ (แม่น้ําท่าจีน) มีธรณีสงฆ์ 29 ไร่ ตัววัดเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุร่วม
400 ปี จุดเดน่ ของวดั แหง่ นค้ี อื กรุพระขุนแผนบา้ นกร่าง ซ่ึงเป็นเน้ือดินเผาศิลปะอยุธยา เชื่อกันว่า หากชายใดห้อย
กรุพระขุนแผนนี้แล้ว จะแคล้วคลาด คงกระพัน ทั้งน้ี พระเคร่ืองเหล่านี้คาดว่า ถูกสร้างข้ึนหลังสงครามยุทธหัตถี
ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราช เมื่อตอนยกทัพกลับผ่านอําเภอศรีประจันต์ ได้พักทัพริมฝ่ัง
แม่น้ําสุพรรณบุรี ทรงรับส่ังให้ทหารสร้างพระเครื่องซ่ึงเล่ากันว่า เป็นจํานวนถึง 84,000 องค์ บรรจุในกรุวัด
บ้านกร่าง เพ่ืออุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารที่เสียชีวิต พระพิมพ์บ้านกร่างคู่เป็นพระท่ีมีความหมายมาก ในการสร้าง
พระคร้ังน้ีแม่พิมพ์แกะเป็นสององค์คู่กัน โดยสมมติให้เป็นองค์สมเด็จ พระนเรศวรมหาราชและสมเด็จ
พระเอกาทศรถ ทั้งน้ี พระรูปแบบน้ีนบั ว่าหายากเปน็ อยา่ งยงิ่
นอกจากพระเครื่องแล้ว ในตัววัดยังมีเต็มไปด้วยสิ่งท่ีน่าสนใจมากมาย เมื่อมาถึงวัด บริเวณด้านหน้า
จะพบ “เรือนแถวไม้โบราณสองช้นั ” บรรยากาศเงียบสงบ สะทอ้ นความเป็นอยู่เรียบง่ายแบบด้ังเดิมของผู้คนแถวนี้
ไดเ้ ปน็ อยา่ งน้ี ส่วนบริเวณริมแม่นํ้ามปี ลาอาศัยจํานวนมาก ทางวัดสร้างแพหลังคาทรงไทยขนาดใหญ่ให้ ผู้มาเท่ียว
ชมสามารถทาํ บุญเลีย้ งปลา นบั เปน็ “อุทยานมจั ฉา” แหง่ หนง่ึ ของจงั หวดั สพุ รรณบุรี ต่อมา เม่ือเข้ามาภายในวัดจะ
พบ“พระอโุ บสถและวิหาร”ซ่งึ เป็นโบราณสถานเก่าแกท่ ีส่ รา้ งขน้ึ ในสมยั อยธุ ยา ภายในประดษิ ฐานพระประธานองค์
ใหญ่ ศิลปะสมัยอ่ทู อง ใบเสมาที่เรียงรายรอบพระอุโบสถมีท่ีมาจากการนํา พระวัดกร่างพิมพ์ทรงพลใหญ่มาจําลอง
ให้มีขนาดเท่าใบเสมา ใบเสมาของวัดน้ีจึงมีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนวัดใด ส่วนวิหารมีอายุราว 450 ปี ภายในมี
หลวงพ่อแก้วและพระประธาน ถัดมาเป็น “มณฑป” ภายในมีรอยพระพุทธบาทจําลอง ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.
2476 ดา้ นหลังวหิ าร ประดิษฐาน เจดยี ์ ทไ่ี ด้รบั การปฏสิ ังขรณ์ใหม่ จากองค์เดมิ ท่ีสร้างในสมยั อยธุ ยาซ่ึงชาํ รุด เจดีย์
สูงราว 5.70 เมตร สร้างข้ึนเพื่อบรรจุ พระเครื่องตระกูลวัดบ้านกร่าง(พระขุนแผน) และภายในพระเจดีย์ เคยพบ
198
พระพุทธรูปเนื้อสัมฤทธิ์จํานวน 20-30 องค์ รวมไปถึง พระเคร่ืองซ่ึงมีลักษณะเป็นแก้วสีเขียว นอกจากนี้บริเวณริม
แม่นํ้ายังมี “เจดีย์กลางน้ํา” ท่ีสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 อายุราว 150 ปี มีลักษณะย่อมมุ ไม้สิบสอง รัชกาลท่ี 5
เคยเสด็จทรงนมัสการเจดีย์แหง่ นี้
เดิมทีองค์พระเจดีย์ตั้งอยู่กลางแม่น้ําท่าจีน สร้างขึ้นไว้สําหรับคนทั่วไปสักการบูชาในวันลอยกระทง แต่
เนอื่ งจากกระแสนาํ้ เปล่ียนทศิ เป็นเหตใุ หพ้ ระเจดีย์ตงั้ อยู่รมิ ฝง่ั แมน่ ํา้
หากผใู้ ดสนใจเดนิ ทางมาเยยี่ มชม สามารถมาไดจ้ ากทางหลวงหมายเลข 340 ผา่ นอาํ เภอศรปี ระจนั ต์ เข้า
ทางหลวงหมายเลข 3038 กโิ ลเมตรท่ี 14-15 ริมฝง่ั แม่น้ําสพุ รรณบรุ ีคนละฝั่งกบั ทว่ี า่ การอาํ เภอศรีประจนั ต์ ห่าง
จากจังหวดั ประมาณ 20 กิโลเมตร วนั เปิดทาํ การ : วันอาทติ ย์ – วนั เสาร์ เวลาเปดิ ทําการ : 08.00 - 17.00
4. สวนอนิ ทผลมั สพุ รรณบรุ ี (สวนพชื ไรด้ ินเดมิ )
ริมถนนสาย สุพรรณ - ชัยนาท บนพ้ืนที่ 200 ไร่เลยจากหมู่บ้านควายมาไม่ไกล ขวามือจะมีป้ายขนาด
ใหญ่ สวนอินทผลัม สุพรรณบุรี สถานท่ีแห่งนี้ เป็นท่ีเพาะปลูกต้นอินทผลัม และสวนมะนาว เป็นสวนขนาดใหญ่
สามารถสอบถามข้อมูลตา่ งๆ ทเี่ กี่ยวกับการทาํ สวนอนิ ทผลมั และยังจดั จําหน่ายตน้ พนั ธุ์ และลูกอนิ ทผลัมกนิ สด
อินทผลัมท่ีปลูกภายในสวน เป็นอินทผลัมกินสด สายพันธ์ KL1 แม่โจ้ ปลูกคร้ังเดียวเก็บผลผลิตได้นานถึง
70 ปี ในประเทศไทยมีการปลูกอินทผลัมเพ่ือทานผลสดเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผลท่ีอบแห้งต้องนําเข้ามาจาก
ต่างประเทศผู้ผลิต เพราะต้นทุนในการอบแห้งมีราคาท่ีสูงมาก อินทผลัมจะออกดอกราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ ใช้
เวลา 4 เดือน (ประมาณเดือนมิถุนา เป็นต้นไป) ก็สามารถเก็บผลสดมารับประทานได้ ถ้าเก็บผลไว้ในตู้เย็นที่
อณุ หภูมติ าํ่ กวา่ 8 องศา จะสามารถเกบ็ ไว้ได้นานถงึ 1 ปี
5. วดั เถรพลาย
วัดเถรพลาย ต.วังนํ้าซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐานคือ
เจดีย์ยุคโบราณก่อด้วยอิฐ ยอดเจดีย์เป็นเน้ือสําริดเก่าแก่ มีลักษณะดอกบัวหงาย 7 ช้ัน สันนิษฐานต้ังช่ือวัด ตาม
ประวตั ทิ ี่สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ทรงกระทํายุทธหัตถีท่ีดอนเจดีย์ แล้วขุนศึกผู้ใหญ่แวะพักรบเพื่อให้ทหารและ
ช้างพลายได้พัก ก่อนท่ีจะเดินทางไปบ้านหนองสาหร่าย จึงเป็นท่ีมาของการตั้งช่ือวัดเถรพลาย ซึ่งมีความหมายว่า
ชา้ งของขนุ ศกึ ผู้ใหญ่
199
วดั เถรพลาย สร้างยักษป์ ระเทศอาเซยี นเป็นแหลง่ เรียนรู้
ชมความแปลกประหลาดของยักษ์ขนาดใหญ่สูงกว่า 4 เมตรของประเทศต่างๆ รวม 8 ประเทศ
ที่วดั เถรพลายจัดสรา้ งข้ึนเพื่อเปน็ แหล่งศึกษาเรยี นรเู้ รื่องยกั ษข์ องแตล่ ะประเทศ
พระอธิการสันทัต รตนญาโน เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย เปิดเผยว่า การสร้างรูปป้ันยักษ์ในกลุ่มประเทศ
อาเซียน เน่ืองจากประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศของประเทศอาเซียน จึงจัดสร้างยักษ์ 8 ตน ต้ังไว้ทุกประตู
ของอุโบสถ ประตลู ะ 2 ตน รวม 8 ตน จากการศึกษา ตรวจสอบ และสอบถามจากผรู้ ูพ้ บว่า อกี 2 ประเทศ ไมม่ ีรูป
ปน้ั ยกั ษ์เนือ่ งจากไม่มศี าสนาพทุ ธอยใู่ นประเทศเหล่านั้น คือประเทศบรูไน และฟลิ ปิ ปินส์
6. นาแหว้ สพุ รรณบรุ ี
ถ้ามาสุพรรณ สิ่งหนึ่งท่ีไม่ควรพลาด คือการลองลิ้มชิม แห้ว ว่ากันว่าแห้วสุพรรณ โดยเฉพาะแห้วอําเภอ
ศรีประจันต์อร่อยท่ีสุด นาแห้วท่ีศรีประจันต์ เป็นแห้วจีน (Water chestnut) ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในดินชุดสระบุรี
ไฮเฟต ซ่ึงดินชุดนี้มีลักษณะพิเศษคือ จะมีลักษณะคล้ายช้ันดินดาน ลึกประมาณ 50-70 เซนติเมตร ซ่ึงเป็น
ประโยชนใ์ นการปลูกแห้วจนี เปน็ อยา่ งมาก เพราะเมอื่ แหว้ จนี ลงหวั หัวของแหว้ จนี จะไปกองหรือแผ่ขยายในบรเิ วณ
ช้นั ดินดาน ทําให้สะดวกในการเกบ็ เกย่ี ว
ตลอดสองข้างทางริมถนนสาย 340 (สุพรรณ-ชัยนาท) ช่วงตําบลวังยาง ตําบลมดแดง ก่อนถึงตัวอําเภอ
ศรีประจันต์ มีร้านขายของฝากเมืองสุพรรณ แทบทุกร้านจะมีผลิตภัณฑ์ท่ีทําจากแห้ว แห้วดิบ แห้วสด รสอร่อย
200
หรือแห้วกระป๋อง ให้ซ้ือกินหรือเป็นของฝากราคาก็ไม่แพง และถ้าโชคดีก็อาจจะได้ชมวิธีการ ทํานาแห้ว และการ
เก็บหวั แห้ว ซ่ึงหากได้ชมแลว้ จะตอ้ งบอกวา่ ไมง่ า่ ยเลยกวา่ จะได้เปน็ แห้วสขี าวนวล เนอื้ กรอบนุ่มรสหวานอรอ่ ย
ประวตั คิ วามเป็นมาของแหว้ สพุ รรณ
ไมท่ ราบแน่ชดั วา่ มกี ารปลกู แหว้ ในประเทศไทยเมือ่ ใด แต่มผี นู้ าํ แห้วมาปลกู ทจ่ี ังหวัดเชียงราย นานมาแล้ว
และได้นํามาปลูกในเขต อําเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เม่ือปี พ.ศ. 2493 ปรากฏว่าปลูกได้ผลดี ทํากําไร
มากมายให้แกผ่ ูป้ ลูก จึงมีการปลกู แห้วเพิม่ ขึ้น ขยายเนอ้ื ท่อี อกไป ทาํ ใหร้ าคาลดลงเรอื่ ยๆ การขยายเนือ้ ท่ีปลกู จึงไม่
กว้างขวางออกไปมากนัก แต่ก็ยังมีผู้นิยมปลูกแห้วกันอยู่พอสมควร ปัจจุบันมีการปลูกแห้วมากแถวสองฝ่ังแม่นํ้า
ทา่ จีน เขตอําเภอเมอื ง อาํ เภอศรปี ระจันต์ อําเภอสามชุก จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี
ร้านอาหาร
1. ครวั เบญจรงค์ (อาหาร & บรรยากาศ) บรรยากาศรมิ นา้ํ เปิดบริการ 10.00 - 22.00 น.
เมนแู นะนาํ อาหารประเภทปลาตา่ งๆ ยาํ ทบั ทมิ กรอบ ปลาชอ่ นรังนก หอ่ หมกหมอ้ ดนิ
โทร. 035-548992, 081-5968245
การเดินทาง อยรู่ ิมถนนสายสพุ รรณ-ชัยนาท (340) เลยจากตัวเมอื งประมาณ 20 ก.ม. เลยสามแยกไฟแดง
อําเภอศรีประจันต์ มาเล็กนอ้ ย สังเกตทางเข้า หมู่บ้านควาย ขวามอื เลยมาไมไ่ กล รา้ นจะอยู่ซ้ายมอื
http://www.suphan.biz/benjarong.htm
2. ร้านปา้ แหลว กว๋ ยเต๋ยี วเปด็ (เจา้ เก่า) (จานดว่ น) รมิ ถนนสาย สุพรรณ-ชัยนาท เยือ้ งหมู่บา้ นควาย