The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่-1-จำนวนเต็ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by puky_pooh, 2021-09-13 00:43:23

หน่วยที่-1-จำนวนเต็ม

หน่วยที่-1-จำนวนเต็ม

1

แผนการจัดการเรยี นท่ี 1 เรือ่ ง จำนวนเต็ม

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1เรื่อง จำนวนเตม็ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์

วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 1 รหัสวชิ า ค21105 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 2 ชั่วโมง สอนโดย นางชนิดา รื่นรมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน

ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้

ตวั ช้ีวดั

ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธข์ องจำนวนตรรกยะและใชส้ มบัตขิ องจำนวน

ตรรกยะในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง

ค 1.1 ม.1/2 เขา้ ใจและใชส้ มบตั ขิ องเลขยกกาลังที่มีเลขช้กี าลังเปน็ จำนวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา

คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง

สาระสำคัญ
จำนวนเต็มแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ จำนวนเต็มบวก ศูนย์และจำนวนเต็มลบ ซึ่งจำนวนเต็มบวก

หรือจำนวนนบั ไดแ้ ก่ 1, 2, 3 ….. ศูนย์ ได้แก่ 0 และจำนวนเตม็ ลบได้แก่ - 1, - 2, -3 ……
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)
ระบหุ รอื ยกตวั อยา่ งจำนวนเต็มบวก จำนวนเตม็ ลบ และศนู ยไ์ ด้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

1. ใชว้ ธิ กี ารท่ีหลากหลายแก้ปญั หา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์
ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ให้เหตผุ ลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม
ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
ทำงานเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย รอบคอบ และมีความเช่ือมนั่ ในตนเอง

สาระการเรียนรู้
จำนวนเตม็ บวก

2

กระบวนการจดั การเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

1. ใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2. ครูให้นกั เรยี นนบั เลข 1− 20พร้อมๆ กัน
3. ครอู ธบิ ายวา่ จำนวนทน่ี ักเรียนนับคือ 1− 20 เรยี กวา่ จำนวนเต็มบวก แลว้ ต้ังคำถามเชน่

- จำนวน 20−100เรยี กว่า จำนวนเตม็ บวกหรอื ไม่ เพราะอะไร
- จำนวน 100, 101, 102, … เรียกวา่ จำนวนอะไร
4. ให้นักเรียนนับจำนวนลดทีละ 1 จากจำนวน 2 ลงไปและครูอธิบายเพิ่มเติม เช่น จำนวนหลัง 0
จะให้เป็น −1, − 2, − 3, …เรยี กจำนวนเหล่าน้ีวา่ จำนวนเต็มลบ ส่วนจำนวนที่อยู่ระหว่าง 1 และ −1 เรียกว่า
ศนู ย์
5. ครูเขียนเสน้ จำนวนบนกระดาน (มีแค่เสน้ และสเกลแต่ไม่ระบจุ ำนวน)
6. สุ่มนักเรียนให้เติมจำนวนเต็มตามสเกลต่าง ๆ ของเส้นจำนวนครูต้ังคำถามเพื่อให้นักเรียนเข้าใจใน
เรอ่ื งจำนวนเต็ม เช่น
- เส้นจำนวนน้ีมีจำนวนเต็มอะไรบ้าง
- จำนวนเต็มแตล่ ะจำนวนห่างกันเท่าไร
- จำนวนเตม็ บวก จำนวนเตม็ ลบ และศนู ย์ ควรเรียกรวมว่าอย่างไร
- สรปุ ได้ว่าจำนวนเต็มแบ่งออกเป็นก่ปี ระเภท อะไรบ้าง
7. ครแู จกแบบฝกึ ที่1 ใหน้ กั เรยี นทกุ คนทำ และชว่ ยกนั เฉลยเมอื่ ทำเสรจ็ หากนักเรยี นคนไหนไมเ่ ข้าใจ
ใหค้ รูหรือเพือ่ นนักเรียนที่เข้าใจ ช่วยอธิบายให้ฟงั

ชัว่ โมงท่ี 2
1. ครูสนทนาพูดคุยและให้นกั เรียนยกตัวอย่างของจำนวนทเ่ี ป็นจำนวนเต็ม และจำนวนที่ไม่ใช่จำนวน
เต็ม เชน่ จำนวนทเี่ ปน็ จำนวนเต็ม คือ 0, 1, 2, 3, ...

จำนวนทไ่ี มเ่ ป็นจำนวนเตม็ คือ , , 0.5, 0.89 ...
2. ครใู หน้ ักเรียนช่วยกนั อภิปรายถึงจำนวนเต็มท่ีนักเรียนรูจ้ กั ว่ามกี ปี่ ระเภทอะไรบ้าง
3. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ เกี่ยวกับจำนวนเต็มว่ามีท้ังหมด 3 ประเภท คอื จำนวนเต็มบวก จำนวน
เต็มลบ และจำนวนเตม็ ศนู ย์

4. ครใู ช้เส้นจำนวนตอ่ ไปนเ้ี พ่ืออธบิ ายให้นักเรยี นเขา้ ใจจำนวนเต็มมากยิง่ ขึน้

-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5

จำนวนเต็มลบ ศนู ย์ จำนวนเต็มบวก

6. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ ทักษะท่ี 2

3

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1. แบบฝึกทกั ษะ
2. ใบความรู้
3. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

วดั ผลประเมินผล
การวดั ผล
1. สังเกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทำแบบฝึกทักษะและ

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ
3. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
การประเมินผล
1. ถือเกณฑผ์ า่ นจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ท่ีไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ 1 ขน้ึ ไป
2. ถือเกณฑผ์ ่านสำหรับผูท้ ี่ทำแบบฝกึ ไดถ้ ูกต้องร้อยละ 75 ข้ึนไป

4

บันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนร้นู ีใ้ ช้กับนกั เรยี นช้ัน ………… จำนวน …..…… คน ประกอบด้วย
ช้ัน ………. จำนวน ……….. คน ชัน้ ………. จำนวน ……….. คน ช้ัน ………. จำนวน ……….. คน
 การจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู้ มเ่ ปน็ ไปตามแผนการจดั การเรียนรู้ เน่อื งจาก …………………..…………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........……
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินท่ีกำหนด จำนวน ……............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………...……
เนอ่ื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินที่กำหนด จำนวน …….............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …….…..……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ที่กำหนดจำนวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อุปสรรค
 การจัดกิจกรรมการเรยี นรูไ้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 อนื่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ………………………………………………………………………….
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………………………………….
 อื่นๆ …………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ...........................................................
(นางชนิดา ร่ืนรมย์)
ครผู สู้ อน

5

การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้

ข้อที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรยี นรูส้ อดคล้องสัมพนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้

2 แผนการจดั การเรยี นรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถว้ น

3 จดุ ประสงค์การเรยี นรมู้ ีความชดั เจนครอบคลุมเน้ือหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ

5 กจิ กรรมการเรยี นรูม้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ

6 กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นกจิ กรรมทีส่ ่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น

7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มที่ดงี าม

8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู ีการสอดแทรกการนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั

9 สื่อและแหลง่ เรียนรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเนื้อหาสาระ

10 การวัดและประเมนิ ผลทสี่ อดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ระดบั คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คณุ ภาพในระดับดเี ยยี่ ม 2 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับพอใช้
3 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ความเห็นเพ่ิมเติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. .........................................
...................................................................................................................................................................

ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมนิ
(นางนติ ยา อภญิ )

หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ความเห็นรองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบริหารวชิ าการ

 องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชว้ี ัด / ผลการเรียนรู้
 กจิ กรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลำดบั ขน้ั ตอน
 สื่อและอุปกรณส์ อดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนการสอน
 เวลาท่ใี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกบั เน้ือหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

6

 ความเหน็ เพิ่มเตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ฎั ฐ์ ภทั รจ์ โิ รจนก์ ุล)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ

ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียนชำนาญสามคั คีวิทยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพ่มิ เติม ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชือ่ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนชำนาญสามัคคีวิทยา

7

ใบความรู้
เรอื่ ง จำนวนเตม็

จำนวนเต็ม ประกอบด้วย
1. จำนวนเตม็ บวก ไดแ้ ก่ 1 , 2 , 3 , 4, 5 , ....
2. จำนวนเตม็ ลบ ไดแ้ ก่ -1 , -2 , -3 , -4 , -5 ,....
3. จำนวนเตม็ ศูนย์ ไดแ้ ก่ 0

ดงั น้นั เม่ือกล่ำวถึงจำนวนเตม็ จะหมำยถึง จำนวนเตม็ บวก หรือจำนวนเตม็ ลบ หรือ ศนู ย์ เขียนแสดง
จำนวนเตม็ ท้งั หมดโดยใชเ้ สน้ จำนวนดงั น้ี

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

จำนวนเตม็ บวก
จำนวนเตม็ บวก หรือ จำนวนนบั คือ จำนวนเตม็ ที่มีคำ่ มำกกวำ่ 0 ไปเร่ือย ๆ โดยท่ีไมส่ ำมำรถระบไุ ด้

วำ่ จำนวนนบั ตวั สุดทำ้ ยเป็นอะไร จำนวนนบั เร่ิมตน้ ที่ 1 , 2 , 3, ... ซ่ึงเรำทรำบแลว้ วำ่ จำนวนนบั ท่ีนอ้ ยท่ีสุด
คือ 1 จำนวนนบั ที่มำกที่สุดหำไมไ่ ด้

ศูนย์ ( ใช้สัญลกั ษณ์ "0" )
เป็นจำนวนเตม็ อีกชนิดหน่ึง ท่ีเรำไม่ถือวำ่ เป็นจำนวนนบั จำกหลกั ฐำนท่ีคน้ พบทำใหเ้ รำทรำบวำ่

มนุษยร์ ู้จกั ใชส้ ัญลกั ษณ์ "0" ในรำวปี ค.ศ. 800 โดยที่ "0" แทนปริมำณของกำรไมม่ ีของหรือของที่ตอ้ งกำร
กล่ำวถึง แตก่ ไ็ มใ่ ช่วำ่ 0 จะไมม่ ีควำมหมำยถึงกำรไม่มีเสมอไป ตวั อยำ่ งเช่น ระดบั ผลกำรเรียนทำงดำ้ น
ควำมรู้ โดยนกั เรียนที่มีระดบั ผลกำรเรียนเป็น 0 ไมไ่ ดห้ มำยควำมวำ่ นกั เรียนคนน้นั ไมม่ ีควำมรู้ เพยี งแต่ วำ่ มี
ควำมรู้ในระดบั หน่ึงเท่ำน้นั

8

จำนวนเต็มลบ
จำนวนเตม็ ลบ คือ จำนวนที่มีค่ำนอ้ ยกวำ่ ศูนย์ มีตำแหน่งอยทู่ ำงดำ้ นซำ้ ยมือของศนู ยเ์ มื่ออยบู่ นเสน้

จำนวน และ จะมีค่ำลดลงเร่ือย ๆ โดยไม่สำมำรถจะบอกไดว้ ำ่ จำนวนใดจะมีคำ่ นอ้ ยที่สุด แต่เรำสำมำรถรู้ได้
วำ่ จำนวนเตม็ ลบที่มีคำ่ มำกที่สุด คือ -1 เรำพอจะสรุปลกั ษณะท่ีสำคญั ของจำนวนเต็มลบไดด้ งั น้ี
1. จำนวนเตม็ ลบเป็นจำนวนท่ีมีคำ่ นอ้ ยกวำ่ ศูนย์ หรือถำ้ มองบนเสน้ จำนวน ก็คอื เป็นจำนวนท่ีอยทู่ ำงซำ้ ยมือ
ของศูนย์
2. จำนวนเตม็ ลบที่มีนอ้ ยท่ีสุดไมส่ ำมำรถหำได้ แต่ จำนวนเตม็ ลบท่ีมีคำ่ มำกที่สุด คือ -1
3. ตวั เลขที่ตำมหลงั เครื่องหมำยลบ ยงิ่ มีคำ่ มำกข้นึ จำนวนเตม็ ลบน้นั จะมีค่ำนอ้ ยลง

9

แบบฝึกทักษะ
แบบฝึกทกั ษะท่ี 2

คำชแี้ จง จงพิจารณาประโยคต่อไปนวี้ า่ ประโยคใดเป็นจรงิ ประโยคใดเปน็ เทจ็ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย
หรือ  ลงในชอ่ งวา่ งหน้าขอ้ ความ

................. 1) 0 เปน็ จำนวนเตม็ บวกที่น้อยทส่ี ุด
................. 2) 1 เปน็ จำนวนเต็ม
................. 3) จำนวนนบั ทีน่ อ้ ยท่สี ดุ คอื 0
................. 4) -2 เป็นจำนวนเตม็
................. 5) มจี ำนวนเตม็ ลบมากมายนับไม่ถว้ น
................. 6) 2.5 เป็นจำนวนเตม็
................. 7) จำนวนที่ตอ่ จาก 0 โดยลดลงครั้งละ 5 คือ -5
................. 8) จำนวนทีต่ ่อจาก -7 โดยเพิ่มครั้งละ 5 คือ -2
................. 9) -1, -2, -3, ... เป็นการนับเพ่ิมครง้ั ละ 1
................. 10) -3 เป็นจำนวนทอ่ี ยหู่ า่ งจาก 0 ทางซ้ายมือ 3 หน่วย

10

เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 2

คำช้แี จง จงพจิ ารณาประโยคต่อไปนวี้ ่าประโยคใดเป็นจรงิ ประโยคใดเป็นเทจ็ แลว้ เขยี นเครื่องหมาย
หรือ  ลงในช่องว่างหน้าข้อความ

.......... ....... 1) 0 เป็นจำนวนเต็มบวกท่นี ้อยที่สดุ
.......... ....... 2) 1 เปน็ จำนวนเต็ม
.......... ....... 3) จำนวนนับทน่ี ้อยที่สุด คือ 0
........... ...... 4) -2 เปน็ จำนวนเต็ม
........... ...... 5) มีจำนวนเต็มลบมากมายนบั ไม่ถว้ น
......... ........ 6) 2.5 เป็นจำนวนเตม็
......... ........ 7) จำนวนท่ีต่อจาก 0 โดยลดลงคร้ังละ 5 คือ -5
........ ......... 8) จำนวนทต่ี อ่ จาก -7 โดยเพ่ิมครง้ั ละ 5 คือ -2
........ ......... 9) -1, -2, -3, ... เป็นการนบั เพิ่มคร้ังละ 1
....... .......... 10) -3 เป็นจำนวนท่ีอยหู่ ่างจาก 0 ทางซ้ายมอื 3 หน่วย

11

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกขอ้ ทถี่ ูกต้องทีส่ ดุ

1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ สมบตั ิของจำนวนเต็ม ข. a + (b + c) = (a + b) + c
ก. a (b + c) = ab + ac ง. a - b = b – a
ค. a + b = b + a

2. ข้อใดเรียงลำดบั จากน้อยไปหามาก ข. 0, -1, 1, -2, 2
ก. -1, -3, -5, -7, -9 ง. -2, -1, 0, 1, 2
ค. 2, 1, 0, -1, -2

3. ข้อใดเรียงลำดบั จากมากไปหาน้อย ข. 33, 24, 12, -12, -29
ก. -89, -88, -87, -86, -80 ง. -8, -6, -4, -2, 0
ค. -4, -2, 0, 2, 4

4. ข้อใด เป็นจริง ข. 5 < (-15) ค. (-2) > (-1) ง. (-20) > (-30)
ก. 0 < (-1)

5. ผลบวกของ 25 + (-320) เทา่ กับข้อใด

ก. 295 ข. -295 ค. -345 ง. 345

6. (-77) - 29 ได้ผลลพั ธเ์ ท่ากบั ข้อใด

ก. -48 ข. 48 ค. -106 ง. 106

7. 25 + (-33) + (-17) ไดผ้ ลลัพธเ์ ท่ากบั ข้อใด

ก. -25 ข. 9 ค. 25 ง. 75

8. ถา้ a = 3, b = -8 และ c = -2 ค่าของ (a - b) + c เท่ากับขอ้ ใด ง. 13
ก. -3 ข. -7 ค. 9

9. 2 (-25) มีคำตอบเทา่ กบั ข้อใด ค. 50  1 ง. (-10)5
ก. (-5)(-10) ข. (-1)(-50) ค. -150 ง. 150

10. (-2)  (-75) เทา่ กบั ข้อใด

ก. -77 ข. 77

12

11. (-35)4 เท่ากบั ข้อใด

ก. -39 ข. 39 ค. -140 ง. 140
ค. -70 ง. 70
12. (-75)  5 เทา่ กับข้อใด ค. -710 ง. -852
ค. -40 ง. 40
ก. -15 ข. 15 ค. 112 ง. -264

13. (-781)  (-71) เทา่ กับข้อใด

ก. -11 ข. 11

14. 1,200  [(-8)  (-5)] เทา่ กับข้อใด

ก. -30 ข. 30

15. (-8)[(-11) + (-3)] เท่ากบั ข้อใด
ก. 64 ข. -112

13

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเลอื กข้อท่ถี กู ตอ้ งทส่ี ุด

1. ข้อใด ไม่ใช่ สมบัติของจำนวนเต็ม ข. a + (b + c) = (a + b) + c
ก. a (b + c) = ab + ac ง. a - b = b – a
ค. a + b = b + a

2. ขอ้ ใดเรียงลำดบั จากน้อยไปหามาก ข. 0, -1, 1, -2, 2
ก. -1, -3, -5, -7, -9 ง. -2, -1, 0, 1, 2
ค. 2, 1, 0, -1, -2

3. ข้อใดเรยี งลำดบั จากมากไปหาน้อย ข. 33, 24, 12, -12, -29
ก. -89, -88, -87, -86, -80 ง. -8, -6, -4, -2, 0
ค. -4, -2, 0, 2, 4

4. ข้อใด เป็นจริง ข. 5 < (-15) ค. (-2) > (-1) ง. (-20) > (-30)
ก. 0 < (-1)

5. ผลบวกของ 25 + (-320) เท่ากบั ข้อใด

ก. 295 ข. -295 ค. -345 ง. 345

6. (-77) - 29 ได้ผลลพั ธเ์ ทา่ กับข้อใด

ก. -48 ข. 48 ค. -106 ง. 106

7. 25 + (-33) + (-17) ไดผ้ ลลพั ธเ์ ท่ากับข้อใด

ก. -25 ข. 9 ค. 25 ง. 75

8. ถ้า a = 3, b = -8 และ c = -2 คา่ ของ (a - b) + c เท่ากับขอ้ ใด ง. 13
ก. -3 ข. -7 ค. 9

9. 2 (-25) มีคำตอบเทา่ กับข้อใด ค. 50  1 ง. (-10)5
ก. (-5)(-10) ข. (-1)(-50) ค. -150 ง. 150

10. (-2)  (-75) เทา่ กบั ข้อใด

ก. -77 ข. 77

14

11. (-35)4 เท่ากบั ข้อใด

ก. -39 ข. 39 ค. -140 ง. 140
ค. -70 ง. 70
12. (-75)  5 เทา่ กับข้อใด ค. -710 ง. -852
ค. -40 ง. 40
ก. -15 ข. 15 ค. 112 ง. -264

13. (-781)  (-71) เทา่ กับข้อใด

ก. -11 ข. 11

14. 1,200  [(-8)  (-5)] เทา่ กับข้อใด

ก. -30 ข. 30

15. (-8)[(-11) + (-3)] เท่ากบั ข้อใด
ก. 64 ข. -112

15

แผนการจดั การเรยี นที่ 2 เร่ือง การเปรยี บเทียบจำนวนเต็ม
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1เรือ่ ง จำนวนเต็ม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

วิชาคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน 1 รหสั วิชา ค21105 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 2 ชว่ั โมง สอนโดย นางชนิดา ร่นื รมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่
เกิดขึ้นจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
ตัวช้ีวดั

ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจำนวนตรรกยะและใช้สมบัติของจำนวน
ตรรกยะในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชวี ติ จริง

ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใชส้ มบัติของเลขยกกาลงั ท่ีมเี ลขชกี้ าลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปญั หา
คณติ ศาสตร์และปัญหาในชีวิตจรงิ

สาระสำคญั
การเปรยี บเทียบจำนวนเต็มบนเสน้ จำนวน จำนวนเต็มทอ่ี ยู่ทางขวา ของ 0 เป็นจำนวนเตม็ บวก จำนวน

ที่อยู่ทางซ้ายของ 0 เป็นจำนวนเต็มลบและจำนวนเต็มท่ีอยู่ทางขวาจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้าย
เสมอ

จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
เปรียบเทียบจำนวนเต็มได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใช้วิธกี ารทห่ี ลากหลายแก้ปญั หา
2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์

ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)
ทำงานเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมีความเชือ่ มัน่ ในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

กระบวนการจัดการเรียนรู้

16

ช่วั โมงท่ี 1
1. ครูให้นกั เรียนทบทวนจำนวนเตม็ บวก จำนวนเต็มลบ และศนู ย์ โดยใชแ้ ผนภาพเส้นจำนวน และ
ซกั ถามใหน้ กั เรียนตอบพรอ้ มกันบา้ ง ตอบเปน็ รายบคุ คลบา้ ง
2. ครูสนทนาซกั ถามนักเรยี นถึงการเปรียบเทยี บจำนวนเตม็ บวก เช่น การเปรียบเทียบน้ำหนกั สว่ นสงู
ความยาว
3. ครูให้นักเรยี นร่วมกนั เปรียบเทยี บจำนวนโดยใชเ้ ส้นจำนวน ดังน้ี

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
4. ครอู ธบิ ายว่า จำนวนแต่ละจำนวนจะแทนดว้ ยจุดบนเส้นจำนวน การจะเปรยี บเทียบจำนวนตอ้ ง
เปรียบเทียบจากจุดเพราะจุดเป็นการบอกตำแหน่ง เช่น

ตวั อย่าง

A• B•

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

• ใหจ้ ดุ A แทน 3 จดุ B แทน 5 (เขียนจดุ ให้นักเรียนเห็นบนเสน้ จำนวน)
5. ครถู ามนักเรียนว่า นกั เรยี นรูไ้ หมว่าจำนวนใดมากกว่าหรอื จำนวนใดนอ้ ยกวา่ เพราะอะไร
เมอ่ื นกั เรยี นตอบแล้วครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ เราจะเหน็ วา่ 3 อย่ทู างซ้ายมือของ 5 หรอื 5 อยู่

ทางขวามือของ 3 ดงั นน้ั 3 < 5 หรือ 5 > 3
B• A•

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

• ใหจ้ ุด A แทน 4 จดุ B แทน 1 (เขยี นจดุ ให้นักเรยี นเห็นบนเสน้ จำนวน)
6. ครถู ามนกั เรยี นวา่ นกั เรียนรูไ้ หมวา่ จำนวนใดมากกวา่ หรือจำนวนใดน้อยกวา่ เพราะอะไรเมื่อนักเรียนตอบ
แล้วครูอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ เราจะเหน็ ว่า 4 อยทู่ างขวามือของ 1 หรอื 1 อยทู่ างซ้ายมือของ 4 ดงั นนั้ 1 < 4
หรือ 4 > 1

B• A•

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

• ใหจ้ ุด A แทน-1 จุด B แทน -5 (เขยี นจุดใหน้ ักเรยี นเหน็ บนเสน้ จำนวน)
7.ครูถามนักเรยี นว่า นักเรยี นรู้ไหมว่าจำนวนใดมากกว่าหรือจำนวนใดน้อยกวา่ เพราะอะไร
เม่อื นกั เรียนตอบแล้วครูอธบิ ายเพิม่ เติมวา่ เราจะเห็นว่า -1 อย่ทู างขวามือของ -5 หรือ -5 อยู่
ทางซา้ ยมือของ -1 ดงั นัน้ -1 > -5 หรือ -5 < -1

17

A• B•

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
• ให้จุด A แทน-4 จดุ B แทน -3 (เขียนจดุ ให้นกั เรียนเห็นบนเสน้ จำนวน)
8.ครูถามนักเรยี นวา่ นักเรยี นรู้ไหมว่าจำนวนใดมากกว่าหรือจำนวนใดนอ้ ยกว่า เพราะอะไร
เม่อื นักเรียนตอบแล้วครูอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า เราจะเห็นวา่ -4 อยทู่ างซ้ายมือของ -3 หรอื -3
อยู่ทางขวามือของ -4 ดงั นน้ั -3 > -4 หรอื -4 < -3

B• A•

-7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

• ให้จุด A แทน 1 จดุ B แทน -6 (เขยี นจดุ ให้นกั เรียนเห็นบนเส้นจำนวน)
9. ครูถามนักเรียนว่า นกั เรียนรู้ไหมว่าจำนวนใดมากกวา่ หรือจำนวนใดน้อยกว่า เพราะอะไร
เมอ่ื นกั เรียนตอบแล้วครูอธบิ ายเพม่ิ เติมว่า เราจะเห็นว่า 1 อย่ทู างขวามือของ -6 หรอื -6

อยทู่ างซ้ายมือของ 1 ดงั นน้ั 1 > -6 หรือ -6 < 1
ให้นกั เรียนรว่ มกันสรปุ และครูอธิบายเพิม่ เตมิ
- จำนวนทแี่ ทนด้วยจุดบนเส้นจำนวนทางขวามือจะมีค่ามากกวา่ จำนวนทแ่ี ทนด้วยจดุ บน
เส้นจำนวนทางซ้ายมือเสมอ หรอื จำนวนทแี่ ทนด้วยจดุ บนเสน้ จำนวนทางซ้ายมือจะมีคา่
นอ้ ยกว่าจำนวนท่ีแทนด้วยจดุ บนเสน้ จำนวนทางขวามือเสมอ

ชว่ั โมงท่ี 2
10.ใหน้ กั เรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้เรอ่ื งจำนวนเตม็ ทไี่ ด้เรียนมาท้ังหมดโดยให้นักเรยี นทุกคนได้มีสว่ น
ร่วมในการตอบและครสู รุปเพ่ือเพิ่มเตมิ ให้ครบสมบูรณ์อีกครง้ั หน่งึ
11. ครฝู ึกใหน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บจำนวนเตม็ ลบกับจำนวนเต็มลบ จำนวนเต็มบวกกับจำนวนเตม็ ลบ
และจำนวนเตม็ บวกหรือจำนวนเตม็ ลบกับศูนย์ ตามลำดับ เชน่

-2 มากกว่า -6 เขียนแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ -2 > -6
9 มากกว่า -8 เขยี นแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ 9 > -8
0 นอ้ ยกว่า 10 เขยี นแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ 0 < 10
-11 น้อยกวา่ 1 เขยี นแทนด้วยสัญลกั ษณ์ -11 < 1 เป็นต้น

12. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ ทกั ษะ

ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
แบบฝึกทกั ษะ

18

วดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทำแบบฝึกทักษะ
2. ตรวจแบบฝกึ ทักษะ
การประเมนิ ผล
1. ถอื เกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรับผ้ทู ี่ไดร้ ะดับคุณภาพตั้งแต่ 1 ขึน้ ไป
2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรับผู้ที่ทำแบบฝกึ ได้ถูกตอ้ งรอ้ ยละ 75 ข้ึนไป

19

บนั ทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
12.1 สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรูน้ ใ้ี ชก้ บั นกั เรียนชน้ั ………… จำนวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชน้ั ………. จำนวน ……….. คน ช้ัน ………. จำนวน ……….. คน ชนั้ ………. จำนวน ……….. คน
 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 การจัดกิจกรรมการเรียนร้ไู มเ่ ป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก …………………..…………
12.2 การประเมินผลการเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (Knowledge)
นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ..........……
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินที่กำหนด จำนวน ……............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………...……
เน่ืองจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ ..........………
นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินท่ีกำหนด จำนวน …….............คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เน่ืองจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ..........………
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ที่กำหนดจำนวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….….……
เนื่องจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อุปสรรค
 การจัดกิจกรรมการเรียนรไู้ ม่เหมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 อ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรงุ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………………………………….
 อน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ...........................................................
(นางชนิดา รื่นรมย์)
ครูผู้สอน

20

การตรวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้

ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสมั พนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรูท้ ก่ี ำหนดไว้

2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสำคญั ครบถว้ น

3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มีความชดั เจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์และเน้ือหาสาระ

5 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏิบัติไดจ้ ริง

6 กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นกจิ กรรมท่ีส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น

7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดแทรกคณุ ธรรมและค่านิยมทด่ี งี าม

8 กิจกรรมการเรียนรู้มกี ารสอดแทรกการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั

9 สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ

10 การวัดและประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้ 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดเี ย่ียม 2 หมายถึง คุณภาพในระดับพอใช้
3 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คุณภาพในระดับปรบั ปรุง

ความเห็นเพิม่ เติมของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ......................................
.............................................................. ............................................................................................... ..........
............................................................................................................................. .........................................
............................................................................................................................. ......................................

ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมนิ
(นางนิตยา อภญิ )

หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

21

ความเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
 องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้
 กจิ กรรมการเรียนการสอนเปน็ ไปตามลำดบั ขน้ั ตอน
 ส่อื และอปุ กรณส์ อดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 เวลาท่ใี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ฎั ฐ์ ภทั รจ์ ิโรจนก์ ลุ )
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามัคคีวทิ ยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงช่ือ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามคั ควี ิทยา

22

แบบฝกึ ทักษะ

คำช้แี จง เปรยี บเทียบจำนวนเต็มตอ่ ไปนโี้ ดยการเขยี นเคร่ืองหมาย > , < หรือ = ลงใน 
1. – 23  23
2. 37  - 73
3. -12  -6
4. 8  0
5. -45  45
6. 7  - 17
7. 10  -10
8. 0  -15
9. 4  4
10. -200  -220

23

เฉลยแบบฝึกทักษะ

คำชี้แจง เปรียบเทยี บจำนวนเตม็ ต่อไปน้โี ดยการเขียนเคร่ืองหมาย > , < หรอื = ลงใน 

1. – 23 < 23

2. 37 > - 73

3. -12 <-6

4. 8 > 0

5. -45 <45

6. 7 > - 17

7. 10 >-10

8. 0 > -15

9. 4 = 4

10. -200 > -220

24

แผนการจัดการเรยี นที่ 3 เรอื่ ง การเรียงลำดับจำนวนเตม็
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1เร่ือง จำนวนเตม็ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

วชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 1 รหัสวิชา ค21105 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย นางชนิดา รื่นรมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่
เกดิ ขนึ้ จากการดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตวั ช้วี ัด

ค 1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจำนวนตรรกยะและใช้สมบตั ิของจำนวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจริง

ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมเี ลขชกี้ าลงั เปน็ จำนวนเตม็ บวกในการแกป้ ญั หา
คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวติ จริง
สาระสำคญั

การเปรียบเทียบจำนวนเต็มสองจำนวนบนเส้นจำนวน จำนวนเต็มที่อยู่ทางขวาของ 0 เป็นจำนวนเต็ม
บวก จำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้ายของ 0 เป็นจำนวนเต็มลบ และจำนวนเต็มที่อยู่ทางขวาจะมีค่ามากกว่าจำนวน
เตม็ ทางซา้ ยเสมอ
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)
เปรยี บเทยี บจำนวนเต็มได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ิธีการทีห่ ลากหลายแก้ปัญหา
2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาในสถานการณ์

ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม

ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทำงานเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมีความเชื่อม่ันในตนเอง

สาระการเรียนรู้
การเรยี งลำดบั จำนวนเต็ม

กระบวนการจัดการเรียนรู้
1.ทบทวนการเปรียบเทยี บจำนวนเตม็ โดยใช้เส้นจำนวน
2. ฝึกให้นกั เรยี นเปรียบเทยี บจำนวนเตม็ กบั จำนวนเต็มว่าจำนวนใดมากกว่า จำนวนใดน้อยกวา่ โดย

ไมต่ ้องดูเส้นจำนวน เมอ่ื ครูกำหนดจำนวนเต็มใหท้ ีละคู่ เชน่ -11 กบั -22 0 กับ -33 55 กับ -55 -1,032 กับ
-1,079 ฯลฯ

25

3. ฝึกให้นกั เรียนเรียงลำดับจำนวนเต็มทีก่ ำหนดใหจ้ ากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหานอ้ ยโดยใช้
เสน้ จำนวน เชน่

ตัวอย่างจงเรยี งลำดับจำนวนต่อไปนี้จากน้อยไปหามาก
1) -9, -15, -24, -32, -13, -2
2) -110, -113, -116, -119, -122
3) 77, -52, 0, 89, -60, 94
4) 1,000, 3,000, -2,500, -4,100, -5,900

ตัวอยา่ งจงเรยี งลำดับจำนวนตอ่ ไปนจ้ี ากมากไปหาน้อย
1) -102, 109, 132, -119, -125
2) 10, -10, 5, -5, 0, 15, -15
3) -35, -39, -34, -36, -31
4) -77, -99, -55, -44, -33

4.ฝกึ ให้นกั เรยี นเรยี งลำดบั จำนวนเตม็ จากมากไปหาน้อยและจากน้อยไปหามากโดยไม่ต้องใชเ้ สน้ จำนวน
5. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกทักษะ

ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
แบบฝกึ ทกั ษะ

วัดผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรียน ความรบั ผดิ ชอบในการทำแบบฝกึ ทักษะ
2. ตรวจแบบฝึกทักษะ
การประเมนิ ผล
1. ถอื เกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรับผู้ท่ีไดร้ ะดับคุณภาพตง้ั แต่ 1 ขน้ึ ไป
2. ถือเกณฑผ์ า่ นสำหรับผทู้ ่ีทำแบบฝกึ ได้ถกู ตอ้ งร้อยละ 75 ข้นึ ไป

26

บนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรนู้ ีใ้ ช้กบั นกั เรียนช้นั ………… จำนวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชนั้ ………. จำนวน ……….. คน ช้ัน ………. จำนวน ……….. คน ชัน้ ………. จำนวน ……….. คน
 การจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 การจดั กจิ กรรมการเรียนร้ไู มเ่ ป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ..........……
นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินที่กำหนด จำนวน ……............. คน คิดเป็นร้อยละ ………...……
เน่อื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ ..........………
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินท่ีกำหนด จำนวน …….............คน คิดเปน็ ร้อยละ …….…..……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ด้านคุณลักษณะ (Attribute)
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กำหนดจำนวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อปุ สรรค
 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ม่เหมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 อน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง ………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………………………………….
 อืน่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ...........................................................
(นางชนิดา รื่นรมย์)
ครผู ู้สอน

27

การตรวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้

ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสัมพนั ธก์ บั หน่วยการเรยี นรูท้ กี่ ำหนดไว้

2 แผนการจดั การเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วน

3 จุดประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชัดเจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ

4 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ

5 กจิ กรรมการเรยี นร้มู ีความหลากหลายและสามารถปฏิบัติไดจ้ รงิ

6 กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรียน

7 กจิ กรรมการเรียนรสู้ อดแทรกคณุ ธรรมและค่านยิ มที่ดงี าม

8 กิจกรรมการเรียนรมู้ ีการสอดแทรกการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั

9 สื่อและแหลง่ เรยี นรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ

10 การวัดและประเมินผลท่สี อดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ระดบั คุณภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้ 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดเี ย่ยี ม

3 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดี 2 หมายถึง คุณภาพในระดบั พอใช้

1 หมายถึง คุณภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ความเหน็ เพม่ิ เติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้

............................................................................................................................. ......................................

.......................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .........................................

ลงชอื่ .................................................... ผ้ปู ระเมิน
(นางนติ ยา อภิญ)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

28

ความเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
 องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้
 กจิ กรรมการเรียนการสอนเปน็ ไปตามลำดบั ขน้ั ตอน
 ส่อื และอปุ กรณส์ อดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 เวลาท่ใี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ฎั ฐ์ ภทั รจ์ ิโรจนก์ ลุ )
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามัคคีวทิ ยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงช่ือ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามคั ควี ิทยา

29

แบบฝึกทกั ษะ
คำชแ้ี จง จงเตมิ คำตอบลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

1. จงหำจำนวนท่ีทำใหป้ ระโยคในแตล่ ะขอ้ ต่อไปน้ีเป็นจริง
1) จำนวนเตม็ ลบท่ีมำกท่ีสุด..............................................................................................................
2) จำนวนเตม็ บวกที่นอ้ ยท่ีสุด...........................................................................................................
3) จำนวนเตม็ ที่อยรู่ ะหวำ่ ง -1 กบั 1...............................................................................................
4) จำนวนเตม็ ที่มำกกวำ่ -3 แตน่ อ้ ยกวำ่ 2......................................................................................
5) จำนวนเตม็ ท่ีนอ้ ยกวำ่ 3 แตม่ ำกกวำ่ -5......................................................................................

2. จงเรียงลำดบั จำนวนต่อไปน้ีจำกมำกไปหำนอ้ ย
1) 2, 3, -4, -5, 9, -7
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
2) -6, 7, -8, 3, -12, 15
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
3) -11, 13, -7, 15, 8, -4
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
4) -13, 13, -33, 3, -4, 0
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
5) 16, -16, 12, -11, 10, 1
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

3. จงเรียงลำดบั จำนวนต่อไปน้ีจำกนอ้ ยไปหำมำก
1) 1, 2, -9, 9, -2, -1
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
2) 5, 0, -8, -6, -15, 16
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
3) -4, -20, 0, 3, 18, 32
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
4) -12, -5, 9, 5, -4, 3
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............
5) 6, -8, 3, -15, 18, -21
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

30

เฉลยแบบฝกึ ทักษะ

คำชี้แจง จงเติมคำตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

1. จงหาจำนวนทที่ ำใหป้ ระโยคในแตล่ ะข้อต่อไปนีเ้ ปน็ จริง
1) จำนวนเตม็ ลบที่มากท่สี ุด................................-.1.............................................................................

2) จำนวนเต็มบวกที่น้อยทีส่ ุด.............................1..............................................................................
3) จำนวนเต็มทีอ่ ยรู่ ะหว่าง -1 กับ 1...............0................................................................................
2.45จ))งเจจรำำียนนงลววนนำดเเตตบั ม็ม็ จททำนีี่น่มาว้อกนยกตกว่อวา่า่ไป-น33ี้จาแแกตตม่ม่นาาอ้กกยไกปกวหวา่ า่าน-25้อ..ย........--....24....,,....--..13....,,....-0....2,....,1....-..1....,....0....,....1....,....2......................................................................................................

1) 2, 3, -4, -5, 9, -7
.......9...... , ......3....... , ......2....... , ....-..4....... , ....-..5....... , ...-..7........

2) -6, 7, -8, 3, -12, 15

......1..5..... , .......7...... , .......3...... , ....-..6....... , ....-..8....... , ..-..1..2.......
3) -11, 13, -7, 15, 8, -4

4) .-.1..3.1.,.5..1..3.., ,-3..3...,.1.3.3.,...-.4,, .0.....8....... , ....-..4....... , .....-..7...... , ..-..1..1.......

............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

5) 1163, -16, 123, -11, 100, 1 -4 -13 -33
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

3.1จ)งเร1ยี , ง21ล6,ำ-ด9บั, 9จ,ำ1น-22ว,น-ต1่อไป1น0จ้ี ากนอ้ ยไ1ปหามาก-11 -16

......-..9..... , ......-..2..... , .....-..1...... , ......1....... , ......2....... , .....9........

2) 5, 0, -8, -6, -15, 16

.....-..1..5.... , .....-..8...... , .....-..6...... , ......0....... , .....5........ , ...1..6........
3) -4, -20, 0, 3, 18, 32

4) -..1..2.-.,.2..0-.5..,. 9, ,...5..,-..4-.4...,..3, .....0........ , .....3........ , ....1..8....... , ...3..2........

............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

5) 6,--182, 3, -15-5, 18, -21-4 3 5 9
............. , ............. , ............. , ............. , ............. , .............

-21 -15 -8 3 6 18

31

แผนการจดั การเรียนท่ี 4 เร่อื ง การบวกจำนวนเต็มบวกดว้ ยจำนวนเตม็ บวก
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1เร่อื ง จำนวนเต็ม กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
วิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน 1 รหสั วชิ า ค21105 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 2 ชัว่ โมง สอนโดย นางชนดิ า รื่นรมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลที่
เกิดขน้ึ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตวั ชว้ี ดั

ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสัมพนั ธข์ องจำนวนตรรกยะและใช้สมบัตขิ องจำนวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวิตจริง

ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขชกี้ าลงั เปน็ จำนวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณติ ศาสตร์และปญั หาในชีวิตจริง

สาระสำคัญ
การบวกจำนวนเตม็ บวกดว้ ยจำนวนเต็มบวก ใหน้ ำคา่ สมั บรู ณ์มาบวกกนั แลว้ ตอบเป็นจำนวนเต็มบวก

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. หาผลบวกของจำนวนเตม็ ได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
1. ใช้วธิ ีการทห่ี ลากหลายแก้ปัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์

ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
ทำงานเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย รอบคอบ และมีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเต็มบวก

กระบวนการจดั การเรียนรู้
1. ครูตั้งคำถามตา่ งๆ เพื่อทบทวนความรู้เกีย่ วกับจำนวนเต็ม เชน่ จำนวนเตม็ บวกคือจำนวนเชน่ ไร จง

ยกตวั อย่างจำนวนเต็มท่อี ยู่ทางซา้ ยมอื หรือขวามือของศนู ย์บนเส้นจำนวน จำนวนเต็มลบคือจำนวนเช่นไร จง
ยกตวั อย่างจำนวนเต็มลบ เราเรยี กศนู ย์วา่ จำนวนเต็มอะไร เป็นตน้

32

2. ครใู ห้นักเรียนอาสาออกมาเขียนเส้นจำนวนบนกระดาน พรอ้ มเขียนจำนวนเต็มตัง้ แต่ –5 ถึง 5
บนเสน้ จำนวนน้ัน

3. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันพจิ ารณาระยะหา่ งระหว่างจำนวนเต็มแต่ละจำนวนกับ 0 เปน็ เท่าใด โดย
พิจารณาจากเส้นจำนวนตามขอ้ 2. เช่น –5 อยู่ห่างจาก 0 กห่ี น่วย หรือ 3 อยู่หา่ งจาก 0 กี่
หน่วย เปน็ ต้น

4. ครถู ามนักเรยี นว่า มจี ำนวนเต็มใดบา้ งทอ่ี ยหู่ า่ งจาก 0 เป็นระยะทางเทา่ กนั โดยพิจารณาจาก
เสน้ จำนวน และการตอบคำถาม

5. ครูใหข้ อ้ เสนอแนะแก่นักเรียนวา่ เราเรียกจำนวนทอี่ ยูห่ ่างจาก 0 เปน็ ระยะทางเทา่ กันและอยู่คนละ
ด้านบนเสน้ จำนวนว่า “จำนวนตรงขา้ ม” และถ้า a เปน็ จำนวนเตม็ ใดๆ เราเขียนแทนจำนวนตรงข้ามของ
a ด้วย –a

6. ครูแสดงแผนภูมเิ ส้นจำนวน ซง่ึ เขียนจำนวนเตม็ ตั้งแต่ –10 ถงึ 10 บนเสน้ จำนวน
7. ครูถามนักเรยี นถงึ ระยะระหว่างจำนวนเต็มบางจำนวนกับ 0 เปน็ เท่าใด โดยพิจารณาจาก
เสน้ จำนวน เชน่ –9 อยหู่ ่างจาก 0 กีห่ น่วย หรอื 7 อยหู่ ่างจาก 0 กห่ี น่วย ครูเสนอแนะนักเรียนว่า
เราเรียกระยะระหว่างจำนวนใดกบั 0 วา่ “ค่าสมั บูรณ์ของจำนวนน้ัน” และถ้า a เปน็ จำนวนเต็มใดๆ
เราเรียกระยะระหว่างจดุ a กับ 0 วา่ “ค่าสมั บูรณข์ อง a” และใชส้ ัญลักษณ์  a แทนค่าสมั บรู ณ์
ของ a
ใหน้ กั เรียนช่วยกันหาจำนวนตรงข้ามและค่าสัมบรู ณ์ของจำนวนเตม็ ดงั กลา่ ว
8. ครทู บทวนความร้เู ก่ียวกบั การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเตม็ บวกโดยใช้เสน้ จำนวน เชน่
ให้นกั เรียนแสดงผลลัพธข์ อง 5 + 3 = 8 บนเสน้ จำนวน เช่น

เร่ิม จบ

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12

8 หน่วย

9. ครูตัง้ โจทย์และใหน้ ักเรยี นอาสาออกมา 5 คน เพื่อแสดงวิธหี าผลลพั ธ์ของการบวกจำนวน
เตม็ บวกด้วยจำนวนเต็มบวกบนเสน้ จำนวนทีห่ น้าชัน้ เรียน

10. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ เมื่อทุกคนทำเสร็จแลว้ ครเู ฉลยคำตอบที่ถูกต้องและ
อธิบายแนะนำวิธีการหาผลลัพธ์ใหแ้ ก่นักเรียนที่ไมเ่ ข้าใจ
สือ่ และแหล่งการเรียนรู้

1. แบบฝึกทักษะ
2. ใบความรู้
วดั ผลประเมนิ ผล

การวัดผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรียน ความรับผิดชอบในการทำแบบฝกึ ทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทกั ษะ
การประเมนิ ผล
1. ถือเกณฑผ์ ่านจากการสงั เกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ท่ไี ดร้ ะดบั คณุ ภาพตั้งแต่ 1 ข้นึ ไป
2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ท่ีทำแบบฝึก ไดถ้ ูกต้องร้อยละ 75 ข้นึ ไป

33

บนั ทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรนู้ ีใ้ ช้กบั นกั เรยี นช้นั ………… จำนวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชนั้ ………. จำนวน ……….. คน ชั้น ………. จำนวน ……….. คน ช้นั ………. จำนวน ……….. คน
 การจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ ป็นไปตามแผนการจัดการเรียนรู้
 การจดั กจิ กรรมการเรียนร้ไู มเ่ ป็นไปตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนอ่ื งจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........……
นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กำหนด จำนวน ……............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………...……
เน่อื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คิดเป็นร้อยละ ..........………
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กำหนด จำนวน …….............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …….…..……
เน่อื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ด้านคุณลักษณะ (Attribute)
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ที่กำหนดจำนวน ……............... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อุปสรรค
 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ มเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 อน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง ………………………………………………………………………….
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน…………………………………………………………………….
 อืน่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ...........................................................
(นางชนิดา ร่ืนรมย์)
ครผู สู้ อน

34

การตรวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้

ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคล้องสัมพนั ธก์ บั หน่วยการเรยี นรูท้ ก่ี ำหนดไว้

2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสำคัญครบถว้ น

3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ

4 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ

5 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ

6 กจิ กรรมการเรียนรู้เป็นกจิ กรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น

7 กิจกรรมการเรียนรู้สอดแทรกคณุ ธรรมและค่านยิ มทดี่ งี าม

8 กิจกรรมการเรียนรู้มกี ารสอดแทรกการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน

9 สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเน้ือหาสาระ

10 การวัดและประเมินผลทส่ี อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้

ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ 4 หมายถงึ คุณภาพในระดับดีมาก
5 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดีเยี่ยม 2 หมายถงึ คุณภาพในระดบั พอใช้
3 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ความเห็นเพิม่ เติมของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................................
............................................................................................................................. .........................................
...................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ
(นางนติ ยา อภิญ)

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

35

ความเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
 องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้
 กจิ กรรมการเรียนการสอนเปน็ ไปตามลำดบั ข้ันตอน
 ส่อื และอปุ กรณส์ อดคล้องกบั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
 เวลาท่ใี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงช่อื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ัฎฐ์ ภทั รจ์ ิโรจน์กุล)
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามัคคีวิทยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงช่ือ ....................................................
(นายสันติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อำนวยการโรงเรียนชำนาญสามคั ควี ิทยา

36

ใบความรู้
เรื่อง การบวกจำนวนเตม็
ค่าสมั บรู ณ์ของจำนวนเต็ม
ค่าสมั บรู ณข์ องจำนวนใด ๆ คือ ระยะทางท่จี ำนวนนนั้ ๆ อยู่ห่างจากศนู ย์ (0) บนเสน้ จำนวนไม่
ว่าจะอยู่ทางซ้าย หรอื ทางขวาของศนู ย์ ซึง่ คา่ สัมบูรณข์ อง จำนวนใด ๆ จะมคี า่ เปน็ บวกเสมอ กลา่ วคือ
1 มรี ะยะห่างจาก 0 เทา่ กบั 1 หนว่ ย นน้ั คอื คา่ สัมบูรณ์ของ 1 เทา่ กับ 1
-1 มรี ะยะหา่ งจาก 0 เท่ากบั 1 หนว่ ย นั้นคือ คา่ สมั บูรณ์ของ -1 เท่ากับ 1
ถ้าเราจะพิจารณาบนเสน้ จำนวนถึงนยิ ามของค่าสมั บรู ณ์ ก็จะเปน็ ดังรูป

เราอาจจะใช้สัญลกั ษณ์ทีใ่ ช้แทนคา่ สัมบูรณ์ คอื | | เชน่
| -4 | คือ ค่าสัมบรู ณ์ของ -4 คือ 4
| 6 | คอื คา่ สัมบูรณ์ของ 6 คือ 6
โดยสรปุ เก่ียวกบั คา่ สมั บรู ณ์ ถ้า กำหนดให้ a แทนจำนวนใด ๆ แลว้

ขอ้ สังเกตุ
1. จำนวนเต็มลบซงึ่ มีค่าน้อยกวา่ เมอื่ เปลีย่ นเป็นคา่ สัมบรู ณ์แล้วจะมคี ่ามากกว่า เช่น -25 < -18 แต่ |
-25 | > | -18 |
2. คส่ ัมบรู ณข์ องจำนวนเต็มลบอาจมากกวา่ หรอื น้อยกว่าค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเตม็ บวกกไ็ ด้ ขนึ้ อยกู่ บั

ตวั เลข เช่น | -4 | > | 2 | แต่ -4 < 2
จำนวนตรงข้าม

จากเสน้ จำนวนและความหมายของค่าสัมบูรณ์ ในเน้ือหากอ่ นหนา้ น้ี จะพบว่า จำนวนเตม็ ลบและจำนวน
เต็มบวกท่มี ีค่าสมั บูรณเ์ ทา่ กนั จะอย่คุ นละข้างและห่างจาก 0 เทา่ กนั อยา่ งเชน่
| -5 | = 5 และ | 5 | = 5 เราอาจจะกลา่ วอกี นัยหน่ึงว่า

-5 เปน็ จำนวนตรงข้ามของ 5 และ5 เปน็ จำนวนตรงข้ามของ -5

37

ข้อควรทราบ 0 เปน็ จำนวนตรงข้ามของตัวมันเอง ในการเขียนจำนวนตรงขา้ ม เราสามารถกระทำได้
กลา่ วคือ

1.จำนวนตรงข้ามของ 10 เขียนแทนดว้ ย -10

2. จำนวนตรงข้ามของ -3 เขยี นแทนด้วย -(-3) แต่จำนวนตรงข้ามของ -3 คือ 3 ดงั น้ัน -(-3)
=3
การบวกจำนวนเต็มบวก

จำนวนเตม็ บวกกบั จำนวนเตม็ บวก ...........ถา้ อาศัยเร่ืองของค่าสมั บรู ณ์ ..... ...วธิ ีการ กค็ อื นำคา่
สัมบูรณ์ของจำนวนเตม็ มาบวกกนั ผลลพั ธ์จะออกมาเป็น จำนวนเต็มบวก

38

แบบฝกึ ทักษะ
คำช้ีแจง จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ให้ถูกต้องโดยเติมคำตอบลงในช่องว่าง

1. 3 อยหู่ ่ำงจำก 0 เป็นระยะ 3 หน่วย ดงั น้นั คำ่ สัมบูรณ์ของ 3 เทำ่ กบั .......................................................
2. คำ่ สัมบูรณ์ของ -5 มีค่ำเท่ำกบั 5 เพรำะ -5 อยหู่ ่ำงจำก 0 เป็นระยะ.........................................................
3. ค่ำสมั บูรณ์ของ 12 และคำ่ สมั บรู ณ์ของ -12 มีคำ่ ....................................................................................
4. ถำ้ ให้ | a | แทนคำ่ สมั บูรณ์ของ a แลว้ | 2 | =...................และ | -2 | = | 2 | ดงั น้นั | 2 | .................... | -2 |
5. | 6 | = ......................................................................................................................................................
6. | -8 | = ....................................................................................................................................................
7. - | -3 | = ..................................................................................................................................................
8. - (- 4)...............................................................................................................................................| -4 |
9. | - (-7) | = ...............................................................................................................................................
10. - | - (-1) | = ...........................................................................................................................................

39

เฉลยแบบฝกึ ทักษะ

คำช้แี จง จงตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกต้องโดยเติมคำตอบลงในช่องวา่ ง

1. 3 อยูห่ ่างจาก 0 เปน็ ระยะ 3 หนว่ ย ดงั นั้น ค่าสมั บรู ณข์ อง 3 เท่ากับ 3

....................................................... 5 หน่วย

2. คา่ สัมบูรณ์ของ -5 มคี ่าเท่ากบั 5 เพราะ -5 อยหู่ า่ งจาก 0 เป็นระยะ

......................................................... เท่ำกนั

3. ค่าสัมบูรณข์ อง 12 และค่าสัมบูรณข์ อง -12 มีคา่ ....................................................................................
4. ถ้าให้ | a | แทนคา่ สมั บูรณ์ของ a แล้ว | 2 | =.......2............และ | -2 | = | 2 | ดังนัน้ | 2 | ..=..................
| -2 | 6
5. | 6 | =..........................
6. | -8 | =........8..................

7. - | -3 | =....-..3..................
8. - (- 4)....=......| -4 |
9. | - (-7) | =............7..........
10. - | - (-1) | =......-.1............

40

แผนการจดั การเรยี นท่ี 5 เร่อื ง การบวกจำนวนเตม็ ลบด้วยจำนวนเตม็ ลบ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1เรื่อง จำนวนเต็ม กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
วชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 1 รหสั วชิ า ค21105 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย นางชนิดา รนื่ รมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ี
เกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตัวชี้วัด

ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสมั พันธ์ของจำนวนตรรกยะและใช้สมบัตขิ องจำนวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์และปญั หาในชีวิตจรงิ

ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใชส้ มบัตขิ องเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขชกี้ าลงั เป็นจำนวนเตม็ บวกในการแกป้ ัญหา
คณติ ศาสตร์และปญั หาในชวี ติ จริง
สาระสำคญั

การบวกจำนวนเตม็ ลบดว้ ยจำนวนเตม็ ลบ ใหน้ ำคา่ สัมบรู ณ์มาบวกกันแล้วตอบเป็นจำนวนเต็มลบ
จุดประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)
บวกจำนวนเตม็ ลบดว้ ยจำนวนเต็มลบได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
1. ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลายแก้ปญั หา
2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาในสถานการณ์

ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)
ทำงานเป็นระเบียบเรยี บร้อย รอบคอบ และมีความเชือ่ มั่นในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การบวกจำนวนเต็มลบดว้ ยจำนวนเตม็ ลบ

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
1. ครทู บทวนความรเู้ ก่ียวกับการบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเตม็ บวก
2. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ โดยใช้เส้นจำนวน เชน่

(-5) + (-3) = -8

จบ เริ่ม
-8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0
8 หน่วย

3. ใหน้ ักเรียนหาผลบวกของจำนวนเต็มลบกบั จำนวนเตม็ ลบโดยใช้เส้นจำนวน 2 - 3 ข้อ เชน่

41

ตวั อยา่ ง (-2) + (-3) =

วิธีเขียน เรม่ิ ต้นจาก 0 นับไปทางซา้ ยถึง -2 เมื่อบวกดว้ ย -3 ใหน้ บั ลดไปทางซ้าย 3 หน่วย ไปส้ินสดุ
ที่ -5 ดงั นัน้ (-2) + (-3) = -5

4. ให้นักเรียนพิจารณาหาผลบวกของ (-2) + (-3) โดยใช้คา่ สมบูรณ์ จะไดว้ ่าค่าสมบรู ณ์ของ -2 คอื 2
และคา่ สมบรู ณ์ของ -3 คือ 3 เมื่อนำคา่ สมบูรณ์มาบวกกัน แล้วตอบเป็นจำนวนเต็มลบ จะไดผ้ ลบวกเท่ากับ -5
เช่นเดียวกบั การใช้เสน้ จำนวน

5. ใหน้ ักเรยี นหาผลบวกของจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ โดยใชเ้ ส้นจำนวนและโดยใช้ค่าสมบูรณ์อีก
2 - 3 ขอ้ แลว้ อภิปรายร่วมกันเพอ่ื สรปุ ให้ได้ว่า

- การบวกจำนวนเตม็ ลบดว้ ยจำนวนเตม็ ลบ ใหน้ ำค่าสมบูรณ์มาบวกกนั แล้วตอบเปน็ จำนวนเตม็ ลบ
6. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ ทักษะ

สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
แบบฝึกทักษะที่ 1 และ 2

วดั ผลประเมนิ ผล
การวัดผล
1. สงั เกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรยี น ความรับผดิ ชอบในการทำแบบฝึกทกั ษะ
2. ตรวจแบบฝึกทักษะ
การประเมนิ ผล
1. ถอื เกณฑ์ผา่ นจากการสังเกตพฤติกรรมสำหรบั ผู้ท่ไี ด้ระดบั คณุ ภาพต้งั แต่ 1 ข้ึนไป
2. ถือเกณฑ์ผา่ นสำหรบั ผทู้ ่ีทำแบบฝกึ ได้ถกู ตอ้ งร้อยละ 75 ขึ้นไป

42

บนั ทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
12.1 สรุปผลการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้นี้ใช้กบั นกั เรยี นชน้ั ………… จำนวน …..…… คน ประกอบด้วย
ชน้ั ………. จำนวน ……….. คน ชัน้ ………. จำนวน ……….. คน ช้ัน ………. จำนวน ……….. คน
 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เป็นไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เน่ืองจาก …………………..…………
12.2 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) ด้านความรู้ (Knowledge)
นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เป็นร้อยละ ..........……
นักเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ที่กำหนด จำนวน ……............. คน คดิ เป็นร้อยละ ………...……
เน่อื งจาก ………………………………………………………………………………………………………….
2) ด้านทักษะกระบวนการ (Process)
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินกำหนด จำนวน ……............... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ..........………
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ที่กำหนด จำนวน …….............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …….…..……
เน่อื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
3) ด้านคุณลกั ษณะ (Attribute)
นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ กำหนด จำนวน ……............... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ..........………
นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินที่กำหนดจำนวน ……............... คน คิดเปน็ ร้อยละ …….….……
เนอ่ื งจาก ……………………………………………………………………………………………………………….
12.3 ปัญหา / อปุ สรรค
 การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 อน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………….
12.4 ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
 ควรปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง ………………………………………………………………………….
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………………………………….
 อืน่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ...........................................................
(นางชนิดา ร่ืนรมย์)
ครผู สู้ อน

43

การตรวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้

ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
54321

1 แผนการจดั การเรียนรู้สอดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้

2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคญั ครบถ้วน

3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชดั เจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ

4 กิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ

5 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ รงิ

6 กจิ กรรมการเรยี นร้เู ป็นกจิ กรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดของนักเรยี น

7 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดแทรกคณุ ธรรมและค่านิยมทด่ี งี าม

8 กิจกรรมการเรียนรู้มีการสอดแทรกการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั

9 ส่อื และแหลง่ เรียนรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเน้ือหาสาระ

10 การวดั และประเมนิ ผลท่ีสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ระดับคณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
5 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีเยี่ยม 2 หมายถึง คุณภาพในระดบั พอใช้
3 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดี
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ความเห็นเพิม่ เติมของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
............................................................................................................................. ......................................
.......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
.................................................................................................................................... ...............................

ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ
(นางนิตยา อภญิ )

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

44

ความเห็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
 องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้
 กจิ กรรมการเรียนการสอนเปน็ ไปตามลำดบั ขน้ั ตอน
 ส่อื และอปุ กรณส์ อดคล้องกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน
 เวลาท่ใี ชใ้ นการสอนมีความเหมาะสมกับเน้ือหา
 การวดั และประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงชอ่ื ...................................................................
(นางสาวเขมจริ ฎั ฐ์ ภทั รจ์ ิโรจนก์ ลุ )
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามัคคีวทิ ยา
 ทราบ
 ความเหน็ เพม่ิ เตมิ ………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..………………

ลงช่ือ ....................................................
(นายสนั ติ มกุ ดาสนิท)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นชำนาญสามคั ควี ิทยา

45

แบบฝกึ ทกั ษะ

คำชีแ้ จง จงแสดงการหาผลบวกต่อไปน้ีบนเสน้ จำนวน

1. (-3) + (-2) =

2. (-2) + (-3) =

3. (-5) + (-2) + (-3) =

4. [(-5) + (-2)] + (-3) =

46

เฉลยแบบฝึกทักษะ

1.

0 -1 -2 -3 -4 -5 -6 -7 -8 -9 -10 -11 -12 -13 -14

2.

0 -1 -2 -3 -4 -5 -6 -7 -8 -9 -10 -11 -12 -13 -14

3.

0 -1 -2 -3 -4 -5 -6 -7 -8 -9 -10 -11 -12 -13 -14

4.

0 -1 -2 -3 -4 -5 -6 -7 -8 -9 -10 -11 -12 -13 -14

47

แบบฝึกทกั ษะ

คำชี้แจง จงหาคำตอบในแตล่ ะข้อต่อไปน้ี
1. จงหาค่า

1) (-10) + (-8) = .......................................... 6) [(-6) + (-1)] + (-3) = .........................................
2) (-8) + (-10) = .......................................... 7) (-200) + (-80) + (-5) =
............................…......
3) (-6) + (-3) + (-1) = .................……......... 8) [(-200) + (-80)] + (-5) = ...........................…....
4) [(-6) + (-3)] + (-1) = .....................……. 9) (-200) + [(-80) + (-5)] = ..............................….
5) (-6) + [(-3) + (-1)] = ....................…….. 10) [(-200) + (-5)] + (-80) = ..............................….
2. จงหาคา่
1) (-4) + (-2) = ....………………………………………………………….……................................
2) (-2) + (-4) = .......………………………………..............................………………….…….……..
3) (-10) + (-7) = ........……………………………...............................……………….……
4) (-7) + (-10) = ......………………………………………………….……................... .............
5) [(-8) + (-3)] + (-6) = .......................................................................................................................
6) (-8) + [(-3) + (-6)] = .....…………………………………….……….............................…………
7) [(-32) + (-17)] + (-23) = ......…………………………………..……..............................…..…….
8) (-32) + [(-17) + (-23)] = ......……………………………………................................……..…….
9) (-45) + [(-55) + (-28)] + (-72) = ......………………………………..................................…….....
10) [(-45) + (-55)] + [(-28) + (-72)] =
..................................................................................................

48

เฉลยแบบฝกึ ทักษะ

คำช้แี จง จงหาคำตอบในแตล่ ะข้อตอ่ ไปน้ี

1. จงหาค่า

1) (-10) + (-8) = .....................-.1..8.................. 6) [(-6) + (-1)] + (-3) = .............-..1..0.....................
2) ([(--(-686)))+++((--(-133)0))]+=+(-.(1.-.)1..)=...=..................................--....11......80......…......…........…......…............ 7) ([(--(-222000000)))+++([-((--888000)))]+++(-(-(5-5)5)])===....................--...22......88......55............…...…................................….......
3) 8)
4) 9)
5) (-6) + [(-3) + (-1)] = .........-..1..0.......…….. 10) [(-200) + (-5)] + (-80) = ......-.2..8..5.................….
-10 -285
2. จงหาคา่

1) (-4) + (-2) = ....……………………-6…………………………………….…............................…..
2) (((---1270)) )+++((--(41-70) ))===.................…...….……………………………………………-…-16……7………………………………………………………………………………………….……..…......….........….............................................................…..…..…...…...….…..…..…..
3)
4)
5) [(-8) + (-3)] + (-6) = ............-..1..7........................................................................................................
6) (-8) + [(-3) + (-6)] = .....………-1…7……………………….….……………..............................…

7) [(-32) + (-17)] + (-23) = .....-.…17………………………………..……….................................…….
8) ((--4352[))(-++45[[(()--51+75())-5++5(()--]22+38))]][(-=+28(..-).7..+2--.…77)(22…-=7…2..…).]..….(=…(-…-14…0…50…)…)…+…+…(…(-…-8…13…0…)0…+…)…=…(-…7.-.2…2…0)……0=....…-..2.….0..0...................................................…...…..........
9)
10)

...................................................................................................

49

แผนการจัดการเรียนท่ี 6 เร่ือง การบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเตม็ ลบ (1)
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1เรือ่ ง จำนวนเตม็ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
วิชาคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน 1 รหัสวิชา ค21105 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชั่วโมง สอนโดย นางชนิดา รื่นรมย์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน
ผลท่เี กิดข้ึนจากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตวั ชวี้ ัด

ค 1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสัมพนั ธ์ของจำนวนตรรกยะและใชส้ มบตั ิของจำนวน
ตรรกยะในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ติ จริง

ค 1.1 ม.1/2 เข้าใจและใชส้ มบัตขิ องเลขยกกาลังที่มีเลขช้ีกาลงั เป็นจำนวนเต็มบวกในการแกป้ ญั หา
คณติ ศาสตร์และปญั หาในชีวิตจริง

สาระสำคญั
การบวกจำนวนเตม็ บวกกับจำนวนเต็มลบทีม่ ีคา่ สมั บูรณ์ไมเ่ ทา่ กัน ใหน้ ำค่าสัมบรู ณ์ทมี่ ากกวา่ ลบดว้ ยคา่

สัมบูรณ์ท่ีนอ้ ยกวา่ แลว้ ตอบเป็นจำนวนเตม็ บวกหรอื จำนวนเตม็ ลบตามจำนวนท่ีมคี ่าสมั บรู ณม์ ากกว่า

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
บวก จำนวนเต็มได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
1. ใช้วิธีการทีห่ ลากหลายแก้ปัญหา
2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์

ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
3. ใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม

ด้านคุณลกั ษณะ(A)
ทำงานเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย รอบคอบ และมีความเชอ่ื มั่นในตนเอง

สาระการเรยี นรู้
การบวกจำนวนเต็มบวกดว้ ยจำนวนเต็มลบ

กระบวนการจดั การเรียนรู้
1. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนการบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเต็มบวกและการบวกจำนวนเต็มลบดว้ ย

จำนวนเตม็ ลบ
2. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั หาผลบวกของจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มลบ เช่น

50

ตัวอย่าง จงหาผลบวก 8 + (-5)
ดงั นั้น 8 + (-5) = 3

3. ครกู ำหนดโจทย์ ให้นักเรียนหาผลบวกระหวา่ งจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเตม็ ลบ โดยใช้เสน้ จำนวน
บนกระดานดำ เชน่

1) 10 + (-5) =
2) 23 + (-9) =

4. ครูถามนักเรยี นวา่ เราสามารถจะหาผลบวก ใหเ้ รว็ ข้ึน โดยไมใ่ ชเ้ ส้นจำนวนจะได้ไหม ทำอย่างไร ให้
นกั เรียนเสนอแนะและทดลองทำดวู า่ ได้คำตอบเทา่ กัน หรือไม่ จนได้ขอ้ สรุปวา่ เราอาจจะหาผลบวกได้ โดยนำ
คา่ สมบูรณ์ของจำนวนทั้งสองมาลบกัน แล้วตอบเปน็ จำนวนเตม็ บวก

5. ครูกำหนดโจทย์เลอื กใหน้ ักเรียนหาผลบวกโดยไมต่ ้องใช้เส้นจำนวน บนกระดานดำ
6. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ เร่อื ง การบวกจำนวนเต็มบวกดว้ ยจำนวนเตม็ ลบ
7. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกทกั ษะ

สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
แบบฝึกทักษะ

วดั ผลประเมนิ ผล
การวัดผล

1. สังเกตจากความสนใจ ตั้งใจในการเรยี น ความรับผิดชอบในการทำแบบฝกึ ทักษะ
2. ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ
การประเมนิ ผล
1. ถือเกณฑ์ผ่านจากการสังเกตพฤตกิ รรมสำหรบั ผู้ทีไ่ ด้ระดบั คุณภาพต้งั แต่ 1 ข้นึ ไป
2. ถอื เกณฑผ์ ่านสำหรับผู้ท่ีทำแบบฝกึ ได้ถกู ต้องร้อยละ 75 ข้นึ ไป


Click to View FlipBook Version