The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศึกษาและปฏิบัติงานเกี่ยวกับคุณลักษณะสมบัติพื้นฐานไอซีออปแอมป์ การทำงานของออปแอมป์ในวงจร Inverting /Non Inverting , Summing Amplifier, Comparator, Differential Amplifier, Integrating Amplifier และอื่นๆ การประยุกต์ใช้ไอซีสำเร็จรูปในงาน Digital, Multivibrator, Flip-Flop, วงจรแสดงผลและวงจรนับ (Display Driver) Timer, Regulator, Function Generator, Phase locked loop กำเนิดสัญญาณเสียงดนตรี และอื่นๆ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krupum1234, 2021-05-08 01:17:09

วงจรไอซีและการประยุกต์ใช้งาน

ศึกษาและปฏิบัติงานเกี่ยวกับคุณลักษณะสมบัติพื้นฐานไอซีออปแอมป์ การทำงานของออปแอมป์ในวงจร Inverting /Non Inverting , Summing Amplifier, Comparator, Differential Amplifier, Integrating Amplifier และอื่นๆ การประยุกต์ใช้ไอซีสำเร็จรูปในงาน Digital, Multivibrator, Flip-Flop, วงจรแสดงผลและวงจรนับ (Display Driver) Timer, Regulator, Function Generator, Phase locked loop กำเนิดสัญญาณเสียงดนตรี และอื่นๆ

Keywords: IC and Aplication

101

15) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อท่ี 9.4 วงจร T-Flip-Flop จากใบความรู้ท่ี 9 เร่ือง วงจร
Flip-Flop ใช้เวลา (5 นาท)ี

16) ผู้สอนอธิบายถึงคุณลักษณะการทางานของ วงจร T-Flip-Flop ด้วยสื่อการสอนท่ีครูผู้สอนได้
จัดทาขึ้นและส่ือโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ท่ีให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ที่
ได้ ใชเ้ วลา (5 นาที) โดยใชส้ อ่ื Power point หนว่ ยท่ี 9 เร่อื งวงจร Flip-Flop

17) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจร T-Flip-Flop อีกครั้ง ใช้เวลา
(5 นาที)
A…… 18) ผูส้ อนสอนให้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3 คนตามความสมคั รใจ

19) ผู้สอนสอนแจกใบงานการทดลองหน่วยที่ 9 เรื่องวัดทดสอบคุณลกั ษณะทางไฟฟ้าของวงจร Flip-
Flop ให้ผ้เู รยี นแตล่ ะกลมุ่ ใช้เวลา (5 นาที)

20) ผู้สอนอธิบายข้ันตอนการทดลองใบงานการทดลองในหน่วยท่ี 9 เรื่องวัดทดสอบคุณลักษณะทาง
ไฟฟ้าของวงจร Flip-Flop พร้อมให้คาแนะนา ชี้แนะ และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนทุกกลุ่ม โดยใช้แบบ
สังเกตพฤตกิ รรมท่ี 9.1 ใช้เวลา (75 นาท)ี
P…… 21) ผเู้ รียนแต่ละกลุ่ม นาผลการทดลองและสรปุ ผลการทดลองออกมานาเสนอกลมุ่ ละ 3 นาที ใช้เวลา
ทั้งหมด (15 นาท)ี

22) ผู้สอนร่วมอภิปรายให้ข้อเสนอแนะประเมินผลการทดลองในหน่วยท่ี 9 เร่ืองวัดทดสอบ
คณุ ลกั ษณะทางไฟฟา้ ของวงจร Flip-Flop ใช้เวลา (15 นาท)ี

23) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเร่ืองค่านิยมของคนไทย ๑๒ ประการ และเศรษฐกิจ
พอเพยี งใช้เวลา (5 นาที)

24) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เรียนมาทั้งหมด และให้นักเรียนไปศึกษาเพิ่มเติมในบทเรียน
ออนไลนแ์ ละทาแบบทดสอบหลังเรียนใช้เวลา (10 นาที)

25) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรยี น และปิดระบบไฟฟ้าท้ังหมดใน
ช้ันเรยี น พรอ้ มกับยา้ เตอื นในการเขา้ ศึกษาในบทเรียนออนไลน์

6.ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

6.1 ใบความรู้หนว่ ยที่ 9 เรือ่ ง วงจร Flip-Flop

6.2 ใบงานหนว่ ยที่ 9 เรอ่ื ง วัดทดสอบคุณลกั ษณะทางไฟฟ้าของวงจร Flip-Flop

6.3 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 9 เร่อื ง วงจร Flip-Flop

6.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 9 เรือ่ ง วงจร Flip-Flop

6.5 สือ่ อเิ ล็กทรอนิกสห์ นว่ ยท่ี 9 เรอ่ื ง วงจร Flip-Flop

6.6 โปรแกรมจาลองการทางาน

102

7. หลกั ฐานการเรียนรู้

7.1 หลกั ฐานการเรยี นรู้
1) ผลของการทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 9 เรื่อง วงจร Flip-Flop

2) ผลการประเมนิ พฤติกรรมจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมที่ 9.1

7.2 หลักฐานการปฏบิ ัติงาน

1) ผลการทดลองในหน่วยท่ี 9 เร่ืองวัดทดสอบคุณลักษณะทางไฟฟ้าของวงจร Flip-Flop
2) แฟม้ สะสมผลงานของนกั เรยี น

8. การวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือ ผู้ประเมิน
1.แบบทดสอบหนว่ ยที่9 Flip-Flop ครูผู้สอน
1.อธิบายคณุ ลักษณะการทางาน 1.ทดสอบ
ของวงจร RS Flip Flop ได้
อยา่ งถูกต้อง

2. อธบิ ายคุณลักษณะการ
ทางานของวงจร D Flip Flop
ได้อย่างถกู ตอ้ ง

3. อธบิ ายคณุ ลกั ษณะการ 2.ต รว จผ ล ก าร 2.ใบงานการทดลองที่ 9 เร่ืองวัด ครผู ู้สอน/
ทางานของ JK Flip Flop ได้ นักเรยี น
อยา่ งถูกต้อง ปฏบิ ัติงาน ทดสอบคุณลักษณะทางไฟฟ้าของ
4. อธบิ ายคุณลักษณะการ ครผู ู้สอน
ทางานของ T Flip Flop ได้ 3.สั งเก ต ก ารณ์ วงจร Flip-Flop
อย่างถูกต้อง
5. วดั ทดสอบคณุ ลักษณะทาง ปฏิบตั ิงาน 3.แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน
ไฟฟา้ ของวงจร Flip Flop ตาม
ขัน้ ตอนได้อย่างถูกต้อง 4.แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร

6. ใฝห่ าความรู้ หม่ันศึกษาเล่า ปฏิบัติงาน
เรยี น ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม
4.สั ง เ ก ต 5.แบบสังเกตพฤติกรรมค่านยิ ม ขอ้
9. เอกสารอ้างองิ
พฤตกิ รรม (๔)

สุชิน ชนิ สหี .์ วงจรดิจิตอล. นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย จากดั ,2557
วรี ะพจน์ ปรีพูล และคณะ. ออปแอมปแ์ ละลเิ นยี ร์ไอซี.กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ศูนย์ส่งเสริมอาชวี ะ,2548
บนั ทกึ 380 วงจรไอซี.กรงุ เทพฯ: : สานกั พิมพ์ซเี อ็ดยเู คชนั่ ,2551

สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญ่ปี ุน่ ).เทคโนโลยีสารกึง่ ตวั นา.กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ดวงกมลสมัย จากดั

103

10. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

10.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปญั หาทพ่ี บ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 แนวทางแกป้ ัญหา

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

104

รายงานการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกบั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงช่ือ(……………………………………………………………)

หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า
…………/……………………………/………………..
เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
อ่นื ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชือ่ (……………………………………………………………)

รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
…………/……………………………/………………..
เห็นควรอนุญาตให้ใช้สอนได้
อืน่ ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอื่ (……………………………………………………………)

ผูอ้ านวยการวิทยาลัยการอาชพี กาญจนบรุ ี
…………/……………………………/………………..

105 หนว่ ยท่ี 10 ชว่ั โมง
จานวน 4
แผนการจัดการเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 10

ชอ่ื วิชา วงจรไอซีและการประยุกต์ใช้งาน ……………..……………………………………………………………………………………
ช่อื หน่วย วงจรนับ……………………………………………………………………………………………………………………………………...
ช่อื เรอื่ ง วงจรนับ………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.สาระสาคัญ

วงจรนับเป็นวงจรซีเควนเชียลที่มีความสาคัญในระบบดิจิตอล ประกอบด้วยฟลิปฟลอปหลาย ๆ ตัว
นามาต่อเข้าด้วยกันหรืออาจจะมีลอจิกเกตเป็นส่วนประกอบด้วยก็ได้ วงจรนับ ทาหน้าท่ีนับจานวนพัลส์
ส่ีเหล่ียมที่ป้อนเข้ามาทางอินพุต และแสดงผลทางเอาต์พุตเป็นเลขฐานสองหรือเลข ฐานสิบขึ้นอยู่กับการ
ออกแบบ วงจรนับแบ่งตามลักษณะการป้อนสัญญาณให้แก่วงจรได้ 2 ชนิด คือ วงจรนับแบบอะซิงโครนัสและ
วงจรนับแบบซิงโครนัสซึ่งวงจรนับทั้งสองแบบนี้สามารถออกแบบให้สามารถนับข้ึนและนับลงได้ โดยใช้ ฟลิป
ฟลอปแบบตา่ ง ๆ หรือใชไ้ อซีวงจรนบั ทั้งชนดิ ทีทแี อลและชนิดซีมอส ซึ่งปัจจุบันมผี ู้ออกแบบไอซีเพือ่ ใชง้ านเป็น
วงจรนับอยู่มากมายหลายแบบ เช่น ไอซีวงจรนับเลขฐานสองขนาด 4 บิต ไอซีวงจรนับ 10 ไอซีวงจรนับ
เลขฐานสองขึ้นลง เป็นต้น นอกจากน้ีวงจรนับยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกอยางหนึ่งก็คือใช้ทาหน้าท่ีเป็นวงจรหาร
ความถ่ีได้อกี ดว้ ย

2. สมรรถนะประจาหน่วย

10.1 ประกอบวดั ทดสอบคุณลกั ษณะการทางานของวงจรนบั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ประจาหนว่ ย

3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
เพอ่ื ให้นกั เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในคุณลักษณะสมบตั พิ ื้นฐานของวงจรนบั และมกี ิจนิสัยในการ

คน้ ควา้ ความรเู้ พ่ิมเติม

3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม / สมรรถนะประจาหนว่ ย
เมื่อผเู้ รียนเรยี นจบในหนว่ ยแล้วผู้เรยี นสามารถ
1. อธิบายคณุ ลกั ษณะการทางานของวงจรนับแบบอะซิงโครนัสได้อยา่ งถกู ต้อง
2. อธบิ ายคณุ ลกั ษณะการทางานของวงจรนับแบบซงิ โครนัสได้อย่างถกู ต้อง
3. วดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจรนบั ตามขัน้ ตอนได้อย่างถกู ต้อง
4. ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศกึ ษาเล่าเรียน ทั้งทางตรงและทางอ้อม

106

4. สาระการเรียนรู้

10.1 วงจรนับแบบอะซิงโครนสั (Asynchronous Counter)
วงจรนับแบบอะซิงโครนัส เรียกอีกช่ือหน่ึงว่าวงจรนับแบบริปเปิล (Ripple) หรือวงจรนับแบบไม่เข้า

จังหวะการทางานของวงจรนับแบบนี้ฟลิปฟลอปทุกตัวท่ีอยู่ในวงจรจะทางานไม่พร้อมกัน เพราะการป้อน
สัญญาณพัลซ์ทางอินพุตป้อนให้เฉพาะฟลิปฟลอปตัวแรกเท่านั้น เอาต์พุตของตัวแรกจะเป็นอินพุตของฟลิป
ฟลอปตัวถัดไป เพ่ือกระตุ้นให้ฟลิปฟลอปตัวถัดไปเปล่ียนแปลงสภาวะการทางาน ดังรูปท่ี 10.1 วงจรนับขึ้น
ขนาด 3Bit แบบอะซิงโครนัส

1J Q 1J Q 1J Q

CLK CLK CLK QC QB QA
1K Q 1K Q
1K Binary
B C
Q

A

รปู ที่ 10.1 วงจรนบั ข้ึนขนาด 3Bit แบบอะซิงโครนัส
จากรูปที่ 10.1 วงจรนับขึ้นขนาด 3Bit แบบอะซิงโครนัส เป็นวงจรนับที่นับเรียงจากน้อยไปหามาก
จากวงจรรูปท่ี 10. 1 เรียงจาก 000 ถึง 111(0 ถึง 7) ประกอบด้วยที ฟลิปฟลอปท่ีดัดแปลงมาจาก JK –
FlipFlop ชนิดเปลี่ยนแปลงการทางานที่พัลซ์แบบขอบขาหลังโดยต่อขา J และ K เข้ากับลอจิก “1” ฟลิป
ฟลอป A จะถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนแปลงสภาวะทางเอาต์พุตทุกคร้งั เมื่อไดร้ ับสญั ญาณนาฬกิ าเมอื่ ถึงพัลซ์ขอบขา
หลงั ส่วนฟลิปฟลอป B จะถูกกระตนุ้ ใหเ้ อาตพ์ ตุ เปลี่ยนสภาวะเมอ่ื ได้รบั พลั ซ์แบบขอบตามหลังจากเอาต์พตุ QA
สว่ นฟลปิ ฟลอป C จะถูกกระตุ้นให้เอาต์พุตเปลยี่ นสภาวะเมื่อได้รับพัลซแ์ บบขอบตามหลังจากเอาต์พุตQB เม่ือ
นาเอาต์พุตทั้ง QA ,QB และQC มาเขียนแผนภาพเวลาของเอาต์พุตทั้งสามตัวมารวมกันจะเห็นว่าเอาต์พุต
QC,QB และQA จะมีค่าเพ่ิมขั้นเป็นข้ันๆดังรูปที่ 10.2 Timing Diagramของวงจรนับขึ้นขนาด 3Bit แบบอะ
ซิงโครนสั

CLK 1 23 45 6789

QA

QB

QC 000 001 010 011 100 101 110 111 000

Binary

รปู ที่ 10.2 Timing Diagramของวงจรนับข้ึนขนาด 3Bit แบบอะซงิ โครนัส

107

จานวนพัลซ์ QC QB QA การนับฐานสิบ
0 000 0
1 001 1
2 010 2
3 011 3
4 100 4
5 101 5
6 110 6
7 111 7
8 000 0

ตารางท่ี 10.1 สถานะเอาต์พุตของวงจรนับข้นึ ขนาด 3Bit แบบอะซงิ โครนัส

10.2 วงจรนับแบบซงิ โครนัส (Synchronous Counter)
วงจรนบั แบบซงิ โครนัส เป็นวงจรนับท่ีฟลปิ ฟลอปในวงจรจะทางานพร้อมกันทุกตวั โดยอาศยั สัญญาณ

นาฬิกาเปน็ ตวั กาหนดให้เปลี่ยนสภาวะการทางาน การเลอื กฟลิปฟลอปมาออกแบบวงจรนับสามารถเลอื กได้ทง้ั
JK-FlipFlop และ D-FlipFlop การออกแบบวงจรต้องอาศัยตารางชว่ ยออกแบบคือ ตารางการนบั ตารางการ
กระตุ้น และแผนผงั คารโ์ นห์

OUTPUT INTPUT QDQC 10
QBQA 00 01 11
Qn Qn+1 J K
00
000x
011x 01
10x1
11x0 11

10

ตารางที่ 10.2 ตารางการกระตนุ้ และแผนผงั คาร์โนห์

108

ตวั อยา่ งการออกแบบ วงจรนับ6 (0-5) แบบซิงโครนสั โดยใช้ JK-FlipFlop มีขนั้ ตอนและวิธทื าดงั น้ี
1) กาหนดจานวนฟลปิ ฟลอปว่าในวงจรจะใชง้ านกตี่ วั จากตัวอย่างวงจรนับ 6 จะใช้ 3 ตวั
2) เขยี นตารางนับตามโจทยท์ ี่กาหนด

QC QB QA

0 000
1 001
2 010
3 011

4 100
5 101

0 000

ตารางท่ี 10.3 ตารางการนับ 6 (0-5)
3) เขียนตารางการเปลย่ี นแปลงเอาต์พุต และหาผลของอนิ พุตของฟลิปฟลอปแตล่ ะตวั ท่ีได้จากตาราง
การกระตนุ้ และนาค่าลอจิกท่ีไดไ้ ปลดรูปในแผนผังคาร์โนห์ โดยพิจารณาตามลาดับการนบั เริม่ จาก 0 ไป 1 ให้ดู
เอาต์พตุ ว่าสภาวะปจั จบุ ันเปน็ ลอจกิ ใด และสภาวะถัดไปเป็นลอจกิ ใด หลังจากน้ันให้ไปดูค่าอนิ พุตในช่องลอจิก
น้ันเปลีย่ นค่าจากตาราง10.3

01 QC QB QA Jc Kc JB KB JA KA
12
23 0 10 0 01 0x0 x1x
34 0 00 1 10 0x1 xx1
0 01 1 01 0xx 01x
45 0 11 0 10 1xx 1x1
50
1 10 0 01 x00 x1x
1 00 0 01 x10 xx1

ตารางท่ี 10.4 การเปลีย่ นแปลเอาต์พุต

109

4) นาผลของอินพุตจากการเปลีย่ นแปลเอาต์พุตจากตารางที่10.4 มาลดรูปโดยใชแ้ ผนผงั คาร์โนห์
ของฟลิปฟลอปให้ครบทงั้ สามตวั (คา่ ที่ไม่มีในตารางนบั ต้องเป็น don’t care term) ดงั ตารางที่ 10.5 การจบั คู่
เพือ่ ลดรปู สมการการหาค่าอินพุตของฟลปิ ฟลอป A,B และC

JA JK
QAQC1 QB QAQCx QB
1 x1 x xx
xx xx 11 x1

JA = 1 JK = 1

JB B
QAQC0 QB QAQCx QB
x x0 0 xx
1x x0 x1 xx

JC = C- A KB = 1

JC KC QB
QAQC0 QB QAQCx x
0 xx xx x0
01 xx x1

JC =B.A KC = A

ตารางที่ 10.5 การจับคูเ่ พ่ือลดรูปสมการการหาคา่ อนิ พตุ ของฟลิปฟลอป A,B และC
5) นาสมการท่ีลดรูปได้มาออกแบบวงจรนบั ดังรปู ท่ี 10.3 วงจรนบั 6 แบบซิงโครนัส

1J Q JQ JQ

CLK CLK CLK QC QB QA
1K Q 1K Q
1K Binary
B C
Q

A

รปู ท่ี 10.3 วงจรนบั 6 แบบซิงโครนสั

110

5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ี่ 10)

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ เรือ่ ง วงจรนบั
M…… 1) ครผู ู้สอนกลา่ วขอบคุณนักเรยี นทเี่ ข้าไปศึกษาและทาแบบฝกึ หัดก่อนการเรียนรู้ในบทเรียนออนไลน์
หน่วยท่ี 10 และครูทบทวนคุณสมบัตขิ อง FlipFlpo อกี ครั้งใชเ้ วลา (5 นาที)

2) ผู้สอนชี้แจงจุดประสงค์/สมรรถนะ การเรียนรู้เรื่องวงจรนับและเกณฑ์การวัดผลในหน่วยท่ี 10 ให้
ผ้เู รยี นไดท้ ราบใชเ้ วลา (5 นาท)ี

3) ครูผู้สอนได้ออกแบบวงจรนับ มาหนึ่งวงจรในโปรแกรมจาลองการทางานของวงจรให้นักเรียน ได้ดู
ทิศทางการนากระแสและรูปสัญญาณของวงจร และอธิบายคุณสมบัติการทางานของวงจรก่อนเริ่มทาการ
เรยี นรพู้ รอ้ มกัน (5นาท)ี

I…… 4) เน่ืองจากผู้สอนได้ใช้บทเรียนออนไลน์เป็นส่ือเสริมในการเรียนรู้ในรายวิชาน้ีจึงให้ผู้เรียนทา
แบบทดสอบกอ่ นเรียนในหนว่ ยที่ 10 เร่ืองวงจรนบั มาก่อนแลว้

5) ผู้สอนชแ้ี จงผลคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นก่อนทาการสอนในหนว่ ยที่ 10 ใชเ้ วลา (5 นาที)

6) ผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 10 เร่ืองวงจรนบั พร้อมกบั ให้ผเู้ รียนศึกษาในหวั ข้อท่ี 10.1 วงจรนับแบบอะ
ซิงโครนัส (Asynchronous Counter) จากใบความรใู้ ช้เวลา (10 นาท)ี

7) ผู้สอนอธิบายถึงคุณลักษณะการทางานของ วงจรนับแบบอะซิงโครนัส ด้วยส่ือการสอนท่ีครูผู้สอน
ได้จัดทาข้ึนและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผเู้ รยี นศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกบั สอบถามถึงความรู้
ทไ่ี ด้ ใชเ้ วลา (10 นาที) โดยใชส้ ื่อPower point หนว่ ยท่ี 10 เร่อื งวงจรนับ

8) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจรนับแบบอะซิงโครนัส อีกครั้ง ใช้
เวลา (5 นาที)

9) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อที่ 10.2 วงจรนับแบบซิงโครนัส (Synchronous Counter)
จากใบความรทู้ ่ี 10 เร่ือง วงจรนบั ใชเ้ วลา (10 นาท)ี

10) ผู้สอนอธิบายถึงคุณลักษณะการทางานของ วงจรนับแบบซิงโครนัส ด้วยสอ่ื การสอนทค่ี รูผู้สอนได้
จัดทาข้ึนและส่ือโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ท่ีให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ท่ี
ได้ ใชเ้ วลา (10 นาท)ี โดยใชส้ ่อื Power point หนว่ ยท่ี 10 เรื่องวงจรนบั

11ผสู้ อน และผู้เรียนรว่ มกนั สรปุ ถงึ คุณลักษณะการทางานของวงจรนับแบบซงิ โครนสั อกี ครัง้ ใช้เวลา
(5 นาท)ี

12) ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนร่วมกันศกึ ษาและออกแบบวงจรนับแบบซงิ โครนัสจากใบมอบงานท่ี 10.1 วงจรนับ
แบบซงิ โครนัสใชเ้ วลา (30 นาที)

13) ผสู้ อน และผู้เรียนร่วมกนั สรุป หลกั การออกแบบวงจรซนบั แบบซิงโครนสั อกี คร้ัง ใชเ้ วลา (5 นาที)
A…… 14) ผสู้ อนสอนให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คนตามความสมัครใจ

15) ผู้สอนสอนแจกใบงานการทดลองหน่วยท่ี 10 เรื่องประกอบวัดทดสอบคุณลักษณะทางไฟฟ้าของ
วงจรนบั ใหผ้ ้เู รยี นแต่ละกลมุ่ ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

16) ผู้สอนอธิบายขั้นตอนการทดลองใบงานการทดลองในหน่วยที่ 10 เรื่องประกอบวัดทดสอบ
คุณลักษณะทางไฟฟ้าของวงจรนับ พร้อมให้คาแนะนา ชี้แนะ และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนทุกกลุ่ม โดยใช้
แบบสังเกตพฤตกิ รรมท่ี 10.1 ใช้เวลา (60 นาที)

111

P…… 17) ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม นาผลการทดลองและสรปุ ผลการทดลองออกมานาเสนอกลุ่มละ 3 นาที ใช้เวลา
ทั้งหมด (15 นาที)

18) ผู้สอนร่วมอภิปรายให้ข้อเสนอแนะประเมินผลการทดลองในหน่วยที่ 10 เร่ืองประกอบวัดทดสอบ
คุณลกั ษณะทางไฟฟา้ ของวงจรนบั ใชเ้ วลา (15 นาท)ี

19) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเร่ืองค่านิยมของคนไทย ๑๒ ประการ และเศรษฐกิจ
พอเพียงใช้เวลา (5 นาที)

20) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่เรียนมาท้ังหมด และให้นักเรียนไปศึกษาเพ่ิมเติมในบทเรียน
ออนไลนแ์ ละทาแบบทดสอบหลงั เรียนใชเ้ วลา (10 นาที)

21) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรยี น และปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดใน
ชั้นเรยี น พร้อมกบั ย้าเตือนในการเขา้ ศึกษาในบทเรยี นออนไลน์

6.สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้

6.1 ใบความรู้หนว่ ยท่ี 10 เรือ่ ง วงจรนบั
6.2 ใบงานหน่วยท่ี 10 เรอ่ื ง ประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะทางไฟฟ้าของวงจรนับ
6.3 แบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยท่ี 10 เรือ่ ง วงจรนบั
6.4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยท่ี 10 เร่ือง วงจรนบั
6.5 สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกสห์ น่วยท่ี 10 เร่ือง วงจร วงจรนบั
6.6 โปรแกรมจาลองการทางาน

7. หลักฐานการเรยี นรู้

7.1 หลกั ฐานการเรยี นรู้
1) ผลของการทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 10 เรือ่ ง วงจรนบั
2) ผลการประเมินพฤติกรรมจากแบบสงั เกตพฤติกรรมที่ 10.1

7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
1) ผลการทดลองในหนว่ ยที่ 10 ประกอบวัดทดสอบคุณลักษณะทางไฟฟา้ ของวงจรนบั
2) แฟ้มสะสมผลงานของนักเรียน

112

8. การวดั และประเมนิ ผล

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื ผ้ปู ระเมนิ
ครผู สู้ อน
1.อธิบายคณุ ลักษณะการทางาน 1.ทดสอบ 1.แบบทดสอบหน่วยท่ี10 วงจรนับ
ครผู สู้ อน/
ของวงจรนับแบบอะซิงโครนสั นักเรยี น

ได้อย่างถูกตอ้ ง

2. อธิบายคณุ ลกั ษณะการ 2.ออกแบบวงจร 2.ใบมอบงานท่ี 10.1วงจรนับแบบ

ทางานของวงจรนับแบบ นับ ซิงโครนัส

ซิงโครนัสได้อย่างถูกต้อง

3. วัดทดสอบคณุ ลักษณะการ 3.ต รว จผ ล ก าร 3.ใบ ง า น ก า ร ท ด ล อ ง ท่ี 10เรื่ อ ง ครผู สู้ อน/
นกั เรียน
ทางานของวงจรนบั ตามขนั้ ตอน ปฏบิ ตั ิงาน ประกอบวัดทดสอบคุณลักษณะทาง
ครูผสู้ อน
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 4.สั งเก ต ก ารณ์ ไฟฟ้าของวงจรนับ

ปฏิบตั งิ าน 4.แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน

5.แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร

ปฏิบัติงาน

4. ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่า 5.สั ง เ ก ต 6.แบบสังเกตพฤติกรรมค่านยิ ม ขอ้

เรยี น ท้ังทางตรงและทางอ้อม พฤติกรรม (๔)

9. เอกสารอ้างองิ

สุชิน ชินสหี .์ วงจรดิจิตอล. นนทบรุ ี : ศนู ย์หนังสอื เมืองไทย จากดั ,2557
วีระพจน์ ปรพี ูล และคณะ. ออปแอมปแ์ ละลเิ นียร์ไอซี.กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ศูนย์ส่งเสริมอาชวี ะ,2548
บันทกึ 380 วงจรไอซี.กรุงเทพฯ: : สานักพมิ พ์ซีเอ็ดยเู คชั่น,2551
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญ่ีปนุ่ ).เทคโนโลยีสารกง่ึ ตวั นา.กรุงเทพฯ : บรษิ ทั ดวงกมลสมยั จากัด
ทมี งานสมาร์ทเลิร์นนง่ิ . Digital Learning By Doing ฉบับปรับปรงุ , กรุงเทพฯ : หา้ งหุ้นสว่ นสามัญสมาร์ท
เลิร์นน่งิ ,2555

113

10. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้

10.1 ข้อสรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาท่พี บ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 แนวทางแก้ปญั หา

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

114

รายงานการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกบั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงช่ือ(……………………………………………………………)

หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า
…………/……………………………/………………..
เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
อ่นื ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชือ่ (……………………………………………………………)

รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
…………/……………………………/………………..
เห็นควรอนุญาตให้ใช้สอนได้
อืน่ ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอื่ (……………………………………………………………)

ผอู้ านวยการวิทยาลัยการอาชพี กาญจนบรุ ี
…………/……………………………/………………..

115 หนว่ ยที่ 11
จานวน 12 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 11-13

ช่ือวิชา วงจรไอซแี ละการประยุกต์ใช้งาน ……………..……………………………………………………………………………………
ช่ือหน่วย วงจรแสดงผล (PjBL) ……………………………………………………………………………………………………………………
ชอื่ เร่ือง วงจรแสดงผล(PjBL) ………………………………………………………………………………………………………………………

1.สาระสาคัญ

วงจรแสดงผลมีหน้าท่ีแสดงค่าระดับสัญญาณ หรือค่าความหมายของข้อมูลท่ีจะแสดง ในหน่วยน้ีขอ
กล่าวถึงการแสดงผลดว้ ย LED, Lamp และLED 7Sigment

2. สมรรถนะประจาหน่วย

11.1 สร้างโครงงานอเิ ล็กทรอนิกส์ ตามข้นั ตอนและกระบวนการอย่างสร้างสรรค์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ประจาหน่วย

3.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในคุณลักษณะสมบัติพื้นฐานของอุปกรณ์และวงจรแสดงผลเพ่ือ

นาไปสู่การจดั ทาโครงงาน และมกี จิ นิสยั ในการค้นคว้าความรเู้ พ่มิ เตมิ

3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม / สมรรถนะประจาหน่วย
เมือ่ ผู้เรียนเรียนจบในหนว่ ยแลว้ ผเู้ รยี นสามารถ
1. อธบิ ายหลักการแสดงผลด้วยไดโอดเปล่งแสงไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. อธิบายหลกั การแสดงผลด้วยหลอดไฟได้อย่างถูกต้อง
3. อธิบายหลักการแสดงผลด้วยลาโพงเปยี โซได้อย่างถกู ต้อง
4. อธิบายหลกั การแสดงผลผ่านรเี ลย์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
5. อธิบายหลักการแสดงผลด้วยLED 7Sigment ได้อย่างถูกต้อง
6. อธิบายหลกั การแสดงผลผ่านอปุ กรณ์เช่ือมต่อทางแสงไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
7. วดั ทดสอบคณุ ลักษณะการทางานของอปุ กรณแ์ ละวงจรแสดงผลตามขั้นตอนได้อยา่ งถูกต้อง
8. ออกแบบและวางแผนโครงงานได้
9.ประดษิ ฐ์โครงงานจากอปุ กรณแ์ ละวงจรแสดงผลได้
10. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเลา่ เรียน ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม

116

4. สาระการเรยี นรู้

11.1 หลกั การแสดงผลด้วยไดโอดเปลง่ แสง
หลักการแสดงผลด้วยไดโอดเปล่งแสง (LED : Light Emitting Diode) จะเป็นการแสดงผลในลักษณะ

เป็น Logic Monitor คือจะแสดงผลว่าระดบั สญั ญาณทจี่ ุดน้นั เป็นระดับลอจิก “0” หรือ “1”
แรงดันท่ีทาให้ไดโอดสามารถเปล่งแสงได้จะอยู่ระหว่าง 1.5 Vถึง 2.5V ท้ังน้ีข้ึนอยู่กับสารที่นามาผลิต

เป็นตัวไดโอดเปล่งแสง ปริมาณกระแสท่ีไหลผ่านไดโอดเปล่งแสงไม่เกิน 20mA ไดโอดเปล่งแสงสามารถ
เปล่งแสงออกมาได้หลายสีตามชนิดของสารที่นามาผลิต เช่นสีแดงทามาจากแกลเลี่ยมอาร์เซไนด์ฟอสเฟส สี
เขียวทามาจากสารแกลเลี่ยมฟอสเฟส และแบบที่ให้แสงอินฟาเรดทามาจากสารแกลเล่ียมอาร์เซไนด์ เป็นต้น
ไดโอดเปลง่ แสงมีโครงสร้างและสัญลกั ษณด์ ังรปู ท่ี 11.1 โครงสร้างและสญั ลกั ษณข์ องไดโอดเปล่งแสง

A K

KA

รปู ที่ 11.1 โครงสร้างและสัญลกั ษณ์ของไดโอดเปลง่ แสง
จากรูปที่ 11.1 ไดโอดเปล่งแสงมีขาใชง้ าน 2 ขา คอื ขาแอโนด (Anode :A ) และขาแคโทด (Cathode
:K)ไดโอดเปล่งแสงจะทางานได้จะต้องจ่ายแรงดันไบแอสตรงนั้นคือจ่ายแรงดันไฟบวกเข้าที่ขาแอโนด (A) และ
แรงดันไฟลบท่ีขาแคโทด (K) และต้องมีตัวต้านทานต่ออนุกรมเพ่ือจากัดกระแสและแรงดันให้กับ
ไดโอดเปลง่ แสงดังรูปท่ี 11.2 วงจรแสดงผลโดยใชไ้ ดโอดเปลง่ แสง

Vin Rs
A
LED

IF

K

รูปที่ 11.2 วงจรแสดงผลโดยใชไ้ ดโอดเปลง่ แสง

117

จากวงจรเราสามารถหาคา่ ความตา้ นทาน RS ไดจ้ ากสูตร

RS  Vin  VF
IF

เมือ่ คือ แรงดันไฟตรงที่เขา้ มายงั วงจรแสดงผล
คือ แรงดันตกคร่อมขณะท่ีไดโอดเปลง่ แสงทางาน
Vin คือ คา่ กระแสที่ไหลผา่ นไดโอดเปลง่ แสงขณะได้รับไบแอสตรง
VF
IF

11.2 วงจรแสดงผลดว้ ยหลอดไฟ (Lamp)
วงจรแสดงผลดว้ ยหลอดไฟสว่ นมากนิยมใช้หลอดไส้ 12 VDC ทมี่ กี ระแสไหลผ่านเพียง 200mA ถงึ

300mA ซ่ึงจากคุณสมบตั ิของไอซี ดิจติ อล ไม่สามารถจา่ ยกระแสใหก้ ับหลอดไฟแบบนี้ได้โดยตรงจงึ ต้องมีวงจร
ขบั ภายนอกมาช่วยในการทางาน ทีน่ ิยมใช้ส่วนมากได้แกว่ งจรทรานซสิ เตอรด์ งั รูปที่ 12.3 วงจรแสดงผลดว้ ย
หลอดไฟ

Vcc+12V

Lamp

Rs
Transistor

รูปท่ี 11.3 วงจรแสดงผลดว้ ยหลอดไฟ

11.3 วงจรแสดงผลดว้ ยลาโพงเปยี โซ
เม่ือต้องการแสดงผลทางเสยี งโดยผ่านลาโพงเปียโซ ถ้าเป็นไอซีดจิ ิตอลตระกลู TTL แบบธรรมดา

สามารถขับกระแสไดป้ ระมาณ 24mA ก็สามารถขบั ลาโพงเปียโซได้โดยตรง แตถ่ ้าเป็นตระกลู CMOS กต็ ้องใช้
ทรานซสิ เตอรช์ ว่ ยในการขับกระแสดังรปู ที่ 11.4 วงจรแสดงผลดว้ ยลาโพงเปียโซ

Vcc+5V

Piezo/busser
Rs

Transistor

รูปที่ 11.4 วงจรแสดงผลด้วยลาโพงเปยี โซ

118

11.4 วงจรแสดงผลผ่านรเี ลย์
เม่อื ต้องการนาเอาต์พุตของวงจรไอซี ไปควบคุมอปุ กรณท์ ่ีใช้แหล่งจา่ ยไฟท่ีสูงหรือแตกต่างกัน และ

รูปแบบการใชง้ านต่างกันกต็ อ้ งใช้รีเลยเ์ ปน็ ตวั ควบคมุ หรอื เชื่อมต่อวงจรท่มี ีแหล่งจา่ ยตา่ งกันเขา้ ดว้ ยกนั โดยผ่าน
หนา้ สัมผสั ของรีเลยด์ ังรูปที่ 11.5 วงจรแสดงผลผา่ นรีเลย์

Vcc+12V

NC
Common

Rs NO
Transistor

รูปท่ี 11.5 วงจรแสดงผลผ่านรเี ลย์

11.5 หลกั การแสดงผลด้วย LED 7 Segment
โครงสรา้ งของ LED 7 Segment ประกอบขึน้ จาก LED จานวน 7 ตวั ทีบ่ รรจใุ นตวั ถังเดยี วกนั และ

จัดเรียงใหเ้ ป็นตวั เลขดังรปู ที่ 12.6 โครงสรา้ งของ LED 7 Segment โดยแตล่ ะสว่ นมชี ่อื เรยี กแตกต่างกันไป
ตามตาแหน่งทจี่ ัดวางคือ a, b, c, d, e, f, g และ dp LED 7 Segment ทีป่ ระกอบเป็นแผงจะมดี ว้ ยกนั 2
แบบคอื แบบ Common Cathode และ Common Anode

a a
ab b
c
f gb c d
d e

ece f
g
d dp f dp
g
Common
dp Anode

Common
Cathode

รปู ที่ 11.6 โครงสร้างของ LED 7 Segment

119

ในการตอ่ ใช้งาน LED 7 Segment ถ้าเลือกใช้งานแบบ Common Anode จะต้องต่อขา Common
เข้ากับแหล่งจ่ายVCC และจะต้องใช้ตัวต้านทานต่อใช้งานเพื่อจากัดกระแส แต่ถ้าเลือกใช้งานแบบ Common
Cathode จะต้องต่อขา Common เข้ากบั กราวด์ โดยทั่วไป LED 7 Segment จะใช้งานร่วมกับไอซีถอดรหัส
และวงจรนับ เช่นไอซีถอดรหัสเบอร์7447 ใช้ Common Anode ดังรูปที่ 11.7 วงจรขับ LED 7 Segment
แบบ Common Anode

+VCC +VCC

D 6 D a 13 a dp
C 2 C b 12 b
BCD B 1 B c 11 c
INPUT A 7 d 10 d
A 7447 e9 e
LT 3 f 15 f
RBI 5 LT g 14 g
RBI
BI/BRO 4 BI/BRO

รปู ที่ 11.7 วงจรขบั LED 7 Segment แบบ Common Anode

11.6 วงจรแสดงผลผ่านอปุ กรณ์เช่ือมต่อทางแสง
ในบางคร้งั ในการเช่ือมต่อวงจรสองวงจรเขา้ ด้วยกนั โดยผา่ นทางรเี ลย์อาจจะเกิดปัญหาจากหนา้ สมั ผัส

อาจจะทาให้วงจรเกิดทางานผิดพลาดได้ จงึ นิยมใชว้ งจรเช่ือมตอ่ กันทางแสงซึ่งจะทาให้อินพตุ กบั เอาต์พุตแยก
ออกกนั โดยส้นิ เชงิ ดงั รูปท่ี 11.8 วงจรแสดงผลผ่านอุปกรณ์เช่ือมต่อทางแสง

R1= 330 IC R2= 180 LAMP 220V
INPUT 1 MOC3010 4 220VAC

26

รปู ท่ี 11.8 วงจรแสดงผลผา่ นอปุ กรณ์เชื่อมต่อทางแสง

120

+Vcc

RA 84
7

RB 555 R1= 330
2 Timer
63 IC R2= 180 LAMP 220V
C1 1 5 1 MOC3010 4 G MT2
MT1 220VAC
C2=0.01uF

26

รปู ที่ 11.9 รปู แบบการนาไปใชง้ านของวงจรแสดงผลผา่ นอุปกรณ์เชอื่ มต่อทางแสง

121

5. กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 11)

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ เรือ่ ง วงจรแสดงผล (PjBL)
M…… 1) ครผู ู้สอนกล่าวขอบคุณนักเรียนทีเ่ ข้าไปศึกษาและทาแบบฝกึ หัดก่อนการเรียนรู้ในบทเรียนออนไลน์
หน่วยท่ี 10 และครทู บทวนคณุ สมบัตขิ องวงจรนับอีกคร้งั ใช้เวลา (5 นาที)

2) ผู้สอนชี้แจงจุดประสงค์/สมรรถนะ การเรียนรู้เร่ืองวงจรนับและเกณฑ์การวัดผลในหน่วยท่ี 11 ให้
ผูเ้ รียนได้ทราบใชเ้ วลา (5 นาท)ี

3) ครูผู้สอนไดอ้ อกแบบวงจรแสดงผล มาหน่ึงวงจรในโปรแกรมจาลองการทางานของวงจรให้นักเรียน
ได้ดูทิศทางการนากระแสและรูปสัญญาณของวงจร และอธิบายคุณสมบัติการทางานของวงจรก่อนเริ่มทาการ
เรยี นรพู้ รอ้ มกัน (5นาที)

I…… 4) เนื่องจากผู้สอนได้ใช้บทเรียนออนไลน์เป็นส่ือเสริมในการเรียนรู้ในรายวิชานี้จึงให้ผู้เรียนทา
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นในหน่วยท่ี 11 เรอ่ื งวงจรวงจรแสดงมาก่อนแลว้

5) ผสู้ อนชี้แจงผลคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นก่อนทาการสอนในหน่วยที่ 11 ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

6) ผสู้ อนแจกใบความรูท้ ี่ 11 เรอื่ งวงจรแสดงผลกบั ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาในหัวข้อท่ี 11.1 หลกั การแสดงผล
ด้วยไดโอดเปล่งแสงจากใบความรู้ใช้เวลา (10 นาท)ี

7) ผู้สอนอธิบายถงึ หลกั การแสดงผลด้วยไดโอดเปลง่ แสงด้วยสอื่ การสอนที่ครผู ู้สอนได้จดั ทาข้ึนและสื่อ
โปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ท่ีให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ที่ได้ ใช้เวลา (10
นาท)ี โดยใช้ส่ือPower point หนว่ ยท่ี 11 เรื่องวงจรแสดงผล

8) ผู้สอน และผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุป ถงึ หลักการแสดงผลดว้ ยไดโอดเปล่งแสงอกี ครง้ั ใช้เวลา (5 นาที)
9) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อท่ี 11.2 วงจรแสดงผลด้วยหลอดไฟ (Lamp)จากใบความรู้ที่
11 เร่อื ง วงจรแสดงผล (5 นาที)
10) ผู้สอนอธิบายถึงคุณลักษณะการทางานของ วงจรแสดงผลด้วยหลอดไฟ (Lamp) ด้วยส่ือการสอน
ที่ครูผู้สอนได้จัดทาขึ้นและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับ
สอบถามถึงความรู้ท่ีได้ ใชเ้ วลา (10 นาที) โดยใชส้ อื่ Power point หน่วยที่ 11 เรอื่ งวงจรแสดงผล

11) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจรแสดงผลด้วยหลอดไฟ (Lamp)
อกี ครัง้ ใชเ้ วลา (5 นาที)

12) ผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นร่วมกันศึกษาในหัวข้อท่ี 11.3วงจรแสดงผลด้วยลาโพงเปียโซ จากใบความรู้ท่ี 11
เร่ือง วงจรแสดงผล (5 นาท)ี

13) ผสู้ อนอธบิ ายถงึ คุณลกั ษณะการทางานของ วงจรแสดงผลด้วยลาโพงเปียโซดว้ ยสื่อการสอนที่
ครผู ูส้ อนได้จัดทาข้นึ และส่อื โปรแกรมจาลองการทางาน และผเู้ รยี นศกึ ษาตามใบความรู้ทใ่ี ห้พร้อมกับสอบถาม
ถึงความรทู้ ี่ได้ ใชเ้ วลา (10 นาท)ี โดยใชส้ ่ือPower point หน่วยท่ี 11 เรอ่ื งวงจรแสดงผล

14) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจรแสดงผลด้วยลาโพงเปียโซอีก
ครงั้ ใช้เวลา (5 นาที)

15) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อที่ 11.4วงจรแสดงผลผ่านรีเลย์ จากใบความรู้ที่ 11 เร่ือง
วงจรแสดงผล (5 นาที)

122

16) ผสู้ อนอธบิ ายถึงคุณลกั ษณะการทางานของ วงจรแสดงผลผ่านรีเลย์ ด้วยสื่อการสอนท่ีครูผสู้ อนได้
จัดทาข้ึนและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ท่ี
ได้ ใช้เวลา (10 นาที) โดยใชส้ ่ือPower point หนว่ ยที่ 11 เร่ืองวงจรแสดงผล

17) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจรแสดงผลผ่านรีเลย์ อีกคร้ัง ใช้
เวลา (5 นาท)ี

18) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อที่ 11.5 หลักการแสดงผลด้วย LED 7 Segmentจากใบ
ความรู้ที่ 11 เร่ือง วงจรแสดงผล (10 นาที)

19) ผู้สอนอธิบายถึงหลักการแสดงผลด้วย LED 7 Segment ด้วยส่ือการสอนท่ีครูผู้สอนได้จัดทาขึ้น
และส่ือโปรแกรมจาลองการทางาน และผ้เู รยี นศกึ ษาตามใบความรทู้ ี่ให้พรอ้ มกบั สอบถามถงึ ความรทู้ ไี่ ด้ ใช้เวลา
(10 นาท)ี โดยใช้สอื่ Power point หนว่ ยที่ 11 เรือ่ งวงจรแสดงผล

20) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงหลักการแสดงผลด้วย LED 7 Segmentอีกคร้ัง ใช้เวลา (5
นาที)

21) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อท่ี 11.6 วงจรแสดงผลผ่านอุปกรณ์เช่ือมต่อทางแสงจากใบ
ความรูท้ ี่ 11 เร่อื ง วงจรแสดงผล (10 นาที)

22) ผู้สอนอธิบายถึงหลักการของวงจรแสดงผลผ่านอุปกรณ์เช่ือมต่อทางแสงด้วยส่ือการสอนท่ี
ครูผู้สอนได้จัดทาข้ึนและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับสอบถาม
ถึงความรู้ทีไ่ ด้ ใชเ้ วลา (10 นาท)ี โดยใชส้ ่ือPower point หน่วยที่ 11 เรือ่ งวงจรแสดงผล

23) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงหลักการทางานของวงจรแสดงผลผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อทางแสง
อกี คร้ัง ใชเ้ วลา (5 นาท)ี
A…… 24) ผสู้ อนสอนใหน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3 คนตามความสมคั รใจ

25) ผู้สอนสอนแจกใบงานการทดลองหน่วยท่ี 11 เร่อื งประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของ
อปุ กรณ์และวงจรแสดงผล ให้ผู้เรยี นแต่ละกลุ่ม ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

26) ผู้สอนอธิบายข้ันตอนการทดลองใบงานการทดลองในหน่วยท่ี 11 เรื่องประกอบวัดทดสอบ
คุณลักษณะการทางานของอุปกรณ์และวงจรแสดงผล พร้อมให้คาแนะนา ช้ีแนะ และสังเกตพฤติกรรมของ
ผู้เรียนทุกกลุ่ม โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมท่ี 11.1 ใช้เวลา (60 นาท)ี

P…… 27) ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่ม นาผลการทดลองและสรุปผลการทดลองออกมานาเสนอกลมุ่ ละ 3 นาที ใช้เวลา
ทัง้ หมด (15 นาท)ี

28) ผู้สอนร่วมอภปิ รายให้ข้อเสนอแนะประเมินผลการทดลองในหน่วยที่ 11 เร่ืองประกอบวัดทดสอบ
คณุ ลักษณะการทางานของอปุ กรณ์และวงจรแสดงผล ใช้เวลา (15 นาท)ี

29) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเร่ืองค่านิยมของคนไทย ๑๒ ประการ และเศรษฐกิจ
พอเพียงใช้เวลา (5 นาที)

30) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีเรียนมาท้ังหมด และให้นักเรียนไปศึกษาเพิ่มเติมในบทเรียน
ออนไลน์และทาแบบทดสอบหลังเรยี นใช้เวลา (10 นาท)ี

123

กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 11) คูข่ นานกับการเรียนรู้ในเนื้อหาภายในหน่วย

การจดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน เรอ่ื ง วงจรแสดงผล (PjBL) ขั้นตอนที่ 1-3
M…… 31) ครูเตรียมความพร้อมให้นักเรียนในการจัดทาโครงงาน โดยอธิบายถึงความสาคัญของการทา
โครงงานอิเล็กทรอนิกส์หลังจากเราได้เรยี นรู้วงจรแสดงผล มาแลว้ เราต้องมคี วามสามารถนาความรู้ แนวคดิ มา
ประดิษฐโ์ ครงงานได้
I…… 32) ครผู ู้สอนแจกในความรทู้ ี่ 11.2 การเขยี นโครงรา่ งของโครงงาน พร้อมอธิบายหลักการเขยี น
โครงงาน ใชเ้ วลา (20 นาที)

33) ครผู สู้ อนร่วมเสนอแนวความคิดกบั ผเู้ รยี นในการคิดประดิษฐ์โครงงาน พรอ้ มทงั้ แจกใบมอบงาน
หนว่ ยที่ 11 เขยี นโครงร่างโครงงานวงจรแสดงผล (PjBL) ใช้เวลา (20 นาท)ี
A…… 34) ครผู สู้ อนให้นักเรยี นที่แบ่งกลุม่ ตามความสมัครใจกลุม่ ละ-ไมเ่ กนิ 3 คน ชว่ ยกันระดมสมองเพ่อื
ศึกษา หัวข้อ ปญั หา ในสิง่ ที่จะทาเพ่อื แสดงความรู้ถงึ ส่งิ ท่ีได้เรยี นมา

35) นักเรียนคัดเลือกหวั ข้อโครงงานที่มีความเป็นไปไดใ้ นการจดั ทาตามความเหมาะสมของเวลา และ
ความร้คู วามสามารถของนกั เรยี นมาหน่งึ หวั ข้อ เพอ่ื ขอคาแนะนาจากครูผสู้ อน

36) นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาหวั ข้อที่ได้คัดเลือกไว้มาเขยี นเค้าโครงตามแบบฟอร์มทีก่ าหนด
37) ครูให้คาแนะนา ชีแ้ นะ และสงั เกตการปฏบิ ัตงิ านของนักศกึ ษาทุกกลุม่ อย่างใกลช้ ิดใช้เวลา
38) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเรอ่ื งคา่ นยิ มของคนไทย ๑๒ ประการใช้เวลา (15
นาท)ี
39) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรยี น และปิดระบบไฟฟ้าท้ังหมดใน
ช้ันเรียน พร้อมกับย้าเตอื นในการเขา้ ศึกษาในบทเรียนออนไลน์

กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ี่ 12)

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เร่ือง วงจรแสดงผล (PjBL) ขั้นตอนท่ี 1-3 ตอ่ จาก สัปดาห์
ท1ี่ 1
P…… 40) ครูผูส้ อนให้นกั เรียนนาเสนอหวั ขอ้ โครงงานในห้องเรยี นเพอ่ื ให้เพ่ือนในห้องร่วมซกั ถามและ
อภปิ รายใช้เวลา (60 นาที)

41) ครูผสู้ อนรว่ มอภปิ ราย ให้ข้อเสนอแนะ และประเมินผลโครงงานของแตล่ ะกลุ่ม
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เร่ือง วงจรแสดงผล (PjBL) ขน้ั ตอนที่ 4
M…… 1) ครูผู้สอนสรุปการนาเสนอหัวข้ออีกครั้งพร้อมกล่าวช่ืนชม และเสริมแรงโดยการให้ทุกคนปรบมือ
ใหก้ บั ตนเอง
I…… 2) ครูผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 11.3 เร่ืองการเขียนรายงานโครงงาน และการนาเสนอผลงาน พร้อม
อธบิ ายใหผ้ เู้ รยี นฟงั และซกั ถาม
A…… 3) ครูผูส้ อนให้นักเรียนเขียนรายงานโครงงานบทท่ี 1-3

4) ครผู ู้สอนให้คาแนะนา ช้ีแนะ และสังเกตการปฏิบัตงิ านของนักศึกษาทุกกลุ่มอยา่ งใกล้ชดิ

124

P…… 5) ครูผ้สู อนให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ นาเสนอแผนการปฏบิ ตั งิ านตามโครงงาน
6) ครูผสู้ อนให้ขอ้ เสนอแนะ ประเมนิ ผลงาน นดั หมายแตล่ ะกลมุ่ ปฏิบัติงานตามโครงงาน จัดทา

รายงานโครงงาน และนาเสนอโครงงานในสัปดาหท์ ่ี 13

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 13)

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เรือ่ ง วงจรแสดงผล (PjBL) (PjBL) ข้ันตอนท่ี 5-6
M…… 1) ครผู ้สู อนสาธติ การนาเสนอผลงานใหน้ กั เรียนได้ดู
I…… 2) ครูผู้สอนชี้แจงวธิ ีการนาเสนอผลงานว่าแตล่ ะกล่มุ
A…… 2) นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงาน
P…… 3) ครผู ู้สอนกลา่ วชนื่ ชม พร้อมทัง้ ใหข้ ้อเสนอแนะ และประเมินผลงาน

4) ผสู้ อนเสรมิ คุณธรรมดว้ ยการสอนสอดแทรกเร่ืองคา่ นยิ มของคนไทย ๑๒ ประการ
5) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรียน และปิดระบบไฟฟ้าท้ังหมดใน
ชน้ั เรยี น พร้อมกับยา้ เตือนในการเข้าศกึ ษาในบทเรยี นออนไลน์

6.ส่ือและแหล่งการเรียนรู้

6.1 ใบความรู้หน่วยที่ 11 เร่ือง วงจรแสดงผล
6.2 ใบงานหน่วยที่ 11 เร่ือง ประกอบวัดทดสอบคณุ ลักษณะการทางานของอปุ กรณ์และวงจรแสดงผล
6.3 แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยท่ี 11 เรอื่ ง วงจรแสดงผล
6.4 แบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยท่ี 11 เร่อื ง วงจรแสดงผล
6.5 สอื่ อิเลก็ ทรอนิกสห์ นว่ ยที่ 11 เร่ือง วงจรแสดงผล
6.6 โปรแกรมจาลองการทางาน
6.7 ใบมอบหมายงานหนว่ ยที่ 11
6.8 ใบความร้ทู ่ี 11.2 การเขยี นโครงรา่ งโครงงาน
6.9 ใบความรทู้ ่ี 11.3 เรือ่ งการเขยี นรายงานโครงงาน

7. หลักฐานการเรยี นรู้

7.1 หลกั ฐานการเรียนรู้
1) ผลของการทดสอบหลังเรียนหนว่ ยท่ี 11 เร่อื ง วงจรแสดงผล
2) ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมท่ี 11.1

7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1) ผลการทดลองในหน่วยที่ 11 ประกอบวัดทดสอบคุณลักษณะการทางานของอุปกรณ์และ

วงจรแสดงผล
2) แฟม้ สะสมผลงานของนักเรยี น
3) โครงงานทีเ่ สรจ็ สมบรู ณ์

125

8. การวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม วิธกี ารวัด เครือ่ งมือ ผ้ปู ระเมิน
1.ทดสอบ ครูผู้สอน
1. อธบิ ายหลกั การแสดงผลด้วย 1.แบบทดสอบหน่วยที่ 11 วงจร
ไดโอดเปลง่ แสงได้อยา่ งถูกต้อง แสดงผล ครูผ้สู อน/
นักเรยี น
2. อธบิ ายหลกั การแสดงผลด้วย
หลอดไฟได้อย่างถูกต้อง ครู/นักเรียน
ครูผู้สอน
3. อธบิ ายหลักการแสดงผลด้วย
ลาโพงเปียโซได้อย่างถูกต้อง ครู
ครูผ้สู อน
4. อธบิ ายหลักการแสดงผลผ่าน ครูผสู้ อน/
รีเลย์ได้อยา่ งถกู ต้อง เรียน/
ผ้ปู กครอง
5. อธบิ ายหลกั การแสดงผลด้วย
LED 7Sigment ได้อยา่ งถูกต้อง ครผู สู้ อน

6. อธิบายหลกั การแสดงผลผ่าน
อุปกรณ์เช่อื มต่อทางแสงได้
อยา่ งถูกต้อง

7. วัดทดสอบคณุ ลักษณะการ 2.ต รว จ ผ ล ก าร 2.ใบงานการทดลองที่11 ประกอบ
ทางานของอปุ กรณแ์ ละวงจร ปฏิบตั ิงาน วัดทดสอบคุณลักษณะการทางาน
แสดงผลตามข้ันตอนได้อยา่ ง 3.สั งเก ต ก าร ณ์ ของอปุ กรณ์และวงจรแสดงผล
ถกู ต้อง ปฏบิ ัติงาน

3.แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน

8.ออกแบบและวางแผน 4.สงั เกตการณ์ 4.แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร
โครงงานได้ ปฏบิ ตั งิ าน ปฏิบัติงาน

5.แบบสังเกต

5.ตรวจเค้าโครง 6.แบ บ ป ระเมิ น แ บ บ ม าต รส่ว น

ของโครงงาน ประมาณค่า(รูบิค)

9.ประดิษฐโ์ ครงงานดว้ ยอปุ กรณ์ 6.ประเมนิ 7.แบบสงั เกต
8.แบ บ ป ระเมิ น แบ บ ม าต รส่ว น
และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไดต้ าม ความก้าวหน้า
ขั้นตอนและกระบวนการ
7.ตรวจผลการ

ปฏิบตั งิ าน ประมาณคา่ (รูบิค)

8.ประเมินผลงาน 9.แบ บ ป ระเมิ น แบ บ ม าต รส่ว น

โครงงาน ประมาณคา่ (รูบิค)

10. ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเล่าเรยี น 9.สังเกตพฤตกิ รรม 10.แบบสังเกตพฤติกรรมค่านยิ ม ข้อ(๔)
ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม

126

9. เอกสารอา้ งอิง

สชุ นิ ชินสหี .์ วงจรดิจิตอล. นนทบรุ ี : ศนู ยห์ นังสือเมืองไทย จากัด,2557
วีระพจน์ ปรีพูล และคณะ. ออปแอมป์และลิเนยี ร์ไอซี.กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ศนู ย์ส่งเสริมอาชวี ะ,2548
บันทึก 380 วงจรไอซี.กรุงเทพฯ: : สานักพิมพ์ซเี อ็ดยเู คชนั่ ,2551
สมาคมสง่ เสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญป่ี นุ่ ).เทคโนโลยสี ารกึง่ ตวั นา.กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท ดวงกมลสมยั จากัด
ทีมงานสมาร์ทเลริ ์นนง่ิ . Digital Learning By Doing ฉบับปรบั ปรงุ , กรุงเทพฯ : หา้ งห้นุ สว่ นสามญั สมารท์
เลริ น์ นง่ิ ,2555

127

10. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

10.1 ขอ้ สรปุ หลังการจดั การเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปญั หาทพ่ี บ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 แนวทางแกป้ ัญหา

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

128

รายงานการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกบั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงช่อื (……………………………………………………………)

หัวหน้าหมวด / แผนกวชิ า
…………/……………………………/………………..
เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
อ่นื ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอ่ื (……………………………………………………………)

รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
…………/……………………………/………………..
เห็นควรอนุญาตให้ใช้สอนได้
อืน่ ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอื่ (……………………………………………………………)

ผูอ้ านวยการวิทยาลัยการอาชพี กาญจนบรุ ี
…………/……………………………/………………..

129 หนว่ ยท่ี 12 ช่วั โมง
จานวน 4
แผนการจัดการเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 14

ช่อื วิชา วงจรไอซแี ละการประยุกต์ใชง้ าน ……………..……………………………………………………………………………………
ช่ือหน่วย Regulator IC …………………………………………………………………………………………………………………………….
ชื่อเร่อื ง Regulator IC ……………………………………………………………………………………………………………………………….

1.สาระสาคญั

ไอซี เรก็ กูเลเตอร์ (Regulator IC ) หรือ ไอซี แรงดันอ้างอิง คือ ไอซีท่ีหนา้ ทรี่ ักษาแรงดนั ที่เอาต์พุต
ของแหล่งจ่ายไฟไห้คงท่ีไม่ว่าโหลดจะเปลี่ยนแปลงไป วงจรเร็กกูเลเตอร์แบ่งออกเป็น 3 อย่างคือ เร็กกูเลเตอร์
แบบอนุกรม (Series Regulator) เรก็ กเู ลเตอร์แบบขนาน (Shunt Regulator) และเรก็ กูเลเตอร์แบบสวิตชิ่ง

2. สมรรถนะประจาหน่วย

12.1 ประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจร Regulator IC

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ประจาหนว่ ย

3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
เพอื่ ให้นักเรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในคุณลักษณะสมบตั ิพ้ืนฐาน Regulator IC และมีกิจนิสยั ในการ

คน้ ควา้ ความรู้เพมิ่ เติม

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม / สมรรถนะประจาหนว่ ย
เมอ่ื ผู้เรยี นเรยี นจบในหนว่ ยแล้วผ้เู รียนสามารถ
1. อธิบายหลักการเร็กกเู ลเตอรแ์ บบขนานได้อย่างถูกต้อง
2. อธิบายหลักการเร็กกเู ลเตอรแ์ บบอนกุ รมได้อย่างถูกต้อง
3. อธิบายหลักการของไอซี เร็กกูเลเตอรส์ ามขาชนดิ จา่ ยแรงดนั คงท่ีได้อย่างถูกต้อง
4. วัดทดสอบคณุ ลักษณะการทางานของวงจร Regulator IC ตามข้ันตอนได้อยา่ งถกู ต้อง
5. ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรียน ทั้งทางตรงและทางอ้อม

130

4. สาระการเรยี นรู้

12.1. เรก็ กเู ลเตอร์แบบขนาน (Shunt Regulator)
การทางานของวงจรเร็กกเู ลเตอรแ์ บบขนานดงั รปู ท่ี 12.1 แสดงแผนผังการทางานของเร็กกูเล

เตอรแ์ บบขนาน โดยมแี รงดนั อินพุท VIN จา่ ยใหก้ ับวงจร มตี วั ต้านทาน RS ทาหน้าท่ีในการจากดั กระแสที่จะ
ไหลผ่านวงจรทั้งหมด ตวั ตา้ นทานทป่ี รับค่าได้ RP จะทาการปรบั คา่ เองโดยอตั โนมตั ิเพ่ือให้แรงดนั ทเี่ อาท์พุท
คงทีต่ ลอด สมการของแรงดนั เอาท์พุท

VO = VIN – RS (IO + IP)

Iin Rs Io

Vin Rp Vo
Ip

รปู ท่ี 12.1 แสดงแผนผงั การทางานของเร็กกเู ลเตอรแ์ บบขนาน

ตัวอย่างของวงจรประเภทน้ีได้แก่วงจรเร็กกเู ลเตอร์ท่ีใช้ตัวต้านทานต่อกับซีเนอรไ์ ดโอด ซ่ึง
RP ในท่ีนี้ก็คือซีเนอร์ไดโอดนั่นเองดังรูปที 12.2 แสดงแผนผังการทางานของเร็กกูเลเตอร์แบบ
ขนาน

Iin Rs Io
Vin
Zd
Iz

รปู ที่ 12.2 แสดงแผนผังการทางานของเรก็ กเู ลเตอร์แบบขนาน

12.2. เรก็ กูเลเตอรแ์ บบอนกุ รม (Series Regulator)
หลักการทางานของเร็กกูเลเตอร์แบบอนกุ รมนี้ แสดงในรูปที่ 12.3 แสดงแผนผังการทางานของเร็กกเู ล

เตอรแ์ บบอนุกรมโดยมีการจ่ายแรงดันที่ยังไม่ได้มกี ารเรก็ กูเลตไปยัง RP โดย RP จะปรบั คา่ ความต้านทานของ
ตวั เองได้อัตโนมัติ ทาใหเ้ กิดแรงดันตกคร่อมที่ RP ค่าหนึ่ง จะได้แรงดนั เอาท์พุทเท่ากับ แรงดนั อนิ พทุ ลบดว้ ย
แรงดันตกครอ่ มในตัวเรก็ กูเลเตอร์ ซ่งึ ผลของการปรับค่า RP ท่ีถูกต้อง กจ็ ะทาให้ได้แรงดนั เอาทพ์ ุทตามท่ี
ต้องการ และจากหลกั การทางานของเร็กกเู ลเตอรช์ นดิ นีเ้ องท่ีได้นามาประยุกต์ทาเป็นไอซเี ร็กกเู ลเตอร์เบอร์
ต่างๆ ทง้ั เบอร์ 78XX เบอร์ 79XX และอื่นๆ อีก

131

Vin Rp Vo

รูปที่ 12.3 แสดงแผนผังการทางานของเรก็ กูเลเตอรแ์ บบอนกุ รม
แผนผังวงจรพ้ืนฐานของเร็กกูเลเตอร์ชนิดน้ี สามารถแบ่งออกได้ 3 ภาค ดังแสดงในรูปท่ี 12.4แสดง
แผนผังวงจรพ้นื ฐานของเรก็ กเู ลเตอรแ์ บบอนกุ รม ประกอบไปดว้ ย

1) วงจรแรงดันอ้างอิง (Voltage Referent) ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นอิสระต่อทั้งอุณหภูมิและแรงดันท่ี
จา่ ยใหก้ ับเรก็ กเู ลเตอร์

2) วงจรขยายความผิดพลาด (Error Amplifier) ทาหน้าท่ีคอยเปรียบเทียบแรงดัน ระหว่าง
แรงดนั อ้างองิ และสดั ส่วนของแรงดันเอาท์พทุ ท่ปี อ้ นกลบั มาทีข่ าอินเวอร์ติ้งของออปแอมป์

3) ซีรีส์พาสทรานซิสเตอร์ (Series Transistor) ทาหน้าท่ีจ่ายกระแสเอาท์พทุ ให้เพียงพอกบั ความ
ตอ้ งการองโหลด

เมื่อป้อนแรงดันอินพทุ ให้กับไอซีเร็กกูเลเตอร์ แรงดันเอาท์พุทจะถกู ป้อนมายงั อินพุทโดย R1 และ
R2 ทาหนา้ ทเ่ี ป็นวงจรแบ่งแรงดัน ซึ่งแรงดันท่ีตกคร่อม R2 จะเป็นสัดสว่ นกบั แรงดนั ท่ีเอาท์พทุ วงจรขยายความ
ผิดพลาดจะทาหน้าท่ีรักษาสดั ส่วนของแรงดนั อา้ งอิงกบั แรงดันที่ตกคร่อม R2 ให้เท่ากัน

ถ้าแรงดัน VR2 มากกว่า VREF วงจรขยายความผิดพลาดจะลดระดับการขยายสัญญาณเอาท์พุท
ทาให้ทรานซิสเตอรจ์ ่ายกระแสลดลงเป็นผลใหแ้ รงดนั เอาทพ์ ทุ ทจี่ ่ายให้โหลดลดลงดว้ ย

ถ้าแรงดัน VR2 น้อยกว่า VREF วงจรขยายความผิดพลาดจะเพิ่มระดับการขยายสัญญาณเอาท์พุท
ทาใหท้ รานซิสเตอร์จา่ ยกระแสเพิม่ ขนึ้ เป็นผลให้แรงดนั เอาท์พุททจี่ า่ ยใหโ้ หลดเพ่มิ ข้ึนด้วย

+V +V
+V Q1

Q2

R1

R2

รปู ที่ 12.4 แสดงแผนผงั วงจรพ้นื ฐานของเรก็ กเู ลเตอร์แบบอนกุ รม

132

12.3 ไอซี เรก็ กเู ลเตอรส์ ามขาชนดิ จา่ ยแรงดันคงที่

ไอซี เรก็ กเู ลเตอร์ ภายในประกอบดว้ ยวงจรเร็กกเู ลเตอรแ์ บบอนกุ รม มีขาต่อใชง้ าน 3 ขา

ประกอบดว้ ยขา อินพุท เอาทพ์ ทุ และกราวด์ ซ่ึงจะจา่ ยแรงดนั คา่ ใดคา่ หน่ึงโดยเฉพาะ โดยรวมเอาส่วนของ
วงจรป้อนกลบั ท่ปี ระกอบด้วย R1 และ R2 ดังรูปที่ 12.5 เขา้ ไว้เปน็ ส่วนหนงึ่ ของไอซี ซงึ่ จุดน้ีน่ีเองที่แตกตา่ งไป
จากไอซี เรก็ กูเลเตอร์ทีป่ รบั ค่าได้

In IC Regulator Out

รูปท่ี 12.5 แสดงการตอ่ ไอซี เรก็ กเู ลตอร์ใช้งานแบบง่ายๆ
จดุ เดน่ ของไอซี เรก็ กเู ลเตอรค์ ่าคงท่ีนค้ี ือ สามารถต่อวงจรได้ง่ายไม่ต้องต่ออปุ กรณภ์ ายนอกเพิ่มเตมิ มาก

นกั ตวั อยา่ งวงจรการใช้งาน ดังแสดงในรูปท่ี 12.5 ในการตอ่ วงจรบางครั้งจาเปน็ ตอ้ งต่อไอซีเร็กกูเลเตอร์ห่าง
จากแหลง่ จา่ ยไฟอินพุทเกิน 5 เซนตเิ มตร จงึ ควรใส่ตวั เกบ็ ประจุอิเล็กทรอไลต์ ขนาดประมาณ 10 uF สกั ตัวไว้
ดา้ นอินพุท เพื่อป้องกนั การเกิดออสซิลเลตท่ีความถ่ีสูง ซ่ึงจะทาให้วงจรขาดเสถยี รภาพดังรูปที่12.6 แสดงการ
ตอ่ คาปาซเิ ตอร์รว่ มกับไอซเี ร็กกูเลตอรเ์ พ่ือปอ้ งกนั การเกิดออสซลิ เลต

In IC Regulator Out

+ 10uF

รปู ท่ี 12.6 แสดงการต่อคาปาซเิ ตอรร์ ว่ มกับไอซี เร็กกเู ลตอร์เพ่ือปอ้ งกนั การเกดิ ออสซิลเลต
เอาท์พุทท่ีออกจากไอซี เร็กกูเลเตอร์ จะได้แรงดันเอาท์พุทท่ีเรียบพอสมควรอยู่แล้ว แต่อาจจะใส่ตัว
เก็บประจุท่ีมีค่าประมาณ 100 uF เพ่ือช่วยปรับปรุงแรงดันให้เรียบขึ้น ถึงแม้ว่าแรงดันไอซีเร็กกูเลเตอร์ชนิดน้ี
จะให้แรงดันเอาท์พุทคงท่ี มีเบอร์ให้เลือกแรงดันเอาท์พุทได้คงที่หลายเบอร์เช่น 5 V, 5.2 V, 6V, 8V, 10V,
12V, 15V, 18V และ 24V กระแสเอาท์พุทตั้งแต่ 10 mAถึง 3 A และมีให้เลือกท้ังชนิดเร็กกูเลเตอร์ไฟบวก
และเร็กกูเลเตอร์ไฟลบ รูปร่างของไอซีเรก็ ูเลเตอร์สามขาชนิดจา่ ยแรงดันคงที่มีลกั ษณะดังรทู ี่ 4.8แสดงตาแหน่ง
ขาของ IC Regulator เบอร์ 78xx และ 79xx

78xx 79xx

IN OUT GND OUT
GND IN

รูปที่ 12.7 แสดงตาแหน่งขาของ IC Regulator เบอร์ 78xx และ 79xx

133

ตารางท่ี 12.1 สรุปรวมเบอร์ไอซเี ร็กกูเลเตอร์

เบอร์ แรงดัน อณุ หภมู ิ กระแส กระแส แรงดัน แรงะดนั ตก

78L26 เอาท์พุท รอยต่อ* เอาท์พุท สูงสุดเมื่อมี อินพุท คร่อม
78L05
78L62 สูงสดุ (mA) โหลด(mA)
78L82
78L09 เรก็ กูเลเตอรก์ ระแสบวกคงที่ 100 mA
78L12
2.6 C 100 50 4.8 to 35 2.2
78M05
78M05 5.0 C 150 60 7.2 to 35 2.2
78M06
78M06 6.2 C 175 80 10.4 to 35 2.2
78M08
78M08 10.2 C 175 80 10.4 to 35 2.2
78M12
9.0 C 188 90 11.2 to 35 2.2
78M05
78M05 12 C 250 100 14.2 to 35 2.2
78M06
เร็กกเู ลเตอรก์ ระแสบวกคงที่ 500 mA
78M06
5.0 M 50 50 10.0 to 35 2.5
78M08
5.0 C 100 100 7.5 to 35 2.5
78M08
6.0 M 60 60 10.0 to 35 2.5
78M12
6.0 C 100 120 10.5 to 35 2.5
78M12
10.0 M 60 80 11 to 35 2.5

10.0 C 100 160 10.5 to 35 2.5

12 M 60 120 15 to 35 2.5

เร็กกูเลเตอร์กระแสลบ คงที่ 500 mA

-5.0 M 50 100 -7.5 to -35 2.5

-5.0 C 50 100 -7.3 to -35 2.5

-6.0 M 60 120 -10.5 to - 2.3

35

-6.0 C 60 120 -10.3 to - 2.5

35

-10.0 M 80 160 -10.5 to - 2.5

35

-10.0 C 80 160 -10.3 to - 2.3

35

-12 M 80 240 14.5 to - 2.5

35

-12 C 80 240 -14.3 to - 2.3

35

134

7805 5.0 เรก็ กเู ลเตอรก์ ระแสบวกคงที่ 1.0A 10.0 to 35 3.0
7805 5.0 M 50 50 7.5 to 35 2.5
7806 6.0 C 100 100 9.0 to 35 3.0
7806 6.0 M 60 60 10.5 to 35 2.5
7808 10.0 C 120 120 11 to 35 3.0
7808 10.0 M 80 80 10.5 to 35 2.5
7812 12 C 160 160 15 to 35 3.0
M 120 120
7905 -5.0 เรก็ กเู ลเตอรก์ ระแสลบคงท่ี 1.0A -7.8 to -35 2.8
7905 -5.0 M 50 50 -7.3 to -35 2.3
7906 -6.0 C 100 100 -10.8 to - 2.8
M 60 60
7906 -6.0 35 2.3
C 120 120 -10.3 to -
7908 -10.0 2.8
M 80 80 35
7908 -10.0 10.8 to - 2.3
C 160 160
7912 -12 35 2.8
M 120 120 10.2 to -
LM123 5.0 2.5
LM223 5.0 เรก็ กูเลเตอร์กระแสบวกคงท่ี 3.0A 35 2.5
M 25 100 14.8 to -
M 25 100
35

7.5 to 20
7.5 to 20

* C = 0 C To + 125  C
M =  55 C To + 150  C

135

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 14)

การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั เรอื่ ง Regulator IC
M…… 1) ครูผู้สอนกลา่ วขอบคุณนักเรียนที่เข้าไปศึกษาและทาแบบฝึกหัดก่อนการเรียนรู้ในบทเรยี นออนไลน์
หน่วยท่ี 11 และครทู บทวนคุณสมบตั ขิ องวงจรนับอีกครัง้ ใช้เวลา (5 นาท)ี

2) ผู้สอนชี้แจงจุดประสงค์/สมรรถนะ การเรียนรู้เร่ืองวงจรนับและเกณฑ์การวัดผลในหน่วยท่ี 12 ให้
ผู้เรยี นไดท้ ราบใชเ้ วลา (5 นาท)ี

3) ครูผู้สอนได้ออกแบบวงจรแสดงผล มาหนึ่งวงจรในโปรแกรมจาลองการทางานของวงจรให้นักเรียน
ได้ดูทิศทางการนากระแสและรูปสัญญาณของวงจร และอธิบายคุณสมบัติการทางานของวงจรก่อนเร่ิมทาการ
เรียนรู้พรอ้ มกนั (5นาที)

I…… 4) เนื่องจากผู้สอนได้ใช้บทเรียนออนไลน์เป็นส่ือเสริมในการเรียนรู้ในรายวิชานี้จึงให้ผู้เรียนทา
แบบทดสอบกอ่ นเรยี นในหน่วยที่ 12 เรือ่ ง Regulator IC แสดงมากอ่ นแลว้

5) ผสู้ อนช้แี จงผลคะแนนแบบทดสอบกอ่ นเรียนก่อนทาการสอนในหนว่ ยท่ี 12 ใช้เวลา (5 นาท)ี

6) ผู้สอนแจกใบความรทู้ ่ี 12 เรอ่ื ง Regulator IC ใหก้ ับผเู้ รียนศกึ ษาในหัวข้อที่ 12.1 เร็กกูเลเตอร์
แบบขนาน จากใบความรู้ใช้เวลา (10 นาท)ี

7) ผู้สอนอธบิ ายถงึ หลักการของเรก็ กูเลเตอร์แบบขนาน ด้วยส่อื การสอนที่ครูผสู้ อนได้จัดทาข้ึนและส่ือ
โปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ท่ีให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ท่ีได้ ใช้เวลา (10
นาที) โดยใช้สื่อPower point หนว่ ยท่ี 12 เรือ่ ง Regulator IC

8) ผู้สอน และผู้เรียนรว่ มกนั สรปุ ถึงหลกั การของเร็กกูเลเตอรแ์ บบขนาน อีกคร้ัง ใชเ้ วลา (5 นาท)ี
9) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อท่ี 12.2 เร็กกูเลเตอร์แบบอนุกรม จากใบความรู้ท่ี 1- เร่ือง
Regulator IC (5 นาท)ี
10) ผู้สอนอธบิ ายถึงหลักการทางานของเร็กกูเลเตอร์แบบอนุกรม ด้วยสื่อการสอนท่ีครูผู้สอนได้จัดทา
ขึ้นและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ที่ได้ ใช้
เวลา (10 นาท)ี โดยใช้สอ่ื Power point หนว่ ยท่ี 12 เรื่อง Regulator IC

11) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงหลักการทางานของเรก็ กูเลเตอร์แบบอนกุ รม อีกครั้ง ใช้เวลา (5
นาท)ี

12) ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นรว่ มกันศึกษาในหัวข้อที่ 12.3ไอซี เร็กกูเลเตอร์สามขาชนดิ จา่ ยแรงดนั คงท่ี จากใบ
ความรู้ท่ี 12 เร่ือง Regulator IC (5 นาท)ี

13) ผสู้ อนอธิบายถึงคุณลกั ษณะการทางานของ ไอซี เร็กกูเลเตอร์สามขาชนดิ จา่ ยแรงดันคงท่ี ดว้ ยสอื่
การสอนที่ครูผูส้ อนได้จัดทาขึ้นและสื่อโปรแกรมจาลองการทางาน และผูเ้ รียนศกึ ษาตามใบความร้ทู ใ่ี ห้พร้อมกบั
สอบถามถงึ ความรู้ท่ีได้ ใช้เวลา (10 นาท)ี โดยใช้ส่ือPower point หน่วยท่ี 12 เรอ่ื ง Regulator IC

14) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของไอซี เร็กกูเลเตอร์สามขาชนิดจ่าย
แรงดนั คงท่ี อกี คร้ัง ใชเ้ วลา (5 นาท)ี
M…… 15) ผสู้ อนสอนให้นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 3 คนตามความสมคั รใจ

16) ผู้สอนสอนแจกใบงานการทดลองหน่วยท่ี 12 เร่อื งประกอบวดั ทดสอบคณุ ลักษณะการทางานของ
วงจร Regulator IC ให้ผเู้ รยี นแต่ละกลุ่ม ใชเ้ วลา (5 นาที)

136

17) ผู้สอนอธิบายข้ันตอนการทดลองใบงานการทดลองในหน่วยที่ 12 เร่ืองประกอบวัดทดสอบ
คุณลักษณะการทางานของวงจร Regulator IC พร้อมให้คาแนะนา ชี้แนะ และสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนทุก
กลมุ่ โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมที่ 12.1 ใชเ้ วลา (60 นาที)
P…… 18) ผูเ้ รียนแตล่ ะกลุ่ม นาผลการทดลองและสรปุ ผลการทดลองออกมานาเสนอกลุ่มละ 3 นาที ใช้เวลา
ท้งั หมด (15 นาท)ี

19) ผู้สอนร่วมอภปิ รายให้ข้อเสนอแนะประเมินผลการทดลองในหน่วยที่ 12 เรื่องประกอบวัดทดสอบ
คณุ ลกั ษณะการทางานของวงจร Regulator IC ใช้เวลา (15 นาท)ี

20) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเร่ืองค่านิยมของคนไทย ๑๒ ประการ และเศรษฐกิจ
พอเพยี งใช้เวลา (5 นาที)

21) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีเรียนมาทั้งหมด และให้นักเรียนไปศึกษาเพ่ิมเติมในบทเรียน
ออนไลน์และทาแบบทดสอบหลังเรยี นใช้เวลา (10 นาท)ี

22) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรยี น และปิดระบบไฟฟ้าท้ังหมดใน
ช้นั เรยี น พรอ้ มกบั ยา้ เตือนในการเขา้ ศกึ ษาในบทเรยี นออนไลน์

6.ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

6.1 ใบความรู้หนว่ ยท่ี 12 เร่อื ง Regulator IC
6.2 ใบงานหน่วยที่ 12 เรือ่ ง ประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจร Regulator IC
6.3 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยท่ี 12 เร่ือง Regulator IC
6.4 แบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยท่ี 12 เร่ือง Regulator IC
6.5 ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์หน่วยที่ 12 เรื่อง Regulator IC
6.6 โปรแกรมจาลองการทางาน

7. หลกั ฐานการเรยี นรู้

7.1 หลกั ฐานการเรยี นรู้
1) ผลของการทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 12 เรื่อง Regulator IC
2) ผลการประเมนิ พฤติกรรมจากแบบสงั เกตพฤตกิ รรมท่ี 12.1

7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
1)ผลการทดลองในหนว่ ยที่12ประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจร

Regulator IC
2) แฟ้มสะสมผลงานของนกั เรยี น

137

8. การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม วิธีการวดั เครอ่ื งมอื ผปู้ ระเมนิ
1.ทดสอบ ครูผ้สู อน
1. อธบิ ายหลกั การเรก็ กูเลเตอร์ 1.แ บ บ ท ด ส อ บ ห น่ ว ย ท่ี 12
แบบขนานได้อย่างถกู ต้อง Regulator IC ครูผสู้ อน/
นกั เรียน
2. อธบิ ายหลักการเรก็ กูเลเตอร์
แบบอนกุ รมได้อยา่ งถูกต้อง ครผู ู้สอน

3. อธิบายหลักการของไอซี เร็ก

กเู ลเตอรส์ ามขาชนดิ จ่ายแรงดัน

คงทไี่ ดอ้ ย่างถูกต้อง

4. วดั ทดสอบคุณลักษณะการ 2.ต รว จผ ล ก าร 2.ใบงานการทดลองที่12 ประกอบ

ทางานของวงจร Regulator IC ปฏบิ ัตงิ าน วัดทดสอบคุณลักษณะการทางาน

ตามข้นั ตอนได้อย่างถกู ต้อง 3.สั งเก ต ก ารณ์ ของวงจร Regulator

ปฏิบตั งิ าน 3.แบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน

4.แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร

ปฏิบัติงาน

5. ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศกึ ษาเล่า 5.สั ง เ ก ต 5.แบบสังเกตพฤติกรรมคา่ นยิ ม ข้อ
เรยี น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
พฤติกรรม (๔)

9. เอกสารอ้างอิง

พันธศ์ กั ด์ิ พฒุ ิมานติ พงศ์. อิเลก็ ทรอนกิ สใ์ นงานอตุ สาหกรรม. กรุงเทพฯ : สานักพิมพซ์ ีเอด็ ยูเคชัน่ , 2553
วรี ะพจน์ ปรพี ูล และคณะ. ออปแอมป์และลเิ นยี รไ์ อซี.กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ,2548
บันทึก 380 วงจรไอซี.กรุงเทพฯ: : สานกั พมิ พ์ซีเอ็ดยเู คชั่น,2551
สมาคมสง่ เสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญป่ี ุ่น).เทคโนโลยสี ารก่งึ ตวั นา.กรงุ เทพฯ : บริษัท ดวงกมลสมัย จากดั

138

10. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

10.1 ข้อสรปุ หลังการจัดการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปญั หาทพ่ี บ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 แนวทางแกป้ ัญหา

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

139

รายงานการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงช่ือ(……………………………………………………………)

หัวหนา้ หมวด / แผนกวชิ า
…………/……………………………/………………..
เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
อ่นื ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชือ่ (……………………………………………………………)

รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ
…………/……………………………/………………..
เห็นควรอนุญาตให้ใช้สอนได้
อืน่ ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอื่ (……………………………………………………………)

ผอู้ านวยการวิทยาลยั การอาชพี กาญจนบรุ ี
…………/……………………………/………………..

140 หน่วยที่ 13 ชั่วโมง
จานวน 4
แผนการจัดการเรียนรู้ สปั ดาหท์ ี่ 15

ชื่อวิชา วงจรไอซีและการประยุกต์ใช้งาน ……………..……………………………………………………………………………………
ชือ่ หน่วย Function Generator IC……………………………………………………………………………………………………………..
ช่อื เรอื่ ง Function Generator IC ………………………………………………………………………………………………………………

1.สาระสาคญั

สัญญาณที่เราพบท่ัวไป ได้แก่สัญญาณไซน์ ( sine wave ) สัญญาณรูปสามเหล่ียม ( triangle
wave ) สัญญาณรูปฟันเลื่อย ( saw tooth wave ) และสัญญาณรูปส่ีเหล่ียม ( square wave ) เป็น
สัญญาณที่มีประโยชน์อย่างมากทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากไอซี ออปแอมป์สามารถนามาใช้ในการสร้าง
สัญญาณดังกล่าวได้แล้ว เรายังสามารถใช้ไอซี ฟังก์ช่ันเจนเนอเรเตอร์ในการผลิตสัญญาณเพื่อแก้ปัญหาการ
จา่ ยไฟให้กบั ไอซี ออปแอมป์ทม่ี กั ต้องจา่ ยไฟบวก และไฟลบให้กบั ไอซี ออปแอมป์ 741ในหน่วยน้ีจะยกตัวอยา่ ง
Function Generator IC เบอร์ 1458

2. สมรรถนะประจาหน่วย

13.1 ประกอบวัดทดสอบคุณลกั ษณะการทางานของวงจร Function Generator IC

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ประจาหน่วย

3.1 จุดประสงค์ท่ัวไป
เพื่อใหน้ กั เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในคุณลกั ษณะสมบตั พิ ื้นฐาน Function Generator IC และมีกิจ

นสิ ัยในการคน้ คว้าความรเู้ พ่ิมเตมิ

3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม / สมรรถนะประจาหน่วย
เมือ่ ผ้เู รียนเรยี นจบในหนว่ ยแลว้ ผู้เรยี นสามารถ
1. อธิบายหลักการทางานของ Function Generator ดว้ ย Op Amp IC ไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. อธิบายโครงสรา้ งและคุณสมบตั ิของ Function Generator IC ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
3. อธิบายหลักการของวงจรใช้งาน Function Generator เบอร์ LM 1458ได้อยา่ งถกู ต้อง
4. วัดทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจร Function Generator IC ตามขั้นตอนได้อย่างถกู ต้อง
5. ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศึกษาเล่าเรยี น ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม

141

4. สาระการเรียนรู้

13.1 Function Generator ดว้ ย Op Amp IC
13.1.1 วงจรกาเนดิ คล่นื ส่เี หล่ียมวงจรกาเนิดคลน่ื สีเ่ หลย่ี มเป็นวงจร มัลติไวเบรเตอร์ ชนดิ อะสเตเบ้ิล

(astable)ชนดิ หนงึ่ นัน้ คือ สัญญาณท่ีออกจากวงจรนี้จะไมค่ งท่ี แต่จะมีการเปลย่ี นแปลงสถานะตลอดเวลา
(ระดบั สูงหรือตา่ ) โดยปราศจากสัญญาณอินพทุ ใด ๆ ดังวงจรในรูปที่ 13.1 เป็นวงจรกาเนดิ คลืน่ สีเ่ หลยี่ มแบบ
พ้ืนฐาน

รปู ที่ 13.1 เปน็ วงจรกาเนดิ คลื่นสี่เหลย่ี มแบบพน้ื ฐาน

จากวงจรรูปท่ี 13.1 เป็นวงจรกาเนิดคลื่นสี่เหลี่ยมแบบพ้ืนฐาน จะเห็นได้ว่ามีการนาสัญญาณจาก
เอาท์พุทมาป้อนกลับสองทาง สัญญาณเอาท์พุทที่ถูกนาออกมาผ่านตัวต้านทาน R1 เข้าสู่ข้ัวอินพุทลบและ
ต่อกับตัวเก็บประจุ C จะเป็นภาคที่กาหนดความถี่ของคลื่นสี่เหล่ียม ส่วนตัวต้านทาน R2 และ R3 เป็น
ภาคท่ีใช้กาหนดแรงดันอ้างอิง (Vref) ให้กับขั้วอินพุทบวก จากการคานวณทางคณิตศาสตร์ ถ้าเลือกใช้ R3
ทีม่ คี า่ เปน็ 86% ของ R2 (0.86R2) ความถี่ของสัญญาณเอาท์พุทรปู คลนื่ สเี่ หลยี่ ม จะหาไดจ้ ากสมการ

fout  1 สมการที่ 13.1
2R1C

13.1.2 วงจรกาเนดิ สญั ญาณฟันเลื่อย วงจรกาเนิดสัญญาณฟันเลอ่ื ยหรือวงจรกาเนิดแรงดัน
“แรมพ์” (Ramp-voltage generator) ในรปู ท่ี 13.2 ก) วงจรอนิ ทเิ กรเตอร์ จะเห็นว่าเมื่อปอ้ นแรงดัน

ขนาด -1 โวลทใ์ หท้ ี่ขั้วอินพุทลบ ตัวเก็บประจุ Cf ก็จะถูกชารจ์ แบบเส้นตรง (อตั ราการเพ่ิมของแรงดนั
คร่อมตวั เก็บประจุจะมีคา่ คงที่) ในทศิ ทางบวกเพิ่มขึ้นสู่ +Vsat แตถ่ า้ เราสับสวิตชล์ งก่อนทแ่ี รงดนั คร่อม C1
จะมีค่าเท่ากบั + Vsat แรงดันที่ถกู ชารจ์ ไว้ก็จะคายประจุออกจนหมดอย่างรวดเรว็ และเมื่อยกสวิตชข์ นึ้ ตวั
เกบ็ ประจุกจ็ ะค่อย ๆ ชาร์จขึ้นอกี ดงั รูปท่ี 13.2 ข)

142

ก) ข)
รปู ที่13.2 วงจรอนิ ทเิ กรเตอร์

เราสามารถคานวณแรงดนั ท่เี อาท์พทุ ไดจ้ ากสมการ

Vout  Vin  1 t สมการที่ 13.2
Rin .Cf

โดย

t = คอื เวลาท่สี วิตชถ์ กู ยกขึ้นในหน่วยวนิ าที

และ

Vin , Rin, Cf เป็นตวั กาหนดความชนั ของสญั ญาณแรมพ์

13.1.3 วงจรกาเนิดคล่ืนสามเหล่ียมจากการศึกษาเร่ืองของวงจรสร้างสัญญาณฟันเล่ือย พบว่าเม่ือ
ปอ้ นแรงดันไฟตรงค่าหนึ่งให้แกว่ งจรอินทิเกรเตอร์แลว้ แรงดันเอาท์พุทจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงท่ีเพิ่มข้ึนหรือ
ลดลงอย่างคงที่ จากหลกั การน้ีสามารถนาไปสร้างคล่ืนสามเหล่ียมเข้าไป ผลคือ ในช่วงแรกท่ีคลื่นส่ีเหล่ียมมี
ค่าเป็นบวก แรงดันเอาท์พุทของอินทิเกรเตอร์จะลดลงอย่างคงท่ี เมื่อคล่ืนส่ีเหล่ียมเปล่ียนสถานะเป็นลบ
แรงดันเอาท์พุทจากอินทิเกรเตอร์ก็จะเพ่ิมข้ึนอย่างคงท่ีด้วยความชันขนาดเท่ากับท่ีลดลง จึงทาให้ได้สัญญาณ
รวมเปน็ คลื่นสามเหลีย่ มดงั รูปท่ี 13.3 วงจรสรา้ งสัญญาณฟนั เลือ่ ย

143

ก)

ข)

รูปท่ี13.3 วงจรสร้างสญั ญาณฟันเลื่อย

ความถ่ีของคลื่นสามเหล่ียมท่ีได้จากวงจรน้ีจะมีขนาดเท่ากับความถี่ของคลื่นสี่เหลี่ยม ซึ่งหาได้จาก
สมการในหวั ขอ้ ท่เี คยกลา่ วมาแล้ว

 f  1  สมการที่ 13.3
2R1C1

และนอกจากนี้ จากการทดลองจะพบว่าเพ่อื ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้คล่ืนสามเหลย่ี มเพ้ียนไปจากลักษณะท่ีควร
เปน็ จริง ค่าคงตวั ของเวลา (มคี ่าเท่ากบั R1 C1 ) ควรมขี นาดเป็นสองเทา่ ของ R4 C2

144
13.2 โครงสร้างและคุณสมบตั ขิ อง Function Generator IC

นอกจากไอซี ออปแอมป์สามารถนามาใช้ในการสร้างสัญญาณดังกล่าวได้แล้ว เรายังสามารถใช้ไอซี
ฟังก์ช่ันเจนเนอเรเตอร์ในการผลิตสัญญาณเพื่อแก้ปัญหาการจ่ายไฟให้กับออปแอมป์ท่ีมักต้องจ่ายไฟบวกและ
ไฟลบให้กับออปแอมป์ 741ในหน่วยน้ีจะยกตัวอย่าง Function Generator IC เบอร์ 1458 ดังรูปท่ี 13.4
โครงสรา้ ง IC เบอร์ 1458

รปู ท่ี 13.4 โครงสร้าง IC เบอร์ 1458
LM1458 โครงสร้างภายในประกอบด้วย ไอซี 741 จานวน 2 ตัว ต่อกัน แบ่งแรงดันของไฟเล้ียง เป็น
คร่ึงหน่ึง แล้วใช้ขากลางเป็นขากราวด์ของ Output ขาลบ และ ขาบวก และ ขาออก ของไอซี ก็ต่อขนานกัน
ทาให้กระแสเพิ่มข้ึน แต่วงจรนี้ก็จ่ายกระแสได้ไม่เกิน 50mA โดยประมาณ ไอซี LM 1458 ใช้แหล่งจ่ายไฟ
กระแสตรง +9 V ถงึ +14 V
13.3 วงจรใชง้ าน Function Generator เบอร์ LM 1458
Function Generator IC คือ ไอซี ที่กาเนิดสัญญาณทสี่ ามารถสร้างคล่นื ได้มากกวา่ หน่ึงชนดิ ขน้ึ ไป
โดยใช้วงจรกาเนดิ คล่ืนสเ่ี หลยี่ มและวงจรกาเนิดคลืน่ ไซน์ในรูปท่ี 13.5 วงจรใชง้ าน Function Generator
เบอร์ LM 1458 ความถ่ี 1 kHz

รปู ท่ี 13.5 วงจรใช้งาน Function Generator เบอร์ LM 1458 ความถี่ 1 kHz

145
จากวงจรที่ 13.5 ใช้วงจรกาเนิดคล่ืนส่ีเหล่ียมและวงจรกาเนิดคล่ืนไซน์ แล้วนาสัญญาณเอาท์พุทจาก
การคอมพาราเตอร์มาป้อนให้กบั วงจรตามแรงดนั วงจรท่ีต่อกับเอาทพ์ ุทของบัฟเฟอรจ์ ะได้รับสญั ญาณจากคอม
พาราเตอร์อย่างคงที่ เอาท์พุทจากวงจรตามแรงดันจะถูกนามาป้อนแก่วงจรอินทิเกรเตอร์เพ่ือสร้างคลื่น
สามเหลย่ี มต่อไปนอกจากไอซี เบอร์ LM 1458 แล้ว ขอแนะนา ฟังชั่นเจนเนอเรเตอร์ ไอซี อีกหน่ึงเบอรค์ อื ICL
8038 เป็นไอซีสาเร็จรูปอีกตัวหน่ึงที่นิยมใช้กนั ท่ัวไป อกี ท้งั งา่ ยในการตอ่ ร่วมกับอุปกรณ์ภายนอก ดงั รูปท่ี13.6
ตาแหนง่ ขา ICL 8038 และ 13.7 การต่อใช้งานของ ICL 8038

รูปที่ 13.6 ตาแหนง่ ขา ICL 8038

รูปท่ี 13.7 การตอ่ ใชง้ านของ ICL 8038

146

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ที่ 15)

การจัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั เร่อื ง Function Generator IC
M…… 1) ครผู ู้สอนกลา่ วขอบคุณนักเรียนท่เี ข้าไปศึกษาและทาแบบฝึกหัดก่อนการเรียนรู้ในบทเรียนออนไลน์
หน่วยที่ 12 และครทู บทวนคณุ สมบตั ขิ องวงจรนบั อีกคร้งั ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

2) ผู้สอนชี้แจงจุดประสงค์/สมรรถนะ การเรียนรู้เร่ืองวงจรนับและเกณฑ์การวัดผลในหน่วยที่ 13 ให้
ผู้เรยี นได้ทราบใช้เวลา (5 นาที)

3) ครูผู้สอนได้ออกแบบวงจรแสดงผล มาหนึ่งวงจรในโปรแกรมจาลองการทางานของวงจรให้นักเรียน
ได้ดูทิศทางการนากระแสและรูปสัญญาณของวงจร และอธิบายคุณสมบัติการทางานของวงจรก่อนเร่ิมทาการ
เรียนรพู้ รอ้ มกัน (5นาที)

I…… 4) เน่ืองจากผู้สอนได้ใช้บทเรียนออนไลน์เป็นสื่อเสริมในการเรียนรู้ในรายวิชาน้ีจึงให้ผู้เรียนทา
แบบทดสอบก่อนเรียนในหน่วยที่ 13 เรอ่ื ง Function Generator IC แสดงมากอ่ นแลว้

5) ผู้สอนช้แี จงผลคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นก่อนทาการสอนในหน่วยที่ 13 ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

6) ผู้สอนแจกใบความร้ทู ่ี 13 เรื่อง Function Generator IC ให้ผู้เรียนศกึ ษาในหวั ขอ้ ที่ 13.1
Function Generator ด้วย Op Amp IC จากใบความรใู้ ช้เวลา (20 นาที)

7) ผู้สอนอธิบายถึงหลักการของ Function Generator ด้วย Op Amp IC ด้วยสื่อการสอนท่ี
ครูผู้สอนได้จัดทาข้ึนและสอ่ื โปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับสอบถาม
ถึงความร้ทู ีไ่ ด้ ใช้เวลา (10 นาท)ี โดยใชส้ อื่ Power point หนว่ ยท่ี 13 เรอื่ ง Function Generator IC

8) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงหลักการของ Function Generator ด้วย Op Amp IC อีกครั้ง
ใชเ้ วลา (5 นาท)ี

9) ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันศึกษาในหัวข้อที่ 13.2 โครงสร้างและคุณสมบัติของ Function Generator
IC จากใบความรู้ท่ี 13 เร่ือง Function Generator IC (5 นาที)

10) ผู้สอนอธิบายถึงโครงสร้างและคุณสมบัติของ Function Generator IC ด้วยส่ือการสอนท่ี
ครูผู้สอนได้จัดทาข้ึน และให้ผู้เรียนศึกษาตามใบความรู้ที่ให้พร้อมกับสอบถามถึงความรู้ที่ได้ ใช้เวลา (5 นาที)
โดยใชส้ ื่อPower point หนว่ ยท่ี 13 เรื่อง Function Generator IC

11) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงโครงสร้างและคุณสมบัติของ Function Generator IC อีกคร้ัง
ใช้เวลา (5 นาที)

12) ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนร่วมกันศึกษาในหวั ข้อท่ี 13.3 วงจรใช้งาน Function Generator เบอร์ LM
1458จากใบความรู้ท่ี 13 เร่อื ง Function Generator IC (10 นาท)ี

13) ผ้สู อนอธบิ ายถงึ คุณลกั ษณะของวงจรใชง้ าน Function Generator เบอร์ LM 1458ดว้ ยสือ่ การ
สอนทค่ี รูผสู้ อนได้จดั ทาขนึ้ และสอ่ื โปรแกรมจาลองการทางาน และผู้เรยี นศึกษาตามใบความรู้ท่ใี ห้พร้อมกบั
สอบถามถงึ ความรทู้ ีไ่ ด้ ใช้เวลา (10 นาท)ี โดยใช้ส่อื Power point หน่วยท่ี 13 เรอ่ื ง Function Generator IC

14) ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป ถึงคุณลักษณะการทางานของวงจรใช้งาน Function Generator
เบอร์ LM 1458อีกคร้งั ใชเ้ วลา (5 นาท)ี
A…… 15) ผสู้ อนสอนใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คนตามความสมัครใจ

16) ผู้สอนสอนแจกใบงานการทดลองหน่วยที่ 13 เรอ่ื งประกอบวัดทดสอบคุณลักษณะการทางานของ
วงจร Function Generator IC ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะกลุ่ม ใช้เวลา (5 นาที)

147

17) ผู้สอนอธิบายขั้นตอนการทดลองใบงานการทดลองในหน่วยที่ 13 เร่ืองประกอบวัดทดสอบ
คุณลักษณะการทางานของวงจร Function Generator ICพรอ้ มใหค้ าแนะนา ช้ีแนะ และสงั เกตพฤติกรรมของ
ผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมที่ 13.1 ใช้เวลา (60 นาที)
P…… 18) ผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่ม นาผลการทดลองและสรปุ ผลการทดลองออกมานาเสนอกลมุ่ ละ 3 นาที ใช้เวลา
ทงั้ หมด (15 นาท)ี

19) ผู้สอนร่วมอภปิ รายให้ข้อเสนอแนะประเมินผลการทดลองในหน่วยท่ี 13 เร่ืองประกอบวัดทดสอบ
คณุ ลักษณะการทางานของวงจร Function Generator IC ใชเ้ วลา (15 นาท)ี

20) ผู้สอนเสริมคุณธรรมด้วยการสอนสอดแทรกเร่ืองค่านิยมของคนไทย ๑๒ ประการ และเศรษฐกิจ
พอเพยี งใชเ้ วลา (5 นาที)

21) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีเรียนมาท้ังหมด และให้นักเรียนไปศึกษาเพิ่มเติมในบทเรียน
ออนไลนแ์ ละทาแบบทดสอบหลงั เรยี นใชเ้ วลา (10 นาที)

22) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมด้วยช่วยกันจัดเก็บ ทาความสะอาดห้องเรียน และปิดระบบไฟฟ้าท้ังหมดใน
ชน้ั เรยี น พรอ้ มกบั ยา้ เตือนในการเขา้ ศึกษาในบทเรียนออนไลน์

6.สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้

6.1 ใบความรู้หน่วยที่ 13 เรอื่ ง Function Generator IC
6.2 ใบงานหน่วยที่ 13 เร่ืองประกอบวดั ทดสอบคณุ ลักษณะการทางานของวงจรFunction
Generator IC
6.3 แบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 13 เรอ่ื ง Function Generator IC
6.4 แบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยที่ 13 เรอ่ื ง Function Generator IC
6.5 สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์หนว่ ยที่ 13 เร่ือง Function Generator IC
6.6 โปรแกรมจาลองการทางาน

7. หลักฐานการเรียนรู้

7.1 หลักฐานการเรยี นรู้
1) ผลของการทดสอบหลังเรยี นหน่วยท่ี 13 เร่ือง Function Generator IC
2) ผลการประเมินพฤตกิ รรมจากแบบสงั เกตพฤติกรรมที่ 13.1

7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1) ผลการทดลองในหนว่ ยที่ 13 ประกอบวดั ทดสอบคุณลักษณะการทางานของวงจร

Function Generator IC
2) แฟ้มสะสมผลงานของนักเรียน

148

8. การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือ ผ้ปู ระเมนิ
ครผู สู้ อน
1. อธบิ ายหลักการทางานของ 1.ทดสอบ 1.แบบทดสอบหน่วยที่13 Function
ครผู ู้สอน/
Function Generator ด้วย Op Generator IC นักเรยี น

Amp IC ได้อยา่ งถูกต้อง ครผู ู้สอน

2. อธบิ ายโครงสร้างและ

คุณสมบตั ิของ Function

Generator IC ได้อย่างถูกต้อง

3. อธิบายหลกั การของวงจรใช้

งาน Function Generator

เบอร์ LM 1458ได้อยา่ งถกู ต้อง

4. วดั ทดสอบคณุ ลักษณะการ 2.ต รว จผ ล ก าร 2.ใบงานการทดลองท่ี13 ประกอบ

ทางานของ Function ปฏิบตั ิงาน วัดทดสอบคุณลักษณะการทางาน

Generator IC ตามขน้ั ตอนได้ 3.สั งเก ต ก ารณ์ ของ Function Generator IC

อย่างถูกต้อง ปฏบิ ัติงาน 3.แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน

4.แ บ บ สั ง เก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร

ปฏิบตั งิ าน

5. ใฝห่ าความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเล่า 5.สั ง เ ก ต 5.แบบสังเกตพฤติกรรมค่านิยม ข้อ
เรียน ท้งั ทางตรงและทางอ้อม
พฤติกรรม (๔)

9. เอกสารอา้ งองิ

พนั ธ์ศกั ด์ิ พุฒิมานิตพงศ์. อิเลก็ ทรอนกิ ส์ในงานอุตสาหกรรม. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพซ์ เี อ็ดยเู คชัน่ , 2553
วีระพจน์ ปรีพลู และคณะ. ออปแอมปแ์ ละลเิ นียร์ไอซี.กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์ศนู ย์ส่งเสริมอาชีวะ,2548
บนั ทึก 380 วงจรไอซี.กรุงเทพฯ: : สานักพมิ พ์ซเี อ็ดยเู คช่นั ,2551
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปนุ่ ).เทคโนโลยสี ารกึ่งตวั นา.กรงุ เทพฯ : บริษัท ดวงกมลสมยั จากัด

149

10. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้

10.1 ขอ้ สรปุ หลังการจดั การเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปญั หาที่พบ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 แนวทางแกป้ ัญหา

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

150

รายงานการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
เห็นควรปรับปรงุ เกย่ี วกบั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงช่อื (……………………………………………………………)

หัวหน้าหมวด / แผนกวชิ า
…………/……………………………/………………..
เหน็ ควรอนุญาตใหใ้ ชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
อ่นื ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอ่ื (……………………………………………………………)

รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ
…………/……………………………/………………..
เห็นควรอนุญาตให้ใช้สอนได้
อืน่ ๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………..
ลงชอื่ (……………………………………………………………)

ผูอ้ านวยการวิทยาลัยการอาชพี กาญจนบรุ ี
…………/……………………………/………………..


Click to View FlipBook Version