แผนการจัดการเรยี นรู้
กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
รายวิชาวทิ ยาการคำนวณพืน้ ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว14101
เรอ่ื ง โปรแกรมกราฟิก
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 การใช้ซอฟต์แวรใ์ นการทำงาน เรือ่ ง เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 13
1. มาตรฐานและตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ิตประจำวันอย่างเป็น
ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้
อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมีจริยธรรม
ตวั ช้วี ัด
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ เรยี กใชข้ ้อมูลตามวัตถปุ ระสงค์
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
โปรแกรมกราฟิก เป็นโปรแกรมสำหรับการวาดภาพระบายสี เช่น โปรแกรมระบายสี (Paint) ซึ่งจะมี
เครอื่ งมอื ในการวาดภาพระบายสแี ละจัดการกบั ภาพมากมาย ไมว่ า่ จะเป็นการพลกิ หรือหมนุ ภาพ การยอ่ ขนาด
ภาพ และการเอียงภาพ
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลิตสารสนเทศและดจิ ิทัลคอนเทนต์
4. รปู แบบการสอน
การสอนโดยใช้โสตทศั นูปกรณ์ (Audio – visual Media) หมายถงึ การสอนโดยใชอ้ ุปกรณก์ ารสอน
ตา่ งๆ เช่น รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ หนุ่ จำลอง เทปบนั ทึกเสียง เครอื่ งฉายภาพข้ามศรี ษะ เป็นต้น
เนอ่ื งจากโสตทัศนูปกรณ์แต่ละชนิดตา่ งก็มจี ดุ เดน่ ข้อจำกดั เฉพาะตวั จึงไม่ขอกล่าวถึงจุดเดน่ และข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพัฒนาการใชส้ อื่ ต่างๆ
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั โปรแกรมกราฟิกได้ (K)
2) นักเรยี นสามออกแบบและสร้างภาพตัวตอ่ โดยใช้โปรแกรมระบายสี (Paint) ได้ (P)
3) นกั เรียนเห็นประโยชนข์ องการใช้โปรแกรมกราฟกิ (A)
7. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
การพจิ ารณาปัญหาโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ
1) หลกั การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ
2) วธิ ีการพิจารณาการแก้ปัญหา
ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การสอ่ื สาร
• ทกั ษะการส่ือสาร
• ทักษะการแลกเปลยี่ นข้อมูล
2) การคิด การตดั สินใจและการแกป้ ัญหา
• ทักษะการคิดวิเคราะห์
• ทกั ษะการคดิ เชงิ คาํ นวณ
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
• ทักษะการแกป้ ัญหา
• ทักษะการสังเกต
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุ่งม่ันในการทำงาน
8. กระบวนการเรยี นรู้
- ขั้นนำ
1) ครผู ูส้ อนถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“กนิ ขา้ วกนั หรือยัง”
2) นกั เรียนร่วมกันสังเกตสญั ลักษณ์โปรแกรมระบายสี (Paint) แล้วตอบคำถาม ดงั น้ี
• นกั เรียนเคยเหน็ หรอื รู้จักสัญลักษณน์ ี้หรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
• หากเคย สญั ลกั ษณน์ ีเ้ ปน็ สญั ลกั ษณ์ของโปรแกรมอะไร
(โปรแกรมระบายส)ี
• โปรแกรมระบายสีใช้สำหรับทำงานอะไร (ตวั อย่างคำตอบ ใช้ในการวาดภาพและระบายสี)
• นกั เรยี นเคยใช้งานโปรแกรมระบายสีหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
• หากเคย นักเรียนใช้ทำอะไร (ตวั อย่างคำตอบ วาดภาพระบายสี และจัดการกบั ภาพ)
- ขัน้ สอน
3) เปิดสื่อการเรยี นการสอนผ่าน Power Point เรือ่ ง โปรแกรมกราฟกิ
4) ผ้เู รียนศึกษาเพิ่มเตมิ จากหนังสอื รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคำนวณ) ชั้น
ประถมศึกษาปีท่ี 2
5) นกั เรียนทำชน้ิ งานเรื่อง การสรา้ งภาพตวั ต่อ
- ขั้นสรุป
6) ผู้เรยี นและผสู้ อนร่วมกันเฉลย ชิ้นงานเรื่อง การสรา้ งภาพตัวต่อ
7) ผู้เรียนและผู้สอนรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับการเรียนการสอน เรื่อง โปรแกรมกราฟกิ
8) ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตพฤติกรรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคดิ เหน็ ความ
สนใจและการทำชน้ิ งานเรื่อง การสร้างภาพตวั ต่อ
9) ครสู รุปบทเรียน เรื่อง โปรแกรมกราฟิก
9. ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคำนวณ) ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2
2) สื่อประกอบการจัดการเรียนการสอน (Power point) เร่ือง โปรแกรมกราฟิก
10. ช้ินงาน/หลักฐานการเรยี นร้ขู องผูเ้ รยี น (ชนิ้ งาน/ภาระงาน)
ชิน้ งานเรอ่ื ง การสร้างภาพตวั ต่อ
11. การวัดและการประเมินผล
สิง่ ทต่ี ้องการวดั วิธวี ัดผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
ด้านความรู้ : นกั เรียน ตรวจชิน้ งานเร่ือง การ ชิ้นงานเรอ่ื ง การสร้าง ทำถกู ต้อง 6 คะแนนจาก
สามารถอธิบายเก่ยี วกบั สรา้ งภาพตวั ต่อ ภาพตัวตอ่ 10 คะแนน
โปรแกรมกราฟิก ได(้ K) (ทำถูกต้องรอ้ ยละ 60)
ทำถูกต้อง 6 คะแนนจาก
ด้านทักษะ/ ตรวจชนิ้ งานเรื่อง การ ชิน้ งานเรอ่ื ง การสรา้ ง 10 คะแนน
กระบวนการ : นักเรียน สร้างภาพตัวตอ่ ภาพตวั ตอ่ (ทำถูกต้องร้อยละ 60)
สามารถออกแบบและ
สรา้ งภาพตวั ตอ่ โดยใช้ 1. ถูกต้อง ตรงประเดน็
โปรแกรมระบายสีได้ 2.สรปุ ผลการประเมนิ ได้
(Paint) (P) คะแนนอยู่ในระดับ
คุณภาพ พอใช้ขึน้ ไป
ด้านเจตคติ : นักเรียน สงั เกตพฤตกิ รรมความมี 1. ข้อคำถาม
เหน็ ประโยชน์ของการใช้ วนิ ัยความรับผดิ ชอบ ใฝ่ 2. แบบประเมิน
โปรแกรมกราฟกิ (A) เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั ในการ พฤติกรรม
ทำงาน
12. เอกสารประกอบทา้ ยแผน
ชนิ้ งานที่ 8 เร่ือง การสรา้ งภาพตวั ตอ่
วันท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ได_้ _________คะแนน
ช่อื _____________________________เลขที่______ชน้ั __________ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
นักเรยี นฝึกใชโ้ ปรแกรมระบายสี โดยนำตวั ต่อทอ่ี อกแบบไว้มาสร้างเป็นภาพตวั ต่อ จากนั้นบันทกึ ผลการ
ทำงานลงในแบบบันทกึ โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงใน
1. คลกิ เมาส์ท่ีปมุ่ แล้วเลือกโปรแกรมเบด็ เตล็ด
2) เลอื กโปรแกรมเบด็ เตลด็
1) คลกิ เมาสท์ ี่ป่มุ Start
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไม่ตรงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจดุ ประสงคห์ รอื ไม่อยา่ งไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 รหสั วิชา ว14101 รายวิชาวิทยาการคำนวณพ้นื ฐาน
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 การใชซ้ อฟต์แวร์ในการทำงาน เรอื่ ง การวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14 เรอื่ ง เวลา 1 ช่ัวโมง
1. มาตรฐานและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ิตประจำวันอย่างเปน็
ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทนั และมีจริยธรรม
ตัวชว้ี ดั
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ เรยี กใชข้ อ้ มูลตามวัตถุประสงค์
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
โปรแกรมระบายสี (Paint) เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่มีความสามารถในด้านการวาดภาพระบายสี
เนื่องจากมีเครอ่ื งมอื ต่าง ๆ อย่างมากมายในการจัดการภาพ
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลิตสารสนเทศและดิจิทลั คอนเทนต์
4. รปู แบบการสอน
การสอนโดยใช้โสตทัศนปู กรณ์ (Audio – visual Media) หมายถึง การสอนโดยใช้อุปกรณ์การสอน
ตา่ งๆ เช่น รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทศั น์ หุน่ จำลอง เทปบนั ทกึ เสยี ง เครอ่ื งฉายภาพข้ามศีรษะ เปน็ ตน้
เนอื่ งจากโสตทัศนปู กรณ์แตล่ ะชนดิ ตา่ งก็มีจุดเดน่ ข้อจำกัดเฉพาะตัว จึงไม่ขอกลา่ วถึงจุดเดน่ และข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพัฒนาการใช้สอ่ื ต่างๆ
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) นกั เรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับการวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสีได้ (Paint) (K)
2) นักเรยี นสามารภวาดภาพด้วยมอื และวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสีได้ (Paint) (P)
3) นักเรยี นมีความกระตือรือร้นในการปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรียนรู้ (A)
7. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
การพจิ ารณาปัญหาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ
1) หลักการแกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ
2) วิธกี ารพจิ ารณาการแก้ปัญหา
ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การส่อื สาร
• ทักษะการสื่อสาร
• ทกั ษะการแลกเปล่ยี นข้อมลู
2) การคดิ การตดั สนิ ใจและการแกป้ ญั หา
• ทักษะการคิดวิเคราะห์
• ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณ
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
• ทกั ษะการแก้ปัญหา
• ทักษะการสงั เกต
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุ่งมั่นในการทำงาน
8.กระบวนการเรยี นรู้
- ขน้ั สอน
1) ครูผู้สอนถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนว่า“กินขา้ วกันหรือยงั ”
2) ครูให้นกั เรียนนักเรียนวาดภาพในหัวขอ้ ทีน่ ักเรียนเลือกมาตามจินตนาการ พร้อมระบายสีให้สวยงาม
(วาดภาพด้วยมือ)พร้อมกับตั้งช่อื ภาพ ดงั ตวั อยา่ ง
ภาพที่วาดด้วยมือ ภาพที่วาดดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)
- ข้นั สอน
3) เปิดส่อื การเรยี นการสอนผา่ น Power Point เร่ือง การวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี (Paint)
5) ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเตมิ จากหนังสอื รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั
ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
6) นกั เรียนทำแบบทดสอบ
- ขน้ั สรุป
7) ผู้เรยี นและผสู้ อนร่วมกันเฉลย แบบทดสอบ
8) ผู้เรียนและผ้สู อนรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกับการเรียนการสอน เรื่อง การวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี
(Paint)
9) ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี นจากการสังเกตพฤติกรรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคิดเหน็ ความ
สนใจและการทำแบบทดสอบ
10) ครูสรปุ บทเรียน เร่ือง การวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี (Paint)
9. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2
2. สือ่ ประกอบการจดั การเรียนการสอน (Power point)
10. ช้ินงาน/หลกั ฐานการเรยี นรูข้ องผู้เรียน (ช้ินงาน/ภาระงาน)
กิจกรรม วาดอย่างสรา้ งสรรค์
11. การวดั และการประเมนิ ผล
สิ่งที่ต้องการวดั วธิ วี ัดผล เครื่องมอื วัดผล เกณฑ์การประเมินผล
ดา้ นความรู้ : นกั เรยี น ตรวจกจิ กรรม วาดอยา่ ง กจิ กรรม วาดอย่าง ทำถูกต้อง 11 คะแนน
สามารถอธิบายเก่ียวกบั สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ จาก 20 คะแนน
การวาดภาพดว้ ย (ทำถูกต้องรอ้ ยละ 60)
โปรแกรมระบายสีได้
(Paint) (K) ทำถูกต้อง 11 คะแนน
จาก 20คะแนน
ด้านทกั ษะ/ ตรวจกิจกรรม วาดอย่าง กจิ กรรม วาดอย่าง (ทำถูกตอ้ งร้อยละ 60)
กระบวนการ : นักเรียน สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ 1. ถูกต้อง ตรงประเด็น
2.สรุปผลการประเมนิ ได้
สามารถวาดภาพด้วยมือ คะแนนอยูใ่ นระดบั
คุณภาพ พอใช้ขน้ึ ไป
และวาดภาพดว้ ย
โปรแกรมระบายสีได้
(Paint) (P)
ด้านเจตคติ : นกั เรยี นมี สังเกตพฤติกรรมความมี 1. ข้อคำถาม
ความกระตือรือรน้ ใน วนิ ัยความรบั ผดิ ชอบ ใฝ่ 2. แบบประเมนิ
การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการ เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการ พฤติกรรม
เรียนรู้ (A) ทำงาน
12. เอกสารประกอบทา้ ยแผน
กจิ กรรม วาดอย่างสร้างสรรค์
ใหน้ กั เรียนนกั เรียนวาดภาพในหวั ข้อท่ีนักเรียนเลือกมาตามจนิ ตนาการ พร้อมระบายสใี ห้สวยงาม (วาดภาพด้วย
มอื )พร้อมกับต้ังชือ่ ภาพ ดงั ตวั อยา่ ง
ภาพทีว่ าดดว้ ยมือ ภาพที่วาดดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไมต่ รงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจดุ ประสงค์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
รายวิชาวทิ ยาการคำนวณพืน้ ฐาน
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 รหสั วิชา ว14101
เร่ือง โปรแกรมนำเสนอ
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การใชซ้ อฟต์แวรใ์ นการทำงาน เรอ่ื ง เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 15
1. มาตรฐานและตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตประจำวันอยา่ งเปน็
ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้
อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม
ตวั ชี้วดั
ว 4.2 ป.2/3 ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เก็บ เรยี กใช้ขอ้ มลู ตาม
วัตถปุ ระสงค์
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
โปรแกรมการนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรูปแบบและความสามารถที่แตกต่าง
กันออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ ที่สามารถ
นำเสนอข้อมลู ไดห้ ลายรปู แบบ เช่น ภาพ ข้อความ ภาพเคล่อื นไหว และเสยี ง
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลติ สารสนเทศและดิจิทลั คอนเทนต์
4. รูปแบบการสอน
การสอนโดยใช้โสตทัศนปู กรณ์ (Audio – visual Media) หมายถงึ การสอนโดยใชอ้ ปุ กรณก์ ารสอน
ต่างๆ เชน่ รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ ห่นุ จำลอง เทปบนั ทึกเสียง เคร่ืองฉายภาพข้ามศีรษะ เป็นตน้
เนอ่ื งจากโสตทัศนูปกรณแ์ ตล่ ะชนิดตา่ งก็มจี ดุ เด่น ข้อจำกดั เฉพาะตัว จึงไม่ขอกล่าวถึงจุดเด่นและข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพฒั นาการใชส้ อ่ื ต่างๆ
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกบั โปรแกรมนำเสนอได้ (K)
2) ใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ได้ (P)
3) เหน็ ประโยชนข์ องการใช้โปรแกรมนำเสนอในการนำเสนองาน (A)
7. สาระการเรียนรู้
ความรู้ (K)
การพจิ ารณาปัญหาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ
3. หลกั การแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ
4. วิธีการพจิ ารณาการแก้ปัญหา
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1) การสื่อสาร
• ทักษะการสื่อสาร
• ทกั ษะการแลกเปล่ียนข้อมลู
2) การคดิ การตัดสินใจและการแกป้ ัญหา
• ทักษะการคิดวิเคราะห์
• ทักษะการคดิ เชงิ คาํ นวณ
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
• ทักษะการแกป้ ัญหา
• ทักษะการสังเกต
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1) ใฝเ่ รยี นรู้
2) ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
8.กระบวนการเรียนรู้
- ขนั้ นำ
1) ครผู สู้ อนถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“กนิ ข้าวกนั หรือยัง”
2) นกั เรียนรว่ มกันสงั เกตสัญลกั ษณโ์ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์
แล้วตอบคำถาม ดงั นี้
• นกั เรียนเคยเหน็ สัญลกั ษณ์นี้หรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
• หากเคยเหน็ สญั ลักษณน์ ี้เป็นสัญลกั ษณ์ของโปรแกรมอะไร
(โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์)
• โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต์ใช้สำหรบั ทำงานอะไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ใชท้ ำงานเก่ียวกับการนำเสนอ)
• นักเรยี นเคยใช้งานโปรแกรมน้ีหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
• หากเคย นักเรยี นใช้ทำอะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ใชใ้ นการนำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น)
- ขั้นสอน
3) เปิดส่ือการเรยี นการสอนผ่าน Power Point เรอ่ื ง โปรแกรมนำเสนอ
5) ผเู้ รยี นศึกษาเพิ่มเติมจากหนงั สือรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคำนวณ) ชั้น
ประถมศึกษาปที ี่ 2
6) นกั เรยี นทำชน้ิ งานเรื่องการใชง้ านโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
- ขั้นสรปุ
7) ผเู้ รียนและผสู้ อนรว่ มกันเฉลย ชน้ิ งานเร่อื งการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
8) ผเู้ รยี นและผสู้ อนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั การเรียนการสอน เร่ือง โปรแกรมนำเสนอ
9) ครปู ระเมนิ ผลนกั เรียนจากการสงั เกตพฤติกรรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคดิ เหน็ ความ
สนใจและการทำช้นิ งานเร่อื งการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
10) ครูสรปุ บทเรียน เร่ือง โปรแกรมนำเสนอ
9. สอื่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2
2. สอื่ ประกอบการจัดการเรียนการสอน (Power point) เร่ือง โปรแกรมนำเสนอ
10. ช้นิ งาน/หลักฐานการเรียนรู้ของผ้เู รยี น (ช้ินงาน/ภาระงาน)
ชิ้นงานเร่ืองการใชง้ านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
11. การวดั และการประเมนิ ผล
ส่งิ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั ผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ : นกั เรียน ตรวจชิ้นงานเร่ืองการใช้ ชนิ้ งานเรือ่ งการใช้งาน ทำถูกต้อง 6 คะแนน
จาก 10 คะแนน
สามารถอธบิ ายเกีย่ วกับ งานโปรแกรม โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (ทำถูกตอ้ งรอ้ ยละ 60)
โปรแกรมนำเสนอได้ (K) คอมพวิ เตอร์ ทำถูกต้อง 6 คะแนนจาก
10 คะแนน
ดา้ นทกั ษะ/ ตรวจชน้ิ งานเรอื่ งการใช้ ช้นิ งานเรื่องการใชง้ าน (ทำถูกตอ้ งรอ้ ยละ 60)
กระบวนการ : นักเรยี น งานโปรแกรม โปรแกรมคอมพวิ เตอร์
สามารถใชง้ านโปรแกรม คอมพิวเตอร์ 1. ถูกตอ้ ง ตรงประเด็น
ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ 2.สรปุ ผลการประเมินได้
เพาเวอร์พอยต์ได้ (P) คะแนนอยใู่ นระดับ
คณุ ภาพ พอใช้ขึ้นไป
ดา้ นเจตคติ : นักเรียน สังเกตพฤติกรรมความมี 1. ขอ้ คำถาม
เห็นประโยชน์ของการใช้ วินยั ความรับผดิ ชอบใฝ่ 2. แบบประเมนิ
โปรแกรมนำเสนอในการ เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการ พฤติกรรม
นำเสนองาน (A) ทำงาน
12. เอกสารประกอบทา้ ยแผน
ชิ้นงานที่ 9 เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ ได_้ _________คะแนน
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
วันท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________
ช่อื _____________________________เลขท่ี______ชนั้ __________
นกั เรยี นฝึกใช้โปรแกรมนำเสนอ แลว้ บนั ทึกผลการใช้งานโปรแกรมลงในแบบบนั ทึก
โดยเขยี นเครอื่ งหมาย ลงใน
1. คลกิ เมาส์ท่ปี ุ่ม
2. เลือกโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2010
2) เลอื กโปรแกรม
Microsoft PowerPoint
2010
1) คลิกเมาสท์ ่ปี มุ่ Start
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไมต่ รงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจุดประสงค์หรอื ไม่อย่างไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
รายวิชาวทิ ยาการคำนวณพน้ื ฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 รหัสวิชา ว14101 เรื่อง การนำเสนอขอ้ มลู แบบมลั ตมิ ีเดยี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การใชซ้ อฟต์แวรใ์ นการทำงาน เรอื่ ง เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16
1. มาตรฐานและตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตประจำวันอย่างเปน็
ขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้
อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม
ตัวช้ีวดั
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรยี กใชข้ อ้ มูลตามวัตถปุ ระสงค์
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
โปรแกรมการนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรูปแบบและความสามารถที่แตกต่าง
กันออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ ที่สามารถ
นำเสนอข้อมลู ไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ ภาพ ข้อความ ภาพเคลอื่ นไหว และเสียง
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลติ สารสนเทศและดจิ ิทัลคอนเทนต์
4. รูปแบบการสอน
การสอนโดยใชโ้ สตทัศนปู กรณ์ (Audio – visual Media) หมายถงึ การสอนโดยใชอ้ ุปกรณก์ ารสอน
ต่างๆ เชน่ รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ หุ่นจำลอง เทปบันทกึ เสยี ง เครื่องฉายภาพขา้ มศรี ษะ เป็นตน้
เนื่องจากโสตทัศนูปกรณแ์ ต่ละชนิดต่างก็มีจดุ เด่น ข้อจำกดั เฉพาะตวั จึงไม่ขอกล่าวถึงจดุ เดน่ และข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพฒั นาการใชส้ ่ือต่างๆ
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกบั โปรแกรมนำเสนอได้ (K)
2) นกั เรยี นสามารถใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต์ได้ (P)
3) นักเรียนเหน็ ประโยชน์ของการใช้โปรแกรมนำเสนอในการนำเสนองาน (A)
7. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
การพิจารณาปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ
9) หลกั การแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ
10) วธิ กี ารพจิ ารณาการแก้ปัญหา
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
13) การส่ือสาร
• ทกั ษะการสื่อสาร
• ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมูล
14) การคดิ การตดั สินใจและการแกป้ ญั หา
• ทักษะการคดิ วิเคราะห์
• ทกั ษะการคดิ เชงิ คํานวณ
15) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
• ทักษะการแก้ปัญหา
• ทกั ษะการสงั เกต
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
9) ใฝ่เรียนรู้
10) ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
8. กระบวนการเรียนรู้
- ข้ันนำ
1. ครูผู้สอนถามคำถามกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นใหน้ ักเรียนรว่ มกนั สงั เกตสัญลักษณ์โปรแกรม
ไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์
แล้วตอบคำถาม ดงั นี้
• นักเรียนเคยเหน็ สญั ลกั ษณ์น้หี รอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)
• หากเคยเหน็ สญั ลกั ษณน์ ีเ้ ปน็ สัญลักษณ์ของโปรแกรมอะไร
(โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต)์
• โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ใชส้ ำหรับทำงานอะไร
(ตัวอย่างคำตอบ ใชท้ ำงานเก่ียวกบั การนำเสนอ)
• นกั เรียนเคยใช้งานโปรแกรมนี้หรือไม่ (เคย/ไม่เคย)
• หากเคย นักเรยี นใชท้ ำอะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ใชใ้ นการนำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน)
2. นักเรียนรว่ มกันศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับโปรแกรมนำเสนอ จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ
อย่างหลากหลาย เชน่ การสอบถามจากครหู รอื ผ้ปู กครอง และทางอนิ เตอรเ์ นต็
- ขั้นสอน
1. เปดิ สอื่ การเรียนการสอนผ่าน Power Point เป็นบัตรภาพเกี่ยวกับความสามารถในการนำเสนอ
ของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ แลว้ จับคู่บัตรภาพใหส้ ัมพันธ์กัน ดังตวั อยา่ ง
2. นักเรยี นร่วมกนั สังเกตและวิเคราะหส์ ัญลักษณ์เกย่ี วกบั โปรแกรมนำเสนอ และไมใ่ ชโ่ ปรแกรมนำเสนอ
จากนัน้ เลอื กภาพทเ่ี ป็นโปรแกรมนำเสนอออกมา แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้
• โปรแกรมท่ีนกั เรยี นเลือกมีชอื่ วา่ อะไรบ้าง
(โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ โปรแกรมวนั โนต้ )
• ถ้านักเรยี นจะนำเสนอข้อมลู ส่วนตวั นักเรียนจะใชโ้ ปรแกรมใด
(ตัวอยา่ งคำตอบ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์)
• โปรแกรมนำเสนอทีเ่ ลือกมาสามารถทำอะไรได้บา้ ง
(ตวั อยา่ งคำตอบ นำเสนอข้อมลู สว่ นตวั นำเสนองาน)
3. นักเรียนร่วมกนั สงั เกตและวิเคราะห์ภาพสว่ นประกอบของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศ
เพาเวอร์พอยต์ แล้วนำตวั เลขไปเติมลงในหน้าคำทเี่ ปน็ ส่วนประกอบของโปรแกรม โดยเขียนบนั ทึกคำตอบของ
นักเรยี นบนกระดาน ดงั ตวั อย่าง
____(5_)____ แบบจำลองภาพนง่ิ ____(3_)____ แถบเครอ่ื งมอื
____(6_)____ สว่ นสำหรับใสข่ อ้ ความเพ่ิมเติม ____(2_)____ แถบช่ือเรอื่ ง
____(1_)____ พื้นท่ีแสดงรายละเอียดการทำงาน ____(4_)____ บนั ทึกข้อมูล
4. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเกย่ี วกบั โปรแกรมนำเสนอ ดังนี้
โปรแกรมนำเสนอ เปน็ โปรแกรมสำหรบั นำเสนอข้อมลู ตัวอย่างของโปรแกรมนำเสนอ เชน่
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต์ (Microsoft Office PowerPoint) โปรแกรมซันสตารอ์ อฟฟิศ-
อมิ เพลสส์ (Sun StarOffice Impress) และโปรแกรมคีย์โน้ต (Keynote) โปรแกรมประเภทน้สี ามารถใช้
เตรยี มการนำเสนอข้อมูล และนำเสนอผลงานได้หลายรปู แบบ สามารถแทรกภาพเสียง วิดโี อ และเช่ือมโยงไป
ยังโปรแกรมอ่ืน ๆ ได้อีกดว้ ย โดยแต่ละโปรแกรมจะมคี วามสามารถแตกต่างกนั ออกไป
- ขน้ั สรปุ
1. ผเู้ รยี นและผสู้ อนร่วมกนั ชน้ิ งานเรอ่ื งการใชง้ านโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
2. ผเู้ รียนและผสู้ อนรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับการเรียนการสอน
3. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการสังเกตพฤตกิ รรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น
ความสนใจและชิน้ งานเร่ืองการใชง้ านโปรแกรมคอมพิวเตอร์
4. ครูสรุปบทเรียน เร่ือง โปรแกรมการนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซง่ึ แตล่ ะประเภทจะมี
รูปแบบและความสามารถท่แี ตกตา่ งกันออกไป แต่ที่ได้รับความนยิ มเป็นอยา่ งมาก คอื
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต์ ที่สามารถนำเสนอข้อมูลไดห้ ลายรูปแบบ เชน่
ภาพ ข้อความ ภาพเคล่ือนไหว และเสยี ง
9. สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2
2) สื่อประกอบการจดั การเรยี นการสอน (Power point)
10. ชิน้ งาน/หลกั ฐานการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น (ชิ้นงาน/ภาระงาน)
ช้นิ งานเรอื่ งการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
11. การวดั และการประเมินผล
สง่ิ ทตี่ ้องการวดั วธิ วี ัดผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล
ด้านความรู้ : นกั เรยี น ตรวจช้ินงานเรอ่ื งการใช้ ชน้ิ งานเรอ่ื งการใช้งาน (ร้อยละ 60)
สามารถอธบิ ายเกีย่ วกบั งานโปรแกรม โปรแกรมคอมพวิ เตอร์
โปรแกรมนำเสนอได้ (K) คอมพิวเตอร์
ด้านทกั ษะ/ ตรวจช้ินงานเร่ืองการใช้ ชิ้นงานเรอื่ งการใช้งาน (ร้อยละ 60)
กระบวนการ : นกั เรยี น งานโปรแกรม โปรแกรมคอมพิวเตอร์
สารถใช้งานโปรแกรม คอมพิวเตอร์
ไมโครซอฟต์ออฟฟศิ
เพาเวอร์พอยต์ได้ (P)
ดา้ นเจตคติ : นักเรียน สังเกตพฤตกิ รรมความมี 1. ข้อคำถาม 1. ถูกต้อง ตรงประเด็น
เหน็ ประโยชน์ของการใช้ วนิ ยั ความรับผดิ ชอบใฝ่ 2. แบบประเมิน 2.สรปุ ผลการประเมนิ ได้
โปรแกรมนำเสนอในการ เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการ พฤติกรรม คะแนนอย่ใู นระดบั
นำเสนองานได้ (A) ทำงาน คุณภาพ พอใช้ขึน้ ไป
12. เอกสารประกอบทา้ ยแผน
ชิ้นงานเรอื่ ง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ
ได_้ _________คะแนน
วนั ที่________เดือน_______________พ.ศ.___________
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ชอ่ื _____________________________เลขท่ี______ชน้ั __________
นกั เรยี นฝึกใช้โปรแกรมนำเสนอ แล้วบันทึกผลการใช้งานโปรแกรมลงในแบบบันทึก
โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ลงใน
1. คลิกเมาส์ท่ีปุ่ม
2. เลอื กโปรแกรมนำเสนอ Microsoft PowerPoint 2010
2) เลอื กโปรแกรม
Microsoft PowerPoint
2010
1) คลกิ เมาส์ที่ป่มุ Start
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไมต่ รงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจดุ ประสงค์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว14101 รายวิชาวทิ ยาการคำนวณพน้ื ฐาน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การใชซ้ อฟต์แวร์ในการทำงาน เรอื่ ง การจดั การไฟลข์ ้อมูลและการแก้ไขไฟล์
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 17 เรอ่ื ง เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวติ ประจำวันอย่างเป็น
ขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้
อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม
ตัวชว้ี ดั
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวัตถปุ ระสงค์
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศมีความสามารถที่หลากหลายในการนำเสนอ โดยสามารถนำเสนอใน
รปู แบบมลั ติมเี ดยี ได้ เช่น ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว ขอ้ ความ วดิ โี อ และเสยี ง
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลิตสารสนเทศและดจิ ิทลั คอนเทนต์
4. รูปแบบการสอน
การสอนโดยใช้โสตทศั นูปกรณ์ (Audio – visual Media) หมายถงึ การสอนโดยใช้อปุ กรณก์ ารสอน
ตา่ งๆ เชน่ รูปภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ หุ่นจำลอง เทปบนั ทกึ เสยี ง เครือ่ งฉายภาพขา้ มศีรษะ เป็นตน้
เนื่องจากโสตทัศนปู กรณ์แตล่ ะชนิดต่างก็มจี ุดเด่น ข้อจำกัดเฉพาะตัว จงึ ไม่ขอกลา่ วถงึ จดุ เด่นและข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพฒั นาการใชส้ ือ่ ต่างๆ
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั การนำเสนอข้อมูลแบบมลั ตมิ ีเดียได้ (K)
2) นักเรียนสามารถนำเสนอข้อมลู แบบมัลตมิ เี ดียได้ (P)
3) นักเรียนมคี วามกระตือรือรน้ ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการเรียนรู้ได้ (A)
7. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
การพิจารณาปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ
1) หลกั การแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
2) วธิ ีการพจิ ารณาการแกป้ ัญหา
ทักษะ/กระบวนการ (P)
1) การสือ่ สาร
• ทักษะการสื่อสาร
• ทักษะการแลกเปลยี่ นข้อมลู
2) การคดิ การตัดสนิ ใจและการแกป้ ญั หา
• ทักษะการคดิ วิเคราะห์
• ทักษะการคิดเชงิ คาํ นวณ
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
• ทักษะการแก้ปญั หา
• ทักษะการสังเกต
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
1) ใฝเ่ รียนรู้
2) มุ่งม่นั ในการทำงาน
ค. กระบวนการเรียนรู้
- ขน้ั นำ
1. ครูใหน้ กั เรียนรับชมวดิ โี อเก่ียวกับ การนำขอ้ มูลมาจัดทำใส่ PowerPoint โดยจดั ทำข้อมูล
ใหค้ รบตามรูปแบบ ดงั น้ี
1. ภาพนิง่
2. ภาพเคล่ือนไหว
3. ข้อความ
4. วดิ โี อ
5. เสยี ง
2. นักเรยี นรว่ มกันสรปุ สงิ่ ที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังนี้
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศมีความสามารถท่ีหลากหลายในการนำเสนอโดยสามารถนำเสนอใน
รปู แบบมัลตมิ เี ดียได้ เชน่ ภาพนิง่ ภาพเคลื่อนไหว ข้อความ วิดีโอ และเสียง
- ข้นั สอน
1. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรม PowerPoint ที่ฉนั ชอบ คือให้นกั เรยี นอธิบรายเก่ียวกบั วธิ กี ารทำงาน
โปรแกรม PowerPoint ความสามารถทหี่ ลากหลายในการนำเสนอโดยสามารถนำเสนอในรูปแบบมลั ตมิ เี ดยี ได้
เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคล่ือนไหว ข้อความ วิดโี อ และเสียง ส่วนไหนทนี่ ักเรยี นชอบมากที่สุด
2. นกั เรียนนำความรเู้ กีย่ วกับโปรแกรมนำเสนอไปอธบิ ายใหเ้ พือ่ นทีย่ ังใช้งานได้ไม่คลอ่ งให้ใช้งานได้
คล่อง และนำไปบอกต่อรนุ่ น้องใหส้ ามารถใชง้ านโปรแกรมนำเสนอได้
3. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความร้สู ึกหลังการเรียนและหลังการทำกจิ กรรม
ในประเดน็ ต่อไปนี้
• สิ่งท่นี กั เรียนได้เรียนรู้ในวนั น้คี ืออะไร
• นักเรยี นมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด
• เพือ่ นนกั เรียนในกลุม่ มีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นีห้ รือไม่ เพียงใด
• นักเรยี นจะนำความรู้ที่ได้น้ีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมทัว่ ไป
ได้อยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลย่ี นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนวา่ จะเพิ่มคุณคา่ ไปสูส่ ังคม
เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมให้มากข้นึ กวา่ เดมิ ในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครงั้ ต่อไป
- ขน้ั สรปุ
1. ผ้เู รยี นและผู้สอนร่วมกันเฉลย กิจกรรม PowerPoint ทฉ่ี ันชอบ
2. ผเู้ รียนและผสู้ อนร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การเรยี นการสอน
3. ครปู ระเมนิ ผลนักเรียนจากการสงั เกตพฤติกรรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น
ความสนใจและการทำกิจกรรม PowerPoint ทฉี่ นั ชอบ
4. ครูสรปุ บทเรยี น เร่ือง การนำเสนอข้อมลู แบบมลั ติมีเดีย
9. สือ่ การเรยี นรู้
3) หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2
4) สื่อประกอบการจดั การเรียนการสอน (Power point)
10. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรียนรขู้ องผเู้ รียน (ชน้ิ งาน/ภาระงาน)
PowerPoint ที่ฉนั ชอบ
11. การวัดและการประเมนิ ผล
สงิ่ ทีต่ ้องการวดั วธิ วี ัดผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
ด้านความรู้ : นกั เรยี น ตรวจชนิ้ งาน ชิ้นงานPowerPoint ที่ ทำถูกต้อง 6 คะแนนจาก
สามารถอธบิ ายเกีย่ วกับ PowerPoint ท่ีฉันชอบ ฉันชอบ 10 คะแนน
การนำเสนอข้อมูลแบบ (ทำถูกตอ้ งร้อยละ 60)
มัลติมเี ดียได้ (K)
ดา้ นทกั ษะ/ ตรวจชิ้นงาน ตรวจชน้ิ งาน ทำถกู ต้อง 6 คะแนนจาก
กระบวนการ : นักเรยี น PowerPoint ท่ีฉนั ชอบ PowerPoint ท่ีฉันชอบ 10 คะแนน
สามารถนำเสนอข้อมูล (ทำถูกต้องร้อยละ 60)
แบบมลั ติมีเดียได้ (P)
ด้านเจตคติ : นักเรียนมี สังเกตพฤติกรรมความมี 1. ข้อคำถาม 1. ถูกตอ้ ง ตรงประเด็น
ความกระตอื รือร้นใน วนิ ัยความรบั ผิดชอบ ใฝ่ 2. แบบประเมนิ 2.สรุปผลการประเมนิ ได้
การปฏิบัตกิ จิ กรรมการ เรียนรแู้ ละมุ่งมั่นในการ พฤติกรรม คะแนนอยูใ่ นระดบั
เรียนรู้ได้ (A) ทำงาน คณุ ภาพ พอใช้ข้นึ ไป
12. เอกสารประกอบทา้ ยแผน
ชน้ิ งาน PowerPoint ท่ฉี ันชอบ ได_้ _________คะแนน
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
วันท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________
ชื่อ_____________________________เลขท่ี______ชนั้ __________
นักเรียนวาดภาพแลว้ เขยี นอธิบรายเกีย่ วกับวธิ กี ารทำงาน โปรแกรม PowerPoint มีความสามารถท่ี
หลากหลายในการนำเสนอโดยสามารถนำเสนอในรปู แบบมัลติมเี ดยี ได้ เช่น ภาพนิง่ ภาพเคลื่อนไหว ข้อความ
วดิ โี อ และเสียง สว่ นไหนทนี่ กั เรียนชอบมากทีส่ ดุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไมต่ รงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจดุ ประสงค์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
รายวิชาวิทยาการคำนวณพ้นื ฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว14101
เร่ือง การใชอ้ ุปกรณ์เทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใชแ้ ละบำรงุ รักษาอปุ กรณ์เทคโนโลยี เร่อื ง เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 18
1. มาตรฐานและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตประจำวันอย่างเป็น
ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม
ตวั ช้ีวดั
ว 4.2 ป. 2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์
รว่ มกนั ดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์เบ้ืองต้นใช้งานอยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
เครื่องคอมพิวเตอร์มีการเก็บข้อมูลในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ สร้างขึ้นมา
จนเกดิ เปน็ ไฟล์ และมกี ารคดั แยกไฟล์ตามหมวดหมู่ โดยมีการจดั เรียงใหเ้ ป็นระเบยี บ เรยี กวา่ โฟลเดอร์
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลิตสารสนเทศและดิจิทัลคอนเทนต์
4. รูปแบบการสอน
การสอนโดยใช้โสตทศั นปู กรณ์ (Audio – visual Media) หมายถึง การสอนโดยใช้อุปกรณ์การสอน
ตา่ งๆ เช่น รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทัศน์ หุ่นจำลอง เทปบนั ทกึ เสยี ง เครือ่ งฉายภาพขา้ มศรี ษะ เป็นต้น
เน่ืองจากโสตทัศนปู กรณแ์ ต่ละชนิดตา่ งก็มีจุดเด่น ข้อจำกดั เฉพาะตัว จึงไม่ขอกล่าวถงึ จุดเด่นและข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพฒั นาการใช้ส่ือตา่ งๆ
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั การจัดการไฟล์ข้อมลู และการแก้ไขไฟล์ได้ (K)
2) นกั เรียนสามารถฝกึ ปฏบิ ัติการสร้างโฟลเดอร์ การคัดลอกและยา้ ยไฟล์ และการแก้ไขไฟลไ์ ด้ (P)
3) นกั เรยี นมีความกระตือรอื รน้ ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ (A)
7. สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
การพจิ ารณาปญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
11) หลกั การแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ
12) วธิ ีการพจิ ารณาการแก้ปัญหา
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
16) การสอ่ื สาร
• ทกั ษะการสื่อสาร
• ทกั ษะการแลกเปลยี่ นข้อมลู
17) การคดิ การตัดสินใจและการแก้ปญั หา
• ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
• ทักษะการคิดเชิงคาํ นวณ
18) ความสามารถในการแกป้ ัญหา
• ทกั ษะการแก้ปัญหา
• ทักษะการสงั เกต
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
11) ใฝ่เรียนรู้
12) มุง่ มัน่ ในการทำงาน
8.กระบวนการเรียนรู้
- ขน้ั นำ
1. ครูผสู้ อนถามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนโดยให้นกั เรยี นรว่ มกนั สงั เกตภาพเกี่ยวกบั
โฟลเดอร์และไฟลง์ านบนกระดาน แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี
• นกั เรียนเคยเห็นภาพ 2 ภาพน้ีหรอื ไม่ (เคยเหน็ /ไม่เคยเห็น)
• หากเคยเห็น ภาพที่ 1 และภาพที่ 2 คืออะไร
(ตวั อย่างคำตอบ ภาพท่ี 1 คือโฟลเดอร์ ภาพท่ี 2 คือไฟล์หรือแฟ้ม)
• นักเรียนคิดว่าโฟลเดอร์และแฟ้มคืออะไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ 1. โฟลเดอร์ คือ ท่ีเก็บไฟล์ เน่ืองจากมีไฟล์เป็นจำนวนมาก ดงั นนั้ การนำไฟลม์ า
รวมกันนัน้ จะต้องเก็บไวใ้ นโฟลเดอร์ 2. ไฟล์ คือ หนว่ ยของการจดั เก็บขอ้ มลู ภายในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เปน็ ที่เกบ็
ข้อมลู ของโปรแกรมท่ีใช้งาน ซึ่งนอกจากจะเก็บในรูปแบบเอกสารแลว้ ยังสามารถเกบ็ ไฟลภ์ าพ เสียง หรือ
ภาพเคลอื่ นไหวได้อกี ดว้ ย)
2. นักเรยี นรว่ มกันสนทนา โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความสนใจ ดังน้ี
• ทำไมจงึ ตอ้ งจดั การไฟล์ข้อมูล (ตวั อย่างคำตอบ เพือ่ ให้งา่ ยตอ่ การคน้ หา และเรียกใชง้ าน)
3. นักเรยี นร่วมกนั ศึกษาคน้ คว้าข้อมลู เกี่ยวกับการจัดการไฟล์ขอ้ มลู และการแก้ไขไฟล์
จากแหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครูหรือผ้ปู กครอง และทางอนิ เตอรเ์ น็ต
- ขั้นสอน
1. ครเู ปิดสื่อการเรียนการสอนผ่าน Power Point จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหบ์ ัตรคำวา่ สิ่งใด
ที่เก่ยี วข้องกับไฟล์งาน แลว้ นำคำมาเติมลงในแผนภาพความคิด ดังตวั อย่าง
2. นักเรียนร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์บัตรภาพเกี่ยวกับไฟล์และโฟลเดอร์บนกระดาน จากนั้นเลือก
การจัดเก็บไฟลใ์ นโฟลเดอรโ์ ดยจบั คบู่ ตั รภาพไฟล์และบัตรภาพโฟลเดอรใ์ หส้ ัมพนั ธก์ นั ดังตัวอยา่ ง
- ข้ันสรปุ
1. ผเู้ รียนและผู้สอนรว่ มกนั เฉลย ชิ้นงานเรือ่ งการสรา้ งกล่องจัดเกบ็ ไฟล์ของฉัน
2. ผเู้ รียนและผ้สู อนร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั การเรียนการสอน
3. ครูประเมินผลนกั เรียนจากการสังเกตพฤติกรรมจาการตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น
ความสนใจและการทำชนิ้ งานเรื่องการสรา้ งกล่องจัดเกบ็ ไฟลข์ องฉนั
4. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเกีย่ วกับการจัดการไฟล์ข้อมูลและการแกไ้ ขไฟล์
ดังน้ี ไฟล์หรือแฟ้มเปน็ หนว่ ยจัดเกบ็ ข้อมลู ของโปรแกรมทใี่ ช้งานในรูปแบบเอกสาร รูปภาพ
เสียง และภาพเคลื่อนไหว และเน่ืองจากไฟล์มจี ำนวนมาก ดังนน้ั จึงนำไฟลม์ าจดั เรียงใน
โฟลเดอร์เพ่ือให้ง่ายต่อการค้นหาและเรยี กใชง้ าน
9. สอ่ื การเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ( วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
2.สื่อประกอบการจัดการเรยี นการสอน (Power point)
10. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรียนรู้ของผเู้ รียน (ชน้ิ งาน/ภาระงาน)
ชิน้ งานเร่อื งการสรา้ งกล่องจดั เกบ็ ไฟล์ของฉัน
11. การวดั และการประเมินผล
ส่งิ ท่ตี ้องการวดั วิธวี ัดผล เครื่องมอื วัดผล เกณฑ์การประเมินผล
ด้านความรู้ : นกั เรียน ตรวจชิ้นงานเร่อื งการ ชน้ิ งานเร่อื งการสร้าง ทำถกู ต้อง 6 คะแนนจาก
สามารถอธิบายเกย่ี วกับ สร้างกลอ่ งจดั เกบ็ ไฟล์ กล่องจัดเก็บไฟล์ของฉัน 10 คะแนน
การจดั การไฟลข์ ้อมลู ของฉนั
และการแก้ไขไฟลไ์ ด้ (K) (ทำถูกตอ้ งร้อยละ 60)
ด้านทกั ษะ/ ตรวจช้นิ งานเรือ่ งการ ชิน้ งานเร่ืองการสร้าง ทำถูกต้อง 6 คะแนนจาก
กระบวนการ : นกั เรียน สรา้ งกล่องจัดเก็บไฟล์ กลอ่ งจัดเก็บไฟลข์ องฉนั 10 คะแนน
สามารถฝกึ ปฏบิ ัตกิ าร ของฉนั
สรา้ งโฟลเดอร์ การ (ทำถูกต้องร้อยละ 60)
คัดลอกและย้ายไฟล์
และการแกไ้ ขไฟล์ได้
(P)
ด้านเจตคติ : มีความ สังเกตพฤติกรรมความมี 1. ข้อคำถาม 1. ถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็
2.สรปุ ผลการประเมนิ ได้
กระตือรอื ร้นในการ วินยั ความรับผิดชอบ ใฝ่ 2. แบบประเมนิ คะแนนอย่ใู นระดับ
คุณภาพ พอใช้ขน้ึ ไป
ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการ เรยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการ พฤติกรรม
เรยี นรู้ (A) ทำงาน
12. เอกสารประกอบท้ายแผน
ช้ินงาน เรื่อง การสร้างกล่องจัดเก็บไฟลข์ องฉนั
ได_้ _________คะแนน
วันที่________เดอื น_______________พ.ศ.___________
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ช่ือ_____________________________เลขที่______ชนั้ __________
นกั เรยี นสร้างโฟลเดอร์ให้เป็นกล่องจัดเกบ็ ไฟล์ แล้วบนั ทกึ ผลการทำงานลงในแบบบันทึก
โดยเติมเครอ่ื งหมาย ลงใน
1. เปดิ หน้าต่างทต่ี ้องการสร้างโฟลเดอร์ข้ึนมา ในกรณีนจ้ี ะสร้างไวใ้ นไดรฟ์ C โดยคลิกเมาส์ขวา
ตรงพนื้ ท่ีวา่ ง แลว้ เลอื กสร้าง จากนน้ั คลิกเมาส์ท่ีโฟลเดอร์ ดังภาพ
1) เลอื กไดรฟ์ C 3) เลือกโฟลเดอร์
2) คลกิ เมาสข์ วาตรงพนื้ ทวี่ ่าง
แล้วเลอื กสรา้ ง
แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำช้แี จง ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี น โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั ความเป็นจริง
ที่ ชอ่ื - ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การทำงานตามที่ รวม
สกลุ 321 คดิ เหน็ 321 ไดร้ บั มอบหมาย
321
1 321
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชอ่ื .........................................ผปู้ ระเมนิ
..................../........................../................
เกณฑ์การให้คะแนน
เข้าห้องเรยี น สนใจฟงั สง่ งานตรงเวลา ให้ 3 คะแนน
เข้าหอ้ งเรยี น สนใจฟัง สง่ งานไม่ตรงเวลา ให้ 2 คะแนน
เขา้ ห้องเรียน ไมส่ นใจฟงั ส่งงานไมต่ รงเวลา ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดี)
ระดับ 3 ชว่ งคะแนน 15-11 ดี
ระดับ 2 ชว่ งคะแนน 10-6 พอใช้
ระดบั 1 ช่วงคะแนน 5-1 ปรบั ปรงุ
13. บันทึกหลังสอน
สรปุ ผลการเรยี นรู้ (บรรลุตามจดุ ประสงค์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ..........................................ผู้สอน
(……................................)
แผนการจัดการเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สาระ 4 เทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 รหัสวิชา ว14101 รายวิชาวิทยาการคำนวณพื้นฐาน
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชแ้ ละบำรุงรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยี เรอ่ื ง วิธกี ารดูแลรักษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 19 เรอ่ื ง เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานและตัวชี้วดั
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตประจำวันอยา่ งเปน็
ข้นั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้
อย่างมีประสิทธิภาพ ร้เู ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม
ตวั ช้วี ัด
ว 4.2 ป. 2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์
ร่วมกนั ดูแลรักษาอปุ กรณ์เบ้ืองตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
อุปกรณ์เทคโนโลยีมีหลายชนิด แต่การใช้งานเบื้องต้นมักเป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประโยชน์สำหรับ
ค้นหาข้อมลู รวบรวมข้อมลู การประมวลผลข้อมูล การทำสำเนาข้อมูล การแสดงผลลพั ธ์
3. สมรรถนะทาง ICT
- ICA3 สมรรถนะการดัดแปลง และผลิตสารสนเทศและดจิ ิทลั คอนเทนต์
- ICA2 สมรรถนะการใช้ ICT อยา่ งเหมาะสม
4. รูปแบบการสอน
การสอนโดยใชโ้ สตทัศนปู กรณ์ (Audio – visual Media) หมายถึง การสอนโดยใช้อปุ กรณ์การสอน
ตา่ งๆ เชน่ รปู ภาพ สไลด์ ภาพยนตร์ วิดีทศั น์ หนุ่ จำลอง เทปบนั ทกึ เสยี ง เครอื่ งฉายภาพข้ามศรี ษะ เปน็ ตน้
เนอื่ งจากโสตทัศนปู กรณ์แตล่ ะชนดิ ตา่ งก็มจี ุดเดน่ ข้อจำกัดเฉพาะตวั จงึ ไม่ขอกลา่ วถงึ จุดเดน่ และข้อจำกัด
โดยรวมๆ ในการพัฒนาการใช้สือ่ ต่างๆ
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา
4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกบั การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยไี ด้ (K)
2) นักเรียนสามารถเลือกเทคโนโลยใี นการนำเสนองาน แลว้ วาดภาพระบายสโี ดยใช้โปรแกรมระบายสีได้
(Paint) (P)
3) นักเรยี นมคี วามกระตือรือรน้ ในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ (A)
7. สาระการเรียนรู้
ความรู้ (K)
การพจิ ารณาปญั หาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
13) หลักการแก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ
14) วธิ ีการพิจารณาการแก้ปัญหา
ทักษะ/กระบวนการ (P)
19) การสอ่ื สาร
• ทกั ษะการสื่อสาร
• ทักษะการแลกเปลี่ยนข้อมลู
20) การคิด การตดั สินใจและการแก้ปญั หา
• ทักษะการคิดวเิ คราะห์
• ทักษะการคดิ เชงิ คาํ นวณ
21) ความสามารถในการแก้ปัญหา
• ทกั ษะการแก้ปญั หา
• ทักษะการสงั เกต
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
13) ใฝเ่ รยี นรู้
14) มุ่งมัน่ ในการทำงาน
8. กระบวนการเรยี นรู้
- ขน้ั นำ
1. ครผู ูส้ อนถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“กินขา้ วกันหรือยงั ”
2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับปัญหาท่ีพบในชีวิตประจำวัน โดยเขยี นบนั ทึกคำตอบของ
นักเรยี นเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน แล้วตอบคำถาม ดังน้ี
• ในชีวติ ประจำวนั นักเรียนเคยพบเห็นอปุ กรณ์เทคโนโลยีอะไรบ้าง
(ตัวอย่างคำตอบ โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ วิทยุ กล้องดจิ ิทัล และแทบ็ เล็ต)
• นักเรียนเคยใช้อุปกรณเ์ ทคโนโลยใี ดบอ่ ยท่ีสดุ (ตัวอยา่ งคำตอบ ใช้คอมพิวเตอร)์
• นักเรยี นใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีน้ันในการทำอะไร
(ตวั อยา่ งคำตอบ ใชใ้ นการเรยี นและความบนั เทงิ )
3. ตัวแทนนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณ์ในการใช้อปุ กรณ์เทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวนั ให้
เพ่อื น ๆ ฟงั หนา้ ชน้ั เรยี น
4. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเก่ียวกบั การใช้อปุ กรณ์เทคโนโลยี จากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ
อย่างหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครหู รอื ผู้ปกครอง และทางอินเตอรเ์ นต็
- ขั้นสอน
1. เปิดส่ือการเรยี นการสอนผ่าน Power Point จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั สังเกตและวเิ คราะห์
บตั รภาพและบตั รคำเกย่ี วกบั อุปกรณ์เทคโนโลยี แล้วจับคูบ่ ัตรภาพและบัตรคำให้สัมพนั ธก์ นั ดงั ตัวอย่าง
2. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนและสิ่งที่แตกต่างของอุปกรณ์เทคโนโลยี
โดยเขยี นบนั ทึกคำตอบของนักเรียนเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตวั อย่าง
โทรศัพท์เคลื่อนท่ี : กลอ้ งดจิ ิทลั