เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 82
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
7. ขอ้ ใดเป็นรูปสญั ญาณเอาท์พุตของวงจรตัดรปู คลน่ื แบบขนาน จากวงจรดงั แสดงในรปู ที่ 3
R +
+
Vi D1 VO
--
รูปท่ี 2 วงจรประกอบโจทยข์ ้อท่ี 7
VO
+V
0 t
ก. -V
VO
+V
0T Tt
2
ข. -V
VO
+V
0T t
2
ค. -V
VO
+V
0T Tt
2
ง. -V
VO
+V
จ. 0 T Tt
-V 2
8. คุณสมบัตขิ องไดโอดขณะทีไ่ ด้รบั แรงดนั ไบอัสตรงตรงกับข้อใด
ก. กระแสไหลผา่ นไดโอดได้
ข. ไมเ่ กิดเป็นแบตเตอรีส่ มมุติ หรือดพี ลีช่นั รจี ินข้นึ ทบี่ ริเวณรอยต่อ
ค. มีกระแสไหลท่ีเกดิ จากพาหะข้างนอ้ ยในสารกึ่งตัวนาพแี ละเอ็น
ง. มีกระแสไหลทีเ่ กดิ จากพาหะข้างมากในสารกงึ่ ตัวนาพีและเอน็ ซึ่งมีค่าน้อยมาก
จ. มกี ระแสไหลกลบั ทิศทางจากเดิมและมีคา่ มาก
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 83
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
9. การเลอื กใชง้ านไดโอดเพื่อใหส้ ามารถทนแรงดนั ไฟตรงไบอสั กลับสงู สุดโดยไม่พงั เราจะตอ้ งพิจารณา
จากคา่ ใดในคู่มือใช้งานไดโอด
ก. VD
ข. VDS
ค. VF
ง. VR
จ. VFS
10. จากวงจรดงั แสดงในรปู ท่ี 2 จงหาค่าแรงดนั เอาทพ์ ตุ VO
Vi C = 1mF
10 V
+
f =1,000 Hz + +
0 t1 t2 t3 t4 t D R VO
5V 100 k
Vi
-
-20 V --
T
รูปที่ 3 วงจรประกอบโจทย์ขอ้ ที่ 10
ก. 20 V
ข. 25 V
ค. 30 V
ง. 35 V
จ. 41 V
11. จากวงจรดงั แสดงในรูปที่ 6 เปน็ วงจรเรียงกระแสแบบใด RL VO
220V T1 A D1
B
D2
0V C
รูปที่ 4 วงจรประกอบโจทย์ขอ้ ที่ 11
ก. วงจรเรียงกระแสคร่ึงคล่ืน
ข. วงจรเรยี งกระแสเต็มคล่ืน
ค. วงจรเรยี งกระแสเต็มคลน่ื แบบบรดิ จ์
ง. วงจรเรียงกระแสเต็มคลนื่ แบบชนดิ ใชห้ ม้อแปลงที่ไม่มเี ซนเตอรแ์ ทป
จ. วงจรเรยี งกระแสเต็มคลนื่ แบบชนิดใช้หม้อแปลงท่ีมีเซนเตอร์แทป
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 84
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
12. ขอ้ ใดเปน็ รปู สัญญาณเอาทพ์ ุตของวงจรตดั รูปคลน่ื แบบอนุกรมจากวงจรดังแสดงในรูปท่ี 4
Vi + D1
+V +
T t Vi
0T - R VO
2 -
-V
รูปท่ี 5 วงจรประกอบโจทยข์ ้อท่ี 12
VO t
+V Tt
0 t
Tt
ก. -V
VO
+V
0T
2
ข. -V
VO
+V
0T
ค. -V 2
VO
+V
0T
2
ง. -V
VO
+V
0T Tt
2
จ. -V
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 85
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
13. จากวงจรดงั แสดงในรูปท่ี 7 เปน็ วงจรเรียงกระแสแบบใด
220V T1 A D3
D1
D2 D4 RL VO
0V B
รปู ที่ 6 วงจรประกอบโจทย์ขอ้ ที่ 13
ก. วงจรเรยี งกระแสครึ่งคลนื่
ข. วงจรเรียงกระแสเต็มคลนื่
ค. วงจรเรียงกระแสเต็มคล่ืนแบบบรดิ จ์
ง. วงจรเรยี งกระแสเต็มคล่นื แบบชนดิ ใชห้ มอ้ แปลงที่ไม่มีเซนเตอรแ์ ทป
จ. วงจรเรียงกระแสเต็มคลน่ื แบบชนิดใช้หมอ้ แปลงที่มเี ซนเตอรแ์ ทป
14. จากวงจรดงั แสดงในรปู ท่ี 8 ถ้าป้อนแรงดนั เอซีเท่ากบั 35 V - 0 - 35V คา่ แรงดัน Vdc ทีเ่ อาท์พุตมี
คา่ เทา่ ไร
220V T1 A D1
B
D2 RL VO
0V C
รูปที่ 7 วงจรประกอบโจทย์ข้อท่ี 14
ก. 15.26 V
ข. 17.81 V
ค. 22.26 V
ง. 24.17 V
จ. 26.28 V
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 86
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
15. จากวงจรดงั แสดงในรปู ที่ 5 เม่ือป้อนสญั ญาณไฟฟา้ กระสลับจากหม้อแปลงช่วงซีกบวกเขา้ มา ข้อใด
กล่าวไดถ้ ูกตอ้ ง
C1 D2
+
VAC Vm D1 C2 VO
-
รปู ที่ 8 วงจรประกอบโจทย์ขอ้ ที่ 15
ก. ไดโอด D1 นากระแสและ ไดโอด D2 ไมน่ ากระแส
ข. ไดโอด D1 ไมน่ ากระแสและ ไดโอด D2 นากระแส
ค. ไดโอด D1 นากระแสและ ไดโอด D2 นากระแส
ง. ไดโอด D1 ไม่นากระแสและ ไดโอด D2 ไมน่ ากระแส
จ. ไมม่ ีขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง
16. จากวงจรดังแสดงในรูปท่ี 9 ถ้าป้อนแรงดันเอซเี ทา่ กบั 48 V – 0 ค่าแรงดัน Vdc ท่เี อาท์พุตมาค่า
เทา่ ไร
R1=0.1 T1 A
D1 D3
V1 D2 D4 RL VO
0V B
รปู ที่ 9 วงจรประกอบโจทย์ข้อที่ 16
ก. 12.72 V
ข. 19.08 V
ค. 30.53 V
ง. 32.17 V
จ. 35.26 V
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 87
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
17. จากวงจรดังแสดงในรูปท่ี 10 กาหนดใหต้ าแหน่ง A มคี วามตา่ งศักย์เป็นลบ ตาแหน่ง B มคี วามต่าง
ศกั ย์เปน็ บวก ทิศทางของกระแสจะเป็นอย่างไร
220V T1 A D1
D3
D2 D4
0V B RL VO
รปู ที่ 10 วงจรประกอบโจทยข์ ้อที่ 17
ก. ตาแหนง่ A D1 RL D3 ตาแหนง่ B
ข. ตาแหน่ง A D2 RL D3 ตาแหน่ง B
ค. ตาแหนง่ B D4 RL D1 ตาแหนง่ A
ง. ตาแหน่ง B D1 RL ตาแหนง่ A
จ. ตาแหนง่ B D2 RL D3 ตาแหน่ง A
18. ถ้าเอาท์พุตของวงจรเรียงกระแสแบบครึง่ คลน่ื มคี า่ Vm = 200 V คา่ เฉลี่ยแรงดันดีซที ่ีเอาท์พุตจะมี
ค่าเท่าไร
ก. 63.66 V
ข. 87.93 V
ค. 96. 24 V
ง. 101. 31 V
จ. 127. 22 V
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
Diodes and Circuits 88
เอกสารประกอบการเรียน วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
บรรณานุกรม
เจน สงสมพันธ์ุ. เทคโนโลยีอิเล็กทรอนกิ ส์ 3 วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์. ปทมุ ธานี : สถาบนั
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ กรุงเทพรังสิต. 2552.
นภทั ร วจั นเทพพนิ ทร์. อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์. สกายบุ๊กส์. 2538.
ทรงพล กาญจนชูชัย. อปุ กรณส์ ารก่ึงตวั นา. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. 2556.
ธนนั ต์ ศรีสกุล. พืน้ ฐานการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์. กรุงเทพฯ: วิตต้ี กรปุ๊ . 2552.
สุคนธ์ พ่มุ ศรี. การวเิ คราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์. พิมพ์คร้ังที่ 1. นนทบุรี: ศนู ย์สง่ เสริมอาชีวะ,
2558.
สายัณต์ ช่ืนอารมณ์. วิเคราะหว์ งจรอิเล็กทรอนิกส.์ กรงุ เทพฯ:ศนู ย์สง่ เสริมวชิ าการ. 2552.
Albert Malvino and David J. Bates. Electronic Principles. Seventh Edition.New
York: McGraw-Hill. 2007.
Robert Boylestad and Louis Nashelsky. Electronic Devices And Circuit Theory,
Seventh Edition: New Jersey. Prentice Hall.
http://www.electronics-tutorials.ws/diode/diode_1.html
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 89
วชิ า การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
ใบงานที่ 2.1 หน่วยท่ี 2
รหสั วิชา 3105-1003 วชิ า การวิเคราะหว์ งจรอิเล็กทรอนิกส์ สอนครง้ั ที่ 1
ช่อื หน่วย ไดโอด และวงจรใช้งาน คาบรวม 5
ช่ือเรอ่ื ง วงจรตัดสัญญาณ และยกระดับสญั ญาณ จานวนคาบ 3
จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ทักษะพสิ ัย)
1. ตอ่ วงจรตัดสญั ญาณได้อย่างถูกต้อง
2. ตอ่ วงจรยกระดบั สญั ญาณไดอย่างถูกต้อง
3. วัดและอ่านค่าสญั ญาณอินพุตกบั เอาต์พุตของวงจรตัดสัญญาณได้อย่างถกู ต้อง
4. วดั สญั ญาณอนิ พทุ กบั เอาตพ์ ตุ ของวงจรยกระดบั สัญญาณไดอยา่ งถูกต้อง
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (จิตพิสยั ) ท่ีมีการบรู ณาการตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. ความรับผิดชอบ
2. ความมีวินยั
3. การตรงต่อเวลา
4. ความมีมนุษย์สัมพนั ธ์
5. ความร้แู ละทักษะวชิ าชีพ
6. ความสนใจใฝ่หาความรู้
7. การพึง่ ตัวเอง
8. มีความเพยี ร
9. รู้รกั สามคั คี
10. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1 เคร่อื ง
1. DC Power Supply 0-30 V 1 เครอ่ื ง
2. ดจิ ติ อลมัลตมิ ิเตอรห์ รือแอนะล็อกมลั ติมเิ ตอร์ 1 เครอ่ื ง
3. ออสซิลโลสโคปแบบ 2 เสนภาพ พรอมสายโปรบ 1 เคร่อื ง
4. เคร่อื งกาเนดิ ความถี่เสยี ง ไซน์ - สเ่ี หลยี่ ม 2 ตวั
5. ไดโอด IN 4001 (หรือเบอรแทน) 1 ตวั
6. ตวั เกบ็ ประจแุ บบอิเลก็ โตรไลท 2.2 F, 25V 1 ตวั
7. ตวั ต้านทาน 20 k 0.5 วตั ต์ 2 ตัว
8. สวติ ชตดั -ตอ 1 ชุด
9. แผงประกอบวงจร และสายตอวงจร
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 90
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
ลาดบั ขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั ิใบงาน
ก.วงจรตดั สญั ญาณแบบอนุกรม
1. ต่อวงจรตามรูปที่ 2.1.1 และปรับเคร่ืองกาเนิดสัญญาณรูปคล่ืนไซน์ให้มีความถ่ี 1 kHz
ขนาดแอมปลจิ ดู 10 VP เพอื่ ปอนเปนสญั ญาณอนิ พตุ ให้วงจร (Vi)
Vi D B
+10 A
1N4002
0 G 200R.5kW VO
-10 G
รูปท่ี 2.1.1 วงจรทดลองของไดโอดทาหนา้ ท่ีตัดสญั ญาณแบบอนั ดบั
2. ปรบั ออสซิลโลสโคปใหพ้ รอมใช้งาน โดยปรบั สวิตช AC-GND-DC ไปท่ีตาแหนง DC
3. นาสายโพรบของออสซลิ โลสโคปท้ัง 2 แชนแนล ไปวัดครอมที่ Vi และ VO โดยใช้แชนแนลที่
1 วัด Vi ส่วนแชนแนลที่ 2 วัด VO วาดรูปและบันทึกคาของสัญญาณแรงดันลงในตารางท่ี 1 ทั้งของ Vi
และ VO ตามลาดบั
4. ปรบั แหลง่ จา่ ยแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรงให้ไดแรงดัน 2 VDC นาไปต่ออนุกรมกับไดโอด D โดย
ต่อวงจรตามรูปท่ี 2.1.2
VD + - B
A 200R.5kW VO
Vi 2 V 1N4002 G
G
รปู ที่ 2.1.2 วงจรทดลองของไดโอดมไี บอสั ทาหนา้ ทตี่ ัดสัญญาณช่วงบวก
5. วดั และบันทึกท้ังรปู คลื่น และแรงดนั ที่ออกเอาต์พุตของวงจร (VO) ลงในตารางท่ี 2.1.1
6. จากรูปที่ 2.1.2 ทาการกลับข้ัวแหลงจายแรงดัน V ให้ข้ัวบวกของแหล่งจ่ายต่อกับขาคาโถด
ของไดโอด
7. วัดและบนั ทกึ ทั้งรปู คลื่น และแรงดนั ที่ออกเอาต์พุตจดุ (VO) ลงในตารางท่ี 2.1.1
8. ปลดแหล่งจ่ายแรงดัน V ออกจากนั้นกลับขั้วไดโอดให้ขาคาโถดของไดโอด ต่อกับตัว
ตา้ นทาน 20 k ทีอ่ ยู่ทางเอาต์พตุ
9. วัดและบันทึกท้ังรปู คล่ืนและแรงดนั ท่ีออกเอาต์พุต (Vo) ลงในตารางที่ 2.1.1
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 91
วชิ า การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
VD - B
A
+
Vi 2 V 1N4002 200R.5kW VO
GG
รปู ที่ 2.1.3 วงจรทดลองของไดโอดมไี บอสั ทาหน้าที่ตดั สญั ญาณช่วงลบ
10. ตอแหลงจายแรงดนั 2 VDC อนุกรมกับไดโอดโดยตอวงจรตามรูปที่ 2.1.3
11. วัดและบันทึกทั้งรูปคลน่ื และแรงดันที่ออกเอาทพตุ จุด (VO) ลงในตารางที่ 2.1.1
12. กลับขัว้ แหลงจายแรงดัน V ใหข้ ัว้ บวกของแหล่งจา่ ยต่อกบั ขาอาโนดของไดโอด
13. วัดและบนั ทกึ ทัง้ รูปคลื่น และแรงดันทอี่ อกเอาต์พุต (VO) ลงในตารางที่ 2.1.1
ตารางท่ี 2.1.1 บันทึกผลการทดลองข้อ 3-13
ขอ้ ที่ จดุ วดั การตอ่ รูปคล่ืน VP-P VP
+10
3 A,G อินพตุ 0
-10
3 B,G ไดโอด D 0
ไมน่ ากระแส
4-5 B,G ไดโอด D 2V
ไดไ้ บอสั ตรง
6-7 B,G ไดโอด D 2V
ได้ไบอัสกลับ
8-9 B,G ไดโอด D 0
ไมม่ ีไบอสั
10-11 B,G ไดโอด D 2V
ไดไ้ บอัสกลบั
12-13 B,G ไดโอด D 2V
ได้ไบอสั ตรง
ข. วงจรตดั สัญญาณแบบขนาน
14. ตอ่ วงจรตามรูปที่ 2.1.4 โดยปอนสญั ญาณคล่ืนไซนค์ วามถ่ี 500 Hz ความแรง 20 VP-P เป็น
สัญญาณอนิ พตุ ใหว้ งจร (Vi)
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 92
วชิ า การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
Vi AR
20 k 0.5 W
+10 B
0 D VO
-10 G 1N4002
G
รปู ที่ 2.1.4 วงจรทดลองของไดโอดทาหน้าที่ตัดสัญญาณ
15. นาออสซิลโลสโคปท่ีปรับแต่งเรียบร้อยแลว มาวัดคร่อมท่ี Vi และ VO โดยใช้แชนแนลท่ี 1
วัด Vi ท่ีจุด A เทียบกับ G ใช้แชนแนลที่ 2 วัด Vo ท่ีจุด B เทียบกับ G วาดรูปสัญญาณและบันทึกค่า
แรงดนั ของสัญญาณใน ตารางท่ี 2.1.2 ทั้งของ Vi และ VO ตามลาดบั
ตารางท่ี 2.1.2 บนั ทกึ ผลการทดลองข้อ 15-25
ข้อท่ี จดุ วัด การตอ่ รูปคลน่ื VP-P VP
15 A,G อนิ พุต +10
15 B,G 0
ไดโอด D -10
ไมม่ ีไบอัส
0
16-17 B,G ไดโอด D 2V
ได้ไบอสั กลับ
18-19 B,G ไดโอด D 2V
ได้ไบอัสตรง
20-21 B,G ไดโอด D 0
ไมม่ ีไบอสั
22-23 B,G ไดโอด D 2V
ไดไ้ บอสั กลบั
24-25 B,G ไดโอด D 2V
ไดไ้ บอัสตรง
16. ต่อแหลง่ จา่ ยแรงดนั 2 VDC อนุกรมกบั ไดโอด D ตอวงจรตามรูปที่ 2.1.5
AR +DB
20 k 0.5 W 1N4002 VO
Vi -
G
G
รูปท่ี 2.1.5 วงจรทดลองของไดโอดมไี บอัสทาหนา้ ทต่ี ดั สัญญาณช่วงบวก
นายเอกนริน พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 93
วชิ า การวิเคราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
17. วัดและบันทึกท้ังรูปคลนื่ และแรงดันทอี่ อกเอาทพุตจดุ B, G ลงในตารางท่ี 2.1.2
18. กลับข้ัวแหล่งจ่ายแรงดัน V ให้ขั้วลบป้อนให้ขา K ของไดโอด D เพียงกลับขั้วแหล่งจ่าย
แรงดนั V ให้ขว้ั ลบตอ่ ชา K ของไดโอด D แทน
19. วัดและบันทกึ ทง้ั รปู คล่ืน และแรงดนั ทีอ่ อกเอาทพุตจุด B, G ลงในตารางท่ี 2.1.2
20. ปลดแหล่งจ่ายแรงดัน V ออก กลับขั้วไดโอด D ให้ขา K ของไดโอด D ให้ขา K ของไดโอด
D ต่อกบั ตวั ต้านทาน R (จุด B) แทน โดยใช้วงจรตามรูปที่ 2.1.5 เพียงกลับขว้ั ไดโอด D
21. วัดและบันทึกทัง้ รปู คลน่ื และแรงดนั ทอ่ี อกเอาทพุตจุด B, G ลงในตารางที่ 2.1.2
22. ตอ่ แหล่งจา่ ยแรงดัน 2 VDC อันดับกับไดโอด D โดยตอวงจรตามรปู ที่ 2.6
AR DB
20 k 0.5 W 1N4002
VO
Vi -
+
GG
รูปที่ 2.1.6 วงจรทดลองของไดโอดมีไบอัสทาหน้าที่ตัดสัญญาณชว่ งลบ
23. วัดและบันทึกท้ังรปู คลนื่ และแรงดนั ท่ีออกเอาทพตุ จุด B, G ลงในตารางที่ 2.1.2
24. กลับข้วั แหลงจายแรงดัน V ให้ข้วั บวกปอนให้ขา A ของไดโอด D โดยใช้รูปที่ 2.1.6 เพยี ง
กลบั ขั้วแหลงจายแรงดัน V ให้ข้วั บวกตอขา A ของไดโอด D แทน
25. วดั และบนั ทกึ ทั้งรูปคลืน่ และแรงดนั ทอ่ี อกเอาทพุตจดุ B, G ลงในตารางท่ี 2.1.2
ง. วงจรยกระดบั สญั ญาณ
26. ต่อวงจรตามรูปที่ 2.1.7 โดยปอนสัญญาณคล่ืนไซน์ความถ่ี 500 Hz ความแรงดัน 20 VP-P
เปนสัญญาณอินพุตให้วงจร (Vi)
Vi A +C B
+10 2.2F 25V VO
D R
0 1N4002 20 k G
-10 G 0.5 W
รูปท่ี 2.1.7 วงจรการทดลองของไดโอดมีไบอัสทาหนา้ ทยี่ กระดบั สญั ญาณ
27. นาออสซิลโลสโคปที่ปรับแตงเรียบรอยแลว มาวัดครอมท่ี Vi และ VO โดยใช้แชนแนลท่ี 1
วัด Vi ท่ี จุด A เทียบกับ G ใช้แชนแนลท่ี 2 วัด VO ที่จุด B เทียบกับ G วาดรูปสัญญาณ และบันทึกคา
แรงดนั ของสัญญาณลง ในตารางท่ี 2.1.3 ทงั้ ของ Vi และ VO ตามลาดับ
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 94
วชิ า การวเิ คราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
28. กลับข้ัวไดโอด D ใหข้ า A ตอท่ีจดุ G และกลับขั้วตัวเก็บประจุ C ให้ขั้วลบของตัวเก็บประจุ
B ตอที่ จุด A โดยใช้วงจรตามรปู ท่ี 2.2.7 เพยี งกลับข้ัวไดโอด D และกลับข้วั ของตวั เก็บประจุ C
29. วัดและบันทึกทั้งรปู คล่ืนและแรงดันท่ีออกเอาทพุตจดุ B, G ลงในตารางที่ 2.1.3
ตารางที่ 2.1.3 บันทึกผลการทดลองข้อ 26-29
ขอ้ ที่ จุดวดั การต่อ รปู คลน่ื VP-P VP
+10
26 A,G อินพุต 0
-10
27 B,G ไดโอด D
ตอ่ ขา K ท่ีจดุ G
28-29 B,G ไดโอด D
ต่อขา A ทจ่ี ุด G
สรุปผลการทดลอง
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................................. ...................
................................................................................................................ ....................................................
............................................................................................................................. .......................................
คาถามการทดลอง
1. อธบิ ายความหมายของวงจรตัดสัญญาณมาให้เข้าใจ พรอมอธบิ ายการทางานของวงจรตัดสญั ญาณ
ช่วงลบชนดิ ไดโอดไดรบั ไบอสั กลบั แบบอนุกรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
2. อธิบายความหมายของวงจรยกระดบั สญั ญาณมาให้เขาใจ พรอมอธิบายการทางานของวงจรยกระดับ
แรงดนั บวก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ ........................................................................
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Diodes and Circuits 95
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
ใบงานที่ 2.2 หน่วยที่ 2
รหัสวชิ า 3105-1003 วิชา การวิเคราะหว์ งจรอิเล็กทรอนิกส์ สอนครัง้ ที่ 2
ชื่อหน่วย ไดโอด และวงจรใช้งาน คาบรวม 5
ชอ่ื เรอ่ื ง วงจรทวแี รงดัน จานวนคาบ 3
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. ตอ่ วงจรทวีแรงดันเพ่ือทดลองไดอยา่ งถูกต้อง
2. วัดและอานคาแรงดันในวงจรทวีแรงดันได้อย่างถูกต้อง
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (จิตพสิ ัย) ท่ีมกี ารบูรณาการตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. ความรบั ผิดชอบ
2. ความมีวนิ ัย
3. การตรงตอ่ เวลา
4. ความมีมนุษย์สมั พันธ์
5. ความรแู้ ละทักษะวิชาชพี
6. ความสนใจใฝ่หาความรู้
7. การพึง่ ตัวเอง
8. มีความเพียร
9. รรู้ กั สามคั คี
10. การแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า
เคร่ืองมอื และอุปกรณ์ 1 เครอื่ ง
1. ดจิ ิตอลมัลติมิเตอร์หรอื แอนะลอ็ กมัลติมเิ ตอร์ 1 ตวั
2. หมอ้ แปลงท่ีมีแรงดนั ออก 6-0 V 6 ตวั
3. ไดโอด IN 4002 (หรือเบอรแทน) 6 ตวั
4. ตัวเก็บประจุ 100 F, 50V 1 ตัว
5. ตัวต้านทาน 20 MΩ 0.5 วัตต์ 1 ชดุ
6. แผงประกอบวงจรและสายตอวงจร
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 96
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
ลาดบั ขน้ั ตอนในการปฏิบตั ิใบงาน
1. ตอ่ วงจรตามรปู ที่ 2.2.1
D1
+ 1N4002 +
100 F
220VAC 6V x2 - 50V RL
-
1 MW
+ 0.5 W
100 F
D2 - 50V
รปู ที่ 2.2.1 วงจรการเพ่มิ แรงดันเอาต์พตุ 2 เทา่
2. ใชมัลติมิเตอรตั้งท่ียานดซี โี วลทมิเตอร วัดแรงดนั ตกครอม C1, C2, RL ทีละครั้ง บนั ทึกคาลง
ในตารางท่ี 2.2.1 ชองเพม่ิ แรงดัน 2 เทา
3. ตอ่ วงจรตามรปู ที่ 2.2.2
220 VAC C1 + D2 + RL
C2 1 MW
100 F 1N4002
6V 50V D1 x3 -0.5 W
x3
D3
รูปท่ี 2.2.2 วงจรการเพมิ่ แรงดนั เอาต์พุต 3 เท่า
4. ใชดซี ีโวลทมเิ ตอร วดั แรงดันตกครอม C1, C2, C3, RL ทลี ะครั้งบันทึกคาลงในตารางท่ี 2.2.1
ชองเพม่ิ แรงดนั 3 เทา
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 97
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
ตารางที่ 2.2.1 บนั ทกึ ผลการทดลองข้อ 2-10
อุปกรณ์ทวี่ ัด แรงดนั ที่ อ่านได้ (V)
เพิ่ม 2 เท่า เพิ่ม 3 เทา่ เพ่มิ 4เท่า เพ่มิ 5 เทา่ เพม่ิ 6 เท่า
C1
C2
C3
C4
C5
C6
RL
5. ตอ่ วงจรตามรูปท่ี 2.2.3 C1 + D2 +C2 + RL
1 MW
220 VAC 100 F 1N4002 -0.5 W
6V 50V D1 x4
x4
+
+C3 D3
รูปท่ี 2.2.3 วงจรการเพม่ิ แรงดันเอาต์พุต 4 เทา่
6. ใชดีซีโวลต์มิเตอรวัดแรงดันตกครอม C1, C2, C3, C4, RL ทีละคร้ังบันทึกคาลงในตารางที่
2.2.1 ชองเพมิ่ แรงดัน 4 เทา
RL1 1 MW 0.5 W- +C5
C1 + C3- ++D4
220 VAC 6V 100 F 5D01Vx4 D2 D3 1N4002 x6
D5 D6
++
+ C6 +
C2 C4
RL2 1 MW 0.5 W
รปู ท่ี 2.2.4 วงจรทดลองการเพม่ิ แรงดนั ออกเอาต์พตุ 5 เท่า และ 6 เท่า
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Diodes and Circuits 98
วชิ า การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
7. ตอ่ วงจรตามรปู ที่ 2.2.4 ยังไมต่ ่อ RL2
8. ใชดซี ีโวลต์มเิ ตอร วดั แรงดนั ตกครอม C1, C2, C3, C4, C5, RL1 ทีละคร้ังบันทึกค่าลงในตาราง
ท่ี 2.2.1 ชองเพม่ิ แรงดัน 5 เทา
9. ปลด RL1 ออก และต่อ RL2 เข้าวงจรดังแสดงในรปู ท่ี 2.2.4
10. ใชดีซีโวลต์มิเตอรวัดแรงดันตกครอม C1, C2, C3, C4, C5, RL2 RL1 ทีละคร้ังบันทึกค่าลงใน
ตารางที่ 2.2.1 ชองเพิ่มแรงดัน 6 เทา
สรุปผลการทดลอง
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................ ....................................
................................................................................................................ ....................................................
............................................................................................................................. .................................
คาถามการทดลอง
1. จากรปู ท่ี 2.2.1 C1, C2 ในวงจรทาํ หนาท่เี ปนอะไร พรอมอธิบายการทํางานของวงจรเพ่ิมแรงดัน
2 เทา มาใหเขาใจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. จงอธิบายการนําวงจรทวีแรงดันไปประยุกตใ์ ช้งานได้อยา่ งไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา
หน่วยที่ 3 การออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลงั ไฟฟา้
(Power Supply Circuit Design)
โดย
นายเอกนรนิ พลาชีวะ
แผนกวิชาชา่ งอิเลก็ ทรอนิกส์ วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 100
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
หนว่ ยที่ 3
การออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้า
Power Supply Circuit Design
สาระสาคญั
แหลง่ จ่ายกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบเชิงเสน้ เปน็ แหล่งจ่ายที่มีการใช้งานมาตั้งแต่ยุคเร่ิมต้นของ
การใช้งานวงจรอิเล็กทรอนิกส์และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะมีข้อดีคือ มีราคาถูก ทนทาน
ในการใช้งาน งา่ ยในการออกแบบและสร้าง แต่ถ้าต้องการใช้งานให้จ่ายกระแสได้สูง ๆ ก็จะมีขนาดและ
น้าหนักท่มี ากขนึ้ ตามไปดว้ ย
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงคท์ ั่วไป
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ การออกแบบแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรง วงจรเรียง
กระแส วงจรกรองแรงดันด้วยตัวเก็บประจุ การรักษาระดับแรงดัน วงจรป้องกันกระแสไหลเกินพิกัด
แหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบแรงดันคงท่ีและแบบปรบั ค่าได้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
3.1 อธิบายบลอ็ กไดอะแกรมของวงจรแหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงได้อย่างถูกต้อง
3.2 คานวณหาคา่ แรงดันรปิ เป้ิล (Vr(p-p)) ของวงจรกรองแรงดนั ดว้ ยตวั เกบ็ ประจุไดอ้ ย่างถูกต้อง
3.3 คานวณหาค่า Line regulation ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
3.4 คานวณหาค่า Load regulation ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
3.5 อธิบายหลกั การของวงจรรักษาระดับแรงดนั ได้อยา่ งถูกตอ้ ง
3.6 อธบิ ายหลกั การของวงจรปอ้ งกันการลัดวงจรหรือวงจรปอ้ งกนั กระแสไหลเกนิ พิกัดได้อยา่ ง
ถูกต้อง
3.7 ออกแบบแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบแรงดันคงท่ีได้อยา่ งถกู ต้อง
3.8 ออกแบบแหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรบั คา่ แรงดนั ได้อย่างถูกต้อง
หัวข้อเนือ้ หา
3.1 แหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงเชิงเสน้ (Linear DC Power Supply)
3.2 วงจรเรยี งกระแส (Rectifier Circuit)
3.3 วงจรกรองแรงดันดว้ ยตวั เก็บประจุ (Capacitor Filter circuit)
3.4 การรักษาระดบั แรงดนั (Voltage Regulation)
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 101
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
3.5 วงจรป้องกนั การลดั วงจร หรือวงจรปอ้ งกันกระแสไหลเกินพิกดั (Short-Circuit
Protection or Overload Protection)
3.6 แหล่งจ่ายไฟตรงแบบแรงดันคงท่ี (Regulated Power Supply)
3.7 แหล่งจ่ายไฟตรงแบบปรับค่าแรงดนั ได้ (Variable Regulated Power Supply)
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 102
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยที่ 3 การออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลงั ไฟฟา้
(Power Supply Circuit Design)
คาชแี้ จง
1. จงทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) เลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ งทีส่ ุดเพียงข้อเดยี ว
2. แบบทดสอบมีจานวน 10 ข้อ ใช้เวลาทาแบบทดสอบ 10 นาที
------------------------------------------------------------------------
1. วงจรใดของแหลง่ จ่ายกาลงั งานไฟฟา้ กระแสตรงทที่ าหน้าท่ีรักษาระดับแรงดันที่จา่ ยออกมา
เพือ่ นาไปใชง้ าน
ก. วงจร Rectifier Voltage
ข. วงจร Filter Voltage
ค. วงจร Voltage Regulator
ง. วงจร Voltage Fixed
จ. วงจร Voltage Protection
2. วงจรกรองแรงดันด้วยตัวเก็บประจุ ใชต้ ัวเกบ็ ประจุทมี่ คี า่ 1,000 F ต่อกับวงจรเรยี งกระแส
แบบเต็มคลื่น ขณะตอ่ โหลดมีกระแสไหล 200 mA จงคานวณหาคา่ แรงดันริปเปลิ (Vr(p-p))
ก. 2 VP-P
ข. 20 VP-P
ค. 2 mVP-P
ง. 20 mVP-P
จ. 2 VP-P
3. จงคานวณหาค่า Line Regulation ของแหลง่ จ่ายกาลงั งานไฟฟา้ กระแสตรงทีม่ แี รงดันเอาตพ์ ุต
เปล่ียนแปลงจากคาตา่ สุด 12.1 V ถงึ หาคา่ สูงสดุ 13.8V เม่อื แรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั ที่อินพุต
เปลย่ี นแปลงอย่บู นชว่ ง 215-225 V
ก. 0.14%
ข. 2.4%
ค. 14%
ง. 24%
จ. 0.24%
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 103
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
4. ในการออกแบบแหลง่ จา่ ยกาลังไฟฟ้ากระแสตรง แบบปรบั คา่ ได้ปัจจุบนั มีไอซีเบอรใ์ ดท่ีนิยม
นามาใช้
ก. 78XX
ข. 79XX
ค. LM555
ง. LM741
จ. LM317
5. วงจรรกั ษาระดบั แรงดนั แบบขนานใช้หลกั การใดในการรักษาระดับแรงดันใหค้ งที่
ก. ใชห้ ลกั การทางานของซีเนอร์ไดโอดท่ีทางานในชาวงเบรคดาว์น
ข. ใชห้ ลกั การแบ่งแรงดันในวงจรของตัวตา้ นทาน
ค. ใชห้ ลักการแบง่ กระแสในวงจรของซเี นอร์ไดโอด
ง. ใชห้ ลักการปอ้ นกลับจากเอาต์พุตมายังอนิ พตุ
จ. ใช้หลกั การนากระแสไปควบคุมแรงดัน
6. วงจรรกั ษาระดบั แรงดนั แบบอนกุ รมใช้หลกั การใดในการรักษาระดบั แรงดันใหค้ งท่ี
ก. ใชห้ ลักการนากระแสไปควบคุมแรงดัน
ข. ใชห้ ลกั การป้อนกลบั แบบลบเพ่ือรักษาระดับแรงดดัน
ค. ใชห้ ลกั การแบง่ กระแสในวงจรดว้ ยไอซี
ง. ใชห้ ลกั การควบคุมแรงดนั ด้วยไอซี
จ. ใช้หลักการควบคุมแรงดันดว้ ยซีเนอรไ์ ดโอด
7. จากวงจรในรูปที่ 1 อปุ กรณ์ตัวใดท่ีทาหนา้ ทีจ่ ากัดกระแสไม่ให้ไหลเกินกวา่ ที่กาหนด
VIN Q1 R4 VOUT
R1 Q2
VREF + R2
-
D1 R3
รปู ท่ี 1
ก. R1 และ D1
ข. R2 และ R3
ค. Q1 และ R4
ง. Q2 และ R4
จ. Q1 และ Q2
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 104
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
8. ในการออกแบบวงจรรกั ษาระดับแรงดนั แบบขนานโดยใช้ซีเนอร์ไดโอด ถ้ากาหนดใหแ้ รงดนั
อินพตุ มคี ่า 13-15V กระแสไหลผ่านโหลดมีค่า 50-100 mA แรงดนั ซเี นอรไ์ ดโอดมคี ่า 12 V
จะต้องใชค้ า่ RS ในวงจรค่าเท่าใด
ก. 14
ข. 140
ค. 1.4
ง. 1.4k
จ. 14k
9. จงคานวณหาคา่ Load Regulation ของวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟา้ กระแสตรง เม่ือขณะไมต่ ่อ
โหลดมแี รงดันเอาต์พุตเท่ากับ 15.2 V และเมื่อต่อโหลดมีแรงดนั เอาต์พตุ เทา่ กบั 14.8V
ก. 0.27%
ข. 2.7%
ค. 27%
ง. 0.17%
จ. 1.7%
10. ถา้ ตอ้ งการออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรง ใหส้ ามารถจา่ ยกระแสไดส้ งู ๆ ควร
เลือกใช้วงจรแบบใด
ก. แบบใชไ้ อซคี วบคุมแรงดันทจี่ ่ายกระแสได้สูง ๆ
ข. แบบใช้ซเี นอร์ไดโอดต่อขนานกนั หลาย ๆ ตัว
ค. แบบใชท้ รานซสิ เตอรร์ ่วมกับไอซีหรอื ซีเนอร์ไดโอดเพื่อเพิ่มกระแส
ง. แบบใช้มอสเฟตร่วมกับไอซี หรือซีเนอร์ไดโอดเพ่ือเพ่ิมกระแส
จ. แบบใดก็ไดเ้ พราะจ่ายกระแสไดเ้ หมือนกนั
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 105
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
หนว่ ยท่ี 3
การออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟา้
Power Supply Circuit Design
เนอื้ หาสาระ
ในการทางานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีประกอบรวมกันขึ้นเป็นวงจรจะสามารถทางานได้ก็
ต่อเมื่อมีการจ่ายกาลังงานไฟฟ้าเข้าไปในวงจรซึ่งวงจรอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่จะใช้กาลังงานไฟฟ้าแบบ
แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง เราจงึ ตอ้ งมีการออกแบบวงจรแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อนาไปใช้งาน
กับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงที่มีการใช้งานสามารถแบ่งออกเป็น 2
แบบ คือ แบบเชิงเส้น และแบบสวิตช่ิง โดยในหน่วยการเรียนนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะแบบเป็นเชิงเส้น
เทา่ นน้ั
3.1 แหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบเชงิ เส้น
แหล่งจา่ ยกาลงั ไฟฟา้ กระแสตรงแบบเชิงเสน้ เป็นแหล่งจ่ายท่ีมีการใช้งานมาต้ังแต่ยุคเร่ิมต้นของ
การใช้งานวงจรอิเล็กทรอนิกส์และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะมีข้อดีคือ มีราคาถูก ทนทาน
ในการใช้งานง่ายในการออกแบบและสร้าง แต่ถ้าต้องการใช้งานให้จ่ายกระแสได้สูง ๆ ก็จะมีขนาดและ
น้าหนักท่มี ากขึน้ ตามไปด้วยตามในรูปท่ี 3.1
Power IL
Transformer
+ Rectifier Filter +
AC line -Voltage
220V (rms) V-S VO
50Hz Regulator Load
VV V VV
tt t tt
รปู ท่ี 3.1 แสดงบลอ็ กไดอะแกรมของแหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบเชิงเสน้
3.2 วงจรเรียงกระแส (Rectifier Circuit)
จากหน่วยการเรียนรู้ท่ีผ่านมา เราได้ศึกษาการทางานและการใช้งานไดโอดมาแล้ว โดยในส่วน
ของวงจรเรียงกระแสที่ใช้ในแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบเชิงเส้น จะใช้วงจรเรียงกระแสแบบ
บริดจ์ ดังแสดงในรูปท่ี 3.2 ประกอบไปด้วยไดโอด 4 ตัว แต่ในปัจจุบันได้มีการผลิตออกมาอยู่ในตัวถัง
เดียวกัน เรียกวา่ บรดิ จ์ไดโอด ซึง่ ให้ความสะดวกในการนามาใช้งานตามรูปที่ 3.3
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 106
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
220VAC T1 A D1 D3 D1D4D3D2D1D4 D3D2
0V 12VAC D2 D4 RL VO
B
รูปที่ 3.2 แสดงวงจรเรียงกระแสแบบบรดิ จ์
รปู ที่ 3.3 แสดงลกั ษณะตัวถังของบริดจ์ไดโอด
ถ้ากาหนดให้ไดโอดท้ัง 4 ตัว เป็นแบบอุดมคติ แล้วป้อนสัญญาณอินพุตที่มีแอมปลิจูดเท่ากับ
Vm เขา้ มาในวงจรการทางานจะแบ่งเปน็ 2 ช่วง คอื
- ช่วงสัญญาณครึ่งไซเคิลบวก 0 ถึง T ไดโอด D2 และ D3 ทางานเพราะได้รับการไบอัสตรง
2
(Forward bias) ไดโอด D1 และ D4 ไม่ทางานเพราะได้รับการไบอัสกลับ (Reverse bias) กระแสจะ
ไหลผ่านไดโอด D2, RL และ D3 ทาให้เกิดแรงดันตกคร่อม RL
- ช่วงสัญญาณครึ่งไซเคิลลบ T ถึง T ไดโอด D1 และ D4 ทางานเพราะไดรับการไบอัสตรง
2
(Forward bias) ไดโอด D2 และ D3 ไม่ทางานเพราะได้รับการไบอัสกลับ (Reverse bias) กระแสจะ
ไหลผ่านไดโอด D4, RL และ D1 ทาให้เกิดแรงดันตกคร่อม RL
ในการใช้งานไดโอดสาหรับทาเป็นวงจรเรียงกระแสจะต้องพิจารณา 2 อย่างคือ ค่าอัตราทน
กระแสและแรงดันสงู สุด โดยการเลอื กใช้งานไดโอดเบอร์ใดก็ตามควรให้มีค่าอัตราทนกระแสและแรงดัน
เป็น 2 เทา่ ของขนาดกระแสและแรงดนั สงู สุดทหี่ ม้อแปลงจา่ ยออกมา
3.3 วงจรกรองแรงดนั ด้วยตัวเกบ็ ประจุ (Capacitor filter circuit)
วงจรกรองคือ วงจรกรองแรงดันที่เช่ือมต่อจากเอาต์พุตของวงจรวงจรเรียงกระแส ซึ่งมีแรงดัน
เอาต์พุตเป็นรูปพัลส์ดีซีท่ีไม่เรียบทาให้เรียบยิ่งขึ้นและทาให้แรงดันกระเพ่ือม (Ripple Voltage)
ลดน้อยลง ตัวเก็บประจุต้องทาหน้าท่ีกรองแรงดัน ให้เรียบมากที่สุด ตัวเก็บประจุจึงมีความสาคัญกับ
วงจรแหลง่ จา่ ยกาลังไฟฟา้ กระแสตรงเป็นอยา่ งมาก
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 107
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
วงจรกรองแรงดันด้วยตัวเก็บประจุ เป็นวงจรกรองแรงดันที่นิยมใช้กันมากทางด้านวงจร
อิเล็กทรอนิกส์เพราะเป็นการต่อวงจรที่ง่าย และประหยัดงบประมาณ ซ่ึงลักษณะการต่อวงจร
ตัวเก็บประจุ คือ ต่อตัวตัวเก็บประจุ ชนิดแบบมีข้ัวคร่อมท่ีเอาต์พุตของวงจรวงจรเรียงกระแสและต่อ
แรงดนั เอาต์พตุ คร่อมทต่ี วั ตัวเกบ็ ประจุ
Power Filter
Transformer Rectifier +
+
AC line -VDC C1 Voltage
220V (rms) V-S Regulator
50Hz
Output Voltage Rectifier Capacitor Filter
รปู ท่ี 3.4 การตอ่ ตัวเก็บประจุเพื่อทาเปน็ วงจรกรองแรงดนั
การทางานของวงจร
วิธีการต่อวงจรกรองแรงดันด้วยตัวเก็บประจุจะต่อตัวเก็บประจุชนิดมีขั้วคร่อมที่เอาต์พุตของ
วงจรเรียงกระแส ซง่ึ ตวั เกบ็ ประจุ C1 ท่ีต่อเข้าไปจะทางานดังน้ี ในช่วงลูกคล่ืนครึ่งไซเกิลบวกในช่วงแรก
เข้ามาจะทาให้ตัวเก็บประจุ C1 เริ่มเก็บประจุต้ังแต่สัญญาณรูปคล่ืนมีแรงดันศูนย์โวลต์ถึงค่าสูงสุดของ
แรงดนั สงู สุด (Vm) และจากช่วงที่แรงดันสงู สุด (Vm) ลดลงตา่ สุดถึงศูนย์โวลต์ ตัวเก็บประจุจะคายประจุ
ซ่ึงทาให้แรงดันท่ีตกคร่อมตัวเก็บประจุลดต่าลงและในช่วงครึ่งคล่ืนต่อมาป้อนเข้ามาตัวเก็บประจุก็จะ
เก็บประจุอีกจนถงึ ค่าแรงดันสงู สดุ (Vm) พอแรงดันลดลง ตัวเก็บประจุกค็ ายประจุอีกครั้งและทาซ้ากันไป
เรอื่ ย ๆ จะไดร้ ปู คล่ืนในรูปท่ี 3.5
VC ช่วงท่ีตวั เกบ็ ประจุคายประจุ
Vm
0t
รปู ท่ี 3.5 สญั ญาณรปู คล่นื เอาต์พุตของวงจรขณะท่ตี อ่ ตัวเก็บประจุ
ทมี่ า : สคุ นธ์ พมุ่ ศร.ี วเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์. สมาคมสง่ เสริมเทคโนโลย(ี ไทย-ญป่ี ุน่ ), 2544. หนา้ 57
เมื่อนารูปคลื่นเอาต์พุตเวฟฟอร์มของตัวเก็บประจุในรูปที่ 3.5 มาวิเคราะห์เพ่ือหาค่าแรงดัน
(Vr(rms)) และแรงดนั ดซี ี (Vdc) สามารถวเิ คราะห์ได้ดังรูปที่ 3.6
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 108
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
VC Vr(p-p)
Vm
Vdc
0 TT t
2
รปู ที่ 3.6 แสดงคา่ แรงดันเฉลี่ยของแรงดนั เอาต์พตุ ของวงจรกรองแบบตัวเก็บประจุฟลิ เตอร์
ทม่ี า : สคุ นธ์ พุม่ ศรี. วเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์. สมาคมสง่ เสริมเทคโนโลยี(ไทย-ญี่ปนุ่ ), 2544. หน้า 58
3.3.1 การหาคา่ แรงดนั รปิ เป้ิล (Vr(p-p))
ค่าแรงดันริปเปิ้ล (Vr(p-p)) หรือแรงดันกระเพื่อมเป็นค่าแรงดันท่ีเกิดจากการคายประจุของตัว
เกบ็ ประจุซึ่งคา่ แรงดนั ริปเปล้ิ ของวงจรกรองจะขน้ึ อยู่กับค่ากระแสท่ีโหลดและค่าตัวเก็บประจุที่จะใช้ใน
วงจรกรอง ถ้ากระแสโหลดถูกใช้มากจะทาให้ค่าแรงดันริปเปิ้ลมีค่ามากข้ึนด้วยสาหรับการหาค่าแรงดัน
ริปเปล้ิ ทคี่ วามถี่ใด ๆ จะหาไดด้ ังนี้
Vr(p-p) = [FId∙cC] …3.1
เมอ่ื F คอื ความถขี่ องแหล่งจ่ายไฟสลับ มีหน่วยเปน็ เฮริตซ์ (Hz)
Idc คอื กระแสไฟตรงเฉลย่ี เมอ่ื ต่อโหลด มหี นว่ ยเปน็ มลิ ลิแอมป์ (mA)
C คอื คา่ ตัวเก็บประจุทีท่ าหนา้ ที่กรองแรงดนั มหี น่วยเป็นฟารดั (F)
จากการหาคา่ กระแส
Idc = Vdc
แทนคา่ Idc ลงในสมการ Vr(p-p) จะได้ RL
=[ ]Vr(p-p)Vdc …3.2
RL∙F∙C
ดังนนั้ ถา้ เราทราบคา่ Vr(p-p) เราสามารถหาคา่ ของตัวเก็บประจุได้ดงั สมการ
C = [Vr(p-pV)∙dcRL∙ F] ….3.3
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 109
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
หรอื C = [ Idc ∙F] …3.4
Vr(p-p)
เมือ่ Idc คือ กระแสไฟตรงเฉลย่ี เม่ือตอ่ โหลด มหี น่วยเป็นมิลลิแอมป์ (mA)
C คอื ค่าตวั เกบ็ ประจุทีท่ าหนา้ ท่ีฟลิ เตอร์ มีหน่วยเป็นไมโครฟารดั (µF)
กรณีทีว่ งจรเรียงกระแสแบบครง่ึ คลืน่ F คือความถม่ี ีคา่ เท่ากับ 50 เฮริตซ์ (Hz)
กรณีท่ีวงจรเรียงกระแสแบบเต็มคลนื่ F คอื ความถี่มีค่าเทา่ กบั 100 เฮริตซ์ (Hz)
3.3.2 การหาคา่ แรงดนั ไฟฟา้ กระแสตรง Vdc ทเี่ อาต์พุตของวงจร
การคานวณหาคา่ แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงในวงจรตัวเก็บประจุฟิลเตอร์ที่ความถ่ีใด ๆ ใช้สมการ
ดังนี้
Vdc = Vm …3.5
1+4∙F∙IdCc∙Vm
สาหรบั วงจร half wave Vdc = Vm – Idc [2∙F1∙C] …3.6
สาหรบั วงจร full wave …3.7
Vdc = Vm – Idc [4∙F1∙C]
เม่ือ Vm คือ คา่ แรงดนั สงู สดุ ในช่วงครึง่ ไซเกิล มีหน่วยเป็นโวลท์ (V)
Idc คือ กระแสที่ไหลผ่านโหลด มหี น่วยเป็นมลิ ลแิ อมป์ (mA)
F คอื ความถขี่ องแหล่งจ่ายไฟ มหี นว่ ยเป็นเฮรติ ท์ (Hz)
C คอื ค่าตวั เกบ็ ประจุฟลิ เตอร์ มหี น่วยเป็นไมโครฟารัด (µF)
3.3.3 การหาค่าริปเป้ลิ แฟกเตอร์ในวงจรกรองแรงดันด้วยตัวเก็บประจุ
ค่าริปเปิ้ลหรือค่าแรงดันไฟกระเพื่อม คือ ค่าแรงดันท่ีเปลี่ยนแปลงระหว่างตัวเก็บประจุ
ที่ทาหน้าที่เก็บและคายประจุเพื่อรักษาค่าพีค (Peak) ของแรงดันให้คงที่มากที่สุด ค่าริปเปิ้ลน้อยแสดง
ว่าระบบดี ในกรณีที่เป็นวงจรเรียงกระแสแบบเต็มคล่ืนความถี่ที่ออกมาจะเป็น 2 เท่า เมื่อนาเอาวงจร
เรียงกระแสแบบเต็มคลน่ื มากรองแรงดันจะได้ค่าริปเปิ้ลน้อยกว่าแบบวงจรเรียงกระแสแบบคร่ึงคลื่น ใน
กรณีทใ่ี ช้คา่ โหลดรซี สี เตอร์เทา่ กนั คา่ ตัวเก็บประจุเทา่ กัน ค่าริปเปิ้ลหาไดจ้ ากสมการดงั นี้
สาหรับวงจร half wave Ripple Factor (r) 1 …3.8
สาหรบั วงจร full wave Ripple Factor (r) = 2√3∙F∙C∙RL
1 …3.9
= 4√3∙F∙C∙RL
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 110
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
การเลอื กค่าแรงดันของตัวเก็บประจุ น้นั จะใช้ประมาณ 2 เทา่ ของขนาดแรงดันสงู สดุ ทหี่ ม้อ
แปลงจ่ายออกมา
ตวั อย่าง 3.1 จงคานวณหาค่าแรงดันรปิ เปิ้ลของวงจรเร็กติไฟเออร์แบบเต็มคล่นื เม่อื ตวั เก็บประจุมีคา่
470 µF และกระแสโหลด 50 mA
วธิ ที า จากสมการที่ 3.1
Vr(p-p) = [FId∙cC]
Vr(p-p) = [1005∙04m7A0µF]
Vr(p-p) = 1.06 V ตอบ
ตวั อยา่ ง 3.2 จงคานวณหาคา่ แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงท่ีได้จากวงจรกรองแรงดัน ถ้าค่าแรงดันสูงสุดของ
รปู คลน่ื ทีไ่ ดจ้ ากวงจรเรียงกระแสในตวั อยา่ งที่ 3.1 มคี ่าเท่ากับ 100 V
วิธที า จากสมการที่ 3.7
Vdc = Vm – Idc [4∙F1∙C]
Vdc = 100V – 50mA [4∙50Hz1∙470µF]
1
Vdc = 100V – 0.094
Vdc = 100V – 10.63
Vdc = 89.37 V ตอบ
ตัวอย่าง 3.3 วงจรกรองแรงดันชนิดใช้ตัวเก็บประจุที่มีค่าความจุเท่ากับ 47µF กาหนดให้กระแสโหลด
เท่ากับ 30 mA ถ้าค่าแรงดันสูงสุดของวงจรเรยี งกระแสแบบครึง่ คลน่ื มีค่าเท่ากับ 150 V จงคานวณหา
ก) Vr(p-p)
ข) Vdc
ค) %r เมอ่ื RL = 5 k
วิธีทา ก) หาค่า Vr(p-p) จากสมการที่ 3.1
Vr(p-p) = [FId∙cC]
Vr(p-p) = [50H30zm∙4A7µF]
Vr(p-p) = 12.76 V ตอบ
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 111
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
ข) หาค่า Vdc จากสมการที่ 3.6 = Vm – Idc [2∙F1∙C]
Vdc
Vdc = 150 – 30mA [1]
Vdc = 150 – 6.38 2∙50Hz∙47µF
Vdc
= 143.62 ตอบ
ตอบ
ค) หาคา่ %r จากสมการท่ี 3.8
Ripple Factor (r) 1
= 2√3∙F∙C∙1RL
Ripple Factor (r) = 2√3∙50Hz∙47µF∙5 k
%r 1
%r =40.70 ×100
= 2.45
3.4 การรกั ษาระดบั แรงดัน (Voltage regulation)
วงจรรักษาระดับแรงดันหมายถึง วงจรท่ีมีแรงดันเอาต์พุตคงที่ตลอดเวลาไม่ขึ้นอยู่กับการ
เปลีย่ นแปลง แรงดนั อนิ พุต โหลดที่ต่ออยู่กับวงจรหรืออุณหภูมิการทางาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เม่ือ
ค่าต่าง ๆ เหล่านี้มีการเปล่ียนแปลงจะส่งผลให้แรงดันเอาต์พุตเปล่ียนแปลงตามไปด้วย แต่จะเกิดการ
เปลี่ยนแปลงน้อยมากในส่วนของอุณหภูมิท่ีมีผลต่อแรงดันเอาต์พุตในวงจรทีมีกา รรักษาระดับแรงดัน
ดังน้นั วงจรรกั ษาระดบั แรงดนั จงึ มีการทางาน 2 ลักษณะดงั น้ี
3.4.1 การรกั ษาระดับแรงดนั ขณะทแ่ี รงดันอินพตุ เปลยี่ นแปลง (Line voltage regulation)
3.4.2 การรกั ษาระดบั แรงดนั ขณะทโ่ี หลดเปลีย่ นแปลง (Load voltage regulation)
3.4.1 การรักษาระดับแรงดนั ขณะทแ่ี รงดันอินพตุ เปลีย่ นแปลง (Line regulation)
การรักษาระดับแรงดันขณะท่ีแรงดันอินพุตเปล่ียนแปลง (Line voltage regulation) หมายถึง
ขณะท่ีแรงดันอินพุตเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดจากการเปล่ียนแปลงของแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ ก่อนเข้า
หม้อแปลง ถ้าวงจรมีการรักษาระดับแรงดันเอาต์พุตให้คงท่ี ก็จะทาให้แรงดันท่ีจ่ายออกมาท่ีเอาต์พุต
คงทห่ี รือมีการเปลี่ยนแปลงได้ไม่มากตามรูปท่ี 3.7
การรักษาระดับแรงดันขณะท่ีแรงดันอินพุตเปลี่ยนแปลงจะแสดงเป็นอัตราส่วนหรือเป็น
เปอร์เซ็นต์ โดยหาค่าได้จากค่าผลต่างของแรงดันเอาต์พุตเม่ือแรงดันอินพุตสูงสุดและต่าสุด เทียบกับ
แรงดันเอาตพ์ ตุ ในขณะท่แี รงดนั อนิ พตุ ตา่ สุดดังแสดงในสมการ
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 112
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
Line Voltage regulation = VO(Vinสูงสุด) - VO(Vinต่าสดุ ) …3.10
VO(Vinต่าสุด)
โดยทั่วไปนยิ มแสดงค่า Line voltage regulation เปน็ คา่ เปอร์เซน็ ตซ์ ึ่งเราสามารถหาได้จาก
การนาคา่ ทไี่ ดจ้ ากสมการท่ี 3.10 ไปคูณดว้ ย 100 นน่ั เอง
-+ VIN -+ VOUT
VIN Voltage VOUT
Regulator Constant
Decreases
OR
Increases
รปู ท่ี 3.7 บล็อกไดอะแกรมวงจรรกั ษาระดับแรงดนั
ตวั อย่างท่ี 3.4 จงคานวณหาคา่ Line voltage regulation ของวงจรท่มี ีแรงดันเอาต์พุตเปล่ียนแปลง
จากคา่ ต่าสดุ 11.8 V ถงึ ค่าสงู สดุ 13.5 V เมอ่ื แรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั ท่ีอินพตุ เปลย่ี นแปลงอยใู่ นช่วง
210 – 222 V
วิธที า จากสมการ 3.10
Line Voltage regulation = VO(Vinสงู สุด)-VO(Vinต่าสุด)
VO(Vinตา่ สุด)
13.5 V - 11.8V ตอบ
= 11.8 V x100
= 14.40 %
3.4.2 การรกั ษาระดบั แรงดันขณะทีโ่ หลดเปล่ยี นแปลง (Load voltage regulation)
การรกั ษาระดบั แรงดันขณะทโ่ี หลดมีการเปลี่ยนแปลง หมายถึง เมื่อโหลดมีการเปลี่ยนค่าความ
ต้านทานวงจรสามารถรักษาระดบั แรงดันดว้ ยวธิ กี ารจา่ ยกระแสเพ่ือให้แรงดันเอาต์พุตคงที่ รูปท่ี 3.8 (ก)
แสดงวงจรรักษาระดบั แรงดันขณะต่อตวั ตา้ นทานเอาตพ์ ุตซงึ่ มกี ระแสไหลค่าหน่งึ และเกิดแรงดันเอาต์พุต
รูปที่ 3.8 (ข) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันขณะเปล่ียนแปลงค่าความต้านทานเพ่ิมข้ึนหรือลดลง
วงจร จะมีกระแสไหลไปยงั โหลดเพิ่มข้นึ หรอื ลดลงเพ่ือให้แรงดนั เอาต์พุตมีคา่ คงท่ี
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 113
วิชา การวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
VIN Voltage + IL - -+ VOUT
Regulator
RL
(ก) โหลดไมเ่ ปลี่ยนแปลงคา่
VIN Voltage + IL - -+ VOUT
Regulator
RL
(ข) โหลดเปลยี่ นแปลงค่า
รปู ที่ 3.8 วงจรรกั ษาระดับแรงดนั
การหาค่า Load Voltage regulation สามารถหาได้จากผลต่างของแรงดันเอาต์พตุ ขณะไม่ได้
ตอ่ โหลด (VNL) และในขณะโหลดมีกระแสไหลสูงสุด (VFL) เทยี บกบั แรงดนั เอาต์พตุ ขณะท่ีโหลดมีกระแส
ไหลสูงสดุ (VFL) โดยสามารถแสดงได้ด้วยคา่ ท่ีเป็นรูปแบบเปอรเ์ ซน็ ต์ ดงั สมการที่ 3.11
Load Voltage regulation = (VNL) - (VFL) x 100% …3.11
(VFL)
ตัวอย่างที่ 3.5 ถ้าต้องการรักษาระดับแรงดันท่ีโหลดเท่ากับ 15 V ขณะท่ีไม่มีโหลด (IL =0) เมื่อต่อ
โหลดจะมีกระแสไหล 20 mA แรงดันเอาต์พตุ เทากับ 14.8 V จงหาค่าการรักษาระดับแรงดันท่ีบอกเป็น
เปอร์เซ็นต์จากขณะไม่ต่อโหลดไปยังโหลดมีกระแสไหลผ่านสูงสุดและเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลง
ของกระแสเอาตพ์ ตุ ขณะไม่มีโหลด
วธิ ที า ขณะทวี่ งจรไมต่อโหลด แรงดันเอาต์พุตเท่ากบั
VNL = 15 V
ขณะท่วี งจรต่อโหลด แรงดันเอาตพ์ ุตเท่ากับ
VFL = 14.8 V
ค่าการรกั ษาระดับแรงดันทโ่ี หลดจากไม่ต่อโหลดไปถงึ มีโหลดเตม็ ท่ีเท่ากบั
Load Voltage regulation = (VNL)- (VFL) x 100%
(VFL)
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 114
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
15 V - 14.8 V
= 14.8 V x 100%
= 1.35 % ตอบ
3.4.3 ชนดิ ของวงจรรกั ษาระดบั แรงดัน
วงจรรักษาระดบั แรงดัน สามารถแบง่ ออกได้เปน็ ตามลักษณะของการควบคุมแรงดันเอาต์พุตได้
2 ชนิด คือ วงจรรักษาระดับแรงดันแบบขนาน (Shunt Regulator) และวงจรรักษาระดับแรงดันแบบ
อนุกรม (Series Regulator)
3.4.3.1 วงจรรักษาระดบั แรงดันแบบขนาน (Shunt Regulator)
วงจรแบบนี้อุปกรณ์รักษาระดับแรงดันจะต่อขนานอยู่กับโหลด อุปกรณ์ที่นามาใช้ในวงจรนี้
ได้แก่ ซเี นอร์ไดโอด (Zener diode) เนือ่ งจากคุณสมบัติของซีเนอร์ไดโอดเม่ือให้แรงดันไบอัสกลับจนถึง
ค่าเบรคดาวน์แล้วแรงดันตกคร่อมตัวมันจะค่อนข้างคงที่ ลักษณะการต่อวงจรใช้งานซีเนอร์ไดโอด ดัง
แสดงในรปู ท่ี 3.9 RS
IS IZ IL
RL VOUT
VIN VZ
รูปท่ี 3.9 แสดงวงจรรักษาระดบั แรงดันแบบขนาน
จากรปู เปน็ การใช้ซเี นอร์ไดโอดทาเป็นวงจรรักษาระดับแรงดัน (Voltage regulator) อย่างง่าย
โดยใชค้ า่ VZ ของซีเนอร์ไดโอด ซ่ึงมคี า่ คงท่ีเป็นตัวกาหนดแรงดัน Vo ส่วนค่า RS ควรเลือกให้เป็นค่าที่ทา
ให้เกิดแรงดันตกคร่อมตัวเองอยู่ระหว่างค่า VIN และ VZ เม่ือค่า IS = IZ + IL ดังน้ันเม่ือ IL มีค่าเพ่ิมข้ึนจะ
ทาให้ IZ ลดลง หรือเมื่อ IL มีค่าลดลง IZ จะมีค่าเพิ่มขึ้น ซ่ึงในช่วงเบรกดาวน์ของซีเนอร์ไดโอดจะให้ค่า
แรงดัน VZ คงทีต่ ลอดเวลาไมข่ ้นึ อยกู่ ับ VIN และ IL เราจึงใช้ซีเนอร์ไดโอด เป็นวงจร Voltage Regulator
ได้
3.4.3.2 วงจรรักษาระดับแรงดนั แบบอนุกรม (Series Regulator)
รูปที่ 3.10 แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันแบบอนุกรม ซึ่งวงจรประกอบด้วย ตัวต้านทาน R1
และซเี นอร์ไดโอด D1 ตอ่ เปน็ วงจรรักษาระดับแรงดนั อา้ งองิ ที่ปอ้ นแรงดันเข้าทขี่ าบวกของออปแอมป์ ซ่ึง
ออปแอมป์ทาหนา้ ทต่ี รวจจับค่าความผดิ พลาดของแรงดันเอาต์พุต ตัวต้านทาน R3 และ R4 ต่อเป็นวงจร
แบง่ แรงดันซงึ่ ทาหน้าท่ีตรวจจับแรงดันเอาต์พุตเพ่ือป้อนเข้าขาลบของออปแอมป์และทรานซิสเตอร์ Q1
ท่ตี ่ออนกุ รมระหว่างอินพุตและเอาต์พุตซึ่งทาหน้าที่จ่ายกระแสให้กับโหลดวงจรรักษาระดับแรงดันแบบ
อนุกรมจะอาศัยหลักการทางานลักษณะการป้อนกลับแบบลบเพื่อรักษาระดับ แรงดันเอาต์พุตให้คง
ตามที่ออกแบบไว้
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 115
VIN วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
R1
VREF Control Element VOUT
Q1
D1 Simple
Error Dectector R2 Circuit
+
-
R3
รปู ที่ 3.10 แสดงวงจรรักษาระดับแรงดนั แบบอนุกรม
Decreases Control Element VOUT
VIN Q1 Decreases
R1 RL
VREF Error Dectector R2
+ VFB Simple
D1 Circuit
-
R3
(ก)
Increases Control Element VOUT
VIN Q1 Increases
R1 RL
VREF Error Dectector R2
+ VFB Simple
D1 Circuit
-
R3
(ข)
รปู ที่ 3.11 แสดงวงจรรักษาระดบั แรงดันแบบอนุกรม
(ก) ขณะทีแ่ รงดนั อนิ พุตหรือเอาต์พุตลดลง (ข) ขณะทแ่ี รงดันอนิ พตุ หรือเอาต์พุตเพิ่มขึ้น
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 116
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
รูปท่ี 3.11 (ก) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันแบบอนุกรมขณะท่ีแรงดันอินพุตหรือเอาต์พุต
ลดลงซึ่งหลักการทางานของวงจรสามารถอธิบายได้ดังนี้ เมื่อแรงดันเอาต์พุตลดลงเนื่องมาจากแรงดัน
อนิ พตุ ลดลงหรือเกิดจากการต่อโหลดแล้วทาให้แรงดันเอาต์พุตลดลง แรงดันเอาต์พุตจะถูกแบ่งแรงดัน
ซง่ึ เปน็ แรงดันปอ้ นกลับมคี ่าเท่ากบั VFB และถูกปอ้ นกลบั เขา้ ทีข่ าลบของออปแอมป์มีค่าน้อยกว่าแรงดัน
ซีเนอร์ ซึ่งเป็นแรงดันอ้างอิง VREF ท่ีขาบวกของออปแอมป์ แรงดันผลต่างระหว่างแรงดัน VREF กับ
แรงดัน VFB จะถูกขยายโดยออปแอมป์ แรงดันเอาตพ์ ุตของออปแอมป์ VB มีค่าเพ่ิมข้ึน ส่งผลให้แรงดันที่
ขาอีมิเตอร์ ของทรานซิสเตอร์ มีค่าเพ่ิมข้ึนจนกระทั้งแรงดันท่ีถูกป้อนกลับ VFB มีค่าเท่ากับแรงดัน VREF
ซึ่งวงจรจะทางานในลักษณะป้อนกลับแบบลบ ทรานซิสเตอร์ Q1 ของวงจรรักษาระดับแรงดันแบบ
อนกุ รมจะมี ความรอ้ นสงู มาก ดงั นน้ั ทรานซสิ เตอร์ Q1 จาเปน็ ต้องติดฮีตซิงก์ เพือ่ ระบายความร้อน
รูปท่ี 3.11 (ข) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันแบบอนุกรมขณะท่ีแรงดันอินพุตหรือเอาต์พุต
เพิ่มขึ้น หลักการทางานของวงจรสามารถอธิบายได้ดังนี้ เม่ือแรงดันเอาต์พุตเพิ่มขึ้นเน่ืองมาจากแรงดัน
อินพุต เพิ่มขนึ้ หรอื เกิดจากการตอ่ โหลดแล้วทาใหแ้ รงดนั เอาตพ์ ตุ เพม่ิ ขึ้น แรงดันเอาต์พุตจะถูกป้อนกลับ
เปน็ แรงดนั VFB มีคา่ มากกวาแรงดันอ้างอิง VREF แรงดันเอาต์พุตของออปแอมป์ จะมีค่าลดลง ส่งผลให้
แรงดัน ที่ขาอีมิเตอร์ ลดลงจนกระท้ังแรงดัน VFB มีค่าเท่ากับแรงดัน VREF ด้วยลักษณะการป้อนกลับ
แบบลบจะ ทาให้แรงดนั เอาต์พุตมีคา่ คงท่ี ซ่งึ อตั ราขยายลปู ปดิ ของวงจรมีคา่ เท่ากับ
Acl = 1+RR32 …3.12
ดังนนั้ แรงดนั เอาตพ์ ุตจากวงจรรักษาระดับแรงดันแบบอนุกรม ซ่ึงไมพ่ ิจารณาแรงดัน VBE ของ
Q1 แรงดนั เอาต์พุตมคี า่ เทากับ
VOUT ≅ (1+ RR32) ∙VREF …3.13
เราสังเกตเหน็ ได้วา่ แรงดันเอาต์พุตจะข้ึนอยู่กับแรงดนั ซเี นอร์ไดโอดและตวั ตา้ นทาน R1 และ R2
ซ่งึ แรงดนั เอาต์พุตไมไ่ ด้ขึ้นอยู่กบั แรงดันอนิ พตุ
นายเอกนริน พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 117
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
ตวั อยา่ งที่ 3.6 จงหาคาแรงดันเอาต์พุตของวงจรรักษาระดับแรงดันในรปู ที่ 3.12
VIN 1 K BDQ1319 VOUT
Error Dectector R2 10 K
R1 +
VREF
-
D1 R3 10 K
5.1V
รปู ท่ี 3.12 วงจรรักษาระดบั แรงดันแบบอนุกรม
วธิ ที า แรงดันซีเนอร์ไดโอด ซึ่งเป็นแรงดันอา้ งอิง VREF = 5.1 V แรงดันเอาต์พตุ เท่ากับเท่าไร
จากสมการท่ี 3.12
VOUT ≅ (1+ RR23) ∙VREF
VOUT ≅ (1+ 1100kk) ∙5.1V
VOUT = 10.2 V ตอบ
3.5 วงจรป้องกันการลัดวงจรหรือวงจรป้องกันกระแสไหลเกินพิกัด (Short - Circuit protection
or Overload Protection)
การนาวงจรแหลง่ จ่ายกาลังงานหรือวงจรรักษาระดับแรงดันไปใช้งาน หากวงจรถูกต่อกับโหลด
ที่มีค่าความต้านทานต่าหรือโหลดต้องการกระแสสูงมากกว่าที่ออกแบบไว้ วงจรอาจจะเกิดการพัง
เสียหายได้ ดังนั้นวงจรแหล่งจ่ายกาลังงานจาเป็นต้องถูกออกแบบให้ป้องกันการจ่ายกระแสเกินกว่าที่
ออกแบบไวห้ รือป้องกนั การลัดวงจรตามรูปท่ี 3.13 แสดงวงจรแหล่งจ่ายกาลังงานหรือวงจรรักษาระดับ
แรงดนั ทมี่ ีการตอวงจรปอ้ งกันการลัดวงจร หรือวงจรกาหนดกระแส (Constant-current limiting) เพิ่ม
เขาไประหวา่ งขาอีมเิ ตอร์และเอาต์พตุ วงจรประกอบดว้ ยทรานซสิ เตอร์ Q2 และตวั ตา้ นทาน R4
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 118
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
VIN Q1 R4 VOUT
R1
VREF + Q2
Current Limiter
D1 -
R2
R3
รปู ท่ี 3.13 วงจรรักษาระดบั แรงดนั แบบอนุกรมทีเ่ พ่มิ วงจรปอ้ งกนั กระแสเกนิ
หลักการทางานของวงจรสามารถอธิบายได้ดังนี้ เมื่อกระแสไหลผ่าน R4 จะเกิดแรงดันท่ีตก
คร่อม R4 หรือแรงดัน VBE2 ท่ีทรานซิสเตอร์ Q2 เม่ือกระแสไหลมากข้ึนจนถึงค่าที่ออกแบบไว้สูงสุด
แรงดันที่ตกคร่อม R4 ที่มากพอทาให้เกิดการฟอร์เวิร์ดไบอัสให้กับรอยต่อขาเบสกับอีมิเตอร์ของ Q2
ทรานซิสเตอร์ Q2 เริ่มนากระแส ออปแอมป์จะจ่ายกระแสไหลผ่านทรานซิสเตอร์ Q2 ขณะเดียวกัน
กระแส IB ท่ีไหล เข้าขาเบสของทรานซิสเตอร์ Q1 จะลดลง ส่งผลให้กระแสเอาต์พุตที่ไหลผ่าน Q1 เพื่อ
จ่ายให้โหลดลดลง เนื่องจากแรงดัน VBE ที่ทรานซิสเตอร์ Q2 ไม่เท่ากับ 0.7 V กระแสที่ไหลผ่านโหลด
มากขึน้ จะทาให้เกิดแรงดันตกครอ่ ม R4 เพิ่มข้นึ กระแสทไี่ หลผา่ นโหลดสงู สุดเท่ากบั
0.7 V …3.14
IL(max) = R4
ตัวอยา่ งที่ 3.7 จากรูปท่ี 3.14 แสดงวงจรรกั ษาระดบั แรงดันทม่ี วี งจรปอ้ งกันการลัดลงกราวด์ ใหห้ า
คา่ กระแสเอาตพ์ ุตทีไ่ หลสงู สุดทสี่ ามารถจ่ายใหโ้ หลดได้
VIN Q1 R4 VOUT
BD139 0.1
R1 1 K
VREF + Q2 RL
BD139
-
R2 10 K
D1 R3 10 K
5.1V
รูปท่ี 3.14 วงจรรักษาระดับแรงดันแบบอนุกรมที่เพิ่มวงจรป้องกันกระแสเกิน
นายเอกนริน พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 119
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
วธิ ีทา จากสมการ 3.14
กระแสท่ีไหลผา่ น R4 มีค่าเทา่ กับ
IL(max) = 0.7 V
R4
= 0.7 V
1
= 0.7 A ตอบ
3.6 แหล่งจ่ายกาลงั ไฟฟา้ กระแสตรงแบบแรงดนั คงท่ี
3.6.1 แหล่งจ่ายกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบแรงดนั คงที่ซ่งึ ใช้วงจรรักษาระดบั แรงดันแบบขนาน
โดยใชซ้ เี นอร์ไดโอด
การออกแบบวงจรแหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟ้ากระแสตรงแบบแรงดนั คงทแี่ บบง่ายท่ีสุดคือการใช้วงจร
รกั ษาระดบั แรงดนั แบบขนานโดยใช้ซเี นอรไ์ ดโอดแต่ในการใช้งานและออกแบบวงจรต้องคานึงถึงเงื่อนไข
3 ขอ้ ทจ่ี ะทาใหซ้ ีเนอร์ไดโอดทางานรักษาระดับแรงดนั ได้ในสภาวะปกติ คอื
1. ต้องมีกระแสไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดอย่างน้อยเท่ากับกระแสซีเนอร์ไดโอดต่าสุด
(IZ(min)) เพื่อใหซ้ เี นอร์ไดโอดยังคงทางานได้ในช่วงเบรกดาวน์ซง่ึ จะมคี า่ ประมาณ 1-10 mA
2. กระแสท่ีไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดจะต้องไม่มากกว่าค่ากระแสซีเนอร์ไดโอดสูงสุด
(IZ(max)) โดยเฉพาะเมอ่ื ไม่ไดต้ อ่ โหลดเพราะจะทาใหซ้ ีเนอร์ไดโอดเสยี หาย
3. แรงดนั อินพตุ (Vin) จะตอ้ งมีค่ามากกว่าแรงดนั VZ ของซเี นอร์ไดโอด
RS
IS IZ IL
RL VOUT
VIN VZ
รูปที่ 3.15 วงจรซเี นอร์ไดโอดทาเปน็ วงจรรกั ษาระดบั แรงดนั แบบขนาน
จากวงจรเราจะไดส้ มการดังนี้ = Vin(min)-VZ …3.15
RS IZ(min)+IL(max)
…3.16
IZ = VS - VZ - IL …3.17
IS RS
= IL + IZ
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 120
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
ในการออกแบบสิ่งที่จะต้องทราบคือกระแสที่ไหลผ่านโหลดสูงสุด (IL(max)) มีค่าเท่าไร และช่วง
การเปลย่ี นแปลงของแรงดันอนิ พุต (Vin) จากสมการที่ 3.17 ถ้าโหลดมีกระแสไหลผ่านสูงสุด (IL(max)) จะ
ทาให้ค่ากระแส IZ มีค่าลดลง แต่จะต้องไม่เท่ากับศูนย์เพราะจะทาให้ซีเนอร์ไดโอดมีค่า VZ ไม่คงที่
ดังนัน้ ในการออกแบบเราจึงกาหนดให้คา่
IZ(min) = 10% ของ IZ(max) …3.18
เพ่ือนามาหาคา่ RS ที่ใชใ้ นวงจรเพื่อใหซ้ ีเนอร์ไดโอดทางานรกั ษาระดบั แรงดันไดจ้ ากสมการ
RS = VRS
IRS
RS = Vin(min)-VZ
IL(max)+IZ(min)
ตัวอย่างที่ 3.8 จงออกแบบวงจรรักษาระดับแรงดันแบบขนานโดยใช้ซีเนอร์ไดโอด กาหนดให้แรงดัน
อนิ พุตมีค่า 14-20 V กระแสท่ีไหลผา่ นโหลดมคี ่า 100-200 mA แรงดันซเี นอรไ์ ดโอดมคี ่า 10 V
วิธีทา จากสมการ 3.18 หาคา่ 200 mA×10
IZ(min) = 100
= 20 mA
จากสูตร RS RS Vin(min) - VZ
= IZ(min) + IL(max)
14V - 10V
= 20 mA + 200 mA
= 0.018 k
= 0.018 k x 1,000
= 18.18
ในการใช้งานจรงิ ควรใชค้ ่า 18 ตอบ
ขอ้ เสยี ของวงจรรักษาระดบั แรงดันแบบขนานโดยใชซ้ ีเนอรไ์ ดโอด คอื วงจรจะสน้ิ เปลืองพลังงาน
กล่าวคอื แม้วา่ ไมม่ กี ารต่อโหลดแต่ซีเนอร์ไดโอดซึ่งทาหนา้ ท่ีรกั ษาระดับแรงดันกย็ ังมีการสูญเสียพลังงาน
ภายในตัวเอง จากกระแสท่ีไหลผ่าน และการจ่ายกระแสให้กับโหลดจะมีค่าสูงสุดได้ไม่เกินค่ากระแส
สูงสดุ ซีเนอร์ไดโอด (IZ(max))
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 121
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
3.6.2 แหล่งจา่ ยกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบแรงดนั คงที่ซ่งึ ใช้วงจรรกั ษาระดับแรงดนั โดยใช้ไอซี
รูปท่ี 3.16 ไอซีรักษาระดบั แรงดันไฟบวกคงท่ีแบบ 3 ขา เบอร์ 78xx (ก) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดัน
เชิงเส้นไฟบวก (ข) แสดงไอซเี บอร์ต่าง ๆ และค่าแรงดันเอาต์พุต (ค) แสดงลักษณะของไอซี
ท่มี า : Thomas L. Floyd. Electronic Devices, Eighth Edition: New York. Pearson Education.
ไอซีตระกูล 78xx คือไอซีท่ีทาหน้าที่รักษาระดับแรงดันไฟบวกให้คงท่ี (Positive Voltage
Power Supply) ซึ่งไอซีตระกูล 78xx จะมี 3 ขา ประกอบด้วย ขาอินพุต ขากราวด์ และขาเอาต์พุต
รูปที่ 3.16 (ก) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันเชิงเส้นไฟบวกท่ีใช้ไอซี 78xx โดยท่ี 2 ตัวเลขท้ายของไอซี
78xx จะบอกค่าแรงดันเอาต์พุต ตัวอย่างเช่น 7805 แรงดันเอาต์พุตมีค่าเท่ากับ +5 V แรงดันเอาต์พุต
ของไอซรี กั ษาระดบั แรงดันมีความผดิ พลาด ± 4% ของแรงดันเอาต์พุตปกติ เช่น ไอซี 7805 จะมีแรงดัน
เอาต์พุตตั้งแต่ 4.8 V ถึง 5.2 V แต่ยังคงรักษาระดับแรงดันให้อยู่ในย่านน้ันได้ ตารางในรูปท่ี 3.16 (ข)
แสดงไอซีเบอร์ต่าง ๆ และค่าแรงดันเอาต์พุตของไอซี รูปท่ี 3.16 (ค) แสดงลักษณะของไอซี ซึ่งขาที่ 1
คือขาอินพุตขาที่ 2 คือขากราวด์ และขาที่ 3 คือขาเอาต์พุต วงจรรักษาระดับแรงดันประกอบด้วยไอซี
รักษาระดับแรงดันไฟบวกคงที่แบบ 3 ขา เบอร์ 78xx และตัวเก็บประจุ ซ่ึงตัวเก็บประจุภาคอินพุตและ
เอาต์พุตมคี วามจาเปน็ อยา่ งมาก เนื่องจากตัวเกบ็ ประจุทาหน้าท่กี รองสญั ญาณเอซีแบบเต็มคลื่นหรือคร่ึง
คลนื่ ให้เป็นแรงดนั ดซี ีและกรองสัญญาณรบกวนทไี่ ม่ต้องการ ไอซีตระกูล 78xx สามารถจ่ายกระแสได้ 1
A ซ่ึงการใช้งานไอซีต้องติดตั้งแผ่นระบายความร้อนเพ่ือให้วงจรสามารถรักษาระดับแรงดันได้ แรงดัน
อนิ พตุ จะตอ้ งมากกว่าแรงดันเอาต์พุตประมาณ 2.5 V วงจรภายในไอซีจะต้องมีการป้องกันเมื่ออุณหภูมิ
สงู เกนิ และจากัดกระแสลดั วงจร การทอ่ี ณุ หภมู ิจะสูงมากขึ้นได้น้ัน เกิดจากกาลังสูญเสียภายในมีมากข้ึน
เกินกว่าที่ออกแบบและอุณหภูมิของอุปกรณ์เกินกว่าค่าท่ีออกแบบไว้เช่นกัน การประยุกต์ใช้งานไอซี
รักษาระดับแรงดันสว่ นมากจะตอ้ งติดแผ่นระบายความร้อนเพอื่ ป้องกนั ไม่ให้อุณหภมู เิ กิน
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 122
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
ไอซีตระกลู 79xx คอื ไอซีรักษาระดับแรงดันแบบ 3 ขา ซึ่งทาหน้าที่รักษาระดับแรงดันเอาต์พุต
ไฟลบคงที่ (Negative Voltage Power Supply) ไอซีตระกูลนี้จะกลับด้านกับไอซีตระกูล 78xx และ
ลักษณะการวางขาของอุปกรณ์จะแตกต่างจากไอซีรักษาระดับแรงดันไฟบวก รูปที่ 3.17 แสดง
คณุ ลักษณะมาตรฐานและหมายเลขอปุ กรณ์ท่สี ัมพนั ธ์กับแรงดนั เอาต์พุตแต่ละคา่
รปู ท่ี 3.17 ไอซีรักษาระดบั แรงดนั ไฟลบคงท่ีแบบ 3 ขา เบอร์ 79xx
(ก) แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันเชิงเส้นไฟบวก (ข) แสดงไอซีเบอร์ต่าง ๆ และค่าแรงดันเอาต์พตุ
ที่มา : Thomas L. Floyd. Electronic Devices, Eighth Edition: New York. Pearson Education.
3.7 แหล่งจา่ ยกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับคา่ แรงดันได้
3.7.1 แหล่งจา่ ยกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับคา่ แรงดนั ไฟบวก
ไอซีเบอร์ LM317 คือไอซีรักษาระดับแรงดันไฟบวก ท่ีสามารถปรับแรงดันเอาต์พุตได้
(Variable Positive Supply Voltage) ได้รับความนิยมในการนามาใช้งานเน่ืองจากวงจรใช้อุปกรณ์ไม่
มากจึงง่ายในการออกแบบและการสรา้ ง ไอซี LM317 มี 3 ขา ประกอบด้วย ขาอินพุต ขาเอาต์พุต และ
ขาปรับแรงดัน รูปท่ี 3.18 แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันไฟบวกท่ีสามารถปรับแรงดันเอาต์พุตได้
ประกอบด้วย ไอซี LM317 ตัวเก็บประจุ อินพุต เอาต์พุต และต่อระหว่างขาปรับแรงดันกับกราวด์ และ
ตัวต้านทานมีค่าคงท่ีต่ออนุกรมกับตัวต้านทานแบบปรับค่าได้ซึ่งทาหน้าท่ีปรับแรงดันเอาต์พุตของวงจร
ซึง่ ไอซี LM317 จะมขี าปรบั แรงดันซ่งึ ไม่ไดต้ ่อลงกราวด์ ขาปรับแรงดันจะถูกต่อกับตัวต้านทานแบบปรับ
คา่ ได้ R2 เอาต์พตุ ของวงจรสามารถถูกปรับให้มีค่าแรงดัน 1.2 V ถึง 37 V ซ่ึงข้ึนอยู่กับตัวต้านทานปรับ
คา่ ได้ ไอซี LM317 สามารถจ่ายกระแสให้กบั โหลดได้สงู สุดเทากับ 1.5 A
+VIN IN LM317 OUT VOUT
3 2+ IREF
1 ADJ VREF R1
IADJ 1.2-5 V
C1 C2 IR2 R2 C3
รปู ที่ 3.18 วงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงทีส่ ามารถปรับแรงดนั ไฟบวกได้ดว้ ยไอซีเบอร์ LM317
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 123
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
การทางานของวงจรแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงท่ีสามารถปรับแรงดันได้ด้วยไอซีเบอร์
LM317 อธิบายได้ดังน้ี แรงดันที่ตกคร่อม R1 คือแรงดันอ้างอิง VREF มีค่าเท่ากับ 1.25 V ซ่ึงเป็นแรงดัน
ผลต่างคงที่ระหว่าง แรงดันเอาต์พุตกับแรงดันที่ขาปรับค่ากระแส IREF ไหลผ่าน R1 และ R2 ซึ่งมีค่า
เทา่ กบั
IREF = VREF ...3.19
R1
IREF = 1.25 V
R1
กระแส IADJ ที่ไหลในขา 1 ของไอซี LM317 มีค่าประมาณ 50 µA ซ่ึงไหลผ่าน R2 สมการ
ความสัมพนั ธ์ ระหว่างแรงดันเอาตพ์ ุตกับค่าความต้านทาน R1 และ R2 สามารถเขียนไดดังน้ี
VOUT = VR1 + VR2
= IREFR1 + IREFR2 + IADJR2
= IREF x (R1 + R2) + IADJR2 ...3.20
...3.21
สมการ 3.18 แทนลงในสมการ VOUT = VREF x (R1 + R2) + IADJR2
R1
+VOUT = VREF x (1 RR12) + IADJR2
เนื่องจากแรงดันเอาต์พุตเป็นฟังก์ชั่นกับ R1 และ R2 ดังนั้นเราสามารถกาหนดค่า R1 ให้คงท่ี
และปรบั คา่ R2
ตวั อยา่ งที่ 3.9 จงคานวณหาคา่ แรงดนั เอาต์พุตสงู สุด และตา่ สุดของวงจรในรูปที่ 3.19 เม่อื กาหนดให้
IADJ = 50 µA
+VIN=35V IN LM317 OUT VOUT
3 2+ IREF
1 ADJ VREF R1 220
IADJ 1.2-5 V
C1 C2 IR2 R2 50k C3
รูปที่ 3.19 วงจรแหลง่ จา่ ยไฟท่ีสามารถปรับแรงดนั ไฟบวกได้ดว้ ยไอซีเบอร์ LM317
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 124
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
วธิ ที า แรงดนั อ้างอิง VREF เทา่ กบั VR1 = VREF = 1.25 V
+= VREF x (1 RR12) + IADJR2
จากสมการ 3.21 VOUT(min)
เม่ือ R2 = 5 k VOUT(max) = 1.25 V x (1+ 2200) ตอบ
ตอบ
= 1.25 V
+= VREF x (1 RR21) + IADJR2
= 1.25 V x (1+ 2520k)
= 29.9 V
3.7.2 แหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรงแบบปรับค่าแรงดนั ไฟลบ
ไอซีเบอร์ LM337 คือไอซีรักษาระดับแรงดันไฟลบท่ีสามารถปรับแรงดันเอาต์พุตได้ (Variable
Negative Supply Voltage) ซึ่งสามารถนาไปใช้ร่วมกับไอซี LM317 และหลักการทางานของวงจร
เหมอื นกบั ไอซี LM317 รูปท่ี 3.20 แสดงวงจรรักษาระดับแรงดันไฟลบที่สามารถปรับแรงดันเอาต์พุตได้
ประกอบด้วยไอซี LM337 ตัวเก็บประจุอินพุต เอาต์พุตและต่อระหว่างขาปรับแรงดันกับกราวด์และ ตัว
ตา้ นทานมคี า่ คงท่ีต่ออนุกรมกับตัวต้านทานแบบปรับค่าได้ซึ่งทาหน้าที่ปรับแรงดันเอาต์พุตของวงจร ซึ่ง
ไอซี LM337จะมขี าปรบั แรงดนั ซงึ่ ไม่ไดต้ อ่ ลงกราวด์ ขาปรับแรงดนั จะถกู ต่อกับตัวต้านทานแบบปรับ ค่า
ได้ R2 แรงดนั เอาต์พตุ ของวงจรสามารถถูกปรับให้มคี ่าแรงดัน -1.2 V ถึง -37 V ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวต้านทาน
ปรับค่าได้ ตัวเกบ็ ประจุท่ตี ่อเพ่มิ เข้าไปจะไม่มผี ลต่อการทางานของไอซี
-VIN IN OUT VOUT
3 LM337 2 IREF C3
1 AIDADJJ
R1
C1 C2 IR2 R2
รูปท่ี 3.20 วงจรแหล่งจ่ายไฟที่สามารถปรบั แรงดันไฟลบได้ด้วยไอซีเบอร์ LM337
นายเอกนริน พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 125
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
สรปุ
วงจรแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้าแบบเชิงเส้นที่ประกอบด้วย หม้อแปลงไฟฟ้าทาหน้าที่ลด
แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ ไดโอดบริดจ์ ทาหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับให้มีลักษณะเต็มคลื่น
ตัวเก็บประจุทาหน้าท่ีกรองแรงดันให้คงที่ ทรานซิสเตอร์ ทาหน้าที่จ่ายแรงดัน และกระแสไฟฟ้า และ
ออปแอมป์ทาหน้าที่ควบคุมทรานซิสเตอร์ ให้จ่ายแรงดัน เอาต์พุตตามท่ีออกแบบไว้ คุณลักษณะของ
วงจร วงจรแหล่งจ่ายกาลังไฟฟ้าแบบเชิงเส้นที่สาคัญคือ Line regulation และ Load regulation การ
ป้องกันการลัดวงจร สามารถทาได้ด้วยการต่อทรานซิสเตอร์ เพ่ือทาหน้าที่ตรวจจับ และป้องกันการ
ลัดวงจร การออกแบบให้วงจรแหล่งจ่ายไฟเล้ียงสามารถจ่ายกระแสได้มากกว่าความสามารถ ของไอซี
กระทาไดโ้ ดยตอ่ ทรานซิสเตอรเ์ พมิ่ เขา้ ไปในวงจรเพอ่ื ทาหนา้ ท่จี ่ายกระแสจานวนมากแทนไอซี
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 126
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
แบบฝกึ หัด
แบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 การออกแบบวงจรแหล่งจ่ายกาลงั ไฟฟา้
(Power Supply Circuit Design)
คาส่งั จงตอบคาถามใหส้ มบูรณแ์ ละถูกต้อง ใชเ้ วลาทาแบบฝกึ หดั 20 นาที (คะแนนเตม็ 10 คะแนน)
1. วงจรฟลิ เตอรช์ นดิ คาปาซเิ ตอร์ฟิลเตอร์มีตวั คาปาซเิ ตอรฟ์ ลิ เตอรเ์ ทา่ กบั 47 F กาหนดให้กระแสโหลด
เทา่ กบั 80 mA ถ้าคา่ แรงดันสงู สุดของวงจรเร็กติไฟเออร์มีค่าเทา่ กับ 110 V จงคานวณหาดงั ตอ่ ไปนี้
ก) Vr(rms)
ข) Vdc
ค) %r
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2. กาหนดให้ออสซสิ โลสโคปวัดแรงดันตกคร่อมตัวต้านทาน RL ของวงจรได้แรงดัน VDC(min) = 5 V และ
Vrp-p = 15 VP-P จงหา Vr(rms) และ %ripple
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 127
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหสั วชิ า 3105-1003)
3. กาหนดให้แรงดันเอาต์พุตของวงจรต้องมีค่าเท่ากับ 20 V ขณะที่แรงดันอินพุตเพ่ิมขึ้นเท่ากับ 3.5 V
และแรงดันเอาตพ์ ุตมีค่าเพิ่มขึ้นเทา่ กบั 4.2 V ให้หาเปอรเ์ ซ็นต์ของการรักษาระดบั แรงดนั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
4. วงจรรักษาระดับแรงดันขณะไม่มีโหลด แรงดันเอาต์พุตเท่ากับ 18 V และขณะมีโหลดเต็มท่ี แรงดัน
เอาตพ์ ตุ เทากบั 17.8 V และกระแสเอาตพ์ ุตท่ีจ่ายให้โหลดเทากับ 50 mA ให้หาการรักษาระดับ แรงดัน
ทบ่ี อกเปน็ ร้อยละจากไม่มโี หลดไปยังมีโหลดเต็มท่ี และร้อยละของการเปลยี่ นแปลงของกระแสเอาต์พุต
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 128
วิชา การวิเคราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หน่วยที่ 3 การออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้า
(Power Supply Circuit Design)
คาชีแ้ จง
1. จงทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) เลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดยี ว
2. แบบทดสอบมีจานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลาทาแบบทดสอบ 10 นาที
**********************************************
1. วงจรใดของแหล่งจ่ายกาลงั งานไฟฟา้ กระแสตรงทท่ี าหน้าที่รกั ษาระดับแรงดันทจ่ี ่ายออกมา
เพ่ือนาไปใช้งาน
ก. วงจร Voltage Fixed
ข. วงจร Filter Voltage
ค. วงจร Rectifier Voltage
ง. วงจร Voltage Regulator
จ. วงจร Voltage Protection
2. วงจรกรองแรงดนั ดว้ ยตัวเก็บประจุ ใชต้ ัวเก็บประจุทมี่ ีค่า 1,000 F ตอ่ กบั วงจรเรียงกระแส
แบบเต็มคล่ืน ขณะต่อโหลดมีกระแสไหล 200 mA จงคานวณหาคา่ แรงดนั รปิ เปลิ (Vr(p-p))
ก. 2 VP-P
ข. 2 mVP-P
ค. 20 mVP-P
ง. 2 VP-P
จ. 20 VP-P
3. วงจรรกั ษาระดับแรงดันแบบขนานใช้หลักการใดในการรกั ษาระดบั แรงดันใหค้ งที่
ก. ใชห้ ลกั การนากระแสไปควบคุมแรงดัน
ข. ใชห้ ลักการปอ้ นกลบั จากเอาต์พุตมายังอินพุต
ค. ใชห้ ลักการแบ่งแรงดนั ในวงจรของตวั ตา้ นทาน
ง. ใช้หลกั การแบง่ กระแสในวงจรของซีเนอรไ์ ดโอด
จ. ใช้หลกั การทางานของซเี นอร์ไดโอดที่ทางานในชาวงเบรคดาวน์
4. ในการออกแบบวงจรรกั ษาระดับแรงดนั แบบขนานโดยใชซ้ เี นอร์ไดโอด ถา้ กาหนดให้แรงดนั
อินพุตมีคา่ 13-15V กระแสไหลผา่ นโหลดมีคา่ 50-100 mA แรงดันซเี นอรไ์ ดโอดมคี า่ 12 V
จะต้องใชค้ า่ RS ในวงจรคา่ เท่าใด
ก. 1.4
ข. 14
ค. 140
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วทิ ยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรียน Power Supply Circuit Design 129
วิชา การวเิ คราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนิกส์ (รหัสวชิ า 3105-1003)
ง. 1.4k
จ. 14k
5. ในการออกแบบแหลง่ จา่ ยกาลงั ไฟฟา้ กระแสตรง แบบปรับคา่ ได้ปจั จุบันมีไอซีเบอรใ์ ดที่นิยม
นามาใช้
ก. LM317
ข. LM741
ค. LM555
ง. 78XX
จ. 79XX
6. ถ้าตอ้ งการออกแบบวงจรแหลง่ จ่ายกาลังไฟฟ้ากระแสตรง ให้สามารถจา่ ยกระแสไดส้ ูง ๆ ควร
เลือกใชว้ งจรแบบใด
ก. แบบใดก็ได้เพราะจา่ ยกระแสไดเ้ หมอื นกนั
ข. แบบใช้ซเี นอร์ไดโอดต่อขนานกนั หลาย ๆ ตัว
ค. แบบใชไ้ อซคี วบคุมแรงดนั ทจี่ ่ายกระแสได้สงู ๆ
ง. แบบใช้มอสเฟตร่วมกับไอซี หรือซเี นอร์ไดโอดเพื่อเพ่ิมกระแส
จ. แบบใชท้ รานซิสเตอร์ร่วมกับไอซหี รือซีเนอร์ไดโอดเพอ่ื เพิม่ กระแส
7. จงคานวณหาค่า Load Regulation ของวงจรแหล่งจ่ายกาลังไฟฟา้ กระแสตรง เมื่อขณะไม่ต่อ
โหลดมแี รงดันเอาต์พุตเท่ากับ 15.2 V และเม่ือต่อโหลดมีแรงดนั เอาต์พตุ เทา่ กับ 14.8V
ก. 0.17%
ข. 0.27%
ค. 1.7%
ง. 2.7%
จ. 27%
8. จงคานวณหาคา่ Line Regulation ของแหลง่ จา่ ยกาลงั งานไฟฟา้ กระแสตรงที่มแี รงดนั เอาต์พุต
เปล่ยี นแปลงจากคาต่าสุด 12.1 V ถงึ หาคา่ สูงสดุ 13.8V เมื่อแรงดันไฟฟา้ กระแสสลับท่ีอินพุต
เปลี่ยนแปลงอยบู่ นช่วง 215-225 V
ก. 0.14%
ข. 0.24%
ค. 2.4%
ง. 14%
จ. 24%
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชิงเทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 130
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหสั วิชา 3105-1003)
9. จากวงจรในรูปที่ 1 อปุ กรณ์ตัวใดที่ทาหนา้ ทจี่ ากัดกระแสไม่ให้ไหลเกนิ กวา่ ท่กี าหนด
VIN Q1 R4 VOUT
R1 Q2
VREF + R2
-
D1 R3
รูปที่ 1
ก. Q1 และ Q2
ข. Q2 และ R4
ค. Q1 และ R4
ง. R1 และ D1
จ. R2 และ R3
10. วงจรรกั ษาระดับแรงดนั แบบอนกุ รมใช้หลักการใดในการรักษาระดับแรงดันให้คงท่ี
ก. ใชห้ ลักการควบคุมแรงดันดว้ ยไอซี
ข. ใช้หลกั การแบ่งกระแสในวงจรด้วยไอซี
ค. ใช้หลกั การนากระแสไปควบคุมแรงดนั
ง. ใชห้ ลกั การป้อนกลบั แบบลบเพื่อรักษาระดบั แรงดดัน
จ. ใชห้ ลักการควบคุมแรงดนั ดว้ ยซเี นอรไ์ ดโอด
นายเอกนรนิ พลาชวี ะ | วิทยาลยั เทคนิคฉะเชงิ เทรา
เอกสารประกอบการเรยี น Power Supply Circuit Design 131
วิชา การวิเคราะหว์ งจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (รหัสวิชา 3105-1003)
บรรณานกุ รม
เจน สงสมพนั ธ.์ุ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ 3 วงจรอิเลก็ ทรอนิกส์. ปทุมธานี : สถาบนั
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ กรุงเทพรงั สติ . 2552.
นภทั ร วจั นเทพพินทร.์ อุปกรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์. สกายบุ๊กส์. 2538.
ทรงพล กาญจนชูชยั . อปุ กรณ์สารก่ึงตัวนา. กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . 2556.
ธนันต์ ศรสี กลุ . พนื้ ฐานการออกแบบวงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์. กรงุ เทพฯ: วติ ต้ี กร๊ปุ . 2552.
สุคนธ์ พุ่มศรี. การวเิ คราะห์วงจรอิเลก็ ทรอนิกส.์ พมิ พ์ครั้งท่ี 1. นนทบรุ ี: ศูนย์สง่ เสริมอาชวี ะ,
2558.
สายณั ต์ ชน่ื อารมณ์. วิเคราะห์วงจรอิเลก็ ทรอนิกส.์ กรงุ เทพฯ:ศนู ยส์ ่งเสริมวชิ าการ. 2552.
อานวย เถาตระกูล, คู่มือการเขยี นแผนการสอน การจดั การเรียนร้มู งุ่ เน้นสมถรรนะอาชพี ,
กรุงเทพฯ : สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา, 2551.
เพอ่ื ชาติ สุขเรือน, การวิเคราะหว์ งจรทรานซสิ เตอร์, กรงุ เทพฯ : โอเดียนสโตร,์ 2556.
Robert L.Boylestad, Louis Nashelsky. Electronic Devices and Circuit Theory :
United States., 2009.
นายเอกนรนิ พลาชีวะ | วิทยาลยั เทคนคิ ฉะเชงิ เทรา